คำนำ
คู่มือการเรียนภาษาไทยออนไลน์สาหรับชาวเมียนมาเป็นส่วนหน่ึงของโครงการวิจัยเพ่ือพัฒนาสื่อการเรียน
การสอนภาษาไทยออนไลน์ (Multimedia) ดว้ ยภาษาเมยี นมาสาหรับชาวเมียนมาเรียนด้วยตนเอง ด้วยการสนับสนุน
ทุนวิจัยจากมูลนิธิไทย กระทรวงการต่างประเทศ ประจาปีงบประมาณ 2564-2565 เพื่อจัดสื่อภาษาไทยใน
ระดับพื้นฐานและภาษาไทยในวัตถุประสงค์เฉพาะ โดยหวังว่าจะเป็นคู่มือสาหรับชาวเมียนมาในการใช้ศึกษา
ภาษาไทยดว้ ยตนเองและสาหรบั ผ้สู อนภาษาไทยให้ชาวเมียนมาได้ใชใ้ นการอ้างอิง
เน้ือหาในเล่มนาเสนอสาระเพ่ือการเรียนภาษาไทย โดยจาแนกเนื้อหา ออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.พื้นฐาน
ภาษาไทยในชวี ิตประจาวนั อันได้แก่ ระบบเสียงภาษาไทย การทกั ทายและการแนะนาตัว ตัวเลข วนั และเวลา การ
ถามวันและเวลา คาศัพท์ในชีวิตประจาวัน การถามราคา สถานที่สาคัญ ทิศทาง การถามสถานท่ีและทิศทาง
รสชาติ สแี ละขนาด การบอกรสชาตสิ ีและขนาด และการบอกความรสู้ กึ และ ส่วนที่ 2.ภาษาไทยในวตั ถปุ ระสงค์
เฉพาะ อันได้แก่ การส่ือสารภาษาไทยเพื่อการอุตสาหกรรม การส่ือสารภาษาไทยเพื่อการแพทย์และสาธารณสุข
การส่ือสารภาษาไทยเพื่อธุรกิจการค้า และการส่ือสารภาษาไทยเพ่ือการท่องเที่ยว ท้ังน้ีผู้เรียนสามารถใช้คู่มือ
ดังกล่าวรว่ มกับสอ่ื มัลติมีเดียออนไลน์ เพอ่ื ศกึ ษาภาษาไทยดว้ ยตนเองได้
คณะผู้วิจยั หวงั วา่ คู่มอื การเรียนภาษาไทยออนไลน์สาหรับชาวเมียนมาเล่มนจี้ ะเป็นประโยชน์ต่อชาวเมียน
มา และผูส้ อนในการนาไปใช้ประโยชน์ในการเรยี นและการสอนต่อไป
คณะผู้วิจัย
1) อาจารย์วิจติ ร ครเิ สถียร
2) อาจารย์กฤษณะ โชตสิ ทุ ธิ์
3) อาจารยส์ นุ ันทา เทศสุข
4) Dr.Khine Cho Latt
5) Mr.Hsoung Oo
สาขาวิชาภาษาพม่า ภาควชิ าภาษาตะวนั ออก
คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร
အမှာစှာ
မမန်မှာလူမ ျိုးမ ှာျိုးအတွက် မမန်မှာဘှာသှာနင်ထိုင်ျိုးဘှာသှာကိုအွန်လိုင်ျိုးမြင်
သင်ကကှာျိုးရ ျိုးအညွှန်ျိုးစှာအိုပ်သည် မမန်မှာလူမ ျိုးမ ှာျိုးအတွက် မမန်မှာဘှာသှာနင်
ထိုင်ျိုးဘှာသှာကို အွန်လိုင်ျိုးမြင် သင်ကကှာျိုးရ ျိုးအရထှာက်အကူပစစည်ျိုးအတွက်
သိုရတသနမပ လိုပ်မြင်ျိုး၏ တစ်စတ်တစ်ပိုင်ျိုး မြစ်ပါသည်။ ဤအညွှန်ျိုးစှာအိုပ်ကို
မပ စိုနိုင် န် ဘတ်ဂ က်နစ် ၂၅၆၄ ြိုနစ်တွင် နိုင်ငံမြှာျိုးရ ျိုး ှာဝန်ကကျိုးဌှာန၊ ထိုင်ျိုး
foundation မ ရထှာက်ပံရငွ လှာပါသည်။ကိုယ်တိုင် ရလလှာနိုင် န၊် ဆ ှာဆ ှာမ
မ ှာျိုးက အှာျိုးကိုျိုးအှာျိုးထှာျိုးမပ ၍ သင်ကကှာျိုးရပျိုးနိုင် န် မမနမ် ှာလူမ ျိုးမ ှာျိုးအတွက်
မမန်မှာဘှာသှာနင်ထိုင်ျိုးဘှာသှာကို အွန်လိုင်ျိုးမြင် သင်ကကှာျိုးရ ျိုးအညွှန်ျိုးစှာအိုပ်ကို
အသိုျံိုးမပ မည်ဟို စှာက မ်ျိုးမပ စိုသူအြွဲ့က ရမ ှာ်လင်ကကပါသည်။
အညွှန်ျိုးစှာအိုပ်ထတွင် အပိုင်ျိုး ၂ ပိုင်ျိုးကို ြွမြှာျိုးထှာျိုးပါသည်။ ပထမပိုင်ျိုးတွင်
ထိုင်ျိုးစှာရ ျိုးအသှာျိုးစနစ်၊ နှုတ်ဆက်စကှာျိုးရမပှာမြင်ျိုး၊ မမကိုယ်မတ်ဆက်မြင်ျိုး၊
ထိုင်ျိုးကန်ျိုးဂဏန်ျိုးမ ှာျိုး၊ ရနေ့ က်၊ အြ န်ရဝါဟှာ မ ှာျိုး၊ ရနေ့ က်နင်အြ န် ရမျိုးမမန်ျိုးမြင်ျိုး၊
ရနေ့စဉ်ဘဝတွင် သံိုျိုးစွရသှာရဝါဟှာ မ ှာျိုး၊ ရ ျိုးနှုန်ျိုးရမျိုးမြင်ျိုး၊ အဓကက ရသှာရန ှာမ ှာျိုး၊
အ ပ်မ က်နှာ၊ ရန ှာမ ှာျိုးနင် အ ပ်မ က်နှာရမျိုးမြင်ျိုး၊ အ သှာ၊ အရ ှာင်နင်အ ွယ်အစှာျိုး
နင် ြံစှာျိုးြ က်ရမပှာမပမြင်ျိုးစရသှာအရမြြံရနေ့စဉ်ဘဝထိုင်ျိုးဘှာသှာဝါက မ ှာျိုးကိုပါဝင်ပါ
သည်။ ဒတို ယပိုင်ျိုးတွင် စက်မှုလက်မှုမ ှာျိုးအတွက် ထိုင်ျိုးဘှာသှာစကှာျိုးမြင်ဆက်သွယ်မြင်ျိုး၊
စျိုးပွှာျိုးရ ျိုးလိုပ်မြင်ျိုးအတွက် ထိုင်ျိုးဘှာသှာစကှာျိုးမြင် ဆက်သွယ်မြင်ျိုး၊ ရဆျိုးဝါျိုးနင်မပည်သူ့
က န်ျိုးမှာရ ျိုးအတွက် ထိုင်ျိုးဘှာသှာစကှာျိုးမြင်ဆက်သွယ်မြင်ျိုးနင်ြ ျိုးသွှာျိုးလှာ လည်ပတ်
မြင်ျိုးအတွက် ထိုင်ျိုးဘှာသှာစကှာျိုးမြင် ဆက်သွယ်မြင်ျိုးစသည်အရကကှာင်ျိုးမ ှာျိုးလည်ျိုး ပါဝင်
ပါသည်။ ထိုေ့အမပင် Multimedia အွန်လိုင်ျိုးနင် အတူတူ ရလလှာသူမ ှာျိုးသည်
ဤအညနွှ ျ်ိုးစှာအပို ်ကို မမကယို ်တငို ် အသိုျံိုးမပ ရလလှာ၍လည်ျိုး ပါသည်။
မမန်မှာလူမ ျိုးမ ှာျိုးက မမကိုယ်တိုင်ရလလှာ န် အတွက်ရသှာ်လည်ျိုးရကှာင်ျိုး၊
ဆ ှာဆ ှာမမ ှာျိုးမ သင်ကကှာျိုး န် အတွက်ရသှာ်လည်ျိုးရကှာင်ျိုး မမန်မှာလူမ ျိုးမ ှာျိုးအတွက်
မမန်မှာဘှာသှာနင်ထိုင်ျိုးဘှာသှာကို အွန်လိုင်ျိုးမြင် သင်ကကှာျိုးရ ျိုးအညွှန်ျိုးစှာအိုပ်မ
အက ျိုး စှွ ာမြင် အသိုျံိုးဝင်မည်ဟိုစှာက မ်ျိုးမပ စိုသူအြွဲ့က ရမ ှာ်လင်ကကပါသည်။
စှာက မျ်ိုးမပ စသို အူ ြွဲ့ ဝငမ် ှာျိုး
ဆ ှာ ဗက စ် ဂ စှာထယန်
ဆ ှာ က စ်စန ြ ျိုးတစွတ်
ဆ ှာမ ရဒေါ်သိုနနှဒ ာ ရထဇစ် (ို ြ)်
ဆ ှာ ဦျိုးရဆှာင်ျိုးဦျိုး
ဆ ှာမ ရဒါက်တှာြိုင်ြ လတ်
บทนำ
1.ท่ีมำและควำมสำคัญ
การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศเมียนมาตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมาหลังจากเปิดประเทศได้ถูก
ยืนยนั ดว้ ยมลู คา่ การคา้ และการลงทุนอยา่ งมหาศาล จนเกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษและการพัฒนาโครงสรา้ งข้ันพนื้ ฐาน
อย่างมากมาย กระทั่งการเติบโตของตัวเลข GDP ได้ยนื ยันถึงการมีพัฒนาการอยา่ งก้าวกระโดด จนประชาชนชาว
เมียนมาจานวนมากมีท่ีทางในการทามาหากิน และเกิดการกระจายรายได้ภายในประเทศ พัฒนาการดังกล่าวได้
แสดงให้เหน็ ภาพฤาษีแห่งเอเชียของประเทศเมียนมาในยุคปิดประเทศถูกเปล่ยี นแปลงไป
ท่ามกลางยุคโลกาภิวัตน์ท่ีเทคโนโลยีได้เช่ือมกระชับเวลาและสถาน ท่ีจนเกิดการไหลของทุนในรูปแบบ
ต่างๆ ข้ามเส้นเขตแดนในเชิงพื้นท่ีอย่างมากมาย ส่งผลให้ในปัจจุบันมีการเคล่ือนย้ายท้ังแรงงาน และทุนทาง
เศรษฐกจิ เพิม่ มากขนึ้ อยา่ งต่อเนื่อง จนทาใหเ้ สน้ เขตแดนในเชงิ พ้ืนท่พี ร่ามวั และถูกลดระดับสาคญั ลงอย่างต่อเนอื่ ง
อย่างไรก็ดีการเคลื่อนย้ายดังกล่าวกลับต้องเผชิญหน้ากับเส้นเขตแดนในรูปแบบใหม่ ได้แก่ ภาษา วัฒนธรรม โลก
ทัศน์ และการรับรู้ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างไทย และเมียนมา พบว่า ท้ังสองประเทศมีพรมแดนเชื่อมติดกัน
มากกว่า 2,400 กิโลเมตร มีมูลค่าการค้าขา้ มแดนมากกว่า 237,000 ล้านบาท การลงทุนของไทยในประเทศเมียน
มามีมูลค่ากว่า 79 ล้านเหรียญสหรัฐ และถือเป็นประเทศท่ีมีการลงทุนของต่างประเทศในเมียนมาเป็นอันดับ 4
รองจาก สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน ขณะเดียวกันประเทศไทยยังพึ่งพิงแรงงานสัญชาติเมียนมาจานวนมาก และ
ประเทศไทยถือเป็นหน่ึงในประเทศทช่ี าวเมียนมาเลือกเข้ามาทอ่ งเท่ียว เนื่องจากความใกล้ในเชิงภูมศิ าสตร์ รวมถึง
มาตรการในการผ่อนปรนการข้ามแดน อาทิเช่น บัตรผ่านแดน (Border Pass) และบัตรผ่านแดนช่ัวคราว
(Temporary Border Pass) อีกท้ังยังมีชาวเมียนมาจานวนมากเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทย
ลักษณะความสัมพันธ์ดังกล่าวส่งผลให้ทั้งสองประเทศมีความเช่ือมต่อกันท้ังในแง่ของภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ
การเมือง สังคม การท่องเท่ียว และวัฒนธรรม อย่างไรก็ดีการเชื่อมต่อกันดังกล่าวยังเต็มไปด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ
มากมาย โดยเฉพาะเงอ่ื นไขทางด้านภาษาที่สง่ ผลให้การเชื่อมต่อยังไม่แนบสนิท
ภาษาไทยถือเป็นภาษาประจาชาติของชาติไทย และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asian
Economic Community: AEC) ซึ่งเป็นประชาคมหลักท่ีก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงอย่างมากมายแก่ประเทศ
สมาชกิ ไมว่ า่ จะเป็นเร่อื งการลงทนุ จากตา่ งประเทศ การลงทุนท่ีเดียวสามารถบริการลกู ค้าไดท้ ั้งหมด ก่อให้เกิดการ
เคล่ือนย้ายแรงงาน เคลื่อนย้ายทุน เกิดการซ้ือขายแลกเปล่ียนสินค้า และบริการภายในประเทศสมาชิกได้อย่าง
สะดวก การรวมตัวดังกล่าวส่งผลให้ภาษาไทยเป็นภาษาหน่ึงที่มีความสาคัญในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
และด้ว ยส ภาวะการ พึ่งพิงกัน ระหว่ างไทย กับ เมียน มาส่งผ ลให้ช าว เมียนมาจ าน วน มากมีความต้ องการเ รีย น
ภาษาไทยเพ่ิมมากขึ้น ปัจจุบันการเรียนการสอนภาษาไทยในประเทศเมียนมามีสถาบันการเรียนการสอนที่เป็น
ทางการได้แก่ มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศย่างกุ้ง (Yangon University of Foreign Languages – YUFL)
และ มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศมัณฑเลย์ (Mandalay University Of Foreign Languages – MUFL)
นอกจากน้ีในประเทศเมียนมายังมีธุรกิจการสอนภาษาไทยเพิ่มข้ึนเป็นจานวนมาก อย่างไรก็ดีการเรียนภาษาไทย
สาหรบั ชาวเมียนมามีคา่ ใชจ้ า่ ยทส่ี ูง และต้องใชเ้ วลาในระดับหนึ่ง สง่ ผลใหผ้ ูค้ นจานวนมากไมส่ ามารถเข้าถึงสถาบัน
ทเี่ ปิดใหม้ กี ารเรยี นการสอนดังกลา่ วได้
การจดั ทาเอกสารและสื่อผสม (multimedia) ในยุคโลกาภวิ ัฒนเ์ ป็นไปเพ่ือต้องการลดเงือ่ นไขในเรื่องของ
เวลา สถานท่ี และต้นทุน ประกอบกับการออกแบบเพ่อื ใหต้ อบสนองความต้องการของชาวเมียนมา การจดั ทาส่ือ
ในคร้ังนจ้ี ึงแบ่งเน้อื หาออกเป็น 2 ส่วนท่ีสาคญั ประกอบด้วย ตอนท่ี 1 พื้นฐานภาษาไทยในชีวิตประจาวนั กับตอน
ท่ี 2 ภาษาไทยเพ่ือวัตถุประสงค์เฉพาะทาง ทั้งทางด้านการส่ือสารภาษาไทยเพ่ือโรงงานอุตสาหกรรม การสื่อสาร
ภาษาไทยเพ่ือการแพทย์และสาธารณสุข การส่ือสารภาษาไทยเพื่อธุรกิจ และการส่ือสารภาษาไทยเพื่อการ
ท่องเท่ียว ทง้ั ในรูปแบบของเอกสารแบบเรยี นภาษาไทย และส่อื ผสม (multimedia) ท่ีเป็นคลปิ วดี โิ อ ประกอบดว้ ย
ข้อความหรือตัวอักษร (Text) ภาพนิ่ง (Still Image) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) เสียง(Sound) และภาพวิดีโอ
(Video) อีกท้ังการจัดทาส่ือในคร้งั นี้ยังมีการสอดแทรกความเข้าใจทางวฒั นธรรม ทัศนคติ และโลกทัศน์ของความ
เป็นไทย เพื่อให้การจัดทาเอกสาร และส่ือผสม (multimedia) ได้เป็นหน่ึงในเคร่ืองมือในการช่วยเสริมสร้างความ
เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และสร้างผลประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยและเมียนมาอย่างสอดรับกั บความ
ตอ้ งการของผูส้ นใจศกึ ษา
สารบญั
บทเรียน หนา้
သင်ခန််းစာ စာမျက်နှာ
สว่ นที่ 1 1
11
ပထမပိုင််း 17
22
1.บทเรียนที่ 1 ระบบเสยี งในภาษาไทย 31
34
သင်ခန််းစာ ၁ ထိုင််းစာရ ်းအသာ်းစနစ် 42
46
2.บทเรียนที่ 2 การทักทายและการแนะนาตวั 50
သင်ခန််းစာ ၂ နှုတ်ဆက်စကာ်းရခပာခခင််းနဲ့ မမကိုယ်ကို မတ်ဆက်ခခင််း
3.บทเรียนที่ 3 ตัวเลข
သင်ခန််းစာ ၃ ထိုင််းကန််းဂဏန််းမျာ်း
4.บทเรยี นท่ี 4 วนั และเวลา
သင်ခန််းစာ ၄ ရနဲ့ က် ၊ အချန် ရ ေါဟာ မျာ်း
5.บทเรียนท่ี 5 การถามวันและเวลา
သင်ခန််းစာ ၅ ရနဲ့ က်နင့်အချန် ရမ်းခမန်ခခင််း
6.บทเรยี นที่ 6 คาศพั ท์ในชวี ิตประจาวัน
သင်ခန််းစာ ၆ ရနစဲ့ ဉ်ဘ တငွ ် သို်းစွရသာရ ေါဟာ မျာ်း
7.บทเรียนที่ 7 การถามราคา
သင်ခန််းစာ ၇ ရစျ်းနှုန််းရမ်းခခင််း
8.บทเรียนท่ี 8 สถานทสี่ าคัญ
သင်ခန််းစာ ၈ အဓကကျရသာရန ာမျာ်း
9.บทเรียนท่ี 9 ทิศทาง
သင်ခန််းစာ ၉ အ ပမ် ျက်နှာ
10.บทเรียนท่ี 10 การถามสถานที่และทศิ ทาง 54
59
သင်ခန််းစာ ၁၀ ရန ာမျာ်းနင့်အ ပ်မျက်နှာရမ်းခခင််း 64
69
11.บทเรียนท่ี 11 รสชาติ
77
သင်ခန််းစာ ၁၁ အ သာ 145
179
12.บทเรียนที่ 12 สี และขนาด 208
သင်ခန််းစာ ၁၂ ရ ာင်နင့်အ ွယ်အစာ်း
13.บทเรียนท่ี 13 การบอกความรู้สึก
သင်ခန််းစာ ၁၃ ခစာ်းချက်ရခပာခပခခင််း
สว่ นที่ 2
ဒိုတယပိုင််း
1.การสอ่ื สารภาษาไทยเพื่อการอุตสาหกรรม
စက်မလှု က်မမှု ျာ်းအတွက် ထိုင််းဘာသာစကာ်းခြင့်ဆက်သွယ်ခခင််း၊
2.การสอ่ื สารภาษาไทยเพื่อธุรกจิ การค้า
စ်းပွာ်းရ ်းလိုပ်ခခင််းအတွက် ထိုင််းဘာသာစကာ်းခြင့်ဆက်သွယ်ခခင််း၊
3.การสอื่ สารภาษาไทยเพ่ือการแพทย์และสาธารณสุข
ရဆ်း ေါ်းနင့်ခပည်သူ့ကျန််းမာရ ်းအတွက်ထိုင််းဘာသာစကာ်းခြင့်ဆက်သွယ်ခခင််း
4.การส่อื สารภาษาไทยเพ่ือการทอ่ งเที่ยว
ခ ်းသွာ်းလာလည်ပတ် ခခင််းအတွက် ထိုင််းဘာသာစကာ်းခြင့် ဆက်သွယ်ခခင််း
บทเรยี นที่ 1 ระบบเสียงในภาษาไทย
သငခ် န်် းစာ ၁ ။ ထငို ်် းစာရ ်းအသာ်းစနစ်
พยญั ชนะไทยมีทั้งส้ิน 44 รูป 21 หน่วยเสียง โดยมีเสียงสงู ต่ำกำ่ หนดแบ่งได้ 3 หมู่ คอื อักษรสูง 11
ตวั อกั ษรกลำง 9 ตัวและอักษรตำ่ 24 ตวั
อกั ษรสูง 11 ตวั ได้แก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ส ษ ห
อกั ษรกลำง 9 ตวั ได้แก่ ก จ ด ฎ ต ฏ บ ป อ
อักษรตำ่ 24 ตวั ไดแ้ ก่ ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ
ထိုင််းဗျည်် းအာ်းလံို်းသည် ၄၄ လံို်း၊ ဗျည်် းသံ ၂၁ သံ ပါသည။် ထိုဗျည်် းမျာ်းကို ၃ အိုပစ် ို
ခွဲနိုင်ပါသည။် အမမင်သံဗျည်် းအိုပစ် ို၊ အလယ်သံဗျည်် းအိုပစ် ိုနင်အနမ်သံဗျည်် းအိုပ်စို မြစ်ပါသည။်
၎င််းတမို့ ာ ရအာက်ပါအတငို ််း မြစ်ပါသည။်
အမမင်သံဗျည်် းအိုပစ် ိုထွဲတင် ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ส ษ စသည်ဗျည်် း ၁၁ လံို်းကို
ပါဝင်သည။်
အလယ်ဗျည််းအိုပစ် ိုထွဲတင် ก จ ด ฎ ต ฏ บ ป อ စသည်ဗျည််း ၉ လံို်းက်ို ပါဝင်သည။်
အနမ်ဗျည်် းအိုပစ် ိုထွဲတင် ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ
စသည်ဗျည််း ၂၄ လံို်းကို ပါဝင်သည်။
เสียงพยัญชนะทีสำ่ คญั ของไทยสำมำรถแบง่ ได้ 2 เสียง คือ พยญั ชนะต้นและพยญั ชนะทำ้ ย
หนว่ ยเสยี งพยญั ชนะตน้ ในภำษำไทยแบ่งออกเป็น 2 เสียง คือ หนว่ ยเสียงพยญั ชนะต้นเดียว หน่วยเสียง
พยัญชนะตน้ ควบกล่ำ้
ထိုင််းဗျည််းအာ်းလံို်းကို ၂ အိုပစ် ို ခွဲနိုင်ပါသည။် အရ ှေ့ဗျည်် းသံ နင်အဆံို်းဗျည်် းသံ မြစ်ပါသည။်
အရ ှေ့ ဗျည်် းသံမျာ်းကို ၂ မျ ်း ခွဲနိုင်ပါသည။် လံို်းချင််းဗျည်် းသံ နင်ဗျည််းတွဲသံ ပါဝင်ပါသည။်
หน่วยเสยี งพยญั ชนะต้นเดียว คือ พยัญชนะตัวเดยี วทีอยู่ต้นคำ่ เสยี งพยญั ชนะทมี ใี นระบบเสียงของ
ไทยใชเ้ ป็นพยัญชนะตน้ เดยี วไดท้ ้ังสนิ้ ซงึ พยญั ชนะต้นเดียวในภำษำไทยมี 21 หน่วยเสยี ง ประกอบดว้ ย
1.เสยี งระเบิด ไดแ้ ก่ ป /p/ พ /ph/ บ /b/
2.เสยี งกกั เสียดแทรก ได้แก่ จ /c/ ช /ch/
3.เสยี งเสียดแทรก ไดแ้ ก่ ฟ /f/ ซ /s/ ส /s/ ห /h/
4.เสยี งนำสิก ไดแ้ ก่ ม /m/ น /n/ ง /N/
5.เสยี งรวั กบั เสียงข้ำงล้นิ ไดแ้ ก่ ร /r/ ล/l/
6.เสียงกงึ สระ ได้แก่ ว /w/ ย/y/
~1~
လံို်းချက််းဗျည််းသံမျာ်းသည် စကာ်းလံို်းအရ ှေ့တင် ရသာဗျည်် း မြစ်ပါသည်။
ထိုင််းစာအရ ်းအသာ်းစနစ်တင် ထိုင််းဗျည််းအာ်းလံို်းကို လံို်းချင််းဗျည််းသံအမြစ် အသံို်းမပ နိုင်ပါသည။်
လံို်းချင််းဗျည်် းသံမျာ်းသည် အသံ ၂၁ သံ ပါဝင်သည်။ ၎င််းတိမု့ ာ
၁၊ ရိုန််းပင်ဗျည််းထွဲတင် ป/p/ พ/ph/ บ/b/
၂၊ သာ်း င်အာရခါင်ရိုန််းပင် ပတ်တိုက်ဗျည််းထွဲတင် จ/c/ ช/ch/
၃၊ ပတ်တိုက်ဗျည်် းထွဲတင် ฟ/f/ ซ/s/ ส/s/ ห/h/
၄၊ နှာသံဗျည်် းထွဲတင် ม/m/ น/n/ ง/η/
၅၊ လ ာပင်ဗျည််းထွဲတင်/ လ ာလပ်ဗျည််း ล/l/ ร/r/
၆၊ နှုတ်ခမ်် းသရ ှေ့/ အာရခါင်မာသ ရ ှေ့ ထွဲတင် ว/w/ ย/y/
စသည်တပို့ ါဝင်ပါသည။်
หน่วยเสยี งพยญั ชนะต้นควบกลำ่้ คอื กำรออกเสียงพยัญชนะสองเสยี งติดตอ่ กัน โดยพยัญชนะต้นควบ
กล้ำ่ ในภำษำไทย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ พยญั ชนะควบกลำ่้ ชนิดควบแท้ และพยญั ชนะควบกล้่ำชนดิ
ควบไมแ่ ท้
ဗျည်် းတွဲသံဆိုသညမ် ာ ဗျည်် းသံ ၂ သံကို ဆက်တိုက် အသံထက်မခင််းမြစ်ပါသည။်
ဗျည်် းတွဲ သံမျာ်းကို ၂ ခို ခွဲနိုင်ပါသည။် အသံမရမပာင််းဗျည််းတသွဲ ံ နိုင် အသံရမပာင်ဗျည််းတသွဲ ံ
မြစ်ပါသည။်
พยัญชนะควบกลำ้่ ชนดิ ควบแท้ มี 11 หน่วยเสยี ง ได้แก่ ปร/pr/ พร/phr/ ตร/tr/ กร /kr/, คร ขร
/khr/, ปล/pl/ , ผล พล /pl/ , กล /kl/ , ขล คล/khl/ , กว/kw/ , คว ขว /khw/
พยัญชนะควบกลำ่้ ชนิดควบไมแ่ ท้ มดี ังนี้
หน่วยเสียง จร /cr/ ออกเสยี งเปน็ จ /c/ เช่นคำ่ วำ่ จริง
หน่วยเสยี ง ทร /thr/ ออกเสียงเปน็ ซ /s/ เช่นค่ำว่ำ ทรำย ทรำบ
หนว่ ยเสยี ง สร ศร /sr/ ออกเสยี งเปน็ ส /s/ เชน่ คำ่ ว่ำ เสริม สรำ้ ง
အသံမရမပာင််းဗျည််းတွဲသံသည် ၁၁ ပါသည။် ထိုအသံမျာ်းသည် ปร/pr/ พร/phr/
ตร/tr/ กร/kr/ คร ขร/Khr/ ปล/pl/ ผล พล/pl/ กล/kl/ ขล คล/khl/ กล/kl/ ขล คล/
khl/ กว/kw/ คว ขว/khw/ စသည် အသံမျာ်း ပါဝင်ပါသည။်
~2~
အသံရမပာင််းဗျည်် းတွဲသံမျာ်းမာ ရအာက်ပါအတငို ််း မြစ်ပါသည်။
ဗျည််းတသွဲ ံ จร/cr/ ကို လံို်းချင််းဗျည််းသံ จ/c/ အမြစ် အသံထက်ပါသည။်
ဗျည််းတသွဲ ံ ทร/thr/ ကို လံို်းချင််းဗျည််းသံ ซ/s/ အမြစ် အသံထက်ပါသည။်
ဗျည််းတွဲသံ สร ศร/sr/ ကို လံို်းချင််းဗျည််းသံ ส/s/ အမြစ် အသံထက်ပါသည။်
ဗျည်် းတွဲသံအရ ာင််း ရမပာင််းသာ်းရသာဗျည််းတွဲသံ နမူနှာ
ဗျည်် းတွဲသံ จร/cr/ လံို်းချင််းဗျည်် းသံ จ/c/ จรงิ /ဂျန်/ “တကယ်”
ဗျည်် းတွဲသံ ทร/thr/ လံို်းချင််းဗျည်် းသံ ซ/s/
ဗျည်် းတွဲသံ สร ศร/sr/ လံို်းချင််းဗျည်် းသံ ส/s/ ทราย/ စိုင််း/ “သ”ွဲ
สรา้ ง/ဆ(င်)န်ို့ / “တည်ရဆာက်”
หน่วยเสียงพยัญชนะทำ้ ยหรือตัวสะกดในภำษำไทย หรือทเี รียกว่ำ มำตรำตัวสะกด มี 8 หน่วยเสียง
คือ แม่กก /-k/ แมก่ ด /-t/ แม่กบ /-p/ แม่กง /-/ แมก่ น /-n/ แม่กม /-m/ แม่เกย /-y/ แม่เกอว /-w/
รำยละเอยี ดดังนี้
แม่กก /-k/ เชน่ ค่ำว่ำ สุก
แม่กด /-t/ เช่น ค่ำวำ่ สูด
แมก่ บ /-p/ เชน่ ค่ำวำ่ สูบ
แม่กง /-n/ เชน่ คำ่ ว่ำ นำง
แมก่ น /-n/ เชน่ ค่ำวำ่ นำน
แมก่ ม /-m/ เชน่ คำ่ วำ่ ตำม
แม่เกย /-y/ เช่น ค่ำวำ่ สำย
แมเ่ กอว /-w/ เชน่ ค่ำวำ่ สำว
အဆံို်းဗျည်် းသံမျာ်းသည် ၈ သံ ပါဝင်သည်။ ၎င််းတသို့ ည် “မွဲကိုတ် (က်)” /-k/ ၊ “မွဲကိုတ်
(တ်)” /-t/ ၊ ဆ “မွဲကိုတ် (ပ်) “ /-p/ ၊ “မွဲကိုန် (င်)” /-η/ ၊ “မွဲကိုန် (န်)” /-n/ ၊ “မွဲကိုန် (မ်)” /-m/ ၊
“မွဲရက (ယ်) “ /-y/ ၊ “မွဲရက (ဝ်) “ /-w/ စသည်တို့ ပါဝင်ပါသည။် ၎င််းတို့မာ ရအာက်ပါအတငို ််း
မြစ်ပါသည။်
“မွဲကိုတ် (က်)” /-k/ အဆံို်းဗျည်် းသံ สกุ /စိုတ်(က်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
“မွဲကိုတ် (တ်)” /-t/ အဆံို်းဗျည်် းသံ สดู /စတ်(တ်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
~3~
“မွဲကိုတ် (ပ်)” /-p/ အဆံို်းဗျည်် းသံ สบู /စတ်(ပ်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
“မွဲကိုန် (င်)” /-η/ အဆံို်းဗျည်် းသံ นาง /နန််း(င်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
“မွဲကိုန် (န်)” /-n/ အဆံို်းဗျည်် းသံ นาน /နန််း(န်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
“မွဲကိုန် (မ်)” /-m/ အဆံို်းဗျည်် းသံ ตาม /တန််း(မ်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
“မွဲကိုန် (ယ်)” /-y/ အဆံို်းဗျည်် းသံ สาย /စိုင််း(ယ်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
“မွဲရက (ဝ်)” /-w/ အဆံို်းဗျည်် းသံ สาว /ရစာင်(ဝ်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
หน่วยเสียงสระในภำษำไทยมี 2 ประเภท คอื สระเดยี วและสระประสม ซงึ สระเดยี วในภำษำไทยมี
18 เสยี ง ไดแ้ ก่
สระอิ อี เชน่ รมิ รมี
สระเอะ เอ เช่น เข็น เขน
สระแอะ แอ เช่น แกะ แก
สระอึ อือ เชน่ อดึ อืด
สระเออะ เออ เชน่ เจอะ เจอ
สระอะ อำ เชน่ กะ กำ
สระอุ อู เช่น ดุ ดู
สระโอะ โอ เช่น โตะ โต
สระเอำะ ออ เชน่ เกำะ กอ
ထိုင််းစာအရ ်းအသာ်းစနစ်တင် သ တစ်လံို်းနင် သ တွဲ ပါဝင်သည။် ထိုသ တစ်လံိုထွဲတင်
၁၈ လံို်း ပါဝင်ပါသည။် ထိုသ တလံို်းကို သံတသို အမြစ်ထပ်ခပွဲ ါသည။် ၎င််းတိမု့ ာရအာက်ပါအတငို ််း
မြစ်ပါသည။်
/အ/ /အီ/ သ ကို / င်(မ်)/ / င််း(မ်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
/ရအ/ /ရအ်း/သ ကို /ရခ(န်)/ /ရခ(န်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
/အက်/ /အွဲ/ သ ကို /ကက်/
/အီ/ /အီ်းအာ/ သ ကို /အီ(တ်)/ /ကွဲ/ ို အသံထက်ပါသည။်
/အီ်းအာ(တ်)/ ို အသံထက်ပါသည။်
~4~
/ရအာ/ /ရအာ/ သ ကို /ရကျာ/ /ရကျာ/ ို အသံထက်ပါသည။်
/အာ/ /အာ်း/ သ ကို /ကာ/
/အို/ /အူ်း/ သ ကို /ဒို/ /ကာ်း/ ို အသံထက်ပါသည။်
/အ/ို့ /အို/ သ ကို /တိ/ု့
/ရအာ/ /ရအာ/ သ ကို /ရကာ/ /ဒူ်း/ ို အသံထက်ပါသည။်
/တ်ို း/ ို အသံထက်ပါသည။်
/ရကာ/ ို အသံထက်ပါသည။်
สว่ นสระประสม มี 3 หนว่ ยเสียง ไดแ้ ก่ สระเอยี ะ เอยี เช่น เปยี ะ เสยี สระเออื ะ เอือ เชน่ เสือ และ
สระอวั ะ อวั เช่น สัว
သ တကွဲ ို ၃ သံ ပါဝင်ပါသည။် /အီယာ/ /အီယာ်း/ သ တကွဲ ို /ပီယာ/ /စီယာ်း/ ို
အသံထက်ပါသည။် /ရအာအာ/ /ရအာအာ်း/ သ တကွဲ ို/ရစာအာ်း/ ို အသံထက်ပါသည။်
ရနှာက်ပပီ်းရတာ /အူအာ/ /အူအာ်း/ သ တကွဲ ို /စူအာ်း/ ို အသံထက်ပါသည။်
หนว่ ยเสียงวรรณยุกต์ในภำษำไทยมี 5 หน่วยเสยี ง ได้แก่
1.วรรณยุกต์ระดับกลำงตรงกับเสียงวรรณยุกตส์ ำมญั เชน่ กนิ ไป
2.วรรณยกุ ต์ระดบั ต่ำตรงกบั เสียงวรรณยุกตเ์ อก เช่น บด ปำ่ ขำ่
3.วรรณยกุ ตเ์ ปลยี นตกตรงกบั เสยี งวรรณยุกต์โท เช่น ปำ้ ค่ำ มำก
4.วรรณยุกต์ระดับสูงตรงกับเสียงวรรณยุกต์เสียงตรี เช่น โตะ๊ นอ้ ง รัก
5.วรรณยกุ ต์เปลียนข้ึนตรงกบั เสยี งวรรณยุกต์จัตวำ เช่น ป๋ำ เดยี๋ ว
ထိုင််းစာအရ ်းအသာ်းစနစ်တင် တက်ကျသံ( သို့ ) တိုန််း ၅ သံ ပါသည။် ၎င််းတို့မာ
ရအာက်ပါအတငို ််း မြစ်ပါသည။်
၁၊ သံရမပ ( သို့ ) သာမန်တက်ကျသံကို /ကင်( န် )/ /ပိုင်( ယ် )/ ို
အသံထက်ပါသည်။
၂၊ အနမ်သံ ( သို့ ) ရအ( က် )တက်ကျသံကို /ဘိုတ်( တ် )//ပါ/ /ခါ/ ို
အသံထက်ပါသည။်
၃၊ အမမင်ကျသံ ( သို့ ) ထို်းတက်ကျသံကို /ပါ/ /ခါ/ /မတ် ( က် )/ ို
~5~
အသံထက်ပါသည။်
၄၊ အမမင်သံ ( သို့ ) တ ီတက်ကျသံကို /တို့/ /ရနှာင် ( င် ) က်( က် )/ ို
အသံထက်ပါသည်။
၅၊ နမ်ကျပပီ်းတက်သံ ( သို့ ) ကျတ်တဝါတက်ကျသံကို /ပါ/ ဒီအာ( ် ) တီ ( ် )/ ို
အသံထက်ပါသည်။
สว่ นวธิ ีอำ่ นและเขียนสระ มวี ิธกี ำรอ่ำนดงั นี้
อ + ำ อำ่ นว่ำ อำ
ท + เ อำ่ นว่ำ เท
ค + โ อ่ำนว่ำ โค
သ သံြတ်မခင််းနင်ရ ်းမခင််းမာ ရအာက်ပါအတငို ််း မြစ်ပါသည။်
อ /အ/ + -า /အာ်း/ ကို อา /အာ်း/ ို အသံထက်ပါသည်။
ท /ထ/ + เ- /ရအ်း/ ကို เท /ရထ်း/ ို အသံထက်ပါသည။်
ค /ခ/ + โ- /အို်း/ ကို โค /ခို်း/ ို အသံထက်ပါသည။်
วธิ อี ำ่ นและเขยี นสระกับมำตรำตวั สะกดต่ำง ดังตัวอยำ่ งต่อไปนี้
จำง สะกดวำ่ จอ + -ำ + งอ
กนิ สะกดวำ่ กอ + ิ + นอ
အဆံို်းဗျည်် းနင်အတူသ သံြတ်မခင််းနင်ရ ်းမခင််းမာ ရအာက်ပါအတငို ််းမြစ်ပါသည။်
จาง /ဂျန် ( င် )/ ကို จอ /ရဂျာ/ + -า /အာ်း/+ งอ /ရငါ/ ို စာလံို်းရပါင််းပါသည်။
กนิ /ကင် ( န် )/ ကို กอ /ရကာ/+ -ิิ /အ/ + นอ/ရနှာ/ ို စာလံို်း
ရပါင််းပါသည။်
~6~
แตอ่ ย่ำงไรกต็ ำม สระบำงตัวมกี ำรเปลียนรปู สระ เมือมตี วั สะกด ดงั นี้
สระอะ เมือมตี ัวสะกด จะเปลียนเป็นไม้หนั อำกำศ “ ั ” เช่น
กอ อะ อ่ำนว่ำ กะ - กอ อะ นอ อำ่ นวำ่ กัน
ตอ อะ อำ่ นว่ำ ตะ - ตอ อะ ดอ อ่ำนว่ำ ตดั
သို့ ာတင် သ သံြတ်မခင််းနင်ရ ်းမခင််းသည် အဆံို်းဗျည်် းသံ လ င် ရအာက်ပါအတငို ််း
အသံရမပာင််းပါသည။် /အာ/ သ သံသည် အဆံို်းဗျည််းသံ လ င် " -ั "
မငို ် န်အာ်းကတ် အသံရမပာင််းပါသည်။
/ရကာ/ /အာ/ ရပါင််းလ င် /ကာ/ ို အသံထက်ပါသည။်
/ရကာ/ /အာ/ /ရနှာ/ ရပါင််းလ င် /ကန် ( န် )/ ို အသံထက်ပါသည။်
/ရတာ/ /အာ/ ရပါင််းလ င် /တာ/ ို အသံထက်ပါသည။်
/ရတာ/ /အာ/ /ရဒါ/ရပါင််းလ င် /တတ် ( တ် )/ ို အသံထက်ပါသည။်
สระเอะ เมือมตี ัวสะกด จะเปลียนเปน็ ไม้ไต่คู้ “ ็” เชน่
กอ เอะ อำ่ นว่ำ เกะ - กอ เอะ บอ อำ่ นวำ่ เก็บ
ตอ เอะ อำ่ นว่ำ เตะ - ตอ เอะ มอ อำ่ นว่ำ เต็ม
/ရအ/ သ သံသည် အဆံို်းဗျည််းသံ လ င် “ -ิ” မငို ်တိုက်ဂူ်း အသံထက်ပါသည။်
/ရကာ/ /ရအ/ ရပါင််းလ င် /ရက/ ို အသံထက်ပါသည။်
/ရကာ/ /ရအ/ /ရဘာ/ ရပါင််းလ င် /ရက( ပ် )/ ို အသံထက်ပါသည်။
สระแอะ เมือมีตัวสะกด จะเปลียนรปู เป็น “ แ ็_” เชน่
ขอ แอะ อ่ำนวำ่ แขะ - ขอ แอะ งอ อำ่ นวำ่ แข็ง
/အွဲ/သ သံသည် အဆံို်းဗျည်် းသံ လ င် “ แ-ิ “ /အွဲ/ အမြစ် အသံရမပာင််းပါသည။်
/ရခါ/ /အွဲ/ ရပါင််းလ င် /ခွဲ/ ို အသံထက်ပါသည်။
/ရခါ/ /အွဲ/ /ရငါ/ ရပါင််းလ င် /ခွဲ( င် )/ ို အသံထက်ပါသည။်
~7~
สระเออ เมือมตี ัวสะกด กก กด กบ กง กน และกม จะเปลียนรูป “ เ _ิ ” เชน่
ลอ เอก อำ่ นว่ำ เลอ - ลอ เออ กอ อำ่ นว่ำ เลิก
กอ เออ อำ่ นว่ำ เกอ - กอ เออ ดอ อ่ำนว่ำ เกดิ
/ရအာ/ သ သံသည် မွဲကိုတ်( က် ) မွဲကိုတ်( တ် ) မွဲကိုတ(် ပ် ) မွဲကိုန်( င် ) မွဲကိုန်( န် )
နင်မွဲကိုန်( မ် ) အဆံို်းဗျည််းသံ လ င် / ရအာ/ အမြစ်အသံရမပာင််းပါသည။်
/ရလာ/ /ရအာ/ /ရကာ/ ရပါင််းလ င် /ရလာ( က် )/ ို အသံထက်ပါသည။်
/ရကာ/ /ရအာ/ /ရဒါ/ ရပါင််းလ င် /ရကာ( ဒ် )/ ို အသံထက်ပါသည်။
สระเอาะ เมอื มีตวั สะกด จะเปลยี นรปู “ ็อ_” เช่น
ชอ เอำะ อำ่ นว่ำ เชำะ - ชอ เอำะ กอ อำ่ นวำ่ ชอ็ ก
ลอ เอำะ อ่ำนว่ำ เลำะ ลอ เอำะ กอ อำ่ นวำ่ ล็อก
/ရအာ/ သ သံသည် အဆံို်းဗျည််းသံ လ င် “ -ิอ_ “/ရအာ( က် )/ အမြစ်
အသံရမပာင််းပါသည။်
/ရချာ/ /ရအာ/ /ရကာ/ ရပါက််းလ င် /ရချာ( က် )/ ို အသံရမပာင််းပါသည်။
/ရလာ/ /ရအာ/ /ရကာ/ ရပါင််းလ င် /ရလာ( က် )/ ို အသံရမပာင််းပါသည်။
สระโอะ เมือมีตัวสะกด จะไม่มรี ูป เชน่
จอ โอะ อ่ำนว่ำ โจะ
จอ โอะ งอ อำ่ นว่ำ จง
/အ/ို့ သ သံသည် အဆံို်းဗျည််းသံ လ င် ပံို မ ပါ။
/ရကျာ/ /အ/ို့ /ရငါ/ ရပါင််းခ င် / ကျ န်( င် )/ ို အသံထက်ပါသည်။
สระอัว เมือมตี ัวสะกด จะใชร้ ปู “ว “ เชน่ กอ อวั นอ อ่ำนว่ำ กวน
~8~
/အိုအာ/ သ သံသည် အဆံို်းဗျည်် းသံ လ င် “ ว_ “ /အာ/ အမြစ်
အသံထက်ပါသည။် /ရကာ/ /အိုအာ/ /ရနှာ/ ရပါင််းလ င် / ကာ( န် )/ ို အသံထက်ပါသည။်
กล่ำวโดยสรุป คอื พยญั ชนะไทยมที ้ังสิ้น 44 รปู 21 หนว่ ยเสยี ง โดยมีเสยี งสูงตำ่ ก่ำหนดแบง่ ได้ 3 หมู่
คือ อักษรสูง 11 ตัว อักษรกลำง 9 ตัวและอักษรต่ำ 24 ตัว เสียงพยัญชนะทีส่ำคัญของไทยสำมำรถแบ่งได้ 2
เสียง คือ พยัญชนะต้นและพยัญชนะท้ำย หน่วยเสียงพยัญชนะต้นในภำษำไทยแบ่งออกเป็น 2 เสียง คือ 1.
หน่วยเสียงพยัญชนะต้นเดียว ซึงพยัญชนะต้นเดียวในภำษำไทยมี 21 หน่วยเสียง และ2.หน่วยเสียงพยัญชนะ
ต้นควบกล่้ำ ซึงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.พยัญชนะควบกล้่ำชนิดควบแท้ และ2.พยัญชนะควบกล้่ำ
ชนดิ ควบไม่แท้
หน่วยเสียงพยัญชนะท้ำยหรือตัวสะกดในภำษำไทยมี 8 หน่วยเสียง คือ แม่กก /-k/ แม่กด /-t/ แม่
กบ /-p/ แมก่ ง /-n/ แม่กน /-n/ แม่กม /-m/ แมเ่ กย /-y/ แม่เกอว /-w/
และหน่วยเสยี งสระในภำษำไทยมี 2 ประเภท คือ สระเดียวและสระประสม ซงึ สระเดยี วในภำษำไทย
มี 18 เสียง ส่วนสระประสม มี 3 หน่วยเสียง ด้ำนหน่วยเสยี งวรรณยุกต์ในภำษำไทยมี 5 หน่วยเสยี ง ได้แก่ 1.
วรรณยุกต์ระดับกลำงตรงกับเสียงวรรณยุกต์สำมัญ 2.วรรณยุกต์ระดับต่ำตรงกับเสียงวรรณยุกต์เอก 3.
วรรณยุกต์เปลียนตกตรงกับเสียงวรรณยุกต์โท 4.วรรณยุกต์ระดับสูงตรงกับเสียงวรรณยุกต์เสียงตรี และ5.
วรรณยกุ ต์เปลียนขึ้นตรงกับเสียงวรรณยุกต์จัตวำ
အကျဉ်ချ ပ်မညဆ် ို င်
ထိုင််းဗျည််းအာ်းလံို်းသည် ၄၄ လံို်း၊ ဗျည်် းငံ ၂၁ သံ ပါသည။် ထိုဗျည််းမျာ်းကို ၃ အိုပစ် ို
ခွဲနိုင်ပါသည။် အမမင်ဗျည််းအိုပစ၊ို အလယ်ဗျည််းအိုပစ် ိုနင်အနမ်ဗျည်် းအိုပစ် ို မြစ်ပါသည။်
အမမင်ဗျည််းအိုပစ် ိုထွဲတင် ဗျည််း ၁၁ လံို်းကို ပါဝင်သည်။ အလယ်ဗျည််းအိုပစ် ိုထွဲတင် ဗျည််း ၉ လံို်းကို
ပါဝင်သည။် အနမ်ဗျည််းအိုပစ် ိုထွဲတင် ဗျည််း ၂၄ လံို်းကိုပါဝငသ် ည။်
ထိုင််းဗျည််းအာ်းလံို်းကို ၂ အိုပ်စို ခွဲနိုင်ပါသည်။ အရ ှေ့ဗျည်် းသံ နင်အဆံို်းဗျည််းသံမြစ်ပါသည်။
အရ ှေ့ဗျည်် းသံမျာ်းကို ၂ ခွဲနိုင်ပါသည။် လံို်းချင််းဗျည််းသံ နင်ဗျည််းတသွဲ ံ ပါဝင်ပါသည။်
လံို်းချင််းဗျည်် းသံမျာ်းသည် စကာ်းလံို်းအရ ှေ့တင် ရသာဗျည်် း မြစ်ပါသည။် ထိုင််းစာအရ ်း
အသာ်းစနစ်တင် ထိုင််းဗျည််းအာ်းလံို်းကို လံို်းချင််းဗျည််းသံအမြစ် အငံို်းမပ နိုင်ပါသည။် လံို်းချင််းဗျည်် း
သံမျာ်းသည် အသံ ၂၁ သံ ပါဝင်သည။် ဗျည််းတသွဲ ံဆိုသညမ် ာ ဗျည််းသံ ၂ သံကို ဆက်တိုက် အသံ
~9~
ထက်မခင််းမြစ်ပါသည်။ ဗျည်် းတသွဲ ံမျာ်းကို ၂ ခို ခွဲပါသည။် အသံမရမပာင််းဗျည််းတသွဲ ံ နင်
အသံရမပာင််းဗျည််းတွဲသံ မြစ်ပါသည်။ အသံမရမပာင််းဗျည်် းတသွဲ ံသည် ၁၁ သံ ပါသည။်
အသံရမပာင််းဗျည််းတွဲသံမျာ်းသည် ၃သံ မြစ်ပါသည။်
အဆံို်းဗျည်် းသံမျာ်းသည် ၈ သံကို ပါဝင်ပါသည်။ ၎င််းတိသု့ ည် แมก่ ก /-k/ แมก่ ด /-t/ แม่
กบ /-p/ แมก่ ง /-n/ แม่กน /-n/ แมก่ ม /-m/ แมเ่ กย /-y/ แมเ่ กอว /-w/ စသည်တို့
ပါဝင်ပါသည။်
ထိုင််းစာအရ ်းအသာ်းစနစ်တင် သ တစ်လံို်းနင် သ တွဲ ပါဝင်ပါသည်။ ထိုသ တစ်လံိုထွဲ
တင် ၁၈ လံို်း ပါဝင်ပါသည။် ထိုသ တလံို်းကို သံ ည်သ နင်သံတိုသ အမြစ် ထပ်ခွဲပါသည။်
ထိုင််းစာအရ ်းအသာ်းစနစ်တင် တက်ကျသံ( သို့ ) တိုန််း ၅ သံ ပါသည။် ၎င််းတို့က
၁၊ သံရမပ ( သို့ ) သာမန်တက်ကျသံ၊ ၂၊ နမ်သံ (သ)ို့ ရအ(က်) တက်ကျသံ ၃၊ အမမင်သံ (သို့)
ထို်းတက်ကျသံ ၄၊ မမင်သံ (သ)ို့ တ ီတက်ကျသံ နင် ၅၊ နမ်ပပီ်းတက်သံ (သ)ို့ ကျတ်တဝါတက်ကျသံ
မြစ်ပါသည။်
อ้างอิง
ร่งุ ฤดี แผลงศร. (2560). ศาสตรก์ ารสอนภาษาไทยในฐานะภาษาตา่ งประเทศ. พมิ พ์ครง้ั ที 1.
กรุงเทพฯ : ส่ำนกั พิมพ์แหง่ จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย.
~ 10 ~
บทเรยี นท่ี 2 การทักทายและการแนะนาตวั
သငခ် န်် းစာ ၂။ နတှု ဆ် ကစ် ကာ်းပခ ာခခင်် းနဲ့ မမိ ကိ ယို က် ို မတိ ဆ် ကခ် ခင်် း
สวัสดี เป็นคำทักทำยของไทย ส่วนในภำษำเมียนมำนั้นคือ คำทักทำยท่ีกล่ำวว่ำ “มิง กลำ บำ”
สวัสดี ใช้เม่ือแรกพบกัน หรือเมื่อกล่ำวบอกลำกัน คำว่ำ “สวัสดี” เป็นทั้งคำทักทำยและคำอวยพรในเวลำ
เดียวกัน
ဆဝ ်ဒ်း ဆိုပသာစကာ်းသည် ထိုင််းနိုင်ငံ၏နူတ်ဆက်စကာ်း ခြစ် ါသည်။ ခမန်မာဘာသာ
စကာ်းကမူ “မင်္ဂလာ ါ” ဟို ဆိုပသာနူတ်ဆက်စကာ်းခြစ် ါသည်။ ဆဝ ်ဒ်းဆိုသည်မာ ထမဆံို်း
ပတွေ့ဆံိုကကခခင််း (သိုဲ့) ခခာခခင််း(goodbye) ပခ ာဆိုပသာအခါတင် အသံို်းခ ြု ါသည်။ ဆဝ ်ဒ်း
ဆိုပသာစကာ်းသည် တစ်ခ နိ ်တည််းတင် နှုတ်ဆက်စကာ်းပခ ာခခင််းပ ာ ဆိုပတာင််းပ ်းပသာ
စကာ်းပလ်းခြစ်ပ ်း နစ်မ ြို်းစလံို်းနငအ့် က ံြု်းဝင်ပသာအသံို်းအနှုန််း ခြစ် ါသည။်
ตำมธรรมเนียมไทย หำกกล่ำวคำว่ำ “สวัสดี” เพื่อทักทำย ผู้พูดจะยกมือทั้งสองข้ำงขึ้นมำตรงอก
แล้วประสำนกันเป็นรูปดอกบัว ซ่ึงเรียกว่ำ“กำรไหว้” วัฒนธรรมกำรไหว้คือ กำรแสดงควำมมีสัมมำคำรวะ
อย่ำงหน่ึง เป็นธรรมเนียมกำรทักทำยและแสดงควำมเคำรพต่อกัน ดอกบัวเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่สื่อควำม
หมำยถึงสิ่งสูงคำ่ ที่เป็นมงคล เพรำะชำวไทยใช้ดอกบัวในกำรสักกำระผู้ใหญ่ บูชำพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
สว่ นกำรพนมมือไวต้ รงระดับหัวใจนนั้ เป็นกำรถ่ำยทอดควำมร้สู กึ ว่ำ เปน็ กำรกระทำท่ีมำจำกใจของผู้ไหว้ ดังน้ัน
เม่ือกล่ำวคำว่ำ “สวัสดี” พร้อมกับพนมมือจึงแสดงให้เห็นถึงควำมมีจิตใจอันงดงำมของชำวไทยที่หวังให้ผู้อ่ืน
พบเจอแต่สิง่ ท่ีดี กำรกระทำน้ีเปน็ มงคลตอ่ ทงั้ ตัวผู้พดู และผู้ฟัง โดยกำรไหว้มี 3 ระดับ ได้แก่ กำรไหว้พระ กำร
ไหว้ผู้มีพระคุณและผู้อำวุโส กำรไหว้บุคคลทั่วไปและผู้เสมอกัน เป็นต้น แต่อย่ำงไรก็ตำม ผู้ที่อำวุโสกว่ำจะไม่
ไหวผ้ ูท้ ีอ่ ำยุนอ้ ยกวำ่ ก่อน แต่จะพนมมอื เพ่ือเป็นกำรรบั ไหว้จำกผทู้ ่ีอำยุน้อยกว่ำ
ထိုင််းနိုင်ငံ၏ထံို်းစံတင် နှုတ်ဆက် န် ဆဝ ်ဒ်းဟို ပခ ာဆို ါက ပခ ာဆိုသူသည် မိမိ၏
င်ဘတ်အလယ်န ်းတင် လက်နစ်ြက်ကို ပခမ ာက်၍ လက်ဝါ်းနစ်ြက်ကို ခ ာ်းက ်မထာ်း
ကကာ န််းက့်သိုဲ့ ြူ်းြူ်းပလ်းခြစ် န် လက်အို ်ခ ထာ်း ါသည်။ ထိုင််းဓပလ့်ရို်း ာယဉ်ပက ်းမှုအ
အဆို ါ ံိုစံလက်အို ်ခ ခခင််းကို ထိုင််းလို “ကန်ဝိုက်” လိုဲ့ ပခေါ် ါသည်။ ထိုင််းဓပလ့်ရို်း ာယဉ်ပက ်းမှုအ
ရိုပသပလ်းစာ်းမှုကို ခ သ န်ခြစ် ါသည်။ တစ်ပယာက်နင့်တစ်ပယာက် ပလ်းစာ်းစာနှုတ်ဆက်
ကကပသာထံို်းစံခြစ် ါသည်။ ကကာ န််းသည် ခမင့်ခမတ်၍ မင်္ဂလာ ိပသာအ ာတစ်ခို၏အဓိ ပာယ်ကို
ပြာ်ခ ပသာသပကဂတတစ်ခိုနင့် ဆင်တူ ါ၏။ အဘယ်ပကကာင့်ဆိုပသာ် ထိုင််းလူမ ြို်းမ ာ်းသည် ဘို ာ်း၊
တ ာ်း၊ သံဃာနင့် အကက်းအကမ ာ်းအာ်း ူပ ာ်ကန်ပတာ့် န် ကကာ န််းမ ာ်းကို အသံို်းခ ြုကက ါသည်။
နလံို်းသာ်းန ်းမ ပခမ ာက်၍ လက်အို ်ခ ထာ်းခခင််းကမူ ကန်ပတာ့်သူမ ာ်း၏နလံို်းသာ်းထ မ
လာပသာအခ ြုအမှုခြစ် ါသည်ဟို ခံစာ်းခ က်ကို ပြာ်ခ ခခင််း ခြစ် ါ၏။ ထိုဲ့ပကကာင့် “ဆဝ ်ဒ်း” ဟို
11
ဆိုပနကာ လက်အို ်ခ ထာ်းခခင််းသည် အခခာ်းသူမ ာ်းအာ်း ပကာင််းမန်ပသာအ ာမ ာ်းကို င်
ပတွေ့ဆ ံို န် ပမ ာ ်မန််းထ ာ်း သည့်ထိုင််းလူမ ိြု်းမ ာ်း ၏လ ပသာစိတ်ကို ပြာ်ခ နိုင် ါ သည် ။
ဤလို ်ပဆာင်ခ က်သည် ပခ ာဆိုသူ နင့်န ်းပထာင်သူအတက် မင်္ဂလာ ိ ါသည်။ ကန်ဝိုက်
ဟိုပခေါ်ပသာ လက်အို ်ခ ခခင််းမာ ံိုစံမာ ၃ မ ြို်း ိ ါသည်။ ဘို ာ်းကို ကန်ပတာ့်ခခင််း၊ သက်တူ ွယ်တူ
အခ င််းခ င််း နိုတ်ဆက်ခခင််း နင့် ကပလ်းမ ာ်းက ကိုယ့်ထက် အသက်အ ွယ်ကက်း င့်သူ လူကက်းမိဘ
ဆ ာသမာ်းမ ာ်းကို လက်အို ်ခ ကန်ပတာ့်ခခင််းဟူ၍ သံို်းမ ြို်း ိ ါသည်။ သိုဲ့ ာတင် အသက်ကက်းသူက
အသက်ငယ်သူကို လို ်ပလ့်မ ိ ါ။ သိုဲ့ ာတင် အသက်ကက်းသူက အသက်ငယ်သူကို စလို ်ပလ့်မ ိ ါ။
အသက်ငယ်သူက စတင်လက်အို ်ခ နိုတ်ဆက်လာသည့် အခါ နိုတ်ဆက်ခခင််းကို လက်ခံသည့်
အပနခြင့် ခ န်ပ ်း လက်အို ခ် ၍ နိုတ်ဆက်ခခင််းသာ ိ ါသည။်
ในกำรกล่ำวสวัสดี ผู้ชำยจะเติมคำวำ่ “ครับ” ท้ำยคำว่ำ “สวัสดี” เพ่ือแสดงควำมสุภำพ ส่วนผู้หญิง
จะเติมคำว่ำ “ค่ะ” ผู้ชำยจะทักทำยว่ำ “สวัสดีครับ” ผู้หญิงจะทักทำยว่ำ “สวัสดีค่ะ” คำว่ำ “ครับ” ใน
ภำษำเมียนมำคือ “ขะ-มหย่ำ” คำว่ำ “ค่ะ” ในภำษำเมียนมำคือ คำว่ำ “ฉี่ง” สำมำรถใช้คำทักทำย “สวัสดี”
ไดต้ ลอดช่วงเวลำ
ဆဝ ်ဒ်းဟို ဆိုပသာအခါတင် အမ ြို်းသာ်းခြစ်သူသည် ဆဝ ်ဒ်း၏အပန က်တင် “ခ ်”
ဆိပု သာစကာ်းလံို်းကို ယဉ်ပက ်း န် ထည်၍့ အမ ြို်းသမ်းခြစ်သူသညမ် ူ “ခ” ဟို ဆိပု သာစကာ်းလံို်းကို
ယဉ်ပက ်း န် ထည့် ါသည်။ အမ ြို်းသာ်းသည် “ဆဝ ်ဒ်းခ ်” ဟို နှုတ်ဆက် ါ၏။ အမ ြို်းသမ်းသည်
“ဆဝ ်ဒ်းခါ”့် ဟို နှုတ်ဆက် ါ၏။ “ခ ်” ဆိုသည်မာ ခမန်မာဘာသာစကာ်းနင့် ပခ ာလ င် “ခင်ဗ ာ”
ခြစ် ါသည်။ “ခ” သည်မာ ခမန်မာဘာသာစကာ်းနင့် ပခ ာလ င် “ င်” ခြစ် ါသည်။ ဆဝ ်ဒ်းကို
တစ်ပနဲတ့ ာအခ နိ ်အတင််းမာ မည်သညအ့် ခ နိ ်မဆို အသံို်းခ ြုနိုင် ါသည။်
คาศพั ท์ที่ใชใ้ นการทักทาย
နတှု ဆ် ကစ် ကာ်းပခ ာ ာတင် သ်ံို းပသာစကာ်းလ်ံို းမ ာ်း
คาศัพทภ์ าษาไทย คาศพั ทภ์ าษาเมียนมา
ထငို ်် းဘာသာစကာ်းလ်ံို းမ ာ်း ခမနမ် ာဘာသာစကာ်းလ်ံို းမ ာ်း
မင်္လာ ါ
สวสั ดี / ဆဝ ်ဒ်း /
ครบั / ခ ် / ခင်ဗ ာ
คะ่ / ခ / င်
ในบำงครั้ง หำกรู้จักกันมำก่อนหรือสนิทสนมกันแล้ว มักจะใช้กำรทักทำยกันว่ำ “สบำยดีไหม” แทน
กำรกลำ่ วทักทำยวำ่ “สวสั ดี” คำว่ำ “สบำยดไี หม” ในภำษำเมยี นมำคือ “เหน่ กอง ลำ”
12
တစ်ခါတစ် ံတင် နစ်ပယာက်စလံို်းအခ င််းခ င််းသိကက၍ င််းန်းပ ်းလ င် “ဆဝ ်ဒ်း” ဟို
ဆိုမည့်အစာ်း “ဆဘငို ််းဒ်းမိုင်” ဟို နှုတ်ဆက်ပလ့် ိကက ါသည်။ “ဆဘိုင််းဒ်းမငို ်” ဆိုသည်မာ ခမန်မာ
ဘာသာစကာ်းတင် “ပနပကာင််းလာ်း။” ဟို ဆိုပသာဝါက ခြစ် ါသည။်
กำรแนะนำตวั เองเม่อื แรกพบ ชำวไทยเร่ิมกล่ำวทักทำยวำ่ “สวัสดี” แลว้ ตำมด้วยแนะนำชอื่ ของตนให้
รจู้ ัก ตวั อยำ่ งเชน่
မိမိကိုယ်ကို မိတ်ဆက်ခခင််းကမူ ထိုင််းလူမ ြို်းမ ာ်းသည် ထမဆံို်းပတွေ့ဆံိုပသာအခါတင်
မည်က့်သိုဲ့ စတင်နှုတ်ဆက်ကကသနည််းဆိုသည်မာ ဆဝ ်ဒ်းဟို ဆို၍ မိမိန မည်ကို သိ န် အ င်
မိတ်ဆကပ် ်း ါမည်။ သာဓက -
ผู้ชำยพูดทักทำยว่ำ “ สวัสดีครับ ผมช่ือวิจิตรครับ” ในภำษำเมียนมำคือ “มิง กลำ บำ จะหน่อ หน่ำ
แหม่ วจิ ิตร บ่ำ ขะ-มหย่ำ” คำว่ำ “ผม” เป็นคำสรรพนำมแทนผู้พดู ที่เป็นผู้ชำย ในภำษำเมียนมำคือคำวำ่ “จะ
หนอ่ ” ส่วนคำว่ำ “ชือ่ ” ในภำษำเมียนมำคือ คำว่ำ “หน่ำแหม่”
အမ ြို်းသာ်းခြစ်သူသည် “ဆဝ ်ဒ်းခ ် ြိုမ်(မ်)ခ ွေ့( ်) ဝိက စ် ခ ်။” ဟို မိတ်ဆက် ါ၏။
ခမန်မာဘာသာစကာ်းနင့် ပခ ာလ င် “မင်္ဂလာ ါ ကျွန်ပတာ်န မည် ဝိက စ် ါခင်ဗ ာ။” ဟို ဆိုပသာ
ဝါက ခြစ် ါသည်။ “ြိုမ်(မ်)” ဆိုပသာစကာ်းလံို်းသည် အမ ြို်းသာ်း၏န မ်စာ်း ခြစ်၍ ခမန်မာဘာသာ
စကာ်းနင့် ပခ ာလ င် “ကျွန်ပတာ်” ဆိပု သာစကာ်းလံို်း ခြစ် ါသည။် “ခ ွေ့( ်)” ဆိပု သာစကာ်းလံို်းသည်
ခမန်မာဘာသာစကာ်းတင် “န မည်” ဆိပု သာစကာ်းလံို်း ခြစ် ါ၏။
ส่วนผู้หญิงพูดทักทำยว่ำ “สวัสดีค่ะ ดิฉันช่ือ สุนันทำ ค่ะ”ในภำษำเมียนมำคือ “มิง กลำ บำ จะมะ
หน่ำแหม่ สุนันทำ บ่ำฉ่ีง ” คำว่ำ “ดิฉัน” เป็นคำสรรพนำมแทนผู้พูดที่เป็นผู้หญิง ในภำษำเมียนมำคือคำว่ำ
“จะมะ”
အမ ြို်းသမ်းခြစ်သူကမူ “ဆဝ ်ဒ်းခါ ့် ဒခ န် ခ ွေ့( ်) သိုနဒ ခ။” ဟို မိတ်ဆက် ါ၏။
ခမန်မာဘာသာစကာ်းနင့် ပခ ာလ င် “မင်္ဂလာ ါ ကျွန်မန မည် သိုနဒ ါ င့် ” ဟို ဆိုပသာဝါက
ခြစ် ါသည်။ “ဒခ န်”ဆိုပသာစကာ်းလံို်းသည် အမ ြို်းသမ်း၏န မ်စာ်း ခြစ်၍ ခမန်မာဘာသာစကာ်းနင့်
ပခ ာလ င် “ကျွန်မ” ဆိပု သာစကာ်းလံို်း ခြစ် ါသည။်
กำรแนะนำตัวดังกลำ่ วข้ำงต้นนั้น สำมำรถใช้ได้ทั้งกับเดก็ และผใู้ หญ่
အဆို ါမိတ်ဆက်ခခင််းက လူကက်းလူငယ်မ ာ်းနင့်အသက်အ ွယ်မပ ွ်း ပခ ာဆိုဆက်ဆံ ာတင်
အသံို်းခ ြုနိုင် ါသည။်
13
န မစ် ာ်းမ ာ်းအသ်ံို းအနနှု ်် း
คาสรรพนามแทนผู้พดู ในภาษาไทย คาสรรพนามแทนผพู้ ูดในภาษาเมยี น การใช้
มา
ထငို ်် းဘာသာစကာ်းတင် အသ်ံို းအနနှု ်် း
ပခ ာဆသို ၏ူ န မစ် ာ်း ခမနမ် ာဘာသာစကာ်းတင်
ပခ ာဆသို ၏ူ န မစ် ာ်း လူကက်း (သိုဲ့)
ผม / ြိမု ်(မ်) / သူငယ်ခ င််းနင့်
ดิฉนั / ဒခ န် / ကျွန်ပတာ် သံို်း ါသည်။
ကျွန်မ
นอกจำกนี้ ยังมีคำสรรพนำมว่ำ “คุณ” ที่ใช้แทนช่ือผู้ที่เรำพูดด้วย ซึ่งในภำษำเมียนมำคือ คำว่ำ
“သင”် อีกทัง้ ยงั สำมำรถใชค้ ำว่ำ “คณุ ” นำหน้ำชอ่ื บุคคลที่เรำพดู ดว้ ย เพ่อื แสดงควำมสุภำพได้อกี ดว้ ย
ထိုဲအ့ ခ င် မိမိနင်ပ့ ခ ာပနသူ၏န မည်အစာ်း “ခန်” ဟို ပခေါ်လလိုဲ့ ည််း ါသည။် ခမန်မာဘာသာ
စကာ်းနင့် ပခ ာလ င် “သင်” ဆိုပသာစကာ်းလံို်း ခြစ် ါသည်။ ယဉ်ပက ်းမှု ိြိုဲ့အတက် “ခန်”
ဆိပု သာစကာ်းလံို်းကို န မည်ပ ွေ့တင် ထည့်ပ ်းပခေါ်ခခင််း ခြစ် ါသည။်
คาสรรพนามแทนผูฟ้ งั คาสรรพนามแทนผู้ฟังในภาษาเมยี น การใช้
ในภาษาไทย มา
အသ်ံို းအနနှု ်် း
ထငို ်် းဘာသာစကာ်းတင် ခမနမ် ာဘာသာစကာ်းတင်
အမ ြို်းသာ်းခြစ်ပစ/
န ်းပထာငသ် ၏ူ န မစ် ာ်း န ်းပထာငသ် ၏ူ န မစ် ာ်း အ မ ိြု်း သမ်းခြ စ်ပစ
အသံို်းခ ြုလိုဲ့ ါသည။်
คุณ / ခန် / သင်
14
บทสนทนา (ဒငို ယ် ာပလာခ့် ် - dialogue)
1. การทกั ทายและการแนะนาตวั เมื่อแรกพบกัน
၁။ ထမဆံို်းပတွေ့ဆံိုကက ာတင် နှုတ်ဆက်စကာ်းပခ ာခခင််းနဲ့ မိမိကိုယက် ို မိတဆ် က်ခခင််း
A: สวสั ดคี ะ่
/ ဆဝ ်ဒ်းခ /
မင်္ဂလာ ါ င်။
B: สวสั ดคี รบั
/ ဆဝ ်ဒ်းခ ် /
မင်္ဂလာ ါခငဗ် ာ။
A: ดิฉันชื่อ สนุ นั ทา ค่ะ คุณชอ่ื อะไรคะ
/ ဒခ နခ် ွေ့( ်) သိုနဒ ခ။ ခန်ခ ွေ့( ်)အလိုင် ခါ/
ကျွန်မန မည် သိုနဒ ါ င့်။ န မည်ဘယ်လိုပခေါ် ါသလ။
B: ผมช่ือ วจิ ติ ร ครับ
/ ြမို ်(မ်)ခ ွေ့( ်) ဝိက စ် ခ ်။ /
ကျွန်ပတာ်န မည် ဝိက စ် ါခငဗ် ာ။
A: ยนิ ดที ไ่ี ดร้ จู้ ักคะ่
/ ယင်ဒ်း ထိဒိုက် ရူ်း(ဝ်)က (က်) ခ /
ပတွေ့ တာ ဝမ််းသာ ါတယ် င့်။
B: ยินดีทไ่ี ดร้ ู้จักครับ
/ ယင်ဒ်း ထိဒိုက် ရူ်း(ဝ်)က (က)် ခ ် /
ပတွေ့ တာ ဝမ််းသာ ါတယ်ခင်ဗ ာ။
15
2. การทักทายเม่ือรจู้ กั และสนิทสนมกันแล้ว
၂။ အခ င််းခ င််းသိကက၍ င််းန်းပ ်းလ င် နှုတ်ဆက်စကာ်းပခ ာခခင််း
A: พ่ี สบายดไี หม
/ ြိ ဆဘိုင််းဒ်းမငို ် /
အစ်မ ပနပကာင််းလာ်း။
B: สบายดคี ะ่ น้องล่ะ
/ ဆဘိုင််းဒ်းခ ပန င်(င့်) လာ့် /
ပနပကာင််း ါတယ် င့်။ ပမာင်ပလ်းပ ာ။
A: สบายดคี รบั
/ ဆဘိုင််းဒ်း ခ ် /
ပနပကာင််း ါတယ်ခင်ဗ ာ။
16
บทท่ี 3 ตัวเลข
သငခ် န်် းစာ ၃ ထငို ်် းကနိ ်် းဂဏန်် းမ ာ်း
แม้ว่าในปัจจุบันการใช้เลขอารบิกจะใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย แต่ภาษาไทยมีชุดตัวเลข
เป็นของตัวเอง เรียกว่า “เลขไทย” โดยสามารถพบเลขไทยได้ในเอกสารราชการ ตาราเรียน ประกาศและ
กฎหมาย การเรยี นร้เู กย่ี วกับเลขไทยจึงเปน็ ส่งิ ทจี่ าเป็นและมปี ระโยชน์เป็นอย่างมาก
ယခိုအခါ ထိုင််းနိုင်ငံတွင် အာရဗီကိန််းဂဏန််းမ ာ်းပိုမိုသံို်းစွဲပါသည်။ သို့ရာတွင် ထိုင််းဘာသာစကာ်းမာ
မိမိသံို်းသည့်ဂဏန််းမ ာ်း ရိသည်။ ထိုင််းဘာသာစကာ်းတွင် ဂဏန််းကို เลขไทย /လ ့ေ(က်) ထုိင််း/ ဟူသည်
ခခေါ်ပါသည်။ ထိုင််းဂဏန််းကို စာရွက်စာတမ််း ၊ ခက ာင််းသံို်းစာအိုပ် ၊ ခ ကညာစာတမ််း နင့်တရာ်းဥပခေမ ာ်း
တွင် ခတွေ့နိုင်ပါသည်။ ထိုင််းဂဏန််းခလ့်လာခခင််းသည် အက ိ ်းရိပါသည်။
การนับตวั เลขไทยนั้นสามารถทาได้ไม่ยาก กอ่ นอืน่ จะตอ้ งเริ่มฝกึ นับตวั เลข 0 - 10 เพ่อื เป็นพื้นฐานใน
การเรียนรตู้ ัวเลขอ่ืนๆ
ထိုင််းဂဏန််းခရထွကခ် ခင််းသည် မခက်ပါ။ ပထမဦ်းဆံို်း ၀ မ ၁၀ သို့ ခလ့်လာရမည်။
ตวั เลข ตัวเลข การเขียน การออกเสยี ง
နပံ ါတ် ကနိ ်် းဂဏန်် း ခရ်းသာ်းခခင်် း အသထံ ကွ ခ် ခင်် း
စွန်
0 ๐ ศูนย์ နူ်း(င)်
หนงึ่ ခစာင်(င)်
1๑ สอง စမ်(မ်)
สาม စီ
2๒ ส่ี ဟာ့်
หา้ ဟိုတ်(က)်
3๓ หก ခက ွေ့(တ)်
เจด็ ပက(် တ)်
4๔ แปด ခကာက်(ဝ်)
เก้า စစ(် ပ်)
5๕ สิบ
6๖
7๗
8๘
9๙
10 ๑๐
ในการนับเลข 11-19 สามารถนับโดยการนาคาวา่ สบิ กบั ตัวเลขมารวมกนั ไดแ้ ก่
၁၁ မ ၁၉ ကိန််းဂဏန််းသို့ ခရထွက်ခ င်လျှင် ၁၀ (ဆယ်) စကြော်း ုိ်း လခပြော၍ အခ ြော်းကန််းဂဏန််း
နင့်ခပါင််းနငို ်သည်။
17
ตวั เลข ตวั เลข การเขียน การออกเสียง
နပံ ါတ် ကနိ ်် းဂဏန်် း ခရ်းသာ်းခခင်် း အသထံ ကွ ခ် ခင်် း
စစ(် ပ်) လစြောင(် င)်
12 ๑๒ สิบสอง စစ(် ပ်) စမ(် မ်)
สบิ สาม စစ(် ပ်) စီ
13 ๑๓ สิบสี่ စစ(် ပ်) ဟြောေ့
สบิ ห้า စစ(် ပ်) ဟတို (် က)်
14 ๑๔ สิบหก စစ(် ပ်) လက ေ့ျ(တ)်
สบิ เจด็ စစ(် ပ်) ပက(် တ)်
15 ๑๕ สิบแปด စစ(် ပ်) လကြောက(် ဝ်)
สิบเก้า
16 ๑๖
17 ๑๗
18 ๑๘
19 ๑๙
ในภาษาไทยจะไม่อ่าน ๑๑ (11) ว่า “สิบหนึ่ง” แต่เปล่ียนคาว่า “หน่ึง” เป็น “เอ็ด” แทน
เพราะฉะนน้ั ๑๑ จึงอ่านว่า “สบิ เอ็ด”
သို့ရာတွင် ၁၁ သည် ထိုင််းဘာသာစကာ်းတွင် สิบเอ็ด /စစ်(ပ်) /လအ့ေ(တ်) ဟူ၍ ခခေါ်သည်။ สิบหนึ่ง /
/စစ်(ပ်) န်း(င)် ဟိမု ခခပာပါ။
ลาดับถัดไป คือ การนับจานวน ๒๐ - ๒๙ ในการนับจานวน 20 ในภาษาไทยออกเสียงว่า ย่ีสิบ ถ้า
ต้องการนับจานวน 21-29 ให้นาคาว่า ยี่ กับตัวเลขอื่นมารวมกนั เพราะ ยี่ มาจากคาว่า ยส่ี ิบ
/ /၂၀ ခရထွက်ခခင််းသည် ยี่สิบ ယီ်း စစ်(ပ်) ဟို ခခေါ်သည်။ ပပီ်းခတာ့် ၂၁ မ ၂၉ သို့ ခရထွက်ခခင််းသည် ย่ี
/ / / /ယီ်း စကာ်းလံို်းခခပာ၍ အခခာ်းကိန််းဂဏန််းနင့်ခပါင််းနိုင်သည်။ အဘယ်ခ ကာင့်ဆိုခသာ် ย่ี ယီ်း
၏အဓိပပာယ်သည် ၂၀ ခြစ်ပါသည်။
ตวั เลข ตัวเลข การเขียน การออกเสียง
နပံ ါတ် ကနိ ်် းဂဏန်် း ခရ်းသာ်းခခင်် း အသထံ ကွ ခ် ခင်် း
ယီ်း စစ(် ပ်) လအ(ေ့ တ)်
21 ๒๑ ยสี่ บิ เอด็ ယီ်း စစ(် ပ်) လစြောင(် င)်
ยส่ี บิ สอง ယီ်း စစ(် ပ်) စမ်(မ်)
22 ๒๒ ยส่ี บิ สาม ယီ်း စစ(် ပ်) စီ
ย่ีสบิ สี่ ယီ်း စစ(် ပ်) ဟြော့ေ
23 ๒๓ ยี่สบิ ห้า ယီ်း စစ(် ပ်) ဟတုိ (် က)်
ยส่ี ิบหก ယီ်း စစ(် ပ်) လက ေျ့(တ)်
24 ๒๔ ยสี่ บิ เจด็
25 ๒๕
26 ๒๖
27 ๒๗
18
28 ๒๘ ย่สี ิบแปด ယီ်း စစ(် ပ်) ပက(် တ)်
ยี่สบิ เกา้ ယီ်း စစ(် ပ်) လကြောက(် ဝ်)
29 ๒๙
หลักของตัวเลขในภาษาไทย
ထငို ်် းကနိ ်် းဂဏန်် း၏တနြ် ်ို းမ ာ်း
หลกั การเขยี น การออกเสียง
တနြ် ်ို း ခရ်းသာ်းခခင်် း အသထံ ကွ ခ် ခင်် း
ခို လာ့်(က)် လန(ှေွယ)်
ဆယ် หลักหน่วย လာ့်(က)် စစ(် ပ်)
ရာ หลกั สิบ လာ့်(က)် ရွိုင(် င)်
ခထာင် หลักรอ้ ย လာ့်(က)် ဖန်
ခသာင််း หลกั พนั လာ့်(က)် မ်း(န)်
သိန််း หลักหมืน่ လာ့်(က)် စ(ဲ န)်
သန််း หลักแสน လာ့်(က)် န(် န)်
หลักล้าน
เวลานบั จานวนใหเ้ อาตวั เลขวางไวท้ ี่ด้านหน้า และหลกั วางไวท้ ่ดี า้ นหลงั ได้แก่
ကိန််းဂဏန််းခရထွက်သည့်အခါ အခခခခံကိန််းဂဏန််းကို အခရွေ့တွင်ထာ်း၍ တန်ြို်းနင့် ခခပာလိုက်
ရမည်။ နံပါတ် ကိန််းဂဏန််း ခရ်းသာ်းခခင််း
ตวั เลข ตวั เลข การเขยี น การออกเสียง
နပံ ါတ် ကနိ ်် းဂဏန်် း ခရ်းသာ်းခခင်် း အသထံ ကွ ခ် ခင်် း
နူ်း(င)် ရွိုင(် င)်
100 ๑๐๐ หนง่ึ ร้อย နူ်း(င)် ဖန်
1,000 ๑,๐๐๐ หนึ่งพัน နူ်း(င)် မ်း(န)်
10,000 ๑๐,๐๐๐ หนง่ึ หมื่น နူ်း(င)် စ(ွဲ န)်
100,000 ๑๐๐,๐๐๐ หนง่ึ แสน နူ်း(င)် န(် န)်
1,000,000 ๑,๐๐๐,๐๐๐ หนงึ่ ล้าน
การออกเสยี ง
เชน่ ตัวเลข การเขยี น
အသထံ ကွ ခ် ခင်် း
ဥပမာ ကနိ ်် းဂဏန်် း ခရ်းသာ်းခခင်် း စမ်(မ်) စစ(် ပ်)
စီ ရွိ င်(င)်
ตวั เลข ๓๐ สามสบิ
๔๐๐ ส่ีรอ้ ย
နပံ ါတ်
19
30
400
5,000 ๕,๐๐๐ หา้ พนั ဟာ့် ြန်
60,000 ๖๐,๐๐๐
700,000 ๗๐๐,๐๐๐ หกหมนื่ ဟိုတ်(က)် မ်း(န)်
8,000,000 ๘,๐๐๐,๐๐๐
35 ๓๕ เจ็ดแสน ခက ွေ့(တ)် စ(ဲ န)်
807 ๘๐๗
6,921 ๖,๙๒๑ แปดล้าน ပက(် တ)် န(် န)်
สามสิบหา้ စမ်(မ်) စစ(် ပ်) ဟြော့ေ
แปดร้อยเจด็ ပက(် တ)် ရွိုင(် င)် လက ျေ့(တ)်
หกพนั เกา้ รอ้ ยย่สี ิบเอด็
ဟိုတ်(က)် ဖန် လကြောက(် ဝ်) ရွိုင(် င)် ယ်ီ း စစ(် ပ်) လအ(့ေ တ)်
52,340 ๕๒,๓๔๐ ห้าหมนื่ สองพันสามร้อยสีส่ ิบ
ဟာ့် မူ်း(န)် လစြောင(် င)် ဖန် စမ်(မ်) ရွိုင(် င)် စီ စစ(် ပ်)
การใช้ตวั เลขกับลักษณะนาม
ကနိ ်် းဂဏန်် းနငထ့် ငို ်် းဘာသာမ ိ ်းခပပစညစ ်် းသ်ံို းစခွဲ ခင်် း
1 อนั
၁ ခို
/နူ်း(င)် အန(် န)် /
ซ้อื ปลา 2 ตัวแล้ว (ဲ ဝ)် /
ငါ်းနစ်ခကာင်ဝယ်ပပီ။
/စူ်း ပလာ ခစာင်(င)် တူ်း(ဝ)်
ฉนั มีเงิน 1,000 บาท
ကျွန်မ ခငွ ဘတ် ၁၀၀၀ ပါတယ်။
/ခ န် မီ်း ငန(် န)် န်း(င)် ဖန် ဘတ(် တ)် /
บทสนทนา
ေငို ယ် ာခလာခ့်
A: နံပါတ် ၄ ကိထု ိုင််းဘာသာစကာ်းတငွ ် မည်သခို့ ရ်း၍ြတရ် သနည််း။
B: ๔ อ่านวา่ สี่
/စီ/
A: ตวั เลข 4 เขยี นและอา่ นเป็นภาษาไทยอยา่ งไร
B: ๔ อา่ นวา่ สี่
20
A: နံပါတ် ၁၅ ကိထု ငို ််းဘာသာစကာ်းတွင် မည်သခို့ ရ်း၍ြတ်ရသနည််း။
B: ๑๕ อ่านว่า สิบห้า
/စစ်(ပ်) ဟြော/ေ့
A: ตวั เลข 15 เขียนและอ่านเปน็ ภาษาไทยอยา่ งไร
ตอบ ๑๕ อ่านว่า สิบห้า
A: နံပါတ် ၂၇၀ ကိထု ိုင််းဘာသာစကာ်းတွင် မည်သခို့ ရ်း၍ြတ်ရသနည််း။
B: ๒๗๐ อ่านว่า สองรอ้ ยเจ็ดสิบ
/ခစာင်(င)် ရွိုင(် င)် လက ေ့ျ(တ)် စစ(် ပ်)/
A: ตัวเลข 270 เขียนและอ่านเป็นภาษาไทยอยา่ งไร
B: ๒๗๐ อ่านวา่ สองร้อยเจด็ สิบ
A: နံပါတ် ၆၂၀၀၀ ကိထု ိုင််းဘာသာစကာ်းတငွ ် မည်သခို့ ရ်း၍ြတ်ရသနည််း။
B: ๖๒,๐๐๐ อา่ นว่า หกหมื่นสองพัน
/ဟိုတ်(က)် မ်း(န)် လစြောင(် င)် ြန်/
A: ตวั เลข 62,000 เขยี นและอ่านเปน็ ภาษาไทยอย่างไร
B: ๖๒,๐๐๐ อา่ นวา่ หกหมนื่ สองพัน
A: နံပါတ် ၉၃၂၁၅၄၈ ကိထု ငို ််းဘာသာစကာ်းတငွ ် မည်သခို့ ရ်း၍ြတ်ရသနည််း။
B: ๙,๓๒๑,๕๔๘ อ่านวา่ เกา้ ล้าน สามแสน สองหมน่ื หนงึ่ พัน หา้ ร้อย สส่ี ิบ
/ခကာက်(ဝ်) န(် န)် စမ်(မ)် စ(ဲ န)် ခစာင်(င)် မ်း(န)် န်း(င)် ဖန် ဟြော့ေ ရွိုင(် င)် စီ စစ(် ပ်) ပက(် တ)် /
A: ตัวเลข 9,321,548 เขยี นและอ่านเปน็ ภาษาไทยอย่างไร
B: ๙,๓๒๑,๕๔๘ อ่านวา่ เก้าล้าน สามแสน สองหมน่ื หน่ึงพัน หา้ รอ้ ย สี่สบิ
การอ่านตัวเลขไทยและนับเลขเป็นภาษาไทยได้เป็นสิ่งท่ีสาคัญมาก หากเดินทางมาท่องเที่ยวยัง
ประเทศไทย หรือซื้อสินค้าไทย คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ท่ีจะต้องพูดถึงจานวนและราคาของสินค้า ดังน้ันการเรียนรู้
ตวั เลขจึงเป็นการพัฒนาทักษะในการสอ่ื สารให้เข้มแขง็ มากยิง่ ขน้ึ
ထိုင််းနိုင်ငံသို့ လာ၍ ပစစည််းဝယ်ခ င်လျှင် ထငို ််းဘာသာစကာ်းနင့်ကိန်် းဂဏန််းခခပာရမည်။
အဘယခ် ကာင့်ဆခို သာ် ထငို ်် းလူမ ိ ်းမ ာ်းသည် ထိုင််းကိန််းဂဏန််းနင့် ြတ်၍ခရထွက် ကခသာခ ကာင့်
အခရ်းကကီ်းပါသည်။
21
บทท่ี 4 วันและเวลา
သငခ် န်် းစာ ၄ နနရေ့ က် ၊ အခ နျိ ် န ေါဟာရမ ာ်း
บทนจี้ ะเรยี นเก่ียวกับวันและเวลา วนั และเวลาเป็นคาศัพท์สาคญั ที่สามารถใช้เติมเต็มบทสนทนาให้
สมบูรณม์ ากยิ่งขึ้น
ဤသင်ခန််းစာတွင် နနေရ့ က် ၊ အခ နျိ ် န ေါဟာရမ ာ်းနလေ့လာရမည်။ နနေစ့ ဉ်သ်းစကာ်းမ ာ်းတွင် နနရေ့ က် ၊
အခ နျိ ် န ေါဟာရမ ာ်းသ်းစွဲမှု လျိအပ်လာပေါလျှင် ေါက မ ာ်းတွင် တျိက နသာနနေရ့ ကအ် ခ နျိ ်မ ာ်းကျိ ထညေ့်၍သ်းစွဲ
ရမည်။ သမျိေ့ ှသာ ေါက မ ာ်း၏တာ နက် ျိ ပျိမျိနက ပွနန် ျိင်ပေါသည်။
คาศัพท์ การออกเสยี ง ความหมาย
စကာ်းလ်း အသထွက်ခခင််း အဓျိပပာယ်
วัน န် နနေ့
เวลา
เดอื น န ်း လာ်း အခ နျိ ်
ปี န ေါ(ေ့န)် လ
วนั ที่
พุทธศกั ราช ပ်း နှစ်
ชวั่ โมง / นาฬกิ า
นาที န် ထ်း နနေစ့ ွဲ
วินาที
ตอนเช้า ဗ ဓ စက် က လာတ် သာသနာသကကရာဇ်
ตอนเท่ยี ง ခ ာ မ်း(န)် ၊ န ား လိ က ား နာရ
ตอนบ่าย
ตอนเย็น နာ်း ထ်း မျိနစ်
ตอนกลางคนื
เทย่ี งคนื ျိ နာ်း ထ်း စကကန်ေ့
နတာ(န)် ခ င် မနက်
နတာ(န)် ထယီ (င)် မွန််းတည်ေ့
နတာ(န)် ဘငုိ ် နနလေ့ ယ်
နတာ(န)် ယနိ ် ညနန
နတာ(န)် က န(် င)် ည
ထယာ(င)် ား(န)် ညသန််းနခေါင်
22
วนั ( န)် การออกเสียง ความหมาย
နနမေ့ ာ်း အသထွက်ခခင််း အဓျိပပာယ်
คาศัพท์ န် က န် တနလလာနနေ့
န် အ ခေါန််း အင်္လေါနနေ့
စကာ်းလ်း န် ဖျိေ(့ တ)် ဗ ဓဟ်းနနေ့
န် ဖ ရ ဟတ် စ န ာ် ကကသပနတ်းနနေ့
วนั จนั ทร์ န် စ(က)် န ာကကာနနေ့
วันอังคาร န် န ာက် စနနနနေ့
วันพธุ န် အာ်း ထစ် တနင်္နလ နနွ နေ့
วันพฤหสั บดี
วันศุกร์ การออกเสียง ความหมาย
วันเสาร์
วนั อาทิตย์ အသထွက်ခခင််း အဓျိပပာယ်
เดอื น (န ေါ(ေ့န်)) န ေါ(ေ့န)် မ က လ မို ် ဇန်န ေါရလ
န ေါ(ေ့န)် ကမုိ ် ဖ ား ဖန် နဖနဖာ် ေါရလ
လမ ာ်း န ေါ(ေ့န)် မီား န ား မုိ ် မတ်လ
န ေါ(ေ့န)် ခမ စ ယန် ဧပပလ
คาศัพท์ န ေါ(ေ့န)် ဖရုိ စ ဖ ား မို ် နမလ
န ေါ(ေ့န)် မိ ထို န ား ယန် ဇွန်လ
စကာ်းလ်း န ေါ(ေ့န)် က လ က ဒ ား မို ် ဇလျိင်လ
န ေါ(ေ့န)် စင် ဟ ာ့ မုိ ်
เดือนมกราคม န ေါ(ေ့န)် ကန် ယ ား ယန် င်္တ်လ
เดอื นกุมภาพนั ธ์ စက်တင် ာလ
เดือนมนี าคม
เดือนเมษายน
เดือนพฤษภาคม
เดอื นมิถุนายน
เดอื นกรกฎาคม
เดือนสงิ หาคม
เดอื นกันยายน
23
เดอื นตลุ าคม န ေါ(ေ့န)် တို လ ား မုိ ် နအာကတ် ျိ ာလ
เดือนพฤศจิกายน
เดอื นธันวาคม န ေါ(ေ့န)် ဖရုိ စ က ိ ဂ ား ယန် နျိ င် ာလ
န ေါ(ေ့န)် ထမ် ဝ ား မို ် ဇင် ာလ
ภาษาไทยมีคาท่ีใชใ้ นการบอกเวลา แบ่งเป็นคาบอกเวลาเป็นปัจจุบนั อดีต และอนาคต ดังน้ี
ထျိင််း ာသာစကာ်းသည် အခ နျိ ်နဖာခ် ပနသာစကာ်းလ်းမ ာ်းကျိ ရျိသှ ည်။ ပစစုပပန်၊ အတျိတန် ှင်ေ့ အနာင်္တ်
ခထွဲ ာ်းသည်။
คาศัพท์ การออกเสียง ความหมาย
စကာ်းလ်း အသထွက်ခခင််း အဓျိပပာယ်
วนั นี้ န် န်း နနေ့
เม่อื วานน้ี မ်း န််း န်း မနနကေ့
พรุง่ น้ี ဖရ(င)် နာီ း မနက်ခဖန်
มะรืนนี้ မ ရ်း(န)် နာီ း သန် က်ခေါ
เดอื นน้ี န ေါ(ေ့န)် နာီ း
เดือนหนา้ န ေါ(ေ့န)် န ား လ
เดือนที่แลว้ န ေါ(ေ့န)် ထာီ း လ(ဲွ ဝ)် နနာက်လ
ปีนี้ ပ်း န်း ပပ်းခတွဲေ့ ွဲေ့လ
ปีหน้า ပ်း နာ်း
ปีที่แล้ว ပ်း ထ်း လွဲ(ဝ်) နှစ်
နနာက်နှစ်
ပပ်းခတွဲေ့ ွဲေ့နစှ ်
การบอกเวลาในภาษาไทยมหี ลายแบบ ในที่นจ้ี ะกลา่ วถงึ ๒ แบบ คอื
ထျိင််း ာသာစကာ်းသည် အခ နျိ ်နဖာခ် ပနသာ ေါက အမ ုျိ ်းမ ုျိ်းရျိသှ ည်။ ဤသင်ခန််းစာတွင် ၂ မ ုျိ ်း
နဖာ်ခပမည်။
๑. การบอกเวลาแบบ ๒๔ ชวั่ โมง การอา่ นตวั เลขบอกเวลาสามารถทาได้โดยการ อา่ นชวั่ โมง ตามดว้ ย
นาที และวินาที
၁။ ၂၄ နာရ ပစ
24
စကာ်းနခပာရာတငွ ် “နာရ” ကျိ “นาฬกิ า” (နာ်း လျိ ကာ်း) နငှ ာ့် “မျိနစ”် ကျိ “นาท”ี (နာ်း ထ်း) ခ ၍ “စကကန”်ေ့
ကျိ “วนิ าที” ( ျိ နာ်း ထ်း) နခပာနငျိ ်သည်။
๑.๑ การอา่ นช่วั โมงท่ไี มม่ ีจานวนนาทแี ละวินาที
၁.၁။ န ရမီ ပေါ ွဲ မျိနစ်နငှ ်ေ့စကနက ်ေတ့ နွဲ ခပာခခင််း
เวลา การอ่าน การออกเสยี ง ความหมาย
အခ နျိ ် ဖတ်ခခင််း အသထွက်ခခင််း အဓျိပပာယ်
๐๙.๐๐ น. ๙ นาฬิกา နကာက်(ဝ်) န ား လိ က ား မနက် ၉ နာရ
๑๔.๐๐ น. ๑๔ นาฬกิ า
๒๓.๐๐ น. ๒๓ นาฬิกา စစ(် ်) စီ န ား လိ က ား နနလေ့ ယ် ၂ နာရ
ယ်း စစ်( ်) စမ်(မ်) န ား လိ က ား ည ၁၁ နာရ
๑.๒ การอ่านชั่วโมงที่มจี านวนนาที
၁.၂။ န ရီနငှ မာ့် ိနစတ် ွဲနခပာခခင််း
เวลา ๐๙.๒๐ น.
๐๙.๒๐ น.
အခ နျိ ် ๙ นาฬกิ า ๒๐ นาที
๙ นาฬกิ า ๒๐ นาที
การอา่ น เก้านาฬิกา ย่ีสิบนาที
ဖတ်ခခင််း နကာက်(ဝ)် န ား လိ က ား ယာီ း စစ(် ်) န ား ထာီ း
การออกเสียง မနက် ၉ နာရ ၂၀ မျိနစ်
မနက် ၉ နာရ ၂၀ မျိနစ်
အသထွက်ခခင််း
๑๔.๑๖ น.
ความหมาย ๑๔.๑๖ น.
๑๔ นาฬกิ า ๑๖ นาที
အဓျိပပာယ် ๑๔ นาฬิกา ๑๖ นาที
สบิ ส่ีนาฬิกา สิบหกนาที
เวลา
အခ နျိ ်
การอา่ น
ဖတ်ခခင််း
การออกเสยี ง
25
အသထွက်ခခင််း စစ်( ်) စီ န ား လိ က ား စစ(် ်) ဟတုိ (် က)် န ား ထာီ း
နနလေ့ ယ် ၂ နာရ ၁၆ မျိနစ်
ความหมาย နနေလ့ ယ် ၂ နာရ ၁၆ မျိနစ်
အဓျိပပာယ်
เวลา ๒๓.๕๐ น.
๒๓.๕๐ น.
အခ နျိ ် ๒๓ นาฬกิ า ๕๐ นาที
๒๓ นาฬกิ า ๕๐ นาที
การอา่ น ยี่สบิ สามนาฬิกา ห้าสบิ นาที
ဖတ်ခခင််း ယ်း စစ်( ်) စမ(် မ်) န ား လိ က ား ဟ ာ့ စစ(် ်) န ား ထာီ း
การออกเสยี ง ည ၁၁ နာရ ၅၀ မျိနစ်
အသထွက်ခခင််း ည ၁၁ နာရ ၅၀ မျိနစ်
ความหมาย
အဓျိပပာယ်
๑.๓ การอ่านชัว่ โมงทม่ี ีจานวนนาทีและวนิ าที
၁.၃။ န ရီ၊ မနိ စ် နငှ စ်ာ့ ကက နတ် ာ့ နွဲ ခပာခခင််း
เวลา ๐๙.๒๐.๒๓ น.
๐๙.๒๐.๒๓ น.
အခ နျိ ်
๙ นาฬกิ า ๒๐ นาที ๒๓ วินาที
การอ่าน ๙ นาฬกิ า ๒๐ นาที ๒๓ วนิ าที
ဖတ်ခခင််း เก้านาฬิกา ย่ีสิบนาที ย่ีสบิ สามวินาที
การออกเสยี ง
အသထွက်ခခင််း နကာက်(ဝ)် န ား လိ က ား ယာီ း စစ(် ်) န ား ထာီ း ယာီ း စစ(် ်) စမ(် မ်) ဝိ န ား ထာီ း
ความหมาย မနက် ၉ နာရ ၂၀ မျိနစ် ၂၃ စကနက ်ေ့
အဓျိပပာယ် မနက် ၉ နာရ ၂၀ မျိနစ် ၂၃ စကနက ်ေ့
เวลา ๑๔.๑๖.๔๕ น.
အခ နျိ ် ๑๔.๑๖.๔๕ น.
การอา่ น ๑๔ นาฬกิ า ๑๖ นาที ๔๕ วนิ าที
ဖတ်ခခင််း ๑๔ นาฬิกา ๑๖ นาที ๔๕ วนิ าที
การออกเสยี ง สบิ สี่นาฬกิ า สิบหกนาที สี่สบิ หา้ วนิ าที
အသထွက်ခခင််း စစ(် ်) စီ န ား လိ က ား စစ(် ်) ဟတုိ (် က)် န ား ထာီ း စီ စစ(် ်) ဟ ာ့ ဝိ န ား ထာီ း
26
ความหมาย နနလေ့ ယ် ၂ နာရ ၁၆ မျိနစ် ၄၅ စကကန်ေ့
နနလေ့ ယ် ၂ နာရ ၁၆ မျိနစ် ၄၅ စကကန်ေ့
အဓျိပပာယ်
เวลา ๒๓.๕๐.๓๓ น.
๒๓.๕๐.๓๓ น.
အခ နျိ ်
๒๓ นาฬกิ า ๕๐ นาที ๓๓ วนิ าที
การอา่ น ๒๓ นาฬิกา ๕๐ นาที ๓๓ วนิ าที
ဖတ်ခခင််း ยีส่ ิบสามนาฬิกา หา้ สบิ นาที สามสบิ สามวินาที
การออกเสยี ง
အသထွက်ခခင််း ယ်း စစ(် ်) စမ်(မ်) န ား လိ က ား ဟ ့ာ စစ(် ်) န ား ထာီ း စမ်(မ်) စစ(် ်) စမ်(မ)် ျိ နာ်း ထ်း
ความหมาย ည ၁၁ နာရ ၅၀ မျိနစ် ၃၃ စကကန်ေ့
အဓျိပပာယ် ည ၁၁ နာရ ၅၀ မျိနစ် ၃၃ စကကန်ေ့
๒. การบอกเวลาแบบ ๑๒ ช่ัวโมง จะมีคากากับเวลาระบุไว้ ได้แก่คาว่า เช้า เที่ยง บ่าย เย็น ทุ่ม ตี
เท่ียงคนื เป็นการอ่านเวลาแบบโบราณ วิธกี ารอา่ นตัวเลขบอกเวลาสามารถทาไดโ้ ดยการ อ่านชวั่ โมง ตามด้วย
นาที และวนิ าที
၂။ ၁၂ နာရ ပစ
စကာ်းနခပာရာတွင် သတ်မှတ်ထာ်းနသာစကာ်းလ်းနှငေ့်ခ တျိ ် က်နခပာရမည်။ เช้า (နခ ာင်)၊ เท่ียง
(ထယာ(င်)) ၊ บ่าย ( ျိင်)၊ เย็น (ယျိန်)၊ ทุ่ม (ထွမ်)၊ ตี (တ်း) နှင့်ာ เที่ยงคืน (ထယာ(င်) ား(န်)) ဖစ်သည်။
ဤ ံုိစံသညခ် ှားခဟ ငာ် းစ ဖတ် ငာ် းပစခဖစ်သည်။ စကာ်းနခပာရာတွင် “နာရ” ကျိ “นาฬิกา” (နာ်း လျိ ကာ်း) နငှ ်ာ့
“မျိနစ”် ကျိ “นาท”ี (နာ်း ထ်း) ခ ၍ “စကကန”်ေ့ ကျိ “วนิ าที” ( ျိ နာ်း ထ်း) ခ နငို သ် ည။်
เวลา การอา่ น การออกเสียง ความหมาย
အခ နျိ ် ဖတ်ခခင််း အသထွက်ခခင််း အဓျိပပာယ်
๐๑.๐๐ น. ตี ๑ တ်း န်း(င)် ည ၁ နာရ
๐๒.๐๐ น. ตี ๒ တ်း နစာင်(င)် ည ၂ နာရ
๐๓.๐๐ น. ตี ๓ တ်း စမ်(မ)် မနက် ၃ နာရ
๐๔.๐๐ น. ตี ๔ တ်း စ မနက် ၄ နာရ
๐๕.๐๐ น. ตี ๕ တ်း ဟာေ့ မနက် ၅ နာရ
27
๐๖.๐๐ น. ๖ โมงเช้า ဟတ်(က)် မား(န)် ခ င် မနက် ၆ နာရ
๐๗.๐๐ น. ๗ โมงเช้า
๐๘.๐๐ น. ๘ โมงเช้า နက ျေ့(တ)် မား(န)် ခ င် မနက် ၇ နာရ
๐๙.๐๐ น. ๙ โมงเชา้
๑๐.๐๐ น. ๑๐ โมงเช้า ပက(် တ)် မား(န)် ခ င် မနက် ၈ နာရ
๑๑.๐๐ น. ๑๑ โมงเชา้
๑๒.๐๐ น. เทย่ี ง နကာက်(ဝ်) မား(န)် ခ င် မနက် ၉ နာရ
๑๓.๐๐ น. บา่ ยโมง
๑๔.๐๐ น. บา่ ย ๒ စစ(် ်) မား(န)် ခ င် မနက် ၁၀ နာရ
๑๕.๐๐ น. บ่าย ๓
๑๖.๐๐ น. ๔ โมงเย็น စစ(် ်) ခ (ာ့ တ)် မား(န)် ခ င် မနက် ၁၁ နာရ
๑๗.๐๐ น. ๕ โมงเย็น
๑๘.๐๐ น. ๖ โมงเย็น ထယာ(င)် မွန််းတည်ေ့
๑๙.๐๐ น. ๑ ทมุ่
๒๐.๐๐ น. ๒ ทุ่ม ျိင် မ်း(န)် နနေလ့ ယ် ၁ နာရ
๒๑.๐๐ น. ๓ ทุ่ม
๒๒.๐๐ น. ๔ ทมุ่ ျိင် နစာင်(င)် နနလေ့ ယ် ၂ နာရ
๒๓.๐๐ น. ๕ ทุ่ม
๒๔.๐๐ น. เท่ยี งคืน ျိင် စမ်(မ်) နနလေ့ ယ် ၃ နာရ
စ မ်း(န)် ယနိ ် ညနန ၄ နာရ
ဟာေ့ မ်း(န)် ယနိ ် ညနန ၅ နာရ
ဟတ်(က)် မား(န)် ယနိ ် ညနန ၆ နာရ
န်း(င)် ထမ် ည ၇ နာရ
နစာင်(င)် ထမ် ည ၈ နာရ
စမ်(မ်) ထမ် ည ၉ နာရ
စ ထွမ် ည ၁၀ နာရ
ဟာေ့ ထွမ် ည ၁၁ နာရ
ထယာ(င)် ား(န)် ညသန််းနခေါင်
ปัจจุบนั ประเทศไทยใช้พุทธศักราชในการอ่านปี หรือเรียกนั้นๆว่า พ.ศ. เมื่อเปรียบเทียบคริสต์ศกั ราช
จะตอ้ งใช้ 543 ลบ และการเรียงวนั เดอื น ปี จะเรียงจากจุดท่เี ลก็ ไปหาจดุ ทใี่ หญ่ คอื วนั วนั ที่ เดือน ปี
ထျိင််းနျိင်င တွင် ခနှစ်သကကရာဇ်ကျိ သ ်းစွဲရာတွင် “พุทธศักราช” (ဗ ဓ စက် က လာတ်) (သို)ာ့
“သာသနာသကကရာဇ်” ကျိ သ်းစွဲကကသည် ကျိ “พ.ศ.” (နဖာ နစာ်) ဟနခေါ်ပေါသည်။ ခရစသ် ကကရာဇ်နှင်ေ့နျိှုင််းယှဉလ် ျှင်
၅၄၃ နှင်ေ့နတ်ရမည်။ စကာ်းနခပာရာတွင် အနသ်း ်းမှ အကက်း ်းသျိေ့ စသည်။ “နနေ့” ကျိ “วัน” ( န်)၊ “ရက်” ကျိ
“วันที่” (နာ်း ထ်း)၊ “လ” ကျိ “เดอื น” (န ေါ(ေ့န)် ) ခ ၍ “နှစ”် ကျိ “ป”ี (ပ်း) ခ နငို သ် ည။်
28
ဥပမာ
เช่น
เวลา วนั ที่ ๑๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๔
အခ နျိ ် วันท่ี ๑๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๔
การอ่าน วนั ท่ีสบิ สอง ตลุ าคม พุทธศกั ราชสองพนั ห้าร้อยหกสบิ ส่ี
ဖတ်ခခင််း မ် ထ်း စစ်( ်) ခစ င(် င)် တုိ လ ား မို ်
ဗ ဓ စက် က လာတ် နစာင်(င)် ဖန် ဟ ့ာ ရိွှိုင(် င)် ဟတို (် က)် စစ(် ်) စီ
ความหมาย
၂၀၂၁ ခနစ် နအာကတ် ျိ ာလ ၁၂ ရက်
အဓျိပပာယ် ၂၀၂၁ ခနစ် နအာကတ် ျိ ာလ ၁၂ ရက်
กรณที ่ีต้องการกล่าวถึง “วัน” ด้วยจะต้องนาคาว่า “วนั ” วางไวข้ ้างหน้าคาวา่ “วันท่ี” และตดั คาว่า
“วัน” ในสว่ นของคาวา่ “วันท่ี” ออก
နနေန့ ှင်ေ့ နခပာခ င်လျှင် “วนั ” ( န)် ကုိ ရကအ် နရျှေ့မှာ ထာ်းနငျိ ်သည်။ သနျိေ့ သာ် ေါက တငွ ် “วนั ที่” ( န်
ထ်း) စကာ်းလ်းတွင် “วนั ” ( န်) ကုိ ဖုတ်ရမည်။
ဥပမာ วนั อังคาร ที่ ๑๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๔
วนั อังคาร ท่ี ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
เช่น วันองั คาร ทส่ี บิ สอง ตลุ าคม พุทธศักราชสองพนั ห้าร้อยหกสบิ สี่
เวลา မ် အ ခေါန််း ထ်း စစ်( ်) ခစ င(် င)် တို လ ား မို ်
အခ နျိ ် ဗ ဓ စက် က လာတ် နစာင်(င)် ဖန် ဟ ာ့ ရိွှိုင(် င)် ဟတို (် က)် စစ(် ်) စီ
การอา่ น အင်္လေါနနေ့ ၊၂၀၂၁ ခနစ် နအာကတ် ျိ ာလ ၁၂ ရက်
အင်္လေါနနေ့ ၊၂၀၂၁ ခနစ် နအာကတ် ျိ ာလ ၁၂ ရက်
ဖတ်ခခင််း
ความหมาย
အဓျိပပာယ်
29
แบบฝึกหัด
နလေ့က ငခ် န််း
နမ်းခွန်် း ။ ๑๑.๐๐ น. မည်သျဖိေ့ တ်သနည်် း။
အနခဖ ။ ๑๑ นาฬิกา (စစ(် ်) ခ (့ာ တ)် န ား လိ က ား) ၊
๑๑ โมงเชา้ (စစ်( ်) ခ (ာ့ တ)် မား(န)် ခ င)်
နမ်းခွန်် း ။ ๑๘.๐๐ น. မည်သျဖိေ့ တ်သနည်် း။
အနခဖ ။ ๑๘ นาฬกิ า (စစ(် ်) က(် တ)် န ား လိ က ား) ၊
๖ โมงเย็น (ဟတ်(က)် မား(န)် ယနိ )်
နမ်းခွန်် း ။ ๒๐.๐๕ น. မည်သျဖိေ့ တ်သနည်် း။
အနခဖ ။ ๒๐ นาฬกิ า ๕ นาที (ယ်း စစ(် ်) န ား လိ က ား ဟ ့ာ န ား ထာီ း) ၊
๒ ทุม่ ๕ นาที (နစာင်(င)် ထမ် ဟ ့ာ န ား ထာီ း)
နမ်းခွန်် း ။ ๐๓.๒๕ น. မည်သျဖိေ့ တ်သနည်် း။
အနခဖ ။ ๓ นาฬกิ า ๒๕ นาที (ယ်း စစ(် ်) နာ်း လျိ ကာ်း ယ်း စစ်( ်) ဟ ့ာ န ား ထာီ း) ၊
ตี ๓ ๒๕ นาที (တ်း စမ်(မ)် ယာီ း စစ(် ်) ဟ ့ာ န ား ထာီ း)
နမ်းခွန်် း ။ วันจนั ทร์ ท่ี ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ မည်သဖျိေ့ တ်သနည််း။
အနခဖ ။
မ် က န် ထ်း န်း(င)် မာီ း န ား ခမ်
ဗ ဓ စက် က လာတ် နစာင်(င)် ဖန် ဟ ့ာ ရိွှိုင(် င)် ဟတို (် က)် စစ(် ်) စီ
30
บทที่ 5 การถามวันและเวลา
သငခ် န်် းစာ ၅ နနရေ့ ကန် ငှ အ့် ခ နျိ ် နြ်းမြနမ် ခင်် း
การพูดคุยหรือสอบถามเก่ียวกับวัน เดือน ปี และเวลาน้ัน สามารถถามได้ในกรณีที่ต้องการทราบ
วา่ วันนี้คือ วันที่เท่าไหร่ เป็นวันอะไร หรือใช้ในกรณีของการพบปะนัดเจอก็สามารถทาได้ สามารถใช้ประโยค
เหล่านี้ในการฝึกพูดประโยคพูดภาษาไทยที่เกี่ยวกับ วันและเวลา หรือนาประโยคเหล่าน้ีไปประยุกต์ใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั ได้
နနေ့ရက်၊ လ၊ နှစ်နှင့် အခ နျိ ်ြ ာ်း နမ ာမခင််း (သျိေ့ြဟတ်) နြ်းမြန်မခင််း မ ြုလ ်ခ င်လျှင် နနေ့ရက် ၊ အခ နျိ ် ဝ
နါါ ဟာရြ ာ်းကျိသ်းစွဲရြည်။ သျြိေ့ ဟတ် အစည််းအနဝ်းမ ြုလ ်မခင််း၊ နတွေ့ဆမခင််း နှင့်ခ နျိ ််းဆျိမခင််းြ ာ်းတင် န
နါါ့်ရက် ၊ အခ နျိ ်နဝ ဟာရြ ာ်းကျိ နလ့်က င့်ရန် (သျိေ့ြဟတ်)ပ ြောဆိရု နအ် တွက် ဤစကာ်းလ်းြ ာ်းကျိ သ်းစွဲနျိင်
သည်။
บทสนทนา
ဒငျိ ယ် ာနလာခ့်
A: วันนี้วนั อะไร
/ဝန် န်း ဝြ် အ လျိင်/
ဒနနဘေ့ ာနနေလ့ ွဲ။
B: วันนีว้ ันเสาร์
/ဝန် ါ် န်း ဝြ် နဆာက်/
ဒနနေစ့ နနနနေ့ ။
A: วันนี้เปน็ วันจันทรใ์ ช่ไหม
/ဝန် န်း င် ဝြ် က န် ခ ြျိုင် ြျိင််း/
ဒနနတေ့ နလလလာနနေဟ့ တ်လာ်း။
B: ไมใ่ ช่ วนั นี้เป็นวันองั คาร
/ြျိက် ခ ြျိုင် ဝန် န်း င် ဝန် အ ခ န််း/
ြဟတ်ဘ်း။ ဒနနအေ့ င်္လ နနေ့ ။
A: วันนวี้ นั ทเ่ี ท่าไหร่
/ဝန် န်း ဝြ် ထ်း နထာက် လျိင်/
ဒနနဘေ့ ယ်နှစရ် ကန် နေလ့ ွဲ။
31
B: ๑๕ มกราคม
/စစ(် )် ဟာ့် ြ က လာ ခြ/်
ဇန်နဝ ရလ၊ ၁၅ ရကန် နေ့ ။
A: เธอเกิดวันอะไร
/နထာ နကာ့်(တ)် ဝန် ါ် အ လျိင်/
ြင််းရွဲနြ်းနနဘေ့ ာနနလေ့ ွဲ။
B: วันอาทติ ย์
/ဝန် အာ်း ထစ်/
တနင်္နလ နနနေ့ ။
A: พ่ีชายจะกลับมาเมือ่ ไหร่
/ဖ်း ခ ြျိုင််း က ကလ ် ြာ်း ြ်း လျိင်/
အစ်ကဘျိ ယန် တာ့်မ န်လာြလွဲ။
B: เดอื นหนา้
/နဒ (့်န)် န ်း/
နန က်လ ။
A: พรงุ่ นี้วันอะไร
/ဖရ(င)် န်း ဝန် အ လျိင်/
ြနက်မဖန်ဘာနနလေ့ ွဲ။
B: พรุง่ น้วี ันพุธ
/ဖရ(င)် န်း ဝန် ဖ(ျိေ့ တ)် /
ြနက်မဖန်ဗဒဓဟ်းနနေ့ ။
A: โรงเรยี นหยุดวันไหน
/လ ရယန် ရတွ ် ဝန် နကျိ /်
နက ာင််းဘာနနေ့ ျိတ်လွဲ။
B: โรงเรียนหยุดวันเสารแ์ ละวนั อาทิตย์
/လ ရယန် ရတွ ် ဝြ် နဆာက် လွဲ့် ဝန် အာ်း ထစ်/
စနနနနနေ့ ွတဲေ့ နင်္နလ နနနနေ့ က ာင််း ျိတတ် ယ်။
32
A: เธอนดั กับเขาไวต้ อนไหน
/နထာ နတ် က ် နခ က် ဝငျိ ််း နတာ(န)် နျိက/်
ြင််းကသနဘွဲေ့ ယ်အခ နျိ ်ခ နျိ ််းထာ်းလွဲ။
B: ๙ โมงเชา้
/နကာက(် ဝ)် ြ်း(န)် နခ ာင/်
ြနက် ၉ န ရ ။
A: ตอนนี้ก่โี มงแล้ว
/နတာ(န်) န်း က ြ်း(န)် လ(ွဲ ဝ)် /
အခဘယ်နှစန် ရရျိပှ ်းလွဲ။
B: บา่ ย ๓
/ဘျိင် စြ်(ြ်)/
နနလေ့ ယ် ၃ န ရ ။
A: รถจะออกกี่โมง
/လျ(ိေ့ တ)် က နအာ့်(က်) က ြ်း(န်)/
ကာ်းဘယ်အခ နျိ ်ထက်ြလွဲ။
B: ๕ โมงเยน็
/ဟာ့် ြ်း(န)် ယျိန်/
ညနန ၅ န ရ ။
A: พ่อกลบั มาถึงตอนก่โี มง
/နဖာ် ကလ ် ြာ်း ထ်း(င်) ဘာန််း နတာ(န်) က ြ်း(န)် /
အနဖကဘယ်အခ နျိ န် ရာကလ် ာလွဲ။
B: เที่ยง
/ထယာ(င်)/
ြန််းတည့် ။
33
บทที่ 6 คำศพั ท์ในชวี ติ ประจำวัน
သငခ် န်် းစာ ၆ နနစေ့ ဉဘ် ဝတငွ သ် ်းစနွဲ သာနဝေါဟာရမ ာ်း
ของใช้ (နခေါင် ခ ျိုင်် း) คำอ่ำน ควำมหมำย
ကရယာမ ာ်း အသထွက်ခခင််း အဓပ္ပာယ်
คำศัพท์ ကရ နပ္ေါင် အတ်
နကာင် ထင် လွပ္် ကင်မရာ
စကာ်းလ်း ကန် က ွဲ နသာော့
နကာက် အ်း ကလာ်းထင်
กระเปำ๋ ခလူ(င်) စာက် ဖာ်း အဝတန် လ ာ်စက်
กลอ้ งถ่ำยรูป ခလူ(င်) ပ္လပ္် အာ်း ဂေါတ် နလနအ်းစက်
กญุ แจ ဆ ဖာ ဆဖာ
เกำ้ อ้ี သေ့ စာ်းပ္ွဲ
เครื่องซักผ้ำ သူ်း ယန် နရခွဲနသတာတ
เครอ่ื งปรับอำกำศ ထ်း ရ ထတ် ရပ္်ခမင်သကကာ်း
โซฟำ ထ်း ရ စပ္် မူ်း ထူ လက်ကင်ဖန််း
โต๊ะ ဒင် နစာ် ခွဲတ
ตู้เยน็ ဖတ် လ(ေ့ မ်) ပ္န်ကာ
โทรทัศน์ ပ္ေါက် ကာ်း နဘာပ္င်
โทรศพั ท์มอื ถอื ဟူ ဖ(င်) န ်းကကပ္်
ดินสอ
พดั ลม
ปำกกำ
หูฟัง
ครอบครวั (မသာ်းစ) คำอ่ำน ควำมหมำย
ခပွ ္် ခာွ အသထွက်ခခင််း အဓပ္ပာယ်
คำศัพท์ 34
စကာ်းလ်း
ฉนั ခ န် ကျွန်နတာ် / ကျွန်မ / ငေါ
พอ่ နဖာ် အနဖ
แม่ မယ် အနမ
พี่ชำย ဖ ခ ျိုင််း အစ်က
พส่ี ำว ဖ နဆာင် အစ်မ
น้องชำย နန (င)် ခ ျိုင််း ညနလ်း / နမာငန် လ်း
น้องสำว နန (င်) နဆာင် ညမ
ปู่ ပ္ူ အဘ်း (အနဖ၏အနဖ)
ตำ သာ်း အဘ်း (အနမ၏အနဖ)
ยำ่ ယာ်း အဘာွ ်း (အနဖ၏အနမ)
ยำย ယင််း အဘာွ ်း (အနမ၏အနမ)
ลงุ လူ်း(င်) ဦ်းကက်း
ป้ำ ပ္ေါ်း နဒေါ်ကက်း
อำ အာ်း ဦ်းနလ်း / နဒေါ်နလ်း
(အနဖ၏ညနလ်းနှင်ော့ညမ)
นำ้ န ်း ဦ်းနလ်း / နဒေါ်နလ်း
(အနမ၏ညနလ်းနှင်ော့ညမ)
เครื่องดมื่ (ခလူ(င်) ဒူ(မ)် ) คำอ่ำน
ควำมหมำย
နသာကစ် ရာမ ာ်း အသထွက်ခခင််း
အဓပ္ပာယ်
คำศัพท์ ကာ်း ဖွဲ
ခေ(့ က်) နကာ်ဖ
စကာ်းလ်း ခ ာ်း နန (န)် ကကာကလာ
ဆ တာ လက်ဖက်ရည်
กำแฟ န(ေ့ မ်) နဆာဒ် ေါ
โคก้ န မ် ခွ(ဲ င်) နေ့
ชำรอ้ น နရခွဲ
โซดำ 35
นม
นำ้ แข็ง
น้ำชำ န မ် ခ ာ်း နရနနွ်းကကမ််း
น้ำ န မ် နရ
นำ้ สม้ န မ် ဆ(ေ့ မ်) လနမ္ာ်ရည်
นำ้ ผลไม้ န မ် ဖ(ေ့ န်) လ မင််း သစ်သ်းနဖ ာ်ရည်
นำ้ เยน็ န မ် ယမ််း နရနအ်း
นำ้ อดั ลม န မ် အတ် လ(ေ့ မ်) အခ ျိုရည်
ไวน์ ဝင် ဝင်
เบียร์ ဘယာ ဘယာ
เบยี ร์สด ဘယာ ဆ(ေ့ တ)် စည်ဘယာ
เหลำ้ နလာက် အရက်
ผกั (ဖက)် คำอ่ำน ควำมหมำย
ဟင်် းသ်းဟင်် းရကွ မ် ာ်း အသထွက်ခခင််း အဓပ္ပာယ်
คำศัพท์ ကရ က ပ္် ခ ဉန် ပ္ေါင်
ကရ ထယာ(မ်) ရ်းပ္တ
စကာ်းလ်း က နဖာက် ကလာ်းပ္င်စမ်် း
က နလာော့ ပ္ နဂေါ်ဖထပ္်
กระเจ๊ยี บ ခ မင််း ဆနွင််း
กระเทยี ม ခင် ခ င််း
กะเพรำ ခ န ်း ကက်လန်
กะหลำ่ ปลี ခ အမ် ဆူ်းပ္ပ္်
ขมิ้น တ ခင် စပ္ေါ်းလင်
ขิง တ(ွဲ င)် ကွာ်း သခွာ်းသ်း
คะน้ำ န မ် နသာက် ဘူ်းသ်း
ชะอม ဖ(က်) ငရတ်သ်း
ตะไคร้ ဖက် ဖရသ်း
แตงกวำ
น้ำเตำ้ 36
พรกิ
ฟัก
มะเขือเทศ မ ခ်ူ း နထရော့် ခရမ််းခ ဉသ် ်း
มะนำว မ နွ (ဝ)် သပ္ရာသ်း
ผลไม้ (ဖ(ေ့ န်) လ မင်် း) คำอำ่ น ควำมหมำย
အသ်းမ ာ်း အသထွက်ခခင််း အဓပ္ပာယ်
คำศัพท์ ငှက်နပ္ ာသ်း
ပ္နသနွဲ ်း
စကာ်းလ်း နှင််းသ်း
ဒူ်းရင််းသ်း
กลว้ ย ကလွာ်း(ယ)် မန်က ည််းသ်း
ขนนุ ခ နန် မရန်် းသ်း
ชมพู่ ခ ျိုမ် ဖူ်း အန််းသ်း
ทุเรยี น ထ ရယာ(န်) သရကသ် ်း
มะขำม မ ခေါမ် သနဘဘာသ်း
มะปรำง မ ပ္ေါင် မင််းကတွ ်သ်း
มะพรำ้ ว မ နဖာင် ကကက်နမာက်သ်း
มะม่วง မ မူဝေါ(င်) န နတ်သ်း
มะละกอ မ လ နကာ စပ္ စ်သ်း
มงั คดุ မန် ခတ် ပ္န််းသ်း
เงำะ နငေါ ော့ လနမ္ာ်သ်း
สปั ปะรด ဆပ္် ပ္ န(ေ့ တ)်
องุน่ အ ငန် ควำมหมำย
แอปเป้ลิ အပ္် ပ္ူ်း(န)်
สม้ နစာော့(မ်) အဓပ္ပာယ်
ยำนพำหนะ (ယာဉ် ဖာ်း ဟ န)
ယာဉမ် ာ်း
คำศัพท์ คำอำ่ น
စကာ်းလ်း အသထွက်ခခင််း
37
เครอ่ื งบนิ ခလူ(င်)ဘင် နလယာဉ်ပ္
จักรยำน က က် က ယာဉ် စက်ဘ
จักรยำนยนต์ က က် က ယာဉ် ယ(ေ့ န)် ဆင်ကယ်
มอเตอร์ไซค์ နမာ် နတာ် ဆင် နမာန် တာ်ဆငက် ယ်
รถยนต์ လ(ေ့ တ)် ယ(ေ့ န)် ကာ်း
รถไฟ လ(ေ့ တ)် ဖင် ရထာ်း
รถไฟฟำ้ လ(ေ့ တ)် ဖင် ဖာ်း မ်းပ္ ရထာ်း
รถไฟฟ้ำใต้ดนิ လ(ေ့ တ)် ဖင် ဖာ်း တက် ဒင် နခမနအာက်မ်းရထာ်း
รถรับจ้ำง လ(ေ့ တ)် လပ္် က ာင် အငှာ်းကာ်း
รถประจำทำง လ(ေ့ တ)် ပ္ရ က ာမ် ထာန် လင််းကာ်း
รถพ่วง လ(ေ့ တ)် ဖွာ လကက် ာ်း
เรือ ရူ်း နလှ
เรือข้ำมฝำก ရူ်း ခေါမ် ဖာက် ကူ်းတေ့
แทก็ ซ่ี တကကစ တကကစ
เฮลคิ อปเตอร์ နဟ်း လ နခေါ ော့တာ ရဟတယ် ာဉ်
สถำนท่ี (စ ထာန် ထ်း) คำอำ่ น ควำมหมำย
နနရာမ ာ်း အသထွက်ခခင််း အဓပ္ပာယ်
คำศัพท์ တ လာတ် န ်း
လ လမ် ဟတယ်
စကာ်းလ်း လ ဖ ယာ်း ဘာန် နဆ်းရ
လာန် အာ်း ဟာန် စာ်းနသာက်ဆင်
ตลำด လာန် ကာ်း ဖွဲ နကာ်ဖဆင်
โรงแรม လာန် ယာ်း နဆ်းဆင်
โรงพยำบำล ဝတ် နက ာင််း
รำ้ นอำหำร စ ထာ န ခေ(့ န်) စန် ကာ်းဂတ်
รำ้ นกำแฟ
รำ้ นยำ 38
วดั
สถำนขี นส่ง
สนำมบิน စ န မ် ဘင် နလဆပ္်
สถำนีตำรวจ စ ထာ န တာမ် န(ေ့ တ)် ရစွဲ ခန််း
สถำนทูต စ ထာန် ထ သရ်း
หำ้ งสรรพสินค้ำ ဟာင် စပ္် ဖ စင် ခေါ်း ကန်တက်
ห้องนำ้ နဟာင် န မ် အမ်သာ
ทะเล ထ နလ်း ပ္င်လယ်
ภเู ขำ ဖူ်း နခေါင် နတာင်
สัตว์ (စတ)် คำอำ่ น ควำมหมำย
တရစာဆ နမ် ာ်း အသထွက်ခခင််း အဓပ္ပာယ်
คำศัพท์ က ဝေါန် သမင်
ကန်ေ့ ပ္ဇွန်
စကာ်းလ်း ကွေဲာ့ သ်း
ခဝင််း ကျွဲ
กวำง ငူ်း န မွ
กุง้ နကကာ ရ နခ်း မနက ာင််း
แกะ ခ ာန် ဆင်
ควำย ပ္ူ်း ကဏန််း
งู ဖူ(င်) ပ္ ာ်း
จระเข้ မ(ေ့ တ)် ပ္ရွက်ဆတ်
ชำ้ ง မာ်း ခမင််း
ปู မ(ွဲ ဝ)် နကကာင်
ผึ้ง လင် နမ ာက်
มด ဝေါ နွ ်း
มำ้ စ နတ်(က်) နခွ်း
แมว
ลิง 39
ววั
สุนขั
อำหำร (အာ်း ဟာန်် း) คำอ่ำน ควำมหมำย
အစာ်းအစာမ ာ်း အသထွက်ခခင််း အဓပ္ပာယ်
คำศัพท์ နကွေ့ တယ်း နခေါက်ဆွဲ
ကင် ယာင် ကကက်သာ်းကင်
စကာ်းလ်း ကွ(ဲ င်) ဟင််း
ကွ(ဲ င်) က ျူ(တ)် ဟင််းခ ျို
ก๋วยเตย๋ี ว နခေါင် ဆ(ွဲ ယ်) ထမင််း
ไกย่ ่ำง နခေါင် ဖတ် ထမင််းနကကာ်
แกง ခ န(ေ့ မ်) မန်ေ့
แกงจืด ခ န(ေ့ မ်) မနဟ်ေ့ င််းခေါ်း
ข้ำวสวย ခင် က ဝေါ ကကက်ဥနခေါကန် ကကာ်
ข้ำวผดั ခင် ဒွေါ(ဝ)် ကကက်ဥနကကာ်
ขนม န မ် ဖက် က ပ္ ငေါ်းပ္နထာင််း
ขนมจีน ပ္ေါ နထာော့(တ)် ငေါ်းနကကာ်
ไข่เจยี ว ယာမ် အသပ္်
ไข่ดำว စ(ေ့ မ်) တာမ် သနဘဘာသ်းနထာင်
น้ำพรกิ กะปิ လ(က်) ခ င််း အသာ်းလ်း
ปลำทอด
ยำ คำอ่ำน ควำมหมำย
สม้ ตำ
ลกู ช้ิน အသထွက်ခခင််း အဓပ္ပာယ်
คำกริยำ (က ရ ယာ်း) ကင် စာ်း
ကကယာမ ာ်း 40
คำศัพท์
စကာ်းလ်း
กนิ
ดม่ื ဒူ်း(မ်) နသာက်
ซอ้ื စူ်း ဝယ်
ขำย ခင် နရာင််း
มำ မာ်း လာ
ไป ပ္င် သွာ်း
เทีย่ ว ထဝေါ(ဝ)် လည်
เรยี ก လယာ(က)် နခေါ်
เอำ နအာင် ယူ
น่ัง နန် ထင်
ชอบ ခ ျိုွေ့(ပ္်) ကကျိုက်
พูด ဖ(တ)် နခပ္ာ
ฟงั ဖာင် န ်းနထာင်
อ่ำน အာန် ဖတ်
เขยี น ခယာ(န်) နရ်း
41
บทเรยี นที่ 7 การถามราคา
သငခ် န်် းစာ ၇။ စစ ်းနနှု ်် းစ ်းခခင်် း
การซ้ือของเป็นเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจาวันของทุกคน แล้วราคาของสินค้ายังเป็นปัจจัยสาคัญที่ช่วย
ในการตัดสินใจของผู้ซื้อสินค้าอีกดว้ ย ฉะนน้ั ประโยคสามัญท่จี าเป็นสาหรับการซื้อของคือ การถามราคาและ
การตอ่ รองราคา ซงึ่ จะนาเสนอดงั ตอ่ ไปนี้
စစ ်း၀ယ်ခခင််းသည် လူတိုင််း၏စနေ့စဉ်ဘ၀နှင့် န်းစပ်၍ ကိုန်ပစစည််း၏စစ ်းနှုန််းအစပေါ်တွင်
စစ ်း၀ယ်သူဆို်းခြတ်ရ ှာ ခြစ်၍ အစရ်းကက်းစသာအခ က်တစ်ခိုလည််း ခြစ်ပါသည်။ ထိုေ့စ ကာင့်
စရာင််းဝယ်ခခင််းတွင် လိုအပ်စသာဝါက ာ်း ှာ စစ ်းနှုန််းစ ်းခခင််းနှင့်စ ်းဆစ်ခခင််းတိုေ့ ခြစ်ပါသည်။
စအာက်ပါအတငို ််း တင်ခပပါ ည်။
“ราคาเท่าไหร่” เป็นประโยคท่ีใช้ในการถามราคา โดยคาว่า “ราคา” มีความหมายเท่ากับคาว่า
“စစ ်းနှုန််း (စစ ်း)” ในภาษาเมียนมา สว่ นคาว่า “เทา่ ไหร่” มคี วามหมายเท่ากับคาว่า “ဘယ်စလာက်လဲ”
“ရာ်းခါစထာက်ရိုင်” ဆိုသည် ှာ စစ ်းနှုန််းကို စ ်းရန် သို်းစသာဝါက ခြစ်ပါသည်။
“ရာ(လ်)ခါ”ဟူစသာစကာ်းလို်းသည် ခ န် ာဘာသာစကာ်းတွင် “စစ ်းနှုန််း (စစ ်း)” ဟူစသာ
စကာ်းလို်းနှင့် ဆင်တူပါ၏။ “စထာက်ရိုင် ဟူစသာစကာ်းလို်းက ူ ခ န် ာဘာသာစကာ်းတွင်
“ဘယ်စလာက်လဲ” ဟူစသာဝါက နှင့် ဆင်တပူ ါ၏။
ในกรณีท่ีเรารู้ชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องการจะซ้ืออะไร และต้องการจะถามว่าของชิ้นนั้นราคาเท่าไร
สามารถใช้คาถามโดยใส่คาเรียกส่ิงของน้ันไว้ข้างหน้าประโยค แล้วตามด้วยประโยคที่พูดว่า “ราคาเท่าไหร่”
โดยมีโครงสร้างประโยคดังน้ี
ชอื่ เรยี กส่งิ ของ + ราคาทา่ ไหร่
เช่น กระเปา๋ ราคาเทา่ ไหร่ (คาว่า “กระเปา๋ ” ในภาษาเมยี นมาเรยี กว่า “အတ်”)
ขนมราคาเท่าไหร่ (คาว่า “ขนม” ในภาษาเมยี นมาคือคาวา่ “ ိုနေ”့် )
ည်သည့်ပစစည််းကို လိုအပ်သနည််းကို စသခ ာစွာသ၍ ဤပစစည််းက ဘယ်စလာက်လဲဟို
စ ်းခ င်လျှင် “ရာ(လ်)ခါ စထာက်ရိုင်” ဟူစသာစ ်းခွန််းဝါက စရှှေ့တွင် လိုအပ်စသာပစစည််း၏
အစခေါ်အစဝေါ်ကို ထည၍့် စ ်းနိုင်ပါသည။် ဤဝါက တညစ် ဆာက်ပိုက စအာက်ပါအတငို ််းခြစပ် ါသည။်
42