51
6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะแสดงการคานวณหาดอกเบย้ี ผ่อนชาระ โดยใชโ้ จทยด์ งั น้ี
กจิ การแห่งหน่งึ ขายตเู้ ยน็ 24,000 บาท เงนิ ดาวน์ 4,000 บาท ทเ่ี หลอื ใหผ้ อ่ นชาระโดยคดิ ดอกเบย้ี ในอตั รา
12%ต่อปี
7.ผเู้ รยี นคานวณหาราคาเงนิ ผ่อน และดอกเบย้ี ผ่อนชาระ ดงั ต่อไปน้ี
8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะในกจิ กรรม
9.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
10.ครเู น้นปฏบิ ตั ทิ าเกลยี วทอ่ โลหะหนาดว้ ยความระมดั ระวงั ในเรอ่ื งความปลอดภยั ระหว่างการทางานและ
การนาไปใช้ เพ่อื สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั เอง และเสนอแนะการนาความรไู้ ปประกอบอาชพี เพอ่ื สรา้ งรายไดใ้ หแ้ ก่ตนเอง
และครอบครวั ต่อไป
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์
52
11.ผเู้ รยี นสรุปเน้อื หา โดยครใู ชว้ ธิ สี มุ่ ผเู้ รยี นทกุ คนตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พ่อื นฟังทงั้ ชนั้ เรยี น พรอ้ มสรุป
เน้อื หาอกี ครงั้
12.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ และแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วย
13.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี
ช่อื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สตปิ ัญญา วุฒภิ าวะ
1.
2.
3.
แบบประเมนิ ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้
ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
1.
2.
3.
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point และ VDO
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ิ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ
3 ตรวจกจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ิ
4. ตรวจกจิ กรรมใบงาน
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครื่องมือวดั ผล 53
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการคานวณในแบบฝึกทกั ษะ และแบบฝึกหดั
บนั ทึกหลงั การสอน 54
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
55
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 8 หน่วยที่ 3
รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนครงั้ ท่ี 8 (15-16)
ชื่อหน่วย/เรอ่ื ง การซื้อขายในระบบผอ่ นชาระ จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
การซอ้ื ขายในระบบผอ่ นชาระ เป็นทน่ี ยิ มกนั มาก เน่อื งจากผซู้ อ้ื มโี อกาสไดร้ บั สนิ คา้ ตามตอ้ งการทนั ที ก่อน
ชาระสนิ คา้ ทงั้ หมด สว่ นผขู้ ายกไ็ ดร้ บั โอกาสในการขายสนิ คา้ มากขน้ึ พรอ้ มไดร้ บั ดอกเบย้ี ในการซอ้ื ขายระบบผอ่ นชาระ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
5.คานวณหาเงนิ ผ่อนชาระงวดแบบคงทไ่ี ด้
6.คานวณหาเงนิ ผอ่ นชาระรายงวดแบบลดลงได้
7.คานวณหาอตั ราดอกเบย้ี ผอ่ นชาระแบบคงตน้ ได้
8.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
8.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
8.2 ความมวี นิ ยั
8.3 ความรบั ผดิ ชอบ
8.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
8.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
8.6 การประหยดั
8.7 ความสนใจใฝ่รู้
8.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
8.9 ความรกั สามคั คี
8.10 ความกตญั ํกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สมรรถนะรายหน่วย
1.แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั การตงั้ ราคาขาย
2.ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การตงั้ ราคาขายไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
56
สาระการเรยี นรู้
3.การคานวณเงนิ ผอ่ นชาระรายงวด
กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน
1.ครใู ชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา
โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเร่อื งทจ่ี ะเรยี น เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชอ่ื มโยงความรใู้ หม่กบั ความรเู้ ดมิ
ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเลา่ ประสบการณ์เดมิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนาเร่อื งการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ มกี ารกาหนดใหผ้ ซู้ อ้ื ชาระ คา่ สนิ คา้ ในแต่ละงวด
เรยี กว่าเงนิ ผ่อนชาระรายงวด
3.ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในการนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาประยุกตใ์ ชเ้ พ่อื
เน้นใหผ้ เู้ รยี นฝึกเรอ่ื งความระมดั ระวงั ความมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เองและความรอบคอบ ความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน
ความเพยี ร ความเออ้ื อาทรต่อเพ่อื นรว่ มงาน เป็นตน้
ขนั้ สอน
4.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื อการ
คานวณเงนิ ผอ่ นชาระรายงวด โดยเงนิ ผ่อนชาระรายงวดมี 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ เงนิ ผอ่ นชาระรายงวดแบบลดลง และเงนิ ผ่อน
ชาระรายงวดแบบเท่ากนั
5.ครใู ชเ้ ทคนคิ การอธบิ าย และสาธติ เงนิ ผอ่ นชาระรายงวดแบบลดลง พรอ้ มเปิด VDO เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจงา่ ย
ขน้ึ ซง่ึ เป็นการคานวณหาเงนิ ผอ่ นชาระรายงวด จากเงนิ ตน้ ของหน้เี รม่ิ แรกเฉลย่ี ต่อจานวนงวดเงนิ ตน้ ทผ่ี ่อนชาระแต่ละ
งดจงึ เทา่ กนั ตลอด รวมกบั ดอกเบย้ี ทล่ี ดลงตามเงนิ ตน้ ทค่ี า้ งชาระในแต่ละงวดลดลง
57
6.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาเงินผอ่ นชาระรายเดอื นแบบลดลง ตามตารางดงั นี้
7.ครอู ธบิ ายเงนิ ผ่อนชาระรายงวดเทา่ กนั โดยใช้ Power Point เป็นสอ่ื ประกอบ โดยการคานวณหาเงนิ ผอ่ น
ชาระรายงวด คานวณจากการหาดอกเบย้ี ผ่อนชาระทงั้ หมดรวมกบั เงนิ ตน้ ของหน้เี รม่ิ แรกแลว้ เฉลย่ี ดว้ ยจานวนงวด
ดงั นนั้ เงนิ ผ่อนชาระแต่ละงวดจงึ เทา่ กนั ตลอดหรอื คานวณได้ จากสตู รไดด้ งั น้ี
8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการคานวณหาเงนิ ผอ่ นชาระรายงวด ดงั น้ี
58
9.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะแสดงการคานวณหาเงนิ ผอ่ นชาระรายงวดแบบเทา่ กนั และเงนิ ผอ่ นชาระรายงวดแบบลดลง
พรอ้ มทงั้ เปรยี บเทยี บดอกเบย้ี ผอ่ นชาระทงั้ สองแบบ
59
10.ครอู ธบิ ายการคานวณอตั ราดอกเบย้ี ผ่อนชราแบบคงตน้ ซง่ึ มสี ตู รในการคานวณดงั น้ี
11.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาอตั ราดอกเบย้ี ชาระเบบคงตน้ ดงั น้ี 60
12.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะแสดงการคานวณหาเงนิ ผอ่ นชาระรายงวดแบบลดลง
13.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์
14.ผเู้ รยี นสรปุ เน้อื หาเงนิ ผอ่ นชาระรายงวดแบบลดลง
15.ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ เน้อื หาชาระรายงวดแบบเทา่ กนั
16.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพ่อื ฝึกทกั ษะ แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมนิ
ตนเอง พรอ้ มทากจิ กรรมการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
17.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี
ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ 61
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
ชอ่ื ผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
1.
2.
3.
4.
5.
สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบรกิ าร
2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
3.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5.กจิ กรรมเพ่อื ฝึกทกั ษะในการเรยี นการสอน
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั
ประเมนิ
62
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผ่าน
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ควรทบทวน และแสดงการคานวณการคานวณเงนิ ผ่อนชาระรายงวด เพ่อื นาไปใชเ้ กดิ ประโยชน์ต่อไป
บนั ทึกหลงั การสอน 63
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
64
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 9 หน่วยที่ 4
รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนครงั้ ที่ 9 (17-18)
ช่ือหน่วย/เรอื่ ง ดอกเบี้ย จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
ในธรุ กจิ ทวั่ ไปมกี ารฝากเงนิ และกูเ้ งนิ แบบต่างๆ สงิ่ ทจ่ี าเป็นในเรอ่ื งน้คี อื ดอกเบย้ี เงนิ ต้น เงนิ รวม ระยะเวลา
ของการฝากเงนิ หรอื กเู้ งนิ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1 อธบิ ายวธิ กี ารคานวณหาดอกเบย้ี จากเงนิ ฝากและเงนิ กูแ้ บบตา่ งๆ ได้
2.แกป้ ัญหาในสถานการณ์จรงิ โดยใชค้ วามรเู้ ร่อื งดอกเบย้ี ได้
3.นาความรแู้ ละทกั ษะทไ่ี ดจ้ ากการเรยี นรเู้ ร่อื งดอกเบย้ี ไปเชอ่ื มโยงในการเรยี นรูง้ านอาชพี และในการดารงชวี ติ
ได้
4.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
4.2 ความมวี นิ ยั
4.3 ความรบั ผดิ ชอบ
4.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
4.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
4.6 การประหยดั
4.7 ความสนใจใฝ่รู้
4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
4.9 ความรกั สามคั คี
4.10 ความกตญั ํกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สมรรถนะรายหน่วย
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั ดอกเบย้ี
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ดอกเบย้ี ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สาระการเรียนรู้
1.ดอกเบย้ี คงตน้
กิจกรรมการเรียนรู้ 65
ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนาโดยทวั่ๆ ไปแลว้ ในการกยู้ มื เงนิ นนั้ ผใู้ หก้ หู้ รอื เจา้ หน้ที เ่ี ป็นเจา้ ของเงนิ จะได้
ผลประโยชนต์ อบแทนจากจานวนเงนิ ทใ่ี หก้ ไู้ ป ผลประโยชน์หรอื ค่าตอบแทนทเ่ี จา้ หน้ไี ดร้ บั เรยี กวา่ “ดอกเบย้ี
(Interest)” ซง่ึ ไดก้ ลายมาเป็นแหล่งรายไดท้ ส่ี าคญั ของธนาคารและสถาบนั การเงนิ ประเภทต่างๆ จานวนดอกเบย้ี ท่ี
เกดิ ขน้ึ จากการกยู้ มื เงนิ น้ไี มว่ า่ จานวนมากหรอื น้อยเพยี งใดขน้ึ อย่กู บั ปัจจยั ทส่ี าคญั 3 ประการ คอื จานวนเงนิ ทก่ี ูไ้ ป ซง่ึ
เรยี กว่า “เงนิ ตน้ (Principal)” “ระยะเวลาของการกยู้ มื เงนิ ” โดยอาจกาหนดเป็นหน่วยเวลา เช่น ปี เดอื น สปั ดาห์ หรอื
วนั และ “อตั ราดอกเบย้ี ” ซง่ึ กาหนด เป็นรอ้ ยละต่อหน่วยเวลาใดๆ กไ็ ด้ แต่โดยปกตถิ า้ ไม่ระบหุ น่วยเวลาไวจ้ ะถอื ว่าเป็น
รอ้ ยละต่อปี เช่น อตั ราดอกเบย้ี รอ้ ยละ 5 หรอื 5% หมายความวา่ เงนิ ตน้ 100 บาท เมอ่ื กไู้ ปเป็นเวลา 1 ปี ผกู้ จู้ ะตอ้ ง
จ่ายดอกเบย้ี 5 บาท เม่อื กาหนดรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ตต์ ่อหน่วยเวลาใดกจ็ ะระบุหน่วยเวลานนั้ ๆ ไวอ้ ย่างชดั เจน เช่น
20% ต่อปี, 1.5% ต่อเดอื น เป็นตน้
2.ครแู สดงสตู รการคานวณ ดงั น้ี
ขนั้ สอน
3.ครผู สู้ อนใชเ้ ทคนิคการอธบิ ายเรอ่ื งดอกเบย้ี คงตน้ โดยใชส้ อ่ื PowerPoint ประกอบการเรยี น
4.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point และ VDO
ประกอบการศกึ ษาดอกเบย้ี คงตน้
ดอกเบย้ี คงตน้ หรอื ดอกเบย้ี เชงิ เดย่ี ว (Simple Interest) จดั เป็นวธิ กี ารคดิ ดอกเบย้ี แบบง่ายๆ อย่าง
ตรงไปตรงมา โดยเรม่ิ ตน้ คดิ จากเงนิ ตน้ คงทต่ี ลอดระยะเวลาของการกแู้ ละสามารถคานวณไดจ้ ากสตู รดงั น้ี
ดอกเบย้ี = เงนิ ตน้ × อตั ราดอกเบย้ี × ระยะเวลา
หรอื I= Pin เมอ่ื กาหนดให้ I แทน ดอกเบย้ี คงตน้
P แทน เงนิ ตน้
i แทน อตั ราดอกเบย้ี ต่อหน่วยเวลา
n แทน ระยะเวลา
5.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาดอกเบย้ี ของเงนิ ตน้ 2,000 บาท เป็นเวลา 3 ปี โดย
คดิ อตั ราดอกเบย้ี รอ้ ยละ 12
66
6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการคานวณหาดอกเบย้ี จากเงนิ ตน้ 50,000 บาท คดิ ดอกเบย้ี ในอตั รา 12% กู้ 3 เดอื น
7.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาดอกเบย้ี ของเงนิ ตน้ 13,000 บาท เวลา 8 เดอื น อตั ราดอกเบย้ี 15%
8.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณเงนิ ตน้ และอตั ราดอกเบย้ี โดยการอธบิ ายและใชส้ อ่ื PowerPoint ประกอบกา
ระรยี น โดยการคานวณเงนิ ตน้ เม่อื กาหนดอตั ราดอกเบย้ี และระยะเวลาใหเ้ ป็นหน่วยเวลาเดยี วกนั
9.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาเงนิ ตน้ ถา้ คดิ อตั ราดอกเบย้ี 4.5% นาน 2 ปี จงึ จะไดด้ อกเบย้ี 450 บาท
10.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาเงนิ ลงทุนเป็นจานวนเท่าใด
11.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณระยะเวลาและเงนิ รวม โดยการคานวณระยะเวลา เช่น วนั ครบกาหนดกู้ 67
และวนั ทก่ี ู้ ซง่ึ ระยะเวลา (n) ทค่ี านวณได้ จะมหี น่วย เช่นเดยี วกบั อตั ราดอกเบย้ี (i)
12.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณการชาระหน้เี ม่อื ใด
ดงั นนั้ ตอ้ งชาระหน้ใี นวนั ท่ี 6 มนี าคม 2562
13.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณว่าผกู้ นู้ นั้ ไดก้ เู้ งนิ ไปเม่อื วนั ทเ่ี ท่าใด
จากวนั ท่ี 3 ธนั วาคม 2555 นบั ยอ้ นกลบั ไปจานวน 219 วนั ไดด้ งั น้ี
14.ครอู ธบิ ายและสรุปใหผ้ เู้ รยี นฟังวา่
15.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะโดยแสดงการคานวณว่าจะตอ้ งจ่ายเงนิ คนื ทงั้ หมดเป็นเงนิ จานวนเท่าใด
68
ดงั นนั้ จะตอ้ งจา่ ยคนื เงนิ ทงั้ หมดเป็นจานวน 15,787.50 บาท
16.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมและแบบฝึกหดั
17.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะการคานวณ ตามโจทยท์ ก่ี าหนดใหแ้ ต่ละขอ้
18.เม่อื ผเู้ รยี นสาเรจ็ การศกึ ษาและนาความรเู้ พ่อื นาไปประกอบอาชพี โดยเน้นหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ผเู้ รยี น
จะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ย่างไรบา้ งเกย่ี วกบั เง่อื นไขความรแู้ ละเงอ่ื นไขของคณุ ธรรม
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์
19.ครกู าหนดปัญหาโดยใหผ้ เู้ รยี นระดมสมองชว่ ยกนั คดิ หาคาตอบแลว้ อธบิ ายคาตอบ
20.ผเู้ รยี นสรุปดอกเบย้ี คงตน้ ดว้ ยสตู ร ดงั น้ี
21.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพ่อื ฝึกทกั ษะ และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณติ ศาสตรธ์ รุ กิจและบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point และ VDO
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อยา่ งการคานวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้ 69
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เคร่ืองมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั
ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื ว่าผ่าน
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ทบทวนการคานวณหาดอกเบย้ี คงตน้ และทากจิ กรรม แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
70
บนั ทึกหลงั การสอน
ข้อสรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
71
แผนการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการท่ี 10 หน่วยที่ -
รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนคร้งั ที่ 10 (19-20)
ชื่อหน่วย/เรื่อง ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
-
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.ผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นรเู้ น้อื หาสาระ และนาความคดิ รวบยอดไปประยกุ ตใ์ ชต้ ่อไป
2.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
2.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2.6 การประหยดั
2.2 ความมวี นิ ยั 2.7 ความสนใจใฝ่รู้
2.3 ความรบั ผดิ ชอบ 2.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
2.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 2.9 ความรกั สามคั คี
2.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 2.10 ความกตญั ํกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น
2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สมรรถนะรายวิชา สาระการเรยี นรู้
-
ทบทวน/สอบกลางภาคเรยี น
72
บนั ทึกหลงั การสอบ
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
73
แผนการจดั การเรียนร้แู บบบรู ณาการท่ี 11 หน่วยที่ 4
รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนคร้งั ที่ 11 (21-22)
ชื่อหน่วย/เรอ่ื ง ดอกเบีย้ จานวน 2 ช.ม.
แนวคิด
ในธุรกจิ ทวั่ ไปมกี ารฝากเงนิ และกูเ้ งนิ แบบต่างๆ สง่ิ ทจ่ี าเป็นในเร่อื งน้คี อื ดอกเบย้ี เงนิ ต้น เงนิ รวม ระยะเวลา
ของการฝากเงนิ หรอื กเู้ งนิ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1 อธบิ ายวธิ กี ารคานวณหาดอกเบย้ี จากเงนิ ฝากและเงนิ กูแ้ บบตา่ งๆ ได้
2.แกป้ ัญหาในสถานการณ์จรงิ โดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื งดอกเบย้ี ได้
3.นาความรแู้ ละทกั ษะทไ่ี ดจ้ ากการเรยี นรเู้ รอ่ื งดอกเบย้ี ไปเช่อื มโยงในการเรยี นรูง้ านอาชพี และในการดารงชวี ติ
ได้
4.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
4.2 ความมวี นิ ยั
4.3 ความรบั ผดิ ชอบ
4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
4.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
4.6 การประหยดั
4.7 ความสนใจใฝ่รู้
4.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
4.9 ความรกั สามคั คี
4.10 ความกตญั ํกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น
2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สมรรถนะรายหน่วย
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั ดอกเบย้ี
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ดอกเบย้ี ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สาระการเรียนรู้
2.ดอกเบย้ี ทบตน้
74
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น
1.ครใู ชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา
โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเรอ่ื งทจ่ี ะเรยี น เพ่อื ช่วยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชอ่ื มโยงความรใู้ หมก่ บั ความรู้เดมิ
ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเล่าประสบการณ์เดมิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นอภปิ รายเร่อื งการคดิ ดอกเบย้ี ในการกยู้ มื เงนิ นนั้ นอกจากจะคดิ คานวณแบบดอกเบย้ี คงต้น ซง่ึ
ยดึ ถอื จากจานวน เงนิ ตน้ ทน่ี ามาคดิ ดอกเบย้ี จะต้องคงทต่ี ลอดปี แต่ถา้ ระยะเวลาของการคดิ ดอกเบย้ี ถกู แบง่ ออกเป็น
งวดๆ และเมอ่ื ถงึ กาหนดเวลาคดิ ดอกเบย้ี กจ็ ะมกี ารคดิ ดอกเบย้ี ของงวดนนั้ ๆ ว่าเป็นเท่าใด แลว้ จงึ นาดอกเบย้ี ทไ่ี ดร้ บั
ในงวดนนั้ มารวมเขา้ กบั เงนิ ตน้ เดมิ และจดั เป็นเงนิ ตน้ จานวนใหม่สาหรบั การคดิ ดอกเบย้ี ในงวดถดั ไป วธิ คี ดิ เช่นน้ี
จานวนเงนิ ตน้ จะเพม่ิ ขน้ึ เรอ่ื ยๆ ตามจานวนงวดของการคดิ ดอกเบย้ี วธิ กี ารดงั กล่าว จงึ เรยี กว่า “ดอกเบย้ี ทบตน้
(Compound Interest)”
3.ครยู กตวั อยา่ งลกั ษณะการคดิ ดอกเบย้ี ทบตน้ ของธนาคารแหง่ หน่งึ หรอื การกยู้ มื จากสถาบนั การเงนิ
ขนั้ สอน
4.ครใู ชว้ ธิ สี อนอธบิ ายเร่อื งดอกเบย้ี ทบตน้ โดยใชส้ อ่ื PowerPoint ประกอบการเรยี น ซง่ึ มสี าระสาคญั ของการ
คดิ ดอกเบย้ี ทบตน้ มรี ายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี
4.1 จานวนงวดของการคดิ ดอกเบย้ี ในคราวหน่งึ ๆ นนั้ ปกตแิ ต่ละงวดจะมรี ะยะเวลาเท่าๆ กนั โดย อาจ
กาหนดเป็นต่อปี ต่อครง่ึ ปี ต่อเดอื น ฯลฯ สว่ นระยะเวลาของการกจู้ ะนานเท่าใด หรอื เป็นระยะเวลา กง่ี วดนนั้ จะเป็นไป
ตามทก่ี าหนดไว้
4.2 อตั ราดอกเบย้ี ทบตน้ จะตอ้ งมหี น่วยเวลาเช่นเดยี วกบั งวดทค่ี ดิ ดอกเบย้ี ทบต้นเสมอ
4.3 เม่อื สน้ิ งวดสดุ ทา้ ยนนั้ เงนิ ตน้ ทบดอกเบย้ี ในงวดนนั้ กค็ อื เงนิ รวมทผ่ี ูก้ จู้ ะตอ้ งชาระคนื แก่ผใู้ หก้ ู้
ดอกเบย้ี ทบตน้ ทาไดโ้ ดยการนาดอกเบย้ี ของแต่ละงวดมาบวกเขา้ ดว้ ยกนั หรอื อาจหาไดอ้ กี วธิ หี น่งึ โดยการนา
เงนิ ตน้ เรมิ่ แรกมาหกั ออกไปจากจานวนเงนิ รวมเมอ่ื สน้ิ งวดสดุ ทา้ ย
5.ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนแบบการสาธติ แสดงวธิ หี าดอกเบย้ี ทบตน้ ทจ่ี ะไดร้ บั เม่อื สน้ิ ปีท่ี 3 จากจานวนเงนิ ตน้
10,000 บาท และคดิ ดอกเบย้ี ทบตน้ ในอตั รา 5%
ปีทห่ี น่งึ เงนิ ตน้ 10,000 บาท
75
6.ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ การหาเงนิ รวมสาหรบั การคดิ ดอกเบย้ี ทบตน้ ทาไดโ้ ดยใชส้ ตู ร
7.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะแสดงการคานวณหาดอกเบย้ี ทบตน้ โดยใชส้ ตู รไดด้ งั น้ี
8.ครแู นะนาในการคานวณเพมิ่ เตมิ ดงั ต่อไปน้ี
9.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะ และทาแบบฝึกหดั
10.ครเู น้นการนาความรไู้ ปประกอบอาชพี อย่างมคี ุณธรรมไม่เบยี ดเบยี นผอู้ น่ื เชน่ ไม่มพี ฤตกิ รรมทฉ่ี ้อโกง
โดยไมป่ ฏเิ สธความรบั ผดิ ชอบจนผบู้ รโิ ภคเกดิ ความเดอื ดรอ้ น เมอ่ื ผเู้ รยี นจบการศกึ ษาไปแลว้ และไปประกอบอาชพี
ผปู้ ระกอบการหรอื ลกู จา้ งกต็ าม ควรยดึ หลกั คุณธรรมตามเง่อื นไขแห่งปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์
11.สรุปโดยครตู งั้ คาถาม ใหผ้ เู้ รยี นตอบ และการคานวณดอกเบย้ี ทบตน้ เป็นรายบุคคล
76
12.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อยา่ งการคานวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3 ตรวจกจิ กรรม
3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั
พงึ ประสงค์
เครอ่ื งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
รว่ มกนั ประเมนิ
77
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื ว่าผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ทบทวนบทเรยี นเพอ่ื ฝึกทกั ษะการคานวณดอกเบย้ี ทบตน้
บนั ทึกหลงั การสอน 78
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
79
แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 12 หน่วยที่ 5
รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนครงั้ ท่ี 12 (23-24)
ชื่อหน่วย/เรอื่ ง อสมการ จำนวน 2 ช.ม.
แนวคิด
1 อสมการ เป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ทแ่ี สดงความสมั พนั ธข์ องจานวนทใ่ี ชเ้ ครอ่ื งหมาย > (มากกว่า), < (น้อย
กว่า), ≥ (มากกว่าหรอื เท่ากบั ), ≤ (น้อยกว่าหรอื เท่ากบั ) และ ≠ (ไม่เทา่ กบั )
2 อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว เป็นอสมการทม่ี ตี วั แปรเดยี ว และเลขชก้ี าลงั ของตวั แปรเป็นหน่งึ
3 อสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร เป็นอสมการทม่ี ตี วั แปรสองตวั เลขชก้ี าลงั ของตวั แปรแต่ละตวั เป็นหน่ึง และไม่มี
การคณู ระหว่างตวั แปร
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1.บอกความหมายของอสมการได้
2.เขยี นชว่ งต่างๆ ทก่ี าหนดใหใ้ นรปู ของเซตและกราฟได้
3.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็
การศกึ ษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่คี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนใน
เรอ่ื ง
3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
3.2 ความมวี นิ ยั
3.3 ความรบั ผดิ ชอบ
3.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
3.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
3.6 การประหยดั
3.7 ความสนใจใฝ่รู้
3.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
3.9 ความรกั สามคั คี
3.10 ความกตญั ํกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
80
สมรรถนะรายหน่วยวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั อสมการ
2.ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั อสมการไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สาระการเรยี นรู้
1 ความหมายของอสมการ
2 เสน้ จานวนและช่วงเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน
1.ครใู ชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา
โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเรอ่ื งทจ่ี ะเรยี น เพ่อื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชอ่ื มโยงความรใู้ หมก่ บั ความรู้เดมิ
ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเล่าประสบการณ์เดมิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนากนั เกย่ี วกบั เครอ่ื งหมายสญั ลกั ษณ์ต่างทค่ี นุ้ เคย ดงั แสดงในรปู ซง่ึ เคร่อื งหมายเหล่าน้ี
เรยี กว่า “อสมการ”
ขนั้ สอน
3.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรแู้ บบสาธติ และ
อธบิ ายความหมายของอสมการ ซง่ึ อสมการ (Ineguality) เป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ทแ่ี สดงความสมั พนั ธข์ องจานวนทใ่ี ช้
เครอ่ื งหมาย >, <, ≥, ≤ และ ≠
ตวั แปร (Variable) เป็นตวั อกั ษรหรอื สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชแ้ ทนจานวนทไ่ี ม่ทราบค่า หรอื ตอ้ งการหานยิ มแทนตวั
แปรดว้ ยสญั ลกั ษณ์ a, b, c, …x, y, z
4.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะบอกวา่ เคร่อื งหมายใดเป็นอสมการ โดยครกู าหนดเครอ่ื งหมายให้
5.
4.ครใู ชเ้ ทคนคิ การเรยี นแบบ Discussion Method การจดั การเรยี นรแู้ บบอภปิ รายการเท่ากนั ของ
เสน้ จานวนและชว่ งเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว
81
5.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะเขยี นช่วงต่อไปน้ใี หอ้ ยใู่ นรปู ของเซต พรอ้ มทงั้ เขยี นกราฟของชว่ ง
5.ครใู ชเ้ ทคนิคการเรยี นแบบ Discussion Method การจดั การเรยี นรแู้ บบอภปิ รายการเท่ากนั ของช่วง
สามารถเขยี นอยใู่ นรปู ของเซตไดด้ งั นนั้ เน่อื งจากการาเนนิ การของเซตทาไดห้ ลายวธิ ี คอื ยเู นยี น, อนิ เตอรเ์ ซกชนั ,
คอมพลเี มนต์ และผลต่าง ดงั นนั้ เราสามารถเขยี นอย่ใู นรปู ชว่ งได้
5.1 ยเู นยี น (Union) ใชเ้ ครอ่ื งหมาย “∪” หมายถงึ สว่ นประกอบทร่ี วมกนั ทงั้ หมด
5.2 อนเิ ตอรเ์ ซกชนั (Intersection) ใชเ้ ครอง่ื หมาย “∩” หมายถงึ สว่ นทซ่ี ้าหรอื เหมอื นกนั เท่านนั้
5.3 คอมพลเี มนต์ (Complement) ใชเ้ คร่อื งหมาย “ ' ” ไดแ้ ก่ A' หมายถงึ สว่ นทไ่ี มใ่ ชส้ มาชกิ ของ A 4 ผลต่าง
(Difference) ใชเ้ ครอ่ื งหมาย “ - ” ไดแ้ ก่ A-B หมายถงึ เป็นสมาชกิ ของ A แต่ไม่อยู่ ในสมาชกิ ของ B
6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะคานวณหา A∪B และ A∩B โดยกาหนด A = (-4, 4) และ B = [-5, 5]
82
7.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะโดยทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั
8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะโดยทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
9.ครูเนน้ การทางานดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ มคี วามเพยี รพยายามในการนาความรูไ้ ปใชใ้ หป้ ระสบความสาเรจ็
และมีความระมดั ระวงั อนั ตรายทอ่ี าจจะเกดิ ขนึ้ ไดใ้ นระหวา่ งการปฏิบตั ิหนา้ ที่ หรอื หลงั จากปฏิบตั ิหนา้ ท่ดี ว้ ยความ
รบั ผดิ ชอบ ซง่ึ เป็นการสรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ที่ดีในตวั เองตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ดงั นนั้ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
จึงเป็นหลกั การดาเนนิ ชีวติ การทางาน การบรหิ าร การพฒั นา รวมถึงการดาเนนิ กจิ กรรมในดา้ นตา่ งๆของมนษุ ย์ ทเ่ี นน้
แนวทางสายกลางยดึ หลกั ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล และมภี มู คิ มุ้ กนั ทดี่ ี ภายใตเ้ งื่อนไขความรอบรู้ รอบคอบ
ระมดั ระวงั และเงื่อนไขคณุ ธรรม ความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ความเพียร ขยนั อดทน และการแบง่ ปัน
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ตใ์ ช้
10.ครูและสรุปการเรยี นเนอื้ หา โดยใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามของครู และสรุปสาระสาคญั อสมการ เป็น
ประโยคสญั ลกั ษณ์ทแ่ี สดงความสมั พนั ธข์ องจานวนทใ่ี ชเ้ คร่อื งหมาย > , < , ≥ , ≤ และ ≠ อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปร
เดยี ว เป็นอสมการทม่ี ตี วั แปรเดยี วและเลขชก้ี าลงั ของตวั แปรเป็นหน่ึง
11.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ รุ กิจและบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อย่างการคาวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
83
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอื่ งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ฝึกทาทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
บนั ทึกหลงั การสอน 84
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาท่ีพบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
85
แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 13 หน่วยที่ 5
รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนครง้ั ที่ 13 (25-26)
ช่ือหน่วย/เรอ่ื ง อสมการ จำนวน 2 ช.ม.
แนวคิด
1 อสมการ เป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ทแ่ี สดงความสมั พนั ธข์ องจานวนทใ่ี ชเ้ คร่อื งหมาย > (มากกว่า), < (น้อย
กว่า), ≥ (มากกว่าหรอื เท่ากบั ), ≤ (น้อยกว่าหรอื เท่ากบั ) และ ≠ (ไม่เทา่ กบั )
2 อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว เป็นอสมการทม่ี ตี วั แปรเดยี ว และเลขชก้ี าลงั ของตวั แปรเป็นหน่ึง
3 อสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร เป็นอสมการทม่ี ตี วั แปรสองตวั เลขชก้ี าลงั ของตวั แปรแต่ละตวั เป็นหน่ึง และไม่มี
การคณู ระหว่างตวั แปร
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.หาเซตคาตอบของอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วได้
4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็
การศกึ ษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่คี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนใน
เรอ่ื ง
4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
4.2 ความมวี นิ ยั
4.3 ความรบั ผดิ ชอบ
4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
4.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
4.6 การประหยดั
4.7 ความสนใจใฝ่รู้
4.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
4.9 ความรกั สามคั คี
4.10 ความกตญั ํกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น
2 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
86
สมรรถนะรายหน่วยวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั อสมการ
2.ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั อสมการไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สาระการเรียนรู้
3 อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว
4 การแกอ้ สมการ
5 การนาสมบตั กิ ารไมเ่ ท่ากนั ไปใชใ้ นการแกอ้ สมการ
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน
1.ครอู ภปิ รายวา่ อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว คอื อสมการทม่ี ตี วั แปรเดยี วและเลขชก้ี าลงั ของตวั แปรเป็นหน่ึง
เช่น 3x ≥ 15 2x + 3 ≠ 10 7x + 2 > 3x + 10
2.ครแู สดงสญั ลกั ษณ์ประกอบ เพอ่ื เช่อื มโยงเขา้ สเู่ น้อื หาต่อไป
ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดดุ งั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื อธบิ าย
อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว
4.ผเู้ รยี นพจิ ารณาอสมการต่อไปน้ี
1) 2x -3 > 10 เป็นอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว
2) 2x +y > 0 ไม่เป็นอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว เพราะมตี วั แปร 2 ตวั คอื x และ y
3) x2 ≠ 9 ไม่เป็นอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว เพราะตวั แปรเดยี วและเลขชก้ี าลงั ของ x ไม่เทา่ กบั 1
5.ผเู้ รยี นพจิ ารณาแลว้ บอกว่าขอ้ ใดเป็นอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว และเขยี นสญั ลกั ษณ์บอวา่ เป็นอสมการ
เชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว
6.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั
7.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดดุ งั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื
ประกอบการอธบิ ายการแกอ้ สมการ คอื การหาคา่ ของตวแั ปรในอสมการ แลว้ ทาใหอ้ สมการเป็นจรงิ ในการแกอ้ สมการ
เป็นการหาเซตคาตอบของอสมการ ในทน่ี ้จี าเป็นตอ้ งใชส้ มบตั กิ ารไม่เทา่ กนั ของจานวนจรงิ
8.ครกู าหนดให้ a, b และ c เป็นจานวนจรงิ ใดๆ และใหผ้ เู้ รยี นคานวณหาสมบตั กิ ารถ่ายทอด
9.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาสมบตั กิ ารบวดดว้ ยจานวนเท่ากนั 87
10.ผเู้ รยี นแสดงการคานวณหาสมบตั กิ ารคณู ดว้ ยจานวนเทา่ กนั
11.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั
12.ครเู น้นปฏบิ ตั ทิ าเกลยี วทอ่ โลหะหนาดว้ ยความระมดั ระวงั ในเร่อื งความปลอดภยั ระหวา่ งการทางานและ
การนาไปใช้ เพ่อื สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั เอง และเสนอแนะการนาความรไู้ ปประกอบอาชพี เพอ่ื สรา้ งรายไดใ้ หแ้ ก่ตนเอง
และครอบครวั ต่อไป
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
13.ผเู้ รยี นสรุปเน้อื หา โดยครใู ชว้ ธิ สี มุ่ ผเู้ รยี นทุกคนตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พอ่ื นฟังทงั้ ชนั้ เรยี น พรอ้ มสรุป
เน้อื หาอกี ครงั้
การแกอ้ สมการเป็นการหาค่าของตวั แปรในอสมการแลว้ ทาใหอ้ สมการเป็นจรงิ ซง่ึ ใชส้ มบตั กิ ารไมเ่ ท่ากนั
14.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
15.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี 88
ช่อื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ วธิ กี ารเรยี นรู้
1.
2.
3.
แบบประเมนิ ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้
ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
1.
2.
3.
สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อยา่ งการคานวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจกจิ กรรมใบงาน
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอื่ งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 89
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะกจิ กรรม แบบฝึกหดั และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
บนั ทึกหลงั การสอน 90
ข้อสรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
91
แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 14 หน่วยที่ 5
รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 สอนครงั้ ท่ี 14 (27-28)
ชื่อหน่วย/เรอื่ ง อสมการ จำนวน 2 ช.ม.
แนวคิด
1 อสมการ เป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ทแ่ี สดงความสมั พนั ธข์ องจานวนทใ่ี ชเ้ ครอ่ื งหมาย > (มากกว่า), < (น้อย
กว่า), ≥ (มากกว่าหรอื เท่ากบั ), ≤ (น้อยกว่าหรอื เท่ากบั ) และ ≠ (ไม่เทา่ กบั )
2 อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว เป็นอสมการทม่ี ตี วั แปรเดยี ว และเลขชก้ี าลงั ของตวั แปรเป็นหน่ึง
3 อสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร เป็นอสมการทม่ี ตี วั แปรสองตวั เลขชก้ี าลงั ของตวั แปรแต่ละตวั เป็นหน่งึ และไม่มี
การคณู ระหว่างตวั แปร
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
4.หาเซตคาตอบของอสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรได้
5.เขยี นกราฟของระบบอสมการเชงิ เสน้ ได้
6.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็
การศกึ ษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่คี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนใน
เรอ่ื ง
6.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
6.2 ความมวี นิ ยั
6.3 ความรบั ผดิ ชอบ
6.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
6.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
6.6 การประหยดั
6.7 ความสนใจใฝ่รู้
6.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
6.9 ความรกั สามคั คี
6.10 ความกตญั ํกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สมรรถนะรายหน่วยวิชา 92
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั อสมการ
2.ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั อสมการไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สาระการเรยี นรู้
6.อสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร
7 กราฟของระบบอสมการเชงิ เสน้
กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1.ครใู ชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผ่ี า่ นมา
โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเร่อื งทจ่ี ะเรยี น เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเช่อื มโยงความรใู้ หมก่ บั ความรู้เดมิ
ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเล่าประสบการณ์เดมิ
2.ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั อภปิ รายอสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร คอื อสมการทม่ี ตี วั แปรสองตวั เลขชก้ี าลงั ของตวั
แปรแต่ละตวั เป็นหน่งึ และไม่มกี ารคณู ระหว่างตวั แปร เช่น 2x + y ≥ 7
y ≤x+1
x ‟ 2y > 4
ขนั้ สอน
3.ครใู ชเ้ ทคนิคการอธบิ าย และสาธติ เรอ่ื งอสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร โดยใช้ PowerPoint ประกอบการเรยี น
การสอน โดยกราฟของอสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร คอื กราฟของค่อู นั ดบั หรอื กราฟของความสมั พนั ธท์ เ่ี ขยี นในระบบ
แกนมมุ ฉาก
หลกั การเขยี นกราฟของอสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรใชห้ ลกั การเขยี นกราฟของสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร การ
เขยี นกราฟของสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร วธิ ที ส่ี ะดวกและรวดเรว็ คอื จุดทเ่ี สน้ ตรงตดั แกน x และจดุ ทเ่ี สน้ ตรงตดั แกน y
„ หาจดุ ตดั บนแกน x นนั่ คอื y = 0
„ หาจุดตดั บนแกน y นนั่ คอื x = 0
4.ผเู้ รยี นแสดงการเขยี นกราฟของอสมการ y ≤ x+ 1
5.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อน
ทน่ี าอุปกรณ์โสตทศั นว์ สั ดุมาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื
อธบิ ายเรอ่ื งกราฟของระบบอสมการเชงิ เสน้ โดยพจิ ารณาอสมการเชงิ เสน้ มากกว่าหน่งึ อสมการพรอ้ มๆ กนั จะเรยี กว่า
ระบบอสมการเชงิ เสน้ คาตอบของระบบอสมการเชงิ เสน้ คอื ค่อู นั ดบั (x, y) ทส่ี อดคลอ้ งกบั อสมการ ทงั้ หมดของระบบ
อสมการ หรอื ค่อู นั ดบั (x, y) ทค่ี ่า x และค่า y ทาใหอ้ สมการทงั้ หมดเป้นจรงิ เมอ่ื พจิ ารณาคาตอบของ ระบบอสมการ
เชงิ เสน้ จะแทนไดด้ ว้ ยบรเิ วณทซ่ี ่อนทบั กนั ของกราฟอสมการทงั้ หมดนนั่ เอง กราฟของระบบอสมการเชงิ เสน้
5.1 ใหเ้ ขยี นกราฟย่อยของระบบอสมการในระนาบเดยี วกนั
5.2 กราฟของระบบอสมการเกดิ จากกราฟของอสมการย่อยของระบบอสมการมา
6.ผเู้ รยี นเขยี นกราฟของระบบอสมการ x + y ≤ 5 และ 2x + y ≥ 2
93
7.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะทากจิ กรรม และแบบฝึกหดั
8.ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ เกีย่ วกบั แนวทางการประยกุ ตป์ รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง จาเป็นตอ้ งเรม่ิ จากจิตใจ
เป็นพนื้ ฐาน เมือ่ จิตใจมคี วามพรอ้ ม จึงเรม่ิ ลงมือทา โดยเรมิ่ จากการปรบั เปลย่ี นวิธีคิด วธิ ีทา
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
9.ผเู้ รยี นสรุปเน้อื หา โดยการตอบคาถาม โดยอสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร เป็นอสมการทม่ี ตี วั แปรสองตวั เลข
ชก้ี าลงั ของตวั แปรแต่ละตวั เป็นหน่งึ และไม่มกี ารคณู ระหว่างตวั แปร
1) การเขยี นกราฟของอสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร 1 เขยี นกราฟของสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร
2) กราฟแบง่ เป็นระนาบออก 2 สว่ น เลอื กจุดสว่ นหน่งึ มาแทนในอสมการหากแทนค่าแลว้ อสมการ เป็น
จรงิ ใหแ้ รเงาสว่ นนนั้ และหากอสมการไม่เป็นจรงิ ใหแ้ รเงาอกี สว่ นหน่งึ
10.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
11.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
ช่อื ผเู้ รยี น
1.
2.
3.
4.
5.
94
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณติ ศาสตรธ์ ุรกิจและการบรกิ าร
2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
3.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point, รปู ภาพ
4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5.ตวั อยา่ งการคานวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เคร่อื งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น
ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ทบทวนบทเรยี น และฝึกทกั ษะการคานวณ
95
บนั ทึกหลงั การสอน
ข้อสรปุ หลงั การสอน
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 15 96
รหสั วิชา 20000-1404 คณิตศาสตรธ์ ุรกิจและบริการ 2-0-2 หน่วยที่ 6
ชื่อหน่วย/เรอื่ ง ความน่าจะเป็นเบอื้ งต้น
สอนครง้ั ที่ 15 (29-30)
จำนวน 2 ช.ม.
แนวคดิ
กฎเกณฑเ์ บอื้ งตน้ เก่ียวกบั การนบั เป็นการหาจานวนวิธีของผลลพั ธข์ องสง่ิ ทีเ่ ราสนใจ
การทดลองสมุ่ คอื การทดลองทที่ ราบผลลพั ธท์ อี่ าจจะเกิดขนึ้ เป็นอะไรไดบ้ า้ ง แตไ่ มส่ ามารถพยากรณไ์ ดอ้ ยา่ ง
ถกู ตอ้ งแนน่ อนวา่ ขณะทท่ี ดลองผลลพั ธท์ ี่เกิดขนึ้ จะเป็นอะไร จากผลลพั ธท์ ่เี ป็นไปไดท้ งั้ หมดจนกวา่ จะสนิ้ สดุ การทดลอง
แซมเปิลสเปซ คอื เซตของผลลพั ธท์ อ่ี าจจะเป็นไดท้ งั้ หมดท่เี กิดจากการทดลองสมุ่
เหตกุ ารณ์ คอื เซตของผลลพั ธท์ ี่เราสนใจในการทดลองสมุ่ ซงึ่ เหตกุ ารณจ์ ะเป็นสบั เซตของแซมเปิลสเปซ
ความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ หมายถงึ โอกาสทีเ่ หตกุ ารณห์ นงึ่ ทเี่ กิดขนึ้ โดยหาไดจ้ ากอตั ราสว่ นของจานวน
สมาชิกของเหตกุ ารณก์ บั จานวนสมาชิกทงั้ หมดของแซมเปิลสเปซ
กฎทีส่ าคญั บางประการของความน่าจะเป็น ซง่ึ ทาใหก้ ารคานวณความนา่ จะเป็นง่ายขนึ้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1.หาจานวนวธิ ขี องเหตุการณ์โดยใชก้ ฎเกณฑเ์ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การนบั และแผนภาพตน้ ไมไ้ ด้
2.แกโ้ จทยป์ ัญหาโดยใชก้ ฎเกณฑเ์ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การนบั ได้
3.บอกความหมายของการทดลองสุ่ม ปรภิ ูมติ วั อยา่ งและเหตุการณ์ได์
4.หาแซมเปิลสเปซของการทดลองสุ่มทก่ี าหนดใหไ้ ด้
5.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
5.2 ความมวี นิ ยั
5.3 ความรบั ผดิ ชอบ
5.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
5.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
5.6 การประหยดั
5.7 ความสนใจใฝ่รู้
5.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
5.9 ความรกั สามคั คี
5.10 ความกตญั ํกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระดอกเบย้ี อสมการและความน่าจะ
เป็น
97
2 ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั รอ้ ยละ การตงั้ ราคาขายการซอ้ื ขายในระบบผ่อนชาระ ดอกเบย้ี อสมการและ
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สมรรถนะรายหน่วย
1 แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั ความน่าจะเป็น
2 ประยุกตใ็ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และงานอาชพี
สาระการเรยี นรู้
1.กฎเกณฑเ์ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การนบั
2.การทดลองสมุ่
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1.ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ในการนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื
เน้นใหผ้ เู้ รยี นฝึกเร่อื งความระมดั ระวงั ความมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เองและความรอบคอบ ความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน
ความเพยี ร ความเออ้ื อาทรต่อเพอ่ื นรว่ มงาน เป็นตน้
2.ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ่ี
ผา่ นมา โดยดงึ ความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเรอ่ื งทจ่ี ะเรยี น เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเช่อื มโยงความรใู้ หมก่ บั
ความรเู้ ดมิ ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ เู้ รยี นเล่าประสบการณ์เดมิ
3.ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั อภปิ รายเรอ่ื งการศกึ ษาเร่อื งความน่าจะเป็น ตอ้ งอาศยั ความรเู้ กย่ี วกบั การนบั จานวน
ผลลพั ธท์ เ่ี ป็นไปไดข้ องสงิ่ ทเ่ี ราสนใจหรอื การทดลองแบบต่างๆ เช่น ทดลองโยนเหรยี ญบาท 1 เหรยี ญ ผลลพั ธท์ เ่ี ป็นไป
ไดม้ ี 2 กรณี คอื การทเ่ี หรยี ญหงายหวั หรอื หงายกอ้ ย ทอดลกู เตา 1 ลกู ผลลพั ธท์ เ่ี ป็นไปไดม้ ี 6 กรณี คอื การทลก่ี เู ตา
หงายแตม้ ใดแตม้ หน่งึ คอื 1, 2, 3, 4, 5 หรอื 6 แตถา้ การทดลองซบั ซอ้ นขน้ึ เช่น โยนเหรยี ญบาท 2 เหรยี ญพรอ้ มกนั
ทอดลกู เตา 2 ลกู พรอ้ มกนั การทจ่ี ะนบั จานวนผลลพั ธข์ องการทดลองโดยตรง มคี วามยุ่งยาก ในกรณีน้ีเราสามารถนา
เทคนคิ การนบั เบอ้ื งตน้ มาใชใ้ นการหาจานวนผลลพั ธข์ องสงิ่ ทส่ี นใจได้
ขนั้ สอน
4.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า
อปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื อธบิ าย
และสาธติ กฎเกณฑเ์ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การนบั
5.ผเู้ รยี นแสดงการนบั ตามโจทย์ เชน่ มเี สอ้ื อยู่ 4 ตวั และกระโปรง 3 ตวั สาหรบั สวมไปทางาน เธอจะสวมเสอ้ื
และกระโปรงไปทางานเป็นชดุ ต่างๆ กนั ไดท้ งั้ หมดกช่ี ุด
แสดงวธิ นี บั ไดด้ งั น้ี
98
6.ผเู้ รยี นแสดงการนบั ตามกฎท่ี 2 ดงั น้ี
สนามกาี แหง่ หน่งึ มปี ระตเู ขา้ ออกอยู่ 4 ประตู ถา้ เขา้ ประตูหนง่ึ แลว้ ออกอกี ประตูหน่งึ ซง่ึ ไมใ่ ชป้ ระตทู เ่ี ขา้ มา จะมี
วธิ เี ขา้ และออกสนามกาี น้ไี ดท้ งั้ หมดกว่ี ธิ ี
อาจเขยี นแผนภาพตน้ ไมแ้ สดงไดด้ งั น้ี
สมมตุ ใิ ห้ ป1 = ประตู 1, ป2 = ประตู 2, ป3 = ประตู 3 และ ป4 = ประตู 4
99
7.ผเู้ รยี นแสดงวธิ นี บั โดยการโยนเหรยี ญสบิ บาท 1 เหรยี ญ 3 ครงั้ พรอ้ มกนั ไดผ้ ลต่างๆ กนั ทงั้ หมดกว่ี ธิ ี
8.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็น
วธิ สี อนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point
เพ่อื อธบิ าย และสาธติ การทดลองสมุ่ โดยการทดลองสมุ่ (a xp) คอื การทดลองทท่ี ราบผลลพั ธท์ อ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ เป็นอะไร
ไดบ้ า้ ง แต่ไม่สามารถพยากรณ์ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งแน่นอนว่าขณะทท่ี ดลองผลลพั ธท์ เ่ี กดิ ขน้ึ จะเป็นอะไร จากผลลพั ธท์ ่ี
เป็นไปไดทงั้ หมดจนกว่าจะสน้ิ สดุ การทดลอง
9.ผเู้ รยี นแสดงวธิ กี ารทดลองสมุ่ นบั เหรยี ญบาท
10.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะ และทาแบบฝึกหดั
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
11..ผเู้ รยี นทากจิ กรรม แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมนิ ตนเอ
12.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี
ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ 100
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
ช่อื ผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
1.
2.
3.
4.
5.
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สอื เรยี น วชิ าคณิตศาสตรธ์ ุรกจิ และบรกิ าร
2.รปู ภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6.ตวั อยา่ งการคานวณ
หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ
3 ตรวจกจิ กรรม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอ่ื งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมนิ กจิ กรรม
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั
ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล