รปู ท่ี 3.16 ทอ่ สาหรบั รอ้ ยสายไฟฟา้
2. กลอ่ งตอ่ สาย (box) กลอ่ งตอ่ สายทีใ่ ช้ประกอบท่อร้อยสาย มดี ังนี้
2.1 handy box ใชส้ าหรบั ติดตงั้ สวติ ชแ์ ละเตา้ รับ ดงั รปู ท่ี 3.17
ชนดิ handy box ขนาด (นวิ้ )
แบบต้นื 2 ⨉ 4⨉1 - ½
แบบลึก 2 ⨉ 4 ⨉ 1 - 7/8
รปู ที่ 3.17 handy box
2.2 square box ส่วนใหญ่จะติดตงั้ ในตาแหน่งทตี่ ้องการตอ่ สาย
ชนิด square box ขนาด (นิว้ )
แบบต้ืน 4⨉4⨉1-½
แบบลึก 4 ⨉ 4 ⨉2
รูปที่ 3.18 square box
2.3 octagon box ใชต้ ิดต้งั บนเพดานหรือติดลอย
ชนิด octagon box ขนาด (นิว้ )
แบบต้ืน 3–½⨉3–½⨉1-½
แบบลึก
3–½⨉3–½⨉2
รูปท่ี 3.19 octagon box
3. ฝาปิดกลอ่ ง (box cover)
3.1 ฝาปิด handy box ใช้สาหรับครอบสวิตช์ ปลั๊ก
รปู ท่ี 3.20 ฝาปดิ กล่องสวติ ชป์ ลัก๊ ของ handy box
3.2 ฝาปดิ square box
รปู ท่ี 3.21 ฝาปิดกล่องตอ่ สายแบบ square box
3.3 ฝาปดิ octagon box
รูปที่ 3.22 ฝาปิดกลอ่ งพกั สาย
4. คอนเนคเตอร์ (connector) ใช้เช่อื มต่อระหวา่ งทอ่ กบั กลอ่ งต่อสาย
รูปที่ 3.23 คอนเนคเตอร์ชนดิ ตา่ ง ๆ
5. ลอ็ กนัต (lock nut) ผวิ ดา้ นในจะทาเปน็ เกลียว ใช้ยึดทอ่ เข้ากบั
กล่องต่อสาย
รปู ที่ 3.24 ล็อกนัท
6. บชุ ชิ่ง (bushing) บุชชิ่งสวมปลายทอ่ IMC, RSC และ Connector ใชป้ อ้ งกันท่อ ไฟฟา้ ขดู กบั ฉนวน
รปู ที่ 3.25 บชุ ช่ิง
7. ขอ้ ตอ่ หรือคปั ปลง้ิ (coupling) ใชต้ อ่ ท่อสองทอ่ นเขา้ ดว้ ยกนั มที ั้งแบบสกรูและ แบบเกลยี วหมุน
รูปที่ 3.26 คปั ปลง้ิ ชนดิ ต่าง ๆ
8. แคลม๊ ป์ (clamp) เรยี กอกี อย่างวา่ สแตร๊ป (strap) ใช้สาหรับยึดทอ่ ใหแ้ นบชดิ กบั ผนัง
รปู ที่ 3.27 แคลม๊ ปห์ รอื สแตรป๊
9. คอนดูเลต (condulet) ใชส้ าหรับเดนิ สายหกั มมุ ข้าม
สงิ่ กีดขวางของท่อโลหะหนา (RSC) มีหลายลักษณะ
รูปท่ี 3.28 คอนดูเลตแบบตา่ ง ๆ
10. หวั งูเหา่ (service entrance) เรียกอีกอยา่ งวา่ ฝาครอบท่อรับสาย
ใชส้ าหรบั นา สายเมนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารและชว่ ยป้องกันความชืน้
รปู ท่ี 3.29 หัวงูเหา่
11. อี.วาย.เอส (E.Y.S) ขอ้ ตอ่ แยกสามทาง สาหรบั ท่อโลหะหนา และใชอ้ ดุ Compound เพือ่ ปอ้ งกนั
ไฟไหมส้ าย
รูปท่ี 3.30 อี.วาย.เอส
12. รางตวั ซี (C-Channel) ใช้สาหรับยดึ ท่อจานวนหลาย ๆ ทอ่ น บนรางตวั ซี เพยี ง ตวั เดยี ว ทาให้
สะดวกในการตดิ ต้งั และจดั วางทอ่ เป็นระเบียบสวยงาม
รูปท่ี 3.31 รางตัวซี
หน่วยท่ี 5
การต่อสายไฟฟา้ แบบตา่ งๆ
จดุ ประสงคก์ ารสอน
4.1 ปฏบิ ัติการปอกสายการต่อสายไฟฟา้ แบบต่างๆ
4.1.1 ปฏิบัตกิ ารตอ่ แบบหางเปยี
4.1.2 ปฏบิ ตั กิ ารต่อแบบแยกทางเดียว
4.1.3 ปฏิบัตกิ ารต่อแบบแยกสองทาง
4.1.4 ปฏบิ ัติการต่อแบบต่อตรง
4.1.5 ปฏบิ ัติ การต่อสายพวี ซี คี ู่
4.1.6 ปฏิบัตกิ ารต่อสายออ่ นกบั สายแขง็
4.1.7 ปฏบิ ัติการตอ่ สายตีเกลยี วแบบตอ่ ตรง
4.1.8 ปฏบิ ตั กิ ารตอ่ สายตเี กลยี วแบบตอ่ แยก
4.1 การปอกสายการตอ่ สายไฟฟา้ แบบต่าง ๆ
ก่อนที่จะต่อสายไฟฟ้าเข้าด้วยกัน จะต้องปอกเอาฉนวนที่หุ้มตัวนาออกให้หมด โดยใช้ คัต
เตอร์ มีดปอกสาย คีมหรือคีมสาหรับปอกสายโดยเฉพาะ ดังรูปที่ 4.1 ถ้าหากเป็นขดลวด อาบน้ายา
ควรขูดฉนวนออกก่อน เมอ่ื ตอ่ เสร็จแลว้ จงึ ทาการบัดกรีด้วยหัวแรง้ จะทาให้รอยต่อม่ันคงแข็งแรงมาก
ข้ึน
รปู ท่ี 4.1 เคร่อื งมอื สาหรับปอกสาย
การต่อสายไฟฟ้ามีด้วยกันหลายแบบแต่ละแบบจะมีข้อดีแตกต่างกัน ในท่ีน้ีจะกล่าว
เฉพาะ วิธที นี่ ยิ มตอ่ ใช้งานกนั ท่ัวไป ดงั น้ี
4.2.1 การต่อแบบหางเปีย ใช้สาหรับสายขนาดเล็กและปานกลาง นิยมต่อในกล่องต่อ สาย
สวิตช์ ปลัก๊ เน่ืองจากไมต่ ้องรับแรงดงึ ใด ๆ
รปู ที่ 4.2 การตอ่ แบบหางเปยี
4.2.2 การต่อแบบแยกทางเดยี ว ใชส้ าหรบั ตอ่ แยกออกจากสายเมนและไม่ตอ้ งการ แรงดงึ มากนกั
รปู ท่ี 4.3 การต่อแบบแยกทางเดยี ว
4.2.3 การต่อแบบแยกสองทาง เป็นการตอ่ แยกออกจากสายเมน
จานวน 2 เส้น หรอื มากกว่า ข้ึนอยูก่ บั ความตอ้ งการ
รปู ท่ี 4.4 การต่อแบบแยกสองทาง
4.2.4 การต่อแบบต่อตรง การตอ่ แบบนี้สามารถรับแรงดึงได้มากขน้ึ
เน่อื งจากปลายสาย แตล่ ะดา้ นจะพันแนบแน่นไวท้ ป่ี ลายทัง้ สองด้าน
รปู ท่ี 4.5 การตอ่ แบบต่อตรง
4.2.5 การต่อสายพวี ีซีคู่ เปน็ การต่อสายพีวซี ีคูห่ มุ้ ฉนวนที่
ใช้งานตามบา้ นเรือนทั่วไป โดยทแี่ ตล่ ะเสน้ จะต่อเขา้ ดว้ ยกนั
แบบต่อตรง ดงั รปู ท่ี 4.6 ท้งั นีจ้ ะต้องใหร้ อยต่อเยือ้ งกนั เล็กน้อย เพื่อปอ้ งกนั การลดั วงจร
รูปท่ี 4.6 การตอ่ สายพวี ซี คี ู่
4.2.6 การตอ่ สายออ่ นกบั สายแข็ง เพอ่ื ป้องกันสายหลดุ
ออกจากกัน จะต้องพันสาย ออ่ นหลาย ๆ รอบ จากน้ัน
จงึ งอสายแข็งทบั สายออ่ นไว้ไม่ใหค้ ลายตัวออก
รปู ท่ี 4.7 การต่อสายออ่ นกบั สายแขง็
4.2.7 การต่อสายตีเกลียวแบบต่อตรง เน่ืองจากสายตีเกลียวหรือสายสแตรนจะมี ตัวนาจานวนหลาย
ๆ เส้น ดังนั้นก่อนท่ีจะต่อเข้าด้วยกันจะต้องแยกตีเกลียวออกจากกัน จากน้ัน จึงนาสอดประสานกัน และ
เร่ิมพันทีละเส้นจนครบ ถ้าหากใช้ตะก่ัวบัดกรี จะทาให้รอยต่อแข็งแรง มากย่ิงข้ึน การต่อสายวิธีน้ีจะ
สามารถรบั แรงดงึ ได้มาก
รปู ท่ี 4.8 การตอ่ สายตเี กลยี วแบบตอ่ ตรง
4.2.8 การต่อสายตเี กลยี วแบบตอ่ แยก ทาไดโ้ ดยการแบ่งสายตัวนา
(ท่ีจะนามาต่อแยก) ออกเป็นสองส่วน จากน้ันนาไปสอดเข้ากับสายเมน พร้อมกับพันไปรอบ ๆ สายเมน
โดยพนั ให้ มีทศิ ทางสลบั กนั
รปู ท่ี 4.9 การตอ่ สายตเี กลียวแบบต่อแยก
4.2 การต่อสายไฟฟ้าดว้ ยไวรน์ ัทการใช้เทปพนั สาย
4.2.1 การตอ่ สายไฟฟ้าดว้ ยไวรน์ ทั (Wire nut)
การต่อสายด้วยไวร์นัทจะใช้วิธีการหมุนเพื่อให้ไวร์นัทรัดสายให้แนบชิดกัน เมื่อต่อเสร็จ
เรียบร้อยแล้วไม่ต้องใช้เทปพันสาย เนื่องจากปลอกของไวร์นัทเป็นฉนวนอยู่แล้ว แต่มีข้อ ควรระวังคือ อย่าปอก
สายยาวเกินไป จะทาให้ตัวนาทองแดงโผล่ออกมาจากใต้โคนของไวร์นัท ซ่ึงจะทาให้จุดต่อสายดังกล่าวลง
กราวด์ได้ การต่อสายไฟฟ้าด้วยไวร์นัทจะนิยมต่อในกล่องต่อสาย (Junction box) โดยเฉพาะการเดนิ สายใน
ทอ่ ร้อยสายจะนยิ มใชก้ นั มาก
4.2.2 การใชเ้ ทปพนั สาย
เทปพันสายเป็นวัสดุกันฉนวนไฟฟ้าที่นิยมใช้ ในการพันปิดทับรอยต่อต่าง ๆ โดยเร่ิมจากการ
พันเอยี ง ไปดา้ นใดดา้ นหนึ่ง จนสุดรอยตอ่ จากนั้นจึงพันวกกลับมาท่ีจุดเร่ิมต้น ปฏิบัติเช่นนี้จนกระท้ัง แนใ่ จว่ามี
ปลอดภัย แตจ่ ะต้องไม่หนาจนเกินไปจนเป็นการส้ินเปลืองเทปพันสายโดยใช่เหตุ ข้อควรคานึงคือ ในขณะท่ีพัน
จะต้องดึงเทปพนั สายให้ยืดออกเลก็ นอ้ ย เพ่อื ใหเ้ ทปรดั รอยตอ่ แน่นมากยิ่งขนึ้
รปู ท่ี 4.10 การตอ่ สายไฟฟา้ ด้วยไวรน์ ทั
รปู ท่ี 4.11 การพันเทปหมุ้ รอยตอ่
บทท่ี 6
การเดนิ สายไฟฟา้ แสงสวา่ ง
และไฟฟ้ากาลัง
จดุ ประสงคก์ ารสอน
5.1 ปฏิบัติการเดนิ สายไฟฟ้าดว้ ยเขม็ ขดั รดั สายและในท่อรอ้ ยสาย
5.1.1 ปฏิบตั กิ ารเดินสายไฟฟา้ ดว้ ยเขม็ ขดั รดั สาย
5.1.2 ปฏบิ ตั กิ ารเดินสายไฟฟ้าในท่อร้อยสาย
5.1 การเดินสายไฟฟา้ ดว้ ยเข็มขดั รัดสายและในท่อรอ้ ยสาย
5.1.1 การเดนิ สายไฟฟ้าดว้ ยเขม็ ขัดรัดสาย
โดยทั่วไปจะใช้สายแบนแกนคู่หรือท่ีเรียกว่าสาย VAF มีฉนวนหุ้ม 2 ช้ัน
สามารถดัด โค้งงอและยืดหยุ่นได้ดี อายุการใช้งานยาวนานเกิน 10 ปี การเดิน
สายไฟฟ้าวิธีนี้ไม่เหมาะท่ีจะ ใช้ติดต้ังภายนอกอาคาร เน่ืองจากแสงแดดจะทาให้
ฉนวนเสอื่ มคณุ ภาพก่อนเวลาอนั ควร เมอ่ื ฝนตกจะทาให้ลดั วงจร
ขอ้ ดกี ารเดินสายไฟฟา้ ด้วยเข็มขดั รัดสาย
1. ตดิ ตั้งง่ายรวดเร็ว
2. ซอ่ มแซมหรอื แก้ไขไดง้ า่ ย
3. คา่ แรงงานถกู
รายละเอียดการเดนิ สายไฟฟ้าด้วยเขม็ ขัดรดั สาย สรุปได้ดงั น้ี
1. สายไฟฟ้า จะต้องรู้ขนาดของสายไฟฟ้า (บอกเป็นตารางมิลลิเมตร (มม.2))
และจานวน สายกเี่ ส้น ถา้ หากใช้สายเลก็ เกนิ ไปจะทาใหส้ ายร้อนจนฉนวนละลาย
2. เขม็ ขัดรดั สาย เม่ือทราบขนาดและจานวนสายไฟฟา้ ทีเ่ ดนิ ไปยังจดุ ต่าง ๆ
ชา่ งเดนิ สาย ไฟฟ้าจะต้องเลอื กเขม็ ขัดรดั สายให้พอดี เพ่อื ความรวดเร็วขณะปฏิบตั ิงาน
เมอ่ื งานเสร็จสมบรู ณ์ จะมองดูสวยงาม มีหลกั ปฏิบัตงิ ่าย ๆ ดงั นี้
2.1 กรณเี ดินสายเส้นเดียว ควรเลอื กขนาดเข็มขดั รดั สายให้พอดีกบั ขนาดของ
สายไฟฟ้า
2.2 กรณีเดินสายตงั้ แต่ 2 เส้นข้นึ ไป เช่น สายจานวน 3 หรือ 4 เส้น ถา้ หาก
สามารถ รดั ด้วยเขม็ ขดั รดั สายเพยี งตวั เดียวจะทาให้ปฏิบตั งิ านให้เรว็ ขน้ึ แตค่ วรพจิ ารณา
ถงึ ความแขง็ แรง ในการจับยดึ ระหวา่ งสายไฟกบั ผนังอาคาร
3. ตะปู อาคารที่เป็นไม้จะใช้ตะปูขนาด ½ น้ิว ส่วนอาคารคอนกรีตฉาบปูน
จะใช้ขนาด 5/16 น้ิว หรือ 3/8 น้ิว โดยท่ัวไปช่างเดินสายไฟฟ้าจะทากล่องไม้
สาหรบั จัดเกบ็ ตะปู เข็มขัดรัดสาย ลกั ษณะดงั รูปที่ 5.1
รูปท่ี 5.1 กลอ่ ง ไมจ้ ดั เก็บตะปแู ละเขม็ ขดั รดั สาย
4. การตีเส้น เมื่อทราบตาแหน่งท่ีจะเดินสายไฟฟ้า ช่างจะทาการตีเส้นด้วย
บักเต้า ข้อดีของ การตเี สน้ มีดงั นี้
4.1 รูต้ าแหน่งการตอกตะปู
4.2 ไม่เสยี เวลาเล็งแนวเมอื่ จะตอกตะปูตัวถดั ไป
4.3 กรณีท่ีเดินสายในระยะก่ึงกลางเสา แนวสายจะต้องวางให้อยู่กึ่งกลาง
พอดี ถ้าเป็น อาคารคอนกรีตการรื้อตะปูเพ่ือตอกใหม่จะทาให้เสามีรูมากขึ้น หรือ
ทาใหเ้ สาแตกไม่สามารถตอก ตะปูบรเิ วณดังกลา่ วได้อีก
4.4 สามารถปฏบิ ตั งิ านได้เรว็ ขน้ึ และมีความภูมิใจตอ่ ผลงานของตนเอง
5. ระยะเข็มขัดรัดสาย ระยะห่างระหว่างเข็มขัดรัดสายหรือที่เรียกว่าคลิป
ในทางปฏิบัติ ห่างกันประมาณ 10 - 12 ซม. แตไ่ มเ่ กิน 20 ซม. ดงั รูปท่ี 5.2 ในบาง
ช่วงท่ีต้องการเดินสาย หลาย ๆ เส้น อาจตอกตะปูให้ถ่ีมากข้ึนเพื่อให้สามารถ
รองรับน้าหนักของสายไฟฟ้าและให้สายแนบชิด กับผนัง ในทางปฏิบัติจะวัดระยะ
ด้วยความยาวของหัวค้อนเดินสายไฟฟ้าเพื่อความรวดเร็ว ที่สาคัญ คือต้องหันหัว
เขม็ ขัดรดั สายไปในทิศทางเดียวกัน
รปู ท่ี 5.2 ระยะหา่ งเข็มขดั รดั สาย
6. การคล่ีสายไฟฟ้า โรงงานผู้ผลิตจะขดสายซ้อนทับกันไว้ ความยาวขดละ
100 เมตร ถ้าหากคลี่สายถูกวิธีสายจะตรง ไม่ต้องเสียเวลารีดสาย ตรงกันข้ามการ
ดึงสายไฟฟ้าออกจากขด โดยตรงจะทาให้สายงอบิดเป็นเกลียวต้องเสียเวลากับการ
รดี สายในภายหลงั วิธกี ารคล่ีสายมดี ังนี้
6.1 แกะพลาสติกท่ีห่อหุ้มสายไฟฟ้าออก ระวังอย่าให้ของมีคม เช่น มีด
คัตเตอร์ เฉือน หรือปาดฉนวนของสายไฟฟ้า
6.2 ยกม้วนสายไฟฟา้ ขึน้ สอดแขนทัง้ สองข้างเขา้ ไปในมว้ นสาย
6.3 วางปลายสายด้านนอกลงกับพ้ืน จากนั้นก้มตัวลงเล็กน้อย หมุนคลาย
สายออกจาก ขดพร้อมกับเดินถอยหลงั ไปเรื่อย ๆ จนได้ความยาวตามต้องการ
7. การรดั สายไฟฟ้า
ก่อนจะรัดสายไฟฟ้าตอ้ งรีดสายให้ตรงไม่ให้บิดหรืองอ เม่ือนาไปเดนิ บนผนัง
จะได้ แนบชดิ กบั ผนงั อาคาร มองดสู วยงาม วิธกี ารรดี สายมีหลกั ปฏบิ ตั ิงา่ ย ๆ ดังน้ี
7.1 วางสายไฟฟ้าลงบนเข็มขัดรัดสาย ถ้าหากมีสายไฟฟ้าหลายเส้นต้องจัด
ให้สาย เรยี งชดิ กนั ก่อน
7.2 กดสายไฟฟ้าให้แน่น ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับปลายเข็มขัดรัดสายสอดเข้า
กับรทู ี่อยบู่ น หัวของเขม็ ขัดรัดสาย
7.3 ดึงปลายเข็มขดั รัดสายใหต้ งึ จากนน้ั พบั กลับไปทิศทางเดิม
7.4 ใช้ค้อนเคาะเบา ๆ เพอื่ ให้รอยพบั เรยี บสนทิ กบั สายไฟฟ้า
8. การเดินสายไฟฟา้ ในแนวดิง่
8.1 ใช้ผ้ารีดสายให้ตรง (ระยะประมาณ 20 - 50 cm.) จัดสายให้เรียงชิดกัน
กรณีเดิน สายตัง้ แต่ 3 เส้นขึน้ ไป ใหส้ ายเสน้ ทมี่ ขี นาดใหญท่ ี่สดุ อยดู่ า้ นนอก
8.2 ผู้ท่ีถนัดขวาให้ใช้มือซ้ายจับปลายสายด้านบนไว้ โดยใช้หัวแม่มือกดสาย
ให้ แนบชิดกับผนัง ส่วนมือขวาจับปลายของเข็มขัดรัดสายสอดเข้ากับรูที่อยู่บนหัว
ของเข็มขัดรัดสาย จากน้ันรัดสายให้ตึงประมาณ 2 - 3 ตัว ดังรูปท่ี 5.3 ขณะน้ี
สายไฟฟ้าจะถูกจับยึดไว้กับผนัง จึงสามารถปล่อยมือออกได้ แต่ถ้าสังเกตดูการจับ
ยึดยังไม่แข็งแรงอาจจะรัดสายเพ่ิมอีก 1 - 2 ตัว สาหรับผู้ท่ีถนัดซ้ายให้เปลี่ยนมือ
สลบั กัน
รปู ท่ี 5.3 การเดนิ สาย ไฟฟา้ ในแนวด่งิ
8.3 เล่ือนมอื ซ้ายลงมากดไว้ที่เข็มขัดรัดสายตัวสุดท้าย ซ่ึงรัดสายไว้แล้วตาม
ข้อ 8.2 ส่วนมือขวาจับเศษผ้ารีดสายทีละเส้นให้ตรง ถ้าเป็นสายใหม่จะรีดง่าย
ประมาณ 1 - 2 คร้ัง แต่ถ้า หากใช้สายเก่าท่ีผ่านการใช้งานมาแล้วอาจต้องใช้
เวลามากข้นึ
8.4 ใช้น้ิวกลาง น้ิวช้ี และหัวแม่มือบีบสายให้เรียงชิดกัน จากน้ันรัดสายให้
แน่นตึงตาม วิธีการในขอ้ ที่ 7.1 - 7.3
8.5 เลื่อนมือขวาต่าลงมาเพ่ือทาการรัดสายตัวต่อไปอีกประมาณ 2 - 3 ตัว
ขณะน้ี ระยะสายท่เี รียงไวต้ ามหัวข้อท่ี 8.1 คือระยะ 20 - 50 cm จะถูกรดั จนหมด
ยงั คงเหลือเฉพาะสว่ น ด้านล่างลงไปอีกซึ่งสายสว่ นนีย้ ังไมไ่ ดร้ ีด
8.6 ปฏบิ ัติซา้ ๆ ตั้งแต่ข้อที่ 8.3 เรือ่ ยไปจนเสร็จสน้ิ ตามเปา้ หมาย
8.7 ใช้ค้อนเคาะเบา ๆ เพอ่ื ใหร้ อยพบั เรียบสนทิ กบั สายไฟฟ้า
อยา่ งไรก็ตาม เมื่อช่างมีประสบการณ์อาจจะมีเทคนิคเฉพาะตัวอนื่ ๆ เข้าช่วย
ทาใหก้ าร เดนิ สายไฟฟ้าเสรจ็ เร็วยิ่งขน้ึ
9. การเดินสายไฟฟา้ ในแนวระดับ
การเดินสายไฟฟ้าในแนวระดับจะยุ่งยากกว่าการเดินสายไฟฟ้าในแนวดิ่ง
เนื่องจาก น้าหนักสายจะหย่อนลงสู่ด้านล่างตามแรงดึงดูดของโลก ดังนั้นจึง
แก้ปัญหาด้วยการใช้ตะปูตอกเข้า กับผนัง (ท้ังอาคารไม้และอาคารคอนกรีตฉาบ
ปูน) หา่ งจากจุดท่ีกาลังรัดสายประมาณ 50 - 100 cm จากนั้นนาสายไฟฟ้าพาดไว้
กับตะปูดังกล่าว เพ่ือป้องกันตะปูตอกเข็มขัดรัดสายหลุดออกจากผนัง อัน
เน่อื งมาจากน้าหนักของสายไฟฟา้ นั่นเอง ดงั รูปที่ 5.4
รปู ท่ี 5.4 การตอกตะปรู บั นา้ หนกั สายเม่อื เดนิ สายไฟฟา้ ในแนวระดบั
10. การเดนิ สายไฟฟา้ บนเพดาน
ตวั อยา่ งการเดินสายไฟฟา้ บนเพดาน ได้แก่ การติดต้ังหลอดฟลูออเรสเซนสท์ ่ี
บรเิ วณ กลางห้อง การติดตงั้ พัดลมเพดาน เป็นต้น ส่วนมากจะเดนิ สายในระยะส้นั
ประมาณ 1 - 3 เมตร วิธกี ารเดินสายไฟฟา้ บนเพดานจะเหมอื นกบั การเดนิ สายใน
แนวด่งิ และแนวระดับ