The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นิเทศศาสตร์ในพระไตรปิฎก (Communication in Tipitaka)-ผศ.ดร.ไพฑุรย์-สวนมะไฟ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chokoooon, 2021-06-13 23:57:25

นิเทศศาสตร์ในพระไตรปิฎก (Communication in Tipitaka)

นิเทศศาสตร์ในพระไตรปิฎก (Communication in Tipitaka)-ผศ.ดร.ไพฑุรย์-สวนมะไฟ

๒๔๑

(๒) การยึดเอาเป็ นแบบอยา่ ง กล่าวคือการรับเอาพฤติกรรมของคนอื่นท่ีตนเองชอบและ
นามาเป็ นแบบฉบับให้ตนเอง เช่น เด็กชายเอาอยา่ งพ่อในดา้ นความเขม้ แข็งเด็ดขาด ในขณะท่ี
เดก็ หญิงก็เอาอยา่ งแมใ่ นดา้ นความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความนุ่มนวล เป็นตน้

๓) ปัจจยั ทางด้านครอบครัว ครอบครัวเป็ นสถาบันแรกท่ีมีส่วนขดั เกลาบุคลิกภาพของ
บุคคลอยา่ งมาก เพราะเป็ นจุดเริ่มตน้ ของการพฒั นาความเก่ียวขอ้ งกบั บุคคลรอบขา้ ง เป็ นพ้นื ฐาน
แห่งการติดต่อสมั พนั ธ์กบั คนอ่ืน ครอบครัวเป็ นสถาบันที่เก่าแก่ที่อย่กู บั สังคมมนุษยแ์ ละจดั เป็ น
สถาบนั ที่มีความสาคญั กบั สงั คม เพราะเป็ นแหล่งสร้างความสมั พนั ธ์ในสงั คม ก่อให้เกิดความ
ผกู พนั กนั สร้างบรรทดั ฐานของสังคมท้งั ในดา้ นการอย่รู ่วมกนั และการทามาหาเล้ียงชีพ สร้าง
สมาชิกใหม่แทนสมาชิกเก่า และอบรมสมาชิกในครอบครัวให้ไดเ้ รียนรู้ระเบียบแบบแผนของ
สงั คม ซ่ึงทาให้สงั คมดารงอยตู่ ่อไป๓๒ ครอบครัวเป็นแบบหล่อหลอมสมาชิกใหม่ของสงั คม ถา้
พ่อแมม่ ีคุณภาพ สงั คมยอ่ มมคี ุณภาพ เพราะพ่อแม่จะเป็นแบบอยา่ งของลกู ๆ และของสมาชิกอ่นื ใน
ครอบครัว๓๓ ความมีระเบียบวินัย ความซื่อสัตยส์ ุจริต ความขยนั มานะ อดทน ความรับผิดชอบ
ความมีน้าใจ เป็ นตน้ ลว้ นมีรากฐานมาจากครอบครัวท้งั สิ้น ดงั น้นั สถาบนั ครอบครัวจึงมีบทบาท
ต่อการพฒั นาเสริมสร้างบุคลกิ ภาพของบุคคลใหม้ ีแบบแผนชีวติ ท่ีดีงาม

๘.๕ ความสาคญั ของบุคลกิ ภาพ

๑) ความสาคญั ของบุคลกิ ภาพโดยทว่ั ไป

เน่ืองจากบุคลิกภาพเป็ นลกั ษณะของบุคคลในส่วนรวมท้งั หมด คือท้งั รูปลกั ษณะทางกาย
อารมณ์ สติปัญญาและพฤติกรรมต่าง ๆ๓๔ ท่ีแต่ละบุคคลมีและแสดงออกมาแตกต่างกนั ไป และยงั
มอี ิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดของผพู้ บเห็น จึงทาใหบ้ ุคลิกภาพมีความสาคญั และจาเป็ นต่อคนใน
ทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็ นทางด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจสังคม การศึกษา และศาสนา
ตลอดท้งั เป็นท่ีมาและเป็นตวั กาหนดแห่งความสาเร็จในหนา้ ที่การงานท้งั หลาย

หนา้ ๘๗. ๓๒ ดร.ณรงค์ เส็งประชา, มนุษยก์ บั สังคม (กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพ์โอเดียนสโตร์, ๒๕๓๘),

๓๓ เร่ืองเดยี วกนั , หนา้ ๙๓.
๓๔ กนั ยา สุวรรณแสง, การพัฒนาบุคลกิ ภาพ, หนา้ ๒.

๒๔๒

๒) ความสาคญั ของบุคลกิ ภาพทางด้านการเมอื งการปกครองและเศรษฐกจิ

บุคลกิ ภาพท่ีดียอ่ มเป็ นสิ่งท่ีน่าปรารถนาของคนทว่ั ไป เป็นกุญแจดอกสาคญั ท่ีจะใชใ้ นการ
ติดต่อกบั ผอู้ ่ืน เป็ นองคป์ ระกอบสาหรับความสาเร็จในชีวิต๓๕ เป็ นขุมทรัพยท์ ี่ย่งิ ใหญ่ท่ีสุดอยา่ ง
หน่ึง เป็ นคุณสมบตั ิของมนุษยท์ ่ีมีพลงั ชนะใจผอู้ ่นื โดยทาใหร้ ักชอบ กระตุน้ ให้เกิดความรักความ
เล่ือมใสศรัทธา๓๖ การบริหารกิจการทุกอย่างต้องอาศัยผู้นา(leader) และผตู้ าม(follower) ท่ีมี
บุคลิกภาพดีมวี ิสยั ทรรศนก์ วา้ งไกล โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นผนู้ าระดบั สูงตอ้ งมสี มั พนั ธภาพท่ีดีกบั
ทุกคน มีความประพฤติท่ีเหมาะสมเป็ นประโยชน์แก่สงั คม ผนู้ าตอ้ งแสดงภาพลกั ษณ์ของตนให้ดู
เป็ นคนมีเมตตากรุณามีความซ่ือสตั ยแ์ ละน่าบูชานับถือ หรือมีคุณธรรม… ผนู้ าการเมืองที่สามารถ
ปกครองและรักษารัฐไวไ้ ดจ้ ะโดยวธิ ีใดกต็ าม จะตอ้ งสร้างภาพลกั ษณ์ใหเ้ ป็ นที่น่านับถือและเป็นที่
ยกย่อง ประชาชนจะฝังใจในท่าทางภายนอกและผลสาเร็จที่ผนู้ ามอบให้เขา๓๗ เมื่อผตู้ ามมีศรัทธา
เชื่อมนั่ ในตวั ผนู้ าแลว้ พวกเขากพ็ ร้อมท่ีจะกระทาหรือสร้างสรรคง์ านดว้ ยความเตม็ ใจ ปราศจากการ
ต่อตา้ นขดั ขืน การบริหารกิจการทุกระดบั ก็เป็ นไปดว้ ยความเรียบร้อย เกิดประโยชน์แก่ตนและ
สงั คมโดยแท้ ในทศั นะของเพลโต(Plato) เชื่อว่ามนุษยผ์ มู้ ีบุคลิกภาพสมบูรณ์คือราชาปราชญ์ผมู้ ี
ความฉลาด ยตุ ิธรรม รู้จกั ประมาณและมีความกลา้ หาญ๓๘ เช่นเดียวกบั ขงจ้ือ เมธีตะวนั ออกผกู้ ล่าว
ว่ามนุษยผ์ มู้ ีบุคลิกภาพดีเหมาะสาหรับเป็นนกั ปกครองคือผปู้ ระกอบดว้ ยยม้ิ ไดแ้ ก่ ลี่(พิธีกรรม) อ่ี

๓๕ สุชา จนั ทน์เอม, จิตวิทยาในชีวิตประจาวัน (กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๓๔),
หนา้ ๑๗.

๓๖ ริเรืองรอง รัตนวไิ ลสกุล, มนุษย์สัมพันธ์, หนา้ ๘๓.
๓๗ มนตรี ธีรธรรมพิพฒั น์, “จริยธรรมกบั ภาวะผู้นา : ศึกษาทศั นะของนักวิชาการรัฐศาสตร์ใน
มหาวิทยาลยั ในประเทศไทยที่มีต่อผูน้ าทางการเมือง.” (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาจริยศาสตร์ศึกษา
บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั มหิดล, ๒๕๔๐), หนา้ ๗๐.
๓๘ อนงค์ โกวิทเสถยี รชยั , “มนุษยใ์ นอดุ มคติ : ศกึ ษาเปรียบเทียบแนวความคิดในสัทธรรมปณุ ฑริก
สูตรและงานเขียนเรื่องอุตมรัฐของเพลโต.” (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ บณั ฑิต
วิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั มหิดล, ๒๕๔๑), หนา้ ๑๑๘-๑๑๙.

๒๔๓

(ความถูกตอ้ ง) ซ่ือ(ปัญญา) และซิ่น(ความจริงใจ)๓๙ คุณธรรมเหล่าน้ีเป็นเสมือนเคร่ืองประดบั ให้
บุคลิกภาพของบุคคลโดดเด่นและเป็นท่ียอมรับของคนทวั่ ไป

ในโลกธุรกิจ บุคลิกภาพนับไดว้ ่ามีความสาคญั อย่างยง่ิ การคดั เลือกบุคคลเขา้ ทางาน
ตามบริษทั เอกชนหรือองคก์ ารของรัฐจะคานึงถึงบุคลิกภาพเป็ นสาคญั ๔๐ สมาคมการจดั การเคย
ทาการศึกษาผทู้ ่ีถูกไลอ่ อกจากงานจานวน 4,000 ราย จาก 76 บริษทั รายงานของสมาคมบ่งว่า 90
เปอร์เซ็นต์ที่ถูกไล่ออกมีสาเหตุมาจากบุคลิกภาพ และในการสารวจของมหาวิทยาลยั ช้นั นาและ
สมาคม วาย.เอม็ .ซี.เอ. พบว่ามีลูกจา้ งเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ท่ีถกู ไล่ออกจากงานเพราะขาดทกั ษะใน
การทางาน ส่วนอีก 85 เปอร์เซ็นตท์ ่ีเหลือตอ้ งออกจากงานเพราะเหตุผลทางบุคลิกภาพ๔๑ ดงั น้ัน
ความสาเร็จหรือความลม้ เหลวในการทางาน การดาเนินกิจการต่าง ๆ จึงมกั จะอา้ งถงึ บุคลกิ ภาพเป็ น
สาเหตุอยเู่ สมอ

ในวงการการศึกษา การอบรมบ่มนิสัยในโรงเรียนต้ังแต่ช้ันประถมจนถึงระดับ
มหาวิทยาลยั ก็มุ่งสร้างเสริมบุคลิกภาพ๔๒ การเขา้ ศึกษาต่อในระดบั มหาบณั ฑิต บุคลกิ ภาพนับว่ามี
ความสาคญั อยา่ งยงิ่ เพราะเป็ นเคร่ืองกาหนดอนาคต ความสาเร็จในหนา้ ท่ีการงานและการดาเนิน
ชีวติ เห็นไดจ้ ากการสอบสมั ภาษณ์เขา้ ศกึ ษาต่อ จะตอ้ งมีการสมั ภาษณ์บุคคลก่อน ท้งั น้ีเพือ่ ตอ้ งการ
เห็นบุคลิกลกั ษณะ รูปร่างหน้าตา กิริยาท่าทาง การพูดจา อารมณ์ความรู้สึก ฯลฯ เพื่อนามา
ประกอบในการตดั สินใจว่าจะยอมรับหรือไมย่ อมรับบุคคลน้นั ๆ แมก้ ารคดั เลือกนางงามจกั รวาล
และเทพีงานต่าง ๆ กถ็ ือเอาบุคลิกภาพของผเู้ ขา้ ประกวดเป็นเกณฑส์ าคญั ในการตดั สิน๔๓

๓๙ รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์, “ขงจอื้ : คาสอนทางปรัชญา-ศาสนา.” เอเชียตะวนั ออกศึกษา ปี ท่ี
๒ (มิถุนายน ๒๕๓๒) : หนา้ ๕-๑๒.

๔๐ เดโช สวนานนท,์ จิตวทิ ยาสังคม, หนา้ ๑๒๖.
๔๑ จอร์จ ซินน์, บุคลิกภาพสู่ความเป็ นผู้นา, เรียบเรียงโดย นพดล เวชสวสั ด์ิ, (กรุงเทพมหานคร:
หจก. เอช.เอน. การพิมพ,์ ๒๕๓๒), หนา้ ๑๑.
๔๒ เดโช สวนานนท,์ จิตวิทยาสังคม, น. ๑๒๖.
๔๓ เรื่องเดยี วกนั .

๒๔๔

๓) ความสาคญั ของบุคลกิ ภาพทางด้านศาสนา

ในทางศาสนา ศาสดาเจา้ ลทั ธิท้งั หลายลว้ นมีบุคลิกภาพท่ีดีเป็ นจุดเด่นอนั ดบั แรกใน
การสร้างความเชื่อมน่ั สร้างความเลื่อมใสศรัทธาแก่เหล่าสาวก ความเป็ นผมู้ ีร่างกายที่สง่างาม
เขม้ แข็ง วาจาท่ีไพเราะมีประโยชน์ จิตใจที่มน่ั คงสุขุมเยอื กเยน็ เป็นตน้ ลว้ นเป็นเครื่องผกู พนั จิตใจ
ของเหล่าสาวกให้อาจหาญร่าเริงและพร้อมที่จะอุทิศชีวติ เพอื่ ความสาเร็จในหนา้ ท่ีการงานน้นั เสมอ
อบั ราฮมั (Abraham) ผนู้ าศาสนาฮีบรูโบราณ ไดร้ ับการยกย่องว่าเป็ นบรรพบุรุษคนแรกของฮีบรู
หรือยวิ โบราณเพราะเป็ นคนแข็งแรงและฉลาดสามารถควบคุมพรรคพวกไปทามาหากินนอกถิ่น
เดิมได๔้ ๔ จนไดร้ ับการยกยอ่ งว่าเป็นศาสดาพยากรณ์หรือประกาศก (Prophet) ท่านหน่ึงของศาสนา
ยวิ ในศาสนาคริสตซ์ ่ึงพฒั นามาจากศาสนายิว บุคลิกภาพของพระเยซูเจา้ แสดงออกมาในรูปของ
ความเมตตา มีความเสียสละพร้อมที่จะไถบ่ าปใหแ้ ก่ชาวโลก พระองค์เป็ นตวั แทนแห่งบุคลิกภาพ
อนั เป็ นอุดมคติ (Ideal personality) คือความเป็นผบู้ ริบรู ณ์เหมือนพระเจา้ ๔๕ ในศาสนาอสิ ลาม ดว้ ย
บุคลกิ ภาพของนบีมุฮมั มดั (Muhammad) ที่เป็ นท้งั ผนู้ าศาสนาและเป็นนกั ปกครอง เป็ นนกั ต่อสูท้ ่ีมี
ความกลา้ หาญ มีพระวาจาท่ีสามารถปลุกเร้าจิตใจของเหล่าสาวกให้เกิดความกลา้ หาญและมี
กาลงั ใจในการต่อสู้เพื่อสันติภาพ จึงทาให้พระองค์กาชยั ชนะและสามารถเผยแผ่ศาสนาแก่ชาว
อาหรับได้สาเร็จ ในลทั ธิเต๋า บุคลิกภาพของเล่าจ้ือ (Lao-Tzu) แสดงออกมาในรูปของความมี
เมตตากรุณา ความกะเหม็ดกะเหม่นและความอ่อนน้อมถ่อมตน ดาเนินชีวิตเรียบง่าย รักความ
สนั โดษ ชอบความสงบ ฯลฯ จนคุณธรรมเหล่าน้ีไดม้ ีอิทธิพลหล่อหลอมนิสัยจิตใจของชาวจีน
ภายหลงั เลา่ จ้ือไดร้ ับยกยอ่ งจากจกั รพรรดิของจีนวา่ เป็นมหาปราชญผ์ ยู้ ง่ิ ใหญ่ เป็นบรรพบุรุษจอม
ปราชญ์ของจีน๔๖ อบั ราฮมั มาสโลว์ (Abraham Maslow) นักจิตวิทยาแนวมนุษยนิยมชาวอเมริกนั
ไดก้ ล่าวสนบั สนุนลกั ษณะบุคลกิ ภาพของบุคคลผเู้ ป็นมนุษยโ์ ดยสมบรู ณ์วา่ เป็นผรู้ ู้จกั ปรับตวั เขา้ กบั

๔๔ ศ.เสฐียร พันธรังษี, ศาสนาโบราณ (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ,
๒๕๓๔), หนา้ ๑๔๕.

๔๕ พระชชั วาลย์ ศรีสุข, “ศาสนากบั การพัฒนาบุคลกิ ภาพ : ศึกษาเปรียบเทียบหลักคาสอนเกี่ยวกับ
การพฒั นาบุคลกิ ภาพในพุทธศาสนาและศาสนาคริสต์.”, หนา้ ๑๖๖.

๔๖ เสฐียร พนั ธรังษี, ศาสนาเปรียบเทยี บ (กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ,
๒๕๓๔), หนา้ ๒๒๓-๒๒๔.

๒๔๕

ความจริง มีความมน่ั คงทางอารมณ์ เป็ นมิตรกบั ทุกคน ไม่รู้สึกติดพนั ๔๗ เป็ นตน้ และริชาร์ด โค
แอน (Richard Coan) ก็ไดก้ ลา่ วไวใ้ นทานองเดียวกนั วา่ มนุษยผ์ มู้ ีบุคลกิ ภาพสมบูรณ์คือผมู้ ีความคิด
สร้างสรรค์ เป็ นตวั ของตัวเอง มีสัมพันธภาพกบั คนอื่นดว้ ยเมตตา และสามารถควบคุมจิตได้
เหนือกวา่ คนอน่ื ๔๘ จึงกลา่ วไดว้ า่ บุคลิกภาพเป็นองคป์ ระกอบท่ีสาคญั ของมนุษย์ เป็นตวั สะทอ้ นให้
มองเห็นภาพลกั ษณ์ท่ีโดดเด่นของมนุษย์ และมีความสาคญั ต่อการดารงชีวิตในสังคมทุกยุคทุกสมยั
คนในสมยั โบราณจึงยกย่องนับถือและเลือกผนู้ าท่ีมีลกั ษณะทางกายสง่างาม มคี วามเขม้ แข็งอดทน
มคี วามเมตตา สุภาพอ่อนโยน ดาเนินชีวติ เป็ นแบบอย่างแก่ชุมชน ให้เป็ นผปู้ กครองหม่คู ณะของ
ตน

สาหรับในพระพทุ ธศาสนา บุคลิกภาพของพระพทุ ธเจา้ และพระสาวกมีความสาคญั ต่อ
การเผยแผ่ศาสนาเป็ นอย่างมาก กล่าวคือบุคลิกภาพของพระองค์ทาให้เกิดศรัทธาและนาสู่
สมั มาทิฏฐิ และเกิดกระบวนการพฒั นามนุษยอ์ ย่างเป็นระบบ หรืออาจเรียกวา่ เกิดระบบจริยธรรม
เพื่อพฒั นามนุษยใ์ หส้ มบูรณ์ กระบวนการเกิดสัมมาทิฏฐิของมนุษยเ์ ร่ิมจากระบบประสาทสัมผสั
ท้งั ๕ คือ การไดเ้ ห็นได้ยิน ไดด้ มกล่ิน ไดล้ ิ้มรส และการได้สัมผสั กบั ส่ิงท่ีตนชอบใจ สิ่งท่ีตน
แสวงหาและเป็ นที่ยอมรับของสังคม ตวั อยา่ งเช่น พระเจา้ พิมพิสารทอดพระเนตรเห็นอากปั กิริยา
อนั งดงามสงบสารวมของพระสิทธตั ถะสมยั แรกผนวช ทาใหเ้ กิดศรัทธาปสาทะและเกิดสมั มาทิฏฐิ
คือความปรารถนาจะฟังธรรมเม่ือไดต้ รัสรู้แลว้ และต่อมาพระองค์กท็ รงเป็ นกษตั ริยอ์ งคแ์ รกที่เป็ น
พทุ ธศาสนูปถมั ภก

พระนางกีสาโคตมีราชกญั ญาแห่งศากยะ ไดเ้ ห็นบุคลิกภาพท่ีสง่างามของพระพุทธเจา้
ในสมยั ยงั เป็ นเจา้ ชายไดก้ ล่าวชมดว้ ยภาษาอนั ไพเราะว่า “เจา้ ชายองคน์ ้ีหากไดเ้ ป็ นพระโอรสของ
พระชนกพระชนนีองค์ใด หรือเป็ นพระสวามีของหญิงใด บุคคลเหล่าน้นั ก็เยน็ ใจสบายใจดบั ทุกข์
ไดแ้ ท”้ ๔๙ คากลา่ วชมน้ีไดก้ ลายเป็นเสียงสวรรคเ์ พาะบ่มความเป็นโพธิในพระทยั ของเจา้ ชายจนเป็ น

๔๗ รศ.ดร. ศรีเรือน แกว้ กงั วาล, ทฤษฎจี ติ วทิ ยาบุคลกิ ภาพ , หนา้ ๑๐๙.
๔๘ รศ.มกุ ดา ศรียงค,์ บุคลกิ ภาพท่สี มบูรณ์, หนา้ ๑๔.
๔๙ ขุ.ธ.อ. ๘/๗๔,(ภาค ๑), อภิ.สงฺ.อ. ๘๑, และดูใน Edward, J. Thomas, the Life of Buddha as
Legend and History (New Delhi : Munshiran Manoharlal Publishers Pvt. Ltd., 1992), p. 53.

๒๔๖

พลงั ผลกั ดนั ให้แสวงหาสจั ธรรมในเวลาต่อมา พระวกั กลิ๕๐ กเ็ ป็ นอีกรูปหน่ึงท่ีเป็ นสาวกประเภท
รูปัปปมาณิกา คือ ติดใจความสง่างามแห่งพระวรกายของพระพุทธเจา้ จนถงึ กบั ตอ้ งตามเสด็จไป
กบั พระพุทธองค์ตลอดเวลา ในที่สุดพระพุทธองคก์ ็ทรงช้ีให้ท่านถือเอาสาระท่ีแทจ้ ริงจากการดู
ร่างกายจนไดบ้ รรลุธรรมและเป็นเอตทคั คะทางดา้ นหลุดพน้ ดว้ ยศรัทธา

แม้พระพุทธเจ้าเองก่อนที่จะตัดสิ น พระทัยเสด็จออกผนวชน้ัน พระองค์ได้
ทอดพระเนตรเห็นเทวทตู ท้งั ๔ ไดแ้ ก่ คนแก่ คนเจบ็ คนตาย และสมณะ การไดเ้ ห็นคนแก่ คน
เจบ็ คนตายถือว่าเป็ นการมองเห็นมุมมืดของชีวติ ทาให้จิตหดหู่สังเวช แต่คร้ันไดเ้ ห็นบุคลกิ ภาพ
ของสมณะซ่ึงมีอาการสงบสารวม ถือว่าเป็ นการมองเห็นมุมสว่างแห่งชีวิต จิตจึงดิ้นรนหลีกหนี
ความร้อนแสวงหามุมที่สงบเยน็ จนนาไปสู่แนวคิดท่ีจะออกจากกามและแสวงหาโมกขธรรม
กลา่ วไดว้ ่าศรัทธาเป็นองคธ์ รรมสาคญั เม่อื ใชถ้ กู ตอ้ งกจ็ ะเช่ือมต่อเขา้ กบั โยนิโสมนสิการทาให้เกิด
ปัญญาท่ีเป็นสมั มาทิฏฐิ๕๑ การเกิดศรัทธาและสมั มาทิฏฐิจึงเป็นจุดเริ่มตน้ ของการพฒั นามนุษย์ เป็ น
จุดเร่ิมตน้ ของการประพฤติพรหมจรรยใ์ นพุทธศาสนา ดงั พระบาลีว่า “สัมมาทิฏฐิเป็ นตวั นา เป็ น
บุพนิมิตเพ่ือการตรัสรู้อริยสัจ”๕๒ เม่ือศรัทธาและสัมมาทิฏฐิเกิดข้ึน คุณธรรมอ่ืน ๆ ก็เกิดตามมา
ส่งผลให้บุคคลมีพฤติกรรมทางกายวาจาและใจเป็ นท่ีตอ้ งการของสงั คม และท่ีสาคญั ยงิ่ ไปกว่าน้ีก็
คือระบบท้งั สองน้ียงั เป็นตวั ผลกั ดนั ให้เกิดสันติภาพท้งั ในระดบั ตนเองและบุคคลอน่ื หรือเรียกว่า
เกิดสนั ติภาพข้ึนในทุกระดบั ช้นั ของสงั คม อนั เป็นการบรรลเุ ป้ าหมายตามหลกั พุทธศาสนาโดยแท้

การเกิดระบบจริยธรรมเพอื่ พฒั นามนุษยใ์ หส้ มบูรณ์ ไดเ้ ป็ นเป้ าหมายใหม้ กี ารวางหลกั
พฒั นาข้ึน น่นั คือพระองค์ทรงวางหลกั ไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญาไวเ้ ป็ นแม่บทสาหรับ
ฝึกอบรมพระสาวก โดยศีลเป็ นเครื่องมือพฒั นาทางกายใหม้ ีความสงบสารวม ไม่เบียดเบียน มุ่ง
พฒั นาพฤติกรรมใหส้ งั คมยอมรับ และศีลกเ็ ป็นระบบที่รักษาและตรวจสอบคุณภาพของพระสงฆ์
อยใู่ นตวั จากน้ันก็ทรงวางหลกั สมาธิเป็ นเครื่องมือพฒั นาจิตใจใหม้ ีความมนั่ คงไมห่ วนั่ ไหว เป็ น
ข้นั ของการเตรียมจิตใหพ้ ร้อมท่ีจะใชป้ ัญญาพิจารณาใหเ้ ขา้ ใจสภาวธรรมท้งั หลายตามความเป็นจริง

๕๐ อง.ฺ เอกก. ๒๐/๒๐๘/๒๗, ขุ.อป. ๓๓/๕๑-๖๑/๒๔๔-๒๔๕.
๕๑ พระธรรมปิ ฎก(ป.อ. ปยุตฺโต), พุทธธรรม (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราช
วทิ ยาลยั , ๒๕๓๘), น. ๗๒๗.
๕๒ ส. ม.๑๙/๑๑๐๗/๖๐๗.

๒๔๗

และเพ่ือเป็ นพ้ืนฐานแก่ปัญญาอนั เป็ นเคร่ืองมือสาคญั ในการคิดและตดั สินการกระทาต่าง ๆ ให้
ดาเนินไปในทางที่ดี จดั ระบบความคิดให้เป็ นระบบมีเหตุผล เป็ นประโยชน์ ซ่ึงระบบการพฒั นา
แบบน้ีสามารถนาไปพฒั นาไดก้ บั มนุษยท์ ุกคนในทุกสงั คมไมเ่ ลอื กช้นั วรรณะ จึงทาใหก้ ลุ่มชนทุก
ระดบั พากนั ยอมรับพทุ ธศาสนาเป็นอยา่ งดี

อน่ึง หลกั ไตรสิกขาเป็ นหลกั ท่ีมุ่งพฒั นาบุคลิกภาพของมนุษยใ์ ห้สมบูรณ์ท้งั ภายนอก
และภายใน หรือท้งั ทางร่างกายและจิตใจอนั เป็ นการพฒั นาแบบองค์รวม (holistic) เพื่อความมี
บุคลิกภาพสมบูรณ์และไดส้ ารัตถะแทจ้ ริงของชีวติ และเพ่ือเป็ นการพฒั นาอยา่ งต่อเน่ืองพระองค์
ทรงวางหลกั ไตรสิกขาเป็ นแม่บทในการพฒั นา โดยเน้นการพฒั นากายควบคู่กบั จิตใหป้ ระสาน
สอดคลอ้ งสมดุล ขยายการพฒั นาออกเป็ น ๔ ดา้ น คือ พฒั นากาย พฒั นาศีล พฒั นาจิต และพฒั นา
ปัญญา ปรับทิศทางพทุ ธธรรมเพอ่ื ใหก้ ารพฒั นาเป็นไปอยา่ งเหมาะสมกบั ศกั ยภาพ (potentiality)
ของแต่ละบุคคลตามที่พระพุทธองคไ์ ดต้ ้งั สมมติฐานว่าสมรรถภาพทางจิตของมนุษยส์ ามารถฝึกฝน
อบรมใหร้ ู้แจง้ ธรรมไดเ้ ปรียบเหมือนดอกบวั ๕๓ ที่พร้อมจะเบ่งบานทุกเมื่อหากไดร้ ับการเสริมแรง
(reinforcement) จากส่ิงแวดลอ้ มท่ีดี พระสาวกผไู้ ดร้ ับการฝึ กฝนอบรมตามระบบไตรสิกขาแลว้

๕๓ ดอกบัว หมายถงึ ดอกบวั ๓ เหล่า คือ (๑) บวั ทอ่ี ยพู่ น้ น้า (๒) บวั ทีอ่ ยเู่ สมอน้า (๓) บวั ท่ีจมอยใู่ น
น้า (วิ.ม.๔/๙/๑๔, ที.ม.๑๐/๖๙/๓๙, ม.ม.ู ๑๒/๒๘๒/๓๐๘, ม.ม.๑๓/๓๓๙/๔๑๐), อรรถกถาไดอ้ ธิบายเพ่ิมว่ามีบวั
เหล่าท่ี ๔ คือบวั ท่ีมีโรคยงั ไม่พน้ น้าเป็ นภกั ษาของปลาและเต่า เพ่ือเปรียบเทียบกบั บุคคล ๔ ประเภท (ตามที่
ปรากฏใน องฺ.จตุกฺก. 21/133/202, อภิ.ปุ. ๓๖/๑๔๘-๑๕๑/๑๘๖-๑๘๗ ) ดังน้ี (๑) อุคฆฏิตัญญู คือบุคคลผู้
สามารถบรรลอุ ริยสจั 4 ไดเ้ ร็ว พอยกหวั ขอ้ ข้นึ แสดงเท่าน้นั กส็ ามารถบรรลุธรรมได้ เปรียบเหมอื นบวั ท่ีอยพู่ น้ น้า
พร้อมที่จะบานในวนั น้ี (2) วิปจิตัญญู คือบุคคลท่ีบรรลุธรรม กต็ ่อเมื่อไดฟ้ ังการอธิบายขยายเน้ือความโดย
พสิ ดาร จึงสามารถบรรลุธรรมได้ เปรียบเหมือนบวั ที่อยู่เสมอน้าจะบานในวนั พรุ่งน้ี (๓) เนยยะ คือบุคคลท่ี
มนสิการโดยแยบคาย โดยการแสดง การถาม การเสพ การคบหา การเขา้ ไปนง่ั ใกลก้ ลั ยาณมติ ร จึงบรรลธุ รรม
โดยลาดบั เปรียบเหมอื นบวั ทจ่ี มอยใู่ นน้าจะบานในวนั ต่อไป (๔) ปทปรมะ คือบุคคลผไู้ ดฟ้ ังมาก แสดงไวม้ าก
ทรงจาไวม้ าก และพดู ไวม้ าก แต่ไม่สามารถบรรลุธรรมในชาติน้ีได้ คอื ไม่สามารถบาเพญ็ ฌาน วปิ ัสสนา มรรค
ผลให้เกิดข้ึนได้ เปรียบเหมือนบัวท่ีมีโรคจมอยู่ในน้าที่เป็ นภกั ษาของปลาและเต่า อย่างไรกต็ ามแมว้ ่าบุคคล
ประเภทหลงั น้ีจะไม่ไดร้ ับประโยชน์ในปัจจุบนั แต่กย็ งั เป็ นวาสนาของเขาต่อไปในอนาคต, (ที.ม.อ. 69/65-66,
ม.ม.ู อ.2/283/88-89, สารัตถ.ฏกี า 3/9/192-193).

๒๔๘

แลว้ ยอ่ มเป็ นผมู้ ีบุคลิกภาพสมบูรณ์ท้งั ภายนอกและภายใน มีความเป็ นมิตรกบั ทุกคนจนเป็ นท่ี
ยอมรับของสงั คม พระปัญจวคั คียส์ าวกรุ่นแรกและพระอสีติมหาสาวกเป็นตวั อยา่ งในเร่ืองน้ีไดเ้ ป็น
อยา่ งดี และหน่ึงในพระปัญจวคั คียค์ ือพระอสั สชิ ๕๔ กไ็ ดส้ ะทอ้ นความเป็นผมู้ ีบุคลิกภาพที่สมบูรณ์
จนเป็นท่ีประทบั ใจของพระสารีบุตร นอกจากน้ีแลว้ ยงั ไดร้ ับการยอมรับจากฝ่ ายอาณาจกั รคือพระ
เจา้ พิมพิสารและขา้ ราชบริพารพร้อมท้งั เหล่ากษตั ริย์ สมณพราหมณ์ในแควน้ ต่าง ๆ อีกมากมาย
จนถึงยคุ ปัจจุบนั กล่าวไดว้ ่าบุคลิกภาพของพระพุทธเจา้ ส่งผลใหก้ ลมุ่ ชนต่าง ๆ ต้งั แต่พระราชามหา
กษตั ริยจ์ นถึงสามญั ชนยอมรับและหนั มานบั ถอื พุทธศาสนาและไดร้ ับการอุปถมั ภบ์ ารุงดว้ ยดีตลอด
มา

มองในแง่จิตวิทยาตามทฤษฎีของมาสโลว์ บุคลกิ ภาพของพระพุทธเจา้ ถือวา่ ไดร้ ับการ
พฒั นาถึงความเป็ นมนุษยท์ ี่สมบูรณ์ (self-actualized) เพราะพฤติกรรมท่ีแสดงออกทางไตรทวาร
ลว้ นเป็นท่ียอมรับและมีประโยชนต์ ่อสงั คม มองในแง่สงั คมวทิ ยา บุคลกิ ภาพของพระองคม์ ีภาวะ
ผนู้ าแฝงไวอ้ ยา่ งสมบูรณ์ เพราะทรงปกครองพุทธบริษัทโดยไม่ตอ้ งใช้อาชญา(คือไม่ใชศ้ สั ตรา
อาวธุ ลงโทษ) แต่ทรงใชห้ ลกั ธรรมาธิปไตยในการปกครองบริหารหมคู่ ณะ เป็นกลั ยาณมิตรกบั ทุก
คน มีการวางแผนในการทางาน มีเป้ าหมายท่ีชดั เจน โดยมีองค์กรสงฆเ์ ป็ นตวั จกั รสาคญั ในการ
สนองงานเผยแผศ่ าสนา

ดว้ ยตระหนักถึงบทบาทและความสาคัญของบุคลิกภาพของพระพุทธเจา้ ท่ีมีผลต่อ
ความสาเร็จในการเผยแผศ่ าสนา ผเู้ ขียนจึงต้ังวตั ถุประสงค์ในการศึกษาว่าเพื่อศึกษาบทบาทและ
ความสาคญั ของบุคลิกภาพของพระพุทธเจา้ ท่ีปรากฏในพระไตรปิ ฎกอยา่ งเป็นระบบชดั เจน โดย
มงุ่ ศึกษาบุคลิกภาพทางกาย ทางวาจา และสติปัญญา รวมท้งั อากปั กิริยาต่าง ๆ ที่มคี วามสมั พนั ธก์ บั
ความสาเร็จในการเผยแผศ่ าสนา ศึกษาปัจจยั สาคญั ที่ทาใหพ้ ระพุทธเจา้ มบี ุคลิกภาพและพระจริยา
วตั รแตกต่างและเป็ นท่ียอมรับนับถืออยา่ งกวา้ งขวาง เช่น พระองคม์ ีบุคลิกภาพท่ีน่าเคารพและ
ไดร้ ับการยอมรับจากกษตั ริย์ พราหมณ์ แพศยแ์ ละประชาชนมากมาย โดยกรณีน้ีจะมุ่งศึกษาปัจจยั
ทางดา้ นสิ่งแวดลอ้ มทางสังคม เช่น สถานะทางครอบครัว การศึกษา วฒั นธรรมประเพณีและปัจจยั
ทางคุณธรรมมีขนั ติ เมตตากรุณา ความมีกลั ยาณมิตร เป็ นตน้ เพราะเห็นว่าปัจจยั เหล่าน้ีสามารถ

๕๔ ว.ิ ม. ๔/๖๐/๗๒-๗๓.

๒๔๙

นามาประยุกต์พัฒนาบุคคลทุกยุคทุกสมัยได้ จากน้ันจะศึกษาอิทธิพลของบุคลิกภาพของ
พระพุทธเจา้ ต่อความสาเร็จในการเผยแผศ่ าสนาว่ามบี ุคลกิ ภาพส่วนใดบา้ งท่ีส่งผลใหเ้ กิดการกระทา
ตาม การนบั ถือการยดึ เอาเป็นแบบอย่าง มีส่วนใดบา้ งที่สามารถนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เขา้ กบั บุคคล
ทวั่ ไป และเพ่ือให้การวิจัยคร้ังน้ีเป็ นแบบอย่างเชื่อมโยงถึงความสาคญั ของบุคลิกภาพท่ีธรรม
ทายาทในปัจจุบนั พึงพฒั นาใหเ้ กิดข้ึนในตน เพอื่ ประโยชน์ในการเผยแผพ่ ุทธศาสนาต่อไป

๘.๖ บุคลกิ ภาพของพระพุทธองค์
พระพุทธเจา้ พระองคท์ รงมีฐานะเป็นผกู้ ่อต้งั พระพุทธศาสนาก็ตามหลงั จากที่พระพุทธเจา้

ทรงคน้ พบและประกาศพระพุทธศาสนาแลว้ พระองคก์ ย็ งั ปฏบิ ตั ิธรรมของพระองคเ์ หมือนพระภิกษุ
อ่นื ๆ เหมือนกนั โดยทวั่ ไป ศลี ของพระภิกษุ ๒๒๗ ขอ้ น้นั พระองคท์ รงทาตามหมดทุกขอ้ ไม่มกี าร
ยกเว้น ในฐานะเป็ นผู้ก่อต้ังเหมือน ตรงน้ี เป็ นการกุศโลบายอันเป็ นลักษณะพิเศษของ
พระพทุ ธศาสนาและตรงน้ีเองทีทาใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเผยแผไ่ ปอยา่ งรวดเร็วมาก จนเป็นท่ีตอ้ งการ
ของทุกระดบั ชนช้นั และท่ีสาคญั ยิ่งกว่าน้นั คือการลบลา้ งความเช่ือถือเก่าๆ ที่ทาใหเ้ ป็นปัญหาของ
สงั คมในสมยั น้นั กศุ โลบายของพระพุทธศาสนาที่เด่นชดั เช่นเร่ืองวรรณะ ในพระพุทธศาสนาตดั ทิ้ง
ไป เป็ นเหตุใหท้ ุกระดบั ชนช้นั เขา้ มาศึกษาพระพุทธศาสนาไดโ้ ดยไม่มีกาแพงกีดขวางเหมือนใน
ศาสนาพราหมณ์ ทาให้พระพุทธศาสนาเป็ นท่ีต้องการของประชาชนมากข้ึนและมีพระภิกษุที่
หลากหลายความเชื่อถือเขา้ มาบวชมากข้ึนเขา้ ใจพระพุทธศาสนามากข้ึนและเป็ นการช่วยให้คณะ
สงฆแ์ พร่หลายไปทวั่ ชมพทู วีปในสมยั น้นั เป็ นเหตุให้สถาบนั พระมหากษตั ริยท์ รงสนับสนุนและ
ยอมรับพระพุทธศาสนาและทรงเป็ นอุปถมั ภ์พระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้านอกจากจะปฏิบัติ
เหมือนพระภิกษุทว่ั ๆ ไปแลว้ ยงั ทรงทาพุทธกิจประจาวนั ๕ อยา่ งดว้ ย คือ

๑) ปุเรภัตตกิจ พระพุทธเจ้าทรงกระทากิจภาคเช้าหรือภาคก่อนอาหารได้แก่ทรงต่ืน
บรรทมแต่เชา้ เสดจ็ ออกบิณฑบาตร เสวยแลว้ ทรงแสดงธรรมโปรดประชาชนในที่น้ัน ๆ แลว้ เสด็จ
กลบั พระวหิ ารรอใหพ้ ระสงฆฉ์ นั เสร็จแลว้ พระองคท์ รงเขา้ คนั ธกุฏี

๒) ปัจฉาภตั ตกิจพระพุทธเจา้ ทรงกระทากิจภาคบ่ายหรือหลงั อาหาร ระยะท่ี ๑ เสด็จออก
จากพระคันธกุฏี ทรงโอวาทภิกษุสงฆ์ เสร็จแลว้ พระสงฆ์แยกยา้ ยกนั ไปปฏิบตั ิธรรมในที่ต่าง ๆ
พระองคเ์ สดจ็ เขา้ คนั ธกฎุ ีพระองคท์ รงบรรทมเลก็ นอ้ ยหลงั จากน้นั พระองคก์ ระทากิจในระยะท่ี ๒
ทรงพิจารณาตรวจดูความเป็ นไปของชาวโลก ระยะท่ี ๓ ประชาชนในถิ่นน้ันมาประชุมใน
ธรรมสภาพระองคท์ รงแสดงธรรมโปรด

๓) ปุริมยามกิจ พทุ ธกิจยามที่ ๑ ของราตรี หลงั จากพระพุทธเจา้ ทรงกระทากิจภาคกลางวนั
แลว้ อาจทรงสนานแลว้ ปลีกพระองค์อยเู่ งียบ ๆ พกั หน่ึง จากน้ันพระองค์ให้พระสงฆม์ าเฝ้ า ทูล

๒๕๐

ถามปัญหาบา้ ง ขอกรรมฐานบา้ ง ขอให้ทรงแสดงพระธรรมบา้ ง ทรงใชเ้ วลาตลอดยามแรกน้ีสนอง
ความประสงคข์ องพระสงฆ์

๔) มชั ฌิมยามกิจ พระพุทธเจ้าทรงกระทากิจ เมื่อพระสงฆแ์ ยกยา้ ยไปแลว้ ทรงใช้เวลาท่ี
สองตอบปัญหาพวกเทพท้งั หลายท่ีมาเฝ้ า

๕) ปัจฉิมยามกิจ พระพุทธเจา้ ทรงกระทากิจในยามปัจฉิม พระองคท์ รงแบ่งไว้ สามระยะ
ดว้ ยกนั ระยะแรกพระองคท์ รงเดินจงกรมเพ่ือใหพ้ ระวรกายของพระองคไ์ ดผ้ อ่ นคลาย ระยะที่ ๒
พระองค์ทรงเขา้ คันธกุฏี ทรงบรรทมสีหไสยยะอยา่ งมีพระสติสัมปชญั ญะ ระยะที่สาม เสด็จ
พจิ ารณาสอดส่องเลือกสรรว่าในวนั ต่อไปมีบุคคลใดท่ีพระองคค์ วรโปรดโดยเฉพาะเป็ นพิเศษเม่ือ
ทรงกระทาในพระทยั แลว้ ก็จะเสดจ็ ไปในท่ีภาคพุทธกิจท่ี ปุเรภตั ตกิจ๕๕

สรุปท้ายบท

บุคลิกภาพ ตามทัศนะของชาวตะวนั ตก คือ กระบวนการสร้าง วิถีแห่งการคิดและการ
กระทา ตลอดถึงคุณลกั ษณะเด่นของแต่ละบุคคลท่ีแสดงออกมาใหเ้ ห็นภาพลกั ษณ์ภายนอกและ
ภายใน และเป็ นตัวตัดสิ น หรื อกาหนดพฤติกรรมของเขาด้วย “บุคลิกภาพ” ในทัศนะของ
นกั วิชาการท้งั ชาวไทยและชาวตะวนั ตกน้นั ทาใหเ้ ห็นทศั นะท่ีมคี วามคลา้ ยกนั คือ “บุคลิกภาพ” คือ
ผลรวมแห่งคุณลกั ษณะทางกาย วาจาใจ พฤติกรรมท่ีแสดงออกมาท้งั หมด มีลกั ษณะเด่นเฉพาะตน
และมีลกั ษณะเป็ นคากลางๆ ยงั ไม่ระบุว่าดีหรื อไม่ดี ส่วนความแตกต่างกัน คือ ทัศนะของ
ชาวตะวนั ตกมองว่า บุคลิกภาพคือระบบ หรือกระบวนการคิดและการกระทาทุกอยา่ งของแต่ละ
บุคคลโดยสัมพันธ์กับสิ่งแวดลอ้ มอย่างเป็ นรูปธรรม คือ เป็ นกระบวนการท่ีสามารถวดั ผล
ประเมินผลไดด้ ว้ ยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ครอบคลมุ ท้งั ในเชิงจิตวทิ ยาและสงั คมวิทยา ส่วนทศั นะ
ของนกั วชิ าการชาวไทยมองว่า “บุคลิกภาพ” คือ พฤติกรรมท่ีเช่ือมโยงกบั การกระทาทางไตรทวาร
ในลกั ษณะโนม้ เอียงไปทางนามธรรมมากกว่ากล่าว คือ เป็ นพฤติกรรมหรือการแสดงออกที่เน้น
ความสมั พนั ธใ์ นเชิงสงั คมวทิ ยา

สาหรับบุคลิกภาพตามทรรศนะทางพระพทุ ธศาสนา บุคลิกภาพของพระพุทธเจา้ และ
พระสาวกมคี วามสาคญั ต่อการเผยแผ่ศาสนาเป็ นอยา่ งมาก กล่าวคือบุคลิกภาพของพระองค์ทาให้
เกิดศรัทธาและนาสู่สมั มาทิฏฐิ และเกิดกระบวนการพฒั นามนุษยอ์ ยา่ งเป็นระบบ หรืออาจเรียกว่า
เกิดระบบจริยธรรมเพื่อพฒั นามนุษยใ์ ห้สมบูรณ์ กระบวนการเกิดสัมมาทิฏฐิของมนุษยเ์ ร่ิมจาก

๕๕ พระธรรมปิ ฎก, ( ป. อ. ปยตุ โต) พุทธวธิ ีในการสอน, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มูลนิธิพุทธธรรม,
๒๕๔๑), หนา้ ๒๘.

๒๕๑

ระบบประสาทสมั ผสั ท้งั 5 คือ การไดเ้ ห็น ไดย้ นิ ไดด้ มกล่ิน ไดล้ ้มิ รส และการไดส้ มั ผสั กบั ส่ิงท่ีตน
ชอบใจ ส่ิงที่ตนแสวงหาและเป็ นท่ียอมรับของสงั คม ตวั อยา่ งเช่น พระเจา้ พมิ พิสารทอดพระเนตร
เห็นอากปั กิริยาอนั งดงามสงบสารวมของพระสิทธตั ถะสมยั แรกผนวช ทาใหเ้ กิดศรัทธาปสาทะและ
เกิดสมั มาทิฏฐิคือความปรารถนาจะฟังธรรมเม่อื ไดต้ รัสรู้แลว้ และต่อมาพระองค์กท็ รงเป็ นกษตั ริย์
องคแ์ รกท่ีเป็นพุทธศาสนูปถมั ภก

๒๕๒

กิจกรรมท้ายบท

๑. พระพุทธเจา้ ทรงวางหลกั เกณฑ์การศึกษาเรียนรู้เก่ียวกบั ศาสนธรรมไวอ้ ย่างไรบ้าง
ศาสนธรรมท้งั ในส่วนของพระธรรมและพระวินยั มคี วามสาคญั ต่อพระพุทธศาสนาอยา่ งไรบา้ ง

๒. การศึกษาความหมายของธรรมนิเทศ ผศู้ ึกษาควรพิจารณาจากหลกั การใดบา้ ง แต่ละ
หลกั การมรี ายละเอยี ดอยา่ งไร และไดข้ อ้ สรุปเกี่ยวกบั ความหมายของธรรมนิเทศวา่ อยา่ งไร

๓. คาว่า “เผยแผ่” และ “เผยแพร่” มีความแตกต่างหรือเหมอื นกนั อยา่ งไร เพราะเหตุใดจึง
ใชค้ าวา่ “เผยแผ”่ กบั พระพทุ ธศาสนา

๔. ความสาคญั ของธรรมนิเทศว่าดว้ ยการประกาศพระศาสนาของพระพุทธเจา้ มีจุดเริ่ม
ตามลาดบั อยา่ งไรบา้ ง อธิบายพอสงั เขป

๕. การเลือกประดิษฐานพระศาสนาท่ีแควน้ มคธ มีแนวทางในการคิดวิเคราะห์เพ่ือให้
ทราบถงึ พระประสงคข์ องพระพทุ ธเจา้ เกี่ยวกบั เร่ืองน้ีอยา่ งไรบา้ ง

๖. ปฐมเทศนา เรื่อง ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสูตร มใี จความสาคญั กลา่ วถึงเรื่องใดบา้ ง เพราะเหตุ
ใดพระพทุ ธเจา้ จึงทรงแสดงปฐมเทศนาเร่ืองน้ีโปรดเบญจวคั คีย์

๗. พระธรรมเทศนาเรื่อง อาทิตตปริยายสูตร มีใจความสาคญั กล่าวถึงเรื่องใดบา้ ง เพราะ
เหตุใดพระพทุ ธเจา้ จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาเร่ืองน้ีโปรดชฎิลสามพนี่ อ้ ง

๘. การพฒั นาศรัทธาและปัญญาที่ถกู ตอ้ งตามหลกั พระพุทธศาสนา มีแนวทางและวิธีการ
ปฏบิ ตั ิอยา่ งไรบา้ ง

๙. การฝึ กอบรมตนและและการพ่ึงพาตนเองตามหลกั พระพุทธศาสนา มีแนวทางและ
วธิ ีการปฏิบตั ิอยา่ งไรบา้ ง

๑๐. การประยกุ ต์หลกั นิเทศสมยั ใหม่ เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ควรใชแ้ นวทางใน
การพจิ ารณาอยา่ งไรบา้ ง และไดห้ ลกั ปฏบิ ตั ิเกี่ยวกบั เร่ืองน้ีอยา่ งไรบา้ ง

บรรณานุกรม

๑. พระไตรปิ ฎกและอรรถกถา

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิ ฎกบาลี. ฉบับมหาจุฬ าเตปิ ฎก, ๒๕๐๐.
กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๓๕.

____________________________________.พ ระไต รปิ ฎกภ าษ าไท ย. ฉบั บ มห าจุฬ าลงกรณ ราช
วทิ ยาลยั .กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพม์ หาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๓๙.

____________________________________.พ ร ะ ไ ต ร ปิ ฎ ก บ า ลี . ฉ บั บ ม ห า จุ ฬ า อ ฏฺ ฐ ก ถ า .
กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพม์ หาจุฬาลงกรณ ราชวทิ ยาลยั , ๒๕๓๓.

____________________________________.พ ระไต รปิ ฎ ก พ ร้ อ ม อ รรถ ก ถ า แ ป ล ชุ ด ๙ ๑ เล่ ม .
กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพม์ หามกฏุ ราชวิทยาลยั , ๒๕๓๔

๒. หนังสือ

กรมการศาสนา, คู่มือการบริหารและการจัดการวัดฉบับย่อ, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์การศาสนา,
๒๕๔๒.

___________, ประวตั พิ ระพทุ ธศาสนาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี ภาค ๒, กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพก์ ารศาสนา, ๒๕๒๕.

กวี วงศพ์ ฒุ , การพฒั นาบุคลกิ ภาพ, กรุงเทพมหานคร: บริษทั เอเซียแปซิฟิ คพริ้นต้ิง, ๒๕๓๗

กนั ยา สุวรรณแสง, การพฒั นาบุคลกิ ภาพ, กรุงเทพมหานคร : เจริญรัตนก์ ารพมิ พ,์ ๒๕๓๓

กาญจนา แกว้ เทพ. การวเิ คราะห์สื่อแนวคิดและเทคนิค. พิมพค์ ร้ังที่ ๔, เลิฟแอนดเ์ ลิฟ กรุงเทพมหานคร,
๒๕๔๗.

กาญจนา แกว้ เทพ และคณะ. สื่อเพื่อชุมชน: การประมวลองค์ความรู้. สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการวจิ ยั
(สกว.) กรุงเทพมหานคร, ๒๕๔๓.

กาญจนา แกว้ เทพ. สื่อมวลชน : ทฤษฎีและแนวทางการศึกษา. พิมพค์ ร้ังท่ี ๒, บริษทั เอดิสัน โพรดกั ส์
จากดั , กรุงเทพมหานคร, ๒๕๔๓.

กิตติมา สุรสนธิ. ความรู้ทางการส่ือสาร. กรุ งเทพมหานคร: คณะวารสารและการสื่อสารมวลชน,
มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๔๑.

กีรติ บุญเจือ, ปรัชญาและสาสนาเซนต์ จอฮ์ น ศาสนาอรรถปริวรรตของมนุษยชาติ, เล่มที่ ๗ ,
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพฐ์ านบณั ฑิต จากดั , ๒๕๔๖

๒๕๔

เกรียงศกั ด์ิ พลอยแสง, ภาษากับการสื่อสาร, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ,

๒๕๔๒.

ขนิษฐา สมร่ าง. ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับการส่ือสารมวลชน. ลพบุรี : ภาควิชาการสื่อสารและการ
ประชาสมั พนั ธ์ คณะวทิ ยาการจดั การ สถาบนั ราชภฎั เทพสตรี. ๒๕๔๑.

ค ณ ะ นิ เท ศ ศ า ส ต ร์ . ชุ ด วิ ช า ท ฤ ษ ฎี แ ล ะ พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร สื่ อ ส า ร .น น ท บุ รี : โ ร ง พิ ม พ์
มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช, ๒๕๔๖.

คณะทางาน “นิทานวจนะพทุ ธธรรมกบั สื่อ” พทุ ธจกั ร ปี ที่ ๕๒ ฉบบั ท่ี ๗ กรกฎาคม ๒๕๔๑
คณะผจู้ ดั ทา “นิทานวจนะ” พทุ ธจกั ร. ปี ที่ ๕๑ ฉบบั ท่ี ๙ (กนั ยายน ๒๕๔๑),
คณาจารย์ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , พทุ ธวธิ ีการสอน.(กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลยั มหา

จุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๕๕
โครงการอาศรมความคิดเรื่องทฤษฎีนิเทศศาสตร์. แก่นสาระในทฤษฎีนิเทศศาสตร์ .คณะนิเทศศาสตร์

จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , มปท. (เอกสารอดั สาเนา)
จนั ทนา ทองประยรู . หน่วยท่ี ๘ การส่ือสารกลุ่มเล็กและการส่ือสารสาธารณะ. ในประมวลสาระชุดวิชา

ป รั ช ญ านิ เท ศ ศ าสต ร์ และท ฤษ ฎี ก ารส่ื อส าร บัณ ฑิ ต ศึ ก ษ า สาข าวิช านิ เท ศ ศ าสต ร์
มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช นนทบุรี, ๒๕๔๘.
จอร์จ ซินน์, บุคลกิ ภาพสู่ความเป็นผนู้ า, เรียบเรียงโดย นพดล เวชสวสั ด์ิ, กรุงเทพมหานคร: หจก. เอช.เอน.
การพมิ พ,์ ๒๕๓๒
จาระไน แกลโกศล. เอกสารการสอนชุดวชิ าหลกั และทฤษฎกี ารส่ือสาร หน่วยที่ ๑๐. พิมพค์ ร้ังที่ ๓, นนทบุรี
: มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช, ๒๕๓๑.
จานงค์ ทองประเสริฐ. ภาษาไทยไขขาน. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พแ์ พร่พิทยา, ๒๕๒๘.
________________. แผนการกู้อิสรภาพของเจ้าชายสิทธัตถะ, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ บริษัท
สหธรรมมกิ จากดั , ๒๕๔๗.
________________. ภาษาไทยไขขาน. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพแ์ พร่พทิ ยา. ๒๕๒๘
________________.ภาษาไทยกบั การเทศน์, กรุงเทพมหานคร: หจก. เอมเ่ี ทรดด้ิง, ๒๕๔๔
จานงค์ อดิวฒั นสิทธ์ิ รศ. ดร.,สังคมวิทยาตามแนวพุทธศาสตร์ : สานักงานคณะกรรมการวฒั นธรรม
แห่งชาติ กระทรวงศกึ ษาธิการ จดั พมิ พค์ ร้ังท่ี ๒ (๒ ตุลาคม ๒๕๓๐).
ฉัตรชยั ตน้ นะรัตน์ และคณะ. การเตรียมเพื่อการพูดและการเขียน. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลยั
รามคาแหง, ๒๕๓๘.
ฉตั รสุมาลย์ กบิลสิงห์. ศาสนา. กรุงเทพมหานคร: คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. ๒๕๑๘
เฉลิมพล โสมอินทร์, ประวตั พิ ระพุทธศาสนาและการปกครองคณะสงฆ์ไทย, กรุงเทพมหานคร:
สานกั พมิ พส์ ูตรไพศาล, ๒๕๔๖.

ชยั วฒั น์ อตั พฒั น์.หลกั พุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง, ๒๕๒๓.

๒๕๕

ชูศักด์ิ ทิพยเ์ กษร ร.ศ. และคณะ. พระพุทธเจ้าสอนอะไร แปลจากภาษาอังกฤษเป็ นภาษาไทย.
กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๗.

เชลดอน (William Sheldon), อา้ งถึงใน ม.ร.ว. สมพร สุทัศนี ย์, มนุษยสัมพันธ์ กรุ งเทพมหานคร:
สานกั พิมพจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , ๒๕๓๗

ดร.ณรงค์ เส็งประชา, มนุษยก์ บั สงั คม กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พโ์ อเดียนสโตร์, ๒๕๓๘

ดร.โสภา ชปี ลมนั น์, บุคลิกภาพและพฒั นาการ : แนวโนม้ สู่พฤติกรรมปกติและการมีพฤติกรรมเบ่ียงเบน
ของ เดก็ และเยาวชน กรุงเทพมหานคร: โอ. เอส. พร้ินต้ิง เฮา้ ส์, ๒๕๒๖

ดร.นิยพรรณ(ผลวฒั นะ) วรรณศิริ, มนุษยวิทยาสังคมและวฒั นธรรม (กรุงเทพมหานคร:พี. เอ.ลิฟว่ิง.,
๒๕๔๐เดโช สวนานนท,์ จติ วทิ ยาสังคม, กรุงเทพมหานคร : โพธ์ิสามตน้ การพิมพ,์ ๒๕๑๘

ทองอินทร์ วงศโ์ สธร และคณะ. หน่วยที่ ๔ การแก้ปัญหาในงานนิเทศศาสตร์. พิมพค์ ร้ังที่ ๘, โรงพิมพ์
มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช นนทบุรี ๒๕๔๓.

ทินวฒั น์ มฤคพทิ กั ษ.์ พดู ได้พดู เป็ น. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพโ์ อ เอส พร้ินติ้งเฮา้ ส์, ๒๕๒๙.

เทพ สุนทรศารทูล, พระธรรมบทไตรพากย์ พระธรรมบทคาโคลง, กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพม์ หามกุฎ
ราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๗.

ธิ ติ พั ฒ น์ เอ่ี ย ม นิ รั น ด ร์ ผู้ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . ม ห า วิ ท ย า ลัย สุ โ ข ทั ย ธ ร ร ม า ธิ ร า ช .
www.stou.ac.th/Thai/Schools/sca/ma_act ๑๔๘/comstudytext_๑.doc.

ธนนั ญาณพิทกั ษ,์ พทุ ธศาสนากบั ประชาธปิ ไตย, วารสารจนั ทรเกษม ๘๘ (พฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๑๒

ธีรวสั บาเพ็ญบุญบารมี, โครงการวจิ ยั ธรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา, พิมพค์ ร้ังท่ี ๑ กรุงเทพมหานคร :
มลู นิธิเบญจนิกาย, ๒๕๕๐.

นวม สงวนทรัพย์ (พ.อ.). พทุ ธจริยา. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พก์ ารศาสนา, ๒๕๓๐.

นิพนธ์ คนั ธเสวี,คุณภาพชีวติ ใน “การศึกษาและวฒั นธรรม ประมวลบทความทางวชิ าการ”(สานักงาน
ปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร), กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประชาชนจากดั , ๒๕๒๖

บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ออกอากาศทางสถานีวิทยกุ ระจายเสียงแห่งประเทศไทย เม่ือวนั ท่ี ๒๒
กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๐๗.๐๐-๐๗.๓๐ น.

บรรจบ บรรณรุจิ, เล่มนมี้ ปี ัญหา, กรุงเทพมหานคร : พรบุญการพิมพ,์ ๒๕๓๘.

____________, อสีตมิ หาสาวก, พิมพค์ ร้ังท่ี ๒, กรุงเทพมหานคร: กองทุนพุทธสถาน, ๒๕๓๙.

๒๕๖

บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ศาสตราจารย์พิเศษ จานง ทองประเสริ ฐ ออกอากาศทางสถานี
วิทยกุ ระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมอ่ื วนั ท่ี ๒๒ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๐

บารุง สุขพรรณ์, จติ วทิ ยาเพอื่ การส่ือสาร, (กรุงเทพมหานคร : บณั ฑิตวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ,
๒๕๔๒.

บารุงสุข สีหอาไพ, หนังสือประจาปี ของแผนกอสิ ระสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๑๕,
พระนคร: โรงพมิ พอ์ กั ษรสมยั , ๒๕๑๕.

บุญมี แท่นแกว้ , จริยธรรมกบั ชีวติ , กรุงเทพมหานคร : หจก.ธนะการพมิ พ์ ๒๕๓๗

บุญเลศิ ศุภดิลก และคณะ. การส่ือสารในสงั คม ใน เอกสารการสอนวชิ ามนุษย์กบั สังคม เล่มที่ ๒ หน่วยที่
๑๑. กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช, ๒๕๓๑.

ปรมะ สตะเวทิน,ดร. หลกั นิเทศศาสตร์. พิมพค์ ร้ังท่ี ๙, กรุงเทพมหานคร : คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๐.

_______________. นเิ ทศศาสตร์กบั สงั คม. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , ๒๕๒๔.

ประเวศ วะสี, สวนโมกข์ ธรรมกาย สันตอิ โศก, กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พห์ มอชาวบา้ น, ๒๕๓๐

ประสิทธ์ิ กาพยก์ ลอน. ภาษากบั ความคดิ . กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวนั ออก คณะ
มนุษยศาสตร์ กรุงเทพมหานคร. มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. ๒๕๓๒.

ประสาร ทองภกั ดี. กลวิธีสอนตามแนวพทุ ธศาสตร์. ศึกษาศาสตร์ตามแนวพุทธศาสตร์ ภาคท่ี ๒ ระบบ
การเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร: สานกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ, ๒๕๒๖.

ปันนดั ดา นพพนาวนั : การศกึ ษากระบวนการสื่อสารเพือ่ เผยแพร่ธรรมะของสถาบนั สงฆไ์ ทย วิทยานิพนธ์
นิเทศศาสตรมหาบัณฑติ ภาควชิ าการประชาสมั พนั ธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ๒๕๓๓.

พรศกั ด์ิ ผอ่ งแผว้ . ศาสตร์แห่งการวจิ ยั ทางการเมืองและสังคม. พิมพค์ ร้ังท่ี ๕, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์
แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๕.

พจนานุกรม ฉบบั เฉลมิ พระเกียรติ พ.ศ. ๒๕๓๐, พมิ พค์ ร้ังท่ี ๓, กรุงเทพมหานคร : วฒั นาพานิช, ๒๕๓๑.

พระครูปลดั สุวฒั นจริยคุณ (ประสิทธ์ิ พฺรหฺมรสี) บรรณาธิการ. วชิ าการเทศนา, พิมพค์ ร้ังที่ ๓, กรุงเทพฯ :
โรงพมิ พก์ ารศาสนา, ๒๕๔๖.

พ ระพ รห ม คุ ณ าภ รณ์ , (ป .อ. ป ยุต โต ), ส่ื อ ม วล ช น กับ วัฒ น ธ รรม ไท ย . ก รุ งเท พ ม ห าน ค ร :
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๓๗.

๒๕๗

______________, (ป .อ. ป ยุต โ ต ), พ จน านุ ก รม ศ าส น์ ฉ บั บ ป ระม ว ล ศั พ ท์ , พิ ม พ์ค ร้ั งท่ี ๑ ๑ ,
กรุงเทพมหานคร: บริษทั เอส.อาร์. พร้ินติ้ง แมส โปรดกั ส์ จากดั ,๒๕๕๑

พระธรรมปิ ฎก, (ป.อ.ปยตุ ฺโต). การส่ือภาษาเพอื่ การเข้าถึงสัจธรรม. กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา, ๒๕๓๙.
_____________, (ป.อ.ปยุตฺโต). จาริกบุญ จาริกธรรม. พิมพ์คร้ังที่ ๑๐, กรุงเทพมหานคร : พิมพส์ วย,

๒๕๔๗.
_____________, (ป.อ.ปยตุ ฺโต). ธรรมกบั การพฒั นาชีวติ . กรุงเทพมหานคร: สหธรรมิก, ๒๕๓๗.
_____________. (ป.อ.ปยุตฺโต), พุทธธรรม, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพม์ หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ,

๒๕๓๘
_____________, (ป.อ. ปยุตฺ โต), พ จนานุ กรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม, พิมพ์คร้ังที่ ๙,

กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๓.

_____________. (ป.อ.ปยุตฺ โต), พจนานุ กรมพุ ทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม , พิมพ์คร้ังที่ ๑๓ ,
(กรุงเทพมหานคร : บริษทั เอส.อาร์.พริ้นติ้ง แมส โปรดกั สจ์ ากดั , ๒๕๔๘

______________.(ป.อ.ปยุตฺโต), พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม, กรุงเทพมหานคร: บริษัท
ส่ือตะวนั จากดั ,๒๕๔๕

________________.(ป.อ.ปยตุ ฺโต), พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม, กรุงเทพมหานคร : โรง
พมิ พม์ หาจุฬาลง กรณราชวิทยาลยั , ๒๕๓๘

_____________.(ป.อ.ปยตุ ฺโต), รู้หลกั ก่อนแล้วศึกษาและสอนให้ได้ผล, กรุงเทพมหานคร : บริษทั พมิ พส์ วย
จากดั , ๒๕๔๗

______________. (ประยทุ ธ์ ปยตุ ฺโต) “ทิศทางอุดมศึกษาในยคุ ไอที.” พุทธจกั ร ปี ท่ี ๕๒ (มถิ ุนายน ๒๕๔๑)

________________. (ประยทุ ธ์ ปยตุ ฺโต) “การเผยแพร่ธรรมในยคุ ขอ้ มลู ข่าวสาร” พุทธจกั ร. ปี ท่ี ๔๙ ฉบบั ที่
๙ (มกราคม ๒๕๓๘),

_____________, (ป.อ.ปยตุ ฺโต). พทุ ธธรรม. กรุงเทพมหานคร : สหธรรมมกิ , ๒๕๓๗.

_____________ (ป.อ. ปยตุ ฺโต). พทุ ธวธิ ีในการสอน. กรุงเทพมหานคร: โอเอน็ จีการพิมพ,์ ๒๕๔๒.

______________ (ป.อ. ปยุตฺโต), พุทธวิธีในการสอน, พิมพ คร้ังที่ ๘ กรุงเทพมหานคร: สหธรรมิก,
๒๕๔๔.

______________(ป.อ. ปยตุ ฺโต), พทุ ธวธิ ีในการสอน,กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา, ๒๕๓๘

_____________ (ป.อ.ปยุตฺโต). รู้หลักก่อน แล้วศึกษาและสอนให้ได้ผล. พิมพ์คร้ังที่ ๔, สานักพฒั นา
นวตั กรรมการจดั การศกึ ษา, ๒๕๔๘.

๒๕๘

_____________, (ป.อ.ปยตุ ฺโต). วธิ ีคดิ แบบพุทธ. กรุงเทพมหานคร: สหธรรมมกิ , ๒๕๓๗.

พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบณั ฑิต), การเผยแผ่พระพุทธศาสนา, ขอ้ มูลออนไลน์, เขา้
เมื่อ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๐.

___________(ท องดี สุ รเตโช ), พ จน านุ กรม เพ่ือก ารศึ กษ าพุ ท ธศ าส น์ คาวัด ,พิ ม พ์คร้ั งท่ี ๓ .
กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา, ๒๕๕๑

_____________ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต), พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุด คาวัด,
กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พเ์ ลยี่ งเชียง, ๒๕๔๘

พระธรรมโกศาจารย.์ (ประยรู ธมฺมจิตฺโต), การเผยแผ่เชิงรุก, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพจ์ ุฬาลงกรณราช
วทิ ยาลยั , ๒๕๔๘

พระเทพเวที (ประยุทธ์ ปยุตฺโต), เทคนิคการสอนของพระพุทธเจ้า, กรุงเทพมหานคร : มลู นิธิพุทธธรรม
๒๕๓๐)

___________ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต), ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะพระศาสนาประจาชาติ,
กรุงเทพมหานคร : ศนู ยส์ ่งเสริมพระพทุ ธศาสนาแห่งประเทศไทย, ๒๕๓๒.

พระเทพโสภณ (ประยรู ธมฺมจิตโต), พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นท่ี ๙, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๖

พระเทพวิสุทธิญาณ (อุบล นนฺทโก), ประวัตอิ นุพุทธสังเขป ๙๙, พิมพ์คร้ังที่ ๒, กรุงเทพมหานคร: โรง
พิมพม์ หามกฏุ ราชวิทยาลยั , ๒๕๔๐.

พระเทพดิลก (ระแบบ ฐิตญาโณ). พุทธวิธีในการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา. กรุงเทพมหานคร: บริษทั แปดสิบ
เจด็ , ๒๕๔๕.

พระราชธรรมนิเทศ, (ระแบบ ฐิตญาโณ). พทุ ธวธิ เี ผยแผ่พระพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ มหา
มกุฎราชวิทยาลยั , ๒๕๔๐.

_______________. (ระแบบ ฐิตญาโณ), ประวตั ศิ าสตร์พระพทุ ธศาสนา, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหามกุฎราชวทิ ยาลยั
, ๒๕๔๒.

พ ร ะ ร าช ว ร มุ นี , (ป .อ .ป ยุตฺ โ ต ). เท ค นิ ค ก ารส อ น ข อ ง พ ระพุ ท ธ เจ้ า.ก รุ ง เท พ ม ห าน ค ร :
อมรินทร์ปริ้นกรุ๊ป, ๒๕๓๐.

_____________ (ป.อ.ปยุตฺโต). พุทธธรรม. พิมพค์ ร้ังท่ี ๓, กรุงเทพมหานคร : บริษทั ด่านสุทธาการพิมพ์
จากดั , ๒๕๒๙.

๒๕๙

_____________.(ประยุทธ์ ปยุตฺโต), พระพุทธศาสนาในอาเซีย, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพม์ หาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลยั , ๒๕๓๑.

พระราชวรมุนี (ประยรู ธมฺมจิตฺโต), จริยธรรมสาหรับคนรุ่นใหม่ , กรุงเทพมหานคร :โรงพมิ พเ์ รือนแกว้ การ
พิมพ์ ๒๕๓๐

พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยรู ธมฺมจิตฺโต), “พระพุทธศาสนาในยคุ โลกาภิวฒั น์,” พทุ ธจกั ร. ปี ที่ ๕๑ (มกราคม
๒๕๓๙)

พระพิจิตรธรรมพาที (ชยั วฒั น์ ธมฺมวฑฺฒโน), พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๔, กรุงเทพมหานคร :
โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๓.

_____________.(ชยั วฒั น์ ธมฺมวฑฺฒโน). วชิ าการเทศนา, (กรุงเทพมหานคร: เอมี่เทรดด้ิง, ๒๕๔๔

พระสุธีวรญาณ (ณรงค์ จิตฺตโสภโณ), พทุ ธศาสตร์ปริทรรศน์, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ มหาจุฬาลงกรณ
ราชวทิ ยาลยั ๒๕๔๑.

_____________.(ณรงค์ จิตฺตโสภโณ), พุทธศาสตร์ปริทรรศน์, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ มหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๑.

พระโสภณธรรมวาที (บุญมา อาคมปุญฺโญ), วชิ าการเทศนา, กรุงเทพมหานคร : เอม่ีเทรดดิ้ง, ๒๕๔๔

_______________(บุญมา อาคมปุญฺโญ), ความรู้พนื้ ฐานการเทศน์. กรุงเทพมหานคร: บริษทั ศลิ ป์ สยาม
บรรจุภณั ฑแ์ ละการพิมพ์ จากดั , ๒๕๔๑.

พระครูกัลยาณสิทธิวฒั น์ (สมาน กลฺยาณธมฺโม), เอตทัตคะในพระพุทธศาสนา, กรุงเทพมหานคร: โรง
พมิ พ์ บริษทั สหธรรมิก จากดั , ๒๕๔๖.

พระมหาเทียบ สิริญาโณ, “บาลคี อื อะไร?”, เก็บเพชรจากคมั ภีร์พระไตรปิ ฎก, อนุสรณ์ชนมายคุ รบ ๘๔ ปี
พระสุเมธาธีบดี, ๒๕๔๕.

พระมหาปฐมพงษ์ งามลว้ น, ประวตั ภิ าษาบาลี ความเป็ นมาและที่สัมพนั ธ์กบั ภาษาปรากฤตและสันสกฤต,
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพม์ หามกุฎราชวิทยาลยั , ๒๕๓๔.

พระประทิน ยสินฺธโร, สมั ฤทธิผลในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา, สารนิพนธ์พุทธศาสตรบณั ฑิต ประจาปี
๒๕๕๑.

พระมหาสนอง ปจฺโจปการี (จานิล), วชิ าธรรมนิเทศ, กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลยั วิทยาเขตหนองคาย, ๒๕๓๙.

พรพรรณ ธารานุมาศ, สานวนการเขยี น, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพบ์ รรณกิจ ๑๙๙๑ จากดั , ๒๕๔๔

๒๖๐

พชั นี เชยจรรยา และคณะ. แนวคดิ หลกั นิเทศศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : บริษัท เยลโล่การพิมพ์ จากดั ,
๒๕๔๑.

พัชนี เชยจรรยา, เมตตา วิวัฒนานุ กุล และ ถิรนันท์ อนวัชศิริ วงศ์. แนวคิดหลักนิเทศศาสตร์ .
กรุงเทพมหานคร : บริษทั เยลโล่การพิมพ์ (๑๙๙๘) จากดั , ๒๕๓๘.

พทุ ธทาสภิกขุ. ธรรมสาหรับครู. กรุงเทพมหานคร: การประถมศกึ ษาแห่งชาติ, ๒๕๒๙.

____________, ฟ้ าสางระหว่าง ๕๐ ปี ที่มีสวนโมกข์, กรุ งเทพมหานคร: การพิมพ์พระนคร, ๒๕๒๖
____________, พจนานุกรม, กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา ๒๕๔๙

____________, ธรรมทัศน์ของพทุ ธทาส อย่อู ย่างพทุ ธ, กรุงเทพมหานคร : สุขภาพใจ,๒๕๔๔

ภทราพร สรกาญ , “ความสาคญั ของพระสงฆ์ต่อชาวไทย”, องค์การพุทธศาสนิกสมั พนั ธแ์ ห่งโลก (พสล.)
ปี ที่ ๒๙ ฉบบั ท่ี ๑๙๖ (กรกฎาคม-สิงหาคม ๒๕๓๘)

มณฑล ใบบวั . หลกั และทฤษฎกี ารสื่อสาร. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พโ์ อเดียนสโตร์, ๒๕๓๖.

มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช, “องค์ประกอบและกระบวนการของการสื่อสาร” เอกสารการสอนชุดวชิ า
หลักและทฤษฎีการสื่อสาร หน่วยท่ี ๑–๘, นนทบุรี : โรงพิมพม์ หาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช,
๒๕๒๗.

______________. “องคป์ ระกอบและกระบวนการส่ือสาร” เอกสารประกอบการสอนชุดวชิ าหลกั และทฤษฎี
การส่ือสาร หน่วยท่ี ๑- ๘, นนทบุรี :โรงพมิ พม์ หาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช, ๒๕๒๗.

มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั . เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ธรรมนิเทศ.กรุงเทพมหานคร:
โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๙

_____________, “คุณธรรมและจริยธรรมวิชาชีพนิเทศศาสตร์” เอกสารการสอนชุดวิชาประสบการณ์
วิช าชี พ นิ เท ศ ศ าส ต ร์ ห น่ ว ย ท่ี ๘ –๑ ๕ , พิ ม พ์ ค ร้ั ง ท่ี ๑ ๒ , น น ท บุ รี : ส านั ก พิ ม พ์
มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช, ๒๕๔๕.

มนั่ เกียรติ โกศลนิรัติวงษ,์ พทุ ธธรรม: เทคนิคในการใหค้ าปรึกษา กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น, ๒๕๔๑
มุกดา ศรียงค,์ บุคลกิ ภาพสมบูรณ์, กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พม์ หาวิทยาลยั รามคาแหง, ๒๕๓๔

ยงยทุ ธ เกษสาคร, ภาวะผู้นาและการจูงใจ, กรุงเทพมหานคร : ศนู ยเ์ อกสารและตาราสถาบนั ราชภฎั สวนดุสิต
, ๒๕๔๑

ราชบัณฑิตยสถาน,พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน, กรุงเทพมหานคร: อกั ษรเจริญทศั น์,๒๕๒๕.
ราชบณั ฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒, พิมพค์ ร้ังที่ ๑ กรุงเทพมหานคร:

นามมีบุ๊คส์พบั ลเิ คชนั ส์, ๒๕๔๖

๒๖๑

ริเรืองรอง รัตนวิไลสกุล, มนุษยสมั พนั ธ์ กรุงเทพมหานคร: โครงการส่งเสริมการสร้างตารางานเอกสาร
และการพิมพส์ ถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบุรี, ๒๕๔๐

รศ.ดร.ฉตั รสุมาลย์ กบิลสิงห์, “ขงจ้ือ : คาสอนทางปรัชญา-ศาสนา.” เอเชียตะวนั ออกศกึ ษา ปี ท่ี ๒ (มิถนุ ายน
๒๕๓๒

ลาล มณีโชศ.ี พราหมณ์ พุทธ ฮินดู แปลโดย กรุณา กศุ ลาสยั . พิมพค์ ร้ังที่ ๒, กรุงเทพมหานคร : แมค่ าผาง,
๒๕๔๒.

ลกั ษณา สตะเวทิน, หลกั การประชาสัมพนั ธ์, พมิ พค์ ร้ังท่ี ๒, กรุงเทพมหานคร : บริษทั เฟ่ื องฟ้ าพร้ินต้ิงจากดั ,
๒๕๔๒.

วศนิ อนิ ทสระ. พุทธวธิ ีในการสอน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพม์ หามกุฎราชวิทยาลยั , ๒๕๓๘.

___________, การเผยแผ่ศาสนา, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพก์ ิตติวรรณการพิมพ,์ ๒๕๓๖

____________, ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา, พิมพ์คร้ังท่ี ๒, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์เจริญกิจ,
๒๕๓๕

____________, พทุ ธจริยศาสตร์, พิมพค์ ร้ังท่ี ๒ (กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พธ์ รรมดา ๒๕๔๙

วสนั ต์ พงศส์ ุประดิษฐ.์ พลงั เพม่ิ พลงั พูด. กรุงเทพมหานคร : ก.พลพมิ พ,์ ๒๕๔๐

วรี ะ อรัญมงคล, การประชาสัมพันธ์, พิมพค์ ร้ังที่ ๒, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพส์ ุดจิตออฟเซต, ๒๕๓๘
วรรณ ปิ ลนั ธนโอวาท, การส่ือสารเพอื่ การโน้มน้าวใจ. พมิ พค์ ร้ังท่ี๒, กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพจ์ ุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลยั , ๒๕๔๒.

วรพล พรหมิกบุตร, สังคมวทิ ยาจุลภาค, กรุงเทพมหานคร : วิทยาลยั เกษมบณั ฑิต, ๒๕๓๑

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเวศ วะสี, พุทธวิบัติ ตอน พระพุทธศาสนากับจิตวิญญาณสังคมไทย,
กรุงเทพมหานคร : บริษทั อมรินทร์พร้ินติ้งแอนดพ์ บั ลชิ ชิ่ง จากดั ๒๕๔๒

ศ.เสฐียร พนั ธรังษี, ศาสนาโบราณ กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พม์ หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๓๔

____________, ศาสนาเปรียบเทียบ กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพม์ หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๓๔

ศภุ รัศม์ิ ฐิติกุลเจริญ. ทฤษฎีการส่ือสาร. พิมพค์ ร้ังท่ี ๓, กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง, ๒๕๔๔.
ศรีเรือน แกว้ กงั วาหน้า, ทฤษฎีการพัฒนาบุคลิกภาพ, กรุงเทพมหานคร : เรือนแกว้ การพมิ พ,์ ๒๕๓๙สนิท
ศรีสาแดง. พระพทุ ธศาสนากบั การศึกษา. กรุงเทพ ฯ : นีลนาราการการพิมพ,์ ๒๕๓๔.
สมควร กวียะ. หน่วยท่ี ๒ ทฤษฎีการสื่อสารกับการประยุกต์ใชใ้ นงานสารสนเทศ. เอกสารการสอนชุด

วิ ช า ก า ร ส่ื อ ส า ร (ฉ บั บ ป รั บ ป รุ ง ค ร้ั ง ท่ี ๑ ). ก รุ ง เท พ ม ห า น ค ร : โ ร ง พิ ม พ์
มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช นนทบุรี, ๒๕๔๖.

๒๖๒

____________, ก า ร สื่ อ ส า ร ม ว ล ช น : บ ท บ า ท ห น้ า ท่ี /สิ ท ธิ /เส รี ภ าพ /ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ ,
กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพโ์ กสินทร์, พ. ศ. ๒๕๔๗

สมฤดี วิศทเวทย,์ “ภาษากบั ความจริงในพระพุทธศาสนาเถรวาท”, วารสารพุทธศาสน์ศึกษาจฬุ าลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั , ฉบบั ที่ ๑, (ม.ค.-เม.ย., ๒๕๔๖) .

สมถวิล ธนวทิ ยาพน, เอกสารประกอบการสอนรายวชิ า จริยธรรมกบั ชีวติ ,(ภาควชิ าปรัชญาและศาสนาคณะ
วิชามนุษยศ์ าสตรและสงั คมศาสตร์ สถาบนั ราชภฏั จนั ทรเกษม พ.ศ. ๒๕๓๗

สมบรู ณ์ สุขสาราญ, บทบาทของวดั และพระสงฆ์ในอนาคต, กรุงเทพมหานคร : คณะกรรมการศาสนาเพ่ือ
การพฒั นา, ๒๕๒๕

สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑั ฒนมหาเถร). หลกั การศึกษาของพระพุทธเจ้า. กรุงเทพมหานคร: โรง
พมิ พม์ หามกุฎราชวิทยาลยั , ๒๕๔๑.

สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. พุทธประวตั .ิ กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพม์ หา มกุฎ
ราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๑.

สมเดจ็ พระมหารัชมงั คลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ), การเผยแผ่พระพุทธศาสนา, คู่มือพระสังฆาธิการว่าด้วย
เร่ืองการคณะสงฆ์และการศาสนา, กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พก์ ารศาสนา, ๒๕๔๐

สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดารงราชานุภาพ, ตานานพระพุทธเจดยี ์, (กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พ์ มติชน ,
๒๕๔๕
สมาน งามสนิท, องค์ประกอบของการส่ือสารท่ีพึงประสงค์ตามแนวพทุ ธะ, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์

มหาวิทยาลยั สยาม, ๒๕๓๒
สานกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ กระทรวงศกึ ษาธิการ ศึกษาศาสตร์ตามแนวพุทธศาสตร์ ภาค

๒. กรุงเทพ: ม.ป.ท., ๒๕๒๖.
สานักคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, พระราชบัญญัติการศึกษาแห่ งชาติ พุทธศักราช, ๒๕๔๒,

(กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พส์ านกั นายกรัฐมนตรี, ม.ป.ป.
สานกั เสริมศกึ ษาและบริการสงั คม มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ บทบาทของพระสงฆ์เพอื่ การพฒั นาสังคมไทย

, กรุงเทพมหานคร : ศูนยพ์ ระสงฆน์ ักเผยแผ่ธรรมเพ่ือพฒั นาสังคม : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์
วนั พธุ และวนั พฤหสั บดี ท่ี ๑๕-๑๖ มกราคม ๒๕๔๖ (เอกสารอดั สาเนา).
สิริวฒั น์ คาวนั สา, ประวตั พิ ระพทุ ธศาสนาในประเทศไทย, กรุงเทพมหานคร : บริษทั จรัลสนิทวงศก์ ารพมิ พ์
จากดั , ๒๕๔๒
______________, ประวัติพระพุทธศาสนาในประเทศไทย, (กรุงเทพมหานคร : มหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลยั , ๒๕๓๔
เสถียร ชาวไทย. คุณธรรมความเป็ นครู (บทความทางวิชาการ ๕๐ ปี อุดมศึกษา มหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลยั . กรุงเทพมหานคร : มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๐.
เสถยี ร โพธินนั ทะ, ประวตั ศิ าสตร์พระพทุ ธศาสนา, พระนคร : บรรณาคาร, ๒๕๑๓
เสถยี รพงษ์ วรรณปก. พทุ ธวิธีสอนจากพระไตรปิ ฎก. กรุงเทพมหานคร : เพชรรุ่งการพมิ พ,์ ๒๕๔๐.
เสรี วงษม์ ณฑา, การประชาสัมพันธ์: ทฤษฎีและปฏิบัติ, กรุงเทพมหานคร : บริษทั ธีระฟิ ลมแ์ ละไซเท็กซ์
จากดั , ๒๕๔๒.

๒๖๓

เสถยี รพงษ์ วรรณปก. คาบรรยายพระไตรปิ ฎก. กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา, ๒๕๔๓.
แสง จนั ทร์งาม. วธิ สี อนของพระพทุ ธเจ้า. กรุงเทพมหานคร : ม.ป.พ.
แสง จนั ทร์งาม. พทุ ธวธิ ีสอนของพระพุทธเจ้า. กรุงเทพมหานคร : กมลการพิมพ,์ ๒๕๒๖.
ไสว มาลาทอง ค่มู อื การศึกษาจริยธรรม , กรุงเทพมหานคร :โรงพมิ พก์ ารศาสนา ๒๕๔๒
สุชีพ ปุญญานุภาพ. ธรรมะของพระพุทธเจ้า. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พม์ หามกุฎราชวิทยาลยั , ๒๕๔๐.
สุชีพ ปุญญานุภาพ. ธรรมะของพระพุทธเจ้า. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพม์ หามกุฎราชวิทยาลยั , ๒๕๔๐.
สุชา จนั ทน์เอม, จิตวทิ ยาในชีวติ ประจาวนั กรุงเทพมหานคร: ไทยวฒั นาพานิช, ๒๕๓๔
สุดสงวน. ภาษาท่ีใช้ในการประกวดสุนทรพจน์ ฉบบั ท่ี ๒๖๖๑ ปี ที่ ๕๑ ประจาวนั องั คารท่ี ๑๘ ตุลาคม

๒๕๔๘. mailto:Nuttapongo @ thaicentral.com
สุมน อมรวิวฒั น์. การสอนโดยโครงสร้างศรัทธาและโยนิโสมนสิการ. โครงการตาราคณะครุศาสตร์

กรุงเทพมหานคร : จุฬาลากรณมหาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๕.
_______________.สมบัติทิพย์ของการศึกษาไทย, พิมพ์คร้ังที่ ๒. กรุงเทพเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลยั , ๒๕๓๕
สุทธิวงศ์ พงศไ์ พบลู ย,์ พทุ ธศาสน์ , กรุงเทพมหานคร : ไทยวฒั นาพานิช, ๒๕๑๙
องคก์ ารเผยแผว่ ดั ประยรู วงศาวาสวรวหิ าร, วชิ าการเทศนา, กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พก์ ารศาสนา, ๒๕๔๖.
อรทัย พนาราม,“สื่อมวลชนกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนา,” วารสารพุทธศาสน์ศึกษา จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลยั , ปี ท่ี ๑๑ ฉบบั ที่ ๓, กนั ยายน – ธนั วาคม ๒๕๔๗.
อรวรรณ ปิ ลนั ธนโ์ อวาท. การส่ือสารเพอ่ื การโน้มน้าวใจ. กรุงเทพมหานคร : ภาควิชาวาทวทิ ยาและสื่อสาร

การแสดง คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๗.
อรุณีประภา หอมเศรษฐี และคณะ. ภาษาเพ่ือการส่ือสารมวลชน. กรุงเทพมหานคร :ภาควิชาสื่อสารมวลชน

คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง, ๒๕๓๒.
อุดม วโรตมส์ ิกขดิตถ.์ ภาษาศาสตร์เบือ้ งต้น. กรุงเทพมหานคร : ภาควิชาภาษาองั กฤษและภาษาศาสตร์

คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง, ๒๕๓๕.

๓. รายงานวจิ ยั

อบุ ลรัตน์ ศิริยวุ ศกั ด์ิ. รายงานผลการวจิ ยั เร่ืองการศึกษานิเทศศาสตร์ (ระดับอุดมศึกษา) ในประเทศไทย .
กรุงเทพมหานคร : โครงการเผยแพร่ผลงานวจิ ยั ฝ่ ายวจิ ยั จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , ๒๕๓๐.

๔. วทิ ยานิพจน์

พระราชปั ญญาภรณ์ (ชยวโส/ไชยวงศ์), “ศึกษารู ปแบบและแนวทางการเผยแผ่ธรรมทางสถานี
วทิ ยกุ ระจายเสียงแห่งประเทศไทย : ศึกษาเฉพาะกรณีการแสดงพระธรรมเทศนาในวนั ธมั มสั สวนะ

๒๖๔

ระหว่าง พ.ศ.๒๕๓๙-๒๕๔๒,” วิทยานิพนธ์ พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๔๘

พระกิตติ ศักด์ิ ยโสธโร (แก้วเหลา), “การศึกษ าบทบ าท ของพ ระสารี บุ ตรเถระในการเผยแผ่
พระพทุ ธศาสนา”, วทิ ยานิพนธ์พทุ ธศาสตรมหาบัณฑติ , บณั ฑิตวทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลยั , ๒๕๓๙

พระชชั วาล ศรีสุข, “ศาสนากบั การพฒั นาบุคลิกภาพ : ศึกษาเปรียบเทียบหลกั คาสอนเก่ียวกบั การพฒั นา
บุคลิกภาพในพทุ ธศาสนาและศาสนาคริสต.์ ” วิทยานิพนธม์ หาบณั ฑิต สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ
บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั มหิดล, ๒๕๔๑

พระฉลวย อุตฺตโม (กาแพงนิล). วเิ คราะห์วธิ ตี อบปัญหาของพระพทุ ธเจ้า. วิทยานิพนธป์ ริญญาพุทธศาสตร
มหาบณั ฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ,
๒๕๔๗.

พระธนนาถ นิธิปญฺโญ (พลกรณ์). การศึกษาบทบาทของอาจารย์สุจนิ ต์ บริหารวนเขตต์ในการเผยแผ่ธรรม.
วิทยานิพนธ์ปริ ญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๗.

พระบุญโชค ชยธมฺโม (ส่งแสง). ศึกษารูปแบบและวธิ ีการเทศนาของพระสงฆไ์ ทยในปัจจุบนั , วทิ ยานพิ นธ์
พุทธศาสรมหาบัณฑิต, บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั พุทธศกั ราช
๒๕๔๗),

พระพีรพงศ์ พีรสกฺโก (ศรีฟ้ า), ศึกษารูปแบบและวิธีการประชาสัมพนั ธข์ องยวุ พุทธิกสมาคมแห่งประเทศ
ไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์, วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, บณั ฑิตวิทยาลยั : มหาวิทยาลยั
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๕๓

พระมหาประสิทธ์ิ รวมพิมาย, “บทบาทพระธรรมทูตภายในประเทศ : ศึกษาจากกรอบความคิดโรงการพระ
ธรรมทูต สานักงานพระธรรมทูตสายท่ี ๒ เฉพาะกรณี ศูนยง์ านพระธรรมทูตจงั หวดั ลพบุรี ”,
วทิ ยานพิ นธ์มหาบณั ฑติ , คณะสงั คมสงเคราะห์ศาสตร์ : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๓๘.

พระมหาจรูญ ปญฺ ญาวโร (อินทร์ยงค์), ‚การศึกษาบทบาทของพระมหากัสสปเถระในการเผยแผ่
พระพทุ ธศาสนา‛, วทิ ยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑติ , บณั ฑิตวิทยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลง
กรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๐.

พระมหาจิตติ ภัทร อจลธมโม (จันทร์ คุ้ม), ‚การศึกษ าบทบาทของพ ระอานนท์ในการเผยแผ่
พระพทุ ธศาสนา‛, วทิ ยานพิ นธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑติ , บณั ฑิตวิทยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลยั , ๒๕๓๗.

๒๖๕

พระมหาสุชญา โรจนญาโณ, “การศกึ ษาบทบาทของพระมหาโมคคลั ลานะในการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา”,
วทิ ยานิพนธ์ปริญญาพทุ ธศาสตรมหาบัณฑติ , บณั ฑิตวิทยาลยั : มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลยั , ๒๕๔๐

พระมหาสนธ์ สนฺ ติกโร(เกษมญาติ), ‚การศึกษาบทบาทของพระมหากัจจายนเถระในการเผยแผ่
พระพทุ ธศาสนา, วทิ ยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, บณั ฑิตวทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลง
กรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๔.

พระวฒุ ิกรณ์ วฑุ ฺฒิกรโณ. ศึกษาเทคนคิ และวธิ ีการเผยแผ่พทุ ธธรรมของพระราชวรมุนี (ประยูร ธมฺมจติ โฺ ต).
วทิ ยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบณั ฑิต, บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั .
๒๕๔๓.

พระสุนทร รตนปญฺโญ (มติยาภกั ด์ิ). การศึกษาปัญหาเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยในการส่ือสารเพอ่ื การเผยแผ่
ธรรมะในยคุ ปัจจุบัน. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาธรรมนิเทศ บณั ฑิตวิทยาลยั
มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๘.

มนตรี ธีรธรรมพิพฒั น์, “จริยธรรมกบั ภาวะผนู้ า : ศกึ ษาทศั นะของนักวชิ าการรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลยั ใน
ประเทศไทยที่มีต่อผนู้ าทางการเมือง.” วิทยานิพนธม์ หาบณั ฑิต สาขาวชิ าจริยศาสตร์ศึกษา บณั ฑิต
วิทยาลยั มหาวิทยาลยั มหิดล, ๒๕๔๐

อนงค์ โกวทิ เสถียรชยั , “มนุษยใ์ นอุดมคติ : ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดในสัทธรรมปุณฑริกสูตรและ
งานเขียนเรื่องอุตมรัฐของเพลโต.” วทิ ยานิพนธม์ หาบณั ฑิต สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ บณั ฑิต
วิทยาลยั มหาวิทยาลยั มหิดล, ๒๕๔๑

๔. ภาษาองั กฤษ

Davis Kinsey, Human Society, (New York : The Macillan Company, 1966), p. 45.

Ernest, R. Hilgard, Introduction to Psychology, (New York : Harcourt Brace and World Inc., 1965), p.
109.

Encyclopaedia Britannica, (London : Encyclopaedia Britannica, Ltd. London, vols 17, 1959), p. 605.

Edward, J. Thomas, the Life of Buddha as Legend and History (New Delhi : Munshiran Manoharlal Publishers Pvt.
Ltd., 1992), p. 53.

George A. Miller, Language and Communication, New York: Mc Craw- Hill, 1951, p. 6.

Schramm,The Process and Effects of Mass Communication, (Urbana, lll.: University of lllinois
Press, 1960), p. 6

๒๖๖

Wilbur Schramm and D. F. Roberts (eds.), How Communication Works, in the Process and Effect of Mass
Communication, Urbana III : University of Illinois, 1957, p. 13.

Warren W. Weaver and Claude E.Shannon,The Mathermatical theory of Communication, Urbana, lllinois : The
University of lllinois, Press, 1949, p. 95.

Wilbur Schramm, The Process and Effects of Mass Communication, Wilbur Schramm and Donald F. R
oberts eds. Urbana, lllinois : University of lllinois Press, 1974, p. 13.

Wilbur schramm ed, The Process and Effects of Mass Communication, (Urbana,lll. : University of
lllinois Press, 1960), p. 3.

******************

ประวตั ผิ ้เู ขยี น

ดร.ไพฑรู ย์ สวนมะไฟ (Dr.Phaitoon Suanmafai)

อาจารย์ประจาสาขาวชิ าพระพุทธศาสนา

วทิ ยาลยั สงฆ์ร้อยเอด็ มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั

๑. การศึกษา

๑.๑ นกั ธรรมช้นั เอก สำนกั เรียนคณะจงั หวดั ร้อยเอด็

๑.๒ เปรียญธรรม ๔ ประโยค สำนกั เรียนคณะจงั หวดั ร้อยเอด็

๑.๓ ศำสนศำสตรบณั ฑิต (ศน.บ.) สำขำวชิ ำปรัชญำ มหำวทิ ยำลยั มหำมกฎุ รำชวทิ ยำลยั

๑.๔ M.A.(Buddhist Studies) มหำวิทยำลยั มคธ ประเทศอนิ เดีย

๑.๕ Ph.D.(Buddhist Studies) มหำวิทยำลยั มคธ ประเทศอนิ เดีย

๒. การทางาน

อำจำรยป์ ระจำสำขำวิชำพระพทุ ธศำสนำ, อำจำรยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบและประจำหลกั สูตรพทุ ธศำสตร
มหำบณั ฑิต สำขำวิชำพระพทุ ธศำสนำ วทิ ยำลยั สงฆร์ ้อยเอด็ มหำวทิ ยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำชวทิ ยำลยั

๓. ผลงานวชิ าการ

๓.๑ งานวจิ ยั :
๑) ศึกษำควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงควำมเช่ือกบั รูปแบบกำรปฏิบตั ิธรรมท่ีส่งผลต่อคุณภำพชีวิต
ของผูป้ ฏิบัติธรรมในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด : ศึกษำกรณี สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดร้อยเอ็ด
(โครงกำรพฒั นำนักวิจยั รุ่นใหม่) สถำบันวิจยั พุทธศำสตร์ มหำวิทยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลยั
ปี งบประมำณ ๒๕๕๕
๒) รูปแบบกำรปฏิบัติธรรมท่ีมีผลต่อกำรพัฒนำคุณภำพชีวิตของพุทธศำสนิกชนจงั หวดั
ร้อยเอ็ด ทุนวิจยั สถำบันวิจัยพุทธศำสตร์ มหำวิทยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลยั ปี งบประมำณ
๒๕๕๗
๓) กำรมีส่วนร่วมของพระสงฆ์ในกำรจดั กำรแหล่งโบรำณคดีจังหวดั ร้อยเอ็ด ทุนวิจัย
สถำบนั วจิ ยั พุทธศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลยั ปี งบประมำณ ๒๕๕๘

๓.๒ บทความวชิ าการ
๑) พุทธจริยศำสตร์กบั ประเดน็ ปัญหำกำรทำแทง้ ในสงั คมไทย” ในหนงั สือ พุทธธรรมกบั กำร
พฒั นำสงั คมและเศรษฐกิจ งำนประชุมวิชำกำรทำงพระพทุ ธศำสนำนำนำชำติ คร้ังท่ี ๘ เนื่องในวนั วิ
สำขบูชำ วนั สำคญั สำกลของโลก วนั ท่ี ๑๒-๑๔ พฤษภำคม ๒๕๕๔. ณ มหำวิทยำลยั มหำจุฬำลง
กรณรำชวทิ ยำลยั
๒) ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงควำมเช่ือกบั รูปแบบกำรปฏิบตั ิธรรมที่ส่งผลต่อคุณภำพชีวิตของผู้
ปฏิบตั ิธรรมในเขตจงั หวดั ร้อยเอด็ : ศึกษำกรณี สำนกั ปฏิบตั ิธรรมประจำจงั หวดั ร้อยเอ็ด” กำรประชุม
วชิ ำกำรระดบั ชำติ “กำรบรู ณำกำรพระพุทธศำสนำกบั ศำสตร์สมยั ใหม่เพอื่ พฒั นำประเทศไทยใหย้ ง่ั ยืน
ในประชำคมอำเชียน วนั ที่ ๒๒-๒๓ ธนั วำคม ๒๕๕๗ ณ มหำวิทยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลยั
วิทยำเขตขอนแก่น
๓ ) A Pattern of the Dhamma Practice toward the Buddhist Quality of Life Development in
Roi-Et Province สมั มนำวิจยั พุทธศำสนำนำนำชำติ คร้ังที่ ๗ วนั ที่ ๑๘ –๒๐ กมุ ภำพนั ธ์ ๒๕๕๙

๒๖๘

ณ มหำวิทยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลยั วิทยำลยั สงฆน์ ครน่ำน เฉลมิ พระเกียรติฯ
๔) การปฏิบัติธรรมที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพุทธศาสนิกชนจงั หวัดร้อยเอ็ด

กำรประชุมวิชำกำรระดบั ชำติ คร้ังท่ี ๑ วนั ท่ี ๒๐ มีนำคม ๒๕๖๐ ณ มหำวทิ ยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำช
วทิ ยำลยั วทิ ยำลยั สงฆบ์ ุรีรัมย์

๕ ) Monks' Participation in Management of Archaeological Sites in Roi-Et Province
กำรประชุมสัมมนำวิชำกำรระดบั นำนำชำติ คร้ังที่ ๑ พระพุทธศำสนำกบั กำรพฒั นำสงั คมและ
วฒั นธรรมในลุ่มน้ำโขงสู่ไทยแลนด์ ๔.๐ วนั ท่ี ๓-๔ ธนั วำคม ๒๕๖๐ ณ มหำวิทยำลยั มหำจุฬำลง
กรณรำชวิทยำลยั วิทยำลยั สงฆน์ ครพนม

๖) การมีส่ วนร่วมของพระสงฆ์ในการจัดการแหล่งโบราณคดีจงั หวัดร้อยเอ็ด กำรประชุม
วิชำกำรระดบั นำนำชำติ ๙ และระดบั ชำติ คร้ังท่ี ๑ วฒั นธรรมเชิงพุทธกบั กำรพฒั นำที่ยง่ั ยนื วนั ที่ ๒-๓
เมษำยน ๒๕๖๑ ณ มหำวิทยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลยั วทิ ยำลยั สงฆศ์ รีสะเกษ

๓.๓ หนังสือ
-นิเทศศำสตร์ในพระไตรปิ ฎก

๓.๔ เอกสารประกอบการสอน
๑) ธรรมนิเทศ
๒) หลกั พุทธธรรม


Click to View FlipBook Version