การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในในประเทศไทยจะใช้วิธีการ
ตรวจวัดลมหายใจเป็นอันดับแรก หากไม่สามารถดำ�เนินการได้ก็จะตรวจวัด
จากปัสสาวะและตรวจวัดจากเลือดตามลำ�ดับ ทั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมการ
กฤษฎีกา คณะท่ี 10 ให้ความเห็นว่าการเจาะเลือดและการตรวจเลือดเป็น
การกระท�ำ ตอ่ รา่ งกายของบคุ คล ซงึ่ กระทบตอ่ สทิ ธเิ สรภี าพในชวี ติ และรา่ งกาย
ของบุคคลตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญซึ่งให้การรับรองไว้ และในหลัก
ท่ัวไปของการประกอบวิชาชีพเวชกรรม การกระทำ�ต่อร่างกายของผู้ป่วยต้อง
ได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการช่วยชีวิตของผู้ป่วย
ในกรณีฉุกเฉิน ดังน้ัน การเจาะเลือดที่กระทำ�ต่อร่างกายของ ผู้ขับข่ีก็ต้อง
ไดร้ บั ความยนิ ยอมจากผขู้ บั ขดี่ ว้ ย ซง่ึ มาตรา 142 วรรคสอง แหง่ พระราชบญั ญตั ิ
จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ไม่ได้กล่าวถึงการเจาะเลอื ดไว้ ดังนนั้ การตรวจวัด
แอลกอฮอล์จากเลือด จึงเป็นกรณีท่ีเกินขอบเขตอำ�นาจของเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ
ตามท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา 142 หากจะให้เจ้าหน้าที่ตำ�รวจมีอำ�นาจดังกล่าว
จำ�เปน็ จะต้องออกกฎกระทรวงเพ่อื มารองรบั กฎหมายดังกลา่ ว
การบงั คบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขบั ” 183
นอกจากน้ัน ประเด็นปัญหาการปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์
ของผู้ขับขี่ ทำ�ให้เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจต้องประสบกับอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าท่ี
เน่ืองจากไม่มีข้อกำ�หนดของกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าว ทำ�ให้
เจา้ หนา้ ทส่ี ามารถด�ำ เนนิ การไดเ้ พยี งการกกั ตวั ไวเ้ พอ่ื ทดสอบ ณ บรเิ วณจดุ ตรวจ
เท่านั้น หรือดำ�เนินการในข้อหาฝ่าฝืนคำ�สั่งเจ้าพนักงานมีอัตราโทษปรับ
ไม่เกิน 1,000 บาท หรือข้อหาหย่อนสมรรถภาพในการขับขี่ระวางโทษ
ไม่เกนิ 3 เดอื น ปรบั ตงั้ แต่ 2,000-10,000 บาท หรือท้งั จำ�ทัง้ ปรับ ซ่ึงในทาง
ปฏิบัติแล้วจะปรับประมาณ 10,000 บาท ดังนั้นจึงมีการแก้ไขกฎหมายขึ้น
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 โดยระบุว่าการปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์
ใหถ้ อื เสมอื นวา่ บุคคลนนั้ “เมาสุรา”
184 การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ”
กฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ ง
มาตรา 43 (2)
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มีการกำ�หนด
เกย่ี วกับการขับขใ่ี นส่วนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กรณี “เมาแล้วขับ” ไว้ในมาตรา 43 (2)
ดงั น้ี “หา้ มมใิ หผ้ ขู้ บั ขร่ี ถในขณะเมาสรุ าหรอื ของเมาอยา่ งอนื่ ” หากผใู้ ดกระทำ�
ความผดิ ตามมาตราน้ี จะตอ้ งไดร้ บั โทษตามมาตรา 160 ตรี คอื ตอ้ งระวางโทษ
จ�ำ คกุ ไมเ่ กนิ หนงึ่ ปี หรอื ปรบั ตง้ั แตห่ า้ พนั บาทถงึ สองหมนื่ บาทหรอื ทงั้ จ�ำ ทงั้ ปรบั
และพักใชใ้ บอนุญาตขบั ข่ไี มเ่ กนิ 6 เดือนหรอื เพิกถอนใบอนุญาตขบั ข่ี
มาตรา 142 วรรค 2
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 142
ก�ำ หนดไวว้ ่า เจ้าพนักงานจราจรหรือพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ มอี �ำ นาจสัง่ ให้ ผู้ขับข่ี
หยุดรถในเมอื่
(1) รถนั้นมีสภาพไม่ถกู ต้องตามทีบ่ ญั ญัติไวใ้ นมาตรา 6
(2) เห็นว่าผู้ขับขี่หรือบุคคลใดในรถนั้นได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม
บทแหง่ พระราชบญั ญัตนิ ีห้ รอื กฎหมายอันเกย่ี วกบั รถนัน้ ๆ
การบงั คับใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขับ” 185
ในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงาน
เจ้าหน้าท่ี เหน็ วา่ ผู้ขับข่ีฝา่ ฝืน มาตรา 43 (1) หรือ (2) ให้เจ้าพนักงานจราจร
พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าท่ี ส่ังให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ดังกล่าว
วา่ หย่อนความสามารถในอนั ที่จะขบั หรือเมาสุราหรอื ของเมาอยา่ งอนื่ หรือไม่
ในกรณีท่ีผู้ขับข่ีตามวรรคสองไม่ยอมให้ทดสอบให้เจ้าพนักงานจราจร
พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าท่ีมีอำ�นาจกักตัวผู้น้ันไว้ดำ�เนินการ
ทดสอบได้ภายในระยะเวลาเท่าที่จำ�เป็นแห่งกรณี เพื่อให้การทดสอบเสร็จ
สน้ิ ไปโดยเรว็ และเมือ่ ผนู้ ้นั ยอมใหท้ ดสอบแล้ว หากผลการทดสอบปรากฏว่า
ไม่ไดฝ้ า่ ฝืนตาม มาตรา 43 (1) หรอื (2) กใ็ ห้ปลอ่ ยตวั ไปทนั ที
ในกรณีท่ีมีพฤติการณ์ฉันควรเชื่อว่าผู้ขับข่ีขับรถในขณะเมาสุรา
หรือเมาอย่างอื่นหากผู้นั้นยังไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ให้สันนษิ ฐานไวก้ ่อนว่าผู้นั้นฝา่ ฝืน มาตรา 43 (2)
186 การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขบั ”
อตั ราโทษ
การลงโทษกรณี “เมาแลว้ ขบั ” ในประเทศไทย มที งั้ โทษจ�ำ และ/หรอื
ปรบั ผขู้ บั ขรี่ ถในขณะเมาสรุ าแลว้ นอกจากนนั้ ยงั มกี ารลงโทษดว้ ยการตดั แตม้
และการคุมประพฤติ อีกดว้ ยตามรายละเอียดในตาราง 30
ตาราง 30
อัตราโทษ “เมาแล้วขบั ” ของประเทศไทย
การกระทำ�ผิด อตั ราโทษ
ระดบั BAC เกนิ 50 มลิ ลกิ รมั เปอรเ์ ซน็ ต ์ - ตดั คะแนน 40 คะแนน
- ปรบั 5,000-20,000 บาท หรือ
- จ�ำ คุกไมเ่ กิน 6 เดอื น หรือทง้ั จำ�ทัง้ ปรบั
- ศาลอาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับข่ีไมเ่ กิน
6 เดือน หรอื เพกิ ถอนใบอนุญาตขบั ข่ี
- ท�ำ งานบรกิ ารสังคม
การบังคบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขบั ” 187
การกระท�ำ ผิด อัตราโทษ
กรณที ำ�ใหผ้ ู้อื่นไดร้ ับอนั ตรายแก่รา่ งกาย - ตัดคะแนน 40 คะแนน
หรือจติ ใจ - ปรับตง้ั แต่ 20,000-100,000 บาท
- จ�ำ คกุ ต้งั แต่ 1-5 ปี
กรณที �ำ ให้ผู้อืน่ ไดร้ ับอันตรายสาหสั - พกั ใช้ใบอนญุ าตขบั ขไี่ มน่ อ้ ยกวา่ 1 ปี
กรณที ำ�ใหผ้ ้อู ่ืนถงึ แกค่ วามตาย หรือเพิกถอนใบอนุญาตขบั ขี่
- ท�ำ งานบริการสังคม
- ตดั คะแนน 40 คะแนน
- ปรบั ตง้ั แต่ 40,000-120,000 บาท
- จ�ำ คุกต้ังแต่ 2-6 ปี
- พักใชใ้ บอนุญาตขบั ขีไ่ มน่ อ้ ยกวา่ 2 ปี
หรือเพิกถอนใบอนญุ าตขับข่ี
- ทำ�งานบริการสงั คม
- ตดั คะแนน 40 คะแนน
- ปรบั ต้งั แต่ 60,000-200,000 บาท
- จ�ำ คุกตง้ั แต่ 3-10 ปี
- เพกิ ถอนใบอนุญาตขับข่ี
- ทำ�งานบริการสังคม
188 การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขับ”
การกระท�ำ ผดิ อัตราโทษ
การปฏิเสธการตรวจวดั - จำ�คกุ ไม่เกนิ 1 ปี
- ปรบั ตง้ั แต่ 10,000-20,000 บาท
หรอื ทั้งจ�ำ ท้ังปรับ
ทมี่ า: พระราชบญั ญตั จิ ราจรทางบก พ.ศ. 2522
อยา่ งไรกต็ าม ในทางปฏบิ ตั แิ ลว้ สว่ นใหญศ่ าลจะพพิ ากษาลงโทษ ดงั น้ี
คือ (1) โทษจำ�คกุ 1-3 เดอื น โทษจ�ำ คุกรอลงอาญา 1-2 ปี (2) ปรบั 5,000-
20,000 บาท (แลว้ แตช่ นดิ รถ) (3) บรกิ ารสงั คม/บ�ำ เพญ็ ประโยชน์ 12-48 ชว่ั โมง
ตามคำ�สัง่ ศาล และ (4) พักใชใ้ บอนญุ าต 6 เดอื น
การบังคบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ” 189
การตงั้ จดุ ตรวจวัดแอลกอฮอล์
จดุ ตรวจ หมายถึง สถานทซ่ี ึ่งเจา้ หน้าทต่ี ำ�รวจปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ตรวจค้น
เพอ่ื จบั กมุ ผกู้ ระท�ำ ความผดิ ในเขตทางเดนิ รถหรอื ทางหลวงในกรณปี กตเิ ปน็ การ
ชว่ั คราวโดยมกี ารก�ำ หนดระยะเวลาในการตง้ั จดุ ตรวจเทา่ ทจ่ี �ำ เปน็ แตต่ อ้ งไมเ่ กนิ
24 ชัว่ โมง และภายหลังจากเสรจ็ สิ้นการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ แล้วตอ้ งท�ำ การยบุ เลกิ
การตงั้ จุดตรวจทันที (วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ, 2556) ทงั้ น้ี การต้ังจดุ ตรวจนน้ั
จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาระดับผู้บังคับการขึ้นไป และมีหลักการ
สำ�คญั ในการดำ�เนินการ ดังนี้
1. ตั้งจดุ ตรวจเฉพาะมีกรณีจำ�เปน็ มเี หตุการณฉ์ ุกเฉนิ หรือเรง่ ด่วน
2. ต้องมีการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
เพ่อื ป้องกันการตัง้ จุดตรวจซ้ําซ้อน
3. การตรวจค้นจับกุมต้องดำ�เนินการตามประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญาและประมวลระเบียบเกีย่ วกบั คดอี ยา่ งเคร่งครัด
4. มนี ายต�ำ รวจชัน้ สญั ญาบตั รเปน็ หวั หน้าควบคุม
5. แตง่ เครือ่ งแบบในการปฏบิ ัตหิ น้าที่
6. บริเวณจดุ ตรวจจะตอ้ งมแี ผงก้ันที่แสดงข้อความ “หยุดตรวจ”
190 การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ”
7. หากต้องปฏิบัติหน้าท่ีในการตั้งจุดตรวจในเวลากลางคืน
ตอ้ งตรวจสอบใหแ้ นใ่ จวา่ มแี สงสวา่ งเพยี งพอทผ่ี ขู้ บั ขส่ี ามารถมองเหน็ ไดช้ ดั เจน
ในระยะ 150 เมตรก่อนถึงจดุ ตรวจ
8. ต้องมีแผ่นป้ายแสดงช่ือ สกุล ยศ และตำ�แหน่งของหัวหน้า
ผ้คู วบคุมการตงั้ จุดตรวจ
9. ตอ้ งก�ำ หนด “พนื้ ทปี่ ลอดภยั ” หรอื “Safety Zone” ส�ำ หรบั เปน็
บริเวณตรวจค้น ท้ังนี้ เพ่ือความปลอดภัยของทั้งผู้ถูกตรวจค้นและเจ้าหน้าที่
ต�ำ รวจเอง
10. ใช้ความระมัดระวังในการตรวจค้นเพ่ือเป็นการป้องกันอันตราย
ทอ่ี าจเกดิ ข้นึ โดยไม่สามารถคาดการณไ์ ด้
11. ใช้วาจาสุภาพในการพูดคุยกับผู้ที่ถูกตรวจค้นรวมถึงการแสดง
พฤตกิ รรมท่ีสภุ าพเหมาะสม
12. คำ�นึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน
โดยไมก่ ่อความเดอื ดร้อนรำ�คาญให้แกผ่ ้ใู ชร้ ถใช้ถนนมากจนเกินไป
13. ใช้การสังเกตและให้ความสำ�คัญกับผู้ขับข่ีและยานพาหนะ
ทมี่ ลี ักษณะพิรธุ
การบังคบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขบั ” 191
ก่อนท่ีเจ้าหน้าท่ีตำ�รวจจะทำ�การต้ังจุดตรวจน้ัน จำ�เป็นต้องมีการ
จดั ท�ำ แผนการตง้ั จดุ ตรวจประจ�ำ เดอื นกอ่ น โดยในแผนการตง้ั จดุ ตรวจมกี ารระบุ
วนั เวลา ถนน สถานทีต่ ั้งจุดตรวจ และผคู้ วบคุมการตงั้ จุดตรวจอยา่ งชดั เจน
ทั้งนี้ หน่วยงานท่ีรับผิดชอบจะร่างแผนประจำ�เดือน เสนอผู้บังคับบัญชาตาม
ลำ�ดับช้ัน โดยผู้บัญชาการเป็นผู้ลงนามอนุมัติแผนการตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่
และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง เช่น ศูนย์วิทยุตรีเพชร ศูนย์วิทยุ บก. 02 รวมถึง
เจ้าหน้าที่ของกองบังคับการต่าง ๆ ท่ีรับผิดชอบอยู่ในพื้นท่ีที่จะมีการต้ัง
จดุ ตรวจวดั แอลกอฮอลข์ องผขู้ บั ขี่ จะไดร้ บั ทราบแผนทกุ วนั ท่ี 20 ของแตล่ ะเดอื น
ส�ำ หรบั กรณขี องกองบงั คบั การต�ำ รวจจราจร เปน็ หนว่ ยงานสงั กดั กองบญั ชาการ
ต�ำ รวจนครบาล ผทู้ อ่ี นมุ ตั แิ ผนการตง้ั จดุ ตรวจ คอื ผบู้ ญั ชาการต�ำ รวจนครบาล
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ
กองบงั คับการตำ�รวจจราจร สารวตั รงานตรวจพิสูจนผ์ ู้ขบั ข่ี กองกำ�กบั การ 5
(ตรวจพิสูจน์ สถิติและวิจัย) มีอำ�นาจปรับแผนการตั้งจุดตรวจได้ตาม
ความเหมาะสม
192 การบงั คับใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขับ”
ขนั้ เตรยี มการ
แนวทางในการตงั้ จดุ ตรวจเพอ่ื ตรวจวดั ระดบั แอลกอฮอลใ์ นเลอื ดของ
ผ้ขู ับข่มี แี นวทางปฏบิ ัตทิ สี่ �ำ คัญ ไดแ้ ก่
1. การเตรียมการด้านกำ�ลังพล การตั้งจุดตรวจท่ีเหมาะสมจะต้อง
ใช้เจา้ หน้าที่ต�ำ รวจประมาณ 10-12 นาย ประกอบด้วย
1.1 เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจช้ันสัญญาบัตร สำ�หรับควบคุมการปฏิบัติ
จำ�นวน 2 นาย ประกอบด้วยหัวหน้าจุดตรวจคือ รองผู้กำ�กับการ (จราจร)
หรอื สารวัตรจราจร จ�ำ นวน 1 นาย และมีร้อยเวรทำ�หนา้ ทต่ี รวจวัดเพอื่ ยนื ยัน
ผลอกี 1 นาย แตใ่ นทางปฏบิ ตั ิ หากก�ำ ลงั พลไมเ่ พยี งพออาจใชน้ ายต�ำ รวจระดบั
สญั ญาบตั รเพียง 1 นายในการควบคมุ การตงั้ จดุ ตรวจ
1.2 เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจระดับชั้นประทวน จำ�นวน 10 นาย
ทำ�หน้าท่ีในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในผู้ขับข่ีเบ้ืองต้นจำ�นวน 4-6 นาย
เปน็ ผูช้ ่วยรอ้ ยเวรจ�ำ นวน 2 นายและท�ำ หนา้ ท่ีในการส่งตัวผูต้ อ้ งหาไปยังสถานี
ต�ำ รวจในเขตทอ้ งทจ่ี �ำ นวน 2-4 นาย อยา่ งไรกต็ าม ในทางปฏบิ ตั จิ รงิ อาจจ�ำ เปน็
ตอ้ งใชก้ �ำ ลงั พลระดบั ชน้ั ประทวนประมาณ 5-6 นาย และใหอ้ าสาจราจรเขา้ มา
ร่วมกิจกรรมการตั้งจุดตรวจด้วย เน่ืองจากในปัจจุบันกำ�ลังเจ้าหน้าท่ีตำ�รวจ
ไม่เพยี งพอ เพราะตอ้ งทำ�การตงั้ จดุ ตรวจหลายจุดภายในวันเดียวกัน
การบังคบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขบั ” 193
2. การเตรียมการด้านวัสดุและอุปกรณ์ ก่อนการต้ังจุดตรวจวัด
แอลกอฮอล์ทุกครั้ง เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจจะมีการจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์
ที่เกี่ยวข้องในส่วนต่าง ๆ ให้พร้อมสำ�หรับการใช้งาน ซึ่งวัสดุและอุปกรณ์
ทสี่ ำ�คัญประกอบด้วย
1) อาวุธประจำ�กาย
2) รถขนวสั ดุและอุปกรณ์
3) ป้ายไฟ 1 ชุด
4) กรวยยาง 30-50 กรวย
5) เคร่อื งมอื ตรวจวดั ระดบั แอลกอฮอล์แบบเบื้องตน้
6) เครื่องมอื ตรวจวัดระดบั แอลกอฮอลแ์ บบยนื ยันผล
7) แผงกนั้
8) โตะ๊ จ�ำ นวน 1-2 ตัว
9) เก้าอ้ี 6-7 ตวั
10) เครือ่ งปัน่ ไฟ
11) กระบองไฟ
12) ไฟฉาย
13) เสือ้ สะทอ้ นแสง
194 การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ”
ขัน้ ตอนการปฏิบตั ิ
1. การประชุมชี้แจง ขั้นตอนน้ีเป็นข้ันตอนท่ีหัวหน้าผู้ควบคุม
การตงั้ จดุ ตรวจท�ำ หนา้ ทใ่ี นการอธบิ าย ชแี้ จงรายละเอยี ดและขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
กับการปฏิบัติงานใหผ้ ู้ปฏิบตั ไิ ด้รับทราบในประเดน็ ตา่ ง ๆ ดงั นี้
1) นโยบาย
2) ระเบยี บ ค�ำ สง่ั และขอ้ กฎหมายทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี
3) เป้าหมายในการตง้ั จุดตรวจ
4) บริเวณที่ต้งั จดุ ตรวจและหน้าท่รี ับผิดชอบของแต่ละนาย
5) ฝกึ ทบทวนทา่ สัญญาณจราจรที่จำ�เปน็ ในการปฏิบตั หิ น้าท่ี
6) ตรวจสอบความพร้อมด้านการแต่งกายและความพร้อม
ด้านร่างกาย
7) ตรวจสอบความพร้อมดา้ นวสั ดุและอปุ กรณ์ท่จี ำ�เป็น
การบังคบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ” 195
ภาพ 8 การอบรมชีแ้ จงการปฏิบัตงิ าน
ทม่ี า: กองก�ำ กบั การ 5 (ตรวจพสิ จู น์ สถติ แิ ละวจิ ยั ) กองบงั คบั การต�ำ รวจจราจร
196 การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ”
2. การเลือกสถานท่ีต้ังจุดตรวจและรูปแบบการตั้งจุดตรวจ
ในข้ันตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำ�รวจที่เกี่ยวข้องกับการต้ังจุดตรวจควรคำ�นึงถึงหลัก
ในการเลอื กสถานทแี่ ละรูปแบบการตงั้ จุดตรวจที่เหมาะสม ดงั นี้
1) เลือกจุดตรวจโดยคำ�นึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าท่ี
ผู้ปฏิบัติ ผู้ขับขี่ท่ีถูกเรียกตรวจ รวมถึงผลกระทบโดยภาพรวมต่อประชาชน
ผใู้ ช้รถใช้ถนน ตลอดประชาชนท่ีพกั อาศัยอยูใ่ นบริเวณใกลเ้ คยี ง
2) การต้ังจุดตรวจต้องดำ�เนินการตามรูปแบบท่ีสำ�นักงาน
ต�ำ รวจแห่งชาตกิ ำ�หนดไว้อย่างเครง่ ครดั
3) เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานต้องจอดรถในลักษณะท่ีเป็นระเบียบ
เรยี บรอ้ ย มคี วามปลอดภยั
4) บริเวณจุดตรวจควรมีโต๊ะและเก้าอี้ในจำ�นวนที่เหมาะสม
ส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ทท่ี ท่ี �ำ การทดสอบเพอ่ื ยนื ยนั ผลและเจา้ หนา้ ทที่ ที่ �ำ หนา้ ทบี่ นั ทกึ
การจับกุม รวมถึงจัดไว้สำ�หรับผู้ท่ีถูกเรียกให้ตรวจสำ�หรับการน่ังรอเพื่อตรวจ
ยนื ยันผล การรอบันทึกจบั กุมและรอการสง่ ตวั ไปยงั สถานีตำ�รวจท้องที่
การบงั คับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ” 197
3. การปฏิบัติหน้าท่ีจริง การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าท่ีตำ�รวจ
ในการตง้ั จุดตรวจเพอื่ วัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับข่ี มขี ัน้ ตอนทส่ี �ำ คญั ดงั นี้
1) การเรียกรถ ในการต้ังจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์นั้น บางครั้ง
อาจมปี ญั หาดา้ นสภาพการจราจรทไ่ี มค่ ลอ่ งตวั มากนกั เจา้ หนา้ ทต่ี �ำ รวจจ�ำ เปน็
ต้องทำ�การสุ่มตรวจยานพาหนะที่ต้องสงสัย โดยพิจารณาได้จาก พฤติกรรม
ในการขับขี่ และลักษณะภายนอกของยานพาหนะท่ีมีการตกแต่งเพิ่มเติม
ซ่ึงการสุ่มตรวจนี้จำ�เป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากเจ้าหน้าที่ที่มี
ประสบการณ์ในการต้ังจดุ ตรวจมาเป็นเวลานาน
2) การเป่าทดสอบเบื้องต้น เม่ือผู้ขับขี่ถูกเรียกหยุดให้ตรวจ
เจ้าหน้าที่ท่ีทำ�การเรียกหรืออาจเป็นเจ้าหน้าที่นายอ่ืนจะทำ�การตรวจวัด
ระดับแอลกอฮอล์เบื้องต้น โดยการขอให้ผู้ขับข่ีให้ความร่วมมือในการตรวจ
วัดแอลกอฮอล์นั้น เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจจะต้องใช้ถ้อยคำ� กิริยาและวาจาที่สุภาพ
รวมถงึ ไมส่ อ่ งไฟฉายไปยงั บรเิ วณใบหนา้ ของผขู้ บั ขโ่ี ดยตรง หากผลการทดสอบ
เบ้ืองต้นปรากฏว่า ผู้ขับข่ี มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกินอัตราที่กฎหมาย
กำ�หนด เจา้ หนา้ ที่ต�ำ รวจนายน้นั จะแจ้งใหผ้ ูข้ บั ขขี่ บั รถเขา้ ไปในจุดทเี่ ตรียมไว้
และเชิญตัวผู้ขับขี่ไปยังบริเวณท่ีจัดเตรียมไว้สำ�หรับการตรวจวัดเพ่ือยืนยันผล
ต่อไป
198 การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ”
ภาพ 9 การตรวจวดั แอลกอฮอลเ์ บอ้ื งต้น
ทม่ี า: กองก�ำ กบั การ 5 (ตรวจพสิ จู น์ สถติ แิ ละวจิ ยั ) กองบงั คบั การต�ำ รวจจราจร
การบังคบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ” 199
3) การเป่าทดสอบเพื่อยืนยันผล ในข้ันตอนน้ีเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ
ระดับสัญญาบัตรจะทำ�หน้าท่ีในการตรวจวัดเพื่อยืนยันผล โดยมีเจ้าหน้าที่
ระดับชั้นประทวนเป็นผู้ช่วย เจ้าหน้าที่ตำ�รวจจะช้ีแจงรายละเอียดในการ
ตรวจวัด ข้อกฎหมาย บทลงโทษ ตลอดจนคำ�แนะนำ�ให้ผู้ขับข่ีตระหนักถึง
ความปลอดภยั บนทอ้ งถนน หากผลการตรวจวดั พบวา่ ผขู้ บั ขมี่ รี ะดบั แอลกอฮอล์
ในเลือดไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำ�หนด เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติจะให้คำ�แนะนำ�
เร่ืองการขับข่ีอย่างปลอดภัย ก่อนปล่อยผู้ขับขี่คนน้ันไป ในทางกลับกัน
หากผลการตรวจวัดพบว่า ผู้ขับขี่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกินอัตรา
ท่ีกฎหมายก�ำ หนด เจา้ หนา้ ท่ผี ูป้ ฏบิ ัติจะท�ำ บนั ทกึ จับกมุ ทันที
200 การบังคับใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ”
ภาพ 10 การตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบยืนยนั ผล
ทม่ี า: กองก�ำ กบั การ 5 (ตรวจพสิ จู น์ สถติ แิ ละวจิ ยั ) กองบงั คบั การต�ำ รวจจราจร
การบังคับใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขับ” 201
4) ทำ�บันทึกจับกุม ขั้นตอนน้ีเป็นข้ันตอนสำ�หรับการทำ�บันทึก
จับกุมผู้ขับข่ีท่ีมีระดับแอลกอฮอล์เกินอัตราท่ีกฎหมายกำ�หนด โดยเจ้าหน้าที่
ตำ�รวจระดับช้ันประทวนจะเป็นผู้ช่วยนายตำ�รวจช้ันสัญญาบัตรในการ
เขียนบันทึกจับกุม ก่อนที่จะส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำ�รวจนายอื่นนำ�ผู้ถูกจับกุม
ไปสง่ พนกั งานสอบสวนของสถานีต�ำ รวจทอ้ งท่ตี อ่ ไป
5) นำ�ส่งพนักงานสอบสวน เม่ือทำ�บันทึกจับกุมผู้ขับขี่ท่ีมี
ระดับแอลกอฮอล์เกินอัตราท่ีกฎหมายกำ�หนดเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าท่ี
ตำ�รวจท่ีรับผิดชอบการนำ�ส่งตัวผู้กระทำ�ความผิดไปยังพนักงานสอบสวนของ
สถานีตำ�รวจในพ้ืนที่ ท้ังนี้ ต้องมีการจัดเตรียมยานพาหนะสำ�หรับการส่งตัว
ผู้กระทำ�ความผิดไว้ให้พร้อม เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจต้องมีความเข้มงวด ไม่ปล่อย
ให้ผู้กระทำ�ความผิดขับขี่ยานพาหนะส่วนตัวไปยังสถานีตำ�รวจเองเด็ดขาด
หากผู้กระทำ�ความผิดต้องการนำ�รถไปด้วย ต้องทำ�การประสานครอบครัว
ญาติหรือเพ่อื นให้มาน�ำ รถไปแทน
202 การบังคบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ”
ภาพ 11 การน�ำ สง่ ตัวผตู้ อ้ งหาให้กบั พนักงานสอบสวนของ สน.ท้องที่
ทม่ี า: กองก�ำ กบั การ 5 (ตรวจพสิ จู น์ สถติ แิ ละวจิ ยั ) กองบงั คบั การต�ำ รวจจราจร
การบังคับใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขบั ” 203
6) การท�ำ บนั ทกึ สอบสวน เมอื่ พนกั งานสอบสวนของสถานตี �ำ รวจ
ทอ้ งทร่ี บั ตวั ผกู้ ระท�ำ ความผดิ แลว้ จะท�ำ การสอบสวนและส�ำ นวนการสอบสวน
ส�ำ หรับเตรียมการส่งฟอ้ งศาลภายในเวลา 48 ชว่ั โมง
7) การคุมขังและการประกันตัว ในกรณีที่ผู้กระทำ�ความผิด
ไม่ต้องการถูกคุมขัง ณ สถานีตำ�รวจท้องท่ี ผู้กระทำ�ความผิดสามารถได้รับ
การประกนั ตวั ในวงเงิน 20,000 บาท ไมเ่ ชน่ นั้นจะตอ้ งถูกคมุ ขังท่ีสถานีต�ำ รวจ
ท้องทก่ี ่อนท่ีจะถูกสง่ ฟ้องศาลตอ่ ไป
8) การสง่ ฟอ้ งศาล พนกั งานสอบสวนจะสง่ ฟอ้ งศาลแขวงภายใน
48 ชั่วโมง
9) การติดตามคดี เมื่อการตัดสินคดีสิ้นสุดแล้ว หน่วยงาน
ที่ทำ�หน้าที่จับกุมจะติดตามผลของคดี เพื่อประโยชน์ในการติดตามและ
ทำ�หนังสือขอรับส่วนแบ่งเงินรางวัลนำ�จับสำ�หรับเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติ ท้ังน้ี
หน่วยปฏบิ ัตติ อ้ งท�ำ หนังสอื ไปยังศาลเพ่อื ขอรับเงนิ รางวัลน�ำ จบั ภายใน 60 วัน
หลังจากคดีสิ้นสุด หากไม่ดำ�เนินการ เงินรางวัลนำ�จับดังกล่าวจะตกเป็น
ของแผน่ ดินทนั ที
204 การบังคบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขบั ”
เรียกตรวจ
พบแอลกอฮอล์ ไม่พบแอลกอฮอล์
ตรวจวัดยืนยันผล ปลอ่ ยตวั
เกนิ อัตราที่ก�ำ หนด ไม่เกนิ อตั รา
ทำ�บันทกึ จบั กมุ ทกี่ �ำ หนด
นำ�ส่งพนักงาน
ปล่อยตวั
สอบสวน
ควบคมุ ตัว
ไมป่ ระกนั ตวั ประกนั ตวั
คมุ ขงั กลับบ้าน
สง่ ฟ้องศาล
ภาพ 12 ขั้นตอนการบงั คับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขบั ”
การบังคบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ” 205
เครอ่ื งมือในการตรวจวัด
ในส่วนนี้จะเป็นการอธิบายถึงประเภทของเครื่องมือในการ
ตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่มีใช้อยู่ในประเทศไทย รวมถึงการสอบเทียบมาตรฐาน
เครอื่ งมอื วา่ มขี น้ั ตอนและวธิ กี ารด�ำ เนนิ การอยา่ งไร ทงั้ น้ี เพอื่ เปน็ ขอ้ มลู ใหผ้ ขู้ บั ขี่
ได้รับทราบและเกิดความเช่ือม่ันในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ
มากข้นึ
ประเภทของเคร่อื งมอื
สำ�หรับเคร่ืองมือในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ที่มีใช้อยู่ใน
ประเทศไทย แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทคอื เคร่อื งมอื ตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบ
เบอื้ งตน้ และเครอ่ื งมอื ตรวจวดั แอลกอฮอลแ์ บบยนื ยนั ผล ซง่ึ มรี ายละเอยี ด ดงั น้ี
1. เครื่องมือตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบเบ้ืองต้น คือ เคร่ืองมือ
ท่ีใช้ทำ�การทดสอบระดับแอลกอฮอล์เบ้ืองต้น ก่อนท่ีจะทำ�การทดสอบ
เพื่อยืนยันผลหากตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ โดยในปัจจุบันมีการนำ�
เครอ่ื งมอื ยห่ี อ้ AlcoBlow มาใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หนา้ ทต่ี �ำ รวจไทย โดย
เครื่องมือตรวจวัดแอลกอฮอลด์ งั กลา่ วมจี ุดเดน่ สำ�คัญคอื มตี วั เซน็ เซอร์ส�ำ หรบั
ตรวจจับแอลกอฮอล์เทา่ น้ัน สามารถท�ำ งานได้ทนั ทีโดยไม่ตอ้ งมกี ารอนุ่ เครื่อง
หรอื Warm up เครอ่ื ง สามารถรายงานผลการตรวจวดั ภายใน 3-5 วนิ าที ทง้ั น้ี
ข้นึ อยู่กับปรมิ าณแอลกอฮอลข์ องผูข้ ับขี่ ไมจ่ �ำ เป็นตอ้ งใช้หลอดเป่า ไม่จ�ำ เปน็
ต้องทำ�การสอบเทียบเคร่ืองมือบ่อยครั้ง (ตามข้อกำ�หนดของผลิตภัณฑ์ควรมี
การสอบเทยี บไมเ่ กนิ ปลี ะ 1 ครงั้ ) ใชพ้ ลงั งานนอ้ ย สามารถตรวจวดั แอลกอฮอล์
ได้ถึง 2,500 คร้ัง (โดยปกติใช้ถ่านไฟฉายขนาด AA) ตัวเครื่องมีขนาด
265 x 48 มิลลิเมตร หนกั 300 กรมั สะดวกแกก่ ารพกพา
206 การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ”
ภาพ 13 AlcoBlow
ท่มี า: http://www.alcoholtest.com/alcoblow/
การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขบั ” 207
2. เคร่ืองมือตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบยืนยันผล คือ เครื่องมือ
ที่ใช้ในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ให้ค่าความถูกต้องและแม่นยำ�สูง ท้ังน้ี
เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการทำ�บันทึกจับกุมของเจ้าหน้าท่ีตำ�รวจหาก
ตรวจสอบพบว่าผู้ขับข่ี “เมาสุรา” โดยชุดของเครื่องมือตรวจวัดแอลกอฮอล์
แบบยืนยันผลประกอบด้วย เคร่ืองตรวจวัด หลอดเป่า และเคร่ืองพิมพ์
ดงั แสดงในภาพ 14
208 การบังคบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขับ”
ภาพ 14 ชุดเคร่อื งมอื ตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบยืนยันผล Lion SD-400
ทม่ี า: http://www.drugtesting.ch
การบงั คับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขับ” 209
ปัจจุบันในประเทศไทยมีการนำ�เครื่องมือตรวจวัดประเภทนี้มาใช้
แพรห่ ลาย คอื ย่ีห้อ Lion SD-400 และ ALCO QUANT 6020
1) Lion SD-400 เปน็ เครอ่ื งมอื ทผ่ี ลติ โดยบรษิ ทั Lion Laboratories
จำ�กัด มีคุณสมบัติเด่นคือ ภายหลังจากเปิดเครื่อง สามารถทำ�งานได้ภายใน
15 วินาทีและรายงานผลการตรวจวัดสำ�หรับรายแรกได้ภายใน 30 วินาที
หลังจากนั้น สามารถรายงานผลการตรวจวดั ผขู้ บั ข่รี ายตอ่ ได้ภายใน 10 วนิ าที
ใช้แบตเตอรข่ี นาด AA จ�ำ นวน 5 ก้อน ซึง่ สามารถตรวจวัดระดบั แอลกอฮอล์
ไดถ้ งึ 3,000 ครง้ั นอกจากนนั้ ยงั สามารถใชง้ านไดใ้ นระดบั อณุ หภมู ทิ หี่ ลากหลาย
ต้ังแต่ -5 องศาเซลเซียส ถึง 50 องศาเซลเซียส และควรทำ�การสอบเทียบ
มาตรฐานเครือ่ งมอื ทกุ ๆ 6 เดือน ดังแสดงในภาพ 14
2) ALCOQUANT 6020 เป็นเคร่อื งมอื ที่ผลติ โดยบรษิ ทั Alcotec
จำ�กัด เป็นเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากลมหายใจแบบ
อัตโนมัติ มนี า้ํ หนกั ไมเ่ กิน 275 กรัม
210 การบังคับใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขบั ”
มีเมนูภาษาไทย ใช้งานง่าย สามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์
ได้ 2 ระบบ คือ (1) ระบบตรวจวัดแบบละเอยี ด เป็นโหมดท่วี ัดค่าแบบละเอยี ด
โดยแสดงผลเป็นตัวเลขและมีหน่วยเป็นมิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ใช้ควบคู่กับ
หลอดเปา่ และ (2) ระบบตรวจวดั แบบเบอ้ื งตน้ เปน็ โหมดทวี่ ดั คา่ แบบเบอ้ื งตน้
โดยทำ�การตรวจจับแอลกอฮอล์จากลมหายใจแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้
หลอดเป่า สามารถล้างแอลกอฮอล์ตกค้างในตัวเครื่องและตรวจวัดใหม่ได้
ภายในเวลา 2-6 วนิ าที สามารถเชอื่ มต่อกบั ปรน้ิ เตอร์ Thermal printer และ
พมิ พผ์ ลไดภ้ ายใน 3 วนิ าที สามารถดขู อ้ มลู ยอ้ นหลงั ภายในตวั เครอื่ งไดท้ นั ทถี งึ
9,999 ค่า มีสายเชื่อมต่อ เพ่ือถ่ายข้อมูลไปเครื่อง PC/Notebook มีระบบ
แจ้งเตือนอัตโนมัติก่อนถึงกำ�หนดสอบเทียบ มีระบบแจ้งเตือนก่อนที่หน่วย
ความจำ�ของเครื่องจะถูกเขียนทับ สามารถบันทึกข้อมูลได้ถาวรโดยที่ไม่มี
ผลกระทบต่อการถอดแบตเตอรี และมีระบบประหยัดพลังงาน เครื่องจะปิด
อัตโนมัตภิ ายใน 2.5 นาที หากไม่มกี ารใชง้ าน ดงั แสดงในภาพ 15
การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ” 211
ภาพ 15 ALCOQUANT 6020
ที่มา: http://www.siamtag.com/products/895/
212 การบังคับใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขบั ”
การสอบเทียบมาตรฐานเครื่องมือ
เพื่อเป็นการสร้างความเช่ือมั่นในมาตรฐานของเครื่องมือ
ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ตลอดจนการสร้างความเช่ือม่ันของประชาชน
ต่อการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าท่ีตำ�รวจ เคร่ืองมือตรวจวัดระดับ
แอลกอฮอลจ์ ะถกู สง่ ไปท�ำ การสอบเทยี บมาตรฐานเครอื่ งมอื ทกี่ รมวทิ ยาศาสตร์
การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขทกุ ๆ 6 เดอื น ตามมาตรฐานและข้อก�ำ หนด
ของบริษัทผู้ผลิต ซ่ึงภายหลังจากการสอบเทียบเครื่องมือ กรมการแพทย์
กระทรวงสาธารณสุขจะออกหนังสือรับรองการสอบเทียบเครื่องมือให้
ดังแสดงในภาพ 16
การบงั คบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขบั ” 213
ภาพ 16 ตวั อย่างหนงั สือรับรองการสอบเทยี บเคร่ืองมือวดั แอลกอฮอล์
ทมี่ า: กองก�ำ กบั การ 5 (ตรวจพสิ จู น์ สถติ แิ ละวจิ ยั ) กองบงั คบั การต�ำ รวจจราจร
214 การบังคบั ใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ”
การตรวจวัดแอลกอฮอล์ในสหรฐั อเมรกิ า
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำ�รวจไทยสามารถเรียนรู้รูปแบบการต้ังจุดตรวจ
วดั แอลกอฮอลข์ องตา่ งประเทศและน�ำ ความรมู้ าประยกุ ตใ์ ชก้ บั การท�ำ งานจรงิ
ในส่วนนี้ จึงเป็นการนำ�เสนอแนวทางการต้ังจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ของ
เจ้าหน้าท่ตี �ำ รวจสหรัฐอเมริกา ซง่ึ มรี ายละเอยี ด ดงั น้ี
การคดั เลอื กสถานท่ตี ้งั จดุ ตรวจ
1. การเลือกสถานที่ต้ังจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์จะคำ�นึงถึงข้อมูล
การจับกุมกรณี “เมาแล้วขับ” รวมถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุซ่ึงเกี่ยวข้องกับ
กรณี “เมาแล้วขับ” เป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่ตำ�รวจสามารถใช้ข้อมูลและ
สถติ ิดังกล่าวจากระบบ SWIRTS (Statewide Integrated Traffic Records
System) ระบบ ISMS (Information Systems Management Section)
รวมถึงข้อมูลและสถิติที่ได้จากท้องที่น้ัน ๆ ซ่ึงข้อมูลเหล่านี้จะมีส่วนสำ�คัญ
ในการช่วยเลอื กสถานท่ีต้ังจุดตรวจท่ีเหมาะสม นอกจากน้ัน จ�ำ เป็นตอ้ งค�ำ นงึ
ถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนด้วย โดยไม่ควร
ต้ังจุดตรวจบนทางหลวงหรือถนนท่ีมีการใช้ความเร็วสูงซ่ึงจะเป็นอันตราย
อยา่ งมากต่อเจา้ หน้าทต่ี ำ�รวจและผ้ขู ับขี่
การบงั คับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ” 215
2. การเลอื กสถานทต่ี งั้ จดุ ตรวจวดั แอลกอฮอลต์ อ้ งค�ำ นงึ ถงึ ระบบไฟ
สอ่ งสวา่ ง พน้ื ทสี่ �ำ หรบั การจอดยานพาหนะของผขู้ บั ขที่ ตี่ อ้ งสงสยั วา่ “เมาแลว้
ขบั ” และพน้ื ทสี่ �ำ หรบั การด�ำ เนนิ การตรวจวดั แอลกอฮอล์ อยา่ งไรกต็ าม ในบาง
พน้ื ทอี่ าจใชร้ ะบบไฟฟา้ สอ่ งสวา่ งแบบเคลอื่ นทแ่ี ทนไดห้ ากบรเิ วณนนั้ มแี สงสวา่ ง
ไมเ่ พียงพอ ทง้ั นี้ เพ่อื ความปลอดภยั ของประชาชนและเจา้ หน้าท่ีผูป้ ฏบิ ัตงิ าน
นอกจากนั้น จะตอ้ งมีไฟแจง้ เตือนผ้ขู ับข่ีล่วงหน้าก่อนทจ่ี ะเขา้ สูด่ า่ นตรวจ
แผนการปฏิบตั ิ
1. สถานีตำ�รวจท้องท่ี ควรร่างแผนการปฏิบัติการตรวจวัด
แอลกอฮอลส์ ง่ ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาระดบั กองบงั คบั การอนมุ ตั ิ โดยตอ้ งมกี ารอนมุ ตั ิ
แผนการปฏบิ ตั ลิ ว่ งหนา้ อยา่ งนอ้ ย 1 สปั ดาหก์ อ่ นการปฏบิ ตั งิ านจรงิ โดยอาจใช้
แผนเดมิ ทเ่ี คยปฏบิ ตั อิ ยแู่ ลว้ หรอื ปรบั เปลย่ี นตามความเหมาะสม โดยมแี นวทาง
การดำ�เนินการดังน้ี
1) กองบังคับการทำ�หน้าที่แจ้งผู้ช่วยผู้บัญชาการและสำ�นักงาน
วจิ ยั และวางแผน เกย่ี วกบั วนั เวลา และสถานทท่ี จ่ี ะท�ำ การตง้ั จดุ ตรวจลว่ งหนา้
48 ชัว่ โมงก่อนการปฏิบัติงานจริง
2) แผนการปฏิบัติดังกล่าวจะต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานที่สถานี
ต�ำ รวจทอ้ งทเี่ ปน็ เวลาอยา่ งนอ้ ย 2 ปี เพอื่ ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานประกอบการพจิ ารณา
คดีของศาล
216 การบังคบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขบั ”
2. แผนการปฏิบัติควรกำ�หนดรายละเอียดในเรื่องต่าง ๆ ท่ีสำ�คัญ
ได้แก่
1) วัน ระยะเวลาการต้ังจดุ ตรวจ และสถานที่ต้งั จดุ ตรวจ
2) แผนฉกุ เฉินของการตัง้ จุดตรวจควรระบุรายละเอียด ดงั นี้
(1) สถานที่ต้ังจุดตรวจสำ�รองกรณีที่ไม่สามารถต้ังจุดตรวจ
ณ บริเวณที่กำ�หนดได้ ทั้งน้ี ให้คำ�นึงถึงความปลอดภัย
เป็นสำ�คัญ โดยต้องพิจารณาถึงสภาพอากาศ ปริมาณ
การจราจรและโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถ
คาดการณ์ได้
(2) ควรกำ�หนดสถานท่ีต้ังจุดตรวจ 2 แห่ง/กะ โดยในแผน
ตอ้ งมกี ารก�ำ หนดวนั เวลา และสถานทข่ี องจดุ ตรวจแตล่ ะ
แหง่ อย่างชัดเจน ทั้งน้ี สถานท่ีตง้ั จุดตรวจแตท่ ัง้ สองแห่ง
เปรียบเสมือนทางเลือกซ่ึงกันและกัน เพราะจะทำ�การ
ต้ังจดุ ตรวจจริงเพียง 1 แห่งเทา่ นน้ั
การบังคบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขับ” 217
3) ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน การด�ำ เนนิ การตรวจวดั แอลกอฮอล์
เบ้อื งตน้ ควรพิจารณาใหส้ อดคล้องกบั ปรมิ าณการจราจร
โดยอาจก�ำ หนดตรวจยานพาหนะทุก ๆ 3 หรอื 10 คัน
หรืออาจกำ�หนดตรวจทุก ๆ วินาที หรือในกรณีชั่วโมง
เรง่ ดว่ นอาจสมุ่ ตรวจเบอ้ื งตน้ ยานพาหนะทกุ ๆ1ใน10คนั
ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ น้ีควรระบุในแผนปฏิบัติการด้วย
และเจา้ หนา้ ท่คี วรปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอนท่กี ำ�หนดไวด้ ้วย
4) ควรมีการประมาณการจำ�นวนชั่วโมงหรือระยะเวลา
การตงั้ จุดตรวจในแต่ละจุดตรวจอย่างชดั เจน
5) ควรมีการกำ�หนดภาพแผนผังการตั้งจุดตรวจในแต่ละ
บริเวณ โดยแสดงรายละเอียดของถนน การจัดต้ัง
อุปกรณ์ในการควบคุมการจราจร และจุดสำ�หรับ
ตรวจวัดแอลกอฮอลใ์ หช้ ัดเจน
218 การบังคับใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขับ”
ความตอ้ งการดา้ นบคุ ลากร
1. ทมี ในการตงั้ จดุ ตรวจประกอบดว้ ยเจา้ หนา้ ทร่ี ะดบั นายสบิ ต�ำ รวจ
ทำ�หน้าท่ีเป็นหัวหน้าชุด และเจ้าหน้าท่ีอีกจำ�นวนหน่ึงซึ่งเพียงพอต่อการตั้ง
จุดตรวจ จำ�นวนเจ้าหน้าท่ีตำ�รวจที่เหมาะสมในการต้ังจุดตรวจจะข้ึนอยู่กับ
งบประมาณและสถานทตี่ ง้ั จดุ ตรวจ ทงั้ นี้ ในการตง้ั จดุ ตรวจแตล่ ะครงั้ หวั หนา้ ชดุ
จะต้องก�ำ หนดตวั ผู้ชว่ ยหวั หน้าชดุ เอง
2. สมาชกิ ในทมี ทปี่ ฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี อ้ งสวมเครอื่ งแบบรวมถงึ สวมหมวก
รณรงค์โครงการ “เมาแลว้ ขับ” ตลอดเวลาในการปฏบิ ัตหิ น้าที่ อยา่ งไรก็ตาม
สามารถสวมชดุ เครอื่ งแบบกนั หนาวไดใ้ นกรณที ส่ี ภาพอากาศเยน็ นอกจากนน้ั
เจ้าหน้าที่ทุกนายจะต้องสวมเส้ือเกราะกันกระสุนทุกคร้ังในระหว่างปฏิบัติ
หนา้ ที่ อยา่ งไรกต็ าม เจา้ หนา้ ทอ่ี าจถอดหมวกไดใ้ นระหวา่ งทน่ี งั่ ในรถสายตรวจ
หรอื ภายในยานพาหนะท่ีใช้ในการปฏิบัติหนา้ ท่ี
3. เจ้าหน้าที่ตำ�รวจในทีมอาจประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ
จากสถานตี �ำ รวจแหง่ เดยี ว หรอื มาจากหลายสถานซี ง่ึ อยใู่ นสงั กดั กองบงั คบั การ
เดียวกันหรือเป็นเจ้าหน้าท่ีจากหน่วยงานหรือองค์กรท่ีให้การสนับสนุน
ด้านงบประมาณ
การบงั คบั ใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ” 219
4. หัวหน้าชุดมีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมการต้ังจุดตรวจ
ให้เป็นไปตามข้ันตอนการปฏิบัติท่ีกำ�หนด และจะต้องกำ�กับดูแลการบันทึก
ข้อมูลจำ�นวนยานพาหนะท่ีถูกเรียกตรวจ จำ�นวนผู้ถูกจับกุม ตลอดจนปัญหา
และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ทป่ี ระสบในระหวา่ งการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ โดยตอ้ งมกี ารก�ำ หนด
ตวั เจา้ หนา้ ท่ีต�ำ รวจเพอื่ ทำ�หนา้ ที่ในการบันทกึ ข้อมูลดังกล่าวเปน็ การเฉพาะ
5. สมาชิกของทีมท่ีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการควบคุมการจราจร
การบันทึกข้อมูล และการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ควรทำ�หน้าท่ีในการสังเกต
สภาพการจราจรและเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลาสำ�หรับการปฏิบัติงาน
โดยจำ�เป็นต้องมีการหมุนเวียนหน้าท่ีกันเพ่ือเจ้าหน้าท่ีตำ�รวจจะได้เรียนรู้งาน
ในหนา้ ทใ่ี หม่ ๆ เพมิ่ ขน้ึ รวมถงึ เปน็ การปอ้ งกนั ความเมอื่ ยลา้ จากการปฏบิ ตั งิ าน
220 การบงั คับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ”
การดำ�เนินการตง้ั จดุ ตรวจ
1. ระยะเวลาในการต้ังจุดตรวจแต่ละคร้ังอยู่ระหว่าง 4-6 ชั่วโมง
แ ต่ หั ว ห น้ า ชุ ด อ า จ สั่ ง ห ยุ ด ก า ร ตั้ ง จุ ด ต ร ว จ ไ ด้ ห า ก มี เ ห ตุ ผ ล เ ร่ื อ ง ข อ ง
ความปลอดภยั
2. ควรมีการแจ้งเตือนผู้ขับข่ีก่อนท่ีผู้ขับขี่จะเข้ามาถึงจุดตรวจ
ทง้ั น้ี เพอื่ เปน็ การควบคมุ การจราจร โดยอาจใชก้ รวยยางและป้ายเตอื นต่าง ๆ
เจ้าหน้าที่ตำ�รวจ 1 นายจะได้รับมอบหมายให้ทำ�หน้าท่ีควบคุมการจราจร
คอยกำ�กับให้ยานพาหนะเข้ามายังจุดตรวจอย่างปลอดภัยไม่กระทบต่อ
การเลื่อนไหลของการจราจรมากนัก นอกจากนั้น ยังมีหน้าที่คอยดูแลและ
บำ�รุงรักษาอุปกรณ์ในการควบคุมการจราจรให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานด้วย
ส่วนป้ายเตือนจะต้องเปน็ ปา้ ยท่ไี ด้มาตรฐานตามทกี่ �ำ หนดไว้
3. ควรจอดรถสายตรวจเพ่ือป้องกันอุบัติเหตุท่ีอาจเกิดข้ึนกับ
เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจ แต่ต้องจอดในลักษณะที่ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้จาก
ระยะไกลและต้องจอดในลักษณะท่ีพร้อมจะติดตาม ไล่ล่า ผู้ที่แหกด่านหรือ
หลบหนกี ารจบั กุม
4. ควรมีพ้ืนที่เพียงพอในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ต้องสงสัย
ท่ีคาดว่าจะมีระดับแอลกอฮอล์เกินอัตราที่กฎหมายกำ�หนด ซ่ึงต้องอยู่ห่าง
จากบริเวณจุดตรวจพอสมควรและเป็นพ้ืนที่ที่ผู้ขับข่ีสามารถจอดรถได้
โดยอาจเปน็ พนื้ ทที่ ใ่ี ชก้ รวยยางกน้ั เปน็ การเฉพาะบรเิ วณผวิ การจราจร ไหลท่ าง
ทกี่ วา้ งเพยี งพอ หรอื ลานจอดรถซงึ่ อยตู่ ดิ กบั บรเิ วณทต่ี ง้ั จดุ ตรวจ อยา่ งไรกต็ าม
ควรเลือกจุดตรวจท่ีมีบริเวณเชื่อมต่อกับลานจอดรถ ทั้งนี้ เพื่อเหตุผลด้าน
ความปลอดภัยตอ่ ทง้ั เจ้าหนา้ ทแ่ี ละผขู้ บั ขี่
การบังคบั ใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ” 221
5. นำ�ตัวผู้ต้องสงสัยหรือผู้ขับข่ีออกมาให้ไกลจากยานพาหนะ
เพอื่ เปน็ การปอ้ งกนั ปญั หาหรอื การรบกวนทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ไดห้ ากผขู้ บั ขถี่ กู จบั กมุ
ในขอ้ หา “เมาแลว้ ขับ”
6. หัวหน้าชุดต้องคอยสอดส่องดูแลสภาพการจราจรไม่ให้เกิด
การติดขัด ทั้งน้ี ระยะเวลาของยานพาหนะแต่ละคันที่ผ่านเข้ามาในบริเวณ
จดุ ตรวจจะตอ้ งใชเ้ วลาไมเ่ กนิ 3 นาทตี อ่ คนั และควรเรยี กตรวจยานพาหนะทกุ ๆ
10 นาที กรณเี กดิ ความลา่ ชา้ หรอื ใชเ้ วลาในการตรวจเกนิ 3 นาทตี อ่ คนั หวั หนา้ ชดุ
อาจสง่ั ระงบั การตงั้ จดุ ตรวจหรอื เปลย่ี นไปตงั้ จดุ ตรวจ ณ บรเิ วณอน่ื ทก่ี �ำ หนดไว้
ตามแผนแทน
222 การบงั คับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขับ”
ภาพ 17 ตวั อยา่ งการตงั้ จุดตรวจในสหรฐั อเมริกา 1
ทมี่ า: http://www.californiaduiguide.com/
การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ” 223
ภาพ 18 ตัวอย่างการตงั้ จุดตรวจในสหรฐั อเมริกา 2
ที่มา: http://www.californiaduiguide.com/
224 การบังคบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ”
การตรวจคัดกรองยานพาหนะ/ผขู้ ับขี่
1. ควรตรวจคัดกรองรถทุกประเภท รวมถึงรถที่ใช้ในการพาณิชย์
เช่น รถบรรทุก และรถบัส
2. การตรวจคัดกรองน้ีเป็นการตรวจสอบเบ้ืองต้น ดังน้ัน
อาจไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งตรวจยานพาหนะทกุ คนั อยา่ งละเอยี ด แตใ่ หอ้ าศยั การสงั เกต
ความผดิ ปกตขิ องการขบั ขีห่ รือการกระท�ำ ผิดท่มี องเหน็ ได้ชดั เจน
3. ควรกำ�หนดเจ้าหนา้ ท่ีต�ำ รวจจ�ำ นวน 2 นายหรือมากกวา่ 2 นาย
ทำ�หน้าท่ีในการตรวจคัดกรองยานพาหนะและผู้ขับข่ี เมื่อเจ้าหน้าท่ีเรียก
ยานพาหนะให้หยุดเพ่ือตรวจ เจ้าหน้าที่ตำ�รวจจะต้องตรวจสอบว่าภายใน
ยานพาหนะด้วยสายตาอย่างรวดเร็วว่ามีอาวุธหรือสิ่งต้องสงสัยอ่ืนหรือไม่
รวมถึงมีขวดเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ท่ีถูกเปิดขวดไว้หรือไม่ เม่ือตรวจพบว่า
ไมม่ สี งิ่ ทเี่ ป็นอนั ตราย เจา้ หนา้ ทตี่ �ำ รวจจะตอ้ งทักทายผขู้ บั ข่ดี ังน้ี “สวสั ดีครบั
คณุ ผหู้ ญงิ /คณุ ผชู้ ายบรเิ วณนเ้ี ปน็ ดา่ นตรวจวดั แอลกอฮอล์คณุ สบายดไี หมครบั ”
หากตรวจดูอาการของผขู้ ับขี่แล้วไม่มสี ัญญาณบง่ บอกว่าเมา เจา้ หนา้ ทีต่ �ำ รวจ
ตอ้ งกลา่ วขอบคณุ ในความรว่ มมอื ดว้ ยค�ำ กลา่ ววา่ “ขอบคณุ ครบั ทห่ี ยดุ ใหต้ รวจ”
หลังจากน้ัน จึงปล่อยให้ผู้ขับข่ีขับขี่ต่อไป การเรียกตรวจคัดกรองควรใช้เวลา
ให้น้อยที่สุดไม่ควรเกิน 30 วินาที และในขั้นตอนนี้ไม่ควรเรียกตรวจสอบ
ใบอนุญาตขับข่ีและหนังสือจดทะเบียนยานพาหนะ นอกจากน้ัน หัวหน้าชุด
ควรมอบหมายเจา้ หนา้ ทตี่ �ำ รวจ 1 นายท�ำ หนา้ ทส่ี งั เกตการณ์ บรเิ วณฝง่ั ผโู้ ดยสาร
เพ่ือทำ�หนา้ ทคี่ อยตรวจสอบผทู้ ่ีนง่ั โดยสารมาด้วยวา่ มีส่งิ ผดิ ปกตหิ รอื ไม่
การบงั คับใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขับ” 225
4. ในกรณีที่ผู้ขับข่ีปฏิเสธที่จะเล่ือนยานพาหนะไปยังจุดตรวจวัด
แอลกอฮอล์เพ่ือยืนยันผลหรือไม่ยอมลดกระจกลง จะต้องแจ้งให้หัวหน้าชุด
ทราบเพอ่ื ด�ำ เนนิ การบงั คับใช้กฎหมายตามแนวทางทก่ี ำ�หนดไว้ต่อไป
5. ในช่วงดึก ๆ ปริมาณการจราจรจะเร่ิมเบาบาง ผู้ขับข่ีจะใช้
ความเร็วสูงและมีโอกาสสูงทผี่ ู้ขับขจี่ ะ “เมาแล้วขับ” ดงั นนั้ เจา้ หนา้ ทีต่ �ำ รวจ
ตอ้ งปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความระมัดระวังเพิ่มมากขนึ้
การดำ�เนนิ การบังคับใชก้ ฎหมาย
1. การตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ มีจุดประสงค์หลักเพื่อบังคับใช้
กฎหมายกรณี “เมาแล้วขับ” รวมถึงอาชญากรรมท่ีร้ายแรงเป็นหลัก ดังนั้น
หากมีการฝ่าฝืนในลักษณะที่ไม่เป็นอันตรายมากนัก เจ้าหน้าที่ตำ�รวจอาจ
ทำ�การตักเตือนด้วยวาจา แต่หากการกระทำ�ความผิดมีลักษณะท่ีรุนแรงเป็น
อันตราย เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจจะต้องนำ�ตัวผู้ต้องสงสัยไปตรวจสอบ ณ จุดตรวจ
วดั แอลกอฮอลเ์ พ่อื ยนื ยันผลต่อไป
2. หากมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยในข้อหาอ่ืนนอกเหนือจากกรณี
“เมาแลว้ ขบั ” เปน็ ดลุ ยพนิ จิ ของหวั หนา้ ชดุ ในการประเมนิ และอนมุ ตั กิ ารจบั กมุ
3. ในกรณีใดก็ตามที่ตรวจพบสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้ขับข่ี “เมา”
เจ้าหน้าที่ตำ�รวจจะต้องนำ�ผู้ขับข่ีคนน้ันไปทำ�การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์
แบบยนื ยนั ผล
226 การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขบั ”
4. เมื่อตรวจสอบพบว่า ผู้ขับขี่มีระดับแอลกอฮอล์เกินอัตรา
ที่กฎหมายกำ�หนด เจ้าหน้าที่จะต้องทำ�การสอบสวนและจับกุมตามข้ันตอน
ท่ีกำ�หนดอย่างเคร่งครัด โดยเจ้าหน้าท่ีซึ่งเป็นผู้ตรวจคัดกรองจะต้องเป็น
ผู้ทำ�การตรวจสอบระดับแอลกอฮอล์แบบยืนยันผลและทำ�การจับกุมเอง
โดยปกติแล้วผู้ที่ทำ�การจับกุมจะรับผิดชอบในเรื่องของผลการตรวจวัดและ
บนั ทกึ การจบั กมุ เอง อยา่ งไรกต็ าม ในสว่ นนอ้ี าจมอบหมายใหเ้ จา้ หนา้ ทตี่ �ำ รวจ
นายอ่นื รับผิดชอบแทนได้
ขัน้ ตอนการตรวจจบั
สำ�หรับขั้นตอนการตรวจจับผู้ขับขี่ที่ “เมาแล้วขับ” ของเจ้าหน้าที่
ตำ�รวจประเทศสหรฐั อเมริกา ประกอบดว้ ย 3 ข้ันตอนหลกั ไดแ้ ก่
1. การสงั เกตยานพาหนะทก่ี �ำ ลงั เคลอื่ นท่ี (Vehicle in motion)
ในขั้นตอนน้ี เจ้าหน้าที่ตำ�รวจ จะทำ�หน้าที่สังเกตลักษณะของยานพาหนะที่
กำ�ลังเคลื่อนท่ี โดยพิจารณาส่ิงผิดปกติในการขับขี่และใช้ดุลยพินิจว่าควรส่ัง
ให้ผู้ขับข่ีหยุดรถเพ่ือตรวจสอบหรือไม่ ซ่ึงส่ิงท่ีบ่งช้ีถึงแนวโน้มการขับขี่ภายใต้
อิทธิพลของแอลกอฮอลห์ รือสารเสพตดิ อื่น ประกอบด้วย
การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแลว้ ขับ” 227
1) พฤติกรรมการขับขี่ท่ีผิดปกติ เช่น ขับส่ายไปมา หรือขับช้า
ผดิ ปกติ เปน็ ตน้
2) มหี ลกั ฐานของการดมื่ เครอื่ งดมื่ แอลกอฮอลห์ รอื เสพสารเสพตดิ
อยู่ภายในยานพาหนะ
3) ปา้ ยจดทะเบียนทหี่ มดอายุ
4) การฝ่าฝนื กฎจราจร
5) การแต่งรถยนตซ์ ง่ึ ผดิ กฎหมาย
นอกจากน้ัน เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรม
การขับขี่ 4 ด้านได้แก่ ปัญหาการควบคุมการขับข่ีให้อยู่ในเลนที่เหมาะสม
ปัญหาเร่ืองความเร็วและการเบรค ปัญหาด้านความระมัดระวัง และปัญหา
ดา้ นการตดั สนิ ใจ โดยสญั ญาณทบี่ ง่ ชถี้ งึ การขบั ขภี่ ายใตอ้ ทิ ธพิ ลของแอลกอฮอล์
หรือสารเสพตดิ อื่นในแตล่ ะประเด็นมดี งั น้ี
1) ปัญหาการควบคุมการขับขี่ให้อยู่ในเลนที่เหมาะสม
สามารถพิจารณาไดจ้ ากพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ ดงั น้ี
1. ขบั รถสา่ ยไปมา
2. ขบั สา่ ยไปมาและขา้ มไปยังเลนอืน่
3. ขบั รถครอ่ มเลน
4. เลย้ี วหรอื เปล่ยี นทศิ ทางแบบกะทนั หัน
5. เข้าโค้งโดยตรี ศั มีโค้งกวา้ งผิดปกติ
6. ขบั รถหลุดหรือเบย่ี งเบนออกนอกเสน้ ทาง
7. ขบั เกอื บชนวัตถขุ ้างทางหรือรถคนั อ่ืน
228 การบงั คับใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขบั ”
2) ปญั หาเรอื่ งความเรว็ และการเบรค พจิ ารณาไดจ้ ากพฤตกิ รรม
ดงั นี้
1. จอดไกลเกนิ ไป ใกลเ้ กนิ ไป หรอื จอดรถแบบกระตกุ
2. เรง่ ความเร็วและลดความเรว็ อย่างฉบั พลัน
3. ขบั รถดว้ ยความเรว็ ทหี่ ลากหลาย ไมค่ งที่
4. ขับรถดว้ ยความเรว็ ทชี่ า้ กว่าปกตมิ าก
3) ปัญหาด้านความระมดั ระวัง พจิ ารณาไดจ้ ากพฤติกรรม ดังน้ี
1. ขบั รถในเลนของฝงั่ ตรงขา้ ม หรอื ขบั รถสวนในชอ่ งเดนิ รถ
ทางเดยี ว
2. มกี ารตอบสนองตอ่ สัญญาณจราจรชา้
3. ตอบสนองช้าหรือไม่สามารถตอบสนองต่อสัญญาณ
ของเจา้ หนา้ ทตี่ ำ�รวจ
4. หยดุ รถในชอ่ งทางเดินรถโดยไมม่ เี หตุอนั ควร
5. ขบั รถในเวลากลางคืนโดยไมเ่ ปดิ ไฟหน้า
6. ใหส้ ญั ญาณไมส่ อดคลอ้ งกบั การขบั ขจี่ รงิ เชน่ ใหส้ ญั ญาณ
เลี้ยวขวาแต่กลบั เลีย้ วซา้ ย เป็นต้น
การบังคบั ใชก้ ฎหมาย “เมาแล้วขับ” 229
4) ปัญหาดา้ นการตดั สินใจ พจิ ารณาไดจ้ ากพฤติกรรม ดงั น้ี
1. ขบั ตามในระยะกระชั้นชดิ
2. เปลยี่ นช่องจราจรไม่เหมาะสมหรือไม่ปลอดภยั
3. เลี้ยวรถแบบผดิ กฎหมายหรอื ไม่เหมาะสม
4. ไม่ขับขี่บนผิวถนนหรือช่องจราจรที่กำ�หนด เช่น ขับข่ี
บนไหล่ทาง
5. หยดุ รถแบบผดิ ปกตเิ มอื่ ไดร้ บั สญั ญาณหยดุ จากเจา้ หนา้ ที่
ต�ำ รวจ
6. แสดงพฤตกิ รรมทไ่ี มเ่ หมาะสม เชน่ ขวา้ งของออกนอกรถ
หรือสง่ เสยี งตะโกนโวยวายโดยไรเ้ หตผุ ล เปน็ ต้น
7. มอี าการแสดงให้เหน็ ว่าบกพร่องในการขับข่ี เช่น
- สายตานิ่ง
- จบั พวงมาลัยแนน่
- น่ังงอตวั
- แสดงท่าทางที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ หรือแสดงท่าทาง
นา่ รงั เกียจ
- เอาหนา้ ไปใกลก้ ับกระจกบงั ลม
- โผลศ่ ีรษะออกมานอกรถ
230 การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ”
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำ�รวจเรียกให้หยุดรถ เจ้าหน้าที่ตำ�รวจ
สามารถสังเกตอาการของผู้ขับขี่ที่มีแนวโน้มตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ
แอลกอฮอลห์ รอื สารเสพตดิ อ่นื ได้ ดังนี้
1) ควบคุมรถยากล�ำ บาก
2) ออกจากรถลำ�บาก
3) ง่วนอยู่กับการหาใบอนุญาตขับขี่หรือสำ�เนาจดทะเบียน
ยานพาหนะ
4) ทวนคำ�ถามของเจ้าหนา้ ทต่ี ำ�รวจ
5) เอนไปมา มีปัญหาการรักษาสมดลุ ของร่างกาย
6) ยืนพิงรถหรอื วตั ถุอ่ืนเพอื่ ไมใ่ ห้ลม้
7) พูดจาแบบล้ินพนั กัน
8) ตอบค�ำ ถามเจา้ หนา้ ทตี่ �ำ รวจไดช้ า้ หรอื ตอ้ งใหท้ วนค�ำ ถามใหม่
9) ให้ขอ้ มลู ผดิ หรือเปล่ียนคำ�ตอบ
10) มกี ลิ่นเคร่ืองดมื่ แอลกอฮอล์
การบังคับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ” 231
2. การสอ่ื สารกบั ผู้ขับข่ี (Personal contact) ส�ำ หรับ ขั้นตอนนี้
เจ้าหน้าที่ตำ�รวจจะดำ�เนินการต่อภายหลังจากที่สังเกตพบความผิดปกติ
ของยานพาหนะท่ีกำ�ลังขับเคล่ือนอยู่ และเจ้าหน้าที่ตัดสินใจส่ังให้หยุด
เมอื่ ผขู้ บั ขห่ี ยดุ รถแลว้ และยงั คงนง่ั อยภู่ ายในรถ เจา้ หนา้ ทตี่ �ำ รวจจะตอ้ งสงั เกต
ภายในรถรวมถึงพฤติกรรมของผู้ขับข่ีว่ามีสัญญาณบ่งช้ีถึงการตกอยู่ภายใต้
อิทธิพลของแอลกอฮอล์หรือไม่ หากพบว่า มีอาการบ่งช้ี เจ้าหน้าที่ตำ�รวจ
จะส่ังให้ผู้ขับขี่ลงจากรถ ในระหว่างที่ผู้ขับขี่ลงจากรถ เจ้าหน้าท่ีตำ�รวจจะ
สังเกตวิธีการและพฤติกรรมการลงจากรถของผู้ขับข่ีรวมถึงการเดินของผู้ขับข่ี
วา่ ผิดปกติหรือไม่ ซึ่งเทคนิคในการสงั เกตต่าง ๆ มรี ายละเอียด ดังนี้
232 การบงั คับใช้กฎหมาย “เมาแลว้ ขบั ”