แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๕
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๑ เร่อื ง ไวรัสวายรา้ ย เวลา ๕ ชว่ั โมง
เร่อื ง การเขยี นเรียงความ เวลา ๑ ช่วั โมง
……………………………………………………………………………………………………...………
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ
สาระสําคัญ
การเขียนเรียงความคอื การเรียบเรียงถ้อยคําหรือข้อความให้เป็นเร่ืองราว เพื่อถ่ายทอดสาระที่ผู้ที่เขียน
ตอ้ งการส่อื สารใหผ้ ูอ้ ่านไดร้ ับรู้ ผู้เขยี นเรียงความตอ้ งใชถ้ ้อยภาษาที่สละสลวย อ่านเข้าใจง่ายไม่วกวน มีบทนํา
และบทสรุปที่ชัดเจน ใช้ภาษาให้เหมาะสมและถูกต้องตามกฎเกณฑ์ จึงจะทําให้การถ่ายโอนเป็นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด
ท ๒.๑ ป.๔/ ๔ เขยี นย่อความจากเร่ืองส้ันๆ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. บอกหลกั การเขยี นเรยี งความได้
๒. สามารถเรียงความได้
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักความเป็นไทย
๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี นิ ยั
๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรียนรู้
๑. หลักการเขยี นเรยี งความ
๒. การเขียนเรียงความ
๓. การอ่านเรียงความ
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นที่ ๑ ครูนําตัวอย่างเรียงความที่ดมี าใหน้ กั เรียนฟัง จากนนั้ ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับ
ความหมาย และวธิ ีการเขียนเรยี งความทถี่ กู ตอ้ ง นกั เรยี นอา่ นเพิ่มเติมจากอธิบายเพ่มิ เตมิ ความรู้
ขั้นท่ี ๒ ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนเขยี นเรียงความเร่ืองราวชวี ติ จรงิ หรอื จนิ ตนาการ
ขน้ั ท่ี ๓ สุม่ นักเรยี นมานาํ เสนอเรยี งความของตน ครูและนักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ข้อบกพร่องในการ
เขียนเรียงความ พรอ้ มทง้ั แนะนําการปฏบิ ตั ทิ ี่ถกู ตอ้ ง
ขั้นท่ี ๔ ทาํ แบบฝึกหัดทักษะภาษา แบบฝกึ หัดท่ี ๘ ขอ้ ๓ (๔)
ขนั้ ท่ี ๕ ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสรปุ หลักการเขยี นเรียงความ
สอื่ / แหล่งเรยี นรู้
๑. ตวั อยา่ งเรียงความ
๒. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝกึ หดั /ผลงาน
๒. เคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝกึ หัด/ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรียนผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การทําแบบฝกึ หัด/ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
ภาคผนวก
เกมเด็กสมองไว
๑. จดุ ประสงค์
๑. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเขียนคําใหมจ่ ากบัตรคําอย่างรวดเร็ว
๒. เพื่อให้นกั เรียนสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ ในการอา่ นและเขียนคาํ
๒. อปุ กรณ์
- บตั รคาํ ใหม่
๓. วิธเี ล่น
๑. แบง่ ผูเ้ ลน่ ออกเปน็ กล่มุ ๆ ละ ๔ – ๕ คน ตงั้ ชอ่ื กลุ่ม
๒. ครูนําบัตรคําใหม่ติดบนกระดานทีละบัตร เพื่อให้นักเรียนช่วยกันอ่านจนครบทุกบัตรและบอก
นักเรยี นใหช้ ่วยกันจําคาํ ในบัตรคาํ ให้มากท่ีสดุ
๓. สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันบอกและเขียนคําภายในกลุ่มเท่าท่ีทําได้ โดยไม่มองบัตรคําบนกระดาน
ตามเวลาทีก่ าํ หนด
๔. สลับกล่มุ เปลย่ี นกันตรวจการเขยี นคํา โดยเขียนคําตามบตั รคาํ บนกระดาน
๕. กล่มุ ใดเขียนถูกต้องมากที่สดุ ไดร้ บั คําชมเชย
ภาคผนวก
ใบกิจกรรมที่ ๑
คาํ ช้แี จง หาคาํ ศพั ท์ คํายาก และหาความหมายจากพจนานุกรม แลว้ นํามาเขยี นลงในตารางทีก่ าํ หนดให้
คํา/คาํ ยาก คาํ อา่ น ความหมาย
กลมุ่ ...................................................
สมาชิก ๑. .............................................. ๒................................................
๓. .............................................. ๔. ...............................................
ภาคผนวก
เกมเรียงคาํ ตามเรอ่ื งราว
๑. จดุ ประสงค์
๑. เพอ่ื ให้นกั เรยี นสามารถเรยี งข้อความตามลาํ ดบั เรือ่ งได้
๒. ฝกึ การทาํ งานร่วมกับผอู้ ื่น
๒. อุปกรณ์
- แถบประโยคเขียนข้อความในบทเรียน
๓. วิธเี ลน่
๑. แบ่งผ้เู ลน่ ออกเป็นกล่มุ ย่อยๆ กลมุ่ ละ ๓ – ๕ คน
๒. ครูตดิ แถบประโยคข้อความจากบทเรียน โดยสลับก่อนหลังคละกันไป นักเรียนทุกคนช่วยกันอ่าน
แถบประโยค
๓. ครูแจกแถบประโยคชุดเล็กให้กับนักเรียนทุกกลุ่ม ให้นักเรียนช่วยกันเรียงประโยคให้เป็นเรื่องราว
ตามลําดบั ก่อนหลัง กลุ่มไหนเสร็จกอ่ นและถูกต้องกจ็ ะไดร้ ับคาํ ชมเชย
๔. อ่านเรอื่ งท่ีเรียงลําดับแล้วอีกคร้งั หน่ึง พร้อมกับตงั้ ชอ่ื เร่ืองด้วย
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๑
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๓ เรอ่ื ง สนุกสนานกบั การเลน่ เวลา ๙ ช่ัวโมง
เรื่อง การอา่ นในใจบทเรียน เวลา ๑ ชัว่ โมง
……………………………………………………………………………………………………...…………
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ ไปใช้ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา และสร้างวิสัยทศั น์ใน
การดําเนนิ ชีวิต และมีนสิ ัยรกั การอ่าน
สาระสําคัญ
การอ่านในใจคือการกวาดสายตาไปยังข้อความจากหนังสือ พุ่งความสนใจไปยังสาระท่ีอ่านแล้วเก็บ
ใจความสาํ คัญของเรอื่ งทอ่ี า่ น สามารถถ่ายโอนสาระท่อี า่ นไปยงั ผ้อู ืน่ ได้ด้วยทั้งพูดและการเขียน
ตัวชีว้ ดั
ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเรือ่ งส้นั ๆ ตามเวลาทกี่ ําหนดและตอบคาํ ถามจากเรอ่ื งที่อา่ น
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. อ่านในใจและเกบ็ ใจความสําคัญของเร่อื งได้
๒. ถา่ ยโอนสาระเร่ืองราวท่ีอา่ นไปยังผูอ้ ืน่ ได้
๓. บอกความหมายคําใหม่ในบทเรียนได้
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
สาระการเรยี นรู้
๑. อ่านในใจนทิ านเรือ่ ง “สนกุ กบั การเล่น”
๒. เล่าเรื่อง “การละเลน่ ของเดก็ ไทย”
๓. ตอบคําถามของเรอ่ื ง “สนุกกบั การเลน่ ”
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้ันที่ ๑ นกั เรียนดูภาพประกอบ เร่ืองสนกุ สนานกับการเลน่ แลว้ อภิปรายภาพ
ขัน้ ท่ี ๒ นักเรียนอา่ นในใจเน้ือเรือ่ ง สนกุ สนานกบั การเลน่
ขน้ั ท่ี ๓ ให้นักเรยี นชว่ ยกันตง้ั คาํ ถามจากเนื้อเร่ือง เพ่ือเป็นการสรุปเร่ืองท่ีอ่านและนําความรู้ที่ได้จาก
การอา่ นไปประยุกต์ใช้กบั การเล่นในเวลาว่างหรอื ทโี่ รงเรียน
ขน้ั ท่ี ๔ นักเรียนอ่านคําศัพท์ พร้อมกัน ๑ เที่ยว ครูมอบหมายให้นักเรียนหาความหมายจาก
พจนานุกรม (บนั ทกึ ลงสมดุ )
ขน้ั ท่ี ๕ ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ กลุ่มละ ๓–๔ คน ไปหาวิธีการเล่นแบบ
พืน้ บา้ น เตรยี มอุปกรณ์ สาธติ การเล่น จากหนังสอื ในหอ้ งสมุด ผปู้ กครอง หรอื ในอนิ เทอรเ์ น็ต
ขน้ั ที่ ๖ ทาํ แบบฝกึ หดั ทกั ษะภาษา แบบฝกึ หัดที่ ๙ ขอ้ ๑, ๔
สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้
๑. หนังสอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๒. แบบฝกึ หดั รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวติ ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
วัดผลประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝึกหดั /ผลงาน
๒. เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝึกหัด/ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารทําแบบฝกึ หัด/ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๒
กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๓ เร่อื ง สนุกสนานกบั การเล่น เวลา ๙ ชว่ั โมง
เร่ือง การวเิ คราะหบ์ ทเรียน เวลา ๑ ช่ัวโมง
……………………………………………………………………………………………………...…………
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมี วิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน
โอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
สาระสาํ คัญ
การวิเคราะหบ์ ทเรียนเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตัวเพื่อคิดวิเคราะห์สาระที่กําลังศึกษา ผู้แสดง
ความคดิ เหน็ ควรใช้ภาษาทสี่ ุภาพไม่กระทบกระเทอื นถึงบุคคลอ่นื และแสดงความคิดเห็นในด้านพยุง จรรโลงและ
สร้างสรรค์สงั คมใหด้ งี าม ตอ้ งมคี วามรู้ลึกซึง้ ในเรอ่ื งคําและสํานวนภาษาเพือ่ ใหใ้ ชไ้ ด้ถูกต้องตามบรบิ ท
ตวั ชี้วดั
ท ๓.๑ ป.๔/๓ จําแนกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็นจากเรอื่ งทีฟ่ งั และดู
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรียนบอกเน้ือหาสาระในบทเรียนได้
๒. นกั เรยี นวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ ในบทเรยี นได้
๓. นกั เรยี นนาํ ขอ้ คิดจากเร่ืองมาใชใ้ นชีวติ ประจําวนั ได้
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ความเป็นไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มีจิตสาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยู่อย่างพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู้
๑. การวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นตอ่ บทเรยี น
๒. การสรุปเนือ้ หาในบทเรียน
๓. การนาํ ข้อคดิ จากบทเรยี นมาประยกุ ต์ใช้
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขนั้ ท่ี ๑ ครูและนักเรียนสนทนาเน้ือเร่ือง สนุกสยายกับการเล่น เพื่อเป็นการทบทวนและสนทนา
กจิ กรรม ชวนกันคดิ ชวนกันตอบ ดงั น้ี
- ของเล่นในปัจจบุ ัน
- เวลาสว่ นใหญ่นกั เรยี นเล่นของเลน่ อะไร
- การละเล่นของไทยที่นักเรยี นเคยเลน่
- การเลน่ คอมพิวเตอร์ มีวิธกี ารปฏบิ ัติตนอยา่ งไร จึงจะไมเ่ สยี สขุ ภาพ
- แนวปฏบิ ตั ติ นในการเลน่ กับเพื่อนๆ
ขั้นท่ี ๒ ครสู นทนากับนกั เรียนถึงกจิ กรรม ชวนกันศกึ ษา ชวนกันเลน่ ในหนงั สือเรียนและให้สมาชิกแต่
ละกล่มุ เตรียมอปุ กรณส์ าธิตการเล่น การเล่นแบบไทยใหเ้ พ่ือนดู และชว่ ยกันวิจารณ์การเล่นเป็นกลุ่มๆ ไป พร้อม
ท้ังสรปุ ทมี่ า ขัน้ ตอน วธิ ีการเลน่ และประโยชน์ของการเล่นชนิดนัน้
ขัน้ ท่ี ๓ หลังจากนนั้ ชว่ ยกนั สรปุ การเล่นแบบไทยในสมยั ก่อนเพอ่ื เปรียบเทยี บการเลน่ ของนกั เรยี นในยคุ
ปจั จบุ นั
ขั้นที่ ๔ ทําแบบฝึกหัดทักษะภาษา แบบฝกึ หดั ที่ ๙ ขอ้ ๑
ส่ือ / แหล่งเรียนรู้
๑. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
๒. แบบฝึกหัด รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔
วดั ผลประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝกึ หดั /ผลงาน
๒. เคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝึกหดั /ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การทําแบบฝกึ หัด/ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๓ เรือ่ ง สนุกสนานกบั การเล่น เวลา ๙ ช่วั โมง
เร่อื ง การอา่ นเสรมิ บทเรยี น เวลา ๒ ชัว่ โมง
……………………………………………………………………………………………………...………
มาตรฐาน ท ๑.๑ สามารถอา่ นได้ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน เข้าใจความหมายของคาํ และขอ้ ความทอ่ี า่ น
สาระสําคัญ
การอ่านเสรมิ บทเรียนเป็นการเพ่ิมประสบการณ์ดา้ นการอา่ น ปลูกฝังใหผ้ เู้ รียนรักการอ่านและศึกษาหา
ความรู้เพม่ิ เติม ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เปิดโลกทัศน์ที่กว้างไกล รู้จักคิดวิเคราะห์เรื่องที่อ่านและ
นํามาปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาํ วนั ได้
ตวั ช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๔/ ๗ อ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจอย่างสมํ่าเสมอและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ
เรอ่ื งทอ่ี า่ น
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. นกั เรยี นอ่านและเกบ็ ใจความสําคัญของเร่ืองได้
๒. นักเรียนคดิ วิเคราะหส์ รุปเรอ่ื งราวที่อ่าน
๓. นกั เรยี นต้ังคาํ ถาม - ตอบคําถามเรอื่ งทอ่ี ่านได้
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรียนรู้
๑. การอ่านเสริมบทเรยี นเร่ือง งูกินหาง
๒. การวิเคราะห์เรอื่ งทีอ่ า่ น
๓. การเขยี นเลา่ เรอ่ื ง
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขนั้ ที่ ๑ นักเรียนแบง่ กลุ่มตามความสมัครใจเล่นเกม “แข่งขันกันบอก” ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มบอกชื่อ
การเล่นแบบไทย โดยผลดั กันตอบชือ่ การเลน่ กลมุ่ ไหนตอบไดม้ ากที่สุด ครชู มเชย
ข้ันท่ี ๒ ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียง บทอา่ นเสริม “การเล่นงูกินหาง” จากนั้นต้ังคําถามให้กลุ่มอ่ืนตอบ
กลุ่มละ ๓ คาํ ถาม
ข้ันท่ี ๓ นักเรยี นและครอู ภิปรายรว่ มกนั เก่ียวกับวธิ กี ารเล่นงกู นิ หางและบทร้องการเลน่ งูกินหาง ดงั น้ี
- การแสดงทา่ ประกอบบทร้องแตล่ ะวรรค
- บทบาทของพอ่ งกู บั แม่งู
- ข้อคิดจากบทร้องทน่ี กั เรียนไดร้ บั
ขัน้ ท่ี ๔ ตัวแทนนักเรียน ประมาณ ๕ – ๑๐ คน แสดงการเล่นงูกินหาง โดยมีเพื่อนๆ ท่ีไม่ได้แสดง
ช่วยกันร้องบทรอ้ งงกู นิ หาง
ขน้ั ที่ ๕ ครูและนกั เรียนช่วยหันสรุปข้อคดิ ความรู้ ท่ีได้จากการเล่นงูกินหาง เช่น ความสามัคคีกะบวน
การกลุ่ม ความเร็วในการคล่องตวั เพอื่ นาํ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั
ขน้ั ที่ ๖ ตัวแทนนักเรียนรับใบกิจกรรมที่ ๑ (ภาคผนวก) สมาชิกในกลุ่มวางแผนลําดับขั้นตอนการ
ทาํ งานตามใบกจิ กรรม โดยครูคอยให้คําแนะนาํ (กลมุ่ ใดที่ปฏิบัติกิจกรรมไม่เสร็จ สามารนํากลับไปทํานอกเวลา
หรือเป็นการบ้านได้)
ขั้นที่ ๗ ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นเตรยี มอปุ กรณใ์ นการประดษิ ฐข์ องเลน่ มาจากบา้ นคนละ ๑ ชิ้น โดยยึด
หลกั ความพอเพยี ง
สื่อ/ แหลง่ เรยี นรู้
๑. เกม “แขง่ ขนั กันบอก”
๒. ใบกจิ กรรมท่ี ๑
๓. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔
วัดผลประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหัด/ผลงาน
๒. เครอื่ งมอื ท่ีใช้ในการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝกึ หัด/ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การทาํ แบบฝกึ หดั /ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๓ เรอ่ื ง สนุกสนานกบั การเล่น เวลา ๙ ชัว่ โมง
เรอื่ ง การประดษิ ฐ์ของเล่นแบบไทย เวลา ๑ ชวั่ โมง
……………………………………………………………………………………………………...……
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขยี นสอื่ สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
สาระสําคัญ
กลยุทธ์คุณธรรมนําความรู้และน้อมนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นกลยุทธ์ในการจัดกระบวนการ
เรยี นรูท้ ี่สอดแทรกแนวพระราชดําริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ฯ ทม่ี ุ่งเน้นให้ผเู้ รียนมีทกั ษะชวี ิต ทักษะอาชีพ
และทํางานเป็น เพื่อให้เกิดความพอเพียงในด้านการพอเพียงในด้านพัฒนาตนเอง ด้านสังคม ด้านทรัพยากร
ด้านภูมปิ ัญญา และดา้ นเศรษฐกจิ
ตัวชี้วัด
ท ๒.๑ ป.๔/๙ เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า และโครงงาน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรียนนาํ วัสดเุ หลอื ใช้มาประดิษฐ์ของเล่นได้
๒. นักเรียนออกแบบประดษิ ฐข์ องเล่นได้
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวินยั
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
สาระการเรียนรู้
๑. การนําวัสดมุ าประยกุ ตใ์ ช้
๒. การออกแบบสร้างสรรคผ์ ลงาน
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี ๑ นกั เรียนตอบคาํ ทายปริศนาคาํ ทายจากครู ดังนี้ เพื่อความสนุกสนาน
- จะจดั แถวทีไร ตอ้ งเอาแขนไปแตะทกุ ที (บา่ )
- ท่ไี หนเอ่ย มีต้นไมข้ นึ้ แนน่ หนากวา่ ที่ใดๆ (ปา่ )
- ใครเอ่ย เปน็ ผหู้ ญิงท่ีเป็นพีข่ องพอ่ และแม่ (ป้า)
- ใครเอ่ย เขาเป็นผชู้ ายเปน็ พ่อของพ่อ (ปู่)
- ทําเอ๋ยทําอะไร ใช้มอื ขยาํ ดนิ เหนยี ว เดี๋ยวเดียวกเ็ ป็นแจกนั (ป้ัน)
- อะไรเอ่ย เป็นอวัยวะภายในมีหน้าที่ฟอกโลหติ (ปอด)
ขั้นท่ี ๒ ครูและนกั เรียนสนทนาถึงอปุ กรณ์การประดิษฐข์ องเล่น และตรวจอุปกรณ์ท่ีนักเรียนแต่ละคน
เตรยี มมา
ขั้นท่ี ๓ นกั เรยี นลงมือทําของเล่น โดยมีครคู อยแนะนาํ
ขน้ั ท่ี ๔ ครแู ละนกั เรยี นสรุปปญั หาในการทําของเลน่ เพื่อนําไปปรับปรงุ กระบวนการเรียนในครั้งต่อไป
ขั้นที่ ๕ ทําแบบฝกึ หัดทักษะภาษา แบบฝกึ หัดที่ ๙ ข้อ ๑–๔ เปน็ การบา้ น
ส่ือ / แหล่งเรยี นรู้
๑. ปรศิ นาคําทาย
๒. อุปกรณใ์ นการทําของเล่น
๓. หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชีวิต ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๔. แบบฝกึ หัด รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
วัดผลประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝึกหัด/ผลงาน
๒. เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบฝกึ หดั /ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารทาํ แบบฝกึ หัด/ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕
กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑๓ เรอ่ื ง สนกุ สนานกับการเลน่ เวลา ๙ ชั่วโมง
เรื่อง ประโยค เวลา ๑ ชั่วโมง
……………………………………………………………………………………………………...……
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ
ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษาและรกั ภาษาไทย ไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ
สาระสาํ คัญ
ประโยคคือการนําคํานาม คํากริยา และคําขยายมาเรียงกันแล้วได้ใจความสมบูรณ์ว่าใครทําอะไร
อยา่ งไร ทไ่ี หน ซงึ่ ในชวี ิตประจําวันเราจะใช้ประโยคเพือ่ สื่อสารมากมาย การเรยี นรใู้ ห้เข้าใจและนําไปใชใ้ ห้ถกู ต้อง
ก็จะทาํ ใหเ้ กดิ ประโยชนเ์ ปน็ อย่างมาก
ตวั ช้ีวดั
ท ๒.๑ ป.๔/๔ แตง่ ประโยคไดถ้ ูกต้องตามหลกั ภาษา
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรยี นบอกส่วนประกอบของประโยคได้
๒. นําคํามาเรียบเรยี งเป็นประโยคตามทีก่ ําหนดได้
๓. แตง่ ประโยคชนิดต่างๆ ได้
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี นิ ัย
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
สาระการเรยี นรู้
๑. การเรียบเรียงประโยคตามท่ีกําหนด
๒. การแต่งประโยค
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ข้ันท่ี ๑ นักเรียนเล่นเกม การใบ้คําโดยให้เพื่อนออกมาแสดงท่าทางแล้วบอกว่ากําลังทําอะไร แล้ว
สนทนาแลกเปลย่ี นเรยี นรู้รว่ มกนั ครใู หค้ วามรเู้ พม่ิ เตมิ
ขน้ั ที่ ๒ นักเรียนอ่านอธิบายเพิ่มเติมความรู้ เร่ือง ประโยค ร่วมอภิปรายเนื้อหาการอ่านและสังเกต
ประโยคตามลําดบั
ข้ันท่ี ๓ นกั เรยี นกําหนดคําและฝกึ แตง่ ประโยคปากเปลา่ ตามรปู แบบการแตง่ ประโยค
ขัน้ ท่ี ๔ ทาํ แบบฝึกหัดทกั ษะภาษา แบบฝึกหดั ที่ ๙ ขอ้ ๕
สอื่ / แหล่งเรียนรู้
๑. หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๒. แบบฝกึ หัด รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
วดั ผลประเมนิ ผล
๑. วิธีการประเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจแบบฝึกหดั /ผลงาน
๒. เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการประเมิน
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝกึ หัด/ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การทําแบบฝึกหดั /ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๖
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๓ เรื่อง สนุกสนานกบั การเล่น เวลา ๙ ชวั่ โมง
เรอื่ ง การเขยี นจดหมาย เวลา ๓ ช่ัวโมง
……………………………………………………………………………………………………...…
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขยี นสอื่ สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
สาระสําคัญ
การเขยี นจดหมาย เป็นการเขยี นเร่ืองราวเพ่ือบอกให้คนอ่นื รบั รูเ้ รือ่ งราว วา่ ผู้เขียนตอ้ งการให้ผูอ้ ่านทราบ
เรื่องอะไร เป็นการเขียนสื่อสารชนิดหน่งึ ท่ีต้องใช้ภาษาเขียนสอื่ สารใหด้ ี และเปน็ จึงจะส่อื สารได้ตามเปา้ หมาย
ตัวช้ีวดั
ท ๒.๑ ป.๔/ ๕ เขยี นจดหมายถงึ เพือ่ นและบดิ ามารดา
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. เขา้ ใจหลกั ความหมายและรปู แบบของการเขียนจดหมาย
๒. เขียนจดหมายถึงเพอ่ื นและบิดามารดาได้
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักความเป็นไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรียนรู้
๑. รูปแบบการเขยี นจดหมาย
๒. การเขียนจดหมาย
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นที่ ๑ ครูสนทนากบั นกั เรียนถงึ รปู แบบการสอ่ื สารในปจั จบุ ัน เชน่
- การสง่ จดหมาย
- การพูดตดิ ตอ่ ทางโทรศัพท์
- การสง่ ข้อความทางโทรศัพทม์ ือถือ
- สาเหตุของการเขยี นจดหมายลดน้อยลง
ข้ันที่ ๒ นักเรียนศึกษารูปแบบการเขียนจดหมาย บนแผนภูมิรูปจดหมายท่ีครูเตรียมมา อภิปราย
รูปแบบการเขยี นจดหมายถงึ เพอื่ นจากรูปแบบ
ขั้นที่ ๓ ครูอธบิ ายรปู แบบการเขียนจดหมายถงึ เพ่ือนตามขั้นตอน
ข้ันที่ ๔ นกั เรยี นศึกษาสรรพนามทใ่ี ชใ้ นการเขยี นจดหมาย แตล่ ะประเภท
ขนั้ ท่ี ๕ นกั เรยี นฝกึ เขยี นจดหมายถึงเพื่อน เพื่อชวนเพ่ือนให้มาเท่ียวงานเทศกาลในชุมชนของตนเอง
เม่ือเสร็จแล้วนํามาให้ครูตรวจความถูกต้องของการใช้ประโยคและรูปแบบของจดหมาย นักเรียนนําจดหมายท่ี
ถกู ต้องสมบรู ณจ์ า่ หนา้ ซองส่งใหเ้ พอื่ นที่ตนเองจบั ฉลากได้
ข้นั ท่ี ๖ ครูแจกซองจดหมาย คนละ ๑ ซอง และอธบิ ายวธิ กี ารจา่ หนา้ ซองถงึ ผรู้ บั
ขน้ั ท่ี ๗ ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรุปปัญหาที่พบในการเขียนจดหมายถึงเพ่ือน เพื่อนําไปปรับปรุงการ
เขยี นจดหมายประเภทอื่นๆ ตอ่ ไป
ขั้นท่ี ๘ ทําแบบฝกึ หดั ทักษะภาษา แบบฝึกหดั ที่ ๙ ข้อ ๕
ขั้นที่ ๙ ครูนาํ เสนอรูปแบบจดหมายถึงผปู้ กครอง
ขั้นที่ ๑๐ ครอู ภปิ รายรปู แบบจดหมายถึงผู้ปกครอง
ข้นั ท่ี ๑๑ นักเรียนฝึกเขียนจดหมายถึงผู้ปกครองที่อยู่ต่างจังหวัดเมื่อเสร็จแล้วนํามาให้ครูตรวจความ
ถูกต้องของการใชป้ ระโยคและรูปแบบของจดหมาย
ข้นั ที่ ๑๒ นักเรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปรายในการเขียนจดหมาย
ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
๑. แผนภมู ริ ูปจดหมาย
๒. ซองจดหมาย
๓. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
๔. แบบฝกึ หัด รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวิต ทกั ษะภาษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
วดั ผลประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจแบบฝึกหัด/ผลงาน
๒. เครอื่ งมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ
- แบบการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบฝึกหัด/ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การทาํ แบบฝกึ หัด/ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
ภาคผนวก
ใบกจิ กรรมท่ี ๑
คําชี้แจง
๑. นักเรยี นแบ่งกลุม่ แลว้ เลือกประธาน เลขานุการ
๒. นกั เรยี นทุกกลุ่มช่วยกันคน้ คว้าเพ่ือรวบรวมบทร้องการละเลน่ ของไทย
๓. จัดทาํ เป็นรายงานสง่ ครูกลุ่มละ ๑ เลม่ ภายในเลม่ ประกอบด้วยส่วนตา่ งๆ ดงั นี้
- ปก
- คํานาํ
- สารบัญ
- เนอื้ เรอื่ ง
- บรรณานุกรม
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑๔ เร่ือง หนเู อยจะบอกให้ เวลา ๘ ช่ัวโมง
หวั ขอ้ เรื่อง การอา่ นในใจบทเรยี น เวลา ๑ ชัว่ โมง
.................................................................................
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจแกป้ ญั หา และสร้างวิสัยทัศน์ใน
การดาํ เนนิ ชีวติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น
สาระสาํ คญั
การอา่ นในใจ ผู้อา่ นตอ้ งใช้สมาธิในการอ่านและอ่านอย่างพินิจพิจารณาจะทําให้ตอบคําถามตามลําดับ
เหตกุ ารณ์ และสรปุ เรือ่ งพรอ้ มทั้งข้อคิดจากเรอ่ื งทอี่ า่ น ตอบคําถาม แสดงความคิดเห็นและสรุปเร่ืองได้
ตัวชวี้ ัด
ป. ๔/๕ อ่านเร่อื งส้ันๆ ตามเวลาที่กําหนดและตอบคาํ ถามจากเรอื่ งที่อ่าน
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อ่านในใจและเกบ็ ใจความสาํ คญั ของเรือ่ งได้
๒. ถา่ ยโอนสาระเรือ่ งราวที่อ่านไปยงั ผู้อ่นื ได้
๓. บอกความหมายคําใหมใ่ นบทเรยี นได้
สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต
๓. มวี ินยั
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ ม่ันในการทํางาน
สาระการเรยี นรู้
๑. อ่านในใจเรื่อง “หนูเอยจะบอกให้”
๒. ตอบคําถามของเรื่อง “หนเู อยจะบอกให้”
กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. นักเรียนทบทวนความร้เู ดมิ
๒. นักเรียนอ่านบัตรคําใหม่ดังน้ี ญาณ บริกรรมคาถา บารมีบุญ เปล่งประกาย พระดาบส
รปภ. ลดั เลาะ สถานการณ์ จติ สว่าง จิตมดื จากนนั้ สนทนาเกี่ยวกับความหมายของคาํ
๓. นกั เรียนแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน เขียนบทสรปุ ของเรอ่ื งเพ่อื นาํ เสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น
๔. แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนเล่าเร่อื งยอ่ หน้าชน้ั เรยี น และตง้ั คาํ ถามจากเร่อื งให้กลมุ่ อืน่ ตอบ
๕. ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทุกคนไปทําแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกหัด ขอ้ ๑, ๒, ๔ เป็นการบ้าน
สื่อ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
การวดั และประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๒
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑๔ เรื่อง หนูเอยจะบอกให้ เวลา ๘ ชัว่ โมง
หัวขอ้ เรือ่ ง การอา่ นออกเสยี ง เวลา ๑ ชว่ั โมง
.................................................................................
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคดิ ไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปัญหา และสรา้ งวิสยั ทัศน์ใน
การดาํ เนนิ ชีวติ และมนี ิสยั รักการอา่ น
สาระสําคัญ
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องท้ังด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงต่ําของเสียงตาม
บริบทแหง่ เนื้อหา จงึ จะทาํ ใหก้ ารสื่อสารมปี ระสทิ ธิภาพ เกิดความเข้าใจตรงกันระหวา่ งผ้สู ่งสารและผรู้ ับสาร
ตัวชว้ี ัด
ป. ๔/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อา่ นออกเสยี งบทเรยี นได้ถูกต้องชัดเจน
๒. อา่ นประโยคในบทเรยี นไดถ้ ูกตอ้ ง
๓. บอกความหมายคาํ ใหม่ในบทเรยี นได้
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอื่ สัตย์สุจริต
๓. มีวินยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยูอ่ ย่างพอเพียง
๖. ม่งุ ม่ันในการทาํ งาน
สาระการเรยี นรู้
๑. อา่ นออกเสียงเร่อื ง “หนูเอยจะบอกให้”
๒. การวเิ คราะห์เร่ือง “หนเู อยจะบอกให้”
๓. คํายากในบทเรียน
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ กล่มุ ละ ๔ – ๕ คน
๒. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มอา่ นออกเสยี งกลุ่มละ ๑ ยอ่ หน้า โดยอา่ นตอ่ กนั จนจบเร่ือง “หนเู อยจะบอกให้”
ถ้ายังอ่านไม่ครบให้เริ่มอ่านตั้งแต่ต้นเร่ืองอีกคร้ัง จากน้ันจัดประกวดการอ่านออกเสียง โดยให้แต่ละกลุ่มส่ง
ตัวแทนเข้าประกวดกล่มุ ละ ๑ คน ครูและนักเรยี นรว่ มกันประเมินและตดั สิน
๓. หัวหนา้ กลุม่ นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ดูแลการอ่านของสมาชกิ ภายในกลุ่ม และร่วมกันประเมินผล
๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาความหมายของคําที่ครูกําหนดให้ เมื่อเสร็จแล้วครูเฉลยนักเรียน
แลกเปลีย่ นกนั ตรวจ
๕. นักเรยี นทุกคนเขียนคําและความหมายของคําตามกิจกรรมขอ้ ๔
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคําศัพท์
๒. หนงั สือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ชดุ ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
การวดั และประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมอื ท่ีใชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เร่ือง หนเู อยจะบอกให้ เวลา ๘ ชวั่ โมง
หวั ข้อเรือ่ ง การวิเคราะห์บทเรยี น เวลา ๑ ช่วั โมง
.................................................................................
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน
โอกาสตา่ งๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
สาระสาํ คญั
การวเิ คราะห์บทเรียนเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตัวเพ่ือคิดวิเคราะห์สาระที่กําลังศึกษา ผู้แสดง
ความคิดเหน็ ควรใช้ภาษาท่ีสุภาพไมก่ ระทบกระเทอื นถงึ บุคคลอืน่ และแสดงความคิดเห็นในด้านพยุง จรรโลงและ
สร้างสรรค์สังคมใหด้ ีงาม ต้องมีความร้ลู กึ ซง้ึ ในเร่อื งคาํ และสํานวนภาษาเพื่อใหใ้ ชไ้ ดถ้ กู ต้องตามบริบท
ตวั ชีว้ ัด
ป. ๔/๑ จําแนกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ จากเร่อื งที่ฟงั และดู
สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการคดิ
๒. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นกั เรียนบอกเนื้อหาสาระในบทเรียนได้
๒. นกั เรียนวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นในบทเรยี นได้
๓. นกั เรยี นนําข้อคดิ จากเรอื่ งมาใชใ้ นชวี ิตประจําวันได้
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต
๓. มีวินัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖. มุ่งมัน่ ในการทํางาน
สาระการเรียนรู้
๑. การวิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ ต่อบทเรยี น
๒. การสรปุ เนือ้ หาในบทเรียน
๓. การนาํ ขอ้ คดิ จากบทเรียนมาประยกุ ตใ์ ช้
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเป็นกล่มุ ละ ๔–๕ คน
๒. นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาข้อความจากเร่ือง “หนูเอยจะบอกให้” มีเน้ือหาสาระเก่ียวกับอะไร
นกั เรียนเคยเจอเหตกุ ารณ์ดงั เชน่ ตัวละครทชี่ ่ือนุชในเรอ่ื งน้หี รือไม่
๓. ให้แตล่ ะกลมุ่ หาข่าวเกย่ี วกบั การล่อลวง การทาํ อนาจารจากหนงั สอื พิมพ์ หรอื แหลง่ อ่ืนๆ พร้อมทั้ง
บอกแนวทางการป้องกัน ส่งตวั แทนออกมารายงานหน้าช้นั เรยี น
๔. ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ สมมุตวิ ่าเป็นตัวละครในเรื่อง หนูเอยจะบอกให้ คนใดคนหน่ึง นักเรียนจะ
ปฏบิ ัตติ นอย่างไร โดยเขยี นตอบลงในกระดาษ แล้วส่งตวั แทนนํามาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั พร้อมท้งั เขียนแนวทาง
ในการปฏบิ ตั ิตน เพือ่ จะไดนําไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วัน
ถา้ ฉนั เปน็ .................................................ฉนั จะ.........................................................
๕. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรทู้ ่ไี ด้จากเรอ่ื ง หนเู อยจะบอกให้
๖. นักเรยี นทาํ แบบฝึกหัดในหนังสอื แบบฝึกหดั ข้อ ๕ เปน็ การบ้าน
สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔
การวัดและประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑๔ เร่อื ง หนูเอยจะบอกให้ เวลา ๘ ช่วั โมง
หวั ข้อเรือ่ ง การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง เวลา ๑ ช่วั โมง
.................................................................................
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
สาระสําคญั
แผนภาพโครงเร่ือง เป็นแผนภาพท่ีประกอบด้วยส่วนของคําถามเก่ียวกับเรื่องบอกให้ทราบว่าใคร ทํา
อะไร ท่ีไหน อยา่ งไร เพราะเหตุใด และขอ้ คดิ จากเรือ่ งแผนภาพโครงเรอ่ื ง จะชว่ ยใหส้ ามารถบอกเหตุการณ์ของ
เร่ืองเปน็ ตอนๆ โดยอาศัยการคดิ คาํ ตอบจากคาํ ถามในแผนภาพและชว่ ยลําดบั เร่อื งไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง ทําให้สามารถ
สรุปเรอ่ื งท้ังหมดได้
ตัวชว้ี ดั
ป. ๔/๒ เขียนแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพความคดิ เพอื่ ใช้พฒั นางานเขยี น
สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการแก้ปญั หา
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. เขียนแผนภาพโครงเรื่องได้
๒. เล่าเร่อื งจากแผนภาพโครงเรอ่ื งได้
๓. เขียนเรอื่ งจากแผนภาพโครงเรอ่ื งได้
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซ่ือสตั ยส์ ุจรติ
๓. มวี ินยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖. มุ่งม่นั ในการทาํ งาน
สาระการเรียนรู้
๑. การเขยี นแผนภาพโครงเรื่องจากบทเรียน เร่อื ง หนเู อยจะบอกให้
๒. การเขยี นเร่อื งตามแผนภาพโครงเร่ือง
๓. การเขียนเล่าเร่อื งตามแผนภาพโครงเรอื่ ง
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ใหอ้ าสาสมัครออกมาเลา่ เรือ่ ง หนูเอยจะบอกให้ ด้วยสาํ นวนของตนเอง จากน้ันครูนําเสนอแผนภูมิ
แผนภาพโครงเรอ่ื งใหน้ ักเรยี นดูบนกระดานดาํ
๒. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็นกลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน
๓. นกั เรยี นและครชู ่วยกนั อภปิ ราย ซักถาม และเหตกุ ารณ์ตามแผนภาพโครงเรอ่ื งไดด้ งั น้ี
ใคร : ……………………..........................................
ท่ีไหน : ……………………..........................................
เมือ่ ไร : ……………………..........................................
เหตกุ ารณ์ : ……………………..........................................
อยา่ งไร : ……………………..........................................
ขอ้ คดิ : ……………………..........................................
……………………..........................................
๔. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันเขียนแผนภาพโครงเรื่อง หนูเอยจะบอกให้ ลงในกระดาษขาวเทา พร้อม
นําเสนอ
๕. นักเรยี นทุกคนเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื งเป็นของตนเอง แล้วเก็บลงในแฟม้ สะสมผลงาน
สื่อ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บัตรคําศพั ท์
๒. หนังสอื เรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ทักษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๔. แผนภาพโครงเรือ่ ง
การวัดและประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมือที่ใช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๕
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เร่อื ง หนเู อยจะบอกให้ เวลา ๘ ช่วั โมง
หัวขอ้ เร่ือง การอา่ นจบั ใจความสาํ คญั เวลา ๑ ช่วั โมง
.................................................................................
มาตรฐาน ท ๑.๑ สามารถอา่ นได้ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน เขา้ ใจความหมายของคําและขอ้ ความทีอ่ า่ น
สาระสําคัญ
การอ่านจับใจความสําคัญ ผู้อ่านต้องใช้สมาธิในการอ่าน และอ่านอย่างพินิจพิจารณาจะทําให้ตอบ
คาํ ถามลาํ ดับเหตกุ ารณ์ และสรปุ เร่ืองพร้อมทง้ั ข้อคดิ จากเร่อื งท่อี ่าน
ตวั ช้วี ดั
ป.๔/๗ อ่านหนงั สือที่มีคุณค่าตามความสนใจอยา่ งสมาํ่ เสมอและแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เร่ืองท่อี ่าน
สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อ่านและเกบ็ ใจความสําคญั ของเรอื่ งได้
๒. คดิ วเิ คราะหส์ รุปเร่ืองราวทีอ่ า่ นได้
๓. ตัง้ คําถาม-ตอบคาํ ถามเรอื่ งท่อี ่านได้
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซอ่ื สัตย์สจุ ริต
๓. มีวินยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
๖. มงุ่ มั่นในการทาํ งาน
๗. รักความเปน็ ไทย
๘. มีจติ สาธารณะ
สาระการเรียนรู้
๑. การอา่ นเสริมบทเรยี นเร่ือง “เจ้าสีทอง”
๒. การวิเคราะห์เร่อื งท่ีอา่ น
๓. การเขียนเล่าเรอื่ ง
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นทบทวนคาํ ใหม่ในชัว่ โมงท่ี ๑
๒. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็นกล่มุ ละ ๔–๕
๓. ให้นักเรยี นอา่ นออกเสียงท่ีถกู ต้อง และเพอ่ื จบั ใจความสาํ คัญ บทอ่านเสริม “เจ้าสีทอง” ในหนังสือ
เรียนภาษาไทย ภาษาพาที ป. ๔ หน้า ๑๔๖–๑๔๘ จากนน้ั ตงั้ คําถามใหก้ ล่มุ อ่ืนตอบกลุ่มละ ๑ คําถาม
๔. ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันคิดวิเคราะห์คุณค่าของเร่ือง “เจ้าสีทอง” ในด้านต่างๆ จากน้ันส่งตัวแทน
นําเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน
๕. นกั เรียนทาํ แบบฝกึ หดั จากหนงั สือแบบฝึกหัดขอ้ ๗ เป็นการบ้าน
๖. ทุกคนเขียนคณุ ค่าของเร่อื ง “เจา้ สีทอง” ในดา้ นต่างๆ เปน็ ของตนเอง
สอื่ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคาํ ศพั ท์
๒. หนังสือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ทกั ษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๔. แผนภาพโครงเรอ่ื ง
การวัดและประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมือที่ใช้ในการประเมิน
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๖
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรอื่ ง หนูเอยจะบอกให้ เวลา ๘ ช่ัวโมง
หวั ขอ้ เรอื่ ง การเขยี นบันทึก เวลา ๑ ชั่วโมง
...........................................................
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี น เขียนส่ือสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ
สาระสาํ คัญ
การเขยี นบันทกึ ถือเป็นหวั ใจสาํ คญั ของการเรียนรู้ประเภทหนึ่ง เพราะการเขียนบันทึกนอกจากจะใช้
ภาษาเขียนในการส่ือสารแล้ว ผู้บันทึกได้จดจําเร่ืองราวตลอดจนเหตุการณ์ท่ีเราพบเห็นแล้ว บันทึกไว้จะช่วย
พัฒนาการเขียน และเปน็ ขอ้ มลู ไว้อ้างอิงในโอกาสต่อไป
ตัวช้วี ดั
ป.๔/๔ เขียนบนั ทึกและเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้
สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. บอกหลักการเขียนบนั ทกึ แบบต่างๆ ได้
๒. เขยี นบนั ทกึ ตามรปู แบบทก่ี าํ หนดให้ได้
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต
๓. มีวินยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
๖. มุง่ มั่นในการทาํ งาน
สาระการเรยี นรู้
๑. หลกั การเขียนบันทึกแบบตา่ งๆ
๒. การเขียนบนั ทึกตามรปู แบบท่กี ําหนดให้
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ ออกเป็นกลุ่มละ ๔–๕ คน
๒. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ คดั เลอื กตัวแทนกันเองเพอื่ มาเล่าเหตุการณป์ ระทับใจหรือเหตุการณ์ ท่ีพบเห็นใน
ชีวติ ประจําวนั ด้วยปากเปลา่ ให้เพือ่ นฟัง โดยใชเ้ วลาตามเหมาะสม ครูและนกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นวา่
- เหตุการณ์ท่เี ลา่ ใหเ้ พือ่ นฟังน้นั นักเรียนสามารถเขียนเปน็ ลายลักษณอ์ กั ษรได้หรอื ไม่
- เรามีวธิ ีเขยี นอย่างไร
- การเขียนบนั ทึกเหตกุ ารณ์สิ่งท่ีพบเห็นใหผ้ ลดีแก่การศึกษาเลา่ เรยี นอย่างไร
- การบนั ทึกกบั ไมบ่ นั ทกึ มผี ลดี ผลเสีย ต่างกันอยา่ งไร
- นกั เรียนเคยเขยี นบนั ทกึ หรือไม่
- นักเรยี นคดิ วา่ ควรใชเ้ วลาใดเขยี นบันทึกจงึ จะเหมาะสม
๓. ครใู ห้ความรู้เสริมเรื่องการเขียนบันทึกและสังเกตส่วนประกอบของการเขียนบันทึกว่า มีอะไรบ้าง
(หัวขอ้ เรื่อง ชือ่ ผ้เู ขยี น ชือ่ หนังสอื เนอื้ หา ทบ่ี ันทกึ วนั เวลาท่ีเกิดเหตุการณ์ หรือวันท่บี ันทึก) จากนัน้ ให้แต่ละกล่มุ
ศึกษาภายในหอ้ งสมดุ ในหัวขอ้ ต่างๆ ดงั น้ี
- กล่มุ ท่ี ๑ คน้ คว้าเร่ือง ประเภทของการเขียนบนั ทึก
- กล่มุ ท่ี ๒ คน้ คว้าเร่อื ง ข้อควรปฏิบตั ิในการเขยี นบันทกึ
- กลมุ่ ท่ี ๓ คน้ ควา้ เรอ่ื ง วธิ กี ารเขยี นบนั ทึก
จากน้ัน ให้แต่ละกลุ่มนาํ เสนอความรหู้ น้าชน้ั เรยี น
๔. ครูและนกั เรียนช่วยกันสรุปความร้เู รอ่ื ง การเขียนบันทึก ดังน้ี
การเขยี นบันทกึ คือ การเขียนแสดงข้อมูลท่ีเป็นประสบการณ์ ความรู้หรือข้อความสําคัญซ่ึงมี ๒
ประเภท คือ การเขยี นบนั ทกึ เหตุการณ์ และการเขยี นบนั ทกึ เหตุการณป์ ระจําวัน
๔.๑ การเขยี นบนั ทึกเหตุการณ์ทั่วไป เป็นการเขียนเร่ืองราวที่พบเห็นเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง เพ่ือ
บันทกึ ความรู้ เตือนความจํา บรรยายความร้สู ึก หรือแสดงข้อคดิ เหน็
๔.๒ การเขียนบันทึกเหตุการณ์ประจําวัน เป็นการเขียนเร่ืองราวส่วนตัว หรือเหตุการณ์ที่
เกิดข้ึนหรือส่ิงท่ีพบเห็นจากการเดินทาง เพื่อเตือนความจํา บันทึกความรู้ ความรู้สึก
และขอ้ คดิ เห็นต่างๆ เช่น สง่ิ ทต่ี ้องมีในการเขยี นบันทกึ คอื
- หัวข้อเร่อื ง
- ชื่อผูเ้ ขียนเรอื่ ง ช่ือหนังสอื
- เนอื้ เรอื่ งท่บี ันทึก
- วันเวลาท่เี กดิ เหตกุ ารณ์ หรอื วนั ท่ีบันทึก
- ข้อควรปฏบิ ัติในการเขียนบันทกึ
- ทําความเขา้ ใจ เรยี งลําดบั ความคดิ และเนอ้ื เร่ือง
- บันทกึ ดว้ ยสํานวนภาษาของตนเอง
- บันทกึ เฉพาะสาระสําคัญ
- บนั ทึกอย่างรวดเรว็
- วิธกี ารเขียนบนั ทึก
- ลาํ ดบั ความใหเ้ ช่ือมโยง
- ลําดับเหตุการณ์
- การเชอ่ื มโยง
- การเนน้ ใจความสําคัญ
๕. นกั เรียนเขียนบันทึกการจากหนังสือในหอ้ งสมุดแลว้ นําเสนอแลกเปล่ยี นกนั ฟงั หนา้ ชั้นเรยี น
สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. ห้องสมดุ
๒. แบบฟอรม์ การเขยี นบนั ทึกการอา่ น
การวัดและประเมินผล
๑. วิธีการประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมือท่ใี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๗
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑๔ เรือ่ ง หนูเอยจะบอกให้ เวลา ๘ ช่วั โมง
หวั ข้อเรือ่ ง การย่อความ เวลา ๑ ช่ัวโมง
………………………………………………….
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ
ตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ
สาระสาํ คญั
การย่อความคอื การเก็บเนอ้ื ความหรือใจความสําคัญของเร่ืองแล้วนํามาเรียบเรียงใหม่ด้วยสํานวนใหม่
ผู้ย่อต้องฝึกทักษะภาษาทางด้านการเขียนการสะกดคําและหลักภาษา จึงจะสามารถเขียนย่อความได้ดีมี
ประสิทธภิ าพ
ตวั ชว้ี ัด
ป. ๔/๓ เขยี นยอ่ ความจากเรื่องสนั้ ๆ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นกั เรยี นสามารถย่อความได้
๒. นักเรยี นสามารถสรปุ ความได้
๓. นกั เรยี นเขยี นเร่อื งยอ่ ไดส้ าํ นวนของตนเอง
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖. มงุ่ มั่นในการทํางาน
สาระการเรียนรู้
๑. การเขยี นย่อความ
๒. การสรุปความ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ กลุ่มละ ๔–๕ คน
๒. ครใู หน้ ักเรียนเล่นเกมกระซบิ โดยให้แต่ละกลมุ่ เรียงต่อกันเป็นแถวตอนเรยี งหน่งึ ครูให้กระดาษท่ีมี
ข้อความกับคนแรก ของแต่ละกลุ่ม จากนั้นให้คนแรกกระซิบที่หูบอกข้อความนั้นให้คนต่อไป และคนท่ีได้ฟัง
ข้อความที่กระซิบมาให้กระซิบบอกกับคนต่อไปเรื่อยๆ จนถึงคนสุดท้ายให้วิ่งออกมาเขียนข้อความที่ได้ยินบน
กระดาน กลมุ่ ใดเขียนขอ้ ความได้ครบถว้ นถกู ตอ้ งมากกวา่ เป็นฝ่ายชนะ
๓. ครเู ลา่ นิทานใหน้ ักเรยี นฟังจากนน้ั ครูถามนักเรียนวา่ เรือ่ งน้ีมีเร่อื งยอ่ ว่าอย่างไรให้นักเรียนตอบแบบ
ลองผดิ ลองถูก จากน้นั ครูอธบิ ายคาํ จํากดั ความของการเขยี นย่อความ
๔. ครูใหน้ กั เรยี นศึกษาวธิ กี ารเขียนย่อความจากใบความรู้ แลว้ ให้นักเรียนช่วยกันสรุปอีกครั้งหน่ึง โดย
ครูเขียนบนกระดานและปรับแกใ้ ห้ถกู ตอ้ ง
๕. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ ความรเู้ รือ่ ง การเขียนย่อความ ดังน้ี
๕.๑ การเขียนย่อความ หมายถึง การเก็บใจความสําคัญของเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงจากการอ่าน
แลว้ นาํ มาเขียนเรียบเรียงใหม่ด้วยสาํ นวนของตนเอง
๕.๒ วธิ ีการเขยี นย่อความทําได้ดังนี้
- อา่ นเรือ่ งใหจ้ บ เพอ่ื ให้ทราบวา่ เรอ่ื งนน้ั กล่าวถงึ ใคร ทําอะไร ที่ไหน อย่างไร
เมอื่ ไร และผลเป็นอย่างไร
- บนั ทึกใจความสาํ คัญของเร่ืองท่ีอ่าน แล้วนํามาเขียนเรียบเรียงใหม่ด้วยสํานวน
ของตนเอง
- อา่ นทบทวนใจความสาํ คัญ แลว้ แก้ไขให้สมบรู ณ์
- เขียนย่อความใหส้ มบูรณ์
- การเขยี นยอ่ ความไม่นยิ มใช้สรรพนามบรุ ุษที่ ๑ และ ๒ แต่จะใชส้ รรพนามบรุ ุษที่
๓ เท่านนั้
๖. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันอา่ นนทิ าน แล้วชว่ ยกนั เขียนย่อความใหถ้ กู ต้องตามรูปแบบการเขียน
ยอ่ ความ แลว้ นาํ เสนอผลงานทห่ี นา้ ช้นั แลว้ เก็บรวบรวมงานเขา้ ในแฟม้ สะสมผลงาน
สื่อ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บัตรคําศพั ท์
๒. แบบฟอร์มการเขียนย่อความ
๓. เรอื่ งสําหรบั ยอ่ ความ
การวดั และประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๘
กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๔ เร่อื ง หนูเอยจะบอกให้ เวลา ๘ ช่ัวโมง
หัวขอ้ เรอื่ ง การอา่ นตีความและตอ่ เตมิ เรอ่ื งท่อี ่าน เวลา ๑ ช่วั โมง
……………………………………………………………..
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ
ดาํ เนนิ ชีวติ และมนี สิ ัยรักการอ่าน
สาระสําคัญ
การอา่ นตคี วามและต่อเติมเรือ่ งท่อี า่ น เปน็ การปพู ้นื ฐานในการคิดวิเคราะห์เพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้กับ
ผ้เู รียน เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ ทกั ษะในการใชภ้ าษานําไปส่กู ารส่อื สารทม่ี ีประสทิ ธิภาพ
ตวั ชว้ี ดั
ป. ๔/๗ อา่ นหนังสอื ที่มีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่ําเสมอและแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เรอื่ งทอี่ า่ น
สมรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. ตีความหมายของเรอ่ื งที่อา่ นได้
๒. แต่งเตมิ เรอ่ื งทอี่ ่านได้ถกู ตอ้ ง
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่อื สัตยส์ ุจรติ
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
๖. ม่งุ ม่ันในการทํางาน
สาระการเรียนรู้
๑. การอ่านตคี วาม
๒. การตอ่ เติมเร่อื ง
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็นกลมุ่ ละ ๔–๕
๒. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ร่วมกันสรปุ ขอ้ สงั เกตที่เป็นพฤติกรรมของบุคคลที่อาจเป็นอันตรายกับ
ตนเองและสังคมมาเป็นข้อๆ พร้อมกับบอกวิธีการปฏิบัติตนเมื่อพบบุคคลและเหตุการณ์น้ันๆ ด้วยตนเอง
แล้วสง่ ตัวแทนกลุม่ ออกมาอ่านหนา้ ชนั้
๓. นักเรยี นแต่ละกลุ่มอ่านบทอ่าน ชวนกันอ่าน ชวนกันตีความ ชวนกันต่อเติม ในหนังสือเรียน อ่าน
ข้อเขียนเร่ืองสิ่งดีๆ ในหนังสือเรียนหน้า ๑๕๔ แล้วช่วยกันพิจารณาว่า การคิดดี พูดดี ทําดี คบคนดี ไป
สถานท่ดี นี ้ันเปน็ อย่างไร พร้อมยกตวั อย่างประกอบใหช้ ัดเจน
๔. ให้แต่ละกลุม่ ชว่ ยกันแตง่ ต่อประเดน็ เพิ่มเติมจากข้อความท่ีครูกําหนดให้ เสร็จแล้วส่งครูตรวจสอบ
และประเมินผล
๕. นกั เรยี นและครูช่วยกันสรปุ ความรู้ท่ไี ดจ้ ากเรื่อง หนูเอยจะบอกให้ เพื่อนําความรู้ที่ได้จากการอ่าน
เรอ่ื งไปประยุกต์ให้เหมาะสมในช้ันเรยี นหรือที่บ้าน
สอื่ / แหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคาํ ศพั ท์
๒. หนังสือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔
การวดั และประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑๖ เร่อื ง คนดศี รีโรงเรยี น เวลา ๘ ชว่ั โมง
หัวข้อเรอ่ื ง การอ่านในใจบทเรยี น เวลา ๑ ชวั่ โมง
............................................................
มาตรฐาน ท๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ ไปใช้ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหา และสร้างวสิ ัยทัศน์ใน
การดาํ เนนิ ชวี ิต และมีนสิ ยั รกั การอ่าน
สาระสําคัญ
การอ่านในใจผู้อ่านต้องใช้สมาธิในการอ่านและอ่านอย่างพินิจพิจารณาจะทําให้ตอบคําถามลําดับ
เหตกุ ารณ์ และสรุปเร่อื งพร้อมท้ังข้อคดิ จากเร่ืองที่อา่ น
ตัวชีว้ ดั
ป. ๔/๓ อา่ นเรอื่ งสน้ั ๆ ตามเวลาทกี่ ําหนดและตอบคาํ ถามจากเรือ่ งท่ีอ่าน
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อา่ นในใจและเกบ็ ใจความสาํ คัญของเร่ืองได้
๒. ถา่ ยโอนสาระเรอ่ื งราวทีอ่ ่านไปยังผู้อื่นได้
๓. บอกความหมายคาํ ใหม่ในบทเรยี นได้
สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซือ่ สัตยส์ ุจริต
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
๖. มงุ่ มั่นในการทาํ งาน
สาระการเรียนรู้
๑. อา่ นในใจเรอื่ ง “คนดีศรีโรงเรยี น”
๒. เลา่ เรอ่ื ง “คนดีศรีโรงเรยี น”
๓. ตอบคําถามของเรื่อง “คนดศี รีโรงเรยี น”
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. นักเรียนทบทวนความรเู้ ดิม
๒. ครูเขียนคําใหม่บนกระดาน ซ่ึงได้แก่ กระทาชาย กิตติศัพท์ เซลล์ ทุ่มสุดหัวใจ นํ้าผ้ึงรดหัวใจ
ประสิทธิภาพ รางวัลเกียรติยศ วอกแวก สมาธิ และช่วยกันอ่านออกเสียงพร้อมกัน จากนั้นสนทนากัน
เกี่ยวกับความหมายของแต่ละคํา (ครมู อบหมายให้นักเรยี นคน้ หาความหมายของคาํ จากพจนานกุ รมและบันทึกลง
ในสมดุ คาํ ศัพท์ท่ีมีอยแู่ ล้ว)
๓. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ ๓ – ๕ คน แต่ละกลุ่มแตง่ ต้งั หวั หน้ากลมุ่ เลขานกุ ารกลุ่ม สมาชิกใน
กลุม่ ทุกคนอ่านเร่อื ง “คนดีศรโี รงเรียน” ในใจ จากน้ันชว่ ยกันเขียนสรุปเพอ่ื เลา่ ทีห่ นา้ ชั้นใหเ้ พ่อื นๆ ฟัง
๔. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม ตั้งคําถามจากเรอื่ งใหก้ ลมุ่ อ่ืนตอบ กลุ่มละ ๒-๓ คําถาม
๕. นักเรยี นทําแบบฝกึ หดั จากหนงั สอื แบบฝกึ หัด ข้อ ๑-๙
ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนงั สือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
การวัดและประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมอื ท่ีใช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงานพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๒
กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๖ เรอ่ื ง คนดีศรีโรงเรยี น เวลา ๘ ชว่ั โมง
หัวข้อเร่ือง การอา่ นออกเสยี ง เวลา ๑ ช่ัวโมง
……………………………………………………………
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ ไปใช้ตดั สินใจแกป้ ัญหา และสรา้ งวิสัยทศั น์ใน
การดําเนนิ ชีวิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน
สาระสําคัญ
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องท้ังด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงต่ําของเสียงตาม
บรบิ ทแห่งเนือ้ หา จึงจะทาํ ใหก้ ารสื่อสารมีประสทิ ธิภาพ เกดิ ความเข้าใจตรงกนั ระหวา่ งผู้ส่งสารและผรู้ ับสาร
ตวั ช้ีวดั
ป.๔/ ๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อ่านออกเสียงบทเรียนไดถ้ ูกต้อง ชัดเจน
๒. อา่ นประโยคในบทเรยี นไดถ้ กู ตอ้ ง
๓. บอกความหมายคําใหมใ่ นบทเรยี นได้
สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยูอ่ ย่างพอเพียง
๖. มุ่งมนั่ ในการทํางาน
สาระการเรียนรู้
๑. อา่ นออกเสยี งเรือ่ ง “คนดศี รโี รงเรยี น”
๒. การวเิ คราะห์เรือ่ ง “คนดศี รีโรงเรยี น”
๓. คํายากในบทเรยี น
กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. นกั เรียนแบง่ กล่มุ ออกเป็นกลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน แต่ละกลุ่มอา่ นออกเสยี งเรอื งคนดีศรีโรงเรยี น กลุม่ ละ
๑ ยอ่ หนา้ ต่อกนั จนจบเร่อื ง
๒. หวั หนา้ กล่มุ แต่ละกลุ่ม ดูแลสมาชิกภายในกลุ่ม ประเมนิ ผลการอา่ นออกเสียง
๓. นักเรยี นช่วยกนั หาความหมายของคํา และเขยี นคําอา่ นของคําและความหมายลงในสมดุ แบบฝึกหัด
๔. นักเรียนทําแบบฝกึ หดั ข้อ ๓-๔
สอื่ / แหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคําศพั ท์
๒. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทกั ษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
การวัดและประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๓
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๖ เร่อื ง คนดีศรโี รงเรยี น เวลา ๘ ชวั่ โมง
หวั ข้อเรอ่ื ง การวิเคราะหบ์ ทเรียน เวลา ๑ ชว่ั โมง
……………………………………………………………….
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน
โอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์
สาระสําคญั
การวิเคราะหบ์ ทเรียนเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตัวเพื่อคิดวิเคราะห์สาระที่กําลังศึกษา ผู้แสดง
ความคดิ เหน็ ควรใช้ภาษาที่สภุ าพไมก่ ระทบกระเทือนถงึ บคุ คลอื่นและแสดงความคิดเห็นในด้านพยุง จรรโลงและ
สร้างสรรค์สังคมให้ดงี าม ต้องมีความร้ลู กึ ซ้ึงในเรื่องคําและสํานวนภาษาเพอ่ื ให้ใชไ้ ดถ้ กู ต้องตามบริบท
ตวั ชว้ี ดั
ป. ๔/๑ จําแนกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ จากเรือ่ งทฟี่ งั และดู
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. บอกเนื้อหาสาระในบทเรยี นได้
๒. วิเคราะห์และแสดงความคดิ เห็นในบทเรยี นได้
๓. นําขอ้ คิดจากเร่ืองมาใชใ้ นชวี ติ ประจําวันได้
สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. มคี วามรอบคอบในการทาํ งาน
๒. ยอมรับในขอ้ ตกลงของกลุม่ ได้
๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย
๔. บอกสาระเก่ียวกับเน้อื หาในบทเรียน
๕. ใชว้ สั ดอุ ยา่ งคุม้ ค่า
สาระการเรียนรู้
๑. การวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ ตอ่ บทเรยี น
๒. การสรุปเนอื้ หาในบทเรยี น
๓. การนาํ ขอ้ คิดจากบทเรียนมาประยุกต์ใช้
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ กลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน
๒. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ พจิ ารณาขอ้ ความจากเร่อื ง “คนดศี รโี รงเรยี น” มเี นอื้ หาสาระเกี่ยวกับสิ่งใด โดย
ครใู ชค้ ําถามดงั ตอ่ ไปนี้
- ทําไมครูจงึ ฝากใหว้ า่ นเปน็ ผดู้ ูแลเต้กับจ้อน
- ว่านสมควรไดร้ ับรางวลั เกียรติยศ “คนดศี รีโรงเรยี น” หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
- เต้มีความบกพรอ่ งในด้านใด
- จอ้ นมคี วามบกพรอ่ งในด้านใด
๓. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสมมุติตนเองว่าเป็นตัวละครในเร่ือง “คนดีศรีโรงเรียน” คนใดคนหน่ึง
นักเรียนจะปฏิบัติตนอยา่ งไร พร้อมทัง้ ชว่ ยกนั กาํ หนดแนวปฏิบัติตน ทไ่ี ดจ้ ากเน้ือเร่อื งในบทเรียนเพอ่ื นํามาใช้ใน
ชีวติ ประจาํ วนั
๔. นักเรยี นทกุ คนไปทําแบบฝกึ หัด ข้อ ๑, ๒ เปน็ การบา้ น เสรจ็ แลว้ ครเู ฉลยและตรวจสอบคําตอบของ
นักเรยี นแต่ละคน
ส่อื / แหลง่ เรียนรู้
๑. บตั รคาํ ศพั ท์
๒. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวติ ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
การวัดและประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑๖ เร่อื ง คนดีศรโี รงเรยี น เวลา ๘ ชว่ั โมง
หัวข้อเร่ือง การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง เวลา ๑ ชัว่ โมง
................................................................
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสอื่ สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
สาระสําคญั
แผนภาพโครงเรื่อง เป็นแผนภาพที่ประกอบด้วยส่วนของคําถามเกี่ยวกับเร่ืองบอกให้ทราบว่าใคร ทํา
อะไร ที่ไหน อยา่ งไร เพราะเหตุใด และข้อคดิ จากเรื่องแผนภาพโครงเร่ือง จะชว่ ยให้สามารถบอกเหตุการณข์ อง
เร่ืองเป็นตอนๆ โดยอาศัยการคิดคําตอบจากคําถามในแผนภาพ และช่วยลําดับเรื่องได้อย่างต่อเน่ือง ทําให้
สามารถสรปุ เรอ่ื งทง้ั หมดได้
ตวั ชี้วัด
ป. ๔/๒ เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพอ่ื ใชพ้ ัฒนางานเขยี น
ป. ๔/๕ มีมารยาทในการเขียน
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. นกั เรียนสามารถเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งได้
๒. นักเรียนสามารถเล่าเรอ่ื งจากแผนภาพโครงเรอ่ื งได้
๓. นักเรียนสามารถเขียนเร่ืองจากแผนภาพโครงเรื่องได้
สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซ่ือสตั ย์สุจรติ
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖. มงุ่ มั่นในการทาํ งาน
สาระการเรยี นรู้
๑. การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื งจากบทเรียน เรือ่ ง คนดศี รโี รงเรียน
๒. การเขยี นเร่ืองตามแผนภาพโครงเร่อื ง
๓. การเลา่ เรื่องตามแผนภาพโครงเรือ่ ง
กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ ๓–๕ คน แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนเล่าเร่ืองคนดีศรีโรงเรียน ด้วย
ภาษาของตนเอง
๒. ครูใหน้ กั เรยี นดูแผนภูมิ แผนภาพโครงเรอ่ื งบนกระดานดาํ
๓. นกั เรยี นและครชู ่วยกันอภิปราย และเตมิ คําถาม และเหตุการณ์ตามแผนภาพโครงเรื่องไดด้ ังนี้ เช่น
ใคร : ตัวละครมใี ครบา้ ง
ที่ไหน : เหตุการณ์เกิดข้นึ ทไี่ หน
เหตุการณ์ : มเี หตุการณอ์ ะไรเกิดขึ้นบา้ ง
เหตุการณ์ท่ี ๑
เหตกุ ารณท์ ี่ ๒
เหตุการณ์ท่ี ๓
ผลทางเหตกุ ารณ์ : ผลเปน็ อย่างไร
ขอ้ คิดของเรอื่ ง : สรุปขอ้ คิดจากเร่อื ง
๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเขียนแผนภาพโครงเรื่อง คนดีศรีโรงเรียน ลงในกระดาษขาวเทาพร้อม
นําเสนอหนา้ ชั้นเรยี นชว่ ยกนั ปรบั ปรงุ แก้ไขใหถ้ ูกตอ้ ง
ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บัตรคําศัพท์
๒. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ิต ทักษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๔. แผนภาพโครงเรือ่ ง
การวดั และประเมนิ ผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๕
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๖ เร่อื ง คนดีศรีโรงเรยี น เวลา ๘ ชั่วโมง
หัวข้อเร่อื ง อา่ นในใจเสริมบทเรียน เวลา ๑ ชว่ั โมง
....................................................................
มาตรฐาน ท ๑.๑ สามารถอา่ นได้ถกู ต้องตามหลักการอา่ น เข้าใจความหมายของคาํ และข้อความท่อี ่าน
สาระสาํ คญั
การอ่านในใจเสรมิ บทเรียนเป็นการเพ่ิมประสบการณ์ด้านการอ่าน ปลกู ฝงั ให้ผูเ้ รยี นรักการอ่านและศกึ ษา
หาความรู้เพ่ิมเติม ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เปดิ โลกทศั น์ทีก่ ว้างไกล รจู้ ักคิดวิเคราะห์เร่ืองท่ีอ่านและ
นาํ มาปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วันได้
ตวั ชวี้ ดั
ป. ๔/๗ อ่านหนงั สือท่ีมีคณุ ค่าตามความสนใจอยา่ งสมํ่าเสมอและแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเรื่องท่อี ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อ่านและเกบ็ ใจความสําคัญของเรือ่ งได้
๒. คดิ วเิ คราะหส์ รุปเร่ืองราวทอี่ า่ น
๓. ตัง้ คาํ ถาม - ตอบคําถามเรอื่ งทีอ่ า่ นได้
สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
สาระการเรยี นรู้
๑. การอา่ นเสริมบทเรียนเรอื่ ง “เด็กท่ีมีความตอ้ งการพเิ ศษ”
๒. การวเิ คราะห์เรอ่ื งทอี่ า่ น
๓. การเขยี นเล่าเร่อื ง
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซื่อสัตย์สุจริต
๓. มวี ินัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๖. มงุ่ มัน่ ในการทาํ งาน
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. นักเรียนแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ กลุม่ ละ ๔ – ๕
๒. ใหน้ กั เรยี นอ่านในใจ บทอา่ นเสริม “เด็กที่มีความต้องการพิเศษ” ในหนังสือเรียนภาษาไทย ป.๔
ชดุ ภาษาพาที หนา้ ๑๖๓ จากนน้ั ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันคิดวิเคราะห์คุณค่าของเร่ืองที่อ่านในด้านต่างๆ แล้วส่ง
ตวั แทนนาํ เสนอผลการคดิ วเิ คราะหท์ ่หี น้าชัน้ เรียน
๓. นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม เล่นเกมใบ้ โดยให้เลือกเป็นตัวละครคนใดคนหน่ึงในบทเรียน แล้วส่งตัวแทน
แสดงบคุ ลกิ ลกั ษณะท่ีโดดเดน่ ของตัวละครนั้นให้กลุ่มอื่นทายว่าเป็นใคร ถ้ายังไม่มีกลุ่มใดทายถูกให้แสดงท่าทาง
จนกว่าจะมีกลมุ่ ทายถกู
๔. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ อา่ นบทร้อยกรอง “ดว้ ยรักและศรทั ธา” แล้วช่วยกันวิเคราะห์ คุณคา่ ของบทเรียน
เรอื่ งคนดีศรีโรงเรยี น นกั เรียนทกุ คนทาํ แบบฝกึ หัดชุดที่ ๕ เสรจ็ แล้วนาํ สง่ ครตู รวจสอบและประเมินผลโดยการให้
เปน็ คะแนนตามระดบั คุณภาพ
๕. ครูมอบหมายให้นกั เรยี นทําแบบฝึกหัด ขอ้ ๔
ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บตั รคําศัพท์
๒. หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ิต ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
การวัดและประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๖
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๖ เรื่อง คนดีศรีโรงเรียน เวลา ๘ ช่วั โมง
หัวข้อเร่อื ง การพูดโน้มนา้ ว เวลา ๑ ชว่ั โมง
………………………………………………………….
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึกใน
โอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
สาระสาํ คัญ
การพูดมีอิทธิพลมากในการส่ือสาร ผู้พูดต้องมีวิจารณญาณสถานการณ์ที่พูด ต้องรู้จักเลือกใช้ถ้อยคํา
สํานวนใหเ้ หมาะสมกับโอกาสและระดับของผู้ฟงั เพอื่ ใหผ้ ลการพดู ออกมาในทางลบนอ้ ยทสี่ ุด กระทบกระเทือน
ผูฟ้ ังน้อยที่สดุ สร้างความประทบั ใจและเปน็ ประโยชน์กบั ผู้ฟงั
ตวั ชีว้ ัด
ป. ๔/๓ พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรสู้ ึกเกี่ยวกับเรอื่ งที่ฟังและดู
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. พดู แนะนําตวั ได้
๒. พดู สนทนาไดถ้ ูกต้องตามสถานการณ์
๓. พูดโน้มนา้ วและโตแ้ ย้งได้
สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซือ่ สตั ย์สจุ รติ
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อย่อู ย่างพอเพยี ง
๖. มงุ่ มนั่ ในการทาํ งาน
สาระการเรียนรู้
๑. มารยาทในการพูดแนะนําตวั และพดู สนทนาและฟัง
๒. การปฏบิ ัติตนในการพดู ปฏเิ สธหรอื การโต้แย้งและฟงั
กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นักเรยี นแบ่งกล่มุ ออกเป็นกลมุ่ ละ ๓ – ๕ คน
๒. นักเรียนอ่านบทร้อยกรองเกี่ยวกับการพูด แล้วสนทนาเก่ียวกับบทร้อยกรอง แล้วดูวีดีทัศน์ท่ีครู
นาํ มาเปิดใหด้ ูการประชุมในท่ีสําคัญๆ เช่น การประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การประชุมสัมมนางาน
อืน่ ๆ เช่น การประชมุ ทางวชิ าการ เป็นต้น แล้วใหน้ กั เรยี นรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกับเรือ่ งการพดู แสดงความคดิ เหน็
เชงิ วจิ ารณ์และการพดู ปฏิเสธหรอื การโต้แยง้ มารยาทในการฟงั และการพูด
๓. เพื่อให้นกั เรียนเกดิ การปฏิบัติจริง โดยครูจัดสถานการณ์ให้นักเรียนฝึกพูดขณะนั้นทันที โดยครูต้ัง
ประเด็น หัวข้อเร่ืองหรือหยิบสิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนพูดแสดง
ความเห็นเชิงวิจารณ์ หรอื ปฏิเสธ หรือโต้แย้ง
๔. รว่ มกันทบทวนเกย่ี วกับมารยาทในการฟงั และการพดู แลว้ ใหต้ วั แทนออกมานาํ เสนอเก่ยี วมารยาทใน
การพดู และการฟัง
๕. ครูอภิปรายถึงการพูด ปฏเิ สธหรือการพูดโตแ้ ย้งวา่ เราควรมที ักษะในการพดู อย่างไรจึงจะทําให้คนฟัง
รู้สึกพงึ พอใจ จากนน้ั ใหน้ กั เรียนศกึ ษาเพม่ิ เติมในหนงั สือเรียนภาษาไทย ป. ๔ ชดุ ภาษาพาที หน้า ๑๖๕ – ๑๖๗
๖. นกั เรยี นและครชู ่วยกนั สรุปความรทู้ ี่ไดจ้ ากการดูวีดิทัศน์ และจากการพูดแสดงความคิดเห็นหน้าช้ัน
เรยี น เพ่อื นําความรู้ไปประยุกตใ์ นชวี ิตประจําวนั
สือ่ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคําศพั ท์
๒. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ิต ทักษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
การวัดและประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่ืองมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๗
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๖ เร่ือง คนดีศรโี รงเรยี น เวลา ๘ ชั่วโมง
หัวข้อเรื่อง การฟงั ดู พูด เวลา ๑ ชวั่ โมง
........................................................
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมีวิจารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกใน
โอกาสต่างๆอยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
สาระสาํ คัญ
การฟงั การดูและการพูด ทักษะเหล่าน้ีเป็นการใช้วิจารณญาณในการพิจารณา เพื่อสร้างองค์ความรู้ท่ี
ได้รบั ไปใช้ประโยชน์ในการสรา้ งความประทบั ใจและเปน็ ประโยชนก์ บั ผู้รบั สาร
ตวั ชว้ี ัด
ป.๔/๒ พดู สรปุ ความจากการดแู ละการฟัง
ป.๔/๓ พูดแสดงความรู้ ความคดิ เห็นและความรูส้ กึ เก่ียวกบั เร่ืองทฟี่ งั และดู
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. สามารถพูดสรุปความจากการดูและการฟงั ได้
๒. นกั เรียนพดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความร้สู กึ เกยี่ วกับเรอื่ งที่ฟงั และดไู ด้
สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต
๓. มีวินัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๖. มงุ่ ม่ันในการทาํ งาน
สาระการเรยี นรู้
- การพดู การดแู ละการฟงั
กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. นกั เรยี นและครูสนทนาทบทวนเรอ่ื ง มารยาทในการพดู ฟัง ที่ดีเพื่อนาํ ไปปฏบิ ัตใิ นทางที่ถกู ต้อง
๒. ครูอภิปรายเรือ่ งการพดู โตแ้ ย้งว่า เราควรมที กั ษะในการพดู อยา่ งไรจงึ จะทาํ ให้คนพอใจ หลังจากนั้น
ให้นกั เรยี นศึกษาอา่ นเพิ่มเตมิ ความรใู้ นหนงั สอื เรียน
๓. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ทาํ แบบฝกึ หดั
๔. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนทาํ แบบฝึกหดั ในหนังสือแบบฝกึ หัดขอ้ ๑, ๕
สื่อ / แหล่งเรียนรู้
๑. บตั รคําศัพท์
๒. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔
การวัดและประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๘
กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๖ เรื่อง คนดศี รีโรงเรยี น เวลา ๘ ชั่วโมง
หัวขอ้ เรอ่ื ง สาํ นวน คาํ คม เวลา ๑ ช่ัวโมง
……………………………………………………………….
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ
สาระสําคญั
สํานวนและคําคม เป็นศิลปะการสื่อสารด้วยภาษาอีกอย่างหน่ึงที่ทําให้ผู้รับสารเกิดความประทับใจ
ซาบซึง้ ในความงดงามของภาษา สร้างทศั นคตทิ ด่ี ีต่อผู้รับสาร
ตัวชี้วัด
ป.๔/๑ สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ในบรบิ ทได้
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นักเรยี นตคี วามหมายของสํานวน คาํ คมได้
๒. นักเรียนเขียนคาํ คมได้
๓. ทาํ แบบทดสอบหลงั เรียนได้
สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖. ม่งุ มนั่ ในการทํางาน
สาระการเรียนรู้
๑. สํานวน คําคม
๒. การตีความหมายของสาํ นวน คําคม
๓. แบบทดสอบหลงั เรียน