การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
4. ครูเสริมแรงนักเรียนที่ได้รับชัยชนะโดยการแจกของรางวัล เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทอง
แดงให้กับทีมผู้ชนะตามลำดับ
8. การประเมินผล
การวัดผล การประเมินผล เครื่องมือที่ใช้
1. พิจารณาการเข้าร่วม 1.นักเรียนตอบถูกต้องและได้รับคะแนน 1. ใบงานกิจกรรมกลุ่ม
กิจกรรมกลุ่ม ในการประเมินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70
2. สังเกตการทำงานร่วมกันเป็น 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถปฏิบัติ 2. ใบงานกิจกรรมกลุ่ม
กลุ่มและตรวจสอบความถูกต้อง กิจกรรมได้ถูกต้องและได้รับการ 3. การเขียนตอบชื่อการเล่นพื้นบ้าน
จากผลงานกลุ่ม ประเมินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 อาเซียน
3. สังเกตพฤติกรรมการทำงานราย 3. นักเรียนแต่ละคนได้รับการประเมิน 4. แบบประเมินพฤติกรรมการทำงาน
บุคคล (ความมีวินัย ความใฝ่เรียนรู้ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 รายบุคคล
ความมุ่งมั่นในการทำงาน และ
ความเป็นผู้มีจิตสาธารณะ)
9. เนื้อหาทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง
สาระการเรียนรู้เรื่อง การละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
10. สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้
10.1 องค์ความรู้ที่ได้
1. นักเรียนได้รับความรู้เรื่องการละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
2. นักเรียนได้รับประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรม
10.2 กระบวนการทางความคิด
1. นักเรียนได้ใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ และการทำงานโดยอาศัยกระบวนการกลุ่มในการทำงาน
2. นักเรียนมีคุณลักษณะความมีวินัย ความใฝ่เรียนรู้ ความมุ่งมั่นในการทำงาน และความเป็นผู้มีจิต
สาธารณะ
10.3 การนำไปประยุกต์ใช้
1. นักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรม และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผน
การทำงานต่างๆ และแก้ไขปัญหาต่างๆ
11. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ที่ใช้ในการประกอบกิจกรรม (ใบความรู้ / ใบกิจกรรม / แบบทดสอบ / ใบเฉลย)
1. อุปกรณ์ในการเล่นการละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
2. ใบความรู้เรื่อง การละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
3. ใบงานกิจกรรมกลุ่ม เรื่อง การละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
4. ใบประเมินผล
12. เอกสารอ้างอิง
กฤชกร เพชรนอก. (2557). การละเล่นพื้นบ้านอาเซียน. ปทุมธานี : สกายบุ๊กส์.
อาริสา จะรา. (2554). การละเล่นพื้นบ้านไทย. ปทุมธานี : สกายบุ๊กส์.
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ใบความรู้
เรื่อง การละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
ความหมายการละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
การละเล่นพื้นบ้าน หมายถึง กิจกรรมการละเล่นอย่างหนึ่งในแต่ละท้องถิ่น มีการเล่นที่เรียบง่าย
ไม่สลับซับซ้อน และตามแบบวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งได้รับการสืบทอดต่อ ๆ กันมาจากคนรุ่นหนึ่งมาสู่
คนอีกรุ่นหนึ่ง และยังคงมีการเล่นมาจนถึงทุกวันนี้
การละเล่นพื้นบ้านของประเทศสมาชิกอาเซียน จึงมีการถ่ายทอด วิธีการเล่นตามแบบของวัฒนธรรม
และสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศ มีการสืบทอดกันมาเป็นเวลานานตามแบบวิถีชีวิตหรือการดำเนินชีวิตของคน
ในท้องถิ่นตนเอง สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตของกลุ่มชนในอาเซียน ทั้งด้านความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม ประเพณี
และค่านิยมต่าง ๆ ของผู้คนในสังคม
ตัวอย่างการละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
1. การละเล่นพื้นบ้านไทย 2. การละเล่นพื้นบ้านมาเลเซีย
- ปืนก้านกล้วย - ลูกบอลพิษ
- กระต่ายขาเดียว - ปืนใบปาล์ม
- มอญซ่อนผ้า - ลากกาบปาล์มหรือกาบมะพร้าว
- รีรีข้าวสาร - ไม้หึ่ง
- ตี่จับ - ตี่จับ
3. การละเล่นพื้นบ้านฟิลิปปินส์ 4. การละเล่นพื้นบ้านสิงคโปร์
- เสือข้ามห้วย - เตะลูกขนไก่
- ชักเย่อ - ปิดตาทาย
- กาฟักไข่ - โยนห่วงยางลงเสา
- ปิดตาตีหม้อ - เป่ายิงฉุบ
- บอลลูนโป้ง - โยนหิน
5. การละเล่นพื้นบ้านอินโดนีเซีย 6. การละเล่นพื้นบ้านบรูไนดารุสซาลาม
- หมากหลุม - เสือกินวัว
- ซ่อนหา - เดิน-วิ่งขาไม้ไผ่
- วิ่งกระสอบ - ลูกข่างพื้นบ้าน
- ยิงลูกแก้ว - ลากกาบมะพร้าว
- บอลลูนโป้ง - ยิงหนังสติ๊ก
7. การละเล่นพื้นบ้านเวียดนาม 8. การละเล่นพื้นบ้านลาว
- ดันไม้ - ปั่นฝาขวด
- ชิงช้าไม้ไผ่ - หม้อครก
- ดึงกัน - ขี่ม้า
- แมวไล่หนู - ลูกข่าง
- ปิดตาทาย - หมุนกระทะ
9. การละเล่นพื้นบ้านเมียนมาร์ 10. การละเล่นพื้นบ้านกัมพูชา
- ตีไก่ - ซื้อแตงโม
- กระโดดเชือก - ลิงขโมยที่นั่ง
- บอลลูนโป้ง - กระโดดขาเดียว
- เป่าหนังยาง - แมวไล่หนู
- กระโดดข้าม - ขโมยเจ้าสาว
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
เอกสารอ้างอิง
กฤชกร เพชรนอก. (2557). การละเล่นพื้นบ้านอาเซียน. ปทุมธานี : สกายบุ๊กส์.
อาริสา จะรา. (2554). การละเล่นพื้นบ้านไทย. ปทุมธานี : สกายบุ๊กส์.
กระต่ายขาเดียว
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างในที่ร่มหรือกลางแจ้ง เช่น สนามกีฬา หรือสนามในโรงเรียน
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น
อุปกรณ์
ไม่มี
วิธีเล่น
1. ขีดเส้นบนพื้นให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พอสมควร และแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่ายเท่าๆ กัน
โดยให้แต่ละฝ่ายตกลงกันว่าฝ่ายไหนจะเป็นกระต่ายก่อน
2. ฝ่ายที่เป็นกระต่ายแต่ละคนต้องคิดชื่อไว้คนละหนึ่งชื่อเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายที่เล่นเรียก
ถ้าผู้เล่นเรียกชื่อไหน ฝ่ายที่เป็นกระต่ายที่มีชื่อตรงกับที่ถูกเรียกก็จะวิ่งกระโดดขาเดียวเข้ามาใน
กรอบสี่เหลี่ยม เช่น มีฝ่ายละ 4 คน ฝ่ายที่เป็นกระต่ายที่คิดชื่อไว้แล้ว คือ กล้วย เงาะ ส้ม แตงโม
ฝ่ายผู้เล่นเรียกชื่อ “กล้วย” ฝ่ายที่เป็นกระต่ายที่คิดชื่อกล้วยไว้ก็ต้องวิ่งกระโดดขาเดียวออกมา
3. เมื่อเลือกกระต่ายได้แล้ว ฝ่ายที่เป็นกระต่ายต้องวิ่งกระต่ายขาเดียวไล่จับแตะคนของฝ่ายเล่น
ใครโดนจับหรือมาถูกตัวกระต่ายต้องออกจากการเล่นไป แต่ถ้ากระต่ายเปลี่ยนขาหรือขาแตะพื้นจะ
ต้องออกจากการเล่นทันที ฝ่ายผู้เล่นจะเลือกจะกระต่ายตัวใหม่
4. เมื่อฝ่ายเล่นถูกจับหมดแล้ว ฝ่ายเล่นต้องกลับมาเป็นกระต่ายบ้าง
ตี่จับ
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างในที่ร่มหรือกลางแจ้ง เช่น สนามกีฬา หรือสนามในโรงเรียน
อุปกรณ์
ไม่มี
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
วิธีเล่น
1. ขีดเส้นบนพื้นให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พอสมควรและแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่ายเท่าๆ กัน
โดยให้แต่ละฝ่ายตกลงกันว่าฝ่ายใดจะเป็น “ผู้วิ่ง” และฝ่ายใดจะเป็น “ผู้ไล่”
2. ผู้เล่นฝ่ายไล่ต้องยืนอยู่นอกพื้นที่สี่เหลี่ยมด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนผู้เล่นฝ่ายวิ่งทั้งหมดจะกระจายกัน
อยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยม
3. ฝ่ายไล่ส่งผู้เล่นคนแรกเข้าไปในพื้นที่สี่เหลี่ยมเพื่อไล่ผู้เล่นฝ่ายวิ่ง
4. ผู้ไล่ที่เข้าไปในพื้นที่สี่เหลี่ยมต้องวิ่งไล่จับพร้อมกับออกเสียง “Tu” โดยกลั้นหายใจขณะวิ่งไล่จับผู้วิ่ง
ซึ่งผู้ไล่จะอยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยมได้ถ้ายังออกเสียง “Tu” อยู่ แต่ถ้าหมดเสียง “Tu” ก่อนวิ่งออกนอก
พื้นที่สี่เหลี่ยม จะต้องถูกตัดออกจากการเล่น และฝ่ายผู้ไล่ต้องส่งผู้เล่นคนใหม่ลงไปเป็นผู้ไล่แทน
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
5. ผู้เล่นฝ่ายวิ่งคนใดถูกจับได้หรือวิ่งออกนอกพื้นที่สี่เหลี่ยม จะถูกตัดออกจากการเล่นทันที
6. การเล่นจะดำเนินต่อไปจนกว่าฝ่ายไล่หรือฝ่ายวิ่งจะออกจากการเล่นทั้งหมด (ถ้าฝ่ายไล่สามารถ
ไล่จับฝ่ายวิ่งได้ทั้งหมดจะเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าฝ่ายไล่ถูกตัดออกจากการเล่นก่อนฝ่ายวิ่งได้ทั้งหมด
ฝ่ายวิ่งจะเป็นผู้ชนะ
ชักเย่อ
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างในที่ร่มหรือกลางแจ้ง เช่น สนามกีฬา หรือสนามในโรงเรียน
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวน 6 คนขึ้นไป
อุปกรณ์
เชือกเส้นใหญ่ 1 เส้น ความยาวประมาณ 8 เมตรขึ้นไป (กำหนดจุดกึ่งกลางของเชือก โดยใช้ผ้า
ผูกไว้เป็นสัญลักษณ์)
วิธีเล่น
1. แบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่ายเท่าๆกัน และผู้ตัดสิน 1 คน
2. ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายยืนประจำที่เชือก เว้นระยะห่างจากฝ่ายตรงข้ามประมาณ 2-3 เมตร
3. ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจับเชือกให้อยู่ในระดับเอว แล้วรอสัญญาณจากผู้ตัดสิน โดยผู้ตัดสินจะยืนอยู่ตรง
จุดกึ่งกลางของเชือก และให้ถือว่าจุดนี้เป็นเส้นชัย
4. เมื่อผู้ตัดสินให้สัญญาณเริ่มเล่น ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายต้องออกแรงดึงเชือกให้มากที่สุดเพื่อให้จุดกึ่งกลาง
ของเชือกที่ใช้ผ้าผูกไว้เข้ามาทางฝ่ายตนให้ได้
5. ถ้าฝ่ายใดดึงให้จุดกึ่งกลางเข้ามาในฝั่งตนได้ฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะ
ดึงกัน
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างในที่ร่มหรือกลางแจ้ง เช่น สนามกีฬา หรือสนามในโรงเรียน
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวน 8 คนขึ้นไป
อุปกรณ์
ไม่มี
วิธีเล่น
1. แบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่ายเท่าๆกัน
2. ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายเข้าประจำที่ของตน โดยยืนเรียงแถวกัน (หันหน้าเข้าหาฝ่ายตรงข้าม) และต้อง
กอดเอวของคนข้างหน้าต่อกันไปเรื่อยๆ
3. ผู้เล่นคนที่ 1 ของแต่ละฝ่ายออกแรงดึงเอวฝ่ายคล้องมือทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน และประสานมือของ
ตนไว้ให้แน่น
4. เริ่มเล่นดึงกันโดยผู้เล่นทั้งสองฝ่ายออกแรงดึงเอวฝ่ายตนให้มากที่สุด เพื่อให้มือของฝ่ายตรงข้าม
หลุดออกจากกันให้ได้ ฝ่ายใดมือหลุดออกจากกันก่อน ฝ่ายนั้นจะเป็นผู้แพ้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ขโมยเจ้าสาว
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างในที่ร่มหรือกลางแจ้ง เช่น สนามกีฬา หรือสนามในโรงเรียน
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวนไม่ต่ำกว่า 8 คน
อุปกรณ์
ไม่มี
วิธีเล่น
1. ผู้เล่นคู่แรกจะต้องเลือกคู่ของตนเอง
2. ผู้เล่นคนอื่นๆยืนจับมือกันเป็นวงกลม
3. ผู้เล่นคู่แรกเดินจับมือกันไปรอบๆวงกลม (เดินกี่รอบก็ได้ตามความต้องการ)
4. เมื่อพร้อมเริ่มเล่นแล้ว ผู้เล่นคู่แรกจะเลือกตีมือของผู้เล่นที่ยืนอยู่ เพื่อให้มาเป็นผู้เล่นคู่ที่สอง
5. เมื่อได้คู่ที่สองแล้ว คู่แรกที่ตีต้องวิ่งให้เร็วที่สุดไปรอบวงกลม ในขณะที่คู่ที่สองก็ต้องออกจากวงกลม
และวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับคู่แรก โดยทั้งคู่จะต้องจับมือคู่ของตนวิ่งเพื่อเข้าไปยืนในพื้นที่ว่าง
ของวงกลมให้ได้
6. เมื่อทั้งสองคู่วิ่งมาถึงจุดที่จะสวนทางกัน แต่ละคู่จะต้องพยายามดึงให้ฝ่ายตรงข้ามมือหลุดออก
จากกัน
7. ผู้เล่นคู่ใดมือไม่หลุดออกจากกัน และวิ่งเข้าไปในพื้นที่ว่างของวงกลมได้ก่อนจะเป็นผู้ชนะ ส่วนคู่ที่แพ้
ต้องเดินไปรอบๆวงกลม และเริ่มเล่นใหม่อีกครั้ง
8. เล่นต่อไปเรื่อยๆ จนมีคู่ใดคู่หนึ่งเป็นผู้แพ้ 3 ครั้ง ให้ผู้เล่นทุกคนลงโทษโดยให้คู่แพ้เต้นรำอยู่กลาง
วงกลม
โยนห่วงลงเสา
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างทั่วไป
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวน 5 คนขึ้นไป
อุปกรณ์
1. ห่วงยางขนาดเล็ก (ไม่จำกัดจำนวน)
2. เสาสำหรับคล้องห่วงยาง 2-3 เสา
วิธีเล่น
1. ขีดเส้นเริ่มเล่นที่พื้น แล้วให้ผู้เล่นทุกคนยืนอยู่หลังเส้นเริ่มเล่น
2. วางเสาคล้องห่วงยางให้ห่างจากเส้นเริ่มเล่นประมาณ 2-3 เมตร (อย่าให้ผู้เล่นเอื้อมมือถึง)
3. กำหนดเวลาให้ผู้เล่น 1 นาที โดยโยนให้ได้ครั้งละ 1 ห่วง และขณะโยนห่วงยางห้ามให้ส่วน
ใดส่วนหนึ่งของร่างกายผู้โยนถูกเส้นหรือล้ำเส้นออกมา
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
เตะลูกขนไก่
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างทั่วไป เช่น สนามหญ้า หรือสนามกีฬา
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงไม่จำกัดจำนวน
อุปกรณ์
ลูกแบดมินตันหัวแบน 1 ลูก
วิธีเล่น
การเตะลูกขนไก่มีลักษณะการเล่นเหมือนกับการเตะลูกตะกร้อ และสามารถเล่นได้ทั้งเดี่ยวหรือแบบทีม
2 หรือ 3 คน
กาฟักไข่
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างทั่วไป เช่น สนามหญ้าหรือสนามกีฬา
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวน 5 คนขึ้นไป
อุปกรณ์
กระป๋อง 1 ใบ และรองเท้าแตะของผู้เล่นทุกคน
วิธีเล่น
1. ขีดเส้นเป็นวงกลมบนพื้นให้กว้างพอประมาณ 1 วง วางกระป๋องไว้กลางวงกลม
2. ให้ผู้เล่นทุกคนเป่ายิงฉุบหาผู้เฝ้ากระป๋อง 1 คน ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆให้ยืนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ซึ่งอยู่ห่างจากวงกลมและผู้เฝ้ากระป๋องประมาณ 4 เมตร
3. เริ่มเล่นโดยผู้เล่นแต่ละคนใช้รองเท้าแตะของตนเอง 1 ข้าง เหวี่ยงออกไปให้ถูกกระป๋องในวงกลม
4. ถ้ามีรองเท้าแตะของผู้เล่นคนใดเหวี่ยงถูกกระป๋องจนกระเด็นออกนอกวงกลม ผู้เฝ้ากระป๋องจะต้อง
รีบวิ่งไปเก็บกระป๋องมาวางไว้ในวงกลมให้เร็วที่สุด จากนั้นวิ่งไปแตะตัวผู้เล่นที่ยังไม่ได้วิ่งกลับไปใน
พื้นที่ปลอดภัยให้ได้ ส่วนผู้เล่นที่เหวี่ยงรองเท้าก็ต้องรีบวิ่งไปเก็บรองเท้าของตน แล้ววิ่งเข้าสู่พื้นที่
ปลอดภัยให้ได้ก่อนผู้เฝ้ากระป๋องจะวิ่งมาแตะถูกตัว
5. ผู้เล่นคนใดถูกแตะก่อนวิ่งเข้าพื้นที่ปลอดภัยจะต้องมาเป็นผู้เฝ้ากระป๋องแทน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 00
เสือกินวัว
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างทั่วไป เช่น สนามหญ้า หรือสนามกีฬา
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ส่วนใหญ่ผู้ชายนิยมเล่นมากกว่าไม่จำกัดจำนวน
อุปกรณ์
ไม่มี
วิธีเล่น
1. ให้ผู้เล่นตกลงกันว่าใครจะเป็นเสือ ใครจะเป็นวัว โดยคนที่เป็นเสือจะมี 1 คน และเป็นวัว 1 คน
ส่วนผู้เล่นที่เหลือให้จับมือกันเป็นวงกลม โดยเสือจะอยู่ด้านนอกวงกลม และวัวอยู่ในวงกลม
2. เสือต้องฝ่าวงล้อมเข้าไปในวงกลม เพื่อจับวัวกินให้ได้ ส่วนวัวก็ต้องหนีออกมาจากวงกลมให้เร็วที่สุด
3. เมื่อเสืออยู่ในวงกลมแล้วจะออกมานอกวงกลมตามจับวัว ผู้เล่นที่จับมือกันเป็นวงกลมก็ต้องคอยกัน
ไม่ให้เสือไปจับวัวได้
4. ถ้าเสือจับวัวได้ก็ถือว่าสิ้นสุดการเล่น ผู้เล่นที่เป็นเสือและวัวต้องกลับไปยืนจับมือเป็นวงกลม และให้
ผู้เล่นคนอื่นมาเป็นเสือกับวัวแทน
ปิดตาทาย
สถานที่เล่น
บริเวณลานกว้างทั่วไป เช่น สนามหญ้า หรือสนามกีฬา
ผู้เล่น
เล่นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง จำนวน 5 คนขึ้นไป
อุปกรณ์
ผ้าปิดตา 1 ผืน
วิธีเล่น
1. ผู้เล่นต้องตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้ปิดตาทายก่อน
2. เมื่อได้ผู้ปิดตาทายแล้ว ผู้เล่นคนอื่นๆจะยืนล้อมวงจับมือกันวนไปรอบๆ โดยผู้ปิดตาจะต้องยืนอยู่
ตรงกลางวงกลม
3. ผู้ปิดตาทายเริ่มเดินเอามือคลำหาผู้เล่นคนอื่นไปเรื่อยๆ
4. เมื่อคลำจนเจอผู้เล่นคนนั้นก็จะเริ่มทาย ถ้าทายถูกผู้เล่นคนนั้นก็จะมาเป็นผู้ปิดตาทายแทน
แล้วจึงเริ่มเล่นใหม่ แต่ถ้าทายผิด ก็ต้องคลำหาผู้เล่นคนอื่นๆ ต่อไป
0 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ใบงานกิจกรรมกลุ่ม
เรื่อง การละเล่นพื้นบ้านอาเซียน
คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนชื่อการละเล่นพื้นบ้าน และชื่อประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียนที่นักเรียนรู้จัก
ให้ได้มากที่สุด กลุ่มใดทำได้มากที่สุดถือว่าชนะ
1. …………………… ประเทศ …………………… 2. …………………… ประเทศ ……………………
3. …………………… ประเทศ …………………… 4. …………………… ประเทศ ……………………
5. …………………… ประเทศ …………………… 6. …………………… ประเทศ ……………………
7. …………………… ประเทศ …………………… 8. …………………… ประเทศ ……………………
9. …………………… ประเทศ …………………… 10. …………………. ประเทศ ……………………
11. ………………… ประเทศ …………………… 12. …………………. ประเทศ ……………………
13. ………………... ประเทศ …………………… 14. …………………. ประเทศ ……………………
15. ………………... ประเทศ …………………… 16. …………………. ประเทศ ……………………
17. ………………… ประเทศ …………………… 18. …………………. ประเทศ ……………………
19. ………………… ประเทศ …………………… 20. …………………. ประเทศ ……………………
21. ………………… ประเทศ …………………… 22. …………………. ประเทศ ……………………
23. ………………… ประเทศ …………………… 24. ……………….… ประเทศ ……………………
25. ………………… ประเทศ …………………… 26. ……………….… ประเทศ ……………………
27. ………………… ประเทศ …………………… 28. ……………….… ประเทศ ……………………
29. ………………… ประเทศ …………………… 30. ……………….… ประเทศ ……………………
31. ………………… ประเทศ …………………… 32. ……………….… ประเทศ ……………………
33. ………………… ประเทศ …………………… 34. ……………….… ประเทศ ……………………
รวมคะแนน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0
ภาพประกอบการจัดกิจกรรม
นักเรียนศึกษาข้อมูลจากใบความรู้ นักเรียนเล่นการละเล่นพื้นบ้าน
นักเรียนช่วยกันเขียนชื่อการละเล่นพื้นบ้าน นักเรียนช่วยกันเขียนชื่อการละเล่นพื้นบ้าน
0 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0
หน่วยที่ 1 รายล้อมรอบบ้านฉัน
แผนการจัดกิจกรรม การงานอาชีพและเทคโนโลยี : ASEAN BOX CREATIVE GROUP
1. ชื่อกิจกรรม : ASEAN BOX CREATIVE GROUP
2. ความเป็นมา
ปัจจุบันกระแสความตื่นตัวเกี่ยวกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนนั้นถือเป็นกระแสทางสังคมสำคัญ
ที่หลายๆ ประเทศทั้งที่เป็นสมาชิกและไม่เป็นเป็นสมาชิกของประเทศอาเซียนให้ความสนใจ ซึ่งการจัดตั้ง
ประชาคมอาเซียนขึ้นนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสันติภาพในภูมิภาคอันจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ
สังคมและวัฒนธรรม โดยในปี 2546 อาเซียนได้กำหนดทิศทางที่แน่ชัดว่า ความร่วมมือจะต้องเดินทางไปสู่การเป็น
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ภายในปี 2558 เพื่อพัฒนาการดำเนินงาน
ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้มีความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ทัดเทียมประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงเกิดผลงานชื่อ ASEAN BOX CREATIVE
GROUP เพื่อส่งเสริมกระบวนการทางความคิดของนักเรียนในการสร้างสรรค์งานออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความ
สอดคล้องโดยการนำจุดเด่นของประเทศอาเซียนมาเชื่อมโยงและสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานขึ้นและเป็นการส่งเสริม
ให้นักเรียนได้ตระหนักถึงการทำงานเป็นทีม โดยทุกคนในกลุ่มต้องร่วมกันใช้ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงาน
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อเป็นการสอดแทรกให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ลักษณะเด่นๆของประเทศในอาเซียน
ไปพร้อมๆ กัน และนำเสนอผลงานร่วมกันเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เตรียมความพร้อมและตระหนักถึงความ
สำคัญของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ นักเรียนสามารถ
1. บอกโปรแกรมที่ใช้ในการตกแต่งภาพและกราฟิก
2. บอกขั้นตอนในการใช้งานโปรแกรมที่ใช้ในการตกแต่งภาพและกราฟิก
3.2 ด้านทักษะ / กระบวนการ นักเรียนมี
1. ทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์
2. ออกแบบและตกแต่งภาพตนเองในลักษระเด่นของแต่ละประเทศในอาเซียน
3. ความสามารถในการเผยแพร่ผลงานตนเองในอินเตอร์เน็ต
3.3 ด้านคุณลักษณะ นักเรียนมี
1. ส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความรู้
2. ทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล มีวิธีคิดอย่างถูกต้อง
3. ความสามารถในการจัดการ/ควบคุมตนเอง
4. เวลาที่ใช้
90 นาที
0 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
5. วัสดุอุปกรณ์
1. คอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนมีโปรแกรม Adobe Photoshop CS5 จำนวน 1 คน ต่อ 1 เครื่องมีการ
เชื่อมต่ออินเทอร์เนต
2. คอมพิวเตอร์สำหรับครูและเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 1 เครื่อง
3. ไฟล์รูปภาพของนักเรียนแต่ละคนซึ่งมีขนาด 4 X 6 นิ้ว นามสกุล JPEG
4. กรรไกรสำหรับตัดบรรจุภัณฑ์ คนละ 1 ด้าม
5. กระดาษอิงค์เจ็ทขนาด A4 240 แกรม กลุ่มละ 1 แผ่น
6. ขนาดของกลุ่มนักเรียน
จำนวน 50 คน โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน
7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ (10 นาที)
1. ครูพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรมการออกแบบ
ขั้นดำเนินกิจกรรม (70นาที)
1. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ที่นักเรียนมีความสนใจ
2. ครูและนักเรียนอภิปรายถึงลักษณะเด่นของแต่ละประเทศในอาเซียน
3. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน
4. ครูให้นักเรียนส่งตัวแทนจับฉลากประเทศในอาเซียน
5. ครูแจกใบความรู้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์
6. ครูแนะนำวิธีการใช้โปรแกรมและฝึกปฏิบัตินักเรียน
7. ครูแจกใบงานให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม
8. ครูสุ่มนักเรียนตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานการออกแบบบรรจุภัณฑ์หน้าชั้นเรียน
9. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนส่งผลงานการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในห้องประชุมอาคารสาธิตปทุมวัน 4
ขั้นสรุป ( 10 นาที)
1. ครูกล่าวถึงลักษณะการออกแบบของบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจ
2. ครูยกตัวอย่างของการใช้สีบนบรรจุภัณฑ์ของนักเรียนในห้องบางกลุ่ม
3. ครูสุ่มนักเรียนมาอธิบายถึงจุดเด่นบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มตัวเอง
4. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปวิธีการออกแบบบนบรรจุภัณฑ์
8. การประเมินผล
1. การนำเสนอผลงานการออกแบบบรรจุภัณฑ์ 10 คะแนน
2. ชิ้นงานบรรจุภัณฑ์ 10 คะแนน
9. เนื้อหาทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง
1. การจัดองค์ประกอบ
2. หลักการออกแบบ
3. พื้นฐานการใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS5 เบื้องต้น
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0
10. สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้
10.1 องค์ความรู้ที่ได้ : การออกแบบบรรจุภัณฑ์ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ลักษณะบรรจุภัณฑ์ สีของบรรจุภัณฑ์
จุดเด่นของบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบและสามารถเชื่อมโยงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับประเทศต่างๆ
ในภูมิภาคอาเซียน
10.2 กระบวนการทางความคิด : นักเรียนจะสามารถอภิปรายจุดเด่นของแต่ละประเทศในอาเซียนและ
สามารถออกแบบสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ที่เชื่อมโยงความคิดเรื่องลักษณะเด่นของประเทศอาเซียนลงใน
บรรจุภัณฑ์
10.3 การนำไปประยุกต์ใช้ : นักเรียนสามารถนำหลักการจัดองค์ประกอบ หลักการออกแบบ การออกแบบ
บนบรรจุภัณฑ์ไปประยุกต์ในการออกแบบบนวัสดุอื่นได้เช่น การออกแบบโปสการ์ด แก้วน้ำ และ
ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมอื่น ๆ และนอกจากนั้นยังสามารถนำความรู้ในเรื่องอื่น ๆ มาปรับประยุกต์
และสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานต่อไปได้
11. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ที่ใช้ในการประกอบกิจกรรม (ใบความรู้ / ใบกิจกรรม / แบบทดสอบ / ใบเฉลย)
11.1 ใบความรู้
11.2 ใบกิจกรรม
12. เอกสารอ้างอิง
ฉัตรชัย อรรถปักษ์ (2548). องค์ประกอบศิลป์. กรุงเทพฯ : วิทยพัฒน์
ประชิด ทิณบุตร (2531). การออกแบบบรรจุภัณฑ์ : packaing Design. กรุงเทพฯ : โอ เอส พริ้นติ้ง เฮ้าส์.
ไพศาล โมลิสกุลมงคล (2546). การใช้งาน Photoshop CS3. กรุงเทพฯ : ไทยเจริญการพิมพ์.
วิรุณ ตั้งเจริญ (2526). การออกแบบ. กรุงเทพฯ : วิฌวลอาร์ต
สิทธิชัย ประสานวงศ์ (2547). สร้างสรรค์งานสวยด้วย Photoshop CS. กรุงเทพ : ซีเอ็ดยูเคชัน
.
0 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ใบกิจกรรม
ASEAN BOX CREATIVE GROUP
คำชี้แจง
ให้นักเรียนนำไฟล์ภาพที่ได้รับมาใช้ในการออกแบบลวดลายลงบนกล่อง พร้อมทั้งนำรูปสมาชิกในกลุ่ม
และไฟล์ภาพจุดเด่นของประเทศอาเซียนที่ได้รับจากการจับสลาก มาจัดองค์ประกอบให้สวยงามแล้วทำการพริ้น
ลงบนกระดาษอิงค์เจ็ทตัดให้เป็นกล่องแล้วประกอบให้สวยงาม
วัสดุ/อุปกรณ์
1) ไฟล์รูปภาพของนักเรียนขนาด 4X6 นิ้ว จำนวนคนละ1 รูป
2) ไฟล์ภาพคลี่บรรจุภัณฑ์จำนวน 1 กล่อง
3) กรรไกร
4) กระดาษอิงค์เจ็ท 240 แกรม จำนวน 1 แผ่น
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0
แบบประเมินผลงานรายบุคคล
เรื่อง ASEAN BOX CREATIVE GROUP
ชื่อ…………………………........................................................................…………............ชั้น…………...................
คำชี้แจง ให้ผู้ประเมินใส่เครื่องหมาย / ลงในช่องตามความเป็นจริง
ตนเอง เพื่อน ครู
ที่ รายการประเมิน รวม
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
1 ความถูกต้องสมบูรณ์ของชิ้นงาน
2 ความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์
3 การออกแบบและการจัดระบบชิ้นงาน
4 เหมาะสมกับเนื้อหาที่เรียน
5 การนำไปใช้ประโยชน์
รวมคะแนนรายบุคคล
ผ่าน
ผลการประเมิน
ไม่ผ่าน
ลงชื่อผู้ประเมิน
………………….…………….ตนเอง
…………..………………………เพื่อน
……………………………….ครผู้สอน
0 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
เกณฑ์การประเมิน
ได้คะแนน
0-11 ปรับปรุง
12-15 ปานกลาง
16-20 ดี
เกณฑ์การให้คะแนน
1. ความถูกต้องสมบูรณ์ของชิ้นงาน
1 คะแนน องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ไม่ถูกต้อง
2 คะแนน ขาดองค์ประกอบหลายอย่าง
3 คะแนน ขาดองค์ประกอบเพียงอย่างเดียว
4 คะแนน องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ครบถ้วน
2. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
1 คะแนน ผลงานไม่แตกต่างจากคนอื่น ๆ
2 คะแนน ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์เล็กน้อย
3 คะแนน ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์อยู่ในระดับดีคล้ายกับเพื่อน ๆ บางคน
4 คะแนน ผลงานที่ทำเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
3. การออกแบบและการจัดระบบชิ้นงาน
1 คะแนน ไม่ออกแบบและจัดระบบชิ้นงาน
2 คะแนน มีการออกแบบและจัดระบบชิ้นงานถูกต้องเพียงเล็กน้อย
3 คะแนน มีการออกแบบและจัดระบบชิ้นงานถูกต้องแต่ยังไม่ครบ
4 คะแนน มีการออกแบบและจัดระบบชิ้นงานอย่างเป็นระเบียบ
4. เหมาะสมกับเนื้อหาที่เรียน
1 คะแนน ไม่ตรงกับเรื่องที่เรียน
2 คะแนน สอดคล้องกับเรื่องที่เรียนส่วนน้อย
3 คะแนน สอดคล้องกับเรื่องที่เรียนส่วนมาก
4 คะแนน สอดคล้องตรงและกับเรื่องที่เรียน
5. การนำไปใช้ประโยชน์
1 คะแนน ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
2 คะแนน ปรับปรุงเล็กน้อย จึงจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
3 คะแนน นำไปใช้ประโยชน์ได้
4 คะแนน นำไปใช้ประโยชน์ และเป็นตัวอย่างแก่ผู้อื่นได้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0
ภาพประกอบการจัดกิจกรรม
นักเรียนร่วมกันออกแบบบรรจุภัณฑ์ นักเรียนร่วมกันออกแบบบรรจุภัณฑ์
ผลงานนักเรียนจากการออกแบบ ผลงานนักเรียนจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
Ã
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 1 ÃÒÂÅŒÍÁÃͺºŒÒ¹©Ñ¹ : ÊØ¹·ÃÕÂÐáË‹§ÍÒà«Õ¹¹ÃÙŒ·Õ 1 ù‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õ ÃàÃÕ ÃÙ 1¡ÒÃàÃÕ¹‹Ç¡Ç¡ÒÇ¡
Ë Ë ÃÒÂÅŒÍÁÅŒÍÁÃͺÒ ÍÁÃÍ ººÒ¹©ŒÒ¹©ººŒÒ¹ ©Ñ¹ : ÊØ¹¹ ÊØ¹·ÃÕÂÐáË‹§Ñ¹ : ÊØ¹·¹·¹ ¹ ¹©Ñ¹ §ÍÒàÒà«Õ¹
ÍÒ¨ÒþÕùت ¸ÕÃÍÃö
ÍÒ¨ÒäÁÊѹµ äÇ©ÅÒ´
ÍÒ¨ÒóѰ¾§È ᡌÇÊØÇÃó
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
หน่วยที่ 1 รายล้อมรอบบ้านฉัน
แผนการจัดกิจกรรมศิลปะ : สุนทรียะแห่งอาเซียน
1. ชื่อกิจกรรม : สุนทรียะแห่งอาเซียน
2. ความเป็นมา
สุนทรียะแห่งอาเซียน คือ ความดื่มด่ำแห่งความงามของอาเซียน ซึ่งศิลปะของแต่ละประเทศอาเซียน
นั้นมีเอกลักษณะเฉพาะน่าศึกษาและสัมผัสกับความงามของศิลปะต่าง ๆ เหล่านั้น ดังนั้นฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสาธิต
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงนำแนวคิดนี้มาจัดกิจกรรม สุนทรียะแห่งอาเซียน เพื่อให้นักเรียนได้ดื่มด่ำกับศิลปะ
วัฒนธรรมของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยดื่มด่ำกับวัฒนธรรมการแต่งกาย ลักษณะวงดนตรี
และสุนทรียะเชิงวัฒนธรรมดนตรีและนาฏศิลป์ โดยรูปแบบกิจกรรมคือ ให้นักเรียนศึกษาวัฒนธรรมจากสื่อภาพ
และเสียงโดยใช้หลักทางสุนทรียศาสตร์ : การเสพย์งานศิลปะผ่านผัสสะย่อยด้วยตาและอรรถรสด้วยเสียง (ตาดูหูฟัง)
หลังจากนั้นให้นักเรียนวิเคราะห์และประมวลผลจากการฟังดนตรีพื้นบ้านและการสังเกตการแต่งกายของประเทศ
สมาชิกอาเซียน โดยขณะที่วงดนตรีประเทศใดบรรเลงให้นำภาพการแต่งกายที่ได้รับนั้น ไปติดที่บอร์ดชื่อประเทศ
ปฏิบัติจนกระทั่งครบ 10 ประเทศ จากกิจกรรมดังกล่าวจะทำให้นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม
การแต่งกาย วัฒนธรรมดนตรีและนาฏศิลป์ของประเทศสมาชิกอาเซียน
3. จุดมุ่งหมาย
3.1 ด้านความรู้ นักเรียนสามารถ
1. มีความรู้เรื่องวัฒนธรรมการแต่งกายของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
2. มีความรู้เรื่องลักษณะวงดนตรีของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
3. มีความรู้เรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมดนตรีและนาฏศิลป์ของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
ว่าด้วยเรื่องการแต่งกายและวงดนตรีพื้นบ้านอาเซียน
4. มีความรู้เรื่องความสุนทรียะเชิงวัฒนธรรมดนตรีและนาฏศิลป์ของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โดยสังเขป
3.2 ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนมี
1. ความสามารถบริหารจัดการการทำงานในลักษณะกลุ่มได้ด้วยความสามัคคี
2. ความสามารถคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์และประมวลผล ได้รวดเร็วและแม่นย้ำ
3. ความเป็นผู้นำและผู้ตามได้อย่างเหมาะสม
4. ความสามารถเสพย์งามศิลปะได้ตามหลักสุนทรียศาสตร์
3.3 ด้านคุณลักษณะ นักเรียนมี
1. ความสังเกตและจดจำที่ดี
2. โสตทัศนะด้านการฟังและวิเคราะห์ที่ดี
3. ความสุนทรีย์ด้านดนตรีและนาฏศิลป์
4. ร่าเริง จิตใจดีและตระหนักในวัฒนธรรมไทย
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
4. เวลาที่ใช้
90 นาที
1. 15 นาที (แรก) เกริ่นนำอธิบาย
2. 30 นาที การเรียนการสอน
3. 30 นาที กิจกรรม
4. 15 นาที (สุดท้าย) สรุป
5. วัสดุอุปกรณ์และสถานที่
1. อุปกรณ์สำหรับการเรียนรู้การสอน
- ภาพเครื่องแต่งกายพื้นบ้านประเทศสมาชิกอาเซียน
- โสตทัศนศึกษา (ลำโพง)
- CD เพลงดนตรีพื้นบ้าน Asian
2. อุปกรณ์สำหรับกิจกรรม
- กระดาษแข็งเทา-ขาว ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า
- แผ่นภาพเครื่องแต่งกาย
- โสตทั ศนศึกษา (ลำโพงเล็ก)
- CD เพลงดนตรีพื้นบ้าน Asian
3. สถานที่ : บริเวณ ภาพ Inkjet สนามฟุตบอล
6. ขนาดของกลุ่มนักเรียน ดังนี้
นักเรียน 50 คน/ 90 นาที โดยจัดแบ่งเป็น 5 กลุ่มๆละ 10 คน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
7. วิธีดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ (15 นาที)
1. ครูอธิบายความสำคัญ วัตถุประสงค์และวิธีการดำเนินฐานกิจกรรม “สุนทรียะแห่งอาเซียน”
พร้อมแบ่งกลุ่มๆ ละ 10 คน รวม 5 กลุ่ม (15 นาที)
ขั้นดำเนินกิจกรรม (60 นาที)
1. ให้นักเรียนศึกษาวัฒนธรรมจากสื่อภาพและเสียงโดยใข้หลักทางสุนทรียศาสตร์ : การเสพย์งาน
ศิลปะผ่านผัสสะย่อยด้วยตาและอรรถรสด้วยเสียง (ตาดูหูฟัง-สังเกตและจดจำ)
2. อธิบายองค์ความรู้ภายใต้หัวข้อเรื่อง “อัตลักษณ์ความงดงามทางวัฒนธรรมด้านการแต่งกาย
และดนตรีพื้นบ้าน” ประเทศสมาชิกอาเซียน ประกอบด้วย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ บรูไน อินโดนีเซีย
มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า และประเทศไทย (30 นาที) โดยจะเริ่มบรรยายทีละประเทศ
ดังนี้
2.1 เปิดเพลงดนตรี Asian ประเทศที่ 1 -10
2.2 แนะนำลักษณะการแต่งกาย
2.3 ครูอธิบายถึงคุณภาพเสียง สีสันของเสียง อารมณ์เพลง ลักษณะเด่นทางดนตรี
3. ดำเนินกิจกรรมทดสอบองค์ความรู้ โดยกำหนดให้ทั้ง 5 กลุ่มแข่งขันร่วมกันวิเคราะห์และประมวลผล
จากโจทย์ (30 นาที) โดยมีขั้นตอน ดังนี้
3.1 ครูแจกอุปกรณ์และภาพการแต่งกายของประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ พร้อมอธิบาย
กิจกรรม“กำหนดให้แต่ละกลุ่มฟังดนตรีพื้นบ้านและสังเกตเครื่องแต่งกายของประเทศสมาชิก
อาเซียน เมื่อดนตรีของประเทศใดดังขึ้นให้คิดวิเคราะห์และประมวลผล โดยนำภาพเครื่องแต่งกาย
ติดลงบนกระดาษแข็งประจำกลุ่ม พร้อมระบุชื่อประเทศ 10 ประเทศ เรียงลำดับเพลง 1 - 10”
(อธิบาย 10 นาที)
3.2 เริ่มกิจกรรม (เปิดเพลงดนตรีพื้นบ้านประเทศละไม่เกิน 2 นาที รวม 20 นาที)
ขั้นสรุป (15 นาที)
1. สรุปผลการดำเนินฐานกิจกรรมของนักเรียน กลุ่มที่ประมวลผลได้สมบูรณ์และเร็วที่สุดจะได้
คะแนนสูงสุด พร้อมเฉลยคำตอบทั้ง 10 ข้อ ( สรุป 15 นาที)
8. การประเมินผล
การประเมินทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะจากผลการปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
- นักเรียนกลุ่มที่ติดภาพการแต่งกายที่บอร์ดชื่อประเทศ ได้ถูกต้องที่สุด ได้ 10 คะแนน
- นักเรียนกลุ่มที่ติดภาพการแต่งกายที่บอร์ดชื่อประเทศ ได้ถูกต้องเป็นอันดับที่ 2 ได้ 9 คะแนน
- นักเรียนกลุ่มที่ติดภาพการแต่งกายที่บอร์ดชื่อประเทศ ได้ถูกต้องเป็นอันดับที่ 3 ได้ 8 คะแนน
- นักเรียนกลุ่มที่ติดภาพการแต่งกายที่บอร์ดชื่อประเทศ ได้ถูกต้องเป็นอันดับที่ 4 ได้ 7 คะแนน
คะแนนการประเมินจะลดลงทีละ 1 คะแนนไปเรื่อย ๆ จนถึงลำดับสุดท้าย
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
9. เนื้อหาทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง
1. ชุดแต่งกายประจำชาติประเทศสมาชิกอาเซียน
2. ดนตรีพื้นบ้านประเทศสมาชิกอาเซียน
3. วัฒนธรรมดนตรีและนาฏศิลป์ในกลุ่มอาเซียน
4. สุนทรียศาสตร์
10. สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรม
10.1 องค์ความรู้ : วัฒนธรรมการแต่งกายประจำชาติ ลักษณะท่วงทำนองเพลงของดนตรีพื้นบ้าน
ประจำชาติ ความแตกต่างทางวัฒนธรรมดนตรีและนาฏศิลป์ของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
ความสุนทรีย์เชิงวัฒนธรรมดนตรีและนาฏศิลป์ของประเทศสมาชิกอาเซียน
10.2 กระบวนการทางความคิด : การคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประมวลผล และการบริหารจัดการ
การทำงานกลุ่ม การสังเกต จดจำและโสตทัศนะการฟังที่ดี
10.3 การนำไปประยุกต์ใช้ : การนำความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการแต่งกายประจำชาติ ลักษณะวงดนตรี
พื้นบ้านประจำชาติ ความแตกต่างทางวัฒนธรรมดนตรีและนาฏศิลป์ของแต่ละประเทศสมาชิก
อาเซียน ไปประยุกต์ใช้ได้ และมีความตระหนักในคุณค่าวัฒนธรรมไทย
11. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ที่ใช้ในการประกอบกิจกรรม (ใบความรู้ / ใบกิจกรรม / แบบทดสอบ / ใบเฉลย)
1. ใบความรู้
2. ใบกิจกรรมและใบเฉลยกิจกรรม
3. ใบประเมินผล
12. เอกสารอ้างอิง
ฝ่ายวิชาการเอ็กซเปอร์เน็ท. (2555). อาเซียน 360 . กรุงเทพฯ: บริษัท แอคทีฟ พริ้นท์ จำกัด.
O
ศิลปวัฒนธรรมในอาเซียน. (2557). สืบค้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 จาก http://www.ceted.org/
tutorceted/art.html
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ใบความรู้กิจกรรมสุนทรียะแห่งอาเซียน
องค์ความรู้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องในเชิงดนตรีและนาฏศิลป์ โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนทราบถึงวัฒนธรรม
การแต่งกาย และลักษณะทางด้านดนตรีประจำชาติของกลุ่มประชาคมอาเซียน บริบทดังกล่าวเป็นเครื่องบ่งบอกถึง
ลักษณะอันโดดเด่นทางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ อิทธิพลด้านชาติพันธุ์ของประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน
ที่ส่งผลต่อความงดงามทางวัฒนธรรมจนตกผลึกมาซึ่งคุณค่าความงามทางศิลปวัฒนธรรมอย่างน่าสนใจ ผู้เรียน
จะสามารถทราบได้ถึงความคล้าย ความแตกต่างและลักษณะเฉพาะที่งดงามในเชิงศิลปวัฒนธรรมผ่านการศึกษา
ทางด้านวัฒนธรรมดนตรีและลักษณะการแต่งกาย ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
1. การแต่งกายของประเทศสมาชิกอาเซียน
ประเทศบรูไน
สำหรับชุดของผู้ชาย เรียกว่า บาจู มลายู (Baju Melayu)
ส่วนของชุดผู้หญิงเรียกว่า บาจูกุรัง (Baja Kurung) คล้ายกับชุดประจำชาติ
ของประเทศมาเลเซีย ผู้หญิงบรูไนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส
โดยมากมักจะเป็นเสื้อผ้าที่คลุมร่างกายตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ส่วนผู้ชายจะ
แต่งกายด้วยเสื้อแขนยาว ตัวเสื้อยาวถึงหัวเข่า นุ่งกางเกงขายาวแล้วนุ่งโสร่ง
ประเทศกัมพูชา
ซัมปอต (Sampot) เป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติของประเทศ
กัมพูชา สำหรับชุดผู้หญิง ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับผ้านุ่งของประเทศลาว
และไทย มีหลายหลายรูปแบบ สำหรับผู้ชายนั้นมักสวมใส่เสื้อที่ทำจาก
ผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายทั้งแขนสั้นและแขนยาว พร้อมทั้งสวมกางเกงขายาว
ประเทศอินโดนีเซีย
เคบาย่า (Kebaya) เป็นชุดประจำชาติของประเทศอินโดนีเซีย
สำหรับผู้หญิง มีลักษณะเป็นเสื้อแขนยาวผ่าหน้า กลัดกระดุม ตัวเสื้อจะมี
สีสันสดใส ปักฉลุเป็นลายลูกไม้ ส่วนผ้าถุงที่ใช้จะเป็นผ้าถุงแบบบาติก
สำหรับการแต่งกายของผู้ชายมักจะสวมใส่เสื้อแบบบาติกและนุ่งกางเกง
ขายาว และนุ่งโสร่งเมื่ออยู่บ้านหรือประกอบพิธีละหมาดที่มัสยิด
ประเทศลาว
ผู้หญิงลาวจะนุ่งผ้าซิ่น และเสื้อแขนยาวทรงกระบอก สำหรับ
ผู้ชายมักแต่งกายแบบสากลหรือนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อชั้นนอกกระดุม
เจ็ดเม็ดคล้ายเสื้อพระราชทานของไทย
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ประเทศมาเลเซีย
สำหรับชุดของผู้ชาย เรียกว่า บาจู มลายู (Beju Melayu)
ประกอบด้วยเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวที่ทำจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย
หรือโพลีเอสเตอร์ที่มีส่วนผสมของผ้าฝ้าย สำหรับชุดของผู้หญิง เรียกว่า
บาจูกุรุง (Baja Kurung) ประกอบด้วยเสื้อคลุมแขนยาวและกระโปรง
ยาว
ประเทศฟิลิปปินส์
ผู้ชายจะนุ่งกางเกงขายาวและสวมเสื้อที่เรียกว่า บารอง
ตากาล็อก ซึ่งตัดเย็บด้วยผ้าใยสัปปะรด มีบ่า คอตั้ง แขนยาว ที่ปลายแขน
เสื้อที่ข้อมือจะปักลวดลาย ส่วนผู้หญิงนุ่งกระโปรงยาว ใส่เสื้อแขนสั้น
จับจีบยกตั้งขึ้นเหนือไหล่คล้ายปีกผีเสื้อ เรียกว่า บาลินตาวัก
ประเทศสิงคโปร์
สิงคโปร์ ไม่มีชุดประจำชาติเป็นของตนเองเนื่องจากประเทศ
สิงคโปร์แบ่งออกเป็น 4 เชื้อชาติหลัก ได้แก่ จีน มาเลย์ อินเดีย
และชาวยุโรป ซึ่งแต่ละเชื้อชาติก็มีชุดประจำชาติเป็นของตนเอง เช่น
ผู้หญิงมลายูในสิงคโปร์ จะใส่ชุดเกบาย่า (Kebaya) ตัวเสื้อจะมีสีสัน
สดใส ปักฉลุเป็นลายลูกไม้ หากเป็นชาวจีน ก็จะสวมเสื้อแขนขาว คอจีน
เสื้อผ้าซ่อนกระดุม สวมกางเกงขายาว โดยเสื้อจะใช้ผ้าสีเรียบหรือ
ผ้าแพรจีนก็ได้
ประเทศไทย
สำหรับชุดผู้หญิงคือ ชุดไทยจักรี เป็นชุดไทยที่ประกอบด้วย
สไบเฉียง ใช้ผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัวซิ่นมีจีบยกข้างหน้ามีชายพก
ใช้เข็มขัดไทยคาด ส่วนท่อนบนเป็นสไบ จะเย็บให้ติดกับซิ่นเป็นท่อน
เดียวกันหรือ จะมีผ้าสไบห่มต่างหาก็ได้ เปิดบ่าข้างหนึ่ง ชายสไบคลุมไหล่
ทิ้งชายด้านหลังยาวตามที่เห็นสมควรความสวยงามอยู่ที่เนื้อผ้าการเย็บ
และรูปทรงของผู้ที่สวยใช้เครื่องประดับได้งดงาม สมโอกาสในเวลาค่ำคืน
สำหรับชุดผู้ชายคือ ใส่เสื้อพระราชทาน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ประเทศเวียดนาม
อ่าวหญ่าย เป็นชุดประจำชาติของประเทศเวียดนามที่
ประกอบไปด้วยชุดผ้าไหมที่พอดีตัวสวมทับกางเกงขาวยาวซึ่งเป็นชุดที่
มักสวม ใส่ในงานแต่งงานและพิธีการสำคัญของประเทศมีลักษณะคล้าย
ชุดกี่เพ้าของจีนในปัจจุบันเป็นชุดที่ได้รับความนิยมจากผู้หญิงเวียดนาม
ส่วนผู้ชายเวียดนามจะสวมใส่ชุดอ่าหญ่ายในพิธีแต่งานหรือพิธีศพ
ประเทศพม่า
ลองยี เป็นชุดแต่งกายประจำชาติของประเทศพม่า โดยมี
การออกแบบในรูปทรงกระบอก มีความยาวจากเอวจรดปลายเท้า
การสวมใส่ใช้วิธีการขมวดผ้าเข้าด้วยกันโดยไม่มัดหรือพับขึ้นมาถึงหัวเข่า
เพื่อความสะดวกในการสวมใส่
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0
2. ดนตรีประเทศสมาชิกอาเซียน
ประเทศบรูไน
บรูไน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมาเลเซียและอินโดนีเซียมาก มีวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา และการ
แต่งกายที่คล้ายคลึงกัน รวมทั้งยังมีวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาอิสลามด้วย เช่น สตรีชาวบรูไนจะแต่งตัว
มิดชิด และจะไม่ยื่นมือให้ผู้ชายจับมือทักทาย เป็นต้น
วงดนตรีบรูไนมีลักษณะร่วมสมัย ชื่อวง “Gengdang Parang” ลักษณะทางดนตรีคล้ายวงดนตรีอย่าง
มาเลเซีย สืบเนื่องจากอิทธิทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม
Gambus เป็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้ายกีตาร์มีสายทั้งหมด 12 เส้น
ดีดด้วยปิ๊กเป็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้ายกีตาร์ มีสายทั้งหมด 12 เส้น
ดีดด้วยปิ๊ก ไม่เหมือนกับเครื่องดนตรีตะวันตก เช่น แมนโดลิน ตรงที่ Gambus นั้น
ไม่มีลายสัก การปรับเสียงและรูปแบบการเล่นของ Gambus นั้นมีส่วนคล้ายคลึงกับ
เครื่องดนตรีของชาวอาหรับ
Gandang เป็นคำทั่วไปที่ใช้แสดงความหมายถึงกลองทุกชนิด ตัวกลอง
มีขนาดยาว ผิวหน้าของกลองมีสองด้าน ซึ่งมีขนาดต่างกัน ทำมาจากหนังแกะหรือ
หนังวัว หนังกลองแนบชิดไปกับตัวกลองด้วยเส้นหวาย
ประเทศกัมพูชา
ประเทศกัมพูชาเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมประเพณีจึงมีความเกี่ยวข้องกับ
ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และวิถีชีวิตของคนในประเทศ
วงดนตรีกัมพูชามีลักษณะคล้ายวงปี่พาทย์อย่างไทยทั้งด้านการขับร้อง เครื่องดนตรีและท่วงทำนอง
การบรรเลง เสียงที่เกิดขึ้นมีลักษณะ 7 เสียงเท่ากัน มีลักษณะอย่างวงฆ้องกลอง ได้แก่ วงพิณพีท วงมโหรี
วงเพลงเขมร วงกลองชนัก วงเพลงนองสคอร์
Sampho มีสองหัวและเล่นโดยการใช้ทั้งสองมือผู้เล่นเป็นผู้นำกลุ่มเครื่องเป่า
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ซอกัมพูชา เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองประเภทเครื่องสายของกัมพูชา ตัวซอทำมาจากกะลามะพร้าวชนิด
พิเศษ ปลายข้างหนึ่งจะถูกปิดด้วยหนังสัตว์ มีลักษณะคล้ายคลึงกับ ซอด้วงและซออู้ของไทย
ประเทศอินโดนีเซีย
มีชนพื้นเมืองหลายชาติพันธุ์กระจายกันอยู่ตามเกาะ ทำให้วัฒนธรรมประเพณีในแต่ละท้องที่แตกต่าง
กันไป มีประชากรเชื้อสายชวาอยู่มากที่สุด ชวาถือเป็นส่วนที่เด่นสุดด้านวัฒนธรรมและการเมือง
วายัง กูลิต (Wayang Kulit) เป็นการแสดงเชิดหุ่นเงาที่เป็นเอกลักษณ์ของอินโดนีเซีย และถือเป็น
ศิลปะการแสดงที่งดงามและวิจิตรกว่าการแสดงชนิดอื่น เพราะรวมศิลปะหลายด้านไว้ด้วยกัน โดยฉบับดั้งเดิม
ใช้หุ่นเชิดที่ทำด้วยหนังสัตว์ นิยมใช้วงดนตรีพื้นบ้านบรรเลงขณะแสดง
วงดนตรีที่นิยม ได้แก่ วงอังกะลุงและวงฆ้องกลอง มีชื่อว่า “Gamelan” กาเมลอน ลักษณะของวงดนตรี
คล้ายกับวงดนตรีอย่างประเทศฟิลิปปินส์และพม่า อันเนื่องมาจากอิทธิพลทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมดนตรี
Gamelan
เป็นกลุ่มเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดรวมกัน
Angklung Gambang
ทำมาจากท่อไม้ไผ่ 2 ชิ้นแนบกับโครงไม้ไผ่ท่อมีลักษณะเป็นวงโค้ง คล้ายระนาด
เวลาเขย่าจึงจะเกิดเสียงกังวาน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ประเทศลาว
วัฒนธรรมของลาวจะมีความคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมทางภาคอีสานของไทยมาก ในด้านดนตรี แคน
ถือเป็นเครื่องดนตรีประจำชาติ โดยมีวงดนตรีคือ วงหมอลำ และมี รำวงบัดสลบ ซึ่งเป็นการเต้นที่มีท่าตาม
จังหวะเพลง โดยจะเต้นพร้อมกันไปอย่างเป็นระเบียบ ถือเป็นการร่วมสนุกกันของชาวลาวในงานมงคลต่างๆ
ลักษณะทางดนตรีมีความใกล้เคียงกันกับดนตรีพื้นบ้านอีสานชองประเทศไทย อันเนื่องมากจากอิทธิทางชาติพันธุ์
ภูมิประเทศและวัฒนธรรมดนตรี
Khene
เป็นเครื่องเป่ามีลิ้นโลหะเสียงเกิดจากลมผ่านลิ้นโลหะไปตามลำไม้
ที่เป็นลูกแคน
ประเทศมาเลเซีย
ด้วยเหตุที่มีหลายชนชาติอยู่รวมกัน ทำให้ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลาย
ผสมผสานกัน ทั้งทางตะวันตก ซาบาห์ (บอร์เนียวเหนือ)และซาราวัค (ชวา บาหลี) ซึ่งมีทั้งการผสานศิลปวัฒนธรรม
จากชนชาติอื่น และการรักษาวัฒนธรรมประเพณีของชนแต่ละกลุ่มในแต่ละพื้นที่
วงดนตรีมาเลเซียเป็นการผสมผสานกันระหว่างเครื่องสี เครื่องเป่า เครื่องหนัง (กลอง) ด้วยอิทธิพลด้าน
ศาสนาและวัฒนธรรมส่งผลให้มีลักษระทางดนตรีที่คล้ายกันกับประเทศบรูไน
Serunai
เป็นเครื่องเป่าดั้งเดิมของชาวมาเลย์
Rebab
เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองของชาวมาเลย์ ประเภทเครื่องดีด ส่วนโค้งของตัวเครื่องที่ยื่นออกไปเป็น
ไม้เนื้อแข็งรูปสามเหลี่ยม มักจะทำจากไม้ขนุน ด้านหน้าตัวเครื่องปิดด้วยแผ่นกระเพาะด้านในของวัว ใช้ก้อนขี้ผึ้งเล็ก ๆ
ยึดกับส่วนตัวเครื่องด้านบนทางซ้ายมือเพื่อขึงหนังให้ตึง
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ประเทศพม่า
เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีน อินเดีย และไทยมานาน จึงมีการผสานวัฒนธรรมเหล่านี้เข้ากับวัฒนธรรม
ของตนจนเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนา จึงเกิดประเพณีสำคัญ ประเพณีปอยส่างลอง
(Poy Sang Long) หรืองานบวชลูกแก้ว เป็นงานบวชเณรที่สืบทอดกันมานาน และชาวเมียนมาร์ให้ความสำคัญมาก
เพราะถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ของครอบครัว
วงดนตรีมีลักษณะวงฆ้องกลอง “Hsaing-Waing หรือ วงแซงแวง” เครื่องดนตรีที่โดดเด่นในวงได้แก่
เปิงมางคอก ดำเนินทำนองด้วยปี่ เครื่องดนตรีที่มีลักษณะโดดเด่นอีกชิ้น คือ พิณพม่า
วงแซงแวง saing waing
วงแซงแวง saing waing
Saung มีจุดเด่นตรงเป็นพิณโบราณ พิณพม่า เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมือง ประเภทเครื่องสายใช้ดีด
มีลักษณะคล้ายลำเรือคือตัวพิณทำด้วยไม้ขุดเป็นร่องให้มีลักษณะกลวงด้านบนใช้หนังสัตว์บาง ๆ ขึงหุ้ม ปิดไว้จนตึง
ตรงกลางด้านบนตามแนวยาวทำเป็นสันไม้เจาะรูไว้สำหรับร้อยเชือกจำนวน 16 รู
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ประเทศฟิลิปปินส์
วัฒนธรรมของฟิลิปปินส์เป็นวัฒนธรรมผสมผสานกันระหว่างตะวันตกและตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่
จะได้รับอิทธิพลจากสเปน จีน และอเมริกัน
วงดนตรีฟิลิปปินส์มีลักษณะของวงฆ้องกลอง ชื่อ Kukintang ลักษณะท่วงทำนองคล้ายกับดนตรี
อินโดนีเซียและพม่า เครื่องดนตรีที่นิยมใช้ในวง ได้แก่ ฆ้องแบน ขลุ่ย จ๊องหน่อง กลอง เป็นต้น นิยมใช้เล่นในงาน
เทศกาลเช่นงานแต่งงานและพิธีกรรมทางศาสนา
Kulintangan
เครื่องดนตรี Kulintang พบได้โดยทั่วไปในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ Kulintang เป็นชื่อของวงมโหรี และเป็นชื่อของ
เครื่องดนตรีนำอีกด้วย เป็นเครื่องดนตรีส่งสัญญาณในสมัยดั่งเดิม
ของชนพื้นเมือง ประกอบด้วยฆ้องประมาณ 8 ลูก จะวางอยู่บนฐาน
ประดับลวดลาย ฆ้องแต่ละลูกจะให้เสียงแตกต่างกัน มักจะเล่นโดย
ผู้เล่นคนเดียวพร้อมกับไม้ขนาดเล็ก 2 อัน
Debakan ประเภทกลอง
Chimes มีเสียงก้องเมื่อเคาะ
Gandingan
มีหน้าที่เป็นเครื่องดนตรีชิ้นที่ 2 เล่นหลังจากเครื่องดนตรี
ทำนองหลักเมื่อเล่นเดี่ยวจะเป็นสัญญาณสื่อสารโดยส่งข้อความหรือ
คำเตือนในระยะไกล
Kudyapi Gangsa
เป็นพิณรูปคล้ายเรือ เป็นเครื่องดนตรีประกอบ
การเต้นแบบพื้นเมืองและใช้ในการขอพร
จากพระเจ้าเพื่อให้โชคดี
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ประเทศสิงคโปร์
สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติหลากหลายศาสนา ทำให้ประเทศนี้มีศิลป
วัฒนธรรมที่หลากหลาย สำหรับเทศกาลที่สำคัญของสิงคโปร์ก็จะกลายเป็นเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทาง
ศาสนา เทศกาลตรุษจีน เทศกาลปีใหม่ของชาวจีนที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้น
ดนตรีสิงคโปร์ มีลักษณะวงดนตรีค่อนข้างร่วมสมัยแต่ก็ยังคงวัฒนธรรมเดิมไว้เช่นเดียวกัน เนื่องได้รับ
อิทธิพลจากหลายชาติพันธุ์ ทั้งประเทศตะวันตก จีนและอินเดีย วงดนตรีจะมีลักษณะคล้ายวงดนตรีอย่างประเทศ
เวียดนาม เครื่องดนตรีที่นิยมบรรเลงทำนองเป็นหลักได้แก่ ขลุ่ย Dizi มีใช้ซออย่างจีนบ้าง
Dizi
เป็นขลุ่ยจีนดั่งเดิมมีปุ่ม 3 ปุ่ม อาจจะมีแผ่นบาง ๆ เพื่อปิดรูไว้เพื่อทำให้
เกิดเสียงรัว เชื่อกันว่า Dizi นำมาจากทิเบตในช่วงยุคราชวงศ์ฮั่นและตั่งแต่นั้นมา
ก็มีการใช้ในประเทศจีนมาเป็นเวลากว่า 2 พันปีแล้ว ผู้เล่นจะมีเทคนิคในการเป่า
มากมาย ซึ่งก็จะทำให้เกิดเสียงที่แตกต่างกันไป
Erhu เป็นซอของจีน 2 สายที่เล่นบนตัก Konghou คล้ายพิณ
ประเทศไทย
การไหว้ เป็นประเพณีการทักทายที่ถือเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของไทย
โดยเป็นการแสดงถึงความมีสัมมาคารวะและให้เกียรติกันและกัน นอกจากการทักทาย
การไหว้ยังมีความหมายเพื่อการขอบคุณ ขอโทษ หรือกล่าวลาด้วย
โขน เป็นนาฏศิลป์เก่าแก่ของไทย มีลักษณะสำคัญที่ผู้แสดงต้องสวมหัวโขนทั้ง
หมด ยกเว้น ตัวนางพระ และเทวดา ซึ่งแสดงโดยใช้ท่ารำและท่าทางประกอบทำนองเพลง
ดำเนินเรื่องด้วยบทพากย์และบทเจรจา ส่วนเรื่องที่นิยมแสดง คือ รามเกียรติ์
สงกรานต์ ประเพณีเก่าแก่ ซึ่งถือเป็น
การเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของไทยที่ยึดถือ
ปฏิบัติกัน โดยจะมีการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่
สรงน้ำพระ ทำบุญตักบาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา
ขนทรายเข้าวัด และก่อเจดีย์ทราย รวมทั้ง
มีการเล่นสาดน้ำเพื่อความสนุกสนานด้วย
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
วงดนตรีไทยได้แก่วงปี่พาทย์ เครื่องสายและวงมโหรี มีลักษณะทางด้านดนตรีคล้ายวงดนตรีปี่พาทย์
อย่างเขมร อีกทั้งวงดนตรีพื้นบ้านอีสานของไทยยังมีลักษณะคล้ายกับวงดนตรีลาว ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากอิทธิพลทาง
ชาติพันธุ์และทางวัฒนธรรม
ซอสามสาย เป็นเครื่องดนตรีที่มีความสง่างามผู้เล่นจะอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของวง
ฆ้องวง ทำจากโลหะ ระนาดเอก
ระนาดทุ้ม กลองยาว
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ประเทศเวียดนาม
ศิลปวัฒนธรรมส่วนใหญ่ของเวียดนามจะได้รับอิทธิพลจากจีนและฝรั่งเศส ลักษณะทางด้านดนตรี
จึงคล้ายกับประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย นิยมบรรเลงเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีดหรือซึงอย่างจีนมีลักษณะ
คอยาว
Dan nguyet
ใช้ทั้งในดนตรีพื้นเมืองและดนตรีคลาสสิค
Dan Trung
ใช้เล่นเดี่ยว เล่นคู่ หรือบรรเลงเป็นวงได้
Dan Bau
เป็นเครื่องดนตรีเวียดนามโบราณ สายจะพาดอยู่บน
ตัวเครื่องที่มี ลักษณะยาว ปลายเส้นข้างหนึ่งจะถูกตะปูตรึง
เครื่องดนตรีนี้ต้องใช้วิธีเล่นเป็นพิเศษเพื่อที่จะทำให้เกิดเสียง
กลมกลืนผู้เล่นจะใช้หลังมือดีดที่สายตามความยาวของสาย และ
อีกมือหนึ่งก็จะดึงสายโดยใช้แท่งไม้ในเวลาเดียวกัน ปัจจุบัน Dan
Bauจะเล่นกับลำโพงหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อชนิดอื่น ๆ จึงทำให้เสียง
ของมันอ่อนลงไปเมื่อเล่นกับวงดนตรี
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ภาพประกอบการจัดกิจกรรม
ครูให้ข้อมูลเกี่ยวกับดนตรีพื้นบ้าน นักเรียนฟังดนตรีพื้นบ้านของประเทศสมาชิกอาเซียน
ของประเทศ
นักเรียนฟังดนตรีพื้นบ้านแล้วนำรูปภาพเครื่องแต่งกาย ผลงานนักเรียนจากการฟังดนตรี
ประจำชาติไปจับคู่กับดนตรีที่ฟัง
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ผังมโนทัศน์การเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ที่สุดอาเซียน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
หน่วยที่ 2 ที่สุดในอาเซียน
แผนการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ : วิ่งเปรี้ยวคณิตศาสตร์
1. ชื่อกิจกรรม : วิ่งเปรี้ยวคณิตศาสตร์
2. ความเป็นมา
วิ่งเปี้ยวเป็นการละเล่นไทยเดิม ซึ่งมีทั้งความสนุกสนาน และ ช่วยพัฒนาความแข็งแรงและว่องไว
ของร่างกาย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ทำให้สุขภาพแข็งแรง นับเป็นการเล่นที่ดี
อย่างหนึ่ง และนับเป็นกีฬาที่เล่นได้ง่าย เพราะอุปกรณ์มีน้อย หาได้ง่าย คือ ผ้าหรือไม้ 2 ผืน/ชิ้น หลัก 2 หลัก คือ
ที่จุดหน้าสุดของทั้งสองฝ่ายและหลักที่เอาไว้วิ่งอ้อม โดยมีกติกาการเล่นคือแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่ายหรือมากกว่า
ฝ่ายละอย่างน้อย 4 คน จุดเริ่มต้นของทั้งสองฝ่ายจะมองเห็นได้ชัดเจน แต่ละฝ่ายถือผ้าหรือไม้ เมื่อกรรมการให้
สัญญาณเริ่มการแข่งขัน ให้แต่ละฝ่ายวิ่งไปทางด้านขวาของตนเอง พยายามวิ่งอ้อมหลักทั้ง 2 หลักไล่ฝ่ายตรงข้าม
ให้เร็วที่สุด เมื่อวิ่งครบรอบหนึ่งคน ให้ส่งผ้าหรือไม้ให้คนต่อไป คนที่เพิ่งวิ่งเสร็จไปต่อหลังแถว และเวียนรอบไปเรื่อย ๆ
เมื่อถึงระยะให้ใช้ผ้าหรือไม้ตีที่หลังคนหน้า หากทำได้สำเร็จ ก็เป็นฝ่ายชนะไป ดังนั้นฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสาธิต
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงทำการดัดแปลงเป็นกิจกรรมวิ่งเปรี้ยวคณิตศาสตร์ โดยรูปแบบของกิจกรรม คือ
แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละ 10 – 12 คน ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนในเล่นกิจกรรมนี้รอบละ 1 คนเท่านั้น
โดยผู้เล่นจะต้องอุ้มลูกโป่งที่บรรจุน้ำไว้ข้างในและวิ่งไปดูโจทย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและเซ็นชื่อท้ายโจทย์ข้อที่เลือกทำ
แล้ววิ่งกลับมาเขียนคำตอบที่จุดเริ่มต้น จากนั้นผู้เล่นคนต่อไปจึงจะสามารถวิ่งออกไปดูโจทย์ได้ ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
จนครบทุกคน กลุ่มใดใช้เวลาน้อยที่สุดและทำโจทย์ถูกมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ โดยคำถามเป็นลักษณะโจทย์ทาง
คณิตศาสตร์เรื่องนำเสนอข้อมูล ซึ่งถามเกี่ยวกับรายได้เฉลี่ยรายหัว มูลค่าการนำเข้าและส่งออกของแต่ละประเทศ
สมาชิกอาเซียน จากกิจกรรมดังกล่าวจะทำให้นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับรายได้เฉลี่ยรายหัว มูลค่าการนำเข้า
และส่งออกของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
3. จุดมุ่งหมาย
3.1 ด้านความรู้ นักเรียนสามารถ
1. เปรียบเทียบรายได้เฉลี่ยรายหัว ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของแต่ละประเทศสมาชิก
อาเซียนได้
2. คิดคำนวณและแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้
3.2 ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนมี
1. ทักษะการคิดคำนวณ
2. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.3 ด้านคุณลักษณะ นักเรียนมี
1. ความใฝ่เรียนรู้
2. การทำงานเป็นทีม
4. เวลาที่ใช้
90 นาที
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
5. วัสดุอุปกรณ์
1. ป้ายนิเทศแสดงสาระความรู้เกี่ยวกับรายได้เฉลี่ยรายหัว ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของ
แต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
2. แผ่นคำถาม
3. กระดาษเทาขาว
4. ปากกา
5. ลูกโปร่งใส่น้ำ
6. เครื่องคิดเลข
6. ขนาดของกลุ่ม
กลุ่มละ 10 – 12 คน
7. วิธีดำเนินกิจกรรม
ขั้นนำ (5 นาที)
1. ให้นักเรียนนั่งตามกลุ่ม ครูอธิบายจุดมุ่งหมายและวิธีการปฏิบัติกิจกรรม
ขั้นดำเนินกิจกรรม (70 นาที)
2. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับรายได้เฉลี่ยรายหัว ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของแต่ละ
ประเทศสมาชิกอาเซียนจากแผ่นป้ายนิเทศที่แสดง
3. ครูและนักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับรายได้เฉลี่ยรายหัว ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของแต่ละ
ประเทศสมาชิกอาเซียน
4. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับการประมาณค่า
5. ครูไปติดแผ่นคำถามซึ่งโจทย์เกี่ยวกับการประมาณค่า ซึ่งเท่ากับจำนวนนักเรียนในแต่ละกลุ่ม
โดยให้แผ่นคำถาม อยู่ห่างจากแถวของนักเรียนประมาณ 30 เมตร
6. นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งแถวเพื่อเตรียมตัวทำกิจกรรม หลังจากนั้นส่งตัวแทนขึ้นมา 1 คน เพื่อรับ
กระดาษคำตอบ
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษาและวางแผนการเล่น
8. นักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถส่งตัวแทนในเล่นกิจกรรมนี้รอบละ 1 คนเท่านั้น โดยผู้เล่นจะต้องอุ้ม
ลูกโป่งที่บรรจุน้ำไว้ข้างในและวิ่งไปดูโจทย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและเซ็นชื่อท้ายโจทย์ข้อที่เลือกทำ
แล้ววิ่งกลับมาเขียนคำตอบที่จุดเริ่มต้น จากนั้นผู้เล่นคนต่อไปจึงจะสามารถวิ่งออกไปดูโจทย์ได้
โดยให้ใช้เวลาในการทำกิจกรรมนี้ทั้งหมดไม่เกิน 50 นาที และเพื่อความปลอดภัยระหว่างการวิ่ง
ไม่อนุญาตให้นักเรียนนำปากกาหรือดินสอติดตัวไปโดยเด็ดขาด ถ้าผู้เล่นคนใดทำลูกโปร่งแตก
ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่
9. อาจารย์ตรวจกระดาษคำตอบโดยจะได้คะแนนข้อละ 1 คะแนน กลุ่มใดได้คะแนนมากที่สุดจะชนะเลิศ
10. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงความคิดเห็นและประโยชน์ที่ได้จากการทำกิจกรรมนี้
ขั้นสรุป (15 นาที)
1. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับรายได้เฉลี่ยรายหัว ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
ของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน และการประมาณค่า พร้อมทำกิจกรรมท้ายคาบเพื่อรับบัตรคำ
ซึ่งจะนำไปออกแบบชิ้นงานในวันประชุมสรุปกิจกรรมฐานที่ห้องประชุมอาคารสาธิตปทุมวัน 4
2. สรุปคะแนน และสิ่งที่ได้จากการร่วมกิจกรรม
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
8. การประเมินผล
การประเมินทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะจากผลการปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
- นักเรียนกลุ่มที่ตอบคำถามได้มากที่สุด ได้ 10 คะแนน
- นักเรียนกลุ่มที่ตอบคำถามได้มากเป็นอันดับที่ 2 ได้ 9 คะแนน
- นักเรียนกลุ่มที่ตอบคำถามได้มากเป็นอันดับที่ 3 ได้ 8 คะแนน
- นักเรียนกลุ่มที่ตอบคำถามได้มากเป็นอันดับที่ 4 ได้ 7 คะแนน
คะแนนการประเมินจะลดลงทีละ 1 คะแนนไปเรื่อย ๆ จนถึงลำดับสุดท้าย
9. เนื้อหาทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง
1. รายได้เฉลี่ยรายหัวของแต่ละประเทศอาเซียน
2. ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของแต่ละประเทศอาเซียน
3. การประมาณค่า
10. สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรม
10.1 องค์ความรู้ : ความรู้เกี่ยวกับการประมาณค่า รายได้เฉลี่ยรายหัว ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน
ประเทศของแต่ละประเทศอาเซียน
10.2 กระบวนการทางความคิด : การคิดวิเคราะห์ คิดคำนวณ และคิดแก้ปัญหา
10.3 การนำไปประยุกต์ใช้ : นำความรู้เกี่ยวกับการประมาณค่า รายได้เฉลี่ยรายหัว และผลิตภัณฑ์
มวลรวมภายในประเทศของแต่ละประเทศอาเซียนไปใช้ในการคิดคำนวณและแก้โจทย์ปัญหาได้
11. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ที่ใช้ในการประกอบกิจกรรม (ใบความรู้ / ใบกิจกรรม / แบบทดสอบ / ใบเฉลย)
1. ใบความรู้
2. ใบกิจกรรม และใบเฉลยกิจกรรม
3. ใบประเมินผล
12. เอกสารอ้างอิง
ธานินทร์ ผะเอม. (2556). สร้างสังคมผู้ประกอบการไทย ก้าวอย่างมั่นใจสู่ประชาคมอาเซียน.
สืบค้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557 จาก http://www.nesdb.go.th/Portals/0/news/annual_meet/
56/G2/NESDBYearend13_G2001.pdf
o
ฝ่ายวิชาการเอ็กซเปอร์เน็ท. (2555). อาเซียน 360 . กรุงเทพฯ : บริษัท แอคทีฟ พริ้นท์ จำกัด.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). หนังสือสาระ
การเรียนรู้พื้นฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ASEAN WATCH 2013. (2556). สืบค้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557
จาก https://sites.google.com/ site/thaiarticle2u/world/asean-watch-2013
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ใบความรู้กิจกรรมวิ่งเปรี้ยว
1. รายได้เฉลี่ยรายหัว
กลุ่มประเทศอาเซียน 5 อันได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย มีมูลค่า GDP
รวมเท่ากับ 2,139.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตร้อยละ 5.875
Country GDP (US Billions)
Brunei Darussalam 16.451
Cambodia 15.67
Indonesia 946.39
Lao 10.262
Malaysia 327.911
Myanmar 57.439
Philippines 284.472
Singapore 286.925
Thailand 424.985
Vietnam 155.952
อัตราการเติบโตของ GDP ในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ หลายประเทศมีอัตราการเติบโต
ที่ใกล้เคียงกัน สรุปได้ดังนี้ Laos ร้อยละ 8.027 Cambodia ร้อยละ 6.676 Myanmar ร้อยละ 6.467 Indonesia
ร้อยละ 6.3 Philippines ร้อยละ 6.023 Thailand ร้อยละ 5.883 Vietnam ร้อยละ 5.238 Malaysia ร้อยละ
5.1 Singapore ร้อยละ 2.012 และ Brunei Darussalam ร้อยละ 1.187
GDP per capita (Current prices, US Dollars) ซึ่งเป็นรายได้ต่อหัวของประชากรเปรียบเทียบแต่ละ
ประเทศในอาเซียน ในปี 2013 เราอยู่ในอันดับที่ 4 มีรายได้ต่อหัวของประชากรน้อยกว่า Singapore ($ 52,178.87),
Brunei Darussalam ($ 40,647.42) และ Malaysia ($ 10,945.89) ประเทศไทยมี GDP per capita เท่ากับ
$ 6,571.91 ส่วนประเทศที่น้อยกว่าเราได้แก่ Indonesia ($ 3,816.80), Philippines ($ 2,918.13), Vietnam
($ 1,704.89), Laos ($ 1,587.15), Cambodia ($ 1,017.22) และ Myanmar ($ 884.33)
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
2. สัดส่วนโครงสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน ปี 2555
ที่มา : IMF World Economic Outlook Database, October 2012
• ประเทศสมาชิกอาเซียนโดยส่วนใหญ่มีสัดส่วนของภาคบริการต่อ GDP สูง ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ของประเทศ
• ประเทศที่พึ่งพิงอุตสาหกรรมโดยมีสัดส่วนของภาคอุตสาหกรรมสูงกว่าภาคการผลิตอื่น ๆ ได้แก่
เวียดนาม อินโดนีเซีย และบรูไน
• กลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม จะมีสัดส่วนของภาคเกษตรต่อ
GDP สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน
3. การประมาณค่า
ในทางคณิตศาสตร์ เรียก การหาค่าซึ่งไม่ใช่ค่าที่แท้จริง แต่มีความละเอียดเพียงพอกับการนำไปใช้ว่า
การประมาณ และเรียก การคำนวณ ที่ต้องการคำตอบอย่างรวดเร็ว ใกล้เคียง
การประมาณค่า
การประมาณค่าทำได้โดยประมาณจำนวนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วนำค่าที่ได้มาคำนวณหาผลลัพธ์
ซึ่งเราเรียก ค่าที่ได้จากการประมาณและการประมาณค่าว่า ค่าประมาณ
เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเขียน โดยทั่วไปจะใช้สัญลักษณ์ ≈ แทนคำว่า มีค่าประมาณ
เช่น 6.1 × 4.7 มีค่าประมาณ 30 เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ 6.1 × 4.7 ≈ 30
3.1 การปัดเศษ
การปัดเศษแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
3.1.1 การปัดเศษเมื่อเป็นจำนวนเต็ม
การปัดเศษจำนวนเต็มใด ๆ ให้เป็นจำนวนเต็มสิบ จำนวนเต็มร้อย จำนวนเต็มพัน จำนวนเต็มหมื่น
หรือจำนวนเต็มแสน ฯลฯ ที่ใกล้เคียงที่สุดทำได้โดยอาศัยหลักการที่ว่า ให้พิจารณาเลขโดด
ในหลักถัดไปทางขวามือดังนี้
1. ถ้าเลขโดดในหลักถัดไปทางขวามือมีค่าต่ำกว่า 5 คือ 0, 1, 2, 3, 4 แล้วให้ตัดทิ้ง เช่น
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ปัดเศษให้เป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด
จำนวน
จำนวนเต็มสิบ จำนวนเต็มร้อย จำนวนเต็มพัน จำนวนเต็มหมื่น
, 72,340 72,300 72,000 70,000
จากตารางพบว่า
2. ถ้าเลขโดดในหลักถัดไปทางขวามือมีค่าตั้งแต่ 5 ขึ้นไปคือ 5, 6, 7, 8, 9 แล้วใช้ปัดขึ้น เช่น
ปัดเศษให้เป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด
จำนวน
จำนวนเต็มสิบ จำนวนเต็มร้อย จำนวนเต็มพัน จำนวนเต็มหมื่น
, 45,770 45,800 46,000 50,000
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
จากตารางพบว่า
3.1.2 การปัดเศษเมื่อปริมาณเป็นทศนิยม
การปัดเศษทศนิยมใด ๆ ให้เป็นจำนวนเต็ม ทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ทศนิยมสองตำแหน่ง ทศนิยม
สามตำแหน่ง ฯลฯ ที่ใกล้เคียงที่สุดทำได้โดยอาศัยหลักการทำนองเดียวกับการปัดเศษ เมื่อ
ปริมาณเป็นจำนวนเต็ม โดยพิจารณาเลขโดดของทศนิยมตำแหน่งถัดไปทางขวามือ ดังนี้
1. ถ้าเลขโดดของทศนิยมตำแหน่งถัดไปทางขวามือ มีค่าต่ำกว่า 5 คือ 0, 1, 2, 3, 4 แล้วให้ตัดทิ้ง เช่น
ปัดเศษให้เป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด
จำนวน
จำนวนเต็ม ทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง ทศนิยมสองตำแหน่ง ทศนิยมสามตำแหน่ง
. 8 8.3 8.31 8.312
จากตารางพบว่า
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 0
2. ถ้าเลขโดดของทศนิยมตำแหน่งถัดไปทางขวามือมีค่าตั้งแต่ 5 ขึ้นไป คือ 5, 6, 7, 8, 9 แล้วให้ปัดขึ้น เช่น
ปัดเศษให้เป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด
จำนวน
จำนวนเต็มสิบ จำนวนเต็มร้อย จำนวนเต็มพัน จำนวนเต็มหมื่น
,
45,770 45,800 46,000 50,000
จากตารางพบว่า
หมายเหตุ :
1. เราไม่ใช้การปัดเศษกับตัวเลขที่ไม่ได้แสดงปริมาณ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ บ้านเลขที่ หรือ
เลขประจำตัวนักเรียนฯ
2. เราไม่ใช้การปัดเศษมากกว่าหนึ่งครั้งกับจำนวนเดียวกัน เช่น เราไม่ปัดเศษ 3.449 เป็น 3.45 ก่อน
แล้วปัดเศษ 3.45 อีกครั้งหนึ่ง ให้เป็น 3.5
3. ในการคำนวณ ถ้าต้องการคำตอบใกล้เคียงจำนวนที่เป็นทศนิยม n ตำแหน่ง (n เป็นจำนวนนับ)
ต้องคำนวณคำตอบจนถึงทศนิยมตำแหน่งที่ n+1 แล้วพิจาณาปัดเศษตามหลักเกณฑ์ข้างต้น
3.2 การประมาณค่าโดยใช้ค่าประมาณจากการปัดเศษการประมาณค่าโดยใช้ค่าประมาณ
จากการปัดเศษ สามารถนำไปใช้หาคำตอบที่ใกล้เคียงค่าที่แท้จริงได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งในการคำนวณจะต้องประมาณค่าจำนวนต่าง ๆ ก่อนที่จะคำนวณหาผลลัพธ์
การประมาณค่าปริมาณต่าง ๆ โดยวิธีการปัดเศษ สามารถนำไปใช้ในการประมาณ
ค่าผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหารของจำนวนต่าง ๆ ซึ่งเป็นจำนวนเต็ม เศษส่วน
หรือทศนิยมได้
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
เช่น จงประมาณค่าผลลัพธ์ของ 267 + 246 – 302
วิธีทำ ปัดเศษ 267 เป็น 300
ปัดเศษ 246 เป็น 200
ปัดเศษ 302 เป็น 300
เนื่องจาก 300 + 200 – 300 = 200
ดังนั้น 267 + 246 – 302 ≈ 200
ตอบ ประมาณ 200
3.3 การประมาณค่าของผลบวก ลบ คูณ และหาร เมื่อปริมาณเป็นเศษส่วนถ้าจำนวนที่นำมาคำนวณ
อยู่ในรูปเศษส่วน เราสามารถนำค่าประมาณของเศษส่วนมาใช้ในการคำนวณได้ โดยเปรียบเทียบ
จำนวนที่เป็นตัวเศษ และจำนวนที่เป็นตัวส่วน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาเซียนแบบบูรณาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ใบกิจกรรมวิ่งเปรี้ยวคณิตศาสตร์
ชื่อกลุ่ม …………...............……………..……....….....................................……………………. กลุ่มที่ ….......…………
จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. GDP ของ Brunei Darussalam มีมูลค่าประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
2. GDP ของ Cambodia มีมูลค่าประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
3. GDP ของ Indonesia มีมูลค่าประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มร้อย)
4. GDP ของ Philippines กับ Thailand มีมูลค่ารวมกันประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มร้อย)
5. GDP ของ Malaysia กับ Vietnam มีมูลค่าต่างกันประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
6. อัตราการเติบโตของ GDP ของ Laos มีค่าประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นทศนิยมสองตำแหน่ง)
7. อัตราการเติบโตของ GDP ของ Vietnam มีค่าประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง)
8. อัตราการเติบโตของ GDP ของ Thailand กับ Brunei Darussalam มีค่าต่างกันประมาณเท่าใด
(ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
9. GDP per capita ของ Singapore มีมูลค่าประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มพัน)
10. GDP per capita ของ Malaysia มีมูลค่าประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
11. GDP per capita ของ Indonesia กับ Myanmar มีมูลค่าต่างกันประมาณเท่าใด
(ประมาณเป็นจำนวนเต็มร้อย)
12. ประเทศสมาชิกอาเซียนโดยส่วนใหญ่มีสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศด้านใดสูง
ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
13. ประเทศที่พึ่งพิงอุตสาหกรรมโดยมีสัดส่วนของภาคอุตสาหกรรมสูงกว่าภาคการผลิตอื่นๆ ได้แก่
ประเทศใดบ้าง
14. ประเทศใดที่มีสัดส่วนของภาคเกษตรสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน
15. Singapore มีสัดส่วนของภาคอุตสาหกรรมประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
16. Malaysia Vietnam และ Thailand มีสัดส่วนของภาคบริการต่อ GDP รวมกันประมาณเท่าใด
(ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
17. Indonesia กับ Brunei Darussalam มีสัดส่วนของภาคบริการต่างกันประมาณเท่าใด
(ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
18. Cambodia กับ Laos มีสัดส่วนของภาคเกษตรต่างกันประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
19. ประเทศใดมีสัดส่วนของภาคบริการสูงที่สุด และมีค่าประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
20. ประเทศใดมีสัดส่วนของภาคเกษตรรวมกับภาคอุตสาหกรรมสูงที่สุด และมีค่าประมาณเท่าใด
(ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
21. ประเทศไทยมีสัดส่วนของภาคเกษตรประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
22. ประเทศลาวมีสัดส่วนของภาคอุตสาหกรรมประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
23. Malaysia มีสัดส่วนของภาคบริการคิดเป็นประมาณกี่เท่าของสัดส่วนภาคเกษตร
(ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
24. ประเทศไทย มีสัดส่วนของภาคบริการคิดเป็นประมาณกี่เท่าของสัดส่วนภาคเกษตร
(ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
25. ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดมีสัดส่วนของภาคอุตสาหกรมรวมกันประมาณเท่าใด
(ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
26. ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดมีสัดส่วนของภาคเกษตรรวมกันประมาณเท่าใด
(ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
27. ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดมีสัดส่วนของภาคบริการรวมกันประมาณเท่าใด
(ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)
28. GDP ของประเทศไทย คิดเป็นประมาณกี่เท่าของ GDP ของประเทศเวียดนาม
(ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
29. GDP ของประเทศมาเลเซีย คิดเป็นประมาณกี่เท่าของ GDP ของประเทศเมียนมาร์
(ประมาณเป็นจำนวนเต็ม)
30. GDP ของ Singapore กับ Thailand มีมูลค่าต่างกันประมาณเท่าใด (ประมาณเป็นจำนวนเต็มสิบ)