118877
4.11 คาถามท้ายบท
1. ความขดั แย้งในประเทศต่าง ๆ มสี าเหตทุ ีส่ าคญั จากอะไรบ้างจงอธิบายมาพอเข้าใจ
2. ท่านคิดว่าความขัดแย้งในสามจงั หวดั ชายแดนใตข้ องประเทศไทย มีความคลา้ ยคลงึ กบั
ความขัดแย้งของประเทศอะไร จงอธิบาย
3. มีปจั จยั ทส่ี าคัญอะไรบา้ งทส่ี นับสนุนกระบวนการสันติภาพในไอรแ์ ลนด์เหนือจนประสบ
ความสาเรจ็ จงอธบิ าย
4. ความขดั แย้งประเทศใดท่มี ีผลกระทบกับประเทศข้างเคียงมากทสี่ ุด จงอธบิ าย
5. กระบวนการยุตธิ รรมสมานฉันทโ์ ดยศาลกาชาชา ในรวันดา ชว่ ยในการสรา้ งสันติภาพได้
อยา่ งไรบ้าง จงอธิบาย
6. กอ่ นทจี่ ะนาไปสกู่ ระบวนการสนั ตภิ าพในแอฟริกาใต้ มีการต่อสู้โดยไมใ่ ชค้ วามรนุ แรง
ด้วยวิธกี ารใดบา้ ง จงอธิบาย
7. บทเรยี นจากความขัดแย้งในต่างประเทศที่ไดท้ า่ นอ่านในบทน้ี ท่านจะมีสว่ นในการสรา้ ง
สนั ติสขุ ให้เกดิ ขน้ึ ในสังคมไทยอยา่ งไรได้บา้ ง จงอธบิ าย
188 188
4.12 เอกสารอา้ งองิ
กระทรวงตา่ งประเทศ. (2554). ประเทศระวันดา. สบื ค้นจาก
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc3515e39c306000a704?cate=5d5bcb
4e15e39c3060006870.
_______________. (2554). สหพนั ธส์ าธารณรัฐประชาธปิ ไตยเนปาล. สบื ค้นจาก
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c3060009ff2?cate=5d5bcb4
e15e39c3060006870.
_______________. (2555). สาธารณรฐั แห่งสหภาพเมยี นมาร์. สืบค้นจาก
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c3060009ff8.
_______________. (2555). สาธารณรัฐฟลิ ิปปินส.์ สบื คน้ จาก
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c3060009fe3?cate=5d5bcb4
e15e39c3060006870.
กรมส่งเสรมิ การค้าตา่ งประเทศ. (2565). ข้อมลู พื้นฐาน สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมียนมา. สืบคน้ จาก
https://www.ditp.go.th/contents_attach/141175/141175.pdf.
จรญั มะลลู ีม. (2562). “สันติภาพ-ความขัดแย้ง” บนพ้นื ที่พพิ าทแคชเมียร์. สืบคน้ จาก
https://www.matichonweekly.com/column/article_232977.
ชลัท ประเทอื งรัตนา. (2555). กระบวนการสันตภิ าพในรวันดา. กรุงเทพฯ : สถาบนั พระปกเกลา้
66 หน้า.
_________. (2555). กระบวนการสนั ตภิ าพในไอร์แลนดเ์ หนอื สหราชอาณาจักร. กรุงเทพฯ : สถาบนั
พระปกเกลา้ .
_________. (2561). การสร้างสันติภาพ ในมนิ ดาเนาฟิลิปปินส์ประเด็นทีค่ วรพิจารณาสาหรบั
สงั คมไทย. ศรีปทมุ ปรทิ ัศน์ (8)2, 70-77.
ชูชาติ พฒุ เพง็ . (2563). แผนสนั ตภิ าพหรือระเบิดเวลา : ประเดน็ ความขดั แย้งอิสราเอล–ปาเลสไตน์
รอบใหม่ . สืบค้นจาก
https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_dl_link.ph
p?nid=70058.
118899
ซซู าน ดี รสั เซล. (2557). การสรา้ งสันตภิ าพแบบลูกผสม: ความกากวมคลมุ เครือขององค์กรภาครฐั ใน
ภาคใตฟ้ ลิ ปิ ปนิ ส์. ใน ศรสี มภพ จิตรภ์ ิรมยศ์ รี และคณะ (บรรณาธิการ), บทเรียนสันติภาพ
เรียนรูก้ ระบวนการสนั ตภิ าพในประสบการณ์ความขัดแยง้ ร่วมสมัย (พิมพค์ รั้งที่ 1) โครงการ
จดั พิมพด์ ีพบุคส์ (deepbooks) ศูนยเ์ ฝ้าระวังสถานการณภ์ าคใต้
มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตปตั ตานี.
ไชยนั ต์ ไชยพร. (2563). อวสานสถาบนั พระมหากษตั ริยแ์ ละกาเนิดสาธารณรัฐ:กรณีเนปาล. สืบคน้
จาก https://www.posttoday.com/politic/columnist/639757.
ธนชาติ แสงประดับ ธนโชติ. (2557). การสร้างสนั ตภิ าพในไอร์แลนด์. สืบคน้ จาก
https://siamrath.co.th/n/278681.
ธงพล พรหมสาขา ณ สกลนคร. (2561). ความขัดแยง้ และกระบวนการสนั ติภาพในอาเซยี น.
กรุงเทพฯ โอเอส พริ้นตง้ิ เฮ้าส์ จากดั .
ณชั ชารีย์ เลิศสนิ ฐิตกิ ุล. (2558). ผลกระทบระหวา่ งความขัดแย้งของชาวทมิฬและสงิ หลทีม่ ตี ่อ
ความสัมพนั ธ์อนิ เดียและศรลี ังกา. Veridian E-Journal, Silpakorn University (8)1, 818-
830.
นอร์เบิรต์ โรเปอร์ส. (2557). สิบบทเรยี นจากกระวนการสันตภิ าพในศรลี งั กา ปี 2002-2008. ใน ศรี
สมภพ จิตรภ์ ิรมยศ์ รี และคณะ (บรรณาธกิ าร), บทเรยี นสันตภิ าพ เรียนรู้กระบวนการ
สันตภิ าพในประสบการณ์ความขดั แย้งร่วมสมัย (พิมพ์คร้ังที่ 1) โครงการจัดพิมพด์ ีพบุคส์
(deepbooks) ศูนย์เฝ้าระวงั สถานการณ์ภาคใต้ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขต
ปตั ตานี.
บีซีไทย. (2019). ฆ่าล้างเผ่าพันธร์ุ วันดา ครบรอบ 25 ปี เหตุสงั หาร 8 แสนชวี ิตภายใน 100 วนั .
สบื คน้ จาก https://www.bbc.com/thai/international-47855860.
_____. (2021). รฐั ประหารเมียนมาร์ : ใครเปน็ ใครในชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ. สบื คน้ จาก
https://www.bbc.com/thai/international-57481222.
_____. (2022). รฐั ประหารเมียนมาร์: 1 ปผี ่านกบั งานการทตู ท่ีไทยแสดงออก. สบื ค้นจาก
https://www.bbc.com/thai/60163964.
พิษณุ สรรพโกตา. (2557). บทเรยี นกระบวนการสนั ตภิ าพในเนปาล..ใน ศรีสมภพ จิตร์ภริ มย์ศรี และ
คณะ (บรรณาธกิ าร), บทเรยี นสนั ตภิ าพ เรียนรกู้ ระบวนการสันตภิ าพในประสบการณ์ความ
ขดั แยง้ ร่วมสมยั (พมิ พ์ครั้งที่ 1) โครงการจัดพิมพด์ พี บคุ ส์ (deepbooks) ศนู ยเ์ ฝ้าระวัง
สถานการณภ์ าคใต้ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตปัตตานี.
190 190
มาโนชญ์ อารีย์. (2019). มาตรา 370, สถานการณ์ชัมมู-แคชเมยี ร์ เขา้ ใจความขดั แย้งปากสถานอย่าง
ครอบคลุม. สืบคน้ จาก https://thestandard.co/kashmir-in-conflict-india-pakistan-
and-the-unending-war/.
เมทชั อนวุ ัติอุดม. (2555). กระบวนการสันตภิ าพอาเจะห์ สาธารณรัฐอนิ โดนีเซยี . กรุงเทพฯ : สถาบัน
พระปกเกล้า.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2558). กระบวนการเพอ่ื สันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้:ศึกษา
เปรยี บเทียบกรณีมินดาเนา สาธารณรัฐฟิลิปปนิ ส์.
สบื ค้นจาก http://www.parliament.go.th/library.
สกสว. (2562). การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในรฐั อาเจะห์ บทเรยี นทม่ี ีต่อสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ของไทย TSRI POLICY BRIEF (9)10, 3-8.
แอนเรีย เค โมลนาร์. (2557). บทเรยี นบางประการจากกระบวนการสันติภาพของ อาเจะห์
อินโดยนเี ซีย และ ตมิ อร์-เลสเต ใน ศรีสมภพ จติ ร์ภริ มย์ศรี และคณะ (บรรณาธิการ),
บทเรยี นสนั ติภาพ เรียนรู้กระบวนการสนั ตภิ าพในประสบการณ์ความขัดแยง้ รว่ มสมัย (พิมพ์
คร้งั ท่ี 1) โครงการจัดพิมพ์ดีพบคุ ส์ (deepbooks) ศนู ย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้
มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปัตตาน.ี
อรไท โสภารตั น์. (2546). สหประชาชาติกบั การแก้ไขปัญหาการฆ่าลา้ งแผน่ พนั ธ์ุในรวนั ดา (ค.ศ.
1993-1994) วิทยานิพนธ์หาบัณฑิต. รัฐศาสตร์ (ความสมั พันธร์ ะหว่างประเทศ) จฬุ าลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั . บณั ฑิตวิทยาลัย.
Friedrich-Naumann-Stiftung. (2021). กระบวนการแปรเปลย่ี นความขดั แยง้ ในประเทศศรีลังกา.
สืบคน้ จาก
https://www.freiheit.org/th/thailand/krabwnkaraeprepliiynkhwamkhadaeynginp
raethssriilangka.
GO OUT SEE WORLD. (2020). North Ireland. สืบค้นจาก
https://www.gooutseeworld.com/post/northernireland.
National Geographic Asia. (2019). ย้อนรอยความขัดแย้งบนดนิ แดน แคชเมยี ร์.
สืบคน้ จาก https://ngthai.com/history/18829/kashmirconfliction/.
POLDEJ DIARY. (2554). ความรุนแรงและสันติภาพ ในไอรแ์ ลนด์เหนอื . สบื คน้ จาก
https://peaceresourcecollaborative.org/wp-content/uploads/2020/01/NI-
Book.pdf.
119911
Sawadee wiki. (2022). ความขัดแยง้ ภายในเมียนมาร์. สบื คน้ จาก
https://sawadee.wiki/wiki/Internal conflict in Myanmar .
The Standard. (2017). ย้อนรอยปมขดั แยง้ ‘อสิ ราเอล-ปาเลสไตน์’หนึ่งในปัญหาตึงเครียดทางภมู ิ
รฐั ศาสตรท์ ่ปี ะทุได้ทุเม่อื . สบื ค้นจาก thttps://thestandard.co/the-israel-palestine-
conflict/.
__________. (2019). ถอดบทเรยี น วินาศกรรมศรีลังกา : ความขดั แย้งทางชาตพิ นั ธ์ุ กระแสตอ่ ต้าน
อสิ ลาม และการก่อการรา้ ยระหวา่ งประเทศ. สบื คน้ จาก https://thestandard.co/sri-
lanka-global-conflict-with-islamic-extremism/.VOA. (2021). อินเดยี -ปากีสถาน ฟ้ืน
ขอ้ ตกลงพักรบในแควน้ แคชเมียร์. สบื ค้นจาก https://www.voathai.com/a/pakistan-
india-reach-rare-deal-to-restore-kashmir-truce/5792362.html.
WAY. (2021). “เข้าใจ ความขดั แย้งทย่ี ากเข็ญท่สี ดุ ในโลก” ทาไมปัญหา อสิ ราเอล-ปาเลสไตน์ จึงไม่
จบเสยี ที.สืบค้นจาก https://waymagazine.org/the-history-of-the-israelipalestinian-
conflict/.
192
บทท่ี 5
บทสรุป
เป็นท่ีทราบกันในเชิงประจักษ์ว่าในสังคมรอบตัวเราทุกระดับมักจะเกิดข้อขัดแย้ง ทั้ง
ความเห็นและการกระทาท่ีแตกต่างกัน การแยกกลุ่มพวกหาความชอบธรรมในการจัดการกับคู่กรณี
ท้ังกล่าวหาว่าร้ายซึ่งกันและกัน และบางกรณีรุนแรงท้ังการสร้างสถานการณ์ การทาลายล้าง ทาร้าย
เอาชีวิตกัน ซ่ึงปรากฎในข่าวสารอย่างต่อเน่ือง เหตุการณ์ดังกล่าวลึก ๆ แล้วคนทุกคนในสังคมท่ัวไป
ไมอ่ ยากให้เกิดขนึ้ แตเ่ มื่อเกดิ ข้นึ แลว้ กลไกหรือสถาบนั ต่าง ๆ ของสังคมก็จะมีจดั การในรูปแบบต่าง ๆ
เพื่อยุติปัญหาทั้งที่เป็นและไม่เปน็ ทางการ ส่ิงที่เราได้เรียนรู้ ท้ังปรากฎการณ์ และเบื้องหลังของความ
ขัดแย้งต่าง ๆ รวมถึงวิธีการจัดการ ผ่านแนวคิดทฤษฎี ประสบการณ์ ของนักวิชาการและนักปฏิบัติ
ทางด้านความขัดแย้งและสันติวิธี พบว่าเม่ือมีความขัดแย้งเกิดข้ึนแล้วมีประเดน็ สาคัญท่ีต้องพิจารณา
ได้แก่ การอธบิ ายองค์ประกอบรูปแบบของความขดั แย้ง สาเหตุหลัก ๆ ของความขัดแยง้ ที่เกิดข้ึนท้ังท่ี
เป็นรูปธรรมและนามธรรม เช่น คุณค่า ความเชื่อ ผลประโยชน์ โครงสร้าง และผลกระทบของความ
ขัดแย้งท่ีเกิดขึ้น การเรียนรู้ดังกล่าวทาให้เราเข้าใจปัญหาที่เกิดข้ึนในสังคมได้ลึกซึ้งมากขึ้น ไม่ด่วน
ตดั สินใจทันทีเม่ือเห็นหรือรบั ทราบสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกดิ ข้นึ หรอื เมื่อประสบปัญหากับตวั เองก็ตาม
จะทาให้มีแงม่ ุมและทางเลือกในการแก้ปญั หาอย่างปัญญามากข้ึน
แต่โจทย์ท่ีสาคัญคือทาไมเมื่อเกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคมของเรา ยังมีปรากฎการณ์ของ
ความรุนแรงเกิดข้ึนโดยทั่วไปไม่ว่า ความรุนแรงในครอบครัว ในชีวิตประจาวัน ความรุนแรงจาก
อาชญากรรม การต่อสู้กันของกลุ่มผู้มีอิทธิพล การใช้ความรุนแรงกับชนกลุ่มน้อย ความรุนแรงของ
กลุ่มคนท่ีมีความคิดทางการเมืองต่างกัน หรือการโจมตีทางทหารระหว่างประเทศก็ยังเกิดขึ้นอยู่เป็น
ประจา ก็เรียกว่าตัวละครที่เป็นผู้ใช้ความรุนแรงก็มีหลายฝ่ายเช่นกันไม่ว่าจะมาจากการกระทาของ
ฝ่ายรัฐ จากกองกาลังฝ่ายตรงกันข้าม จากประชาชนด้วยกัน จากภาคส่วนธุรกิจเอกชน รวมถึงการใช้
ความรุนแรงของสมาชิกในครอบครัว คนรอบข้างท้ังที่เป็นคนท่ีรู้จักและบุคคลภายนอกท่ีไม่เคยรู้จัก
กนั เพียงแตม่ ปี ฏิสัมพันธก์ ันผ่านในโลกออนไลน์ในโปรแกรม หรือแอพลิเคชันต่าง ๆ เกดิ ข้ึน
เพราะฉะนั้นองค์ความรู้ ทักษะการวิเคราะห์ความขัดแย้ง และการจัดการปัญหาด้วยสันตวิ ิธี
โดยการตระหนักและเชื่อม่ันใน “สันติวัฒนธรรม” จึงเป็นเรื่องท่ีสาคัญสาหรับสังคมทุกระดับ ตั้งแต่
ระดับครอบครัวจนไปถึงระดับนานาชาติ ซึ่งอาจจะดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง
119933
แต่จากเนื้อหาสาระบทเรียนของตำราเล่มน้ีที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่ามีความพยายามจัดการปัญหา
ความขัดแย้งในบางประเด็นทั้งในและต่างประเทศจนสามารถอยูร่ ่วมกันได้ รวมถึงเห็นความพยายาม
ในการคลคี่ ลายความขดั แย้งของฝา่ ยต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซง่ึ จะประมวลสรปุ ได้ดังต่อไปนี้
5.1 ความหมายของสันติวิธีและความขดั แย้ง
สันตวิ ิธี สนั ตวิ ธิ ี เป็นเครอ่ื งมือ กระบวนการ หรอื วธิ ีการจัดการความขัดแย้งวิธีหนึ่งที่เป็นการ
กระทำ หรือการแสดงออกในรูปแบบทไ่ี ม่ใช้กำลังทางกายภาพ เชน่ การประทว้ งเชิงสญั ลกั ษณ์ การอด
หาร การไม่ให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่าง ๆ การเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่ขัดแย้ง โดยผู้ที่ใช้สันติวิธีต้อง
เป็นผู้ที่ยึดมั่นในสัจจะ คุณธรรม มีความรักและเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ส่วนความขัดแย้ง เป็นความ
แตกต่างกันหรือการไม่ลงรอยกันทั้ง ความเชื่อ ทัศนคติ ความเห็น ค่านิยม ความต้องการ เป้าหมาย
และผลประโยชน์ซึ่งสามารถเกิดขึ้นภายในตัวเองหรือระหว่างบุคคลในองค์กร ในสังคมระดับต่าง ๆ
อาจจะส่งผลต่อพฤตกิ รรม การขัดขวาง แทรกแซง ทำใหเ้ กิดความรุนแรงเพื่อตอบสนองความต้องการ
ของแต่ละฝ่ายทั้งโดยตรงและโดยอ้อมหรือก่อให้เกิดการแปรเปลี่ยนสู่ความหลากหลายสร้างสรรค์
เปลยี่ นแปลงส่งิ ต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
5.2 นักทฤษฎคี วามขดั แยง้ และสนั ติวิธคี นสำคัญ
นักทฤษฎีความขัดแย้งที่สำคัญได้แก่ คาร์ล มาร์กซ์ (Karl Marx) สาระสำคัญของทฤษฎีคือ
เขาปฏิเสธศาสนาท่ีปลูกฝังในเรื่องของพระเจ้า เพราะทำให้มนุษย์ห่างไกลจากความเป็นตนเอง ความ
ขัดแย้งเกิดข้ึนเน่ืองจากความเป็นวัตถุนิยมโดยเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดใน การเปลี่ยนแปลงหรือ
กำหนดโครงสร้างของสังคม (Economic Determinism) การจัดระเบียบเศรษฐกิจ ทางเศรษฐกิจจะ
กำหนดการจัดระเบียบทางสังคม โครงสร้างชนชั้น การจัดระเบียบของสถาบันต่าง ๆ ค่านิยม ความ
เชื่อ ศาสนา และระบบความคิดต่าง ๆ เป็นพลังที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติหรือขัดแย้งทางชนชั้นในสังคม
ขึ้นคาร์ล มาร์กซ์ เชื่อว่าความขัดแย้งของมนุษย์เป็นเรื่องราวเก่ียวกับการครอบครองการใช้ประโยชน์
และการแบ่งปันทรัพย์สิน เป็นต้น วิธีการศึกษาแบบนี้เรียกว่า “วัตถุนิยมวิภาษณ์วิธี” (Dialectic
Materialism) ความขัดแย้งทางสังคมแบบวตั ถนุ ยิ มวิภาษณ์วิธีของคาร์ล มาร์กซ์ สามารถอธบิ ายได้คือ
1) ข้อเสนอ ได้แก่ กลุ่มคนท่ีเป็นของเครื่องมือในการผลิต หรือนายทุน เอารัดเอาเปรียบผู้ที่ไม่ได้เปน็
เจ้าของเครอื่ งมือในการผลิต 2) ข้อขัดแย้ง ไดแ้ ก่ กลมุ่ คนท่ีไมไ่ ด้เป็นเจา้ ของเคร่ืองมือในการผลิต หรือ
กรรมกรผู้ใช้แรงงานไม่ยินยอมให้เอารัดเอาเปรียบอีกต่อไป จึงเกิดการต่อสู้ระหว่างนายทุนกับผู้ใช้
แรงงานขึ้น และ 3) ข้อเสนอ ประสานได้แก่ผลของการต่อสู้ระหว่างชนช้ัน โดยกรรมกรหรือผู้ใช้
แรงงานเปน็ ฝ่ายชนะและนำไปสูส่ ังคมคอมมิวนิสต์
194 194
นกั ทฤษฎีอกี ท่านหนึ่งท่ีได้ชื่อวา่ เป็น “บดิ าแหง่ สันตศิ ึกษายุคใหม่” คือโยฮัน กัลป์ตุง ซง่ึ ได้ให้
ความหมายของ ความขัดแย้ง = ทัศนคติ + พฤติกรรม + ความไม่ลงรอยกัน ซ่ึงความไม่ลงรอยกัน
(C-Contradiction) เป็นรากเหง้าของความขัดแย้ง ส่วนทัศนคติ (A-Attitude) และพฤติกรรม
(B-Behavior) CAB เป็นตัวอย่างของลาดับความขัดแย้งท่ีเริม่ ต้นจากความไม่ลงรอยกัน ทาให้ทัศนคติ
ของชีวิตท่ีอยู่ภายในและจะแสดงออกมาภายนอกที่มีความรุนแรงหรือไม่รุนแรง จะด้วยวาจาหรือ
พฤติกรรมทางกายภาพหรือท้ังสองอย่าง CAB เป็นทฤษฎีความขัดแย้งที่มีแนวทางท่ีเป็นขั้นตอนแบบ
ไดนามกิ ของความขดั แย้งหรอื เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วย
สาหรับการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการไม่ใช้ความรุนแรง มีบุคคลสาคัญระดับโลกที่นัก
สันตวิ ิธีทกุ คนรู้จกั และอา้ งถึงอกี ท่านนี้คือ ทา่ นมหาตมะ คานธี เนือ่ งมาจากวธิ ีการท่ที า่ นใช้ในการต่อสู้
เพ่ือเรียกร้องความเป็นธรรมและเอกราชของประเทศอินเดีย โดยวิธีการไม่ใช้ความรุนแรง แต่ใช้พลัง
ธรรมะและการเจรจาต่อรองโดยยึดหลัก “สัตย์” และ “อหิงสา” เป็นหัวใจในการต่อสู้จึงออกมาใน
รูปการณ์ประท้วงโดยสันติวิธี เช่น การนัดหยุดงาน การคว่าบาตรการดื้อแพ่งการไม่ให้ความร่วมมือ
และการอดอาหาร นั่นคอื “วิธีการสตั ยาเคราะห์” ทา่ นใช้วิธีการตอ่ ส้แู บบสัตยาเคราะหต์ ่อต้านกฎหมายที่
ไม่เป็นธรรมที่ประกาศใช้กับชาวอินเดียในประเทศแอฟริกาใต้จนประสบความสาเร็จ คร้ันกลับสู่
มาตุภูมิท่านได้รับมอบหมายจากคองเกรสให้เป็นผู้นาในการต่อสู้แบบสัตยาเคราะห์เพื่อยกเลิกกฎหมาย
ทมิฬโรว์แลตต์ ค.ศ. 1919 ซงึ่ ลดิ รอนสิทธชิ าวอนิ เดยี อย่างรุนแรงและนาการประทว้ งกฎหมายเกลือในปี
ค.ศ. 1930 จนประสบความสาเร็จ นาไปสู่การออกพระราช บญั ญตั ิปกครองอินเดีย ค.ศ. 1935 นบั เป็น
ครั้งแรกท่ีชาวอินเดียได้สิทธิในการปกครองตนเอง โดยสรุปหลักการอหิงสาหรือการไม่ใช้ความรุนแรง
ของคานธี ได้แก่ 1) การรักและมีเมตตาแก่ผู้ที่เรารักและผู้ท่ีเกลียด 2) การเป็นผู้เสียสละ ไม่มีความ
กลวั ใด ๆ ท้ังสิ้นไมว่ า่ ต้องสูญเสียอวัยวะ ทรัพย์สมบัติ หรือแมแ้ ต่ชีวติ 3) การต่อสแู้ บบ “สตั ยาเคราะห์”
หรือท่ีเรียกกันว่าต่อสู้ “ดื้อแพ่ง” ผู้ต่อสู้ต้องไม่ใช้กาลังกับฝ่ายปรปักษ์ ไม่ทาร้าย ทาลายชีวิตของคู่
ตอ่ สู้ ผตู้ อ่ สู้ตอ้ งมีความอดทนหมายถงึ การยอมรบั ทุกข์ดว้ ยตวั เองไม่ทาให้ผู้อน่ื ได้รบั ทุกข์
ซ่ึงสอดคล้องกับนักวิชาการรุน่ ใหม่ ได้แก่ ยีน ชาร์ป (Gene Sharp) ที่ได้นาเสนอแนวคิดการ
ต่อสู้ท่ีไม่ใช้ความรุนแรงซ่ึงมีวิธีการท่ีหลากหลาย ทาให้นักปฏิบัติการด้านสันติวิธีสามารถนาไป
ประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ตามบรบิ ทของสถานการณ์ได้ ยีน ชาร์ป ไดอ้ ธบิ ายลักษณะของปฏิบตั ิการไร้ความรุนแรง
ได้แก่ การประท้วง การไม่ให้ความร่วมมือ การแทรกแซง เป็นการปฏิบัติการท่ีผู้กระทาหรือปฏิเสธที่
จะกระทาส่ิงใดส่ิงหนึ่งโดยไม่ใช้กาลังทางกายภาพ ไม่ใช่ความเฉื่อยชา ไม่ใช่พยายามท่ีจะหลีกเลี่ยง
หรือละเลยความขัดแย้ง ไม่ใช่การไม่กระทา แต่เป็นวิธีการตอบสนองต่อปัญหาไม่ว่าขอบเขตของ
ปัญหาความขัดแย้งจะอยู่ระดับใด เป็นวิธีการที่บุคคลผู้ปฏิเสธการยอมจานนหมอบราบคาบแก้วต่อสู้
119955
กับความขัดแย้งโดยไม่ใช้ความรุนแรง ยีน ชาร์ป ได้เสนอวิธีการปฏิบัติการไร้ความรุนแรงมีท้ังการ
ประท้วงไร้ความรุนแรงและการโน้มน้าวเช่น การพูดแถลงการณ์เพ่ือสนับสนุนหรือคัดค้าน การ
ปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์ด้วยรูปแบบต่างๆส่ือสารไปยังสังคมในวงกว้าง การชุมชนในที่สาธารณะเป็น
ต้น การไม่ให้ความร่วมมือทางสังคมและทางการเมืองได้แก่ การคว่าบาตรไม่ร่วมและปฏิเสธกิจกรรม
ทางสังคมต่างๆการไม่ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมต่างๆของรัฐบาลภายในประเทศหรือ ปฏิบัติการ
ระหว่างประเทศของรัฐบาลเช่นการเพิกถอนและรับรองทางการทูต และการไม่ให้ความร่วมมือทาง
เศรษฐกิจ ได้แก่ การคว่าบาตรของผู้ริโภค ผู้ผลิต ท้ังเกษตรกร ผู้ให้บริการ หรืออุตสาหกรรม ได้แก่
การประท้วงนัดหยุดงานในรูปแบบตา่ งๆเป็นตน้
ทานองเดียวกับนักวิชาการด้านสันติวธิ ีคนสาคัญของประเทศไทย คือ ศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์
มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ทา่ นมองว่าสันตวิ ิธหี รอื การไม่ใชค้ วามรุนแรง (Nonviolence) เป็นวธิ ีการ
แก้ไขความขัดแย้งทโี่ ลกหันมาให้ความสาคัญกันอย่างมากในขณะนี้ โดยอธิบาย “สันตวิ ธิ ี” ชดั เจนดงั นี้
เป้าหมาย: ม่งุ แก้ปัญหา ทางานร่วมกับคู่กรณีหรือเปล่ยี นทรรศนะของเขาใหม้ ีความเข้าใจเพื่อ
หาข้อยุตทิ ่ที ้งั สองฝ่ายพอใจ
ทัศนคติ: ต้องการความกล้าและการควบคุมตัวเองบางคร้ังต้องเต็มใจที่จะยอมรับความ
เจ็บปวดจากการกระทาของค่กู รณี โดยไม่ตอบโต้กลับไป
หลักการและวิธกี าร:
1. ทาให้ผูร้ ุกรานตกอยู่ในสถานการณ์ลาบากชนิดท่ีหากเขายังใช้ความรนุ แรงต่อไป จะเป็น
ฝ่ายเสียเปรยี บ และเสนอทางเลอื กหลายๆทางเพ่ือให้ทง้ั สองฝา่ ยไม่เสยี ขณะเดยี วกันกม็ ีข้อยุติ
2.ปฏิเสธความรุนแรงอย่างส้นิ เชิง และเต็มใจทจี่ ะรบั ความเจ็บปวดแตจ่ ะไมท่ าความเจบ็ ปวด
แก่ผอู้ น่ื
3.พยายามยืนหยดั และอดทนเพ่อื ให้บรรลุถึงข้อยุติทชี่ อบธรรมและเป็นทีย่ อมรับของทุกฝ่าย
4.ส่อื สารโดยรกั ษาสัจจะและให้เกดิ ความกระจ่างชัดเท่าทท่ี าได้ เพ่ือสรา้ งความเหน็ ใจและ
ความเข้าใจที่ถูกต้องในหมูป่ ระชาชนและคู่กรณี
5.แสดงความเคารพและใสใ่ จคู่กรณี และ
6.อาศยั คุณภาพจติ ท่ีเหนอื กว่า รวมทง้ั ความคิดท่สี ร้างสรรค์
และนักวิชาการอีกท่านหน่ึงที่ท่านเช่ือมั่นในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธีโดยการ
เจรจาไกลเ่ กลีย่ ทา่ นคือ ศ.นพ.วันชยั วฒั นศัพท์ ท่านมองว่าหลายครง้ั ทค่ี วามขดั แย้งเกิดขนึ้ บานปลาย
อย่างไม่มีเจตนาท่ีจะก่อให้เกิดความเสียหาย แต่เกิดจาก“การสื่อสาร”ระหว่างกันท่ีผู้มีอานาจใช้
196 196
กระบวนการสื่อสารในรูปแบบเดิมๆคือ การส่ัง ไม่เคยเรียนรู้กระบวนการฟังอย่างตั้งใจเพื่อทาความ
เข้าใจกันไม่เคยเรียนรู้หลักพื้นฐานของสาเหตุที่นาไปสู่ความขัดแย้งอันเนื่องจากการใช้อานาจไม่เคย
เรียนรู้หลกั การสรา้ งความสัมพันธ์ที่อาจจะเป็นการสื่อสารท่ีไม่ถูกขั้นตอนหรือขาดการส่ือสารการแปร
ผลข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเหล่าน้ีนาไปสู่ความไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจความรู้สึกว่ายุติธรรมหรือไม่
ยุติธรรม ผู้มีอานาจจะเจรจาก็มักจะเป็นการเจรจาต่อรอง (Bargain)ที่หมายถึงการมาเอาแพ้เอาชนะ
กัน แทนที่จะเป็นการเจรจาไกล่เกล่ีย (Negotiation) หรือไกล่เกล่ียโดยมีคนกลาง (Mediation)หรือ
การพูดก็จะเป็นการพูดแต่ฝ่ายเดียวขาดการฟังอย่างตั้งใจจากผู้ที่เดือดร้อนกระบวนการเจรจาไกล่
เกล่ียท่ีควรจะเป็นคือมีคนกลางที่เป็นกลางมากากับกระบวนการและกติกาท่ีคู่เจรจาร่วมกันกาหนด
แล้วคู่เจรจาน้ันเองร่วมกันใช้กระบวนการเรียนรู้ก่อให้เกิดทางออกที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจที่สุดที่ไม่ใชผ่ ู้
มีอานาจหรือไม่ใช่ฝ่ายใดฝา่ ยหนึ่งใช้อานาจในการบบี บังคับให้ยอมก็ตามหรือใช้กรรมการมาพิจารณา
ตัดสินอย่างท่ีเคยๆทากระบวนการเหล่าน้ีท่ีควรจะเป็นคือการสร้างฉันทามติ (Consensus Building)
เป็นกระบวนการท่สี งั คมไทยจะต้องรบั รู้และทาความเขา้ ใจอกี มาก
ผศ.ดร.สุชาติ เศรษฐมาลี นกั วิชาการอกี ทา่ นหน่ึงที่เปน็ คนนับถอื ศาสนาอสิ ลาม ทา่ นพยายาม
ทาความเขา้ ใจในสงั คม นาเสนอหลกั การพื้นฐานของอิสลามทเี่ ช่อื มโยงกบั การจัดการความขดั แย้งและ
แนวทางสันติวิธีคุณค่าสาคัญๆในคาสอนของอิสลามซ่ึงสามารถใช้เป็นกรอบในการสร้างสันติภาพใน
บริบทของชุมชนมุสลิมได้ ได้แก่ การมุ่งเน้นให้ความสาคัญเกี่ยวกับความยุติธรรม การสร้างความ
เข้มแข็งทางสังคมผ่านการกระทาด้วยคุณธรรมและความดีงาม ความเป็นสากลและเกียรติศักด์ิศรี
ความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียม ความศักด์ิสิทธิ์แห่งชีวิตมนุษย์ และ การมุ่งสู่สันติสุข สันติภาพท่ี
แท้จริงในทัศนะอิสลามคือ สภาวะท่ีกลมกลืนกันทั้งทางด้านกายภาพ จิตใจและจิตวิญญาณ เป็นการ
ดารงอยู่อย่างสันติโดยยอมจานนต่อผู้เป็นเจ้า ตลอดจนอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติและด้วยความ
ยุติธรรมอันเป็นเป้าหมายของการดารงอยู่ของมนุษย์ ซึ่งพระไพศาล วิสาโล ก็เช่นกัน ท่านจะนา
แนวทางของพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้กับการใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาท่านระบุ ว่าการปฏิบัติการ
สันตวิ ิธีเพ่อื แกป้ ัญหาสังคมยังเปน็ ส่วนหน่ึงของการฝึกฝนพัฒนาตนในทางจติ วญิ ญาณดว้ ย
119977
5.3 ความขัดแย้งและสนั ติภาพทเี่ กิดขน้ึ ในสงั คมประเทศไทย
สถานการณ์ความขัดแย้งในสังคมในประเทศไทยที่เป็นประเด็นสาคัญๆได้แก่ ความขัดแย้ง
ทางการเมือง ความขัดแย้งด้านทรัพยากรส่ิงแวดลอ้ ม ความขัดแย้งท่ีเกี่ยวกับโครงการขนาดใหญ่และ
ความขัดแย้งในพ้ืนท่ีสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องระยะยาว ท้ัง
ส่งผลกระทบทางสังคมโดยภาพรวม และส่ันคลอนความเชื่อม่ันไว้วางใจระหว่างคู่ขัดแย้งหลัก
โดยเฉพาะรฐั บาล หน่วยงานรัฐ หรือบรรษทั ธุรกิจ ท่ีเกีย่ วข้องกบั ประชาชนผู้ไดร้ ับผลกระทบท่ีเกิดข้ึน
เพื่อทาความเข้าใจสถานการณป์ ัญหาท่เี กิดขน้ึ พอสังเขปดังน้ี
ตารางที่ 5-1 ความขัดแย้งทางการเมืองของไทย
ค่ขู ัดแยง้ หลกั สาเหตุสถานการณป์ ญั หา/ตวั อยา่ ง แนวทางในการแกป้ ญั หาโดย
รัฐบาลไทย(ในชว่ งทม่ี ี ท่เี กิดขึน้ สันติวิธี
ความขัดแยง้ )กับ
ประชาชน (ผไู้ มเ่ ห็นด้วย ความตอ้ งการอานาจทางการเมอื ง การ -การสร้างความเปน็ ธรรมใน
กบั ทม่ี าของรัฐบาล ทม่ี า
ของแนวนโยบาย/ เขา้ สอู่ านาจทางการเมอื งของฝ่าย กระบวนการยตุ ิธรรม
กฎหมาย หรอื พฤตกิ รรม
ของผเู้ กย่ี วข้องกบั รัฐบาล การเมอื งตา่ งๆ การรบั รู้ขา่ วสารทไี่ ม่ -นากรอบกตกิ าทางการเมอื งซึ่งเป็นท่ี
ในขณะน้นั )
ตรงกันของประชาชน การแบง่ ฝา่ ย ยอมรบั ของทกุ ฝ่ายในสงั คม ใช้ในการ
สนับสนุนกลุ่มทางการเมืองและเกดิ การใช้ ตดั สินเพ่ือหาขอยุติของเหตุการณ์
ความรนุ แรงในการเรยี กร้องใหเ้ ผด็จการ -การลดความขัดแย้งในระดบั บุคคล
ลงจากอานาจ และมกี ารทารัฐประหาร -การรับฟงั ความคดิ เหน็ ที่แตกตา่ ง
ตวั อย่าง:การทารฐั ประหาร เมอื่ วนั ที่ 19 การสร้างความปรองดอง
กนั ยายน พ.ศ. 2549 -สรา้ งความรู้ ความเข้าใจ และ
ตระหนักเก่ียวกบั แนวทางสันตวิ ิธขี อง
สงั คม
198 198
ตารางท่ี 5-2 ความขัดแย้งด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม
คขู่ ดั แย้งหลกั สาเหตุสถานการณป์ ญั หา/ตวั อย่าง แนวทางในการแกป้ ัญหาโดย
ท่เี กดิ ขน้ึ สันตวิ ธิ ี
-รัฐ/ หน่วยงาน กับ การบุกรุกท่ดี นิ สาธารณะและเขตป่า, การ -ปรับปรงุ กฎหมายท่ีเกย่ี วข้องกับ
ประชาชนที่ไดผ้ ลกระทบ ประกาศพื้นทีส่ าธารณะและเขตปา่ ทบั ที่ การบริหารจดั การให้ทกุ ภาคส่วน
จากการจดั การ/ การใช้ ชาวบ้าน/ การถอื ครองทีด่ นิ , เกดิ มลภาวะ เขา้ มามสี ่วนรว่ ม
ประโยชน์ จากทรพั ยากร ทาง สิ่งแวดล้อมจากโรงงานอตุ สาหกรรม -ภาครัฐและองคก์ รปกครองสว่ น
-ประชาชนกบั ประชาชน อากาศเสีย น้าเสยี หมอกควัน, รูปแบบ ทอ้ งถ่ินตอ้ งรว่ มมอื กันให้ความรู้แก่
ที่ใชป้ ระโยชนท์ รัพยากรที่ การสร้างแหล่ง เกบ็ กักน้าขนาดใหญ่ เชน่ ประชาชนเพ่อื ใหเ้ ข้าถึง
ต่างกัน เขื่อน อ่างเก็บนา้ และการจดั สรรนา้ , การ ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งเปน็ ธรรม
ใชเ้ ครื่องมือทาการประมงแบบทาลายลา้ ง -เพม่ิ ขดี ความสามารถของชุมชน
ตัวอย่าง:การจดั การลมุ่ น้าคลองอตู่ ะเภา องคก์ รและสถาบนั เพอ่ื แก้ปัญหา
: กรณีเรอื ประมงปลากะตกั กับประมง โดยสนั ตวิ ิธี
พื้นบา้ นภาคใต้
199199
ตารางที่ 5-3 ความขัดแย้งท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั โครงการขนาดใหญ่
คขู่ ดั แย้งหลกั สาเหตุสถานการณ์ปญั หา/ตวั อย่าง แนวทางในการแก้ปัญหา
ทีเ่ กดิ ขึน้ โดยสันตวิ ธิ ี
รัฐ เจ้าของโครงการ กบั
ประชานผไู้ ดร้ ับผลกระทบ การต่อต้านโครงการจากประชาชนใน -ดาเนนิ การตามกฎหมายและ
พ้นื ท,ี่ ความไมไ่ ว้วางใจกนั ระหว่างสว่ น มาตรการที่ระบใุ น EIA, EHIA
ต่างๆของสงั คม ตลอดจนมีการใช้ความ อยา่ งถูกต้องและเปน็ ท่ยี อมรับ
รนุ แรงระหวา่ งฝา่ ยสนับสนนุ และฝ่าย -ออกแบบโครงการใหส้ อดคลอ้ ง
คดั คา้ นโครงการ กบั สภาพแวดล้อม รว่ มกบั ชุมชน
ทัศนคตกิ ารทางานของหน่วยงานภาครัฐ โดยรอบโครงการ
สว่ นใหญ่ก็ยังคุ้นเคยกบั การ ทางานใน -ประชาชนในพ้นื ท่คี วรให้ความ
ลักษณะ Top-down จงึ ไมไ่ ด้เตรยี มการ รว่ มมือในการแสดงความคดิ เห็น
เพื่อสร้างกระบวนการมสี ่วนร่วมของ ในกระบวนการมสี ว่ นร่วมและ
ประชาชนต้งั แตข่ ั้นเรมิ่ ต้น รวมถึง ยอมรบั ความคดิ เหน็ ทแ่ี ตกต่าง
หนว่ ยงานเจา้ ของโครงการไมไ่ ดเ้ ผยแพร่ -การเจรจาไกล่เกลยี่ ประเดน็
และประชาสัมพันธ์ขอ้ มลู โครงการท่ี ขัดแย้งท่เี กิดขึ้น ผู้พฒั นาโครงการ
ถกู ตอ้ งครบถว้ น จนกอ่ ใหเ้ กดิ ความสบั สน หรอื หนว่ ยงานผู้ใหอ้ นุญาต
แกป่ ระชาชน รวมท้งั ปญั หาการจดั ทา
ประชาพจิ ารณ์ท่ีไม่ประสบผลสาเรจ็
ตวั อยา่ ง: โครงการทอ่ ส่งกา๊ ซ และโรงงาน
แยกก๊าซไทย-มาเลเซีย/ โครงการท่าเรอื
น้าลกึ ปากบารา สตลู
200 200
ตารางที่ 5-4 ความขัดแย้งในพน้ื ทีจ่ งั หวัดชายแดนภาคใต้
ค่ขู ัดแยง้ หลกั สาเหตสุ ถานการณป์ ญั หา/ตวั อยา่ ง แนวทางในการแก้ปัญหาโดย
ทีเ่ กดิ ขึน้ สนั ติวิธี
รฐั ไทยกบั ฝ่ายแบง่ แยก ความขดั แยง้ ท่ีสะสมมาจากประวตั ิศาสตร์ -เปิดพน้ื ที่ทางการเมืองบนพ้ืนฐานของ
ดนิ แดน/ ผู้เห็นตา่ ง/ ผูก้ ่อ ชาวมาลายไู ม่พอใจที่ถกู ผนวกเป็นสว่ น ความไวใ้ จซงึ่ กันและกัน โดยให้ทุก
ความไมส่ งบ หนงึ่ ของสยาม ขอ้ เรียกร้องปกครองตนเอง ภาคสว่ น ไดม้ สี ่วนรว่ มใน การแสดง
ของ ฮจั ยสี ุหลง อับดลุ กาเดร์ ถูกรฐั ไทย ความคิดเห็น กาหนดแนวทางและ
ปฏเิ สธและจบั กมุ ต่อมาเกดิ กลมุ่ แนวรว่ ม ตดั สินใจในเชิงนโยบาย
และกลมุ่ ขบวนการต่างๆเพอ่ื ต่อตา้ นรัฐ -สง่ เสรมิ กระบวนการพูดคยุ เพือ่
ไทยและต้องการแบ่งแยกดินแดนมาอยา่ ง สันติภาพ (Peace Talk) อยา่ งจริงจัง
ตอ่ เนื่อง ความรนุ แรงท่ีสาคญั ๆไดแ้ ก่ จรงิ ใจและตอ่ เนอ่ื งกบั กลมุ่ ผเู้ หน็ ตา่ ง
เหตกุ ารณ์ทหารปดิ ล้อมการบกุ ยึดมสั ยดิ จากรฐั ทกุ กลมุ่
มสั ยดิ กรอื เซะทาใหผ้ ู้เสียชวี ติ 32 คนและ -การดาเนนิ การให้เกิดสนั ตภิ าพเชงิ
การชุมนมุ ทส่ี ถานตี ารวจภูธรอาเภอตากใบ บวก เน้นทส่ี ร้างความยตุ ธิ รรม การ
ประชาชนเสยี ชีวติ 6 คนและอกี 79 คน เคารพสทิ ธิมนุษยชน ใหส้ ิทธขิ อง
เสยี ชีวติ จากการเคลื่อนยา้ ยไปกมุ ขังใน ท้องถน่ิ และลดความเหลอื่ มลา้ ทาง
คา่ ยทหาร ในปี พ.ศ. 2547 ทง้ั เหตุการ สังคมเศรษฐกิจ มากกวา่ การทมุ่ กาลัง
ความไมส่ งบในพ้ืนท่แี ละการเจรจาก็ การควบคมุ ดว้ ยการทหารและการ
ดาเนนิ มาตอ่ เนอ่ื งจนถึงปัจจบุ นั บงั คบั ใชก้ ฎหมายพิเศษตา่ งๆ
จากตวั อย่างสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในสังคมไทยไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งด้านการเมือง ทรพั ยากร
ส่ิงแวดล้อม และโครงการขนาดใหญ่ หรือความไม่สงบในพื้นสามจังหวัดชายแดนก็ตาม มีบทเรียนท่ี
สาคญั สาหรับสังคมทีต่ ้องตระหนักร่วมกนั ว่าการใช้ความรุนแรงไม่สามารถแกป้ ัญหาได้ย่งั ยนื รังแต่จะ
ก่อผลกระทบในด้านต่างๆไม่จบส้ิน การพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างทางการเมือง ระบบยุติธรรมใน
สังคม เปิดโอกาสให้มีการกระจายอานาจสู่ท้องถ่ินอย่างแท้จริง ยอมรับและสนับสนุนการมีส่วนร่วม
ของประชาชนชนทุกภาคส่วน การพัฒนาท่ีให้ความสาคัญกับประวัติศาสตร์ วิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญา
และทุนทางสังคม ของของพื้นที่ โดยเน้นการสร้างสันติภาพเชิงบวก ข้อเสนอดงกล่าวควรเป็นแนว
ทางการดาเนินงานของทกุ ฝา่ ยทุกภาคที เี่ กี่ยวขอ้ ง
220011
5.4 บทเรยี นจากความขดั แยง้ และกระบวนการสันตภิ าพในตา่ งประเทศ
นอกจากที่กล่าวถึงในประเทศของเราแล้วในต่างประเทศความขัดแย้งก็เกิดขึ้นเช่นกัน ซึ่งมี
สาเหตุที่สำคัญของกรณีต่างๆที่ได้กล่าวถึงในบทที่แล้ว ได้แก่ กรณีไอร์แลนด์เหนือเกิดจากความ
แตกต่างในเรื่องชาตินิยมของกลุ่มนิกายโปรเตสแตนท์ กับคาทอลิก ประเทศรวันดาเป็นความขัดแย้ง
ของกลมุ่ ชาติพันธตุ์ ุ๊ดซี่กับฮูตู ผลัดกันปกครองและตามทำลายลา้ งกำจดั ซ่งึ กันและกัน ในส่วนประเทศ
อิสราเอลเป็นความขัดแย้งของกลุ่มชาวยิว (ลัทธิไซออนิสต์) ซึ่งพยายามเข้ายึดครองยึดครองนคร
เยรซู าเลม็ กับกลมุ่ ปาเลสไตน์ซ่ึงนับถือศาสนาอสิ ลาม ประเทศศรลี งั กามคี วามขดั แยง้ ระหวา่ งชาติพันธุ์
คอื การตอ่ สู้กันของกลุ่มชาวทมิฬกับชาวสิงหล และความขดั แยง้ ระหว่างชาวทมิฬศรีลงั กากับชาวทมิฬ
ในชนบทด้วย ในแคชเมียร์เป็นพื้นที่ความขัดแย้งในในเร่ืองการเมืองของรัฐบาลอินเดียกับกลุ่มมุสลิม
ในแคชเมียร์ซึ่งมีปากีสถานสนับสนุน ส่วนประเทศเนปาลเป็นความขดั แย้งระหวา่ งกลุม่ ที่มีอุดมการณ์
ทางการเมืองต่างกันคือกลุ่มเสรีประชาธิปไตยกับกลุ่มนิยมลัทธิเหมา มินดาเนาฟิลิปปินส์ เป็นความ
ขัดแย้งของกลมุ่ มุสลิมโมโรทางใต้ของเกาะมนิ ดาเนากบั รฐั บาลฟลิ ปิ ปินสเ์ พ่ือต้องการแยกตวั เป็นอิสระ
และอาเจะห์ อินโดนเี ซียเป็นชนกลุ่มน้อยที่เคยเป็นรฐั อิสระในประวตั ิศาสตร์ถูกผนวกปกครองและถูก
ละเมิดสิทธิมนุษยชน ถูกเอาเปรียบการจัดสรรประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนในเมียนมาร์ มี
ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลพม่ากับชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆและความขัดแย้ง ทางการเมือง
ระหว่างรัฐบาลทหารพม่ากับฝ่ายค้าน (พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) และ
นกั ศึกษา พระสงฆ์ ประชาชนทวั่ ไปรวมถึง ชาติพันธุ์ชนกลมุ่ น้อย ท่ียงั คงตอ่ ตา้ นรัฐบาลหารพม่าอย่าง
ตอ่ เน่อื งจนถงึ ปจั จุบนั (พ.ศ.2565)
โดยส่วนใหญ่ประเทศในแถบเอเชียและแอฟริกา ประเทศจ้าวอาณานิคมมีส่วนสำคัญทำให้
เกดิ ความขดั แยง้ ดังกล่าว ในลกั ษณะการสนับสนุนฝา่ ยหนึ่งฝ่ายใดให้จดั ตง้ั รฐั บาลตัวแทน แนวคิดการ
แบ่งแยกแล้วปกครอง และการแทรกแซงเพื่อหาผลประโยชน์ในทางเศรษฐกจิ เป็นต้น สิ่งที่เรียนรู้จาก
ความขัดแย้งและกระบวนสันติภาพในประเทศเหล่านี้ สามารถประยุกต์ใช้เพื่อเป็นแนวทางในการ
ป้องกันและการจัดการความขดั แย้งในสงั คมไทยไดแ้ ก่
1. การอยู่ร่วมกันของประชาชนที่มีความหลากหลายวัฒนธรรมโดยเฉพาะกลุ่มพุทธ มุสลิม
และศาสนาอื่นๆ รวมถึงกลุม่ ชาติพนั ธ์ุต่าง ๆ ต้องเคารพในวัฒนธรรมซึ่งกนั และกัน รัฐต้องสรา้ งความ
เปน็ ธรรมด้านตา่ ง ๆ ใหก้ ับทกุ ฝ่าย
220022
202
อยอยึึอดดอกกหหเเลลพพัักก่อืือ่ สสใใ22ัันนหห..ตตเ้เ้ คคกกิิววววดิิดิิธธาาสสีโโี มมดดนัันรรยยตตุุนนกกิิสสแแาา่สูู่สรรรรงังั งงคค““ไไมมมมนนไไ่่ใใาาททชชปป่่ยยททััญญาาหหงงออาาออขข้ึ้ึกกนนมมกกาาาาบบรรนนแแโโกกตต้้ปปะะััญญเเจจหหรราาจจคคาาวว””าาเเมมพพขขื่ื่ออััดดกกแแาายยรร้้งงพพททููดดี่่ีเเคคกกิิดดุุยยเเขขจจ้้ึึนนรรไไจจมมาา่่ววไไ่่าากกปปลลรร่่เเกกะะลลเเดด่ยี่ยี ็็นนรรว่ใใ่วดดมมกกกก็็ตตัันนาาหหมมาาตตทท้้ออาางงงง
กบกบรรนนะะคคบบววววาานนมมทท4433แแ....ัศศัตตกกกกนนกกาาาา์กก์ตตรรรราา่่าาจจเเรรงงสสััดดททแแรรกกกกาาิิมมาางง่่สสสสรราาัังงรรนนแแคค้้าากกแแมมงง้้ปปลลแแคคะะััญญลลววมมะะาาหหมุุมมมผผาามมูู้้เเเเกกขขกกออาา้้าาี่่ียยงงรรใใตตววใใจจขขชช่่ออแแ้้้้ออสสกกลล่ื่ืงงออาาะะกกรรสสสสออัับบาารรยยกกรร้้าาูรู่ร่ขขาางง่ว่วรร้้ออคคมมแแมมววกกกกููลลาาันนั้้ไไเเมมขขพพตตปป่ืื่ออรรััญญะะยยหหหหั่ั่ววาานนยยคคัักกุุ ใใววใใสสาานน่่รรมมแแ้้าาขขนนยยััดดววปปแแทท้้าายยยยาา้้งงงงสสสสีีโโสสดดัันนรรยยตต้้าาสสิิววงง่ืื่ออิิธธคคีีแแสสววลลาาาารระะมมสสกกเเัักกงงาาคคลลรรมมออีียยเเดดยยพพูู่่รรชช่ื่ืออ่่ววัังงปปมมหหรรกกรรัับบืืััออนน
ใฝฝใหหา่่า้้กกยยาาหหรรนนสส่ึงึง่ นนฝฝัับบา่า่ ยยสสใในนดดุุนนนนฝฝาา่่าาไไปปยยหหสสูคู่่คนนวว่ึึ่งงาาฝฝมม่่าาขขยยัดดัใใดดแแโโยยดด้ง้งยยแแขขลล้้ออะะมมคคููลลววาาออมมัันนรรเเปปุนุนแแ็็นนรรเเททงงเเ็็จจพพหหม่ิมิ่ รรขขืืออ้ึนน้ึ ใใชช้้ขข้้ออมมููลลดด้้าานนใใดดดด้้าานนหหนน่ึ่ึงงเเพพ่ืื่ออปปรระะโโยยชชนน์์ขขอองง
เถกใปสอเปใอสกถปปนนงึงึันนัยยาารร็น็นกกพพหหะะา่่าตตาาธธงงชชฤฤนนวิิวรรตตรราาตติธธิดดคครร่อ่อชชขีีขกิกิไไมมน้น้เเววนนออ7869655798รรนนแแหห้ใใ้รรใใ........งง..นน่อือ่ืกกกกนนมมรารารรกกกกกกงงาาแแท่ท่ฐัฐัขขรรฐัฐักกาาาาาารรผผบบะะุุ้ออ้กกเเรรรราารรแแปปนนดดเเฝฝาาททรกกรมมกกทท็็นนลลบัับผผงงา่า่รราาีีเเ้้ไไจ็จ็าายยออหหูกะะกูจจงงททขขนนจจาาจจแแยยขขตตนนปปี่่ีปปนนรรขขาาลลา่า่าาจจว่่วญััญรริงิงยยอองงเเดดะะยยาาะะพพชชหหอองงปทปทปปนนงงชชือ่ือ่หหัดดัาาาาาาารารัญญังงาาแแนนเเนนททนนงงะะททชชจจหหกกเเาาว่่วโหหโจุจุนนาานนศศยยจจาา้ปป้ยยรรลลงงรรรรททชชโโิตติงงััญญเเกกักักู้สูส้ษษดดปปานานเี่เ่ีแแาาใใกึึกกหหกยยฐฐนนน็็นส์์สนนลลรรววดิดิกกกกาาททววูงงูเเะะกก่าา่ตตขขจิจิาามมสสาา่ีเเ่ีปปาามมรรกก่่าานึ้ข้นึขืืออรรดุุดรรรรอีีอปปงงย่ี่ียะะออจจงงตตจจาาๆๆาารรวแแวงงัดดััดดั่อ่อบบนนนน((ับับกกขขหหททPPตตสสปปาาออ้้ลลออโโ่ง่งาาooว่่วงั้ั้งจจคครรกกชชุ่มุม่งงขขกกนนllใใาารรจจาาiiคค้้นนออลลttมมรรงงตตาาiiนนเเไไสสววกกccกกกกสสิิกกททมมaaรราาโโลลเเนนดด้าา้llรรปป่ีี่ใใุมุ่่มคคออชชงงปปยยWW็็นนออณณททแแป้ป้มมกกหหทิทิ iiาานนะะรรแีีแllคคนนธธงงllกกะะววผผรร))กกิิพพ่วว่โโททรรนนออททยยาายยลลรราางงงงรรชช่ีี่จจรรมมธธดงดงาาเเัฐฐันนะะุรใุรใกกมมนนูแูแนนแแกกสส์จจ์าาืออืลลรรลลกกจิิจรราารระะงงตต้้ววกกาา้้ผผาาททยยวััวหหรรตตงงออิดิดะะ่ีเี่เเเจจรรสสอออ้้อออาากกสสอือืดัดััันนนนื้้ือองงงงฎฎน้ัน้ั คคมมกกออตตตตาาหหรรณณาาีีกกยยจจ่อ่อิิภภะะมมรรา่า่าารรกกะะยยาาปปาารรงงฐััฐททาาพพะะยยแแบบัญญัตตรรยยาาออหหททา่าูู่รรมมหหงงาายยงงณณรรจ้จ้ีสสีาาววาาๆๆ่าา่ืืออรรนนว่ว่สสใใาางงิงิงกกนนนนกกาาเเจจเเพพาามมรรรราาพพรรรรูปูป่ืื่ออว่่วรราาิิงง่ืื่ออแแกกมมรรจจใใแแเเหหกกถถับับงัังปปขขบบ้้ปปเ้เ้ดดออภภ็นน็บบซซกกาาััญญงงาาคคง่ึ่ึงตดิตดิ เเคครรนนนนหห่าค่าคววสสงงนินิกกววาามมๆๆว่่วาาลลโโกกไไนนดดมมาาาาปปททยยงงรรี่ี่
เเกก่ียย่ี ววขข้ออ้ งงโโดดยยเเฉฉพพาาะะนนักักววชิิชาากกาารร ภภาาคคปปรระะชชาาสสังังคคมมแแลละะอองงคค์กก์ รรรระะหหววา่่างงปปรระะเเททศศ
ผกกนผนกกู้ถูถ้ันาันา้อ้อรรกููกยยมมเเกกททมมาารรี่ส่สีืืออเเะะยยดุุดงงทท1111แแยีียกก1100าาลลวว....าายยะะกกรรนนรราาสสปูปูาาาาไไคคังงัรรมมแแมมคคววจจบบ่ตต่าาาามมัดัดสส้้ออบบมมททใใคู่คู่งงกกรรหห่ถีี่ถใใววู้สสู้าาชช้ม้มกูกูาารรกึกึ้ก้กีีพพมมกกใใาาชชื้น้ืนสสกกลลรร้้กกมัมัมุ่มุ่าททาสสรรรรพพบบ่ีปป่ีู้รูร้ ะะแแนันัุคคุบบลลบบสสคคธธออททดดววอ์์อลลดดาานนงงนัันหหงงภภคคกกกกดดนนััยยววาาาาีตีตาาสส่ึง่ึงรรรรมมนน่่ออยยาาททหหรรกาากุตุตหหับบัไไันันิธรริธปปาาผบัับผรรมมรรแแรริดิดกกาามมออมมชชกกาาาาบบสสรรออยยกกมมใใออบบ่ิงง่ิเเชชาาา้า้กกขขตต้ส้สนนงง้ึนึน้ินนิ ่่ออนนััคคฉฉคคแแสสววตตันันลลวว่ิงิ่งาาิววิ ททาาททะะมมิธธิ มมมม์์ี่่ีไไชชีีททดดจจโโีกีกออดดใี่่ีใาาก้้กาาบบหหยยเเรรรรปปธธผ้ผ้จจะะเเยยน็น็รรูกู้ก้าาททรรยีียกกรราาเเมมววะะดดััพพผผใใยยททพพิดิด่ืื่ออนนาาาาืื้้นนไไลลกกดดผผปปดดททาา้า้าิดิดรรหหนน่ี่ีกกแแแแใใรราาตตลลชชลลืออืรร่าา่ะะค้ค้ะะใใขขงงกกชชววผผๆๆจจาาาา้ค้คู้เเู้ พพััดดรสรสมมววใใเเรรยีียรราาหหงง้้ออหหนุนุมม่อืือ่ ้้ออมมาาแแรรนนภภกกยยนนุุรรไไัยัยไไนันังงขขแแดดจจไททไรรม้ม้ปปาางงาากกาาใใงงหหพพเ้เ้ดููดหหคค2ลล0ยุยุ ืออื 3
และทสี่ าคัญซงึ่ เปน็ บทเรียนจากไอรแ์ ลนดเ์ หนือพบวา่ “ในสงั คมจะตอ้ งตระหนักอยูเ่ สมอว่าเรา
สามารถอยู่ด้วยกันได้โดยไม่จาเป็นต้องคิดเหมือนกัน รับรู้และเข้าใจว่าทาไมคนอ่ืนจึงคิดต่างจากเรา
ลดอคตแิ ละความเกลียดชงั ระหวา่ งกันลงโดยไม่จาเปน็ ต้องรักใคร่กลมเกลยี วกัน”
204
203
5.5 คาถามทา้ ยบท
1. ในขณะนท้ี า่ นคิดวา่ ท่านอยู่ใกล้ชิดกับปัญหาความขัดแย้งเร่ืองอะไรบา้ ง ใหท้ ่านยกตัวอยา่ งมา
1 เรอ่ื ง ทา่ นมีขอ้ เสนอในการแกป้ ญั หาอย่างไร จงอธบิ าย
2. ทา่ นมคี วามเห็นอย่างไร กับความเชอ่ื ทว่ี ่าเม่ือเกดิ ปัญหาความขัดแยง้ จาเป็นต้องแก้ปัญหา
ด้วยสนั ตวิ ิธี จงอธบิ าย
3. การตอ่ ส้ดู ว้ ย การไม่ใช้ความรุนแรง ของ มหาตมะ คานธี กับ ยีน ชาร์ป เหมอื นและแตกต่าง
กันอย่างไร จงอธบิ าย
4. ใหท้ า่ นยกตวั อย่างความขัดแย้งในสงั คมของไทยทส่ี าคญั มา 1 เรือ่ ง ใหท้ า่ นอธิบายปญั หานี้วา่
เป็นอยา่ งไร และท่านมขี ้อเสนอการแกป้ ัญหาดังกลา่ วอย่างไรบา้ ง จงอธิบาย
5. บทเรียนจากความขัดแย้งในประเทศฟลิ ปิ ปินส์ ท่านคิดวา่ ควรจะนาเรอื่ งอะไรบ้างมา
ประยุกตใ์ ช้กบั การแกป้ ัญหาความขัดแย้งในสามจงั หวดั ชายแดนของเราได้ จงอธบิ าย
204
บรรณานุกรม
ภาษาไทย
กรุณา มธุลาภรงั สรรค์. (2563). ปัจจยั และเง่ือนไขความขัดแย้งในสังคมไทย วารสารสถาบนั วจิ ัยญาณ
สังวร, 12(1), 120-130.
กระทรวงตา่ งประเทศ. (2554). ประเทศระวันดา. สบื คน้ จาก
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc3515e39c306000a704?cate=5d5bcb
4e15e39c3060006870.
_______________. (2554). สหพันธส์ าธารณรฐั ประชาธปิ ไตยเนปาล. สบื คน้ จาก
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c3060009ff2?cate=5d5bcb4
e15e39c3060006870.
_______________. (2555). สาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมยี นมาร์. สบื ค้นจาก
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c3060009ff8.
_______________. (2555). สาธารณรฐั ฟลิ ปิ ปินส์. สบื คน้ จาก
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c3060009fe3?cate=5d5bcb4
e15e39c3060006870.
กรมสง่ เสรมิ การคา้ ตา่ งประเทศ. (2565). ขอ้ มูลพ้นื ฐาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมยี นมา. สืบค้นจาก
https://www.ditp.go.th/contents_attach/141175/141175.pdf.
กล่มุ งานบริหารยุทธศาสตร์กล่มุ จงั หวัดภาคใตช้ ายแดน. (2564). แผนพัฒนากลุ่มจงั หวดั ภาคใต้
ชายแดนภาคใต้. ศาลากลางจงั หวดั ยะลา ช้ัน 3 ถนนสุขยางค์ อาเภอเมืองยะลา จงั หวัด
ยะลา.
กล่มุ ศกึ ษาและติดตามแผนพัฒนาภาคใต.้ (2556). เจาะแผนพัฒนาภาคใต.้ สงขลา: สานักงาน
คณะกรรมการการสขุ ภาพแห่งชาติ (สช.).
ขจรจิต บนุ นาค. (2554). ความขัดแยง้ VSความรุนแรง. วารสารนกั บริหาร 31(3) 136-144.
โคทม อารียา. (2546). เอกสาร 30 ปี14 ตุลา. จดหมายข่าวประชาชน ฉบบั 1 ตุลาคม 2546.
กรุงเทพฯ : มลู นิธิ14 ตุลาคม 2546
สบื ค้นจาก https://mgronline.com/daily/detail/9630000095672.
คมชดั ลึก. (2561). รายงานพิเศษ เปดิ 4 จดุ อ่อน เมกะโปรเจกตห์ มืน่ ลา้ น. สืบคน้ จาก
https://www.komchadluek.net/news/scoop/332911.
207
205
จรัญ มะลูลมี . (2562). “สันติภาพ-ความขัดแยง้ ” บนพืน้ ท่ีพิพาทแคชเมียร์. สบื คน้ จาก
https://www.matichonweekly.com/column/article_232977.
เจตวรรณ กรตุ รนิยม. (2557). โครงการวิจยั เชิงปฏิบัติการเพอื่ ประเมินการเปลีย่ นแปลงเชงิ พฤติกรรม
ในการ ดา้ เนินงานของเครือข่ายเฝา้ ระวงั และการจัดการคุณภาพน้าในลมุ่ น้าคลองอตู่ ะเภา.
รายงานฉบบั สมบรู ณ์ คณะการจัดการส่ิงแวดลอ้ ม มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์.
ฉนั ทนา บรรพศิรโิ ชติ. (2542). ความขัดแย้งในสังคมไทย : ช่องว่างของการรับรแู้ ละความเขา้ ใจ, ใน
พัชรี สิโรรส และทวิดา กมลเวชช (บรรณาธิการ) ความขดั แย้งในสังคมไทยยุควกิ ฤต
เศรษฐกิจ (หนา้ 13-63) กรุงเทพฯ : คณะรฐั ศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
ชลัท ประเทอื งรัตนา. (2550). คานธกี บั การชมุ ชนประทว้ งในสังคมไทย วารสารสถาบนั พระปกเกลา้
(5)13, 34 – 47.
_______. (2555). กระบวนการสนั ติภาพในรวนั ดา. กรงุ เทพฯ : สถาบันพระปกเกล้.
_______. (2555). กระบวนการสนั ติภาพในไอร์แลนดเ์ หนอื สหราชอาณาจักร. กรงุ เทพฯ : สถาบัน
พระปกเกลา้ .
_______. (2561). การสร้างสนั ตภิ าพ ในมินดาเนาฟิลิปปินสป์ ระเดน็ ท่คี วรพจิ ารณาสาหรับ
สงั คมไทย. ศรปี ทุมปริทัศน,์ (8)2, 70-77.
ชชู าติ พุฒเพ็ง. (2563). แผนสันติภาพหรอื ระเบดิ เวลา : ประเด็นความขดั แยง้ อิสราเอล–ปาเลสไตน์
รอบใหม่. สืบคน้ จาก
https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_dl_link.ph
p?nid=70058.
ซูซาน ดี รัสเซล. (2557). การสร้างสันตภิ าพแบบลูกผสม: ความกากวมคลมุ เครือขององค์กรภาครัฐใน
ภาคใต้ฟิลปิ ปินส์. ใน บทเรยี นสันติภาพ เรียนรกู้ ระบวนการสนั ติภาพในประสบการณค์ วาม
ขดั แยง้ รว่ มสมัย (พิมพค์ ร้ังที่ 1) ศรสี มภพ จติ ร์ภริ มยศ์ รี และคณะ (บรรณาธกิ าร), โครงการ
จดั พิมพด์ พี บุคส์ (deepbooks) ศนู ย์เฝา้ ระวังสถานการณ์ภาคใต้
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปตั ตานี.
ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร. (2554). วาทกรรมการพัฒนา: อ้านาจ ความรู้ เอกลักษณ์ และความเป็น
อ่ืน. กรุงเทพฯ: สานักพมิ พว์ ภิ าษา.
ไชยา เกษารตั น์ , อิศรฏั ฐ์ รินไธสง และคณน ไตรจนั ทร.์ (2558). การจัดการความขดั แย้งระหว่างรฐั
กบั ประชาชนจากการดา้ เนินโครงการหรือกจิ การที่อาจ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบต่อชมุ ชน: ข้อมูล
เชิงคุณภาพจากโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ. จงั หวดั สงขลา การประชุมหาดใหญ่
วิชาการระดับชาติ ครัง้ ท่ี 6 26 มถิ ุนายน 2558 มหาวทิ ยาลัยหาดใหญ่.
206 208
ไชยันต์ ไชยพร. (2563). อวสานสถาบันพระมหากษัตริย์และกา้ เนดิ สาธารณรฐั :กรณเี นปาล. สบื ค้น
จาก https://www.posttoday.com/politic/columnist/639757.
ชัยวฒั น์ สถาอานันท.์ (2557). ท้าทายทางเลือก: ความรุนแรงและการไม่ใช้ความรุนแรง. กรงุ เทพฯ:
สานักพมิ พ์ของเรา.
ชัยวฒั น์ สถาอานนั ท์. (2563). เปดิ ต้ารา วชิ าสนั ตวิ ิธี. สืบคน้ จาก
https://theactive.net/read/peaceful-lecture/.
ฐานเศรษฐกิจ. (2563). ยุติโครงการท่าเรือปากบารา หลงั กระทบประมงพนื้ บา้ น. สบื ค้นจาก
https://www.thansettakij.com/general-news/423567.
ณัฐกร วิทติ านนท. (2553). การลอบสงั หาร ในการเมืองท้องถน่ิ ไทย: บทสารวจ ‘ตวั เลข’ ขัน้ ตน้ ใน
รอบทศวรรษ (พ.ศ.2543-พ.ศ.2552) King Prajadhipok's Institute Journal (8)3, 1-17.
เดโชพล เหมนาไลย. (2556). สันตวิ ิธใี นมมุ มองพุทธศาสนาเถรวาท. เอกสารประกอบงานสมั มนา
วชิ าการ “สันตวิ ธิ สี ายธารตะวันออก” วันที่ 14 มีนาคม 2556 ศูนยส์ ทิ ธิมนุษยชนและสันติ
ศึกษา มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล.
ธนาคารกรงุ ศรีอยุธยา. (2564). แนวโนม้ ธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย ปี 2564-2566. สบื คน้ จาก
https://www.krungsri.com/th/research/industry/summary-outlook/industry-
summary-outlook-2021-2023.
ธนชาติ แสงประดบั ธนโชติ. (2557). การสรา้ งสนั ตภิ าพในไอร์แลนด์. สืบค้นจาก
https://siamrath.co.th/n/278681.
ธงพล พรหมสาขา ณ สกลนคร. (2561). ความขัดแยง้ และกระบวนการสันตภิ าพในอาเซียน.
กรุงเทพฯ โอเอส พรนิ้ ต้งิ เฮ้าส์ จากดั .
นฤทธ์ิ ดวงสุวรรณ์ และอุสมาน หวังสนิ. (2560). สถานการณ์และรูปแบบการจัดการความ
ขัดแย้งด้านทรัพยากร ประมงในทะเลสาบสงขลา. รายงานการวจิ ัยฉบบั สมบูรณ์ กองทุนวิจยั
มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ ปี 2558.
เนติกร ธนุยุทะกลุ . (2554). ทวงคา้ ถาม จากท่อก๊าซไทย-มาเลเซยี . สบื ค้นจาก
http://huzsman.blogspot.com/.
ณัชชารยี ์ เลิศสินฐติ กิ ลุ . (2558). ผลกระทบระหว่างความขัดแย้งของชาวทมิฬและสิงหลทม่ี ีต่อ
ความสัมพนั ธ์อนิ เดยี และศรีลังกา. Veridian E-Journal, Silpakorn University (8)1, 818-
830.
220097
นอร์เบริ ต์ โรเปอรส์ . (2557). สิบบทเรยี นจากกระวนการสันตภิ าพในศรลี งั กา ปี 2002-2008. ใน ศรี
สมภพ จติ ร์ภริ มยศ์ รี และคณะ (บรรณาธิการ), บทเรยี นสนั ติภาพ เรยี นรูก้ ระบวนการ
สนั ตภิ าพในประสบการณค์ วามขัดแยง้ รว่ มสมัย (พิมพ์ครั้งที่ 1) โครงการจัดพิมพด์ พี บุคส์
(deepbooks) ศนู ยเ์ ฝา้ ระวงั สถานการณภ์ าคใต้ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขต
ปตั ตานี.
_____________. (2558). คู่มือกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี เราจะทา้ งานร่วมกันได้
อยา่ งไร. ใน ฟารีดา ปนั จอร์ (บรรณาธกิ าร), โครงการจดั พิมพด์ ีพบุคส์ ศนู ย์เฝ้าระวงั
สถานการณภ์ าคใต้.มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปัตตานี.
บซี ไี ทย. (2019). ฆา่ ล้างเผ่าพันธ์ุรวนั ดา ครบรอบ 25 ปี เหตุสังหาร 8 แสนชีวิตภายใน 100 วนั .
สบื คน้ จาก https://www.bbc.com/thai/international-47855860.
_____. (2021). รฐั ประหารเมียนมาร์ : ใครเปน็ ใครในชนกลมุ่ นอ้ ยติดอาวุธ. สืบคน้ จาก
https://www.bbc.com/thai/international-57481222.
_____. (2022). รฐั ประหารเมยี นมาร์: 1 ปผี ่านกบั งานการทูตที่ไทยแสดงออก. สืบคน้ จาก
https://www.bbc.com/thai/60163964.
_____. (2022). รอมฎอน : ข้อตกลงหยุดยิงได้ผลแค่ไหน ประเมินสถานการณช์ ายแดนใต้กอ่ นสนิ้ สดุ
“รอมฎอนสันตสิ ุข” สบื ค้นจาก https://www.bbc.com/thai/thailand-61268240.
บุษบง ชยั เจริญวฒั นะและเหมือนขวญั เรณุมาศ. (2560). “สันติวิธ:ี การจัดการความขดั แยง้ ตาม
แนวทางสันติวธิ ี” วารสารสนั ตศิ ึกษาปริทรรศ์ มจร, 5(2):1-16.
บษุ บง ชยั เจรญิ วฒั นะ. (2563). การจัดการความขดั แยง้ ความรู้เบือ้ งต้น และกรณีศึกษา. สงขลา:
พ.ี ซ.ี พร้นิ ต้งิ .
ปาเรคห์ ภกิ ข.ุ (2557). อลิสา สนั ตสมบัติ แปล คานธี ความรูฉ้ บบั พกพา.กรุงเทพฯ:โอเพ่นเวิลต์ส พบั
ลิชช่ิง.
ประชาไท. (2549). “ล้าดบั เหตุการณ์ ปราบขบวนการคา้ นท่อก๊าซ ...รฐั ผดิ ตอ้ งชดใช้” (2549,2
มถิ นุ ายน)ประชาไท. สบื คน้ จาก http://www.prachatai.com/journal/2006/06/8577.
_______. (2556). ‘สลายม็อบท่อก๊าซ’ 10 ปี คดีความ กบั กว่า 16 ปี ‘การต่อสู้’ ของคนจะนะ.
สืบค้นจาก http://www.prachatai.com/journal/2013/01/44718.
_______. (2563). 26 รฐั ประหาร-พลังประชาชน เขาอา้ งอะไรกนั . สบื ค้นจาก
https://prachatai.com/journal/2019/09/84189.
ป.อ. ปยตุ โต. (2546). สลายความขดั แยง้ นิติศาสตร์-รัฐศาสตร์-เศรษฐศาสตร์แนวพุทธ. กรงุ เทพฯ:
ธรรมิก.
208 210
พระไพศาล วสิ าโล และคณะ. (2550). สุขภาพสงั คม: ความขดั แย้ง ความรนุ แรงกบั ระบบบริการ
สขุ ภาพ. นนทบรุ ี: สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ.
_____________. (2552). รากฐานของสนั ตวิ ิธี. สบื คน้ จาก
http://www.visalo.org/article/P_Raktan.htm
พระมหาหรรษา ธมมฺ หาโส. (2553). สนั ตวิ ิธี บนเสน้ ทางสามแพรง่ ในสังคมไทยปจั จบุ ัน. สบื คน้ จาก
https://www.gotoknow.org/posts/352023.
_______. (2554). พุทธสันติวธิ :ี การบรู ณากรหลกั การและเคร่ืองมือจัดการความขดั แย้ง. กรุงเทพฯ:
21 เซน็ จูรี.่
พชิ ญา สุกใส. (2554). การจดั การความขัดแย้งทางการเมืองไทย ระหว่าง พ.ศ. 2547-2553. สืบคน้
จากhttp://www.loveuthailand.com/site/?page_id=6.
พิษณุ สรรพโกตา. (2557). บทเรยี นกระบวนการสนั ติภาพในเนปาล. ใน บทเรียนสันติภาพ เรียนรู้
กระบวนการสันติภาพในประสบการณค์ วามขัดแย้งรว่ มสมัย (พมิ พค์ รง้ั ที่ 1), ศรีสมภพ จิตร์
ภริ มย์ศรี และคณะ (บรรณาธิการ) โครงการจัดพมิ พด์ ีพบคุ ส์ (deepbooks) ศูนยเ์ ฝา้ ระวัง
สถานการณภ์ าคใต้ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปตั ตานี.
พุทธทาสภกิ ขุ. (2529). สันติภาพของโลก. หนงั สอื ธรรมโฆษณ์ หมวดสอง ชุด ปกรณ์พเิ ศษ อันดบั ท่ี
18 ซ. บนพืน้ แถบสแี ดง เล่มท่ี 55.
พงศ์ศักด์ิ เหลอื งอร่าม และ ยุทธนา เศรษฐปราโมทย์. (2018). ต้นทนุ ทางเศรษฐกจิ ของความไม่
แนน่ อนทางการเมืองในประเทศไทย รายงานวิจัย สถาบนั วิจยั เศรษฐกิจป๋วย อ้งึ ภากรณ์.
เพ่มิ ศักด์ิ มกราภริ มย์. (2555). การบริหารจดั การความขดั แย้งรนุ แรง ด้านทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ ม.
เอกสารประกอบการสัมมนากรณีความขดั แย้งทางสังคมการเมอื ง ในโครงการอบรม “การ
เปลย่ี นแปลงความขัดแยง้ ” คร้ังที่ 5 จดั โดย ศูนยศ์ ึกษาและพัฒนาสนั ติวธิ ีมหาวิทยาลัย
มหิดล วนั ที่ 12 -13 พฤษภาคม 2554.
มารค ตามไท. (2563). สานฝันปาตานโี ดยไมใ่ ชค้ วามรนุ แรง: การวิเคราะห์จากบทสนทนาเพอ่ื สร้าง
จินตนาการใหม่. รายงานการวิจัย กองทุนสนบั สนนุ การวจิ ัย (สกว.).
เมธัส อนุวัตรอดุ ม. (2554). อีกมุมหน่งึ ต่อรากเหงา้ ความขัดแยง้ และทิศทางการแก้ไขปญั หาความไม่
สงบทช่ี ายแดนใต้. รายงานเพิ่มเติมนาํ เสนอตอ่ คณะอนุกรรมาธกิ ารจดั ทำรายงานใน
คณะกรรมาธิการวิสามัญ ติดตาม เรง่ รดั ประเมินผลการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ วฒุ ิสภา.
220119
________. (2555). กระบวนการสันตภิ าพอาเจะห์ สาธารณรัฐอินโดนเี ซีย. กรงุ เทพฯ : สถาบนั
พระปกเกล้า.
มาโนชญ์ อารีย์. (2019). มาตรา 370, สถานการณ์ชัมมู-แคชเมียร์ เขา้ ใจความขัดแยง้ ปากสถานอย่าง
ครอบคลุม. สืบคน้ จาก https://thestandard.co/kashmir-in-conflict-india-pakistan-
and-the-unending-war/.
วันชัย วัฒนศัพท.์ (2555). ความขัดแย้ง:หลกั การเครื่องมือแก้ปญั หา. พมิ พ์ครงั้ ที4่ กรุงเทพฯ: คลัง
นานาวทิ ยา.
วิกิพเี ดยี สารานุกรมเสร.ี (2564). ความหมายของสนั ตภิ าพ. สบื ค้นจาก
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%
95%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E.
_________________. (2565). เมกะโปรเจกต.์ สบื ค้นจาก
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%
B0%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%
81%E0%B8%95%E0%B9%8C.
__________________. (2564). Johan Galtung. สืบค้นจาก
https://th.melayukini.net/wiki/Johan_Galtung.
ยนี ชาร์ป. (1982). อา้ นาจและยุทธวธิ ไี รค้ วามรนุ แรง. (ชยั วัฒน์ สถาอานันท์ และคมสนั หตุ ะแพทย์
ผู้แปล) ไพศาล วงศว์ รสทิ ธ์ิ บรรณาธกิ ารแปล. พิมพค์ รัง้ แรก 2528 กรุงเทพฯ มลู นธิ โิ กมลคมี
ทอง.
รัฐพล เยน็ ใจมา และ สรุ พล สยุ ะพรหม. (2561). ความขัดแย้งในสงั คม : ทฤษฎแี ละแนวทางแก้ไข.
วารสาร มจร สงั คมศาสตรป์ ริทรรศน์, 7 (2), 224 – 238.
รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ.์ (2558). ท่าเรือนา้ ลึกปากบารา กบั ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์. สบื คน้ จาก
http://thaipublica.org/2015/05/rapeepat-5/.
รุ้งนภา ยรรยงเกษมสุข. (2550). ชนชน้ั น้าในการเมืองไทยปัจจุบนั : การศกึ ษากระบวนการผลติ ซ้าทุน
วัฒนธรรมตามแนวปิแอร์ บรู ์ดิเออ. วทิ ยานิพนธ์ (ร.ด.) คณะรัฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลยั .
ลิขติ ธีรเวคิน. (2553). ความขดั แย้งและการแก้ปญั หา วารสารสถาบันพระปกเกลา้ (8)1, 5-15.
วันชัย วัฒนศัพท์. (2549). กระบวนทัศน์ใหม่ในการป้องกันความขัดแย้ง วารสารผู้ตรวจการแผ่นดิน
ของรฐั สภา(5)1, 7-22.
210 212
_______. (2555). ความขัดแย้ง:หลักการเครื่องมือแก้ปัญหา. พิมพ์ครั้งที่ 4 ขอนแก่น: คลังนานา
วทิ ยา.
วรวทิ ย์ บารู และคณะ. (2551). มลายูปาตานี : ชาตพิ ันธุ์ อัตลกั ษณ์ และการเปล่ียนแปลง. รายงาน
วิจัย คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
วรศักดิ์ พ่วงเจรญิ . (2549). ทฤษฎคี วามขัดแย้งและการวิเคราะหป์ ญั หาความขดั แย้งด้านสงิ่ แวดล้อม
ในประเทศไทย. เอกสารทางวิชาการ หมายเลข 33โครงการการมสี ว่ นร่วมของประชาชน ใน
การจดั ทาร่างแผนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม.โครงการนโยบายสาธารณะเพื่อ
คณุ ภาพชีวติ ท่ดี ี ดาเนนิ การโดย มลู นธิ สิ าธารณสขุ แหง่ ชาติ (มสช.).
ศรีสมภพ จิตรภ์ ริ มย์ศรี. (2563). การเมืองการปกครองและการจัดการความขดั แย้งในจังหวดั ชายแดน
ภาคใต้(ปาตานี) สถานวจิ ัยความหลากหลายทางวฒั นธรรมภาคใต้
มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปตั ตานี.
______. (2565). ชายแดนใต้/ปาตานี 2547-2564: สถานวจิ ยั ความขดั แยง้ และความหลากหลายทาง
วัฒนธรรมภาคใต้ก้าวเข้าปที ส่ี ิบเกา้ สันตภิ าพจะเดนิ หน้าไปถงึ ไหนในปี 2565?.
มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตปตั ตานี.
สถาบันพัฒนาองค์กรชมุ ชน. (2558). ควนรูการเมอื งสมานฉนั ท์สสู่ ภาพลเมอื ง. สบื ค้นจาก
http://www.codi.or.th/index.php/news/documentary-communities-news/42-
2009-09-22-05-47-57/4126-2015-02-23-04-05-34.
สถาบันพระปกเกล้า. (2555). การสร้างความปรองดองแหงชาติ. รายงานวิจยั เสนอต่อ
คณะกรรมาธกิ ารวิสามัญพจิ ารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแหง่ ชาติ สภา
ผแู้ ทนราษฎร โดย สถาบนั พระปกเกลา้ มนี าคม พ.ศ. 2555.
______________. (2560). กระบวนการมีส่วนรว่ มอยา่ งมีคุณภาพของพลเมืองในโครงการพัฒนา
ขนาดใหญเ่ พือ่ การพัฒนาอย่างสนั ตแิ ละยัง่ ยืน (โมเดล 4ส8) รายงาน นักศึกษาหลกั สูตรการ
เสรมิ สรา้ งสังคมสันตสิ ุข รุ่นท่ี 8.
สถาบนั วจิ ัยการพัฒนาประเทศไทย(TDRI). (2546). ความขัดแย้งกนั ระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตัวและ
ผลประโยชนส์ ว่ นรวม : กรณศี กึ ษาองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ . สบื ค้นจาก
www.local.moi.go.th/coi.doc.
สมทิ ธิรักษ์ จนั ทรักษ.์ (2557). การพัฒนารูปแบบการสอนสันติศึกษาในสถาบนั อุดมศกึ ษาไทย.
วิทยานิพนธน์ ้ีเปน็ สว่ นหนึง่ ของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาปรชั ญาดษุ ฎบี ณั ฑติ สาขาวิชา
พฒั นศกึ ษา ภาควชิ าพืน้ ฐานทางการศึกษา บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร สบื ค้น
จากhttps://mgronline.com/daily/detail/9630000095672.
221113
สุชาติ เศรษฐมาลนิ ี. (2014). การสร้างสันติภาพและสนั ตวิ ธิ ใี นวถิ ีอสิ ลาม. สบื ค้นจาก
http://www.deepsouthwatch.org/node/5702 2014-05-15 01:07.
สรุ นันท์ วงศ์วิทยกำจร. (2561). แนวทางการบรหิ ารจดั การโครงการโครงสร้างพ้นื ฐานขนาดใหญ่ใน
ทศวรรษหน้า. นกั ศึกษา ปรอ.รนุ่ ท่ี 14 วทิ ยาลัยปอ้ งกนั ราชอาณาจกั ร.
สรุ พงษ์ ลอื ทองจักร. (2552). หลักมานษุ ยวทิ ยาและหลกั สงั คมวทิ ยา(การจดั การระเบียบทางสงั คม).
คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุดรธาน.ี
สำนกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม. (2542). กรณีศึกษาสทิ ธิชมุ ชนต่อ
ทรพั ยากรปลากะตกั . สืบค้นจาก www.onep.go.th/download/soe42/ soe42_3.doc.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2558). กระบวนการเพอ่ื สันตสิ ุขในจงั หวดั ชายแดนใต:้ ศึกษา
เปรียบเทียบกรณีมนิ ดาเนา สาธารณรัฐฟิลปิ ปนิ ส์. สบื ค้นจาก
http://www.parliament.go.th/library.
สำนกั งานสง่ิ แวดล้อมภาคที่ 16. (2552). รายงานสถานการณค์ ุณภาพแหล่งนำ้ ผวิ ดินในพื้นทจ่ี ังหวดั
สงขลา.สงขลา: สำนกั งานสิง่ แวดล้อมภาคที่ 16 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สง่ิ แวดลอ้ ม.
สกสว. (2562). การแกไ้ ขปัญหาความขัดแย้งในรัฐอาเจะห์ บทเรยี นท่ีมีต่อสามจังหวดั ชายแดนภาคใต้
ของไทย TSRI POLICY BRIEF (9)10, 3-8.
อภชิ ัย สงิ ห์ศรี. (2560). ความขัดแย้งจากโครงการพฒั นาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ : กรณศี ึกษา นิคม
อตุ สาหกรรมระยอง (บ้านค่าย). วยิ านพิ นธน์ ้เี ป็นสว่ นหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรวิทยา
ศาสตรมหาบณั ฑติ (การจดั การส่งิ แวดลอ้ ม) คณะบริหารการพัฒนาส่ิงแวดลอ้ ม สถาบัน
บณั ฑติ พัฒนบรหิ ารศาสตร์.
อภญิ ญา ดิสสะมาน. (2558). แนวทางแก้ไขปัญหาความขดั แยง้ ด้าน ทรพั ยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอ้ มโดยสนั ติวธิ ี กรณีศึกษา อำเภอสวนผง้ึ จงั หวัดราชบรุ ี. วารสารการจดั การ
ส่งิ แวดล้อม, (11)2, 60-75.
อริยา อรณุ ินท.์ (2549). เมกะโปรเจกต์ : เพอื่ ราษฎร์เพื่อรัฐ หรอื เพือ่ ใคร? การประชมุ วชิ าการ สาระ
ศาสตร์ คร้งั ท่ี 10 ในหัวขอ้ "สถานการณ์สานสาระ" วันที่ 26-27 ตลุ าคม 2549
ณ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย.
อันเดอรส์ แองวัลล์ และ นอร์เบริ ต์ โรเพอร์ส. (2563). ความขดั แยง้ ในภาคใต้และการเปลี่ยนผา่ น:
ภาพรวม. ใน อนั เดอร์ส แองวัลล์ ศรสี มภพ จติ รภ์ ริ มยศ์ รี นอร์เบริ ์ต โรเพอรส์ เอม็ มา่ พจน์
พรกุล (บรรณาธิการ) ทำความเข้าใจมิติความขัดแยง้ และสันติภาพ/ปาตานีกรงุ เทพฯ (หน้า
10-56) ศนู ย์ความร่วมมือทรัพยากรสันตภิ าพ.
212 214
อารีฟิน บนิ จิ และคณะ. (2556). ปาตานี...ประวตั ศิ าสตรแ์ ละการเมืองในโลกมาลายู, สงขลา: มูลนิธิ
วัฒนธรรมอิสลาม ภาคใต้.
เอกพนั ธุ์ ปิณฑวณิช. (2551). สันติวิธี. เอกสารประกอบการอบรมวทิ ยากรสนั ตวิ ธิ ี 21 – 24 มกราคม
2551 สืบคน้ จาก
https://deepsouthwatch.org/sites/default/files/archives/docs/ths.santiphaaph1
_aacchaaryek.pdf.
แอนเรีย เค โมลนาร.์ (2557). บทเรยี นบางประการจากกระบวนการสันตภิ าพของ อาเจะห์
อินโดยนีเซีย และ ติมอร์-เลสเต ใน ศรสี มภพ จติ รภ์ ิรมย์ศรี และคณะ (บรรณาธิการ),
บทเรยี นสนั ติภาพ เรียนรูก้ ระบวนการสันตภิ าพในประสบการณค์ วามขัดแย้งร่วมสมยั (พิมพ์
คร้งั ท่ี 1) โครงการจัดพิมพ์ดพี บุคส์ (deepbooks) ศูนย์เฝา้ ระวงั สถานการณภ์ าคใต้
มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปตั ตานี.
อุทัย ปริญญาสทุ ธินันท์ และคณะ. (2555). การผลติ ซา้ โครงการขนาดใหญข่ องรัฐและความบอบชา้
ของชมุ ชน: กรณีโครงการท่าเรอื นา้ ลึกสงขลาแหง่ ท่ี 2 อาเภอจะนะ จงั หวัดสงขลา และ
โครงการท่าเรือน้าลกึ ปากบารา อาเภอละงู จังหวดั สตูล. วารสารวิจยั มข : ปีท่ี 2 ฉบับที่ 1
(1-32).
อสุ มาน หวงั สนิ นฤทธ์ิ ดวงสวุ รรณ์ เอกชัย อิสระทะ และสุวรรณ อ่อนรักษ์. (2564). การจดั การความ
ขดั แยง้ ในขมุ ขนจากการท้าเหมอื งหนิ เขาคูหา อา้ เภอรัตภูมิ จังหวดั สงขลา. รายงานฉบบั
สมบูรณ์ เสนอต่อ ฝา่ ยพันธกิจสมั พนั ธ์มหาวิทยาลยั กับสังคม สานักวิจยั และพัฒนา
มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ 2562.
อรไท โสภารัตน์. (2546). สหประชาชาตกิ ับการแก้ไขปัญหาการฆ่าล้างแผน่ พันธ์ใุ นรวันดา (ค.ศ.
1993-1994). วิทยานิพนธ์หาบณั ฑติ . รัฐศาสตร์ (ความสัมพันธ์ระหวา่ งประเทศ)จฬุ าลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัย. บณั ฑิตวทิ ยาลัย.
Berghof Foundation. (2012). อภธิ านศัพทว์ า่ ด้วยการแปรเปลยี่ นความขัดแย้ง: 20 แนวคิดเชิง
ทฤษฎี และปฏบิ ัติ. ภคั วดี วีระภาสพงษ์ แปล กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์ของเรา.
Deep South Watch. (2564). สรุปเหตุการณใ์ นพ้นื ทีจ่ งั หวัดชายแดนภาคใต้ ประจา้ เดือนกันยายน
2564. สบื ค้นจาก https://deepsouthwatch.org/index.php/th/node/12812.
Friedrich-Naumann-Stiftung. (2021). กระบวนการแปรเปลยี่ นความขัดแยง้ ในประเทศศรีลงั กา.
สืบค้นจาก
https://www.freiheit.org/th/thailand/krabwnkaraeprepliiynkhwamkhadaeynginp
raethssriilangka.
212315
GO OUT SEE WORLD. (2020). North Ireland. สืบคน้ จาก
https://www.gooutseeworld.com/post/northernireland.
National Geographic Asia. (2019). ย้อนรอยความขดั แย้งบนดินแดน แคชเมยี ร์. สืบค้นจาก
https://ngthai.com/history/18829/kashmirconfliction/.
POLDEJ DIARY. (2554). ความรนุ แรงและสนั ตภิ าพ ในไอร์แลนด์เหนือ. สบื คน้ จาก
https://peaceresourcecollaborative.org/wp-content/uploads/2020/01/NI-
Book.pdf.
Sawadee wiki. (2022). ความขัดแยง้ ภายในเมียนมาร์. สืบคน้ จาก
https://sawadee.wiki/wiki/Internal conflict in Myanmar.
The Standard. (2017). ยอ้ นรอยปมขัดแยง้ ‘อสิ ราเอล-ปาเลสไตน์’หนง่ึ ในปยั หาตึงเครียดทางภมู
รัฐศาสตร์ทีป่ ะทุไดท้ ุกเมื่อ. สืบค้นจาก thttps://thestandard.co/the-israel-palestine-
conflict/.
___________. (2019). ถอดบทเรียน วินาศกรรมศรลี ังกา : ความขดั แยง้ ทางชาตพิ นั ธ์ุ กระแส
ต่อตา้ นอิสลาม และการก่อการร้ายระหวา่ งประเทศ. สืบคน้ จาก
https://thestandard.co/sri-lanka-global-conflict-with-islamic-extremism/.
VOA. (2021). อินเดีย-ปากีสถาน ฟน้ื ข้อตกลงพักรบในแคว้นแคชเมยี ร์. สืบคน้ จาก
https://www.voathai.com/a/pakistan-india-reach-rare-deal-to-restore-kashmir-
truce/5792362.html.
WAY. (2021). “เขา้ ใจ ความขดั แยง้ ท่ียากเข็ญที่สดุ ในโลก” ทำไมปัญหา อิสราเอล-ปาเลสไตน์ จึงไม่
จบเสียที สบื ค้นจาก https://waymagazine.org/the-history-of-the-
israelipalestinian-conflict/.
214 216
ภาษาต่างประเทศ
FAO. (2000). Conflict and Natural Resource Management. Food and Agriculture
Organization.
_____. (2007). Negotiation and mediation techniques for natural resource
management CASE STUDIES AND LESSONS LEARNED. FOOD AND
AGRICULTURE ORGANIZATION OF THE UNITED NATIONS ROME.
Friedrich Glasl, (1997). Confronting Conflict: A First-Aid Kit for Handling Conflict.
Stroud: Hawthorn Press.
Friedrich Glasl. (2021). model of conflict escalation. Retrieved from
https://en.wikipedia.org/wiki/Friedrich_Glasl%27s_model_of_conflict_escalation.
Ionut Stalenoi. (2014). “THE PEOPLE’S WAR” AND JOHAN GALTUNG’S CONFLICT
MODELS The Public Administration and Social Policies Review VI, 1(12) 32-44
Mayer, Bernard S.,Mayer, Bernard. (2000). The Dynamics of Conflict Resolution: A
Practitioner's Guide. San Francisco CA: Jossey-Bass 263p.
OECD. (2006). Cost-Benefit Analysis and the Environment: Recent Developments. By
Pearce, United Nations, Viale delle Terme di Caracalla, 00100, Rome, Italy.
UNEP. (2009). From conflict to peacebuilding The role of natural resources and the
environment. United Nations Environment Programme, Nairobi, KENYA.
_____. (2012). TOOLKIT AND GUIDANCE FOR PREVENTING AND MANAGING LAND AND
NATURAL RESOURCES CONFLICT Renewable Resources and Conflict. D.,
Atkinson, G., and Mourato. S. Paris: Organization for Economic Cooperation
and Development, Nairobi, KENYA.
215
ภาคผนวก
กรณีศึกษาความขัดแยง้ และการจดั การความขดั แย้ง
1. กรณีศกึ ษาทรัพยากรประมงในทะเลสาบสงขลา
ในหัวข้อน้ีผู้เขียนได้นำข้อมูลจำกรำยงำนกำรวิจัยของ นฤทธิ์ ดวงสุวรรณ์ และอุสมำน
หวงั สนิ (2560) ไดท้ ำกำรศกึ ษำสถำนกำรณ์และรปู แบบกำรจัดกำรควำมขัดแยง้ ด้ำนทรัพยำกรประมง
ในทะเลสำบสงขลำมำเรียบเรียงสรุปประเด็นควำมขัดแย้งที่สำคัญของพ้ืนที่ชุมชนประมงชำยฝ่ัง
ทะเลสำบสงขลำ 3 พื้นท่ี โดยท้ัง 3 พ้ืนที่ ท่ีมีกำรใช้ประโยชน์จำกทรัพยำกรประมงอย่ำงเข้มข้น มี
รูปแบบกำรทำประมงท่ีหลำกหลำย แตกต่ำงกัน และเกิดควำมขัดแย้งซ่ึงกันและกันอย่ำงต่อเน่ืองใน
หลำยมติ ิ ซ่งึ อย่ใู นแตล่ ะส่วนของทะเลสำบสงขลำ (รปู ท่ี 1) ประกอบด้วย
ชุมชนประมงทะเลน้อย ในพื้นที่ ต. ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ. พัทลุง. ใน พ.ศ.2541 ได้มีกำร
ก่อต้ังชมรมชำวประมงรักษ์ทะเลน้อย โดยมีกำรจัดทำแนวเขตสงวนพืชพันธ์ุสัตว์น้ำ กำรปล่อยพันธ์ุ
สัตว์น้ำ จัดต้ังประมงอำสำ กำรประชุม กำรก่อตั้งกองทุนของชมรมฯ กำรประสำนควำมร่วมมือกับ
หนว่ ยงำนต่ำง ๆ ประเด็นควำมขัดแย้งในพื้นท่ีคือกำรลักลอบเข้ำไปทำประมงในเขตสงวนพชื พันธุ์สัตว์
น้ำของชำวประมงบำงกลุม่ โดยทห่ี นว่ ยงำนท่ีรบั ผดิ ชอบไม่สำมำรถจดั กำรได้อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ
ชุมชนประมงบ้ำนช่องฟืน อ. ปำกพะยูน จ. พัทลุง ในพ้ืนท่ีทะเลสำบสงขลำตอนกลำง ใน
พ้ืนที่มีกำรจัดต้ังเขตอนุรักษ์หน้ำบ้ำนช่องฟืน มีกำรออกกฎกติกำข้อตกลงของชุมชนในกำรบริหำร
จัดกำรเขตอนุรักษ์ แต่มีชำวประมงจำกนอกชุมชนและในชุมชนบำงรำยละเมิดกฎเข้ำมำทำประมงใน
เขตอนรุ กั ษ์
ชุมชนประมงบ้ำนหัวเขำ ต. หัวเขำ อ. สิงหนคร จ. สงขลำ ในพ้ืนที่ทะเลสำบตอนล่ำง
ชำวประมงในพื้นที่มีกำรใช้เคร่ืองมือประมงโพงพำงวำงในบริเวณแนวร่องน้ำ ซ่ึงหน่วยงำนภำครัฐ
ต้องกำรให้ร้ือถอนเพ่ือจัดระเบียบเคร่ืองมือประมงในทะเลสำบสงขลำ แต่ชำวประมงไม่ยอมปฏิบัติ
ตำมจึงเกดิ ควำมขัดแยง้ ข้ึน
216 218
ชมุ ชนประมงทะเลน้อย
ชมุ ชนประมงบ้านช่องฟืน
ชมุ ชนประมงบ้านหวั เขา
ภาพที่ 9-1 ทะเลสำบสงขลำส่วนต่ำง ๆ และพน้ื ที่ศกึ ษำ
ทม่ี า: สถำนวิจัยสำรสนเทศภมู ิศำสตร์ทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม คณะกำรจดั กำรสง่ิ แวดล้อม (2553)
สรุปสถานการณ์และรปู แบบการจดั การความขดั แยง้ ของชุมชนดงั ต่อไปนี้
1.1 ชุมชนช่องฟืน ตาบลเกาะหมาก อาเภอปากพะยูน จังหวดั พัทลุง
1) ควำมเป็นมำและรูปแบบของควำมขดั แยง้ (profile)
ในปี พ.ศ.2549 ชุมชนบ้ำนช่องฟืนได้ร่วมกันจัดต้ังเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำหน้ำบ้ำนช่องฟืน
โดยมีรูปแบบกำรจัดกำรรูปแบบของเขตอนุรักษ์คือ เขตชั้นที่ 1 เป็นเขตปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ (เขตริม
ตลง่ิ ) ซง่ึ มีระยะทำงหำ่ งจำกตลิง่ ออกไป 150 เมตร ควำมยำว 3000 เมตร ตลอดแนวบำ้ นชอ่ งฟืน โดย
มีกติกำคือห้ำมวำงกัดทุกชนิดภำยในเขตปล่อยพันธุ์สตั ว์นำ้ จำกตลิง่ ประมำณ 250 เมตร ห้ำมทอดแห
ดักไซกุง้ นำฯ โละ๊ กุ้ง หำ้ มถบี รหู รอื จมบอกปลำมิหลัง ห้ำมยงิ ปลำ ห้ำมรำวเบ็ด หำ้ มครอบเทยี วภำยใน
เขตฯ และห้ำมดักไซแม่กุ้งที่มีท่ีมีท่ีมีขนำดตำต่ำกว่ำ 4 เซนติเมตร เขตช้ันที่ 2 เขตห้ำมล้อมกระทงุ้ นำ้
เป็นพื้นท่ีต่อเน่ืองจำกเขตริมตล่ิง ควำมกว้ำง 850 เมตร ควำมยำวตำมแนวตลอดบ้ำนช่องฟืน 3,000
เมตร มีกตกิ ำรว่ มกันคือ ห้ำมลอ้ มกระทุ้งน้ำทกุ ชนดิ จำกเขตในประมำณ 850 เมตร หำ้ มวำงกดั ทมี่ ี
221179
ภาพท่ี 9-2 เขตอนรุ ักษช์ มุ ชนชอ่ งฟนื
ทม่ี า : ทมี วจิ ยั
ขนำดตำต่ำกวำ่ 5 เซนตเิ มตร (ยกเวน้ ฤดูก้งุ หัวมนั ) ถำ้ หำกมีกำรปลอ่ ยพนั ธ์ุกุง้ กลุ ำดำห้ำมมใิ หว้ ำงกัดท่ี
มีขนำดตำต่ำกว่ำ 5 เซนติเมตร ห้ำมทอดแหที่มีขนำดตำต่ำกว่ำ 3 เซนติเมตร ห้ำมดักไซแม่กุ้งที่มี
ขนำดตำต่ำกวำ่ 4 เซนตเิ มตร ห้ำมถบี รูปลำมหิ ลังและหำ้ มยิงปลำทว่ั ไปภำยในเขตฯ
ใน พ.ศ.2553 ได้ปรับปรุงกติกำโดยให้เป็นเขตห้ำมล้อมกระทุ้งน้ำ ท้ังชั้นที่ 1 และช้ันที่ 2 มี
มติให้ออกเป็นกฎกติกำร่วมกันคือ ผู้ใดฝ่ำฝืนมีบทลงโทษจำกเบำไปหำหนักได้แก่ เริ่มต้นจำกกำร
พูดคุยตกั เตือนกำรริบเครื่องมือ (กดั 2 หัว) กำรรบิ เครอ่ื งมือ เช่น แห กัด ไซท้ังหมด และริบเครื่องมือ
แห กดั ไซ และเรอื พร้อมเครอื่ งยนต์ โดยเครื่องมอื ทีร่ ิบมำได้ใหม้ ีกำรเปิดประมลู เครื่องมือ กฎระเบียบ
ดังกล่ำวทำให้เกิดปัญหำคือมีกำรละเมิดโดยกำรลักขโมยจับปลำในเขตอนุรักษ์หน้ำบ้ำนช่องฟืน ส่วน
ใหญเ่ ป็นชำวประมงนอกพน้ื ท่ี โดยอ้ำงวำ่ ไม่ทรำบว่ำเป็นเขตอนรุ ักษ์หนำ้ บำ้ นชอ่ งฟืน และมบี ำงส่วนที่
เป็นชำวประมงในบ้ำนช่องฟืนที่ไม่ได้เป็นสมำชิกกลุ่มกิจกรรมต่ำง ๆ ของชุมชนเข้ำไปลักลอบทำกำร
ประมงในเขตอนุรักษ์
218 220
2) สำเหตุสำคญั ของควำมขดั แย้ง (causes of conflict) ท่ีเกิดขนึ้ เรื่องกำรประมงในชมุ ชน
ช่องฟนื ไดแ้ ก่
2.1) แนวคิดและสำนึกของกลุ่มชำวประมงท่ีทำกำรประมงบริเวณชุมชนช่องฟืนมี
ควำมต่ำงกันคือกำรต้องกำรกำรทำประมงท่ีย่ังยืนมองอนำคตของลูกหลำนรุ่นต่อไป จึงมีกิจกรรมต่ำง
ๆ มำกมำยเพื่อฟื้นฟอู นรุ ักษ์สตั วน์ ำ้ เขตทะเลหน้ำบ้ำนของชุมชน และอีกส่วนหนึ่งมองเร่ืองกำรจับสัตว์
นำ้ หรอื กำรใช้ประโยชน์ดำ้ นเดยี ว
2.2) พ้ืนที่เขตอนุรักษ์ประมงหน้ำบ้ำน ที่ได้รับกำรดูแลอนุรักษ์ฟ้ืนฟูทำให้พื้นท่ี
ดังกล่ำวอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์นำ้ นำนำชนิด เปน็ ทด่ี งึ ดดู ใหช้ ำวประมงบำงกลุ่มลักลอบเข้ำไปทำกำร
ประมงด้วยเครื่องมือท่หี ำ้ ม ท่มี ำจำกภำยนอกชมุ ชนและภำยในชมุ ชน
2.3) มชี ำวประมงในชุมชนบำงส่วนที่คดิ ต่ำง ซ่งึ มคี วำมขัดแย้งกันในอดีตและไม่ได้เข้ำ
ร่วมกลุ่มกิจกรรมกับกลุ่มอนุรักษ์สัตว์น้ำชุมชนช่องฟืน กำรไม่เช่ือถือ และไม่เช่ือม่ันในกิจกรรมท่ีกลุ่ม
อนุรักษ์ดำเนินกำร จึงเข้ำไปลักลอบทำกำรประมงในเขตอนุรักษ์ทะเลหน้ำบ้ำน ซ่ึงมองว่ำเป็นกำร
ดำเนินกำรโดยชำวบ้ำนมิใช่หน่วยงำนของรัฐ และดำเนินกำรในลักษณะขัดผลประโยชน์กับพวกของ
ตัวเอง
3) คู่ขัดแยง้ หลกั ของกรณนี ี้ ได้แก่
กลุ่มอนุรักษ์สัตว์น้ำซ่ึงจัดตั้งเป็นสมำคมชำวประมงรักษ์ทะเลสำบอำเภอปำกพะยูนกับกลุ่ม
ชำวประมงนอกพ้ืนที่ ชำวประมงกล่มุ นี้จะมีข้ออ้ำงเสมอว่ำไมท่ รำบว่ำมกี ำรหวงห้ำมทำประมงในพ้ืนท่ี
และสำมำรถทำกำรประมงในพื้นทีด่ ังกลำ่ วได้ ในขณะทกี่ ลมุ่ อนรุ กั ษไ์ ด้จัดทำป้ำยแสดงแนวเขตอนุรักษ์
และกฎระเบียบไว้ชัดเจนแล้วพร้อมท้ังกำรประชำสัมพันธ์ผ่ำนระบบเครือข่ำยเครือญำติ และองค์กร
ชุมชนตำ่ ง ๆ บรเิ วณใกลเ้ คียงอย่ำงต่อเน่ือง ขอ้ ขัดแยง้ ดงั กล่ำวทำให้บำดหมำงกับกลุ่มชำวประมงนอก
พื้นที่ ไม่สำมำรถร่วมกิจกรรมกันได้ มีกำรวิพำกวิจำรณ์กันอย่ำงต่อเน่ือง และกลุ่มอนุรักษ์สัตว์น้ำกับ
กลุ่มชำวประมงนอกพ้ืนท่ี ท่ีเข้ำมำทำกำรประมงนอกเขตอนุรักษ์แต่ใชเ้ ครื่องมือประมงทำลำยล้ำงคอื
“ไซพับ” หรือ “ไอ้โง่” ซึ่งเป็นเคร่ืองมือประมงผิดกฎหมำยตำม พรก.ประมง 2558 ซ่ึงไปทำลำยสัตว์
นำ้ วัยออ่ นหลำยชนดิ จนทำใหช้ ำวประมงชุมชนช่องฟนื เดือดร้อน ซ่งึ ตอ้ งประสำนให้หนว่ ยปรำบปรำม
ประมงพัทลุงมำจับกุมและยึดเครื่องมือดังกล่ำว รวมถึงกลุ่มอนุรักษ์สัตว์น้ำชุมชนช่องฟืนกับกลุ่ม
ชำวประมงในชุมชนบำงส่วนท่ีไม่ยอมรับกฎกติกำในกำรดูแลเขตอนุรักษ์ เดิมเป็นกลุ่มท่ีเคยร่วม
กิจกรรมและเป็นสมำชิกของกลุ่มอนุรักษ์ไม่พอใจจึงลำออกและไม่เข้ำร่วมกิจกรรมต่ำง ๆ กับกลุ่ม
อนรุ ักษ์สตั ว์นำ้ อกี ต่อไป
221219
กลมุ่ อนรุ ักษส์ ัตวน์ ้ำชุมชนช่องฟืน (สมำคมชำวประมงรักษ์ทะเลสำบอำเภอปำกพะยูน) ต้องกำร
กำรทำประมงที่ย่ังยืน มองอนำคตของลูกหลำนรุ่นต่อไป จึงมีกิจกรรมต่ำง ๆ มำกมำยเพื่อฟื้นฟู
อนุรักษ์สัตว์น้ำเขตทะเลหน้ำบ้ำนของชุมชน และคู่กรณีมีเป้ำหมำยในเรื่องกำรจับสัตว์น้ำให้ได้มำก
เท่ำทม่ี ำกได้
กลุ่มอนุรักษ์ชุมชนช่องฟืน เป็นกลุ่มองค์กรท่ีเข้มแข็งมีกำรจัดต้ังองค์กร และดำเนินกิจกรรม
มำอย่ำงยำวนำน คนส่วนใหญ่ในชุมชนเข้ำร่วมเป็นสมำชิก มีกำรดำเนินกิจกรรมเพ่ือแก้ปัญหำกำรทำ
ประมงในทะเลหน้ำบ้ำนหลำกหลำย เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กองทุนเคร่ืองมือประมง จัดทำเขตอนุรักษ์
จัดต้ังประมงอำสำ แพปลำชุมชน พร้อมกับมีหลำยหน่วยงำนทั้งรัฐและเอกชนสนับสนุนกิจกรรมต่ำง
ๆ อย่ำงต่อเน่ือง ทำให้มีศักยภำพในกำรแก้ปัญหำดังกล่ำวได้โดยเฉพำะภำยในชุมชนของช่องฟืนเอง
แต่กรณีชำวประมงทำกำรประมงที่ผิดกฎหมำยและผิดระเบียบของชุมชนที่มำจำกชุมชนอ่ืน ๆ
จำเป็นต้องมี “ตัวช่วย” ท่ีสำคัญได้แก่หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องโดยเฉพำะหน่วยปรำบปรำมประมงน้ำจดื
พทั ลงุ และสำนักงำนประมงจังหวดั พัทลงุ
4) พลวัตของควำมขัดแย้ง (Dynamics of conflict)
ชมุ ชนช่องฟืน เป็นชมุ ชนประมงรอบทะเลสำบสงขลำ ที่ได้รับผลกระทบจำกควำมเส่ือมโทรม
ของทรัพยำกรประมง อันเน่ืองมำกจำกหลำยปัจจัยเช่น ระบบหมุนเวียนของทะเลสำบสงขลำ
เปลย่ี นไปจำกกำรทยอยปิดปำกระวะซ่ึงเป็นทำงเขำ้ -ออกของน้ำเค็มจำกฝ่ังอ่ำวไทยสู่ทะเลสำบสงขลำ
เมื่อปี พ.ศ. 2482-2520 กำรสร้ำงทำ่ เรือนำ้ ลึกสงขลำบรเิ วณปำกทะเลสำบสงขลำตอนล่ำงเม่ือปี พ.ศ.
2528 กำรบุกรุกถมทะเลสำบเพ่ือนปลูกส่ิงก่อสร้ำงของเอกชนและรำชกำร กำรปล่อยน้ำเสีย สำรเคมี
สิ่งปฏกิ ลู ลงในทะเลสำบ จำกชมุ ชนเมอื ง จำกกำรทำกำรเกษตร จำกกำรเพำะเลี้ยงสตั ว์น้ำชำยฝง่ั และ
จำกผู้ประกอบกำรอุตสำหกรรม ทำให้ทะเลสำบต้ืนเขิน สัตว์น้ำลดลงอย่ำงรวดเร็ว และซ้ำเติมด้วย
กำรใช้เคร่ืองประมงทำลำยล้ำง ได้แก่อวนรุน โพงพำง ไซไอ้โง่ ช็อตด้วยไฟฟ้ำ ยำเบื่อ ย่ิงทำให้เกิด
ปัญหำกำรลดลงของทรพั ยำกรประมงรุนแรงเพมิ่ ข้ึนเรื่อย ๆ ก่อใหเ้ กดิ ควำมขดั แย้งระหว่ำงชำวประมง
ท่ัว ๆ ไปกบั กลมุ่ ประมงทใ่ี ชเ้ คร่อื งมือดงั กล่ำวอย่ำงต่อเน่ือง
ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2549 ชุมชนช่องฟืน ตำบลเกำะหมำก พยำยำมแก้ปัญหำดังกล่ำว โดยกำร
รวมกลุ่มกันของชุมชนจดั ต้ังกลมุ่ เพ่ือฟ้ืนฟูทรัพยำกรประมงหน้ำบ้ำน มีกิจกรรมต่ำง ๆ เช่น กำรจัดตัง้
กองทุน กำรปล่อยพันธุ์สัตว์ กำรจัดตั้งประมงอำสำ กำรจัดทำเขตอนุรักษ์พันธ์ุสัตว์นำ้ ในระหว่ำงกำร
ดำเนินงำนกิจกรรมดังกล่ำวโดยเฉพำะเขตอนุรักษ์สัตว์น้ำหน้ำบ้ำน ก็จะเกิดปัญหำควำมขัดแย้งกับ
ชำวประมงอีกกลุ่มหน่ึงซ่ึงมำจำกภำยนอกชุมชนและเป็น “คนใน”ชุมชนที่ลักลอบเข้ำไปทำกำร
ประมงในเขตอนุรกั ษ์ ถึงแมว้ ำ่ จะมกี ฎระเบียบ และช่วยกันดแู ลอยำ่ งเข้มงวดกต็ ำม
220 222
จนในถึงปัจจุบัน ผู้นำชุมชนช่องฟืนในฐำนะท่ีเป็นตัวแทนของสมำคมชำวประมงอำเภอปำก
พะยูน จ.พัทลุง (จัดต้ังจำกกลุ่มอนุรักษ์สัตว์น้ำ เป็นชมรมชำวประมง อ.ปำกพะยูน และยกระดับเป็น
สมำคมฯในปัจจุบัน) ต้องเข้ำไปประสำนงำนกับหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องให้แก้ปัญหำ“ไซไอ้โง่”ซึ่งเป็น
ปัญหำรุนแรงที่สุดในปัจจุบันน้ีโดยเฉพำะบริเวณชุมชนช่องฟืนและพื้นท่ีทะเลสำบตอนกลำง แต่
เคร่ืองมือดังกล่ำวกรมประมงประกำศแล้วว่ำเป็นเคร่ืองมือผิดกฎหมำย หน่วยงำนสำมำรถดำเนินตำม
กฎหมำยได้ทันที
1.2 ชุมชนทะเลน้อย ตาบลทะเลนอ้ ย อาเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
1) ควำมเป็นมำและรปู แบบของควำมขัดแย้ง (profile)
ช่วงก่อน ปี พ.ศ. 2500 ทะเลน้อยสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์มำก ประมำณ พ.ศ.2474 มีกำร
ประกำศเขตสงวนพันธ์ุสตั วน์ ้ำห้ำมจับสัตว์น้ำทุกชนิด พื้นท่ี 6,110 ไร่ ต่อมำช่วงประมำณ พ.ศ.2516-
2530 เป็นช่วงที่ทรัพยำกรสัตว์น้ำลดจำนวนลงมำก เน่ืองมำจำกหลำยสำเหตุ เช่น กำรใช้ประโยชน์
จำกทรัพยำกรสัตว์น้ำมำกขึ้น สภำพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมำะแก่กำรเจริญเติบโตของสัตวน์ ้ำ
ภำวะกำรตืน้ เขินของทะเลน้อย กำรมีพนื้ ท่เี ขตสงวนเพือ่ รกั ษำพนั ธส์ุ ตั วน์ ำ้ และกำรใช้เครือ่ งมอื ประมง
ท่ีทันสมัย หลังจำกนั้นอีก 10-15 ปีทรัพยำกรสัตว์น้ำก็ย่ิงลดลงอย่ำงรวดเร็วย่ิงขึ้นเน่ืองจำกมีกำรใช้
เคร่ืองมือประมงผิดกฎหมำย และเคร่ืองมือประมงที่ทันสมัยมำกขึ้น เช่น อวนท่ีทำจำกไนล่อนซึ่งมี
หลำกหลำยขนำด โดยขนำดท่ีเล็กท่ีสุด คือ ขนำด 2.8 เซนติเมตร มีกำรเพ่ิมจำนวนเคร่ืองมือประมง
มำกกว่ำเดิม 10 เท่ำตัวเพื่อให้สำมำรถจับสัตว์น้ำได้มำกข้ึน อีกท้ังยังมีกำรลักลอบทำประมงในเขต
รกั ษำพชื พนั ธส์ุ ตั วน์ ำ้
พ.ศ. 2541 ไดก้ อ่ ตงั้ เปน็ ชมรมชำวประมงรักษ์ทะเลน้อย มเี ครอื ขำ่ ยทีเ่ ป็นสมำชิกประกอบด้วย
หม่ทู ่ี 1, 2, 13 ตำบลพนำงตุง และหมู่ท่ี 1, 2 ตำบลทะเลน้อย กิจกรรมของชมรมฯคือ กำรจัดทำแนว
เขตอนุรักษ์ของชุมชน กำรปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จัดตั้งประมงอำสำ กำรประชุม กำรก่อตั้งกองทุนของ
ชมรม และกำรประสำนควำมรว่ มมือกบั หน่วยงำนต่ำง ๆ
พ.ศ. 2547 เริ่มมีปัญหำ มีผู้ลักลอบเข้ำไปจับสัตว์น้ำในเขตอนุรักษ์ของชุมชน เม่ือจะมีกำร
ดำเนินกำรตำมกฎหมำยก็ทำให้เกิดควำมขัดแย้งขึ้นมำ ประมงอำสำท่ีจัดต้ังขึ้นไม่สำมำรถทำหน้ำทไ่ี ด้
เชน่ อำนำจในกำรจับกุมต้องให้เจ้ำหน้ำท่ีประมง ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญบ่ ำ้ นเปน็ ผจู้ บั กุมเท่ำนั้น ในส่วน
ของชมรมฯเองกไ็ ม่สำมำรถขยำยควำมร่วมมอื ไปยังส่วนตำ่ ง ๆ ได้ ในปี พ.ศ. 2549 ชมรมฯได้พยำยำม
ประสำนควำมร่วมมือกับ อบต.ทะเลน้อย และหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง แต่ยังไม่สำมำรถคลี่คลำยปัญหำ
ได้ แกนนำชมรมถูกกดดันจำกกลุ่มประมงทำลำยล้ำง และลักลอบในเขตอนุรักษ์เกิดควำมคัดแย้ง
222231
แตกแยกในชุมชนเพิ่มขึ้น และปัญหำยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน ท้ัง อบต.ทะเลน้อยและผู้นำทำงกำรของ
ชุมชนไม่ได้รับกำรยอมรับจำกกลุ่มอนุรักษ์เนื่องจำกแก้ปัญหำดังกล่ำวไม่ได้ หน่วยงำนภำครัฐ โดย
เฉพำะที่เก่ียวข้องกับกำรปรำบปรำมกำรประมงถูกกล่ำวหำว่ำไม่จริงใจและจริงจังในกำรทำงำน มี
ผลประโยชน์ทับซ้อน
2) สำเหตสุ ำคัญของควำมขัดแย้ง (causes of conflict) ท่ีเกดิ ขึ้นเร่ืองกำรประมงในทะเล
นอ้ ย ไดแ้ ก่
2.1) กำรขยำยตัวของประชำกรในชุมชนเพ่ิมขึ้นรวดเร็ว ทั้งคนในพ้ืนท่ีและจำก
ภำยนอก ทำใหเ้ พ่มิ กำรทำกำรประมงอย่ำงรวดเรว็ ดว้ ยเครื่องมือประมงที่หลำกหลำยทั้งเปน็ เคร่ืองมือ
ท่ถี ูกกฎหมำยและผดิ กฎหมำย ทรัพยำกรประมงไมเ่ พยี งพอต่อควำมต้องกำรของชำวประมง
2.2) พ้ืนท่ีทำกำรประมงในทะเลน้อยมีจำกัด และทรัพยำกรประมงเสื่อมโทรมจำก
ควำมต้ืนเขิน มลพิษทำงน้ำ และกำรรุกล้ำของสิ่งก่อสร้ำงต่ำง ๆ ทำให้ทรัพยำกรประมงลดลงอย่ำง
รวดเร็ว ไม่เพียงพอกับชำวประมงในชุมชน ชำวประมงบำงส่วนพยำยำมใช้เคร่ืองมือท่ีทันสมัยและทำ
ลำบล้ำงมำกขึน้
2.3) แนวคิดในกำรใช้ทรัพยำกรประมงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มท่ีใช้เครื่องมือ
ประมงท่ัวไปพร้อมกับกำรร่วมกันเพ่ือฟ้ืนฟู และอนุรักษ์สัตว์น้ำพร้อมกันไปด้วย กับกลุ่มท่ีไม่สนใจ
เรื่องดังกล่ำวพยำยำมลกั ลอบทำกำรประมงในเขตอนุรักษ์และใชเ้ คร่ืองมือทำลำยลำ้ งซึ่งเปน็ กลุ่มทอ่ี ยู่
ในหมู่บำ้ นและมำจำกภำยนอก
2.4) หน่วยงำนระดับท้องถ่ินโดยเฉพำะ อบต.และผู้นำทำงกำรระดับพื้นที่ ไม่สำมำรถ
จัดกำรปัญหำดังกล่ำวได้เด็ดขำด และต่อเนื่อง เนื่องจำกบุคคลต่ำง ๆ ที่เก่ียวข้องกับประเด็นปัญหำ
ดังกล่ำวมีควำมสัมพนั ธ์กันเป็นพวกพ้อง เครือญำติ และเครอื ขำ่ ยทำงสังคมของชุมชนอย่ำงใกล้ชิด
2.5) เจ้ำหน้ำที่หน่วยงำนที่มีหน้ำท่ีโดยตรง โดยเฉพำะทำงด้ำนกำรปรำบปรำบ
ประมง มีข้อจำกัดในกำรจัดกำรปัญหำ เช่น กำลังเจ้ำหน้ำท่ีไม่เพียงพอ ต้องดูแลพื้นท่ีอ่ืน ๆ ขำด
งบประมำณค่ำเบย้ี เลย้ี งและนำมนั เช้ือเพลิง ขำดควำมต่อเนื่องในกำรปฏบิ ัติงำน ในขณะที่อำสำสมัคร
ชมุ ชนทีช่ ่วยดูแลอนรุ ักษ์สัตว์น้ำของชุมชนก็ไมม่ ีอำนำจในกำรจัดกำร
222 224
ภาพที่ 9-3 เขตอนุรกั ษำพันธ์พุ ชื สตั ว์น้ำทะเลน้อย
ทม่ี า:ทีมวจิ ยั
3) คู่ขัดแย้งหลกั (actors)ในกรณีควำมขัดแย้งด้ำนทรัพยำกรประมงทะเลน้อย ได้แก่
3.1) คกู่ รณีหลัก (main actors) ไดแ้ ก่กลุม่ ชำวประมงท่ที ำกำรประมงดว้ ยเครื่องมือ
ท่ัวไปและถูกกฎหมำยซึ่งรวมกลุ่มเป็นชมรมรักษ์ทะเลน้อย กับกลุ่มชำวประมงที่ทำกำรประมงด้วย
เคร่ืองมือทำลำยล้ำงและผิดกฎหมำย จุดมุ่งหมำยของกลุ่มแรกคือต้องกำรทำกำรประมงในทะเลน้อย
ได้ไปอย่ำงย่ังยืนโดยกำรอนุรักษ์ ฟื้นฟทู รพั ยำกรประมงไปด้วย แตอ่ กี กลมุ่ หนึ่งมีจุดมุ่งหมำยในกำรจับ
สัตว์น้ำให้ได้มำกมีรำยได้เพียงพอกำรใช้จ่ำยในครอบครัวตัวเอง ไม่สนใจว่ำจะผิดกฎหมำยหรือเป็น
พ้ืนที่หวงห้ำม ชมรมรักษ์ทะเลน้อยเป็นกลุ่มที่ได้รับกำรยอมรับของชุมชน และมีเครือข่ำยกำรทำงำน
ในรอบลุ่มน้ำทะเลสำบสงขลำ มีกำรสนับสนุนกิจกรรมองค์กรพัฒนำเอกชน สถำบันวิชำกำรและ
หน่วยงำนภำครัฐ เนื่องจำกเป็นเป็นองค์กรชุมชนที่ดำเนินกำรเพื่อส่วนรวม ถูกต้องตำมกฎหมำย แต่
ขึ้นกับควำมเข้มแข็งของชมรมฯ ควำมต่อเนื่องของกิจกรรม และกำรสร้ำงควำมสัมพันธก์ ับชุมชนและ
องค์กำรบริหำรสว่ นทอ้ งถ่นิ ในพืน้ ท่ี ส่วนกลุ่มชำวประมงที่เป็นคูก่ รณมี จี ำนวนไมม่ ำก คอ่ นข้ำงจะเป็นผู้
มีฐำนะทำงกำรเงิน มีควำมใกล้ชิดกับผู้นำทำงกำรและผู้นำท้องถิ่นบำงคนในชุมชน แต่อย่ำงไรก็ตำม
ทั้งสองกลมุ่ สว่ นใหญอ่ ยใู่ นชุมชนเดยี วกนั ยังรว่ มกจิ กรรมตำ่ ง ๆ ของหมู่บ้ำนดว้ ยกันอยู่
222253
ผู้มีส่วนร่วมหลักคือชมรมรักษ์ทะเลน้อย มีประสบกำรณ์ในกำรแก้ปัญหำดังกล่ำว
ด้วยกิจกรรมต่ำง ๆเพื่อฟ้ืนฟูและอนุรักษ์สัตว์น้ำในชุมชน ทำให้คนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมและเห็น
ควำมสำคัญ ส่วนกำรจัดกำรกับกลุ่มประมงผิดกฎหมำย ชมรมฯใช้วิธีกำรประสำนงำนหน่วยงำนท่ี
เกี่ยวข้องเข้ำมำแกป้ ญั หำซึ่งสำมำรถดงั กล่ำวแก้ปัญหำได้ แตย่ ังไม่ตอ่ เน่อื ง
3.2) คูก่ รณอี นื่ ๆ กม็ บี ทบำทชว่ ยเสริมให้สำมำรถแก้ปัญหำดังกล่ำวไดด้ งั น้ี
หน่วยงำนด้ำนปรำบปรำมประมง ซ่ึงเป็นหน่วยงำนท่ีมีหน้ำท่ีโดยตรงที่สำมำรถ
แก้ปัญหำควำมขัดแย้งระหว่ำง 2 กลุ่มแรกได้ โดยกำรทำงำนร่วมกับกลุ่มอนุรักษ์อย่ำงใกล้ชิด
สนบั สนุนกิจกรรมตำ่ ง ๆเช่น กำรทำเขตอนุรกั ษ์ กำรดแู ลเขตอนรุ กั ษ์ กำรปลอ่ ยพนั ธ์ุสัตวน์ ้ำ ตลอดจน
กำรทำควำมเข้ำใจกับชำวประมงกลุ่มต่ำง ๆ ให้เข้ำใจ และหันมำร่วมกันฟ้ืนฟูอนุรักษ์ และกำรใช้
ประโยชน์ท่ีย่ังยืน องค์กำรบริหำรส่วนท้องถ่ิน ผู้นำทำงกำร (ผู้ใหญ่บ้ำน กำนัน) ซึ่งเป็นคู่กรณีที่
สำมำรถดำเนินกำรเพื่อลดควำมขัดแย้ง 2 กลุ่มหลักได้โดยเป็นตัวกลำงในกำรวำงกฎระเบียบประกำศ
ขององค์กำรบริหำรส่วนท้องถิ่นเพ่ือหนุนเสริมกำรฟื้นฟู อนุรักษ์ และจัดกำรพ้ืนท่ีทำกำรประมงให้
ชัดเจน ซึ่งต้องดำเนินกำรและติดตำมผลอย่ำงต่อเน่ือง ท่ีสำคัญคือกำรประชำสัมพันธ์และทำควำม
เข้ำใจกับชำวประมงกลุ่มต่ำง ๆ นอกจำกนั้นคนในชุมชนโดยเฉพำะพ่อค้ำแม่ค้ำท่ีรับซื้อสัตว์น้ำจำก
ชำวประมง และผูบ้ ริโภคทวั่ ไปก็สำมำรถช่วยลดปญั หำดังกล่ำวได้โดยกำรรณรงค์ใหซ้ ้ือและบรโิ ภคสัตว์
น้ำทมี่ ำกจำกเคร่อื งมอื ประมงท่ไี ม่ทำลำยล้ำงและผดิ กฎหมำย
4) พลวัตของควำมขัดแยง้ (Dynamics of conflict)
ควำมขดั แย้งและไม่พอใจระหวำ่ งคู่ขัดแยง้ หลักมีมำอยำ่ งต่อเนื่อง นับจำกจุดเร่ิมต้นถึงแม้จะ
ไม่เกิดโดยตรงแต่จะมีกำรกลำ่ วถงึ และกล่ำวหำกบั กลมุ่ ประมงผดิ กฎหมำยเป็นประจำ เป็นกำรพูดคุย
ลบั หลงั และกลุ่มอนุรักษ์ของชมุ ชนกจ็ ะกล่ำวโทษหนว่ ยงำนทเี่ กีย่ วข้องว่ำไมจ่ ริงใจ ไม่ทำหน้ำที่ ปล่อย
ปละละเลยทำให้เกิดปัญหำดังกลำ่ วมำจนถึงปจั จุบัน แนวโน้มถ้ำปลอ่ ยให้เกดิ ปัญหำดังกล่ำวเกิดข้ึน
อยำ่ งต่อเนือ่ งจะทำใหช้ ุมชนทุกฝำ่ ยไดร้ บั ผลกระทบ คือไม่มีสัตว์นำ้ ใหจ้ ับไม่มีสตั วน์ ำ้ ใหบ้ ริโภค ทะเล
น้อยกลำยเป็นที่เพียงท่กี ักเกบ็ น้ำ ถำ้ ไม่มกี ำรจัดกำรร่วมกันอยำ่ งจริงจงั ในอนำคต ทัง้ เศรษฐกิจ สงั คม
และสิ่งแวดล้อมของทะเลนอ้ ย เกิดปญั หำรุนแรง เกนิ กำลงั ท่ีจะแก้ไขได้
ทะเลน้อยเป็นพ้ืนท่ีอยู่ในเขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำและพันธุพืช ของกรมอุทยำนแห่งชำติ มีพื้นที่ท่ี
เป็นพื้นท่ีชุ่มน้ำนำนำชำติ (แรมซำร์ไซท์) เป็นสถำนท่ีท่องเท่ียวท่ีสำคัญของจังหวัดพัทลุง ทำให้มี
หน่วยงำนต่ำง ๆ ใหค้ วำมสนใจในกำรพัฒนำทะเลน้อยมำอย่ำงตอ่ เนื่องเช่นกนั แตย่ งั ไม่สำมำรถบูรณำ
กำรทำงำนร่วมกันได้ดังนั้นแผนงำนท่ีจะแก้ปัญหำดังกล่ำว ได้แก่กำรดำเนินกิจกรรมจัดกำรเขต
อนุรักษ์สัตว์น้ำ และกลุ่มประมงอำสำดูแลอย่ำงต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องมีแผนงำนของเทศบำลตำบล
224 226
ทะเลน้อย และหน่วยงานทีเ่ ก่ียวขอ้ ง ไดแ้ กส่ ำนกั งานประมงอำเภอและจงั หวดั สถานเี พาะพนั ธ์สุ ตั ว์น้ำ
จืด ที่สอดคล้องและสามารถสนับสนุนกลุ่มอนุรักษ์ได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน นอกจากนั้นจำเป็นต้องมี
แผนการเจรจาเพื่อให้กลุ่มประมงผิดกฎหมาย ลด ละ เลิกในการทำลายสัตว์น้ำ โดยมีหน่วยงานที่
เก่ยี วข้องเป็นผู้ดำเนนิ การ พรอ้ มไปกับการบังคบั ใช้กฎหมายที่เขม้ งวดและต่อเนือ่ ง
1.3 ชุมชนหัวเขา ตำบลหวั เขา อำเภอสิงหนคร จงั หวดั สงขลา
1) รูปแบบของความขดั แย้ง (profile)
จากข้อยนื ยันทางวิชาการตรงกันวา่ โพงพางเป็นชนิดเคร่อื งมือประมงหนง่ึ ที่สำคญั ที่ สง่ ผลให้
ปริมาณและชนิดของสัตว์น้ำในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาลดลงอยา่ งอย่างรวดเร็ว โดยมีการวางหนาแน่น
บริเวณปากทะเลสาบสงขลา จะปิดช่องทางน้ำซึ่งเป็นทางผ่านของสัตว์น้ำวัยอ่อน เช่น มีรายงานว่ า
เปรียบเทียบเครื่องมือประมง 3 ชนิด เครื่องมือโพงพาง เป็นเครื่องมือที่ทำลายสัตว์น้ำมากที่สุด
รองลงมาคือ ไซนั่ง และลำดับสามคืออวนลอย เป็นต้น กรมประมงพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดย
เริ่มจากการประกาศยกเลิกการสัมปทานพื้นที่เพื่อทำการประมงโพงพางและห้ามโพงพางทำการ
ประมงในทะเลสาบสงขลาตงั้ แต่ พ.ศ.2519 มีโครงการปรบั เปลยี่ นเครือ่ งมือประมง ส่งเสริมอาชีพให้ผู้
ได้รับผลกระทบ แต่ก็ทำได้ไม่มากนักเนื่องจากปัญหาด้านงบประมาณและการดำเนินการที่ส่งผล
กระทบต่อความเป็นอยขู่ องชมุ ชนจะดำเนนิ การไดย้ าก
ความขัดแย้งครั้งสำคัญมาจาก จังหวัดสงขลาประกาศจัดระเบียบเครื่องมือประมงในร่องน้ำ
ทะเลสาบสงขลา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557 โดย นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด
สงขลาสมัยนั้น ให้รื้อถอนโพงพางในทะเลสาบสงขลาที่ชาวประมงในหัวเขากว่าร้อยละ 90 ยึดเป็น
อาชีพ ไดส้ ร้างบริเวณร่องน้ำจากปากอ่าวจนถึงสะพานติณสูลานนท์ ภายใน 15 กันยายน พ.ศ. 2557
โดยเจ้าของโพงพางสามารถได้รับการสนับสนนุ ให้เปลีย่ นอาชีพเป็นการเพาะเลีย้ ง และรับเงินเยยี วยา
แต่กลุ่มโพงพางเรียกร้องให้ชะลอการรื้อออกไปก่อน หลังจากนั้นมีชาวประมงบางส่วนยินยอมรื้อไป
เอง แตส่ ว่ นใหญ่ไมย่ นิ ยอมให้รือ้
14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมชุดกำลังฝ่ายต่าง ๆ ลงพื้นที่จัด
ระเบียบเครื่องมือประมงโพงพางแนวร่องน้ำทะเลสาบสงขลา ปรากฏว่ามีกลุ่มชาวประมงโพงพางนั่ง
เรอื หางยาวเข้ามาคดั คา้ นการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทางผู้ว่าฯ จงึ ต้องชะลอการดำเนินงานไวก้ ่อน เพ่ือ
ไม่ให้เกดิ ความวุน่ วาย
222257
ภาพท่ี 9-4 กำรใช้เครื่องมือประมงท้ังไซนั่งและโพงพำงอยำ่ งหนำแน่นในเขตทะเลสำบตอนล่ำง
ท่มี า : ทมี วิจัย
11 กันยำยน พ.ศ. 2558 หลังจำกคำสั่งของ คสช. ให้รื้อถอนโพงพำง ไซนั่ง และเครื่องมือ
ประมงบำงประเภทท่ีผิดกฎหมำย ออกจำกพื้นท่ีครบกำหนดเมื่อวันท่ี 10 กันยำยน พ.ศ. 2558
จังหวัดสงขลำ จัดเรือ 39 ลำ และเตรียมกำลังกว่ำ 500 นำย เพ่ือเข้ำร้ือถอนโพงพำงที่เหลือและเข้ำ
คมุ้ กนั จำกปำกทะเลสำบจนถึงบำ้ นท่ำหยี ต.ห้วยลึก อ.ควนเนียง และทยอยร้อื ถอนไปเรอื่ ย ๆ
26 กันยำยน พ.ศ. 2558 ชำวประมงพ้ืนบ้ำนในอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลำ นำเรือประมง
พื้นบ้ำนออกมำรวมตัวกันที่บ้ำนแหลมสน หมู่ 2 ตำบลหัวเขำ อำเภอสิงหนคร เพ่ือคัดค้ำนภำรกิจใน
กำรร้ือถอนเคร่ืองมือประมงโพงพำงในทะเลสำบสงขลำ ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดสงขลำ จึงส่ังยกเลิก
ภำรกจิ นีใ้ นวนั ดังกล่ำว
31 ม.ี ค.พ.ศ. 2559 กำลังเจำ้ หน้ำท่ี ทหำร ตำรวจ ฝำ่ ยปกครองและหน่วยงำนทเ่ี ก่ียวข้อง ทั้ง
กรมประมง กรมเจ้ำท่ำ รวมเกือบ 200 นำย นำเรือเข้ำทำกำรรื้อถอนโพงพำงท่ีกีดขวำงร่องน้ำกำร
เดินเรือในทะเลสำบสงขลำช่วงท่ี 1 ที่ยังเหลืออยู่ จำนวน 13 แถว 150 ช่อง จำกบริเวณหัวพญำนำค
พ่นน้ำถึงท่ำเทียบเรือประมงใหม่ โดยมีเจ้ำของโพงพำงเข้ำมำขัดขวำงกำรรื้อถอน แต่หลังจำกมีกำร
เจรจำทำงเจ้ำของโพงพำงยินยอมให้ร้ือถอนทั้งขอรื้อถอนเองและให้เจ้ำหน้ำท่ีร้ือถอนให้โดยไม่มีเหตุ
รนุ แรงบำนปลำยโดยที่เจำ้ ของโพงพำงบำงสว่ นยงั ไมไ่ ด้คำ่ เยีย่ วยำชดเชย
226 228
ภาพท่ี 9-5 ทหำร ตำรวจ ฝำ่ ยปกครอง กรมประมง กรมเจ้ำทำ่ สนธกิ ำลัง เขำ้ ทำกำรรอ้ื ถอนโพงพำง
ท่กี ดี ขวำงร่องน้ำกำรเดินเรือในทะเลสำบสงขลำ บริเวณชุมชนหัวเขำ 31 มนี ำคม 2559
ทม่ี า: https://news.gimyong.com/article/1026
2 มิถุนำยน พ.ศ. 2559 ชำวตำบลหัวเขำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลำ ที่ประกอบอำชีพโพงพำง
ในทะเลสำบสงขลำประมำณ 100 คน รวมตัวกันปิดเส้นทำงลงแพขนำนยนต์ ทำให้รถยนต์และ
รถจักรยำนยนต์ไมส่ ำมำรถใช้บริกำรได้ เพรำะต้องกำรเรยี กร้องให้จ.สงขลำ จ่ำยเงินชดเชยจำกกำรร้ือ
ถอนโพงพำงในทะเลสำบ หลังผ่ำนไปนำนกว่ำ 3 เดือน ทำงจังหวัดและหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องยังไม่
จ่ำยเงินชดเชย แต่กลับรื้อถอนโพงพำงต่อเนื่องทำให้ชำวบ้ำนเดือนร้อน วันรุ่งข้ึนมีกำรเจรจำกับ
ตัวแทนของแม่ทัพภำคท่ี 4 ชำวบ้ำนยินยอมเปิดเส้นทำง จนถึงปัจจุบัน (ธันวำคม2559) ยังไม่มีควำม
คืบหนำ้ กำรแก้ปญั หำดงั กล่ำว
2) สำเหตุสำคัญของควำมขัดแย้ง (causes of conflict) ที่เกิดข้ึนเรื่องกำรประมงในชุมชน
หัวเขำ ไดแ้ ก่
2.1) เคร่ืองมือประมงประเภทโพงพำง ถูกกรมประกำศยกเลิกสัมปทำนพื้นท่ีและห้ำมทำกำร
ประมงในทะเลสำบสงขลำ มำต้ังแต่ปี พ.ศ.2515 แต่ไม่สำมำรถบังคบั ใช้กฎหมำยดงั กล่ำวได้ อย่ำงไรก็
ตำมหน่วยงำนที่เก่ียวข้องได้พยำยำมร้ือโพงพำงหลำยครั้งแต่ล้มเหลวนอกจำกกำรได้รับต่อต้ำนจำก
ชุมชนแลว้ ยงั เกย่ี วข้องกบั กำรเมอื งท้องถ่นิ กำรเมืองระดบั ชำติ และผลประโยชนท์ บั ซ้อนตำ่ ง ๆ จงึ ทำ
ให้มปี ัญหำมำอย่ำงตอ่ เนือ่ ง
229
227
2.2) ความเสื่อมโทรมของทะเลสาบสงขลามีมาอย่างต่อเนือ่ ง เกิดจากสาเหตตุ ่าง ๆ มากมาย
แต่ความต้ืนเขินของทะเลสาบโดยเฉพาะบริเวณร่องน้ำเป็นสาเหตุสำคัญ กรมเจา้ ทา่ จึงมโี ครงการการ
ขุดลอกร่องน้ำเพื่อช่วยให้มีการไหลเวียนของทะเลสาบดีข้ึน การสัญจรเข้าออกสะดวกมากขึ้น เพื่อให้
สามารถดำเนินโครงการได้ จำเป็นต้องรื้อโพงพางบริเวณร่องออกเพื่อกันพื้นที่ในการขุดลอก จึงเกิด
ปญั หาโดยตรงกบั ชาวประมงโพงพาง
2.3) บริเวณพื้นปากอ่าวทะเลสาบสงขลาตอนล่าง มีการใช้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ การ
ขนส่งของเรือขนาดใหญ่ของทหารเรือ ตำรวจน้ำ เรือประมงพาณิชย์ เรือบริษัทขุดเจาะน้ำมัน เรือ
ท่องเท่ยี ว ในขณะเดียวกนั ชมุ ชนหัวเขาขยายตัวมากขนึ้ มีการทำโพงพางบรเิ วณร่องน้ำมจี ำนวนเพิ่มข้ึน
ทำให้กดี ขวางทางเดนิ เรือสัญจรเข้า-ออก เปน็ ประจำ
2.4) อาชพี โพงพางเป็นอาชีพหลักของชุมชนหวั เขา โดยสืบทอดกันมาจากบรรพบรุ ุษ จนเป็น
วัฒนธรรมหรือวิถีประมงโพงพาง ครอบครัวชาวประมงชุมชนดังกล่าวต้องพึ่งพาอาศัยด้านเศรษฐกิจ
จากโพงพางเป็นหลัก ดังนั้นการจะรื้อทำลายโดยชดเชยให้ทำอาชีพอื่นเป็นไปได้ยากชุมชนไม่อยาก
เปลยี่ นแปลงไปจากวิถโี พงพางของตวั เอง
3) คขู่ ดั แย้งหลัก (actors)ของกรณีน้ี ได้แก่
กลุ่มชาวประมงโพงพาง กับ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มชาวประมงโพงพาง ท่ี
อาศัยอยูร่ มิ ทะเลสาบสงขลา หมู่ 3, 4, 5, 6 และหมทู่ ่ี 1 บางสว่ นของตำบลหัวเขา อ.สิงหนคร โดยจะ
ตั้งโพงพางบริเวณร่องน้ำตั้งแต่ ปากอ่าวบริเวณหัวพญานาคพ่นน้ำถึงท่าเทียบเรือใหม่ และจากท่า
เทียบเรือใหม่ยาวจรดสะพานติณสูลานนท์ อำเภอเมืองสงขลา และ จากสะพานติณสูลานนทไ์ ปจนถงึ
อำเภอสิงหนคร ซึ่งเริ่มทำการประมงมามากกว่า 50 ปีแล้ว กลุ่มประมงโพงพางดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติ
ตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดเนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้รับค่าชดเชยหรือเยียวยาความเสียหายตามท่ี
ตัวเองเรียกร้องจากการไม่สามารถทำการประมงโพงพางบริเวณเดิมได้ หน่วยงานของรัฐที่เป็นคู่
ขดั แยง้ โดยตรงคือ ผู้วา่ ราชการจังหวัดสงขลา (สมยั ปี2558-กันยายน2559) และหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ ง
ไดแ้ ก่ หน่วยปราบปรามประมง สำนกั งานประมงจงั หวัด สำนักงานเจา้ ท่าภูมิภาค สาขาสงขลา เป็นต้น
เปน็ หนว่ ยงานที่ต้องการรื้อโพงพางบริเวณร่องน้ำออกและจดั ระเบียบใหม่ ให้สามารถดำเนินโครงการ
การขุดลอกรอ่ งนำ้ ได้
คู่กรณีดังกล่าวมีศักยภาพทำให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงได้ทั้งสองฝ่าย ฝ่ายทางการสามารถ
ใช้อำนาจจากประกาศจังหวัดและสั่งหน่วยงานใหส้ ามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ โดยเฉพาะคำส่ัง
คสช.ซึ่งดำเนินการได้ทันที และกลุ่มชาวประมงโพงพางก็มีศักยภาพในการขัดขวางการรื้อถอนได้
เนื่องจากมีจำนวนมาก และมีความคุ้นเคยลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นอย่างดี สามารถใช้เงื่อนไข
228 230
“ปากท้องและอาชีพ” ระดมคนเข้าไปขัดขวางได้ อีกประการหนึ่ง เนื่องจากชุมชนหัวเขาอยู่กับ
โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญทีจ่ ะใชก้ ำลังของชมุ ชนไปต่อรอง ได้แก่ การปิดช่องทางจราจรได้ท้ัง ท่าเรือ
น้ำลึก ท่าแพขนานยนต์ และสะพานเกาะยอ ซึ่งชุมชนเคยมีประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าวมาแล้ว ใน
ทำนองเดียวกับทั้ง 2 ฝ่ายก็มีศักยภาพในการลดปัญหาดังกล่าวได้ง่ายและทันที เช่นกัน เมื่อต่าง
ยอมรับซึ่งกันและกัน เนื่องจากมีกลไกคือคณะกรรมการแก้ปัญหาระดับจังหวัดอยู่แล้ว สามารถใช้
กลไกดังกล่าวอย่างจริงจังจริงใจทั้งทั้งสองฝ่าย ในประเด็นดังกล่าวมีภาคีที่สำคัญที่อาจทำให้การ
จดั การปัญหายุ่งยากมากขึ้น ไดแ้ ก่ การเมอื งระดบั ชาติ และการเมอื งทอ้ งถ่นิ ทอี่ าจจะทำให้ไมส่ ามารถ
จัดการปัญหาได้เด็ดขาด
4) พลวัตของความขัดแยง้ (Dynamics of conflict)
ในกรณีนี้โครงการพื้นฟูร่องน้ำทะเลสาบสงขลาบริเวณร่องน้ำทะเลสาบจะต้องดำเนินการ
ต่อไปอย่างแน่นอน เนื่องจากมีการศึกษาผลกระทบตา่ ง ๆ และรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วน
เสยี เสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ รอข้นั ตอนทางงบประมาณดำเนนิ การเทา่ น้นั ซ่งึ ปญั หาความขัดแยง้ ในประเด็น
ดังกล่าวยังคงมีต่อไป และแนวโน้มจะหนักและรุนแรงมากขึ้นถ้าไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ
ผปู้ ระกอบการใชเ้ หตุผลของการทำมาหากนิ มานาน หน่วยงานไมร่ ักษาสญั ญา ผดิ เวลา เจรจาแล้วก็ไม่
ปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง ในขณะที่ทางการเจ้าของโครงการขุดลอกร่องน้ำ มีขั้นตอนในการชดเชย
เยยี วยาหลายขนั้ ตอนในด้านงบประมาณซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถตอบสังคมไดว้ า่ พื้นที่ดังกล่าว
เป็นเขตห้ามตั้งเครื่องมือ เรียกว่าเป็นผู้ละเมิดกฎหมาย แต่ทำไมรัฐถึงต้องจ่ายเงินเพื่อชดเชยทั้ง ๆ ที่
โครงการนตี้ ้องการฟนื้ ฟูทะเลสาบซึ่งมีคนอีกมากมายที่มสี ว่ นร่วมโอกาสในการแก้ปัญหา ในช่วงแรกมี
ชาวประมงยินดีรื้อโพงพางไปบางส่วนและรับการเยียวยาไปแล้ว ช่องทางที่สามารถแก้ปัญหาได้คือ
การเจรจาที่เป็นทางการให้ต่อเนื่อง มีการปฏิบัติการตามข้อตกลงร่วมกันใหไ้ ด้ มีปัญหาติดขัดขัน้ ตอน
ไหนให้มีการสื่อสารกับคณะกรรมการฯได้ทราบ มีองค์กรที่สำคัญที่จะเข้ามาร่วมแก้ปัญหาได้จริงจัง
ได้แก่ นักการเมืองท้องถิ่นระดับอำเภอและระดับจังหวัด ผู้นำศาสนาระดับจังหวัดและระดับชาติ
แผนงานท่ีสำคญั คือหน่วยงานที่เกีย่ วข้องโดยเฉพาะจังหวัดสงขลา กรมเจา้ ท่า (คขู่ ดั แยง้ ) สง่ ตัวแทนลง
พื้นที่โดยมีผู้ศาสนาเป็นคนกลาง พูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับตัวแทนกลุ่มโพงพางเพื่อติดตาม
สถานการณ์และทบทวนข้อตกลง แผนการ ขั้นตอน ในการจัดการปัญหาร่วมกันภาครัฐกับกลุ่ม
ชาวประมงโพงพาง เช่นอาสาสมัครดูแลร่องน้ำหลังจากรื้อไปแล้วไม่ให้เข้ากลับมาตั้งโพงพางใหม่อีก
เปน็ ตน้
222391
1.2 รูปแบบและแนวทางการจดั การปัญหาความขดั แยง้ ดา้ นทรพั ยากรประมงในทะเลสาบสงขลา
จำกกำรเก็บข้อมูลในพ้ืนท่ีเป้ำหมำยกำรวิจัยตัวแทนชำวประมงทะเลสำบสงขลำในพ้ืนที่ มี
ข้อเสนอกำรแก้ปัญหำควำมขัดแย้งทั้งระดับพ้ืนที่ท่ีชุมชนสำมำรถจัดกำรได้ และกำรจัดกำรใน
ภำพรวมของทะเลสำบสงขลำ โดยท่ีภำคส่วนต่ำง ๆ เฉพำะหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องเข้ำมำมีส่วนร่วม
เพ่ือใหส้ ำมำรถจัดกำรปญั หำในระดบั พ้นื ที่ได้ดงั นี้
ชุมชนทะเลนอ้ ย
เป้ำหมำย :ทำใหค้ นเคำรพกติกำของสงั คมและกฎหมำย โดยมีข้อเสนอดงั น้ี
1. มขี อ้ ตกลงร่วมในกำรทำซ้ังวัชพชื เพ่ือวำงไซ ทำใหก้ ดี ขวำงเครอ่ื งมืออนื่ และยดึ เปน็ พื้นท่ี
สว่ นตัว
2. กำรบงั คบั ใช้กฎหมำยทั้งทเี่ ป็น ระเบยี บหรอื เทศบญั ญัติองคก์ ำรบรหิ ำรส่วนทอ้ งถนิ่
สำนกั งำนประมง และผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดพัทลงุ
3. กำรเผยแพรส่ ื่อสำรปญั หำกำรประมง ทำงสงั คมออนไลนผ์ ำ่ นนกั ทอ่ งเทีย่ ว เพ่ือรณรงค์
ปญั หำใหส้ ังคมรบั รู้ และตระหนัก
ชมุ ชนชอ่ งฟืน
เป้ำหมำย :ให้ทะเลหนำ้ บำ้ นอุดมสมบรู ณ์ โดยมีข้อเสนอดงั นี้
1. กำรดำเนนิ กิจกรรมเขตอนุรกั ษ์สัตว์นำ้ เพ่ือห้ำมใชเ้ คร่ืองประมงบำงประเภท เช่น อวน
ล้อมกระทุ้งน้ำ กำรจับปลำดุกทะเลโดยกำรขุดและล้วงรูท่ีอยแู่ มป่ ลำกำลังวำงไข่ โดยมแี นวทำงกำร
ดำเนนิ งำนดังน้ี
- กำรวำงระเบียบกำรจดั กำรเขตอนรุ ักษ์
- กำรพดู คุย ส่ือสำรทำควำมเขำ้ ใจเพื่อหำแนวรว่ มจำกชมุ ชนใกล้เคียง
- กำรปลอ่ ยพันธ์ุสตั ว์น้ำในเขตอนรุ ักษ์
- กำรจดั ต้ังกลุ่มประมงอำสำ ดแู ล ตรวจตรำเขตอนุรักษ์และ
- กำรประสำนหน่วยปรำบปรำมประมงและตำรวจชุมชน เขำ้ ร่วมตรวจตรำเขตอนุรกั ษ์
2. กำรเชอ่ื มโยงเครือขำ่ ยชุมชนเพือ่ ขยำยผลกิจกรรมฟน้ื ฟสู ัตว์ไปยังพน้ื ทอ่ี ่นื ๆ
ชมุ ชนหัวเขำ
เป้ำหมำย :กำรเจรจำตกลงกับภำครัฐ เพอื่ แกป้ ญั หำควำมขดั แยง้ กรณีโพงพำงร่องนำ้
ทะเลสำบ ดังน้ี
230 232
1. กำรปรกึ ษำหำรอื เจรจำ ท่ที ุกฝำ่ ยเหน็ รว่ มในกำรแก้ปัญหำโดยเฉพำะชุมชนชำวโพงพำง
กับหน่วยงำนภำครฐั
2. กำรจดั กำรโซนนงิ่ พนื้ ท่ี ที่รื้อถอนโพงพำงไม่ใหม้ ี และท่ีอนุญำตใหว้ ำงท่ชี ัดเจน
3. กำรบังคับใชก้ ฎหมำยควบคู่กับมีกองทุนเยียวยำสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ
2. กรณีศกึ ษาความขดั แยง้ ในขมุ ชนจากการทาเหมืองหินเขาคูหา
ในหัวข้อนี้ผู้เขียนได้นำข้อมูลส่วนหน่ึงจำกรำยงำนกำรวิจัยของ อุสมำน หวังสนิ นฤทธิ์ ดวง
สุวรรณ์ เอกชัย อิสระทะและสุวรรณ อ่อนรักษ์ (2562) ได้ทำกำรศึกษำโครงกำรกำรจัดกำรควำม
ขัดแย้งในขุมชนจำกกำรทำเหมืองหินเขำคูหำ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลำ มำเรียบเรียงสรุปให้เห็น
สถำนกำรณค์ วำมขัดแยง้ ผลกระทบและกำรจัดกำรดงั น้ี
ธรุ กจิ อุตสำหกรรมเหมืองหิน ผ้ปู ระกอบกำรไดเ้ ข้ำมำสัมปทำนกับรัฐในพน้ื ทเี่ ขำคูหำ อ.รตั ภูมิ
จ.สงขลำ เพื่อระเบิดและย่อยหิน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ในช่วงปี พ.ศ.2542-2552 มีภำคเอกชนได้รับ
สัมปทำนจำกรัฐ 2 ประทำนบัตร ซ่ึงใช้เทคโนโลยีกำรทำเหมืองหินแบบใหม่ทำแบบขั้นบันได ใช้
เครอ่ื งจกั รกลทงั้ ระบบ
2.1 ปญั หำทเ่ี กิดขึน้
จำกกำรศึกษำพบว่ำมปี ัญหำผลกระทบต่อมำโดยตลอด และหนักขนึ้ ในช่วง ปี พ.ศ. 2548 ถึง
2552 โดยภำพรวมสรปุ เปน็ ประเด็นปัญหำใหญ่ 5 ประเด็น คือ
1) ปญั หำควำมเสียหำยต่อบำ้ นเรือนที่อยอู่ ำศัยแตกรำ้ ว แรงสั่นสะเทือนของกำรระเบดิ ทำให้
บำ้ นเรือนแตกรำ้ ว ทรัพย์สินเสียหำยจำนวน 326 หลังคำเรือน โดยผู้เสียหำย 6 รำยได้พงึ่ กระบวนกำร
ยตุ ิธรรม ฟอ้ งศำล
2) ปัญหำผลกระทบจำกฝุน่ ละออง ฝนุ่ ละอองเหลำ่ น้ีเกิดจำกทุกขั้นตอนของกำรดำเนินกำร
ทำเหมืองหนิ ทงั้ กำรใชเ้ ครื่องจักรเจำะอัดระเบิด กำรระเบิดหนิ กำรคุย้ หนิ จำกยอดเขำสู่ด้ำนล่ำง กำร
โม่ ย่อยหนิ ตลอดถึงกำรขนส่งบนถนน โดยเฉพำะในปี พ.ศ. 2548-2552 มีกำรดำเนินกำรทั้งกลำงวนั
กลำงคนื กรณฝี ุ่นน้ี มีผลกระทบคอื กระทบต่อสุขภำพอันส่งผลใหค้ นที่อ่อนแอทง้ั เด็ก และ ผู้สงู อำยุ
เกิดโรคทำงเดนิ หำยใจ หืดหอบ ภูมิแพ้ ผดผื่นคัน
3) ปญั หำผลกระทบต่อสุขภำพจติ เกิดจำกเสียงดัง และสน่ั สะเทอื น ผลกระทบต่อสุขภำพจติ
เสียงทเี่ กดิ จำกกำรใชเ้ คร่ืองจักรทำงำนบรเิ วณหนำ้ เหมืองเกือบท้ังวัน จะกระทบต่อสภำพจติ ใจ และ
เกดิ ควำมเครยี ด รำคำญตลอดวนั
223313
ภาพที่ 9-6 สภำพเขำคูหำที่ถูกสัมปทำนของผู้ประกอบกำรระเบิดหนิ จนทำให้เกดิ ควำมขดั แยง้
ทีม่ ำ: นักวิจัย
4) ปญั หำผลกระทบต่อทรัพยำกรธรรมชำตสิ ่ิงแวดลอ้ ม วิถีกำรทำกนิ และกำรดำรงชวี ิตของ
คนในชุมชน เพรำะเขำคูหำมีสำยน้ำเหมืองนำ้ ซบั ธรรมชำติ ที่มลี กั ษณะท่ีเป็นโพรงถ้ำอยู่ทว่ั ไป ใต้ภูเขำ
มสี ำยน้ำคลองเคยี นไหลลอดใต้ภูเขำ มเี หมอื งน้ำท่ีไหลออกมำจำกภูเขำลูกน้ี ทั้ง 3 สำย เส่ือมโทรม
แหล่งทีอ่ ยู่อำศยั และเพำะพันธส์ุ ัตวน์ ำ้ ถกู ทำลำย สว่ นด้ำนบนภเู ขำ พนั ธุ์ไม้ กลว้ ยไม้ สตั วป์ ำ่ ลงิ คำ่ ง
และนกหลำยชนดิ หำยไปเชน่ กนั
5) ปัญหำกำรขำดกระบวนกำรมสี ่วนร่วมของชมุ ชนตำมรฐั ธรรมนูญ ไม่มเี วทีรับฟังควำม
คดิ เห็นประชำชนตำมบทบัญญัตริ ฐั ธรรมนูญ มำตรำ 67 ซ่ึงได้บญั ญัติสิทธิของบคุ คลทจี่ ะมสี ว่ นรว่ มกับ
รฐั และชมุ ชนในกำรอนรุ ักษบ์ ำรงุ รักษำและกำรได้ประโยชนจ์ ำกทรพั ยำกรธรรมชำติฯ
2.2 ลักษณะควำมขัดแยง้ และคูข่ ัดแยง้
จำกกำรประชุมถอดบทเรียน กำรพดู คยุ สัมภำษณ์และสงั เกตกำรณ์ได้ร่วมกันให้ควำมหมำย
หรือ นยิ ำม “ควำมขัดแย้ง ว่ำคอื กำรเห็นต่ำงจนนำมำซง่ึ ภำรกจิ หรือกิจกรรมที่ขดั กัน อำจจะขดั กัน
ทัง้ ทำงควำมคิด วำจำ และกำรกระทำ และมองวำ่ ควำมขัดแย้งเปน็ เร่อื งปรกติธรรมดำ” ค่ขู ดั แย้งท่ี
สำคญั ของชำวบ้ำนท่ีไดร้ บั ผลกระทบ คอื หนว่ ยงำนภำครฐั และเอกชนประกอบดว้ ย
232 234
1) องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ชุมชนเห็นว่ำท้ังฝ่ำยบริหำร และฝ่ำยสภำซ่ึงส่วนใหญ่มีควำม
คิดเห็นไปในทิศทำงสนับสนุนกำรทำเหมืองหิน ด้วยเหตุผลเร่ืองทำงเศรษฐกิจเป็นหลัก รำยได้ของ
ท้องถ่ิน และกำรมีงำนทำของชำวบ้ำนในพ้ืนที่ แต่ได้พบข้อมูลภำยหลังกรณีค่ำภำคหลวงที่ได้ในช่วง
10 ปแี รกของกำรสัมปทำน (ปี พ.ศ. 2542 – 2552) โดยไดร้ ับประมำณ 11 ลำ้ นกวำ่ บำทเข้ำคลัง โดย
ส่วนแบ่งใหท้ ้องถ่ินในพืน้ ทตี่ ั้งเหมอื งเพยี ง 20 % ซ่งึ เฉล่ียอยู่ประมำณ 2 แสนกว่ำบำทต่อปี ซ่ึงแทบจะ
เอำไปใชง้ ำนพัฒนำท้องถ่นิ ได้นอ้ ยมำก
2) ปกครองท้องท่ี ซ่ึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้ำนส่วนใหญ่ มีควำมเห็นไปในทิศทำงสนับสนุนกำรทำ
เหมืองหินเช่นกัน ด้วยเหตุผลเรื่องทำงเศรษฐกิจเช่นกัน กำรพัฒนำให้คนในชุมชนมีงำนทำกำรขอหิน
ใช้ในงำนชมุ ชนโดยบรษิ ัทได้สนับสนุนเพม่ิ เงินผู้สูงอำยุในหมู่บำ้ นรำยละ 50 บำท บำงหมบู่ ้ำนเอำเงินน้ี
มำบริกำรน้ำประปำหมู่บ้ำนฟรี รวมถึงกำรได้รับกำรสนับสนุนจำกบริษัทเอกชนท้ังกำรสนับสนุนเส้ือ
กีฬำในกำรแข่งขันกีฬำชุมชน หมูย่ำงในงำนเลี้ยงปีใหม่ ของขวัญเด็ก ๆ ในวันเด็ก ผนวกกับ
ควำมสัมพนั ธ์เชงิ อำนำจกบั ขำ้ รำชกำรฝ่ำยปกครองซ่ึงก็มลี กั ษณะไปในทศิ ทำงเดยี วกัน
3) ฝ่ำยข้ำรำชกำร ซ่ึงมีหน้ำที่จัดกำรงำนเพื่อประโยชน์ของประชำชน อันเป็นประโยชน์
สำธำรณะ ร่วมกัน เป็นหน่วยงำนกลำงของประชำชนท่ีทำหน้ำที่อำนวยกำร และจัดกำรกลำงใน
เร่ืองรำวต่ำง ๆ อำจ แบ่งตำมสำยงำน ในบริบทที่กล่ำวในเอกสำรช้ินนี้ ขอกล่ำวถึงข้ำรำชกำรที่มี
บทบำทสัมพันธ์โดยตรงกับ กรณี เหมืองหินเขำคูหำ เช่น ข้ำรำชกำรฝ่ำยปกครองระดับจังหวัดและ
ระดับอำเภอ ข้ำรำชกำรฝ่ำย อุตสำหกรรม สำนักงำนอุตสำหกรรมจังหวัด และกรมอุตสำหกรรม
พ้ืนฐำนกำรเหมืองแร่และข้ำรำชกำร ฝ่ำยส่ิงแวดล้อม สำนักงำนนโยบำยและแผนส่ิงแวดล้อม (สผ.)
กระทรวงทรัพยำกรธรรมชำติและ ส่ิงแวดลอ้ ม
4) กลุ่มทุนเอกชน ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) บริษัทเอกชนท่ีสัมปทำนแหล่งหิน 2
บริษัท 2) กลมุ่ ทุนประเทศอนิ เดยี เปน็ กลุ่มทุนทีห่ นุนกำรดำเนนิ กำรในชว่ งหลังหมดอำยุประทำนบัตร
เหมืองหิน เขำคูหำ ปี พ.ศ. 2554 ถึงปัจจุบัน ต้องกำรทำหินต่อเพื่อส่งออกหินไปประเทศอินเดีย เป็น
บรษิ ัทร่วมทุนของคนสัญชำติไทยเชื้อชำติอินเดียกบั ทุนอินเดียโดยตรง กลุ่มนี้แสดงควำมจำนงที่จะทำ
หินตอ่ ในพน้ื ท่แี หลง่ หิน เขำคูหำ โดยผ่ำนตัวแทนในท้องถ่ิน แต่หลังจำกชมุ ชนไดฟ้ อ้ งศำลปกครองในปี
พ.ศ. 2559 ให้เพิกถอนประกำศแหล่งหิน กลุ่มทุนนี้ได้ลดบทบำทลง ไม่มีกำรหนุนให้ตัวแทน
ดำเนินกำรใด ๆ ในปัจจุบัน 3) กลุ่มทุนในท้องถ่ินเองก็มีกำรสร้ำงสำนสัมพันธ์กับผู้นำทำงกำรฝ่ำย
ท้องท่ี และฝำ่ ยทอ้ งถนิ่ ในระดับอำเภออยำ่ งต่อเนื่อง
233 223355
ภภาาพพทที่ 9่ี 9-7-7เวเวททีพีพูดดู คคยุ ุยแแผผนนพพัฒัฒนนำำตตำำบบลลคคูหูหำำใตใต้ร้ระะหหววำ่ ำ่งงนนักกั ววิจิจยั ยักกับบั ผผทู้ ทู้ อ้ ้องงถถ่ิน่ินทท้ออ้ งงทท่ี ่ี
แแลละะตตวั วัแแททนนกกลลมุ่ ่มุ ชชุมุมชชนน
ทท่มี ่ีมำำ:ท:ทมี ีมววจิ จิยั ัย
ภภาาพพทท่ี 9ี่ 9-8-8 นนักกั ศศกึ ึกษษำำลลงงพพื้น้นื ทท่ีเรี่เรยี ียนนรร้ชู ชู้ มุ ุมชชนนเขเขำำคคูหหู ำำ
ทท่ีมม่ี ำำ: :ททีมมี ววิจจิยั ัย
234 236
2.3 สำเหตุและข้อขดั แยง้ หลัก
จำกกำรวิจัยพบว่ำเครือข่ำยชุมชนและสมำคมพิทักษ์สิทธิชุมชนเขำคูหำ เป็นกลุ่มคนที่จัด
กิจกรรมในพ้ืนท่ีเพ่ือปกปักรักษำเขำคูหำเอำไว้ให้ลูกหลำน กับ ฝ่ำยท่ีต้องกำรทำเหมืองหินหรือจะ
เรียกว่ำ กลุ่มแนวคิดสำยนักลงทุนรวมกับอำนำจรัฐบำงส่วน สำเหตุหลักของปัญหำควำมขัดแย้งท่ี
เกิดข้ึนในชุมชนมำจำกผลประโยชน์ส่วนบุคคล ผลประโยชน์ ทับซ้อน ซ่ึงมิใช่ผลประโยชน์ส่วนรวม
ส่วนสำเหตุรองอำจมำจำกกรอบคิดกำรพัฒนำท่ีกำหนดและให้ คุณค่ำที่ต่ำงกันระหว่ำงกำรพัฒนำ
อุตสำหกรรมกับกำรพัฒนำทย่ี ่งั ยืน ระหว่ำงอำนำจกำรจดั กำร เบด็ เสร็จท่ีหน่วยงำนรัฐกบั กำรกระจำย
อำนำจให้ประชำชนกำรมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรทรัพยำกร หรือสิทธิกำรกำกับกำรของรัฐในฐำนะ
ผู้ปกครอง กับสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน ประชำชนผู้เป็นเจ้ำของอำนำจ รัฐ และส่วนหนึ่งมำจำก
กฎหมำยระเบียบ และกระบวนกำรทำงสังคมท่ีไม่เอ้ือต่อกำรฟัง และรับฟังกัน และหำทำงออกที่ทุก
ฝ่ำยพอใจ
2.4 สถำนกำรณเ์ ริ่มคล่คี ลำย
หลังจำกปี พ.ศ.2552 เป็นต้นมำชมุ ชนมีกำรรวมตัวกันเพ่ือเรยี กร้องให้มีกำรแก้ปัญหำดังและ
คดั คำ้ นกำรตอ่ สัมปทำนไปยังหน่วยงำนทีเ่ ก่ียวข้อง และในปี พ.ศ. 2559 ตวั แทนชมุ ชนได้ฟอ้ งร้องศำล
ปกครองเพือ่ ให้ถอนประกำศแหล่งแร่และกำรสัมปทำน และในขณะน้ี (ปี พ.ศ. 2562) ยงั คงชะลอกำร
ให้อนุญำตสัมปทำนแก่บริษัทที่ของต่อสัมปทำน ขณะเดียวกันบรรยำยกำศในชุมชนก็เข้ำสู่ควำมสงบ
อีกคร้ัง ธรรมชำติตำ่ ง ๆ ของพนื้ ทีก่ ็เร่ิมอุดมสมบรู ณม์ ำกข้ึน เร่มิ มีนกั ท่องเที่ยวสนใจเดินทำงเข้ำมำชม
เขำคูหำมำกขึ้น เกิดกระแสท่องเที่ยวชุมชนขึ้นอย่ำงกว้ำงขวำง ทำให้เกิดทำงเลือกของชุมชนอีกทำง
หน่งึ คอื กำรฟนื้ ฟูเศรษฐกิจชมุ ชนพรอ้ ม ๆ ไปกบั กำรดแู ลทรัพยำกรเขำคหู ำ และกำรเยยี วยำบำดแผล
จำกควำมแตกแยกในชุมชนท่ีผ่ำนมำ ทีมวิจัยได้มีโอกำสเข้ำไปจัดเวทีพูดคุย ระดมควำมเห็น ท้ัง
ท้องถ่นิ ท้องที่ และองค์กรชุนชนถึงแนวทำงกำรจดั กำรชมุ ชนในอนำคตตอ่ ไป
2.5 แนวทำงกำรพัฒนำชุมชนเพ่ือก้ำวข้ำมควำมขัดแยง้ ในอดตี
จำกกำรระดมควำมคิดเห็นของคณะทำงำนและผู้เก่ียวข้องของโครงกำรวิจัย องค์กรชุมชน
ผู้ใหญ่บำ้ น กำนนั และผบู้ รหิ ำรองค์กำรบรหิ ำรส่วนท้องถิ่น มขี ้อเสนอแนว ทำงกำรสร้ำงโอกำสในกำร
พัฒนำเพ่ือกำ้ วข้ำวควำมขัดแยง้ ในอดีตของชุมชน ดังน้ี
1) ให้มคี ณะทำงำนขับเคล่ือนกำรเรียนรู้และกำรท่องเท่ียวเขำคหู ำ
2) จัดทำข้อมูลฐำนทรัพยำกรในพ้ืนทใ่ี ห้ครอบคลมุ ทุกมิติ
223357
3) มองกำรพัฒนำชุมชนเป็นเป้ำหมำยหลัก นำประเด็นควำมขัดแย้งในอดีตเป็นบทเรยี นและ
ทบทวนสิ่งท่เี กิดข้ึนมำเป็นบทเรียน
4) สร้ำงควำมร่วมมือทุกภำคส่วน ทั้งเทศบำลตำบลคูหำใต้กำนันผู้ใหญ่บ้ำน สภำองค์กร
ชุมชน องค์กรภำคประชำสงั คม เครือขำ่ ยท่องเท่ยี ว วดั และชุมชน
5) จัดกิจกรรมส่งเสริมกำรเรยี นรู้ศกั ยภำพชุมชน โดยให้ผู้ท่ีเก่ียวขอ้ งในชมุ ชนมีส่วนร่วม เช่น
กำรจำหน่ำยสินคำ้ และงำนบริกำรจำกกำรท่องเท่ียวเขำคหู ำ และ
6) จัดทำแผนกำรเรยี นรเู้ พ่ือส่งเสริมทำงเลอื กกำรพัฒนำ เช่น กำรทอ่ งเท่ียวชุมชน กำรทำนำ
อนิ ทรีย์ หรือกำรทำเกษตรพอเพยี งรว่ มกบั เทศบำลตำบลคูหำใต้
236 238
สรปุ ทา้ ยบท
กรณศี กึ ษำควำมขัดแย้งทรัพยำกรประมงในทะเลสำบสงขลำ ในชมุ ชนช่องฟนื และทะเลน้อย
ชำวประมงได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มทำกิจกรรมเพื่อฟ้ืนฟูทรัพยำกรสัตว์หน้ำบ้ำนโดยกำรจัดทำเขต
อนุรักษ์ ปล่อยพันธุ์สัตว์ และออกกฎระเบียบไม่ให้ทำกำรประมงในเขตดังกล่ำว โดยมีอำสำสมัคร
ชมุ ชนชว่ ยดแู ลรกั ษำ ปัญหำคอื มีชำวประมงทั้งในชุมชนและนอกชุมชนเข้ำไปลักลอบทำกำรประมงใน
เขตดังกล่ำวทำให้ปัญหำ ขณะเดียวกันก็มีกำรใช้เคร่ืองมือประมงของชุมชนบำงส่วนใช้เครื่องมือ
ประมงผิดก็หมำยทำลำยล้ำง เช่น อวนตำถี่ ยำเบื่อ ช็อตไฟฟ้ำ ทำให้ควำมขัดแย้งกับชำวประมงท่ัวไป
ส่วนชุมชนหัวเขำส่วนใหญ่ชำวประมงทำประมงด้วยเครื่องมือโพงพำงซ่ึงเป้นเครื่องมือผิดกฎหมำยมำ
เป็นระยะกว่ำ 30-40 ปีแล้ว หน่วยงำนรัฐพยำยำมจัดกำรตำมกฎหมำย แต่ไม่สำเร็จ ชำวบ้ำนใช้วิธี
ประท้วง เรียกร้อง และลอ้ มกรอบเรือตรวจกำรประมงขณะออกตรวจจบั แนวทำงกำรจัดกำรปัญหำท่ี
เกิดข้ึนคือ กำรมีส่วนร่วมของชุมชนในกำรวำงกฎระเบียบและบังคับใช้ร่วมกันโดนให้องค์กำรบริหำร
ส่วนท้องถ่ินเป็นผู้รับรองและออกเทศบัญญัติ กำรมีคณะทำงำนร่วมกันท้ังหน่วยงำนรัฐ องค์กำร
บรหิ ำรส่วนท้องถ่นิ และชำวประมงผใู้ ชเ้ คร่ืองมือต่ำง ๆ เขำ้ ร่วมจัดกำรทรัพยำกรประมงอย่ำงต่อเนื่อง
กำรรณรงค์ให้ชำวประมงทุกฝ่ำยเห็นควำมสำคัญตระหนักร่วมในกำรทำกำรจัดกำรทรัพยำกรประมง
อย่ำงยั่งยืน สำหรับชุมชนหัวเขำใหม้ ีกำรจัดพ้ืนท่ีทำกำรประมง(โพงพำง)ให้ชัดเจนรวมถึงเยียวยำกลมุ่
ที่ถกู ทำงกำรรื้อออกอยำ่ งเหมำะสม
กรณีควำมขัดแย้งจำกกำรทำเหมืองหินเขำคูหำ ปัญหำคือมีกำรสัมปทำนเขำคูหำเพ่ือระเบิด
ทำหนิ เพื่อจำหน่ำย ทำใหช้ มุ ชนรอบ ๆ เขำคหู ำเดือดร้อนจำก แรงสน่ั สะเทือนบ้ำนแตกร้ำว ทรัพย์สิน
เสียหำย เกิดฝุ่นละอองก่อให้เกิดปัญหำสุขภำพ เสียสุขภำพจิต ขณะเดียวกันทรัพยำกรธรรมชำติ
บริเวณภูเขำเสื่อมโทรม เช่น ป่ำไม้ สัตว์ป่ำ สัตว์น้ำ สำยน้ำลำธำร และทัศนียภำพอันสวยงำมถูก
ทำลำย เกิดควำมขัดแย้งระหว่ำงชุมชนกลุ่มหนง่ึ กับผู้ประกอบกำรสัมปทำนและกลุ่มชุมชนบำงส่วนที่
ได้ประโยชน์จำกเหมือนหินดังกล่ำว ไม่สำมำรถประนีประนอมกันได้จนทำให้มีกำรฟ้องร้องศำลเพ่ือ
เรียกค่ำเสียหำยและให้ยุติกำรต่ออำยุสัมปทำนบัตรต่อไปซึ่งขณะน้ี(ปี พ.ศ. 2563-64)อยู่ในช่วงของ
เว้นระยะไม่มีกำรดำเนินกำรระเบิดหิน ทำให้ทรัพยำกรธรรมชำติเร่ิมฟ้ืน มีนักท่องเที่ยวเข้ำมำในพ้ืน
อย่ำงต่อเน่ือง ชุมชนโดยรวมเร่ิมเห็นทิศทำงในกำรพัฒนำศักยภำพกำรท่องเท่ียวโดยชุมชนจึงเริ่ม ตั้ง
วงพดู คุย และวำงแผนกำรพัฒนำทำงเลือกท่จี ะไมก่ ่อให้เกิดควำมขัดแยง้ อีกต่อไปโดย ใหม้ คี ณะทำงำน
ขับเคล่ือนกำรเรียนรู้และกำรท่องเที่ยว โดยสร้ำงควำมร่วมมือทุกภำคส่วน ท่ีเกี่ยวข้อง ทำแผนและ
ส่งเสรมิ กจิ กรรมกำรท่องเท่ียวเชงิ อนุรักษ์ ท่องเท่ยี วเชิงเกษตร ที่สอดคลอ้ งกบั อำชีพของคนในชุมชน