The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2020-08-21 03:27:20

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี4

ว 30224

หลกั สูตรรายวิชา
และแผนการจดั การเรยี นรู้

รหสั วชิ า ว 30224
รายวิชาเพ่มิ เตมิ

เคมี 4
จำนวน 1.5 หน่วยกิต 3 คาบ/สปั ดาห์
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1

ปีการศกึ ษา 2562

จดั ทำโดย

นางสาวอโนชา อุทมุ สกลุ รตั น์

ตำแหนง่ ครชู ำนาญการ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์
โรงเรยี นสวุ รรณารามวิทยาคม
แขวงศริ ิราช เขตบางกอกน้อย

กรุงเทพมหานคร

สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาการมัธยมศึกษา เขต 1
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

หลักสตู รรายวิชา

(Course Development)

รหัสวชิ า.... ว 30224...รายวชิ า.... เคมี 4.......
จำนวน....1.5.... หน่วยกิต ....3..... คาบ/ สปั ดาห์

ภาคเรียนท่ี ...1... ปกี ารศกึ ษา …2562…..

จัดทำโดย

.........นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกุลรัตน.์ ........

ตำแหน่ง ....ครชู ำนาญการ...........

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้.....วทิ ยาศาสตร์......

โรงเรยี นสุวรรณารามวิทยาคม แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพมหานคร
สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาการมธั ยมศึกษา เขต 1

สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คำนำ

หลกั สูตรรายวิชาฉบับน้ีจัดทำขึ้นเพื่อเตรยี มการในการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าวทิ ยาศาสตรส์ รา้ งสรรค์ 1รหัส
วชิ า ว 21101 โดยครูผู้สอนได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.
2555) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ตามสาระและมาตรฐานการเรียนรู้
ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ และจัดทำคำอธิบายรายวิชา โครงสรา้ งรายวชิ า กำหนดเวลาเรียน นำ้ หนักคะแนน กำหนด
ทักษะกระบวนการในการเรียนการสอนตลอดจนการวัดและประเมินผลการเรยี นการสอนของครู

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้และยกระดับผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนของผูเ้ รยี นโรงเรียนสวุ รรณารามวิทยาคม สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาการมัธยมศกึ ษา เขต 1 ต่อไป

นางสาวอโนชา อทุ ุมสกลุ รัตน์
ชื่อผู้จดั ทำ

สารบญั หนา้

คำนำ 1
1. หลกั การและจดุ มุ่งหมายของหลกั สตู รการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน 2551 1
1
หลักการ 2
จดุ หมาย 2
2. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 3
3. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3
4. วิสัยทศั น์ของโรงเรยี น 3
พันธกิจ 4
เป้าประสงค์ 4
5. การกำหนดโครงการสอน 4
คำอธิบายรายวิชา (ดรู ายละเอยี ดจากหลักสตู ร) 5
สาระ/มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั (แกนกลาง) 5
มาตรฐานการเรยี นรู้ (ดูรายละเอียดจากหลกั สูตร) 6
ตัวชีว้ ัด หรือผลการเรยี นรู้ (ดรู ายละเอยี ดจากหลกั สตู ร) 7
6. ตารางโครงสรา้ งรายวชิ า 8
7. การกำหนดโครงการสอนและกจิ กรรมตลอดภาคเรยี น 8
8. แผนการวัดผลและภาระงาน 8
แนวการวัดผล 8
แผนการวดั ผล
การกำหนดภาระงานนักเรียน

1. หลักการและจดุ มุ่งหมายของหลักสูตรการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน 2551 1

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน มงุ่ พฒั นาผูเ้ รียนทกุ คน ซ่ึงเปน็ กำลังของชาตใิ ห้เป็นมนษุ ย์ท่ีมคี วาม

สมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมอื งไทยและเป็นพลโลก ยึดม่นั ในการปกครองตาม

ระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทงั้ เจตคติ ท่ีจำเป็นต่อ

การศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุง่ เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคัญบนพน้ื ฐานความเชอื่ ว่า

ทกุ คนสามารถเรยี นรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ

หลักการ
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มีหลักการที่สำคัญ ดังนี้
1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็น

เป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของความเป็นไทย
ควบคู่กบั ความเป็นสากล

2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี
คุณภาพ

3. เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีสนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ให้
สอดคลอ้ งกับสภาพและความต้องการของทอ้ งถิ่น

4. เป็น หลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นท้ังด้ าน สาระการเรียนรู้ เวลาและการจัด
การเรยี นรู้

5. เป็นหลกั สตู รการศกึ ษาทเ่ี น้นผเู้ รียนเป็นสำคญั
6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กลมุ่ เปา้ หมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์

จุดหมาย
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มุ่งพัฒ นาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญ ญ า มีความสุข

มศี ักยภาพในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ จงึ กำหนดเป็นจุดหมายเพ่อื ให้เกิดกับผู้เรียน เมือ่ จบการศกึ ษาขั้น
พ้ืนฐาน ดงั น้ี

1. มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม
หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสือ่ สาร การคดิ การแก้ปัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี และมีทกั ษะชีวิต
3. มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจิตทีด่ ี มีสขุ นิสัย และรกั การออกกำลงั กาย
4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยดึ ม่ันในวิถชี ีวติ และการปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข
5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อม มีจิต
สาธารณะท่มี ุ่งทำประโยชน์และสรา้ งสง่ิ ท่ีดงี ามในสงั คม และอยรู่ ่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข

2. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 2

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ม่งุ ใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคญั 5 ประการ ดังนี้

1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา

ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ

ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสงั คม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหา

ความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้

วธิ ีการสื่อสาร ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบทม่ี ตี ่อตนเองและสงั คม

2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง

สรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคดิ เปน็ ระบบ เพ่ือนำไปสู่การสร้างองคค์ วามรู้หรือสารสนเทศเพื่อ

การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ท่ีเผชิญได้อย่าง

ถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ

เปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา

และมกี ารตดั สนิ ใจทมี่ ปี ระสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่เี กดิ ขึน้ ตอ่ ตนเอง สังคมและสงิ่ แวดล้อม

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการตา่ งๆ ไปใชใ้ นการดำเนิน

ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการ

สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตวั ให้

ทนั กบั การเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลีกเล่ยี งพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบ

ตอ่ ตนเองและผูอ้ ่นื

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมี

ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทำงาน การ

แก้ปญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม

3. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน มุง่ พัฒนาผู้เรยี นให้มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เพอื่ ใหส้ ามารถ
อย่รู ่วมกับผูอ้ ่ืนในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต
3. มีวนิ ัย
4. ใฝเ่ รยี นรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
6. มงุ่ มั่นในการทำงาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มจี ิตสาธารณะ

3

4. วิสัยทศั น์ของโรงเรียน

โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม เปน็ โรงเรียนส่งเสริมทกั ษะการคดิ เพื่อพฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความรู้
คูค่ ณุ ธรรม บนพนื้ ฐานความเปน็ ไทยและหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

พันธกจิ
1) จดั การเรียนการสอนเพอ่ื พัฒนาคุณภาพผู้เรยี น
2) พฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษา
3) การบริหารจัดการสถานศกึ ษา
4) พัฒนาชมุ ชน สงั คม ธำรงสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์

เปา้ ประสงค์
1) ผู้เรียนมีคุณสมบัติตามมาตรฐานนักเรียนโรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม 10 ข้อ ได้แก่ ทดแทน

บญุ คุณบิดามารดา มาโรงเรียนเชา้ เขา้ ห้องเรยี นเสมอ พบเจอครูเคารพ คบหาเพ่ือนดี สามัคคีหมู่คณะ ละเลิกสิ่ง
ชั่ว ประพฤตติ ัวดี มนี ำ้ ใจ ใหเ้ กียรตกิ นั และมคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลกั สูตร

2) ผูเ้ รียนมีส่วนรว่ มในการสบื สาน อนุรกั ษ์ ประเพณี และวฒั นธรรมไทย
3) ผู้เรียนนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการดำเนินชวี ิต
4) ผู้เรียนมีความเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตผลงาน
สร้างสรรค์ และรว่ มกนั รับผิดชอบสงั คม
5) ผู้เรียนมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง จิตใจร่าเรงิ แจ่มใส มีสุขภาพจิตท่ีดี ปลอดจากสิ่งเสพติด อบายมุข
และโรคเอดส์
6) ครูออกแบบและจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสติปัญญา
ตามศักยภาพ
7) ครแู ละบคุ ลากรมคี วามรูแ้ ละจรยิ ธรรม มีศักยภาพในหน้าที่ของตน
8) สถานศกึ ษามสี ภาพแวดลอ้ มและการบรกิ ารท่ีเอือ้ ต่อการเรียนรู้
9) สถานศกึ ษามีการบรหิ ารจดั การดว้ ยระบบคุณภาพ
10) มีการประสานงานกับคณะกรรมการสถานศึกษาฯ สมาคมศิษย์เก่า เครือข่ายผู้ปกครอง และ
หนว่ ยงานอน่ื ๆท่เี กย่ี วข้อง เนน้ การมสี ่วนร่วมของผู้เก่ยี วขอ้ งทกุ ฝา่ ยในการพฒั นาโรงเรียน

5. การกำหนดโครงการสอน/คำอธบิ ายรายวชิ า 4

โครงการสอนรายวชิ า
รหัสวิชา.... ว 30224 ...รายวชิ า....เคมี..4.......
จำนวน....1.5.... หนว่ ยกิต ....3..... คาบ/ สปั ดาห์ ภาคเรียนที่ ...1... ปีการศกึ ษา …2562…..

สาระ/มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด (แกนกลาง)
-
คำอธิบายรายวิชา (ดูรายละเอียดจากหลักสูตร)

ศึกษาวิเคราะห์ เกี่ยวกับไฟฟ้าเคมี ปฏิกิริยาการถ่ายโอนอิเล็กตรอน ปฏิกิริยารีดอกซ์ การดุล
สมการรีดอกซ์ เซลล์กัลวานิก ประเภทของเซลล์กัลวานิก เซลล์อิเล็กโทรไลต์ การใช้หลักการจากปฏิกิริยาที่
เกิดขึ้นในเซลล์ไฟฟ้าเคมีไปใช้ประโยชน์ เช่น เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า ใช้แยกและทำโลหะให้บริสุทธ์ิ ใช้
ชุบโลหะป้องกันการสึกกร่อนของโลหะ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีท่ีเก่ียวข้องกับเซลล์ไฟฟ้าเคมี แบตเตอรี่อิ
เล็กโทรไลต์แข็ง แบตเตอร่ีอากาศ การทำอิเล็กโทรไดอะลิซิสน้ำทะเล ธาตุและสารประกอบในอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมแร่ อุตสาหกรรมเซรามิกส์ การเตรียมวัตถุดิบ การข้ึนรูปผลิตภัณฑ์ การเผาและเคลือบ ผลิตภัณฑ์
เซรามกิ ส์ ผลิตภัณฑ์แก้ว ปนู ซเี มนต์ อุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับโซเดียมคลอไรด์ และอุตสาหกรรมปุย๋

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น
ข้อมูล และการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถใน
การตัดสินใจ เหน็ คณุ คา่ ของการนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำวัน มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม
และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม

มาตรฐานการเรยี นรู้ (ดรู ายละเอียดจากหลักสตู ร)
สาระท่ี 3 : สารและสมบัติของสาร
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจหลกั การและธรรมชาตขิ องการเปลย่ี นสถานะของสาร การเกิดสารละลาย การ

เกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และจิตวิทยาศาสตร์ ส่ือสารสงิ่ ทีเ่ รียนรู้ และนาความรูไ้ ปใช้
ประโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การ
แก้ปัญหา รวู้ า่ ปรากฏการณท์ างธรรมชาตทิ ่ีเกดิ ขึ้นส่วนใหญม่ ีรูปแบบทแ่ี น่นอน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้
ภายใต้ข้อมูลและเครอ่ื งมือทม่ี ีอยใู่ นช่วงเวลาน้นั ๆ เขา้ ใจว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม มคี วาม
เกี่ยวขอ้ งสัมพนั ธ์กนั
ผลการเรียนรู้ (ดูรายละเอยี ดจากหลกั สตู ร)

1. อธบิ ายความหมายของปฏกิ ิริยาออกซเิ ดชนั ปฏิกิรยิ ารดี กั ชนั ปฏิกริ ิยารีดอกซ ตัวรดี ิวซและตัวออกซิ
ไดสในดานการถายโอนอิเล็กตรอนและการเปล่ียนแปลงเลขออกซิเดชนั ได

2. จดั ลําดบั ความสามารถในการรับอิเลก็ ตรอนของธาตุหรอื ไอออนและเปรียบเทยี บความสามารถในการ
เปนตวั รีดวิ ซหรอื ตัวออกซิไดสได

5

3. ดุลสมการรีดอกซโดยใชเลขออกซิเดชนั และครึ่งปฏิกิริยาได
4. ตอ่ เซลล์กัลวานกิ จากคร่งึ เซลล์ทก่ี ำหนดให้ พรอ้ มทั้งบอกขว้ั แอโนด ขว้ั แคโทดและเขียนสมการแสดง
ปฏกิ ิริยาได้
5. เขียนแผนภาพเซลลก์ ัลวานิกได้
6. อธบิ ายวธิ ีหาค่าศักย์ไฟฟา้ มาตรฐานของคร่งึ เซลล์ (Eo) โดยการเปรียบเทยี บกับครึง่ เซลล์ไฮโดรเจน
มาตรฐานได้
7. ใชค้ ่า Eo ของคร่ึงเซลลค์ ำนวณหาค่าศกั ยไ์ ฟฟ้าของเซลล์และทำนายการเกิดปฏิกริ ิยารดี อกซไ์ ด้
8. อธบิ ายหลักการทำงานของเซลลก์ ลั วานกิ เซลล์ปฐมภูมิ เซลลท์ ุติยภูมิและเซลลอ์ เิ ลก็ โทรไลต์ได้
9. อธบิ ายหลักการทำงานพรอ้ มท้งั เขียนสมการแสดงปฏกิ ิรยิ าทีเ่ กิดขึ้นในถา่ นไฟฉาย เซลลแ์ อลคาไลน์
เซลล์ปรอท เซลล์เงิน เซลล์เชอื้ เพลงิ ไฮโดรเจน – ออกซิเจน เซลลเ์ ชื้อเพลิงโพรเพน –ออกซเิ จน เซลล์สะสมไฟฟา้
แบบตะกวั่ เซลลน์ กิ เกลิ – แคดเมียมและเซลล์โซเดยี ม – ซลั เฟอรไ์ ด้
10. อธิบายหลกั การของการแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า การชบุ โลหะดว้ ยกระแสไฟฟา้ และการทำโลหะ
ใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ พรอ้ มท้งั เขียนสมการแสดงปฏกิ ริ ิยาท่ีเกดิ ขึ้นได้
11. อธิบายสาเหตหุ รือภาวะทท่ี ำใหโ้ ลหะเกดิ การผุกร่อนพรอ้ มทง้ั เขียนสมการแสดงปฏิกิริยาได้
12. อธบิ ายวิธีปอ้ งกนั การผุกร่อนของโลหะโดยวิธอี ะโนไดซ์ การรมดำ วธิ ีแคโทดกิ การเคลอื บผวิ ด้วย
พลาสตกิ สีหรอื น้ำมนั การชบุ ด้วยโลหะได้
13. อธบิ ายหลักการทำงานของแบตเตอร่ีอิเลก็ โทรไลตแ์ ขง็ แบตเตอร่ีอากาศ การทำอิเล็กโทรไดอะลซิ สิ
นำ้ ทะเลได้
14. อธิบายหลกั การถลงุ แรห่ รอื การสกัดแรด่ บี ุก ทองแดง สังกะสี แคดเมียม ทังสเตน พลวง แทนทาลัม
ไนโอเบียม และเซอรโ์ คเนยี ม พร้อมทั้งเขียนสมการแสดงปฏิกิรยิ าท่เี กิดขึ้นได้
15. บอกประโยชนข์ องทองแดง สงั กะสี แคดเมยี ม ดีบุก ทงั สเตน พลวง แทนทาลัม ไนโอเบียม
และเซอรโ์ คเนียมได้
16. อธิบายสมบตั ิและประโยชน์ของแรร่ ตั นชาติชนิดตา่ ง ๆ ได้
17. อธิบายวิธพี ัฒนาคณุ ภาพของแรร่ ัตนชาติได้
18. อธิบายขนั้ ตอนสำคญั ของการทำผลิตภัณฑ์เซรามกิ ส์ได้
19. บอกประโยชน์ของผลติ ภณั ฑ์เซรามิกสพ์ รอ้ มทั้งยกตวั อยา่ งได้
20. อธบิ ายวธิ กี ารผลิตแกว้ และปูนซเี มนต์ได้
21. อธิบายวิธกี ารผลติ เกลอื สมุทรและเกลือสินเธาวไ์ ด้
22.อธิบายวิธีการผลติ โซเดียมไฮดรอกไซด์และแกส๊ คลอรีนจากโซเดียมคลอไรด์ โดยใช้เซลลเ์ ย่อื
แลกเปลี่ยนไอออน พร้อมทง้ั เขียนสมการแสดงปฏิกริ ยิ าทเี่ กดิ ขึน้ ได้
23.อธบิ ายกระบวนการผลติ โซดาแอชและสารฟอกขาว พร้อมทัง้ เขียนสมการแสดงปฏกิ ริ ิยาท่ีเกดิ ข้ึนได้
24.อธบิ ายกระบวนการผลติ ปยุ๋ ไนโตรเจน ปยุ๋ ฟอสเฟต ป๋ยุ โพแทส และปยุ๋ ผสม ตลอดจนผลกระทบต่อ
ส่ิงแวดล้อม ท่ีเกิดจากการใชป้ ยุ๋ ได้
25.อธิบายผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อม ที่เกดิ จากอตุ สาหกรรมประเภทต่าง ๆ ได้
รวม 25 ผลการเรียนรู้

6. ตารางโครงสร้างรายวชิ า 6

ลำดับ ชอื่ หน่วยการ ตัวช้วี ัด หรอื วธิ ีการประเมนิ เวลา นำ้ หนัก
(ชั่วโมง) คะแนน
ท่ี เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์
2. สบื คน้ ข้อมูล/อภปิ ราย 11 5
1 ปฏิกิรยิ าไฟฟ้า 1-3 กลุ่ม

เคมี

2 เซลล์ไฟฟา้ 4-13 1. ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 24 25
เคมีและ 2. สบื คน้ ข้อมลู /อภปิ ราย
ความก้าวหนา้ กลุ่ม
ทางเทคโนโลยี
ทีเ่ กย่ี วข้องกบั สอบกลางภาค 1 20
เซลล์ไฟฟา้
เคมี 14-20 1. ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 9 10

3 อุตสาหกรรม 2. สบื ค้นขอ้ มลู /อภิปราย
แร/่
อุตสาหกรรม กลุ่ม
เซรามิกส์
21-23 1. ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ 7 10
4 การผลติ และ 2. สบื คน้ ขอ้ มลู /อภิปราย
การใช้ กลมุ่
ประโยชน์จาก
โซเดียมคลอ 24-25 1. ชุดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ 3 10
ไรด์ 2. สบื ค้นขอ้ มูล/อภิปรายกลมุ่
สอบปลายภาค 1 20
5 อุตสาหกรรม จิตพสิ ยั - -
ปุ๋ย รวม 60 100

อัตราสว่ นคะแนน

คะแนนเก็บระหว่างภาค : คะแนนปลายภาค = 80 : 20 7
K : P : A = 40 : 60 : …..
รวม 100 คะแนน เวลา
(ชัว่ โมง)
คะแนนเกบ็ ก่อนสอบกลางภาค = 30 คะแนน
16
สอบกลางภาค = 20 คะแนน 23
9
คะแนนเกบ็ ก่อนสอบปลายภาค = 30 คะแนน 7

คณุ ลักษณะ / จิตพิสัย = - คะแนน

สอบปลายภาค = 20 คะแนน

รวม 100 คะแนน

7. การกำหนดโครงการสอนและกิจกรรมตลอดภาคเรยี น

สัปดาห์/ หนว่ ยการเรยี นรู/้ ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรม /
แผนการ เนอื้ หา กระบวนการเรียนรู้
เรียนรู้ท่ี

1-5 ปฏกิ ริ ยิ าไฟฟา้ เคมี 1-3 รูปแบบการเรยี นรูแ้ บบโยนโิ ส

มนสกิ ารตามข้นั ตอนดังนี้

1. ขั้นพัฒนาปญั ญา

2. ขั้นนำปัญญาพฒั นาความคดิ

3. ขน้ั นำปญั ญาพัฒนาตนเอง

6-13 เซลลไ์ ฟฟ้าเคมีและ 4-13 รูปแบบการเรยี นรแู้ บบโยนโิ ส

ความกา้ วหนา้ ทาง มนสกิ ารตามขั้นตอนดงั นี้

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกบั 1. ขั้นพฒั นาปญั ญา

เซลล์ไฟฟ้าเคมี 2. ขน้ั นำปญั ญาพฒั นาความคดิ

3. ขน้ั นำปญั ญาพฒั นาตนเอง

14-16 อตุ สาหกรรมแร/่ 14-20 รูปแบบการเรียนรูแ้ บบโยนิโส

อุตสาหกรรมเซรามิกส์ มนสิการตามข้นั ตอนดังนี้

1. ขน้ั พัฒนาปัญญา

2. ขั้นนำปญั ญาพฒั นาความคิด

3. ขั้นนำปัญญาพฒั นาตนเอง

17-19 การผลติ และการใช้ปะ 21-23 รูปแบบการเรยี นรแู้ บบโยนโิ ส

โยชนจ์ ากโซเดียมคลอ มนสกิ ารตามขนั้ ตอนดังน้ี

ไรด์ 1. ขั้นพัฒนาปัญญา

2. ขั้นนำปญั ญาพัฒนาความคิด

3. ขั้นนำปัญญาพัฒนาตนเอง

8

20 อตุ สาหกรรมปุ๋ย 24-25 รูปแบบการเรียนร้แู บบโยนิโส 3

มนสกิ ารตามขน้ั ตอนดังนี้

1. ข้นั พฒั นาปัญญา

2. ข้นั นำปญั ญาพัฒนาความคิด

3. ขั้นนำปญั ญาพัฒนาตนเอง

8. แผนการวัดผลและภาระงาน

แนวการวดั ผล อตั ราสว่ น คะแนนระหว่างภาค : คะแนนปลายภาค = ...80.... : ....20.....

อัตราส่วน คะแนน K : P : A = ....40... : ...60... : ............

แผนการวดั ผล

การประเมนิ คะแนน วิธีวดั ชนดิ ของเครอ่ื งมือ ตวั ชีว้ ัด/ผลการ เวลาทใ่ี ช้
เรยี นรูข้ อ้ ท่ี (นาที/คร้งั )

กอ่ นกลางภาค 30 1.สืบคน้ ข้อมูล ชดุ กิจกรรม 1-13 50 นาที/ครั้ง

2.อภปิ รายกลมุ่ วทิ ยาศาสตร์

กลางภาค 20 สอบ แบบวดั ผลสัมฤทธิ์ 1-13 60 นาท/ี ครั้ง

หลงั กลางภาค 30 1.สบื ค้นข้อมลู ชุดกิจกรรม 14-25 50 นาที/คร้ัง

2.อภปิ รายกลุ่ม วิทยาศาสตร์

คณุ ลักษณะ / - - - - ตลอด

จติ พสิ ัย ภาคเรียน

ปลายภาค 20 สอบ แบบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ 14-25 60 นาที/ครัง้

รวม 100 คะแนน

การกำหนดภาระงานนักเรยี น

ในการเรยี นรายวิชา.เคมี..4..ได้กำหนดให้นกั เรยี นทำกจิ กรรม/ ปฏบิ ตั ิงาน(ชนิ้ งาน)….15....ชน้ิ ดงั น้ี

ท่ี ชอื่ งาน ตวั ช้วี ัด/ผลการ ประเภทงาน กำหนดสง่
เรยี นร้ขู ้อท่ี กลุม่ เดีย่ ว วนั /เดือน/ปี

1 รายงานผลการทดลอง เรื่อง ปฏกิ ริ ยิ า 1  12 ม.ิ ย. 62

ระหว่างโลหะกับสารละลายของโลหะ

ไอออน

2 รายงานผลการทดลอง เร่ือง การถ่าย 4  14 มิ.ย. 62

โอนอเิ ล็กตรอนในเซลล์กลั วานิก

3 รายงานผลการทดลอง เรอ่ื ง การชุบ 5  21 ม.ิ ย. 62

โลหะด้วยกระแสไฟฟา้

4 รายงานผลการทดลอง เรื่อง การแยก 5  21 ม.ิ ย. 62

สารละลาย CuSO4 ด้วยไฟฟ้า

5 รายงานผลการทดลอง เรือ่ ง การชุบ 7  5 ก.ค. 62

ตะปดู ้วยสังกะสี 7  9
6 รายงานผลการทดลอง เรื่อง การ 12 ก.ค. 62

ป้องกนั การผกุ ร่อนของเหล็ก

7 เอกสารเผยแพรค่ วามรเู้ กย่ี วกบั 8  2 ส.ค. 62
พลังงานทดแทนมาใชใ้ นชีวิตประจำวนั

8 คำขวัญหรอื ข้อความแสดงความคิดเหน็ 8  9 ส.ค. 62
สนับสนนุ การนำพลังงานทดแทนมาใช้
ในชีวติ ประจำวนั

9 รายงานโครงงานประเภทสำรวจ 9-10  16 ส.ค. 62
รวบรวมขอ้ มลู เรื่อง อตุ สาหกรรมแร/่ 9-10  23 ส.ค. 62
อตุ สาหกรรมเซรามกิ ส์ 11  30 ส.ค. 62
11  6 ก.ย. 62
10 ผงั ความคดิ สรุปองคค์ วามรู้ เรอ่ื ง 12 13 ก.ย. 62
อตุ สาหกรรมแร/่ อุตสาหกรรมเซรามกิ ส์ 

11 รายงานโครงงานประเภทสำรวจ
รวบรวมขอ้ มลู เรือ่ ง การผลติ และการ
ใช้ประโยชนจ์ ากโซเดยี มคลอไรด์

12 ผังความคิดสรุปองค์ความรู้ เรื่อง การ
ผลิตและการใชป้ ระโยชนจ์ ากโซเดยี ม
คลอไรด์

13 รายงานโครงงานประเภทสำรวจ
รวบรวมขอ้ มูลเร่อื ง อุตสาหกรรมปุ๋ย

14 ผงั ความคดิ สรปุ องค์ความรู้ เรอ่ื ง 12  13 ก.ย. 62
อตุ สาหกรรมปุ๋ย
 13 ก.ย. 62
15 ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์

หากนักเรยี นขาดส่งงาน...-...ช้นิ หรอื ขาดส่งชนิ้ งานที่ ...15.. จะไดร้ ับผลการเรียน “ร” ในรายวชิ าน้ี

ลงชื่อ........................................ครูผู้สอน ลงช่ือ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกุลรัตน์..) (นายสรุ จักริ์ แกว้ มว่ ง.)

ลงชื่อ........................................... ลงช่ือ...........................................
(.นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกุลรตั น์..) (..นายศวิ าวุฒิ รัตนะ..)

หวั หนา้ งานนเิ ทศ หวั หนา้ กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ

ลงชือ่ ........................................................
(...นายจงจัด จันทบ...)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นสุวรรณารามวทิ ยาคม

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี….1....ปฏิกริ ยิ าไฟฟา้ เคมี.......เรอื่ ง....ปฏิกิริยารีดอกซ์........………………...................................
รายวชิ า……..............เคมี…4........ ............รหัสวิชา…..............ว 30224......................ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี....6.....
กลุ่มสาระการเรียนร.ู้ ...........วิทยาศาสตร์..........ปีการศึกษา.... 2562.......ภาคเรียนที่..1...เวลา...6...ชว่ั โมง……
ผสู้ อน.........................นางสาวอโนชา...อุทมุ สกลุ รัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ (รายวิชาพื้นฐานมที ้งั มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้ีวดั
รายวิชาเพมิ่ เตมิ มเี ฉพาะมาตรฐานการเรียนรแู้ ละผลการเรียนรู้)

1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 3 : สารและสมบตั ขิ องสาร
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจหลกั การและธรรมชาตขิ องการเปลีย่ นสถานะของสาร การเกิดสารละลาย

การเกิดปฏกิ ิริยาเคมี มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และจติ วทิ ยาศาสตร์ สอ่ื สารสงิ่ ที่เรยี นรู้ และนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้ การ
แก้ปญั หา รู้ว่าปรากฏการณท์ างธรรมชาตทิ ี่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มรี ปู แบบที่แนน่ อน สามารถอธิบายและตรวจสอบ
ไดภ้ ายใตข้ ้อมูลและเครอื่ งมอื ท่ีมีอย่ใู นชว่ งเวลาน้นั ๆ เขา้ ใจวา่ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดล้อม มคี วาม
เก่ยี วขอ้ งสมั พันธ์กัน

1.2 ผลการเรียนรู้
1. อธิบายความหมายของปฏกิ ิริยาออกซิเดชนั ปฏิกริ ยิ ารีดกั ชัน ปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ ตวั รดี วิ ซและตัว

ออกซิไดสในดานการถายโอนอเิ ล็กตรอนและการเปลีย่ นแปลงเลขออกซเิ ดชนั ได
2. จดั ลําดบั ความสามารถในการรับอิเล็กตรอนของธาตุหรอื ไอออนและเปรียบเทยี บความสามารถใน

การเปนตวั รีดิวซหรือตวั ออกซิไดส์ได
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (หลอมจากผลการเรียนรู้ทีใ่ ช้ในหนว่ ยการเรยี นรู้น้เี ขียนเป็นแบบความ
เรียง)

ปฏกิ ิริยารีดอกซ์ คอื ปฏกิ ิริยาที่มีการเปล่ียนแปลงเลขออกซเิ ดชนั ของอะตอมของธาตใุ นปฏิกิรยิ า ซ่งึ
จะทาให้มีอะตอมของธาตุบางตัวสูญเสียหรือได้รับอเิ ลก็ ตรอนจะเรียกปฏกิ ริ ิยาทเ่ี กิดการเสยี อเิ ลก็ ตรอนว่า
ปฏิกริ ิยาออกซิเดชันและเรยี กปฏกิ ริ ยิ าท่ีมกี ารรับอเิ ล็กตรอนวา่ รดี กั ชัน
3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง/สาระการเรยี นรเู้ พิ่มเติม (รายวิชาเพ่มิ เตมิ )
เคมไี ฟฟา้ เปน็ การศกึ ษาเกย่ี วกบั การเปลย่ี นแปลงระหว่างพลงั งานไฟฟา้ และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี

ทีม่ กี ารถา่ ยโอนอเิ ล็กตรอนแลว้ ทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงเลขออกซเิ ดชนั ซงึ่ เปน็ เลขทีแ่ สดงประจุไฟฟา้ หรอื
ประจไุ ฟฟา้ สมมติของอะตอมธาตุ เรยี กปฏกิ ริ ยิ าชนิดนี้วา่ ปฏกิ ริ ิยารีดอกซ์

1

ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์มที ั้งคร่งึ ปฏกิ ิริยาที่มกี ารให้อเิ ล็กตรอน เรยี กวา่ คร่งึ ปฏิกริ ยิ าออกซิเดชนั และคร่ึง

ปฏกิ ิรยิ าท่ีมีการรบั อเิ ลก็ ตรอน เรยี กว่า คร่งึ ปฏิกริ ยิ ารีดกั ชนั โดยสารที่ใหอ้ ิเลก็ ตรอนจะมเี ลขออกซเิ ดชนั

เพ่มิ ขึน้ เรยี กว่า ตวั รีดวิ ซ์ ส่วนสารท่ีรบั อเิ ลก็ ตรอนจะมเี ลขออกซิเดชนั ลดลง เรยี กว่า ตัวออกซิไดส์

การเปรยี บเทยี บความสามารถในการเปน็ ตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซไิ ดสส์ ามารถพจิ ารณาไดจ้ ากผล

การทดลองของปฏิกริ ิยารีดอกซ์

3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ (ถา้ ในคำอธบิ ายรายวิชาพดู ถึงหลกั สตู รทอ้ งถ่ินให้ใส่ลงไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (เลอื กเฉพาะขอ้ ทีเ่ กิดในหนว่ ยการเรยี นร้นู ี้)

 1. ความสามารถในการสื่อสาร  2. ความสามารถในการคิด

 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (เลือกเฉพาะข้อทเ่ี กิดในหนว่ ยการเรยี นรนู้ )ี้

 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์  2. ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต

 3. มวี นิ ยั  4. ใฝเ่ รียนรู้

 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

 7. รักความเปน็ ไทย  8. มีจติ สาธารณะ

6. ดา้ นคณุ ลกั ษณะของผูเ้ รยี นตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 1. เป็นเลิศวชิ าการ  2. สอื่ สารสองภาษา  3. ลำ้ หนา้ ทางความคิด

 4. ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์  5. รว่ มกนั รับผดิ ชอบต่อสังคมโลก

7. ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อา่ นออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได)้  R3- (A) Rithmetics (คิดเลขเปน็ )

 ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผนู้ ำ (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทักษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทันสือ่ (Communications, Information, and Media Literacy)

 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT

Literacy)

 ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)

 ความมีเมตตา (วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม (Compassion)

2

8. บรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกลมุ่ ให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชกิ ในหอ้ งเรียนคอื

ประมาณกลุ่มละ 4 – 6 คน

2. หลักความมีเหตุผล : ใหน้ ักเรียนสร้างสรรค์ผลงานและเกดิ ทักษะการปฏิบัติ , เลือกใช้สารเคมีได้อย่าง

คมุ้ คา่

3. หลกั ภูมิคุ้มกนั : ใหน้ ักเรยี นเกิดทักษะการทำงานกลุม่ และกล้าแสดงออก

4. เง่อื นไขความรู้ : การวางแผนงานที่จะทำกอ่ นแล้วคอ่ ยลงมือทำอยา่ งระมดั ระวงั , เขียนสมการการ

เปลยี่ นแปลงจากการทดลอง

5. เง่ือนไขคณุ ธรรม : อดทนทจี่ ะทำงาน และมีความขยนั ทีจ่ ะทำงานใหอ้ อกมาได้ดีทสี่ ุด , มีวินยั ในการ

ทำการทดลอง

9. ช้นิ งาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรียนรู้ ชิ้นงาน ภาระงาน

1 - รายงานผลการทดลอง เรือ่ ง ปฏิกริ ิยา - ก า ร อ ภิ ป ร า ย ผ ล ก า ร ท ด ล อ ง

ระหว่างโลหะกับสารละลายของโลหะ เปรียบเทยี บความสามารถในการเป็น

ไอออน ตวั รดี ิวซห์ รือตัวออกซไิ ดสข์ องธาตุหรือ

ไอออนได้

2 - ชุดกิจกรรมฯร่วมกันคิด 1 เร่ืองการ - การวิเคราะห์ เลขออกซิเดซันของ

ถ่ายโอนอิเล็กตรอน โล ห ะ กั บ ไ อ อ อ น ข อ ง โล ห ะ คู่ ที่ เกิ ด ข้ึ น

- ชุดกิ จกรรม ฯร่วมกัน คิด 2 เร่ือ ง ปฏกิ ิริยา วา่ มกี ารเปลีย่ นแปลงอย่างไร

ปฏกิ ิริยารดี อกซ์หรอื นอนรดี อกซ์ - สืบคน้ หาปฏกิ ริ ิยา Autoredox

- ชุดกิ จกรรม ฯร่วมกัน คิด 3 เรื่อ ง 1 ปฏิกิริยา พร้อมระบุแหล่งท่ีมาของ

ปฏิกิริยารีดอกซ์ ข้อมลู

10. การวัดประเมินผล 3.การวัดประเมนิ การปฏิบตั ิ
10.1การวดั และประเมินผลช้นิ งาน/ภาระงานรวบยอด 3. แบบวดั ประเมินการปฏิบตั ิ
วิธกี าร
1.การสังเกตการณ์ 3
2.การใชช้ ุดกิจกรรมวิทยาศาสตรร์ อ่ งรอยบง่ ช้ี
เครื่องมอื
1. แบบสังเกตการณ์
2. ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์
เกณฑ์

1.การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

2.การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน 1

รายการถอื ว่า ไมผ่ ่าน

10.2 การวัดและประเมนิ ผลระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ประเมนิ จากแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง

หนว่ ยการเรยี นรนู้ ้)ี

ส่งิ ทีต่ ้องการวดั วธิ ีวัดผล เครอ่ื งมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ความรเู้ กีย่ วกับ -การสอบถาม ซกั ถาม - แบบประเมินการ - นกั เรียนได้คะแนน

- ปฏิกิริยาออกซเิ ดชัน ปฏิ ความคิดเห็น อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนข้นึ ไป
กริ ยิ ารีดกั ชัน ปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์ -การตอบคำถาม คดิ เห็น หรือรอ้ ยละ 80

ตวั รดี ิวซ์ และตวั ออกซิไดส์ -การตรวจผลงาน ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

- ความสามารถในการเปน็ นักเรยี น - แบบประเมนิ การ - นักเรียนไดค้ ะแนน

ตัวรีดิวซห์ รือตัวออกซิไดส์ของ ตรวจผลงานนกั เรียน ประเมินผลงาน
ธาตุหรือไอออน 13 คะแนนข้นึ ไป

หรอื รอ้ ยละ 80

ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

2.ทักษะกระบวนการคิด และ - การอภปิ รายแสดง - แบบประเมนิ การ -นกั เรยี นไดค้ ะแนน

ทักษะกระบวนการกลมุ่ ความคดิ เห็น อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนข้นึ ไป

คิดเห็น หรือรอ้ ยละ 80 ถอื ว่า

- สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์

ทำงานกล่มุ พฤตกิ รรมการ

ทำงานกลุม่

3. คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ - สงั เกตค่านยิ มในการ - แบบประเมิน - นกั เรยี นได้คะแนน

และสมรรถนะผู้เรยี น ทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ื่น คุณลักษณะอันพงึ ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

- มีวินัยในการทำงานกลุ่ม และการทำงานใน ประสงค์ อนั พึงประสงค์

- นักเรียนเห็นความสำคัญ ระบบกลุ่ม - แบบประเมนิ 26 คะแนนขนึ้ ไป

ของการทำงานรว่ มกบั ผู้อื่นและ อภปิ ราย แสดงความ สมรรถนะผู้เรยี น หรอื ร้อยละ 80

การทำงานในระบบกลุ่ม คิดเห็นเกย่ี วกบั ผลการ ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

- ยอมรบั ความคิดเหน็ ซึง่ กัน ทดลอง - นกั เรียนไดค้ ะแนน

และกนั มีความเสียสละและ การประเมนิ สมรรถนะ

อดทน 29 คะแนนข้ึนไป

หรอื รอ้ ยละ 80

ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

4

11. กิจกรรมการเรียนรู้
ชว่ั โมงท่ี 1
1. ข้ันต้ังประเดน็ ปัญหา/สมมตฐิ าน (Hypothesis Formulation)
1.1 ครแู ละนกั เรียนสนทนารว่ มกันเกี่ยวกับการใช้ไฟฟา้ ในชีวิตประจำวัน โดยครใู ชค้ ำถาม ดงั นี้
- ในชีวิตประจำวนั นักเรียนตอ้ งใช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าอะไรบา้ ง
- เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าเหล่านัน้ เปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลงั งานอน่ื ๆ ในรูปใดบา้ ง
- พลังงานไฟฟา้ เกย่ี วข้องกับเร่อื งไฟฟา้ เคมอี ยา่ งไร
1.2 ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับไฟฟ้าเคมี จากนนั้ ครูอธิบายความหมายของไฟฟา้

เคมี และใชค้ ำถามกระตุ้นความคิดของนักเรยี น ดังนี้
- การเกดิ ปฏิกิริยารดี อกซ์เกิดข้ึนได้อย่างไร

ชวั่ โมงที่ 2-3
2. ข้ันสบื คน้ ความรู้ (Searching for Information)
2.1 แบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4- 5 คน แตล่ ะกลมุ่ มนี กั เรียนเก่ง ปานกลาง ออ่ น คละกนั ใหน้ กั
เรียนทำกิจกรรมการทดลองที่ 1 เร่อื ง ปฏกิ ริ ิยาระหวา่ งโลหะกับสารละลายของโลหะไอออนตามรายละเอยี ด
ในชุดกจิ กรรมพรอ้ มทัง้ ให้สมาชกิ กำหนดหนา้ ทก่ี ันเองในกลุ ่ม เชน่

คนที่ 1 อ่านขน้ั ตอนการทดลองและบอกวธิ กี ารทดลองตามลำดับ
คนท่ี 2 ดำเนนิ การทดลอง จดั เตรยี มอปุ กรณ์
คนที่ 3 รบั อุปกรณ์ สารเคมี สำหรับการทดลอง
คนที่ 4 บนั ทึกข้อมูล ผลการทดลอง
2.2 หลังเสร็จการทดลองใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น
2.3 ให้นกั เรยี นใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ วเิ คราะห์ อภปิ รายผลการทดลอง ตามแนวคำถาม
- ก่อนจุ่มแผน่ โลหะ ในสารละลายมไี อออนของโลหะชนิดใดละลายอยู่
- โลหะกบั ไอออนของโลหะในสารละลายคู่ใดที่มีปฏิกิริยาเคมเี กิดข้ึน ทราบไดอ้ ย่างไร
- โลหะกับไอออนของโลหะคูท่ ่ีเกิดขนึ้ ปฏกิ ิรยิ า เลขออกซิเดซนั ของสารมกี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งไร
2.4 ใหน้ ักเรยี นเขียนสมการการเปลี่ยนแปลงจากการทดลองแลว้ ศกึ ษาความหมายของปฏิกิรยิ า
ออกซิเดชัน ปฏิกริ ิยารดี ักชัน ปฏกิ ริ ิยารีดอกซ์ ตัวรดี วิ ส์ และตวั ออกซไิ ดส์ แล้วรว่ มกันอภปิ รายเพ่อื ตอบคำถาม
ดงั นี้
- ความสามารถในการรบั อิเลก็ ตรอนของ Cu2+ กับ Zn2+ จัดลำดับได้หรือไมอ่ ย่างไร
2.5 ครยู กตัวอยา่ งปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์ แล้วให้นกั เรียนร่วมกันอภิปรายการหาเลขออกซิเดชนั ในปฏกิ ริ ยิ า
ระบุปฏกิ ิริยาออกซเิ ดชนั ปฏิกิริยารีดักชนั ปฏกิ ริ ิยารีดอกซ์ ตวั รดี วิ ส์ และตัวออกซิไดส์
2.6 นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ โดยใช้ชุดกิจกรรมประกอบ

5

2.7 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษา อภปิ ราย ทำกิจกรรมร่วม กัน คิด 1 และกำหนดหนา้ ทกี่ ันเอง
ในกลมุ่ เช่น

คนที่ 1 อา่ นคำถาม วิเคราะหส์ ง่ิ ท่ีโจทยก์ ำหนดให้และสิ่งท่โี จทย์ถาม
คนท่ี 2 ดำเนินการอภิปรายระดมความคิด วเิ คราะห์แนวทางคำถาม และอธิบายคำตอบตามโจทย์
คนท่ี 3 เขียนคำตอบ
คนท่ี 4 ตรวจสอบคำตอบและความถูกต้อง
2.8 ใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันอภิปราย ตรวจความถกู ตอ้ ง ตอบคำถามข้อสงสัยต่าง ๆ
2.9 ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคำตอบพร้อมทั้งใหเ้ หตผุ ล
ช่ัวโมงที่ 4-5
3. ข้นั สรุปองคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)
3.1 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ถงึ ปฏิกริ ิยารีดอกซ์ พร้อมทงั้ เนน้ ยำ้ ใหน้ ักเรียนพิจารณาได้ว่าปฏกิ ิรยิ า
ใดเป็นปฏิกิริยารดี อกซแ์ ละปฏกิ ิริยานอนรดี อกซ์
3.2 นกั เรียนระดมสมองทำกิจกรรมร่วม กัน คิด 2
- ข้อใดเป็นปฏกิ ริ ิยารีดอกซห์ รือ นอนรีดอกซพ์ รอ้ มให้เหตุผล
3.3 นักเรียนระดมสมองทำกจิ กรรมร่วม กนั คดิ 3
- จงตอบคำถามจากสถานการณท์ ีก่ ำหนดให้
3.4 นักเรยี นระดมสมองทำกิจกรรมร่วม กนั ค้น
- ให้นักเรียนค้นหาปฏิกิรยิ า Autoredox 1 ปฏิกิริยา พรอ้ มระบุแหล่งท่มี าของขอ้ มูล
ชว่ั โมงท่ี 6
4. ข้ันการสือ่ สารและนำเสนอ (Effective Communication)
4.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาประโยชน์ของปฏิกิริยารีดอกซ์ ตามรายละเอียดในชดุ กจิ กรรม
4.2 นักเรียนทำกจิ กรรม ปฏิบตั ิการ ฝึกทำ : ฝกึ สร้าง ตามรายละเอียดในชุดกจิ กรรม
5. ขั้นการบรกิ ารสังคมและสาธารณะ (Public Service)
5.1 นักเรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั ศกึ ษาคน้ คว้างานวจิ ยั ทีน่ ำความรู้จากปฏกิ ิรยิ ารดี อกซม์ าสรา้ งสรรค์ชิ้นงาน
หรอื นวตกรรมใหม่ๆพร้อมระบุแหลง่ ที่มาแล้วบนั ทึกข้อมูล
5.2 รว่ มกนั ตั้งคำถามเกี่ยวกบั ตวั อย่างงานวจิ ยั ทห่ี ามาเพ่ือถามเพ่ือนๆ ไมน่ อ้ ยกว่าดา้ นละ 3 ข้อดงั นี้
1. ด้านความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ 2. ด้านปฏบิ ัติการและทกั ษะทางวทิ ยาศาสตร์ และ 3. ดา้ นคา่ นิยมต่อภมู ิ
ปญั ญาไทยทางวิทยาศาสตร์
12. สอ่ื การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้
12.1สอ่ื การเรยี นรู้
- ชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ตามแนวคดิ โยนิโสมนสิการ เรอ่ื ง ไฟฟ้าเคมีเลม่ ท่ี 1 ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์
- ส่อื ppt

6

12.2แหลง่ เรยี นรู้

1) อินเตอรเ์ น็ต 2) หอ้ งสมุด

13. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้

ผลการสอน รายละเอียด

1. ด้านความรู้ : ......................................................................................

- ปฏิกิรยิ าออกซเิ ดชัน ปฏกิ ิริยารดี ักชัน ......................................................................................
ปฏกิ ริ ิยารีดอกซ์ ตัวรดี วิ ซ์ และตวั ออกซไิ ดส์ ......................................................................................

- ความสามารถในการเปน็ ตัวรีดวิ ซ์หรอื ตัว ......................................................................................

ออกซไิ ดส์ของธาตหุ รือไอออน ......................................................................................

2. ดา้ นกระบวนการ : ......................................................................................
- ทักษะกระบวนการคดิ ......................................................................................
- ทกั ษะกระบวนการกลมุ่ ......................................................................................
......................................................................................
3. ด้านคณุ ธรรมจริยธรรมและค่านิยม ......................................................................................
อนั พงึ ประสงค์ : ................................................................................................
- มวี นิ ัย ................................................................................................
- ใฝ่เรยี นรู้ ................................................................................................
- อยู่อย่างพอเพียง ................................................................................................
- รักความเป็นไทย ......................................................................................
................................................................................................
......................................................................................
................................................................................................
................................................................................................

4. ปัญหาการสอน
....................................................................... ................................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ................................................................................................
5. วิธแี ก้ปัญหา
....................................................................... ................................................................................................

7

....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ................................................................................................

ลงช่อื ........................................ครูผ้สู อน ลงชื่อ...........................................หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทุมสกุลรัตน์..) (นายสุรจกั ร์ิ แก้วม่วง.)

ลงช่อื ........................................... ลงชอื่ ...........................................
(.นางสาวอโนชา...อุทุมสกุลรัตน.์ .) (..นายศวิ าวุฒิ รตั นะ..)

หวั หนา้ งานนิเทศ หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารวิชาการ

ลงชอ่ื ........................................................
(...นายจงจดั จันทบ...)

ผู้อำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวทิ ยาคม

8

แบบประเมนิ การอภิปรายแสดงความคิดเห็น
วิชา .......................................................................................................... ชั้น ………………………………
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ..............................กิจกรรม ……………………………………………………………………….…

คำชีแ้ จง : ให้ประเมินจากการสังเกตการรว่ มอภิปรายในระหว่างเรียน และการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลมุ่

โดยให้ระดับคะแนนลงในตารางที่ตรงกบั พฤตกิ รรมของผเู้ รียน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรบั ปรงุ

รวม สรปุ ผลการ

รายการประเมิน 15 ประเมิน
คะแน

เลขท่ี ชือ่ -นามสกุล น

การแสดงความ คะแนน ผา่ น ไม่
ิคดเ ็หน ทท่ี ำได้ ผา่ น
ยอมรับ ัฟงความ
ิคดเ ็หนของ ู้ผ ่ือน
ตรงประเ ็ดน
สมเห ุตสมผล
มีความเ ื่ชอมั่นใน
การแสดงออก

ลงช่ือ ................................................................................. ผู้ประเมิน
เกณฑก์ ารประเมนิ : นกั เรียนได้คะแนน 12 คะแนนข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

9

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชแ้ี จง : ใหส้ ังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รง
กับระดับคะแนน

คุณลักษณะอันพงึ รายการทปี่ ระเมิน ระดบั คะแนน
ประสงคด์ า้ น 321

3.1 ตรงต่อเวลา

1. มวี ินัย 3.2 ปฏบิ ตั งิ านเรียบร้อยเหมาะสม

3.3 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง

4.1 กระตือรอื ร้นในการแสวงหาข้อมลู

2. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.2 มีการจดบันทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ

4.3 สรปุ ความรู้ได้อย่างมีเหตุผล

5.1 ใชว้ สั ดุ สิ่งของ เคร่ืองใช้ อยา่ งประหยดั

3. อย่อู ย่างพอเพียง 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ ค่า

5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออม

7.1 มจี ิตสำนกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย
4. รกั ความเป็นไทย

7.2 เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย

ลงชือ่ ................................................................................. ผู้ประเมิน
/ /......................... ......................... .............................

เกณฑ์การให้คะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัตบิ างคร้ัง

10

แบบประเมินผลงานผู้เรยี น

ชือ่ - นามสกุล .................................................................................. ชั้น …………………........
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ................................ กจิ กรรม ……………….………………......................

คำช้ีแจง: ให้ผปู้ ระเมินขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั คะแนน

ประเดน็ ที่ประเมิน ผู้ประเมิน

ตนเอง เพื่อน ครู

432143214321

1. ตรงจุดประสงค์ท่กี ำหนด

2. มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์

3. มีความคดิ สร้างสรรค์

4. มีความเป็นระเบียบ

รวม
รวมทุกรายการ

เฉล่ีย

ผปู้ ระเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผ้ปู ระเมิน .......................................................... (เพ่อื น)

ผปู้ ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

11

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเดน็ ท่ีประเมนิ คะแนน

1. ผลงานตรงกบั 4 3 2 1
จดุ ประสงคท์ ่ีกำหนด
ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่
2. ผลงานมีความถูกตอ้ ง กับจดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคลอ้ งกบั
สมบูรณ์ ทกุ ประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเด็น จดุ ประสงค์
เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
3. ผลงานมคี วามคิด ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
สรา้ งสรรค์ ครบถว้ น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นส่วนใหญ่
ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมีความ ผลงานไมแ่ สดง
4. ผลงานมคี วามเป็น ถึงความคิด แปลกใหมแ่ ตย่ งั นา่ สนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคิดใหม่
ระเบยี บ สร้างสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคิดแปลก
แปลกใหม่ ใหม่ ผลงานส่วนใหญ่
และเป็นระบบ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ
ผลงานมคี วามเปน็ ความเปน็ ผลงานมีความ และมขี ้อ
ระเบยี บแสดงออก ระเบยี บแต่ยังมี เปน็ ระเบยี บแตม่ ี บกพรอ่ งมาก
ถงึ ความประณีต ข้อบกพร่อง ข้อบกพรอ่ ง
เลก็ น้อย บางส่วน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

นักเรยี นไดค้ ะแนน 13 คะแนนขึ้นไป หรือรอ้ ยละ 80 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

12

แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ

กลุ่ม ..........................................................................................................

สมาชิกในกล่มุ 1. 2....................................................................... ......................................................................

3. 4....................................................................... ......................................................................

5. 6....................................................................... ......................................................................

คำช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นทำเครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งที่ตรงกบั ความเปน็ จริง

พฤตกิ รรมที่สังเกต คะแนน 1
32

1. มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น

2. มีความกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
3. รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. มีข้ันตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5. ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมท่ีทำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีทำเปน็ บางครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมทีท่ ำนอ้ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
13-15 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ

13

แบบประเมินสมรรถนะผูเ้ รยี น 5 ด้าน

คำชี้แจง : ใหส้ ังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รง
กบั ระดบั คะแนน

สมรรถนะทีป่ ระเมนิ ระดับคะแนน
321
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
1.1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร
1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง
โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
1.3 ใชว้ ธิ กี ารสื่อสารท่เี หมาะสม

2. ความสามารถในการคิด
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ เพอ่ื การสรา้ งองค์ความรู้
2.2 มคี วามสามารถในการคิดเปน็ ระบบ เพื่อการสร้างองคค์ วามรู้

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3.1 แก้ปัญหาโดยใช้เหตุผล
3.2 แสวงหาความรู้มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา
3.3 ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4.1 ทำงานและอยู่รว่ มกับผู้อ่นื ด้วยความสัมพนั ธ์อันดี
4.2 มีวิธแี กไ้ ขความขัดแยง้ อยา่ งเหมาะสม

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.1 เลอื กใช้ขอ้ มูลในการพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม
5.2 เลือกใช้ขอ้ มูลในการทำงานและอยู่รว่ มกบั ผู้อ่ืนอย่างเหมาะสม

ลงชอื่ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
/ /........................ ......................... .............................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิบางคร้ัง

14

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่…………...1....................เรอื่ ง..........................การดุลสมการรีดอกซ์............................
รายวิชา……..............เคมี…4........ ............รหสั วิชา…..............ว 30224......................ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่....6.....
กลุ่มสาระการเรยี นร้.ู ...........วทิ ยาศาสตร์..........ปีการศึกษา.... 2562.......ภาคเรียนที่..1...เวลา...5...ช่วั โมง……
ผสู้ อน.........................นางสาวอโนชา...อุทมุ สกุลรตั น์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ (รายวชิ าพืน้ ฐานมที ้ังมาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชว้ี ดั
รายวชิ าเพ่มิ เติมมเี ฉพาะมาตรฐานการเรยี นรู้และผลการเรียนรู้)

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 3 : สารและสมบตั ขิ องสาร
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจหลกั การและธรรมชาติของการเปลย่ี นสถานะของสาร การเกิดสารละลาย

การเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ และจติ วิทยาศาสตร์ ส่อื สารสง่ิ ท่เี รียนรู้ และนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้ การ
แก้ปญั หา รู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ เ่ี กิดขึ้นส่วนใหญม่ รี ูปแบบท่ีแน่นอน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบ
ได้ภายใตข้ ้อมูลและเครอื่ งมือท่มี ีอย่ใู นช่วงเวลาน้ันๆ เข้าใจว่าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม มคี วาม
เกยี่ วข้องสมั พนั ธก์ นั

1.2 ผลการเรียนรู้
3. ดุลสมการรดี อกซโดยใชเลขออกซเิ ดชันและครึ่งปฏิกริ ิยาได

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (หลอมจากตัวช้วี ัดท่ใี ช้ในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ้ีเขยี นเป็นแบบความเรยี ง)

การดุลสมการรดี อกซ์ นิยมมอี ยู่ 2 วิธีคอื ดุลโดยใชเ้ ลขออกซิเดชนั และดุลโดยใช้ครงึ่ ปฏิกริ ิยา

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ (รายวชิ าเพมิ่ เติม)

ปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์เขยี นแทนได้ดว้ ยสมการรดี อกซ์ ซ่ึงการดุลสมการรดี อกซท์ ำไดโ้ ดยการใช้

เลขออกซิเดชันและวิธคี รึง่ ปฏกิ ิริยา

3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น (ถ้าในคำอธิบายรายวชิ าพูดถึงหลักสูตรท้องถิน่ ใหใ้ ส่ลงไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน (เลือกเฉพาะข้อทเ่ี กิดในหน่วยการเรยี นรูน้ ้ี)

 1. ความสามารถในการส่อื สาร  2. ความสามารถในการคดิ

 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

15

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (เลอื กเฉพาะขอ้ ท่ีเกิดในหน่วยการเรียนรนู้ )ี้

 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ

 3. มวี นิ ยั  4. ใฝเ่ รยี นรู้

 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

 7. รกั ความเปน็ ไทย  8. มจี ิตสาธารณะ

6. ด้านคณุ ลักษณะของผู้เรียนตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 1. เป็นเลิศวชิ าการ  2. ส่ือสารสองภาษา  3. ลำ้ หนา้ ทางความคดิ

 4. ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์  5. ร่วมกันรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมโลก

7. ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรยี นรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อา่ นออก)  R2-(W) Ringting (เขียนได้)  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )

 ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะด้านความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทีมและภาวะผ้นู ำ (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทักษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสอื่ (Communications, Information, and Media Literacy)

 ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT

Literacy)

 ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)

 ความมเี มตตา (วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม (Compassion)

8. บูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกลุ่มให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชกิ ในหอ้ งเรียนคือ

ประมาณกลุม่ ละ 4 – 6 คน

2. หลักความมเี หตุผล : ให้นักเรยี นสร้างสรรคผ์ ลงานและเกิดทกั ษะการปฏบิ ตั ิ

3. หลักภูมิคมุ้ กนั : ให้นักเรยี นเกดิ ทักษะการทำงานกลุม่ และกล้าแสดงออก

4. เงอื่ นไขความรู้ : การวางแผนงานทีจ่ ะทำกอ่ นแลว้ คอ่ ยลงมอื ทำอย่างระมัดระวงั , เขยี นสมการการ

เปล่ียนแปลงจากการทดลอง

5. เงือ่ นไขคณุ ธรรม : อดทนท่จี ะทำงาน และมีความขยนั ที่จะทำงานให้ออกมาไดด้ ที ีส่ ุด , มวี ินยั ในการ

ทำแบบฝกึ หัด

16

9. ชน้ิ งาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรียนรู้ ชิน้ งาน ภาระงาน

3 - ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ กิจกรรม - ค้น คว้างาน วิจัยท่ีน ำความรู้จาก

ร่วมกันคิด 1 แบบฝึกดุลสมการโดยใช้ ปฏิกิริยารีดอกซ์มาสร้างสรรค์ชิ้นงาน

เลขออกซเิ ดชนั หรือนวตกรรมใหมๆ่ พรอ้ มระบุแหลง่ ท่มี า

- ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ กิจกรรม แล้วบนั ทกึ ข้อมูล

ร่วมกันคิด 2 แบบฝึกดุลสมการโดยใช้

ครึง่ ปฏิกิริยา

10. การวัดประเมนิ ผล

10.1การวัดและประเมนิ ผลชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด

วธิ กี าร

1.การสงั เกตการณ์

2.การใชช้ ุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์รอ่ งรอยบง่ ช้ี 3.การวดั ประเมนิ การปฏิบัติ

เครอื่ งมือ

1. แบบสงั เกตการณ์

2. ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมินการปฏิบตั ิ

เกณฑ์

1.การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1

รายการถือว่า ไม่ผา่ น

10.2การวัดและประเมินผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (ประเมนิ จากแผนการจดั การเรียนรขู้ อง

หนว่ ยการเรยี นรนู้ ้)ี

ส่งิ ทตี่ ้องการวัด วิธวี ดั ผล เครอ่ื งมอื วัดผล เกณฑก์ ารประเมิน

1. ความรู้เก่ยี วกับ -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมินการ - นกั เรยี นไดค้ ะแนน

- การดุลสมการรีดอกซด์ ว้ ย ความคิดเห็น อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขึ้นไป
การใช้เลขออกซเิ ดชัน และวิธี -การตอบคำถาม คดิ เห็น หรือรอ้ ยละ 80

ครึง่ ปฏิกิรยิ า -การตรวจผลงาน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

นักเรียน - แบบประเมนิ การ - นักเรยี นไดค้ ะแนน

ตรวจผลงานนักเรียน ประเมนิ ผลงาน

13 คะแนนขึ้นไป

หรอื รอ้ ยละ 80

17

ถือว่าผ่านเกณฑ์

2.ทกั ษะกระบวนการคิด และ - การอภปิ รายแสดง - แบบประเมินการ -นักเรียนได้คะแนน

ทักษะกระบวนการกลมุ่ ความคดิ เห็น อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนข้ึนไป

คิดเห็น หรอื รอ้ ยละ 80 ถือว่า

- สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์

ทำงานกล่มุ พฤตกิ รรมการ

ทำงานกลุ่ม

3. คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ - สงั เกตนักเรยี นจาก - แบบประเมิน - นักเรียนได้คะแนน

และสมรรถนะผ้เู รียน การเขา้ ชัน้ เรียน คณุ ลักษณะอันพึง ประเมนิ คุณลักษณะ

- วินัยในการเรียน อภปิ ราย แสดงความ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์

- ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการ คิดเห็นและพฤติกรรม - แบบประเมิน 26 คะแนนข้นึ ไป

ทำงาน ระหว่างเรยี น สมรรถนะผ้เู รียน หรือร้อยละ 80

- แบบทดสอบความรู้ ถือว่าผ่านเกณฑ์

ความคิดทาง - นักเรียนได้คะแนน

วิทยาศาสตร์ การประเมนิ สมรรถนะ

29 คะแนนข้นึ ไป

หรอื ร้อยละ 80

ถือว่าผ่านเกณฑ์

11. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

1. ข้นั ตัง้ ประเด็นปญั หา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)

1.1 ทบทวนเก่ียวกับการดุลสมการเคมีท่วั ๆ ไป โดยสุ่มเรียกนักเรยี นใหอ้ อกมาดุลสมการเคมีท่ีครเู ขยี น

โจทยบ์ นกระดาน ใหน้ ักเรียนร่วมกนั พิจารณาความถูกต้อง แล้วรว่ มกันอภปิ รายหลักการดุลสมการท่วั ไป

1.2 ครเู ขียนสมการรดี อกซ์ Cl2 + 2NaI → 2NaCl + I2 แล้วใหน้ ักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายทบทวนการ
หาเลขออกซิเดชนั ปฏิกิรยิ าออกซิเดชนั ปฏกิ ริ ยิ ารีดักชนั สารใดเปน็ ตวั รีดวิ ส์ สารใดเปน็ ตัวออกซิไดส์

1.3 ครูอธิบาย พรอ้ มกบั ยกตัวอยา่ งหลกั การดลุ สมการรีดอกซ์ โดยใช้เลขออกซิเดชนั และครึง่ ปฏกิ ิริยา

โดยใหน้ ักเรยี นศกึ ษารายละเอยี ดในชุดกจิ กรรมประกอบการอธบิ าย

1.4 แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุม่ ๆ ละ 4- 5 คน แตล่ ะกลุ่มมนี ักเรยี นเก่ง ปานกลาง ออ่ น คละกัน ให้

นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศกึ ษา อภิปราย ทำแบบฝึกหดั และกำหนดหนา้ ทกี่ ันเองในกลุม่ เช่น

คนที่ 1 อา่ นคำถาม วิเคราะห์ส่งิ ทโ่ี จทยก์ ำหนดให้และส่ิงทีโ่ จทย์ถาม

คนท่ี 2 ดำเนินการอภิปรายระดมความคดิ วิเคราะหแ์ นวทางคาถาม และอธิบายคาตอบตามโจทย์

ต้องการ

18

คนท่ี 3 เขยี นคำตอบ
คนที่ 4 ตรวจสอบคำตอบและความถกู ตอ้ ง

ชว่ั โมงที่ 2-3
2. ข้นั สบื ค้นความรู้ (Searching for Information)
2.1 ครูให้นกั เรียนรว่ มกันฝึกดลุ สมการโดยใช้เลขออกซเิ ดชัน ในกจิ กรรม ร่วม กนั คดิ 1
2.2 ครูกับนักเรียนสนทนาและร่วมกันเฉลยคำตอบกจิ กรรม รว่ ม กนั คิด 1
2.3 ครใู ห้นกั เรยี นร่วมกนั ฝึกดุลสมการโดยใช้ครงึ่ ปฏกิ ริ ยิ า ในกิจกรรม รว่ ม กนั คิด 2
2.4 ครูกับนกั เรยี นสนทนาและรว่ มกนั เฉลยคำตอบ กจิ กรรม รว่ ม กัน คดิ 2

ชว่ั โมงที่ 4
3. ขัน้ สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)
3.1 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปถึงเทคนิควิธกี ารดุลสมการโดยใชเ้ ลขออกซิเดชนั และใช้ครึง่ ปฏิกริ ิยา
3.2 นักเรยี นระดมสมองฝกึ ทำตวั อย่างแนวข้อสอบ Entrance
3.3 ครูกับนักเรียนสนทนาและรว่ มกันเฉลยคำตอบ

ช่วั โมงท่ี 5
4. ขน้ั การสื่อสารและนำเสนอ (Effective Communication)
4.1 นักเรียนแตล่ ะกล่มุ นักเรียนฝึกสร้างโจทยก์ ารดุลสมการพร้อมเฉลย
4.2 ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ ร่วมกนั อภปิ ราย ตรวจความถูกตอ้ ง ตอบคำถามขอ้ สงสัยตา่ ง ๆ ให้นกั เรียนทกุ
คนในกลุ่มเขา้ ใจคำตอบกอ่ นสง่
4.3 นำเสนอหนา้ ช้ันเรยี น
5. ขนั้ การบรกิ ารสังคมและสาธารณะ (Public Service)
5.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้างานวิจัยทนี่ ำความรู้จากปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์มาสร้างสรรค์ชิน้ งาน
หรอื นวตกรรมใหม่ๆพรอ้ มระบแุ หล่งที่มาแล้วบันทกึ ขอ้ มลู
5.2 รว่ มกันตง้ั คำถามเกี่ยวกับตัวอยา่ งงานวิจยั ที่หามาเพอื่ ถามเพือ่ นๆ ไม่น้อยกวา่ ดา้ นละ 3 ข้อดังน้ี
1. ด้านความร้ทู างวทิ ยาศาสตร์ 2. ดา้ นปฏิบตั ิการและทักษะทางวิทยาศาสตร์ และ 3. ด้านคา่ นิยมต่อภูมิ
ปญั ญาไทยทางวิทยาศาสตร์

12. สื่อการเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้
12.1สือ่ การเรียนรู้
- ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดโยนิโสมนสิการ เร่อื ง ไฟฟ้าเคมีเล่มท่ี 2 การดลุ สมการรีดอกซ์
- ส่อื ppt

19

12.2แหลง่ เรยี นรู้

1) อินเตอรเ์ น็ต

2) หอ้ งสมุด

13. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้

ผลการสอน รายละเอียด

1. ด้านความรู้ : ......................................................................................

- การดลุ สมการรดี อกซ์ด้วยการใชเ้ ลขออก ......................................................................................
ซเิ ดชนั ......................................................................................

- การดุลสมการรดี อกซด์ ้วยการใชว้ ธิ ีคร่ึง ......................................................................................

ปฏิกิรยิ า ......................................................................................

...............................................................................................

2. ด้านกระบวนการ : ......................................................................................

- ทักษะกระบวนการคดิ ......................................................................................

- ทักษะกระบวนการกล่มุ ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

...............................................................................................

3. ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ ม ......................................................................................

อนั พึงประสงค์ : ......................................................................................

- มีวนิ ยั ......................................................................................

- ใฝเ่ รียนรู้ ......................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ......................................................................................

- รักความเป็นไทย ...............................................................................................

4. ปญั หาการสอน

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

...............................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

20

...............................................................................................
5. วธิ แี ก้ปญั หา
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

ลงช่ือ........................................ครูผ้สู อน ลงชอ่ื ...........................................หัวหน้ากลุม่ สาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทุมสกลุ รตั น.์ .) (นายสุรจักร์ิ แกว้ ม่วง.)

ลงช่อื ........................................... ลงชือ่ ...........................................
(.นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกุลรตั น์..) (..นายศวิ าวุฒิ รัตนะ..)

หวั หนา้ งานนเิ ทศ หัวหนา้ กล่มุ บรหิ ารวิชาการ

ลงชือ่ ........................................................
(...นายจงจดั จันทบ...)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวทิ ยาคม

21

แบบประเมนิ การอภิปรายแสดงความคิดเหน็
วิชา .......................................................................................................... ชนั้ ………………………………
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ..............................กจิ กรรม ……………………………………………………………………….…

คำชีแ้ จง : ใหป้ ระเมินจากการสังเกตการรว่ มอภิปรายในระหวา่ งเรยี น และการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุม่

โดยให้ระดบั คะแนนลงในตารางทีต่ รงกบั พฤตกิ รรมของผูเ้ รยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรุง

รวม สรปุ ผลการ

รายการประเมนิ 15 ประเมนิ
คะแน

เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ น

การแสดงความ คะแนน ผ่าน ไม่
ิคดเ ็หน ทที่ ำได้ ผา่ น
ยอมรับ ัฟงความ
ิคดเ ็หนของ ู้ผ ่ือน
ตรงประเ ็ดน
สมเห ุตสมผล
มีความเ ื่ชอมั่นใน
การแสดงออก

ลงชื่อ ................................................................................. ผู้ประเมิน
เกณฑ์การประเมิน : นักเรียนได้คะแนน 12 คะแนนข้ึนไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์

22

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชแ้ี จง : ให้สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รง
กับระดับคะแนน

คุณลักษณะอันพึง รายการทีป่ ระเมนิ ระดบั คะแนน
ประสงคด์ ้าน 321

3.1 ตรงต่อเวลา

1. มวี นิ ัย 3.2 ปฏบิ ตั งิ านเรยี บรอ้ ยเหมาะสม

3.3 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง

4.1 กระตือรือรน้ ในการแสวงหาขอ้ มูล

2. ใฝเ่ รียนรู้ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ

4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล

5.1 ใชว้ ัสดุ สงิ่ ของ เครอื่ งใช้ อย่างประหยดั

3. อย่อู ย่างพอเพียง 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และร้คู ุณค่า

5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออม

7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
4. รกั ความเปน็ ไทย

7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย

ลงชอื่ ................................................................................. ผู้ประเมิน
/ /......................... ......................... .............................

เกณฑ์การให้คะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง

23

แบบประเมนิ ผลงานผ้เู รยี น

ชือ่ - นามสกุล .................................................................................. ชั้น …………………........
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ................................ กจิ กรรม ……………….………………......................

คำช้ีแจง: ให้ผปู้ ระเมนิ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน

ประเดน็ ที่ประเมิน ผู้ประเมิน

ตนเอง เพื่อน ครู

432143214321

1. ตรงจดุ ประสงค์ท่กี ำหนด

2. มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์

3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์

4. มีความเป็นระเบียบ

รวม
รวมทุกรายการ

เฉล่ีย

ผู้ประเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผ้ปู ระเมิน .......................................................... (เพ่อื น)

ผปู้ ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

24

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเด็นท่ีประเมนิ คะแนน

1. ผลงานตรงกบั 4 3 2 1
จุดประสงค์ท่ีกำหนด
ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่
2. ผลงานมคี วามถูกต้อง กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคลอ้ งกบั
สมบูรณ์ ทกุ ประเด็น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเด็น จดุ ประสงค์
เนอื้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
3. ผลงานมคี วามคิด ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
สร้างสรรค์ ครบถว้ น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่
ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง
4. ผลงานมคี วามเปน็ ถึงความคิด แปลกใหมแ่ ตย่ งั นา่ สนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคดิ ใหม่
ระเบยี บ สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคิดแปลก
แปลกใหม่ ใหม่ ผลงานส่วนใหญ่
และเป็นระบบ ผลงานส่วนใหญม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ
ผลงานมคี วามเปน็ ความเปน็ ผลงานมีความ และมขี ้อ
ระเบียบแสดงออก ระเบยี บแตย่ ังมี เปน็ ระเบยี บแตม่ ี บกพร่องมาก
ถงึ ความประณีต ข้อบกพร่อง ข้อบกพรอ่ ง
เลก็ น้อย บางส่วน

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

นกั เรียนได้คะแนน 13 คะแนนขึ้นไป หรือรอ้ ยละ 80 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

25

แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

กลุ่ม ..........................................................................................................

สมาชิกในกล่มุ 1. 2....................................................................... ......................................................................

3. 4....................................................................... ......................................................................

5. 6....................................................................... ......................................................................

คำช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นทำเครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งที่ตรงกบั ความเปน็ จรงิ

พฤตกิ รรมที่สังเกต คะแนน 1
32

1. มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น

2. มีความกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
3. รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. มีข้ันตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5. ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมท่ีทำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีทำเปน็ บางครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมทีท่ ำนอ้ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
13-15 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ

26

แบบประเมินสมรรถนะผูเ้ รยี น 5 ด้าน

คำชี้แจง : ใหส้ ังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รง
กบั ระดบั คะแนน

สมรรถนะทีป่ ระเมนิ ระดับคะแนน
321
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
1.1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร
1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง
โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
1.3 ใชว้ ธิ กี ารสื่อสารท่เี หมาะสม

2. ความสามารถในการคิด
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ เพอ่ื การสรา้ งองค์ความรู้
2.2 มคี วามสามารถในการคิดเปน็ ระบบ เพื่อการสร้างองคค์ วามรู้

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3.1 แก้ปัญหาโดยใช้เหตุผล
3.2 แสวงหาความรู้มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา
3.3 ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4.1 ทำงานและอยู่รว่ มกับผู้อ่นื ด้วยความสัมพนั ธ์อันดี
4.2 มีวิธแี กไ้ ขความขัดแยง้ อยา่ งเหมาะสม

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.1 เลอื กใช้ขอ้ มูลในการพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม
5.2 เลือกใช้ขอ้ มูลในการทำงานและอยู่รว่ มกบั ผู้อ่ืนอย่างเหมาะสม

ลงชอื่ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
/ /........................ ......................... .............................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิบางคร้ัง

27

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี…………...2....................เร่ือง..........................เซลล์กลั วานกิ ............................
รายวชิ า……..............เคมี…4........ ............รหสั วชิ า…..............ว 30224......................ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่....6.....
กลุ่มสาระการเรยี นร.ู้ ...........วทิ ยาศาสตร์..........ปีการศึกษา.... 2562.......ภาคเรียนที่..1...เวลา...10...ชว่ั โมง……
ผ้สู อน.........................นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกุลรัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ (รายวชิ าพ้ืนฐานมีทง้ั มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชีว้ ัด
รายวชิ าเพิ่มเติมมีเฉพาะมาตรฐานการเรียนรแู้ ละผลการเรยี นรู้)

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 3 : สารและสมบตั ิของสาร
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจหลักการและธรรมชาติของการเปล่ียนสถานะของสาร การเกดิ สารละลาย

การเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และจิตวิทยาศาสตร์ สอื่ สารสง่ิ ที่เรยี นรู้ และนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การ
แกป้ ัญหา รวู้ ่าปรากฏการณท์ างธรรมชาติที่เกิดขึ้นสว่ นใหญ่มีรปู แบบทีแ่ น่นอน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบ
ได้ภายใตข้ อ้ มลู และเครอื่ งมอื ท่มี ีอยูใ่ นช่วงเวลานั้นๆ เขา้ ใจว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดล้อม มีความ
เกี่ยวขอ้ งสมั พันธ์กัน

1.2 ผลการเรยี นรู้
4. ต่อเซลลก์ ัลวานกิ จากครง่ึ เซลล์ทีก่ ำหนดให้ พร้อมทั้งบอกขว้ั แอโนด ข้วั แคโทดและเขียน

สมการแสดงปฏิกิรยิ าได้
5. เขียนแผนภาพเซลล์กัลวานกิ ได้
6. อธิบายวธิ ีหาคา่ ศกั ย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์ (Eo) โดยการเปรียบเทียบกับคร่ึงเซลล์

ไฮโดรเจนมาตรฐานได้
7. ใช้ค่า Eo ของครง่ึ เซลลค์ ำนวณหาคา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ ของเซลลแ์ ละทำนายการเกดิ ปฏกิ ิรยิ ารี

ดอกซ์ได้
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (หลอมจากตวั ชว้ี ัดท่ีใชใ้ นหน่วยการเรียนรู้นีเ้ ขียนเป็นแบบความเรยี ง)

เซลล์กลั วานกิ กระแสอเิ ล็กตรอนไหลจากข้ัวแอโนดไปยังขั้วแคโทด สว่ นกระแสไฟฟ้าไหลจากข้วั
แคโทดไปยงั แอโนด แสดงว่าศกั ย์ไฟฟา้ ท่ขี ้ัวแคโทดสูงกว่าแอโนด ดงั นน้ั เขม็ ของโวลต์มิเตอร์จงึ เบนจาก
ขั้วไฟฟา้ ทมี่ ีศักยไ์ ฟฟ้าต่ำไปยงั ขว้ั ที่มคี ่าศักย์ไฟฟ้าสงู กวา่
3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/สาระการเรียนร้เู พ่มิ เตมิ (รายวิชาเพ่ิมเติม)

28

เซลล์เคมีไฟฟา้ ประกอบดว้ ยแอโนด แคโทด และสารละลายอิเล็กโทรไลต์ ซง่ึ อาจเชือ่ มตอ่ กันดว้ ย

สะพานเกลอื โดยทแี่ อโนดเกิดปฏิกริ ิยาออกซเิ ดชัน และแคโทดเกดิ ปฏิกริ ิยารดี กั ชนั ทำใหอ้ เิ ล็กตรอนเคลือ่ นที่

จากแอโนดไปแคโทด เซลลเ์ คมไี ฟฟ้า สามารถเขียนแสดงไดด้ ้วยแผนภาพเซลล์

ค่าศกั ย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลลค์ ำนวณไดจ้ ากคา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ มาตรฐานของคร่งึ เซลล์ ถ้าคา่ ศกั ย์ไฟฟ้า

ของเซลล์เป็นบวก แสดงว่าปฏิกิริยารดี อกซเ์ กดิ ข้ึนไดเ้ อง ซง่ึ ทำให้เกดิ กระแสไฟฟ้า เรยี กเซลล์ชนิดนีว้ า่ เซลล์

กัลวานิก แต่ถา้ คา่ ศักยไ์ ฟฟ้าของเซลล์เป็นลบ แสดงวา่ ปฏิกริ ยิ ารดี อกซไ์ มส่ ามารถเกิดได้เอง ตอ้ งมกี ารให้กระ

แสไฟฟ้าจงึ จะเกดิ ปฏิกริ ิยาได้ เซลล์ชนดิ นเ้ี รยี กว่า เซลล์อเิ ล็กโทรลติ กิ

3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ (ถ้าในคำอธิบายรายวชิ าพูดถงึ หลกั สูตรทอ้ งถิ่นใหใ้ ส่ลงไปด้วย

...............................................................-...........................................................................................

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น (เลือกเฉพาะขอ้ ที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี)้

 1. ความสามารถในการส่ือสาร  2. ความสามารถในการคิด

 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (เลอื กเฉพาะข้อท่เี กิดในหน่วยการเรียนรนู้ )้ี

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  2. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต

 3. มวี นิ ยั  4. ใฝเ่ รียนรู้

 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มงุ่ มั่นในการทำงาน

 7. รกั ความเปน็ ไทย  8. มจี ติ สาธารณะ

6. ด้านคณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี นตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 1. เปน็ เลิศวิชาการ  2. สอื่ สารสองภาษา  3. ล้ำหนา้ ทางความคิด

 4. ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์  5. รว่ มกันรับผดิ ชอบตอ่ สังคมโลก

7. ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขียนได้)  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )

 ทักษะดา้ นการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผนู้ ำ (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทักษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทันส่ือ (Communications, Information, and Media Literacy)

 ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT

Literacy)

29

 ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
 ความมีเมตตา (วินยั คุณธรรม จริยธรรม (Compassion)
8. บรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกลุม่ ให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชกิ ในห้องเรียนคือ
ประมาณกลมุ่ ละ 4 – 6 คน
2. หลกั ความมเี หตุผล : ใหน้ ักเรยี นสรา้ งสรรค์ผลงานและเกิดทกั ษะการปฏบิ ัติ , เลอื กใช้สารเคมีไดอ้ ย่าง
คุม้ ค่า
3. หลักภมู ิคมุ้ กัน : ใหน้ ักเรียนเกิดทักษะการทำงานกลมุ่ และกล้าแสดงออก
4. เง่ือนไขความรู้ : การวางแผนงานทีจ่ ะทำก่อนแลว้ คอ่ ยลงมือทำอย่างระมัดระวงั , เขียนสมการการ
เปล่ยี นแปลงจากการทดลอง
5. เงื่อนไขคุณธรรม : อดทนทจ่ี ะทำงาน และมีความขยนั ทีจ่ ะทำงานให้ออกมาได้ดีที่สุด , มวี นิ ยั ในการ
ทำการทดลอง

9. ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรยี นรู้ ช้ินงาน ภาระงาน

4 - ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มท่ี 3 - ศึกษา / อภิปรายตามรายละเอียดใน

กิจกรรมสืบเสาะค้นหา รายงานการ ชดุ กิจกรรม

ท ด ล อ งท่ี 1 เร่ือ ง ก าร ถ่ าย โอ น - อภิปรายสรุปเกี่ยวกับการถ่ายโอน

อิเลก็ ตรอนในเซลล์กลั วานกิ อิเลก็ ตรอนในเซลล์กัลวานิก

5 - ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มท่ี 3 - อ ภิ ป ร าย ส รุป เกี่ ย วกั บ ก ารเขี ย น

กิจกรรมร่วมกันคิด 1 แบบฝึกการเขียน แผนภาพเซลล์กัลวานิก

แผนภาพเซลลก์ ัลวานิก

6 - ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มท่ี 3 - ศึกษา / อภิปรายตามรายละเอียดใน

กิจกรรมร่วมกันคดิ 3 แบบฝกึ ศกั ย์ไฟฟ้า ชุดกจิ กรรม

ของเซลล์ - อภิปรายสรุปเก่ียวกับศักย์ไฟฟ้าของ

เซลลแ์ ละศกั ยไ์ ฟฟ้ามาตรฐาน

7 - ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มท่ี 3 - ศึกษา / อภิปรายตามรายละเอียดใน

กิจกรรมร่วมกันคิด 2 แบบฝึกทำนาย ชดุ กจิ กรรม

การเกิดปฏิกิริยารีดอกซ์ - อภิปรายสรุปเก่ียวกับการทำนายการ

เกิดปฏกิ ิริยารีดอกซ์

10. การวัดประเมนิ ผล

30

10.1การวดั และประเมนิ ผลชน้ิ งาน/ภาระงานรวบยอด

วธิ กี าร

1.การสงั เกตการณ์

2.การใชช้ ดุ กิจกรรมวิทยาศาสตร์รอ่ งรอยบง่ ชี้ 3.การวดั ประเมินการปฏิบัติ

เคร่ืองมอื

1. แบบสังเกตการณ์

2. ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมนิ การปฏิบตั ิ

เกณฑ์

1.การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)

2.การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1

รายการถือว่า ไม่ผา่ น

10.2การวดั และประเมินผลระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (ประเมนิ จากแผนการจดั การเรยี นรู้ของ

หนว่ ยการเรยี นรนู้ )้ี

สง่ิ ที่ตอ้ งการวดั วิธีวัดผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมนิ

1. ความรู้เกีย่ วกบั -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมนิ การ - นกั เรยี นได้คะแนน

- ทิศทางการถ่ายโอน ความคิดเหน็ อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนข้ึนไป

อเิ ล็กตรอนในเซลล์กลั วานกิ -การตอบคำถาม คดิ เหน็ หรือรอ้ ยละ 80

-ความสามารถในการรับ -การตรวจผลงาน ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

อิเลก็ ตรอนของธาตุหรอื ไอออน นกั เรียน - แบบประเมนิ การ - นักเรยี นไดค้ ะแนน

และเปรียบเทียบความสามารถ ตรวจผลงานนกั เรยี น ประเมนิ ผลงาน

ในการเป็นตวั รดี วิ ซห์ รือตัวออก 13 คะแนนขึน้ ไป

ซิไดส์ หรือร้อยละ 80

- แผนภาพเซลล์กัลป์วานกิ ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

- ศักยไ์ ฟฟ้าของเซลลแ์ ละ

ศักยไ์ ฟฟ้ามาตรฐาน

2.ทกั ษะกระบวนการคดิ และ - การอภิปรายแสดง - แบบประเมินการ -นกั เรยี นได้คะแนน

ทักษะกระบวนการกลุม่ ความคิดเหน็ อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนข้ึนไป

คิดเหน็ หรือรอ้ ยละ 80 ถอื วา่

- สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์

ทำงานกลมุ่ พฤติกรรมการ

ทำงานกลมุ่

3. คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ - สังเกตนักเรียนจาก - แบบประเมนิ - นักเรียนไดค้ ะแนน

31

และสมรรถนะผู้เรยี น การเข้าชนั้ เรียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประเมินคุณลกั ษณะ

- วนิ ัยในการเรียน อภปิ ราย แสดงความ ประสงค์ อันพงึ ประสงค์

- ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการ คดิ เหน็ และพฤติกรรม - แบบประเมิน 26 คะแนนขึ้นไป

ทำงาน ระหว่างเรียน สมรรถนะผเู้ รียน หรอื รอ้ ยละ 80

- แบบทดสอบความรู้ ถือว่าผา่ นเกณฑ์

ความคิดทาง - นกั เรียนได้คะแนน

วทิ ยาศาสตร์ การประเมนิ สมรรถนะ

29 คะแนนขนึ้ ไป

หรือรอ้ ยละ 80

ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

11. กิจกรรมการเรยี นรู้

ชัว่ โมงท่ี 1-3

1. ขนั้ ต้งั ประเดน็ ปัญหา/สมมตฐิ าน (Hypothesis Formulation)

1.1 รว่ มกันอภิปรายเก่ยี วกับการใช้แหล่งพลงั งานไฟฟา้ ในชวี ิตประจำวัน โดยใชแ้ นวคาถามดงั น้ี

- แหลง่ พลงั งานในชีวติ ประจำวันมาแหล่งใดบา้ ง

- ถา่ นไฟฉายและแบตเตอรี่มกี ารเปลย่ี นแปลงพลังงานอยา่ งไร

- เราใชป้ ระโยชน์จากกระแสไฟฟ้าทำอะไรไดบ้ ้าง

- การแยกน้ำด้วยกระแสไฟฟ้ามีการเปล่ียนแปลงอยา่ งไร

1.2 นักเรยี นศกึ ษาเกย่ี วกับความหมายของเซลล์ไฟฟ้าเคมี เซลลก์ ลั วานิก และเซลลอ์ ิเล็กโทรไลต์ตาม

รายละเอียดในชุดกจิ กรรม

1.3 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุม่ ๆ ละ 4- 5 คน แต่ละกลมุ่ มนี กั เรียนเกง่ ปานกลาง ออ่ น คละกัน ให้

นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันศึกษา อภปิ ราย ทำแบบฝึกหดั และกำหนดหนา้ ที่กันเองในกล่มุ เช่น

คนที่ 1 อ่านคำถาม วเิ คราะหส์ ่งิ ทโ่ี จทย์กำหนดให้และสิง่ ท่ีโจทย์ถาม

คนที่ 2 ดำเนนิ การอภิปรายระดมความคดิ วิเคราะหแ์ นวทางคาถาม และอธิบายคาตอบตามโจทย์

ต้องการ

คนที่ 3 เขียนคำตอบ

คนท่ี 4 ตรวจสอบคำตอบและความถูกตอ้ ง

1.4 นกั เรยี นทำกิจกรรม สบื เสาะค้นหา การทดลองท่ี 1 เรื่อง การถา่ ยโอนอเิ ลก็ ตรอนในเซลลก์ ัลวานกิ

พรอ้ มท้ังใหส้ มาชิกกำหนดหนา้ ท่กี นั เองในกลุ ่ม เช่น

คนท่ี 1 อ่านข้ันตอนการทดลองและบอกวิธีการทดลองตามลำดบั

คนท่ี 2 ดำเนินการทดลอง จัดเตรียมอุปกรณ์

คนท่ี 3 รบั อปุ กรณ์ สารเคมี สาหรบั การทดลอง

32

คนท่ี 4 บันทกึ ขอ้ มูล ผลการทดลอง
1.5 นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ วิเคราะห์ อภปิ รายผลการทดลอง ตามแนวคำถาม

- เม่ือตอ่ วงจรไฟฟ้าระหวา่ งคร่ึงเซลล์แตล่ ะคู่ มีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนเกดิ ข้นึ หรอื ไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
- ครึง่ เซลล์ที่นามาต่อกันแต่ละคู่น้นั ครง่ึ เซลล์ใดเกิดปฏกิ ิรยิ าออกซเิ ดซันครง่ึ เซลล์ใดเกดิ ปฏิกิริยารี
ดักซนั และท่ขี ว้ั ไฟฟ้าหรือสารละลายมกี ารเปลย่ี นแปลงหรือไมอ่ ยา่ งไร
- สะพานเกลือทำหน้าทีอ่ ยา่ งไร

ชว่ั โมงที่ 4-7
2. ข้ันสืบคน้ ความรู้ (Searching for Information)
2.1 นกั เรยี นศกึ ษาส่วนประกอบและการเรียกชื่อขั้วไฟฟ้าของเซลล์กัลวานกิ แลว้ ใหน้ ักเรียนเขยี นสมการ
แสดงปฏกิ ิรยิ าทเ่ี กดิ ข้ึนในเซลลก์ ัลวานกิ จากการทดลอง จัดลำดับความสามารถในการเสยี อิเลก็ ตรอนและรบั
อิเลก็ ตรอนของโลหะและโลหะไอออน
2.2 นักเรียนศึกษาการเขียนภาพของเซลลก์ ลั วานิก แลว้ ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนภาพของเซลลก์ ลั วานกิ จาก
การทดลอง
2.3 นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษา อภปิ ราย ทำกิจกรรม รว่ ม กนั คิด 1
2.4 นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั อภปิ ราย ตรวจความถูกตอ้ ง ตอบคำถามขอ้ สงสัยต่าง ๆ ใหน้ ักเรยี นทกุ คน
ในกล่มุ เข้าใจคำตอบกอ่ นสง่
2.5 นักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบพร้อมทัง้ ให้เหตผุ ล
2.6 ครอู ธบิ ายเกยี่ วกบั ศกั ย์ไฟฟา้ ของเซลลแ์ ละวธิ กี ารหาศักยไ์ ฟฟ้าคร่งึ เซลล์
2.7 นักเรยี นดูสว่ นประกอบของครง่ึ เซลล์ไฮโดรเจนมาตรฐาน แลว้ รว่ มอภิปรายเกี่ยวกบั คา่ ศักยข์ องครง่ึ
เซลล์ไฮโดรเจนมาตรฐาน การหาศักย์ไฟฟา้ มาตรฐานของครง่ึ เซลล์
2.8 ครตู ง้ั โจทย์ ยกตวั อยา่ งการคำนวณ แลว้ รว่ มอภปิ รายถึงความหมายของค่า E0 การใชค้ ่า Eo การทา
นายการเกดิ ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ และการทำนายปฏกิ ิรยิ าทเ่ี กิดขึ้นภายในเซลลว์ ่าเกดิ ขึ้นไดอ้ ยา่ งไร และดาเนนิ ไป
ในทิศทางใด
2.9 นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษา อภปิ ราย ทำกจิ กรรม รว่ ม กนั คิด 2 และ 3
2.10 นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั อภิปราย ตรวจความถกู ตอ้ ง ตอบคำถามข้อสงสัยต่าง ๆ ให้นักเรียนทุก
คนในกลุ่มเข้าใจคำตอบกอ่ นสง่
2.11 นกั เรียนชว่ ยกนั เฉลยคำตอบพรอ้ มทง้ั ให้เหตุผล
ชั่วโมงที่ 8
3. ข้ันสรปุ องค์ความรู้ (Knowledge Formation)
3.1 นักเรียนศกึ ษาเรื่องเซลลค์ วามเข้มข้นตามรายละเอยี ดในชุดกจิ กรรม

ช่วั โมงที่ 9-10

33

4. ขั้นการสื่อสารและนำเสนอ (Effective Communication)
4.1 นักเรยี นระดมสมองรว่ มกันอภปิ รายภายในกลมุ่ เร่อื งเซลล์กัลวานกิ และชว่ ยกนั สรปุ เปน็ ผังความคดิ

4.2 ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน
5. ขน้ั การบรกิ ารสังคมและสาธารณะ (Public Service)
5.1 นกั เรียนแต่ละกลุม่ ศกึ ษาคน้ คว้างานวจิ ัยทนี่ ำความรูจ้ ากเซลลก์ ลั วานกิ มาสรา้ งสรรค์ชิน้ งาน หรือนว
ตกรรมใหมๆ่ พรอ้ มระบแุ หลง่ ท่ีมาแล้วบันทกึ ขอ้ มูล
5.2 ร่วมกนั ตงั้ คำถามเก่ียวกับตวั อยา่ งงานวจิ ยั ท่ีหามาเพอ่ื ถามเพือ่ นๆ ไมน่ ้อยกว่าด้านละ 3 ข้อดงั น้ี
1. ด้านความร้ทู างวิทยาศาสตร์ 2. ด้านปฏบิ ตั กิ ารและทักษะทางวิทยาศาสตร์ และ 3. ดา้ นค่านิยมต่อภมู ิ
ปญั ญาไทยทางวิทยาศาสตร์

12. สอื่ การเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้

12.1 สื่อการเรียนรู้

- ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ตามแนวคิดโยนิโสมนสิการ เรื่อง ไฟฟ้าเคมีเล่มท่ี 3 เซลลก์ ลั ปว์ านิก

- สอ่ื ppt

12.2 แหล่งเรียนรู้

1) อนิ เตอร์เนต็

2) ห้องสมดุ

13. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้

ผลการสอน รายละเอยี ด

1. ด้านความรู้ : ...............................................................................................

- ทิศทางการถา่ ยโอนอเิ ลก็ ตรอนในเซลล์กลั ...............................................................................................

วานกิ ...............................................................................................

- ความสามารถในการรบั อิเลก็ ตรอนของ ...............................................................................................

ธาตหุ รือไอออนและเปรยี บเทยี บ ...............................................................................................

ความสามารถในการเป็นตัวรดี วิ ซ์หรอื ตวั ออก ...............................................................................................

ซไิ ดส์ ...............................................................................................

- แผนภาพเซลลก์ ัลปว์ านิก ...............................................................................................

- ศักยไ์ ฟฟา้ ของเซลลแ์ ละศักย์ไฟฟ้า ...............................................................................................
มาตรฐาน ...............................................................................................

2. ดา้ นกระบวนการ : ...............................................................................................
- ทกั ษะกระบวนการคดิ ...............................................................................................

34

- ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

3. ดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ ม ...............................................................................................

อันพึงประสงค์ : ...............................................................................................

- มวี ินัย ...............................................................................................

- ใฝ่เรยี นรู้ ...............................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ...............................................................................................

- รักความเป็นไทย ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

4. ปัญหาการสอน

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

5. วธิ ีแกป้ ญั หา ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

...............................................................................................

35

ลงช่ือ........................................ครผู ู้สอน ลงชือ่ ...........................................หวั หน้ากลมุ่ สาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกลุ รัตน.์ .) (นายสุรจกั ร์ิ แก้วม่วง.)

ลงช่อื ........................................... ลงชือ่ ...........................................
(.นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกุลรัตน์..) (..นายศวิ าวฒุ ิ รตั นะ..)

หวั หน้างานนิเทศ หวั หน้ากล่มุ บริหารวชิ าการ

ลงช่ือ ........................................................
(...นายจงจัด จนั ทบ...)

ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนสวุ รรณารามวทิ ยาคม

36


Click to View FlipBook Version