ขนั้ ท่ี ๓ ให้นักเรียนศึกษาเรื่อง คําควบกล้ําจากหนังสือเรียน จากนั้นให้นักเรียนเขียนควบกลํ้าบน
กระดานดาํ คนละ ๕ คํา ใหน้ ักเรียนอ่านทีละคน ครูชมเชยนักเรียนทอ่ี า่ นได้ถูกตอ้ ง
ข้นั ที่ ๔ นักเรยี นทําแบบฝกึ หัดท่ี ๔ หนา้ ๔๒ ข้อ ๓–๔ เปน็ การบ้าน
ส่ือ / แหล่งเรยี นรู้
๑. เพลงคําควบกลาํ้
๒. หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ติ ทักษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหัด
๒. เคร่อื งมือท่ีใช้ในการประเมนิ
- แบบการสังเกตพฤติกรรม
- แบบฝึกหดั
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การทําแบบฝกึ หดั รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
เพลง คาํ ควบกล้ํา
ควายไล่ขวิดขา้ งขวา
เขวี้ยงขวานมาไล่ขว้างควายไป
ควายขวางวิ่งวนขวักไขว่
ควายขวางวง่ิ วนขวกั ไขว่
กวัดแกว่งขวานไล่ลม้ คว่ําขวางควาย
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๖
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๕ เร่ือง ภูมใิ จมรดกโลก เวลา ๘ ชั่วโมง
เรื่อง อักษรนํา เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ
สาระสาํ คัญ
อกั ษรนําคือกฎเกณฑ์ทางหลกั ภาษาอีกประเภทหน่งึ ท่ที าํ ใหก้ ระบวนการอา่ นเกิดการเปล่ยี นแปลงไปจาก
รูปลักษณ์อักษรท่ีปรากฏ ผู้เรยี นต้องเรยี นรกู้ ฎเกณฑ์เหล่านี้อยา่ งละเอียด เพ่ือเพิ่มประสิทธภิ าพในการสื่อสาร
ตัวช้ีวดั
ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคาํ และบอกความหมายของคําในบริบทตา่ งๆ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นักเรียนอา่ นเขยี นคาํ ทมี่ อี ักษรนาํ ได้ถูกตอ้ ง
๒. นักเรยี นบอกกฎเกณฑท์ างหลักภาษาเก่ยี วกบั อกั ษรนาํ ได้
๓. นกั เรยี นทํากจิ กรรมตามท่ีกําหนดใหไ้ ด้
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
สาระการเรียนรู้
- การอา่ นและการเขยี นอกั ษรนาํ
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี ๑ ครอู ่านบัตรคํา ห นาํ ติดไวบ้ นกระเป๋าผนังให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงคํา นักเรยี นนําคํามาแต่ง
ประโยคจากคําที่ครูกําหนดให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกคํามาแต่งประโยคกลุ่มละ ๕ คํา และเปล่ียนกันตรวจ
ผลงาน
ข้ันท่ี ๒ นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรุปหลักเกณฑ์ เร่อื ง อกั ษรนํา
ข้นั ที่ ๓ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาคําที่เป็นอักษรนําในบทเรียนท่ี ๔ ให้ได้มากที่สุด เขียนใส่
แผ่นกระดาษแล้วส่งตวั แทนรายงานหน้าชัน้ เรียน
ขน้ั ท่ี ๔ นกั เรยี นทาํ แบบฝึกหดั ท่ี ๔ หนา้ ๔๔ ข้อ ๓ (๑–๒) เปน็ การบา้ น
สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. บตั ร ห นาํ
๒. หนังสอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ติ ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหัด
๒. เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมิน
- แบบการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หดั
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การทําแบบฝกึ หดั ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๗
กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรือ่ ง ภูมใิ จมรดกโลก เวลา ๘ ชวั่ โมง
เร่ือง อักษรสามหมู่ เวลา ๑ ช่ัวโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ
สาระสาํ คัญ
อักษรสามหมู่ คือ การแบ่งระดับพ้ืนเสียงของพยัญชนะไทยตามฐานท่ีเกิดเสียง หรือเรียกอีกอย่างว่า
ไตรยางศ์ เพ่ือใหเ้ กดิ ความสะดวกในการผนั วรรณยกุ ต์ ผเู้ รยี นตอ้ งเรยี นรู้กฎเกณฑ์ที่เก่ียวข้องเพ่ือให้การสื่อสารมี
ประสทิ ธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั
ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ในบริบทต่างๆ
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรียนแบ่งระดบั เสียงพยญั ชนะตามทเ่ี กิดได้
๒. นักเรียนบอกความหมายของอกั ษรสามหมไู่ ด้
๓. นักเรียนบอกคําเป็นคําตายได้
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู้
๑. อักษรสามหมู่
๒. การผนั วรรณยกุ ต์
๓. คําเป็น คาํ ตาย
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี ๑ นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ เลน่ เกม ใบ้คาํ โดยใหต้ วั แทนของแต่ละกล่มุ ออกมาแสดงทา่ ทางแลว้ บอกว่า
กาํ ลงั ทาํ อะไร แล้วสนทนาแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ร่วมกัน ครูใหค้ วามรู้เพ่มิ เตมิ
ขัน้ ท่ี ๒ นักเรยี นศกึ ษาเรอ่ื ง อักษรสามหมู่ จาก หนังสอื เรียนภาษาไทย ป.๔ ชดุ ภาษาพาที หนา้ ๖๑–๖๒
ขั้นที่ ๓ นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาคําเป็นคําตายจากบทเรียนที่ ๔ ให้ได้มากที่สุด จากนั้นส่ง
ตวั แทนรายงานหนา้ ชั้นเรียน
ขั้นท่ี ๔ นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนเขียนตามคําบอกท่ีกระดานดํา กลุม่ ละ ๑๐ คาํ
ขน้ั ที่ ๕ นักเรยี นทําแบบฝึกหัดที่ ๔ หนา้ ๔๕ ข้อ ๓ (๓) เป็นการบ้าน
สือ่ / แหล่งเรยี นรู้
๑. เกม ใบค้ าํ
๒. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหดั
๒. เครอื่ งมือที่ใช้ในการประเมนิ
- แบบการสังเกตพฤติกรรม
- แบบฝกึ หดั
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การทําแบบฝกึ หัด รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๘
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรื่อง ภมู ิใจมรดกโลก เวลา ๘ ช่ัวโมง
เรอ่ื ง คําที่มไี ม้ทัณฑมาตกํากับ เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ
สาระสําคญั
การรู้หลกั เกณฑ์ทางภาษาเรอ่ื งการอา่ น การเขยี นคํา รู้จักใช้คาํ ใหถ้ กู ตอ้ งตามความหมาย และถกู ต้องตาม
หนา้ ท่ีของประโยคชว่ ยใหใ้ ชภ้ าษาในการสอ่ื สารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวช้วี ัด
ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคาํ และบอกความหมายของคําในบริบทต่างๆ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- นักเรียนอา่ น เขียนคําทีม่ ตี ัวการันต์ได้
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักความเป็นไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อยู่อย่างพอเพียง
สาระการเรยี นรู้
๑. ค้นคว้าความรูเ้ กีย่ วกับไม้ทณั ฑฆาต
๒. การอ่าน เขยี นคําทีม่ ีเคร่อื งหมายการนั ต์
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขนั้ ที่ ๑ นกั เรยี นอา่ นบัตรคาํ อภิปรายแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับหลักการอ่าน และการเขียนคําท่ีมีตัว
การนั ต์
ขน้ั ที่ ๒ นักเรยี นแบง่ กล่มุ ๆ ละ ๔–๕ คน สมาชกิ ชว่ ยกนั ค้นหาคาํ ที่มีตัวการนั ต์ จากหนงั สอื เรยี น ภาษา
พาที
ข้นั ที่ ๓ ตวั แทนออกมานาํ เสนอผลการศกึ ษาร่วมกนั
ขนั้ ที่ ๔ นกั เรียนทําแบบฝกึ หัดท่ี ๔ หนา้ ๔๓ ขอ้ ๕, ๖
สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้
๑. บตั รคาํ
๒. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
วดั ผลประเมนิ ผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหัด
๒. เครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หัด
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารทําแบบฝกึ หัด ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๗ เร่ือง ชีวิตท่ถี ูกเมิน เวลา ๗ ชว่ั โมง
เรื่อง การอ่านออกเสียง เวลา ๑ ช่ัวโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ ไปใช้ตดั สินใจแก้ปัญหา และสร้างวสิ ัยทศั น์ใน
การดําเนนิ ชวี ติ และมีนิสัยรกั การอา่ น
ตวั ช้วี ัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง
ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเรอ่ื งสนั้ ๆ ตามเวลาท่ีกําหนดและตอบคาํ ถามจากเร่ืองทีอ่ ่าน
ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคดิ เพ่อื ใช้พัฒนางานเขียน
สาระสาํ คญั
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องทั้งด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงต่ําของเสียงตาม
บรบิ ทแหง่ เน้ือหา จึงจะทําให้การสือ่ สารมีประสทิ ธภิ าพ เกิดความเขา้ ใจตรงกันระหว่างผู้ส่งสารและผรู้ บั สาร
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสยี งคาํ ยากได้ถูกตอ้ ง ชัดเจน
๒. อ่านประโยคในบทเรียนได้ถกู ต้อง
๓. อา่ นออกเสยี งในบทเรียนไดถ้ กู ต้อง
๔. นักเรียนเขียนแผนภาพความคดิ สรปุ ข้อคดิ ในบทเรยี นได้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รักความเป็นไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ยั
๕. อยู่อย่างพอเพียง
สาระการเรยี นรู้
๑. อา่ นออกเสยี งเร่อื ง “ชวี ติ ทถ่ี ูกเมนิ ”
๒. การวเิ คราะหเ์ รื่อง “ชีวติ ทถ่ี ูกเมิน”
๓. คํายากในบทเรยี น
๔. เขยี นแผนภาพความคิดสรุปข้อคิดในบทเรยี น
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๑ นักเรยี นดภู าพในบทอา่ นแล้วพูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และขอ้ เท็จจรงิ จากภาพ
ขน้ั ท่ี ๒ ครแู ละนกั เรยี นสนทนาเกยี่ วกบั เรื่องสัตวท์ ี่นักเรียนไม่ชอบหรอื กลวั สรปุ โดยการแสดงภาพสตั ว์
นั้นๆ เขน่ ตุ๊กแก งู หนอน ไสเ้ ดือน เปน็ ต้น แล้วอภิปรายให้เหตผุ ลว่าร้สู กึ เช่นน้ันเพราะอะไร
ขนั้ ที่ ๓ นักเรียนอ่านออกเสียง อ่านเพิ่มเติมความหมาย ในหนังสือเรียน ครูและนักเรียนอภิปราย
ความหมายของคาํ ศพั ท์
ขน้ั ที่ ๔ นักเรียนแบ่งกลุ่มอ่าน เรือ่ งชีวิตที่ถกู เมิน ในหนังสือเรียน จากน้ันเลือกทํากิจกรรมชวนกันคิด
ช่วยกันตอบในหนงั สอื เรยี น
ขน้ั ท่ี ๕ นกั เรยี นพดู และสรปุ ความรู้ ขอ้ คดิ จากเรือ่ งที่อ่านแลว้ สร้างแผนภาพความคดิ
ขนั้ ที่ ๖ ทาํ แบบฝกึ ทักษะภาษา แบบฝึกหัดท่ี ๕ ขอ้ ๑ (๑) – (๓)
สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้
๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔
๒. แบบฝึกหัด รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝกึ หัด
๒. เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในการประเมิน
- แบบการสังเกตพฤติกรรม
- แบบฝึกหัด
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารทําแบบฝึกหดั รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๒
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรอ่ื ง ชีวิตทถ่ี ูกเมิน เวลา ๗ ชว่ั โมง
เรอื่ ง การวิเคราะห์บทเรยี น เวลา ๑ ชว่ั โมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน
โอกาสต่างๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
สาระสาํ คญั
การวเิ คราะห์บทเรียนเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตัวเพื่อคิดวิเคราะห์สาระท่ีกําลังศึกษา ผู้แสดง
ความคดิ เหน็ ควรใช้ภาษาท่ีสภุ าพไมก่ ระทบกระเทอื นถึงบุคคลอนื่ และแสดงความคิดเห็นในด้านพยุง จรรโลงและ
สร้างสรรค์สังคมให้ดงี าม ตอ้ งมคี วามร้ลู ึกซึง้ ในเรอื่ งคําและสาํ นวนภาษาเพอ่ื ให้ใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ งตามบรบิ ท
ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ป.๔/ ๗ อ่านหนงั สอื ทีม่ คี ุณค่าตามความสนใจอยา่ งสมํ่าเสมอและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรื่อง
ที่อา่ น
ท ๓.๑ ป.๔/๓ จําแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เห็นจากเรื่องท่ฟี ังและดู
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นบอกเนื้อหาสาระในบทเรยี นได้
๒. นกั เรียนวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นในบทเรียนได้
๓. นกั เรยี นนําข้อคิดจากเรอ่ื งมาใช้ในชีวิตประจาํ วนั ได้
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักความเป็นไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ยั
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู้
๑. การวิเคราะห์และแสดงความคดิ เห็นตอ่ บทเรียน
๒. การสรปุ เน้อื หาในบทเรียน
๓. การนาํ ข้อคดิ จากบทเรยี นมาประยุกต์ใช้
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นท่ี ๑ นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ออกเป็นกลุ่มละ ๓–๔ คน ให้แต่ละกลุ่มเลือกหัวหน้ากลมุ่ รองหวั หน้ากลุ่ม
และเลขานกุ ารกลุม่
ขัน้ ท่ี ๒ นกั เรยี นแต่ละกลุ่มพิจารณาข้อความจากเร่ือง “ชีวิตที่ถูกเมิน” มีเน้ือหาสาระเก่ียวกับสิ่งใด
ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เลือกอธิบายพฤตกิ รรมธรรมชาติตลอดจนท่ีอยู่ของสัตวอ์ ย่างใดอย่างหน่ึงทเี่ อย่ ถึงในบทเรียน
กลุ่มละ ๑ ชนดิ ส่งตัวแทนมาอธิบายหน้าชั้นเรียน
ขั้นท่ี ๓ นักเรียนและครรู ว่ มกันสนทนาสรุปเรื่องราวสาระในบทเรียนที่ ๕ ชีวิตที่ถูกเมิน ว่ากล่าวถึง
สัตวช์ นดิ ใดบ้าง สตั ว์แต่ละชนดิ มีความพึ่งพาเก้ือกลู กันอย่างไร
ข้นั ที่ ๔ นกั เรียนอา่ นบทเสริมบทเรยี น เรอื่ ง สตั วเ์ ลก็ นดิ มพี ิษเหลือใจ ในหนังสือเรียน พูดคุยเกี่ยวกับ
สตั วใ์ นเรอ่ื ง (หรือทาํ กจิ กรรม ชวนกันสนทนาหรือชวนกันค้นหากไ็ ด้)
ขน้ั ที่ ๕ นักเรียนชว่ ยกันนาํ เสนอพูดสรุปความรจู้ ากบทเรียน โดยมคี รูคอยเสรมิ ความรทู้ ี่ถกู ตอ้ ง
ขน้ั ที่ ๖ นักเรียนทาํ แบบฝกึ หัดทักษะภาษาท่ี ๕ ข้อท่ี ๑ (๔) – (๘) และข้อ ๒ (๑) – (๒) เป็นการบา้ น
ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
๑. หนงั สือเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๒. แบบฝึกหัด รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝกึ หดั
๒. เคร่อื งมือท่ีใช้ในการประเมิน
- แบบการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบฝึกหดั
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารทําแบบฝึกหดั รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๓
กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรอื่ ง ชวี ิตที่ถูกเมิน เวลา ๗ ชว่ั โมง
เรือ่ ง คาํ นาม เวลา ๑ ชัว่ โมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษา
สาระสาํ คัญ
การรู้จักชนิดของคําและหน้าที่ของคํา ทําให้สามารถนําคํามาเรียบเรียงเป็นประโยคได้ถูกต้องตาม
หลกั เกณฑ์ทางภาษา
ตัวชีว้ ัด
ท ๔.๑ ป.๔/ ๑ สะกดคําและบอกความหมายของคําในบรบิ ทต่างๆ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของคํานามได้ถูกตอ้ ง
๒. อา่ น เขยี นคาํ นามทกี่ าํ หนดใหไ้ ด้ถกู ต้อง
๓. นาํ คาํ นามท่กี าํ หนดให้ไปแตง่ ประโยคเพื่อการส่อื สารไดถ้ กู ตอ้ ง
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
สาระการเรียนรู้
๑. คาํ นาม
๒. การแต่งประโยค
๓. การแสดงบทบาทสมมุติ
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั ที่ ๑ ทบทวนความรเู้ ก่ียวกบั เรอื่ ง คาํ นาม โดยให้นกั เรียนแต่ละแถวแข่งขันกันออกมาเขียนคํานาม
บนกระดานดํา แถวใดเขียนได้มากทส่ี ุดและถูกต้องที่สุดเป็นผชู้ นะ
ข้นั ท่ี ๒ นกั เรยี นอา่ นคาํ นามท่เี ขยี นบนกระดานดาํ และชว่ ยกันสรุปความหมายของคํานาม
ข้ันท่ี ๓ นักเรยี นแบ่งกลมุ่ อา่ นเรอ่ื งคาํ นาม ในอธบิ ายเพม่ิ เติมความรู้ จากหนงั สอื เรียน
ขัน้ ที่ ๔ ครูแจกบตั รคาํ นามให้นักเรยี นกลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน ให้แตล่ ะกล่มุ แยกชนดิ ของคาํ นามที่เป็นคํานาม
สามัญ และคํานามวิสามญั เสยี บบนกระเป๋าผนงั นกั เรียนในห้องช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
ข้นั ที่ ๕ ครวู างแถบประโยคบนกระเป๋าผนงั นกั เรียนอา่ นประโยคพร้อมๆ กนั จากน้นั ช่วยกนั บอกว่าคํา
ใดเปน็ คาํ นาม และเปน็ คํานามชนดิ ใด (คาํ นามสามัญหรอื คํานามวิสามัญ)
ขั้นท่ี ๖ นกั เรยี นช่วยกันสรปุ ความรูแ้ ละนําเสนอ เรือ่ งคาํ นาม
ข้นั ท่ี ๗ ทําแบบฝกึ หดั ทกั ษะภาษา แบบฝึกหัดท่ี ๕ ข้อ ๓ (๑)
สือ่ / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บัตรคาํ นาม
๒. แถบประโยค
๓. หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔
๔. แบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝึกหัด
๒. เครื่องมือท่ใี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หัด
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารทําแบบฝกึ หัด ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๗ เรือ่ ง ชวี ติ ทถี่ ูกเมิน เวลา ๗ ช่วั โมง
เร่อื ง คําสรรพนาม เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษา
สาระสําคญั
ภาษาไทยจะมคี าํ ทีใ่ ชเ้ รยี กแทนชอื่ คน สัตว์ สิ่งของเคร่ืองใช้อยู่เป็นจํานวนมาก คําท่ีใช้เรียกชื่อดังกล่าว
เรยี กว่า “คาํ สรรพนาม” เพอื่ ใหก้ ารเรยี นรู้และการใช้ภาษาไทยเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนควรทําความ
เขา้ ใจและนําไปใช้ใหถ้ ูกต้อง จึงจะถือว่าการเรียนภาษาประสบความสาํ เร็จ
ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ ข้อ ๑ สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ในบริบทต่างๆ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของคาํ สรรพนามไดถ้ กู ตอ้ ง
๒. อา่ น เขียนคําสรรพนามทีก่ าํ หนดให้ได้ถูกต้อง
๓. นาํ คําสรรพนามที่กําหนดให้ไปแต่งประโยคเพอ่ื การสื่อสารได้ถกู ต้อง
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
สาระการเรียนรู้
๑. คาํ สรรพนาม
๒. การแตง่ ประโยค
๓. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ นักเรียนเล่นเกม ลมเพลมพัด เพ่ือทบทวนความรู้เร่ืองคํา โดยนักเรียนล้อมวงเป็นวงกลม ครู
แจกบตั รคาํ ให้นกั เรียนทุกคน เมอ่ื ครพู ูดวา่ “ลมเพลมพัด” นักเรียนถาม “พดั อะไร” ครูตอบวา่ “พัดคนถอื บัตรคํา
ทีเ่ ป็นคําถามกจ็ ะลุกวิ่งสลบั ทีก่ ับเพือ่ น ครเู ปลี่ยนคําตอบไปเรือ่ ยๆ
ขัน้ ที่ ๒ ครูแสดงแถบประโยคแลว้ ใหน้ กั เรยี นอา่ นแถบประโยคพรอ้ มๆ กัน จากน้ันบอกว่าคําใดเป็นคํา
สรรพนาม และเป็นคาํ สรรพนามชนดิ ใด เชน่
ฉัน ชอบกนิ มังคุด เธอ ไมไ่ ปเทีย่ ว กับ เขา หรือ
เขา กบั หล่อน เปน็ เพื่อนกัน ดฉิ ัน เป็น ครคู นใหมข่ องทนี่ ี่
ขน้ั ที่ ๓ นกั เรียนแบ่งกลมุ่ อา่ นเรอ่ื ง คาํ สรรพนาม ในอธบิ ายเพิ่มเตมิ ความรู้ จากหนงั สอื เรยี น
ขั้นที่ ๔ นักเรียนฝกึ แตง่ ประโยคปากเปล่า โดยใชค้ ําสรรพนามจากแถบประโยคที่อา่ น
ขั้นที่ ๕ นกั เรียนทาํ แบบฝกึ ทักษะภาษาที่ ๕ ข้อ ๓ (๓)
ขั้นท่ี ๖ ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรปุ ความรูเ้ ร่อื งคาํ สรรพนาม
สื่อ/ แหลง่ เรียนรู้
๑. เกม ลมเพลมพดั
๒. แถบประโยค
๓. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๔. แบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวติ ทักษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหัด
๒. เครือ่ งมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ
- แบบการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หดั
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารทาํ แบบฝกึ หดั รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๕
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรอ่ื ง ชวี ติ ทีถ่ ูกเมิน เวลา ๗ ช่ัวโมง
เรือ่ ง คํากริยา เวลา ๑ ชวั่ โมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ
สาระสําคญั
คํากริยา คือ คําท่ีหมายถึง กระทํามีอาการอยู่ในสภาพ แบ่งออกเป็นหลายชนิด มีหน้าที่และวิธีใช้
แตกตา่ งกันการเรียนรคู้ ํากรยิ า ช่วยใหส้ ามารถนําไปใช้ผูกเป็นประโยคได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม เปน็ พัฒนาการใช้
ภาษาให้มีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้วี ดั
ท ๔.๑ ป.๔/ ๒ ระบุชนดิ และหนา้ ทขี่ องคําในประโยค
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อธิบายความหมายของคาํ กริยาแต่ละชนดิ ได้
๒. บอกชนิดตา่ งๆ ของคาํ กรยิ าได้
๓. ยกตวั อยา่ งกรยิ าชนิดตา่ งๆ ได้
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรียนรู้
๑. ความหมายของคาํ กรยิ าแตล่ ะชนิด
๒. ชนิดตา่ งๆ ของคํากรยิ า
๓. ตวั อยา่ งกรยิ าชนิดตา่ งๆ
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นท่ี ๑ ทบทวนความรเู้ ดิม เรื่อง คาํ นาม และคําสรรพนาม โดยใช้บตั รคํา
ข้ันท่ี ๒ ครวู างบัตรคาํ ลงบนกระเปา๋ ผนังให้เปน็ ประโยค เชน่
แม่ ไป ตลาด
ให้นักเรียนเลือกบัตรคําที่เป็นคาํ กริยา โดยครูปฏิบัติกิจกรรมนี้ ๔ – ๕ ประโยค นักเรียนแต่
ละกลมุ่
ขั้นท่ี ๓ นกั เรียนแบง่ กล่มุ อา่ น เร่ือง คํากรยิ า ในอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ความรู้ จากหนังสือเรยี น
ขน้ั ท่ี ๔ นักเรียนหาคํากรยิ าจากหนังสือเรียน เรือ่ งชีวติ ทถ่ี กู เมนิ
ขั้นที่ ๕ นกั เรยี นทําแบบฝกึ ทักษะภาษาที่ ๕ ข้อ ๓ (๒)
ขน้ั ที่ ๖ ครูและนกั เรยี นช่วยกันสรุปความรู้เร่ืองคาํ กรยิ า
ขั้นท่ี ๗ นกั เรียนนาํ คาํ กรยิ าที่ไดไ้ ปแตง่ ประโยคใหมค่ นละ ๓ ประโยค (ทําเปน็ การบา้ น)
สือ่ / แหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคาํ
๒. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ติ ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
วดั ผลประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกึ หดั
๒. เคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสังเกตพฤติกรรม
- แบบฝึกหัด
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารทําแบบฝกึ หดั รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๖
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรอ่ื ง ชวี ติ ทถ่ี กู เมนิ เวลา ๗ ชวั่ โมง
เรื่อง คําวเิ ศษณ์ เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ
สาระสาํ คัญ
คําวเิ ศษณค์ อื คําทีใ่ ช้ขยายคาํ กรยิ าและคาํ อน่ื ๆ ให้มีความหมายชัดเจนยิ่งข้ึน ผู้เรียนต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์
และวธิ ีการนําไปใชใ้ หถ้ ูกตอ้ งตามบรบิ ทเพ่อื ใหก้ ารส่ือสารมปี ระสทิ ธภิ าพยิง่ ข้นึ
ตวั ชีว้ ัด
ท ๔.๑ ป.๔/ ๒ ระบชุ นดิ และหน้าท่ขี องคําในประโยค
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของคําวเิ ศษณ์ได้
๒. ใชค้ าํ วเิ ศษณ์ได้ถูกต้องตามบริบท
๓. แตง่ ประโยคด้วยคาํ วิเศษณ์ได้
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รักความเป็นไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี นิ ัย
๕. อยู่อย่างพอเพียง
สาระการเรียนรู้
๑. ความหมายของคําวเิ ศษณ์
๒. หนา้ ที่ของคําวิเศษณ์
๓. การใชค้ ําวเิ ศษณ์
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขัน้ ที่ ๑ นักเรยี นเลน่ เกมตามลา่ หาคู่ (ภาคผนวก)
ข้ันที่ ๒ ครูวางแถบประโยคที่ยังไม่มีคําวิเศษณ์บนกระเป๋าผนัง นักเรียนอ่านประโยคพร้อมกัน เช่น
ฉัน ใส่ เสอ้ื จากนน้ั ใหว้ างบตั รคาํ ตอ่ ท้าย เชน่ สขี าว
ฉันใสเ่ ส้ือ สขี าว
มา้ ของฉนั ว่ิงเรว็ มาก
ข้นั ที่ ๓ ครูสรุปว่าคาํ ท่นี ํามาต่อท้ายประโยคเหลา่ นเ้ี รยี กว่า คําวเิ ศษณ์
ขั้นที่ ๔ นกั เรยี นแบง่ กลุ่มอา่ นเร่ืองคําวเิ ศษณ์ ในอธบิ ายเพิ่ม เตมิ ความรู้ ในหนังสอื เรียน
ขั้นที่ ๕ แตล่ ะกลุ่มช่วยกันหาคําวิเศษณ์จากบทเรียน ชีวิตที่ถูกเมิน แล้วบันทึกคําวิเศษณ์ท่ีหาได้ลงใน
สมดุ
ขน้ั ท่ี ๖ นักเรียนนําคําวิเศษณ์ที่หาได้มาแต่งประโยคใหม่ กลุ่มละ ๑ ประโยค ให้ตัวแทนกลุ่มเขียน
ประโยคบนกระดานดํา ทกุ คนอา่ นและสังเกตตาํ แหนง่ ของคําวิเศษณ์ในประโยคน้นั ๆ
ขน้ั ท่ี ๗ นกั เรียนทําแบบฝกึ ทกั ษะภาษาที่ ๕ ขอ้ ๓ (๔)
ข้นั ที่ ๘ ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นแตง่ ประโยคท่มี คี าํ วิเศษณ์คนละ ๓ ประโยค (เปน็ การบา้ น)
ขั้นที่ ๙ นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดทําสมุดรวบรวมชนิดของคํา ได้แก่ คํานาม คําสรรพนาม คํากริยา
คําวเิ ศษณ์ นําส่งช้นิ งานของกลมุ่ (ทาํ นอกเวลา)
สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้
๑. เกมตามล่าหาคู่
๒. บัตรคํา
๓. หนงั สอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๔. แบบฝกึ หัด รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวิต ทักษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
วัดผลประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝกึ หดั
- ตรวจสมุดรวบรวมคํา
๒. เคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบการสังเกตพฤติกรรม
- แบบฝึกหดั
- สมดุ รวบรวมคาํ
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การทาํ แบบฝึกหดั /ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๗ เร่อื ง ชวี ติ ที่ถกู เมิน เวลา ๗ ชว่ั โมง
เร่ือง ประโยคเพอ่ื การสื่อสาร เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………..
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ
สาระสาํ คญั
การเขยี นและใช้ประโยคได้ถูกต้อง ทําให้ผู้พูดและผู้ฟังมีความเข้าใจที่ตรงกัน ช่วยให้การส่ือสารเป็นไป
อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตัวช้ีวดั
ท ๔.๑ ป.๔/ ๔ แต่งประโยคได้ถูกตอ้ งตามหลักภาษา
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. แต่งประโยคได้
๒. นําประโยคไปใช้ในการส่ือสารไดถ้ ูกต้อง
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๑. รักความเป็นไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
สาระการเรียนรู้
- ประโยคเพือ่ การสือ่ สาร
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขน้ั ท่ี ๑ แบ่งนกั เรียนเปน็ กลุม่ เล่น เกม “เธอถามฉนั ตอบ” โดยให้กลุม่ แรกเปน็ คนเรมิ่ คําถาม กล่มุ ที่ ๒
เปน็ ผ้ตู อบ เมือ่ ตอบไดแ้ ลว้ ให้ตง้ั คาํ ถามกลุม่ ที่ ๓ ตอ่ ถ้ากลมุ่ ใดตอบช้า หรือตอบไม่ถกู จะถกู ตดั คะแนน
ขั้นที่ ๒ ครแู สดงแถบประโยคชนดิ ตา่ งๆ ให้นักเรียนอ่านแลว้ บอกว่าเป็นประโยคชนดิ ใด เช่น
แมเ่ ปน็ ช่างตัดเส้อื (ประโยคบอกเลา่ )
นอ้ งไมช่ อบเรียนหนังสือ (ประโยคปฏเิ สธ)
ข้ันท่ี ๓ นกั เรยี นอา่ นเรื่อง ประโยคเพ่อื การสอื่ สาร ในอธิบายเพิ่มเติมความรู้ ในหนังสอื เรยี น
ขน้ั ที่ ๔ นกั เรียนชว่ ยกันเขียนประโยคชนิดต่างๆ ลงในกระดาษ กลุ่มละ ๑ ประโยค นําเสนอหน้าช้ัน
เรียน ใหเ้ พ่ือนช่วยบอกวา่ เปน็ ประโยคชนดิ ใด
ขั้นท่ี ๕ ครูเพมิ่ เตมิ โดยแสดงแถบประโยค แลว้ ให้นกั เรียนอ่านแล้วบอกวา่ เป็นประโยคชนดิ ใด
ข้ันที่ ๖ ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั สรุปความรู้เร่ืองประโยคเพือ่ การสอื่ สาร
ขั้นท่ี ๗ นกั เรียนทําแบบฝกึ ทกั ษะภาษาท่ี ๕ ขอ้ ๓ (๕ – ๖) และข้อ ๔
สอื่ / แหลง่ เรียนรู้
๑. เกมเธอถามฉันตอบ
๒. แถบประโยค
๓. หนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔
๔. แบบฝึกหัด รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวติ ทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝกึ หดั
๒. เครอื่ งมือท่ีใช้ในการประเมิน
- แบบการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หดั
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารทําแบบฝกึ หดั ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๘ เรอ่ื ง โอม! พินจิ มหาพิจารณา เวลา ๘ ชั่วโมง
เรือ่ ง การอ่านออกเสยี ง เวลา ๒ ชว่ั โมง
……………………………………………………………………………………………………...………….
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ ไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์
ในการดาํ เนินชีวติ และมนี ิสยั รกั การอา่ น
สาระสาํ คญั
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องท้ังด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงตํ่าของเสียงตาม
บรบิ ทแหง่ เน้อื หา จงึ จะทาํ ใหก้ ารสอ่ื สารมปี ระสทิ ธิภาพ เกดิ ความเขา้ ใจตรงกันระหวา่ งผู้สง่ สารและผรู้ บั สาร
ตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๔/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อา่ นออกเสียงบทเรียนได้ถกู ต้อง ชัดเจน
๒. อา่ นประโยคในบทเรยี นได้ถกู ต้อง
๓. บอกความหมายคําใหมใ่ นบทเรยี นได้
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มีจิตสาธารณะ
๔. มีวินยั
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
สาระการเรียนรู้
๑. อ่านออกเสียงเรอ่ื ง “โอม! พนิ ิจมหาพจิ ารณา”
๒. การวเิ คราะห์เร่อื ง “โอม! พนิ จิ มหาพจิ ารณา”
๓. คํายากในบทเรียน
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขัน้ ที่ ๑ ครูอธิบายจดหมายลูกโซ่แล้วให้นักเรียนแล้วให้นักเรียนช่วยอภิปรายแสดงความคิดเห็นและ
สรปุ
ขั้นที่ ๒ แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่มอ่านเรื่อง โอม! พินิจมหาพิจารณา ในหนังสือเรียน จากน้ันช่วยกันสรุป
เนื้อเรอ่ื งและแสดงข้อคิดเห็นจากเนื้อเร่อื ง ครูชว่ ยถามนาํ เดเห็นจากเนือ้ เรื่อง ครูช่วยถามนําเพื่อใหน้ ักเรียนมีความ
ชดั เพ่อื ให้นักเรยี นมีความชัดเจนมากขน้ึ
ขัน้ ที่ ๓ นักเรียนอ่านออกเสียงอ่านเพ่ิมเติมความหมายในหนังสือเรียน ครูและนักเรียนอภิปราย
ความหมายของคําศัพท์ แล้วชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งประโยคเพิม่ เตมิ
ขัน้ ท่ี ๔ นักเรียนช่วยกันบอกความเช่ือท่ีมีในท้องถ่ิน เช่น ไม่ช้ีรุ้งกินนํ้าเพราะจะทําให้นิ้วกุด ฟ้าร้อง
ฟ้าผ่าเกดิ จากรามสรู ขว้างขวาง เป็นต้น แล้วอภปิ รายแสดงความคิดเห็น
ข้นั ที่ ๕ นกั เรยี นอา่ นออกเสยี ง บทร้อยกรองเรอ่ื งกอ่ นจะเชื่อสง่ิ ใดให้ยั้งคิด จากบทอา่ นเสริมในหนังสือ
เรียน (ครูอาจบอกหรอื สาธิตวธิ กี ารอ่านทถ่ี กู ต้องก่อน) นักเรยี นฝึกอ่านให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การอ่าน ครูและ
นกั เรียนช่วยกันสรุปความหมายขอ้ คดิ ทไ่ี ด้จากบทรอ้ ยกรอง
ขัน้ ท่ี ๖ ทําแบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา แบบฝกึ หัดที่ ๖ ขอ้ ๑ (๑ – ๖)
ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
๒. แบบฝกึ หัด รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวติ ทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝึกหดั
๒. เครื่องมือท่ีใช้ในการประเมนิ
- แบบการสังเกตพฤติกรรม
- แบบฝกึ หดั
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นกั เรียนผ่านเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารทาํ แบบฝกึ หดั ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๘ เรือ่ ง โอม! พินิจมหาพจิ ารณา เวลา ๘ ชว่ั โมง
เร่อื ง การแสดงความคดิ เห็นเชิงวิจารณ์ เวลา ๒ ช่วั โมง
……………………………………………………………………………………………………...………….
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขยี นสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
สาระสาํ คัญ
การวจิ ารณ์คอื การพดู หรอื เขียนแสดงความคดิ เหน็ ท่ีมีต่อเรื่องท่ีอ่านหรือฟังโดยใช้เหตุผลสนับสนุนอย่าง
หนักแน่น หลีกเล่ียงมิให้กระทบกระเทือนถึงตนเองและบุคคลอ่ืน ผู้แสดงความคิดเห็นควรมีการศึกษาอย่าง
รอบคอบและรู้จักข้อเท็จจรงิ ข้อคิดเห็น จะชว่ ยสามารถตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาํ วนั ได้
ตัวชีว้ ัด
ท ๒.๑ ป.๔/๗ เขียนวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งในเรื่องตา่ งๆ
ท ๒.๑ ป.๔/๘ มมี ารยาทในการเขียน
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. วิพากษ์วจิ ารณ์เร่อื งที่อา่ นได้
๒. เขยี นวพิ ากษ์วิจารณเ์ ร่ืองทีอ่ ่านได้
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี นิ ัย
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
สาระการเรียนรู้
๑. การจับประเด็นสําคญั ของเรอื่ ง
๒. การวจิ ารณ์เร่อื ง
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี ๑ นักเรยี นดูภาพในบทเรียน เร่อื ง โอม! พินิจมหาพจิ ารณา สนทนาเก่ียวกับตัวละครในภาพ โดย
นักเรียนผลัดกนั พูดวจิ ารณล์ กั ษณะของตัวละครในภาพวา่ เปน็ คนอยา่ งไร ลกั ษณะภายนอกบ่งบอกว่าเปน็ คนดหี รือ
คนชั่วไดห้ รือไม่
ขน้ั ที่ ๒ แบ่งนักเรยี นเป็นกล่มุ อา่ นอธบิ ายเพ่มิ เติมความรู้ เร่อื งการแสดงความคิดเห็นเซิงวิจารณ์/การ
แยกแยะข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ ในหนังสอื เรียน แลว้ ช่วยกันสรปุ ความรู้จากเรือ่ งท่ีอา่ นเปน็ แผนภาพความคิด ครู
ชว่ ยสรปุ เพมิ่ เตมิ ให้ชดั เจน
ขัน้ ที่ ๓ นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันค้นหาข้อความหรือคําพูดที่แสดงความคิดเห็นเชิงวิจารณ์จาก
บทเรยี น เรื่อง โอม! พนิ ิจมหาพิจารณา นําเสนอหน้าชนั้ เรยี น เพอื่ นๆ ชว่ ยกันพจิ ารณาวา่ ถูกต้องหรือไม่
ขั้นที่ ๔ นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ทาํ กิจกรรม ชวนกันคิด ช่วยกันตอบ และกิจกรรม ชวนกันอ่าน ชวนกันร้อง
ในหนังสือเรียน
ขน้ั ที่ ๕ ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรุปบทเรียน
ขัน้ ท่ี ๖ ทาํ แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา แบบฝกึ หัดที่ ๖ ข้อ ๓ (๑)
สื่อ/ แหลง่ เรยี นรู้
๑. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๒. แบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชวี ติ ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝึกหดั
๒. เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หัด
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การทาํ แบบฝกึ หดั รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๘ เรื่อง โอม! พนิ จิ มหาพิจารณา เวลา ๘ ช่ัวโมง
เรือ่ ง การสรปุ เรือ่ ง เวลา ๑ ช่วั โมง
……………………………………………………………………………………………………...………….
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี น เขยี นสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
สาระสาํ คัญ
การเขียนสรุปเรอ่ื ง เปน็ การเขยี นเพอ่ื จับใจความสาํ คัญและย่อเนอ้ื หาจากเรือ่ งทอี่ ่านหรือฟังใหส้ ัน้ กระชับ
และได้ใจความ ซง่ึ ช่วยใหผ้ ้เู ขียนมที กั ษะดา้ นการสงั เกต วเิ คราะห์ สังเคราะห์และเกิดความรู้ทคี่ งทน
ตัวช้ีวัด
ท ๒.๑ ป.๔/๔ เขยี นย่อความจากเรื่องส้ันๆ
ท ๒.๑ ป.๔/๘ มมี ารยาทในการเขยี น
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. เขยี นสรปุ เร่ืองท่ีอ่านได้
๒. มีมารยาทในการเขียน
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มีจิตสาธารณะ
๔. มวี นิ ัย
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู้
- การเขยี นสรุปเรอ่ื งทีอ่ ่าน
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี ๑ นักเรยี นเล่นปรศิ นาคําทาย โดยใชป้ รศิ นาคาํ ทายทเี่ ป็นบทร้อยกรองง่ายๆ เช่น
ฉันคอื อะไร ฉนั ไม่มตี า
ฉนั มีแตห่ น้า เธอหาอ่านได้
อา่ นมากเกง่ มาก ไม่อยากใชไ่ หม
เรื่องสนุกถกู ใจ ฉนั ช่ืออะไรบอกที (คําตอบ หนังสอื )
ทายประมาณ ๒ – ๓ ปริศนา ครูซักถามว่าทําไมนักเรียนจึงตอบคําถามได้ จากน้ันจึงสรุปว่า
การทีเ่ ราจบั ประเดน็ หรอื ใจความสาํ คัญของเรอ่ื งไดจ้ ะทาํ ให้เราสรุปเรือ่ งได้
ข้ันท่ี ๒ นักเรียนแบ่งกลุ่มอ่านอธิบายเพ่ิม เติมความรู้ เรื่อง การสรุปเร่ืองในหนังสือเรียน ครูและ
นกั เรยี นช่วยกนั สรุปความหมาย ประโยชนแ์ ละขน้ั ตอนของการสรปุ เรือ่ งทดี่ ี
ขั้นที่ ๓ ครูอา่ นเร่ืองสัน้ ๆ จากหนังสอื พิมพ์ ใหน้ กั เรยี นช่วยกันสรุปใจความสาํ คัญของขา่ วนน้ั
ขัน้ ท่ี ๔ ครมู อบหมายให้นักเรียนหาข่าวหรือบทความส้ันๆ จากหนังสือพิมพ์/นิตยสาร/วารสารต่างๆ
แล้วตดั แปะในกระดาษท่ีครูแจกให้ จากนั้นอ่านสรุปเน้ือหาและวิเคราะห์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นจากข่าวหรือ
บทความนัน้ ๆ นาํ สง่ เป็นชิ้นงาน
ส่อื / แหลง่ เรียนรู้
๑. ปริศนาคําทาย
๒. หนังสือพิมพ์
๓. หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ิต ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔
วดั ผลประเมนิ ผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤตกิ รรม
- ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารทําช้ินงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๘ เรอ่ื ง โอม! พนิ จิ มหาพิจารณา เวลา ๘ ช่วั โมง
เรื่อง เครอ่ื งหมายวรรคตอน เวลา ๒ ช่วั โมง
……………………………………………………………………………………………………...………….
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนําไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดําเนิน
ชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น
สาระสาํ คญั
เครอ่ื งหมายวรรคตอนคอื สัญลกั ษณท์ ใี่ ช้เพื่อเน้น เชื่อม ละเว้น ข้อความหรือประโยคในภาษาไทยให้เกิด
ความเข้าใจตามเจตนารมณ์ของผู้ใช้ ในภาษาไทยของเรามีเคร่ืองหมายต่างๆ ใช้เขียนกํากับข้อความประโยค
มากมาย ผเู้ รยี นตอ้ งศึกษาหลกั และวิธีการนาํ ไปใชใ้ ห้ถกู ตอ้ งตามบรบิ ท
ตวั ชวี้ ดั
ท ๑.๑ ป.๔/ ๒ อธบิ ายความหมายของคํา ประโยค และสํานวนจากเร่อื งทอ่ี ่าน
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรยี นบอกความหมายวรรคตอนไดถ้ ูกตอ้ ง
๒. นกั เรียนใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอนไดถ้ กู ตอ้ ง
๓. นกั เรียนเขียนประโยคโดยใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอนได้
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
สาระการเรยี นรู้
๑. เครื่องหมายวรรคตอน
๒. ความหมายของเครือ่ งหมายวรรคตอน
๓. การใช้เครือ่ งหมายวรรคตอน
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้นั ท่ี ๑ ทบทวนความรู้เดิม เรื่องเครื่องหมายวรรคตอน โดยครูแสดงบัตรคําหรือแถบประโยคท่ีใช้
เครื่องหมายวรรคตอนให้นกั เรยี นอา่ น เช่น
กรงุ เทพฯ ข้าฯ ช้นั ป.๔/๑
ขน้ั ที่ ๒ นักเรียนแบ่งกลุ่มอ่านอธิบายเพ่ิม เติมความรู้ เรื่อง เครื่องหมายวรรคตอน ในหนังสือเรียน
สรุปความรู้ทีไ่ ด้จากการศึกษา
ขัน้ ที่ ๓ ครูแจกบัตรเครอ่ื งหมายวรรคตอนใหท้ ุกกลมุ่ เทา่ ๆ กนั เมอ่ื ครูขานช่อื เครอ่ื งหมายวรรคตอนใด
ให้นกั เรียนนาํ บัตรเคร่อื งหมายวรรคตอนนนั้ เสยี บบนกระเป๋าผนัง นักเรียนในห้องช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง
เสรจ็ แล้วครูแจกบตั รคําชือ่ เครือ่ งหมายวรรคตอนให้ทุกกลุ่ม เม่ือครูขานชื่อเคร่ืองหมายวรรคตอนใดให้นักเรียน
หยิบบัตรนั้นไปวางคู่กับบัตรเคร่ืองหมายวรรคตอนทว่ี างไว้บนกระเปา๋ ผนงั นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ข้ันท่ี ๔ ครเู ขยี นข้อความหรือประโยคที่ต้องใช้เครื่องหมายวรรคตอนบนกระดานดําทีละประโยค ให้
นักเรียนช่วยกันเตมิ เคร่อื งหมายวรรคตอนให้ถูกตอ้ ง แล้วอ่านพรอ้ มๆ กนั เชน่
- ตลาดนาํ้ มีของขายมากมาย เชน่ กาแฟโบราณ กว๋ ยเต๋ยี วผดั ไทย ลูกชิน้ ปงิ้ ...........
- ชว่ ยดว้ ย.........คนจมน้าํ
- ลานวดั เขมามีร้านคา้ นําสินคา้ ตา่ ง.......มาขายมากมาย
- ......ฉนั ต้องสอบเขา้ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ลใหไ้ ด.้ ...... วินยั พดู
ครูกบั นักเรียนช่วยกันสรปุ ความสําคัญและความจําเปน็ ในการใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอน
ขัน้ ที่ ๕ นกั เรยี นหาประโยคที่ใชเ้ ครอื่ งหมายวรรคตอนจากหนงั สอื ต่างๆ คนละ ๕ ประโยค เขียนลงใน
กระดาษรายงาน พร้อมท้ังตกแต่งให้สวยงามนํามาแสดงในชั้นเรียน รวบรวมเป็นรูปเล่มเป็นแหล่งความรู้ใน
ห้องเรยี น
ขั้นที่ ๖ นกั เรียนและครสู รปุ ความรู้ เรอ่ื งการใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอน
ขั้นที่ ๗ ทําแบบฝกึ หัด ทกั ษะภาษา แบบฝึกหัดที่ ๖ ขอ้ ๓ (๔)
ส่ือ/ แหลง่ เรยี นรู้
๑. บัตรเคร่ืองหมายวรรคตอน
๒. บตั รชื่อเคร่อื งหมายวรรคตอน
๓. บัตรคํา/ประโยค ที่ใช้เคร่อื งหมายวรรคตอน
๔. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๕. แบบฝึกหดั รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวติ ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
วัดผลประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
- ตรวจแบบฝึกหดั
๒. เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในการประเมนิ
- แบบการสังเกตพฤติกรรม
- ผลงาน
- แบบฝกึ หดั
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารทําช้ินงาน/แบบฝกึ หดั ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๘ เรอ่ื ง โอม! พนิ ิจมหาพิจารณา เวลา ๘ ชว่ั โมง
เร่ือง การเขยี นเวน้ วรรค เวลา ๑ ช่วั โมง
……………………………………………………………………………………………………...………….
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี น เขียนส่อื สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมีประสทิ ธิภาพ
สาระสาํ คญั
การเวน้ วรรคตอนคอื การแบง่ ชว่ งเน้ือหาสาระของประโยคหรือข้อความต่างๆ ในภาษาไทย ถ้าเว้นวรรค
ตอนผดิ จะทําให้ความหมายเปลย่ี นแปลงไป ผ้ใู ช้ภาษาต้องเวน้ วรรคตอนให้ถูกตอ้ ง เพอ่ื ใหก้ ารสอื่ สารตรงประเด็น
และมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ท ๒.๑ ข้อ ๑ คดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และคร่ึงบรรทดั
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรยี นเว้นวรรคตอนในการพูด อา่ น เขยี นใหถ้ กู ต้อง
๒. นกั เรยี นใช้ภาษาไดถ้ กู ตอ้ งตามสถานการณ์
๓. ทาํ แบบทดสอบหลังเรียนได้
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ยั
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู้
๑. ประโยคและขอ้ ความ
๒. การเวน้ วรรคตอน
๓. แบบทดสอบหลงั เรียน
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ ครูแสดงแถบประโยคที่ไม่มกี ารเว้นวรรคให้นักเรยี นอา่ น
ยานีด้ กี ินแล้วแข็งแรงไมม่ ีโรคภัยเบยี ดเบียน
หากมกี ารอ่านเว้นวรรคผดิ จะกลายเปน็
ยาน้ดี ี กินแลว้ แข็ง แรงไมม่ ี โรคภัยเบียดเบยี น
การอ่านเว้นวรรคทถี่ กู ตอ้ ง ไดแ้ ก่
ยานี้ดี กินแล้วแขง็ แรง ไมม่ ีโรคภยั เบียดเบียน
ขั้นท่ี ๒ นักเรียนแบ่งกลุ่มอ่าน อธิบายเพิ่ม เติมความรู้ เรื่อง เคร่ืองหมายวรรคตอน ในหนังสือเรียน
สรปุ ความรู้ท่ไี ดจ้ ากการอา่ น
ขั้นที่ ๓ ครยู กตวั อยา่ งประโยคทมี่ ีการเวน้ วรรคตอนผิดพลาด เช่น
เว้นวรรคถูกตอ้ ง
ห้ามครสู ตรีนุ่งกางเกง ในเวลาราชการ
เวน้ วรรคไมถ่ ูกต้อง
หา้ มครสู ตรีนุง่ กางเกงใน เวลาราชการ
เว้นวรรคถูกต้อง
พฉี่ นั ชอบรับประทานเนอ้ื สนุ ขั ฉันกช็ อบ
เวน้ วรรคไม่ถูกต้อง
พ่ฉี นั ชอบรับประทานเนอ้ื สุนัข ฉันก็ชอบ
นักเรียนพจิ ารณาความแตกตา่ งของความหมายในประโยค แล้วสรปุ ว่าถา้ เราเว้นวรรคประโยค
หรือขอ้ ความผดิ พลาด อาจทาํ ให้เข้าใจผดิ ส่อื ความผดิ และทาํ ให้เกิดความเสียหาย
ขั้นท่ี ๔ ครูสนทนากับนักเรียนนอกจาการเว้นวรรคในประโยคหรือข้อความแล้ว ยังมีการเขียนใน
ลักษณะท่ีคล้ายกัน คือ การเขียนย่อหน้า นักเรียนสังเกตวิธีการเขียนย่อหน้าในบทเรียน เรื่อง โอม! พินิจมหา
พจิ ารณา
ขน้ั ที่ ๕ นักเรียนอธิบายเพ่มิ เตมิ ความรู้ เร่ือง การเว้นวรรค ในหนังสือเรียน แลว้ ช่วยกันสรุปความรู้ท่ไี ด้
จากการอา่ น ครูอธิบายเพิ่มเติม
ข้ันท่ี ๖ ครูแสดงแผนภูมติ ัวอย่างการเขียนย่อหน้าที่ไม่ถูกต้องและย่อหน้าท่ีถูกต้องให้นักเรียนได้อ่าน
ครูและนกั เรยี นอภิปรายแสดงความคิดเหน็ ถงึ ความเหมาะสม สวยงามและความสมั พันธ์กันของข้อความน้นั ๆ
ขั้นท่ี ๗ นกั เรียนและครูสรปุ ความรู้ เร่ืองการใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอน
ขั้นที่ ๘ ทําแบบฝกึ หัดทกั ษะภาษา แบบฝึกหดั ที่ ๖ ขอ้ ๓ (๓, ๕)
สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. แถบประโยค
๒. หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝึกหัด
๒. เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการประเมิน
- แบบการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบฝึกหดั
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารทาํ แบบฝกึ หัด ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑๐ เร่ือง แรงพโิ รธจากฟา้ ดนิ เวลา ๕ ช่ัวโมง
เรือ่ ง การอ่านในใจ เวลา ๒ ชว่ั โมง
……………………………………………………………………………………………………...…………
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ ไปใชต้ ดั สนิ ใจแกป้ ญั หา และสร้างวิสัยทศั น์ใน
การดาํ เนนิ ชวี ิต และมนี ิสยั รักการอ่าน
สาระสําคญั
การอา่ นในใจคือการกวาดสายตาไปยังข้อความจากหนังสือ พุ่งความสนใจไปยังสาระท่ีอ่าน และเก็บ
ใจความสาํ คัญของเรอื่ งที่อา่ น สามารถถา่ ยโอนสาระทอ่ี ่านไปยังผอู้ ื่นได้ดว้ ยท้งั พูดและการเขยี น
ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเร่ืองสัน้ ๆ ตามเวลาท่กี าํ หนดและตอบคาํ ถามจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. อา่ นในใจและเกบ็ ใจความสําคญั ของเรื่องได้
๒. ถ่ายโอนสาระเรื่องราวทอี่ า่ นไปยงั ผอู้ ่ืนได้
๓. บอกความหมายคาํ ใหมใ่ นบทเรียนได้
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี นิ ัย
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
สาระการเรียนรู้
๑. อ่านในใจนทิ านเรือ่ ง “แรงพิโรธจากฟ้าดนิ ”
๒. เล่าเร่ือง ภยั พบิ ัตติ า่ งๆ
๓. ตอบคําถามของเรอ่ื ง “แรงพิโรธจากฟ้าดนิ ”
๔. ทําแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้ันที่ ๑ ครูนําภาพภัยธรรมชาตมิ าใหน้ กั เรียนดู และสนทนาเกี่ยวกับเรือ่ งของงภัยธรรมชาติท่ีนักเรียน
ร้จู กั และเกิดขึน้ บอ่ ยๆ จากนนั้ เลอื กทาํ กิจกรรมชวนกนั คิด ช่วยกนั ตอบ และช่วยกันสรุปเรือ่ งของภัยธรรมชาติ
ข้ันที่ ๒ นักเรียนเลน่ เกมตอ่ คาํ ศพั ท์คาํ ใหม่
ขนั้ ที่ ๓ นักเรียนอ่านคําศัพท์ในบทเรียนจากบัตรคําท่ีครูแสดง ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปราย
ความหมายของคาํ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นอา่ นอธบิ ายเพิ่มเติมความหมาย
ขั้นที่ ๔ นกั เรยี นอ่านในใจ เรือ่ งแรงพโิ รธจากฟา้ ดิน จากหนังสือเรียน ครูตั้งคําถามให้นักเรียนช่วยกัน
ตอบ (ในขณะทน่ี กั เรียนอา่ น สังเกตพฤติกรรมการอา่ นในใจ)
ขัน้ ท่ี ๕ นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปขอ้ คดิ ทีไ่ ดจ้ ากเร่ืองที่อา่ น
ข้ันที่ ๖ นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ ทาํ กิจกรรมชวนกันเสมอ ทําเป็นรายงานนําเสนอหน้า
ชั้นเรยี น
ขน้ั ที่ ๗ ทาํ แบบฝกึ หดั ทักษะภาษา แบบฝกึ หดั ท่ี ๗ ขอ้ ๑–๒
ส่ือ/ แหลง่ เรยี นรู้
๑. เกมต่อคาํ ศพั ท์
๒. หนงั สือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ติ ทักษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วิธีการประเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกึ หัด
๒. เครอื่ งมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หัด
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การทําแบบฝกึ หดั รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๒
กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๐ เร่อื ง แรงพโิ รธจากฟา้ ดิน เวลา ๕ ช่ัวโมง
เร่อื ง การแสดงบทบาทสมมติ เวลา ๑ ช่ัวโมง
……………………………………………………………………………………………………...………….
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึกใน
โอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์
สาระสาํ คญั
การแสดงบทบาทสมมติ เป็นการเล่าเร่ืองราวจากการอา่ นดว้ ยความสนกุ สนาน ฝึกทักษะ การคดิ การพดู
กล้าแสดงออกและช่วยให้เข้าใจเรื่องราวได้ดีขึ้น การเรียนรู้ท่ีสอดแทรกด้วยการแสดงบทบาทสมมุติ จะทําให้
ประสิทธิภาพในการเรียนรสู้ ูงข้นึ เกดิ องคค์ วามร้ทู ี่ยัง่ ยนื ผเู้ รียนสามารถนําประสบการณ์และทักษะท่ีได้จากการ
แสดงไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจําวันได้
ตัวช้ีวดั
ท ๓.๑ ป.๔/ ๓ พูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และความรสู้ ึกเก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและดู
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นกั เรยี นแสดงบทบาทสมมุติตามบทอ่านได้
๒. นักเรยี นใชภ้ าษาได้ถกู ตอ้ งตามสถานการณ์
๓. นกั เรยี นวิจารณก์ ารแสดงบทบาทสมมตุ ิของเพื่อนได้
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี นิ ยั
๕. อยูอ่ ย่างพอเพียง
สาระการเรยี นรู้
๑. การแสดงบทบาทสมมุติ
๒. การใชภ้ าษาตามบทบาท
๓. การเลือกใชค้ ําศัพท์
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี ๑ นกั เรยี นแบง่ กลุม่ ตามความเหมาะสม เลน่ เกมเรียงคําตามเร่อื งราว (ภาคผนวก)
ข้ันที่ ๒ ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ แสดงบทบาทสมมตุ ิตอนใดตอนหน่ึงจากนทิ านเร่อื ง แรงพโิ รธจากฟา้ ดิน
ขั้นที่ ๓ นกั เรยี นอ่านออกเสยี งบทอา่ นเสริมเร่อื ง คําเตอื นจากฟ้าดนิ จากหนงั สอื เรยี น แล้วบอกขอ้ คดิ ท่ี
ได้จากการอา่ นเป็นแนวปฏิบตั ติ น
ขั้นท่ี ๔ นกั เรียนและครสู รปุ เร่อื ง คาํ เตือนจากฟา้ ดนิ โดยเขยี นเป็นแผนภาพความคดิ
สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. เกมเรียงคาํ ตามเร่อื งราว
๒. หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบการสังเกตพฤตกิ รรม
- ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การทําชิ้นงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓
กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑๐ เรอ่ื ง แรงพโิ รธจากฟ้าดนิ เวลา ๕ ชั่วโมง
เรอ่ื ง การคดั ลายมอื เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...………….
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี น เขยี นสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธิภาพ
สาระสําคัญ
การคัดลายมอื เปน็ การใช้ทักษะในการเขยี นเพอื่ ใหเ้ กิดความเป็นระเบียบ สวยงามและเป็นการฝึกทักษะ
การเขยี นสะกดดว้ ยไปในตัว นอกจากนนั้ ยงั เป็นการส่งเสรมิ ใหเ้ กิดสมาธิ มสี ติในการเขยี น และยังสง่ เสริมให้มีนิสัย
รักการเขยี นดว้ ย
ตวั ช้วี ดั
ท ๒.๑ ป.๔/ ๑ คดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดและครึง่ บรรทดั
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. เขียนตามคาํ บอกจากคําในบทเรียนไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
๒. คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและคร่งึ บรรทัดไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง สวยงามและรวดเร็ว
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มีจิตสาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
สาระการเรยี นรู้
๑. หลกั การคดั ลายมอื ใหส้ วยงาม
๒. การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัดสวยงามและรวดเรว็
๓. การอา่ นสะกดคํา
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้นั ที่ ๑ นักเรียนดูแผนภูมิตัวอักษรแบบกระทรวงศึกษาธิการ พยัญชนะ ก–ฮ และสังเกตลักษณะ
พยญั ชนะแต่ละตัว
ขั้นท่ี ๒ ครูนําผลงานคดั ลายมอื ท่สี วยงาม หรอื ผลงานการคัดลามือถกู ตอ้ งของเพ่ือนในห้องมาให้ดูเป็น
ตวั อย่าง
ขั้นที่ ๓ นกั เรียนอา่ น อธบิ ายเพิ่มเติมความรู้ เรือ่ งการคัดลายมอื ตัวบรรจงจากในหนังสือเรียน ครูและ
นักเรยี นอภิปราย หลักเกณฑ์การคดั ลายมอื ครูสรปุ เพมิ่ เติม
ขน้ั ที่ ๔ ครูมอบหมายให้นักเรียนคัดลายมอื สง่ เป็นชน้ิ งาน
ข้นั ที่ ๕ ทาํ แบบฝึกหัดทักษะภาษา แบบฝกึ หัดที่ ๗ ข้อ ๓ (๑ – ๔) และข้อ ๔
สอื่ / แหลง่ เรียนรู้
๑. แผนภูมติ วั อักษร
๒. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชีวติ ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
วัดผลประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกึ หัด/ผลงาน
๒. เครื่องมือที่ใชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝกึ หัด/ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การทําแบบฝกึ หดั /ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑๐ เร่ือง แรงพิโรธจากฟา้ ดนิ เวลา ๕ ชวั่ โมง
เรื่อง คาํ พอ้ ง เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...………….
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ
สาระสาํ คญั
๑. คาํ พ้องเสียงคอื คาํ ทม่ี คี วามหมายเดยี วกันแตร่ ปู และความหมายแตกตา่ งกัน ผูเ้ รียนต้องรู้จักแยกแยะ
และใช้ให้ถกู ต้องตามบรบิ ท เพือ่ ให้การสอ่ื สารเป็นไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
๒. คําพ้องความหมายคอื คําทมี่ ีความหมายเดียวกันแต่รูปและเสียงไม่เหมือนกัน เพื่อให้เกิดคําใหม่ข้ึน
อย่างหลากหลายหรอื ตามระดบั แหง่ ภาษา เราต้องเลือกใช้ใหถ้ ูกต้อง ตามบรบิ ทเพื่อให้การสอ่ื สารมีประสิทธิภาพ
มากย่งิ ขึ้น
ตวั ชีว้ ัด
ท ๔.๑ ป.๔/ ๑ สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ในบริบทตา่ งๆ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นเลอื กใช้คําและประโยคได้ถูกต้องเหมาะสม
๒. นักเรยี นพูดได้ถูกตอ้ งตามกาลเทศะ
๓. นักเรียนจับใจความสาํ คัญของเร่อื งท่ีฟงั ได้
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง
สาระการเรียนรู้
๑. คําพอ้ งเสียง
๒. คาํ พ้องความหมาย
๓. การใชภ้ าษาใหถ้ กู ตอ้ งตามบริบท
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ นักเรียนเลน่ เกมจบั คู่คาํ พอ้ งเพ่ือเป็นการทบทวนความรูเ้ ดมิ โดยแบ่งกล่มุ ๆ ละ ๔ – ๕ คน จับคู่
คาํ พ้องรูป และคาํ พอ้ งเสยี ง กลุ่มใดจับคไู่ ดก้ อ่ นและถกู ตอ้ ง เป็นฝา่ ยชนะ แลว้ ทุกกลุ่มอ่านคาํ พอ้ งพรอ้ มกัน
ข้ันท่ี ๒ ครูเขยี นคําวา่ จัน, จันทร์ และจันทน์ บนกระดาน ให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกัน ครู
ถามนกั เรียนว่าทั้ง ๓ คําน้มี ีความหมายเหมือนกนั หรอื ไม่ คําตอบก็คือไม่เหมือนกัน ให้นักเรียนหาความหมาย
ของคําทงั้ สามจากพจนานุกรม ครูสนทนาเก่ียวกบั คําท่มี เี สียงเหมือนกันว่าเป็นคําพ้องชนิดหน่ึง เรียกว่าคําพ้อง
เสยี งเพราะออกเสียงเหมือนกัน แต่เขยี นตา่ งกัน ส่วนคําที่เขียนเหมือนกนั แตอ่ อกเสียงต่างกนั มีความหมายต่างกนั
คอื คาํ พ้องรปู และคําท่ีมคี วามหมายเหมอื นกัน ใช้ในโอกาสตา่ งกนั เรยี กว่าคาํ พอ้ งความ
ขน้ั ท่ี ๓ นักเรยี นอา่ นเพม่ิ เตมิ ในอธิบายเพ่ิม เติมความรู้ จากนัน้ ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรุปความรเู้ รือ่ ง
คาํ พอ้ ง
ข้ันที่ ๔ ทําแบบฝึกหดั ทักษะภาษา แบบฝกึ หดั ที่ ๗ ขอ้ ๓ (๕ – ๖)
ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
๑. เกมจบั คู่คาํ พอ้ ง
๒. หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ติ ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ติ ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
วดั ผลประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกึ หดั /ผลงาน
๒. เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการประเมิน
- แบบการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบฝึกหดั /ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารทาํ แบบฝึกหัด/ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
ภาคผนวก
เกมเรียงคําตามเรอ่ื งราว
๑. จดุ ประสงค์
๑. เพอ่ื ให้นกั เรยี นสามารถเรยี งข้อความตามลาํ ดับเรือ่ งได้
๒. ฝกึ การทํางานร่วมกับผอู้ ื่น
๒. อุปกรณ์
- แถบประโยคเขียนข้อความในบทเรียน
๓. วิธเี ลน่
๑. แบง่ ผเู้ ล่นออกเป็นกล่มุ ย่อยๆ กลมุ่ ละ ๓–๕ คน
๒. ครูตดิ แถบประโยคข้อความจากบทเรียน โดยสลับก่อนหลังคละกันไป นักเรียนทุกคนช่วยกันอ่าน
แถบประโยค
๓. ครูแจกแถบประโยคชุดเล็กให้กับนักเรียนทุกกลุ่ม ให้นักเรียนช่วยกันเรียงประโยคให้เป็นเรื่องราว
ตามลําดบั ก่อนหลัง กลุ่มไหนเสร็จกอ่ นและถูกต้องก็จะไดร้ บั คาํ ชมเชย
๔. อ่านเรอื่ งทีเ่ รียงลําดับแล้วอีกคร้งั หน่ึง พร้องหับต้งั ชอ่ื เร่ืองด้วย
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑๑ เร่ือง ไวรสั วายร้าย เวลา ๕ ช่วั โมง
เร่ือง เรียนรู้คํานําไปใช้ เวลา ๑ ช่ัวโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดไปใช้ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หา และสรา้ งวิสยั ทศั น์ใน
การดาํ เนนิ ชีวิต และมนี ิสัยรักการอา่ น
สาระสําคญั
การอธิบายความหมายของคาํ ประโยคและข้อความได้อยา่ งถูกตอ้ ง ผ้อู ่านต้องรู้และเข้าใจ จงึ จะสามารถ
สื่อสารกบั ผอู้ นื่ ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชว้ี ดั
ท ๑.๑ ป.๔/ ๒ อธิบายความหมายของคํา ประโยค และสาํ นวนจากเรอ่ื ง ทอี่ ่าน
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อา่ นออกเสยี งคาํ ศัพทไ์ ด้ถกู ต้อง ชดั เจน
๒. อ่านประโยคในบทเรยี นไดถ้ กู ต้อง
๓. บอกความหมายคําใหม่ในบทเรยี นได้
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง
สาระการเรยี นรู้
๑. อา่ นคํายากในบทเรียน
๒. อา่ นออกเสียงบทเรียน
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นที่ ๑ นักเรยี นเล่นเกม เด็กสมองไว เพอ่ื ฝึกทักษะการอา่ นและการเขียนคาํ (ภาคผนวก)
ข้นั ท่ี ๒ นักเรียนอ่านบัตรคํา เช่น ไข้สองอักเสบเจอี ไข้หวัดนก ภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ครูและนักเรียน
อภิปรายความหมายของคาํ นักเรียนอ่านเพิ่มเติมจากอธิบายเพม่ิ เติมความหมาย ในหนังสอื เรยี น
ขัน้ ท่ี ๓ แบ่งกลุ่มนักเรียน แต่ละกลุ่มร่วมกันกาคํายากในบทเรียน เขียนลงในใบกิจกรรมที่ ๑
(ภาคผนวก)
ขนั้ ที่ ๔ สุม่ นกั เรยี นออกมานาํ เสนอผลงาน โดยการอ่านคําและบอกความหมายของคํายากทก่ี ลมุ่ ตนเอง
หาได้หน้าชั้นเรียน และครเู กบ็ รวบรวมผลงานนักเรียนเปน็ สมุดคาํ ยากประจาํ บทเรียน
ขั้นท่ี ๕ นกั เรียนและครูช่วยกันสรปุ ความรู้เกี่ยวกับคาํ ศัพท์
ข้ันที่ ๖ ทําแบบฝกึ หัดทกั ษะภาษา แบบฝกึ หดั ท่ี ๘ ข้อ ๒ (๑ – ๒)
สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้
๑. เกมเด็กสมองไว
๒. หนังสอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ติ ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝึกหัด/ผลงาน
๒. เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการประเมิน
- แบบการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบฝึกหดั /ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การทําแบบฝกึ หดั /ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒
กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑๑ เรือ่ ง ไวรสั วายร้าย เวลา ๕ ชว่ั โมง
เร่ือง การอ่านออกเสยี ง เวลา ๑ ชว่ั โมง
……………………………………………………………………………………………………...…………
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ ไปใช้ตดั สนิ ใจแก้ปญั หา และสร้างวสิ ยั ทัศน์ใน
การดาํ เนินชวี ติ และมนี ิสัยรกั การอ่าน
สาระสําคัญ
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องท้ังด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงต่ําของเสียงตาม
บริบทแหง่ เน้อื หา จงึ จะทําใหก้ ารสื่อสารมีประสทิ ธภิ าพ เกิดความเข้าใจตรงกนั ระหว่างผสู้ ง่ สารและผรู้ ับสาร
ตัวชวี้ ดั
ท ๑.๑ ป.๔/ ๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสียงบทเรียนไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน
๒. อ่านประโยคในบทเรยี นไดถ้ กู ต้อง
๓. บอกความหมายคาํ ใหมใ่ นบทเรยี นได้
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยู่อย่างพอเพียง
สาระการเรียนรู้
๑. อ่านออกเสยี งเรือ่ ง “ไวรัสวายรา้ ย”
๒. การวเิ คราะห์เรอื่ ง “ไวรัสวายรา้ ย”
๓. คาํ ยากในบทเรียน
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขัน้ ที่ ๑ ครูหาอาสาสมัครออกมาเล่าเรื่องท่ีตนเองเคยป่วยให้เพื่อนฟัง (กิจกรรมชวนกันเล่าสู่กันฟัง)
แลว้ ชว่ ยกันสรุปความรเู้ กี่ยวกบั โรคทเี่ กิดจากเชือ้ ไวรสั
ข้นั ที่ ๒ นกั เรียนบททวนคาํ ยากโดยการอา่ นจากบตั รคาํ
ข้ันที่ ๓ นกั เรยี นอ่านออกเสยี งบทเรยี น เร่อื งไวรัสวายรา้ ย ในหนังสอื เรยี น โดยผลัดกันอ่าน ครูซักถาม
ดว้ ยคาํ ถามเชิงเหตุผล นกั เรียนช่วยกนั ตอบ
ขน้ั ท่ี ๔ ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรุปความร้จู ากบทเรียน
ขัน้ ที่ ๕ ทาํ แบบฝกึ หดั ทักษะภาษา แบบฝึกหัดท่ี ๘ ขอ้ ๑ (๑ – ๗)
ส่อื / แหล่งเรียนรู้
๑. บตั รคํายาก
๒. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ิต ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝกึ หัด/ผลงาน
๒. เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการประเมิน
- แบบการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หัด/ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การทาํ แบบฝึกหดั /ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑๑ เรือ่ ง ไวรัสวายร้าย เวลา ๕ ชั่วโมง
เรอ่ื ง การเขยี น แผนภาพความคิด เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...………
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
สาระสําคญั
การเขียนแผนภาพ โครงเรอื่ งและแผนภาพความคิดไดถ้ ูกตอ้ งตามเน้ือเรือ่ งส่งผลให้ผเู้ ขียนสามารถส่ือสาร
กับผ้อู า่ นไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ชัดเจน และรวดเร็ว ทัง้ เป็นการพัฒนางานเขยี นอีกรูปแบบหนึ่ง
ตัวช้วี ัด
ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพ่อื ใช้พัฒนางานเขียน
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภาพความคดิ ได้
๒. นักเรียนสามารถเล่าเรอ่ื งยอ่ จากบทเรยี นได้
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มีวินยั
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู้
๑. การเขยี นแผนภาพความคดิ
๒. การเขยี นเรอื่ งยอ่ ในบทเรยี น
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นที่ ๑ นกั เรยี นเลน่ เกม เรียงคาํ ตามเรือ่ งราว (ภาคผนวก)
ขั้นที่ ๒ นักเรียนอ่านในใจ อ่านเสริม เรอ่ื ง ทาํ ความเข้าใจกบั โรคเอดส์ จากหนังสือเรียน แล้วช่วยกนั เล่า
เรื่องย่อๆ อภปิ รายสรุปความรจู้ ากเร่ืองทอ่ี า่ น
ขน้ั ท่ี ๓ แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ กลมุ่ ช่วยกันสรปุ ความรู้เปน็ แผนภาพความคิดของหอ้ งเรียน
ขั้นท่ี ๔ ครมู อบหมายนักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาคน้ คว้าเกีย่ วกบั โรคท่ีเกิดจากเชื้อไวรัส สาเหตุ อาการ
วธิ รี กั ษาและการปฏิบตั ิตน กลุ่มละ ๑ เร่ือง จัดทําเป็นรายงานส่งในชั่วโมงต่อไป (กิจกรรมเสนอแนะ)
ข้ันที่ ๕ ครูและนักเรียนช่วยกันเติมข้อความใจความสําคัญของเร่ืองและช่วยกันแก้ไขปรับปรุงให้
สมบูรณ์
ขน้ั ท่ี ๖ ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรุปความรูท้ ี่ไดจ้ ากบทเรียน
สื่อ/ แหล่งเรียนรู้
๑. เกมเรียงคาํ ตามเรอื่ งราว
๒. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
วัดผลประเมนิ ผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหัด/ผลงาน
๒. เครอ่ื งมือที่ใช้ในการประเมิน
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝึกหัด/ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารทาํ แบบฝกึ หดั /ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๔
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๑ เรอ่ื ง ไวรสั วายรา้ ย เวลา ๕ ชัว่ โมง
เรอ่ื ง การเขียน รายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ เวลา ๑ ช่วั โมง
……………………………………………………………………………………………………...………
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
สาระสําคญั
การเขียนบนั ทึกและเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า ผู้เขียนจะต้องเขียนได้ถูกต้องตามรูปแบบ และ
ต้องอาศยั ข้อมลู จากการศึกษาค้นควา้ จึงจะชว่ ยใหเ้ กดิ ทกั ษะที่ดใี นการเขยี น และสื่อความไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชี้วดั
ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขยี นบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นควา้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- นกั เรียนสามารถเขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ ได้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อย่อู ย่างพอเพยี ง
สาระการเรียนรู้
- การเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้ันที่ ๑ นักเรียนดูตัวอย่างแผนภาพความคิดเร่ือง โรคเอดส์ที่เรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา และร่วมกัน
สนทนาอภปิ รายเก่ียวกับความหมาย และวิธีการเขียนแผนภาพความคดิ ท่ถี กู ตอ้ ง
ขั้นท่ี ๒ แบง่ กลุ่มนกั เรียนเขยี นแผนภาพความคดิ เร่ือง โรคจากเช้ือไวรัส โดยใช้ข้อมูลท่ีได้จากการทํา
รายงานการศึกษาค้นคว้า นําเสนอหน้าห้อง แล้วรวบรวมเป็นสมุดความรูป้ ระจําห้องเรียน
ขน้ั ท่ี ๓ ทาํ แบบฝกึ หดั ทกั ษะภาษา แบบฝกึ หดั ท่ี ๘ ขอ้ ๓ (๑ – ๒) และข้อ ๔
สื่อ/ แหล่งเรยี นรู้
๑. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๒. แบบฝกึ หดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหดั /ผลงาน
๒. เคร่อื งมือท่ใี ช้ในการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝกึ หดั /ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การทาํ แบบฝึกหดั /ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐