The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2563 ภาวะผู้นำทางการเมืองของผู้นำท้องถิ่นในองค์การบริหารตำบลกุดน้ำใส อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
THE POLITICAL LEADERSHIP OF LOCAL LEADERS IN KUD NAM SAI SUBDISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION, CHATTURAT DISTRICT, CHAIYAPHUM PROVINCE พระประสิทธิ์ สุเขธิโต (บุญหนา)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

2563 ภาวะผู้นำทางการเมืองของผู้นำท้องถิ่นในองค์การบริหารตำบลกุดน้ำใส อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ THE POLITICAL LEADERSHIP OF LOCAL LEADERS IN KUD NAM SAI SUBDISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION, CHATTURAT DISTRICT, CHAIYAPHUM PROVINCE พระประสิทธิ์ สุเขธิโ

2563 ภาวะผู้นำทางการเมืองของผู้นำท้องถิ่นในองค์การบริหารตำบลกุดน้ำใส อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
THE POLITICAL LEADERSHIP OF LOCAL LEADERS IN KUD NAM SAI SUBDISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION, CHATTURAT DISTRICT, CHAIYAPHUM PROVINCE พระประสิทธิ์ สุเขธิโต (บุญหนา)

Keywords: 2563,ภาวะผู้นำทางการเมืองของผู้นำท้องถิ่นในองค์การบริหารตำบลกุดน้ำใส อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ,THE POLITICAL LEADERSHIP OF LOCAL LEADERS IN KUD NAM SAI SUBDISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION, CHATTURAT DISTRICT, CHAIYAPHUM PROVINCE,พระประสิทธิ์ สุเขธิโต (บุญหนา)

๓๓

โปร่งใส มากที่สุด รองลงมาคือด้านความยุติธรรม ด้านความรับผิดชอบ ด้านการใช้ความรู้ในการ
บริหารงาน ด้านการกล้าตัดสินใจ ด้านความสําเร็จของงาน และพบน้อยที่สุดคือ ด้านความริเริ่ม
สร้างสรรค์ระดับความคิดเห็นที่มีต่อภาวะความเป็นผู้นําของนายกองค์การบริหารส่วนตําบลในเขต
จงั หวดั ขอนแก่น จาํ แนกตามเพศ และรายไดม้ ีความแตกต่างกัน๓๕

ประสิน วีระกุล ได้ศึกษาเรื่อง ภาวะผู้นําการเปล่ียนแปลงกับประสิทธิผลต่อการ
ปฏิบัติงานของนายกองค์การบริหารส่วนตําบลศึกษาเฉพาะองค์การบริหารส่วนตําบลในเขตอําเภอ
เมอื ง จังหวัดปทุมธานี พบว่า ปัจจัยการบริหารขององคก์ ารบรหิ ารส่วนตําบลทั้ง ๔ ด้าน ในภาพรวมมี
การวัดระดับภาวะผู้นําการเปล่ียนแปลงของผู้บริหารระดับท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตําบล
อาํ เภอเมือง จังหวัดปทุมธานี อยใู่ นระดับปานกลางเมื่อพิจารณารายด้าน พบดังน้ี ดา้ นการมีวสิ ัยทัศน์
อยู่ในระดับปานกลาง ด้านการท่ีผู้นําใช้อํานาจหน้าที่อย่างฉลาด ด้านการท่ีผู้นํามีความฉลาดทาง
อารมณ์ด้านการกระตุ้นเชิงปัญญาระดับความคิดเห็นของประชาชนจําแนกตามเพศ อายุ การศึกษา
สถานภาพการสมรส รายได้ ไมแ่ ตกต่างกนั ๓๖

ประนอม แมนมาศวิหค ได้ศึกษาภาวะผู้นําการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลการ
ปฏิบัติงานของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตําบล อําเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ภาวะผู้นํา
การเปลี่ยนแปลง ซ่ึงมีองค์ประกอบ ่ ๔ ด้าน คือ ด้านการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ ด้านการสร้าง
แรงบันดาลใจ ด้านการกระตุ้นทางปญั ญา และดา้ นการคํานึงถงึ ปัจเจกชน ในภาพรวมอยูในระดับปาน
กลาง เมอื่ วิเคราะห์รายด้านมีเพียงด้านการคาํ นงึ ถงึ ความเป็นปัจเจกชนทม่ี ีระดับคะแนนสงู ส่วนอีก ๓
ด้านอยู่ในระดับปานกลางระดับความคิดเห็นของประชาชนจําแนกตามเพศ อายุ การศึกษา
สถานภาพการสมรส รายได้ ไม่แตกต่างกัน๓๗

๓๕ สุภชัย เอาะน้อย, “ภาวะความเป็นผู้นําของนายกองค์การบริหารส่วนตําบลในเขตจังหวัดขอนแก่น”,
การศกึ ษาอสิ ระรฐั ประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑิตวทิ ยาลยั : มหาวิทยาลยั ขอนแก่น, ๒๕๕๐), หนา้ ๕๖-๖๑.

๓๖ ประสิน วีระกุล, “ภาวะผู้นําการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของนายกองค์การ
บริหารส่วนตําบล: กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตําบล อําเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี”, การศึกษาอิสระ
รฐั ปรศาสนศาสตรมหาบณั ฑติ , (บณั ฑิตวทิ ยาลัย: มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๒), หนา้ ๘๔.

๓๗ ประนอม แมนมาศวิหค, “ภาวะผู้นําการเปล่ียนแปลงกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของผู้บริหาร
องค์การบริหารส่วนตําบลอําเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์”, วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, (บัณฑิต
วิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, ๒๕๕๓), หนา้ ๙๑-๙๒.

๓๔

ตารางที่ ๒.๗ สรุปงานวิจยั ทีเ่ กี่ยวกับภาวะผู้นาํ ท้องถนิ่

นักวจิ ยั ผลการวิจัย
ธนสรร ธรรมสอน และ
บญุ ทัน ดอกไทสง (วิทยานิพนธ.์ ๒๕๕๘) ผลการวิจัยพบว่ามีความเข้มแข็ง เสียสละ
อดทนว่องไวต่อปัญหาตลอดเวลา มีความก้าวหน้า
เกศสุดา โภคานติ ยแ์ ละ ริเริ่มสร้างสรรค์ มีความคิดท่ียืดหยุ่นขยันหมั่น
กีฬา หนยู ศ(วทิ ยานพิ นธ,์ ๒๕๕๘) เพียรมคี วามอุตสาหะ

ฉจั ชิสา เพชรหนองชุม(วทิ ยานพิ นธ์,๒๕๔๗) ผลการวิจัยพบว่าประชาชนมีความคิดต่อ
บทบาทของนายกองค์การบริหารส่วนตําบนใน
สุภาวดี จิตตริ ัตนกลุ (วทิ ยานิพนธ์,๒๕๕๐) ก า ร พั ฒ น า ท้ อ ง ถิ่ น โด ย ร ว ม อ ยู่ ใน ร ะ ดั บ ดี ม า ก
แ ส ด ง ให้ เห็ น ถึ งค ว า ม สํ า คั ญ ข อ ง น า ย ก ใน ก า ร
พัฒนาท้องถิ่น เพ่ือแก้ปัญหา และสนองความ
ตอ้ งการ

ผลการวิจัยพบว่านายกองค์การบริหารส่วน
ตําบลมีพฤติกรรมการเป็นผู้นําแบบประสานงาน
ระดับมากรองลงมาคือมีพฤติกรรมการเป็นผู้นํา
แบบมงุ่ งานตามลาํ ดบั

ผลการวจิ ัยพบว่าภาวะผ้นู ําโดยภาพรวมของ
นายกเทศมนตรีอยู่ในระดับสูง เม่ือพิจารณาเป็น
รายดา้ นทงั้ ๔ ด้าน โดยเรียงลําดับคา่ เฉลย่ี

ด้านการสร้างแรงบันดาลใจ
ด้านคาํ นงึ ถึงปจั เจกบุคคล
ดา้ นการกระตุ้นทางปญั ญา
ดา้ นการมีอิทธิพลอย่างมอี ดุ มการณ์

๒.๖.๒ งานวจิ ัยทีเ่ กยี่ วกับภาวะผนู้ ําตามหลักสัปปุริสธรรม ๗

จุฑามาศ กลมรัตน์ ได้ศึกษาเรื่องภาวะผู้นําท่ีพึงประสงค์:กรณีศึกษากรมสารบรรณ
ทหารบก ผลการวิจยั พบว่าคณุ ลักษณะเฉลี่ยของภาวะผู้นํา ของผูบ้ ริหารที่พึงประสงค์และคุณลักษณะ
ภาวะผู้นําของผู้บริหารท่ีเป็นจริงในปัจจุบันทั้งหมด ๕ ด้านคือ ความเป็นผู้นํา คุณธรรมและจริยธรรม
วิสัยทัศน์ ความสามารถในการปรับตัว และความยืดหยุ่น ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จากการ
วจิ ัยดังกล่าวพบว่า ตามความคดิ เห็นของขา้ ราชการในระดับผู้นาํ ของผบู้ ริหารที่พงึ ประสงค์อย่ใู นระดับ
สูงสดุ คือ มีคณุ ธรรมและจริยธรรม แต่ในความจริงในปจั จบุ ัน ระดบั ภาวะผู้นําของผบู้ รหิ ารอยู่ในระดับ
สูงสุดคือ ความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่น ในทางตรงกันข้ามความคิดเห็นของผู้บริหาร
ระดับสูงกลับมองว่าระดับภาวะผู้นําของผู้บริหารท่ีพึงประสงค์อยู่ในระดับสูงคือ มีความเป็นผู้นํา แต่
ในความจริงในปัจจุบันภาวะผู้นําของผู้บริหารอยู่ในระดับสูงสุดคือ คุณธรรมและจริยธรรม และปัจจัย

๓๕

ส่วนบุคคล เช่น เพศ อายุ ประเภทของข้าราชการ ยังเป็นปัจจัยท่ีทําให้ความคิดเห็นแตกต่างกันของ
ภาวะความเปน็ ผนู้ าํ ของผู้บรหิ ารท่ีพงึ ประสงคแ์ ละภาวะผนู้ ําของผบู้ รหิ ารทีเ่ ป็นจรงิ ในปัจจบุ ัน๓๘

นันทวรรณ อิสรานุวัฒน์ชัย ได้ศึกษาเรื่อง ภาวะผู้นําท่ีพึงประสงค์ในยุคโลกาภิวัตน์:
ศึกษาจากหลักพุทธธรรม พบว่าผู้นําท่ีพึงประสงค์ในยุคโลกาภิวัตน์ ต้องประกอบด้วยหลักครองตน
ครองคน ครองงาน เน้นคุณภาพการเป็นผู้นําที่ดีท้ังด้านคุณภาพ ด้านจิตใจ และด้านความสามารถจึง
จะนําพาหมู่คณะองค์การไปสู่ความสําเร็จได้ จากการศึกษาพบว่าผู้นําได้สร้างภาวะผู้นําหรือสร้างการ
ยอมรับให้เกิดข้ึนกับผู้ตาม ส่วนหนึ่งคือการนําเอาหลักพุทธธรรมไปประยุกต์ใช้ เป็นต้นว่า หลักพรหม
วิหาร ๔ หลักอทิ ธิบาท๔ สังคหวัตถุ ๔ หลกั ฆราวาสธรรม ๔๓๙

ทนงศักด์ิ วีระ ได้ศึกษาคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน
จังหวัด และความสามารถในการแก้ไขปัญหาตามความต้องการของประชาชนในอําเภอดอยเต่า
จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ๑) ปัญหาในอําเภอดอยเต่าท่ีสําคัญท่ีสุด ๕ ลําดับแรกคือ ปัญหาพืชผล
การเกษตร รองลงมาคือปัญหาความแห้งแล้ง ปัญหาการขาดแคลนน้ํา ปัญหาค่าครองชีพสูง และ
ปัญหาที่ดินทํากิน ๒) คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด คือเพศ
ชายอายุระหว่าง ๔๑-๕๐ ปีมีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี จบการศึกษาด้านการเมืองการปกครอง
กฎหมาย สมรสแล้ว มีอาชีพปัจจุบันเป็นนักการเมือง และมีภูมิลําเนาเป็นคนอําเภอดอยเต่ารวมท้ังมี
พฤตกิ รรม มงุ่ งานและพฤตกิ รรมมุ่งสัมพนั ธ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดบั มาก๔๐

พระมหาสุพัฒน์ สิริวณฺโณ ได้ศึกษาภาวะผู้นําตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ผลวิจัยพบว่า
๑) ระดับภาวะผู้นําของผู้บริหารตามหลักสัปปุริสธรรมขององค์การบริหารส่วนตําบล อําเภอบรรพต
พิสัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อจาํ แนกเป็นรายด้าน พบว่า ดา้ นท่ีมีค่าเฉล่ีย
สูงสุดคือ ด้านปุคคลปโรปรัญญุตา รองลงมา คือ ด้านธัมมัญญุตา ด้านอัตตัญญุตา ด้านปริสัญญุตา
ด้านมัตตัญญุตา ด้านอัตถัญญุตา และด้านกาลัญญุตา ตามลําดับ ๒) การเปรียบเทียบความคิดเห็น
ของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําของผู้บริหารตามหลักสัปปุริสธรรมขององค์การบริหารส่วนตําบล
อําเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีอายุ
การศึกษา อาชีพ และรายได้ ต่างกันมีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําของผู้บริหารตามหลักสัปปุริสธรรม
ขององค์การบริหารส่วนตําบล อําเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕และ ๐.๐๑ จึงยอมรับสมมติฐานที่ต้ังไว้ ส่วนประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความ

๓๘ จุฑามาศ กลมรัตน์, “ภาวะผู้นําท่ีพึงประสงค์:กรณีศึกษากรมสารบรรณทหารบก”,วิทยานิพนธ์
บริหารธรุ กจิ มหาบัณฑติ สาขาบรหิ ารธุรกจิ , (บัณฑิตวทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลัยกรุงเทพ, ๒๕๕๐), หน้า ๑๐๓.

๓๙ นันทวรรณ อิสรานุวฒั นช์ ัย, “ภาวะผู้นําที่พึงประสงค์ในยุคโลกาภิวัตน์: ศึกษาจากหลักพุทธธรรม”,
วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ
ราชวิทยาลยั , ๒๕๕๐), หน้า ๕๔.

๔๐ ทนงศักด์ิ วีระ, “คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ
ความสามารถในการแก้ไขปัญหาตามความต้องการของประชาชนในอําเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่”, การศึกษา
อสิ ระการจัดการมหาบณั ฑติ สาขาการจัดการ, (บณั ฑติ วิทยาลยั : มหาวิทยาลัยวลัยลกั ษณ,์ ๒๕๕๗),หนา้ ๘๐.

๓๖

คิดเห็นต่อภาวะผู้นําของผู้บริหารตามหลักสัปปุริสธรรมขององค์การบริหารส่วนตําบล อําเภอบรรพต
พิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย๔)ปัญหา อุปสรรค ต่อภาวะผู้นํา
ของผู้บริหารตามหลักสัปปุริสธรรมขององค์การบริหารส่วนตําบล อําเภอบรรพตพิสัย จังหวัด
นครสวรรค์ พบว่า โครงการบางคร้ังไม่ตรงต่อความต้องการของประชาชน การอนุรกั ษ์โบราณสถานท่ี
ทําได้ยากเนื่องจากเป็นสถานที่อยู่ติดกับชุมชน ผู้บริหารมีเวลาในการพบปะประชาชนน้อย
วันหยุดราชการเยอะ กิจกรรมน้อยและการทํางานยังไม่โปร่งใส เห็นแก่พวกพ้องทําให้ประชาชนขาด
ความเช่ือม่นั และการทํางานสรา้ งปญั หาและเบยี ดเบยี นแกป่ ระชาชน๔๑

พระมหาคมเพชร วชิรปญฺโญ (เรืองผา) ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การนําหลักสัปปุริสธรรม๗
มาประยุกตใ์ ช้ในการบริหารราชการสว่ นทอ้ งถิ่น : กรณีศึกษาเฉพาะองค์การบริหารส่วนตําบลใน
อําเภอบางบัวทองจังหวัดนนทบุรี” วา่ สัปปุริสธรรม๗คือธรรมของสัตบุรุษในการบริหารงานในองค์
การต่าง ๆ ถา้ องคก์ ารใดได้บุคลากรที่เป็นสัตบุรุษก็ย่อมจะสรา้ งความเจริญสามัคคีใหแ้ กห่ นว่ ยงาน
หรือองค์การอย่างสบายเพราะบุคลากรหรือผูบ้ ริหารใชห้ ลักการรู้จักเหตุรูจ้ ักผลรูจ้ ักตนเองรูจ้ ัก
ประมาณรเู้ วลารจู้ ักชุมชนและรู้บุคคลทงั้ ในชุมชนและองคก์ ารโดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตําบลทีผ่ ู้
วิจัยไดน้ ํามาเสนอนี้ใช้หลักธรรม๗ประการหรือไม่อยา่ งไรการนําหลักธรรมนี้มาประยุกตใ์ ชเ้ พื่อให้เกิด
ความสามคั คีในองคก์ ารเป็นแรงจูงใจในการทํางานของฝุายปฏิบัติตลอดจนการบริหารงานที่มีคุณภาพ
เกิดข้ึนอีกด้วยหลักสัปปุริสธรรม๗ประการแปลวา่ ธรรมของสัตบุรษุ ไดแ้ ก่คนดมี คี วามประพฤติทางกาย
วาจาถกู ตอ้ ง๔๒

ตารางที่ ๒.๘ สรุปงานวจิ ยั เกีย่ วกับภาวะผู้นาํ ที่พงึ ประสงค์ และภาวะผนู้ าํ ตามหลักสปั ปรุ สิ ธรรม ๗

นักวิจัย ผลการวจิ ยั
จุฑามาศ กลมรัตน์ (๒๕๕๐ )
ผลวิจัยพบว่าคุณลกั ษณะเฉล่ยี ของภาวะผูน้ าํ ทพี่ งึ
ประสงค์และคณุ ลกั ษณะภาวะผ้นู ําของผบู้ ริหาร ทเ่ี ป็น
จรงิ ในปัจจุบันมที ัง้ หมด ๕ ดา้ น คือ ความเป็นผ้นู าํ
คณุ ธรรมจริยธรรม วสิ ัยทศั น์ ความสามารถใน การ
ปรบั ตัวและความยดื หย่นุ ความสามารถในการ
เทคโนโลยี ตามความคดิ เหน็ ของข้าราชการระดับผู้ผ้นู าํ
ท่พี ึงประสงคส์ ูงสดุ คอื มคี ุณธรรมจริยธรรม

๔๑ พระมหาสุพัฒน์ สิริวณฺโณ, “ภาวะผู้นําตามหลักสัปปุริสธรรม ๗”, วิทยานิพนธ์พุทธศาสตร
มหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๒),
หนา้ ๘๐.

๔๒ พระมหาคมเพชร วชริ ปญฺโญ (เรืองผา), “การนําหลักสัปปุรสิ ธรรม๗มาประยุกต์ใช้ในการบรหิ าร
ราชการสว่ นทอ้ งถิ่น: กรณีศกึ ษาเฉพาะองค์การบรหิ ารส่วนตําบลในอาํ เภอบางบวั ทองจงั หวัดนนทบรุ ี”, วทิ ยานิพนธ์
พุทธศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพระพทุ ธศาสนา, (บณั ฑติ วิทยาลยั : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ,
๒๕๕๒), หน้า ๙๔.

๓๗

นักวิจัย ผลการวจิ ยั
ทะนงศักดิ์ วรี ะ ( ๒๕๔๙)
ผลการวิจยั พบวา่ ปญั หาในอาํ เภอดอยเตา่ ท่ีสําคญั ๕
พระมหาสุพฒั น์ สิรวิ ณฺโณ อันดับแรกไดแ้ ก่ ปัญหาการเกษตร ความแห้งแลง้ ปญั หา
(วิทยานิพนธ,์ ๒๕๕๒) การขาดแคลนนา้ํ คา่ ครองชพี สงู ท่ที ํากินสว่ นลักษณะที่
พึงประสงคพ์ บว่าเพศชายอายรุ ะหว่ าง ๔๐-๕๑ และมี
ภมู ลิ ําเนาเปน็ คนดอยเตา่ พฤติกรรมท่มี งุ่ งาน และมนุษย
สัมพนั ธ์อยใู่ นระดบั ดีมาก

ผลวิจัยพบวา่ ภาวะผนู้ ํากับหลักสปั ปุรสิ ธรรม
โครงการในบางคร้ังไมต่ รงต่อความต้องการของ
ประชาชนการอนุรักษโ์ บราณสถานทีท่ าํ ไดย้ ากเนอ่ื งจาก
เป็นสถานที่ติดกับชมุ ชน ผบู้ รหิ ารมเี วลาพบปะกับ
ประชาชนน้อย

๒.๗ กรอบแนวคิดการวจิ ยั

กรอบแนวคิดในการวิจัยการวิจัยครั้งน้ีผู้วิจัยได้ประยุกต์แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่
เก่ียวข้องกับภาวะผนู้ ําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินขององค์การบริหารส่วนตําบลมาสรุปให้เหมาะสม
กับงานวิจัย มาเป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยภาวะผู้นําทางการเมืองโดยใช้แนวคิดของแนดเลอร์
(Nadler) และ ทัชแมน (Tushman) ดงั กรอบแนวคิดในการวิจัยดังน้ี

ปัจจยั ส่วนบคุ คล ภาวะผนู้ าํ ทางการเมอื ง
-เพศ
-อายุ - ดา้ นการสรา้ งวิสัยทศั น์
-สถานภาพสมรส - ด้านการสรา้ งแรงจงู ใจ
-ระดับการศกึ ษา - ด้านความสามารถในการ
-อาชีพ ทาํ งานร่วมกบั ผ้อู น่ื
-รายได้เฉลีย่ - ดา้ นมนษุ ยสมั พนั ธ์
- ด้านความร้คู วามสามรถ

หลกั สปั ปรุ สิ ธรรม ๗
แผนภาพท่ี ๒.๑ กรอบแนวคดิ ในการวิจยั

บทที่ ๓

วิธดี าํ เนินการวิจัย

การวิจัยเร่ือง ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอ
จัตรุ สั จังหวัดชยั ภูมโิ ดยผู้วจิ ัยไดด้ ําเนินการตามลาํ ดับดงั น้ี

๓.๑ รปู แบบการวิจยั
๓.๒ ประชากร กลมุ่ ตัวอยา่ ง และผใู้ ห้ขอ้ มลู สาํ คัญ
๓.๓ เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการวจิ ยั
๓.๔ การเก็บรวบรวมข้อมลู
๓.๕ การวิเคราะห์ข้อมลู

๓.๑ รูปแบบการวิจัย

งานวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธีโดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research)
ซง่ึ การวิจัยเชงิ ปริมาณใชว้ ิธจี ากแบบสอบถาม (Questionnaire) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative
Research)ใชว้ ิธกี ารสัมภาษณเ์ ชิงลึก (In-depth Interview) กับผู้ใหข้ อ้ มูลสาํ คัญ (Key Informant)

๓.๒ ประชากร กลุ่มตัวอยา่ ง และผู้ให้ขอ้ มลู สําคัญ

๓.๒.๑ ประชากรได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตองค์บริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอ
จัตุรัส จงั หวัดชยั ภูมิ จํานวน ๑๔ หมบู่ ้านจํานวน ๗,๙๓๐ คน๑

๓.๒.๒ กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตองค์บริหาร
สว่ นตาํ บลกดุ นาํ้ ใส อําเภอจัตุรสั จงั หวัดชัยภมู ิ ๑๔ หมบู่ ้านจาํ นวน ๓๘๖ คน โดยการคาํ นวณดว้ ยการ
ใช้สูตรของ ทาโร่ ยามาเน่ (Yamane) ที่ระดับความเช่ือมั่น ๙๕% และการใช้เทคนิควิธีการสุ่ม
ตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งช้ันภูมิ (Stratified Random Sampling) และการสุ่มแบบบังเอิญ
(Accidental Sampling)ตามลาํ ดับดังน้ี

การคํานวณโดยใช้สูตรคํานวณของ ทาโร่ ยามาเน่ (Yamane) ในการหากลุ่มตัวอย่างที่
ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตองค์บริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส
จงั หวดั ชัยภมู ิ จํานวน ๑๔ หมู่บ้านจาํ นวน ๗๙๓๐ คน และได้กลุ่มตวั อย่าง จาํ นวน ๓๘๖ คน

๑ กองทะเบียนองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรสั จังหวดั ชัยภูมิ, ๒๕๖๓, (ข้อมลู ณ วันที่
๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓).

๓๙

สตู รทีใ่ ช้ n  N
N (e)2
1 

โดย n = จาํ นวนกลุม่ ตวั อยา่ ง
N = จํานวนของประชากรทั้งหมด
E = ความคลาดเคลือ่ นทยี่ อมรบั ได้(e = ๐.๐๕ )

แทนคา่ สตู ร = ๗๙๓๐
๗๙๓๐(๐.๐๐๒๕)


= ๗๙๓๐
๒๐.๕

= ๓๘๖

แบ่งจํานวนประชากรจากหมบู่ ้านทจ่ี ะใช้เปน็ กลมุ่ ตวั อย่างทงั้ หมด ๑๔ หม่บู า้ น ตามรายช่อื ใน
บญั ชขี ององค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส โดยใชว้ ธิ กี ารสมุ่ แบบชนั้ ภมู ิ (Stratified Random
Sampling) โดยใช้สตู รดงั นี้

p= ( )

p = ประชากรกลุ่มตัวอย่างของหมบู่ ้าน
P = จํานวนประชากรของหมู่บ้าน
= จํานวนกลุ่มตัวอย่างทง้ั หมด
N = จํานวนของประชากรทั้งหมด

แทนคา่ สตู ร p= ๑๖๐๗๐๙(๓๓๐๘๖)= ๗๘
p = ๗๘ คน

๔๐

ตารางที่ ๓.๑ กลมุ่ ตวั อยา่ งทใี่ ชใ้ นการวิจัยและการแทนค่าสตู รแบบช้นั ภูมิ

ที่ หมบู่ ้าน จํานวนประชากร/ คน กลมุ่ ตวั อยา่ ง/คน
๑. บา้ นตลาด ๑,๖๐๐ ๗๘
๒. บ้านวังเสมา ๗๗๕ ๓๘
๓. บ้านกุดนา้ํ ใส ๗๔๐ ๓๖
๔. บ้านวังวัด ๔๖๖ ๒๒
๕. บา้ นเดอ่ื ๙๔๐ ๔๖
๖. บา้ นสําโรงโคก ๗๗๔ ๓๘
๗. บ้านทา่ แตง ๒๙๐ ๑๔
๘. บ้านรวมมิตร ๑๒๘ ๖
๙. บ้านห้วยเปง้ ๕๖ ๔
๑๐. บ้านเหนอื ๓๓๐ ๑๖
๑๑. บา้ นดอนเกษตร ๒๒๐ ๑๐
๑๒. บ้านโพธทิ์ อง ๔๒๕ ๒๐
๑๓. บา้ นตลาด ๖๕๒ ๓๒
๑๔. บา้ นสาํ โรงโคก ๕๓๔ ๒๖

รวม ๗๙๓๐ คน ๓๘๖ คน

เลือกกลุ่มตวั อย่างแบบช้ันภมู ิท่ีไดต้ ามกําหนดแต่ละหมู่บา้ น แลว้ ผู้วจิ ัยนาํ แบบสอบถามไป
แจกโดยใช้การสุ่มแบบบังเอิญ(Accidental Sampling)ตามลาํ ดับ

๓.๒.๓ ผู้ให้ข้อมูลสาํ คญั

ผู้ให้ข้อมูลสําคัญ ได้แก่ สมาชิกสภาตําบลกุดนํ้าใส และพนักงานที่ทํางานในองค์การ

บริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใสจํานวน ๑๒ คน โดยใช้เทคนิควิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง(Purposive

Random Sampling)ได้แก่

๑ นายถวิล ภริ มย์ชม รองนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาํ บล

๒ นางสาวจันทร์เพญ็ คา่ ยใส รองนายกองค์การบริหารสว่ นตําบล

๓ เรืออากาศตรี วเิ ชยี ร ภริ มย์ชม เลขานุการนายกองค์การบรหิ ารส่วนตาํ บล

๔. นางปรียา โพธช์ิ ัย ประธานสภาองการบรหิ ารสว่ นตําบลกดุ น้ําใส

๕.นายประเสริฐ สทิ ธเิ วช รองประธานสภาองการบรหิ ารส่วนตาํ บลกุดนํ้าใส

๖. นางรัชนพี ร ภิรมยภ์ กั ดิ์ เลขานุการสภาองการบรหิ ารสว่ นตาํ บลกุดนํา้ ใส

๗. นายวรี ยทุ ธ เกษจตั ุรัส สมาชิกสภาองการบริหารสว่ นตาํ บลกดุ นาํ้ ใส หมู่ ๑

๘. นายประคง เรืองบุตร สมาชิกสภาองการบรหิ ารสว่ นตาํ บลกดุ น้ําใส หมู่ ๑

๙. นายสมควร โนนนก สมาชิกสภาองการบรหิ ารสว่ นตาํ บลกดุ น้ําใส หมู่ ๒

๑๐.นายนพพร เหลาทอง สมาชิกสภาองการบรหิ ารสว่ นตาํ บลกดุ นํ้าใส หมู่ ๓

๑๑. นายวิชา กล้ารอด สมาชิกสภาองการบรหิ ารส่วนตําบลกุดนา้ํ ใส หมู่ ๔

๑๒. นายสมจติ ร สูญศรี สมาชิกสภาองการบริหารส่วนตําบลกดุ น้าํ ใส หมู่ ๔

๔๑

๓.๓ เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั

ผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) และแบบสัมภาษณ์ (Interview) เป็นเครื่องมือ
ในการวจิ ัยโดยดําเนนิ การดังนี้

๓.๑.๑ ลกั ษณะเครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ในการวจิ ัย

๑) แบบสอบถาม (Questionnaire) แบบสอบถามมีลักษณะปลายปิดและ
ปลายเปิดโดยแบ่งออกเป็น ๓ ตอนดังน้ี

ตอนท่ี ๑ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ซ่ึงถาม
เกี่ยวกบั เพศ, อายุ, สถานภาพสมรส, การศกึ ษา อาชีพ และรายไดเ้ ฉลยี่ ตอ่ เดอื น

ตอนที่ ๒ สอบถามที่ถามเก่ียวกับภาวะทางการเมืองของผู้นําองค์การบริหารส่วน
ตําบลกุดนํ้าใสอําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ โดยได้กําหนดให้ผู้ท่ีตอบแบบสอบถาม ทําเครื่องหมาย (√)
ลงในช่องปริมาณความคิดเห็นท่ีผู้ตอบเห็นว่าตรงกับตนเองเพียงระดับเดียวจาก ๕ระดับ (Rating
Scale) ทัง้ ๕ ดา้ น จํานวน ๒๕ ข้อ

ตอนที่ ๓ สอบถามเก่ียวกับภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของ
ผู้นําองค์บริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิโดยได้กําหนดให้ผู้ท่ีตอบแบบสอบถาม
ทําเครื่องหมาย (√) ลงในช่องปริมาณความคิดเห็นทีผ่ ู้ตอบเห็นว่าตรงกับตนเองเพียงระดับเดียวจาก ๕
ระดบั (Rating Scale)๒ทง้ั ๓ด้าน จํานวน ๒๑ ขอ้

๒) แบบสมั ภาษณ์ (Interview Form) มลี ักษณะปลายเปิด โดยแบง่ เป็น ๓ ตอนดงั นี้
ตอนท่ี ๑ เป็นแบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ให้สัมภาษณ์ จํานวน ๔
ข้อ ประกอบด้วย ชอื่ นามสกุล ตาํ แหนง่ วนั เดอื นปีท่ีสัมภาษณ์ เวลาทส่ี มั ภาษณ์
ตอนที่ ๒ เป็นแบบสัมภาษณ์เก่ียวกับภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถ่ินในองค์การ
บริหารส่วนตาํ บลกดุ น้ําใส อาํ เภอจตั รุ ัส จงั หวัดชัยภูมิ จํานวน ๕ ขอ้
ตอนที่ ๓ เป็นแบบสัมภาษณ์เก่ียวกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อความมีภาวะ
ผู้นําทางการเมืองทอ้ งถิ่นในองคก์ ารบริหารส่วนตาํ บลกุดนาํ้ ใส อาํ เภอจตั รุ สั จังหวดั ชยั ภมู ิ จาํ นวน ๒ ข้อ

๓.๓.๒ การสร้างและ การตรวจสอบคณุ ภาพของเคร่อื งมอื

ข้ันตอนการสรา้ งเครอื่ งมือ

๑. แบบสอบถาม

ผู้วิจัยได้ดําเนินการสร้างแบบสอบถามในการวิจัย โดยศึกษาเอกสาร และงานวิจัย
ตา่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกบั ภาวะผู้นําทางการเมอื งท้องถิ่นในตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชยั ภูมิ โดย
มขี ัน้ ตอนดังต่อไปนี้

๒ สวุ รี ศิริโภคาภิรมย์, การวิจัยทางการศึกษา, (ลพบรุ :ี สถาบันราชภัฏเทพสตรี, ๒๕๔๖), หน้า ๑๔๐.

๔๒

๑) ศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เก่ียวข้องกับภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถ่ิน จากเอกสาร
ตํารา และงานวิจัยทเ่ี ก่ียวข้อง

๒) กําหนดกรอบแนวคิดในการวิจยั และสรุปเปน็ คาํ นยิ ามศพั ทใ์ นการวจิ ยั
๓) สร้างแบบสอบถามจากกรอบเน้ือหาในคํานิยามศัพท์ท่ีใช้ในการวิจัย โดยแบ่ง
ออกเป็น๓ตอน

๒. แบบสัมภาษณ์

ผู้วิจัยได้ดําเนินการสร้างแบบสัมภาษณ์ในการวิจัยเกี่ยวข้องกับภาวะผู้นําทาง
การเมอื งทอ้ งถิน่ ในตาํ บลกุดนํา้ ใส อําเภอจตั ุรัส จงั หวัดชัยภูมิ โดยมีข้นั ตอนดงั ต่อไปนี้

๑) ศึกษาวิธีการสร้างแบบสัมภาษณ์ท่ีใช้ในการเก็บข้อมูลจากเอกสาร ตํารา และ
งานวิจัยท่เี ก่ียวขอ้ ง เพ่ือเป็นแนวทางในการกาํ หนดกรอบแนวคิดในการสร้างแบบสมั ภาษณ์

๒) ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและเอกสารต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง โดยพิจารณารายละเอียด
ตา่ ง ๆ ทค่ี รอบคลมุ วัตถปุ ระสงคท์ กี่ ําหนดไว้

๓) ขอคําแนะนาํ จากอาจารย์ท่ปี รึกษาเพือ่ ใช้เป็นแนวทางสัมภาษณ์
๔) สร้างแบบสัมภาษณ์ให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ
ในการเกบ็ ข้อมลู จากผู้ใหข้ ้อมลู สําคัญ เพือ่ นาํ มาวิเคราะห์

๓. การตรวจสอบคุณภาพของเครอ่ื งมือ

ในการหาคุณภาพของเคร่อื งมอื ผวู้ จิ ัยได้ดําเนินการตามข้นั ตอน ดงั น้ี

๑) ขอคําแนะนําจากอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์และผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบเครื่องมือ
ทส่ี รา้ งไว้

๒) หาความเท่ียงตรง (Validity) โดยการนําแบบสอบถามท่ีสร้างเสร็จ เสนอประธาน
และกรรมการท่ีปรึกษาสารนิพนธ์ เพ่ือขอความเห็นชอบและนําเสนอต่อผู้เช่ียวชาญ แล้วนํามาปรับปรุง
แก้ไขให้เหมาะสม เพื่อพิจารณาทั้งในด้านเน้ือหาสาระ และโครงสร้างของคําถาม รูปแบบของ
แบบสอบถาม ตลอดจนภาษาที่ใช้และตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ โดยหาค่าดัชนีความสอดคล้อง
(IOC) ได้ค่าดัชนีความสอดคล้อง ต้ังแต่ ๐.๖๐-๑.๐๐ และมีการใช้ภาษาไม่เหมาะสมในบางข้อ จึงต้อง
ปรับปรงุ แก้ไขตามคําแนะนําของผู้เชี่ยวชาญให้เหมาะสม ซ่ึงผ้เู ชี่ยวชาญทั้ง ๕ ทา่ นประกอบดว้ ย

(๑) พระครูสุตธรรมภาณี ผศ. ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแกน่

(๒) ผศ.ดร.บุรินทร์ ภู่สกุลอาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น

(๓) ผศ.ดร.วิทยา ทองดีอาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น

(๔) อาจารย์ ดร.สุธิพงษ์ สวัสด์ิทา อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต
มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแกน่

๔๓

(๕) อาจารย์ดร.สมควร นามสีฐาน กรรมการหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแกน่

เพื่อพิจารณาท้ังในด้านเน้ือหาสาระ และโครงสร้างของคําถาม รูปแบบของ
แบบสอบถามตลอดจนภาษาที่ใช้และตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ โดยหาค่าดัชนีความสอดคล้อง
(IOC) ไดค้ า่ ดชั นคี วามสอดคล้อง ต้งั แต่ ๐.๘ – ๑.๐๐

๔. หาความเชื่อม่ันของเคร่ืองมือ (Reliability) นําแบบสอบถามที่ปรับปรุงแก้ไขแล้ว
ไปทดลองใช้ (Try-out) กับผู้มีสิทธิ์เลือกต้ังไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เพื่อหาค่าความเชื่อมั่น
ด้วยวิธีหาค่าสัมประสิทธ์ิแอลฟ่า (Alpha Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach) ได้ค่าความ
เชื่อมัน่

๕. นําแบบสอบถามท่ีได้รับการปรับปรุงแก้ไขเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์
เพื่อขอความเหน็ ชอบ และจดั พมิ พแ์ บบสอบถามเปน็ ฉบับสมบรู ณ์ เพอื่ ใช้ในการวจิ ยั

๓.๓.๓ การวดั คา่ ตัวแปรของแบบสอบถาม

๑) การวัดค่าตัวแปรอสิ ระประกอบด้วย
๑. เพศ แบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม ประกอบดว้ ย ชาย หญงิ
๒. อายุ แบ่งออกเป็น ๔ กลุ่ม ประกอบด้วย ๑๘-๒๔ ปี ๒๕-๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี

และมากกว่า ๔๕ ปี
๓. สถานภาพสมรส แบ่งออกเป็น ๓ กลุ่ม ประกอบด้วย สมรส โสด หย่า/

หม้าย/แยกกันอยู่
๔. ระดับการศึกษา แบ่งออกเป็น ๕ กลุ่ม ประกอบด้วย ประถมศึกษา

มธั ยมศึกษา ปวช./ปวส.ปริญญาตรี และสงู กวา่ ปริญญาตรี
๕. อาชพี แบง่ เปน็ ๖ กลมุ่ ประกอบด้วย เกษตรกรรม รบั ราชการ ธรุ กจิ สว่ นตัว

ค้าขาย รบั จา้ ง และอน่ื ๆ
๖. รายได้ต่อเดือน แบ่งออกเป็น ๔ กลุ่ม ประกอบด้วย ต่ํากว่า ๑๐,๐๐๐ บาท

๑๐,๐๐๐-๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๑-๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ ข้ึนไป

๒) การวัดตัวแปรตาม ประกอบด้วย ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นในองค์การ
บริหารส่วนตาํ บลกดุ น้าํ ใส อาํ เภอจัตุรัส จงั หวัดชัยภูมิ ตามความคิดเห็นของประชาชนโดยคําตอบเป็น
แบบประเมินค่า Rating Scale สร้างคําตอบตามแนวของลิเคร์ท (Likert) มีคําตอบให้เลือก ๕ ระดับ
และมเี กณฑก์ ารให้คะแนนคอื

มากทีส่ ดุ ให้คะแนน ๕ คะแนน
มาก ใหค้ ะแนน ๔ คะแนน
ปานกลาง ให้คะแนน ๓ คะแนน
นอ้ ย ให้คะแนน ๒ คะแนน
น้อยทส่ี ุด ให้คะแนน ๑ คะแนน

๔๔

จากเกณฑ์ดังกล่าว สามารถกําหนดเกณฑ์การแปรผล โดยกําหนดแบบแบ่งช่วง
ออกเป็น ๕ ช่วง๓

ดังนั้น ข้อมูลที่วิเคราะห์จากแบบสอบถามที่เป็นมาตรฐานประมาณค่าโดยแปรผล
จากคา่ เฉล่ยี โดยกาํ หนดช่วงคะแนน (Class Interval) ดังตอ่ ไปนี้

คา่ เฉลยี่ ๔.๒๑ - ๕.๐๐ แปลผลวา่ อยู่ในระดบั มากทสี่ ดุ
คา่ เฉล่ยี ๓.๔๑ - ๔.๒๐ แปลผลวา่ อยใู่ นระดบั มาก
ค่าเฉล่ยี ๒.๖๑ - ๓.๔๐ แปลผลว่า อยู่ในระดับปานกลาง
ค่าเฉลย่ี ๑.๘๑ - ๒.๖๐ แปลผลว่า อย่ใู นระดับนอ้ ย
คา่ เฉลีย่ ๑.๐๐ - ๑.๘๐ แปลผลวา่ อย่ใู นระดับน้อยที่สุด

๓.๔ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู

๓.๔.๑ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากแบบสอบถาม
ในการวจิ ัยครงั้ น้ี ผูว้ ิจัยไดด้ าํ เนนิ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลมขี ้ันตอน ดังน้ี
๑) ขอหนังสือจากผู้อํานวยการหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่น ถึงผู้ใหญ่บ้านในเขตองค์บริหารสว่ นตําบลกุดน้ําใส อาํ เภอจัตรุ ัส
จังหวดั ชัยภูมิจํานวน ๑๔ หมู่บ้านเพอื่ ทาํ การเก็บขอ้ มลู และทําการแจกแบบสอบถามจากประชาชน
๒) นําแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์ไปเก็บข้อมูลกับประชาชนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจํานวน
๓๘๖ ชดุ และเกบ็ แบบสอบถามคืนดว้ ยตนเอง
๓.๔.๒ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากการสมั ภาษณ์

๑) ขอหนังสือจากผอู้ ํานวยการหลักสูตรรฐั ศาสตรมหาบณั ฑิต มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬา
ลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ถึงผู้ใหญ่บ้านในเขตองค์บริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอ
จตั รุ ัส จังหวัดชยั ภูมจิ าํ นวน ๑๔ หมู่บ้านเพื่อตอบแบบสอบถาม

๒) ดาํ เนินการสัมภาษณ์ตามวนั เวลาและสถานท่ีที่กําหนดนัดไว้ จนครบทุกประเด็น
โดยขออนุญาตใชว้ ิธกี ารจดบนั ทกึ และการบนั ทกึ เสียงประกอบการสมั ภาษณ์

๓ ชูศรี วงศ์รัตนะ, เทคนิคการใช้สถิติเพ่ือการวิจัย, (กรุงเทพมหานคร: เทพเนรมิตการพิมพ์, ๒๕๔๑),
หน้า ๒๓๔.

๔๕

๓.๕ การวเิ คราะห์ข้อมลู

ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามโดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูปเพ่ือการวิจัยทาง
สังคมศาสตร์ วเิ คราะห์ค่าสถติ ติ า่ ง ๆ ดังนี้

๓.๕.๑ การวิเคราะหข์ ้อมูลจากแบบสอบถาม

หลังจากที่ได้ทําการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามเรียบร้อยแล้ว นําข้อมูลที่ได้ไป
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูปทางสถิติเพ่ือวิจัยทางสังคมศาสตร์
ดังนี้

๑. ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพผู้ตอบแบบสอบถามวิเคราะห์โดยใช้ค่าความถี่และค่า
รอ้ ยละ

๒.ระดับภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอ
จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ วิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard
Deviation)

๓. การทดสอบค่า ( t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way
Anova) เมื่อพบความแตกต่างจะทําการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ โดยใช้
ผลต่างนัยสําคัญทีส่ ุด (Least Significant Difference: LSD)

๔. เพื่อศึกษาแนวทางภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ใน
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตําบลกดุ นํ้าใส อาํ เภอจตั รุ ัส จังหวดั ชยั ภูมิตามความคดิ เห็นของประชาชน

๓.๕.๒ การวิเคราะห์ขอ้ มูลจากแบบสัมภาษณ์

ผวู้ จิ ยั วิเคราะหข์ อ้ มูลจากแบบสมั ภาษณ์โดยวิธีการดงั นี้

๑) นาํ ขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ ากการสัมภาษณ์มาถอดเสยี งและบนั ทกึ เป็นข้อความ
๒) นําข้อความจากการสัมภาษณ์และการจดบันทึกมาจําแนกเป็นประเด็นและเรียบ
เรียงเฉพาะประเด็นทเี่ กยี่ วข้องกับวตั ถุประสงคก์ ารวิจัย
๓) วิเคราะห์คําให้สัมภาษณ์ของผู้ให้ข้อมูลสําคัญตามวัตถุประสงค์การวิจัย โดยใช้
เทคนคิ การวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis Technique) ประกอบบริบท (Context)

บทที่ ๔

ผลการวิจยั

การศึกษาวิจัยเรื่อง “ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบล
กุดน้าํ ใส อําเภอจตั ุรสั จงั หวดั ชยั ภมู ิ” ผู้วิจยั นาํ เสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตามลาํ ดับดงั น้ี

ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล ประกอบด้วย

๔.๑ ข้อมูลทว่ั ไปของผูต้ อบแบบสอบถาม
๔.๒ ระดับภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วน
ตําบลกดุ นาํ้ ใส อาํ เภอจตั ุรสั จังหวดั ชยั ภมู ิ
๔.๓ ระดับภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การ
บรหิ ารองค์การบรหิ ารส่วนตาํ บลกดุ นาํ้ ใส อาํ เภอจัตรุ ัส จังหวดั ชัยภมู ิ
๔.๔ เปรียบเทียบภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารสว่ นตําบลกุด
นํ้าใส อําเภอจัตรุ สั จงั หวดั ชยั ภูมิ
๔.๕ ศึกษาแนวทางภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ในองค์การ
บรหิ ารสว่ นตาํ บลกดุ นาํ้ ใส อําเภอจตั ุรัส จงั หวัดชยั ภูมิ
๔.๖ สรปุ องคค์ วามรู้ทีไ่ ด้รับจากการวจิ ัย

๔.๑ ขอ้ มูลทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม

ข้อมูลทั่วไปด้านลักษณะประชากรของผู้ตอบแบบสอบถาม ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถนิ่ ในองคก์ ารบรหิ ารส่วนตําบลกุดนํา้ ใส อําเภอจัตุรัส จังหวดั ชัยภมู ิ มรี ายละเอยี ดดังน้ี

ตารางท่ี ๔.๑ จํานวนและรอ้ ยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม

(n= ๓๘๖)
เพศ จาํ นวน รอ้ ยละ
ชาย ๒๓๔ ๖๑.๐๐
หญิง ๑๕๒ ๓๙.๐๐
รวม ๓๘๖ ๑๐๐.๐๐

จากตารางที่ ๔.๑ ขอ้ มูลผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมลู ท่ัวไปประชากร ภาวะผู้นาํ ทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ จากจํานวนผู้ตอบ
แบบสอบถาม ๓๘๖ คน จําแนกตามเพศ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากท่ีสุดเป็นเพศชาย จํานวน
๒๓๔ คน คดิ เป็นร้อยละ ๖๑.๐๐ รองลงมาเปน็ เพศหญิง จาํ นวน ๑๕๒ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๓๙.๐๐

๔๗

ตารางท่ี ๔.๒ จาํ นวนความถี่และจํานวนร้อยละของประชาชนจําแนกตามอายุ

๑๘ - ๒๔ ปี อายุ จํานวน (n=๓๘๖)
๒๕ - ๓๕ ปี รวม
๓๖-๔๕ ปี ๑๑๓ รอ้ ยละ
มากกวา่ ๔๕ ปี ๑๒๙
๑๐๖ ๒๙.๒๗
๓๘ ๓๓.๔๑
๒๘.๐๐
๓๘๖ ๙.๘๒

๑๐๐

จากตารางท่ี ๔.๒ พบว่าประชาชนสว่ นใหญม่ ีอายุระหวา่ ง ๒๕ - ๓๕ ปี จํานวน ๑๒๙ คน
คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๔๓ รองลงมาคือประชากรที่มีอายุ ๑๘ – ๒๔ ปี จํานวน ๑๑๓ คนคิดเป็นร้อยละ
๒๙.๒๗ ประชากรที่มีอายุระหว่าง ๓๖-๔๕ ปี จํานวน ๑๐๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘.๐๐ และ
ประชากรผู้ตอบแบบสอบถามน้อยที่สุด มีอายุมากกว่า ๔๕ปี จํานวน ๓๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๙.๘๔
ตามลําดับ

ตารางที่ ๔.๓ จํานวนความถี่และจาํ นวนรอ้ ยละของประชาชน จาํ แนกตาม สถานภาพการสมรส

สถานภาพสมรส จาํ นวน (n=๓๘๖)

สมรส ๗๓ รอ้ ยละ
โสด ๒๗๕
หยา่ /หม้าย/แยกกนั อยู่ ๓๘ ๑๘.๙๑
๗๑.๒๔
รวม ๓๘๖ ๙.๘๕

๑๐๐

จากตารางที่ ๔.๓ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีสถานภาพโสด จํานวน ๒๗๕ คน คิดเป็น
ร้อยละ ๗๑.๒๔ รองลงมาคือ สถานภาพสมรสจํานวน ๗๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๘.๙๑ และสถานภาพ
หย่า/หม้าย/แยกกนั อยู่ จาํ นวน ๓๘ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๙.๘๔ ตามลาํ ดับ

๔๘

ตารางท่ี ๔.๔ จํานวนความถี่และจาํ นวนร้อยละของประชาชน จําแนกตามระดบั การศกึ ษา

ระดบั การศึกษา จํานวน (n=๓๘๖)

ประถมศึกษา ๑๑๐ รอ้ ยละ
มธั ยมศกึ ษา ๑๗๕
ปวช./ปวส. ๔๓ ๒๘.๔๙
ปริญญาตรี ๔๒ ๔๕.๓๓
สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี ๑๖ ๑๑.๑๔
๑๐.๘๘
๑.๐๖

รวม ๓๘๖ ๑๐๐

จากตารางท่ี ๔.๔ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่สําเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา
จํานวน ๑๗๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๓๓ รองลงมาคือระดับประถมศึกษาจํานวน ๑๑๐ คน คิดเป็น
ร้อยละ ๒๘.๔๙ ระดับปวช./ปวส. จํานวน ๔๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๑.๑๔ ระดับปริญญาตรีจํานวน
๔๒ คนคิดเป็นร้อยละ ๑๐.๘๘ และระดับสูงกว่าปริญญาตรี จํานวน ๑๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๑.๐๔
ตามลําดบั

ตารางที่ ๔.๕ จาํ นวนความถ่แี ละจาํ นวนร้อยละของประชาชน จาํ แนกตามอาชีพ

อาชีพ จาํ นวน (n=๓๘๖)

เกษตรกรรม ๑๗๕ รอ้ ยละ
รับราชการ ๘๖
ธรุ กิจส่วนตวั ๔๕ ๔๕.๓๓
คา้ ขาย ๓๘ ๒๒.๒๙
อื่น ๆ ๔๒ ๑๑.๖๖
๙.๘๔
๑๑.๘๘

รวม ๓๘๖ ๑๐๐

จากตารางท่ี ๔.๕ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม จํานวน ๑๗๕ คน คิด
เป็นร้อยละ ๔๕.๓๓ รองลงมาคือรับราชการจํานวน ๘๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๒.๒๙ ธุรกิจส่วนตัว
จํานวน ๔๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๑.๖๖ ข้าขายจํานวน ๓๘ คนคิดเป็นร้อยละ ๙.๘๔ และอ่ืน ๆ
จาํ นวน ๔๒ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๑.๘๘ ตามลาํ ดับ

๔๙

ตารางท่ี ๔.๖ จาํ นวนความถแ่ี ละจํานวนร้อยละของประชาชน จําแนกตามรายไดต้ อ่ เดอื น

รายไดต้ ่อเดอื น จํานวน (n=๓๘๖)

ต่ํากว่า ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๕๓ ร้อยละ
๑๐,๐๐๐ - ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕๒
๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ๕๓ ๓๙.๖๔
๒๐,๐๐๑ บาทขน้ึ ไป ๒๘ ๓๙.๓๘
๑๓.๗๓
รวม ๓๘๖ ๗.๒๕

๑๐๐

จากตารางท่ี ๔.๖ พบว่า ประชาชนส่วนใหญม่ รี ายได้ต่าํ กว่า ๑๐,๐๐๐ จาํ นวน ๑๕๓ คน คิด
เปน็ ร้อยละ ๓๙.๖๔ รองลงมาคือ ๑๐,๐๐๐-๑๕,๐๐๐ บาท จํานวน ๑๕๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๓๘
รายได้ ๑๕,๐๐๑-๒๐,๐๐๐ บาท จํานวน ๕๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๓.๗๓ และรายได้ ๒๐๐๐๑ บาท
ขนึ้ ไป จาํ นวน ๒๘ คนคดิ เป็นร้อยละ ๗.๒๕ ตามลาํ ดับ

๔.๒ ระดบั ภาวะผู้นําทางการเมอื งของผูน้ าํ ท้องถ่ินในองค์การบรหิ ารส่วนตาํ บลกุดนาํ้ ใส
อาํ เภอจัตรุ สั จังหวัดชยั ภมู ิ

ผลการวิเคราะห์ระดับภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การ
บริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ใน ๕ ด้าน โดยแสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐาน ตามตารางที่ ๔.๗ – ๔.๑๑

ตารางท่ี ๔.๗ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชยั ภูมิ โดยภาพรวม

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมอื ง (n=๓๘๖)
ระดบั ความคดิ เหน็
ดา้ นการสร้างวิสัยทัศน์
ด้านการสรา้ งแรงจูงใจ S.D. แปลผล
ด้านมีความสามารถทาํ งานรว่ มกับผอู้ ่นื
ด้านมนุษยสัมพนั ธ์ ๔.๔๓ ๐.๗๒ มาก
ด้านความรู้ความสามารถ ๔.๔๙ ๐.๖๒ มาก
๔.๕๘ ๐.๔๔ มากทสี่ ดุ
รวม ๔.๗๑ ๐.๔๘ มากท่ีสดุ
๔.๔๒ ๐.๕๘ มาก
๔.๕๓ ๐.๕๖ มากท่สี ุด

๕๐

จากตารางท่ี ๔.๗ พบว่า ค่าเฉล่ียและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นําทาง
การเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ โดยภาพรวม อย่ใู นระดบั มากท่ีสดุ (X= ๔.๕๓) เม่อื พจิ ารณารายดา้ นพบวา่ ด้านท่มี ีระดบั ความ
คิดเห็นมากที่สุดคือ ด้านมนุษยสัมพันธ์ (X= ๔.๗๑) รองลงมาคือด้านมีความสามารถทํางานร่วมกับ
ผอู้ ื่น (X= ๔.๕๘) และดา้ นการสรา้ งแรงจงู ใจ (X= ๔.๔๙) ตามลาํ ดบั

ตารางท่ี ๔.๘ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
ในองคก์ ารบรหิ ารองค์การบรหิ ารส่วนตําบลกดุ นํ้าใส อําเภอจัตรุ สั จงั หวัดชยั ภมู ิ ด้าน
การสรา้ งวสิ ยั ทัศน์

ภาวะผนู้ ําทางการเมือง (n=๓๘๖)
ด้านการสรา้ งวสิ ัยทศั น์ ระดบั ความคดิ เหน็

X S.D. แปลผล

๑. กําหนดนโยบายและแผนงาน อยา่ งเปน็ ระบบ ๔.๓๗ ๐.๖๒ มาก
๒. พัฒนาเจ้าหน้าท่อี ยา่ งตอ่ เน่ืองเพ่อื ให้ปฏบิ ัตงิ านได้อย่างมี ๔.๔๓ ๐.๗๓ มาก
ประสิทธิภาพ
๔.๕๗ ๐.๖๓ มากท่สี ุด
๓. ปรบั กําลงั คนให้เหมาะกบั หน้าท่ขี ององค์กร ๔.๕๓ ๐.๕๑ มากท่ีสดุ
๔. ปรับปรุงกฎระเบยี บใหส้ ามารถปฏบิ ัติได้คล่องตวั และรวดเร็ว ๔.๒๗ ๐.๗๙ มาก
๕. ประชาสัมพนั ธ์ข่าวสารทที่ นั ตอ่ เหตุการณก์ ารเปล่ยี นแปลงของ
ประเทศไทยตอ่ ประชาชนในชมุ ชน ๔.๔๓ ๐.๗๒ มาก

รวม

จากตารางท่ี ๔.๘ พบวา่ คา่ เฉลี่ยและค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผ้นู ําทาง
การเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ ด้านการสร้างวิสัยทัศน์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (X= ๔.๔๒) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ
โดยเรียงลําดับจากค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยพบว่าข้อท่ีมีระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ ข้อ ๓ ปรับ
กําลังคนใหเ้ หมาะกับหนา้ ทข่ี ององค์กร (X= ๔.๕๗) รองลงมาคือข้อ ๔ ปรับปรงุ กฎระเบยี บให้สามารถ
ปฏิบัติได้คล่องตัวและรวดเร็ว (X= ๔.๕๓) และข้อ ๒ด้านพัฒนาเจ้าหน้าที่อย่างต่อเน่ืองเพื่อให้
ปฏิบัตงิ านได้อย่างมีประสิทธภิ าพ (X= ๔.๔๓) ตามลําดับ

๕๑

ตารางที่ ๔.๙ ค่าเฉลยี่ และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผนู้ าํ ทางการเมืองของผู้นําทอ้ งถิ่น

ในองค์การบรหิ ารองค์การบริหารสว่ นตาํ บลกุดนํ้าใส อําเภอจตั รุ ัส จงั หวัดชัยภูมิ ดา้ น

การสร้างแรงจูงใจ

(n=๓๘๖)

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมือง ระดบั ความคดิ เหน็

ดา้ นการสรา้ งแรงจูงใจ X S.D. แปลผล

๑. เปน็ แบบอย่างทดี่ ที างดา้ นจริยธรรม คณุ ธรรม และศลี ธรรม ๔.๔๗ ๐.๖๘ มาก

๒. สจุ ริต ซ่ือตรง โปรง่ ใสยอมรับในการตรวจสอบ ๔.๔๐ ๐.๖๒ มาก

๓. แสดงให้เหน็ ถึงความมงุ่ มนั่ ทะเยอทะยานส่คู วามสาํ เรจ็ ๔.๕๓ ๐.๕๐ มากที่สุด

๔. เปดิ โอกาสใหค้ นที่ตงั้ ใจทํางาน ได้ทาํ งานในตําแหนง่ ทีเ่ หมาะสม ๔.๕๐ ๐.๖๓ มากที่สดุ

๕. แสดงความเชื่อม่นั และยกย่องการทํางานของคนอ่นื ยอมรับ ๔.๕๗ ๐.๖๗ มากทสี่ ุด

ความผิดพลาดท่ีเกดิ ข้ึนในองคก์ ร

รวม ๔.๔๙ ๐.๖๒ มาก

จากตารางที่ ๔.๙ พบวา่ ค่าเฉลี่ยและคา่ ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานของระดับภาวะผนู้ ําทาง
การเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชยั ภูมิ ด้านการสร้างแรงจูงใจ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (X= ๔.๔๙) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อโดย
เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยพบว่า ข้อที่มีระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ ข้อ ๕แสดงความ
เช่ือมั่น และยกย่องการทํางานของคนอื่น ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดข้ึนในองค์กร (X= ๔.๕๗)
รองลงมาคือขอ้ ๓ แสดงใหเ้ ห็นถึงความมุง่ มั่นทะเยอทะยานสู่ความสาํ เร็จ (X= ๔.๕๓) และขอ้ ๔ เปิด
โอกาสใหค้ นท่ตี ั้งใจทํางานไดท้ ํางานในตาํ แหนง่ ที่เหมาะสม (X= ๔.๕๐) ตามลาํ ดับ

ตารางที่ ๔.๑๐ คา่ เฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดบั ภาวะผู้นําทางการเมอื งของผู้นําท้องถิ่น
ในองค์การบรหิ ารองค์การบริหารส่วนตําบลกดุ นํ้าใส อาํ เภอจัตรุ ัส จังหวัดชยั ภมู ิ ด้าน
มีความสามารถทาํ งานร่วมกับผู้อื่น

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมือง (n=๓๘๖)
ด้านมคี วามสามารถทาํ งานร่วมกับผอู้ น่ื ระดบั ความคดิ เหน็

X S.D. แปลผล

๑ .แสดงออกถงึ การสนบั สนนุ ผู้อ่ืน ๔.๗๓ ๐.๔๕ มากทส่ี ดุ
๒. แสดงออกถงึ การเห็นอกเห็นใจคนอ่ืนท่รี ่วมงาน ๓.๗๗ ๐.๔๒ มาก
๓. ใหป้ ระชาชนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมขององคก์ ารบริหารสว่ น ๔.๗๗ ๐.๔๓ มากที่สดุ
ตาํ บลทตี่ นเองดูแลอยู่
๔. รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และเจ้าหนา้ ท่ีในองคก์ ร ๔.๗๐ ๐.๔๖ มากท่สี ุด
๕. เปน็ กนั เองกบั เจ้าหน้าที่ และประชาชน ๔.๗๓ ๐.๔๕ มากท่ีสดุ
๔.๕๔ ๐.๔๔ มากท่สี ุด
รวม

๕๒

จากตารางที่ ๔.๑๐ พบว่า ค่าเฉล่ียและค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นํา
ทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส
จังหวัดชัยภูมิ ด้านมีความสามารถทํางานร่วมกับผู้อ่ืน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากท่ีสุด (X= ๔.๕๔)
เม่อื พิจารณาเปน็ รายขอ้ โดยเรียงลาํ ดบั ค่าเฉลยี่ จากมากไปหานอ้ ยพบว่าข้อที่มรี ะดับความคิดเห็นมาก
ท่ีสุดคือ ข้อ ๓ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์การบริหารส่วนตําบลท่ีตนเองดูแลอยู่ (X=
๔.๗๗) รองลงมาคือข้อที่๑ แสดงออกถึงการสนับสนุนผู้อื่น (X= ๔.๗๓) และข้อที่ ๕ เป็นกันเองกับ
เจ้าหน้าทีแ่ ละประชาชน (X= ๔.๗๓) ตามลําดับ

ตารางท่ี ๔.๑๑ คา่ เฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดบั ภาวะผนู้ ําทางการเมอื งของผู้นําท้องถ่ิน
ในองค์การบริหารองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาํ บลกุดน้ําใส อาํ เภอจตั ุรัส จังหวัดชยั ภมู ิ ดา้ น
มนษุ ยสัมพนั ธ์

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมือง (n=๓๘๖)
ดา้ นมนษุ ยสัมพันธ์ ระดับความคดิ เห็น

X S.D. แปลผล

๑ .มีภาพลักษณท์ ี่ดแี ละเปน็ ท่ดี ึงดดู ใจของผู้ที่พบเห็น ๔.๖๓ ๐.๖๔ มากทส่ี ดุ
๒. เป็นผมู้ ีมนษุ ยสมั พนั ธท์ ี่ดกี บั ประชาชน และเจา้ หนา้ ที่ ๔.๖๗ ๐.๔๗ มากทส่ี ดุ
๓. เป็นผ้ปู ระสานงานไดด้ กี ับทุกองค์กร และทุกภาคส่วน ๔.๗๐ ๐.๔๖ มากท่สี ุด
๔. ทาํ งานมุ่งให้เกิดผลประโยชนแ์ ก่ชุมชนสงั คม ๔.๘๐ ๐.๔๐ มากท่ีสดุ
๕. ใหค้ วามสาํ คัญกับทุกคนทไี่ ปติดตอ่ งาน ๔.๗๗ ๐.๔๓ มากท่ีสุด
๔.๗๑ ๐.๔๘ มากทส่ี ุด
รวม

จากตารางที่ ๔.๑๑ พบว่า ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นํา
ทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส
จังหวัดชัยภูมิ ด้านมนุษยสัมพันธ์ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากท่ีสุด (X= ๔.๗๑) เม่ือพิจารณาเป็น
รายข้อ โดยเรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยพบว่า ข้อที่มีระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ ข้อ ๔
ทํางานมุ่งให้เกิดผลประโยชน์แก่ชุมชนสงั คม (X= ๔.๘๐) รองลงมาคอื ข้อที่ ๕ให้ความสําคญั กับทุกคน
ท่ีไปติดต่องาน (X= ๔.๗๗) และข้อท่ี ๓ เป็นผู้ประสานงานได้ดีกับทุกองค์กรและทุกภาคส่วน (X=
๔.๗๐ ) ตามลาํ ดบั

๕๓

ตารางที่ ๔.๑๒ คา่ เฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผนู้ ําทางการเมืองของผู้นาํ ทอ้ งถิ่น
ในองค์การบริหารองคก์ ารบรหิ ารส่วนตําบลกดุ นํ้าใส อาํ เภอจตั ุรัส จังหวัดชยั ภูมิ ดา้ น
ความรู้ความสามารถ

ภาวะผนู้ ําทางการเมือง (n=๓๘๖)
ดา้ นความรคู้ วามสามารถ ระดบั ความคดิ เห็น

X S.D. แปลผล

๑. มีความรูเ้ กย่ี วกบั งานทีต่ นปฏิบตั ิ ๔.๗๐ ๐.๕๙ มากท่สี ดุ
๒. มีความรูเ้ กยี่ วกับการปกครองระบบประชาธิปไตย ๔.๖๗ ๐.๖๐ มากทส่ี ุด
๓. พัฒนาท้องถนิ่ ใหม้ คี วามกา้ วหนา้ ๔.๗๐ ๐.๔๖ มากทสี่ ดุ
๔. สามารถประสานงานกบั นักการเมืองไดท้ กุ ระดบั ๓.๕๐ ๐.๖๓ มาก
๕. ไดช้ กั ชวนนักการเมอื งให้มาร่วมพัฒนาชุมชน ๔.๕๓ ๐.๖๒ มากท่ีสดุ
๔.๔๒ ๐๕๘ มาก
รวม

จากตารางที่ ๔.๑๒ พบว่า ค่าเฉล่ียและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นํา
ทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส
จงั หวดั ชัยภมู ิ ดา้ นความร้คู วามสามารถ โดยภาพรวม อยใู่ นระดบั มาก (X= ๔.๔๒) เมื่อพิจารณาเป็น
รายข้อ โดยเรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยพบว่า ข้อท่ีมีระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ ข้อ ๑
มีความรู้เกี่ยวกับงานท่ีตนปฏิบัติ (X= ๔.๗๐) รองลงมาคือข้อท่ี ๓ พัฒนาท้องถิ่นให้มีความ
เจริญก้าวหน้า (X= ๔.๗๐) และข้อ ๒ มีความรู้เกี่ยวกับการปกครองระบบประชาธิปไตย (X= ๔.๖๗)
ตามลาํ ดับ

๔.๓ ระดับความคิดเห็นภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นํา
ท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชยั ภูมิ

ผลการวิเคราะห์ระดับภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่น
ในองค์การบรหิ ารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจตั ุรัส จังหวัดชัยภูมิ ใน ๗ ด้าน โดยแสดง
ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน

๕๔

ตารางท่ี ๔.๑๓ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็นภาวะผู้นําทางการเมือง
ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วน
ตาํ บลกุดนาํ้ ใส อาํ เภอจัตรุ สั จังหวดั ชยั ภมู ิ โดยภาพรวม

ภาวะผนู้ ําทางการเมืองตามหลักสปั ปรุ สิ ธรรม ๗ (n=๓๘๖)
ระดบั ความคดิ เหน็

X S.D. แปลผล

๑. ด้านธมั มญั ญุตา : ความรจู้ ักเหตุ ๔.๘๔ ๐.๓๖ มากท่สี ดุ
๒. ดา้ นอัตถญั ญุตา : ความรู้จกั ผล ๔.๘๔ ๐.๓๕ มากทีส่ ุด
๓. ดา้ นอตั ตญั ญตุ า : ความเปน็ ผ้รู จู้ ักตน ๔.๘๐ ๐.๓๘ มากที่สดุ
๔. ด้านมัตตญั ญตุ า : ความเปน็ ผรู้ จู้ กั ประมาณ ๔.๖๓ ๐.๕๒ มากทส่ี ดุ
๕. ด้านกาลญั ญตุ า : ความเปน็ ผรู้ กู้ าลเวลา ๔.๕๔ ๐.๕๑ มากทส่ี ุด
๖. ด้านปริสญั ญตุ า : ความเปน็ ผู้รู้จกั ชมุ ชน ๔.๖๗ ๐.๕๒ มากที่สดุ
๗. ด้านปคุ คลปโรปรัญญุตา : ความเปน็ ผรู้ ู้บคุ คล ๔.๖๗ ๐.๔๙ มากทีส่ ุด
๔.๗๑ ๐.๔๔ มากท่สี ุด
รวม

จากตารางที่ ๔.๑๓ พบว่า ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็น
ภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหาร
ส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอ จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากท่ีสุด (X= ๔.๗๑) เม่ือ
พิจารณารายด้าน โดยเรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยพบว่า ด้านท่ีมีระดับความคิดเห็นมาก
ทส่ี ดุ คอื ดา้ นอัตถัญญุตา : ความร้จู กั ผล (X= ๔.๘๔) รองลงมาคือดา้ นด้านธัมมัญญุตา : ความรู้จกั เหตุ
(X= ๔.๘๔) และด้านมตั ตัญญตุ า : ความเปน็ ผูร้ ูจ้ ักประมาณ (X= ๔.๘๐) ตามลาํ ดับ

ตารางที่ ๔.๑๔ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็นภาวะผู้นําทางการเมือง
ตาม หลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วน
ตําบลกุดนา้ํ ใส อําเภอจัตุรสั จังหวดั ชัยภูมดิ ้านธมั มญั ญุตา :ความร้จู กั เหตุ

ภาวะผนู้ ําทางการเมอื งตามหลกั สปั ปรุ สิ ธรรม ๗ (n=๓๘๖)
ดา้ นธัมมญั ญตุ า :ความรจู้ กั เหตุ ระดับความคดิ เหน็
X S.D. แปลผล
๑. ผนู้ าํ เข้าใจเก่ียวกับหลกั การในการจัดการบริหารองคก์ ร ๔.๘๗ ๐.๓๔ มากที่สดุ
๒. ผนู้ าํ ยึดถอื หลกั การและการบริหารจัดการองคก์ รอย่างมีขน้ั ตอน ๔.๙๐ ๐.๓๐ มากท่ีสุด
๓. เปน็ นักวางแผนและจดั ทํานโยบายสอดคล้องกบั การบริหาร ๔.๗๗ ๐.๔๓ มากทส่ี ุด
องค์กร
๔.๘๔ ๐.๓๖ มากที่สุด
รวม

๕๕

จากตารางที่ ๔.๑๔ พบว่า ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็น
ภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหาร
ส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้านธัมมัญญุตา :ความรู้จักเหตุ อยู่ในระดับมากทีสุด
(X=๔.๘๔) เมื่อพิจารณารายข้อ โดยเรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยพบว่า ข้อท่ีมีระดับความ
คิดเห็นมากท่ีสุดคือ ข้อ ๒ ผู้นํายึดถือหลักการและการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีข้ันตอน (X=
๔.๙๐) รองลงมาคือข้อท่ี๑ ผู้นําเข้าใจเก่ียวกับหลักการในการจัดการบริหารองค์กร (X= ๔.๘๗) และ
ขอ้ ๓เป็นนักวางแผนและจัดทาํ นโยบายสอดคลอ้ งกบั การบรหิ ารองคก์ ร (X= ๔.๗๗)

ตารางที่ ๔.๑๕ ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็นภาวะผู้นําทางการเมือง
ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วน
ตําบลกุดนาํ้ ใส อาํ เภอจตั รุ ัส จังหวัดชัยภมู ิดา้ นอัตถญั ญุตา : ความรู้จกั ผล

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมอื งตามหลกั สปั ปรุ สิ ธรรม ๗ (n=๓๘๖)
ด้านอัตถญั ญตุ า : ความรูจ้ กั ผล ระดบั ความคดิ เห็น

X S.D. แปลผล

๑. มวี ิสัยทัศน์ หรอื ปรชั ญา พนั ธกจิ เป้าหมาย ๔.๘๓ ๐.๓๗ มากทสี่ ดุ
๔.๙๐ ๐.๓๑ มากทีส่ ดุ
๒. เปน็ ผู้ม่งุ มัน่ มีความเพียร พยายามขับเคลอ่ื นนโยบายสู่
จดุ หมายทตี่ ง้ั ไว้ ๔.๘๓ ๐.๓๘ มากทสี่ ดุ

๓. จดั ให้มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจริงโดยมจี ุดเนน้ หรอื ๔.๘๕ ๐.๓๕ มากทีส่ ดุ
พฒั นาอยา่ งต่อเนื่อง

รวม

จากตารางท่ี ๔.๑๕ พบว่า ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็น
ภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหาร
ส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้านอัตถัญญุตา : ความรู้จักผล อยู่ในระดับมากที่สุด
(X= ๔.๘๕) เม่ือพิจารณารายข้อโดยเรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยพบว่า ข้อท่ีมีระดับความ
คิดเห็นมากที่สดุ คือ ข้อ ๒. เป็นผ้มู ุ่งมัน่ มีความเพียร พยายามขับเคลือ่ นนโยบายสจู่ ุดหมายทต่ี ัง้ ไว้ (X=
๔.๙๐) รองลงมาคือข้อ ๓ ด้านจัดให้มีการประเมินผลตามสภาพจริงโดยมีจุดเน้นหรือพัฒนาอย่าง
ตอ่ เน่ือง (X= ๔.๘๓) และ ขอ้ ๑ มวี สิ ยั ทัศน์ หรอื ปรชั ญา พันธกิจ เปา้ หมาย (X= ๔.๘๓)

๕๖

ตารางท่ี ๔.๑๖ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็นภาวะผู้นําทางการเมือง
ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วน
ตําบลกดุ นาํ้ ใส อาํ เภอจตั รุ ัส จังหวัดชัยภูมิ ดา้ นอัตตัญญตุ า : ความเปน็ ผู้รจู้ ักตน

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมืองตามหลักสปั ปรุ สิ ธรรม ๗ (n=๓๘๖)
ดา้ นอัตตญั ญตุ า : ความเปน็ ผรู้ จู้ กั ตน ระดบั ความคดิ เหน็

X S.D. แปลผล

๑. เป็นผ้นู าํ วิสยั ทศั น์ และสามารถกระจายวิสยั ทัศน์ไปยงั บุคคล ๔.๘๐ ๐.๔๐ มากท่สี ุด

ต่าง ๆ

๒. เปน็ ผู้มีจติ ใจโอบอ้อมอารี และมคี วามเสยี สละ ๔.๙๐ ๐.๓๐ มากท่ีสุด

๓. แสดงภาวะผนู้ าํ ตอ่ เพ่ือนร่วมงานด้วยความเอื้อเฟือ้ เผ่ือแผ่ ๔.๗๐ ๐.๔๖ มากท่ีสดุ

และสนใจไตถ่ ามทกุ ข์สุข

รวม ๔.๘๐ ๐.๓๘ มากทีส่ ุด

จากตารางที่ ๔.๑๖ พบว่า ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็น
ภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วน
ตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ด้านอัตตัญญุตา : ความเป็นผู้รู้จักตน อยู่ในระดับมากที่สุด
(X= ๔.๘๐) เม่ือพิจารณารายข้อโดยเรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยพบว่า ข้อท่ีมีระดับความ
คดิ เห็นมากที่สุดคือ ข้อ ๒. เปน็ ผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี และมีความเสียสละ (X= ๔.๙๐) รองลงมาคือข้อที่
๑ ด้านเปน็ ผูน้ ําวสิ ัยทศั น์ และสามารถกระจายวิสยั ทศั นไ์ ปยงั บุคคลตา่ ง ๆ (X= ๔.๘๐) และขอ้ ทมี่ รี ะดับ
ความคดิ เห็นน้อยทส่ี ุด คือ ข้อ ๓ แสดงภาวะผู้นําตอ่ เพ่ือนร่วมงานด้วยความเอื้อเฟือ้ เผ่ือแผ่ และสนใจไต่
ถามทกุ ข์ สขุ (X= ๔.๗๐)

ตารางที่ ๔.๑๗ ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็นภาวะผู้นําทางการเมือง
ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วน
ตําบลกุดนํ้าใสอําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ด้านมัตตัญญุตา : ความเป็นผู้รู้จัก
ประมาณ

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมืองตามหลักสปั ปุรสิ ธรรม ๗ (n=๓๘๖)
ด้านมตั ตัญญตุ า : ความเปน็ ผรู้ จู้ ักประมาณ ระดับความคดิ เหน็
X S.D. แปลผล
๑. เป็นผู้วางแผน และกําหนดนโยบายในการบรหิ ารงานไดเ้ หมาะสม ๔.๖๓ ๐.๔๙ มากท่สี ดุ
๒. บรหิ ารงบประมาณได้อย่างคุ้มคา่ และเกดิ ประโยชน์ตอ่ ชุมชน ๔.๖๗ ๐.๔๗ มากทสี่ ดุ
๓. ยึดหลักเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ แนวบริหารด้านการศกึ ษาใน ๔.๖๐ ๐.๖๒ มากท่สี ดุ
ชมุ ชนของทา่ น
๔.๖๓ ๐.๕๒ มากทสี่ ดุ
รวม

๕๗

จากตารางที่ ๔.๑๗ พบว่า ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็น
ภาวะผนู้ ําทางการเมอื งกับหลักสัปปรุ ิสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองคก์ ารบริหารส่วน
ตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้านมัตตัญญุตา : ความเป็นผู้รู้จักประมาณ อยู่ในระดับมาก
ที่สุด (X= ๔.๖๓) เมื่อพิจารณารายข้อโดยเรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยพบว่า ข้อท่ีมีระดับ
ความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ ข้อ ๒ บริหารงบประมาณได้อย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อชุมชน (X=
๔.๖๗) รองลงมาคือข้อ ๑ เป็นผู้วางแผน และกําหนดนโยบายในการบริหารงานได้เหมาะสม (X=
๔.๖๓) และข้อที่มีระดับความคิดเห็นน้อยท่ีสุด คือ ข้อ ๓ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวบริหาร
ด้านการศกึ ษาในชุมชนของทา่ น (X= ๔.๖๐)

ตารางท่ี ๔.๑๘ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นําทางการเมืองตามสัปปุริส
ธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใสอําเภอ
จัตรุ ัส จังหวดั ชยั ภมู ิ ด้านกาลญั ญุตา : ความเป็นผู้รู้กาลเวลา

ภาวะผนู้ ําทางการเมืองตามหลักสปั ปุรสิ ธรรม ๗ (n=๓๘๖)
ดา้ นกาลญั ญตุ า : ความเปน็ ผ้รู กู้ าลเวลา ระดบั ความคดิ เห็น

X S.D. แปลผล

๑. จดั ทํานโยบายหรอื โครงการเหมาะสมกบั โอกาสและเวลา ๔.๘๐ ๐.๔๖ มากที่สุด
๒. สามารถจัดลาํ ดับความสาํ คญั ของปญั หากอ่ นและหลงั ไดด้ ี ๔.๖๗ ๐.๔๖ มากทีส่ ดุ
๓. เปน็ ผูแ้ กไ้ ขปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ ไดท้ ันต่อเหตุการณ์ และเวลา ๔.๑๗ ๐.๖๒ มาก

รวม ๔.๕๔ ๐.๕๑ มากทีส่ ดุ

จากตารางท่ี ๔.๑๘ พบว่า ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็น
ภาวะผนู้ ําทางการเมืองกับหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นาํ ท้องถิน่ ในองคก์ ารบริหารองคก์ ารบริหารส่วน
ตําบลกุดนํา้ ใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชยั ภูมิด้านกาลญั ญุตา : ความเป็นผูร้ ูก้ าลเวลา อยใู่ นระดับมากท่สี ุด
(X= ๔.๕๔) เมื่อพิจารณารายข้อโดยเรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยพบว่า ข้อท่ีมีระดับความ
คิดเห็นมากท่ีสุดคือ ข้อ ๑ จัดทํานโยบายหรือโครงการเหมาะสมกับโอกาสและเวลา (X= ๔.๘๐)
รองลงมาคือข้อที่ ๒ สามารถจัดลําดบั ความสําคัญของปัญหาก่อนและหลังได้ดี (X= ๔.๖๗ )และข้อที่
มรี ะดับความคดิ เห็นนอ้ ยท่ีสุด คอื ข้อ ๓ เป็นผู้แกไ้ ขปัญหาท่ีเกดิ ขึ้นได้ทันต่อเหตกุ ารณ์ และเวลา (X=
๔.๑๗)

๕๘

ตารางท่ี ๔.๑๙ ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลัก
สปั ปุริสธรรม ๗ ของผูน้ ําท้องถิ่นในองค์การบรหิ ารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส
อาํ เภอจตั ุรัส จังหวัดชยั ภมู ิ ดา้ นปริสญั ญุตา : ความเป็นผรู้ ้จู กั ชมุ ชน

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมอื งตามหลักสปั ปุรสิ ธรรม ๗ (n=๓๘๖)
ดา้ นปริสญั ญตุ า : ความเปน็ ผ้รู ู้จักชุมชน ระดบั ความคดิ เห็น

X S.D. แปลผล

๑. เป็นผู้มมี นษุ ยสมั พนั ธ์ที่ดกี ับทุกคนและทกุ องค์กร ๔.๗๐ ๐.๔๗ มากทีส่ ดุ

๒. เป็นผปู้ ระสานงานไดด้ ีกับทกุ องค์กรและทกุ ภาคสว่ น ๔.๗๐ ๐.๔๗ มากทีส่ ดุ

๓. ใหค้ วามสาํ คญั กบั ประโยชนส์ ่วนรวมมากกว่าประโยชนส์ ว่ นตน ๔.๖๐ ๐.๖๒ มากท่สี ุด

รวม ๔.๖๗ ๐.๕๒ มากทส่ี ดุ

จากตารางที่ ๔.๑๙ พบว่า ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็น
ภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารองค์การบริหาร
ส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้านปริสัญญุตา : ความเป็นผู้รู้จักชุมชน อยู่ในระดับ
มาก (X= ๔.๖๗ ) เม่ือพิจารณารายข้อ โดยเรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยพบว่าข้อที่มีระดับ
ความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ ข้อ ๑ เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีกับทุกคนและทุกองค์กร และ ข้อ ๒ เป็นผู้
ประสานงานได้ดีกับทุกองค์กรและทุกภาคส่วน (X= ๔.๗๐) และข้อที่มีระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด
คอื ขอ้ ๓ ใหค้ วามสาํ คญั กบั ประโยชน์สว่ นรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน (X= ๔.๖๐)

ตารางท่ี ๔.๒๐ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับภาวะผู้นําทางการเมืองตามหลัก
สปั ปุริสธรรม ๗ ของผนู้ ําท้องถิน่ ในองค์การบรหิ ารองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส
อําเภอจตั ุรัส จังหวัดชัยภูมิ ด้านปุคคลปโรปรัญญุตา : ความเป็นผ้รู ู้บุคคล

ภาวะผนู้ ําทางการเมอื งตามหลกั สปั ปุรสิ ธรรม ๗ (n=๓๘๖)
ด้านปคุ คลปโรปรญั ญตุ า : ความเป็นผูร้ ู้บคุ คล ระดบั ความคดิ เห็น

X S.D. แปลผล

๑. สามารถแต่งตัง้ หรอื จดั วางบุคคลใหเ้ หมาะสมกับงาน ๔.๘๓ ๐.๓๗ มากทสี่ ุด
๔.๖๗ ๐.๔๗ มากที่สุด
๒. ใหโ้ อกาสและสนบั สนนุ บคุ คลมีความรู้ และความสามารถให้
ดํารงตาํ แหน่งทีเ่ หมาะสม ๔.๕๐ ๐.๖๓ มากที่สดุ

๓. สามารถปฏบิ ัตติ ่อผู้ใต้บังคับบญั ชาแตล่ ะบุคคลได้อยา่ ง ๔.๖๗ ๐.๔๙ มากทส่ี ดุ
ถกู ตอ้ ง

รวม

จากตารางที่ ๔.๒๐ พบว่า ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็น
ภาวะผู้นําทางการเมืองกับหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารองค์การบริหารส่วน
ตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้านปุคคลปโรปรัญญุตา: ความเป็นผู้รู้บุคคล อยู่ในระดับมาก

๕๙

ทสี่ ุด (X= ๔.๖๔)เมื่อพิจารณารายข้อโดยเรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหานอ้ ยพบวา่ ข้อท่ีมีระดับความ
คิดเห็นมากที่สุดคือ ข้อ ๑. สามารถแต่งตั้งหรือจัดวางบุคคลให้เหมาะสมกับงาน (X= ๔.๘๓) รองลงมา
คือข้อ ๒ ให้โอกาสและสนับสนุนบุคคลมีความรู้และความสามารถให้ดํารงตําแหน่งที่เหมาะสม (X=
๔.๖๗)และข้อท่ีมรี ะดับความคิดเห็นน้อยท่ีสุด คือ ข้อ ๓ สามารถปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคบั บัญชาแต่ละบุคคล
ได้อย่างถกู ตอ้ ง (X= ๔.๕๐)

๔.๔ ผลการวิเคราะห์การเปรียบเทียบรายคู่ (post Hoe) ของภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผ้นู ําทอ้ งถ่นิ ในองค์การบริหารสว่ นตาํ บลกุดนา้ํ ใส อาํ เภอจัตรุ สั จงั หวดั ชัยภมู ิ

จําแนกตามข้อมูลท่ัวไป จากสมมติฐานการวิจัย การทดสอบค่า ( t-test) และการ
วเิ คราะหค์ วามแปรปรวนทางเดียว (One Way Anova) ตามตารางท่ี ๔.๒๑

สมมติฐานที่ ๑ ประชากรท่ีมีเพศต่างกัน มีความเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถ่ิน
ของนายกองค์การบริหารส่วนตาํ บล แตกต่างกัน

การวิเคราะห์ ใช้สถิติ t-test คือ กลุ่มตัวอย่าง ๒ กลุ่ม มีความเป็นอิสระต่อกัน ใช้ระดับ
ความเชื่อม่ัน ๙๕% ดังนั้น จะเปน็ ไปตามสมมติฐานต่อเม่ือค่า Sig. น้อยกว่า ๐.๐๕ และนําเสนอในรูป
ตารางประกอบการบรรยาย

ตารางท่ี ๔.๒๑ แสดงการเปรยี บเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง

ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ

จาํ แนกตามเพศ

(n=๓๘๖)

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมอื ง ชาย หญิง t Sig.
S.D. S.D.

ดา้ นการสรา้ งวิสัยทศั น์ ๔.๔๗ ๐.๑๒ ๔.๑๘ ๐.๓๑ ๑.๒๖๖ ๐.๒๑๖

ดา้ นการสร้างแรงจูงใจ ๔.๔๒ ๐.๑๓ ๔.๔๕ ๐.๓๓ -๐.๑๑๙ ๐.๙๐๖

ด้านมีความสามารถทํางานร่วมกบั ผอู้ ื่น ๔.๔๒ ๐.๑๔ ๔.๘๒ ๐.๓๘ -๑.๗๓๑ ๐.๐๕๗

ดา้ นมนุษยสมั พันธ์ ๔.๗๔ ๐.๑๕ ๔.๑๘ ๐.๒๐ ๓.๓๖๑ ๐.๐๐๒*

ดา้ นความรคู้ วามสามารถ ๔.๔๗ ๐.๐๒ ๓.๙๑ ๐.๒๘ ๑.๙๙๔ ๐.๐๕๖

รวม ๔.๕๐ ๐.๐๕ ๔.๓๑ ๐.๐๗ ๐.๙๕๔ ๐.๒๔๗

*มีนยั สําคัญทางสถิติท่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตาราง ๔.๒๑ การเปรยี บเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทาง
การเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิโดย
ภาพรวมจําแนกตามเพศ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชายมีความคิดเห็นอยู่ในระดับ
มากที่สุด (X= ๔.๕๐) และเพศหญิงมีความคดิ เหน็ อยูใ่ นระดับมากทสี่ ุดเช่นกนั (X= ๔.๓๑)

จากการทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ค่าเฉล่ีย
และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน โดยตัวแปรอิสระ (Independent Variables) ที่มีคําตอบ ๒กลุ่ม คือ เพศ
ชาย และเพศหญิง พบว่า ได้ค่า (t) เท่ากับ ๐.๙๕๔ และค่า (Sig.) เท่ากับ ๐.๒๔๗ ซ่ึงมากกว่าค่า

๖๐

ระดับนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ต้ังไว้ แสดงว่า เพศของผู้นําท้องถิ่นใน
องค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ มีระดับภาวะผู้นําทางการเมืองท่ีไม่
แตกตา่ งกนั

สมมติฐานที่ ๒ ประชากรทม่ี อี ายตุ า่ งกนั มคี วามคิดเห็นต่อภาวะผูน้ ําทางการเมืองท้องถิ่น
ของผ้นู ําในองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตําบลกดุ น้ําใส อาํ เภอจัตรุ สั จงั หวัดชยั ภูมิ แตกต่างกนั

การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดยี ว (One Way Anova) เมื่อพบความแตกต่างจะทําการ
เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ โดยใช้ผลต่างนัยสําคัญท่ี๐.๐๕ (Least Significant
Difference: LSD)

ตารางท่ี ๔.๒๒ ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ท้องถ่ินของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
จําแนกตามอายุ

ภาวะผนู้ ําทางการเมอื ง แหล่งข้อมลู SS df MS F Sig
๑๑.๘๙ ๓ ๓.๙๖ ๑๑.๗๓ ๐.๐๐๐*
ระหว่างกลมุ่ ๑๒๙.๐๕
๑๔๐.๙๔ ๓๘๒ ๐.๓๓๘
ดา้ นการสรา้ งวิสัยทศั น์ ภายในกลมุ่ ๖๒.๓๔ ๓๘๕
๑๑๑.๕๖
รวม ๑๗๓.๙๑ ๓ ๒๐.๗๘ ๗๑.๑๕ ๐.๐๐๐*
๗.๗๘ ๓๘๒ ๐.๒๙
ระหว่างกลมุ่ ๑๗๒.๓๔ ๓๘๕
๑๘๐.๑๒
ด้านการสร้างแรงจงู ใจ ภายในกลมุ่ ๒๒.๐๒ ๓ ๒.๕๙ ๕.๗๔ ๐.๐๐๑*
๑๑๙.๙๙ ๓๘๒ ๐.๔๕
รวม ๑๔๒.๐๒ ๓๘๕
๓๕.๑๐๗
ดา้ นมคี วามสามารถ ระหว่างกลมุ่ ๙๘.๔๒ ๓ ๗.๓๔ ๒๓.๓๘ ๐.๐๐๐*
ทาํ งานรว่ มกบั ผู้อนื่ ภายในกลุ่ม ๑๓๓.๕๓ ๓๘๒ ๐.๓๑
๒๗.๘๒ ๓๘๕
รวม ๑๒๖.๒๗
๑๕๔.๑๐ ๓ ๑๑.๗๐ ๔๕.๔๑ ๐.๐๐๐*
ระหวา่ งกล่มุ ๓๘๒ ๐.๒๕
๓๘๕
ดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ ภายในกลมุ่
๓ ๙.๒๗ ๓๑.๔๘ ๐.๐๐๐*
รวม ๓๘๒ ๐.๓๒
๓๘๕
ดา้ นความรู้ ระหว่างกลมุ่
ความสามารถ ภายในกลมุ่

รวม

ระหว่างกลุ่ม

ภาพรวม ภายในกลมุ่

รวม

*มนี ยั สาํ คญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

๖๑

จากตารางที่ ๔.๒๒ พบว่า ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
จําแนกตามอายุ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นใน
องค์การบริหารส่วนตําบล โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็น
ตามสมมติฐานที่ตงั้ ไว้

เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถ่ินของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบล ด้านการสร้างวิสัยทัศน์ ด้านการ
สร้างแรงจูงใจ ด้านมีความสามารถทํางานร่วมกับผู้อื่น ด้านมนุษยสัมพันธ์ และด้านความรู้และ
ความสามารถแตกต่างกันอยา่ งมนี ยั สาํ คัญทางสถติ ทิ ่ีระดับ ๐.๐๕ ซง่ึ เป็นตามสมมติฐานทต่ี งั้ ไว้

ดังน้ัน จึงทําการทดสอบความแตกตา่ งเป็นรายคู่ของระดบั ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมตี ่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้วย
วิธีการของ LSD. (Least Significant Difference) และนําเสนอในรูปตารางประกอบการบรรยาย ซึ่ง
ปรากฏดงั ตารางท่ี ๔.๒๒– ๔.๒๗

ตารางท่ี ๔.๒๓ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิโดย
ภาพรวม จําแนกตามอายุ เป็นรายคู่

อายุ ๑๘ - ๒๔ ปี ๒๕ - ๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี (n=๓๘๖)

๔.๕๘ ๔.๕๙ ๔.๖๕ มากกวา่
-๐.๐๑* -๐.๐๗* ๔๕ ปี
๑๘ - ๒๔ ปี ๔.๕๘ - -๐.๐๖*
- ๔.๖๑
๒๕ - ๓๕ ปี ๔.๕๙ - -๐.๐๓*
-๐.๐๒*
๓๖-๔๕ ปี ๔.๖๕ ๐.๐๔*

มากกวา่ ๔๕ ปี ๔.๖๑ -

*มีนัยสําคัญทางสถติ ิท่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๒๓ เม่ือทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วน ตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ โดยภาพรวม จําแนกตามอายุ เป็นรายคู่ โดยภาพรวม พบว่า ผู้นําท่ีมีรายได้ต่อเดือนมีคู่ที่
แตกต่างกนั อยู่ ๖ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีอายุ ๑๘-๒๔ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอายุ ๒๕-๓๕ ปี ประชาชนท่ีมีอายุ ๓๖–๔๕ ปีและประชาชนท่ีมีอายุ
มากกว่า ๔๕ ปี

๖๒

ประชาชนที่มีอายุ ๒๕-๓๕ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่น
แตกต่างจากประชาชนทม่ี อี ายุ ๓๖–๔๕ ปี และประชาชนที่มีอายุมากกว่า ๔๕ ปี

ประชาชนท่ีมีอายุ ๓๖–๔๕ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
แตกต่างจากประชาชนที่มอี ายุมากกว่า ๔๕ ปี
นอกนั้นไม่พบความแตกต่างรายคู่

ตารางที่ ๔.๒๔ แสดงการเปรยี บเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบรหิ ารสว่ นตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จงั หวัดชยั ภูมิด้าน
การสรา้ งวิสัยทัศน์ จาํ แนกตามอายุ เป็นรายคู่

อายุ ๑๘ - ๒๔ ปี ๒๕ - ๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี (n=๓๘๖)

๑๘ - ๒๔ ปี ๔.๓๗ ๔.๓๗ ๔.๔๓ ๔.๕๗ มากกวา่
- -๐.๐๖* -๐.๒๐* ๔๕ ปี
๒๕ - ๓๕ ปี ๔.๔๓ - -๐.๐๔*
๔.๕๓
๓๖-๔๕ ปี ๔.๕๗ - -๐.๑๖*
-๐.๑๐*
มากกวา่ ๔๕ ปี ๔.๕๓ ๐.๐๔*

-

*มีนัยสําคัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๒๔ เม่ือทดสอบความแตกตา่ งระดับความคดิ เห็นของประชาชนที่มีตอ่ ภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วน ตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ด้านการสรา้ งวิสยั ทศั น์ จาํ แนกตามอายเุ ป็นรายคู่ พบวา่ มคี ู่ทแ่ี ตกต่างกันอยู่ ๖ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีอายุ ๑๘-๒๔ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุ ๒๕ - ๓๕ ปี ประชาชนที่มีอายุ ๓๖ – ๔๕ ปี และประชาชนท่ีมีอายุ
มากกวา่ ๔๕ ปี

ประชาชนที่มีอายุ ๒๕ - ๓๕ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
แตกตา่ งจากประชาชนที่มอี ายุ ๓๖-๔๕ ปี และประชาชนทม่ี ีอายุ มากกวา่ ๔๕ ปี

ประชาชนท่ีมีอายุ ๓๖-๔๕ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่น
แตกตา่ งจากประชาชนทมี่ ีอายุ มากกว่า ๔๕ ปี

นอกนน้ั ไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๖๓

ตารางท่ี ๔.๒๕ แสดงการเปรียบเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ด้านการสรา้ งแรงจูงใจ จําแนกตามอายุ เปน็ รายคู่

อายุ X ๑๘ - ๒๔ ปี ๒๕ - ๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี (n=๓๘๖)

๑๘ - ๒๔ ปี ๔.๔๗ ๔.๔๗ ๔.๔๐ ๔.๕๓ มากกวา่
- ๐.๐๗ -๐.๐๖* ๔๕ ปี
๒๕ - ๓๕ ปี ๔.๔๐ - -๐.๑๓*
๔.๕๐
๓๖-๔๕ ปี ๔.๕๓ - -๐.๐๓*
-๐.๑๐*
มากกว่า ๔๕ ปี ๔.๕๐ ๐.๐๓*

-

*มนี ัยสําคัญทางสถติ ิท่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๒๕ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภมู ิ ดา้ นการสร้างแรงจงู ใจ จาํ แนกตามอายเุ ปน็ รายคู่ พบวา่ มีคทู่ ่แี ตกต่างกนั อยู่ ๕ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอายุ ๑๘-๒๔ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนทม่ี อี ายุ ๓๖ – ๔๕ ปี และอายุมากกวา่ ๔๕ ปี

ประชาชนท่ีมีอายุ ๒๕ - ๓๕ ปี มีความคิดเห็นภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนทมี่ อี ายุ ๓๖-๔๕ ปี และอายมุ ากกวา่ ๔๕ ปี

ประชาชนท่ีมีอายุ ๓๖-๔๕ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนท่ีมอี ายุ มากกวา่ ๔๕ ปี

นอกนั้นไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๖๔

ตารางที่ ๔.๒๖ แสดงการเปรยี บเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ดา้ นมีความสามารถทาํ งานรว่ มกบั ผู้อ่นื จําแนกตามอายุ เป็นรายคู่

อายุ ๑๘ - ๒๔ ปี ๒๕ - ๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี (n=๓๘๖)

๑๘ - ๒๔ ปี ๔.๗๓ ๔.๗๓ ๔.๗๗ ๔.๗๗ มากกว่า
- -๐.๐๔* -๐.๐๔* ๔๕ ปี
๐.๐๐*
๒๕ - ๓๕ ปี ๔.๗๗ - ๔.๗๐
- ๐.๐๓*
๓๖-๔๕ ปี ๔.๗๗ ๐.๐๗
๐.๐๗
มากกว่า ๔๕ ปี ๔.๗๐
-

*มีนยั สาํ คัญทางสถติ ิทร่ี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๒๖ เมือ่ ทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีตอ่ ภาวะ
ผนู้ ําทางการเมืองของผู้นําทอ้ งถนิ่ ในองค์การบริหารสว่ นตาํ บลกดุ นํ้าใส อําเภอจัตุรสั จังหวดั ชัยภูมิด้านมี
ความสามรถทาํ งานรว่ มกับผู้อน่ื จําแนกตามอายุเป็นรายคู่ พบว่า มีคู่ทแ่ี ตกต่างกันอยู่ ๔ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีอายุ ๑๘-๒๔ ปี มีความเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนที่มอี ายุ ๒๕-๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี และมากกวา่ ๔๕ ปี

ประชาชนท่ีมีอายุ ๒๕-๓๕ ปี มีความเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนทมี่ อี ายุ ๓๖-๔๕ ปี

นอกนั้นไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

ตารางท่ี ๔.๒๗ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําทาง
การเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมดิ ้านมนุษยสัมพนั ธ์ จําแนกตามอายุ เปน็ รายคู่

อายุ ๑๘ – ๒๔ ปี ๒๕ - ๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี (n=๓๘๖)

๔.๖๓ ๔.๖๗ ๔.๗๐ มากกวา่
-๐.๐๔* -๐.๐๗* ๔๕ ปี
๑๘ - ๒๔ ปี ๔.๖๓ - -๐.๐๓*
- ๔.๘๐
๒๕ - ๓๕ ปี ๔.๖๗ - -๐.๑๗*
-๐.๑๓*
๓๖-๔๕ ปี ๔.๗๐ -๐.๑๐*

มากกว่า ๔๕ ปี ๔.๘๐ -

*มนี ัยสําคญั ทางสถติ ิทร่ี ะดบั ๐.๐๕

๖๕

จากตารางที่ ๔.๒๗ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชยั ภมู ิ ดา้ น มนษุ ยสัมพนั ธ์ จาํ แนกตามอายุเปน็ รายคู่ พบว่า มีคู่ที่แตกต่างกันอยู่ ๖ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีอายุ ๑๘-๒๔ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนท่มี อี ายุ ๒๕-๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี และประชาชนท่ีมีอายมุ ากวา่ ๔๕ ปี

ประชาชนท่ีมีอายุ ๒๕-๓๕ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนทมี่ อี ายุ ๓๖-๔๕ ปี และประชาชนทม่ี อี ายมุ ากวา่ ๔๕ ปี

ประชาชนท่ีมีอายุ ๓๖-๔๕ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนท่ีมีอายุ มากกวา่ ๔๕ ปี

นอกน้นั ไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

ตารางท่ี ๔.๒๘ แสดงการเปรียบเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วน ตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ดา้ นความรู้ความสามารถ จําแนกตามอายุ เปน็ รายคู่

อายุ X ๑๘ - ๒๔ ปี ๒๕ - ๓๕ ปี ๓๖-๔๕ ปี (n=๓๘๖)

๑๘ - ๒๔ ปี ๔.๗๐ ๔.๗๐ ๔.๖๗ ๔.๗๐ มากกวา่
- ๐.๐๓* ๐.๐๐* ๔๕ ปี
-๐.๐๓*
๒๕ - ๓๕ ปี ๔.๖๗ - ๔.๕๐
- ๐.๒๐
๓๖-๔๕ ปี ๔.๗๐ ๐.๑๗
๐.๒๐
มากกวา่ ๔๕ ปี ๔.๕๐
-

*มีนยั สําคัญทางสถติ ทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๒๘ เม่ือทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมดิ ้านความร้คู วามสามารถ จําแนกตามอายเุ ป็นรายคู่ พบวา่ มีคทู่ ีแ่ ตกต่างกันอยู่ ๓ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอายุ ๑๘-๒๔ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนทมี่ อี ายุ ๒๕-๓๕ ปี และประชาชนทีม่ อี ายุ ๓๖-๔๕ ปี

ประชาชนที่มีอายุ ๒๕-๓๕ ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างจาก
ประชาชนทีม่ ีอายุ ๓๖-๔๕ ปี

นอกนน้ั ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

๖๖

สมมติฐานท่ี ๓ ประชากรที่มีสถานภาพการสมรสต่างกัน มคี วามคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทาง
การเมอื งท้องถิน่ ของผ้นู ําในองคก์ ารบริหารสว่ นตาํ บลกดุ น้าํ ใส อาํ เภอจตั รุ ัส จงั หวดั ชัยภูมิ แตกต่างกัน

การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Anova) เม่ือพบความแตกต่างจะทํา
การเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉล่ียเป็นรายคู่ โดยใช้ผลต่างนัยสําคัญที่ ๐.๐๕ (Least
Significant Difference: LSD)

ตารางท่ี ๔.๒๙ ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ท้องถิ่นของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
จําแนกตามสถานภาพการสมรส

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมือง แหล่งขอ้ มลู SS df MS F Sig
๔.๔๘ ๒ ๒.๒๔ ๖.๓๙ ๐.๐๐๒*
ระหวา่ งกลุ่ม ๑๓๖.๔๖
๑๔๐.๙๔ ๓๘๓ ๐.๓๕
ดา้ นการสรา้ งวิสัยทศั น์ ภายในกลมุ่ ๑๙.๐๑ ๓๘๕
๑๕๔.๙๐
รวม ๑๗๓.๙๑ ๒ ๙.๑๘ ๒๓.๔๐ ๐.๐๐๐*
๖.๖๔ ๓๘๓ ๐.๓๙
ระหว่างกลมุ่ ๑๗๓.๔๘ ๓๘๕
๑๘๐.๑๒๗
ด้านการสร้างแรงจงู ใจ ภายในกลมุ่ ๘.๒๘ ๒ ๓.๓๒ ๗.๓๓ ๐.๐๐๑*
๑๓๓.๗๔ ๓๘๓ ๐.๔๕
รวม ๑๔๒.๐๒ ๓๘๕
๔.๒๓
ด้านมีความสามารถ ระหวา่ งกลุ่ม ๑๒๙.๓๐ ๒ ๔.๑๔ ๑๑.๘๕ ๐.๐๐๐*
ทํางานรว่ มกับผ้อู ืน่ ภายในกลุ่ม ๑๓๓.๕๓ ๓๘๓ ๐.๓๔๘
๘.๕๒ ๓๘๕
รวม ๑๔๕.๕๗
๑๕๔.๑๐ ๒ ๒.๑๑ ๖.๒๖ ๐.๐๐๒*
ระหว่างกล่มุ ๓๘๓ ๐.๓๓๘
๓๘๕
ดา้ นมนุษยสัมพันธ์ ภายในกลุม่
๒ ๔.๑๙ ๑๑.๐๔ ๐.๐๐๑*
รวม ๓๘๓ ๐.๓๗
๓๘๓
ดา้ นความรู้ ระหวา่ งกลมุ่
ความสามารถ ภายในกลมุ่

รวม

ระหว่างกลุ่ม

ภาพรวม ภายในกล่มุ

รวม

*มนี ยั สําคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๒๙ พบว่า ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชยั ภมู จิ ําแนกตามสถานภาพการสมรส ไดแ้ ก่

๖๗

ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นของ
ผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิโดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมี
นยั สาํ คญั ทางสถิติทร่ี ะดบั ๐.๐๕ ซ่ึงเปน็ ตามสมมตฐิ านทตี่ ั้งไว้

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนท่ีมีสถานภาพแตกต่างกัน มีระดับความ
คิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส
จังหวัดชัยภูมิด้านการสร้างวิสัยทัศน์ ด้านการสร้างแรงจูงใจ ด้านมีความสามารถทํางานร่วมกับผู้อ่ืน
ด้านมนุษยสัมพันธ์ และด้านความรู้และความสามารถแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ซ่งึ เป็นตามสมมตฐิ านทตี่ ้งั ไว้

ดังนั้น จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของระดับความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทาง
การเมืองท้องถิ่นของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้วยวิธีการ
ของ LSD. (Least Significant Difference) และนําเสนอในรูปตารางประกอบการบรรยาย ซึ่งปรากฏ
ดังตารางท่ี ๔.๒๙–๔.๓๔

ตารางที่ ๔.๓๐ แสดงการเปรยี บเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิโดย
ภาพรวม จาํ แนกตามสถานภาพการสมรส เปน็ รายคู่

(n=๓๘๖)

สถานภาพการสมรส โสด สมรส หยา่ /หมา้ ย/
แยกกนั อยู่
๔.๗๒
- ๔.๖๓ ๔.๗๔

โสด ๔.๗๒ ๐.๐๙ -๐.๐๒*
สมรส ๔.๖๓
หยา่ /หมา้ ย/แยกกนั อยู่ ๔.๗๔ - -๐.๑๑*
*มนี ยั สาํ คัญทางสถิติท่รี ะดบั ๐.๐๕
-

จากตารางท่ี ๔.๓๐ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ โดยภาพรวม จําแนก
ตามสถานภาพ เปน็ รายคู่ พบว่าประชาชนทีม่ ีสถานภาพการสมรส โสดมีคู่ท่ีแตกต่างกัน อยู่ ๒ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีสถานภาพการสมรส โสด มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ แตกต่างจากประชาชนที่มี
สถานภาพหย่า/หมา้ ย/แยกกนั อยู่

ประชาชนท่ีมีสถานภาพสมรส สมรส มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ แตกต่างจากประชาชนที่มี
สถานภาพการสมรส หย่า/หมา้ ย/แยกกันอยู่

นอกนั้นไมพ่ บความแตกตา่ งรายคู่

๖๘

ตารางท่ี ๔.๓๑ แสดงการเปรยี บเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหาร ส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ด้านการสร้างวิสยั ทัศน์ จําแนกตาม สถานภาพการสมรส เปน็ รายคู่

สถานภาพการสมรส โสด สมรส (n=๓๘๖)

โสด ๔.๕๓ ๔.๕๓ ๔.๕๘ หยา่ /หมา้ ย/
สมรส ๔.๕๘ - -๐.๐๕* แยกกนั อยู่
หย่า/หม้าย/แยกกนั อยู่ ๔.๖๘
*มนี ัยสาํ คัญทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕ - ๔.๖๘
-๐.๑๕*
๐.๑๒

-

จากตารางท่ี ๔.๓๑ เม่ือทดสอบความแตกต่างความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ดา้ นการสร้างวิสัยทัศน์ จําแนกตามสถานภาพการสมรส เป็นรายคู่ พบว่าประชาชนที่มีสถานภาพการ
สมรสโสดมีคู่ท่ีแตกตา่ งกัน อยู่ ๒ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีสถานภาพการสมรส โสด มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถ่ิน แตกต่างจากประชาชนท่ีมีสถานภาพการสมรส สมรส และประชาชนที่มีสถานภาพการสมรส
หย่า/หมา้ ย/แยกกันอยู่

นอกนนั้ ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

ตารางที่ ๔.๓๒ แสดงการเปรยี บเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนที่มตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ด้านการสรา้ งแรงจูงใจ จําแนกตาม สถานภาพการสมรส เป็นรายคู่

สถานภาพการสมรส โสด สมรส (n=๓๘๖)

โสด ๔.๔๕ ๔.๔๕ ๔.๕๕ หย่า/หมา้ ย/
สมรส ๔.๕๕ - -๐.๑๐* แยกกันอยู่
หยา่ /หมา้ ย/แยกกนั อยู่ ๔.๘๒
*มีนัยสําคญั ทางสถติ ิท่ีระดับ ๐.๐๕ - ๔.๘๒
-๐.๓๗*
๐.๓๕

-

๖๙

จากตารางที่ ๔.๓๒ เม่ือทดสอบความแตกต่างของความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิด้านการสร้างแรงจูงใจ จําแนกตามสถานภาพการสมรส เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนที่มี
สถานภาพการสมรสโสดมีคูท่ แี่ ตกตา่ งกัน อยู่ ๒ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีสถานภาพการสมรส โสด มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถิ่น แตกต่างจากประชาชนท่ีมีสถานภาพสมรส สมรส และประชาชนท่ีมีสถานภาพการสมรส
หยา่ /หมา้ ย/แยกกันอยู่

นอกนนั้ ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

ตารางที่ ๔.๓๓ แสดงการเปรียบเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนที่มตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ดา้ นมีความสามารถทาํ งานร่วมกับผูอ้ น่ื จาํ แนกตามสถานภาพการสมรส เป็นรายคู่

สถานภาพการสมรส โสด สมรส (n=๓๘๖)

โสด ๔.๗๔ ๔.๗๔ ๔.๘๙ หยา่ /หมา้ ย/
สมรส ๔.๘๙ - -๐.๑๕* แยกกนั อยู่
หยา่ /หมา้ ย/แยกกนั อยู่ ๔.๕๘
*มนี ยั สาํ คัญทางสถติ ทิ รี่ ะดับ ๐.๐๕ - ๔.๕๘
๐.๑๖
-๐.๐๙*

-

จากตารางท่ี ๔.๓๓ เม่ือทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ ด้านมคี วามสามารถทํางานร่วมกบั ผู้อ่นื จาํ แนกตามสถานภาพการสมรส เปน็ รายคู่ พบวา่ ผ้นู ํา
ท่ีมีสถานภาพการสมรส โสดมคี ่ทู แี่ ตกต่างกนั อยู่ ๒ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีสถานภาพการสมรส โสด มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ทอ้ งถน่ิ แตกตา่ งจากประชาชนท่มี สี ถานภาพการสมรส สมรส

ประชาชนที่มีสถานภาพสมรส สมรส มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถ่ิน แตกตา่ งจากประชาชนทม่ี สี ถานภาพการสมรส หย่า/หมา้ ย/แยกกนั อยู่

นอกน้นั ไมพ่ บความแตกตา่ งรายคู่

๗๐

ตารางท่ี ๔.๓๔ แสดงการเปรยี บเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบรหิ ารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตรุ ัส จังหวัดชัยภูมิด้าน
มนุษยสัมพนั ธ์ จาํ แนกตามสถานภาพการสมรส เปน็ รายคู่

(n=๓๘๖)

สถานภาพการสมรส โสด สมรส หยา่ /หมา้ ย/
แยกกนั อยู่
๔.๘๒
- ๔.๕๕ ๔.๙๑

โสด ๔.๘๒ ๐.๒๗ -๐.๐๙*
สมรส ๔.๕๕
หยา่ /หมา้ ย/แยกกันอยู่ ๔.๙๑ - -๐.๓๖*
*มีนยั สําคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕
-

จากตารางท่ี ๔.๓๔ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วน ตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ ด้านมนุษยสัมพันธ์ จําแนกตามสถานภาพการสมรส เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมีสถานภาพ
การสมรสโสดมคี ู่ท่แี ตกตา่ งกัน อยู่ ๒ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีสถานภาพการสมรส โสด มีความคิดเหน็ ต่อภาวะผู้นาํ ทางการเมืองของผ้นู ํา
ท้องถิน่ แตกต่างจาก ประชาชนท่มี ีสถานภาพการสมรส สมรส

ประชาชนที่มีสถานภาพการสมรส สมรส มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผนู้ าํ ท้องถ่นิ แตกตา่ งจากประชาชนที่มีสถานภาพการสมรส หย่า/หมา้ ย/แยกกันอยู่

นอกนัน้ ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

ตารางที่ ๔.๓๕ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบรหิ ารส่วนตาํ บลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จงั หวดั ชัยภูมิด้าน
ความรู้ความสามารถ จาํ แนกตามสถานภาพการสมรส เปน็ รายคู่

(n=๓๘๖)

สถานภาพการสมรส โสด สมรส หยา่ /หมา้ ย/
แยกกันอยู่
๔.๘๔
- ๔.๕๘ ๔.๗๔

โสด ๔.๘๔ ๐.๒๖ ๐.๑๐
สมรส ๔.๕๘
หย่า/หมา้ ย/แยกกนั อยู่ ๔.๗๔ - -๐.๑๖*
*มนี ัยสําคญั ทางสถติ ิทีร่ ะดับ ๐.๐๕
-

๗๑

จากตารางที่ ๔.๓๕ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ ด้านความรู้ความสามารถจําแนกตามสถานภาพการสมรส เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมี
สถานภาพการสมรส โสดมีคู่ท่ีแตกตา่ งกัน อยู่ ๑ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีสถานภาพการสมรส สมรส มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผูน้ ําท้องถ่ิน แตกตา่ งจากประชาชนทีม่ สี ถานภาพการสมรส หยา่ /หม้าย/แยกกันอยู่

นอกน้ันไมพ่ บความแตกต่างรายคู่
สมมติฐานที่ ๔ ประชากรที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทาง
การเมอื งท้องถนิ่ ในองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาํ บลกุดน้าํ ใสแตกตา่ งกนั
การวเิ คราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Anova) เม่ือพบความแตกต่างจะทําการ
เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ โดยใช้ผลต่างนัยสําคัญท่ี๐.๐๕ (Least Significant
Difference: LSD)

ตารางที่ ๔.๓๖ ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ท้องถิ่นของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
จําแนกตามระดับการศึกษา

(n=๓๘๖)

ภาวะผนู้ ําทางการเมอื ง แหลง่ ขอ้ มูล SS df MS F Sig

ระหว่างกลุ่ม ๖.๗๙ ๔ ๑.๗๐ ๔.๘๒ ๐.๐๐๑*

ด้านการสร้างวสิ ยั ทัศน์ ภายในกลุ่ม ๑๓๔.๑๔ ๓๘๑ ๐.๓๕

รวม ๑๔๐.๙๔ ๓๘๕

ระหวา่ งกลุ่ม ๑๔.๕๔ ๔ ๓.๖๓ ๘.๖๙ ๐.๐๐๐*

ดา้ นการสรา้ งแรงจงู ใจ ภายในกลมุ่ ๑๕๙.๓๗ ๓๘๑ ๐.๔๑

รวม ๑๗๓.๙๑ ๓๘๕

ดา้ นมีความสามารถ ระหวา่ งกลุ่ม ๒.๙๓ ๔ ๐.๗๓ ๑.๕๗ ๐.๑๗๙
ทํางานร่วมกับผอู้ ืน่ ภายในกลุม่ ๑๗๗.๑๘ ๓๘๑ ๐.๔๖

รวม ๑๘๐.๑๒ ๓๘๕

ระหวา่ งกลุม่ ๕.๑๙ ๔ ๑.๒๙ ๓.๖๑ ๐.๐๐๗*

ดา้ นมนษุ ยสมั พนั ธ์ ภายในกลุ่ม ๑๓๖.๘๒ ๓๘๑ ๐.๓๕

รวม ๑๔๒.๐๒ ๓๘๕

ระหว่างกลุ่ม ๗.๒๒ ๔ ๑.๘๐ ๕.๔๕ ๐.๐๐๐*

ด้านความรู้ความสามารถ ภายในกลุ่ม ๑๒๖.๓๐ ๓๘๑ ๐.๓๓

รวม ๑๓๓.๕๓ ๓๘๕

ระหวา่ งกลมุ่ ๗.๓๓ ๔ ๑.๘๓ ๔.๘๒ ๐.๐๓๗*

ภาพรวม ภายในกล่มุ ๑๔๖.๗๖ ๓๘๑ ๐.๓๘

รวม ๑๕๔.๑๐ ๓๘๕

*มีนัยสาํ คัญทางสถิติทร่ี ะดับ ๐.๐๕

๗๒

จากตารางท่ี ๔.๓๖ พบว่า ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถ่ินของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชยั ภูมจิ าํ แนกตามระดบั การศึกษา ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ท้องถิน่ ของผนู้ ําในองคก์ ารบริหารส่วนตําบลกดุ น้าํ ใส อําเภอจัตรุ ัส จงั หวัดชัยภูมิโดยภาพรวมแตกต่าง
กันอย่างมีนัยสําคญั ทางสถติ ทิ ี่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเปน็ ตามสมมตฐิ านทตี่ ง้ั ไว้

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีระดับความ
คิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถ่ินของของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอ
จตั ุรัส จังหวัดชัยภูมิด้านการสร้างวิสัยทัศน์ ด้านการสร้างแรงจูงใจ ด้านมีความสามารถทํางานร่วมกับ
ผู้อื่น ด้านมนุษยสัมพันธ์ และด้านความรู้และความสามารถแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดบั ๐.๐๕ซ่ึงเปน็ ตามสมมติฐานทตี่ ั้งไว้

ดังนั้น จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของระดับความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทาง
การเมืองท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใสด้วยวิธีการของ LSD. (Least Significant
Difference) และนาํ เสนอในรปู ตารางประกอบการบรรยาย ซึง่ ปรากฏดังตารางท่ี ๔.๓๖– ๔.๔๑

ตารางท่ี ๔.๓๗ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผ้นู าํ ทอ้ งถิ่นในองคก์ ารบรหิ ารส่วนตําบลกุดนาํ้ ใส อาํ เภอจัตุรสั จงั หวัดชัยภมู ิ โดย
ภาพรวม จาํ แนกตามระดับการศึกษา เป็นรายคู่

(n=๓๘๖)

ระดบั การศกึ ษา ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษา ปวช./ ปรญิ ญาตรี สูงกวา่
ปวส. ปรญิ ญาตรี

๔.๗๓ ๔.๖๙ ๔.๖๘ ๔.๗๙ ๔.๘๑

ประถมศึกษา ๔.๗๓ - ๐.๐๔* ๐.๐๕ -๐.๐๖* -๐.๐๘*

มัธยมศกึ ษา ๔.๖๙ - ๐.๐๑* -๐.๑๐* -๐.๑๒*

ปวช./ปวส. ๔.๖๘ - -๐.๑๑* -๐.๑๓*

ปรญิ ญาตรี ๔.๗๙ - -๐.๐๒*

สงู กว่าปริญญาตรี ๔.๘๑ -

*มนี ยั สาํ คัญทางสถติ ทิ ่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๓๗ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ โดยภาพรวม จําแนกตามระดับการศึกษา เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาที่
แตกต่างกันมคี วามคิดเห็นตอ่ ภาวะผนู้ ําทางการเมืองแตกต่างกนั อยู่ ๙ คู่ ไดแ้ ก่

๗๓

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาประถมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นําท้องถ่ิน แตกต่างจากประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษา ปริญญาตรี และระดับการศึกษา
สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี

ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นําท้องถิ่น แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. ปริญญาตรี และระดับการศึกษา
สูงกว่าปรญิ ญาตรี

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผูน้ าํ ท้องถ่นิ แตกต่างจากผ้นู าํ ทีม่ รี ะดบั การศกึ ษาปรญิ ญาตรี และระดบั การศึกษาสูงกวา่ ปริญญาตรี

ประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปริญญาตรี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นาํ ทอ้ งถนิ่ แตกตา่ งจากประชาชนทมี่ รี ะดับการศึกษาสงู กว่าปรญิ ญาตรี

นอกนน้ั ไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

ตารางที่ ๔.๓๘ แสดงการเปรยี บเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบรหิ ารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตรุ ัส จังหวัดชยั ภูมดิ ้าน
การสร้างวสิ ัยทัศน์ จําแนกตามระดบั การศึกษา เป็นรายคู่

(n=๓๘๖)

ระดับการศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษา ปวช./ ปรญิ ญาตรี สูงกวา่
ปวส. ปริญญาตรี

๔.๗๙ ๔.๘๙ ๔.๗๔ ๔.๗๔ ๔.๖๓

ประถมศกึ ษา ๔.๗๙ - -๐.๑๐* ๐.๐๕ ๐.๓๖ ๐.๑๖

มธั ยมศกึ ษา ๔.๘๙ - ๐.๑๕ ๐.๑๕ ๐.๒๖

ปวช./ปวส. ๔.๗๔ - ๐.๐๐* ๐.๑๑

ปรญิ ญาตรี ๔.๗๔ - ๐.๑๑

สูงกว่าปริญญาตรี ๔.๖๓ -

*มนี ยั สาํ คญั ทางสถิติท่รี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๓๗ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ ด้านการสร้างวิสัยทัศน์จําแนกตามระดับการศึกษา เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมีมีระดับ
การศึกษาท่แี ตกต่างกันมีความคิดเหน็ ต่อภาวะผนู้ ําทางการเมอื งแตกตา่ งกนั อยู่ ๒ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาประถมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นาํ ทอ้ งถน่ิ แตกตา่ งจากประชาชนทีม่ ีระดบั การศึกษามัธยมศกึ ษา

ประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นาํ ท้องถ่ิน แตกตา่ งจากประชาชนทีม่ ีระดบั การศึกษาปริญญาตรี

นอกนัน้ ไม่พบความแตกต่างรายคู่

๗๔

ตารางท่ี ๔.๓๙ แสดงการเปรยี บเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบรหิ ารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตรุ ัส จังหวดั ชัยภูมิด้าน
การสรา้ งแรงจงู ใจ จาํ แนกตามระดบั การศกึ ษา เป็นรายคู่

ระดบั การศึกษา X ประถมศึกษา มธั ยมศึกษา ปวช./ ปรญิ ญาตรี (n=๓๘๖)
ปวส.
๔.๖๔ สงู กวา่
๔.๕๕ ๔.๖๔ ๔.๘๒ -๐.๐๙* ปรญิ ญาตรี
๐.๐๐*
ประถมศกึ ษา ๔.๕๕ - -๐.๐๙* -๐.๒๗* ๐.๑๘ ๔.๗๓
-๐.๑๘*
มัธยมศกึ ษา ๔.๖๔ - -๐.๑๘* - ๐.๓๔
๐.๐๙
ปวช./ปวส. ๔.๘๒ - -๐.๐๙*

ปรญิ ญาตรี ๔.๖๔ -

สงู กวา่ ปริญญาตรี ๔.๗๓

*มนี ัยสําคัญทางสถติ ิที่ระดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๓๙ เม่ือทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วน ตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิด้านการสร้างแรงจูงใจ จําแนกตามระดับการศึกษา เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมีที่มีมีระดับ
การศกึ ษาที่แตกต่างกนั มีความคดิ เหน็ ต่อภาวะผนู้ ําทางการเมืองแตกตา่ งกันอยู่ ๗ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาประถมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นําท้องถ่ิน แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษา ปวช./ปวส. ปริญญาตรี และสูง
กว่าระดับปรญิ ญาตรี

ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผ้นู ําท้องถน่ิ แตกต่างจากประชาชนท่ีมีระดับการศกึ ษา ปวช./ปวส. และระดับปริญญาตรี

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษา ปริญญาตรี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผนู้ าํ ท้องถิน่ แตกต่างจากประชาชนทมี่ ีระดับการศกึ ษาสูงกวา่ ปรญิ ญาตรี

นอกน้ันไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๗๕

ตารางท่ี ๔.๔๐ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้าน
มีความสามารถทาํ งานร่วมกับผู้อืน่ จาํ แนกตามระดบั การศึกษา เป็นรายคู่

ระดบั การศกึ ษา X ประถมศกึ ษา มธั ยมศึกษา ปวช./ ปรญิ ญาตรี (n=๓๘๖)
ปวส.
๔.๖๓ ๔.๔๗ ๔.๙๕ สงู กวา่
๔.๖๓ -๐.๓๒* ปรญิ ญาตรี
ประถมศึกษา ๔.๖๓ - ๐.๑๖ ๐.๐๐* -๐.๔๘*
-๐.๒๐* -๐.๓๒* ๔.๘๙
มธั ยมศกึ ษา ๔.๔๗ - -๐.๒๖*
- - -๐.๔๒*
ปวช./ปวส. ๔.๖๓ -๐.๔๒*
๐.๐๖
ปรญิ ญาตรี ๔.๙๕
-
สูงกว่าปรญิ ญาตรี ๔.๘๙

*มีนยั สาํ คัญทางสถติ ิทร่ี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๐ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิด้านมีความสามารถทํางานร่วมกับผู้อื่น จําแนกตามระดับการศึกษา เป็นรายคู่ พบว่า
ประชาชนที่มีท่ีมีมีระดับการศึกษาท่ีแตกต่างกันมีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองแตกต่างกัน
อยู่ ๘ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นําท้องถ่ิน แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. ปริญญาตรี และสูงกว่าระดับ
ปริญญาตรี

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นําท้องถ่ิน แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส.ปริญญาตรี และสูงกว่าระดับ
ปริญญาตรี

ประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นําท้องถิน่ แตกตา่ งจาก ประชาชนทีม่ รี ะดบั การศึกษาปรญิ ญาตรี และสูงกวา่ ระดับปรญิ ญาตรี

นอกนั้นไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๗๖

ตารางที่ ๔.๔๑ แสดงการเปรยี บเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารสว่ นตาํ บลกุดน้ําใส อําเภอจัตรุ ัส จงั หวดั ชยั ภูมดิ ้าน
มนุษยสัมพันธ์ จาํ แนกตามระดับการศึกษา เป็นรายคู่

(n=๓๘๖)

ระดบั การศกึ ษา X ประถมศกึ ษา มธั ยมศึกษา ปวช./ ปริญญา สูงกว่า
ปวส. ตรี ปริญญา

ตรี

๔.๘๒ ๔.๕๕ ๔.๓๖ ๔.๗๓ ๔.๙๑

ประถมศึกษา ๔.๘๒ - ๐.๒๗ ๐.๔๖ ๐.๐๙ -๐.๑๑*

มัธยมศกึ ษา ๔.๕๕ - ๐.๑๙ -๐.๑๘* -๐.๓๖*

ปวช./ปวส. ๔.๓๖ - -๐.๓๗* -๐.๕๕*

ปริญญาตรี ๔.๗๓ - -๐.๑๘*

สูงกว่าปริญญาตรี ๔.๙๑ -

*มีนัยสาํ คญั ทางสถิตทิ ่ีระดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๑ เมื่อทดสอบความแตกต่างของความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ ด้านมนุษยสัมพันธ์จําแนกตามระดับการศึกษา เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมีท่ีมีมีระดับ
การศึกษาท่แี ตกตา่ งกันมีความคิดเหน็ ตอ่ ภาวะผู้นาํ ทางการเมอื งแตกต่างกนั อยู่ ๖ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผ้นู ําทอ้ งถิ่น แตกตา่ งจากประชาชนทีม่ รี ะดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี

ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผ้นู าํ ทอ้ งถิน่ แตกตา่ งจากประชาชนทมี่ รี ะดบั การศกึ ษาปริญญาตรี และสูงกวา่ ปริญญาตรี

ประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นาํ ท้องถิน่ แตกต่างจากประชาชนทมี่ ีระดบั การศกึ ษาปริญญาตรี และสูงกว่าปรญิ ญาตรี

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษา ปริญญาตรี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นาํ ทอ้ งถนิ่ แตกตา่ งจากประชาชนท่ีมีระดับการศกึ ษาสงู กว่าปรญิ ญาตรี

นอกน้นั ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

๗๗

ตารางที่ ๔.๔๒ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ด้านความร้คู วามสามารถ จําแนกตามระดับการศกึ ษา เป็นรายคู่

(n=๓๘๖)

ระดบั การศกึ ษา ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษา ปวช./ ปรญิ ญา สงู กวา่
ปวส. ตรี ปริญญา

ตรี

๔.๘๔ ๔.๘๘ ๔.๘๔ ๔.๘๙ ๔.๘๙

ประถมศึกษา ๔.๘๔ - -๐.๐๔* ๐.๐๐* -๐.๐๕* -๐.๐๕*

มธั ยมศกึ ษา ๔.๘๘ - ๐.๐๔* -๐.๐๑* -๐.๐๑*

ปวช./ปวส. ๔.๘๔ - -๐.๐๕* -๐.๐๕*

ปริญญาตรี ๔.๘๙ - ๐.๐๐*

สูงกวา่ ปรญิ ญาตรี ๔.๘๙ -

*มีนัยสําคัญทางสถติ ิทร่ี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๔๒ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิด้านความรู้ความสามารถ จําแนกตามระดับการศึกษา เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนที่มีท่ีมีมี
ระดบั การศกึ ษาทแ่ี ตกต่างกันมีความคิดเห็นตอ่ ภาวะผูน้ ําทางการเมืองแตกต่างกนั อยู่ ๑๐ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาประถมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นําท้องถิ่น แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษา ปวช./ปวส. ปริญญาตรี และสูง
กวา่ ระดบั ปริญญาตรี

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษา มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผู้นําท้องถ่ิน แตกต่างจากประชาชนท่ีมีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. ปริญญาตรี และสูงกว่าระดับ
ปริญญาตรี

ประชานที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผนู้ ําทอ้ งถิน่ แตกต่างจากประชาชนทมี่ ีระดับการศึกษาปรญิ ญาตรี และสูงกว่าระดับปริญญาตรี

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษา ปริญญาตรี มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของ
ผูน้ ําทอ้ งถ่นิ แตกตา่ งจาก ประชาชนทมี่ รี ะดับการศกึ ษาสูงกวา่ ปรญิ ญาตรี

๗๘

สมมติฐานท่ี ๕ ประชากรที่มีอาชีพต่างกัน มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ท้องถ่นิ ในองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาํ บลกดุ นํา้ ใส แตกตา่ งกนั

การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Anova) เมื่อพบความแตกต่างจะทํา
การเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉล่ียเป็นรายคู่ โดยใช้ผลต่างนัยสําคัญที่๐.๐๕ (Least
Significant Difference: LSD)

ตารางที่ ๔.๔๓ ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ท้องถิ่นของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
จําแนกตามอาชีพ

ภาวะผนู้ าํ ทางการเมอื ง แหลง่ ขอ้ มูล SS df MS F Sig

ระหวา่ งกลุ่ม ๑๙.๒๖ ๕ ๓.๘๕ ๑๒.๐๓ ๐.๐๐๐*

ด้านการสรา้ งวิสัยทศั น์ ภายในกลุ่ม ๑๒๑.๖๗ ๓๘๐ ๐.๓๒

รวม ๑๔๐.๙๔ ๓๘๕

ระหวา่ งกลุม่ ๓.๕๕ ๕ ๐.๗๑ ๑.๕๘ ๐.๑๖๓

ดา้ นการสร้างแรงจงู ใจ ภายในกลมุ่ ๑๗๐.๓๖ ๓๘๐ ๐.๔๔

รวม ๑๗๓.๙๑ ๓๘๕

ด้านมคี วามสามารถ ระหวา่ งกล่มุ ๑๗.๘๙ ๕ ๓.๕๗ ๘.๓๘ ๐.๐๐๐*
ทาํ งานร่วมกบั ผ้อู ่นื ภายในกลมุ่ ๑๖๒.๒๓ ๓๘๐ ๐.๔๒
๑๘๐.๑๒ ๓๘๕
รวม

ระหวา่ งกลมุ่ ๓๖.๕๙ ๕ ๗.๓๑ ๒๖.๓๘ ๐.๐๐๐*

ดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ ภายในกลุ่ม ๑๐๕.๔๒ ๓๘๐ ๐.๒๗

รวม ๑๔๒.๐๒ ๓๘๕

ด้านความรู้ ระหว่างกลุ่ม ๑๘.๔๕ ๕ ๓.๖๙ ๑๒.๑๙ ๐.๐๐๐*
ความสามารถ ภายในกล่มุ ๑๑๕.๐๗ ๓๘๐ ๐.๓๐

รวม ๑๓๓.๕๓ ๓๘๕

ระหว่างกลุม่ ๑๙.๑๔ ๕ ๓.๘๒ ๑๒.๑๑ ๐.๑๖๓

ภาพรวม ภายในกล่มุ ๑๓๔.๙๕ ๓๘๐ ๐.๓๕

รวม ๑๕๔.๑๐ ๓๘๕

*มีนยั สําคญั ทางสถิตทิ ร่ี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๔๓ พบว่า ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถ่ินของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมจิ าํ แนกตามอาชพี ได้แก่

๗๙

ประชาชนท่ีมีอาชพี แตกต่างกัน มีระดับความคดิ เห็นตอ่ ภาวะผู้นาํ ทางการเมอื งท้องถ่ินใน
องค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิโดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมี
นัยสําคัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕ ซง่ึ เป็นตามสมมติฐานทตี่ ้งั ไว้

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิด้านการสร้างวิสัยทัศน์ ด้านการสร้างแรงจูงใจ ด้านมีความสามารถทํางานร่วมกับผู้อื่น ด้าน
มนุษยสัมพันธ์ และด้านความรู้ความสามารถแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ซ่ึง
เปน็ ตามสมมติฐานทตี่ งั้ ไว้

ดังนั้น จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของระดับความเห็นต่อภาวะผู้นําทาง
การเมืองท้องถ่ินของผู้นําในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้วยวิธีการ
ของ LSD. (Least Significant Difference) และนําเสนอในรูปตารางประกอบการบรรยาย ซึ่งปรากฏดัง
ตารางที่ ๔.๔๓– ๔.๔๘

ตารางท่ี ๔.๔๔ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อภาวะผู้นําทาง
การเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหาร ส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชยั ภมู ิ โดยภาพรวม จาํ แนกตามอาชพี เป็นรายคู่

อาชีพ เกษตรกรรม รบั ธรุ กิจ ค้าขาย รบั จา้ ง (n=๓๘๖)
ราชการ สว่ นตวั อืน่ ๆ
๔.๖๖ ๔.๗๖ (ระบุ)....
๔.๕๖ ๔.๗๑ ๔.๖๔ -๐.๑๐* -๐.๒๐*
-๐.๐๘* ๐.๐๕ -๐.๐๕* ๔.๖๓
เกษตรกรรม ๔.๕๖ - -๐.๑๕* ๐.๐๗ -๐.๐๒* -๐.๑๒* -๐.๐๗*
-๐.๑๐* ๐.๐๘
รับราชการ ๔.๗๑ - - - ๐.๐๑*
- ๐.๐๓*
ธรุ กิจสว่ นตัว ๔.๖๔ ๐.๑๓

ค้าขาย ๔.๖๖ -

รับจ้าง ๔.๗๖

อื่น ๆ ระบ)ุ .... ๔.๖๓

*มนี ยั สาํ คัญทางสถติ ิทร่ี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๔ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ โดยภาพรวม จําแนกตามอาชีพ เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกันมีความ
คิดเห็นต่อภาวะผูน้ าํ ทางการเมืองแตกตา่ งกันอยู่ ๑๑ คู่ ได้แก่

ประชาชนทม่ี ีอาชีพเกษตรกรรม มีความคิดเหน็ ต่อภาวะผ้นู ําทางการเมอื งของผู้นําท้องถิ่น
แตกต่างจากประชาชนที่มอี าชีพรับราชการ อาชีพธรุ กจิ ส่วนตัว อาชีพคา้ ขาย อาชีพรับจ้าง และอาชีพ
อ่ืน ๆ

๘๐

ประชาชนท่ีมีอาชีพรับราชการ มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่น
แตกตา่ งจาก ประชาชนทมี่ ีอาชพี รบั จา้ ง

ประชาชนท่ีมีอาชีพธุรกิจส่วนตัว มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถ่ิน แตกต่างจากประชาชนท่ีมอี าชีพค้าขายอาชพี รับจา้ ง และอาชีพอ่นื ๆ

ประชาชนที่มีอาชีพค้าขาย มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่น
แตกตา่ งจาก ประชาชนทีม่ ีอาชีพรบั จ้างและอาชพี อนื่ ๆ

นอกน้ันไมพ่ บความแตกตา่ งรายคู่

ตารางท่ี ๔.๔๕ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตรุ ัส จงั หวดั ชัยภูมิด้าน
การสรา้ งวสิ ยั ทัศน์ จําแนกตามอาชีพ เปน็ รายคู่

(n=๓๘๖)

อาชพี เกษตรกรรม รับ ธรุ กจิ ค้าขาย รบั จ้าง อื่น ๆ
ราชการ ส่วนตัว (ระบ)ุ ....
๔.๔๕
๔.๕๕ ๔.๓๘ ๔.๗๓ ๐.๑๐ ๔.๖๔ ๔.๗๓
-๐.๑๘* -๐.๐๗*
เกษตรกรรม ๔.๕๕ - ๐.๑๗ -๐.๓๕* ๐.๒๘ -๐.๐๙* -๐.๑๘*

รับราชการ ๔.๓๘ - - - -๐.๒๖* -๐.๓๕*

ธุรกิจสว่ นตัว ๔.๗๓ ๐.๐๙ ๐.๐๐*

ค้าขาย ๔.๔๕ -๐.๑๙* -๐.๒๘*

รับจา้ ง ๔.๖๔ - -๐.๐๙*

อื่น ๆ (ระบ)ุ .... ๔.๗๓ -

*มนี ัยสาํ คญั ทางสถติ ิทร่ี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๕ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วน ตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิ ด้านการสร้างวิสัยทัศน์จําแนกตามอาชีพ เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกันมี
ความคิดเหน็ ตอ่ ภาวะผนู้ ําทางการเมืองแตกตา่ งกนั อยู่ ๑๑ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีอาชีพเกษตรกรรม มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ทอ้ งถ่ิน แตกตา่ งจาก ประชาชนที่มีอาชีพธุรกจิ สว่ นตวั อาชพี รบั จ้าง และอาชพี อน่ื ๆ

ประชาชนท่ีมีอาชีพรับราชการ มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่น
แตกตา่ งจาก ประชาชนท่มี ีอาชีพธรุ กจิ ส่วนตัว อาชีพค้าขาย อาชีพรับจา้ ง และอาชพี อน่ื ๆ

ประชาชนที่มีอาชีพธุรกิจส่วนตัว มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ทอ้ งถิ่น แตกต่างจาก ประชาชนทีม่ อี าชพี อื่น ๆ

๘๑

ประชาชนท่ีมีอาชีพค้าขาย มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
แตกตา่ งจาก ประชาชนท่มี อี าชพี รบั จ้าง และอาชีพอ่ืน ๆ

ประชาชนท่ีมีอาชีพรับจ้าง มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถิ่น
แตกต่างจาก ประชาชนทมี่ ีอาชีพอน่ื ๆ

นอกนนั้ ไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

ตารางที่ ๔.๔๖ แสดงการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบรหิ ารสว่ นตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้าน
การสร้างแรงจูงใจ จําแนกตามอาชพี เปน็ รายคู่

(n=๓๘๖)

อาชีพ เกษตรกรรม รับ ธุรกจิ คา้ ขาย รบั จ้าง อ่ืน ๆ
๔.๕๙ ราชการ ส่วนตวั (ระบุ)....
๔.๗๔
เกษตรกรรม ๔.๕๙ - ๔.๘๙ ๔.๖๓ -๐.๑๕* ๔.๘๔ ๔.๖๓
รบั ราชการ ๔.๘๙ -๐.๓๐* -๐.๐๔* ๐.๑๕
ธรุ กิจสว่ นตวั ๔.๖๓ ๐.๒๖ -๐.๑๑* -๐.๒๕* -๐.๐๔*
ค้าขาย ๔.๗๔ -
รับจา้ ง ๔.๘๔ - - ๐.๐๔* ๐.๒๖
อ่ืน ๆ ระบ)ุ ... ๔.๖๓
*มีนัยสําคัญทางสถิติทร่ี ะดับ ๐.๐๕ -๐.๒๑* -๐.๓๐*

-๐.๑๐* ๐.๑๑

- ๐.๒๑

-

จากตารางที่ ๔.๔๖ เมื่อทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วน ตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชัยภูมิด้านการสร้างแรงจูงใจ จําแนกตามอาชีพ เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพแตกต่างกันมี
ความคดิ เหน็ ต่อภาวะผูน้ าํ ทางการเมืองแตกต่างกันอยู่ ๑๐ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกรรม มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถิ่น แตกต่างจาก ประชาชนที่มีอาชีพรับราชการ อาชีพธุรกิจส่วนตัว อาชีพค้าขาย อาชีพรับจ้าง
และอาชีพอ่ืน ๆ

ประชาชนที่มีอาชีพรับราชการ มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
แตกต่างจาก ประชาชนทีม่ อี าชีพรบั จ้าง

ประชาชนท่ีมีอาชีพธุรกิจส่วนตัว มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถ่นิ แตกต่างจาก ประชาชนทมี่ อี าชีพคา้ ขาย อาชพี รบั จ้าง และอาชีพอื่น ๆ

ประชาชนที่มีอาชีพค้าขาย มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
แตกต่างจาก ประชาชนท่มี อี าชีพรบั จา้ ง

นอกนั้นไม่พบความแตกต่างรายคู่

๘๒

ตารางท่ี ๔.๔๗ แสดงการเปรยี บเทียบระดบั ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมตี ่อภาวะผู้นําทางการเมือง
ของผู้นําท้องถิ่นในองค์การบรหิ ารส่วนตําบลกุดน้ําใส อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิด้าน
มีความสามรถทํางานรว่ มกบั ผ้อู ื่น จาํ แนกตามอาชพี เป็นรายคู่

(n=๓๘๖)

อาชพี เกษตรกรรม รบั ธรุ กิจ ค้าขาย รับจ้าง อ่นื ๆ
ราชการ ส่วนตวั (ระบุ)....
๔.๘๒
๔.๓๖ ๔.๘๒ ๔.๓๖ -๐.๔๖* ๔.๗๓ ๔.๔๕
๐.๐๐* ๐.๐๐*
เกษตรกรรม ๔.๓๖ - -๐.๔๖* ๐.๔๖ -๐.๔๖* -๐.๓๗* -๐.๐๙*

รับราชการ ๔.๘๒ - - - ๐.๐๙ ๐.๓๗

ธรุ กิจสว่ นตัว ๔.๓๖ -๐.๓๗* -๐.๐๙*

ค้าขาย ๔.๘๒ ๐.๐๙ ๐.๓๗

รับจา้ ง ๔.๗๓ - ๐.๒๘

อ่ืน ๆ (ระบ)ุ .... ๔.๔๕ -

*มีนยั สาํ คัญทางสถิตทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๗ เม่ือทดสอบความแตกต่างระดับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในองค์การบริหารส่วนตําบลกุดนํ้าใส อําเภอจัตุรัส จังหวัด
ชยั ภูมิด้านมีความสามารถทํางานร่วมกับผู้อืน่ จําแนกตามอาชีพ เป็นรายคู่ พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพ
แตกต่างกนั มีความคดิ เห็นตอ่ ภาวะผนู้ าํ ทางการเมอื งแตกต่างกนั อยู่ ๙ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอาชีพเกษตรกรรม มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถ่ิน แตกต่างจาก ประชาชนท่ีมีอาชีพรับราชการ อาชีพธุรกิจส่วนตัว อาชีพค้าขาย อาชีพรับจ้าง
และอาชพี อื่น ๆ

ประชาชนที่มีอาชีพรับราชการ มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ิน
แตกตา่ งจากประชาชนที่มอี าชีพค้าขาย

ประชาชนที่มีอาชีพธุรกิจส่วนตัว มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําทางการเมืองของผู้นํา
ท้องถิ่น แตกตา่ งจาก ประชาชนทีม่ ีอาชีพค้าขาย อาชีพรับจา้ ง และอาชพี อน่ื ๆ

นอกนัน้ ไม่พบความแตกตา่ งรายคู่


Click to View FlipBook Version