The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สารานุกรมที่รวบรวมชนิดปลาจากการทำประมงบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ประเทศไทย จากทั้งประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ ในสารานุกรมนี้จะบอกถึงชนิดปลา รวมทั้งชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ชื่อท้องถิ่นที่ชาวประมงทางภาคใต้เรียก รวมถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละชนิ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Yok Pongsuwan, 2022-06-27 08:17:07

ปลาทะเลจากการทำประมงบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ประเทศไทย

สารานุกรมที่รวบรวมชนิดปลาจากการทำประมงบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ประเทศไทย จากทั้งประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ ในสารานุกรมนี้จะบอกถึงชนิดปลา รวมทั้งชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ชื่อท้องถิ่นที่ชาวประมงทางภาคใต้เรียก รวมถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละชนิ

Lactoria cornuta (Linnaeus, 1758)

ช่ือสามญั : ปลาปกั เป้าเขาววั (Longhorn cowfish)
ชื่อท้องถน่ิ : ปลาเปา้ เขาววั
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเหลืองอมเขียว ท้องสีขาว ส่วนหัวมีหนามแหลมคล้ายเขาย่ืน
ออกมา 1 คู่ ลำตัวป้อมสั้นเป็นสี่เหลี่ยม มีเกล็ดขนาดใหญ่ลักษณะหกเหลี่ยม ตรง
กลางเกล็ดมีจุดสีฟ้า ปากยืดหดไม่ได้ ครีบหลังมีตอนเดียว ไม่มีก้านครีบแข็ง มีก้าน
ครีบอ่อน 8 - 9 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 8 - 9 ก้าน หน้าครีบก้นมี
หนามแหลม 1 คู่
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง หมู่เกาะ
มารเ์ คซัส และหมู่เกาะลอรด์ โฮเว่
แหลง่ ท่อี ยู่อาศัย: บริเวณแนวหนิ หรือแนวปะการัง
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 46 เซนติเมตร

187

Ostracion rhinorhynchos (Bleeker, 1851)

ช่ือสามญั : ปลาปักเปา้ กลอ่ งหัวโหนก (Horn nosed boxfish)
ชื่อท้องถิ่น: ปลาเป้ากล่องหัวโหนก
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทา ท้องสีขาว ส่วนหัวมีหนามแหลมคลา้ ยเขายื่นออกมา 1 คู่
ลำตัวป้อมสั้นเป็นห้าเหลี่ยม มีลายจุดสีดำทั่วลำตัว มีเกล็ดขนาดใหญ่ลักษณะหก
เหลี่ยม วัยโตเต็มวัยด้านหน้าของส่วนหัวจะยื่นออกมาชัดเจน จะงอยปากยาว ยืด
หดไม่ได้ ครบี หลงั มตี อนเดียว ไม่มกี ้านครบี แขง็ มีกา้ นครบี ออ่ น 8 - 9 ก้าน ครีบก้น
ประกอบด้วยกา้ นครีบออ่ น 8 - 9 กา้ น หนา้ ครบี ก้นมหี นามแหลม 1 คู่ คอดหางยาว
ครีบทุกครีบสเี ทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ตะวันออกของ
แอฟริกา และญี่ปุ่น
แหลง่ ท่ีอยู่อาศัย: บริเวณแนวหิน หรือแนวปะการงั
ขนาดเขา้ สูว่ ัยเจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 35 เซนติเมตร

188

Paralichthyidae

วงศป์ ลาลน้ิ ควาย

ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา

รูปร่างลำตัวแบนข้าง มีตาอยู่ข้างเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นด้านซ้ายของ
ตัว แตบ่ างครงั้ อาจพบอยู่ดา้ นขวา จะงอยปากย่นื ยดื หดไมไ่ ด้ โดยรมิ ฝปี ากล่างใหญ่
กว่าและงุ้มขึ้น ครีบหลังตอนเดียวมีจุดเริ่มต้นครีบตรงกับบริเวณตา ไม่มีหนาม
แหลม หรือกา้ นครีบแข็ง ครบี หางเปน็ แบบตดั ตรง (truncate tail)
วิธีทำประมง: ไม่ใช่สัตว์น้ำเศรษฐกิจ มักติดมาจากการทำประมง อวนลาก และ
เครือ่ งมือประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนจม

Eyes typically on left Dorsal fin long, originating
side of head above anterior to upper eye

Preopercular margin
free and visable

ท่ีมา: Kimura et al. (2009)

189

Pseudorhombus arsius (Hamilton, 1822)

ชอ่ื สามัญ: ปลาลิ้นควายเกลด็ ล่ืน (Horn nosed boxfish)
ช่ือท้องถน่ิ : ปลาลน้ิ ควาย, ปลาล้ินเสอื
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทาเข้ม (ด้านซ้าย) ท้องสีขาว (ด้านขวา) ลำตัวป้อมสั้น
ปากกวา้ ง โดยริมฝีปากลา่ งยื่นยาวกวา่ ด้านบน มลี ายจดุ สีดำอยู่บริเวณสว่ นหนา้ ของ
ลำตัว 1 จุด และคอดหาง 1 จุด มีเกล็ดขนาดใหญ่ลักษณะหกเหลี่ยม ครีบหลังมี
ตอนเดียว ไม่มีก้านครีบแข็ง มีก้านครีบอ่อน 71 - 84 ก้าน ครีบก้น ประกอบด้วย
กา้ นครบี ออ่ น 53 - 62 ก้าน ครีบทุกครีบสเี ทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย ญี่ปุ่น
ออสเตรเลยี และชายฝ่งั ตะวันออกของแอฟรกิ า
แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศัย: บริเวณแนวชายฝง่ั และปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ ส่วู ัยเจรญิ พนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 45 เซนติเมตร

190

Platycephalidae

วงศป์ ลาช้างเหยียบ

ลักษณะทางสณั ฐานวิทยา

รูปร่างลำตัวแบนล่างเรียวยาว ช่วงหัวแคบ บริเวณส่วนหัวมักมีหนาม
ขากรรไกรล่างยื่นยาว เกล็ดเป็นแบบขอบหนาม (ctenoid) ครีบหลังส่วนแรกมาก
พบเป็นหนามคม 9 ก้าน ก้านที่หนึ่งเป็นหนามสั้นๆบริเวณก้านครีบมีพิษทำลาย
ระบบประสาท ครีบหลงั สว่ นทีส่ องและครบี กน้ เปน็ ครบี ออ่ น 10 - 15 ก้าน ครบี อกมี
ลักษณะกลมและใหญ่ ครีบหางเป็นแบบหางตัดเกือบตรง (truncate tail)
วิธีทำประมง: ไม่ใช่สัตว์น้ำเศรษฐกิจ มักติดมาจากการทำประมงอวนลาก และ
อวนจม

Frist dorsal fin usually 9 spines Second dorsal fin
Head depressed with10 – 15 soft
rays

Lower jaw longer 10 – 15 soft rays

ท่มี า: Kimura et al. (2009)

191

Platycephalus indicus (Linnaeus, 1758)

ช่อื สามญั : ปลาชา้ งเหยียบ (Bartail flathead)
ชอ่ื ท้องถ่ิน: ปลาหางควาย, ปลาหัวแบน
ลกั ษณะเด่น: ลำตัวสนี ้ำตาลอมเทา ปากกวา้ ง โดยริมฝปี ากล่างยนื่ ทแ่ี ผ่นปิดเหงือก
มีหนามยื่นออกมา 2 อัน ยาวกว่าด้านบน ด้านท้องเป็นสอี อ่ นมจี ุดแถบสี ครีบหลังมี
สองตอน ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 9 – 10 ก้าน มีก้านครีบอ่อน 13 ก้าน ครีบกน้
ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 13 ก้าน ครีบทุกครีบสีเทา ครีบหางสีเหลืองมีแถบสีดำ
2 – 3 แถบ
การแพร่กระจาย: ทะเลอนั ดามัน อนิ โด – แปซฟิ ิกฝ่งั ตะวันตก ทะเลแดง ตะวันออก
ของแอฟริกา ญ่ีปนุ่ และทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียน
แหล่งทอ่ี ย่อู าศัย: บริเวณแนวชายฝงั่ และปากแม่นำ้
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พันธุ์: 45 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 100 เซนติเมตร

192

Plotosidae

วงศป์ ลาดกุ ทะเล

ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา

ส วน หัวกล มแล ะแบนลงด้ านท้ายของลำตัวเรี ยวยาว แบนข้างมีหนวด
(barbel) 4 คู่ คือ หนวดที่บริเวณมุมปากทั้งปากบนและปากล่าง ครีบหลังมีสอง
ตอน ตอนแรกมีเงี่ยงเป็นฟันเลื่อย ครีบตอนที่สองยาวเชื่อมติดกับครีบหางและครบี
ก้น ส่วนคอดหางเรียวเล็ก ไม่มีเกล็ดปกคลุมลำตัว ครีบหางเป็นแบบหางแหลม
(pointed tail)
วธิ ีทำประมง: เบ็ดมอื และเครอื่ งมอื ประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนจม

4 pairs of barbels 1st dorsal fin Dorsal procurrent caudal fin
Caudal fin

Anal fin

ท่มี า: Kimura et al. (2009)

193

Plotosus canius (Hamilton, 1822)

ชอ่ื สามัญ: ปลาดุกทะเล (Gray eel catfish)
ช่ือท้องถ่นิ : ปลาดุกเล, ปลามิหลงั
ลักษณะเดน่ : ลำตวั สเี ทา หรือน้ำตาลเข้มอมดำตลอดตวั ดา้ นทอ้ งสีขาว หวั และแบน
ลง ปากกวา้ ง ช่องเปดิ เหงือกกวา้ ง บรเิ วณปากมหี นวดย่ืนออกมา 4 คู่ ท่ี ครีบหลังมี
สองตอน ตอนแรกมีก้านครีบแข็งคล้ายฟันเลื่อย ตอนที่สองเป็นก้านครีบที่เชื่อมกับ
ครีบหาง และครบี กน้ ไม่มกี า้ นครีบแขง็ เช่ือมติดกันกับครีบหาง ครีบทุกครีบมีสีเทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามนั อนิ โด – แปซฟิ กิ ตะวันฝ่งั ตก ชายฝ่งั ตะวันออกของ
บังคลาเทศและเมยี นมาร์ หม่เู กาะอนิ โดนเี ซีย และปาปัวนิวกนิ ี
แหลง่ ที่อยู่อาศยั : บรเิ วณแนวชายฝ่งั และปากแมน่ ำ้
ขนาดเข้าสูว่ ยั เจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 150 เซนติเมตร

194

Plotosus lineatus (Thunberg, 1787)

ชื่อสามัญ: ปลาดกุ ทะเลลาย (Gray eel-catfish)
ชื่อท้องถนิ่ : ปลาปิ่นแก้ว, ปลามหิ ลงั กะหรัง
ลักษณะเด่น: ลำตวั สเี ทา หรือน้ำตาลเข้มอมดำตลอดตัว ด้านทอ้ งสีขาว ลำตัวมีลาย
สีน้ำตาลเข้มพาดยาว 2 – 3 เส้น ตั้งแต่หลังแผ่นปิดเหงือกจนถึงคอดหาง หัวและ
แบนลง ปากกว้าง ช่องเปิดเหงือกกวา้ ง บริเวณปากมีหนวดยืน่ ออกมา 4 คู่ ที่ ครีบ
หลังมีสองตอน ตอนแรกมีก้านครีบแข็งคล้ายฟันเลื่อย ตอนท่ีสองเป็นก้านครีบ
85 – 105 ก้าน ทีเ่ ชอื่ มกบั ครบี หาง และครบี กน้ มีกา้ นครบี ออ่ น 70 – 81 ก้าน เชื่อม
ตดิ กันกับครีบหาง ครบี ทกุ ครีบมสี ีเทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง เกาหลีใต้
หมเู่ กาะโอกาซาวาระ หม่เู กาะเกาะลอร์ดฮาว และมาดากสั การ์
แหลง่ ทอ่ี ยูอ่ าศัย: บริเวณแนวชายฝงั่ และปากแม่น้ำ
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พันธ์ุ: 14 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 32 เซนติเมตร

195

Polynemidae

วงศป์ ลากุเรา

ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา

รูปร่างลำตัวยาว มีเยื่อหุ้มรอบดวงตา ครีบอกแบ่งออกเป็นสองส่วน
สว่ นลา่ งชว่ งคางแตกแขนงเปน็ เสน้ ประมาณ 2 – 4 เส้น ครบี หลังแยกเป็นสองส่วน
ชดั เจน ครีบหางเว้าลกึ รปู ส้อม (fork tail)
วิธที ำประมง: เคร่อื งมอื ประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนจม

2 Dorsal fins well separated
Adipose eyelid

Lower pectoral
fin rays forming
pectoral
filament

ท่มี า: Kimura et al. (2009)

196

Eleutheronema tetradactylum (Shaw, 1804)

ช่ือสามัญ: ปลากุเราหนวดสเ่ี สน้ (Bartail flathead)
ชือ่ ท้องถิน่ : ปลากุเรา, ปลาล่าหงิน
ลกั ษณะเด่น: ลำตัวสเี ทาเงนิ ชว่ งหลังสเี ทาเข้ม ดา้ นท้องสีขาว หัวและจะงอยปากทู่
ปากกวา้ ง บริเวณคางมหี นวดยื่นออกมา 4 เส้น ท่ี ครีบหลังมสี องตอน ตอนแรกเป็น
ก้านครีบแข็งสั้นๆ มีก้านครีบแข็ง 9 ก้าน มีก้านครีบอ่อน 13 - 15 ก้าน ครีบก้น มี
ก้านครบี แขง็ 3 กา้ น ประกอบดว้ ยก้านครีบออ่ น 14 - 16 กา้ น ครีบอก และครีบก้น
สเี หลือง สว่ นครบี อ่นื ๆมสี เี ทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย
ปาปวั นิวกินี ออสเตรเลีย และญป่ี ุ่น
แหลง่ ทอ่ี ยูอ่ าศัย: บรเิ วณแนวชายฝั่ง และปากแม่นำ้
ขนาดเขา้ สูว่ ัยเจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 200 เซนตเิ มตร

197

Priacanthidae

วงศป์ ลาตาหวาน

ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา

ลำตัวป้อมลกั ษณะแบนข้าง ปากเชดิ ข้นึ ขากรรไกรล่างยน่ื เล็กน้อย ดวงตา
มีขนาดใหญ่ ครีบหลังตอนเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 10 ก้าน และครีบอ่อน
11 – 15 ก้าน ครีบท้องเชื่อมต่อกับท้องด้วยเยื่อบางๆ ครีบก้น ประกอบด้วยก้าน
ครีบแข็ง 3 ก้าน และครีบอ่อน 10 – 16 ก้าน ครีบหางเป็นแบบตัดตรง (truncate
tail)
วิธที ำประมง: เครอื่ งมืออวนลาก

Single dorsal fins with 10, soft ray 11 - 15

Eyes very large Truncate tail

Anal fin with 3,
soft ray 10 - 16
Pelvic fin connected to
belly by membrane

ทีม่ า: Kimura et al. (2009)

198

Priacanthus blochii (Bleeker, 1853)

ชอ่ื สามญั : ปลาตาหวาน (Paeony bulleye)
ชือ่ ท้องถ่ิน: ปลาตาโต, ปลาอมรา
ลักษณะเดน่ : ลำตัวสีแดง ด้านท้องสีชมพอู มเงิน ลำตัวมีจุดสีแดงเข้มคล้ายรอยดา่ ง
จะงอยปากกวา้ ง และเชิดข้นึ ด้านบน ครีบหลงั มีตอนเดยี ว ปลายครีบสว่ นหนา้ มรี อย
สดี ำจางๆ มกี ้านครีบแข็ง 10 ก้าน มีกา้ นครีบอ่อน 11 - 15 ก้าน ครีบก้น มกี า้ นครบี
แข็ง 3 ก้าน ประกอบด้วยก้านครีบอ่อน 10 - 16 ก้าน ครีบท้องมีก้านครีบแข็ง
1 กา้ น บริเวณโคนครบี มรี อยสดี ำเลก็ ๆ 1 จดุ ครบี ทกุ ครีบมีสีชมพู
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเอเดน
เกาะไตห้ วัน และเกรทแบริเออรร์ ีฟ
แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศัย: บรเิ วณแนวโขดหนิ หรือแนวปะการงั ติดตอ่ ทะเลเปิด
ขนาดเขา้ ส่วู ัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 35 เซนติเมตร

199

Priacanthus hamrur (Forsskål, 1775)

ชอ่ื สามญั : ปลาตาหวานหางวงเดอื น (Moontail bullseye)
ช่อื ท้องถิ่น: ปลาตาโต, ปลาอมรา
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีแดง ด้านท้องสีชมพูอมเงิน บริเวณหลังตรงเส้นข้างตัวมีจุดสี
แดงเขม้ เล็กยาวตัง้ แต่หลงั แผน่ ปดิ เหงอื กจนถึงคิดหาง จะงอยปากกว้าง และเชิดข้ึน
ด้านบน ครีบหลังมีตอนเดียว ปลายครีบส่วนหน้ามีรอยสีดำจางๆ มีก้านครีบแข็ง
10 ก้าน มกี ้านครีบออ่ น 11 - 15 กา้ น ครีบกน้ มกี า้ นครบี แข็ง 3 กา้ น ประกอบด้วย
ก้านครบี อ่อน 10 - 16 ก้าน ครบี ทอ้ งมีกา้ นครีบแข็ง 1 ก้าน ครีบทุกครบี มสี ีชมพู
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง ตอนใต้
ของแอฟรกิ า และเกาะอีสเตอร์ในมหาสมุทรแปซิฟกิ
แหลง่ ที่อยู่อาศยั : บรเิ วณแนวโขดหนิ หรือแนวปะการงั ตดิ ต่อทะเลเปดิ
ขนาดเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธ์ุ: 22 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 45 เซนติเมตร

200

Priacanthus macracanthus (Cuvier, 1829)

ช่อื สามัญ: ปลาตาหวานตาโต (Red bigeye)
ชื่อท้องถน่ิ : ปลาตาโต, ปลาอมรา
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีแดง ด้านท้องสีชมพูอมเงิน จะงอยปากกว้าง และเชิดขึ้น
ด้านบน นัยน์ตาโตกว่าในสายพันธุ์เดียวกัน ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง
10 กา้ น มีก้านครบี อ่อน 11 - 15 ก้าน ครีบกน้ มีกา้ นครบี แขง็ 3 กา้ น ประกอบด้วย
กา้ นครีบออ่ น 10 - 16 กา้ น ครีบท้องมีกา้ นครบี แขง็ 1 ก้าน ครีบหลงั ครบี ทอ้ ง และ
ครบี กน้ มจี ดุ สีเหลอื งกระจายทัว่ ทั้งครบี
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลอาราฟูรา
ตะวนั ตกของอินโดนีเซีย และทางใตข้ องญป่ี ุ่น
แหล่งทีอ่ ยูอ่ าศยั : บรเิ วณแนวโขดหิน หรอื แนวปะการังตดิ ตอ่ ทะเลเปดิ
ขนาดเข้าสูว่ ัยเจริญพันธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 30 เซนติเมตร

201

Priacanthus tayenus (Richardson, 1846)

ช่ือสามัญ: ปลาตาหวานจดุ (Purple spotted bigeye)
ชือ่ ทอ้ งถนิ่ : ปลาตาโต, ปลาอมรา
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีแดง ด้านท้องสีชมพูอมเงิน จะงอยปากกว้าง และเชิดข้ึน
ด้านบน ครบี หลังมีตอนเดยี ว มีก้านครีบแขง็ 10 ก้าน มกี ้านครีบออ่ น 11 - 15 ก้าน
ครบี กน้ มีกา้ นครีบแข็ง 3 ก้าน ประกอบด้วยกา้ นครีบอ่อน 10 - 16 กา้ น ครบี ท้องมี
ก้านครีบแข็ง 1 กา้ น ครบี ท้อง มีจุดสดี ำกระจายทัว่ ทงั้ ครบี
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย
มหาสมุทรแปซฟิ ิก ทะเลอาราฟรู า
แหล่งทอ่ี ยูอ่ าศยั : บริเวณแนวโขดหนิ หรอื แนวปะการงั ติดตอ่ ทะเลเปิด
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 35 เซนติเมตร

202

Psettodidae

วงศ์ปลาซีกเดียว

ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา

รูปร่างลำตัวรูปไข่ และแบนลงค่อนข้างมาก โดยแบนขนาบพื้นท้องน้ำ
ดวงตาทงั้ สองเคล่ือนมาอยู่ด้านขวาของหัว มฟี ันเขี้ยวท่แี ข็งแรงและแหลมคม เกล็ด
ขนาดใหญ่ ครีบอกประกอบด้วยก้านครีบแข็ง 1 ก้าน ครีบหลังและครบี กน้ เปน็ ก้าน
ครบี อ่อนยาวไปถึงคอดหาง ครีบหางแบบตดั ตรง (truncate tail)
วธิ ที ำประมง: อวนลาก เคร่ืองมอื ประเภทอวนตดิ ตา ไดแ้ ก่ อวนจม และอวนสามชัน้

Dorsal fin not Anterior dorsal fin rays spinous
extending to Truncate tail
head

Pelvic fins with 1 spine Anterior anal fin rays spinous

ทมี่ า: Kimura et al. (2009)

203

Psettodes erumei (Bloch & Schneider, 1801)

ชื่อสามัญ: ปลาจกั รผาน (Indian halibut)
ชอ่ื ท้องถิน่ : ปลาตาเดยี ว, ปลาซีกเดียว
ลักษณะเด่น: ส่วนใหญ่ลำตัวซีกซ้ายสีน้ำตาล ลำตัวซีกขวาสีขาว มีลายแถบสี
น้ำตาลเข้มพาดขวางลำตัว จะงอยปากกว้าง ขากรรไกรงุ้มลงล่าง ครีบหลังมีตอน
เดียว มีก้านครีบแข็ง 9 – 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน 38 – 45 ก้าน ครีบก้นมีก้าน
ครีบแขง็ 1 กา้ น และก้านครีบอ่อน 33 - 43 ก้าน ครีบหลงั และครีบก้นมสี ีดำ
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามัน อนิ โด – แปซฟิ กิ ฝง่ั ตะวันตก ทะเลแดง ออสเตรเลยี
และทางตะวันออกแอฟรกิ า
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศัย: บริเวณแนวปะการงั และปากแม่น้ำ
ขนาดเข้าส่วู ัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 64 เซนติเมตร

204

Rachycentridae

วงศป์ ลาช่อนทะเล

ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา

รูปร่างลำตัวเรียวยาว เป็นทรงกระบอก ส่วนหัวแบนลง มีเกล็ดขนาดเล็ก
ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบแข็งเล็ก 6 – 9 ก้าน ครีบหลังตอนที่สอง
เป็นก้านครีบอ่อน 26 – 33 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 2 – 3 ก้าน และก้านครีบ
อ่อน 22 – 28 ก้านครีบหางเว้าตื้น (emarginated) ขนาดที่ยังไม่เข้าสู่วัยเจริญ
พันธุ์จะมีแถบสีดำพาดยาวตั้งแต่หลังขอบตาจนถึงคอดหาง โดยจะจางลงเม่ือ
โตเตม็ วัย
วธิ ที ำประมง: อวนลาก และเบด็ มือ

2 dorsal fins with 6 - 9, soft ray 26 - 33
Flattened head

Anal fin with 2 – 3, soft ray 22 - 28

ที่มา: Kimura et al. (2009)

205

Rachycentron canadum (Linnaeus, 1766)

ชื่อสามญั : ปลาชอ่ นทะเล (Cobia)
ชือ่ ท้องถน่ิ : ปลาช่อนเล, ปลาไฮโหลย
ลักษณะเด่น: ลำตัวสีเทาอมดำ ช่วงท้องทีขาว วัยอ่อนมีลายแถบสีดำเข้มพาดยาว
ตั้งแต่หลังขอบตาจนถึงคอดหาง จะงอยปากเล็กสั้น ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรก
เป็นก้านครีบแข็งเล็ก 6 – 9 ก้าน ครีบหลังตอนที่สองเป็นก้านครีบอ่อน
26 – 33 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 2 – 3 ก้าน และก้านครีบอ่อน 22 – 28 ก้าน
ครีบทุกครีบมสี ีดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทร
แอตแลนติกฝั่งตะวันตก อ่าวเม็กซิโก มหาสมุทรแคริบเบียน แอฟริกาใต้ และ
ฮอกไกโด
แหล่งทอี่ ย่อู าศัย: บรเิ วณแนวโขดหนิ หรือแนวปะการงั
ขนาดเข้าสู่วยั เจรญิ พันธ์ุ: 43 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 150 เซนติเมตร

206

Rhinidae

วงศป์ ลาโรนัน

ลักษณะทางสณั ฐานวิทยา

รูปร่างลำตัวเรียวยาว และแบน มีความคล้ายคลึงกันระหว่างฉลาม และ
ปลาสเกต (skate) ส่วนหัวเรียวแหลมเป็นลักษณะสามเหลี่ยม มีชอง spiracle
ขนาดใหญ่อยู่ชิดทางดานท้ายของหลังตา ปากอยู่บริเวณด้านล่าง มีฟันขนาดเล็ก
และทู่ บริเวณจมูกมีสันกระดูกนูนออกมา ครีบอกขนาดใหญ่เชื่อมติดกับส่วนหัว
ครบี หลงั ครบี ก้น และครบี หางมีลักษณะเหมอื นฉลาม
วธิ ีทำประมง: ไม่ใช่สตั ว์น้ำเศรษฐกิจ มักติดมาจากการทำประมง อวนลาก

The elongate snout has a median
cartilaginous support
Rounded pectoral fins

Numerous
small, blunt
teeth

ท่มี า: Mc Eachran and Carvalho (2003)

207

Rhynchobatus australiae (Whitley, 1939)

ช่ือสามญั : ปลาโรนนั จุดขาว (Bottlenose wedgefish)
ชอื่ ทอ้ งถิ่น: ปลาโรนัน
ลักษณะเดน่ : ลำตัวสีนำ้ ตาล ชว่ งท้องสีขาว ลำตัวมจี ุดสีขาวกระจายต้ังแต่ส่วนหน้า
ของครีบอก จนถึงครีบหลังตอนแรก บริเวณโคนครีบอกมีจุดสีดำข้างละ 1 จุด
บริเวณชว่ งจมูก และหลงั มสี นั กระดกู นนู ออกมา ครีบหลงั มีสองตอน ครีบทุกครีบไม่
มีก้านครบี แขง็ และกา้ นครีบออ่ น
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวไทย ทะเลแดง
อ่าวเปอร์เซยี และอ่าวเอเดน
แหล่งท่อี ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวหนิ หรือแนวปะการงั
ขนาดเข้าส่วู ยั เจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 124 เซนตเิ มตร

208

Scaridae

วงศป์ ลานกแก้ว

ลักษณะทางสัณฐานวิทยา

ลำตัวยาว ป้อมเล็กน้อย ปากงุ้มคล้ายปากนก มีเกล็ดแผ่นใหญ่หนา เป็น
เกล็ดกลมแบบขอบเรียบ (cycloid) ลำตัวมีสีสันสวยงาม ครีบหลังตอนเดียว ครีบ
หางตัดตรง (truncate tail)
วิธีทำประมง: ไม่ใช่สัตว์น้ำเศรษฐกิจ มักติดมาจากการทำประมงลอบปลา และ
เบ็ดมอื

Single dorsal fin

Truncate tail

Beak like tooth
plates on jaws

ที่มา: Kimura et al. (2009)

209

Scarus ghobban (Forsskål, 1775)

ชอ่ื สามัญ: ปลานกแก้วสีเพลงิ (Blue-barred parrotfish)
ชือ่ ทอ้ งถ่นิ : ปลานกแกว้ สเี พลงิ
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาวสีน้ำตาลอมส้ม มีลายสีฟ้าอมเขียว ช่วงท้องสีน้ำตาล
อ่อน จะงอยปากเล็กงุ้ม ขากรรไกรสั้น ส่วนหัวมีลายสีฟ้า ครีบหลังมีตอนเดียว มี
กา้ นครบี แขง็ 9 ก้าน และกา้ นครบี ออ่ น 10 ก้าน ครบี กน้ มีกา้ นครีบแข็ง 3 กา้ น และ
กา้ นครบี อ่อน 9 กา้ น ครีบหางเว้าเล็กน้อย ครบี ทกุ ครบี สีสม้ โดยมีขอบของครบี สีฟ้า
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย ทะเล
แดงและอ่าวอัลโก แอฟริกาใต้ อ่าวแคลิฟอร์เนีย และตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์
เรเนยี น
แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั : บรเิ วณแนวโขดหินใต้น้ำ หรอื แนวปะการงั
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจริญพันธ์ุ: 49 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สดุ : 75 เซนติเมตร

210

Scarus quoyi (Valenciennes, 1840)

ชอ่ื สามญั : ปลานกแกว้ คางลาย (Quoy's parrotfish)
ช่อื ทอ้ งถนิ่ : ปลานกแกว้ คางลาย
ลกั ษณะเดน่ : ลำตัวเรยี วยาวสีนำ้ ตาลอ่อน มลี ายสีฟา้ อมเขยี ว ชว่ งท้องสนี ้ำตาลออ่ น
จะงอยปากเล็กงุ้ม ขากรรไกรสั้น ส่วนหัวมีลายสีเขียว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้าน
ครบี แขง็ 9 กา้ น และกา้ นครบี ออ่ น 10 ก้าน ครีบก้นมกี ้านครีบแข็ง 3 กา้ น และกา้ น
ครบี อ่อน 9 กา้ น ครบี หลัง และครบี ก้นสีสม้ สว่ นครบี อก และครีบหางมสี ีฟา้
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก หมู่เกาะริวกิว
วานอู าตู และไมโครนีเซีย
แหล่งทอ่ี ยอู่ าศัย: บรเิ วณแนวโขดหินใต้นำ้ หรอื แนวปะการัง
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 40 เซนติเมตร

211

Scarus rivulatus (Valenciennes, 1840)

ชือ่ สามญั : ปลานกแกว้ หน้าลาย (Rivulated parrotfish)
ชือ่ ทอ้ งถิ่น: ปลานกแก้วหน้าลาย
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว แบนข้างเล็กน้อย พื้นลำตัวสีฟ้าอมเขียว ส่วนหัวมีสี
เขียว บริเวณปากมีลายวฟี ้า จะงอยปากเล็กงุ้ม ขากรรไกรสั้น ครีบหลังมีตอนเดียว
มีก้านครีบแข็ง 9 ก้าน และก้านครีบอ่อน 10 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน
และก้านครบี ออ่ น 9 ก้าน ครบี อกมีสเี ขยี ว สว่ นครีบหลงั ครบี กน้ และครบี หางสีฟา้
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก นิวแคลิโดเนีย
หมูเ่ กาะริวกวิ
แหล่งท่ีอยอู่ าศัย: บริเวณแนวโขดหินใต้นำ้ หรือแนวปะการัง
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจริญพนั ธ์ุ: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 40 เซนติเมตร

212

Scatophagidae

วงศป์ ลาตะกรบั

ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา

มีรูปร่างทั่วไปเป็นแบบแบนข้าง ป้อมสั้น ปากมีขนาดเล็ก ยืดหดไม่ได้
เกล็ดขนาดเล็กเป็นแบบขอบมีหนาม (ctenoid) ครีบหลังมีสองตอนเชื่อมติดกัน
ตอนแรกมีก้านครบี แข็ง 10 - 12 ก้าน และตอนสองเป็นก้านครีบอ่อน 16 - 18 ก้าน
ครบี กน้ ประกอบดว้ ยกา้ นครีบแขง็ 4 ก้าน ครีบออ่ น 13 - 16 กา้ น บรเิ วณโคนครีบ
อกมีเกล็ดเสรมิ (axillary scale) ครีบหางตดั ตรง (truncate tail)
วิธที ำประมง: เคร่อื งมือประเภทอวนติดตา ได้แก่ อวนจม

Dorsal fins 10 – 12, soft rays 16 - 18

Mouth small, Truncate tail
not protrusible
Axillary scale

ท่มี า: Kimura et al. (2009) Anal fins with4, soft rays 13 - 16
213

Scatophagus argus (Linnaeus, 1766)

ช่อื สามญั : ปลาตะกรบั (Spotted scat)
ช่ือท้องถ่ิน: ปลาแกตัง, ปลาข้ตี ัง, ปลาขเ้ี กง้
ลักษณะเดน่ : ลำตวั ป้อมส้ัน และแบนขา้ ง พื้นลำตัวสเี ทาอมเหลือง มจี ดุ สีดำกระจาย
บริเวณลำตัว จะงอยปากเล็ก ขากรรไกรสั้น ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกเป็นก้าน
ครบี แขง็ 10 กา้ น ตอนทีส่ องเปน็ กา้ นครีบออ่ น 16 - 18 กา้ น ครบี ก้นมีก้านครบี แข็ง
4 ก้าน และก้านครีบอ่อน 13 - 16 กา้ น ครีบทุกครีบมีสเี ทาอมดำ
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามัน อนิ โด – แปซฟิ กิ ฝ่งั ตะวนั ตก เกาะฟจิ ิ และนวิ แคลิ
โดเนีย
แหล่งท่อี ยูอ่ าศัย: บริเวณแนวชายฝั่ง และปากแมน่ ้ำ
ขนาดเขา้ สู่วัยเจรญิ พันธ์ุ: 14 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 38 เซนติเมตร

214

Sciaenidae

วงศป์ ลาจวด

ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยา

รูปร่างลำตัวคอนข้างยาว และแบนข้าง เส้นข้างตัวยาวจรดปลายหาง มี
ส่วนหัวโต และมีรูที่เป็นปลายเปิดของเส้นประสาท จะงอยปากยื่นยาวแต่ปลายมน
มีบางชนิดมปี ากเปดิ ในตาํ แหนง ดา้ นลา่ ง ปากกวางยดื หดได้เลก็ น้อย มฟี นั เป็นเขยี้ ว
ซเี่ ล็กๆ บางชนิดมหี นวดใตค้ าง มีเกล็ดเปน็ แบบขอบหนาม (ctenoid) ครบี หลังเว้า
เปน็ 2 ตอนเชือ่ มต่อกัน ครีบกน้ มีก้านครบี แข็งคลา้ ยหนาม 2 ก้าน โคนครบี หางคอด
กวิ่ ปลายหางมีทง้ั แบบหางปลายแหลม (pointed tail) และหางตดั ตรง (truncate
tail) มีกระเพาะลมขนาดใหญแ่ ละมกี ล้ามเน้อื รอบ ซ่ึงสามารถทำให้เกดิ เสียงไดเ้ วลา
ตกใจ หรอื ในฤดูผสมพนั ธ์ุ
วธิ ีทำประมง: เบด็ มือ และเครอ่ื งมอื ประเภทอวนติดตา ไดแ้ ก่ อวนจม

Dorsal fins continuous with deep notch Lateral line scales extending
into caudal fin

Anal fin with 2 spines

Snout and lower jaw
with conspicuous pores

ท่มี า: Kimura et al. (2009)

215

Dendrophysa russelii (Cuvier, 1829)

ชอื่ สามญั : ปลาจวดหนา้ สั้น (Goatee croaker)
ช่อื ท้องถ่ิน: ปลาหวั ขวด, ปลาจวดคอดำ, ปลาร้าหมาเครา
ลักษณะเด่น: ลำตัวป้อมสั้น และแบนข้าง พื้นลำตัวสีเทาเงิน ส่วนหัวมีรอยสีดำ
จะงอยปากเล็ก ขากรรไกรสั้น โดยปากอยู่ค่อนลงมาด้านล่างของส่วนหัว ใต้คางมี
หนวดสั้น ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบแข็ง 11 ก้าน ตอนที่สองเป็น
ก้านครีบออ่ น 25 - 28 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 2 ก้าน และกา้ นครีบอ่อน 7 ก้าน
ครีบหางแบบหางปลายแหลม และครบี ทุกครีบมสี เี ทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟกิ ฝั่งตะวนั ตก
แหลง่ ที่อย่อู าศัย: บรเิ วณปากแมน่ ้ำ และแนวชายฝั่ง
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสุด: 38 เซนติเมตร

216

Johnius borneensis (Bleeker, 1851)

ชอื่ สามญั : ปลาจวด (Sharpnose hammer croaker)
ชื่อท้องถิน่ : ปลาหัวขวด, ปลารา้ หมาปาปัน
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว และแบนข้าง พื้นลำตัวสีเทาเงิน บริเวณหลังแผ่นปิด
เหงือกมีจุดสีดำ จะงอยปากใหญ่ ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบแข็ง
10 - 12 ก้าน ตอนที่สองเป็นก้านครีบอ่อน 27 - 32 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง
2 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 - 8 ก้าน ครีบหางแบบหางปลายแหลม และครีบทุก
ครบี มีสีเหลอื งใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย และ
นวิ กินี
แหล่งท่อี ยู่อาศยั : บริเวณปากแม่นำ้ และแนวชายฝั่ง
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจริญพนั ธุ์: 15.9 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สดุ : 34 เซนติเมตร

217

Nibea soldado (Lacepède, 1802)

ชอ่ื สามัญ: ปลาจวดเทา (Soldier croaker)
ชื่อทอ้ งถ่ิน: ปลาหวั ขวด, ปลาม้า, ปลาร้าหมา
ลักษณะเดน่ : ลำตวั เรยี วยาว และแบนข้าง พ้นื ลำตัวสีเงนิ จะงอยปากใหญ่ โดยปาก
อยู่ค่อนลงมาทางด้านล่างของส่วนหัว ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบ
แข็ง 10 - 11 ก้าน ตอนที่สองเป็นก้านครีบอ่อน 27 - 33 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบ
แข็ง 2 ก้าน และก้านครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบหางแบบหางปลายแหลม ครีบอกสีขาว
ใส ครบี ทอ้ ง ครบี ก้น และครีบหางมีสเี ทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก แม่น้ำโขง ชายฝ่ัง
ทะเลของอนิ เดยี และศรลี งั กา ควนี สแ์ ลนด์ ออสเตรเลยี และนิวกินี
แหลง่ ท่ีอยอู่ าศัย: บรเิ วณปากแม่นำ้
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 60 เซนติเมตร

218

Otolithes ruber (Bloch & Schneider, 1801)

ช่อื สามัญ: ปลาจวดเตยี นเข้ยี ว (Tigertooth croaker)
ชือ่ ทอ้ งถ่นิ : ปลาจวดเขี้ยว, ปลาหัวขวด, ปลาแกรอ็ ง
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรยี วยาว และแบนข้าง พนื้ ลำตวั สีเงิน จะงอยปากใหญ่ โดยปาก
เฉยี งขนึ้ ไปทางด้านบน ครบี หลงั มสี องตอน ตอนแรกเป็นกา้ นครีบแขง็ 10 - 11 กา้ น
ตอนที่สองเป็นก้านครีบอ่อน 27 - 33 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 2 ก้าน และก้าน
ครีบอ่อน 7 ก้าน ครีบหางแบบหางปลายแหลม ครีบอกสีขาวใส ครีบท้อง ครีบก้น
และครีบหางสเี ทา
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก แม่น้ำโขง ชายฝั่ง
ทะเลของอนิ เดีย และศรีลงั กา ควีนสแ์ ลนด์ ออสเตรเลยี และนวิ กินี
แหล่งทอี่ ยูอ่ าศยั : บรเิ วณปากแมน่ ำ้
ขนาดเข้าส่วู ยั เจริญพนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สดุ : 60 เซนติเมตร

219

Panna microdon (Bleeker, 1849)

ชือ่ สามญั : ปลาจวดยาว (Panna croaker)
ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ : ปลาหัวขวด, ปลาจวดหวั โบ่ง
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวเล็กไปทางคอดหาง ส่วนหัวโต พื้นลำตัวสีเงิน จะงอยปาก
ใหญ่ เกล็ดบริเวณเส้นข้างตัวใหญ่กว่าบริเวณอื่น ครีบหลังสีขาวใสมีแถบสีดำพาด
ยาวตลอดแนว ครบี หลงั มสี องตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบแข็ง 10 - 11 กา้ น ตอนที่
สองเป็นก้านครีบอ่อน 33 - 36 ก้าน ครีบก้นสั้นมีขนาดเล็ก มีก้านครีบแข็ง 2 ก้าน
และก้านครีบอ่อน 6 - 7 ก้าน ครีบหางแบบหางปลายแหลม ครีบอก ครีบท้อง ครีบ
กน้ สขี าวใส และครบี หางมสี เี ทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก หมู่เกาะชวา และ
ตะวันตกของเกาะบอร์เนียว
แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศัย: บรเิ วณปากแม่น้ำ
ขนาดเขา้ สู่วยั เจรญิ พันธุ์: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 30 เซนติเมตร

220

Pennahia argentata (Houttuyn, 1782)

ช่ือสามญั : ปลาจวดเงนิ (Silver croaker)
ชอื่ ทอ้ งถ่ิน: ปลาหัวขวด, ปลารา่ หมาปากบาง
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว ส่วนหัวสั้นทู่ พื้นลำตัวสีเงิน ครีบหลังมีสองตอน ครีบ
ตอนแรกเป็นก้านครบี แข็ง 11 ก้าน มสี ีดำเกอื บทัง้ ครีบ ครีบตอนท่สี องเป็นก้านครีบ
ออ่ น 25 - 28 กา้ น ครบี ก้นสั้นมีขนาดเลก็ มกี า้ นครีบแข็ง 2 กา้ น และกา้ นครีบอ่อน
7 - 8 ก้าน ครีบหางแบบหางปลายแหลมสีเทา โคนครีบอกมีรอยจุดสีดำจางๆ ครีบ
ท้อง ครบี กน้ สีขาวใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลเหลือง และ
คาบสมทุ รคิอิ
แหลง่ ทอ่ี ยู่อาศยั : บริเวณปากแมน่ ้ำ และแนวชายฝ่ัง
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจริญพนั ธ์ุ: 14 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 40 เซนติเมตร

221

Scombridae

วงศป์ ลาอินทรี

ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา

มีลำตัวค่อนข้างยาว แบนข้างเล็กน้อย (รูปกระสวย) ครีบหลังแบ่งเป็น
2 ตอนชัดเจน หลังครีบหางและครีบก้นมีครีบแข็งเล็กๆเป็นแนวจนถึงคอดหาง
(finlets) บริเวณคอดหางมีกระดูกยื่นนูนออกมา (keels) ครีบหางเว้าลึกรูปส้อม
(fork tail)
วิธีทำประมง: อวนล้อม เบ็ดมือ เบ็ดราว เครื่องมือประเภทอวนติดตา ได้แก่
อวนลอย

2 dorsal fins with 2 separated
Lateral keels on caudal
peduncle

Finlets present behind
dorsal and anal fins

ท่มี า: Kimura et al. (2009)

222

Auxis rochei (Risso, 1810)

ชอื่ สามัญ: ปลาโอหลอด (Bullet tuna)
ชอ่ื ทอ้ งถนิ่ : ปลาโอหลอด, ปลาโอดำลาย
ลักษณะเดน่ : ลำตวั เรียวยาว พ้นื ลำตัวสีเงนิ บริเวณท้องสขี าว ช่วงหลงั เปน็ สีน้ำเงิน
เขม้ เหนอื เสน้ ขา้ งตวั มลี วดลายแถบตรงเป็นแนวขวางสดี ำ ครีบหลงั มสี องตอน ตอน
แรกเปน็ กา้ นครีบแขง็ 10 - 12 กา้ น ตอนทีส่ องเป็นกา้ นครีบออ่ น 10 - 13 กา้ น ครบี
ก้นมกี ้านครีบอ่อน 10 - 14 กา้ น ครบี ทกุ ครบี มสี ีเทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลเมดิเตอร์เร
เนียน มหาสมทุ รแอตแลนติก และมหาสมุทรแปซฟิ กิ
แหล่งทอี่ ยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝัง่ ติดตอ่ ทะเลเปดิ
ขนาดเข้าสู่วัยเจรญิ พันธ์ุ: 35 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 50 เซนติเมตร

223

Auxis thazard (Lacepède, 1800)

ชอ่ื สามัญ: ปลาโอขาว (Frigate tuna)
ชื่อทอ้ งถิน่ : ปลาโอแกลบ
ลักษณะเดน่ : ลำตัวเรยี วยาว พ้ืนลำตวั สีเงิน บรเิ วณทอ้ งสขี าว ช่วงหลงั เปน็ สีน้ำเงิน
เข้ม เหนือเส้นข้างตัวมีลวดลายคล้ายคลื่นสีดำ ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกเป็น
กา้ นครีบแขง็ 9 - 12 ก้าน ตอนทสี่ องเปน็ ก้านครีบออ่ น 10 - 13 ก้าน ครบี ก้นมีก้าน
ครีบออ่ น 12 - 14 ก้าน ครีบทุครีบมีสเี ทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทร
แอตแลนตกิ และมหาสมทุ รแปซิฟกิ
แหล่งท่ีอยู่อาศยั : บริเวณแนวชายฝ่งั ตดิ ต่อทะเลเปิด
ขนาดเขา้ สู่วัยเจรญิ พันธุ์: 29 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สดุ : 65 เซนติเมตร

224

Euthynnus affinis (Cantor, 1849)

ชอ่ื สามัญ: ปลาโอลาย (Kawakawa)
ชอื่ ท้องถ่ิน: ปลาโอลาย
ลกั ษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว พ้นื ลำตัวสีเงิน บริเวณท้องสขี าว โดยชว่ งดา้ นหน้าของ
ทอ้ งมจี ุกสดี ำ 2 – 3 จุด ช่วงหลงั เป็นสนี ้ำเงนิ เข้ม เหนอื เส้นข้างตวั มีลวดลายเฉียงสี
ดำ ครีบท้องมี Intrapelvic process 2 อัน ครีบหลังมสี องตอน ตอนแรกแข็ง และ
สูงแหลม เป็นก้านครีบแข็ง 10 - 15 ก้าน ตอนที่สองเป็นก้านครีบอ่อน
11 - 15 กา้ น ครบี ก้นมกี า้ นครีบอ่อน 11 - 15 ก้าน ครีบทุครีบมสี ีเทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก และมหาสมุทร
แปซฟิ ิกฝงั่ ตะวันออก
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศยั : บริเวณแนวชายฝัง่ ตดิ ตอ่ ทะเลเปิด
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจรญิ พนั ธ์ุ: 39.8 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 100 เซนตเิ มตร

225

Katsuwonus pelamis (Linnaeus, 1758)

ชอ่ื สามัญ: ปลาโอทอ้ งแถบ (Skipjack tuna)
ช่อื ท้องถิ่น: ปลาโอทอ้ งแถบ
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว พ้ืนลำตวั สีเงนิ บริเวณท้องสขี าว ชว่ งหลังเป็นสีน้ำเงิน
เข้ม ด้านล่างของเส้นข้างตวั มีลายเส้นสีดำพาดยาวตัง้ แต่โคนครบี อกจนถงึ คอดหาง
ประมาณ 4 – 6 เส้น ครีบหลังมีสองตอน ตอนแรกแข็ง และสูงแหลม เป็นก้านครบี
แข็ง 14 - 16 ก้าน ตอนที่สองเป็นก้านครีบอ่อน 14 - 15 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบ
อ่อน 14 - 15 กา้ น ครีบทกุ ครีบมสี เี ทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก มหาสมุทร
แอตแลนติก และมหาสมทุ รแปซฟิ ิก
แหล่งทอี่ ยู่อาศัย: บริเวณแนวชายฝัง่ ติดต่อทะเลเปดิ
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจริญพันธุ์: 40 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 110 เซนตเิ มตร

226

Rastrelliger brachysoma (Bleeker, 1851)

ช่อื สามญั : ปลาทู (Short mackerel)
ชื่อท้องถ่ิน: ปลาทู
ลกั ษณะเด่น: ลำตัวค่อนข้างป้อมสั้น ส่วนหัวมีความยาวเท่ากับความกวา้ งของลำตัว
พื้นลำตัวสีเงนิ บรเิ วณทอ้ งสขี าว ชว่ งหลงั เปน็ สนี ้ำเงนิ อมเขียว ใต้ฐานครบี หลังมีจุด
สีดำเล็กๆเรียงตัวตลอดแนว 16 – 20 จุด ครีบหลังมีสองตอน มีก้านครีบแข็ง
8 - 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน 12 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน 12 ก้าน ครีบทุก
ครบี มสี ขี าวใส ยกเว้นครบี หางมีสีเหลอื ง
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอันดามนั อา่ วไทย อินโด – แปซิฟิกฝ่งั ตะวนั ตก ปาปัวนิวกินี
หมู่เกาะโซโลมอน และฟจิ ิ
แหลง่ ที่อยู่อาศยั : บริเวณแนวชายฝัง่
ขนาดเขา้ สวู่ ัยเจริญพนั ธุ์: 17 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 34.5 เซนตเิ มตร

227

Rastrelliger kanagurta (Cuvier, 1816)

ช่อื สามัญ: ปลาลงั (Indian mackerel)
ชือ่ ท้องถนิ่ : ปลาลงั
ลักษณะเดน่ : ลำตัวเรยี วยาว ส่วนหวั มีความยาวกว่าความกวา้ งของลำตัว พน้ื ลำตัว
สีเงิน บริเวณทอ้ งสขี าว ชว่ งหลังเป็นสีนำ้ เงินอมเขียว ขากรรไกรบนอยู่ใต้กระดูกใต้
ตา ใต้ฐานครีบหลังมีจุดสีดำเล็กๆเรียงตัวตลอดแนว ประมาณ 16 – 20 จุด ครีบ
หลังมีสองตอน มีก้านครีบแข็ง 8 - 11 ก้าน และก้านครีบอ่อน 12 ก้าน ครีบก้นมี
กา้ นครบี ออ่ น 12 กา้ น ครีบทกุ ครีบมสี ีขาวใส ยกเว้นครีบหางมีสีเหลือง
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
หมู่เกาะรวิ กิว ทะเลเมดิเตอร์เรเนยี นฝั่งตะวนั ออก และ คลองสเุ อซ
แหล่งที่อย่อู าศยั : บรเิ วณแนวชายฝงั่
ขนาดเขา้ สู่วัยเจรญิ พนั ธ์ุ: 17 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสงู สุด: 42 เซนติเมตร

228

Scomberomorus commerson (Lacepède, 1800)

ช่ือสามญั : ปลาอนิ ทรบี ั้ง (Narrow barred Spanish mackerel)
ชอ่ื ทอ้ งถ่นิ : ปลาอนิ ทรบี งั้ , ปลาเบกา
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรยี วยาว พืน้ ลำตวั สีเงิน บริเวณทอ้ งสีขาว ช่วงหลงั เปน็ สเี งินอม
เทา ด้านข้างลำตัวมีแถบสีดำ หรือเทาพาดขวางลำตัวตั้งแต่ฐานครีบอกจนถึงคอด
หาง ครีบหลังมีสองตอน มีก้านครีบแข็ง 15 - 18 ก้าน และก้านครีบอ่อน
15 - 20 กา้ น ครบี กน้ มีก้านครบี ออ่ น 16 - 21 กา้ น ครบี ทกุ ครบี มสี ีเทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง หมู่เกาะ
ฟิจิ มหาสมทุ รแอตแลนตกิ ฝ่ังตะวนั ออกเฉียงใต้ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออก
และคลองสุเอซ
แหลง่ ท่อี ยูอ่ าศยั : บรเิ วณแนวชายฝงั่ ตดิ ตอ่ ทะเลเปดิ
ขนาดเข้าสู่วยั เจริญพันธ์ุ: 85 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : 240 เซนตเิ มตร

229

Scomberomorus guttatus (Bloch & Schneider, 1801)

ชื่อสามัญ: ปลาอนิ ทรจี ดุ (Indo Pacific king mackerel)
ชอื่ ท้องถน่ิ : ปลาอินทรีข้าวตอก
ลกั ษณะเดน่ : ลำตวั เรียวยาว พ้นื ลำตัวสีเงิน บรเิ วณทอ้ งสีขาว ช่วงหลงั เปน็ สเี งินอม
เทา ด้านข้างลำตัวมีจุดสีดำ หรือเทากระจายตั้งแต่ฐานครีบอกจนถึงคอดหาง ครีบ
หลังมีสองตอน มีก้านครีบแข็ง 15 - 18 ก้าน และก้านครีบอ่อน 18 - 24 ก้าน ครีบ
กน้ มกี ้านครีบออ่ น 19 - 23 กา้ น ครบี ทกุ ครบี มีสเี ทาอมดำ
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย และ
อา่ ววาคาสะ ประเทศญี่ปุน่
แหลง่ ทีอ่ ยอู่ าศยั : บรเิ วณแนวชายฝ่ัง
ขนาดเข้าส่วู ยั เจรญิ พนั ธ์ุ: 40 เซนติเมตร
ขนาดความยาวสูงสุด: 76 เซนติเมตร

230

Thunnus tonggol (Bleeker, 1851)

ชื่อสามัญ: ปลาโอดำ (Longtail tuna)
ชอื่ ทอ้ งถน่ิ : ปลาโอดำ
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว พื้นลำตัวสีเงิน บริเวณท้องเทา ช่วงหลังเป็นสีน้ำเงิน
เข้ม ไม่มีลวดลาย ครบี อกยาวถึงกลางลำตวั ครบี หลังมีสองตอน ครบี ทุกครบี มีสีเทา
อมเหลอื ง เปน็ ปลาทนู า่ ขนาดเล็ก
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง นิวกินี
ทะเลญป่ี นุ่ และออสเตรเลยี
แหลง่ ท่อี ยอู่ าศยั : บริเวณแนวชายฝั่ง ติดต่อทะเลเปดิ
ขนาดเขา้ สวู่ ยั เจริญพันธ์ุ: -
ขนาดความยาวสูงสดุ : 145 เซนตเิ มตร

231

Scorpaenidae

วงศป์ ลากะรงั หัวโขน

ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา

มีลำตัวค่อนข้างป้อม ไปจนถึงรูปร่างเรียวยาว ส่วนหัวมีหนาม 1 หรือ
2 ก้าน และบริเวณ opercle และมีหนาม 3 – 5 ก้าน ในบางชนิดมี supraocular
cirrus ชองเปิดเหงือกกว้าง ครีบหลังมีตอนเดียว ประกอบด้วย กานครีบแข็ง
11 – 17 ก้าน และก้านครบี อ่อน 8 – 17 ก้าน โคนก้านครบี แขง็ มีตอ่ มพิษ ครบี อกมี
ขนาดใหญ่ ครีบกนมีกานครีบแข็ง 1 – 3 ก้าน และกานครีบออน 3 – 9 ก้าน หาง
เป็นแบบหางกลม (rounded tail)
วิธที ำประมง: ไม่ใชส่ ัตวน์ ้ำเศรษฐกิจ มกั ตดิ มาจากการทำประมง อวนลาก

Single dorsal fin with 11 – 17, soft rays 8 – 17
Dorsal fin continuous,
notched

Suborbital stay Anal fins with 1 – 3,
Preopercle spiny soft rays 3 – 9
232
ท่มี า: Kimura et al. (2009)

Pterois russelii (Bennett, 1831)

ชือ่ สามญั : ปลาสงิ โต (Plaintail turkeyfish)
ชื่อท้องถิ่น: ปลาสงิ โต
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว แบนข้างเล็กน้อย มีหนวด 1 คู่ บนตำแหน่งเหนือตา
พื้นลำตัวสีครมี มีลวดลายสแี ดงเปน็ เส้นเล็กๆพาดขวางตั้งแต่จะงอยปากจนถึงคอด
หาง ครีบอกยาวจนเกือบถึงคอดหางเป็นก้านครีบแข็งที่เชื่อมติดกันด้วยเยื่อบางๆ
ครีบหลังมีตอนเดียวโดยส่วนหน้าเป็นก้านครีบแข็ง 13 ก้าน และส่วนด้านท้ายเป็น
ก้านครีบอ่อน 10 – 13 ก้าน ที่เชื่อมติดกันด้วยเยื่อบางๆ ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง
3 กา้ น และกา้ นครบี ออ่ น 7 – 8 กา้ น ครีบทกุ ครีบมีสีแดงใส
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก อ่าวเปอร์เซีย
ตะวนั ออกของแอฟริกา และนิวกนิ ี
แหลง่ ทอ่ี ยู่อาศยั : บรเิ วณแนวโขดหิน หรือแนวปะการัง
ขนาดเข้าสวู่ ัยเจรญิ พนั ธุ์: -
ขนาดความยาวสงู สุด: 30 เซนติเมตร

233

Serranidae

วงศ์ปลากะรงั

ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา

รูปร่างลำตัวยาวป้อม แบนข้างเล็กน้อย มีฟันเล็กๆ บนขากรรไกร เกล็ด
เป็นแผน่ เลก็ แบบขอบหนาม (ctenoid) มหี นามบนแผ่นปิดเหงือก 3 กา้ น ครบี หลัง
แบ่งเป็น 2 ตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบแข็ง 7-13 ก้าน ตอนหลังเป็นครีบอ่อนมี
ลักษณะโปร่งใส ครีบหางมีทั้งแบบกลม (rounded tail) แบบตัดตรง (truncate
tail) และแบบหางเว้าตืน้ เสี้ยวพระจันทร์ (lunate tail)
วิธีทำประมง: อวนลาก ลอบปลา และเบด็ มอื

Single dorsal fin with 7 – 13 spines Caudal fin usually rounded
tail, truncate tail or lunate tail

3 opecular spines Anal fin with 3 spines
234
ทีม่ า: Kimura et al. (2009)

Cephalopholis sonnerati (Valenciennes, 1828)

ช่ือสามัญ: ปลากะรงั เพลิง (Tomato hind)
ชอ่ื ทอ้ งถิ่น: ปลาเก๋าเพลงิ , ปลาเกา๋ แดงหวั ลาย, ปลาเก๋าไฟ
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว สีแดงอมส้ม ลำตัวมีจุดสีแดงเข้มบริเวณส่วนหัว และ
ตลอดลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง 9 ก้าน และก้านครีบอ่อน
14 – 16 กา้ น ครีบกน้ มกี า้ นครีบแขง็ 3 ก้าน และกา้ นครบี อ่อน 9 ก้าน ครีบทุกครีบ
มีสแี ดง ครีบหางแบบกลม (rounded tail)
การแพรก่ ระจาย: ทะเลอนั ดามัน อินโด – แปซฟิ ิกฝง่ั ตะวนั ตก ชายฝง่ั ตะวันออกของ
แอฟรกิ า และทางตอนใต้ของหมู่เกาะฮาวาย
แหล่งที่อยู่อาศยั : บริเวณแนวโขดหนิ หรือแนวปะการงั ไหลท่ วปี
ขนาดเข้าสูว่ ัยเจรญิ พันธ์ุ: 28 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสุด: -

235

Epinephelus areolatus (Forsskål, 1775)

ชือ่ สามัญ: ปลากะรังดอกแดง (Areolate grouper)
ช่อื ท้องถิ่น: ปลาเก๋าลงิ
ลักษณะเด่น: ลำตัวเรียวยาว พื้นลำตัวสีน้ำตาลอ่อน ช่วงท้องสีขาว ลำตัวมีจุดสี
น้ำตาลเข้มบริเวณส่วนหัว และตลอดลำตัว ครีบหลังมีตอนเดียว มีก้านครีบแข็ง
11 ก้าน และก้านครีบอ่อน 15 – 17 ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 3 ก้าน และก้าน
ครบี อ่อน 8 กา้ น ครบี หลัง ครบี ทอ้ ง ครบี กน้ และครบี หางมีสีน้ำตาลเข้ม ช่วงปลาย
ครีบมีสีดำ ส่วนครีบอกมีสีเหลืองอมน้ำตาล หรือสีน้ำตาลใส ครีบหางเป็นแบบตัด
ตรง (truncate tail)
การแพร่กระจาย: ทะเลอันดามัน อินโด – แปซิฟิกฝั่งตะวันตก ทะเลแดง
หม่เู กาะฟจิ ิ ทะเลอาราฟรู า ทางตอนเหนือของออสเตรเลยี และอา่ วเปอรเ์ ซยี
แหล่งที่อยอู่ าศยั : บริเวณแนวโขดหิน หรือแนวปะการัง
ขนาดเข้าสู่วยั เจริญพันธ์ุ: 20 เซนตเิ มตร
ขนาดความยาวสูงสดุ : -

236


Click to View FlipBook Version