The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย เรื่อง กระบวนการรบของพาลีและทรพีในการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน พาลีรบทรพี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

กระบวนการรบของพาลีและทรพีในการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน พาลีรบทรพี

วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย เรื่อง กระบวนการรบของพาลีและทรพีในการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน พาลีรบทรพี

188 ตารางที่ 15 กระบวนท่ารำในเพลงร่ายระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 5 เพลง : ร้องร่าย คำร้อง : กล้า ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบ เหลี่ยม(หย่องขวา) มือ : มือขวากำพระขรรค์ มือซ้ายกำมือ กันศอกทั้งสองข้าง ขยับแขนขึ้นลง เล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวมหัก ข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก เล็กน้อย ระดับอก ศีรษะ : หน้ามองขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 6 เพลง : ร้องร่าย คำร้อง : เทเวศร์องค์ใด ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม(หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายจีบหักข้อมือเข้าอกพร้อม มือ ขวากำพระขรรค์หักข้อมือ ศีรษะ : หน้ามองตรงเอียงหูซ้ายเล็กน้อย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวมหัก ข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก เล็กน้อย ระดับอก ศีรษะ : หน้ามองขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย


189 ตารางที่ 15 กระบวนท่ารำในเพลงร่ายระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 7 เพลง : ร้องร่าย คำร้อง : มหึมา ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบ เหลี่ยมซ้าย (หย่องขวา) มือ : มือทั้งสองข้างหักข้อมือลง ตั้งฉาก มือขวากำพระขรรค์ ระดับศีรษะ ศีรษะ : หน้ามองซ้าย เอียงหูขวา ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้าซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวมหัก ข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก เล็กน้อย ระดับอก ศีรษะ : หน้ามองขวาเอียงหูซ้าย 8 เพลง : ร้องร่าย คำร้อง : ให้กำลังวังชา ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือทั้งสองข้างจีบคว่ำพร้อมทั้งโกย มือขึ้นหงายท้องแขนขึ้นแขนตึงมือขวากำ พระขรรค์ ศีรษะ : ศีรษะหน้ามองซ้ายเอียงหูขวา ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวมหัก ข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก เล็กน้อย ระดับอก ศีรษะ : หน้ามองขวาเอียงหูซ้าย


190 ตารางที่ 15 กระบวนท่ารำในเพลงร่ายระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 9 เพลง : ร้องร่าย คำร้อง : หรือว่าไร ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาติดหนีบน่องกระทืบเท้าขวา วางเต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบเหลี่ยม (หย่องขวา) มือ : มือขวาจีบสะบัดมือวาดมือเข้าหาตัว มือซ้ายกำพระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงมองขวา ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวมๆหัก ข้อมือแขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก เล็กน้อย ระดับอก ศีรษะ :หน้ามองขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย ที่มา: ผู้วิจัย


191 7) กระบวนท่ารำและกระบวนท่ารบในบทพากย์เจรจา ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 1 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ชิชะ ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายนิ้วหักข้อมือเข้าอก มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะเอียงหูขวาสะบัดหน้ามองไป ทางซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก ระดับอก ศีรษะ : ศีรษะกดหูขวาสะบัดหน้าขึ้นมอง ขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 2 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : เจ้าพาลี ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบ เหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือขวากำพระขรรค์อยู่ระดับหน้าอก มือซ้ายนิ้วเรียงชิดติดกันตั้งมืออยู่ระดับ หน้าอก ม้วนมือสลับกัน ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : กระทืบเท้าซ้ายวางเท้าซ้ายลงเต็ม เหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวมๆ หัก ข้อมือ แขนซ้ายตึง แขนขวางอศอก ระดับอก ศีรษะ : หน้ามองขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย


192 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 3 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ช่างถามไถ่ ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักขิอมือ มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวมหัก ข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก เล็กน้อย ระดับอก ศีรษะ : ศีรษะกดหูขวาสะบัดหน้าขึ้นมอง ขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 4 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ดูถูกกัน ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักข้อมือ มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก เล็กน้อย ระดับอก ศีรษะ : ศีรษะกดหูขวาสะบัดหน้าขึ้นมอง ขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย


193 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 5 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : เฮ้ย กูนั้น ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักข้อมือ มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวา หลบเหลี่ยม มือ : มือทั้งสองข้างกำหลวมๆพร้อมทั้ง หักข้อมือลงแขนซ้ายเหยียดตึง แขนขวา งอข้อศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะก้มหน้าลงกดหูซ้ายพร้อม สะบัดหน้าขึ้นเอียงหูขวา 6 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : เรืองฤทธิ์ไกรในตัวเอง ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักมือ มือขวากำพระ ขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเท้าย่อเข่าซ้ายลง ยกเท้าซ้ายติดหนีบน่อง มือ : มือทั้งสองข้างกำมือหลวมๆหัก ข้อมือลง แขนซ้ายเหยียดตึงแขนขวางอ ศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงมองพาลี


194 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 7 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ใช่ฉกาจเก่ง ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักข้อมือ มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากิน กัน) เท้า : เท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวา หลบเหลี่ยม มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือลง แขนซ้ายเหยียดตึง แขนขวางอข้อศอก ศีรษะ : หน้ามองขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 8 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : เพราะเทวา ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักข้อมือ มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้าซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก ศีรษะ : ศีรษะกดหูขวาสะบัดหน้าขึ้นมอง ขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย


195 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 9 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : มาช่วยเหลือ ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : กระโดดเท้าซ้ายลงกับพื้น เท้าซ้าย หลบเหลี่ยม (หย่องขวา) มือ : มือขวากำพระขรรค์หักข้อมืออยู่ที่ หน้าอก มือซ้ายตั้งวงลิงอยู่ที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะหน้ามองตรงมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายเหยียดตึงเท้าขวาชี้ออกข้าง ลำตัวเล็กน้อย เท้าขวาเหยียดตึงเท้าขวา ยกส้นเท้า มือ : มือทั้งสองกำหลวมหักข้อมือ แขน ซ้ายตึง แขนขวางอศอกระดับอก ศีรษะ : หน้ามองทางด้านซ้ายมองสูงเอียง หูขวาเล็กน้อย 10 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : กูเรืองอำนาจ ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวา หลบเหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักมือ มือขวากำพระ ขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวา หลบเหลี่ยม มือ : ทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือลงแขน ซ้ายเหยียดตึง แขนขวางอข้อศอก ศีรษะ : ศีรษะก้มหน้าลงกดหูซ้ายพร้อม สะบัดหน้าขึ้นเอียงหูขวา


196 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 11 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ยิ่งกว่า ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักข้อมือ มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือซ้ายและมือขวากำหลวม ๆ หัก ข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก เล็กน้อย ระดับอก ศีรษะ : ศีรษะกดหูขวาสะบัดหน้าขึ้นมอง ขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 12 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ชาติเชื้อวงศ์เทวา ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักข้อมือ มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเท้าย่อเข่าซ้ายลง ยกเท้าซ้ายติดหนีบน่อง มือ : มือทั้งสองข้างกำมือหลวม ๆ หักข้อมือลง แขนซ้ายเหยียดตึงแขนขวา งอศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงมองพาลี


197 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 13 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : เจ้าควร ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักมือ มือขวากำพระ ขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยม (กระโดดเน้นคำ) มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก ระดับอก ศีรษะ : ศีรษะกดหูขวาสะบัดหน้าขึ้นมอง ขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 14 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ศิโรราบกราบขมา ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : กระโดดเท้าซ้ายลงกับพื้น เท้าซ้าย หลบเหลี่ยม (หย่องขวา) มือ : มือขวากำพระขรรค์หักข้อมืออยู่ที่ หน้าอก มือซ้ายตั้งวงลิงอยู่ที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะหน้ามองตรงมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเท้า ย่อเข่าซ้ายลง น้ำหนักอยู่ที่เท้าซ้ายตั้งตัวตรง ใช้ปลาย เท้าขวาแตะลงกับพื้น โขยกลงหลังสอง ครั้ง มือ : มือทั้งสองกำมือหลวม ๆ แขนขวา เหยียดตึงแขนขวางอศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงมองพาลี


198 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 15 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : เสียบัดนี้ ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายเข้าอกหักข้อมือ มือขวากำ พระขรรค์หักข้อมือที่หน้าขา ศีรษะ : ศีรษะมองซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเท้าขวาลงเต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบเหลี่ยม (หย่องขวา) มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอกระดับอก ศีรษะ : ศีรษะกดหูขวาสะบัดหน้าขึ้นมอง ขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 16 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : สิ้นวาจาทรพีที่อกัตญญู ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือขวาหักข้อมือเข้าอก มือซ้ายกำ พระขรรค์หักข้อมือขึ้น ศีรษะ : หน้ามองทางด้านซ้ายของเวที เอียงหูขวาเล็กน้อย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายเหยียดตึง เท้าขวาชี้ออก ข้างลำตัวเล็กน้อย เท้าขวาเหยียดตึงเท้า ขวายกส้นเท้า มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนซ้ายตึง แขนขวางอศอกระดับอก ศีรษะ : หน้ามองทางด้านซ้ายของเวที มองสูงเอียงหูขวาเล็กน้อย


199 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 17 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : เหล่าเทวัญอันเคยอยู่รักษากาย ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือขวาหักข้อมือเข้าอก มือซ้ายกำ พระขรรค์หักข้อมือขึ้น ศีรษะ : หน้ามองทางด้านซ้ายของเวที เอียงหูขวาเล็กน้อย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าซ้ายชี้ออกข้างลำตัวเล็กน้อย เท้าซ้ายเหยียดตึงเท้าซ้ายยกส้นเท้า มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอกระดับอก ศีรษะ : หน้ามองทางซ้ายมองสูงเอียงหู ขวาเล็กน้อย 18 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ก็พากันหนี ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือขวาหักข้อมือเข้าอก มือซ้ายกำ พระขรรค์หักข้อมือขึ้น ศีรษะ : หน้ามองทางด้านซ้ายเอียงหูขวา ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเท้าย่อเข่า น้ำหนัก อยู่ที่เท้าขวา เท้าซ้ายแตะพื้นเล็กน้อยย่อ เข่าแล้วเซถอยหลังสามครั้ง มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก ระดับอก ศีรษะ : ส่ายหัวเล็กน้อยหน้ามองทาง ด้านซ้ายของเวทีมองสูงเอียงหูขวา


200 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 19 เพลง : - คำพากย์- เจรจา : แหนงหน่ายไม่ปกป้อง ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือขวาหักข้อมือเข้าอก มือซ้ายกำ พระขรรค์หักข้อมือขึ้น ศีรษะ : หน้ามองทางด้านซ้ายของเวทีเอียง หูขวาเล็กน้อย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าขวาแตะพื้นเล็กน้อยย่อเข่าขวา เล็กน้อยเซถอยหลังสามครั้งมือซ้าย มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก ระดับอก ศีรษะ :ส่ายหัวเล็กน้อยหน้ามองทาง ด้านซ้ายของเวทีมองสูงเอียงหูขวาเล็กน้อย 20 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ฝ่ายพาลี ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : วางเท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม(หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายจีบหักข้อมือเข้าอกพร้อมมือ ขวากำพระขรรค์หักข้อมือ ศีรษะ : หน้ามองตรงเอียงหูซ้ายเล็กน้อย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าซ้ายแตะพื้นเล็กน้อยย่อเข่าขวา เล็กน้อยเซถอยหลังสามครั้ง มือ : มือทั้งสองกำหลวมหักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก ระดับอก ศีรษะ : ส่ายหัวเล็กน้อยหน้ามองทาง ด้านซ้ายของเวทีมองสูงเอียงหูขวา


201 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 21 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : เห็นได้ช่อง ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือขวาหักข้อมือเข้าอก มือซ้ายกำ พระขรรค์หักข้อมือขึ้น ศีรษะ : หน้ามองทางด้านซ้ายของเวทีเอียง หูขวาเล็กน้อย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเท้าย่อเข่าซ้าย น้ำหนักอยู่ที่เท้าซ้าย เท้าขวาแตะพื้นย่อ เข่าขวา เซถอยหลังสามครั้ง มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอก ระดับอก ศีรษะ : ส่ายหัวเล็กน้อยหน้ามองทาง ด้านซ้ายของเวทีมองสูงเอียงหูขวา 22 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ต้องหฤทัย ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางด้านหน้าวางเต็มเท้า เท้าซ้ายหลบเหลี่ยม (หย่องขวา) มือ : มือขวากำพระขรรค์วางบนหัวเข่า เท้าขวา มือซ้ายใช้ฝ่ามือซ้ายห่อเข้ามา ที่ปาก ศีรษะ : หน้ามองตรง ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยม เท้าซ้าย หลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนซ้ายตึง แขนขวางอศอก ระดับอก ศีรษะ : หน้ามองทางด้านขวาของเวที เอียงหูซ้าย


202 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 23 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ก็ถาโถม ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหลังเฉียงไปด้านขวา(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบ เหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือขวากำพระขรรค์อยู่ระดับหน้าอก มือซ้ายนิ้วเรียงชิดติดกันตั้งมืออยู่ระดับ หน้าอกม้วนมือสลับกัน ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาเต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบ เหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนซ้ายตึง แขนขวางอศอกระดับอก ศีรษะ : หน้ามองขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 24 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : โจมเข้า ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหน้า เท้า : เท้าซ้ายวางเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือขวากำพระขรรค์แทงลงทางซ้าย มือซ้ายนิ้วเรียงชิดติดกันพร้อมทั้งหักข้อมือ ลงอยู่ที่หน้าอก ศีรษะ : ศีรษะเอียงซ้าย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลัง(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวา หลบเหลี่ยม มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือลง แขนซ้ายเหยียดตึง แขนขวางอข้อศอก ศีรษะ : ศีรษะก้มหน้าลงกดหูซ้ายพร้อม สะบัดหน้าขึ้นเอียงหูขวา


203 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 25 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ชิงชัย ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหน้า เท้า : เท้าขวาวางเท้าขวาเต็มเหลี่ยม เท้า ซ้ายหลบเหลี่ยม(หย่องขวา) มือ : มือขวากำพระขรรค์แทงทางขวามือ ซ้ายนิ้วเรียงชิดติดกันพร้อมทั้งหักข้อมือลง อยู่ที่หน้าอก ศีรษะ : ศีรษะเอียงหูขวา ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลัง เท้า : กระทืบเท้าขวาวางเท้าขวาเต็ม เหลี่ยมเท้าซ้ายหลบเหลี่ยม มือ : มือทั้งสองกำมือหลวม ๆ แขนขวา เหยียดตึงแขนซ้ายงอข้อศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะก้มหน้าพร้อมทั้งกดหูขวา สะบัดหน้าขึ้นเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 26 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ด้วย ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหลัง เท้า : เท้าซ้ายวางเท้าซ้ายลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือขวากำพระขรรค์แทงลงทางซ้าย มือซ้ายนิ้วเรียงชิดติดกันหักข้อมือลงอยู่ที่ หน้าอก ศีรษะ : ศีรษะเอียงหูซ้ายเล็กน้อย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหน้า เท้า : เท้าซ้ายวางเท้าซ้ายลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือทั้งสองกำมือหลวม ๆ แขนซ้าย เหยียดตึงแขนขวางอข้อศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะก้มหน้าพร้อมทั้งกดหูซ้าย สะบัดหน้าขึ้นเอียงหูขวาเล็กน้อย


204 ตารางที่16 กระบวนท่ารำในบทพากย์เจรจา ระหว่างพาลีกับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 27 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ฤทธี ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหลัง เท้า : กระทืบเท้าขวาวางเท้าขวาเต็ม เหลี่ยม เท้าซ้ายหลบเหลี่ยม(หย่องขวา) มือ : มือขวากำพระขรรค์แทงทางขวามือ ซ้ายนิ้วเรียงชิดติดกันพร้อมทั้งหักข้อมือลง อยู่ที่หน้าอก ศีรษะ : ศีรษะเอียงหูขวา ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหน้า เท้า : เท้าขวาวางเท้าขวาเต็มเหลี่ยมเท้า ซ้ายหลบเหลี่ยม มือ : มือทั้งสองกำมือหลวม ๆ แขนขวา เหยียดตึงแขนซ้ายงอข้อศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะก้มหน้าพร้อมทั้งกดหูขวา สะบัดหน้าขึ้นเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 28 เพลง : - คำพากย์-เจรจา : ฤทธี ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : ยกขวาติดหนีบน่องวางเท้าขวาลง เต็มเหลี่ยมเท้าซ้ายหลบเหลี่ยม (หย่องขวา) มือ : มือซ้ายและมือขวาปัดเท้าทรพีมือ ขวากำพระขรรค์ปลายพระขรรค์ทิ่มลงพื้น ศีรษะ : ศีรษะก้มมองเท้าเอียงหูขวา เล็กน้อย ตัวละคร : ทรพี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านขวา เท้า : เท้าซ้ายชี้ออกด้านหน้าย่อเข่าลง เล็กน้อยยกเท้าขวาถีบที่ข้อพับเท้าซ้าย ของพาลี มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ พร้อมทั้งหัก ข้อมือลง แขนขวาเหยียดตึงแขนซ้ายงอ ข้อศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงมองพาลี ที่มา: ผู้วิจัย


205 8) กระบวนท่ารบในเพลงร่าย ตารางที่ 17 กระบวนท่ารบในเพลงร่าย ระหว่างพาลีกับทรพี ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 1 เพลง : ร่าย คำร้อง : มือซ้ายจับเขาเข้ายืนยัน ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาวางเท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้า ขวาหลบเหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือทั้งสองข้างจับเขาทรพีมือขวาจับ เขาขวามือซ้ายจับเขาซ้ายพร้อมทั้งงอ ข้อศอกเล็กน้อย ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงหน้ามองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากิน กัน) เท้า : เท้าขวาเท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองข้างจับที่เอวพาลี ศีรษะ : ศีรษะก้มลง 2 เพลง : ร้องร่าย คำร้อง : มือขวาแกว่งพระขรรค์ชัยศรี ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายจับเขาซ้าย มือขวากำพระ ขรรค์ควงพระขรรค์ ศีรษะ : ศีรษะมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย (หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาเท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองข้างจับที่เอวพาลี ศีรษะ : ศีรษะก้มลง


206 ตารางที่ 17 กระบวนท่ารบในเพลงร่าย ระหว่างพาลีกับทรพี ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 3 เพลง : ร้องร่าย คำร้อง : ฟาดลงด้วยกำลังทั้งอินทรีย์ ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายจับเขาซ้าย มือขวากำ พระขรรค์ควงพระขรรค์พร้อมทั้งฟาดลง ที่ตัวทรพีหลายๆครั้ง ศีรษะ : ศีรษะมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากิน กัน) เท้า : เท้าขวาเท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองข้างจับที่เอวพาลี ศีรษะ : ศีรษะก้มลง 4 เพลง : ร้องร่าย คำร้อง : ทรพีก็ม้วยบรรลัย ตัวละคร : พาลี ทิศ : เฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายจับเขาซ้าย มือขวากำพระ ขรรค์ควงพระขรรค์พร้อมทั้งฟาดลงที่ตัว ทรพีหลาย ๆ ครั้ง ศีรษะ : ศีรษะมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย(หน้ากิน กัน) เท้า : ท่า ยืดกระทบเท้าขวาเท้าซ้ายวาง ลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองข้างจับที่เอวพาลี ศีรษะ : ศีรษะก้มลง ที่มา: ผู้วิจัย


207 9) กระบวนท่ารบในเพลงรัวและเพลงโอด ตารางที่ 18 กระบวนท่ารบในเพลงรัวและโอด ระหว่างพาลี กับทรพี ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 1 ท่าเตรียมรบ เพลง : รัว คำพากย์-เจรจา : - ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านขวา (หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาติดหนีบน่องวางเท้าขวาลง เต็มเหลี่ยม เท้าซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือขวากำพระขรรค์อยู่ระดับหน้าอก มือซ้ายนิ้วเรียงชิดติดกันตั้งมืออยู่ระดับ หน้าอก ม้วนมือสลับกัน ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหน้าเฉียงตัวไปด้านขวา (หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาวางเต็มเหลี่ยมทางขวา เท้าซ้ายหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองกำหลวม ๆ หักข้อมือ แขนขวาตึง แขนซ้ายงอศอกระดับอก ศีรษะ : หน้ามองขวาเอียงหูซ้ายเล็กน้อย 2 ท่าจับเขา เพลง : รัว คำพากย์-เจรจา : - ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหน้าเฉียงไปด้านขวา(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาวางเท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือทั้งสองข้างจับเขาทรพีมือขวาจับ เขาขวามือซ้ายจับเขาซ้ายงอข้อศอก ศีรษะ : ศีรษะตั้งตรงหน้ามองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : ยืดกระทบเท้าขวาเท้าซ้ายวางลง เต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองข้างจับที่เอวพาลี ศีรษะ : ศีรษะก้มลง


208 ตารางที่ 18 กระบวนท่ารบในเพลงรัวและโอด ระหว่างพาลี กับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 3 ท่าเงื้อ เพลง : รัว คำพากย์-เจรจา : - ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหน้าเฉียงไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายจับเขาซ้าย มือขวากำ พระขรรค์ควงพระขรรค์ ศีรษะ : ศีรษะมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงไปด้านซ้าย(หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาเท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : กระทบ มือทั้งสองข้างจับที่เอวพาลี ศีรษะ : ศีรษะก้มลง 4 ท่าฟาดพระขรรค์ เพลง : โอด คำพากย์-เจรจา : - ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหน้าเฉียงไปด้านซ้าย (หน้ากินกัน) เท้า : เท้าซ้ายเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบ เหลี่ยม (หย่องซ้าย) มือ : มือซ้ายจับเขาซ้าย มือขวากำ พระขรรค์ควงพระขรรค์พร้อมทั้งฟาดลง ที่ตัวทรพีหลาย ๆ ครั้ง ศีรษะ : ศีรษะมองทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย (หน้ากินกัน) เท้า : เท้าขวาเท้าซ้ายวางลงเต็มเหลี่ยม เท้าขวาหลบเหลี่ยมเล็กน้อย มือ : มือทั้งสองข้างจับที่เอวพาลี ศีรษะ : ศีรษะก้มลง


209 ตารางที่ 18 กระบวนท่ารบในเพลงรัวและโอด ระหว่างพาลี กับทรพี(ต่อ) ลำดับที่ รูปภาพท่ารำ/อธิบายท่ารำ 5 ฟุบตัวลงนั่ง เพลง : โอด คำพากย์-เจรจา : - ตัวละคร : พาลี ทิศ : หันหน้าเฉียงตัวไปด้านซ้าย (หน้ากินกัน) เท้า : นั่งตั้งเข่าซ้ายขึ้น ยืดตัวขึ้น มือ : มือซ้ายจับเขาซ้าย มือขวากำพระ ขรรค์ควงพระขรรค์พร้อมทั้งฟาดลงที่ตัว ทรพีหลาย ๆ ครั้ง ศีรษะ : ศีรษะมองทรพี พาลีฟุบทับทรพี ตัวละคร : ทรพี ทิศ : หันหลังเฉียงตัวไปด้านซ้าย (หน้ากินกัน) เท้า : นั่งตั้งเข่าซ้ายขึ้น ยืดตัวขึ้น มือ : มือทั้งสองข้างจับที่เอวพาลี ศีรษะ : ศีรษะก้มลง ทรพีฟุบลงไปกับพื้น หมายเหตุ : นักแสดงรอม่านปิด ถ้าม่านไม่ปิดให้เซเข้าเวทีทางซ้าย ที่มา: ผู้วิจัย จากการศึกษาการบวนท่ารบของพาลี รบ ทรพีในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตามแนวทาง นายกรีวรศะริน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช 2531 ศึกษาผ่านทางนายประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช 2551 ในการแสดงในตอนพาลีรบทรพี แบ่งออกเป็นเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก เป็นช่วงที่ทรพีไปทายท้าพาลีให้ออกรบในถ้ำ ช่วงที่สองเป็นช่วงที่ พาลีและทรพีไปรบในถ้ำ และพาลีฆ่าทรพีตาย ในการแสดงกระบวนท่ารบมีทั้งการตีบทในคำพากย์ เจรจา และมีการตีบทในคำร้องเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียวและเพลงร่าย มีกระบวนท่ารบในเพลง หน้าพาทย์เพลงเชิด การรบในเพลงร้องในเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียวและเพลงร่าย และกระบวนท่ารบ ในบทพากย์เจรจา จากที่ผู้วิจัยได้ศึกษาและบันทึกกระบวนท่ารบระหว่างพาลีกับทรพีพบลักษณะ ในการต่อสู้เป็นการสู้ในฐานะแบบสัตว์กับสัตว์ซึ่งทั้งสองตัวละคร มีสถานะภาพเป็นสัตว์การแสดง ท่าทางนั้น จะเป็นในลักษณะท่ารำที่ใช้เลียนแบบมาจากธรรมชาติของลิง และ ควาย และท่าทางที่คิด


210 ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยนำท่ามาจากนาฏยศัพท์ และพื้นฐานของท่ารำมาจากนาฏศิลป์ไทย ในกระบวน ท่ารบนั้นจะแสดงให้เห็นถึงการรุกและการรับของสองตัวละคร ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบในการแสดง การรบ การรบทุกครั้งจากการศึกษาพบว่าในการแสดงโขน ท่าที่เป็นแบบแผนในการต่อสู้ของ ตัวแสดงในการแสดงโขน นอกเหนือจากการท้ารบ ที่ต้องมีทุกตอนแล้วนั้น ยังมีท่าที่ถูกดัดแปลง ปรับปรุงให้เหมาะสมกับบุคลิกของตัวโขน และในการแสดงกระบวนการรบของพาลีกับทรพี ท่าที่พัฒนามาจากท่าหลักมีดังต่อไปนี้ 1. ท่าเงื้อ เป็นกระบวนท่าที่ใช้ในการเริ่มต้นก่อนที่จะทำการต่อสู้ เป็นส่วนประกอบ ของการท้ารบ เมื่อท้ารบเสร็จจะเป็นท่าเงื้อ ซึ่งท่าเงื้อของตัวลิงรบยักษ์จะประกอบด้วย โครงสร้างท่า 4 ท่า ได้แก่ 1. ท่าเงื้อมือขวา 2. ท่าเลาะเลาะยกเท้าซ้าย 3. ยืดกระทบลงหย่อง 4. ท่ากระโดดเสียวซ้ายขยับมือ ทั้ง 4 ท่านี้ก็ถือแบบแผนในการปฏิบัติการรบ ซึ่งเมื่อเปลี่ยนตัวละครก็จะยึดโครงสร้าง เดิมแต่เปลี่ยนพัฒนาให้ตรงตามบุคลิกของตัวละคร ในตัวพาลีและทรพีก็จะปฏิบัติเหมือนกัน 2. ท่าแทง เป็นท่าที่พัฒนาปรับปรุงมาจากท่าต่อสู้ของยักษ์และลิง ในเวลาที่เข้าต่อสู้ ยักษ์จะเป็นฝ่ายรุกใช้อาวุธตีลิง ลิงก็จะใช้มือปัดอาวุธยักษ์ โดยยักษ์จะเป็นฝ่ายใช้อาวุธมือขวาตีไป ทาง ด้านซ้าย ลิงจะใช้มือขวาปัด เมื่อยักษ์ใช้อาวุธตีไปทางด้านซ้าย ลิงจะใช้มือซ้ายปัด จากวิธีการใช้ อาวุธยักษ์และลิงดังที่กล่าวมา ได้ถูกพัฒนาปรับปรุงให้เป็นรูปแบบการต่อสู้ของตัวลิงและตัวควายใน การแสดง สิ่งสำคัญของความคือควายจะมีเขาที่อยู่บนศีรษะเป็นอาวุธ ดังนั้นการต่อสู้ของตัวโขน ทั้งสองจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้อาวุธในการต่อสู้โดยกำหนดให้ตัว โขนฝ่ายลิง หรือตัว พาลีเป็นตัวใช้อาวุธและให้ตัวทรพีเป็นฝ่ายที่ไม่มีอาวุธในการต่อสู้ด้วยการกำหนดให้ตัวพาลีเป็นฝ่าย เริ่มต้นก่อนใช้อาวุธก่อนเหมือนกับตัวยักษ์โดย พาลีจะเป็นฝ่ายแท่งพระขรรค์ไปทางซ้าย ส่วนทรพีก็ จะใช้เขาขวิดให้สวนทางกับพระขรรค์ของพาลีคือทางซ้าย หากพาลีแทงพระขรรค์ไปทางขวา ทรพีก็ จะขวิดไปทางขวา 3. ท่าจับ จากการศึกษาพบว่าท่าจับเป็นท่าที่พัฒนา ปรับปรุงมาจากท่าจับเหยียบของตัว ยักษ์และลิงในการแสดงซึ่งประกอบด้วยโครงสร้าง ท่า 4 ท่า ดังต่อไปนี้


211 1. ท่าจีบจับ 2. ท่าเหยียบ 3. ท่ายักษ์เหยียบ 4. ท่าลิงเหยียบ ในการต่อสู้ระหว่าง พาลีและทรพี ก็ได้ปรับปรุงท่าที่ใช้ในการต่อสู้ โดยนำท่าจับมาปรับปรุง ให้เหมาะสมกับบุคลิกของตัวละครทั้งสอง ใช่ท่าดังนี้ 1. ท่าจีบจับ 2. ท่าโขยกไปทางซ้าย 3. ท่าขโยกไปทางขวา 4. ท่าโขยกกลางเวทีจะเห็นได้ว่าท่าที่พัฒนาปรับปรุงจะเริ่มตั้งแต่ท่าจับเขา โดยปรับปรุงจากท่าจับระหว่างตัวยักษ์และตัวลิงที่ต่างก็จับอาวุธของแต่ละฝ่าย เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่าย ใดใช้อาวุธได้ จากท่าจับที่ใช้ในการต่อสู้ระหว่างยักษ์กับลิงนี้ก็นำมาปรับเป็นท่าจับเขา เพื่อมิให้ตัวทรพี สามารถใช้เขาออกอาวุธในการต่อสู้ ส่วนท่าโขยกก็ปรับปรุงมาจากท่ายักษ์เหยียบลิง และท่าลิงเหยียบ ยักษ์โดยปรับจากรูปแบบการเหยียบเป็นรูปแบบการโขยกตัวเคลื่อนไปทางซ้าย ทางขวา และกลับมา อยู่ตรงกลางเวที ซึ่งอาศัยหลักการที่ฝ่ายยักษ์เป็นฝ่ายเหยียบก่อน และฝ่ายลิงจึงเป็นฝ่ายเหยียบยักษ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพความได้เปรียบและเสียบเปรียบในการต่อสู้นอกเหนือจากกระบวนท่ารบ ระหว่างพาลีกับทรพีที่กล่าวมานั้น ผู้วิจัยได้จะวิเคราะห์โครงสร้างกระบวนท่ารบระหว่างพาลีกับทรพี ในบทต่อไป


บทที่ 4 วิเคราะห์โครงสร้างกระบวนท่ารบ พาลี กับ ทรพี การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี เป็นการแสดงที่มีการรบที่เป็นท่าเฉพาะของ ตัวละครระหว่าง พาลี กับทรพี ซึ่งบรมครูได้คิดประดิษฐ์ขึ้นสำหรับพาลีและทรพีเท่านั้น โดยมีท่ารบที่ เป็นเอกลักษณ์และแสดงบุคลิกของตัวละครได้อย่างชัดเจน ในบทนี้ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์โครงสร้าง กระบวนท่ารบของพาลีและทรพี ไว้ดังต่อไปนี้ 1. โครงสร้างกระบวนท่ารบ พาลี กับ ทรพี ในการแสดงโขนตอนพาลีรบทรพี จากเรื่องราวในวรรณกรรมเริ่มรบด้วยทรพีทายท้าพาลี ออกรบ พาลีไตร่ตรองและวางแผนออกอุบายไปต่อสู้ในถ้ำ และพาลีเข้ารบกับทรพีแต่ไม่สามารถชนะ ได้จึงได้คิดไตร่ตรองด้วยเหตุผล และใช้สติปัญญาจนฆ่าทรพีได้ด้วยความสามารถ จากข้อมูลเมื่อ สู่กระบวนท่ารำในการแสดง สามารถแบ่งได้ 2 ช่วง ช่วงที่ 1 พาลีพบทรพีและออกอุบาย ช่วงที่ 2 พาลีรบในถ้ำและฆ่าทรพีตาย ในการแสดงกระบวนท่าการรบจะอยู่ในช่วงที่ 2 เป็นช่วงที่พาลีเข้าไป ต่อสู้กับทรพีในถ้ำ ในช่วงที่ 1 เป็นการตีบทตามบทพากย์เจรจาเท่านั้นและมีกระบวนท่ารำดำเนินเรื่อง ไปตามบทการแสดง ดังนั้นผู้วิจัยจึงนำช่วงที่ 2 พาลีรบทรพีในถ้ำ ที่อยู่ในการแสดงโขน ตอนพาลีรบทรพีมาวิเคราะห์โครงสร้างกระบวนท่ารบ โดยผู้วิจัยได้วิเคราะห์โครงสร้างกระบวนท่ารบ ระหว่างพาลีและทรพีไว้5 โครงสร้างดังต่อไปนี้ 1. โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด 2. โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียว 3. โครงสร้างกระบวนท่ารบในบทพากย์เจรจา 4. โครงสร้างกระบวนท่ารบในร้องเพลงร่าย 5. โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงรัวและโอด จากโครงสร้างทั้ง 5 หัวข้อ ผู้วิจัยได้แบ่งตามลำดับที่ปรากฏในบทการแสดงพาลีรบทรพี


213 1. โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด จากการศึกษากระบวนท่ารบของพาลีรบทรพี ในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลี รบทรพี ในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด พบว่ามีโครงสร้างของท่ารบ สามารถแยกออกได้เป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย 1) ท่ารำหลัก และ 2) ท่าเฉพาะ 1) ท่ารำหลักของพาลีรบทรพีเป็นท่ารำที่ยึดตามแบบแผนการต่อสู้ของตัวละครในการ แสดงโขนประกอบด้วย 1.1) ท่าท้ารบ และ 1.2) ท่าจับ 1.1) ท่าท้ารบ ประกอบด้วย การท้ารบ และการเงื้อ ตารางที่19 ท่ารำหลักท่าท้ารบของพาลีรบทรพีในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด ลำดับ ที่ ท่าท้ารบ คำอธิบาย ท่าท้ารบพาลี ท่าท้ารบทรพี 1 เฮ้ย 2 กู 3 จะฆ่า 4 มึง


214 ตารางที่19 ท่ารำหลักท่าท้ารบของพาลีรบทรพีในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด (ต่อ) ลำดับ ที่ ท่าท้ารบ คำอธิบาย ท่าท้ารบพาลี ท่าท้ารบทรพี 5 ให้ตาย 6 ท่าเงื้อที่อยู่ในโครงสร้างท่าท้ารบ ท่าเงื้อ ท่าเงื้อพาลีและทรพี 7 ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางสรุปได้ว่า ท่าหลักการท้ารบของพาลีและทรพี ในโครงสร้างกระบวนท่าการท้ารบ ของทั้งสองตัวละครมีท่าหลัก 7 ท่า ดังตารางข้างต้น นับเป็นกระบวนท่ารบที่พบได้ในการแสดงในการ แสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ที่เริ่มต้นด้วยการท้ารบและมีการเงื้อดูเชิงคู่ต่อสู้แต่แตกต่างที่ตัวละคร และ อาวุธของตัวละคร จากภาพท่ารำของพาลีนั้นจะเป็นท่ารำตามแบบแผนการท้ารบของตัวลิงที่พบได้ใน ทุกการรบของตัวโขนลิง ส่วนทรพีนั้นโครงสร้างท่ารำก็เหมือนการรบตามปกติของตัวละครในการ แสดงโขนที่อยู่ฝั่งฝ่ายอธรรม แต่ความแตกต่างของทรพีนั้นคือ การใช้ท่าที่แสดงออกและมือแทนอาวุธ เป็นไปตามสถานะภาพของตัวละคร ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่า กระบวนท่าท้ารบถือเป็นท่าหลักโดยได้รับ


215 โครงสร้างมาจากกระบวนการรบในการแสดงโขน ในการเข้ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด ถือเป็น ธรรมเนียมในการปฏิบัติและยึดเป็นแบบแผนในการปฏิบัติกระบวนท่าการรบสืบมา 1.2) ท่าจับ ประกอบด้วย การเข้าตี การเข้าท่าจับ การตีออก ตารางที่20 ท่ารำหลักท่าจับของพาลีและทรพีในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด ลำดับ ที่ ท่าจับ คำอธิบาย ท่าจับพาลีและทรพี 1 ท่าตีเข้า 1 ท่าตีเข้า 2 ท่าตีเข้า พาลีแทง ทรพีหลบ เป็นจังหวะ 1 - 2 หรือมากกว่า นั้น เริ่มจากซ้ายไป ขวาทั้งสองตัวละคร 2 ท่าจีบจับเข้าท่าจับ 1 ท่าจับ 1 พาลีจับเขา การเข้าท่าจับ 1 พาลีจับเขา เมื่ อ ตี เข้ า 1-2 ตั ว ละครจะจีบแล้วเข้า จับหน้ากินกันและตี 2 ออก 3 ท่าจับ 2 ตะปบข้าง 1 ท่าจับ 2 ตะปบข้าง 2 การเข้าท่าจับ 2 ตะปบข้าง ตีเข้า 1 – 2และทรพี ตะปบขวาพาลีแทง ขวาหมุนไปทางขวา ครึ่งรอบและหมุนกลับ ทางซ้ายและตีออก


216 ตารางที่20 ท่ารำหลักท่าจับของพาลีและทรพีในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด (ต่อ) ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางพอสรุปได้ว่าท่ารำหลักโครงสร้างกระบวนการรบ ท่าจับ ของพาลีและทรพี ประกอบไปด้วยการ การตีเข้า การเข้าท่าจับและการตีออก ผู้วิจัยพบว่าท่ารำหลัก ท่าจับเป็น โครงสร้างกระบวนการรบที่ยังคงปฏิบัติตามแบบแผน แตกต่างในการแสดงออกของท่าทางของ ตัวละคร ผู้วิจัยได้รวมรวบข้อมูลโครงสร้างกระบวนท่ารบท่าจับในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิดไว้ดังต่อไปนี้ การเข้าท่าจับของพาลีและทรพีในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนพาลีรบทรพีที่ผู้วิจัยได้ ศึกษาและปรากฏในเล่มนี้นั้นพอสรุปให้เห็นได้ดังต่อไปนี้การตีเข้ามีทั้งการตี 2 ครั้ง การตี 3 ครั้ง และ การตี 4 ครั้ง การเข้าท่าจับ มี 3 ท่า 1. ท่าจับเขา 2. ท่าตะปบข้าง 3. ท่าตะปบเสย การตีออกมีทั้งการ ตี 2 ครั้งและการตีออก 4 ครั้ง ซึ่งจากที่กล่าวมา โครงสร้างกระบวนการท่ารบนั้นมีความเหมือนและ ความต่างผู้วิจัยได้เรียงลำดับการเข้าท่าจับท่าที่ 1 - 3 ของพาลีรบทรพี พร้อมทั้ง ยกตัวอย่างการรบ ในการแสดงโขนที่สอดคล้องและใกล้เคียงตัวละครพาลี และ ทรพี นำมาให้เห็นถึงโครงสร้างกระบวน ท่ารบที่ปรากฏในการรบของพาลีรบทรพีในการแสดงโขน ดังตารางต่อไปนี้ ลำดับ ที่ ท่าจับ คำอธิบาย ท่าจับพาลีและทรพี 4 ท่าจับ 3 ตะปบเสย ท่าจับ 3 ตะปบเสย การเข้าท่าจับ 3 ตะปบเสย ตีเข้า 4 ครั้งพาลี ตะปบหลังทรพีโอบ พาลี จากนั้นโดนขวิด เสยออก


217 ตารางที่21 การเข้าท่า 1 - 3 จับของพาลีรบทรพี ที่สอดคล้องกับการรบตัวอื่นในการแสดงโขน ลำดับ ที่ ท่าจับ 1 ท่าจับเขา คำอธิบาย ลำดับในการเข้ารบพาลีกับทรพี ความเหมือน ความต่าง 1 การตีเข้า 2 ครั้ง ลิงรบยักษ์ท่าจับ 1 ในช่วงการตีเข้าเป็น จังหวะ 1-2 ต่างที่ท่าและอาวุธที่ใช้ใน การตีเข้า พาลีใช้แทงด้วย ทรพีเป็นสัตว์มีเขาเป็น อาวุธจึงใช้การหลบและใช้ เขารับอาวุธหรือขวิด 2 การจีบจับเข้าท่าจับ 1 ลิงรบยักษ์ท่าจับ 1 พาลีและทรพีปฏิบัติตาม แบบแผนในการถอนเท้า เพื่อจีบก่อนเข้าท่าจับ ต่างที่ท่าและทรพีไม่ถือ อาวุธ 3 การเข้าท่าจับ 1 ท่าจับเขา ลิงรบยักษ์ท่าจับ 1 ในเรื่องการจับอาวุธของคู่ ต่อสู้ ทรพีรบทรพา ท่าจับ 1 ในเรื่องการโขยกตัวไป ทางขวาและทางซ้าย ของเวที ไม่ได้ยกท่าจับ 1 ของลิง รบยักษ์มาทั้งหมดแต่ใช้ การโขยกของตัวละครไป ทางซ้ายและขวาของเวที แบบการรบทรพีรบทรพา 4 การตีออก 2 ครั้ง ลิงรบยักษ์ท่าจับ 1 ในช่วงการตีออกเป็น จังหวะ 1-2 ต่างที่ท่าและอาวุธที่ใช้ใน การตีออก พาลีใช้แทงด้วย ทรพีเป็นสัตว์มีเขาเป็น อาวุธจึงใช้การหลบและใช้ เขารับอาวุธหรือขวิด


218 ตารางที่21 การเข้าท่า 1 - 3 จับของพาลีรบทรพี ที่สอดคล้องกับการรบตัวอื่นในการแสดงโขน (ต่อ) ลำดับ ที่ ท่าจับ 2 ท่าตะปบข้าง คำอธิบาย ลำดับในการเข้ารบพาลีกับทรพี ความเหมือน ความต่าง 1 การตีเข้า 2 ครั้ง ลิงรบลิง ตีเข้าท่ายินแทง ในช่วงการตีเข้าเป็น จังหวะ 1-2 ต่างที่ท่าและอาวุธที่ใช้ใน การตีเข้า พาลีใช้แทง ด้วย ทรพีเป็นสัตว์มีเขาเป็น อาวุธจึงใช้การหลบและใช้ เขารับอาวุธ 2 การเข้าท่าจับ 2 ท่าตะปบข้าง ลิงรบลิง ท่ายืนแทง ในช่วงเข้าท่าจับ 2 พาลี จะใช้การดำเนินท่า เหมือนกระบวนท่า ลิงรบลิง ในท่ายืนแทง ส่วนทรพีก็ปฏิบัติ เช่นเดียวกัน ต่างในท่าและอาวุธที่ใช้ ของทรพีโดยทรพีใช้มือ ตะปบแทนและการโขยก เพียงหมุนขวาเพียงครึ่ง รอบไปและกลับ รอบกลับ พาลีเปลี่ยนมือในลักษณะ มือขวาเงื้อ มือซ้ายแตะเอว ทรพี 3 การตีออก 4 ครั้ง ลิงรบลิง ตีออกท่ายืนแทง ในช่วงตีออกพาลีจบด้าน ในเหมือนใน ตีออกท่ายืน แทงจึงต้องตี4 ครั้ง เพื่อออกให้กลับมาอยู่ฝั่ง เดิม พาลีอยู่ขวา ทรพีอยู่ ซ้ายของเวที ต่างที่ท่าและอาวุธในการตี ออก พาลีใช้แทง ด้วยทรพี เป็นสัตว์มีเขาเป็นอาวุธจึง ใช้การหลบและใช้เขารับ อาวุธหรือขวิด


219 ตารางที่21 การเข้าท่า 1 - 3 จับของพาลีรบทรพี ที่สอดคล้องกับการรบตัวอื่นในการแสดงโขน (ต่อ) ลำดับ ที่ ท่าจับ 3 ท่าตะปบเสย คำอธิบาย ลำดับในการเข้ารบพาลีกับทรพี ความเหมือน ความต่าง 1 การตีเข้า 3 ครั้ง ลิงรบยักษ์ ท่าจับ 2 หรือ ท่า 3 ทีไขว้ พาลีและทรพีปฏิบัติการตี เข้า 3 ครั้งเหมือนการรบ ลิงกับยักษ์ ต่างที่ท่าและอาวุธในการตี ออก พาลีใช้แทง ด้วยทรพี เป็นสัตว์มีเขาเป็นอาวุธจึง ใช้การหลบและใช้เขารับ อาวุธหรือขวิด 2 การเข้าท่าจับ 3 ตะปบเสย ทรพีรบทรพา ในช่วงท่าตะปบหลังของ พาลีเหมือนในกระบวนท่า ตายของทรพา ส่วนทรพี ปฏิบัติเหมือนท่ารบทรพา มีการโขยกไปทางซ้าย และขวาของเวที และโย้ ตัวไปทางซ้ายละขวา จากนั้นพาลีโดนทรพี ขวิดออก ต่างในเรื่องของท่าพาลีฝั่งที่ อยู่ของพาลีและทรพีใน การแสดงทรพีรบทรพา ทรพาจะอยู่ฝั่งซ้ายของเวที และทรพีอยู่ฝั่งขวา แต่ใน การรบพาลีกับทรพี ทรพี อยู่ฝั่งซ้าย พาลีอยู่ฝั่งขวา และเมื่อทรพีขวิดเสยพาลี ไม่ตาย ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางจะเห็นได้ว่าโครงสร้างกระบวนท่ารบของพาลีและทรพีในการแสดงโขนนั้นล้วนมี แบบแผนมาจากการแสดงโขนในการรบของ 3 ตัวละครดังนี้


220 1) ลิงรบยักษ์ ภาพที่22 ลิงจับยักษ์ ภาพที่23 พาลีจับทรพี ที่มา: สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(2555, น. 246) ที่มา: ผู้วิจัย จากภาพแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างท่าจับ 1 ท่าจับเขา ของพาลีและทรพี ที่มีความสอดคล้อง กับท่าจับ 1 ของลิงรบยักษ์ในการแสดงโขน 2) ลิงรบลิง ภาพที่25 ท่ายืนแทงลิง ภาพที่26 ท่าจับพาลีตะปบข้าง ที่มา: ช่างภาพดีดี(2562, สืบค้นวันที่ 9 พฤศจิกายน) ที่มา: ผู้วิจัย จากภาพแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างท่าจับ 2 ตะปบข้าง ของพาลีและทรพี ที่มีความสอดคล้อง กับ ท่าจับ ท่ายืนแทง ของลิงรบลิงในการแสดงโขน


221 3) ทรพีรบทรพา ภาพที่26 ทรพีรบทรพา ที่มา: กรมศิลปากร (2553, น. 177) ภาพที่27 ท่าจับตะปบหลัง ที่มา: ผู้วิจัย จากภาพแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างท่าจับ 3 ตะปบเสย ของพาลีและทรพี ที่มีความสอดคล้อง กับท่าตายของทรพีรบทรพาในการแสดงโขน จากที่กล่าวข้างต้นจะเห็นถึงวิวัฒนาการมาเป็นลำดับ จนมาถึงการรบของพาลีกับทรพี มีความแตกต่างกันในลักษณะของตัวละคร ท่าจะเป็นไปตามสถานภาพของตัวละคร อาวุธของตัว ละครจะบ่งบอกลักษณะในการตีเข้าและตีออก หากเป็นลิงรบกับยักษ์จะใช้การปัดกระบอง หากเป็น ลิงรบลิงใช้พระขรรค์ในการตีเข้า เมื่อเป็นทรพีรบทรพาจะใช้เขาในการขวิดกันเข้า แต่ในการตีเข้านั้น เมื่อศึกษาพบว่า จะตีเป็นจังหวะ 1 - 2 หรือ ตี 2 ครั้งเท่านั้นในท่าจับท่าแรก และในท่าจับถัดไป อาจจะตีเข้าได้มากสุดถึง 4 ครั้ง ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการรบของพาลีและทรพีในการเข้าตีนั้น มีโครงสร้าง ท่าจาก การแสดงที่กล่าวไป ในส่วนท่าจับนั้นจากที่กล่าวไปดังตารางก็จะเห็นได้ว่าโครงสร้างท่าล้วน เป็นท่าที่ปรากฏมาอยู่ก่อนแล้วเมื่อนำมาประดิษฐ์ท่าจับก็ยังคงยึดในรูปแบบเดิม แต่ความแตกต่าง ที่กล่าวไปในตารางก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เห็นได้ชัดถึงท่าจับของพาลีรบทรพีนั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นท่าที่ คิดขึ้นเพื่อ 2 ตัวละครนี้เท่านั้น จึงเป็นที่มาของท่าเฉพาะของสองตัวละครในการแสดงการรบ ที่ผู้วิจัย จะกล่าวในหัวข้อถัดไป


222 2) ท่าเฉพาะ ท่าเฉพาะในการรบของพาลีและทรพีในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนพาลีรบทรพี จากที่ผู้วิจัยได้ศึกษาและบันทึกกระบวนท่ารบที่ปรากฏในเล่มนั้น ท่าเฉพาะหมายถึงท่าที่สร้างขึ้นเพื่อ 2 ตัวละครนี้เท่านั้น ซึ่งพบท่าเฉพาะของพาลีรบทรพีในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่22 ท่าเฉพาะปรากฏของพาลีและทรพีในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด ลำดับที่ ท่าเฉพาะที่ ขื่อท่า/คำอธิบาย 1 ท่าล่อ 2 ท่าจับ 1 ท่าจับเขา 3 ท่าจับ 2 ท่าตะปบข้าง 4 ท่าจับ 3 ตะปบเสย 5 ท่าถีบและขวิดออกจากการรบ ที่มา: ผู้วิจัย


223 จากตารางที่ 22 สรุปได้ว่า ท่าเฉพาะระหว่างพาลีรบทรพีที่ปรากฏในการรบเพลง หน้าพาทย์เพลงเชิด นั้นเกิดขึ้นระหว่างพาลีกับทรพีเท่านั้น มี5 ท่าดังต่อไปนี้ 1. ท่าล่อ 2. ท่าจับ 1 ท่า จับเขา 3. ท่าจับ 2 ตะปบข้าง 4. ท่าจับ 3 ตะปบเสย 5. ท่าถีบและขวิดออกจากการรบ ท่าที่เกิดขึ้น จะเป็นไปตามลักษณะตามสถานะภาพของตัวละครตามธรรมชาติจากที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็น ท่าเฉพาะของพาลีและทรพี 2. โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียว จากการศึกษากระบวนท่ารบของพาลีรบทรพี ในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี ในเพลงร้องเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียว พบว่ามีโครงสร้างกระบวนท่ารบ ประกอบด้วยการตีเข้าและ การตีออกซึ่งจัดอยู่ในการเข้าท่าจับเป็นท่าหลักและพบท่าเฉพาะในท่าออกจากการรบ ซึงพบในการรบ ในเพลงร้องเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียวของพาลีรบทรพีดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่23 โครงสร้างกระบวนท่ารบที่ปรากฏในการรบในบทร้องเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียว ลำดับ ที่ ท่ารำหลักพาลีและทรพี เนื้อเพลง คำอธิบาย 1 ท่าตีเข้า 1 ท่าตีเข้า 2 สับประยุทธ ต่อยุทธ ท่าหลัก 2 ท่าตีออก 1 ท่าตีออก 2 เป็นช้านาน ท่าหลัก 3 ท่าถีบและขวิดออกจากการรบ ไม่อาจ รุกราน ท่าเฉพาะ ที่มา: ผู้วิจัย


224 จากตารางสรุปได้ว่าโครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องเขมรปากท่อชั้นเดียว มีโครงสร้าง กระบวนท่ารบที่ประกอบไปด้วยท่าหลักคือท่าจับ การตีเข้าละการตีออก และมีท่าเฉพาะในการออก จากการรบ ด้วยท่าถีบและขวิดออกจากการรบ อาจพอสรุปได้ว่าในท่ารบที่ปรากฏในเพลงเขมรปาก ต่อชั้นเดียวนั้นเป็นไปตามบทร้องที่หมายถึงการเข้ารบ ตามความหมายของเพลง โดยมีกระบวนท่ามา จากพื้นฐานในการรบของพาลีรบทรพีในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด 3. โครงสร้างกระบวนท่ารบในบทพากย์เจรจา จากการศึกษากระบวนท่ารบของพาลีรบทรพี ในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี ในบทพากย์เจรจา เป็นการเล่าเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อให้ผู้ชมได้เกิดความเข้าใจในเนื้อ เรื่องของการแสดงในฉากนั้น ในการดำเนินเรื่องด้วยการพากย์และเจรจา ในการแสดงโขน ตอนพาลีรบทรพี ปรากฏโครงสร้างกระบวนท่ารบ ในตอนท้ายของคำเจรจาของพาลี ที่กล่าวว่า “ฝ่ายพาลีเห็นได้ช่องต้องหฤทัยก็ถาโถมโจมนเข้าชิงชัยด้วยฤทธี” พบว่ามีโครงสร้างกระบวนท่ารบ ที่ เป็นท่าหลักเพียงท่าเดียวคือการตีเข้า ที่อยู่ในท่าจับ และพาลีกับทรพีหลังจบคำพากย์จะเข้าท่าจับต่อ ในเพลงร่ายจึงไม่มีการออกจากการรบ ดังนั้นพบท่าหลัก ในพากย์เจรจาของพาลีรบทรพีดังตาราง ต่อไปนี้ ตารางที่24 โครงสร้างกระบวนท่ารบในบทพากย์เจรจา ลำดับ ที่ ท่ารำหลักพาลีและทรพี คำพากย์ คำอธิบาย 1 ท่าตีเข้า 1 ท่าตีเข้า 2 ก็ถาโถม โจมเข้าชิง ชัย ด้วยฤทธี ท่าหลัก ท่าตีเข้า 3 ท่าตีเข้า 4 ที่มา: ผู้วิจัย


225 จากตาราง พอสรุปได้ว่าโครงสร้างกระบวนท่ารบในบทพากย์เจรจา มีโครงสร้างกระบวนท่า รบ 1 ท่า ที่ประกอบไปด้วยท่าหลักคือท่าจับ การตีเข้า 4 ครั้ง อาจพอสรุปได้ว่าในท่ารบที่ปรากฏใน บทพากย์เจรจานั้นเป็นไปตามคำพากย์เจรจาที่หมายถึงการเข้ารบ ตามความหมายของคำพากย์เจรจา โดยมีกระบวนท่ามาจากพื้นฐานในการรบของพาลีรบทรพีในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด 4. โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องร่าย จากการศึกษากระบวนท่ารบของพาลีรบทรพี ในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี ในเพลงร้องร่าย พบว่ามีโครงสร้างกระบวนท่ารบ ที่เป็นท่าเฉพาะของพาลีและทรพี ซึ่งหลังจบคำ พากย์จะเข้าท่าจับเขาต่อในเพลงร่าย จึงไม่มีท่าอื่นอีก ในโครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องร่ายของ พาลีรบทรพีที่ปรากฏมีดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่25 โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องร่าย ลำดับ ที่ ท่ารบในเพลงร้องร่าย พาลีและทรพี คำร้อง คำอธิบาย 1 ท่าจับเขา มือซ้ายจับ เขาเข้ายืนยัน ท่าเฉพาะ 2 ท่ามือซ้ายจับเขามือขวาควงพระขรรค์ มือขวาแกว่ง พระขรรค์ชัย ศรี ท่าเฉพาะ


226 ตารางที่25 โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องร่าย (ต่อ) ลำดับ ที่ ท่ารบในเพลงร้องร่าย พาลีและทรพี คำร้อง คำอธิบาย 3 ท่าฟาดพระขรรค์ ฟาดลงด้วย กำลังทั้ง อินทรีย์ ทรพีก็ม้วย บรรลัย ท่าเฉพาะ ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางพอสรุปได้ว่าโครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร่าย มีโครงสร้างกระบวนท่ารบที่เป็น ท่าเฉพาะของพาลีและทรพี 3 ท่า ท่ารบที่ปรากฏเป็นท่ารบที่ประดิษฐ์ท่าขึ้นตามคำร้องโดยมีพื้นฐาน จากท่านาฏศิลป์ไทย ท่ารบที่ปรากฏในเพลงร้องร่ายนั้นเป็นไปตามคำร้องที่หมายถึงการกระทำและ การเข้ารบ ของตัวละครที่ปรากฏในตาราง นอกเหนือจากนั้นในเพลงร่ายคำร้องที่อยู่ในบทการแสดง ได้นำมาจากบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ 1 อาจสรุปได้ว่าโครงสร้างกระบวนท่ารบ ในเพลงร้องร่าย ได้ประดิษฐ์ขึ้นตามบทประพันธ์ 5. โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงรัวและโอด จากการศึกษากระบวนท่ารบของพาลีรบทรพี ในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี ในเพลงหน้าพาทย์เพลงรัวและโอด พบว่ามีโครงสร้างกระบวนท่ารบ เป็นท่าเฉพาะของพาลีและทรพี ซึ่งหลังจากเพลงร้องร่ายจบจะต่อด้วยเพลงรัวและโอด ในโครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์ เพลงรัวและโอดของพาลีรบทรพีที่ปรากฏมีดังตารางต่อไปนี้


227 ตารางที่ 26 โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงโอด ลำดับที่ ท่ารบในเพลงรัวและโอดของพาลีและทรพี เพลง คำอธิบาย 1 ท่าจับเขา เพลงรัว ท่าเฉพาะ 2 ท่ามือซ้ายจับเขามือขวาควงพระขรรค์ ท่าเฉพาะ 3 ท่าฟาดพระขรรค์ เพลงโอด ท่าเฉพาะ 4 ท่าทรพีตาย ท่าเฉพาะ ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางสรุปได้ว่าโครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงรัวและโอด มีโครงสร้าง ที่เป็นท่าเฉพาะของพาลีและทรพี ท่ารบที่ปรากฏเป็นไปตามเพลงร้องร่าย สรุปได้ว่าโครงสร้าง กระบวนท่ารบที่ปรากฏในการแสดงเป็นไปตามบทร้องร่ายที่ร้องบรรยายตัวละคร และเข้ากระทำและ ตายในเพลงหน้าพาทย์เพลงรัวและโอด


228 จากโครงสร้างกระบวนท่ารบที่วิจัยกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า กระบวนท่ารบของพาลีและทรพี ในการแสดงจะรบกันใน 2 รูปแบบ 1) รบในเพลงหน้าพาทย์ 2) รบในบทร้องและการพากย์เจรจา ผู้วิจัยแยกโครงสร้างกระบวนท่ารบตามกระบวนการแสดงออกเป็น 5 โครงสร้างดังที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าโครงสร้างกระบวนท่ารบจะประกอบไปด้วยท่าหลัก และท่าเฉพาะของตัวละคร อาจสรุป ได้ว่าโครงสร้างท่ารบที่ปรากฏในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพีนั้น ได้นำมาจาก การรบของตัวละครที่มีความเหมือนกันตามสถานะภาพของตัวละครในการแสดงโขน เช่น พาลีนั้นเป็น ลิงในการแสดงท่าการรบของพาลีก็นำมาจาก ตัวละครที่เป็นลิงในการรบกับยักษ์ที่รบในเพลงหน้า พาทย์เพลงเชิด ซึ่งในกระบวนการรบที่เป็นแบบแผนดั้งเดิมที่เริ่มต้นด้วยการท้ารบ และ การเข้าท่าจับ ดังนั้นเมื่อพาลีรบทรพีก็ปฏิบัติตามกระบวนการตามแบบแผนดั้งเดิมเช่นกัน แต่เมื่อเป็นท่าจับที่ หมายถึงการรบของตัวละคร หากไม่ใช้ตัวละครที่เป็นยักษ์ จึงต้องประดิษฐ์ท่าขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับ สถานะภาพของตัวละครที่มารบ ที่มารบกับพาลีในครั้งนี้เป็นทรพีซึ่งเป็นควาย ดังนั้นการรบครั้งนี้ถือ เป็นการรบเฉพาะ ด้วยเหตุนี้จึงต้องดึงท่าเฉพาะของพาลีรบกับทรพีออกมาผ่านท่าล่อให้ขวิด และผ่านท่าจับ โดยคำนึงถึงความเป็นจริงและสอดคล้องกับบทการแสดงที่มาจากบทประพันธ์ และ นำมาเลียนแบบและประดิษฐ์ท่ารำขึ้นโดยใช้พื้นฐานทางนาฏศิลป์ไทยในการแสดงโขน เมื่อเป็น โครงสร้างในเพลงร้องและการพากย์เจรจา ก็เช่นเดียวกัน โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องและ การพากย์เจรจานั้นมาจากพื้นฐานเดียวกันคือ คิดท่ารบตามบทการแสดงที่มาจากบทประพันธ์โดยนำ ท่ามาจากพื้นฐานในการแสดงโขน และประดิษฐ์ท่าให้ตรงตามความหมายกับคำร้องและคำพากย์ เจรจา เพื่อส่งสารผ่านเพลงร้อง ส่งเรื่องราวผ่านตัวผู้แสดง ให้ผู้ชมได้รับผ่านการฟังและการดูดังนั้นจึง สรุปได้ว่าโครงสร้างกระบวนการรบของพาลีกับทรพี มี 3 ขั้น ดังนี้ 1) การล่อ 2) การท้ารบและการเงื้อดูเชิง 3) กระบวนการรบในเพลงหน้าพาทย์ และรบในบทร้องและการพากย์เจรจา


บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัย เรื่อง กระบวนการรบพาลีและทรพีในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี วิธีการดำเนินการวิจัยโดยกระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพ 1) ศึกษารวบรวมข้อมูลจากเอกสารตำรา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2) สัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 3) ลงภาคสนามฝึกปฏิบัติกระบวนท่ารบพาลีและ ทรพีในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี โดยผู้วิจัยกำหนดขอบเขตของการวิจัยครั้งนี้ ศึกษากระบวนท่ารบ ตัวพาลี และ ทรพี ตามแนวทางนายกรี วรศะริน ศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2531 โดยศึกษาผ่านทางนายประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช 2551 โดยศึกษาบทที่ใช้ในการแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ชุด พาลีสอนน้อง เมื่อปี พ.ศ. 2517 ที่จัดทำโดย นายเสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติสาขา ศิลปะการแสดง พุทธศักราช 2531 ผู้วิจัยได้ศึกษาแต่เพียงตอนพาลีรบทรพีเท่านั้น 1. สรุปผลการวิจัย 2. อภิปรายผล 3. ข้อเสนอแนะ 3.1 ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัย 3.2 ข้อเสนอแนะสำาหรับการวิจัยครั้งต่อไป 1. สรุปผลการวิจัย 1.1 วรรณกรรมรามเกียรติ์ที่ใช้ในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี 1.1.1 องค์ความรู้ในวรรณกรรมรามเกียรติ์ที่ใช้ในการแสดงโขน บทพระราชนิพนธ์ที่ถือเป็นต้นแบบในการจัดทำบทที่ใช้แสดงโขนในยุคปัจจุบันคือ บทพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 1 ที่มีความยาวที่สุดและมีความสมบูรณ์ที่สุดในเรื่องเนื้อหาตั้งแต่ต้นเรื่อง จนจบเรื่อง ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ศึกษาบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์รัชกาลที่ 1 ในเรื่องราวของ วรรณกรรมรามเกียรติ์ ฉบับรัชกาลที่ 1 นั้น อย่างที่ทราบกันดีเรื่องรามเกียรติ์เป็นเรื่องราวการทำ


230 สงครามระหว่างกองทัพพระรามและกองทัพทศกัณฐ์เพื่อแย่งชิงนางสีดา นอกเหนือจาก นั้นยังมีอีกหลากหลายตัวละครที่ปรากฏในการสู้รบโดย มีสาเหตุ ในการเกิดข้อพิพาทหรือความ ขัดแย้งที่นำไปสู่การสู้รบในรามเกียรติ์พบสาเหตุ8 สาเหตุ 1) การอวดฤทธิ์ 5) การประลองฤทธิ์– ประลองกำลัง 2) การบุกรุกดินแดน 6) การล้างแค้น-กำจัดศัตรู 3) การแย่งชิงสตรี 7) การแย่งชิงสิ่งของ 4) การแย่งบุรุษ 8) การปฏิบัติตามคำสั่ง จากสาเหตุดังกล่าวสามารถ แบ่งตัวละครในการรบ ตามเชื้อชาติและสถานะของ ตัวละคร ที่ปรากฏในรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ 1 สามารถจำแนกได้ 4 เผ่า 1. เทพเจ้า 2. มนุษย์ 3. อมนุษย์ 4. สัตว์สามารถจับคู่การรบได้ 10 รูปแบบ 1) เทพเจ้ารบเทพเจ้า 6) มนุษย์รบอมนุษย์ 2) เทพเจ้ารบมนุษย์ 7) มนุษย์รบสัตว์ 3) เทพเจ้ารบอมนุษย์ 8) อมนุษย์รบอมนุษย์ 4) เทพเจ้ารบสัตว์ 9) อมนุษย์รบสัตว์ 5) มนุษย์รบมนุษย์ 10) สัตว์รบสัตว์ ในการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ตัวแสดงโขนมีหลากหลายตัวละครซึ่งตัวละคร ในแต่ละประเภทมีบทบาท ท่าทาง อารมณ์ ที่ใช้ในการแสดงแตกต่างกันไป ในการแสดงโขน ตัวพระ และตัวนางจะมีท่วงท่าที่ละเมียดละไมอ่อนช้อย สุขุม ลุ่มลึก ตามแบบ เชื้อกษัตริย์ ส่วนตัวยักษ์ จะมีท่าทีที่แข็งแรง ดุดัน เกรี้ยวกราด องอาจ สง่า ผ่าเผย ตัวลิงจะมีลักษณะซุกซน คล่องแคล่ว ว่องไว และมีกระบวนท่าทีที่แสดงกิริยาอาการเลียนแบบมนุษย์ผสมผสานกิริยาท่าทางของลิง นอกเหนือจาก ตัวลิงที่เป็นสัตว์นั้นยังมีอีกหลากหลายตัวละครที่เลียนแบบท่าทางของสัตว์ อาทิเช่น ควาย นก ช้าง เป็นต้น ด้วยปัจจัยในการรบในการแสดงโขน หรือการแสดงออกของท่วงท่าตัวละครสิ่งเหล่านี้จึงทำให้ ตัวละครประเภทสัตว์มีความน่าสนใจในลักษณะเฉพาะของตัวละครและท่าที่แสดงออก จากปัจจัย เหล่านี้ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาตอนพาลีรบทรพี ในบทวรรณกรรมรามเกียรติ์ รัชกาลที่ 1 ที่นำมาจัดทำเป็น บทการแสดงโขนตอนพาลีสอนน้อง พ.ศ. 2517 1.1.2 บทวรรณกรรมรามเกียรติ์ ฉบับรัชกาลที่ 1 ตอนพาลีรบทรพี นำไปสู่บทที่ใช้สำหรับ การแสดง โขน ในบทพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 1 นั้นเป็นบทกลอนที่มีความยาวและเป็นเรื่องที่ผู้อ่าน


231 ต้องใช้จิตนาการในการอ่าน แต่เมื่อมานำมาเป็นบทที่ใช้ในการแสดงจึงต้องมีการตัดทอนบางส่วน เพื่อให้เรื่องดำเนินได้รวดเร็วมากขึ้นในบางช่วงจะใช้ตัวแสดงในการแสดงแทนนายเสรี หวังในธรรม ทำให้บทโขนนั้นจะมีความกระชับ เข้าใจง่าย และปรับจากบทกลอน เป็นคำพากย์ เจรจา หรือ เพลงร้องในการดำเนินเรื่องราว และเปลี่ยนคำบางส่วนให้เข้าใจง่ายต่อผู้ชมมากขึ้น เช่น ในบท พระราชนิพนธ์รามเกียรติ์รัชกาลที่ 1 จะกล่าวถึงการรบของตัวละครแต่เมื่อเป็นบทที่ใช้แสดงจะใช้ ผู้แสดงในการรบแทนเพื่อให้ผู้ชมเห็นภาพว่าทั้งสองตัวละครกำลังสู้กัน 1.1.3 ประวัติและบทบาทของพาลีกับทรพี ตัวพาลี 1) ภูมิหลังของพาลี อดีตเคยเป็นมนุษย์มาก่อน ผู้แสดงเป็นพาลีจึงต้องสร้างบุคลิก ให้สง่างามหน้าศรัทธาเลื่อมใสตามแบบฉบับลิงผู้เป็นกษัตริย์ การเคลื่อนไหวกิริยาอาการต่าง ๆ ควรเป็นไปอย่างคล่องแคล่วว่องไว สุขุม ลุ่มลึก แข็งแรง หน้าเกรงขาม เป็นลักษณะที่ผู้คนเห็นจะต้อง เคารพ 2) ประวัติของพาลี เป็นกษัตริย์ผู้ครองเมืองขีดขินและมีเชื้อสายที่สูงส่งและพาลี ปฏิบัติตนเป็นคนดี ถึงแม้จะมีเรื่องที่ไม่ดีและทำตามใจไปบ้างแต่ด้วยสาเหตุในการแสดงพาลีเปรียบ เหมือนตัวละครในฝั่งธรรม ดังนั้น ผู้แสดงเป็นพาลี ต้องวางบุคลิกที่เป็น ลูกที่ดี พี่ที่ดีเป็นสามีที่ดี และ เป็นพ่อที่ดีเพื่อให้เห็นถึงความดีงามทั้งหลายและพึงปฏิบัติในกรอบของสังคมไทย นั่นคือลักษณะของ ผู้ดีทุกอิริยาบถที่ผู้แสดงพาลีในการแสดงโขน ต้องแสดงออกให้เห็นภาพ ว่า บุคลิกของผู้ดีเด็ดเดี่ยว ห้าวหาญ 3) พาลีเป็นกษัตริย์นักรบผู้กล้าหาญ และมีคุณธรรม ผู้แสดงเป็นพาลีในการแสดง โขนนั้นต้องมีความแข็งแรงจึงไม่ใช่จะเอาใครมารำก็ได้โดยที่ไม่มีบุคลิกของนักรบที่ทะนงองอาจ แฝงอยู่หรือ มุ่งเอาแต่ความสวยงามจนลืมความเป็นกษัตริย์ชาตินักรบของพาลีไป เมื่อนำมารวมเข้าด้วยกันการแสดงเป็นตัวพาลีเมื่อ ทำความเข้าใจ บุคลิกลักษณะ ของพาลีแล้วนั้นพาลีมีลักษณะนิสัยเจ้าชู้ เจ้าอารมณ์ แต่เก่งกาจและมีฤทธิ์มาก และมีความเป็น กษัตริย์ เพราะฉะนั้นต้องแข็งแรงและสง่า เพื่อที่จะสวมบทบาทตัวละครให้เหมือนจริงหรือเรียกว่า ใส่อารมณ์ ความรู้สึกและชีวิตจิตใจตามลักษณะนิสัยของตัวละคร ต้องทำความเข้าใจกับบท อย่างละเอียดแล้ว ผู้แสดงจะต้องเรียนรู้บทร้อง บทพากย์ เจรจา ดนตรีที่บรรเลงเพลงต่าง ๆ เพื่อ


232 ตัวละคร ต้องออกลีลาท่าทางให้เหมาะสมกับบทร้องต่าง ๆ ในบทนั้น ๆ ได้อีกด้วย แล้วจึงจะฝึกตีบท และนำความรู้ ประสบการณ์จากที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากครูบาอาจารย์ แล้วมารังสรรค์ปรุงแต่ง ตัวทรพี ทรพีมีอุปนิสัยใจคอที่เป็นที่มีสัญชาตญาณสัตว์ป่า นอกจากนั้นยังมีความสามารถ ด้านพละกำลังเพราะเทวาคอยดูแล แต่ไม่มีจิตสำนึกขาดการไตร่ตรองด้วยความคิด มุ่งเน้นแต่การใช้ กำลัง และความคะนองในพละกำลัง จะเห็นว่า ตัวตนของทรพีนั้นล้วนแสดงออกถึงความชั่วร้าย ทั้งการฆ่าบิดาตนเอง เที่ยวอวดฤทธิ์อวดศักดา หลงไหลในกำลังจนต้องตาย จากข้อมูลเมื่อนำมา ประกอบกันจึงเป็นหนทางนำไปสู่การสร้างบุคลิกลักษณะของผู้แสดงโขนในบทบาทของทรพีดังที่ ผู้วิจัยได้ศึกษามีดังนี้ 1) ทรพีเป็นสัตว์ตามธรรมชาติเป็นถึงพญาควาย ดังนั้นเมื่อมาสู่การเป็นผู้แสดงเป็น ทรพีจึงต้องสร้างบุคลิกให้สง่างาม แข็งแรง บึกบึน การเคลื่อนไหวกิริยาอาการต่าง ๆ ควรเป็นไปอย่าง คล่องแคล่ว มุทะลุ ดุ เป็นลักษณะที่ผู้คนเห็นจะต้องเกรง 2) ทรพี ในการแสดงทรพีเปรียบเหมือนตัวละครในฝั่งอธรรม ดังนั้น ผู้แสดงเป็นทรพี ต้องวางบุคลิกที่โลดโผนในแบบสัตว์ ใช้ร่างกายในการสื่อสารท่าทางในการแสดงโขน ต้องแสดงออก ให้เห็นภาพ ว่า บุคลิกของควายตามธรรมชาตินั้นเป็นอย่างไร ทรพีในการแสดงโขนไม่ใช่ใครก็สามารถแสดงได้ สิ่งแรกต้องมีพละกำลังในการออก ท่าทางในการแสดงเพราะจากเนื้อเรื่องทรพีดุดันมากเมื่อต่อสู้ และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงต่อไปคือความ เข้าใจถึงบทบาทของตัวควายตามธรรมชาติว่ามีลักษณะสัญชาตญาณเป็นอย่างไรและนำมาผสมผสาน กับตัววรรณกรรมของตัวละครดังที่กล่าวมาและแสดงออกให้ผู้ชมเห็นภาพของตัวละครทรพีผ่าน ท่วงท่าในการแสดง 1.1.4 การเลียนแบบท่าทางในการแสดงโขนของพาลีและทรพี กระบวนท่าลิงที่ปรากฏในการแสดงโขนนั้นได้รับอิทธิพลมาจากลิงแสม ท่ารำที่ปรากฏใน การแสดงโขนนั้นล้วนมีพื้นฐานและผ่านการคิดมาอย่างยาวนานและเป็นระบบ ทั้งแม่ท่าลิง กระบวน รบลิง การฝึกหัดเบื้องต้นและการตีบทล้วนเป็นหนทางในการฝึกโขนตัวลิง ทำให้เห็นว่าท่าที่ปรากฏนั้น ไม่ได้คิดขึ้นมาตามจิตนาการอย่างเดียวแต่ล้วนยึดหลักตามความเป็นจริงและเป็นธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ กระบวนท่ารำที่ปรากฏในการรบของพาลีจึงเป็นแบบแผนที่มีมาตั้งแต่ดังเดิมตลอดจนใช้ท่าทาง พื้นฐานที่ต้องได้รับการฝึกหัดตามกระบวนการการเรียนโขนลิงมาเป็นลำดับ


233 กระบวนท่าทรพีที่ปรากฏในการแสดงโขนนั้นได้รับอิทธิพลมาจาก ควายปลัก ควายปลัก เป็นควายที่ชอบอยู่ในโคลนและมีรูปร่างใหญ่มีเขาโค้งยาวกว่าควายแม่น้ำ ควายแม่น้ำเป็นควายที่ชอบ ความสะอาดไม่ชอบลงโคลนและมีเขาที่โค้งไปทางด้านหลัง และกลางออกเล็กน้อย สรุปได้ว่า ควาย ปลักเป็นควายที่นำมาเป็นพื้นฐานในการแสดงในการแสดงโขน ประการหนึ่งที่ทำให้เห็นชัดคือ ประเพณีชนควายของไทยนั้น ก็ใช้ควายปลักในการชน นอกเหนือจากที่อีกปัจจัยที่ทำให้เห็นได้ว่า ควายปลักถูกนำมาใช้ในการแสดงโขนจริงคือ ลักษณะของหัวโขนในการแสดงโขน หัวทรพีมีความ คล้ายกับควายปลัก ทั้งจมูก หู ปาก ตา และถาพความปลักยังปรากฏในจิตกรรมฝาผนังอีกด้วย ท่าทางในการรบระหว่างพาลีกับทรพี หรือแม้กระทั่งท่าทางของสองตัวละครนั้น ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากสัตว์ตามธรรมชาติจริงโดย มีครูผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้คิดประดิษฐ์ขึ้นโดย อิงจากหลักความเป็นจริงจากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าความหน้าสนใจของ ตอนพาลีรบทรพีนั้น คือความ เฉพาะของตัวละครที่เลียนแบบท่าทางมาจากธรรมชาติผสมผสานท่าทางพื้นฐานทางนาฏศิลป์ไทยโขน แต่หาได้มีองค์ประกอบเดียวไม่นอกจาก นำท่าทางจากธรรมชาติแล้วยังต้องรังสรรค์ให้ตรงตามบุคลิก ของตัวละครในวรรณกรรมอีก เพื่อถ่ายทอดบทบาทของตัวแสดงให้ออกมาตรงตามเรื่องราวใน วรรณคดีไทย จากนั้นจึงนำมาคิดประดิษฐ์ท่ารำให้ตรงตามบทร้อง ตามแบบการแสดงโขนและส่งผ่าน อารมณ์ผ่านท่าทางสู่การแสดงให้ผู้ชมได้รับชมต่อไป 1.1.5 องค์ประกอบการแสดง 1) การคัดเลือกตัวผู้แสดงพาลีและทรพี การคัดเลือกตัวผู้แสดง พาลี ให้เหมาะสมกับตัวละครไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง ลักษณะ บุคลิก นิสัย และผู้แสดงจะต้องมีประสบการณ์ในการแสดงโขน เข้าใจในบทบาทและอารมณ์ของตัวละคร พาลีมีลักษณะรูปร่างสูงโปร่ง สง่า มีรูปร่างคอยาว มีความสูง เพื่อให้เหมาะกับการสวมยอด ร่างกาย ทุกส่วนต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่อ้วนจนเกินไป โดยเฉพาะตัวพาลีเป็นลิงกษัตริย์ กษัตริย์ของลิงเวลา ทำบุคลิกท่าทางต้องเหมาะสม พาลี มีบุคลิกที่นิ่ง ไม่ลุกลี้ลุกลน ไม่ซุกซนเหมือนลิงตัวอื่น มีความเป็น ผู้นำ มีการวางตัวให้เหมาะสมกับการเป็นลิงกษัตริย์ การคัดเลือกตัวผู้แสดง ทรพี จะต้องมีลักษณะ ร่างกายแข็งแรง รูปร่างสันทัด หุ่นล่ำสัน มีไหวพริบดี มีประสบการณ์ในการเรียนโขนยักษ์หรือโขนลิงมาก่อนนอกจากนี้ผู้ที่แสดงทรพีจะต้องมี ส่วนสูงที่สมดุลกัน และลักษณะท่าทางจะต้องมีความแข็งแรง เข้มแข็ง เพราะเมื่อนำมาแสดงแล้วจะ


234 สามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้ชัดเจน เช่น อารมณ์ในการเข้ารบกันระหว่างทรพีและพาลี ที่จะต้องมี ความดุดัน ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ 2) เครื่องแต่งกายของตัวละคร ลักษณะการแต่งกายโขนคือการแต่งกาย “ยืนเครื่อง” อิทธิพลจากเรื่องรามเกียรติ์นั้น มีผลต่อการแต่งกายโขนละครเป็นอันมาก เพราะเป็นเรื่องราวของเทพ จึงทำให้เครื่องแต่งกายวาววาม และแพรวพราวด้วยเครื่องทองตลอดจนถนิมพิมพาภรณ์อันมีค่าซึ่ง แสดงให้เห็นถึงฐานะและยศศักดิ์ การแต่งกายของพาลี มีลักษณะการแต่งกายดังนี้ คือแต่งกายยืนเครื่อง สีเขียวขลิบแดง สวมมงกุฎยอดสะบัด เหตุที่กายสีเขียวและมีมงกุฎยอดสะบัด เพราะว่าเป็นลูกของพระอินทร์จึงมี สีกายและมงกุฎยอดบัดเหมือนพระอินทร์ ลักษณะหัวโขนของตัวพาลีหน้าลิงปากอ้า สีเขียว ยอดบัด การแต่งกายของทรพี ตามบทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช รัชกาลที่ 1 กล่าวว่า จึ่งคลอดบุตรมาเป็นตัวผู้สีดำดูองอาจแกล้วกล้า จากวรรณกรรมสู่ การแสดง สีที่ออกมาของทรพีคือ สีดำขลิบแดง ลักษณะหัวโขน ศีรษะครึ่งหัว และใช้การแต่งใบหน้า ซึ่งผู้วิจัยได้ทำการศึกษา การแต่งกายของทรพีที่ปรากฏในการแสดง สามารถแต่งกายได้ 2 แบบ แบบ ที่ 1 ผ้านุ่งมาจับจีบปล่อยห้อยมาทำเป็นหาง แบบที่ 2 ใส่หางดำขลิบแดง 3) พื้นที่แสดงบนเวที ในการแสดงโขนตอนพาลีรบทรพี ผู้วิจัยได้ศึกษาพบว่ารูปแบบการใช้เวทีในการแสดงนั้น ส่วนใหญ่ท่าในการแสดงจะเล่นอยู่ระหว่างกลางทั้งสองตัวละคร แต่เมื่อเข้าสู่การรบจะมีการ เคลื่อนไหวไปทางด้านซ้าย และ ด้านขวาของเวทีเพื่อแสดงให้เห็นถึงการรุกและรับ รวมไปถึงการ เคลื่อนไหวของสองตัวละครที่ไม่หยุดนิ่ง จะเป็นการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา 4) บทที่ใช้ในการศึกษา บทที่ผู้วิจัยนำมาศึกษา บันทึกท่ารำ และนำมาวิเคราะห์โดยได้ตัดตอนมาจากการแสดง โขนตอนพาลีสอนน้อง กรมศิลปากรได้ปรับปรุงขึ้นใหม่ จัดแสดงเป็นครั้งแรกในงานสัปดาห์หนังสือ แห่งชาติ วันที่ 2, 3 และ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2517 ผู้ประพันธ์บทโขน คือ นายเสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช 2531 โดยจัดทำบทเพื่อใช้ในการแสดงโขน แนวคิด การจัดทำบทโขน ชุดพาลีสอนน้อง เป็นการนำเสนอบทบาทสำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ คือ พาลี โดย จัดทำบทขึ้นใหม่ ดำเนินเรื่องตามบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 ดำเนินเรื่องด้วยการพากย์ เจรจา


235 และการขับร้องมีความกระชับ รวดเร็ว ตอนผู้วิจัยนำมาซึ่งอยู่ในองก์ที่ 3 พาลีสอนน้อง ตอนที่ 2 สุครีพ ต้องโทษ 5) เครื่องดนตรีที่และเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง เพลงที่พบในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนพาลีรบทรพี พบเพลงดนตรีที่ใช้ในการ แสดงอยู่ 4 เพลงได้แก่ 1) เพลงเชิด 2) เพลงเขมรปากท่อชั้นเดี่ยว 3) เพลงรัว 4) เพลงโอด พบเพลงที่ เป็นเพลงร้อง อยู่ 2 เพลงได้แก่ 1) ร้องร่าย 2) เพลงเขมรปากท่อชั้นเดียว วงดนตรีที่ใช้ประกอบการ แสดงโขนตอนพาลีรบทรพีนั้น สามารถใช้ได้ 3 วง ได้แก่ 1) วงปี่พาทย์เครื่องห้า 2) วงปี่พาทย์เครื่องคู่ 3) วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ 2. กระบวนการรบ ของพาลี และ ทรพีในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอน พาลีรบทรพี กระบวนการรบในการแสดงโขนนั้นสามารถจำแนกได้ 2 รูปแบบ คือ 1) กระบวนการรบในเพลงหน้าพาทย์ ในการแสดงโขนส่วนใหญ่จะใช้กระบวนการรบ ในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด แทบทั้งสิ้นกระบวนการต่อรบหากเป็นตัวละครเอก จะมี 3 ขั้นตอน เริ่มด้วยการท้ารบ ตามด้วยการนุ่งผ้า และการเข้าท่าจับ ส่วนตัวละครที่เป็นเสนาจะมี 2 ขั้นตอน ในการรบ คือการท้ารบ และการเข้าท่าจับ แต่ไม่มีการแต่งตัว เพราะไม่ต้องใช้ลีลา แต่ใช้ความพร้อม เป็นหลักในการต่อสู้จึงปฏิบัติเพียง 2 ขั้นตอน คือ การท้ารบ และ การเข้าท่าจับ ส่วนในตัวละครบาง ตัวที่เป็นตัวละครเอกจะไม่มีการนุ่งผ้านั้น มีผลมาจากตัวละครคู่ต่อสู้นั้นไม่สามารถนุ่งผ้าได้ด้วยสภาพ ตัวละคร ดังนั้นจึงสรุปได้ว่ารูปแบบกระบวนการรรบในเพลงเชิดมี 2 รูปแบบ หากตัวละครใช้ กระบวนการรบในรูปแบบที่ 1 จะเริ่มด้วย 1) การท้ารบ 2) การนุ่งผ้า 3) การเข้าท่าจับ มีกระบวนการที่ เป็นขั้นตอนในการปฏิบัติ 6 ขั้นตอน 1)การท้ารบ 2)การนุ่งผ้า 3)การเงื้อ 4)การตีเข้า 5)การเข้าท่าจับ 6) การตีออก หากตัวละครใช้กระบวนการรบในรูปแบบที่ 2 จะเริ่มด้วย 1) การท้ารบ 2) การเข้าท่าจับ จะมีกระบวนการที่เป็นขั้นตอนปฏิบัติ 5 ขั้นตอน 1) การท้ารบ 2) การเงื้อ 3) การตีเข้า 4) การเข้าท่าจับ 5) การตีออก กระบวนการรบของพาลีและทรพีพบว่าในว่าการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพี ใช้รูปแบบกระบวนการรบรูปแบบที่ 2 ในการรบ จะไม่มีการนุ่งผ้าด้วยสาเหตุ เมื่อศึกษาผู้วิจัยพบว่า ตัวทรพีนั้นตามวรรณกรรมและความเป็นจริงเป็นเพียงสัตว์ไม่ได้มีการแต่งตัวเหมือนมนุษย์ ไม่ได้สวม ผ้านุ่งและอีกหนึ่งสาเหตุในการแสดงโขนทรพีนั้นไม่สามารถใช้มือในการจับผ้านุ่งของตนเองได้พอสรุป ได้ว่ากระบวนการรบในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิดของพาลีและทรพี ในการแสดงโขนกระบวนการรบที่ใช้


236 คือรูปแบบที่ 2 จะประกอบด้วย 1) การท้ารบ 2) ท่าเงื้อ มีขั้นตอนการปฏิบัติท่ารำ 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1)การท้ารบ 2) ท่าเงื้อ 3) ท่าตีเข้าก่อนเริ่มเข้าท่าจับ 4) การเข้าท่าจับ 5) ท่าตีออกจากการรบ นับเป็น จบกระบวนการเข้ารบในท่าจับที่ 1 2) กระบวนการรบในเพลงร้อง และการพากย์เจรจา กระบวนการรบใน เพลงร้อง และการ พากย์เจรจา มีการปฏิบัติที่คล้ายกันทุกตัวละคร โดยเริ่มต้นจะตีบทตามคำร้องและคำพากย์เจรจา แต่เมื่อบทร้องและบทพากย์เจรจาที่มีความหมาย หมายถึงการรบหรือบรรยายถึงการกระทำของตัว ละคร ระหว่างสองตัวละครหรือมากกว่า จะใช้การเข้าท่าจับในการเข้ารบ ซึ่งท่าจับในการแสดงโขน นั้น เมื่อเป็นขั้นตอนในการปฏิบัติกระบวนการรบมี 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การตีเข้า 2) การเข้าท่าจับ 3) การตีออก อาจใช้เพียงการเข้าท่าจับ หรือ อาจใช้เพียงการตีเข้า และการตีออก หรือเรียกภาษา โขนว่าการตีผ่าน เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นถึงตัวละครที่มีการเข้ารบกันประกอบบทร้องบทพากย์เจรจา แต่หากเป็นเพลงร้องหรือบทพากย์ที่เป็นจุดจบหรือการตาย ตัวแสดงก็จะไม่ฆ่าและตายเลยในเพลง ร้องหรือคำพากย์เจรจา ในการแสดงโขนจะใช้เพลงหน้าพาทย์ในการฆ่า เช่น เพลงรัวและตายในเพลง โอด เป็นต้น ถือเป็นแนวปฏิบัติกันสืบมา ในการแสดงโขนตอนพาลีรบทรพีพบการใช้กระบวนการ ดังกล่าว มีทั้งการตีผ่าน และการเข้าท่าจับในบทร้องที่บรรยายถึงการเข้ารบของตัวละคร จากการศึกษาการบวนท่ารบของพาลี รบ ทรพีในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน พาลีรบ ทรพี ตามแนวทางนายกรี วรศะริน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช 2531 ศึกษา ผ่านทางนายประสิทธิ์ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช 2551 ในการแสดง ในตอนพาลีรบทรพีแบ่งออกเป็นเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก เป็นช่วงที่ทรพีไปทายท้าพาลี ให้ออกรบในถ้ำ ช่วงที่สองเป็นช่วงที่พาลีและทรพีไปรบในถ้ำ และพาลีฆ่าทรพีตาย ในการแสดงกระบวนท่ารบมีทั้งการ ตีบทในคำพากย์เจรจา และมีการตีบทในคำร้องเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียวและเพลงร่าย มีกระบวนท่า รบในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด การรบในเพลงร้องในเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียวและเพลงร่าย และ กระบวนท่ารบในบทพากย์เจรจา ลักษณะในการต่อสู้เป็นการสู้ในฐานะแบบสัตว์กับสัตว์ซึ่งทั้งสองตัว ละคร มีสถานะภาพเป็นสัตว์การแสดงท่าทางนั้นจะเป็นในลักษณะท่ารำที่ใช้เลียนแบบมาจาก ธรรมชาติของลิง และ ควาย และท่าทางที่คิดประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยนำท่ามาจากนาฏยศัพท์ และ พื้นฐานของท่ารำมาจากนาฏศิลป์ไทย ในกระบวนท่ารบนั้นจะแสดงให้เห็นถึงการรุกและการรับของ สองตัวละคร


237 3. วิเคราะห์โครงสร้างกระบวนท่ารบ พาลี กับ ทรพี โครงสร้างกระบวนท่ารบที่วิจัยกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า จากโครงสร้างกระบวนท่ารบที่วิจัย กล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า กระบวนท่ารบของพาลีและทรพีในการแสดงจะรบกันใน 2 รูปแบบ 1) รบในเพลงหน้าพาทย์ 2) รบในบทร้องและการพากย์เจรจา ผู้วิจัยแยกโครงสร้างกระบวนท่ารบ ตามกระบวนการแสดงออกเป็น 5 โครงสร้าง 1) โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด 2) โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงร้องเพลงเขมรปากท่อชั้นเดียว 3) โครงสร้างกระบวนท่ารบในบทพากย์เจรจา 4) โครงสร้างกระบวนท่ารบในร้องเพลงร่าย 5) โครงสร้างกระบวนท่ารบในเพลงหน้าพาทย์เพลงรัวและโอด ในโครงสร้างกระบวนท่ารบ ทั้ง 5 นั้น จะประกอบไปด้วย 1. ท่าหลัก 2. ท่าเฉพาะของตัวละคร คือ ท่าที่คิดสำหรับสองตัวละคร หรือการออกลีลาท่าของตัวละครนั้น ๆ อาจสรุปได้ว่าโครงสร้างกระบวน ท่ารบที่ปรากฏในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพาลีรบทรพีนั้น ได้นำมาจากตัวละครที่มีความ เหมือนกันตามสถานะภาพของตัวละครในการแสดงโขน เช่น พาลีนั้นเป็นลิงในการแสดงท่าการรบ ของพาลีก็นำมาจาก ตัวละครที่เป็นลิงในการรบกับยักษ์ที่รบในเพลงหน้าพาทย์เพลงเชิด ซึ่งใน กระบวนการรบที่เป็นแบบแผนดั้งเดิมที่เริ่มต้นด้วยการท้ารบ และ การเข้าท่าจับ ดังนั้นเมื่อพาลีรบ ทรพีก็ปฏิบัติตามกระบวนการตามแบบแผนดั้งเดิมเช่นกัน แต่เมื่อเป็นท่าจับที่หมายถึงการรบของตัว ละคร หากไม่ใช้ตัวละครที่เป็นยักษ์ จึงต้องประดิษฐ์ท่าขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับสถานะภาพของตัว ละครที่มารบ ที่มารบกับพาลีในครั้งนี้เป็นทรพีซึ่งเป็นควาย ดังนั้นการรบครั้งนี้ถือเป็นการรบเฉพาะ ด้วยเหตุนี้จึงต้องดึงท่าเฉพาะของพาลีรบกับทรพีออกมาผ่านท่าจับ โดยคำนึงถึงความเป็นจริงและ สอดคล้องกับบทการแสดงที่มาจากบทประพันธ์ และนำมาเลียนแบบและประดิษฐ์ท่ารำขึ้นโดย ใช้พื้นฐานทางนาฏศิลป์ไทยในการแสดงโขน เมื่อเป็นโครงสร้างในเพลงร้องและการพากย์เจรจา ก็เช่นเดียวกัน โครงสร้างท่ารบในเพลงร้องและการพากย์เจรจานั้นมาจากพื้นฐานเดียวกันคือ คิดท่ารบ ตามบทการแสดงที่มาจากบทประพันธ์ โดยนำท่ามาจากพื้นฐานในการแสดงโขน และประดิษฐ์ท่าให้ ตรงตามความหมายกับคำร้องและคำพากย์เจรจาดังนั้นจึงสรุปได้ว่าโครงสร้างกระบวนการรบของพาลี กับทรพี มี 3 ขั้น ดังนี้ 1) การล่อ 2) การท้ารบและการเงื้อดูเชิง 3) กระบวนการรบในเพลงหน้าพาทย์ และรบในบทร้องและการพากย์เจรจา


Click to View FlipBook Version