5.5.2 หลอดฟลอู อเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp)
ในปจั จบุ นั นิยมใชห้ ลอดฟลูออเรสเซนตม์ าต่อใช้งาน เพราะมีประสทิ ธภิ าพในการใหแ้ สง
สว่างและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า เมอ่ื เทยี บกบั หลอดอินแคนเดสเซนต์
โครงสรา้ งหลอดฟลอู อเรสเซนต์
การต่อใชง้ าน
วงจรหลอดฟลูออเรสเซนต์น้นั นอกจากมสี ่วนประกอบภายในหลอดแกว้ แล้ว
ยังมีสว่ น ประกอบที่สาคญั ดงั นี้ คือ บลั ลาสต์ สตาร์ตเตอร์ และรางหลอด
- บลั ลาสต์ (Ballast)
สว่ นประกอบภายในบลั ลาสตม์ แี กนเหล็กแผ่นบาง ๆ มลี วดตัวนาพนั รอบ
แกนเหลก็ ทา หน้าทสี่ รา้ งแรงดันใหส้ ูงเพ่อื จดุ ไสห้ ลอดขณะต่อวงจร (หลอดยงั ไม่
สวา่ ง) และควบคุมกระแส ไฟฟา้ ใหไ้ หลคงที่ (ขณะหลอดสว่าง)
- สตารต์ เตอร์
ทาหน้าทตี่ อ่ วงจร เพื่อจดุ ไส้หลอด (หลอดยังไมส่ ว่าง) และตดั วงจรออกแบบ
อัตโนมตั ิ เพ่อื รักษาระดับแรงดนั ขณะหลอดสวา่ ง
- รางหลอด
เป็นตวั ยึดเพอื่ รองรับหลอดไฟฟ้า ทปี่ ลายทั้งสองขา้ งจะมฐี านหลอดเพ่อื
ใช้รองรบั ข้วั หลอดฟลอู อเรสเซนต์
วงจรการต่อใชง้ านของหลอดฟลอู อเรสเซนต์
วงจรสวติ ชบ์ นั ได
บา้ นเรอื นทเ่ี ป็นบา้ นสองช้ัน การเดนิ ขนึ้ -ลงระหวา่ งชน้ั บนและชัน้ ล่างในเวลากลางคนื ท่ี
บริเวณบนั ไดน้นั จะตอ้ งตดิ ต้ังหลอดไฟฟ้าเพ่ือใหแ้ สงสว่าง มิฉะน้ันอาจทาให้ตกบันไดเป็น
อันตรายได้ การตดิ ตั้งหลอดไฟฟ้านัน้ ต้องใชส้ วติ ช์สามทางเปน็ ตัวควบคมุ การเปิด-ปิด ของ
หลอดไฟฟ้า
วงจรการตอ่ ใช้สวติ ช์บนั ได
หนว่ ยท่ี7
อุปกรณ์ปอ้ งกันทางไฟฟา้
จดุ ประสงคก์ ารสอน
6.1 เขา้ ใจอปุ กรณ์ปอ้ งกนั ระบบไฟฟ้า
6.1.1 อธิบายเซอร์กิตเบรกเกอร์ (circuit breaker)
6.1.2 อธิบายฟวิ ส์ (fuse)
6.1.3 อธิบายเซฟตี้สวติ ช์ (Safety Switch)
6.1.4 อธบิ ายโหลดเซน็ เตอร์
6.1.5 อธบิ ายสวติ ชท์ ิชโิ น
6.1.6 อธบิ ายอุปกรณ์ปอ้ งกนั การลัดวงจรลงดิน
6.1.7 อธิบายรเี ลยป์ อ้ งกนั ทางไฟฟ้า
หน้าทข่ี องอุปกรณป์ อ้ งกนั กระแสเกิน
ปลดวงจรออกจากระบบทนั ที เม่ือเกดิ สภาวะผิดปกติในระบบไฟฟา้ อนั
เนื่องมาจาก
• การใช้โหลดเกิน
• กระแสลดั วงจร
• กระแสรั่วลงดิน
ชนดิ ของอปุ กรณ์ปอ้ งกันกระแสเกิน
• ฟิวส์ (Fuse)
• เซอรก์ ิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker)
ฟิวส์ (Fuse)
ขอ้ ดี • ราคาถกู
• พิกดั กระแสลดั วงจรสงู (Interrupting Capacity)
ขอ้ เสีย • ตอ้ งมสี ารองไว้เปลีย่ นเสมอ
• มโี อกาสที่จะปลดวงจรไมพ่ รอ้ มกันท้ัง 3 เฟส
a bc
เซอร์กติ เบรกเกอร์ (Circuit Breaker)
• พิกัดกระแสลัดวงจรต่ากวา่ ฟวิ ส์
• ราคาสูงกวา่ ฟิวส์
• สามารถตอ่ วงจรเขา้ ใหมไ่ ด้ทนั ที หลังจากแก้ปัญหาความผดิ ปกตใิ นระบบได้
แล้ว
วงจรระบบไฟฟ้า ภาวะกระแสรวั่ ลงดิน
สายเฟสชารุด เกิดสัมผสั กบั ทอ่ โลหะ
กระแสร่ัวลงดนิ
ฟิวส์ (Fuse)
• ทาหนา้ ท่ีเชอ่ื มตอ่ วงจรไฟฟ้าในสภาวะปกติ
- ปกติจะมีลกั ษณะเป็นกระบอกและมไี สฟ้ ิวส์ (fusible) ภายใน
- ความตา้ นทานของไส้ฟิวสม์ ีคา่ ตา่ มาก
- ไส้ฟวิ ส์มี 2 ลักษณะ คอื 1. Single - element
2. Dual - element
• เม่อื เกิดภาวะกระแสเกนิ ในวงจรไฟฟ้า ไสฟ้ วิ สจ์ ะขาด และ ปลดวงจรออกจากระบบ เพื่อเปน็
การปอ้ งกันสายไฟฟา้ และอุปกรณใ์ นระบบ
ฟวิ ส์ (ระบบแรงตา่ )
ประเภทของฟิวส์
แบ่งตามความไวในการปลดวงจร
1. ฟวิ ส์ทางานไว (Non-time Delay Fuses)
2. ฟวิ ส์หน่วงเวลา (Time Delay Fuses)
แบ่งตามความสามารถในการกาจดั กระแส
1. ฟิวส์จากัดกระแส (Current Limiting Fuses)
2. ฟวิ ส์ไม่จากดั กระแส (Non Current Limiting Fuses)
ฟิ วส์ทางานไว (Non-time Delay Fuse)
• โครงสร้างจะเป็นชนิดที่มี ไส้ฟิ วส์เพยี งชุดเดยี ว (Single Element Fuse)
• ไสฟ้ ิ วส์จะขาดเมื่อเกิดสภาวะโหลดเกินประมาณ 1 – 6 เท่า ของพิกดั กระแสฟิ วส์
• คา่ พิกดั กระแสลดั วงจรประมาณ 10 kA
ข้นั ตอนการทางานของฟิวสท์ างานไว
ภาวะโหลดเกนิ
(Over Load)
ข้นั ตอนการทางานของฟิ วส์ทางานไว
ภาวะลดั วงจร
(Shot Circuit)
ฟวิ ส์หนว่ งเวลา (Time Delay Fuse)
• เปน็ ฟวิ สช์ นิดที่มี ไสฟ้ วิ ส์ 2 ชุด (Double element Fuse) ต่ออนุกรมอยภู่ ายในกระบอกฟวิ ส์
เดยี วกนั
• ไสฟ้ ิวสจ์ ะขาดเมอ่ื เกดิ สภาวะลัดวงจรประมาณ 500 % ของพิกัดกระแสฟวิ ส์
• ไสฟ้ วิ ส์ท่ที าหนา้ ทปี่ ้องกนั เมื่อเกดิ สภาวะโหลดเกนิ จะขาดเมอื่ อณุ หภูมิภายในตัวฟวิ สม์ คี ่าประมาณ
140 oC
ขนาดฟิวสท์ ่ผี ลติ ตามมาตรฐานยโุ รป
พิกัดกระแสมี 2, 4, 6, 10, 16, 20, 25, 32, 35, 40, 50, 63, 80, 100, 125, 160, 200, 250, 315, 355,
400, 450, 500, 560, 630, 700, 800, 1000, 1250
ขนาดฟิวส์ ฐานฟิวส์ (A) ไส้ฟิวส์ (A)
00 100 6…100
0 160 6…160
1 250 80…250
2 400 125…400
3 630 315…630
4 100 500…1000
4a 1250 500…1250
Molded Case Circuit Breaker (MCCB)
Molded Case Circuit Breaker (MCCB)
Molded Case Circuit Breaker (MCCB)
• นยิ มใช้มากท่สี ดุ **
• ปอ้ งกันสายเมน สายป้อน และวงจรยอ่ ย
• มหี ลายขนาดให้เลือกใชง้ าน
• พกิ ดั กระแสลัดวงจรสูงพอสมควร
• ราคาไม่แพงมากนัก
Miniature Circuit Breaker (MCB)
Miniature Circuit Breaker (MCB)
• นิยมใชป้ ้องกนั สายวงจรยอ่ ย ( 5 – 10 kA)
• พิกัดกระแสลดั วงจรตา่
• ราคาถูก (100 กวา่ บาท)
• ติดตั้งในแผงควบคุมวงจรย่อย
Miniature Circuit Breaker (MCB)
มกั ตดิ ตัง้ ใน Consumer Unit
Miniature Circuit Breaker (MCB)
มกั ติดต้ังใน Load Center
Main Circuit Breaker Main Lug
สรุป การเลอื กใชช้ นดิ CB
Air CB
MCCB MCCB MCB
Thermal Trip
• แผ่นโลหะไบเมทัล 2 แผน่ ทาจากโลหะต่างชนิดกัน เกิดการโก่งตวั เมอื่ เกิดความรอ้ น
เนือ่ งจากกระแสไฟฟา้ ไหลผ่าน
• เหมาะกบั การใชป้ ้องกัน สภาวะโหลดเกนิ
• ความไวในการทรปิ ขึ้นกับ ปริมาณกระแส และ ระยะเวลา ท่กี ระแสไหลผา่ น
• ลกั ษณะการทรปิ แบบ Inverse Time Delay I 1
t
Thermal Trip
Thermal Trip
Magnetic Trip
• การทริปโดยอานาจสนามแม่เหลก็
• ทริปทนั ทีที่กระแสไหลถึงจุดที่ปรับต้งั ไว้
• เหมาะสาหรับการป้องกนั กระแสลดั วงจร
Magnetic Trip
Thermal - Magnetic Trip
• มีทั้งลักษณะการทรปิ จากความร้อนและจากอานาจสนามแม่เหล็ก
• เหมาะสมที่จะนามาใช้ในการป้องกนั โหลดเกนิ และปอ้ งกนั การลัดวงจร
• นิยมใช้มากท่สี ุด
Thermal - Magnetic Trip
Circuit Breaker แบบ Solid State Trip
Ampere Trip (AT)
• พิกัดกระแส handle rating ซง่ึ บอกให้ร้วู า่ สามารถทนกระแสใชง้ านในภาวะปกติได้
สูงสุดเทา่ ใด
• มักแสดงค่าไว้ท่ี name plate หรอื ดา้ มโยกของเบรคเกอร์
• มาตรฐานของ NEC 1990 paragraph240-6 กาหนดดงั น้ี
15 , 60 , 70 , 80 , 90 , 100 , 110 , 125 , 150 , 175 , 200 , 225 , 250 ,
300 , 350 , 400 , 450 , 600 , 700 , 800 , 1000 , 1200 , 1600 , 2000 , 2500 ,
3000 , 4000 , 5000 , 6000 A.
Ampere Frame (AF) / พิกดั กระแสโครง
• พิกดั การทนกระแสสูงสดุ ของเบรคเกอรใ์ นรนุ่ น้นั ๆ
• เซอรก์ ติ เบรกเกอร์ท่ีมขี นาด AF เดยี วกัน จะมขี นาดมิติ (กว้าง x ยาว x สูง) เท่ากัน
• สามารถเปลยี่ นพิกัด Ampere Trip ไดโ้ ดยท่ขี นาด (มิต)ิ ของเบรคเกอร์ยงั คงเท่าเดิม
• ค่า AF ตามมาตรฐาน NEMA มดี ังนี้
50 , 100 , 225 , 250 , 400 , 600 , 800 , 1000 , 1200 , 1600 , 2000 , 2500 ,
4000 , 5000 AF
Interrupting Capacity (IC)
• พิกดั การทนกระแสลัดวงจรสูงสดุ โดยปลอดภัยของเบรคเกอร์นั้นๆ
• ปกตกิ าหนดค่าการทนกระแสเปน็ kA.
• ค่า IC บอกใหร้ ้วู า่ เบรคเกอร์ทใ่ี ช้ มีความปลอดภยั มากนอ้ ยเพียงใด
• การเลอื กค่ากระแส IC จะตอ้ งรู้คา่ กระแสลัดวงจร ณ. จดุ นั้นๆ
การใช้เซอรก์ ิตเบรกเกอรเ์ ปน็ อปุ กรณ์สวิตช์
• มักเจอในวงจรยอ่ ยแสงสวา่ ง
• ใช้ Miniature Circuit Breaker เป็นอุปกรณส์ วติ ช์ ปิด-เปิดวงจรด้วย และ เป็นอปุ กรณ์
ปอ้ งกนั ในตัวเดยี วกัน
• สามารถทาได้ เมือ่ เซอร์กิตเบรกเกอรท์ ่ใี ช้ ต้องเป็นชนดิ ท่รี ะบวุ า่ สามารถใช้เป็นสวิตชไ์ ด้
พมิ พต์ ัวอกั ษร “SWD”ไว้
การใช้เซอร์กติ เบรกเกอรเ์ ป็นอปุ กรณส์ วติ ช์
หนว่ ยท่ี 10
การตรวจสอบและแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งของระบบและ
อปุ กรณไ์ ฟฟ้า
จดุ ประสงค์การสอน
10.1 เขา้ ใจการตรวจสอบและแกไ้ ขบกพรอ่ งของระบบและอปุ กรณไ์ ฟฟ้าในอาคาร
10.1.1 อธิบายเซอรก์ ิตเบรกเกอรแ์ รงตา่
10.1.2 อธบิ ายความเปน็ ฉนวนของสายไฟฟ้า
10.1.3 อธบิ ายรีเลยก์ ระแสเกิน
10.2 ปฏิบัติการตรวจสอบและแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งของหม้อแปลงไฟฟา้
10.2.1 อธิบายน้ามันหม้อแปลงไฟฟ้า
10.2.2 ปฏิบัติการตดิ ต้งั หม้อแปลงไฟฟ้า
10.2.3 ปฏบิ ตั กิ ารทดสอบนา้ มนั หมอ้ แปลงไฟฟ้า
10.2.4 อธบิ ายหลักปฏิบตั สิ าหรบั การบารงุ รักษาหม้อแปลง
10.1 การตรวจสอบและแกไ้ ขข้อบกพร่องของระบบและอุปกรณ์ไฟฟา้ ในอาคาร
อุปกรณ์ไฟฟ้าก็เหมือนกับเคร่ืองยนต์ เมื่อผ่านการใช้งานไปช่วงระยะเวลาหนึ่งจะต้องมีการ
ตรวจสอบสภาพการทางานมคี วามปลอดภยั มากนอ้ ยเพียงใด หากตรวจพบปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ควรหา
ทางแก้ไขก่อนท่ีจะลุกลามจนไม่สามารถแก้ไขได้ ทาให้ส้ินเปลืองค่าใช้จ่ายและส่งผลกระทบต่อ
วงจรไฟฟ้าทัง้ ระบบดังนนั้ งานซ่อมบารงุ
การตรวจสอบแบง่ ออกได้ 2 วธิ ี คือ ตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัส และตรวจสอบด้วย เคร่ืองมือ
ทดสอบ
1. ตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัส เราสามารถตรวจสอบสภาพการทางานของอุปกรณ์ ไฟฟ้าด้วยการฟัง
เสียง ดู ดมกล่ิน หรือการสัมผัส สิ่งเหล่าน้ีเป็นการตรวจสอบสภาพภายนอกทั่วไป ตัวอย่างเช่น เรา
มองเห็นฟิวส์ขาดจากกันน่ันแสดงว่าวงจรไฟฟ้าผิดปกติ หรืออาจมีปัญหาอย่างใด อย่างหน่ึงต้องหา
วิธแี กไ้ ข