Felafel อาหารประจำประเทศอยี ิปต์
เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ดีที่สุดของอียิปต์อีกหนึ่งเมนูที่ต้องสั่งมาทานปกติเมนูนี้จะทำด้วยถั่วลูกไก่แต่
สำหรับอียิปต์จะเปลี่ยนมาทำด้วยถั่วปากอ้าแล้วนำไปทอดทานคู่กับแป้งพิตาผักสดพริกย่างหอมย่างและ
ซอสต่าง ๆ เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มในรสชาติติดเค็มและนอกจากนี้ฟีราเฟลยังดัดแปลงไปได้อีกหลายเมนู
ท้ังสอดไส้แซนวชิ ใช้แทนเนื้อไก่หรือเน้อื วัวในเคบับร้อน ๆ หรอื นำมาห่อผกั แทนเนื้อยา่ งไดอ้ กี ดว้ ย
ความนิยมของฟีราเฟลแพร่หลายทั้งทั่วตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชียใต้อย่างอินเดีย ปากีสถาน
ยุโรป ผ่านทางการค้าและการล่าอาณานิคมที่ทำให้ตำรับอาหารโบราณจานนี้ปรากฏอยู่บนโต๊ะอาหารของ
คนหลายท่วั โลกปัจจบุ ันนน้ั ฟีราเฟลกลับมาครองใจคนรักสุขภาพอยา่ งมากด้วยเหตผุ ลท่ีปรุงง่ายใช้วัตถุดิบท่ี
คนส่วนใหญ่มีติดครัวกันอยู่แล้วอยู่แล้วทั้งปราศจากเนื้อสัตว์ไขมันน้อยเหมาะกับคนทุกวัยโดยเฉพาะในวัย
ทำงานที่ตอ้ งการพลังงานสงู และปจั จบุ นั เรายังพบฟีราเฟลในร้านอาหารเพื่อสขุ ภาพมากมายทัง้ ท่จี ริงแล้วเรา
สามารถทำฟรี าเฟลทานกนั เองไดแ้ ละยังสามารถเกบ็ ไวท้ านไดน้ านอกี ด้วย
เอกสารอ้างอิง
อรณุ วตรี รัตนตร.ี (2564). ฟาราเฟล ฟาสต์ฟ้ดู สายสุขภาพตำรบั ตะวันออกกลาง. สืบค้น 18 สิงหาคม
2564. สืบค้นจาก https://www.greenery.org/articles/rosbaan-chickpea-felafel
ผเู้ รยี บเรยี ง เลขที่ 94 นางสาวศรัณญา สาระสิทธ์ิ
91
Lahmacum
ท่มี า : https://manotat.com/things-to-eat-in-istanbul-turkey/
วิวฒั นาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถิ่น 6 แดนดนิ โลก
Lahmacun (พซิ ซ่ามว้ น) อาหารประจำประเทศตรุ กี
Lahmacum หรือ “ลามาคัม” มีต้นกำเนิดมาจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ช่วงยุค
กลางมีการใช้เตาหินขนาดใหญ่อย่างแพร่หลายนั้น ขนมปังแฟลตเบรดที่ยัดไส้หรือราดด้วยเนื้อสัตว์หรือ
อาหารอื่น ๆ ถูกอบเข้าด้วยกัน ปรุงขนมปังและโรยหน้าในเวลาเดยี วกันจึงเกิดความหลากหลายของอาหาร
เช่น Lahmacum,Manakish
Lahmacum มีส่วนคล้ายกับพิซซ่าเนื่องจากมีการราดด้วยชีสและรสชาติที่เลือกไว้ ลามาคัมเป็น
แป้งบางกรอบ ทาซอส และท็อปปิ้งด้วยเนื้อบด (ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อวัวหรือเนื้อแกะ) ผัก และสมุนไพรตา่ ง
ๆ เช่น หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ พริกแดง และผักชีฝรั่ง เครื่องเทศ เช่น พริก ปาปริก้ า และอบเชย
จากน้นั นำไปอบในเตาจนสุก ตอนรับประทานสามารถม้วนหรอื ฉกี เปน็ ช้ินเลก็ ๆ รบั ประทานได้
เอกสารอา้ งอิง
Editor.Mushroom Travel. (2021). อาหารตุรกี เมนูเด็ด ถกู ใจคนไทย ไปถงึ ตอ้ งชมิ . สืบค้นเมือ่ 18
สิงหาคม 2546. สบื ค้นจาก https://www.mushroomtravel.com/page/turkish-food/
felysummer. (2019). อาหารสุดเซอไพรสจ์ ากตรุ กี. สบื ค้น 18 สงิ หาคม 2564. สบื คน้ จาก
https://beta.peakd.com/@felysummer/a-food-surprise-from-turkish-side
ผเู้ รยี บเรยี ง เลขที่ 95 นางสาวศรารัตน์ โมกขะสมติ
93
Dovga
ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/File:Dovga_e-citizen.JPG
ววิ ัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวัฒนธรรมถิน่ 6 แดนดนิ โลก
Dovga ( ซปุ ) อาหารประจำประเทศอาเซอรไ์ บจาน
อาเซอร์ไบจาน อาหารของประเทศนี้จะมีความหลากหลายเพราะเอกลักษณ์ของประเทศคือที่ตั้ง
ทางภูมิศาสตร์มีการพัฒนาอาหาร การผลิตผลิตภัณฑ์นมและเนื้อสัตว์ ลักษณะเด่นของอาหารใน
อาเซอร์ไบจานคอื กลิ่นหอมทไ่ี ด้จากเครื่องเทศ ผัก สมนุ ไพรและพืช เช่น ใบโหระพา ย่หี รา่ พรกิ ไทย
Dovga เป็นซุปที่ทำมาจากโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวและสมุนไพร เป็นอาหารมังสวิรตั ิและท่ีสำคัญ คือ
ตัวซุปมีกลิ่นที่หอม วิธีการเสิร์ฟซุปนี้ จะเสิร์ฟได้สองแบบ คือ แบบร้อนและแบบเย็น แต่จะเป็นที่นิยม
รับประทานกันในช่วงฤดูรอ้ นมากกว่า เพราะในฤดูร้อนจะเสิร์ฟเเบบเย็นทำให้เมื่อรับประทานจะรู้สึกสดชืน่
เเต่ถ้าเป็นในช่วงของฤดูหนาว ซุปนี้จะถูกเสิร์ฟแบบร้อนแทน ก่อนนำซุปมาเสิร์ฟจะนำไปแช่ในตู้เย็นก่อน
เพื่อเวลาที่นำออกมารับประทานจะได้รู้สึกถึงความสดชื่นเเละความอร่อยของตัวซุป รสชาติ Dovga
จะแตกต่างกันที่วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุง วัตถุดิบหลักจะประกอบไปด้วย โยเกิร์ต ผีกชีลาว ผักชีฝร่ัง
สะระแหนแ่ ละข้าว บางทีจะเพ่มิ ไข่ ถว่ั ชิกพีและลูกช้นิ
เอกสารอา้ งองิ
Garynevillegasm. (2564). Dovga: สตู รอาหาร Azerbaijani. สบื ค้น 18 สงิ หาคม 2564. สืบคน้ จาก
https://th.garynevillegasm.com/eda-i-napitki/33432-dovga-recept
azerbaydzhanskoy-kuhni.html
Wikipedia. (2559). Dovga. สืบคน้ 18 สงิ หาคม 2564. สืบค้น https://en.wikipedia.org/wiki/Dovga
ผู้เรียบเรยี ง เลขที่ 96 นางสาวศิรดา ตันเส็ง
95
Manti
ที่มา : https://www.takeaway.com/foodwiki/turkey/manti/
วิวัฒนาการอาหารการกนิ สะท้อนวฒั นธรรมถนิ่ 6 แดนดินโลก
Manti อาหารประจำประเทศตรุ กี
Manti หรือตั๊กแตนตำขา้ วเป็นอาหารด้ังเดิมของคนเอเชีย เมื่อคู่สามภี รรยาหมั้นกนั เพ่ือจะแต่งงาน
แม่ของเจา้ บ่าวจะไปเยี่ยมบา้ นของเจ้าสาว และในระหว่างการเยี่ยมบ้านครั้งน้ี เจา้ สาวควรเตรียมต๊ักแตนตำ
ข้าวสำหรับแม่สามี ยิ่งเกี๊ยวตั๊กแตนตำข้าวเล็กเท่าไหร่ เจ้าสาวก็จะยิง่ มีฝีมือมากขึ้นเท่านั้น เกี๊ยวที่เตรียมไว้
สำหรับแม่ของเจ้าบ่าวควรจะมีขนาดเล็กมากจน 40 ตัวสามารถใส่ลงในช้อนเดียวได้ Manti อาจทำมาจาก
เนื้อนกกระทา ไก่ หรือห่านหั่นฝอยในบางภูมิภาคของตุรกี อาหารตุรกียังรวมถึงเกี๊ยวอื่น ๆ ที่คล้ายกับ
Manti เช่น hingel และตาตาร์แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า และเกี๊ยวขนาดเล็กที่คล้ายกับ Manti ก็พบได้ใน
อาหารเตอร์กอื่น ๆ แต่ไม่ถือว่าเป็นตั๊กแตนตำข้าว ตัวอย่าง dushbara ในอาหารอาเซอร์ไบจานและ
chuchvara ในอาหารอเุ บก
ตั๊กแตนตำข้าวประกอบด้วยแป้งสาลีกับน้ำที่บางครั้งเติมด้วยไข่ นวดให้เย็นแล้วรีดออก จากนั้นจึง
หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ โดยใส่ไส้เล็กน้อยไว้ตรงกลาง โดยทั่วไปไส้จะเป็นเนื้อแกะสับ หัวหอมขูด
เครื่องเทศและสมุนไพร แล้วจึงเสิร์ฟพร้อมกับซอสที่ทำมาจากโยเกิร์ต กระเทียม มิ้นต์ เนยละลายกับปา
ปริก้าและซอสมะเขือเทศ ซึ่ง Manti เป็นอาหารจานหลักของชาวตุรกี สำหรับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม
และยวิ มเี มนูตัก๊ แตนตำข้าวมังสวิรตั ิ ประกอบดว้ ยถั่วชิกพบี ดใหข้ อบคะนองกับพริกป่นและยี่หร่า ตก๊ั แตนตำ
ข้าวตรุ กมี ีรสชาติดที ่ีสดุ เมอ่ื ปรุงสดใหม่
เอกสารอา้ งองิ
Aylin Öney Tan. (2013). "mantı ตุรกี ภาษาจีน mantou". เฮอรเ์ รียต เดลนิ วิ ส์. สบื คน้ 18 สิงหาคม
2564. สบื คนจาก https://www.takeaway.com/foodwiki/turkey/manti/
ผ้เู รยี บเรียง เลขท่ี 97 นางสาวศิรวิ รรณ โพธสิ ารสกลุ
97
Kalle Pache
ท่มี า : https://uniqop.com/wp-content/uploads/2020/06/Kale-Pache-2-scaled.jpg
ววิ ฒั นาการอาหารการกนิ สะท้อนวัฒนธรรมถิ่น 6 แดนดนิ โลก
Kalle Pache อาหารประจำประเทศอิหร่าน
Kalle Pache (คัลเลปาเช่) เป็นอาหารแบบดง้ั เดมิ ของอิหร่าน ประกอบด้วยหวั แกะหน่งึ ตวั และส่วน
ต่างๆ ของร่างกาย เช่น เนื้อ ลิ้น สมอง บานากูช (เนื้อหน้าหู) และขาแกะ มักปรุงรสด้วยมะนาว Kalle
Pache เป็นอาหารที่ใช้เวลานานในการปรุงและควรอบด้วยไฟอ่อน ๆ ผสมกับหัวหอม ถั่ว และเครื่องเทศ
น้ำของอาหารชนิดนี้มักจะกินเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย และการปรุงรสด้วยมะนาวจะช่วยเพิ่มรสชาติที่เป็น
เอกลักษณ์แล้ว ยังสามารถต้านสารอนมุ ูลอิสระอีกด้วย Kalle Pache เหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหาร
เช้าหรืออาหารกลางวัน แต่ไม่เหมาะสมสำหรับที่จะเป็นอาหารมื้อเย็น นอกจากจะรับประทานเป็นอาหาร
เช้าแล้ว Kalle Pache ยงั ปรุงในงานเล้ียงต่าง ๆ หรือพิธีไว้ทกุ ข์หลังจากเสยี สละแกะ การรบั ประทานอาหาร
นี้ในฤดูร้อนหรือเขตร้อนเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ ควรรับประทานในช่วงฤดูหนาว นอกจากน้ี
อาหารชนิดนี้ก็ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่ป่วยเพราะเป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงและมีไขมันสูง แม้ว่าจะเต็ม
ไปด้วยโปรตีนและวิตามนิ ก็ตาม
เอกสารอ้างองิ
Ministry of Cultural Heritage. Tourism and Handicrafts. (2020). Kale Pache (Head and Legs
of Sheep). สืบคน้ 17 สงิ หาคม 2564. สืบค้นจาก https://www.visitiran.ir/cuisine/kale
pache-head-and-legs-sheep
ผ้เู รียบเรียง เลขที่ 98 นายศกุ ร์ภิชัย บุญมาก
99
Kabsah
ทีม่ า : https://www.sbs.com.au/food/recipes/nadeems-lamb-kabsa
วิวัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก
Kabsah อาหารประจำประเทศซาอดุ อิ าระเบีย
Kabsah (คับสาห์) อาหารประจำประเทศซาอดุ ิอาระเบีย ลักษณะเหมือนขา้ วหมกไก่ ประกอบด้วย
ข้าว และเนื้อสัตว์ ผักและเครื่องเทศ ซ่ึงเป็นข้าวหงุ กับไก่หรอื เนื้อแกะเป็นที่นิยมและถือเป็นสัญลกั ษณ์ โดย
จะรับประทานได้ทุกมื้อ kabasa หมายถึงการบีบ เป็นการพาดพิงถึงเทคนิคที่ใช้ในการปรุงอาหารโดยท่ี
สว่ นผสมทง้ั หมดปรงุ ในหม้อ อาหารทำดว้ ย เนือ้ ผัก และส่วนผสมของเครื่องเทศแบบด้ังเดมิ ใน kabsah คือ
พริกไทยดำ กานพลู กระวาน หญ้าฝรั่น อบเชย มะนาวดำ ใบกระวาน และลูกจันทนเ์ ทศส่วนผสมหลกั ทีม่ า
พร้อมกับเคร่อื งเทศคือเน้ือสตั ว์ เน้ือสัตว์ท่ีใชม้ กั จะเป็นไก่ แพะ เนื้อแกะ อฐู เนอื้ ววั ปลา หรือก้งุ
วิธีการปรุง เนื้อสัตว์สำหรับ kabsa สามารถปรุงได้หลายวิธี วิธีการเตรียมเนื้อสัตว์ที่นิยมเรียกว่า
mandi น่เี ป็นเทคนคิ โบราณที่มตี ้นกำเนดิ ในเยเมน โดยการย่างเน้อื ในหลุมลกึ ในพน้ื ดินท่ปี กคลมุ ไปด้วยเน้ือ
ในขณะทป่ี รุง อกี วธิ ใี นการเตรยี มและเสิร์ฟเนื้อสำหรบั kabsa คือ มทั บี ซงึ่ เน้ือปรุงรสจะถูกย่างบนก้อนหิน
แบนๆ ท่ีวางบนถ่านท่ีไหมเ้ กรียม เทคนคิ ทสี่ าม madghut เกย่ี วขอ้ งกับการปรุงเน้อื ในหม้อความดัน
เอกสารอา้ งองิ
Wikipedia. (2561). "Kabsa"Middle East Monitor. สืบคน้ 17 สิงหาคม 2564. สบื คน้ จาก
https://th.wikipedia.org/wiki/
กบั ซะฮ์ กาตาร.์ (2015). ออ็ กซฟ์ อร์ด บสิ ซเิ นส. สบื คน้ 17 สิงหาคม 2564. สบื ค้นจาก
https://wikipang.com/wiki/Kabsa#title
ผูเ้ รียบเรยี ง เลขที่ 99 นางสาวศจุ ภี รณ์ มานะสะสม
101
Mansaf
ที่มา : https://th.yourtripagent.com/brief-history-of-mansaf-jordan-s-national-dish
ววิ ฒั นาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถ่นิ 6 แดนดินโลก
Mansaf อาหารประจำประเทศจอร์แดน
Mansaf มาจากภาษาจอร์แดนแปลว่า "จานใหญ่" Mansaf เป็นอาหารประจำชาติของจอร์แดนก็
จริง แต่ยังสามารถพบได้ในประเทศอื่น ๆ ของทวีปเช่น ปาเลสไตน์ คูเวตหรืออิรัก Mansaf เป็นอาหาร
ประเพณขี องชาวเบดูอนิ มกั จะเสริ ์ฟในพิธีสำคญั เช่นงานแตง่ งาน งานศพหรอื งานฉลองการสำเร็จการศึกษา
ซึ่งอาหารเบดูอินส่วนใหญ่มักกินแบบดั้งเดิมด้วยมือขวา แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันสามารถรับประทาน
Mansaf ด้วยช้อนส้อมได้เพื่อป้องกันปัญหาทางด้านโภชนาการ เมื่อปลายทศวรรษที่ 1920 ได้มีการพัฒนา
ซอส jameed ขึ้น โดยซอส Jameed เป็นโยเกิร์ตแหง้ ทีป่ รุงจากการต้มนมแกะหรือแพะที่เหลอื แล้วใหแ้ หง้
นำไปหมักเก็บไว้ในผ้าทอละเอียดโดยต้องมีการเติมเกลือทุกวันเพื่อทำให้โยเกิร์ตข้นขึ้น หลังจากทิ้งไว้
ประมาณสองสามวันก็จะมีความเข้มข้นพอเหมาะและมีรูปร่างกลม อาหารชนิดนี้มีการเสิร์ฟบนจานขนาด
ใหญ่ที่มีขนมปังแฟลตเบรด พร้อมด้วยข้าวและเนื้อสัตว์ โรยหน้าด้วยอัลมอนด์และถั่วสน ชาวจอร์แดนบาง
คนอาจใช้ศีรษะของอูฐหรือแกะมาตกแต่งจานอาหารเพ่ือส่ือถึงคุณภาพที่ดีของเน้ือสตั ว์ หลงั จากน้ันราดซอส
jameed ลงบนจานเป็นอันเสร็จสมบรู ณ์ โดย Karak เป็นหน่งึ ในเมืองของจอร์แดนมชี ื่อเสียงในด้านการผลิต
jameed ทมี่ ีคุณภาพดมี ากท่ีสดุ
เอกสารอ้างอิง
Marianne Hamilton. (2564). ประวัตขิ อง Mansaf อาหารจอรแ์ ดนแหง่ ชาติ. สืบคน้ 18 สงิ หาคม 2564
สืบค้นจาก https://th.yourtripagent.com/brief-history-of-mansaf-jordan-s-national-dish
ผู้เรียบเรียง เลขท่ี 100 นางสาวสรลั ชนา จติ ตราวงศ์
103
Churchkhela
ท่ีมา : https://en.m.wikipedia.org/wiki/Churchkhela
วิวฒั นาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก
Churchkhela อาหารประจำประเทศจอรเ์ จยี
Churchkhela (เชิร์ชเคลา) เป็นผลิตภัณฑ์จอร์เจียโฮมเมด ชาวจอร์เจียมักจะทำเชิร์ชเคลาใน
ฤดูใบไม้ร่วงเมื่อมีการเก็บเกี่ยวส่วนผสมหลัก องุ่นและถั่ว เป็นสตริงของวอลนัทครึ่งหนึ่งที่จุ่มลงในน้ำองุน่ ที่
เรยี กวา่ Tatara หรอื Phelamushi (น้ำองนุ่ ข้นดว้ ยแป้ง) และตากแดดให้แหง้ ไมม่ กี ารเตมิ นำ้ ตาลเพ่ือทำให้
เชริ ช์ เคลาแท้ บางครงั้ ใชเ้ ฮเซลนัทหรืออัลมอนด์ในพน้ื ที่ทางตะวนั ตกของจอร์เจยี รปู ร่างของ Churchkhela
ดูเหมือนเทียน กระบวนการทำ Churchelas ซึ่งประกอบด้วยการเตรียมถั่วสำหรับการจุ่มก่อนที่จะร้อย
เกลียว ถั่วจะต้องปอกเปลือกและจุ่มลงในน้ำเพื่อให้นิ่ม เมื่อนิ่มพอแล้วก็จะร้อยเป็นเส้นยาว 2-3 เมตร
จุ่มสายอักขระลงในส่วนผสมของBadagiจนปิดสนิท กระบวนการนี้ทำซ้ำหลายครั้ง (โดยปกติสามครั้ง)
จนกว่า Churchkhelas จะมีความหนาตามที่ต้องการ จากนั้นปล่อยเชือก Churchkhelas ให้แห้งเป็นเวลา
5-6 วนั พวกเขาจะพร้อมสำหรบั การบริโภคหรอื การเก็บรกั ษาแมว้ ่าบางคนชอบกินสด
เอกสารอา้ งอิง
โกลด์สตีน, ดาร์รา. (1999). งานฉลองจอรเ์ จยี : วฒั นธรรมที่สดใสและอาหารรสเผ็ดของสาธารณรฐั จอรเ์ จีย
สำนักพิมพ์มหาวทิ ยาลัยแคลิฟอรเ์ นีย. หน้า 210.
รฟู ส์, ทิโมธี จี, แคธลีน สมธิ . (2014). ขนมหวานทวั่ โลก: สารานุกรมอาหารและวัฒนธรรม เอบีซี-คลโี อ
หนา้ 140.
ผู้เรยี บเรยี ง เลขท่ี 101 นางสาวสรัลพร พลู สวัสดิ์
105
Baklava
ท่มี า: https://www.grandbazaarist.com/th/baklava-with-pistachio/
ขนมบาคลาวาเป็นขนมโบราณ มีรสชาติหวานหอมรับประทานไดง้ ่าย และหน้าตาคล้ายกับถ่วั ตัด
ของบ้านเรา
วิวัฒนาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถ่นิ 6 แดนดินโลก
Baklava อาหารประจำประเทศตรุ กี
Baklava (บาคลาวา) เป็นขนมหวานโบราณของประเทศตุรกี นิยมกันมากในแถบเมดิเตอร์เรเนียน
และยงั เปน็ ขนมท่ีมีประวัติมายาวนานตั้งแต่สมัยของอาณาจักรไบเซนไทน์(ปีค.ศ.330-1453) เป็นขนมท่ีชาว
อาหรับนำมาใชป้ ระกอบพิธที างศาสนา และรับประทานในชว่ งเทศกาลรอมฎอน ขนมหวานชนินีท้ ำจากแผ่น
ฟิโล (phyllo) และถั่วเปลือกแข็ง เชื่อมติดกัน้วยน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง วิธีทำนำถั่วมาปั่นแบบหยาบ ๆ
นำน้ำตาลทรายแดง ผงอบเชยมาคลุกเคล้ากัน และหมักไว้7-10วัน นำแผ่นฟิโลมาวางแผ่ไว้แล้วนำผ้าชุบนำ้
หมาดๆมาวางคลุมไว้เพื่อไม่ให้แป้งแห้ง จากนั้นนำภาชนะที่เข้าอบมาทาเนยและนำแป้งฟิโลมาวางแล้วทา
เนยแล้วนำแป้งฟิโลมาวางทำไปให้ได้ 8ชั้น แล้วนำถั่วที่ปั่นไว้มาโรยพอประมาณ แล้วเกลี่ยให้เรียบเสมอกนั
และต้องกดเบาๆเพื่อไล่ฟองอากาศออกทำไปจนถั่วครบ3ชั้นและแป้งฟิโล4ชั้น จะตัแบ่งในรูปแบบไหนก็ได้
นำไปอบเวลา 40-45 นาที พอขนมอบเสร็จตัดตามรอยอีกรอบ แล้วเทน้ำราดลงไปทิ้งไว้ประมาณ 2-5
ชั่วโมง น้ำราดทำจากน้ำตาลเคี่ยวกับน้ำ ถ้าอยากรับประทานให้อร่อยควรทานคู่กับ ชาฝรั่งหรือกาแฟ
เปน็ ขนมทานเลน่ ยามบา่ ยหรือตอนท้องวา่ ง
เอกสารอา้ งอิง
specialfood. (2563). บาคลาวา…ขนมสญั ชาติเติร์ก. สบื คน้ 16 สิงหาคม 2564. สบื ค้นจาก
https://specialfood.co.th/item/630
WebDesign325107-552-103. (2013). บาคลาวา(Baklava). 16 สงิ หาคม 2564. สบื ค้นจาก
https://sites.google.com/site/webdesign325107552103/5335410055/khek-luk
phlamst-rxy-sel
ผ้เู รยี บเรียง เลขที่ 102 นางสาวสติ าภา เลีย๊ บประเสรฐิ
107
Ma’amoul
ทม่ี า : https://mayihavethatrecipe.com/maamoul-nut-filled-middle-eastern-cookies/
ขนมมะอม์ ูล เปน็ คกุ กที้ ี่สอดไส้หลากหลายรสชาติ ท่มี ลี ักษณะคล้ายขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นขนม
ขึ้นชื่อทางอาหรับเป้นอย่างมาก และมีส่วนผสมและวิธีการทำที่เอกลักษณ์ที่สามารถพบในได้แถบอาหรับ
เพยี งเท่านั่น
วิวัฒนาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถนิ่ 6 แดนดนิ โลก
Ma’amoul อาหารประจำประเทศเลบานอน
มะอม์ ูล เป็นขนมโบราณของชาวอาหรบั ในยคุ ก่อน ค.ศ.1000 เรียกง่าย ๆ ว่า “ชอรต์ เบรด
เลบานอน” โดยขนมมะอ์มูลเปน็ คุกกสี้ อดไสร้ สชาตติ ่าง ๆ ซ่งึ มีลักษณะคล้ายขนมไหวพ้ ระจนั ทร์ของจีน
แผ่นดินใหญ่ แตข่ นมมะอม์ ูลน่นั มสี ่วนผสมทำขึน้ จากแป้งพาย เซโมลนิ า อนิ ทผาลัม ถ่วั พิสตาชีโอ ถว่ั วอลนัต
บางคร้งั อาจใช้ถ่ัวอัลมอนด์และมะเด่อื ซึ่งวธิ กี ารทำจะเรมิ่ จากการทำแป้ง ต่อด้วยการทำไสร้ สชาตติ ่าง ๆ
และโดยทางตน้ ตำรับแล้ว ขนมชนิดน้จี ะใช้แม่พมิ พ์ไม้ Ma”amoul แบบเฉพาะและนำไปอบในตู้ไม้อบพิเศษ
พรอ้ มนำมาเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดม่ื มะอม์ ูล มักรบั ประทานพร้อมกับกาแฟอาหรบั และชอ็ กโกแลต ซึ่งไดร้ ับ
ความนิยมอย่างแพรห่ ลายโดยเฉพาะบนโต๊ะอาหารในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองก่อนวนั คริสต์มาส เทศกาลอี
สเตอร์และเทศกาลอดี
เอกสารอา้ งองิ
"Maamoul: An Ancient Cookie That Ushers In Easter And Eid In The East". NPR.org (2017).
สบื คน้ เมอื่ 18 สิงหาคม 2564. สืบคน้ จาก https://th.wikipedia.org.maamoul
ผเู้ รียบเรียง เลขที่ 139 นายภรู ิภทั ร วัชรสนิ ธุ
109
Om Ali , Umm Ali, Oumm Ali
ที่มา : https://th.depositphotos.com/stock-photos/om-ali.html
วิวัฒนาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถ่นิ 6 แดนดนิ โลก
Om Ali , Umm Ali, Oumm Ali อาหารประจำประเทศอียิปต์
Om Ali มีความหมายว่า “Ali’s Mother” ลักษณะคล้ายพุดดิ้งขนมปัง ต้นกำเนิดมาจากอียิปต์
ตอนล่าง สบื เนื่องมาจากยุค Ayyubid dynasty ในศตวรรษที่ 13 โดยช่ือ Om Ali คือชือ่ ภรรยาคนแรกของ
สุลต่าน Ezz El-Deen Aybak ต่อมาสตลุ ตา่ นไดเ้ สยี ชีวิตลงเนื่องจากถกู Shagaret el Dorr ท่เี ป็นภรรยาคน
ที่สองนั้นฆ่า Om Ali จึงได้สั่งให้สาวใช้ของเธอฆ่า Shagaret el Dorr เพื่อแก้แค้นที่เธอฆ่าสามี Om Ali ได้
สั่งให้พ่อครัวของเธอทำขนมหวานแจกจ่ายให้กับประชาชน เธอได้ประกาศว่าขนมนี้เป็นการเฉลิมฉลองการ
เสียชีวิตของ Shajart el-Durr ประชาชนชื่นชมในความอร่อยของขนมหวานชนิดนี้ และในขณะนั้นลูกชาย
ของ Om Ali ก็ได้ขึ้นเป็นสุลต่านคนใหม่ ประชาชนจึงเรียกขนมหวานชนิดนี้ตามชื่อของ Om Ali
Om Ali ทำจากขนมปังบาง ๆ ที่เรียกว่า Rokak ใช้เป็นฐานของขนม Rokak ทำมาจากแป้งและ
เกลือ นำแปง้ มารีดเป็นแผ่นวงกลมบาง ๆ และนำแป้งไปอบ โดย Rokak ทดี่ คี วรเปน็ สีขาว ตอ่ มานำ Rokak
ที่อบมาบดใหเ้ ปน็ ชน้ิ เล็กๆพอดีคำคลุกเขา้ กับเนยละลาย แลว้ นำไปอบต่อจนมสี ีเหลืองทอง ในปัจจุบันมีการ
ดัดแปลงสูตร สามารถใช้ครัวซองต์แทน Rokak ได้ นำนมไปต้มกับครีมเพิ่มความหวานโดยใช้นำ้ ตาลต้มจน
เดือดแล้วนำไปเทใส่ใน Rokak จากนั้นตกแต่งด้วย pistachios เกร็ดมะพร้าว ลูกเกด อัลมอนด์ แล้วนำไป
อบต่อ จนผวิ หนา้ ขนมทไี่ ด้จะมสี เี หลืองทอง
เอกสารอ้างอิง
Noura Anwar. (2559). Om Ali (Bread Pudding): A Delicious Dessert Resulting from Tragdy
สืบค้น 18 สงิ หาคม 2564, จาก https://www.arabamerica.com/om-ali-bread-pudding
delicious-dessert-resulting-from-tragedy/
Farah Abumaizar. (2563). Um Ali. สืบค้น 18 สิงหาคม 2564. สบื ค้นจาก
https://everylittlecrumb.com/um-ali/
ผเู้ รยี บเรียง เลขท่ี 143 นางสาวสริ ิสุธีร์ คงขำ
111
อาหารทวีปเอเชียตะวันตก
ท่มี า : https://www.unileverfoodsolutions.co.th/th/chef-inspiration/world-
cuisines/what-exactly-is-western-cuisine.html
วิวัฒนาการอาหารการกินสะทอ้ นวฒั นธรรมถ่นิ 6 แดนดนิ โลก
สรปุ
อาหารเอเชียตะวันตกมีความสำคัญคล้ายคลึงกับอาหารเอเชียตะวันออกกลาง อาหารของภูมิภาค
เอเชียตะวันตกมีความหลากหลายของวัตถุดิบมาก ได้แก่ มะกอก น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง งา เมล็ดพันธ์ุ ซูแมค
ถ่ัวชิกพี และพาสลีย์ อาหารที่ได้รับความนยิ ม เชน่ Mansaf
ธัญพืชเป็นพื้นฐานของอาหารเอเชียตะวันตกทั้งในอดีตและปัจจุบัน ข้าวสาลีและข้าวฟ่างเป็นแหล่ง
อาหารหลักที่สำคัญ ส่วนข้าวบาร์เลย์นั้นใชก้ ันอย่างแพร่หลายในภมู ิภาค ข้าวโพดกลายเป็นที่นิยมในบางพื้นที่
เช่นกัน ภูมิภาคเอเชียตะวันตกนิยมใช้เนยและน้ำมันมะกอกในการปรงุ อาหาร เพราะน้ำมันมะกอกใช้กันอยา่ ง
แพรห่ ลายในพ้นื ทชี่ ายฝัง่ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เนื้อสัตว์ทีเ่ ปน็ ทน่ี ยิ มของเอเชยี ตะวันตก เชน่ เนอื้ แกะ แพะ และอฐู ศาสนาอิสลามและศาสนายิวห้าม
รับประทานเนื้อหมู อาหารที่โดดเด่นจากวัตถุเนื้อ ได้แก่ เนื้อย่างหรือเคบับ สตูว์เนื้อและผักเสิร์ฟพร้อมข้าวบุลกูร์
หรือขนมปัง ผักและถั่วเป็นวัตถุดิบหลักของผู้คนส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันตก มีทั้งต้ม ตุ๋น ย่าง ยัดไส้และปรุง
ดว้ ยเน้อื สัตวแ์ ละข้าว ผักใบเขยี วมกี ารใช้กะหล่ำปลี ผักโขมและชาร์ดหลายชนิด รวมทง้ั ผกั ที่มรี ากและหัว เช่น
หัวหอม กระเทยี ม แครอท หัวผักกาดและหัวบีทกเ็ ปน็ ที่นยิ มเช่นกนั
113
ววิ ฒั นาการอาหารการกนิ สะท้อนวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก
บทท่ี 4
วิวฒั นาการอาหารแอฟรกิ า
ววิ ฒั นาการอาหารการกนิ สะท้อนวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก
สว่ นนำ
อาหารแอฟริกนั มรี ปู แบบลกั ษณะของการปรุงอาหาร การปฏบิ ัติและประเพณี มักจะเกี่ยวข้องกับเฉพาะ
วฒั นธรรมที่จะมีความแตกต่างกันและนานาประกอบดว้ ยสว่ นผสมของประเทศทีม่ ชี นเผ่าต่างๆท่ีมเี อกลักษณ์
ของตัวเองจากทวปี ของแอฟริกาหลายชนเผา่ ตา่ งๆ และยังคงมวี ิถชี ีวิตแบบเรร่ อ่ น มีการลา่ สัตว์ เก็บของป่า
เพาะปลูกพชื อาหาร เลย้ี งสัตว์ อาหารของทวปี แอฟริกาจึงใชก้ ารรวมกันของท่ีมีอยู่ในท้องถิน่ ผลไม้ ธัญพืชและ
ผักเช่นเดยี วกบั นมและเน้ือผลิตภัณฑ์ ในบางสว่ นของทวปี อาหารแบบดั้งเดิมมีส่วนผสมของ นม นมเปรีย้ ว
และเวย์ผลติ ภณั ฑ์
อาหารต่าง ๆของแอฟริกาใช้การผสมผสานระหว่างพืชและเมล็ดพืช และมักจะไม่มีอาหารนำเข้า ใน
บางส่วนของทวีป อาหารแบบดั้งเดิมมีผลิตภัณฑ์หัวรากมากมาย โดยจะมีอาหารที่โดดเด่นทางเทคนิคการ
เตรียมความพร้อมและวัฒนธรรมการบริโภค ซึ่งการปรุงอาหารของทวีปแอฟริกาบางครั้งเรียกว่า " สายรุ้ง
อาหาร" เป็นอาหารในภูมิภาคน้ีคอื การผสมผสานของหลายวัฒนธรรม และอีกหนึ่งจุดเดน่ ของอาหารแอฟริกา
คือ กลิ่นเครื่องเทศ ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอาหารแอฟริกันที่ได้รับอิทธิพลมาจากครัวอินเดีย บางจาน
เด่นชดั เรอ่ื งสสี ันสะดุดตากระแทกใจ เดาไดเ้ ลยวา่ เป็นการดึงสีมาจากวัตถุดบิ ธรรมชาติ พืชพรรณตา่ งๆ รวมถึง
เครือ่ งเทศและสมุนไพรท่ีให้สอี ันโดดเด้ง
อาหารสว่ นใหญข่ องคนในประเทศแถบแอฟริกาทำจากมันสำปะหลงั และข้าวโพด เนือ้ สัตว์เปน็ ของแพง
และหายาก ประเทศไหนท่ีอยู่ติดทะเลสาบก็อาจไดก้ ินปลา นอกน้นั ต้องอาศยั โปรตนี จากแมลงและถัว่ เป็นสว่ น
ใหญ่ อาหารเช้าโดยมากจะทำจากขา้ วฟ่าง โดยมผี ักและเครื่องเทศอย่างกระเทียม หอม และกระเจ๊ยี บ เป็น
ส่วนผสมอยู่บา้ ง ทน่ี ่าสนใจก็คือ มอี าหารประเภทมนั สำปะหลังบด หรอื กลว้ ยแพลนเทน (Plantain) บดดว้ ย
การแตง่ หน้าตามกลมุ่ ประชากรทห่ี ลากหลายของทวปี น้สี ะท้อนให้เห็นในพฤติกรรมการกินและการด่ืม
อาหารและเทคนิคการเตรียมอาหารที่แตกตา่ งกันของประชากรหลายกล่มุ
117
ววิ ฒั นาการอาหารการกนิ สะท้อนวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก
อาหารทีเ่ ปน็ จุดเด่นของทวีฟแอฟริกา ตัวอยา่ งเชน่
Kotogo Shahan full Yassa Egui Potjiekos Mrouzia Ugali Injala Vetkoek
Couscous Waakye Jallof Thieboudienne Bunny Chow
119
Katogo
ท่มี า: https://akitcheninuganda.com/tag/katogo/
วิวัฒนาการอาหารการกินสะทอ้ นวัฒนธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก
Katogo
Katogo เป็นอาหารเช้าดั้งเดิมของยูกันดาในทวีปแอฟริกาใต้ เดิมทีให้บริการในภูมิภาคส่วนใหญ่ใน
แถบของยูกันดา มีต้นกำเนิดมาจาก Western Uganda ซึ่งเดิมถูกมองว่าเป็นอาหารของคนจน ไม่มีลำดับ
เหตุการณ์ทแ่ี นน่ อนเกยี่ วกบั เวลาที่ชาวยูกนั ดาเริม่ ทำอาหารคาโตโก
Katogo ซง่ึ เปน็ ส่วนผสมของเครื่องใน เดมิ ทีคาโตโกเปน็ ส่วนผสมของมันสำปะหลงั ห่ันส่ีเหลี่ยมลูกเต๋า
ผสมกบั ถวั่ ทำใหค้ าโตโกเป็นอาหารของชนชน้ั ผู้ยากไร้ ตอ่ มามชี นช้นั สูงทำคาโตโกรนุ่ ที่ใหม่กว่าโดยนำมาใส่
เครื่องใน และซอสชนิดใหม่อื่น ๆ ความนิยมของคาโตโกแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั่วยูกันดา และจนถึง
ปัจจุบันมีอาหารหลากหลายรูปแบบ เป็นอาหารที่นิยมทั่วไปในหมู่ชุมชนที่พูดภาษาเป่าตูและชุมชนเมือง
สว่ นใหญข่ องยูกันดา ตอนนีม้ ีให้บริการในร้านอาหารและโรงแรมสว่ นใหญท่ เ่ี สริ ์ฟเปน็ อาหารเช้า
Katogo มสี ตู รและส่วนผสมทคี่ ลา้ ยหรอื เเตกต่างกนั แต่ท่นี ิยมมากทีส่ ุดคือสูตรท่ี มาตูเกะ เป็นวัตถุดิบ
หลัก และซอสเป็นที่รู้จักกันในชือ่ บายเอนดาในยูกันดา คำว่าบยอนดา (เครื่องใน) ที่ใช้ในการทำอาหารคอื
ขนมปังหวาน มาตเู กะท่ีปอกเปลอื กแล้ว (กลว้ ยเขยี ว) ปรุงในซอสท่ีเตรยี มไว้ของบเี อนดา (เคร่อื งใน) จนกว่า
มาตูเกะจะพร้อม Katogo มักจะเสิร์ฟพร้อมกับผักที่ปรุงสุกและน้ำผลไม้ความหลากหลายรสชาติของ
อาหารจานน้รี วมถงึ วัตถุดิบหลัก มาตเู กะ , มนั ฝรง่ั ไอรชิ , มันสำปะหลงั หรือมันเทศ ซ่ึงปรุงในหม้อเดียวกัน
กับซอส (เนื้อ, เครือ่ งใน , ถั่ว,ถั่วลิสงหรือผกั ใบเขยี ว).
เอกสารอา้ งอิง Katogo.(2020). Spudlace.สบื ค้น 11สิงหาคม2564 จาก
https://en.m.wikipedia.org/wiki/User:Spudlace
103 นางสาว สิราวรรณ หอ้ ยแก้ว
121
Shahan Full
ท่มี า: https://feelgoodfoodie.net/recipe/ful-medames/
ววิ ัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวฒั นธรรมถ่นิ 6 แดนดนิ โลก
Shahan Full
Shahan ful เป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปในเอธิโอเปีย ซูดาน ซูดานใต้ เป็นแบบดั้งเดิมที่มักเสิร์ฟเป็น
อาหารเช้า ทำจากการต้มถั่วฟาวาในน้ำจนนิ่ม จากนั้นบดให้ละเอียด เสิร์ฟพร้อมกับหัวหอม เครื่องเทศ
เบอร์เบเร พรกิ และมะเขอื เทศ
เมื่อเสิร์ฟ shahan ful บางครั้งโรยหน้าด้วยโยเกิร์ตและมาพร้อมกับขนมปังม้วนที่ด้านข้าง อาหาร
จานนี้เปน็ ทน่ี ยิ มโดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน ที่ทานในชว่ งนี้เพราะ เดือนรอมฎอนคือเดือนถือศีลอดของ
ชาวมุสลิม เนื่องจากผู้ถือศีลอดต้องงดทานอาหารช่วงกลางวันทำให้ต้องทานก่อนแสงพระอาทิตย์ขึ้นการ
ทานshahan full จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะจะทำให้อิ่มท้องนานเนื่องจากมีไขมัน มีโปรตีนที่ได้จากถั่ว
และมีแป้งท่ีไดจ้ ากขนมปัง
เอกสารอา้ งองิ shahan ful. (2021). สืบค้น 14 สิงหาคม 2564,จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Shahan_ful
109 นางสาวสุทธมิ า แกว้ สระแสน
123
Yassa
ทีม่ า: http://senecuisine.com/yassa-guinaar-yassa-au-poulet/
ววิ ฒั นาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถน่ิ 6 แดนดนิ โลก
Yassa
Yassa คืออาหารทีแ่ พรห่ ลายกันเปน็ อยา่ งมากในทวีปแอฟรกิ าตะวนั ตก มตี ้นกำเนิดมาจากแควน้
Casamanc ทางตะวนั ตกเฉียงใต้ของประเทศเซเนกัล เมนูนีจ้ ะเปน็ อาหารที่ชาวเซเนกัลในอดตี ทำเพ่ือใช้
ต้อนรบั แขกท่ีมาเยอื นบ้านของตนและแฝงไปด้วยความหมายส่ือถึงบทบาทของผูห้ ญงิ และผชู้ าย กลา่ วคือ
เม่อื มีแขกมาเยือนหมู่บา้ นผู้หญงิ จะมหี น้าที่ทำ Yassa อยใู่ นครวั เปรยี บเสมอื นผู้หญิงควรเป็นแมบ่ า้ นแม่
เรอื น ทำงานบ้านงานครวั ผชู้ ายจะชว่ ยกนั ยกของจัดของอย่ดู า้ นนอกเปรยี บเสมอื นผู้ชายควรทำงานหนกั อยู่
นอกบา้ นเปน็ เสาหลักของบ้าน โดยลกั ษณะของYassaจะคลา้ ยๆกบั สตวู เ์ ป็นผลมาจากการทีป่ ระเทศเซเนกัล
เคยตกเปน็ ของประเทศฝร่งั เศสจงึ ไดร้ ับวัฒนธรรมบางสว่ นมาด้วย การทำYassaน้ันจะวา่ งา่ ยก็ง่ายจะว่ายาก
กย็ าก เพราะเราต้องใชเ้ วลาในการหมักเน้ือสัตว์ที่ค่อนขา้ งนานเพื่อทีจ่ ะให้รสชาติออกมากลมกล่อมและดดู ี
ทสี่ ดุ ในสว่ นมากมักจะหมักเน้ือสตั ว์ไว้ประมาณ 8 ชวั่ โมงหรอื ขา้ มคืนเลย
การทำเมนู Yassa ในอดีตกับปัจจุบันนั้นมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและ
ความชอบของคนทาน โดยในอดีตการทำ Yassa นั้นเน้นง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากแต่ในปัจจุบันวิถีชีวิตของผู้คน
เปลี่ยนไปจงึ มีการปรบั เปล่ยี นเพ่ือให้สอดคลอ้ งกบั ปจั จบุ นั ท่ผี ู้คนต่างมีตัวเลือกมากข้นึ และพถิ ีพถิ ันกับอาหาร
การกินมากขึ้น ถึงแม้ว่าเมนู Yassa ในอดีตกับปัจจุบันจะมีข้อแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็จะยังมีสิ่งที่คงอยู่คือ
การทานเมนนู ้กี ับครอบครวั อยดู่ ้วยกนั อย่างพรอ้ มหนา้ พร้อมตา
เอกสารอ้างองิ CAROLE SATURNO. (2561). Le yassa poulet ou l’hospitalité sénégalaise.
สบื ค้นเมอ่ื 13 สิงหาคม 2564, จาก https://www.geo.fr/voyage/le-yassa-poulet-ou-lhospitalite-
senegalaise-193283
112 นางสาวสุพรรษา นอ้ ยคำเมือง
125
Egusi
ทมี่ า: https://www.shutterstock.com/th/image-photo/egusi-soup-goat-meat-pounded-
yam-1555289603
ววิ ฒั นาการอาหารการกนิ สะท้อนวัฒนธรรมถ่ิน 6 แดนดินโลก
Egusi
ซปุ เอกซู ี ( Egusi soup ) หรือ agusi , ohue , agushi คอื หนึ่งในอาหารไนจเี รยี ไนจเี รยี เปน็ ประเทศ
ที่ประกอบด้วยประชากรหลายเผ่าพันธุ์ มปี ระมาณ 250 เผ่าพันธุ์ ต่างถน่ิ ต่างก็มีอาหารจานโปรดของตนเอง
ขึน้ อยกู่ ับวฒั นธรรม และฤดกู าล ชว่ งก่อนฝนเป็นชว่ งอดอยาก ช่วงฤดูอม่ิ ท้องคือหลังการเกบ็ เกี่ยว
ซุปเอกซู ีเปน็ ซปุ คลาสสิกของแอฟริกาตะวันตกอย่างแทจ้ ริงซ่ึงเปน็ ที่นยิ มกันอย่างแพร่หลายในประเทศ
ตา่ งๆ เชน่ ไนจเี รยี กานา เซียร์ราลีโอน และแคเมอรนู โดยมคี วามแตกตา่ งเล็กนอ้ ยในการเตรยี ม มสี ่วนผสม
ของเมล็ดแตงโมเป็นส่วนผสมสำคัญในการทำซุปเอกูซีในแอฟริกาตะวันตก ส่วนผสมอื่นมีเนื้อสัตว์ ปลา
แห้ง กุ้งแห้ง หอมหัวใหญ่ พริกหยวก ถั่วโลคัสต์ และเครื่องปรุงรส มักจะรับประทานกับข้าวต้ม ข้าวสวย
มนั บด แตกต่างกันไปตามแต่ละทอ้ งถ่ิน
สนั นษิ ฐานกนั ว่าถนิ่ กำเนดิ ของแตงโมอยู่ในแถบทวีปแอฟริกา แถวทะเลทรายคาลาฮารี ชาวอยี ิปตเ์ ป็นผู้
เรมิ่ ปลูก และขยายตวั ไปสทู่ วีปอเมรกิ า ยโุ รป พรอ้ มๆ กบั ท่ีชาวแอฟริกาถูกขายไปเปน็ ทาส อาหารในแต่ละ
ถิ่นท่ขี องโลกจงึ ไม่เหมือนกนั ทง้ั ไม่เหมือนเนื่องจากได้เลือก และไมเ่ หมือนเพราะไมม่ โี อกาสไดเ้ ลอื ก
เอกสารอา้ งองิ BCC NEWS THAI."ซปุ เอกซู ี" อาหารจานเดด็ ของไนจเี รยี .(2561).สบื คน้ 11 สงิ หาคม
2564,จากhttps://www.bbc.com/thai/international-43074444
108 นางสาวสุดารัตน์ มีใจซื่อ
127
Potjiekos
ที่มา: https://thedomesticman.com/2017/08/22/potjiekos-south-african-
stew/?fbclid=IwAR1ZpLGVARNb2rH9df8O9oKHzJ4RSdgaOCjrItTcvbS5yIywQlsLotJshl4
วิวฒั นาการอาหารการกินสะท้อนวัฒนธรรมถ่ิน 6 แดนดินโลก
Potjiekos
Potjiekos เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ เป็นที่นิยมมากในประเทศแอฟริกาใต้ เพราะเป็นสตเู นื้อทีด่ ี
มีเนื้อนุ่มและมีรสชาติของซอสที่เข้มข้น มีการปรุงรสอย่างพิถีพิถัน Potjiekos เป็นสตูเนื้อที่ตุ๋นด้วยหม้อทำ
มาจากเหลก็ หล่อเฉพาะ ตวั หม้อจะมีความหนาพิเศษต่างจากหม้อบ้านเรา การทำสตูเนื้อโดยใช้หม้อที่ทำมา
จากเหล็กหล่อได้รับความนิยมในยุโรปช่วงทศวรรษที่ 1500 ระหว่างการปิดล้อมเมือง Leiden ประเทศ
ฮอลแลนด์ใต้ในปี ค.ศ. 1573-1574(เป็นส่วนหนึ่งของสงคราม 80ปีระหว่างเนเธอร์แลนด์และสเปน)
ชาวเมืองในท้องถิ่นหันไปทำอาหารแบบผสมผสานเพื่อเอาชีวิตรอดในหม้อที่ทำมาจากเหล็กขนาดเล็กกั บ
เนื้อสัตว์และผักทพี่ วกเขาหาได้มชี ่อื วา่ hutspot (แปลวา่ สตู)
โดยต่อมา นักสำรวจชาวดัตช์ ได้ทำการเผยแพร่เมนู Potjiekos โดยใช้หม้อเหล็กหล่อสามง่ามขนาด
เล็กทเ่ี รยี กว่าหม้อ potjie นำไปมอบใหก้ บั ชาวพนื้ เมอื งของแอฟริกาใตไ้ ดใ้ ช้ แล้วนำไปปรุงอาหารในท่ีสุด
เมนู Potjiekos ก็แพร่กระจายไปทั่วแอฟริกาใต้เนื่องจากแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีการผสมผสานระหว่าง
หลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมดังนั้นวัตถุดิบที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารจึง มีความหลากหลาย
เปรียบเสมือนแอฟริกาใต้เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมด้านอาหารของหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรมการกินของคน
แอฟริกาใต้จะรบั ประทานอาหารสามม้ือต่อวันโดยมีมอื ค่ำจะเป็นมอื้ หลัก
เอกสารอา้ งองิ ไลฟส์ ไตลข์ องบรโิ ภคแอฟริกาใต้.(2009). ไลฟ์สไตล์ของผูบ้ รโิ ภคแอฟริกาใต้.
สืบคน้ วนั ท่ี 13 ส.ค. 2564,//จาก https://www.ryt9.com/s/expd/598871
111 นางสาวสพุ รรษา แจง้ สขุ
129
Mrouzia
ท่มี า: https://www.shutterstock.com/th/image-photo/mrouzia-moroccan-tagine-raisins-
almonds-honey-53770624
ววิ ัฒนาการอาหารการกินสะทอ้ นวฒั นธรรมถ่นิ 6 แดนดินโลก
Mrouzia
Mrouzia เป็นอาหารโมร็อกโกที่มีรสชาติหวานและเผ็ด เป็นอาหารดั้งเดิมที่จะมีในเทศกาล Eid Al
Adha หรอื Eid Al Kabir ชว่ งเทศกาลน้ีจะทำจากเน้ือแกะ เพอ่ื ใชเ้ ซน่ ไหวข้ องงานเฉลิมฉลองทางศาสนา ซึ่ง
เป็นงานฉลองของการเสียสละในวันหยุดของอิสลาม Mrouziaจะมีรสชาติดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากได้ทำ
การลว่ งหน้าไว้หนงึ่ หรือสองวัน และมกั จะใชเ้ นือ้ ท่ีค้างคนื ทำ พร้อมท้ังตดั เนื้อส่วนท่มี ีไขมนั ออก
เนื้อแกะจะเป็นที่นิยมมากที่สุดในการนำมาทำเป็นวัตถุดิบหลัก แต่สามารถใช้เน้ือวัวหรือเนื้อแพะมา
แทนได้เช่นกัน อีกจุดเด่นทีเ่ ป็นสว่ นผสมหลกั ทีข่ าดไมไ่ ดเ้ ลยก็คือ เคร่อื งเทศโมรอ็ กโก ท่มี ีวฒั นธรรมจากการ
รุกรานของชาวอาหรับก็ทำให้เกิดการนำเข้าเครื่องเทศมาผสมกับ Ras El Hanout หญ้าฝรั่นยัง ที่มีส่วนให้
รสชาตินั้นเป็นเอกลักษณ์ของมรูเซีย มาพร้อมกับเครื่องปรุงรสและน้ำผึ้งที่ทำหน้าที่เป็นสารกันบูดในวัน
กอ่ นท่ีจะทำความเยน็ อกี ทัง้ อัลมอนด์ท่สี ามารถปรงุ ในซอสเพอื่ ใหเ้ น้ือนุม่ ขน้ึ อีกดว้ ย
การเสริ ์ฟจะเป็นการเสริ ์ฟร้อน ท้ิงแท่งอบเชยไว้ การจดั วางเนือ้ เสริ ์ฟไว้ตรงกลางจาน โรยด้วยลูกเกด
อัลมอนด์ และราดซอสให้ทั่ว จะมีการนำมาใช้เสิร์ฟในอาหารมื้อค่ำ เพื่อทานกับครอบครัวหรือการทานม้ือ
พิเศษร่วมกัน และใช้ในการเซ่นไหว้ในเทศกาล Eid Al Adha
เอกสารอ้างองิ Christine Benlafquih.Tagine เนอ้ื แกะโมร็อกโกพร้อมลูกเกด อัลมอนด์ และน้ำผ้งึ .
สืบคน้ 11 สิงหาคม 2564, จากhttps://www.thespruceeats.com/mrouzia-lamb-tagine-with-
raisins-almonds-2394654
106 นางสาวสชุ ัญญา ดนี าน
131
Ugali
ท่มี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Main_Page
ววิ ัฒนาการอาหารการกินสะทอ้ นวฒั นธรรมถนิ่ 6 แดนดินโลก
Ugali
Ugali มีส่วนผสมหลักคือข้าวโพด ซึ่งก่อนศตวรรษที่ 19 ข้าวฟ่างและลูกเดือยเป็นธัญพืชหลักที่ผลิต
และบริโภคในเคนยา ข้าวโพดจึงถูกแนะนำให้กับคนในพื้นที่โดยชาวโปรตุเกสที่เข้ามาทำเกษตรกรรม
ตอนแรกข้าวโพดถูกผลิตขึ้นเพื่อการส่งออกแต่ในที่สุดก็ถูกนำมาใช้โดยคนในท้องถิ่นซึ่ง เปลี่ยนเป็นอาหารท่ี
เรยี บงา่ ยและบำรงุ ร่างกายเรยี กวา่ Ugali
ซึ่งเป็นอาหารที่ทำมาจากเเป้งข้าวโพด น้ำ และเกลือ ปั้นเป็นก้อนคล้ายซาลาเปาดู รสชาติคล้ายกับ
ข้าวโพดคั่วสามารถเพิ่มรสชาติได้ด้วยเกลือหรือเนยเสิร์ฟพร้อมกับสตูว์เนื้อ เนื้อปลา ผัก หรือนมเปรี้ยว
คนในท้องถิ่นนิยมใช้มือในการรับประทาน และยังเป็นอาหารยอดนิยมในอาหารจานหลกั สำหรับชาวเคนยา
มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และในปีพ.ศ. 2560 ถูกเพิ่มชื่อลงในรายการตัวแทนของ UNESCO แห่งมรดก
วฒั นธรรมทจี่ บั ต้องไมไ่ ดข้ องมนษุ ยชาติ ซงึ่ เป็นหนึ่งในอาหารไม่กช่ี นดิ ทีอ่ ย่ใู นรายการ
เอกสารอา้ งอิง Julie Cockburn. (2017). Ugali – Kenyan cornmeal. สบื คน้ เมอื่ 13 สงิ หาคม 2564,
จาก https://tasteoftheplace.com/ugali-kenyan-cornmeal/
Ugali. (2021).สบื ค้นเมื่อ13 สงิ หาคม 2564,จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Ugali
144 นางสาวสุกัลยา พงษธ์ รรมรัตน์
133
Injala
ที่มา: https://en.wikipedia.org/wiki/Injera
วิวัฒนาการอาหารการกนิ สะท้อนวฒั นธรรมถ่นิ 6 แดนดนิ โลก
Injala
อินจาล่าเป็นขนมปังแบนหมักเปรี้ยว มีเนื้อเป็นรูพรุนเล็กน้อย ต้นตำหรับทำจากแป้งเทฟฟ์ใน
เอธโิ อเปีย แป้งมีความหนดื ผิวดา้ นล่างโดนความรอ้ นทำใหม้ ผี วิ เรยี บ ดา้ นบนมรี พู รุน เหมาะแกก่ ารตักซอส
และอาหาร จะรับประทานคกู่ บั สตูและสลดั หลายชนดิ โดยแปง้ จะดูดน้ำสลดั และรสชาติอาหารเอาไว้ พอสตู
เเละสลัดหมด ก็จะกนิ อินจาลา่ ทีหลัง พอหมดจานก็จะถอื ว่าสน้ิ สุดม้ืออาหาร
อินจาลา่ ทำดว้ ยส่วนผสมสองอยา่ ง คือเทฟฟ์เปน็ ธญั พืชโบราณปลูกในท่ีทีร่ าบสูงของเอธิโอเปีย มาบด
เป็นเเป้งเเละน้ำ เพราะผลิตยากจึงทำให้ขาดแคลนทำกลายเป็นพืชผลผลิตต่ำ มีราคาสูง ชาวนาส่วนมาก
ปลูกธัญพืชเพื่อยังชีพตนเอง เเต่เนื่องจากสถานท่ีเเละเศรษฐกิจทำให้ต้องใช้ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด หรือข้าว
สาลีแทน แตเ่ ทฟฟ์ก็ยังเปน็ ธญั พืชทีน่ ยิ มใช้เพราะมสี ี กลิน่ รสทด่ี กี ว่า
อินจาล่าจะรับประทานกับระหว่างการถือศีลอดของชาวเอธิโอเปียออร์โธด็อกซ์ ส่วนวัฒนธรรมผู้
เสิร์ฟจะใช้มือขวาเสริ ์ฟเท่านั้น ในเอธิโอเปียหลายๆบา้ นนยิ มกินอินจาล่ากินทุกวัน อาจพบได้ที่รา้ นขายของ
ชำเเละรา้ นอาหารเอธิโอเปีย
เอกสารอา้ งองิ Injera. (2564). ในวิกพิ ีเดยี สารานุกรมเสร.ี สืบค้น 14 สิงหาคม 2564, จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Injera
105 นางสาวสิริวมิ ล สง่าสงฆ์
135
Vetkoek
ที่มา: https://www.shutterstock.com/th/image-photo/south-african-food-deepfried-
vetkoek-sandwich-1186092052
ววิ ัฒนาการอาหารการกินสะทอ้ นวัฒนธรรมถน่ิ 6 แดนดินโลก
Vetkoek
Vetkoek เวทโคก หมายถึง (เค้กอว้ น, เค้กไขมัน) เป็นเมนูตน้ ตำหรับจากเซ้าท์แอฟริกาที่เป็นขนมปัง
ทอดแบบดงั้ เดิมท่ีแป้งขนมปังจะทอดในน้ำมันโดยส่วนผสมของแป้งทอดมีแป้งอเนกประสงค์, เกลือ, น้ำตาล
ทราย, น้ำอุ่น, น้ำมันและจะมีลักษณะคล้ายกับเบอร์เกอร์ชิ้นเล็กหรือซาลาเปาทอดโดยส่วนผสมสำคัญคือ
ยีสต์ที่ใส่ลงไปในแป้งที่หมักจากลูกจันทร์เทศสาเหตุที่ต้องใส่ยีสต์ในแป้งเพื่อให้แป้งมีความพองตัวและนุ่ม
ฟูvetkoekมักทำไส้จากผงกะหร่ี,หมูสับและมนั ฝรัง่ เรียกอีกอย่างว่าแกงกะหรี่บันนี่vetkoekส่วนมากจะขาย
ในจังหวัดเคปทาวน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมักจะขายกันอยู่สองแบบคือซื้อกลับบ้า นที่มีการจัดงาน
เลี้ยงหรือเทศกาลและกิจกรรมทางวัฒนธรรมซึ่งจะมีการขายแบบที่สองคือขายแบบธรรมดาโดยที่จะขาย
บริเวณริมถนนเพราะเปน็ อาหารทีจ่ ัดเสิรฟ์ ได้อยา่ งรวดเรว็ และกินคกู่ ับอยา่ งอน่ื หลากหลายเช่นมันฝรั่ง, อะโว
คาโดและร้านคา้ จะต้ังอยู่โซนแอฟริกาใตแ้ ถวมิเบยี และบอตสวานา
vetkoekยังเป็นที่รู้จักในฝั่งแอฟริกาตะวันตกเรียกเวทโคกว่าพัฟพัฟที่จะแตกต่างจากดั้งเดิมคือจะมี
การใส่เครื่องเทศลงไปด้วยวัฒนธรรมการกินของvetkoekก็ได้รับอิทธิพลมาจากชาวดัตช์ ที่อยู่ประเทศ
เนเธอร์แลนด์เพราะแอฟรกิ าใต้เคยเปน็ เมืองของเนเธอรแ์ ลนด์ชอ่ื ว่าเคปโคโลนีในสมัยจักรวรรดิดัตช์
เอกสารอา้ งอิง Henk Werk. (2557). Vetkoek. สืบค้นเมอื่ 11 สิงหาคม2564 จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Vetkoek
107 นางสาวสดุ ารตั น์ ทศทศิ ไพศาล
137
Couscous
ท่มี า: https://www.tribugolosa.com/articoli-10392-chili-di-fagioli-rossi-e-cous-cous.htm
วิวัฒนาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดินโลก
Couscous
คูสคูส (Couscous) เป็นมรดกวัฒนธรรมด้านอาหารของทวีปแอฟริกาเหนือ โดยไม่ใช่วัฒนธรรม
อาหารของชาติใดชาติหน่งึ แต่เปน็ ของหลายชาตใิ นแอฟริกาเหนือ เป็นวัฒนธรรมและความเชื่อทางศาสนาที่
คนโมร็อกโกเชื่อกันว่าอาหารเป็นสิง่ ทีพ่ ระเจ้าประทานให้แกม่ นุษย์ พวกเขาจึงใช้คูสคูสเป็นอาหารเพื่อใชใ้ น
การบวงสรวงพระเจ้าในวันละหมาดและวันสำคัญทางศาสนา ชาวโมร็อกโกจะแจกจ่ายคูสคูสให้คนยากจน
เพื่อเป็นการทำบุญให้ศาสนา ในทุกวันศุกร์จะมีการเสิร์ฟคูสคูสร้อนซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่น ในปี 2016
ประเทศแอลจเิ รีย เสนอชอ่ื คสู คสู ขน้ึ บญั ชีมรดกโลกทางวฒั นธรรมขององค์การยูเนสโก แตก่ ารขึ้นบัญชีเป็น
มรดกโลกไม่สำเรจ็
คูสคูส มีลักษณะคล้ายๆข้าวหรือเมล็ดธัญพืช คูสคูสทำมาจากข้าวสาลีกับธัญพืช วิธีการทำแบบด่ัง
เดิม คือ นำเมลด็ ขา้ วสาลีกบั ธัญพชื ไปบดในหินโม่ จะไดแ้ ปง้ เซโมลนิ าจากน้ันโรยด้วยน้ำแล้วใช้มือรีดให้เป็น
เม็ดเล็กๆโรยแป้งแหง้ การทำคูสคูสครั้งหนึง่ ใช้เวลาหลายวัน เมื่อทำเสร็จแล้วก็จะนำไปตากแดดใหแ้ หง้ เมือ่
จะรับประทานนำคูสคสู ใส่หม้อนง่ึ ทรงสูงทีเ่ รยี กวา่ couscoussière คสู คูสจะดดู ซบั รสชาตจิ ากสตวู แ์ ละนิ่มฟู
ขึน้ มาสม่ำเสมอกนั
คูสคูสรับประทานคู่กับอาหารได้ทุกชนิด จึงสามารถเสิร์ฟกับอาหารได้หลายชนิด เช่น อาหารคาว
ได้แก่ คูสคูสกับแกง คูสคูสสลัด คูสคูสผัดกับเนื้อสัตว์(คล้ายข้าวผัด) อาหารหวาน ได้แก่ คูสคูสกับกับเนย
และผลไม้ที่อร่อยเข้ากัน สูตรการปรุงคูสคูสจะแตกต่างกันตามวัตถุในแต่ละประเทศโดยวัฒนธรรมการ
รับประทานจะใช้ท้งั ช้อนและมือในการรับประทาน หลงั จากรับประทานคูสคูสเสรจ็ ชาวโมรอ็ กโกจะปิดท้าย
มื้ออาหารดว้ ยชาม้นิ ต์ เพือ่ ช่วยย่อยอาหาร
เอกสารอ้างองิ ไทยรฐั ออนไลน.์ (2553).Chicken Couscous.
สบื คน้ 13 สิงหาคม 2564,จาก https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/115000
Hmong.Couscous. สืบค้น 13 สิงหาคม 2564,จาก https://hmong.in.th/wiki/Couscous
110 นางสาวสุทธริ ตั น์ สมใจ
139
Waakye
ทมี่ า: https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Ghana%27s_Waakye.jpg
วิวฒั นาการอาหารการกนิ สะทอ้ นวฒั นธรรมถิ่น 6 แดนดนิ โลก