The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นะมน น่ามน, 2023-10-20 02:17:28

แผนประวัติศาสตร์ ป.5 ปี 2566

แผนการจัดการเรียนรู้

บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา แม่ฮ่องสอนเขต 2 ที่ วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขออนุญาตน้าแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เรียน ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ ด้วยข้าพเจ้า นางสาวนฤมล มุธะจิต ต้าแหน่ง ครู วิทยฐานะ ช้านาญการพิเศษ ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติ หน้าที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 นั้น เพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน จึงได้จัดท้าและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ จ้านวน 1 รายวิชา ได้แก่ รายวิชา ประวัติศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จึงขออนุญาตน้าแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ลงชื่อ .............................................. ผู้ขออนุญาต (นางสาวนฤมล มุธะจิต) ครูผู้สอน ลงชื่อ .............................................. ผู้รับรอง (นางสาวจารุณี แสนดั่งใจ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ .............................................. ผู้รับรอง (นางตวิษา พรรณสุข) หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ ลงชื่อ .............................................. ผู้อนุญาต (ว่าที่ร้อยตรี กิตติพงษ์ ทินแย่ง) ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ


แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 15102 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่มนี้ จัดท้าขึ้น เพื่อ ใช้เป็นคู่มือประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญและมีทักษะการท้างาน ร่วมกัน มีการวัดผลประเมินผลที่บรรลุเป้าหมายตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัด อย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ได้ปรับกิจกรรมการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับสภาพ ที่แท้จริง และยืดหยุ่นเวลาตามความเหมาะสมของผู้เรียน ลงชื่อ.................................................ครูผู้สอน (นางสาวนฤมล มุธะจิต) ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงชื่อ...........................................หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ (นางสาวจารุณี แสนดั่งใจ) ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงชื่อ...........................................หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ (นางตวิษา พรรณสุข) ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงชื่อ...........................................ผู้อ้านวยการโรงเรียน ( ว่าที่ร้อยตรีกิตติพงษ์ ทินแย่ง ) บันทึกการรับรองแผนการจัดการเรียนรู้


ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง) ได้ท าการตรวจ แผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวนฤมล มุธะจิต แล้ว มีความคิดเห็นดังนี้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้เป็นแผนการเรียนรู้ที่อยู่ในระดับ ดีมาก ดี พอใช้ เพราะ................................................................................................................ ควรปรับปรุงหรือเพิ่มเติมในเรื่องเกี่ยวกับ.................................................................. 2. การจัดกิจกรรมได้น้าเอากระบวนการเรียนรู้ ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ยังไม่ค่อยเหมาะสม ควรเพิ่ม/ปรับกิจกรรม ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ใหม่ 3. การวัดผลประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ยังไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ..................................................ผู้นิเทศ/รับรอง (ว่าที่ร้อยตรีกิตติพงษ์ ทินแย่ง) ต้าแหน่ง ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ


หน่วยการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รหัสวิชา ส 15102 รายวิชาประวัติศาสตร์ ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เวลา 10 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวนฤมล มุธะจิต โรงเรียนชุมชนบ้านน้ าดิบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 4.1 ป.5/1 สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้หลักฐานที่หลากหลาย ป.5/2 รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อตอบค้าถามทางประวัติศาสตร์อย่างมีเหตุผล ป.5/3 อธิบายความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่น 2. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ควรค้นคว้าและรวบรวมหลักฐานข้อมูลต่างๆ ให้หลากหลายและครบถ้วนมากที่สุด เพื่อให้ตอบค้าถามทางประวัติศาสตร์ได้อย่างมีเหตุผล ความจริงและข้อเท็จจริงวิเคราะห์ได้จากแหล่งข้อมูลและ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) วิธีการสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นอย่างง่ายๆ 2) แหล่งข้อมูลและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่ในท้องถิ่นที่เกิดขึ้นตามช่วงเวลาต่างๆ เช่น เครื่องมือ เครื่องใช้ อาวุธ โบราณสถาน โบราณวัตถุต้านานท้องถิ่น ค้าบอกเล่า 3) การตั้งค้าถามทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถิ่น เช่น มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด เพราะสาเหตุใดและมีผลกระทบอย่างไร 4) ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่น 5) ตัวอย่างหลักฐานประวัติศาสตร์ที่แสดงความจริงกับข้อเท็จจริง 6) ปัญหาเรื่องการตีความประวัติศาสตร์ท้องถิ่น 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1) ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค้า (ความเป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) 2) ประวัติหมื่นด้ามพร้าคต ผลงานหมื่นด้ามพร้าคต 3) ความเชื่อ พิธีกรรมทางศาสนา ศิลปะที่เกี่ยวข้อง 4) มัคคุเทศน์น้อย 4. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการรวบรวมข้อมูล 2) ทักษะการวิเคราะห์ 3) ทักษะการประเมิน 4) ทักษะการสรุปอ้างอิง


5) ทักษะการน้าความรู้ไปใช้ 6) ทักษะการให้เหตุผล 7) ทักษะการเชื่อมโยง 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) ชิ้นงาน การสืบค้นข้อมูล เรื่อง ความเป็นมาของท้องถิ่น 2) ชิ้นงาน การสืบค้นข้อมูลความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค้า (ความเป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) 3) ชิ้นงาน เรื่อง ประวัติหมื่นด้ามพร้าคต ผลงานหมื่นด้ามพร้าคต 4) ชิ้นงาน เรื่อง ความเชื่อ พิธีกรรมทางศาสนา ศิลปะที่เกี่ยวข้อง 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ท้องถิ่น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ความจริงและข้อเท็จจริง 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงาน เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ 2) ตรวจใบงาน เรื่อง ความจริงหรือข้อเท็จจริง 3) ตรวจใบงาน เรื่อง ความจริงและข้อเท็จจริงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ 4) ประเมินการน้าเสนอผลงาน 5) สังเกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล 6) สังเกตพฤติกรรมการท้างานกลุ่ม 7) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ท้องถิ่น - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ความจริงและข้อเท็จจริง 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจชิ้นงานการสืบค้นข้อมูล เรื่อง ความเป็นมาของท้องถิ่น - ตรวจชิ้นงานการสืบค้นข้อมูลความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค้า (ความเป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) - ชิ้นงานประวัติหมื่นด้ามพร้าคต ผลงานหมื่นด้ามพร้าคต - ชิ้นงานความเชื่อ พิธีกรรมทางศาสนา ศิลปะที่เกี่ยวข้อง


8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ป.5 2) เอกสารประกอบการสอน 3) บัตรภาพ 4) เอกสารต่างๆ 5) ใบงาน เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ 6) ใบงาน เรื่อง ความจริงหรือข้อเท็จจริง 7) ใบงาน เรื่อง ความจริงและข้อเท็จจริงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น 3) พ่อแม่/ผู้ปกครอง/ผู้รู้ในท้องถิ่น


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รหัสวิชา ส 15102 รายวิชาประวัติศาสตร์ ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวนฤมล มุธะจิต โรงเรียนชุมชนบ้านน้ าดิบ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิดสี่สหาย สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น จะต้องจ้าแนกประเภทของหลักฐาน และอธิบายลักษณะของหลักฐานที่มีอยู่ใน ท้องถิ่น ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ส 4.1 ป.5/1 สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้หลักฐานที่หลากหลาย จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) จ้าแนกประเภทของหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นได้ 2) อธิบายลักษณะของหลักฐานที่มีอยู่ในท้องถิ่นได้ นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง การศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน สื่อการเรียนรู้ : 1. บัตรภาพ 2. เอกสารประกอบการสอน 1. นักเรียนดู บัตรภาพโครงกระดูกและเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง แล้วให้นักเรียนบอกว่า หลักฐานดังกล่าวมีความส้าคัญ ในการศึกษาความเป็นมาของชุมชนหรือท้องถิ่นอย่างไร 2. ร่วมกันอธิบายถึงความส้าคัญของหลักฐานดังกล่าวว่า จากการศึกษาหลักฐานดังกล่าวท้าให้รู้ว่า ชุมชนบ้านเชียง เป็น ชุมชนเก่าแก่ที่มีอายุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แล้วเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจและตระหนักถึงความส้าคัญของ การศึกษาความเป็นมาของชุมชนหรือท้องถิ่นจากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ 3. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องไกลตัวนักเรียนหรือไม่ จงอธิบายเหตุผล ขั้นสอน สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : 1. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ป.5 2. บัตรภาพ 3. ใบงานที่ 1.1 4. ห้องสมุด 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น จากหนังสือ เรียน และห้องสมุด 2. แต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษา และซักถามข้อสงสัย ชั่วโมงที่ 2 1. นักเรียนดูบัตรภาพตัวอย่างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่หน้าชั้นเรียน 2. ตัวแทนนักเรียนบอกชื่อ ประเภท และความส้าคัญของหลักฐานดังกล่าว 3. สังเกตการตอบค้าถามของนักเรียนแต่ละกลุ่ม หากนักเรียนกลุ่มใดตอบผิด หรือมีความบกพร่องให้แก้ไขให้ถูกต้อง หรือ อธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง


4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันท้าใบงานที่ 1.1 เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์โดยให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มหา ค้าตอบในใบงานด้วยตนเองจนครบทุกข้อ จากนั้นจับคู่กับเพื่อนในกลุ่มผลัดกันอธิบายค้าตอบของตนเองให้เพื่อนฟัง (นักเรียนอีกคู่หนึ่งก็ปฏิบัติกิจกรรมเช่นเดียวกัน) 5. สมาชิกรวมกลุ่มตามเดิม ผลัดกันอธิบายค้าตอบของคู่ตนเองให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง และสรุปค้าตอบที่เป็นมติของกลุ่ม แล้วบันทึกค้าตอบลงในใบงานที่ 1.1 6. ร่วมกันเฉลยค้าตอบในใบงานที่ 1.1 โดยให้นักเรียนตรวจสอบความถูกต้อง และแก้ไขในส่วนที่บกพร่อง ขั้นสรุป 1. นักเรียนร่วมกันสรุปประเภทและลักษณะของหลักฐานทางประวัติศาสตร์และบอกความส้าคัญของหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ในการสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น 2. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจในท้องถิ่นของนักเรียนมีอะไรบ้าง (พระ ธาตุดงค้า) การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 (ประเมินตามสภาพจริง) ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท้างานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการท้างานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ สังเกตการใฝ่เรียนรู้ มีความรับผิดชอบ และมุ่งมั่นในการท้างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


เอกสารประกอบการสอน ประวัติศาสตร์บ้านเชียง ในพื้นที่บริเวณบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มีแหล่งโบราณคดีที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับท้าด้วยดินเผา แก้ว และหิน โครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เป็นต้น จากหลักฐานเหล่านี้ท้าให้รู้ว่า ชุมชนบ้านเชียงเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีอายุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่มา : วุฒิชัย มูลศิลป์. 2555. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ป.5. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์. บัตรภาพ ภาพโครงกระดูกและเครื่องปั้นดินเผา บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี


บัตรภาพ (ต่อ) ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4


ใบงานที่ 1.1 เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ค าชี้แจง ให้นักเรียนดูภาพ แล้วตอบค้าถามที่ก้าหนดให้ถูกต้อง 1. หลักฐานประเภท ความส าคัญของหลักฐาน 2. หลักฐานประเภท ความส าคัญของหลักฐาน 3. หลักฐานประเภท ความส าคัญของหลักฐาน


ใบงานที่ 1.1 เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เฉลย ค าชี้แจง ให้นักเรียนดูภาพ แล้วตอบค้าถามที่ก้าหนดให้ถูกต้อง 1. หลักฐานประเภท หลักฐานที่เป็นตัวอักษร ความส าคัญของหลักฐาน เป็นเอกสารส าคัญของท้องถิ่น ที่เป็นการบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น หรือเรียบเรียงประวัติ ความเป็นมาของท้องถิ่น 2. หลักฐานประเภท หลักฐานที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ในชีวิตประจ าวัน ความส าคัญของหลักฐาน เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึง รูปแบบการด าเนินชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น โดยจะใช้ประโยชน์ ในการบดยาเพื่อรักษาโรค 3. หลักฐานประเภท หลักฐานที่เป็นรูปถ่าย ความส าคัญของหลักฐาน เป็นการบันทึกเหตุการณ์ส าคัญ ด้วยรูปถ่าย ที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะของการแต่งกายของชาย หญิง และเด็ก


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความมีวินัย ความมีน้ าใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น การตรงต่อ เวลา รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 ด.ช.ณัฐวัตร 2 ด.ช.วัชรินทร์ 3 ด.ช.ลุกิ 4 ด.ญ.นัทชา 5 ด.ญ.จันทร์วลัย 6 ด.ญ.นันติยา 7 ด.ญ.สุจิตรา 8 ด.ญ.ณิชา ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่้าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแบ่งหน้าที่กันอย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมือกันท้างาน 3 การแสดงความคิดเห็น 4 การรับฟังความคิดเห็น 5 ความมีน้้าใจช่วยเหลือกัน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่้าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วขีด ลงในช่อง ที่ตรงกับ ระดับคะแนน ล าดับที่ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 3. มีวินัย รับผิดชอ บ 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. อยู่ อย่าง พอเพียง 6. มุ่งมั่น ในการ ท างาน 7. รัก ความเป็น ไทย 8. มีจิต สาธารณะ รวม 32 คะแนน ระดับ คุณภาพ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1. 2 3 4 5 6 7 8 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน


รายละเอียดการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว มีความตรงต่อเวลา ในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจ้าวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และน้าไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังค้าสั่งสอนของบิดา - มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการท้างาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการท้างานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานส้าเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตส้านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูท้างาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและโรงเรียน เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติสม่้าเสมอ ให้ 4 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 25-32 ดีมาก 20-24 ดี 15-19 พอใช้ ต่้ากว่า 14 ปรับปรุง


แบบบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะส้าคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ..............................................ผู้บันทึก (นางสาวนฤมล มุธะจิต) ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ว่าที่ร้อยตรี................................................ (กิตติพงษ์ ทินแย่ง) ต้าแหน่ง ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ


ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง) ได้ท าการตรวจ แผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวนฤมล มุธะจิต แล้ว มีความคิดเห็นดังนี้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้เป็นแผนการเรียนรู้ที่อยู่ในระดับ ดีมาก ดี พอใช้ เพราะ................................................................................................................ ควรปรับปรุงหรือเพิ่มเติมในเรื่องเกี่ยวกับ.................................................................. 2. การจัดกิจกรรมได้น้าเอากระบวนการเรียนรู้ ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ยังไม่ค่อยเหมาะสม ควรเพิ่ม/ปรับกิจกรรม ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ใหม่ 3. การวัดผลประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ยังไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ..................................................ผู้นิเทศ/รับรอง (ว่าที่ร้อยตรีกิตติพงษ์ ทินแย่ง) ต้าแหน่ง ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รหัสวิชา ส15102 รายวิชาประวัติศาสตร์ ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวนฤมล มุธะจิต โรงเรียนชุมชนบ้านน้ าดิบ วิธีสอนโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด การศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น จะต้องสืบค้นและรวบรวมหลักฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ และตอบค้าถามทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถิ่นได้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค้า (ความ เป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ส4.1 ป.5/1 สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้หลักฐานที่หลากหลาย ป.5/2 รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อตอบค้าถามทางประวัติศาสตร์อย่างมีเหตุผล จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) ตั้งค้าถามทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถิ่นได้ 2) สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นได้ 3) รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อตอบค้าถามทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถิ่นได้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ก าหนดประเด็นปัญหา 1.ครูตั้งประเด็นค้าถามให้นักเรียนตอบ หรือแสดงความคิดเห็น เช่น นักเรียนเคยสงสัยชื่อชุมชนหรือไม่ ว่ามีความหมายหรือมีที่มาของชื่ออย่างไร ท้องถิ่นของนักเรียนมีความเป็นมาอย่างไร หากนักเรียนต้องการทราบความเป็นมาของท้องถิ่นของตนเอง นักเรียนจะสอบถาม หรือรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ อย่างไร นักเรียนเคยสงสัยหรือไม่ว่าท้าไมโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบมีพระธาตุดงค้าอยู่ในบริเวณโรงเรียน พระธาตุดงค้ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง 2. อธิบายให้นักเรียนทราบว่าการที่นักเรียนจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถิ่นจะต้องอาศัยวิธีการเก็บ รวบรวมข้อมูลต่างๆ 3. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) จากนั้นให้นักเรียนทบทวนความรู้เกี่ยวกับการสืบค้นความ เป็นมาของ ท้องถิ่นตามที่เรียนผ่านมา 4. ให้นักเรียนสอบถามข้อสงสัย เพื่อให้นักเรียนสามารถน้าไปปฏิบัติได้จริง 5. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า ตนเองรู้จักความเป็นมาของชุมชนหรือท้องถิ่นตนเองมากหรือ น้อย จงอธิบายเหตุผล นักเรียนคิดว่า ตนเองรู้จักความเป็นมาของพระธาตุดงค ามากหรือน้อย จงอธิบายเหตุผล 6. มอบหมายให้นักเรียนสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น พร้อมกับบอกแหล่งข้อมูลจากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันก้าหนด


ระยะเวลาในการน้าเสนอผลงาน โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่ก้าหนด ดังนี้ การตั้งค้าถามทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถิ่น ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค้า (ความเป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) การรวบรวมแหล่งข้อมูลและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ การอธิบายและสรุปความเป็นมาของท้องถิ่น ขั้นที่ 2 รวบรวมหลักฐาน สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : 1. เอกสารต่างๆ สื่อ Internet. 2. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น 3. พ่อแม่/ผู้ปกครอง/ผู้รู้ในท้องถิ่น 1. นักเรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมูล ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค้า (ความเป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) จากสื่อ/แหล่งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วบันทึกผล ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 3 วิเคราะห์และประเมินคุณค่าข้อมูล 1. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด การตรวจสอบข้อมูล มีประโยชน์อย่างไร(เป็นการตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรอง ความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ ก่อนน้าไปตีความหรือสังเคราะห์ข้อมูล) 2. นักเรียนแต่ละคนน้าผลการสืบค้น ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค้า (ความเป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) จากสื่อ/ แหล่งข้อมูลต่างๆ มาเปรียบเทียบ วิเคราะห์ และประเมินผลจากข้อมูลที่ได้รวบรวมว่า ท้องถิ่นของนักเรียนมีความ เป็นมาอย่างไร ขั้นที่ 4 ตีความและสังเคราะห์ 1. นักเรียนน้าผลสรุปจากการเปรียบเทียบ วิเคราะห์ และประเมินผลจากข้อมูลที่ได้รวบรวมมาตีความและสังเคราะห์ ว่า ข้อมูลที่ได้จากหลักฐานใดมีความส้าคัญ มีความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถิ่นมากกว่ากัน 2.ร่วมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นในประเด็น ที่ครูก้าหนด ดังนี้ 1) หลักฐาน หรือข้อมูลที่แสดงความเป็นมาของท้องถิ่นได้ชัดเจนที่สุด เพราะเหตุใด 2) ความเป็นมาของท้องถิ่นมีความสอดคล้องกับสภาพท้องถิ่นในปัจจุบันหรือไม่ อย่างไร 3) ความเป็นมาของท้องถิ่นมีความน่าสนใจอย่างไร ขั้นที่ 5 น าเสนอข้อมูล 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาน้าเสนอผลการสืบค้นข้อมูลเรื่องความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค้า (ความเป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) 2.ร่วมกันบอกประโยชน์ที่ได้รับจากการสืบค้นข้อมูล และแนวทางในการน้าความรู้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการ ด้าเนินชีวิตประจ้าวัน 3. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นมีความส าคัญอย่างไร(ช่วยให้เกิด ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถิ่น และเกิดความภาคภูมิใจในท้องถิ่นตนเอง) นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ท้องถิ่น


การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ประเมินการน้าเสนอผลงาน แบบประเมินการน้าเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ สังเกตการใฝ่เรียนรู้ มีความรับผิดชอบ และมุ่งมั่นในการท้างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจรายงานการสืบค้นข้อมูล เรื่อง ความเป็นมา ของท้องถิ่น แบบประเมินรายงานการสืบค้นข้อมูล เรื่อง ความเป็นมาของท้องถิ่น ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


แบบประเมินรายงานการสืบค้นข้อมูล เรื่อง ความเป็นมาของท้องถิ่น ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระธาตุดงค า (ความเป็นมา ที่ตั้ง แผนผังแผนที่) ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนใส่คะแนนตามระดับคะแนนที่นักเรียนสามารถปฏิบัติได้ ล้าดับ ที่ รายการประเมิน การตั้งค้าถามทาง ประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับความเป็น มาของท้องถิ่น การรวบรวมแหล่งข้อมูล และหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ การอธิบายและ สรุปความ เป็นมาของท้องถิ่น รวม ระดับ คุณภาพ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรับปรุง = 1 รายการประเมิน ค าอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การตั้งค าถามทาง ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ ความเป็นมาของท้องถิ่น ตั้งค้าถามทาง ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ ความเป็นมาของท้องถิ่นได้ น่าสนใจ และกระตุ้นให้ เกิดการค้นหาค้าตอบ ตั้งค้าถามทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับความเป็นมาของ ท้องถิ่นได้น่าสนใจ แต่ไม่ กระตุ้นให้เกิดการค้นหา ค้าตอบ ตั้งค้าถามทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับความเป็นมาของ ท้องถิ่นไม่น่าสนใจ 2. การรวบรวมแหล่งข้อมูล และหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ รวบรวมแหล่งข้อมูล และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ได้ 4 แหล่ง/หลักฐานขึ้นไป มีความน่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้ รวบรวมแหล่งข้อมูล และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ได้ 3 แหล่ง/หลักฐาน มีความน่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้ รวบรวมแหล่งข้อมูล และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ได้ 2 แหล่ง/หลักฐาน มีความน่าเชื่อถือ แต่ตรวจสอบไม่ได้


3. การอธิบายและสรุป ความเป็นมาของ ท้องถิ่น อธิบายและสรุปความ เป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้ หลักฐานประกอบได้ ถูกต้องเหมาะสม อธิบายและสรุปความ เป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้ หลักฐานประกอบได้ถูกต้อง เหมาะสม เป็นส่วนใหญ่ อธิบายและสรุปความเป็นมา ของท้องถิ่นโดยใช้หลักฐาน ประกอบได้ถูกต้องเหมาะสม เป็นบางส่วน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8 - 9 ดี 5 - 7 พอใช้ ต่้ากว่า 5 ปรับปรุง


แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน ใส่คะแนนตามระดับคะแนนที่ นักเรียนสามารถปฏิบัติได้ ล้าดับ ที่ รายการประเมิน เนื้อหา กระชับ ชัดเจน ความ ถูกต้อง ของเนื้อหา ภาษาที่ เข้าใจง่าย ประโยชน์ที่ ได้จากการ น้าเสนอ ผลงาน วิธีการ น้าเสนอ ผลงาน รวม ระดับคุณภาพ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน 3 คะแนน 18 – 20 ดีมาก ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 2 คะแนน 14 – 17 ดี ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก 1 คะแนน 10 – 13 พอใช้ ต่้ากว่า 10 ปรับปรุง


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วขีด ลงในช่อง ที่ตรงกับ ระดับคะแนน ล าดับที่ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 3. มีวินัย รับผิดชอบ 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. อยู่อย่าง พอเพียง 6. มุ่งมั่นใน การท างาน 7. รักความ เป็นไทย 8. มีจิต สาธารณะ รวม 32 คะแนน ระดับ คุณภาพ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1. 2 3 4 5 6 7 8 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน


รายละเอียดการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว มีความตรงต่อเวลา ในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจ้าวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และน้าไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังค้าสั่งสอนของบิดา - มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการท้างาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการท้างานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานส้าเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตส้านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูท้างาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและโรงเรียน เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติสม่้าเสมอ ให้ 4 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 25-32 ดีมาก 20-24 ดี 15-19 พอใช้ ต่้ากว่า 14 ปรับปรุง


แบบบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะส้าคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ..............................................ผู้บันทึก (นางสาวนฤมล มุธะจิต) ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ว่าที่ร้อยตรี................................................ (กิตติพงษ์ ทินแย่ง) ต้าแหน่ง ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ


ได้คะแนน คะแนนเต็ม แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น ค าชี้แจง ให้นักเรียนเลือกค้าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่วิธีการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ก. การตีความข้อมูล ข. การรวบรวมข้อมูล ค. การตรวจสอบข้อมูล ง. การสร้างแบบจ้าลอง 2. หากต้องการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นขั้นตอนแรก ที่จะต้องปฏิบัติคือข้อใด ก. การตีความข้อมูล ข. การรวบรวมข้อมูล ค. การก้าหนดหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา ง. การตรวจสอบข้อมูลและพิสูจน์ข้อเท็จจริง 3. แหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ข้อใดอยู่ในภาคอีสาน ก. ถ้้าผีแมน ข. พระปฐมเจดีย์ ค. เมืองศรีมโหสถ ง. เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง 4. ข้อใดเป็นหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ก. ภาพเขียนสีที่ผาแต้ม ข. ศิลาจารึกวัดเชียงมั่น ค. หลักศิลาจารึก สมัยสุโขทัย ง. จดหมายเหตุกรุงศรีอยุธยา 5. หลักฐานข้อใด แตกต่างจากข้ออื่น ก. จารึก ข. ต้านาน ค. โบราณวัตถุ ง. พงศาวดาร ตัวชี้วัด ส 4.1 ข้อ 1-2 6. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตและมีการเล่าสืบต่อกันมา จัดเป็นหลักฐานประเภทใด ก. จารึก ข. ต้านาน ค. โบราณวัตถุ ง. พงศาวดาร 7. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ข้อใด แตกต่างจากข้ออื่น ก. จารึก ข. รูปถ่าย ค. โบราณวัตถุ ง. โบราณสถาน 8. วิธีการตรวจสอบข้อมูลด้วยวิธีการใดไม่เหมาะสม ก. การตีความข้อมูล ข. การเปรียบเทียบข้อมูล ค. การน้าข้อมูลมาเขียนบันทึก ง. การให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล 9. ข้อใดจัดเป็นหลักฐานชั้นต้น ก. รูปถ่าย ข. ต้านาน ค. หนังสือ ง. นิทาน 10. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นการแบ่งประเภทหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ ก. หลักฐานชั้นต้น – หลักฐานชั้นรอง ข. หลักฐานที่เกิดขึ้นก่อน – เกิดขึ้นหลัง ค. หลักฐานที่เป็นตัวอักษร - หลักฐานที่ไม่เป็น ตัวอักษร ง. หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์- สมัย ประวัติศาสตร์ 10


1. ง 2. ค 3. ง 4. ก 5. ค 6. ข 7. ก 8. ค 9. ก 10. ข


ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง) ได้ท าการตรวจ แผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวนฤมล มุธะจิต แล้ว มีความคิดเห็นดังนี้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้เป็นแผนการเรียนรู้ที่อยู่ในระดับ ดีมาก ดี พอใช้ เพราะ................................................................................................................ ควรปรับปรุงหรือเพิ่มเติมในเรื่องเกี่ยวกับ.................................................................. 2. การจัดกิจกรรมได้น้าเอากระบวนการเรียนรู้ ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ยังไม่ค่อยเหมาะสม ควรเพิ่ม/ปรับกิจกรรม ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ใหม่ 3. การวัดผลประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ยังไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ..................................................ผู้นิเทศ/รับรอง (ว่าที่ร้อยตรีกิตติพงษ์ ทินแย่ง) ต้าแหน่ง ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รหัสวิชา ส15102 รายวิชาประวัติศาสตร์ ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริง เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวนฤมล มุธะจิต โรงเรียนชุมชนบ้านน้ าดิบ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่ตรวจสอบ สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด ความจริงกับข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่อยู่ในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ จึงควรศึกษาเพื่อให้สามารถอธิบายความจริงกับ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ประวัติหมื่นด้ามพร้าคต ผลงานหมื่นด้ามพร้าคต ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ส4.1 ป.5/3 อธิบายความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกความหมายของความจริงกับข้อเท็จจริงได้ 2) อธิบายความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้ 3) เขียนบอกประวัติและผลงานของหมื่นด้ามพร้าคตได้ นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ความจริงและข้อเท็จจริง ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน สื่อการเรียนรู้ : เอกสารประกอบการสอน 1. ครูเล่าเรื่อง วีรสตรีไทยที่ถูกลืมในศึกบางระจัน ให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ตาม ประเด็นที่ครูก้าหนด เช่น เพราะเหตุใดในประวัติศาสตร์จึงไม่กล่าวถึงวีรสตรีทั้ง 3 ท่าน นักเรียนคิดว่า เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นหรือไม่ เพราะเหตุใด นักเรียนสามารถหาข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงได้หรือไม่ จงอธิบาย 2. ครูอธิบายถึงความส้าคัญของการรับรู้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยการพิจารณาและตีความข้อมูลก่อนตัดสินใจเชื่อหรือ สรุปว่า ข้อมูลนั้นเป็นจริงและน่าเชื่อถือเพียงใด 3. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด นักเรียนมีวิธีหาข้อมูล หรือหาค าตอบในสิ่งที่นักเรียนอยากรู้อย่างไร นักเรียนเคยได้ยินชื่อ หมื่นด้ามพร้าคต หรือไม่ ท่านเป็นใคร มีประวัติอย่างไรบ้าง ขั้นสอน สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : 1. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ป.5 2. ใบงานที่ 1.1 3. ห้องสมุด 4. ประวัติหมื่นด้ามพร้าคต


1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ความแตกต่างระหว่างความจริงกับ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่น จากหนังสือเรียน และห้องสมุด แต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จาก การศึกษา และซักถามข้อสงสัยให้มีความรู้ความเข้าใจตรงกัน 2. ตั้งประเด็นค้าถามให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันหาค้าตอบ ดังนี้ 1) การศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ “ความจริง” คืออะไร 2) การศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ “ข้อเท็จจริง” คืออะไร 3) หากมีการค้นพบหลักฐานข้อมูลใหม่ หรือมีการตีความหลักฐานข้อมูลใหม่ที่ไม่ตรงกับความคิดหรือความ เชื่อเดิมของเรา ควรปฏิบัติอย่างไร 4) ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง สามารถกลายเป็นข้อมูลที่เป็นความจริงได้หรือไม่ อย่างไร 3. สมาชิกในแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ แล้วให้แต่ละคู่ปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ - สมาชิกคนที่ 1 อ่านโจทย์ค้าถาม และเขียนค้าตอบ - สมาชิกคนที่ 2 เป็นฝ่ายสังเกต ตรวจสอบค้าตอบ ให้สมาชิกแต่ละคู่เปลี่ยนบทบาทกันในค้าถามข้อต่อไป 4.แต่ละคู่น้าค้าตอบของคู่ตนเองมาน้าเสนอให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง เพื่อช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของค้าตอบ แล้วส่งตัวแทนยืนขึ้นเพื่อน้าเสนอค้าตอบของกลุ่ม 5. ครูสังเกตการตอบค้าถามของนักเรียนแต่ละกลุ่ม หากนักเรียนกลุ่มใดตอบผิด หรือมีความบกพร่องให้แก้ไขให้ ถูกต้อง หรืออธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง 6. นักเรียนท้าใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความจริงหรือข้อเท็จจริง เป็นรายบุคคล เมื่อท้าเสร็จแล้วให้ตรวจสอบความ ถูกต้อง 7. ร่วมกันเฉลยค้าตอบในใบงานที่ 1.1 โดยให้นักเรียนตรวจค้าตอบด้วยตนเองอย่างซื่อสัตย์ 8. นักเรียนแต่ละคนศึกษา ประวัติหมื่นด้ามพร้าคต และเขียนเป็นชิ้นงาน ประวัติหมื่นด้ามพร้าคต ขั้นสรุป 1.ร่วมกันสรุปความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่น 2. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด การแยกแยะข้อมูลว่าเป็นความจริง หรือข้อเท็จจริง มีประโยชน์อย่างไร 7. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 (ประเมินตามสภาพจริง) ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท้างานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการท้างานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ สังเกตการใฝ่เรียนรู้มีความรับผิดชอบ และมุ่งมั่นในการท้างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์


เอกสารประกอบการสอน วีรสตรีไทยที่ถูกลืมในศึกบางระจัน วีรกรรมของชาวบ้านบางระจันท้าให้ได้รับการยกย่องว่า เป็นวีรกรรมของคนไทยที่มีคุณค่าอย่างยิ่งในการ เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมือง และแสดงให้เห็นความสามัคคีและความกล้าหาญของคนไทยในการต่อสู้กับ ข้าศึก และถือเป็นแบบอย่างที่ดีของอนุชนรุ่นหลัง ทางราชการจึงได้สร้างอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน บริเวณ หน้าค่ายบางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้ร้าลึกถึงคุณความดีของท่านสืบต่อไป แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ไม่ปรากฏชื่อ วีรสตรีไทยเลือดนักสู้ระดับหัวหน้าทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ อีปล้อง อีแฟง และอีเฟื่อง ผู้ได้สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักรบชายชาวบ้านบางระจัน และช่วยกันส่องคบลวงทหารพม่า เพื่อให้นักรบชายเข้าจู่โจมพม่า เป็นผลให้ทหารพม่าล้มตายเป็นจ้านวนมาก แต่ในที่สุดวีรสตรีทั้ง 3 ท่าน ก็ถูก ทหารพม่าฆ่าตาย คุณทนงศักดิ์สุขทวี ไวยาวัจกร วัดโพธิ์เก้าต้น อ.บางระจัน ได้เคยกล่าวไว้ว่า ในบรรดาหัวหน้าชาวบ้าน บางระจัน นอกจากที่มีชื่อเสียงตามที่ได้ทราบกันแล้ว ยังมีหัวหน้าที่เป็นสตรีอีก 3 ท่าน ที่ชาวบ้านได้พร้อมใจกัน ตั้งศาลเพียงตาวีรสตรีไทย ที่เนินค่ายบางระจัน เพื่อให้คนไทยได้กราบไหว้และระลึกถึงคุณงามความดี และความ กล้าหาญของวีรสตรีชาวบางระจัน จึงเห็นสมควรให้มีการศึกษาค้นคว้าทบทวนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใหม่ให้ถูกต้อง และวีรสตรีทั้ง 3 ท่าน สมควรได้รับการยกย่อง เชิดชู และจารึกประกาศเกียรติคุณความดีและความกล้าหาญเช่นเดียวกับวีรชนชาย ที่มา : http://www.oknation.net/blog/surasakc/2010/04/09/entry-1


ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความจริงหรือข้อเท็จจริง ค าชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณาข้อความที่ก้าหนดว่า ข้อความใดเป็นความจริงหรือเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และขีด ลงในตาราง ข้อที่ ข้อความ ความจริง ข้อเท็จจริง 1 กรุงศรีอยุธยาเสียเอกราชครั้งที่ 2 แก่พม่า 2 นางนพมาศเป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นมา 3 วีรกรรมของท้าวสุรนารีเกิดในสมัยรัชกาลที่ 3 4 กรุงศรีอยุธยาแตก เพราะไพร่พลมีความอ่อนแอ 5 เอกสารพื้นเมืองของลาวไม่มีการกล่าวอ้างถึงวีรกรรมของท้าวสุรนารี 6 การเกิดความแตกแยกในราชส้านักอยุธยาท้าให้พม่าโจมตีได้ง่าย 7 ศิลาจารึกกล่าวถึงการเผาเทียนเล่นไฟ 8 เหตุการณ์ที่คุณหญิงโมรวบรวมชาวบ้านต่อสู้กับกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เกิดขึ้นในเขตนครราชสีมา 9 ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ คือ ประเพณีลอยกระทง 10 กรุงศรีอยุธยาแตกเพราะกองทัพพม่ามีก้าลังไพร่พลมหาศาล


เฉลย ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความจริงหรือข้อเท็จจริง ค าชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณาข้อความที่ก้าหนดว่า ข้อความใดเป็นความจริงหรือเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และขีด ลงในตาราง ข้อที่ ข้อความ ความจริง ข้อเท็จจริง 1 กรุงศรีอยุธยาเสียเอกราชครั้งที่ 2 แก่พม่า 2 นางนพมาศเป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นมา 3 วีรกรรมของท้าวสุรนารีเกิดในสมัยรัชกาลที่ 3 4 กรุงศรีอยุธยาแตก เพราะไพร่พลมีความอ่อนแอ 5 เอกสารพื้นเมืองของลาวไม่มีการกล่าวอ้างถึงวีรกรรมของท้าวสุรนารี 6 การเกิดความแตกแยกในราชส้านักอยุธยาท้าให้พม่าโจมตีได้ง่าย 7 ศิลาจารึกกล่าวถึงการเผาเทียนเล่นไฟ 8 เหตุการณ์ที่คุณหญิงโมรวบรวมชาวบ้านต่อสู้กับกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เกิดขึ้นในเขตนครราชสีมา 9 ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ คือ ประเพณีลอยกระทง 10 กรุงศรีอยุธยาแตกเพราะกองทัพพม่ามีก้าลังไพร่พลมหาศาล


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความมีวินัย ความมีน้ าใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น การตรงต่อ เวลา รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 ด.ช.ณัฐวัตร 2 ด.ช.วัชรินทร์ 3 ด.ช.ลุกิ 4 ด.ญ.นัทชา 5 ด.ญ.จันทร์วลัย 6 ด.ญ.นันติยา 7 ด.ญ.สุจิตรา 8 ด.ญ.ณิชา ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่้าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแบ่งหน้าที่กันอย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมือกันท้างาน 3 การแสดงความคิดเห็น 4 การรับฟังความคิดเห็น 5 ความมีน้้าใจช่วยเหลือกัน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่้าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วขีด ลงในช่อง ที่ตรงกับ ระดับคะแนน ล าดับที่ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 3. มีวินัย รับผิดชอบ 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. อยู่อย่าง พอเพียง 6. มุ่งมั่นใน การท างาน 7. รักความ เป็นไทย 8. มีจิต สาธารณะ รวม 32 คะแนน ระดับ คุณภาพ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1. 2 3 4 5 6 7 8 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน


รายละเอียดการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว มีความตรงต่อเวลา ในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจ้าวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และน้าไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังค้าสั่งสอนของบิดา - มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการท้างาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการท้างานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานส้าเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตส้านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูท้างาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและโรงเรียน เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติสม่้าเสมอ ให้ 4 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 25-32 ดีมาก 20-24 ดี 15-19 พอใช้ ต่้ากว่า 14 ปรับปรุง


แบบบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะส้าคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ..............................................ผู้บันทึก (นางสาวนฤมล มุธะจิต) ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ว่าที่ร้อยตรี................................................ (กิตติพงษ์ ทินแย่ง) ต้าแหน่ง ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ


ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง) ได้ท าการตรวจ แผนการจัดการเรียนรู้ของ นางสาวนฤมล มุธะจิต แล้ว มีความคิดเห็นดังนี้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้เป็นแผนการเรียนรู้ที่อยู่ในระดับ ดีมาก ดี พอใช้ เพราะ................................................................................................................ ควรปรับปรุงหรือเพิ่ มเติมในเรื่องเกี่ยวกับ.................................................................. 2. การจัดกิจกรรมได้น้าเอากระบวนการเรียนรู้ ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ยังไม่ค่อยเหมาะสม ควรเพิ่ม/ปรับกิจกรรม ใช้กิจกรรมหรือกระบวนการเรียนรู้ใหม่ 3. การวัดผลประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ยังไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ..................................................ผู้นิเทศ/รับรอง (ว่าที่ร้อยตรีกิตติพงษ์ ทินแย่ง) ต้าแหน่ง ผู้อ้านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รหัสวิชา ส15102 รายวิชาประวัติศาสตร์ ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความจริงและข้อเท็จจริง เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวนฤมล มุธะจิต โรงเรียนชุมชนบ้านน้ าดิบ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิดสี่สหาย สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด การศึกษาทางประวัติศาสตร์จะต้องพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความจริงและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ อยู่ เพื่อหาข้อสรุปทางประวัติศาสตร์ความเชื่อ พิธีกรรมทางศาสนา ศิลปะที่เกี่ยวข้อง ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ส4.1ป.5/3 อธิบายความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่น จุดประสงค์การเรียนรู้ อธิบายความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงจากตัวอย่างหลักฐานประวัติศาสตร์ที่แสดงความจริงกับ ข้อเท็จจริงได้บอกความเชื่อ พิธีกรรมทางศาสนา ศิลปะที่เกี่ยวข้องของพระธาตุดงค้า ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน 1. ให้อาสาสมัครนักเรียนออกมาเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่นักเรียนเคยศึกษา หรือมีความประทับใจ ให้เพื่อนฟังที่หน้าชั้นเรียน 2.ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยตรวจสอบ หรือสงสัยหรือไม่ว่า เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์นั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ หรือไม่ อย่างไร 3. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด เหตุการณ์ หรือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หรือไม่ จงอธิบายเหตุผล(สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากมีการค้นพบหลักฐานหรือข้อมูลใหม่ที่มีความน่าเชื่อถือ) ขั้นสอน สื่อการเรียนรู้ : 1. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ป.5 2. แบบบันทึกความรู้ 3. ใบงานที่ 2.1 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิมแล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ตัวอย่างหลักฐานประวัติศาสตร์ที่แสดงความจริง กับข้อเท็จจริง จากหนังสือเรียน 2.สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันพิจารณาตัวอย่างหลักฐานประวัติศาสตร์ที่แสดงความจริงกับข้อเท็จจริง ตัวอย่างที่ 1 และตัวอย่างที่ 2 เพื่อจ้าแนกความจริง และข้อเท็จจริง 3.สมาชิกในแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายผลการจ้าแนกความจริงและข้อเท็จจริงจากตัวอย่างหลักฐานประวัติศาสตร์ ตัวอย่างที่ 1 และตัวอย่างที่ 2 เพื่อสรุปผลการจ้าแนก แล้วบันทึกผลลงใน แบบบันทึกความรู้ ชั่วโมงที่ 2 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาน้าเสนอผลการจ้าแนกความจริง และข้อเท็จจริงจากตัวอย่างหลักฐาน ประวัติศาสตร์ 2. ครูสังเกตการน้าเสนอข้อมูลของนักเรียนแต่ละกลุ่ม แล้วอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจที่ ถูกต้อง


3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันท้าใบงานที่ 2.1 เรื่อง ความจริงและข้อเท็จจริงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยให้สมาชิก แต่ละคนในกลุ่มหาค้าตอบในใบงานด้วยตนเองจนครบทุกข้อ จากนั้นจับคู่กับเพื่อนในกลุ่มผลัด กันอธิบายค้าตอบของตนเองให้เพื่อนฟัง (นักเรียนอีกคู่หนึ่งก็ปฏิบัติกิจกรรมเช่นเดียวกัน) 4. สมาชิกรวมกลุ่มเดิม จากนั้นผลัดกันอธิบายค้าตอบของคู่ตนเองให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง และสรุปค้าตอบที่เป็นมติ ของกลุ่มแล้วบันทึกค้าตอบลงในใบงานที่ 2.1 5. เฉลยค้าตอบในใบงานที่ 2.1 สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง และแก้ไขในส่วนที่บกพร่อง 6. นักเรียนแต่ละคนเขียน บอกความเชื่อ พิธีกรรมทางศาสนา ศิลปะที่เกี่ยวข้องของพระธาตุดงค้าให้เป็นชิ้นงานที่ สวยงาม ขั้นสรุป 1. นักเรียนร่วมกันสรุปความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงจากตัวอย่างหลักฐานประวัติศาสตร์ที่แสดง ความจริงกับข้อเท็จจริง 2. นักเรียนร่วมกันบอกประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาตัวอย่างหลักฐานประวัติศาสตร์ที่แสดงความจริงกับข้อเท็จจริง และแนวทางในการน้าไปใช้ในการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ 7. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการน้าเสนอผลงาน แบบประเมินการน้าเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการท้างารายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท้างานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการท้างานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตการใฝ่เรียนรู้มีความรับผิดชอบ และมุ่งมั่นในการท้างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


แบบบันทึกความรู้ ค าชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันพิจารณาตัวอย่างหลักฐานประวัติศาสตร์ที่แสดงความจริงกับข้อเท็จจริง เพื่อจ้าแนกความจริง และข้อเท็จจริง แล้วบันทึกผล ตัวอย่างที่ 1 ข้อความที่แสดงความจริง ข้อความที่แสดงข้อเท็จจริง ตัวอย่างที่ 2 ข้อความที่แสดงความจริง ข้อความที่แสดงข้อเท็จจริง


ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ความจริงและข้อเท็จจริงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ค าชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความที่ก้าหนด แล้วตอบค้าถาม ในช่วงปลายสมัยอยุธยา พม่าได้ยกกองทัพมาโจมตีกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2308 บ้านบางระจัน ซึ่งอยู่ ในเขตเมืองสิงห์บุรี เป็นเส้นทางผ่านของกองทัพพม่า ชาวบ้านบางระจันและชาวบ้านอื่นที่หนีทัพพม่าเข้ามาได้ ร่วมแรงร่วมใจกันตั้งค่ายต่อสู้กับพม่า และพยายามขอปืนใหญ่จากกรุงศรีอยุธยาไปใช้ในการต่อสู้ แต่ทางกรุงศรี อยุธยาเกรงว่า พม่าจะปล้นชิงปืนใหญ่ไประหว่างทางจึงไม่มอบให้ แต่ส่งคนมาช่วยหล่อปืนใหญ่แทน แต่ปืนใหญ่ แตกร้าวใช้ไม่ได้ จึงท้าให้ชาวบ้านบางระจันเกิดเสียขวัญ จนไม่สามารถสู้กองทัพพม่าได้ จึงถูกพม่าตีค่าย บางระจันแตกเมื่อ พ.ศ. 2309 1. ข้อความใดเป็นความจริงทางประวัติศาสตร์ 2. ข้อความใดเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ 3. นักเรียนจะตรวจสอบได้อย่างไรว่า ข้อความนี้เป็นความจริงหรือข้อเท็จจริง


ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ความจริงและข้อเท็จจริงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เฉลย ค าชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความที่ก้าหนด แล้วตอบค้าถาม ในช่วงปลายสมัยอยุธยา พม่าได้ยกกองทัพมาโจมตีกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2308 บ้านบางระจัน ซึ่งอยู่ ในเขตเมืองสิงห์บุรี เป็นเส้นทางผ่านของกองทัพพม่า ชาวบ้านบางระจันและชาวบ้านอื่นที่หนีทัพพม่าเข้ามาได้ ร่วมแรงร่วมใจกันตั้งค่ายต่อสู้กับพม่า และพยายามขอปืนใหญ่จากกรุงศรีอยุธยาไปใช้ในการต่อสู้ แต่ทางกรุงศรี อยุธยาเกรงว่า พม่าจะปล้นชิงปืนใหญ่ไประหว่างทางจึงไม่มอบให้ แต่ส่งคนมาช่วยหล่อปืนใหญ่แทน แต่ปืนใหญ่ แตกร้าวใช้ไม่ได้ จึงท้าให้ชาวบ้านบางระจันเกิดเสียขวัญ จนไม่สามารถสู้กองทัพพม่าได้ จึงถูกพม่าตีค่าย บางระจันแตกเมื่อ พ.ศ. 2309 1. ข้อความใดเป็นความจริงทางประวัติศาสตร์ 1) พม่ายกกองทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา 2) ชาวบ้านบางระจันได้รวบรวมก าลังเข้าต่อสู้กับกองทัพพม่า 3) พม่าตีค่ายบางระจันแตก เมื่อ พ.ศ. 2309 2. ข้อความใดเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ 1) กรุงศรีอยุธยาไม่ให้ปืนใหญ่ เพราะเกรงว่าพม่าจะชิงปืนใหญ่ 2) ชาวบ้านบางระจันเสียขวัญที่ปืนใหญ่แตก จึงท าสู้กองทัพพม่าไม่ได้ 3. นักเรียนจะตรวจสอบได้อย่างไรว่า ข้อความนี้เป็นความจริงหรือข้อเท็จจริง ตรวจสอบกับเอกสารของทางราชการ เช่น พงศาวดาร หรือบันทึกของชาวต่างชาติ เป็นต้น


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความมีวินัย ความมีน้ าใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น การตรงต่อ เวลา รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 ด.ช.ณัฐวัตร 2 ด.ช.วัชรินทร์ 3 ด.ช.ลุกิ 4 ด.ญ.นัทชา 5 ด.ญ.จันทร์วลัย 6 ด.ญ.นันติยา 7 ด.ญ.สุจิตรา 8 ด.ญ.ณิชา ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่้าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแบ่งหน้าที่กันอย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมือกันท้างาน 3 การแสดงความคิดเห็น 4 การรับฟังความคิดเห็น 5 ความมีน้้าใจช่วยเหลือกัน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่้าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแบ่งหน้าที่กันอย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมือกันท้างาน 3 การแสดงความคิดเห็น 4 การรับฟังความคิดเห็น 5 ความมีน้้าใจช่วยเหลือกัน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่้าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วขีด ลงในช่อง ที่ตรงกับ ระดับคะแนน ล าดับที่ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 3. มีวินัย รับผิดชอบ 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. อยู่อย่าง พอเพียง 6. มุ่งมั่นใน การท างาน 7. รักความ เป็นไทย 8. มีจิต สาธารณะ รวม 32 คะแนน ระดับ คุณภาพ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1. 2 3 4 5 6 7 8 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน


Click to View FlipBook Version