The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2020-08-21 03:27:20

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี4

ว 30224

แบบประเมนิ การอภปิ รายแสดงความคิดเหน็
วิชา .......................................................................................................... ชนั้ ………………………………
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ..............................กจิ กรรม ……………………………………………………………………….…

คำชีแ้ จง : ใหป้ ระเมินจากการสังเกตการรว่ มอภปิ รายในระหวา่ งเรยี น และการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุม่

โดยให้ระดบั คะแนนลงในตารางทีต่ รงกับพฤติกรรมของผู้เรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรุง

รวม สรุปผลการ

รายการประเมนิ 15 ประเมนิ
คะแน

เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ น

การแสดงความ คะแนน ผ่าน ไม่
ิคดเ ็หน ทที่ ำได้ ผา่ น
ยอมรับ ัฟงความ
ิคดเ ็หนของ ู้ผ ่ือน
ตรงประเ ็ดน
สมเห ุตสมผล
มีความเ ื่ชอมั่นใน
การแสดงออก

ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
เกณฑ์การประเมิน : นกั เรยี นไดค้ ะแนน 12 คะแนนข้ึนไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์

37

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คำชแ้ี จง : ให้สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รง
กบั ระดับคะแนน

คุณลักษณะอันพึง รายการท่ปี ระเมิน ระดบั คะแนน
ประสงคด์ ้าน 321

3.1 ตรงต่อเวลา

1. มวี นิ ัย 3.2 ปฏบิ ตั ิงานเรียบรอ้ ยเหมาะสม

3.3 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง

4.1 กระตือรอื รน้ ในการแสวงหาขอ้ มลู

2. ใฝเ่ รียนรู้ 4.2 มีการจดบนั ทกึ ความร้อู ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรูไ้ ดอ้ ย่างมีเหตุผล

5.1 ใช้วสั ดุ สงิ่ ของ เครอ่ื งใช้ อย่างประหยดั

3. อย่อู ย่างพอเพียง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออม

7.1 มจี ิตสำนกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย
4. รกั ความเปน็ ไทย

7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย

ลงชอื่ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
/ /......................... ......................... .............................

เกณฑ์การให้คะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
- พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง

38

แบบประเมนิ ผลงานผ้เู รยี น

ชือ่ - นามสกุล .................................................................................. ชั้น …………………........
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ................................ กจิ กรรม ……………….………………......................

คำช้ีแจง: ให้ผปู้ ระเมนิ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน

ประเดน็ ที่ประเมิน ผู้ประเมิน

ตนเอง เพื่อน ครู

432143214321

1. ตรงจดุ ประสงค์ท่กี ำหนด

2. มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์

3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์

4. มีความเป็นระเบียบ

รวม
รวมทุกรายการ

เฉล่ีย

ผู้ประเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผ้ปู ระเมนิ .......................................................... (เพ่อื น)

ผปู้ ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

39

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเด็นท่ีประเมนิ คะแนน

1. ผลงานตรงกบั 4 3 2 1
จุดประสงค์ท่ีกำหนด
ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่
2. ผลงานมคี วามถูกต้อง กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคลอ้ งกบั
สมบูรณ์ ทกุ ประเด็น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเด็น จดุ ประสงค์
เนอื้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
3. ผลงานมคี วามคิด ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
สร้างสรรค์ ครบถว้ น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่
ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง
4. ผลงานมคี วามเปน็ ถึงความคิด แปลกใหมแ่ ตย่ งั นา่ สนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคดิ ใหม่
ระเบยี บ สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคิดแปลก
แปลกใหม่ ใหม่ ผลงานส่วนใหญ่
และเป็นระบบ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ
ผลงานมคี วามเปน็ ความเปน็ ผลงานมีความ และมขี ้อ
ระเบียบแสดงออก ระเบยี บแตย่ ังมี เปน็ ระเบยี บแตม่ ี บกพร่องมาก
ถงึ ความประณีต ข้อบกพร่อง ข้อบกพรอ่ ง
เลก็ น้อย บางส่วน

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

นกั เรียนได้คะแนน 13 คะแนนขึ้นไป หรือรอ้ ยละ 80 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

40

แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

กลุ่ม ..........................................................................................................

สมาชิกในกล่มุ 1. 2....................................................................... ......................................................................

3. 4....................................................................... ......................................................................

5. 6....................................................................... ......................................................................

คำช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นทำเครือ่ งหมาย ✓ ในช่องทตี่ รงกับความเป็นจริง

พฤตกิ รรมที่สังเกต คะแนน 1
32

1. มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น

2. มีความกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
3. รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. มีข้ันตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5. ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมท่ีทำเป็นประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีทำเป็นบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมทีท่ ำนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
13-15 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ

41

แบบประเมินสมรรถนะผูเ้ รยี น 5 ด้าน

คำชี้แจง : ใหส้ ังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รง
กบั ระดบั คะแนน

สมรรถนะทีป่ ระเมนิ ระดับคะแนน
321
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
1.1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร
1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง
โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
1.3 ใชว้ ธิ กี ารสื่อสารท่เี หมาะสม

2. ความสามารถในการคิด
2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ เพอ่ื การสรา้ งองค์ความรู้
2.2 มคี วามสามารถในการคิดเปน็ ระบบ เพื่อการสร้างองคค์ วามรู้

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3.1 แก้ปัญหาโดยใช้เหตุผล
3.2 แสวงหาความรู้มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา
3.3 ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4.1 ทำงานและอยู่รว่ มกับผู้อ่นื ด้วยความสัมพนั ธ์อันดี
4.2 มีวิธแี กไ้ ขความขัดแยง้ อยา่ งเหมาะสม

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.1 เลอื กใช้ขอ้ มูลในการพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม
5.2 เลือกใช้ขอ้ มูลในการทำงานและอยู่รว่ มกบั ผู้อ่ืนอย่างเหมาะสม

ลงชอื่ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
/ /........................ ......................... .............................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิบางคร้ัง

42

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี….2....ปฏกิ ิริยาไฟฟ้าเคมี.......เรอื่ ง....ประเภทของเซลกลั วานกิ ………...................................
รายวิชา……..............เคมี…4........ ............รหัสวชิ า…..............ว 30224......................ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่....6.....
กลุม่ สาระการเรยี นรู.้ ...........วิทยาศาสตร์..........ปีการศกึ ษา.... 2562.......ภาคเรียนที่..1...เวลา...5...ชว่ั โมง……
ผ้สู อน.........................นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกลุ รัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ (รายวชิ าพ้ืนฐานมีทั้งมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วัด
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ มเี ฉพาะมาตรฐานการเรียนร้แู ละผลการเรยี นรู้)

1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 3 : สารและสมบัตขิ องสาร
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจหลกั การและธรรมชาตขิ องการเปลี่ยนสถานะของสาร การเกิดสารละลาย

การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ และจติ วทิ ยาศาสตร์ สอื่ สารสง่ิ ท่เี รยี นรู้ และนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การ
แก้ปญั หา ร้วู ่าปรากฏการณท์ างธรรมชาตทิ ีเ่ กิดข้ึนส่วนใหญ่มรี ปู แบบทแี่ น่นอน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบ
ได้ภายใต้ข้อมลู และเคร่ืองมอื ท่มี ีอย่ใู นชว่ งเวลานนั้ ๆ เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม มคี วาม
เก่ยี วข้องสมั พันธก์ นั

1.2 ผลการเรียนรู้
8. อธิบายหลกั การทำงานของเซลล์กัลวานิก เซลล์ปฐมภมู ิ เซลล์ทุตยิ ภูมแิ ละเซลล์อิเล็กโทรไลต์ได้
9. อธบิ ายหลักการทำงานพรอ้ มทั้งเขยี นสมการแสดงปฏิกริ ยิ าทเี่ กิดข้ึนในถา่ นไฟฉาย เซลล์แอลคาไลน์

เซลล์ปรอท เซลล์เงนิ เซลล์เชอ้ื เพลิงไฮโดรเจน – ออกซเิ จน เซลลเ์ ช้อื เพลิงโพรเพน –ออกซิเจน เซลล์สะสม
ไฟฟา้ แบบตะกั่ว เซลลน์ กิ เกลิ – แคดเมยี มและเซลลโ์ ซเดียม – ซัลเฟอร์ได้
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (หลอมจากตวั ชี้วัดท่ีใชใ้ นหนว่ ยการเรียนรู้นี้เขยี นเปน็ แบบความเรยี ง)

เซลลก์ ัลวานกิ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ เซลล์กัลปว์ านกิ ท่ีผลติ ขึน้ แลว้ สามารถนำไปใช้งานไดท้ นั ที
และเมื่อใชง้ านจนกระแสไฟฟ้าหมดและไมส่ ามารถนำกลบั มาใช้ใหมไ่ ดอ้ ีกเรียกว่าเซลลป์ ฐมภูมิ และเซลล์กัล
วานิกท่ผี ลิตขนึ้ แลว้ ตอ้ งนาไปอัดไฟกอ่ นจงึ สามารถจา่ ยกระแสไฟฟา้ ได้ และเมอื่ ใช้จนกระแสไฟฟ้าออ่ นลง
สามารถนำไปอดั ไฟใหมแ่ ละใชไ้ ด้อกี เรียกว่าเซลล์ทุติยภูมิ
3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/สาระการเรียนร้เู พมิ่ เติม (รายวิชาเพ่มิ เตมิ )
เซลล์เคมไี ฟฟา้ สามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ในชีวิตประจำวัน เช่น แบตเตอร่ี ซงึ่ มีท้ังเซลลป์ ฐมภูมแิ ละ

เซลล์ทุติยภมู ิ โดยปฏกิ ิรยิ าเคมีท่ีเกิดขนึ้ ภายในเซลลป์ ฐมภูมไิ มส่ ามารถทำใหเ้ กิดปฏิกริ ยิ าย้อนกลับไดโ้ ดยการ

43

ประจุไฟ จงึ ไมส่ ามารถนำกลบั มาใช้ไดอ้ ีก ปฏิกิริยาเคมที ี่เกิดขนึ้ ภายในเซลล์ทุติยภมู ิสามารถทำให้เกิดปฏกิ ริ ิยา
ย้อนกลบั ไดโ้ ดยการประจไุ ฟ จงึ นำกลับมาใชไ้ ด้อีก

3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น (ถ้าในคำอธิบายรายวิชาพดู ถงึ หลกั สูตรทอ้ งถ่นิ ให้ใส่ลงไปด้วย

...............................................................-...........................................................................................

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (เลือกเฉพาะข้อทเ่ี กิดในหนว่ ยการเรยี นรู้น)้ี

 1. ความสามารถในการสือ่ สาร  2. ความสามารถในการคิด

 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (เลือกเฉพาะขอ้ ท่เี กิดในหนว่ ยการเรียนรนู้ )้ี

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  2. ซอื่ สตั ยส์ ุจริต

 3. มวี ินยั  4. ใฝ่เรียนรู้

 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

 7. รักความเปน็ ไทย  8. มีจติ สาธารณะ

6. ดา้ นคุณลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

 1. เปน็ เลิศวชิ าการ  2. สือ่ สารสองภาษา  3. ลำ้ หน้าทางความคิด

 4. ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์  5. ร่วมกันรบั ผิดชอบต่อสงั คมโลก

7. ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได้)  R3- (A) Rithmetics (คิดเลขเป็น)

 ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)

 ทักษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะผูน้ ำ (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสอ่ื (Communications, Information, and Media Literacy)

 ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT

Literacy)

 ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)

 ความมเี มตตา (วนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม (Compassion)

8. บรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกลุ่มให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในห้องเรียนคอื

ประมาณกลมุ่ ละ 4 – 6 คน

44

2. หลกั ความมีเหตผุ ล : ให้นกั เรียนสร้างสรรค์ผลงานและเกดิ ทกั ษะการปฏบิ ัติ , เลอื กใช้สารเคมีไดอ้ ยา่ ง
คุ้มคา่

3. หลักภมู ิคุ้มกัน : ให้นักเรยี นเกิดทกั ษะการทำงานกลุ่ม และกล้าแสดงออก
4. เงอื่ นไขความรู้ : การวางแผนงานทจี่ ะทำก่อนแลว้ ค่อยลงมือทำอย่างระมดั ระวงั , เขียนสมการการ
เปลยี่ นแปลงจากการทดลอง
5. เง่อื นไขคุณธรรม : อดทนท่จี ะทำงาน และมคี วามขยนั ท่ีจะทำงานให้ออกมาไดด้ ีท่สี ุด , มีวินัยในการ
ทำการทดลอง

9. ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรียนรู้ ชน้ิ งาน ภาระงาน

8 - ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มที่ 4 - ศึกษา / อภิปรายตามรายละเอียดใน

กจิ กรรมร่วม กนั คิด 1 ข้อที่ 1 ชุดกจิ กรรม

9 - ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มท่ี 4 - อภปิ รายสรุปเก่ยี วกบั เซลล์แอลคาไลน์

กิ จ ก ร ร ม ท ด ส อ บ ค ว า ม เข้ า ใจ 1 เซลล์ถ่านไฟฉาย เซลล์ปรอท เซลล์เงิน

เปรียบเทียบความเหมือนและความ เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน -ออกซิเจน

แตกต่างระหว่างเซลล์แอลคาไลน์กับ เซลล์เช้ือเพลิงโพรเพน-ออกซิเจน และ

ถ่านไฟฉาย เซลล์โซเดียม–ซลั เฟอร์

- ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มท่ี 4

กิ จ ก ร ร ม ท ด ส อ บ ค ว า ม เข้ า ใจ 2

เปรยี บเทยี บเซลล์ปรอทและเซลล์เงนิ

- ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มท่ี 4

กจิ กรรมรว่ ม กนั คดิ 1 ขอ้ ท่ี 2- 5

- คำขวัญ หรือข้อความแสดงความ

คิดเห็นการตระหนักถึงคุณค่าการนำ

พลงั งานทดแทนมาใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั

10. การวัดประเมนิ ผล 3.การวัดประเมนิ การปฏบิ ัติ
10.1การวดั และประเมินผลช้นิ งาน/ภาระงานรวบยอด
วิธกี าร
1.การสังเกตการณ์
2.การใชช้ ดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ร่องรอยบ่งช้ี
เครอ่ื งมือ

45

1. แบบสังเกตการณ์

2. ชดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมนิ การปฏิบตั ิ

เกณฑ์

1.การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1

รายการถอื วา่ ไม่ผ่าน

10.2การวัดและประเมนิ ผลระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ประเมนิ จากแผนการจดั การเรียนรู้ของ

หน่วยการเรยี นรนู้ )้ี

สง่ิ ท่ตี ้องการวดั วธิ วี ัดผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมิน

1. ความรเู้ ก่ยี วกบั -การสอบถาม ซกั ถาม - แบบประเมินการ - นักเรยี นไดค้ ะแนน

- ความหมายของเซลลป์ ฐม ความคดิ เหน็ อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขึ้นไป

ภูมิ และเซลล์ทุตยิ ภมู ิ -การตอบคำถาม คิดเหน็ หรอื รอ้ ยละ 80

-เปรยี บเทยี บขอ้ ดีและขอ้ เสยี -การตรวจผลงาน ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

ของเซลลเ์ ซลลป์ ฐมภูมิ และ นักเรยี น - แบบประเมินการ - นกั เรียนได้คะแนน

เซลลท์ ุตยิ ภูมิ ตรวจผลงานนกั เรยี น ประเมนิ ผลงาน

- สว่ นประกอบและหลักการ 13 คะแนนข้ึนไป

ทำงาน เซลล์ถ่านไฟฉาย หรือรอ้ ยละ 80

เซลล์อลั คาไลน์ เซลลป์ รอท ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

เซลลเ์ งนิ เซลล์เชื้อเพลิงไอโดร

เจน –ออกซเิ จน เซลล์เชื้อเพลงิ

โพรเพน – ออกซิเจน เซลล์

สะสมไฟฟา้ แบบตะก่วั เซลล์

นิกเกลิ –แคดเมียม เซลล์

โซเดยี ม – ซัลเฟอร์

2.ทักษะกระบวนการคดิ และ - การอภิปรายแสดง - แบบประเมนิ การ -นกั เรยี นได้คะแนน

ทกั ษะกระบวนการกลมุ่ ความคิดเห็น อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนข้ึนไป

คดิ เหน็ หรอื รอ้ ยละ 80 ถือว่า

- สังเกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์

ทำงานกล่มุ พฤตกิ รรมการ

ทำงานกลมุ่

3. คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ - สังเกตนักเรยี นจาก - แบบประเมนิ - นักเรียนไดค้ ะแนน

และสมรรถนะผเู้ รยี น การเขา้ ชั้นเรียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประเมินคุณลักษณะ

46

- วินยั ในการเรียน อภปิ ราย แสดงความ ประสงค์ อันพึงประสงค์

- ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการ คิดเห็นและพฤติกรรม - แบบประเมนิ 26 คะแนนข้ึนไป

ทำงาน ระหว่างเรยี น สมรรถนะผ้เู รยี น หรอื รอ้ ยละ 80

- แบบทดสอบความรู้ ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

ความคดิ ทาง - นกั เรียนได้คะแนน

วทิ ยาศาสตร์ การประเมินสมรรถนะ

29 คะแนนขึ้นไป

หรือร้อยละ 80

ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

11. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชว่ั โมงที่ 1-2

1. ข้นั ต้ังประเด็นปัญหา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)

1.1 ทบทวนการถา่ ยโอนอิเล็กตรอนในเซลล์กัลปว์ านิก

1.2 นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเลือกเร่อื งในการสบื คน้ ขอ้ มูลไม่ซ้ำกัน เกี่ยวกับสว่ นประกอบ หลักการทำงาน

และประโยชน์ ตามหัวข้อต่อไปน้ี

1. เซลล์อัลคาไลน์

2. เซลลป์ รอท

3. เซลลเ์ งิน

4. เซลล์เชอ้ื เพลงิ ไอโดรเจน –ออกซิเจน

5. เซลล์เชื้อเพลิงโพรเพน – ออกซเิ จน

1.3 นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรปุ อธบิ ายความหมายของเซลลป์ ฐมภมู ิ ส่วนประกอบ

และหลกั การทางาน เซลล์ถา่ นไฟฉาย เซลล์อัลคาไลนเ์ ซลลป์ รอท เซลลเ์ งนิ เซลลเ์ ชอื้ เพลิงไฮโดรเจน –

ออกซิเจน เซลล์เช้ือเพลงิ โพรเพน – ออกซเิ จน

1.5 ครูนำอภปิ รายถึงความหมายของเซลล์ทตุ ิยภูมิ แลว้ ใหน้ กั เรียนยกตัวอยา่ งเซลลป์ ฐมภมู ิ

ชวั่ โมงท่ี 3-4

2. ขัน้ สืบคน้ ความรู้ (Searching for Information)

2.1 ครสู าธิตการทดลองท่ี 1 เซลล์สะสมไฟฟ้าแบบตะก่วั

2.2 นักเรียนรว่ มกนั วเิ คราะห์ และอภปิ รายผลการทดลอง ดังน้ี

- เมื่อต่อวงจร มกี ารเปล่ียนแปลงเกดิ ขึน้ หรือไม่ อยา่ งไร

- หลังจากนาแบตเตอร่ีออกแลว้ นาโวลต์มเิ ตอร์หรือหลอดไฟไปตอ่ ไวใ้ นวงจรจะเกดิ การเปลีย่ นแปลง

หรือไม่ อยา่ งไร

2.3 นักเรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกนั ศึกษา อภิปราย ทำกิจกรรม รว่ ม กนั คิด 1

47

2.4 นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั อภปิ ราย ตรวจความถกู ตอ้ ง ตอบคำถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ ให้นักเรยี นทุกคน
ในกล่มุ เข้าใจคำตอบกอ่ นส่ง

2.5 นักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคำตอบพร้อมทงั้ ให้เหตผุ ล
2.6 ครูอธิบายเกีย่ วกบั ศกั ย์ไฟฟา้ ของเซลลแ์ ละวธิ กี ารหาศักยไ์ ฟฟ้าครึง่ เซลล์
2.7 นักเรยี นดสู ว่ นประกอบของครงึ่ เซลลไ์ ฮโดรเจนมาตรฐาน แล้วร่วมอภิปรายเก่ยี วกับ ค่าศกั ย์ของครง่ึ
เซลลไ์ ฮโดรเจนมาตรฐาน การหาศักย์ไฟฟา้ มาตรฐานของครงึ่ เซลล์
2.8 ครตู ้ังโจทย์ ยกตัวอย่างการคำนวณ แล้วร่วมอภิปรายถึงความหมายของคา่ E0 การใชค้ ่า Eo การทา
นายการเกดิ ปฏิกิรยิ ารดี อกซ์ และการทำนายปฏกิ ิริยาทเี่ กดิ ข้นึ ภายในเซลล์ว่าเกดิ ข้ึนไดอ้ ยา่ งไร และดาเนนิ ไป
ในทิศทางใด
2.9 นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันศกึ ษา อภิปราย ทำกจิ กรรม รว่ ม กัน คดิ 2 และ 3
2.10 นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ ราย ตรวจความถูกต้อง ตอบคำถามขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ ให้นกั เรยี นทุก
คนในกลมุ่ เข้าใจคำตอบกอ่ นส่ง
2.11 นกั เรยี นชว่ ยกนั เฉลยคำตอบพร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผล
ชัว่ โมงท่ี 8
3. ขัน้ สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)
3.1 นกั เรยี นศกึ ษาเร่อื งเซลลค์ วามเข้มข้นตามรายละเอียดในชดุ กิจกรรม

ชั่วโมงท่ี 9-10
4. ขน้ั การสื่อสารและนำเสนอ (Effective Communication)
4.1 นกั เรยี นระดมสมองร่วมกนั อภิปรายภายในกล่มุ เรือ่ งเซลลก์ ลั วานิก และช่วยกันสรุปเปน็ ผงั ความคดิ

4.2 ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม นำเสนอหน้าช้นั เรยี น
5. ขน้ั การบรกิ ารสงั คมและสาธารณะ (Public Service)
5.1 นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้างานวิจยั ที่นำความรจู้ ากเซลลก์ ัลวานิกมาสร้างสรรค์ชิ้นงาน หรอื นว
ตกรรมใหมๆ่ พร้อมระบุแหล่งทีม่ าแลว้ บันทกึ ข้อมูล
5.2 ร่วมกนั ตัง้ คำถามเก่ียวกบั ตัวอย่างงานวจิ ยั ท่ีหามาเพอ่ื ถามเพอ่ื นๆ ไม่นอ้ ยกวา่ ดา้ นละ 3 ข้อดังนี้
1. ด้านความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ 2. ดา้ นปฏิบัตกิ ารและทักษะทางวทิ ยาศาสตร์ และ 3. ด้านค่านิยมต่อภมู ิ
ปญั ญาไทยทางวิทยาศาสตร์

12. สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้
12.1ส่อื การเรยี นรู้

48

- ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดโยนิโสมนสิการ เรอ่ื ง ไฟฟา้ เคมีเลม่ ท่ี 4 ประเภทของเซลกลั วา

นิก

- สือ่ ppt

12.2แหลง่ เรียนรู้

1) อินเตอร์เนต็

2) ห้องสมุด

13. บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้

ผลการสอน รายละเอยี ด

1. ด้านความรู้ : ...............................................................................................

- ทิศทางการถ่ายโอนอเิ ลก็ ตรอนในเซลล์กลั ...............................................................................................

วานิก ...............................................................................................

- ความสามารถในการรับอเิ ล็กตรอนของ ...............................................................................................

ธาตุหรอื ไอออนและเปรียบเทยี บ ...............................................................................................

ความสามารถในการเป็นตัวรดี ิวซห์ รือตวั ออก ...............................................................................................

ซิไดส์ ...............................................................................................

- แผนภาพเซลล์กลั ป์วานิก ...............................................................................................

- ศักยไ์ ฟฟา้ ของเซลลแ์ ละศกั ย์ไฟฟา้ ...............................................................................................
มาตรฐาน ...............................................................................................

2. ดา้ นกระบวนการ : ...............................................................................................
- ทกั ษะกระบวนการคดิ ...............................................................................................
- ทักษะกระบวนการกลุม่ ...............................................................................................
...............................................................................................
3. ดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมและค่านยิ ม ...............................................................................................
อนั พงึ ประสงค์ : ...............................................................................................
- มีวินยั ...............................................................................................
- ใฝเ่ รียนรู้ ...............................................................................................
- อยู่อย่างพอเพียง ...............................................................................................
- รกั ความเป็นไทย ...............................................................................................
...............................................................................................
...............................................................................................
...............................................................................................

49

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

4. ปญั หาการสอน

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

5. วิธีแกป้ ญั หา ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

...............................................................................................

ลงชอ่ื ........................................ครผู ู้สอน ลงชือ่ ...........................................หัวหนา้ กลมุ่ สาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกลุ รตั น.์ .) (นายสรุ จักร์ิ แก้วม่วง.)

ลงชอื่ ........................................... ลงชอื่ ...........................................
(.นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกลุ รัตน์..) (..นายศวิ าวุฒิ รัตนะ..)

หัวหนา้ งานนิเทศ หัวหน้ากลมุ่ บรหิ ารวิชาการ

ลงชอื่ ........................................................
(...นายจงจัด จนั ทบ...)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นสวุ รรณารามวิทยาคม

50

แบบประเมนิ การอภปิ รายแสดงความคิดเหน็
วิชา .......................................................................................................... ชั้น ………………………………
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ..............................กจิ กรรม ……………………………………………………………………….…

คำชีแ้ จง : ใหป้ ระเมินจากการสังเกตการรว่ มอภปิ รายในระหวา่ งเรยี น และการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุม่

โดยให้ระดบั คะแนนลงในตารางท่ีตรงกับพฤติกรรมของผู้เรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรุง

รวม สรุปผลการ

รายการประเมนิ 15 ประเมนิ
คะแน

เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ น

การแสดงความ คะแนน ผ่าน ไม่
ิคดเ ็หน ทที่ ำได้ ผา่ น
ยอมรับ ัฟงความ
ิคดเ ็หนของ ู้ผ ่ือน
ตรงประเ ็ดน
สมเห ุตสมผล
มีความเ ื่ชอมั่นใน
การแสดงออก

ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
เกณฑ์การประเมิน : นักเรยี นไดค้ ะแนน 12 คะแนนข้ึนไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์

51

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

คำชแ้ี จง : ให้สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รง
กบั ระดบั คะแนน

คณุ ลักษณะอนั พึง รายการท่ปี ระเมิน ระดบั คะแนน
ประสงค์ดา้ น 321

3.1 ตรงตอ่ เวลา

1. มวี ินยั 3.2 ปฏิบตั งิ านเรยี บร้อยเหมาะสม

3.3 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง

4.1 กระตือรอื รน้ ในการแสวงหาขอ้ มลู

2. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.2 มีการจดบนั ทึกความร้อู ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล

5.1 ใชว้ ัสดุ ส่งิ ของ เครอ่ื งใช้ อย่างประหยดั

3. อยู่อย่างพอเพียง 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรูค้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออม

7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
4. รักความเป็นไทย

7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย

ลงช่อื ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
/ /......................... ......................... .............................

เกณฑ์การให้คะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางคร้ัง

52

แบบประเมนิ ผลงานผ้เู รยี น

ชือ่ - นามสกุล .................................................................................. ชั้น …………………........
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ................................ กจิ กรรม ……………….………………......................

คำช้ีแจง: ให้ผปู้ ระเมนิ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน

ประเด็นที่ประเมิน ผู้ประเมิน

ตนเอง เพื่อน ครู

432143214321

1. ตรงจดุ ประสงค์ท่กี ำหนด

2. มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์

3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์

4. มีความเป็นระเบียบ

รวม
รวมทุกรายการ

เฉล่ีย

ผู้ประเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผ้ปู ระเมิน .......................................................... (เพ่อื น)

ผปู้ ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

53

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเด็นท่ีประเมนิ คะแนน

1. ผลงานตรงกบั 4 3 2 1
จุดประสงคท์ ่ีกำหนด
ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่
2. ผลงานมคี วามถูกต้อง กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคลอ้ งกบั
สมบูรณ์ ทกุ ประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเด็น จดุ ประสงค์
เนอื้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
3. ผลงานมคี วามคิด ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
สร้างสรรค์ ครบถว้ น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่
ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง
4. ผลงานมีความเปน็ ถึงความคิด แปลกใหมแ่ ตย่ งั นา่ สนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคดิ ใหม่
ระเบยี บ สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคิดแปลก
แปลกใหม่ ใหม่ ผลงานส่วนใหญ่
และเป็นระบบ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ
ผลงานมคี วามเปน็ ความเปน็ ผลงานมีความ และมขี ้อ
ระเบียบแสดงออก ระเบยี บแตย่ ังมี เปน็ ระเบยี บแตม่ ี บกพร่องมาก
ถงึ ความประณีต ข้อบกพร่อง ข้อบกพรอ่ ง
เลก็ น้อย บางส่วน

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

นกั เรียนได้คะแนน 13 คะแนนขึ้นไป หรือรอ้ ยละ 80 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

54

แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

กลุ่ม ..........................................................................................................

สมาชิกในกล่มุ 1. 2....................................................................... ......................................................................

3. 4....................................................................... ......................................................................

5. 6....................................................................... ......................................................................

คำช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นทำเครือ่ งหมาย ✓ ในช่องทตี่ รงกับความเปน็ จรงิ

พฤตกิ รรมที่สังเกต คะแนน 1
32

1. มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น

2. มีความกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
3. รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. มีข้ันตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5. ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมท่ีทำเป็นประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีทำเปน็ บางครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมทีท่ ำนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
13-15 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรับปรงุ

55

แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รียน 5 ด้าน

คำชแ้ี จง : ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รง
กับระดับคะแนน

สมรรถนะทีป่ ระเมิน ระดับคะแนน
321
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
1.1 มคี วามสามารถในการรบั – สง่ สาร
1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง
โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใชว้ ิธีการสอ่ื สารที่เหมาะสม

2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพอื่ การสร้างองคค์ วามรู้
2.2 มีความสามารถในการคดิ เปน็ ระบบ เพอ่ื การสรา้ งองค์ความรู้

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
3.1 แก้ปัญหาโดยใช้เหตุผล
3.2 แสวงหาความรูม้ าใชใ้ นการแก้ปญั หา
3.3 ตดั สินใจโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อ่นื

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4.1 ทำงานและอยรู่ ว่ มกบั ผู้อ่นื ดว้ ยความสมั พนั ธ์อันดี
4.2 มวี ิธีแกไ้ ขความขัดแย้งอย่างเหมาะสม

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.1 เลือกใช้ข้อมูลในการพัฒนาตนเองอยา่ งเหมาะสม
5.2 เลือกใช้ขอ้ มูลในการทำงานและอยู่รว่ มกบั ผ้อู ่นื อยา่ งเหมาะสม

ลงช่ือ ................................................................................. ผูป้ ระเมิน
/ /........................ ......................... .............................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน
- พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั ิบางคร้งั

56

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี.่ 2....ปฏกิ ริ ยิ าไฟฟา้ เคมี...เร่อื ง....เซลล์อเิ ล็กโทรไลตแ์ ละประโยชน์ของเซลล์อเิ ลก็ โตรไลต์…
รายวชิ า……..............เคมี…4........ ............รหสั วิชา…..............ว 30224......................ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่....6.....
กลมุ่ สาระการเรียนร.ู้ ...........วิทยาศาสตร์..........ปีการศึกษา.... 2562.......ภาคเรียนที่..1...เวลา...9...ชัว่ โมง……
ผู้สอน.........................นางสาวอโนชา...อุทมุ สกลุ รตั น์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ (รายวชิ าพื้นฐานมที ้งั มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชี้วดั
รายวิชาเพิ่มเตมิ มีเฉพาะมาตรฐานการเรยี นร้แู ละผลการเรยี นรู้)

1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 3 : สารและสมบตั ขิ องสาร
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจหลักการและธรรมชาตขิ องการเปลยี่ นสถานะของสาร การเกดิ สารละลาย

การเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และจติ วทิ ยาศาสตร์ สอื่ สารสง่ิ ทเ่ี รยี นรู้ และนำความรู้
ไปใชป้ ระโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหาความรู้ การ
แกป้ ัญหา รวู้ า่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเี่ กิดข้ึนสว่ นใหญ่มีรปู แบบทีแ่ นน่ อน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบ
ไดภ้ ายใตข้ ้อมูลและเครอื่ งมอื ทมี่ ีอยู่ในชว่ งเวลานัน้ ๆ เข้าใจวา่ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดล้อม มีความ
เกย่ี วข้องสัมพนั ธ์กัน

1.2 ผลการเรยี นรู้
10. อธบิ ายหลกั การของการแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า การชบุ โลหะด้วยกระแสไฟฟ้าและการทำ

โลหะใหบ้ รสิ ุทธ์ิ พร้อมท้งั เขยี นสมการแสดงปฏิกริ ิยาท่ีเกิดข้ึนได้
11. อธิบายสาเหตหุ รือภาวะท่ีทำใหโ้ ลหะเกิดการผกุ รอ่ นพรอ้ มทั้งเขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ิยาได้
12. อธิบายวธิ ีปอ้ งกนั การผุกร่อนของโลหะโดยวิธอี ะโนไดซ์ การรมดำ วิธแี คโทดิก การเคลอื บผวิ ด้วย

พลาสติก สีหรือนำ้ มนั การชุบด้วยโลหะได้
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (หลอมจากตวั ชี้วดั ที่ใชใ้ นหน่วยการเรียนรนู้ ีเ้ ขียนเป็นแบบความเรยี ง)

อเิ ลก็ โทรลซิ สิ (Electrolysis) หรอื กระบวนการแยกสลายดว้ ยไฟฟา้ คอื กระบวนการที่ใช้พลงั งานไฟฟา้
เพือ่ ทำใหเ้ กิดปฏกิ ริ ิยาเคมี เซลล์อเิ ล็กโทรไลต์ เปน็ เซลลท์ ี่เปล่ียนพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลงั งานเคมี ซ่ึง
สามารถอาศยั หลกั การนี้มาประยกุ ต์ใช้ในอุตสาหกรรมตา่ ง ๆ ได้ เชน่ การชบุ โลหะ การทำโลหะให้บรสิ ุทธ์ิ การ
ถลงุ แยกแร่ การแยกสารละลายเกลือดว้ ยกระแสไฟฟ้า
3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/สาระการเรียนรูเ้ พิม่ เติม (รายวิชาเพิม่ เติม)
เซลล์อิเลก็ โทรลิตกิ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ไดท้ ั้งในชีวติ ประจำวันและในอตุ สาหกรรมหลาย

ประเภทเชน่ การชุบโลหะ การแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า

57

การทำโลหะให้บรสิ ุทธิ์ การป้องกันการกัดกร่อนของโลหะ

ปฏกิ ริ ยิ าเคมีหลายปฏกิ ริ ิยาท่ีพบในชีวิตประจำวนั เปน็ ปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์เชน่ ปฏกิ ริ ิยาการเผาไหม้

ปฏกิ ิรยิ าในเซลลเ์ คมไี ฟฟ้าซง่ึ ความร้เู ร่ืองเซลล์เคมีไฟฟ้าและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั เซลล์

เคมไี ฟฟ้า นำไปสู่นวัตกรรมด้านพลงั งานทเี่ ปน็ มิตรต่อส่งิ แวดล้อม

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (ถ้าในคำอธบิ ายรายวชิ าพดู ถึงหลักสูตรท้องถน่ิ ใหใ้ ส่ลงไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (เลือกเฉพาะขอ้ ทีเ่ กิดในหน่วยการเรียนร้นู )้ี

 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร  2. ความสามารถในการคิด

 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา  4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (เลอื กเฉพาะขอ้ ทีเ่ กิดในหนว่ ยการเรยี นรนู้ )้ี

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  2. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต

 3. มีวินัย  4. ใฝ่เรียนรู้

 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

 7. รกั ความเปน็ ไทย  8. มจี ิตสาธารณะ

6. ด้านคุณลักษณะของผู้เรยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

 1. เปน็ เลิศวชิ าการ  2. สอ่ื สารสองภาษา  3. ลำ้ หนา้ ทางความคิด

 4. ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์  5. ร่วมกนั รบั ผดิ ชอบต่อสังคมโลก

7. ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คือการเรยี นรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขียนได้)  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )

 ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทักษะดา้ นการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสอ่ื (Communications, Information, and Media Literacy)

 ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT

Literacy)

 ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)

 ความมเี มตตา (วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม (Compassion)

8. บูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

58

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกล่มุ ให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในหอ้ งเรยี นคอื
ประมาณกล่มุ ละ 4 – 6 คน

2. หลกั ความมเี หตุผล : ให้นักเรียนสรา้ งสรรค์ผลงานและเกิดทกั ษะการปฏิบตั ิ , เลอื กใช้สารเคมีไดอ้ ยา่ ง
คุ้มคา่

3. หลกั ภมู คิ ้มุ กัน : ให้นักเรยี นเกดิ ทกั ษะการทำงานกลมุ่ และกล้าแสดงออก
4. เง่ือนไขความรู้ : การวางแผนงานทจ่ี ะทำกอ่ นแล้วค่อยลงมือทำอย่างระมดั ระวงั , เขยี นสมการการ
เปล่ียนแปลงจากการทดลอง
5. เงื่อนไขคณุ ธรรม : อดทนทจี่ ะทำงาน และมีความขยันท่ีจะทำงานให้ออกมาได้ดีที่สดุ , มวี ินัยในการ
ทำการทดลอง

9. ชน้ิ งาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรียนรู้ ช้นิ งาน ภาระงาน
- ท ำก าร ท ด ลอ ง / อ ภิ ป ราย ต าม
10 - ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตรเ์ ลม่ ท่ี 5 รายละเอียดในชุดกจิ กรรม

กจิ กรรม สบื เสาะ ค้นหา - บอกผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากการอิเล็ก
โตรลิซิสของสารละลาย
การทดลองท่ี 1 เรอื่ ง การแยก - ท ำก าร ท ด ลอ ง / อ ภิ ป ราย ต าม
รายละเอียดในชดุ กจิ กรรม
สารละลาย CuSO4 และสารละลาย

KI ดว้ ยไฟฟา้

- ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์เล่มที่ 5 ร่วม

กนั คิด 1

- ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตรเ์ ล่มที่5

กจิ กรรม สบื เสาะ คน้ หา

การทดลองที่ 2 เรอื่ ง การชุบตะปู

ดว้ ยสังกะสี

11 - ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์เลม่ ที่ 5 - ท ำก าร ท ด ลอ ง / อ ภิ ป ราย ต าม

กิจกรรม สบื เสาะ คน้ หา รายละเอยี ดในชุดกจิ กรรม

การทดลองท่ี 3 เร่ือง การป้องกนั

การผกุ ร่อนของเหล็ก

12 - ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เล่มที่ 5 ร่วม อภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีป้องกันการผุ

กัน คิด 4 กร่อนของโลหะโดยวิธีอะโนไดซ์ การรม

ดำ วิธีแคโทดิก การเคลือบผิวด้วย

พลาสตกิ สหี รือน้ำมัน การชบุ ดว้ ยโลหะ

59

10. การวัดประเมินผล

10.1การวัดและประเมินผลช้นิ งาน/ภาระงานรวบยอด

วิธกี าร

1.การสงั เกตการณ์

2.การใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตรร์ ่องรอยบง่ ช้ี 3.การวัดประเมนิ การปฏิบตั ิ

เคร่ืองมอื

1. แบบสังเกตการณ์

2. ชดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมินการปฏิบตั ิ

เกณฑ์

1.การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1

รายการถือวา่ ไม่ผ่าน

10.2การวัดและประเมินผลระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ประเมินจากแผนการจดั การเรียนรู้ของ

หนว่ ยการเรียนรนู้ ้ี)

ส่ิงทต่ี อ้ งการวดั วธิ ีวัดผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์การประเมิน

1. ความรเู้ กี่ยวกบั -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมินการ - นกั เรยี นไดค้ ะแนน

- หลกั การของการแยกสารเคมี ความคดิ เหน็ อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขึน้ ไป

ดว้ ยกระแสไฟฟา้ -การตอบคำถาม คิดเหน็ หรอื ร้อยละ 80

- การชุบโลหะดว้ ยกระแสไฟ -การตรวจผลงานนกั เรยี น - แบบประเมนิ การ ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

ฟ้า ตรวจผลงาน - นกั เรยี นได้คะแนน

- การทำโลหะให้บริสุทธิ์ นักเรียน ประเมนิ ผลงาน

13 คะแนนข้ึนไป

หรอื ร้อยละ 80

ถือว่าผ่านเกณฑ์

2.ทักษะกระบวนการคิด และ - การอภปิ รายแสดง - แบบประเมนิ การ -นกั เรียนไดค้ ะแนน

ทักษะกระบวนการกลุ่ม ความคดิ เห็น อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขึน้ ไป

คิดเหน็ หรือรอ้ ยละ 80

- สงั เกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมิน ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

ทำงานกลุ่ม พฤตกิ รรมการ

ทำงานกลุ่ม

3. คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ - สงั เกตนักเรียนจากการ - แบบประเมิน - นกั เรยี นได้คะแนน

และสมรรถนะผูเ้ รียน เข้าช้นั เรียนอภิปราย แสดง คุณลักษณะอันพึง ประเมินคณุ ลักษณะ

60

- วินยั ในการเรยี น ความคิดเห็นและ ประสงค์ อันพึงประสงค์

- ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ในการ พฤติกรรมระหวา่ งเรยี น - แบบประเมิน 26 คะแนนข้ึนไป

ทำงาน สมรรถนะผเู้ รียน หรือร้อยละ 80

- แบบทดสอบ ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

ความรู้ ความคดิ - นักเรียนไดค้ ะแนน

ทางวิทยาศาสตร์ การประเมิน

สมรรถนะ

29 คะแนนข้ึนไป

หรือร้อยละ 80

ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

11. กิจกรรมการเรยี นรู้

ช่ัวโมงที่ 1

1. ขั้นตั้งประเดน็ ปัญหา/สมมตฐิ าน (Hypothesis Formulation)

1.1 ทบทวนหลกั การเซลลก์ ัลป์วานกิ

1.2 ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาสว่ นประกอบของเซลลอ์ เิ ล็กไลต์จากแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ แลว้ ร่วมกนั

อภิปราย ตามแนวคำถามดังนี้

- เซลล์อิเลก็ โทรไลต์ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง

- เซลล์อิเล็กโทรลซิ ิสคอื อะไร

1.3 นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ อธบิ ายความหมายของเซลล์อิเลก็ โทรไลต์

1.4 ครอู ธิบายยกตวั อยา่ งการแยกน้าด้วยกระแสไฟฟ้าแลว้ ร่วมกันอภปิ ราย ดังน้ี

- เม่ือผ่านกระแสไฟฟ้าลงในน้ากลัน่ แกส๊ ทเ่ี กดิ ข้นึ กับขัว้ ทต่ี อ่ กบั ข้ัวลบของแบตเตอรค่ี อื แกส๊ ชนดิ ใด

ทราบไดอ้ ยา่ งไร

- แกส๊ ที่เกดิ ขนึ้ กับขัว้ ที่ต่อกบั ขว้ั บวกของแบตเตอรี่ คือแกส๊ ชนดิ ใด ทราบได้อยา่ งไร

- ปฏิกริ ยิ าท่ีขวั้ แคโทด ขวั้ ท่ีต่อกับขว้ั ลบ มกี ารเปล่ียนแปลงอย่างไร

- ปฏกิ ิริยาทข่ี ว้ั แอโนด ขัว้ ที่ตอ่ กบั ข้ัวบวก มีการเปล่ยี นแปลงอย่างไร

1.5 นกั เรยี นร่วมกนั สรุปหลกั การของเซลล์อเิ ลก็ โทรไลต์ แลว้ รว่ มกันอภิปรายถึงการนาหลักการนีไ้ ปใช้

ประโยชน์

ชว่ั โมงที่ 2-4
2. ขน้ั สืบค้นความรู้ (Searching for Information)
2.1 นักเรียนทำกิจกรรมตามชดุ กจิ กรรมเรือ่ ง การแยกสารละลาย CuSO4 ด้วย กระแสไฟฟา้ พร้อมทั้งให้
สมาชิกกำหนดหน้าที่กันเองในกุลม่ เช่น

คนท่ี 1 อา่ นขน้ั ตอนการทดลองและบอกวิธกี ารทดลองตามลำดับ

61

คนท่ี 2 ดำเนินการทดลอง จัดเตรยี มอปุ กรณ์
คนท่ี 3 รับอุปกรณ์ สารเคมี สำหรับการทดลอง
คนท่ี 4 บันทกึ ข้อมูล ผลการทดลอง
2.2 นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์ ตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
- มกี ารเปลยี่ นแปลงทขี่ ้ัวไฟฟ้าและในสารละลายอย่างไร
- เขยี นสมการแสดงการเปล่ยี นแปลงทเ่ี กิดขึน้ ท่ีขวั้ แอโนดและแคโทดไดย้ ่างไร
- สารละลายท่ีเหลือจากการทดลองมีสมบัติอยา่ งไร เพราะเหตใุ ด
2.3 นักเรยี นอภิปรายผลการทดลอง
- เมื่อผ่านกระแสไฟฟ้าไปในสารละลาย CuSO4 ทแี่ คโทด Cu 2+ รับอเิ ลก็ ตรอนเกดิ เป็นทองแดง ท่ี
แอโนดน้ำจะเสียอเิ ล็กตรอนเกดิ แก๊สทชี่ ่วยให้ไฟตดิ คือแก๊สออกซเิ จน
- เม่อื ผ่านกระแสไฟฟ้าไปในสารละลาย KI ทีแ่ คโทด น้ำรับอเิ ล็กตรอนเกดิ แก๊สที่ติดไฟ คือ H2 และ
OH- สารละลายจงึ มีสมบตั ิเปน็ เบส ท่แี อโนด I- ทำใหส้ ารละลายมสี นี ้ำตาล
2.4 นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันศกึ ษา อภิปราย ทำกจิ กรรม ร่วม กัน คิด 1 ให้นกั เรยี นทกุ คนในกลมุ่
ช่วยกนั ตรวจสอบคำตอบก่อนสง่
2.5 นักเรียนช่วยกนั เฉลยคำตอบพรอ้ มทั้งให้เหตผุ ลครูอธบิ ายเพ่มิ เติม
2.6 นักเรยี นศึกษากฏฟาราเดยข์ องการอิเลก็ โตรลิซิสตามรายละเอียดในชุดกจิ กรรมหลกั จากน้ันครู
อธบิ ายเพม่ิ เติม
2.9 นักเรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันศกึ ษา อภิปราย ทำกจิ กรรม รว่ ม กัน คดิ 2
2.10 นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั อภปิ ราย ตรวจความถูกตอ้ ง ตอบคำถามข้อสงสยั ต่าง ๆ ให้นักเรียนทกุ
คนในกลุ่มเขา้ ใจคำตอบก่อนส่ง
2.11 นักเรียนช่วยกนั เฉลยคำตอบพรอ้ มทัง้ ให้เหตุผล
ชั่วโมงที่ 5-6
2.12 นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายถึงการชุบโลหะวา่ ใช้หลักการของเซลลอ์ ิเล็กโทรไลตอ์ ย่างไร
2.13 นักเรยี นทำกจิ กรรมตามชดุ กิจกรรมเร่ือง การชุบตะปดู ้วยสงั กะสี พร้อมท้งั ใหส้ มาชิกกำหนดหนา้ ที่
กนั เองในกลุ ่ม เชน่
คนท่ี 1 อ่านขน้ั ตอนการทดลองและบอกวิธกี ารทดลองตามลำดับ
คนที่ 2 ดำเนินการทดลอง จดั เตรียมอปุ กรณ์
คนท่ี 3 รับอุปกรณ์ สารเคมี สำหรับการทดลอง
คนที่ 4 บันทกึ ข้อมูล ผลการทดลอง
2.14นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ วเิ คราะห์ อภปิ รายผลการทดลอง ตามแนวคำถาม
- ขัว้ โลหะทงั้ สองมีการเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร
- เขียนสมการแสดงปฏกิ ิรยิ าท่ีเกดิ ข้นึ ท่ขี ว้ั ไฟฟ้าท้งั สองและปฏกิ ริ ยิ าทเี่ กดิ ขน้ึ ภายในเซลลไ์ ดอ้ ยา่ งไร

62

- การชบุ โลหะด้วยกระแสไฟฟา้ มีหลกั การจัดเซลล์อยา่ งไร
- ถ้าใชไ้ ฟฟา้ กระแสสลับแทนไฟฟา้ กระแสตรงจะเกดิ การเปล่ียนแปลงเหมอื นหรอื แตกตา่ งกัน
อยา่ งไร
2.15 นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุปดงั น้ี
- จัดส่งิ ทตี่ อ้ งการชุบเปน็ แคโทด

- ตอ้ งการชุบด้วยโลหะใด ต้องใชโ้ ลหะนนั้ เปน็ แอโนด

- สารละลายอิเลก็ โทรไลตต์ อ้ งมไี อออนของโลหะทเ่ี ป็นแอโนด

- ตอ้ งใช้ไฟฟ้ากระแสตรงเพ่ือใหอ้ เิ ล็กตรอนไหลไปทางเดียวกัน
ช่วั โมงที่ 7 -8
3. ขนั้ สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)
3.1 ครูนำอภปิ รายเก่ยี วกบั การผุกร่อนของเคร่อื งใช้ต่าง ๆ ทท่ี ำด้วยโลหะ ที่พบในชีวิตประจำวนั
นกั เรยี นศึกษาเรอื่ ง การทำโลหะให้บรสิ ุทธ์ิ การผุกร่อนของโลหะและการปอ้ งกนั ตามรายละเอียดในชุด
กจิ กรรม ให้นักเรียนช่วยกันยกตวั อย่าง แล้วรว่ มกนั อภิปรายตามแนวคำถามตอ่ ไปนี้

- การผุกรอ่ นในธรรมชาตเิ กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร มปี จั จัยใดบ้างที่มีผลตอ่ การผุกรอ่ นของโลหะ
3.2 นักเรียนทำกจิ กรรมตามชุดกิจกรรมเร่อื ง การป้องกันการผกุ รอ่ นของเหลก็ พร้อมทั้งให้สมาชิก
กำหนดหนา้ ท่กี นั เองในกุลม่ เช่น

คนที่ 1 อ่านข้นั ตอนการทดลองและบอกวธิ ีการทดลองตามลำดบั
คนท่ี 2 ดำเนินการทดลอง จัดเตรยี มอปุ กรณ์
คนที่ 3 รบั อปุ กรณ์ สารเคมี สำหรบั การทดลอง
คนที่ 4 บันทึกขอ้ มูล ผลการทดลอง
3.3 หลงั เสรจ็ การทดลองให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรียนแตล่ ะกลมุ่ วิเคราะห์
อภปิ รายผลการทดลอง ตามแนวคำถาม
- ภาวะใดบา้ งท่ีตะปเู หล็กเกิดสนิม และการเกดิ สนมิ เหล็กมากนอ้ ยต่าง
กันอย่างไร
- เหตุใดตะปเู หล็กจงึ เกดิ สนมิ ได้มากน้อยแตกต่างกัน
- ภาวะใดที่ตะปเู หลก็ ไม่เกิดสนิม เพราะเหตุใด
- การปอ้ งกนั ไม่ใหต้ ะปเู หล็กเกดิ สนมิ ทำได้อย่างไร
3.4 นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ ภาวะทีท่ าใหโ้ ลหะเกดิ การผกุ ร่อนและวธิ ปี อ้ งกนั การผกุ ร่อน
3.5 ให้นักเรยี นศกึ ษาวธิ กี ารป้องกันการผกุ รอ่ น ดว้ ยการชุบโลหะเคลอื บดว้ ยพลาสตกิ ทาน้ำมนั ทาสี อะ
โนไดส์ และรมดำ จากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ แล้วร่วมกนั อภิปรายสรปุ อีกครัง้
ชัว่ โมงท่ี 9
4. ขน้ั การสื่อสารและนำเสนอ (Effective Communication)

63

4.1 นกั เรยี นระดมสมองรว่ มกันทำกิจกรรม ร่วม กัน คิด 3 และ 4

4.2 ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม ออกแบบเซลล์อิเลก็ โทรไลต์สำหรับชุบกญุ แจเหลก็ ด้วยโครเมียม โดยการวาด

รปู แสดงส่วนประกอบของเซลล์ และเขียนสมการแสดงปฏกิ ิริยาทข่ี ั้วแอโนดและข้วั แคโทดนำเสนอหนา้ ชั้น

เรียน

5. ขนั้ การบริการสงั คมและสาธารณะ (Public Service)

5.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษา กิจกรรมปฏิบัติการ คิดดี ผลงานดี มคี วามสุข ตามรายละเอียดในชุด

กจิ กรรม

5.2 รว่ มกันอภปิ รายสรุป สว่ นประกอบและหลักการทำงานของแบตเตอรี่อเิ ลก็ โทรไลตแ์ ข็ง แบตเตอรี่

อากาศ หลักการของอเิ ล็กโทรอะไดลิซิสน้ำทะเล แลกเปล่ยี นขอ้ มูลกนั ตา่ งกลมุ่

12. สือ่ การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้

12.1ส่อื การเรียนรู้

- ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ตามแนวคดิ โยนิโสมนสิการ เรือ่ ง ไฟฟ้าเคมีเล่มท่ี 5 เซลลอ์ ิเลก็ โทรไลต์และ

ประโยชน์ของเซลลอ์ ิเลก็ โตรไลต์

- ส่ือ ppt

12.2แหล่งเรยี นรู้

1) อินเตอร์เนต็ 2) ห้องสมดุ

13. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้

ผลการสอน รายละเอยี ด

1. ด้านความรู้ : ...............................................................................................

- หลกั การของการแยกสารเคมดี ว้ ย ...............................................................................................

กระแสไฟฟ้า ...............................................................................................

- การชุบโลหะดว้ ยกระแสไฟ ...............................................................................................

ฟา้ ...............................................................................................

- การทำโลหะให้บริสทุ ธ์ิ ...............................................................................................
...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

2. ดา้ นกระบวนการ : ...............................................................................................

- ทักษะกระบวนการคิด ...............................................................................................

- ทกั ษะกระบวนการกลมุ่ ...............................................................................................

...............................................................................................

64

...............................................................................................

3. ด้านคณุ ธรรมจริยธรรมและค่านยิ ม ...............................................................................................

อนั พงึ ประสงค์ : ...............................................................................................

- มวี นิ ยั ...............................................................................................

- ใฝ่เรียนรู้ ...............................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ...............................................................................................

- รกั ความเป็นไทย ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

4. ปัญหาการสอน

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

5. วธิ ีแก้ปัญหา ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

...............................................................................................

ลงชอื่ ........................................ครูผูส้ อน ลงชื่อ...........................................หวั หนา้ กล่มุ สาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทมุ สกลุ รัตน์..) (นายสุรจกั ร์ิ แกว้ ม่วง.)

ลงช่อื ........................................... ลงชื่อ...........................................
(.นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกลุ รตั น.์ .) (..นายศิวาวุฒิ รตั นะ..)

หัวหนา้ งานนเิ ทศ หัวหน้ากลุ่มบริหารวชิ าการ

ลงช่อื ........................................................
(...นายจงจดั จันทบ...)

ผ้อู ำนวยการโรงเรียนสวุ รรณารามวทิ ยาคม

65

แบบประเมนิ การอภปิ รายแสดงความคิดเหน็
วิชา .......................................................................................................... ชนั้ ………………………………
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ..............................กิจกรรม ……………………………………………………………………….…

คำชีแ้ จง : ใหป้ ระเมินจากการสังเกตการรว่ มอภปิ รายในระหวา่ งเรยี น และการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุม่

โดยให้ระดบั คะแนนลงในตารางท่ีตรงกับพฤติกรรมของผู้เรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรบั ปรุง

รวม สรุปผลการ

รายการประเมนิ 15 ประเมนิ
คะแน

เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ น

การแสดงความ คะแนน ผ่าน ไม่
ิคดเ ็หน ทที่ ำได้ ผา่ น
ยอมรับ ัฟงความ
ิคดเ ็หนของ ู้ผ ่ือน
ตรงประเ ็ดน
สมเห ุตสมผล
มีความเ ื่ชอมั่นใน
การแสดงออก

ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
เกณฑ์การประเมิน : นักเรยี นไดค้ ะแนน 12 คะแนนข้ึนไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์

66

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

คำชแ้ี จง : ให้สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รง
กับระดับคะแนน

คุณลักษณะอันพึง รายการท่ปี ระเมิน ระดบั คะแนน
ประสงคด์ ้าน 321

3.1 ตรงต่อเวลา

1. มวี นิ ัย 3.2 ปฏิบตั ิงานเรยี บร้อยเหมาะสม

3.3 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง

4.1 กระตือรือร้นในการแสวงหาขอ้ มลู

2. ใฝเ่ รียนรู้ 4.2 มกี ารจดบันทึกความร้อู ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล

5.1 ใช้วัสดุ สิ่งของ เครอ่ื งใช้ อย่างประหยดั

3. อย่อู ย่างพอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณค่า

5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออม

7.1 มีจติ สำนกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
4. รกั ความเปน็ ไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย

ลงชอื่ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
/ /......................... ......................... .............................

เกณฑ์การให้คะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างครั้ง

67

แบบประเมนิ ผลงานผ้เู รยี น

ชือ่ - นามสกุล .................................................................................. ชั้น …………………........
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ................................ กิจกรรม ……………….………………......................

คำช้ีแจง: ให้ผปู้ ระเมนิ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน

ประเดน็ ที่ประเมิน ผู้ประเมิน

ตนเอง เพื่อน ครู

432143214321

1. ตรงจดุ ประสงค์ท่กี ำหนด

2. มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์

3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์

4. มีความเป็นระเบียบ

รวม
รวมทุกรายการ

เฉลยี่

ผู้ประเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผ้ปู ระเมิน .......................................................... (เพ่อื น)

ผปู้ ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

68

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเด็นท่ีประเมนิ คะแนน

1. ผลงานตรงกบั 4 3 2 1
จุดประสงค์ท่ีกำหนด
ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่
2. ผลงานมคี วามถูกต้อง กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคลอ้ งกบั
สมบูรณ์ ทกุ ประเด็น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเด็น จดุ ประสงค์
เนอื้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
3. ผลงานมคี วามคิด ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
สร้างสรรค์ ครบถว้ น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นส่วนใหญ่
ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง
4. ผลงานมคี วามเปน็ ถึงความคิด แปลกใหมแ่ ตย่ งั นา่ สนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคิดใหม่
ระเบยี บ สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคดิ แปลก
แปลกใหม่ ใหม่ ผลงานส่วนใหญ่
และเป็นระบบ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ
ผลงานมคี วามเปน็ ความเปน็ ผลงานมีความ และมขี ้อ
ระเบียบแสดงออก ระเบยี บแตย่ ังมี เปน็ ระเบยี บแตม่ ี บกพรอ่ งมาก
ถงึ ความประณีต ข้อบกพร่อง ข้อบกพรอ่ ง
เลก็ น้อย บางส่วน

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

นกั เรียนได้คะแนน 13 คะแนนขึ้นไป หรือรอ้ ยละ 80 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

69

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

กลมุ่ ..........................................................................................................

สมาชิกในกลมุ่ 1. 2....................................................................... ......................................................................

3. 4....................................................................... ......................................................................

5. 6....................................................................... ......................................................................

คำชีแ้ จง: ให้นกั เรยี นทำเคร่ืองหมาย ✓ ในชอ่ งทต่ี รงกับความเปน็ จริง

พฤตกิ รรมทีส่ ังเกต คะแนน 1
32

1. มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็

2. มีความกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
3. รบั ผิดชอบในงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
4. มีขน้ั ตอนในการทำงานอย่างเปน็ ระบบ
5. ใช้เวลาในการทำงานอย่างเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การให้คะแนน

พฤติกรรมท่ีทำเป็นประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมทีท่ ำเป็นบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ีทำน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
13-15 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรุง

70

แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รียน 5 ด้าน

คำชแ้ี จง : ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รง
กบั ระดับคะแนน

สมรรถนะทีป่ ระเมิน ระดับคะแนน
321
1. ความสามารถในการส่ือสาร
1.1 มคี วามสามารถในการรบั – สง่ สาร
1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง
โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วธิ ีการสือ่ สารที่เหมาะสม

2. ความสามารถในการคดิ
2.1 มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพอื่ การสร้างองคค์ วามรู้
2.2 มีความสามารถในการคดิ เปน็ ระบบ เพอ่ื การสรา้ งองค์ความรู้

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3.1 แกป้ ัญหาโดยใช้เหตุผล
3.2 แสวงหาความรมู้ าใช้ในการแก้ปญั หา
3.3 ตดั สนิ ใจโดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อ่นื

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
4.1 ทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อ่นื ดว้ ยความสมั พนั ธ์อันดี
4.2 มวี ธิ ีแกไ้ ขความขัดแยง้ อย่างเหมาะสม

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.1 เลือกใช้ขอ้ มูลในการพัฒนาตนเองอยา่ งเหมาะสม
5.2 เลอื กใช้ขอ้ มูลในการทำงานและอยู่รว่ มกบั ผ้อู ่นื อยา่ งเหมาะสม

ลงช่ือ ................................................................................. ผูป้ ระเมิน
/ /........................ ......................... .............................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติบางคร้งั

71

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่......3....อตุ สาหกรรมแร่/อุตสาหกรรมเซรามิกส์…...เรื่อง......อุตสาหกรรมแร่…
รายวิชา……..............เคมี…4........ ............รหัสวิชา…..............ว 30224......................ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่....6.....
กลุ่มสาระการเรยี นรู้............วทิ ยาศาสตร์..........ปีการศึกษา.... 2562.......ภาคเรียนที่..1...เวลา...6...ชว่ั โมง……
ผู้สอน.........................นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกลุ รัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ (รายวชิ าพน้ื ฐานมที งั้ มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ มีเฉพาะมาตรฐานการเรียนรแู้ ละผลการเรียนร)ู้

1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 3 : สารและสมบัติของสาร
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจหลกั การและธรรมชาตขิ องการเปล่ยี นสถานะของสาร การเกิดสารละลาย

การเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และจติ วทิ ยาศาสตร์ สือ่ สารสิ่งที่เรยี นรู้ และนำความรู้
ไปใชป้ ระโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้ การ
แก้ปญั หา รู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเี่ กิดขึ้นสว่ นใหญม่ ีรปู แบบทีแ่ นน่ อน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบ
ไดภ้ ายใต้ข้อมูลและเคร่อื งมอื ท่ีมีอยู่ในชว่ งเวลานั้นๆ เขา้ ใจวา่ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม มีความ
เก่ยี วขอ้ งสัมพันธ์กนั

1.2 ผลการเรยี นรู้
14. อธิบายหลักการถลงุ แร่หรอื การสกดั แร่ดีบุก ทองแดง สงั กะสี แคดเมยี ม ทงั สเตน พลวง

แทนทาลัม ไนโอเบียม และเซอร์โคเนียม พรอ้ มทั้งเขยี นสมการแสดงปฏิกริ ิยาท่เี กิดข้ึนได้
15. บอกประโยชน์ของทองแดง สังกะสี แคดเมียม ดบี กุ ทงั สเตน พลวง แทนทาลัม ไนโอเบยี มและ

เซอรโ์ คเนียมได้
16. อธิบายสมบัติและประโยชน์ของแรร่ ัตนชาติชนิดตา่ ง ๆ ได้
17. อธบิ ายวธิ ีพฒั นาคณุ ภาพของแร่รัตนชาตไิ ด้

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (หลอมจากตัวชวี้ ัดทใ่ี ช้ในหน่วยการเรียนร้นู เ้ี ขยี นเป็นแบบความเรยี ง)
แรค่ อื ธาตุหรือสารประกอบอนินทรยี ์ท่ีเกิดขึน้ เองตามธรรมชาติ มีโครงสรา้ งองค์ประกอบและสมบตั ิ

เฉพาะตัว เม่ือยดึ ประโยชนท์ างเศรษฐกิจเปน็ หลกั จะจำแนกได้เปน็ แรป่ ระกอบหินกับแรเ่ ศรษฐกิจ
3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/สาระการเรียนร้เู พิ่มเตมิ (รายวิชาเพ่มิ เตมิ )
แร่ คอื ธาตุหรือสารประกอบอนินทรยี ์ทมี่ ีสถานะเป็นของแข็ง เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติ มี

โครงสร้าง

72

ภายในท่ีเปน็ ระเบยี บ และมีสตู รเคมีและสมบัตอิ ื่น ๆ ที่แนน่ อน หรอื อาจเปลย่ี นแปลงได้ภายใตว้ งจำกดั ทำให้

แรม่ ีสมบัตทิ างกายภาพที่แน่นอน สามารถนำมาใช้เพ่ือตรวจสอบชนดิ ของแรท่ างกายภาพ และการทำปฏกิ ิรยิ า

เคมีกบั กรด ทรัพยากรแร่สามารถนำไปใช้เปน็ วัตถุดิบในอตุ สาหกรรมไดห้ ลายประเภท เชน่ อาหารและยา

เครอื่ งมอื แพทย์ อปุ กรณ์อิเล็กทรอนกิ ส์ อญั มณี

3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน (ถ้าในคำอธบิ ายรายวิชาพดู ถงึ หลกั สูตรท้องถน่ิ ใหใ้ ส่ลงไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น (เลอื กเฉพาะขอ้ ท่เี กิดในหนว่ ยการเรียนรนู้ ี)้

 1. ความสามารถในการส่ือสาร  2. ความสามารถในการคิด

 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (เลอื กเฉพาะขอ้ ทเี่ กิดในหนว่ ยการเรียนรนู้ ้)ี

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ

 3. มีวินยั  4. ใฝ่เรียนรู้

 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มุ่งม่ันในการทำงาน

 7. รกั ความเป็นไทย  8. มีจิตสาธารณะ

6. ด้านคณุ ลักษณะของผู้เรียนตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 1. เป็นเลิศวิชาการ  2. ส่ือสารสองภาษา  3. ล้ำหนา้ ทางความคิด

 4. ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์  5. รว่ มกันรับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก

7. ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรยี นรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อา่ นออก)  R2-(W) Ringting (เขียนได)้  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )

 ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

 ทักษะดา้ นความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ ำ (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทกั ษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันส่อื (Communications, Information, and Media Literacy)

 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT

Literacy)

 ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)

 ความมเี มตตา (วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม (Compassion)

8. บรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

73

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชิกในกลุ่มใหเ้ หมาะสมกับจำนวนสมาชิกในห้องเรยี นคอื
ประมาณกลุ่มละ 4 – 6 คน

2. หลกั ความมีเหตผุ ล : ให้นกั เรียนสรา้ งสรรคผ์ ลงานและเกิดทักษะการปฏบิ ัติ , เลือกใช้สารเคมีได้อยา่ ง
คมุ้ คา่

3. หลกั ภูมิคุ้มกนั : ให้นักเรยี นเกิดทักษะการทำงานกลมุ่ และกล้าแสดงออก
4. เงอ่ื นไขความรู้ : การวางแผนงานท่จี ะทำก่อนแล้วค่อยลงมือทำอยา่ งระมัดระวงั , เขยี นสมการการ
เปล่ยี นแปลงจากการทดลอง
5. เงือ่ นไขคณุ ธรรม : อดทนท่ีจะทำงาน และมีความขยันทจ่ี ะทำงานให้ออกมาได้ดที ี่สดุ , มวี นิ ยั ในการ
ทำการทดลอง

9. ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรียนรู้ ช้ินงาน ภาระงาน

14 - รายงานการสืบคน้ ขอ้ มูลหลักการถลงุ - อภิปรายระดมความคิด วิเคราะห์

แร่ แนวทางคำถาม

15 - รายงานการสบื คน้ ข้อมูลประโยชน์ - อภิปรายระดมความคิด วิเคราะห์

ของธาตทุ ผ่ี า่ นการถลุง แนวทางคำถาม

16 - รายงานการสบื ค้นข้อมูล สมบตั ิและ - อภิปรายระดมความคิด วิเคราะห์

ประโยชนข์ องแรร่ ัตนชาติ แนวทางคำถาม

17 - รายงานการสบื ค้นขอ้ มูล วธิ พี ฒั นา - อภิปรายระดมความคิด วิเคราะห์

คุณภาพของแรร่ ตั นชาติ แนวทางคำถาม

10. การวัดประเมนิ ผล

10.1การวดั และประเมนิ ผลช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด

วิธีการ

1.การสงั เกตการณ์

2.การใช้ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์รอ่ งรอยบ่งชี้ 3.การวัดประเมินการปฏิบตั ิ

เครอื่ งมอื

1. แบบสังเกตการณ์

2. ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมนิ การปฏบิ ตั ิ

เกณฑ์

1.การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)

2.การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่าน 1

รายการถอื วา่ ไม่ผ่าน

74

10.2การวัดและประเมนิ ผลระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ประเมินจากแผนการจดั การเรียนรู้ของ

หนว่ ยการเรียนรนู้ ้)ี

สง่ิ ทต่ี อ้ งการวัด วิธีวดั ผล เคร่อื งมือวัดผล เกณฑ์การประเมิน

1. ความรูเ้ กี่ยวกบั -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมินการ - นักเรยี นได้คะแนน

- หลกั การถลงุ แร่ ความคดิ เหน็ อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนขน้ึ ไป

- ประโยชนข์ องธาตุ -การตอบคำถาม คิดเห็น หรือรอ้ ยละ 80

- สมบัติและประโยชนข์ องแร่ -การตรวจผลงานนักเรียน - แบบประเมินการ ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

รัตนชาติ ตรวจผลงาน - นักเรยี นไดค้ ะแนน

- วิธีพฒั นาคณุ ภาพของแรร่ ตั น นกั เรยี น ประเมนิ ผลงาน

ชาติ 13 คะแนนขึน้ ไป

หรอื รอ้ ยละ 80

ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

2.ทกั ษะกระบวนการคิด และ - การอภิปรายแสดง - แบบประเมนิ การ -นกั เรยี นได้คะแนน

ทกั ษะกระบวนการกลมุ่ ความคดิ เหน็ อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขน้ึ ไป

คิดเหน็ หรือรอ้ ยละ 80

- สงั เกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมนิ ถือว่าผ่านเกณฑ์

ทำงานกลมุ่ พฤตกิ รรมการ

ทำงานกล่มุ

3. คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ - สังเกตนักเรยี นจากการ - แบบประเมนิ - นกั เรยี นได้คะแนน

และสมรรถนะผู้เรยี น เข้าชั้นเรยี นอภปิ ราย แสดง คุณลกั ษณะอันพึง ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

- วนิ ัยในการเรยี น ความคิดเห็นและ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์

- ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่นั ในการ พฤตกิ รรมระหว่างเรียน - แบบประเมิน 26 คะแนนขึ้นไป

ทำงาน สมรรถนะผู้เรยี น หรอื รอ้ ยละ 80

- แบบทดสอบ ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

ความรู้ ความคดิ - นกั เรยี นได้คะแนน

ทางวิทยาศาสตร์ การประเมิน

สมรรถนะ

29 คะแนนขึน้ ไป

หรอื รอ้ ยละ 80

ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

11. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่วั โมงท่ี 1

75

1. ข้นั ตั้งประเดน็ ปัญหา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)
1.1 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกี่ยวกบั แร่ โดยใช้คาถามในการอภิปรายดงั น้ี

- แร่คืออะไร
- การจำแนกแร่ ตามประโยชน์ในทางเศรษฐกจิ จำแนกได้เปน็ กป่ี ระเภทอะไรบา้ งแร่ประกอบหิน
หมายถงึ อะไร
- แร่เศรษฐกิจหมายถงึ อะไร
1.2 แบง่ นกั เรยี นออกเป็น 8 กลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ มีนกั เรยี นเกง่ ปานกลาง อ่อนคละกนั ให้นกั เรยี นสืบค้น
ข้อมลู ในแต่ละหวั ข้อเร่ืองไมซ่ ้ำกัน ดงั น้ี
เรื่องที่ 1 กระบวนการถุงแรท่ องแดงและการนาไปใชป้ ระโยชน์
เรือ่ งท่ี 2 กระบวนการถุงแร่ดีบกุ และการนาไปใช้ประโยชน์
เรื่องที่ 3 กระบวนการถงุ แร่ทงั สเตน และการนาไปใช้ประโยชน์
เร่ืองที่ 4 กระบวนการถงุ แร่พลวงและการนาไปใชป้ ระโยชน์
เรอ่ื งท่ี 5 สมบัติของแร่รัตนชาติ และการทาอญั มณใี หม้ คี วามงดงามขึน้
เรื่องท่ี 6 การสกัด แทนทาลัม และการนาไปใช้ประโยชน์
เรื่องท่ี 7 การสกัด ไนโอเมียม และการนาไปใช้ประโยชน์
เรอื่ งท่ี 8 การสกดั เซอรค์ วิ เมยี มและการนาไปใช้ประโยชน์
ชัว่ โมงที่ 2-3
2. ขน้ั สบื คน้ ความรู้ (Searching for Information)
2.1 นกั เรียนแต่ละกลุม่ นำเสนอผลงานด้วยวธิ กี ารที่หลากหลาย เช่น แผน่ ปา้ ย สือ่ มัลติมเี ดีย
2.2 ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายสรุป ดังน้ี
- กระบวนการถงุ แรด่ ีบกุ ทองแดง ทงั สเตน พลวง และการนาไปใชป้ ระโยชน์
- สมบัติของแร่รัตนชาติ การทาอญั มณีใหม้ ีความงดงามขึ้น ความแตกต่างของเพชรสงั เคราะหแ์ ละ
เพชรเทยี ม
- การสกัด แทนทาลัม ไนโอเมียม และเซอรค์ ิวเมียม และการนาไปใชป้ ระโยชน์
ชว่ั โมงที่ 4 -5
3. ข้ันสรุปองคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)
3.1 นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันศึกษา อภิปราย ทาแบบฝึกหดั และกำหนดหน้าที่กัน
เองในกลมุ่ เชน่
คนที่ 1 อา่ นคำถาม วิเคราะหส์ ่งิ ทีโ่ จทย์กำหนดให้และสิง่ ท่ีโจทย์ถาม
คนท่ี 2 ดำเนนิ การอภิปรายระดมความคิด วเิ คราะหแ์ นวทางคำถาม และอธิบายคำตอบตามโจทย์
ต้องการ
คนที่ 3 เขยี นคำตอบ

76

คนที่ 4 ตรวจสอบคำตอบและความถกู ตอ้ ง

3.2 นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันอภิปราย ตรวจความถกู ต้อง ตอบคำถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ ให้นักเรียนทุกคน

ในกลุ่มเขา้ ใจคำตอบก่อนสง่

ช่ัวโมงที่ 6

4. ข้นั การส่ือสารและนำเสนอ (Effective Communication)

4.1 นกั เรียนช่วยกันเฉลยคำตอบพร้อมทั้งให้เหตุผล

5. ขั้นการบรกิ ารสังคมและสาธารณะ (Public Service)

5.1 ชมเชยกลุม่ ท่ีได้คะแนนสงู สดุ และนักเรียนทีใ่ ห้ความร่วมมือในการทำกจิ กรรม

5.2 เผยแพร่ผลงานของกลมุ่ ทีไ่ ดจ้ ากการคน้ คว้าผ่านเวปไซต์

12. ส่อื การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้

12.1ส่อื การเรียนรู้

- ใบงาน

- สือ่ ppt

12.2แหลง่ เรยี นรู้

1) อนิ เตอร์เน็ต 2) ห้องสมุด

13. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้

ผลการสอน รายละเอียด

1. ดา้ นความรู้ : ...............................................................................................

- หลักการถลุงแร่ ...............................................................................................

- ประโยชน์ของธาตุ ...............................................................................................

- สมบตั แิ ละประโยชน์ของแรร่ ัตนชาติ ...............................................................................................

- วิธพี ฒั นาคณุ ภาพของแรร่ ตั นชาติ ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

2. ด้านกระบวนการ : ...............................................................................................

- ทักษะกระบวนการคดิ ...............................................................................................

- ทักษะกระบวนการกลมุ่ ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

3. ดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นิยม ...............................................................................................

อนั พงึ ประสงค์ : ...............................................................................................

- มีวนิ ัย ...............................................................................................

77

- ใฝ่เรียนรู้ ...............................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ...............................................................................................

- รกั ความเป็นไทย ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

4. ปัญหาการสอน

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

...............................................................................................

5. วธิ แี กป้ ัญหา ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

....................................................................... ...............................................................................................

...............................................................................................

ลงชอื่ ........................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกลุ รัตน.์ .) (นายสุรจักริ์ แก้วม่วง.)

ลงชือ่ ........................................... ลงชอื่ ...........................................
(.นางสาวอโนชา...อุทุมสกุลรตั น.์ .) (..นายศิวาวฒุ ิ รัตนะ..)

หัวหน้างานนิเทศ หวั หน้ากลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ

ลงชือ่ ........................................................
(...นายจงจัด จนั ทบ...)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม

78

แบบประเมนิ การอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็
วิชา .......................................................................................................... ชั้น ………………………………
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ..............................กจิ กรรม ……………………………………………………………………….…

คำชีแ้ จง : ใหป้ ระเมินจากการสังเกตการรว่ มอภปิ รายในระหวา่ งเรยี น และการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุม่

โดยให้ระดบั คะแนนลงในตารางท่ีตรงกับพฤติกรรมของผู้เรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรบั ปรุง

รวม สรุปผลการ

รายการประเมนิ 15 ประเมนิ
คะแน

เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ น

การแสดงความ คะแนน ผ่าน ไม่
ิคดเ ็หน ทที่ ำได้ ผา่ น
ยอมรับ ัฟงความ
ิคดเ ็หนของ ู้ผ ่ือน
ตรงประเ ็ดน
สมเห ุตสมผล
มีความเ ื่ชอมั่นใน
การแสดงออก

ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
เกณฑ์การประเมิน : นักเรยี นไดค้ ะแนน 12 คะแนนข้ึนไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์

79

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

คำชแ้ี จง : ให้สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รง
กับระดับคะแนน

คุณลักษณะอันพึง รายการทป่ี ระเมิน ระดบั คะแนน
ประสงคด์ ้าน 321

3.1 ตรงตอ่ เวลา

1. มวี ินัย 3.2 ปฏิบตั งิ านเรยี บร้อยเหมาะสม

3.3 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง

4.1 กระตือรอื รน้ ในการแสวงหาขอ้ มลู

2. ใฝเ่ รียนรู้ 4.2 มีการจดบนั ทึกความร้อู ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล

5.1 ใชว้ ัสดุ ส่งิ ของ เครอ่ื งใช้ อย่างประหยดั

3. อยู่อย่างพอเพียง 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรูค้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออม

7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย
4. รกั ความเปน็ ไทย

7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย

ลงชอื่ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน
/ /......................... ......................... .............................

เกณฑ์การให้คะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง

80

แบบประเมนิ ผลงานผ้เู รยี น

ชือ่ - นามสกุล .................................................................................. ชั้น …………………........
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ................................ กจิ กรรม ……………….………………......................

คำช้ีแจง: ให้ผปู้ ระเมนิ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน

ประเด็นที่ประเมิน ผู้ประเมิน

ตนเอง เพื่อน ครู

432143214321

1. ตรงจดุ ประสงค์ท่กี ำหนด

2. มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์

3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์

4. มีความเป็นระเบียบ

รวม
รวมทุกรายการ

เฉล่ีย

ผู้ประเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผ้ปู ระเมิน .......................................................... (เพ่อื น)

ผปู้ ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

81

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเด็นท่ีประเมนิ คะแนน

1. ผลงานตรงกบั 4 3 2 1
จุดประสงค์ท่ีกำหนด
ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่
2. ผลงานมคี วามถูกต้อง กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคลอ้ งกบั
สมบูรณ์ ทกุ ประเด็น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเด็น จดุ ประสงค์
เนอื้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
3. ผลงานมคี วามคิด ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
สร้างสรรค์ ครบถว้ น เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่
ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง
4. ผลงานมคี วามเปน็ ถึงความคิด แปลกใหมแ่ ตย่ งั นา่ สนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคดิ ใหม่
ระเบยี บ สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคิดแปลก
แปลกใหม่ ใหม่ ผลงานส่วนใหญ่
และเป็นระบบ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ
ผลงานมคี วามเปน็ ความเปน็ ผลงานมีความ และมขี ้อ
ระเบียบแสดงออก ระเบยี บแตย่ ังมี เปน็ ระเบยี บแตม่ ี บกพร่องมาก
ถงึ ความประณีต ข้อบกพร่อง ข้อบกพรอ่ ง
เลก็ น้อย บางส่วน

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

นกั เรียนได้คะแนน 13 คะแนนขึ้นไป หรือรอ้ ยละ 80 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

82

แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

กลมุ่ ..........................................................................................................

สมาชิกในกล่มุ 1. 2....................................................................... ......................................................................

3. 4....................................................................... ......................................................................

5. 6....................................................................... ......................................................................

คำช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นทำเครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งที่ตรงกบั ความเปน็ จรงิ

พฤตกิ รรมท่สี ังเกต คะแนน 1
32

1. มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น

2. มีความกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
3. รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. มีข้ันตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5. ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมท่ีทำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีทำเปน็ บางคร้งั ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมทีท่ ำนอ้ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
13-15 ดี
8-12 ปานกลาง
5-7 ปรบั ปรงุ

83

แบบประเมินสมรรถนะผูเ้ รียน 5 ด้าน

คำชแ้ี จง : ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รง
กบั ระดับคะแนน

สมรรถนะทีป่ ระเมิน ระดับคะแนน
321
1. ความสามารถในการส่อื สาร
1.1 มคี วามสามารถในการรบั – สง่ สาร
1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจของตนเอง
โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วธิ ีการสือ่ สารที่เหมาะสม

2. ความสามารถในการคิด
2.1 มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพอื่ การสร้างองคค์ วามรู้
2.2 มีความสามารถในการคดิ เปน็ ระบบ เพอ่ื การสรา้ งองคค์ วามรู้

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3.1 แกป้ ัญหาโดยใช้เหตุผล
3.2 แสวงหาความรมู้ าใช้ในการแก้ปญั หา
3.3 ตดั สนิ ใจโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
4.1 ทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อ่นื ดว้ ยความสมั พนั ธ์อันดี
4.2 มวี ธิ ีแกไ้ ขความขดั แยง้ อย่างเหมาะสม

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.1 เลือกใช้ขอ้ มูลในการพัฒนาตนเองอยา่ งเหมาะสม
5.2 เลอื กใช้ขอ้ มูลในการทำงานและอยู่รว่ มกบั ผ้อู ่นื อย่างเหมาะสม

ลงช่ือ ................................................................................. ผูป้ ระเมิน
/ /........................ ......................... .............................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตบิ างคร้งั

84

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี......3....อุตสาหกรรมแร/่ อุตสาหกรรมเซรามกิ ส์…...เรอ่ื ง......อุตสาหกรรมเซรามกิ ส์…
รายวชิ า……..............เคมี…4........ ............รหัสวชิ า…..............ว 30224......................ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่.ี ...6.....
กล่มุ สาระการเรียนรู.้ ...........วทิ ยาศาสตร์..........ปีการศกึ ษา.... 2562.......ภาคเรียนที่..1...เวลา...5...ชัว่ โมง……
ผูส้ อน.........................นางสาวอโนชา...อุทุมสกลุ รัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ (รายวชิ าพนื้ ฐานมีท้ังมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ัด
รายวิชาเพมิ่ เติมมีเฉพาะมาตรฐานการเรยี นรู้และผลการเรียนร)ู้

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 3 : สารและสมบัตขิ องสาร
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจหลกั การและธรรมชาติของการเปลีย่ นสถานะของสาร การเกดิ สารละลาย

การเกดิ ปฏิกิริยาเคมี มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และจิตวิทยาศาสตร์ ส่อื สารส่ิงที่เรียนรู้ และนำความรู้
ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหาความรู้ การ
แก้ปัญหา รู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่เี กิดข้ึนสว่ นใหญ่มีรปู แบบท่แี น่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบ
ไดภ้ ายใตข้ ้อมูลและเครอื่ งมือทมี่ อี ยู่ในช่วงเวลานน้ั ๆ เขา้ ใจวา่ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม มีความ
เกย่ี วขอ้ งสมั พันธก์ ัน

1.2 ผลการเรียนรู้
18. อธิบายข้นั ตอนสำคัญของการทำผลิตภัณฑเ์ ซรามิกสไ์ ด้
19. บอกประโยชนข์ องผลติ ภัณฑ์เซรามกิ ส์พร้อมทงั้ ยกตวั อยา่ งได้
20. อธบิ ายวิธีการผลิตแก้วและปนู ซีเมนตไ์ ด้

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (หลอมจากตวั ชี้วดั ท่ีใช้ในหนว่ ยการเรยี นร้นู ้เี ขียนเป็นแบบความเรียง)
อุตสาหกรรมเซรามิกส์ หมายถงึ อุตสาหกรรมท่ีเกิดข้นึ จากการนาสารอนนิ ทรียพ์ วกดิน หนิ แร่ มาใช้

เปน็ วัตถุดบิ ผลิตเปน็ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยการใช้ความรอ้ น ผลติ ภัณฑข์ องอตุ สาหกรรมเซรามกิ ส์มหี ลาย
ประเภท ไดแ้ ก่ เคร่ืองปน้ั ดินผาและเครื่องเคลือบดนิ เผาวัตถุทนไฟ เช่นอฐิ ทนไฟ แกว้ ซเี มนต์ โลหะเคลือบ
เชน่ เคร่อื งสุขภัณฑ์ต่าง ๆ
3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง/สาระการเรยี นรเู้ พิ่มเติม (รายวิชาเพมิ่ เตมิ )
เซรามกิ สเ์ ปน็ วสั ดุที่ผลติ จาก ดิน หิน ทราย และแรธ่ าตตุ า่ ง ๆ จากธรรมชาติ และส่วนมากจะผ่าน

การเผาที่อุณหภูมสิ งู เพื่อใหไ้ ดเ้ น้อื สารทแี่ ขง็ แรงเซรามกิ สส์ ามารถทำเปน็ รูปทรงต่าง ๆ ได้ สมบตั ิทั่วไปของเซรา
มิกส์จะ แข็ง ทนตอ่ การสกึ กร่อน และเปราะ สามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ เชน่ ภาชนะทเี่ ป็นเครื่องปั้นดนิ เผา
ช้นิ ส่วนอิเลก็ ทรอนิกส์

85

3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิน่ (ถ้าในคำอธบิ ายรายวิชาพูดถงึ หลกั สูตรท้องถ่นิ ใหใ้ ส่ลงไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน (เลือกเฉพาะขอ้ ทเี่ กิดในหน่วยการเรยี นรนู้ ้ี)

 1. ความสามารถในการส่ือสาร  2. ความสามารถในการคดิ

 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (เลือกเฉพาะขอ้ ท่ีเกิดในหนว่ ยการเรยี นรนู้ )้ี

 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  2. ซื่อสัตยส์ ุจริต

 3. มวี ินัย  4. ใฝ่เรยี นรู้

 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

 7. รกั ความเป็นไทย  8. มจี ิตสาธารณะ

6. ด้านคุณลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

 1. เปน็ เลิศวชิ าการ  2. สื่อสารสองภาษา  3. ล้ำหน้าทางความคดิ

 4. ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์  5. ร่วมกนั รับผิดชอบต่อสงั คมโลก

7. ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรยี นรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขียนได)้  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )

 ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสอ่ื (Communications, Information, and Media Literacy)

 ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT

Literacy)

 ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)

 ความมเี มตตา (วินยั คุณธรรม จริยธรรม (Compassion)

8. บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชิกในกลุ่มให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชกิ ในห้องเรียนคือ

ประมาณกลุ่มละ 4 – 6 คน

2. หลกั ความมีเหตผุ ล : ให้นกั เรยี นสรา้ งสรรค์ผลงานและเกดิ ทักษะการปฏบิ ตั ิ , เลือกใชส้ ารเคมีไดอ้ ย่าง

คุ้มคา่

86


Click to View FlipBook Version