โรงเรียนอำนาจเจริญ
สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาอบุ ลราชธานี อำนาจเจริญ
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการWWW.ANC.AC.THFacebook :
ANC_SCHOOL
คำนำ
ด้วยสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำอบุลรำชธำนี อำนำจเจริญ
ได้กำหนดให้โรงเรยี นในเขตพ้นื ท่ี จดั ทำแผนปฏบิ ตั กิ ำรประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 เพ่อื กำร
วำงแผนพฒั นำกำรศกึ ษำของโรงเรยี น และดำเนินงำนตำมนโยบำยของ สพม.อบ อจ และ
สพฐ. โรงเรยี นอำนำจเจรญิ งำนแผนงำนโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ไดจ้ ดั ทำและดำเนินกำรกำกบั
ตดิ ตำมกำรใช้งบประมำณโดยวงจรบรหิ ำรใช้งำนคุณภำพ PDCA เพ่อื แก้ปัญหำ ปรบั ปรุง
ส่งเสริมและพัฒนำศักยภำพของโรงเรียน จนสำเร็จลุล่วง ดังนัน้ แผนงำน โรงเรียน
อำนำจเจรญิ จงึ ได้จดั ทำรำยงำนผลกำรดำเนินงำนตำมแผนปฏบิ ตั กิ ำร ปีกำรศกึ ษำ 2564
ฉบบั น้ขี น้ึ
หวงั ว่ำเอกสำรรำยงำนผลกำรดำเนินงำนตำมแผนปฏบิ ตั กิ ำร ปีกำรศกึ ษำ 2564
ฉบบั น้ีจะเป็นแนวทำงในกำรพฒั นำคุณภำพโรงเรยี น เพ่อื ใหผ้ ปู้ กครองและชุมชนได้มนั่ ใจ
ในคุณภำพนกั เรยี นทเ่ี ป็นผลผลติ ของโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ตอ่ ไป
งำนแผนงำน โรงเรยี นอำนำจเจรญิ
(ก)
สำรบญั
หน้ำ
สำรบญั (ก)
สว่ นท่ี 1 สภำพทวั่ ไปของโรงเรยี นอำนำจเจรญิ
1. ประวตั แิ ละควำมเป็นมำของโรงเรยี นอำนำจเจรญิ 1
2. ผงั สำยงำนกำรบรหิ ำรโรงเรยี น 3
3. ขนำดและทต่ี งั้ ของโรงเรยี นอำนำจเจรญิ 4
4. แผนกำรจดั ชนั้ เรยี นและจำนวนนกั เรยี นปีกำรศกึ ษำ 2564 5
5. จำนวนบคุ ลำกรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ 6
6. ผลงำนดเี ดน่ โรงเรยี นอำนำจเจรญิ 6
สว่ นท่ี 2 นโยบำยและแนวทำงกำรดำเนินกำรจดั ทำแผนปฏบิ ตั กิ ำร
1. พระบรมรำโชบำยดำ้ นกำรศกึ ษำ ในหลวงรชั กำลท่ี 10 9
2. 23 หลกั กำรทรงงำน ในพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อย่หู วั รำชกำรท่ี 9 10
3. ยุทธศำสตรช์ ำต(ิ พ.ศ. 2561 – 2580) 13
4. นโยบำยจุดเน้น ของกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร ปีงบประมำณ 2564 13
5. จุดเน้นกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร พ.ศ. 2564 15
6. นโยบำย สพฐ. ปี 2564 – 2565 17
7. ยุทธศำสตรก์ ำรพฒั นำองคก์ ร สพม.อบ.อจ. 6 ยุทธศำสตร์ 19
8. มำตรฐำนสำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำ พ.ศ.2560 23
9. ประกำศโรงเรยี นอำนำจเจรญิ เรอ่ื ง ใหใ้ ชม้ ำตรฐำนกำรศกึ ษำฯ 24
สว่ นท่ี 3 ทศิ ทำงกำรพฒั นำคุณภำพของโรงเรยี น
1. สถำนภำพโรงเรยี น 26
2. วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ เป้ำประสงค์ 30
3. กลยุทธข์ องโรงเรยี น 31
สำรบญั (ต่อ)
หน้ำ
สว่ นท่ี 4 ผลกำรดำเนินงำนตำมโครงกำร กจิ กรรม
1. สรุปกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณ 33
2. ตำรำงแสดงควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงโครงกำรหลกั นโยบำย 34
3. ค่ำเฉลย่ี ของกำรบรรลเุ ป้ำหมำยทไ่ี ดต้ งั้ ไวต้ ำมมำตรฐำนกำรศกึ ษำ
ระดบั กำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน พ.ศ. 2561 43
4. ตำรำงแสดงรอ้ ยละกำรบรรลุเป้ำหมำยทไ่ี ดต้ งั้ โครงกำร/กจิ กรรม 45
5. สรปุ สภำพแวดลอ้ มในกำรดำเนนิ งำนตำมโครงกำร/กจิ กรรม 55
สว่ นท่ี 5 สรุปผลกำรดำเนนิ ตำมโครงกำรและกจิ กรรม
1. แนวทำงกำรสรุปผลกำรดำเนนิ งำนตำมโครงกำร/กจิ กรรม
ปีกำรศกึ ษำ 2564 68
2. ผลกำรดำเนนิ งำนโครงกำรตำมแผนปฏบิ ตั กิ ำร ประจำปีกำรศกึ ษำ
พ.ศ.2564 โรงเรยี นอำนำเจรญิ 69
3. ขอ้ เสนอแนะในกำรแกไ้ ขปัญหำและอปุ สรรค 72
ภำคผนวก
ตารางแสดงผลการบรรลเุ ปา้ หมายในโครงการ/กิจกรรม
ตารางที่ 1 แสดงผลการบรรลเุ ป้าหมายเชิงปรมิ าณ
ตารางที่ 2 แสดงผลกา รบรรลเุ ปา้ หมายเชิงคุณภาพ
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏบิ ตั กิ าร ประจำปกี ารศกึ ษา 2564 ซ
โรงเรยี นอำนาจเจริญ
F
บทสรปุ สำหรบั ผ้บู ริหำร Fi’
โรงเรยี นอำนำจเจรญิ เป็นโรงเรยี นขนำดใหญพ่ เิ ศษ เปิดสอนระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำ
ตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย เป็นโรงเรยี นมำตรฐำนสำกล โรงเรยี นเปิดโครงกำร
หอ้ งเรยี นพเิ ศษวทิ ยำศำสตร์ (ESMTE) ของ สสวท. โครงกำรหอ้ งเรยี นพเิ ศษวทิ ยำศำสตร์
(ESMTE) ของ สพม 29. โครงกำรหอ้ งเรยี นพเิ ศษภำษำองั กฤษ (MEP) โครงกำร
หอ้ งเรยี นหอ้ งเรยี นพเิ ศษคณติ ศำสตร์ (GMP) โครงกำรหอ้ งเรยี นหอ้ งเรยี นพเิ ศษ
คอมพวิ เตอร์ และโครงกำรหอ้ งเรยี นพเิ ศษนติ -ิ รฐั ศำสตร(์ LPP) ในปีกำรศกึ ษำ 2564 มี
จำนวนบุคลำกร ดงั น้ี ฝ่ำยบรหิ ำร 5 คน ครู 175 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 14 คน และนกั เรยี น
3,536 คน สดั สว่ นครตู อ่ นกั เรยี น 1 : 20.20 (ไมร่ วมครอู ตั รำจำ้ ง ) โรงเรยี นมเี ป้ำหมำย
ของกำรจดั กำรศกึ ษำมุ่งพฒั นำผเู้ รยี นมศี กั ยภำพสู่มำตรฐำนสำกลสำมำรถสอ่ื สำรไดอ้ ย่ำง
น้อยสองภำษำ คดิ งำนอย่ำงสรำ้ งสรรค์ เป็นบุคคลแหง่ กำรเรยี นรู้ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม
ค่ำนยิ มทพ่ี งึ ประสงค์ พฒั นำงำนและดำรงตนในสงั คมโลกไดอ้ ยำ่ งมคี วำมสขุ โรงเรยี นมี
บรหิ ำรจดั กำรองคก์ รดว้ ยระบบคุณภำพ และจดั สภำพแวดลอ้ มในโรงเรยี นใหเ้ ออ้ื ตอ่ กำร
จดั กำรเรยี นรู้ โดยมแี นวทำงกำรดำเนินงำนตำมกรอบของแผนกลยทุ ธ์ของโรงเรยี น
นโยบำยของ สพฐ. และสพม.อบอจ
ผลกำรดำเนินงำนตำมแผนปฏิบตั ิกำร โรงเรยี นไดป้ รบั แผนกลยุทธ์ ระยะ 3 ปี
(ปี 2564 – 2566) และจดั ทำแผนปฏบิ ตั กิ ำรประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 ไดย้ ดึ กรอบกำร
ดำเนินงำนตำมแผนกลยุทธ์ นโยบำยของ สพฐ. สพม.อบอจ และสภำพปัญหำและควำม
ตอ้ งกำรของโรงเรยี น จดั สรรงบประมำณใหก้ ลุ่มบรหิ ำรงำนทงั้ 4 กลมุ่ และกลุม่ สำระกำร
เรยี นรู้ 8 กล่มุ สำระโดยกำหนดงบประมำณแบบใหว้ งเงนิ รวม (Block Grants) สดั สว่ นกำร
จดั สรรงบวชิ ำกำร : บรหิ ำรทวั่ ไป : สำรองจ่ำย เป็น 70 : 20 : 10 โดยควำมเหน็ ชอบของ
คณะกรรมกำรบรหิ ำรและคณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำของโรงเรยี น
กำรดำเนินงำนโครงกำร/งำน ปีกำรศกึ ษำ 2564 โรงเรยี นไดด้ ำเนนิ โครงกำร
จำนวน126 โครงกำร และกจิ กรรม 133 กจิ กรรม ในกำรบรหิ ำรงบประมำณในกำรกำร
จดั ซอ้ื จดั จำ้ งไดด้ ำเนินกำรตำมแผนปฏบิ ตั กิ ำร โดยทุกโครงกำร/งำนทจ่ี ะดำเนินตอ้ งไดก้ ำร
ตรวจสอบจำกฝ่ำยแผนงำนเพอ่ื กำรเงนิ เพอ่ื เสนออนุมตั แิ ละจดั ซอ้ื ตำมระเบยี บกำรจดั ซอ้ื
รายงานผลการดำเนนิ งานตามแผนปฏบิ ตั ิการ ประจำปีการศึกษา 2564 ฌ
โรงเรยี นอำนาจเจรญิ
F
จดั จำ้ ง กำรเบกิ จ่ำยงบประมำณไดด้ ำเนินกำรตำมระเบยี บ มคี ณะกรรมกำรกำรตรวจสอบ Fi’
ภำยใน และคณะกรรมกำรตรวจสอบวสั ดุครภุ ณั ฑ์ ผลกำรประเมนิ ควำมสำเรจ็ ในกำร
ดำเนินงำนตำมโครงกำรและงำนในปีกำรศกึ ษำ 2564 โดยใชแ้ บบประเมนิ ระดบั ควำมพงึ
พอใจ ผลกำรประเมนิ ภำพรวมอยใู่ นระดบั พงึ พอใจ
กำรปฏิบตั ิท่ีดี โรงเรยี นบรหิ ำรงบประมำณโดยเน้นควำมสำเรจ็ ของงำนและเน้น
กำรมสี ว่ นรว่ มของบคุ ลำกร ผลดำเนินงำนเป็นไปตำมแผนปฏบิ ตั กิ ำร โรงเรยี นมกี ำร
ตรวจสอบกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณคงเหลอื ของกลุ่มบรหิ ำรงำน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ และกล่มุ
งำน กำรดำเนินงำนของโรงเรยี นเป็นไปตำมแผนปฏบิ ตั กิ ำร กรณนี โยบำยเรง่ ด่วนโรงเรยี น
ไดบ้ รหิ ำรงำนโดยใชง้ บสำรองจ่ำย
ปัญหำ/อปุ สรรค/กำรแก้ไข ปัญหำทพ่ี บคอื กำรจดั สรรงบประมำณเงนิ อดุ หนุน
รำยหวั จำกสำนกั งบประมำณมคี วำมล่ำชำ้ ทำใหก้ ำรบรหิ ำรงบประมำณขำดควำมคล่องตวั
ครแู ละบุคลำกรบำงสว่ นยงั ขำดควำมรตู้ ำมควำมเขำ้ ใจเกย่ี วกบั ระเบยี บพสั ดแุ ละกำรเงนิ ตำม
ระเบยี บใหม่ โรงเรยี นไดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขโดยกำรนเิ ทศงำนเร่อื งระเบยี บพสั ดุ ซง่ึ ทำใหค้ รู
และบคุ ลำกรมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจในระเบยี บและกำรปฏบิ ตั ทิ ำใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ ำพกำรสงู ขน้ึ
นอกจำกน้ยี งั มปี ัจจยั ภำยนอกเร่อื ง สภำวะกำรระบำดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019
(COVID-19) สง่ ผลตอ่ หลำยกำรจดั กจิ กรรมหลำยกจิ กรรมตอ้ งเล่อื นหรอื ปรบั กจิ กรรม
โครงกำร ซง่ึ อำจจะทำใหผ้ ลกำรปฏบิ ตั โิ ครงกำรไมเ่ ป็นไปตำมเป้ำหมำยในบำงโครงกำร
ขอ้ เสนอแนะเพือ่ กำรนำไปพฒั นำ 1) ในกำรกำรเขยี นโครงกำรเพอ่ื พฒั นำหรอื
แกป้ ัญหำของทกุ กลุ่มบรหิ ำรงำน กลุ่มสำระกำรเรยี นรูแ้ ละกลมุ่ งำนนนั้ ควรกำหนดเป้ำหมำย
ใหช้ ดั เจน มตี วั ชว้ี ดั ควำมสำเรจ็ ของโครงกำรทช่ี ดั เจน มวี ธิ ปี ฏบิ ตั /ิ ขนั้ ตอน/กจิ กรรมท่ี
ชดั เจน สำมำรถปฏบิ ตั แิ ละวดั ประเมนิ ผลได้ 2) ควรจะกำหนดระเบยี บวธิ ปี ฏบิ ตั ิ ขนั้ ตอน
กำรทำงำนในเรอ่ื งทย่ี งั ขำดควำมชดั เจนเพอ่ื ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั ิหรอื ผทู้ ม่ี สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งสำมำรถปฏบิ ตั ิ
ไดอ้ ย่ำงถูกตอ้ ง รวดเรว็ โดยจดั ทำเป็นเอกสำรหรอื จดั ทำโฟรช์ ำรต์ (flowchart) หรอื ผงั
ขนั้ ตอนกำรทำงำน
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏบิ ตั กิ าร ประจำปีการศึกษา 2564 ญ
โรงเรียนอำนาจเจริญ
F
หวงั เป็นอย่ำงยง่ิ วำ่ กำรดำเนินตำมแผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ในปี Fi’
กำรศกึ ษำ 2564 จะเกดิ ประสทิ ธภิ ำพและประสทิ ธผิ ลสูงสุด นกั เรยี น ผปู้ กครองหรอื ผทู้ ม่ี ี
สว่ นไดส้ ว่ นเสยี มคี วำมพงึ พอใจผลกำรดำเนินงำนของโรงเรยี น
( นำยนิยม รกั พรม )
ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ
รายงานผลการดำเนนิ งานตามแผนปฏบิ ตั กิ าร ประจำปกี ารศึกษา 2564 1
โรงเรียนอำนาจเจริญ
ส่วนที่ 1 F
ขอ้ มลู ทวั่ ไป Fi’
สภำพทวั่ ไปโรงเรียนอำนำจเจริญ
1. ประวตั แิ ละควำมเป็นมำของโรงเรยี นอำนำจเจรญิ
โรงเรยี นอำนำจเจรญิ อำเภอเมอื ง จงั หวดั อำนำจเจรญิ ไดร้ บั อนุมตั ใิ หจ้ ดั ตงั้
เป็นสถำนศกึ ษำและเปิดทำกำรสอน เม่อื วนั ท่ี 12 มถิ ุนำยน 2494 ตำมหนงั สอื จงั หวดั
ท่ี 5858/2494 ลงวนั ท่ี 17 พฤษภำคม 2494 ในสมยั นำยอำนำจ วฒั นสุข ดำรงตำแหน่ง
นำยอำเภออำนำจเจรญิ และนำยวฑิ รู ย์ คนศลิ ป์ ดำรงตำแหน่งศกึ ษำธกิ ำรอำเภอ
อำนำจเจรญิ กำรจดั กำรศกึ ษำไดพ้ ฒั นำมำเป็นลำดบั ดงั น้ี
ปีกำรศกึ ษำ 2540 มแี ผนชนั้ เรยี น 14-12-13 / 15-12-11 สำขำตำบลบุ่ง
มแี ผนชนั้ เรยี น 3-3-2 / 0-0-0 สำขำตำบลสรำ้ งนกทำมแี ผนชนั้ เรยี น 3-2-2 / 0-0-0
ไดย้ ำ้ ยนกั เรยี นสำขำตำบลบุ่งไปเรยี นทบ่ี ำ้ นดอนหวำยตำใกล้ โดยก่อสรำ้ งอำคำรชวั่ ครำว
2 หลงั
ปีกำรศกึ ษำ 2541 มแี ผนชนั้ เรยี น 14-13-12 / 14-12-12 ) สำขำตำบลบุ่ง
และสำขำตำบลสรำ้ งนกทำ ไดร้ บั ประกำศจดั ตงั้ เป็นเอกเทศช่อื โรงเรยี นอำนำจเจรญิ 2
และโรงเรยี นสรำ้ งนกทำวทิ ยำคม
ปีกำรศกึ ษำ 2548 มแี ผนเตม็ รปู 12-12-12 / 14-14-14 จำนวน 78 หอ้ งเรยี น
มแี ผนชนั้ เรยี นทจ่ี ดั จรงิ 11-10-10 / 11-11-11 จำนวน 65 หอ้ งเรยี น นกั เรยี น 3,357 คน
ครู 123 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 7 คน ครมู ำช่วยรำชกำร 1 คน ครไู ปช่วยรำชกำร 14 คน
นกั กำรภำรโรงและยำม 14 คน ลกู จำ้ งชงั่ ครำว(พนกั งำนรกั ษำควำมสะอำด) จำนวน 5 คน
ปีกำรศกึ ษำ 2552 มแี ผนเตม็ รปู 15-15-15 / 15-15-14 จำนวน 89 หอ้ งเรยี น
มจี ำนวนนกั เรยี น 4,004 คน ครู 129 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 11 คน พนกั งำนรำชกำร 2 คน
ลกู จำ้ งประจำ 13 คน เจำ้ หน้ำทท่ี ำควำมสะอำดจำนวน 6 คน
รายงานผลการดำเนนิ งานตามแผนปฏิบตั กิ าร ประจำปกี ารศึกษา 2564 2
โรงเรียนอำนาจเจริญ
ปีกำรศกึ ษำ 2553 มแี ผนเตม็ รปู 15-15-15 / 15-15-15 จำนวน 90 หอ้ งเรยี น F
มจี ำนวนนกั เรยี น 4,138 คน ครู 138 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 20 คน พนกั งำนรำชกำร 2 คน Fi’
ลกู จำ้ งประจำ 11 คน ลกู จำ้ งชวั่ ครำว (พนกั งำนขบั รถ) 2 คน เจำ้ หน้ำทท่ี ำควำมสะอำด
จำนวน 6 คน
ปีกำรศกึ ษำ 2558 มแี ผนเตม็ รปู 15-15-15 / 16-16-16 จำนวน 93 หอ้ งเรยี น
มจี ำนวนนกั เรยี น 4,200 คน ฝ่ำยบรหิ ำร 5 คน ครู 124 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 35 คน
พนกั งำนรำชกำร 3 คน ลกู จำ้ งประจำ 6 คน ลกู จำ้ งชวั่ ครำวและพนักงำนขบั รถ 6 คน
เจำ้ หน้ำทท่ี ำควำมสะอำดจำนวน 6 คน
ปีกำรศกึ ษำ 2559 มแี ผนชนั้ เรยี น 15-17-17 / 16-17-16 จำนวน 98
หอ้ งเรยี น นกั เรยี น 4,071 คน ฝ่ำยบรหิ ำร 5 คน ครู 157 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 42 คน
พนกั งำนรำชกำร 5 คน ลูกจำ้ งประจำ 5 คน ลกู จำ้ งชวั่ ครำว 20 คน
ปีกำรศกึ ษำ 2560 มแี ผนชนั้ เรยี น 15-16-16 / 15-16-16 จำนวน 94
หอ้ งเรยี น นกั เรยี น 3,746 คน ฝ่ำยบรหิ ำร 5 คน ครู 173 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 42 คน
พนกั งำนรำชกำร 6 คน ลกู จำ้ งประจำ 4 คน ลกู จำ้ งชวั่ ครำว 20 คน
ปีกำรศกึ ษำ 2561 มแี ผนชนั้ เรยี น 16-16-16 / 15-15-16 จำนวน 94
หอ้ งเรยี น นกั เรยี น 3,541 คน ฝ่ำยบรหิ ำร 5 คน ครู 185 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 30 คน
พนกั งำนรำชกำร 9 คน ลกู จำ้ งประจำ 4 คน ลกู จำ้ งชวั่ ครำว 29 คน
ปีกำรศกึ ษำ 2563 มแี ผนชนั้ เรยี น 16-16-16 / 15-15-15 จำนวน 93
หอ้ งเรยี น นกั เรยี น 3,541 คน ฝ่ำยบรหิ ำร 5 คน ครู 185 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 30 คน
พนกั งำนรำชกำร 9 คน ลกู จำ้ งประจำ 4 คน ลกู จำ้ งชวั่ ครำว 29 คน กำรมกี ำร
ปีกำรศกึ ษำ 2564 มแี ผนชนั้ เรยี น 16-16-16 / 15-15-15 จำนวน 93
หอ้ งเรยี น นกั เรยี น 3,536 คน ฝ่ำยบรหิ ำร 5 คน ครู 186 คน ครอู ตั รำจำ้ ง 23 คน
พนกั งำนรำชกำร 9 คน ลกู จำ้ งประจำ 4 คน ลกู จำ้ งชวั่ ครำว 29 คน กำรมกี ำร
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบตั ิการ ประจำปกี ารศึกษา 2564 3
โรงเรียนอำนาจเจรญิ
F
Fi’
ผบู้ รหิ ำรโรงเรยี นคนปัจจุบนั คอื นำยนิยม รกั พรม
อกั ษรย่อโรงเรยี น อ.จ.
ปรชั ญำโรงเรยี น “สกิ ขำ ชวี ติ โชตนิ ำ”หมำยถงึ กำรศกึ ษำคอื แสงสวำ่ งของชวี ติ
สปี ระจำโรงเรยี น คอื สฟี ้ำและสเี หลอื ง
สฟี ้ำ หมำยถงึ ควำมสงู สง่ ควำมมเี กยี รติ
สเี หลอื ง หมำยถงึ ควำมเจรญิ รุ่งเรอื ง ควำมรุ่งโรจน์
ตรำประจำโรงเรยี น
เป็นรปู ดอกบวั มเี ปลวไฟอยภู่ ำยใน รอบเปลวคบเพลงิ
มคี ำว่ำ สกิ ขำ ชวี ติ โชตนำ หมำยถงึ กำรศกึ ษำคอื แสงสว่ำงของชวี ติ
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏบิ ตั
2. ผงั สำยงำนก
แผนภมู ิโครงสร้ำงกำรบ
คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน ผอู้ ำนวยก
คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน
กลุ่มบริหำรบคุ คลและงบประมำณ กลุ่มบริหำรวิชำกำร
งำนสำนักงำน งำนสำนักงำน
งำนสำรบรรณ งำนวำงแผนงำนวชิ ำกำร
งำนนโยบำยและแผน งำนพฒั นำหลกั สตู ร/จดั กำรเรยี นกำรสอน
งำนสำรสนเทศ งำนพฒั นำกระบวนกำรเรยี นรู้
งำนควบคมุ ภำยใน งำนกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้
งำนบญั ชี และกำรเงนิ งำนกจิ กรรมพฒั นำผเู้ รยี น
งำนพสั ดุและสนิ ทรพั ย์ งำนทะเบยี นนกั เรยี นและวดั ผล
งำนบคุ ลำกร งำนวดั ผลประเมนิ ผล/เทยี บโอน
งำนส่งเสรมิ มำตรฐำนวชิ ำชพี ครู งำนวจิ ยั และพฒั นำคุณภำพ
งำนสวสั ดกิ ำรและกองทุน งำนวำงแผนงำนวชิ ำกำร
งำนทศั นศกึ ษำ งำนแหล่งเรยี นร/ู้ ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ
งำนประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั งิ ำน งำนแนะแนว/กองทนุ กยู้ มื
งำนกำรรบั นักเรยี น งำนนเิ ทศ ตดิ ตำม
งำนทะเบยี นนักเรยี น งำนผลติ เอกสำรและส่อื
งำนประชำสมั พนั ธ์ งำนประกนั คุณภำพกำรศกึ ษำ
งำนพฒั นำส่อื เทคโนโลยี
งำนคดั เลอื กหนังสอื
งำนหอ้ งเรยี นพเิ ศษ
ครู น
ตกิ าร ประจำปกี ารศึกษา 2564 4
กำรบรโริหงเำรียรนโอรำงนเารจเยี จรนิญ
บริหำรโรงเรยี นอำนFำจเจริญ
Fi’
กำรโรงเรยี น
สมำคมผ้ปู กครอง ครู / ศิษยเ์ ก่ำ ฯ / มูลนิธิ ฯ
กล่มุ บริหำรกิจกำรนักเรียน กลุม่ บริหำรทวั ่ ไป
งำนสำนักงำน งำนสำนักงำน
งำนครทู ป่ี รกึ ษำและระดบั ชนั้ งำนอำคำร สถำนทแ่ี ละสง่ิ แวดลอ้ ม
งำนเวรประจำวนั งำนสำธำรณูปโภค
งำนรกั ษำควำมปลอดภยั งำนอนำมยั โรงเรยี น
งำนกจิ กำรนักเรยี น งำนโภชนำกำร
งำนระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น งำนบรกิ ำรชมุ ชน
งำนพฒั นำคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ งำนหอ้ งสมดุ
งำนป้องกนั แกไ้ ขปัญหำยำเสพตดิ งำนโสตทศั นศกึ ษำ
งำนกจิ กรรมหน้ำเสำธง งำนกจิ กรรมสหกรณ์รำ้ นคำ้
งำนจรำจรและวนิ ยั จรำจร งำนยำนพำหนะ
งำนส่งเสรมิ กำรปกครอง งำนลูกจำ้ งประจำ/ชวั่ ครำว
ระบอบประชำธปิ ไตย งำนบรกิ ำรดนตรแี ละนำฎศลิ ป์
งำนส่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม
งำนพฒั นำวนิ ัย
นักเรยี น ผ้ปู กครอง
ชมุ ชน
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 5
3. ขนำดและทต่ี งั้ ของโรงเรยี นอำนำจเจรญิ
ทต่ี งั้ เลขท่ี 277 หม่ทู ่ี 13 ตำบลบ่งุ อำเภอเมอื งอำนำจเจรญิ
จงั หวดั อำนำจเจรญิ รหสั ไปรษณีย์ 37000 โทรศพั ท์ 0-4551-1959 โทรสำร 0-4551-1960
โรงเรยี นอำนำจเจรญิ มพี น้ื ทเ่ี ป็น 2 แปลง คอื
แปลงท่ี 1 เน้อื ท่ี 51 ไร่ 2 งำน 48 ตำรำงวำ เป็นทต่ี งั้ อำคำรเรยี น
แปลงท่ี 2 พน้ื ท่ี 15 ไร่ 3 งำน 15 ตำรำงวำ เป็นสนำมกฬี ำมำตรฐำน
4. แผนกำรจดั ชนั้ เรยี นและจำนวนนกั เรยี น ปีกำรศกึ ษำ 2564
ตำรำงท่ี 1 แผนกำรจดั ชนั้ เรยี นและจำนวนนกั เรยี น ปีกำรศกึ ษำ 2564
ระดบั ชนั้ จำนวน จำนวนผเู้ รยี น หมำยเหตุ
ห้องเรียน
ม.1 640
ม.2 16 631
ม.3 16 1,885
รวม ม.ต้น 16 546
ม.4 48 558
ม.5 15 545
ม.6 15 1,649
รวม ม.ปลำย 15 3,534
รวมทงั้ สิ้น 45 640
93
• ขอ้ มลู เลอ่ื นชนั้ เรยี นจำกระบบ SGS และระบบรบั นักเรยี น วนั ท่ี 17 เมษำยน 2564
ขอ้ มลู ก่อน 10 มถิ ุนำยน 2564
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 6
5. จำนวนบคุ ลำกรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ
ตำรำงท่ี 2 แสดงจำนวนครู จำแนกตำมฝ่ำย/หมวดวชิ ำ เพศ ตำแหน่ง ปีกำรศกึ ษำ 2564
ตำแหน่ง วิทยฐำนะ ระดบั ข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกร
ทำงกำรศกึ ษำ (คน)
1. ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี น - ตำแหน่ง
ชำนำญกำร คศ.1 ชำย หญิง รวม
2. รองผอู้ ำนวยกำร ชำนำญกำรพเิ ศษ คศ.2
โรงเรยี น เชย่ี วชำญ คศ.3 0 00
3. ครู เชย่ี วชำญพเิ ศษ คศ.4 0 00
คศ.5 1 01
4. ครผู ชู้ ่วย รวม - 0 00
- คศ.1 0 00
ชำนำญกำร คศ.2 1 01
ชำนำญกำรพเิ ศษ คศ.3 0 00
เชย่ี วชำญ คศ.4 0 00
รวม - 2 24
- คศ.1 0 00
ชำนำญกำร คศ.2 2 24
ชำนำญกำรพเิ ศษ คศ.3 13 27 40
เชย่ี วชำญ คศ.4 9 22 31
เชย่ี วชำญพเิ ศษ คศ.5 33 63 96
รวม - 0 00
- ครผู ชู้ ว่ ย 0 00
รวมทงั้ หมด 55 112 167
4 48
62 118 180
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 7
• ขอ้ มลู วนั ท่ี 10 มถิ ุนำยน 2564
ตำรำงท่ี 3 แสดงจำนวนลกู จำ้ งประจำ พนกั งำนรำชกำร และลกู จำ้ งชวั่ ครำว จำแนก
ตำม เพศ ตำแหน่ง ปีกำรศกึ ษำ 2564
ตำแหนง่ วิทยฐานะ ระดบั ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
(คน)
1. ลูกจา้ งประจำ - ตำแหนง่
- ชาย หญงิ รวม
2. พนักงานราชการ - - 3 03
- 3 25
3. ลกู จ้างช่ัวคราว - 5 20 25
8 18 26
รวมท้ังหมด
• ขอ้ มลู วนั ท่ี 10 มถิ ุนำยน 2564
6. ผลงำนดเี ดน่ ของโรงเรยี น ปีกำรศกึ ษำ 2563
- เดก็ หญงิ อจั ฉรำพร วรรณโพธิ์ ชนั้ ม.2/7 โรงเรยี นอำนำจเจรญิ รบั ถว้ ย
รำงวลั พระรำชทำนพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั รำงวลั ชนะเลศิ กำรแขง่ ขนั เทนนสิ เยำวชน
เพอ่ื ควำมชนะเลศิ แหง่ ประเทศไทย ครงั้ ท่ี 58 ประจำปี 2563 ประเภทหญงิ เดย่ี ว รุ่นอำยไุ ม่
เกนิ 14 ปี
- เดก็ หญงิ อจั ฉรำพร วรรณโพธิ์ ชนั้ ม.2/7 รบั ถว้ ยรำงวลั พระรำชทำน
พระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อย่หู วั รำงวลั ชนะเลศิ กำรแขง่ ขนั เทนนิสเยำวชน เพอ่ื ควำมชนะเลศิ
แห่งประเทศไทย ครงั้ ท่ี 58 ประจำปี 2563 ประเภทหญงิ คู่ รุ่นอำยุไม่เกนิ 14 ปี
- นำยกฤษณ์ อนิ ทรอ์ ร่ำม และนำงสำวสำยทองธำร ฤทธโิ คตร นกั เรยี นชนั้ ม.
6/13 รบั รำงวลั ชนะเลศิ ถว้ ยพระรำชทำน สมเดจ็ พระเจำ้ ลูกเธอ เจำ้ ฟ้ำพชั รกติ ยิ ำภำ นเรนทิ
รำเทพยวดี กรมหลวงรำชสำรณิ ีสริ พิ ชั ร มหำวชั รรำชธดิ ำ ในกำรแขง่ ขนั ตอบปัญหำกฎหมำย
เน่อื งในวนั รพี ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 ณ มหำวทิ ยำลยั อบุ ลรำชธำนี
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563 8
- โรงเรยี นอำนำจเจรญิ รำงวลั ชนะเลศิ รบั ถว้ ยพระรำชทำนกำรแขง่ ขนั ตอบ
ปัญหำกฎหมำย โครงกำรนิตริ ฐั ศำสตรบ์ รกิ ำรวชิ ำกำร ปี 2563 ณ มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั
รอ้ ยเอด็ ไดร้ บั รำงวลั ชนะเลศิ รบั ถว้ ยพระรำชทำน สมดจ็ พระเจำ้ ลกู เธอ เจำ้ พชั รกติ ยิ ำภำฯ
- โรงเรยี นอำนำจเจรญิ ไดร้ ำงวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั 1 ระดบั เหรยี ญเงนิ พรอ้ ม
เหรยี ญรำงวลั เกยี รตบิ ตั รและเงนิ รำงวลั 2500 บำท ในกำรประกวดโครงงำนวทิ ยำศำสตร์
ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย สำขำวชิ ำวทิ ยำศำสตรช์ วี ภำพ เน่อื งในงำนสปั ดำหว์ ทิ ยำศำสตร์
แห่งชำติ สว่ นภูมภิ ำค ประจำปี 2563 โดยกระทรวงกำรอุดมศกึ ษำ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และ
นวตั กรรม ร่วมกบั สมำคมวทิ ยำศำสตรแ์ หง่ ประเทศไทยในพระบรมรำชปู ถมั ภ์ และคณะ
วทิ ยำศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั ขอนแกน่
-โรงเรยี นอำนำจเจรญิ รบั รำงวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั 1 รบั เกยี รตบิ ตั รพรอ้ มเงนิ
รำงวลั 1500 บำท กำรประกวดแขง่ ขนั โครงงำนวทิ ยำศำสตรป์ ระเภททดลอง ระดบั ชนั้
มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย เน่อื งในงำนสปั ดำหว์ ทิ ยำศำสตรแ์ หง่ ชำติ สว่ นภูมภิ ำค มหำวทิ ยำลยั
รำชภฏั รอ้ ยเอด็ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2563
- นำยชลนธิ ิ ธรรมสำร (TI 345) นกั เรยี นชนั้ ม.5/2 โรงเรยี นอำนำจเจรญิ เขำ้
รว่ มกำรแขง่ ขนั เยำวชนต้นแบบ TO BE NUMBER ONE I DOL. ร่นุ ท่ี 11 ระดบั ภำค ใน
วนั ท่ี 3 เมษำยน 2564 ผลกำรประกวดตดิ 1 ใน 7 คน และจะไดเ้ ขำ้ สกู่ ำรประกวดแขง่ ขนั
ระดบั ประเทศ โดยนำยแพทยส์ ำธำรณสขุ จงั หวดั อำนำจเจรญิ
- โรงเรยี นอำนจเจรญิ ไดร้ บั รำงวลั ชนะเลศิ กำรประกวด TO BE NUMBER
ONE TEEN DANCERCISE 2021 ระดบั จงั หวดั เพอ่ื คดั เลอื กตวั แทนเขำ้ ร่วมกำรประกวด
ระดบั ภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 8
สว่ นท่ี 2
นโยบายและแนวทางการดำเนนิ การจดั ทำแผนปฏบิ ัติการ
โรงเรียนอำนาจเจรญิ มีความจำเปน็ อย่างยิง่ ทจ่ี ะต้อง ดำเนินการศึกษา วเิ คราะห์ทศิ ทางการพฒั นา
การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานหรือนโยบายในทุกระดับท่ีเกี่ยวข้องกับด้าน การศึกษาท้ังน้ีเพ่ือให้เกดิ การขับเคลือ่ นนโยบายสู่
การปฏิบัติไปจนถึงระดบั พนื้ ที่อยา่ งจรงิ จัง ความสอดคล้องเชอื่ มโยง กนั เกิดผลสมั ฤทธิใ์ นการพฒั นาคุณภาพ
การศึกษา ดงั น้ี
1. พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10
การศึกษาต้องม่งุ สร้างพน้ื ฐานใหแ้ ก่ผูเ้ รียน 4 ดา้ น
1. มีทศั นคติทถี่ ูกต้องต่อบา้ นเมือง
1.1 ความรคู้ วามเข้าใจต่อชาติบ้านเมือง
1.2 ยดึ มนั่ ในศาสนา
1.3 มั่นคงในสถาบันกษัตรยิ ์
1.4 มีความเอื้ออาทรต่อครอบครัวและชุมชนของตน
2. มีพ้ืนฐานชวี ติ ทมี่ น่ั คง – มีคุณธรรม
2.1 รู้จกั แยกแยะสง่ิ ที่ผดิ –ชอบ / ชั่ว–ดี
2.2 ปฏิบตั แิ ตส่ ิง่ ทช่ี อบ สิง่ ท่ดี ีงาม
2.3 ปฏิเสธสง่ิ ทีผ่ ิด ส่ิงทชี่ ั่ว
2.4 ชว่ ยกันสรา้ งคนดใี ห้แก่บ้านเมือง
3. มงี านทำ – มีอาชีพ
3.1 การเลยี้ งดูลูกหลานในครอบครัว หรอื การฝกึ ฝนอบรมในสถานศึกษาต้องมุ่งใหเ้ ดก็ และ เยาวชน
รกั งาน สู้งาน ทำจนงานสำเร็จ
3.2 การฝึกฝนอมรมทงั้ ในหลกั สูตร และนอกหลักสูตรต้องมีจดุ มุ่งหมายให้ผเู้ รียน ทำงานเปน็ และมี
งานทำในท่ีสดุ
3.3 ตอ้ งสนับสนนุ ผูส้ ำเรจ็ หลกั สตู ร มอี าชพี มีงานทำ จนสามารถเล้ียงตนเอง และครอบครัว
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 9
4. เปน็ พลเมืองท่ีดี
4.1 การเปน็ พลเมืองดี เปน็ หน้าทขี่ องทุกคน
4.2 ครอบครวั – สถานศึกษาและสถาน ประกอบการ ต้องส่งเสริมใหท้ กุ คนมีโอกาสทำหนา้ ทเ่ี ป็น
พลเมอื งดี
4.3 การเปน็ พลเมืองดี คือ “เหน็ อะไรท่ี จะทำเพื่อบ้านเมืองไดก้ ต็ ้องทำ” เช่น งานอาสาสมคั ร งาน
บำเพญ็ ประโยชน์งานสาธารณกุศลให้ทำด้วย ความมนี ้ำใจ และความเออื้ อาทร
2. 23 หลกั การทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ 9
1. ศกึ ษาขอ้ มูลอยา่ งเปน็ ระบบ
การท่จี ะพระราชทานโครงการใด โครงการหนง่ึ จะทรงศึกษาข้อมลู รายละเอยี ดอยา่ ง เป็นระบบ ท้งั
ขอ้ มลู เบื้องตน้ จากเอกสาร แผนทสี่ อบ ถามจากเจา้ หน้าที่ นักวชิ าการ และราษฎรในพ้ืนท่ี ใหไ้ ด้รายละเอยี ดท่ี
ถกู ต้อง เพ่ือท่ีจะพระราชทาน ความชว่ ยเหลอื ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วตามความ ต้องการของประชาชน
2. ระเบดิ จากขา้ งใน
พระองค์ทรงม่งุ เน้น เรื่องการพัฒนาคนทรงตรสั ว่า “ตอ้ งระเบิดจากขา้ งใน” หมายความว่าต้องสรา้ ง
ความเขม้ แข็งให้คนในชมุ ชนที่เราเข้าไปพฒั นาให้มสี ภาพทจี่ ะรับการพัฒนาเสียก่อน แลว้ จึงค่อยออกมา
สสู่ งั คมภายนก มิใช่กานำความเจรญิ หรอื บคุ คลจากสังคมภายนอกเขา้ ไปหาชุมชน หมบู่ ้าน ทย่ี ังไม่ทนั ได้มโี อกาส
เตรยี มตวั หรอื ตั้งตัว
3. แกป้ ญั หาจากจดุ เล็ก
พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวทรงเปยี่ มไปด้วยพระอัจฉรยิ ภาพในการแก้ไขปัญหา ทรงมองปญั หา ใน
ภาพรวมกอ่ นเสมอ แต่การแก้ปญั หาของพระองคจ์ ะเร่มิ จากจดุ เลก็ ๆ คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทค่ี น มักจะ
มองขา้ ม
4. ทำตามลำดบั ขัน้
ในการทรงงานพระองคจ์ ะทรงเริม่ ต้นจากสิง่ ท่ีจำเปน็ ท่ีสุดของประชาชนก่อน ได้แกส่ าธารณสขุ เมอ่ื มี
ร่างกายสมบูรณ์ แขง็ แรงแลว้ ก็จะสามารถทำประโยชนด์ ้านอน่ื ๆ ตอ่ ไป จึงเป็นเร่ืองสาธารณปู โภคขน้ั พนื้ ฐาน
และสิง่ จำเปน็ สำหรับประกอบอาชพี อาทิ ถนน แหลง่ น้ำ เพือ่ การเกษตร การอปุ โภค บริโภคทเ่ี อื้อประโยชนต์ อ่
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 10
ประชาชนโดยไมท่ ำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมถงึ การให้ความรทู้ างวชิ าการและเทคโนโลยีทเ่ี รยี บงา่ ยเน้นการ
ปรับใช้ภูมปิ ัญญาท้องถิ่นทีร่ าษฎรสามารถนำไปปฏบิ ตั ไิ ดแ้ ละเกดิ ประโยชน์สูงสดุ
5. ภูมิสงั คม
การพัฒนาใด ๆ ตอ้ งคำนึงถงึ ภูมปิ ระเทศของบริเวณนัน้ วา่ เป็นอย่างไร และสงั คมวิทยา เก่ยี วกับ
ลักษณะนสิ ัยใจคอของผูค้ น ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณใี นแต่ละท้องถิ่นทีม่ คี วามแตกต่างกัน
6. องคร์ วม
ทรงมวี ิธคี ิดอยา่ งองค์รวม หรอื มองอย่างครบวงจร ในการท่ีจะพระราชทานพระราชดำริ เกย่ี วกบั
โครงการหนง่ึ น้ัน จะมองเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนและแนวทางแกไ้ ขอยา่ งเช่ือมโยง ดังเชน่ กรณขี อง “ทฤษฎี ใหม”่ ที่
พระราชทานให้แกป่ วงชนชาวไทย เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพแนวทางหนึ่งท่พี ระองคท์ รงมอง อยา่ งองค์
รวม ต้งั แต่การถือครองทด่ี ินโดยเฉล่ยี ของประชาชนคนไทย ประมาณ 10 - 15 ไร่ การบริหารจัดการ ทีด่ นิ และ
แหล่งนำ้ อันเปน็ ปจั จยั พ้ืนฐานทสี่ ำคัญในการประกอบอาชีพ เมอ่ื มนี ้ำในการทำเกษตรแล้วจะส่งผลให้ ผลผลิตดขี ้นึ
และหากมีผลผลติ เพ่ิมมากขน้ึ เกษตร จะต้องรจู้ กั วิธกี ารจัดการและการตลาด รวมถึงการรวมกล่มุ รวมพลังชมุ ชน
ใหม้ ีความเขม้ แข็ง เพื่อพร้อมท่จี ะออกสู่การเปลีย่ นแปลงของสงั คมภายนอกได้อยา่ งครบวงจร นน่ั คอื ทฤษฎใี หม่
ขนั้ ที่ 1 , 2 และ 3
7. ไม่ตดิ ตำรา
การพัฒนาตามแนวทางพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวมีลักษณะของการพัฒนาที่
อนุโลมและรอมชอมกบั สภาพธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อมและสภาพของสงั คมจติ วทิ ยาแห่งชมุ ชนคอื “ไมต่ ดิ ตำรา” ไม่
ผกู มัดกับวิชาการแลเทคโนโลยี ทไี่ มเ่ หมาะสมกบั สภาพชีวติ ความเป็นอยู่ทแ่ี ท้จรงิ ของคนไทย
8. ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สงู สดุ
ในเรอ่ื งของความประหยัดน้ี ประชาชนชาวไทยทราบกันดีว่าเรื่องส่วนพระองค์ก็ทรงประหยัด มากดังท่ี
เราเคยเหน็ ว่า หลอดยาสพี ระทนต์นัน้ ทรงใช้อยา่ งคุ้มคา่ อย่างไร หรอื ฉลองพระองค์แต่ละองค์ทรงใช้อยู่ เป็น
เวลานาน ขณะเดยี วกนั การพัฒนาและชว่ ยเหลอื ราษฎรทรงใช้หลกั ในการแกไ้ ขปัญหาดว้ ยความเรียบงา่ ย และ
ประหยัด ราษฎรสามารถทำไดเ้ อง หาได้ในท้องถิน่ และประยุกต์ใช้ส่ิงท่ีมีอยู่ในภมู ภิ าคนน้ั ๆ มาแก้ไขปญั หา โดยไม่
ต้องลงทนุ สงู หรือใช้เทคโนโลยีทไี่ มย่ ่งุ ยากนกั
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 11
9. ทำใหง้ า่ ย
ด้วยพระอจั ฉริยภาพและพระปรชี าสามารถในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ทำให้การคิดคน้
ดัดแปลง ปรบั ปรุงและแก้ไขงานการพัฒนาประเทศตามแนวพระราชดำรดิ ำเนินไปไดโ้ ดยงา่ ยไมย่ งุ่ ยากซับซอ้ น
และทีส่ ำคัญอยา่ งย่งิ คือสอดคลอ้ งกับสภาพความเปน็ อยู่และระบบนเิ วศโดยส่วนรวม .ตลอดจนสภาพทาง สังคม
ของชุมชนนนั้ ๆ ทรงโปรดท่จี ะทำสง่ิ ยากใหก้ ลายเป็นง่าย ทำส่ิงทสี่ ลบั ซบั ซอ้ นให้เข้าใจง่ายอันเป็นการ แก้ปัญหา
ด้วยการใช้กฎแหง่ ธรรมชาติเปน็ แนวทางนนั่ เอง
10. การมสี ่วนรว่ ม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ทรงเปน็ นกั ประชาธิปไตย จึงทรงนำ “ประชาพจิ ารณ์” มาใช้ ในการ
บรหิ าร เพอื่ เปิดโอกาสใหส้ าธารณชน ประชาชนหรอื เจ้าหน้าท่ีทุกระดบั ได้มารว่ มกันแสดงความคดิ เห็น เกยี่ วกับ
เร่อื งทจ่ี ะต้องคำนงึ ถึงความคิดเหน็ ของประชาชน หรอื ความตอ้ งการของสาธารณชน
11. ประโยชนส์ ว่ นรวม
การปฏบิ ัติพระราชกรณยี กจิ และการพระราชทานพระราชดำรใิ นการพัฒนาและชว่ ยเหลือ พสกนิกร
ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงระลึกถงึ ประโยชนข์ องส่วนรวมเปน็ สำคญั
12. บรกิ ารรวมท่จี ดุ เดียว
การบริการรวมท่จี ดุ เดยี วเปน็ รปู แบบการบริการแบบเบด็ เสรจ็ ทีเ่ กิดข้ึนเปน็ คร้ังแรก ในระบบบริหาร
ราชการแผน่ ดนิ ของประเทศไทย โดยทรงให้ศูนยศ์ ึกษาการพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ เปน็ ต้นแบบในการ
บริการรวมท่จี ดุ เดียว เพ่ือประโยชน์ตอ่ ประชาชนท่ีจะมาขอใชบ้ รกิ ารจะประหยัดเวลาและ คา่ ใชจ้ ่าย โดยจะมี
หนว่ ยงานราชการตา่ ง ๆ มาร่วมดำเนนิ การและใหบ้ ริการประชาชน ณ ทแี่ หง่ เดียว
13. ใช้ธรรมชาติชว่ ยธรรมชาติ
ทรงเข้าใจถึงธรรมชาตแิ ละต้องการ ให้ประชาชนใกลช้ ิดกบั ธรรมชาติ ทรงมองอย่างละเอียดถึงปญั หา
ธรรมชาติ หากเราต้องการแก้ไข ธรรมชาติ จะต้องใช้ธรรมชาติเขา้ ชว่ ยเหลอื อาทิ การแกไ้ ขปัญหาป่าเสอ่ื มโทรม
ไดพ้ ระราชทาน พระราชดำริ การปลกู ปา่ โดยไม่ตอ้ งปลกู ปลอ่ ยใหธ้ รรมชาตชิ ่วยในการฟืน้ ฟธู รรมชาตหิ รือ
แม้กระทั่งการปลูกปา่ 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อย่าง ไดแ้ ก่ ปลกู ไม้เศรษฐกิจ ไม้ผล และไม้ฟนื นอกจากได้ ประโยชน์
ตามชอ่ื ของไมแ้ ลว้ ยงั ช่วยรกั ษาความชมุ่ ชื้นให้แก่พนื้ ดินดว้ ย เห็นไดว้ า่ ทรงเข้าใจธรรมชาติและ มนุษย์อยา่ งเก้อื กูล
กนั ทำให้คนอยรู่ ว่ มกับปา่ ไดอ้ ย่างย่ังยืน
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 12
14. ใช้อธรรมปราบอธรรม
ทรงนำความจรงิ ในเร่ืองความเป็นไปแหง่ ธรรมชาติ และกฎเกณฑ์ของธรรมชาตมิ าเปน็ หลกั การ แนว
ปฏบิ ตั ิทส่ี ำคญั ในการแกป้ ัญหาและปรับปรุงเปลีย่ นแปลงสภาวะที่ไมป่ กติ เข้าสู่ระบบทเี่ ป็นปกติ เช่น การนำน้ำดี
ขบั ไล่นำ้ เสีย หรือเจือจางน้ำเสียใหก้ ลับเป็นนำ้ ดี ตามจังหวัดการขึ้นลงตามธรรมชาตขิ องนำ้ การบำบัดน้ำเน่าเสีย
โดยใช้ผกั ตบชวาซงึ่ มตี ามธรรมชาติ ใหด้ ดู ซมึ ส่งิ สกปรกปนเป้อื นในนำ้
15. ปลูกป่าในใจคน
เป็นการปลูกปา่ ลงบนแผ่นดนิ ด้วยความตอ้ งการอย่รู อดของมนุษย์ ทำให้ต้องมีการบริโภคและ ใช้
ทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งสนิ้ เปลือง เพ่ือประโยชนข์ องตนเอง และสร้างความเสียหายให้แก่สง่ิ แวดล้อมปัญหา
ความไมส่ มดลุ จึงบังเกิดขนึ้ ดังนน้ั ในการท่ีจะฟืน้ ฟูทรัพยากรธรรมชาตใิ หก้ ลับคืนมาจะต้องปลูกจิตสำนึกในการ รกั
ผนื ปา่ ใหแ้ ก่คนเสียก่อน
16. ขาดทนุ คอื กำไร
การเสียคือการได้ หลกั การในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั คือ “การให”้ และ“การเสียสละ” เป็นการ
กระทำอนั มผี ลเป็นกำไร คือ ความอยูด่ ีมสี ขุ ของราษฎร ซ่ึงสามารถสะท้อนให้เห็นเปน็ รปู ธรรมชดั เจนได้
17. การพึง่ ตนเอง
การพฒั นาตามแนวพระราชดำริในเบ้ืองต้นเปน็ การแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้ประชาชน มีความ
แข็งแรงพอท่ีจะดำรงชวี ติ ตอ่ ไปไดแ้ ลว้ ขัน้ ต่อไปกค็ ือการพฒั นาให้ประชาชนสามารถอยู่ในสังคมได้ตาม
สภาพแวดล้อมและสามารถ พงึ่ พาตนเองได้ในท่สี ดุ
18. พออยู่พอกิน
การพฒั นาเพ่อื ให้พสกนกิ รท้ังหลายประสบความสขุ สมบรู ณใ์ นชีวิตได้เร่ิมจากการเสดจ็ พระราชดำเนนิ
ไปทรงเย่ียมประชาชนทุกหมูเ่ หล่าในทกุ ภมู ภิ าคของประเทศไทยได้ ทอดพระเนตรความเปน็ อยขู่ องราษฎรด้วย
พระองค์เอง จงึ ทรงสามารถเขา้ พระราชหฤทัยในสภาพปญั หาได้อยา่ งลกึ ซง้ึ วา่ มเี หตุผลมากมาย ท่ีทำใหร้ าษฎร
ตกอยู่ในวงจรแห่งทุกข์เข็ญจากนนั้ กไ็ ดพ้ ระราชทานความชว่ ยเหลือใหพ้ สกนิกรมีความ กินดอี ยดู่ ี มชี ีวติ อยใู่ น ขั้น
พออยู่ พอกินกอ่ น แลว้ จงึ ขยับขยายใหม้ ีขีดสมรรถนะท่ีกา้ วหน้าต่อไป
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 13
19. เศรษฐกิจพอเพียง
เปน็ ปรชั ญาช้ีถึงแนวทางดำรงอยู่และปฏิบตั ิตนของประชาชนในทุกระดบั ครอบครัวระดับ ชมุ ชน จนถงึ
ระดบั รัฐ ท้งั ในการพัฒนาและบรหิ ารประเทศให้ดำเนนิ ไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนา เศรษฐกิจ เพือ่ ให้
กา้ วหนา้ ตอ่ โลกยคุ โลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล รวมถงึ ความจำเป็นท่ี
จะตอ้ งมีระบบภูมิค้มุ กนั ในตัวทดี่ พี อสมควร ต่อมามีผลกระทบใด ๆ อันเกดิ จากการเปลี่ยนแปลง ท้งั ภายในและ
ภายนอก ทง้ั นี้ จะต้องอาศยั ความรอบรคู้ วามรอบคอบ และความระมัดระวังอยา่ งยิง่ ในการนำวชิ าการต่าง ๆ มาใช้
ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขน้ั ตอน และขณะเดียวกนั จะตอ้ งเสรมิ สร้างพ้นื ฐานจติ ใจของคนในชาติ
โดยเฉพาะ เจา้ หนา้ ทีข่ องรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดบั ใหม้ สี ำนึกในคุณธรรม ความซอื่ สตั ย์ สจุ ริต และให้
มคี วามร้ทู เ่ี หมาะสมดำเนินชวี ติ ดว้ ยความอดทน ความเพยี ร มสี ตปิ ัญญา และความรอบคอบ เพ่ือใหส้ มดลุ และ
พรอ้ มต่อการรองรับการเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเรว็ และ กว้างขวางท้งั ด้านวัตถุ สงั คมสิ่งแวดลอ้ มและวัฒนธรรมจาก
โลกภายนอกไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
20. ความซ่ือสตั ย์ สุจริต จริงใจต่อกัน
ผู้ทมี่ คี วามสจุ ริตและบริสทุ ธิ์ใจ แมจ้ ะมีความรนู้ ้อย กย็ อ่ มทำประโยชนใ์ ห้แกส่ ว่ นรวมได้มากกว่า ผทู้ ่มี ี
ความรมู้ าก แต่ไม่มคี วามสุจริต ไม่มีความบรสิ ทุ ธ์ิใจ
21. ทำงานอย่างมีความสขุ
ทำงานโดยคำนงึ ถงึ ความสุขที่เกิดจากการได้ทำประโยชน์ใหก้ บั ผู้อื่น
22. ความเพียร
จากตัวอย่างบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก พระมหาชนกเพยี รว่ายนำ้ อยู่ 7วนั 7 คืน แมจ้ ะมองไม่
เห็นฝัง่ แตย่ งั คงวา่ ยต่อไปไมจ่ มลง จนกลายเป็นอาหารของปลา และได้รบั ความช่วยเหลอื จนถงึ ฝัง่ ได้ในท่สี ดุ
23. รู้ รกั สามคั คี
รู้ : การที่เราจะลงมือทำสงิ่ ใดนัน้ จะต้องรเู้ สยี ก่อน รูถ้ ึงปัจจัยทัง้ หมด และรู้ถึงวธิ แี กป้ ญั หา
รัก : เมอ่ื เรารู้ครบด้วยกระบวนการแล้ว จะต้องเห็นคุณค่า เกดิ ศรทั ธา เกิดความรักทจี่ ะเข้าไปลงมือ
ปฏบิ ตั แิ ก้ปัญหานนั้ ๆ
สามคั คี : เม่ือถึงขน้ั ลงมือปฏิบัตติ ้องคำนึงเสมอว่าเราทำคนเดียวไมไ่ ด้ ต้องรว่ มมือร่วมใจกัน สามัคคี
กนั เปน็ หมคู่ ณะ จึงจะเกิดพลังในการแก้ปญั หาให้ลุล่วงด้วย
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 14
3. ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580)
รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดให้รัฐมียทุ ธศาสตร์ชาติเปน็ เป้าหมายการ
พฒั นาประเทศอย่างยั่งยนื ตามหลกั ธรรมาภบิ าล เพอ่ื ใชเ้ ปน็ กรอบในการจดั ทำแผนตา่ ง ๆ ให้สอดคล้องและบูรณา
การ กำหนดให้หนว่ ยงานรัฐทุกหนว่ ยมหี นา้ ท่ีดำเนินการเพ่ือใหบ้ รรลุเปา้ หมายทกี ำหนดไว้ในยทุ ธศาสตร์ชาติ พ.ศ.
2561-2580 การพฒั นาประเทศในชว่ งเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ จะม่งุ เนน้ การสรา้ งสมดุลระหว่าง การพฒั นาความ
ม่ันคง เศรษฐกิจ สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม โดย การมีสว่ นรว่ มของทุกภาคส่วนในรปู แบบ “ประชารัฐ” ซ่ึงยุทธศาสตร์
การพฒั นาประเทศ 6 ยทุ ธศาสตร์ ประกอบด้วย พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชา นายกรฐั มนตรีไทยคนท่ี 29 และ
รฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน
ประเด็นยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 ด้านการจัดการศกึ ษาเพื่อความมั่นคง
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแขง่ ขัน
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 ดา้ นการพฒั นาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนุษย์
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 ดา้ นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม
ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 5 ดา้ นการสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชวี ติ ทีเ่ ปน็ มิตรกับส่งิ แวดล้อม
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 6 ด้านการปรับสมดุลและพฒั นาระบบการบริหารจัดการภาครฐั
4. นโยบายและจุดเน้น ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปงี บประมาณ พ.ศ.2564
กระทรวงศึกษาธกิ ารมุง่ มน่ั ดำเนินการภารกจิ หลกั ตามแผนแมบ่ ทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี
(พ.ศ.2561-2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพขบั เคลอ่ื นทุกแผนย่อยในประเดน็ 12 การพัฒนาการเรยี นรู้ และ
แผนยอ่ ยที่ 3 ในประเด็น 11 ศักยภาพ คนตลอดชว่ งชวี ติ รวมทงั้ แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และ
นโยบายรัฐบาลทงั้ ในส่วนนโยบายหลักดา้ นการปฏริ ูป กระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศกั ยภาพของคนไทยทุก
ชว่ งวัย และนโยบายเรง่ ด่วน เร่อื งการเตรยี มคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 นอกจากนีย้ ังสนบั สนนุ การขบั เคล่ือนแผน
แมบ่ ทภายใต้ ยุทธศาสตรช์ าติประเดน็ อนื่ ๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2561-
2564) นโยบายและแผนระดับชาตวิ ่าดว้ ยความมัน่ คงแห่งชาติ (พ.ศ.2562-2565) รวมท้ัง นายณัฏฐพล ทปี สุวรรณ
รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ 25 แผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน (พ.ศ.2564-2566) โรงเรียน
อำนาจเจริญ นโยบายและแผนตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง โดยคาดหวงั วา่ ผ้เู รียนทุกชว่ งวยั จะได้รับการพฒั นาในทกุ มติ ิ เป็น
คนดี คนเกง่ มีคุณภาพ และมีความพร้อมรว่ มขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศสูค่ วามมั่นคง มั่งค่ัง และยัง่ ยนื ดังนั้น
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 15
ในการเรง่ รดั การทำงานภาพรวมกระทรวงให้เกิดผลสมั ฤทธิ์เพ่ือสรา้ งความเชือ่ มน่ั ใหก้ บั สังคม และผลกั ดนั ให้ การ
จดั การศกึ ษามีคุณภาพและประสทิ ธิภาพในทุกมิติ กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดนโยบายประจำปี งบประมาณ
พ.ศ.2564 ดังน้ี
1. ปรับร้อื และเปล่ยี นแปลงระบบการบริหารจัดการ โดยมุ่งปฏิรูปองค์การเพ่ือหลอมรวมภารกิจ และ
บคุ ลากร เชน่ ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการต่างประเทศ ด้านเทคโนโลยี ด้านกฎหมาย ฯลฯ ทส่ี ามารถ ลดการ
ใช้ทรพั ยากรทบั ซ้อน เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพและความเป็นเอกภาพ รวมท้งั การนำเทคโนโลยดี ิจิทัลเขา้ มาช่วย ทัง้ การ
บริหารงานและการจัดการศกึ ษารองรับความเปน็ รฐั บาลดิจิทลั
2. ปรับรื้อและเปลย่ี นแปลงระบบการบรหิ ารทรัพยากร โดยม่งุ ปฏริ ปู กระบวนการวางแผนงาน/ โครงการ
แบบรว่ มมือและบรู ณาการ ท่ีสามารถตอบโจทยข์ องสังคมและเป็นการพฒั นาท่ยี ัง่ ยืน รวมทั้ง กระบวนการจดั ทำ
งบประมาณทมี่ ีประสทิ ธิภาพและใช้จ่ายอย่างคุม้ ค่า ส่งผลให้ภาคส่วนตา่ ง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และนานาชาติ
เชอ่ื มนั่ และร่วมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษามากยง่ิ ขึ้น
3. ปรบั รื้อและเปล่ียนแปลงระบบการบรหิ ารจดั การและพัฒนากำลังคนของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมงุ่
บรหิ ารจัดการอัตรากำลังให้สอดคล้องกบั การปฏริ ปู องคก์ าร รวมทงั้ พัฒนาสมรรถนะและความรู้ ความสามารถของ
บุคลากรภาครฐั ใหม้ ีความพร้อมในการปฏบิ ตั งิ านรองรับความเป็นรฐั บาลดิจิทลั
4. ปรบั รอ้ื และเปลย่ี นแปลงระบบการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้ โดยมุ่งให้ครอบคลมุ ถึงการจดั
การศกึ ษาเพอื่ คณุ วฒุ ิ และการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ทสี่ ามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
5. ดำเนนิ การปลดลอ็ ก ปรบั เปล่ยี น เปดิ กว้าง ที่เปน็ เง่ือนไขตา่ ง ๆ เพ่ือใหบ้ รรลุผลตามนโยบาย
“การศึกษายกกำลงั สอง (Thailand Education Education Eco – System : TE2S) การศึกษาทเ่ี ข้าใจ Supply
และตอบโจทย์ Demand”
5.1 ปลดลอ็ ก กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคับ ประกาศตา่ ง ๆ เพ่อื ให้เกดิ ความรว่ มมือกันระหว่างภาครัฐ
ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมใหส้ ามารถดำเนนิ การที่เก่ียวข้องกับการศึกษาได้อยา่ งรวดเรว็ รวมถงึ การ
บริหารการศกึ ษาของประเทศให้ครอบคลมุ ทุกพื้นที่
5.2 ปรบั เปลย่ี น หลักสตู รการเรยี นการสอนท่ีมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถและศกั ยภาพ ให้ทนั
ต่อการเปล่ยี นแปลงของโลก ปรับเปลี่ยนการพฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษาผ่านศูนย์พัฒนา ศักยภาพบคุ คล
เพอ่ื ความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) เพ่อื ใหค้ รUู p Skill และ Re-Skill ของ
ตนเองไดต้ ลอดเวลา ท้งั นี้ เพื่อส่งต่อความรู้ไปยังผู้เรียนใหเ้ ป็นคนดี คนเก่ง และคนทม่ี ีคุณภาพ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 16
5.3 เปิดกวา้ ง เสรที างการศกึ ษาใหภ้ าคเอกชนทีม่ ีคณุ ภาพเขา้ มามีส่วนร่วมในการพฒั นา การศกึ ษา
ร่วมประเมนิ ผลการเรียนรูข้ องผเู้ รยี นผ่านศนู ย์พัฒนาศักยภาพบคุ คลเพ่ือความเป็นเลิศ (Human Capital
Excellence Center : HCEC) จากแพลตฟอรม์ ดิจิทลั (Digital Education Excellence Platform : DEEP) ให้
ครอบคลุมผูเ้ รียนทั่วประเทศ
5. จดุ เน้นประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564
1. การพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
1.1 การจดั การศึกษาเพื่อคุณวุฒิ
1.1.1 จดั การศึกษาทุกระดบั ทุกประเภท โดยใช้หลักสูตรสมรรถนะ รวมทั้งแนวทางการจดั การ
เรียนร้เู ชงิ รุกและการวัดประเมนิ ผลเพอ่ื พัฒนาผูเ้ รยี น ทสี่ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ
1.1.2 สง่ เสรมิ การพฒั นากรอบหลักสตู รระดบั ท้องถ่นิ และหลักสตู รสถานศกึ ษาตามความตอ้ งการ
จำเปน็ ของกลมุ่ เป้าหมายและแตกต่างหลากหลายตามบรบิ ทของพน้ื ที่
1.1.3 พัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีทักษะการคิดวิเคราะห์ สามารถแก้ไขสถานการณเ์ ฉพาะหน้าไดอ้ ยา่ งมี
ประสทิ ธิภาพ โดยจดั การเรียนรูเ้ ชงิ รุก (Active Learning) จากประสบการณ์จริงหรอื จาก สถานการณจ์ ำลองผ่าน
การลงมือปฏบิ ัติ ตลอดจนจดั การเรยี นการสอนในเชิงแสดงความคิดเหน็ เพอ่ื เปดิ โลก ทัศน์มมุ มองร่วมกนั ของ
ผูเ้ รยี นและครูให้มากขึ้น
1.1.4 พฒั นาผูเ้ รียนใหม้ คี วามรอบรู้และทกั ษะชวี ติ เพ่ือเป็นเครื่องมือในการดำรงชีวติ และสร้าง
อาชพี อาทิ การใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิทลั สขุ ภาวะและทัศนคติที่ดตี ่อการดูแลสุขภาพ
1.2 การเรยี นร้ตู ลอดชีวติ
1.2.1 จัดการเรียนรตู้ ลอดชวี ิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวยั เนน้ สง่ เสริมและยกระดบั ทักษะ
ภาษาอังกฤษ (English for All)
1.2.2 ส่งเสริมการเรียนการสอนทเ่ี หมาะสมสำหรับผู้ท่ีเข้าส่สู ังคมสูงวัย อาทิ อาชีพที่
เหมาะสมรองรบั สังคมสงู วยั หลักสตู รการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ และหลักสูตรการดูแลผู้สูงวยั หลักสูตร BUDDY โดย
เน้นการมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาชมุ ชน โรงเรยี น และผู้เรยี น หลกั สตู รการเรียนรอู้ อนไลน์ เพ่อื สง่ เสริม
ประชาสมั พันธ์สินค้าออนไลน์ระดับตำบล
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 17
1.2.3 พัฒนาครใู หม้ ีทกั ษะ ความรู้ และความชำนาญในการใช้เทคโนโลยดี จิ ทิ ัล ปญั ญาประดิษฐ์
และภาษาอังกฤษ รวมทั้งการจดั การเรียนการสอนเพื่อฝกึ ทักษะการคิดวิเคราะห์อยา่ งเป็นระบบ และ มีเหตุผลเปน็
ข้ันตอน
1.2.4 พัฒนาครอู าชีวศกึ ษาที่มคี วามรูแ้ ละความสามารถในทางปฏบิ ตั ิ (Hands – on
Experience) เพ่ือใหม้ ีทักษะและความเช่ียวชาญทางวิชาการ โดยรว่ มมือกับสถาบันอดุ มศกึ ษาชั้นนำของประเทศ
จัดหลกั สูตรการพัฒนาแบบเข้มข้นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี
1.2.5 พฒั นาสมรรถนะและความรู้ความสามารถของบคุ ลากรกระทรวงศกึ ษาธิการ ให้มีความ
พร้อมในการปฏบิ ัติงานรองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสทิ ธภิ าพ โดยจัดใหม้ ีศูนยพ์ ัฒนา สมรรถนะ
บุคลากรระดับจังหวัดท่ัวประเทศ
2. การพัฒนาการศกึ ษาเพ่ือความมนั่ คง
2.1 เฝ้าระวังภยั ทุกรปู แบบท่เี กดิ ขึน้ กับผู้เรยี น ครู และสถานศกึ ษา โดยเฉพาะภยั จากยาเสพตดิ
อาชญากรรมทางไซเบอร์ การคา้ มนษุ ย์
2.2 ส่งเสริมใหใ้ ชภ้ าษาท้องถ่ินร่วมกบั ภาษาไทยเป็นสื่อจดั การเรยี นการสอนในพื้นท่ที ใ่ี ช้ภาษาอย่าง
หลากหลาย เพื่อวางรากฐานให้ผเู้ รียนมีพัฒนาการด้านการคิดวเิ คราะห์ รวมทั้งมีทักษะการ สือ่ สารและใช้ภาษาที่
สามในการต่อยอดการเรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
2.3 ปลูกฝังผู้เรียนใหม้ หี ลักคิดท่ถี ูกต้องด้านคุณธรรม จริยธรรม และเป็นผมู้ ีความพอเพียง วินัย สุจรติ
จิตอาสา โดยใชก้ ระบวนการลูกเสือ และยุวกาชาด
3. การสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขัน
3.1 สนบั สนนุ ให้สถานศึกษาอาชวี ศึกษาผลิตกำลงั แรงงานท่ีมคี ุณภาพ ตามความเปน็ เลศิ ของแตล่ ะ
สถานศกึ ษาและตามบรบิ ทของพ้นื ท่ี รวมท้งั สอดคล้องกับความตอ้ งการของประเทศท้ังในปัจจบุ นั และอนาคต
3.2 สนับสนนุ ใหส้ ถานศึกษาอาชวี ศกึ ษาบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ และจัดการเรยี นการสอนด้วย
เครือ่ งมอื ปฏบิ ตั ทิ ่ีทันสมัยและสอดคลอ้ งกับเทคโนโลยี โดยเนน้ ใหผ้ เู้ รียนมีทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล
(Data Analysis) และทกั ษะการส่อื สารภาษาตา่ งประเทศ
4. การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา
4.1 พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพอ่ื การเรียนรู้ และใชด้ ิจิทลั เป็นเครื่องมอื การเรยี นรู้
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 18
4.2 ศึกษาและปรบั ปรงุ อตั ราเงินอดุ หนุนคา่ ใชจ้ า่ ยต่อหัวในการจดั การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานให้สอดคลอ้ งกับ
สภาพเศรษฐกิจและบทบัญญัตขิ องรัฐธรรมนญู
4.3 ระดมสรรพกำลงั เพือ่ ส่งเสริมสนบั สนุนโรงเรยี นนำรอ่ งพื้นท่นี วัตกรรมการศึกษา เพื่อลด ความ
เหลือ่ มล้ำทางการศึกษาใหส้ อดคล้องพระราชบัญญตั ิพ้นื ที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.2562.
5. การจัดการศึกษาเพ่ือสร้างเสรมิ คณุ ภาพชวี ติ ท่ีเปน็ มิตรกับส่งิ แวดล้อม
5.1 เสริมสรา้ งการรบั รู้ ความเขา้ ใจ ความตระหนัก และส่งเสริมคณุ ลกั ษณะและพฤติกรรมที่พึง
ประสงค์ ดา้ นส่ิงแวดล้อม
5.2 ส่งเสริมการพัฒนาส่งิ ประดษิ ฐแ์ ละนวัตกรรมทเี่ ป็นมิตรกบั ส่งิ แวดลอ้ ม ใหส้ ามารถเป็น อาชีพ และ
สร้างรายได้
6. การปรบั สมดุลและพฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการ
6.1 ปฏิรูปองคก์ ารเพื่อลดความทับซ้อน เพม่ิ ประสิทธภิ าพและความเปน็ เอกภาพของหน่วยงานทม่ี ี
ภารกจิ ใกลเ้ คยี งกนั เช่น ดา้ นประชาสัมพนั ธ์ ดา้ นต่างประเทศ ด้านเทคโนโลยี ดา้ นกฎหมาย เปน็ ตน้
6.2 ปรับปรุงกฎหมายและระเบยี บท่เี ป็นอปุ สรรคและข้อจำกัดในการดำเนินงาน โดยคำนึงถงึ
ประโยชน์ ของผเู้ รียนและประชาชน ตลอดจนกระทรวงศึกษาธิการโดยรวม
6.3 สนบั สนนุ กิจกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ
6.4 พฒั นาระบบฐานขอ้ มูลด้านการศึกษา (Big Data)
6.5 พัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการและพฒั นากำลงั คนของกระทรวงศกึ ษาธิการ ใหส้ อดคลอ้ งกับการ
ปฏริ ปู องค์การ
6.6 สนบั สนุนให้สถานศึกษาเปน็ นติ บิ ุคคล เพื่อให้สามารถบริหารจัดการศกึ ษาท่ีมีคุณภาพได้ อยา่ ง
อสิ ระและมปี ระสิทธภิ าพ ภายใตก้ รอบแนวทางของกระทรวงศกึ ษาธิการ
6.7 จดั ตงั้ หนว่ ยงานวางแผนทางการเงนิ (Financial Plan) ระดับจังหวดั เพ่ือพัฒนาคุณภาพ ชวี ติ
บคุ ลากรของกระทรวงศึกษาธกิ าร
6.8 ส่งเสริมโครงการ 1 ตำบล 1 โรงเรียนคณุ ภาพ โดยเนน้ ปรบั สภาพแวดลอ้ มท้ังภายในและ
ภายนอกบริเวณโรงเรยี นให้เอื้อต่อการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และจิตสาธารณะ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 19
7. พัฒนาครูทุกระดบั ให้มีทักษะความรทู้ จี่ ำเปน็ เพอื่ ทำหน้าทวี่ ิทยากรมืออาชพี (Train The Trainer)
และ ขยายผลการพัฒนาผ่านศนู ยพ์ ฒั นาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence
Center : HCEC)
8. จดั การเรยี นร้ตู ลอดชีวติ ผา่ นเวบ็ ไซต์ www.deep.go.th โดยปลดลอ็ กและเปดิ กว้างใหภ้ าคเอกชน
สามารถเข้ามาพฒั นาเน้ือหา เพ่ือใหผ้ ู้เรียน ครู และผบู้ ริหารทางการศกึ ษามีทางเลือกในการเรยี นร้ทู ีห่ ลากหลาย
และตลอดเวลาผ่านแพลตฟอร์มดา้ นการศึกษาเพ่ือความเป็นเลิศ (Digital Education Excellence Platform :
DEEP)
9. ให้ผ้เู รยี น ครู ผบู้ รหิ ารทางการศึกษามีแผนพฒั นารายบุคคลผ่านแผนพัฒนารายบุคคลสคู่ วาม เปน็ เลิศ
(Excellence Individual Development Plan : EIDP)
10. จดั ทำ “ค่มู ือมาตรฐานโรงเรยี น” เพ่ือกำหนดให้ทุกโรงเรยี นต้องมีพื้นฐานทีจ่ ำเปน็ ”
6. นโยบายสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน ปงี บประมาณ พ.ศ.2564–2565
ตามแผนแม่บทภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ (พ.ศ.2561-2580) และแผนปฏริ ูปประเทศดา้ นการศึกษา
กำหนดให้มีการพัฒนาเดก็ ตั้งแตร่ ะดบั ปฐมวยั ให้มีสมรรถนะและคุณลกั ษณะที่ดี สมวยั ทุกด้าน โดยการปฏิรูป
กระบวนการเรยี นรู้ทตี่ อบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษท่ี 21 ตระหนักถึงพหปุ ญั ญาของมนษุ ย์ที่
หลากหลาย มเี ป้าหมาย ใหผ้ ู้เรียนทกุ กลุม่ วยั ได้รบั การศกึ ษาทม่ี คี ุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะทจี่ ำเปน็ ของโลก
อนาคต สามารถ แก้ปัญหา ปรบั ตวั สอ่ื สาร และทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืนได้อย่างมีประสทิ ธิผล มีวินัย มีนสิ ัยใฝ่เรียนรู้
อยา่ งต่อเนอื่ ง ตลอดชวี ติ รวมทัง้ เปน็ พลเมืองทีร่ ้สู ิทธิและหนา้ ที่ มคี วามรับผิดชอบและมีจิตสาธารณะ
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน มนุ่ มนั่ ในการพัฒนาการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานให้เปน็ “การศึกษาขัน้
พื้นฐานวถิ ีใหม่ วิถคี ุณภาพ” ม่งุ เนน้ ความปลอดภยั ในสถานศึกษา สง่ เสริมโอกาสทางการศึกษา ท่ีมคี ุณภาพ อย่าง
เท่าเทยี ม และบริหารจดั การศกึ ษาอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ จึงกำหนดนโยบายสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ัน
พ้นื ฐาน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ.2564-2565 ดังน้ี
1. ดา้ นความปลอดภยั
พฒั นาระบบและกลไกในการดแู ลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และ
สถานศึกษา จากภัยพบิ ัติและภัยคกุ คามทกุ รูปแบบ รวมถงึ การจัดสภาพแวดลอ้ มท่เี อือ้ ต่อการมีสุขภาวะทีด่ ี
สามารถปรับตวั ต่อโรคอบุ ัติใหมแ่ ละอุบัติซ้ำ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 20
2. ดา้ นโอกาส
2.1 สนบั สนุน ให้เด็กปฐมวยั ได้เข้าเรยี นทุกคน มีพัฒนาการที่ดี ทง้ั ทางร่างกาย จิตใจ วนิ ยั อารมณ์
สังคม และสตปิ ัญญา ให้สมกับวยั
2.2 ดำเนนิ การให้เด็กและเยาวชนได้รับการศกึ ษาจนจบการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน อยา่ งมีคณุ ภาพ ตาม
มาตรฐาน วางรากฐานการศกึ ษาเพ่ืออาชีพ สามารถวเิ คราะห์ตนเองเพอ่ื การศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ ตรงตาม
ศักยภาพและความถนัดของตนเอง รวมทัง้ สง่ เสริมและพฒั นาผู้เรยี นที่มีความสามารถพิเศษสูค่ วามเปน็ เลศิ เพ่ือ
เพ่มิ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
2.3 พัฒนาระบบดูแลชว่ ยเหลอื เดก็ และเยาวชนที่อยู่ในการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน เพ่ือป้องกันไม่ให้ ออก
จากระบบการศึกษา รวมทงั้ ช่วยเหลอื เด็กตกหลน่ และเดก็ ออกกลางคนั ให้ไดร้ ับการศึกษาขนั้ พื้นฐานอย่าง เทา่
เทียมกนั
2.4 ส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ พกิ ารและผู้ด้อยโอกาส ให้ไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาท่ีมคี ุณภาพมีทกั ษะใน การ
ดำเนนิ ชวี ิต มีพ้ืนฐานในการประกอบอาชีพ พึ่งตนเองได้อย่างมีศักดศ์ิ รีความเป็นมนษุ ย์ตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
3. ดา้ นคุณภาพ
3.1 ส่งเสรมิ การจดั การศกึ ษาใหผ้ ูเ้ รียนมคี วามรู้ มที ักษะการเรยี นรู้และทกั ษะทีจ่ ำเป็นของโลก ใน
ศตวรรษท่ี 21 อย่างครบถว้ น เปน็ คนดี มีวินยั มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดม่นั การปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข มที ศั นคติทีถ่ ูกตอ้ งต่อบ้านเมือง
3.2 พัฒนาผู้เรียนใหม้ ีสมรรถนะและทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ การคิดข้นั สงู นวตั กรรม
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั และภาษาต่างประเทศ เพอื่ เพมิ่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั และการเลือก
ศึกษาต่อเพ่อื การมีงานทำ
3.3 ปรบั หลกั สูตรเปน็ หลักสูตรฐานสมรรถนะ ทเ่ี นน้ การพฒั นาสมรรถนะหลกั ทีจ่ ำเป็นในแต่ ระดบั จัด
กระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏบิ ัตจิ ริง รวมทง้ั ส่งเสริมการจดั การเรียนร้ทู สี่ รา้ งสมดลุ ทุกดา้ นสง่ เสรมิ การจดั การ
ศึกษาเพื่อพฒั นาพหปุ ัญญา พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลผ้เู รยี นทุกระดับ.
3.4 พัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ให้เปน็ ครูยคุ ใหม่ มีศกั ยภาพในการจัดการเรียนการ สอน
ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะ มีทกั ษะในการปฏิบัตหิ น้าที่ได้ดี มีความรคู้ วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี ดิจิทลั มี
การพฒั นาตนเองทางวิชาชีพอยา่ งต่อเน่อื ง รวมทง้ั มจี ิตวญิ ญาณความเป็นครู
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 21
4. ดา้ นประสิทธิภาพ
4.1 พัฒนาระบบบริหารจดั การโดยใชพ้ นื้ ท่ีเป็นฐาน มีนวตั กรรมเป็นกลไกหลกั ในการ ขับเคล่อื นบน
ฐานขอ้ มลู สารสนเทศที่ถูกตอ้ ง ทันสมยั และการมสี ่วนร่วมของทุกภาคส่วน
4.2 พฒั นาโรงเรียนมธั ยมดสี ม่ี ุมเมือง โรงเรยี นคณุ ภาพชมุ ชน โรงเรยี นขนาดเล็กและโรงเรียน ที่
สามารถดำรงอย่ไู ด้อยา่ งมคี ุณภาพ (Stand Alone) ใหม้ ีคุณภาพอย่างยงั่ ยืน สอดคลอ้ งกับบรบิ ทของพื้นท่ี
4.3 บรหิ ารจดั การโรงเรยี นขยายโอกาสทางการศึกษา ท่ีมีจำนวนนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1-3 นอ้ ย
กว่า 20 คน ใหไ้ ด้รับการศึกษาอยา่ งมีคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายโรงเรยี นคุณภาพชมุ ชน
4.4 ส่งเสริมการจัดการศึกษาทม่ี ีคณุ ภาพในสถานศกึ ษาที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะและสถานศึกษา ท่ีตง้ั ใน
พื้นท่ีลักษณะพเิ ศษ
4.5 สนบั สนุนพนื้ ท่ีนวัตกรรมการศึกษาใหเ้ ป็นต้นแบบการพฒั นานวัตกรรมการศึกษาและการ เพ่ิม
ความคลอ่ งตัวในการบริหารและการจัดการศึกษาขัน้ พื้นฐาน
4.6 เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน
7. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาองค์กร 6 ยทุ ธศาสตร์
การขบั เคล่ือนนโยบายสูก่ ารปฏิบัติของสำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี
อำนาจเจริญ โดยยดึ นโยบายและจดุ เนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ และสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พ้นื ฐานเป็นกรอบในการกำหนดนโยบาย มุ่งเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นทุกคนบรรลถุ ึงศกั ยภาพสูงสดุ มีความรู้
และทักษะในการเรยี นรู้และการดำรงชวี ติ ในอนาคต โดยกำหนดนโยบายและจดุ เน้นในการขบั เคล่อื นคุณภาพ
การศกึ ษาสำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศึกษาอบุ ลราชธานี อำนาจเจรญิ
นโยบายและจุดเน้นในการขบั เคลอ่ื นคุณภาพการศึกษาสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา มัธยมศึกษา
อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ตามแนวทาง SPM 29 รายละเอียด ดังนี้
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 22
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 23
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 24
8. มาตรฐานสำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา พ.ศ.2560
มาตรฐานสำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษา เปน็ ข้อกำหนดและแนวทางในการบรหิ ารและจัดการศึกษา
ของสำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษา เปน็ การประเมนิ ตนเองในภาพรวม โดยใชเ้ ป็นเคร่ืองมอื ในการตดิ ตามและ
ประเมนิ ผลการบริหารและจัดการศึกษา ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน 14 ตัวบง่ ชี้ ดังน้ี
มาตรฐานท1่ี การบริหารจดั การองค์การสู่ความเป็นเลิศ
ตัวบ่งชท้ี ี่ 1 การบรหิ ารจัดการท่ดี ี
ตัวบ่งช้ีท่ี 2 การพฒั นาสู่องค์การแห่งการเรียนรู้
ตวั บง่ ชี้ท่ี 3 การกระจายอำนาจและการสง่ เสริมการมสี ่วนร่วมในการบริหารและการจดั การศึกษา
มาตรฐานท2่ี การบรหิ ารและการจดั การศกึ ษาทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั บ่งชี้ที่ 1 การบริหารงานด้านวิชาการ
ตัวบง่ ชท้ี ่ี 2 การบรหิ ารงานดา้ นงบประมาณ
ตวั บง่ ชท้ี ่ี 3 การบรหิ ารงานดา้ นการบรหิ ารงานบคุ คล
ตัวบ่งชี้ที่ 4 การบรหิ ารงานดา้ นการบรหิ ารท่ัวไป
ตัวบง่ ชที้ ่ี 5 การตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผล และนเิ ทศการจดั การศึกษาท่ีมีประสิทธภิ าพ
มาตรฐานท3ี่ สัมฤทธ์ผิ ลการบริหารและการจัดการศึกษา
ตวั บง่ ชี้ท่ี 1 สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษามีผลงาน ทแี่ สดงความสำเรจ็ และเปน็ แบบอย่างได้
ตัวบง่ ชท้ี ี่ 2 สถานศึกษามีคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาปฐมวัยและการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน เพือ่
การประกันคุณภาพการศกึ ษา
ตัวบง่ ช้ที ี่ 3 ผ้เู รียนระดบั ปฐมวัยและระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐานมคี ุณภาพตามหลักสตู ร ตัวบ่งชี้ที่ 4
ประชากรวยั เรยี นไดร้ ับสทิ ธแิ ละโอกาสทางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานเท่าเทียมกนั ศึกษาต่อในระดับทสี่ ูงขน้ึ หรือมี
ความรทู้ ักษะพน้ื ฐานในการประกอบอาชีพ
ตวั บ่งชที้ ี่ 5 ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนกั งานราชการ ลกู จา้ งในสำนกั งาน เขต
พน้ื ทก่ี ารศึกษาและสถานศึกษา มีผลงานเชงิ ประจักษต์ ามเกณฑ์ ได้รับการยกย่องเชดิ ชูเกยี รติ
ตัวบ่งชี้ที่ 6 ผรู้ ับบริการและผู้มีสว่ นได้สว่ นเสีย มีความพงึ พอใจ ในการบรหิ าร และการจดั
การศกึ ษา รวมท้ังการใหบ้ ริการ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 25
ผลการประเมินของสำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาอบุ ลราชธานี อำนาจเจริญ ตามมาตรฐาน
สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษา (พ.ศ.2560) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 คะแนนเฉลี่ยโดยรวม 4 อยใู่ นระดบั
คณุ ภาพ ดมี าก ดงั นี้
มาตรฐานที่ 1 การบริหารจัดการองค์การสคู่ วามเปน็ เลิศ คะแนนท่ีได้ 4
มาตรฐานท่ี 2 การบรหิ ารและการจดั การศึกษาท่มี ีประสิทธิภาพ คะแนนท่ีได้ 4
มาตรฐานท่ี 3 ผลการบรหิ ารและการจัดการศึกษาของสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา คะแนนท่ีได้ 5
9. ประกำศโรงเรียนอำนำจเจริญ เรอื่ ง ให้ใช้มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดบั กำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน
มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดบั กำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน พ.ศ.2564 มจี ำนวน 3 มำตรฐำน ไดแ้ ก่
มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพของผเู้ รยี น
1.1 ผลสมั ฤทธทิ์ ำงวชิ ำกำรของผเู้ รยี น
1.2 คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์
มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร
มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั
แต่ละมำตรฐำนมรี ำยละเอยี ด ดงั น้ี
มำตรฐำนที่ 1 คณุ ภำพของผเู้ รียน
1.1 ผลสมั ฤทธทิ์ ำงวชิ ำกำรของผเู้ รยี น
1) มคี วำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรสอ่ื สำร และกำรคดิ คำนวณ
2) มคี วำมสำมำรถในกำรคดิ วเิ ครำะห์ คดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณ อภปิ รำยแลกเปลย่ี น
ควำมคดิ เหน็ และแกป้ ัญหำ
3) มคี วำมสำมำรถในกำรสรำ้ งนวตั กรรม
4) มคี วำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอ่ื สำร
5) มผี ลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นตำมหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ
6) มคี วำมรู้ ทกั ษะพน้ื ฐำน และเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ งำนอำชพี
1.2 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น
1) กำรมคี ณุ ลกั ษณะและค่ำนิยมทด่ี ตี ำมทส่ี ถำนศกึ ษำกำหนด
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 26
2) ควำมภูมใิ จในทอ้ งถน่ิ และควำมเป็นไทย
3) กำรยอมรบั ทจ่ี ะอย่รู ่วมกนั บนควำมแตกต่ำงและหลำกหลำย
4) สขุ ภำวะทำงร่ำงกำย และจติ สงั คม
มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำร
2.1 มเี ป้ำหมำยวสิ ยั ทศั น์และพนั ธกจิ ทส่ี ถำนศกึ ษำกำหนดชดั เจน
2.2 มรี ะบบบรหิ ำรจดั กำรคุณภำพของสถำนศกึ ษำ
2.3 ดำเนินงำนพฒั นำวชิ ำกำรทเ่ี น้นคุณภำพผเู้ รยี นรอบดำ้ นตำมหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ
และทกุ กล่มุ เป้ำหมำย
2.4 พฒั นำครแู ละบคุ ลำกรใหม้ คี วำมเชย่ี วชำญทำงวชิ ำชพี
2.5 จดั สภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพและสงั คมทเ่ี ออ้ื ต่อกำรจดั กำรเรยี นรอู้ ย่ำงมคี ณุ ภำพ
2.6 จดั ระบบเทคโนโลยสี ำรสนเทศเพอ่ื สนบั สนุนกำรบรหิ ำรจดั กำรและกำรจดั กำรเรยี นรู้
มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั
3.1 จดั กำรเรยี นรผู้ ่ำนกระบวนกำรคดิ และปฏบิ ตั จิ รงิ และสำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ได้
3.2 ใชส้ อ่ื เทคโนโลยสี ำรสนเทศและแหล่งเรยี นรูท้ เ่ี ออ้ื ตอ่ กำรเรยี นรู้
3.3 มกี ำรบรหิ ำรจดั กำรชนั้ เรยี นเชงิ บวก
3.4 ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอย่ำงเป็นระบบและนำผลมำพฒั นำผเู้ รยี น
3.5 มกี ำรแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละใหข้ อ้ มลู สะทอ้ นกลบั เพอ่ื พฒั นำและปรบั ปรงุ กำรจดั กำรเรยี นรู้
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 25
ส่วนที่ 3
ทิศทำงกำรพฒั นำคณุ ภำพของโรงเรยี น
8. สถำนภำพของโรงเรยี น
8.1 ผลกำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดลอ้ ม
8.1.1 กำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดลอ้ มภำยนอก
กำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดลอ้ มทงั้ 4 ดำ้ น พบวำ่ ผลกำรวเิ ครำะหไ์ ด้
ค่ำเฉลย่ี 0.247 แสดงวำ่ ในภำพรวมสภำพแวดลอ้ มภำยนอกเออ้ื ต่อกำรบรหิ ำรจดั กำรกำรศกึ ษำ
ของโรงเรยี น โดยเฉพำะดำ้ นสงั คมและวฒั นธรรม มคี ำ่ เฉลย่ี 0.361 และดำ้ นเทคโนโลยี
ทำงกำรศกึ ษำ มคี ่ำเฉลย่ี 0.270 แตใ่ นดำ้ นกฎหมำยและกำรเมอื ง และดำ้ นเศรษฐกจิ เป็น
อปุ สรรคต่อกำรบรหิ ำรจดั กำรศกึ ษำเลก็ น้อย มคี ำ่ เฉลย่ี ท่ี – 0.194 และ ตำมลำดบั - 0.189
8.1.1.1 ดำ้ นสงั คมและวฒั นธรรม (Social & Culture) โดยภำพรวมสรำ้ ง
โอกำสในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน ผปู้ กครองมคี ่ำนยิ มทด่ี งี ำมและมคี วำมศรทั ธำเช่อื มนั่ ตอ่
โรงเรยี น นยิ มสง่ บตุ รหลำนเขำ้ ศกึ ษำตอ่ ทโ่ี รงเรยี นอำนำจเจรญิ เป็นจำนวนมำก โรงเรยี นตงั้ อยู่
ในเขตชุมชนสะดวกในกำรเดนิ ทำงมำโรงเรยี น ในดำ้ นทเ่ี ป็นอปุ สรรค คอื ผปู้ กครองตอ้ งกำรให้
บตุ รหลำนประกอบอำชพี รบั รำชกำร จงึ ตอ้ งกำรใหเ้ รยี นในแผนกำรเรยี น วทิ ยำศำสตร์
คณติ ศำสตร์ โดยไม่คำนึงถงึ ควำมสำมำรถ ควำมตอ้ งกำร และควำมถนดั ของผเู้ รยี น ผเู้ รยี น
ไมไ่ ดเ้ ลอื กเรยี นตำมควำมต้องกำรของตนเอง นอกนนั้ ค่ำนิยมในกำรรบั ประทำนอำหำรของชุมชน
ไมถ่ กู หลกั โภชนำกำร สง่ ผลใหผ้ เู้ รยี นขำดสำรอำหำร มรี ่ำงกำยและสมองทไ่ี มส่ มบูรณ์
8.1.1.2 ดำ้ นเทคโนโลยี ( Technology Compoment ) โดยภำพรวม
เป็นโอกำส เออ้ื ต่อกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนของโรงเรยี น ผเู้ รยี นสำมำรถคน้ ควำ้ หำควำมรู้
และสรำ้ งองคค์ วำมรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง กำรตดิ ตอ่ สอ่ื สำรทนั สมยั กำรประสำนงำนมปี ระสทิ ธภิ ำพ
บคุ ลำกรไดร้ บั รขู้ ำ่ วสำรทท่ี นั ต่อเหตุกำรณ์ สำมำรถเลอื กใชส้ อ่ื นวตั กรรมกำรเรยี นกำรสอนอยำ่ ง
หลำกหลำย ในดำ้ นทเ่ี ป็นอุปสรรค คอื ผเู้ รยี นมคี ่ำนิยมดำ้ นวตั ถนุ ิยม ทำใหส้ น้ิ เปลอื ง
ค่ำใชจ้ ่ำยโดยไม่จำเป็นและกำรเลอื กใชส้ อ่ื ไมเ่ หมำะสมกบั สภำพและวยั ของผเู้ รยี น
8.1.1.3 ดำ้ นเศรษฐกจิ ( Economic Compoment ) โดยภำพรวมเป็น
อปุ สรรคตอ่ กำรจดั กำรเรยี นกำรสอน เน่อื งจำกภำวะเศรษฐกจิ ตกต่ำ ภำวะกำรว่ำงงำนสงู
ทำใหอ้ ตั รำกำรศกึ ษำตอ่ ในระดบั อุดมศกึ ษำค่อนขำ้ งต่ำ ชมุ ชนหนั ไปประกอบอำชพี ทไ่ี ม่สุจรติ
ผปู้ กครองผเู้ รยี นตอ้ งไปทำงำนตำ่ งถนิ่ ผเู้ รยี นขำดควำมอบอุน่ ในครอบครวั ทำใหม้ พี ฤตกิ รรมท่ี
ไมพ่ งึ ประสงค์ ครมู คี ่ำครองชพี สงู รำยไดไ้ มเ่ พยี งพอตอ้ งทำอำชพี เสรมิ
ทำใหก้ ำรเตรยี มกำรสอนขำดคุณภำพระดบั หน่งึ ในดำ้ นทเ่ี ป็นโอกำส คอื ชมุ ชนมนี ้ำใจตอ่
โรงเรยี น โรงเรยี นสำมำรถระดมทุนสนบั สนุนจำกชุมชนเพอ่ื พฒั นำแหลง่ เรยี นรแู้ ละบรรยำกำศ
สง่ิ แวดลอ้ มของโรงเรยี น และผเู้ รยี นรจู้ กั กำรหำรำยไดร้ ะหว่ำงเรยี นเพอ่ื ช่วยเหลอื เศรษฐกจิ ของ
ตนเองและครอบครวั
8.1.1.4 ดำ้ นกฎหมำยและกำรเมอื ง ( Politic & Regal) โดยภำพรวม
เป็นอุปสรรคต่อกำรเรยี นกำรสอน รฐั บำลขำดกำรสง่ เสรมิ สนิ คำ้ ดำ้ นกำรเกษตรอย่ำงเป็นรูปธรรม
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 26
ชมุ ชนขำดรำยไดจ้ ำกอำชพี หลกั ทำใหผ้ เู้ รยี นซง่ึ สว่ นใหญ่ผูป้ กครองเป็นเกษตรกร ขำดเงนิ ทุนใน
กำรศกึ ษำตอ่ ในระดบั สงู นโยบำยปรบั ลดอตั รำกำลงั ของภำครฐั สง่ ผลใหโ้ รงเรยี นขำดอตั รำกำลงั
ชุมชนมสี ว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบในกำรจดั กำรศกึ ษำ โรงเรยี นตอ้ งจดั กระบวนกำรเรยี นกำรสอนท่ี
เออ้ื ตอ่ กำรเรยี นของผเู้ รยี น สง่ ผลใหโ้ รงเรยี นสำมำรถขอควำมรว่ มมอื ในกำรพฒั นำ จดั กำรศกึ ษำ
จำกชุมชน ไดอ้ ย่ำงดี
8.1.2 กำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดลอ้ มภำยใน
ผลกำรวเิ ครำะหไ์ ดค้ ่ำเฉลย่ี 1.46 แสดงว่ำในภำพรวมสภำพแวดลอ้ ม
ภำยในเออ้ื ตอ่ กำรบรหิ ำรจดั กำรกำรศกึ ษำของโรงเรยี น โดยเฉพำะดำ้ น ประสทิ ธภิ ำพทำงกำรเงนิ
มคี ่ำเฉลย่ี 0.40 ดำ้ นโครงสรำ้ งและนโยบำยของโรงเรยี น มคี ำ่ เฉลย่ี 0.38 ดำ้ นกำรบรกิ ำรกำร
จดั กำรเรยี นกำรสอนและคุณภำพของผเู้ รยี น มคี ่ำเฉลย่ี 0.34 ดำ้ นกำรบรหิ ำรจดั กำร มี
ค่ำเฉลย่ี 0.24 และดำ้ นคุณภำพของบคุ ลำกร มคี ่ำเฉลย่ี 0.16 แต่ในดำ้ นวสั ดอุ ุปกรณ์ อำคำร
สถำนท่ี เป็นอปุ สรรคต่อกำรบรหิ ำรจดั กำรศกึ ษำเลก็ น้อย มคี ำ่ เฉลย่ี ท่ี – 0.06
8.1.2.1 ดำ้ นโครงสรำ้ งและนโยบำยของโรงเรยี น (Structure) โดย
ภำพรวมเป็นจดุ แขง็ ในกำรบรหิ ำรจดั กำรเรยี นกำรสอน โรงเรยี นมโี ครงสรำ้ งกำรบรหิ ำรงำนท่ี
ชดั เจน มกี ำรกำหนดบทบำท หน้ำทข่ี องบคุ ลำกรอย่ำงเป็นลำยลกั ษณ์อกั ษร โรงเรยี นสง่ เสรมิ กำร
จดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ผเู้ รยี นสำมำรถเลอื กเรยี นตำมควำมถนดั และควำม
สนใจของผเู้ รยี น ชุมชนมสี ว่ นร่วมในกำรบรหิ ำร จดั กำรเรยี นกำรสอน สง่ เสรมิ กำรพฒั นำ
บุคลำกรอย่ำงตอ่ เน่อื ง ในสว่ นทเ่ี ป็นจุดดอ้ ย คอื บุคลำกรมคี ำบสอน และหน้ำทพ่ี เิ ศษมำกเกนิ ไป
ทำใหก้ ำรเตรยี มกำรสอน กำรวำงแผนกำรสอน และกำรตดิ ตำมชว่ ยเหลอื ผเู้ รยี นรำยบุคคล มี
คณุ ภำพดอ้ ยลงไป
8.1.2.2 ดำ้ นกำรบรกิ ำรจดั กำรเรยี นกำรสอนและคณุ ภำพของผเู้ รยี น
( Service and Product) โดยภำพรวมเป็นจุดแขง็ ของโรงเรยี น โรงเรยี นสำมำรถจดั หลกั สตู รให้
ผเู้ รยี นสำมำรถเลอื กเรยี นไดอ้ ยำ่ งหลำกหลำย มผี ลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นสงู ผลกำรเรยี นอย่ใู น
ระดบั ดี (เกรด 3 – 4 ) 53.56 % โรงเรยี นสำมำรถจดั บรกิ ำรทำงกำรศกึ ษำและเปิดโอกำสให้
ผดู้ อ้ ยโอกำสไดเ้ ขำ้ ศกึ ษำอย่ำงทวั่ ถงึ และมปี ระสทิ ธภิ ำพ ในดำ้ นคุณภำพของผเู้ รยี น ผลจำก กำร
ประเมนิ ตนเองพบวำ่ สว่ นใหญ่อย่ใู นระดบั ดี ยกเวน้ กำรคดิ วเิ ครำะห์ สงั เครำะห์ กำรใช้
ภำษำต่ำงประเทศในกำรสอ่ื สำร กำรมที กั ษะในกำรทำงำน กำรทำงำนเป็นกลุ่ม และกำรมี
สุนทรยี ภำพดำ้ นศลิ ปะ ดนตรี กฬี ำ ผลกำรประเมนิ อย่ใู นระดบั พอใช้ ในดำ้ นจุดดอ้ ย เน่อื งจำก
ผเู้ รยี นมเี ป็นจำนวนมำก กำรดแู ลช่วยเหลอื ผเู้ รยี นรำยบุคคลไม่ทวั่ ถงึ ผเู้ รยี นมปี ัญหำดำ้ นควำม
ประพฤติ และเสย่ี งตอ่ สำรเสพตดิ ขำดกำรนำภูมปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ มำใชใ้ นกำรเรยี นกำรสอน
8.1.2.3 ดำ้ นปรมิ ำณและคุณภำพของบุคลำกร โดยภำพรวมเป็นจดุ แขง็
เออ้ื ตอ่ กำรจดั กำรเรยี นกำรสอน ครสู ว่ นมำกสอนตรงตำมวุฒิ ควำมรู้ ประสบกำรณ์และ ควำม
เชย่ี วชำญเฉพำะสำขำ บุคลำกรมกี ำรพฒั นำตนเองอย่ำงตอ่ เน่อื ง บคุ ลำกรเป็นผมู้ คี ณุ ธรรม
จรยิ ธรรม เสยี สละเพอ่ื สว่ นรวม ในดำ้ นจดุ ดอ้ ยกำรทำวจิ ยั เพอ่ื พฒั นำกำรเรยี นกำรสอนมนี ้อย
ขำดบคุ ลำกร
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 27
8.1.2.4 ดำ้ นประสทิ ธภิ ำพทำงกำรเงนิ ( Money ) เป็นจุดแขง็ ของ
โรงเรยี น มคี ่ำเฉลย่ี สงู สุด 0.40 แสดงวำ่ กำรใชจ้ ่ำยงบประมำณเป็นไปอย่ำงคุม้ คำ่ ตรงตำม
วตั ถุประสงค์ โรงเรยี นสำมำรถระดมทุนจำกชมุ ชนเพอ่ื พฒั นำแหล่งเรยี นรแู้ ละบรรยำกำศของ
โรงเรยี น จุดดอ้ ย ระบบเบกิ จำ่ ยงบประมำณของโรงเรยี นมคี วำมลำ่ ชำ้
8.1.2.5 ดำ้ นวสั ดอุ ปุ กรณ์ (Material ) เน่อื งจำกมผี เู้ รยี น 3,917 คน
จำนวน 95 หอ้ งเรยี น หอประชุมและหอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรไมเ่ พยี งพอต่อสดั สว่ นของผเู้ รยี น
8.1.2.6 ดำ้ นกำรบรหิ ำรจดั กำร ( Management ) โดยภำพรวมเป็น
จุดเด่นของโรงเรยี น เออ้ื ต่อกระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน ผบู้ รหิ ำรมวี สิ ยั ทศั น์ทด่ี ี มภี ำวะ
ควำมเป็นผนู้ ำ ทำใหก้ ำรบรหิ ำรงำนมปี ระสทิ ธภิ ำพ มกี ำรบรหิ ำรงำนโดยใชโ้ รงเรยี นเป็นฐำน
( SBM ) สง่ ผลใหช้ มุ ชนมสี ว่ นร่วมในกำรบรหิ ำรจดั กำรเรยี นกำรสอน มกี ำรสรุปผลกำร
ดำเนินงำนของหมวด ฝ่ำยเพอ่ื เป็นขอ้ มลู ในกำรพฒั นำงำนปีต่อไป จดุ ดอ้ ย กำรประสำนงำน
ภำยในลำ่ ชำ้
8.2 ผลกำรประเมนิ สถำนภำพของโรงเรยี น
ผลจำกกำรวเิ ครำะหส์ ภำพปัจจยั ภำยในและภำยนอก ปรำกฏผลดงั น้ี
ตำรำงท่ี 8 ผลกำรวเิ ครำะห์ ปัจจยั สภำพแวดลอ้ มภำยนอก (STEP)
รำยกำรปัจจยั สภำพ น้ำหนกั คะแนนเฉลย่ี โอกำส น้ำหนกั คะแนนเฉลย่ี
แวดลอ้ มภำยนอก โอกำส อุปสรรค อปุ สรรค สรปุ ผลกำรวเิ ครำะห์
S 0.31 3.28 -1.14 1.02 -0.35 0.67
T 0.22 2.62 -1.02 0.58 -0.22 0.36
E 0.25 2.52 -0.98 0.63 -0.25 0.38
P 0.22 3.52 -1.34 0.77 -0.29 0.48
รวม 1.00 0.473
ตำรำงท่ี 9 ผลกำรวเิ ครำะห์ ปัจจยั สภำพแวดลอ้ มภำยใน (2S4M)
รำยกำรปัจจยั สภำพ น้ำหนกั คะแนนเฉลย่ี น้ำหนกั คะแนนเฉลย่ี
แวดลอ้ มภำยใน แขง็ อ่อน แขง็ อ่อน สรปุ ผลกำรวเิ ครำะห์
S1 0.14 2.78 -0.54 0.39 -0.08 0.31
S2 0.22 2.60 -1.78 0.57 -0.39 0.18
M1 0.17 3.50 -0.76 0.60 -0.13 0.47
M2 0.17 1.92 -0.28 0.33 -0.05 0.28
M3 0.14 1.50 -1.34 0.21 -0.19 0.02
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 28
M4 0.17 1.96 -0.34 0.33 -0.06 0.27
รวม 1.00 0.26
8.3 แผนภำพแสดงผลกำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดลอ้ มภำยในและภำยนอก
จำกแผนภำพจะเหน็ ว่ำ สถำนภำพของโรงเรยี นอย่ใู นตำแหน่ง STAR แสดงวำ่ สภำพ
ภำยนอกของโรงเรยี นเป็นโอกำสทเ่ี ออ้ื ต่อกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนและพฒั นำโรงเรยี น ชุมชนให้
ควำมรว่ มมอื ต่อกำรจดั กำรศกึ ษำ ควรสง่ เสรมิ เพม่ิ บทบำทของชมุ ชน ใหม้ สี ว่ นร่วมมำกยงิ่ ขน้ึ ใน
ดำ้ นสภำพแวดลอ้ มภำยในเป็นจุดแขง็ ในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน ดำ้ นกำรเงนิ นโยบำยและ
โครงสรำ้ งของโรงเรยี น และดำ้ นผเู้ รยี น มคี ุณภำพ และศกั ยภำพทเ่ี ออ้ื ตอ่ กำรจดั กำรเรยี นกำรสอน
ควรสง่ เสรมิ เพมิ่ คณุ ภำพเพ่อื สมู่ ำตรฐำนระดบั ประเทศและระดบั สำกลตอ่ ไป
วิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ เป้ำประสงคแ์ ละกลยทุ ธข์ องโรงเรียนอำนำจเจริญ
1. วิสยั ทศั น์ (VISION)
ม่งุ มนั่ พฒั นำวชิ ำกำร ประสำนชุมชน ดำรงตนตำมเอกลกั ษณ์ไทย ใสใ่ จ
สงิ่ แวดลอ้ ม สรำ้ งควำมพรอ้ มตำม อจั ฉรยิ ภำพของผเู้ รยี นสมู่ ำตรฐำนกำรศกึ ษำของชำตแิ ละ
มำตรฐำนสำกลตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
2. พนั ธกิจ (MISSION)
2.1 จดั หลกั สตู รและกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนอย่ำงหลำกหลำยมี
มำตรฐำนสำกล สอดคลอ้ งกบั กำรพฒั นำ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 29
2.2 สง่ เสรมิ กำรใชเ้ ทคโนโลยที ำงกำรศกึ ษำ ผเู้ รยี นสำมำรถเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
อย่ำงต่อเน่อื ง และยงั่ ยนื
2.3 สง่ เสรมิ ใหช้ ุมชนและองคก์ รทอ้ งถนิ่ มสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กำรศกึ ษำของ
โรงเรยี นและโรงเรยี นมสี ว่ นรว่ มในกำรพฒั นำและบรกิ ำรชมุ ชน
2.4 อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและประเพณีอนั ดงี ำมของไทยและภมู ปิ ัญญำทอ้ งถนิ่
2.5 พฒั นำบคุ ลำกรใหม้ คี วำมรอบรู้ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มสี ุขภำพกำย
สุขภำพจติ ดี ปฏบิ ตั ติ นไดอ้ ยำ่ งเหมำะสมเป็นแบบอย่ำงทด่ี ใี นบรรยำกำศประชำธปิ ไตยตำมหลกั
ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
2.6 พฒั นำครใู หส้ ำมำรถใชส้ อ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ นกำรเรยี นกำรสอนและ ใช้
ภำษำต่ำงประเทศในกำรสอ่ื สำร
2.7 พฒั นำระบบกำรบรหิ ำรดว้ ยคุณภำพ จดั สง่ิ แวดลอ้ มและแหล่งเรยี นรู้
ใหเ้ ออ้ื ตอ่ กระบวนกำรเรยี นรมู้ ำตรฐำนสำกล
2.8 พฒั นำผเู้ รยี นตำมมำตรฐำนกำรศกึ ษำของชำตแิ ละมำตรฐำนสำกลโดยเน้น
ใหน้ กั เรยี นสำมำรถสอ่ื สำรไดอ้ ย่ำงน้อยสองภำษำ
3. เป้ำประสงค์ (OBJECTIVE)
ผเู้ รยี นเป็นบคุ คลแห่งกำรเรยี นรู้ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นยิ มทพ่ี งึ ประสงค์
ดำรงตนในสงั คมโลกอย่ำงมคี วำมสุข มศี กั ยภำพสู่มำตรฐำนสำกลโดยกำรบรหิ ำรจดั กำรดว้ ย
ระบบคุณภำพตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
4. กลยทุ ธข์ องโรงเรยี น
4.1 กลยุทธร์ ะดบั องคก์ ร / กลยุทธร์ ะดบั แผนงำน มดี งั น้ี
4.1.1 พฒั นำคุณภำพผเู้ รยี น
4.1.1.1 พฒั นำผเู้ รยี นดำ้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่ำนิยมท่ี
พง่ึ ประสงค์
4.1.1.2 สง่ เสรมิ กระบวนกำรฝึกอำชพี ทกั ษะกำรทำงำนและ
กำรบรหิ ำรจดั กำรอยำ่ งเป็นระบบ
4.1.1.3 อนุรกั ษศ์ ลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี และภูมปิ ัญญำ
ทอ้ งถนิ่
4.1.1.4 สง่ เสรมิ พฒั นำผเู้ รยี นดำ้ นบุคลกิ ภำพ สุนทรยี ภำพ
ศลิ ปะ ดนตรแี ละกฬี ำ
4.1.1.5 พฒั นำผเู้ รยี นใหม้ สี ุขนสิ ยั สุขภำพกำย สุขภำพจติ ทด่ี ี
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 30
4.1.1.6 สง่ เสรมิ และพฒั นำผเู้ รยี นดำ้ นกำรคดิ วเิ ครำะห์
สงั เครำะห์ สรำ้ งสรรค์
4.1.1.7 พฒั นำและสง่ เสรมิ ผเู้ รยี นใหม้ ที กั ษะแสวงหำควำมรดู้ ว้ ย
ตนเอง
4.1.1.8 พฒั นำอฉั จรยิ ภำพผเู้ รยี นส่มู ำตรฐำนสำกลตำมหลกั
ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
4.1.2 พฒั นำคุณภำพครแู ละบคุ ลำกร
4.1.2.1 สง่ เสรมิ บคุ ลำกรในดำ้ นกำรใชเ้ ทคโนโลยี
4.1.2.2 รณรงคใ์ หบ้ ุคลำกรดำรงชวี ติ ตำมตำมหลกั ปรชั ญำของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
4.1.2.3 พฒั นำบุคลำกรดำ้ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคำ่ นยิ มทพ่ี งึ
ประสงค์
4.1.2.4 สนบั สนุนกำรทำวจิ ยั ในชนั้ เรยี น
4.1.2.5 สง่ เสรมิ กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั
4.1.2.6 พฒั นำศกั ยภำพครูสมู่ ำตรฐำนสำกล
4.1.2.7 พฒั นำครสู ำระวทิ ยำศำสตร-์ คณติ ศำสตรเ์ พอ่ื ใช้
ภำษำองั กฤษในกำรเรยี นกำรสอน
4.1.3 พฒั นำระบบบรหิ ำรจดั กำร เครอื ขำ่ ย ชุมชนและสงิ่ แวดลอ้ ม
4.1.3.1 พฒั นำเทคโนโลยี สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ พอ่ื เพม่ิ
ประสทิ ธภิ ำพกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน
4.1.3.2 พฒั นำอำคำรสถำนท่ี แหล่งเรยี นรู้ และบรรยำกำศใน
โรงเรยี น
4.1.3.3 พฒั นำระบบวำงแผน สำรสนเทศและงำน
ประชำสมั พนั ธ์
4.1.3.4 สง่ เสรมิ สนบั สนุนใหช้ มุ ชนมสี ว่ นร่วมในกำรบรหิ ำรจดั
กำรศกึ ษำ
4.1.3.5 พฒั นำหลกั สตู รโรงเรยี นเทยี บเคยี งหลกั สตู ร
มำตรฐำนสำกล
4.1.3.6 พฒั นำระบบบรหิ ำรจดั กำรดว้ ยระบบคณุ ภำพตำมหลกั
ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 31
ส่วนที่ 4
ผลการดำเนินงานตามโครงการ กจิ กรรม
โรงเรียนอำนาจเจริญ ไดร้ ับการจัดสรรงบประมาณจากสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน เพ่ือ
ใช้ในการบริหารจดั การการศึกษา และพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาให้สอดคลอ้ งกับนโยบาย กลยทุ ธ์ จดุ เนน้ ของ
รัฐบาลกระทรวงศึกษาธกิ าร เพ่อื จดั ทำแผนปฏบิ ตั ิการประจำปีการศึกษา พ.ศ.2564 และใชเ้ ป็นกรอบในการ
ดำเนินงานเพ่ือพฒั นาการจดั การศกึ ษา ซงึ่ มผี ลการดำเนนิ งานดงั ตารางต่อไปน้ี
ตารางท่ี 1 สรุปผลการใชจ้ ่ายงบประมาณ
ลำดับที่ ชือ่ กลุ่มงาน/กลมุ่ สาระฯ งบประมาณท่ีได้รบั ใชจ้ ่ายแลว้ คงเหลือ ใช้จา่ ยแล้ว(%)
244,595 358,972 40.52
1 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(m) 603,567 234,995 100.00
308,766 5 70.89
2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(A) 235,000 75,000 126,770 59.99
537,153 50,015 55.73
3 กลุ่มสาระการเรียนสงั คม(SO) 435,536 181,470 426,671 73.57
65,199
4 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ(c) 125,015 440,845
101,885
5 กลุ่มสาระการเรียรูว้ ทิ ยาศาสตร์(sc) 963,824 200,966
1,054,358
6 กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษา พลศกึ ษา 246,669 789,005
768,794
(PE) 33,995
454,328
7 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (e) 647,927 400,000 207,082 68.04
234,800 30.26
8 กลมุ่ สาระการเรยี รภู้ าษาไทย(t) 336,685 440,000 138,237 59.25
(84,426) 108.70
9 กลุ่มบริหารบุคคลและงบประมาณ(p) 339,203 1,245,683 38.78
128,073 85.72
10 กล่มุ งานบริหารทว่ั ไป(g) 969,932 91,005 27.20
(74,362) 119.57
11 กลุ่มงานวิชาการ(v) 2,034,688 100.00
0
12 กลมุ่ บริหารกิจการนักเรยี น(w) 896,867
13 งานแนะแนว(gui) 125,000
14 งบสำรองจ่าย(Am) 379,966
15 จัดตงั้ ศูนย์พฒั นาศักยภาพบคุ คลเพ่อื ความ 400,000
เป็นเลิศ (Human Capital Excellence
Center )
16 จดั ทำหอ้ งนำ้ นักเรยี น 440,000 0 100.00
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 32
ตารางท่ี 2 ตารางแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งโครงการหลัก นโยบาย และการบรรลุเปา้ หมายท่ไี ด้ต้ังไว้
ช่อื โครงการ ยุทธศาสตร์ มาตรฐาน กลยทุ ธ์ของ วาระ รอ้ ยละ ร้อยละ
ประเทศไทย การศึกษาการ โรงเรียน เรง่ ด่วน การบรรลุ การบรรลุ
ประกันคุณภาพ ของ เปา้ หมาย เปา้ หมาย
20 ปี กระทรวง เชงิ เชงิ
ภายใน ศกึ ษา "ปรมิ าณ" "คณุ ภาพ"
สถานศกึ ษา การศึกษา ที่ไดต้ งั้ ไว้ ทไี่ ดต้ ัง้ ไว้
โครงการการพฒั นาการ 3.ดา้ นการ มาตรฐานท่ี 1.1 4.1.1.7 พัฒนา 1. ความ 100 100
เรียนการสอนและการ พฒั นาและ ดา้ นผลสัมฤทธ์ิ และสง่ เสริมผ้เู รียน ปลอดภัย
บริการแนะแนวใน เสริมสรา้ ง ทางการเรยี นของ ให้มีทกั ษะแสวงหา ของ
สถานการณ์การแพร่ ศักยภาพ ผูเ้ รยี น, มาตรฐาน ความรู้ด้วยตนเอง, ผูเ้ รยี น
ระบาดโรคโควดิ -19 ในยคุ ทรพั ยากร ที่ 1.2 ดา้ น 4.1.2.5 ส่งเสรมิ
New Normal มนษุ ย์, 4.ดา้ น คณุ ลกั ษณะทีพ่ ่ึง การจดั การเรียน
การสรา้ งโอกาส ประสงคข์ อง การสอนทีเ่ น้น
และความเสมอ ผ้เู รยี น, มาตรฐาน ผ้เู รยี นเป็นสำคญั ,
ภาคทางสังคม ที่ 3 กระบวนการ 4.1.3.1 พัฒนา
จดั การเรยี นการ เทคโนโลยี สือ่
สอนที่เนน้ ผู้เรยี น อิเลก็ ทรอนิกส์เพื่อ
เป็นสำคัญ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ
การจัดการเรียน
การสอน, 4.1.3.3
พฒั นาระบบ
วางแผน
สารสนเทศและงาน
ประชาสมั พันธ์
โครงการจัดการศึกษาเพื่อ 3.ดา้ นการ มาตรฐานท่ี 1.2 4.1.1.2 ส่งเสรมิ 2. 100 80
การมงี านทำ ปีการศึกษา พัฒนาและ ด้านคุณลักษณะที่ กระบวนการฝึก หลักสูตร
2564 ในสถานการณ์การ เสรมิ สรา้ ง พงึ่ ประสงค์ของ อาชพี ทักษะการ ฐาน
ศักยภาพ ผูเ้ รียน ทำงานและการ สมรรถนะ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 33
ชอ่ื โครงการ ยทุ ธศาสตร์ มาตรฐาน กลยทุ ธ์ของ วาระ ร้อยละ ร้อยละ
ประเทศไทย การศึกษาการ โรงเรยี น เรง่ ด่วน การบรรลุ การบรรลุ
แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ประกนั คณุ ภาพ ของ เป้าหมาย เป้าหมาย
ในยคุ New Normal 20 ปี บริหารจดั การอยา่ ง กระทรวง
ภายใน เป็นระบบ, 4.1.1.7 ศกึ ษา เชงิ เชิง
โครงการจดั กจิ กรรมวัน ทรพั ยากร สถานศกึ ษา พัฒนาและสง่ เสริม การศึกษา "ปรมิ าณ" "คุณภาพ"
ครสิ ตม์ าส มนษุ ย์, 4.ดา้ น ผ้เู รียนให้มที ักษะ ท่ไี ด้ต้งั ไว้ ทีไ่ ด้ตั้งไว้
การสร้างโอกาส มาตรฐานท่ี 1.1 แสวงหาความรู้ดว้ ย 6.
โครงการจดั ซื้อวสั ดุ และความเสมอ ดา้ นผลสมั ฤทธิ์ ตนเอง, 4.1.2.5 การศึกษา 100 100
อุปกรณ์ในการจดั การ ภาคทางสังคม ทางการเรยี นของ ส่งเสรมิ การจัดการ ตลอด
เรียนการสอนกลุมสาระ ผู้เรียน เรยี นการสอนทเี่ น้น ชีวติ
ภาษาไทย 3.ดา้ นการ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ
โครงการติวสอบวดั ระดับ พัฒนาและ 4.1.1.7 พฒั นา
ภาษาญีป่ นุ่ เสริมสร้าง และส่งเสริมผ้เู รยี น
ศกั ยภาพ ใหม้ ที ักษะแสวงหา
ทรัพยากร ความรดู้ ้วยตนเอง
มนุษย์
6.การปรับ มาตรฐานท่ี 3 4.1.2.5 สง่ เสรมิ 2. 100 100
สมดุลและ กระบวนการ การจัดการเรียน หลักสตู ร 80 80
พัฒนาระบบ จดั การเรยี นการ การสอนทเ่ี นน้ ฐาน
การบรหิ าร สอนท่ีเนน้ ผูเ้ รียน ผเู้ รียนเป็นสำคญั สมรรถนะ
จดั การภาครฐั เป็นสำคญั
3.ด้านการ มาตรฐานที่ 1.1 4.1.1.7 พัฒนา 6.
พัฒนาและ ดา้ นผลสัมฤทธ์ิ และส่งเสรมิ ผูเ้ รียน การศกึ ษา
เสริมสรา้ ง ทางการเรียนของ ใหม้ ีทกั ษะแสวงหา ตลอด
ศกั ยภาพ ผู้เรียน ความรูด้ ว้ ยตนเอง ชีวิต
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 34
ช่อื โครงการ ยทุ ธศาสตร์ มาตรฐาน กลยุทธข์ อง วาระ ร้อยละ ร้อยละ
ประเทศไทย การศกึ ษาการ โรงเรยี น เรง่ ด่วน การบรรลุ การบรรลุ
โครงการทดสอบความรู้ ประกันคุณภาพ ของ เปา้ หมาย เป้าหมาย
ความสามารถทาง 20 ปี 4.1.1.7 พฒั นา กระทรวง
ภาษาองั กฤษ ภายใน และส่งเสริมผเู้ รยี น ศึกษา เชิง เชงิ
โครงการแนะแนวดา้ น ทรัพยากร สถานศึกษา ใหม้ ีทกั ษะแสวงหา การศึกษา "ปริมาณ" "คณุ ภาพ"
การศกึ ษาต่อ ปกี ารศกึ ษา มนุษย์, ความรูด้ ว้ ยตนเอง ที่ได้ตง้ั ไว้ ทไ่ี ดต้ ้ังไว้
2564 ในสถานการณ์การ 2.ดา้ นการสร้าง มาตรฐานท่ี 1.1 4.1.1.1 พัฒนา 2. 80 80
แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ความสามารถ ดา้ นผลสัมฤทธ์ิ ผเู้ รียนด้าน หลักสูตร
ในยคุ New Normal ในการแข่งขัน ทางการเรียนของ คุณธรรม ฐาน 100 80
ผเู้ รยี น จรยิ ธรรม และ สมรรถนะ
โครงการป้องกนั และแก้ไข 3.ด้านการ มาตรฐานท่ี 1.1 คา่ นยิ มท่ีพงึ่ 6. 80 80
ปญั หาดา้ นสุขภาพจิต พฒั นาและ ดา้ นผลสมั ฤทธ์ิ ประสงค,์ 4.1.1.6 การศึกษา
นกั เรียนในโรงเรยี น เสรมิ สร้าง ทางการเรยี นของ ส่งเสริมและพัฒนา ตลอด
อำนาจเจริญ ปีการศกึ ษา ศกั ยภาพ ผู้เรียน, มาตรฐาน ผู้เรียนดา้ นการคิด ชวี ิต
ทรพั ยากร ที่ 1.2 ดา้ น วเิ คราะห์
มนุษย์, 5.ดา้ น คุณลกั ษณะทพ่ี ึ่ง สังเคราะห์ 1. ความ
การสรา้ งการ ประสงค์ของ สรา้ งสรรค,์ 4.1.1.7 ปลอดภยั
เตบิ โตบน ผเู้ รยี น พฒั นาและส่งเสริม ของ
คณุ ภาพชวี ิตที่ ผเู้ รียนใหม้ ที ักษะ ผเู้ รยี น
เปน็ มิตรกบั มาตรฐานท่ี 1.1 แสวงหาความร้ดู ว้ ย
ส่งิ แวดล้อม ด้านผลสัมฤทธิ์ ตนเอง
ทางการเรยี นของ 4.1.1.1 พัฒนา
3.ด้านการ ผู้เรยี น, มาตรฐาน ผู้เรียนดา้ น
พฒั นาและ คุณธรรม
เสริมสร้าง จรยิ ธรรม และ
ศกั ยภาพ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 35
มาตรฐาน วาระ ร้อยละ รอ้ ยละ
การศกึ ษาการ
ยทุ ธศาสตร์ ประกันคณุ ภาพ เร่งด่วน การบรรลุ การบรรลุ
ประเทศไทย
ชอ่ื โครงการ ภายใน กลยทุ ธ์ของ ของ เป้าหมาย เป้าหมาย
20 ปี สถานศึกษา
2564 ในสถานการณ์การ โรงเรียน กระทรวง เชิง เชิง
แพรร่ ะบาดโรคโควดิ -19 ทรัพยากร ท่ี 1.2 ดา้ น
ในยคุ New Normal มนุษย์, 4.ดา้ น คุณลักษณะทพ่ี ึ่ง ศึกษา "ปริมาณ" "คุณภาพ"
การสร้างโอกาส ประสงค์ของ
โครงการเฝ้าระวัง ปง้ กัน และความเสมอ ผู้เรยี น การศึกษา ที่ได้ตง้ั ไว้ ทีไ่ ดต้ ้ังไว้
และแกป้ ัญหาความ ภาคทางสังคม
ปลอดภัยในกลมุ่ สาระ 3.ด้านการ มาตรฐานที่ 2 ค่านิยมที่พงึ่
ภาษาไทยจากการแพร่ พฒั นาและ กระบวนการ
ระบาดของเช้อื โรคไวรัสโค เสรมิ สรา้ ง บรหิ ารและการ ประสงค,์ 4.1.1.5
โรนา2019 ศักยภาพ จดั การ
โครงการพัฒนาการเรียน ทรพั ยากร พัฒนาผู้เรยี นให้มี
การสอนวิชา มนุษย์ มาตรฐานที่ 1.1
ภาษาตา่ งประเทศ 3.ดา้ นการ ดา้ นผลสมั ฤทธ์ิ สขุ นิสยั สุขภาพ
พัฒนาและ ทางการเรยี นของ
โครงการพฒั นา เสริมสรา้ ง ผเู้ รียน กาย สขุ ภาพจิตทด่ี ี
คุณลักษณะอนั พึง ศักยภาพ
ประสงค์ของผูเ้ รียน ทรัพยากร มาตรฐานท่ี 1.2. 4.1.3.2 พฒั นา 2. 100 100
รายวชิ าภาไทย มนษุ ย์ ด้านคุณลักษณะ
2.ด้านการสร้าง อันพึงประสงค์ อาคารสถานที่ หลกั สูตร
ความสามารถ
ในการแข่งขัน แหล่งเรียนรู้ และ ฐาน
3.ด้านการ
พัฒนาและ บรรยากาศใน สมรรถนะ
เสริมสรา้ ง
ศักยภาพ โรงเรียน
4.1.1.7 พฒั นา 6. 90 90
และส่งเสริมผเู้ รียน การศึกษา
ใหม้ ที ักษะแสวงหา ตลอด
ความรดู้ ว้ ยตนเอง ชวี ติ
4.1.2.5 สง่ เสริม 2. 100 100
การจัดการเรยี น หลกั สูตร
การสอนทเี่ น้น ฐาน
ผเู้ รยี นเป็นสำคญั สมรรถนะ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 36
ชือ่ โครงการ ยทุ ธศาสตร์ มาตรฐาน กลยุทธ์ของ วาระ รอ้ ยละ ร้อยละ
ประเทศไทย การศึกษาการ โรงเรยี น เรง่ ดว่ น การบรรลุ การบรรลุ
โครงการพัฒนาทกั ษะ ประกนั คุณภาพ ของ เปา้ หมาย เป้าหมาย
พ้นื ฐานทางภาษาไทย 20 ปี 4.1.2.4 สนบั สนุน กระทรวง เชิง เชงิ
สำหรับนักเรียนช้ัน ภายใน การทำวจิ ยั ในชั้น ศึกษา "ปรมิ าณ" "คณุ ภาพ"
มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ทรพั ยากร สถานศกึ ษา เรยี น, 4.1.2.5 การศึกษา ที่ได้ตง้ั ไว้ ทไ่ี ดต้ ้ังไว้
มนุษย์ สง่ เสริมการจดั การ
โครงการพฒั นาบุคลากร 2.ดา้ นการสร้าง มาตรฐานที่ 1.1 เรียนการสอนทเ่ี นน้ 2. 80 80
ความสามารถ ด้านผลสัมฤทธ์ิ ผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ หลกั สตู ร
โครงการยกระดบั ในการแข่งขัน ทางการเรยี นของ ฐาน
ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน 3.ด้านการ ผู้เรียน 4.1.2.6 พฒั นา สมรรถนะ
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ พฒั นาและ ศกั ยภาพครสู ู่
1,2,4,5 เสริมสร้าง มาตรฐานท่ี 2 มาตรฐานสากล 5. พฒั นา 75 80
ศกั ยภาพ กระบวนการ ทกั ษะ
ทรัพยากร บรหิ ารและการ 4.1.1.6 ส่งเสริม ทางอาชีพ
มนุษย์ จดั การ และพัฒนาผเู้ รยี น
3.ด้านการ ด้านการคดิ 2. 70 80
พฒั นาและ มาตรฐานที่ 1.1 วิเคราะห์ หลักสตู ร
เสรมิ สร้าง ดา้ นผลสมั ฤทธิ์ สังเคราะห์ ฐาน
ศกั ยภาพ ทางการเรยี นของ สร้างสรรค์ สมรรถนะ
ทรัพยากร ผูเ้ รยี น
มนุษย์,
2.ดา้ นการสร้าง
ความสามารถ
ในการแข่งขัน
3.ด้านการ
พฒั นาและ
เสริมสรา้ ง
ศักยภาพ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 37
ชือ่ โครงการ ยทุ ธศาสตร์ มาตรฐาน กลยทุ ธ์ของ วาระ ร้อยละ ร้อยละ
ประเทศไทย การศึกษาการ โรงเรียน เร่งด่วน การบรรลุ การบรรลุ
โครงการยกระดับ ประกันคุณภาพ ของ เป้าหมาย เป้าหมาย
ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น 20 ปี กระทรวง เชิง เชงิ
วชิ าภาษาไทย ภายใน ศกึ ษา "ปริมาณ" "คณุ ภาพ"
สถานศึกษา การศึกษา ทไ่ี ด้ตั้งไว้ ทไ่ี ดต้ ้ังไว้
โครงการยกระดับ
ผลสัมฤทธท์ิ างการสอบ ทรพั ยากร มาตรฐานท่ี 1.1 4.1.1.6 ส่งเสริม 2. 50 70
วดั ผลระดับชาติ (O- มนุษย์ ด้านผลสมั ฤทธ์ิ และพัฒนาผู้เรียน หลักสตู ร
Net)วชิ าภาษาไทย ชนั้ 2.ดา้ นการสร้าง ทางการเรียนของ ดา้ นการคดิ ฐาน
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ความสามารถ ผู้เรยี น วิเคราะห์ สมรรถนะ
ในการแข่งขัน สงั เคราะห์
โครงการวันภาษาไทย 3.ด้านการ มาตรฐานท่ี 1.1 สร้างสรรค์ 2. 100 80
แห่งชาติ พัฒนาและ ด้านผลสัมฤทธ์ิ หลกั สูตร
เสริมสรา้ ง ทางการเรยี นของ 4.1.1.6 สง่ เสรมิ ฐาน
ศักยภาพ ผู้เรียน และพฒั นาผูเ้ รยี น สมรรถนะ
ทรพั ยากร ดา้ นการคดิ
มนุษย์ มาตรฐานท่ี 1.1 วิเคราะห์ 2. 70 70
2.ด้านการสร้าง ด้านผลสัมฤทธิ์ สังเคราะห์ หลกั สูตร
ความสามารถ ทางการเรียนของ สรา้ งสรรค์ ฐาน
ในการแข่งขัน ผู้เรยี น สมรรถนะ
3.ดา้ นการ 4.1.1.6 ส่งเสริม
พฒั นาและ และพัฒนาผเู้ รียน
เสรมิ สรา้ ง ดา้ นการคดิ
ศักยภาพ วิเคราะห์
ทรพั ยากร
มนุษย์
3.ด้านการ
พฒั นาและ
เสริมสร้าง
ศกั ยภาพ
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 38
มาตรฐาน วาระ รอ้ ยละ ร้อยละ
การศึกษาการ
ยทุ ธศาสตร์ ประกนั คุณภาพ เร่งดว่ น การบรรลุ การบรรลุ
ประเทศไทย
ชื่อโครงการ ภายใน กลยุทธข์ อง ของ เปา้ หมาย เปา้ หมาย
โครงการส่งเสรมิ การอา่ น 20 ปี สถานศึกษา
วรรณกรรมและวรรณคดี โรงเรียน กระทรวง เชิง เชิง
ทรัพยากร มาตรฐานที่ 3
งานจราจรและวินัยจราจร มนษุ ย์ กระบวนการ ศึกษา "ปริมาณ" "คณุ ภาพ"
2.ด้านการสรา้ ง จัดการเรยี นการ
ความสามารถ สอนที่เนน้ ผู้เรยี น การศึกษา ทีไ่ ดต้ ั้งไว้ ท่ีไดต้ ้งั ไว้
ในการแข่งขัน เป็นสำคญั
3.ด้านการ สงั เคราะห์
พฒั นาและ มาตรฐานที่ 1.1
เสริมสร้าง ด้านผลสมั ฤทธิ์ สรา้ งสรรค์
ศกั ยภาพ ทางการเรยี นของ
ทรัพยากร 4.1.1.1 พฒั นา 2. 80 80
มนุษย์
ผ้เู รยี นดา้ น หลักสตู ร
1.ด้านความ
มัน่ คง, 3.ดา้ น คุณธรรม ฐาน
การพัฒนาและ
จริยธรรม และ สมรรถนะ
ค่านิยมท่ีพึง่
ประสงค,์ 4.1.1.3
อนรุ กั ษ์
ศลิ ปวัฒนธรรม
ประเพณี และภูมิ
ปญั ญาท้องถิน่ ,
4.1.1.6 ส่งเสรมิ
และพฒั นาผเู้ รียน
ด้านการคดิ
วเิ คราะห์
สังเคราะห์
สร้างสรรค์, 4.1.1.7
พฒั นาและส่งเสริม
ผู้เรียนให้มีทักษะ
แสวงหาความร้ดู ว้ ย
ตนเอง
4.1.1.1 พัฒนา 1. ความ 85 85
ผู้เรียนดา้ น ปลอดภยั
คุณธรรม
แผนปฏบิ ตั กิ ำรโรงเรยี นอำนำจเจรญิ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564 39
ชอื่ โครงการ ยทุ ธศาสตร์ มาตรฐาน กลยทุ ธ์ของ วาระ รอ้ ยละ รอ้ ยละ
ประเทศไทย การศกึ ษาการ โรงเรียน เรง่ ด่วน การบรรลุ การบรรลุ
โครงการคา่ ยพฒั นาแกน ประกันคุณภาพ ของ เป้าหมาย เป้าหมาย
นำสภานักเรียน ปี 20 ปี กระทรวง เชงิ เชิง
การศกึ ษา2564 ภายใน ศกึ ษา "ปริมาณ" "คณุ ภาพ"
สถานศึกษา การศึกษา ทไี่ ดต้ ้งั ไว้ ท่ีได้ต้งั ไว้
พฒั นาบคุ ลากร
เสรมิ สรา้ ง ผเู้ รียน, มาตรฐาน จรยิ ธรรม และ ของ
ศักยภาพ ที่ 1.2 ดา้ น ค่านยิ มที่พงึ่ ผู้เรียน
ทรพั ยากร คุณลักษณะท่พี ึ่ง ประสงค์, 4.1.2.3
มนษุ ย์, 4.ดา้ น ประสงค์ของ พฒั นาบคุ ลากรด้าน
การสรา้ งโอกาส ผเู้ รียน, มาตรฐาน คณุ ธรรมจริยธรรม
และความเสมอ ที่ 2 กระบวนการ และคา่ นิยมที่พงึ
ภาคทางสังคม บรหิ ารและการ ประสงค์
จดั การ
3.ด้านการ มาตรฐานท่ี 2 4.1.1.1 พฒั นา 6. 100 100
พฒั นาและ กระบวนการ ผ้เู รียนดา้ น การศกึ ษา
เสริมสร้าง บริหารและการ คณุ ธรรม ตลอด
ศักยภาพ จดั การ จรยิ ธรรม และ ชีวิต
ทรพั ยากร คา่ นิยมท่ีพึ่ง
มนุษย์, 4.ดา้ น ประสงค,์ 4.1.2.3
การสรา้ งโอกาส พฒั นาบคุ ลากรด้าน
และความเสมอ คุณธรรมจริยธรรม
ภาคทางสงั คม และค่านยิ มที่พงึ
ประสงค์
3.ดา้ นการ มาตรฐานท่ี 2 4.1.2.6 พฒั นา 1. ความ 100 100
พัฒนาและ กระบวนการ ศกั ยภาพครสู ู่ ปลอดภยั
เสริมสร้าง บรหิ ารและการ มาตรฐานสากล ของ
ศกั ยภาพ จัดการ ผูเ้ รยี น
ทรพั ยากร
มนษุ ย์, 4.ดา้ น
การสรา้ งโอกาส