The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by santi muangdoo, 2021-08-01 11:42:02

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาพาที ป. 4

แผนการสอนภาษาพาที ป. 4

สาระการเรยี นรู้
๑. การวิเคราะห์และแสดงความคดิ เห็นต่อบทเรยี น
๒. การสรปุ เน้อื หาในบทเรยี น
๓. การนาํ ข้อคดิ จากบทเรยี นมาประยุกต์ใช้

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. นกั เรียนตอบปริศนาคําทายจากครดู ังน้ี
- อะไรเอ่ย ลอยเด่นอยูใ่ นนภาสอ่ งแสงทั่วฟา้ เวลากลางวนั ชาวประชานนั้ ไดร้ บั แสงสว่าง (ดวง
อาทิตย)์
- อะไรเอ่ย เป็นเทวดามีจิตเมตตารักษาคุ้มครองป่าไม้ ผู้คนกราบไหว้บูชา (เทพารักษ์,
รุกขเทวดา)
- อะไรเอ่ยไหลเอ่ยตามหว้ ย หนอง คลอง บึง ผู้คนได้พ่ึงพาอาศยั ดมื่ อาบ (น้ํา)
๒. นักเรียนแบง่ กลุ่มกลุ่มละ ๓-๕ คน แตล่ ะกลุ่มพจิ ารณาจากภาพในเร่ือง “ธรรมชาตินม้ี คี ณุ ” สนทนา

ถงึ ภาพในหนงั สอื ดงั นี้
- คนในภาพกําลงั ทําอะไร
- สถานทีค่ ืออะไรวถิ ชี วี ิตในภาพเหมือนและแตกต่างจากวถิ ชี วี ิตประจําวนั ของนักเรยี นหรอื ไม่
- เหมือนและต่างกนั อยา่ งไร และสอดคล้องกบั แนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา่ งไร

๓. ตัวแทนนกั เรียน ๕ คน อา่ นออกเสียงเน้อื เรื่อง “ธรรมชาติน้มี คี ุณ” จากหนังสือเรียนต่อกันทีละคน
จนจบเร่อื ง

๔. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสนทนาสรปุ เร่อื งท่ีอา่ น โดยใช้คาํ ถาม ใคร ทาํ อะไร ที่ไหน ทําอย่างไร ผล
เป็นอยา่ งไร ผลจากการกระทํา ทาํ ให้เกดิ ผลดีและผลกระทบในปจั จบุ นั และอนาคตอยา่ งไร

๕. นักเรียนทําแบบฝกึ หัด ในหนังสอื แบบฝกึ หัด ขอ้ ๔ (๑)
๖. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทาํ กจิ กรรมชวนคดิ ชว่ ยกนั ตอบ ในหนงั สอื เรยี น

สอื่ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคําศัพท์
๒. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน

๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒๓ เรื่อง ธรรมชาตินม้ี ีคณุ เวลา ๑๔ ชั่วโมง

หวั ข้อเรื่อง การอ่านในใจ เวลา ๑ ช่วั โมง

…………………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจแกป้ ญั หา และสร้างวิสัยทัศน์ใน

การดําเนนิ ชวี ิต และมนี ิสยั รักการอา่ น

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี จิ ารณญาณและพูดแสดงความรูส้ ึก ความคิด และความรู้สึก

ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

สาระสาํ คญั
การอ่านในใจคือการกวาดสายตาไปยังข้อความจากหนังสือ พุ่งความสนใจไปยังสาระที่อ่าน แล้วเก็บ

ใจความสาํ คัญของเรอื่ งทีอ่ ่าน สามารถถ่ายโอนสาระทีอ่ า่ นไปยงั ผู้อน่ื ได้ด้วยทัง้ พดู และการเขยี น

ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ป๔/๔ แยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน
ท ๓.๑ ป๔/๑ สรุปความรแู้ ละข้อคิดจากเรอ่ื งทอ่ี า่ นเพ่อื นําไปใช้ในชีวิตประจาํ วัน
ท ๓.๑ ป๔/๔ ต้ังคําถามและตอบคําถามจากเรอื่ งท่ฟี งั และดู

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. อ่านในใจและเกบ็ ใจความสาํ คัญของเร่อื งได้
๒. ถา่ ยโอนสาระเรือ่ งราวท่อี า่ นไปยังผู้อ่ืนได้
๓. บอกความหมายคําใหมใ่ นบทเรียนได้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซอื่ สตั ยส์ ุจริต
๓. มีวินัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มั่นในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
๑. อา่ นในใจเร่ือง “ธรรมชาตนิ ี้มีคุณ”
๒. เล่าเร่ือง “ธรรมชาตินี้มคี ณุ ”
๓. ตอบคาํ ถามของเรอื่ ง “ธรรมชาติน้ีมีคณุ ”

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. นักเรยี นตอบปริศนาคาํ ทายจากครดู งั น้ี
- อะไรเอ่ย เปน็ แร่ เปน็ หินมคี า่ เมอื่ นาํ มาเจยี ระไนมีค่า มรี าคา นํามาทําเป็นเครื่องประดับ
(อญั มณี)
- อะไรเอ่ยเป็นทรัพยากรธรรมชาติ มีมากมายตามชายหาด ผู้คนฉลาด นํามาใช้ผสมปูน
กอ่ สร้าง (ทราย)
- อะไรเอย่ เปน็ ของเหลวใต้ดนิ มนษุ ย์นาํ มาเปน็ พลงั งาน ทางเครอื่ งยนต์ (นา้ํ มัน)
๒. ตัวแทนนักเรียน ๕ คน อ่านอออกเสียงในหนังสือเรียน อ่านเพิ่มเติมความหมาย ทีละคน

นักเรียนและครูช่วยกันอภปิ รายความหมายของคาํ นกั เรยี นทําแบบฝกึ หัดท่ี ๒ เลอื กคาํ ๕ คํา จาการอ่านแต่ง
ประโยค เป็นการบา้ น

๓. นกั เรยี นอ่านเสริมในใจ ในหนังสอื เรียนเรอื่ ง ทรพั ยากรธรรมชาติ เพ่อื เขียนแผนภาพความคิด ครู
ทบทวนความรู้เรือ่ ง “การเขียนแผนภาพความคิด หรอื ผังมโนทศั น์”

๔. ครูและนักเรียนช่วยกันสนทนาชวนกันคิด ช่วยกันตอบ มอบหมายให้นักเรียนทําแบบฝึกหัด ใน
หนงั สอื แบบฝกึ หดั ข้อ ๓.๑ เป็นการบ้าน

๕. นกั เรยี นรวบรวมขอ้ มลู ชวนกันอภิปราย ในหนังสือเรียน เรื่อง ธรรมชาตนิ ้ีมคี ุณ เปน็ การบ้าน
๖. นักเรยี นและครูชว่ ยกันสรปุ ความรทู้ ไ่ี ด้จากการเรยี นรู้เกีย่ วกับธรรมชาติน้ีมคี ณุ เพื่อนาํ ความรู้ทไ่ี ด้รับ
ไปปรบั ใช้ใหส้ อดคล้องกบั ชีวติ ประจําวันและอนาคต

สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. บตั รคําศพั ท์
๒. หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝึกหัดรายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วิธีการประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการประเมิน
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน

๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๔

กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๒๓ เรือ่ ง ธรรมชาตินมี้ ีคณุ เวลา ๑๔ ช่วั โมง

หัวข้อเรอ่ื ง ร้อยกรองประเภทกลอนส่ี เวลา ๑ ชวั่ โมง

………………………………………………………….

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ

นาํ มาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ

สาระสาํ คญั
ร้อยกรองประเภทกลอนสี่เป็นการนาํ เอาคอ้ ยคําสาํ นวนมาเรยี บเรยี งใหอ้ ยู่ในกรอบแบบแผนคาํ ประพนั ธ์อี

ประเภทหนึ่งอย่างมศี ิลปะ ที่สามารถทาํ ให้ผ้อู ่านหรือผู้ฟงั เกิดสนุ ทรียภาพในอรรถรสเปน็ เอกลักษณข์ องภาษาไทย
ทีม่ คี ณุ คา่ สมควรแก่การอนุรักษไ์ ว้ให้คงอยคู่ คู่ วามเป็นไทยสบื ไป

ตวั ช้ีวดั
ป.๔/๕ แตง่ บทรอ้ ยกรองและคําขวัญ

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. บอกรปู แบบของการเขียนกลอนส่ีได้
๒. แต่งกลอนสีไ่ ด้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซอื่ สัตย์สจุ ริต
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง
๖. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
๑. ลักษณะของกลอนสี่
๒. การแต่งกลอนสี่

กระบวนการจดั การเรียนรู้

๑. ใหน้ ักเรียนเลน่ เกมต่อกลอนสอนเขียน นักเรียนและครูสรุป ชวนกันอภิปรายในหนังสือเรียนซ่ึงครู

มอบหมายใหท้ าํ เป็นการบา้ น ดงั นี้

- มนษุ ย์จะดํารงชวี ิตอยู่กบั ธรรมชาตอิ ยา่ งไรจึงจะเกดิ สุข

- ถา้ ธรรมชาติหมดไป มนษุ ย์จะสามารถสร้างส่ิงทดแทนได้หรือไม่ อยา่ งไร

๒. นักเรียนดแู ผนภมู ิเรือ่ งร้อยกรองประเภทกลอนส่ีท่แี ขวนบนกระดานดาํ

๓. ครอู ธบิ ายถึงการเขียนบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสแี่ ละการสัมผสั

๔. นักเรยี นเปิดหนังสือเรียน เรื่องธรรมชาตินี้มีคุณ เพ่ือศึกษาอธิบายเพ่ิมเติมความรู้เกี่ยวกับบทร้อย

กรองประเภทกลอนส่ี

๕. นกั เรียนอ่านบทรอ้ ยกรองตามครูทีละวรรค และช่วยอ่านบทร้อยกรองอีกครั้ง เพื่อทบทวนจังหวะ

การอา่ นที่ถกู ตอ้ ง

๖. นกั เรียนรบั แบบฝกึ หดั ท่ี ๔ และชว่ ยกนั แตง่ บทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ โดยครเู ริ่มตน้ ให้ ดงั นี้

ฉันไปโรงเรียน ………………………………………………………

…………………………………………. ………………………………………………………

๗. นกั เรียนทาํ แบบฝกึ หดั ในแบบฝกึ ขอ้ ๓.๒ และครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทํากิจกรรมชวนกนั วาดภาพ

ในหนงั สอื เรียน เรือ่ ง ธรรมชาตินี้มีคณุ เป็นการบา้ น

ส่ือ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บัตรคาํ ศัพท์
๒. หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

การวัดและประเมินผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมือทใี่ ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒๓ เรือ่ ง ธรรมชาตนิ ี้มีคุณ เวลา ๑๔ ชวั่ โมง

หัวขอ้ เรื่อง ร้อยกรองประเภทกลอนแปด เวลา ๑ ช่ัวโมง

………………………………………………………………….

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ

นํามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง

สาระสําคัญ
ร้อยกรองประเภทกลอนแปดเป็นการนําเอาค้อยคําสํานวนมาเรียบเรียงให้อยู่ในกรอบแบบแผนคํา

ประพันธ์อีกประเภทหนึ่งอย่างมศี ิลปะ ท่สี ามารถทาํ ให้ผู้อา่ นหรือผ้ฟู ังเกิดสุนทรียภาพในอรรถรสเป็นเอกลักษณ์
ของภาษาไทยทีม่ คี ณุ คา่ สมควรแกก่ ารอนุรกั ษ์ไว้ให้คงอยู่คู่ความเปน็ ไทยสืบไป

ตัวชว้ี ัด
ป.๔/๕ แตง่ บทร้อยกรองและคาํ ขวัญ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. บอกรปู แบบของการเขียนรอ้ ยกรองประเภทกลอนแปดได้
๒. แตง่ กลอนร้อยกรองประเภทกลอนแปดได้

สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ
๓. มวี ินัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง
๖. มุ่งม่ันในการทาํ งาน

สาระการเรียนรู้
๑. ลกั ษณะกลอนร้อยกรองประเภทกลอนแปด
๒. การแต่งกลอนร้อยกรองประเภทกลอนแปด

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. ให้นักเรียนเลน่ เกม เรียงใหมห่ ายสบั สน
๒. นักเรยี นและครูสรปุ เกมทีเ่ ล่น และสนทนาชือ่ ของบทร้อยกรอง
๓. นักเรียนดูแผนภูมิเรื่องบทร้อยกรองประเภทกลอนแปดท่ีแขวนบนกระดานดําและการสัมผัสตาม

แผนภมู ิ
๔. ครอู ธบิ ายถึงการเขยี นบทร้อยกรองประเภทกลอนแปดและการสัมผัสตามแผนภมู ิ
๕. นกั เรียนเปิดหนงั สือเรียน เรือ่ งธรรมชาตนิ ม้ี ีคณุ เพอ่ื ศกึ ษาหวั ข้อ อธิบายเพิ่มเติมความรู้เก่ียวกับบท

ร้อยกรองประเภทกลอนแปด
๖. นกั เรยี นอ่านบทร้อยกรองตามครู ๑ คร้ัง และช่วยอา่ นบทรอ้ ยกรองอกี ครง้ั เพื่อทบทวนจังหวะการ

อา่ นทถ่ี กู ต้อง
๗. นกั เรียนรับแบบฝกึ หัดท่ี ๕ และชว่ ยกันแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนแปด โดยครูเร่ิมต้นบทร้อย

กรองดงั นี้

ธรรมชาติในโลกนี้มีคา่ นกั ......................................................

..................................................................... .......................................................

๘. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติม ดังน้ี กลอนแปดน้ัน เม่ือหาคํามาแต่งกลอน ควรให้คําจํากัดอยู่แปดคํา และครู
มอบหมายใหน้ กั เรยี นทําแบบฝึกหัดข้อ ๓.๓ ในหนงั สอื แบบฝึกหดั เป็นการบา้ น

สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. บัตรคาํ ศพั ท์
๒. หนังสอื เรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝกึ หัด รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วธิ กี ารประเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖

กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒๓ เรือ่ ง ธรรมชาตินี้มคี ณุ เวลา ๑๔ ชัว่ โมง

หวั ขอ้ เรอื่ ง กาพย์ยานี ๑๑ เวลา ๑ ชว่ั โมง

……………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดไปใช้ตดั สนิ ใจแก้ปัญหา และสร้างวิสัยทศั น์ใน

การดาํ เนนิ ชีวิต และมีนสิ ยั รกั การอ่าน

สาระสาํ คญั
กาพย์ยานี ๑๑ เปน็ คําประพันธช์ นดิ หน่ึงทม่ี ลี ักษณะฉันทลักษณ์คือการบังคับคําให้มีจํานวน ๕ คําใน

วรรคหน้า และ ๖ คาํ ในวรรคหลงั รวมเป็น ๑๑ คาํ จงึ เรียกว่า กาพย์ยานี ๑๑ นักเรียนควรเรียนรู้ และฝึก
แตง่ กาพยย์ านี ๑๑ เพ่ือรักษาและสืบสารลกั ษณะคําประพันธ์ของไทยเอาไว้

ตัวชีว้ ัด
ป.๔/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. บอกรูปแบบของกาพยย์ านี ๑๑ ได้
๒. แต่งกาพยย์ านี ๑๑ ได้

สมรรถนะสาํ คญั
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่อื สตั ยส์ ุจริต
๓. มวี ินยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
๖. มุ่งม่ันในการทํางาน

สาระการเรยี นรู้
๑. รูปแบบของกาพยย์ านี ๑๑
๒. การแต่งกาพยย์ านี ๑๑

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. นักเรยี นแบ่งกลุม่ ออกเปน็ กล่มุ ละ ๓ – ๕ คนเลน่ เกมเรียงข้อความ
๒. นกั เรียนและครชู ว่ ยกนั สรปุ เกมทีเ่ ลน่ และสนทนาชือ่ ของบทร้อยกรอง
๓. ครนู าํ แผนภูมิกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ีมาติดบนกระดานดํา แล้วใหน้ ักเรียนอ่าน ทีละกลมุ่ จากนน้ั ครู

อธบิ ายถึงการเขียนบทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑ และการสมั ผสั ตามแผนภูมิ
๔. นกั เรียนเปิดหนังสือเรียนเรื่อง ธรรมชาติน้ีมีคุณ ศึกษาหัวข้อ อธิบายเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับบท

ร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑
๕. นักเรียนอ่านบทร้อยกรองตามครู ๑ คร้ัง นักเรียนช่วยกันอ่านบทร้อยกรองอีกคร้ังเพ่ือทบทวน

จงั หวะการอา่ นทีถ่ ูกต้อง
๖. นักเรยี นแต่ละกลุม่ ชว่ ยกนั แตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี ๑๑ โดยครเู รม่ิ ใหด้ ังน้ี

มาลแี ละมาลา ยนื ดุปลาหน้าขวดโหล
............................................................ ............................................................

๗. ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี ๑๑ น้ัน เมอื่ หาคาํ มาแตง่ บทร้อยกรองวรรคที่ ๑
และ ๓ สว่ นวรรคท่ี ๒ และ ๔ มี ๖ คาํ

๘. นกั เรียนทําแบบฝึกหดั ท่ี ในหนงั สอื แบบฝกึ หัด ข้อ ๓.๔ เป็นการบ้าน

ส่อื / แหลง่ เรียนรู้
๑. บัตรคาํ ศัพท์
๒. หนงั สือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วิธีการประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่อื งมือท่ใี ช้ในการประเมิน
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมนิ
- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๗

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒๓ เรอื่ ง ธรรมชาตินม้ี คี ณุ เวลา ๑๔ ชวั่ โมง

หัวข้อเรื่อง การใช้คาํ ราชาศัพท์ เวลา ๑ ชวั่ โมง

…………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์

ในการดําเนินชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่อื สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรือ่ งราวในรปู แบบ

ต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมี วิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน

โอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ

ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษาและรกั ภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ

มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณว์ รรณคดี และวรรณกรรมอย่างเห็นคุณค่าและนํามา

ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจําวนั

สาระสาํ คัญ
คาํ ราชาศพั ทค์ ือคาํ ท่ีสภุ าพใชก้ บั กษัตริย์ ขุนนางและเช้ือพระวงศ์ ผู้ใช้ต้องแบ่งระดับภาษาให้ถูก และ

เลือกใชใ้ ห้ถูกตอ้ งตามบรบิ ทแหง่ วฒั นธรรม

ตวั ชวี้ ัด
ท ๑.๑ ป.๔/๒ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด
ท ๒.๑ ป.๔/๑ คัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัดและครง่ึ บรรทดั
ท ๓.๑ ป.๔/๖ อธิบายความหมายของคํา ประโยคและสาํ นวนจากเรอ่ื งทีอ่ า่ น
ท ๔.๑ ป.๔/๓ ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของคาํ
ท ๕.๑ ป.๔/๑ ระบขุ ้อคดิ จากนทิ านพืน้ บ้านหรอื นิทานคตธิ รรม
ท ๕.๑ ป.๔/๒ อธบิ ายขอ้ คิดจาการอ่านเพ่ือนาํ ไปใชช้ วี ิตจริง

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. สามารถใช้คาํ นามราชาศพั ทไ์ ด้ถูกต้องตามฐานะของบคุ คล
๒. บอกความหมายของคําราชาศพั ทไ์ ด้

สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
๖. ม่งุ มัน่ ในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
๑. คาํ ราชาศพั ท์
๒. การเลอื กใช้คําราชาศพั ท์
๓. แบบทดสอบหลังเรียน

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. นักเรยี นทบทวนความรู้เดิมและนําคาํ เล่นเกมตอ่ คาํ
๒. นกั เรยี นเปดิ หนงั สือเรียนเรอื่ ง ธรรมชาตนิ มี้ คี ุณ ตัวแทนนกั เรยี น ๖ คน อ่านออกเสียงคําราชาศัพท์

ทีละคน แบง่ เน้ือหาใหเ้ หมาะสม (ครูเสนอแนะให้นกั เรยี นหาความหมายของคาํ จาพจนานุกรม)
๓. ครอู ธบิ ายความหมายของคาํ ราชาศพั ท์เพิ่มเติมและสรุป เพ่ือให้นักเรียนสามารถนําไปใช้ได้ถูกต้อง

ตามสถานการณ์
๔. ครมู อบหมายให้นักเรียนทําแบบฝึกหัด ข้อ ๓.๕- ๓.๖ และคัดลายมือในหนังสือแบบฝึกหัด ข้อ ๔

เป็นการบา้ น
๕. ครูมอบหมายให้นักเรยี นเลือกอ่านหนังสอื บทพระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอ

ดุลยเดชมหาราช เรอ่ื ง พระมหาชนก คนละ ๑ ตอน เป็นการบา้ น
๖. ครูมอบหมายให้นักเรียนเลือกอ่านนิทานในห้องสมุดที่มีความรู้เกี่ยวกับพระธรณี พระคงคา

พระพาย พระอาทิตย์ หรอื พระจนั ทร์ เพอ่ื เล่าแลกเปล่ียนในช้นั เรยี นเปน็ การบ้าน

ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๓. แบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมนิ
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมอื ท่ใี ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม

- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ

- นักเรียนผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๘

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒๓ เร่อื ง ธรรมชาตนิ ี้มคี ุณ เวลา ๑๔ ชั่วโมง

หวั ขอ้ เรอ่ื ง การใชพ้ จนานุกรม เวลา ๑ ชวั่ โมง

……………………………………………………………..

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา

ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ

สาระสําคญั
การใช้พจนานุกรมคอื การค้นหาคําและความหมายของตาํ โดยเรยี งจากลําดบั ตวั อกั ษร ภายในพจนานกุ รม

แต่ละเล่มจะบอกทั้งความหมายของคํา ชนิดของคํา ที่มาของคํา ผู้เรียนต้องต้องศึกษาหลักการใช้ให้ชัดเจน
เพราะพจนานุกรมเป็นเคร่ืองมือสําหรับหาความหมายของคําและช่วยให้เราสามารถอ่านและเขียนคําต่างๆ ได้
ถูกต้อง

ตัวช้ีวัด
ป.๔/๓ ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคํา

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. ใช้พจนานกุ รมชว่ ยการอ่าน การเขียน และค้นหาความหมายได้
๒. บอกชนดิ ของคาํ จากพจนานกุ รมได้

สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต
๓. มวี ินยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพยี ง
๖. มงุ่ ม่ันในการทาํ งาน

สาระการเรียนรู้
๑. การใชพ้ จนานกุ รมเพ่ือค้นหาความหมาย
๒. คาํ ราชาศพั ท์
๓. ชนิดของคํา

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. นักเรยี นทบทวนความร้เู ดิมและนําคําเล่นเกมต่อคํา
๒. นักเรียนและครูช่วยกนั ทบทวนการใชพ้ จนานุกรมท่ีถกู ต้องและรวดเร็ว
๓. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสนทนาถงึ บทพระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวภูมิพลอดุลยเดช

มหาราช เรอื่ งพระมหาชนก ๑ ท่ีปรากฏในเรือ่ ง
๔. ตวั แทนนักเรยี นออกมาเลา่ เรอื่ งเกย่ี วกับพระธรณี พระคงคา พระพาย พระอาทิตย์ หรือพระจนั ทร์

เพอ่ื แลกเปลีย่ นในช้นั เรยี น โดยมีครคู อยแนะนํา
๕. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม เพ่ือไปศึกษาและรวบรวมคําราชาศัพท์ในห้องสมุดตามกิจกรรมชวนกันเขียนใน

หนังสอื เรียน
๖. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปคําราชาศัพท์ เพื่อนกั เรียนสามารถนาํ คาํ ไปแตง่ ประโยคหรือแต่งเรื่องส้ัน

ไดเ้ หมาะสมตามสถานการณ์

ส่ือ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บัตรคาํ ศพั ท์
๒. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
๔. หอ้ งสมดุ

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วธิ ีการประเมิน
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑ์การประเมิน
- นกั เรียนผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๙

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒๓ เร่ือง ธรรมชาตนิ ม้ี ีคณุ เวลา ๑๔ ช่วั โมง

หวั ขอ้ เรื่อง การเขยี นบทร้อยกรอง เวลา ๑ ช่วั โมง

……………………………………………………………..

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ

เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ

สาระสําคัญ
การแต่งนิทานหรือเขียนเร่ืองราวเป็นบทร้อยกรองลักษณะต่างๆ เป็นทักษะการเขียนตามจินตนาการ

ประกอบข้อมูล ความรู้ หรือเร่ืองราวทตี่ ้องการ

ตัวชว้ี ดั
ท ๒.๑ ป.๔/๗ เขยี นเร่อื งตามจินตนาการ
ท ๔.๑ ป.๔/๕ แต่งบทรอ้ ยกรองและคาํ ขวญั

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. เขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการได้
๒. แตง่ บทรอ้ ยกรองได้
๓. ทําหนงั สอื สง่ เสรมิ การอา่ นได้

สมรรถนะสําคญั
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซือ่ สตั ยส์ จุ รติ
๓. มีวินัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง
๖. มงุ่ ม่ันในการทาํ งาน

สาระการเรียนรู้
- การเขยี นบทรอ้ ยกรอง

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. นักเรียนทบทวนความรเู้ ดมิ และนําคาํ เลน่ เกมต่อคํา
๒. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันทบทวนแผนภมู บิ ทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสี่ กลอนแปดและกาพยย์ านี ๑๑
๓. ตัวแทนแตล่ ะกล่มุ รบั ใบความรนู้ ทิ านอีสป บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนส่ี กลอนแปด และกาพยย์ านี

๑๑ เทา่ กบั สมาชกิ ในกล่มุ
๔. นักเรียนอา่ นนทิ านอีสป บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนส่ีกลอนแปด และกาพย์ยานี ๑๑ พรอ้ มกัน
๕. ครูและนักเรียนสนทนาถึงเนื้อหาของนทิ านแต่ละเรื่อง การจินตนาการภาพ ข้อคดิ และคณุ ธรรมที่ได้

จากนิทาน เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกนิทานอีสปเพือ่ แต่งบทร้อยกรองแต่ละประเภท
๖. ตัวแทนแต่ละกล่มุ เลือกนทิ านอสี ปจากครกู ลุ่มละ ๑ เรื่อง (นิทานอีสปท่ีเลือกมาควรเป็นเร่ืองท่ีเน้น

คณุ ธรรม ท่ีครูคิดว่านกั เรยี นในช้ันเรียนขาดการปฏบิ ัตเิ ปน็ นสิ ัยหรือเห็นว่าเหมาะสม)
๗. แต่ละกลมุ่ ดาํ เนินการแต่งบทร้อยกรองเป็นนทิ าน โดยใชร้ ปู แบบของกลอนสี่ กลอนแปด และกาพย์

ยานี ๑๑ เพียงประเภทเดียว โดยใหค้ งเรอื่ งเดมิ และแตล่ ะเรื่องไม่น้อยกว่า ๘ หน้า หน้าละไม่น้อยกว่า ๒ บาท
เพื่อจัดทาํ หนงั สอื สง่ เสริมการอ่าน

๘. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรุปปัญหาทีพ่ บในขณะแต่งบทร้อยกรอง เพ่ือปรับปรุงกระบวนการจัดการ
เรียนรู้การแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ กลอนแปด และกาพย์ยานี ๑๑ ในโอกาสต่อไป (นักเรียนกลุ่มใดท่ี
แต่งบทรอ้ ยกรองไมเ่ สรจ็ ในช่วั โมงนักเรยี นสามารถช่วยกันทําในเวลาว่าง โดยมคี รคู อยใหค้ าํ แนะนํา)

สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้
๑. บตั รคําศัพท์
๒. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ติ ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สังเกตพฤตกิ รรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครือ่ งมือท่ีใชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๐

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒๓ เร่ือง ธรรมชาตนิ ี้มคี ุณ เวลา ๑๔ ชัว่ โมง

หัวขอ้ เรอื่ ง การทําหนังสอื ส่งเสรมิ การอ่าน เวลา ๑ ชว่ั โมง

……………………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นส่อื สาร เขยี นเรยี งความยอ่ ความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ

เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานศึกษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ

สาระสาํ คัญ
การทาํ หนงั สือส่งเสริมการอ่าน เป็นการนาํ ความรู้ทไ่ี ด้รับจากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเปน็ กระบวนการ

ท่สี รา้ งสรรค์ครบทกุ ทกั ษะ คือ การฟงั การพูด การอ่านและการเขียน รวมถงึ การเพ่ิมพูนความรทู้ างด้านศิลปะ
และความคิดสรา้ งสรรค์ การมีจินตนาการต่อยอดจากเรอ่ื งทเ่ี รียน สามารถนาํ ความรไู้ ปใชใ้ นชวี ิตประจําวนั ได้

ตัวชว้ี ดั
ท ๒.๑ ป.๔/๗, ท ๔.๑ ป.๔/๕ เขยี นเร่ืองบนั ทึกและเขยี นรายงานจาการศึกษาค้นคว้า

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
- ทําหนงั สือสง่ เสรมิ การอ่าน ได้

สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
๖. มงุ่ มัน่ ในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
- การเขียนหนงั สือส่งเสรมิ การอ่าน

กระบวนการจดั การเรียนรู้

๑. นักเรียนร้องเพลงเอาไว้ที่ไหน เพื่อความสนกุ สนาน

เพลงเอาไวท้ ี่ไหน

ไมท่ ราบผแู้ ต่ง

ก ไกเ่ อาไวท้ แ่ี ก้ม ป ปลาเอาไว้ท่ีปาก

ต เตา่ เอาไว้ทตี่ า เอา ม ม้าไว้ทจี่ มูก

ล๊าลา ล๊าลาลา ล๊าลา ล๊าลาลา ลา๊ ลา ล๊าลาลา ลาลาลา (ซา้ํ )

ล ลิงเอาไวท้ ไ่ี หล่ ข ไขเ่ อาไวท้ แี่ ขน

เอา ฟ แฟน ไวใ้ นดวงใจ เอา ฟ แฟน ไว้ในดวงใจ

ล๊าลา ลา๊ ลาลา ลา๊ ลา ลา๊ ลาลา ล๊าลา ลา๊ ลาลา ลาลาลา (ซา้ํ )

- เมื่อจบเพลงแล้วให้นักเรียนแยกกลุ่มคิดคําท่ีข้ึนต้นด้วย ก ป ต จ ม ล ข ฟ จะเป็นคํา ๑

พยางค์ หรือ ๒ พยางค์กย็ ่ิงดี

๒. ตัวแทนนักเรียนรับหนังสือส่งเสริมการอ่านเป็นบทร้อยกรอง กลุ่มละ ๒ เล่ม ครูให้ความรู้กับ

นกั เรยี นเรอ่ื งรปู แบบการทาํ หนังสอื สง่ เสริมการอา่ น

๓. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รับกระดาษเปล่า ขนาด A4 ตามจํานวนหนา้ ปกนอก ปกใน ปกหลัง นักเรียน

ในกลุ่มแบ่งหน้าที่ช่วยกันนําบทร้อยกรองที่แต่งเป็นนิทานมาเขียนแบ่งหน้าโดยเว้นท่ีว่างไว้วาดภาพประกอบ

ระบายสีตกแต่งภาพ จัดทํารูปเล่มและในขณะท่ีเขียนบทร้อยกรองแต่ละหน้าเน้นการคัดลายมือสวย สะอาด

ชอ่ งไฟของตัวหนังสอื สมํา่ เสมอ การวาดภาพแตล่ ะหนา้ ให้สอดคล้องกับข้อความและห่างจากขอบ กระดาษตาม

ความเหมาะสม

๔. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรุปความรทู้ ไ่ี ดจ้ าการอา่ นจดั ทาํ หนังสือสง่ เสริมการอา่ นและมอบหมาย งาน

การทําหนังสือส่งเสริมการอา่ นผลงานกลุม่ เป็นของตนเองในเวลาวา่ ง

หมายเหตุ หนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ นของแตล่ ะกลุม่ ที่ยงั ไมเ่ รยี บรอ้ ย นักเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ทาํ ให้เสร็จ

เรยี บรอ้ ยชว่ งเวลาว่าง โดยมีครูคอยใหค้ ําแนะนํา

ส่ือ / แหลง่ เรียนรู้
๑. บัตรคําศัพท์
๒. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวิต ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน

๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๑

กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒๓ เรื่อง ธรรมชาติน้มี คี ณุ เวลา ๑๔ ช่ัวโมง

หัวขอ้ เร่ือง การทาํ โครงงาน เวลา ๑ ช่วั โมง

………………………………………………………..

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรยี งความยอ่ ความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ

เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา

ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ

สาระสําคัญ
โครงงาน เปน็ กระบวนการทีไ่ ด้นาํ ความรทู้ ไ่ี ด้รบั ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ส่ังสมและการระดมพลัง

สมองในการคน้ หาข้อมลู จากแหล่งเรียนรู้ตา่ งๆ และภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น สามารถนําความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาํ วันได้

ตัวชีว้ ดั
ท ๒.๑ ป.๔/๗, ท ๔.๑ ป.๔/๕ เขยี นเรื่องบันทกึ และเขียนรายงานจาการศึกษาค้นคว้า

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. ทําโครงงานได้
๒. ทาํ งานกลุ่มได้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซื่อสตั ยส์ จุ ริต
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. ม่งุ มนั่ ในการทาํ งาน

สาระการเรียนรู้
- การทาํ โครงงาน

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. นักเรยี นรอ้ งเพลงมะละกอ เพือ่ ความสนุกสนาน
สม้ ตาํ มะละกอ ส้มตํา
มะละกอ ส้มตาํ สม้ ตํา มะละกอ
บีบมะนาวใส่หนอ่ ย ใส่น้ําปลานดิ หนอ่ ย
ปลาร้าตวั น้อยเรามาช้อยกนั นาํ (ซา้ํ )
(หมายเหตุ ชอ้ ยเปน็ ภาษาถ่นิ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนอื แปลว่า ช่วย)
๒. ครูและนกั เรยี นสนทนาเก่ยี วกับเนอื้ หาของเพลง ดังนี้
- มะละกอ เป็นผักหรือเป็นผลไม้ (เป็นผัก แต่เป็นผักที่มีลักษณะพิเศษคือ ผลมะละกอดิบ
สามารถนาํ ไปแกง ผัด ต้มจิ้มนําพริก ตําสม้ ตําเปน็ อาหารวา่ งที่เอกลักษณ์ของคนไทยและ
คนอีสาน สว่ นผลสุกสามารถรบั ประทานแทนผลไมเ้ พราะมีคณุ สมบตั ชิ ่วยระบายทอ้ ง)
- จากเน้อื หาของเพลงมะละกอเปน็ การตําส้มตาํ ของคนในภาคใด
- นักเรยี นชว่ ยกันเล่ารวมถงึ ข้นั ตอนของการตาํ สม้ ตาํ
๓. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ การทําโครงงานท่กี ลุม่ ของนักเรียนเตรยี มไว้แล้ว
๔. ครสู รุปขน้ั ตอนของการทําโครงงาน

สือ่ / แหล่งเรยี นรู้
๑. บัตรคาํ ศัพท์
๒. หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหดั รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
๔. รูปแบบโครงงาน

การวัดและประเมนิ ผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เคร่ืองมอื ท่ีใช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมิน
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน ร้อยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๒

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒๓ เร่ือง ธรรมชาตินี้มคี ณุ เวลา ๑๔ ช่ัวโมง

หวั ขอ้ เรื่อง การเขียนรายงาน เวลา ๒ ช่ัวโมง

………………………………………………………………….

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนสอ่ื สาร เขยี นเรยี งความยอ่ ความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ

เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ

สาระสําคัญ
การเขียนรายงานโครงงาน เป็นการนําเสนอผลงานจากการปฏิบัติจริง ให้เข้าใจถึงแนวคิด วิธีการ

ดําเนนิ การศึกษาคน้ คว้า ผลของการดาํ เนนิ การ ข้อสรุปและขอ้ เสนอแนะต่างๆ อย่างเป็นระบบและมขี นั้ ตอน

ตวั ช้ีวดั
ท ๒.๑ ป. ๔/๗, ท ๔.๑ ป. ๔/๘ เขียนเรื่องบันทึกและเขยี นรายงานจาการศกึ ษาคน้ คว้า

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- เขยี นรายงานโครงงานได้

สมรรถนะสําคัญ
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซือ่ สัตยส์ ุจรติ
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
๖. มงุ่ มนั่ ในการทาํ งาน

สาระการเรยี นรู้
- การเขยี นโครงงาน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. นักเรยี นทบทวนความร้เู ดิม
๒. ครแู ละนักเรยี นสนทนาถึงหัวขอ้ ในการเขยี นรายงานโครงงาน

๓. ครนู ําแผนภมู กิ ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานแขวนบนกระดานดํา ครูอธิบายให้ความรู้และร่าย
ละเอยี ด กบั นกั เรียนเกย่ี วกบั หัวข้อโครงงานตามลําดับ โดยหวั ขอ้ ตา่ งๆ สอดคล้องกับผลงานท่ีนักเรียนแต่ละกลุ่ม
รับไปศกึ ษาตามท่คี รูอธบิ าย ดงั น้ี

๓.๑ ความหมายและประเภทโครงงาน
๓.๒ หัวข้อโครงงาน มีดงั น้ี

- ช่ือโครงงาน
- ชือ่ ผู้ทาํ โครงงาน โรงเรียน พ.ศ. ทจี่ ดั ทํา
- ชอ่ื ครทู ่ปี รกึ ษา
- บทคดั ย่อสน้ั ๆ ทบ่ี อกเค้าโครงยอ่ ๆ ประกอบด้วย เร่ือง วัตถุประสงค์ วิธีการ และ

สรปุ ผล
- กิตติกรรมประกาศ แสดงความขอบคุณหรอื หนว่ ยงานทมี่ ีสว่ นให้ความช่วยเหลือให้

งานเสรจ็
- วัตถุประสงคข์ องการคน้ คว้า
- ทมี่ าและความสําคัญของโครงงาน
- สมมติฐานและความสําคญั ของโครงงาน
- วธิ ีดําเนนิ การ
- สรุปผลการศึกษาคน้ คว้า ไดผ้ ลอย่างไร
- ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รับ
- ข้อเสนอแนะ
- เอกสารอา้ งอิง/บรรณานุกรม
- บญั ชตี าราง
๔. นักเรยี นและครูชว่ ยกันสรปุ การเขยี นรายงานการทําโครงงานกบั การนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั กจิ กรรมการ
เรยี นรู้ในสาระอนื่

สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้
๑. บตั รคาํ ศัพท์
๒. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔
๓. แบบฝึกหัด รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔

การวดั และประเมินผล
๑. วิธกี ารประเมิน
- สงั เกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอ่ื งมือท่ใี ช้ในการประเมนิ
- แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมินผลงาน

๓. เกณฑ์การประเมิน
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๓

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒๓ เรือ่ ง ธรรมชาตนิ ี้มคี ุณ เวลา ๑๔ ช่วั โมง

หวั ขอ้ เร่ือง การจัดนทิ รรศการ เวลา ๑ ชว่ั โมง

…………………………………………………………

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนส่อื สาร เขียนเรียงความย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ

เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานศกึ ษาค้นคว้าอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกใน

โอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

สาระสาํ คัญ
การการจัดนิทรรศการ เป็นการแสดงผลงานท่ีตนได้ทําขึ้นหลายรูปแบบ เช่น การรายงานด้วยวาจา

การจัดทาํ เปน็ วารสาร และรูปแบบอ่ืนๆทีเ่ หมาะสม

ตวั ชี้วดั
ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขยี นบันทึกและเขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ คว้า
ท ๓.๑ ป.๔/๕ รายงานเรอ่ื งหรือประเด็นที่ศกึ ษาคน้ คว้าจากการฟัง การดแู ละการสนทนา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. เขยี นรายงานโครงงานได้
๒. จัดนทิ รรศการได้

สมรรถนะสาํ คัญ
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่ือสัตย์สุจริต
๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
๖. มงุ่ มน่ั ในการทํางาน

สาระการเรยี นรู้
- การจดั นิทรรศการ

กระบวนการจัดการเรยี นรู้

๑. นกั เรียนรอ้ งเพลงตามแผนภมู ิ

แผนภูมิเพลง อยา่ เกียจครา้ น

คาํ ร้อง/ทาํ นอง ไมท่ ราบนามผู้แตง่

อยา่ เกยี จคร้านการทํางานนะพวกเรา

งานหนักงานเบาเหนื่อยแล้วเราพักผ่อนก็หาย

ไม่ทํางาน หลบหลกี งาน ด้วยเกียจครา้ น เอาแตส่ บาย

แก่จนตายขอทํานายวา่ ไม่เจริญ (ซํ้า)

๒. ครตู รวจความถูกตอ้ งการเขียนรายงานโครงงานแต่ละกลมุ่

๓. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ นําผลงานเข้ารปู เลม่ ตามลําดบั รายงานโครงงานและเย็บรปู เลม่

๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มนํารายงานโครงงาน และผลงานหนังสือส่งเสริมการอ่านของกลุ่มของกลุ่ม

ผลงานส่วนตัว จดั นิทรรศการรวมกับรายงานโครงงาน โดยแต่ละกลุ่มช่วยกันจัดตกแต่งโต๊ะนิทรรศการรวมกับ

รายงานโครงงาน โดยแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั จดั ตกแต่งโต๊ะนทิ รรศการผลงานให้ดสู วยงาม นา่ สนใจ

๕. นักเรยี นซึ่งเปน็ ตัวแทนกลมุ่ รายงานโครงงานต่อครปู ระจาํ ชัน้ และเพอ่ื นๆ ทีละกลุม่

สื่อ / แหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคาํ ศพั ท์
๒. แผนภมู ิเพลง

การวดั และประเมนิ ผล
๑. วธิ ีการประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม
- ตรวจผลงาน
๒. เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในการประเมิน
- แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรม
- แบบประเมินผลงาน
๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
- นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๕ – ๘๐
- นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน รอ้ ยละ ๗๕ – ๘๐


Click to View FlipBook Version