The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คณิตศาสตร์ธุรกิจและบริการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thanawin1976, 2022-01-05 23:44:05

คณิตศาสตร์ธุรกิจและบริการ

คณิตศาสตร์ธุรกิจและบริการ

1

แผนการจดั การเรียนรู้
แบบฐานสมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง

รหสั 20000-1404 วชิ า คณติ ศาสตรธ์ รุ กจิ และบรกิ าร
หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.)
ประเภทวชิ า พาณิชยกรรม

จัดทาโดย
นายธนวนิ สายนาค
แผนกวิชาสามัญสัมพนั ธ์

วทิ ยาลัยการอาชีพขุนหาญ
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธกิ าร

2

คำนำ

พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ทไ่ี ดป้ ระกาศใชต้ งั้ แต่เดอื นสงิ หาคม 2542 เป็นตน้ มา ไดเ้ น้นให้
คร-ู อาจารยแ์ ละผเู้ กย่ี วขอ้ งทงั้ หลายจดั การเรยี นการสอนโดยเน้นผเู้ รยี นสาคญั ทส่ี ดุ ซง่ึ กจิ กรรมการเรยี นการสอนทจ่ี ดั
ควรมลี กั ษณะสาคญั ดงั น้ี

1. ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากการปฏบิ ตั จิ รงิ
2. ผเู้ รยี นมโี อกาสเลอื กเรยี นรใู้ นสงิ่ ทต่ี นถนดั และสนใจ
3. ผเู้ รยี นไดม้ โี อกาสแสวงหาความรแู้ ละสรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตวั เอง
4. ผเู้ รยี นไดม้ โี อกาสทจ่ี ะนาความรไู้ ปปฏบิ ตั ใิ ชจ้ รงิ ในชวี ติ ประจาวนั
5. ผเู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องตนเอง

บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั ไดต้ ระหนกั ถงึ ภารกจิ ของครอู าจารย์ ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ให้
สอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ ดว้ ยการบรู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ
ประสงคไ์ วใ้ นรายวชิ า และในการคดิ กจิ กรรมทจ่ี ะสง่ เสรมิ การเรยี นรขู้ องนกั เรยี นตามพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ
ใหเ้ ป็นรปู ธรรมจงึ ไดจ้ ดั ทาสง่ิ อานวยความสะดวกให้แกค่ รอู าจารยเ์ ป็น ค่มู ือครเู พ่อื ประกอบหนังสือเรียนวิชา
คณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบริการ รหสั 20000-1404 (2-0-2) ซง่ึ ประกอบดว้ ย

 จดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ า
 ลกั ษณะรายวชิ า
 ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร
 กาหนดการสอนทบ่ี รู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
 แผนการจดั การเรยี นรทู้ บ่ี รู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั หวงั ว่าคมู่ อื ครเู ล่มน้คี งเป็นประโยชน์แกค่ ร-ู อาจารยไ์ ดใ้ ชเ้ ป็นแนวทางในการ
จดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หบ้ รรลุตามวตั ถุประสงคต์ ่อไป

ผจู้ ดั ทา

3

สำรบญั

 จดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ า
 ลกั ษณะรายวชิ า
 ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร
 กาหนดการสอนทบ่ี ูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
 แผนการจดั การเรยี นรทู้ บ่ี ูรณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 17
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 18

รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้

ภาคผนวก

ก ตวั อยา่ งแบบประเมนิ ดว้ ยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)

ข ตวั อยา่ งแบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล

ค ตวั อยา่ งแบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

ง ตวั อยา่ งแบบประเมินการนาเสนอผลงานรายบุคคล

จ ตวั อยา่ งแบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ฉ ตวั อยา่ งแบบรวมคะแนนการประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม

และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ช ตวั อยา่ งแบบสรุปผลการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ซ วธิ กี ารใชแ้ บบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

4

รหสั 20000-1404 2-0-2 วิชา คณติ ศาสตรธ์ รุ กจิ และบรกิ าร
ชนั้ ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง กลุ่มวิชาคณติ ศาสตร์

พฤติกรรม พทุ ธิพิสยั (40%)
ความรู้
ช่ือหน่วย ความเข้าใจ
การนาไปใ ้ช
1.รอ้ ยละ การ ิวเคราะห์
2.การตงั้ ราคาขาย การสังเคราะห์
3.การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ การประเ ิมน
4.ดอกเบย้ี ทักษะ ิพสัย (30%)
5.อสมการ ิจต ิพสัย (30%)
6.ความน่าจะเป็นเบอ้ื งตน้ รวม
ลาดับความสาคัญ
จานวนชั ่วโมง

1 1 2 11 5 5 16 4
1 1 2 11 5 5 16 6
1 1 2 21 5 5 17 6
1 1 2 21 5 5 17 4
1 1 2 21 5 5 17 6
1 1 2 21 5 5 17 6

สอบกลางภาค 2
2
สอบปลายภาค 36

รวม 6 6 12 10 6 30 30 100

ลาดบั ความสาคญั

หมายเหตุ การสอบกลางภาคเรยี น/ ปลายภาคเรยี นนนั้ ขน้ึ อยกู่ บั วทิ ยาลยั หรอื อาจารยผ์ สู้ อน

คณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบริการ 5
รหสั วิชา 20000-1404 (2-0-2)

จดุ ประสงคร์ ายวิชา เพอ่ื ให้
1 รแู้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขาย การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็น
2 มที กั ษะกระบวนการคดิ และแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขาย การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี
อสมการและความน่าจะเป็น
3 มเี จตคตแิ ละกจิ นิสยั ทด่ี ใี นการคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ และมคี วามละเอยี ด
รอบคอบในการปฏบิ ตั งิ าน

สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะเป็น
2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและความ
น่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

6

รหสั 20000-1404 วิชาคณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ ชวั่ โมง
2-0-2 หน่วยกิต (2 ชวั ่ โมง) เวลาเรยี นตอ่ ภาค 36 ชวั ่ โมง

จดุ ประสงคร์ ายวิชา คาอธิบายรายวิชา

1 รแู้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขาย ศกึ ษาและฝึกทกั ษะกระบวนการทาง
การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและ คณิตศาสตรเ์ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคา
ความน่าจะเป็น ขาย การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี
อสมการและความน่าจะเป็น และการ
2 มที กั ษะกระบวนการคดิ และแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั
รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขาย การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ประยุกตใ์ ชใ้ นงานอาชพี ดา้ นพาณิชยกรรม
ดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะเป็น
และอุตสาหกรรมการ ท่องเทย่ี ว
3 มเี จตคตแิ ละกจิ นิสยั ทด่ี ใี นการคดิ วเิ คราะห์
แกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ และมี
ความละเอยี ดรอบคอบในการปฏบิ ตั งิ าน

สมรรถนะรายวิชา รวม 36

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการ
ซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความ
น่าจะเป็น

2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคา
ขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการ
และความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

ประมวลการเรียนรายวิชา (Course Outline) 7

โครงการจดั การเรยี นรู้
ช่ือวิชา คณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบริการ รหสั วิชา 20000-1404

ท-ป-น 2-0-2 จานวนคาบ 2 คาบ/ สปั ดาห์ ระดบั ชนั้ ปวช.

สปั ดาห์ หน่วย ปฏิบตั ิ จานวน
ท่ี ที่ คาบ
4
1 1 รอ้ ยละ กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน
กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน 6
2 1 รอ้ ยละ กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน
กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน 6
3 2 การตงั้ ราคาขาย กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน 2
กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน 2
4 2 การตงั้ ราคาขาย กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน 2
กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน 6
5 2 การตงั้ ราคาขาย กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน
แบบทดสอบประเมนิ ผล 6
6 3 การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน 2
กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน 36
7 3 การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน
กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน
8 3 การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน
กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน
9 4 ดอกเบย้ี กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั -ิ ใบงาน
แบบทดสอบประเมินผล
10 - วดั ผลและประเมนิ ผลกลางภาคเรยี น

11 4 ดอกเบย้ี

12 5 อสมการ

13 5 อสมการ

14 5 อสมการ

15 6 ความน่าจะเป็นเบอ้ื งตน้

16 6 ความน่าจะเป็นเบอ้ื งตน้

17 6 ความน่าจะเป็นเบอ้ื งตน้

18 วดั ผลและประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น

รวม

กาหนดการสอนท่ีบรู ณาการคณุ ธรรม จริยธรรม 8
ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

วิชา คณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบริการ รหสั วิชา 20000-1404
จานวน 2 ชวั ่ โมงต่อสปั ดาห์

สปั ดาห์ หน่วย ชวั่ โมง ช่ือหน่วย/สาระการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ คณุ ธรรม จริยธรรม
ท่ี ที่ คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะ
1 บอกความหมายของรอ้ ยละได้
1 1 1-2 ร้อยละ 2 เขยี นรอ้ ยละใหอ้ ย่ใู นรปู เศษสว่ นและ อนั พึงประสงค์
ทศนิยมได้
1 ความหมายของรอ้ ยละ 3 เขยี นเศษสว่ น และทศนยิ มใหอ้ ย่ใู นรปู ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
2 การคานวณเกย่ี วกบั รอ้ ยละ รอ้ ยละได้ ความมวี นิ ยั
2 1 3-4 3 การนารอ้ ยละไปใชใ้ นงานอาชพี 4 นาความรเู้ รอ่ื งรอ้ ยละประยกุ ต์ใชใ้ น ความรบั ผดิ ชอบ
งานอาชพี ได้ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
3 2 5-6 การตงั้ ราคาขาย 1.บอกความหมายของมารค์ อพั ได้ ความสนใจใฝ่ รู้
1.มารค์ อพั 5.คานวณมารค์ ดาวน์ได้ ความรกั สามคั คี
2.คานวณมารค์ อพั ได้ ความกตญั ํกู ตเวที
4 2 7-8 2.อตั รามารค์ อพั 6.คานวณอตั รามารค์ ดาวน์ได้
3.คานวณอตั รามารค์ อพั ได้
5 2 9-10 3.มารค์ ดาวน์ 7.แกโ้ จทยป์ ัญหาการตงั้ ราคาขายได
4.อตั รามารค์ ดาวน์ 4.บอกความหมายของมารค์ ดาวน์ได้

6 3 11-12 การซื้อขายในระบบผอ่ นชาระ 1.บอกความหมายของศพั ทต์ ่างๆ ใน
1.การคานวณเงนิ ตน้ ของหน้เี รมิ่ แรก การซอ้ื ขายระบบผ่อนชาระได้
2.คานวณหาเงนิ ตน้ ของหน้เี รมิ่ แรกได้
7 3 13-14 2.การคานวณราคาเงนิ ผ่อนและดอกเบย้ี 3.คานวณหาราคาเงนิ ผ่อนได้
ผอ่ นชาระ 4.คานวณหาดอกเบย้ี ผ่อนชาระได้
5.คานวณหาเงนิ ผ่อนชาระงวดแบบคงท่ี
8 3 15-16 3.การคานวณเงนิ ผ่อนชาระรายงวด ได้
6.คานวณหาเงนิ ผอ่ นชาระรายงวดแบบ
ลดลงได้
7.คานวณหาอตั ราดอกเบย้ี ผ่อนชาระ
แบบคงตน้ ได้

สปั ดาห์ หน่วย ชวั่ โมง ชื่อหน่วย/สาระการเรียนรู้ (ต่อ) 9
ท่ี ท่ี
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ คณุ ธรรม จริยธรรม
คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะ
1 อธบิ ายวธิ กี ารคานวณหาดอกเบย้ี จาก
เงนิ ฝากและเงนิ กแู้ บบต่างๆ ได้ อนั พึงประสงค์
2.แกป้ ัญหาในสถานการณ์จรงิ โดยใช้
9 4 17-18 ดอกเบยี้ ความรเู้ รอ่ื งดอกเบย้ี ได้
1.ดอกเบย้ี คงตน้ 3.นาความรแู้ ละทกั ษะทไ่ี ดจ้ ากการ
เรยี นรเู้ รอ่ื งดอกเบย้ี ไปเชอ่ื มโยงในการ
เรยี นรงู้ านอาชพี และในการดารงชวี ติ ได้

10 - 19-20 ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน

11 4 21-22 2.ดอกเบย้ี ทบตน้ 1 อธบิ ายวธิ กี ารคานวณหาดอกเบย้ี จาก

เงนิ ฝากและเงนิ กแู้ บบต่างๆ ได้

2.แกป้ ัญหาในสถานการณ์จรงิ โดยใช้

ความรเู้ รอ่ื งดอกเบย้ี ได้ ความมมี นุษยสมั พนั ธ์

3.นาความรแู้ ละทกั ษะทไ่ี ดจ้ ากการ
เรยี นรเู้ รอ่ื งดอกเบย้ี ไปเชอ่ื มโยงในการ ความมวี นิ ยั
เรยี นรงู้ านอาชพี และในการดารงชวี ติ ได้ ความรบั ผดิ ชอบ
ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
12. 5 23-24 อสมการ
ความสนใจใฝ่ รู้
1 ความหมายของอสมการ 1.บอกความหมายของอสมการได้ ความรกั สามคั คี
2 เสน้ จานวนและชว่ งเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว 2.เขยี นช่วงต่างๆ ทก่ี าหนดใหใ้ นรปู ของ ความกตญั ํกู ตเวที
เซตและกราฟได้
13 5 3 อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว 3.หาเซตคาตอบของอสมการเชงิ เสน้ ตวั
4 การแกอ้ สมการ แปรเดยี วได้
25-26 5 การนาสมบตั กิ ารไมเ่ ท่ากนั ไปใชใ้ นการแก้ 4.หาเซตคาตอบของอสมการเชงิ เสน้
อสมการ

14 5 27-28 6.อสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร สองตวั แปรได้
7 กราฟของระบบอสมการเชงิ เสน้ 5.เขยี นกราฟของระบบอสมการเชงิ เสน้ ได้

(ต่อ) 10

สปั ดาห์ หน่วย ชวั่ โมง ชื่อหน่วย/สาระการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ คณุ ธรรม จริยธรรม
ท่ี ที่ ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะ

15 6 29-30 ความน่าจะเป็นเบอื้ งต้น 1.หาจานวนวธิ ขี องเหตุการณ์ อนั พงึ ประสงค์

1.กฎเกณฑเ์ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การนบั โดยใชก้ ฎเกณฑเ์ บอ้ื งตน้ ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
2.การทดลองสุ่ม เกย่ี วกบั การนบั และแผนภาพ ความมวี นิ ยั
16 6 31-32 3.แซมเปิลสเปซ ความรบั ผดิ ชอบ
ตน้ ไมไ้ ด้ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
4.ความน่าจะเป็นเบอ้ื งตน้ ความสนใจใฝ่ รู้
ความรกั สามคั คี
17 6 33-34 5.ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ 2.แกโ้ จทยป์ ัญหาโดยใช้ ความกตญั ํกู ตเวที
6.กฎทส่ี าคญั บางประการของความน่าจะเป็น กฎเกณฑเ์ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั

การนบั ได้

3.บอกความหมายของการ

ทดลองสุ่ม ปรภิ มู ติ วั อย่างและ

เหตุการณ์ได้

4.หาแซมเปิลสเปซของการ

ทดลองสุ่มทก่ี าหนดใหไ้ ด้

5.หาเหตุการณ์ทส่ี นใจซง่ึ เป็น

สบั เซตของแซมเปิลสเปซได้

6.หายเู นยี น อนิ เตอรเ์ ซกชนั

คอมพลเี มนตแ์ ละผลต่างของ

เหตุการณ์ได้

7.คานวณความน่าจะเป็นของ

เหตุการณ์ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

8.บอกสมบตั ขิ องความน่าจะ

เป็นของเหตุการณ์ได้

9.แกโ้ จทยป์ ัญหาโดยใชก้ ฎ

และสมบตั บิ างประการของ

ความนาจะเป็นได้

18 - 35-36 ทบทวน/ สอบปลายภาคเรียน

เพอ่ื เป็นแนวทางใหก้ บั ครผู สู้ อนในการจดั การเรยี นการสอนเท่านนั้ สามารถเปลย่ี นแปลงไดข้ น้ึ อย่กู บั
ผสู้ อน และสถานศกึ ษาทจ่ี ะนาไปประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นสาคญั

ผเู้ ขียนแผนจดั การเรยี นรู้

การวดั ผลและประเมินผลวิชาคณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบริการ 11

การวดั ผล 20%
20%
1. สอบกลางภาค 10%
2. สอบปลายภาค 10%
3. บรู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 20%
4. การเขา้ ชนั้ เรยี น 20%
5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี น
6. ใบงาน/แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

หมายเหตุ ผเู้ รยี นตอ้ งเขา้ เรยี นไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทงั้ หมด แต่การแบ่งคะแนนการวดั ผลน้ีสามารถ

เปลย่ี นแปลงไดข้ น้ึ อยกู่ บั ครเู ป็นสาคญั และเน่อื งจากเป็นวชิ าทเ่ี น้นการนาทกั ษะความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
โดยทวั่ ไป การวดั ผลสามารถจดั เขา้ ไปในเร่อื งคุณธรรม จรยิ ธรรมได้ เพ่อื ให้เหน็ เป็นรูปธรรมท่ชี ดั เจน จงึ จะขอแยก
เร่ืองการวัดผลด้านคุณธรรม จริยธรรม ในรูปเคร่อื งมือวดั ผลเป็นแบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ
คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ของผูส้ าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา โดยทงั้ ครูและผู้เรยี น จะ
ประเมนิ คุณลกั ษณะจากพฤตกิ รรมบง่ ชท้ี ก่ี าหนดไว้ และตอ้ งทาควบคกู่ บั กระบวนการทากจิ กรรมการเรยี นการสอน ซง่ึ
อาจอยู่ในรูปของกลุ่มผู้เรียนหรือเป็นรายบุคคล โดยผู้เรียนอาจสบั เปล่ยี นกันเป็นผู้ประเมนิ ร่วมกบั ครู เพ่อื ความ
เท่ยี งตรงของการประเมนิ ดงั นนั้ แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ งั้ ของครู
และผเู้ รยี นจงึ เป็นชดุ เดยี วกนั และเพ่อื ดพู ฒั นาการของนกั เรยี น จะใชแ้ บบประเมนิ ชดุ น้เี ป็นเคร่อื งมอื ประเมนิ

การประเมินผล

กาหนดค่าระดบั คะแนน ตามเกณฑด์ งั น้ี

คะแนนรอ้ ยละ 80-100 ไดเ้ กรด 4
ไดเ้ กรด 3.5
คะแนนรอ้ ยละ 75-79 ไดเ้ กรด 3
ไดเ้ กรด 2.5
คะแนนรอ้ ยละ 70-74 ไดเ้ กรด 2
ไดเ้ กรด 1.5
คะแนนรอ้ ยละ 65-69 ไดเ้ กรด 1
ไดเ้ กรด 0
คะแนนรอ้ ยละ 60-64

คะแนนรอ้ ยละ 55-59

คะแนนรอ้ ยละ 50-54

คะแนนรอ้ ยละ 0-49

12

แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 1 หน่วยที่ 1

รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนครงั้ ท่ี 1 (1-2)
ช่ือหน่วย/เรอื่ ง รอ้ ยละ จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

รอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ ใชส้ ญั ลกั ษณ์แทนดว้ ย “%” เป็นการเปรยี บเทยี บจานวนใดจานวนหน่งึ กบั จานวนเตม็
100 ซง่ึ อาจเขยี นอย่ใู นรปู อตั ราสว่ นทม่ี จี านวนหลงั ของอตั ราสว่ นเป็น 100 หรอื เศษสว่ น ทม่ี ตี วั สว่ นเป็น 100 สามารถ
เปลย่ี นรปู ระหว่างรอ้ ยละ เศษสว่ น และทศนยิ มได้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1 บอกความหมายของรอ้ ยละได้

2 เขยี นรอ้ ยละใหอ้ ย่ใู นรปู เศษสว่ นและทศนยิ มได้

3.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน

คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง

3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.6 การประหยดั

3.2 ความมวี นิ ยั 3.7 ความสนใจใฝ่รู้

3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั

3.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 3.9 ความรกั สามคั คี

3.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 3.10 ความกตญั ํกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น

2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สมรรถนะรายหน่วย

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สาระการเรียนรู้
1 ความหมายของรอ้ ยละ
2 การคานวณเกย่ี วกบั รอ้ ยละ

กิจกรรมการเรยี นรู้ 13

ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน

1. ผเู้ รยี นรบั ฟังจุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ า ตามหลกั สตู รประกาศนยี บตั ร
วชิ าชพี ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา แนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ พรอ้ มทงั้ ซกั ถามและ
แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การเรยี น

2. ครแู นะนาใหผ้ เู้ รยี นเรยี นรแู้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขาย การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ
ดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะเป็น อยา่ งทกั ษะกระบวนการคดิ และแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขาย การ
ซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะเป็น และมเี จตคตแิ ละกจิ นสิ ยั ทด่ี ใี นการคดิ วเิ คราะห์
แกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ และมคี วามละเอยี ดรอบคอบในการปฏบิ ตั งิ าน

3. ครแู ละผเู้ รยี นสนทนาว่าในการดาเนินชวี ติ ประจาวนั “รอ้ ยละ” จะเกย่ี วขอ้ งกบั เร่อื งต่างๆ อย่างมาก เช่น
อตั ราดอกเบย้ี 5% ลดราคาสนิ คา้ 50 – 70% ภาษมี ลู ค่าเพมิ่ (VAT) 7% เป็นตน้

ขนั้ สอน

4.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ VDO และ Power Point
เพ่อื แสดงใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรูค้ วามหมายของรอ้ ยละ โดยร่อยละ หรอื เปอรเ็ ซน็ ต์ (Percent) หมายถงึ การเปรยี บเทยี บ
จานวนใดจานวนหน่งึ กบั จานวน หน่ึงรอ้ ย ซง่ึ อาจเขยี นอย่ใู นรปู อตั ราสว่ นทม่ี จี านวนหลงั ของอตั ราส่วนเป็น 100 หรอื
เศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเป็น 100

5.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณ
5.1 การเขยี นรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ตใ์ หอ้ ย่ใู นรปู เศษสว่ นและทศนยิ ม
5.2 การเขยี นเศษสว่ นและทศนยิ มใหอ้ ยใู่ นรปู รอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์

6.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณเกย่ี วกบั รอ้ ยละ โดยการคานวณเกย่ี วกบั รอ้ ยละทาไดโ้ ดยใชส้ ดั สว่ น ซง่ึ
เกย่ี วขอ้ งกบั จานวนหน่งึ ทเ่ี ป็น 100 เสมอ และเขยี นใหอ้ ยใู่ นรปู สดั สว่ นไดด้ งั น้ี

6.ผเู้ รยี นหาคา่ ของ
1) 32% ของ 25
2) 75% ของ 600

14

7.ผเู้ รยี นเขยี นรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ต่ละขอ้ ต่อไปน้ใี หอ้ ยใู่ นรปู เศษสว่ น
8.ผเู้ รยี นเขยี นรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ต่ละขอ้ ตอ้ ไปน้ใี หอ้ ยใู่ นรปู ทศนยิ ม
7.ผเู้ รยี นคานวณหาผลลพั ธใ์ นแต่ละขอ้ ต่อไปน้ี

9. ครใู หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั เง่อื นไขตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ในการตดั สนิ ใจและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่าง ๆ ใหอ้ ย่ใู น
ระดบั พอเพยี งนนั้ ตอ้ งอาศยั ทงั้ ความรู้ และคุณธรรมเป็นพน้ื ฐาน กล่าวคอื

(1) เงอ่ื นไขความรู้ เป็นความรอบรเู้ กย่ี วกบั วชิ าการต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ความรอบคอบทจ่ี ะนาความรเู้ หลา่ นนั้
มาพจิ ารณาใหเ้ ชอ่ื มโยงกนั เพอ่ื การวางแผน และความระมดั ระวงั ในขนั้ ปฏบิ ตั ิ

15
(2) เง่อื นไขคุณธรรม เป็นสง่ิ ทต่ี อ้ งเสรมิ สรา้ งใหม้ คี วามตระหนกั ในคณุ ธรรม มคี วามซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และมี

ความอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชวี ติ
9.ครใู หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การทาบญั ชีรายรบั -รายจา่ ย หมายถึง การจดบนั ทกึ เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ เก่ียวกบั การเงินหรอื

บางสว่ นเกี่ยวขอ้ งกบั การเงิน โดยผา่ นการวิเคราะห์ จดบนั ทกึ เพอื่ แสดงฐานะการเงินและผลการดาเนินงานของตนเองหรอื

ครอบครวั ในชว่ งระยะเวลาหนงึ่

ตวั อยา่ งแบบบนั ทึกบญั ชีรายรบั -รายจา่ ย

ว.ด.ป. รายรบั จานวนเงิน ว.ด.ป. รายรบั จานวนเงิน
บาท สต. บาท สต.

ผเู้ รยี นบนั ทกึ รายรบั -รายจ่ายในครวั เรอื นของตนเองในภาคเรยี นน้ตี ามแบบฟอรม์ ทก่ี าหนดให้

สมุดบนั ทึก รายรบั -รายจา่ ย ในครวั เรอื น

ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................

ประจาภาคเรยี นท.่ี ../........ระหว่างเดอื น..................ถงึ เดอื น................พ.ศ ...........

วนั รายการ รายรบั รายจา่ ย คงเหลือ
เดือน ปี

หมายเหตุ ถา้ ไม่พอใหใ้ ชก้ ระดาษ A-4 ตแี บบฟอรม์ เพมิ่ เตมิ ได้

สรปุ และการประยุกต์
10.ครแู ละผเู้ รยี นสรุป โดยการถามตอบความหมายของรอ้ ยละ และแสดงการคานวณเกย่ี วกบั รอ้ ยละ
11.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบรกิ าร
2. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , VDO และ Power Power
3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4. รปู ภาพประกอบ
5. ตวั อย่างการคานวณ

หลกั ฐาน
1. บนั ทกึ การสอน
2. ผลงาน
3. แผนจดั การเรยี นรู้
4. ใบเชค็ ชอ่ื เขา้ หอ้ งเรยี น

การวดั ผลและการประเมินผล 16
วิธีวดั ผล

1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ตรวจแบบฝึกประเมนิ ผลการเรยี นรู้
3 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
4 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
5 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เครอื่ งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
รว่ มกนั ประเมนิ

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ
1.ศกึ ษาความหมายของรอ้ ยละ และการคานวณเกย่ี วกบั รอ้ ยละ
2.ฝึกทกั ษะทาแบบฝึกหดั

แบบประเมินผลการส่งเสริมคณุ ธรรมพื้นฐาน 17

คาชี้แจง เพ่อื ใหก้ ารขบั เคล่อื นคณุ ธรรมพน้ื ฐานมคี วามชดั เจน เกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ และนาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ไิ ด้

อย่างเป็นรปู ธรรม จงึ มกี ารประเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น

จรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้

รายการ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ
54321

1.ความขยนั ผทู้ ม่ี คี วามขยนั คอื ผทู้ ต่ี งั้ ใจทาจรงิ จงั ต่อเน่อื งในเรอ่ื งทถ่ี กู ทค่ี วร สงู้ าน มี
ความพยายาม ไมท่ อ้ ถอย อดทน กลา้ เผชญิ อุปสรรค

2.ประหยดั  ผทู้ ม่ี คี วามประหยดั คอื ผทู้ ด่ี าเนินชวี ติ ความเป็นอย่เู รยี บงา่ ย รจู้ กั ฐานะ
3.ความซ่อื สตั ย์ การเงนิ ของตน คดิ กอ่ นใชค้ ดิ กอ่ นซอ้ื เกบ็ ออม ถนอมใชท้ รพั ยส์ นิ สงิ่ ของอยา่ ง
4.ความมวี นิ ยั คุม้ คา่ ไมฟ่ ุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ รจู้ กั ทาบญั ชรี ายรบั -รายจา่ ยของตนเองเสมอ
5.ความสุภาพ
ผทู้ ม่ี คี วามซ่อื สตั ย์ คอื ผทู้ ม่ี คี วามประพฤตติ รงทงั้ ต่อหน้าท่ี ต่อวชิ าชพี ตรง
6.ความสะอาด ต่อเวลา ไมใ่ ชเ้ ลห่ ก์ ล คดโกง รบั รหู้ น้าทข่ี องตนเองและปฏบิ ตั เิ ตม็ ทถ่ี กู ตอ้ ง

7.ความสามคั คี ผทู้ ม่ี วี นิ ยั คอื ผทู้ ป่ี ฏบิ ตั ติ นในขอบเขต กฎ ระเบยี บสถานศกึ ษา สถาบนั /
องคก์ ร/สงั คมและประเทศ โดยทย่ี นิ ดปี ฏบิ ตั อิ ย่างเตม็ ใจ
ผทู้ ม่ี คี วามสุภาพ คอื ผทู้ อ่ี ่อนน้อมถ่อมตนตามสถานภาพและกาลเทศะ ไม่
กา้ วรา้ ว วางอานาจขม่ ผอู้ ่นื เรยี บรอ้ ย อ่อนโยน ละมนุ ละมอ่ ม มกี ริ ยิ ามารยาทดี
งาม มสี มั มาคารวะ แต่ในเวลาเดยี วกนั ยงั คงมคี วามมนั่ ใจในตนเอง วางตน
เหมาะสมตามวฒั นธรรมไทย

ผทู้ ค่ี วามสะอาด คอื ผรู้ กั ษารา่ งกาย ทอ่ี ย่อู าศยั สง่ิ แวดลอ้ มถูกตอ้ งตาม
สขุ ลกั ษณะ ปราศจากความมวั หมองทงั้ กาย ใจและสภาพแวดลอ้ ม มคี วามผ่อง
ใสเป็นทเ่ี จรญิ ตาแก่ผพู้ บเหน็

ผทู้ ม่ี คี วามสามคั คี คอื ผทู้ เ่ี ปิดใจกวา้ งรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื รบู้ ทบาท
ของตนในฐานะผนู้ าและผตู้ ามทด่ี ี มงุ่ มนั่ ต่อการรวมพลงั ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู กนั
เพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ แกป้ ัญหาและขจดั ความขดั แยง้ ได้ มเี หตุผล ยอมรบั ความ
แตกต่างหลากหลายทางวฒั นธรรม ความคดิ ความเชอ่ื พรอ้ มทจ่ี ะปรบั ตวั เพ่อื
อย่รู ว่ มกนั อยา่ งสนั ติ

8.ความมนี ้าใจ ผทู้ ม่ี นี ้าใจ คอื ผใู้ หแ้ ละผอู้ าสาชว่ ยเหลอื สงั คม รจู้ กั แบ่งปัน เสยี สละความสขุ
ส่วนตน เพอ่ื ประโยชน์แกผ่ อู้ ่นื เขา้ ใจ เหน็ ใจผทู้ ม่ี คี วามเดอื ดรอ้ น ลงมอื
ปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื บรรเทาปัญหา หรอื รว่ มสรา้ งสรรคส์ งิ่ ดงี ามใหเ้ กดิ ขน้ึ ในชมุ ชน

รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน

ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม……….…………………………………….………………….…………………………………

เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ ผปู้ ระเมนิ .....…………….............

28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง

25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้

20-24 คะแนน = พอใช้

แบบประเมินผลการเรยี นรู้ 18

คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี น เครอ่ื งหมาย / ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนด

น้าหนกั คะแนน ดงั น้-ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
5 43 2 1

1.ผลการเรยี นทค่ี าดหวงั มคี วามชดั เจน ครอบคลมุ พฤตกิ รรมทุกดา้ น (KAP)

2.เน้อื หาสาระมคี วามถกู ตอ้ ง ครอบคลุม และชดั เจน

3.กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

4.กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามหลากหลาย น่าสนใจและเน้นกระบวนการคดิ การฟัง

การพดู การอ่าน การดแู ละการเขยี น

5.กจิ กรรมการเรยี นรเู้ น้นใหผ้ เู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ

6.กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นคน้ พบคาตอบดว้ ยตนเอง

7.กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พยี งพอทจ่ี ะสง่ ผลใหบ้ รรลุผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

8.กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ก่ี าหนดสามารถนาไปปฏบิ ตั กิ ารสอนไดจ้ รงิ

9.มสี อ่ื ทส่ี อดคลอ้ งกบั กจิ กรรมและเป็นสอ่ื ทเ่ี น้นกระบวนการคดิ

10.มกี ารวดั ผลประเมนิ ผลทส่ี อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

11.วธิ กี ารวดั ผลสอดคลอ้ งกบั กจิ กรรมการเรยี นรู้

12.มกี ารกาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ผลไวอ้ ยา่ งชดั เจนและเหมาะสม

รวม

ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติม

1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………….……………….………

……….……………………………………………………………………………..………................................

2.สงิ่ ทค่ี วรปรบั ปรงุ คอื ……….…………………………………….…..…………………………….…..….……..

…………………………………………………………………………….……………………………………………

ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………

บนั ทึกหลงั การสอน 19
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน

...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................

ปัญหาท่ีพบ

...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................

แนวทางแก้ปัญหา

...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................

20

แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 2 หน่วยที่ 1

รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนครง้ั ท่ี 2 (3-4)
ช่ือหน่วย/เร่ือง รอ้ ยละ จำนวน 2 ช.ม.

แนวคิด

รอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ ใชส้ ญั ลกั ษณ์แทนดว้ ย “%” เป็นการเปรยี บเทยี บจานวนใดจานวนหน่งึ กบั จานวนเตม็
100 ซง่ึ อาจเขยี นอย่ใู นรปู อตั ราสว่ นทม่ี จี านวนหลงั ของอตั ราสว่ นเป็น 100 หรอื เศษสว่ น ทม่ี ตี วั สว่ นเป็น 100 สามารถ
เปลย่ี นรปู ระหว่างรอ้ ยละ เศษสว่ น และทศนยิ มได้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

3 เขยี นเศษสว่ น และทศนิยมใหอ้ ย่ใู นรปู รอ้ ยละได้

4 นาความรเู้ รอ่ื งรอ้ ยละประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานอาชพี ได้

5.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน

คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง

5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.6 การประหยดั

5.2 ความมวี นิ ยั 5.7 ความสนใจใฝ่รู้

5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั

5.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 5.9 ความรกั สามคั คี

5.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 5.10 ความกตญั ํกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น

2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สมรรถนะรายหน่วย

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สาระการเรียนรู้
3 การนารอ้ ยละไปใชใ้ นงานอาชพี

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น

21
1.ครกู ล่าวถงึ ในชวี ติ ประจาวนั และในทกุ สาขาอาชพี จาเป็นตอ้ งใชค้ วามรเู้ รอ่ื งรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ตเ์ พอ่ื ช่วย
ในการคานวณเสมอ เช่น ลดราคาของสนิ คา้ 50 - 70% ป๋ ุยแอมโมเนียมไนเตรตมธี าตุไนโตรเจนเป็นองคป์ ระกอบอยู่
25% เงนิ ออม 20% ของรายไดต้ ่อเดอื น ค่ากระแสไฟฟ้าเพมิ่ ขน้ึ อกี 5% เป็นตน้

2.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนา และยกตวั อยา่ งการใชร้ อ้ ยละทพ่ี บเหน็

ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point โดยแสดง
รปู ภาพจากสอ่ื Power Point เพอ่ื อธบิ ายการนารอ้ ยละไปใชใ้ นงานอาชพี
4.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การจดั การเรยี นรแู้ บบสาธติ (Demonstration Method) คอื กระบวนการทผ่ี สู้ อนหรอื
บคุ คลใดบุคคลหน่งึ ใชใ้ นการช่วยใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ กดิ การเรยี นรตู้ ามวตั ถุประสงค์ โดยแสดงหรอื กระทาใหด้ เู ป็นตวั อย่าง
พรอ้ ม ๆ กบั การบอก อธบิ ายใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรู้ จะเกดิ การเรยี นรจู้ ากการสงั เกต กระบวนการขนั้ ตอนการสาธติ นนั้ ๆ
แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นซกั ถาม อภปิ รายและสรุปการเรยี นรูจ้ ากการสาธติ เรอ่ื งการนารอ้ ยละไปใชใ้ นงานอาชพี
5.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณ เช่น คานวณรอ้ ยละการสอบวชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี ไดค้ ะแนน 36 คะแนน
จากคะแนนเตม็ 40 คะแนน จงหาว่านกั เรยี นคนน้สี อบไดก้ เ่ี ปอรเ์ ซน็ ต์

ดงั นนั้ นกั เรยี นคนน้สี อบได้ 90 คะแนน
6.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณจากโจทยป์ ทุมวลั ยม์ รี ายไดเ้ ดอื นละ 37,500 บาท ตอ้ งจ่ายค่าน้ามนั รถคดิ เป็นรอ้ ย
ละ 20 ของรายไดท้ งั้ หมด อยากทราบว่าปทมุ วลั ยจ์ ่ายคา่ น้ามนั เดอื นละเท่าใด

แสดงความหมายของขอ้ ความทม่ี คี าว่า “รอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต”์ ในขอ้ ความต่างๆ 22

7.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณ
7.1 รายได้
7.2 ตน้ ทนุ ขาย
7.3 คา่ ไฟฟ้า

8.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั
9.ครใู หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ความรู้ ความคดิ และการปฏิบัติ คอื ควรนาแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ซงึ่ ใน
กระบวนการทางานทกุ ประเภทนนั้ จะเนน้ สจั จะซงึ่ เป็นตวั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เนน้ ความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ เนน้ ใหช้ ว่ ยกนั คดิ
ชว่ ยกนั ทา เนน้ ใหร้ ูจ้ กั ความพอดี พอประมาณ มีเหตผุ ล ทงั้ หมดนคี้ ือ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และสามารถนาไป
ประยุกตใ์ ชก้ บั การดาเนนิ ชวี ติ ของทกุ คนได้

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
10.ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ รอ้ ยละ หมายถงึ การเปรยี บเทยี บรอ้ ยละจานวนใดจานวนหน่ึง หรอื ต่อรอ้ ย ซง่ึ อาจเขยี น

อย่ใู นรปู อตั ราสว่ นทม่ี จี านวนหลงั ของอตั ราส่วนเป็น 100 หรอื เศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเป็น 100 รอ้ ยละหรอื ใชค้ าว่า
เปอรเ์ ซน็ ตเ์ ขยี นแทนสญั ลกั ษณ์ดว้ ย “%

12.ผเู้ รยี นตอบคาถามเป็นรายบคุ คลหรอื กลุ่ม แลว้ แต่ความสะดวกในสภาพจรงิ ของการเรยี นการสอน
13.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อกิ เลก็ ทรอนกิ ส์ , VDO และPower Point
5.ตวั อยา่ งการคานวณ

หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื

3.แผนจดั การเรยี นรู้ 23
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. ตรวจแบบประเมนิ ลผลการเรยี นรู้
4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เครอ่ื งมอื วัดผล

1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ
3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั

ประเมนิ

เกณฑก์ ารประเมินผล

1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50%
5 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ
ทบทวนบทเรยี นโดยการศกึ ษาเพม่ิ เตมิ และฝึกทกั ษะการคานวณการนารอ้ ยละไปใชใ้ นงานอาชพี

แบบประเมินผลการส่งเสริมคณุ ธรรมพื้นฐาน 24

คาชี้แจง เพ่อื ใหก้ ารขบั เคล่อื นคณุ ธรรมพน้ื ฐานมคี วามชดั เจน เกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ และนาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ไิ ด้

อย่างเป็นรปู ธรรม จงึ มกี ารประเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น

จรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้

รายการ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ
54321

1.ความขยนั ผทู้ ม่ี คี วามขยนั คอื ผทู้ ต่ี งั้ ใจทาจรงิ จงั ต่อเน่อื งในเรอ่ื งทถ่ี กู ทค่ี วร สงู้ าน มี
ความพยายาม ไมท่ อ้ ถอย อดทน กลา้ เผชญิ อุปสรรค

2.ประหยดั  ผทู้ ม่ี คี วามประหยดั คอื ผทู้ ด่ี าเนินชวี ติ ความเป็นอย่เู รยี บงา่ ย รจู้ กั ฐานะ
3.ความซ่อื สตั ย์ การเงนิ ของตน คดิ กอ่ นใชค้ ดิ กอ่ นซอ้ื เกบ็ ออม ถนอมใชท้ รพั ยส์ นิ สงิ่ ของอยา่ ง
4.ความมวี นิ ยั คุม้ คา่ ไมฟ่ ุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ รจู้ กั ทาบญั ชรี ายรบั -รายจา่ ยของตนเองเสมอ
5.ความสุภาพ
ผทู้ ม่ี คี วามซ่อื สตั ย์ คอื ผทู้ ม่ี คี วามประพฤตติ รงทงั้ ต่อหน้าท่ี ต่อวชิ าชพี ตรง
6.ความสะอาด ต่อเวลา ไมใ่ ชเ้ ลห่ ก์ ล คดโกง รบั รหู้ น้าทข่ี องตนเองและปฏบิ ตั เิ ตม็ ทถ่ี กู ตอ้ ง

7.ความสามคั คี ผทู้ ม่ี วี นิ ยั คอื ผทู้ ป่ี ฏบิ ตั ติ นในขอบเขต กฎ ระเบยี บสถานศกึ ษา สถาบนั /
องคก์ ร/สงั คมและประเทศ โดยทย่ี นิ ดปี ฏบิ ตั อิ ย่างเตม็ ใจ
ผทู้ ม่ี คี วามสุภาพ คอื ผทู้ อ่ี ่อนน้อมถ่อมตนตามสถานภาพและกาลเทศะ ไม่
กา้ วรา้ ว วางอานาจขม่ ผอู้ ่นื เรยี บรอ้ ย อ่อนโยน ละมนุ ละมอ่ ม มกี ริ ยิ ามารยาทดี
งาม มสี มั มาคารวะ แต่ในเวลาเดยี วกนั ยงั คงมคี วามมนั่ ใจในตนเอง วางตน
เหมาะสมตามวฒั นธรรมไทย

ผทู้ ค่ี วามสะอาด คอื ผรู้ กั ษารา่ งกาย ทอ่ี ย่อู าศยั สง่ิ แวดลอ้ มถูกตอ้ งตาม
สขุ ลกั ษณะ ปราศจากความมวั หมองทงั้ กาย ใจและสภาพแวดลอ้ ม มคี วามผ่อง
ใสเป็นทเ่ี จรญิ ตาแก่ผพู้ บเหน็

ผทู้ ม่ี คี วามสามคั คี คอื ผทู้ เ่ี ปิดใจกวา้ งรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื รบู้ ทบาท
ของตนในฐานะผนู้ าและผตู้ ามทด่ี ี มงุ่ มนั่ ต่อการรวมพลงั ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู กนั
เพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ แกป้ ัญหาและขจดั ความขดั แยง้ ได้ มเี หตุผล ยอมรบั ความ
แตกต่างหลากหลายทางวฒั นธรรม ความคดิ ความเชอ่ื พรอ้ มทจ่ี ะปรบั ตวั เพ่อื
อย่รู ว่ มกนั อยา่ งสนั ติ

8.ความมนี ้าใจ ผทู้ ม่ี นี ้าใจ คอื ผใู้ หแ้ ละผอู้ าสาชว่ ยเหลอื สงั คม รจู้ กั แบ่งปัน เสยี สละความสขุ
ส่วนตน เพอ่ื ประโยชน์แกผ่ อู้ ่นื เขา้ ใจ เหน็ ใจผทู้ ม่ี คี วามเดอื ดรอ้ น ลงมอื
ปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื บรรเทาปัญหา หรอื รว่ มสรา้ งสรรคส์ งิ่ ดงี ามใหเ้ กดิ ขน้ึ ในชมุ ชน

รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน

ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม……….…………………………………….………………….…………………………………

เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ ผปู้ ระเมนิ .....…………….............

28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง

25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้

20-24 คะแนน = พอใช้

แบบประเมินผลการเรยี นรู้ 25

คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี น เครอ่ื งหมาย / ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนด

น้าหนกั คะแนน ดงั น้-ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
5 43 2 1

1.ผลการเรยี นทค่ี าดหวงั มคี วามชดั เจน ครอบคลมุ พฤตกิ รรมทุกดา้ น (KAP)

2.เน้อื หาสาระมคี วามถกู ตอ้ ง ครอบคลุม และชดั เจน

3.กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

4.กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามหลากหลาย น่าสนใจและเน้นกระบวนการคดิ การฟัง

การพดู การอ่าน การดแู ละการเขยี น

5.กจิ กรรมการเรยี นรเู้ น้นใหผ้ เู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ

6.กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นคน้ พบคาตอบดว้ ยตนเอง

7.กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พยี งพอทจ่ี ะสง่ ผลใหบ้ รรลุผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

8.กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ก่ี าหนดสามารถนาไปปฏบิ ตั กิ ารสอนไดจ้ รงิ

9.มสี อ่ื ทส่ี อดคลอ้ งกบั กจิ กรรมและเป็นสอ่ื ทเ่ี น้นกระบวนการคดิ

10.มกี ารวดั ผลประเมนิ ผลทส่ี อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

11.วธิ กี ารวดั ผลสอดคลอ้ งกบั กจิ กรรมการเรยี นรู้

12.มกี ารกาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ผลไวอ้ ยา่ งชดั เจนและเหมาะสม

รวม

ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติม

1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………….……………….………

……….……………………………………………………………………………..………................................

2.สงิ่ ทค่ี วรปรบั ปรงุ คอื ……….…………………………………….…..…………………………….…..….……..

…………………………………………………………………………….……………………………………………

ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………

บนั ทึกหลงั การสอน 26

ขอ้ สรปุ หลงั การสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

ปัญหาท่ีพบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

แนวทางแกป้ ัญหา

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

27

แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 3 หน่วยที่ 2

รหัสวชิ า 20000-1404 คณติ ศาสตรธ์ รุ กจิ และบรกิ าร2-0-2 สอนครงั้ ท่ี 3 (5-6)
ช่ือหน่วย/เรื่อง การตงั้ ราคาขาย จำนวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การตงั้ ราคาขายเป็นเร่อื งทส่ี าคญั ในการดาเนนิ กจิ การรา้ นคา้ จะตอ้ งกระทาดว้ ยความรอบคอบ ผขู้ ายจะตอ้ ง
คานึงว่าสนิ คา้ แต่ละชน้ิ ควรกาหนดมารค์ อพั และตอ้ งการกาไรสทุ ธิ จงึ จะตงั้ เป็นราคาขาย เม่อื มกี ารเปลย่ี นแปลงราคา
ขาย โดยการลดราคาใหต้ ่ากว่าเดมิ จะตอ้ งกาหนดอตั รามารค์ ดาวน์ใหเ้ หมาะสม เพ่อื ทจ่ี ะไดต้ งั้ ราคาขายใหพ้ อเหมาะท่ี
สนิ คา้ นนั้ จะขายได้ กล่าวโดยสรปุ ว่ามารค์ อพั และมารค์ ดาวน์ เป็นสว่ นหน่งึ ของการกาหนดราคาขายของสนิ คา้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.บอกความหมายของมารค์ อพั ได้

2.คานวณมารค์ อพั ได้

3.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน

คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง

3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.6 การประหยดั

3.2 ความมวี นิ ยั 3.7 ความสนใจใฝ่รู

3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั

3.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 3.9 ความรกั สามคั คี

3.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 3.10 ความกตญั ํกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น

2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สมรรถนะรายหน่วย

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั การตงั้ ราคาขาย
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การตงั้ ราคาขายไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สาระการเรยี นรู้
1.มารค์ อพั

กิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น

28
1.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนาเรอ่ื งสภาพปีจจุบนั มกี ารแขง่ ขนั ในทางการคา้ คอ่ นขา้ งสงู เจา้ ของรา้ นหรอื เจา้ ของ
กจิ การต่างกใ็ ชก้ ลยทุ ธ์ ในการดงึ ดดู ลกู คา้ เช่น ปรบั ปรงุ คุณภาพของสนิ คา้ การใหบ้ รกิ าร การประชาสมั พนั ธ์ และการ
โฆษณา นอกจากน้กี ารตงั้ ราคาขายกเ็ ป็นสงิ่ สาคญั ในการดาเนนิ กจิ การการคา้ ซง่ึ จะตอ้ งกระทาอย่างรอบคอบเพ่อื ให้
ไดร้ บั ผลตอบแทนอย่างเตม็ ท่ี และเพยี งพอต่อการดาเนินกจิ การต่อไปได้
2.ครแู ละผเู้ รยี นบอกความจาเป็นในการเรยี นรขู้ องการตงั้ ราคาขายวธิ ตี ่างๆ

ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point เพอ่ื แสดงให้
ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรกู้ ารตงั้ ราคาขายวธิ มี ารค์ อพั และใชเ้ ทคนิค Demonstration Method การจดั การเรยี นรแู้ บบสาธติ เพ่อื
คานวณหาวธิ มี ารค์ อพั โดยราคาสนิ คา้ ทผ่ี ขู้ ายซอ้ื เขา้ มาเรยี กว่า “ราคาทุน” หรอื “ตน้ ทนุ สนิ คา้ ” เม่อื ตงั้ ราคาขายสนิ คา้
จะตอ้ งคานงึ ถงึ ตน้ ทุนของสนิ คา้ คา่ ใชจ้ ่ายในการดาเนนิ งานและกาไรทต่ี อ้ งการ ผขู้ ายจงึ ตอ้ งตงั้ ราคาขายใหม้ ากกว่า
ราคาทนุ สว่ นทบ่ี วกเพมิ่ จากทนุ เรยี กว่า มารค์ อพั (mark up)
4.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณการตงั้ ราคาขาย จากโจทยโ์ ดยราคาทนุ ของหมอ้ หงุ ขา้ วเป็นเงนิ 1,200 บาท ถา้
ผขู้ ายตอ้ งการมารค์ อพั 400 บาท จะตอ้ งตงั้ ราคาขายเทา่ ใด สามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี

5.ผเู้ รยี นคานวณหาราคามารค์ อพั จากโจทยโ์ ดยซอ้ื พดั ลมมาราคา 850 บาท และขายในราคา 980 บาท จงหา
มารค์ อพั สามารถคานวณไดด้ งั น้ี

5.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณดงั น้ี

7.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั
8.ครเู น้นผเู้ รยี นใหม้ คี วามละเอียดรอบคอบ มีความอดทน มีควาเข้มแขง็ มีความเพียรพยายามใหม้ ี

ความสามารถฝึกปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ นอกจากนนั้ ยงั ใหร้ ะมดั ระวงั ความปลอดภยั ในการฝึกปฏบิ ตั งิ านทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ไดโ้ ดย
ไมไ่ ดต้ งั้ ใจ เพราะในการประกอบอาชพี จรงิ ๆ ผเู้ รยี นตอ้ งรบั ผิดชอบในงานทล่ี กู คา้ นามาใหท้ า ดงั นนั้ ผเู้ รยี นตอ้ งฝึก
ทกั ษะความชานาญเหลา่ น้ใี หม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ เพ่อื สรา้ งรายไดท้ ด่ี ใี นอนาคตต่อไป และพรอ้ มรบั ผลกระทบและความ
เปลย่ี นแปลงทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต คอื ทาใหเ้ ขม้ แขง็ กจ็ ะทาใหค้ รอบครวั มเี งนิ ออมอนั เกดิ จากการทางานของเราได้ ถอื

29
เป็นเง่อื นไขสาคญั คอื เรอ่ื งคณุ ธรรม ลกั ษณะดงั กลา่ วน้ีกจ็ ะเป็นการสรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ท่ีดใี นตวั เอง รวมทงั้ มีความ
อดทน มีความเพียรพยายามในการทางานในชวี ติ ประจาวนั ไดใ้ นอนาคตต่อไปเป็นอย่างดี

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
9.ผเู้ รยี นสรุปในการตงั้ ราคาขาย มารค์ อพั เป็นสว่ นทบ่ี วกเพมิ่ จากราคาทุน ถอื ว่า เป็นกาไรขนั้ ตน้ เน่อื งจาก การ
ขายสนิ คา้ จะมคี ่าใชจ้ ่ายในการดาเนินงาน ไดแ้ ก่ ค่าสถานท่ี ค่าโทรศพั ท์ คา่ จา้ ง เงนิ เดอื น เป็นตน้

ดงั นนั้
หรอื มารค์ อพั = กาไรสทุ ธิ + ค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินงาน
10.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั

ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณติ ศาสตรธ์ ุรกจิ และบรกิ าร

2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point
5.ตวั อยา่ งการคานวณ

หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เครอ่ื งมือวดั ผล

1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

30
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น

ร่วมกนั ประเมนิ

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)

4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื ว่าผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช,้

1= ควรปรบั ปรงุ
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
7 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ

1.ทบทวนบทเรยี น
2.ทากจิ กรรมและแบบฝึกหดั

บนั ทึกหลงั การสอน 31

ขอ้ สรปุ หลงั การสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

32

แผนการจดั การเรียนร้แู บบบรู ณาการท่ี 4 หน่วยที่ 2

รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนคร้งั ที่ 4 (7-8)
ชอ่ื หน่วย/เรือ่ ง การตงั้ ราคาขาย จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การตงั้ ราคาขายเป็นเร่อื งทส่ี าคญั ในการดาเนนิ กจิ การรา้ นคา้ จะตอ้ งกระทาดว้ ยความรอบคอบ ผขู้ ายจะตอ้ ง
คานงึ ว่าสนิ คา้ แต่ละชน้ิ ควรกาหนดมารค์ อพั และตอ้ งการกาไรสทุ ธิ จงึ จะตงั้ เป็นราคาขาย เม่อื มกี ารเปลย่ี นแปลงราคา
ขาย โดยการลดราคาใหต้ ่ากวา่ เดมิ จะตอ้ งกาหนดอตั รามารค์ ดาวน์ใหเ้ หมาะสม เพอ่ื ทจ่ี ะไดต้ งั้ ราคาขายใหพ้ อเหมาะท่ี
สนิ คา้ นนั้ จะขายได้ กล่าวโดยสรปุ ว่ามารค์ อพั และมารค์ ดาวน์ เป็นสว่ นหน่งึ ของการกาหนดราคาขายของสนิ คา้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.คานวณมารค์ อพั ได้

3.คานวณอตั รามารค์ อพั ได้

4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน

คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง

4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.6 การประหยดั

4.2 ความมวี นิ ยั 4.7 ความสนใจใฝ่รู

4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั

4.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 4.9 ความรกั สามคั คี

4.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 4.10 ความกตญั ํกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น

2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สมรรถนะรายหน่วย

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั การตงั้ ราคาขาย
2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การตงั้ ราคาขายไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สาระการเรียนรู้

2.อตั รามารค์ อพั
กิจกรรมการเรยี นรู้

ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น

1.ครสู นทนากบั ผเู้ รยี นถงึ การตงั้ ราคาขายเป็นสง่ิ จาเป็นในการดาเนินงานของรา้ น การตงั้ ราคาขายท่ี 33

เหมาะสมจะตอ้ งคานงึ ถงึ ตน้ ทนุ การผลติ คา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งาน และกาไรสทุ ธิ ผขู้ ายจงึ กาหนดมารค์ อพั ขน้ึ ซง่ึ

อาจจะกาหนด เป็นจานวนเงนิ หรอื กาหนดเป็นรอ้ ยละของราคาทนุ เรยี กว่า อตั รามารค์ อพั เทยี บกนั ราคาทนุ กาหนด

เป็นรอ้ ยละของราคาขาย เรยี กวา่ อตั รามารค์ อพั เทยี บกบั ราคาขาย นนั่ คอื

2.ผเู้ รยี นทบทวนคานวณหามารค์ อพั และราคาขาย ดงั ตอ่ ไปนี้

ขนั้ สอน

3.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี
สอนทน่ี าอุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื
อธบิ ายการคานวณหาอตั รามารค์ อพั

จากโจทยด์ งั ต่อไปน้ี
กระเป๋ าใบหนง่ึ ราคาทุน 3,500 บาท ผขู้ ายตงั้ ราคาขายไว้ 4,200 บาท จงหา

1) อตั รามารค์ อพั เทยี บกบั ราคาทุน
2) อตั รามารค์ อพั เทยี บกบั ราคาขาย

34

4.ครแู ละผเู้ รยี นช่วยกนั สาธติ การคานวณหา จากโจทยโ์ คมไฟราคาทนุ 520 บาท ถา้ ผขู้ ายคดิ อตั รามารค์ อพั

25% เทยี บกบั ราคาทนุ ใหห้ าราคาขายโคมไฟ แสดงวธิ ที าดงั ต่อไปน้ี

ราคาขาย = ราคาทุน + มารค์ อพั = 520 + (25% × 520)

= 520 + 130 = 650 บาท

ดงั นนั้ ราคาขายโคมไฟเท่ากบั 650 บาท

5.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาราคาขาย จากโจทยน์ าฬกิ าราคาทนุ 8,400 บาท ผขู้ ายกาหนดอตั รามารค์ อพั

30% เทยี บกบั ราคาขาย ใหห้ าราคาขายของนาฬกิ า

อตั รามารค์ อพั 30% เทยี บกบั ราคาขาย หมายความว่าเป็นมารค์ อพั 30 บาท ราคาขาย 100 บาท นนั่ คอื

ราคาทนุ ของสนิ คา้ = 100 ‟ 30 = 70

ดงั นนั้ ราคาขายของนาฬกิ าเท่ากบั 12,000 บาท

6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะคานวณหาค่าต่างๆ ดงั ต่อไปน้ี
โจทย์ พ่อคา้ ซอ้ื เคร่อื งปัน่ ผลไมม้ าขายในราคาเคร่อื งละ 750 บาท จงหา
1) ราคาขายถา้ คดิ อตั รามารค์ อพั 40% เทยี บกบั ราคาทนุ
2) ราคาขายถา้ คดิ อตั รามารค์ อพั 40% เทยี บกบั ราคาขาย

35
3) ราคาขายทงั้ สองวธิ ตี ่างกนั เทา่ ใด
7.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะคานวณหาค่าต่างๆ ดงั ต่อไปน้ี
โจทย์ ซอ้ื ไมโครเวฟมาราคาเครอ่ื งละ 3,200 บาท ตอ้ งการกาไรสทุ ธิ 15% ของราคาทนุ จงึ ขายไปในราคา
3,800 บาท จงหา
1) อตั รามารค์ อพั เทยี บกบั ราคาทุน
2) ค่าใชจ่ายในการดาเนินงานคดิ เป็นรอ้ ยละเท่าไรของราคาทนุ และคดิ เป็นรอ้ ยละเท่าไร
ของราคาขาย
8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะโดยทากจิ กรรมฝึกทกั ษะ และแบบฝึกหดั
9.ครใู ชเ้ ทคนิค Small Group Discussion การจดั การเรยี นรโู้ ดยใชก้ ารอภปิ รายกลมุ่ ย่อย คอื กระบวนการเรยี นรู้
ทผ่ี สู้ อนจดั กลมุ่ ผเู้ รยี นออกเป็นกลุม่ ย่อยประมาณ 4 ‟ 5 คน ใหผ้ เู้ รยี นในกลุ่มมโี อกาสสนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ความ
คดิ เหน็ ประสบการณ์ในประเดน็ หรอื ปัญหาทก่ี าหนด และสรปุ ผลการอภปิ รายออกมาเป็นขอ้ สรปุ ของกล่มุ โดยผเู้ รยี น
อภปิ รายในหวั ขอ้ เร่อื งการคานวณมารค์ อพั และอตั รามารค์ อพั
10.ครเู น้นการทางานแบบประหยดั พลงั งาน และเน้นความรอบคอบ ความอดทน ความเพยี รพยายาม
ในการทางาน และสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ตนเองในทุกสภาวะ และสรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ใหก้ บั ตนเอง

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
11.ผเู้ รยี นสรปุ อตั รามารอ์ พั ดงั น้ี
ราคาขาย = ราคาทุน + มารค์ อพั
มารค์ อพั = ค่าใชจ้ ่ายในการดาเนนิ งาน + กาไรสทุ ธิ
ราคาขาย = ราคาทุน + ค่าใชจ้ า่ ยในการดาเนินงาน + กาไรสทุ ธิ

12.ผเู้ รยี นกจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , PowerPoint
5.ตวั อยา่ งการคานวณ

หลกั ฐาน 36

1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เครื่องมือวดั ผล

1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น

ร่วมกนั ประเมนิ

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น

เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ
ทากจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะการคานวณหา
-ราคาขาย
-ราคามารอ์ พั
-อตั รามารอ์ พั

บนั ทึกหลงั การสอน 37

ขอ้ สรปุ หลงั การสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

38

แผนการจดั การเรียนร้แู บบบูรณาการท่ี 5 หน่วยที่ 2

รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนคร้งั ที่ 5 (9-10)
ชือ่ หนว่ ย/เรือ่ ง การตงั้ ราคาขาย จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การตงั้ ราคาขายเป็นเร่อื งทส่ี าคญั ในการดาเนินกจิ การรา้ นคา้ จะตอ้ งกระทาดว้ ยความรอบคอบ ผขู้ ายจะตอ้ ง
คานึงว่าสนิ คา้ แต่ละชน้ิ ควรกาหนดมารค์ อพั และตอ้ งการกาไรสทุ ธิ จงึ จะตงั้ เป็นราคาขาย เม่อื มกี ารเปลย่ี นแปลงราคา
ขาย โดยการลดราคาใหต้ ่ากวา่ เดมิ จะตอ้ งกาหนดอตั รามารค์ ดาวน์ใหเ้ หมาะสม เพ่อื ทจ่ี ะไดต้ งั้ ราคาขายใหพ้ อเหมาะท่ี
สนิ คา้ นนั้ จะขายได้ กล่าวโดยสรปุ ว่ามารค์ อพั และมารค์ ดาวน์ เป็นสว่ นหน่งึ ของการกาหนดราคาขายของสนิ คา้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
4.บอกความหมายของมารค์ ดาวน์ได้
5.คานวณมารค์ ดาวน์ได้
6.คานวณอตั รามารค์ ดาวน์ได้
7.แกโ้ จทยป์ ัญหาการตงั้ ราคาขายได
8.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
8.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
8.2 ความมวี นิ ยั
8.3 ความรบั ผดิ ชอบ
8.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
8.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
8.6 การประหยดั
8.7 ความสนใจใฝ่รู้
8.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
8.9 ความรกั สามคั คี
8.10 ความกตญั ํกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ

เป็น
2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ

ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สมรรถนะรายหน่วย

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั การตงั้ ราคาขาย
2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การตงั้ ราคาขายไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สาระการเรียนรู้ 39
3.มารค์ ดาวน์
4.อตั รามารค์ ดาวน์

กิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1.ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา
โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเรอ่ื งทจ่ี ะเรยี น เพอ่ื ช่วยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเช่อื มโยงความรใู้ หม่กบั ความรู้เดมิ
ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเลา่ ประสบการณ์เดมิ
2.ครสู นทนากบั ผเู้ รยี นวา่ ในการขายสนิ คา้ เมอ่ื ผขู้ ายดาเนินการขายไปไดร้ ะยะหน่งึ อาจพบขอ้ บกพรอ่ งหรอื
ขอ้ ผดิ พลาดบางประการทเ่ี กย่ี วกบั การตงั้ ราคาสนิ คา้ เช่น ตงั้ ราคาไวส้ งู เกนิ ไป เมอ่ื ผซู้ อ้ื เปรยี บเทยี บกบั สนิ คา้ รา้ นค่แู ขง่
ทงั้ ทเ่ี ป็นสนิ คา้ ประเภทเดยี วกนั หรอื สงั่ สนิ คา้ มาเป็นจานวนมากโดยคาดคะเนความตอ้ งการของผซู้ อ้ื ผดิ ไป หรอื สนิ คา้
ไม่ตรงกบั ความตอ้ งการของผซู้ อ้ื หรอื สนิ คา้ มตี าหนิ เจา้ ของรา้ นจงึ ตอ้ งปรบั ราคาขายสนิ คา้ ใหม่ โดยลดราคาลงจากท่ี
กาหนดไวค้ รงั้ แรก จานวนเงนิ ทล่ี ดลงน้เี รยี กว่า มารค์ ดาวน์ (mark down)

ขนั้ สอน
3.ครแู ละผเู้ รยี นใชร้ ปู แบบการเรยี นแบบอธบิ าย สาธติ และฝึกปฏบิ ตั ิ เพ่อื เน้นการเรยี นของแต่ละบคุ คล
ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจและนาทกั ษะการเรยี นรไู้ ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในเรอ่ื งมารค์ ดาวน์ โดยมารค์ ดาวน์ หมายถงึ
สว่ นลดจากราคาขายทต่ี งั้ ไวเ้ ดมิ โดยลดต่าลงมาพอทส่ี นิ คา้ นนั้ จะสามารถขายได้ แต่ไมต่ ่ากว่าราคาทนุ

4.ครแู ละผเู้ รยี นสอนโดยใชร้ ปู แบบการเรยี นแบบอธบิ าย สาธติ และฝึกปฏบิ ตั ิ เพอ่ื เน้นการเรยี นของแต่ละ
บคุ คล ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจและนาทกั ษะการเรยี นรไู้ ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ โดยใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะตามตวั อยา่ ง ดงั น้ี

พอ่ คา้ ปิดราคาขายนาฬกิ าเรอื นหน่งึ ไว้ 3,500 บาท ต่อมาปิดราคาใหม่เป็น 3,200 บาท จงหามารค์ ดาวน์
มารค์ ดาวน์ = ราคาขายเดมิ ‟ ราคาขายใหม่
= 3,500 ‟ 3,200
= 300 บาท
ดงั นนั้ มารค์ ดาวน์เทา่ กบั 300 บาท

5.ผเู้ รยี นคานวณหามารค์ ดาวน์

6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะคาหาราคาขายใหม่ จากโจทย์ พ่อคา้ ปิดราคาขายเสอ้ื ตวั หน่งึ ไว้ 5,400 บาท ต่อมาลดราคาขายลง
โดยกาหนดมารค์ ดาวน์ 1,800 บาท จงหาราคาขายใหม่

ราคาขายใหม่ = ราคาขายเดมิ ‟ มารค์ ดาวน์
= 5,400 ‟ 1,800 = 3,600 บาท

40
ดงั นนั้ ราคาขายใหม่เทา่ กบั 3,600 บาท
7.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะคานวณหา
1) มารค์ ดาวน์
2) มารค์ ดาวน์คดิ เป็นรอ้ ยละเทา่ ไรของราคาเดมิ
3) มารค์ ดาวน์คดิ เป็นรอ้ ยละเทา่ ไรของราคาขายใหม่
8.ครแู ละผเู้ รยี นชว่ ยกนั สาธติ การคานวณหามารค์ ดาวน์ และอตั รามารค์ ดาวน์ ในการขายสนิ คา้ เม่อื ขาย
สนิ คา้ ไปไดร้ ะยะหน่งึ แลว้ พ่อคา้ อาจจาเป็นตอ้ งตงั้ ราคาขายใหมใ่ หต้ ่าลงกว่าเดมิ ดงั ทก่ี ล่าวมาแลว้ สว่ นทล่ี ดลงน้ี
เรยี กว่ามารค์ ดาวน์ การคานวณมารค์ ดาวน์จะคดิ เป็นรอ้ ยละของราคาขายเรยี กว่าอตั รามารค์ ดาวน์มี 2 แบบ คอื อตั รา
มารค์ ดาวน์เทยี บกบั ราคาขายเดมิ และอตั รามารค์ ดาวน์เทยี บกบั ราคาขายใหม่ นนั่ คอื

9.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาร ดงั นนั้ มารค์ ดาวน์ 900 บาท
1) อตั รามารค์ ดาวน์เทยี บกบั ราคาขายเดมิ
2) อตั รามารค์ ดาวน์เทยี บกบั ราคาขายใหม่
มารค์ ดาวน์ = ราคาขายเดมิ ‟ ราคาขายใหม่
= 4,500 ‟ 3,600 = 900 บาท

10.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะแสดงการคานวณเพ่อื หา
1) มารค์ ดาวน์
2) ราคาขายใหม่
3) อตั รามารค์ ดาวน์เทยี บกบั ราคาขายใหม

11.ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม และแบบฝึกหดั
12.ครเู น้นใหผ้ เู้ รยี นน้อมนาหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ไปประยุกตใ์ ชใ้ นการฝึกปฏบิ ตั ใิ นเรอ่ื งของความรบั ผดิ ชอบ
ความอดทน ความเพยี รพยายาม ความมสี ติ ความมปี ัญญาในการนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ
นอกจากน้ยี งั สามารถนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั กลบั ไปประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งพอเพยี งอกี ดว้ ย

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
13.ผเู้ รยี นสรปุ มารค์ ดาวน์ = ราคาขายเดมิ ‟ ราคาขายใหม่

41

14.ทากจิ กรรม และทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ ุรกิจ และบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อย่างการคานวณ

หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เคร่ืองมือวดั ผล

1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั

ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)

4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผ่าน 42
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง

5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ
ทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยสม่าเสมอ

บนั ทึกหลงั การสอน 43

ขอ้ สรปุ หลงั การสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

44

แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 6 หน่วยที่ 3

รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิและบริการ 2-0-2 สอนคร้งั ที่ 6 (11-2)
ชื่อหนว่ ย/เรื่อง การซื้อขายในระบบผอ่ นชาระ จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ เป็นทน่ี ยิ มกนั มาก เน่อื งจากผซู้ อ้ื มโี อกาสไดร้ บั สนิ คา้ ตามตอ้ งการทนั ที กอ่ น
ชาระสนิ คา้ ทงั้ หมด สว่ นผขู้ ายกไ็ ดร้ บั โอกาสในการขายสนิ คา้ มากขน้ึ พรอ้ มไดร้ บั ดอกเบย้ี ในการซอ้ื ขายระบบผ่อนชาระ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.บอกความหมายของศพั ทต์ ่างๆ ในการซอ้ื ขายระบบผอ่ นชาระได้

2.คานวณหาเงนิ ตน้ ของหน้เี รมิ่ แรกได้

3.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน

คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง

3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.7 ความสนใจใฝ่รู้

3.2 ความมวี นิ ยั 3.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั

3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.9 ความรกั สามคั คี

3.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 3.10 ความกตญั ํกู ตเวที

3.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง

3.6 การประหยดั

สมรรถนะรายวิชา

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น

2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สมรรถนะรายหน่วย

1.แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั การตงั้ ราคาขาย
2.ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การตงั้ ราคาขายไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สาระการเรียนรู้
1.การคานวณเงนิ ตน้ ของหน้เี รม่ิ แรก

กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน

45
1.ครสู นทนากบั กบั ผเู้ รยี นว่าในเชงิ ธุรกจิ ก่อนใหเ้ กดิ กลวธิ ใี นการขายหลายรปู แบบ ซง่ึ การขายผอ่ นชาระ
เป็นกลวธิ หี น่งึ ทช่ี ว่ ยดงึ ดดู ลกู คา้ ทต่ี อ้ งการสนิ คา้ ไปใช้ ปกตแิ ลว้ สนิ คา้ ทน่ี ิยมซอ้ื ขายโดยวธิ ผี ่อนชาระมกั เป็นสนิ คา้ ทม่ี ี
อายุการใชง้ านและมรี าคาค่อนขา้ งสงู เชน่ รถยนต์ เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า บา้ น และทด่ี นิ เป็นตน้
2.ครแู ละผเู้ รยี นยกตวั อยา่ งการขายผอ่ นชาระ เช่น โทรศพั ทม์ อื ถอื บา้ น รถยนต์ เป็นตน้

ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื อธบิ าย
และสาธติ การคานวณเงนิ ตน้ ของหน้เี รมิ่ แรก โดยการขายโดยวธิ ผี ่อนชาระจงึ มผี เู้ กย่ี วขอ้ ง
3.1 ผขู้ าย จะขายสนิ คา้ โดยวธิ ผี อ่ นชาระเรยี กวา่ “ขายผ่อนชาระ”
3.2ผซู้ อ้ื จะซอ้ื สนิ คา้ โดยวธิ ผี ่อนชาระ แต่เน่อื งจากจะตอ้ งมกี ฎหมายเขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง คอื กฎหมายเช่าซอ้ื ตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ยจ์ งึ เรยี กวา่ “เช่าซอ้ื ”
4.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณเงนิ ตน้ ของหน้เี รม่ิ แรก โดยเงนิ ตน้ ของหน้สี นิ เรม่ิ แรกหมายถงึ เงนิ ตน้ ทจ่ี ะ
นามาใชค้ านวณดอกเบย้ี ในการผอ่ นชาระ ซง่ึ คานวณไดจ้ ากการนาเงนิ ดาวน์หกั ออกจากราคาเงนิ สด ดงั น้ี

เงนิ ดาวน์อาจกาหนดเป็นจานวนเงนิ หรอื อาจจะกาหนดเป็นรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ตข์ องราคาสนิ คา้ การ
คานวณเงนิ ดาวน์ไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี

4.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงตวั อยา่ งการคานวณโดยใชโ้ จทย์ รถยนตค์ นั หน่ึงราคา 850,000 บาท จะตอ้ งชาระเงนิ
ดาวน์ 20% ถา้ ซอ้ื ในระบบผอ่ นชาระ จงหาเงนิ ตน้ ของหน้เี รมิ่ แรก

5.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั กิ จิ กรรมโดยการหาเงนิ ตน้ ของหน้เี รม่ิ แรกจากรายการต่อไปน้ี 46

6.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การคานวณหาเงนิ ดาวน์ และเงนิ ตน้ ของหน้เี รม่ิ แรก โดยใชส้ อ่ื Power Point
ประกอบการเรยี นการสอน

7.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะ
8.ครใู หค้ วามรแู้ นวทางในการนาความรไู้ ปประกอบอาชพี เพอ่ื สรา้ งงานใหเ้ กดิ กบั ตนเอง และสามารถช่วย
พฒั นาความเป็นอยขู่ องประชาชนในชนบทได้ โดยนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง อนั เป็นปรชั ญาทช่ี ถ้ี งึ แนวทางการ
ปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดบั ตงั้ แต่ระดบั ครอบครวั ระดบั ชมุ ชน จนถงึ ระดบั รฐั ทงั้ ในการพฒั นาและบรหิ าร
ประเทศใหด้ าเนนิ ไปในทางสายกลาง ไมฟ่ ุ้งเฟ้อ มเี หตผุ ลในการใชจ้ า่ ยเพ่อื การดารงชวี ติ อยา่ งมสี ติ
9.ผเู้ รยี นยกตวั อยา่ งบคุ คลทป่ี ระสบความสาเรจ็ ในดา้ นการประกอบอาชพี งานต่าง ๆ ทม่ี ชี อ่ื เสยี ง
สามารถนามาเป็นตวั อย่างทด่ี ไี ด้ โดยมคี วามพอเพียงคอื รจู้ กั พอประมาณ พออยู่ พอมี พอกนิ พอใช้ ประหยดั และไม่
เบยี ดเบยี นผอู้ น่ื มาคนละ 1 ตวั อยา่ ง และเขยี นบรรยายสง่ิ ทท่ี าใหไ้ ดเ้ รยี นรถู้ งึ ความรแู้ ละคณุ ธรรมทจ่ี ะไดร้ บั จากการ
เรยี นและนาไปประกอบอาชพี รวมถงึ การปฏบิ ตั ติ นอยา่ งพอเพยี งของบคุ คลนนั้

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
10.ผเู้ รยี นสรุปความรทู้ เ่ี รยี นมาทงั้ หมดในสปั ดาหน์ ้ี โดยการถามตอบเป็นรายบคุ คล โดย

11.ผเู้ รยี นสรุปโดยการแสดงการคานวณ
12.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม
13.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณติ ศาสตรธ์ ุรกจิ และบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point

หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื

3.แผนจดั การเรยี นรู้ 47
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เครอ่ื งมือวดั ผล

1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั

ประเมนิ

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น

เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ
ทบทวนการคานวณเงนิ ตน้ ของหน้เี รมิ่ แรก

บนั ทึกหลงั การสอน 48

ข้อสรปุ หลงั การสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

49

แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 7 หน่วยที่ 3

รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนคร้งั ที่ 7 (13-14)
ชือ่ หนว่ ย/เรือ่ ง การซื้อขายในระบบผอ่ นชาระ จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การซอ้ื ขายในระบบผอ่ นชาระ เป็นทน่ี ยิ มกนั มาก เน่อื งจากผซู้ อ้ื มโี อกาสไดร้ บั สนิ คา้ ตามตอ้ งการทนั ที กอ่ น
ชาระสนิ คา้ ทงั้ หมด สว่ นผขู้ ายกไ็ ดร้ บั โอกาสในการขายสนิ คา้ มากขน้ึ พรอ้ มไดร้ บั ดอกเบย้ี ในการซอ้ื ขายระบบผอ่ นชาระ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.คานวณหาเงนิ ตน้ ของหน้เี รมิ่ แรกได้

3.คานวณหาราคาเงนิ ผอ่ นได้

4.คานวณหาดอกเบย้ี ผ่อนชาระได้

5.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน

คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง

5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.7 ความสนใจใฝ่รู้

5.2 ความมวี นิ ยั 5.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั

5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.9 ความรกั สามคั คี

5.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 5.10 ความกตญั ํกู ตเวที

5.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง

5.6 การประหยดั

สมรรถนะรายวิชา

1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น

2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สมรรถนะรายหน่วย

1.แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั การตงั้ ราคาขาย
2.ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การตงั้ ราคาขายไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี

สาระการเรยี นรู้
2.การคานวณราคาเงนิ ผ่อนและดอกเบย้ี ผอ่ นชาระ

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น

50
1.ครแู ละผเู้ รยี นทบทวนหาคา่ การคานวณเงนิ ตน้ ของหน้เี รม่ิ แรก ในการซอ้ื ขายสนิ คา้ ในระบบผอ่ นชาระ
ผขู้ ายอาจกาหนดใหผ้ ซู้ อ้ื จ่ายเงนิ จานวนหน่งึ ใหแ้ กผ่ ขู้ ายก่อนจะรบั สนิ คา้ จานวนเงนิ น้เี รยี กว่า “เงนิ วางเรม่ิ แรก” (Down
Payment) สว่ นใหญ่นยิ มเรยี กวา่ “เงนิ ดาวน์” สว่ นจานวนทค่ี า้ งชาระ ผซู้ อ้ื จะตอ้ งผ่อนชาระเงนิ เป็นรายงวดเรยี กวา่ “เงนิ
ผอ่ นชาระรายงวด” เมอ่ื นาเงนิ ผอ่ นชาระรายงวดทุกๆ งวด รวมกนั เรยี กวา่ “เงนิ ผ่อนชาระระ”

2.ครแู สดงรปู ภาพ และสตู รการคานวณเพอ่ื เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ น้อื หาต่อไป
ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point และ VDO
เพอ่ื อธบิ ายมวลอะตอม เพอ่ื สอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจไดง้ ่ายขน้ึ เกย่ี วกบั การคานวณราคาเงนิ ผอ่ นและดอกเบย้ี ผ่อนชาระ โดย
ราคาผอ่ น หมายถงึ จานวนเงนิ ทงั้ หมดทผ่ี ซู้ อ้ื จะตอ้ งชาระแกผ่ ขู้ าย จากการซอ้ื ขายสนิ คา้ ในระบบผอ่ นชาระ ซง่ึ ไดจ้ าก
เงนิ ผอ่ นชาระดงั น้ี

จานวนเงนิ ทงั้ หมาดทผ่ี ซู้ อ้ื จะตอ้ งจ่ายใหแ้ ก่ผขู้ ายซง่ึ เรยี กว่า ราคาเงนิ ผอ่ นนนั้ จานวนเงนิ น้มี ากกว่าราคาเงนิ สด
จานวนเงนิ สว่ นทม่ี ากกว่าราคาเงนิ สด เรยี กวา่ “ดอกเบย้ี ผอ่ นชาระ”

4.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาราคาเงนิ ผอ่ นและดอกเบย้ี ผ่อนชาระ โดยใชโ้ จทยด์ งั น้ี
รา้ นคา้ แห่งหน่งึ ประกาศขายเครอ่ื งปรบั อากาศราคาเงนิ สด 12,500 บาท แต่ถา้ ซอ้ื ในราคาเงนิ ผอ่ นจะตอ้ ง
จ่ายเงนิ ดาวน์ 20% ของราคาเงนิ สด และจา่ ยผอ่ นชาระรายเดอื นๆ ละ 1,400 บาท จานวน 10 เดอื น

5.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะคานวณหาราคาเงนิ ผ่อนและดอกเบย้ี ผอ่ นชาระ โดยใชโ้ จทยด์ งั น้ี
รา้ นแหง่ หน่ซึ อ้ื เครอ่ื งซกั ผา้ เคร่อื งหน่งึ โดยจา่ ยเงนิ ดาวน์ 20% ของราคาเงนิ ผอ่ น จะตอ้ งจ่ายผ่อนชาระเดอื น
ละ 2,950 บาท จานวน 10 เดอื น ถา้ ราคาเงนิ สด 28,500 บาท


Click to View FlipBook Version