Dasyatidae
วงศป์ ลากระเบน
ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา
วงศ์ปลากระเบนจัดเป็นปลาที่มีรูปร่างหลากหลาย มีทั้งในรูปแบบกลม
รูปแบบไข่ รูปแบบสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน โดยมีลำตัวแบบแบนลง บางชนิดมีครีบ
หลัง มีจะงอยปากชัดเจน ปากอยู่ทางด้านท้อง มีชอง spiracle ขนาดใหญ่อยู่ชิด
ทางด้านท้ายของหลังตา หางเรียวยาวคล้ายแส้ บริเวณโคนหางมีหนามแหลมที่มี
ขอบหยกั (serrated spine) บางชนดิ อาจมตี ุ่มแข็งหรอื หนามแขง็ บรเิ วณชว่ งกลาง
ตวั
วิธีทำประมง: ไม่ใช่สัตว์นำ้ เศรษฐกิจ มักติดมาจากการทำประมงอวนลาก ลอบปลา
และเครอ่ื งมอื ประเภทอวนตดิ ตา ได้แก่ อวนจม อวนสามช้ัน
Spiracle Small spines or tubercles
Tail elongated, whip-like
Venomous spine
usually present
ที่มา: Kimura et al. (2009)
87
Brevitrygon walga (Müller & Henle, 1841)
ชอื่ สามัญ: ปลากระเบนจมกู แหลม (Scaly whipray)
ช่อื ทอ้ งถ่นิ : ปลากระบาง, ปลาจอ้ งม้ง
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีน้ำตาลอ่อน จนถึงน้ำตาลเข้ม มีช่องน้ำเข้าบริเวณด้านท้อง
5 คู่ หางสั้น บริเวณโคนหางมีกระดูกหนามแหลมคล้ายฟันเลื่อย บริเวณหางมีเงี่ยง
โดยปลายเง่ียงมีตอ่ มพษิ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง และอ่าว
เปอรเ์ ซยี
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศัย: บรเิ วณแนวปะการงั และปากแม่น้ำ
ขนาดเข้าส่วู ยั เจรญิ พนั ธ์ุ: 16.7 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 45 เซนติเมตร
88
Maculabatis gerrardi (Gray, 1851)
ชอ่ื สามญั : ปลากระเบนจุดขาว (Sharpnose stingray)
ชอ่ื ทอ้ งถ่นิ : ปลาเบนแมงวัน
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีน้ำตาลอ่อน จนถึงน้ำตาลเข้ม มีจุดสีขาวกระจายทั่วบริเวณ
ลำตัว และหาง บริเวณโคนหางมีกระดูกหนามแหลม
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซิฟกิ ฝัง่ ตะวันตก ทะเลโอมาน และหมู่
เกาะไตห้ วนั
แหลง่ ที่อยอู่ าศยั : บริเวณแนวปะการงั และปากแม่นำ้
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 200 เซนตเิ มตร
89
Neotrygon caeruleopunctata (Last, White & Serét, 2016)
ชอ่ื สามญั : ปลากระเบนจมูกโต (Bluespotted maskray)
ชือ่ ทอ้ งถ่ิน: ปลาเบนหมกู ใหญ่
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีน้ำตาลอ่อน จนถึงน้ำตาลเข้ม ครีบมีสีน้ำตาลอมแดง ลำตัวมี
จดุ สีฟา้ ตลอดลำตัว บริเวณชว่ งตามรี อยสีดำจางๆ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก และหมู่เกาะ
โซโลมอน
แหลง่ ทอ่ี ยูอ่ าศยั : บริเวณแนวปะการงั และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเขา้ ส่วู ยั เจรญิ พันธุ์: 31 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สดุ : 45 เซนติเมตร
90
Pateobatis fai (Jordan & Seale, 1906)
ชื่อสามญั : ปลากระเบนหางยาว (Pink whipray)
ชื่อทอ้ งถ่นิ : ปลาเบนหางยาว
ลกั ษณะเด่น: ลำตัวมนี ำ้ ตาลอ่อน จนถึงน้ำตาลเข้ม หางมีความยาวมากเมื่อเทยี บกับ
กลุ่มปลากระเบนด้วยกัน
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวนั ตก และโอกินาว่า
แหล่งทอี่ ย่อู าศัย: บริเวณแนวปะการัง
ขนาดเข้าสูว่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: 115 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 183 เซนติเมตร
91
Diodontidae
วงศป์ ลาปักเป้าหนาม
ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา
ลำตัวแบนกลมหนา มีหนามแข็งทั่วลำตัว นัยน์ตาโต ครีบหลังอยู่เกือบถงึ
คอดหาง ไมม่ กี า้ นครีบแข็ง โดยมีกา้ นครบี ออ่ น 14 – 16 กา้ น ไมม่ ีครบี ทอ้ ง ครีบก้น
มีก้านครีบอ่อน 14 – 16 ก้าน จะงอยปากสั้นและเล็ก ปลาบขากรรไกรยาวไม่ถึง
ขอบตาหนา้ ครีบหางเปน็ แบบหางกลม (rounded tail)
วธิ ีทำประมง: ไมใ่ ช่สตั วน์ ้ำเศรษฐกจิ มักตดิ มาจากการทำประมงอวนลาก เครื่องมือ
ประเภทอวนตดิ ตาได้แก่ อวนจม
Small mouths Single dorsal fin, soft ray 14 – 16
Rounded tail
Body covered in Anal fin with 14 – 16
large strong spines
ท่มี า: Kimura et al. (2009)
92
Diodon liturosus (Shaw, 1804)
ช่อื สามญั : ปลาปกั เป้าหนาม (Black blotched porcupinefish)
ช่ือทอ้ งถน่ิ : ปลาเปา้ หนาม
ลักษณะเด่น: ลำตวั มีนำ้ ตาลออ่ นอมเหลอื ง บรเิ วณชว่ งทอ้ งสีขาวลำตัวมีลายสีดำ มี
หนามแข็งที่ลู่ลงไปทางท้ายของลำตัว สามารถชี้ตั้งขึ้นได้ ช่วงหัวใหญ่และเป็น
กระดูกแข็ง มีติ่งเนื้อบริเวณเปลือกตา จะงอยปลาเล็ก ริมฝีปากหนา ครีบมีขนาด
ใหญ่สีเหลืองใสไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบหลังมีก้านครีบอ่อน 14 – 16 ก้าน ไม่มีครีบ
ทอ้ ง ครีบกน้ มีก้านครบี ออ่ น 14 – 16 ก้าน
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก หมู่เกาะโซไซต้ี และ
มหาสมุทรแอตแลนติกฝ่งั ตะวนั ออกเฉียงใต้
แหล่งที่อยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝ่ัง และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเขา้ สู่วยั เจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 65 เซนติเมตร
93
Drepanidae
วงศป์ ลาใบโพธ์ิ
ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา
ลำตัวป้อมสั้นเกือบกลม ด้านข้างแบน ดูคล้ายใบโพธิ์ สันหลังโค้งนูน หัว
ค่อนข้างใหญ่ จะงอยปากสั้น นัยน์ตาโต ครีบอกโค้งงอคล้ายเคียวยาวเกือบถึงคอด
หาง ครีบหลังตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 8 ก้าน ก้านครีบอ่อน 19 - 22 แต่บริเวณ
หนาครบี หลังมรี อยเว้าทำให้เป็นเหมอื นรอยแยกระหวา่ งครีบหลงั ที่เปน็ กา้ นครีบแข็ง
และ กานครีบอ่อนที่แตกแขนง ก้านเกล็ดขนาดเล็กเป็นแบบมีขอบนอกเป็นหนาม
(ctenoid) ครบี หางเปน็ แบบหางกลม (rounded tail)
วธิ ีทำประมง: อวนลอ้ ม เคร่อื งมอื ประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนลอย
Single dorsal fin with 8,
soft rays 19 - 22
Rounded
tail
Anal fin with 3, soft rays 16 - 19
ทีม่ า: Kimura et al. (2009)
94
Drepane punctata (Linnaeus, 1758)
ชือ่ สามญั : ปลาใบโพธจ์ิ ดุ (Spotted sicklefish)
ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ : ปลาใบปอ
ลักษณะเด่น: ลำตวั มีสีเงิน ชว่ งท้องสขี าว บริเวณลำตวั มีจุดสีดำเรียงยาวจนถึงคอด
หางจำนวน 6 แถบ ลำตวั แบนปอ้ ม จะงอยปากส้นั ทู่และสามารถยืดหดได้ ครบี หลัง
มีตอนเดียวสีเหลืองปลายครีบมีสีดำ ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 8 – 10 ก้าน และ
กา้ นครบี อ่อน 20 – 22 กา้ น ครีบก้นมสี เี ชน่ เดยี วกบั ครบี หลงั ประกอบดว้ ยกา้ นครีบ
แข็ง 3 ก้าน และก้านครบี อ่อน 17 – 19 ก้าน ส่วนหางมีสีเหลืองและปลายครบี หาง
สดี ำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ออสเตรเลีย นิวกินี
อนิ โดนีเซีย ฟลิ ปิ ปินส์ ไตห้ วนั และญ่ปี ่นุ
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวชายฝัง่ และปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ สู่วัยเจรญิ พนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 50 เซนติเมตร
95
Engraulidae
วงศป์ ลากะตัก หรอื ปลาหางไก่
ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา
รูปร่างเรียวยาวแบนข้าง ไม่มีเส้นข้างลำตัว ตำแหน่งปากอยู่ด้านใน
จะงอยปากยื่นยาวเลยขากรรไกรล่าง ขากรรไกรยาวถัดมาจากตำแหน่งตาเล็กน้อย
ท องเป็นสันคมมีหนามที่ท อง ยกเว้นในสกุล Stolephorus ก้านครีบท้องมี
6 - 7 กา้ น ลำตวั ปกคลมุ ด้วยเกล็ดแบบขอบเรียบซง่ึ หลดุ ออกได้ง่าย ครบี หางเว้าลึก
เป็นหางรูปส้อม (fork tail)
วธิ ที ำประมง: อวนลอ้ ม อวนครอบ เครอ่ื งมือประเภทอวนติดตา ไดแ้ ก่ อวนลอย
Snout projecting
Mouth inferior upper 6 – 7 pelvic fin rays
jaw extending beyond
hind margin of eye
ท่ีมา: Kimura et al. (2009)
96
Encrasicholina devisi (Whitley, 1940)
ชอ่ื สามัญ: ปลากะตัก (Devis' anchovy)
ชื่อท้องถน่ิ : ปลามะลิ, ปลาจง้ิ จงั้ , ปลายวิ่ เก๊ียะ
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงิน ช่วงท้องสีขาว มีเส้นสีเงินพาดยาวตั้งแต่แผ่นปิดเหงือก
จนถึงคอดหาง 1 เส้น ลำตัวกลม เห็นกระดูก urohyal plate ชัดเจน จะงอยปาก
สั้นทู่ ส่วนหัวมีความยาวมากกว่าความกว้างลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว ขากรรไกร
แหลมยาวจนถึงแผ่นปิดเหงือก ครีบหลังและครีบก้นมีก้านครีบอ่อนที่ไม่แตกแขนง
3 กา้ น ครบี กน้ มกี ้านครบี อ่อน 18 – 20 ก้าน
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทรอินเดีย
อ่าวเปอร์เซยี กลางตะวนั ตกของมหาสมทุ รแปซฟิ กิ และออสเตรเลยี
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวชายฝง่ั
ขนาดเขา้ สู่วัยเจริญพนั ธุ์: 6.6 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 8 เซนตเิ มตร
97
Encrasicholina heteroloba (Rüppell, 1837)
ชอ่ื สามญั : ปลากะตัก (Shorthead anchovy)
ชื่อท้องถ่นิ : ปลามะลิ, ปลาจง้ิ จงั้ , ปลาย่ิวเกย๊ี ะ, ปลาไสต้ ัน
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงิน ช่วงท้องสีขาว มีเส้นสีเงินพาดยาวตั้งแต่แผ่นปิดเหงือก
จนถึงคอดหาง 1 เส้น ลำตัวกลม เห็นกระดูก urohyal plate ชัดเจน จะงอยปาก
ยาว โดยริมฝีปากบนแหลมงุ้มยาวกว่าริมฝีปากล่าง ส่วนหัวมีความยาวมากกว่า
ความกว้างลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว ขากรรไกรแหลมยาวจนถึงแผ่นปิดเหงือก
ครีบก้นมกี ้านครบี อ่อน 14 – 16 กา้ น
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
มาดากสั การ์ อ่าวเบงกอล และหมู่เกาะโซโลมอน
แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศัย: บริเวณแนวชายฝ่งั
ขนาดเขา้ สู่วยั เจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 12 เซนตเิ มตร
98
Encrasicholina punctifer (Fowler, 1938)
ช่ือสามัญ: ปลากะตัก (Shorthead anchovy)
ชือ่ ท้องถนิ่ : ปลามะลิ, ปลาจงิ้ จงั้ , ปลายิว่ เก๊ียะ, ปลาไส้ตนั
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงิน ช่วงท้องสีขาว มีเส้นสีเงินพาดยาวตั้งแต่แผ่นปิดเหงือก
จนถึงคอดหาง 1 เส้น ลำตัวกลม เห็นกระดูก urohyal plate ชัดเจน จะงอยปาก
ยาว โดยริมฝีปากโค้งมน ท้ายขอบกระดูกขากรรไกรโค้งมน ส่วนหัวมีความยาว
มากกว่าความกว้างลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว ครีบหลังมีก้านครีบอ่อน
12 – 15 กา้ น ครีบก้นมีกา้ นครีบอ่อน 14 – 17 ก้าน
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง อ่าว
เปอร์เซีย และหมู่เกาะโซโลมอน
แหลง่ ทอ่ี ย่อู าศัย: บรเิ วณแนวชายฝ่ัง
ขนาดเขา้ สู่วัยเจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 13 เซนตเิ มตร
99
Stolephorus indicus (van Hasselt, 1823)
ชอ่ื สามัญ: ปลากะตักใหญ่ (Indian anchovy)
ชือ่ ทอ้ งถ่นิ : ปลากะตักควาย, ปลาจิง้ จ้ัง, ปลาเก๋ย, ปลาไสต้ ัน
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงิน ช่วงท้องสีขาว มีหนามแหลมหน้าครีบท้อง 3 – 4 อัน มี
เส้นสเี งนิ พาดยาวตั้งแตแ่ ผ่นปิดเหงือกจนถึงคอดหาง 1 เส้น ลำตวั แบน จะงอยปาก
ยาวมน โดยริมฝปี ากบนยาวกว่าริมฝปี ากล่าง สว่ นหัวมคี วามยาวใกล้เคียงกับความ
กว้างลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว ขากรรไกรมนยาวไม่ถึงแผ่นปิดเหงือก ใต้แผ่นปิด
เหงือกมี urohyal ครีบหลังมีก้านครีบอ่อน 15 – 17 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน
19 – 21 ก้าน ครบี มีสขี าวใส ทีค่ รบี หางมขี อบสดี ำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
มาดากสั การ์ อา่ วเบงกอล และหมู่เกาะโซโลมอน
แหลง่ ท่ีอยอู่ าศัย: บรเิ วณแนวชายฝ่ัง
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พันธุ์: 9 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 15.5 เซนติเมตร
100
Stolephorus waitei (Jordan & Seale, 1926)
ช่ือสามญั : ปลากะตักขาว (Spotty-face anchovy)
ชื่อท้องถ่นิ : ปลากลว้ ย, ปลาจ้งิ จงั้ , ปลายว่ิ เก๊ยี ะ, ปลาไสต้ นั
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงิน ช่วงท้องสีขาว มีหนามแหลมหน้าครีบท้อง 6 – 7 อัน มี
จุดดำใหญ๋กระจายบริเวณใต้ตา และที่ปลายขากรรไกรล่าง มีเส้นสีเงินพาดยาว
ตั้งแต่แผ่นปิดเหงือกจนถึงคอดหาง 1 เส้น ลำตัวแบน จะงอยปากยาวมน โดยริม
ฝีปากบนยาวกว่าริมฝีปากล่าง ส่วนหัวมีความยาวใกล้เคียงกับความกว้างลำตัว
ครีบหลังมีตอนเดียว ขากรรไกรแหลมยาวจนถึงแผ่นปิดเหงือก ใต้แผ่นปิดเหงือกมี
urohyal ครบี ก้นมีกา้ นครีบอ่อน 18 – 20 กา้ น ครีบมีสีขาวใส ทค่ี รบี หางมขี อบสดี ำ
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซิฟกิ ฝัง่ ตะวนั ตก
แหล่งที่อยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝั่ง
ขนาดเข้าสู่วัยเจรญิ พันธ์ุ: 8.4 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 9.4 เซนตเิ มตร
101
Stolephorus chinensis (Günther, 1880)
ชอ่ื สามัญ: ปลากะตักควายหางดำ (China anchovy)
ชอื่ ทอ้ งถน่ิ : ปลากล้วย, ปลาจงิ้ จง้ั , ปลาเก๋ย, ปลาไส้ตนั
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงิน ช่วงท้องสีขาว มีหนามแหลมหน้าครีบทอ้ ง 6 – 7 อัน มี
เสน้ สีเงนิ พาดยาวต้ังแตแ่ ผน่ ปิดเหงอื กจนถึงคอดหาง 1 เส้น ลำตวั แบน จะงอยปาก
ยาวมน โดยริมฝปี ากบนยาวกว่ารมิ ฝีปากลา่ ง สว่ นหัวมคี วามยาวใกล้เคียงกับความ
กว้างลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว หน้าครีบหลังมีเกล็ด 17 – 18 อัน ใต้แผ่นปิด
เหงือกมี urohyal ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน 18 – 20 ก้าน ครีบมีสีขาวใส ที่ครีบหาง
มีขอบสีดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซิฟกิ ฝ่งั ตะวนั ตก
แหล่งทีอ่ ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวชายฝัง่
ขนาดเข้าสู่วยั เจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 9 เซนตเิ มตร
102
Setipinna taty (Valenciennes, 1848)
ชอ่ื สามัญ: ปลาแมวหนวดยาว (Scaly hairfin anchovy)
ช่อื ท้องถิน่ : ปลาแมวหนวดยาว
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงิน ช่วงท้องสีขาวเป็นสันมีกระดูกแข็ง 33 – 40 อัน ลำตัว
แบน ส่วนหัวเล็กและสั้น ปากกว้าง จะงอยปากยาวเฉียงขึ้น ครีบหลังมีตอนเดียว
ครบี กน้ มีกา้ นครีบอ่อน 44 – 45 ก้าน ครีบมสี เี หลอื ง ท่ีครีบหางมีสีดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก และอา่ วเบงกอล
แหล่งท่ีอย่อู าศยั : บรเิ วณแนวชายฝั่ง และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 15.3 เซนติเมตร
103
Thryssa hamiltonii (Gray, 1835)
ชอ่ื สามัญ: ปลาแมว (Hamilton's thryssa)
ชือ่ ท้องถ่ิน: ปลาปอ้ ป้ี, ปลาแมว
ลักษณะเดน่ : ลำตัวมีสีเงิน บริเวณหลังสนี ้ำตาล ช่วงท้องสีขาวเปน็ สันมีกระดูกแข็ง
23 – 26 อนั ลำตัวแบน สว่ นหวั เลก็ และสั้น ปากกวา้ ง จะงอยปากยาวเฉยี งขน้ึ ครีบ
หลังมีตอนเดียว ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน 32 – 39 ก้าน ครีบมีสีขาวใส ครีบหางมีสี
เหลือง
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย ทะเล
พม่า ทะเลอาราฟรู า ออสเตรเลยี และปาปัวนวิ กินี
แหล่งทอ่ี ยู่อาศยั : บริเวณแนวชายฝง่ั และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเขา้ สูว่ ยั เจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 27 เซนติเมตร
104
Thryssa kammalensis (Bleeker, 1849)
ช่อื สามญั : ปลาแมวหวั แหลม (Kammal thryssa)
ช่อื ทอ้ งถิ่น: ปลาแมว
ลักษณะเดน่ : ลำตัวมีสีเงิน บริเวณหลังสนี ้ำตาล ช่วงท้องสขี าวเป็นสันมีกระดูกแข็ง
23 – 25 อัน ลำตัวแบน ส่วนหัวเล็กและสั้น ปากกว้าง จะงอยปากยาวแหลมเฉียง
ขึ้น ริมฝีปากบนยื่นยาวกว่าริมฝีปากล่าง ครีบหลังมีตอนเดียว ครีบก้นมีก้านครีบ
อ่อน 30 – 33 ก้าน ครีบมีสขี าวใส ครีบหางมสี ีเหลอื ง
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซฟิ ิกฝั่งตะวันตก
แหล่งท่ีอยอู่ าศยั : บริเวณแนวชายฝัง่ และปากแม่น้ำ
ขนาดเข้าส่วู ัยเจรญิ พนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 17.2 เซนตเิ มตร
105
Thryssa mystax (Bloch & Schneider, 1801)
ช่ือสามญั : ปลาแมวหางเหลือง (Moustached thryssa)
ช่ือท้องถนิ่ : ปลาแมว
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงิน บริเวณหลังสนี ้ำตาล ช่วงท้องสขี าวเปน็ สนั มีกระดูกแขง็
24 – 32 อัน ลำตัวแบน ส่วนหัวเล็กและสั้น ปากกว้าง จะงอยปากยาวแหลมเฉียง
ขึ้น ริมฝีปากบนยื่นยาวกว่าริมฝีปากล่าง ครีบหลังมีตอนเดียว ครีบก้นมีก้านครีบ
อ่อน 29 – 37 ก้าน ครีบมีสีขาวใส ครีบหางมีสีเหลือง หลังแผ่นปิดเหงือกมีจุดดำ
1 จุด
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซฟิ ิกฝง่ั ตะวันตก และทะเลพมา่
แหลง่ ท่อี ยอู่ าศัย: บรเิ วณแนวชายฝั่ง และปากแมน่ ำ้
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พันธุ์: 13 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 19 เซนติเมตร
106
Echeneidae
วงศป์ ลาเหาฉลาม
ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา
ลำตัวเรียวยาวคล้ายปลาช่อนทะเล ด้านบนของส่วนหัวเรียบมีอวัยวะ
เกาะติดที่พัฒนามาจากครีบหลัง (sucker) เป็นร่องประมาณ 16 – 28 ร่อง ครีบ
หลังมีตอนตอนเดียวไม่มีก้านครีบแข็ง ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 32 – 42 ก้าน
ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน 29 – 41 ก้าน ครีบอกตั้งอยู่สูงค่อนไปด้านหน้าของลำตัว
หางแบบตดั ตรง (truncate tail)
วิธีทำประมง: ไม่ใชส่ ัตว์น้ำเศรษฐกิจ มักตดิ มาจากการทำประมงอวนลาก
Sucking disc consists of 16-28
Single dorsal fin, soft ray 16 - 28
Lower jaw projects
forward beyond the
upper jaw Pectoral fins are Anal fin, soft ray 29 - 41
located high on
the sides of the
body
ท่ีมา: Kimura et al. (2009)
107
Echeneis naucrates (Linnaeus, 1758)
ช่ือสามัญ: ปลาเหาฉลาม (Live sharksucker)
ชือ่ ท้องถ่นิ : ปลาเหา, ปลาติด
ลักษณะเดน่ : ลำตวั มีเป็นสีเทาอมสเี ขม้ สีเทาเขม้ หรือสีนำ้ ตาล มีแถบกว้างพาดยาว
สีดำ และมีขอบสีขาว ตั้งแต่จะงอยปากจนถึงคอดหาง ครีบอก ครีบท้อง และครีบ
หางเปน็ สดี ำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทร
แอตแลนตกิ ฝ่ังตะวนั ตก และหมู่เกาะมาเดรา
แหลง่ ทอ่ี ยูอ่ าศยั : บริเวณแนวชายฝัง่ และแนวปะการงั
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 110 เซนตเิ มตร
108
Ephippidae
วงศ์ปลาหูช้าง
ลักษณะทางสณั ฐานวิทยา
ลำตัวแบนข้างมาก ลำตัวสั้นเป็นรูปไข่จนถึงกลม (orbicular) หรือเกือบ
เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ตอนหน้าของหัวไม่มีเกล็ดปกคลุม เกล็ดมีขนาดเล็ก
หรือปานกลางแบบมีขอบหนาม (ctenoid) ปากมีขนาดเล็ก ครีบหลังตอนเดียวมี
ก้านครีบแข็ง 5-9 ก้าน ครีบอ่อน 19-38 ก้าน ครีบหูสั้นและกลม ครีบหางตัดตรง
(truncate tail)
วิธที ำประมง: อวนล้อม เครอ่ื งมอื ประเภทอวนติดตา ไดแ้ ก่ อวนลอย
Single dorsal fin with 5 – 9, soft ray 19 - 38
Truncate tail
Anal fin with 3, soft ray 15 - 27
ท่ีมา: Kimura et al. (2009)
109
Ephippus orbis (Bloch, 1787)
ช่อื สามัญ: ปลาคลุด (Orbfish)
ช่ือทอ้ งถน่ิ : ปลาข้าวเม่า, ปลาพลก, ปลาใบหนุน
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงินอมฟ้า บริเวณหลังสีน้ำตาล ช่วงท้องสีขาว ส่วนหัวเล็ก
และสั้น ปากกว้าง จะงอยปากเลก็ ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแขง็
9 ก้าน และก้านครีบอ่อน 19 – 20 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และมีก้าน
ครีบอ่อน 15 – 17 ก้าน ครีบมีสีขาวใส มีแถบสีเทาพาดขวางลำตัว ประมาณ
4 – 5 แถบ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย เกาะ
ซุนดาเลสเซอร์ แอฟริกาใต้ และไต้หวัน
แหลง่ ท่ีอย่อู าศัย: บริเวณแนวชายฝงั่ และปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ สู่วัยเจรญิ พนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 25 เซนติเมตร
110
Platax orbicularis (Forsskål, 1775)
ช่อื สามัญ: ปลาหูชา้ งกลม (Orbicular batfish)
ชอ่ื ท้องถ่นิ : ปลาฝาปดิ เนียง, ปลาค้างคาว
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีสีเงินอมเทา บริเวณลำตัวมีสีดำจางๆ พาดขวางตรงส่วนหัว
และบริเวณหลังแผ่นปิดเหงือก ส่วนหัวเล็กและสั้นมีความนูนเล็กน้อย จะงอยปาก
เลก็ แหลมย่นื เลก็ น้อย รมิ ฝปี ากหนา ครบี หลังมตี อนเดียว ประกอบด้วยกา้ นครีบแขง็
5 ก้าน และก้านครีบอ่อน 34 – 39 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และมีก้าน
ครีบอ่อน 25 – 29 ก้าน ครีบหลัง ครีบก้นและครีบหางมีสีเงินอมเทาปลายครีบมี
แถบสีดำ ครบี อกและครีบทอ้ งมสี ีเหลอื ง ตรงปลายของครบี ทอ้ งมสี ดี ำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง อ่าว
เปอร์เซีย และตะวนั ตกของหาสมทุ รแอตแลนติก
แหล่งทอี่ ยู่อาศัย: บรเิ วณแนวปะการัง
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 60 เซนติเมตร
111
Platax teira (Forsskål, 1775)
ชอ่ื สามัญ: ปลาหูชา้ งครบี ยาว (Longfin batfish)
ชอ่ื ทอ้ งถ่นิ : ปลาปีกเนียง, ปลาคา้ งคาว
ลกั ษณะเด่น: ลำตวั มีสีเงินอมเทา ชว่ งทอ้ งสเี ทา บริเวณลำตวั มีสีดำจางๆ พาดขวาง
ตรงส่วนหัว และบริเวณหลังแผ่นปิดเหงือก ส่วนหัวเล็กและสั้นตัดตรง จะงอยปาก
เล็ก ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 5 - 6 ก้าน และก้านครีบอ่อน
28 – 37 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และมีก้านครีบอ่อน 22 – 28 ก้าน
ครีบหลัง ครีบก้นและครีบหางมีสีเงินอมเทาปลายครีบมีแถบสีดำ ครีบอกและครีบ
ท้องมสี เี หลือง ตรงปลายของครบี ท้องมีสดี ำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
อ่าวเปอร์เซีย ปาปวั นิวกนิ ี และหม่เู กาะริวกวิ
แหลง่ ท่ีอยู่อาศยั : บรเิ วณแนวชายฝ่งั และปากแมน่ ำ้
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 70 เซนติเมตร
112
Fistulariidae
วงศป์ ลาปากขลุ่ย
ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยา
ลําตัวยาวมากและแบนข้าง ไม่มีเกล็ด แต่มีส่วนแข็งที่ลักษณะเหมือน
เกราะขนาดเล็กบริเวณตอนหน้าของลำตัว จะงอยปากยืน่ ยาวเหมือนท่อ เป็นรูปหก
เหลี่ยมในลักษณะตัดขวาง ปากเล็ก คอดหางแบนลง ครีบหลังหรือครีบกน้ เล็ก และ
สั้น โดยครีบหลังอยู่ข้ามกับครีบก้น มีก้านครีบอ่อน 14 - 17 ปลายหางมีเส้นยาว
คลา้ ยแส้ยนื่ ออกมา ครีบอกมีก้านครีบออ่ น 3 ก้าน
วธิ ที ำประมง: ไมใ่ ชส่ ัตว์น้ำเศรษฐกิจ มักตดิ มาจากการทำประมงอวนลาก
Tube-like snout No scaleless
No barbel 14-17 dorsal fin soft rays
Forked caudal fin with 14-17 anal fin soft rays
long filament
ทมี่ า: Kimura et al. (2009)
113
Fistularia petimba (Lacepède, 1803)
ช่ือสามัญ: ปลาปากขลุ่ย (Red cornetfish)
ชื่อทอ้ งถ่นิ : ปลาปากแตร, ปลาสามรส
ลักษณะเด่น: ลำตัวมีเป็นสีน้ำตาลแดง จะงอยปากยื่นยาว ครีบหลังหรือครีบก้นเล็ก
และสน้ั มีตอนเดียว โดยครบี หลงั อยู่ข้ามกบั ครบี กน้ ครบี หลงั ประกอบด้วยก้านครบี
อ่อน 13 – 15 ก้าน ครบี ก้นมีก้านครีบออ่ น 14 – 15 ก้าน ปลายหางมเี ส้นยาวคล้าย
แส้ย่นื ออกมา 1 เสน้
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง ตอนใต้
ของบราซิล มหาสมุทรแอตแลนติกฝั่งตะวันออก หมู่เกาะฮาวาย และหมู่เกาะโอกา
ซาวาระ
แหลง่ ทีอ่ ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวชายฝง่ั
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 200 เซนติเมตร
114
Gerreidae
วงศ์ปลาดอกหมาก
ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา
เป็นปลาที่มีขนาดปานกลาง มีลำตัวปอมและแบนข้าง เกล็ดบนหัวเป็น
แบบขอบเรียบ (cycloid) หรือเป็นแบบขอบหนาม (ctenoid) ปากยืดหดได้แบบ
คว่ำลงด้านล่าง ขากรรไกรมีฟนขนาดเล็กท่ีมีปลายแหลม ฐานครีบหลงั และครีบก้น
มีแผ่นเกล็ดขึ้นไปปกคลุม ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
9-10 ก้าน และครีบอ่อน 9 - 18 ก้าน ครีบก้น ประกอบดว้ ยกา้ นครีบแข็ง 2-4 ก้าน
และครบี ออ่ น 13-14 ก้าน ครีบหางเวา้ แบบสอ้ ม (fork tail)
วิธที ำประมง: อวนลอ้ ม เครอ่ื งมือประเภทอวนติดตา ได้แก่ อวนลอย
Head scaled Single dorsal fin with 9 – 10, soft rays 9 - 18
Scaly sheath
Mouth highly Anal fin with 2 – 4, soft rays 13 – 14
protrusible
ที่มา: Kimura et al. (2009)
115
Gerres erythrourus (Bloch, 1791)
ชื่อสามญั : ปลาดอกหมากครบี ส้นั (Deep bodied mojarra)
ชื่อท้องถน่ิ : ปลาดอกหมาก, ปลากะไป๋
ลกั ษณะเดน่ : ลำตัวมีสีเงินอมเทา ชว่ งทอ้ งสเี งิน ส่วนหัวเลก็ และส้ัน จะงอยปากเล็ก
สามารถยืดหดได้ ครีบท้องมีสีเหลือง ครีบหลังมีตอนเดียวสีขาวใส ประกอบด้วย
ก้านครีบแข็ง 9 ก้าน และก้านครีบอ่อน 10 ก้าน ครีบก้นมีสีขาวใสปลายครีบสี
เหลือง ประกอบดว้ ย กา้ นครีบแขง็ 3 กา้ น และมกี ้านครีบออ่ น 7 ก้าน
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มาดากัสการ์ และ
ออสเตรเลีย
แหลง่ ทอ่ี ย่อู าศัย: บริเวณแนวชายฝง่ั และปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ สูว่ ัยเจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 30 เซนติเมตร
116
Gerres filamentosus (Cuvier, 1829)
ชอ่ื สามัญ: ปลาดอกหมากกระโดง (Whipfin silver biddy)
ชือ่ ทอ้ งถ่นิ : ปลาดอกหมาก, ปลากะปายขม้ี ัน, ปลากะไปข๋ ม้ี ัน
ลักษณะเดน่ : ลำตัวมีสีเงนิ อมเทา ชว่ งทอ้ งสีเงนิ สว่ นหวั เล็กและส้นั จะงอยปากเล็ก
ยื่นยาวออกมา และสามารถยืดหดได้ ครบี ท้องสขี าวใส ครบี หลงั มตี อนเดยี วสีขาวใส
ด้านหน้าครบี เป็นกา้ นครีบยาว ประกอบดว้ ยกา้ นครบี แขง็ 9 กา้ น และก้านครีบออ่ น
10 ก้าน ครีบก้นมีสีขาวใส ประกอบด้วย ก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และมีก้านครีบอ่อน
7 ก้าน
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มาดากัสการ์ และ
ออสเตรเลีย
แหลง่ ทอี่ ย่อู าศัย: บริเวณแนวชายฝง่ั และปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พนั ธ์ุ: 19 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 39 เซนติเมตร
117
Pentaprion longimanus (Cantor, 1849)
ชื่อสามญั : ปลาดอกหมากครีบยาว (Longfin mojarra)
ชื่อทอ้ งถนิ่ : ปลาแปน้ แกว้
ลักษณะเด่น: ลำตัวใสอมเหลือง ส่วนหัวเล็กและสั้น จะงอยปากเล็กยื่นยาวออกมา
และสามารถยืดหดได้ ครีบท้อง และครีบหางสีขาวใส ครีบหลังมีตอนเดียวสีขาวใส
ประกอบด้วยกา้ นครบี แขง็ 9 - 10 กา้ น และกา้ นครบี อ่อน 14 - 15 ก้าน ครบี กน้ มีสี
ขาวใส ประกอบดว้ ย กา้ นครีบแข็ง 5 - 6 กา้ น และมีก้านครบี ออ่ น 12 - 13 ก้าน
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มาดากัสการ์ และ
ออสเตรเลยี
แหลง่ ท่ีอยอู่ าศยั : บรเิ วณแนวชายฝงั่ และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 15 เซนติเมตร
118
Haemulidae
วงศ์ปลากะพงแสม
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา
ลำตัวคอนข้างปอมและแบนขง เกล็ดแบบมีขอบเป็นหนาม (ctenoid)
บริเวณสวนหัวและดนหนาของตามีเกล็ดปกคลุม จะงอยปากเล็ก ริมฝีปากหนา
บริเวณคาง มีตุ่มเล็กๆเรียงกัน ครีบหลังติดกันเป็นครีบเดียว และมีก้านครีบแข็ง
9-15 ก้าน ก้านครีบอ่อน 11-26 ก้าน ครีบก้นประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 3 ก้าน
ก้านครีบอ่อน 7-9 ก้าน โดยก้านครีบแข็งก้านที่สองของครีบก้นเป็นหนามมีความ
แขง็ และแหลม ครบี หางเวา้ เล็กน้อยแบบพระจนั ทร์เสย้ี ว (lunate tail)
วธิ ีทำประมง: อวนลาก เครอื่ งมอื ประเภทอวนตดิ ตาได้แก่ อวนจม และอวนสามชัน้
Single dorsal fin with 9 – 15, soft rays 11 - 26
Head scale Lunate tail
Thick lip Anal fin with 3,
soft rays 7 - 9
ท่ีมา: Kimura et al. (2009) 2nd anal fin spine strong
119
Diagramma pictum (Thunberg, 1792)
ชอ่ื สามัญ: ปลาสรอ้ ยนกเขาจุดทอง (Painted sweetlips)
ช่ือทอ้ งถ่ิน: ปลาหวาด, ปลาขี้นก
ลกั ษณะเดน่ : ลำตัวสเี ทามีลายจุดสีเหลอื งตั้งแต่ส่วนหัวจนถงึ คอดหาง บริเวณหลังสี
น้ำตาล ส่วนหัวมีลายสีเหลืองบริเวณใต้คางมีรูเล็กๆ ประมาณ 6 รู จะงอยปากเล็ก
ริมฝีปากหนา ครีบหางสีเทามีจุดสีน้ำตาลเล็กตลอดหาง ครีบอกสีขาวใสอมเหลือง
ครีบหลังมีตอนเดียวสีเทามีจุดสีน้ำตาลตลอดครีบ ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
9 - 10 ก้าน และก้านครีบอ่อน 21 - 25 ก้าน ครีบก้นมีสีเทาอมดำ ประกอบด้วย
กา้ นครบี แขง็ 3 กา้ น และมกี ้านครบี ออ่ น 7 กา้ น
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซิฟิกฝง่ั ตะวันตก ทะเลแดง ตะวันออก
ของแอฟริกา และทะเลญีป่ ุน่
แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั : บรเิ วณแนวปะการงั แนวหนิ กองติดตอ่ ทะเลเปิด
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: 31.8 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 100 เซนติเมตร
120
Plectorhinchus gibbosus (Lacepède, 1802)
ชอื่ สามญั : ปลาตะเภาปากหมู (Harry hotlips)
ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ : ปลาข้นี กปากหมู
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทาอมดำ บริเวณหลังสีน้ำตาล จะงอยปากเล็ก ริมฝีปากหนา
ครีบทุกครีบมีสีเทาอมดำ ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 14 ก้าน
และก้านครีบอ่อน 15 - 16 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วย ก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และมี
กา้ นครีบออ่ น 7 - 8 กา้ น บริเวณปลายโคนแผน่ ปดิ เหงือกมสี คี ล้ำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง อ่าว
เปอรเ์ ซยี หมู่เกาะริวกวิ และหมเู่ กาะโคโมโร
แหล่งทีอ่ ยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝ่ัง และแนวปะการงั
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 75 เซนติเมตร
121
Pomadasys kaakan (Cuvier, 1830)
ชอ่ื สามญั : ปลากะพงแสม (Javelin grunter)
ช่อื ท้องถนิ่ : ปลาครูดคราด, ปลาโหรดโหรด
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา มีลายจุดสีน้ำตาลจางๆพาดเรียงเป็นแถวบริเวณ
ช่วงหลังของลำตัวตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงคอดหาง ประมาณ 8 – 12 แถว จะงอยปาก
เล็ก ริมฝีปากหนา ครีบหางสีเทาเหลือง ครีบอกสีขาวใสอมเหลือง ครีบหลังมีตอน
เดียวสีขาวใสมีจุดสีนำ้ ตาลตลอดครีบ ประกอบด้วยก้านครบี แข็ง 12 ก้าน และก้าน
ครีบอ่อน 13 - 15 ก้าน ครีบก้นมีสีขาวใสอมเหลือง ประกอบด้วย ก้านครีบแข็ง
3 ก้าน และมกี า้ นครีบอ่อน 7 กา้ น
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซฟิ ิกฝงั่ ตะวนั ตก ทะเลแดง ตะวันออก
ของแอฟรกิ า และอ่าวเปอร์เซยี
แหล่งท่ีอยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝง่ั และแนวปะการงั
ขนาดเข้าสู่วัยเจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 80 เซนติเมตร
122
Pomadasys maculatus (Bloch, 1793)
ช่ือสามัญ: ปลากะพงแสมลายบงั้ (Saddle grunt)
ชื่อท้องถนิ่ : ปลาครูดคราด, ปลาโหรดโหรดมสู ัง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา มีลายจุดสีดำพาดบริเวณช่วงหลังของลำตัวตั้งแต่
ส่วนหัวจนถึงคอดหาง ประมาณ 5 แถว จะงอยปากเล็ก ริมฝีปากหนา ครีบหางสี
เทาเหลือง ครีบอกสีขาวใสอมเหลือง ครีบหลังมีตอนเดียวสีขาวใส ประกอบด้วย
ก้านครีบแข็ง 12 ก้าน และก้านครีบออ่ น 13 - 14 ก้าน ครีบก้นมีสีขาวใสอมเหลือง
ประกอบด้วย กา้ นครบี แขง็ 3 ก้าน และมกี ้านครีบอ่อน 7 กา้ น
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามัน อนิ โด – แปซิฟิกฝงั่ ตะวันตก
แหล่งท่อี ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวชายฝัง่ และแนวปะการงั
ขนาดเขา้ สู่วยั เจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 59.3 เซนตเิ มตร
123
Hemiramphidae
วงศป์ ลากะทุงเหว
ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา
ทรงกระบอกยาวเรียว ส่วนหัวยาว จะงอยปากยืน่ ยาว ปากล่างจะมีความ
ยื่นยาวออกมามากกว่าปากบน ขากรรไกรบนสั้นรูปสามเหลี่ยม ยกเว้นชนิด
Oxyporhamphus ครีบหลังและก้นสั้นตรงข้ามกัน ครีบหางแบบส้อมเว้าลึก
(forked tail) ครีบไม่มีก้านครีบแข็ง ก้านครีบอกและก้านครีบท้อง ประกอบด้วย
ก้านครบี อ่อน 38 - 75 กา้ น
วิธที ำประมง: ไม่ใชส่ ตั วน์ ำ้ เศรษฐกิจ มกั ตดิ มาจากการทำประมงประเภทอวนติดตา
ไดแ้ ก่ อวนลอย
Short triangular upper jaw Forked tail
Lower jaw usually extended
into a long beak
pectoral and pelvic fins
with soft ray 38 – 75
ทมี่ า: Kimura et al. (2009)
124
Hemiramphus far (Forsskål, 1775)
ชอ่ื สามญั : ปลากะทุงเหวแม่ม่าย (Black barred halfbeak)
ชอ่ื ทอ้ งถนิ่ : ปลาตับเต่า
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา มีลายจุดสีดำ ประมาณ 3 – 9 จุดเรียงเป็นแถว
บริเวณช่วงหลังของลำตัว จะงอยปากยื่นยาว ปากล่างจะมีความยื่นยาวออกมา
มากกว่าปากบน ขากรรไกรบนสั้นรูปสามเหลี่ยมครีบหางสีเทาอมเหลือง ครีบอกสี
ขาวใส ครีบหลังมีตอนเดียวสีขาวใสอมเหลือง ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน
12 - 15 กา้ น ครบี กน้ มีสขี าวใส ประกอบด้วย กา้ นครบี ก้านครบี ออ่ น 10 - 12 กา้ น
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามนั อนิ โด – แปซฟิ กิ ฝัง่ ตะวันตก ทะเลแดง หมเู่ กาะริว
กวิ ทะเลเมดิเตอเรเนยี น และคลองสุเอซ
แหลง่ ท่ีอยูอ่ าศยั : บริเวณแนวชายฝง่ั และปากแมน่ ำ้
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 45 เซนติเมตร
125
Hyporhamphus limbatus (Valenciennes, 1847)
ชอื่ สามญั : ปลากะทงุ เหวเมือง (Congaturi halfbeak)
ชื่อท้องถิ่น: ปลาเข็ม, ปลาโทง
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา มีลายจุดสีดำ ประมาณ 3 – 9 จุดเรียงเป็นแถว
บริเวณช่วงหลังของลำตัว จะงอยปากยื่นยาว ปากล่างจะมีความยื่นยาวออกมา
มากกว่าปากบน ขากรรไกรบนสั้นรูปสามเหลี่ยมครีบหางสีเทาอมเหลือง ครีบอกสี
ขาวใส ครีบหลังมีตอนเดียวสีขาวใสอมเหลือง ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน
12 - 15 กา้ น ครีบก้นมสี ีขาวใส ประกอบด้วย ก้านครบี กา้ นครบี อ่อน 10 - 12 ก้าน
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อนิ โด – แปซฟิ ิกฝัง่ ตะวันตก ทะเลแดง หมูเ่ กาะริว
กิว ทะเลเมดิเตอเรเนียน และคลองสุเอซ
แหล่งท่อี ยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝั่ง และปากแม่นำ้
ขนาดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 45 เซนติเมตร
126
Hemiramphus marginatus (Forsskål, 1775)
ชือ่ สามญั : ปลากะทุงเหวปากแดง (Yellowtip halfbeak)
ชื่อทอ้ งถ่นิ : ปลาเขม็ , ปลาโทงละดะ
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา มีแถบสีเงนิ พาดยาวตั้งแต่หลงั แผน่ ปิดเหงือกจนถึง
คอดหางบริเวณช่วงหลังของลำตัว จะงอยปากยื่นยาว ปากล่างจะมีความยื่นยาว
ออกมามากกว่าปากบนรูปร่างคล้ายหอกสีดำ ปลายปากล่างมีสีแดง ขากรรไกรบน
สัน้ ครบี สขี าวใสขอบครบี สีดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง และอ่าว
เปอรเ์ ซีย
แหล่งทอ่ี ยอู่ าศยั : บรเิ วณแนวชายฝงั่ และปากแมน่ ำ้
ขนาดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 26 เซนติเมตร
127
Hemiscylliidae
วงศ์ฉลามกบ
ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยา
ลำตัวยาวเป็นทรงกระบอก มี spiracles ขนาดใหญ่อยบู่ ริเวณด้านหลังตา
มีร่องเหงือกขนาดเล็ก 5 ร่อง บริเวณจมูกที่มีหนวด 2 เส้น และมีร่องเปิดที่จมูก
(nasoral grooves) ปากบนค่อนมาทางด้านล่างของส่วนหัว ครีบหลังมีสองตอน
ไมม่ ีกา้ นครบี ครีบหางด้านบนยาวกว่าดา้ นล่าง โดนครีบหางด้านล่างมี 2 แฉก
วธิ ีทำประมง: ไมใ่ ชส่ ัตวน์ ำ้ เศรษฐกิจ มกั ติดมาจากการทำประมง อวนลาก
Spiracles 5 small gill slits present
Barbels
Nasoral groove
Intestinal valve
of ring type
(diagrammatic)
ทม่ี า: Kimura et al. (2009)
128
Chiloscyllium punctatum (Müller&Henle, 1838)
ช่ือสามัญ: ฉลามกบ (Brownbanded bambooshark)
ชื่อท้องถ่นิ : ฉลามกบ
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีน้ำตาลอ่อน วัยเด็ก (juvenile) มีแถบสีน้ำตาลเข้มพาดขวาง
ลำตัว จะงอยปากเล็ก ริมฝีปากหนา ปากค่อนไปทางด้านล่างของส่วนหัว บริเวณ
จมกู มหี นวด 1 คู่ ครีบหลังมีสองตอน ไมม่ ีก้านครีบ
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามนั อนิ โด – แปซฟิ ิกฝ่ังตะวนั ตก และออสเตรเลีย
แหล่งท่อี ยอู่ าศัย: บริเวณแนวชายฝงั่ และแนวปะการงั
ขนาดเขา้ สู่วยั เจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 132 เซนติเมตร
129
Holocentridae
วงศป์ ลาเพชรา
ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา
ลำตัวป้อมและแบนข้าง ส่วนหัวมีสันกระดูก นัยน์ตาโต ปากกว้างมุมปาก
เฉียงลงตํ่า ขากรรไกรล่างยืดหดได้ เกล็ดบนลำตัวเป็นแบบขอบหนาม (ctenoid)
และสากเเมื่อสัมผัส ครีบหลังมีตอนเดียวเป็นก้านครีบซี่หยักชัดเจน ครีบหลังมีก้าน
ครีบแข็ง 10 – 13 ก้าน และก้านครีบอ่อน 11 – 17 ก้าน ครีบอกมีก้านครีบแข็ง
1 ก้านและก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบก้นประกอบด้วยก้านครีบแข็งแหลมคล้าย
หนาม 4 กา้ น ปลายหางเว้ารูปพระจันทร์เสย้ี ว (lunate tail)
วิธที ำประมง: อวนล้อม เครอื่ งมือประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนลอย
Large eyes Deeply notched
Lunate tail
Pelvic fin with 1 spine Anal fin with 4 spines
and 7 soft rays
ท่ีมา: Kimura et al. (2009)
130
Myripristis murdjan (Forsskål, 1775)
ชือ่ สามัญ: ปลาข้าวเมา่ นำ้ ลึกแก้มดำ (Pinecone soldierfish)
ช่อื ท้องถน่ิ : ปลาข้าวเมา่ น้ำลกึ แก้มดำ
ลกั ษณะเดน่ : ลำตวั สีส้มอมแดง จะงอยปากเล็ก ปลายขอบขากรรไกรกว้าง และปาก
เฉียงขึ้นด้านบน ตรงแผ่นกระดูกปิดเหงือกไม่มีหนาม แต่ขอบของเกลด็ มคี วามหยกั
และเป็นหนาม ปลายขอบมีสีดำ ครีบหลังมีตอนเดียว แต่แยกกันระหว่างก้านครีบ
แข็ง และก้านครีบอ่อนชัดเจน ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 11 ก้าน และก้านครีบ
อ่อน 13 - 15 ก้าน ครีบก้น ประกอบดว้ ย ก้านครีบแข็ง 4 ก้าน และมีก้านครีบออ่ น
11 - 14 กา้ น ครีบทกุ ครบี มสี แี ดงใส ปลายขอบครบี แตม้ สดี ำ
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามัน อนิ โด – แปซิฟิกฝงั่ ตะวันตก ทะเลแดง อ่าวโอมาน
และโอเชียเนยี
แหลง่ ท่ีอยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝ่ัง ติดตอ่ ทะเลเปดิ
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พนั ธ์ุ: 17.5 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สดุ : 60 เซนติเมตร
131
Sargocentron rubrum (Forsskål, 1775)
ชอื่ สามัญ: ปลากระรอก (Redcoat)
ชื่อท้องถน่ิ : ปลารอก, ปลาอมรา
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีส้มอมแดง จะงอยปากเล็ก ปากเฉียงขึ้นด้านบน ตรงแผ่น
กระดูกปิดเหงือกมีหนามแหลม ตรงขอบเกล็ดหยักและเป็นหนาม ลำตัวมีรอยพาด
ยาวตั้งแต่หลังแผ่นปิดเหงือกจนถึงคอดหางสีขาวตลอดลำตัว มีรอยขีดยาวคล้าย
รอยบากอยู่ตรงระหว่างก้านครีบแข็งและก้านครีบอ่อน ครีบหลังมีตอนเดียว แต่
แยกกันระหว่างก้านครีบแข็ง และก้านครีบอ่อนชัดเจน ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง
11 ก้าน และก้านครีบอ่อน 12 - 14 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วย ก้านครีบแข็ง
4 กา้ น และมีก้านครบี อ่อน 8 - 10 กา้ น ครีบทุกครบี มีสีแดง
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง และตอน
ใตข้ องญ่ปี ุ่น
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศัย: บรเิ วณแนวชายฝั่ง ติดตอ่ ทะเลเปิด
ขนาดเข้าสูว่ ยั เจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 32 เซนติเมตร
132
Istiophoridae
วงศป์ ลากระโทง
ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา
ลำตัวป้อมใหญ่ยาว และค่อนข้างกลม ครีบหลังและครีบก้นมีสองตอน
ครบี ท้องมีกา้ นครีบ 1 - 3 ก้าน ปลายปากด้านบนมี กระดูก ยื่นยาวแหลมออกมา ใช้
เพื่อนำทาง ลา่ เหย่ือและป้องกนั ตวั ครบี หางเว้าลกึ แบบส้อม (fork tail)
วิธที ำประมง: เบด็ ราว และเบ็ดมือ
Dorsal high about equal or
longer than body depth
Forked tail
Rounded spear
ท่ีมา: Kimura et al. (2009)
133
Istiophorus platypterus (Shaw, 1792)
ชอ่ื สามัญ: ปลากระโทงร่ม (Indo-Pacific sailfish)
ชอ่ื ทอ้ งถ่นิ : ปลาใบ
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา บริเวณหลังมีสีเงินอมน้ำเงิน ช่วงท้องสีขาวมี
ลายเส้นพาดยาวจากส่วนหลังจนถึงช่วงท้อง จะงอยปากแหลมยาว โดยปากบนยนื่
ยาวออกมามากกวา่ ปากล่าง ครีบหลังมีสองตอนตอนเดียว โดยที่ครีบหลังตอนแรก
เป็นกระโดงสงู เมื่อแผ่ออกจะมีลกั ษณะเป็นแผ่นกวา้ ง และครีบหลังตอนสองมขี นาด
เลก็ และส้ัน ซง่ึ ครีบหลังไม่มกี า้ นครีบแขง็ โดยมกี า้ นครบี ออ่ น 47 - 53 ก้าน ครีบก้น
ประกอบดว้ ย กา้ นครบี แขง็ 2 กา้ น และมกี ้านครบี ออ่ น 12 - 15 กา้ น ครีบทุกครีบมี
สีเทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง ทะเลเมดิ
เตอร์เรเนียน และมหาสมทุ รแอตแลนตกิ
แหลง่ ทีอ่ ย่อู าศัย: บริเวณแนวชายฝงั่ ติดต่อทะเลเปดิ
ขนาดเขา้ สู่วยั เจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 348 เซนตเิ มตร
134
Istiompax indica (Cuvier, 1832)
ชอ่ื สามัญ: ปลากระโทงแทงดำ (Black marlin)
ชอื่ ทอ้ งถ่นิ : ปลาโทงแทง, ปลาโทงยักษ์
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเงินอมเทา บริเวณหลังมีสสีเงินอมน้ำเงิน ช่วงท้องสีขาวมี
ลายเส้นพาดยาวจากส่วนหลังจนถึงช่วงทอ้ ง จะงอยปากแหลมยาว โดยปากบนย่ืน
ยาวออกมามากกว่าปากล่าง ครีบหลังมีสองตอน โดยที่ครีบหลังตอนแรกเป็น
กระโดงไมส่ ูงมากนกั และครีบหลังตอนสองมขี นาดเลก็ และสั้น ซึ่งครีบหลงั ไม่มกี ้าน
ครีบแข็ง โดยมีก้านครีบอ่อน 39 - 50 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วย ก้านครีบแข็ง 2
กา้ น และมกี า้ นครีบอ่อน 16 - 21 ก้าน ครบี ทุกครบี มีสเี ทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามนั อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวนั ตก ทะเลแดง คลองสเุ อซ
ทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียน และมหาสมุทรแอตแลนติก
แหล่งทอี่ ยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝั่ง ติดตอ่ ทะเลเปิด
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 465 เซนติเมตร
135
Lactariidae
วงศป์ ลาใบขนุน
ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา
ลำตัวค่อนข้างป้อม แบนข้าง ไม่มีเส้นข้างลำตัว มีครีบหลังสองตอน ครีบ
หลังตอนแรกมี 7 - 8 ก้านครีบ ครีบหลังตอนสองมีก้านครีบ 1 ก้านและครีบอ่อน
แตกแขนง 19 - 23 ก้าน ครีบกน้ ยาวตงั้ แตก่ ลางลำตัวถึงคอดหางมีกา้ นครีบ 3 ก้าน
และครีบออ่ นแตกแขนง 25 - 28 กา้ น เกล็ดบางแบบขอบเรยี บ ครบี หางเว้าแบบรูป
พระจนั ทร์เสีย้ ว (lunate tail)
วิธที ำประมง: อวนล้อม
2 Dorsal fins 7 – 8 and 19 - 23 soft rays
Lunate tail
Anal fins 3 and 25 - 28 soft rays
ทมี่ า: Kimura et al. (2009)
136