The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมพรรณไม้ที่สำรวจได้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ รวมทั้งศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี จำนวน 300 ชนิด เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน การวิจัยการบริการวิชาการ และเพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชนทั่วไป รวมทั้งเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 60 พรรษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by infinity.foto43, 2023-03-09 03:41:48

พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมพรรณไม้ที่สำรวจได้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ รวมทั้งศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี จำนวน 300 ชนิด เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน การวิจัยการบริการวิชาการ และเพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชนทั่วไป รวมทั้งเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 60 พรรษา

Keywords: ลักษณะพรรณไม้,การขยายพันธุ์,การใช้ประโยชน์,บริเวณที่พบ

ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดเล็ก เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ เปลือกนอกสีน�้ำตาลแดง แตกร่องลึกตามยาวและ ตามขวาง เปลือกในสีน�้ำตาล ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปรี หรือรูปไข่กลับ โคนใบมน จะคอดเรียวไปสู่ก้านใบ เนื้อใบบาง ด้านล่างใบมีขนนุ่มหนาแน่น ส่วนด้านบนใบมีขนสากประปราย และมีขนมากตามเส้นใบ ดอกสีขาว โคนหลอดกลีบดอกติดกันเป็นรูปแจกันสูง ปลายหลอดแยกเป็นรูปรี 5 กลีบ ภายในหลอดมีขนละเอียด ผลมี ผิวเป็นปุ่มปม เนื้อเยื่อข้างในขาวและมีน�้ำมาก เมล็ดเล็ก บิดเบี้ยว ไม่มีปีกหุ้มเมล็ด การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ รากมีสรรพคุณแก้โรคเบาหวาน ใบอังไฟ หรือนึ่งปิดหน้าอก หน้าท้อง จุกเสียด แก้ไข้ ยอดอ่อนใบอ่อน ปรุงอาหาร ผลอ่อนรับประทานแก้คลื่นเหียนอาเจียน ผลสุกเป็นยาขับระดูและขับลมในล�ำไส้ เปลือกราก เนื้อไม้ และใบ ให้สีแดงย้อมผ้า บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี ยอป่า Morinda coreia Ham. RUBIACEAE คุ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) คุย (พิษณุโลก) สลักป่า สลักหลวง (ภาคหเนือ) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 249 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 50 เมตร ผลัดใบ ล�ำต้นเปลาตรง เปลือกหนาเรียบสีออกเทาอ่อน ใบ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่ ปลายใบทู่หรือเรียวแหลม โคนใบมน มีขน ดอก สีขาวเจือชมพู ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะตาม ซอกใบ กลีบเลี้ยงมีครีบตามยาว 5 ครีบ ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอก 5 กลีบ ซ้อนกันเป็นกังหัน ผล ผลเปลือก แข็งเมล็ดเดียว กลมรี มี 5 ครีบ ปีกคู่สีแดงสดยาว 2 ปีก สั้น 3 ปีก การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ น�ำไปผสมเป็นน�้ำมันทารักษาโรคเรื้อนและแก้หนองใน บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Dipterocarpus alatus Roxb. ex G. Don DIPTEROCARPACEAE ยางขาว ยางแม่น�้ำ ยางหยวก (เหนือ) ยางกุง (เลย) ยางควาย (หนองคาย) ยางตัง (ชุมพร) ยางใต้ ยางเนิน (ภาคตะวันออก) กาตีล ขะยาง จะเตียล จ้อง ชันนา ทองหลัก ยาง เยียง ร่าลอย เห่ง ยางนา ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 250 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นผลัดใบ มีน�้ำยางสีขาว ใบอ่อนสีออกม่วงแดงเป็นมัน เปลี่ยนเป็นสีน�้ำตาลปนส้ม หรือแดง ใบเรียงเวียน ใบประกอบแบบนิ้วมือมีใบย่อย 5 - 7 ใบ รูปรีแกมรูปใบหอก หนาเหมือนแผ่นหนัง ดอกสีขาว ปนเหลือง มีกลิ่นหอม ผลแห้งแตกขนาดใหญ่ รูปทรงกลม มี 3 เมล็ด เมื่อแก่เต็มที่ ผนังผลแตกดีดเมล็ดแรง กระเด็นไปไกล การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง การทาบกิ่ง ประโยชน์ น�้ำยางพาราสามารถน�ำไปท�ำ ผลิตภัณฑ์ เช่น ล้อรถยนต์ ที่นอนฟองน�้ำ พื้นรองเท้า ถุงมือ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี ยางพารา Hevea brasiliensis (Willd. ex Adr. De Juss.) Müell.-Arg. EUPHORBIACEAE กะเต๊าะห์ ยาง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 251 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้เถา เถามีสีเขียว ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่กลับแกมใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบ เป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อตามเถาและซอกใบ ดอกแยกเพศต่างต้น ไม่มีกลีบดอก ผลเป็นผลกลุ่ม 10 - 30 ผล รูปวงรี เมื่อสุกสีแดงส้ม การขยายพันธุ์ การใช้เหง้า การเพาะเมล็ด ประโยชน์ รากต้มกับน�้ำ ดื่มเป็นยาแก้ไข้ทุกชนิด ใบคั้นน�้ำใช้ประกอบอาหาร บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Tiliacora triandra Diels MENISPERMACEAE จ้อยนาง (เชียงใหม่) เถาวัลย์เขียว (กลาง) ยาดนาง วันยอ (สุราษฎร์ธานี) เถาร้อยปลา ปู่เจ้าเขาเขียว เถาย่านาง ย่านางขาว ย่านนาง หญ้าภคินี ย่านาง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 252 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้น ล�ำต้นตั้งตรง เปลือกเรียบมันสีน�้ำตาลอ่อนขาว ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปหอกแกมรูปไข่ ปลายใบแหลมหรือเรียวแหลม ขอบใบหยัก ฐานใบมนหรือรูปลิ่ม ยาว 5 - 20 ซม. กว้าง 1 - 5 ซม. แผ่นใบเรียบทั้ง 2 ด้าน ก้านใบยาว 1 - 2 ซม. ใบมีเส้นขอบใบชัดเจน ดอก เป็นดอกช่อแบบช่อฉัตร ช่อดอกออกตามซอกใบ กลีบ เลี้ยงรูปถ้วย เกสรเพศผู้จ�ำนวนมาก เกสรเพศเมียไม่มีขน การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ ใบ รสเผ็ด ขยี้สูดดมแก้หวัดคัดจมูก ต้มดื่มบ�ำรุงธาตุ ขับลม ขับเสมหะ แก้ไข้ ต�ำพอกหรือทาถูนวดแก้ปวด แก้ฟกบวม บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี ยูคาลิปตัส Eucalyptus globulus labill. MYTACEAE โกฐจุฬารส น�้ำมันเขียว มันเขียว ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 253 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่ม ล�ำต้นตั้งตรง น�้ำยางขาว สูง 1 - 3 เมตร ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปขอบขนานหรือรูปขอบ ขนานแกมไข่กลับ ผิวใบมีนวลสีขาว ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีม่วงหรือขาว รยางค์รูปมงกุฎ ผลเป็นฝัก คู่ เมล็ดสีน�้ำตาลมีขนสีขาว การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ ยางขาวจากต้น เป็นยาถ่าย อย่างแรง ขับพยาธิ โดยทาตัวปลาช่อน แล้วย่างไฟให้เด็กกินเป็นยาเบื่อพยาธิไส้เดือน แก้กลาก เกลื้อน แก้ปวดฟัน ปวดหู พบว่าในยางขาวมีสารกระตุ้นหัวใจจึงควรวิจัยความเป็นพิษก่อนน�ำมาใช้ ยาพื้นบ้านใช้ เปลือกต้น ขับ น�้ำเหลืองเสีย ท�ำให้อาเจียน ดอก ช่วยย่อยและเจริญอาหาร แก้ไอ และหืด บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครสวรรค์ Calotropis gigantea (L.) Dryander ex W. T. Aiton ASCLEPIADACEAE ดอกรัก รักดอก รักร้อยมาลัย ปอเถื่อน ป่าเถื่อน (ภาคเหนือ) รักเขา (เพชรบูรณ์) รัก ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 254 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ เปลือกนอกสีเทาแตกเป็นร่องลึก ตามยาวล�ำต้น เปลือกในสีน�้ำตาลแดง ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปไข่ โคนใบหยักเว้าลึก ปลายใบค่อนข้างมน ใบอ่อนแตกใหม่เป็นสีแดง ดอกออกเป็นช่อรวม กันเหนือรอยแผลใบตามกิ่งและปลายกิ่ง ดอกสีเหลือง กลิ่นหอมอ่อนๆ กลีบดอก 5 กลีบ เรียงเวียนซ้อนกันเป็น รูปกังหัน ผลแข็งรูปกระสวย หรือรูปไข่เล็กๆ ประกอบด้วยปีกสั้น 2 ปีก ปีกยาวรูปใบพาย 3 ปีก โคนปีกห่อหุ้มตัว ผลมีเส้นตามยาวของปีก 7 เส้นขึ้นไป การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ เปลือกมีสรรพคุณแก้โรคทางเดิน อาหาร แก่นเป็นยาอายุวัฒนะ ใบรักษาแผลพุพอง บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี รัง Shorea siamensis Miq. DIPTEROCARPACEAE เปา ฮัง เปาดอกแดง เรียง เรียงพนม ลักป้าว แลบอง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 255 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ยืนต้น ผลัดใบ สูง 8 - 10 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 3 - 8 คู่ เป็นรูปป้อม รูปไข่ รูปขอบขนานปลายแหลม โคนมน เนื้อใบค่อนข้างบาง สีเขียวสด เวลามีดอกจะทิ้งใบหมด ทั้งต้น ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ห้อยลง ดอกออกตามซอกใบและกิ่งก้าน ดอกตูมบริเวณปลายช่อยังไม่บานจะ เป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีเหลืองนวล ดอกมีกลิ่นหอมเย็น ผลเป็นฝัก ทรงกระบอก เมื่อฝักแก่เป็นสีด�ำ ภายในมีเมล็ด การขยายพันธุ์ การตอนกิ่ง การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้หอม และไม้ประดับ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ ย่านมัทรี Cassia fistula x Cassia bakeriana FABACEAE คูนชมพู คูนสายรุ้ง รัตนพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 256 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มมีเหง้า และรากคล้ายกระชาย ล�ำต้นบนดินเลื้อยพัน มีหนามแหลม ใบเดี่ยวเรียงสลับ ลดรูปลงเป็นเส้นแคบยาว ดอกออกที่ปลายกิ่ง กลีบรวมสีขาว ผลค่อนข้างกลมแบ่งเป็น 3 พู การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การใช้เหง้า การแยกหน่อ ประโยชน์ รากมีรสเย็นหวานชุ่ม บ�ำรุงเด็กในครรภ์ บ�ำรุงตับปอด บ�ำรุงก�ำลัง ยาพื้นบ้านใช้ทั้งต้น หรือรากต้มน�้ำดื่ม แก้ตกเลือด และโรคคอพอก บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ ย่านมัทรี รากสามสิบ Asparagus racemosus Willd. ASPARAGACEAE จ๋วงเครือ (เหนือ) ผักชีช้าง (หนองคาย) ผักหนาม (นครราชสีมา) สามร้อยราก (กาญจนบุรี) สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน ม้าสามต๋อน ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 257 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับเวียนรอบกิ่ง ใบย่อยรูปไข่แกมใบหอก ขอบใบ หยัก ดอกช่อออกดอกที่ซอกใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็ก สีน�้ำตาลแดง มีขนปกคลุม ผลเป็นผลสด เมื่อแห้งมีสีน�้ำตาล ด�ำคล้ายเมล็ดมะละกอแห้ง การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ราก เปลือกและใบมีสรรพคุณเป็นยาอายุ วัฒนะ แก้ไอ แก้ไข้ แก้บิด แก้ปวดตามกล้ามเนื้อ ผลและเมล็ดมีสรรพคุณบ�ำรุงน�้ำดี แก้บิด เจริญอาหาร แก้ท้อง ร่วง แก้ลมวิงเวียน แก้เจ็บอก แก้อาเจียน แก้ไข้ แก้ปวดท้อง บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Brucea javanica (L.) Merr. SIMAROUBACEAE ดีคน (อุบลราชธานี) กะดัด ฉะดัด (ใต้) ดีคน (กลาง) กาจับหลัก ยาแก้ฮากขม (เชียงใหม่) พญาดาบหัก (ตราด) เพี้ยฟาน (นครราชสีมา ขอนแก่น) เพียะฟาน (นครศรีธรรมราช) มะลาคา (ปัตตานี) สอยดาว (จันทบุรี) เท้ายายม่อมน้อย มะขี้เหา มะดีควาย ราชดัด ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 258 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10 - 15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกสีเทานวล ใบประกอบ แบบขนนก ปลายคู่ ช่อใบเรียงสลับ แต่ละช่อมีใบย่อยรูปไข่แกมรูปขอบขนาน 3 - 8 คู่ กว้าง 4 - 8 ซม. ยาว 7 - 15 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมน แผ่นใบเกลี้ยงเป็นมัน เส้นแขนงใบข้างละ 12 - 17 เส้น ดอก สีเหลืองสด ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะตามซอกใบห้อยย้อยลง กลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 10 อัน ดอกบานเต็มที่กว้าง 5 - 8 ซม. ผลสีด�ำเป็นฝักรูปทรงกระบอก ยาว 20 - 60 ซม. เมล็ดมนแบนสีน�้ำตาลเป็นมัน การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ดอกเป็นยาระบาย แก้ไข้ ใบเป็นยาระบาย ขับพยาธิ รากและแก่น ขับพยาธิ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี ราชพฤกษ์ Cassia fistula L. FABACEAE คูน ลมแล้ง ชัยพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 259 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มขนาดย่อม ล�ำต้นเป็นสีเทาอ่อนๆ แตกกิ่งก้านสาขามากๆ พุ่มใบหนาต้นและใบมีกลิ่นเหม็น เขียวจัด ใบอ่อนบาง รูปมนรี ปลายใบและโคนเรียวแหลมขนาดใบยาวประมาณ 5 - 6 นิ้ว ดอกออกเป็นช่อสีขาว อมเขียว ดอกมีขนาดเล็ก และออกจับกลุ่มติดกันมากมายในช่อหนึ่งๆ ปลายดอกบานออกเป็นรูปดาว5 แฉก ขนาด ดอกบานเต็มที่ กว้างประมาณ 0.5 ซม. ยาวประมาณ 2 ซม.ดอกราตรีมีกลิ่นหอมจัดในเวลากลางคืน พอตอนเช้า ดอกที่บานจะหมดกลิ่น และหอมใหม่ในคืนต่อไป การขยายพันธุ์ การตอนกิ่ง การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ ปลูกเป็น ไม้กระถาง ปลูกเป็นรั้ว บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Cestrum nocturnum L. SOLANACEAE หอมดึก ราตรี ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 260 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป รามใหญ่เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปรีหรือรูปรีแกมขอบขนาน ดอกช่อออกดอกที่ ปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาวแกมชมพูจางๆ ผลเป็นผลสด เมื่อสุกสีด�ำ การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ รากมีสรรพคุณแก้พิษงู แก้ท้องเสีย แก้ไอ รักษากามโรค ล�ำต้นมีสรรพคุณแก้โรคเรื้อน ผลและเปลือกมี สรรพคุณแก้ไข้ แก้ท้องเสีย ดอกมีสรรพคุณฆ่าพยาธิ ขับลม บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี รามใหญ่ Ardisia elliptica Thunb. MYRSINACEAE ลังพิสา (ตราด) ทุลังกาสา (ชุมพร) ปือนา (มลายู-นราธิวาส) กระดูกไก่ ก้างปลา ก้างปลาเขา เหมือด อ้ายรามใบใหญ่ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 261 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่ม สูง 2 - 3 เมตร ทรงพุ่มกลมและโปร่ง แตกกิ่งก้านมาก ทุกส่วนของล�ำต้นมีน�้ำยางสีขาว ใบ เรียงเวียนสลับ ใบเดี่ยว รูปแถบ โคนใบแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ หลังใบสีเขียวเข้มกว่าท้องใบ ผิวเรียบ ก้านใบสั้น ดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียวมี 5 กลีบ กลีบดอกสีเหลืองหรือส้มอ่อนหรือขาวมี 5 กลีบ ซ้อน หมุนเป็นเกลียว โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดที่หลอดดอกส่วนใกล้ปากหลอดผลสด แบบ Drupe รูปสี่เหลี่ยมค่อนข้างกลม มีรอยผ่ากลางเป็นแนว ผลสีเขียว ผิวเรียบ ปลายแหลม เมื่อสุกสีด�ำมีเมล็ด 1 - 2 เมล็ดในแต่ละผล การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง การตอนกิ่ง ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Thevetia peruviana (Pers.) K. Schum. APOCYNACEAE กระบอก กะทอก ยี่โถฝรั่ง (กรุงเทพฯ) แซน่าวา แซะศาลา (ภาคเหนือ) ร�ำเพย ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 262 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ทุกส่วนมีน�้ำยางสีขาว ใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนรอบกิ่ง รูปไข่กลับ ปลายใบ กลม ดอกช่อกระจุกแยกแขนง ออกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยหลายดอก กลีบดอกสีขาว ตรงกลางดอกสีเหลือง เชื่อมติดกันเป็นฝักคู่ รูปทรงกระบอก แบนเล็กน้อย เมล็ดแบนมีฝักสีขาว การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง การเปลี่ยนยอด การติดตา ประโยชน์ รากมีสรรพคุณเป็นยาถ่าย ท�ำให้แท้ง เปลือกรากมีสรรพคุณ เป็นยาระบาย แก้โรคงูสวัด แก้โรคไขข้ออักเสบ ขับลม เนื้อไม้มีสรรพคุณแก้ไอ เป็นยาถ่าย แก่นมีสรรพคุณ คุมก�ำเนิด แก้โรคหืด รักษากามโรค ขับเสมหะและโลหิต แก้โรคผิวหนัง เปลือกต้นและเมล็ดมีสรรพคุณ แก้ไข้ แก้โรคปวดตามข้อขับปัสสาวะ เป็นยาถ่าย ขับระดู แก้ปวดฟัน แก้คัน ใบมีสรรพคุณแก้บาดทะยัก แก้ปอดบวม รักษาหืด ยางมีสรรพคุณแก้โรคงูสวัด บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ ย่านมัทรี ลั่นทมขาว Plumeria obtusa L. APOCYNACEAE ลีลาวดี ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 263 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ทุกส่วนมีน�้ำยางขาว ใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนรอบกิ่ง รูปวงรี ปลายใบแหลม โคนใบรูปลิ่มหรือแหลม ดอกช่อกระจุกออกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยหลายดอก กลีบดอกสีแดง เชื่อมติดกันเป็นหลอด รูปกรวย มีกลิ่นหอม ผลแห้งเป็นฝักคู่สีม่วงแกมน�้ำตาล การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ รากมีสรรพคุณเป็นยาถ่าย เปลือกรากสรรพคุณเป็นยาถ่าย แก้โรคไขข้ออักเสบ ขับลม เนื้อไม้สรรพคุณแก้ไอ ขับพยาธิ เปลือกต้นและยางต้นมีสรรพคุณแก้ไข้ แก้ปวดตามข้อ ขับปัสสาวะ เป็นยาถ่าย ขับระดู แก้ไข้ แก้ปวดฟัน แก้คัน ใบมีสรรพคุณแก้บาดทะยัก แก้ปอดบวม รักษาหืด แก่นมีสรรพคุณคุมก�ำเนิด แก้โรคหืด แก้โรคกามโรค ขับเสมหะและโลหิต แก้โรคผิวหนัง บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Plumeria rubra L. APOCYNACEAAE ลีลาวดีแดง จงป่า จ�ำปาขอม จ�ำปาลาว ลั่นทมแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 264 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปวงรีแกมขอบขนาน โคนใบแหลมหรือ เรียวแหลม ดอกเดี่ยวออกที่ซอกใบหรือปลายกิ่ง มีสีเหลือง กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเป็น 2 วงๆละ 3 กลีบ ผลกลุ่มรูปวงรี มีเมล็ดเดียวรูปทรงกลม สีน�้ำตาล ผิวเรียบ การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ประโยชน์ ดอกมีสรรพคุณชูก�ำลัง บ�ำรุงหัวใจ แก้ลมวิงเวียน แก้ไข้ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี ล�ำดวน Melodorum fruticosum Lour. ANNONACEAE หอมนวล (ภาคเหนือ) ล�ำดวน (ภาคกลาง) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 265 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้เถาเนื้อแข็ง ต้นแก่มักมีกิ่งที่เปลี่ยนเป็นหนาม กิ่งอ่อนมีขน ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปวงรี ปลายใบ เรียวแหลมโคนใบกลม เชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว กลีบดอกรูปขอบขนานสีขาวและเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ผลแห้ง รูปไข่แกมวงรี สีน�้ำตาลเข้ม การขยายพันธุ์ การปักช�ำกิ่ง การตอนกิ่ง ประโยชน์ ราก และผลมีสรรพคุณถ่ายพยาธิ ใบมีสรรพคุณแก้ฝี แก้อักเสบ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปวดศีรษะ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Quisqualis indica L. COMBRETACEAE จะมั่ง จ๊ามั่ง มะจีมั่ง (ภาคเหนือ) อะดอนิ่ง (มลายู-ยะลา) ไท้หม่อง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เล็บมือนาง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 266 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้เถาเนื้อแข็ง มีหนามสั้นแหลมโค้งตามล�ำต้นและกิ่งก้าน ใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ใบรูปรี ปลายใบแหลม โคนใบเบี้ยวเล็กน้อย ขอบใบเรียบ แผ่นใบทั้งสองด้านมีขน ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ ดอกสีเขียว แกมเหลืองขนาดเล็ก ผลกลมขนาดเล็ก ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีม่วงด�ำ มีเมล็ดเดียว การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ผลสุกกินได้รสเปรี้ยวอมหวาน ราก และเปลือกล�ำต้นเป็นยาขับระดู ขับปัสสาวะ แก้มดลูกพิการ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี เล็บเหยี่ยว Zizyphus oenoplia (L.) Mill. var. oenoplia RHAMNACEAE หมากหนาม หนามเล็บเหยี่ยว มะตันขอ (ภาคเหนือ) ยับยิ้ว (ภาคใต้) พุทราขอ เล็ดเหยี่ยว เล็บเหยี่ยว (ภาคกลาง) แสงค�ำ (นครศรีธรรมราช) สั่งคัน (สุราษฎร์ธานี ระนอง) ตาฉู่แม โลชูมี (เชียงใหม่) เล็บแมว ยับเยี่ยว (นครราชสีมา) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 267 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 4 - 10 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดโปร่ง เปลือกสีน�้ำตาลขาว แตกล่อนเป็นแผ่น บาง ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงตรงข้าม ใบรูปขอบขนานแกมรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ปลายใบแหลม โคนใบเบี้ยว เส้นแขนงใบข้างละ 4 - 5 เส้น ดอก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สีม่วงเจือขาว ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแยก แขนงตามกิ่ง กลีบดอก โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดสีม่วงเข้ม ปลายแยก 5 แฉก ดอกบานเต็มที่กว้าง 1.5 - 2.5 ซม. ผล ผลแห้งแตกเป็นฝักสีน�้ำตาลอ่อน เมล็ดมีปีกจ�ำนวนมาก การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Jacaranda filicifolia (Anderson) D. BIGNONIACEAE แคฝอย (กรุงเทพฯ) ศรีตรัง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 268 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไมยืนตนขนาดกลางถึงขนาดใหญ สูง 20 - 30 เมตร ใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบรูปไข ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ดอก สีนวล กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเป็นช่อ กลีบเลี้ยงรูปถวยปลายแยก 5 แฉก ชั้นในของ กลีบมีขนหนาแนน รังไขเกลี้ยง หมอนรองดอกมีพูและขนหนาแนน ผล เปนรูปไขหรือคอนขางกลม มีสัน 5 สัน สีเขียวอมเหลือง อาจมีสีแดงปน ภายในผลมี 1 เมล็ดแข็ง การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ผลออนเปน ยาระบาย ผลแกเปนยาแกทองเดิน แกไข ชวยใหนอนหลับ เยื่อหุ้มเมล็ดแกทองผูก ทองอืด อาเจียน อาการสะอึก โรคหืด บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี สมอไทย Terminalia chebula Retz. var. chebula COMBRETACEAE มาแน่ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) สมออัพยา (ภาคกลาง) หมากแน่ะ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 269 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15 - 35 เมตร ลําตนเปลาตรง โคนตนมักมี พูพอน เรือน ยอดแผกวาง ผิวเรียบเปนเกล็ดบางๆ หรือแตกเปนรองเล็กๆ ใบ ใบเดี่ยวเรียงแบบสลับ รูปไขกลับหรือมน แกมรูปไขกลับ กึ่งกลางกานใบมีตอมหรือหูด 1 คู ทองใบมีขนสีจางออกเทามีขนปกคลุม จะหลุดเมื่อใบแกจัด ดอก ออกเปนช่อแบบหางกระรอกตามซอกใบ สีขาวอมเหลือง ดอกสมบูรณเพศ กลีบเลี้ยงรูปถวยมี 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเขียวอมเหลือง ผล ผลรูปไขขนาด 1.8 - 3.5 ซม. ไมมีปก ผลมีขนคลายกํามะหยี่ การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง การตอนกิ่ง ประโยชน์ ดอกแกโรคตา เมล็ดแกบิด เปลือกตนขับปสสาวะ แกนแกริดสีดวง บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Terminalia bellirica (Gaertn.) Roxb. COMBRETACEAE ลัน (เชียงราย) สมอแหน (กลาง) แหน แหนขาว แหนต้น (เหนือ) สะคู้ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ซิบะดู่ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) สมอพิเภก ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 270 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขาที่เรือนยอดของต้น ล�ำต้นมีสีน�้ำตาล และมีหนามเล็กๆ อยู่ สูงประมาณ 8 เมตร ใบเดี่ยวลักษณะเป็นรูปมนรี ปลายใบและโคนใบมนขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย พื้นใบเป็น สีเขียวและมัน แต่ตรงก้านใบจะมีส่วนที่แผ่ออกเป็นปีกรูปคล้ายหัวใจ ดอก ออกเป็นช่อและดอกเดี่ยว แต่ส่วนมาก มักจะเป็นดอกเดี่ยวอยู่ตามง่ามใบ ดอกมีสีขาว ปลายกลีบมนมี 4 กลีบ ผล เป็นลูกกลม ๆ โตและตรงหัวของผล จะนูนขึ้นมาเป็นกระจุก เมื่อยังอ่อนเป็นสีเขียว พอแก่หรือสุกเป็นสีเหลือง เปลือกผลมีต่อมน�้ำมันมาก เนื้อใน สีชมพูและสีเหลืองอ่อนมีรสหวานหรือเปรี้ยว เมล็ดมีจ�ำนวนมากสีน�้ำตาลออกเหลืองๆ การขยายพันธุ์ การเพาะ เมล็ด การตอนกิ่ง ประโยชน์ ใบ เป็นยาแก้ปวดข้อ ท้องอืดแน่น แก้ปวดหัว ดอก แก้ปวดกระเพาะอาหาร แก้ปวด กระบังลม ขับเสมหะ ขับลม ผล แก้เมาสุรา ขับลมในล�ำไส้และกระเพาะอาหาร ท�ำให้เจริญอาหาร เมล็ด แก้ ไส้เลื่อน แก้ปวดท้อง บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี ส้มโอ Citrus maxima Merr. RUTACEAE มะขุน มะโอ (ภาคเหนือ) โกร้ยตะลอง (เขมร) ลีมาบาลี (มลายู-ยะลา) อิ่ว (จีน) สังอู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 271 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ต้น ผลัดใบ สูง 10 – 20 เมตร ล�ำต้นแตกกิ่งต�่ำ เปลือกสีน�้ำตาลแกมเหลือง กิ่งอ่อนมีขน ปกคลุม ใบประกอบรูปนิ้วมือเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ครีบแผ่ออกทั้งสองข้างตลอดความยาวของก้าน มีใบย่อย 3 ใบ แผ่นใบย่อยรูปรี หรือรูปรีแกมรูปไข่ ปลายเรียวแหลม หรือมน โคนสอบแหลม ผิวด้านบนมีขนประปรายโดย เฉพาะบริเวณเส้นกลางใบ ด้านล่างมีขนนุ่ม เส้นแขนงใบย่อย 17 – 27 คู่ ก้านใบย่อยสั้น ดอก เล็ก สีชมพูแกมม่วง ออกเป็นช่อแยกแขนงที่ปลายกิ่งและตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่ง ผล รูปกลม มีเนื้อบางๆ หุ้ม ฝาปิดขั้วผลยาวประมาณ หนึ่งในสี่ของตัวผล ผลแก่สีม่วงคล�้ำถึงด�ำ มี 1 เมล็ด การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ล�ำต้นหรือราก ต้มน�้ำดื่ม แก้ริดสีดวงจมูก รักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ถ่ายเป็นมูกขาว แก่น ต้มน�้ำดื่ม แก้ปวดเมื่อย แก้ ปัสสาวะขัด บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Vitex limonifolia Wall. LAMIACEAE ตีนนก (เหนือ) สมอตีนเป็ด (ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์) สมอนน (ประจวบคีรีขันธ์) สมอหลวง (ชลบุรี) สวองตีนเป็ด สวองใหญ่ (สระบุรี) สวองหิน (สระบุรี นครราชสีมา) สวอง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 272 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มรอเลื้อย ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่ ปลายใบมน หรือแหลม โคนใบสอบ มีขนทั้งสองด้าน ขอบใบจักฟันเลื่อย หรือจักฟันเลื่อยซ้อน เส้นใบหลัก 3 เส้น ดอกเป็นช่อกระจุกขนาดเล็กออกที่ซอกใบ กลีบดอก สีเหลืองนวล เกสรเพศผู้สีเหลืองเข้มจ�ำนวนมาก ผลแห้งแล้วแตกขนาดเล็ก มีปีกยื่นออกมา 4 พู การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ รากต้มดื่มแก้ไข้ ช่วยขับพยาธิไส้เดือน และพยาธิเส้นด้าย บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ ย่านมัทรี สะแกเถา Combretum procursum Craib COMBRETACEAE สะแกเครือ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 273 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป สะแกนาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปวงรี หรือรูปไข่กลับ ดอกช่อออกที่ซอก ใบ และปลายยอด ดอกย่อยมีขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว ผลแห้งมี 4 ครีบ เมล็ดสีน�้ำตาลแดง รูปกระสวย มี 4 สัน ตามยาว การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ เมล็ดมีสรรพคุณใช้ถ่ายพยาธิ รากและเนื้อไม้มีสรรพคุณรักษา กามโรค ใบมีสรรพคุณถ่ายพยาธิ รักษาแผล แก้บิด บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Combretum quadragulare Kurz COMBRETACEAE แก (อุบลราชธานี) แพ่ง (เหนือ) ขอนเเข้ จองแค่ (แพร่) สะแก ซังแก สะแกนา ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 274 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไมตนขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 12 - 25 เมตร เปลือกสีน�้ำตาลปนเทา แตกเปนสะเก็ดยาว ใบประกอบแบบขนนก ปลายคู่ เรียงสลับ ใบยอย 4 - 6 คู ใบยอย ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบหยัก ดอกเล็ก สีขาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเปนชอโตตามปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงและกลีบดอก 5 กลีบ ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ทรงขอบขนานปลายมน ผลแก่สีเหลืองอมเขียว ผิวเกลี้ยง เมล็ดรูปรี การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง การตอนกิ่ง ประโยชน์ เปลือกรากเปนยาแกไข ทําใหอาเจียน ใบออนและดอกออนเปนยาบํารุงธาตุ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี สะเดา Azadirachta indica A. Juss. var. siamensis Valeton MELIACEAE สะเดา สะเดาบ้าน (ภาคกลาง) เดา กระเดา (ภาคใต้) จะดัง (ส่วย) สะเลียม (ภาคเหนือ) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 275 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มเลื้อย ล�ำต้นมีหนาม ใบเดี่ยวเรียงสลับรูปไข่ โคนใบรูปลิ่ม ปลายใบมนเป็นติ่งสั้น ดอกสีขาว หรือม่วงชมพู ออกเป็นกลุ่มบนก้านช่อดอก ช่อละ 2-6 ดอก เมื่อแรกบานเป็นสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดง เมื่อใกล้ร่วง เกสรเพศผู้จ�ำนวนมาก ผลกลม เปลือกหนา ผิวเรียบ เมื่อแก่เป็นสีส้ม หรือสีม่วง เมล็ดสีน�้ำตาล การ ขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำ ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Capparis zeylanica L. CAPPARACEAE สาลีแก่นใจ (เชียงใหม่) ค้อนก้องเครือ (เพชรบูรณ์) สายชูใหญ่ (พิษณุโลก) เถาหลั่งหมากเก็บ (นครสวรรค์) เยี่ยวไก่ (นครราชสีมา) ร้านฝีป้าน ลานผีป้าย (ภาคเหนือ) สะแอะ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 276 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไมตนขนาดใหญ่ สูงถึง 50 เมตร เปลือกสีน�้ำตาลเทา ผิวเรียบ ล�ำต้นเปลาตรง ใบเดี่ยว ออกตรง ขามสลับฉาก ใบรูปไขกลับ ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม โคนใบมน แผนใบดานบนสาก ดานลางมีขนออนนุม กานใบมีปกแคบ ดอก สีขาวนวลออกรวมกันเป็นช่อขนาดใหญ่ตามปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงรูประฆังปลายแยก 5 - 6 แฉก กลีบดอกเปนหลอดรูปกรวยปลายแยก 5 แฉก กลีบดอกดานนอกและหลอดกลีบดอกมีขน เกสรเพศผู 5 อัน หรือ 6 อัน ผลแห้งกลม เปลือกแข็ง ภายในมี 1-2 เมล็ด การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ แก่นและเนื้อไม้บ�ำรุงโลหิต แก้บวม คุมธาตุ ขับลมในกระดูก บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี สัก Tectona grandis L. f. LAMIACEAE ปายี้ เส่บายี้ เป้อยี ปีฮือ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 277 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 35 - 40 เมตร เปลือกชั้นในของล�ำต้นมีน�้ำยางสีขาว ใบ เป็นใบเดี่ยว เวียนรอบข้อ คล้ายฝ่ามือ ใบรูปหอกแกมรูปไข่กลับ โคนใบมนหรือรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ ดอก สีขาวหรือเขียวอม เหลือง ดอกเป็นดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง ช่อละ 3 - 13 ซม. ก้านช่อมีขนละเอียด ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เกสรเพศ ผู้ติดกับส่วนบนของหลอดกลีบดอก รังไข่มีขน ผล เป็นฝักกลมยาวเรียวเกลี้ยงและห้อยลงสู่พื้นดิน ฝักออกเป็นคู่ ขนาดโต เมล็ดภายในรูปทรงบรรทัดแคบๆ มีขนยาวอ่อนนุ่มปุกปุยติดอยู่เป็นกระจุกที่ปลายทั้งสองข้างเมื่อฝักแก่ จะแตกออกเมล็ดซึ่งมีขนจะปลิวกระจายไป ตามลม การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด การปักช�ำ ประโยชน์ เปลือกต้น แก้บิด สมานล�ำไส้ แก้ไข้หวัด หลอดลมอักเสบ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ ย่านมัทรี Alstonia scholaris (L.) R.Br. APOCYNACEAE กะโนะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) จะบัน (เขมร-ปราจีนบุรี) ชบา ตีนเป็ด พญาสัตบรรณ (ภาคกลาง) ตีนเป็ดขาว (ยะลา) บะซา ปูแล ปูลา (มลายู-ปัตตานี) ยางขาว (ล�ำปาง) สัตตบรรณ (ภาคกลาง เขมร-จันทบุรี) หัสบัน (กาญจนบุรี) สัตบรรณ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 278 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ยืนต้นสูง 15 - 20 เมตร ไม่ผลัดใบ แตกกิ่งก้านทรงพุ่มแผ่กว้าง เปลือกต้นสีน�้ำตาลเข้ม ใบเดี่ยว ออกสลับ มีขนาดใหญ่ ใบเว้าเป็นแฉกลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ ก้านใบและเส้นใบมีสีเหลืองเห็นชัดเจน แผ่นใบสี เขียวเข้ม หนา ยอดอ่อนมีกาบสีเหลืองอมเขียวหุ้ม ดอก เป็นดอกช่อ แยกเป็นช่อดอกตัวผู้ และช่อดอกตัวเมีย ผล เป็นผลรวม มีรูปทรงรูปไข่หรือเกือบกลม ภายในมีเนื้อไม่มีเมล็ด สีเขียวอมเหลือง การขยายพันธุ์ การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ ผลใช้ประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน ปลูกเป็นไม้ประดับและให้ร่มเงา บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ ย่านมัทรี สาเก Artocarpus altilis (Parkinson) Fosberg MORACEAE ขนุนส�ำปะลอ (ภาคกลาง) สาเก (ภาคกลาง) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 279 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นผลัดใบ สูง 18 - 20 เมตร ใบ ประกอบรูปขนนกเรียงสลับ ใบย่อยติดเป็นคู่ตรงกันข้าม 3 - 5 คู่ ปลายสุดเป็นใบเดี่ยวแผ่นใบย่อย รูปรี ปลายแหลม โคนมน ดอก สีขาว รูปดอกถั่ว ออกรวมกันเป็น ช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง ผล เป็นฝักแบน มีเปลือกแข็ง เมล็ดสีน�้ำตาล รูปร่างแบนคล้ายโล่ การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ เนื้อไม้และแก่นมีลักษณะสวยงามใช้ในการก่อสร้าง ใช้ท�ำเครื่องเรือน และด้ามเครื่องมือ เครื่องใช้ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Millettia leucantha Kurz FABACEAE ขะเจ๊าะ กะเซาะ ขะแมบ สาธร ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 280 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้น สูงได้ถึง 10 เมตร เปลือกสีม่วงด�ำ ใบเดี่ยวออกสลับ รูปรีจนถึงรูปไข่ ปลายกลม หรือมน โคนมน มีครีบและยกตั้งดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อที่ยอด 4 - 5 ดอก บางครั้งมีถึง 18 ดอก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปช้อน เกสรตัวผู้จ�ำนวนมาก ผล รูปกลม แป้น เมื่อสุกสีส้มหรือแดง แตกเป็น 6 แฉก การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี ส้านชะวา Dillenia suffruticosa (Griff.) Martelli DILLENIACEAE ส้านยะวา ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 281 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10-15 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่ เปลือกสีเทาด�ำ ล�ำต้นแตกล่อนเป็น สะเก็ด ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับรูปไข่กลับแกมรูปขอบขนาน ปลายใบมน โคนใบสอบ แผ่นใบหนาคล้ายหนัง ดอก มีกลิ่นหอม สีขาว ออกเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามกิ่ง กลีบเลี้ยง 2 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ เกสร เพศผู้สีเหลืองจ�ำนวนมาก ผล ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียวทรงกระสวย โคนและปลายแหลม ยาว 3 ซม. ผลแก่ สีเหลือง เมล็ดรูปขอบขนาน 1 เมล็ด การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง ประโยชน์ ดอกช่วยขยาย หลอดเลือด ขับลม บ�ำรุงหัวใจ บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Mammea siamensis Kosterm. CALOPHYLLACEAE ทรพี (จันทบุรี) สร้อยพี (ใต้) สารภีแนน (เชียงใหม่) สารภี ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 282 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นสูง 5 - 10 เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันและเวียนรอบกิ่ง ใบรูปหอกแกมรูป ไข่กลับ ยาว 4 - 20 ซม. กว้าง 3 - 7 ซม. ปลายใบมนขอบใบเรียบ หรือบางครั้งหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ฐานใบรูปลิ่ม แผ่นใบด้านล่างมีผลละเอียด ก้านใบยาว 1 - 1.5 ซม. มีขนละเอียด ดอก เป็นดอกช่อออกตามล�ำต้น ช่อดอกยาว กลีบเลี้ยง 6 กลีบ สีน�้ำตาลแกมเหลือง กลีบดอก 6 กลีบ กลีบด้านนอกสีเหลือง กลีบด้านในสีแดงแกมส้ม อวบน�้ำ ยาว 4 - 6 ซม. เกสรเพศผู้จ�ำนวนมาก เชื่อมติด 2 กลุ่ม ปิดหุ้มเกสรเพศเมีย ผล มีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 - 10 ซม. เปลือกแข็งมีเมล็ดจ�ำนวนมาก การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ปลูกเป็น ไม้ประดับ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี สาละ Couroupita guianensis Aubl. LECYTHIDACEAE สาละลังกา ลูกปืนใหญ่ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 283 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 1 เมตร มีหนามสีน�้ำตาล 2 คู่ ตามข้อและโคนกิ่ง กิ่งก้านใบและเส้นกลางใบสีน�้ำตาลแดง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ รูปขอบขนานแคบ โคนและปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกสีส้มอมเหลือง ออกดอกที่ยอด มีใบประดับรูปกลมรี ปลายสีน�้ำตาลอมแดงหุ้มดอกตูมมิด เมื่อดอกบานจะโผล่พ้นใบประดับออกมาครึ่งหนึ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบไม่เท่ากัน 4 กลีบบนใหญ่ กลีบล่างเล็ก เกสรเพศผู้ 4 อัน ผลแบบผลแห้งแตก โคนผลกว้าง ปลายแหลม ถิ่นก�ำเนิดเขตร้อนชื้นทวีปเอเชีย การขยายพันธุ์ การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ รากแก้ตาเหลือง หน้าเหลือง เมื่อยตัว กินข้าวไม่ได้ แก้เจ็บท้อง แก้ผิดอาหาร ถอนพิษงู พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวดฟัน ใบถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ลมพิษ รักษาเม็ดผื่นคันตามผิวหนัง แก้โรคเบาหวาน แก้ปวดแผล แผลจากของมีคมบาด แก้โรคฝีต่างๆ รักษาโรคคางทูม แก้โรคไฟลามทุ่ง แก้ขยุ้มตีนหมา แก้โรคงูสวัด รักษาโรคเริม ถอนพิษจากเม็ดตุ่มฝีดาษ รักษาโรคฝีดาษ แก้ฟกช�้ำ แก้ช�้ำบวมเนื่องจากถูกของแข็ง ถอนพิษไข้ พิษไข้ทรพิษ แก้ปวดฟัน เหงือกบวม แก้ริดสีดวงทวาร แก้ยุงกัด แก้พิษไฟลวกน�้ำร้อนลวก แก้ปวดจากปลาดุกแทง บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Barleria lupulina Lindl. ACANTHACEAE พิมเสนต้น (ภาคกลาง) ทองระอา ช้องระอา ลิ้นงูเห่า เสลดพังพอนตัวผู้ (กรุงเทพฯ) คันชั่ง (ตาก) อังกาบ อังกาบเมือง (ไทย) ก้านชั่ง (พายัพ) เสลดพังพอนตัวผู้ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 284 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ต้นขนาดกลาง ล�ำต้นตรง ทรงพุ่ม เปลือกต้นสีเทาน�้ำตาล ใบเรียงเวียนสลับ ใบประกอบแบบ ขนนก ใบย่อย 3 - 7 คู่ รูปไข่หรือรูปกึ่งใบหอก ดอกออกที่ง่ามใบหรือปลายกิ่ง ดอกยาวประมาณ 20 ซม. แต่ละช่อ มีดอกย่อยเป็นกลุ่มจ�ำนวนมาก ก้านเป็นหลอดคล้ายดอกเข็ม เป็นฝัก รูปขอบขนานหรือแกมใบหอก การขยาย พันธุ์ การเพาะเมล็ด การปักช�ำกิ่ง ประโยชน์ ราก ต้มน�้ำดื่ม แก้พิษเบื่อเมา บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี โสกเขา Saraca declinata (Jack) Miq. FABACEAE เข็มแดง (หนองคาย) ชุมแสงควน (ยะลา) โรก (กาญจนบุรี) สมโสก (นครราชสีมา ตราด) สาย (สะตูล) โสกดอน (ตรัง) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 285 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้น สูงถึง 20 เมตร ล�ำต้นมักแตกกิ่งต�่ำ ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงสลับ มักมีใบย่อย 1 คู่ บางครั้งมีถึง 7 คู่ แผ่นใบย่อยรูปไข่แกมรูปรีถึงรูปใบหอก โคนใบสอบมนถึงหยักเว้า ปลายใบทู่ถึงแหลม ดอก สีส้มถึงแดง ออกเป็นช่อแยกแขนงตามซอกใบ และปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 4 กลีบ ไม่มีกลีบดอก เกสรเพศผู้ 6-8 อัน ผลเป็นฝัก รูปไข่ถึงรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก พบขึ้นในป่าดิบชื้นที่ต�่ำทางภาคใต้ การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง ประโยชน์ ดอกบ�ำรุงธาตุ แก้ไอ และขับเสมหะ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์ การเรียนรู้ย่านมัทรี Saraca indica L. FABACEAE กะแปะห์ไอย์ ชุมแสงน�้ำ ตะโดลีเต๊าะ ส้มสุกโสก อโศกน�้ำ โสกน�้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 286 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มขนาดเล็ก ล�ำต้นตั้งตรงแตกกิ่งก้านจ�ำนวนมาก ทรงพุ่มกลม ใบประกอบรูปฝ่ามือ เรียงสลับ มีใบย่อยแตกออกจากก้านใบที่จุดเดียวกัน 7 - 11 ใบ ใบย่อยรูปไข่กลับ กว้าง 4 - 6 ซม. ยาว 4.5 - 11 ซม. ปลายใบมน โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มผิวเกลี้ยงเป็นมัน ก้านใบย่อยสีเขียวอ่อน ดอก สีชมพู ออกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่มเชิงประกอบที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ฝัก/ผล ผลสด มีเมล็ดเดียว แข็ง สีด�ำ การขยายพันธุ์ การตัดช�ำกิ่ง ประโยชน์ ไม้ประดับ ฟอกอากาศ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ หนวดปลาหมึก Schefflera actinophylla ARALIACEAE ปลาหมึก ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 287 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มรอเลื้อย ล�ำต้นมีหนาม กิ่งอ่อนมีขนสีน�้ำตาล ใบเดี่ยว รูปไข่ หรือแกมรูปหอก ปลายใบมน หรือเรียวแหลม แผ่นใบค่อนข้างหนาสีเขียวเป็นมัน ดอกสีขาว ออกเป็นกลุ่มที่ก้านช่อดอก มีกลุ่มละ 2 - 6 ดอก กลีบรองดอกมน หนาคล้ายแผ่นหนัง กลีบดอกรูปขอบขนานปลายมน มีสีชมพู หรือแดงที่โคนกลีบ มีเกสรเพศ ผู้จ�ำนวน 30 - 45 อัน ผลสดรูปกลม หรือรี เปลือกหนาแข็ง ผิวเรียบ เมื่อแก่สีออกส้ม หรือม่วง เมื่อสุกมีสีแดง เมล็ดสีน�้ำตาลจ�ำนวนมาก การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ทั้งต้นรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ใบต�ำ พอกฝี แผลบวม และทาแก้คัน บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Capparis diffusa Ridl. CAPPARACEAE หนามเกี่ยวไก่ (สุราษฎร์ธานี) หนามวัวซัง หนามเกี่ยวไก่ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 288 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้น สูง 3 - 5 เมตร เปลือกสีน�้ำตาล กิ่งและ ล�ำต้นมีหนามแข็งแหลมยาว ใบ ใบเดี่ยวเรียงแบบ ตรงข้าม รูปไข่ค่อนข้างรี กว้าง 3 - 5 ซม. ยาว 5 - 8 ซม. ปลายใบมน ฐานใบสอบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบด้าน ล่างมีขนสีเทานวล มีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ ดอก ดอกเดี่ยวออกตามซอกใบ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองปนขาว เกสรเพศผู้มี 8 อัน ผล ผลรูปไข่มีขนสีน�้ำตาลปกคลุม การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ผลใช้สระผม ต้นปลูกเป็นรั้วปศุสัตว์ได้ ใช้ ทั้งต้น รสเฝื่อนเล็กน้อย ปรุงยารักษาโรคเบาหวาน แก้โรคมะเร็ง ต่างๆ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งในกระดูก แก้วัณโรค ผลแก่ ใช้ตีกับน�้ำ เป็นยาสระผม ซักผ้า เบื่อปลา บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ หนามแท่ง Catunaregam tomentosa (Blume ex DC.) Triveng RUBIACEAE เคด กะแทง (กลาง ตะวันออกเฉียงเหนือ เหนือ) หนามเค็ด (จันทบุรี) เคล็ด (กลาง) เคล็ดทุ่ง (ใต้) แท้ง (เหนือ นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์) หนามแท่ง (เหนือ ราชบุรี นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์) ตะเคล็ด ระเวียง มะเค็ด ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 289 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่ม หรือไม้เลื้อย ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่ ปลายใบเว้าบุ๋มถึงเรียวแหลม โคนใบรูปลิ่ม หรือกลม แผ่นใบเกลี้ยง เส้นแขนงใบข้างละ 2-5 เส้น ช่อดอกแบบกระจุกออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง รูปไข่ ถึงไข่แคบ 5 กลีบ รูปไข่ หรือขอบขนาน ผลสดรูปไข่ หรือเกือบกลม ผิวเรียบ เมื่อสุกสีแดงเข้มและเปลี่ยน เป็นสีม่วงด�ำ การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ แก่นมีสรรพคุณบ�ำรุงก�ำลัง ท�ำให้แข็งแรง บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Carissa cochinchinensis Pierre APOCYNACEAE ขี้แฮด พรม หนามพรม ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 290 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป หนุมานประสานกายเป็นไม้พุ่มแกมเถา ใบประกอบแบบนิ้วมือ เรียงสลับ ใบย่อยรูปวงรีหรือ รูปใบหอก ดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีนวล ผลเป็นผลสดรูปกลม การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การ ปักช�ำกิ่ง การตอนกิ่ง ประโยชน์ ใบมีสรรพคุณแก้เส้นเลือดในสมองแตก รักษาโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ลักปิด ลักเปิด ไอกรน หอบหืด ไข้หวัด วัณโรคปอด แก้พิษต่างๆ แก้ไอ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี หนุมานประสานกาย Schefflera leucantha Vig. ARALIACEAE ว่านอ้อยช้าง (เลย) ชิดฮะลั้ง (จีน) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 291 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มขนาดกลาง ใบเดี่ยวออกสลับ ก้านใบยาว มีทั้งชนิดขอบใบเว้าหยักลึก และขอบใบเป็นจัก ดอกช่อออกปลายยอดและที่ซอกใบ รูปทรงกระบอก กลีบรวมสีขาวหม่น ผลรวมรูปทรงกระบอก ผลอ่อนสีเขียว ลูกสีแดง มีรสหวานอมเปรี้ยว การขยายพันธุ์ การปักช�ำ การตอนกิ่ง การติดตาบนต้นตอ ประโยชน์ ใบมีสรรพคุณ แก้ไข้ กระหายน�้ำ แก้ไอ เจ็บคอ ระงับประสาท แก้ตาแดง ตาแฉะ ตาฝ้าฟาง ลดน�้ำตาลในเลือด บ�ำรุงผิว แก้ปวด ศีรษะ ขับปัสสาวะ และลดความดันโลหิต ผลมีสรรพคุณท�ำให้ชุ่มคอ บ�ำรุงไต แก้อาการวิงเวียนหน้ามืด ผมหงอก ก่อนวัย ช่วยให้นอนหลับ ช่วยระบายท้อง และแก้โรครูมาติก บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Morus alba L. MORACEAE มอน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) หม่อน ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 292 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นสูงได้ถึง 15 เมตร ล�ำต้นตั้งตรงเป็นต้นเดี่ยวไม่แตกกิ่ง ใบประกอบแบบขนนก เรียงตัวหนา แน่นที่ปลายยอด ใบย่อยรูปใบหอกแกมรูปดาบ ดอกช่อขนาดใหญ่ มีใบประดับหุ้ม ดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน กลีบดอกสีขาวแกมเหลือง ผลสดรูปไข่หรือรูปกระสวย สีแดงแกมส้มเมื่อสุก มีเมล็ดเดียว การขยายพันธุ์ การเพาะ เมล็ด การแยกหน่อ ประโยชน์ เมล็ด ผสมสมุนไพรอื่น รักษาโรคในทางเดินปัสสาวะ รากแช่เหล้าดื่ม แก้ปวดเมื่อย เส้นเอ็น ผสมสมุนไพรอื่น แก้พิษผิดส�ำแดงไข้ ต�ำรายาไทยใช้ ราก แก้ไข้พิษร้อนสมานล�ำไส้ ใบ แก้ไข้ แก้หวัด ป้องกันสารพิษท�ำลายตับ เมล็ดแก่ มีแอลคาลอยด์ arecoline ใช้เป็น ยาถ่ายพยาธิสุนัขและแกะ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ หมาก Areca catechu L. ARECACEAE หมากเมีย (ทั่วไป) หมากเมีย มะ (ซอง-ตราด) เค็ด สะลา พลา (เขมร) ปีแน (มลายู) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 293 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ล้มลุกมีเถาเลื้อย มีขนหนาแน่น ใบประกอบมีใบย่อย 3 ใบ ปลายใบรูปไข่ หรือรูปสี่เหลี่ยมขนม เปียกปูน ใบกลางมักมีขนาดใหญ่ที่สุด ดอกออกเป็นช่อ แบบช่อกระจะที่ซอกใบห้อยลงมา ดอกสีม่วงคล�้ำรูปดอก ถั่ว มีดอกย่อยจ�ำนวนมาก ผลเป็นฝักโค้งรูปขอบขนาน ปลายฝักม้วนงอ ตามผิวมีขนสีน�้ำตาลอมเหลืองหนาแน่น เป็นขนแข็งและสั้น พอฝักแห้งขนจะหลุดร่วงปลิวตามลมได้ง่าย เมื่อโดนผิวหนังจะท�ำให้คัน ปวดแสบปวดร้อน มี 4-7 เมล็ด สีด�ำเป็นมัน การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด การช�ำเหง้า ประโยชน์ มีสรรพคุณแก้ไข้ ขับปัสสาวะ บ�ำรุงประสาท แก้ผิดแมลงป่องกัด รักษาโรคบุรุษ กระตุ้นก�ำหนัด กระตุ้นและเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชาย บริเวณ ที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Mucuna pruriens DC. FABACEAE บะเหยือง หมาเหยือง (ภาคเหนือ) โพล่ยู (กาญจนบุรี) กล้ออือแซ (แม่ฮ่องสอน) หมามุ้ย ต�ำแย หมามุ่ย ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 294 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป ไม้ยืนต้น สูง 5-15 เมตร ผลัดใบ เปลือกล�ำต้นสีน�้ำตาล ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปวงรีแกมขอบขนาน หรือรูปไข่กลับ หรือค่อนข้างกลมมักออกเป็นกลุ่มหนาแน่นที่ปลายกิ่ง ปลายใบกลมหรือเรียวแหลม โคนใบสอบ เป็นครีบ หรือกลม ขอบใบเรียบ หรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบด้านบนเกลี้ยงเป็นมัน ด้านล่างมีขน เนื้อใบค่อนข้าง หนา มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดอกช่อซี่ร่มออกที่ซอกใบ แยกเพศอยู่คนละต้น ดอกย่อยสีเหลือง ไม่มีกลีบดอก ผลสด รูปทรงกลม ผิวมัน เรียบ ผลอ่อนสีเขียวแก่สีม่วงเข้มเกือบด�ำ ก้านผลมีขน มีเมล็ดเดียวแข็ง การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ใบ ขยี้กับน�้ำ สระผม พอกศีรษะ ฆ่าเหา ขับปัสสาวะ แก้อาการระคายเคืองของผิวหนัง ใบและเมล็ด มีรสฝาดเฝื่อน ต�ำพอกฝี แผลหนอง เปลือกต้น เป็นยาฝาดสมาน แก้บิด ท้องเสีย ผลดิบ ให้น�้ำมัน เป็นยาถูนวดแก้ปวด ผลสุก กินได้ เมล็ด ต�ำเป็นยาพอกฝี ราก แก้ปวดกล้ามเนื้อ ยาง มีรสฝาดร้อน ต�ำพอกทาแก้ ฟกช�้ำ แก้ช�้ำบวม บริเวณที่พบ ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี หมีเหม็น Litsea glutinosa (Lour.) C. B.Rob. LAURACEAE หมี หมูเหม็น อีเหม็น หมูทะลวง หมีเหม็น ตังสีไพร ดอกจุ๋ม มือเบาะ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 295 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ เปลือกนอกสีน�้ำตาล เรียบ หรือร่อนเป็นสะเก็ด เปลือกในสีน�้ำตาลแดง ใบเดี่ยวออกตรงข้าม ใบรูปไข่หรือรูปรี เส้นขอบใบปิด ผิวใบเกลี้ยงสองด้าน ด้านบนใบเขียวเป็นมัน ดอกสีขาวหรือ สีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อที่ซอกปลายยอด ฐานรองดอกรูปกรวย กลีบรองดอกและกลีบดอกมีอย่างละ 4 กลีบ กลีบดอกรูปกลมมน เกสรเพศผู้จ�ำนวนมาก ผลสด รูปรีแกมรูปไข่ ฉ�่ำน�้ำ สีม่วงด�ำ ผิวมัน การขยายพันธุ์ การ เพาะเมล็ด ประโยชน์ เมล็ดมีสรรพคุณซึ่งมีสารช่วยลดน�้ำตาลในเลือด ผลสุกรับประทานได้ มีรสเปรี้ยวอมฝาด สามารถน�ำไปท�ำน�้ำผลไม้ และไวน์หว้า บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Syzygium cumini (L.) Skeels MYRTACEAE มะห้า ห้าขี้แพะ ห้า หว้า ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 296 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


ลักษณะทั่วไป หางนกยูงฝรั่งเป็นไม้ต้น สูง 15 เมตร ผลัดใบ เปลือกสีเทา เรือนยอดแผ่เป็นรูปร่ม ใบ ใบประกอบ แบบขนนก ใบย่อยเล็กๆ และมีจ�ำนวนมาก ดอก สีส้มแดงหรือสีเหลือง ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง เกสรตัวผู้ 10 อัน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ผล ผลเป็นฝักแบนและแข็ง แก่แล้วแตก เมล็ดเรียงตามขวาง 20 - 40 เมล็ด การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ เปลือกต้น เป็นยาแก้ไข้ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ ย่านมัทรี หางนกยูงฝรั่ง Delonix regia (Bojer ex Hook.) Raf. FABACEAE นกยูงฝรั่ง อินทรี (ภาคกลาง) ส้มพอหลวง (ภาคเหนือ) หงอนยูง (ภาคใต้) ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 297 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 20 - 25 เมตร ใบเดี่ยว รูปไข่กลับ ออกเป็นชุด ชุดละ 3 - 5 ใบ ตามข้อแยก ของกิ่ง โคนใบเรียวแหลม ปลายใบมนป้าน ขอบใบหยักเล็กน้อย ดอกสีเขียวแกมเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อกระจุก รอบก้านช่อดอก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็นรูปดาว 5 แฉก มีขนหนาแน่นทั้งดอก และ ก้านดอก เกสรเพศผู้ 10 อัน ผลสีเขียวเป็นมัน รูปไข่กลับ โคนและปลายผลแหลม ปลูกเป็นไม้ประดับ ถิ่นก�ำเนิด เขตร้อนชื้นอเมริกากลาง ประเทศเปอร์โตริโก และแคเมอรูน การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ประโยชน์ ปลูกเป็น ไม้ประดับ บริเวณที่พบ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ , ศูนย์การเรียนรู้ย่านมัทรี Terminalia ivorensis A. Chev. APOCYNACEAE ว่านเลือด (ภาคกลาง) หัวละมานนั่งแท่น (ประจวบคีรีขัน) แผ่บารมี หูกระจง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชื่ออื่น ๆ 298 พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์


Click to View FlipBook Version