ก คำนำ การวางแผนเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่งอันดับแรกของผู้บริหารทุกระดับ ที่สะท้อนให้เห็นความสามารถใน การริเริ่มสร้างสรรค์ การบริหารจัดการในเชิงรุก เป็นงานที่มีลักษณะของการชี้นำเป็นกรอบและแนวทาง สำหรับการทำงานที่เป็นกระบวนการ ส่งผลให้การทำงานได้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น งานไม่ซ้ำซ้อน ไม่แย่งงานกันทำ งานทุกอย่าง ทุกขั้นตอนจะประสานสอดคล้องกันโดยตลอด ยิ่งกว่านั้น ยังช่วยให้ผู้ร่วมงาน มี ขวัญกำลังใจและเกิดความมั่นใจในการทำงานให้ได้ผลตามปรารถนาร่วมกันด้วย แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566- 2570 ของโรงเรียนบ้าน ทุ่งยาวเล่มนี้ ได้จัดทำขึ้นโดยยึดหลักรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 พระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ 2566 และนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 นโยบายของสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 5 ปี และนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพของรัฐบาล พร้อมทั้งให้โอกาสครูและบุคลากรภายในโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา กิจกรรม และข้อคิดเห็น ในการจัดทำโครงการต่าง ๆ โรงเรียนขอขอบคุณ คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ที่มีส่วน เกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดี จนแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปี งบประมาณ 2566- 2570 สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษาเล่มนี้จะเป็นคู่มือในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านทุ่งยาว ได้เป็นอย่างดี โรงเรียนบ้านทุ่งยาว พฤศจิกายน 2565
ข สารบัญ หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ส่วนที่ 1 ข้อมูลสถานศึกษา 1 ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา 19 ส่วนที่ 3 กลยุทธ์พัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา ส่วนที่ 4 โครงการ/กิจกรรมสนองกลยุทธ์ของโรงเรียน พร้อมเป้าหมายและ งบประมาณ ส่วนที่ 5 การกำกับ ติดตาม ประเมินและรายงาน 35 77 136
1 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ส่วนที่ 1 ข้อมูลสถานศึกษา 1.1 สถานที่ตั้ง/ประวัติความเป็นมาโดยย่อ 1. ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ตั้งอยู่เลขที่ 49/75 หมู่ที่ 1 ถนนตรัง – สตูล ตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง รหัสไปรษณีย์ 92180 โทรศัพท์ 075-208170 E-mail : [email protected] 2. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3. สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 4. เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล 1 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 5. ปรัชญาโรงเรียน “รากฐานของชีวิตคือการศึกษา” 6. คำขวัญโรงเรียน “ศึกษาดี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม” 7. สีประจำโรงเรียน ฟ้า – ชมพู 8. ขนาดพื้นที่ มีพื้นที่ 2 แปลง คือ ที่โรงเรียนบ้านทุ่งยาว มีขนาด 12 ไร่ 3 งาน และโรงเรียน บ้านโคกแต้ว มีขนาด 6 ไร่ เมื่อ พ.ศ. 2478 นายฮ่อเฉ้ง แซ่โค้ว ได้บริจาคที่ดินแปลงนี้ให้ก่อสร้างโรงเรียนชื่อ โรงเรียน ประชาบาลตำบลทุ่งยาว เป็นอาคารเรียนชั่วคราว ต่อมาปี พ.ศ. 2480 อาคารเรียนหักพังต้องไปอาศัยเรียน ใน ศาลาวัดใกล้ หัวสะพานทุ่งยาวจนถึง พ.ศ. 2482 จึงได้กลับมาสร้างอาคารเรียนชั่วคราวขึ้น ณ ที่เดิม พ.ศ. 2485 อาคารเรียนชำรุดอีก ประจวบกับขณะนั้นอยู่ในภาวะสงครามโลก ครั้งที่ 2 ประชาชน ได้อพยพไปประกอบอาชีพ ณ ท้องถิ่นอื่นเสียจำนวนมาก ทางราชการจึงได้ยุบโรงเรียนนี้ ไปเปิดสอน ณ ที่ แห่งใหม่แล้วตั้งชื่อว่า “โรงเรียนประชาบาลตำบลทุ่งยาว” ( บ้านหนองหว้า ) ปัจจุบันคือโรงเรียนบ้านทุ่ง มะขามป้อม พ.ศ. 2493 ประชาชนได้ร่วมใจกันสร้างอาคารเรียนขึ้นใหม่ ชื่อว่า “โรงเรียนประชาบาลตำบลทุ่งยาว 2” เปิดทำการสอนอยู่ไม่กี่เดือนก็ถูกพายุพัดพังอีก จนถึงปี 2495 ประชาชนตำบลทุ่งยาว โดยการนำของ นายลิขิต ชัยเกษตรสิน กำนันตำบลทุ่งยาว ได้ก่อสร้างอาคารเรียนกึ่งถาวรขึ้น 1 หลัง เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนบ้านทุ่งยาว” ได้ต่อเติมอาคารเรียนหลายครั้งในเวลาต่อมา พ.ศ. 2514 ทางราชการได้ให้งบประมาณ สร้างอาคารเรียน แบบ ป.1 ก ขนาด 4 ห้องเรียน จำนวน 1 หลัง จำนวนเงิน 140,000 บาท พ.ศ. 2518 องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 290,000 บาท โดย ประชาชนสมทบ 5,000 บาท ก่อสร้างอาคารเรียนแบบ 017 ขนาด 3 ห้องเรียน 1 หลัง
2 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 พ.ศ. 2520 อาคารเรียนเก่าชำรุดทรุดโทรมมาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ได้อนุมัติได้รื้อถอน และได้จัดสรรงบประมาณให้ก่อสร้าง อาคารเรียน แบบ 017 ขนาด 5 ห้องเรียน 1 หลัง จำนวนเงิน 550,000 บาท พ.ศ. 2523 สร้างรั้วลวดหนาม โดยเงินบริจาคของนายพิชิต จันทรรังสิกุล กำนัน ตำบลทุ่งยาว จำนวนเงิน 15,000 บาท พ.ศ. 2526 สำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ ได้จัดสรรงบประมาณให้ก่อสร้างอาคาร อเนกประสงค์แบบ สปช. 203 (2546) จำนวน 1 หลังจำนวนเงิน 278,000 บาท พ.ศ. 2536 นาย พิรุณ อนันตธนวิทย์ เข้ามารับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนนี้เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2536 โดยสับเปลี่ยนกับนาย จำลอง ใจสมุทร อาจารย์ใหญ่คนเดิม ปีนี้ได้ต่อเติมอาคารเรียน 3 ชั้นล่าง 1 ห้องเพื่อใช้ดำเนินการกิจการอาหารกลางวันและกิจการสหกรณ์ ด้วยเงินบริจาคของครู ผู้ปกครอง นักเรียนจำนวน 9,443.50 บาท และเงินอื่นๆจำนวนหนึ่ง สิ้นค่าก่อสร้างจำนวน 22,541บาท เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2536 และได้สร้างรั้วคอนกรีตเสริม เหล็กฝาซีเมนต์บล็อก ยาว 107 เมตร สูง1.55 เมตร จำนวน 47 ช่องโดยมีผู้ศรัทธา บริจาคเงิน ช่องละ 1 ,550 เป็นเงิน 71 ,350 บาท สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 พ.ศ.2537 จัดซื้อปูนอิฐ ทำกระบะซ่อมต้นโกสนด้านหน้าอาคารเรียน จำนวน 27 ต้น เป็นเงิน 1,550 บาท เดิมรั้วด้านหน้าโรงเรียนความสูงของเดิมจำนวน 32 ช่องยาว 70.00 เมตร สิ้นเงิน 56,000 บาท โดยมีผู้บริจาคจำนวน 17 ราย เสร็จเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2538 ต่อเติมฝาก่ออิฐปูนอาคารเรียน 3 ชั้นล่างจำนวน 2 ด้านด้วยเงินการจัดกิจกรรมของครู4,940 บาท ปรับปรุงระบบไฟฟ้าอาคารอเนกประสงค์ พร้อมพัดลม 1 ตัว เป็นเงิน 1,550 บาท ปรับปรุงอาคารชั่วคราวหลังอาคารอเนกประสงค์โดยเปลี่ยนสังกะสี และฝาผนังคอนกรีต พ.ศ. 2538 ปีนี้โรงเรียนได้เข้าโครงการปฏิรูปการศึกษา พ.ศ. 2537 ได้ต่อเติมทั้งสามห้องชั้นล่าง 3 ห้อง ด้วยเงินบริจาคของผู้ปกครอง จำนวน 30,810 บาทครูบริจาค 7,250 บาท รวมเงินบริจาค 38,010 บาท สิ้นค่าก่อสร้าง 50,941 บาท พ.ศ. 2541 นายนิพนธ์ จิตเที่ยง ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนนี้ ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนบ้าน ลิพังสาขาบ้านเขาติง นายประเสริฐ รักแก้ว ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนหาดทรายทอง มาดำรงตำแหน่งแทน และ ขอแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนในเวลาต่อมา พ.ศ.2542 นายพิรุณ อนันตธนวิทย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งยาว เกษียณอายุราชการ ประจำปี งบประมาณ 2542 นายประเสริฐ รักแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งยาว รักษาการในตำแหน่ง ต่อมา นายประทีป ยอดศรี อาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านหยงสตาร์ย้ายมารับตำแหน่งแทน พ.ศ. 2549 นายประทีป ยอดศรี ผู้อำนวยการโรงเรียน ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน บ้านลิพัง นายพิเชฐ เอกอุดมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมะขามป้อมเดินทางมารับตำแหน่งแทน ปัจจุบันโรงเรียนบ้านทุ่งยาวเปิดสอน ระดับประถมศึกษา2 ช่วงชั้น คือช่วงชั้นที่ 1 (ป.1-3) และช่วงชั้นที่ 2 (ป.4-6)
3 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 พ.ศ 2551 นายพิเชฐ เอกอุดมพงษ์ ได้เกษียณอายุราชการ นายจักรี จิตเที่ยง ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านห้วยม่วงมาดำรงตำแหน่งแทน และในปีเดียวกันนี้มีข้าราชการครูขอลาออกตามโครงการ เกษียณอายุราชการก่อนกำหนดจำนวน 4 ราย คือ นางเกษร วิเศษสิงห์ นายบุญธรรม ศรีเทพ นายประจัน เสียมไหม นางดุษฏี เสียมไหม ปัจจุบันมีข้าราชการครู 12 คน นักการภารโรง 1 คน นักเรียน 261 คน จัดการศึกษา 2 ช่วงชั้น ป.1-ป.6 ไม่มีนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาเนื่องจากนักเรียนระดับก่อน ประถมศึกษาขอย้ายไปเข้าเรียนศูนย์เด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งยาว และไม่มีนักเรียนมาสมัครเข้าเรียนในระดับ ก่อนประถมศึกษาอีกเลย จึงไม่สามารถเปิดชั้นเรียนได้ พ.ศ. 2551 ถึง 30 กันยายน พ.ศ.2555 นายจักรี จิตเที่ยง เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนและได้ เกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 นายศรศักดิ์ สีนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังศิลามา ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งยาวจนถึงปัจจุบัน พ.ศ.2555 โรงเรียนได้ผ่านการประเมินโรงเรียนโครงการเศษฐกิจพอเพียง พ.ศ.2556 ได้รับจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมห้องประชุม พ.ศ.2556 โรงเรียนได้ผ่านการประเมินเป็นโรงเรียนดีประจำตำบล พ.ศ.2556 ได้รับจัดสรรงบประมาณปรับปรุงซ่อมอาคารเรียน 1 พ.ศ.2556 ได้รับจัดสรรห้องเรียน Ipad พ.ศ.2557 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวน 3,873,100 บาท ตามโครงการโรงเรียนดีศรีตำบล ในการก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช.105/29 2 ชั้น 7 ห้องเรียน จำนวน 1 หลัง ก่อสร้างแล้วเสร็จ พฤศจิกายน 2558 และกำลังขอขยายชั้นเรียนระดับก่อนประถมศึกษา ระดับอนุบาล 1 และ2ในปีการศึกษา 2559 พ.ศ.2559 โรงเรียนได้เปิดชั้นเรียนในระดับชั้นอนุบาล1 และ 2 พ.ศ.2559 โรงเรียนได้สมัครเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559 โรงเรียนได้รับงบประมาณสร้างสนามบาสเกตบอล พ.ศ.2560 โรงเรียนได้เปิดเรียนในระดับชั้นอนุบาล 3โดยได้รับนักเรียนอนุบาล 3 ขวบเป็นอนุบาล1 พ.ศ.2560 โรงเรียนได้จัดสร้างศูนย์การเรียนรู้จำนวน 1 หลัง พ.ศ.2561 โรงเรียนได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียนดีประจำตำบล พ.ศ.2561 โรงเรียนได้สมัครเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนคุณภาพสสวท. พ.ศ.2563 นางสาวชนัญธิดา ใจสมุทร มาดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งยาว นางสาวพิมพ์ประกาย ศรีไตรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองเจ็ดบาท มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว จนถึงปัจจุบัน
4 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 แผนผังโรงเรียน 1.2 อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย 1.2.1 บทบาทหน้าที่ของโรงเรียนบ้านทุ่งยาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 1. จัดทำนโยบาย แผนพัฒนาการศึกษา ให้สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงศึกษาธิการ 2. จัดตั้งงบประมาณ และรับผิดชอบการใช้จ่ายงบประมาณ 3. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 4. จัดการเรียนการสอน จัดสภาพแวดล้อม บรรยากาศการเรียนที่เหมาะสม และส่งเสริม กระบวนการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองของ ผู้เรียน 5. ออกระเบียบข้อบังคับต่างๆ รวมทั้งระเบียนและข้อบังคับที่เกี่ยวกับการบริหารการจัดการศึกษา 6. กำกับ ติดตามประเมินผลงานตามแผนงานโครงการ และประเมินผลการปฏิบัติงาน ตลอดจนการ พิจารณาความดีความชอบ การพฒนาและการดำเนินงานทางวินัย กับครูและบุคลากรทางการ ศึกษา 7. ประสานการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา รวมทั้งปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้และจัดหา ผลประโยชน์จากทรัพย์สินของโรงเรียน ทั้งที่เป็นราชพัสดุและทรัพย์สินอื่นๆตามระเบียบที่ กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
5 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 8. จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และให้ความร่วมมือในการประเมินคุณภาพ การศึกษาจากหน่วยงานภายนอก รวมทั้งการายงานผลการประเมินต่อคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน 9. ส่งเสริมความเข้มแข็งในชุมชน และสร้างความสัมพันธ์กับสถาบันอื่นในชุมชนและท้องถิ่น 10. ปฏิบัติหน้าที่อื่นเกี่ยวกับกิจการภายใน หรือตามที่ได้รับมอบหมาย และตามที่กฎหมายกำหนดให้ 1.2.2 ภาระหน้าที่การบริหารงานในโรงเรียน 4 กลุ่มงาน ตามกฎกระทรวงซึ้งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัด การศึกษา พ.ศ. 2550 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 39 วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 (ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ “ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการหรือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณา ดำเนินการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาในด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านการ บริหารงานบุคคล และด้านการบริหารทั่วไป ไปยังคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษา หรือสถานศึกษาในอำนาจหน้าที่ของตน แล้วแต่กรณีในเรื่องดังต่อไปนี้” การบริหารจัดการ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว แบ่งโครงสร้างการบริหารงานเป็น 4 กลุ่มงาน ได้แก่ 1. กลุ่มบริหารวิชาการ 2. กลุ่มบริหารงานบุคคล 3. กลุ่มบริหารงบประมาณ 4. กลุ่มบริหารทั่วไป โดยแต่ละกลุ่ม มีหัวหน้ากลุ่มรับผิดชอบ อยู่ในกำกับดูแล ของรองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้าน ทุ่งยาว และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งยาว 1. ด้านการบริหารงานวิชาการ มีภาระหน้าที่ 17 อย่างด้วยกันคือ 1.1 การพัฒนาหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความเห็นการพัฒนาสาระหลักสูตรท้องถิ่น 1.2 การวางแผนงานด้านวิชาการ 1.3 การจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา 1.4 การพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา 1.5 การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 1.6 การวัดผล ประเมินผล และดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน 1.7 การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา 1.8 การพัฒนาและส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้
6 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 1.9 การนิเทศการศึกษา 1.10 การแนะแนว 1.11 การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา 1.12 การส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็งทางวิชาการ 1.13 การประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาและองค์กรอื่น 1.14 การส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการแก่บุคคล ครอบครัว องค์กร หน่วยงานสถาน ประกอบการ และสถาบันอื่นที่จัดการศึกษา 1.15 การจัดทำระเบียบและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับงานด้านวิชาการของสถานศึกษา 1.16 การคัดเลือกหนังสือ แบบเรียนเพื่อใช้ในสถานศึกษา 1.17 การพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 2. ด้านการบริหารงานงบประมาณ มีภาระหน้าที่ 22 อย่างด้วยกันคือ 2.1 การจัดทำแผนงบประมาณและคำขอตั้งงบประมาณเพื่อเสนอต่อปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ หรือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แล้วแต่กรณี 2.2 การจัดทำแผนปฏิบัติการใช้จ่ายเงินตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณจากสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยตรง 2.3 การอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 2.4 การขอโอนและการขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 2.5 การรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ 2.6 การตรวจสอบติดตามและรายงานการใช้งบประมาณ 2.7 การตรวจสอบติดตามและรายงานการใช้ผลผลิตจากงบประมาณ 2.8 การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา 2.9 การปฏิบัติงานอื่นใดตามที่ได้รับมอบหมายเกี่ยวกับกองทุนเพื่อการศึกษา 2.10 การบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการศึกษา 2.11 การวางแผนพัสดุ 2.12 การกำหนดรูปแบบรายการ หรือคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์ หรือสิ่งก่อสร้างที่ใช้ เงินงบประมาณเพื่อเสนอต่อปลัดกระทรวงศึกษาธิการหรือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐานแล้วแต่กรณี 2.13 การพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการจัดทำและจัดหาพัสดุ 2.14 การจัดหาพัสดุ 2.15 การควบคุมดูแล บำรุงรักษาและจำหน่ายพัสดุ 2.16 การจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สิน 2.17 การเบิกเงินจากคลัง 2.18 การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการจ่ายเงิน
7 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 2.19 การนำเงินส่งคลัง 2.20 การจัดทำบัญชีการเงิน 2.21 การจัดทำรายงานทางการเงินและงบการเงิน 2.22 การจัดทำหรือจัดหาแบบพิมพ์บัญชี ทะเบียน และรายงาน 3. ด้านการบริหารงานบุคคล มีภาระหน้าที่ 20 อย่างด้วยกันคือ 3.1 การวางแผนอัตรากำลัง 3.2 การจัดสรรอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 3.3 การสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง 3.4 การเปลี่ยนตำแหน่งให้สูงขึ้น การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 3.5 การดำเนินการเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นเงินเดือน 3.6 การลาทุกประเภท 3.7 การประเมินผลการปฏิบัติงาน 3.8 การดำเนินการทางวินัยและการลงโทษ 3.9 การสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 3.10 การรายงานการดำเนินการทางวินัยและการลงโทษ 3.11 การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ 3.12 การออกจากราชการ 3.13 การจัดระบบและการจัดทำทะเบียนประวัติ 3.๑๔ การจัดทำบัญชีรายชื่อและให้ความเห็นเกี่ยวกับการเสนอขอพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ 3.15 การส่งเสริมการประเมินวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 3.16 การส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติ 3.17 การส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ 3.18 การส่งเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา 3.19 การริเริ่มส่งเสริมการขอรับใบอนุญาต 3.20 การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การดำเนินการที่เกี่ยวกับการ บริหารงานบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น 4. ด้านการบริหารงานทั่วไป มีภาระหน้าที่ 21 อย่างด้วยกันคือ 4.1 การพัฒนาระบบและเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ 4.2 การประสานงานและพัฒนาเครือข่ายการศึกษา 4.3 การวางแผนการบริหารงานการศึกษา 4.4 งานวิจัยเพื่อพัฒนานโยบายและแผน
8 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 4.5 การจัดระบบการบริหารและพัฒนาองค์กร 4.6 การพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงาน 4.7 งานเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 4.8 การดำเนินงานธุรการ 4.9 การดูแลอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม 4.10 การจัดทำสำมะโนผู้เรียน 4.11 การรับนักเรียน 4.12 การเสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการจัดตั้ง ยุบ รวมหรือเลิกสถานศึกษา 4.13 การประสานการจัดการศึกษาในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย 4.14 การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา 4.15 การทัศนศึกษา 4.16 งานกิจการนักเรียน 4.17 การประชาสัมพันธ์งานการศึกษา 4.18 การส่งเสริม สนับสนุนและประสานการจัดการศึกษาของบุคคล ชุมชน องค์กร หน่วยงานและสถาบันสังคมอื่นที่จัดการศึกษา 4.19 งานประสานราชการกับส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น (ท) การรายงานผลการปฏิบัติงาน 4.20 การจัดระบบการควบคุมภายในหน่วยงาน 4.21 แนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการลงโทษนักเรียน
9 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 1.3 โครงสร้างการบริหารโรงเรียนบ้านทุ่งยาว
10 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 1.4 บุคลากร ข้อมูลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ที่ ชื่อ – สกุล ตำแหน่ง วุฒิทางการศึกษา 1 นางสาวพิมพ์ประกาย ศรีไตรรัตน์ ผู้อำนวยการ ศษ.ม. การประถมศึกษา 2 นางสาวชนัญธิดา ใจสมุทร รองผู้อำนวยการ ศษ.ม. การบริหารการศึกษา 3 นางสมญา เก้าเอี้ยน ครู คศ.3 ค.บ. ปฐมวัย 4 นางเสาวลักษณ์ ยั่งยืน ครู คศ.1 ค.บ.การศึกษาปฐมวัย 5 ว่าที่ร.ต.หญิงสุชาดา พลหลา ครู คศ.1 ค.บ. ปฐมวัย 6 นางแสงดาว ไพบูลย์ ครู คศ.2 กศ.บ.การประถมศึกษา 7 นางสาวจารุพัตร ครชาตรี ครู คศ.1 ศษ.ม.นวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ 8 นางสาวพยอง ตู้ดำ ครู คศ.3 ศษ.ม.หลักสูตรและการสอน 9 นายชาญกิจ ชุติเดโช ครู คศ.2 กศ.ม.บริหารการศึกษา 10 นายภูริภัทร หยงสตาร์ ครู คศ.2 วท.บ.ประมง 11 นางสาวธิดารัตน์ เทพกุล ครู ผู้ช่วย ศศ.บ.การท่องเที่ยวการโรงแรม 12 นางสาวนาถยา แสงเงิน ครู ผู้ช่วย วศ.บ.คอมพิวเตอร์ 13 นางสาวสิริวิมล หยงสตาร์ ครู คศ.1 กศ.บ.ภาษาไทย 14 นางสาวจุรีรัตน์ พากเพียร ครู คศ.2 ค.บ.ภาษาอังกฤษ 15 นางงามตา สุจริตธุระการ ครู คศ.3 ศษ.ม. การบริหารการศึกษา 16 นางสาวทิพย์วรรณ ไชยจักร ครูคศ.1 ค.บ. คณิตศาสตร์ 17 นางสาวณัฐติยา หมาดหวา ครู คศ.1 ค.บ.วิทยาศาสตร์ 18 นางสาวพุชนาฏ รัตนแก้ว ครู คศ.1 ค.บ.สุขศึกษาพลศึกษา 19 ว่าที่ร.ต.หญิงสิริลักษณ์ พลประสิทธิ์ ครู คศ.2 วท.บ.คณิตศาสตร์ 20 นายวัชระ กูมุดา ครู ผู้ช่วย ค.บ.ภาษาไทย 21 นายสะหละหมาด ทุ่งหว้า วิทยากรอิสลาม ศษ.บ.การสอนอิสลามศึกษา 22 ว่าที่ร.ต.ธนากร ฉาวเกียรติ ครูอัตราจ้าง ศษ.บ.เศรษฐศาสตร์, ดศ.บ. เอกดนตรีสากล สาขาดุริยางคศิลป์ ตะวันตก คณะศิลปกรรมศาสตร์ 23 นางสาวพิมพ์ลภัส อัคสังข์ ครูพี่เลี้ยง ค.บ.วิทยาศาสตร์ทั่วไป 24 นางสาวจันทร์สุดา ธีระกุลพิศุทธิ์ ธุรการ วท.บ.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 25 นายศุภชัย ช่วยสง นักการ ม.3
11 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ตารางที่ 1 แสดงจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษา ประเภท เพศ รวม ชาย หญิง ผู้อำนวยการ - 1 1 รองผู้อำนวยการ - 1 1 ครูประจำการ 3 15 18 ครูอัตราจ้าง 1 1 2 ลูกจ้างประจำ - - - ลูกจ้างชั่วคราว 2 1 3 บุคลากรทางการศึกษา - - - รวมทั้งหมด 6 19 25 ตารางที่ 2 แสดงระดับการศึกษาของ ผู้บริหาร / ครู / บุคลากรทางการศึกษา / ลูกจ้าง ประเภท ระดับการศึกษา รวม ต่ำกว่า ป.ตรี ป.ตรี สูงกว่า ป.ตรี ผู้อำนวยการ - - 1 1 รองผู้อำนวยการ - - 1 1 ครูประจำการ - 13 5 18 ครูอัตราจ้าง - 2 - 2 ลูกจ้างประจำ - - - - ลูกจ้างชั่วคราว 1 2 - 3 บุคลากรทางการศึกษา - - - - รวมทั้งหมด 1 17 7 25
12 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 1.5 คณะกรรมการสถานศึกษา ตารางที่ ๓ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว มีคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังต่อไปนี้ ที่ ชื่อ – สกุล ตำแหน่ง 1 นายเจริญสุข แซ่อึ่ง ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 2 นายสุธรรม แซ่โค้ว รองประธานกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ 3 นายสมยศ ตั้งพิตรพิบูลพร ผู้แทนผู้ปกครอง 4 นายพันธวิชย์ พันธุศักดิ์ ผู้แทนศาสนา 5 นายธนชัย เก้าเอี้ยน ผู้แทนองค์กรชุมชน 6 นายเทียม กิติกุลวรากร ผู้แทนศิษย์เก่า 7 นายขจรศักดิ์ ตั้งสถิตพร ผู้ทรงคุณวุฒิ 8 นายนพรัตน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 นายกวี เก้าเอี้ยน ผู้ทรงคุณวุฒิ 10 นายพงศ์ภาดา ทวีพัฒนะพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ 11 นายทินพงศ์ คชาภรณ์วงศกร ผู้ทรงคุณวุฒิ 12 นายกิตติธัช วงศ์สิริโสภณ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 นายชาญกิจ ชุติเดโช ผู้แทนครู 14 พระครูฑีฆเขตตาภิรักษ์ ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ 15 นางสาวพิมพ์ประกาย ศรีไตรรัตน์ กรรมการและเลขานุการ บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 1. อำนาจหน้าที่ตามพรบระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการมาตราที่ 38 ของ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ สถานศึกษาให้กำกับและส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสถานศึกษาซึ่งสอดคล้องกับ มาตรา 40 ของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๒ พ.ศ. 2545 2. อำนาจหน้าที่ตาม พรบ.ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตราที่ 2๖ ของ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ สถานศึกษาเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ดังต่อไปนี้ 1) กำกับดูแลบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาให้สอดคล้องกับนโยบายกฎระเบียบข้อบังคับ หลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กอค.ศ. และออกอค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษากำหนด 2) เสนอความต้องการจำนวนและอัตราตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาในสถานศึกษาเพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา
13 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ๓) ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาในสถานศึกษาต่อผู้บริหารสถานศึกษา ๔) ปฎิบัติหน้าที่อื่นตามที่พระบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้กฎหมายอื่นหรือตามที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามอบหมาย 1.6 ตารางที่ ๔ ข้อมูลพื้นฐานด้านการศึกษา (นักเรียน ห้องเรียน 3 ปีย้อนหลังเพื่อประโยชน์ในการ คำนวณแนวโน้ม) ข้อมูลนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ชั้น จำนวนนักเรียน ชาย หญิง รวม จำนวนห้อง อนุบาล 1 0 0 0 0 อนุบาล 2 16 10 26 1 อนุบาล 3 11 24 35 1 รวมอนุบาล 27 34 61 2 ประถมศึกษาปีที่ 1 28 31 59 2 ประถมศึกษาปีที่ 2 22 30 52 2 ประถมศึกษาปีที่ 3 34 28 62 2 ประถมศึกษาปีที่ 4 22 39 61 2 ประถมศึกษาปีที่ 5 19 28 47 2 ประถมศึกษาปีที่ 6 29 29 58 2 รวมประถมศึกษา 154 185 339 12 รวม 181 219 400 14
14 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ข้อมูลนักเรียน ปีการศึกษา 2563 ชั้น จำนวนนักเรียน ชาย หญิง รวม จำนวนห้อง อนุบาล 1 4 5 9 1 อนุบาล 2 14 9 23 1 อนุบาล 3 16 17 33 1 รวมอนุบาล 34 31 65 3 ประถมศึกษาปีที่ 1 30 40 70 2 ประถมศึกษาปีที่ 2 25 30 55 2 ประถมศึกษาปีที่ 3 20 31 51 2 ประถมศึกษาปีที่ 4 35 29 64 2 ประถมศึกษาปีที่ 5 22 37 59 2 ประถมศึกษาปีที่ 6 18 28 46 2 รวมประถมศึกษา 150 195 345 12 รวม 184 226 410 15 ข้อมูลนักเรียน ปีการศึกษา 2564 ชั้น จำนวนนักเรียน ชาย หญิง รวม จำนวนห้อง อนุบาล 1 11 6 17 1 อนุบาล 2 8 7 15 1 อนุบาล 3 13 11 24 1 รวมอนุบาล 32 24 56 3 ประถมศึกษาปีที่ 1 26 30 56 2 ประถมศึกษาปีที่ 2 27 36 63 2 ประถมศึกษาปีที่ 3 25 29 54 2 ประถมศึกษาปีที่ 4 21 28 49 2 ประถมศึกษาปีที่ 5 36 28 64 2 ประถมศึกษาปีที่ 6 22 37 59 2 รวมประถมศึกษา 157 188 345 12 รวม 189 212 401 15
15 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 จำนวนห้องเรียน จำนวนอาคารเรียน 4 หลัง จำนวนห้อง 19 ห้อง จำนวนห้องน้ำ ห้องส้วม 3 หลัง บ้านพักครู 2 หลัง อาคารอเนกประสงค์จำนวน 1 หลัง จำนวนห้องประกอบการ 1. ห้องวิทยาศาสตร์ 1 ห้อง 2. ห้องคอมพิวเตอร์ 1 ห้อง 3. ห้องปฎิบัติการทางภาษา 1 ห้อง 4. ห้องพยาบาล 1 ห้อง 5. ห้องสมุด 1 ห้อง 6. ห้องประชุมสภานักเรียน 1 ห้อง 7. โรงอาหาร 1 ห้อง 8. ห้องประชุม 1 ห้อง 9. ห้องเรียนอิสลามศึกษา 1 ห้อง
16 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 1.7 ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (3 ปีย้อนหลัง เพื่อประโยชน์ในการคำนวณแนวโน้ม) 1.7.1 ระดับการศึกษาปฐมวัย ตารางที่ 5 แสดงผลพัฒนาการเด็ก ชั้นอนุบาลปีที่ 1 - 3 ปีการศึกษา 2564 พัฒนาการ จำนวนเด็ก ที่ประเมิน จำนวน/ร้อยละของเด็กตามระดับคุณภาพ ดี ร้อยละ พอใช้ ร้อยละ ปรับปรุง ร้อยละ 1. ด้านร่างกาย 56 49 87.5 6 10.71 1 1.79 2. ด้านอารมณ์-จิตใจ 56 51 91.07 4 7.14 1 1.79 3. ด้านสังคม 56 51 91.07 4 7.14 1 1.79 4. ด้านสติปัญญา 56 44 78.57 11 19.64 1 1.79 เฉลี่ยรวม 87.05 11.16 1.79 หมายเหตุ ให้นำเสนอผลการประเมินพัฒนาการของเด็ก ตามหลักการประเมินพัฒนาการเด็กระดับปฐมวัย 1.7.2 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตารางที่ 6 แสดงการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทุกระดับชั้น (ป.1-ป.6) โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ปีการศึกษา 2562 – 2564 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา/เฉลี่ยร้อยละ เพิ่ม+/ ลดคะแนนระดับ 3-4 2562 2563 2564 (ร้อยละ) ภาษาไทย 50.00 58.89 59.13 0.24 56.03 คณิตศาสตร์ 53.24 60.34 58.84 -1.5 57.49 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 56.76 53.35 52.46 -0.89 54.18 สังคมศึกษาฯ 67.06 66.47 60.29 -6.18 64.59 สุขศึกษา 86.18 92.12 76.81 -15.31 85.02 ศิลปะ 66.18 83.09 71.59 -11.5 73.64 การงานอาชีพ 73.24 78.42 74.78 -3.64 75.49 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 44.12 53.35 50.14 -3.21 49.22 เฉลี่ยร้อยละ 62.10 68.25 63.01 -5.25 64.46 หมายเหตุ ค่าเฉลี่ยร้อยละต่ำทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ยกเว้นกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยที่มีค่าเฉลี่ยร้อยละ สูงขึ้น
17 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 1.7.2 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตารางที่ 7 แสดงการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกสาระการเรียนรู้ ทุกระดับชั้น (ป.1-ป.6) โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ปีการศึกษา 2562 – 2564 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา/เฉลี่ยร้อยละ เพิ่ม+/ ลดคะแนนระดับ 3-4 2562 2563 2564 (ร้อยละ) ภาษาไทย 50.00 58.89 59.13 0.24 56.03 คณิตศาสตร์ 53.24 60.34 58.84 -1.5 57.49 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 56.76 53.35 52.46 -0.89 54.18 สังคมศึกษาฯ 67.06 66.47 60.29 -6.18 64.59 ประวัติศาสตร์ 62.09 61.74 -0.35 41.44 สุขศึกษา 86.18 92.12 76.81 -15.31 85.02 ศิลปะ 66.18 83.09 71.59 -11.5 73.64 การงานอาชีพ 73.24 78.42 74.78 -3.64 75.49 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 44.12 53.35 50.14 -3.21 49.22 หน้าที่พลเมือง 77.65 81.92 53.02 วิทย์น่ารู้ 55.65 18.68 การป้องกันการทุจริต 82.94 83.67 93.33 9.66 86.67 ภาษาอังกฤษอ่าน เขียน 52.75 17.70 เฉลี่ยร้อยละ 65.74 70.34 63.96 -0.48 56.40 หมายเหตุ ค่าเฉลี่ยร้อยละต่ำทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ยกเว้นกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยที่มีค่าเฉลี่ยร้อย ละสูงขึ้น
18 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 1.7.3 ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ / ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตารางที่ 8 แสดงการเปรียบเทียบผลการประเมินคุณภาพ ระดับชาติ (O - NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 – 2564 วิชา คะแนนเฉลี่ยระดับโรงเรียน ปีการศึกษา 2563 ปีการศึกษา 2564 ผลต่าง (+,-) คณิตศาสตร์ 51.50 33.16 -18.34 ภาษาไทย 72.05 54.39 -17.66 วิทยาศาสตร์ 47.88 34.07 -13.81 ภาษาอังกฤษ 51.75 35.03 -16.72 รวม/เฉลี่ยทั้ง 4 วิชา 55.80 39.17 -16.63 หมายเหตุ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยร้อยละทุกระดับ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละปีการศึกษา 2564 ต่ำกว่า ปีการศึกษา 2563 ตารางที่ 9 แสดงการเปรียบเทียบผลการประเมินคุณภาพ ระดับชาติ (NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563 – 2564 ความสามารถ คะแนนเฉลี่ยระดับโรงเรียน ปีการศึกษา 2563 ปีการศึกษา 2564 ผลต่าง (+,-) ความสามารถด้านคณิตศาสตร์ 45.95 37.63 8.32 ความสามารถด้านภาษาไทย 40.30 46.73 -6.43 รวม/เฉลี่ยความสามารถทั้ง 2 ด้าน 43.13 52.80 -9.67 ตารางที่ 10 แสดงผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 – 256 ระดับดีขึ้นไป ความสามารถ ค่าเฉลี่ยร้อยละ 2562 2563 2564 ผลต่าง (+,-) การอ่านออกเสียง 61.96 77.27 48.89 -28.38 การอ่านรู้เรื่อง 65.92 71.91 48.78 -23.13 เฉลี่ยร้อยละ 63.94 74.59 48.84 -25.75 หมายเหตุ ปีการศึกษา 2564 ประเมินความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียนแค่ระดับสถานศึกษา
19 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา สรุปสาระสำคัญของแผนและนโยบายต่างๆ เพื่อนำสู่การปฏิบัติในระดับสถานศึกษาและดำเนินงาน โครงการ/กิจกรรม ให้สอดคล้องกัน ได้แก่ 2.1 ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 (แผนระดับ 1) (แผนระดับ 1 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560) สาระสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย วิสัยทัศน์และเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ ที่คนไทยทุก คนต้องการบรรลุร่วมกัน รวมทั้งนโยบายแห่งชาติและมาตรการเฉพาะซึ่งเป็นแนวทาง ทิศทางและวิธีการที่ทุก องค์กรและคนไทยทุกคนต้องมุ่งดำเนินการไปพร้อมกันอย่างประสานสอดคล้อง เพื่อให้บรรลุซึ่งสิ่งที่คนไทยทุกคน ต้องการ คือ ประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในทุกสาขาของกำลังอำนาจแห่งชาติ อันได้แก่ การเมือง ภายในประเทศ การเมืองต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา การทหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 2.1.1 วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนา ตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือเป็นคติพจน์ประจําชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อ สนองตอบต่อผลประโยชน์แห่งชาติอันได้แก่ การมีเอกราช อธิปไตย การดํารงอยู่อย่างมั่นคง และยั่งยืนของ สถาบันหลักของชาติ และประชาชนจาก ภัยคุกคามทุกรูปแบบ การอยู่ร่วมกันในชาติอย่างสันติสุข เป็นปึกแผ่น มี ความมั่นคงทางสังคมท่ามกลางพหุสังคมและการมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ความเจริญเติบโตของ ชาติความเป็นธรรมและความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ความยั่งยืนของฐาน ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความ มั่นคงทางพลังงานและอาหาร ความสามารถในการรักษาผลประโยชน์ของชาติภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาวะ แวดล้อมระหว่างประเทศ และการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติ ประสานสอดคล้องกันด้านความมั่นคงในประชาคม อาเซียนและประชาคมโลก อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีความมั่นคง หมายถึง การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและ การเปลี่ยนแปลงทั้งภายในประเทศ 2.2.2 เป้าหมายในการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศใน หลากหลายมิติพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดีเก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาส และความเสมอ ภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีภาครัฐของประชาชน เพื่อ ประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม โดยการประเมินผลการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติประกอบด้วย ๑) ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและสังคมไทย ๒) ขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาเศรษฐกิจ และการกระจายรายได้ ๓) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ๔) ความเท่าเทียมและความเสมอภาคของสังคม
20 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ๕) ความหลากหลายทางชีวภาพ คุณภาพสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ ๖) ประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการเข้าถึงการให้บริการของภาครัฐ 2.2.3 ยุทธศาสตร์ชาติ ในการที่จะบรรลุวิสัยทัศน์และทำให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่อนาคตที่พึงประสงค์นั้น จำเป็นจะต้องมี การวางแผนและกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาในระยะยาว และกำหนดแนวทางการพัฒนาของทุกภาคส่วนให้ ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องกำหนดยุทธศาสตร์ชาติในระยะยาว เพื่อถ่ายทอด แนว ทางการพัฒนาสู่การปฏิบัติในแต่ละเวลาอย่างต่อเนื่องและมีการบูรณาการ และสร้างความเข้าใจถึงอนาคตของ ประเทศไทยร่วมกัน และเกิดการรวมพลังของทุกภาคส่วนในสังคม ทั้งประชาชน เอกชน ประชาสังคม ในการ ขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อการสร้างและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติและบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือคติพจน์ ประจำชาติ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อให้ประเทศมีขีดความสามารถในการแข่งขัน มีรายได้สูงอยู่ในกลุ่มประเทศ พัฒนาแล้ว คนไทยมีความสุข อยู่ดี กินดี สังคมมีความมั่นคง เสมอภาคและเป็นธรรม ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติที่จะได้ เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาในระยะ 20 ปี ต่อจากนี้ไป ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 2) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ 2.2 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) (แผนระดับ 2 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นแผนแม่บทเพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ ชาติ ซึ่งแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นแผนที่จัดทำไว้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยจะมี ผลผูกพันต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น รวมทั้งการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำ ปีงบประมาณจะต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติซึ่งประเด็นแผนแม่บทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ 23 ประเด็น ประกอบด้วย 1) ความมั่นคง 2) การต่างประเทศ 3) การพัฒนาการเกษตร 4) อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต 5) การท่องเที่ยว 6) การพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 7) โครงสร้าง พื้นฐานระบบโลจิสติกส์และดิจิทัล 8) ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมยุคใหม่ 9) เขต เศรษฐกิจพิเศษ 10) การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม 11) การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต 12) การ พัฒนาการเรียนรู้ 13) การสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี14) ศักยภาพการกีฬา 15) พลังทางสังคม 16) เศรษฐกิจ ฐานราก 17) ความเสมอภาคและหลักประกันทางสังคม 18) การเติบโตอย่างยั่งยืน 19) การบริหารจัดการน้ำทั้ง
21 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ระบบ 20) การบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ 21) การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ 22) กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และ 23) การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ เป็นเจ้าภาพหลักการขับเคลื่อนแผนแม่บทที่ 12 การพัฒนาการเรียนรู้ และ เป็นเจ้าภาพร่วมแผนแม่บทที่ 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต แผนย่อย: การพัฒนาช่วงวัยเรียนและ วัยรุ่นและปฏิบัติงานสนับสนุนแผนแม่บทอื่น ๆ 2.3 แผนการปฏิรูปประเทศ (แผนระดับ 2 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560) แผนการปฏิรูปประเทศ จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดกลไก วิธีการ และขั้นตอนการปฏิรูปประเทศในด้าน ต่าง ๆ โดยการปฏิรูปประเทศต้องดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย มีความสามัคคี สังคมมีความสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกาสอันทัดเทียมกัน เพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ การปฏิรูปประเทศต้อง สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งแผนการปฏิรูปประเทศ ประกอบด้วย 12 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการเมือง 2) ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 3) ด้านกฎหมาย 4) ด้านกระบวนการยุติธรรม 5) ด้านเศรษฐกิจ 6) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7) ด้านสาธารณสุข 8) ด้านสื่อสารมวลชนและ เทคโนโลยีสารสนเทศ 9) ด้านสังคม 10) ด้านพลังงาน 11) ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ 12) ด้านการศึกษา โดยแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา มีแผนงานเพื่อการปฏิรูป 5 เรื่อง ได้แก่ 1) การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย 2) การพัฒนาการจัดการเรียนการ สอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 3) การปฏิรูปกลไกและระบบ การผลิต และพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐาน 4) การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และระบบอื่น ๆ ที่เน้นการฝึกปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ นำไปสู่การจ้างงานและการสร้างงาน 5) การปฏิรูปบทบาท การวิจัยและระบบธรรมาภิบาลของสถาบันอุดมศึกษา เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ ปานกลางอย่างยั่งยืน 2.4 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560–2564) (แผนระดับ 2 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ได้กำหนดวัตถุประสงค์และ เป้าหมาย รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนา 10 ยุทธศาสตร์ โดยมี 6 ยุทธศาสตร์ ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติพ.ศ. 2561–2580 และอีก 4 ยุทธศาสตร์เพิ่มเติม คือ 1) การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ 2) การสร้าง ความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม 3) การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขัน ได้อย่างยั่งยืน 4) การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน 5) การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อการ พัฒนาประเทศสู่ความมั่งคั่ง และยั่งยืน 6) การบริหารจัดการในภาครัฐ การป้องกันการทุจริต ประพฤติมิชอบ และธรรมาภิบาลในสังคมไทย 7) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ 8) การพัฒนาวิทยาศาสตร์
22 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม 9) การพัฒนาภาคเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ และ 10) ความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อการพัฒนา 2.5 แผนความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2562 – 2565) แผนระดับ 2 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ 2562 – 2565) โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานการจัดทำยุทธศาสตร์หรือแผนด้านความ มั่นคงเฉพาะเรื่อง (แผนระดับที่ 3 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560) หรือจัดทำแผนงานหรือ โครงการที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2562 - 2565) สาระสำคัญของเรื่อง สมช. ได้ปรับเปลี่ยนห้วงเวลาของ (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติฯ จากเดิม พ.ศ. 2561 – 2565 เป็น พ.ศ. 2562 – 2565 เพื่อให้สอดคล้องกับห้วงเวลาปัจจุบัน ซึ่งสาระสำคัญของ (ร่าง) นโยบายแผนระดับชาติฯ ไม่มี การเปลี่ยนแปลงจากที่คณะรัฐมนตรีได้เคยให้ความเห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2560 และ วันที่ 30 เมษายน 2562 เป้าหมายและแนวทางการดำเนินการ 4 เรื่อง 1) การเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2) การปกป้องและรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ 3) การพัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติและศักยภาพการป้องกันประเทศ 4) การรักษาความมั่นคงภายในประเทศและระหว่างประเทศ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ 16 ด้าน 1) เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2) สร้างความเป็นธรรม ความปรองดอง และความสมานฉันท์ในชาติ 3) ป้องกันและแก้ไขการก่อเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4) จัดระบบการบริหารจัดการชายแดนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดน 5) สร้างเสริมศักยภาพการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามข้ามชาติ 6) ปกป้อง รักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล 7) จัดระบบ ป้องกัน แลแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง 8) เสริมสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันความมั่นคงภายใน 9) เสริมสร้างความมั่นคงของชาติจากภัยการทุจริต 10) เสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 11) รักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
23 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 12) เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร 13) พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ 14) เสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ 15) พัฒนาระบบงานข่าวกรองให้มีประสิทธิภาพ 16) เสริมสร้างดุลยภาพในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 2.6 แผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560-2579 วิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมาย เป้าหมาย ตัวชี้วัด และยุทธศาสตร์ของแผนการศึกษาแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ กำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) ไว้ดังนี้ “คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21” โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา 4 ประการ คือ 1)เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษา ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ 2) เพื่อพัฒนาคนไทยเป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะทักษะและสมรรถนะที่ สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติและ ยุทธศาสตร์ชาติ 3) เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และ ร่วมมือผนึกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ 4) เพื่อนำ ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้ำภายในประเทศลดลง เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษาดังกล่าวข้างต้น แผนการศึกษาแห่งชาติได้ วางเป้าหมายไว้ 2 ด้าน คือ เป้าหมายด้านผู้เรียน (Learner Aspirations) โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มี คุณลักษณะ และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ประกอบด้วย ทักษะและคุณลักษณะต่อไปนี้ 3RS ได้แก่ การอ่านออก (Reading) การเขียนได้ (Writing) และการคิดเลขเป็น (Arithmetics) 8Cs ได้แก่ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross –cultural Understanding) ทักษะด้านความ ร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration,Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการ สื่อสาร สารสนเทศ และการรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information and media Literacy) ทักษะด้าน คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และ ทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) และความมีเมตตา กรุณา มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม (Compassion) เป้าหมายของการจัดการศึกษา (Aspirations) 5 ประการ ซึ่งมีตัวชี้วัดเพื่อการบรรลุเป้าหมาย 53 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย เป้าหมายและตัวชี้วัดที่สำคัญ ดังนี้
24 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ๑) ประชากรทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานอย่างทั่วถึง (Access) มีตัวชี้วัดที่ สำคัญเช่น ประชากรกลุ่มอายุ 6-14 ปี ทุกคนได้เข้าเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นหรือ เทียบเท่าที่รัฐต้องจัดให้ฟรี โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ผู้เรียนพิการได้รับการพัฒนาสมรรถภาพหรือบริการทาง การศึกษาที่เหมาะสม ทุกคน และประชากรวัยแรงงานมีการศึกษาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เป็นต้น ๒) ผู้เรียนทุกคน ทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้รับบริการการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างเท่า เทียม (Equity) ๓) ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพ (Quality) ๔) ระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่าและบรรลุ เป้าหมาย (Efficiency) ๕) ระบบการศึกษาที่สนองตอบและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นพลวัตและบริบทที่ เปลี่ยนแปลง (Relevancy) ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และตัวชี้วัด แผนการศึกษาแห่งขาติ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนา การศึกษาภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์หลักที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้แผนการศึกษาแห่งชาติบรรลุ เป้าหมายตามจุดมุ่งหมาย วิสัยทัศน์ และแนวคิดการจัดการศึกษาดังกล่าวข้างต้น ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 : การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ มีเป้าหมาย ดังนี้ 1. คนทุกช่วงวัยมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. คนทุกช่วงวัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่พิเศษได้รับการศึกษา และเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 3. คนทุกช่วงวัยได้รับการศึกษา การดูแลและป้องกันจากภัยคุกคามในชีวิตรูปแบบใหม่ ยุทธศาสตร์ที่ 2 : การผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรม เพื่อสร้างขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ มีเป้าหมาย ดังนี้ 1. กำลังคนมีทักษะที่สำคัญจำเป็นและมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดงานและการ พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 2. สถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่จัดการศึกษา ผลิตบัณฑิตที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นเลิศ เฉพาะด้าน 3. การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ที่ 3 : การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ มีเป้าหมาย ดังนี้ 1. ผู้เรียนมีทักษะและคุณลักษณะพื้นฐานของพลเมืองไทย และทักษะและคุณลักษณะที่จำเป็นใน ศตวรรษที่ 21
25 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 2. คนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ความสามารถ และสมรรถนะตามมาตรฐานการศึกษาและมาตรฐาน วิชาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ตามศักยภาพ 3. สถานศึกษาทุกระดับการศึกษาสามารถจัดกิจกรรม/กระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรอย่างมี คุณภาพและมาตรฐาน 4. แหล่งเรียนรู้ สื่อตำราเรียน นวัตกรรม และสื่อการเรียนรู้มีคุณภาพและมาตรฐาน และประชาชน สามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ 5. ระบบและกลไกการวัด การติดตาม และประเมินผล มีประสิทธิภาพ 6. ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ได้มาตรฐานระดับสากล 7. ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาสมรรถนะตามมาตรฐาน ยุทธศาสตร์ที่ 4 : การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษา มี เป้าหมายดังนี้ 1. ผู้เรียนทุกคนได้รับโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ 2. การเพิ่มโอกาสทางการศึกษาผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรับคนทุกช่วงวัย 3. ระบบข้อมูลรายบุคคลและสารสนเทศทางการศึกษาที่ครอบคลุม ถูกต้องเป็นปัจจุบัน เพื่อการวาง แผนการบริหารจัดการศึกษา การติดตามประเมินและรายงานผล ยุทธศาสตร์ที่ 5 : การจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายดังนี้ 1. คนทุกช่วงวัย มีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และนำแนวคิดตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ 2. หลักสูตร แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุณธรรมจริยธรรม และการนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ 3. การวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ที่ 6 : การพัฒนาประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการศึกษา มีเป้าหมาย ดังนี้ 1. โครงสร้าง บทบาทและระบบการบริหารจัดการศึกษามีความคล่องตัว ชัดเจน สามารถตรวจสอบ ได้ 2. ระบบการบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ส่งผลต่อคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษา 3. ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนและ พื้นที่ 4. กฎหมายและรูปแบบการบริหารจัดการทรัพยากรทางการศึกษา รองรับลักษณะที่แตกต่างกันของ ผู้เรียน สถานศึกษา และความต้องการกำลังแรงงานของประเทศ 5. ระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา มีความเป็นธรรม สร้างขวัญ
26 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 กำลังใจ และส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มตามศักยภาพ 2.7 นโยบายรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) แถลงต่อรัฐสภาวันพฤหัสบดี ที่ 25 กรกฎาคม 2562 โดยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน จำแนกเป็นนโยบายหลัก 12 ด้าน และนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง ซึ่งนโยบายหลัก 12 ด้าน ประกอบด้วย 1) การปกป้องและเชิดชู สถาบันพระมหากษัตริย์ 2) การสร้างความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทและความสงบสุขของของ ประเทศ 3) การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 4) การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก 5) การพัฒนา เศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย 6) การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ ภูมิภาค 7) การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก 8) การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพ ของคนไทยทุกช่วงวัย 9) การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม 10) การฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 11) การปฏิรูปการบริหารจัดการ ภาครัฐ 12) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และกระบวนการยุติธรรมและนโยบาย เร่งด่วน 12 เรื่อง ได้แก่ 1) การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน 2) การปรับปรุงระบบสวัสดิการ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 3) มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก 4) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และพัฒนานวัตกรรม 5) การยกระดับศักยภาพของแรงงาน 6) การวางรากฐาน ระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต 7) การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 8) การแก้ไขปัญหาทุจริตและ ประพฤติมิชอบในวงราชการทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการประจำ 9) การแก้ไขปัญหายาเสพติด และสร้าง ความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ 10) การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน 11) การจัดเตรียมมาตรการ รองรับภัยแล้งและอุทกภัย 12) การสนับสนุนให้มีการศึกษา การรับฟังความเห็นของประชาชน และการ ดำเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2.8 แผนระดับต่างๆ (กระทรวงศึกษาธิการ,สพฐ. สพป.ตรัง เขต 1) แผนระดับ 3 1. แผนยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ.2563-2565) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) เป็นแผนแม่บทหลักในการพัฒนา ประเทศที่ได้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 และถือเป็นส่วนสำคัญในการถ่ายทอด เป้าหมายและประเด็นยุทธศาสตร์ของยุทธศาสตร์ชาติลงสู่แผนระดับต่างๆ รวมทั้งแผนในระดับกระทรวง โดย แผนแม่บทฯ จะแบ่งช่วงเวลาออกเป็น 4 ช่วง ช่วงละ 5 ปี ซึ่งการพัฒนาประเทศในช่วงเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ จะมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของ ทุกภาคส่วนในรูปแบบประชารัฐ ดังนั้น ภายใต้วิสัยทัศน์ “กระทรวงศึกษาธิการวางระบบเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรมมีงานทำ มีอาชีพ และเป็นพลเมืองที่ เข้มแข็ง” ของแผนยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ. 2563 – 2565) ฉบับนี้ จึงได้มีการกำหนดเป้าหมาย
27 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 หลักและวางยุทธศาสตร์ที่เน้นการปรับสภาวการณ์ของกระทรวงฯ สามารถตอบสนองต่อแนวทางการพัฒนาที่ สำคัญของแผนแม่บทฯ ในช่วงแรก ซึ่งได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยุทธศาสตร์พัฒนาหลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลที่มี เป้าหมายเพื่อให้ยกระดับคุณภาพของการจัดศึกษา ผู้เรียนมีคุณลักษณะตามมาตรฐานการศึกษาของชาติมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีทักษะการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ วิชาชีวิต สอดคล้องกับ ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ และทักษะในด้านพหุปัญญา ยุทธศาสตร์ที่ 2 ยุทธศาสตร์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีเป้าหมายเพื่อให้คุณภาพการศึกษา ของไทยดีขึ้น ครูมีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ มีจรรยาบรรณของวิชาชีพ มีองค์ความรู้และมีความเป็นมือ อาชีพ สามารถใช้ศักยภาพในการสอนแก่ผู้เรียนได้อย่างเต็มที่ ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากำลังคน รวมทั้งงานวิจัยที่สอดคล้องกับความต้องการ ของ ประเทศ ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างขีดความสามารถให้ผู้เรียนได้รับการเพิ่มเติมความรู้ ทักษะในการประกอบอาชีพที่ ตรงกับสภาพตลาดแรงงาน กำลังคนได้รับการผลิตและพัฒนาตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ รวมทั้งมีองค์ความรู้ นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ ที่สนับสนุนการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ยุทธศาสตร์ที่ 4 ยุทธศาสตร์เพิ่มโอกาสให้คนทุกช่วงวัยเข้าถึงบริการทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องตลอด ชีวิต ที่มีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้ผู้เรียนสามารถได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพในทุกระดับและประเภท การศึกษา และมีการเตรียมความพร้อมผู้เรียนปฐมวัย สถานศึกษาขั้นพื้นฐานในภูมิภาคได้รับการยกระดับในการ ให้บริการ รวมทั้งมีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้แก่ประชาชน ยุทธศาสตร์ที่ 5 ยุทธศาสตร์ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาที่มีเป้าหมายเพื่อลด ความเหลื่อมล้ำให้ผู้เรียน สถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับทุกประเภทการศึกษาเข้าถึงทรัพยากร พื้นฐานระบบดิจิทัลแพลตฟอร์มรองรับการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอนแบบดิจิทัลที่ทันสมัยและมีระบบ ฐานข้อมูลกลางทางการศึกษาที่ถูกต้องเป็นปัจจุบัน ยุทธศาสตร์ที่ 6 ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ในการจัด การศึกษา ที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มคล่องตัวในการรองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษา ระบบและวิธีการ คัดเลือกเพื่อการศึกษาต่อได้รับการปรับปรุงพัฒนา มีการใช้ทรัพยากรทั้งด้านงบประมาณ และบุคลากรได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และมีกลไกการส่งเสริมพลังทางสังคมให้เข้ามาร่วมและสนับสนุนทรัพยากรในส่วนภูมิภาคโดย รูปแบบพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 2. นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดนโยบายปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยยึหลัก ของการพัฒนาที่ยั่งยืน และการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคต และมุ่งสู่ Thailand 4.0 ที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 และมีวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์และนโยบาย ดังนี้
28 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 2.1 วิสัยทัศน์ “สร้างคุณภาพผู้เรียน สู่สังคมอนาคตที่ยั่งยืน” 2.2 พันธกิจ 1) จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ 2) พัฒนาสถานศึกษาศึกษาให้มีความปลอดภัยแก่ผู้เรียน 3) ส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ เพื่อขีดความสามารถในการแข่งขัน 4) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตร และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ 5) สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษาอย่าง ทั่วถึง 6) พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการศึกษาที่ ตอบสนองทิศทางการพัฒนาประเทศ 7) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 8) พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับ และจัดการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) 2.3 นโยบาย 1. ด้านความปลอดภัย 1.1 พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยของผู้เรียนทุกคน พร้อมเสริมสร้างระบบและกลไก ในการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ให้กับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา จากโรคภัยต่าง ๆ ภัยพิบัติ และภัยคุกคามทุกรูปแบบ 1.2 ส่งเสริมการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 1.3 สร้างภูมิคุ้มกัน การรู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยี ในการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และชีวิตวิถีปกติต่อไป (Next Normal) 2. ด้านโอกาสและการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 2.1 ส่งเสริม สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุ 3-6 ปีทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษาสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการดูแลปกป้อง เพื่อให้มีพัฒนาการครบทุกด้าน โดยการมีส่วนร่วมของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2.2 จัดการศึกษาให้ผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เข้าถึงโอกาส ความเสมอภาค และ ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะสำหรับการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพในอนาคตให้สอดคล้องกับความ ต้องการของตลาดงานและการพัฒนาประเทศ 2.3 จัดการศึกษาให้ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ ได้รับโอกาสในการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ
29 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 2.4 ส่งเสริมเด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและจัดหาทางเลือกในการ เข้าถึงการเรียนรู้ การฝึกอาชีพ เพื่อให้มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถพึ่งตนเองได้ 2.5 พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นรายบุคคลเพื่อใช้ เป็นฐานข้อมูลในการบริหารจัดการศึกษา โดยเฉพาะการดูแลและป้องกันไม่ให้นักเรียนหลุดออกจากระบบ การศึกษา และช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคันให้กลับเข้าสู่ระบบ 3. ด้านคุณภาพ 3.1 ส่งเสริม สนับสนุน สถานศึกษาที่มีความพร้อม ให้นำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐานที่เน้นสมรรถนะไปใช้ตามศักยภาพของสถานศึกษาให้สามารถออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับความ ต้องการและบริบท 3.2 พัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะที่เหมาะสมตามช่วงวัย สามารถจัดการตนเอง มีการคิดขั้นสูง มีความสามารถในการสื่อสาร สามารถจัดระบบและกระบวนการทำงานของตนเองและร่วมกับผู้อื่น โดยใช้การ รวมพลังทำงานเป็นทีม เป็นพลเมืองที่ดี มีศีลธรรม และอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืนรวมทั้งมี ความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข 3.3 จัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 นำไปสู่การมีอาชีพ มีงานทำ และ ส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3.4 ส่งเสริม และพัฒนาระบบการวัดและประเมินผลคุณภาพผู้เรียน ให้ควบคู่การเรียนรู้นำไปสู่ การพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียนเป็นรายบุคคล รวมทั้งส่งเสริมการนำระบบธนาคารหน่วยกิตมาใช้ ในการเทียบโอนผลการเรียนรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ของผู้เรียนในสถานศึกษา 3.5 พัฒนา ส่งเสริม ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งบุคลากรสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานตำแหน่งและ มาตรฐานวิชาชีพ 4. ด้านประสิทธิภาพ 4.1 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา โดยการกระจายอำนาจและใช้พื้นที่เป็นฐานที่ มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลักธรรมาภิบาล 4.2 นำเทคโนโลยีดิจิทัลและการจัดการฐานข้อมูล มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัด การศึกษาขั้นพื้นฐาน และการเรียนรู้ของผู้เรียน 4.3 ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ ใช้พื้นที่เป็นฐาน ใช้นวัตกรรมในการ ขับเคลื่อนบริหารจัดการโดยใช้ทรัพยากรร่วมกัน และแสวงหาการมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ เพื่อให้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
30 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 4.4 ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพในโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะโรงเรียน ที่ตั้งในพื้นที่ลักษณะพิเศษ และโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 4.5 เพิ่มประสิทธิภาพการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา และปรับกระบวนการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้สอดรับกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และชีวิตวิถีปกติต่อไป (Next Normal) 2.4 กลยุทธ์ 1) การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ 2) การจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 3) การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4) การสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานและลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษา 5) การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6) การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา 3. ทิศทางการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 ได้ศึกษากรอบยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนาการศึกษา ระดับกระทรวง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัด และนโยบายสำคัญทุกระดับ รวมทั้งได้ วิเคราะห์บริบทด้านจัดการศึกษาของพื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง ได้กำหนดทิศทางการจัดการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ดังนี้ วิสัยทัศน์ (Vision) “มุ่งพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนสู่สังคมที่ยั่งยืน บนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” พันธกิจ (Mission) 1. จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ และการปกครองในระบอ บ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. จัดการศึกษาให้ผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาและสถานศึกษาได้รับความปลอดภัยจากภัยพิบัติ ภัยคุกคามทุกรูปแบบ 3. พัฒนาศักยภาพและคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและคุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 และ สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน 4. พัฒนาศักยภาพผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นมืออาชีพ มีสมรรถนะด้านภาษาและการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล
31 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 5. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษาอย่างทั่วถึง มี คุณภาพ มีมาตรฐาน 6. จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 7. พัฒนาระบบการบริหารจัดการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยใช้หลักธรรมมาภิบาลและระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) ค่านิยมองค์กรณ์ (Core Value) บริการดีเยี่ยม เปี่ยมคุณธรรม นำองค์กรสู่ความเป็นเลิศ กลยุทธ์ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษา สถานศึกษา ให้มีความมั่งคงและปลอดภัยทุกรูแบบ กลยุทธ์ที่ 2 สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับประชากรวัยเรียนทุกคน กลยุทธ์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ กลยุทธ์ที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา 2.9 จุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 1. เร่งแก้ปัญหากลุ่มผู้เรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยเพิ่ม โอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ให้กับผู้เรียนทุก ระดับ รวมทั้งลดความเครียดและสุขภาพจิตของผู้เรียน 2. เสริมสร้างระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยนักเรียน ด้วยระบบมาตรฐานความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ (MOE Safety Platform) เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา และป้องกันการหลุดออกจากระบบ รวมทั้งช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคัน 3. ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุ ๓ - ๖ ปี และผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและเด็กพิการที่คันพบ จากการปักหมุดบ้านเด็กพิการให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา 4. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่ เน้นสมรรถนะและการจัดทำกรอบหลักสูตร รวมทั้งจัดกระบวนการ เรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ให้เหมาะสมตามวัยของผู้เรียน 5. จัดการอบรมครูโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน ควบคู่กับการให้ความรู้ด้านการวางแผนและการสร้างวินัยด้าน การเงินและการออม เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู 6. ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์ กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ ที่ หลากหลายรูปแบบ (Active Learning) มีการวัดและประเมินผลในชั้น เรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน (Assessment for Learning) ทุกระดับ 7. ยกระดับคุณภาพของนักเรียนประจำพักนอน สำหรับโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สูง ห่างไกลและถิ่น ทุรกันดาร 8. มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทุกระดับ
32 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 9. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา โดยการกระจายอำนาจและใช้พื้นที่เป็นฐาน เพื่อสร้างความ เข้มแข็ง โดยการจัดสรรกรอบวงเงินงบประมาณ (Block Grant) ตามหลักธรรมาภิบาล ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาและสถานศึกษา จุดเน้นการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรังเขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 ได้กำหนดจุดเน้นการดำเนินงาน 4 จุดเน้น ซึ่ง สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ 1. จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ 2. พัฒนาสำนักงานเขตพื้นที่การและสถานศึกษาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3. แก้ปัญหาการเรียนรู้ พฤติกรรม ความเครียด และสุขภาพจิตของผู้เรียน 4. สร้างความเข้มแข็งระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5. พัฒนาการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยให้มีคุณภาพ 6. ใช้หลักสูตรการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง 7. ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning และการวัดประเมินผลเพื่อพัฒนาสมรรถนะของ ผู้เรียน (Assessment for Learning) รวมทั้งยกระดับผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน 8. พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิชาชีพ 9. ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้และการบริหารจัดการ 10. บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล 11. เพิ่มความเข้มแข็งระบบนิเทศการศึกษาและระบบประกันคุณภาพ 2.10 มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ฉบับลง วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561 มีจำนวน 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียด ดังนี้ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 1) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ
33 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 2) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และ แก้ปัญหา 3) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา 6) มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 1) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด 2) ความภูมิใจในท้องถิ่น และความเป็นไทย 3) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย 4) สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 2.1 มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน 2.2 มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและกลุ่มเป้าหมาย 2.4 พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ 2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 2.5 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ 3.2 ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ 3.3 มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก 3.4 ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน 3.5 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย พ.ศ.2561 มีจำนวน 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียด ดังนี้ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก 1.1 มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้
34 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ 1.3 มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม 1.4 มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 2.1 มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น 2.2 จัดให้ครูเพียงพอกับชั้นเรียน 2.3 ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ 2.4 จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และเพียงพอ 2.5 ให้บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ 2.6 มีระบบการบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ 3.1 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ 3.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข 3.3 จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย 3.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัด ประสบการณ์และพัฒนาเด็ก
35 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ส่วนที่ 3 กลยุทธ์พัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่งยาวได้ใช้กระบวนการ SWOT Analysis มาใช้ในการประเมินสถานภาพของโรงเรียน เพื่อนำไปกำหนดทิศทางของการพัฒนา และกำหนดกลยุทธ์ในการบริหารจัดการการศึกษาและการบริหาร งบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และโรงเรียนได้ดำเนินการแล้วเสร็จตามขั้นตอน แล้วมากำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ที่สอดคล้องเชื่อมโยงกับหน่วยงานต้นสังกัด ตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่ สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวง และนโยการศึกษาชาติ ดังนี้ 1. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก External Environment : C-PEST ปัจจัย ด้านโอกาส (O) ด้านอุปสรรค (T) พฤติกรรมลูกค้า/ ผู้รับบริการ (Customer Behaviors:C) - ผู้ปกครองให้การสนับสนุนและมีส่วน ร่วมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของ โรงเรียน - ผู้ปกครองบางส่วนไม่มีเวลาในการ ดูแลเอาใจใส่นักเรียน กฎหมาย-การเมือง (Political-Legal:P) - องค์กรส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม สนับสนุนทางด้านการศึกษา - ประชากรมีส่วนร่วมในระบบการ ปกครองประชาธิปไตยและมีการใช้สิทธิ อย่างกว้างขวาง - ประชากรมีความรู้ทางการเมืองและ กฎหมาย - ประชากรขาดความมั่นใจและ ความปลอดภัยในการแสดงความ คิดเห็นทางการเมือง - การเมืองท้องถิ่นมีอิทธิพลต่อการ ดำรงชีวิตและความขัดแย้งทาง การเมืองทำให้ขาดเสถียรภาพใน การอยู่ร่วมกัน เศรษฐกิจ (Economic:E) - ประชากรประกอบอาชีพสุจริต - มีแหล่งรองรับผลผลิตทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์จากชุมชน - ประชากรน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต - ประชากรมีรายได้ต่อครัวเรือนไม่ เพียงพอต่อการดำรงชีพ - ประชากรบางส่วนมีภาวะว่างงาน ด้านสังคมวัฒนธรรม (Socio cultural:S) - ชุมชนร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีใน ท้องถิ่นส่งผลให้นักเรียนมีแบบอย่างที่ดี - ประชากรมีการโยกย้ายถิ่น ทำให้ เด็กต้องย้ายตามทำให้การเรียนไม่ ต่อเนื่อง
36 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ปัจจัย ด้านโอกาส (O) ด้านอุปสรรค (T) ชุมชนให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ โรงเรียนทุกด้านด้วยดี เทคโนโลยี (Technological:T) - มีการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารได้ สะดวกรวดเร็ว - ผู้ปกครองขาดทักษะที่จำเป็นใน การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย 2. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน (Internal Environment : 2S 4M) ปัจจัย จุดแข็ง (S) จุดอ่อน (W) S1: ด้านโครงสร้าง/ นโยบาย (Structure) - โรงเรียนกำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจ ชัดเจนทำให้โรงเรียนบรรลุเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ - โรงเรียนมีโครงสร้างการบริหารงานที่ ชัดเจนทั้ง 4 ด้าน - การบริหารงานยังไม่เป็นไปตาม แผนงานที่กำหนดไว้ S2: ด้านการ ให้บริการ และ ผลผลิต (Product) - มุ่งยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนอย่างต่อเนื่อง - นักเรียนมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง - นักเรียนมีอัตราการศึกษาต่อสูง - นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ - นักเรียนมีทักษะการสื่อสาร - ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ ต่ำ(RT, NT , O-net) M1: ด้านบุคลากร (Man) - ครูมีจรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ - บุคลากรได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง - ครูมีความรู้ความสามารถในการจัดการ เรียนการสอนได้อย่างเป็นระบบ - บุคลากรไม่เพียงพอในสาขาวิชาที่ ขาดแคลน(ดนตรี , นาฎศิลป์) M2: ด้านการเงิน (Money) - โรงเรียนมีการจัดทำแผนการใช้จ่าย งบประมาณโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วมทำให้ การใช้จ่ายตรงตามความต้องการ - มีการบริหารงบประมาณถูกต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ - งบประมาณมีจำกัดไม่เพียงพอต่อ กิจกรรมที่ต้องการพัฒนา
37 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 ปัจจัย จุดแข็ง (S) จุดอ่อน (W) M3: ด้านวัสดุ/ อุปกรณ์ (Material) - มีวัสดุ ทรัพยากรทางการศึกษาที่มี คุณภาพ - มีห้องปฏิบัติการที่หลากหลาย - สภาพห้องปฏิบัติการเก่า ไม่ สามารถใช้งานได้ - การจัดเก็บวัสดุไม่เป็นระบบ - ขาดการดูแลวัสดุ , อุปกรณ์และ แหล่งเรียนรู้ M4: ด้านการบริหาร การจัดการ (Management) - โรงเรียนจัดทำแผนและโครงการเพื่อใช้ เป็นเครื่องมือในการบริหารงานทั้งแผน ระยะสั้นและแผนระยะยาว - กำกับนิเทศ ติดตามอย่างต่อเนื่อง - มีการบริหารจัดการที่ใช้หลักธรรมาภิ บาล - ใช้กระบวนการ PDCA ในการบริหาร จัดการ - โรงเรียนมีการติดต่อประสานงานกับ ชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆอย่าง สม่ำเสมอทำให้ได้รับความร่วมมือใน ด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับการจัด การศึกษา - ขาดความชัดเจนในการสั่งการ สรุปผลการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในของภาพรวมสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่งยาว มีสภาพในที่เป็นจุดแข็งและปัจจัยภายนอก เอื้อต่อการดำเนินภารกิจ จึงเป็น โอกาสในการจัดการศึกษา ผลการประเมินสถานภาพ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว มีสมรรถนะปัจจัยภายในเป็นจุดแข็ง และสมรรถนะปัจจัยภายนอกที่เอื้อต่อการ ดำเนินภารกิจจึงเป็นภาวะที่เหมาะสมในการกำหนดกลยุทธ์ ซึ่งหมายความว่า โรงเรียนบ้านทุ่งยาวอยู่ใน สถานะที่จะให้บริการและใช้กลยุทธ์เพื่อรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการจัดการศึกษาให้มีการพัฒนาก้าวหน้า ยิ่งขึ้น
38 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 วิสัยทัศน์โรงเรียนบ้านทุ่งยาว “โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้เกิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21สร้าง องค์กรแห่งการเรียนรู้ บนพื้นฐานการบริหารจัดการตามหลักธรรมมาภิบาล” พันธกิจ 1. พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มีทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 มีคุณธรรม จริยธรรม รักความเป็นไทย ดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. ส่งเสริม พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะตรงตามสายงาน และมีคุณภาพตาม มาตรฐานวิชาชีพ ร่วมกันสร้างพลังขับเคลื่อนในการปรับปรุง พัฒนาการดำเนินงานขององค์กรอย่างครูมือ อาชีพ 3. ส่งเสริม สนับสนุนครูและบุคลการทางการศึกษา คิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ภายใต้การประสานงาน ร่วมกัน การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม สู่การคิดอย่างเป็นระบบ 4. เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภายในองค์กรตามหลักธรรมมาภิบาล โดยการมีส่วนร่วมจาก ทุกภาคส่วน เป้าประสงค์ 1.ผู้เรียนทุกคนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มีทักษะในศตวรรษที่ 21และดำรงชีวิตตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
39 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 2.ครูและบุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา เป็นครูมืออาชีพและเป็นองค์กร แห่งการเรียนรู้ 3. ครูและบุคลากรทางการศึกษามีแนวคิดแบบองค์รวมทำให้สามารถมองกรอบของงานได้อย่างเป็น ระบบ 4. โรงเรียนมีระบบการบริหารจัดการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นของสังคม จากวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์ รวมทั้งค่านิยมขององค์กร กำหนดเป็นกลยุทธ์เพื่อการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนดังนี้ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ที่ 2 สร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยครูมืออาชีพ กลยุทธ์ที่ 3 เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการบริหารและการจัดการ รายละเอียดแนวทางในการปฏิบัติ กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 1.1 ส่งเสริม พัฒนาเด็กปฐมวัย ให้มีพัฒนาการสมวัย 1.2 ปลูกฝังและเสริมสร้างผู้เรียนให้มีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าที่อย่างมีความ รับผิดชอบ 1.3 ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษา สอดคล้องกับศักยภาพ ให้เป็นผู้มีสมรรถนะ และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 1.4 สร้างความเข้มแข็งระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ระบบส่งเสริมความประพฤตินักเรียน ระบบ คุ้มครองนักเรียน และการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ๑.5 ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ทันต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีสมรรถนะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ จรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งจิต วิญาณความเป็นครู 1.6 ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก มีระบบการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ของผู้เรียน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ยืดหยุ่นตอบสนองต่อความถนัดและความสนใจของผู้เรียน เพื่อส่งเสริม การเรียนรู้เป็นรายบุคคล กลยุทธ์ที่ 2 สร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยครูมืออาชีพ ๒.1 บูรณาการการจัดการเรียนรู้เพื่อการศึกษาต่อด้านอาชีพและการประกอบอาชีพ หรือการมีงาน ทำตามความต้องการและความถนัดของผู้เรียน
40 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 2.2 โรงเรียนจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2.3 ส่งเสริมให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และเป็นผู้สร้างนวัตกรรมให้กับ ผู้เรียนทุกระดับชั้น 2.4 ส่งเสริม สนับสนุนครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีการพัฒนาตนเองทางวิชาชีพอย่าง ต่อเนื่อง มีจรรยาบรรณ และจิตวิญญาณความเป็นครู 2.5 ส่งเสริม พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน ที่นำไปสู่ Digital Life & Learning กลยุทธ์ที่ 3 เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการบริหารและการจัดการ 3.1 โรงเรียนมีการนำระบบข้อมูลสารสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการและ การให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ 3.2 โรงเรียนมีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน 3.3 โรงเรียนมีระบบการจัดสรรทรัพยากร โดยเฉพาะอัตรากำลังและงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบริบท 3.4 โรงเรียนบริหารจัดการตามหลักธรรมมาภิบาล เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
41 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 โครงการ/กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านทุ่งยาว กลยุทธ์ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ตัวชี้วัดความสำเร็จ โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพ ผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 เชิงปริมาณ 1. นักเรียนปฐมวัย ร้อยละ 80 มี พัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรง มีสุข นิสัยที่ดีและดูแลความปลอดภัยของ ตนเองได้ 2. นักเรียนปฐมวัย ร้อยละ 80 มี พัฒนาการด้านอารมณ์-จิตใจ มี สุขภาพจิตดี และมีความสุข 3. นักเรียนปฐมวัย ร้อยละ 80 มี พฤติกรรมการแสดงออกถึงความรักใน สถาบันของชาติ ยึดมั่นการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มี คุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะ มิ จิตอาสา สุจริต มัธยัสถ์ โอบอ้อมอารี มี วินัย 4. นักเรียนปฐมวัย ร้อยละ 80 มี พัฒนาการด้านสติปัญญา มี ความสามารถในการคิดรวบยอด และ การคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง 5. โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ร้อยละ 100 มี หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย พ.ศ. 2561 สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัยและบริบทของท้องถิ่น 6. โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ร้อยละ 100 มี ระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โครงการส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านอย่างมีคุณภาพ สู่มาตรฐาน การศึกษาปฐมวัย 1. กิจกรรมสุขภาพจิตดี ชีวีมีสุข 2. กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย 3. กิจกรรมวันสำคัญอื่น ๆ 4. กิจกรรมวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา 5. กิจกรรมหนูน้อยออมทรัพย์ 6. กิจกรรมเด็กน้อยไหว้สวย พูดจา ไพเราะ 7. กิจกรรมไหว้พระสวดมนต์ทุกวัน พระ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ประเพณี ท้องถิ่น (การทำขนมบ้า) 9. กิจกรรมหนูน้อยคนเก่ง 10. กิจกรรมพัฒนาหลักสูตร 11. กิจกรรมการประกันคุณภาพ ภายใน 12. กิจกรรมพัฒนาการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริม พัฒนาการทุกด้าน 13. กิจกรรมจัดประสบการณ์เน้น เด็กเป็นสำคัญ 14. กิจกรรมประเมิน ปรับปรุง เพื่อ พัฒนาพัฒนาการเด็ก
42 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 กลยุทธ์ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ตัวชี้วัดความสำเร็จ โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพ ผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 7. ครูปฐมวัย ร้อยละ 100 จัด ประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมี พัฒนาการทุกด้าน และมีแผนการจัด ประสบการณ์ จำนวน 40 แผน พร้อม ทั้งมีสื่อที่สอดคล้องกับแผนการจัด ประสบการณ์ 8. ครูปฐมวัย ร้อยละ 100 จัด บรรยากาศห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย เชิงคุณภาพ 1. นักเรียนปฐมวัยโรงเรียนบ้านทุ่งยาว ทุกคน ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพใน การจัดการสุขภาวะของตนเอง ให้มีสุข ภาวะที่ดี สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมี ความสุขทั้งร่างกาย และจิตใจ 2. นักเรียนปฐมวัยโรงเรียนบ้านทุ่งยาว ทุกคน ได้รับการพัฒนาให้มีพัฒนาการ ด้านอารมณ์-จิตใจ ที่ดี สามารถ แสดงออกทางอารมณ์ และความรู้สึกที่ ดีต่อตนเองและผู้อื่นได้ 3. นักเรียนปฐมวัยโรงเรียนบ้านทุ่งยาว ทุกคน ได้เข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาตน ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมที่ดีงาม และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 4. นักเรียนปฐมวัยโรงเรียนบ้านทุ่งยาว ทุกคน ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพ ด้านสติปัญญา สามารถคิดแก้ปัญหา เรื่องง่าย ๆ ด้วยตนเอง และมี ความสามารถในการคิดรวบยอดได้ 5. โรงเรียนบ้านทุ่งยาว มีหลักสูตร ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน และมี 15. กิจกรรมหนูน้อยสุขภาพดี 16. กิจกรรมพัฒนาสภาพแวดล้อม 17. กิจกรรมห้องเรียนน่าอยู่ น่า เรียน 18. กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตาม หลักเศรษฐกิจพอเพียงภายในและ ภายนอกห้องเรียน
43 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 กลยุทธ์ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ตัวชี้วัดความสำเร็จ โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพ ผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 การประเมิน พัฒนาหลักสูตรให้ สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และบริบทของท้องถิ่น 6. โรงเรียนบ้านทุ่งยาว มีการกำหนด มาตรฐานการศึกษาที่สอดคล้องกับ มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย 7. นักเรียนปฐมวัย มีผลการประเมิน พัฒนาการ ทั้ง 4 ด้าน สูงกว่าปี การศึกษาที่ผ่านมา 8. ครูจัดบรรยากาศห้องเรียนที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ สะอาด อากาศถ่ายเท และ ปลอดภัย พร้อมทั้งใช้สื่อและเทคโนโลยี ที่เหมาะสมกับวัย เชิงปริมาณ 1. นักเรียนร้อยละ 80 มีทักษะในการใช้ ภาษาที่เหมาะสมตามวัย 2. นักเรียนร้อยละ 80 มีทักษะการ สังเกต รู้จักคิด ตั้งคำถามและค้นหา คำตอบด้วยตนเอง 3. นักเรียนร้อยละ 80 ใช้จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ในทางที่ เหมาะสม 4. นักเรียนร้อยละ 80 ใช้กระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาและ คิดสร้างสรรค์ เชิงคุณภาพ 1. สถานศึกษาจัดโครงการ กิจกรรม ส่งเสริมสนับสนุนตามนโยบายเกี่ยวกับ การจัดการศึกษาปฐมวัย โครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ๑. กิจกรรมทดลองวิทยาศาสตร์ 20 กิจกรรม ๒. กิจกรรมโครงงานห้องละ 1 โครงงาน
44 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 กลยุทธ์ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ตัวชี้วัดความสำเร็จ โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพ ผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 2. นักเรียนระดับปฐมวัย มีทักษะ วิทยาศาสตร์ผ่านการทดลองอย่างง่าย และมีความสนใจในการเรียน วิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับดี 3. นักเรียนระดับปฐมวัย ได้รับการ ถ่ายทอดทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง อยู่ในระดับดี 4. ครูผู้สอนระดับปฐมวัย มีทักษะด้าน การจัดประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัย อยู่ในระดับดี เชิงปริมาณ 1. ครู ร้อยละ 85 จัดการเรียนการสอน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. นักเรียน ร้อยละ 65 มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน บรรลุตามเป้าหมายที่ โรงเรียนกำหนดไว้ 3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อย ละ 100 ได้เข้าร่วมกิจกรรมการปัจฉิม นิเทศ 4. ผู้บริหาร ครูและนักเรียน ร้อยละ 100 ได้รับการประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา เชิงคุณภาพ 1. ครูจัดการเรียนการสอนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน บรรลุตามเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด ไว้ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษา 1. จัดทำแผนนิเทศภายในโรงเรียน 2. ครูผู้สอนลงมือปฎิบัติการนิเทศ ครูผู้สอน ตามวัน เวลาที่กำหนด 3. นิเทศ ติดตาม กำกับ บริการให้ คำปรึกษาแก่ครูผู้สอน 4. ประเมินผลสิ้นภาคเรียน 5. จัดกิจกรรมปัจฉิมนักเรียน 6. ตรวจสอบและทบทวนมาตรฐาน คุณภาพ ภายในสถานศึกษา 7. จัดทำรายงานประจำปีการศึกษา 2565 (SAR)
45 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 กลยุทธ์ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ตัวชี้วัดความสำเร็จ โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพ ผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 3. นักเรียนเกิดความสัมพันธ์อันดี ระหว่างคณะครูและนักเรียนที่จบ การศึกษา 4. ผู้บริหาร ครูและนักเรียน มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถปฏิบัติ กิจกรรมใน เชิงปริมาณ 1. นักเรียน ร้อยละ 80 มีนิสัยรักการ อ่านและรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็น ประโยชน์ 2. นักเรียน ร้อยละ 100 เข้าใช้บริการ ห้องสมุด 3. นักเรียน ร้อยละ 80 มีทักษะการอ่าน นำไปสู่การคิด การเขียน ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เชิงคุณภาพ 1. ห้องสมุดมีหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ต่าง ๆ ให้บริการแก่นักเรียนและ บุคลากรในโรงเรียนอย่างเพียงพอ 2. นักเรียนสามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วย ตนเอง และเป็นศูนย์การเรียนรู้ของ นักเรียน และบุคลากรในโรงเรียน 3. นักเรียนได้รับการส่งเสริมให้มีนิสัย รักการอ่านและเข้าร่วมกิจกรรมรักการ อ่านอย่างต่อเนื่อง โครงการพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน และส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน 1. กิจกรรมการพัฒนาห้องสมุด โรงเรียน 2. กิจกรรมทำป้ายนิเทศความรู้ ทั่วไป 3. กิจกรรมจัดนิทรรศการหนังสือ ใหม่ 4. กิจกรรมบันทึกการอ่าน 5. กิจกรรมกิจกรรมนำเสนอ ภาษาอังกฤษ/ภาษาไทย/สำนวน ไทย/พุทธสุภาษิต หน้าเสาธง 6. กิจกรรมห้องสมุดเคลื่อนที่ เชิงปริมาณ 1. ครูร้อยละ 75 สามารถปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน ตามแนวปฏิรูปการ เรียนรู้ โครงการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 1. สาระภาษาไทย 2. สาระคณิตศาสตร์- การร่วม แข่งขันทักษะนานาชาติ
46 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 กลยุทธ์ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ตัวชี้วัดความสำเร็จ โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพ ผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 2. นักเรียนร้อยละ 75 มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ สูงขึ้น 3. นักเรียนร้อยละ 75 มีการพัฒนาทุก ด้านสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ เชิงคุณภาพ 1. ครูในโรงเรียนทุกคนสามารถใช้ กระบวนการเรียนการสอนตามแนว ปฏิรูปได้ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้สูงขึ้น 3. นักเรียนรู้และเข้าใจในวิถีชีวิต ทักษะ กระบวนการดำรงชีวิต ประจำวันได้ 3. สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. สาระสังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม 5. สาระภาษาอังกฤษ 6. สาระศิลปะ 7. สาระสุขศึกษาและพลศึกษา 8. สาระการงานอาชีพ 9. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 10. วิเคราะห์ศักยภาพผู้เรียนเป็น รายบุคคล 11. การสอนเร่งรัดในตอนเย็นหลัง เลิกเรียน/วันเสาร์/ช่วงปิดภาคเรียน 12. ประเมินผลการเรียนรู้ สอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียน 13. ร่วมกิจกรรมกับชุมชน 14. การทำวิจัยในชั้นเรียน 15. กิจกรรมวันสำคัญ 16. นำนักเรียนสอบเรียนต่อ 17. แนะแนวการศึกษาต่อ 18. กิจกรรมการเยี่ยมบ้าน 19. ประเมินผล/สรุปรายงาน เชิงปริมาณ 1. นักเรียนพิเศษเรียนร่วมได้รับการ พัฒนาการเรียนรู้ตามพัฒนาการร้อยละ 80 2. สถานศึกษาจัดการเรียนรู้ให้นักเรียน พิเศษเรียนร่วมที่ตอบสนองความ โครงการนักเรียนพิเศษเรียนรวม 1. จัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) 2. จัดทำแบบฝึกหัด/จัดหาสื่อการ เรียนการสอนสำหรับนักเรียนพิเศษ เรียนร่วม
47 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2566-2570 กลยุทธ์ โรงเรียนบ้านทุ่งยาว ตัวชี้วัดความสำเร็จ โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมคุณภาพ ผู้เรียน ให้เกิดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 แตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการ สติปัญญา ร้อยละ 80 เชิงคุณภาพ 1. นักเรียนพิเศษเรียนรวมมีพัฒนาการ การเรียนรู้เป็นไปตามเกณฑ์ 2. นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และมี น้ำใจต่อเพื่อนนักเรียนพิเศษเรียนรวม เชิงปริมาณ 1. นักเรียนทุกคน มีความรู้ ความเข้าใจ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ อย่างถูกต้อง 2. นักเรียนทุกคน สามารถปฏิบัติตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ อย่างถูกต้อง 3. นักเรียนทุกคน มีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์“อยู่อย่างพอเพียง” ในระดับ ดีขึ้นไป 4. นักเรียน ครู/บุคลากรทางการศึกษา ใช้ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านทุ่งยาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา ตรัง เขต 1เป็นแหล่ง เรียนรู้ เชิงคุณภาพ 1. นักเรียน มีความรู้ ความเข้าใจหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่าง ถูกต้อง โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 1. การเลี้ยงปลาดุกในบ่อ 2. การปลูกผักในแปลงดิน 3. การทำแปลงผักลอยฟ้า 4. การปลูกผักลอยฟ้า 5. การเรียนรู้หลักเศรษฐกิจพอเพียง