The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แฟ้มประเมิน นางสาวจุฑามาศ สีโลน แผนกช่างยนต์ ปีการศึกษา 2561

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by juthamat19911991, 2019-03-25 02:06:02

แฟ้มประเมิน นางสาวจุฑามาศ สีโลน แผนกช่างยนต์ ปีการศึกษา 2561

แฟ้มประเมิน นางสาวจุฑามาศ สีโลน แผนกช่างยนต์ ปีการศึกษา 2561

6. กำรถอดฝำสบู ออกจำกเสือสบู

7. กำรท้ำควำมสะอำดชดุ ฝำสูบและบดลิน
7.1การทาความสะอาดสว่ นบนของลูกสูบและเสอื้ สบู
1) หมนุ เพลาข้อเหวยี่ งใหแ้ ต่ละสบู อยู่ที่ศูนยต์ ายบน ขูดคราบเขม่าออกจากหัวลูกสบู

ขูดคราบปะเกน็ บนหน้าเส้อื สูบออกและใชล้ มเปา่ คราบเขม่าและน้ามนั ออกจากรูสกปรก
2) การทาความสะอาดห้องเผาไหมใ้ ชแ้ ปรงลวดขดั คราบเขมา่ ออกจากห้องเผาไหม้

การทาความสะอาดปลอกก้านล้นิ ใชน้ ้ายาและแปรงทาความสะอาดปลอกกา้ นลิน้

รูป 9.9 การบดล้ินโดยใช้กากเพชร
8. กำรประกอบปะเกน็ ฝำสบู

1) ตรวจสอบเครอ่ื งหมายการประกอบปะเก็นฝาสูบ
2) ประกอบปะเก็นฝาสูบบนเสอื้ สบู
9. กำรขนั นอตฝำสูบ
1) ทานา้ มันเครือ่ งบางๆ บนเกลยี วและด้านใต้ของหวั สกรฝู าสูบ
2) ขนั สกรฝู าสบู โดยแบง่ การขันแต่ละตัวเป็น 3 ครัง้
3) ขนั ไปตามลาดับจากภายในส่ภู ายนอกอย่างสมา่ เสมอ ครง้ั สุดท้ายขนั ตามค่ากาหนด

แรงขนั 1200 กก. – ซม. (87 ฟตุ - ปอนด์)

• ด้ำนทักษะ(ปฏบิ ตั ิ) (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อท่ี 4)

1. กจิ กรรมที่ 2 กำรบรกิ ำรฝำสูบเครอื่ งยนต์ดีเซล

• ดำ้ นคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยำบรรณ/บรู ณำกำรเศรษฐกิจพอเพียง

13. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียม วัสดุ อุปกรณ์นักเรียนจะต้องกระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตาม
ความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดั เตรยี มสถานที่ ส่อื วัสดุ อปุ กรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง

14. ความมีเหตมุ ีผลในการปฏบิ ัตงิ าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง นักเรียนจะต้องมีการใช้
วสั ดอุ ปุ กรณ์อยา่ งประหยัดคมุ้ ค่าและเทคนคิ ในการถอดประกอบได้

กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนหรือกำรเรียนรู้

ขันตอนกำรสอนหรือกจิ กรรมของครู ขันตอนกำรเรยี นรู้หรอื กิจกรรมของนกั เรยี น

1. ขนั น้ำเข้ำสบู่ ทเรียน ( 20 นำที ) 1. ขันนำ้ เข้ำสู่บทเรียน ( 20 นำที )

12. ผู้สอนให้ผเู้ รยี นอา่ นเอกสารประกอบการสอน 11. ผ้เู รียนศกึ ษาเอกสารประกอบการสอนวชิ า งาน
วิชา งานถอดประกอบเคร่อื งกลเบ้ืองต้น หน่วยที่ 9 ถอดประกอบเคร่อื งกลเบ้ืองต้น หนว่ ยท่ี 9 เร่ืองการ

เรอ่ื ง การบรกิ ารฝาสบู เคร่อื งยนตด์ ีเซล บรกิ ารฝาสูบเครอ่ื งยนต์ดีเซล

สาระสาคญั สาระสาคัญ

13. ผูส้ อนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหนว่ ยที่ 9 12. ผเู้ รียนทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั จดุ ประสงคก์ าร
เร่ือง การบริการฝาสูบเครือ่ งยนต์ดเี ซล เรียนรูท้ าความเข้าใจเกย่ี วกับจุดประสงคก์ ารเรียนของ
หนว่ ยการเรียน
3. ผ้สู อนให้ผู้เรยี นทาการศกึ ษาการบริการฝาสูบ
เคร่อื งยนต์ดีเซล 3. ผ้เู รียนทาการศกึ ษาการการบริการฝาสูบ
เคร่ืองยนตด์ เี ซล

2. ขันใหค้ วำมรู้ ( 180 นำที ) 2.ขันให้ควำมรู้ ( 180 นำที )

1. ผสู้ อนแนะนาการการบรกิ ารฝาสบู เครือ่ งยนต์ 4. ผู้เรยี นศึกษาการตรวจซอ่ มและประกอบชุดเสื้อ
ดเี ซลตามเนื้อหา(หน้า 167-172) สูบเครอ่ื งยนตแ์ ก๊สโซลนี ตามเนื้อหา(หนา้ 167-172)

5. ผ้เู รยี นซกั ถามครูผู้สอนในเนอ้ื หาท่ยี ังไมเ่ ขา้ ใจ

2. ผู้สอนเปิดโอกาส ใหผ้ ู้เรียนถามปญั หา และ
ข้อสงสัยจากเนือ้ หา โดยครเู ตรยี มเคร่ืองมอื มาให้

นกั เรียนศกึ ษา

3. ขนั ประยกุ ต์ใช้ ( 220 นำที ) 3. ขนั ประยุกต์ใช้ ( 220 นำที )

1. ผ้สู อนให้ผเู้ รียนทากจิ กรรมที่ 2 เรือ่ ง การ 1. ผู้เรียนศึกษากจิ กรรมที่ 2 เร่ือง การบรกิ ารฝาสูบ
บรกิ ารฝาสบู เครื่องยนตด์ เี ซล (หน้า 177-182) โดย เครอ่ื งยนต์ดีเซโดยแบ่งเป็นกลุม่ และนาเสนอผลงาน(หน้า
แบง่ กลมุ่ และนาเสนอผลงาน 177-182)

6. ผู้เรยี นสบื ค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ น

กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอนหรอื กำรเรยี นรู้

ขันตอนกำรสอนหรือกจิ กรรมของครู ขันตอนกำรเรียนรูห้ รอื กิจกรรมของนกั เรยี น

4. ขันสรุปและประเมนิ ผล ( 60 นำที ) 4. ขนั สรุปและประเมินผล( 60 นำที )

5. ผสู้ อนและผูเ้ รยี นร่วมกันสรุปเน้ือหาทไ่ี ด้เรียน 15. ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกนั สรุปเน้อื หาทไี่ ด้เรียนให้
มคี วามเข้าใจในทิศทางเดียวกัน
ให้มีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั
6. ผ้สู อนให้ผ้เู รียนสลบั กนั ตรวจกิจกรรมที่ 2 ผเู้ รียนสลบั กนั ตรวจกจิ กรรมท่ี 2 การบรกิ ารฝาสูบ
เร่ือง การบริการฝาสูบเครอ่ื งยนตด์ ีเซล (หนา้ 167- เคร่อื งยนต์ดีเซล(หน้า 167-172) นาคะแนนทไ่ี ดบ้ นั ทึก

172) นาคะแนนท่ไี ด้บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทึกคะแนนการ ลงในแบบบันทกึ คะแนนการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมระหว่างเรียน

ปฏบิ ัติกิจกรรมระหวา่ งเรียน 16. บันทึกลงในแบบบันทึกคะแนนการปฏบิ ตั ิ

7. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน กจิ กรรมระหว่างเรยี น
17. ผสู้ อนให้ผ้เู รียนศกึ ษาเพม่ิ เตมิ นอกห้องเรียน
ดว้ ยบทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนทีจ่ ดั ทาขึน้
ด้วยบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนท่ีจัดทาขนึ้

(บรรลจุ ุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-4)

(บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-4)

(รวม 480 นำที หรอื 8 คำบเรียน)

สื่อกำรเรยี นกำรสอน/กำรเรยี นรู้

สอ่ื สง่ิ พมิ พ์
25. เอกสารประกอบการสอนวิชา การบริการฝาสบู เครอ่ื งยนตด์ เี ซล(ใชป้ ระกอบการเรยี นการสอน

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 1-4)
26. กจิ กรรมรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง การบริการฝาสูบเครื่องยนตด์ ีเซล (ใชป้ ระกอบการเรยี นการสอนขน้ั ใหค้ วามรู้
เพ่อื ให้บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 1-4)
27. แบบประเมนิ ผูเ้ รียนในชัน้ เรียน ใช้ประกอบการสอนขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 1

สอื่ โสตทศั น์ (ถำ้ ม)ี
5. บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน เร่ือง การบริการฝาสบู เครือ่ งยนตด์ ีเซล

สื่อของจรงิ
6. ชิ้นสว่ นอปุ กรณ์เคร่อื งมือ (ใช้ประกอบการเรยี นการสอนจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 1-4)

แหลง่ กำรเรียนรู้

ในสถำนศกึ ษำ
1. ห้องสมุดวิทยาลยั เทคนคิ สมุทรสาคร
2. หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาข้อมูลทางอนิ เทอรเ์ น็ต

นอกสถำนศึกษำ
ผูป้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถน่ิ จงั หวดั สมุทรสาคร

กำรบรู ณำกำร/ควำมสมั พนั ธ์กับวิชำอื่น

32. บูรณาการกับวชิ าเครื่องจักรกล เครอ่ื งมอื เคร่อื งจกั ร ท่ีใช้เครือ่ งกลึง
33. บูรณาการกับวชิ ากีฬาเพ่อื พัฒนาสขุ ภาพและบุคลิกภาพ ดา้ นบคุ ลกิ ภาพในการนาเสนอหน้าชั้นเรยี น
34. บรู ณาการกับวิชาหลกั เศรษฐศาสตร์ ด้านการเลือกใชท้ รัพยากรอย่างประหยัด
35. บูรณาการกบั วชิ าชีวติ และวฒั นธรรมไทย ด้านการพูด การอา่ น การเขียน และการฝึกปฏบิ ัติตนทาง

สังคมดา้ นการเตรยี มความพรอ้ ม ความรบั ผิดชอบ และความสนใจใฝร่ ู้

กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
 หลักกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้

ก่อนเรียน
-

ขณะเรยี น
17. ตรวจผลงานตามกิจกรรมที่ 2
18. สงั เกตการทางาน

หลงั เรียน

-

ผลงำน/ชินงำน/ผลสำ้ เรจ็ ของผเู้ รยี น

4. กิจกรรมที่ 2 เร่อื ง บรู ณาการกบั วชิ ากฬี าเพอ่ื พัฒนาสขุ ภาพและบุคลกิ ภาพ ดา้ นบคุ ลิกภาพในการ
นาเสนอหน้าชัน้ เรียนนาไปใชใ้ นอาชีพการทางาน

รำยละเอียดกำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้

 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 1 การถอดแยกฝาสูบออกจากชดุ ล้นิ ได้

22. วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ

23. เคร่อื งมือ : แบบทดสอบ

24. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ใชเ้ คร่ืองมือถอดแยกฝาสบู ออกจากชดุ ล้ินได้ จะได้ 1 คะแนน

 จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 2 ถอดปม๊ั ดีเซลแบบจานจา่ ยออกจากเคร่ืองยนต์ได้

28. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

29. เครื่องมือ : แบบทดสอบ

30. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ถอดปมั๊ ดีเซลแบบจานจา่ ยออกจาก

เคร่อื งยนตจ์ ะได้ 1 คะแนน

 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ท่ี 3 การทาความสะอาดฝาสูบลิน้ ได้

7. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

8. เคร่อื งมือ : แบบทดสอบ

9. เกณฑก์ ารให้คะแนน : การทาความสะอาดฝาสูบลน้ิ ได้ จะได้ 1 คะแนน

 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 4 การเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรยี ม วสั ดุ อปุ กรณ์นกั ศกึ ษาจะต้อง

กระจายงานไดท้ ั่วถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชิกทกุ คนมีการจัดเตรียมสถานที่ ส่อื วสั ดุ

อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง

19. วิธกี ารประเมนิ : ตรวจผลงาน

20. เคร่ืองมอื : แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม

21. เกณฑก์ ารให้คะแนน : การเตรยี มความพร้อมด้านการเตรียม วัสดุ อุปกรณน์ ักศกึ ษา

จะตอ้ งกระจายงานไดท้ ัว่ ถึง และตรงตามความสามารถของ

สมาชกิ

ทุกคน มกี ารจัดเตรยี มสถานท่ี สอื่ วสั ดุ อุปกรณไ์ ว้อย่าง
พร้อม

เพรียง จะได้ 2 คะแนน

 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อที่ 5 ความมีเหตมุ ีผลในการปฏบิ ัติงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียง นักศึกษาจะตอ้ งมกี ารใช้ เทคนิคทีแ่ ปลกใหมใ่ ช้ส่อื และเทคโนโลยีประกอบการนาเสนอที่น่าสนใจ

นาวัสดุในท้องถ่ินมาประยุกตใ์ ช้ อย่างคุ้มค่าและประหยดั

1. วธิ กี ารประเมนิ : ตรวจผลงาน

2. เครื่องมือ : แบบประเมินกระบวนการทางานกล่มุ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงนกั ศกึ ษาจะตอ้ งมีการใช้ เทคนคิ ที่แปลกใหม่ใชส้ อื่ และเทคโนโลยี
ประกอบการนาเสนอทน่ี ่าสนใจนา วสั ดุในท้องถิ่นมาประยกุ ตใ์ ช้อยา่ ง
คมุ้ ค่าและประหยดั จะได้ 2 คะแนน

กิจกรรมที่ 1
ประกอบแผนกำรสอนหนว่ ยท่ี 9

เรื่อง กำรบริกำรฝำสบู เครื่องยนต์ดเี ซล

ให้นักศกึ ษาศกึ ษาหาความรเู้ พ่มิ เติมเก่ียวกับการบริการฝาสบู เคร่ืองยนตด์ ีเซลและอธบิ ายความคิดเหน็
2. ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่มจดั ทาการบริการฝาสูบเครื่องยนต์ดเี ซลและนาเสนอผลงาน
กลมุ่ ที่ 1 ถอดปมั๊ ดีเซลแบบจานจ่ายออกจากเคร่ืองยนต์
กลมุ่ ท่ี 2 ถอดและประกอบเพลาลกู เบ้ียวบนฝาสูบ
กล่มุ ท่ี 3 ถอดฝาสบู ออกจากเสอ้ื สูบและถอดแยกชดุ ลนิ้
กลุ่มที่ 4 ทาความสะอาดชุดฝาสบู และบดลิ้น
กลมุ่ ท่ี 5 ประกอบชุดล้ินและฝาสูบ

references (ที่มำ):

Comment (ควำมคิดเหน็ ของตนเอง)

เฉลยแบบฝึกหัดท่ี 9
เร่ือง กำรบริกำรฝำสูบเคร่อื งยนต์ดเี ซล

ตอนท่ี 1 จงอธิบำยควำมหมำยในแตล่ ะข้อตอ่ ไปนี

1. จงอธิบายการตรวจระยะหา่ งหลอ่ ล่นื เพลาลูกเบ้ยี วอยา่ งไร
ตอบ 1. วางเพลาลูกเบี้ยวลงบนฝาสูบ

2.วางแถบพลาสตกิ เกจตามแนวขนานกบั แกนเพลาลกู เบี้ยวทุกตัว
3.ประกอบชดุ กระเดือ่ งกดลิน้ ลงบนฝาสูบ
4.ประกอบสกรู 10 ตัว โดยแบ่งการขนั ออกแตล่ ะตัวเปน็ 3 ครั้ง ค่อยๆ ขันอย่างสม่าเสมอที่ละตัว
แรงขัน :195 กก.- ซม.
2. จงอธบิ าย การถอดชดุ กระเดื่องกดล้ิน เพลาลกู เบ้ยี วและแบริ่งอยา่ งไรบ้าง
ตอบ 1) ถอดสกรู 10 ตวั คลายออกตามลาดับทีละนิด 3 คร้ัง
2) ถอดชดุ เพลาะกระเดือ่ งกดลน้ิ และเพลาลกู เบยี้ วออกพร้อมกบั แบริ่งตัวบน
3. จงอธิบายการขันนอตฝาสูบอย่างไรบ้าง
ตอบ 1. ทานา้ มนั เครอ่ื งบางๆ บนเกลยี วและดา้ นใตข้ องหวั สกรฝู าสูบ
3. ขันสกรฝู าสูบ โดยแบ่งการขันแตล่ ะตัวเปน็ 3 คร้ัง
4. ขันไปตามลาดับจากภายในส่ภู ายนอกอยา่ งสมา่ เสมอ ครงั้ สุดท้ายขันตามค่ากาหนด
แรงขัน 1200 กก. – ซม. (87 ฟุต- ปอนด)์
4. จงอธบิ ายการถอดฝาสบู ออกจากเส้อื สบู แยกชุดล้นิ
ตอบ 1. การถอดฝาสูบ คลายสกรูฝาสูบ โดยแบ่งการคลายแต่ละตวั เปน็ 3 ครง้ั ค่อยๆคลายอย่างสม่าเสมอ
ทีละตวั และเรียงละดับจากภายนอกสู่ภายใน
2. การถอดแยกชุดลนิ้ ใหถ้ อดชดุ ลิน้ ออกด้วยเหล็กกดลิน้ (SST) ตอ่ มาใหถ้ อดลนิ้ ซลี กา้ นล้ิน และบ่ารอง
สปริง และใหจ้ ัดเรียงชุดล้นิ เรียงชิ้นสว่ นทถ่ี อดออกมาตามลาดับสูบเพอื่ ติดตั้งกลบั ไดอ้ ย่างปลอดภัย

5. จงอธบิ ายปะเกน็ ฝาสูบเครือ่ งยนต์ดีเซลวา่ ทาหนา้ ที่ใด

ตอบ ทาหน้าท่ีปอ้ งกันกาลังอัดร่วั ออกจากห้องเผาไหม้ส่บู รรยากาศภายนอก และปอ้ งกันน้ามนั หลอ่ ล่ืนและ
นา้ หล่อเย็นเขา้ ไปในกระบอกสบู

ตอนที่ 2 จงท้ำเครื่องหมำย (X) หนำ้ ขอ้ ย่อยที่ถกู ท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว

37. การเตมิ นา้ หม้อนา้ ควรเลือกนา้ อย่างไร
ก. นา้ กล่ัน
ข. นาฝน
ค. นา้ ประปา
ง. นา้ สะอาด

38. นมหนแู บบรไู วต่อสง่ิ สกปรกอยา่ งไร
จ. น้อยรฉู ดี นา้ มนั ไม่ทนั
ฉ. รนู มหนเู ลก็ ตดิ ตนั ง่าย
ช. เขมา่ แก๊สเผาไหมเ้ ข้าไปในหัวฉดี ได้
ซ. ทาใหร้ ูสกึ หรอง่าย

39. ไสก้ รองน้ามนั ดเี ซลสว่ นใหญท่ ามาจากอะไร
ก. กระดาษสา
ข. กระดาษอดั
ค. ใยสงั เคราะห์
ง. กระดาษชนดิ พเิ ศษ

40. การตรวจระยะรนุ เพลาลกู เบีย้ ว ต้องใชเ้ ครื่องมอื ใดในกรตรวจสอบ
ก. ไดอลั เกจ
ข. ไฮไดรมิเตอร์
ค. มเิ ตอรว์ ดั ไฟฟ้า
ง. เวอรเ์ นียรค์ าลเิ ปอร์

5. ข้อดีของนมหนแู บบเดือยคืออะไร
จ. อายกุ ารใชง้ านนานรูไมอ่ ดุ ตนั
ฉ. ละอองน้ามนั เผาไหม้งา่ ย
ช. ใชใ้ นหอ้ งเผาไหมแ้ บบเปิด
ซ. ใช้ในห้องเผาไหม้แบบใดก็ได้

6. ทาไมตอ้ งมหี มอ้ พักน้าไว้ข้างหมอ้ นา้
ธ. ตรวจระดบั นา้ งา่ ย
น. ป้องกันการสูญเสยี น้า
บ. เตมิ นา้ เองโดยอัตโนมตั ิ
ป. ถูกทกุ ข้อ

7. การซอ่ มหวั ฉีดตอ้ งตรวจสภาพอะไร
ก. ตรวจลาละอองน้ามนั
ข. ตรวจสภาพเครื่องยนต์

ค. บดหน้าเข็มนมหนูหวั ฉดี
ง. ล้างดว้ ยน้ามันเบนซิน
8. เครื่องมอื ที่ใชว้ ัดระยะหา่ งระหว่างวาล์ว
น. ฟิลเลอรเ์ กจ
บ. ประแจเล่อื น

ป. ไดอัลเกจ
ผ. ไมโครมเิ ตอร์
19. มาตรฐานวดั ระยะหา่ งระหวา่ งปากแหวนต้องไม่เกนิ เท่าไร
ธ. 0.26-0.36 มม
น. 0.30-045 มม.
บ. 0.10-056 มม.
ป. ถกู ทั้งขอ้ ก.และ ค.
20. ลนิ้ โชก้ ในคารบ์ เู รตอรม์ หี น้าทอี่ ย่างไร

ธ. ช่วยให้เคร่อื งตดิ งา่ ย

น. เพื่อระหยัดนา้ มันเชอ่ื เพลงิ

บ. เพือ่ เพม่ิ อัตราเรง่
ป. เพ่อื ดบั เครอ่ื งยนต์

กิจกรรมน้ำส่อู ำเซียนหน่วยท่ี 9

นำ้ ตวั อักษรหนำ้ ข้อควำมที่เป็นปัญหำสอดคล้องกบั รปู ให้สัมพันธ์กนั

สถานท่ี ปัญหา
ก. ปญั หาสขุ ภาพ
ก. ข. ความสามารถในการผลิตลดลง
ง. ค. เกดิ ภัยธรรมชาติบอ่ ยขึน้

จ. ง. สิ่งแวดลอ้ มเปน็ พษิ

ข. จ. ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม
ค.

แบบประเมินผลการนาเสนอผลงาน
ชื่อกล่มุ ……………………………………………ชน้ั ………………………หอ้ ง...........................

รายชือ่ สมาชิก

1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขท…ี่ ….

3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขท…่ี ….

ที่ รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เห็น
32 1
1 เนอ้ื หาสาระครอบคลุมชดั เจน (ความร้เู กี่ยวกบั เนอ้ื หา ความถกู ตอ้ ง ปฏิภาณในการตอบ

และการแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้า)

2 รูปแบบการนาเสนอ
3 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลุม่
4 บุคลกิ ลกั ษณะ กริ ิยา ท่าทางในการพดู นา้ เสียง ซึง่ ทาใหผ้ ู้ฟงั มีความสนใจ

รวม

ผปู้ ระเมิน…………………………………………………

เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน
1. เนือ้ หาสาระครอบคลมุ ชดั เจนถกู ตอ้ ง

3 คะแนน = มีสาระสาคญั ครบถว้ นถกู ต้อง ตรงตามจดุ ประสงค์
2 คะแนน = สาระสาคญั ไม่ครบถว้ น แต่ตรงตามจุดประสงค์
1 คะแนน = สาระสาคญั ไมถ่ กู ต้อง ไม่ตรงตามจดุ ประสงค์
2. รปู แบบการนาเสนอ
3 คะแนน = มรี ปู แบบการนาเสนอทีเ่ หมาะสม มกี ารใชเ้ ทคนคิ ท่แี ปลกใหม่ ใชส้ ือ่ และเทคโนโลยี

ประกอบการ นาเสนอที่น่าสนใจ นาวสั ดุในท้องถน่ิ มาประยุกตใ์ ช้อย่างคมุ้ คา่ และประหยดั
คะแนน = มีเทคนคิ การนาเสนอท่แี ปลกใหม่ ใชส้ ือ่ และเทคโนโลยีประกอบการนาเสนอท่นี ่าสน ใจ แตข่ าดการ

ประยกุ ต์ใช้ วสั ดุในท้องถ่ิน
1 คะแนน = เทคนคิ การนาเสนอไมเ่ หมาะสม และไม่นา่ สนใจ
3. การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลุม่
3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมบี ทบาทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ บี ทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลมุ่
1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมกล่มุ
4. ความสนใจของผู้ฟัง
3 คะแนน = ผฟู้ งั มากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ
2 คะแนน = ผู้ฟังรอ้ ยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื
1 คะแนน = ผฟู้ งั น้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

ชอ่ื กลุม่ ……………………………………………ชน้ั ………………………ห้อง...........................

รายชือ่ สมาชกิ
1……………………………………เลขท…่ี …. 2……………………………………เลขท่ี…….
3……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท่ี…….

ท่ี รายการประเมิน คะแนน ข้อคดิ เหน็
321
1 การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
2 การแบ่งหน้าท่ีรับผิดชอบและการเตรยี มความพรอ้ ม
3 การปฏบิ ตั หิ น้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย
4 การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน

รวม

ผ้ปู ระเมิน…………………………………………………
วนั ท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ…………...

เกณฑ์กำรให้คะแนน

1. การกาหนดเปา้ หมายรว่ มกัน
3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีสว่ นร่วมในการกาหนดเป้าหมายการทางานอยา่ งชดั เจน
2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีสว่ นรว่ มในการกาหนดเปา้ หมายในการทางาน
1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมสี ว่ นรว่ มในการกาหนดเป้าหมายในการทางาน

2. การมอบหมายหน้าทีร่ บั ผดิ ชอบและการเตรียมความพรอ้ ม
3 คะแนน = กระจายงานได้ท่ัวถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชิกทกุ คน มกี ารจดั เตรียมสถานที่ สอื่ /
อุปกรณ์ไวอ้ ย่างพรอ้ มเพรียง
2 คะแนน = กระจายงานได้ท่ัวถึง แตไ่ มต่ รงตามความสามารถ และมีสื่อ / อุปกรณไ์ วอ้ ย่างพรอ้ มเพรยี ง แตข่ าด
การจดั เตรียมสถานที่
1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถงึ และมีสื่อ / อุปกรณไ์ ม่เพียงพอ

3. การปฏบิ ัติหน้าทีท่ ีไ่ ด้รับมอบหมาย
3 คะแนน = ทางานได้สาเรจ็ ตามเป้าหมาย และตามเวลาทก่ี าหนด
2 คะแนน = ทางานไดส้ าเรจ็ ตามเปา้ หมาย แตช่ า้ กวา่ เวลาที่กาหนด

1 คะแนน = ทางานไมส่ าเรจ็ ตามเปา้ หมาย
4. การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน

3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนรว่ มปรึกษาหารอื ติดตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรุงงานเปน็ ระยะ
2 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นมสี ่วนรว่ มปรกึ ษาหารอื แตไ่ มป่ รับปรงุ งาน
1 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นไม่มสี ว่ นรว่ มปรึกษาหารอื และปรบั ปรุงงาน

บนั ทกึ หลังกำรสอน

หน่วยท่ี 9 กำรบริกำรฝำสบู เครอื่ งยนต์ดีเซล

ผลกำรใช้แผนกำรเรยี นรู้

1. เน้ือหาสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
2. สามารถนาไปใชป้ ฏบิ ัตกิ ารสอนได้ครบตามกระบวนการเรียนการสอน
3. ส่ือการสอนเหมาะสมดี

ผลกำรเรยี นของนกั เรียน

9. นักเรยี นสว่ นใหญ่มีความสนใจใฝร่ ู้ เขา้ ใจในบทเรียน อภิปรายตอบคาถามในกลุ่ม และรว่ มกนั ปฏิบตั ิ
ใบงานที่ไดร้ บั มอบหมาย

10. นกั เรยี นกระตอื รือร้นและรบั ผดิ ชอบในการทางานกล่มุ เพือ่ ใหง้ านสาเรจ็ ทนั เวลาทีก่ าหนด
11. นกั เรียนมกี ารนาการบรกิ ารฝาสบู เครอ่ื งยนตด์ เี ซลใช้ในชวี ิตประจาวันได้
12. นกั เรียนปฏิบตั ติ ามรปู แบบและเครอ่ื งมอื วัดละเอยี ดเครื่องยนต์ได้

ผลกำรสอนของครู

1. สอนเนือ้ หาไดค้ รบตามหลกั สูตร
2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลมุ เน้อื หาการสอนทาให้ผู้สอนสอนไดอ้ ย่างม่นั ใจ
3. สอนไดท้ นั ตามเวลาท่ีกาหนด

3.4 วิจยั ในชนั เรยี น



วิจยั

กำรปรับปรงุ พฤตกิ รรมกำรมำเรยี นสำยและขำดเรียนของนกั เรยี นระดบั ปวช.
1/ 3 แผนกวิชำชำ่ งยนต์
ภำคเรยี นที่ 2 / 2561

นำงสำวจุฑำมำศ สโี ลน
ครูอัตรำจำ้ งแผนกชำ่ งยนต์

แผนกวชิ ำช่ำงยนต์
วทิ ยำลัยเทคนิคระยอง
สำ้ นกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศกึ ษำ
กระทรวงศกึ ษำธิกำร



บทคัดยอ่

การวิจยั คร้ังนี้ มจี ดุ มงุ่ หมายเพอื่ ปรบั เปลยี่ นพฤติกรรมในการมาเรยี นสาย ขาดเรียน หนเี รียน ใน
รายวชิ าเชือ้ เพลิงและวัสดหุ ลอ่ ลืน่ รหัสวิชา 2101-2006 เพือ่ ให้นักเรียนไดป้ รบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมและมี
ความรบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ขี องตน ในการมาเรยี นใหต้ รงต่อเวลา เชอื่ ฟังในคาส่งั สอนของครูผู้สอน ปฏบิ ัตงิ าน
ตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมายใหเ้ สรจ็ ตามท่ีกาหนด เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บของรายวิชาและกฎระเบยี บ
ของโรงฝกึ งานทป่ี ฏิบตั ิงาน

ในการวจิ ยั นีไ้ ด้ศึกษาพฤตกิ รรมของนกั เรยี นระดับชัน้ ปวช. 1 กลุ่ม 3 แผนกวิชาช่างยนต์ ท่มี าเรยี น
ในรายวิชาเช้อื เพลงิ และวสั ดุหลอ่ ลืน่ รหสั วิชา 2101-2006 จานวน 20 คน

สำรบัญ

บทคดั ย่อ หนำ้
บทท่ี 1

บทที่ 2 1
บทท่ี 3
บทท่ี 4 3
11
บทที่ 5 13
เอกสำรอ้ำงองิ
15
16

บทที่ 1

บทน้ำ

ควำมสำ้ คัญของปญั หำ
ปัญหาการเข้าชนั้ เรียนไมต่ รงตอ่ เวลาเป็ นปัญหาทีม่ าจากพฤตกิ รรมของนกั เรียนทเี่ กิดขนึ ้ ตงั้ แตอ่ ดีตจนถงึ

ปัจจุบนั ปัญหานคี ้ วรจะหาวธิ ีแก้ไขให้ถกู ต้องและนามาปรับปรุงพฤติกรรมอนั พงึ่ ประสงค์ของนกั เรียนในชวั่ โมง

จงึ เป็ นหน้าทค่ี วามรับผดิ ชอบของครูผ้สู อนทกุ คนทจี่ ะแก้ไขปัญหานเี ้พราะเป็ นปัญหาท่ที าให้เกิดปัญหาตา่ ง ๆ ใน
ชนั้ เรียน เช่น ทาให้เกิดการหยดุ การสอนในช่วงหนงึ่ เม่ือนกั เรียนท่ีมาสายเดินเข้าในชนั้ เรียนในขณะทท่ี กุ คนกาลงั

เรียน และเมื่อเข้าไปนงั่ เรียนแล้วก็จะสอบถามเพ่ือนทน่ี ง่ั ใกล้วา่ อาจารย์สอนอะไรบ้างทาให้เกิดการพดู คยุ ในเวลา

เรียน บางคร้งั ครผู ู้สอนต้องเรม่ิ ใหมท่ าใหน้ ักเรยี นทีต่ ้งั ใจเรยี นอยู่กอ่ นเกิดความเบื่อหน่ายทาให้เสยี เวลาในการ
เรียนการสอน ผูว้ จิ ัยจึงเหน็ ว่าปัญหาการเข้าเรยี นไม่ตรงเวลาเป็นปญั หาทสี่ าคญั อยา่ งย่ิงจึงไดน้ ามาเปน็ หัวขอ้
การวิจยั ดงั กล่าว

กลุ่มตวั อยา่ งท่ใี ช้ในการวจิ ยั คือนักเรียนชนั้ ปวช. 1 กล่มุ 3 แผนกวชิ าชา่ งยนต์ จานวน 20 คน
ในรายวิชาเชอ้ื เพลงิ และวสั ดุหลอ่ ล่ืน เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการวิจัย ไดแ้ ก่ รูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมแรง
ร่วมใจ และการเรยี นรูอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ แบบสังเกตพฤตกิ รรมความรับผดิ ชอบของนกั เรียนไดแ้ ก่ ความ
รบั ผดิ ชอบตรงต่อเวลาให้ความร่วมมอื กับผู้อื่น ปฏิบัติตามกฎระเบยี บ การทางานทไี่ ด้รับมอบหมายจาก
ครผู สู้ อนและการทางานท่ีได้รับมอบหมายจากกลุ่ม แบบประเมินผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น สถิติทใ่ี ช้ในการ
วเิ คราะห์คอื การหาคา่ เฉล่ียผลการวจิ ัยในคร้ังนพี้ บว่านกั เรียน มีความรับผดิ ชอบมกี ารเรยี นและการทางานท่ี
ไดร้ บั มอบหมายได้สาเรจ็ ในทุกดา้ นดขี น้ึ ตามลาดับ และในสัปดาหท์ ่ี 10 เปน็ ต้นมา นักเรียนสว่ นใหญ่มีความ
รับผิดชอบดที ุกด้าน ผลการปรับพฤติกรรมในครงั้ นท้ี าใหน้ กั เรยี นนักศกึ ษาทุกคนสามารถทาแบบทดสอบหลัง
หน่วยการเรียนทุกหนว่ ยการเรียนผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนด

วัตถุประสงคข์ องกำรวิจัย
1. เพอื่ ปรับพฤติกรรมการเข้าช้นั เรียนให้ตรงตอ่ เวลาของนักเรียนชน้ั ปวช. 1 กลุ่ม 3 แผนกวิชาชา่ ง

ยนต์ ในรายวชิ าเช้ือเพลงิ และวัสดุหล่อลื่น

2. เพ่อื ให้นักเรียนมผี ลการเรียนในรายวิชาเชอื้ เพลิงและวัสดุหล่อลื่น ผ่านเกณฑ์ทก่ี าหนด

3. เพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนในภาพรวม

ประโยชน์ของกำรวิจัย
ผลการวิจยั จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการบรหิ ารสาขาวิชา ฯ เกย่ี วกบั การใหน้ ักเรียน-นกั ศึกษาและครูมสี ่วน

ร่วมในการปรบั พฤติกรรมให้กับนกั เรยี นในความรบั ผดิ ชอบ
ขอบเขตกำรวจิ ัย

1. ขอบเขตดา้ นประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง
1.1 ประชากรทใ่ี ช้ในการวิจยั ได้แก่
1.1.1 นกั เรียนระดับช้ันปวช.1/3 จานวน 20 คน แผนกวิชาชา่ งยนต์ รายวิชาเชื้อเพลงิ

และวสั ดุหลอ่ ลืน่
1.2 กลมุ่ ตวั อยา่ งในการศกึ ษาคร้งั นี้ ไดแ้ ก่ นักเรียนจานวน 20 คน

2. ขอบเขตดา้ นเนือ้ หา
2.1 มีความรู้และประสบการณ์ในการเสรมิ สรา้ งการปรับพฤตกิ รรมใหแ้ ก่นักเรยี น
2.2 มีเจตคติท่ีดตี ่อการมสี ว่ นรว่ มในการเสรมิ สรา้ งการปรบั พฤติกรรมใหแ้ ก่นกั เรยี น
2.3 การมีสว่ นร่วมในการประเมินผลการเสริมสรา้ งการปรบั พฤติกรรมใหแ้ กน่ กั เรยี น

บทท่ี 2

เอกสำรและงำนวจิ ัยท่เี กี่ยวข้อง

ในบทน้ีผูว้ ิจัยได้ศึกษาเอกสารและงานวิจยั ทเี่ กยี่ วข้อง เพ่ือเป็นแนวทางในการประกอบแนวคดิ
พ้นื ฐานในการศึกษา ผูว้ ิจัยได้ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ัย ทฤษฎีแนวคิด หรือหลกั การท่ีเก่ียวขอ้ งกับการสรา้ ง
เสริมการปรบั พฤตกิ รรมของนักเรียน-นักศึกษา

กฎและระเบียบ

สรุ างคโ์ คว้ ตระกลู (2541 : 68-75 อา้ งองิ จาก ; Kolhberg. Introduction To Behavioral
Science. ม.ป.ป. : ไม่ปรากฏเลขหน้า) อธบิ ายวา่ เหตุผลทางจริยธรรรมในขน้ั นีถ้ อื วา่ สังคมจะอยดู่ ้วยความมี
ระเบียบเรียบร้อยตอ้ งมกี ฎหมายและขอ้ บังคบั คนดหี รอื คนทมี่ ีพฤตกิ รรมถูกตอ้ ง คือ คนทีป่ ฏบิ ัติตามระเบยี บ
บงั คับหรือกฎหมายทกุ คนควรเคารพกฎหมาย เพือ่ รักษาความสงบเรยี บรอ้ ยและความเปน็ ระเบยี บของสงั คม

ควำมคำดหวงั และกำรยอมรับในสงั คมสำ้ หรับ “เด็กด”ี

พฒั นาการทางจริยธรรมข้นั นี้ เปน็ พฤติกรรมของ “คนด”ี ตามมาตรฐานหรอื ความคาดหวงั ของบิดา
มารดา หรอื เพ่อื นวัยเดยี วกัน พฤติกรรม “ดี” หมายถงึ พฤตกิ รรมทจี่ ะทาให้ผูอ้ นื่ ชอบและยอมรบั หรือไม่
ประพฤติผิดเพราะเกรงว่าพ่อแม่จะเสียใจ

กฎเกณฑเ์ ปน็ เครื่องมือเพือ่ ประโยชน์ของตน

ในขั้นนเ้ี ด็กจะสนใจทาตามกฎขอ้ บังคบั เพื่อประโยชน์หรอื ความพอใจของตนเอง หรือทาดเี พราะ
อยากไดข้ องตอบแทนหรือรางวัล ไมไ่ ดค้ ดิ ถงึ ความยตุ ิธรรมและความเห็นอกเหน็ ใจผู้อ่นื หรือความ
เอือ้ เฟอ้ื เผ่ือแผ่ต่อผู้อ่ืน พฤตกิ รรมของเดก็ ในขั้นนที้ าเพื่อตอบสนองความตอ้ งการของตนเองแตม่ กั จะเปน็ การ
แลกเปล่ียนกบั คนอืน่ เชน่ ประโยค “ถ้าเธอทาใหฉ้ นั ฉันจะให.้ ..........”

บทท่ี 3

วธิ ีด้ำเนินกำรวิจัย

การวจิ ยั ครง้ั นี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย (Descriptive Reseaech) เพอ่ื ศึกษาสภาพและแนวทางการ
มีสว่ นรว่ มในการเสรมิ สร้างการปรับพฤตกิ รรมให้แก่นกั เรยี นระดับชั้น ปวช.1 / 3 ช่างยนต์ รายวิชาเชอ้ื เพลงิ
และวสั ดหุ ล่อลื่นจานวน 20 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2560 เพือ่ ให้บรรลวุ ัตถุประสงคด์ ังกล่าว
ผู้วิจัยไดด้ าเนินการดังรายละเอยี ดต่อไปนี้

ประชำกรกลมุ่ ตวั อยำ่ ง

ประชำกร ประชากรท่ีศึกษาคร้งั นี้ ได้แก่ นักเรียนระดบั ชน้ั ปวช.1/3 จานวน 20 คน รายวิชา
เช้อื เพลิงและวสั ดุหล่อล่นื แผนกวชิ าช่างยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ ระยอง ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2560

กลุ่มตัวอย่ำง กลุ่มตัวอย่างในการศกึ ษา คอื นกั ศกึ ษาจานวน 20 คน ใช้วิธีการสมุ่ แบบสงั เกต
พฤตกิ รรม

เครือ่ งมือในกำรวิจยั

1. รปู แบบการเรียนการสอนแบบร่วมแรงรว่ มใจ และการเรยี นรอู้ ย่างเป็นระบบ
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมความรับผิดชอบของนักศกึ ษา ไดแ้ ก่ ความรับผิดชอบตรงตอ่ เวลา

ใหค้ วามรว่ มมอื กับผู้อ่ืน ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บ การทางานทีไ่ ด้รับมอบหมายจาก
ครูผู้สอนและการทางานที่ได้รบั มอบหมายจากกลุ่ม
3. แบบประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นระยะเวลาดาเนินการสัปดาห์ท่ี 6 ถึง สปั ดาห์ท่ี 10
ของภาคเรยี นท่ี 2/2560 รวม 5 สปั ดาห์

วิธีกำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล

1. ผวู้ ิจัยไดใ้ ห้นักเรียนชว่ ยกนั วเิ คราะหป์ ญั หาในชนั้ เรียน โดยนาปญั หามาเรยี งตามคะแนนท่ไี ด้
จากผลการสารวจนกั เรียนในช้นั เรียน โดยส่วนใหญ่ผู้เรยี นเหน็ ว่า การเข้าชนั้ เรยี นสายเป็น
ปัญหาทีพ่ บมากจึงให้กาหนดหัวข้อวจิ ัยดังกลา่ ว

2. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นกลุ่มเปา้ หมาย โดยใชแ้ บบสัมภาษณ์เปน็ รายบุคคลเพื่อหาสาเหตุ
เพ่ือคน้ หาข้อมลู สว่ นตัว วา่ นักเรียนมคี วามต้องการอะไรและปญั หาการเรียนมีอะไรบา้ งซ่งึ
ส่งผลต่อการมีพฤติกรรมการเข้าชนั้ เรียนไมต่ รงเวลาอยู่ในช่วงการวจิ ัย

3. ประเมินพฤตกิ รรมนกั เรียน โดยสงั เกตพฤติกรรมโดยใชแ้ บบประเมนิ ผเู้ รยี นนกั เรยี นช้ัน
ปวช.1 แผนกวิชาชา่ งยนต์

สถติ ิทใ่ี ช้และวิธกี ำรวิเครำะหข์ อ้ มูล

1. ใช้สถิติรอ้ ยละ
2. คา่ เฉลย่ี
3. วเิ คราะห์จากแบบประเมนิ ของนกั เรียน
แผนดำ้ เนินกำร

1. วางแผนและเขยี นโครงการ
2. ปฏิบตั กิ ารตามแผน
3. เกบ็ ข้อมลู
4. วเิ คราะหข์ อ้ มูลสรปุ ผลและเขยี นรายงาน

บทที่ 4

ผลกำรวจิ ัย

การวจิ ยั ในครัง้ นี้เปน็ การศกึ ษาความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สภาพและแนวทางการมสี ว่ นรว่ มของผูป้ กครอง
และครใู นการเสรมิ สรา้ งวนิ ัยให้แกน่ ักเรียนระดบั ช้ัน ปวช. 1 กลุ่ม 3 แผนกวิชาช่างยนต์ จานวน 20 คน
รายวชิ าเชอ้ื เพลิงและวสั ดุหล่อลน่ื ประจาภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2560 โดยการเกบ็ รวบรวมข้อมลู จาก
แบบสังเกตพฤติกรรมความมีคณุ ธรรมในหอ้ งเรยี น

ภายหลังจากการปรับพฤติกรรมความรบั ผิดชอบในการเรยี นรายวิชางานเครื่องยนต์ นกั ศึกษา
ระดบั ชั้น ปวช .1/3 แผนกวชิ าชา่ งยนต์ จานวน 20 คน โดยการสอนแบบร่วมแรงรว่ มใจและการเรยี นรู้
อย่างมรี ะบบ พบว่า นกั ศกึ ษามีความรับผิดชอบในการเรียนและการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายไดส้ าเร็จในทกุ
ด้านดีขึ้นตามลาดับ และในสัปดาหท์ ่ี 11 พบว่านักเรยี นทกุ คนมคี วามรบั ผิดชอบดที กุ ดา้ น ผลการปรับ
พฤติกรรมในครั้งนี้ทาให้นกั ศึกษาทกุ คนสามารถทาแบบทดลองหลงั หนว่ ยการเรียนทกุ หนว่ ยผ่านเกณฑ์ที่
กาหนด คือ จาก 20 คะแนน นักศึกษาสามารถทาคะแนนได้ 13 คะแนน ขึน้ ไปถอื ว่านกั เรียนมผี ลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรยี นดขี ้นึ

บทที่ 5

สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ

จากการศกึ ษาเรือ่ งการปรบั ปรงุ พฤตกิ รรมการเขา้ ช้นั เรียนใหต้ รงต่อเวลาของนักเรยี นระดับช้ัน ปวช.
1 กล่มุ 3 แผนกวชิ าชา่ งยนต์ ในรายวชิ าเช้อื เพลงิ และวสั ดหุ ล่อล่ืน จานวน 20 คน ประภาคเรยี นที่ 2 ปี
การศษึ า 2560 มีวัตถปุ ระสงคเ์ พื่อศึกษา ความคิดเหน็ เกี่ยวกบั การปรับปรงุ พฤตกิ รรมให้แกน่ กั เรียนระดับช้นั
ปวช.1/3 แผนกวิชาชา่ งยนต์ ในรายวชิ าเชื้อเพลิงและวสั ดหุ ล่อล่นื จานวน 20 คน

ภายหลงั จากการปรบั ปรุงพฤติกรรมความรับผิดชอบในการเรียน รายวิชาเชอ้ื เพลิงและวสั ดหุ ล่อลน่ื
ของนกั เรียน ระดับช้นั ปวช.1/3 แผนกวชิ าช่างยนต์ ในรายวิชาเชอ้ื เพลงิ และวสั ดุหล่อล่นื จานวน 20 คน
โดยการสอนแบบร่วมแรงร่วมใจ และการเรียนรู้อย่างทีระบบ พบว่า นักเรยี นมีความรับผดิ ชอบในการเรยี น
และทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายไดส้ าเร็จในทุกด้านดีข้ึน การเขา้ ช้นั เรียนมีการปรบั ตัวไดด้ โี ดยมนี กั เรยี นมากอ่ น
เวลาเข้าเรยี นเกิน 10 คน และทเี่ หลอื มาทนั เวลาทกุ คน

ข้อเสนอแนะกำรน้ำผลกำรวจิ ยั ไปใช้

ควรใหผ้ ปู้ กครองเข้ามามสี ว่ นร่วมในการวางแผนเพื่อเสริมสรา้ งการปรับปรุงพฤติกรรมใหแ้ กน่ ักเรยี น
อย่างนอ้ ย ภาคเรียนละ 1 ครัง้

ข้อเสนอแนะในกำรวจิ ัยครงั ตอ่ ไป

1. ควรวิจัยเชงิ คณุ ภาพเกยี่ วกับบทบาทของครูในการเสริมสร้างการปรับพฤติกรรมให้แก่นักเรยี น

เอกสำรอำ้ งองิ

กมลรัตน์ หลา้ สุวรรณ. จติ วทิ ยาการศกึ ษา. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 2. :โรงพิมพ์ศรีราชา กรุงเทพฯ,2528.
ชุมพล สอปญั ญา. ผลของการตาหนเิ สยี งดงั และตาหนิเสยี งนมุ่ นวลกบั การชมเชยเสียงดงั
และชมเชยเสยี งนุ่มนวลเพอื่ ลดพฤติกรรมรบกวนเพอื่ นในขณะเรยี น. ปริญญานพิ นธ์
กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ. มหาสารคาม, 2535.
บญุ เทิงสายยศ. ผลการใชเ้ ทคนิคควบคมุ ตนเองและเทคนิคการให้สญั ญาตนเองเพอ่ื ลด
พฤตกิ รรมขาดระเบยี บในช้นั เรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรยี นบ้านขมิน้
(เรอื งราษฎร์รงั สรรค)์ อาเภอจอมพระ จงั หวดั สุรนิ ทร์.ปรญิ ญานพิ นธ์ กศ.ม. มหาสารคาม :
มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม, 2543.
พัทยา ภสู าเนา. การศึกษาการปรบั พฤตกิ รรมคยุ กนั ในช้นั เรยี นโดยใชเ้ บ้ือเศรษฐกิจ. วิทยา
นิพนธ์ กศ.ม มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม , 2540
พรรณีชูทัย เจนจิต. จิตวิทยาการเรียนการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 4. บรษิ ทั คอมแพคพร้นิ ท์ จากัด กรุงเทพฯ,
2538.
อบรม สันภบิ าล. วิชาการศึกษา 122 : จิตวิทยาการศกึ ษา. : โอเดียนสโตร์. กรุงเทพฯ, (ม.ป.ป.)
อจั ฉรา วงศโ์ สธร.แนวทางการสร้างขอบภาษา. : จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั กรงุ เทพฯ, 2538.

3.6 สมุดบนั ทึกเวลำเรยี น





3.7 กำรควบคุมชนั เรยี น



4.ด้านการเขา้ ร่วมกิจกรรม
4.1 ให้คาปรกึ ษาในการแกป้ ญั หาหรือให้

คาแนะนาแก่ นกั เรียน นกั ศึกษา จนเป็น
ผลสาเร็จ

4.2 การเขา้ รว่ มกจิ กรรมตาทว่ี ทิ ยาลยั
มอบหมาย

4.1 ใหค้ ำ้ ปรกึ ษำในกำรแกป้ ัญหำหรอื ให้ค้ำแนะนำ้ แก่ นักเรยี น นกั ศึกษำ จนเปน็ ผลสำ้ เรจ็



4.2 กำรเขำ้ รว่ มกิจกรรมตำมทว่ี ิทยำลยั มอบหมำย
กจิ กรรมตกั บำตรขำ้ วสำรอำหำรแหง้ เน่ืองในโอกำสวนั เฉลิมพระชนมพรรษำ สมเดจ็ พระ

ปรมนิ ทรมหำภูมิพลอดลุ ยเดช

กิจกรรมอำชีวะอำสำเทศกำลปใี หม่ ปี พ.ศ 2562

กจิ กรรมวนั ครู ทีห่ อประชมุ คุรสุ ภำ วันท่ี 15-18 มกรำคม 2562
กจิ กรรมกฬี ำสี ประจ้ำปีกำรศึกษำ 2561

กจิ กรรมกำรประชมุ วิชำกำรเทคโนโลยีและนวตั กรรมอำชีวศกึ ษำระดับชำติ ครังท่ี 3
กจิ กรรมโครงกำรลดฝุ่น ลดควนั

กิจกรรมไหว้องคพ์ ระวษิ ณุกรรม
กจิ กรรมตลำดนดั แรงงำนอำชีวศกึ ษำ

5.หนา้ ที่พิเศษที่ไดร้ บั มอบหมาย

5.หน้าที่พิเศษท่ีได้รับมอบหมาย
ทาหนา้ ทีผ่ ้ชู ว่ ยหวั หน้างาน งานโครงการพิเศษและบรกิ ารชมุ ชน

6. ดา้ นผลงานดเี ด่น
6.1 ระดบั ชาตขิ ึ้นไป
6.2 ระดับภาค
6.3 ระดบั จงั หวัด
6.4 ระดับสถานศึกษา

7. ด้านความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์
7.1 มคี วามคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์ในการ

ปฎิบตั งิ านในหน้าที่
7.2 มคี วามคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรคใ์ นการจดั ทา

แฟ้มสะสมผลงาน


Click to View FlipBook Version