คูม่ อื การปฏิบัติงาน
การบริหารสัญญาก่อสรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง
ผูจ้ ดั ทา
นายกุลวรรธ สรุ ิยะศรี
ตาแหนง่ นติ ิกรปฏบิ ัติการ
กองกฎหมาย
สานักงานอธิการบดี
มหาวิทยาลยั ขอนแก่น
คานา
ตามท่ีได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
โดยยกเลิกบทบัญญัติเก่ียวกับพัสดุ การจัดซ้ือจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุ ในกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
ประกาศ ข้อบัญญัติ และข้อกาหนดใดๆ ของหน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อ
จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ซึ่งหมายความรวมถึงระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย
การพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ท่ีได้ถือปฏิบัติในการบริหารจัดการด้านการพัสดุและการบริหาร
สัญญากอ่ สร้างของส่วนราชการมาเปน็ ระยะเวลายาวนาน
เพ่ือเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคนิค หลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการ
บริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง และเพ่ือให้การปฏิบัติหน้าท่ีและภารกิจดังกล่าว
เป็นไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบังเกิดผลดีต่อการปฏิบัติงานและการบริหารจัดการ
สัญญาและโครงการก่อสร้าง ผู้จัดทาจึงได้มีการจัดทาคู่มือการปฏิบัติงานเพ่ือให้สอดคล้องกับข้อกาหนด
หลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
และระเบียบกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการจดั ซ้ือจัดจา้ งและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560
นายกุลวรรธ สรุ ิยะศรี
มีนาคม 2562
สารบัญ หน้า
1
เรอื่ ง 1
บทท่ี 1 บทนา 3
3
1. ความเป็นมาและความสาคญั 3
2. วัตถปุ ระสงค์ 4
3. ขอบเขตของการจัดทาคู่มอื 4
4. ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะได้รับ 7
5. คานิยามศัพท์และคาจากดั ความ 7
1) ความหมายของงานก่อสรา้ ง 8
2) ความหมายของเงินงบประมาณ
3) ความหมายของหน่วยงานของรฐั หวั หน้าหนว่ ยงานของรัฐ 9
9
และเจ้าหน้าที่ของรฐั 9
4) อานาจในการสง่ั ซ้อื ส่งั จ้าง 10
11
บทที่ 2 โครงสร้างหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบ 11
1 โครงสร้างองค์กรกองกฎหมาย มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น 12
1.1 ประวตั คิ วามเป็นมา 13
1.2 วิสยั ทัศน์ พันธกิจ และค่านยิ ม 14
1.3 โครงสรา้ งการบรหิ ารจดั การกองกฎหมาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
(1) โครงสรา้ งกองกฎหมาย 14
(2) โครงสรา้ งการบรหิ ารงานกองกฎหมาย
(3) โครงสรา้ งการปฏบิ ัติงานกองกฎหมาย 15
2 โครงสรา้ งการบรหิ ารและการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการบริหารสญั ญาก่อสรา้ งในระหวา่ ง
การดาเนนิ การก่อสรา้ ง มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ 16
2.1 โครงสรา้ งการบรหิ ารงานเกยี่ วกบั การบรหิ ารสญั ญาก่อสรา้ งในระหวา่ งการ 16
ดาเนินการก่อสรา้ ง 17
2.2 โครงสร้างการปฏิบัตงิ านเก่ียวกับการบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหวา่ งการ 17
ดาเนินการก่อสรา้ ง 18
3 บทบาทหน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบ
2.1 บทบาทหน้าที่และความรบั ผดิ ชอบกองกฎหมาย 23
2.2 บทบาทหนา้ ท่ีและความรับผดิ ชอบของตาแหนง่ 23
1) บทบาทหนา้ ท่ีและความรับผดิ ชอบตามมาตรฐานกาหนดตาแหนง่ 23
2) บทบาทหน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบของตาแหน่งตามที่ไดร้ ับมอบหมาย
บทที่ 3 หลกั เกณฑ์วิธีการปฏิบัติงาน
1. หลกั เกณฑ์วิธีการปฏบิ ัตงิ าน
1) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์
เรอ่ื ง หนา้
2) พระราชบญั ญัติจัดตงั้ ศาลปกครองและวิธพี ิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 25
3) พระราชบัญญัตวิ ธิ ีปฏบิ ัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 25
4) พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 27
5) ระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการจดั ซอ้ื จัดจา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั 30
พ.ศ. 2560 36
6) พระราชบัญญัติควบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 36
7) กฎกระทรวง กาหนดหน้าทแี่ ละความรับผิดชอบของผู้ออกแบบผ้คู วบคมุ งาน
37
ผู้ดาเนนิ การผคู้ รอบครองอาคาร และเจา้ ของอาคารพ.ศ. ๒๕๖๑
8) ระเบยี บการก่อหนี้ผูกพันข้ามปงี บประมาณ พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับ 38
ท่ี 2) พ.ศ. 2549 40
9) หนังสือสานกั งบประมาณ ท่ี นร 0704/ว.78 ลงวนั ท่ี 15 สิงหาคม 2554
45
เรื่อง ซอ้ มความเข้าใจเก่ียวกับวธิ ีปฏบิ ัตใิ นการเปลี่ยนแปลงรายละเอยี ด 45
ของรายการก่อหนผี้ ูกพนั ข้ามปงี บประมาณโดยไม่เพม่ิ วงเงินก่อหนผ้ี ูกพนั 45
10) ข้อกาหนดสญั ญาจ้างก่อสรา้ ง ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการจัดซ้ือ 46
จดั จ้างและการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐเรื่อง แบบสญั ญาเกย่ี วกับการจัดซ้ือจดั จ้าง 47
ตามพระราชบญั ญัติการจดั ซ้ือจัดจา้ งและการบริหารพัสดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ 47
2. บทกาหนดโทษสาหรบั ผปู้ ฏบิ ัตงิ านด้านการบรหิ ารสัญญาการก่อสร้าง
1) พระราชบัญญตั ิการจดั ซื้อจัดจา้ งและการบรหิ ารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560 48
2) พระราชบญั ญัตริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศกึ ษา พ.ศ. 2547
3) ข้อบังคับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าด้วยการบริหารงานบคุ คล พ.ศ. 2558
4) พระราชบัญญตั ิความรบั ผดิ ทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ. 2539
5) แนวทางการกาหนดสัดสว่ นความรบั ผดิ ทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ี ตามหนังสือกระ
ทรวงการคลัง ที่ กค 0406.2/ว.66 ลงวนั ท่ี 25 กันยายน 2550
6) พระราชบญั ญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วา่ ดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต
พ.ศ. 2561
บทที่ 4 เทคนิคและข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน 51
สว่ นที่ 1 ประเภทและการใช้บงั คบั ของกฎหมายเกยี่ วกบั สัญญาจา้ งก่อสรา้ ง 52
1.1) สัญญาจ้างก่อสร้างทางแพ่งและขอ้ กฎหมายเก่ียวกับสญั ญาจา้ งกอ่ สรา้ ง 52
1.2) สัญญาทางปกครอง 60
สว่ นที่ 2 ผมู้ อี านาจหนา้ ที่และผปู้ ฏบิ ตั ิงานเกี่ยวกบั การบริหารสัญญาก่อสร้าง 62
ในระหวา่ งการกอ่ สรา้ ง
2.1) หน่วยงานของรัฐ หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั เจ้าหน้าที่และผู้มหี น้าทบ่ี รหิ ารสญั ญา 62
2.2) คณะกรรมการตรวจรบั พัสดุ 63
2.3) ผู้ควบคมุ งาน 66
2.4) ผ้อู อกแบบ 68
ส่วนที่ 3 กระบวนการข้นั ตอนและวิธีปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกับการบริหารสญั ญาก่อสร้าง 69
ในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง
3.1) กาหนดวนั เริม่ งาน 69
เรือ่ ง หน้า
3.2) การตรวจและควบคมุ งานประจาวัน 70
3.3) กาหนดวนั ส่งมอบงานในแตล่ ะงวด 71
3.4) การออกตรวจงาน ณ สถานท่ีกอ่ สรา้ ง ของคณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุ 72
3.5) การประชมุ กรรมการตรวจรบั พสั ดุ 72
3.6) การพจิ ารณาวนิ ิจฉยั สง่ั การเพอื่ ให้การกอ่ สรา้ งเป็นไปตามแบบรปู รายละเอยี ด 73
3.7) การตรวจรับงาน 76
3.8) การแกไ้ ขเปลย่ี นแปลงสญั ญา 80
3.9) คา่ ปรับ 92
3.10) การงดหรือลดค่าปรบั และการขยายระยะเวลาการทางาน 94
3.11) การบอกเลิกสัญญาและสทิ ธิของมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ภายหลงั บอกเลิกสัญญา 101
3.12) การผ่อนปรนการบอกเลิกสญั ญา 104
3.13) การตกลงเลิกสญั ญา 109
ส่วนท่ี 4 บทกาหนดโทษและความรับผิดของผูป้ ฏิบัติงานดา้ นการบริหารสัญญาก่อสร้าง 110
4.1) ความรบั ผดิ ตามพระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซอื้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั 110
พ.ศ. 2560 111
4.2) ความรับผิดทางวินัย 112
4.3) ความรับผิดทางละเมดิ 113
4.4) โทษตามพระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ว่าดว้ ยการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
บทท่ี 5 ปญั หาอปุ สรรคและข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา 114
บรรณานกุ รม 120
ภาคผนวก 123
หมายเลข 1 รูปแบบปา้ ยประกาศโครงการกอ่ สรา้ ง 124
หมายเลข 2 ตวั อยา่ งเอกสารการตรวจสอบสถานท่ีก่อสร้าง ณ วันเรม่ิ งาน 126
หมายเลข 3 แบบฟอร์ม การขออนุมัติใชว้ สั ดุ 127
หมายเลข 4 แบบฟอร์ม การขอคาวนิ จิ ฉัยเก่ียวกบั รายละเอยี ดแบบรปู รายการก่อสร้าง 128
หมายเลข 5 แบบฟอรม์ รายงานการก่อสร้างและเหตุการณ์แวดล้อมประจาวัน 129
หมายเลข 6 ตวั อยา่ งเอกสารการตรวจรบั งาน 131
หมายเลข 7 ตวั อยา่ งเอกสารการแก้ไขสัญญาจา้ ง กรณที ่ไี ม่มกี ารแกไ้ ขเปลย่ี นแปลง 133
รายละเอยี ดแบบรูป
หมายเลข 8 ตวั อยา่ งเอกสารการแกไ้ ขสัญญาจา้ ง กรณีท่ีมกี ารแกไ้ ขเปล่ียนแปลง 136
รายละเอียดแบบรปู
หมายเลข 9 ตวั อยา่ งหนงั สือแจ้งสงวนสทิ ธิการปรับเมอ่ื ส้ินสุดระยะเวลาตามสัญญาจา้ ง 147
หมายเลข 10 ตัวอยา่ งหนงั สอื แจง้ คา่ ปรับกรณีที่มกี ารหักค่าปรบั ไว้ 148
หมายเลข 11 ตวั อย่างการขออนุมตั ผิ ่อนปรนการบอกเลิกสญั ญา 149
หมายเลข 12 สรปุ สาระสาคัญ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซอ้ื จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 155
เรอื่ ง หน้า
พ.ศ. 2560 และระเบยี บกระทรวงการคลังวา่ ดว้ ยการจัดซ้อื จดั จ้างและ 167
การบรหิ ารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. 2560
ประวัติผู้เขียน
สารบญั ตาราง หนา้
76
ตาราง 114
ตารางที่ 1 ระยะเวลาการตรวจสอบงานกรณสี ัญญาแบบราคาตอ่ หน่วย
ตารางที่ 2 ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแก้ไข และข้อเสนอแนะเพื่อการพฒั นา
สารบญั ภาพ
รายละเอยี ด หนา้
ภาพท่ี 1 โครงสร้างกองกฎหมาย 11
ภาพที่ 2 โครงสร้างการบรหิ ารงานกองกฎหมาย 12
ภาพท่ี 3 โครงสร้างการปฏิบัติงานกองกฎหมาย 13
ภาพท่ี 4 โครงสร้างการบริหารงานเกี่ยวกับการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการ 14
ดาเนนิ การ
15
ก่อสรา้ ง
ภาพที่ 5 โครงสร้างการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการ 75
ดาเนินการ
79
กอ่ สร้าง 85
ภาพท่ี 6 กระบวนการพิจารณาวินิจฉัยส่ังการเพ่ือให้การก่อสร้างเป็นไปตามแบบรูป
รายละเอียด 90
ภาพที่ 7 กระบวนการตรวจรับงาน 103
ภาพท่ี 8 กระบวนการแก้ไขเปลีย่ นแปลงสญั ญาจ้างโดยไม่มีการแก้ไขเปล่ียนแปลงแบบรูป 107
รายละเอียด
ภาพที่ 9 การแก้ไขสัญญาจ้างโดยมีการแก้ไขเปลีย่ นแปลงแบบรูปรายละเอยี ด
ภาพที่ 10 กระบวนการพิจารณาบอกเลกิ สัญญา
ภาพท่ี 11 กระบวนการพจิ ารณาผอ่ นปรนการบอกเลิกสัญญา
ค่มู ือการปฏบิ ัตงิ าน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สร้างในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 1
บทท่ี 1
บทนา
1. ความเปน็ มาและความสาคัญ
ตามท่ีได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
ซึ่งมีผลบังคับใช้เม่ือวันที่ 23 สิงหาคม 2560 และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและ
การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ซ่ึงมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2560 โดยการประกาศใช้
พระราชบญั ญัตแิ ละระเบียบดังกล่าว มผี ลเป็นการยกเลกิ ระเบยี บสานักนายกรัฐมนตรวี า่ ด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535
ซ่ึ ง เ ป็ น ห ลั ก เ ก ณ ฑ์ ท่ี ม ห า วิ ท ย า ลั ย ข อ น แ ก่ น แ ล ะ ส่ ว น ร า ช ก า ร ไ ด้ ถื อ ป ฏิ บั ติ ใ น ก า ร บ ริ ห า ร สั ญ ญ า ก่ อ ส ร้ า ง
มาเป็นระยะเวลายาวนานด้วย ท้ังนี้การประกาศใช้พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
มีการแก้ไขเปล่ียนแปลงและเพ่ิมเติมข้อกาหนด หลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารสัญญาก่อสร้าง
ในหลายส่วน อาทิเช่น 1) ผู้มีอานาจหน้าท่ีในการพิจารณาอนุมัติโครงการ การลงนามในสัญญาและการแก้ไข
สัญญา 2) องค์ประกอบ คุณสมบัติ อานาจหน้าท่ี และความรับผิดชอบของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
ผ้คู วบคุมงาน และผ้เู ก่ียวข้องอ่ืนๆ ในโครงการ 3) ขอ้ กาหนด หลกั เกณฑ์ และแนวทางปฏบิ ัติ ในการบริหารสัญญา
ก่อสร้าง เช่น การตรวจรับพัสดุ การกาหนดค่าปรับ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา การงดหรือลดค่าปรับ
หรือการขยายระยะเวลาการทางานตามสัญญา การเรียกค่าปรับและการสงวนสิทธ์ิการเรียกค่าปรับ การบอกเลิก
สัญญา ความเสียหาย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบทกาหนดโทษสาหรับผู้ที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
และการไม่ปฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั ของคณะกรรมการวนิ ิจฉัยหรอื คาสง่ั ของคณะกรรมการอุทธรณ์ด้วย
การประกาศใช้พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบ
กระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจดั จ้างและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560 จึงสง่ ผลกระทบต่อกระบวนการ
ปฏิบัติงาน ความเส่ียง และความรับผิดของมหาวิทยาลัยขอนแก่น หน่วยงานที่เก่ียวข้องกับกระบวนการบริหาร
สัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง ผู้บริหาร คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน ผู้ออกแบบ
รวมตลอดท้ังเจ้าหน้าท่ีด้านการบริหารสัญญาในระหว่างการก่อสร้าง ทั้งความรับผิดทางแพ่ง ทางอาญา ทางวินัย
ทางละเมิด และกฎหมายเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริต อีกทั้งเน่ืองจากกระบวนการปฏิบัติงานด้านการบริหาร
สัญญาก่อสร้างในระหว่างการก่อสร้าง เป็นกระบวนการที่มีนิติสัมพันธ์กับเอกชนที่เป็นคู่สัญญา จึงอาจมีปัญหา
ข้อพิพาทและคดีความท้ังทางคดีปกครองและคดีแพ่งเกิดข้ึนได้ และความเสียหายของสัญญาจ้างก่อสร้างนั้น
ก็มีมูลค่าสูงอีกด้วย ดังน้ันกระบวนการปฏิบัติงานต่างๆ ในการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการ
ก่อสร้างซ่ึงเป็นกระบวนการพิจารณา วินิจฉัย สั่งการ และมีคาส่ัง อันมีผลผูกพันต่อคู่สัญญาทั้งทางแพ่งและ
ทางปกครอง จึงถือเป็นสาระสาคัญและองค์ประกอบหลักในกระบวนการเรียกร้องค่าเสียหาย การฟ้องร้อง
และการดาเนินคดีต่างๆ เนื่องจากเป็นกระบวนการท่ีจะต้องใช้ยกข้ึนเป็นข้อต่อสู้อันส่งผลต่อรูปคดี และด้วย
มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีโครงการก่อสร้างเป็นจานวนมาก ซึ่งเม่ือมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติและระเบียบ
ดังกล่าวแล้ว ในปีงบประมาณ 2561 มีโครงการก่อสร้างจานวน 65 โครงการ และปีงบประมาณ 2562 นับถึง
เดือนมีนาคม 2562 มีโครงการก่อสร้างจานวน 11 โครงการ โดยการปฏิบัติงานด้านการบริหารสัญญาก่อสร้าง
ในระหว่างการดาเนินการก่อสร้างนั้นมีกระบวนงาน ข้ันตอน ที่จะต้องปฏิบัติและผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ
ค่มู อื การปฏบิ ตั งิ าน การบริหารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 2
ปฏิบัติงานเป็นจานวนมาก อีกท้ังยังจะต้องปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามหลักกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกาหนด
ของสัญญา หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีกาหนดอย่างเคร่งครัด จึงจาเป็นอย่างยิ่งท่ีผู้ปฏิบัติงานท่ีเก่ียวข้อง
กับกระบวนการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ
ข้อกาหนดของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกาหนดของสัญญาจ้าง หลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติที่เก่ียวข้องในการ
ปฏิบัติงานเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องเรียบร้อย ซึ่งจะทาให้การดาเนินโครงการก่อสร้างเป็นไปอย่าง
มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพ่ือลดความเสี่ยงในความเสียหายและความรับผิดที่จะเกิดข้ึนต่อท้ังมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้บริหาร และผูป้ ฏิบัติงานที่เกีย่ วขอ้ งทกุ ภาคส่วน
จากการท่ีกระบวนการปฏิบัติงานด้านการบริหารสัญญาก่อสร้าง มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อสัญญา
หลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติ ข้ันตอนและกระบวนงานที่เกี่ยวข้องเป็นจานวนมาก และปัจจุบันมหาวิทยาลัยขอนแก่น
รวมตลอดท้ังหน่วยงานและผู้ปฏิบัตงิ านที่เก่ียวข้อง ยังไม่มีการจัดทาคู่มือการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารสัญญา
ก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กาหนดไว้ในพระราชบัญญัติการจัดซ้ือ
จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและ
การบริหารพัสดภุ าครฐั พ.ศ. 2560ดงั นั้น เพอื่ ให้ผปู้ ฏิบัตงิ านท่ีเก่ยี วข้องกับการบรหิ ารสัญญาก่อสร้างทุกภาคส่วน
สามารถเข้าใจและปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ผู้จัดทาซึ่งเริ่มปฏิบัติงานสังกัดกองอาคารและสถานท่ี นับแต่วันที่
เข้าปฏิบัติงาน เมื่อวันท่ี 9 พฤศจิกายน 2548 และต่อมาเม่ือมีการปรับเปล่ียนโครงสร้างองค์กรภายในสานักงาน
อธิการบดี ตามประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉบับท่ี 58/2562 ประกาศ ณ วันที่ 8 มกราคม 2562 และ
ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉบับที่ 120/2562 ประกาศ ณ วันที่ 14 มกราคม 2562 จึงได้รับการจัดสรร
อัตราบุคลากรโดยให้มาปฏิบัติงานสังกัดกองกฎหมาย ตามคาส่ังมหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่ี 1152/2562
ส่ัง ณ วันท่ี 5 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติงานด้านการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการ
ก่อสร้าง รวมตลอดท้ังการศึกษา ค้นคว้า พิจารณาวินิจฉัย ให้ข้อเสนอแนะ ความเห็น และดาเนินกระบวนการ
จัดการปัญหาข้อพิพาทและคดีความท่ีเก่ียวกับสัญญาจ้างก่อสร้าง ซ่ึงเป็นภาระงานท่ีอยู่ในความดูแลรับผิดชอบ
และมีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันของทั้งกองกฎหมาย และกองอาคารและสถานท่ี สานักงานอธิการบดี
มาโดยตลอดได้ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงานท่ีเก่ียวข้องกับภาระหน้าที่
ในการบริหารสัญญาก่อสร้างดังกล่าว จึงต้องจัดทาคู่มือสาหรับการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารสัญญาก่อสร้าง
ในระหว่างการดาเนินการก่อสร้างโดยมีขอบเขตครอบคลุมกระบวนการปฏิบัติงานของหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงาน
ที่เกี่ยวข้องในข้ันตอนภายหลังจากที่ได้มีการลงนามในสัญญาจ้างจนถึงเม่ือโครงการแล้วเสร็จเพื่อให้การปฏิบัติงาน
เป็นไปตามข้อกาหนด หลักเกณฑ์และแนวทางตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
ข้อกาหนดของสัญญา กฎหมายและระเบียบปฏิบัติอื่นๆที่เก่ียวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเพื่อใช้เป็นแนวทาง
หลักเกณฑ์และข้ันตอนในการปฏิบัติงาน รวมตลอดถึงเพ่ือเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคนิค วิธีการเก่ียวกับ
การปฏบิ ัติงาน ให้กับผู้ปฏิบตั งิ านและผู้ทีเ่ ก่ียวข้อง ได้ศึกษาและถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป
ค่มู อื การปฏบิ ตั งิ าน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสร้าง 3
2. วตั ถปุ ระสงค์
1) เพื่อใช้เป็นเอกสารอ้างอิง ให้เพ่ือนร่วมงาน และผู้ปฏิบัติงานท่ีเกี่ยวข้อง สามารถนาไปใช้ในการปฏิบัติงาน
หรือปฏิบัติงานแทนได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สามารถลดความเสี่ยงและปัญหาข้อพิพาทในการบริหารสัญญา
กอ่ สร้างได้
2) เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องในการบริหารสัญญาก่อสร้างมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ และมีความแม่นยาในการ
ปฏบิ ัตงิ านเพม่ิ ขนึ้
3. ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รบั
1) ใช้เป็นเอกสารอ้างอิงท่ีเพ่ือนร่วมงานและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง สามารถนาไปใช้ในการปฏิบัติงานหรือ
ปฏบิ ตั งิ านแทนได้เป็นมาตรฐานเดียวกนั สามารถลดความเสีย่ งและปัญหาขอ้ พิพาทในการบรหิ ารสญั ญากอ่ สรา้ งได้
2) ผู้เก่ยี วข้องในการบริหารสัญญาก่อสรา้ งมีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทกั ษะ และมีความแมน่ ยาในการปฏิบัติงาน
เพม่ิ ข้ึน ซง่ึ จะทาใหก้ ารปฏบิ ัตงิ านมีความถูกตอ้ ง เรยี บร้อย และมปี ระสทิ ธิภาพ
4. ขอบเขตของการจัดทาคมู่ ือ
การจัดทาคู่มือการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้างฉบับนี้ มีเนื้อหาครอบคลุม
กระบวนการปฏิบัติงานเก่ียวกับการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง ท่ีเป็นสญั ญาจา้ งเหมา
(Lump Sum) สาหรับโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสานักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยเป็น
กระบวนการปฏิบัติงานและการบริหารจัดการโครงการก่อสร้างภายหลังจากที่ได้มีการดาเนินกระบวนการจัดจ้าง
และลงนามในสัญญาจ้างจนกระทั่งโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จเท่านั้น โดยไม่รวมถึงขั้นตอนกระบวนการในการ
สารวจออกแบบ กระบวนการจัดจา้ ง และการบรหิ ารจดั การในระหวา่ งการรบั ประกันความชารุดบกพร่อง
ทั้งนี้ คู่มือการปฏิบัติงานฉบับนี้จัดทาข้ึนเพ่ือให้ความรู้และเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานสาหรับผู้ปฏิบัติงาน
ท่ีเกี่ยวข้องในกระบวนการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหวา่ งการดาเนินการก่อสร้างสาหรบั โครงการก่อสร้างท่ีอยูใ่ น
ความรับผิดชอบของสานักงานอธิการบดี มหาวิทยาลยั ขอนแก่น เพือ่ ใหส้ ามารถปฏิบัติงานให้เปน็ ไปตามข้อกาหนด
และหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบ
กระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดภุ าครฐั พ.ศ. 2560 ขอ้ กาหนดของสัญญา กฎหมาย
หลักเกณฑ์และระเบียบปฏิบัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยคณะและหน่วยงานอื่นภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐอื่น สามารถศึกษาและนาไปปรับใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของหน่วยงาน
ต่อไปได้
คูม่ อื การปฏิบัตงิ าน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสร้าง 4
5. คานยิ ามศัพท์และคาจากัดความ
คานิยามศัพทแ์ ละคาจากัดความทัว่ ไปท่ีกล่าวในบทนี้ มวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อใหผ้ ู้ศึกษา มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และ
สามารถนาไปใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาวินิจฉัยดาเนินการเก่ียวกับการบริหารสัญญาก่อสร้าง โดยเป็นการ
รวบรวมเอาคาจากัดความจากพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ระเบียบ
กระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กฎหมาย กฎ ระเบียบ
มติคณะรฐั มนตรี และหนังสือเวยี นต่างๆ ดงั นี้
1) ความหมายของงานกอ่ สร้าง
(1) พระราชบัญญตั กิ ารประกอบอาชพี งานก่อสร้าง พ.ศ. 2522
มาตรา 3 กาหนดให้
“งานก่อสร้าง” หมายความว่า งานเกี่ยวกับการก่อสร้าง ดัดแปลง ขยาย ต่อเติม ประกอบ ติดต้ัง
หรือรอ้ื ถอน ซ่ึงอาคารหรอื สง่ิ กอ่ สรา้ งขนาดใหญต่ ามที่กาหนดโดยกฎกระทรวง
“อาคาร” หมายความว่า อาคารตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคุมอาคาร
(2) พระราชบญั ญัตคิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522
มาตรา 4 กาหนดให้
“อาคาร” หมายความวา่ ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สานักงาน และสิ่งท่ีสร้างขึ้นอยา่ งอนื่
ซ่งึ บคุ คลอาจเขา้ อยหู่ รอื เขา้ ใช้สอยได้ และหมายความรวมถึง
(1) อฒั จนั ทร์หรือส่ิงทีส่ รา้ งขน้ึ อยา่ งอืน่ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ทีช่ มุ นุมของประชาชน
(2) เขือ่ น สะพาน อุโมงค์ ทาง หรือทอ่ ระบายนา้ อ่เู รือ คานเรอื ทา่ นา้ ท่าจอดเรอื รว้ั กาแพง หรอื
ประตู ทส่ี ร้างขนึ้ ตดิ ต่อหรือใกลเ้ คียงกบั ทส่ี าธารณะหรอื สง่ิ ท่ีสรา้ งข้ึนใหบ้ ุคคลท่ัวไปใชส้ อย
(3) ป้ายหรือสิ่งทสี่ รา้ งข้นึ สาหรบั ติดหรอื ตั้งป้าย
- ท่ีติดหรือต้ังไว้เหนือที่สาธารณะและมีขนาดเกินหน่ึงตารางเมตรหรือมีน้าหนักรวมทั้ง
โครงสรา้ งเกินสบิ กิโลกรัม
- ที่ติดหรือตั้งไว้ในระยะห่างจากที่สาธารณะซึ่งเม่ือวัดในทางราบแล้วระยะห่างจาก
ท่ีสาธารณะมีน้อยกว่าความสูงของป้ายนั้นเมื่อวัดจากพ้ืนดินและมีขนาดหรือมีน้าหนักเกินกว่าท่ีกาหนด
ในกฎกระทรวง
(4) พ้ืนท่ีหรือส่ิงที่สร้างขึ้นเพ่ือใช้เป็นท่ีจอดรถท่ีกลับรถและทางเข้าออกของรถสาหรับอาคาร
ทก่ี าหนดตามมาตรา 8 (9)
(5) สง่ิ ทสี่ ร้างขึ้นอยา่ งอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ทัง้ น้ี ให้หมายความรวมถงึ สว่ นต่างๆของอาคารด้วย
“อาคารสูง” หมายความว่า อาคารที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ที่มีความสูงตั้งแต่
ย่ีสิบสามเมตรข้ึนไป การวัดความสูงของอาคารให้วัดจากระดับพ้ืนดินท่ีก่อสร้างถึงพ้ืนดาดฟ้าสาหรับอาคารทรงจ่ัว
หรือป้ันหยาใหว้ ดั จากระดับพืน้ ดนิ ทกี่ อ่ สรา้ งถึงยอดผนงั ของชน้ั สงู สดุ
“อาคารขนาดใหญ่พิเศษ” หมายความว่า อาคารท่ีก่อสร้างขึ้นเพื่อใช้พ้ืนที่อาคารหรือส่วนใด
ของอาคารเป็นท่ีอยู่อาศัยหรือประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภทโดยมีพ้ืนท่ีรวมกันทุกชั้นในหลัง
เดยี วกันต้ังแตห่ นง่ึ หม่ืนตารางเมตรขึ้นไป
คู่มือการปฏิบัตงิ าน การบริหารสญั ญากอ่ สร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 5
“อาคารชุมนุมคน” หมายความถึง อาคารหรือส่วนใดของอาคารท่ีบุคคลอาจเข้าไปภายใน
เพ่อื ประโยชน์ในการชุมนมุ คนท่มี ีพืน้ ที่ตงั้ แต่หนึ่งพนั ตารางเมตรขึน้ ไปหรอื ชมุ นมุ คนไดต้ ั้งแต่หา้ ร้อยคนขึน้ ไป
“โรงมหรสพ” หมายความว่า อาคารหรือส่วนใดของอาคารท่ีใช้เป็นสถานท่ีสาหรับฉายภาพยนตร์
แสดงละครแสดงดนตรีหรือการแสดงร่ืนเริงอื่นใดและมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดให้สาธารณชนเข้าชมการแสดงนั้น
เป็นปกติธุระโดยจะมคี า่ ตอบแทนหรอื ไม่ก็ตาม
“ที่สาธารณะ” หมายความว่า ท่ีซ่ึงเปิดหรือยินยอมให้ประชาชนเข้าไปหรือใช้เป็นทางสัญจรได้
ทง้ั น้ี ไม่ว่าจะมีการเรียกเกบ็ คา่ ตอบแทนหรือไม่
“แผนผังบริเวณ” หมายความว่า แผนที่แสดงลักษณะ ที่ต้ัง และขอบเขตของท่ีดิน และอาคาร
ที่ก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน เคล่ือนย้าย ใช้ หรือเปลี่ยนการใช้ รวมท้ังแสดงลักษณะและขอบเขตของท่ีสาธารณะ
และอาคารในบริเวณทดี่ นิ ทตี่ ดิ ตอ่ โดยสงั เขปด้วย
“แบบแปลน” หมายความว่า แบบเพื่อประโยชน์ในการก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน เคลอื่ นยา้ ย ใช้ หรอื
เปล่ียนการใช้อาคาร โดยมีรูปแสดงรายละเอียดส่วนสาคัญ ขนาด เคร่ืองหมาย วัสดุ และการใช้สอยต่างๆ
ของอาคารอยา่ งชัดเจนพอท่ีจะใชใ้ นการดาเนินการได้
“รายการประกอบแบบแปลน” หมายความว่า ข้อความช้ีแจงรายละเอียดเกี่ยวกับคุณภาพและชนิด
ของวัสดุ ตลอดจนวิธีปฏิบัติหรือวิธีการสาหรับการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย ใช้ หรือเปลี่ยนการใช้
อาคารเพื่อให้เป็นไปตามแบบแปลน
“รายการคานวณ” หมายความว่า รายการแสดงวธิ กี ารคานวณกาลังของวสั ดุการรับน้าหนักและกาลงั
ตา้ นทานของสว่ นต่างๆ ของอาคาร
“ก่อสรา้ ง” หมายความว่า สรา้ งอาคารขน้ึ ใหมท่ ้ังหมดไมว่ ่าจะเปน็ การสร้างขึน้ แทนของเดิมหรอื ไม่
“ดดั แปลง” หมายความวา่ เปลี่ยนแปลง ต่อเติม เพ่มิ ลด หรอื ขยาย ซงึ่ ลกั ษณะขอบเขต แบบ รูปทรง
สัดส่วน น้าหนัก เนื้อที่ ของโครงสร้างของอาคารหรือส่วนต่างๆ ของอาคารซ่ึงได้ก่อสร้างไว้แล้วให้ผิดไปจากเดิม
และมิใชก่ ารซอ่ มแซมหรอื การดัดแปลงท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
“ซอ่ มแซม” หมายความว่า ซอ่ ม หรอื เปล่ยี นสว่ นต่างๆ ของอาคารใหค้ งสภาพเดิม
“ร้ือถอน” หมายความว่า รื้อส่วนอันเป็นโครงสร้างของอาคารออกไป เช่น เสา คาน ตง หรือส่วนอื่น
ของโครงตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
“เขตเพลิงไหม้” หมายความว่า บริเวณที่เกิดเพลิงไหม้อาคารตั้งแต่สามสิบหลังคาเรือนข้ึนไป หรือมี
เน้ือทต่ี ้ังแต่หนงึ่ ไร่ขึ้นไป รวมทงั้ บริเวณทอ่ี ย่ตู ิดต่อภายในระยะสามสิบเมตรโดยรอบบริเวณทเ่ี กิดเพลงิ ไหมด้ ้วย
“ผูค้ วบคมุ งาน” หมายความว่า ผซู้ ง่ึ รบั ผิดชอบในการอานวยการหรอื ควบคุมดูแลการกอ่ สรา้ งดดั แปลง
ร้อื ถอนหรอื เคลื่อนยา้ ยอาคาร...ฯลฯ
(3) พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซ้ือจัดจ้างและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. 2560
มาตรา 4 กาหนดคาจากัดความ เกี่ยวกับงานกอ่ สร้างไว้ ดังนี้
“พัสด”ุ หมายความวา่ สนิ คา้ บริการ งานกอ่ สรา้ ง งานจ้างทป่ี รึกษา และงานจา้ งออกแบบหรือควบคุม
งานก่อสร้าง รวมทงั้ การดาเนนิ การอ่ืนตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
“งานก่อสร้าง” หมายความว่า งานก่อสร้างอาคาร สาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้างอ่ืนใด และการ
ซ่อมแซม ต่อเติม ปรับปรุง ร้ือถอน หรือการกระทาอ่ืนท่ีมีลักษณะเดียวกันต่ออาคารสาธารณูปโภค หรือ
คูม่ อื การปฏิบัตงิ าน การบริหารสญั ญาก่อสรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 6
ส่ิงปลกู สร้างดังกล่าว รวมทัง้ งานบริการท่ีรวมอยใู่ นงานก่อสรา้ งน้นั ดว้ ย แตม่ ลู คา่ ของงานบรกิ ารตอ้ งไมส่ งู กวา่ มูลค่า
ของงานกอ่ สร้าง
“อาคาร” หมายความว่า สิ่งปลูกสร้างถาวรที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือใช้สอยได้ เช่น อาคารที่ทาการ
โรงพยาบาล โรงเรียน สนามกีฬา หรือส่ิงปลูกสร้างอ่ืนท่ีมีลักษณะทานองเดียวกัน รวมทั้งสิ่งก่อสร้างอื่นๆ
ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยสาหรับอาคารนั้นๆ เช่น เสาธง ร้ัว ท่อระบายน้า หอถังน้า ถนน ประปา ไฟฟ้า
หรอื สิง่ อน่ื ๆ ซ่ึงเป็นสว่ นประกอบของอาคาร เชน่ เครอื่ งปรบั อากาศ ลฟิ ท์ หรอื เครื่องเรือน
“สาธารณูปโภค” หมายความว่า งานอันเกี่ยวกับการประปา การไฟฟ้า การสื่อสาร การโทรคมนาคม
การระบายน้า การขนส่งทางท่อ ทางน้า ทางบก ทางอากาศ หรือทางราง หรือการอ่ืนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดาเนินการ
ในระดับพน้ื ดนิ ใตพ้ ้ืนดิน หรอื เหนอื พ้นื ดิน
(4) คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง
ดว่ นทส่ี ุด ที่ กค(กวจ) 0405.2/ว.259 ลงวนั ท่ี 4 มถิ ุนายน 2561
คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย)
ยกเลิกหนังสือ ด่วนท่ีสุด ท่ี กค(กวจ) 0405.2/ว.112 ลงวันท่ี 5 มีนาคม 2561 และซ้อมความเข้าใจนิยาม
ความหมายของคาว่า “งานก่อสร้าง” ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ
ภาครัฐ พ.ศ. 2560 ดังนี้
1. การซ่อมแซม หมายถึง การซ่อม การดาเนินการ และหรือการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบอันเป็น
โครงสร้างของสงิ่ กอ่ สรา้ งหรอื สง่ิ ก่อสร้างทั้งหมดหรือบางสว่ น ให้คงสภาพและหรือใช้งานได้ตามปกติดังเดิม
2. การปรับปรุง หมายถึง การแก้ไข การกระทา และหรือการดาเนินการอื่นใด อันเป็นโครงสร้าง
ของสิง่ กอ่ สร้าง หรือสิง่ ก่อสร้างทั้งหมดหรือบางส่วน ซ่ึงไดก้ ่อสร้างไวแ้ ล้วให้มีสภาพท่ดี ีย่งิ ขนึ้
3. การต่อเติม หมายถึง การดัดแปลง เปลี่ยนแปลง เพ่ือเพ่ิมเติม หรือขยาย ซึ่งลักษณะขอบเขต แบบ
รูปทรง สัดส่วน น้าหนัก เนื้อที่ อันเป็นโครงสร้างของส่ิงก่อสร้างหรือส่งิ ก่อสร้างทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งได้ก่อสร้าง
ไวแ้ ล้วให้ผดิ ไปจากเดิม แตม่ ิใชเ่ ป็นกรณีของการซอ่ มแซม
4. การรื้อถอน หมายถึง การรื้อหรือการดาเนินการอื่นใด เพ่ือนาส่วนประกอบอันเป็นโครงสร้าง
ของส่ิงก่อสรา้ งหรอื ส่ิงกอ่ สร้างทง้ั หมดหรอื บางส่วนออกไป
การดาเนินการตามขอ้ 1 ถึงขอ้ 4 ใหห้ น่วยงานของรัฐพิจารณา ดังน้ี
1. หากการดาเนินการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างหลัก หรือไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย
หรือไม่มีความจาเป็นต้องมีการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานตลอดระยะเวลาดาเนินการ หน่วยงานของรัฐสามารถ
ดาเนนิ การจัดจา้ งในลกั ษณะอืน่ ทีม่ ใิ ชง่ านก่อสร้างได้
2. หากการดาเนนิ การดังกลา่ ว มผี ลกระทบต่อโครงสร้างหลัก หรือมผี ลกระทบตอ่ ความปลอดภยั หรอื
มีความจาเป็นจะต้องมีการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานตลอดระยะเวลาดาเนินการ หน่วยงานของรัฐจะต้อง
ดาเนินการจดั จา้ งในลกั ษณะงานก่อสรา้ ง
คมู่ อื การปฏิบัตงิ าน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 7
2) ความหมายของเงนิ งบประมาณ
พระราชบัญญัตกิ ารจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. 2560
มาตรา 4 กาหนดความหมายของเงินงบประมาณ ไวว้ า่
“เงินงบประมาณ” หมายความว่า เงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมาย
ว่าด้วยวิธงี บประมาณ หรอื กฎหมายเก่ยี วด้วยการโอนงบประมาณ เงนิ ซงึ่ หนว่ ยงานของรัฐได้รับไวโ้ ดยได้รับอนุญาต
จากรัฐมนตรีให้ไม่ต้องนาส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังเงิน
ซ่ึงหน่วยงานของรฐั ได้รับไว้โดยไม่ต้องนาส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมาย และเงิน ภาษีอากร ค่าธรรมเนียม
หรือผลประโยชน์อื่นใดท่ีตกเป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายหรือที่ราชการ ส่วนท้องถิ่นมีอานาจ
เรียกเก็บตามกฎหมาย และใหห้ มายความรวมรวมถงึ เงนิ กู้ เงินชว่ ยเหลอื และเงินอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
3) ความหมายของหนว่ ยงานของรฐั หัวหนา้ หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหนา้ ท่ี
(1) หน่วยงานของรัฐ
ตามพระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซือ้ จัดจา้ งและการบริหารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560
มาตรา 4 กาหนดว่า
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ิน
รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ
หน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกากับของรัฐสภา หน่วยงาน
อิสระของรัฐ และหน่วยงานอนื่ ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง
(2) หวั หน้าหน่วยงานของรฐั
ตามระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยการจัดซอ้ื จดั จ้างและการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
ข้อ 4 กาหนดวา่
“หัวหนา้ หนว่ ยงานของรฐั ” หมายความว่า ผดู้ ารงตาแหน่งในหนว่ ยงานของรัฐ ดังต่อไปนี้
(9) มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ หมายถงึ อธิการบดี
(3) เจา้ หนา้ ที่
ตามพระราชบัญญัติการจดั ซอ้ื จัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
มาตรา 4 ใหค้ าจากดั ความ ไวว้ ่า
“เจ้าหน้าท่ี” หมายความว่า ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซ้ือจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ หรือผู้ที่ได้รับ
มอบหมายจากผมู้ อี านาจให้ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีเก่ียวกบั การจัดซือ้ จัดจา้ งและการบริหารพสั ดุของหน่วยงานภาครฐั
คู่มือการปฏบิ ัติงาน การบรหิ ารสญั ญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การก่อสร้าง 8
4) อานาจในการส่ังซ้ือสงั่ จา้ ง
ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กาหนด
อานาจในการส่ังซอ้ื สั่งจ้างไว้ ดงั น้ี
(1) วิธปี ระกาศเชิญชวน (ขอ้ 84 และขอ้ 87 ประกอบบญั ชีแนบทา้ ยระเบียบ)
อธิการบดี : ไม่เกนิ 200,000,000 บาท
สภามหาวทิ ยาลยั : เกนิ 200,000,000 บาท
(2) วธิ ีคัดเลือก (ขอ้ 85 และขอ้ 87 ประกอบบญั ชีแนบท้ายระเบยี บ)
อธิการบดี : ไมเ่ กนิ 100,000,000 บาท
สภามหาวทิ ยาลยั : เกนิ 100,000,000 บาท
(3) วธิ เี ฉพาะเจาะจง (ขอ้ 85 และขอ้ 87 ประกอบบัญชีแนบท้ายระเบียบ)
อธกิ ารบดี : ไม่เกนิ 50,000,000 บาท
สภามหาวทิ ยาลัย : เกิน 50,000,000 บาท
คูม่ ือการปฏบิ ัตงิ าน การบรหิ ารสญั ญาก่อสร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 9
บทท่ี 2
โครงสรา้ งและหนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบ
โครงสร้างและหน้าที่ความรับผดิ ชอบในบทนี้ ประกอบดว้ ย
1. โครงสร้างองคก์ รกองกฎหมาย มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ประกอบด้วย
1.1 ประวตั แิ ละความเปน็ มา
1.2 วสิ ัยทัศน์ พนั ธกิจ และค่านิยม
1.3 โครงสร้างการบรหิ ารจัดการกองกฎหมาย
(1) โครงสร้างกองกฎหมาย
(2) โครงสรา้ งการบริหารงานกองกฎหมาย
(3) โครงสร้างการปฏิบัติงานกองกฎหมาย
2. โครงสร้างหน่วยงานและการปฏิบัติงานด้านการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหวา่ งการดาเนินการก่อสร้าง
มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ประกอบด้วย
2.1 โครงสรา้ งการบริหารงานเก่ียวกบั การบรหิ ารสัญญาก่อสรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง
2.2 โครงสร้างการปฏบิ ตั ิงานเก่ียวกบั การบรหิ ารสัญญาก่อสรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสร้าง
3. หน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบ ประกอบดว้ ย
3.1 บทบาทหน้าที่และความรบั ผดิ ชอบของกองกฎหมาย
3.2 บทบาทหนา้ ท่แี ละความรับผิดชอบของตาแหนง่
(1) บทบาทหนา้ ทแ่ี ละความรับผิดชอบตามมาตรฐานกาหนดตาแหนง่
(2) บทบาทหนา้ ทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบของตาแหน่งตามทไี่ ด้รับมอบหมาย
โดยมีรายละเอียด ดงั นี้
1. โครงสร้างองคก์ รกองกฎหมาย มหาวิทยาลยั ขอนแกน่
1.1 ประวตั ิความเปน็ มา
กองกฎหมายเป็นหน่วยงานระดับกอง สังกัดสานักงานอธิการบดี เดิมมีฐานะเป็นสานักงานกฎหมาย
โดยสานักงานกฎหมาย เป็นหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น สังกัดสานักงานอธิการบดี จัดตั้งขึ้นโดย
ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉบับท่ี 167/2550 ประกาศ ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 เพ่ือให้คาแนะนา
ปรกึ ษาหารือดา้ นกฎหมายและระเบยี บของทางราชการและใหบ้ ริการทางด้านกฎหมาย ต่อมาไดเ้ ปล่ียนสถานะเป็น
กองกฎหมาย ตามประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ฉบับท่ี 312/2561) เร่ือง การแบ่งหน่วยงานสานักงาน
อธิการบดี ประกาศ ณ วันท่ี 12 กุมภาพันธ์ 2561 ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉบับที่ 58/2562 เร่ือง
การแบ่งหน่วยงานของสานักงานอธิการบดี พ.ศ. 2562 ประกาศ ณ วันที่ 8 มกราคม 2562 และประกาศ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉบับท่ี 120/2562 เร่ือง การแบ่งแยกหน่วยงานย่อยของหน่วยงานสานักงานอธิการบดี
คมู่ ือการปฏบิ ัติงาน การบริหารสญั ญาก่อสรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 10
พ.ศ. 2562 ประกาศ ณ วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยได้โอนย้ายภาระงานด้านวินัย อุทธรณ์
ร้องทุกข์ สังกัดกองทรัพยากรบุคคลและงานจัดการเรื่องร้องเรียน สังกัดกองส่งเสริมนโยบายมหาวิทยาลัย ให้มารวมเปน็
ภาระงานของกองกฎหมาย และได้มีคาสั่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ 1152/2562 เร่ืองจัดสรรอัตราบุคลากร
สังกัดสานักงานอธิการบดี ส่ัง ณ วันท่ี5 กุมภาพันธ์ 2562 (ตัดโอนพนักงาน) งานด้านวินัย อุทธรณ์ร้องทุกข์ สังกัด
กองทรัพยากรบคุ คลงานจัดการเรอ่ื งร้องเรียน สังกัดกองส่งเสรมิ นโยบายมหาวทิ ยาลัย นติ กิ รสังกัดงานพัสดุ กองคลัง และ
นิตกิ รสังกดั กองอาคารและสถานที่ รวมจานวน 12 ราย มาปฏิบตั หิ นา้ ที่สงั กดั กองกฎหมาย
1.2 วิสัยทศั น์ พนั ธกจิ และคา่ นยิ ม
วสิ ยั ทศั น์
“สนับสนนุ งานด้านกฎหมายของมหาวทิ ยาลยั อย่างมีประสิทธภิ าพดว้ ยความถกู ต้อง ตามหลกั ธรรมาภิบาล”
พนั ธกิจ
1. เสรมิ สรา้ งบคุ ลากรใหม้ ีความรู้ ความสามารถ เป็นมอื อาชีพ และมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม
2. ให้บริการและให้คาแนะนาปรึกษาทางกฎหมายและกฎระเบียบของทางราชการด้วยความรวดเร็ว ฉับไว
และมีประสิทธิภาพ
3. พัฒนาบคุ ลากรให้มสี มรรถนะเพื่อรองรับการเปล่ียนแปลง และนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นการ
ปฏิบัตงิ าน
4. การวจิ ยั และการพฒั นากฎหมายและเผยแพรค่ วามรดู้ า้ นกฎหมาย
5. สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ท้ังภายในมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายนอก
มหาวิทยาลยั
วฒั นธรรมองค์กร
1. การทางานโปร่งใส ตรวจสอบได้
2. มจี ิตใจในการให้บริการที่ดี
3. ยึดม่นั ความถูกต้อง
4. บุคลากรมรี ะเบยี บวนิ ัย
5. มีการทางานเป็นทีม ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ค่านยิ ม
“ให้บรกิ ารดา้ นกฎหมายด้วยความซ่อื สตั ย์ สุจรติ เท่ียงธรรม”
คู่มือการปฏิบตั งิ าน การบริหารสญั ญาก่อสรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 11
1.3 โครงสร้างการบรหิ ารจัดการกองกฎหมาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
(1) โครงสรา้ งกองกฎหมาย ดังท่ีปรากฏในภาพท่ี 1 ดงั นี้
มหาวิทยาลัยขอนแกน่
สานกั งานอธิการบดี
กองกฎหมาย
หนว่ ยอานวยการ
งานคดแี ละนติ ิกรรม งานวนิ ัยและอุทธรณ์รอ้ งทุกข์
หน่วยจดั การเร่อื งร้องเรยี น
ภาพที่ 1 โครงสรา้ งกองกฎหมาย
คมู่ ือการปฏบิ ัตงิ าน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 12
(2) โครงสรา้ งการบรหิ ารงานกองกฎหมาย ดงั ทปี่ รากฏในภาพที่ 2 ดังนี้
อธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลัยขอนแก่น
ผชู้ ่วยอธกิ ารบดฝี า่ ยกจิ การพิเศษ
ผูอ้ านวยการกองกฎหมาย
หน่วยอานวยการ
หวั หน้างานคดีและนติ กิ รรม หัวหนา้ งานวนิ ัยและอุทธรณ์ร้องทุกข์
หนว่ ยจัดการเรอ่ื งรอ้ งเรียน
ภาพที่ 2 โครงสร้างการบริหารงานกองกฎหมาย
คู่มอื การปฏบิ ัตงิ าน การบรหิ ารสญั ญาก่อสรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสร้าง 13
(3) โครงสร้างการปฏิบตั งิ านกองกฎหมาย ดงั ทป่ี รากฏในภาพที่ 3 ดังนี้
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชาญชญั พานทองวิริยะกลุ
รักษาการแทนอธกิ ารบดีมหาวทิ ยาลัยขอนแก่น
นางณัฐสมล ธนกลุ รงั สฤษฏ์
รกั ษาการแทนผชู้ ่วยอธกิ ารบดีฝา่ ยกจิ การพิเศษ
นางสาวรองรตั น์ วโิ รจนเ์ พชร
รกั ษาการแทนผู้อานวยการกองกฎหมาย (21)
หนว่ ยอานวยการ (1)
นางสาวภาวณิ ี ลักขษร
เจา้ หน้าทีบ่ รหิ ารงานท่ัวไป
หัวหนา้ งานคดีและนิตกิ รรม (9) นางสาวทรงสดุ า ถุงแก้ว
รกั ษาการในตาแหนง่ หัวหน้างานวินัย
1. นายวีระศกั ดิ์ แสนสะอาด นิติกรปฏิบตั กิ าร
และอุทธรณร์ อ้ งทกุ ข์ (8)
2. นายณรงค์ศกั ดิ์ เฉิดฉาย นติ กิ รปฏิบตั กิ าร
1. นายศิวตั อบสวุ รรณ นิติกรปฏิบตั ิการ
3. นางสาวจณิ จุฑาดา ชินธนาชยั โรจน์ นิตกิ รปฏิบัตกิ าร 2. นายคมน์ เหลอื งทองคา นติ กิ รปฏบิ ตั กิ าร
3. นายกุลวรรธ สุริยะศรี นิติกรปฏบิ ัตกิ าร
4. นางละอองดาว สมดีวีรเดช นติ กิ รปฏิบัตกิ าร 4. นางสาวธันยธร พุทธิมา นติ กิ รปฏิบัติการ
5. นางสาวดารณี แสนวงค์ นิตกิ รปฏิบัตกิ าร
5. นายสุรพงศ์ ปัตลา นิติกรปฏิบตั กิ าร 6. นางสาวยลธดิ า ยะปะตงั นติ ิกรปฏบิ ตั กิ าร
7. นางสาวปณิดา โยมศรีเคน นิตกิ รปฏบิ ตั ิการ
6. นายณฐั ภูมิ รพเี ลศิ รงั สิมันต์ นิตกิ รปฏบิ ตั กิ าร
7. นายกัมปนาท ปัชชาพงษ์ นติ กิ รปฏบิ ัติการ
8. นายสุธี ศรจี านง นติ ิกรปฏิบัติการ
9. นายพิชติ ดีลนุ ชยั นิติกรปฏบิ ตั กิ าร
หนว่ ยจัดการเร่อื งร้องเรยี น (2)
1. นายอิศรา รัตตศิริ นิติกรชานาญการพเิ ศษ
2. นางสาวหนึ่งฤทัย ประทมุ กุล นติ ิกรปฏบิ ัติการ
ภาพท่ี 3 โครงสรา้ งการปฏบิ ัติงานกองกฎหมาย
ค่มู ือการปฏบิ ัตงิ าน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสร้าง 14
2 โครงสร้างการบริหารและการปฏิบัติงานด้านการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง
มหาวิทยาลัยขอนแกน่
(1) โครงสร้างการบริหารงานเก่ียวกับการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง
ดงั ทป่ี รากฏในภาพที่ 4 ดงั นี้
ภาพที่ 4 โครงสร้างการบรหิ ารงานเกยี่ วกบั การบรหิ ารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การก่อสร้าง
ค่มู อื การปฏิบัตงิ าน การบริหารสญั ญากอ่ สร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 15
(2) โครงสร้างการปฏิบัติงานเก่ียวกับการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง
ดังทีป่ รากฏในภาพท่ี 5 ดังนี้
ภาพที่ 5 โครงสร้างการปฏิบัตงิ านเก่ียวกบั การบริหารสัญญาก่อสรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสร้าง
คูม่ อื การปฏบิ ตั ิงาน การบริหารสญั ญาก่อสรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 16
3. บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
3.1 บทบาทหน้าท่แี ละความรับผดิ ชอบของกองกฎหมาย
1) ให้คาแนะนาปรึกษาด้านกฎหมายกฎระเบียบของทางราชการ การเงินและการพัสดุ วินัยนักศึกษา
แก่อธกิ ารบดี ผูบ้ รหิ ารและคณะ/หน่วยงานตา่ งๆ
2) วินจิ ฉัยและตอบขอ้ หารือกรณีปัญหาเกยี่ วกับการปฏบิ ัตริ าชการและปญั หาทางด้านกฎหมาย
3) สบื สวนหาขอ้ เทจ็ จริงในกรณที ี่มกี ารรอ้ งเรยี นกล่าวโทษบุคลากรมหาวทิ ยาลัย
4) สอบหาขอ้ เท็จจริงความรบั ผิดทางละเมิดและการดาเนินการในสว่ นที่เกย่ี วข้อง
5) ตรวจสอบและร่างนิตกิ รรมสญั ญาทางธุรกิจ
6) รา่ งและตรวจสอบกฎหมายลาดบั รอง เช่น ระเบยี บ ขอ้ บงั คับ ประกาศ ฯลฯ
7) จัดทาคาให้การแก้ต่างคดี ฟ้องคดี การประสานงานคดีแพ่ง คดีอาญา คดีปกครอง และการดาเนินการ
ในชั้นอนุญาโตตุลาการ
8) การจดั ทาคาให้การและคาฟอ้ งแย้งคดปี กครอง
9) การเรง่ รัดหนส้ี นิ และการบงั คับคดี
10) การให้คาแนะปรึกษาด้านการบริหารบริหารงานที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบของทา งราชการ
การรา่ งสญั ญาหรอื บนั ทกึ ข้อตกลง (MOU)
11) การประสานและจัดการเรื่องร้องเรียน การอุทธรณ์การขอข้อมูลข่าวสารของราชการ การเจรจา
ไกล่เกล่ยี ประนีประนอม และการรายงานผลการดาเนินการเรอื่ งรอ้ งเรยี นประจาปีต่อผบู้ รหิ าร
12) ดาเนนิ การดา้ นคดีชดใช้ทุนกรณผี ิดสัญญาลาศกึ ษาต่อในประเทศและต่างประเทศ
13) การดาเนนิ กระบวนการทางวนิ ัย จรรยาบรรณ รวมตลอดท้งั อุทธรณแ์ ละรอ้ งทุกข์
14) ให้คาปรึกษา การสง่ เสรมิ สร้างความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั วนิ ัย
15) ปฏบิ ตั หิ นา้ ทีอ่ ่ืนๆตามท่ีมหาวทิ ยาลยั มอบหมาย
คู่มอื การปฏบิ ตั ิงาน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 17
3.2 บทบาทหนา้ ทแี่ ละความรบั ผิดชอบของตาแหน่ง
(1) บทบาทหนา้ ท่แี ละความรับผิดชอบตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง
หน้าที่ความรบั ผิดชอบหลกั
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้นท่ีต้องใช้ความรู้ความสามารถทางวิชาการในการทางาน
ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานด้านนิตกิ าร ภายใต้การกากบั แนะนา ตรวจสอบ และปฏบิ ัตงิ านอืน่ ตามทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
โดยมีลักษณะงานทปี่ ฏบิ ตั ใิ นดา้ นตา่ งๆ ดังน้ี
1. ดา้ นปฏบิ ตั ิการ
(1) ร่างหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับ จัดทานิติกรรมหรือเอกสาร
ท่ีมีผลผูกพันทางกฎหมาย ศึกษาพิจารณาให้ความเห็นทั้งในข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ในการร่างกฎหมาย
เสนอความเห็นในการตีความและวินิจฉัยปัญหากฎหมาย ตอบข้อหารือปัญหากฎหมายและแนวปฏิบัติ
ทางกฎหมาย ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ หรือสังเคราะห์ งานทางด้านกฎหมาย เพื่อปรับปรุงกฎหมายและระเบียบ
เก่ยี วกบั หนว่ ยงานทีร่ ับผิดชอบ
(2) สอบสวนตรวจพิจารณาดาเนินการเก่ียวกับวินัยของบุคลากรและการร้องทุกข์ หรือ
อทุ ธรณ์ การดาเนนิ การทางคดี การดาเนินการเกยี่ วกับความรับผดิ ทางแพ่ง ติดตามและประสานงานการดาเนินคดี
เพ่ือใหก้ ารดาเนนิ การเป็นไปดว้ ยความถกู ต้อง โปรง่ ใส เป็นธรรม
(3) ให้บริการวิชาการด้านต่างๆ เช่น ให้คาปรึกษา แนะนา ในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่
ระดับรองลงมาและแก่นักศึกษาที่มาฝึกปฏิบัติงาน ตอบปัญหาและชี้แจงเรื่องต่างๆ เก่ียวกับงานในหน้าท่ี เพ่ือให้
สามารถปฏิบตั ิได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ และปฏบิ ตั หิ น้าท่อี น่ื ท่ีเกยี่ วข้อง
2. ดา้ นการวางแผน
วางแผนการทางานท่ีรับผิดชอบ ร่วมวางแผนการทางานของหน่วยงานหรือโครงการ เพ่ือให้
การดาเนนิ งานบรรลตุ ามเป้าหมายและผลสัมฤทธ์ิท่ีกาหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทางานร่วมกันระหว่างทีมงานหรือหน่วยงานท้ังภายในและภายนอก เพ่ือให้
เกิดความรว่ มมอื และผลสัมฤทธ์ิตามท่กี าหนดไว้
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเก่ียวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง
เพื่อสรา้ งความเขา้ ใจหรือความรว่ มมือในการดาเนินงานตามที่ไดร้ บั มอบหมาย
4. ด้านการบรกิ าร
(1) ให้คาปรึกษา แนะนาเบื้องต้น เผยแพร่ ถ่ายทอดความรู้ทางกฎหมาย รวมท้ังตอบปัญหา
และชีแ้ จงเรอ่ื งตา่ งๆ เกย่ี วกบั งานในหนา้ ท่ี เพือ่ ใหผ้ ู้รับบริการได้รับทราบข้อมูลความรู้ต่างๆทีเ่ ป็นประโยชน์
(2) จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น และให้บริการข้อมูลทางวิชาการ เก่ียวกับข้อกฎหมายเพื่อให้
บุคลากรทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน นักศึกษา ตลอดจนผู้รับบริการ ได้ทราบข้อมูลและความรู้ต่างๆ ท่ีเป็น
คู่มือการปฏิบตั งิ าน การบริหารสญั ญาก่อสรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 18
ประโยชน์ สอดคล้อง และสนับสนุนภารกิจของหน่วยงาน และใช้ประกอบการพิจารณากาหนดนโยบาย แผนงาน
หลกั เกณฑ์ มาตรการต่างๆ
(2) บทบาทหนา้ ทแี่ ละความรบั ผิดชอบของตาแหน่งตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
1 ลักษณะงานโดยทวั่ ไป
ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถทางวิชาการด้านกฎหมาย ในการพิจารณาวินิจฉัยปัญหา
กฎหมาย ข้อกาหนดสัญญา ระเบียบและวิธีปฏิบัติต่างๆ เก่ียวกับสัญญาจ้างก่อสร้าง ร่างและพิจารณาตรวจร่าง
กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คาส่ัง เอกสาร และวิธีปฏิบัติต่างๆ จัดทานิติกรรมและเอกสารที่ก่อให้เกิดนิติสัมพันธ์
รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประสานงานคดี พิจารณา วินิจฉัย ระงับข้อพิพาทต่างๆ และการสอบสวน โดยปฏิบัติ
หน้าท่ภี ายใต้การกากบั แนะนา ตรวจสอบ ของผบู้ ังคบั บัญชา
2 ภาระงานดา้ นปฏิบตั กิ าร
2.1) ดา้ นการบรหิ ารสญั ญากอ่ สรา้ ง
ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี
ข้อกาหนดของสัญญาจ้าง ข้อบังคับ ระเบียบและวิธีปฏิบัติของทางราชการ เก่ียวกับการบริหารสัญญาจ้างก่อสร้าง
เพ่ือให้และเสนอความเห็น ในการตอบข้อหารือ แก้ไขปัญหา ข้อพิพาท เสนอแนะแนวทางและวิธีปฏิบัติ จัดทา
บนั ทึก หนังสอื และเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับกระบวนการบริหารสญั ญาจ้าง โดยมกี ารปฏิบตั งิ าน ดงั น้ี
(1) การตรวจสอบสญั ญาก่อสร้าง
ทาหน้าที่ในการตรวจสอบรายละเอียดและข้อกาหนดของสัญญา ท้ังชื่อโครงการ
รายละเอียดผู้รับจ้าง ค่าจ้าง ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน รายละเอียดงวดงาน และเอกสารประกอบสัญญาอ่ืนๆ
ทั้งหมด โดยอาศัยหลักการตรวจสอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ด้านนิติกรรม จ้างทาของ และอ่ืนๆ
ที่เก่ียวข้อง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม พระราชบัญญัติ
จัดตั้งศาลปกครองและจัดตั้งศาลปกครอง พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. 2560 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และ
หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัตขิ องกระทรวงการคลัง หรือหนว่ ยงานอื่นๆที่เก่ยี วข้อง
(2) การประชมุ เพือ่ เร่ิมงานก่อสร้าง (Kick – Off Meeting)
ทาหน้าที่ในการรวบรวมและชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริง และแนวทางปฏิบัติตาม
ข้อกาหนดของสัญญา และระเบียบวิธีปฏิบัติของทางราชการ โดยการนาเสนอรายชื่อคณะกรรมการตรวจการจ้าง
ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ผู้รับจ้าง และชี้แจงหลักการปฏิบัติงานตามสัญญา การตรวจสอบรายช่ือผู้ควบคุมงานของ
ผรู้ ับจา้ งและวฒุ ิการศึกษา การตรวจสอบแผนการทางานของผรู้ ับจ้าง แนะนาการใช้แบบฟอรม์ ตา่ งๆทีเ่ ก่ียวข้องกับ
การก่อสรา้ ง ตรวจสอบรายงานผลการปฏบิ ตั ิงานและผลงานการก่อสรา้ งท่ผี รู้ ับจา้ งไดป้ ฏบิ ตั ิงานแลว้ ตรวจสอบและ
คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ าน การบริหารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 19
ช้ีแจงรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับสัญญา ตรวจสอบแบบรูป และพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุปสรรค
ในการกอ่ สร้าง
(3) การประชมุ กรรมการตรวจการจา้ ง
ทาหน้าที่ในการประสานงานกาหนดวันนัดประชุม ตรวจสอบและช้ีแจงข้อมูล
เกี่ยวกับโครงการ นาเสนอและให้ความเห็นด้านข้อกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ปฏิบัติ และแนวทางในการ
ดาเนินการตา่ งๆ เพือ่ ประกอบการพจิ ารณาของท่ีประชมุ และตรวจสอบรายงานการประชมุ
(4) การสง่ มอบงานตามงวดงานทร่ี ะบไุ ว้ในสัญญา
ทาหน้าทีต่ รวจสอบและช้ีแจงรายละเอยี ดงวดงานตามสัญญา เพอื่ พิจารณาประกอบ
รายงานของผู้ควบคุมงาน และรายละเอียดตามแบบรูปรายการส่ิงก่อสร้าง เพ่ือให้เป็นไปตามระเบียบวิธีปฏิบัติ
เก่ียวกับการส่งมอบและตรวจรับงาน ภายใต้ข้อกาหนดของสัญญา หลักเกณฑ์ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. 2560 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 รวมทั้ง
ขอ้ กาหนด แนวปฏิบตั ิ หลกั เกณฑ์ และคาวินิจฉยั ตา่ งๆ เก่ยี วกับการสง่ มอบและตรวจรับงาน
(5) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดแบบรูปรายการส่ิงก่อสร้าง รายละเอียด
ขอ้ กาหนดของสญั ญา การลดหรืองดคา่ ปรับ และการขยายระยะเวลาการทางาน
ทาหน้าที่ในการรวบรวมและนาเสนอข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติ
ตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อกาหนดของสัญญา และจัดทาร่างบันทึกการขออนุมัติแก้ไขเปล่ียนแปลง
เพ่ือประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจการจ้าง รวมตลอดทั้งการชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ
แก่ผู้มีอานา จ พิจ าร ณ าต รวจส อบแ ล ะอนุ มั ติต า มขั้ นต อน กา รบั ง คับ บั ญชา เ พื่ อให้เ ป็น ไปต า ม ต า มร ะ เ บี ย บ
สานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการ
บริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. 2560 ข้อกาหนดของสัญญาจ้าง กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ด้านนิติกรรมสัญญา จ้างทาของ และอ่ืนๆ
ท่ีเก่ียวข้อง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติ
จัดตัง้ ศาลปกครองและจัดตั้งศาลปกครอง พ.ศ. 2542 และทีแ่ ก้ไขเพิม่ เติม เก่ยี วกบั สัญญาทางปกครอง คาวินจิ ฉัย
คาสง่ั ความเห็นต่างๆ เกยี่ วกบั การปฏบิ ตั ิราชการทางปกครอง
(6) จัดทาร่างหนังสือ บันทึก และเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารสัญญาจ้าง
ก่อสร้าง ทีอ่ าจมผี ลทางกฎหมาย ท้ังในส่วนท่ีมีผลก่อใหเ้ กิดนิตสิ ัมพันธ์และไม่เกดิ นติ ิสมั พันธ์
ทาการศึกษา ตีความ วิเคราะห์ ตรวจสอบ รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกาหนด
ของสญั ญาจา้ ง ขอ้ กฎหมาย หลกั เกณฑ์ และระเบยี บวิธีปฏิบัติต่างๆ เพอื่ ใชใ้ นการจัดทาหนงั สือ บันทึก และเอกสาร
ต่างๆ ให้ถูกต้องสอดคล้องกับหลักกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบวิธีปฏิบัติ เช่น หนังสือแจ้งการส่งมอบพ้ืนที่
การแจ้งผลการตรวจสอบและส่งมอบงวดงาน การสงวนสิทธิ์การปรับ การพิจารณาบอกเลิกสัญญา
ค่มู อื การปฏิบัตงิ าน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 20
การผ่อนปรนการบอกเลิกสัญญา การช้ีแจงข้อเท็จจริงเก่ียวกับโครงการก่อสร้างและผลกระทบต่อผู้ใช้พื้นท่ี
หรอื หน่วยงานตรวจสอบต่างๆ เปน็ ต้น
(7) การศึกษา ตีความ วิเคราะห์ กฎหมาย หลักเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ
มติคณะรัฐมนตรี วิธีปฏิบัติของทางราชการ และให้คาปรึกษา ข้อแนะนา ข้อวินิจฉัย และกาหนดแนวปฏิบัติ
ในการบริหารสัญญากอ่ สรา้ ง
ทาหน้าที่ในการรวบรวม ศึกษา ตีความ วิเคราะห์ หลักกฎหมาย หลักเกณฑ์
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และวิธีปฏิบัติของทางราชการ ท่ีเกี่ยวกับการบริหารสัญญาจ้างก่อสร้าง เช่น
ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ พระราชบัญญตั ิวิธปี ฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและจัดตั้งศาลปกครอง พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535
และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ระเบียบ
กระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติ
ของกระทรวงการคลัง เพื่อประกอบการพิจารณาให้คาปรึกษา แนะนา วินิจฉัย และกาหนดแนวปฏิบัติในการ
บรหิ ารสัญญาจ้างกอ่ สร้าง โดยการดาเนนิ การดังน้ี
(1) การรวบรวม ศึกษา ตีความ วิเคราะห์ หลักกฎหมาย หลักเกณฑ์ ระเบียบ
ขอ้ บังคบั มตคิ ณะรัฐมนตรี และวิธีปฏบิ ตั ขิ องทางราชการ ทเ่ี กี่ยวกับการบรหิ ารสญั ญาจ้างก่อสรา้ ง
(2) รวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ และพิจารณาข้อเท็จจริง วิธีปฏิบัติ เอกสารหลักฐาน
และเหตุการณแ์ วดล้อม
(3) พิจารณาข้อเท็จจริงประกอบหลักกฎหมาย หลักเกณฑ์ ข้อบังคับ และระเบียบ
วธิ ปี ฏิบัติ
(4) สรุปผลการพิจารณาและวินิจฉัยประเด็นกรณีปัญหา ให้คาปรึกษาแนะนา
เพือ่ กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละแนวทางในการดาเนินการหรือในการปฏบิ ัติต่างๆ เกี่ยวกบั การบรหิ ารสัญญาก่อสรา้ ง
2.2) ด้านกฎหมาย
(1) ศึกษา วิเคราะห์ ตีความ และพิจารณาวินิจฉัย ข้อเท็จจริ ง ข้อกฎหมาย
มติคณะรัฐมนตรี ข้อกาหนดสัญญาจ้าง กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีปฏิบัติต่างๆ ในภารกิจของกองกฎหมาย
และการบริหารสัญญาจ้างก่อสร้าง เพื่อเสนอแนะแนวทางปรับปรุงข้อกาหนด ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีปฏิบัติ
ตา่ งๆ ในการปฏิบตั ิงานเกีย่ วกบั การบริหารสัญญาจ้าง
(2) จัดทาร่างคาสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ แนวทางปฏิบัติ หนังสือ บันทึก
และเอกสารต่างๆ ในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับงานด้านกฎหมายและการบริหารสัญญาจ้าง ซ่ึงอาจมีผลทางกฎหมาย
ทง้ั ในสว่ นท่ีก่อให้เกิดนิตสิ มั พนั ธ์และไมเ่ กิดนิติสมั พนั ธ์
คูม่ ือการปฏบิ ัติงาน การบริหารสญั ญาก่อสรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 21
2.3) ดา้ นการประสานงานคดีและระงับขอ้ พิพาท
ปฏิบัติงานเกี่ยวกับประสานงานคดี ในการบริหาร สัญญาจ้าง และภารกิจอื่นของ
กองอาคารและสถานที่ โดยมีหน้าที่ในการรวบรวมและจัดทาเอกสารหลักฐาน เพ่ือนาเสนอข้อเท็จจริง ความเห็น
ประกอบขอ้ กฎหมาย ข้อกาหนดของสญั ญา ระเบยี บ ขอ้ บังคับ หลกั เกณฑ์วิธปี ฏบิ ัติ เกี่ยวกบั แนวทางและวิธีปฏิบัติ
ตอ่ ผูม้ ีอานาจพจิ ารณาวนิ ิจฉัย ผบู้ งั คับบญั ชา คณะ หน่วยงาน และบุคคลอืน่ ที่เก่ียวข้องกบั กรณี
2.4) ด้านการสอบสวน การรอ้ งทกุ ข์ การพิจารณาและระงับขอ้ พพิ าทต่างๆ
ปฏิบตั ิหน้าทีค่ ณะกรรมการสอบสวนทางวนิ ยั ทางละเมิด การร้องทุกขแ์ ละการระงับข้อ
พิพาท และปฏิบัติงานในการรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือประกอบการ
พจิ ารณาเก่ียวกบั การสอบสวน การรอ้ งทกุ ข์ และการระงบั ข้อพิพาทตา่ งๆ
3 ภาระงานดา้ นการวางแผน
3.1) การบรหิ ารสญั ญาจา้ ง
ทาหน้าที่ในการเสนอความเห็น เสนอแนะแนวทาง เกี่ยวกับการบริหารจัดการและ
การวางแผนการปฏิบัติงานด้านการบริหารสัญญาจ้างก่อสร้าง ให้เป็นไปตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี
กฎ ระเบียบ นโยบาย และแนวทางปฏบิ ัตติ า่ งๆ ของทางราชการ
3.2) การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายและระเบียบวธิ ีปฏิบตั ขิ องทางราชการ
ทาหน้าท่ีให้ความเห็น เสนอแนะแนวทาง และรว่ มกาหนดวธิ ีการแนวทาง และแผนการ
ปฏิบัติงาน ของกองอาคารและสถานท่ีและบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานของบุคลากรหรือหน่วยงาน
เป็นไปตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี กฎ ระเบยี บ นโยบายต่างๆ และแนวปฏิบัติต่างๆ ของทางราชการ
4 ภาระงานด้านการประสานงาน
4.1) การบริหารสญั ญาจ้าง
ทาหน้าท่ีประสานงานร่วมกับผู้ปฏิบัติงาน ท้ังในส่วนคณะกรรมการตรวจการจ้าง
ผู้ควบคุมงาน ผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชา ผู้ใช้งานอาคาร ผู้ได้รับผลกระทบ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ
บรหิ ารจัดการสัญญาจ้างและสิง่ กอ่ สร้าง
4.2) การบริหารจัดการและหน้าท่ีความรบั ผดิ ชอบของกองอาคารและสถานท่ี
ทาหน้าท่ีประสานงาน ชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคลากรของกองอาคารและสถานท่ี
และหน่วยงานอ่ืน กรณีท่ีมีผลทางกฎหมาย ข้อขัดแย้ง หรือการระงับข้อพิพาทต่างๆ ภายใต้ภารกิจของกองอาคาร
และสถานที่
คู่มอื การปฏบิ ตั งิ าน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 22
5 ภาระงานด้านการบริการ
5.1) ให้คาปรึกษา แนะนา เผยแพร่ ถ่ายทอดความรู้ ทางด้านกฎหมาย รวมท้ังตอบปัญหา
และช้ีแจงเรอ่ื งตา่ งๆ เกี่ยวกบั งานในหน้าท่ี เพอ่ื ให้ผรู้ บั บริการได้รับทราบข้อมลู ความรู้ตา่ งๆ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์
5.2) จัดเก็บข้อมูลเบ้ืองต้นและให้ข้อมูลการบริการวิชาการ เก่ียวกับข้อกฎหมาย หลักเกณฑ์
และระเบียบวิธีปฏิบัติ เพ่ือให้บุคลากรท้ังภายในและภายนอกหน่วยงาน นักศึกษา และผู้รับบริการ ได้ทราบข้อมูล
และความรู้ต่างๆที่เป็นประโยชน์ สอดคล้องและสนับสนุนภารกิจของหน่วยงาน และใช้ประกอบการพิจารณา
กาหนดนโยบาย แผนงาน หลกั เกณฑ์ และมาตรการตา่ งๆ ของกองอาคารและสถานที่
คมู่ ือการปฏบิ ัติงาน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 23
บทที่ 3
หลกั เกณฑ์วธิ ีการปฏิบัติงาน
หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติงานด้านการบริหารสัญญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนินการก่อสร้าง ในบทนี้
ประกอบด้วย
1. หลักเกณฑว์ ธิ ีการปฏบิ ัตงิ าน
2. บทกาหนดโทษสาหรบั ผู้ปฏบิ ตั งิ านดา้ นการบรหิ ารสญั ญาการก่อสรา้ ง
โดยมีรายละเอยี ด ดงั นี้
1. หลักเกณฑ์วธิ กี ารปฏิบตั ิงาน
1) ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์
มาตรา 8 คาว่า “เหตุสุดวิสัย” หมายความว่า เหตุใดๆ อันจะเกิดข้ึนก็ดี จะให้ผลพิบัติก็ดีเป็นเหตุ
ที่ไม่อาจป้องกันได้ แม้ท้ังบุคคลต้องประสบหรือใกล้จะต้องประสบเหตุนั้น จะได้จัดการระมัดระวังตามสมควร
อันพงึ คาดหมายไดจ้ ากบุคคลในฐานะและภาวะเชน่ น้นั
มาตรา 205 ตราบใดการชาระหนี้นั้นยังมิได้กระทาลง เพราะพฤติการณ์อันใดอันหน่ึงซึ่งลูกหนี้
ไม่ตอ้ งรับผิดชอบ ตราบนัน้ ลกู หน้ยี ังหาไดช้ อื่ ว่าผดิ นดั ไม่
มาตรา ๕๘๗ อันว่าจ้างทาของนั้น คือสัญญาซ่ึงบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงจะทาการงาน
ส่ิงใดสิ่งหน่ึงจนสาเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพ่ือผลสาเร็จ
แหง่ การทที่ าน้ัน
มาตรา ๕๘๘ เคร่ืองมือตา่ ง ๆ สาหรบั ใช้ทาการงานใหส้ าเรจ็ น้ันผูร้ บั จ้างเปน็ ผู้จดั หา
มาตรา ๕๘๙ ถ้าสมั ภาระสาหรบั ทาการงานท่กี ล่าวน้ันผูร้ ับจา้ งเปน็ ผจู้ ดั หา ทา่ นวา่ ตอ้ งจดั หาชนิดที่ดี
มาตรา ๕๙๐ ถ้าสัมภาระน้ันผู้ว่าจ้างเป็นผู้จัดหามาส่ง ท่านให้ผู้รับจ้างใช้สัมภาระด้วยความ
ระมัดระวงั และประหยดั อยา่ ใหเ้ ปลอื งเสยี เปลา่ เมอื่ ทาการงานสาเร็จแล้ว มสี ัมภาระเหลอื อยูก่ ็ใหค้ ืนแก่ผูว้ ่าจา้ ง
มาตรา ๕๙๑ ถ้าความชารุดบกพร่องหรือความชักช้าในการที่ทาน้ันเกิดขึ้นเพราะสภาพแห่งสัมภาระ
ซึ่งผู้ว่าจ้างส่งให้ก็ดี เพราะคาส่ังของผู้ว่าจ้างก็ดี ท่านว่าผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดเว้นแต่จะได้รู้อยู่แล้วว่าสัมภาระน้ัน
ไมเ่ หมาะหรอื วา่ คาสั่งนนั้ ไม่ถกู ต้องและมิไดบ้ อกกล่าวตักเตือน
มาตรา ๕๙๒ ผู้รับจ้างจาต้องยอมให้ผู้ว่าจ้างหรือตัวแทนของผู้ว่าจ้างตรวจตราการงานได้ตลอดเวลา
ท่ที าอยนู่ น้ั
มาตรา ๕๙๓ ถ้าผู้รับจ้างไม่เร่ิมทาการในเวลาอันควร หรือทาการชักช้าฝ่าฝืนข้อกาหนดแห่งสัญญา
ก็ดี หรือทาการชักช้าโดยปราศจากความผิดของผู้วา่ จ้าง จนอาจคาดหมายล่วงหน้าได้ว่าการน้ันจะไม่สาเร็จภายใน
กาหนดเวลาท่ีได้ตกลงกันไว้ก็ดี ผู้ว่าจ้างชอบท่ีจะเลิกสัญญาเสียได้ มิพักต้องรอคอยให้ถึงเวลากาหนดส่งมอบของ
นนั้ เลย
คู่มือการปฏิบตั ิงาน การบรหิ ารสญั ญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การก่อสร้าง 24
มาตรา ๕๙๔ ถ้าในระหว่างเวลาที่ทาการอยู่น้ันเป็นวิสัยจะคาดหมายล่วงหน้าได้แน่นอนว่า การท่ีทา
นั้นจะสาเร็จอย่างบกพร่องหรือจะเป็นไปในทางอันฝ่าฝืนข้อสัญญาเพราะความผิดของผู้รับจ้างไซร้ ผู้ว่าจ้าง
จะบอกกล่าวให้ผู้รับจ้างแก้ไขสิ่งท่ีบกพร่องให้คืนดี หรือทาการให้เป็นไปตามสัญญาภายในเวลาอันสมควร
ซ่ึงกาหนดให้ในคาบอกกล่าวนั้นก็ได้ ถ้าและคลาดกาหนดน้ันไปท่านว่าผู้ว่าจ้างชอบท่ีจะเอาการนั้น ให้บุคคล
ภายนอกซอ่ มแซมหรอื ทาต่อไปไดซ้ ึง่ ผู้รับจ้างจะตอ้ งเส่ยี งความเสยี หายและออกค่าใช้จา่ ยท้ังสิน้
มาตรา ๕๙๕ ถ้าผู้รับจ้างเป็นผ้จู ัดหาสัมภาระไซร้ ความรบั ผิดของผ้รู ับจ้างในการบกพร่องน้ัน ทา่ นให้
บังคบั ดว้ ยบทแหง่ ประมวลกฎหมายน้ี ลักษณะซอ้ื ขาย
มาตรา ๕๙๖ ถ้าผู้รับจ้างส่งมอบการที่ทาไม่ทันเวลาท่ีได้กาหนดไว้ในสัญญาก็ดีหรือถ้าไม่ได้
กาหนดเวลาไว้ในสัญญาเม่ือล่วงพ้นเวลาอันควรแก่เหตุก็ดี ผู้ว่าจ้างชอบท่ีจะลดสินจ้างลง หรือถ้าสาระสาคัญ
แหง่ สญั ญาอยูท่ ี่เวลา ก็ชอบที่จะเลกิ สญั ญาได้
มาตรา ๕๙๗ ถ้าผู้ว่าจ้างยอมรับมอบการที่ทานั้นแล้วโดยมิได้อิดเอ้ือน ผู้รับจ้างก็ไม่ต้องรับผิด
เพ่ือการท่ีส่งมอบเนิน่ ชา้
มาตรา ๕๙๘ ถ้าผู้ว่าจ้างยอมรับมอบการที่ทานั้นแล้วทั้งชารุดบกพร่องมิได้อิดเอื้อนโดยแสดงออกชัด
หรือโดยปริยาย ผู้รับจ้างก็ไม่ต้องรับผิด เว้นแต่ความชารุดบกพร่องน้ันเป็นเช่นจะไม่พึงพบได้ในขณะเมื่อรับมอบ
หรือผรู้ บั จา้ งไดป้ ดิ บังความน้ันเสยี
มาตรา ๕๙๙ ในกรณีท่ีส่งมอบเน่ินช้าไปก็ดี หรือส่งมอบการที่ทาชารุดบกพร่องก็ดีท่านว่าผู้ว่าจ้าง
ชอบที่จะยดึ หน่วงสินจา้ งไว้ได้ เวน้ แต่ผูร้ บั จา้ งจะให้ประกนั ตามสมควร
มาตรา ๖๐๐ ถ้ามิได้กาหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาไซร้ ท่านว่าผู้รับจ้างจะต้องรับผิดเพ่ือการท่ีทา
ชารุดบกพร่อง เพียงแต่ท่ีปรากฏขึ้นภายในปีหนึง่ นับแต่วนั ส่งมอบ หรือท่ีปรากฏข้ึนภายในหา้ ปี ถ้าการท่ีทานั้นเป็น
สิ่งปลูกสร้างกับพ้ืนดิน นอกจากเรือนโรงทาด้วยเครื่องไม้ แต่ข้อจากัดน้ีท่านมิให้ใช้บังคับเมื่อปรากฏว่าผู้รับจ้าง
ไดป้ ิดบงั ความชารดุ บกพรอ่ งนั้น
มาตรา ๖๐๑ ทา่ นห้ามมิใหฟ้ ้องผรู้ บั จา้ งเมื่อพน้ ปหี นึง่ นบั แตว่ นั การชารุดบกพรอ่ งไดป้ รากฏข้นึ
มาตรา ๖๐๒ อันสินจ้างน้ันพึงใช้ให้เมื่อรับมอบการท่ีทา ถ้าการท่ีทานั้นมีกาหนดว่าจะส่งรับกัน
เปน็ สว่ นๆ และได้ระบุจานวนสนิ จ้างไวเ้ ปน็ ส่วนๆ ไซร้ ทา่ นว่าพงึ ใชส้ นิ จ้างเพ่ือการแตล่ ะสว่ นในเวลารบั เอาสว่ นนัน้
มาตรา ๖๐๓ ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระ และการที่จ้างทาน้ันพังทลายหรือบุบสลายลงก่อนได้
ส่งมอบกนั ถกู ต้องไซร้ ทา่ นว่าความวินาศอนั นัน้ ตกเป็นพับแกผ่ ู้รับจ้าง หากความวนิ าศนัน้ มิไดเ้ ปน็ เพราะการกระทา
ของผ้รู ับจ้างในกรณีเช่นวา่ น้ี สนิ จา้ งกเ็ ป็นอนั ไม่ตอ้ งใช้
มาตรา ๖๐๔ ถ้าผู้ว่าจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระ และการที่จ้างทาน้ันพังทลายหรือบุบสลายลงก่อนได้
ส่งมอบกันถูกต้องไซร้ ท่านว่าความวินาศน้ันตกเป็นพับแก่ผู้ว่าจ้าง หากความวินาศน้ันมิได้เป็นเพราะการกระทา
ของผู้รับจา้ งในกรณเี ชน่ ว่าน้ี สินจา้ งก็เป็นอนั ไมต่ ้องใช้ เว้นแต่ความวินาศน้ันเปน็ เพราะการกระทาของผูว้ ่าจา้ ง
มาตรา ๖๐๕ ถ้าการที่จ้างยังทาไม่แล้วเสร็จอยู่ตราบใด ผู้ว่าจ้างอาจบอกเลิกสัญญาได้ เม่ือเสีย
ค่าสินไหมทดแทนใหแ้ กผ่ ู้รบั จา้ งเพอื่ ความเสยี หายอย่างใดๆ อันเกิดแต่การเลิกสญั ญาน้นั
ค่มู ือการปฏิบัตงิ าน การบริหารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 25
มาตรา ๖๐๖ ถ้าสาระสาคัญแห่งสัญญาอยู่ท่ีความรคู้ วามสามารถของตัวผรู้ ับจ้างและผู้รับจ้างตายก็ดี
หรือตกเปน็ ผู้ไม่สามารถทาการท่รี ับจ้างนั้นต่อไปได้ด้วยมิใชเ่ พราะความผดิ ของตนกด็ ี ท่านว่าสญั ญานัน้ ยอ่ มเป็นอัน
สิ้นลงถ้าและการส่วนท่ีได้ทาข้ึนแล้วน้ันเป็นประโยชน์แก่ผู้ว่าจ้างไซร้ท่านว่าผู้ว่าจ้างจาต้องรับเอาไว้แ ละใช้สินจ้าง
ตามสมควรแกส่ ว่ นนั้นๆ
มาตรา ๖๐๗ ผู้รับจ้างจะเอาการที่รับจ้างท้ังหมดหรือแบ่งการแต่บางส่วนไปให้ผู้รับจ้างช่วงทา
อีกทอดหนึ่งก็ได้ เว้นแต่สาระสาคัญแห่งสัญญาน้ันจะอยู่ท่ีความรู้ความสามารถของตัวผู้รับจ้าง แต่ผู้รับจ้างคงต้อง
รับผิดเพ่ือความประพฤติหรือความผดิ อย่างใดๆ ของผูร้ ับจ้างช่วง
2) พระราชบัญญัติจดั ต้งั ศาลปกครองและวธิ ีพิจารณาคดปี กครอง พ.ศ. 2542
มาตรา 3 พระราชบัญญัตนิ ี้
“สัญญาทางปกครอง” หมายความรวมถงึ สัญญาท่ีคู่สัญญาอย่างนอ้ ยฝา่ ยใดฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานทาง
ปกครองหรือเป็นบุคคลซ่ึงกระทาการแทนรัฐและมีลกั ษณะเป็นสญั ญาสัมปทาน สัญญาที่ให้จัดทาบริการสาธารณะ
หรือจัดใหม้ ีสิ่งสาธารณูปโภคหรอื แสวงประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติ
3) พระราชบัญญัติวธิ ปี ฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
มาตรา ๕ ในพระราชบัญญตั นิ ี้
“วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง” หมายความว่า การเตรียมการและการดาเนินการของเจ้าหน้าที่
เพอื่ จัดให้มีคาส่ังทางปกครองหรอื กฎ และรวมถึงการดาเนินการใด ๆ ในทางปกครองตามพระราชบัญญตั ินี้
“การพิจารณาทางปกครอง” หมายความว่า การเตรียมการและการดาเนนิ การของเจา้ หน้าที่เพ่ือจัดให้
มีคาส่ังทางปกครอง
“คาสั่งทางปกครอง” หมายความว่า
(๑) การใช้อานาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าท่ีท่ีมีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล
ในอันท่ีจะ ก่อ เปล่ียนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าท่ีของบุคคล
ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือช่ัวคราว เช่น การส่ังการ การอนุญาต การอนุมัติการวินิจฉัยอุทธรณ์การรับรอง
และการรบั จดทะเบียน แตไ่ ม่หมายความรวมถงึ การออกกฎ
(๒) การอ่นื ท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๒ คาสัง่ ทางปกครองจะต้องกระทาโดยเจา้ หนา้ ทซ่ี ่ึงมีอานาจหนา้ ที่ในเร่ืองนัน้
มาตรา ๑๓ เจา้ หนา้ ที่ดังตอ่ ไปน้จี ะทาการพจิ ารณาทางปกครองไม่ได้
(๑) เป็นคู่กรณเี อง
(๒) เป็นคู่หมน้ั หรือคู่สมรสของคกู่ รณี
(๓) เป็นญาติของคู่กรณีคือ เป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานไม่ว่าชั้นใด ๆ หรือเป็นพี่น้อง
หรือลูกพีล่ ูกนอ้ งนบั ไดเ้ พยี งภายในสามชนั้ หรอื เป็นญาติเกีย่ วพนั ทางแตง่ งานนับได้เพียงสองช้นั
คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงาน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 26
(๔) เป็นหรือเคยเปน็ ผูแ้ ทนโดยชอบธรรมหรอื ผพู้ ิทักษห์ รอื ผู้แทนหรอื ตัวแทนของคกู่ รณี
(๕) เป็นเจ้าหน้ีหรือลูกหนี้หรือเปน็ นายจ้างของคู่กรณี
(๖) กรณอี นื่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๔ เม่ือมีกรณีตามมาตรา ๑๓ หรือคู่กรณีคัดค้านว่าเจ้าหน้าที่ผู้ใดเป็นบุคคลตามมาตรา ๑๓
ให้เจ้าหน้าท่ีผู้น้ันหยุดการพิจารณาเร่ืองไว้ก่อน และแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาเหนือตนข้ึนไปช้ันหน่ึงทราบ เพื่อท่ี
ผู้บงั คับบญั ชาดังกลา่ วจะไดม้ คี าส่ังตอ่ ไป
การยื่นคาคัดค้าน การพิจารณาคาคัดค้าน และการส่ังให้เจ้าหน้าท่ีอ่ืนเข้าปฏิบัติหน้าท่ีแทนผู้ท่ี
ถูกคัดคา้ นให้เป็นไปตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารทีก่ าหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๕ เม่ือมีกรณีตามมาตรา ๑๓ หรือคู่กรณีคัดค้านว่ากรรมการในคณะกรรมการที่มีอานาจ
พิจารณาทางปกครองคณะใดมีลักษณะดังกล่าว ให้ประธานกรรมการเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
เหตุคดั ค้านนัน้ ในการประชุมดงั กล่าวกรรมการผู้ถูกคัดค้านเม่ือไดช้ ีแ้ จงข้อเทจ็ จรงิ และตอบข้อซักถามแล้วต้องออก
จากท่ีประชุม
ถ้าคณะกรรมการที่มีอานาจพิจารณาทางปกครองคณะใดมีผู้ถูกคัดค้านในระหว่างที่กรรมการ
ผูถ้ ูกคัดคา้ นต้องออกจากที่ประชมุ ให้ถอื วา่ คณะกรรมการคณะนัน้ ประกอบด้วยกรรมการทุกคนทไี่ ม่ถูกคัดค้าน
ถ้าท่ีประชมุ มมี ตใิ หก้ รรมการผูถ้ ูกคัดค้านปฏิบัตหิ น้าท่ีต่อไปดว้ ยคะแนนเสยี งไม่น้อยกว่าสองในสามของ
กรรมการท่ีไม่ถูกคัดค้าน ก็ให้กรรมการผู้น้ันปฏิบัติหน้าท่ีต่อไปได้มติดังกล่าวให้กระทาโดยวิธีลงคะแนนลับ
และให้เป็นท่สี ุด
ก า ร ย่ื น ค า คั ด ค้ า น แ ล ะ ก า ร พิ จ า ร ณ า ค า คั ด ค้ า น ใ ห้ เ ป็ น ไ ป ต า ม ห ลั ก เ ก ณ ฑ์ แ ล ะ วิ ธี ก า ร ที่ ก า ห น ด
ในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๖ ในกรณีมีเหตุอื่นใดนอกจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓ เก่ียวกับเจ้าหน้าท่ีหรือกรรมการ
ในคณะกรรมการที่มีอานาจพิจารณาทางปกครองซึ่งมีสภาพร้ายแรงอันอาจทาให้การพิจารณาทางปกครอง
ไม่เป็นกลาง เจ้าหน้าที่หรือกรรมการผ้นู ้นั จะทาการพิจารณาทางปกครองในเร่อื งนั้นไม่ได้
ในกรณีตามวรรคหนง่ึ ให้ดาเนนิ การ ดังน้ี
(๑) ถ้าผู้นั้นเห็นเองว่าตนมีกรณีดังกล่าว ให้ผู้นั้นหยุดการพิจารณาเรื่องไว้ก่อนและแจ้งให้
ผู้บังคับบัญชาเหนอื ตนข้ึนไปชน้ั หน่ึงหรอื ประธานกรรมการทราบ แล้วแต่กรณี
(๒) ถ้ามีคู่กรณีคัดค้านว่าผู้นั้นมีเหตุดังกล่าว หากผู้นั้นเห็นว่าตนไม่มีเหตุตามที่คัดค้านน้ันผู้นั้นจะทา
การพิจารณาเรื่องต่อไปก็ได้แต่ต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาเหนือตนขึ้นไปชั้นหนึ่งหรือประธานกรรมการทราบ
แล้วแตก่ รณี
(๓) ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้นั้นหรือคณะกรรมการท่ีมีอานาจพิจารณาทางปกครองซ่ึงผู้นั้น
เป็นกรรมการอยู่มีคาส่ังหรือมีมติโดยไม่ชักช้าแล้วแต่กรณีว่าผู้นั้นมีอานาจในการพิจารณาทางปกครองในเร่ืองนั้น
หรอื ไม่
คู่มอื การปฏิบัตงิ าน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การก่อสร้าง 27
ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๑๔ วรรคสอง และมาตรา ๑๕ วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่มาใช้บังคับ
โดยอนโุ ลม
มาตรา ๑๗ การกระทาใดๆ ของเจ้าหน้าท่ีหรือกรรมการในคณะกรรมการท่ีมีอานาจพิจารณา
ทางปกครองที่ได้กระทาไปก่อนหยุดการพิจารณาตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๖ ย่อมไม่เสียไป เว้นแต่เจ้าหน้าที่
ผู้เข้าปฏิบัติหน้าท่ีแทนผู้ถูกคัดค้านหรือคณะกรรมการที่มีอานาจพิจารณาทางปกครอง แล้วแต่กรณีจะเห็นสมควร
ดาเนนิ การส่วนหน่ึงส่วนใดเสียใหมก่ ็ได้
มาตรา ๑๘ บทบัญญตั ิมาตรา ๑๓ ถึงมาตรา ๑๖ ไม่ให้นามาใช้บังคับกบั กรณีที่มีความจาเป็นเร่งด่วน
หากปล่อยให้ล่าช้าไปจะเสียหายต่อประโยชนส์ าธารณะหรือสิทธิของบุคคลจะเสียหายโดยไม่มีทางแกไ้ ขได้หรือไม่มี
เจ้าหน้าทีอ่ ่ืนปฏบิ ตั หิ น้าท่แี ทนผ้นู น้ั ได้
มาตรา ๑๙ ถ้าปรากฏภายหลังว่าเจ้าหน้าท่ีหรือกรรมการในคณะกรรมการท่ีมีอานาจพิจารณา
ทางปกครองใด ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือการแต่งต้ังไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นเหตุให้ผู้นั้น
ต้องพน้ จากตาแหนง่ การพน้ จากตาแหน่งเชน่ วา่ นไี้ ม่กระทบกระเทือนถึงการใดทผ่ี ู้น้ันไดป้ ฏิบตั ิไปตามอานาจหน้าที่
มาตรา ๒๐ ผู้บังคับบัญชาเหนือตนขึ้นไปช้ันหนึ่งตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๖ ให้หมายความ
รวมถึง ผู้ซึ่งกฎหมายกาหนดให้มีอานาจกากับหรือควบคุมดูแลสาหรับกรณีของเจ้าหน้าท่ีที่ไม่มีผู้บังคับบัญชา
โดยตรง และนายกรฐั มนตรีสาหรบั กรณที เี่ จา้ หน้าที่ผนู้ ั้นเปน็ รฐั มนตรี
4) พระราชบญั ญตั ิการจัดซอ้ื จัดจา้ งและการบรหิ ารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. 2560
มาตรา 4 ในพระราชบญั ญัตนิ ี้
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ิน
รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ
หน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกากับของรัฐสภา หน่วยงาน
อิสระของรัฐ และหน่วยงานอ่ืนตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
“เจ้าหน้าท่ี” หมายความว่า ผู้มีหน้าที่เก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ หรือผู้ท่ีได้รับ
มอบหมายจากผมู้ อี านาจใหป้ ฏบิ ตั ิหน้าท่ีเก่ียวกับการจดั ซื้อจัดจ้างและการบรหิ ารพสั ดุของหนว่ ยงานภาครฐั
มาตรา ๙๗ สัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือท่ีได้ลงนามแล้วจะแก้ไขไม่ได้เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปน้ี
ให้อยู่ในดลุ พนิ ิจของผมู้ ีอานาจท่ีจะพจิ ารณาอนุมัตใิ หแ้ กไ้ ขได้
(๑) เปน็ การแกไ้ ขตามมาตรา ๙๓ วรรคห้า
(๒) ในกรณีท่ีมีความจาเป็นต้องแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงหากการแก้ไขนั้นไม่ทาให้หน่วยงานของรัฐ
เสยี ประโยชน์
(๓) เปน็ การแก้ไขเพ่อื ประโยชน์แกห่ นว่ ยงานของรัฐหรือประโยชนส์ าธารณะ
(๔) กรณอี น่ื ตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง
คูม่ อื การปฏิบัติงาน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสร้าง 28
ในกรณีการแก้ไขสัญญาที่หน่วยงานของรัฐเห็นว่าจะมีปัญห าในทางเสียประโยชน์หรือไม่รัดกุมพอ
ก็ใหส้ ่งรา่ งสัญญาทแี่ กไ้ ขนน้ั ไปใหส้ านักงานอัยการสงู สดุ พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบก่อน
การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสองจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ
งบประมาณหรือกฎหมายอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง หากมีความจาเป็นต้องเพิ่มหรือลดวงเงินหรือเพ่ิมหรือลดระยะเวลา
สง่ มอบหรือระยะเวลาในการทางานให้ตกลงพร้อมกนั ไป
ในกรณีที่มีการแก้ไขสัญญาหรอื ข้อตกลงเพ่ือเพ่ิมวงเงิน เมื่อรวมวงเงนิ ตามสัญญาหรือข้อตกลงเดมิ และ
วงเงินที่เพ่ิมข้ึนใหม่แล้ว หากวงเงินรวมดังกล่าวมีผลทาให้ผู้มีอานาจอนุมัติสั่งซ้ือหรือสั่งจ้างเปล่ียนแปลงไป
จะต้องดาเนินการให้ผู้มีอานาจอนุมัติสั่งซ้ือหรือสั่งจ้างตามวงเงินรวมดังกล่าว เป็นผู้อนุมัติการแก้ไขสัญญา
หรอื ขอ้ ตกลงด้วย
ใ น ก ร ณี ที่ มี ก า ร แ ก้ ไ ข สั ญ ญ า ห รื อ ข้ อ ต ก ล ง เ พื่ อ ล ด ว ง เ งิ น ใ ห้ ผู้ มี อ า น า จ อ นุ มั ติ ส่ั ง ซ้ื อ ห รื อ ส่ั ง จ้ า ง
ตามวงเงนิ เดิมเป็นผ้อู นมุ ตั กิ ารแก้ไขสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลง
มาตรา ๑๐๐ ในการดาเนินการตามสัญญาหรือข้อตกลงให้ผู้มีอานาจแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับ
พัสดุ เพ่ือรับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุ องค์ประกอบองค์ประชุมและหน้าที่
ของคณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บท่รี ฐั มนตรกี าหนด
ในกรณีที่การจัดซ้ือจัดจ้างมีวงเงินเล็กน้อยตามที่กาหนดในกฎกระทรวง จะแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลใด
เปน็ ผตู้ รวจรบั พสั ดุนั้น โดยให้ปฏิบัตหิ นา้ ทเี่ ชน่ เดียวกบั คณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุกไ็ ด้ และให้นาบทบัญญัตมิ าตรา
๙๖ วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนโุ ลม
ผู้รับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุตามวรรคหนึ่งและวรรคสาม ซึ่งไม่ใช่
ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งท่ีปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุให้ได้รับค่าตอบแทน
ตามทีก่ ระทรวงการคลงั กาหนด
มาตรา ๑๐๑ งานจ้างก่อสร้างที่มีข้ันตอนการดาเนินการเป็นระยะๆ อันจาเป็นต้องมีการควบคุมงาน
อยา่ งใกลช้ ดิ หรือมีเงื่อนไขการจ่ายเงินเปน็ งวดตามความก้าวหนา้ ของงาน ใหม้ ผี คู้ วบคุมงานซง่ึ แต่งตัง้ โดยผู้มีอานาจ
เพอ่ื รบั ผิดชอบในการควบคุมงานก่อสร้างน้นั
การแตง่ ตงั้ คณุ สมบัติและหนา้ ทข่ี องผู้ควบคุมงาน ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บท่รี ฐั มนตรกี าหนด
ค่าตอบแทนผู้ควบคุมงานตามวรรคหนง่ึ ให้เปน็ ไปตามท่กี ระทรวงการคลังกาหนด
มาตรา 102 การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทาการตามสัญญาหรือข้อตกลง
ให้อย่ใู นดุลพนิ จิ ของผู้มอี านาจทจี่ ะพิจารณาได้ตามจานวนวันที่มเี หตุเกิดขึ้นจรงิ เฉพาะในกรณดี งั ต่อไปนี้
(๑) เหตเุ กิดจากความผดิ หรอื ความบกพรอ่ งของหนว่ ยงานของรัฐ
(๒) เหตุสุดวิสัย
(๓) เหตุเกดิ จากพฤตกิ ารณ์อนั หนึ่งอันใดท่ีค่สู ัญญาไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย
(๔) เหตอุ ่ืนตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง
คู่มอื การปฏบิ ตั งิ าน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 29
หลักเกณฑ์และวิธีการของดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญาหรือการขยายเวลาทาการตา มสั ญญา
หรอื ขอ้ ตกลงให้เปน็ ไปตามระเบยี บท่ีรัฐมนตรกี าหนด
มาตรา ๑๐๓ ในกรณีที่มีเหตุบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลงต่อไปน้ี ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอานาจ
ที่จะบอกเลกิ สญั ญาหรอื ขอ้ ตกลงกับคสู่ ัญญา
(๑) เหตุตามที่กฎหมายกาหนด
(๒) เหตุอันเช่ือได้ว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างไม่สามารถส่งมอบงานหรือทางานให้แล้วเสร็จได้ภายใน
ระยะเวลาท่ีกาหนด
(๓) เหตอุ ื่นตามทีก่ าหนดไว้ในพระราชบัญญตั ินีห้ รอื ในสัญญาหรือข้อตกลง
(๔) เหตุอืน่ ตามระเบียบท่ีรฐั มนตรกี าหนด
การตกลงกับคู่สัญญาที่จะบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง ให้ผู้มีอานาจพิจารณาได้เฉพาะในกรณีที่
เป็นประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐโดยตรง หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อแก้ไขข้อเสียเปรียบของ
หนว่ ยงานของรฐั ในการท่ีจะปฏิบัตติ ามสญั ญาหรือขอ้ ตกลงนนั้ ต่อไป
ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐมิได้เป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลงหรือการบอกเลิกสัญญา หรือ
ข้อตกลงน้ัน เป็นกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐมิได้เรียกค่าปรับแล้วแต่กรณีหากคู่สัญญาเห็นว่าหน่วยงานของรัฐ
ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายคู่สัญญาจะย่ืนคาขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณาชดใช้ค่าเสียหายก็ได้ ในการน้ี
หน่วยงานของรัฐต้องออกใบรับคาขอให้ไว้เป็นหลักฐานและพิจารณาคาขอน้ันโดยไม่ชักช้า เม่ือหน่วยงานของรัฐ
มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเป็นเช่นใดแล้วหากคู่สัญญายังไม่พอใจในผลการพิจารณาก็ให้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาล
เพ่ือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาต่อไป ทั้งนี้หลักเกณฑ์วิธีการและระยะเวลาในการพิจารณาคาขอ
ของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกาหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องกาหนดให้หน่วยงานของรัฐแต่งต้ัง
คณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณาค่าเสียหายและการกาหนดวงเงินค่าเสียหายที่ต้องรายงานต่อกระทรวงการคลัง
เพ่อื พิจารณาให้ความเหน็ ชอบ
มาตรา ๑๒๒ ให้ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และระเบียบสานัก
นายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ และบรรดาระเบียบข้อบังคับ ประกาศ
ข้อบัญญัติ และข้อกาหนดใด ๆ เกี่ยวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐอ่ืน
ท่ีไม่อยู่ภายใต้บังคับของระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือระเบียบสานัก
นายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ แล้วแต่กรณีรวมท้ังมติคณะรัฐมนตรี
ท่ีเก่ียวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าท่ีไม่ขัด
หรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศในเรื่องนั้น ๆ ตามพระราชบัญญัติน้ี
ใชบ้ งั คบั
การดาเนนิ การออกกฎกระทรวง ระเบยี บ หรือประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ดาเนินการใหแ้ ล้วเสร็จภายใน
หนึ่งปีนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ หากไม่สามารถดาเนินการได้ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลที่ไม่อาจ
ดาเนนิ การไดต้ ่อคณะรัฐมนตรีเพ่อื ทราบ
คมู่ อื การปฏบิ ัติงาน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 30
5) ระเบียบกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการจัดซื้อจดั จ้างและการบริหารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560
ข้อ 4 ในระเบยี บน้ี
“หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ” หมายความว่า ผูด้ ารงตาแหนง่ ในหนว่ ยงานของรัฐ ดังตอ่ ไปน.้ี ..
(9) มหาวทิ ยาลยั ในกากับของรฐั หมายถงึ อธกิ ารบดี
ขอ้ ๒๕ ในการดาเนินการซื้อหรือจ้างแต่ละครั้งให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการ
ซ้ือหรือจ้างขึ้น เพ่ือปฏิบัติการตามระเบียบนี้พร้อมกับกาหนดระยะเวลาในการพิจารณาของคณะกรรมการ
แลว้ แต่กรณีคือ
(๑) คณะกรรมการพจิ ารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
(๒) คณะกรรมการพจิ ารณาผลการสอบราคา
(๓) คณะกรรมการซื้อหรอื จ้างโดยวิธีคัดเลือก
(๔) คณะกรรมการซื้อหรอื จา้ งโดยวิธเี ฉพาะเจาะจง
(๕) คณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุ
ให้คณะกรรมการซื้อหรือจ้างแต่ละคณะรายงานผลการพิจารณาต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ภายใน
ระยะเวลาที่กาหนด ถ้ามีเหตุที่ทาให้การรายงานล่าช้าให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาขยายเวลาให้
ตามความจาเปน็
ขอ้ ๒๖ คณะกรรมการซ้ือหรือจ้างตามข้อ ๒๕ แต่ละคณะประกอบด้วยประธานกรรมการ ๑ คน
และกรรมการอย่างน้อย ๒ คน ซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการ ลูกจ้างประจา พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย
พนักงานของรัฐ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐที่เรียกช่ืออย่างอื่น โดยให้คานึงถึงลักษณะหน้าที่และ
ความรบั ผดิ ชอบของผทู้ ีไ่ ดร้ ับแต่งตง้ั เป็นสาคญั
ในกรณีจาเป็นหรือเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐจะแต่งต้ังบุคคลอ่ืนร่วมเป็นกรรมการด้วยก็ได้
แต่จานวนกรรมการทเี่ ปน็ บุคคลอ่นื น้นั จะตอ้ งไม่มากกว่าจานวนกรรมการตามวรรคหนงึ่
ในการซอ้ื หรอื จา้ งครั้งเดียวกันห้ามแต่งต้ังผ้ทู ่ีเป็นกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอเิ ล็กทรอนิกส์
กรรมการพิจารณาผลการสอบราคา หรอื กรรมการซ้ือหรอื จา้ งโดยวิธีคัดเลือก เปน็ กรรมการตรวจรับพสั ดุ
คณะกรรมการซื้อหรือจ้างทุกคณะ ควรแต่งต้ังผู้ชานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับงานซ้ือหรือจ้าง
น้นั ๆ เขา้ รว่ มเป็นกรรมการด้วย
ขอ้ ๒๗ การประชุมของคณะกรรมการแต่ละคณะต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึง
ของจานวนกรรมการท้ังหมด ให้ประธานกรรมการและกรรมการแต่ละคนมีเสียงหน่ึงในการลงมติ โดยประธาน
กรรมการต้องอยู่ด้วยทุกครั้งในการประชุม หากประธานกรรมการไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้ให้หัวหน้าหน่วยงาน
ของรฐั แต่งต้ังประธานกรรมการคนใหม่เป็นประธานกรรมการแทน
มติของคณะกรรมการให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานกรรมการออกเสียงเพิ่มขึ้น
อีกเสยี งหนึง่ เป็นเสียงช้ขี าด เว้นแตค่ ณะกรรมการตรวจรบั พัสดุใหถ้ ือมตเิ อกฉนั ท์
กรรมการของคณะใดไม่เห็นด้วยกบั มตขิ องคณะกรรมการใหท้ าบนั ทกึ ความเหน็ แยง้ ไวด้ ้วย
คูม่ ือการปฏบิ ัติงาน การบริหารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 31
ประธานกรรมการและกรรมการจะต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผู้ย่ืนข้อเสนอหรือคู่สัญญา ในการ
ซ้ือหรือจ้างคร้ังน้ัน ท้ังนี้การมีส่วนได้เสียในเร่ืองซึ่งท่ีประชุมพิจารณาของประธานกรรมการและกรรมการ
ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ปี ฏบิ ัติราชการทางปกครอง
หากประธานหรือกรรมการทราบว่าตนเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาในการซื้อหรือ
จ้างคร้ังน้ัน ให้ประธานหรือกรรมการผู้น้ันลาออกจากการเป็นประธานหรือกรรมการในคณะกรรมการที่ตนได้รับ
การแต่งตั้งนัน้ และให้รายงานหัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั ทราบเพ่อื สง่ั การตามทเี่ ห็นสมควรตอ่ ไป
ขอ้ ๘๔ การสั่งซ้ือหรือส่ังจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปคร้ังหนึ่ง ให้เป็นอานาจของผู้ดารง
ตาแหน่งและภายในวงเงนิ ดังตอ่ ไปนี้
(๑) หวั หนา้ หนว่ ยงานของรัฐ ไมเ่ กิน ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) ผ้มู ีอานาจเหนือขน้ึ ไปหนึ่งช้นั เกิน ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ข้อ ๘๕ การส่ังซ้ือหรือสั่งจ้างโดยวิธีคัดเลือกครั้งหนึ่ง ให้เป็นอานาจของผู้ดารงตาแหน่งและภายใน
วงเงนิ ดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) ผมู้ ีอานาจเหนือขึน้ ไปหน่งึ ชนั้ เกนิ ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ขอ้ ๘๖ การสั่งซื้อหรือส่ังจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงคร้ังหนึ่ง ให้เป็นอานาจของผู้ดารงตาแหน่ง
และภายในวงเงิน ดังตอ่ ไปน้ี
(๑) หัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) ผู้มีอานาจเหนอื ข้นึ ไปหนึ่งชั้น เกนิ ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ข้อ ๘๗ ผู้มีอานาจเหนือข้ึนไปหนึ่งช้ันตามข้อ ๘๔ ข้อ ๘๕ และข้อ ๘๖ ให้เป็นไปตามบัญชีแนบท้าย
ระเบียบนี้
ข้อ 161 การลงนามในสัญญาและการแก้ไขสัญญาตามระเบียบน้ี เป็นอานาจของหัวหน้าหน่วยงาน
ของรฐั
การลงนามในสัญญาตามวรรคหน่ึง จะกระทาได้เมื่อพ้นระยะเวลาการอุทธรณ์ตามมาตรา ๖๖
วรรคสอง
ขอ้ 162 การทาสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือนอกจากการจ้างท่ีปรึกษาให้กาหนดค่าปรับ
เป็นรายวัน ในอัตราตายตัวระหว่างร้อยละ ๐.๐๑ - ๐.๒๐ ของราคาพัสดุท่ียังไม่ได้รับมอบ เว้นแต่การจ้าง
ซึ่งต้องการผลสาเร็จของงานท้ังหมดพร้อมกัน ให้กาหนดค่าปรับเป็นรายวันเป็นจานวนเงินตายตัวในอัตราร้อยละ
๐.๐๑ - ๐.๑๐ ของราคางานจ้างนั้น แต่จะต้องไม่ต่ากว่าวันละ ๑๐๐ บาท สาหรับงานก่อสร้างสาธารณูปโภค
ที่มีผลกระทบต่อการจราจรให้กาหนดค่าปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ ๐.๒๕ ของราคางานจ้างนั้น แต่อาจจะ
กาหนดข้ันสูงสดุ ของการปรบั กไ็ ด้ทั้งน้ตี ามหลกั เกณฑ์ท่คี ณะกรรมการนโยบายกาหนด
คู่มือการปฏบิ ัตงิ าน การบริหารสญั ญาก่อสรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 32
ในการทาสัญญาจ้างท่ีปรึกษาหากหน่วยงานของรัฐเหน็ วา่ ถ้าไม่กาหนดค่าปรับไว้ในสญั ญาจะเกิดความ
เสียหายแก่หน่วยงานของรัฐ ให้หน่วยงานของรัฐผู้จัดทาสัญญากาหนดค่าปรับไว้ในสัญญาเป็นรายวันในอัตรา
หรือจานวนเงินตายตัวในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ - ๐.๑๐ ของราคางานจ้างน้นั
การกาหนดค่าปรับตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ในอตั ราหรือเปน็ จานวนเงนิ เท่าใดให้หัวหน้าหนว่ ยงาน
ของรัฐคานึงถึงราคา กาหนดระยะเวลาของการใช้งาน และลักษณะของพัสดุ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการท่ีคู่สัญญา
ของหน่วยงานของรัฐจะหลีกเล่ียงไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือกระทบต่อการจราจร หรือความเสียหายแก่ประโยชน์
สาธารณะแลว้ แตก่ รณี
ในกรณีการจัดหาสิ่งของที่ประกอบกันเป็นชุดถ้าขาดส่วน ประกอบส่วนหน่ึงส่วนใดไปแล้ว
จะไม่สามารถใช้การได้โดยสมบูรณ์ แม้คู่สัญญาจะส่งมอบสิ่งของภายในกาหนดตามสัญญาแต่ยังขาดส่วนประกอบ
บางส่วน ต่อมาได้ส่งมอบส่วนประกอบที่ยังขาดน้ันเกินกาหนดสัญญา ให้ถือว่าไม่ได้ส่งมอบส่ิงของนั้นเลย
ให้ปรบั เตม็ ราคาของทั้งชดุ
ในกรณีทก่ี ารจดั หาส่ิงของคิดราคารวมท้งั คา่ ติดตั้งหรอื ทดลองดว้ ย ถ้าตดิ ตั้งหรือทดลองเกนิ กว่ากาหนด
ตามสัญญาเปน็ จานวนวันเท่าใดให้ปรบั เป็นรายวันในอัตราทกี่ าหนดของราคาท้ังหมด
ทั้งนี้ ใหก้ าหนดเร่อื งคา่ ปรับไว้ในเอกสารเชิญชวนใหช้ ัดเจนดว้ ย
ขอ้ ๑๖๕ การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงตามมาตรา ๙๗ ต้องอยู่ภายในขอบข่ายแห่งวัตถุประสงค์เดิม
ของสัญญาหรือข้อตกลงน้ัน โดยหน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาเปรียบเทียบคุณภาพของพัสดุหรือรายละเอียด
ของงาน รวมท้ังราคาของพัสดุหรืองานตามสัญญาหรือข้อตกลง กับพัสดุที่จะทาการแก้ไขนั้นก่อนแก้ไขสัญญา
หรอื ขอ้ ตกลงดว้ ย
ในกรณีท่ีเป็นการจัดซื้อจัดจ้างท่ีเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรงหรืองานเทคนิคเฉพาะอย่าง จะต้องได้รับ
การรับรองจากวิศวกรสถาปนิกและวิศวกรผู้ชานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรับผิดชอบหรือสามารถรับรอง
คุณลักษณะเฉพาะแบบและรายการของงานก่อสร้างหรืองานเทคนคิ เฉพาะอยา่ งนนั้ แลว้ แต่กรณีด้วย
เมื่อผู้มีอานาจอนุมัติสั่งซื้อหรือส่ังจ้างแล้วแต่กรณี ได้อนุมัติการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว
ใหห้ ัวหนา้ หนว่ ยงานของรฐั เปน็ ผู้ลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงที่ได้แก้ไขนั้น
ข้อ ๑๗๖ คณะกรรมการตรวจรับพัสดใุ นงานจ้างก่อสรา้ งมีหน้าที่ ดงั น้ี
(๑) ตรวจสอบคุณวุฒิของผู้ควบคุมงานก่อสร้างของผู้รับจา้ งใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายวา่ ด้วยการควบคุม
อาคาร
(๒) ตรวจสอบรายงานการปฏิบตั ิงานของผรู้ บั จา้ งและเหตกุ ารณแ์ วดลอ้ มทผ่ี คู้ วบคมุ งานของหนว่ ยงาน
ของรัฐรายงาน โดยตรวจสอบกับแบบรูปรายการละเอียดและข้อกาหนดในสัญญาหรือข้อตกลงทุกสัปดาห์
รวมท้ังรับทราบหรือพิจารณาการส่ังหยุดงานหรือพักงานของผู้ควบคุมงาน แล้วรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
เพอื่ พจิ ารณาสงั่ การต่อไป
ค่มู ือการปฏิบัตงิ าน การบรหิ ารสญั ญาก่อสรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 33
(๓) ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือกรรมการท่ีได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
ออกตรวจงานจ้าง ณ สถานท่ี ที่กาหนดไว้ในสัญญาหรือท่ีตกลงให้ทางานจ้างน้ันๆ ตามเวลาที่เหมาะสมและ
เห็นสมควรและจดั ทาบันทกึ ผลการออกตรวจงานจ้างนนั้ ไว้เพื่อเป็นหลกั ฐานดว้ ย
(๔) นอกจากการดาเนินการตาม (๑) และ (๒) ในกรณีมีข้อสงสัยหรือมีกรณีท่ีเห็นว่าแบบรูปรายการ
ละเอียดและข้อกาหนดในสัญญาหรือมีข้อตกลง มีขอ้ ความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยหรือไมเ่ ปน็ ไปตามหลักวิชาการช่าง
ให้มีอานาจส่ังเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพ่ิมเติมหรือตัดทอนงานจ้างได้ตามที่เห็นสมควรและตามหลักวิชาการช่าง เพ่ือให้
เปน็ ไปตามแบบรูปรายการละเอียด
(๕) โดยปกติให้ตรวจผลงานท่ีผู้รับจ้างส่งมอบภายใน ๓ วันทาการ นับแต่วันที่ประธานกรรมการ
ไดร้ บั ทราบการสง่ มอบงานและให้ทาการตรวจรับใหเ้ สรจ็ ส้นิ ไปโดยเรว็ ท่ีสดุ
(๖) เม่ือตรวจเห็นว่าเป็นการถูกต้องครบถ้วนเป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกาหนด
ในสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว ให้ถือว่าผู้รับจ้างส่งมอบงานครบถ้วนตั้งแต่วันที่ผู้รับจ้างส่งงานจ้างน้ัน และให้ทา
ใบรับรองผลการปฏิบัติงานท้ังหมดหรือเฉพาะงวดแล้วแต่กรณี โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย ๒ ฉบับ
มอบให้แก่ผู้รับจ้าง ๑ ฉบับ และเจ้าหน้าท่ี ๑ ฉบับ เพ่ือทาการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบว่าด้วยการเบิกจ่ายเงิน
ของหน่วยงานของรัฐและรายงานใหห้ ัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั ทราบ
ในกรณที คี่ ณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุเห็นว่าผลงานท่ีสง่ มอบทั้งหมดหรืองวดใดก็ตามไม่เปน็ ไปตามแบบ
รปู รายการละเอียดและข้อกาหนดในสญั ญาหรือข้อตกลง ให้รายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผา่ นหวั หน้าเจ้าหน้าที่
เพอื่ ทราบหรอื สั่งการแล้วแต่กรณี
(๗) ในกรณีท่ีกรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับงานโดยทาความเห็นแย้งไว้ ให้เสนอหัวหน้า
หน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาส่ังการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐส่ังการให้ตรวจรับงานจ้างนั้นไว้จึงดาเนินการ
ตาม (๖)
ขอ้ ๑๗๗ ในการจ้างก่อสร้างแต่ละคร้ังที่มีขั้นตอนการดาเนินการเป็นระยะๆ อันจาเป็นต้องมีการ
ควบคุมงานอย่างใกล้ชิด หรือมีเงื่อนไขการจ่ายเงินเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงานให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
แตง่ ตง้ั ผู้ควบคุมงานที่มีความรคู้ วามชานาญทางด้านช่างตามลักษณะของงานก่อสร้างจากขา้ ราชการ ลกู จา้ งประจา
พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐท่ีเรียกช่ืออย่างอ่ืน
ของหน่วยงานของรัฐน้ัน หรือข้าราชการ ลูกจ้างประจา พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ
หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐทเ่ี รียกช่ืออย่างอ่ืนของหนว่ ยงานของรัฐอื่น ตามทไ่ี ด้รับความยินยอมจากหัวหน้า
หนว่ ยงานของรฐั ทผ่ี ู้น้นั สังกดั แล้ว ในกรณีทลี่ กั ษณะของงานก่อสรา้ งมีความจาเปน็ ต้องใช้ความรู้ความชานาญหลาย
ดา้ นจะแต่งต้งั ผคู้ วบคุมงานเฉพาะดา้ นหรอื เปน็ กลุ่มบุคคลก็ได้
ผู้ควบคุมงานควรมีคุณวุฒิตามที่ผู้ออกแบบเสนอแนะและโด ยปกติจะต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ากว่า ร ะดับ
ประกาศนียบัตรวชิ าชพี
ในกรณีจาเป็นจะต้องจ้างผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างเป็นผู้ควบคุมงาน ให้ดาเนินการจ้างโดยถือ
ปฏบิ ัติตามหมวด ๔
คมู่ อื การปฏิบตั ิงาน การบริหารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 34
ข้อ ๑๗๘ ผคู้ วบคมุ งานมีหน้าท่ี ดงั น้ี
(๑) ตรวจและควบคุมงาน ณ สถานที่ ท่ีกาหนดไว้ในสัญญาหรือท่ีตกลงให้ทางานจ้างน้ันๆ ทุกวัน
ใหเ้ ป็นไปตามแบบรูปรายการละเอยี ดและข้อกาหนดในสัญญาทุกประการ โดยสง่ั เปลีย่ นแปลงแก้ไขเพมิ่ เติมหรือตัด
ทอนงานจ้างได้ตามท่ีเห็นสมควรและตามหลักวิชาช่าง เพ่ือให้เป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกาหนดใน
สัญญา ถ้าผู้รับจ้างขัดขืนไม่ปฏิบัติตามก็ส่ังให้หยุดงานนั้นเฉพาะส่วนหน่ึงส่วนใดหรือท้ังหมดแล้วแต่กรณีไว้ก่อน
จนกว่าผู้รับจ้างจะปฏิบัติใหถ้ ูกต้องตามคาสั่งและให้รายงานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายให้
ทาหนา้ ทรี่ ับผิดชอบการบรหิ ารสัญญาหรอื ขอ้ ตกลงและการตรวจรับพสั ดุท่เี ป็นงานจา้ งก่อสร้างทันที
(๒) ในกรณีท่ีปรากฏว่าแบบรูปรายการละเอียดหรือข้อกาหนดในสัญญามีข้อความขัดกันหรือเป็นท่ี
คาดหมายได้ว่า ถึงแม้ว่างานน้ันจะได้เป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกาหนดในสัญญาแตเ่ ม่ือสาเร็จแล้ว
จะไม่มั่นคงแข็งแรง หรือไม่เป็นไปตามหลักวิชาช่างท่ีดี หรือไม่ปลอดภัยให้สั่งพักงานน้ันไว้ก่อน แล้วรายงาน
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผทู้ ี่ได้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ีรับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการ
ตรวจรับพสั ดทุ ่ีเปน็ งานจ้างกอ่ สร้างโดยเรว็
(๓) จดบันทึกสภาพการปฏิบัติงานของผู้รับจ้างและเหตุการณ์แวดล้อมเป็นรายวัน พร้อมท้ังผลการ
ปฏิบัติงานหรือการหยุดงานและสาเหตุท่ีมีการหยุดงานอย่างน้อย ๒ ฉบับ เพ่ือรายงานให้คณะกรรมการตรวจรับ
พัสดุหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ีรับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุท่ีเป็น
งานจ้างก่อสร้างทราบทุกสัปดาห์และเก็บรักษาไว้เพ่ือมอบให้แก่เจ้าหน้าท่ีเมื่อเสร็จงานแต่ละงวด โดยถือว่าเป็น
เอกสารสาคัญของทางราชการเพ่อื ประกอบการตรวจสอบของผู้มหี นา้ ที่
การบันทกึ การปฏบิ ัติงานของผูร้ ับจา้ งใหร้ ะบุรายละเอียดขน้ั ตอนการปฏบิ ัตงิ านและวสั ดทุ ่ใี ช้ด้วย
(๔) ในวันกาหนดเร่ิมงานของผู้รับจ้างตามสัญญาและในวันถึงกาหนดส่งมอบงานแต่ละงวด
ให้รายงานผลการปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง ว่าเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ท่ีได้รับ
มอบหมายให้ทาหน้าที่รับผิดชอบการบริหารสญั ญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุที่เป็นงานจ้างก่อสรา้ งทราบ
ภายใน ๓ วันทาการ นบั แตว่ ันถงึ กาหนดน้ันๆ
ข้อ ๑๘๑ กรณีท่ีสัญญาหรือข้อตกลงได้ครบกาหนดส่งมอบแล้วและมีค่าปรับเกิดขึ้นให้หน่วยงาน
ของรัฐ แจ้งการเรียกค่าปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงจากคู่สัญญาภายใน ๗ วันทาการ นับถัดจากวันครบกาหนด
ส่งมอบ และเม่ือคู่สัญญาได้ส่งมอบพัสดุให้หน่วยงานของรัฐบอกสงวนสิทธิ์การเรียกค่าปรับในขณะท่ีรับมอบพัสดุ
น้ันดว้ ย
ข้อ ๑๘๒ การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญาหรือการขยายเวลาทาการตามสัญญาหรือข้อตกลง
ตามมาตรา ๑๐๒ ในกรณีที่มีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐ หรือเหตุสุดวิสัย
หรือเกิดจากพฤตกิ ารณ์อันหน่ึงอันใดท่ีค่สู ัญญาไม่ต้องรบั ผิดตามกฎหมาย หรือเหตุอนื่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ทาให้คสู่ ญั ญาไม่สามารถส่งมอบส่ิงของหรืองานตามเง่ือนไขและกาหนดเวลาแหง่ สญั ญาได้ ให้หน่วยงานของรัฐระบุ
ไว้ในสัญญาหรือข้อตกลง กาหนดให้คู่สัญญาต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้หน่วยงานของรัฐทราบภายใน ๑๕ วัน นับถัด
จากวันท่ีเหตุนั้นได้ส้ินสุดลงหรือตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง หากมิได้แจ้งภายในเวลาท่ีกาหนดคู่สัญญาจะยก
คู่มือการปฏิบตั ิงาน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 35
มากล่าวอา้ งเพื่อของดหรือลดค่าปรบั หรือขอขยายเวลาในภายหลังมไิ ด้ เว้นแต่กรณีเหตุเกิดจากความผิดหรือความ
บกพรอ่ งของหนว่ ยงานของรัฐซึ่งมีหลกั ฐานชดั แจ้งหรอื หนว่ ยงานของรัฐทราบดอี ยู่แลว้ ตง้ั แตต่ น้
ขอ้ 183 นอกจากการบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลงตามมาตรา ๑๐๓ หากปรากฏว่าคู่สัญญา
ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือข้อตกลงได้ และจะต้องมีการปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงนั้น หากจานวนเงิน
ค่าปรับจะเกินร้อยละสิบของวงเงินค่าพัสดุหรือค่าจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาดาเนินการบอกเลิกสัญญา
หรือข้อตกลง เว้นแต่คู่สัญญาจะได้ยินยอมเสียค่าปรับให้แก่หน่วยงานของรัฐโดยไม่มีเง่ือนไขใดๆ ท้ังสิ้น ให้หัวหน้า
หนว่ ยงานของรัฐพิจารณาผ่อนปรนการบอกเลิกสญั ญาได้เทา่ ทจี่ าเปน็
ขอ้ ๑๘๗ กรณีที่หนว่ ยงานของรฐั มิไดเ้ ปน็ ฝา่ ยบอกเลิกสญั ญาหรือข้อตกลงหรอื การบอกเลิกสัญญาหรือ
ข้อตกลงน้ัน เป็นกรณีที่หน่วยงานของรัฐมิได้เรียกค่าปรับแล้วแต่กรณี หากคู่สัญญาเห็นว่าหน่วยงานของรัฐ
ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายคู่สัญญาจะย่ืนคาขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณาชดใช้ค่าเสียหายก็ได้ตามความ
ในมาตรา ๑๐๓ วรรคสาม โดยมีหลกั เกณฑด์ ังน้ี
(๑) ให้คู่สัญญายื่นคาขอมายังหน่วยงานของรัฐคู่สัญญาภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่ได้มีการบอก
เลิกสัญญา
(๒) คาขอต้องทาเป็นหนังสือลงลายมือช่ือผู้ร้องและระบุข้อเท็จจริงและเหตุผลอันเป็นเหตุแห่งการ
เรยี กร้องใหช้ ัดเจนพรอ้ มแนบเอกสารหลักฐานทีเ่ กี่ยวข้องไปด้วย
(๓) หน่วยงานของรัฐต้องออกใบรับคาขอให้ไว้เป็นหลักฐานและพิจารณาคาขอน้ันให้แล้วเสร็จภายใน
๖๐ วนั นับถัดจากวนั ท่ีได้รบั คาขอ หากไม่อาจพิจารณาได้ทันในกาหนดน้ันให้ขอขยายระยะเวลาออกไปต่อหัวหน้า
หนว่ ยงานของรฐั ไดไ้ มเ่ กิน ๑๕ วัน นบั ถดั จากวนั ครบกาหนดเวลาดงั กล่าว
(๔) ให้หนว่ ยงานของรัฐแตง่ ต้ังคณะกรรมการพิจารณาความเสยี หายและใหท้ าหน้าทตี่ ามขอ้ ๑๘๙
(๕) ให้หน่วยงานของรัฐแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือไปยังคู่สัญญาเม่ือพิจารณาคาร้องแล้วเสร็จ
ภายใน ๗ วันทาการ นับถัดจากวันที่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นชอบด้วยกับผลการพิจารณา เม่ือหน่วยงาน
ของรัฐมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเป็นเช่นใดแล้ว หากคู่สัญญายังไม่พอใจในผลการพิจารณาก็ให้มีสิทธิฟ้องคดี
ต่อศาลเพ่ือเรยี กให้ชดใช้ค่าเสยี หายตามสญั ญาต่อไป
ข้อ ๑๘๘ ให้หน่วยงานของรัฐแต่งต้ังคณะกรรมการคณะหน่ึงเรียกว่า “คณะกรรมการพิจารณา
ความเสียหาย” ประกอบด้วยประธานกรรมการ ๑ คน และกรรมการอยา่ งน้อย ๒ คน โดยใหแ้ ตง่ ต้ังจากข้าราชการ
ลูกจ้างประจา พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ
ท่ีเรียกชื่ออย่างอื่นภายในของหน่วยงานของรัฐนั้น ในกรณีจาเป็นหรือเพ่ือประโยชน์ในการพิจารณาวินิจฉัยจะ
แต่งตัง้ บุคคลอ่นื อกี ไม่เกนิ ๒คนร่วมเป็นกรรมการดว้ ยก็ได้
คมู่ ือการปฏบิ ัตงิ าน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 36
ขอ้ ๑๘๙ คณะกรรมการพิจารณาความเสยี หายมีหนา้ ท่ี ดังนี้
(๑) ตรวจสอบรายละเอยี ดข้อเท็จจริงตามคาร้องของคูส่ ัญญา
(๒) ในกรณีจาเป็นจะเชิญคู่สัญญาหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในเร่ืองนั้นมาสอบถามหรือให้ข้อเท็จจริง
ในส่วนทเี่ กย่ี วข้องได้
(๓) พจิ ารณาค่าเสยี หายและกาหนดวงเงนิ คา่ เสยี หายทเ่ี กดิ ขึ้น (ถ้ามี)
(๔) จัดทารายงานผลการพิจารณาตาม (๑) ถึง (๓) พรอ้ มความเหน็ เสนอหวั หนา้ หน่วยงานของรฐั
การพิจารณาค่าเสียหายตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ
วินิจฉัยกาหนดและในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องชดใช้ค่าเสียหายและมีวงเงิน
ค่าเสียหายครั้งละเกิน ๕๐,๐๐๐ บาท ให้หน่วยงานของรัฐจัดทารายงานความเห็นเสนอกระทรวงการคลัง
เพอ่ื พจิ ารณาให้ความเห็นชอบท้งั น้ีหลกั เกณฑว์ ธิ กี ารรายงานใหเ้ ปน็ ไปตามท่กี ระทรวงการคลังกาหนด
บัญชีเอกสารแนบท้ายกาหนดประเภทของผู้มีอานาจเหนือขึ้นไปหน่ึงชั้นตามความในระเบียบกระทรวง
การคลงั วา่ ดว้ ยการจดั ซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐
(5) มหาวทิ ยาลยั ในกากับของรัฐ
ผูม้ อี านาจเหนอื ขน้ึ ไปหนงึ่ ชนั้ ไดแ้ ก่ สภามหาวทิ ยาลัย
6) พระราชบัญญัตคิ วบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และให้มีอานาจ
ออกกฎกระทรวง…
(๓) กาหนดกจิ การอืน่ เพอื่ ปฏิบัติการตามพระราชบญั ญัตินี้
กฎกระทรวงนนั้ เมือ่ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลว้ ใหใ้ ชบ้ งั คบั ได้
มาตรา ๘ เพ่ือประโยชนแ์ ห่งความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การปอ้ งกนั อัคคีภัย การสาธารณสุข
การรกั ษาคุณภาพส่ิงแวดล้อม การผงั เมอื ง การสถาปัตยกรรม และการอานวยความสะดวกแก่การจราจร ตลอดจน
การอ่ืนท่ีจาเป็นเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีโดยคาแนะนาของคณะกรรมกาควบคุมอาคาร
มีอานาจออกกฎระทรวงกาหนด
(๑๓) หน้าท่ีและความรับผิดชอบของผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน ผู้ดาเนินการผู้ครอบครองอาคาร และ
เจ้าของอาคาร
7) กฎกระทรวง กาหนดหน้าท่ีและความรับผิดชอบของผู้ออกแบบผู้ควบคุมงาน ผู้ดาเนินการ
ผ้คู รอบครองอาคาร และเจา้ ของอาคาร พ.ศ. ๒๕๖๑
ข้อ ๓ ผ้อู อกแบบมีหน้าที่และความรับผดิ ชอบ ดังตอ่ ไปน้ี
(๑) ออกแบบและจัดทารายละเอียดในการออกแบบที่ชัดเจนและสามารถนาไปใช้ในการดาเนินการ
กอ่ สร้าง ดัดแปลง รอ้ื ถอน หรือเคลือ่ นยา้ ยอาคารได้ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการที่พงึ กระทาตามวชิ าชีพ
คู่มอื การปฏบิ ตั ิงาน การบริหารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สรา้ ง 37
(๒) ระบุค่าน้าหนักบรรทุกจรแต่ละพื้นท่ีของอาคารท่ีใช้ในการคานวณโครงสร้างอาคารไว้ใน
แบบแปลนโครงสร้างพื้นช้ันต่างๆ ในกรณีท่ีเป็นการออกแบบอาคารสาธารณะที่มีพื้นที่ต้ังแต่หนึ่งพันตารางเมตร
ขน้ึ ไป อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาดใหญพ่ เิ ศษ และอาคารประเภทควบคุมการใช้ซ่งึ ไดค้ านวณออกแบบ
โครงสร้างอาคารโดยใช้นา้ หนักบรรทุกจรสงู กว่าอตั ราทีก่ ฎหมายกาหนด
(๓) ระบุค่าที่ใช้ในการคานวณงานวิศวกรรมระบบความปลอดภัยอื่นๆ ท่ีมีเกณฑ์สูงกว่าที่กฎหมาย
วา่ ดว้ ยการควบคมุ อาคารกาหนดไวใ้ นแบบแปลนอาคาร
(๔) รบั ผิดชอบในส่วนท่ีเปน็ ผลตอ่ เนือ่ งจากการออกแบบ ดดั แปลง หรือรื้อถอนอาคารน้ัน
(๕) กาหนดมาตรการเพื่อป้องกันภยันตรายที่อาจเกิดต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกายของบุคคล
หรือทรัพย์สิน ท่ีอยู่ในสถานที่ก่อสร้าง และบริเวณข้างเคียงให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
และกฎหมายอ่นื ทีเ่ กีย่ วข้อง
ขอ้ ๔ ผู้ควบคุมงานมีหนา้ ที่และความรับผิดชอบ ดงั ต่อไปนี้
(๑) อานวยการหรือควบคุมการก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร และการติดตั้ง
อุปกรณ์ต่างๆ ท่ีใช้ประกอบอาคาร ให้เป็นไปตามแบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต
ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารทพี่ ึงกระทาตามวชิ าชีพ
(๒) อานวยการหรือควบคุมให้มีการป้องกันภยันตรายที่อาจเกิดต่อสุขภาพชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สิน
ในสถานท่ีก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร และบริเวณข้างเคียงให้เป็นไปตามแผนงานข้ันตอน
และวิธกี ารท่ผี ู้ดาเนนิ การกาหนดไว้
8) ระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2)
พ.ศ. 2549
ขอ้ 7 ในกรณีที่มีความจาเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรายการ วงเงิน ระยะเวลา หรือรายละเอียดของ
รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณท่ีได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
ดาเนนิ การ ดังน้ี
(1) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหน้ีผูกพันให้ทาความตกลงกับ
สานกั งบประมาณ
(2) การขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน ให้เสนอต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัด
และรายงานสานักงบประมาณทราบภายในสิบหา้ วนั นับแต่วันทไี่ ดร้ ับอนมุ ตั ิ
(3) การเปล่ียนแปลงรายการหรือการเพ่ิมวงเงินก่อหน้ีผูกพันเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
ให้เสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยต้องจัดส่งผลการจัดซ้ือจัดจ้างหรือรายละเอียดอ่ืนใดท่ีเก่ียวข้อง ให้สานัก
งบประมาณพจิ ารณาเพ่ือเสนอความเห็น ประกอบการพิจารณาของคณะรฐั มนตรดี ้วย
ให้สานักงบประมาณมีอานาจกาหนด หลักเกณฑ์ เงื่อนไข หรือวิธีปฏิบัติเก่ียวกับการเปลี่ยนแปลง
รายละเอยี ดของรายการก่อหน้ีผกู พนั ตาม (1) ได้ตามความเหมาะสม
คมู่ ือการปฏิบัติงาน การบริหารสญั ญาก่อสร้างในระหว่างการดาเนนิ การกอ่ สร้าง 38
9) หนงั สือสานกั งบประมาณ ที่ นร 0704/ว.78 ลงวนั ที่ 15 สงิ หาคม 2554 เรื่อง ซอ้ มความเข้าใจ
เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติในการเปล่ียนแปลงรายละเอียดของรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโดยไม่เพิ่มวงเงิน
กอ่ หนี้ผกู พนั
สานักงบประมาณขอเวียนซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติในการเปล่ียนแปลงรายละเอียด
ของรายการก่อหน้ีผูกพันข้ามปีงบประมาณ โดยไม่เพ่ิมวงเงินก่อหน้ีผูกพัน ตามท่ีได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
และหรอื ที่ได้รับความเห็นชอบจากสานกั งบประมาณแล้ว ใหถ้ ือปฏบิ ัตดิ ังนี้
2. การเปล่ียนแปลงรายละเอียดของรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ภายหลังการลงนาม
ในสัญญาแล้ว เฉพาะกรณีที่มีความจาเป็นต้องดาเนินการเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายตามท่ีได้รับ
จัดสรรงบประมาณ และจะต้องเป็นกรณีที่ทาให้ประโยชน์ในการใช้งานเพ่ิมขึ้นหรือไม่ทาให้ประโยชน์ในการใช้งาน
ลดลงในสาระสาคัญ ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้ารัฐวิสาหกิจ พิจารณาดาเนินการได้โดยไม่ต้องขอทาความ
ตกลงกับสานกั งบประมาณ ในกรณีดังน้ี
2.1 การแก้ไขข้อความท่ีพิมพ์ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ตกหล่น ให้ถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริง ที่ได้รับ
อนุมัติจากคณะรัฐมนตรีหรือที่ได้รับความเห็นชอบจากสานักงบประมาณ แล้วแต่กรณี ทั้งน้ี หัวหน้าส่วนราชการ
หรือรัฐวิสาหกิจจะต้องสามารถแสดงหลักฐานได้ว่าการแก้ไขดังกล่าวเกิดจากการพิมพ์ผิดพลาดคลาดเคลื่อน
ตกหล่นอยา่ งชัดเจน
2.2 เปลี่ยนแปลงประเภทงบรายจ่าย เพื่อให้ถูกต้องตามหลักการจาแนกประเภทรายจ่ายที่
สานักงบประมาณกาหนด โดยไม่มีผลทาให้เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของรายการก่อหน้ีผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามทไี่ ดร้ ับอนุมัตไิ วเ้ ดิม
2.3 การเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ (Specification) ที่ไม่มีผลกระทบต่อประโยชน์
การใช้งาน (Capacity) ของรายการครุภัณฑ์ลดลง หรือไม่มีผลเป็นการเปล่ียนแปลงประเภทหรือปริมาณครุภัณฑ์
ที่ได้รบั อนุมัตใิ ห้ก่อหนีผ้ กู พนั ขา้ มปงี บประมาณจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
2.4 การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดแบบรูปรายการสิ่งก่อสร้าง เพ่ือให้เหมาะสมกับสภาพพ้ืนท่ีท่ีจะ
ดาเนินการก่อสร้าง หรือที่มีผลทาให้ประโยชน์การใช้งานเพ่ิมข้ึน หรือไม่ทาให้ประโยชน์การใช้งานลดลง
ในสาระสาคัญ ปรากฏตามตัวอย่างสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ทั้งน้ี ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้ารัฐวิสาหกิจ
รับความเห็นจากผู้ควบคมุ งานหรอื คณะกรรมการตรวจการจา้ งมาประกอบการพจิ ารณาดาเนินการด้วย
5. การเปลี่ยนแปลงสถานที่ดาเนินการรายการค่าที่ดินหรือค่าส่ิงก่อสร้าง ให้ส่วนราชการหรือ
รัฐวิสาหกิจขอทาความตกลงกับสานกั งบประมาณก่อน
6. เมื่อส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจได้ดาเนินการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการก่อหน้ีผูกพัน
ข้ามปีงบประมาณโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันตามข้อ 1. – ข้อ 3. แล้ว ให้รายงานสานักงบประมาณภายใน
15 วันทาการ นับจากวันที่ได้ดาเนินการเปล่ียนแปลงรายละเอียดของรายการแล้ว พร้อมท้ังสาเนาแจ้ง
กรมบญั ชกี ลาง และสานกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดินทราบด้วย
คูม่ ือการปฏิบัติงาน การบริหารสญั ญากอ่ สรา้ งในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสร้าง 39
7. การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการก่อหน้ีผูกพันข้ามปีงบประมาณนอกเหนือจากท่ีกาหนดไว้
ในข้อ 1. – ข้อ 4 ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจขอทาความตกลงกับสานักงบประมาณ ตามนัยข้อ 7 (1)
ของระเบียบการกอ่ หนผ้ี ูกพันขา้ มปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 และทแี่ กไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2549
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่ส่วนราชการหรือ
รัฐวิสาหกิจ ดาเนินการได้โดยไม่ต้องทาความตกลงกับสานักงบประมาณดังกล่าว ถือเป็นความรับผิดชอบของ
หวั หนา้ ส่วนราชการหรอื หัวหนา้ รัฐวิสาหกิจ ทจี่ ะตอ้ งพิจารณาดาเนินการโดยคานึงถงึ ประโยชนข์ องทางราชการเป็น
สาคัญ และต้องควบคุมดูแลให้เป็นไปตามความจาเป็น เหมาะสม อย่างโปร่งใส คุ้มค่าและประหยัด รวมทั้ง
ดาเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีท่ีเกี่ยวข้อง รวมท้ังมาตรฐานของ
ทางราชการอยา่ งเครง่ ครดั ด้วย
ตัวอย่างการเปล่ียนแปลงรายละเอียดแบบรูปรายการส่ิงก่อสร้างตามประเภทงานก่อสร้าง
แนบทา้ ยหนังสอื สานักงบประมาณ ท่ี นร 0704/ว.78 ลงวนั ที่ 15 สงิ หาคม 2554
การเปล่ี ยนแปล งรายล ะเอียดแบบรูปรายการส่ิงก่อส ร้าง ที่ส่ วนราชการแล ะรัฐ วิส าหกิจส ามารถ
ดาเนินการได้ จะต้องมีลักษณะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพ่ือให้เหมาะสมกับสภาพพ้ืนที่ที่จะดาเนินการก่อสร้าง หรือ
การเปลี่ยนแปลงประเภท ชนิด ปริมาณ ของวัสดุก่อสร้างให้เหมาะสมย่ิงข้ึน โดยไม่มีลักษณะเป็นการเพ่ิม/ลด
จานวนหนว่ ยของส่ิงก่อสร้าง และมิได้มีผลกระทบทาให้เปลย่ี นแปลงสาระสาคญั ของประโยชน์การใช้งานสง่ิ ก่อสร้าง
ให้ลดลงไปจากที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีหรือสานักงบประมาณแล้วแต่กรณี โดยตัวอย่างการเปล่ียนแปลง
แบบรปู รายการสิ่งก่อสร้างท่อี ย่ใู นอานาจของสว่ นราชการและรัฐวิสาหกจิ อาทิเช่น
- การเปลี่ยนแปลงงานก่อสร้างอาคาร เช่น ขนาดเสาเข็ม ความยาว ความกว้าง ความสูง ของอาคาร
ท่ีไม่กระทบต่อความมน่ั คงแขง็ แรงของสง่ิ ก่อสรา้ งและไมท่ าใหป้ ระโยชนก์ ารใชง้ านลดลง
- การเปลี่ยนแปลงงานทางและงานสะพาน เช่น ระยะทาง ความยาว ความกว้าง ความหนา
ความลาด ของทางและสะพาน ทไ่ี ม่ทาให้วัตถุประสงคก์ ารใช้งานลดลง
- การเปลี่ยนแปลงงานชลประทาน เช่น ความยาว ความกว้าง ความลึก ความหนา ความลาด
ของสิง่ กอ่ สรา้ งงานชลประทานทีไ่ ม่มผี ลกระทบต่อความมน่ั คงแข็งแรงของงานชลประทาน
- การเปลี่ยนแปลงงานวางท่อ เช่น ชนิดของท่อ ระยะทาง ความยาว ความกว้าง ขนาด
เส้นผา่ ศนู ยก์ ลางของท่อ
ทั้งน้ี การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการส่ิงก่อสร้างให้หัวหน้าส่วนราชการ และ
หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ รับความเห็นจากผู้ควบคุมงานหรือคณะกรรมการตรวจการจ้างมาประกอบการพิจารณา
ดาเนนิ การด้วย
หมายเหตุ การเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายการสิ่งก่อสร้างตามประเภทงานก่อสร้างดังกล่าวข้างต้น
เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นเท่านั้น ท้ังน้ี ในการพิจารณาดาเนินการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการก่อหน้ีผูกพัน
ข้ามปีงบประมาณของหัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้ารัฐวิสาหกิจตามหนังสือซ้อมความเข้าใจฉบับนี้ จะต้อง
พิจารณาข้อเท็จจริงและบริบทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณาดาเนินการเป็นรายกรณี โดยคานึงถึง
คมู่ ือการปฏิบัติงาน การบรหิ ารสญั ญากอ่ สร้างในระหวา่ งการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 40
ประโยชน์ของทางราชการ หรือทาให้ประโยชน์การใช้งานของส่ิงก่อสร้างเพ่ิมข้ึน และจะต้องไม่ทาให้ประโยชน์
การใช้งานลดลงในสาระสาคัญจากที่ได้รับอนมุ ตั ิไว้เดิม
10) ข้อกาหนดสัญญาจ้างก่อสร้าง ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการจัดซ้ือจัดจ้างและ
การบริหารพัสดุภาครัฐเรื่อง แบบสัญญาเก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจ้างตามพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและ
การบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐
ขอ้ 3 คณะกรรมการนโยบายการจัดซ้ือจัดจ้างภาครฐั จงึ กาหนดแบบสญั ญาโดยความเห็นชอบของ
สานกั งานอยั การสูงสดุ จานวน 14 สัญญา ดังนี้
(1) แบบสญั ญาจา้ งก่อสร้าง
ข้อกาหนดของสญั ญาตามแบบสญั ญาจา้ งก่อสร้าง
ขอ้ ๑ ขอ้ ตกลงวา่ จ้าง
ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทางาน……………………..……….…….……….…...….………....
ณ …..……………................... ตาบล/แขวง….…………………………….…….. อาเภอ/เขต....................…………..…………..…
จังหวดั ……………………….……….….. ตามข้อกาหนดและเงือ่ นไขแหง่ สัญญานีร้ วมทัง้ เอกสารแนบท้ายสญั ญา
ผู้รับจ้างตกลงที่จะจัดหาแรงงานและวัสดุ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆชนิดดี
เพอ่ื ใช้ในงานจา้ งตามสญั ญาน้ี
ขอ้ ๒ เอกสารอันเปน็ สว่ นหน่ึงของสญั ญา
เอกสารแนบทา้ ยสญั ญาดงั ตอ่ ไปน้ีให้ถือเป็นสว่ นหนึ่งของสัญญาน้ี
๒.๑ ผนวก ๑ .…….….(แบบรูป)……........…......….......….จานวน.…..(…..…….….) หนา้
๒.๒ ผนวก ๒ ………...(รายการละเอียด)…….....……....... จานวน.…..(…..…….….) หน้า
๒.๓ ผนวก ๓ ….........(ใบแจ้งปรมิ าณงานและราคา)..... จานวน.…..(…..…….….) หน้า
๒.๔ ผนวก ๔ …….…..(ใบเสนอราคา)….........………….....จานวน.…..(…..…….….) หนา้
…………..……………..……ฯลฯ……….………..……………
ความใดในเอกสารแนบท้ายสัญญาท่ีขัดหรือแย้งกับข้อความในสัญญานี้ ให้ใช้ข้อความ
ในสัญญาน้ีบังคับ และในกรณีท่ีเอกสารแนบท้ายสัญญาขัดแย้งกันเอง ผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติตามคาวินิจฉัยของ
ผู้ว่าจ้าง คาวินิจฉัยของผู้ว่าจ้างให้ถือเป็นท่ีสุด และผู้รับจ้างไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้าง ค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ
เพิ่มเตมิ จากผวู้ ่าจา้ งท้งั ส้ิน
คูม่ อื การปฏบิ ตั ิงาน การบริหารสญั ญากอ่ สร้างในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 41
ข้อ ๔ คา่ จา้ งและการจา่ ยเงิน
(สาหรับสัญญาที่เป็นราคาเหมารวม)
ผู้ ว่ า จ้ า ง ต ก ล ง จ่ า ย แ ล ะ ผู้ รั บ จ้ า ง ต ก ล ง รั บ เ งิ น ค่ า จ้ า ง จ า น ว น เ งิ น …………………………..บาท
(………………………………..…) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จานวน…………..…….………บาท (..........................................)
ตลอดจนภาษีอากรอื่นๆ และค่าใช้จ่ายทั้งปวงด้วยแล้ว โดยถือราคาเหมารวมเป็นเกณฑ์ และกาหนดการจ่ายเงิน
เป็นงวดๆ ดงั น้ี
งวดท่ี ๑ เป็นจานวนเงิน……………….………...บาท (…………………………………...………….)
เมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงาน………………………………………………………………………ให้แล้วเสร็จ
ภายใน………………………………………………….
งวดท่ี ๒ เป็นจานวนเงิน…….………………...บาท (…………………………………...………….)
เ ม่ื อ ผู้ รั บ จ้ า ง ไ ด้ ป ฏิ บั ติ ง า น ………………………………………………………..…..……ใ ห้ แ ล้ ว เ ส ร็ จ
ภายใน………………………………………………….
..............................................ฯลฯ.............................................
งวดสุดท้าย เป็นจานวนเงนิ ……………..………....บาท (…………………………………...….…..)
เม่อื ผรู้ บั จ้างไดป้ ฏิบัติงานท้งั หมดให้แลว้ เสร็จเรียบร้อยตามสญั ญา รวมทงั้ ทาสถานท่ีก่อสร้าง
ให้สะอาดเรียบร้อยตามท่กี าหนดไวใ้ นขอ้ ๒๐
ข้อ ๗ กาหนดเวลาแล้วเสร็จและสิทธขิ องผู้วา่ จา้ งในการบอกเลิกสญั ญา
ผู้รับจ้างต้องเริ่มทางานที่รับจ้างภายในวันที่ ….... เดือน ..………….…………… พ.ศ. …….......
และจะตอ้ งทางานใหแ้ ลว้ เสรจ็ บรบิ รู ณ์ภายในวันท่ี ….... เดอื น ..………….….. พ.ศ. ...…... ถ้าผรู้ ับจา้ งมิไดล้ งมือทางาน
ภายในกาหนดเวลา หรือไม่สามารถทางานให้แล้วเสร็จตามกาหนดเวลา หรือมีเหตุให้เช่ือได้ว่าผู้รับจ้างไม่สามารถ
ทางานให้แล้วเสร็จภายในกาหนดเวลา หรือจะแล้วเสร็จล่าช้าเกินกว่ากาหนดเวลาหรือผู้รับจ้างทาผิดสัญญาข้อใด
ข้อหน่ึง หรือตกเป็นผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด หรือตกเป็นผู้ล้มละลาย หรือเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของ
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ควบคุมงานหรือบริษัทที่ปรึกษาซึ่งได้รับมอบอานาจจากผู้ว่าจ้าง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ
ท่ีจะบอกเลิกสัญญานี้ได้ และมีสิทธิจ้างผ้รู ับจา้ งรายใหม่เข้าทางานของผูร้ ับจ้างให้ลุล่วงไปด้วย การใช้สิทธิบอกเลิก
สัญญานน้ั ไมก่ ระทบสทิ ธิของผ้วู า่ จา้ งท่ีจะเรียกรอ้ งค่าเสยี หายจากผูร้ บั จา้ ง
การท่ีผู้ว่าจ้างไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญาดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิด
ตามสญั ญา
ข้อ ๑๐ การควบคมุ งานของผู้รับจา้ ง
ผู้รับจา้ งจะตอ้ งควบคมุ งานท่รี ับจ้างอยา่ งเอาใจใส่ ดว้ ยประสทิ ธิภาพและความชานาญและใน
ระหว่างทางานท่ีรับจ้างจะต้องจัดให้มีผู้แทนซึ่งทางานเต็มเวลาเป็นผู้รับผิดชอบควบคุมงานของผู้รับจ้าง ผู้แทน
ดังกล่าวจะต้องได้รับมอบอานาจจากผู้รับจ้าง คาสั่งหรือคาแนะนาต่างๆ ท่ีผู้ว่าจ้างคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
ผู้ควบคุมงาน หรือบริษัทที่ปรึกษาท่ีผู้ว่าจ้างแต่งตั้งได้แจ้งแก่ผู้แทนเช่นว่านั้นให้ถือว่าเป็นคาสั่งหรือคาแนะนาที่ได้
คู่มือการปฏิบตั งิ าน การบริหารสญั ญากอ่ สร้างในระหว่างการดาเนนิ การก่อสรา้ ง 42
แจ้งแก่ผู้รับจ้าง การแต่งต้ังผู้แทนตามข้อน้ีจะต้องทาเป็นหนังสือและต้องได้รับความเห็นชอบเป็นหนังสือจาก
ผ้วู า่ จ้าง การเปลย่ี นตวั หรือแตง่ ตง้ั ผูแ้ ทนใหม่จะทามไิ ด้หากไม่ได้รบั ความเห็นชอบเปน็ หนงั สือจากผู้วา่ จ้างก่อน
ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะขอให้เปล่ียนตัวผู้แทนตามวรรคหนึ่ง โดยแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้รับจ้าง
และผู้รับจ้างจะต้องทาการเปล่ียนตัวผู้แทนนั้นโดยพลัน โดยไม่คิดค่าจ้างหรือราคาเพ่ิมหรืออ้างเป็นเหตุเพ่ือขยาย
อายสุ ญั ญาอันเนอ่ื งมาจากเหตุน้ี
ข้อ ๑๑ ความรับผิดของผรู้ ับจ้าง
ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่ออุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือภยันตรายใดๆ อันเกิดจากการ
ปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง และจะต้องรับผิดต่อความเสียหายจากการกระทาของลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับจ้าง
และจากการปฏบิ ัติงานของผู้รบั จ้างชว่ งดว้ ย (ถา้ ม)ี
ความเสียหายใดๆ อันเกิดแก่งานที่ผู้รับจ้างได้ทาขึ้น แม้จะเกิดข้ึนเพราะเหตุสุดวิสัยก็ตาม
ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบโดยซ่อมแซมให้คืนดีหรือเปลี่ยนให้ใหม่โดยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง เว้นแต่ความ
เสียหายน้ันเกดิ จากความผิดของผวู้ ่าจา้ ง ทงั้ น้ี ความรบั ผดิ ของผ้รู ับจ้างดังกล่าวในข้อนจ้ี ะส้นิ สุดลงเมื่อผวู้ ่าจา้ งได้รับ
มอบงานคร้ังสุดท้าย ซ่ึงหลังจากนั้นผู้รับจ้างคงต้องรับผิดเพียงในกรณีชารุดบกพร่องหรือความเสียหายดังกล่าวใน
ข้อ ๘ เท่านนั้
ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการปฏิบัติงาน
ของผูร้ บั จ้าง หรอื ลกู จ้างหรือตัวแทนของผู้รบั จ้าง รวมถึงผรู้ บั จ้างช่วง (ถา้ ม)ี ตามสญั ญาน้ี หากผูว้ ่าจา้ งถูกเรียกร้อง
หรือฟ้องร้องหรือต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องดาเนินการใดๆเพื่อให้มีการ
ว่าต่างแก้ต่างให้แก่ผู้ว่าจ้างโดยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง รวมทั้งผู้รับจ้างจะต้องชดใช้ค่าเสียหายนั้นๆ ตลอดจน
ค่าใชจ้ า่ ยใดๆ อันเกิดจากการถูกเรยี กร้องหรอื ถูกฟ้องร้องใหแ้ กผ่ ูว้ า่ จ้างทันที
ข้อ ๑๓ การตรวจงานจ้าง
ถา้ ผวู้ ่าจา้ งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคมุ งาน หรือบรษิ ัทที่ปรกึ ษาเพ่ือควบคุม
การทางานของผู้รับจ้าง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน หรือบริษัทที่ปรึกษานั้นมีอานาจเข้าไปตรวจ
การงานในโรงงานและสถานที่ก่อสร้างได้ทุกเวลา และผู้รับจ้างจะต้องอานวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือ
ในการนนั้ ตามสมควร
การที่มีคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน หรือบริษัทท่ีปรึกษาน้ัน หาทาให้ผู้รับจ้าง
พ้นความรับผิดชอบตามสัญญานข้ี อ้ ใดข้อหนงึ่ ไม่
ข้อ ๑๔ แบบรปู และรายการละเอยี ดคลาดเคลื่อน
ผู้รับจ้างรับรองว่าได้ตรวจสอบและทาความเข้าใจในแบบรูปและรายการละเอียดโดยถ่ีถ้วน
แล้ว หากปรากฏว่าแบบรูปและรายการละเอียดน้ันผิดพลาดหรือคลาดเคล่ือนไปจากหลักการทางวิศวกรรมหรือ
ทางเทคนิค ผู้รับจ้างตกลงท่ีจะปฏิบัติตามคาวินิจฉัยของผู้ว่าจ้าง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุผู้ควบคุมงาน หรือ
บริษัทที่ปรึกษาท่ีผู้ว่าจ้างแต่งตั้ง เพ่ือให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์ คาวินิจฉัยดังกล่าวให้ถือเป็นที่สุด โดยผู้รับจ้างจะคิด
ค่าจ้าง ค่าเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายใดๆ เพิม่ ขึ้นจากผูว้ า่ จา้ ง หรือขอขยายอายสุ ญั ญาไม่ได้