The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษพื้นฐานม.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by khampia690, 2020-05-20 00:48:01

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษพื้นฐานม.3

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษพื้นฐานม.3

บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื …………………………………….ผู้สอน
(……………………….……………)

วันที่……..เดือน……….………พ.ศ. …..…
ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื …………………………………….ผู้ตรวจ
(……………………….……………)

วันที่……..เดือน……….………พ.ศ.……….

122

แผนการจัดการเรียนรู้ ชั้น มธั ยมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 Travel เวลาเรยี น 12 ชว่ั โมง

รายวิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวัดชน้ั ปี

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
ตวั ชวี้ ดั อย่างมเี หตผุ ล
1. ปฏบิ ตั ติ ามคาขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายที่ฟังและอา่ น
2. อ่านออกเสยี งข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทร้อยกรองส้ันๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น
3. ระบุและเขยี นสื่อทไ่ี ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆ ใหส้ ัมพนั ธ์กับประโยคและ

ขอ้ ความทฟ่ี ังหรอื อ่าน
4. เลอื ก/ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็

เก่ียวกับเรอ่ื งทีฟ่ ังและอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ พรอ้ มทงั้ ให้เหตุผลและยกตัวอย่าง
ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ตวั ช้วี ัด ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สนทนาและเขยี นโต้ตอบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์ ข่าว

เรอ่ื งท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม และส่ือสารอยา่ งต่อเนื่องและเหมาะสม
2. ใช้คาขอร้อง ให้คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองตา่ งๆ โดยการพูดและ
ตวั ชี้วัด การเขยี น
1. พดู และเขยี นบรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเดน็

ตา่ งๆ ท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้
ตวั ชี้วัด อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
1. เลอื กใช้ภาษา น้าเสยี ง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาท

สังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
2. อธบิ ายเกีย่ วกบั ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจ้าของภาษา

123

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ืน่ และเปน็ พน้ื ฐาน
ตัวช้วี ดั ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
1. คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปข้อมลู /ขอ้ เท็จจริงท่เี กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่

จากแหล่งเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขียน

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
ตวั ชว้ี ัด 1. ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ าลองที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

2. ความคิดรวบยอด

ร้แู ละเขา้ ใจคาศัพท์เก่ียวกับวันหยุด สถานที่ท่องเท่ียว วธิ กี ารเดินทาง กจิ กรรม ทีพ่ ัก การใช้ present
perfect, already, yet, just, since, for, present perfect continuous, past simple สานวนภาษาทใี่ ช้ใน
การเชิญ การตอบรับและปฏเิ สธคาเชิญ การออกเสยี งถูกต้องตามหลักการอ่าน รูปแบบการเขียนแบบไมเ่ ปน็
ทางการ (informal style) ความหมายของคาแนะนา ความรเู้ ก่ียวกับ Legoland สวนสนุกในแคลิฟอรเ์ นยี ช่วย
ให้ใชภ้ าษาในการส่ือสารทง้ั การฟงั พูด อา่ น เขียน ปฏิบตั ติ ามส่อื ที่ฟงั /อ่าน และให้คาแนะนาได้อยา่ งถกู ต้องและ
เหมาะสม ช่วยใหเ้ กดิ ความเข้าใจในชวี ิตความเปน็ อยู่ของเจ้าของภาษา และเปน็ พื้นฐานในการค้นคว้า รวบรวม
ข้อมลู ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- คาแนะนาในการเล่นน้าอย่างปลอดภัย
- การออกเสยี งตามระดังเสยี งสูง-ต่าในประโยค การออกเสยี งสระเสยี งยาว
- การตคี วาม/ถา่ ยโอนข้อมลู ให้สัมพันธก์ บั สื่อทไ่ี ม่ใช่ความเรยี ง
- การจับใจความสาคัญ เช่น ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนนุ
- ภาษาทใ่ี ช้ในการส่ือสารระหว่างบุคคล
- คาแนะนาเกีย่ วกบั ความปลอดภยั ทางน้า
- การบรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ ประเดน็ ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
- การเลือกใช้ภาษา น้าเสยี ง และกริ ิยาท่าทางในการสนทนาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม
ของเจา้ ของภาษา
- สถานทท่ี ่องเทยี่ วในประเทศของเจ้าของภาษา
- การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนาเสนอขอ้ มูลท่ีเกีย่ วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่
(สขุ ศึกษา)
- การใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จาลองที่เกิดข้ึนในห้องเรียน
124

3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่
-

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- การคิดวเิ คราะห์
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน

6.1 การเขยี นโปสการด์ ถึงเพื่อนเพ่ือบรรยายเกยี่ วกบั วันหยุด
6.2 การเขียนเก่ยี วกับประสบการณก์ ารเดนิ ทางของตนเอง
6.3 การเขียน email ถงึ เพ่ือนเพ่อื เล่าเก่ียวกับวนั หยดุ ของตนเอง
6.4 การเขียนบทความเก่ียวกับสถานท่ที อ่ งเท่ยี วหรือสวนสนกุ ในประเทศไทย
6.5 สงั เกตการออกเสยี งสานวนภาษาทีใ่ ช้ในการเชิญ การตอบรบั และปฏเิ สธคาเชิญ และคาศัพท์ที่มเี สียง

/ / และ / /
6.6 การแสดงบทสนทนาในการชักชวนเพอ่ื นไปเท่ียววันหยดุ
6.7 การนาเสนอขอ้ มลู เกยี่ วกบั ความปลอดภัยทางน้า

7. การวัดและการประเมนิ ผล

7.1 ประเมนิ การทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
7.2 ประเมนิ การทาแบบฝึกหดั
7.3 สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูใ้ นชว่ งการทากจิ กรรม
7.4 ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
7.5 ประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

8.1 หนังสือเรยี น Access 3 ม. 3

125

8.2 แบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3
8.3 แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3
8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสือเรียน Access 3 ม. 3)
8.5 Access Workbook Audio CD 3 ม. 3 (ประกอบแบบฝกึ หดั (Workbook) Access 3 ม. 3 และ

Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3)
8.6 CD หนงั สือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
8.7 พจนานุกรมภาษาอังกฤษ
8.8 อนิ เทอรเ์ น็ต หรือหนังสืออา้ งองิ

126

แผนการจดั การเรยี นรู้
Unit 3a Places to visit

ชว่ั โมงท่ี 1-2

1. ความคิดรวบยอด
รแู้ ละเข้าใจคาศัพท์เกี่ยวกับวันหยดุ สถานทที่ ่องเที่ยว วิธีการเดินทาง กิจกรรม ทพี่ ัก และการใช้ present

perfect ชว่ ยใหใ้ ช้ภาษาในการสอื่ สารทง้ั การฟัง/อา่ น และเขียนได้อยา่ งถูกต้อง

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 เรียนรูค้ าศัพท์เก่ียวกบั วันหยุด สถานทีท่ ่องเทีย่ ว วิธกี ารเดนิ ทาง กิจกรรม ทพี่ กั และคาศัพท์ต่อไปนี้
dive, underwater, guests, impressive, dark secrets, major attraction, dark alleys, vaults,
deserted churchyards ได้
2.2 ฟงั /อ่านเพื่อหาข้อมูลจาเพาะได้
2.3 ใช้ present perfect ไดถ้ ูกต้อง
2.4 เขียนโปสการ์ดถึงเพ่ือนเพื่อบรรยายวนั หยดุ ได้

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- การจบั ใจความสาคญั เชน่ ใจความสาคัญ รายละเอยี ดสนบั สนนุ
- การบรรยายเก่ียวกับตนเอง
3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่ิน
-

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

127

5.1 ใฝเ่ รียนรู้

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมนาส่กู ารเรียน
1. นกั เรียนทาแบบทดสอบความร้กู ่อนเรยี นโดยใช้ Self Check ในหนังสอื เรียน หนา้ 38
2. ครูให้นักเรยี นดชู ่ือหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3: Travel ในหนงั สอื เรียน หน้า 29 แล้วบอกวา่ หมายความวา่
อย่างไร จากน้ันครูใหน้ ักเรยี นคดิ ว่าเนื้อหาในหนว่ ยการเรียนรนู้ ีน้ า่ จะเกี่ยวกบั เร่ืองอะไร ครูกระตุ้นให้
นักเรียนตอบคาถามดว้ ยการเปดิ ดูเนือ้ หาในหนังสือเรียน หนา้ 30-37 อยา่ งครา่ วๆ

Suggested Answer Key
In this module we will learn about different types of holidays and holiday
destinations.

3. ครูช้แี จงใหน้ ักเรียนทราบว่า หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 นักเรยี นจะไดเ้ รียนรูเ้ ก่ยี วกับ
 types of holidays
 holiday destinations
 holiday experiences
 present perfect with already, yet, just, since, for
 present perfect continuous
 present perfect vs past simple
 making, accepting & refusing invitations

3. ครใู ชภ้ าพ 1-2 ในหนังสือเรียน หน้า 29 กระต้นุ ความสนใจของนักเรียนเข้าสู่การอภิปรายและนาเข้า
สหู่ น่วยการเรียนรู้ โดยครถู ามคาถามเพ่ือเรมิ่ การอภปิ รายเก่ียวกบั หัวขอ้ ตา่ งๆ ท่ีนักเรยี นจะเรยี นใน
หนว่ ยการเรียนรนู้ ี้

Suggested Answer Key
T: What page is picture 1 from? (p. 32)
S1: It’s from p. 32.

128

T: What can you see in picture 1?
S2: A house/building covered in snow.
T: How do you think the picture is related to the title of the unit?
S3: It relates to a winter holiday destination. etc
T: What page is picture 2 from? (p. 34) What can you see in picture 2?

How is it related to the title of the unit? What is the weather like?
What time of year do you think it is? etc

5. นักเรียนทากจิ กรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 29 หัวข้อ Find the page numbers for โดยหาว่า a
postcard, rules on how to swim safely, an email, an article about an underwater hotel
และ a theme park อยู่ในหนังสือเรยี นหน้าใด เมื่อหาพบแลว้ ครูถามคาถามเก่ยี วกบั หัวข้อดังกลา่ ว
เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น

a postcard (p. 31) Who’s the postcard to/from? Where is the person writing
from?

Do you send your friends/family postcards when on holiday? etc

rules on how to swim safely (p. 37) Where can you see these rules? Do you
go

swimming often? Where? Are there any similar rules in your country? etc

an email (p. 34) Who is the email from? How often do you send emails? etc

an article about an underwater hotel (p. 30) Have you heard of this hotel?
Do you know of any other unusual hotels? Would you like to go there? etc

a theme park (p. 35) What can you do/see at a theme park? Are there any
famous theme parks in your country? etc

6. ครอู า่ นวลใี นหนังสอื เรียน หน้า 29 หวั ข้อ Vocabulary ให้นกั เรยี นฟงั แลว้ เปดิ CD 1/Track 37 ให้
นักเรียนฟงั โดยหยุด CD เมอ่ื จบแตล่ ะวลเี พ่ือใหน้ กั เรยี นออกเสยี งตาม จากนั้นกระตนุ้ ให้นักเรียน
แปลวลเี หลา่ นี้ด้วยถ้อยคาทีเ่ ทียบเท่ากบั ในภาษาไทย
129

แล้วครกู ระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นบอกวา่ วลใี ดเก่ียวขอ้ งกับสภาพอากาศ (freezing cold, warm & sunny,
scorching hot, cold & chilly) จากนั้นใหน้ กั เรียนจนิ ตนาการว่าตนเองอยู่ทส่ี ถานท่ใี นภาพ 1-2
และใช้วลีเหล่านบ้ี รรยายว่านักเรยี นเหน็ อะไรบา้ ง และสภาพอากาศเป็นอยา่ งไร

Suggested Answer Key
Picture 1: It’s freezing cold. There is snow everywhere. There are
excellent views. I feel relaxed and calm.
Picture 2: It’s warm and sunny. The beach is crowded. Some people are
swimming. There are nice hotels and top class restaurants to choose from.

7. นักเรียนรว่ มกันอภิปรายคาถามในหนังสือเรยี น หนา้ 29 กจิ กรรม Think! เกีย่ วกบั การท่องเทย่ี วใน
วนั หยุด

Suggested Answer Key
Students’ own answers

8. ครูดงึ ความสนใจของนักเรยี นมาท่ภี าพและชือ่ Unit 3a ในหนังสือเรียน หน้า 29 แล้วกระตนุ้ ให้
นกั เรยี นเดาว่าเนื้อหาใน Unit 3a น่าจะเกยี่ วข้องกับอะไร (places one can go while on
holiday)

กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. นกั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หน้า 30 Ex. 1 (to predict the content of a text and
read for specific information) โดยครูอ่านชื่อของบทอา่ น และกระตุ้นให้นักเรยี นเดาวา่ บทอ่านน้ี
น่าจะเกย่ี วกับเร่ืองอะไร จากนนั้ ให้นกั เรยี นร่วมกันระดมความคิด คดิ คาถาม 3 คาถาม เกยี่ วกับ
สถานท่ีท้ัง 2 แหง่ ในภาพ เชน่ Where is Jules’ Undersea Lodge? What can you do there?
How much does it cost to stay there? What can you see in Edinburgh? What is a
ghost walk? What can you see during a ghost walk? เมื่อนักเรียนคิดคาถามได้แลว้ ครูเปดิ
CD 1/Track 38 ใหน้ ักเรยี นฟังและอ่านบทอ่านตามไปด้วย เพ่อื ดูว่านักเรียนตอบคาถามได้หรอื ไม่

130

Suggested Answer Key
Where is Jules’ Undersea Lodge?
In Key Largo, Florida, USA.
What can you do there?
You can stay there. It’s a hotel.
What is a ghost walk?
It’s a spooky evening walk around the Old Town in Edinburgh.

2. ครูให้นักเรยี นอา่ นบทอา่ นในหนงั สอื เรียน หน้า 30 อกี คร้งั แลว้ ตอบคาถามใน Ex. 2 (to read for
specific information) เสร็จแลว้ ครตู รวจคาตอบของนักเรียน

Suggested Answer Key
1. From Jules Verne, author of ‘20,000 Leagues Under the Sea’.
2. You dive 21 feet below the surface of the sea.
3. It has an impressive castle, numerous museums and galleries, top class

restaurants and fabulous shops.
4. You can see dark alleys, underground vaults and deserted churchyards.

You can listen to ghost stories, watch the shadows dance and explore
the real nature of ghosts.
5. The author wants to introduce us to two interesting places to visit,
Jules’ Undersea Lodge and Edinburgh.
6. Jules’ Undersea Lodge is an underwater hotel. It got its name from Jules
Verne, the author of ‘20,000 Leagues Under the Sea’. It’s expensive but
you can relax there. Edinburgh is a great place to visit. There are a lot of
museums to visit. Lots of tourists visit it every year. In the evening you
can go on a ghost walk around the Old Town and listen to ghost stories.

2. ครูใหเ้ วลานักเรียน 2-3 นาที เพือ่ เตรียมคาตอบในกิจกรรม Think! หนังสือเรยี น หนา้ 30 โดยเขยี น
ประโยค 2-3 ประโยค จากน้ันให้นักเรียนอา่ นคาตอบของตนเองให้เพอ่ื นขา้ งๆ ฟงั

131

Suggested Answer Key
I’d like to go to Jules’ Undersea Lodge. I find it exciting to stay in a hotel
under the sea./I’d like to go to Edinburgh because there are a lot of sights to visit.
I’d definitely go on a ghost walk, as I think it’s a unique experience.

4. ครอู า่ นคาศัพท์ 1-5 และ a-e ในหนังสือเรียน หนา้ 31 Ex. 3 (to learn new vocabulary and
synonyms) แลว้ อธิบายคาศัพทท์ ่นี ักเรียนไมร่ ูค้ วามหมาย และให้นกั เรยี นหาคาศัพท์ 1-5 ในบทอ่าน
หนา้ 30 จากนั้นให้นกั เรยี นจบั คกู่ ับคาศัพท์ 1-5 กับคาท่ีมีความหมายเหมือน a-c เสร็จแล้วครตู รวจ
คาตอบ แลว้ ใหน้ ักเรียนอธิบายคาทีพ่ ิมพ์ตัวหนาในบทอ่าน

1. d 2. e 3. a 4. b 5. c

5. ครเู ขยี น mind map ในหนงั สอื เรียน หนา้ 31 Ex. 4 (to brainstorm for vocabulary related
to a given topic) บนกระดาน แลว้ กระตุ้นใหน้ ักเรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ยี วข้องกับวนั หยดุ ใน
แต่ละหวั ขอ้ ย่อย ซง่ึ ได้แก่ places to visit, type, means of transport, activities,
accommodation โดยครูเขยี นคาศัพท์ท่ีนักเรียนบอกลงใน mind map บนกระดาน แล้วให้
นกั เรียนคดั ลอก mind map ลงในสมุดของตนเอง

Suggested Answer Key
Places to visit: restaurants, cinema, famous buildings, ancient sites,
landmarks, castles
Type: backpacking, walking, hiking
Means of transport: plane, train, bus, car, motorbike, ship, yacht
Activities: sailing, hiking, walking, scuba diving, skiing, swimming,
white-water rafting, sightseeing, taking photographs, shopping
Accommodation: bed & breakfast, chalet, ski lodge, guesthouse, campsite

7. ครอู า่ นตวั อย่างการถามและตอบทีใ่ ห้มาในหนังสือเรยี น หน้า 31 Ex. 5 (to practise new vocabulary)
แล้วให้นักเรียนจบั คู่ ใชค้ าศพั ท์จาก mind map ที่ช่วยกนั คดิ ใน Ex. 4 ถามและตอบคาถามเหมือนดัง
ตัวอย่าง ครสู ังเกตขณะนกั เรียนทากจิ กรรม

132

Suggested Answer Key
Have you ever visited a museum? Yes, I have.
Have you ever been on a safari? No, I haven’t.
Have you ever travelled on a ferry? Yes, I have.
Have you ever stayed in a hostel? No, I haven’t.

7. ครใู หน้ ักเรยี นอ่านคาศพั ทใ์ นหนังสือเรยี น หนา้ 31 Ex. 6 (to listen for specific information)
หวั ข้อ Activities แล้วครเู ปิด CD 1/Track 39 ใหน้ ักเรียนฟัง และจบั คูช่ ื่อบุคคล (1-5) กับกจิ กรรม
(a-g)
ครอู าจเปดิ CD ซา้ อีกครัง้ ถ้าจาเปน็ เมอื่ นักเรยี นทาเสร็จแล้วครตู รวจคาตอบ

1. c 2. b 3. d 4. e 5. a

8. ครูเขยี นประโยค I’ve been here since May. บนกระดาน และวาดเส้นตามนี้

แลว้ อธิบายว่าประโยคน้กี ารกระทาเรมิ่ ตน้ ในเดือนพฤษภาคม และยงั ดาเนินตอ่ เนื่องมาจนถงึ ปัจจบุ นั
คากริยาที่ใชค้ อื present perfect แล้วกระตุ้นใหน้ ักเรียนบอกรปู present perfect (have + past
participle of main verb) จากนัน้ ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นการใช้ present perfect และโครงสร้าง
ประโยคในหนงั สือเรยี น หน้า 31 Ex. 7 (to present the present perfect) ครอู ธิบายวา่ นกั เรียน
สามารถดู past participle ของ irregular verbs ไดใ้ นหน้า 130 แลว้ ใหน้ กั เรียนหาตวั อยา่ ง
present perfect ในบทอา่ น หนา้ 30

Have you ever woken up …?, Have you ever dived …?, you’ve never visited,
few of us have ever visited, Edinburgh has always been , Have you ever seen …?,
Ghost tours have been a major attraction …

8. ครูให้นกั เรียนดูขอ้ ความในหนังสือเรียน หนา้ 31 Ex. 8 (to practise the present perfect) แลว้ บอกว่า
เป็นข้อความประเภทใด (postcard) จากน้นั ครูอธบิ ายวา่ Rio de Janeiro คอื ช่อื เมืองที่อย่ใู นประเทศ

133

บราซิล แลว้ ให้นักเรยี นทากจิ กรรมโดยเปล่ยี นคากริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูป present perfect เมอื่ นักเรียน
ทาเสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ

1. ’ve ever been 4. ’ve swum 7. has been
2. ’ve visited 5. ’ve tried 8. Have you ever been
3. ’ve walked 6. haven’t visited

กิจกรรมรวบยอด

1. นกั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หนา้ 31 Ex. 9 (to write a postcard) โดยครูให้นักเรยี นอา่ น
บทอา่ นในหนา้ 30 อีกคร้ัง แลว้ เลอื กสถานทีใ่ นภาพมา 1 สถานที่ เพื่อเขียนโปสการ์ด ครูใหน้ ักเรยี น
จินตนาการวา่ นกั เรียนอยใู่ นช่วงวนั หยุดในสถานทที่ ีน่ ักเรียนเลือก แลว้ เขยี นโปสการด์ ถงึ เพ่อื นเพื่อ
บรรยายวันหยดุ ของตนเองตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนดให้ ครูให้เวลานักเรียนทางานในชัน้ เรียน หรอื อาจ
มอบหมายให้เปน็ การบ้าน

Suggested Answer Key
Dear Heather,
Greetings from Jules’ Undersea Lodge! It’s an amazing underwater hotel. So
far, I’ve relaxed a lot and I’ve done a lot of scuba diving, too. I’ve seen some
amazing fish. I haven’t seen an angelfish yet, but there’s plenty of time! The food in
the hotel is delicious. I’ve eaten a lot of fish, of course! Tomorrow I’m going to go
snorkelling. I can’t wait.
See you in a week.
Emily

สาหรบั ชัน้ เรยี นเด็กออ่ น ครเู ขียนคาตอบใน Suggested Answer Key ของ Ex. 9 บนกระดาน โดย
ตัดคากรยิ าออก และใส่คากริยาช่องที่ 1 ไวใ้ นวงเล็บ แล้วเว้นช่องวา่ งตรงคากริยาทต่ี ัดออกไว้ให้
นักเรียนเตมิ คากรยิ ารปู present perfect

e.g. So far, I ... (relax) a lot, ... etc.
2. นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหัด (Workbook) Unit 3a หน้า 26-27 Exs. 1-4

134

7. การวัดและการประเมินผล
7.1 ประเมินการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น
7.2 ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด
7.3 สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ในช่วงการทากิจกรรม
7.4 ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
7.5 ประเมินผลการเขยี นโปสการ์ดถงึ เพื่อนเพ่อื บรรยายวันหยดุ

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 หนงั สอื เรยี น Access 3 ม. 3
8.2 แบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3
8.3 แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access 3 ม. 3
8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนงั สอื เรียน Access 3 ม. 3)
8.5 CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3

135

บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
ผลการจดั การเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ…………………………………….ผสู้ อน
(……………………….……………)

วนั ท่ี……..เดือน……….………พ.ศ. …..…

ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

136

ลงช่อื …………………………………….ผูต้ รวจ
(……………………….……………)

วันที่……..เดอื น……….………พ.ศ.……….

137

แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 3b Out of the ordinary

ชวั่ โมงท่ี 3-4

1. ความคดิ รวบยอด
รแู้ ละเขา้ ใจการใช้ present perfect กบั already, yet, just, since, for การใช้ present perfect

continuous, past simple และ present perfect ช่วยใหใ้ ช้ภาษาในการส่ือสารได้อย่างถูกต้องทั้งการอ่าน
และเขยี น

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
2.1 เรยี นรคู้ าศพั ท์ต่อไปนี้ typical, melt, entire, actual, snowmobile, warm, believe it or not,
queue up, on sale, treat yourself, just the place, trust me, local snack, reindeer meat
ได้
2.2 อา่ นเพื่อหาข้อมลู จาเพาะได้
2.3 ใช้ present perfect กบั already, yet, just, since, for ไดถ้ ูกต้อง
2.4 ใช้ present perfect continuous ได้ถูกต้อง
2.5 ใช้ past simple และ present perfect ได้ถกู ต้อง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- การจบั ใจความสาคัญ เชน่ ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน
- การบรรยายเกี่ยวกับประสบการณ์
3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
-

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- การคดิ วเิ คราะห์

138

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมนาสู่การเรยี น

ครูดึงความสนใจของนักเรยี นมาที่ชื่อ Unit 3b ช่ือเรือ่ งของบทอ่าน และภาพประกอบในหนงั สอื เรยี น
หนา้ 32 แล้วกระตุ้นให้นักเรียนเดาวา่ Unit 3b น่าจะเกยี่ วกบั เรอ่ื งอะไร (an interesting winter

holiday
destination)

กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้

1. นกั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน หนา้ 32 Ex. 1 (to predict the content of a text) แลว้ ครูกระตนุ้
ให้นักเรียนบอกสภาพอากาศทีเ่ ห็นในภาพ จากน้ันใหน้ กั เรียนเดาว่าสถานท่ใี นภาพน่าจะอยู่ท่ีใด
คนทอี่ ยู่ในภาพ A กาลังทาอะไร และมีอะไรที่ผิดปกติไปจากทัว่ ๆ ไป แลว้ ครูเปดิ CD 1/Track 40
ใหน้ กั เรียนฟงั และอา่ นบทอ่านตามไปด้วย เพื่อตรวจว่านักเรียนคาดเดาถูกต้องหรอื ไม่

Suggested Answer Key
The weather is very cold and it is snowy. It could be a country that has very
cold winters such as Canada, Russia or Sweden. The people look like they are
outside in a theatre made of ice. Perhaps they are watching a film or a performance.
It seems that this theatre makes the place out of the ordinary./Maybe it
snows all year round there, so the place is out of the ordinary.

2. นกั เรียนทากจิ กรรมในหนังสือเรยี น หน้า 32 Ex. 2 (to read for specific information) โดยอา่ น
บทอา่ นอกี คร้งั แลว้ เติมประโยคให้สมบรู ณ์ เสร็จแล้วครตู รวจคาตอบ

1. Norway 4. snowmobile
2. very cold and snowy 5. dried reindeer meat
3. of ice and snow

139

3. ครูอ่านคา/วลี (1-6) ในหนังสือเรียน หน้า 32 Ex. 3 (to learn new vocabulary and synonyms)
แล้วครอู ธบิ ายหรือกระตนุ้ ให้นกั เรียนบอกความหมาย จากนัน้ ครูอธบิ ายการทากจิ กรรมโดยให้
นกั เรียนหาวลีในบทอ่านทมี่ ีความหมายเหมือนกบั คา/วลที กี่ าหนดให้ และครูทาขอ้ 1 เป็นตัวอยา่ ง
ดว้ ยการใหน้ ักเรยี นอ่านบรรทัดที่ 2 ในบทอ่าน แลว้ กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นบอกวา่ คาหรือวลีใดในบรรทดั
นีท้ ี่มีความหมายเหมือนคาวา่ ‘surprisingly’ (believe it or not)
แลว้ ครูใหน้ กั เรียนทาข้อทเ่ี หลือด้วยตนเอง เม่อื ทาเสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ จากนัน้ ใหน้ ักเรียนใช้วลี
ทห่ี าพบในบทอ่านมาแต่งประโยค

1. believe it or not 4. treat themselves to
2. queuing up 5. just the place
3. isn’t on sale 6. Trust me!

Suggested Answer Key
1. Believe it or not, I am going on holiday tomorrow.
2. I don’t like queuing up for anything.
3. Ice cream isn’t on sale in the winter.
4. My parents are going to treat themselves to a cruise next year.
5. I found just the place to go on holiday this summer.
6. Trust me! I know what I’m talking about.

4. นกั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หน้า 32 Ex. 4a (to use a dictionary to find synonyms) โดย
หาความหมายของคาท่ีขดี เส้นใต้ในบทอ่านจากพจนานุกรมภาษาอังกฤษ จากนั้นครกู ระตุ้นใหน้ ักเรยี น
บอกคาที่มีความหมายเหมือนกับคาเหล่าน้ี ครใู ห้ความชว่ ยเหลอื และอธบิ ายให้ชัดเจนในจุดที่นกั เรียน
ไมเ่ ขา้ ใจ เสรจ็ แลว้ ให้นักเรยี นอธบิ ายความหมายของคาทพ่ี ิมพต์ วั หนาในบทอ่าน

Suggested Answer Key lovely - enjoyable
typical - usual warm – thermal
entire - whole
actual - real

140

5. ครูให้เวลานักเรียนเตรยี มคาตอบของคาถามในหนงั สือเรยี น หนา้ 32 Ex. 4b (to consolidate new
information) กจิ กรรม Think! ว่าสง่ิ ที่ทาให้ Kautokeino ไมธ่ รรมดาคืออะไร และเขียนเหตุผล 3 ข้อ
ทค่ี วรไปเทีย่ วท่ี Kautokeino เม่ือนกั เรียนเขียนเสรจ็ แลว้ ครสู มุ่ เรยี กนักเรยี นบางคนอ่านคาตอบของ
ตนเอง

Suggested Answer Key
The drive-in ice cinema makes Kautokeino out of the ordinary. People
should also visit Kautokeino to try its delicious local snack, dried reindeer meat, and
to go on a ride on a snowmobile.

6. นกั เรยี นอา่ นการใช้ already, yet, just, since, for ในหนังสือเรยี น หน้า 33 Ex. 5 (to present
the present perfect with already, yet, just, since, for) แล้วครกู ระตนุ้ ใหน้ กั เรียนยกตัวอย่าง
ประโยคทใ่ี ช้ adverbs เหลา่ นเ้ี พิม่ เติม และใหน้ ักเรียนแปล adverbs เหล่านเี้ ปน็ ภาษาไทย จากนัน้
ใหน้ ักเรยี นอา่ นบทอ่าน หน้า 32 อย่างรวดเร็วเพื่อหาว่า adverbs คาใดที่มใี นบทอ่าน

I have been staying here for a week and I haven’t had enough yet.

7. ครูอ่านตวั อย่างในหนังสือเรียน หน้า 33 Ex. 6 (to practise already and yet with the present
perfect) ให้นกั เรยี นฟงั จากนน้ั ให้นกั เรียนจบั คชู่ ่วยกนั แต่งประโยคโดยใช้ already หรือ yet ดงั
ตวั อยา่ ง เม่ือนักเรยี นทาเสรจ็ แลว้ ครสู มุ่ เรียกนักเรยี นหลายๆ คู่ พดู ประโยคของตนเอง

He hasn’t finished packing his suitcase yet.
He hasn’t found his football boots yet.
He has already packed his sports equipment.

8. ครอู ่านตัวอย่างในหนังสือเรียน หนา้ 33 Ex. 7 (to practise just with the present perfect) ให้
นกั เรียนฟัง แลว้ อธิบายหรือกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนบอกความหมายของ adjectives ในแตล่ ะประโยค
ครบู อกนักเรยี นว่า นักเรยี นต้องคิดถึงเหตผุ ลทท่ี าใหเ้ กดิ ความรสู้ ึกตาม adjectives เหล่านี้ แลว้ ครูให้
นักเรยี นช่วยกนั ระดมความคิดเก่ียวกบั เหตุผลต่างๆ จากนั้นใหน้ กั เรยี นแต่งประโยค present
perfect โดยใช้ just ใหส้ มั พันธ์กับความรสู้ กึ ท่ีกาหนดให้ เสร็จแล้วครูตรวจคาตอบโดยสุ่มเรยี ก
นักเรียนบอกคาตอบของตนเอง

141

Suggested Answer Key
2. He’s just won a competition.
3. They’ve just realised their dog is missing.
4. She has just heard her son is all right.

9. ครเู ขียนประโยค I have been studying since 9:00 am. บนกระดาน และวาดเส้นตามน้ี

แล้วอธิบายวา่ ประโยคนก้ี ารกระทาเริ่มต้นในเวลา 9:00 am และตอ่ เน่ืองไปจนถึงปัจจุบนั โครงสร้าง
ประโยคทใี่ ช้ คือ present perfect continuous ซึง่ ใช้แสดงถึงช่วงเวลาทตี่ ่อเน่ืองของ
การกระทา
จากนั้นครูให้นักเรยี นอา่ นการใช้ present perfect continuous ในหนงั สอื เรยี น หน้า 33 Ex. 8
(to present the present perfect continuous & practise since and for with the present
perfect continuous) แล้วครูอ่านตัวอยา่ งที่ให้มา และอธิบายใหน้ กั เรยี นฟังว่าเราใช้ for เม่อื
กล่าวถงึ ชว่ งเวลา เช่น two days, two months, two years แต่เราใช้ since กบั วนั หรือเวลาท่ี
แน่นอน เช่น Monday, September, 2005 แล้วครูใหน้ กั เรียนแต่งประโยค present perfect
continuous โดยใช้ for หรอื since กับคา/วลที ่ีกาหนดให้ ครูบอกนักเรียนว่าประโยคที่นกั เรยี นแต่ง
ตอ้ งเป็นประโยคบอกเล่า เมือ่ นกั เรยี นทาเสร็จแล้วครูตรวจคาตอบ

Suggested Answer Key
They have been travelling abroad since 2004.
Sue has been playing outside since this morning.
They have been living in Paris since last summer.
Jane has been reading a book for a week.

9. ครูอา่ นประโยคที่ 1 และ 2 ในหนงั สือเรยี น หนา้ 33 Ex. 9 (to compare the past simple and the
present perfect) แล้วกระตุ้นให้นกั เรยี นบอกวา่ แต่ละประโยคใช้ tense อะไร จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นจบั ครู่ ูป

142

คากรยิ าในแต่ละประโยคกบั การใช้ ว่าใช้กลา่ วถงึ การกระทาท่สี ิ้นสุดในอดตี หรือการกระทาในอดีตที่
ต่อเน่ืองมาถึงปัจจบุ ัน ครกู ระตุน้ คาตอบจากนักเรียนในชน้ั โดยส่มุ เรยี กนกั เรยี นบอกคาตอบ

1. stayed – past simple – an action that finished in the past
2. ’ve lived – present perfect – an action that started in the past and

continues up to now

Background information
Niagara Falls is on the Canadian – US border, between the Canadian province of Ontario and
the US state of New York.

11. ครูให้นักเรียนอา่ นแบบทดสอบความรู้ (quiz) ในหนังสือเรียน หนา้ 33 Ex. 10 (to practise the
past simple and the present perfect) แลว้ เปลีย่ นคากริยาในวงเล็บใหอ้ ยู่ในรูป present
perfect หรอื past simple เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ครตู รวจคาตอบ พร้อมทัง้ ให้นักเรียนอธบิ ายเหตุผล
ประกอบคาตอบของตนเอง

1. has been (continues up to now)
2. came (action in the past)
3. have tried (people continue to try), went, survived (actions in the
past)
4. performed, appeared (actions in the past)

กจิ กรรมรวบยอด
1. ครูอ่านตวั อย่างท่ีให้มาในหนังสอื เรยี น หนา้ 33 Ex. 11 (to write about travel experiences,
using the present perfect and past simple) ให้นกั เรียนฟัง แลว้ ให้เวลานกั เรียนคดิ และเขียน
ประโยค
4 ประโยค เกยี่ วกบั ประสบการณ์การเดินทางของตนเอง โดยใชโ้ ครงสร้าง present perfect และ
past simple เสร็จแล้วครตู รวจคาตอบโดยให้นกั เรยี นอ่านประโยคของตนเอง

143

Suggested Answer Key
I’ve never been abroad but I’ve been to lots of places in my country.
I’ve been to the island of Majorca many times.
We went there last summer. It was hot and sunny and we had a really nice
time.

2. นกั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) Unit 3b หน้า 28 Exs. 1-5

7. การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 ประเมินการทาแบบฝึกหัด
7.2 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรูใ้ นช่วงการทากจิ กรรม
7.3 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
7.4 ประเมินผลการเขยี นเก่ยี วกับประสบการณ์การเดนิ ทางของตนเอง

8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3
8.2 แบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3
8.3 แบบฝกึ ไวยากรณ์ Extra Access3 ม. 3
8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสอื เรียน Access 3 ม. 3)
8.5 CD หนังสือ Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
8.6 พจนานกุ รมภาษาอังกฤษ

144

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
ผลการจดั การเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ …………………………………….ผสู้ อน
(……………………….……………)

วันท่ี……..เดอื น……….………พ.ศ. …..…

ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

145

ลงช่อื …………………………………….ผูต้ รวจ
(……………………….……………)

วันที่……..เดอื น……….………พ.ศ.……….

146

แผนการจดั การเรยี นรู้
Unit 3c Greetings from…

ช่วั โมงท่ี 5-6

1. ความคดิ รวบยอด
ความรูเ้ ก่ยี วกับรปู แบบการเขียนแบบไมเ่ ปน็ ทางการ (informal style) ช่วยให้ใช้ภาษาในการสื่อสาร

ด้วยการเขยี นได้อย่างเหมาะสม

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
2.1 เรียนรคู้ าศัพท์ต่อไปนี้ sunburnt, crowded, gorgeous, rude, disgusting, boring, wet, rainy,
exciting things ได้
2.2 เขียน email ถึงเพื่อนได้
2.3 เรยี นรู้รปู แบบการเขยี นแบบไมเ่ ป็นทางการได้

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การบรรยายเกี่ยวกับประสบการณ์
3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ
-

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร

5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรมนาสู่การเรยี น
ครูให้นกั เรียนดูภาพและอ่านช่ือ Unit 3c ในหนังสอื เรยี น หนา้ 34 แล้วครูกระตุ้นใหน้ ักเรยี นบอกว่า

147

เน้อื หาใน Unit 3c จะเก่ียวกับเรื่องอะไร (greetings from holiday destinations)
กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้

1. นักเรยี นทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หน้า 34 Ex. 1 (to read for context and specific
information) โดยครูดึงความสนใจของนกั เรียนมาท่ี email และกระต้นุ ใหน้ ักเรียนตอบคาถามวา่
ใครเปน็ ผู้สง่ email ฉบับนี้ สง่ ถงึ ใคร และ Mike อยู่ท่ไี หน

Janet is sending it to Mike.
Janet is in California and Mike is at home.

2. นักเรยี นศกึ ษาหวั ข้อ Learning to learn ในหนงั สอื เรียน หนา้ 34 เกย่ี วกับ informal style (การ
เขียนแบบไมเ่ ป็นทางการ) จากนน้ั ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นดว้ ยการถามคาถาม เชน่
informal style จะใช้เมื่อไร และมลี กั ษณะเช่นใดบา้ ง

3. นักเรยี นทากจิ กรรมในหนังสือเรยี น หน้า 34 Ex. 2 (to read for cohesion and coherence and
to listen for confirmation, to identify elements of informal style) โดยอา่ น email แล้ว
เตมิ ชอ่ งว่างดว้ ยวลี a-f ท่ีกาหนดให้ เมือ่ ทาเสรจ็ แลว้ ครูเปดิ CD 1/Track 41 ให้นกั เรียนฟังเพื่อ
ตรวจคาตอบ

1. e 2. b 3. c 4. a 5. f 6. d

จากน้นั ครูให้นักเรียนอ่าน email อกี ครั้ง และหาตัวอยา่ ง informal style เสรจ็ แลว้ ครตู รวจคาตอบ
โดยสมุ่ เรยี กนกั เรยี นทลี ะคนบอกตวั อย่าง informal styleท่ีพบใน email

Suggested Answer Key
(Informal Style)
Short forms: I’ve (x6), we’ve, it’s, can’t, haven’t, there’s
Everyday expressions: so far, It’s getting better, plenty of time, see you
Short sentences: See you in a week
Simple linking words: and, so, but, when
Personal language: I got sunburnt

4. นกั เรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 34 Ex. 3 (to present new vocabulary) โดยหา
ความหมายของคาที่พมิ พต์ วั หนาในแต่ละประโยคจากพจนานุกรมภาษาอังกฤษ จากนนั้ ให้นกั เรยี นใช้

148

ประโยค เหล่าน้เี ขียนบรรยายเก่ียวกบั วันหยุดท่ผี า่ นมาของตนเอง เมอ่ื นกั เรยี นทาเสรจ็ แลว้ ครูสุม่ เรียก
นักเรียนอ่านให้เพ่ือนฟัง

Suggested Answer Key
Last year I went to Crete with my parents. The weather was gorgeous. We
stayed
at a hotel by the sea. Every day we swam in the sea. Unfortunately, I got
terribly sunburnt.
5. ครูอ่านตวั อย่างการใช้ have been และ have gone ทีอ่ ยู่ในกรอบในหนงั สือเรียน หนา้ 34 Ex. 4
(to understand the difference between have been and have gone) จากนั้นใหน้ ักเรียน
เติมประโยคให้สมบูรณ์ด้วย have been หรอื have gone เสรจ็ แล้วครูตรวจคาตอบของนกั เรียน

1. has gone 2. has been 3. has gone 4. has been

กจิ กรรมเพมิ่ เติม ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม โดยครเู ขียนคาเหลา่ นีบ้ นกระดาน sunburnt, crowed,
rude, disgusting, boring, wet & rainy จากน้ันให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ แล้วให้แต่ละกลุ่มผลดั กนั ส่ง
ตวั แทนครง้ั ละ 1 คน แต่งประโยคโดยใช้คาท่ีครเู ขียนบนกระดาน ถ้าแตง่ ประโยคได้ถูกตอ้ งจะได้
ประโยคละ 1 คะแนน กลุม่ ทไ่ี ดค้ ะแนนมากทสี่ ดุ เปน็ ผชู้ นะ

e.g. Team A S1: Don’t stay in the sun too long. You can get sunburnt.
Team B S1: I don’t like crowed beaches. I prefer quiet ones.

กจิ กรรมรวบยอด

1. นักเรยี นทากจิ กรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 34 Ex. 5 (to write an email) โดยจินตนาการว่านกั เรยี น
กาลังใช้เวลา 1 สปั ดาห์ ท่ีรสี อรต์ แลว้ ให้นกั เรยี นเขยี น email ถึงเพ่ือนโดยมีรายละเอียดตามหัวขอ้ ท่ี
กาหนดให้ ครูใหน้ ักเรียนช่วยกนั ระดมความคิดเกีย่ วกับข้อมลู ทจี่ าเปน็ ในการเขยี น โดยครูถามคาถาม
เช่น Can you think of a holiday resort you have been to or would like to go to?
(Tenerife) Where could you stay? (in a nice hotel) What could you do? เปน็ ตน้ จากน้ัน
ครูใหเ้ วลานักเรียนเขยี น email ในชน้ั เรยี นหรือมอบหมายใหเ้ ปน็ การบ้าน เสรจ็ แล้วครูตรวจงาน
เขยี นของนักเรยี น

การเขยี น email แบบไมเ่ ป็นทางการเพอื่ ให้ข่าวสาร
email แบบไม่เป็นทางการ จะใช้เขียนถงึ เพอ่ื น ญาติ และบคุ คลท่ีเรารจู้ ักดี โดยจะขนึ้ ต้น
email ดว้ ย Hi/Dear + ชือ่ ของบคุ คล (first name) แล้วจงึ เขียนใหข้ ้อมูลข่าวสารของเรา เช่น

149

อยทู่ ีไ่ หน กบั ใคร กาลังทาอะไรอยทู่ ีน่ ั่น สภาพอากาศเปน็ อยา่ งไร เปน็ ตน้ และเราจะลงทา้ ย
email ด้วย Yours, Take care, เปน็ ต้น แล้วตามด้วยชอ่ื ของเรา
2. นกั เรยี นทากจิ กรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) Unit 3c หนา้ 29-31 Exs. 1-5
7. การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด
7.2 สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรูใ้ นชว่ งการทากิจกรรม
7.3 ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
7.4 ประเมนิ ผลการเขียน email ถงึ เพื่อนเพ่อื เล่าเก่ียวกบั วันหยุดของตนเอง
8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนังสอื เรยี น Access 3 ม. 3
8.2 แบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3
8.3 แบบฝึกไวยากรณ์ Extra Access3 ม. 3
8.4 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนงั สอื เรียน Access 3 ม. 3)
8.5 CD หนังสอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
8.6 พจนานุกรมภาษาอังกฤษ

150

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
ผลการจดั การเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ…………………………………….ผูส้ อน
(……………………….……………)

วันท่ี……..เดือน……….………พ.ศ. …..…

ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

151

ลงช่อื …………………………………….ผูต้ รวจ
(……………………….……………)

วันที่……..เดอื น……….………พ.ศ.……….

152

แผนการจดั การเรยี นรู้
Unit 3d Culture corner

ช่วั โมงที่ 7-8

1. ความคดิ รวบยอด

ความรเู้ กยี่ วกบั Legoland สวนสนุกในแคลิฟอร์เนยี ชว่ ยใหเ้ กิดความเข้าใจในชีวติ ความเปน็ อยูข่ อง
เจา้ ของภาษา และเป็นพน้ื ฐานในการคน้ คว้า รวบรวมขอ้ มูล และนาเสนอดว้ ยการเขยี น

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 เรียนร้คู าศัพท์ต่อไปนี้ plastic bricks, trip, attractions, form models, take a ride, driving
licence, safari trek, landmarks ได้

2.2 อา่ นเพื่อหาข้อมูลจาเพาะได้
2.3 สร้างคานามท่เี ปน็ นามธรรมจากคากริยาได้
2.4 เขยี นบทความเกย่ี วกบั สถานท่ที อ่ งเทีย่ วหรือสวนสนุกในประเทศไทยได้

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การจับใจความสาคัญ เช่น ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนับสนุน
- การบรรยายเกยี่ วกับประเดน็ ทอ่ี ย่ใู นความสนใจของสังคม
- สถานทีท่ ่องเทย่ี วในประเทศของเจ้าของภาษา
- การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนาเสนอข้อมูลทเี่ ก่ียวข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถนิ่
-

4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน

4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- การคิดวิเคราะห์
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

5.1 ใฝเ่ รยี นรู้

153

6. กิจกรรมการเรียนรู้

กิจกรรมนาสกู่ ารเรยี น

ครถู ามนักเรยี นว่า ‘theme park’ คอื อะไร (places with lots of fun activities) แล้วถามต่อว่าใน
ประเทศ-

ไทยมี theme park หรือไม่ ถา้ มคี ือทใี่ ด และนักเรยี นเคยไปเทีย่ ว theme park หรือไม่ ครูให้นกั เรยี น
คิดเกีย่ วกับประสบการณ์ของตนเอง

กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้

1. นกั เรยี นทากิจกรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 35 Ex. 1 (to introduce the topic) โดยครูถามนกั เรียน
วา่ ร้จู ัก Lego หรือไม่ แลว้ ครูดงึ ความสนใจของนักเรยี นมาท่ีชือ่ เรอ่ื งของบทอ่านและภาพ และ
กระตุ้นใหน้ ักเรยี นบอกว่า Legoland คอื อะไร (a theme park) และอยู่ในประเทศใด (USA)
จากนัน้ ครใู ห้นักเรียนระดมความคดิ คิดคาถาม 3 คาถามเก่ียวกบั Legoland เชน่ What can
people see/do there? Are there a lot of attractions? Can visitors make model there?
เสร็จแลว้ ครูเปิด CD 1/Track 42 ใหน้ ักเรียนฟังและอ่านบทอา่ นในหนงั สือเรยี นตามไปด้วย เพื่อดูวา่
คาถามของนกั เรียนมีคาตอบหรือไม่

Suggested Answer Key
1. What can people see/do there? They can dig for dinosaur bones, drive a
fire truck

and go on a safari trek. They can see amazing models there.
2. Are there a lot of attractions? Yes, there is Dino Island, the Coastersaurus
roller coaster, Fun Town and much more.
3. Can visitors make models there? Not answered in text.

3. ครใู ห้นักเรยี นอา่ นบทอ่านในหนังสือเรียน หนา้ 35 อกี ครง้ั แลว้ ตอบคาถามใน Ex. 2 (to read for
specific information) เสรจ็ แล้วครูตรวจคาตอบของนักเรียน

Suggested Answer Key

a Explore Village d Miniland, USA

154

b Dino Island e Fun Town c Dino Island

3. ครใู หน้ ักเรยี นหาความหมายของคาท่กี าหนดให้ในหนงั สือเรียน หน้า 35 Ex. 3 (to present new

vocabulary) จากพจนานุกรมภาษาองั กฤษ จากนน้ั ให้นักเรียนใชค้ าเหลา่ นีแ้ ต่งประโยคเก่ียวกบั

Legoland เมอ่ื นักเรียนทาเสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบโดยการสมุ่ เรยี กนกั เรียนหลายๆ คน อ่านประโยค

ของตนเองให้เพ่ือนฟัง

Suggested Answer Key
There are a lot of great attractions at Legoland California.
You can dig for dinosaur bones at Dino Island in Legoland.
You can take a ride on Coastersaurus, a big roller coaster at Legoland.
You can get a driving licence and drive a fire truck at Fun Town.
You can see lions and zebras on the safari trek.
Be sure not to miss the chance to go to Legoland!
At Miniland, USA, in Legoland, 20 million LEGO bricks form models of
landmarks.

4. นกั เรียนอา่ นหลักเกณฑ์การสรา้ งคานามทเี่ ปน็ นามธรรม (abstract nouns) จากคากรยิ า (verbs)
ในหนังสอื เรียน หนา้ 35 Ex. 4 (to form abstract nouns from verbs) แลว้ ครยู กตวั อยา่ ง
เพมิ่ เติมเพ่ือสาธติ การทากจิ กรรม เชน่ develop – development, attend – attention จากนน้ั
ใหน้ กั เรียนสร้างคานามจากคากรยิ าที่กาหนดให้โดยใชพ้ จนานกุ รมภาษาอังกฤษ เสร็จแล้วครูตรวจ
คาตอบบนกระดาน

attract – attraction, equip – equipment, excite – excitement

กิจกรรมรวบยอด

1. นกั เรยี นทากจิ กรรมในหนงั สือเรียน หน้า 35 Ex. 5 (to write a short article) โดยครูแบ่งนกั เรยี น
ออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน แล้วให้นกั เรยี นระดมความคิดเกย่ี วกับสถานที่พเิ ศษในประเทศไทย
เช่น สถานที่ท่องเท่ยี ว หรอื สวนสนุก ท่ีนักเรียนสามารถนามาเขียนบทความได้ จากนน้ั ให้แตล่ ะกล่มุ
ค้นคว้า รวบรวมขอ้ มลู จากอินเทอร์เน็ตหรือหนังสืออ้างองิ โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ What’s its
name? Where is it? What can you do/see there? ครมู อบหมายให้เปน็ การบ้าน เสร็จแล้วครู
ตรวจผลงานของนกั เรียน

155

Suggested Answer Key
Dream World

Dream World is a large theme park in Pathum Thani province, Thailand. There are lots of
things to do at Dream World. Start by visiting Dream World Plaza, the fantasy buildings. Then
see Dream Garden, the zone with the nature theme and also see the models of Seven
Wonders of the World such as the Great Wall of China, Taj Mahala, Pyramid, etc. There are
many different fairy tales from all over the world at Fantasy Land. But don’t miss Adventure
Land, the zone with many rides such as sky coaster, Viking ship, space mountains. Also, don’t
leave without to see Hollywood’s action show and the parade show called “The Colour of
the World” on every weekends.

2. นกั เรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) Unit 3d หนา้ 32 Exs. 1-3

7. การวัดและการประเมินผล
7.1 ประเมินการทาแบบฝึกหดั
7.2 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ในชว่ งการทากจิ กรรม
7.3 ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
7.4 ประเมนิ ผลการเขยี นบทความเกย่ี วกบั สถานที่ท่องเทีย่ วหรอื สวนสนุกในประเทศไทย

8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรยี น Access 3 ม. 3
8.2 แบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3
8.3 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนงั สอื เรยี น Access 3 ม. 3)
8.4 CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
8.5 พจนานกุ รมภาษาอังกฤษ
8.6 อนิ เทอร์เนต็ หรือหนงั สืออ้างองิ

156

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
ผลการจดั การเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชือ่ …………………………………….ผสู้ อน
(……………………….……………)

วนั ท่ี……..เดอื น……….………พ.ศ. …..…

ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

157

ลงช่อื …………………………………….ผูต้ รวจ
(……………………….……………)

วันที่……..เดอื น……….………พ.ศ.……….

158

แผนการจัดการเรียนรู้
Unit 3e How about…?

ช่ัวโมงที่ 9-10

1. ความคิดรวบยอด
รู้และเข้าใจสานวนภาษาท่ีใช้ในการเชิญ การตอบรับและปฏเิ สธคาเชิญ การออกเสียงคาศพั ท์ท่ถี ูกต้อง

ตามหลกั การอา่ น ช่วยใหใ้ ช้ภาษาในการสอ่ื สารในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 เรียนรสู้ านวนภาษาต่อไปนี้ Would you like to …? How about going/coming …? I’d love
to, That sounds great! Thanks, but I’m afraid I can’t, I’d love to, but I can’t ได้
2.2 อ่านออกเสียงสานวนภาษาท่ีใช้ในการเชญิ การตอบรับและปฏเิ สธคาเชญิ และคาศัพทท์ ่ีมีเสยี ง / /,
//
2.3 แสดงบทสนทนาในการเชิญ ตอบรบั และปฏิเสธคาเชญิ ได้

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- การออกเสียงตามระดงั เสียงสูง-ต่าในประโยค การออกเสยี งสระเสยี งยาว
- ภาษาท่ีใช้ในการส่ือสารระหว่างบุคคล
- การเลอื กใชภ้ าษา นา้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทางในการสนทนาตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจ้าของภาษา
- การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองที่เกดิ ข้นึ ในห้องเรียน
3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ
-

4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

159

5.1 ใฝ่เรยี นรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

กิจกรรมนาส่กู ารเรยี น
ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นชอื่ Unit 3e ในหนงั สือเรยี น หน้า 36 แล้วกระตุ้นใหน้ ักเรยี นบอกว่าเมือ่ ไหร่ที่เราใช้
สานวน How about…? (when we want to make a suggest/invite somebody somewhere)
จากนน้ั ให้
นกั เรียนคิดวา่ เนื้อหาใน Unit 3e น่าจะเก่ยี วกับเรื่องอะไร (invitations)

กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้
1. ครูอ่านประโยค/วลีในหนังสอื เรียน หนา้ 36 Ex. 1 (to present useful phrases) ให้นักเรียนฟัง
และอธิบายคาศัพทท์ ีน่ ักเรียนไม่รคู้ วามหมาย เชน่ lucky – fortunate จากนัน้ เปดิ CD 1/Track 43
ให้นักเรยี นฟัง โดยหยดุ CD เมอื่ จบแตล่ ะประโยค/วลี และใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม ครูสังเกตการ
ออกเสียงสงู -ตา่ ในประโยคของนกั เรียน
กิจกรรมเพิ่มเติม ครูให้นกั เรียนเล่นเกม Memory game ด้วยการใหน้ กั เรียนจดจาประโยค/วลใี น
Ex. 1 ภายในเวลา 1 นาที จากนน้ั ให้นักเรยี นทกุ คนปิดหนังสือเรียน และพยายามนึกประโยค/วลีให้
ไดม้ ากที่สุด แลว้ ครใู หน้ กั เรยี นบอกประโยค/วลีทจ่ี าได้
2. นักเรียนทากิจกรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 36 Ex. 2 (to predict the content of a text) โดยครู
อธิบายว่าประโยค/วลีใน Ex. 1 น้ันมาจากบทสนทนาระหว่างเพ่ือน 2 คน แลว้ ครูกระตุน้ ให้นกั เรยี น
บอกวา่ บทสนทนาดงั กล่าวนา่ จะเก่ียวข้องกบั อะไร จากนนั้ ครเู ปิด CD 1/Track 44 ใหน้ ักเรียนฟงั
และอ่านบทสนทนาในหนังสอื เรียนตามไปดว้ ย เพือ่ ตรวจว่าการคาดเดาของนักเรียนถูกต้องหรือไม่

It’s about inviting someone to a summer camp.

3. นกั เรยี นทากิจกรรมในหนังสือเรยี น หนา้ 36 Ex. 3 (to consolidate new vocabulary through
translation) โดยแปลประโยค/วลใี น Ex. 1 เป็นภาษาไทย ครูบอกนักเรยี นว่าควรเลอื กใชถ้ ้อยคาที่มี
ความหมายเทยี บเท่ากับในภาษาไทย ไม่ควรแปลแบบคาต่อคา จากนั้นครใู ห้นักเรียนจับคู่ฝกึ อ่านบท
สนทนา

160

4. นักเรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หนา้ 36 Ex. 4 (to understand the meaning of everyday
English expressions) โดยอ่านบทสนทนา แลว้ หาประโยคในบทสนทนาทม่ี ีความหมายเหมอื นกับ
ประโยค 1-4 ที่กาหนดให้ เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบโดยส่มุ เรียกนักเรยี นบางคนอ่านคาตอบของ
ตนเอง

1. You’re lucky. 3. Have you made other plans?
2. Why not? 4. Let me try to talk to them.

5. ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นสานวนภาษาในการเชิญ การตอบรับและปฏิเสธคาเชญิ ในหนังสอื เรียน หน้า 36
Ex. 5 (to make, accept and refuse invitations) แล้วให้นักเรยี นจบั คู่กบั เพ่ือน ใชส้ านวนภาษา
ดงั กล่าวเชิญเพื่อนทากจิ กรรมตามทก่ี าหนดให้ จากนั้นครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี นหลายๆ คู่ ออกมาแสดง
การเชญิ การตอบรับและปฏิเสธคาเชิญทห่ี นา้ ชัน้ เรียน

Suggested Answer Key
 A: Would you like to go to the cinema?

B: I’d love to.
 A: How about going hiking?

B: That sounds great!
 A: Would you like to eat out?

B: Thanks, but I’m afraid I can’t.
 A: How about going on a picnic?

B: I’d love to, but I can’t.

6. นกั เรยี นฝกึ ออกเสยี งคาศัพท์ทีอ่ อกเสยี ง / / และ / / ในหนงั สือเรียน หน้า 36 Ex. 7 (to
pronounce / /, / /) โดยครเู ปิด CD 1/Track 45 ใหน้ กั เรียนฟงั คาศัพท์ แล้วทาเครื่องหมาย 
ลงในชอ่ งตามการออกเสยี งท่ีได้ยนิ จากนน้ั ครเู ปิด CD อีกครัง้ โดยหยุดทลี ะคา ใหน้ ักเรียนฟังและ
ออกเสยี งตาม แล้วครตู รวจคาตอบ เสรจ็ แล้วครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั คดิ คาศัพท์ท่อี อกเสียง / / และ /
/ เพม่ิ เติม

// // / / //

burn  bird 

born  board 

161

Suggested Answer Key
/ /: curb, heard, herb
/ /: corn, dawn, horn

กจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรยี นทากจิ กรรมในหนงั สือเรยี น หน้า 36 Ex. 6 (to act out a dialogue) โดยครูอธิบาย
สถานการณ์ให้นกั เรยี นฟังว่า เพื่อนของนักเรียนกาลงั จะไปเท่ียววนั หยดุ และได้ชวนนกั เรียนไปดว้ ย
แล้วครใู ห้นักเรยี นจับคู่กับเพ่ือน เตรียมบทสนทนา ครูบอกนักเรียนวา่ สามารถใชส้ านวนภาษาใน Ex. 1
และ Ex. 5 รวมถึงบทสนทนาในหนังสอื เรยี นเปน็ ต้นแบบ
ครชู ่วยเหลือนักเรียนโดยเขยี นโครงสร้างบทสนทนาบนกระดาน แลว้ กระตุน้ ใหน้ ักเรยี นบอกสานวนที่
ควรใช้ในบทสนทนาน้ี

จากนน้ั ให้นกั เรียนแสดงบทสนทนา โดยครูสังเกตการทากิจกรรมและสุ่มเรียกนักเรยี นบางคู่ออกมา
แสดงบทสนทนาทห่ี น้าชน้ั เรียน

Suggested Answer Key
A: Have you planned your summer holiday yet?

162

B: Yes. I’m leaving next Monday.
A: Where are you going?
B: My parents have booked me a week at a sport camp.
A: Sport camp? What’s that?
B: It’s a camp for teens where you can learn and play lots of sports.
A: Wow! You’re lucky. I’ve never been to a sport camp.
B: Would you like to come with me?
A: Thanks, but I’m afraid I can’t.
B: Why not? Have you made other plans?
A: No, I haven’t. I just don’t think my parents will let me.
B: Let me try to talk to them.
A: Thanks, Rick. You’re a true friend.

2. นกั เรียนทากจิ กรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) Unit 3e หนา้ 33 Exs. 1-3 โดย Ex. 3 ครูเปดิ
Access Workbook Audio CD 3 ม. 3/Track 6 ใหน้ กั เรียนฟังประกอบการทากจิ กรรม

7. การวัดและการประเมินผล

7.1 ประเมนิ การทาแบบฝึกหดั
7.2 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรูใ้ นชว่ งการทากิจกรรม
7.3 ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
7.4 สงั เกตการออกเสียงสานวนภาษาท่ีใชใ้ นการเชญิ การตอบรบั และปฏิเสธคาเชิญ และคาศัพท์ทม่ี ีเสียง

/ / และ / /
7.5 ประเมนิ ผลการแสดงบทสนทนาในการชกั ชวนเพ่ือนไปเทยี่ ววนั หยดุ

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 หนังสือเรยี น Access 3 ม. 3
8.2 แบบฝึกหัด (Workbook) Access 3 ม. 3
8.3 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนงั สอื เรียน Access 3 ม. 3)
8.4 Access Workbook Audio CD 3 ม. 3 (ประกอบแบบฝึกหดั (Workbook) Access 3 ม. 3 และ

Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3)
8.5 CD หนงั สอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3

163

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
ผลการจดั การเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ …………………………………….ผสู้ อน
(……………………….……………)

วันท่ี……..เดอื น……….………พ.ศ. …..…

ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

164

ลงช่ือ…………………………………….ผูต้ รวจ
(……………………….……………)

วันที่……..เดอื น……….………พ.ศ.……….

165

แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 3f Curricular Cut

ชั่วโมงที่ 11-12

1. ความคดิ รวบยอด

การรู้ความหมายของคาแนะนา ชว่ ยใหป้ ฏบิ ตั ติ ามสือ่ ทฟ่ี ังและอา่ น และใชภ้ าษาในการให้คาแนะนาได้
อยา่ งถูกต้อง

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 เรยี นร้คู าศัพทต์ ่อไปน้ี slip, drown, lead to, save, pay attention, dive, stomach cramps,
lifeguard; phrases with ‘keep’ ได้

2.2 จบั ค่ขู ้อความกับภาพได้
2.3 นาเสนอข้อมูลเก่ยี วกับความปลอดภยั ทางนา้ ได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- คาแนะนาในการเลน่ นา้ อย่างปลอดภยั
- การตคี วาม/ถ่ายโอนข้อมูลให้สัมพนั ธก์ บั สือ่ ทไ่ี ม่ใชค่ วามเรียง
- คาแนะนาเกีย่ วกบั ความปลอดภยั ทางนา้
- การค้นคว้า การรวบรวม และการนาเสนอข้อมูลทเี่ ก่ียวข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื
(สขุ ศึกษา)

3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่
-

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น

4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- การคิดวเิ คราะห์
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

161

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

กจิ กรรมนาสู่การเรียน
ครถู ามนักเรียนว่ากิจกรรม/กีฬาประเภทใดทนี่ ักเรียนทา/เล่นในช่วั โมงพลศึกษาที่โรงเรียน
จากนน้ั ครกู ระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นบอกว่าการว่ายนา้ เปน็ กิจกรรมในโรงเรยี นหรือไม่

กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้

1. นักเรยี นศกึ ษาหัวข้อ Learning to learn ในหนังสอื เรียน หนา้ 37 แล้วครอู ธิบายว่ารูปภาพนนั้ จะ
บรรจขุ ้อมลู ท่ีมองเห็นได้ ซ่ึงจะช่วยให้นักเรียนเขา้ ใจข้อความมากยิง่ ขึน้

2. นกั เรียนดภู าพ (A-F) ในหนงั สอื เรียน หนา้ 37 Ex. 1 (to listen and read for detailed
understanding) แล้วครูกระตนุ้ ให้นกั เรยี นบอกว่าเห็นอะไรในแต่ละภาพ (A – a person jumping in
the water on top of a swimmer, B – a person shouting/talking while another person
listens to him/her, C – a person running, D – a person sinking because their stomach
is full, E – a person diving into water that is not very deep, F – a person reading a
sign)
จากนนั้ ครใู ห้นักเรียนอา่ นคาแนะนาในการเล่นน้า หรือครูเปิด CD 1/Track 46 ใหน้ กั เรยี นฟงั แล้วให้
นักเรยี นจับค่คู าแนะนา (1-6) กบั ภาพ (A-F) ทม่ี คี วามหมายสมั พันธก์ นั เสรจ็ แล้วครตู รวจคาตอบ
พร้อมทั้งให้นักเรยี นบอกว่าคาใดทช่ี ว่ ยนักเรยี นในการจับคู่

1. C (run) 4. E (NO DIVING)

2. D (not eat, drown) 5. A (dive-bombing, never jump)

3. B (call, do what they say) 6. F (displayed on signs, read)

3. ครูใหเ้ วลานักเรียนหาความหมายของคา/วลีในหนงั สือเรียน หน้า 37 Ex. 2 (to present new
vocabulary) จากพจนานกุ รมภาษาอังกฤษ เมื่อหาความหมายครบทุกคาแลว้ ใหน้ ักเรียนจบั ค่กู บั
เพื่อน ผลัดกันทาทา่ บอกใบ้ความหมายของคา/วลี แลว้ ให้อกี คนหนึ่งทายว่าคือคาใด

162

ครูสังเกตขณะนักเรียนทากิจกรรม แล้วสมุ่ เรียกนักเรยี นหลายๆ คน ทาท่าบอกใบ้ความหมายของ
คา/วลใี หเ้ พ่อื นในชน้ั ทาย จากน้ันใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันอธบิ ายความหมายของคาท่ีพิมพ์ตัวหนาทอ่ี ยู่ใน
คาแนะนาในการเล่นนา้
4. นกั เรยี นทากจิ กรรมในหนงั สือเรียน หน้า 37 Ex. 3 (to summarise a text through role play)
โดยจินตนาการว่าตนเองเป็นผ้ดู แู ลความปลอดภัยในการทากิจกรรมนนั ทนาการทางน้า (lifeguard)
แล้วครใู ห้นักเรียนใช้ภาพ (A-F) บอกเพือ่ นในช้ันเกย่ี วกบั ส่ิงท่ีควรทา/ไม่ควรทาขณะอยู่ท่ีสระนา้ ครู
ให้นักเรียนหลายๆ คน ออกมาสรุปคาแนะนาในบทบาทผู้ดูแลความปลอดภัยในการทากิจกรรม
นนั ทนาการทางน้า

Suggested Answer Key
Let me just remind you of a few important safety rules for when you are at
the pool.

You shouldn’t dive-bomb.
You should listen to the lifeguard.
You shouldn’t run around the pool.
You shouldn’t swim after eating.
You should only dive in designated areas.
You should read the rules.

5. ครูอ่านวลที ่ใี ช้ keep ในหนังสอื เรียน หน้า 37 Ex. 4 (to present and practise new
vocabulary) แลว้ อธิบายวา่ ตัวอกั ษรสีดาคอื คาทใ่ี ชร้ ว่ มกับ keep สว่ นตัวอกั ษรท่เี ปน็ สีตา่ งๆ คือ
ความหมายของวลีนั้นๆ จากน้นั ครใู หน้ กั เรยี นหาวลีท่ีใช้ keep ในคาแนะนาในการเล่นนา้ (They
are there to keep you safe.) แล้วใหน้ ักเรยี นแตง่ ประโยคโดยใช้วลที ใี่ ช้ keep เหล่าน้ี เสรจ็ แลว้
ครูตรวจคาตอบด้วยการให้นักเรยี นอา่ นประโยคของตนเอง

Suggested Answer Key
When I make a promise, I keep that promise.
You can trust me, I can keep a secret.
I sit by the fire to keep warm in the winter.
People should take care to keep safe on the streets at night.
It’s important to keep calm in a difficult situation.
We keep the sugar in a tin next to the tea.

163

I keep forgetting his surname.

กจิ กรรมรวบยอด

1. ครูให้นักเรียนทากจิ กรรมในหนังสือเรียน หน้า 37 Ex. 5 (to do a project on water safety) โดย
แบ่งนักเรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มค้นคว้า รวบรวมข้อมลู เก่ียวกับความ
ปลอดภัยทางน้าจากเวบ็ ไซต์ที่กาหนดให้ หรอื แหลง่ อา้ งอิงอื่นๆ ครใู ห้เวลานกั เรียนทางานในช้ันเรยี น
หรอื มอบหมายให้เป็นการบ้าน เสร็จแลว้ ให้นักเรียนนาเสนอข้อมูลท่หี น้าชั้นเรียน

Suggested Answer Key
 Always swim with a partner, whether you’re swimming in a pool, at the

beach,
or in a lake. He/She can go for help in case of an emergency.
 Learn some life-saving techniques.
 Know your limits. Don’t go in water that’s so deep you can’t touch the
bottom and don’t try to keep up with skilled swimmers.
 Look after friends who aren’t as comfortable or as skilled as you are.
 Swim in places supervised by a lifeguard.
 If you do get into trouble, don’t panic. Try to make your way back to
shore or to the side of the pool.
 Be careful about diving. Only dive in areas that are known to be safe for
diving.
 Don’t get too hot or too cool. Use suncream in the open and come out
of the water immediately if you feel cold.

2. นักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหัด (Workbook) Unit 3f หน้า 34 Exs. 1-3 เปน็ การบา้ น
3. นักเรยี นทากิจกรรมในแบบฝึกหัด (Workbook) Unit 3f หน้า 34 Ex. 4 โดยครูเปิด Access

Workbook Audio CD 3 ม. 3/Track 7 ใหน้ กั เรยี นฟงั เพื่อเขียนตามคาบอก
4. นกั เรียนทาแบบทดสอบความร้หู ลงั เรยี นโดยใช้ Test 3: Module 3 จาก CD หนังสอื Teacher’s

Resource Pack & Tests ม. 3 หนา้ 105-108
5. นกั เรียนประเมินความสามารถในการเรียนรู้ของตนเองตามตารางทีก่ าหนด (Now I Can …) โดยครู

ถ่ายเอกสารจากภาคผนวก

164

7. การวัดและการประเมนิ ผล

7.1 ประเมนิ การทาแบบทดสอบหลังเรยี น
7.2 ประเมินการทาแบบฝึกหัด
7.3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นชว่ งการทากจิ กรรม
7.4 ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
7.5 ประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมลู เกีย่ วกับความปลอดภัยทางน้า

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 หนังสือเรียน Access 3 ม. 3
8.2 แบบฝึกหัด (Workbook) Access 3 ม. 3
8.3 Access Class Audio CDs 3 ม. 3 (ประกอบหนังสอื เรียน Access 3 ม. 3)
8.4 Access Workbook Audio CD 3 ม. 3 (ประกอบแบบฝกึ หัด (Workbook) Access 3 ม. 3 และ

Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3)
8.5 CD หนังสอื Teacher’s Resource Pack & Tests ม. 1-3
8.6 พจนานกุ รมภาษาอังกฤษ
8.7 อินเทอร์เน็ต

Vocabulary ขอ้ มูลเพม่ิ เติมดา้ นภาษาและวฒั นธรรม

Travel ทพ่ี กั
เปดิ ใจ
accommodation (n) (อากาศ) เยน็ จนหนาวส่ัน
broaden the mind (phr) ชายหาดท่ีเตม็ ไปด้วยผคู้ น
cold and chilly (phr) ทัศนยี ภาพท่สี วยงาม
crowded beaches (n)
excellent views (n) 165

freezing cold (phr) (อากาศ) เย็นจดั
impressive sights (n) สถานทีซ่ ่ึงประทบั ใจ
relaxing atmosphere (n) บรรยากาศซง่ึ ช่วยให้ผ่อนคลาย
scorching hot (phr) (อากาศ) ร้อนมาก
sights (n) สถานทที่ ่องเที่ยว
top class restaurants (phr) ภัตตาคารช้ันเลศิ

3a Places to visit

alleys (n) ซอย

angelfish (n) ปลาสนิ สมุทร เป็นปลาท่ีมีขนาดใหญ่ (ยาวประมาณ 10-40 ซม.)

มสี สี ันสวยงาม

attract (v) ดงึ ดูดความสนใจ

attraction (n) สง่ิ ท่ดี ึงดดู นกั ทอ่ งเที่ยว

break (n) วันหยดุ ช่วงสน้ั ๆ

churchyard (n) บริเวณรอบโบสถ์ซง่ึ ใชฝ้ ังศพ, สสุ าน

cruise (n) การล่องเรือ

deserted (adj) ซงึ่ รกรา้ ง, ซ่ึงไมม่ ีคน

destination (n) จดุ หมายปลายทาง

explore (v) สารวจ

fabulous (adj) เยี่ยม

galleries (n) ห้องแสดงผลงานศิลปะ

get to know (phr) เรียนรู้ใหม้ ากขึ้น

hiking (n) เดนิ เขา, เดินทางไกลด้วยเท้า

hold dark secrets (phr) มคี วามลับซ่อนเร้น

hostel (n) ท่พี ักราคาไม่แพงสาหรบั นกั เดินทาง

in honour of (phr) เพอื่ เป็นเกยี รติแก่

league (n) หนว่ ยระยะทาง (ประมาณ 3 ไมล์ หรือ 4.8 กโิ ลเมตร)

lodge (n) บา้ นหลังเลก็ ๆ หรือโรงแรม โดยปกตจิ ะอยูใ่ นชนบท

more than meets the eye (phr) นา่ สนใจมากกวา่ ทตี่ าเห็น

night falls (phr) ตกกลางคืน

opportunity (n) โอกาส

166


Click to View FlipBook Version