The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by santi muangdoo, 2021-08-01 11:42:02

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาพาที ป. 4

แผนการสอนภาษาพาที ป. 4

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. นักเรยี นแบ่งกลุม่ ออกเปน็ กลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน
๒. ครเู ขยี นประโยค
- คุณครูก็รนิ นา้ํ ผึง้ รดหวั ใจผมทนั ที
- คุณครูทา่ นเห็นรปู ทองของผมแลว้
- งานนผ้ี มทุ่มสุดตวั แตเ่ อ... มันจะตลอดรอดฝั่งไหมน่ี
- ผมเดนิ ตวั ลอยไปบนเวที
๓. ใหแ้ ต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ตีความของ ๕ ประโยคน้ี แลว้ ส่งตวั แทนพดู อธิบายความหมาย จากน้ันครูร่วม

สรุปความหมายของท้งั ๕ ประโยค โดยครูถามนกั เรียนดังนี้
- ทาํ ไมต้องใชส้ าํ นวนแบบนี้ แนวคําตอบก็คือ เพ่ือให้เกิดความหมายลึกซ้ึงกินใจผู้อ่านหรือ
ผู้ฟัง ข้อความแบบน้ีเรียกว่า สํานวน หรือ คําคม ส่วนมากจะมีความหมายโดยนัยคือ
ความหมายแบบไม่ตรงตวั อกั ษรท่ีปรากฏ

๔. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั หาขอ้ ความท่ีเรยี กวา่ สาํ นวน หรือคาํ คมจากบทเรียนให้มากที่สุด พร้อม
ทัง้ อธบิ ายความหมายและเขียนลงในแบบฝกึ หดั

๕. ให้นกั เรยี นทุกคนเขยี นสํานวนหรือคําคม เกี่ยวกับเร่ืองที่กําหนดให้
๖. ทําแบบฝกึ หัดชดุ ที่ ๙ ถ้าไม่เสรจ็ ต่อเป็นการบ้าน
๗. นักเรยี นทกุ คนทาํ แบบทดสอบหลังเรยี นบทเรยี นที่ ๑๑ เรือ่ ง คนดศี รโี รงเรียน เสร็จแล้วแลกเปลี่ยน
กนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยครเู ฉลย

สื่อ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บัตรคาํ ศัพท์
๒. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวติ ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

การวัดและประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมือทีใ่ ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑๗ เร่อื ง สารพษิ ในชีวติ ประจําวนั เวลา ๖ ชวั่ โมง

หวั ขอ้ เรื่อง การอ่านในใจ เวลา ๑ ชั่วโมง

.....................................................................

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคดิ ไปใช้ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา และสร้างวิสัยทศั น์ใน

การดําเนนิ ชีวิต และมนี สิ ยั รกั การอา่ น

สาระสําคญั
การอ่านในใจ ผู้อ่านต้อใช้สมาธิในการอ่านและอ่านอย่างพินิจพิจารณาจะทําให้ตอบคําถามตามลําดับ

เหตุการณ์ และสรุปเร่ืองพร้อมท้ังข้อคิดจากเร่ืองท่ีอ่าน ตอบคําถามลําดับเหตุการณ์ของเรื่อง และนําไปเขียน
แผนภาพความคิดเพ่อื เขยี นเรื่อง และเลา่ เร่อื งได้

ตัวชวี้ ดั
ป. ๔/๓ อา่ นเรอื่ งสน้ั ๆ ตามเวลาทีก่ ําหนดและตอบคาํ ถามจากเรอ่ื งท่ีอ่าน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อา่ นในใจและเก็บใจความสาํ คัญของเร่ืองได้
๒. ถา่ ยโอนสาระเรื่องราวท่ีอ่านไปยงั ผอู้ ื่นได้
๓. บอกความหมายคาํ ใหม่ในบทเรยี นได้

สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซ่อื สัตยส์ ุจรติ
๓. มวี ินัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๖. มุ่งม่ันในการทํางาน

สาระการเรียนรู้
๑. อ่านในใจเรอื่ ง “สารพิษในชีวติ ประจาํ วัน”
๒. เล่าเรื่อง “สารพษิ ในชีวิตประจําวนั ”
๓. ตอบคาํ ถามของเร่อื ง “สารพิษในชีวิตประจาํ วัน”

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. ครูและนกั เรยี นสนทนาซกั ถามประสบการณ์เดิม เกย่ี วกบั เร่อื งของสารพิษหรือสิ่งแวดล้อมท่ีเป็นพิษ

โดยครซู กั ถามและใหน้ ักเรยี นอาสาสมัครออกมาเลา่ ให้เพือ่ นๆ ฟงั
๒. นกั เรียนอา่ นบัตรคํายากบนกระดาน ซงึ่ ไดแ้ ก่ กลางคนั เกษตรกร ขยุ้ม พร่ําเพรอื่ พถิ ีพถิ ัน มะเรง็

หวาดระแวง ให้นกั เรียนทกุ คนอ่านออกเสียงตามครพู ร้อมกัน จากน้ันสนทนากันเกี่ยวกับความหมายของแต่ละ
คํา แลว้ จําแนกคําตากลุ่มตวั สะกดเดียวกนั นกั เรียนอา่ นเพ่ิมเติมในอา่ นเพิ่มเติมความหมายในหนงั สอื เรยี น

๓. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ ๔–๕ คน สมาชิกในกลุ่มทกุ คนอา่ นเรื่อง “สารพิษในชีวิตประจําวัน”
ในใจ จากน้ันให้แต่ละกลุ่มต้ังคําถามจากเร่ืองท่ีอ่านให้ได้มากที่สุด แล้วเขียนลงในแถบประโยค แล้วนําไปใส่
กระเป๋าผนงั จากนน้ั ใหเ้ พอื่ นในกลุ่มอื่นอ่านและตอบคําถาม ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปเน้ือหาเพื่อเล่าเร่ืองท่ี
หนา้ ชั้นเรยี น

๔. แตล่ ะกล่มุ ส่งตัวแทนเล่าเร่อื งโดยยอ่ ทหี่ น้าชนั้ เรียนและต้งั คําถามจากเรอ่ื งใหก้ ลมุ่ อน่ื ตอบ กลมุ่ ละ ๓
คาํ ถาม

๕. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทกุ คนไปทาํ แบบฝกึ หัดทกั ษะภาษา แบบฝกึ หัดที่ ๑๒ ข้อ ๑ (๑)–(๓) และ
ขอ้ ๒ (๑) เปน็ การบา้ น

๖. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ บทเรียน

สื่อ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บัตรคําศพั ท์
๒. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่ืองมือท่ีใช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๒

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๗ เรือ่ ง สารพิษในชวี ติ ประจาํ วนั เวลา ๖ ชั่วโมง

หัวข้อเรื่อง การอา่ นออกเสียง เวลา ๑ ชั่วโมง

.....................................................................

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ ไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปญั หา และสร้างวิสยั ทัศน์ใน

การดาํ เนินชีวิต และมีนสิ ัยรกั การอา่ น

สาระสําคญั
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องท้ังด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงต่ําของเสียงตาม

บรบิ ทแห่งเนอ้ื หา จงึ จะทําใหก้ ารส่อื สารมปี ระสิทธิภาพ เกิดความเข้าใจตรงกนั ระหว่างผู้ส่งสารและผ้รู ับสาร

ตัวชวี้ ัด
ป.๔/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อ่านออกเสียงบทเรียนไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน
๒. อ่านประโยคในบทเรียนไดถ้ กู ตอ้ ง
๓. บอกความหมายคาํ ใหมใ่ นบทเรยี นได้

สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพยี ง
๖. มุง่ มัน่ ในการทํางาน

สาระการเรียนรู้
๑. อ่านออกเสียงเรื่อง “สารพษิ ในชวี ิตประจําวนั ”
๒. การวเิ คราะหเ์ รื่อง “สารพษิ ในชีวติ ประจําวัน”
๓. คาํ ยากในบทเรยี น

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ กลุ่มละ ๓ – ๕ คน
๒. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านออกเสียงกลุ่มละ ๑ ย่อหน้า โดยอ่านต่อกันจนจบเรื่อง “สารพิษใน

ชีวิตประจําวัน” ถ้ายังอ่านไม่ครบทุกกลุ่มเร่ิมอ่านต้ังแต่ต้นเร่ืองอีกครั้ง จากนั้นจัดประกวดการอ่านออกเสียง
โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนเขา้ ประกวดกลุม่ ละ ๑ คน นักเรยี นและครูรว่ มกนั ประเมินและตดั สนิ

๓. ให้หวั หน้ากล่มุ นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ดแู ลให้สมาชกิ ภายในกลุม่ อ่านข้อความในเร่อื งคนละ ๑ ย่อหน้า
พรอ้ มกบั ร่วมกนั ประเมินผล

๔. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั หาความหมายของคาํ ที่กําหนดให้ เสร็จแล้วครูเฉลยนักเรียนแลกเปลี่ยน
กันตรวจ นาํ ส่งครูประกาศผลเป็นคะแนน

ส่อื / แหล่งเรียนรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนังสือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมือท่ใี ช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๓

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๗ เร่ือง สารพษิ ในชวี ติ ประจําวนั เวลา ๖ ช่วั โมง

หัวขอ้ เร่ือง การวิเคราะห์บทเรยี น เวลา ๑ ชัว่ โมง

.........................................................................

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน

โอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

สาระสําคญั
การวิเคราะห์บทเรียนเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตัวเพ่ือคิดวิเคราะห์สาระที่กําลังศึกษา ผู้แสดง

ความคิดเห็นควรใชภ้ าษาท่ีสภุ าพไม่กระทบกระเทือนถึงบคุ คลอื่นและแสดงความคิดเห็นในด้านพยุง จรรโลงและ
สรา้ งสรรค์สังคมใหด้ งี าม ตอ้ งมคี วามรลู้ กึ ซ้ึงในเร่อื งคําและสํานวนภาษาเพอ่ื ใหใ้ ชไ้ ด้ถูกต้องตามบรบิ ท

ตัวชว้ี ดั
ป.๔/๓ จําแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จากเรือ่ งทฟี่ งั และดู

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นบอกเนอ้ื หาสาระในบทเรียนได้
๒. นกั เรียนวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ ในบทเรียนได้
๓. นกั เรียนนําข้อคดิ จากเรือ่ งมาใช้ในชีวิตประจาํ วนั ได้

สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ
๓. มีวินัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๖. มุ่งมัน่ ในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
๑. การวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ ต่อบทเรียน
๒. การสรปุ เน้ือหาในบทเรียน
๓. การนาํ ขอ้ คิดจากบทเรียนมาประยุกตใ์ ช้

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. นักเรียนแบง่ กลุม่ ออกเป็นกลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน
๒. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ พิจารณาขอ้ ความจากเร่ือง “มลพษิ ในชวี ติ ประจําวัน” มีเนือ้ หาสาระเก่ียวกับส่ิงใด

นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ตอบคําถามอยา่ งอสิ รเสรี แล้วครรู ว่ มสรุปคาํ ตอบทถี่ กู ต้อง
๓. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั สมมตุ ติ นเองว่าเป็นตวั ละครในเร่ือง “มลพิษในชีวิตประจําวัน” คนใดคน

หนงึ่ นักเรยี นจะปฏิบัตติ นอยา่ งไร พรอ้ มทง้ั ชว่ ยกนั กาํ หนดแนวปฏบิ ตั ติ นทีไ่ ดจ้ ากเน้อื เรอื่ งในบทเรียนเพ่ือนํามาใช้
ในชวี ติ ประจําวนั

๔. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มบอกและสรปุ วธิ ปี ฏิบัติตนในการใช้สารเคมี เสรจ็ แล้วนาํ สง่ ครปู ระเมินคุณภาพ
๕. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สนทนาสรปุ เร่อื งราวสาระในบทเรียน นักเรียนศึกษาสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับ
ชีวติ ประจาํ วนั
๖. นักเรยี นทุกคนไปทาํ แบบฝึกหดั ที่ ๑๒ ขอ้ ๑ (๘)–(๑๑)

สือ่ / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บัตรคาํ ศัพท์
๒. หนังสือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๗ เรื่อง สารพิษในชวี ติ ประจาํ วัน เวลา ๖ ช่วั โมง

หวั ข้อเรอ่ื ง การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง เวลา ๑ ชว่ั โมง

……………………………………………………………..

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอื่ สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ

ต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

สาระสําคัญ
แผนภาพโครงเรอื่ ง เป็นแผนภาพท่ีประกอบด้วยส่วนของคําถามเกี่ยวกับเรื่องบอกให้ทราบว่าใคร ทํา

อะไร ทไ่ี หน อย่างไร เพราะเหตใุ ด และข้อคดิ จากเรื่องแผนภาพโครงเรื่อง จะช่วยให้สามารถบอกเหตุการณข์ อง
เร่ืองเป็นตอนๆ โดยอาศัยการคิดคําตอบจากคําถามในแผนภาพ และช่วยลําดับเร่ืองได้อย่างต่อเนื่อง ทําให้
สามารถสรุปเรื่องทัง้ หมดได้

ตัวช้ีวัด
ป. ๔/๓ เขียนแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคิดเพื่อใชพ้ ัฒนางานเขยี น

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรียนสามารถเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งได้
๒. นกั เรยี นสามารถเล่าเรื่องจากแผนภาพโครงเรือ่ งได้
๓. นักเรียนสามารถเขียนเรือ่ งจากแผนภาพโครงเรอ่ื งได้

สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต
๓. มวี ินัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง
๖. มุ่งมน่ั ในการทํางาน

สาระการเรยี นรู้
๑. การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ งจากบทเรยี น เรอ่ื ง สารพษิ ในชวี ติ ประจาํ วนั
๒. การเขยี นเร่อื งตามแผนภาพโครงเร่อื ง
๓. การเล่าเร่ืองตามแผนภาพโครงเร่อื ง

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. นักเรยี นทํากิจกรรม ชวนกันคดิ ชว่ ยกนั ตอบ ครชู ่วยถามนาํ เพือ่ กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนตอบแล้วสรุปเป็น

แผนภาพวามคดิ เรอ่ื งสารพิษในชวี ติ ประจําวัน
๒. ครนู ําตวั อย่างขนมทีม่ ขี ายในท้องตลาดมาแสดงให้นกั เรยี นดู เชน่ โรตีสายไหม ขนมลูกชุบ ขนมชั้น

เป็นต้น แล้วใหน้ ักเรียนอภิปรายวา่ สีที่สวยงาม นน้ั ทํามาจากอะไร เปน็ พิษหรอื ไมแ่ ลว้ มอี ะไรทีท่ ําใหข้ นมสวยงาม
ได้และไม่มพี ษิ ต่อร่างกาย

๓. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ทาํ กิจกรรมชวนกนั สัมภาษณ์ แลว้ ทาํ รายงานการศกึ ษาค้นควา้
๔. ทาํ แบบฝึกหัดทักษะภาษาแบบฝึกหัดท่ี ๑๒ ข้อ ๑ (๔)-(๗)
๕. ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรุปบทเรียน

สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการประเมิน
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๕

กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๗ เรอื่ ง สารพิษในชีวิตประจําวนั เวลา ๖ ชั่วโมง

หวั ขอ้ เรื่อง การอา่ นเสรมิ บทเรยี น เวลา ๑ ช่ัวโมง

…………………………………………………..

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดไปใช้ตดั สินใจแก้ปญั หา และสร้างวสิ ัยทศั น์ใน

การดาํ เนนิ ชวี ิต และมีนิสัยรักการอา่ น

สาระสําคญั
การอา่ นเสรมิ บทเรยี นเป็นการเพ่มิ ประสบการณด์ ้านการอา่ น ปลูกฝังให้ผเู้ รียนรักการอ่านและศึกษาหา

ความรู้เพิ่มเติม ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เปิดโลกทัศน์ท่ีกว้างไกล รู้จักคิดวิเคราะห์เรื่องที่อ่านและ
นาํ มาปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจําวนั ได้

ตัวช้ีวัด
ป.๔/๗ อา่ นหนังสอื ทีม่ คี ณุ คา่ ตามความสนใจอย่างสมํ่าเสมอและแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรอ่ื งท่อี า่ น

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรียนอ่านและเกบ็ ใจความสาํ คัญของเร่ืองได้
๒. นกั เรียนคดิ วเิ คราะห์สรุปเร่อื งราวท่ีอา่ น
๓. นักเรียนต้งั คาํ ถาม - ตอบคาํ ถามเร่ืองที่อา่ นได้

สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
๖. มุ่งม่นั ในการทํางาน

สาระการเรยี นรู้
๑. การอา่ นเสริมบทเรยี นเรื่อง “รเู้ รือ่ งเครือ่ งปรงุ รส”
๒. การวเิ คราะหเ์ ร่อื งที่อ่าน
๓. การเขยี นเล่าเรอื่ ง

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ออกเป็นกลมุ่ ละ ๓ – ๕ คน

๒. ให้นกั เรียนอ่านในใจ บทอา่ นเสรมิ “ร้เู รอื่ งเครือ่ งปรงุ รส” ในหนังสือเรียนภาษาไทย ภาษาพาที ชน้ั

ป.๔ หน้า ๑๗๖ – ๑๗๗ จากน้ันให้แต่ละกลุ่มร่วมกันคิดวิเคราะห์คุณค่าของเร่ืองท่ีอ่านในด้านต่างๆ แล้วส่ง
ตวั แทนนําเสนอหน้าช้นั เรียน

๓. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ สรุปความรู้จากเร่ืองทีอ่ ่าน
๔. นักเรียนทกุ คนทาํ แบบฝกึ หัดที่ ๑๒ ขอ้ ๑ (๘) -(๑๑)

สื่อ / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บัตรคําศัพท์
๒. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๖

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๗ เร่ือง สารพิษในชีวติ ประจาํ วนั เวลา ๖ ช่วั โมง

หวั ข้อเร่อื ง การโฆษณา เวลา ๑ ชั่วโมง

…………………………………………………….

มาตรฐาน ท ๑.๑ สามารถอา่ นไดถ้ ูกตอ้ งตามหลักการอ่าน เข้าใจความหมายของคาํ และขอ้ ความที่อา่ น

สาระสําคญั
การโฆษณาเป็นการประชาสัมพันธ์ เพ่ือเผยแพร่สินค้าหรือการบริการอย่างใดอย่างหน่ึงแก่คนท่ัวไป

ข้อความที่ใช้ในการโฆษณาจะเปน็ การเชญิ ชวน ชกั จงู โนม้ นา้ วใจให้ผอู้ ่านหรือผู้ฟังใหเ้ ห็นคลอ้ ยตาม เชื่อถือและ
ปฏิบตั ิตาม

ตัวชี้วัด
ป.๔/๑ แยกข้อเท็จจริงและข้อคดิ เห็นจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. รู้จกั หลักการโฆษณาและการเชิญชวนผู้อน่ื
๒. พูดหรือเขยี นโฆษณาได้
๓. ออกแบบในการเขยี นป้ายโฆษณาได้

สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซื่อสัตย์สุจริต
๓. มวี ินยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
๖. มงุ่ มัน่ ในการทํางาน

สาระการเรยี นรู้
๑. หลกั การโฆษณาเชญิ ชวน
๒. การพูดหรอื เขยี นโฆษณาเชิญชวน
๓. การออกแบบโฆษณา

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นกั เรยี นแบง่ กลุม่ ออกเป็นกล่มุ ละ ๓ – ๕ คน
๒. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันคัดเลือกตัวอย่างโฆษณาทีเตรียมมาร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ

โฆษณาว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง ส่วนสําคัญและสิ่งจําเป็นท่ีต้องมีคืออะไร ครูถามถึงการโฆษณาเป็นส่ิง
นา่ เชือ่ ถือไม่ ตวั แทนกลุม่ ส่งตัวแทนออกมาอ่านโฆษณานั้น ครูและนักเรียนชว่ ยสรุปลักษณะของคาํ โฆษณา

๓. นักเรียนอ่านออกเสียงบทอา่ นอธิบายเพ่ิม เตมิ ความรู้ เรื่อง การโฆษณา ในหนังสือเรียนภาษาไทย
ป. ๔ ชุดภาษาพาที หน้า ๑๗๙ จากน้ันร่วมกันสนทนาถึงรายละเอียดและหลักการของการใช้ภาษาในการ
โฆษณา

๔. ครยู กตัวอย่างโฆษณา ๑ ชิน้ อ่านแล้วให้นักเรยี นช่วยกันวเิ คราะหแ์ ยกแยะข้อเท็จจริง อภิปรายถึง
ความเปน็ ไปได้หรือความน่าเชอื่ ถือของโฆษณาชนิ้ นัน้ ครสู รุปเพ่ิมเติม

๕. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันค้นหาข้อความโฆษณาจากหนังสือพิมพ์หรือส่ือส่ิงพิมพ์ต่างๆ กลุ่มละ ๑
โฆษณา แล้วช่วยกันวิเคราะห์ความเป็นไปไดแ้ ล้วบันทึกลงในกระดาษ จากน้ันให้แต่ละกลุ่มออกมานําเสนอหน้า
ช้นั เรยี น

๖. ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรปุ ความร้เู กี่ยวกบั โฆษณาในรปู แบบของแผนผังความคดิ
๗. ทําแบบฝกึ หดั ทักษะภาษา แบบฝึกหัดที่ ๑๒ ข้อ ๓ (๔)–(๕)
๘. ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรปุ บทเรยี น

สื่อ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บัตรคาํ ศัพท์
๒. หนังสือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ทักษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครื่องมือที่ใชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑

กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๙ เรอื่ ง อย่างนี้ดีควรทาํ เวลา ๗ ชัว่ โมง

หัวขอ้ เรอ่ื ง การอ่านในใจ เวลา ๒ ชั่วโมง

…………………………………………………………….

มาตรฐาน ท๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดไปใชต้ ัดสนิ ใจแก้ปญั หา และสรา้ งวสิ ยั ทัศน์ใน

การดําเนนิ ชีวิต และมนี สิ ยั รกั การอา่ น

สาระสาํ คญั
การอา่ นในใจ ผู้อา่ นต้องใชส้ มาธใิ นการอ่านและอ่านอย่างพินิจพิจารณาจะทําให้ตอบคําถามตามลําดับ

เหตุการณ์ และสรปุ เร่ืองพร้อมทัง้ ขอ้ คดิ จากเร่อื งที่อา่ น ตอบคาํ ถาม แสดงความคดิ เหน็ และสรุปเรือ่ งได้

ตัวชวี้ ดั
ป.๔/๓ อ่านเรอื่ งสัน้ ๆ ตามเวลาท่กี าํ หนดและตอบคาํ ถามจากเรือ่ งทอ่ี ่าน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. อา่ นในใจและเกบ็ ใจความสาํ คัญของเรื่องได้
๒. ถา่ ยโอนสาระเรือ่ งราวทอ่ี า่ นไปยังผอู้ ่นื ได้
๓. บอกความหมายคาํ ใหมใ่ นบทเรียนได้

สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซือ่ สตั ยส์ ุจริต
๓. มีวินัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
๖. มงุ่ มั่นในการทํางาน

สาระการเรียนรู้
๑. อา่ นในใจเรือ่ ง “อยา่ งน้ีดีควรทํา”
๒. เล่าเรอ่ื ง “อย่างน้ีดีควรทาํ ”
๓. ตอบคําถามของเร่ือง “อยา่ งน้ีดีควรทํา”
๔. ทําแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. ครูให้นักเรยี นสนทนาเกีย่ วกบั ประสบการณ์ท่นี กั เรียนเคยไปประกอบพธิ ีกรรมทางศาสนา ครูถามนํา

เพ่ิมเติมเพื่อจุดประกายความคิด เช่น ทําไมเราต้องไปทําบุญ ทําไมเราต้องนับถือศาสนา ทําไมต้อง
มีศาสนสถาน ฯลฯ นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคาํ ถามและอภิปราย

๒. นกั เรียนดูภาพในบทเรยี น เรื่อง “อยา่ งน้ีดีควรทาํ ” และสนทนาเกยี่ วกบั ภาพ ครูและนักเรียนช่วยกัน
สรุปถงึ ความสําคญั ของศาสนา

๓. นักเรียนอา่ นออกเสียงบัตรคาํ ยากพร้อมกัน ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั อภิปรายความหมาย นกั เรียนอา่ น
เพ่ิมเตมิ ในอา่ นเพ่ิม เตมิ ความหมาย ในหนงั สอื เรยี น

๔. แบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลุ่มอา่ นในใจเรอื่ ง “อย่างนี้ดคี วรทาํ ”ในหนังสอื เรียนครใู ห้นกั เรยี นในกลุ่มผลัด
กันตง้ั และตอบคําถามจากเรื่องท่ีอ่าน (โดยเน้นคําถามเชิงวิเคราะห์) จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปใจความ
สําคัญของเรอื่ ง เพอ่ื นาํ เสนอหนา้ ชนั้ เรยี น

๕. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาํ เสนอสรุปใจความสําคัญของเร่ือง “อย่างนี้ดีควรทํา” ครูและนักเรียนช่วยกัน
สรุปเปน็ ข้อสรปุ ของหอ้ งเรียน นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ จัดทําแผนภาพความคิด เร่ือง “อย่างนด้ี คี วรทํา” แล้วตกแต่งให้
สวยงาม

๖. ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรุปบทเรียน

สอื่ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บัตรคาํ ศพั ท์
๒. หนังสือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวติ ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔

การวัดและประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๒

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑๙ เร่อื ง อยา่ งนีด้ ีควรทํา เวลา ๗ ชว่ั โมง

หวั ข้อเรอ่ื ง การอ่านออกเสยี ง เวลา ๑ ชั่วโมง

................................................................................................

มาตรฐาน ท๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์

ในการดําเนนิ ชีวิต และมนี สิ ัยรกั การอ่าน

สาระสาํ คัญ
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องทั้งด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงตํ่าของเสียงตาม

บริบทแห่งเนอื้ หา จึงจะทําให้การสือ่ สารมปี ระสทิ ธภิ าพ เกดิ ความเขา้ ใจตรงกนั ระหวา่ งผู้สง่ สารและผูร้ ับสาร

ตัวช้วี ัด
ป.๔/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ตอ้ ง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อา่ นออกเสียงบทเรยี นได้ถกู ต้อง ชดั เจน
๒. อ่านประโยคในบทเรียนได้ถูกตอ้ ง
๓. บอกความหมายคาํ ใหมใ่ นบทเรียนได้

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. มคี วามรอบคอบในการทํางาน
๒. เป็นผ้นู ําและผู้ตามทด่ี ี
๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย
๔. มคี วามเสียสละ
๕. ใช้ภาษาไดถ้ กู กาลเทศะ

สาระการเรยี นรู้
๑. อา่ นออกเสยี งเรื่อง “อย่างน้ดี ี ควรทํา”
๒. การวเิ คราะหเ์ ร่อื ง “อยา่ งนดี้ ี ควรทาํ ”
๓. คาํ ยากในบทเรียน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. ครใู ห้นกั เรยี นดูภาพการแห่นาค หรอื ภาพประเพณีการบวชนาค แล้วซักถามว่าใครเคยเห็นหรือเคย

ร่วมประเพณีนบี้ า้ ง แลว้ ประเพณนี ้ีมีความเปน็ มาอย่างไร
๒. นักเรียนอ่านออกเสียงคํายากในเรื่อง “เมตตาธรรมนําสุข” จากบัตรคํา ครูและนักเรียนอภิปราย

ความหมาย

๓. แบง่ นักเรียนเป็นกล่มุ อ่านในใจ เรื่อง “เมตตาธรรมนาํ สขุ ” โดยเน้นการอ่านอยา่ งพนิ จิ พิจารณา เม่ือ
อ่านจบแล้วนกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ สรปุ ความคดิ จากเรื่องทอี่ า่ นครูช่วยถามนําเพื่อให้นักเรียนเกิดความคิด แล้วจัดทํา
เป็นแผนภาพโครงเรื่องนําเสนอหนา้ ช้นั เรียน

๔. ครูและนกั เรยี นช่วยกันสรปุ บทเรียน

สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บตั รคําศพั ท์
๒. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมือท่ใี ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑๙ เร่ือง อย่างน้ีดคี วรทาํ เวลา ๗ ชว่ั โมง

หัวขอ้ เรื่อง การวิเคราะห์บทเรียน เวลา ๑ ชว่ั โมง

......................................................................

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน

โอกาสต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

สาระสาํ คัญ
การวิเคราะห์บทเรียนเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตัวเพ่ือคิดวิเคราะห์สาระที่กําลังศึกษา ผู้แสดง

ความคดิ เหน็ ควรใชภ้ าษาท่ีสภุ าพไม่กระทบกระเทือนถงึ บคุ คลอ่ืนและแสดงความคิดเห็นในด้านพยุง จรรโลงและ
สรา้ งสรรค์สังคมให้ดงี าม ตอ้ งมีความรูล้ ึกซึ้งในเร่อื งคาํ และสํานวนภาษาเพ่ือให้ใช้ได้ถกู ต้องตามบริบท

ตัวชว้ี ดั
ป.๔/๓ จาํ แนกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรอื่ งทฟ่ี งั และดู

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. นักเรียนบอกเนื้อหาสาระในบทเรียนได้
๒. นักเรยี นวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นในบทเรียนได้
๓. นักเรียนนาํ ขอ้ คดิ จากเร่อื งมาใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั ได้

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. มคี วามรอบคอบในการทาํ งาน
๒. ยอมรบั ในข้อตกลงของกล่มุ ได้
๓. มคี วามภาคภมู ใิ จในภาษาไทย
๔. บอกสาระเกี่ยวกบั เนือ้ หาในบทเรยี น
๕. ใชว้ ัสดอุ ย่างคมุ้ คา่

สาระการเรยี นรู้
๑. การวิเคราะห์และแสดงความคดิ เหน็ ต่อบทเรียน
๒. การสรุปเนอ้ื หาในบทเรียน
๓. การนําขอ้ คิดจากบทเรียนมาประยุกตใ์ ช้

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ตัวแทนนักเรียน ๒-๓ คน ออกมาพูดแนะนําหนังสือเรียนภาษาพาทีหน้าห้องเรียน แล้วครูและ

นักเรียนสนทนาเก่ยี วกับพฤติกรรมของนกั เรยี นเวลาออกมานําเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียนและเวลาที่ฟังเพื่อน แล้ว
ชว่ ยกนั สรปุ จดุ ดีและจดุ ด้อยของการพดู และการฟงั ของนกั เรียน

๒. แบง่ กลมุ่ นักเรยี นอา่ นอธิบายเพม่ิ เติมความรู้ เรื่อง การฟงั และการดู จากน้นั ครูและนักเรียนอภิปราย
เกย่ี วกับข้อปฏิบตั แิ ละมารยาทในการฟังและดู

๓. นักเรียนแต่ละกลมุ่ เตรียมเรื่องสนั้ ๆ แล้วสง่ ตัวแทนออกมาเล่นหนา้ ชั้น ครูคอยสงั เกตพฤติกรรมของผู้
พดู และผ้ฟู ัง

๔. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ บทเรยี น

สือ่ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บัตรคําศัพท์
๒. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชวี ติ ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔

การวัดและประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔

กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑๙ เร่ือง อยา่ งนด้ี คี วรทาํ เวลา ๗ ชว่ั โมง

หวั ข้อเรอ่ื ง การเขียนแผนผงั มโนทศั น์ เวลา ๑ ชวั่ โมง

............................................................................

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ

ต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ

สาระสาํ คัญ
การเขยี นแผนภาพแสดงความคดิ คือการเขียนผังมโนทศั น์ ผเู้ ขียนตอ้ งเรียนรู้เก่ียวกับการวิเคราะห์ การ

สังเคราะห์การรวบรวมข้อมลู จงึ จะสามารถเขียนแผนภาพแสดงความคิดไดด้ ี

ตัวชีว้ ัด
ป.๔/๓ เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพ่ือใชพ้ ัฒนางานเขยี น

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรยี นสามารถเขยี นแผนผังมโนทศั น์ได้
๒. นักเรียนสามารถเล่าเร่อื งย่อจากบทเรยี นได้
๓. นกั เรียนสามารถเขยี นเร่อื งในบทเรียนได้

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้
๒. เป็นผู้นาํ และผูต้ ามทดี่ ี
๓. มีความภาคภูมใิ จในภาษาไทย
๔. เขียนเรอ่ื งจากแผนภาพโครงเร่ืองได้
๕. ใชท้ รัพยากรได้อย่างประหยดั

สาระการเรยี นรู้
๑. การเขยี นแผนผังมโนทศั น์
๒. การเขยี นเรอื่ งยอ่ ในบทเรียน
๓. การเล่าเรอ่ื ง

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ครูให้นักเรียนอ่านบัตรคําเพ่ือเป็นการทบทวนคําศัพท์ในบทเรียน จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันแต่ง

ประโยคดว้ ยปากเหล่าโดยใช้คําศพั ทท์ อี่ ่าน
๒. ครูให้นักเรยี นดแู ผนภูมกิ ราฟแบบต่างๆ แล้วซกั ถามว่านักเรียนเคยเห็นกราฟมาก่อนหรอื ไม่ ในวชิ าใด

และมกั ใช้ในการแสดงขอ้ มูลอะไร

๓. แบ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่มอา่ นอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ความรู้ เร่ืองการอ่านกราฟ ในหนังสือเรียน ครูซักถามเพ่ือ
กระตนุ้ ความคิด และอธิบายเพิม่ เติม

๔. ครนู ําตัวอย่างแผนภูมิกราฟติดท่ีกระดานดําให้นักเรียนช่วยกันอ่าน จากนั้นครูและนักเรียนช่วยกัน
สรปุ วธิ กี ารอ่านกราฟ

๕. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นไปค้นหาแผนภูมกิ ราฟแบบต่างๆ คนละ ๑ ชิ้น แลว้ ให้แสดงวิธีการอา่ นข้อมูล
จากแผนภมู ิกราฟน้นั จดั ทาํ เป็นชิน้ งานสง่ ครู

๖. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปบทเรียน

ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ิต ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๙ เรื่อง อย่างนี้ดคี วรทํา เวลา ๗ ช่วั โมง

หัวข้อเรอ่ื ง การอ่านเสรมิ บทเรียน เวลา ๑ ชว่ั โมง

......................................................................

มาตรฐาน ท ๑.๑ สามารถอา่ นไดถ้ ูกต้องตามหลกั การอา่ น เขา้ ใจความหมายของคาํ และขอ้ ความทอี่ ่าน

สาระสําคญั
การอา่ นเสรมิ บทเรยี นเป็นการเพิ่มประสบการณด์ า้ นการอ่าน ปลกู ฝังให้ผู้เรียนรักการอ่านและศึกษาหา

ความรเู้ พ่มิ เตมิ ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เปิดโลกทัศน์ท่ีกว้างไกล รู้จักคิดวิเคราะห์เรื่องท่ีอ่านและ
นํามาปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ได้

ตวั ชีว้ ดั
ป.๔/๗ อ่านหนงั สือท่ีมคี ุณค่าตามความสนใจอย่างสมาํ่ เสมอและแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั เรื่องที่อ่าน

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นกั เรียนอา่ นและเก็บใจความสาํ คัญของเรอื่ งได้
๒. นกั เรียนคิด วเิ คราะห์สรปุ เรอื่ งราวที่อา่ น
๓. นกั เรียนตง้ั คาํ ถาม - ตอบคาํ ถามเรอ่ื งที่อา่ นได้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้
๒. เปน็ ผู้นาํ และผ้ตู ามทด่ี ไี ด้
๓. มีความรักและภูมใิ จในเอกลักษณไ์ ทย
๔. อ่านเรือ่ งและเกบ็ ใจความสําคัญของเรอื่ ง
๕. ใช้วัสดุอยา่ งคมุ้ ค่า

สาระการเรียนรู้
๑. การอา่ นเสริมบทเรยี นเรื่อง “เมตตาธรรมนําสขุ ”
๒. การวเิ คราะหเ์ ร่อื งทอี่ ่าน
๓. การเขยี นเลา่ เรอ่ื ง

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ครแู ละนกั เรยี นทบทวนเก่ียวกับคําพงั เพยที่อา่ นพบในเรอ่ื ง “อย่างนด้ี คี วรทาํ ” แลว้ ให้นกั เรยี นแข่งขัน

กนั เขยี นสํานวน สุภาษิตหรอื คาํ พังเพยบนกระดานดาํ
๒. ครูอธิบายความหมายของสํานวน สุภาษิตและคําพังเพยให้นักเรียนเข้าใจเป็นการทบทวน ครู

ยกตวั อย่างสํานวน สุภาษติ หรือคําพงั เพยบนกระดานดาํ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั แต่งประโยค จากน้นั ให้นักเรียนชว่ ยกัน
สรุปลกั ษณะของสาํ นวน สภุ าษติ หรอื คาํ พงั เพยวา่ เป็นคาํ หรือข้อความที่มีความหมายใหข้ ้อคดิ คตเิ ตือนใจ

๓. นักเรยี นแต่ละคนค้นหาสํานวนหรือคําพังเพยจากบทเรียน “อย่างนี้ดีควรทํา” และจากส่ือสิ่งพิมพ์
หรือหนังสืออื่นๆ ทําเป็นแฟนภาพประกอบสํานวน สุภาษิตหรือคําพังเพย บอกความหมาย และยกตัวอย่าง
ประโยค ครูมอบหมายให้นักเรียนเตรียมเรื่องเล่าหรือนิทานสั้นๆ ท่ีมีสํานวน สุภาษิตหรือคําพังเพย เพื่อพูดใน
ชว่ั โมงหน้า

๔. นกั เรยี นรว่ มกันสร้างองคค์ วามรูเ้ กยี่ วกบั สาํ นวน สภุ าษติ และคําพงั เพยในรปู ของแผนทีค่ วามคิด โดย
มีครูคอยเสริมเพม่ิ ความรู้

ส่อื / แหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคาํ ศพั ท์
๒. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครื่องมือท่ใี ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๖

กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๙ เรือ่ ง อยา่ งนีด้ คี วรทาํ เวลา ๗ ชั่วโมง

หวั ข้อเร่อื ง การฟงั และการดู เวลา ๑ ชัว่ โมง

................................................................................

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ

ความรูส้ กึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์

สาระสาํ คญั
การฟงั และการดทู ่ีดี ผ้ฟู ังและผดู้ ตู อ้ งใชส้ มาธิ มีสติในการฟังและดู จับเรื่องราวของเรื่องที่ฟังและดู ฟัง

อยา่ งพินจิ พิจารณา จะทาํ ให้จบั ใจความสาํ คญั ของเรอ่ื งท่ีฟังและดู สามารถตอบคําถามลําดับเหตุการณ์ของเรื่อง
และนําไปเขียนเปน็ แผนภาพโครงเร่ือง เพอื่ เล่าเร่ืองและเขียนเร่อื งได้

ตวั ช้วี ัด
ป. ๔/๔ ตัง้ คาํ ถามและตอบคําถามเชิงเหตผุ ลจากเรื่องท่ีฟังและดู
ป. ๔/๖ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพดู

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. บอกใจความสําคัญของเรื่องทีฟ่ งั
๒. จดั ลาํ ดับเหตุการณ์ และสรุปเน้อื เร่อื งได้
๓. มีมารยาทในการฟงั

สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖. มุ่งมน่ั ในการทํางาน

สาระการเรียนรู้
๑. หลักการฟงั และการดู
๒. จุดมุง่ หมายในการฟังและการดู
๓. มารยาทในการฟังและการดู

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. ครแู ละนักเรยี นสนทนาทบทวนบทเรียนจากชัว่ โมงท่ผี ่านมา
๒. นักเรียนอ่านคํายากจากบตั รคํา ในบทอา่ นเสริมเพมิ่ ความรจู้ ากบัตรคําทีค่ รแู สดงให้ดู
๓. นกั เรยี นนาํ เสนอแผ่นภาพประกอบสาํ นวน สภุ าษิต คาํ พงั เพยที่จัดทาํ หน้าช้ันเรียนทีละคน ครูสังเกต

พฤติกรรมการพดู และการฟงั ของนกั เรียน
๔. นกั เรียนและครูชว่ ยกันสรปุ เนอ้ื หาสาระการเรยี นรจู้ ากบทเรยี นทง้ั หมดอกี ครงั้ หนึง่
๕. นักเรยี นจดบนั ทกึ ความดีทีน่ ักเรียนทาํ ลง “สมดุ ความดที ฉ่ี นั ได้ทาํ ” เกบ็ ไว้เป็นความภาคภูมิใจของตน

สื่อ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บัตรคาํ ศัพท์
๒. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วิธีการประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑

กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒๐ เรือ่ ง กระดาษนี้มที ม่ี า เวลา ๗ ชั่วโมง

หัวข้อเร่อื ง การอ่านออกเสียง เวลา ๑ ชว่ั โมง

……………………………………………………………..

มาตรฐาน ท๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ญั หา และสรา้ งวิสัยทศั น์ใน

การดาํ เนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอ่าน

สาระสาํ คัญ
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องทั้งด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงตํ่าของเสียงตาม

บรบิ ทแหง่ เนอื้ หา จงึ จะทาํ ให้การสือ่ สารมปี ระสิทธภิ าพ เกดิ ความเขา้ ใจตรงกันระหว่างผูส้ ง่ สารและผรู้ บั สาร

ตวั ชวี้ ดั
ป.๔/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสยี งบทเรยี นได้ถูกต้อง ชัดเจน
๒. อา่ นประโยคในบทเรยี นได้ถูกต้อง
๓. บอกความหมายคาํ ใหม่ในบทเรียนได้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซือ่ สัตย์สุจริต
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๖. มุ่งมัน่ ในการทาํ งาน

สาระการเรียนรู้
๑. อา่ นออกเสียงเรื่อง “กระดาษนมี้ ีท่ีมา”
๒. การวิเคราะห์เรือ่ ง “กระดาษน้ีมที ่ีมา”
๓. คาํ ยากในบทเรยี น

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นกั เรียนแบง่ กลุม่ ๆ ละ ๔ – ๕ คน อภิปรายถึงความสําคัญของการที่ทําให้เราสามารถจดจํา ด้วย

การบนั ทึกลงในกระดาษ และอภปิ รายถึงชนิดของกระดาษ
๒. นกั เรียนอ่านคําใหม่ในบทเรยี นจากบตั รคํา ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายความหมายของคํา จากน้ันให้

นกั เรียนอ่านเพมิ่ เติม จากอ่านเพิม่ เตมิ ความหมายในหนงั สือเรยี น (ครูอาจให้นกั เรยี นค้นควา้ ความหมายเพ่ิมเติม
จากพจนานุกรม)

๓. นกั เรียนและครูสนทนาเก่ียวกบั ภาพในเร่อื ง “กระดาษนี้มีทม่ี า”
๔. นักเรียนอ่านออกเสียง เรื่อง “กระดาษนี้มีที่มา” ในหนังสือเรียน โดยผลัดกันอ่านตามความ
เหมาะสม ครูตัง้ คําถามเชงิ เหตุผลใหน้ ักเรยี นตอบ (หรอื นักเรียนผลดั กนั ซกั ถาม)
๕. นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายและสรุปใจความของเรื่อง

สอื่ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บตั รคาํ ศพั ท์
๒. หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชีวิต ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครื่องมือทใี่ ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒

กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒๐ เรื่อง กระดาษน้มี ที ่มี า เวลา ๗ ชั่วโมง

หัวข้อเร่ือง การเขยี นรายงาน เวลา ๒ ชั่วโมง

…………………………………………………………………….

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี น เขียนส่ือสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ

ตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ

สาระสําคัญ
การเขียนรายงาน เป็นการเขียนผลงานการศึกษาค้นคว้า เรื่องใดเร่ืองหน่ึงทําให้ผู้เขียนเกิดความรู้

กว้างขวางและขยายผลการศกึ ษาคน้ คว้านั้นไปยงั ผู้อา่ น ทาํ ให้เกิดประโยชน์แกทั้งผูเ้ ขยี นและผ้อู า่ น

ตัวชวี้ ดั
ป.๔/๖ เขยี นบนั ทกึ และเขียนรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. นกั เรียนบอกหลักการเขยี นรายงานได้
๒. นกั เรียนบอกส่วนประกอบของรายงานได้
๓. นักเรยี นเขยี นรายงานได้

สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอื่ สัตย์สุจริต
๓. มีวินัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
๖. มงุ่ มัน่ ในการทํางาน

สาระการเรียนรู้
๑. สว่ นประกอบของรายงาน
๒. การเขียนรายงาน

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นกั เรียนเล่าประสบการณ์เกยี่ วกับเร่ืองของการใช้กระดาษอย่างประหยัดว่าทําอย่างไร แล้วช่วยกัน

สรุป
๒. ครแู บง่ กลุ่มนกั เรยี นและให้นกั เรียนดตู ัวอยา่ งการจดั ทํารายงานการศึกษาคน้ ควา้ ของรุน่ พี่ ครซู ักถาม

เพื่อสรา้ งความเข้าใจและใหค้ วามรูเ้ พิ่มเติม
๓. ๓. ครูและนักเรียนอภิปรายถึงเรื่อง การเขียนรายงาน โดยให้นักเรียนอาสาสมัครออกไปเขียน

ประโยชน์และข้ันตอนของการเขยี นรายงานตามความเขา้ ใจบนกระดาน แล้วชว่ ยกันวเิ คราะหส์ ่วนประกอบของ
รายงาน

๔. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มอา่ น อธบิ ายเพิม่ เตมิ ความรู้เร่อื งการเขยี นรายงานจาก
๕. หนังสอื เรยี นแลว้ สรปุ ใจความสําคญั สร้างเป็นแผนภาพความคดิ
๖. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ รายงานการศกึ ษาค้นคว้าเรือ่ ง “เร่ืองของกระดาษ”

สอื่ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บตั รคาํ ศพั ท์
๒. หนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวติ ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๒๐ เรอื่ ง กระดาษน้ีมที ี่มา เวลา ๗ ชว่ั โมง

หวั ข้อเรื่อง การฟัง ดู อ่าน ข่าว เวลา ๑ ช่ัวโมง

…………………………………………………………………..

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน

โอกาสต่างๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

สาระสําคัญ
การอา่ น ฟงั ดู ขา่ ว เปน็ การติดตามเหตุการณ์ ความเคล่อื นไหวของสังคมประเทศชาติในเรื่องต่างๆ ใน

ชีวิตประจําวันของเราจะมกี ารดู การฟงั อย่เู ป็นประจาํ เรานักเรยี นรู้จักแยกแยะวจิ ารณ์ พจิ ารณาข่าวที่ดูและฟัง
น้นั เพื่อให้ได้ความรแู้ ละขอ้ มลู ข่าวสารที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจําวัน

ตวั ชวี้ ัด
ป.๔/๑ จําแนกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรื่องทฟี่ งั และดู

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นบอกหลักการฟัง ดู อ่าน ข่าวได้
๒. นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเร่อื งทีด่ ู ฟงั และข่าวท่ีอ่านได้
๓. นกั เรียนทําแบบทดสอบหลังเรยี นได้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอ่ื สตั ย์สุจริต
๓. มีวินยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
๖. มงุ่ มั่นในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
๑. การฟัง ดู อ่าน ข่าว
๒. การวเิ คราะห์ขา่ ว
๓. แบบทดสอบหลงั เรยี น

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. นักเรยี น และครสู นทนาเกย่ี วกบั มารยาทในการฟงั ดูและพดู วา่ มีความจาํ เปน็ และสําคัญอยา่ งไร
๒. นักเรียนนาํ เสนอผลงานกลุ่มการเขียนรายงานเรือ่ ง “เร่อื งของกระดาษ” ให้ครูตรวจ
๓. นกั เรียนเขียนแผนภาพความคดิ เรอื่ ง การพดู รายงาน ครแู ละนกั เรยี นสรุปการพูดรายงานที่ดี
๔. แต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนออกไปพูดรายงานที่หน้าช้ัน ขณะพูดครูสังเกตพฤติกรรมการพูดรายงานและ

พฤตกิ รรมการฟงั ของนกั เรยี น สรุปความรูเ้ กยี่ วกับการพูดรายงานท่ีดี
๕. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรุปความรู้เรืองของกระดาษท่นี ักเรียนรายงานเปน็ แผนความคดิ

สื่อ / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บตั รคําศัพท์
๒. หนังสือเรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชวี ิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๔

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒๐ เร่อื ง กระดาษนมี้ ที ม่ี า เวลา ๗ ช่วั โมง

หวั ข้อเรอ่ื ง การวเิ คราะห์ เวลา ๒ ช่ัวโมง

…………………………………………………………….

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน

โอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์

สาระสําคญั
การวเิ คราะหบ์ ทเรียนเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตัวเพื่อคิดวิเคราะห์สาระท่ีกําลังศึกษา ผู้แสดง

ความคดิ เห็นควรใช้ภาษาทสี่ ภุ าพไม่กระทบกระเทือนถงึ บุคคลอื่นและแสดงความคิดเห็นในด้านพยุง จรรโลงและ
สร้างสรรคส์ ังคมให้ดีงาม ตอ้ งมีความรลู้ กึ ซึ้งในเรอ่ื งคําและสาํ นวนภาษาเพือ่ ให้ใช้ไดถ้ ูกตอ้ งตามบรบิ ท

ตัวชีว้ ัด
ป.๔/๑ จาํ แนกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ จากเร่ืองท่ฟี ังและดู

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นกั เรยี นบอกเนอื้ หาสาระในบทเรียนได้
๒. นกั เรียนวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ ในบทเรยี นได้
๓. นักเรียนนําข้อคดิ จากเรือ่ งมาใช้ในชีวิตประจาํ วันได้

สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซือ่ สตั ยส์ ุจริต
๓. มีวินัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง
๖. ม่งุ มัน่ ในการทํางาน

สาระการเรยี นรู้
๑. การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นตอ่ บทเรียน
๒. การสรุปเน้อื หาในบทเรยี น
๓. การนําขอ้ คิดจากบทเรยี นมาประยกุ ตใ์ ช้

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. ครูนาํ ผลงานที่ประดิษฐจ์ ากกล่อง และกระดาษรไี ซเคิลทีพ่ ับเป็นรูปต่างๆ มาให้นักเรียนดู พร้อมกับ

ซกั ถามใครเคยนํากระดาษมาพับเปน็ อะไรบา้ ง
๒. นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ ๔ – ๕ คน ช่วยกันคิดประดิษฐ์งานท่ีทําจากกระดาษที่เป็นวัสดุเหลือใช้

และข้นั ตอนการทํางานดว้ ย
๓. นักเรยี นช่วยกนั เลอื กผลงานที่มีความคิดสรา้ งสรรค์ และผลงานท่มี ีความสวยงามเสนอหน้าชน้ั เรยี น
๔. ครูมอบหมายนกั เรียนแต่ละคนไปประดิษฐข์ องเลน่ ของใช้หรอื ของตกแตง่ ทท่ี ําจากกระดาษเหลือใช้

พร้อมท้ังอธบิ ายขั้นตอนการประดษิ ฐ์ นําเสนอในนทิ รรศการ “กระดาษน้มี คี ุณคา่ ”

สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บตั รคําศพั ท์
๒. ของเล่น ของใชแ้ ละของตกแต่งที่ทําจากกระดาษเหลอื ใช้

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วธิ ีการประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครื่องมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๕

กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒๐ เร่ือง กระดาษนี้มีทีม่ า เวลา ๗ ชว่ั โมง

หวั ข้อเรอื่ ง การจัดนทิ รรศการ เวลา ๑ ช่วั โมง

……………………………………………………………….

มาตรฐาน ท๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์

ในการดาํ เนินชวี ิต และมนี ิสยั รกั การอา่ น

สาระสาํ คัญ
การจัดนิทรรศการจากการประดิษฐ์ของเล่น ของใช้และของตกแต่งของนักเรียนเป็นการเสริมแรงให้

นกั เรียนภมู ใิ จในตนเอง สร้างความมั่นใจในการแสดงออก กลา้ สรา้ งผลงานจากจินตนาการของตนเอง

ตวั ชี้วดั
ป.๔/๓ อ่านเร่อื งสัน้ ๆ ตามเวลาที่กาํ หนดและตอบคําถามจากเรื่องท่อี ่าน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. อ่านในใจและเก็บใจความสาํ คัญของเรือ่ งได้
๒. ถ่ายโอนสาระเร่ืองราวที่อา่ นไปยงั ผู้อืน่ ได้

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. มคี วามรอบคอบในการทํางาน
๒. เปน็ ผูน้ ําและผตู้ ามท่ีดี
๓. มีความภาคภมู ใิ จในภาษาไทย
๔. นยิ มไทยใชข้ องไทย
๕. ใชภ้ าษาได้ถกู กาลเทศะ

สาระการเรียนรู้
๑. อา่ นในใจเร่อื ง “กระดาษนม้ี ีทีม่ า”
๒. เลา่ เรื่อง “กระดาษนม้ี ที ่มี า”
๓. ตอบคาํ ถามของเรื่อง “กระดาษนม้ี ที ม่ี า”

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นนําผลงานจากกระดาษมาจัดนิทรรศการ “กระดาษน้ีมีคุณค่า” เชิญคุณครูและนักเรียนใน

โรงเรียนร่วมชมนทิ รรศการ
๒. ครปู ระเมนิ ผลงานและวิธกี ารนาํ เสนอผลงาน (รายงาน)
๓. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรุปเรือ่ ง กระดาษน้มี ที ม่ี า

สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. บตั รคาํ ศพั ท์
๒. ของเลน่ ของใช้และของตกแตง่ ทท่ี ําจากกระดาษเหลอื ใช้

การวัดและประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมือทใี่ ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๒๒ เรือ่ ง รกั ทคี่ มุ้ ภัย เวลา ๘ ชวั่ โมง

หัวข้อเรอ่ื ง การอ่านในใจบทเรยี น เวลา ๒ ชว่ั โมง

…………………………………………………………………………..

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดไปใช้ตัดสินใจแก้ปญั หา และสรา้ งวสิ ยั ทศั น์ใน

การดําเนินชีวติ และมนี ิสัยรักการอา่ น

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน

โอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์

สาระสาํ คญั
การอ่านในใจคือการกวาดสายตาไปยังข้อความจากหนังสือ พุ่งความสนใจไปยังสาระท่ีอ่าน แล้วเก็บ

ใจความสําคัญของเรอื่ งทอี่ ่าน สามารถถา่ ยโอนสาระทอ่ี ่านไปยังผอู้ ่ืนได้ดว้ ยท้ังพูดและการเขยี น

ตวั ชว้ี ดั
ท ๓.๑ ป.๔/๔ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรอื่ งทอ่ี ่าน
ท ๓.๑ ป.๔/๑ สรุปความร้แู ละขอ้ คิดจากเรอ่ื งท่อี ่านเพื่อนาํ ไปใชใ้ นชีวติ ประจําวนั
ท ๓.๑ ป.๔/๔ ต้ังคาํ ถามและตอบคาํ ถามจากเร่อื งทฟี่ ังและดู

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. อ่านในใจและเกบ็ ใจความสําคญั ของเรอื่ งได้
๒. ถา่ ยโอนสาระเรือ่ งราวท่ีอ่านไปยังผูอ้ ื่นได้
๓. บอกความหมายคาํ ใหม่ในบทเรยี นได้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซอื่ สัตยส์ ุจรติ
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อย่อู ย่างพอเพียง
๖. มงุ่ ม่นั ในการทํางาน

สาระการเรยี นรู้
๑. อ่านในใจเรอ่ื ง “รักทีค่ มุ้ ภยั ”
๒. เลา่ เร่อื ง “รักท่คี มุ้ ภัย”
๓. ตอบคาํ ถามของเร่ือง “รกั ทคี่ ุ้มภัย”

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. ครูแสดงภาพขา่ วจาหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับข่าวปัญหาและพิษภัยของยาเสพติด นักเรียนร่วมกัน

อภปิ รายเก่ยี วกบั ขา่ วน้นั
๒. นกั เรียนอ่านบตั รคาํ ศัพทใ์ นบทเรยี น ครูและนักเรียนอภิปรายความหมายและอ่านเพ่ิมเติมจากอ่าน

เพม่ิ เติมความหมายในหนังสือเรียน
๓. แบง่ กลุ่มนกั เรยี นอ่านในใจ เรื่อง “รักทค่ี ุม้ ภัย” ในหนังสือเรียน จากน้ันครูและนักเรียนช่วยกันสรุป

เนื้อหาของบทเรียน โดยผลดั กันต้งั และตอบคําถาม เช่นทาํ ไมบ้านที่แจ๊กอาศัยอยู่จึงไม่น่าอยู่ บ้านท้ังสองหลังมี
ความแตกต่างกนั อยา่ งไร เปน็ ต้น นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มช่วยกันอธบายเหตผุ ลและอภิปรายแสดงความคดิ เหน็

๔. แตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั คดิ หาสาเหตุของปัญหาที่เดก็ วัยรุน่ เสพยาเสพตดิ และวิธีแกไ้ ขปญั หา
๕. นักเรียนทกุ คนเขียนข้อคดิ ที่นักเรียนไดเ้ รยี นรู้จากเรือ่ ง เร่อื งยาทาํ ลายชาติ เป็นการบ้าน
๖. ทําแบบฝกึ หดั ทกั ษะภาษา แบบฝึกหัดท่ี ๑๙ ขอ้ ๑ (๑) –(๔) และขอ้ ๒
๗. ครแู ละนักเรียนช่วยกนั สรุปความรจู้ ากบทเรียน

ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บตั รคําศพั ท์
๒. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๔. หนังสือพิมพ์

การวัดและประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒๒ เรื่อง รักทค่ี ้มุ ภยั เวลา ๘ ช่ัวโมง

หวั ข้อเรื่อง การอา่ นออกเสยี ง เวลา ๑ ชัว่ โมง

……………………………………………………………….

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ ไปใช้ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหา และสร้างวิสยั ทัศน์ใน

การดําเนินชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสอื่ สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบ

ตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

สาระสําคัญ
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องท้ังด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงต่ําของเสียงตาม

บรบิ ทแห่งเนือ้ หา จงึ จะทําให้การสอ่ื สารมปี ระสทิ ธิภาพ เกิดความเขา้ ใจตรงกนั ระหว่างผู้ส่งสารและผรู้ ับสาร

ตวั ชีว้ ัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง
ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใชพ้ ัฒนางานเขียน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสยี งบทเรียนได้ถูกตอ้ ง ชดั เจน
๒. อ่านประโยคในบทเรยี นได้ถกู ต้อง
๓. บอกความหมายคาํ ใหมใ่ นบทเรยี นได้

สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ
๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง
๖. มุ่งม่ันในการทํางาน

สาระการเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสียงเร่อื ง “รักทค่ี ้มุ ภยั ”
๒. การวเิ คราะห์เรอื่ ง “รกั ทคี่ ุม้ ภยั ”
๓. คาํ ยากในบทเรยี น

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. ครนู าํ ภาพครอบครัวสองครอบครัวทม่ี ีความแตกต่างกนั ได้แก่

ภาพครอบครวั ท่ีอบอุ่น ภาพครอบครวั ที่ วุ่นวาย
รกั ใครก่ ัน ทะเลาะกนั

ครตู ั้งคําถามนักเรยี นชว่ ยกันตอบ เชน่ สภาพครอบครัวทั้งสองมีสภาพแตกต่างกันอย่างไร นักเรียน
ตอ้ งการครอบครัวแบบไหน ถา้ จะใหค้ รอบครวั อบอ่นุ ต้องทําอย่างไร เปน็ ต้น

๒. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองในบทอา่ นเสริมเร่อื ง ความรักในบ้าน จากหนังสือเรียน
โดยวิธีอา่ นเปน็ ทํานองธรรมดาพร้อมกัน จากนั้นแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจฝึกอ่านออกเสียงเป็นทํานองเสนาะ
(กาพยส์ ุรางคนางค์ ๒๘ โดยครูสาธติ การอ่านกอ่ น)

๓. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายความหมายของบทร้อยกรอง “ความรักในบา้ น” นักเรียนแต่ละกลุ่ม
สรุปขอ้ คดิ จาบทรอ้ ยกรอง จัดทาํ แผนภาพความคดิ ในหัวข้อ “บ้านท่นี ่าอยู่” นําเสนอหน้าช้ันเรียน (ชิ้นงานกลุ่ม)
ครูช่วยสรุปเพ่ิมเติม

๔. ทําแบบฝึกหัดทักษะภาษา แบบฝึกหัดท่ี ๑๕ ข้อ ๑ (๕) –(๗)
๕. ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรปุ ความรจู้ ากบทเรียน

ส่ือ / แหล่งเรียนรู้
๑. บตั รคาํ ศพั ท์
๒. หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ติ ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมือท่ใี ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓

กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๒๒ เรอ่ื ง รักที่คุม้ ภัย เวลา ๘ ชั่วโมง

หัวข้อเรื่อง ภาษาพดู และภาษาเขยี น เวลา ๑ ช่ัวโมง

……………………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๑.๑ สามารถอ่านได้ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน เขา้ ใจความหมายของคําและข้อความทีอ่ ่าน

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ

ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษาและรกั ภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ

สาระสําคญั
ภาษาทุกภาษาจะมีระดับของภาษา เราต้องเลอื กใชต้ ามสถานการณ์ และบรบิ ทของภาษา ภาษาพูดเป็น

การใช้ภาษาทไ่ี มเ่ คร่งครัดด้านกฎเกณฑแ์ ละไมเ่ ป็นทางการ ส่วนภาษาเขียนเป็นภาษาที่ใช้อย่างเป็นทางการต้อง
เลอื กใช้ให้ถกู ต้องตามกฎเกณฑ์ และคาํ นงึ ถึงวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

ตวั ช้วี ดั
ท ๓.๑ ป ๔/๓ พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรสู้ กึ เกี่ยวกบั เร่ืองที่ฟังและดู
ท ๔.๑ ป ๔/๓ ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของคํา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรยี นบอกสถานการณท์ ใ่ี ช้ภาษาพูดหรอื ภาษาเขียนได้
๒. นกั เรียนใช้ภาษาพดู และภาษาเขยี นได้ถูกตอ้ งตามสถานการณ์
๓. นักเรยี นทาํ กิจกรรมตามทก่ี ําหนดใหไ้ ด้

สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่อื สัตยส์ ุจรติ
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
๖. ม่งุ ม่ันในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
๑. ภาษาพูดหรอื ภาษาเขยี น ภาษาถา่ น คาํ ทีม่ าจากภาษาตา่ งประเทศ
๒. การใชพ้ จนานุกรม

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ครใู ห้นักเรียนอ่านบตั รคําในกระเปา๋ ผนัง เช่น

ไมส่ น เจง๋ โดนสวด จบิ๊ จ๊อย

นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของคํา ครูสรุปว่าคําเหล่านี้เป็นคําที่วัยรุ่นชอบใช้ในการพูดคุยกัน
อย่างไม่เป็นทางการซ่ึงเรียกว่าภาษาพูด ส่วนคําที่ใช้อย่างเป็นทางการและอย่างสุภาพเรียกว่า “ภาษาเขียน”
นักเรียนช่วยกันบอกภาษาพดู ที่เคยรู้จกั และบอกความหมาย

๒. แบง่ นักเรียนออกเป็นกลุม่ อา่ น อธบิ ายเพมิ่ เตมิ ความรู้ เรอ่ื งภาษาพดู ภาษาเขยี น ในหนังสือเรียน
๓. ทําแบบฝกึ หดั ทักษะภาษา แบบฝกึ หัดท่ี ๑๕ ข้อ ๓ (๑) – (๒)
๔. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันสรปุ ความรู้ เร่อื งภาษาพดู ภาษาเขียน

ส่ือ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ติ ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ทักษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่ืองมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๔

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒๒ เร่ือง รกั ที่ค้มุ ภยั เวลา ๘ ช่ัวโมง

หัวขอ้ เรอื่ ง ภาษาถ่ิน เวลา ๑ ช่วั โมง

………………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ

สาระสาํ คญั
ภาษาถน่ิ อสี าน หรอื คนทอี่ าศัยอยใู่ นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือว่าเป็นกลุ่มชนที่มากที่สุดรองจากถ่ิน

ไทยกลาง และคนในภาคน้ีมักจะกระจัดกระจายกันไปทํางานในตา่ งถนิ่ ดังจะเหน็ ได้ว่าภาษาถิ่นอีสานมักมีคนพูด
อยทู่ ัว่ ภมู ภิ าคของไทย เพราะฉะนัน้ จงึ จําเปน็ อยา่ งยิ่งท่เี ราควรศึกษาไว้ เพ่อื ท่เี ราจะสามารถสือ่ สารไดใ้ นขอบเขตท่ี
กวา้ งขวางและถกู ตอ้ งตามบรบิ ทแหง่ ความหมาย

ตวั ชี้วดั
ป.๔/๗ เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถนิ่ ได้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรียนฟงั พดู ภาษาอีสานได้
๒. นกั เรยี นบอกความหมายของคําทเ่ี ป็นภาษาอสี านได้
๓. นักเรยี นทําแบบทดสอบหลงั เรยี นได้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซอื่ สัตยส์ จุ รติ
๓. มีวินยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพยี ง
๖. มงุ่ มั่นในการทาํ งาน

สาระการเรียนรู้
๑. คาํ ทเี่ ปน็ ภาษาถ่ินอีสาน
๒. ความหมายของคําในภาษาถนิ่
๓. แบบทดสอบหลังเรียน

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ครูแสดงบตั รคาํ ภาษาถิ่น เช่น

เฮ็ดหยงั ยะอะหยงั ทําไหร

นักเรียนอา่ นออกเสยี งตาม ครูและนักเรยี นอภปิ รายความหมาย
๒. นกั เรยี นชว่ ยเสนอคาํ ภาษาท่ีเคยไดย้ นิ ไดฟ้ งั ครูเขียนคําบนกระดานดํา
๓. แบง่ กลุม่ นักเรียนให้ศึกษาเพ่ิมเติมจากการอธิบายเพิ่มเติมความรู้ เรื่องภาษาถ่ิน จากหนังสือ แล้ว
ช่วยกนั สรปุ
๔. ครูมอบหมายนักเรียนแต่ละกลุ่มจดั ทําสมดุ สะสมคาํ ภาษาถิน่ นําสง่ เป็นชิ้นงานกลุ่ม
๕. ทาํ แบบฝกึ หัดทกั ษะภาษาแบฝกึ หัดท่ี ๑๕ ข้อ ๓ (๓)
๖. ครแู ละนกั เรียนช่วยกันสรปุ ความร้เู รอ่ื งภาษาถ่ิน

สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนงั สอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวติ ทกั ษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สงั เกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในการประเมิน
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๕

กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒๒ เร่ือง รักท่ีคุ้มภยั เวลา ๘ ชั่วโมง

หวั ข้อเรอื่ ง ภาษาตา่ งประเทศ เวลา ๑ ชัว่ โมง

………………………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ

สาระสาํ คญั
คําท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ ถ้าใช้ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ บุคคล และเหมาะสมกับความหมาย

ยอ่ มส่งผลใหผ้ ู้รับสารเขา้ ใจถูกต้อง ตรงความหมายและมีประสทิ ธิภาพ

ตัวชว้ี ัด
ป.๔/๗ เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถ่นิ ได้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรียนบอกไดว้ ่าคําใดมาจากภาษาต่างประเทศได้
๒. นักเรียนบอกความหมายของคําท่มี าจากภาษาตา่ งประเทศได้

สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซือ่ สตั ยส์ จุ รติ
๓. มีวินยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
๖. ม่งุ มน่ั ในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
๑. คําทเี่ ปน็ ภาษาถนิ่ อสี าน
๒. ความหมายของคาํ ในภาษาถิ่น
๓. แบบทดสอบหลังเรยี น

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. ครูแสดงแถบประโยคทีใ่ ช้ภาษาตา่ งประเทศ เช่น

เขาเป็นคนแตง่ ตวั เวอร์มาก ฉันไปชอ้ ปปง้ิ ที่ซปุ เปอรม์ าร์เกต

ฉันชอบกนิ กว๋ ยเตี๋ยว เขาเปน็ กนุ ซอื ใหฉ้ นั

๒. นักเรียนอ่านแถบประโยค แล้วบอกว่าคําใดที่เป็นภาษาต่างประเทศมีความหมายว่าอย่างไร
นกั เรยี นชว่ ยกันเสนอคาํ ภาษาตา่ งประเทศท่เี คยได้ยินได้ใชค้ รเู ขยี นคาํ บนกระดานดํา

๓. แบ่งกลมุ่ นกั เรียนอ่าน อธิบายเพ่มิ เติมความรู้ เรือ่ ง คําท่ีมาจากภาษาตา่ งประเทศ จากหนังสือเรียน
แลว้ ชว่ ยกันสรปุ ความรู้

๔. ทําแบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา แบบฝกึ หดั ท่ี ๑๕ ขอ้ ๓ (๔)
๕. ครูและนักเรยี นช่วยกันสรุปความรู้จากบทเรียน

ส่ือ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บัตรคําศพั ท์
๒. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวิต ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๖

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒๒ เรอื่ ง รักท่ีคมุ้ ภยั เวลา ๘ ชัว่ โมง

หัวขอ้ เรอ่ื ง การใช้พจนานุกรม เวลา ๒ ช่วั โมง

……………………………………………………………..

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ

สาระสาํ คญั
การใช้พจนานกุ รมคอื การคน้ หาคาํ และความหมายของตําโดยเรยี งจากลาํ ดบั ตวั อกั ษร ภายในพจนานกุ รม

แต่ละเล่มจะบอกทั้งความหมายของคํา ชนิดของคํา ที่มาของคํา ผู้เรียนต้องต้องศึกษาหลักการใช้ให้ชัดเจน
เพราะพจนานุกรมเป็นเคร่ืองมือสําหรับหาความหมายของคําและช่วยให้เราสามารถอ่านและเขียนคําต่างๆ ได้
ถกู ต้อง

ตวั ชว้ี ัด
ป.๔/๓ ใช้พจนานกุ รมคน้ หาความหมายของคาํ

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. ใชพ้ จนานกุ รมช่วยการอ่าน การเขียน และคน้ หาความหมายได้
๒. บอกชนดิ ของคาํ จากพจนานกุ รมได้

สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซ่ือสตั ย์สุจริต
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ ม่นั ในการทํางาน

สาระการเรียนรู้
๑. การใชพ้ จนานกุ รมเพือ่ คน้ หาความหมาย
๒. อักษรย่อ
๓. ชนดิ ของคํา

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. แบง่ นักเรียนเป็นกลุ่ม ครูแจกพจนานุกรมให้นกั เรียนกลุ่มละ ๑ เลม่ ให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มเปิด

พจนานุกรมดูสิ่งทป่ี ระกอบอยใู่ นเลม่
๒. ครแู สดงบัตรคาํ ๕ คํา ใหน้ กั เรียนแขง่ ขันกนั เปดิ พจนานุกรมหาความหมายของคาํ ศพั ท์นัน้ กลมุ่ ใด

หาพบก่อนเปน็ ผูช้ นะ ครใู หก้ ลุ่มทช่ี นะบอกวิธีการทีส่ ามารหาความหมายไดเ้ รว็ ทส่ี ุด
๓. นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่าน อธิบายเพิ่มความรู้ เรื่อง การใช้พจนานุกรมจากหนังสือเรียน ครูและ

นกั เรยี นอธบิ ายสรปุ ประโยชนแ์ ละวธิ ใี ชพ้ จนานุกรม
๔. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ จดั ทําแผนภาพความคดิ เรื่อง พจนานุกรม นําเสนอหน้าช้ันเรียน ครูสรุปรวม

อีกครั้ง
๕. ครูแจกบัตรคําให้นักเรียนแต่ละกลุ่มๆ ละประมาณ ๑๐ คํา ให้นักเรียนช่วยกันเรียงคําตาม

พจนานกุ รม ครอู ธิบายเพิ่มเติม
๖. นกั เรียนฝกึ เปดิ หาความหมายของคําจากบัตรคาํ ทคี่ รูแจกให้ เขียนลงในสมุด
๗. ครูจดั ทําการแขง่ ขนั เปิดพจนานกุ รม
๘. ทาํ แบบฝกึ หดั ทกั ษะภาษา แบบฝึกหัดท่ี ๑๕ ขอ้ ๓ (๕)-(๖) และข้อ ๔
๙. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรปุ ความรเู้ ร่อื ง การใชพ้ จนานุกรม

สื่อ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคําศัพท์
๒. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

การวัดและประเมินผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑

กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๒๓ เรื่อง ธรรมชาตินมี้ คี ุณ เวลา ๑๔ ชั่วโมง

หวั ข้อเรื่อง การอา่ นออกเสียง เวลา ๑ ช่ัวโมง

…………………………………………………………………….

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ ไปใชต้ ัดสนิ ใจแกป้ ัญหา และสร้างวสิ ยั ทศั น์ใน

การดาํ เนนิ ชวี ิต และมีนิสยั รักการอา่ น

สาระสาํ คญั
การอา่ นออกเสยี งท่ีถูกตอ้ งตามหลกั การอ่านออกเสยี ง ทาํ ให้ผ้อู า่ นสอ่ื ความหมายกับผู้ฟังได้อย่างถูกต้อง

และชดั เจน

ตัวชว้ี ดั
ป.๔/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ ง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. อ่านออกเสียงบทเรียนได้ถูกตอ้ ง ชัดเจน
๒. อ่านประโยคในบทเรยี นไดถ้ ูกต้อง
๓. บอกความหมายคําใหม่ในบทเรยี นได้

สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซอื่ สตั ย์สจุ ริต
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง
๖. มุ่งมนั่ ในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสียงเรอ่ื ง “ธรรมชาตนิ ้มี คี ณุ ”
๒. การวเิ คราะหเ์ ร่อื ง “ธรรมชาติน้ีมคี ณุ ”
๓. คาํ ยากในบทเรยี น

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. นักเรียน เลน่ เกมหยิบคําไหนอา่ นได้ทกุ คาํ (ทา้ ยแผน)
๒. ครูและนักเรียนสนทนาถึงเรื่องของธรรมชาติและสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ครูชูบัตรจากเรื่อง

“ธรรมชาตินี้มีคุณ” ให้นกั เรยี นอา่ นพรอ้ มกันทลี ะคําและนาํ บัตรคําเสียบไวท้ ่กี ระเปา๋ ผนังบนกระดานดาํ
๓. นกั เรียนอ่านออกเสียงคํายากพร้อมกัน ๑ เที่ยว ครูและนักเรียนช่วยกันอธิบายความหมายของคํา

นกั เรียนคัดลายมือคาํ ยากและอา่ นทลี ะคน (ครเู น้นการคัดลายมือสวย)
๔. นกั เรียนทําแบบฝกึ หดั ในหนงั สือแบบฝึกหดั ข้อ ๒.๑, ๒.๒, ๒.๓ (เปน็ การบา้ น)
๕. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนอา่ นเร่ือง “ธรรมชาตนิ ม้ี คี ุณ” ในหนังสอื เรยี น (เป็นการบ้าน)

สือ่ / แหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคาํ ศพั ท์
๒. หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวติ ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๒๓ เรอื่ ง ธรรมชาตนิ ม้ี ีคุณ เวลา ๑๔ ช่วั โมง

หวั ขอ้ เร่ือง การวิเคราะห์ เวลา ๑ ชว่ั โมง

…………………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน

โอกาสตา่ งๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ

นาํ มาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง

สาระสาํ คญั
การวิเคราะห์เปน็ การสอดแทรกความรู้สึกส่วนตวั เพ่อื คิดวิเคราะหส์ าระที่กาํ ลังศึกษา ผู้แสดงความคดิ เหน็

ควรใช้ภาษาที่สภุ าพไม่กระทบกระเทือนถึงบุคคลอ่ืนและแสดงความคิดเห็นในด้านพยุง จรรโลงและสร้างสรรค์
สังคมให้ดีงาม ตอ้ งมีความรลู้ ึกซึง้ ในเร่อื งคาํ และสํานวนภาษาเพอื่ ใหใ้ ชไ้ ด้ถูกตอ้ งตามบรบิ ท

ตัวชี้วดั
ป.๔/๑ จําแนกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรอ่ื งที่ฟังและดู
ป.๔/๒ อธบิ ายข้อคิดจากการอา่ นเพอื่ นาํ ไปใช้ชวี ิตจรงิ

จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นบอกเน้อื หาสาระในบทเรียนได้
๒. นกั เรียนวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ ในบทเรียนได้
๓. นกั เรียนนําขอ้ คดิ จากเรอื่ งมาใช้ในชวี ติ ประจาํ วนั ได้

สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซอื่ สตั ย์สุจริต
๓. มวี ินัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อย่อู ย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มัน่ ในการทาํ งาน


Click to View FlipBook Version