The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สารานุกรมที่รวบรวมชนิดปลาจากการทำประมงบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ประเทศไทย จากทั้งประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ ในสารานุกรมนี้จะบอกถึงชนิดปลา รวมทั้งชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ชื่อท้องถิ่นที่ชาวประมงทางภาคใต้เรียก รวมถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละชนิ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Yok Pongsuwan, 2022-06-27 08:17:07

ปลาทะเลจากการทำประมงบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ประเทศไทย

สารานุกรมที่รวบรวมชนิดปลาจากการทำประมงบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ประเทศไทย จากทั้งประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ ในสารานุกรมนี้จะบอกถึงชนิดปลา รวมทั้งชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ชื่อท้องถิ่นที่ชาวประมงทางภาคใต้เรียก รวมถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละชนิ

Lactarius lactarius (Bloch & Schneider, 1801)

ชื่อสามญั : ปลาใบขนุน (False trevally)
ชอ่ื ท้องถน่ิ : ปลาใบหนุน, ปลาอังนำฮ้อื , ปลาองั น้มั
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา บริเวณหลังมีสสีเงินอมน้ำเงิน ช่วงท้องสีขาว
นัยนต์ าโต ปากกวา้ ง ริมฝีปากหนา ปลายขากรรไกรยาวจนถงึ ขอบตาหลงั หลงั แผน่
ปดิ เหงอื กมจี ดุ สดี ำจางๆ ครีบหลังมีสองตอน ประกอบดว้ ยก้านครบี แข็ง 8 – 9 ก้าน
และก้านครีบอ่อน 20 – 22 ก้าน ก้านครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน
และกา้ นครีบอ่อน 25 – 28 กา้ น ครีบทุกครีบมีสเี ทาอมดำ
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามนั อนิ โด – แปซิฟกิ ฝ่งั ตะวนั ตก และออสเตรเลยี
แหล่งที่อยอู่ าศยั : บริเวณแนวชายฝั่ง
ขนาดเข้าสูว่ ัยเจรญิ พันธุ์: 15 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 40 เซนติเมตร

137

Latidae

วงศ์ปลากะพงขาว

ลักษณะทางสัณฐานวิทยา

ลำตัวเรยี วยาวคอ่ นข้างหนา จะงอยปากยาว ขากรรไกรบนยาวเลยขอบตา
และแหลมครีบหลังมีสองตอน ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 7 – 9 ก้าน และก้านครบี
อ่อน 10 – 11 ก้าน ก้านครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบ
อ่อน 7 – 8 ก้าน เป็นปลาน้ำกร่อย เกล็ดใหญ่มีขอบหยักเป็นหนาม (ctenoid) เมื่อ
ลบู จะสากมือ ครบี หางเป็นแบบหางกลม (rounded tail)
วิธีทำประมง: อวนลาก

2 Dorsal fins with 7 - 9 and 10 – 11 soft rays

upper jaw extending Rounded tail
behind the eyes

Anal fin with 3 and 7 – 8 soft rays

ทม่ี า: Kimura et al. (2009)

138

Lates calcarifer (Bloch, 1790)

ชอื่ สามญั : ปลากะพงขาว (Barramundi)
ชื่อท้องถิ่น: ปลาจอ้ โลว๊ , ปลาพงขาว
ลกั ษณะเด่น: ลำตัวสเี งินอมเทา บริเวณหลังมสี ีเงนิ อมน้ำเงนิ ชว่ งท้องสีขาว นยั น์ตา
โต ปากกวา้ งยดื หดได้ จะงอยปากยาว ขอบกระดูกแก้มเปน็ หนามแหลม ขอบกระดกู
บริเวณเหงือกแข็งและคม ครีบหลังมีสองตอน ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
7 – 9 กา้ น และกา้ นครบี อ่อน 10 – 11 ก้าน ก้านครีบกน้ ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
3 ก้าน และกา้ นครบี อ่อน 7 – 8 ก้าน ครบี ทุกครีบมีสเี ทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย ปาปัว
นวิ กนิ ี และทางเหนอื ของออสเตรเลีย
แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศยั : บริเวณปากแม่นำ้ แนวชายฝ่ัง และแนวปะการัง
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 200 เซนตเิ มตร

139

Leiognathidae

วงศ์ปลาแป้น

ลักษณะทางสัณฐานวิทยา

ลำตัวเป็นรูปไข่ แบนข้าง ตำแหน่งปากอยู่สูงเกือบถึงตำแหน่งของดวงตา
ครีบหลังมีตอนเดียว เป็นก้านครีบแข็ง 7 - 9 ก้าน เชื่อมต่อกับครีบอ่อน
14 - 17 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้านด้านหน้าและครีบอ่อน 13 - 14 ก้าน
ครีบหางเว้าลกึ เปน็ หางรูปส้อม (fork tail) มีเกล็ดแบบขอบนอกเรียบ (cycloid) ที่
บริเวณส่วนหัว ในแต่ทบี่ ริเวณของลำตัวเปน็ เกลด็ แบบขอบหนาม (ctenoid)
วธิ ีทำประมง: เครือ่ งมืออวนลอ้ ม เคร่อื งมืออวนครอบปลากะตกั

Single dorsal fin with 7 – 9, soft rays 14 - 17

Head usually Fork tail
naked

Mouth highly
protrusible

Anal fin with 3, soft rays 13 - 14

ทีม่ า: Kimura et al. (2009)

140

Gazza minuta (Bloch, 1795)

ชอื่ สามญั : ปลาแป้นเข้ียว (Toothpony)
ชอื่ ทอ้ งถน่ิ : ปลาแป้นเขย้ี ว
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงิน บริเวณหลังมีสีน้ำเงินมีลายสีน้ำตาล ช่วงท้องสีขาว ส่วน
หัวไม่มีเกล็ด นัยน์ตาโต ปากกว้างยืดหดได้ โดยเมื่อยืดออกมาจะงอยปากยาวชี้ขนึ้
ด้านบน มีเขี้ยวทัง้ ปากดา้ นบนและล่าง ครีบหลังมีตอนเดยี ว ประกอบด้วยก้านครบี
แข็ง 8 ก้าน และก้านครีบอ่อน 15 – 17 ก้าน ส่วนหน้าของก้านครีบก้นมีสีเหลือง
ประกอบดว้ ยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 13 – 14 ก้าน ที่ฐานครีบอกมี
รอยสีน้ำเงนิ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
หมเู่ กาะรวิ กวิ และชายฝ่ังแอฟริกาตะวนั ออก
แหลง่ ทีอ่ ยูอ่ าศัย: บรเิ วณแนวชายฝั่ง
ขนาดเขา้ สูว่ ยั เจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 21 เซนติเมตร

141

Leiognathus equulus (Forsskål, 1775)

ชอ่ื สามัญ: ปลาแป้นใหญ่ (Common ponyfish)
ช่ือท้องถิ่น: ปลาแป้นยักษ์
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา บริเวณหลังมีสสีเงินอมน้ำเงินสีลายสีเทาจางๆเป็น
เส้นยาวลงมาเลยขอบเส้นข้างตัวเล็กน้อย ช่วงท้องสีขาว นัยน์ตาโต ปากกว้างยืด
หดได้ โดยเมื่อยืดออกมาจะงอยปากยาวชีล้ งด้านลา่ ง ครีบหลงั มีตอนเดียว โดยช่วง
ต้นของครีบมีสีเหลือง ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 8 ก้าน และก้านครีบอ่อน
15 – 17 กา้ น ครบี กน้ มีก้านครบี แขง็ 3 ก้าน และก้านครบี ออ่ น 13 – 14 กา้ น ครบี
ทุกครีบมีสีขาวใส แต่ช่วงตอนต้นของครบี หางมสี เี หลือง
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง อ่าว
เปอร์เซีย หมูเ่ กาะรวิ กวิ และแอฟริกาตะวันออก
แหลง่ ท่ีอยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝง่ั
ขนาดเข้าสูว่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: 10.7 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 28 เซนติเมตร

142

Deveximentum insidiator (Bloch, 1787)

ชอื่ สามัญ: ปลาแป้นปากหมู (Pugnose ponyfish)
ชอ่ื ท้องถน่ิ : ปลาแป้นปากหมู
ลกั ษณะเด่น: ลำตวั สีเงนิ อมเทา บรเิ วณหลงั มีสีเงนิ อมน้ำเงิน มีลายสีดำเป็นจุดคล้าย
วงรีกระจายลงมาเลยขอบเส้นข้างตัวเล็กน้อย ช่วงท้องสีขาว นัยน์ตาโต ปากกว้าง
ยืดหดได้ โดยเมื่อยืดออกมาจะงอยปากยาวชี้ขึ้นด้านบน ส่วนหัวและแก้มไม่มีเกล็ด
ครีบหลังมีตอนเดียว โดยปลายของครีบมีสีดำ ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 8 ก้าน
และก้านครีบอ่อน 16 ก้าน ครีบก้น มีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน
14 กา้ น ครีบทุกครบี มีสขี าวใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง อ่าว
เปอร์เซีย และแอฟริกาตะวนั ออก
แหลง่ ที่อย่อู าศัย: บริเวณแนวชายฝ่ัง
ขนาดเขา้ ส่วู ยั เจรญิ พันธุ์: 7.5 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 11.3 เซนตเิ มตร

143

Lethrinidae

วงศป์ ลาจกั รพรรดิ

ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา

ลำตวั แบบป้อมถึงค่อนข้างยาว คล้ายกับปลากะพง จะงอยปากแหลม ปาก
เสมอกันแบบ terminal mouth ปากกว้างริมฝีปากหนามีเขี้ยวแหลมที่ขากรรไกร
เกล็ดเปน็ แบบทมี่ ขี อบหลังหนาม (ctenoid) แต่บรเิ วณหัวไม่มีเกลด็ มคี รบี หลังตอน
เดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 – 9 ก้าน ครีบหาง
ใหญเ่ ว้าตรงกลางเพยี งเล็กน้อย เหมอื นเสย้ี วพระจนั ทร์ (lunate tail)
วิธีทำประมง: เครือ่ งมอื อวนลาก เคร่ืองมือลอบปลา และเครอ่ื งมือเบ็ดมอื

Single dorsal fin with 10, soft rays 8 - 9

Strong canines Lunate tail
at front of jaws

Mouth terminal
with thick lip

ท่ีมา: Kimura et al. (2009)

144

Gymnocranius griseus (Temminck & Schlegel, 1843)

ชอื่ สามัญ: ปลาอคี ดุ บั้ง (Grey large-eye bream)
ชอ่ื ท้องถิน่ : ปลาตะมะแก้ว
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา ลำตัวมีลายสีดำพาดขวางยาวต้ังแต่สว่ นหัวถงึ คอด
หาง ประมาณ 5 – 6 แถบ นัยน์ตาโต ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบ
แข็ง 10 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 - 10 ก้าน ครีบก้น มีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และ
กา้ นครีบออ่ น 9 - 10 กา้ น
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามนั อินโด – แปซิฟิกฝง่ั ตะวันตก และทะเลทางใต้ของ
ญ่ีปนุ่
แหล่งท่อี ยอู่ าศัย: บริเวณแนวชายฝัง่
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธุ์: 35 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 11.3 เซนติเมตร

145

Lethrinus lentjan (Lacepède, 1802)

ช่ือสามัญ: ปลาหมูสีแกม้ แดง (Grey large eye bream)
ชอื่ ทอ้ งถน่ิ : ปลาตะมะ
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทา มีแถบสีแดงหลังแผ่นปิดเหงือก ริมฝีปากหนา แต่ปาก
คอ่ นข้างเล็ก ครีบหลงั มีตอนเดยี ว ประกอบดว้ ยก้านครบี แข็ง 10 ก้าน และก้านครีบ
อ่อน 9 ก้าน ครีบก้น มีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบอกมีสี
เหลืองใสอมส้ม ครบี หางสีเทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
อ่าวเปอร์เซีย และหมู่เกาะริวกวิ
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศยั : บริเวณแนวชายฝง่ั และแนวปะการัง
ขนาดเข้าสูว่ ัยเจริญพันธุ์: 27.7 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 52 เซนติเมตร

146

Lethrinus olivaceus (Valenciennes, 1830)

ชื่อสามัญ: ปลาหมูสีหนา้ ยาว (Longface emperor)
ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ : ปลาตะมะหัวเสีย้ ม, ปลาโช๊ะ, ปลาตะมะปากแหนบ
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทา ท้องสีขาว จะงอยปากยื่นยาว มี ริมฝีปากหนา แต่ปาก
คอ่ นข้างเล็ก ลำตัวมรี อยด่างจางๆสดี ำกระจายทวั่ ลำตวั บรเิ วณฐานครีบอกไม่เกล็ด
ปกคลุม มีแถบสีแดงตรงกลางกระดูกแผ่นปิดเหงือก ครีบหลังมีตอนเดียวสีเทาอม
ชมพู ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และก้านครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบก้น มีก้าน
ครีบแขง็ 3 กา้ น และก้านครบี ออ่ น 8 ก้าน ครบี อกมสี ีเหลืองใสอมสม้ ครีบหางสีเทา
อมชมพู
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง และ
หมเู่ กาะริวกวิ
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศยั : บริเวณแนวชายฝั่ง พื้นทอ้ งนำ้ แนวปะการัง และกองหนิ ใต้น้ำ
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 100 เซนติเมตร

147

Lobotidae

วงศป์ ลากะพงดำ

ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา

ส่วนหัวใหญ่ ลำตัวแบน และค่อนข้างลึก ปากกว้างเฉียงขึ้นด้านบน
บริเวณแผ่นปิดเหงือกมีหนามแหลม เกล็ดเป็นแผ่นหนาแบบ ctenoid ครีบหลังมี
ตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 11 – 13 ก้าน และก้านครีบอ่อน 13 – 16
ก้าน ครบี ก้นมีก้านครบี แข็ง 3 กา้ น ครีบหางแบบกลม (rounded tail)
วธิ ีทำประมง: ลอบปลา

Single dorsal fin with 11 – 13,
soft rays 13 - 16

Rounded tail

Opercular spines

ทม่ี า: Kimura et al. (2009)

148

Lobotes surinamensis (Bloch, 1790)

ชอ่ื สามญั : ปลากะพงดำ (Tripletail)
ชื่อทอ้ งถ่ิน: ปลาพงดำ, ปลาพงหนิ , ปลาหมอ้ แตก
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทาอมเหลือง หรืออมน้ำตาล ส่วนหัวใหญ่ และสั้น ริมฝีปาก
หนา ปากเฉยี งขึ้นดา้ นบน ครบี หลงั มีตอนเดียว มีครบี แขง็ 11 – 13 กา้ น และก้าน
ครีบอ่อน 13 – 16 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน
11 – 12 ก้าน ครีบทุกครีบมีสีดำ คอดหางขนาดใหญ่ หางแบบกลม
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทร
แอตแลนติก หมเู่ กาะฟอล์คแลนด์ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ช่องแคบยิบรอลตาร์ และ
ทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนียน
แหลง่ ที่อยอู่ าศยั : บริเวณแนวชายฝั่ง พน้ื ท้องนำ้ แนวปะการงั และโขดหนิ ใต้นำ้
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 110 เซนตเิ มตร

149

Lutjanidae

วงศป์ ลากะพงแดง

ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา

ส่วนหัวใหญ่ ปากกว้างและยาวริมฝีปากหนา ฟันมีลักษณะเล็กแหลมคม
เกล็ดเป็นแผ่นหนาม (ctenoid) ครีบหลังยาวต่อเนื่องไปจนถึงโคนหาง ครีบหลัง
ประกอบด้วยก้านครีบแขง็ 10 - 12 ก้าน ครีบอ่อน 10 - 19 ก้าน ครีบก้นมกี ้าน
ครีบแข็ง 3 ก้านด้านหน้าและครีบอ่อน 7 - 11 ก้าน ครีบหางพบได้ทั้งแบบหางตัด
ตรง (truncate tail) และหางเว้าลกึ (fork tail)
วิธีทำประมง: อวนลาก ลอบปลา และเบด็ มือ

Preopercle scaled Single dorsal fin with 10 – 12,
soft rays 10 - 19

Truncate tail or fork
tail

Snout and Anal fin with 3, soft rays 7 - 11
lachrymal naked

ทม่ี า: Kimura et al. (2009)

150

Lutjanus argentimaculatus (Forsskål, 1775)

ชอ่ื สามัญ: ปลากะพงแดง (Mangrove red snapper)
ช่อื ทอ้ งถน่ิ : ปลาพงแดง, ปลาพงแหม
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีแดงเกือบแดงสด ท้องสีชมพู ส่วนหัวแหลมยาว ริมฝีปากหนา
ในปากมีฟันเขี้ยว 2 ซี่ คอดหางขนาดใหญ่ ครีบหลังมีตอนเดียวสีแดงอมน้ำตาล
ประกอบด้วยกา้ นครีบแข็ง 10 ก้าน และกา้ นครบี อ่อน 13 - 14 ก้าน ครบี กน้ มีก้าน
ครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบอกมีสีแดงใส ครีบหางสีแดงอม
นำ้ ตาล
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลเมดิเตอร์เร
เนียนฝ่ังตะวนั ออก คลองสเุ อซ และหมู่เกาะริวกวิ
แหล่งทอี่ ย่อู าศยั : บริเวณพืน้ ท้องน้ำแนวชายฝัง่ แนวปะการัง และโขดหินใต้น้ำ
ขนาดเข้าส่วู ัยเจรญิ พนั ธุ์: 57 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 150 เซนติเมตร

151

Lutjanus johnii (Bloch, 1792)

ช่อื สามัญ: ปลากะพงเกล็ดห่าง หรือ กะพงสีทอง (John's snapper)
ชอ่ื ท้องถิ่น: ปลาอั่งเกย, ปลาล้นิ หนา
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีน้ำตาลอมเหลือง หรือส้ม ท้องสีขาว มีเส้นสีน้ำตาลพาดตั้งแต่
หลังแผ่นปิดเหงือกจนถึงคอดหาง บริเวณหลังมีรอยลักษณะรูปไข่สีดำจางๆ 1 จุด
ส่วนหัวแหลมยาว ริมฝีปากหนา ในปากมีฟันเขี้ยว 2 ซี่ คอดหางขนาดใหญ่ ครีบ
หลังมีตอนเดียวสีแดงอมน้ำตาล ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และก้านครีบ
อ่อน 13 - 14 ก้าน ครีบก้น มีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบ
อกและครีบท้องสชี มพูอมเหลอื ง ส่วนครีบอน่ื ๆสีเหลืองขาวใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซิฟิกฝงั่ ตะวนั ตก และหม่เู กาะรวิ กวิ
แหลง่ ที่อยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝง่ั และแนวปะการงั
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 97 เซนติเมตร

152

Lutjanus lemniscatus (Valenciennes, 1828)

ชื่อสามัญ: ปลากะพงนำ้ ตาล (Yellowstreaked snapper)
ชือ่ ทอ้ งถ่นิ : ปลาพงแหม
ลกั ษณะเด่น: ลำตัวสนี ้ำตาลแดงอมเหลอื ง หรอื สม้ ท้องสขี าว ส่วนหัวแหลมยาว รมิ
ฝีปากหนา ในปากมีฟันเขย้ี ว 2 ซ่ี คอดหางขนาดใหญ่ และมีรอยสดี ำจางๆ ครบี หลัง
มีตอนเดียวสีน้ำตาล ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และก้านครีบอ่อน
13 - 14 ก้าน ครบี กน้ มีก้านครีบแข็ง 3 กา้ น และกา้ นครีบอ่อน 8 กา้ น ครบี อกและ
ครีบท้องสีชมพูอมเหลือง ครีบหางสีน้ำตาลอมดำ ในวัยเด็ก (juvenile) จะมีแถบสี
ดำขอบสขี าวพาดยาวตั้งแต่สว่ นหัวจนถึงคอดหาง
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามนั อินโด – แปซฟิ ิกฝ่ังตะวนั ตก และหมู่เกาะริวกิว
แหล่งที่อยู่อาศัย: บริเวณพื้นท้องน้ำแนวชายฝั่ง แนวปะการัง และโขดหินใต้น้ำ
ขนาดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 65 เซนติเมตร

153

Lutjanus lutjanus (Bloch, 1790)

ชอื่ สามัญ: ปลากะพงขา้ งเหลือง (Bigeye snapper)
ช่อื ท้องถนิ่ : ปลาพงเหลือง
ลักษณะเดน่ : ลำตัวสีชมพูอมเหลือง มีเส้นสีน้ำตาลออ่ นพาดยาวตัง้ แต่ตาจนถึงคอด
หาง ด้านล่างเส้นสีน้ำตาลมีเส้นสีเหลืองเล็กๆ ประมาณ 8 – 9 แถบ ช่วงหลังสี
เหลืองทอง ท้องสีขาว ริมฝปี ากหนา นัยน์ตาโต คอดหางขนาดใหญ่ ครีบหลังมีตอน
เดียวสีเหลืองใส ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 - 12 ก้าน และก้านครีบอ่อน
12 ก้าน ครีบก้นสีเหลืองใส มีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบ
อกสีขาวใส ครบี ท้อง ครบี หางสีเหลืองใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก หมู่เกาะโซโลมอน
ทางตอนเหนอื และตอนใตข้ องญ่ีป่นุ
แหลง่ ท่ีอย่อู าศยั : บริเวณพน้ื ทอ้ งนำ้ แนวชายฝ่ัง แนวปะการงั และโขดหินใตน้ ำ้
ขนาดเข้าส่วู ยั เจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 35 เซนติเมตร

154

Lutjanus russellii (Bleeker, 1849)

ชื่อสามญั : ปลากะพงข้างปาน (Russell's snapper)
ชอ่ื ทอ้ งถนิ่ : ปลามนั เหลืองขา้ งไฝ, ปลาพงข้างปาน
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีชมพูอมขาว มีเส้นสีเหลืองเล็กๆ พาดยาวตั้งแต่ตาจนถึงคอด
หาง ประมาณ 7 – 8 แถบ และมีรอยสีดำรปู ไข่ 1 จดุ ช่วงหลงั สีชมพเู ข้ม ทอ้ งสีขาว
ริมฝีปากหนา นัยน์ตาโต คอดหางขนาดใหญ่ ครีบหลังมีตอนเดียวสีเหลืองใส
ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และก้านครีบอ่อน 14 ก้าน ครีบก้นสีเหลืองใส
มีกา้ นครบี แข็ง 3 กา้ น และก้านครบี ออ่ น 8 ก้าน ครีบอกสขี าวใส ครบี ทอ้ ง ครีบหาง
สีเหลอื งใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก หมู่เกาะโซโลมอน
ทางตอนเหนอื และตอนใต้ของญี่ปนุ่
แหล่งท่อี ยอู่ าศยั : บรเิ วณพนื้ ท้องน้ำแนวชายฝัง่ แนวปะการงั และโขดหนิ ใต้น้ำ
ขนาดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 35 เซนติเมตร

155

Lutjanus quinquelineatus (Bloch, 1790)

ชื่อสามญั : ปลากะพงข้างปานแถบฟา้ (Five lined snapper)
ช่ือทอ้ งถน่ิ : ปลามนั เหลืองลายโสด
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเหลืองอมชมพู และขาว มีเส้นสีฟ้าอ่อนเล็กๆ พาดยาวตั้งแต่
จะงอยปากจนถงึ คอดหาง ประมาณ 5 – 6 แถบ และมีรอยสดี ำรูปไข่ 1 จุด ชว่ งหลงั
สีเหลืองเข้ม ท้องสีขาว ริมฝีปากหนา นัยน์ตาโต คอดหางขนาดใหญ่ ครีบหลังมี
ตอนเดียวสีเหลืองใส ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และก้านครีบอ่อน
13 - 15 ก้าน ครีบก้นสีเหลืองใส มีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 8 ก้าน
ครีบอก ครีบท้อง และครีบหางสีเหลืองใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย และ
ทะเลโอมาน
แหลง่ ทีอ่ ยอู่ าศัย: บริเวณพื้นทอ้ งนำ้ แนวชายฝัง่ แนวปะการัง และโขดหินใต้นำ้
ขนาดเขา้ สู่วยั เจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 38 เซนติเมตร

156

Lutjanus vitta (Quoy & Gaimard, 1824)

ชื่อสามญั : ปลากะพงเหลอื งขมิ้น (Brownstripe red snapper)
ชื่อทอ้ งถิน่ : ปลามนั เหลืองข้ีม้นิ , ปลาขา้ งแถว
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเหลืองอมขาว ช่วงหัวสีชมพู ช่วงหลังสีเหลืองเข้ม มีเส้นสี
น้ำตาลจางๆ พาดยาวตั้งแต่แผน่ ปิดเหงือกจนถึงคอดหาง มลี ายสเี สน้ สดี ำพาดขวาง
จากโคนครีบหลังจนถึงเส้นข้างตวั โดยพาดขวางต้ังแต่หลังแผ่นปิดเหงือกจนถงึ คอด
หาง ท้องสีขาว ริมฝปี ากหนา ในปากมฟี ันเขี้ยว 2 ซี่ นัยน์ตาโต คอดหางขนาดใหญ่
ครีบหลังมีตอนเดียวสีเหลืองใส ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และก้านครีบ
อ่อน 12 - 14 ก้าน ครีบก้นสีเหลืองใส มีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน
8 - 9 ก้าน ครีบอก ครีบท้อง และครบี หางสเี หลอื งใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามนั อินโด – แปซิฟกิ ฝั่งตะวนั ตก หมูเ่ กาะริวกวิ นิวแค
ลโิ ดเนีย และหม่เู กาะกิลเบิรต์
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศัย: บริเวณพนื้ ทอ้ งน้ำแนวชายฝ่ัง แนวปะการงั และโขดหนิ ใตน้ ้ำ
ขนาดเข้าสูว่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: 15.4 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 40 เซนติเมตร

157

Lutjanus xanthopinnis (Iwatsuki, Tanaka & Allen, 2015)

ช่ือสามัญ: ปลากะพงเหลอื ง (Yellowfin snapper)
ชอ่ื ท้องถิ่น: ปลามันเหลือง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเหลืองอมชมพู มีเส้นเหลืองเข้ม พาดยาวตั้งแต่ตาจนถึงคอด
หาง ด้านล่างเส้นสีน้ำตาลมีเส้นสีเหลืองเล็กๆ ช่วงหลังสีเหลืองเข้ม มีลายสีเส้นสี
เหลืองพาดขวางจากโคนครีบหลังจนถึงเสน้ ขา้ งตัวโดยพาดขวางต้ังแตห่ ลังแผ่นปิด
เหงือกจนถึงคอดหาง ท้องสีเหลืองอ่อน ริมฝีปากหนา นัยน์ตาโต คอดหางขนาด
ใหญ่ ครีบหลังมีตอนเดียวสีเหลืองใส ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และก้าน
ครีบอ่อน 13 - 15 ก้าน ครบี ก้นสเี หลอื งใส มีก้านครบี แข็ง 3 ก้าน และกา้ นครีบออ่ น
8 กา้ น ครบี อก ครีบท้อง และครีบหางสีเหลอื งใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามนั อนิ โด – แปซิฟิกฝง่ั ตะวนั ตก
แหล่งทีอ่ ย่อู าศยั : บรเิ วณพนื้ ทอ้ งนำ้ แนวชายฝงั่ แนวปะการงั และโขดหินใต้น้ำ
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: -

158

Menidae

วงศ์ปลาพระจันทร์

ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา

ลำตัวแบน และกว้างมาก ส่วนหัวเล็ก จะงอยปากเล็ก ฟันมีลักษณะเล็ก
แหลมคม ขากรรไกรยื่นเล็กน้อย ครีบหลังตอนเดียวโดยท่ีตอนหน้ายกสูงเลก็ น้อย มี
ก้านครีบแข็ง 3 – 4 ก้าน และก้านครีบอ่อน 40 – 45 ก้าน ครีบก้นเป็นเส้นยาว
คล้ายแสไ้ มม่ ีก้านครบี แข็ง มกี า้ นครบี อ่อน 30 – 33 กา้ น หางเวา้ ลึกแบบสอ้ ม (fork
tail)
วิธีทำประมง: ไมใ่ ชส่ ตั ว์นำ้ เศรษฐกิจ มกั ตดิ มาจากการทำประมงอวนลาก

Single dorsal fin and fin long and low
with 3 – 4, soft rays 40 - 45
Upper jaw protrusile

Fork tail

ทมี่ า: Kimura et al. (2009) anal fin very long-
based, commencing at
point of insertion of
pelvic fins, soft rays 30
- 33
159

Mene maculata (Bloch & Schneider, 1801)

ชื่อสามัญ: ปลาพระจันทร์ (Moonfish)
ชื่อท้องถนิ่ : ปลาแป้นเศรษฐี, ปลามดี โต,้ ปลาอีโต้
ลักษณะเดน่ : ลำตวั สีเงนิ ชว่ งหลังสีน้ำเงิน และมจี ุดเงินเขม้ ต้ังแต่หลงั แผน่ ปิดเหงือก
จนถึงคอดหาง ท้องสีขาว คอดหางเล็ก ครีบหลังมีตอนเดียวสีขาวใส ประกอบด้วย
กา้ นครีบแข็ง 3 – 4 กา้ น และก้านครบี ออ่ น 40 – 45 กา้ น ครบี กน้ อยตู่ รงกบั ครีบอก
เป็นเส้นยาวคล้ายแส้ไม่มีก้านครีบแข็ง มีก้านครีบอ่อน 30 – 33 ก้าน ครีบอก ครีบ
ทอ้ ง และครีบหางสีขาวใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ตะวันออกของ
แอฟริกา ทางตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของออสเตรเลยี และนวิ แคลโิ ดเนีย
แหล่งที่อยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝง่ั และปากแม่น้ำ
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พันธุ์: 14 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 30 เซนติเมตร

160

Monacanthidae

วงศป์ ลาวัวจมกู ยาว

ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา

มีลำตัวตั้งแต่รูปไข่ ลำตัวยาว และแบนข้าง เกล็ดมีขนาดเล็กและมีหนาม
ขนาดเล็กยื่นออกมา ทำใหรูสึกสากมือ ครีบหลังสองตอน โดยตอนแรกมีก้านครีบ
แข็ง 2 ก้าน ก้านแรกแขง็ มากมหี นามทำให้เม่ือกางออกทำให้มีรูปรา่ งคลา้ ยเขา ครีบ
ทอ้ งมกี ระดกู ทลี่ ดรปู ลง ครบี หางตดั ตรง (truncate tail) บางชนดิ มีปลายแหลมย่ืน
ออกมาจากครบี หาง เชน่ ชนิด Paramonacanthus choirocephalus ชอ่ งเหงือก
มีขนาดเล็ก
วิธีทำประมง: ไม่ใช่สัตว์น้ำเศรษฐกิจ มักติดมาจากการทำประมง อวนลาก และ
อวนล้อม

spine prominent Single dorsal fin
Truncate tail

Restricted gill slit Pelvic fins are absent, or reduced
to a bony element fused to the
ทม่ี า: Kimura et al. (2009) rear of the pelvic bone
161

Aluterus monoceros (Linnaeus, 1758)

ชือ่ สามัญ: ปลาววั หางตดั (Unicorn leatherjacket filefish)
ชื่อท้องถนิ่ : ปลาววั หนงั , ปลางัว
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทา เมื่อจับจะรูส้ ึกสากมือคล้ายหนัง คอดหางขนาดใหญ่ ครีบ
หลังมีสองสีขาวใส ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 1 ก้าน เป็นลักษณะยื่นยาวออกมา
คล้ายเขา และก้านครีบอ่อน 45 – 52 ก้าน ครีบกน้ ไมม่ กี า้ นครีบแข็ง มกี า้ นครีบอ่อน
47 – 53 ก้าน ครีบอก ครีบท้อง และครีบหางสีขาวใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทร
แอตแลนติกฝัง่ ตะวนั ออก ชายฝั่งตะวนั ตกของแอฟริกา
แหล่งท่อี ยอู่ าศยั : บริเวณแนวหิน หรอื แนวปะการงั
ขนาดเข้าสูว่ ัยเจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 76 เซนติเมตร

162

Aluterus scriptus (Osbeck, 1765)

ช่ือสามัญ: ปลาตะไบเฉยี ง (Scribbled leatherjacket filefish)
ชอ่ื ท้องถน่ิ : ปลาววั , ปลางวั ปากแหลม
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทา เมื่อจับจะรู้สึกสากมือคล้ายหนัง ลำตัวมีลายสีฟ้าตั้งแต่
จะงอยปากจนถงึ คอดหาง จะงอยปากยาวย่ืนเลก็ นอ้ ย คอดหางขนาดใหญ่ ครีบหลัง
มีสองสีขาวใส ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 2 ก้าน เป็นลักษณะยื่นยาวออกมาคล้าย
เขา และก้านครีบอ่อน 43 – 50 ก้าน ครีบก้นไม่มีก้านครีบแข็ง มีก้านครีบอ่อน
46 – 52 ก้าน ครีบอก ครบี ท้อง และครีบหางสีขาวใส
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซฟิ ิกฝง่ั ตะวันตก อา่ วเม็กซโิ ก เกาะเซา
ตูเม มหาสมุทรแปซิฟิก อา่ วแคลฟิ อรเ์ นีย และทางใต้ของญป่ี ุ่น
แหลง่ ทอ่ี ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวหนิ หรอื แนวปะการัง
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 110 เซนตเิ มตร

163

Mugilidae

วงศป์ ลากระบอก

ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา

มีรูปร่างโดยรวมเรียวยาวคอ่ นขา้ งกลม ไมม่ เี สน้ ขา้ งลำตัว ปากเลก็ จะงอย
ปากเสมอกัน มีครีบหลัง 2 ตอน ครีบหลังตอนแรกเป็นก้านครีบแข็ง 3 ก้าน ครีบ
ด้านหนา้ มีฐานครบี เดียวกัน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 2-3 ก้าน เกล็ดแผ่นใหญ่มีสีเงิน
เหลอื บเขยี วหรอื เทา เกล็ดมีขนาดใหญเ่ ปน็ แบบขอบหนาม (ctenoid) มีเกลด็ เสริม
(axillary scale) ที่ใตครีบหลัง ครีบอก และครีบทอง ครีบหางเว้าเล็กน้อยเป็นหาง
พระจนั ทร์ (lunate tail)
วธิ ีทำประมง: เคร่ืองมืออวนตดิ ตาประเภท ไดแ้ ก่ อวนจม

4 First dorsal fin spines, Lunate tail
the anterior 3 close together
at base

2 – 3 anal fin spines

ทมี่ า: Kimura et al. (2009)

164

Ellochelon vaigiensis (Quoy & Gaimard, 1825)

ชอ่ื สามญั : ปลากระบอกหดู ำ (Squaretail mullet)
ช่ือท้องถ่นิ : ปลาลาหนะ, ปลาจุมโปย, ปลาล่อบนั
ลกั ษณะเด่น: ลำตวั สีเงนิ เทา หัวสั้นทู่ จะงอยปากสนั้ เกล็ดมีขนาดใหญ่ ลำตัวมีแถบ
เส้นเล็กๆจางๆ พาดยาวตั้งแต่ครีบหู จนถึงคอดหาง ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรก
ประกอบด้วยกา้ นครบี แข็ง 4 กา้ น ก้านครบี อ่อน 9 - 10 กา้ น ครบี กน้ ประกอบด้วย
ก้านครีบแข็ง 2 – 3 และก้านครีบอ่อน 7 - 9 ก้าน ครีบทุกครีบมีสีเหลืองใสอมเทา
ยกเวน้ ครบี อกทีม่ สี ีดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง หมู่เกาะทู
อาโมโตะ และแนวปะการงั เกรตแบรร์ ิเออร์รฟี
แหล่งทีอ่ ยอู่ าศยั : บรเิ วณปากแมน่ ำ้
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 63 เซนติเมตร

165

Osteomugil cunnesius (Valenciennes, 1836)

ชื่อสามญั : ปลากระบอกหัวกลม (Longarm mullet)
ชื่อท้องถิ่น: ปลากระบอกหัวกลม, ปลาลาหนะ
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงิน ช่วงหลังสีเทา ท้องสีขาว หัวสั้นทู่ จะงอยปากสั้น เมื่อปิด
ปากจะมองไม่เห็นขากรรไกร ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกประกอบด้วยก้านครีบ
แข็ง 4 ก้าน ก้านครีบอ่อน 8 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 2 – 3 และ
ก้านครีบอ่อน 9 ก้าน บริเวณฐานครีบอกมีรอยแต้มสีดำ ครีบทุกครีบมีสีขาวใส
ยกเว้นครบี หางมสี เี ทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซิฟกิ ฝ่งั ตะวนั ตก
แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศัย: บรเิ วณปากแมน่ ้ำ
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 41 เซนติเมตร

166

Planiliza subviridis (Valenciennes, 1836)

ชอื่ สามญั : ปลากระบอกดำ (Greenback mullet)
ชอ่ื ท้องถน่ิ : ปลาลาหนะใหญ่, ปลาโลบนั , ปลาล่อบัน
ลักษณะเดน่ : ลำตวั สีเงนิ เทา ชว่ งทอ้ งสีขาว หวั ส้นั ทู่และแบน จะงอยปากส้นั ปลาย
ขากรรไกรงุ้ม ช่วงท้ายของลำตัวแบนเล็กน้อย ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรก
ประกอบดว้ ยก้านครบี แขง็ 4 ก้าน กา้ นครีบอ่อน 8 กา้ น ครีบกน้ ประกอบด้วยกา้ น
ครบี แข็ง 3 และก้านครบี ออ่ น 8 - 9 ก้าน ครีบทกุ ครีบมสี เี ทาเข้ม ยกเวน้ ครีบท้องมี
สขี าวใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง และอ่าว
เปอร์เซีย
แหลง่ ท่อี ยู่อาศยั : บริเวณปากแม่น้ำ
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 40 เซนติเมตร

167

Mullidae

วงศ์ปลาแพะฤาษี

ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา

รูปร่างลำตัวค่อนข้างยาวเป็นทรงกระบอก มีเกล็ดขนาดใหญ่ทั่วลำตัว
จะงอยปากเล็กยืดหดได้ บนขากรรไกรมีเกลด็ ขนาดใหญ่ ครีบหลังแบ่งเป็นสองตอน
ตอนแรกประกอบด้วยกา้ นครบี แข็ง ใตค้ างมีหนวด 1 คู่ ทไี่ วตอ่ ความรู้สกึ ใชส้ ำหรับ
คุ้ยเขี่ยหาอาหารตามหน้าดิน มีก้านครีบแข็งบริเวณครีบก้น 1 ก้าน ครีบหางเว้าลกึ
เปน็ หางรูปส้อม (fork tail)
วิธีทำประมง: ไมใ่ ช่สตั วน์ ำ้ เศรษฐกิจ มกั ติดมาจากการทำประมงอวนลาก และ
เคร่ืองมอื ประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนจม

2 Dorsal fins separated

Fork tail

2 Barbels on chin Anal fin with single spine
168
ทมี่ า: Kimura et al. (2009)

Parupeneus heptacanthus (Lacepède, 1802)

ชอ่ื สามัญ: ปลาแพะทองเหลอื ง (Cinnabar goatfish)
ชอ่ื ทอ้ งถิน่ : ปลาแพะทองเหลอื ง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีแดง ช่วงท้องสีชมพู ลำตัวไม่มีลวดลาย แต่มีจุดสีแดง 1 จุด
ช่วงล่างของเส้นขา้ งงตวั จะงอยปากสน้ั รมิ ฝปี ากหนา ครบี หลังมสี องตอน ตอนแรก
ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 8 ก้าน ก้านครีบออ่ น 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้าน
ครบี แข็ง 1 และก้านครบี อ่อน 7 ก้าน ครบี ทุกครบี มีสีแดงใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง ชายฝั่ง
ตะวันออกของแอฟริกา หมู่เกาะแคโรไลน์และฟิจิ
แหล่งที่อยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝั่ง แนวปะการัง พื้นทรายท้องน้ำ กองหินใต้น้ำ
รวมทั้งพนื้ ทรายปนโคลนนอกชายฝง่ั
ขนาดเขา้ สูว่ ัยเจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 36 เซนติเมตร

169

Parupeneus barberinus (Lacepède, 1801)

ชอ่ื สามัญ: ปลาแพะขา้ งแถบ (Indian goatfish)
ชือ่ ทอ้ งถนิ่ : ปลาแพะขา้ งแถบ
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีแดง ช่วงท้องสีชมพู บริเวณแก้มมีสีเหลือง ลำตัวมีลายสี
นำ้ ตาลพาดยาวตั้งแตจ่ ะงอยปากจนเกือบถึงคอดหาง และบรเิ วณคอดหางมีจุดแต้ม
สีดำ 1 จุด จะงอยปากส้ัน ริมฝีปากหนา ครีบหลงั มสี องตอน ตอนแรกประกอบดว้ ย
ก้านครีบแข็ง 8 ก้าน ก้านครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
1 และกา้ นครีบอ่อน 7 กา้ น ครบี ทกุ ครบี มีสีชมพใู สอมเหลอื ง
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ชายฝั่งเยเมนของ
อ่าวเอเดน และโอมานตอนใต้ แนวชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา และหมู่เกาะแค
โรไลนแ์ ละโซมัว
แหลง่ ที่อยู่อาศยั : บริเวณแนวชายฝัง่ แนวปะการัง พื้นท้องน้ำ กองหินใตน้ ้ำ
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 45 เซนติเมตร

170

Upeneus guttatus (Day, 1868)

ช่ือสามัญ: ปลาแพะ (Two tone goatfish)
ชื่อทอ้ งถิน่ : ปลาแพะ
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีขาว และรอยแต้มคล้ายรอยด่างสีชมพูทั่วลำตัว ช่วงท้องขาว
จะงอยปากสั้น ริมฝีปากหนา ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกประกอบด้วยก้านครีบ
แข็ง 8 ก้าน ก้านครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 1 และก้าน
ครบี อ่อน 7 ก้าน ครบี ทุกครีบมขี าวใสอมเหลอื ง
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซฟิ ิกฝั่งตะวนั ตก และทะเลแดง
แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั : บรเิ วณแนวชายฝั่ง แนวปะการงั พ้ืนทอ้ งนำ้ กองหนิ ใต้นำ้
ขนาดเขา้ สู่วัยเจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 16 เซนติเมตร

171

Upeneus moluccensis (Bleeker, 1855)

ชือ่ สามัญ: ปลาแพะแถบเหลือง (Goldband goatfish)
ช่ือท้องถิ่น: ปลาแพะแถบเหลอื ง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีชมพูอมเหลือง ช่วงท้องสีเหลือง ลำตัวมีลายสีเหลือง 2 แถบ
พาดยาวตงั้ แตห่ ลังแผน่ ปดิ เหงอื กถงึ คอดหาง จะงอยปากสน้ั รมิ ฝปี ากหนา ครบี หลัง
มีสองตอน ปลายสุดของครีบตอนแรกมีสีดำ และประกอบด้วยก้านครีบแขง็ 8 ก้าน
ก้านครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 1 และก้านครีบอ่อน
7 กา้ น ครบี ทุกครีบมีสขี าวใส
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซิฟิกฝ่งั ตะวันตก ทะเลแดง คลองสเุ อซ
และตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนยี น
แหล่งท่ีอยูอ่ าศยั : บริเวณแนวชายฝ่งั แนวปะการงั พน้ื ท้องน้ำ กองหินใต้นำ้
ขนาดเขา้ สู่วัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 22.5 เซนตเิ มตร

172

Upeneus tragula (Richardson, 1846)

ช่ือสามญั : ปลาแพะลาย (Freckled goatfish)
ชอื่ ทอ้ งถ่ิน: ปลาแพะลาย
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีชมพูอมเหลือง ช่วงหลังสีเขียว ช่วงท้องสีชมพูอมม่วง สีของ
ลำตัวไม่สม่ำเสมอคล้ายรอบด่าง และมีลายสีดำ 1 แถบ พาดยาวตั้งแต่หลงั แผน่ ปิด
เหงือกถึงคอดหาง จะงอยปากสั้น ริมฝีปากหนา ครีบหลังมีสองตอน ปลายสุดของ
ครีบตอนแรกมีสีดำ และประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 8 ก้าน ก้านครีบอ่อน 9 ก้าน
ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 1 และก้านครีบอ่อน 6 ก้าน ครีบทุกครีบมีสี
เหลืองใส และมลี ายสีดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ตะวันออกของ
ออสเตรเลีย และญป่ี นุ่
แหลง่ ท่ีอยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝง่ั แนวปะการัง และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเข้าสู่วยั เจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 25 เซนติเมตร

173

Muraenesocidae

วงศ์ปลายอดจาก

ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา

ลำตัวยาวคล้ายงู ส่วนท้ายแบนข้าง จะงอยปากแหลมปากกว้างยาวเลย
ขอบหลังตา ไม่มีเกล็ด บริเวณเพดานปากมีเขี้ยวแหลมคม รูจมูก 2 คู่ โดยคู่แรกอยู่
ด้านบนปลายสุดของจะงอยปาก และคู่ที่สองอยู่บริเวณที่ด้านหนาของตา ครีบหูมี
ขนาดใหญ่ ครีบหลัง ครีบหาง และครีบก้นเชื่อมตอกัน ไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบหาง
แบบแหลม (pointed tail)
วธิ ที ำประมง: ไม่ใชส่ ัตว์นำ้ เศรษฐกจิ มกั ติดมาจากการทำประมงอวนลาก

Dorsal and anal fins long,
continuous with caudal fin

Large mouth with
upper jaw extending
well behind eye

Large canine
teeth on vomer

ท่ีมา: Kimura et al. (2009)

174

Muraenesox bagio (Hamilton, 1822)

ชอ่ื สามัญ: ปลามังกรยอดจาก (Common pike conger)
ชือ่ ทอ้ งถ่ิน: ปลาหลด
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีนำ้ ตาลตลอดตัว ครีบหลัง และครีบก้นเชือ่ มติดกันกับครีบหาง
ปลายขากรรไกรลา่ งอยู่ด้านหลังตา แถวฟันชนั้ นอกในกรามล่างชีข้ ้นึ ตรงๆ แนวเส้น
ขา้ งตัวมจี ุดสเี ทาจางๆ คลา้ ยรูยาวตลอดลำตัว ประมาณ 35 – 38 จุด
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก นิวกินี ทะเลอาราฟู
รา ตะวนั ออกของแอฟริกา
แหลง่ ท่อี ยอู่ าศยั : บริเวณแนวหนิ หรือแนวปะการัง
ขนาดเขา้ สูว่ ยั เจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 200 เซนติเมตร

175

Muraenesox cinereus (Forsskål, 1775)

ช่ือสามัญ: ปลายอดจาก (Daggertooth pike conger)
ชอ่ื ทอ้ งถิ่น: ปลายอดจาก, ปลามวั่ ฮ้อื
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีน้ำตาลตลอดตัว ส่วนหัวค่อนข้างกลม ครีบหลัง และครีบก้น
เชอื่ มตดิ กนั กับครีบหาง ปลายขากรรไกรล่างอยู่ดา้ นหลงั ตา แถวฟนั ชัน้ นอกในกราม
ล่างชี้ขึ้นตรงๆ แนวเส้นข้างตัวมีจุดสีเทาจางๆ คล้ายรูยาวตลอดลำตัว ประมาณ
39 – 47 จดุ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
อา่ วเปอร์เซีย ศรลี ังกา ทะเลอาราฟูรา ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และคลองสุเอซ
แหล่งทีอ่ ยูอ่ าศยั : บรเิ วณแนวหนิ หรือแนวปะการัง
ขนาดเขา้ สู่วยั เจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 220 เซนติเมตร

176

Nemipteridae

วงศ์ปลาทราย

ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา

รูปร่างลำตัวยาวแบบ elongate สังเกตจากตำแหน่งของฐานครีบท้อง
ครีบหลังตอนเดียว ประกอบด้วย ก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และ ก้านครีบอ่อน 9 ก้าน
ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 - 8 ก้าน ครีบอกยาวเรียวโค้ง
เหมือนเคียว ลำตัวมีสีชมพูแกมสีเหลือง ปกคลุมด้วยเกล็ดแบบขอบหนาม
(ctenoid) ครีบหางเว้าเปน็ เหมือนเสย้ี วพระจันทร์ (lunate tail)
วิธีทำประมง: เครอื่ งมืออวนลาก

Single dorsal fin with 10, Lunate tail
soft ray 9

Elongate, pointed scale Anal fin with 3, soft ray 7 - 8
at the base of pelvic fin

ที่มา: Kimura et al. (2009)

177

Nemipterus bipunctatus (Valenciennes, 1830)

ชอ่ื สามญั : ปลาทรายแดง (Delagoa threadfin bream)
ชอ่ื ท้องถิ่น: ปลาทรายแดง, ปลาขมี้ ันแดง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงิน ลำตัวค่อนขา้ งเรียวยาว ส่วนหลงั สีชมพู ท้องสีขาว มีรอย
สีเหลืองบริเวณแผ่นปิดเหงือก ด้านล่างเส้นข้างตัวมีเส้นสีเงิน 4 - 5 เส้น พาดยาว
ตั้งแต่หลังฐานครีบครีบอกจนถึงคอดหาง ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้าน
ครบี แข็ง 10 ก้าน ครีบอ่อน 9 กา้ น ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และ
ก้านครบี ออ่ น 7 กา้ น ครีบทกุ ครบี สีชมพูอมเหลอื งใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามนั อินโด – แปซิฟกิ ฝั่งตะวนั ตก ทะเลอาหรับ ศรลี งั กา
อ่าวเบงกอล ทะเลแดง อ่าวเปอร์เซีย ช่องแคบมะละกา อ่าวเดลาโก และ
มาดากัสการ์
แหลง่ ทอ่ี ย่อู าศัย: บริเวณพน้ื ทรายแนวชายฝ่งั และรอบหนิ กองใตน้ ำ้
ขนาดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 30 เซนติเมตร

178

Nemipterus furcosus (Valenciennes, 1830)

ชื่อสามญั : ปลาทรายแดงหางสอ้ ม (Fork-tailed threadfin bream)
ชื่อทอ้ งถิ่น: ปลาทรายแดงหางสอ้ ม
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีแดง ลำตัวค่อนข้างเรียวยาว ส่วนหลังสีชมพู ท้องสีขาว ครีบ
หลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน ครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบก้น
ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบทุกครีบสีชมพูใส
ครบี หางสแี ดงเวา้ ลกึ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทรอินเดีย
อา่ วมนั นาร์ ศรลี งั กา และชอ่ งแคบมะละกา
แหลง่ ท่ีอยูอ่ าศัย: บริเวณพน้ื ทรายปนโคลนแนวชายฝง่ั และรอบหินกองใตน้ ้ำ
ขนาดเข้าสู่วัยเจรญิ พนั ธ์ุ: 16.6 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 24 เซนติเมตร

179

Nemipterus hexodon (Quoy & Gaimard, 1824)

ชื่อสามญั : ปลาทรายแดง (Ornate threadfin bream)
ชอื่ ท้องถนิ่ : ปลาทรายแดงโมง่
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงิน ลำตัวค่อนข้างเรียวยาว ส่วนหลังสีชมพู ท้องสีขาว ครีบ
หลังมีตอนเดียว ใต้เส้นข้างตัวช่วงหลังแผ่นปิดเหงือกมีรอยแต้มสีส้ม และมีเส้นสี
เหลือง 4 - 6 เส้น พาดยาวตั้งแต่หลังฐานครีบครีบอกจนถึงคอดหางประกอบด้วย
ก้านครีบแข็ง 10 ก้าน ครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน
และก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบทุกครีบสีชมพูใสปลายครีบสีเหลือง ครีบหางสีชมพู
ปลายครีบบนสเี หลือง
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อนิ โด – แปซิฟกิ ฝ่ังตะวนั ตก และเกาะโซโลมอน
แหล่งทีอ่ ยู่อาศัย: บรเิ วณพื้นทรายแนวชายฝั่ง และรอบหินกองใตน้ ้ำ
ขนาดเข้าสู่วัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 23 เซนติเมตร

180

Nemipterus marginatus (Valenciennes, 1830)

ชอ่ื สามัญ: ปลาทรายแดง (Red filament threadfin bream)
ช่อื ทอ้ งถน่ิ : ปลาทรายแดง ปลาทรายเหลอื ง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงิน ลำตัวค่อนข้างป้อม ใต้ตามีหนามแหลมชดั เจน ส่วนหลงั สี
ชมพู ท้องสีขาว ลำตัวมีแถบสีเหลืองอ่อนพาดยาวตั้งแตห่ ลังฐานครีบครีบอกจนถึง
คอดหาง ครีบหลงั มีตอนเดียว ประกอบดว้ ยก้านครบี แขง็ 10 ก้าน ครบี ออ่ น 9 ก้าน
ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบทุกครบี สี
เหลืองใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ช่องแคบมะละกา
และชวา อ่าวปาปัว และหม่เู กาะโซโลมอน
แหลง่ ทอี่ ย่อู าศยั : บรเิ วณพ้นื ทรายแนวชายฝงั่ และรอบหนิ กองใต้น้ำ
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 15.6 เซนติเมตร

181

Nemipterus peronii (Valenciennes, 1830)

ชอ่ื สามัญ: ปลาทรายแดง (Notchedfin threadfin bream)
ช่ือท้องถิ่น: ปลาทรายแดง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมแดง ลำตัวค่อนเรียวยาว จะงอยปากยาว ส่วนหลังสี
ชมพู ท้องสีขาว ลำตัวมีแถบสีเหลืองออ่ นพาดยาวตั้งแตห่ ลังฐานครีบครีบอกจนถึง
คอดหาง ครีบหลังมตี อนเดียว ประกอบดว้ ยก้านครบี แขง็ 10 ก้าน ครีบอ่อน 9 ก้าน
ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบทุกครบี สี
เหลืองใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง และเกาะ
ไตห้ วนั
แหลง่ ท่ีอยู่อาศยั : บริเวณพืน้ ทรายแนวชายฝง่ั และรอบหินกองใต้นำ้
ขนาดเข้าสู่วัยเจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 29 เซนติเมตร

182

Scolopsis affinis (Peters, 1877)

ชือ่ สามัญ: ปลาทรายขาวหางเหลอื ง (Peters' monocle bream)
ชอ่ื ท้องถ่นิ : ปลาทรายขาวหางเหลือง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงิน ลำตัวป้อม มีหนามอยู่ใต้ตา และมีรอยแต้มสีเหลือง ส่วน
หลังสนี ้ำตาลออ่ น ท้องสีขาว ลำตัวมแี ถบสีนำ้ ตาลพาดยาวใต้เสน้ ข้างตวั ตั้งแต่ขอบ
ตาหลงั จนถงึ คอดหาง ครบี หลังมตี อนเดยี ว ประกอบด้วยก้านครบี แขง็ 10 กา้ น ครีบ
อ่อน 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 ก้าน
ครบี ทุกครบี สเี หลอื งใส ครบี หางเวา้ ลกึ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก หมู่เกาะริวกิว และ
หมูเ่ กาะโซโลมอน
แหล่งทอ่ี ยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝงั่ และแนวปะการงั
ขนาดเข้าส่วู ัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 24 เซนติเมตร

183

Scolopsis monogramma (Cuvier, 1830)

ชอ่ื สามัญ: ปลาทรายขาวแถบ (Monogrammed monocle bream)
ชื่อท้องถิน่ : ปลาขี้เหมน็
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงิน ลำตัวป้อม มีหนามอยู่ใต้ตา และมีรอยแต้มสีเหลือง ส่วน
หลังสีน้ำตาลอ่อน ท้องสีขาว ลำตัวมีแถบสีนำ้ ตาลพาดยาวใต้เส้นข้างตัวต้ังแต่หลงั
ฐานครีบครีบอกจนถึงคอดหาง ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
10 ก้าน ครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครบี แข็ง 3 ก้าน และก้านครบี
อ่อน 7 กา้ น ครีบทุกครีบสีเหลืองใส ครบี หางเวา้ ลึก
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทรอินเดีย
หม่เู กาะรวิ กิว และปาปวั นิวกนิ ี
แหลง่ ท่ีอยอู่ าศัย: บริเวณแนวชายฝ่งั และแนวปะการัง
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 38 เซนติเมตร

184

Scolopsis vosmeri (Bloch, 1792)

ช่ือสามญั : ปลาทรายคอขาว (Whitecheek monocle bream)
ช่อื ท้องถ่นิ : ปลาพงสนั
ลักษณะเด่น: ลำตัวสเี หลอื ง ลำตัวปอ้ มสั้น มเี กลด็ ขนาดใหญ่ ริมฝีปากสเี หลอื ง แผ่น
ปิดเหงือกมสี ขี าวพาดตั้งแตส่ ่วนหัวจนถึงใต้คาง ครีบหลังมีตอนเดยี ว ประกอบดว้ ย
ก้านครีบแข็ง 10 ก้าน ครีบอ่อน 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยกา้ นครีบแข็ง 3 ก้าน
และก้านครีบอ่อน 7 กา้ น ครบี ทกุ ครบี สีเหลอื งใส
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามนั อนิ โด – แปซฟิ กิ ฝั่งตะวนั ตก และทะเลแดง
แหลง่ ท่อี ยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝง่ั และแนวปะการัง
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 38 เซนติเมตร

185

Ostraciidae

วงศป์ ลาปักเป้ากลอ่ ง

ลักษณะทางสัณฐานวิทยา

รูปร่างลำตัวป้อมสั้นเป็นเหลี่ยม ลำตัวมีเกล็ดเป็นแผ่นคล้ายเกราะแข็ง
รูปร่าง 6 เหลี่ยม จะงอยปากเล็ก และสั้น ช่องเปิด-ปิด เหงือกขนาดเล็ก บางชนิด
อาจมรี ยางคแ์ หลม ยน่ื ออกมาเหนือส่วนหวั คลา้ ยเขา เชน่ ชนดิ Acanthostracion
ครีบหลังมตี อนเดียว อยู่ตรงกบั ครีบก้น ครีบหางเป็นแบบปลายกลมมน (rounded
tail) บางชนดิ เปน็ แบบตัดตรง (truncate tail)
วิธที ำประมง: ไมใ่ ช่สัตวน์ ำ้ เศรษฐกจิ มกั ติดมาจากการทำประมงอวนลาก และ
เครื่องมอื ประเภทอวนติดตา ไดแ้ ก่ อวนจม

usually less Fin rays branched
than 15 teeth in
each jaw

Restricted gill slit Enlarged hexagonal
scale plates sutured
into thick carapace

Acanthostracion

ที่มา: Kimura et al. (2009)

186


Click to View FlipBook Version