๔๕
รวมเรือ่ งทน่ี ่าสนใจ
กลุม่ พัฒนามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ดี ิน
กฎหมายวธิ พี จิ ารณาความแพง เนือ่ งจาก ส.ค. ๑ เปน เพียงหลกั ฐานการแจง การครอบครองเทานัน้ สามารถนําสบื
เกีย่ วกบั ส.ค. ๑ ได ไมเ ปนการนาํ สบื แกไข ส.ค. ๑ แตอยา งใด จงึ หารอื วาความเหน็ จังหวดั ถูกตองหรอื ไม
๔. ขอ กฎหมาย ระเบียบ คาํ สั่ง
๔.๑ พระราชบัญญัติใหใชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ มาตรา ๕
๔.๒ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน มาตรา ๕๖/๑, ๕๙ และ ๕๙ ทวิ
๔.๓ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความแพง
มาตรา ๙๔ “เมื่อใดมีกฎหมายบังคับใหตองมีพยานเอกสารมาแสดง หามมิใหศาล
ยอมรับฟงพยานบุคคลในกรณอี ยา งใดอยางหน่งึ ดังตอไปนี้ แมถ งึ วาคูค วามอกี ฝายหน่งึ จะไดย นิ ยอมก็ดี
(ก) ขอสบื พยานบคุ คลแทนพยานเอกสาร เม่ือไมส ามารถนาํ เอกสารมาแสดง
(ข) ขอสบื พยานบคุ คลประกอบขอ อางอยา งใดอยา งหน่งึ เม่ือไดน าํ เอกสารมาแสดงแลววา
ยงั มีขอความเพม่ิ เตมิ ตดั ทอน หรือเปลีย่ นแปลงแกไขขอความในเอกสารน้ันอยูอีก
แตว า บทบัญญตั แิ หงมาตราน้ี มิใหใ ชบังคบั ในกรณีมีบัญญัตไิ วใ นอนุมาตรา (๒)แหง มาตรา ๙๓
และมใิ หถอื วา เปน การตัดสทิ ธคิ คู วามในอันที่จะกลา วอา งและนําพยานบคุ คลมาสบื ประกอบขออา งวา พยานเอกสาร
ทแี่ สดงน้นั เปนเอกสารปลอมหรือไมถูกตองท้ังหมด หรือแตบางสวน หรือสัญญาหรือหนี้ อยางอ่ืนที่ระบุไวใน
เอกสารนนั้ ไมสมบูรณ หรือคูความอกี ฝา ยหนง่ึ ตคี วามหมายผดิ ”
๔.๔ คําพิพากษาศาลฎกี าท่ี ๘๙๐/๒๕๐๘ สรุปวา ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี ๑
ธันวาคม ๒๔๙๗ ใหผูครอบครองและทาํ ประโยชนในท่ีดินอยูกอนวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดินใชบังคับไปแจง
การครอบครองทีด่ ินตามแบบ ส.ค. ๑ ตอ นายอําเภอทอ งที่ โดยมีกํานนั หรือผใู หญบา นรบั รองวา ขอ ความถกู ตอง
และเปน ความจริงนั้น เปนประกาศกําหนดหลักเกณฑและวิธีการใหผ ูแจง การครอบครองที่ดนิ ปฏิบัติ ไมใชประกาศ
กาํ หนดหนาทข่ี องกํานนั ผใู หญบ า น การเซน็ ชือ่ รับรองในหนงั สือแจงการครอบครองท่ีดนิ ดังกลาวเปน แตเ พยี งพยาน
เทานัน้ ไมใชร บั รองวา หนงั สือน้ันเปน เสมือนหนงั สือราชการ ดงั นัน้ ส.ค. ๑ จึงไมใชเอกสารสิทธิอันเปนเอกสาร
ราชการ
สํานักมาตรฐานการออกหนังสือสําคัญ
กรมที่ดนิ
๔๖
รวมเรือ่ งทน่ี ่าสนใจ
กลุม่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสิทธิในทดี่ นิ
๔.๕ คําพิพากษาฎีกาที่ ๖๗๖/๒๕๐๙ สรุปวา แบบแจงการครอบครองท่ีดนิ (ส.ค. ๑) เปน
หลกั ฐานอยางหนงึ่ ที่แสดงวาขณะยื่นแบบ ส.ค. ๑ นัน้ ผูแจง อางวาท่ีดินเปนของผแู จงเทา นน้ั สวนความจริงผูใด
จะมีสทิ ธคิ รอบครองนน้ั จะตองพจิ ารณาจากพยานหลักฐานในสํานวน
๔.๖ คําพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๓๑-๑๘๓๘/๒๕๑๗ พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๕ บัญญัตใิ หผ คู รอบครองและทาํ ประโยชนในที่ดินแจงการครอบครองไวเพือ่ ทีร่ ฐั จะทราบวา
ผูใดมสี ิทธคิ รอบครองในทดี่ นิ นนั้ ๆ ไมใชว า ถาไมแ จง การครอบครองแลวผูครอบครองที่ดินจะเสียไปซ่ึงสิทธิการ
ครอบครองทีม่ อี ยกู อนนน้ั ไม
๔.๗ คําพิพากษาฎีกาที่ ๓๕๘/๒๕๑๘ สรุปวา ส.ค. ๑ มิใชพยานท่ีกฎหมายบังคับใหตองมี
เอกสารมาแสดงไมอยใู นบงั คบั มาตรา ๙๔ แหงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง ท่ีไมใหสืบพยานบุคคล
แกไ ข
๔.๘ มาตรการของคณะกรรมการแกไ ขปญ หาการบกุ รุกที่ดินของรัฐ เร่ือง การพิสูจนสิทธิการ
ครอบครองทดี่ ินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ สรปุ วา คณะกรรมการแกไขปญหาการบุกรุกท่ีดินของรัฐ (กบร.)
ไดวางมาตรการเร่ืองการพิสจู นส ทิ ธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตท่ดี นิ ของรฐั ไวด งั ตอ ไปนี้
(๑) เอกสารทีท่ างราชการทําขน้ึ และพิสูจนไดวาเปนเอกสารซึ่งลงวันที่กอนการเปนที่ดิน
ของรฐั หรอื
(๒) เอกสารทที่ างราชการทําข้นึ และพิสูจนไดวาเปนเอกสารซึ่งลงวันที่กอนการเปนท่ีดิน
ของรฐั แตก อนวนั ทป่ี ระมวลกฎหมายทดี่ ินใชบังคบั (วันท่ี ๑ ธันวาคม ๒๔๙๗) โดยเอกสารดังกลาวมีขอความ
แสดงวาไดครอบครองทาํ ประโยชนใ นท่ดี ินแปลงนัน้ มากอ นการเปน ทดี่ ินของรัฐ
(๓) พยานหลักฐานอ่ืนนอกจากขอ (๑) หรือ (๒) เชน ส.ค. ๑ หรือพยานบุคคล เปนตน
เมอ่ื พจิ ารณาแลว เห็นวาพยานหลกั ฐานน้ันมสี วนสนับสนุนคํากลาวอางวา มกี ารครอบครองทําประโยชนมากอน
การเปน ทีด่ นิ ของรฐั ใหด าํ เนนิ การอา นภาพถายทางอากาศของกรมแผนท่ีทหารท่ีถายภาพพ้ืนที่นั้นไว เปนครั้ง
แรกหลังจากเปนทีด่ นิ ของรัฐ หากปรากฏรองรอยการทาํ ประโยชนในที่ดินอยูในภาพถายทางอากาศ จึงจะเช่ือ
ตามพยานหลกั ฐานอนื่ นน้ั
๔.๙ หนงั สอื กรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๕๑๖.๒/ว ๑๙๔๗๓ ลงวันท่ี ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗ เรอ่ื ง การออก
หนังสอื แสดงสทิ ธใิ นทดี่ ินในเขตที่ดินของรฐั ขอ ๒ สรุปวา การออกหนงั สือแสดงสิทธิในท่ีดินในเขตท่ีดินของรัฐ
สํานักมาตรฐานการออกหนังสอื สาํ คญั
กรมที่ดนิ
๔๗
รวมเร่ืองที่น่าสนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นท่ดี นิ
ประเภททสี่ งวนหวงหา มตามประกาศสงวนหวงหามท่ดี นิ หรือตามพระราชกฤษฎีกาสงวนหวงหามท่ีดินราชพัสดุ
และท่ีดินอนั เปน สาธารณสมบตั ิของแผน ดนิ สําหรับพลเมืองใชรวมกัน กรณีท่ีปรากฏโดยชัดแจงตามเอกสารซึ่ง
ผขู อนาํ มาเปน หลักฐานในการยืน่ คําขอออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินวา ไดมีการครอบครองทําประโยชนในที่ดิน
ภายหลัง จากการเปนทดี่ ินของรฐั ดงั กลา ว ใหเจาพนกั งานที่ดินส่ังยกเลิกคาํ ขอของผูข อ พรอ มทง้ั แจง ใหผ ขู อทราบ
เพ่ือดําเนนิ การตามพระราชบัญญัติวิธปี ฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ตอไป
๕. ผลการพิจารณา
กรมท่ดี ินพจิ ารณาแลว เจาหนา ทมี่ คี วามเหน็ เปนสองฝาย ดังน้ี
๕.๑ ฝา ยทห่ี น่ึง มคี วามเหน็ วา
ตามมาตรา ๕ แหงพระราชบญั ญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ กําหนดใหผทู ี่
ไดครอบครองและทาํ ประโยชนในท่ีดินอยูกอ นวันท่ีประมวลกฎหมายทีด่ นิ ใชบ งั คับ โดยไมมีหนังสือสําคัญแสดง
กรรมสิทธิ์ท่ีดิน ไปดําเนินการแจงการครอบครองท่ีดินตอนายอําเภอทองท่ี โดยการแจงการครอบครองท่ีดิน
ดังกลา วไมกอใหเ กดิ สทิ ธขิ ้ึนใหมแ กผแู จงแตป ระการใด และศาลฎกี าไดเ คยวินิจฉัยวา แบบแจง การครอบครองทีด่ ิน
(ส.ค. ๑) เปนเอกสารท่ีผูครอบครองทด่ี นิ ยนื่ ตอ เจา พนกั งาน เพอ่ื แสดงวา ทดี่ นิ อยใู นความครอบครองของตนกอน
วันใชบ งั คบั ประมวลกฎหมายท่ีดนิ ไมใชเอกสารทเี่ จา หนาทท่ี ําขน้ึ การทีเ่ จาพนักงานลงเลขรบั ลงช่ือกาํ กบั และ
ประทับตรา เปน การแสดงใหเห็นเพียงวา เอกสารน้ีผา นเจา พนักงานแลวเทาน้นั ไมท าํ ใหห นงั สอื แบบแจงการครอบครอง
ท่ีดินท่ีผูแจงทาํ กลายเปนหนังสือที่เจาพนักงานทําไปได และไมมีขอความหรือความหมายเปนการรับรอง
หนงั สือแจงการครอบครองทดี่ นิ ตามแบบแตอยา งใด ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยใหแจงการครอบครองท่ีดิน
ตามแบบ ส.ค. ๑ ตอนายอําเภอทองทโี่ ดยมกี ํานัน หรอื ผใู หญบา นรบั รองวาขอความถูกตองตามความเปนจรงิ น้นั
เปนเพยี งประกาศแจงใหผูครอบครองและทําประโยชนในที่ดินกอนวันใชบังคับประมวลกฎหมายที่ดินไปแจง
การครอบครองตามหลักเกณฑว ธิ กี าร ใหผูแจงการครอบครองที่ดินปฏิบัติสวนหนึ่งไมใชเปนการประกาศกําหนด
หนาที่ของกํานัน หรือผูใหญบาน การท่ีกาํ นัน ผูใหญบาน เซ็นชื่อรับรองในหนังสือแจงการครอบครองท่ีดิน
(ส.ค. ๑) จงึ ไมใชเอกสารสทิ ธิอันเปน เอกสารราชการ (ฎีกาท่ี ๘๙๐/๒๕๐๘) แบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑)
เปน หลกั ฐานอยา งหนง่ึ ซ่งึ แสดงวาในขณะย่ืน ส.ค. ๑ นั้น ผแู จงอางวาทดี่ นิ เปน ของผูแ จงเทาน้ัน สวนความจริง
ผูใดจะมีสิทธิครอบครองน้ันจะตองพิจารณาจากพยานหลักฐานในสํานวน (ฎีกาท่ี ๖๗๖/๒๕๐๙) การแจงการ
สาํ นักมาตรฐานการออกหนงั สอื สําคัญ
กรมท่ดี ิน
๔๘
รวมเรอื่ งที่น่าสนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธิในท่ดี ิน
ครอบครองที่ดินทรี่ ฐั จะทราบวา ผูใ ดมีสทิ ธคิ รอบครองในทน่ี ั้นๆ ไมใ ชว า ถา ไมแ จงการครอบครองแลวผูครอบครอง
ที่ดินจะเสียไปซ่ึงสิทธิการครอบครองท่ีมีอยูกอนนั้นไม (ฎีกาที่ ๑๘๓๑-๑๘๓๘/๒๕๑๗) ดังน้ัน ตามประเด็นท่ี
หารือ แบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) จึงเปนเพียงเอกสารหลักฐานที่ใชประกอบในการย่ืนคําขอออก
หนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน และขอความที่ระบุในแบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) ท่ีระบุวา ไดที่ดินมา
ภายหลังการเปนที่ดินของรัฐ จึงเปนขอสันนิษฐานหรือพยานหลักฐานในเบื้องตนท่ีทําใหเชื่อไดวา ผูขอออก
หนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินไดครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินมากอนหรือภายหลังการเปนที่ดินของรัฐ แตหาก
ขอ เทจ็ จริงปรากฏพยานหลกั ฐานอนื่ ท่ีชดั เจนและเปน ท่ีเชื่อไดวา ทด่ี ินท่ีขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินไดมีการ
ครอบครองและทาํ ประโยชนมากอ นการเปน ท่ดี ินของรฐั ก็เปน ดลุ ยพินจิ ของเจาพนกั งานท่ีดินตามอํานาจหนาท่ี
ทจี่ ะพจิ ารณาในการออกหนังสือแสดงสทิ ธิในท่ีดนิ ไมใ ชเปน การนําสบื เพือ่ หักลา งพยานเอกสารตามนัยมาตรา ๙๔
แหงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง แตอยางใด โดยในการพิจารณาออกโฉนดที่ดินขอใหพิจารณา
ขอเท็จจรงิ ในประเด็นการครอบครองตอเนอื่ ง และกรณีการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง วา มีการโตแยง
คัดคา นหรอื ไม อยางไรดวย
๕.๒ ฝา ยที่สอง มีความเหน็ วา
ที่สาธารณประโยชน “คลองลําชาน” ไดประกาศสงวนหวงหา มเม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๓ เปน ที่ดิน
ตองหามมใิ หอ อกโฉนดท่ดี นิ ตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๔ (๔) ยกเวนบริเวณซึ่งมีผูครอบครองทําประโยชนโดยชอบดวย
กฎหมายตอเนื่องกันมากอนการเปนที่สาธารณประโยชน เมื่อประมวลกฎหมายท่ีดินประกาศใชบังคับแลว
มาตรา ๕ แหงพระราชบญั ญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ กําหนดใหผคู รอบครองและทาํ ประโยชน
ในท่ดี นิ อยกู อ นวนั ทป่ี ระมวลกฎหมายทด่ี นิ ใชบังคับ โดยไมม หี นังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในท่ีดินแจงการครอบครอง
ทด่ี นิ (ส.ค. ๑) ได สาํ หรบั กรณที ีห่ ารอื นัน้ ผูแจงการครอบครองทด่ี นิ (ส.ค. ๑) ไดแ จงการครอบครองในขณะทดี่ ิน
ดงั กลาวมีสถานะเปน ทีด่ นิ ของรัฐ โดยแจงวาไดท ่ีดินมาโดยการกนสรา ง หรอื เบิกสรางดวยตนเอง หรือโดยการ
จบั จองภายหลงั จากทที่ างราชการประกาศใหท ด่ี นิ บรเิ วณดังกลาวเปนท่ีสาธารณประโยชนแลว จึงเปนการเขา
ครอบครองทาํ ประโยชนภ ายหลังการเปนทีด่ ินของรฐั การแจง การครอบครองไมก อใหเ กิดสทิ ธิใดๆ ในทด่ี ินแกผแู จง
กรณที จี่ ังหวัดเสนอวา เมอื่ มกี ารจดั ตั้งวัดจึงนาจะมีชุมชนมากอน ไมปรากฏหลักฐานชัดเจนวาที่ดินแปลงที่ขอ
ออกโฉนดเปน ชมุ ชนมากอ น ประกอบกับการอาน แปล ตีความภาพถายทางอากาศ เปนภาพถายทางอากาศ
สํานกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคญั
กรมทดี่ นิ
๔๙
รวมเรื่องที่น่าสนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสทิ ธิในที่ดนิ
ป พ.ศ. ๒๕๐๙ แมปรากฏรองรอยการทําประโยชนในทด่ี ิน แตอาจเปน การเขามาทําประโยชนในท่ีดินขณะแจง
หรือภายหลังจากการแจง ส.ค. ๑ ในขณะท่ีดินดังกลาวไดมีการสงวนหวงหามเม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๓ ดังนั้น ตาม
ประเดน็ ทห่ี ารือเปน กรณที ี่มีหลักฐานชัดแจงวา ผขู อไดที่ดนิ มาภายหลงั การเปน ที่ดนิ ของรฐั จึงไมส ามารถนํา ส.ค. ๑
ดงั กลา ว มาใชเ ปน หลักฐานในการ ขอออกโฉนดที่ดินได ซึ่งตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๕๑๖.๒/ว ๑๙๔๗๓
ลงวนั ท่ี ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗ เรอื่ ง การออกหนงั สือแสดงสิทธิในท่ีดินในเขตท่ีดินของรัฐ ขอ ๒ ไดวางแนวทาง
ปฏิบัติไวแลว วา กรณีท่ีปรากฏชัดแจงตามเอกสารซึ่งผูขอนํามาเปนหลักฐานในการย่ืนคําขอออกหนังสือ
แสดงสทิ ธใิ นทีด่ ินวา ไดมกี ารครอบครองทาํ ประโยชนในที่ดนิ ภายหลงั การเปนที่ดนิ ของรฐั ใหพ นกั งานเจา หนา ท่ี
ส่ังยกเลิกคําขอพรอมทั้งแจงใหผูขอทราบเพ่ือดําเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. ๒๕๓๙ ในทางปฏิบัติเจาพนักงานที่ดินจึงตองสั่งยกเลิกคําขอออกโฉนดที่ดินและแจงผูขอทราบ ตามนัย
หนังสอื ดงั กลาว
กรมที่ดนิ พิจารณาแลว เหน็ ดว ยกบั ความเหน็ ฝา ยท่สี อง และเห็นควรแจงใหจังหวดั ทราบ
๖. อางองิ
หนงั สือกรมทีด่ นิ ที่ มท ๐๕๑๖.๕/๓๕๖๕ ลงวนั ท่ี ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ ตอบขอ หารือจงั หวดั ตรงั
สํานักมาตรฐานการออกหนังสอื สําคญั
กรมทด่ี ิน
๕๐
รวมเรื่องท่นี า่ สนใจ
กล่มุ พฒั นามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นท่ดี ิน
๑. พ.ศ. ๒๕๕๘
๒. เรอ่ื ง : ขอหารอื กรณกี ารรังวัดเปลี่ยน น.ส. ๓ เปน น.ส. ๓ ก.
๓. ขอเท็จจรงิ : ประเด็นปญหา
จังหวดั สงเรื่องหารือกรณผี ูตรวจราชการกรมทีด่ ิน ไปตรวจราชการสํานักงานทด่ี ินอําเภอทุง เสลีย่ ม
จังหวดั สโุ ขทัย ตามแผนการตรวจราชการประจําปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗
และใหหารอื แนวทางปฏบิ ตั ิ กรณีการรงั วดั เปล่ียน น.ส. ๓ เปน น.ส. ๓ ก. ในทอ งที่อาํ เภอทุงเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย
ซ่ึงอยใู นเขตพระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตหวงหามที่ดินในทองที่ตําบลบานไร อาํ เภอศรีสําโรง ตําบลทุงเสลี่ยม
และตาํ บลเมอื งบางยม อาํ เภอสวรรคโลก จังหวัดสโุ ขทัย พ.ศ. ๒๔๘๖ เขตพระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเขตหวงหามทดี่ ิน
ปา ดงขาในทอ งท่ตี ําบลทุงเสลี่ยม อําเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. ๒๔๙๑ และท่ีดินสาธารณประโยชน
“ทุงเล้ียงสัตว”.จํานวน ๓ แปลง เนื้อทป่ี ระมาณ ๖๖,๔๗๕ ไร ซึ่งนายอําเภอสวรรคโลกไดประกาศหวงหาม
ขน้ึ ทะเบียนทีส่ าธารณประโยชนไวเมอ่ื วนั ท่ี ๑๖ มกราคม ๒๔๗๑ เปนการดําเนินการโดยชอบดวยกฎหมายหรือไม
จังหวัดเห็นวาการรังวัดเปล่ียน น.ส.๓ เปน น.ส.๓ ก. ไมใชเปนการออกหนังสือรับรองการทําประโยชนใหม
สามารถดาํ เนนิ การเปลีย่ น น.ส. ๓ เปน น.ส. ๓ ก. ได จงึ หารือวาความเหน็ ของจังหวดั ถกู ตอ งหรือไม
๔. ขอกฎหมาย ระเบยี บ คาํ สงั่ :
๔.๑ พระราชบัญญัตปิ ฏบิ ัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตร ๔๒ วรรค ๒
๔.๒ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน มาตรา ๖๙ ทวิ วรรค ๖
๔.๓ ระเบียบกรมทีด่ ิน วา ดว ยการแบงแยกและตรวจสอบเนื้อท่ีหนังสอื รบั รองการทําประโยชน
พ.ศ. ๒๕๒๙ ขอ ๘, ขอ ๒๒.๓
๔.๔ หนงั สอื กรมทดี่ นิ ท่ี มท ๐๗๒๘/ว ๒๒๖๓๓ ลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๔ เร่ือง การเพิกถอน
หรอื แกไ ขการออกหนังสือแสดงสิทธิในทีด่ ินหรอื การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเกยี่ วกบั อสงั หาริมทรพั ย
สํานักมาตรฐานการออกหนงั สอื สาํ คัญ
กรมท่ดี ิน
๕๑
รวมเรอื่ งทนี่ ่าสนใจ
กล่มุ พัฒนามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน
๕. ผลการพิจารณา
กรมที่ดินพจิ ารณาแลว เห็นวา กรณกี ารรังวัดเปล่ยี น น.ส. ๓ เปน น.ส. ๓ ก. ในทองที่อําเภอทุงเสลี่ยม
จังหวัดสุโขทัย ซึ่งอยูในเขตพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตหวงหามที่ดินในทองท่ีตําบลบานไร อําเภอศรีสําโรง
ตําบลทงุ เสลี่ยม และตําบลเมืองบางยม อําเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. ๒๔๘๖ เขตพระราชกฤษฎีกา
กําหนดเขตหวงหามท่ีดนิ ปาดงขา ในทองทต่ี ําบลทงุ เสลี่ยม อาํ เภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. ๒๔๙๑ และ
ทด่ี นิ สาธารณประโยชน “ทุงเลย้ี งสตั ว” หากตราบใด น.ส..๓ ดงั กลา วยงั ไมถ กู เพิกถอนยอ มมีผลตามกฎหมายอยู
ตามพระราชบัญญัตวิ ธิ ีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙มาตรา ๔ วรรค ๒ การรังวัดเปลี่ยน น.ส. ๓ เปน
น.ส. ๓ ก. เปน การตรวจสอบเน้อื ทหี่ นงั สือรบั รองการทาํ ประโยชน ซึง่ ตองดาํ เนินการตามมาตรา ๖๙ ทวิ วรรค ๖
แหงประมวลกฎหมายที่ดิน และระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการแบงแยกและตรวจสอบเนื้อที่หนังสือรับรอง
การทําประโยชน พ.ศ. ๒๕๒๙ ขอ ๘, ขอ ๒๒.๓ มิใชเปนการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ซ่ึงพนักงานเจาหนาท่ี
เกรงวา น.ส. ๓ ดังกลาวอาจมีการเพิกถอนแกไขในภายหลัง พนักงานเจาหนาทีช่ อบทีจ่ ะแจงใหผูขอทราบถึง
เหตทุ ่ี น.ส. ๓ นน้ั อาจถกู เพิกถอนหรือแกไ ขการออกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นท่ีดนิ หรอื การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรม
เกย่ี วกบั อสังหาริมทรพั ย
๖. อางองิ หนงั สอื กรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๔๖๔๔ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตอบขอ หารือ
จังหวัดสุโขทัย
สํานักมาตรฐานการออกหนงั สอื สาํ คัญ
กรมท่ีดนิ
๕๒
รวมเร่ืองทีน่ า่ สนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสิทธิในทีด่ ิน
๑. พ.ศ. ๒๕๕๘
๒. เรอ่ื ง : หารอื กรณีกระทรวงการคลงั ขอออกโฉนดทด่ี ินโดยอาศยั หลักฐาน ส.ค. ๑
๓. ขอ เทจ็ จรงิ : ประเดน็ ปญ หา
จังหวดั แจงวา กระทรวงการคลังโดยธนารักษพน้ื ท่เี ชยี งราย ไดยน่ื คาํ ขอออกโฉนดที่ดินเฉพาะราย
ตามมาตรา ๕๙ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ตามคาํ ขอฉบบั ลงวนั ท่ี ๗ กันยายน ๒๕๕๓ โดยอาศัยหลักฐาน ส.ค. ๑
เลขที่ ๒๒๑ หมูท่ี ๑ ตําบลแมสาย อําเภอแมสาย จังหวัดเชียงราย ซ่ึงเปนการยื่นคําขอภายหลังวันท่ี ๘
กุมภาพันธ ๒๕๕๓ จังหวัดพิจารณาแลวเห็นวา ธนารักษพ้ืนท่ีเชียงรายจะตองย่ืนคํารองตอศาลยุติธรรม
ตามมาตรา ๘ แหง พระราชบญั ญัติแกไ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ เพ่ือใหศาล
มีคาํ พพิ ากษาหรอื คําสง่ั ถึงที่สุดวา เปน ผซู ึ่งไดค รอบครองและทําประโยชนในท่ีดนิ โดยชอบดวยกฎหมายอยูกอน
วนั ทป่ี ระมวลกฎหมายทด่ี นิ ใชบ ังคับจงึ จะดาํ เนนิ การออกโฉนดท่ีดินได เน่ืองจากมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติ
แกไ ขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ไมมีบทบัญญัติยกเวนไว และกรมที่ดินยังไมได
วางแนวทางปฏบิ ัติในเรือ่ งนี้ จึงขอหารือวา ความเห็นของจังหวดั ถูกตองหรอื ไม ประการใด
๔. ขอ กฎหมาย ระเบยี บ คาํ สง่ั :
๔.๑ ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
มาตรา ๑๓๐๔ สาธารณประโยชนของแผนดินนั้น รวมทรัพยสินทุกชนดิ ของแผนดิน
ซึ่งใชเ พื่อสาธารณประโยชนห รือสงวนไวเพอ่ื ประโยชนรว มกัน เชน
(๑) ทีด่ ินรกรางวางเปลา และท่ดี ินซงึ่ มผี ูเวนคนื หรือทอดท้ิงหรือกลับมาเปนของแผนดิน
โดยประการอนื่ ตามกฎหมายทีด่ นิ
(๒) ทรัพยสินสาํ หรับพลเมอื งใชรวมกัน เปน ตน วา ทช่ี ายตลิง่ ทางน้าํ ทางหลวง ทะเลสาบ
(๓) ทรัพยสินใชเพื่อประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ เปนตนวา ปอม และโรงทหาร
สาํ นกั ราชการบา นเมือง เรอื รบ อาวุธยทุ ธภณั ฑ
๔.๒ พระราชบัญญัตทิ ่ีราชพัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘
สํานักมาตรฐานการออกหนังสอื สาํ คัญ
กรมทีด่ นิ
๕๓
รวมเรอ่ื งที่น่าสนใจ
กลุม่ พฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสิทธิในที่ดนิ
มาตรา ๔ ท่ีราชพัสดุ หมายความวา อสังหาริมทรพั ยอนั เปน ทรัพยส นิ ของแผน ดนิ ทุกชนดิ
เวนแตส าธารณสมบัตขิ องแผนดนิ ดงั ตอ ไปน้ี
(๑) ที่ดินรกรา งวางเปลา และท่ดี ินซึ่งมีผเู วนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเปนของแผนดิน
โดยประการอืน่ ตามกฎหมายที่ดนิ
(๒) อสงั หาริมทรัพยสําหรบั พลเมอื งใชหรือสงวนไวเพื่อประโยชนของพลเมืองใชรวมกัน
เปน ตนวา ทช่ี ายตลงิ่ ทางนาํ้ ทางหลวง ทะเลสาบ
สว นอสงั หารมิ ทรัพยของรฐั วิสาหกจิ ท่ีเปน นิติบุคคลและขององคกรปกครองสวนทองถ่ิน
ไมถ ือวาเปนทรี่ าชพัสดุ
มาตรา ๕ ใหก ระทรวงการคลงั เปนผูถ ือกรรมสิทธทิ์ ่ีราชพัสดุ
บรรดาทร่ี าชพสั ดุที่กระทรวง ทบวง กรมใดไดม าโดยการเวนคืนหรือการแลกเปล่ียนหรือ
โดยประการอืน่ ใหก ระทรวงการคลังเขาถือกรรมสทิ ธิ์ในที่ราชพัสดุนั้น ท้ังน้ียกเวนที่ดินท่ีไดมาโดยการเวนคืน
ตามกฎหมายวาดวยการปฏริ ูปท่ดี นิ เพ่อื เกษตรกรรม
มาตรา ๘ การโอนกรรมสิทธท์ิ ่ีราชพสั ดเุ ฉพาะทดี่ นิ ทีเ่ ปนสาธารณสมบัติของแผนดินที่ใช
เพ่ือประโยชนข องแผนดนิ โดยเฉพาะ ใหกระทําโดยพระราชบญั ญัติ สวนการโอนกรรมสิทธ์ิท่ีราชพัสดุใหเปนไป
ตามหลกั เกณฑและวิธกี ารท่กี ําหนดในกฎกระทรวง
ฯลฯ
๔.๓ พระราชบัญญัตแิ กไ ขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
มาตรา ๘ ใหผ ซู งึ่ ไดค รอบครองและทําประโยชนในทีด่ ินอยกู อ นวนั ทปี่ ระมวลกฎหมายที่ดิน
ใชบังคับ โดยมีหลักฐานการแจงการครอบครองท่ีดิน และยังมิไดย่ืนคาํ ขอออกโฉนดทด่ี ินหรือหนังสือรับรอง
การทาํ ประโยชนต อ พนกั งานเจาหนา ท่ีภายในสองปน ับแตวันที่พระราชบญั ญัติน้ีใชบังคบั
เมื่อไดร ับคําขอและหลักฐานการแจงการครอบครองที่ดนิ ตามวรรคหน่งึ แลว ใหพนักงาน
เจาหนาทีด่ าํ เนนิ การเพ่ือออกโฉนดทดี่ ินหรือหนงั สือรบั รองการทําประโยชนต ามประมวลกฎหมายท่ีดนิ ตอไป
เมอื่ พนกําหนดเวลาตามวรรคหน่งึ หากมผี ูนาํ หลกั ฐานการแจงการครอบครองทีด่ ินมาขอ
ออกโฉนดที่ดินหรอื หนังสือรับรองการทําประโยชน พนักงานเจาหนาที่จะออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรอง
สาํ นักมาตรฐานการออกหนังสือสาํ คัญ
กรมท่ีดนิ
๕๔
รวมเรอ่ื งทน่ี ่าสนใจ
กลมุ่ พฒั นามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดนิ
การทาํ ประโยชนใหไดตอเมื่อศาลยตุ ิธรรมไดม ีคําพิพากษาหรอื คําส่ังถึงที่สุดวา ผูน้ันเปนผูซึ่งไดครอบครองและ
ทําประโยชนใ นท่ีดนิ โดยชอบดว ยกฎหมายอยกู อ นวันท่ปี ระมวลกฎหมายท่ีดนิ ใชบงั คับ
ฯลฯ
๔.๔ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ
พ.ศ. ๒๕๑๘
ขอ ๒ การโอนกรรมสทิ ธ์ทิ ร่ี าชพัสดุที่มิใชที่ดินที่เปนสาธารณสมบัติของแผนดนิ ท่ีใชเพ่ือ
ประโยชนข องแผนดนิ โดยเฉพาะ จะกระทาํ ไดแ ตโ ดยการขาย การแลกเปล่ียน หรอื การใหแ ละจะตอ งไดร ับอนุมตั ิ
จากคณะรัฐมนตรีกอน เวนแตการโอนกรรมสิทธิ์เพื่อประโยชนในการดําเนินการตามกฎหมาย ดังตอไปน้ี
ใหด ําเนินการไดเ มอ่ื กระทรวงการคลงั ใหค วามยินยอมแลว
(๑) กฎหมายวาดว ยการปฏริ ปู ทด่ี ินเพอ่ื เกษตรกรรม
(๒) กฎหมายวาดวยการเวนคืนอสังหาริมทรพั ย
การใหที่ราชพัสดุจะกระทําไดเฉพาะเพื่อการศาสนา การสาธารณกุศลหรือการ
สาธารณประโยชนอยางอน่ื หรอื การโอนคืนใหแกผูยกให
๔.๕ ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เร่ืองเสร็จที่ ๒๓๐/๒๕๑๒ เรื่อง การตีความใน
มาตรา ๑๓๐๔ แหง ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย (กรณที ่ดี ินราชพัสดุ จงั หวัดอุดรธานี) สรุปวา ที่ดินราชพัสดุน้ัน
คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการรา งกฎหมาย กองท่ี ๖) ไดเคยใหความเหน็ วา เปนทรัพยส ินของแผน ดินอยา งหนึง่
แตจะเปนสาธารณสมบัติของแผนดินหรือไมนั้นก็สุดแตวาท่ีดินราชพัสดุนั้น ไดใชเพื่อสาธารณประโยชนหรือ
สงวนไวเพ่อื ประโยชนร ว มกนั หรอื ไม เชน ถา ทดี่ ินราชพัสดไุ ดนําไปใหเ อกชนเชา ปลูกบา นอยูอาศัยหรือใหเชาทาํ การคา
ที่ดินราชพัสดุน้ันยอมเปนเพียงทรัพยสินของแผนดินเทานั้น ท่ีดินราชพัสดุท่ีปลูกสรางบานพักครูโรงเรียนน้ัน
ยอมใชเพื่อประโยชนแกครูโดยเฉพาะเทานั้น ไมไดเปนประโยชนตอสาธารณชน จึงไมเปนสาธารณสมบัติ
ของแผน ดนิ
๔.๖ แนวทางปฏิบัตเิ พื่อดาํ เนินการตามมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ภายหลังวันท่ี ๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๓ (แกไขเพ่ิมเติม) ขอ ๑๗ ซ่ึงเวียน
ตามหนังสอื กรมทีด่ นิ ดว นทีส่ ดุ ท่ี มท ๐๕๑๖.๒(๑)/ว ๑๔๗๘๙ ลงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ หนังสือกรมที่ดิน
สาํ นักมาตรฐานการออกหนังสอื สําคญั
กรมท่ีดนิ
๕๕
รวมเรื่องท่นี า่ สนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี ิน
ดวนท่สี ดุ ท่ี มท ๐๖๐๙/๒๕๘๗๒ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๑๙ เรือ่ ง การออกหนังสอื แสดงสิทธิในทด่ี ินเกีย่ วกบั
ทรี่ าชพัสดุ
๕. ผลการพจิ ารณา
กรมทีด่ นิ พิจารณาแลวเหน็ วา เมือ่ ขอ เทจ็ จริงปรากฏวา ที่ดินทกี่ ระทรวงการคลัง โดยธนารักษ
พ้ืนทเ่ี ชยี งราย ไดย น่ื คําขอออกโฉนดท่ีดนิ เปน ทด่ี นิ ท่ีมหี ลักฐานเปน ส.ค. ๑ เลขท่ี ๒๒๑ หมูท่ี ๑ ตําบลแมสาย
อําเภอแมส าย จังหวัดเชียงราย เนอื้ ที่ ๙ ไร ๓ งาน ๖๐ ตารางวา มีช่ือกรมมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย เปนผูแจง
การครอบครองเม่ือวนั ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๔๙๘ ไดม าโดยนาย ช ยกใหเม่อื พ.ศ. ๒๔๗๘ สภาพท่ีดินเปนที่อยูอาศัย
(อําเภอเกา ) สภาพทีด่ นิ ในปจ จบุ นั ไดปลกู สรา งอาคารพาณชิ ยใ หเอกชนเชา กระทรวงการคลงั ไดใชป ระโยชนเปน
ท่ีจัดหาผลประโยชนโดยการใหเชาเต็มแปลง ที่ดินดังกลาวจึงเปนที่ราชพัสดุประเภททรัพยสินของแผนดิน
(เทียบเคียงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องเสร็จท่ี ๒๓๐/๒๕๑๒) แมไมแจงการครอบครองที่ดิน
รฐั ไมม ีอํานาจทจ่ี ะนําทีด่ นิ ไปจัดตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ตามมาตรา ๕ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ได เพราะมีกฎหมายกําหนดไวเ ปนอยา งอ่ืนแลว โดยการดาํ เนินการเกี่ยวกบั
การโอนกรรมสิทธ์ิท่ีราชพัสดุ ไดมีการกําหนดไวในพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘ ขอ ๒) จึงเปน
กรณีท่ีกระทรวงการคลงั ไดก รรมสทิ ธิใ์ นที่ดินมาตามกฎหมายอน่ื ตามมาตรา ๓ (๒) แหง ประมวลกฎหมายที่ดิน
ดงั นน้ั ในการดาํ เนินการออกโฉนดท่ดี ินใหแ กกระทรวงการคลงั โดยนาํ หลกั ฐาน ส.ค. ๑ มายื่นเร่ืองน้ัน ใหถือวา
ส.ค. ๑ ทน่ี ํามายื่นเปนเพียงหลกั ฐานวาหนวยงานของรฐั ไดเ ขา ครอบครองทาํ ประโยชนใ นทด่ี ินแปลงน้ันมากอน
ประมวลกฎหมายทีด่ นิ ใชบ งั คับเทาน้นั โดยกระทรวงการคลังสามารถยื่นคําขอออกโฉนดที่ดินตามมาตรา ๕๙
แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน โดยไมจ าํ เปน ตอ งใชห ลกั ฐาน ส.ค. ๑ และเจาพนักงานท่ีดินสามารถออกโฉนดที่ดิน
ใหแ กกระทรวงการคลงั ได ตามหนังสอื เวยี นกรมท่ดี ิน ที่ มท ๐๖๐๙/ว ๒๕๘๗๒ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๑๙
เรอ่ื ง การออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ เกี่ยวกบั ท่รี าชพสั ดุ โดยไมจําเปน ตอ งใหก ระทรวงการคลังไปยืน่ คาํ รอ งตอ
ศาลยตุ ิธรรม ตามมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
แตอ ยางใด (เทียบเคยี งแนวทางปฏิบตั เิ พือ่ ดาํ เนินการตามมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายท่ีดนิ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ภายหลงั วนั ท่ี ๘ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๓ (ฉบับแกไขเพม่ิ เติม) ขอ ๑๗ กรณี
วัดในพระพุทธศาสนานําหลักฐาน ส.ค. ๑ ซึ่งมีช่ือวัดเปนผูแจงการครอบครองท่ีดินมาเปนหลักฐานในการขอ
สํานักมาตรฐานการออกหนังสือสาํ คัญ
กรมที่ดิน
๕๖
รวมเร่ืองทีน่ า่ สนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นที่ดิน
ออกโฉนดทดี่ ินฯ ซงึ่ เวยี นตามหนงั สือกรมที่ดิน ดวนที่สุด ท่ี มท ๐๕๑๖.๒(๒)/ว ๑๔๗๘๙ ลงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม
๒๕๕๓)
๖. อา งอิง
หนังสือกรมทีด่ นิ ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๒๐๐๒๙ ลงวนั ท่ี ๒๔ สงิ หาคม พ.ศ..๒๕๕๘ ตอบขอหารอื
จังหวัดเชียงราย
สํานกั มาตรฐานการออกหนงั สือสําคญั
กรมทด่ี ิน
๕๗
รวมเรอ่ื งทนี่ า่ สนใจ
กลุม่ พฒั นามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นที่ดิน
๑. พ.ศ. ๒๕๕๘
๒. เรอ่ื ง : หารือแนวทางปฏบิ ัตกิ รณีนายอําเภอปลวกแดงไมด าํ เนนิ การกรณีการระวงั ชแี้ นวเขตและลงชื่อรบั รอง
แนวเขต
๓. ขอเท็จจรงิ : ประเด็นปญหา
จังหวดั แจง วา ไดรบั แจง จากสาํ นกั งานท่ีดินจังหวัดระยอง สาขาปลวกแดง ขอหารือแนวทาง
ปฏิบตั กิ รณี สํานักงานท่ดี นิ ไดม ีหนังสือแจง นายอาํ เภอปลวกแดง เร่อื งการระวังชี้แนวเขตและลงช่ือรับรองแนวเขต
ท่ีดิน ในกรณีรังวัดสอบเขต รวม และแบงแยกที่ดินท่ีมีแนวเขตติดตอกับทางสาธารณประโยชน หวย
สาธารณประโยชน ฯลฯ และในการออกหนังสือแสดงสิทธใิ นท่ดี ิน แตนายอําเภอปลวกแดงไมไปดําเนินการหรือ
มอบอํานาจใหผูหน่ึงผูใดไปดําเนินการแทน โดยเห็นวา นายอําเภอไมใชเจาของท่ีดินขางเคียง การแจงให
นายอําเภอปลวกแดงไประวงั ชี้และลงชอ่ื รับรองแนวเขตที่ดินเปนการถูกตองหรือไม จังหวัดเห็นวา นายอําเภอ
มีหนาท่ใี นการดูแลรกั ษาและคุมครองปองกันที่ดินอนั เปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน
ตามพระราชบญั ญัตลิ ักษณะปกครองทอ งท่ี พ.ศ. ๒๔๕๗ มาตรา ๑๒๒ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพะราชบัญญัติลักษณะ
ปกครองทองที่ (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ และระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วาดวยการดูแลรักษาและคุมครอง
ปองกันท่ีดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน พ.ศ. ๒๕๕๓ ขอ ๕ และขอ ๖
ดังน้นั นายอาํ เภอจงึ ตอ งรวมเปน พยานและตรวจสอบท่ดี นิ ทขี่ อออกโฉนดที่ดิน ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย
ดวนมาก ท่ี มท ๐๗๑๙/ว ๕๒๕ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ ๒๕๔๒ และรับรองแนวเขตที่ดินของทางราชการ
ตามคาํ สง่ั กรมทด่ี นิ ที่ ๑๓๐๔/๒๕๔๒ ลงวนั ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๒ จึงหารือความเหน็ ดงั กลา วถูกตองหรือไม
อยา งไร
๔. ขอ กฎหมาย ระเบยี บ คาํ สงั่ :
๔.๑ พระราชบัญญตั ลิ ักษณะปกครองทองท่ี พุทธศักราช ๒๔๕๗ มาตรา ๑๒๒ แกไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญัตลิ ักษณะปกครองทองที่ (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๑๓
๔.๒ ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๘ ตรี
สํานกั มาตรฐานการออกหนังสือสาํ คัญ
กรมทดี่ ิน
๕๘
รวมเรอ่ื งท่นี า่ สนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นที่ดิน
๔.๓ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวยการดูแลรักษาและคุมครองปองกันที่ดินอันเปน
สาธารณสมบตั ขิ องแผน ดนิ พ.ศ. ๒๕๕๓
๔.๔ หนังสือกระทรวงมหาดไทย ดวนมาก ที่ มท ๐๗๑๙/ว ๕๒๕ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ
๒๕๔๒ เรอ่ื ง ใหส อบผปู กครองทอ งทีก่ อ นออกหนังสือแสดงสิทธิในทดี่ นิ
๔.๕ คําสั่งกรมที่ดิน ที่ ๑๓๐๔/๒๕๔๒ ลงวันท่ี ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๒ เรื่อง การรับรอง
แนวเขตท่ดี นิ ของทางราชการ
๔.๖ ระเบียบกรมทีด่ ิน วาดว ยการเขยี นขางเคยี งและการรับรองแนวเขตท่ีดนิ พ.ศ. ๒๕๕๔ ขอ ๓๘
๕. ผลการพิจารณา
กรมที่ดินพิจารณาแลวเห็นวา ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองทองที่ พระพุทธศักราช
๒๔๕๗ มาตรา ๑๒๒ ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติลักษณะปกครองทองที่ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
มาตรา ๑๓ บัญญัตใิ ห นายอําเภอมหี นา ท่รี วมกับองคกรปกครองสวนทอ งถนิ่ ในการดแู ลรกั ษาและคุมครองปองกัน
ท่ีดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินที่ประชาชนใชประโยชนรวมกัน และส่ิงซึ่งเปนสาธารณประโยชนอื่น
อันอยูในเขตอาํ เภอประกอบกับระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวยการดูแลรักษาและคุมครองปองกันที่ดิน
อนั เปน สาธารณสมบตั ขิ องแผนดนิ พ.ศ. ๒๕๕๓ ขอ ๕ และขอ ๖ กําหนดใหอ าํ นาจหนาที่ในการดูแลรักษาและ
คุมครองปองกันที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกันเปนอํานาจหนาที่ของ
นายอําเภอรว มกบั องคกรปกครองสวนทองถ่นิ ตามกฎหมายวา ดวยลักษณะปกครองทองท่ี ซึง่ การดแู ลรกั ษาและ
คมุ ครองปอ งกันที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินน้ัน ยังรวมถึงการดูแลและรักษามิใหมีการบุกรุกหรือ
รกุ ลาํ้ เขา มาในท่ีดนิ สาธารณประโยชนดว ย การรบั รองแนวเขตจงึ เปน หนา ทใี่ นการดูแลคุมครองรักษาเพื่อมิใหมี
ผูใดบุกรุกหรือนํารังวัดที่ดินเขาไปในเขตท่ีดินของรัฐ ซ่ึงปรากฏตามการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย ตาม
หนงั สือกระทรวงมหาดไทย ดว นมาก ท่ี ๐๗๑๙/ว ๕๒๕ ลงวันที่ ๒๔ กมุ ภาพันธ ๒๕๔๒ เร่ือง ใหส อบผปู กครองทอ งที่
กอนออกโฉนดท่ีดิน ดังนั้น ในการไปรวมตรวจสอบและนําช้ีรับรองแนวเขตท่ีสาธารณประโยชน จึงเปนการ
ดาํ เนนิ การในฐานะพนักงานเจา หนาท่ผี มู ีอํานาจในการดูแลรกั ษาตามท่ีกฎหมายกําหนดไว มใิ ชฐ านะเจา ของทดี่ นิ
ตามที่อําเภอปลวกแดงเขาใจแตอยางใด นอกจากนี้อํานาจในการดูแลรักษาท่ีสาธารณประโยชนยังรวมถึง
การดําเนินการเพือ่ จัดใหม ีการขอออกหนังสือสาํ คัญสาํ หรบั ทห่ี ลวงเพ่อื แสดงเขตไวเ ปนหลกั ฐาน ซึง่ ตามระเบียบ
สํานกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคัญ
กรมทดี่ ิน
๕๙
รวมเร่อื งที่นา่ สนใจ
กล่มุ พฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี ิน
กระทรวงมหาดไทย วา ดว ยการดูแลรักษาและคมุ ครองปอ งกันที่ดิน อันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับ
พลเมืองใชรวมกัน พ.ศ. ๒๕๕๓ ขอ ๑๐ กําหนดใหผูมีอํานาจดูแลรักษาและคุมครองปองกันที่ดินอันเปน
สาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกันตามกฎหมายเปนผูดําเนินการขอออกหนังสือสําคัญ
สําหรับท่ีหลวงในท่ีดินสาธารณประโยชนแปลงที่ยังไมมีหนังสือสําหรับท่ีหลวง สําหรับบทบัญญัติตามความใน
มาตรา ๘ ตรี แหง ประมวลกฎหมายท่ดี ิน เปน เรอ่ื ง แบบ หลกั เกณฑ และวิธีการออกหนงั สือสาํ คัญสําหรบั ที่หลวง
เมอ่ื มีการย่นื ขอออกหนังสือสาํ คัญท่หี ลวงเทาน้ัน มิใชหมายความวาอํานาจการดูแลรักษาและรับรองแนวเขต
ของท่ดี นิ สาธารณประโยชนจะเปน ของอธบิ ดีกรมทีด่ ิน สาํ หรับการแจงขอใหอ าํ เภอและองคก รปกครองสวนทองถ่ิน
ไปรวมระวังชี้แนวเขตเปนการแจงตามอํานาจหนาท่ีตามกฎหมายของผูท่ีดูแลรักษาท่ีสาธารณประโยชนน้ันๆ
ตามท่ีกําหนดไวในพระราชบัญญัติลักษณะปกครองทองท่ี พ.ศ. ๒๔๕๗ มาตรา ๑๒๒ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญตั ลิ ักษณะปกครองทองท่ี (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๑๓ ดังนน้ั อาํ นาจหนา ท่ีในการระวังช้ี
และรบั รองแนวเขตที่ดินสาธารณประโยชนด งั กลาว จงึ เปนอาํ นาจหนา ที่ของนายอาํ เภอรวมกับองคกรปกครอง
สวนทองถนิ่ และเพอ่ื ใหการปฏบิ ตั ิงานเปนไปดวยความถูกตอง เห็นควรใหจังหวัดไดแ จง อําเภอปลวกแดงเพอ่ื ทราบ
และทาํ ความเขา ใจในเร่ืองน้ีตามทีก่ ฎหมายและระเบยี บกระทรวงมหาดไทยไดกาํ หนดไว พรอมท้ังขอใหซักซอม
ความเขาใจในการปฏบิ ตั ิงานของสํานกั งานทีด่ ิน ดังนี้
๑. กรณี เจา พนกั งานที่ดินจงั หวดั หรอื เจาพนักงานท่ีดินจังหวัดสาขา เปนพนักงานเจาหนาท่ี
ในการออกหนังสอื แสดงสิทธิในทดี่ นิ ตามประมวลกฎหมายทดี่ นิ ใหเ จาพนักงานท่ดี ินจังหวัด หรือเจา พนักงานท่ีดิน
จังหวัดสาขา แลวแตกรณี มีหนังสือแจงนายอําเภอทองที่ออกไปรวมเปนพยานและตรวจสอบท่ีดินที่ขอออก
หนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน วาเปนที่สงวนหวงหามหรือท่ีสาธารณประโยชนอยางใด หรือไม รวมท้ังตรวจสอบ
การครอบครองและทาํ ประโยชนในทด่ี ินของผขู อวา ไดค รอบครองทําประโยชนในที่ดินหรือไม อยางไร เวนแต
การออกโฉนดที่ดินตามหลักฐาน น.ส. ๓ ก. ไมตองแจงนายอําเภอทองที่ออกไปรวมเปนพยานและตรวจสอบท่ีดิน
กรณีที่ดินมีแนวเขตติดตอกับที่สาธารณประโยชนซึ่งนายอําเภอเปนผูดูแลรักษา ถาไดออกไปตรวจสอบ
ในวนั ทําการรงั วัด ก็ใหตรวจชแ้ี ละรบั รองแนวเขตที่สาธารณประโยชนน น้ั ดวย ท้ังนี้ ตามหนังสอื กระทรวงมหาดไทย
ดว นมาก ที่ มท ๐๗๑๙/ว ๕๒๕ ลงวนั ที่ ๒๔ กุมภาพันธ ๒๕๔๒ เรื่อง ใหสอบผูปกครองทองท่ีกอนออกหนังสือ
แสดงสทิ ธิในทด่ี นิ
สํานักมาตรฐานการออกหนงั สือสําคัญ
กรมที่ดิน
๖๐
รวมเรื่องทน่ี า่ สนใจ
กล่มุ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทดี่ ิน
๒. กรณีการรังวัด แบงแยก รวม สอบเขต หรือตรวจสอบเนื้อที่ หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
รวมท้งั การออกหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ซง่ึ อยใู นพน้ื ท่คี วามรบั ผิดชอบของสํานกั งานทด่ี นิ จังหวัด สํานักงานทด่ี นิ
จังหวัดสาขา หรือสํานักงานท่ีดินสวนแยก ที่มีแนวเขตติดตอกับที่สาธารณประโยชน ใหพนักงานเจาหนาที่
มหี นงั สือแจงนายอําเภอทองทีพ่ รอมทง้ั ผูบริหารองคกรปกครองสวนทองถิ่นออกไประวังชี้และรับรองแนวเขต
ทส่ี าธารณประโยชน ตามระเบียบกรมท่ีดนิ วา ดว ยการเขยี นขางเคียงและการรับรองแนวเขตที่ดนิ พ.ศ. ๒๕๕๔
ขอ ๓๘ ซงึ่ หากนายอาํ เภอทอ งทแี่ ละ/หรอื ผูบรหิ ารองคกรปกครองสว นทองถ่นิ มิไดม าระวงั ชแ้ี ละรบั รองแนวเขต
ที่ดินในวันทําการรังวัดหรือมาแตไมยอมลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดิน ใหพนักงานเจาหนาที่ติดตอหรือแจง
นายอาํ เภอทอ งทแี่ ละ/หรือผบู ริหารองคก รปกครองสวนทองถนิ่ ตามคําสั่งกรมท่ีดิน ที่ ๑๓๐๔/๒๕๔๒ ลงวันท่ี
๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๒ เรอ่ื ง การรบั รองแนวเขตทด่ี นิ ของทางราชการ ตอ ไป
๖. อา งอิง
หนงั สอื กรมท่ีดนิ ดวนทีส่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๖.๕/๒๔๑๐๑ ลงวนั ท่ี ๒๙ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ตอบขอ
หารือจงั หวดั ระยอง
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนงั สือสําคัญ
กรมท่ีดิน
๖๑
รวมเรือ่ งทีน่ ่าสนใจ
กลุม่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสิทธใิ นทีด่ ิน
๑. พ.ศ. ๒๕๕๘
๒. เรอื่ ง : ขอทราบขอมูลเกี่ยวกับการขอออกใบแทนโฉนดทดี่ ิน ราย คณุ ล
๓. ขอ เท็จจรงิ : ประเด็นปญ หา
๓.๑ สํานักงานเลขานุการกรมสงเรอื่ งใหพจิ ารณาและแจง ผลใหผรู อ งทราบ กรณี คุณ ล รองเรียน
ตอ อธบิ ดีกรมทดี่ ิน ผานเวบ็ ไซต “ศนู ยด าํ รงธรรมกรมทดี่ ิน” วา เมอ่ื วนั ที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๘ ไดยื่นคําขอออก
ใบแทนโฉนดทีด่ ินเลขที่ ๑๖๒๒๑ ตาํ บลอาษา อาํ เภอบา นนา จงั หวดั นครนายก ณ สํานกั งานท่ดี ินจังหวัดนครนายก
พรอมดวยพยาน ๒ คน คือ นาง พ และนางสาว ช เจา หนาท่ีไดแจงใหทราบพรอ มบันทึกถอยคําไวเ ปนหลักฐาน
วา ใหน าํ พยานทเี่ ปนพีน่ อ งพอแมเ ดยี วกันมาลงลายมอื ชอื่ เปน พยานดวยภายใน ๓๐ วัน พรอมทั้งใหสงประกาศ
การขอออกใบแทนท่ีดนิ ดวยตนเอง จึงมคี วามประสงคขอทราบวา
๓.๑.๑ พยานท้งั ๒ คน ทน่ี าํ ไปนน้ั สามารถใชเ ปน พยานไดหรอื ไม
๓.๑.๒ หนา ทใ่ี นการสงหนงั สือปด ประกาศการขอออกใบแทนโฉนดที่ดนิ ใหน ายอาํ เภอและ
กาํ นัน เปนหนา ทีข่ องผยู ื่นคาํ ขอหรอื เจาหนา ท่ขี องสํานักงานท่ดี นิ
๓.๒ สาํ นักงานเลขานุการกรม แจงวา คุณ ล ไดรองเรียนกรณีเดียวกันกับขอ ๓.๑ ผานศูนย
รบั เรอ่ื งราวรองทกุ ขข องรัฐบาล ๑๑๑๑ ดว ย ขอใหสํานกั มาตรฐานการออกหนงั สอื สําคญั พจิ ารณารวมกับเร่ืองเดิม
แลวแจง ผลใหผ รู อ งทราบโดยตรง และรายงานสํานกั งานปลักสาํ นักนายกรัฐมนตรีทราบ
๔. ขอ กฎหมาย ระเบยี บ คาํ สงั่ :
๔.๑ ประมวลกฎหมายท่ีดิน มาตรา ๖๓ โฉนดทีด่ ินของผใู ดเปน อันตราย ชาํ รดุ สูญหายดวย
ประการใด ใหเจา ของมาขอรบั ใบแทนโฉนดที่ดินน้ันได
ฯลฯ
๔.๒ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑๗ ในการออกใบแทนโฉนดที่ดินใหด าํ เนนิ การดงั นี้
สํานักมาตรฐานการออกหนังสอื สาํ คญั
กรมท่ดี ิน
๖๒
รวมเรอื่ งที่นา่ สนใจ
กลมุ่ พฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสทิ ธิในทีด่ ิน
(๑) ในกรณโี ฉนดที่ดินเปนอนั ตรายหรือสูญหาย ใหเ จาของท่ีดนิ ยน่ื คําขอและปฏิญาณตน
ตอเจาพนกั งานทีด่ ิน โดยใหน ําพยานหลกั ฐานมาใหเ จา พนักงานท่ีดินทําการสอบสวนจนเปนที่เช่ือถือไดและให
เจา พนักงานทีด่ ินประกาศใหท ราบมกี าํ หนดสามสิบวัน ประกาศน้ันใหปด ไวในท่ีเปดเผย ณ สาํ นักงานทด่ี นิ ทอ งท่ี
สาํ นักงานเขตหรอื ทว่ี าการอําเภอ หรอื ท่วี า การก่งิ อําเภอทองที่ ท่ีทาํ การแขวง หรือทีท่ ําการกาํ นันทองที่ และใน
บริเวณท่ีดนิ น้นั แหง ละหน่ึงฉบบั ในเขตเทศบาลใหปดไว ณ สาํ นักงานเทศบาลอกี หนงึ่ ฉบับ ถามผี คู ัดคานภายใน
เวลาท่ีกาํ หนดและนําพยานหลักฐานมาแสดง ใหเจา พนกั งานทด่ี ินสอบสวนแลว ส่ังการไปตามควรแกก รณี ถา ไมม ี
ผใู ดคดั คา นภายในเวลาทก่ี าํ หนดใหอ อกใบแทนโฉนดทด่ี นิ ใหไ ปตามคาํ ขอ
ฯลฯ
๔.๓ หนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๗๑๒/๘๙๔ ลงวนั ท่ี ๑๗ มกราคม ๒๕๒๙ เรอ่ื ง หารอื
การทาํ คําตราสนิ เพ่ือใชใ นการออกใบแทนโฉนดท่ดี ิน น.ส. ๓ หรือใบจอง สรุปวา ในการออกใบแทนโฉนดที่ดิน
หนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน หรือใบจอง กรณฉี บบั เดิมเปนอันตรายหรือสูญหาย ผูขอตองนําพยานบุคคลท่ี
เชื่อถอื ไดอยางนอ ย ๒ คน มาใหถ อยคํารับรองรองวา การใหถอยคาํ ของผขู อนาเชื่อถือและผูขอเปน เจาของที่ดินจรงิ
โดยพนักงานเจา หนาท่ีตอ งใชดลุ ยพินิจพิจารณาถอ ยคาํ พยานหลกั ฐานจนเปน ที่เชือ่ ถอื ได
๔.๔ หนงั สอื กรมทีด่ ิน ที่ มท ๐๗๑๓/ว ๑๖๖๔๘ ลงวนั ท่ี ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๓๒ เรื่อง การปด
ประกาศการออกหนงั สอื รับรองการทาํ ประโยชน สรุปวา “คณะกรรมการวนิ ิจฉับรองทุกข (คณะท่ี ๓) สํานกั งาน
คณะกรรมการกฤษฎกี า วนิ จิ ฉยั วา การปดประกาศ เปนหลกั เกณฑและวธิ ีการในการออกหนงั สือแสดงสิทธิในที่ดิน
ซ่งึ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๘ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗ ไดกําหนดใหนายอําเภอหรือปลัดอําเภอ ผูเปนหัวประจําก่ิงอําเภอเปนผูรับผิดชอบในการจัดทํา
ประกาศและดาํ เนินการใหมกี ารปด ประกาศ และใหมีหนาทใ่ี นการปด ประกาศดว ย
๔.๕ หนงั สือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๗๑๙/ว ๑๖๑๘๙ ลงวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๐ เร่ือง ซอม
ความเขาใจในการออกใบแทนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน สรุปวา วัตถุประสงคของหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท
๐๗๑๒/๘๙๔ ลงวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๒๙ เรื่อง หารือการทําคําตราสินเพ่ือใชในการออกใบแทนโฉนดที่ดิน
น.ส. ๓ หรือใบจอง นา จะมจี ุดมงุ หมายแตเพียงใหผ ขู อนําพยานบุคคลที่เชื่อถือไดมาใหถอยคํารับรองวาการให
ถอยคาํ ของผูข อนาเชอื่ ถือและผขู อเปนเจา ของที่ดนิ จรงิ เทา น้ัน บคุ คลทน่ี า เชื่อถอื จงึ ไมจาํ เปนตอ งเปน ขาราชการ
โดยใหเ ปนดลุ ยพนิ ิจของพนกั งานเจา หนาท่ี และการบันทึกคาํ พยานบคุ คลใหบนั ทกึ ถอ ยคาํ รบั รองเพยี งวา ถอ ยคาํ
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสาํ คญั
กรมทดี่ ิน
๖๓
รวมเรื่องทน่ี ่าสนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นที่ดิน
ของผูขอนาเช่ือถือและผูขอเปนเจาของท่ีดินนั้นจริงเทานั้น ไมควรบันทึกวาเปนผูรูเห็นเกี่ยวกับการสูญหาย
เวน แตกรณีท่พี ยานเปน บคุ คลใกลช ดิ หรือยูในบา นเดยี วกนั กบั เจา ของโฉนดที่ดนิ และพรอมท่ีจะใหถอยคํายืนยันวา
เปนผรู ูเ ห็นการสญู หายกใ็ หบันทกึ ถอ ยคาํ ไปตามทีพ่ ยานยนื ยนั ได
๔.๖ หนงั สือกรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๓๔๖๖๗ ลงวันท่ี ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ เร่ือง การปด
ประกาศการจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม สรุปวา เจตนารมณของกฎหมาย ระเบียบ หรือคาํ สั่งของทางราชการ
ไดก ําหนดไวชัดเจนแลว วา การปด ประกาศเปน หนาทท่ี ี่พนกั งานเจาหนาท่ตี องรับผิดชอบดาํ เนินการเพ่ือใหมีการ
ปดประกาศยังสถานท่ีตางๆ แตเนื่องจากยังมีสํานักงานท่ีดินบางแหงผลักภาระในการนําสงประกาศการขอ
จดทะเบียนสทิ ธิและนติ กิ รรมใหก ับผขู อจดทะเบยี นเปนผนู าํ สง เพอ่ื ไปปด ณ สถานที่ตางๆ ตามท่กี ฎหมายกาํ หนด
ทําใหผูขอไดรับความเดือดรอนและเกิดกรณีรองเรียนขึ้น จึงขอใหจังหวัดส่ังกําชับวา การสงประกาศการขอ
จดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมตามขอ ๕ ของกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ใหใ ชประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ และการสง ประกาศมรดกตามมาตรา ๘๑ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
ไปปด ยงั สถานที่ตางๆ ตามท่ีกฎหมายกาํ หนด รวมถงึ การสง ประกาศมรดกใหกบั บุคคลท่ีผขู อแจงวาเปนทายาท
ใหใชแบบพิมพ (ท.ด. ๔) เปนหนังสือนําสงโดยอนุโลม และใหพนักงานเจาหนาที่เปนผูจัดสงทางไปรษณีย
ลงทะเบียนตอบรับหรือจะมอบหมายใหเจาหนาท่ีของสํานักงานที่ดินที่เห็นสมควรเปนผูนําสงก็ได แตหาม
ผลกั ภาระการนาํ สง ประกาศไปใหก บั ผขู อจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมโดยเดด็ ขาด
กรณีพนกั งานเจา หนา ทน่ี าํ สงประกาศทางไปรษณียล งทะเบียนตอบรับ เม่ือลวงพนระยะเวลา
๑๕ วัน นับแตวันท่หี นว ยงานตา งๆ ไดร ับหนังสือนาํ สง ประกาศแลว ยังไมไดร บั รายงานการปดประกาศหรือไดรบั
แตไมค รบ ใหพ นักงานเจาหนา ทม่ี ีหนงั สอื ทวงถามหลกั ฐานรายงานการปด ประกาศ ไปยงั สถานที่จัดสงประกาศ
โดยใหสอบถามไปดวยวาไดดําเนินการปดประกาศตั้งแตเมื่อใด ทั้งน้ี ในการนําสงประกาศหามมิใหพนกั งาน
เจาหนา ทเ่ี รยี กรองคาจัดสงเพ่ิมเตมิ จากทก่ี ฎหมายกาํ หนด หรอื บังคบผูขอไปสงโดยไมสมัครใจ
สําหรับกรณีที่ผูขอมีความประสงคจะขอนําสงประกาศดวยตนเองใหบันทึกถอยคําไวเปน
หลกั ฐานและใหผ ขู อลงนามรับหนงั สือดังกลา ว พรอมทงั้ ชี้แจงใหผ ูขอทราบดวยวาจะตองนาํ สง ประกาศดังกลาว
สง ไปยงั สถานท่ีใด เมื่อสงแลวใหขอรับหลักฐานรายงานการปดประกาศทุกฉบับกลับมาสงคืนใหกับพนักงาน
เจา หนาที่ดว ย เพ่ือพนักงานเจาหนาทจี่ ะไดด ําเนนิ การในขน้ั ตอนตอ ไป
สาํ นักมาตรฐานการออกหนงั สอื สาํ คัญ
กรมทด่ี นิ
๖๔
รวมเร่ืองที่นา่ สนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธิในท่ีดิน
๕. ผลการพจิ ารณา
กรมทีด่ นิ พจิ ารณาแลว เห็นวา กรณโี ฉนดท่ดี ินสญู หายตามมาตรา ๖๓ แหง ประมวลกฎหมายท่ีดิน
กาํ หนดวา ใหเจา ของท่ีดินมาขอรบั ใบแทนโฉนดทดี่ ินนัน้ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความ
ในพระราชบัญญัติใหใ ชป ระมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๓๗ ขอ ๑๗ (๑) กาํ หนดวา ใหเจาของทีด่ ินย่ืนคําขอและ
ปฏิญาณตนตอ เจาพนกั งานท่ดี ินและนาํ พยานหลกั ฐานมาใหเจาพนกั งานท่ดี ินทาํ การสอบสวนจนเปน ท่เี ชอ่ื ถอื ได
จากนั้นใหเจาพนักงานที่ดินประกาศการออกใบแทนมีกําหนด ๓๐ วัน โดยใหปดประกาศไวในท่ีเปดเผย ณ
สํานักงานทด่ี นิ ทองท่ี สาํ นักงานเขต หรือท่ีวาการอําเภอ ที่ทําการแขวง ที่ทําการเขต หรือที่ทําการกํานันทองท่ี
และบรเิ วณทดี่ ินนั้น แหง ละหนึ่งฉบับ หากท่ีดนิ ตง้ั อยูใ นเขตเทศบาลใหป ด ณ สํานกั งานเทศบาลอีกหนงึ่ ฉบับ
การออกใบแทนโฉนดที่ดินนอกจากผูขอตองใหถอยคําตอพนักงานเจาหนาท่ีแลว หนังสือ
กระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๗๑๒/๘๙๔ ลงวันท่ี ๑๗ มกราคม ๒๕๒๙ เร่ือง หารือการทําคําตราสินเพอ่ื ใชในการ
ออกใบแทนโฉนดท่ีดิน น.ส. ๓ หรือใบจอง และหนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๗๑๙/ว ๑๖๑๘๙ ลงวันท่ี ๒๙
พฤษภาคม ๒๕๔๐ เรื่อง ซอมความเขาใจในการออกใบแทนหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน กําหนดใหผูขอตองนํา
พยานบุคคลท่เี ช่ือถอื ไดอ ยา งนอย ๒ คน มาใหถอยคํารับรองประกอบคําขอออกใบแทน พยานดังกลาวไมจําเปน
ตองเปนขาราชการ โดยใหเปนดุลยพินิจของพนักงานเจา หนาที่และการบันทึกถอยคําพยานบุคคลใหบันทึก
ถอ ยคํารบั รองเพียงวา ถอยคําของผูข อนาเช่ือถือและผูขอเปนเจาของที่ดินนั้นจริงเทาน้นั ไมควรบันทึกวาเปน
ผูรูเห็นเกย่ี วกบั การสญู หาย เวนแตกรณีที่พยานเปนบุคคลใกลชิดหรืออยูในบานเดียวกันกับเจาของโฉนดท่ีดิน และ
พรอ มที่จะใหถอ ยคาํ ยนื ยนั วาเปนผูรูเห็นการสญู หายกใ็ หบ ันทกึ ถอ ยคําไปตามท่ีพยานยนื ยนั ก็ได
สําหรับการสงหลักฐานใบปดประกาศเปนหนาท่ีของสํานักงานท่ีดินท่ีจะตองรับผิดชอบ
ดําเนินการ โดยจะมอบหมายใหเจาหนาท่ีของสํานักงานที่ดินนําไปสง หรือจะจัดสงทางไปรษณียลงทะเบียน
ตอบรับก็ได หากผูขอประสงคจะนาํ สงประกาศดังกลาวน้ันดวยความสมัครใจ สามารถดําเนินการไดโดยให
เจาหนาที่บนั ทกึ ถอ ยคาํ ผขู อไวเปน หลักฐานและใหลงนามรับหนังสอื ดงั กลาว พรอ มทง้ั ชี้แจงสถานท่ีสงประกาศ
และหลกั ฐานท่ตี อ งสง คืนแกเ จา หนาท่ี
๖. อางอิง
หนังสอื กรมท่ดี นิ ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๗๕๐๙ ลงวนั ที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ตอบผรู อ ง
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคัญ
กรมท่ีดนิ
๖๕
รวมเรื่องทน่ี า่ สนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสทิ ธใิ นท่ดี นิ
๑. พ.ศ. ๒๕๕๙
๒. เรอ่ื ง : หารือกรณผี มู สี ทิ ธจิ ดทะเบียนโอนกรรมสิทธิท์ ่ีดนิ ตามคาํ พิพากษาตามยอมขอออกใบแทน
๓. ขอ เท็จจรงิ : ประเด็นปญหา
จงั หวดั สงเรอ่ื งหารือ กรณี นาง จ ไดนาํ คาํ พพิ ากษาตามยอมของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
คดหี มายเลขแดงท่ี ผบ.๘๓/๒๕๕๘ ลงวนั ท่ี ๑๐ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๘ ระหวาง นาง จ โจทก กับ บริษัท อ จํากัด
(โดยนาย อ ผูชาํ ระบัญชี) จําเลย และนาย.ส.ไดนาํ คําพิพากษาตามยอมของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
คดีหมายเลขแดงที่ ผบ.๘๔/๒๕๕๘ ลงวันท่ี ๑๐ กุมภาพันธ ๒๕๕๘ ระหวาง นาย ส โจทก กับ บริษัท อ จํากัด
(โดยนาย อ ผูชําระบัญชี) จําเลย มาขอจดทะเบียนขายตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งศาลจังหวัด
นครศรีธรรมราชมีคาํ พพิ ากษา ตามยอมใหจาํ เลยโอนท่ดี ินพรอ มสงิ่ ปลกู สรา ง ใหแ ก นาง จ และนาย ส แตไมได
โฉนดท่ดี ินมาจดทะเบียน เน่ืองจากบรษิ ทั บ จํากัด ยดึ ถือโฉนดท่ดี นิ ไวเปน ประกันหน้ี จงึ ขอออกใบแทนโฉนดท่ีดิน
สํานกั งานท่ดี ินจังหวัดนครศรธี รรมราช ไดร บั คาํ ขอออกใบแทนฯ แลว เม่อื วันที่ ๑๗ มนี าคม ๒๕๕๘ และพิจารณา
แลว เห็นวา เมื่อโฉนดทีด่ ินดงั กลา วไมไดส ญู หาย แตเจา หนีย้ ึดถอื ไวตามขอ สญั ญาปรับปรุงโครงสรางหน้ี พนักงาน
เจา หนาทจ่ี ึงไมส ามารถเรยี กใหบ ริษัท บ จํากัด สงมอบโฉนดท่ีดินและไมมีอํานาจออกใบแทนตามกฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗ (๓)
แตบริษัท อ จํากัด จะตองขวนขวายนําโฉนดท่ีดินฉบับจริงมาเพื่อจดทะเบียนโอนตามคําสั่งศาลใหแกลูกคา
จึงขอหารอื วา ความเห็นของสาํ นกั งานท่ีดินจงั หวดั นครศรีธรรมราชถกู ตองหรือไม
๔. ขอกฎหมาย ระเบยี บ คาํ สงั่ :
๔.๑ ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๖๓
๔.๒ ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย
มาตรา ๒๔๑ ผใู ดเปน ผคู รองทรพั ยสินของผอู ื่น และมีหนอ้ี นั เปนคุณประโยชนแกตน
เก่ยี วดว ยทรัพยส ินซง่ึ ครองน้ันไซร ทา นวาผนู นั้ จะยดึ หนว งทรพั ยส นิ น้นั ไวจนกวาจะไดช าํ ระหน้ีก็ได แตความท่ีกลาวน้ี
ทา นมิใหใ ชบ งั คบั เมอื่ หน้นี ั้นยงั ไมถ งึ กําหนด
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สาํ คัญ
กรมที่ดิน
๖๖
รวมเร่อื งทน่ี ่าสนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นที่ดิน
อน่ึงบทบัญญัติในวรรคกอนน้ี ทานมิใหใชบังคับ ถาการท่ีเขาครอบครองนั้นเริ่มมา
แตท าํ การอันใดอนั หนงึ่ ซ่ึงไมชอบดว ยกฎหมาย
มาตรา ๗๐๒ อนั วาจํานองน้นั คอื สัญญาซ่ึงบุคคลหน่ึง เรียกวา ผูจํานอง เอาทรัพยสินตราไว
แกบุคคลอกี คนหน่ึง เรียกวา ผูรับจาํ นอง เปน ประกันการชําระหนี้ โดยไมส งมอบทรพั ยส ินนั้นใหแ กผ รู บั จาํ นอง
มาตรา ๗๐๕ การจํานองทรพั ยสินนั้น นอกจากผูเปนเจา ของในขณะน้ันแลว ทานวา
ใครอน่ื จะจํานองหาไดไม
มาตรา ๗๔๔ อนั จํานองยอมระงับสิ้นไป
(๑) เมือ่ หนท้ี ีเ่ ปนประกันระงับสนิ้ ไปดว ยเหตปุ ระการอนื่ ใดมใิ ชเหตุอายคุ วาม
(๒) เมอื่ ปลดจํานองใหแ กผจู าํ นองดวยหนังสือเปน สาํ คัญ
(๓) ... ฯลฯ
(“มาตรา ๗๔๔” แกไขโดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพงและ
พาณชิ ย (ฉบับท่ี ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗)
๔.๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘๖
ขอ ๑๘ เมือ่ ไดรบั อนญุ าตจากคณะกรรมการแลว หามมิใหผูจัดสรรท่ีดินทํานิติกรรม
กับบุคคลใดอันกอใหเกดิ ภาระแกที่ดนิ นนั้ เวน แตจะไดร ับอนญุ าตเปนหนงั สือจากคณะกรรมการ
๔.๔ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๗
๔.๕ คําพิพากษาศาลฎีกา ท่ี ๕๗๕๔ /๒๕๔๓ การที่จําเลยท่ี ๑ นําที่ดินอันเปนบริเวณ
หมูบา นจดั สรรไปจาํ นองพรอ มดวยส่ิงปลูกสรา งหรือบา นพพิ าทแกจําเลยท่ี ๒ อกี ภายหลังจากทห่ี มูบานจัดสรร
ดงั กลาว ไดจ ัดสรรที่ดนิ ขายแกโ จทกแ ลว โดยปรากฏขอความชัดเจนวา โฉนดท่ีดินพิพาทเปนท่ีดินท่ีอยูภายใต
การจัดสรรแลว ประมาณ ๒ ป จาํ เลยที่ ๒ ผูมีหนาทีเ่ กยี่ วของในฐานะผูส นบั สนนุ โครงการหากไดก ระทาํ การโดยสจุ รติ
กค็ วรจะไดเ ฉลยี วใจ หรือควรไดรถู ึงวา การมบี า นพิพาทเกดิ ขน้ึ ในภายหลังนัน้ ก็เน่อื งจากจาํ เลยท่ี ๑ จัดสรรขายใหแ ก
ลูกคาไปแลว แตจาํ เลยท่ี ๒ ก็มิไดกระทาํ การตรวจสอบหลักฐานการเปนเจาของใหไดความแนช ัดเสียกอน
จึงจะรับจดทะเบียนจํานองไว ประกอบกับจําเลยท่ี ๒ ในฐานะธนาคารผูสนับสนุนโครงการ ยอมตองทราบ
หรอื ถือวา ไดทราบวา มีประกาศของคณะปฏิวตั ิฉบบั ที่ ๒๘๖ หามทํานิติกรรมใดๆ.อันกอ ใหเกดิ ภาระแกที่ดินจัดสรร
สาํ นักมาตรฐานการออกหนังสอื สําคญั
กรมทด่ี ิน
๖๗
รวมเรอื่ งท่นี า่ สนใจ
กลุม่ พัฒนามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสิทธใิ นทด่ี นิ
เวน แตจ ะไดรบั อนุญาตเปน หนงั สือจากคณะกรรมการ ท้งั ไมปรากฏวา ในการทาํ นิติกรรมจดทะเบียนจาํ นองครง้ั นี้
ไดรับอนญุ าตเปน หนงั สอื จากคณะกรรมการแลวดวย พฤติการณเชื่อไดวาจําเลยที่ ๒ ไดจงใจหรือแกลงละเลย
ตอบทบญั ญตั ิแหงกฎหมายอนั มไี วดวยเจตนารมณเพ่ือปองกันประชาชนผูสุจริต โดยมุงประสงคแตในทางที่ได
กาํ ไรเพียงสถานเดียว ถอื ไดวา เปน การกระทําโดยไมสจุ รติ
๔.๖ หนงั สือกรมทดี่ ิน ที่ มท ๐๖๐๘/ว ๖๖๕๒ ลงวันท่ี ๑๖ มีนาคม ๒๕๑๔ เรอื่ ง ขอออกใบแทน
โฉนดท่ีดิน สรุปวา โฉนดที่ดินเปนหนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธ์ิที่ดิน ซึ่งตามปกติแลวยอมอยูในความยึดถือ
ครอบครองของเจาของทด่ี นิ สําหรบั กรณนี ้ี ศาลไดพ พิ ากษาใหจ าํ เลยสง คนื โฉนดทด่ี นิ ใหโจทกแลว จําเลยไมม เี หตุ
ที่จะอางไดวา โฉนดท่ีดินไดตกมาอยูในความครอบครองของตนโดยชอบ เม่ือจําเลยไมสงคืนและศาลไดออก
หมายจับจําเลยแลว แตย ังจับไมไ ด แสดงวาจําเลยไดหลบหนสี ญู หายไปพรอ มดว ยโฉนดทดี่ นิ เชน น้ี จงึ พอฟง ไดวา
โฉนดท่ีดินไดสูญหายไปจากความยึดถือครอบครองของเจาของที่ดิน อันทําใหเจาของท่ีดินชอบที่จะมาขอรับ
ใบแทนโฉนดทด่ี นิ นัน้ ไดตามมาตรา ๖๓ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
๔.๗ หนังสือกรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๗๑๒/ว ๐๑๒๗๕ ลงวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๓๐ เรื่อง การ
ออกใบแทนโฉนดที่ดนิ เพ่อื จดทะเบยี นโอนตามคําพิพากษาของศาล สรุปวา จากขอ ๑๑ (๓) แหงกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ทบี่ ัญญัติวา
ในกรณศี าลมีคาํ สง่ั หรอื มีคาํ พพิ ากษาเกีย่ วกบั โฉนดทด่ี นิ และปรากฏวา โฉนดท่ดี ินเดิมเปน อนั ตราย ชาํ รดุ หรอื สญู หาย
ดวยประการใด ใหปฏิบัติทํานองเดียวกับกรณีเจาของท่ีดินมาขอออกใบแทน เห็นวาการที่ศาลมีคาํ พิพากษา
ใหจ ําเลยจดทะเบยี นโอนกรรมสทิ ธิ์ทดี่ ินพรอ มส่ิงปลูกสรา งใหแ กโ จทก หากจาํ เลยไมปฏิบัติใหถ ือเอาคําพิพากษา
ของศาลเปนการแสดงเจตนา กรณีนี้ยอมถือไดวาเปนกรณีที่ศาลไดมีคําพพิ ากษาอันเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน
ตามกฎกระทรวงดังกลาวแลว ทั้งนี้ เพราะการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิตามคําพิพากษาดังกลาวจะตอง
มกี ารดําเนินการเกยี่ วกบั โฉนดท่ีดนิ กลาวคือ จะตอ งมีการจดแจงหรือบนั ทกึ สาระสําคญั แหงการโอนลงในโฉนดทด่ี นิ
ตามทีก่ ฎหมายบัญญตั ิไว และเมือ่ ขอเท็จจรงิ ปรากฏวาโจทกไดด ําเนนิ การโดยวิธีการตางๆ เพื่อใหไดโฉนดท่ีดิน
มาจากจาํ เลยแลว แตไมส ามารถนําโฉนดท่ีดินมาจากจําเลยไดเพราะจําเลยไดหลบหนีไป ไมทราบวาจะตามตัว
จําเลยไดจากท่ีใด และโจทกไ ดไปยน่ื คาํ ขอออกใบแทนโฉนดทด่ี ินตอ เจาพนักงานท่ีดินไวแลว ยอมถือไดวาเปนกรณี
โฉนดทดี่ นิ สญู หายดวยประการใดตามท่บี ญั ญัติไวในขอ ๑๑ (๓) แหงกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออก
ตามความในพระราชบัญญัติใหใ ชประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ดงั นั้น ดวยเหตุผลดังกลาวเจาพนักงานท่ีดิน
สํานักมาตรฐานการออกหนงั สือสาํ คัญ
กรมทีด่ ิน
๖๘
รวมเร่ืองทน่ี ่าสนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ
จึงจําเปนตองออกใบแทนโฉนดที่ดินใหแกโจทก ทํานองเดียวกับกรณีที่เจาของที่ดินมาขอออกใบแทนตาม
บทบัญญัติแหง กฎกระทรวงดงั กลา ว ทั้งน้ี เพื่อท่ีโจทกจะไดนําใบแทนโฉนดท่ีดินไปดําเนินการจดทะเบียนโอน
กรรมสิทธิ์ทด่ี นิ พรอมส่งิ ปลูกสรา งใหแ กโ จทกต ามคาํ พิพากษาไดต อ ไป
๔.๘ หนงั สือกรมทดี่ ิน ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๒๗๖๐๒ ลงวันท่ี ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ เร่ือง หารือ
การออกใบแทนโฉนดที่ดิน สรปุ วา นาย ส ซ่งึ เปนผูถอื กรรมสทิ ธใิ์ นที่ดินตามโฉนดที่ดนิ เลขท่ี ๕๕๓๕๑ หนาสํารวจ
๖๗๒๓ ตําบลหนองจะบก อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ไดยื่นคําขอออกใบแทนโฉนดท่ีดิน
โดยอางวา โฉนดทดี่ ินตกอยูในครอบครองของ นาง จ ทีไ่ มม ีสิทธิยึดถือ โฉนดที่ดินโดยชอบดว ยกฎหมาย เนื่องจากไดมา
จากการปลอมแปลงลายมือชื่อตนเอง พรอ มแนบเอกสารหลักฐานสําเนาคําพิพากษาศาลแขวงนครราชสีมา คดีแพง
(ผูบรโิ ภค) คดีหมายเลขแดงท่ี ผบ.๒๙๒/๒๕๕๔ ลงวันท่ี ๑๗ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๔ ระหวา ง นาง จ โจทก นาง ก ท่ี ๑
นาย ส ที่ ๒ จําเลย ซ่งึ ปรากฏตามคําพพิ ากษา วา นาง ก จําเลยที่ ๑ ไดปลอมแปลงลายมือช่ือในหนังสือมอบอํานาจ
ของนาย ส จําเลยท่ี ๒ เพื่อนําไปกูยืมเงินจาก นาง จ โจทก โดยสงมอบโฉนดท่ีดินของจําเลยท่ี ๒ เปน
หลักประกนั การกยู ืม โดยจาํ เลยท่ี ๒ ไมมสี วนเกีย่ วของในการกูยมื และจําเลยท่ี ๒ ไดมีการทวงถามโฉนดท่ีดินจากโจทก
แตโจทกไมยินยอมคืนโฉนดที่ดินให ดังนั้น การที่ นาง จ ยึดถือโฉนดท่ีดินไวโดยไมสงมอบโฉนดท่ีดินคืนใหแก
นาย ส เจาของทีด่ นิ จงึ เปนการยึดถือโฉนดทด่ี นิ ไวโดยไมมีสิทธติ ามกฎหมาย แตเนือ่ งจากศาลมไิ ดมคี าํ พิพากษา
ใหสง คืนโฉนดที่ดนิ ประกอบกบั กรณนี ี้ยงั ถือไมไ ดว า โฉนดที่ดนิ ไดส ญู หาย คือ หาไมพบ ตามความในมาตรา ๖๓ แหง
ประมวลกฎหมายทีด่ นิ ดงั นนั้ นาย ส จึงตอ งยน่ื คํารอง ตอ ศาลเพ่ือใหศาลมีคําบังคับให นาง จ สงคืนโฉนดที่ดิน หาก
นาง จ ไมส งคนื โฉนดทด่ี ินตามคาํ บงั คบั นาย ส ตอ งยนื่ คํารองขอใหศาลออกหมายจับเนื่องจากฝาฝนไมปฏิบัติตาม
คําสงั่ ศาลหรือรอ งขอตอ ศาลเพื่อใหศาลมคี าํ สง่ั ใหออกใบแทนโฉนดทดี่ นิ แลว นําหลักฐานดังกลา วมายน่ื ประกอบการ
ขอออกใบแทนตอ ไป
๔.๙ หนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๒๘๒๗๐ ลงวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เรื่อง
ขอหารือแนวทางปฏิบัติในกรณีมีผูยื่นคาํ ขอออกใบแทนโฉนดที่ดินและจดทะเบียนขายตามคําสั่งศาล สรุปวา
ตามคําพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๘๕๓๘/๒๕๕๒ ระหวาง สิบตาํ รวจเอก ป โจทก กบั นาง พ จําเลย ไดถึงที่สดุ แลว โดยศาล
พิพากษาใหจาํ เลยโอนที่ดินโฉนดที่ดินเลขท่ี ๑๑๗๘๙ ตําบลฝาละมี อาํ เภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ใหโจทก
โดยใหโ จทกชาํ ระเงนิ คาทีด่ นิ จาํ นวน ๑,๕๙๙,๕๐๓ บาท ใหจําเลย ถาจําเลยไมป ฏิบตั ติ าม ใหถอื เอาคําพิพากษา
แทนการแสดงเจตนา และใหจาํ เลยใชคาเสียหายแกโจทกจาํ นวน ๕๐,๐๐๐ บาท คาธรรมเนียมและคาใชจาย
สํานกั มาตรฐานการออกหนงั สอื สาํ คัญ
กรมที่ดนิ
๖๙
รวมเรอื่ งที่นา่ สนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ
ในการทํานติ ิกรรมโอนขายโอนทดี่ นิ ใหโจทกและจําเลยชาํ ระคนละกง่ึ หนึง่ ประกอบกบั ศาลอทุ ธรณ ภาค ๙ ไดว นิ จิ ฉยั
ในคดหี มายเลขแดงที่ ๘๑/๒๕๕๔ วา ตามคําพิพากษาศาลช้ันตน โจทกแ ละจาํ เลยตางมีหนา ที่ปฏิบัติการชําระหน้ี
ตามคาํ พิพากษาใหแ กกัน หาใชเปน การปฏิบัติการชาํ ระหนต้ี ามสญั ญาจะซื้อจะขายอีก ดังนั้น โจทกและจําเลย
ยอ มมสี ทิ ธิทีจ่ ะขอใหด าํ เนินการบงั คบั คดใี หอ กี ฝา ยปฏบิ ัตติ ามคําพพิ ากษาไดภ ายในสิบป นบั แตวันมคี ําพิพากษา
ถึงทส่ี ดุ ตามประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความแพง มาตรา ๒๗๑ หากโจทกไมปฏบิ ัติตามคาํ บงั คับของศาล จําเลย
ซง่ึ เปน เจา หนี้ตามคาํ พพิ ากษา ยอมมีสิทธขิ อใหศ าลออกหมายบังคับคดีตัง้ เจาพนักงานบังคับคดีเพ่ือดําเนินการ
ใหเ ปนไปตามคําบังคับเพอ่ื ใหปฏิบตั ิตามคาํ พพิ ากษาเทานั้น แตจําเลยจะขอใหศาลมีหมายบังคับคดีหามโจทก
ถอื เอาคาํ พิพากษาแทนการแสดงเจตนา หาไดไม ดงั นน้ั หากปรากฏขอเท็จจริงวาไดมีการปฏิบัติตามคําพิพากษา
โดยสิบตํารวจเอก ป ไดชาํ ระหนี้ตามสัญญาใหกับนาง พ หรือไดมีการวางทรัพย ณ สาํ นักงานวางทรพั ยแลว
นาง พ จาํ เลย ยอมมีหนา ท่ีท่ีจะตองจดทะเบียนโอนโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๑๗๘๙ ตําบลฝาละมี อําเภอปากพะยูน
จังหวดั พทั ลุง ใหแก สบิ ตํารวจเอก ป และเนื่องจากโฉนดท่ีดินดังกลาวยังไมถือวาสูญหายตามความในมาตรา ๖๓
แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน กรณีทส่ี ิบตาํ รวจเอก ป นาํ คําพพิ ากษามาขอออกใบแทน จงึ ยังไมอยูในหลักเกณฑที่จะ
สามารถรับคําขอไวได ซงึ่ เรอ่ื งทํานองนกี้ รมทีด่ นิ ไดว างแนวทางปฏบิ ัตไิ วต ามหนังสอื กรมทดี่ นิ ที่ มท ๐๖๐๘/ว ๖๖๕๒
ลงวันที่ ๑๖ มนี าคม ๒๕๑๔ เร่ือง ขอออกใบแทนโฉนดท่ีดิน และหนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๗๑๒/ว ๐๑๒๗๕ ลงวันท่ี
๑๖ มกราคม ๒๕๓๐ เร่ือง การออกใบแทนโฉนดทีด่ นิ เพือ่ จดทะเบยี นโอนตามคําพพิ ากษาของศาล ดังนนั้ หาก นาง พ
ไมดําเนินการโอนที่ดินหรือสง มอบโฉนดทด่ี นิ ให สิบตาํ รวจเอก ป ตอ งยืน่ คาํ รอ งตอศาลเพอ่ื ขอใหศาลออกคําบงั คับ
ให นาง พ ปฏบิ ัติตามคาํ พิพากษาหรอื สงมอบโฉนดท่ดี นิ เพอื่ นาํ ไปจดทะเบยี นโอนตามคาํ พิพากษาศาล หาก นาง พ
ไมปฏิบตั ติ ามคําบังคับ สิบตํารวจเอก ป ตอ งยื่นคาํ รอ งขอใหศาลออกหมายจับเนอ่ื งจากฝาฝน ไมป ฏบิ ตั ติ ามคาํ สง่ั ศาล
หรอื รอ งขอตอ ศาลเพื่อใหศาลมคี าํ สั่งใหออกใบแทนโฉนดทด่ี ิน แลวนําหลักฐานดังกลา วมายนื่ ประกอบการขอออก
ใบแทนตอไป
๕. ผลการพิจารณา
กรมท่ดี นิ พจิ ารณาแลวเห็นวา ตามขอเทจ็ จริงปรากฏวา บรษิ ทั อ จาํ กัด ไดยื่นคาํ ขอออกใบแทน
โฉนดท่ีดนิ เลขท่ี ๕๖๓๓, ๕๖๓๔, ๕๖๓๕, ๕๖๓๗ และ ๗๘๗๗๑ หนา สํารวจ ๓๘๕, ๓๘๖, ๓๘๗, ๓๘๙ และ ๙๙๘๐
ตาํ บลทา เรือ อาํ เภอเมืองนครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามคําขอฉบับลงวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
สํานักมาตรฐานการออกหนงั สือสําคญั
กรมท่ดี ิน
๗๐
รวมเร่อื งท่นี า่ สนใจ
กล่มุ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธิในทด่ี นิ
และโฉนดท่ีดินเลขที่ ๗๘๗๗๒, ๗๘๗๗๓ หนาสํารวจ ๙๙๘๑, ๙๙๘๒ ตําบลทาเรือ อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช
จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามคําขอฉบับลงวันท่ี ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ (ซึ่งโฉนดที่ดินดังกลาว เปนโฉนดที่ดิน
ท่จี ดทะเบยี นปลดจํานอง เมื่อวนั ที่ ๑๙ กุมภาพนั ธ ๒๕๔๐ และจดแจงวาท่ดี นิ แปลงน้ีอยูภายใตการจัดสรรที่ดิน
ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๔๐) โดยอา งวาโฉนดท่ีดินเดมิ สญู หาย ไมไ ดนําไปจํานอง จาํ นาํ หรือฝากไวก บั บุคคลอื่น
หรือกอ ภาระผกู พนั ใดๆ พนักงานเจาหนาทีไ่ ดดําเนินการในเรือ่ งการออกใบแทนโฉนดทีด่ นิ เลขที่ ๕๖๓๓, ๕๖๓๔,
๕๖๓๕, ๕๖๓๗ และ ๗๘๗๗๑หนาสํารวจ ๓๘๕, ๓๘๖, ๓๘๗, ๓๘๙ และ ๙๙๘๐ ตําบลทาเรือ อําเภอเมือง
นครศรีธรรมราช จงั หวัดนครศรธี รรมราช มีการจดแจงในสารบัญจดทะเบยี นวา ไดออกใบแทนโฉนดที่ดินใหใหม
แลว แตวนั ที่ ๒๕ กนั ยายน ๒๕๕๖ และโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๗๘๗๗๒, ๗๘๗๗๓ หนาสํารวจ ๙๙๘๑, ๙๙๘๒ ตําบลทาเรอื
อาํ เภอเมืองนครศรีธรรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช ไดจ ดแจงในสารบัญจดทะเบียนวาไดอ อกใบแทนโฉนดทดี่ นิ
ใหใ หมแ ลว แตวันที่ ๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ตอมาเม่อื วนั ที่ – พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ (สาํ นักงานทด่ี นิ ไดลงเลขท่ีรับ
หนังสอื ๑๑๐๔๒ ลงวนั ที่ ๑๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖) บริษทั บ จาํ กดั ไดม ีหนงั สอื แจง วาโฉนดทด่ี ินดังกลา วไมส ูญหาย
และมกี ารโอน สิทธิเรียกรองในหน้แี ละหลกั ประกันจากธนาคารนครหลวงไทย จาํ กัด (มหาชน) ตอ มาจนถึงบรษิ ทั บ
จํากดั บรษิ ัท บ จาํ กัด จงึ เปน ผรู บั โอนสิทธเิ รยี กรอ งในหนแี้ ละหลักประกันของบริษัทมาจากเจาหน้ีเดิมโดยชอบ
ดว ยกฎหมาย และโฉนดทด่ี ินดงั กลา วเปน โฉนดทด่ี ินท่ีอยใู นความยดึ ถอื ของบริษัท บ จํากัด ตามท่ีไดมีการตกลง
ปรับปรุงโครงสรางหน้ีเดิมกับธนาคารนครหลวงไทย จํากัด (มหาชน) ที่ใหธนาคารเปนผูยึดถือโฉนดที่ดิน
ทีป่ ลดจํานองไวเ ปนประกันหนข้ี องบรษิ ัททีม่ อี ยกู บั ธนาคารจนกวาจะชําระหน้ีเสรจ็ ส้ินแลว ซึ่งโฉนดที่ดินเหลานี้
ไดโอนมาเปน สทิ ธยิ ดึ ถือของบริษัท บ จาํ กดั สบื เนือ่ งจากการโอนสิทธิเรียกรองในหน้ีและหลักประกันดังกลาว
แตใ นขณะท่ีมกี ารดาํ เนนิ การขอออกใบแทนโฉนดท่ดี ินดงั กลาว ไมปรากฏรายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใดๆ
จึงเปนเหตุใหเช่อื ไดว า โฉนดทดี่ นิ ดงั กลาวเปนของบรษิ ัท อ จํากัด และเมือ่ มกี ารประกาศออกใบแทนโฉนดท่ีดิน
ก็ไมป รากฏวา มีการคดั คาน เจาหนา ท่ีจึงดําเนนิ การออกใบแทนโฉนดที่ดินและแจกใหกับบริษัท อ จํากัด จึงเปน
การดําเนนิ การไปตามระเบียบกฎหมายแลวตอ มาบรษิ ัท อ จํากัด ไดสง ใบแทนโฉนดทีด่ ินดงั กลา วใหสาํ นกั งานทดี่ นิ
เพือ่ สงคืนใหบ รษิ ทั บ จาํ กดั ยดึ ถอื ไว
หลงั จากน้ัน เมื่อวันท่ี ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘ นาง จ และนาย ส ไดนําคําพิพากษาตามยอม
มายื่นคําขอจดทะเบียนโอนที่ดินพรอมทั้งย่ืนคําขอออกใบแทนโฉนดที่ดินโดยอางวา เปนผูมีสิทธิจดทะเบียน
ตามคําพิพากษาของศาลและไมไ ดโ ฉนดท่ีดนิ มา จงึ ขอใหอ อกใบแทนโฉนดทด่ี นิ เพือ่ จดทะเบียนตามคาํ พิพากษาตามยอม
สํานกั มาตรฐานการออกหนงั สือสําคัญ
กรมท่ีดนิ
๗๑
รวมเร่อื งท่นี า่ สนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นท่ีดนิ
ตามขอหารือจึงมีประเด็นที่ตองพิจารณาวา นาง จ และนาย ส เปนผูมีสิทธิจดทะเบียนตามคําพิพากษาของศาล
แตไมไดโฉนดที่ดินมา มีสิทธิท่ีจะยื่นคําขอออกใบแทนเพื่อจดทะเบียน ตามคําพิพากษาดังกลาว หรือไม ซึ่งจากการ
ตรวจสอบสญั ญาประนปี ระนอมยอมความในคดีหมายเลขแดงท่ี ผบ.๘๓/๒๕๕๘ และที่ ผบ.๘๔/๒๕๕๘ ลงวันท่ี ๑๐
กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๘ ระหวา ง นาง จ โจทก กบั บริษัท อ จํากัด โดยนาย อ ผูชําระบัญชี จําเลย และระหวางนาย ส
โจทก กบั บรษิ ทั อ จํากัด โดยนาย อ ผูช ําระบัญชี จาํ เลย ตามลําดับ ไดร ะบวุ าจําเลยตกลงโอนทด่ี ินจาํ นวน ๓ แปลง
คือ โฉนดท่ีดินเลขที่ ๕๖๓๓, ๕๖๓๔ และ ๕๖๓๕ หนาสํารวจ ๓๘๕, ๓๘๖ และ ๓๘๗ ตําบลทาเรือ อําเภอ
เมอื งนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช พรอมส่ิงปลูกสรางใหแกนาง จ และโฉนดที่ดินเลขที่ ๕๖๓๗,
๗๘๗๗๑, ๗๘๗๗๒ และ ๗๘๗๗๓ หนาสํารวจ ๓๘๙, ๙๙๘๐, ๙๙๘๑ และ ๙๙๘๒ ตําบล อําเภอและจังหวัด
เดียวกนั พรอ มส่งิ ปลกู สรา งใหแ ก นาย ส ซ่ึงโฉนดที่ดินท้ัง ๗ ฉบับ เปนโฉนดที่ดินท่ีอยูภายใตการจัดสรรที่ดิน
โดยปรากฏขอเทจ็ จรงิ จากคาํ ฟองในคดหี มายเลขดาํ ท่ี ๑๓๕๙/๒๕๕๘ ลงวนั ท่ี ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ วา โจทก
เปนผูท่ีซ้ือที่ดินจัดสรรตามโฉนดท่ีดินดังกลาวโดยไดชาํ ระเงินแกจาํ เลยครบถวนแลว โจทกจึงเปนผูมีสิทธิขอ
จดทะเบียนโอนท่ีดนิ ทซ่ี ้อื จากจาํ เลยได การฟองรองและตกลงกันตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งศาล
ไดม คี ําพพิ ากษา ใหจ าํ เลยไปจดทะเบียนโอนที่ดินใหแ กโจทก หากจําเลยผิดนัดยินยอมใหถ ือเอาคําพิพากษาตาม
ยอมเปนการแสดงเจตนาของจาํ เลย จึงเปนการพจิ ารณาพพิ ากษาเพื่อใหคูความไปดําเนินการจดทะเบียนโอนท่ีดิน
ใหแ กค คู วาม โจทกจ ึงเปนผูมีสิทธิจดทะเบียนตามคําพิพากษาตามยอมและหากไมไดโฉนดที่ดินมาก็ชอบที่จะ
ย่ืนคําขอออกใบแทนโฉนดท่ีดนิ ได ตามขอ ๑๗ (๓) แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความ
ในพระราชบัญญัตใิ หใ ชประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
แตเ นอื่ งจากเร่ืองน้ี บริษัท อ จํากดั ไดยน่ื คาํ ขอออกใบแทนโฉนดทีด่ ิน ซ่ึงมโี ฉนดที่ดินท้ัง ๗ ฉบับ
รวมอยูด วย โดยไดร บั ใบแทนโฉนดท่ีดินแลว และสง ใหสํานักงานที่ดินเพื่อคนื ใหบรษิ ทั บ จาํ กดั ยึดถือตามขอตกลง
ปรับปรุงโครงสรางหน้ี แตยังไมมีการสงคืนใหบริษัท บ จํากัด และอยูในความดูแลของสํานักงานท่ีดินจังหวัด
นครศรธี รรมราช นั้น กรณกี ารยึดหนวงโฉนดทดี่ นิ ตามขอ ตกลงที่บริษทั อ จํากัด ไดทําไวกับบริษัท บ จํากัด เห็นไดวา
เปนการทํานิติกรรมกับบุคคลใดอันกอใหเกิดภาระแกท่ีดินท่ีอยูภายใตการจัดสรรโดยไมปรากฏวามีการอนุญาต
เปนหนังสือจากคณะกรรมการ จงึ เปนการกระทําฝาฝนขอ ๑๘ แหงประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘๖ (เทียบเคียง
คาํ พิพากษาฎกี าที่ ๕๗๕๔/๒๕๔๓) ขออางระหวาง บริษัท บ จํากัด กับ บริษัท อ จํากัด จึงไมอาจนํามาใชยัน
กบั บุคคลภายนอกท่ซี ้ือทดี่ ินจัดสรรในโครงการที่ไดรบั อนุญาตได และชอบท่ีคูกรณีจะไปวากลาวกันเอง สวนการ
สํานกั มาตรฐานการออกหนงั สือสาํ คัญ
กรมทด่ี ิน
๗๒
รวมเร่ืองทนี่ ่าสนใจ
กลุม่ พฒั นามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธิในท่ีดนิ
ขอสรา งใบแทนเพือ่ จดทะเบยี นในโฉนดทดี่ ินทัง้ ๗ ฉบับ เนอ่ื งจากกรณนี ้ี ปรากฏวาโฉนดท่ีดิน (ฉบับใบแทน) ยังอยู
ในความดแู ลของสํานกั งานทด่ี นิ จังหวดั นครศรีธรรมราช มไิ ดมีการสญู หาย จึงไมอาจดาํ เนินการออกใบแทนตาม
คาํ ขอของนาง จ และนาย ส ได
ดงั น้ัน ตามขอ หารือดงั กลาว สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สําคญั พิจารณาแลวเห็นวา
๕.๑ ในการดําเนินการขอออกใบแทนโฉนดท่ีดินเลขที่ ๕๖๓๓, ๕๖๓๔, ๕๖๓๕, ๕๖๓๗,
๗๘๗๗๑, ๗๘๗๗๒ และ ๗๘๗๗๓ หนาสาํ รวจ ๓๘๕, ๓๘๖, ๓๘๗, ๓๘๙, ๙๙๘๐, ๙๙๘๑ และ ๙๙๘๒ ตําบลทาเรือ
อาํ เภอเมอื งนครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ของบรษิ ัท อ จาํ กัด ดงั กลา ว ไดม กี ารดาํ เนนิ การไปโดยถกู ตอ ง
ตามข้ันตอน ระเบียบและกฎหมาย ตามมาตรา ๖๓ แหง ประมวลกฎหมายท่ดี นิ จงึ มผี ลเปนการออกใบแทนแลว
ทําใหโ ฉนดท่ีดนิ เดมิ เปน อันยกเลกิ
๕.๒ ในกรณีการขอจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมประเภทโอนที่ดินตามคาํ พิพากษาตามยอม
ในกรณดี ังกลา วโดยไมไ ดโฉนดที่ดินมา ถอื วา นาง จ และนาย ส เปน ผมู ีสิทธจิ ดทะเบียน ตามคําพพิ ากษาของศาล
แตเ นื่องจากโฉนดท่ีดินดงั กลาว (ใบแทนโฉนดทดี่ ิน) ไมปรากฏวาสูญหาย แตอยูใ นความดูแลของสาํ นักงานทดี่ นิ จงั หวัด
นครศรีธรรมราช ซ่ึงบริษทั อ จํากดั จะตอ งดําเนนิ การจดทะเบียนใหแ ก นาง จ และนาย ส ตามคําพิพากษาตามยอม
สวนการยึดหนวงของบรษิ ัท บ จํากัด ไมสามารถยกมากลาวอางกับโฉนดที่ดินท่ีอยูภายใตการจัดสรรท่ีดินได
แตเพ่ือใหคูกรณีไดรับทราบและดําเนินการตามคําพิพากษาตามยอม พนักงานเจาหนาที่ควรมีหนังสือแจงให
บรษิ ัท บ จํากัด ทราบเรือ่ งการขอจดทะเบียนตามคาํ พิพากษาตามยอม พรอ มท้ังแจงใหบ รษิ ัท อ จาํ กดั มาดําเนินการ
จดทะเบียนใหกับคูกรณีตามคําพิพากษาตามยอมในหลักฐานใบแทนท่ีไดสงไวท่ีสํานักงานท่ีดินฯ หากไมมา
ดําเนินการ จึงใหพนักงานเจาหนาท่ีดําเนินการจดทะเบียนโอนที่ดินในใบแทนโฉนดที่ดินที่จัดสรางไวกอนแลว
ตามคําพพิ ากษาดงั กลา วตอ ไป
อนง่ึ การทจี่ งั หวดั ไดต รวจสอบและจัดสงเอกสารหลกั ฐานเพ่มิ เติม จากการตรวจสอบไมป รากฏวา
เปนเร่อื งทเี่ กยี่ วของกับการขอออกใบแทนและขอจดทะเบียนโอนสิทธใิ นทีด่ ิน รวม ๗ แปลง ของนาง จ และนาย ส
ซง่ึ ไดมีคาํ พิพากษาตามยอมใหจดทะเบียนโอนสทิ ธิในทีด่ นิ ซงึ่ สืบเนื่องมาจากการซื้อขายและชําระราคาคาท่ดี ินแลว
(ตามท่ีปรากฏในสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช มีคาํ พิพากษาตามยอม
คดหี มายเลขแดง ท่ี ผบ.๘๓/๒๕๕๘ และท่ี ผบ.๘๔/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๐ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๘) อีกทง้ั ยงั ไมป รากฏวา
เปนเรื่องท่ีมีความสัมพันธเกี่ยวโยงกับเหตุการณท่ีหารืออยางไรหรือมีการโตแยงในเร่ืองการออกใบแทนวามีการ
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สําคัญ
กรมทีด่ ิน
๗๓
รวมเรื่องท่นี ่าสนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ
ดาํ เนินการท่ีไมชอบดวยกฎหมายในขณะน้ันเปนประการใด จึงยังไมมีขอเท็จจริงที่จะนํามาพิจารณารวมกัน
เพื่อประกอบการพจิ ารณาเปลยี่ นแปลงผลการพจิ ารณาเดมิ เหน็ ควรแจง ผลการพจิ ารณาใหจ งั หวดั เพอ่ื ดําเนินการตอไป
สวนขอเทจ็ จรงิ ทไ่ี ดรับเพิ่มเตมิ หากมีการดําเนนิ การในสวนท่ีเก่ียวของดังกลาวในปจจุบัน กเ็ ปนคนละกรณีกัน
การพิจารณาของจังหวัดยอมเปน ไปตามขอ เทจ็ จรงิ ท่ีเปล่ยี นแปลงไปน้ันๆ ได
๖. อา งองิ
หนังสอื กรมทีด่ นิ ดวนท่สี ดุ ที่ มท ๐๕๑๖.๕/๑๓๔๔๑ ลงวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ..๒๕๕๙ ตอบขอ
หารอื จงั หวัดนครศรธี รรมราช
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สําคัญ
กรมท่ีดนิ
๗๔
รวมเร่อื งทนี่ ่าสนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสิทธิในทีด่ ิน
๑. พ.ศ. ๒๕๕๗
๒. เรอ่ื ง : หารอื การออกโฉนดที่ดนิ
๓. ขอ เทจ็ จรงิ : ประเด็นปญหา
จังหวัดสงเรื่องหารือ กรณี นาย บ กับพวก ไดยื่นคาํ ขอรังวัดออกโฉนดท่ีดิน ตามคําขอฉบับ
ลงวนั ที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๓ โดยอาศัยหลักฐาน น.ส. ๓ เลขที่ ๑๐๐ หมูที่ ๕ ตําบลเสม็ด อําเภอเมืองบรุ ีรัมย
จงั หวัดบุรรี ัมย เนอ้ื ที่ ๔๔ ไร ๒ งาน ๕๐ ตารางวา ผลการรังวัดไดเนื้อที่ ๔๙ ไร ๒ งาน ๕๑ ตารางวา มากกวา
หลักฐานเดมิ ๕ ไร – งาน ๐๑ ตารางวา คิดเปนรอ ยละ ๑๑.๒๑ และไดดําเนินการตามขั้นตอนการออกโฉนดที่ดิน
เปน การเฉพาะรายแลว จากการตรวจสอบสารบบทด่ี นิ น.ส. ๓ เลขที่ ๑๐๐ ปรากฏวาออกจากหลกั ฐาน ส.ค. ๑
เลขที่ ๑๐๐ หมทู ่ี ๕ ตําบลเสมด็ อาํ เภอเมืองบรุ ีรัมย จงั หวัดบุรีรมั ย เนือ้ ที่ ๒๔ ไร - งาน - ตารางวา มีช่ือนาย พ
นาง ส และนาย พ เปนผแู จงการครอบครอง ขางเคยี งดานทศิ เหนอื จดนา นาย ด ระยะ ๘ เสน ทิศใตจดนา นาย ส
ระยะ ๘ เสน ทิศตะวันออกจดทุงกระโดง ระยะ ๓ เสน ทิศตะวันตกจดปา ระยะ ๓ เสน และตรวจสอบพบวา
มีหลักฐาน ส.ค. ๑ เลขท่ี ๑๗๖ หมูที่ ๕ ตาํ บลเสม็ด อําเภอเมืองบุรีรัมย จังหวัดบุรีรัมย เนื้อที่ ๔๐ ไร ๑ งาน
๖๕ ตารางวา มีช่ือ นาย พ เปนผูแจงการครอบครอง ขางเคียงดานทิศเหนือจดนา นาย ด ระยะ ๓ เสน ๑ วา
ทศิ ใตจ ดนา นาย ส ระยะ ๓ เสน ๑ วา ทิศตะวันออกจดหนองกงในระยะ ๑๓ เสน ๕ วา ทิศตะวันตกจดนา นาย ด
ระยะ ๑๓ เสน ๕ วา โดยยังไมมีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เมื่อพิจารณาขางเคียงระยะ ส.ค. ๑
ท้ังสองแปลงแลว นา เช่ือวาเมื่อครง้ั ขอออก น.ส. ๓ เลขท่ี ๑๐๐ ดงั กลาว เปนการนํา ส.ค. ๑ ผิดแปลงมาใชเปน
หลกั ฐานในการออก น.ส. ๓ โดยพจิ ารณาจากบนั ทกึ ถอยคําผขู อและผใู หญบาน ฉบับลงวนั ที่ ๘ ธนั วาคม ๒๕๐๔
เมือ่ ครั้งขอออก น.ส. ๓ เลขท่ี ๑๐๐ ระบวุ า ขา งเคียงดา นทศิ ตะวันออกความเปนจริงเปนหนองกงใน ไมใ ชท งุ กระโดง
ซ่ึงจังหวดั พิจารณาแลวเห็นวา ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๗๖ มีขางเคียงและระยะตลอดจนเน้ือที่ใกลเคียงกันกับ น.ส. ๓
เลขท่ี ๑๐๐ ที่ผูขอนํามาขอออกโฉนดที่ดิน จึงนาจะเปนการนํา ส.ค. ๑ มาออกผิดแปลง ดังน้ัน หากจังหวัดจะ
ดําเนนิ การแกไ ขเอกสารหลกั ฐานการออก น.ส. ๓ เลขที่ ๑๐๐ เปนเลขท่ี ๑๗๖ ซ่ึงออกจาก ส.ค. ๑ เลขท่ี ๑๗๖
จะถูกตองหรอื ไม แตเ นือ่ งจากกรณดี ังกลา วกรมท่ีดนิ ยังมิไดวางแนวทางปฏิบัติไว จึงขอหารอื วาความเห็นของ
สํานักมาตรฐานการออกหนงั สอื สาํ คญั
กรมทีด่ นิ
๗๕
รวมเรื่องทนี่ า่ สนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นที่ดิน
จังหวัดถูกตองหรือไม หรือตองดําเนินการเพิกถอน น.ส. ๓ เลขที่ ๑๐๐ และใหผูขอนําหลักฐาน ส.ค. ๑
เลขท่ี ๑๗๖ มาขอออกโฉนดทด่ี ินใหมตอ ไป
๔. ขอ กฎหมาย ระเบียบ คาํ สัง่
๔.๑ ประมวลกฎหมายที่ดนิ มาตรา ๕๙, ๖๑
๔.๒ กรมท่ีดินมีแนวทางปฏิบัติกรณีที่จังหวัดบุรีรัมยหารือ ตามหนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท
๐๕๑๖.๒/๒๖๓๙๐ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๙ เร่ือง การเพิกถอนหนังสือรับรองการทาํ ประโยชน แจงผล
การพิจารณาใหจังหวดั เชยี งรายทราบ สรุปวา การออกหนังสือรับรองการทาํ ประโยชนเปนการเฉพาะราย ตาม
มาตรา ๕๙ แหงประมวลกฎหมายทด่ี ิน เปนการออกโฉนดใหแ กผ มู ีสทิ ธคิ รอบครองท่ีดิน เมื่อขอเท็จจริงปรากฏวา
ทีด่ นิ ตาม น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๔๐๔ ตาํ บลหวยซอ อําเภอเชียงของ จงั หวัดเชียงราย ออกใหแก นาง ป เมื่อวันที่ ๑๘
มีนาคม ๒๕๒๘ เปน ท่ีดินทไ่ี ดม กี ารครอบครองทําประโยชนอยกู อ นวนั ท่ปี ระมวลกฎหมายทีด่ นิ ใชบ งั คับ และไดม ี
การแจงการครอบครองทีด่ ินไวตาม ส.ค. ๑ เลขท่ี ๒๐๘ หมูที่ ๑ ตาํ บลหวยซอ อาํ เภอเชียงของ จังหวัดเชยี งราย
มชี อ่ื นาย ต และนาง ส เปน ผแู จงการครอบครองทด่ี ิน เมื่อวนั ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๘ และนาง ป ไดครอบครอง
ตอ เน่ืองตลอดมา นาง ป จงึ เปนผมู ีสิทธคิ รอบครองท่ดี นิ ซง่ึ สามารถขอออกหนงั สือรับรองการทําประโยชนโดย
อาศัยหลักฐาน ส.ค. ๑ ฉบับน้ีไดตามมาตรา ๕๙ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน การท่ีพนักงานเจาหนาท่ีได
ดําเนนิ การออก น.ส. ๓ ก. เลขท่ี ๔๐๔ ไปโดยระบุวา เปนทีด่ ินตามหลกั ฐาน ส.ค. ๑ เลขท่ี ๑๘ หมูท่ี ๑ ตําบลหวยซอ
อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งนาย ป เปนผูแจงการครอบครองท่ีดิน เม่ือวันท่ี ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๙๘
ซงึ่ ไมตรงแปลงทดี่ นิ เปน เพยี งการคลาดเคล่ือนในขอเท็จจริงเทานั้น มิไดเปนการคลาดเคลื่อนโดยไมชอบดวย
กฎหมาย อันเปนเหตุใหตองดาํ เนินการเพิกถอนตามมาตรา ๖๑ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน แตประการใด
ในกรณีเชนนี้พนักงานเจาหนา ที่ชอบที่จะแกไขเร่อื งราวการออก น.ส. ๓ ก. ดังกลาว ใหถ กู ตองตามความเปนจริงได
และทีด่ ินตามหลักฐาน ส.ค. ๑ เลขท่ี ๑๘ หมทู ่ี ๑ ตําบลหวยซอ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เมื่อไมปรากฏวา
ไดม กี ารออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นที่ดนิ แตอยา งใดแลว กช็ อบทผี่ มู สี ิทธคิ รอบครองในทีด่ นิ ดงั กลา วจะไดนํา ส.ค. ๑
เลขที่ ๑๘ มาเปน หลกั ฐานในการออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นท่ดี นิ ตอได สว นกรณที ่ไี ดม ีการหมายเหตกุ ารออก น.ส. ๓ ก.
เลขที่ ๔๐๔ ไปโดยคลาดเคลือ่ นนัน้ ใหขีดฆาการหมายเหตุดงั กลาวออกเสีย แลวใหเจาพนักงานที่ดินลงชื่อและ
วัน เดอื น ป กํากับไว เพอื่ ใชเ ปน หลกั ฐานประกอบการพจิ ารณาออกหนงั สอื แสดงสิทธิในทีด่ ินตอไป สําหรับ ส.ค. ๑
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคัญ
กรมที่ดนิ
๗๖
รวมเรอ่ื งทนี่ า่ สนใจ
กลุม่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสิทธิในท่ดี ิน
เลขท่ี ๒๐๘ หมูท ่ี ๑ ตําบลหว ยซอ อําเภอเชยี งของ จังหวัดเชยี งราย ซึง่ ยังมิไดมกี ารหมายเหตุวาไดออกหนังสือ
แสดงสิทธใิ นที่ดนิ เมอื่ ขอเทจ็ จริงปรากฏวาเปนที่ดินเดียวกันกับ น.ส. ๓ ก. เลขท่ี ๔๐๔ ตําบลหวยซอ อําเภอ
เชียงของ จังหวัดเชียงราย ก็ใหดําเนินการหมายเหตุใน ส.ค. ๑ ดังกลาว และทะเบียนการครอบครองท่ีดินตาม
ระเบยี บและวิธีการดว ย
๕. ผลการพิจารณา
กรมที่ดินพิจารณาแลวเห็นวา กรณีดังกลาวเปนปญหาขอเท็จจริงที่จังหวัดตองตรวจสอบ
ขอ เทจ็ จรงิ ใหไดขอ ยุตวิ า หลกั ฐานเดิมของ น.ส. ๓ เลขที่ ๑๐๐ หมทู ่ี ๕ ตาํ บลเสมด็ อาํ เภอเมืองบุรีรัมย จังหวัด
บรุ รี ัมย เปน ส.ค. ๑ แปลงใด หากปรากฏขอเท็จจริงวาเปนการนํา ส.ค. ๑ ผิดแปลงมาใชเปนหลักฐานในการ
ออก น.ส. ๓ โดยการออก น.ส. ๓ ดังกลาวเปนการออกใหแกผูมีสิทธิครอบครองที่ดนิ และที่ดินอยใู นหลักเกณฑท่ี
สามารถออก น.ส. ๓ ใหได การที่พนกั งานเจา หนาทไ่ี ดดําเนินการออก น.ส. ๓ เลขท่ี ๑๐๐ ไปโดยระบุวาเปนท่ีดิน
ตามหลกั ฐาน ส.ค. ๑ เลขท่ี ๑๐๐ หมูท ี่ ๕ ตําบลเสมด็ อําเภอเมืองบุรีรัมย จังหวัดบุรีรัมย ซึ่งไมตรงแปลงที่ดิน
เปน เพยี งการคลาดเคล่อื นในขอเทจ็ จริงเทา นน้ั มิไดเ ปน การคลาดเคล่อื นโดยมชิ อบดวยกฎหมาย อันเปนเหตุให
ตองดําเนินการเพิกถอนตามมาตรา ๖๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน แตประการใด ในกรณีเชนน้ีพนักงาน
เจา หนาทชี่ อบทจี่ ะแกไขเร่อื งราวการออก น.ส. ๓ ดังกลา ว ใหถ กู ตอ งตามความเปน จรงิ ได และที่ดนิ ตามหลกั ฐาน
ส.ค. ๑ เลขท่ี ๑๐๐ หมทู ี่ ๕ ตําบลเสม็ด อาํ เภอเมอื งบรุ ีรัมย จงั หวดั บรุ รี มั ย เม่ือไมป รากฏวา ไดม กี ารออกหนงั สอื
แสดงสิทธิในทดี่ นิ แตอยา งใดแลว กช็ อบทผ่ี มู สี ทิ ธิครอบครองในที่ดินดังกลาว จะไดนํา ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๐๐ มา
เปน หลักฐานในการออกหนังสือแสดงสิทธใิ นที่ดนิ ตอไปได สวนกรณที ่ไี ดมกี ารหมายเหตุการออก น.ส. ๓ เลขท่ี ๑๐๐
ไปโดยคลาดเคล่อื นนั้น ใหขดี ฆา การหมายเหตุดังกลาวออกเสีย และใหเจาพนักงานท่ีดินลงชื่อและวัน เดือน ป
กํากบั ไว เพอ่ื ใชเ ปน หลักฐานประกอบการพิจารณาออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินตอ ไป สําหรับ ส.ค. ๑ เลขที่
๑๗๖ หมูท ่ี ๕ ตาํ บลเสม็ด
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนงั สอื สําคญั
กรมที่ดนิ
๗๗
รวมเรื่องที่นา่ สนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสิทธิในทด่ี ิน
อําเภอเมืองบุรีรัมย จังหวัดบุรีรัมย ซ่งึ ยังมิไดมีการหมายเหตุวาไดออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน ซ่ึงเปนท่ีดิน
แปลงเดียวกนั กับ น.ส. ๓ เลขที่ ๑๐๐ หมทู ี่ ๕ ตําบลเสม็ด อําเภอเมืองบุรีรัมย จังหวัดบุรีรัมย ก็ใหดําเนินการ
หมายเหตุใน ส.ค. ๑ เลขท่ี ๑๗๖ ดงั กลา ว และทะเบยี นการครอบครองที่ดนิ ตามระเบียบและวธิ ีการดวย
๖. อางองิ
หนังสอื กรมทดี่ นิ ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๒๑๓๗๒ ลงวันท่ี ๒๙ ตลุ าคม ๒๕๕๗ ตอบขอ หารือจงั หวดั บรุ รี มั ย
สาํ นักมาตรฐานการออกหนงั สอื สาํ คญั
กรมท่ีดนิ
๗๘
รวมเรอื่ งท่ีน่าสนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธิในทด่ี ิน
๑. พ.ศ. ๒๕๕๗
๒. เรอ่ื ง : หารือกรณีธนารักษพ ้นื ที่เชียงรายขอใหเพิกถอนโฉนดทด่ี นิ
๓. ขอ เทจ็ จรงิ : ประเด็นปญหา
จงั หวัดสง เร่อื งหารือ กรณีธนารักษพื้นที่เชียงรายขอใหเพิกถอนโฉนดท่ีดินเลขที่ ๔๐๓, ๔๐๔
และ ๔๑๖ ตําบลแมส าย อําเภอแมสาย จงั หวัดเชียงราย ตามมติทป่ี ระชมุ คณะกรรมการพิจารณาช้ีขาดการยุติ
ในการดําเนินคดีแพงของสวนราชการและหนวยงานท่ีเกี่ยวของ (กยพ.) ครั้งท่ี ๔/๒๕๔๗ เม่ือวันท่ี ๒๔
พฤษภาคม ๒๕๔๗ ซ่งึ มมี ติใหสาํ นักงานเทศบาลตาํ บลแมส ายสง มอบท่ดี นิ ตามหลกั ฐาน ส.ค. ๑ เลขที่ ๕๒๖ หมูที่ ๘
ตาํ บลแมส าย อาํ เภอแมสาย จงั หวดั เชียงราย สวนที่เปนท่ีต้ังสํานักงานและพื้นที่ซงึ่ เปนเขตบริเวณของสํานักงานคืนให
กรมธนารักษ เพอ่ื ขนึ้ ทะเบียนเปน ทร่ี าชพสั ดุ สวนโฉนดทีด่ ินเลขท่ี ๔๐๓, ๔๐๔ และ ๔๑๖ ตําบลแมสาย อําเภอ
แมสาย จังหวัดเชยี งราย ที่ออกโดยมิชอบ ใหก รมธนารักษดําเนนิ การเพื่อใหม ีการเพกิ ถอนตอไป สํานักงานท่ีดิน
จังหวัดเชียงราย สาขาแมสาย เห็นวา ที่ดินสวนที่เปนตลาด (โฉนดที่ดินเลขที่ ๔๐๓, ๔๐๔ และ ๔๑๖) เปน
ทรัพยส ินทท่ี างราชการถอื ไวเปนกรรมสิทธ์ิแบบเดียวกับเอกชนและนํามาจัดหาผลประโยชนโดยทําเปนตลาด
เปนสาธารณสมบัติของแผนดินโดยเฉพาะตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๓๐๔ (๓) และ
สามารถนาํ มาออกเปนโฉนดท่ีดนิ ไดและเปน ทีร่ าชพัสดุ โฉนดท่ีดินดังกลาวจะตองออกใหแกกระทรวงการคลัง
เม่ือโฉนดท่ีดินดังกลาวไดมีการรังวัดชันสูตรสอบสวนตามระเบียบแลว และที่ดินสามารถออกโฉนดที่ดินได
การออกโฉนดที่ดินจึงชอบแลว จึงควรแกไขโดยเปล่ียนชื่อผูถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดท่ีดินท้ังสามแปลงจาก
“สุขาภิบาลแมส าย จงั หวัดเชียงราย” เปน “กระทรวงการคลัง” โดยไมต อ งเพิกถอนโฉนดท่ดี ิน จังหวัดเชียงราย
เห็นวา ประมวลกฎหมายท่ีดิน มาตรา ๖๑ วรรคเจ็ด กาํ หนดวา “ถามีการคลาดเคล่ือนเนอื่ งจากเขียนหรือพิมพ
ขอความผิดพลาดโดยมหี ลักฐานชดั แจง และผมู สี ว นไดเสยี ยินยอมเปน ลายลักษณอ ักษรแลว ใหเจาพนกั งานทด่ี นิ
มีอํานาจหนา ที่แกไขใหถูกตองได” ซึ่งหากจะมีการแกไขตามบทบัญญัติดังกลาว จะตองมีการเขียนหรือพิมพ
ขอความผิดพลาด และผูมีสวนไดเสียยินยอมเปนลายลักษณอักษรแลวเทาน้นั จึงจะดาํ เนินการได ในกรณีน้ี
ผูถือกรรมสิทธ์ิในท่ีดินเปนผูไมมีสิทธิในท่ีดินถึงแมวาจะเปนหนวยงานของรัฐเชนเดียวกัน แตการใชบังคับ
กฎหมายในท่ีดินตางกัน การแกไขช่ือยอมกระทบถึงสิทธิในที่ดินของผูถือกรรมสิทธิ์เดิม อันอาจโตแยงและ
สาํ นักมาตรฐานการออกหนังสอื สาํ คญั
กรมท่ีดิน
๗๙
รวมเรื่องทนี่ า่ สนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นท่ดี ิน
ฟองรองไดต ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง มาตรา ๕๕ เมอ่ื ขอเทจ็ จรงิ ปรากฏวาโฉนดทด่ี นิ ดงั กลา ว
เปนทร่ี าชพสั ดุตามที่คณะกรรมการพิจารณาช้ีขาดการยุติในการดาํ เนินคดีแพง ของสวนราชการและหนวยงานที่
เก่ียวของ (กยพ.) ไดมมี ติไว ยอมเปน การโตแ ยงสิทธิในท่ีดินของเทศบาลตําบลแมสาย โฉนดท่ีดินท้ังสามแปลง
ยอ มเปนโฉนดทด่ี นิ ท่ีออกไปโดยไมชอบดวยกฎหมาย จงึ ตอ งเพิกถอนโฉนดท่ีดนิ ตามมาตรา ๖๑ วรรคแรก แหง
ประมวลกฎหมายทดี่ ิน จังหวัดเชียงรายจึงหารอื วาความเหน็ ของจงั หวัดเชยี งรายถกู ตอ งหรอื ไม
๔. ขอ กฎหมาย ระเบียบ คําส่ัง
๔.๑ ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๑๓๐๔, ๑๓๗๘
มาตรา ๑๓๐๔ สาธารณสมบัติของแผนดินน้นั รวมทรัพยส ินทุกชนิดของแผนดินซ่ึงใชเพื่อ
สาธารณประโยชนหรือสงวนไวเพือ่ ประโยชนรวมกัน เชน
(๑) ท่ีดนิ รกรา งวางเปลา และท่ดี ินซึ่งมีผูเวนคืนหรือทอดท้ิงหรือกลับมาเปนของแผนดิน
โดยประการอ่ืน ตามกฎหมายทด่ี ิน
(๒) ทรัพยส ินสําหรับพลเมืองใชรวมกนั เปน ตน วาทช่ี ายตลงิ่ ทางนํา้ ทางหลวง ทะเลสาบ
(๓) ทรัพยส นิ ใชเ พอื่ ประโยชนของแผนดนิ โดยเฉพาะ เปน ตน วา ปอม และโรงทหาร สํานัก
ราชการบา นเมือง เรอื รบ อาวุธยุทธภัณฑ
๔.๒ ประมวลกฎหมายทดี่ ิน
มาตรา ๖๑ เมอ่ื ความปรากฏวาไดออกโฉนดทด่ี ินหรือหนงั สือรับรองการทําประโยชน หรอื
ไดจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรมเก่ยี วกับอสังหาริมทรัพย หรอื จดแจง เอกสารรายการจดทะเบยี นอสังหารมิ ทรพั ย
ใหแกผูใ ดโดยคลาดเคล่อื นหรือไมชอบดวยกฎหมาย ใหอ ธบิ ดหี รอื รองอธิบดซี ่งึ อธิบดมี อบหมายมอี าํ นาจหนา ทส่ี ง่ั
เพิกถอนหรือแกไ ขได
ฯลฯ
๔.๓ พระราชบัญญตั ทิ ่ีราชพสั ดุ พ.ศ. ๒๕๑๘
มาตรา ๔ ท่รี าชพสั ดุ หมายความวา อสังหาริมทรัพยอ นั เปน ทรัพยสนิ ของแผนดินทุกชนิด
เวน แตสาธารณสมบตั ขิ องแผน ดนิ ดงั ตอ ไปนี้
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สาํ คญั
กรมทด่ี ิน
๘๐
รวมเร่อื งทนี่ ่าสนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสิทธิในทด่ี นิ
(๑) ท่ดี นิ รกรางวา งเปลา และที่ดินซ่ึงมีผูเวนคืนหรือทอดท้ิงหรือกลับมาเปนของแผนดิน
โดยประการอนื่ ตามกฎหมายท่ีดนิ
(๒) อสงั หาริมทรัพยสําหรับพลเมืองใชหรือสงวนไวเพื่อประโยชนของพลเมืองใชรวมกัน
เปนตนวา ที่ชายตล่ิง ทางน้ํา ทางหลวง ทะเลสาบ
สวนอสังหารมิ ทรัพยของรฐั วิสาหกิจที่เปนนิติบุคคลและขององคกรการปกครองทองถิ่น
ไมถ อื วา เปนที่ราชพสั ดุ
มาตรา ๕ ใหกระทรวงการคลังเปนผถู ือกรรมสทิ ธทิ์ ่รี าชพัสดุ
บรรดาท่รี าชพสั ดทุ ่ีกระทรวง ทบวง กรมใดไดมาโดยการเวนคืนหรือการแลกเปล่ียนหรือ
โดยประการอ่นื ใหกระทรวงการคลงั เขา ถอื กรรมสทิ ธ์ิในท่รี าชพสั ดุนน้ั ท้ังนย้ี กเวนทดี่ นิ ท่ไี ดมาโดยการเวนคนื ตาม
กฎหมายวา ดวยการปฏริ ปู ท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม
๔.๔ มติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี ๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๐ กาํ หนดแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการยุติ
ในการดาํ เนินคดแี พงของสวนราชการและหนวยงานท่เี กี่ยวของและแตงตงั้ คณะกรรมการพจิ ารณาชีข้ าดการยุติ
ในการดําเนินการคดีแพงของสวนราชการและหนวยงานที่เกี่ยวของ มีรัฐมนตรีวาการกระทรวงยุติธรรมเปน
ประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการ
คณะกรรมการกฤษฎีกาเปนกรรมการ และอัยการสูงสุดเปนกรรมการและเลขานุการ โดยใหมีอํานาจหนาท่ี
พิจารณาตัดสินช้ีขาดการยุติในการดําเนินคดีแพงของสวนราชการและหนวยงานท่ีเก่ียวของ แลวเสนอ
คณะรัฐมนตรเี พ่อื ทราบ
๔.๕ คําพิพากษาศาลฎีกาท่ี ๔๔๓๑/๒๕๕๐ สรุปวา เมื่อจําเลยเปนผูท่ีไมมีสิทธิอยางใดๆ ในที่ดิน
พิพาทและที่ดินพิพาทเปนท่ีดินที่อยูในเขตปาสงวนแหงชาติแลว จึงถือไดวาเปนที่ดินของรัฐประเภทปาสงวน
แหงชาติที่สามารถนํามาปฏิรูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรมไดตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯ และ
กรมปา ไมไ ดส ง มอบทดี่ นิ พิพาทซ่งึ อยูในเขตปา สงวนแหงชาติดงั กลา วใหแ กโจทกนําไปปฏริ ปู ทด่ี นิ เพอื่ เกษตรกรรม
ตาม พ.ร.บ. การปฏิรปู ทด่ี ินเพ่อื เกษตรกรรมฯ มาตรา ๒๖ (๔), ๓๖ ทวิ แลว โจทกจึงไมจําเปนตองจัดซ้ือหรือ
เวนคนื ทดี่ นิ พพิ าทกลบั มาเปน ของรัฐเสียกอ นตามท่ีจาํ เลยกลาวอา งแตอ ยางใด ดังนัน้ โจทกยอมมอี าํ นาจนาํ ที่ดิน
พิพาทไปปฏิรปู ทดี่ นิ เพื่อเกษตรกรรมได มติคณะรฐั มนตรีไมใชกฎหมายเปน เพยี งแนวทางปฏบิ ตั ิเทาน้ัน ซ่งึ จะทํา
ใหหรือไม ไดเพียงใด ก็ตองเปนไปตามท่ีกฎหมายในเรื่องน้ันบัญญัติไว ในกรณีเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินเพ่ือ
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนงั สือสําคัญ
กรมที่ดนิ
๘๑
รวมเร่ืองทนี่ า่ สนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสิทธิในท่ีดิน
เกษตรกรรม กต็ องเปน ไปตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพอื่ เกษตรกรรมฯ ดังนั้น บุคคลใดจะมีสิทธิท่ีจะไดท่ีดินเพ่ือ
เกษตรกรรมตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรมฯ ก็ตองเปนผูที่มีคุณสมบัติตามท่ีกฎหมายดังกลาว
กําหนดหาใชจะถอื ตามมตคิ ณะรัฐมนตรีดังกลา วแตเพยี งอยางเดยี วตามท่จี าํ เลยอางในฎีกาแตอยางใดไม ถึงแม
ในตอนแรกโจทกไดมอบหนงั สอื อนุญาตใหเ ขาทําประโยชนในเขตปฏิรูปท่ีดิน (ส.ป.ก. ๔-๐๑) ใหแกจ ําเลยไปแลว
แตเ มื่อมาตรวจสอบพบในภายหลงั วา จาํ เลยเปน ผูขาดคณุ สมบัติดงั กลา วก็สามารถทําการเพิกถอนไดเนื่องจาก
จําเลยเปนผทู ไ่ี มมีสิทธิท่จี ะไดห นังสอื อนญุ าตใหเขา ทาํ ประโยชนในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. ๔-๐๑) มาต้ังแตตน
และเมื่อเพิกถอนการอนุญาตใหจําเลยเขาทําประโยชนในเขตปฏิรูปที่ดินแลว จําเลยไมยอมออกไปจากที่ดิน
พิพาทซง่ึ เปน ของโจทก โจทกย อมมอี าํ นาจฟอ งขับไลจําเลยได
๕. ผลการพิจารณา
กรมทีด่ ินพจิ ารณาแลวเห็นวา เมื่อขอเทจ็ จริงปรากฏวา กรณีพพิ าทในทด่ี ินตามโฉนดท่ดี ินเลขที่
๔๐๓, ๔๐๔ และ ๔๑๖ ไดพจิ ารณาเปน ทย่ี ุตแิ ลว ตามมตขิ องคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดําเนิน
คดีแพง ของสวนราชการและหนวยงานทเ่ี กยี่ วของ (กยพ.) ครั้งท่ี ๔/๒๕๔๗ เมื่อวนั ท่ี ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ให
เทศบาลตาํ บลแมส ายสงมอบทีด่ นิ ตาม ส.ค. ๑ เลขที่ ๒๒๐, ๒๒๑ และทีด่ นิ ตาม ส.ค. ๑ เลขท่ี ๕๒๖ สวนท่ีเปน
ที่ต้ังสํานักงานเทศบาลตําบลแมสาย และพ้ืนท่ีซึ่งเปนเขตบริเวณของสํานักงานเทศบาลตําบลแมสายคืนแก
กรมธนารกั ษ เพ่อื ขึน้ ทะเบยี นเปนทีร่ าชพัสดุ สว นท่ดี นิ โฉนดทีด่ ินเลขท่ี ๔๐๓, ๔๐๔ และ ๔๑๖ ซ่ึงออกโดยมิชอบ
ใหก รมธนารักษด ําเนินการเพือ่ ใหม ีการเพิกถอน ประกอบกับการออกโฉนดที่ดินเลขท่ี ๔๐๓, ๔๐๔ และ ๔๑๖
ผูว าราชการจงั หวัดเชยี งรายไดม อบอาํ นาจใหป ระธานกรรมการสขุ าภิบาลแมสายเปน ผูท ําการแทนผูวาราชการ
จงั หวดั ในฐานะผแู ทนกรมการปกครองเพอื่ รังวดั ช้เี ขตท่ดี ิน และลงนามรบั รองเรื่องราวตางๆ ในการออกโฉนดท่ีดิน
แตสขุ าภิบาลแมส ายไดขอออกโฉนดท่ีดินในนามของสขุ าภบิ าลแมสายท้ังสามแปลง การออกโฉนดที่ดินจึงเปน
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสําคัญ
กรมทดี่ ิน
๘๒
รวมเรื่องที่นา่ สนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นที่ดิน
การออกไปโดยไมชอบเน่ืองจากเปนการออกโฉนดที่ดินใหแกผูไมมีสิทธิในท่ีดิน จึงตองเพิกถอนโฉนดท่ีดิน
ดังกลาวตามมาตรา ๖๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน และใหกรมธนารักษนาํ ท่ีดินดังกลาวขึ้นทะเบียนเปน
ท่ีราชพสั ดตุ อ ไป
๖. อางองิ หนังสอื กรมท่ดี นิ ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๒๔๐๙๒ ลงวนั ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ตอบขอหารอื จังหวดั
เชียงราย
สํานกั มาตรฐานการออกหนังสือสาํ คัญ
กรมทดี่ นิ
๘๓
รวมเรื่องท่นี า่ สนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสทิ ธใิ นท่ีดนิ
๑. พ.ศ. ๒๕๕๘
๒. เรอื่ ง : การเพิกถอนโฉนดที่ดนิ วัดสามแกว (ท่ีธรณสี งฆ)
๓. ขอ เทจ็ จรงิ : ประเด็นปญหา
จังหวัดสงเรื่องหารือกรมที่ดิน กรณี วัด ส ขอใหแกไขโฉนดที่ดินเลขที่ ๔๓๙๓๘ หนาสํารวจ
๕๒๙๕ ตําบลบางหมาก อําเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ซ่ึงมีชื่อวัด ส เปนผูถือกรรมสิทธิ์ ใหถูกตองตาม
วตั ถุประสงคของ ผูบ รจิ าคทีด่ นิ เน่อื งจากนาย ป เจาของทดี่ ินเดิมไดยกที่ดินแปลงดังกลาวใหเพื่อใชสรางวัด บ
แตวัด บ ในขณะนนั้ เปนเพยี งที่พกั สงฆไมใ ชวัดท่ีตง้ั ขึ้นโดยชอบดว ยกฎหมาย ซ่ึงไดอ อกเปน หนงั สือรับรองการทํา
ประโยชน (น.ส. ๓ ก.) เลขที่ ๒๓๖๔ ตาํ บลบางหมาก อําเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร มีชื่อวัด ส (ท่ีธรณีสงฆ)
เปน ผูถือสิทธิครอบครอง และตอมา น.ส. ๓ ก. ดังกลาวไดออกเปนโฉนดที่ดินเลขที่ ๔๓๙๘ หนาสํารวจ ๕๒๙๕
ตําบลบางหมาก อําเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ซ่ึงจังหวัดเห็นวา วัด ส ไมใชเจาของที่ดินและไมไดเปน
ผูค รอบครองและทําประโยชนในท่ีดิน จึงไมอยูในหลักเกณฑท่ีจะออก น.ส. ๓ ก. ได ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒
(พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซ่ึงใชบังคับอยูใน
ขณะนั้น จงึ ควรดําเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขท่ี ๔๓๙๘ หนาสํารวจ ๕๒๙๕ ตําบลบางหมาก อําเภอเมือง
ชุมพร จังหวัดชุมพร แลวออกโฉนดที่ดินในนามนาย ป และดําเนินการยกที่ดินใหวัด บ ตอไป จึงหารือวา
ความเห็นของจังหวัดถูกตองหรอื ไม ประการใด เพอื่ เปนแนวทางปฏิบตั ิตอไป
๔. ขอ กฎหมาย ระเบยี บ คาํ สง่ั :
๔.๑ ประมวลกฎหมายทดี่ ิน
มาตรา ๕๙ ในกรณีทผี่ ูมสี ทิ ธคิ รอบครองท่ดี นิ มาขอออกโฉนดท่ดี นิ หรอื หนังสือรับรองการทาํ
ประโยชนเปนการเฉพาะรายไมว าจะไดมีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา ๕๘ แลวหรือไมก็ตาม เม่ือพนักงาน
เจา หนาทพี่ จิ ารณาเห็นสมควร ใหดําเนนิ การออกโฉนดทด่ี นิ หรือหนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชน แลว แตกรณไี ดต าม
หลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารทป่ี ระมวลกฎหมายนกี้ าํ หนด
ฯลฯ
สํานกั มาตรฐานการออกหนังสอื สําคัญ
กรมทด่ี นิ
๘๔
รวมเรอ่ื งทน่ี ่าสนใจ
กล่มุ พฒั นามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ
มาตรา ๖๑ เมอ่ื ความปรากกฎวาไดออกโฉนดท่ีดินหรอื หนังสือรับรองการทําประโยชน
หรือไดจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย หรือจดแจงเอกสารรายการจดทะเบียน
อสังหาริมทรพั ยใ หแ กผูใดโดยคลาดเคลอ่ื นหรือไมชอบดว ยกฎหมาย ใหอ ธิบดีหรอื รองอธิบดซี ึ่งอธิบดีมอบหมาย
มีอาํ นาจหนาที่สงั่ เพกิ ถอนหรอื แกไขได
ฯลฯ
๔.๒ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๓ การออกหนงั สือรบั รองวา “ไดท ําประโยชนแ ลว ” ใหกระทาํ สาํ หรับที่ดินทจ่ี ะพงึ ออก
โฉนดที่ดนิ ไดตามกฎหมาย
๔.๓ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๘ ท่ีดินท่ีจะพึงออกโฉนดที่ดินตองเปนท่ีดินที่ผูมีสิทธิในที่ดินไดครอบครองและ
ทําประโยชนแลว และเปนทดี่ ินท่จี ะพึงออกโฉนดที่ดินไดตามกฎหมาย แตหามมิใหออกโฉนดที่ดินสําหรับที่ดิน
ดังตอ ไปนี้
ฯลฯ
๔.๔ พระราชบญั ญตั คิ ณะสงฆ พ.ศ. ๒๕๐๕
มาตรา ๓๔ การโอนกรรมสทิ ธ์ิท่ีวัด ท่ธี รณสี งฆ หรือที่ศาสนสมบตั ิกลาง ใหกระทําไดก ็แต
โดยพระราชบัญญตั ิ เวนแตเปน กรณตี ามวรรคสอง
ฯลฯ
๕. ผลการพิจารณา
กรมท่ีดินพิจารณาแลวเห็นวา น.ส. ๓ ก. เลขท่ี ๒๓๖๔ ตําบลบางหมาก อําเภอเมืองชุมพร
จงั หวัดชมุ พร ไดอ อกใหแ กวัด ส (ที่ธรณีสงฆ) เมอ่ื วันท่ี ๙ สงิ หาคม ๒๕๓๖ เนือ้ ที่ ๑๑ ไร ๒ งาน ๕๑ ตารางวา ตาม
มาตรา ๕๙ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน แตปรากฏขอเท็จจริงวา วัด ส มิไดเปนผูครอบครองและทาํ ประโยชน
ในท่ีดินดังกลาวแตอยางใด โดยผูบริจาคที่ดินมีวัตถุประสงคบริจาคที่ดินแปลงนี้เพ่ือเปนที่ต้ังสํานักสงฆวัด บ
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สําคญั
กรมท่ดี ิน
๘๕
รวมเร่อื งที่น่าสนใจ
กล่มุ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสิทธิในท่ีดนิ
แตเน่ืองจากสํานกั สงฆวดั บ ยงั ไมม ีสถานะเปนนิติบุคคล จึงไมสามารถรบั ใหท ี่ดินได ผบู รจิ าคทด่ี นิ และพระสถิต
ซึ่งเปน สมภารหัวหนา สาํ นกั สงฆวัด บ ในขณะนน้ั จึงตกลงใหอ อกหลักฐานสําหรบั ทดี่ ินเปน ช่ือวัด ส (ที่ธรณีสงฆ) ไปกอน
แลว จงึ ใหโ อนที่ดินใหสาํ นักสงฆวดั บ ในภายหลัง โดยมีหลักฐานปรากฏตามบันทึกคําขอรับรองการทาํ ประโยชน
ของวดั ส (ทธ่ี รณีสงฆ) ฉบบั ลงวนั ท่ี ๖ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๓๕ แบบพิสูจนรายการไตส วนผนู ําพิสูจน ขอ (๑), (๒) และ
(๓) ซึ่งระบุวา เปน ทต่ี ัง้ วัด บ ซึ่งตั้งมาต้ังแต พ.ศ. ๒๔๙๒ ประกอบกบั สํานักสงฆวัด บ มิไดเปนสาขาของวัด ส
หรือมีสว นเก่ยี วของกบั วดั ส จงึ ไมม ีมูลเหตุทีจ่ ะเชอื่ วา ผบู ริจาคทด่ี นิ มเี จตนายกทดี่ ินใหวัด ส การออก น.ส. ๓ ก.
ดังกลาว จึงเปนการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินไปโดยไมชอบดวยกฎหมาย เน่ืองจากออกใหแกผูท่ีมิได
ครอบครองและทาํ ประโยชนในทด่ี นิ ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิ
ใหใชป ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๘ ซึง่ บงั คบั ใชอยใู นขณะน้นั ตอมาเม่ือไดมกี ารนาํ น.ส. ๓ ก. ฉบับนี้
ไปออกเปนโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๔๓๙๓๘ หนาสาํ รวจ ๕๒๙๕ ตําบลบางหมาก อําเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
จงึ เปน ผลใหโฉนดที่ดินดังกลาวเปนโฉนดท่ีดินท่ีไมชอบดวยกฎหมายไปดวย ทั้งน้ี เนื่องจากเปนกรณีท่ีไดออก
หนงั สอื แสดงสิทธิในที่ดินใหแ กผ ูท ีม่ ไิ ดครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินตามที่กาํ หนดในกฎหมายดังที่ไดก ลา ว
มาแลว จึงเปน กรณีทไ่ี มสามารถแกไ ขโฉนดทด่ี ิน และ น.ส. ๓ ก. ได จะตอ งดําเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขท่ี
๔๓๙๓๘ หนาสํารวจ ๕๒๙๕ ตําบลบางหมาก อาํ เภอเมืองชมุ พร จงั หวดั ชมุ พร (สําหรบั น.ส. ๓ ก. เลขท่ี ๒๓๖๔
ตําบลบางหมาก อําเภอเมืองชุมพร จงั หวัดชมุ พร ไดถ กู ยกเลกิ ไปแลว โดยผลของกฎหมายตามมาตรา ๕๙ เบญจ
แหงประมวลกฎหมายที่ดิน) แลวใหผูมีสิทธิในที่ดินเปนผูย่ืนคําขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเพ่ือใชเปน
หลกั ฐานในการจัดตัง้ วัดตอ ไป โดยใหจ งั หวดั ดาํ เนนิ การ ตามนัยหนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๗๒๙.๒/ว ๒๑๑๗๙
ลงวนั ท่ี ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๔๕ เรือ่ ง แนวทางปฏบิ ตั ิเพ่ือดาํ เนินการตามมาตรา ๖๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
ใหครบถวน เสรจ็ แลว ขอไดส งเรื่องใหก รมทด่ี ินเพื่อพจิ ารณาดาํ เนนิ การตามมาตรา ๖๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
ตอ ไป
๖. อางองิ หนังสือกรมท่ดี นิ ที่ มท ๐๕๑๖.๕/๑๔๙๙๘ ลงวนั ท่ี ๒๔ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ตอบขอหารือจังหวัด
ชุมพร
สาํ นักมาตรฐานการออกหนังสือสาํ คัญ
กรมท่ดี นิ
๘๖
รวมเร่ืองท่ีนา่ สนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสิทธใิ นที่ดนิ
๑. พ.ศ. ๒๕๕๗
๒. เรอื่ ง : ขอความอนเุ คราะหข อ มลู การออกโฉนดท่ีดนิ
๓. ขอ เท็จจรงิ : ประเดน็ ปญ หา
กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอม ขอความอนุเคราะหขอมูลการออกโฉนดที่ดิน
กรณีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ มไดมคี าํ สง่ั แตต ัง้ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั ขา ราชการจาํ นวน
๕ ราย กรณีการออกโฉนดที่ดินบริเวณหาดฟรีดอม อาํ เภอกะทู จังหวัดภูเก็ต จาํ นวน ๒ แปลง เน้ือท่ี ๖๕ ไร
ในการพิจารณาทําความเหน็ เสนอในเร่ืองดงั กลา ว จําเปน ตองทราบหลักเกณฑและขน้ั ตอนในการออกโฉนดที่ดนิ
เพื่อใชเปนขอมูลประกอบในการพิจารณาไดอยางครบถวน คณะกรรมการสอบสวนจึงขอความอนุเคราะห
รับทราบขอ มลู จากกรมที่ดนิ ในประเด็นเก่ยี วกบั การออกโฉนดท่ีดนิ ดงั น้ี
๑. ในการขอโฉนดที่ดินเปนการเฉพาะรายตามมาตรา ๕๙ ทวิ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
ในเขตพ้นื ทีป่ าไม กรมท่ีดนิ มหี ลักเกณฑและขั้นตอนในการดําเนนิ การเปนอยา งไร
๒. การท่ีเจาหนาท่ีของกรมปาไม ไดมีความเห็นในกรณีท่ีกรมท่ีดินสอบถามเก่ียวกับแนวเขต
พ้ืนที่ปาไม โดยใชถอยคําในลักษณะแบงรับแบงสู ไมชี้ชัดใหชัดเจน เชน “…นาเชื่อไดวาไมอยูในเขตปาสงวน
แหงชาติ” กรณีตามตัวอยางในลักษณะน้ี กรมที่ดินมีแนวทางการพิจารณาใหนํ้าหนักจากถอยคําความเห็น
ดังกลาวท่ีจะใชประกอบดุลพินิจในการออกโฉนดที่ดินไดเพียงใด และตองนําไปพิจารณาประกอบกับ
พยานหลกั ฐานใดอกี หรอื ไม อยา งไร
๓. ในการตรวจสอบและการลงท่ีหมายหรือถายทอดแนวเขตปาในแผนที่ระวาง ๑:๔๐๐๐
ตามขอตกลงระหวางกรมที่ดินกับกรมปาไม กรณีการขอออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายตามมาตรา ๕๙ ทวิ แหง
ประมวลกฎหมายท่ีดิน มหี ลักเกณฑแ ละข้ันตอนการปฏิบตั อิ ยา งไร
๔. ตามขอ ๓. มขี อ ยกเวนพเิ ศษตา งหากไปจากบนั ทึกขอตกลงระหวางกรมทดี่ ินกับกรมปาไม
วา ดว ยการตรวจพสิ ูจน เพือ่ ออกโฉนดทด่ี ินหรอื หนังสือรับรองการทาํ ประโยชนซ่ึงเก่ียวกับเขตปาไม พ.ศ.๒๕๓๔
หรือไม อยางไร เชน ตองมีการแตงต้ังคณะกรรมการหรือไม หรือกรณีโดยปกติตามบันทึกขอตกลงดังกลาว
กรมท่ดี นิ จะตองจดั สงระวางภาพถายทางอากาศ มาตราสว น ๑:๔๐๐๐ ไปใหก รมปาไมเพื่อดําเนินการถายทอด
แนวเขตปา ในแผนท่รี ะวางทใี่ ชในราชการกรมทด่ี ิน ท้งั นี้ เปน ไปตามแผนงานโครงการและงบประมาณทกี่ รมทด่ี นิ
สาํ นักมาตรฐานการออกหนังสือสาํ คัญ
กรมทด่ี ิน
๘๗
รวมเร่อื งท่นี า่ สนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ
กําหนดไวเปนรายป แตหากเปนการขอโฉนดที่ดินเฉพาะรายตามมาตรา ๕๙ ทวิ กรมปาไม (สํานักจัดการ
ทรัพยากรปาไมในพน้ื ที่) มีหนาที่ถายทอดแนวเขตปาในแผนที่มาตราสวน ๑:๔๐๐๐ พรอมกับระบุวา ก.อ.
ลงในแผนที่เอง โดยท่ีกรมท่ีดิน (สํานักงานท่ีดินจังหวัด) ไมตองจัดสงแผนท่ีไปใหหรือไม และหากกรมปาไม
(สาํ นักจดั การทรัพยากรในพน้ื ท)ี่ จัดสงแผนท่ีท่ีขีดเขตและระบวุ า ก.อ. ในแผนท่ีใหกบั กรมท่ีดิน (สํานักงานที่ดิน
จงั หวัด) ในกรณนี ีแ้ ลว กรมทด่ี นิ (สาํ นกั งานทด่ี ินจังหวดั ) สามารถดําเนนิ การใหไปเปน หลักฐานในการออกโฉนดทด่ี นิ
หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนไดเลยหรือไม และจะตองพยานหลักฐานใดเพ่ือประกอบการพิจารณาอีก
หรือไม อยา งไร
๔. ขอ กฎหมาย ระเบยี บ คาํ สง่ั :
๔.๑ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน มาตรา ๕๙ และ ๕๙ ทวิ
๔.๒ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ.๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใชประมวล
กฎหมายที่ดนิ พ.ศ.๒๔๙๗
๔.๓ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๔.๔ บันทกึ ขอ ตกลงระหวา งกรมท่ดี นิ และกรมปา ไม วา ดว ยการตรวจพสิ จู นเพอ่ื ออกโฉนดท่ีดิน
หรือหนงั สือรับรองการทาํ ประโยชนซ่ึงเก่ยี วกับเขตปา ไม พ.ศ. ๒๕๓๔
๔.๕ ความเหน็ ของคณะกรรมการกฤษฎีกา เร่ือง หารอื เกย่ี วกับการออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนงั สือ
รับรองการทาํ ประโยชนใ นเขตปาไมต ามมาตรา ๕๙ ทวิ วรรคหนง่ึ แหง ประมวลกฎหมายทีด่ ิน เวยี นตามหนังสือ
กรมทดี่ ิน ดวนมาก ท่ี มท ๐๖๑๙/ว ๓๖๙๒๑ ลงวนั ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๓๕
๔.๖ หนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๕๑๖.๔/๓๐๗๙๙ ลงวันท่ี ๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ เร่ือง การ
ตรวจสอบโฉนดท่ีดนิ เลขท่ี ๙๘๔๑๔ และ ๙๘๔๑๕ ตาํ บลกะรน อําเภอเมืองภเู ก็ต จังหวดั ภเู กต็
สํานักมาตรฐานการออกหนังสอื สําคญั
กรมทีด่ นิ
๘๘
รวมเรือ่ งทน่ี า่ สนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นที่ดนิ
๕. ผลการพิจารณา
กรมทด่ี นิ พิจารณาแลว เห็นวา
๕.๑ การขอออกโฉนดทด่ี ินเปนการเฉพาะรายตามมาตรา ๕๙ ทวิ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
ในเขตพื้นท่ีปาไม ไมสามารถดาํ เนินการได ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องหารือเกี่ยวกับ
การออกโฉนดทด่ี นิ หรือหนังสอื รบั รองการทําในเขตปาไมต ามมาตรา ๕๙ ทวิ วรรคหนง่ึ แหง ประมวลกฎหมายที่ดิน
ซึ่งกรมปาไมเปนหนวยงานท่ีสงเรื่องหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาและกรมที่ดินไดมีหนังสือ ดวนมาก ท่ี มท
๐๖๑๙/ว ๓๖๙๒๑ ลงวนั ท่ี ๓ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ เวียนใหพ นกั งานเจาหนาที่ทราบ สรุปไดว าผคู รอบครองและ
ทําประโยชนใ นทด่ี นิ กอ นวันทีป่ ระมวลกฎหมายท่ดี นิ ใชบ ังคับตอ งแจง การครอบครองหรือตองไดรับการผอนผัน
การแจง การครอบครองจากผวู า ราชการจังหวัดตามมาตรา ๕ แหง พระราชบัญญัติ ใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗ เสียกอน จึงจะขอออกหนงั สือแสดงสิทธิในทีด่ นิ ได ตามมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งไดกําหนดวา ถาครอบครองและทําประโยชนโดยชอบดวยกฎหมายกอนวันใช
พระราชบญั ญตั ิออกโฉนดท่ีดนิ (ฉบับที่ ๖) พทุ ธศักราช ๒๔๙๗ ก็มีสทิ ธิขอรบั โฉนดท่ดี นิ ตามบทบัญญัติประมวล
กฎหมายท่ดี นิ ในกรณนี ้ีคือการขอออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นที่ดนิ เฉพาะรายตามมาตรา๕๙ แหง ประมวลกฎหมายทดี่ ิน
สวนผูท่คี รอบครองและทําประโยชนต งั้ แตวันที่พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๖) พุทธศักราช ๒๔๙๗
ใชบังคับท่ีมิไดดําเนินการใหชอบดวยกฎหมายที่ใชบังคับอยูในขณะนั้น การออกโฉนดท่ีดินใหเปนไปตาม
กฎกระทรวง (พ.ศ.๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ.๒๔๙๗ แมตอมา
มาตรา ๕๙ ทวิ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน ไดเปดโอกาสใหผูครอบครองและผูทําประโยชนในกรณีดังกลาว
ขา งตน สามารถออกโฉนดทด่ี ินหรือหนงั สือรบั รองการทําประโยชนได แตถา ท่ีดนิ นนั้ ถกู กําหนดเปนปาสงวนแหงชาติ
อทุ ยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุส ัตวป า เขตหา มลาสัตวปา หรอื มมี ตคิ ณะรฐั มนตรีใหส งวนไวเปน ปาไมถ าวรของชาติ
ไปกอนแลว พนกั งานเจา หนาท่ีกไ็ มอาจออกโฉนดท่ีดินหรอื หนังสือรับรองการทําประโยชนใหได เพราะผลของ
การไมแจงการครอบครอง ตามมาตรา ๕ แหง พระราชบญั ญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ.๒๔๙๗ ถือไดวา
บุคคลเหลานส้ี ละสทิ ธิครอบครองที่ดิน รฐั มอี าํ นาจจัดทดี่ ินดังกลาวตามบทบญั ญัติแหงประมวลกฎหมายที่ดินได
และการกาํ หนดเขตปา ไมของทางราชการขา งตนทาํ ใหที่ดนิ ดงั กลาวตอ งหา มมใิ หออกโฉนดท่ีดินตามขอ ๘ แหง
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ.๒๔๙๗
(ปจ จบุ ันเปน กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สําคัญ
กรมทด่ี ิน
๘๙
รวมเรอื่ งทนี่ ่าสนใจ
กลุม่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสิทธใิ นที่ดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗) โดยปาสงวนแหงชาติ อุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา หรือเขตหามลาสัตวปา ถือเปน
ทสี่ งวนหวงหามตามกฎหมายเฉพาะและเขตปา ไมถ าวรตามมติคณะรัฐมนตรีถอื วาเปน ทดี่ นิ ซงึ่ ทางราชการเหน็ วา
ควรสงวนไวเพ่ือทรัพยากรธรรมชาติ แมระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติจะไมไดกําหนดเงื่อนไข
ในเรอื่ งเขตปา ไมถาวรตามมตคิ ณะรฐั มนตรีไว แตเมือ่ ที่ดนิ ถกู กาํ หนดเปน เขตปาไมของทางราชการแลว จงึ ไมอ าจ
ออกโฉนดที่ดนิ หรือหนังสือรับรองการทาํ ประโยชนไ ด
๕.๒ กรณีทดี่ นิ ที่ขอรงั วดั ออกโฉนดที่ดนิ มพี ืน้ ทคี่ าบเกี่ยวเขตปาไม สํานักงานที่ดินในพ้ืนที่จะมี
หนังสือสอบถามสาํ นักจัดการทรัพยากรปาไมใ นพ้ืนท่ี ในฐานะผมู อี ํานาจรับผดิ ชอบดแู ลและจัดการทรัพยากรปาไม
วาทดี่ ินดังกลา วอยูในเขตปาไมหรือไม อยางไร หากสํานักจัดการทรัพยากรปาไมแจงผลการตรวจสอบโดยใช
ถอ ยคาํ วา “…นา เช่ือไดว าไมอยูในเขตปาสงวนแหง ชาต”ิ กรณดี ังกลา วถือวา ขอเท็จจริงยงั ไมช ดั เจน สํานักงานที่ดิน
ในพนื้ ทจ่ี ะมีหนังสือสอบถามสํานักจัดการทรัพยากรปาไมในพ้ืนที่อีกคร้ังเพื่อใหยืนยันวา ที่ดินท่ีขอรังวัดออก
โฉนดที่ดินอยใู นหรือนอกเขตปา ไม เพ่อื ใหไดข อเท็จจริงแลว จึงพจิ ารณาดาํ เนนิ การตอไป
๕.๓ ตามบันทกึ ขอ ตกลงระหวา งกรมทด่ี ินและกรมปา ไม วาดว ยการตรวจพสิ จู นเ พอ่ื ออกโฉนดทดี่ นิ
หรือหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชนซ งึ่ เก่ียวกบั เขตปา ไม พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดก าํ หนดหลักเกณฑใ นการตรวจสอบและ
การลงท่ีหมายหรือถายทอดแนวเขตปา ในแผนท่ีระวาง ๑:๔๐๐๐ วา
“ ขอ ๒ การตรวจสอบและการลงท่ีหมายหรือการถายทอดแนวเขตปาในแผนที่ระวางที่ใช
ในราชการกรมทดี่ ิน ใหด าํ เนนิ การดงั นี้
๒.๑ เขตปาสงวนแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา เขตอุทยานแหงชาติและเขต
วนอุทยาน ซึง่ กรมปาไมมหี ลกั ฐานการรงั วดั ทําแผนทกี่ าํ หนดขอบเขตทแ่ี นนอนแลว ในกรณีที่เขตปาไมดังกลาว
ใหญกวาเขตปาไมถาวร กรมที่ดินหรือเจาหนาท่ีผูเกี่ยวของจะจัดสงระวางใหกรมปาไมหรือปาไมเขตทองที่
แลวแตกรณี ดาํ เนินการลงที่หมายหรือถายทอดแนวเขตปาลงในระวางและแผนทาบระวางใหถูกตองตรงกัน
โดยใหล งที่หมายตําแหนงหลกั เขตตามแผนทที่ า ยพระราชกฤษฎกี าหรือแผนที่ทา ยกระทรวงหรอื แผนที่ประกาศ
กรมปาไมแลวแตกรณี ดวยวงกลมสีแดงขนาดผานศูนยกลาง ๓ ม.ม. ขีดรอบดวยสี่เหล่ียมจัตุรัส และเขียน
หมายเลขประจาํ หลกั เขตนน้ั ๆ เชน ๒ ขดี แนวเขตระวางหลักตอหลักดวยหมกึ สีแดง พรอมทัง้ เขียนช่ือปาสงวนแหงชาติ
เขตรักษาพันธสุ ัตวปา เขตอุทยานแหง ชาติ หรือเขตวนอุทยาน แลวแตกรณี ลงตามแนวเขตปาน้นั ...
ฯลฯ
สาํ นักมาตรฐานการออกหนงั สอื สาํ คัญ
กรมทีด่ ิน
๙๐
รวมเรื่องท่ีน่าสนใจ
กลมุ่ พัฒนามาตรฐานการออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นท่ดี นิ
๒.๒ วธิ ีจดั สง ระวางดังกลาว ใหเ จาหนาท่กี รมท่ดี ินจัดทําบญั ชีระวางท่จี ะมอบ
ใหเ จา หนาที่ปา ไมไ ปดาํ เนนิ การตามขอตกลงนี้ โดยไมมีชื่อ..........หมายเลข.........แผนท่ี.........ของระวาง ตาม
จํานวนทสี่ งมอบแตล ะคราว แลว ใหผูสง มอบและผูรบั มอบลงลายมอื ชือ่ ไวในบญั ชีทกุ ครง้ั เม่อื เจา หนาท่ีกรมที่ดนิ
รบั คนื เม่อื ใด ใหลง วนั เดือน ป ทรี่ ับคืน พรอ มทงั้ ลงลายมือชือ่ ผสู งคนื และผูรับคนื ไวเ ปนหลกั ฐานในบญั ชีทกุ คร้ัง...
ฯลฯ
การลงท่ีหมายหรือถายทอดแนวเขตปาไมในแผนที่ระวาง ๑:๔๐๐๐ เพ่ือให
สามารถตรวจสอบแนวเขตปาไม และนาํ มาประกอบการพจิ ารณาในการออกโฉนดที่ดนิ วา ทด่ี ินทที่ ําการรังวัดอยูใน
หรอื นอกหรือคาบเก่ยี วเขตปาไม แลว ดําเนนิ การตามท่ีกฎหมายและระเบียบวางแนวทางปฏิบตั ิไวตอ ไป สําหรับ
กรณีการออกโฉนดท่ีดินเฉพาะรายตามมาตรา ๕๙ ทวิ หากตําแหนงที่ดินทข่ี อออกโฉนดท่ีดินอยูในเขตปาไม
กรมท่ีดินจะไมดําเนินการออกโฉนดท่ีดินตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ.๒๔๙๗ ขอ ๑๔ หรอื ไม ตอไป
๕.๔ ในทางปฏิบตั กิ ารตรวจสอบและการลงทหี่ มายหรือถา ยทอดแนวเขตปา ไมใ นระวางแผนที่
มาตราสว น ๑:๔๐๐๐ จะดําเนนิ การตามบนั ทึกขอตกลงระหวา งกรมทด่ี ินและกรมปาไม วา ดว ยการตรวจพิสูจน
เพ่ือออกโฉนดท่ีดิน หรือหนังสือรับรองการทาํ ประโยชนซ่ึงเกี่ยวกับเขตปาไม พ.ศ.๒๕๓๔ ซ่ึงกาํ หนดไววา
ใหกรมท่ดี ินและกรมปาไมด ําเนินรว มกัน โดยรปู แบบการประสานงานในการดําเนนิ การรวมกนั นัน้ มีการปรบั เปลยี่ น
ใหเกิดความรวดเร็วในการปฏิบัติงานโดยอาจมีการสงระวางแผนท่ีใหสํานักจัดการทรัพยากรปาไมในพื้นที่
ดาํ เนนิ การตรวจสอบและลงทหี่ มายหรือถา ยทอดแนวเขตปาไมในระวางแผนท่ี มาตราสว น ๑:๔๐๐๐ ไดเชนกัน
เมื่อมกี ารจัดสง ระวางแผนท่ีอยางเปนทางการโดยมีการลงท่ีหมายหรือถายทอดแนวเขตปาไมและมีการลงชื่อ
รับรองในระวางแผนที่โดยพนักงานเจาหนาที่ของกรมปาไมหรือโดยพนักงานเจาหนาท่ีของสํานักการจัดการ
ทรัพยากรปา ไมท่ีรบั ผิดชอบแลว สํานักงานท่ีดินจะยึดถือแนวเขตดงั กลา วเปน แนวเขตของปาไมใ นการพิจารณา
ออกโฉนดทีด่ นิ สําหรับกรณีกรมปา ไมหรือสํานักจดั การทรัพยากรปา ไมในพน้ื ทจี่ ดั สรางระวางแผนทแ่ี ละสง ระวาง
แผนท่ีซ่ึงมีการลงที่หมายหรือถายทอดแนวเขตปาไมมาใหสาํ นักงานที่ดินเปนระวางท่ีไมเปนไปตามนิยาม
ในบันทึกขอตกลงฯ ไมสามารถนํามาประกอบการพิจารณาในการออกโฉนดท่ีดินได ระวางแผนที่ที่ใช
ประกอบการออกโฉนดท่ีดินบริเวณหาดฟรีดอมเปนระวางแผนท่ีท่ีกรมที่ดินสรางและสํานักงานที่ดินไดจัดสง
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสาํ คญั
กรมท่ดี ิน
๙๑
รวมเรื่องทน่ี ่าสนใจ
กล่มุ พฒั นามาตรฐานการออกหนังสือแสดงสทิ ธิในท่ีดนิ
ระวางแผนทใ่ี หส าํ นักจดั การทรพั ยากรปาไมที่ ๑๒ สาขากระบี่ ตรวจสอบ และสาํ นกั จัดการทรพั ยากรปา ไมท ี่ ๑๒
สาขากระบ่ี ไดข ีดเขตพื้นทีก่ นั ออกเพิม่ เตมิ เปน ผลใหท่ดี ินท่ขี อรงั วดั ออกโฉนดที่ดินอยูนอกเขตปาไมท กุ ประเภท
๕.๕ ปจจุบันกรมท่ีดินมีหนังสือ ท่ี มท ๐๕๑๖.๔/๓๐๗๙๙ ลงวันท่ี ๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ เรื่อง
การตรวจสอบโฉนดทดี่ ินเลขที่ ๙๘๔๑๔ และ ๙๘๔๑๕ ตําบลกะรน อาํ เภอเมืองภูเก็ต จงั หวัดภเู ก็ต แจง กรมปาไมวา
กรมทดี่ นิ ไดพ ิจารณาตรวจสอบขอ มูลเกย่ี วกบั โฉนดท่ีดนิ ๙๘๔๑๔ และ ๙๘๔๑๕ ตาํ บลกะรน อําเภอเมืองภูเก็ต
จังหวดั ภเู ก็ต แลว เห็นวา ขณะน้ปี ญหาเกี่ยวกบั การรบั รองแนวพื้นท่ี “ก.อ.” ไวใ นระวางแผนที่ภาพถายทางอากาศ
และระวางแผนท่แี ผนใส จงั หวัดภเู ก็ต มาตราสวน ๑:๔๐๐๐ หมายเลข 4624 I 2068 และ 2070 จํานวนรวม
๔ ระวาง โดยสํานกั จดั การทรพั ยากรปาไม ที่ ๑๒ สาขากระบี่ มผี ลตอ การพิจารณาสถานะท่ีดินบริเวณดังกลาว
ของกรมที่ดิน เมื่อกรมปาไมแจงยืนยันผลการตรวจสอบในปจจุบันวาที่ดินบริเวณดังกลาวไมปรากฏขอมูลวา
เปนพ้ืนท่กี ันออกในแผนทที่ ายกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๖๒๑ (พ.ศ. ๒๕๑๖) การถายทอดและรับรองแนวเขตลงใน
ระวางแผนที่โดยสํานักจัดการทรัพยากรปาไมท่ี ๑๒ สาขากระบ่ี จึงไมเกี่ยวกับการปฏิบัติตามบันทึกขอตกลง
ระหวางกรมท่ดี นิ และกรมปา ไม วา ดวยการตรวจพิสจู นเพอื่ ออกโฉนดท่ีดิน หรอื หนงั สือรบั รองการทําประโยชน
ซงึ่ เก่ียวกบั เขตปา ไม พ.ศ. ๒๕๓๔ ดังนน้ั เพือ่ ใหก ารพิจารณาตรวจสอบโฉนดที่ดนิ ท้งั สองแปลงไดขอมลู ทถี่ กู ตอง
ชัดเจน โดยเปนการปฏิบัติงานท่ีสอดคลองกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวของ กรมท่ีดินจึงสงระวางแผนท่ี
ภาพถายทางอากาศ (พรอมแผนทาบระวาง) และระวางแผนท่ีแผนใส จังหวัดภูเก็ต มาตราสวน ๑:๔๐๐๐
หมายเลข 4624 I 2068 และ 2070 จาํ นวนรวม ๔ ระวาง เพอ่ื ใหก รมปาไมดําเนินการขีดฆาแนวเขตพ้ืนที่ “ก.อ.”
ในระวางแผนที่ดังกลาวดวยเคร่ืองหมาย “S” สีแดงบนเสนแนวเขต และระบุขอความใหปรากฏในระวางแผนท่ี
ท้งั หมดวา ไดดําเนนิ การตามหนงั สือฉบบั ใด พรอมการลงนามผูดําเนินการใหชัดเจนอีกครั้ง ขณะนี้อยูระหวางการ
พิจาณาดาํ เนินการของกรมปาไม
๖. อางองิ หนงั สอื กรมท่ีดนิ ที่ มท ๐๕๑๖.๕/๓๔๒๙ ลงวนั ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ตอบขอ หารือจงั หวดั
สงขลา
สํานกั มาตรฐานการออกหนงั สอื สาํ คัญ
กรมท่ดี นิ
๙๒
รวมเรือ่ งท่ีน่าสนใจ
กลุ่มพัฒนามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธิในท่ีดนิ
๑. พ.ศ. ๒๕๕๘
๒. เร่อื ง : ขอทราบหลักเกณฑและแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการออกเอกสารสิทธิในที่ดินที่มีความลาดชัน
เฉล่ยี เกนิ กวา ๓๕%
๓. ขอเทจ็ จรงิ : ประเดน็ ปญหา
กรมปาไมขอทราบหลักเกณฑและแนวทางปฏิบัติของกรมท่ีดินวา สามารถดําเนินการออก
เอกสารสิทธิทีด่ ินใหกบั ราษฎรท่ีครอบครองท่ีดินที่มีความลาดชันเฉลี่ยเกินกวา ๓๕% ตามกฎหมายไดหรือไม
หากดําเนนิ การได ตอ งมีเงื่อนใดประกอบการพจิ ารณา
๔. ขอ กฎหมาย ระเบยี บ คาํ สงั่ :
๔.๑ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๑๔ (๕)
๔.๒ หนงั สอื กรมท่ีดนิ ท่ี มท ๐๗๑๒/ว ๗๕๐๘ ลงวนั ที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๙ เรอ่ื ง นโยบายปาไม
แหงชาติ ซอมความเขาใจวา คณะรัฐมนตรีไดมีมติเมื่อวันท่ี ๓ ธันวาคม ๒๕๒๘ เห็นชอบกับนโยบายปาไม
แหง ชาตติ ามทป่ี ระธานคณะกรรมการนโยบายปาไมแหง ชาติเสนอ ซึง่ ขอ ๑๗ แหงนโยบายการปาไมแหงชาติได
กําหนดไวโดยชดั เจนใหพ้ืนที่ที่มคี วามลาดชนั โดยเฉลยี่ ๓๕ เปอรเ ซน็ ตข้นึ ไป เปนพ้ืนท่ีปา ไม ไมอนญุ าตใหมกี ารออก
โฉนดท่ีดินหรอื หนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชนต ามประมวลกฎหมายที่ดิน
๔.๓ หนงั สอื กรมทด่ี ิน ท่ี มท ๐๗๑๓/ว ๑๙๗๗๙ ลงวนั ท่ี ๑๕ กันยายน ๒๕๓๑ เรื่อง นโยบาย
ปาไมแหงชาติ แจงวา คณะกรรมการนโยบายปาไมแหงชาติในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๓๐ เมื่อวนั ท่ี ๑๙
ตลุ าคม ๒๕๓๐ ไดพจิ ารณาทบทวนนโยบายปา ไมแหงชาติ ขอ ๑๗ มมี ตริ วม ๓ ประการ ดงั นี้
(๑) ไมอ นุญาตใหมีการออกโฉนดทีด่ นิ หรอื หนังสือรับรองการทําประโยชน ตามประมวล
กฎหมายท่ดี นิ ในพื้นทีท่ ่ีมีความลาดชนั โดยเฉลีย่ ๓๕ เปอรเซ็นตข ึ้นไป ตามทีก่ ําหนดไวในนโยบายปาไมแหงชาติ
ซ่ึงกําหนดไวเ ปนพน้ื ที่ปา ไม หากมีความจาํ เปนจะดาํ เนินการใดในพื้นท่ีดังกลาว ควรจะใหเชาหรือขอสัมปทาน
โดยขออนุมัติคณะรัฐมนตรเี ปนรายๆ เวน แตก รณีทรี่ าษฎรมสี ทิ ธิโดยชอบดวยกฎหมายอยกู อนแลว
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสาํ คญั
กรมที่ดิน
๙๓
รวมเรอื่ งทีน่ ่าสนใจ
กลุ่มพฒั นามาตรฐานการออกหนงั สือแสดงสทิ ธใิ นท่ีดิน
(๒) กรณีท่รี าษฎรรายใดมสี ิทธิครอบครองมากอนการประกาศใชประมวลกฎหมายที่ดิน
ถือวาผูน้ันมีสิทธิครอบครองตามกฎหมาย แมวาท่ีดินผืนนั้นจะมีความลาดชันเฉล่ียเกินกวา ๓๕ เปอรเซ็นต
อนุญาตใหออกเอกสารสทิ ธิได แตการอนุญาตควรมีเง่ือนไขเพื่อปองกันผลกระทบทางสิ่งแวดลอมไวดวย เชน
หา มทาํ การเกษตรอยา งถาวร เปนตน
(๓) ขอใหกรมพัฒนาที่ดินจัดสงแผนที่แสดงพ้ืนที่ที่มีความลาดชันเฉลี่ยเกิน ๓๕
เปอรเซน็ ตใหแกหนวยราชการท่เี กี่ยวของ
๕. ผลการพิจารณา
กรมท่ดี ินพิจารณาแลวเห็นวา พื้นที่ท่ีมีความลาดชันโดยเฉลี่ย ๓๕ เปอรเซ็นตขึ้นไป เดิมไมมี
บทบญั ญัติของกฎหมายกาํ หนดหามมใิ หม ีการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน แตภายหลังไดมีมติคณะรัฐมนตรี
เม่ือวนั ที่ ๓ ธนั วาคม ๒๕๒๘ เรอื่ ง นโยบายการปาไมแ หงชาติ ขอ ๑๗ กาํ หนดใหพ้ืนทท่ี ม่ี คี วามลาดชันโดยเฉล่ีย
๓๕ เปอรเซ็นตข ึ้นไป เปนพน้ื ที่ปา ไมโ ดยไมอ นุญาตใหมีการออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
ซึง่ กรมทดี่ นิ ไดมหี นงั สือ ที่ มท ๐๗๑๒/ว ๗๕๐๘ ลงวนั ท่ี ๑ เมษายน ๒๕๒๙ เรื่อง นโยบายปาไมแหงชาติ และ
หนังสอื กรมที่ดิน ที่ มท ๐๗๑๓/ว ๑๙๗๗๙ ลงวนั ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๓๑ เรือ่ ง นโยบายปาไมแหงชาติ แจงแนวทาง
ในการดาํ เนินการตามนโยบายการปาไมแ หงชาติดงั กลา วในเรื่องการออกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นทีด่ ิน ดงั นี้
(๑) ไมอนญุ าตใหมีการออกโฉนดทด่ี นิ หรือหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ในพน้ื ทที่ ี่มีความลาดชนั โดยเฉลี่ย ๓๕ เปอรเ ซ็นตขึ้นไป ตามท่ีกําหนดไวในนโยบายปาไมแหงชาติซึ่งกําหนดไว
เปนพนื้ ทป่ี าไม หากมคี วามจาํ เปนจะดําเนนิ การใดในพื้นทีด่ ังกลา ว ควรจะใหเชาหรือขอสัมปทานโดยขออนุมัติ
คณะรฐั มนตรีเปน รายๆ เวนแตก รณีทรี่ าษฎรมสี ทิ ธโิ ดยชอบดวยกฎหมายอยกู อนแลว
(๒) กรณีท่รี าษฎรรายใดมีสทิ ธิครอบครองมากอนการประกาศใชประมวลกฎหมายที่ดิน ถือวา
ผนู ้ันมีสิทธคิ รอบครองตามกฎหมาย แมว า ท่ดี ินผืนนน้ั จะมคี วามลาดชันเฉล่ียเกินกวา ๓๕ เปอรเซ็นต อนุญาตใหออก
เอกสารสทิ ธิได แตก ารอนุญาตควรมีเงอื่ นไขเพอ่ื ปองกนั ผลกระทบทางส่งิ แวดลอ มไวด วย เชน หามทาํ การเกษตร
อยางถาวร เปนตน
ตอมาเมื่อมีการประกาศใชกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซง่ึ ตามกฎกระทรวงดงั กลา ว ขอ ๑๔ (๕) ไดกาํ หนดให
สํานกั มาตรฐานการออกหนังสือสาํ คญั
กรมที่ดนิ
๙๔
รวมเรื่องที่นา่ สนใจ
กลมุ่ พฒั นามาตรฐานการออกหนังสอื แสดงสิทธใิ นทีด่ ิน
ท่ีดินท่ีคณะรัฐมนตรีสงวนไวเพ่ือรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือเพื่อประโยชนสาธารณะอยางอ่ืน เปนที่ดิน
ตอ งหาม มิใหออกหนังสอื แสดงสทิ ธใิ นที่ดิน จึงเปนผลใหพื้นท่ีทมี่ ีความลาดชันโดยเฉล่ีย ๓๕ เปอรเซ็นตข้ึนไป
ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๓ ธันวาคม ๒๕๒๘ เปนที่ดินตองหามมิใหมีการออกเอกสารสิทธิในที่ดินตาม
กฎกระทรวงดังกลา วดวย ดงั น้นั ในการพิจารณาออกหนังสอื แสดงสิทธใิ นทดี่ ินในพ้นื ทีท่ ี่มีความลาดชันโดยเฉล่ีย
๓๕ เปอรเซ็นตข ึ้นไป จึงตอ งพิจารณาตามนยั หนังสอื กรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๗๑๓/ว ๑๙๗๗๙ ลงวันท่ี ๑๕ กันยายน
๒๕๓๑ เรอ่ื ง นโยบายปา ไมแ หง ชาติ ดงั น้ี
๑. กรณีท่ีผูขอมีหลักฐานการแจงการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑) โดยมีการครอบครองและ
ทําประโยชนในที่ดนิ โดยชอบดว ยกฎหมาย ถือวา ผูข อเปนผูมสี ทิ ธใิ นทด่ี นิ ตามประมวลกฎหมายที่ดนิ จึงสามารถ
ออกหนงั สอื แสดงสทิ ธิในท่ดี นิ ได
๒. กรณีทีผ่ ูข อมหี ลักฐานการไดส ิทธิในท่ีดินมากอนวันที่มีมติคณะรัฐมนตรี (วันท่ี ๓ ธันวาคม
๒๕๒๘) เชน หนงั สอื รับรองการทําประโยชน (น.ส. ๓, น.ส. ๓ ก.) ใบจอง, หนังสือรับรองการทําประโยชน (น.ค. ๓,
ก.ส.น. ๕) ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพ่ือการครองชีพ พ.ศ. ๒๕๑๑ เปนตน โดยมีการครอบครองและทํา
ประโยชนในท่ีดิน และหลักฐานดังกลาวเปนหลักฐานท่ีออกมาโดยชอบดวยกฎหมาย ถือวาผูขอเปนผูมีสิทธิ
ในทีด่ นิ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน จงึ สามารถออกหนังสอื แสดงสิทธิในท่ีดินได
๖. อางองิ
หนงั สอื กรมทด่ี ิน ดว นท่สี ดุ ท่ี มท ๐๕๑๖.๕/๑๔๒๙๖ ลงวนั ท่ี ๑๗ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ตอบขอ
หารือกรมปาไม
สาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สาํ คัญ
กรมที่ดิน