Epinephelus coioides (Hamilton, 1822)
ชอื่ สามญั : ปลากะรงั จุดส้ม (Orange spotted grouper)
ชือ่ ท้องถ่นิ : ปลาเกา๋ จุดสม้ , ปลาเกา๋ ข้ีมัน
ลักษณะเด่น: ลำตัวค่อนข้างป้อมเล็กน้อย ส่วนหัวแหลม พื้นลำตัวสีน้ำตาลอ่อน
ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีลวดลายสีดำพาดขวางลำตัว และมีจุดสีส้มตลอดลำตัว ครีบ
หลังมตี อนเดียว มีกา้ นครบี แขง็ 11 กา้ น และกา้ นครีบอ่อน 13 – 16 ก้าน ครีบก้นมี
ก้านครบี แขง็ 3 กา้ น และก้านครีบออ่ น 8 ก้าน ครบี หลัง ครีบท้อง ครบี กน้ และครีบ
หางมีสนี ำ้ ตาลใส ครีบหางเปน็ แบบกลม (rounded tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
หม่เู กาะฟิจิ หมูเ่ กาะรวิ กิว ทะเลอาราฟูรา และทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนยี น
แหลง่ ทีอ่ ยู่อาศัย: บริเวณแนวโขดหินใต้นำ้ หรือแนวปะการงั
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พนั ธุ์: 48 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 120 เซนตเิ มตร
237
Epinephelus chlorostigma (Valenciennes, 1828)
ช่ือสามัญ: ปลากะรงั จดุ นำ้ ตาล (Brownspotted grouper)
ชื่อท้องถิ่น: ปลาเก๋าจดุ น้ำตาล
ลักษณะเด่น: ลำตัวค่อนข้างป้อมเล็กน้อย ส่วนหัวแหลม พื้นลำตัวสีน้ำตาลอ่อน
ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีลวดลายสีดำ และมีจุดสีน้ำตาลเข้มเล็กๆกระจายตลอดส่วน
หัว และลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน
16 – 18 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบหลัง
ครีบอก ครีบท้อง ครีบก้น มีสีน้ำตาลใส และครีบหางสีน้ำตาลมีปลายขอบหางสี
นำ้ ตาลเข้ม หรือดำ ครีบหางเป็นแบบตัดตรง (truncate tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามนั อนิ โด – แปซฟิ ิกฝั่งตะวันตก
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศัย: บริเวณแนวโขดหินใตน้ ้ำ หรือแนวปะการงั
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พนั ธุ์: 28 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 80 เซนติเมตร
238
Epinephelus lanceolatus (Bloch, 1790)
ชือ่ สามัญ: ปลากะรงั ทอง (Giant grouper)
ชอื่ ท้องถน่ิ : ปลาหมอทะเล, ปลาตัง, ปลาเก๋ามงั กร
ลักษณะเดน่ : ลำตัวคอ่ นข้างป้อมกลมเล็กนอ้ ย ส่วนหัวแหลม พื้นลำตัวสีนำ้ ตาลอ่อน
ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีลวดลายสีดำ และมีจุดสีดำเล็กๆกระจายตลอดส่วนหัว และ
ลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน
14 – 16 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบหลัง
ครีบอก ครีบท้อง ครีบก้น และครีบหางสีน้ำตาลมีปลายขอบหางสีน้ำตาลเข้ม หรือ
ดำ ครบี หางเป็นแบบกลม (rounded tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง หมู่เกาะ
ฮาวาย และอา่ วเปอรเ์ ซีย
แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั : บรเิ วณแนวโขดหนิ ใตน้ ้ำลกึ หรือแนวปะการงั
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 270 เซนตเิ มตร
239
Epinephelus malabaricus (Bloch & Schneider, 1801)
ชือ่ สามัญ: ปลากะรงั จุดดำ (Malabar grouper)
ชือ่ ท้องถนิ่ : ปลาเกา๋ จุดดำ, ปลาเกา๋ ดอกดำ, ปลาร่าปูดอกดำ
ลกั ษณะเดน่ : ลำตวั คอ่ นข้างปอ้ มกลมเล็กนอ้ ย ส่วนหัวแหลม พืน้ ลำตวั สีน้ำตาลอ่อน
ชว่ งทอ้ งสีขาว ลำตัวมลี ายแถบสีดำพาดขวางลำตัว 5 – 6 แถบ และมจี ุดสีดำเล็กๆ
กระจายตลอดสว่ นหัว และลำตัว ครบี หลังมตี อนเดยี ว มีกา้ นครีบแขง็ 11 กา้ น และ
ก้านครีบอ่อน 14 – 16 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน
8 ก้าน ครีบหลัง ครีบอก ครีบท้อง ครีบก้น และครีบหางสนี ้ำตาลมปี ลายขอบหางสี
นำ้ ตาลเข้ม หรือดำ ครบี หางเปน็ แบบกลม (rounded tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซิฟกิ ฝัง่ ตะวนั ตก ทะเลแดง ตะวันออก
ของแอฟรกิ า และอา่ วเปอร์เซีย
แหลง่ ที่อยอู่ าศัย: บริเวณแนวโขดหนิ ใตน้ ้ำลกึ หรือแนวปะการงั
ขนาดเข้าส่วู ยั เจรญิ พันธ์ุ: 64 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 234 เซนติเมตร
240
Epinephelus quoyanus (Valenciennes, 1830)
ชอ่ื สามัญ: ปลากะรงั ตุ๊กแก (Longfin grouper)
ช่อื ทอ้ งถิน่ : ปลาเก๋าตุ๊กแก, ปลาเกา๋ ลายเสอื ,ปลาร่าปลู ายเสือ
ลักษณะเด่น: ลำตัวค่อนข้างป้อม ส่วนหัวแหลม พื้นลำตัวสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง
ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีลวดลายสีดำหกเหลี่ยมต่อกันกระจายตลอดส่วนหัว และ
ลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน
16 – 18 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบหลัง
ครีบอก ครีบท้อง ครีบก้น และครีบหางสีนำ้ ตาล ครีบหางเป็นแบบกลม (rounded
tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อนิ โด – แปซิฟิกฝ่ังตะวันตก
แหลง่ ทีอ่ ยอู่ าศัย: บริเวณแนวโขดหนิ ใตน้ ำ้ หรือแนวปะการงั
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: -
241
Epinephelus merra (Bloch, 1793)
ช่อื สามัญ: ปลากะรงั เสอื (Honeycomb grouper)
ชอ่ื ท้องถิ่น: ปลาเกา๋ เสอื , ปลาเก๋ารังผึง้
ลกั ษณะเดน่ : : ลำตวั คอ่ นข้างปอ้ ม สว่ นหัวแหลม พนื้ ลำตัวสีน้ำตาลอ่อน ช่วงท้องสี
ขาว ลำตัวมีลวดลายสีนำ้ ตาลเข้มหกเหลี่ยมต่อกันคลา้ ยรังผึ้งกระจายตลอดสว่ นหวั
และลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน
15 – 17 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบหลัง
ครีบอก ครีบท้อง ครีบก้น และครีบหางสีนำ้ ตาล ครีบหางเป็นแบบกลม (rounded
tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง และ
อา่ วเปอรเ์ ซยี
แหล่งท่อี ยูอ่ าศัย: บรเิ วณแนวโขดหนิ ใต้นำ้ หรือแนวปะการงั
ขนาดเขา้ สู่วัยเจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: -
242
Epinephelus sexfasciatus (Valenciennes, 1828)
ชอ่ื สามญั : ปลากะรังหกแถบ (Honeycomb grouper)
ชื่อท้องถ่นิ : ปลาเก๋าแถบ, ปลาเกา๋ บัง้ แฉก
ลักษณะเด่น: : ลำตัวค่อนข้างป้อม พื้นลำตัวสีน้ำตาลอ่อนอมเทา ช่วงท้องสีขาว
ลำตัวมลี ายแถบสนี ้ำตาลเขม้ พาดขวางลำตัว 5 – 6 แถบ และมีจดุ สขี าวกระจายท่ัว
ลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน
14 – 16 ก้าน บริเวณด้านท้ายของครีบหลังมีจุดสีดำเล็กกระจายอยู่ ครีบก้นมีก้าน
ครบี แขง็ 3 กา้ น และกา้ นครบี อ่อน 8 ก้าน ครบี หลงั ครีบอก ครบี ท้อง ครีบก้น และ
ครีบหางสีน้ำตาล แต่บริเวณครีบหางมีจุดสีดำเล็กๆกระจายอยู่ ครีบหางเป็นแบบ
กลม (rounded tail)
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามนั อินโด – แปซฟิ กิ ฝง่ั ตะวันตก
แหล่งที่อยู่อาศัย: บริเวณแนวโขดหินใต้น้ำ หรอื แนวปะการัง
ขนาดเข้าสู่วยั เจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สุด: -
243
Epinephelus undulosus (Quoy & Gaimard, 1824)
ชื่อสามญั : ปลากะรังเสน้ หยัก (Wavy lined grouper)
ชื่อท้องถิน่ : ปลาเก๋าลนื่
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว พื้นลำตัวสีนำ้ ตาลอ่อนอมเทา ช่วงท้อง สีขาว ลำตัวมี
ลายเส้นเลก็ ๆสนี ำ้ ตาลเขม้ พาดยาวตัง้ แตห่ ลังแผ่นปดิ เหงอื กจนถงึ คอดหาง ครบี หลัง
มีตอนเดียว มกี า้ นครีบแข็ง 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน 17 – 19 กา้ น ครีบก้นมีก้าน
ครบี แข็ง 3 ก้าน และก้านครบี อ่อน 8 ก้าน ครบี หลงั ครีบอก ครบี ทอ้ ง ครีบกน้ และ
สนี ้ำตาลเข้ม ครบี หางสีเทา ครีบหางเปน็ แบบตัดตรง (truncate tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
ทะเลโอมาน อ่าวเปอร์เซีย หมเู่ กาะแลคคาดฟิ ปาปัวนวิ กินี และหมเู่ กาะโซโลมอน
แหล่งทอ่ี ยอู่ าศยั : บริเวณแนวโขดหินใตน้ ้ำ หรือแนวปะการงั
ขนาดเขา้ ส่วู ยั เจรญิ พันธ์ุ: 40 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 120 เซนติเมตร
244
Plectropomus maculatus (Bloch, 1790)
ชอ่ื สามญั : ปลากะรงั จดุ ฟา้ ใหญ่ (Spotted coralgrouper)
ชอื่ ทอ้ งถิน่ : ปลาเกา๋ จุดฟ้า, ปลากสุ ลาด
ลักษณะเด่น: : ลำตัวเรียวยาว พื้นลำตัวสีแดงสด ช่วงท้องสีแดงอมส้ม ลำตัวมีจุดสี
ฟา้ กระจายทั่วลำตัวคลา้ ยกบั ชนดิ P. leopardus แต่มจี ดุ สีฟ้าขนาดใหญก่ ว่า ครีบ
หลงั มตี อนเดยี ว มีกา้ นครบี แข็ง 7 - 8 ก้าน และก้านครบี ออ่ น 10 – 12 กา้ น บรเิ วณ
ด้านท้ายของครีบหลังมีจุดสีดำเล็กกระจายอยู่ ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และ
กา้ นครีบออ่ น 8 ก้าน ครบี หลัง ครีบอก ครีบท้อง ครีบก้น และครบี หางสีแดงสด โดย
บริเวณปลายครีบหางมีสีเทา หรือดำ ครีบหางแบบเว้าตื้นเสี้ยวพระจันทร์ ครีบหาง
ตดั ตรง (truncate tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลอาราฟูรา และ
หม่เู กาะโซโลมอน
แหล่งท่อี ยูอ่ าศยั : บรเิ วณแนวหิน หรอื แนวปะการัง รอยต่อไหลท่ วปี
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 125 เซนตเิ มตร
245
Siganidae
วงศ์ปลาสลิดทะเล
ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา
รูปร่างลำตัวสั้นป้อมรูปไข่รีแบนข้าง ส่วนหัวเล็ก และสั้น จะงอยปากมี
ขนาดเล็กยืดหดไม่ได้ มีรจู มกู เพียงคู่เดียว เกล็ดขนาดเล็กแบบขอบเรียบ (cycloid)
ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง ครีบหลังติดกันเป็นตอนเดียว มีก้านครีบแข็งประมาณ 8-17 ก้าน
และก้านครบี ออ่ น ประมาณ 10 กา้ น ครบี กน้ มีก้านครบี อ่อนประมาณ 10 - 16 ก้าน
ครีบหางเว้าตืน้ แบบพระจนั ทร์เสย้ี ว (lunate tail)
วิธีทำประมง: อวนลาก
Single dorsal fin with 8 – 17, soft rays 10
Lunate tail
Mouth small
Anal fin with 2, soft rays 10 - 16
ท่ีมา: Kimura et al. (2009)
246
Siganus canaliculatus (Park, 1797)
ชื่อสามัญ: ปลาสลิดทะเลจดุ ขาว (White-spotted spinefoot)
ช่อื ทอ้ งถนิ่ : ปลาแกแดดจดุ ขาว
ลักษณะเด่น: : ลำตัวป้อมสั้น พื้นลำตัวสีเทา ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีจุดสีขาวเล็กๆ
กระจายทั่วลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 13 ก้าน และก้านครีบอ่อน
10 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 7 ก้าน และก้านครบี อ่อน 9 ก้าน ครีบหลัง ครีบอก
ครีบทอ้ ง ครีบกน้ และครบี หางสีน้ำตาลอมเทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย ทะเล
โอมาน และหมเู่ กาะริวกวิ
แหล่งท่อี ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวกองหนิ ใต้นำ้ หรือแนวปะการงั
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจรญิ พันธุ์: 11.6 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 40 เซนติเมตร
247
Siganus guttatus (Bloch, 1787)
ชอ่ื สามัญ: ปลาสลดิ ทะเลจดุ สม้ (Orange-spotted spinefoot)
ชอื่ ท้องถนิ่ : ปลาแกแดดดอกแดง
ลักษณะเด่น: : ลำตัวป้อมสั้น พื้นลำตัวสีเทาเข้ม ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีจุดสีส้ม
กลมๆ กระจายทั่วลำตัว ท้ายลำตัวบริเวณคอดหางมีจุดกลมสีส้มขนาดใหญ่ ครีบ
หลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 13 ก้าน และก้านครีบอ่อน 10 ก้าน ครีบก้นมีก้าน
ครบี แข็ง 7 กา้ น และกา้ นครีบออ่ น 9 ก้าน ครบี หลัง ครบี อก ครีบทอ้ ง ครบี ก้น และ
ครบี หางสีเทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามนั อินโด – แปซฟิ ิกฝ่งั ตะวนั ตก
แหลง่ ท่ีอยอู่ าศัย: บริเวณปากแมน่ ้ำ แนวกองหินโสโครกใตน้ ้ำ หรือแนวปะการงั
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พันธุ์: 18 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 42 เซนติเมตร
248
Siganus javus (Linnaeus, 1766)
ช่อื สามญั : ปลาสลดิ ทะเลลายแถบ (Streaked spinefoot)
ชื่อทอ้ งถิน่ : ปลาแกแดดแถบ, ปลาสลิดหินแถบ
ลักษณะเด่น: : ลำตัวป้อมสัน้ พ้นื ลำตวั สีเทาเขม้ ช่วงท้องสขี าว ชว่ งปากถึงแผ่นปิด
เหงือกสีเหลือง บริเวณเหนือเส้นข้างตัวมีจุดสีขาวกระจายตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงคอด
หาง และบริเวณด้านล่างเส้นข้างตัวมีแถบสีขาวพาดยาวตั้งแต่หลังแผ่นปิดเหงือก
จนถึงคอดหาง ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 13 ก้าน และก้านครีบอ่อน
10 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 7 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบทุกครีบมีสี
เหลืองใส ครีบหางสเี ทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามนั อนิ โด – แปซิฟิกฝง่ั ตะวนั ตก
แหลง่ ทอี่ ย่อู าศัย: บริเวณแนวโขดหนิ ใต้นำ้ หรอื แนวปะการงั
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 53 เซนติเมตร
249
Siganus punctatus (Schneider & Forster, 1801)
ชอ่ื สามัญ: ปลาสลดิ ทะเล (Goldspotted spinefoot)
ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ : ปลาสลิดหนิ
ลกั ษณะเด่น: : ลำตัวป้อมสน้ั พน้ื ลำตัวสีเทาเข้ม ชว่ งท้องสขี าว ลำตัวมีจุดสีน้ำตาล
อมแดง หรอื สอี มส้มกระจายตง้ั แตส่ ่วนหัวจนถึงครีบหาง บริเวณหลงั แผ่นปิดเหงือก
สจี ุดกลมสีน้ำตาล 1 จุด ครีบหลังมีตอนเดยี ว มีกา้ นครบี แขง็ 13 กา้ น และก้านครีบ
อ่อน 10 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 9 ก้าน และก้านครีบอ่อน 13 ก้าน ครีบหลัง
ครบี อก ครีบท้อง และครบี ก้น สีเหลอื งใส ครบี หางสีเทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก หมู่เกาะริวกิว หมู่
เกาะโอกาซาวาระ และหมเู่ กาะมาเรยี นา
แหลง่ ที่อยอู่ าศยั : บริเวณแนวโขดหินใตน้ ้ำ หรอื แนวปะการัง
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พนั ธ์ุ: 24 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 40 เซนติเมตร
250
Siganus vermiculatus (Valenciennes, 1835)
ช่อื สามญั : ปลาสลิดทะเลเสน้ หยัก (Vermiculated spinefoot)
ชอ่ื ทอ้ งถิ่น: ปลาแกแดดดำ
ลักษณะเด่น: : ลำตัวป้อมสั้น พื้นลำตัวสีเทาเข้มอมดำ ช่วงท้องสีเทา ช่วงบนของ
ลำตัวมีลวดลายหยักสีดำ ช่วงล่างของลำตัวมีลวดลายเดียวกันแต่ลายเส้นหยักมี
ขนาดเล็กกว่า ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 13 ก้าน และก้านครีบอ่อน
10 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 7 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบหลัง ครีบ
อก ครีบท้อง และ ครบี ก้น สเี หลอื งใส ครบี หางสเี ทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก นิวกินี หมู่เกาะ
โซโลมอน ฟิจิ หมู่เกาะแคโรไลน์ และหมเู่ กาะอีบอน
แหลง่ ที่อยอู่ าศัย: บรเิ วณแนวโขดหนิ ใตน้ ้ำ หรอื แนวปะการัง
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 45 เซนติเมตร
251
Sillaginidae
วงศป์ ลาเห็ดโคน
ลักษณะทางสณั ฐานวิทยา
ลำตัวเรยี วยาว มีลกั ษณะเปน็ ทรงกระบอก ปากเล็ก เปน็ แบบบนล่างเสมอ
กัน ปากยืดหดได้เล็กน้อย มีหนามตรงบริเวณแผ่นปิดเหงือก เกล็ดขนาดเล็กแบบมี
ขอบหนาม (ctenoid) ปกคลุมทั่วลำตัว ครีบหลังมีสองตอน ครีบหลังตอนแรกมี
ก้านครีบแข็ง 9 – 12 ก้าน ครีบหลังตอนที่สองมีก้านครีบอันแรกเป็นก้านแข็ง
1 ก้าน และก้านครีบอ่อน 16 – 27 ก้าน จากนั้นเป็นก้านครีบอ่อน ครีบก้นยาวจรด
โคนหาง มีก้านครีบแข็ง 2 ก้าน และก้านครีบอ่อน 14 - 27 ก้าน ครีบทุกครีบมี
ลักษณะใส ครีบหางเวา้ ต้นื แบบรูปพระจันทร์เสีย้ ว (lunate tail)
วธิ ที ำประมง: เครื่องมือประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนจม อวนสามชน้ั
Frist dorsal fins with 9 – 12 Second with 1 leading spine,
1 opercular spine soft ray 16 - 27
Small Lunate tail
terminal mouth Anal fin with 2, soft ray 14 - 27
ทม่ี า: Kimura et al. (2009)
252
Sillago sihama (Forsskål, 1775)
ชื่อสามัญ: ปลาเหด็ โคน (Silver sillago)
ช่อื ทอ้ งถ่ิน: ปลาทราย, ปลาม่อหลอด, ปลาเหล็กโคน
ลักษณะเด่น: : ลำตัวเรียวยาว ส่วนหัวแหลม จะงอยปากเล็ก สามารถยืดหดได้
เล็กน้อย พื้นลำตัวสีเงิน ช่วงท้องสีเทา ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกมกี ้านครีบแขง็
11 - 13 ก้าน และก้านครีบอ่อน 20 - 23 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 2 ก้าน และ
ก้านครีบออ่ น 18 - 23 กา้ น ครบี ทกุ ครบี มสี ีใส
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซิฟกิ ฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
แหลง่ ท่อี ยูอ่ าศัย: บริเวณพื้นทรายปนโคลนปากแมน่ ำ้ และแนวชายฝงั่
ขนาดเขา้ สู่วยั เจรญิ พนั ธุ์: 22.5 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 31 เซนติเมตร
253
Soleidae
วงศป์ ลาลนิ้ หมา
ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา
รูปร่างลำตัวหลากหลาย เช่น รูปไข่ เรียวยาว และป้อมสั้น มีลําตัวแบน
ข้าง จะงอยปากเล็ก ตาอยู่ด้านขวาของลำตัว บริเวณแผ่นปิดเหงือกมีหนังหุ้มปก
คลุม ครีบหลังมีตอนเดียว ครีบทุกครีบไม่มีกานครีบแข็ง โดยครีบหลังมีจุดเริ่มต้น
ครีบที่ช่วงตายาวจรดคอดหาง ครีบอกเล็ก และสั้น ครีบหางมีทั้งแบบกลม
(rounded tail) และครีบหางแบบแหลม (pointed tail)
วิธที ำประมง: อวนลาก เครอื่ งมอื ประเภทอวนตดิ ตา ได้แก่ อวนจม อวนสามช้ัน
Dorsal and anal fins attached or Origin of dorsal fin
not attached to caudal fin anterior to eyes
Eyes on right side of head
Preopercular
margin not free,
embedded in skin
ที่มา: Kimura et al. (2009); Carpenter and Niem (1999)
254
Brachirus orientalis (Bloch & Schneider, 1801)
ชอื่ สามัญ: ปลาลนิ้ หมา (Oriental sole)
ชอ่ื ท้องถิน่ : ปลาลนิ้ หมา
ลักษณะเด่น: : ลำตัวรูปไข่ จะงอยปากเล็กสั้น พื้นลำตัวด้านขวามีสีน้ำตาลเข้ม
ด้านซ้ายเป็นสีขาว ลำตัวมีรอยสีดำจางๆกระจายตลอดลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว
โดยครีบหลงั และครีบก้นยาวตลอดจนถึงคอดหางสีน้ำตาลเข้ม
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
อา่ วเปอรเ์ ซยี และมาดากัสการ์
แหล่งทีอ่ ยอู่ าศยั : บริเวณพ้นื ทรายปนโคลนปากแมน่ ำ้ และแนวชายฝง่ั
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจรญิ พนั ธ์ุ: 22.5 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สดุ : 38 เซนติเมตร
255
Pardachirus pavoninus (Lacepède, 1802)
ชอื่ สามญั : ปลาลนิ้ หมาลาย (Peacock sole)
ชื่อทอ้ งถนิ่ : ปลาลิน้ หมาลาย
ลักษณะเด่น: : ลำตัวรูปไข่ จะงอยปากเล็กสั้น พื้นลำตัวด้านขวามีสีน้ำตาลเข้ม
ด้านซ้ายเป็นสีขาว ลำตัวมีลวดลายกลมๆสีขาวสลับดำ และน้ำตาลกระจายตลอด
ลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว โดยครีบหลัง ประกอบด้วยก้านครีบออ่ น 62 – 73 ก้าน
และครบี กน้ ประกอบดว้ ยกา้ นครีบออ่ น 48 – 55 ก้าน ครบี ยาวตลอดจนถงึ คอดหาง
สีน้ำตาลเข้ม ครบี หางแบบกลม
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซฟิ กิ ฝง่ั ตะวนั ตก
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศัย: บรเิ วณปากแมน่ ้ำ
ขนาดเข้าส่วู ัยเจริญพนั ธ์ุ: 22.5 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 25 เซนติเมตร
256
Zebrias zebra (Bloch, 1787)
ชือ่ สามญั : ปลาลิ้นหมาลาย (Zebra sole)
ชอ่ื ท้องถนิ่ : ปลาลิ้นหมาลาย
ลักษณะเด่น: : ลำตัวรูปไข่ จะงอยปากเล็กสั้น พื้นลำตัวด้านขวามีสีน้ำตาลเข้ม
ด้านซ้ายเป็นสีขาว มีแถบสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อนพาดขวางลำตัวตั้งแต่ส่วนหัว
จนถึงปลายหาง จำนวน 11 แถบ ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน
74 – 78 ก้าน และครีบกน้ ประกอบด้วยก้านครีบออ่ น 65 – 68 ก้าน ครีบยาวตลอด
จนถึงคอดหางสีนำ้ ตาลเขม้ ครีบหางแบบกลม
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก นิวกินี และ
ออสเตรเลยี
แหล่งทอี่ ยอู่ าศยั : บริเวณปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 26 เซนติเมตร
257
Sparidae
วงศป์ ลาอคี ดุ
ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา
มีลำตัวกว้าง และแบนข้าง ส่วนหัวและสันหลังมีความโค้งนูน มีเกล็ด
ค่อนขา้ งเลก็ ปกคลมุ บรเิ วณแก้มและลำตวั นัยนต์ าโต ครีบหลงั ตอนเดยี ว สว่ นท่ีเป็น
ก้านครีบแข็งเป็นหนามแหลม มีก้านครีบแข็ง 10 - 13 ก้าน ครีบอ่อน 9 - 17 ก้าน
ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 - 15 ก้าน ครีบหางปลายเป็น
แฉกไมล่ กึ เว้าเปน็ เหมอื นเส้ยี วพระจันทร์ (lunate tail)
วิธที ำประมง: เคร่ืองมอื ประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนจม อวนสามชน้ั
Single dorsal fin with 10 – 13,
soft ray 9 - 17
Lunate tail
ทีม่ า: Kimura et al. (2009) Anal fin with 3, soft ray 7 - 15
258
Acanthopagrus berda (Forsskål, 1775)
ช่ือสามัญ: ปลาอีคุดจาน (Goldsilk seabream)
ช่อื ทอ้ งถนิ่ : ปลาจาน, ปลากูกู
ลักษณะเด่น: : ลำตัวป้อมสั้น และแบนข้าง จะงอยปากสั้นทู่ พื้นลำตัวสีเงิน ครีบ
หลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 11 – 12 ก้าน และก้านครีบอ่อน
10 – 12 ก้าน และครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน
8 – 9 ก้าน ครีบทุกครบี มสี ีเงนิ โดยขอบของปลายครีบมีสีดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก โมซัมบิก ทะเลแดง
อา่ วเปอรเ์ ซยี
แหล่งที่อยู่อาศัย: บริเวณปากแม่น้ำ
ขนาดเข้าสู่วยั เจริญพันธ์ุ: 20 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สดุ : 90 เซนติเมตร
259
Sphyraenidae
วงศป์ ลาน้ำดอกไม้
ลักษณะทางสณั ฐานวิทยา
มีลำตัวค่อนข้างกลม และเรียวยาว คล้ายรูปทรงกระบอก ส่วนหัวมีขนาด
ใหญ่ และแหลม จะงอยปากกว้าง มีฟันแหลมคมบนขากรรไกรล่าง ขากรรไกรยาว
เลยขอบตา เกล็ดขนาดเล็กแบบขอบเรียบ (cycloid) ครีบหลังแบ่งเป็นสองตอน
ชัดเจน ครบี หางเว้าลกึ รปู สอ้ ม (fork tail)
วิธีทำประมง: อวนลอ้ ม และเบ็ดมือ
Snout long and 2 dorsal fins separated
pointed mouth large
Sharp canines near Fork tail
tip of lower jaw
ท่ีมา: Kimura et al. (2009)
260
Sphyraena barracuda (Edwards, 1771)
ช่ือสามัญ: ปลาสากใหญ่ (Great barracuda)
ชอ่ื ท้องถน่ิ : ปลาสาก, ปลาโชกนุ , ปลาหลหู ลู
ลักษณะเด่น: : ลำตวั เรียวยาว และคอ่ นข้างกลม จะงอยปากกวา้ ง และยาว ส่วนตน้
ของแผ่นปิดเหงือกมีลักษณะโค้งมมน พื้นลำตัวสีเงิน ช่วงหลังสีเทาเข้ม หรือสีดำ
ลำตัวมีลายแถบสีเทาจางๆพาดขวางเลยเส้นข้างตัวเล็กน้อย ครีบหลังมีสองตอน
ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 6 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 ก้าน และครีบก้น
ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 2 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบทุกครีบมีสเี งินอม
ดำ ครบี หางเปน็ แบบสอ้ มทีเ่ วา้ เป็นสองแฉกใหญ่ (double emarginate)
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามัน อนิ โด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ชายฝัง่ ตะวนั ออกของ
แอฟริกา ทะเลแดง ฮาวาย หมู่เกาะมาร์เคซัส และมหาสมุทรแอตแลนติกฝั่ง
ตะวันตก และฝ่งั ตะวันออก
แหลง่ ท่อี ยอู่ าศัย: บรเิ วณชายฝั่ง
ขนาดเข้าสู่วยั เจริญพนั ธุ์: 66 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 200 เซนตเิ มตร
261
Sphyraena obtusata (Cuvier, 1829)
ชื่อสามัญ: ปลาสากแกม้ ตัด (Obtuse barracuda)
ชอ่ื ท้องถิน่ : ปลาสากเหลอื ง
ลักษณะเด่น: : ลำตัวเรียวยาว และค่อนข้างกลม จะงอยปากกว้าง และยาว พื้น
ลำตวั สีเงนิ ช่วงหลงั สีเทาเข้ม หรือสดี ำ ลำตัวมีแถบเส้นสเี หลืองจางๆพาดยาวตั้งแต่
หลังแผ่นปิดเหงือกจนถึงคอดหาง ครีบหลังมีสองตอน ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
6 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 ก้าน และครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 2 ก้าน
และก้านครีบอ่อน 9 กา้ น ครบี มีสีเหลือง ครีบหางเปน็ แบบส้อม
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซฟิ ิกฝั่งตะวนั ตก ชายฝ่งั ตะวันออกของ
แอฟริกา ทะเลแดง หมู่เกาะริวกิว ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออก และ
คลองสุเอซ
แหล่งท่อี ยอู่ าศัย: บรเิ วณชายฝ่งั
ขนาดเขา้ สู่วยั เจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 55 เซนติเมตร
262
Sphyraena putnamae (Jordan & Seale, 1905)
ช่ือสามญั : ปลาสากดำ (Sawtooth barracuda)
ชื่อทอ้ งถนิ่ : ปลาสากดำ, ปลาหลหู ลู
ลกั ษณะเด่น: : ลำตัวเรยี วยาว และคอ่ นขา้ งกลม จะงอยปากกวา้ ง และยาว สว่ นตน้
ของแผ่นปิดเหงือกมีลักษณะโค้งมมน พื้นลำตัวสีเงิน ช่วงหลังสีเทาเข้ม หรือสีดำ
ลำตัวมีลายแถบสีดำพาดขวางชัดเจนเลยเส้นข้างตัวเล็กน้อย ครีบหลังมีสองตอน
ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 6 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 ก้าน และครีบก้น
ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 2 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 - 9 ก้าน ครีบมีสีเงินอม
เหลอื ง และดำ ครีบหางเปน็ แบบส้อม
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง วานูอาตู
และนวิ แคลิโดเนีย
แหลง่ ที่อยอู่ าศยั : บริเวณชายฝัง่
ขนาดเขา้ สู่วยั เจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 90 เซนติเมตร
263
Stromateidae
วงศ์ปลาจาระเม็ด
ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา
รูปร่างป้อมสั้น เกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ลำตัวแบนข้างมาก
จะงอยปากสั้นทู่ ปากเล็กยดื หดไม่ได้ ครีบหลังมีตอนเดยี ว โดยครีบหลังและครบี ก้น
มีความยาวของฐานเกือบเท่ากัน ปลาที่โตเต็มวัยไม่มีครีบท้อง ครีบหางเว้าลึกรูป
สอ้ ม (fork tail)
วิธที ำประมง: อวนลาก และเคร่ืองมือมอื ประเภทอวนติดตา ได้แก่ อวนจม
Mouth small, not Single dorsal fin
protractile Fork tail
No pelvic fin in
adults
ที่มา: Kimura et al. (2009)
264
Pampus argenteus (Euphrasen, 1788)
ช่อื สามัญ: ปลาจาระเม็ดขาว (Silver pomfret)
ชื่อทอ้ งถ่นิ : ปลาแปะ๊ เซยี ะ, ปลาบาหวายขาว,ปลาจาระเมด็ ขาว
ลกั ษณะเดน่ : : ลำตัวค่อนข้างไปทางป้อม จะงอยปากเล็ก และส้นั ชอ่ งเปดิ ของแผ่น
ปิดเหงือกเป็นช่องแคบเล็กๆ พื้นลำตัวสีเงิน ครีบหลังมตี อนเดยี ว ไม่มีก้านครีบแขง็
ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 37 - 43 ก้าน และครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบครีบ
ออ่ น 34 - 37 กา้ น ครีบมีสเี งนิ ปลายขอบครบี มีสีดำ ครบี หางเป็นแบบส้อมเวา้ ลึก
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย
ฮอกไกโด ทะเลเอเดรยี ตกิ เกาะฮาวาย
แหล่งท่อี ยู่อาศัย: บริเวณชายฝงั่
ขนาดเข้าสู่วัยเจริญพนั ธุ์: 25.3 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สดุ : 60 เซนติเมตร
265
Pampus chinensis (Euphrasen, 1788)
ชือ่ สามญั : ปลาจาระเม็ดเทา (Chinese silver pomfret)
ช่อื ทอ้ งถิ่น: ปลาเต๋าโต้ย, ปลาบาหวายเทา
ลักษณะเด่น: : ลำตวั คอ่ นข้างไปทางป้อม จะงอยปากเล็ก และสน้ั ชอ่ งเปดิ ของแผ่น
ปิดเหงือกเป็นช่องแคบเล็กๆ พื้นลำตัวสีเทาเข้ม ครีบหลังมีตอนเดียว ไม่มีก้านครีบ
แข็ง ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 43 - 50 ก้าน และครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบ
ครีบออ่ น 39 - 42 ก้าน ครีบมีสีเงนิ ปลายขอบครีบมสี ีดำ ครีบหางเป็นแบบส้อมเว้า
เพียงเล็กนอ้ ย
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามนั อนิ โด – แปซิฟกิ ฝัง่ ตะวันตก และอ่าวเปอรเ์ ซยี
แหล่งท่ีอยอู่ าศัย: บริเวณชายฝง่ั และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 40 เซนติเมตร
266
Synodontidae
วงศ์ปลาปากคม
ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา
ลําตัวเรียวยาวรูปทรงกระบอก ส่วนหน้าของลำตัวกลม แต่ส่วนท้ายของ
ลำตัวแบนข้างเล็กน้อย จะงอยปากแหลม มีฟันแหลมคมเรียงกันไม่เป็นระเบียบทวั่
ทง้ั ปาก มไี ขมันปกคลุมบรเิ วณเปลอื กตา มเี กล็ดแบบขอบเรยี บ (cycloid) ครีบหลัง
สองตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบอ่อน 10 – 15 ก้าน ตอนที่สองเป็นครีบไขมัน ครีบ
หางเวา้ ลกึ แบบสอม (fork tail)
วิธีทำประมง: เครือ่ งมืออวนลาก
Frist dorsal fin with soft ray Second dorsal fin with
10 – 15 small adipose fin
Adipose eyelid
Large mouth
with long jaws
ทีม่ า: Kimura et al. (2009)
267
Saurida undosquamis (Richardson, 1848)
ชื่อสามญั : ปลาปากคมจดุ (Brushtooth lizardfish)
ชอ่ื ท้องถิน่ : ปลาปากคมจดุ
ลักษณะเดน่ : : ลำตวั เรยี วยาว รปู ทรงกระบอก จะงอยปากแหลม และสั้น ขากรรไกร
ยาวเลยขอบตา พื้นลำตัวสีตาลอ่อน ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีลายจุดสีน้ำตาลเข้มอม
ดำ กระจายอยบู่ รเิ วณเหนือเส้นข้างตัว ประมาณ 8 – 10 จุด ครีบหลงั มีสองตอน ไม่
มีกา้ นครีบแข็ง ตอนแรกมกี า้ นครีบอ่อน 11 – 12 กา้ น ครบี ตอนทีส่ องเปน็ ครีบไขมัน
ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบครีบอ่อน 11 - 12 ก้าน ครีบมีสีขาวใส ครีบหางเป็น
แบบส้อม โดยขอบด้านบนของหางมจี ดุ สดี ำเลก็ ๆเรียงกนั เปน็ แนวยาว
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลอาราฟูรา และ
หมูเ่ กาะหลุยเซยี ด
แหลง่ ทอี่ ยูอ่ าศยั : บริเวณแนวหนิ หรือแนวปะการัง
ขนาดเข้าส่วู ัยเจรญิ พนั ธ์ุ: 19 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 50 เซนติเมตร
268
Trachinocephalus myops (Forster, 1801)
ชือ่ สามัญ: ปลาปากคมลาย (Snakefish)
ช่อื ทอ้ งถิ่น: ปลาปากคมลาย
ลกั ษณะเดน่ : : ลำตวั เรยี วยาว รปู ทรงกระบอก จะงอยปากแหลม และส้ัน ขากรรไกร
ยาวเลยขอบตา และงุม้ ลงด้านลา่ ง หลงั แผน่ ปิดเหงือกมีจุดสดี ำ พ้ืนลำตวั สตี าลอ่อน
ชว่ งท้องสีขาว ลำตวั มีแถบสีฟา้ สลับกับสีเหลืองพาดยาว ตั้งแต่แผ่นปดิ เหงือกจนถึง
คอดหาง ครีบหลังมีสองตอน ไม่มีก้านครีบแข็ง ตอนแรกมีก้านครีบอ่อน
11 – 14 ก้าน ครีบตอนที่สองเป็นครีบไขมัน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบครีบ
ออ่ น 13 - 18 ก้าน ครีบมีสีขาวใส ครบี หางสีเหลอื งใสเปน็ แบบสอ้ ม
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทร
แอตแลนตกิ และอา่ วเม็กซโิ ก
แหล่งที่อยูอ่ าศยั : บรเิ วณแนวหิน หรือแนวปะการัง
ขนาดเขา้ ส่วู ยั เจริญพนั ธ์ุ: 19 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 40 เซนติเมตร
269
Terapontidae
วงศ์ปลาตะเภา
ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา
ลำตวั คอ่ นข้างสน้ั และแบนขา้ ง จะงอยปากเล็ก และงุม้ ขึ้น ขอบขากรรไกร
ยาวถึงขอบด้านหน้าของตา บนแผ่นปิดเหงือกมีหนาม 2 ก้าน เกล็ดแบบขอบนอก
เปน็ หนามแหลม (ciliated scales) ครีบหลังมสี องตอนตดิ กนั โดยมีรอ่ งบากเป็นตัว
แยกระหว่างครีบ ประกอบด้วย กานครีบแข็ง 11 – 14 ก้าน และก้านครีบออน
8 – 14 ก้าน ครีบก้นประกอบด้วย ก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน
7 - 12 ก้าน ครีบท้องอยู่หลังฐานของครีบอกมีก้านครีบแข็ง 1 ก้าน และก้านครีบ
ออ่ น 5 ก้าน ครบี หางเปน็ แบบตดั ตรง (truncate tail)
วิธีทำประมง: อวนลาก เครอ่ื งมอื ประเภทอวนติดตา ได้แก่ อวนจม
Single dorsal fin with 11 – 14,
soft ray 8 - 14
2 opercular Truncate tail
spines
ทม่ี า: Kimura et al. (2009) Anal fin with 3, soft ray 7 - 12
270
Terapon jarbua (Forsskål, 1775)
ชอ่ื สามัญ: ปลาตะเภาข้างลายโค้ง (Jarbua terapon)
ชื่อทอ้ งถิ่น: ปลาสีแกว้
ลักษณะเด่น: : ลำตัวค่อนข้างป้อมสั้น จะงอยปากเล็ก และงุ้มขึ้น พื้นลำตัวสีเงิน
ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีแถบสีน้ำตาลเข้มอมดำโค้งเล็กน้อยพาดยาวตั้งแต่แผ่นปิด
เหงอื กจนถงึ ครบี หาง ครีบหลงั มสี องตอน มลี วดลายสีดำ ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
11 – 12 กา้ น และกา้ นครีบอ่อน 9 – 11 กา้ น ครบี กน้ ประกอบด้วยก้านครบี แข็ง 3
กา้ น และกา้ นครีบออ่ น 7 - 10 กา้ น ครบี มีสีขาวอมเหลอื งใส ครบี หางเปน็ แบบส้อม
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซิฟกิ ฝ่งั ตะวันตก ทะเลแดง ทะเลอารา
ฟรู า และหมู่เกาะลอรด์ ฮาว
แหลง่ ท่อี ยอู่ าศยั : บริเวณแนวชายฝัง่ และปากแม่น้ำ
ขนาดเข้าสู่วยั เจริญพันธ์ุ: 13 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 36 เซนติเมตร
271
Terapon puta (Cuvier, 1829)
ชอื่ สามัญ: ปลาตะเภาข้างลายเกลด็ เล็ก (Small scaled terapon)
ชอื่ ทอ้ งถนิ่ : ปลาสีแก้ว
ลักษณะเด่น: : ลำตัวค่อนข้างป้อมสั้น จะงอยปากเล็ก และงุ้มขึ้น พื้นลำตัวสีเงิน
ช่วงท้องสขี าว ลำตวั มแี ถบสีนำ้ ตาลเข้มอมดำพาดยาว 3 แถบ ตง้ั แต่แผ่นปิดเหงือก
จนถึงครีบหาง ครีบหลังมีสองตอน มีลวดลายสีดำ ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
11 – 12 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 – 11 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 - 10 ก้าน ครีบมีสีขาวอมเหลืองใส ครีบหางเป็นแบบ
สอ้ ม มีลายแถบตรงสีดำ ประมาณ 4 – 5 แถบ
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามนั อนิ โด – แปซฟิ กิ ฝั่งตะวันตก และทะเลเมดิเตอร์เร
เนียน
แหลง่ ทีอ่ ยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝ่ัง และปากแมน่ ำ้
ขนาดเขา้ สู่วัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 16 เซนติเมตร
272
Terapon theraps (Cuvier, 1829)
ชอ่ื สามัญ: ปลาตะเภาข้างลายเกล็ดใหญ่ (Largescaled terapon)
ช่อื ทอ้ งถ่นิ : ปลาออดแอด, ปลาสแี ก้ว
ลักษณะเด่น: : ลำตัวค่อนข้างป้อมสั้น จะงอยปากเล็ก และงุ้มขึ้น พื้นลำตัวสีเงิน
ชว่ งท้องสขี าว ลำตัวมแี ถบสนี ำ้ ตาลเขม้ อมดำพาดยาว 3 แถบ ตง้ั แตแ่ ผ่นปิดเหงือก
จนถึงครีบหาง ครีบหลังมีสองตอน มีลวดลายสีดำ ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
11 – 12 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 – 11 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 - 10 ก้าน ครีบมีสีขาวอมเหลืองใส ครีบหางเป็นแบบ
ส้อม มีลวดลายคลา้ ยคลน่ื สีดำ
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามนั อนิ โด – แปซิฟกิ ฝั่งตะวันตก ทะเลแดง ทะเลอารา
ฟูรา และหมู่เกาะลอรด์ ฮาว
แหลง่ ที่อย่อู าศยั : บรเิ วณแนวชายฝัง่ และปากแม่น้ำ
ขนาดเข้าส่วู ัยเจริญพนั ธุ์:
ขนาดความยาวสูงสุด: 30 เซนติเมตร
273
Tetraodontidae
วงศ์ปลาปักเป้าฟันสี่ซี่
ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา
รปู ร่างลําตวั มีทัง้ ป้อมสนั้ เรียวยาว ลำตวั คอ่ นขา้ งเกล้ยี ง มีเพยี งบางชนดิ ที่
มีหนามเล็กๆ ส่วนหัวมีขนาดใหญ่ และกลม จะงอยปากสั้นทู่คล้ายนกแก้ว ปากมี
ขนาดเล็ก ฟันมี 4 ซี่ ชองเปิดเหงือกมีขนาดเล็ก ครีบหลังไม่มีก้านครีบแข็ง มีก้าน
ครีบอ่อน 7 – 18 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน 7 – 18 ก้าน ครีบหางแบบตัดตรง
หรอื เวา้ เลก็ น้อย (truncate tail) หรือเปน็ แบบกลม (rounded tail)
วิธีทำประมง: ไม่ใช่สัตว์น้ำเศรษฐกิจ มักติดมาจากการทำประมงอวนลาก และ
เบด็ มอื
Usually, 4 teeth Single dorsal fin with Truncate tail
7 – 18 soft rays or rounded tail
Anal fin with 7 – 18 soft rays
Some species covered
in small scales
ทมี่ า: Kimura et al. (2009)
274
Lagocephalus sceleratus (Gmelin, 1789)
ชือ่ สามญั : ปลาปักเปา้ เหลอื ง (Silver-cheeked toadfish)
ชือ่ ทอ้ งถน่ิ : ปลาเปา้ เหลอื ง
ลกั ษณะเดน่ : : ลำตัวค่อนข้างเรยี วยาว จะงอยปากเล็ก ชว่ งหลังสีเขยี วมะกอก ส่วน
ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีแถบสีเงินพาดยาวตั้งแต่จะงอยปากจนถึงคอดหาง มีหนาม
เล็กๆบริเวณช่วงหลัง ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบอ่อน 10 – 13 ก้าน ครีบก้น
ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 8 - 12 ก้าน ครีบมีสีขาวอมเหลอื งใส ครีบหางเป็นแบบ
สอ้ ม
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก และทะเลเมดิเตอเร
เนียน
แหล่งทีอ่ ยอู่ าศัย: บริเวณแนวปะการัง และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเขา้ สู่วยั เจรญิ พันธ์ุ: 43 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 110 เซนตเิ มตร
275
Lagocephalus spadiceus (Richardson, 1845)
ชอื่ สามญั : ปลาปกั เป้าหลงั น้ำตาล (Half smooth golden pufferfish)
ช่ือท้องถิ่น: ปลาเป้าหลงั น้ำตาล
ลักษณะเด่น: : ลำตัวค่อนข้างเรียวยาว ขอบลำตัวด้านข้างมีสันยาวจนถึงคอดหาง
จะงอยปากเล็ก ช่วงหลังสีเหลืองอมเขียวมะกอก ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีแถบสีเงิน
พาดยาวตั้งแต่จะงอยปากจนถึงคอดหาง ช่วงบริเวณแก้มจนถึงครีบอกมีสีเหลือง
จางๆ มีหนามเล็กๆแผถ่ ึงบริเวณชว่ งกลางหลัง และท้อง ครีบหลงั มตี อนเดยี ว มกี ้าน
ครีบอ่อน 12 – 13 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 10 - 12 ก้าน ครีบมีสี
ขาวอมเหลอื งใส ครบี หางเป็นแบบส้อม
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามนั อินโด – แปซิฟกิ ฝ่งั ตะวันตก ทะเลเมดิเตอเรเนียน
ฝง่ั ตะวนั ออก ทะเลแดง แอฟรกิ าใต้ ออสเตรเลยี และทะเลอีเจยี น
แหล่งท่ีอยอู่ าศยั : บริเวณแนวปะการัง และปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ สูว่ ยั เจรญิ พนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 37.4 เซนติเมตร
276
Toxotidae
วงศ์ปลาเสือพ่นนำ้
ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยา
ลําตัวค่อนข้างป้อมสั้น และแบนข้าง ตากลมโต จะงอยปาก และปากมี
ขนาดใหญ่ สามารถยืดหดได้ ปลายขากรรไกรยื่นเลยหลังขอบตา มีเกล็ด บริเวณ
ส่วนบนหวั และแกม้ ครีบหลงั แบบเดย่ี วยาวจรดคอดหาง ประกอบด้วยก้านครบี แข็ง
4 - 5 ก้านและก้านครีบอ่อน 15 - 18 ก้าน ครีบก้นยาวจรดคอดหาง ประกอบด้วย
ก้านครีบแข็ง 3 ก้าน ก้านครีบอ่อน 15 - 18 ก้าน ครีบหางเป็นแบบหางตัดตรง
(truncate tail) สามารถพ่นนำ้ ได้สงู ถึง 1.5 เมตร จากผิวน้ำ
วิธีทำประมง: ไม่ใช่สัตว์น้ำเศรษฐกิจ มักติดมาจากการทำประมงประเภทอวนตดิ ตา
ได้แก่ อวนลอย
Single dorsal fin with 4 – 5,
soft ray 15 - 18
Truncate tail
A deep longitudinal Anal fin with 3, soft ray 15 - 18
groove on roof of mouth 277
ทม่ี า: Kimura et al. (2009)
Toxotes chatareus (Hamilton, 1822)
ชื่อสามัญ: ปลาเสือพ่นนำ้ (Spotted archerfish)
ชอ่ื ท้องถ่ิน: ปลาเสือพน่ นำ้ , ปลาเสือตอ, ปลาสม้ เปด
ลักษณะเดน่ : : ลำตัวค่อนข้างป้อมสัน้ และแบนข้าง ส่วนหวั แหลม ลำตัวสีเงิน ช่วง
หลังสีเหลืองอมเขียว และมีลายจุดสีดำกลม ประมาณ 3 – 5 จุด ช่วงท้องสีขาว
ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 5 – 6 ก้าน และก้านครีบอ่อน
12 – 13 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน
15 - 17 ก้าน ครบี มีสขี าวใสปลายของครบี หลัง และครีบก้นมีสีดำ ครีบหางสีขาวใส
เปน็ แบบตดั ตรง
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซฟิ กิ ฝง่ั ตะวันตก
แหลง่ ท่ีอย่อู าศัย: บริเวณนำ้ กร่อยปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ สู่วยั เจรญิ พนั ธุ์: 20 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 40 เซนติเมตร
278
Trichiuridae
วงศป์ ลาดาบเงนิ
ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา
ลาํ ตัวยาว และแบนข้าง รปู รา่ งคลา้ ยรบิ บน้ิ สว่ นทา้ ยของลำตัวลดรูปจนมี
ขนาดเล็กยาวคล้ายแส้ ขอบด้านล่างของกระดูกปิดเหงือกเว้าเข้า ขากรรไกรล่าง
ยาวกว่าขากรรไกรบน ฟันในปากมลี ักษณะเป็นเขี้ยว ครีบท้องลดรปู จนมขี นาดเลก็
บางชนิดไม่มีครีบท้อง ครีบหางมีทั้งแบบส้อม (fork tail) และแบบท่ีลดรูปจนมี
ลกั ษณะคลา้ ยแส้ ครบี หลงั ตอนเดยี วยาว ครีบอกมขี นาดเล็กและสั้น
วธิ ีทำประมง: อวนลาก
Spinous part of Soft part of
dorsal fin dorsal fin
Fork tail
Pectoral fins small caudal fin tapering
to a point
Anal fin often reduced
Pelvic fins absent or reduced
ที่มา: Kimura et al. (2009)
279
Eupleurogrammus muticus (Gray, 1831)
ชื่อสามัญ: ปลาดาบเงนิ หางสน้ั (Smallhead hairtail)
ช่ือทอ้ งถ่นิ : ปลาดาบเงินหางส้ัน
ลักษณะเดน่ : : ลำตัวยาว และแบนข้าง ส่วนหัวใหญ่ ขากรรไกรยืน่ ออกมาด้านหน้า
ไม่มีฟันเขี้ยวบริเวณขากรรไกรล่าง ขอบของ subopercle นูนออกมาลักษณะโค้ง
เหมือนเกล็ด ลำตัวสีเงิน ช่วงหลังสีเทาเข้ม ไม่มีครีบท้อง ครีบอกเมื่อยื่นออกมามี
ความสูง และยาวเลยเส้นข้างตัว ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
3 ก้าน โดยก้านครีบแข็งอันแรกมีขนาดเล็กมาก และก้านครีบอ่อน 140 ก้าน ครีบ
ก้นลดรูปเหลือเปน็ กา้ นครีบเดี่ยวแยกออกจากกัน ครีบหางลดรปู จนมีลักษณะคลา้ ย
แส้ยาวมาก ครบี มีสีขาวใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย และ
คาบสมุทรเกาหลีใต้
แหลง่ ทอี่ ย่อู าศัย: บรเิ วณชายฝ่งั
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 87 เซนติเมตร
280
Trichiurus lepturus (Linnaeus, 1758)
ช่อื สามญั : ปลาดาบเงนิ ใหญ่ (Spotted archerfish)
ชื่อทอ้ งถนิ่ : ปลาดาบเงินใหญ่
ลักษณะเดน่ : : ลำตัวยาว และแบนขา้ ง ส่วนหัวใหญ่ ขากรรไกรยืน่ ออกมาด้านหนา้
มีฟันเขี้ยวขนาดใหญ่บริเวณขากรรไกรบน ลำตัวสีเงิน ช่วงหลังสีเทาเข้ม ไม่มีครีบ
ท้อง ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน โดยก้านครีบแข็งอัน
แรกมีขนาดเล็กมาก และก้านครีบอ่อน 130 – 135 ก้าน ครีบก้นลดรูปเหลือเป็น
ก้านครีบเดี่ยวแยกออกจากกัน ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 100 - 105 ก้าน ครีบ
หางลดรปู จนมีลักษณะคลา้ ยแสย้ าวมาก ครบี มสี ขี าวใส
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามนั อนิ โด – แปซิฟกิ ฝ่งั ตะวันตก
แหล่งทีอ่ ยู่อาศยั : บรเิ วณชายฝง่ั
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: 50.6 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 234 เซนติเมตร
281
ขอ้ มลู สถำนะภำพชนิดพนั ธป์ ุ ลำท่ีถกู
คกุ คำมของไทย
(Thailand red data)
ขอ้ มูลสถานะภาพปลาท่ีถูกคุกคามนี้ได้มีการอา้ งอิงตาม
IUCN red list
สหภาพสากลเพอื่ การอนุรกั ษธ์ รรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติ
Thailand red data
สำนักงานนโยบาย และแผนทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม
สถานะภาพของชนิดพันธส์ุ ามารถแบ่งไดต้ ามเกณฑ์ ดงั นี้
Extinct (EX) หมายถงึ สญู พันธ์ุ
Critically Endangered (CR) หมายถงึ เสยี่ งใกลส้ ูญพนั ธุ์อยา่ งย่งิ
Endangered (EN) หมายถงึ ใกล้สญู พนั ธ์ุ
Vulnerable (VU) หมายถึง มีแนวโนม้ ใกลส้ ญู พนั ธ์ุ
Near Threatened (NT) หมายถึง ถกู คุกคาม
Least Concern (LC) หมายถงึ ยงั ไมม่ ีความเส่ียงตอ่ การสญู พนั ธ์ุ
Data Deficient (DD) หมายถึง ยังไม่พบข้อมลู
282
27
274
274
274