“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
พระปฐมบรมราชโองการ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
พระปฐมบรมราชโองการ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
พระปฐมบรมราชโองการ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
วันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
พระปฐมบรมราชโองการ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
วันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
บทปรารภ
ก่อนอ่นผมต้องขอขอบคุณ คณะท�ำงำนและผู้ท่มีส่วนเก่ยวข้อง ท้งในนำมบุคคล และในนำมหน่วยงำน ท่ร่วมมือ
ี
ี
ี
ั
ื
ั
ึ
ี
ท้งแรงกำยและสติปัญญำในกำรจัดท�ำหนังสือกำลำนุกรมเล่มน้ข้นมำ ผมทรำบดีว่ำทุกท่ำนต้องใช้ควำมพยำยำม
อย่ำงมำกในกำรสืบค้น รวบรวมข้อมูลประวัติศำสตร์ของหน่วย ตั้งแต่ก�ำเนิดหน่วยรบพิเศษ เมื่อ ๔ มิ.ย. ๒๔๙๗ ในนำม
“ กองพันทหำรพลร่ม ” จนถึงปัจจุบัน ทั้งจำกเอกสำร และจำกอดีตปูชนียบุคคลของหน่วยรบพิเศษที่อยู่ในเหตุกำรณ์
ี
และยังมีชีวิตอยู่ หนังสือเล่มน้มีคุณำนุปกำรต่อนักรบพิเศษรุ่นหลังเป็นอย่ำงมำก เพรำะเป็นกำรรวบรวมข้อมูล
ประวัติศำสตร์ของหน่วยตั้งแต่ในอดีต ทั้งที่น่ำภำคภูมิใจและที่เป็นบทเรียนส�ำคัญของพวกเรำชำวรบพิเศษ ที่ถูกบันทึกไว้
ในหลำยๆ เหตุกำรณ์ในแต่ละห้วงเวลำของแต่ละหน่วย ซึ่งกระจัดกระจำยในหลำยๆ ที่ น�ำมำรวบรวม ช�ำระ สังเครำะห์
แล้วเรียงร้อยเหตุกำรณ์ส�ำคัญที่เกิดขึ้นตำมล�ำดับห้วงเวลำ ซึ่งมีควำมสัมพันธ์กับสถำนกำรณ์ของโลกในเวลำนั้น ท�ำให้
ผู้อ่ำนเข้ำใจง่ำยและเกิดแรงบันดำลใจอยำกศึกษำควำมเป็นมำของหน่วยรบพิเศษ ตลอด ๖๖ ปีที่ผ่ำนมำ หน่วยรบพิเศษ
ได้เข้ำไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เกือบทุกเหตุกำรณ์ที่เป็นวิกฤติของประเทศ และปฏิบัติภำรกิจส�ำเร็จมำโดยตลอด ทั้งนี้เนื่องจำก
ก�ำลังพลของหน่วยมีควำมพร้อมทั้งด้ำนร่ำงกำย มีควำมรู้ ควำมสำมำรถทำงทหำร ควำมกล้ำหำญ อดทน และมี
อุดมกำรณ์ จนเป็นที่เชื่อมั่นของผู้บังคับบัญชำในกองทัพบกไทย ตำมค�ำขวัญของหน่วยที่ว่ำ “ พลังเงียบ เฉียบขำด ”
ขอให้พวกเรำนักรบพิเศษในปัจจุบัน มีควำมภำคภูมิใจในควำมเป็นมำของหน่วยรบพิเศษ และร่วมมือร่วมใจกัน
เสริมสร้ำงให้ก�ำลังพลในหน่วยบัญชำกำร-สงครำมพิเศษ เป็นนักรบพิเศษท่มีคุณสมบัติท่ดี ๕ ประกำร และน�ำไปสู่ควำมเป็น
ี
ี
“ นักรบพิเศษ TOP MAN ” ให้ได้อย่ำงแท้จริง
พล.ท.
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
8 9
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
บทปรารภ
ก่อนอ่นผมต้องขอขอบคุณ คณะท�ำงำนและผู้ท่มีส่วนเก่ยวข้อง ท้งในนำมบุคคล และในนำมหน่วยงำน ท่ร่วมมือ
ี
ี
ี
ั
ื
ั
ึ
ี
ท้งแรงกำยและสติปัญญำในกำรจัดท�ำหนังสือกำลำนุกรมเล่มน้ข้นมำ ผมทรำบดีว่ำทุกท่ำนต้องใช้ควำมพยำยำม
อย่ำงมำกในกำรสืบค้น รวบรวมข้อมูลประวัติศำสตร์ของหน่วย ตั้งแต่ก�ำเนิดหน่วยรบพิเศษ เมื่อ ๔ มิ.ย. ๒๔๙๗ ในนำม
“ กองพันทหำรพลร่ม ” จนถึงปัจจุบัน ทั้งจำกเอกสำร และจำกอดีตปูชนียบุคคลของหน่วยรบพิเศษที่อยู่ในเหตุกำรณ์
ี
และยังมีชีวิตอยู่ หนังสือเล่มน้มีคุณำนุปกำรต่อนักรบพิเศษรุ่นหลังเป็นอย่ำงมำก เพรำะเป็นกำรรวบรวมข้อมูล
ประวัติศำสตร์ของหน่วยตั้งแต่ในอดีต ทั้งที่น่ำภำคภูมิใจและที่เป็นบทเรียนส�ำคัญของพวกเรำชำวรบพิเศษ ที่ถูกบันทึกไว้
ในหลำยๆ เหตุกำรณ์ในแต่ละห้วงเวลำของแต่ละหน่วย ซึ่งกระจัดกระจำยในหลำยๆ ที่ น�ำมำรวบรวม ช�ำระ สังเครำะห์
แล้วเรียงร้อยเหตุกำรณ์ส�ำคัญที่เกิดขึ้นตำมล�ำดับห้วงเวลำ ซึ่งมีควำมสัมพันธ์กับสถำนกำรณ์ของโลกในเวลำนั้น ท�ำให้
ผู้อ่ำนเข้ำใจง่ำยและเกิดแรงบันดำลใจอยำกศึกษำควำมเป็นมำของหน่วยรบพิเศษ ตลอด ๖๖ ปีที่ผ่ำนมำ หน่วยรบพิเศษ
ได้เข้ำไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เกือบทุกเหตุกำรณ์ที่เป็นวิกฤติของประเทศ และปฏิบัติภำรกิจส�ำเร็จมำโดยตลอด ทั้งนี้เนื่องจำก
ก�ำลังพลของหน่วยมีควำมพร้อมทั้งด้ำนร่ำงกำย มีควำมรู้ ควำมสำมำรถทำงทหำร ควำมกล้ำหำญ อดทน และมี
อุดมกำรณ์ จนเป็นที่เชื่อมั่นของผู้บังคับบัญชำในกองทัพบกไทย ตำมค�ำขวัญของหน่วยที่ว่ำ “ พลังเงียบ เฉียบขำด ”
ขอให้พวกเรำนักรบพิเศษในปัจจุบัน มีควำมภำคภูมิใจในควำมเป็นมำของหน่วยรบพิเศษ และร่วมมือร่วมใจกัน
เสริมสร้ำงให้ก�ำลังพลในหน่วยบัญชำกำร-สงครำมพิเศษ เป็นนักรบพิเศษท่มีคุณสมบัติท่ดี ๕ ประกำร และน�ำไปสู่ควำมเป็น
ี
ี
“ นักรบพิเศษ TOP MAN ” ให้ได้อย่ำงแท้จริง
พล.ท.
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
8 9
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
บทบรรณาธิการ
หนังสือกำลำนุกรมหน่วยรบพิเศษ กองทัพบกไทยเล่มนี้ จัดท�ำขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลวิวัฒนำกำรของหน่วยรบ
พิเศษ ตั้งแต่ยุคก่อนก่อตั้งหน่วยทหำรพลร่มจนมำถึงยุคที่เป็นหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษในปัจจุบัน นอกจำกนี้
่
�
ยังมีกำรรวบรวมวีรกรรมหรือกำรปฏิบัติภำรกิจท่ส�ำคัญ ทำเนียบอดีตผู้บังคับบัญชำและชุดปฏิบัติกำรตำงๆ
ี
ของหน่วยรบพิเศษ โดยกำรน�ำข้อมูลมำจัดเรียงเรื่องรำวโดยใช้กำลเวลำและเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นในกำรด�ำเนินเรื่อง
กระผมหวังว่ำหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่ำนและผู้ที่สนใจในเรื่องรำวของหน่วยรบพิเศษ ทั้งนี้คณะ
ผู้จัดท�ำพร้อมน้อมรับควำมคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจำกผู้อ่ำนทุกท่ำนด้วยควำมยินดี ทั้งข้อมูลเพิ่มเติมหรือหำกมี
เหตุกำรณ์ที่ส�ำคัญในอนำคต คณะผู้จัดท�ำจะได้น�ำข้อมูลเหล่ำนั้นมำรวบรวมจัดพิมพ์ในครั้งต่อไปครับ
พ.อ. สุรศักดิ์ ค�าปิวทา
ผู้อ�านวยการกองวิทยาการ ศูนย์สงครามพิเศษ
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
10 11
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
บทบรรณาธิการ
หนังสือกำลำนุกรมหน่วยรบพิเศษ กองทัพบกไทยเล่มนี้ จัดท�ำขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลวิวัฒนำกำรของหน่วยรบ
พิเศษ ตั้งแต่ยุคก่อนก่อตั้งหน่วยทหำรพลร่มจนมำถึงยุคที่เป็นหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษในปัจจุบัน นอกจำกนี้
่
�
ยังมีกำรรวบรวมวีรกรรมหรือกำรปฏิบัติภำรกิจท่ส�ำคัญ ทำเนียบอดีตผู้บังคับบัญชำและชุดปฏิบัติกำรตำงๆ
ี
ของหน่วยรบพิเศษ โดยกำรน�ำข้อมูลมำจัดเรียงเรื่องรำวโดยใช้กำลเวลำและเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นในกำรด�ำเนินเรื่อง
กระผมหวังว่ำหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่ำนและผู้ที่สนใจในเรื่องรำวของหน่วยรบพิเศษ ทั้งนี้คณะ
ผู้จัดท�ำพร้อมน้อมรับควำมคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจำกผู้อ่ำนทุกท่ำนด้วยควำมยินดี ทั้งข้อมูลเพิ่มเติมหรือหำกมี
เหตุกำรณ์ที่ส�ำคัญในอนำคต คณะผู้จัดท�ำจะได้น�ำข้อมูลเหล่ำนั้นมำรวบรวมจัดพิมพ์ในครั้งต่อไปครับ
พ.อ. สุรศักดิ์ ค�าปิวทา
ผู้อ�านวยการกองวิทยาการ ศูนย์สงครามพิเศษ
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
10 11
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
สารบัญ
วิธีอ่ำนกำลำนุกรม ๑๔ ยุทธกำรผำภูมิ ๙๓ การปราบปรามยาเสพติด ผู้บังคับบัญชำหน่วยรบพิเศษ ๑๖๒
บทที่ ๑ ปฐมบทหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย ยุทธกำรสองนำ ๙๔ โครงกำร ๕๑๔ ๑๑๖ ชุดปฏิบัติกำรในหน่วยรบพิเศษ ๑๗๐
แนวควำมคิดในกำรท�ำ “สงครำมพิเศษ” ๑๘ ยุทธกำรร่วมใจ ๙๕ ชค.๔๓๒ ๑๑๗ อำวุธยุทโธปกรณ์หน่วยรบพิเศษ ๑๗๒
วิวัฒนำกำรของพลร่ม ๒๐ ยุทธกำรผำเมืองเผด็จศึก ๙๖ ร้อยรบพิเศษ ๕๑ ๑๑๘ ประวัติเครื่องหมำยแสดงขีดควำมสำมำรถ(ปีกร่ม) ๑๘๖
ต�ำรวจพลร่ม สู่ทหำรพลร่ม ๒๔ ยุทธกำรใต้ร่มเย็น (ช่องช้ำง) ๙๗ สนับสนุนการแก้ปัญหา๓จังหวัดชายแดนภาคใต้ บทที่ ๕ บทสรุปส่งท้าย
ควำมสัมพันธ์ของหน่วยรบพิเศษไทยและสหรัฐอเมริกำ ๒๖ โครงกำรบำงระจัน ๙๘ บก.๙ ๑๒๐ บทเรียนจำกำรรบ ๑๙๒
บทที่ ๒ วิวัฒนาการหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย การปฏิบัติยุทธการป้องกันประเทศ กองก�ำลังสันติสุข ๑๒๐ ความส�าเร็จของหน่วย/เกียรติประวัติ
ี
ี
ยุคก่อนก่อตั้งหน่วยทหำรพลร่ม ๓๒ ยุทธกำรช่องพระพลัย ๑๐๐ ฉก.สันติสุข ๑๒๑ วีรกรรมของก�ำลังพลท่ปฏิบัติหน้ำท่ ที่ได้รับกำรยกย่อง ๑๙๔
ยุคกองพันทหำรพลร่ม ๔๐ ยุทธกำรตำตูม ๑๐๑ ศูนย์สันติสุข ๑๒๑ แผนพัฒนาหน่วย นสศ. สู่อนาคต
ยุคศูนย์สงครำมพิเศษ ๔๘ ยุทธกำรช�ำรำก ๑๐๒ ส�ำนักสำรสนเทศ กอ.รมน.ภำค ๔ สน. ๑๒๒ กำรจัดตั้งเหล่ำ รพศ. ๑๙๘
ยุคหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ๖๐ ยุทธกำรช่องโอบก ๑๐๓ การปฏิบัติเพื่อมนุษยธรรม กระบวนกำรเสริมสร้ำงนักรบพิเศษ ๒๐๒
บทที่ ๓ สมรภูมิที่ส�าคัญหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย ยุทธกำรช่องบก ๑๐๔ นคก.๘๘ ๑๒๓ กำรเสริมสร้ำงขีดควำมสำมำรถในกำรต่อสู้ ๒๐๖
ปฏิบัติการยุคแรก ยุทธกำรร่มเกล้ำ ๑๐๕ ศปสก.ศอร.บก.สส. ๑๒๔ กำรก่อกำรร้ำยให้กับ กรม รพศ.
ปรำบปรำมโจรจีนคอมมิวนิสต์มลำยู (จคม.) ๗๖ ยุทธกำรกูเต็งนำโยง ๑๐๖ จัดตั้ง ฉก.พตท.พระพุทธบำท ๑๒๕ บทส่งท้าย ๒๐๘
ปรำบปรำมผู้มีอิทธิพลภำคตะวันออก ๗๗ ยุทธกำรปรำสำทพระวิหำร ปรำสำทตำเมือน การปฏิบัติการตามแผนไทยเสรี(ป้องกันชายแดน) คณะผู้จัดท�า ๒๐๙
การปฏิบัติการนอกประเทศ ปรำสำทตำควำย ๑๐๗ ฐปน. ๑๒๖ บรรณานุกรม ๒๑๐
กำรปฏิบัติกำรลับในลำว ๗๘ การปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ บก.ควบคุม ๑๒๗
กำรปฏิบัติกำรลับในกัมพูชำ ๘๐ กองก�ำลัง ๙๗๒ ไทย–ติมอร์ตะวันออก ๑๐๘ ศูนย์ปฏิบัติกำรทำงยุทธวิธี (TOC) ศปก.พล.รพศ.๑ ๑๒๘
กำรปฏิบัติกำรในสงครำมเวียดนำม ๘๒ ร้อย ช.ฉก.๙๗๕ ไทย–อัฟกำนิสถำน ๑๐๙ การปฏิบัติการจิตวิทยาเสริมความมั่นคง ๑๓๐
กำรปฏิบัติกำรในประเทศเมียนมำ ๘๔ กองก�ำลัง ๙๗๖ ไทย–อิรัก ๑๑๐ บทที่ ๔ เกร็ดประวัติรบพิเศษ
การปราบปรามคอมมิวนิสต์ กองก�ำลัง ๙๘๐ ไทย–ดำร์ฟู ๑๑๑ หมวกเบเร่ต์แดง ๑๓๔
กำรปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์พื้นที่ กำรสนับสนุนภำรกิจที่ เซียร์รำลีโอน ๑๑๒ สำยยงยศทหำรรบพิเศษ ๑๓๕
ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ๘๖ การต่อสู้การก่อการร้าย เพลงมำร์ชทหำรพลร่ม ๑๓๖
กำรปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์(แม้วแดง) ๘๘ กำรปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันที่โรงพยำบำล อนุสำวรีย์ทหำรพลร่ม ๑๓๘
ยุทธกำรชูชีพ (ภูขี้เถ้ำ) ๘๙ รำชบุรี (ก๊อดส์อำร์มี่) ๑๑๔ พิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษ ๑๔๐
ยุทธกำรผำลำด ๙๐ กำรปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันจำกเหตุกำรณ์ ค่ำยทหำรรบพิเศษ ๑๔๔
ยุทธกำรภูขวำง ๙๑ จับตัวประกันเรือนจ�ำสมุทรสำคร ๑๑๕ โลโก้หน่วยต่ำงๆ ๑๕๖
ยุทธกำรสำมชัย ๙๒ เครื่องแบบทหำรรบพิเศษ ๑๖๐
12 13
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
สารบัญ
วิธีอ่ำนกำลำนุกรม ๑๔ ยุทธกำรผำภูมิ ๙๓ การปราบปรามยาเสพติด ผู้บังคับบัญชำหน่วยรบพิเศษ ๑๖๒
บทที่ ๑ ปฐมบทหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย ยุทธกำรสองนำ ๙๔ โครงกำร ๕๑๔ ๑๑๖ ชุดปฏิบัติกำรในหน่วยรบพิเศษ ๑๗๐
แนวควำมคิดในกำรท�ำ “สงครำมพิเศษ” ๑๘ ยุทธกำรร่วมใจ ๙๕ ชค.๔๓๒ ๑๑๗ อำวุธยุทโธปกรณ์หน่วยรบพิเศษ ๑๗๒
วิวัฒนำกำรของพลร่ม ๒๐ ยุทธกำรผำเมืองเผด็จศึก ๙๖ ร้อยรบพิเศษ ๕๑ ๑๑๘ ประวัติเครื่องหมำยแสดงขีดควำมสำมำรถ(ปีกร่ม) ๑๘๖
ต�ำรวจพลร่ม สู่ทหำรพลร่ม ๒๔ ยุทธกำรใต้ร่มเย็น (ช่องช้ำง) ๙๗ สนับสนุนการแก้ปัญหา๓จังหวัดชายแดนภาคใต้ บทที่ ๕ บทสรุปส่งท้าย
ควำมสัมพันธ์ของหน่วยรบพิเศษไทยและสหรัฐอเมริกำ ๒๖ โครงกำรบำงระจัน ๙๘ บก.๙ ๑๒๐ บทเรียนจำกำรรบ ๑๙๒
บทที่ ๒ วิวัฒนาการหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย การปฏิบัติยุทธการป้องกันประเทศ กองก�ำลังสันติสุข ๑๒๐ ความส�าเร็จของหน่วย/เกียรติประวัติ
ี
ี
ยุคก่อนก่อตั้งหน่วยทหำรพลร่ม ๓๒ ยุทธกำรช่องพระพลัย ๑๐๐ ฉก.สันติสุข ๑๒๑ วีรกรรมของก�ำลังพลท่ปฏิบัติหน้ำท่ ที่ได้รับกำรยกย่อง ๑๙๔
ยุคกองพันทหำรพลร่ม ๔๐ ยุทธกำรตำตูม ๑๐๑ ศูนย์สันติสุข ๑๒๑ แผนพัฒนาหน่วย นสศ. สู่อนาคต
ยุคศูนย์สงครำมพิเศษ ๔๘ ยุทธกำรช�ำรำก ๑๐๒ ส�ำนักสำรสนเทศ กอ.รมน.ภำค ๔ สน. ๑๒๒ กำรจัดตั้งเหล่ำ รพศ. ๑๙๘
ยุคหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ๖๐ ยุทธกำรช่องโอบก ๑๐๓ การปฏิบัติเพื่อมนุษยธรรม กระบวนกำรเสริมสร้ำงนักรบพิเศษ ๒๐๒
บทที่ ๓ สมรภูมิที่ส�าคัญหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย ยุทธกำรช่องบก ๑๐๔ นคก.๘๘ ๑๒๓ กำรเสริมสร้ำงขีดควำมสำมำรถในกำรต่อสู้ ๒๐๖
ปฏิบัติการยุคแรก ยุทธกำรร่มเกล้ำ ๑๐๕ ศปสก.ศอร.บก.สส. ๑๒๔ กำรก่อกำรร้ำยให้กับ กรม รพศ.
ปรำบปรำมโจรจีนคอมมิวนิสต์มลำยู (จคม.) ๗๖ ยุทธกำรกูเต็งนำโยง ๑๐๖ จัดตั้ง ฉก.พตท.พระพุทธบำท ๑๒๕ บทส่งท้าย ๒๐๘
ปรำบปรำมผู้มีอิทธิพลภำคตะวันออก ๗๗ ยุทธกำรปรำสำทพระวิหำร ปรำสำทตำเมือน การปฏิบัติการตามแผนไทยเสรี(ป้องกันชายแดน) คณะผู้จัดท�า ๒๐๙
การปฏิบัติการนอกประเทศ ปรำสำทตำควำย ๑๐๗ ฐปน. ๑๒๖ บรรณานุกรม ๒๑๐
กำรปฏิบัติกำรลับในลำว ๗๘ การปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ บก.ควบคุม ๑๒๗
กำรปฏิบัติกำรลับในกัมพูชำ ๘๐ กองก�ำลัง ๙๗๒ ไทย–ติมอร์ตะวันออก ๑๐๘ ศูนย์ปฏิบัติกำรทำงยุทธวิธี (TOC) ศปก.พล.รพศ.๑ ๑๒๘
กำรปฏิบัติกำรในสงครำมเวียดนำม ๘๒ ร้อย ช.ฉก.๙๗๕ ไทย–อัฟกำนิสถำน ๑๐๙ การปฏิบัติการจิตวิทยาเสริมความมั่นคง ๑๓๐
กำรปฏิบัติกำรในประเทศเมียนมำ ๘๔ กองก�ำลัง ๙๗๖ ไทย–อิรัก ๑๑๐ บทที่ ๔ เกร็ดประวัติรบพิเศษ
การปราบปรามคอมมิวนิสต์ กองก�ำลัง ๙๘๐ ไทย–ดำร์ฟู ๑๑๑ หมวกเบเร่ต์แดง ๑๓๔
กำรปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์พื้นที่ กำรสนับสนุนภำรกิจที่ เซียร์รำลีโอน ๑๑๒ สำยยงยศทหำรรบพิเศษ ๑๓๕
ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ๘๖ การต่อสู้การก่อการร้าย เพลงมำร์ชทหำรพลร่ม ๑๓๖
กำรปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์(แม้วแดง) ๘๘ กำรปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันที่โรงพยำบำล อนุสำวรีย์ทหำรพลร่ม ๑๓๘
ยุทธกำรชูชีพ (ภูขี้เถ้ำ) ๘๙ รำชบุรี (ก๊อดส์อำร์มี่) ๑๑๔ พิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษ ๑๔๐
ยุทธกำรผำลำด ๙๐ กำรปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันจำกเหตุกำรณ์ ค่ำยทหำรรบพิเศษ ๑๔๔
ยุทธกำรภูขวำง ๙๑ จับตัวประกันเรือนจ�ำสมุทรสำคร ๑๑๕ โลโก้หน่วยต่ำงๆ ๑๕๖
ยุทธกำรสำมชัย ๙๒ เครื่องแบบทหำรรบพิเศษ ๑๖๐
12 13
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
วิธีการอ่านกาลานุกรม
เนื้อหา เหตุกำรณ์ในหน่วยรบพิเศษและ วิธีอ่าน อ่ำนจำกหน้ำซ้ำย ต่อไปหน้ำขวำ คืออ่ำนเนื้อหำที่ต่อเนื่อง
เหตุกำรณ์ที่เกี่ยวข้องในกำรจัดตั้งต่ำงๆ (อ่ำนบน กับอ่ำนล่ำง คืออ่ำนเพื่อเทียบเคียงเหตุกำรณ
(ข้างบน)
(ข้างบน)
บอกเหตุก
บอกเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นใน
รณ์ที่เกิดขึ้น
ำ
ในหน่วยรบพิเศษ
หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
สัญลักษณ์ร่มส่งทางอากาศ
แสดงเวลำของเหตุกำรณ์
ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลำนั้น
เส้นเวลา
(Timeline)
(ข้างล่าง)
(ข้างล่าง)
รณ์ส�ำคัญเกิดขึ้นในที่อื่นๆ
ำ
บอกเหตุกำรณ์ส�ำคัญเกิดขึ้นในที่อื่นๆ
บอกเหตุก
ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก
ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก
เนื้อหา เหตุก ำ รณ์นอกหน่วยรบพิเศษ
เนื้อหา เหตุกำรณนอกหน่วยรบพิเศษ
และเหตุก ำ รณ์ที่ส�ำคัญที่เกิดขึ้นใน
และเหตุกำรณที่ส�ำคัญที่เกิดขึ้นใน
ประเทศไทยและรอบโลก
ประเทศไทยและรอบโลก
14 15
๑๕
๑๔
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
วิธีการอ่านกาลานุกรม
เนื้อหา เหตุกำรณ์ในหน่วยรบพิเศษและ วิธีอ่าน อ่ำนจำกหน้ำซ้ำย ต่อไปหน้ำขวำ คืออ่ำนเนื้อหำที่ต่อเนื่อง
เหตุกำรณ์ที่เกี่ยวข้องในกำรจัดตั้งต่ำงๆ (อ่ำนบน กับอ่ำนล่ำง คืออ่ำนเพื่อเทียบเคียงเหตุกำรณ
(ข้างบน)
(ข้างบน)
บอกเหตุก
บอกเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นใน
รณ์ที่เกิดขึ้น
ำ
ในหน่วยรบพิเศษ
หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
สัญลักษณ์ร่มส่งทางอากาศ
แสดงเวลำของเหตุกำรณ์
ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลำนั้น
เส้นเวลา
(Timeline)
(ข้างล่าง)
(ข้างล่าง)
รณ์ส�ำคัญเกิดขึ้นในที่อื่นๆ
ำ
บอกเหตุกำรณ์ส�ำคัญเกิดขึ้นในที่อื่นๆ
บอกเหตุก
ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก
ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก
เนื้อหา เหตุก ำ รณ์นอกหน่วยรบพิเศษ
เนื้อหา เหตุกำรณนอกหน่วยรบพิเศษ
และเหตุก ำ รณ์ที่ส�ำคัญที่เกิดขึ้นใน
และเหตุกำรณที่ส�ำคัญที่เกิดขึ้นใน
ประเทศไทยและรอบโลก
ประเทศไทยและรอบโลก
14 15
๑๕
๑๔
ปฐมบท
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
16 17
ปฐมบท
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
16 17
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ปฐมบทหน่วยรบพิเศษ กองทัพบกไทย สงครามพิเศษ ั ี ึ กำรปฏิบัติงำนของหน่วยน้ส่งผลให้ทหำรเยอรมันต้องกังวลอยู่กับกำร
ก่อนสงครำมโลกคร้งท่ ๒ จะก่อตัวข้น ได้มีกำรปฏิบัติกำรในรูปแบบ
ี
�
ี
ใหม่ท่ท�ำให้ข้ำศึกได้รับควำมเสียหำยตกเป็นฝ่ำยเพล่ยงพล้ำ โดยไม่ใช้ ระวงปองกันเขตหลงเพรำะไดมกำรซมโจมตตโฉบฉวยตอกองบัญชำกำร
ี
ุ
ั
้
ี
่
ี
ั
้
ี
่
�
แนวความคิดในการทา”สงครามพิเศษ” ก�ำลังทหำรเข้ำท�ำกำรสู้รบตำมหลักกำรสงครำม แต่หันไปใช้สายลับ หรือกำรลักพำตัวบุคคลส�ำคัญ เช่น นักวิทยำศำสตร์ ผู้น�ำทำงทหำร
้
ั
(agents) กบผสนบสนน (supporters) หรือผู้เอำใจช่วย (sympathizers) เป็นต้น
ั
ุ
ู
หลักกำรสงครำม ได้วิวัฒนำกำรมำเป็นเวลำหลำยศตวรรษ
และทหำรนอกเคร่องแบบเข้ำปฏิบัติกำรหลังแนวข้ำศึก ด้วยกำรวำง หลังจำกสงครำมโลกคร้งท่ ๒ ส้นสุดลง ได้เกิดบทเรียนจำกกำรรบ
ื
ี
ั
ิ
ี
ปฐมบทของหลักกำรสงครำมเหล่ำน้ได้มำจำกบทเรียน และกำรศึกษำ
เพลิงเผำผลำญสถำนที่ส�ำคัญ คลังอำวุธ สิ่งอ�ำนวยควำมสะดวกต่ำง ๆ มำกมำยจนเกิดเป็นนวัตกรรมกำรท�ำสงครำมในรูปแบบและวิธีกำรต่ำงๆ
ี
พิจำรณำควำมส�ำเร็จกับควำมล้มเหลวของกำรสงครำมท่ได้กระท�ำ
ตลอดจนท�ำกำร ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดกำรติดต่อส่อสำรกำรแพร่กระจำย กัน รวมท้งกำรท�ำสงครำมนอกแบบก็กลับมำได้รับกำรยอมรับโดยน�ำไป
�
ื
ั
ี
ี
ึ
มำแล้วในอดต รวมถงจำกพฒนำกำรของเทคโนโลยและยทโธปกรณ์
ุ
ั
ื
่
ขำวลอ กำรค้ำตลำดมืด เป็นต้น ท�ำให้เกิดควำมสับสนวุ่นวำย ก่อควำมเสียหำย ปฏิบัติกันอย่ำงแพร่หลำย ควำมมุ่งหมำยของกำรรบนอกแบบกระท�ำ
ั
ในกำรท�ำสงครำม อีกท้งยังได้มำจำกกำรวิเครำะห์สภำวะแวดล้อม
แก่ฝ่ำยตรงข้ำมเป็นอันมำก ปฏิบัติกำรเช่นน้เรียกว่ำ “การปฏิบัติการ เพ่อให้ฝ่ำยศัตรูอ่อนก�ำลังลงจนสำมำรถใช้ก�ำลังทหำรส่วนใหญ่เข้ำ
ี
ื
ึ
กับลักษณะของกำรสงครำมในอนำคตอีกทำงหน่งด้วยหลักกำร
ของแนวที่ ๕” (fifth columnist operations) ท�ำกำรสงครำมตำมแบบเพ่อเอำชนะได้โดยง่ำย สงครำมนอกแบบ ไม่ม ี
ื
สงครำมของไทยสมัยหลังเปล่ยนแปลงกำรปกครองแล้ว ได้มีกล่ำวไว้
ี
ในระหว่ำงสงครำมโลกครั้งที่ ๒ ประเทศต่ำง ๆ ได้น�ำวิธีกำรปฏิบัติ รูปแบบของสงครำมท่แน่นอน เป็นกำรกระท�ำทุกวิถีทำงเพ่อให้ฝ่ำย
ี
ื
ุ
ในตำรำยทธศำสตร์ ว่ำด้วยหลักกำรน�ำทัพของ พ.อ.พระสงครามภักด ี
�
กำรของแนวที่ ๕ มำสนับสนุนกำรปฏิบัติกำรสงครำมตำมแบบ หลำย ตรงข้ำมอ่อนแอ ต่อมำได้รับกำรพัฒนำให้มีวีธีกำรปฏิบัติมำกมำยหลำย
ซ่งได้เรียบเรียงข้นจำกหนังสือ ยุทธศาสตร์ของอังกฤษ
ึ
ึ
ั
ประเทศได้จัดต้งหน่วยกล้าตายข้น โดยยึดถือเอำหลักกำรและวิธีกำร รูปแบบข้น เช่น กำรบ่อนท�ำลำย กำรโฆษณำชวนเช่อ กำรจำรกรรม
ึ
ึ
ื
(British Strategy) โดย พลตรี เซอร์ เอฟ. เมาริซ
ของกำรปฏิบัติกำรของแนวที่ ๕ เป็นส�ำคัญ เพิ่มเติมด้วยยุทธวิธีต่ำง ๆ กำรก่อวินำศกรรม กำรปฏิบัติโดยตรง กำรปฏิบัติกำรใต้ดินหลังแนวข้ำศึก
ี
(Major General Sir F. Maurice) ท่พิมพ์ใน พ.ศ.๒๔๗๒ (ค.ศ.๑๙๒๙)
ั
ั
้
ั
ั
่
ของกองโจร เช่น ประเทศฝรงเสศและองกฤษ ได้จดตงหน่วยกล้ำตำย กำรปฏิบัติกำรลับ ฯลฯ จึงเรียกสงครำมในลักษณะน้ว่ำ “สงครามพิเศษ”
ี
ประกอบกับ พระรำชพงศำวดำร และหนังสือ“ เรารบพม่า “
ี
เรียกว่ำหน่วย “คอมมานโด” (commando) หน่วยน้ถูกส่งเข้ำไป (Special Warfare) ซ่งพัฒนามาเป็น”การปฏิบัติการพิเศษ”
ึ
ของ กรมพระยำด�ำรงรำชำนุภำพท่ได้ทรงรวบรวมไว้ และกระทรวง
ี
ท�ำกำรรบแบบกองโจรในดินแดนส่วนหลังของกองทัพฝ่ำยตรงข้ำม ในปัจจุบัน
กลำโหมได้ส่งให้ใช้ส�ำหรับกำรศึกษำ เม่อ ๓ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ พ.อ.พระสงครามภักดี ผู้เรียบเรียงหนังสือ ยุทธศาสตร์ของอังกฤษ (British Strategy)
ื
ั
ี
ได้กล่ำวถึงหลักกำรสงครำมตำมท่ตัดทอนหรือดัดแปลงมำจำก
หลักกำรสงครำม ๗ ประกำรของกองทัพอังกฤษ ซ่งถือเป็นหลักกำร
ึ
ี
สงครำมท่เป็นหลักกำรสงครำมท่ใช้ยึดถือเป็นทำงกำรของกองทัพ
ี
ั
ั
ไทยในห้วงเวลำน้น จนกระท่งเกิดสงครำมโลกคร้งท่ ๑ และ ๒
ั
ี
ได้เกิดบทเรียนจำกกำรรบมำกมำยและน�ำมำสู่กำรจัดท�ำหลักนิยม
กำรรบในรูปแบบต่ำงๆของกองทัพท่วโลก ในเวลำต่อมำ
ั
กรมพระยาด�ารงราชานุภาพ
๒๒ 19
18
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ปฐมบทหน่วยรบพิเศษ กองทัพบกไทย สงครามพิเศษ ั ี ึ กำรปฏิบัติงำนของหน่วยน้ส่งผลให้ทหำรเยอรมันต้องกังวลอยู่กับกำร
ก่อนสงครำมโลกคร้งท่ ๒ จะก่อตัวข้น ได้มีกำรปฏิบัติกำรในรูปแบบ
ี
�
ี
ใหม่ท่ท�ำให้ข้ำศึกได้รับควำมเสียหำยตกเป็นฝ่ำยเพล่ยงพล้ำ โดยไม่ใช้ ระวงปองกันเขตหลงเพรำะไดมกำรซมโจมตตโฉบฉวยตอกองบัญชำกำร
ี
ุ
ั
้
ี
่
ี
ั
้
ี
่
�
แนวความคิดในการทา”สงครามพิเศษ” ก�ำลังทหำรเข้ำท�ำกำรสู้รบตำมหลักกำรสงครำม แต่หันไปใช้สายลับ หรือกำรลักพำตัวบุคคลส�ำคัญ เช่น นักวิทยำศำสตร์ ผู้น�ำทำงทหำร
้
ั
(agents) กบผสนบสนน (supporters) หรือผู้เอำใจช่วย (sympathizers) เป็นต้น
ั
ุ
ู
หลักกำรสงครำม ได้วิวัฒนำกำรมำเป็นเวลำหลำยศตวรรษ
และทหำรนอกเคร่องแบบเข้ำปฏิบัติกำรหลังแนวข้ำศึก ด้วยกำรวำง หลังจำกสงครำมโลกคร้งท่ ๒ ส้นสุดลง ได้เกิดบทเรียนจำกกำรรบ
ื
ี
ั
ิ
ี
ปฐมบทของหลักกำรสงครำมเหล่ำน้ได้มำจำกบทเรียน และกำรศึกษำ
เพลิงเผำผลำญสถำนที่ส�ำคัญ คลังอำวุธ สิ่งอ�ำนวยควำมสะดวกต่ำง ๆ มำกมำยจนเกิดเป็นนวัตกรรมกำรท�ำสงครำมในรูปแบบและวิธีกำรต่ำงๆ
ี
พิจำรณำควำมส�ำเร็จกับควำมล้มเหลวของกำรสงครำมท่ได้กระท�ำ
ตลอดจนท�ำกำร ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดกำรติดต่อส่อสำรกำรแพร่กระจำย กัน รวมท้งกำรท�ำสงครำมนอกแบบก็กลับมำได้รับกำรยอมรับโดยน�ำไป
�
ื
ั
ี
ี
ึ
มำแล้วในอดต รวมถงจำกพฒนำกำรของเทคโนโลยและยทโธปกรณ์
ุ
ั
ื
่
ขำวลอ กำรค้ำตลำดมืด เป็นต้น ท�ำให้เกิดควำมสับสนวุ่นวำย ก่อควำมเสียหำย ปฏิบัติกันอย่ำงแพร่หลำย ควำมมุ่งหมำยของกำรรบนอกแบบกระท�ำ
ั
ในกำรท�ำสงครำม อีกท้งยังได้มำจำกกำรวิเครำะห์สภำวะแวดล้อม
แก่ฝ่ำยตรงข้ำมเป็นอันมำก ปฏิบัติกำรเช่นน้เรียกว่ำ “การปฏิบัติการ เพ่อให้ฝ่ำยศัตรูอ่อนก�ำลังลงจนสำมำรถใช้ก�ำลังทหำรส่วนใหญ่เข้ำ
ี
ื
ึ
กับลักษณะของกำรสงครำมในอนำคตอีกทำงหน่งด้วยหลักกำร
ของแนวที่ ๕” (fifth columnist operations) ท�ำกำรสงครำมตำมแบบเพ่อเอำชนะได้โดยง่ำย สงครำมนอกแบบ ไม่ม ี
ื
สงครำมของไทยสมัยหลังเปล่ยนแปลงกำรปกครองแล้ว ได้มีกล่ำวไว้
ี
ในระหว่ำงสงครำมโลกครั้งที่ ๒ ประเทศต่ำง ๆ ได้น�ำวิธีกำรปฏิบัติ รูปแบบของสงครำมท่แน่นอน เป็นกำรกระท�ำทุกวิถีทำงเพ่อให้ฝ่ำย
ี
ื
ุ
ในตำรำยทธศำสตร์ ว่ำด้วยหลักกำรน�ำทัพของ พ.อ.พระสงครามภักด ี
�
กำรของแนวที่ ๕ มำสนับสนุนกำรปฏิบัติกำรสงครำมตำมแบบ หลำย ตรงข้ำมอ่อนแอ ต่อมำได้รับกำรพัฒนำให้มีวีธีกำรปฏิบัติมำกมำยหลำย
ซ่งได้เรียบเรียงข้นจำกหนังสือ ยุทธศาสตร์ของอังกฤษ
ึ
ึ
ั
ประเทศได้จัดต้งหน่วยกล้าตายข้น โดยยึดถือเอำหลักกำรและวิธีกำร รูปแบบข้น เช่น กำรบ่อนท�ำลำย กำรโฆษณำชวนเช่อ กำรจำรกรรม
ึ
ึ
ื
(British Strategy) โดย พลตรี เซอร์ เอฟ. เมาริซ
ของกำรปฏิบัติกำรของแนวที่ ๕ เป็นส�ำคัญ เพิ่มเติมด้วยยุทธวิธีต่ำง ๆ กำรก่อวินำศกรรม กำรปฏิบัติโดยตรง กำรปฏิบัติกำรใต้ดินหลังแนวข้ำศึก
ี
(Major General Sir F. Maurice) ท่พิมพ์ใน พ.ศ.๒๔๗๒ (ค.ศ.๑๙๒๙)
ั
ั
้
ั
ั
่
ของกองโจร เช่น ประเทศฝรงเสศและองกฤษ ได้จดตงหน่วยกล้ำตำย กำรปฏิบัติกำรลับ ฯลฯ จึงเรียกสงครำมในลักษณะน้ว่ำ “สงครามพิเศษ”
ี
ประกอบกับ พระรำชพงศำวดำร และหนังสือ“ เรารบพม่า “
ี
เรียกว่ำหน่วย “คอมมานโด” (commando) หน่วยน้ถูกส่งเข้ำไป (Special Warfare) ซ่งพัฒนามาเป็น”การปฏิบัติการพิเศษ”
ึ
ของ กรมพระยำด�ำรงรำชำนุภำพท่ได้ทรงรวบรวมไว้ และกระทรวง
ี
ท�ำกำรรบแบบกองโจรในดินแดนส่วนหลังของกองทัพฝ่ำยตรงข้ำม ในปัจจุบัน
กลำโหมได้ส่งให้ใช้ส�ำหรับกำรศึกษำ เม่อ ๓ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๐ พ.อ.พระสงครามภักดี ผู้เรียบเรียงหนังสือ ยุทธศาสตร์ของอังกฤษ (British Strategy)
ื
ั
ี
ได้กล่ำวถึงหลักกำรสงครำมตำมท่ตัดทอนหรือดัดแปลงมำจำก
หลักกำรสงครำม ๗ ประกำรของกองทัพอังกฤษ ซ่งถือเป็นหลักกำร
ึ
ี
สงครำมท่เป็นหลักกำรสงครำมท่ใช้ยึดถือเป็นทำงกำรของกองทัพ
ี
ั
ั
ไทยในห้วงเวลำน้น จนกระท่งเกิดสงครำมโลกคร้งท่ ๑ และ ๒
ั
ี
ได้เกิดบทเรียนจำกกำรรบมำกมำยและน�ำมำสู่กำรจัดท�ำหลักนิยม
กำรรบในรูปแบบต่ำงๆของกองทัพท่วโลก ในเวลำต่อมำ
ั
กรมพระยาด�ารงราชานุภาพ
๒๒ 19
18
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
วิวัฒนาการของทหารพลร่ม ทาไมต้องโดดร่ม การกระโดดร่มคร้งแรกในประเทศไทย
ั
�
ิ
ี
ทหำรรบพเศษไทยมต้นก�ำเนดมำจำกกำรเป็นทหำรพลร่มในช่วง ในสงครำมโลกคร้งท่ ๑ ได้มีกำรใช้ร่มชูชีพท้งอำวุธยุทโธปกรณ์ให้ บันทึกประวัติศำสตร์กำรกระโดดร่มในประเทศไทยไม่ได้เร่มต้นโดย ก็ทิ้งของให้อีกที่ บ้ำนโพนก้ำงปลำ ห่ำงจำกสกลนคร ๒๐ กม. และเริ่ม
ิ
ิ
ิ
ั
ี
เร่มต้น มีหลักคิดกำรใช้งำนตำมหลักกำรสงครำมคือหลักกำรจู่โจม ทหำรในสนำมรบ แต่ยังกระท�ำกันไม่กว้ำงขวำงนัก ร่มชูชีพซึ่งได้ช่วยผู้ กองทัพไทย แต่ปรำกฏอยู่ในปฏิบัติกำรของ”ขบวนกำรเสรีไทย” โดย ท้งของกลำงวัน ให้ท่บ้ำนโนนหอม พ.ต. ฮอลลำเดย์ เป็น นำยทหำร
ิ
ิ
ี
ื
ั
และหลักกำรออมก�ำลังเป็นพ้นฐำน ในยุคแรกของกำรก่อต้งอำจยัง โดยสำรและท้งอำวุธยุทโธปกรณ์ต่อมำเรียกส้นๆ ว่ำ “ร่ม” (Parachute) ท�ำกำรโดดร่มคร้งแรกเม่อวันท่ ๑๕ มีนำคม พ.ศ. ๒๔๘๗ เสรีไทยชุดแรก อเมรกนคนแรกทได้โดดร่มลงทีหนองหำร จ.สกลนคร พร้อมด้วย
ื
ิ
ี
ั
ั
ี
่
ิ
่
ั
ไม่ได้แบ่งแยกกันอย่ำงชัดเจนนัก จนต่อมำมีกำรก�ำหนดหลักนิยมกำร หลังจำกสงครำมโลกคร้งท่ ๑ หลำยประเทศได้เร่มเห็นประโยชน์จำก จ�ำนวน ๓ คน ประกอบด้วย นำยป๋วย อ๊งภำกรณ์ (เข้ม ยืนยง), นำยฉลอง ม่งตระกูล เหล่ำน้คือบันทึกกำรปฏิบัติกระโดดร่มและท้งของ
ึ
ี
ั
ิ
ี
ิ
ิ
ี
ึ
รบท่ชัดเจนข้นค�ำว่ำ”ทหำรพลร่ม”จึงกลำยเป็นคุณลักษณะอย่ำงหน่ง ึ เคร่องบินและร่มกันมำกข้น ใน พ.ศ. ๒๔๖๘ มีบำงประเทศทดลอง นำยประทำน เปรมกมล (แดง) และนำยเปรม บุรี (ดี) โดยเข้ำมำทำง ทำงอำกำศของขบวนกำรเสรีไทยซึ่งนับเป็นปฐมบทกำรกระโดดร่มของ
ื
ึ
ของทหำรรบพิเศษ และถือว่ำทหำรพลร่มเป็นจุดก�ำเนิดของทหำรรบ ล�ำเลียงทหำรด้วยเคร่องบินเป็นผลส�ำเร็จ และมีกำรจัดต้งหน่วยพลร่ม จังหวัดชัยนำท ท�ำให้ฝ่ำยเสรีไทยเร่มส่งวิทยุไปยังกองทัพอังกฤษท่อินเดีย ประเทศไทยในหน้ำประวัติศำสตร์
ั
ื
ี
ิ
ั
ึ
ื
ี
พิเศษไทย อีกท้งคุณสมบัติพ้นฐำนประกำรหน่งของก�ำลังพลท่บรรจ ุ อย่ำงลับ ๆ เพรำะ ถือว่ำเป็นอำวุธใหม่ท่ต้องปกปิด จึงไม่มีหลักฐำน ได้ส�ำเร็จเป็นคร้งแรก ท�ำให้หน่วยทหำรจำกอังกฤษและสหรัฐสำมำรถ
ั
ี
ในหน่วยรบพิเศษต้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจะต้องเป็นผู้ท่ผ่ำนกำรฝึก แน่นอนว่ำประเทศใดจัดต้งหน่วยทหำรพลร่มข้นก่อน พ.ศ. ๒๔๘๒ เล็ดลอดเข้ำมำปฏิบัติงำนในแผ่นดินไทยสะดวกข้น หลังจำกน้นได้ม ี
ั
ี
ึ
ั
ั
ึ
ี
หลักสูตรกระโดดร่มทุกนำย ส่วนหน่วยทหำรท่ก�ำหนดคุณสมบัติให้ ช่วงต้นสงครำมโลกคร้งท่ ๒ เยอรมันได้ใช้หน่วยทหำรพลร่มร่วมกับ บันทึกกำรกระโดดร่มของขบวนกำรเสรีไทยอีกดังนี้
ี
ั
ก�ำลังพลในหน่วยต้องเป็นนักโดดร่ม และมีขีดควำมสำมำรถในกำร ทหำรเหล่ำอ่น และมีหน่วยทหำรรำบอำกำศร่วมด้วย ซ่งได้ผลส�ำเร็จ โดดร่มครั้งที่ ๒ ในคืนวันที่ ๖ กันยำยน พ.ศ. ๒๔๘๗ เมื่อกำรติดต่อ
ื
ึ
ส่งทำงอำกำศท่อยู่ในกองทัพบกแต่มิได้อยู่ในกำรควบคุมบังคับบัญชำ ในด้ำนกำรจู่โจมต่อข้ำศึกท่อยู่ในระยะไกลอย่ำงรวดเร็ว แต่หน่วย ระหว่ำงหวหน้ำเสรไทยในองกฤษทอินเดยสำเรจ จงได้ทำกำรทดลอง
ี
ั
ี
�
ึ
ี
่
ี
ั
ี
�
็
ึ
ของหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษซ่งมิได้เรียกว่ำหน่วยรบพิเศษยัง ทหำรพลร่มก็มีจุดอ่อนเพรำะไม่สำมำรถป้องกันกำรตอบโต้จำกข้ำศึก โดดร่มอีกครั้งหนึ่งที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ซึ่งประสบควำมส�ำเร็จ
มีอีกหลำยหน่วยอำทิเช่น กองพันทหำรรำบส่งทำงอำกำศ (กองพัน ในขณะท่ยังลอยตัวอยู่ในอำกำศ ท�ำให้เกิดกำรสูญเสียเป็นจ�ำนวนมำก เรียบร้อย ผู้ที่โดดร่มลงมำคือ นำยประเสริฐ ปทุมมำนนท์ และนำยก
ี
นายป๋วย อึ๊งภากรณ์(เข้ม ยืนยง) นายประทาน เปรมกมล(แดง) นายเปรม บุรี(ดี)
ี
ท่๓ กรมทหำรรำบท่๓๑ รักษำพระองค์) เดิมเป็นกองพันส่งทำง กำรใช้พลร่มในตอนปลำยสงครำมจึงลดน้อยลง ฤษณ์ โปษยำนนท์
ี
ึ
อำกำศ(พัน.สอ.) ข้นกับศูนย์สงครำมพิเศษและแยกตัวออกไปในภำย โดดร่มครั้งที่ ๓ ในวันที่ ๙ กันยำยน พ.ศ. ๒๔๘๗ โดยกำรสนับสนุน
หลัง หรือ กองร้อยลำดตระเวนระยะไกลของกองพลทหำรรำบและ จำกส�ำนักยุทธศำสตร์ OSS ๐๕๕ ท่แคนดี เกำะลังกำ ได้ส่งเสรีไทย สำย
ี
ทหำรม้ำ กองร้อยฝึกรบพิเศษของกองทัพภำคเป็นต้น อเมริกำ คือ นำยบุญมำก เทศบุตร และนำยวิมล วิริยะวิทย์ ท�ำกำร
โดดร่มลงที่ จังหวัดแพร่
ทิ้งของทำงอำกำศครั้งที่ ๑ ในวันที่ ๑ มกรำคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ได้
นายประเสริฐ ปทุมมานนท์ นายกฤษณ์ โปษยานนท์
ภาพความผิดพลาดจากการกระโดดร่มในยุคแรก ท�ำกำรล�ำเลียง อำวุธยุทโธปกรณ์ มำส่งทำงอำกำศคร้งใหญ่ บริเวณหนำ ้
ั
�
ถ้ำพญำเขำสำมร้อยยอด จว.ประจวบคีรีขันธ์จ�ำนวนท้งหมด ๑๑ ร่ม
ั
ิ
ท้งของทำงอำกำศคร้งท่ ๒ ในวันท่ ๒๗ มกรำคม พ.ศ. ๒๔๘๘
ี
ี
ั
อังกฤษได้ทิ้งของ ณ DZ บริเวณ หนองน�้ำ บ้ำนลำดกระเชอ ต.หนอง
นอก ท่ำมกลำงเทือกเขำภูพำน หลัก กม.ที่ ๒๔ ตำมเส้นทำง สกล –
ร่มที่ใช้ในยุคแรก ในสงครามโลกครั้งที่๑ ภาพจ�าลองการใช้ร่ม
ิ
ี
ี
ี
ุ
กำฬสินธุ์ ให้กับคณะเสรไทย ชดนำยเตยง ศริขันธ์ ต่อมำอก ๑๖ วัน
20 21
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
วิวัฒนาการของทหารพลร่ม ทาไมต้องโดดร่ม การกระโดดร่มคร้งแรกในประเทศไทย
ั
�
ิ
ี
ทหำรรบพเศษไทยมต้นก�ำเนดมำจำกกำรเป็นทหำรพลร่มในช่วง ในสงครำมโลกคร้งท่ ๑ ได้มีกำรใช้ร่มชูชีพท้งอำวุธยุทโธปกรณ์ให้ บันทึกประวัติศำสตร์กำรกระโดดร่มในประเทศไทยไม่ได้เร่มต้นโดย ก็ทิ้งของให้อีกที่ บ้ำนโพนก้ำงปลำ ห่ำงจำกสกลนคร ๒๐ กม. และเริ่ม
ิ
ิ
ิ
ั
ี
เร่มต้น มีหลักคิดกำรใช้งำนตำมหลักกำรสงครำมคือหลักกำรจู่โจม ทหำรในสนำมรบ แต่ยังกระท�ำกันไม่กว้ำงขวำงนัก ร่มชูชีพซึ่งได้ช่วยผู้ กองทัพไทย แต่ปรำกฏอยู่ในปฏิบัติกำรของ”ขบวนกำรเสรีไทย” โดย ท้งของกลำงวัน ให้ท่บ้ำนโนนหอม พ.ต. ฮอลลำเดย์ เป็น นำยทหำร
ิ
ิ
ี
ื
และหลักกำรออมก�ำลังเป็นพ้นฐำน ในยุคแรกของกำรก่อต้งอำจยัง โดยสำรและท้งอำวุธยุทโธปกรณ์ต่อมำเรียกส้นๆ ว่ำ “ร่ม” (Parachute) ท�ำกำรโดดร่มคร้งแรกเม่อวันท่ ๑๕ มีนำคม พ.ศ. ๒๔๘๗ เสรีไทยชุดแรก อเมรกนคนแรกทได้โดดร่มลงทีหนองหำร จ.สกลนคร พร้อมด้วย
ั
ั
ิ
ี
ื
ั
่
ั
่
ิ
ี
ไม่ได้แบ่งแยกกันอย่ำงชัดเจนนัก จนต่อมำมีกำรก�ำหนดหลักนิยมกำร หลังจำกสงครำมโลกคร้งท่ ๑ หลำยประเทศได้เร่มเห็นประโยชน์จำก จ�ำนวน ๓ คน ประกอบด้วย นำยป๋วย อ๊งภำกรณ์ (เข้ม ยืนยง), นำยฉลอง ม่งตระกูล เหล่ำน้คือบันทึกกำรปฏิบัติกระโดดร่มและท้งของ
ึ
ิ
ี
ั
ิ
ี
ิ
ึ
รบท่ชัดเจนข้นค�ำว่ำ”ทหำรพลร่ม”จึงกลำยเป็นคุณลักษณะอย่ำงหน่ง ึ เคร่องบินและร่มกันมำกข้น ใน พ.ศ. ๒๔๖๘ มีบำงประเทศทดลอง นำยประทำน เปรมกมล (แดง) และนำยเปรม บุรี (ดี) โดยเข้ำมำทำง ทำงอำกำศของขบวนกำรเสรีไทยซึ่งนับเป็นปฐมบทกำรกระโดดร่มของ
ี
ื
ึ
ของทหำรรบพิเศษ และถือว่ำทหำรพลร่มเป็นจุดก�ำเนิดของทหำรรบ ล�ำเลียงทหำรด้วยเคร่องบินเป็นผลส�ำเร็จ และมีกำรจัดต้งหน่วยพลร่ม จังหวัดชัยนำท ท�ำให้ฝ่ำยเสรีไทยเร่มส่งวิทยุไปยังกองทัพอังกฤษท่อินเดีย ประเทศไทยในหน้ำประวัติศำสตร์
ี
ื
ั
ิ
ั
ื
ี
ึ
พิเศษไทย อีกท้งคุณสมบัติพ้นฐำนประกำรหน่งของก�ำลังพลท่บรรจ ุ อย่ำงลับ ๆ เพรำะ ถือว่ำเป็นอำวุธใหม่ท่ต้องปกปิด จึงไม่มีหลักฐำน ได้ส�ำเร็จเป็นคร้งแรก ท�ำให้หน่วยทหำรจำกอังกฤษและสหรัฐสำมำรถ
ั
ี
ั
ี
ในหน่วยรบพิเศษต้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจะต้องเป็นผู้ท่ผ่ำนกำรฝึก แน่นอนว่ำประเทศใดจัดต้งหน่วยทหำรพลร่มข้นก่อน พ.ศ. ๒๔๘๒ เล็ดลอดเข้ำมำปฏิบัติงำนในแผ่นดินไทยสะดวกข้น หลังจำกน้นได้ม ี
ั
ั
ึ
ึ
ี
หลักสูตรกระโดดร่มทุกนำย ส่วนหน่วยทหำรท่ก�ำหนดคุณสมบัติให้ ช่วงต้นสงครำมโลกคร้งท่ ๒ เยอรมันได้ใช้หน่วยทหำรพลร่มร่วมกับ บันทึกกำรกระโดดร่มของขบวนกำรเสรีไทยอีกดังนี้
ี
ั
ก�ำลังพลในหน่วยต้องเป็นนักโดดร่ม และมีขีดควำมสำมำรถในกำร ทหำรเหล่ำอ่น และมีหน่วยทหำรรำบอำกำศร่วมด้วย ซ่งได้ผลส�ำเร็จ โดดร่มครั้งที่ ๒ ในคืนวันที่ ๖ กันยำยน พ.ศ. ๒๔๘๗ เมื่อกำรติดต่อ
ึ
ื
ี
ส่งทำงอำกำศท่อยู่ในกองทัพบกแต่มิได้อยู่ในกำรควบคุมบังคับบัญชำ ในด้ำนกำรจู่โจมต่อข้ำศึกท่อยู่ในระยะไกลอย่ำงรวดเร็ว แต่หน่วย ระหว่ำงหวหน้ำเสรไทยในองกฤษทอินเดยสำเรจ จงได้ทำกำรทดลอง
็
ึ
่
�
ั
ี
ี
ี
�
ั
ี
ของหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษซ่งมิได้เรียกว่ำหน่วยรบพิเศษยัง ทหำรพลร่มก็มีจุดอ่อนเพรำะไม่สำมำรถป้องกันกำรตอบโต้จำกข้ำศึก โดดร่มอีกครั้งหนึ่งที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ซึ่งประสบควำมส�ำเร็จ
ึ
มีอีกหลำยหน่วยอำทิเช่น กองพันทหำรรำบส่งทำงอำกำศ (กองพัน ในขณะท่ยังลอยตัวอยู่ในอำกำศ ท�ำให้เกิดกำรสูญเสียเป็นจ�ำนวนมำก เรียบร้อย ผู้ที่โดดร่มลงมำคือ นำยประเสริฐ ปทุมมำนนท์ และนำยก
ี
นายป๋วย อึ๊งภากรณ์(เข้ม ยืนยง) นายประทาน เปรมกมล(แดง) นายเปรม บุรี(ดี)
ี
ท่๓ กรมทหำรรำบท่๓๑ รักษำพระองค์) เดิมเป็นกองพันส่งทำง กำรใช้พลร่มในตอนปลำยสงครำมจึงลดน้อยลง ฤษณ์ โปษยำนนท์
ี
ึ
อำกำศ(พัน.สอ.) ข้นกับศูนย์สงครำมพิเศษและแยกตัวออกไปในภำย โดดร่มครั้งที่ ๓ ในวันที่ ๙ กันยำยน พ.ศ. ๒๔๘๗ โดยกำรสนับสนุน
หลัง หรือ กองร้อยลำดตระเวนระยะไกลของกองพลทหำรรำบและ จำกส�ำนักยุทธศำสตร์ OSS ๐๕๕ ท่แคนดี เกำะลังกำ ได้ส่งเสรีไทย สำย
ี
ทหำรม้ำ กองร้อยฝึกรบพิเศษของกองทัพภำคเป็นต้น อเมริกำ คือ นำยบุญมำก เทศบุตร และนำยวิมล วิริยะวิทย์ ท�ำกำร
โดดร่มลงที่ จังหวัดแพร่
ทิ้งของทำงอำกำศครั้งที่ ๑ ในวันที่ ๑ มกรำคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ได้
นายประเสริฐ ปทุมมานนท์ นายกฤษณ์ โปษยานนท์
ภาพความผิดพลาดจากการกระโดดร่มในยุคแรก ท�ำกำรล�ำเลียง อำวุธยุทโธปกรณ์ มำส่งทำงอำกำศคร้งใหญ่ บริเวณหนำ ้
ั
�
ถ้ำพญำเขำสำมร้อยยอด จว.ประจวบคีรีขันธ์จ�ำนวนท้งหมด ๑๑ ร่ม
ั
ิ
ท้งของทำงอำกำศคร้งท่ ๒ ในวันท่ ๒๗ มกรำคม พ.ศ. ๒๔๘๘
ี
ี
ั
อังกฤษได้ทิ้งของ ณ DZ บริเวณ หนองน�้ำ บ้ำนลำดกระเชอ ต.หนอง
นอก ท่ำมกลำงเทือกเขำภูพำน หลัก กม.ที่ ๒๔ ตำมเส้นทำง สกล –
ร่มที่ใช้ในยุคแรก ในสงครามโลกครั้งที่๑ ภาพจ�าลองการใช้ร่ม
ิ
ี
ี
ี
ุ
กำฬสินธุ์ ให้กับคณะเสรไทย ชดนำยเตยง ศริขันธ์ ต่อมำอก ๑๖ วัน
20 21
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
�
ก่อกาเนิดพลร่มไทย จอมพล ป. พิบูลสงครำม ซ่งเป็นนำยกรัฐมนตรี รมว.กระทรวง ต่อมำเมื่อ ปี ๒๔๙๔ กรมต�ำรวจได้เริ่มด�ำเนินกำรฝึกกำรรบพิเศษให้
ึ
กลำโหม และ ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ได้สั่งกำรให้จัดตั้งคณะกรรมกำรขึ้น กับก�ำลังพลของกรมต�ำรวจเป็นรุ่นแรก เมื่อวันที่ ๑๗ เมษำยน ๒๔๙๔
ั
แนวควำมคิดในกำรจัดต้งหน่วยพลร่มในประเทศไทยเกิดข้นในปี
ึ
ึ
ื
ั
ื
พ.ศ.๒๔๙๔ เม่อรัฐบำลสหรัฐอเมริกำ (ประธำนำธิบดีทรูแมน) อนุมัต ิ คณะหน่ง เพ่อพิจำรณำรำยละเอียดกำรจัดต้งหน่วยรบนอกแบบใน โดย พล.ต.อ. หลวงตระกำร โกศล อธิบดีกรมต�ำรวจเป็นประธำนในพิธี
ึ
ื
ั
ให้กำรสนับสนุนรัฐบำลไทยโดยผ่ำนบริษัทซีซับพลำย (Sea Supply : ประเทศไทยข้น มีช่อว่ำ “คณะกรรมการนเรศวร” โดยมี จอมพลสฤษด ิ ์ ผู้ร่วมพิธีมีท้งนำยชลอ วนภูติ ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดลพบุรี ข้ำรำชกำร
ี
Southeast Asia Supply) ในนำมของพลเรือนเพ่อหลีกเล่ยง ธนะรัชต์ และ พล.ต.อ.เผ่ำ ศรียำนนท์ เป็นกรรมกำรร่วมอยู่ด้วย มติของ ชั้นผู้ใหญ่ ฝ่ำยทหำร ต�ำรวจ และพลเรือนจ�ำนวนมำก และได้พิจำรณำ
ื
ี
ข้อกฎหมำยระหว่ำงประเทศและกฎหมำยของสหรัฐท่ไม่อนุญำตให้ “คณะกรรมกำรนเรศวร” เห็นว่ำทหำรมีหน้ำท่ในกำรป้องกันข้ำศึกจำก เปลี่ยนชื่อเขำ “สัมมะลึงค์” หรือ “เขำสะพรึง” เป็นเขำ “เอรำวัณ”
ี
กระทรวงกลำโหมช่วยเหลือกิจกำรด้ำนทหำรแก่ประเทศสัมพันธมิตร ภำยนอกประเทศเท่ำนั้น และจำกสัญญำท่ท�ำไว้กับฝร่งเศส ทหำรไม่ ตำมรูปลักษณะของภูเขำ ซ่งคล้ำยรูปช้ำงสำมเศียรหมอบหันหัวไป
ึ
ั
ี
โดยส่ง เจมส์ วิลเลียม แลร์ ( JAMES WILLAM LAIR : Bill Lair) สำมำรถเจำะลึกเข้ำไปในประเทศข้ำศึกได้เกิน ๒๕ กม. ฉะนั้น กำรรบ ทำงทิศใต้ เขำ “สัมมะลึงค์” หรือ “เขำสะพรึง” จึงมีช่อว่ำเขำ “เอรำวัณ”
ื
ี
เจ้ำหน้ำท่หน่วยข่ำวกรองของประเทศสหรัฐอเมริกำ (CIA) เข้ำมำใน
ี
ประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป้ำหมำยในกำรป้องกันและ นอกแบบและกำรกระโดดร่มจึงไม่มีควำมจ�ำเป็นส�ำหรับทหำร ท่ประชุม ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมำ และกรมต�ำรวจได้ใช้ค�ำว่ำ “เอรำวัณ” ไปสลักที่
หยุดย้งกำรแผ่ขยำยของลัทธิคอมมิวนิสต์ท่ก�ำลังเข้ำมำสู่ประเทศ “คณะกรรมกำร” จึงมีมติให้กรมต�ำรวจเป็นผู้รับผิดชอบในกำรจัดต้ง ั หัวแหวนพลร่มรุ่นแรก (รบพิเศษ รุ่นที่ ๓) โดย พล.ต.อ.เผ่ำ ศรียำนนท์
ั
ี
ั
แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย ด้วยกำรมำสร้ำง หน่วยรบนอกแบบ พล.ต.อ.เผ่ำ ศรียำนนท์ อธิบดีกรมต�ำรวจในขณะน้น อธิบดีกรมต�ำรวจเป็นประธำนมอบแหวนพลร่มรุ่นแรก
ื
ก�ำลังกองโจรท�ำกำรรบนอกแบบเพ่อเป็นก�ำลังตัวแทนของฝ่ำย ได้ใช้สถำนที่บริเวณเขำ “สัมมะลึงค์” หรือ “เขำสะพรึง” เป็นสถำนที่ เมื่อ ๑๓ ต.ค. ๒๔๙๔ ที่สวนอัมพร กรุงเทพฯ
สหรัฐฯ (Non American force) ในกำรต่อต้ำนกำรแผ่ขยำยของ ฝึกกำรรบพิเศษและกำรกระโดดร่มให้กับก�ำลังพลของกรมต�ำรวจ ตั้งแต่ ๑๗ เมษำยน ๒๔๙๔ – ๑๕ กุมภำพันธ์ ๒๔๙๖ กรมต�ำรวจ
ี
ลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยต้องกำรสร้ำงหน่วยท่มีควำมคล่องตัว โดยใช้อำคำรหลังเก่ำ ๓ หลัง ท่ทหำรญ่ปุ่นสร้ำงไว้เม่อสงครำมโลก ด�ำเนินกำรฝึกรบพิเศษ และกำรกระโดดร่มได้ จ�ำนวน ๑๑ รุ่น ซ่งม ี
ี
ี
ึ
ื
ให้สำมำรถท�ำกำรรบนอกแบบและมีขีดควำมสำมำรถโดดร่มได้
ึ
ิ
ิ
ั
ั
ี
ี
ึ
ซ่งโครงกำรน้ทำง สหรัฐอเมริกำเป็นผู้สนับสนุนและออกค่ำใช้จ่ำยให้ คร้งท่ ๒ และถูกปล่อยท้งไว้ให้รกร้ำงว่ำงเปล่ำเป็นสถำนท่ด�ำเนินกำรฝึก ก�ำลังพลของกองทัพบกเข้ำร่วมกำรฝึกด้วยท้งส้น ๑๗๓ นำย ซ่งเป็นก�ำลัง
ี
ี
ี
ี
ิ
ท้งหมด กำรริเร่มสร้ำงหน่วยพลร่มท่เรียกว่ำ PARU ( Police Aerial โดยใช้อำคำรหลังท่ ๑ เป็นตึกอ�ำนวยกำรและอำคำรหลังท่ ๒, ๓ ส�ำคัญในกำรจัดตั้งกองพันทหำรพลร่ม ที่บ้ำนป่ำหวำย ในเวลำต่อมำ
ั
ึ
Reinforcement Unit ) หรือต�ำรวจพลร่มจึงเกิดข้นจำกข้อเสนอของ Harry S. Truman เจมส์ วิลเลียม แลร์ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นห้องเรียน ที่พักนักเรียน และที่พักครูชำวอเมริกัน ตำมล�ำดับ
ึ
ึ
ั
เจมส์ วิลเลียม แลร์ หรือ บิล แลร์ ซ่งเกิดข้นหลังกำรจัดต้ง
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกของสหรัฐฯ (Green Berets)ได้ไม่นำน
พลต�ารวจเอก เผ่า ศรียานนท์ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
เจมส์ วิลเลียม แลร์ ( JAMES WILLAM LAIR : Bill Lair)
22 23
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
�
ก่อกาเนิดพลร่มไทย จอมพล ป. พิบูลสงครำม ซ่งเป็นนำยกรัฐมนตรี รมว.กระทรวง ต่อมำเมื่อ ปี ๒๔๙๔ กรมต�ำรวจได้เริ่มด�ำเนินกำรฝึกกำรรบพิเศษให้
ึ
กลำโหม และ ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ได้สั่งกำรให้จัดตั้งคณะกรรมกำรขึ้น กับก�ำลังพลของกรมต�ำรวจเป็นรุ่นแรก เมื่อวันที่ ๑๗ เมษำยน ๒๔๙๔
ั
แนวควำมคิดในกำรจัดต้งหน่วยพลร่มในประเทศไทยเกิดข้นในปี
ึ
ึ
ื
ั
ื
พ.ศ.๒๔๙๔ เม่อรัฐบำลสหรัฐอเมริกำ (ประธำนำธิบดีทรูแมน) อนุมัต ิ คณะหน่ง เพ่อพิจำรณำรำยละเอียดกำรจัดต้งหน่วยรบนอกแบบใน โดย พล.ต.อ. หลวงตระกำร โกศล อธิบดีกรมต�ำรวจเป็นประธำนในพิธี
ึ
ื
ั
ให้กำรสนับสนุนรัฐบำลไทยโดยผ่ำนบริษัทซีซับพลำย (Sea Supply : ประเทศไทยข้น มีช่อว่ำ “คณะกรรมการนเรศวร” โดยมี จอมพลสฤษด ิ ์ ผู้ร่วมพิธีมีท้งนำยชลอ วนภูติ ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดลพบุรี ข้ำรำชกำร
ี
Southeast Asia Supply) ในนำมของพลเรือนเพ่อหลีกเล่ยง ธนะรัชต์ และ พล.ต.อ.เผ่ำ ศรียำนนท์ เป็นกรรมกำรร่วมอยู่ด้วย มติของ ชั้นผู้ใหญ่ ฝ่ำยทหำร ต�ำรวจ และพลเรือนจ�ำนวนมำก และได้พิจำรณำ
ื
ี
ข้อกฎหมำยระหว่ำงประเทศและกฎหมำยของสหรัฐท่ไม่อนุญำตให้ “คณะกรรมกำรนเรศวร” เห็นว่ำทหำรมีหน้ำท่ในกำรป้องกันข้ำศึกจำก เปลี่ยนชื่อเขำ “สัมมะลึงค์” หรือ “เขำสะพรึง” เป็นเขำ “เอรำวัณ”
ี
กระทรวงกลำโหมช่วยเหลือกิจกำรด้ำนทหำรแก่ประเทศสัมพันธมิตร ภำยนอกประเทศเท่ำนั้น และจำกสัญญำท่ท�ำไว้กับฝร่งเศส ทหำรไม่ ตำมรูปลักษณะของภูเขำ ซ่งคล้ำยรูปช้ำงสำมเศียรหมอบหันหัวไป
ึ
ั
ี
โดยส่ง เจมส์ วิลเลียม แลร์ ( JAMES WILLAM LAIR : Bill Lair) สำมำรถเจำะลึกเข้ำไปในประเทศข้ำศึกได้เกิน ๒๕ กม. ฉะนั้น กำรรบ ทำงทิศใต้ เขำ “สัมมะลึงค์” หรือ “เขำสะพรึง” จึงมีช่อว่ำเขำ “เอรำวัณ”
ื
ี
เจ้ำหน้ำท่หน่วยข่ำวกรองของประเทศสหรัฐอเมริกำ (CIA) เข้ำมำใน
ี
ประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป้ำหมำยในกำรป้องกันและ นอกแบบและกำรกระโดดร่มจึงไม่มีควำมจ�ำเป็นส�ำหรับทหำร ท่ประชุม ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมำ และกรมต�ำรวจได้ใช้ค�ำว่ำ “เอรำวัณ” ไปสลักที่
หยุดย้งกำรแผ่ขยำยของลัทธิคอมมิวนิสต์ท่ก�ำลังเข้ำมำสู่ประเทศ “คณะกรรมกำร” จึงมีมติให้กรมต�ำรวจเป็นผู้รับผิดชอบในกำรจัดต้ง ั หัวแหวนพลร่มรุ่นแรก (รบพิเศษ รุ่นที่ ๓) โดย พล.ต.อ.เผ่ำ ศรียำนนท์
ั
ี
ั
แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย ด้วยกำรมำสร้ำง หน่วยรบนอกแบบ พล.ต.อ.เผ่ำ ศรียำนนท์ อธิบดีกรมต�ำรวจในขณะน้น อธิบดีกรมต�ำรวจเป็นประธำนมอบแหวนพลร่มรุ่นแรก
ื
ก�ำลังกองโจรท�ำกำรรบนอกแบบเพ่อเป็นก�ำลังตัวแทนของฝ่ำย ได้ใช้สถำนที่บริเวณเขำ “สัมมะลึงค์” หรือ “เขำสะพรึง” เป็นสถำนที่ เมื่อ ๑๓ ต.ค. ๒๔๙๔ ที่สวนอัมพร กรุงเทพฯ
สหรัฐฯ (Non American force) ในกำรต่อต้ำนกำรแผ่ขยำยของ ฝึกกำรรบพิเศษและกำรกระโดดร่มให้กับก�ำลังพลของกรมต�ำรวจ ตั้งแต่ ๑๗ เมษำยน ๒๔๙๔ – ๑๕ กุมภำพันธ์ ๒๔๙๖ กรมต�ำรวจ
ี
ลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยต้องกำรสร้ำงหน่วยท่มีควำมคล่องตัว โดยใช้อำคำรหลังเก่ำ ๓ หลัง ท่ทหำรญ่ปุ่นสร้ำงไว้เม่อสงครำมโลก ด�ำเนินกำรฝึกรบพิเศษ และกำรกระโดดร่มได้ จ�ำนวน ๑๑ รุ่น ซ่งม ี
ี
ี
ึ
ื
ให้สำมำรถท�ำกำรรบนอกแบบและมีขีดควำมสำมำรถโดดร่มได้
ึ
ิ
ิ
ั
ั
ี
ี
ึ
ซ่งโครงกำรน้ทำง สหรัฐอเมริกำเป็นผู้สนับสนุนและออกค่ำใช้จ่ำยให้ คร้งท่ ๒ และถูกปล่อยท้งไว้ให้รกร้ำงว่ำงเปล่ำเป็นสถำนท่ด�ำเนินกำรฝึก ก�ำลังพลของกองทัพบกเข้ำร่วมกำรฝึกด้วยท้งส้น ๑๗๓ นำย ซ่งเป็นก�ำลัง
ี
ี
ี
ี
ิ
ท้งหมด กำรริเร่มสร้ำงหน่วยพลร่มท่เรียกว่ำ PARU ( Police Aerial โดยใช้อำคำรหลังท่ ๑ เป็นตึกอ�ำนวยกำรและอำคำรหลังท่ ๒, ๓ ส�ำคัญในกำรจัดตั้งกองพันทหำรพลร่ม ที่บ้ำนป่ำหวำย ในเวลำต่อมำ
ั
ึ
Reinforcement Unit ) หรือต�ำรวจพลร่มจึงเกิดข้นจำกข้อเสนอของ Harry S. Truman เจมส์ วิลเลียม แลร์ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นห้องเรียน ที่พักนักเรียน และที่พักครูชำวอเมริกัน ตำมล�ำดับ
ึ
ึ
ั
เจมส์ วิลเลียม แลร์ หรือ บิล แลร์ ซ่งเกิดข้นหลังกำรจัดต้ง
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกของสหรัฐฯ (Green Berets)ได้ไม่นำน
พลต�ารวจเอก เผ่า ศรียานนท์ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
เจมส์ วิลเลียม แลร์ ( JAMES WILLAM LAIR : Bill Lair)
22 23
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
�
ตารวจพลร่ม( Police Aerial Reinforcement Unit: PARU) สู่ทหารพลร่ม(Airborne)
ี
ั
กำรฝึกต�ำรวจพลร่ม (PARU : Police Aerial Reinforcement พ.ต.ยุทธศิลป์ เกษรศุกร์ (ยศในขณะน้น) นับเป็นจุดแรกท่ทหำร ค�ำแนะน�ำ “กำรฝึกพลร่มและรบพิเศษ” ครูชำวอเมริกันมีรำยช่อ เม่อกรมทหำรรำบซ่งมี พลตรี ศิริ สวำมิวัศด์ เป็นเจ้ำกรมได้รับ
ื
ิ
ึ
ื
ึ
ั
Unit) รุ่นแรก เป็นนักเรียนพลต�ำรวจรุ่น ๕๐๐/๒๔๙๓ จ�ำนวน ๕๐ พลร่มได้ก่อก�ำเนิดข้น และ ในปลำยปีน้น จอมพล ผิน ชุณหวัณ ดังต่อไปนี ้ โอนโรงเรียนกำรฝึกอำวุธพิเศษจำกกรม ต�ำรวจแล้วต่อมำก็มีกำรจัด
ิ
ั
ี
คน เร่มฝึกในวันท่ ๑๗ เมษำยน พ.ศ.๒๔๙๔ และจบหลักสูตร วันท ่ ี ผู้บัญชำกำรทหำรบกได้ส่งกำรให้จเรทหำรรำบวำงโครงกำรท่จะ ๑. Lt. Col. Gerald W. Davis เป็นท่ปรึกษำและเป็นหัวหน้ำครูฝึก ต้ง “โรงเรียนกำรรบพิเศษ” กรมกำรทหำรรำบข้นเร่มกำรฝึกทหำร
ี
ี
ั
ึ
ิ
ั
ึ
ี
๙ มิถุนำยน ๒๔๙๔ กำรฝึกในรุ่นท่ ๑ ยังไม่มีกำรกระโดดร่ม เพรำะ จัดต้ง กองพันทหำรพลร่มข้น โดยให้ค�ำแนะน�ำในกำรฝึกRanger พลร่มใน กองทัพบกโดยครูชำวอเมริกันซ่งมีนำยทหำรบกไทยเป็น
ึ
ต�ำรวจไทยยังพับร่มไม่เป็น และก�ำลังก่อสร้ำงโรงพับร่ม จึงท�ำกำรฝึก เม่อ ๒๕ มกรำคม ๒๔๙๕ อันเป็นวันกองทัพบก นักเรียนทหำร ๒. Maj. Robert D. Allard เป็นผู้แนะน�ำกำรฝึกกำรกระโดดร่มและ ล่ำม ต่อมำ “โรงเรียนกำรรบพิเศษ” กรมกำรทหำรรำบก็ได้เปิดกำร
ื
ึ
แต่วิชำอำวุธกับยุทธวิธีกำรรบนอกแบบ แล้วเลือกผู้ท่มีควำมสำมำรถ พลร่มจำกกรมจเรทหำรรำบจ�ำนวนหน่ง ได้มีโอกำสกระโดดร่มให้ กำรรบบนภูเขำ ศึกษำหลักสูตร “พลร่มและกำรรบพิเศษ” ข้นโดยรุ่นแรกคัดเลือก
ี
ึ
ี
ดีเด่น ไว้เป็นผู้ช่วยครูฝึกอำวุธและกำรรบนอกแบบรุ่นท่๒ เป็น ประชำชนต่อหน้ำพระพักตร์พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว และ ๓. Cpt. James C. Cartlege เป็นผู้แนะน�ำกำรฝึกสะเทินน้ำสะเทิน นำยทหำรนำยสิบจำกหน่วยต่ำง ๆ ในกองทัพบกเข้ำมำศึกษำ
�
นักเรียนพลต�ำรวจรุ่น ๕๐๐ และรุ่นน้ได้เร่มมีกำรกระโดดร่มจำก สมเด็จพระนำงเจ้ำพระบรมรำชินี ในกำรแสดงแสนยำนุภำพของ บกและฝึกรบในป่ำข้นสูง เรียกว่ำ “นักเรียนทหำรร่ม” รุ่นแรกน้เปิดกำรศึกษำเม่อวันท ี ่
ั
ิ
ี
ี
ื
อำกำศยำน เม่อวันท่ ๑๓ กรกฎำคม ๒๔๙๔ กำรฝึกกระโดดร่มใช้ กองทัพบกท่สนำมรำชตฤณมัยสมำคมพระนคร นับว่ำเป็นคร้งแรกท ่ ี ๔. M/Sgt. M. Glayton เป็นผู้แนะน�ำกำรพับร่ม ๑ เมษำยน ๒๔๙๖ ปิดกำรศึกษำเม่อวันท่ ๑๗ สิงหำคม ปีเดียวกัน
ั
ื
ี
ี
ื
ี
ั
ี
้
ี
ื
เวลำ ๑ เดือน โดยแบ่งเป็นภำคพ้นดิน ๓ สัปดำห์ มีสถำนีฝึก ๓ สถำน ี มกำรกระโดดร่มเป็นหน่วยทหำร ในปีนเองกรมจเรทหำรรำบได้รบ ๕. M/Sgt. Shufford R. Rowe เป็นผู้แนะน�ำกำรฝึกพละศึกษำ มีจ�ำนวนผู้ส�ำเร็จรวมท้งส้น ๖๕ นำย ได้บรรจุเป็นเจ้ำหน้ำท่ต่ำง ๆ
ั
ิ
ี
ิ
คือ บ.จ�ำลอง, บังคับร่ม และกำรล้มตัว และภำคอำกำศ ๑ สัปดำห์ กำรปรับปรุง เป็นกรมทหำรรำบ มี พล.ต.ศิริ สวำมิวัศด์ เป็นเจ้ำกรม ในโรงเรียนกำรรบพิเศษ และเป็นครูฝึกรุ่นหลังต่อ ๆ มำจนถึง
ี
ั
ึ
ั
ี
โดยใช้ร่มแบบที ๗ (T-๗) แบบสำยดึงประจ�ำท่ (STATIC LINE) จำก ทหำรรำบ ได้จัดต้งกองโรงเรียนกำรรบพิเศษข้น จัดเป็นโครงของ ท้งน้กองทัพบกได้ส่งนำยทหำร ๓ นำย มำเป็นล่ำมภำษำอังกฤษ รุ่น ๑๖ ซ่งเป็นรุ่นสุดท้ำย เพ่อเป็นกำรบรรจุก�ำลังพลให้กับ
ื
ึ
ื
้
ี
เคร่องบิน ซี-๔๖ และ ซี-๔๗ หน่วยกองพันพลร่ม และเป็นโรงเรียนส�ำหรับฝึกหลักสูตร เพ่ออ�ำนวยควำมสะดวกในกำรฝึก ศึกษำ นำยทหำร ๓ นำยท่ท�ำหนำท ี ่ “กองพันทหำรพลร่ม” ซ่งก�ำลังจะก่อต้งข้นในเวลำต่อมำ
ื
ึ
ึ
ั
ื
ในปีเดียวกัน กรมจเรทหำรรำบอันมี พล.ต. สนิท สนิทยุทธกำร กำรรบพิเศษอ่นๆ ของทหำรรำบด้วย ในระยะน้สหรัฐอเมริกำได้เร่ม ล่ำมคือ (ยศขณะน้น) ๑. พ.ต. ธงชัย นิพิธสุขกำร ๒. ร.อ. เทียนชัย
ี
ิ
ั
ไทยำนนท์ เป็นจเรทหำรรำบได้ ตระหนักถึงวิทยำกำรของอำวุธใหม่ ให้กำรช่วยเหลือทำงทหำรโดยส่งมอบอำวุธใหม่ให้และมีแผนกำรว่ำ สิริสัมพันธ์ ๓. ร.ท. ประสิทธ์ ณ สงขลำ ซ่ง ร.อ. เทียนชัย
ึ
ิ
ี
และพลร่มซ่งสมควรท่ทหำรรำบพึงมีจึงส่งนำยทหำรและนำยสิบเข้ำ จะให้อำวุธแก่ กองพันทหำรพลร่ม ในขณะเดียวกันท่กรมต�ำรวจก�ำลัง สิริสัมพันธ์ ได้ร่วมฝึกกระโดดร่มร่วมกับนักเรียนรุ่นแรกจนส�ำเร็จ
ี
ึ
ฝำกเรียนร่วมกับต�ำรวจโดยฝำกเรียนรุ่นละประมำณ ๔๐ คน รุ่นแรก ปรับปรุงกำรจัดต�ำรวจพลร่มในรูปแบบใหม่ จึงโอนโรงเรียนกำรฝึก เพียงไม่มีช่อเข้ำศึกษำในหลักสูตร เท่ำน้น ต่อมำท่ำนก็ได้ไปศึกษำ
ั
ื
ี
กรมทหำรรำบได้ส่งนักเรียนนำยสิบเหล่ำ ร. เข้ำร่วมท�ำกำรฝึกด้วย อำวุธพิเศษต�ำรวจให้แก่กองทัพบกเม่อวันท่ ๑๕ กุมภำพันธ์ ๒๔๙๖ และส�ำเร็จหลักสูตร Airborne และหลักสูตร Ranger ท่สหรัฐอเมริกำ
ี
ื
ั
ุ
ิ
ั
จ�ำนวน ๓๑ นำย เป็นนำยทหำรสัญญำบัตร ๑ นำย นำยทหำร กรมกำรทหำรรำบได้รบโอนโรงเรียนกำรฝึกอำวธพเศษจำกกรม และได้รับกำรแต่งต้งให้เป็นผู้บังคับกองพันทหำรพลร่มเป็นคนแรก
ประทวน ๓๐ นำย นำยทหำรสัญญำบัตร ๑ นำย ท่เข้ำรับกำรฝึกคือ ต�ำรวจและในต้นปีน้เองสหรัฐอเมริกำได้ส่งเจ้ำหน้ำท่ครูฝึกมำให้ ในเวลำต่อมำ
ี
ี
ี
ภาพผู้ส�าเร็จหลักสูตร Ranger รุ่นแรก ของกองทัพสหรัฐอเมริกา
ที่ถูกน�ามาประยุคในหลักสูตรการรบแบบจู่โจมของกองทัพบกไทย
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
24 25
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
�
ตารวจพลร่ม( Police Aerial Reinforcement Unit: PARU) สู่ทหารพลร่ม(Airborne)
ี
ั
กำรฝึกต�ำรวจพลร่ม (PARU : Police Aerial Reinforcement พ.ต.ยุทธศิลป์ เกษรศุกร์ (ยศในขณะน้น) นับเป็นจุดแรกท่ทหำร ค�ำแนะน�ำ “กำรฝึกพลร่มและรบพิเศษ” ครูชำวอเมริกันมีรำยช่อ เม่อกรมทหำรรำบซ่งมี พลตรี ศิริ สวำมิวัศด์ เป็นเจ้ำกรมได้รับ
ื
ิ
ึ
ื
ึ
ั
Unit) รุ่นแรก เป็นนักเรียนพลต�ำรวจรุ่น ๕๐๐/๒๔๙๓ จ�ำนวน ๕๐ พลร่มได้ก่อก�ำเนิดข้น และ ในปลำยปีน้น จอมพล ผิน ชุณหวัณ ดังต่อไปนี ้ โอนโรงเรียนกำรฝึกอำวุธพิเศษจำกกรม ต�ำรวจแล้วต่อมำก็มีกำรจัด
ิ
ั
ี
คน เร่มฝึกในวันท่ ๑๗ เมษำยน พ.ศ.๒๔๙๔ และจบหลักสูตร วันท ี ่ ผู้บัญชำกำรทหำรบกได้ส่งกำรให้จเรทหำรรำบวำงโครงกำรท่จะ ๑. Lt. Col. Gerald W. Davis เป็นท่ปรึกษำและเป็นหัวหน้ำครูฝึก ต้ง “โรงเรียนกำรรบพิเศษ” กรมกำรทหำรรำบข้นเร่มกำรฝึกทหำร
ี
ี
ั
ึ
ิ
ั
ึ
ี
๙ มิถุนำยน ๒๔๙๔ กำรฝึกในรุ่นท่ ๑ ยังไม่มีกำรกระโดดร่ม เพรำะ จัดต้ง กองพันทหำรพลร่มข้น โดยให้ค�ำแนะน�ำในกำรฝึกRanger พลร่มใน กองทัพบกโดยครูชำวอเมริกันซ่งมีนำยทหำรบกไทยเป็น
ึ
ต�ำรวจไทยยังพับร่มไม่เป็น และก�ำลังก่อสร้ำงโรงพับร่ม จึงท�ำกำรฝึก เม่อ ๒๕ มกรำคม ๒๔๙๕ อันเป็นวันกองทัพบก นักเรียนทหำร ๒. Maj. Robert D. Allard เป็นผู้แนะน�ำกำรฝึกกำรกระโดดร่มและ ล่ำม ต่อมำ “โรงเรียนกำรรบพิเศษ” กรมกำรทหำรรำบก็ได้เปิดกำร
ื
ึ
แต่วิชำอำวุธกับยุทธวิธีกำรรบนอกแบบ แล้วเลือกผู้ท่มีควำมสำมำรถ พลร่มจำกกรมจเรทหำรรำบจ�ำนวนหน่ง ได้มีโอกำสกระโดดร่มให้ กำรรบบนภูเขำ ศึกษำหลักสูตร “พลร่มและกำรรบพิเศษ” ข้นโดยรุ่นแรกคัดเลือก
ี
ึ
ี
ดีเด่น ไว้เป็นผู้ช่วยครูฝึกอำวุธและกำรรบนอกแบบรุ่นท่๒ เป็น ประชำชนต่อหน้ำพระพักตร์พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว และ ๓. Cpt. James C. Cartlege เป็นผู้แนะน�ำกำรฝึกสะเทินน้ำสะเทิน นำยทหำรนำยสิบจำกหน่วยต่ำง ๆ ในกองทัพบกเข้ำมำศึกษำ
�
นักเรียนพลต�ำรวจรุ่น ๕๐๐ และรุ่นน้ได้เร่มมีกำรกระโดดร่มจำก สมเด็จพระนำงเจ้ำพระบรมรำชินี ในกำรแสดงแสนยำนุภำพของ บกและฝึกรบในป่ำข้นสูง เรียกว่ำ “นักเรียนทหำรร่ม” รุ่นแรกน้เปิดกำรศึกษำเม่อวันท ี ่
ั
ิ
ี
ี
ื
อำกำศยำน เม่อวันท่ ๑๓ กรกฎำคม ๒๔๙๔ กำรฝึกกระโดดร่มใช้ กองทัพบกท่สนำมรำชตฤณมัยสมำคมพระนคร นับว่ำเป็นคร้งแรกท ่ ี ๔. M/Sgt. M. Glayton เป็นผู้แนะน�ำกำรพับร่ม ๑ เมษำยน ๒๔๙๖ ปิดกำรศึกษำเม่อวันท่ ๑๗ สิงหำคม ปีเดียวกัน
ั
ื
ี
ี
ื
ี
ั
ี
้
ี
ื
เวลำ ๑ เดือน โดยแบ่งเป็นภำคพ้นดิน ๓ สัปดำห์ มีสถำนีฝึก ๓ สถำน ี มกำรกระโดดร่มเป็นหน่วยทหำร ในปีนเองกรมจเรทหำรรำบได้รบ ๕. M/Sgt. Shufford R. Rowe เป็นผู้แนะน�ำกำรฝึกพละศึกษำ มีจ�ำนวนผู้ส�ำเร็จรวมท้งส้น ๖๕ นำย ได้บรรจุเป็นเจ้ำหน้ำท่ต่ำง ๆ
ั
ิ
ี
ิ
คือ บ.จ�ำลอง, บังคับร่ม และกำรล้มตัว และภำคอำกำศ ๑ สัปดำห์ กำรปรับปรุง เป็นกรมทหำรรำบ มี พล.ต.ศิริ สวำมิวัศด์ เป็นเจ้ำกรม ในโรงเรียนกำรรบพิเศษ และเป็นครูฝึกรุ่นหลังต่อ ๆ มำจนถึง
ี
ั
ึ
ั
ี
โดยใช้ร่มแบบที ๗ (T-๗) แบบสำยดึงประจ�ำท่ (STATIC LINE) จำก ทหำรรำบ ได้จัดต้งกองโรงเรียนกำรรบพิเศษข้น จัดเป็นโครงของ ท้งน้กองทัพบกได้ส่งนำยทหำร ๓ นำย มำเป็นล่ำมภำษำอังกฤษ รุ่น ๑๖ ซ่งเป็นรุ่นสุดท้ำย เพ่อเป็นกำรบรรจุก�ำลังพลให้กับ
ึ
ื
ื
้
ี
เคร่องบิน ซี-๔๖ และ ซี-๔๗ หน่วยกองพันพลร่ม และเป็นโรงเรียนส�ำหรับฝึกหลักสูตร เพ่ออ�ำนวยควำมสะดวกในกำรฝึก ศึกษำ นำยทหำร ๓ นำยท่ท�ำหนำท ี ่ “กองพันทหำรพลร่ม” ซ่งก�ำลังจะก่อต้งข้นในเวลำต่อมำ
ื
ึ
ึ
ั
ื
ในปีเดียวกัน กรมจเรทหำรรำบอันมี พล.ต. สนิท สนิทยุทธกำร กำรรบพิเศษอ่นๆ ของทหำรรำบด้วย ในระยะน้สหรัฐอเมริกำได้เร่ม ล่ำมคือ (ยศขณะน้น) ๑. พ.ต. ธงชัย นิพิธสุขกำร ๒. ร.อ. เทียนชัย
ี
ิ
ั
ไทยำนนท์ เป็นจเรทหำรรำบได้ ตระหนักถึงวิทยำกำรของอำวุธใหม่ ให้กำรช่วยเหลือทำงทหำรโดยส่งมอบอำวุธใหม่ให้และมีแผนกำรว่ำ สิริสัมพันธ์ ๓. ร.ท. ประสิทธ์ ณ สงขลำ ซ่ง ร.อ. เทียนชัย
ึ
ิ
ี
และพลร่มซ่งสมควรท่ทหำรรำบพึงมีจึงส่งนำยทหำรและนำยสิบเข้ำ จะให้อำวุธแก่ กองพันทหำรพลร่ม ในขณะเดียวกันท่กรมต�ำรวจก�ำลัง สิริสัมพันธ์ ได้ร่วมฝึกกระโดดร่มร่วมกับนักเรียนรุ่นแรกจนส�ำเร็จ
ี
ึ
ฝำกเรียนร่วมกับต�ำรวจโดยฝำกเรียนรุ่นละประมำณ ๔๐ คน รุ่นแรก ปรับปรุงกำรจัดต�ำรวจพลร่มในรูปแบบใหม่ จึงโอนโรงเรียนกำรฝึก เพียงไม่มีช่อเข้ำศึกษำในหลักสูตร เท่ำน้น ต่อมำท่ำนก็ได้ไปศึกษำ
ั
ื
ี
กรมทหำรรำบได้ส่งนักเรียนนำยสิบเหล่ำ ร. เข้ำร่วมท�ำกำรฝึกด้วย อำวุธพิเศษต�ำรวจให้แก่กองทัพบกเม่อวันท่ ๑๕ กุมภำพันธ์ ๒๔๙๖ และส�ำเร็จหลักสูตร Airborne และหลักสูตร Ranger ท่สหรัฐอเมริกำ
ี
ื
ั
ุ
ิ
ั
จ�ำนวน ๓๑ นำย เป็นนำยทหำรสัญญำบัตร ๑ นำย นำยทหำร กรมกำรทหำรรำบได้รบโอนโรงเรียนกำรฝึกอำวธพเศษจำกกรม และได้รับกำรแต่งต้งให้เป็นผู้บังคับกองพันทหำรพลร่มเป็นคนแรก
ประทวน ๓๐ นำย นำยทหำรสัญญำบัตร ๑ นำย ท่เข้ำรับกำรฝึกคือ ต�ำรวจและในต้นปีน้เองสหรัฐอเมริกำได้ส่งเจ้ำหน้ำท่ครูฝึกมำให้ ในเวลำต่อมำ
ี
ี
ี
ภาพผู้ส�าเร็จหลักสูตร Ranger รุ่นแรก ของกองทัพสหรัฐอเมริกา
ที่ถูกน�ามาประยุคในหลักสูตรการรบแบบจู่โจมของกองทัพบกไทย
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
24 25
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ความสัมพันธ์ของหน่วยรบพิเศษ ได้แก่ ร.อ.ประมวลอินทรโยธิน ร.ท.สำทร บุญมำศ, ร.ท.สมบูรณ์ เจ้ำหน้ำท่ส�ำนักงำนข่ำวกรองกลำง และกรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๑
นอกจำกน้น ห้วง พ.ศ.๒๕๐๒ – พ.ศ.๒๕๐๗ สหรัฐฯ ได้จัดส่ง
ั
ี
ิ
อินทรประสำท, ร.ท.วิสุทธ์ กำญจนสิทธ์, ร.ท.บรรจง ศรีเจริญ และ
ิ
ี
ี
(พลร่ม) และ กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๗ ช่วยเหลือทำงด้ำนกำรฝึก
ี
ื
ร.ท.ศรี เทศนำ เม่อนำยทหำรเหล่ำน้ส�ำเร็จกำรศึกษำแล้ว ได้น�ำ
ไทยและสหรัฐอเมริกา ควำมรู้มำถ่ำยทอดให้กับก�ำลังพลของกองพันทหำรพลร่ม และ และสนับสนุนกำรปฏิบัติกำรทำงทหำรต่อรัฐบำลรำชอำณำจักรลำว
ึ
ร่วมกับก�ำลังต�ำรวจและหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกไทย
พัฒนำกำรปฏิบัติงำนของหน่วยรบพิเศษ ให้ดีข้นตำมล�ำดับ
ในหลำยๆ โครงกำร เช่น โครงกำรรหัส HOTFOOT , โครงกำรรหัส
ี
พ.ศ. ๒๕๐๒ – ๒๕๐๙ กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๑ (พลร่ม) มีท่ต้ง
ี
ั
ณ ค่ำยบักเนอร์ (Camp Buckner) เกำะโอกินำวำ ประเทศญ่ปุ่น EKARAD, กำรฝึกก�ำลังของชนเผ่ำม้ง ภำยใต้กำรน�ำของนำยพล
ี
ื
ได้ส่งก�ำลังพลเข้ำมำปฏิบัติภำรกิจในประเทศไทยทุกปี วังเปำเพ่อใช้ในกำรต่อต้ำนก�ำลังของลำวคอมมิวนิสต์และ
ี
ื
ปีละ ๓-๔ คร้ง เพ่อเข้ำร่วมกำรฝึกร่วมผสม รหัสต่ำงๆ และเป็น เวียดนำมเหนือ โดยกำรฝึกส่วนใหญ่ใช้พ้นท่ภำยในประเทศไทย
ั
ื
๑๘ พฤษภำคม ๒๔๙๗ ก�ำลังพลของกรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๗๗ เป็นต้น
ี
ี
ื
จ�ำนวน ๑๕ นำย มี ร.ท.จอห์นน่ เรย์มอนด์ เป็น หน.ชป.รพศ. ได้รับ ชุดครูฝึกเคล่อนท่ ให้กับก�ำลังพลของกองพันทหำรพลร่ม พ.ศ. ๒๕๐๖ กองพันทหำรพลร่ม ได้แปรสภำพเป็น
ี
ี
ื
ี
ภำรกิจให้เดินทำงมำ ท่ค่ำยป่ำหวำย จ.ลพบุรี เพ่อสนับสนุน กำรก่อ โดยมีกำรฝึกร่วมของหน่วยรบพิเศษไทย-สหรัฐฯ ท่ส�ำคัญ ได้แก่ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ได้วำงแผนและจัดกำรฝึกร่วมกับ กองร้อย
ต้งหน่วยจู่โจมส่งทำงอำกำศ (Airborne Ranger Unit)/ (กองพัน - กำรฝึกร่วมผสม รหัส ดัลลัส จ�ำนวน ๓ รุ่น คือ ดัลลัส ๑, ๒ รบพิเศษ ดี (D) กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๑ (พลร่ม) ซ่งเดินทำงมำต้ง
ั
ี
ั
ึ
ทหำรพลร่ม) ของกองทัพบกไทย ใน พ.ศ.๒๕๐๓ และ ดัลลัส ๓ ใน พ.ศ.๒๕๐๔ เป็นกำรฝึกเพ่อระวัง ท่ท�ำกำรอยู่ท่ ค่ำยป่ำหวำย
ื
ี
ี
ต่อมำ กองพันทหำรพลร่ม หน่วยแรกของกองทัพบกไทย จึงได้ ป้องกันร่วมกันในเอเชียอำคเนย์ เน้นกำรปรำบปรำมกองโจร,
ื
จ.ลพบุรี เพ่อสนับสนุนหน่วยรบพิเศษไทย ในกำรฝึกหลักสูตร
ั
ั
ี
ึ
ก่อต้งข้น ตำมค�ำส่งกระทรวงกลำโหมท่ ๔๖/๑๒๖ ลง ๔ มิถุนำยน กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ กำรกระโดดร่มและหลักสูตรจู่โจม และท�ำกำรฝึกก�ำลังพลของกอง
๒๔๙๗ เป็นหน่วยข้นตรงกับกองทัพท่ ๑ - กำรฝึกแทรกซึมใต้น้ำ โดยเรือด�ำน้ำของสหรัฐฯ ใน พ.ศ.๒๕๐๓ ทัพบกท่จะปฏิบัติภำรกิจในกำรป้องกันและปรำบปรำมกำร
ึ
ี
�
�
ี
๕ มิถุนำยน ๒๔๙๗ ด้วยสำยพระเนตรอันกว้ำงไกลของรัชกำลท ี ่ กองพันทหำรพลร่ม จัด ๑ หน่วยจู่โจม (ต่อมำเรียกว่ำ ชุดปฏิบัติกำร ก่อควำมไม่สงบโดยประกอบก�ำลังชุดครูฝึกร่วมกันจำก
�
ี
ึ
ั
หลังจำกสงครำมโลกคร้งท่ ๒ สงครำมเย็นได้ถูกก่อตัวข้น จำก ๙ พระองค์ทรงตระหนักถึงขีดควำมสำมำรถ ศักยภำพ และลักษณะ รบพิเศษ) เข้ำรับกำรฝึกแทรกซึมและท�ำลำยใต้น้ำ ณ ฐำนทัพ ๑ ชป.รพศ. ของกองรบพิเศษ (พลร่ม) และ ๑ ชป.รพศ. ของหน่วย
ี
ี
ั
ควำมขัดแย้งด้ำนอุดมกำรณ์ทำงกำรเมือง โลกจึงถูกแบ่งออกเป็น งำนของหน่วยรบพิเศษ และทรงหำรือกับ ร.ท.จอห์นน่ เรย์มอนด์ มิชิกำวำ บนเกำะโอกินำวำ ประเทศญ่ปุ่น และ ใน พ.ศ.๒๕๐๗ รบพิเศษสหรัฐฯ โดยวำงก�ำลัง/จัดต้งค่ำยฝึก ครอบคลุมพื้นที ่
ี
๒ ค่ำย ค่ำยหน่ง คือ เสรีนิยม น�ำโดยสหรัฐอเมริกำ และค่ำยหน่ง หน.ชป.รพศ. กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๗๗ ในกำรพัฒนำขีดควำม กองรบพิเศษ (พลร่ม) จัดก�ำลัง ๑ ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ เข้ำฝึก ประเทศไทย
ึ
ึ
�
คือ คอมมิวนิสต์ น�ำโดยสหภำพโซเวียต ต่ำงฝ่ำยต่ำงพยำยำม สำมำรถหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกไทย ร่วมผสมกำรแทรกซึมใต้น้ำ จำกฐำนทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นกำร พ.ศ. ๒๕๑๐ กองร้อยรบพิเศษ ดี (D) ได้แปรสภำพเป็นกองร้อย
ึ
สร้ำงดุลแห่งอ�ำนำจ โดยหำพันธมิตรเข้ำร่วมอุดมกำรณ์ของตน ซ่งต่อมำ ร.ท. จอห์นน่ เรย์มอนด์ ได้เป็นเจ้ำหน้ำท่จัสแม็ก ปฏิบัติเหมือนกำรรบจริง ซ่งเป็นประโยชน์แก่หน่วยรบพิเศษของ รบพิเศษท่ ๔๖ กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๑ (พลร่ม) โดยมีท่ต้งท�ำกำร ณ
ึ
ี
ี
ั
ี
ี
ี
ั
ิ
ในมุมมองของสหรัฐฯ ผู้น�ำฝ่ำยโลกเสรี ถือว่ำ คอมมิวนิสต์เป็นภัย ประจ�ำประเทศไทย และเป็นผู้ประสำนงำนในกำรสนับสนุนกองทัพ ท้งสองประเทศเป็นอย่ำงย่ง ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช จ.ลพบุรี ซ่งยังด�ำเนินกำรฝึก และ
ึ
ต่อผลประโยชน์แห่งประเทศ จึงมีนโยบำยหลัก คือ กำรสกัดก้น บกไทย จัดต้ง กองรบพิเศษ (พลร่ม) ณ ค่ำยป่ำหวำย ในเวลำต่อมำ - กำรฝึกเจ้ำหน้ำท่ช�ำนำญกำร หน่วยรบพิเศษ ใน พ.ศ.๒๕๐๗ ปฏิบัติกำรทำงทหำรร่วมกับหน่วยรบพิเศษไทยมำอย่ำงต่อเน่อง
ี
ั
ั
ื
คอมมิวนิสต์ ด้วยกำรสร้ำงพันธมิตรทำงกำรทหำรในภูมิภำคต่ำง ๆ โดยกระบวนกำรปรับเปล่ยนหน่วยจำก หน่วยจู่โจมส่งทำงอำกำศ เป็นกำรฝึกเจ้ำหน้ำท่ของหน่วยรบพิเศษ ในแต่ละหน้ำท่ ให้มีควำม
ี
ี
ี
โดยเฉพำะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเม่อภัยคุกคำมจำก เป็น หน่วยรบพิเศษ ด�ำเนินกำรภำยใต้ควำมร่วมมือระหว่ำงกองทัพ รู้ควำมสำมำรถตำมต�ำแหน่งหน้ำท่ ท่บรรจุไว้อย่ำงแท้จริง และฝึก
ี
ี
ื
ี
ื
คอมมิวนิสต์แพร่ขยำยเข้ำสู่ประเทศไทย บกไทยและหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ สลับหน้ำท่ให้สำมำรถทดแทนกันได้ เม่อมีควำมจ�ำเป็น
สหรัฐฯ ได้ส่ง พลเอก วิลเลียม เจ โดโนแวน อดีตหัวหน้ำ ๒๕ ตุลำคม ๒๔๙๙ ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษท่ ๑๔ (SFOD-14) - กำรฝึกร่วมผสม รหัส กิตติ ใน พ.ศ.๒๕๐๗ และ พ.ศ. ๒๕๐๘
ี
ี
ส�ำนักงำนโอเอสเอส เคยปฏิบัติกำรลับร่วมกับเสรีไทย ในสมัย จ�ำนวน ๑๖ นำย น�ำโดย พ.ท. สก๊อต แมดด้ง จำกกองก�ำลังทำงบก เป็นกำรฝึกปัญหำท่บังคับกำร และจัดก�ำลังเป็นกองบังคับกำรผสม
ิ
ี
ั
สงครำมโลกคร้งท่ ๒ มำเป็นเอกอัครรำชทูตประจ�ำประเทศไทย สหรัฐฯ ภำคพ้นแปซิฟิก (USARPAC) ได้รับภำรกิจ ให้จัดกำรฝึก (ฐำนปฏิบัติกำรรบพิเศษผสม ไทย-สหรัฐฯ) ท่กองรบพิเศษ (พลร่ม)
ี
ื
ื
เพ่อให้ค�ำแนะน�ำรัฐบำลไทยในกำรต่อสู้กับภัยคุกคำมของ กำรปฏิบัติกำรของหน่วยรบพิเศษ ให้กับก�ำลังพลของกองพันทหำร จ.ลพบุร ี
คอมมิวนิสต์ โดยใช้ยุทธวิธีสงครำมนอกแบบ และจัดเจ้ำหน้ำท ี ่ พลร่ม ท่ค่ำยเอรำวัณ จ.ลพบุรี โดยมีกำรจัดต้งกองอ�ำนวยกำรฝึก
ี
ั
ครูฝึกจำกหน่วยข่ำวกรองกลำง และหน่วยรบพิเศษสหรัฐอเมริกำ ร่วม ไทย-สหรัฐฯ โดย พล.ต.ริชำร์ด ฟำร์ดิดจ์ หัวหน้ำจัสแม็กไทย
มำท�ำกำรฝึกกระโดดร่ม และกำรรบนอกแบบ ให้กับกองก�ำลัง เป็นผู้อ�ำนวยกำรฝึก และฝ่ำยไทย โดย พ.ต.เทียนชัย สิริสัมพันธ์
ต�ำรวจและทหำรของไทย ผบ.พัน พร. เป็นผู้อ�ำนวยกำรฝึกร่วม ซ่งกำรฝึกคร้งน้ ถือว่ำเป็น
ึ
ั
ี
ี
ิ
พ.ศ.๒๔๙๔ หน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ จัดให้เสริมสมรรถนะ จุดเร่มในกำรปรับเปล่ยน ลักษณะกำรปฏิบัติงำนของกองพันทหำร
ี
ี
เร่องควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติกำรส่งทำงอำกำศ ท่ค่ำยเอรำวัณ พลร่ม ท่เดิมเป็น หน่วยจู่โจมส่งทำงอำกำศ ไปสู่กำรปฏิบัติงำน
ื
ิ
ี
จ.ลพบุรี และทหำรพลร่มของกองทัพบก ท่เพ่งผ่ำนกำรฝึกได้ ในลักษณะของหน่วยรบพิเศษ พ.ศ.๒๕๐๓ หน่วยรบพิเศษ
กระโดดร่มลงปฏิบัติกำรในสภำพของหน่วยทหำรให้ประชำชน สหรัฐฯ เปิดหลักสูตรกำรรบพิเศษ (Special Forces Officers
ั
ี
ี
ได้ชม ต่อหน้ำพระพักตร์รัชกำลท่ ๙ และสมเด็จพระนำงเจ้ำ Course) และให้ท่น่งศึกษำส�ำหรับก�ำลังพลนำยทหำรไทย ของกอง
ี
ั
พระบรมรำชินีนำถ ในกำรแสดงแสนยำนุภำพของกองทัพบก พนทหำรพลร่ม เข้ำรับกำรศึกษำหลักสูตรรบพิเศษ รุ่นท่ 33-G-F3,
ี
ี
ท่สนำมรำชตฤณมัยสมำคม พระนคร ในวันท่ ๒๕ มกรำคม ๒๔๙๕ 2-60 ณ ประเทสสหรัฐอเมริกำ โดยมีผู้เข้ำรับกำรศึกษำ จ�ำนวน ๖ นำย
ึ
ซ่งเป็นวันกองทัพบกไทย
26 27
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ความสัมพันธ์ของหน่วยรบพิเศษ ได้แก่ ร.อ.ประมวลอินทรโยธิน ร.ท.สำทร บุญมำศ, ร.ท.สมบูรณ์ เจ้ำหน้ำท่ส�ำนักงำนข่ำวกรองกลำง และกรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๑
ั
นอกจำกน้น ห้วง พ.ศ.๒๕๐๒ – พ.ศ.๒๕๐๗ สหรัฐฯ ได้จัดส่ง
ี
ิ
ิ
อินทรประสำท, ร.ท.วิสุทธ์ กำญจนสิทธ์, ร.ท.บรรจง ศรีเจริญ และ
ี
(พลร่ม) และ กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๗ ช่วยเหลือทำงด้ำนกำรฝึก
ื
ี
ร.ท.ศรี เทศนำ เม่อนำยทหำรเหล่ำน้ส�ำเร็จกำรศึกษำแล้ว ได้น�ำ
ี
ไทยและสหรัฐอเมริกา ควำมรู้มำถ่ำยทอดให้กับก�ำลังพลของกองพันทหำรพลร่ม และ และสนับสนุนกำรปฏิบัติกำรทำงทหำรต่อรัฐบำลรำชอำณำจักรลำว
ึ
พัฒนำกำรปฏิบัติงำนของหน่วยรบพิเศษ ให้ดีข้นตำมล�ำดับ
ร่วมกับก�ำลังต�ำรวจและหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกไทย
ในหลำยๆ โครงกำร เช่น โครงกำรรหัส HOTFOOT , โครงกำรรหัส
ี
ั
ี
พ.ศ. ๒๕๐๒ – ๒๕๐๙ กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๑ (พลร่ม) มีท่ต้ง
ี
ณ ค่ำยบักเนอร์ (Camp Buckner) เกำะโอกินำวำ ประเทศญ่ปุ่น EKARAD, กำรฝึกก�ำลังของชนเผ่ำม้ง ภำยใต้กำรน�ำของนำยพล
ื
ได้ส่งก�ำลังพลเข้ำมำปฏิบัติภำรกิจในประเทศไทยทุกปี วังเปำเพ่อใช้ในกำรต่อต้ำนก�ำลังของลำวคอมมิวนิสต์และ
ื
ี
ั
ปีละ ๓-๔ คร้ง เพ่อเข้ำร่วมกำรฝึกร่วมผสม รหัสต่ำงๆ และเป็น เวียดนำมเหนือ โดยกำรฝึกส่วนใหญ่ใช้พ้นท่ภำยในประเทศไทย
ื
๑๘ พฤษภำคม ๒๔๙๗ ก�ำลังพลของกรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๗๗ เป็นต้น
ี
ี
ื
ี
จ�ำนวน ๑๕ นำย มี ร.ท.จอห์นน่ เรย์มอนด์ เป็น หน.ชป.รพศ. ได้รับ ชุดครูฝึกเคล่อนท่ ให้กับก�ำลังพลของกองพันทหำรพลร่ม พ.ศ. ๒๕๐๖ กองพันทหำรพลร่ม ได้แปรสภำพเป็น
ี
ภำรกิจให้เดินทำงมำ ท่ค่ำยป่ำหวำย จ.ลพบุรี เพ่อสนับสนุน กำรก่อ โดยมีกำรฝึกร่วมของหน่วยรบพิเศษไทย-สหรัฐฯ ท่ส�ำคัญ ได้แก่ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ได้วำงแผนและจัดกำรฝึกร่วมกับ กองร้อย
ี
ื
ั
ต้งหน่วยจู่โจมส่งทำงอำกำศ (Airborne Ranger Unit)/ (กองพัน - กำรฝึกร่วมผสม รหัส ดัลลัส จ�ำนวน ๓ รุ่น คือ ดัลลัส ๑, ๒ รบพิเศษ ดี (D) กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๑ (พลร่ม) ซ่งเดินทำงมำต้ง ั
ี
ึ
ทหำรพลร่ม) ของกองทัพบกไทย ใน พ.ศ.๒๕๐๓ และ ดัลลัส ๓ ใน พ.ศ.๒๕๐๔ เป็นกำรฝึกเพ่อระวัง ท่ท�ำกำรอยู่ท่ ค่ำยป่ำหวำย
ื
ี
ี
ต่อมำ กองพันทหำรพลร่ม หน่วยแรกของกองทัพบกไทย จึงได้ ป้องกันร่วมกันในเอเชียอำคเนย์ เน้นกำรปรำบปรำมกองโจร,
จ.ลพบุรี เพ่อสนับสนุนหน่วยรบพิเศษไทย ในกำรฝึกหลักสูตร
ื
ึ
ั
ก่อต้งข้น ตำมค�ำส่งกระทรวงกลำโหมท่ ๔๖/๑๒๖ ลง ๔ มิถุนำยน กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ กำรกระโดดร่มและหลักสูตรจู่โจม และท�ำกำรฝึกก�ำลังพลของกอง
ี
ั
ี
ึ
๒๔๙๗ เป็นหน่วยข้นตรงกับกองทัพท่ ๑ - กำรฝึกแทรกซึมใต้น้ำ โดยเรือด�ำน้ำของสหรัฐฯ ใน พ.ศ.๒๕๐๓ ทัพบกท่จะปฏิบัติภำรกิจในกำรป้องกันและปรำบปรำมกำร
�
�
ี
๕ มิถุนำยน ๒๔๙๗ ด้วยสำยพระเนตรอันกว้ำงไกลของรัชกำลท ี ่ กองพันทหำรพลร่ม จัด ๑ หน่วยจู่โจม (ต่อมำเรียกว่ำ ชุดปฏิบัติกำร ก่อควำมไม่สงบโดยประกอบก�ำลังชุดครูฝึกร่วมกันจำก
�
ึ
ั
ี
หลังจำกสงครำมโลกคร้งท่ ๒ สงครำมเย็นได้ถูกก่อตัวข้น จำก ๙ พระองค์ทรงตระหนักถึงขีดควำมสำมำรถ ศักยภำพ และลักษณะ รบพิเศษ) เข้ำรับกำรฝึกแทรกซึมและท�ำลำยใต้น้ำ ณ ฐำนทัพ ๑ ชป.รพศ. ของกองรบพิเศษ (พลร่ม) และ ๑ ชป.รพศ. ของหน่วย
ี
ี
ั
ควำมขัดแย้งด้ำนอุดมกำรณ์ทำงกำรเมือง โลกจึงถูกแบ่งออกเป็น งำนของหน่วยรบพิเศษ และทรงหำรือกับ ร.ท.จอห์นน่ เรย์มอนด์ มิชิกำวำ บนเกำะโอกินำวำ ประเทศญ่ปุ่น และ ใน พ.ศ.๒๕๐๗ รบพิเศษสหรัฐฯ โดยวำงก�ำลัง/จัดต้งค่ำยฝึก ครอบคลุมพื้นที ่
ี
ึ
๒ ค่ำย ค่ำยหน่ง คือ เสรีนิยม น�ำโดยสหรัฐอเมริกำ และค่ำยหน่ง หน.ชป.รพศ. กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๗๗ ในกำรพัฒนำขีดควำม กองรบพิเศษ (พลร่ม) จัดก�ำลัง ๑ ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ เข้ำฝึก ประเทศไทย
ึ
�
คือ คอมมิวนิสต์ น�ำโดยสหภำพโซเวียต ต่ำงฝ่ำยต่ำงพยำยำม สำมำรถหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกไทย ร่วมผสมกำรแทรกซึมใต้น้ำ จำกฐำนทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นกำร พ.ศ. ๒๕๑๐ กองร้อยรบพิเศษ ดี (D) ได้แปรสภำพเป็นกองร้อย
ึ
สร้ำงดุลแห่งอ�ำนำจ โดยหำพันธมิตรเข้ำร่วมอุดมกำรณ์ของตน ซ่งต่อมำ ร.ท. จอห์นน่ เรย์มอนด์ ได้เป็นเจ้ำหน้ำท่จัสแม็ก ปฏิบัติเหมือนกำรรบจริง ซ่งเป็นประโยชน์แก่หน่วยรบพิเศษของ รบพิเศษท่ ๔๖ กรมรบพิเศษสหรัฐท่ ๑ (พลร่ม) โดยมีท่ต้งท�ำกำร ณ
ี
ี
ึ
ี
ั
ี
ี
ิ
ั
ในมุมมองของสหรัฐฯ ผู้น�ำฝ่ำยโลกเสรี ถือว่ำ คอมมิวนิสต์เป็นภัย ประจ�ำประเทศไทย และเป็นผู้ประสำนงำนในกำรสนับสนุนกองทัพ ท้งสองประเทศเป็นอย่ำงย่ง ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช จ.ลพบุรี ซ่งยังด�ำเนินกำรฝึก และ
ึ
ี
ต่อผลประโยชน์แห่งประเทศ จึงมีนโยบำยหลัก คือ กำรสกัดก้น บกไทย จัดต้ง กองรบพิเศษ (พลร่ม) ณ ค่ำยป่ำหวำย ในเวลำต่อมำ - กำรฝึกเจ้ำหน้ำท่ช�ำนำญกำร หน่วยรบพิเศษ ใน พ.ศ.๒๕๐๗ ปฏิบัติกำรทำงทหำรร่วมกับหน่วยรบพิเศษไทยมำอย่ำงต่อเน่อง
ั
ั
ื
ี
ี
คอมมิวนิสต์ ด้วยกำรสร้ำงพันธมิตรทำงกำรทหำรในภูมิภำคต่ำง ๆ โดยกระบวนกำรปรับเปล่ยนหน่วยจำก หน่วยจู่โจมส่งทำงอำกำศ เป็นกำรฝึกเจ้ำหน้ำท่ของหน่วยรบพิเศษ ในแต่ละหน้ำท่ ให้มีควำม
ี
ี
ื
โดยเฉพำะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเม่อภัยคุกคำมจำก เป็น หน่วยรบพิเศษ ด�ำเนินกำรภำยใต้ควำมร่วมมือระหว่ำงกองทัพ รู้ควำมสำมำรถตำมต�ำแหน่งหน้ำท่ ท่บรรจุไว้อย่ำงแท้จริง และฝึก
ี
ื
คอมมิวนิสต์แพร่ขยำยเข้ำสู่ประเทศไทย บกไทยและหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ สลับหน้ำท่ให้สำมำรถทดแทนกันได้ เม่อมีควำมจ�ำเป็น
ี
สหรัฐฯ ได้ส่ง พลเอก วิลเลียม เจ โดโนแวน อดีตหัวหน้ำ ๒๕ ตุลำคม ๒๔๙๙ ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษท่ ๑๔ (SFOD-14) - กำรฝึกร่วมผสม รหัส กิตติ ใน พ.ศ.๒๕๐๗ และ พ.ศ. ๒๕๐๘
ี
ี
ส�ำนักงำนโอเอสเอส เคยปฏิบัติกำรลับร่วมกับเสรีไทย ในสมัย จ�ำนวน ๑๖ นำย น�ำโดย พ.ท. สก๊อต แมดด้ง จำกกองก�ำลังทำงบก เป็นกำรฝึกปัญหำท่บังคับกำร และจัดก�ำลังเป็นกองบังคับกำรผสม
ิ
สงครำมโลกคร้งท่ ๒ มำเป็นเอกอัครรำชทูตประจ�ำประเทศไทย สหรัฐฯ ภำคพ้นแปซิฟิก (USARPAC) ได้รับภำรกิจ ให้จัดกำรฝึก (ฐำนปฏิบัติกำรรบพิเศษผสม ไทย-สหรัฐฯ) ท่กองรบพิเศษ (พลร่ม)
ั
ี
ี
ื
ื
เพ่อให้ค�ำแนะน�ำรัฐบำลไทยในกำรต่อสู้กับภัยคุกคำมของ กำรปฏิบัติกำรของหน่วยรบพิเศษ ให้กับก�ำลังพลของกองพันทหำร จ.ลพบุร ี
คอมมิวนิสต์ โดยใช้ยุทธวิธีสงครำมนอกแบบ และจัดเจ้ำหน้ำท ี ่ พลร่ม ท่ค่ำยเอรำวัณ จ.ลพบุรี โดยมีกำรจัดต้งกองอ�ำนวยกำรฝึก
ี
ั
ครูฝึกจำกหน่วยข่ำวกรองกลำง และหน่วยรบพิเศษสหรัฐอเมริกำ ร่วม ไทย-สหรัฐฯ โดย พล.ต.ริชำร์ด ฟำร์ดิดจ์ หัวหน้ำจัสแม็กไทย
มำท�ำกำรฝึกกระโดดร่ม และกำรรบนอกแบบ ให้กับกองก�ำลัง เป็นผู้อ�ำนวยกำรฝึก และฝ่ำยไทย โดย พ.ต.เทียนชัย สิริสัมพันธ์
ต�ำรวจและทหำรของไทย ผบ.พัน พร. เป็นผู้อ�ำนวยกำรฝึกร่วม ซ่งกำรฝึกคร้งน้ ถือว่ำเป็น
ั
ี
ึ
ี
ิ
พ.ศ.๒๔๙๔ หน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ จัดให้เสริมสมรรถนะ จุดเร่มในกำรปรับเปล่ยน ลักษณะกำรปฏิบัติงำนของกองพันทหำร
ี
ี
ื
เร่องควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติกำรส่งทำงอำกำศ ท่ค่ำยเอรำวัณ พลร่ม ท่เดิมเป็น หน่วยจู่โจมส่งทำงอำกำศ ไปสู่กำรปฏิบัติงำน
ี
ิ
จ.ลพบุรี และทหำรพลร่มของกองทัพบก ท่เพ่งผ่ำนกำรฝึกได้ ในลักษณะของหน่วยรบพิเศษ พ.ศ.๒๕๐๓ หน่วยรบพิเศษ
กระโดดร่มลงปฏิบัติกำรในสภำพของหน่วยทหำรให้ประชำชน สหรัฐฯ เปิดหลักสูตรกำรรบพิเศษ (Special Forces Officers
ี
ั
ได้ชม ต่อหน้ำพระพักตร์รัชกำลท่ ๙ และสมเด็จพระนำงเจ้ำ Course) และให้ท่น่งศึกษำส�ำหรับก�ำลังพลนำยทหำรไทย ของกอง
ี
ี
ั
พระบรมรำชินีนำถ ในกำรแสดงแสนยำนุภำพของกองทัพบก พนทหำรพลร่ม เข้ำรับกำรศึกษำหลักสูตรรบพิเศษ รุ่นท่ 33-G-F3,
ี
ี
ท่สนำมรำชตฤณมัยสมำคม พระนคร ในวันท่ ๒๕ มกรำคม ๒๔๙๕ 2-60 ณ ประเทสสหรัฐอเมริกำ โดยมีผู้เข้ำรับกำรศึกษำ จ�ำนวน ๖ นำย
ซ่งเป็นวันกองทัพบกไทย
ึ
26 27
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ความสัมพันธ์ของหน่วยรบพิเศษ
ไทยและสหรัฐอเมริกา
28 29
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ความสัมพันธ์ของหน่วยรบพิเศษ
ไทยและสหรัฐอเมริกา
28 29
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
วิวัฒนาการ
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
30 31
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
วิวัฒนาการ
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
30 31
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ิ
จากจุดเร่มต้น
สู่ความเป็นเลิศ
ั
ึ
ั
ั
สหรัฐฯ ได้จัดต้งหน่วย เปิด “ค่ำยฝึกกำรรบ เปิดหลักสูตร “พลร่มและ จัดต้งข้น “กองพันทหำร จัดต้ง กองร้อยพลำธิกำร ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับ ขยำยอัตรำจำก กองพันนักเรียนกำรรบ
ั
Central Intelligence Agency พิเศษเขำเอรำวัณ” กำรรบพิเศษ” ณ ค่ำยฝึก พลร่ม” (Airborne Battalion) ส่งก�ำลังทำงอำกำศ กองทัพภำคท่ ๑ มีท่ต้ง “กองพันทหำรพลร่ม” เป็น พิเศษ ศูนย์กำรทหำรรำบ ได้
ี
ี
ั
ี
ในประเทศไทย เอรำวัณเป็นคร้งแรก (ร้อย.พธ.สกอ.ทบ.) ช่วครำวท่ ร.๒๑ “กองรบพิเศษ (พลร่ม)” แปรสภำพเป็น กองพันส่งทำง
ั
อำกำศที่ ๑ ศูนย์กำรทหำรรำบ
๒๔๙๐ ๒๔๙๔ ๒๔๙๖ ๒๔๙๗ ๒๕๐๐ ๒๕๐๐ ๒๕๐๖ ๒๕๐๖
ี
ั
ั
เปล่ยนช่อค่ำยฝึก ซีไอ จัดต้ง กองรบพิเศษ ขยำย “กองร้อยส่งก�ำลังทำง กองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ จึงจัดต้ง กองรบพิเศษ จัดต้ง โรงเรียนสงครำมพิเศษ จัดตั้ง กองทัพบกอนุมัติปรับปรุง
ั
ื
ี
ี
ปำกช่อง เป็น “ค่ำยฝึกกำร (พลร่ม) ท่ ๓ ในค่ำยเอรำวัณ อำกำศ” เป็น “กองพลำธิกำรส่ง ได้ขยำยอัตรำเป็น กองพันปฏิบัต ิ (พลร่ม) ท่ ๒ ข้น ณ ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์ “ศูนย์สงครำมพิเศษ” กองรบพิเศษ (พลร่ม)
ึ
รบพิเศษปำกช่อง” จ.ลพบุร ี ทำงอำกำศ กำรจิตวิทยำ มหำรำช
๒๕๑๕ ๒๕๑๔ ๒๕๑๓ ๒๕๑๒ ๒๕๑๐ ๒๕๐๙ ๒๕๐๘
๒๕๑๗
ั
ี
ั
ึ
ั
ปรับค่ำยฝึกกำรรบพิเศษ โอนกองพันส่งทำงอำกำศท่ ๑ จัดต้ง กองรบพิเศษ จัดต้งหน่วยรบพิเศษข้น หน่วยบัญชำกำรสงครำม หน่วยเฉพำะกิจ ๙๐ จัดต้ง “กองพันจู่โจม”
ี
ี
ึ
ึ
ั
อ.ปำกช่อง เป็นกองฝึกรบ ไปเป็นหน่วยข้นตรง (พลร่ม) ท่ ๔ ใหม่ คือ กองพลรบพิเศษท่ ๑ จัดต้ง “หน่วยบัญชำกำร พิเศษ ปรับกำรบังคับบัญชำ (ฉก.๙๐) ข้นกำรบังคับบัญชำ (Ranger Battalion)
ี
ั
ี
พิเศษท่ ๙ ของกรมทหำรรำบท่ ๓๑ (พล.รพศ.๑) สงครำมพิเศษ” หน่วยรบพิเศษใหม่ท้งหมด กับหน่วยบัญชำกำรสงครำม
ี
กองพลท่ ๑ รักษำพระองค์ พิเศษ
๒๕๑๘ ๒๕๒๑ ๒๕๒๓ ๒๕๒๕ ๒๕๒๖ ๒๕๒๗ ๒๕๒๙ ๒๕๓๑
กองพันจู่โจมและกองร้อย กองร้อยลำดตระเวนระยะ
ื
ั
ี
ปฏิบัติกำรพิเศษ (ฉก.๙๐) ปิดกำรบรรจุและปรับกำร ไกล ศูนย์สงครำมพิเศษ เป็น กองพันฝึกรบพิเศษท่ ๙ ได้ โอนกำรบังคับบัญชำ กองพัน มอบโอนกำรบังคับบัญชำ จัดต้ง กองพันทหำรส่อสำร
ี
ให้เป็นหน่วยข้นตรง บังคับบัญชำหน่วยรบพิเศษ กองร้อยท่ ๓ กองพันรบพิเศษ แปรสภำพเป็นกองพันรบพิเศษ ปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ให้กับหน่วย กองร้อยปฏิบัติกำรพิเศษ โดยใช้นำมหน่วยว่ำ
ึ
ื
ี
ี
กรมรบพิเศษท่ ๓ ศูนย์สงครำมพิเศษ ศูนย์สงครำมพิเศษ บัญชำกำรสงครำมพิเศษ (ฉก.๙๐) ให้กับกองพันจู่โจม “กองพันทหำรส่อสำรท่ ๓๕”
๒๕๔๓ ๒๕๓๗ ๒๕๓๗ ๒๕๓๖ ๒๕๓๕ ๒๕๓๔
๒๕๔๔
อนุมัติให้เปิดกำรบรรจ ุ
ี
ศูนย์สงครำมพิเศษ ปรับกรมรบพิเศษท่ ๒ อัตรำก�ำลังพล พัน.จจ. ร้อย.๓ ปรับกองพันปฏิบัติกำร ปรับกรมรบพิเศษท่ ๒ เป็น โปรดเกล้ำให้ กรมรบ
ี
ึ
ี
ได้แก้ไขอัตรำเฉพำะกิจ เป็นหน่วยข้นตรงกับหน่วย และให้ผู้บังคับหน่วยด�ำรง จิตวิทยำ (พัน.ปจว.) เป็นหน่วย หน่วยข้นตรงกับกองพล พิเศษท่ ๓ เป็นหน่วยทหำร
ึ
ึ
ี
บัญชำกำรสงครำมพิเศษ ต�ำแหน่ง ผู้บังคับกำรกรมรบ ข้นตรงของหน่วยบัญชำกำร รบพิเศษท่ ๑ รักษำพระองค์
ี
พิเศษท่ ๓ สงครำมพิเศษ
๒๕๕๐ ๒๕๕๑ ๒๕๕๓ ๒๕๕๖ ๒๕๖๒
32 33
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ิ
จากจุดเร่มต้น
สู่ความเป็นเลิศ
ั
ึ
ั
ั
สหรัฐฯ ได้จัดต้งหน่วย เปิด “ค่ำยฝึกกำรรบ เปิดหลักสูตร “พลร่มและ จัดต้งข้น “กองพันทหำร จัดต้ง กองร้อยพลำธิกำร ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับ ขยำยอัตรำจำก กองพันนักเรียนกำรรบ
ั
Central Intelligence Agency พิเศษเขำเอรำวัณ” กำรรบพิเศษ” ณ ค่ำยฝึก พลร่ม” (Airborne Battalion) ส่งก�ำลังทำงอำกำศ กองทัพภำคท่ ๑ มีท่ต้ง “กองพันทหำรพลร่ม” เป็น พิเศษ ศูนย์กำรทหำรรำบ ได้
ี
ี
ั
ี
ในประเทศไทย เอรำวัณเป็นคร้งแรก (ร้อย.พธ.สกอ.ทบ.) ช่วครำวท่ ร.๒๑ “กองรบพิเศษ (พลร่ม)” แปรสภำพเป็น กองพันส่งทำง
ั
อำกำศที่ ๑ ศูนย์กำรทหำรรำบ
๒๔๙๐ ๒๔๙๔ ๒๔๙๖ ๒๔๙๗ ๒๕๐๐ ๒๕๐๐ ๒๕๐๖ ๒๕๐๖
ี
ั
ั
เปล่ยนช่อค่ำยฝึก ซีไอ จัดต้ง กองรบพิเศษ ขยำย “กองร้อยส่งก�ำลังทำง กองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ จึงจัดต้ง กองรบพิเศษ จัดต้ง โรงเรียนสงครำมพิเศษ จัดตั้ง กองทัพบกอนุมัติปรับปรุง
ั
ื
ี
ี
ปำกช่อง เป็น “ค่ำยฝึกกำร (พลร่ม) ท่ ๓ ในค่ำยเอรำวัณ อำกำศ” เป็น “กองพลำธิกำรส่ง ได้ขยำยอัตรำเป็น กองพันปฏิบัต ิ (พลร่ม) ท่ ๒ ข้น ณ ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์ “ศูนย์สงครำมพิเศษ” กองรบพิเศษ (พลร่ม)
ึ
รบพิเศษปำกช่อง” จ.ลพบุร ี ทำงอำกำศ กำรจิตวิทยำ มหำรำช
๒๕๑๕ ๒๕๑๔ ๒๕๑๓ ๒๕๑๒ ๒๕๑๐ ๒๕๐๙ ๒๕๐๘
๒๕๑๗
ี
ั
ั
ึ
ั
ปรับค่ำยฝึกกำรรบพิเศษ โอนกองพันส่งทำงอำกำศท่ ๑ จัดต้ง กองรบพิเศษ จัดต้งหน่วยรบพิเศษข้น หน่วยบัญชำกำรสงครำม หน่วยเฉพำะกิจ ๙๐ จัดต้ง “กองพันจู่โจม”
ี
ี
ึ
ึ
ั
อ.ปำกช่อง เป็นกองฝึกรบ ไปเป็นหน่วยข้นตรง (พลร่ม) ท่ ๔ ใหม่ คือ กองพลรบพิเศษท่ ๑ จัดต้ง “หน่วยบัญชำกำร พิเศษ ปรับกำรบังคับบัญชำ (ฉก.๙๐) ข้นกำรบังคับบัญชำ (Ranger Battalion)
ี
ั
ี
พิเศษท่ ๙ ของกรมทหำรรำบท่ ๓๑ (พล.รพศ.๑) สงครำมพิเศษ” หน่วยรบพิเศษใหม่ท้งหมด กับหน่วยบัญชำกำรสงครำม
ี
กองพลท่ ๑ รักษำพระองค์ พิเศษ
๒๕๑๘ ๒๕๒๑ ๒๕๒๓ ๒๕๒๕ ๒๕๒๖ ๒๕๒๗ ๒๕๒๙ ๒๕๓๑
กองพันจู่โจมและกองร้อย กองร้อยลำดตระเวนระยะ
ื
ั
ี
ปฏิบัติกำรพิเศษ (ฉก.๙๐) ปิดกำรบรรจุและปรับกำร ไกล ศูนย์สงครำมพิเศษ เป็น กองพันฝึกรบพิเศษท่ ๙ ได้ โอนกำรบังคับบัญชำ กองพัน มอบโอนกำรบังคับบัญชำ จัดต้ง กองพันทหำรส่อสำร
ี
ให้เป็นหน่วยข้นตรง บังคับบัญชำหน่วยรบพิเศษ กองร้อยท่ ๓ กองพันรบพิเศษ แปรสภำพเป็นกองพันรบพิเศษ ปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ให้กับหน่วย กองร้อยปฏิบัติกำรพิเศษ โดยใช้นำมหน่วยว่ำ
ึ
ื
ี
ี
กรมรบพิเศษท่ ๓ ศูนย์สงครำมพิเศษ ศูนย์สงครำมพิเศษ บัญชำกำรสงครำมพิเศษ (ฉก.๙๐) ให้กับกองพันจู่โจม “กองพันทหำรส่อสำรท่ ๓๕”
๒๕๔๓ ๒๕๓๗ ๒๕๓๗ ๒๕๓๖ ๒๕๓๕ ๒๕๓๔
๒๕๔๔
อนุมัติให้เปิดกำรบรรจ ุ
ี
ศูนย์สงครำมพิเศษ ปรับกรมรบพิเศษท่ ๒ อัตรำก�ำลังพล พัน.จจ. ร้อย.๓ ปรับกองพันปฏิบัติกำร ปรับกรมรบพิเศษท่ ๒ เป็น โปรดเกล้ำให้ กรมรบ
ี
ึ
ี
ได้แก้ไขอัตรำเฉพำะกิจ เป็นหน่วยข้นตรงกับหน่วย และให้ผู้บังคับหน่วยด�ำรง จิตวิทยำ (พัน.ปจว.) เป็นหน่วย หน่วยข้นตรงกับกองพล พิเศษท่ ๓ เป็นหน่วยทหำร
ึ
ึ
ี
บัญชำกำรสงครำมพิเศษ ต�ำแหน่ง ผู้บังคับกำรกรมรบ ข้นตรงของหน่วยบัญชำกำร รบพิเศษท่ ๑ รักษำพระองค์
ี
พิเศษท่ ๓ สงครำมพิเศษ
๒๕๕๐ ๒๕๕๑ ๒๕๕๓ ๒๕๕๖ ๒๕๖๒
32 33
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุคก่อนก่อตั้งหน่วยทหารพลร่ม
พ.ศ.๒๔๗๐ - ๒๔๙๖
พ.ศ. ๒๔๖๘-๒๔๗๐ พ.ศ. ๒๔๗๑ พ.ศ. ๒๔๗๕ พ.ศ. ๒๔๗๖ พ.ศ. ๒๔๗๗-๒๔๗๘ พ.ศ. ๒๔๘๒-๒๔๘๓
ึ
ื
ี
พ.ศ. ๒๔๖๘ – ๒๔๗๐ ลัทธิคอมมิวนิสต ์ พ.ศ.๒๔๗๑ ชำวญวนภำยใต้กำรน�ำ พ.ศ.๒๔๗๕ ขบวนกำรคอมมิวนิสต์ รัฐบำลไทยเร่มตระหนักถึงภัยคุกคำม พ.ศ.๒๔๗๗ คอมมิวนิสต์ได้แจกใบปลิว สงครำมโลกคร้งท่ ๒ อุบัติข้น เม่อฮิตเลอร์
ั
ิ
ื
ึ
ื
ิ
ี
ี
เร่มเข้ำสู่ประเทศไทย หลังจำกท่ประเทศ ของโฮจิมินห์ ซ่งเคล่อนไหวกู้อิสรภำพจำก ในประเทศไทย เปิดเผยตัวเป็นครั้งแรกหลัง อันจะเกิดข้นจำกลัทธิคอมมิวนิสต์ จึงออก ท่วพ้นท่ในภำคตะวันออกเฉียงเหนือจะต้ง ั จำกประเทศเยอรมนี บุกโปแลนด์ ในวันที่
ั
ึ
ั
ั
ั
ิ
ิ
รัสเซียได้จัดต้งส�ำนักงำนคอมมิวนิสต์ภำค ฝรั่งเศส ได้ถูกฝรั่งเศสปรำบปรำมอย่ำงหนัก กำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครอง ในนำมของ กฎหมำยปองกนและปรำบปรำมคอมมวนสต ์ ระบบกำรปกครองแบบรสเซยขนใน ๑ กันยำยน พ.ศ.๒๔๘๒ ท�ำให้ประเทศ
ึ
้
ี
้
ื
ึ
ตะวันออกไกลข้นท่นครเซียงไฮ้ ประเทศจีน ในอินโดจีน จึงได้มำเคล่อนไหวในกลุ่มคน คณะคอมมิวนิสต์สยำมโดยมีกำรพิมพ์ ฉบับแรก คือ “พระรำชบัญญัติคอมมิวนิสต์ ประเทศไทย รัฐบำลไทยจึงได้แก้ไข พระรำช อังกฤษ ฝรั่งเศส และดินแดนอำณำนิคมของ
ี
ั
เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๕ โดยมีควำมมุ่งหมำยที่จะใช้ ญวนในไทย และพรรคคอมมิวนิสต์ญวน ใบปลิวภำษำไทย อังกฤษ และจีน แจกจ่ำย พ.ศ.๒๔๗๖” โดยประกำศใช้เม่อวันท ่ ี บญญติคอมมิวนิสต์ เพ่มเติมอีกหน่งฉบับ อังกฤษอีก ๔ แห่ง คือ ออสเตรเลีย
ื
ั
ิ
ึ
ั
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลำง ในกำรเผยแพร่ ได้ย้ำยส�ำนักงำนใหญ่ของพรรคเข้ำมำต้ง ทั่วไปในเขตจังหวัดพระนคร และบำงจังหวัด ๒ เมษำยน ๒๔๗๖ เมื่อวันที่ ๑ ตุลำคม ๒๔๗๘ โดยก�ำหนดบท นิวซีแลนด์ บริติช อินเดีย แอฟริกำใต้
ลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภำคเอเชีย เป็นกำรชั่วครำว อยู่ในภำคตะวันออกเฉียง ในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้อควำมใน ลงโทษให้รุนแรงขึ้น เพื่อจะยับยั้งกำรขยำย ประกำศสงครำมกับเยอรมนีต่อมำ
ิ
ตะวนออกไกลและเอเชียอำคเนย์โดยสมำชก เหนือของไทยอย่ำงลับๆ ใน พ.ศ. ๒๔๗๔ ใบปลิวอ้ำงว่ำคณะคอมมิวนิสต์สยำม ซ่งม ี ตัวของขบวนกำรคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย พ.ศ.๒๔๘๓ กองทัพเยอรมันรุกรำนประเทศ
ึ
ั
ั
ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ถูกส่งมำขยำย และท�ำกำรโฆษณำเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ส่วนในกำร“ปฏิวัติประชำธิปไตยชนช้นนำยทุน” นอร์เวย์ และเดนมำร์ก ก่อนที่จะโจมตี
ั
งำนในกลุ่มคนจีนในประเทศไทย และเผย ในกลุ่มคนญวนอย่ำงกว้ำงขวำง และฝึก โดยร่วมกับคณะรำษฎร์ในกำรเปล่ยนแปลง ฝร่งเศสผ่ำนทำงประเทศเนเธอร์แลนด์
ี
ั
ื
แพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในรูปแบบต่ำงๆ ตลอด อบรมแก่กองก�ำลังคอมมิวนิสต์ไทย รวมท้ง ั กำรปกครอง เพ่อท�ำลำยอ�ำนำจชนช้น เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก ในปีเดียวกันนี้เอง
ิ
ทั้งจัดตั้งพรรคขึ้น มีชื่อว่ำ พรรคคอมมิวนิสต์ เร่มขยำยอิทธิพลเข้ำไปในลำว เจ้ำขุน มูลนำย รวมทั้งใช้ปฏิบัติกำรทำงด้ำน อิตำลีได้ประกำศสงครำมกับอังกฤษและ
จีนแห่งประเทศไทย แต่สมำชิกพรรคคนไทย จิตวิทยำและกำรประชำสัมพันธ์เพ่อหำ ฝรั่งเศส
ื
ไม่พอใจและไม่ยอมให้กำรสนับสนุน แนวร่วม ด้วยกำรเผยแพร่เร่องรำวของ
ื
ื
ี
จึงเปล่ยนช่อใหม่เป็นพรรคคอมมิวนิสต์สยำม เลนิน และ สตำลิน ผู้น�ำปฏิวัติรัสเซีย รวมถึง
ั
โครงสร้ำงทำงเศรษฐกจของรสเซยผ่ำน เวียดนำมตกเป็นอำณำนิคมของฝร่งเศส
ั
ิ
ี
ทำง“หนังสือพิมพ์”ชื่อสังจัง ๒๔ มิถุนำ และ อย่ำงเต็มตัว ใน พ.ศ.๒๔๘๒
ื
ั
ื
ส่อมวลชนรำยสปดำห์เพ่อโน้มน้ำว
ประชำชนชำวไทยให้เห็นด้วยกับรูปแบบ
กำรปกครองแบบคอมมิวนิสต์
ภาพคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย ภาพคณะคอมมิวนิสต์สยาม ภาพการฝึกกาลังทหารของคณะคอมมิวนิสต์สยาม ภาพทหารของเยอรมนี เดินเท้าเข้าตีโปแลนด์
�
ื
เม่อวันท่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๘๒
ี
34 35
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุคก่อนก่อตั้งหน่วยทหารพลร่ม
พ.ศ.๒๔๗๐ - ๒๔๙๖
พ.ศ. ๒๔๖๘-๒๔๗๐ พ.ศ. ๒๔๗๑ พ.ศ. ๒๔๗๕ พ.ศ. ๒๔๗๖ พ.ศ. ๒๔๗๗-๒๔๗๘ พ.ศ. ๒๔๘๒-๒๔๘๓
ึ
ื
ี
พ.ศ. ๒๔๖๘ – ๒๔๗๐ ลัทธิคอมมิวนิสต ์ พ.ศ.๒๔๗๑ ชำวญวนภำยใต้กำรน�ำ พ.ศ.๒๔๗๕ ขบวนกำรคอมมิวนิสต์ รัฐบำลไทยเร่มตระหนักถึงภัยคุกคำม พ.ศ.๒๔๗๗ คอมมิวนิสต์ได้แจกใบปลิว สงครำมโลกคร้งท่ ๒ อุบัติข้น เม่อฮิตเลอร์
ั
ิ
ื
ึ
ื
ิ
เร่มเข้ำสู่ประเทศไทย หลังจำกท่ประเทศ ของโฮจิมินห์ ซ่งเคล่อนไหวกู้อิสรภำพจำก ในประเทศไทย เปิดเผยตัวเป็นครั้งแรกหลัง อันจะเกิดข้นจำกลัทธิคอมมิวนิสต์ จึงออก ท่วพ้นท่ในภำคตะวันออกเฉียงเหนือจะต้ง จำกประเทศเยอรมนี บุกโปแลนด์ ในวันที่
ี
ี
ั
ึ
ั
ั
ั
ิ
ี
ิ
ึ
รัสเซียได้จัดต้งส�ำนักงำนคอมมิวนิสต์ภำค ฝรั่งเศส ได้ถูกฝรั่งเศสปรำบปรำมอย่ำงหนัก กำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครอง ในนำมของ กฎหมำยปองกนและปรำบปรำมคอมมวนสต ์ ระบบกำรปกครองแบบรสเซยขนใน ๑ กันยำยน พ.ศ.๒๔๘๒ ท�ำให้ประเทศ
้
ั
้
ื
ตะวันออกไกลข้นท่นครเซียงไฮ้ ประเทศจีน ในอินโดจีน จึงได้มำเคล่อนไหวในกลุ่มคน คณะคอมมิวนิสต์สยำมโดยมีกำรพิมพ์ ฉบับแรก คือ “พระรำชบัญญัติคอมมิวนิสต์ ประเทศไทย รัฐบำลไทยจึงได้แก้ไข พระรำช อังกฤษ ฝรั่งเศส และดินแดนอำณำนิคมของ
ึ
ี
ั
ั
เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๕ โดยมีควำมมุ่งหมำยที่จะใช้ ญวนในไทย และพรรคคอมมิวนิสต์ญวน ใบปลิวภำษำไทย อังกฤษ และจีน แจกจ่ำย พ.ศ.๒๔๗๖” โดยประกำศใช้เม่อวันท ่ ี บญญติคอมมิวนิสต์ เพ่มเติมอีกหน่งฉบับ อังกฤษอีก ๔ แห่ง คือ ออสเตรเลีย
ื
ิ
ึ
ั
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลำง ในกำรเผยแพร่ ได้ย้ำยส�ำนักงำนใหญ่ของพรรคเข้ำมำต้ง ทั่วไปในเขตจังหวัดพระนคร และบำงจังหวัด ๒ เมษำยน ๒๔๗๖ เมื่อวันที่ ๑ ตุลำคม ๒๔๗๘ โดยก�ำหนดบท นิวซีแลนด์ บริติช อินเดีย แอฟริกำใต้
ลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภำคเอเชีย เป็นกำรชั่วครำว อยู่ในภำคตะวันออกเฉียง ในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้อควำมใน ลงโทษให้รุนแรงขึ้น เพื่อจะยับยั้งกำรขยำย ประกำศสงครำมกับเยอรมนีต่อมำ
ตะวนออกไกลและเอเชียอำคเนย์โดยสมำชก เหนือของไทยอย่ำงลับๆ ใน พ.ศ. ๒๔๗๔ ใบปลิวอ้ำงว่ำคณะคอมมิวนิสต์สยำม ซ่งม ี ตัวของขบวนกำรคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย พ.ศ.๒๔๘๓ กองทัพเยอรมันรุกรำนประเทศ
ั
ิ
ึ
ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ถูกส่งมำขยำย และท�ำกำรโฆษณำเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ส่วนในกำร“ปฏิวัติประชำธิปไตยชนช้นนำยทุน” นอร์เวย์ และเดนมำร์ก ก่อนที่จะโจมตี
ั
ั
งำนในกลุ่มคนจีนในประเทศไทย และเผย ในกลุ่มคนญวนอย่ำงกว้ำงขวำง และฝึก โดยร่วมกับคณะรำษฎร์ในกำรเปล่ยนแปลง ฝร่งเศสผ่ำนทำงประเทศเนเธอร์แลนด์
ี
ั
แพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในรูปแบบต่ำงๆ ตลอด อบรมแก่กองก�ำลังคอมมิวนิสต์ไทย รวมท้ง กำรปกครอง เพ่อท�ำลำยอ�ำนำจชนช้น เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก ในปีเดียวกันนี้เอง
ื
ั
ิ
ทั้งจัดตั้งพรรคขึ้น มีชื่อว่ำ พรรคคอมมิวนิสต์ เร่มขยำยอิทธิพลเข้ำไปในลำว เจ้ำขุน มูลนำย รวมทั้งใช้ปฏิบัติกำรทำงด้ำน อิตำลีได้ประกำศสงครำมกับอังกฤษและ
ื
จีนแห่งประเทศไทย แต่สมำชิกพรรคคนไทย จิตวิทยำและกำรประชำสัมพันธ์เพ่อหำ ฝรั่งเศส
ไม่พอใจและไม่ยอมให้กำรสนับสนุน แนวร่วม ด้วยกำรเผยแพร่เร่องรำวของ
ื
จึงเปล่ยนช่อใหม่เป็นพรรคคอมมิวนิสต์สยำม เลนิน และ สตำลิน ผู้น�ำปฏิวัติรัสเซีย รวมถึง
ี
ื
ั
ี
โครงสร้ำงทำงเศรษฐกจของรสเซยผ่ำน เวียดนำมตกเป็นอำณำนิคมของฝร่งเศส
ิ
ั
ทำง“หนังสือพิมพ์”ชื่อสังจัง ๒๔ มิถุนำ และ อย่ำงเต็มตัว ใน พ.ศ.๒๔๘๒
ั
ื
ส่อมวลชนรำยสปดำห์เพ่อโน้มน้ำว
ื
ประชำชนชำวไทยให้เห็นด้วยกับรูปแบบ
กำรปกครองแบบคอมมิวนิสต์
ภาพคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย ภาพคณะคอมมิวนิสต์สยาม ภาพการฝึกกาลังทหารของคณะคอมมิวนิสต์สยาม ภาพทหารของเยอรมนี เดินเท้าเข้าตีโปแลนด์
�
ื
เม่อวันท่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๘๒
ี
34 35
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
พ.ศ. ๒๔๘๔ พ.ศ. ๒๔๘๕ พ.ศ. ๒๔๘๗ พ.ศ. ๒๔๘๘
พ.ศ.๒๔๘๔ เยอรมนีเข้ำยึดครอง วันที่ ๒๕ มกรำคม พ.ศ.๒๔๘๕ ไทย ขณะเดียวกัน พรรคคอมมิวนิสต์สยำม พ.ศ.๒๔๘๗ กำรปฏิบัติกำรขององค์กรใต้ดินหรือขบวนกำรเสรี ในขณะท่ญ่ปุ่นได้เข้ำยึดครองภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ี
ี
ยูโกสลำเวีย และเริ่มส่งทหำรเข้ำไปรุกรำน ได้ประกำศสงครำมกับฝ่ำยสัมพันธมิตร ยังคงเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในรูปแบบต่ำงๆ ไทย จึงเริ่มขึ้นในประเทศไทย โดยเสรีไทยสำยอเมริกำ ได้รับกำรฝึก เวียดนำมจึงประกำศตนเป็นอิสระ แต่คงอยู่ในกำรควบคุมของญี่ปุ่น
สหภำพโซเวียต ขณะที่ญี่ปุ่นโจมตีอ่ำวเพิร์ล ได้แก่ สหรัฐอเมริกำ บริเตนใหญ่ และ และเตรียมด�ำเนินกำรปฏิวัติในประเทศไทย โดยหน่วยปฏิบัติกำรลับ โอเอสเอส (Office of Strategic Services : ขบวนกำรเวียดมินห์ที่ก่อตั้งขึ้นในจีนเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ และเริ่มแทรกซึม
ั
(Pearl Harbour) บนเกำะฮำวำยของ ออสเตรเลีย ซึ่งหลำยฝ่ำยไม่เห็นด้วยกับกำร ด้วยวิธีรุนแรง หรือสงครำมยืดเยื้อ และยึด OSS) ประเทศสหรัฐฯ และเสรีไทยสำยอังกฤษ ได้รับกำรฝึกจำกศูนย์ เข้ำไปในเวียดนำมต้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๖ ได้ร่วมมือกับสหรัฐฯ และ
ื
สหรัฐอเมริกำ เมื่อวันที่ ๗ ธันวำคม ๒๔๘๔ ตัดสินใจของรัฐบำล และได้น�ำควำมหำรือ นโยบำยชนบทล้อมเมือง เมืองล้อมนคร และ ฝึกของกองก�ำลัง ๑๓๖ เมืองปูนำ ประเทศอินเดีย ซึ่งได้รับกำรฝึกทำง ฝ่ำยสัมพันธมิตร ท�ำกำรต่อต้ำนญ่ปุ่น จนเม่อญ่ปุ่นแพ้สงครำมใน
ี
ี
ี
ื
แล้วประกำศสงครำมกับสหรัฐอเมริกำและ กับนำยปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมำชิก ได้เปล่ยนช่อเป็น พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ทหำรและกำรสงครำมนอกแบบ ต่ำงประเทศ เช่น กำรฝึกอำวุธ พ.ศ.๒๔๘๘ และจักรพรรดิเบำได๋ ได้สละรำชสมบัติในปีเดียวกันนั้น
ี
ั
ื
ั
ี
ี
อังกฤษ กำรโจมตีของกองทัพญ่ปุ่นคร้งน ี ้ ของคณะผู้ส�ำเร็จรำชกำรแทนพระองค์ ประเทศไทย (พคท.) เม่อวันท่ ๑ ธันวำคม กำรฝึกกระโดดร่ม กำรฝึกกำรรบแบบกองโจร ฝึกกำรส่งข่ำว โฮจิมินห์จึงจัดต้งรัฐบำลข้นบริหำรประเทศ และเปล่ยนแปลงกำร
ึ
ส่งผลให้สหรัฐอเมริกำตัดสินใจเข้ำสู่ (รัชกำลที่ ๘) ซึ่งเห็นว่ำสงครำมครั้งนี้ ฝ่ำย พ.ศ.๒๔๘๕ ได้กระโดดร่มแทรกซึมเข้ำสู่ประเทศไทย ทั้งทำงบก ทำงน�้ำ และทำง ปกครองเป็นแบบสำธำรณรัฐ แต่ฝรั่งเศสในฐำนะฝ่ำยผู้ชนะสงครำม
สงครำมโลกครั้งที่ ๒ จำกนั้น ญี่ปุ่นตอบโต้ สัมพันธมิตรคงจะเป็นผู้ชนะ และไทยจะ อำกำศ เพื่อจัดตั้งและฝึกพลพรรคเสรีไทยในจังหวัดต่ำงๆ ให้ท�ำงำน โลกคร้งท่ ๒ จึงหำทำงกลับไปมีอิทธิพลเหนือเวียดนำมอีก
ี
ั
ิ
กำรปิดล้อมทำงเศรษฐกจด้วยกำรส่งกอง กลำยเป็นประเทศผู้แพ้สงครำม แต่ในภำวะ ใต้ดิน ก่อควำมระส�่ำระส่ำยตำมแนวหลังแก่กองทัพญี่ปุ่น รวมระยะ โดยมีอังกฤษให้ควำมช่วยเหลือ
ั
ื
ี
ก�ำลังเข้ำโจมตีดินแดนอำณำนิคมท่วท้ง ั ท่เป็นอยู่เน่องจำกถูกเหตุกำรณ์บีบบังคับ เวลำ ๑ ปี ซึ่งบทบำทของขบวนกำรเสรีไทย เป็นประโยชน์ต่อกำรท�ำ
ภูมิภำคตะวันออก โดยเร่มจำกคำบสมุทรมำเลย์ ไทยควรท�ำให้เห็นว่ำไม่ว่ำอย่ำงไร ไทยก ็ สงครำมของฝ่ำยสัมพันธมิตร และลดกำรสูญเสียได้มำก
ิ
และวันที่ ๘ ธันวำคม พ.ศ. ๒๔๘๔ ญี่ปุ่นได้ พยำยำมช่วยเหลือฝ่ำยพันธมิตรทุก
ยกพลขึ้นบกในประเทศไทย ตำมแนวชำยฝั่ง วิถีทำง หลังจำกนั้น จึงมีขบวนกำรเสรีไทย เมื่อสงครำมโลกครั้งที่ ๒ ได้ยุติลง ในวันที่ ๑๖ สิงหำคม
ี
อ่ำวไทย และทำงชำยแดนด้ำนอินโดจีน โดย (Free Thai Movement) ท�ำหน้ำที่ต่อต้ำน พ.ศ. ๒๔๘๘ และขบวนกำรเสรีไทยได้หมดหน้ำท่และสลำยตัว
ื
ี
ขอใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทำงผ่ำนไป ญ่ปุ่นและช่วยเหลือสัมพันธมิตรเพ่อให้ เมื่อวันที่ ๒๕ กันยำยน พ.ศ. ๒๔๘๘ ประเทศสหรัฐฯ ได้ยุบหน่วย
ประเทศพม่ำ และรัฐบำลไทย น�ำโดย ประเทศไทย ได้กลับสู่สถำนภำพเดิม ปฏิบัติกำรลับโอเอสเอส(Office of Strategic Services : OSS)
จอมพล ป.พิบูลสงครำม ได้ยินยอมลงนำม ซึ่งก่อตั้งโดย พล.อ.วิลเลียม เจมส์ โดโนแวน และเป็นหัวหน้ำส�ำนักงำน
ในกติกำสัญญำพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ในประเทศไทย ปฏิบัติกำรกับเสรีไทยในกำรรบร่วมกับญี่ปุ่น
๒๑ ธันวำคม พ.ศ. ๒๔๘๔
ึ
เวียดนำมซ่งตกเป็นอำณำนิคมของ ส้นสุดสงครามโลกคร้งท่สอง ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๘
ั
ี
ิ
ฝรั่งเศสอย่ำงเต็มตัว ใน พ.ศ.๒๔๒๘ เกิดกำร
ี
จัดตั้งกองทัพกู้ชำติ ใน พ.ศ.๒๔๘๔ ใช้ค�ำ • รัฐบำลญ่ปุ่นลงนำมในตรำสำรยอมจ�ำนน บนเรือประจัญบำน
ี
ี
ั
เรียกแทนตัวเองว่ำ กองทัพประชำชนกู้ชำติ ภาพเพิร์ลฮาร์เบอร์ ๑ ปี ยูเอสเอส มิสซูร่ กลำงอ่ำวโตเกียว ยุติสงครำมโลกคร้งท่ ๒
เวียดนำมหรือเวียดมินห์ (VIET MINH) เพื่อ ก่อนการจู่โจมของญ่ปุ่น อย่ำงเป็นทำงกำร
ี
ต่อสู้ ขับไล่ฝรั่งเศส โดยมีโฮจิมินห์ เป็นผู้น�ำ • ในวันเดียวกัน โฮ จิ มินห์ อ่ำนค�ำ ประกำศอิสรภำพของประเทศ
และมี นำยพลหวอ เหงียน ย้ำป (โว เหงียน เก๊ยป) เวียดนำม ท่จัตุรัสบำด่ญ กรุงฮำนอย
ี
ิ
ี
เป็นผู้บัญชำกำรกองทัพคนแรก
• หลังจำกส้นสุดสงครำมโลกคร้งท่ ๒ ประเทศไทยเร่มเรียกร้อง
ิ
ี
ั
ิ
ดินแดนคืนจำกฝร่งเศสและอังกฤษ (บำงส่วนในลำว, กัมพูชำ
ั
และมลำยำ)
นายปรีดี พนมยงค์
36 37
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
พ.ศ. ๒๔๘๔ พ.ศ. ๒๔๘๕ พ.ศ. ๒๔๘๗ พ.ศ. ๒๔๘๘
ี
พ.ศ.๒๔๘๔ เยอรมนีเข้ำยึดครอง วันที่ ๒๕ มกรำคม พ.ศ.๒๔๘๕ ไทย ขณะเดียวกัน พรรคคอมมิวนิสต์สยำม พ.ศ.๒๔๘๗ กำรปฏิบัติกำรขององค์กรใต้ดินหรือขบวนกำรเสรี ในขณะท่ญ่ปุ่นได้เข้ำยึดครองภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ี
ยูโกสลำเวีย และเริ่มส่งทหำรเข้ำไปรุกรำน ได้ประกำศสงครำมกับฝ่ำยสัมพันธมิตร ยังคงเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในรูปแบบต่ำงๆ ไทย จึงเริ่มขึ้นในประเทศไทย โดยเสรีไทยสำยอเมริกำ ได้รับกำรฝึก เวียดนำมจึงประกำศตนเป็นอิสระ แต่คงอยู่ในกำรควบคุมของญี่ปุ่น
สหภำพโซเวียต ขณะที่ญี่ปุ่นโจมตีอ่ำวเพิร์ล ได้แก่ สหรัฐอเมริกำ บริเตนใหญ่ และ และเตรียมด�ำเนินกำรปฏิวัติในประเทศไทย โดยหน่วยปฏิบัติกำรลับ โอเอสเอส (Office of Strategic Services : ขบวนกำรเวียดมินห์ที่ก่อตั้งขึ้นในจีนเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ และเริ่มแทรกซึม
ั
(Pearl Harbour) บนเกำะฮำวำยของ ออสเตรเลีย ซึ่งหลำยฝ่ำยไม่เห็นด้วยกับกำร ด้วยวิธีรุนแรง หรือสงครำมยืดเยื้อ และยึด OSS) ประเทศสหรัฐฯ และเสรีไทยสำยอังกฤษ ได้รับกำรฝึกจำกศูนย์ เข้ำไปในเวียดนำมต้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๖ ได้ร่วมมือกับสหรัฐฯ และ
ื
ี
สหรัฐอเมริกำ เมื่อวันที่ ๗ ธันวำคม ๒๔๘๔ ตัดสินใจของรัฐบำล และได้น�ำควำมหำรือ นโยบำยชนบทล้อมเมือง เมืองล้อมนคร และ ฝึกของกองก�ำลัง ๑๓๖ เมืองปูนำ ประเทศอินเดีย ซึ่งได้รับกำรฝึกทำง ฝ่ำยสัมพันธมิตร ท�ำกำรต่อต้ำนญ่ปุ่น จนเม่อญ่ปุ่นแพ้สงครำมใน
ี
ื
แล้วประกำศสงครำมกับสหรัฐอเมริกำและ กับนำยปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมำชิก ได้เปล่ยนช่อเป็น พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ทหำรและกำรสงครำมนอกแบบ ต่ำงประเทศ เช่น กำรฝึกอำวุธ พ.ศ.๒๔๘๘ และจักรพรรดิเบำได๋ ได้สละรำชสมบัติในปีเดียวกันนั้น
ี
ี
ี
ั
ื
ึ
ี
อังกฤษ กำรโจมตีของกองทัพญ่ปุ่นคร้งน ี ้ ของคณะผู้ส�ำเร็จรำชกำรแทนพระองค์ ประเทศไทย (พคท.) เม่อวันท่ ๑ ธันวำคม กำรฝึกกระโดดร่ม กำรฝึกกำรรบแบบกองโจร ฝึกกำรส่งข่ำว โฮจิมินห์จึงจัดต้งรัฐบำลข้นบริหำรประเทศ และเปล่ยนแปลงกำร
ั
ส่งผลให้สหรัฐอเมริกำตัดสินใจเข้ำสู่ (รัชกำลที่ ๘) ซึ่งเห็นว่ำสงครำมครั้งนี้ ฝ่ำย พ.ศ.๒๔๘๕ ได้กระโดดร่มแทรกซึมเข้ำสู่ประเทศไทย ทั้งทำงบก ทำงน�้ำ และทำง ปกครองเป็นแบบสำธำรณรัฐ แต่ฝรั่งเศสในฐำนะฝ่ำยผู้ชนะสงครำม
สงครำมโลกครั้งที่ ๒ จำกนั้น ญี่ปุ่นตอบโต้ สัมพันธมิตรคงจะเป็นผู้ชนะ และไทยจะ อำกำศ เพื่อจัดตั้งและฝึกพลพรรคเสรีไทยในจังหวัดต่ำงๆ ให้ท�ำงำน โลกคร้งท่ ๒ จึงหำทำงกลับไปมีอิทธิพลเหนือเวียดนำมอีก
ี
ั
กำรปิดล้อมทำงเศรษฐกจด้วยกำรส่งกอง กลำยเป็นประเทศผู้แพ้สงครำม แต่ในภำวะ ใต้ดิน ก่อควำมระส�่ำระส่ำยตำมแนวหลังแก่กองทัพญี่ปุ่น รวมระยะ โดยมีอังกฤษให้ควำมช่วยเหลือ
ิ
ั
ื
ี
ั
ก�ำลังเข้ำโจมตีดินแดนอำณำนิคมท่วท้ง ท่เป็นอยู่เน่องจำกถูกเหตุกำรณ์บีบบังคับ เวลำ ๑ ปี ซึ่งบทบำทของขบวนกำรเสรีไทย เป็นประโยชน์ต่อกำรท�ำ
ภูมิภำคตะวันออก โดยเร่มจำกคำบสมุทรมำเลย์ ไทยควรท�ำให้เห็นว่ำไม่ว่ำอย่ำงไร ไทยก ็ สงครำมของฝ่ำยสัมพันธมิตร และลดกำรสูญเสียได้มำก
ิ
และวันที่ ๘ ธันวำคม พ.ศ. ๒๔๘๔ ญี่ปุ่นได้ พยำยำมช่วยเหลือฝ่ำยพันธมิตรทุก
ยกพลขึ้นบกในประเทศไทย ตำมแนวชำยฝั่ง วิถีทำง หลังจำกนั้น จึงมีขบวนกำรเสรีไทย เมื่อสงครำมโลกครั้งที่ ๒ ได้ยุติลง ในวันที่ ๑๖ สิงหำคม
ี
อ่ำวไทย และทำงชำยแดนด้ำนอินโดจีน โดย (Free Thai Movement) ท�ำหน้ำที่ต่อต้ำน พ.ศ. ๒๔๘๘ และขบวนกำรเสรีไทยได้หมดหน้ำท่และสลำยตัว
ขอใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทำงผ่ำนไป ญ่ปุ่นและช่วยเหลือสัมพันธมิตรเพ่อให้ เมื่อวันที่ ๒๕ กันยำยน พ.ศ. ๒๔๘๘ ประเทศสหรัฐฯ ได้ยุบหน่วย
ี
ื
ประเทศพม่ำ และรัฐบำลไทย น�ำโดย ประเทศไทย ได้กลับสู่สถำนภำพเดิม ปฏิบัติกำรลับโอเอสเอส(Office of Strategic Services : OSS)
จอมพล ป.พิบูลสงครำม ได้ยินยอมลงนำม ซึ่งก่อตั้งโดย พล.อ.วิลเลียม เจมส์ โดโนแวน และเป็นหัวหน้ำส�ำนักงำน
ในกติกำสัญญำพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ในประเทศไทย ปฏิบัติกำรกับเสรีไทยในกำรรบร่วมกับญี่ปุ่น
๒๑ ธันวำคม พ.ศ. ๒๔๘๔
เวียดนำมซ่งตกเป็นอำณำนิคมของ ส้นสุดสงครามโลกคร้งท่สอง ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๘
ึ
ิ
ี
ั
ฝรั่งเศสอย่ำงเต็มตัว ใน พ.ศ.๒๔๒๘ เกิดกำร
ี
จัดตั้งกองทัพกู้ชำติ ใน พ.ศ.๒๔๘๔ ใช้ค�ำ • รัฐบำลญ่ปุ่นลงนำมในตรำสำรยอมจ�ำนน บนเรือประจัญบำน
ี
ี
ั
เรียกแทนตัวเองว่ำ กองทัพประชำชนกู้ชำติ ภาพเพิร์ลฮาร์เบอร์ ๑ ปี ยูเอสเอส มิสซูร่ กลำงอ่ำวโตเกียว ยุติสงครำมโลกคร้งท่ ๒
เวียดนำมหรือเวียดมินห์ (VIET MINH) เพื่อ ก่อนการจู่โจมของญ่ปุ่น อย่ำงเป็นทำงกำร
ี
ต่อสู้ ขับไล่ฝรั่งเศส โดยมีโฮจิมินห์ เป็นผู้น�ำ • ในวันเดียวกัน โฮ จิ มินห์ อ่ำนค�ำ ประกำศอิสรภำพของประเทศ
ี
และมี นำยพลหวอ เหงียน ย้ำป (โว เหงียน เก๊ยป) เวียดนำม ท่จัตุรัสบำด่ญ กรุงฮำนอย
ิ
ี
เป็นผู้บัญชำกำรกองทัพคนแรก
ิ
ิ
ี
ั
• หลังจำกส้นสุดสงครำมโลกคร้งท่ ๒ ประเทศไทยเร่มเรียกร้อง
ั
ดินแดนคืนจำกฝร่งเศสและอังกฤษ (บำงส่วนในลำว, กัมพูชำ
และมลำยำ)
นายปรีดี พนมยงค์
36 37
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
พ.ศ. ๒๔๙๐ สหรัฐฯ ได้จัดตั้งหน่วย Central Intelli-
gence Agency (CIA ) ขึ้นมำแทน Office of Strategic Ser-
vices (OSS) และเมื่อกำรขยำยตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภำค
แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มทวีควำมรุนแรงขึ้นตำมล�ำดับ
รัฐบำลสหรัฐอเมริกำจึงได้ส่ง พล.อ.วิลเลียม เจมส์ โดโนแวน อดีต
หัวหน้ำส�ำนักงำน (OSS) ซึ่งเคยร่วมมือกับเสรีไทยรบกับญี่ปุ่น
ั
ในสมัยสงครำมโลกคร้งท่ ๒ มำเป็นเอกอัครรำชทูตประจ�ำ
ี
ประเทศไทย เพื่อด�ำเนินงำนต่อต้ำนกำรคุกคำมของคอมมิวนิสต์
โดยมีส�ำนักข่ำวกรองกลำงของรัฐบำลสหรัฐ หรือซีไอเอ (CIA )
เป็นแกนหลักในกำรด�ำเนินงำน
พ.ศ. ๒๔๘๘ พ.ศ. ๒๔๘๙ พ.ศ. ๒๔๙๐ พ.ศ. ๒๔๙๓
พ.ศ. ๒๔๘๘ – ๒๔๙๒ สงครำมทำงอุดมกำรณ์เกิดขึ้นในแผ่น หลงจำกสงครำมโลกคร้งท่ ๒ เกิดควำมขัดแย้งทำงดำน พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นต้นมำ จีนคอมมิวนิสต์ได้แผ่อ�ำนำจโดยใช้ พ.ศ. ๒๔๙๓ เกิดสงครำมเกำหลีขึ้น โดยเกำหลีใต้พยำยำม
ั
้
ี
ั
ึ
ึ
ดินจีนใหญ่ ซ่งเป็นตัวแทนระหว่ำงสหรัฐอเมริกำ ซ่งเป็นพรรค อุดมกำรณ์ ควำมต้องกำรที่จะปลดปล่อยชำติเป็นเอกรำช และ วิธีกำร “สงครำมปฏิวัติหรือสงครำมประชำชน” ออกไปทั่วภูมิภำค เสริมสร้ำงแสนยำนุภำพทำงทหำรโดยกำรช่วยเหลือของสหรัฐฯ
ก๊กมินตั๋งน�ำ โดยนำยพลเจียงไคเช็ค กับสหภำพโซเวียต ซึ่งเป็นพรรค ปฏิวัติเศรษฐกิจกำรเมืองไปสู่อุดมกำรณ์สังคมนิยมและระบบกำร โดยกำรน�ำเอำสงครำมกลำงเมือง ซ่งเป็นรูปแบบหน่งของกำร เพ่อป้องกันกำรโจมตีของคอมมิวนิสต์จำกเกำหลีเหนือท่ได้รับกำร
ึ
ึ
ื
ี
ั
คอมมิวนิสต์จีนน�ำโดยเหมำ เจ๋อตุง และเหมำ เจ๋อตุง ผู้น�ำพรรค ปกครองแบบคอมมิวนิสต์ สงครำมเย็นจึงถูกก่อตัว และโลกถูกแบ่ง สงครำมพิเศษมำสนับสนุนกำรเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ไปท่วโลก สนับสนุนจำกจีนและสหภำพโซเวียต สหรัฐฯ เห็นว่ำ จีนซึ่งเป็น
คอมมิวนิสต์จีน ได้รับชัยชนะต่อรัฐบำลของนำยพลเจียงไคเช็ค เมื่อ ออกเป็น ๒ ค่ำย โดยใช้อุดมกำรณ์ทำงกำรเมืองเป็นเกณฑ์ ค่ำยหนึ่ง ให้บรรลุตำมเป้ำหมำย โดยเฉพำะในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พันธมิตรโซเวียต จะเป็นผู้น�ำกำรเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในเอเชีย
๑ ต.ค.๒๔๙๒ จำกนั้น เหมำ เจ๋อตุง ได้สถำปนำจีนแผ่นดินใหญ่ คือ เสรีนิยมน�ำโดยสหรัฐอเมริกำ และค่ำยหนึ่ง คือ คอมมิวนิสต์น�ำ ซ่งเป็นดินแดนของประเทศอำณำนิคมและด้อยพัฒนำ ประเทศ และดินแดนที่ตกอยู่ในภัยคุกคำมนี้ คือ อินโดจีน ซึ่งมีกำรต่อสู้
ึ
ี
ื
เป็นสำธำรณรัฐประชำชนจีนขึ้น ในระยะแรกจีนคอมมิวนิสต์ ยังคง โดยสหภำพโซเวียต ในมุมมองของสหรัฐฯ ถือว่ำ คอมมิวนิสต์เป็น เหล่ำน้ต้องกำรเป็นอิสรภำพ เพ่อปลดปล่อยเอกรำชของผู้น�ำ เพื่อเอกรำชจำกฝรั่งเศส ในทัศนะผู้น�ำอเมริกัน หำกอินโดจีนตกเป็น
ึ
ยดถือนโยบำยคล้อยตำมรัสเซีย ซ่งเป็นผู้น�ำกลุ่มคอมมิวนิสต ์ ภัยต่อผลประโยชน์แห่งประเทศ จึงมีนโยบำยหลัก คือ กำรสกัดกั้น ชำตินิยม จนเป็นเหตุให้เกิดสงครำมย่อยๆ แผ่ขยำยไปทั่วภูมิภำค ของฝ่ำยคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่นก็จะล้มตำมกันไป ทั้งในเอเชีย
ึ
เน่องจำกจ�ำเป็นต้องอำศัยควำมร่วมมือและควำมช่วยเหลือในกำร คอมมิวนิสต์ โดยเฉพำะในเอเชีย เกิดกำรต่อสู้และท�ำลำยล้ำงกันขึ้นในชำติ น�ำไปสู่สงครำมประชำชน ตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงตะวันออกกลำง ในที่สุด แนวคิดแบบ
ื
พัฒนำประเทศ ต่อมำเกิดควำมขัดแย้งทำงผลประโยชน์อย่ำงรุนแรง ต่อมำ ฝรั่งเศสกลับเข้ำมำมีอิทธิพลในเวียดนำม ได้กลำยเป็น ท�ำให้รัฐบำลเกิดควำมอ่อนแอ ไร้เสถียรภำพ และน�ำไปสู่กำร “ทฤษฎีโดมิโน” ท�ำให้สหรัฐเข้ำมำสกัดกั้นกำรขยำยตัวของฝ่ำย
เรื่องทำงกำรเมือง และกำรใช้อำวุธนิวเคลียร์ เป็นเหตุให้จีนด�ำเนิน จุดเริ่มของสงครำมอินโดจีน (ครั้งที่ ๑) ได้เกิดหรือ French War เปล่ยนแปลงประเทศ เป็นกำรปกครองแบบคอมมิวนิสต์ในท่สุด คอมมิวนิสต์อย่ำงจริงจัง
ี
ี
ั
นโยบำยอย่ำงเป็นเอกเทศ พร้อมทั้งได้แผ่ขยำยอิทธิพลในกำรเป็น เพ่อปลดปล่อยเวียดนำมจำกฝร่งเศส น�ำโดยกองก�ำลังชำตินิยม ส�ำหรับทำงด้ำนเอเชียน้น จีนได้ให้กำรสนับสนุนต่อเวียดนำมใต้
ื
ั
ผู้น�ำพรรคคอมมิวนิสต์ แข่งกับรัสเซีย โดยก�ำหนดเป้ำหมำยเบื้องต้น เวียดมินห์ และประเทศในแหลมอินโดจีน ทั้งในทำงลับและเปิดเผย จึงเกิด
ไว้บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นประตูน�ำไป สู่ออสเตรเลีย กองก�ำลังประชำชนข้นในประเทศต่ำงๆ มำกมำย เช่น เวียดมินห์
ึ
นิวซีแลนด์ และมหำสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ ก่อนที่จะขยำยต่อไปยัง เวียดกง ขบวนกำรประเทศลำว และโจรจีนมลำยู เป็นต้น ซึ่งกำร
ั
ั
อินเดีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลำง และทวีปแอฟริกำต่อไปใน ด�ำเนินกำรของจีนน้น ได้ส่งผลกระทบต่อควำมม่นคงของ
ที่สุด ประเทศไทยในระยะเวลำต่อมำ
เหมา เจ๋อตุง
ผู้นาพรรคคอมมิวนิสต์จีน
�
38 39
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
พ.ศ. ๒๔๙๐ สหรัฐฯ ได้จัดตั้งหน่วย Central Intelli-
gence Agency (CIA ) ขึ้นมำแทน Office of Strategic Ser-
vices (OSS) และเมื่อกำรขยำยตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภำค
แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มทวีควำมรุนแรงขึ้นตำมล�ำดับ
รัฐบำลสหรัฐอเมริกำจึงได้ส่ง พล.อ.วิลเลียม เจมส์ โดโนแวน อดีต
หัวหน้ำส�ำนักงำน (OSS) ซึ่งเคยร่วมมือกับเสรีไทยรบกับญี่ปุ่น
ั
ในสมัยสงครำมโลกคร้งท่ ๒ มำเป็นเอกอัครรำชทูตประจ�ำ
ี
ประเทศไทย เพื่อด�ำเนินงำนต่อต้ำนกำรคุกคำมของคอมมิวนิสต์
โดยมีส�ำนักข่ำวกรองกลำงของรัฐบำลสหรัฐ หรือซีไอเอ (CIA )
เป็นแกนหลักในกำรด�ำเนินงำน
พ.ศ. ๒๔๘๘ พ.ศ. ๒๔๘๙ พ.ศ. ๒๔๙๐ พ.ศ. ๒๔๙๓
พ.ศ. ๒๔๘๘ – ๒๔๙๒ สงครำมทำงอุดมกำรณ์เกิดขึ้นในแผ่น หลงจำกสงครำมโลกคร้งท่ ๒ เกิดควำมขัดแย้งทำงดำน พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นต้นมำ จีนคอมมิวนิสต์ได้แผ่อ�ำนำจโดยใช้ พ.ศ. ๒๔๙๓ เกิดสงครำมเกำหลีขึ้น โดยเกำหลีใต้พยำยำม
ั
้
ี
ั
ึ
ึ
ดินจีนใหญ่ ซ่งเป็นตัวแทนระหว่ำงสหรัฐอเมริกำ ซ่งเป็นพรรค อุดมกำรณ์ ควำมต้องกำรที่จะปลดปล่อยชำติเป็นเอกรำช และ วิธีกำร “สงครำมปฏิวัติหรือสงครำมประชำชน” ออกไปทั่วภูมิภำค เสริมสร้ำงแสนยำนุภำพทำงทหำรโดยกำรช่วยเหลือของสหรัฐฯ
ก๊กมินตั๋งน�ำ โดยนำยพลเจียงไคเช็ค กับสหภำพโซเวียต ซึ่งเป็นพรรค ปฏิวัติเศรษฐกิจกำรเมืองไปสู่อุดมกำรณ์สังคมนิยมและระบบกำร โดยกำรน�ำเอำสงครำมกลำงเมือง ซ่งเป็นรูปแบบหน่งของกำร เพ่อป้องกันกำรโจมตีของคอมมิวนิสต์จำกเกำหลีเหนือท่ได้รับกำร
ึ
ึ
ื
ี
ั
คอมมิวนิสต์จีนน�ำโดยเหมำ เจ๋อตุง และเหมำ เจ๋อตุง ผู้น�ำพรรค ปกครองแบบคอมมิวนิสต์ สงครำมเย็นจึงถูกก่อตัว และโลกถูกแบ่ง สงครำมพิเศษมำสนับสนุนกำรเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ไปท่วโลก สนับสนุนจำกจีนและสหภำพโซเวียต สหรัฐฯ เห็นว่ำ จีนซึ่งเป็น
คอมมิวนิสต์จีน ได้รับชัยชนะต่อรัฐบำลของนำยพลเจียงไคเช็ค เมื่อ ออกเป็น ๒ ค่ำย โดยใช้อุดมกำรณ์ทำงกำรเมืองเป็นเกณฑ์ ค่ำยหนึ่ง ให้บรรลุตำมเป้ำหมำย โดยเฉพำะในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พันธมิตรโซเวียต จะเป็นผู้น�ำกำรเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในเอเชีย
๑ ต.ค.๒๔๙๒ จำกนั้น เหมำ เจ๋อตุง ได้สถำปนำจีนแผ่นดินใหญ่ คือ เสรีนิยมน�ำโดยสหรัฐอเมริกำ และค่ำยหนึ่ง คือ คอมมิวนิสต์น�ำ ซ่งเป็นดินแดนของประเทศอำณำนิคมและด้อยพัฒนำ ประเทศ และดินแดนที่ตกอยู่ในภัยคุกคำมนี้ คือ อินโดจีน ซึ่งมีกำรต่อสู้
ึ
ี
ื
เป็นสำธำรณรัฐประชำชนจีนขึ้น ในระยะแรกจีนคอมมิวนิสต์ ยังคง โดยสหภำพโซเวียต ในมุมมองของสหรัฐฯ ถือว่ำ คอมมิวนิสต์เป็น เหล่ำน้ต้องกำรเป็นอิสรภำพ เพ่อปลดปล่อยเอกรำชของผู้น�ำ เพื่อเอกรำชจำกฝรั่งเศส ในทัศนะผู้น�ำอเมริกัน หำกอินโดจีนตกเป็น
ึ
ยดถือนโยบำยคล้อยตำมรัสเซีย ซ่งเป็นผู้น�ำกลุ่มคอมมิวนิสต ์ ภัยต่อผลประโยชน์แห่งประเทศ จึงมีนโยบำยหลัก คือ กำรสกัดกั้น ชำตินิยม จนเป็นเหตุให้เกิดสงครำมย่อยๆ แผ่ขยำยไปทั่วภูมิภำค ของฝ่ำยคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่นก็จะล้มตำมกันไป ทั้งในเอเชีย
ึ
เน่องจำกจ�ำเป็นต้องอำศัยควำมร่วมมือและควำมช่วยเหลือในกำร คอมมิวนิสต์ โดยเฉพำะในเอเชีย เกิดกำรต่อสู้และท�ำลำยล้ำงกันขึ้นในชำติ น�ำไปสู่สงครำมประชำชน ตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงตะวันออกกลำง ในที่สุด แนวคิดแบบ
ื
พัฒนำประเทศ ต่อมำเกิดควำมขัดแย้งทำงผลประโยชน์อย่ำงรุนแรง ต่อมำ ฝรั่งเศสกลับเข้ำมำมีอิทธิพลในเวียดนำม ได้กลำยเป็น ท�ำให้รัฐบำลเกิดควำมอ่อนแอ ไร้เสถียรภำพ และน�ำไปสู่กำร “ทฤษฎีโดมิโน” ท�ำให้สหรัฐเข้ำมำสกัดกั้นกำรขยำยตัวของฝ่ำย
เรื่องทำงกำรเมือง และกำรใช้อำวุธนิวเคลียร์ เป็นเหตุให้จีนด�ำเนิน จุดเริ่มของสงครำมอินโดจีน (ครั้งที่ ๑) ได้เกิดหรือ French War เปล่ยนแปลงประเทศ เป็นกำรปกครองแบบคอมมิวนิสต์ในท่สุด คอมมิวนิสต์อย่ำงจริงจัง
ี
ี
ั
นโยบำยอย่ำงเป็นเอกเทศ พร้อมทั้งได้แผ่ขยำยอิทธิพลในกำรเป็น เพ่อปลดปล่อยเวียดนำมจำกฝร่งเศส น�ำโดยกองก�ำลังชำตินิยม ส�ำหรับทำงด้ำนเอเชียน้น จีนได้ให้กำรสนับสนุนต่อเวียดนำมใต้
ื
ั
ผู้น�ำพรรคคอมมิวนิสต์ แข่งกับรัสเซีย โดยก�ำหนดเป้ำหมำยเบื้องต้น เวียดมินห์ และประเทศในแหลมอินโดจีน ทั้งในทำงลับและเปิดเผย จึงเกิด
ไว้บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นประตูน�ำไป สู่ออสเตรเลีย กองก�ำลังประชำชนข้นในประเทศต่ำงๆ มำกมำย เช่น เวียดมินห์
ึ
นิวซีแลนด์ และมหำสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ ก่อนที่จะขยำยต่อไปยัง เวียดกง ขบวนกำรประเทศลำว และโจรจีนมลำยู เป็นต้น ซึ่งกำร
ั
ั
อินเดีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลำง และทวีปแอฟริกำต่อไปใน ด�ำเนินกำรของจีนน้น ได้ส่งผลกระทบต่อควำมม่นคงของ
ที่สุด ประเทศไทยในระยะเวลำต่อมำ
เหมา เจ๋อตุง
ผู้นาพรรคคอมมิวนิสต์จีน
�
38 39
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
หลังจำกที่กรมต�ำรวจได้ฝึกอยู่ที่ค่ำยเอรำวัณเป็นเวลำ ๒ ปี
ั
พ.ศ.๒๔๙๔ กรมต�ำรวจ จัดต้งโรงเรียนฝึกอำวุธ ได้ฝึกหลักสูตรพลร่ม จ�ำนวนทั้งสิ้น ๑๑ รุ่น ซึ่งรุ่นที่ ๑๑ ฝึกจบ
ี
ื
พิเศษของต�ำรวจข้นท่ค่ำยเอรำวัณ จ.ลพบุรี เพ่อฝึกอำวุธ เมื่อวันที่ ๒๒ มกรำคม พ.ศ.๒๔๙๖ จำกนั้น เมื่อวันที่ ๑๕
ึ
ใหม่และฝึกกระโดดร่ม ตำมมติของ “กรรมกำรนเรศวร ” กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๖ ทำงกรมต�ำรวจได้โอน โรงเรียนกำรฝึก
ื
ึ
ี
โดยใช้อำคำรในพ้นท่ค่ำยเอรำวัณ ซ่งถูกสร้ำงข้นในสมัย เม่อกรมต�ำรวจได้เปิดหลักสูตรเพ่อฝึกอำวุธใหม่ อำวุธพิเศษ ค่ำยเอรำวัณ พร้อมทั้งอุปกรณ์กำรฝึก เครื่องมือ
ึ
ื
ื
ี
ั
ี
สงครำมโลกคร้งท่ ๒ และเคยเป็นท่ต้งของกองทหำร และกำรกระโดดร่ม เป็นจ�ำนวน ๒ รุ่นแล้ว พล.ท.สนิท วันท่ ๒๕ มกรำคม พ.ศ.๒๔๙๕ ซ่งเป็นวันกองทัพบกไทย ต่ำงๆ ให้แก่กองทัพบก โดยกรมต�ำรวจหน่วยนี้ ได้ย้ำยไปที่ตั้ง
ั
ึ
ี
ั
ี
่
ี
ญ่ปุ่น มำซ่อมแซมให้เป็นอำคำรศึกษำและทพกของคร ู สนิทยุทธกำร จเรทหำรรำบ ได้ตระหนักถึงวิทยำกำรของ ก�ำลังพลนำยทหำรและนำยสิบ จำกกรมจเรทหำรรำบ ท่เข้ำรับ ใหม่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมำ เมื่อกรมจเรทหำรรำบ
ี
ฝึกชำวอเมริกัน โดยกระท�ำพิธีเปิด “ค่ำยฝึกกำรรบพิเศษ อำวุธใหม่และกำรกระโดดร่ม จึงส่งนำยทหำรและนำยสิบ กำรศึกษำร่วมกับต�ำรวจในรุ่นท่ ๓ ได้มีโอกำสกระโดดร่มต่อ ได้รับกำรปรับปรุงเป็นกรมทหำรรำบ มี พล.ต. ศิริ สวำมิภักดิ์
ี
ื
เขำเอรำวัณ” เม่อวันท่ ๑๗ เมษำยน ๒๔๙๔ และเร่ม เข้ำฝำกฝึกศึกษำร่วมกับต�ำรวจ โดยฝำกเรียนรุ่นละ หน้ำพระพักตร์รัชกำลท่ ๙ และสมเด็จพระนำงเจ้ำ เป็นเจ้ำกรมทหำรรำบ จึงได้จัดต้งโรงเรียนข้นใหม่ ช่อว่ำ
ี
ิ
ั
ื
ึ
ี
เปิดหลักสูตรกำรฝึกต�ำรวจพลร่ม (PARU : Police Aerial ประมำณ ๔๐ นำย ต้งแต่รุ่นท่ ๓ เป็นต้นมำ ซ่งนับเป็นจุด พระบรมรำชินีนำถ ในกำรแสดงแสนยำนุภำพของกองทัพบกท ่ ี “โรงเรียนกำรรบพิเศษ” ของกรมทหำรรำบ รับผิดชอบเปิด
ั
ึ
ี
Reinforcement Unit) รุ่นแรก เป็นนักเรียนพลต�ำรวจ แรกททหำรพลร่มได้ก่อก�ำเนิดข้น ปลำยปีพ.ศ.๒๔๙๔ สนำมรำชตฤณมัยสมำคม พระนคร นับว่ำเป็นคร้งแรก หลักสูตร “พลร่มและกำรรบพิเศษ” ณ ค่ำยฝึกเอรำวัณ จ.ลพบุรี
่
ึ
ี
ั
ี
ิ
รุ่น ๕๐๐/๒๔๙๓ จ�ำนวน ๕๐ คน เร่มฝึกในวันท่ ๑๘ จอมพล ผิน ชุณหวัณ ผู้บัญชำกำรทหำรบก ได้ส่งกำรให้ ท่มีกำรกระโดดร่มลงปฏิบัติกำร ในสภำพของหน่วยทหำร เป็นครั้งแรก ซึ่งจัดเป็นโครงของหน่วยกองพันพลร่ม และเป็น
ั
ี
เมษำยน พ.ศ.๒๔๙๔ จเรทหำรรำบ วำงโครงกำรที่จะจัดตั้งกองพันทหำรพลร่มขึ้น โรงเรียนส�ำหรับฝึกหลักสูตรกำรรบพิเศษอ่นๆ ของทหำรรำบด้วย
ื
พ.ศ. ๒๔๙๔ พ.ศ. ๒๔๙๕ พ.ศ. ๒๔๙๖
ั
ื
ี
ี
ในช่วงสงครำมเย็น ท่โลกแบ่งเป็น จอมพล ป.พิบูลสงครำม นำยก รัฐบำลไทยได้รับกำรสนับสนุนจำก มติท่ประชุม พคท.คร้งท่ ๒ เม่อ พ.ศ.๒๔๙๔ ได้ด�ำเนิน
ี
ั
ั
๒ ข้วอ�ำนำจชัดเจนน้น ท้งฝ่ำยสหรัฐและ รัฐมนตรี ได้รับค�ำแนะน�ำจำก พล.อ.วิลเลียม รัฐบำลสหรัฐอเมริกำ ในสมัยประธำนำธิบด ี กำรปฏิวัติในประเทศไทยด้วยวิธีรุนแรง หรือสงครำมยืดเย้อ
ื
ั
โซเวียตพยำยำมแสวงหำพันธมิตรเข้ำค่ำย เจมส์ โดโนแวน ให้เตรียมกำรต่อสู้โดยใช้ ทรูแมน ผ่ำนทำงบริษัท ซี ซัพพลำย (Sea และยึดนโยบำยชนบทล้อมเมือง เมืองล้อมนคร และจัดส่ง
ตน ซึ่งปรำกฏชัดจำกสงครำมตัวแทนทั่วโลก สงครำมนอกแบบ เพื่อป้องกันกำรขยำยตัว Supply : Southeast Asia Supply) ใน สมำชิกไปอบรมด้ำนกำรทหำร กำรเมือง และกำรพยำบำลใน
ในบริบทเช่นนี้ ประเทศเล็กมีทำงเลือกจ�ำกัด ของลัทธิคอมมิวนิสต์ในภำคพ้นเอเชียตะวัน นำมของพลเรือน โดยให้ เจมส์ วิลเลียม จีน ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๕ เป็นต้นมำ
ื
มำก โดยเฉพำะหำกต้งอยู่ในจุดยุทธศำสตร์ ออกเฉียงใต้ ซึ่งรัฐบำลไทยเห็นชอบและได้ แลร์ ( JAMES WILLAM LAIR : Bill Lair
ั
ึ
สำคญของมหำอ�ำนำจ ซ่งในช่วงเวลำดง ั จัดตั้ง “กรรมกำรนเรศวร” เพื่อรับผิดชอบ ซ่งต่อมำได้รับพระรำชทำนยศเป็น พ.ต.อ.) การฝึกใช้อาวุธ การฝึกกระโดดร่ม
ั
�
ึ
กล่ำว ประเทศไทยมีควำมส�ำคัญอย่ำง ดำเนินงำน คณะกรรมกำรนเรศวรมมตให ้ ท�ำงำนในหน่วยงำนข่ำวกรองของประเทศ
�
ิ
ี
ั
ี
ิ
ู
ั
ี
ชดเจนในภมภำคเอเชยตะวนออกเฉยงใต้ต่อ กรมต�ำรวจ เป็นผู้รับผิดชอบเตรียมกำร สหรัฐฯ เดินทำงมำประเทศไทยในนำมของ
ยทธศำสตร์ท้งของสหรัฐฯ และโซเวียต รับมือกับภัยคุกคำมดังกล่ำว โดยให้ท�ำกำร บริษัท ซี ซัพพลำย ต้นเดือนมีนำคม พ.ศ.
ั
ุ
ื
โดยประเทศไทยได้เลือกเป็น ฝึกสงครำมนอกแบบให้กับต�ำรวจและทหำร ๒๔๙๔ เพ่อเป็นผู้ให้ค�ำแนะน�ำกำรป้องกัน
พนธมิตรของสหรัฐฯ เพ่อ แล้วจัดก�ำลังต�ำรวจเข้ำไปปฏิบัติงำนตำม และยับย้งกำรแผ่ขยำยลัทธิคอมมิวนิสต์ใน
ื
ั
ั
ั
สกัดก้นภัยคุกคำมของลัทธ ิ แนวชำยแดน เพื่อป้องกันกำรแทรกซึมจำก ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวม
ึ
คอมมิวนิสต์ในประเทศ ฝ่ำยคอมมิวนิสต์ภำยนอกประเทศ โดยเฉพำะ ถงประเทศไทย ด้วยกำรใช้ก�ำลังกองโจร
ั
ทำงด้ำนภำคตะวันออก ภำคตะวน และกำรรบนอกแบบ โดยกำรสร้ำงหน่วยท ี ่
ออกเฉียงเหนือ และบำงส่วนใน คล่องตัวซ่งมีขีดควำมสำมำรถท�ำกำรรบ
ึ
ภำคเหนือ นอกแบบ และกระโดดร่มได้ โดยโครงกำร
ี
น้ ฝ่ำยสหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนและออกค่ำ
ใช้จ่ำยให้ท้งหมด จึงมีกำรสร้ำงหน่วย
ั
PARU (Police Aerial Reinforcement
ึ
ั
Unit) หรือต�ำรวจพลร่มข้น และต้งค่ำย
ี
พล.ต.ท.เผ่า ศรียานนท์ นเรศวร ของต�ำรวจพลร่ม ท่หัวหิน จ.เพชรบุร ี เจมส์ วิลเลียม แลร์ คณะนายตารวจพลร่มถ่ายภาพร่วมกับ พ.ต.อ.เจมส์ วิลเลียม แลร์
�
ี
�
ั
รองอธิบดีกรมตารวจในขณะน้น JAMES WILLAM LAIR : Bill Lair ท่ ค่ายนเรศวร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาได้รับพระราชทานยศเป็น พ.ต.อ.
40 41
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
หลังจำกที่กรมต�ำรวจได้ฝึกอยู่ที่ค่ำยเอรำวัณเป็นเวลำ ๒ ปี
ั
พ.ศ.๒๔๙๔ กรมต�ำรวจ จัดต้งโรงเรียนฝึกอำวุธ ได้ฝึกหลักสูตรพลร่ม จ�ำนวนทั้งสิ้น ๑๑ รุ่น ซึ่งรุ่นที่ ๑๑ ฝึกจบ
ี
ื
พิเศษของต�ำรวจข้นท่ค่ำยเอรำวัณ จ.ลพบุรี เพ่อฝึกอำวุธ เมื่อวันที่ ๒๒ มกรำคม พ.ศ.๒๔๙๖ จำกนั้น เมื่อวันที่ ๑๕
ึ
ใหม่และฝึกกระโดดร่ม ตำมมติของ “กรรมกำรนเรศวร ” กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๖ ทำงกรมต�ำรวจได้โอน โรงเรียนกำรฝึก
ื
ึ
ี
โดยใช้อำคำรในพ้นท่ค่ำยเอรำวัณ ซ่งถูกสร้ำงข้นในสมัย เม่อกรมต�ำรวจได้เปิดหลักสูตรเพ่อฝึกอำวุธใหม่ อำวุธพิเศษ ค่ำยเอรำวัณ พร้อมทั้งอุปกรณ์กำรฝึก เครื่องมือ
ึ
ื
ื
ี
ั
ี
สงครำมโลกคร้งท่ ๒ และเคยเป็นท่ต้งของกองทหำร และกำรกระโดดร่ม เป็นจ�ำนวน ๒ รุ่นแล้ว พล.ท.สนิท วันท่ ๒๕ มกรำคม พ.ศ.๒๔๙๕ ซ่งเป็นวันกองทัพบกไทย ต่ำงๆ ให้แก่กองทัพบก โดยกรมต�ำรวจหน่วยนี้ ได้ย้ำยไปที่ตั้ง
ั
ึ
ี
ั
ี
่
ี
ญ่ปุ่น มำซ่อมแซมให้เป็นอำคำรศึกษำและทพกของคร ู สนิทยุทธกำร จเรทหำรรำบ ได้ตระหนักถึงวิทยำกำรของ ก�ำลังพลนำยทหำรและนำยสิบ จำกกรมจเรทหำรรำบ ท่เข้ำรับ ใหม่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมำ เมื่อกรมจเรทหำรรำบ
ี
ฝึกชำวอเมริกัน โดยกระท�ำพิธีเปิด “ค่ำยฝึกกำรรบพิเศษ อำวุธใหม่และกำรกระโดดร่ม จึงส่งนำยทหำรและนำยสิบ กำรศึกษำร่วมกับต�ำรวจในรุ่นท่ ๓ ได้มีโอกำสกระโดดร่มต่อ ได้รับกำรปรับปรุงเป็นกรมทหำรรำบ มี พล.ต. ศิริ สวำมิภักดิ์
ี
ื
เขำเอรำวัณ” เม่อวันท่ ๑๗ เมษำยน ๒๔๙๔ และเร่ม เข้ำฝำกฝึกศึกษำร่วมกับต�ำรวจ โดยฝำกเรียนรุ่นละ หน้ำพระพักตร์รัชกำลท่ ๙ และสมเด็จพระนำงเจ้ำ เป็นเจ้ำกรมทหำรรำบ จึงได้จัดต้งโรงเรียนข้นใหม่ ช่อว่ำ
ี
ิ
ั
ื
ึ
ี
เปิดหลักสูตรกำรฝึกต�ำรวจพลร่ม (PARU : Police Aerial ประมำณ ๔๐ นำย ต้งแต่รุ่นท่ ๓ เป็นต้นมำ ซ่งนับเป็นจุด พระบรมรำชินีนำถ ในกำรแสดงแสนยำนุภำพของกองทัพบกท ่ ี “โรงเรียนกำรรบพิเศษ” ของกรมทหำรรำบ รับผิดชอบเปิด
ั
ึ
ี
Reinforcement Unit) รุ่นแรก เป็นนักเรียนพลต�ำรวจ แรกททหำรพลร่มได้ก่อก�ำเนิดข้น ปลำยปีพ.ศ.๒๔๙๔ สนำมรำชตฤณมัยสมำคม พระนคร นับว่ำเป็นคร้งแรก หลักสูตร “พลร่มและกำรรบพิเศษ” ณ ค่ำยฝึกเอรำวัณ จ.ลพบุรี
่
ึ
ี
ั
ี
ิ
รุ่น ๕๐๐/๒๔๙๓ จ�ำนวน ๕๐ คน เร่มฝึกในวันท่ ๑๘ จอมพล ผิน ชุณหวัณ ผู้บัญชำกำรทหำรบก ได้ส่งกำรให้ ท่มีกำรกระโดดร่มลงปฏิบัติกำร ในสภำพของหน่วยทหำร เป็นครั้งแรก ซึ่งจัดเป็นโครงของหน่วยกองพันพลร่ม และเป็น
ั
ี
เมษำยน พ.ศ.๒๔๙๔ จเรทหำรรำบ วำงโครงกำรที่จะจัดตั้งกองพันทหำรพลร่มขึ้น โรงเรียนส�ำหรับฝึกหลักสูตรกำรรบพิเศษอ่นๆ ของทหำรรำบด้วย
ื
พ.ศ. ๒๔๙๔ พ.ศ. ๒๔๙๕ พ.ศ. ๒๔๙๖
ั
ื
ี
ี
ี
ในช่วงสงครำมเย็น ท่โลกแบ่งเป็น จอมพล ป.พิบูลสงครำม นำยก รัฐบำลไทยได้รับกำรสนับสนุนจำก มติท่ประชุม พคท.คร้งท่ ๒ เม่อ พ.ศ.๒๔๙๔ ได้ด�ำเนิน
ั
ั
๒ ข้วอ�ำนำจชัดเจนน้น ท้งฝ่ำยสหรัฐและ รัฐมนตรี ได้รับค�ำแนะน�ำจำก พล.อ.วิลเลียม รัฐบำลสหรัฐอเมริกำ ในสมัยประธำนำธิบด ี กำรปฏิวัติในประเทศไทยด้วยวิธีรุนแรง หรือสงครำมยืดเย้อ
ื
ั
โซเวียตพยำยำมแสวงหำพันธมิตรเข้ำค่ำย เจมส์ โดโนแวน ให้เตรียมกำรต่อสู้โดยใช้ ทรูแมน ผ่ำนทำงบริษัท ซี ซัพพลำย (Sea และยึดนโยบำยชนบทล้อมเมือง เมืองล้อมนคร และจัดส่ง
ตน ซึ่งปรำกฏชัดจำกสงครำมตัวแทนทั่วโลก สงครำมนอกแบบ เพื่อป้องกันกำรขยำยตัว Supply : Southeast Asia Supply) ใน สมำชิกไปอบรมด้ำนกำรทหำร กำรเมือง และกำรพยำบำลใน
ในบริบทเช่นนี้ ประเทศเล็กมีทำงเลือกจ�ำกัด ของลัทธิคอมมิวนิสต์ในภำคพ้นเอเชียตะวัน นำมของพลเรือน โดยให้ เจมส์ วิลเลียม จีน ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๕ เป็นต้นมำ
ื
มำก โดยเฉพำะหำกต้งอยู่ในจุดยุทธศำสตร์ ออกเฉียงใต้ ซึ่งรัฐบำลไทยเห็นชอบและได้ แลร์ ( JAMES WILLAM LAIR : Bill Lair
ั
ึ
สำคญของมหำอ�ำนำจ ซ่งในช่วงเวลำดง ั จัดตั้ง “กรรมกำรนเรศวร” เพื่อรับผิดชอบ ซ่งต่อมำได้รับพระรำชทำนยศเป็น พ.ต.อ.) การฝึกใช้อาวุธ การฝึกกระโดดร่ม
ั
�
ึ
กล่ำว ประเทศไทยมีควำมส�ำคัญอย่ำง ดำเนินงำน คณะกรรมกำรนเรศวรมมตให ้ ท�ำงำนในหน่วยงำนข่ำวกรองของประเทศ
�
ิ
ี
ั
ี
ิ
ู
ั
ี
ชดเจนในภมภำคเอเชยตะวนออกเฉยงใต้ต่อ กรมต�ำรวจ เป็นผู้รับผิดชอบเตรียมกำร สหรัฐฯ เดินทำงมำประเทศไทยในนำมของ
ยทธศำสตร์ท้งของสหรัฐฯ และโซเวียต รับมือกับภัยคุกคำมดังกล่ำว โดยให้ท�ำกำร บริษัท ซี ซัพพลำย ต้นเดือนมีนำคม พ.ศ.
ั
ุ
ื
โดยประเทศไทยได้เลือกเป็น ฝึกสงครำมนอกแบบให้กับต�ำรวจและทหำร ๒๔๙๔ เพ่อเป็นผู้ให้ค�ำแนะน�ำกำรป้องกัน
พนธมิตรของสหรัฐฯ เพ่อ แล้วจัดก�ำลังต�ำรวจเข้ำไปปฏิบัติงำนตำม และยับย้งกำรแผ่ขยำยลัทธิคอมมิวนิสต์ใน
ื
ั
ั
ั
สกัดก้นภัยคุกคำมของลัทธ ิ แนวชำยแดน เพื่อป้องกันกำรแทรกซึมจำก ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวม
ึ
คอมมิวนิสต์ในประเทศ ฝ่ำยคอมมิวนิสต์ภำยนอกประเทศ โดยเฉพำะ ถงประเทศไทย ด้วยกำรใช้ก�ำลังกองโจร
ั
ทำงด้ำนภำคตะวันออก ภำคตะวน และกำรรบนอกแบบ โดยกำรสร้ำงหน่วยท ี ่
ออกเฉียงเหนือ และบำงส่วนใน คล่องตัวซ่งมีขีดควำมสำมำรถท�ำกำรรบ
ึ
ภำคเหนือ นอกแบบ และกระโดดร่มได้ โดยโครงกำร
ี
น้ ฝ่ำยสหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนและออกค่ำ
ใช้จ่ำยให้ท้งหมด จึงมีกำรสร้ำงหน่วย
ั
PARU (Police Aerial Reinforcement
ึ
ั
Unit) หรือต�ำรวจพลร่มข้น และต้งค่ำย
ี
พล.ต.ท.เผ่า ศรียานนท์ นเรศวร ของต�ำรวจพลร่ม ท่หัวหิน จ.เพชรบุร ี เจมส์ วิลเลียม แลร์ คณะนายตารวจพลร่มถ่ายภาพร่วมกับ พ.ต.อ.เจมส์ วิลเลียม แลร์
�
ี
�
ั
รองอธิบดีกรมตารวจในขณะน้น JAMES WILLAM LAIR : Bill Lair ท่ ค่ายนเรศวร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาได้รับพระราชทานยศเป็น พ.ต.อ.
40 41
ยุคกองพันทหารพลร่ม กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
จำกบทเรียนกำรปฏิบัติกำรรบในสงครำมโลกครั้งที่ ๒ และ
สงครำมอินโดจีน จึงเป็นที่ประจักษ์ว่ำ ประเทศมหำอ�ำนำจที่
พ.ศ.๒๔๙๗ - พ.ศ.๒๕๐๘ เพียบพร้อมด้วยก�ำลัง อำวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย ก็ไม่อำจเอำชนะ
ประเทศที่มีกำรใช้ก�ำลังประชำชนในรูปแบบต่ำง ๆ และกำรปฏิบัติ
กำรรบนอกแบบได้ ประกอบกับเป็นช่วงสถำนกำรณ์ที่ประเทศไทย
ต้องเผชิญกับภัยคุกคำมกำรขยำยตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ในหลำย
พื้นที่ของประเทศ ดังนั้น กองทัพบกไทย จึงเห็นควำมส�ำคัญและ
ั
ื
ควำมจ�ำเป็นของกำรจัดต้งหน่วยรบพิเศษ เพ่อกำรปฏิบัติกำร กองพันทหารพลร่ม มีการจัดก�าลังประกอบด้วย
สงครำมพิเศษ ปฏิบัติกำรร่วมและสนับสนุนก�ำลังรบตำมแบบ • กองบังคับกำรกองพัน และกองร้อยกองบังคับกำร
ั
จึงอนุมัติให้จัดต้งหน่วยรบพิเศษหน่วยแรกข้นท่จังหวัดลพบุร ี
ี
ึ
เมื่อวันที่ ๔ มิถุนำยน พ.ศ. ๒๔๙๗ เรียกว่ำ “กองพันทหำรพลร่ม” • ๓ กองร้อยทหำรพลร่ม
(Airborne Battalion) นำมย่อ พัน.พร. เป็นหน่วยระดับกองพัน กองพันทหารพลร่ม มีภารกิจ ๒ ประการ คือ
ตำมค�ำสั่งกระทรวงกลำโหมที่ ๔๖/๑๒๖ เมื่อตั้งหน่วยครั้งแรก
เป็นหน่วยขึ้นตรงกับกองทัพที่ ๑ เรียกชื่อว่ำ กองพันทหำรพลร่ม • วำงแผนด�ำเนินกำรสงครำมนอกแบบ
ี
กองทัพท่ ๑ (พัน.พร.ท.๑) มี ร้อยเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ • วำงแผนด�ำเนินกำรปฏิบัติกำรพิเศษตำมที่ได้รับมอบ
นำยทหำรยุทธกำรและกำรฝึก ท�ำกำรแทนผู้บังคับกองพัน หมำยจำกกองทัพบก
พ.ศ. ๒๔๙๗
�
การรบเพื่อปลดปล่อยเวียดนามจากฝรั่งเศสที่เดียนเบียนฟู สงครามกลางเมืองลาว การทาสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ั
ฝรั่งเศสได้เข้ำมำฝึกและจัดตั้งกองทัพรำชอำณำจักรลำว เมื่อสงครำมอินโดจีน หลังจำกกำรลงนำมในสนธิสัญญำเจนีวำ พ.ศ. ๒๔๙๗ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ ผู้น�ำฝ่ำยโลกเสรี จึงเข้ำมำสกัดก้นกำรขยำยตัวของ
ั
ั
ครั้งที่ ๑ โดยลำวมีทหำร ๑๕,๐๐๐ คน ต่อมำ พ.ศ.๒๔๙๖-๒๔๙๗ กองก�ำลังชำตินิยม ถอนทหำรออกจำกภูมิภำค ท�ำให้ลำวเป็นอิสระจำกฝร่งเศสโดย ฝ่ำยคอมมวนสต์ในเอเชียอย่ำงจริงจัง หลังจำกท่ฝร่งเศสถอนตว
ั
ิ
ิ
ี
เวียดมินห์ ซึ่งมีฐำนที่มั่นส�ำคัญอยู่ทำงเหนือของเวียดนำม ได้รุกและยึดเข้ำไปในลำว สมบูรณ์ แต่สงครำมกลำงเมืองในลำวก็ยังคงด�ำเนินต่อไป ซึ่งเป็นกำร ออกจำกอินโดจีน โดยท�ำสนธิสัญญำป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ึ
จนถึงหลวงพระบำงและทุ่งไหหิน แต่กองทัพลำวไม่สำมำรถต้ำนทำนได้ ผู้บัญชำกำร สู้รบระหว่ำงฝ่ำยคอมมิวนิสต์ (ขบวนกำรปะเทศลำว) กับรัฐบำลลำว (South east Asia treaty Organization : SEATO) ข้นใน
ั
ี
ื
ทหำรสูงสุดแห่งสหภำพฝร่งเศสได้ส่งให้กองทหำรไปต้งม่นท่เดียนเบียนฟู อันเป็น ในระบอบกษัตริย์ โดยท้งฝ่ำยขวำและฝ่ำยซ้ำย ต่ำงก็ได้รับกำร พ.ศ. ๒๔๙๗ เพ่อแสวงหำควำมร่วมมือกับฝ่ำยพันธมิตร โดยเป็น
ั
ั
ั
ั
ั
อำณำเขตติดต่อกับลำว เพื่อไม่ให้เวียดมินห์เข้ำโจมตีลำวและตัดหนทำงกำรสนับสนุน สนับสนุนจำกมหำอ�ำนำจแห่งสงครำมเย็น ซึ่งขบวนกำรปะเทศลำว/ ควำมร่วมมือระหว่ำงสหรัฐฯ กับ ๗ ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ฝร่งเศส
ด้ำนต่ำงๆ จำกเวียดนำมตะวันตกเฉียงเหนือเข้ำไปในลำว เพื่อท�ำกำรยุทธกับเวียดมินห์ แนวลำวฮักซำด น�ำโดย เจ้ำสุภำนุวงศ์, ฝ่ำยนิยมควำมเป็นกลำง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปำกีสถำน ฟิลิปปินส์ และในยุคที่ จอมพล
ให้จบสิ้น แต่เวียดมินห์ โดยกำรน�ำของนำยพลหวอ เหงียน ย้ำป สำมำรถยึดเดียนเบียนฟู น�ำโดยเจ้ำสุวรรณภูมำ รัตนวงศำ และฝ่ำยรัฐบำลพระรำชอำณำจักร ป. พิบูลสงครำม ด�ำรงต�ำแหน่งนำยกรัฐมนตรี ให้กำรสนับสนุนโลก
ได้ส�ำเร็จ ฝรั่งเศสจึงเป็นฝ่ำยพ่ำยแพ้สงครำม และเมื่อวันที่ ๗ พ.ค.๒๔๙๗ ฝรั่งเศสกับ ลำว น�ำโดย เจ้ำบุญอุ้ม ณ จ�ำปำสัก กำรสู้รบในลำวนั้น เป็นกำรสู้รบ ฝ่ำยเสรีนิยม และด�ำเนินกำรต่อต้ำนคอมมิวนิสต์ เช่นเดียว
เวียดนำม จึงได้ท�ำสัญญำสงบศึกที่กรุงเจนีวำ น�ำไปสู่ข้อตกลงตำมอนุสัญญำเจนีวำ ระหว่ำงกองทัพเวียดนำมเหนือ, กองทัพอเมริกัน, กองทัพไทย และ กบสหรัฐอเมริกำ
ั
ในวันที่ ๒๑ กรกฎำคม ๒๔๙๗ แบ่งเวียดนำมออกเป็นเวียดนำมเหนือและเวียดนำมใต้ กองทัพเวียดนำมใต้ ทั้งกำรรบโดยตรง และกำรรบด้วยทหำรกองโจร
ื
ื
ี
โดยใช้เส้นรุ้งที่ ๑๗ เหนือ ซึ่งผ่ำนเมืองกวำงตรี ตำมแนวแม่น�้ำเบนไฮ เป็นเส้นแบ่ง โดยมีจุดมุ่งหมำย เพ่อครอบครองพ้นท่ด้ำมขวำนของลำว จึงเรียก
เขตแดน และให้เวียดนำมเหนือ เวียดนำมใต้ ลำว และกัมพูชำ ซึ่งเคยรวมเป็นอินโดจีน สงครำมนี้ว่ำ สงครำมลับ(Secret War)
ของฝรั่งเศสตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๘ แยกออกเป็นรัฐอิสระ พ้นจำกกำรปกครองของฝรั่งเศส
ในกำรนี้สหรัฐอเมริกำ และเวียดนำมใต้ไม่ได้ร่วมลงนำมด้วย
42 43
ยุคกองพันทหารพลร่ม กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
จำกบทเรียนกำรปฏิบัติกำรรบในสงครำมโลกครั้งที่ ๒ และ
สงครำมอินโดจีน จึงเป็นที่ประจักษ์ว่ำ ประเทศมหำอ�ำนำจที่
พ.ศ.๒๔๙๗ - พ.ศ.๒๕๐๘ เพียบพร้อมด้วยก�ำลัง อำวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย ก็ไม่อำจเอำชนะ
ประเทศที่มีกำรใช้ก�ำลังประชำชนในรูปแบบต่ำง ๆ และกำรปฏิบัติ
กำรรบนอกแบบได้ ประกอบกับเป็นช่วงสถำนกำรณ์ที่ประเทศไทย
ต้องเผชิญกับภัยคุกคำมกำรขยำยตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ในหลำย
พื้นที่ของประเทศ ดังนั้น กองทัพบกไทย จึงเห็นควำมส�ำคัญและ
ั
ื
ควำมจ�ำเป็นของกำรจัดต้งหน่วยรบพิเศษ เพ่อกำรปฏิบัติกำร กองพันทหารพลร่ม มีการจัดก�าลังประกอบด้วย
สงครำมพิเศษ ปฏิบัติกำรร่วมและสนับสนุนก�ำลังรบตำมแบบ • กองบังคับกำรกองพัน และกองร้อยกองบังคับกำร
ั
จึงอนุมัติให้จัดต้งหน่วยรบพิเศษหน่วยแรกข้นท่จังหวัดลพบุร ี
ี
ึ
เมื่อวันที่ ๔ มิถุนำยน พ.ศ. ๒๔๙๗ เรียกว่ำ “กองพันทหำรพลร่ม” • ๓ กองร้อยทหำรพลร่ม
(Airborne Battalion) นำมย่อ พัน.พร. เป็นหน่วยระดับกองพัน กองพันทหารพลร่ม มีภารกิจ ๒ ประการ คือ
ตำมค�ำสั่งกระทรวงกลำโหมที่ ๔๖/๑๒๖ เมื่อตั้งหน่วยครั้งแรก
เป็นหน่วยขึ้นตรงกับกองทัพที่ ๑ เรียกชื่อว่ำ กองพันทหำรพลร่ม • วำงแผนด�ำเนินกำรสงครำมนอกแบบ
ี
กองทัพท่ ๑ (พัน.พร.ท.๑) มี ร้อยเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ • วำงแผนด�ำเนินกำรปฏิบัติกำรพิเศษตำมที่ได้รับมอบ
นำยทหำรยุทธกำรและกำรฝึก ท�ำกำรแทนผู้บังคับกองพัน หมำยจำกกองทัพบก
พ.ศ. ๒๔๙๗
�
การรบเพื่อปลดปล่อยเวียดนามจากฝรั่งเศสที่เดียนเบียนฟู สงครามกลางเมืองลาว การทาสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ั
ฝรั่งเศสได้เข้ำมำฝึกและจัดตั้งกองทัพรำชอำณำจักรลำว เมื่อสงครำมอินโดจีน หลังจำกกำรลงนำมในสนธิสัญญำเจนีวำ พ.ศ. ๒๔๙๗ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ ผู้น�ำฝ่ำยโลกเสรี จึงเข้ำมำสกัดก้นกำรขยำยตัวของ
ั
ั
ครั้งที่ ๑ โดยลำวมีทหำร ๑๕,๐๐๐ คน ต่อมำ พ.ศ.๒๔๙๖-๒๔๙๗ กองก�ำลังชำตินิยม ถอนทหำรออกจำกภูมิภำค ท�ำให้ลำวเป็นอิสระจำกฝร่งเศสโดย ฝ่ำยคอมมวนสต์ในเอเชียอย่ำงจริงจัง หลังจำกท่ฝร่งเศสถอนตว
ั
ิ
ิ
ี
เวียดมินห์ ซึ่งมีฐำนที่มั่นส�ำคัญอยู่ทำงเหนือของเวียดนำม ได้รุกและยึดเข้ำไปในลำว สมบูรณ์ แต่สงครำมกลำงเมืองในลำวก็ยังคงด�ำเนินต่อไป ซึ่งเป็นกำร ออกจำกอินโดจีน โดยท�ำสนธิสัญญำป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ึ
จนถึงหลวงพระบำงและทุ่งไหหิน แต่กองทัพลำวไม่สำมำรถต้ำนทำนได้ ผู้บัญชำกำร สู้รบระหว่ำงฝ่ำยคอมมิวนิสต์ (ขบวนกำรปะเทศลำว) กับรัฐบำลลำว (South east Asia treaty Organization : SEATO) ข้นใน
ั
ี
ื
ทหำรสูงสุดแห่งสหภำพฝร่งเศสได้ส่งให้กองทหำรไปต้งม่นท่เดียนเบียนฟู อันเป็น ในระบอบกษัตริย์ โดยท้งฝ่ำยขวำและฝ่ำยซ้ำย ต่ำงก็ได้รับกำร พ.ศ. ๒๔๙๗ เพ่อแสวงหำควำมร่วมมือกับฝ่ำยพันธมิตร โดยเป็น
ั
ั
ั
ั
ั
อำณำเขตติดต่อกับลำว เพื่อไม่ให้เวียดมินห์เข้ำโจมตีลำวและตัดหนทำงกำรสนับสนุน สนับสนุนจำกมหำอ�ำนำจแห่งสงครำมเย็น ซึ่งขบวนกำรปะเทศลำว/ ควำมร่วมมือระหว่ำงสหรัฐฯ กับ ๗ ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ฝร่งเศส
ด้ำนต่ำงๆ จำกเวียดนำมตะวันตกเฉียงเหนือเข้ำไปในลำว เพื่อท�ำกำรยุทธกับเวียดมินห์ แนวลำวฮักซำด น�ำโดย เจ้ำสุภำนุวงศ์, ฝ่ำยนิยมควำมเป็นกลำง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปำกีสถำน ฟิลิปปินส์ และในยุคที่ จอมพล
ให้จบสิ้น แต่เวียดมินห์ โดยกำรน�ำของนำยพลหวอ เหงียน ย้ำป สำมำรถยึดเดียนเบียนฟู น�ำโดยเจ้ำสุวรรณภูมำ รัตนวงศำ และฝ่ำยรัฐบำลพระรำชอำณำจักร ป. พิบูลสงครำม ด�ำรงต�ำแหน่งนำยกรัฐมนตรี ให้กำรสนับสนุนโลก
ได้ส�ำเร็จ ฝรั่งเศสจึงเป็นฝ่ำยพ่ำยแพ้สงครำม และเมื่อวันที่ ๗ พ.ค.๒๔๙๗ ฝรั่งเศสกับ ลำว น�ำโดย เจ้ำบุญอุ้ม ณ จ�ำปำสัก กำรสู้รบในลำวนั้น เป็นกำรสู้รบ ฝ่ำยเสรีนิยม และด�ำเนินกำรต่อต้ำนคอมมิวนิสต์ เช่นเดียว
เวียดนำม จึงได้ท�ำสัญญำสงบศึกที่กรุงเจนีวำ น�ำไปสู่ข้อตกลงตำมอนุสัญญำเจนีวำ ระหว่ำงกองทัพเวียดนำมเหนือ, กองทัพอเมริกัน, กองทัพไทย และ กบสหรัฐอเมริกำ
ั
ในวันที่ ๒๑ กรกฎำคม ๒๔๙๗ แบ่งเวียดนำมออกเป็นเวียดนำมเหนือและเวียดนำมใต้ กองทัพเวียดนำมใต้ ทั้งกำรรบโดยตรง และกำรรบด้วยทหำรกองโจร
ื
ื
ี
โดยใช้เส้นรุ้งที่ ๑๗ เหนือ ซึ่งผ่ำนเมืองกวำงตรี ตำมแนวแม่น�้ำเบนไฮ เป็นเส้นแบ่ง โดยมีจุดมุ่งหมำย เพ่อครอบครองพ้นท่ด้ำมขวำนของลำว จึงเรียก
เขตแดน และให้เวียดนำมเหนือ เวียดนำมใต้ ลำว และกัมพูชำ ซึ่งเคยรวมเป็นอินโดจีน สงครำมนี้ว่ำ สงครำมลับ(Secret War)
ของฝรั่งเศสตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๘ แยกออกเป็นรัฐอิสระ พ้นจำกกำรปกครองของฝรั่งเศส
ในกำรนี้สหรัฐอเมริกำ และเวียดนำมใต้ไม่ได้ร่วมลงนำมด้วย
42 43
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
�
พ.ศ.๒๕๐๐ เมื่อมีหน่วยรบพิเศษและ
หน่วยใช้ร่มเพิ่มมำกขึ้น จึงมีควำมจ�ำเป็นต้อง กองร้อยพลาธิการส่งกาลังทางอากาศ
มีหน่วยสนับสนุน และรับผิดชอบในกำร
ั
ส่งก�ำลังทำงอำกำศข้นโดยเฉพำะ ดังน้น
ึ
ื
ื
ั
ั
กองทัพบกจึงได้อนุมัติจัดต้ง หน่วยปฏิบัติการ เม่อ พ.ศ.๒๔๙๖ กองทัพบกได้จัดต้งโรงเรียนกำรรบพิเศษ กองนักเรียน กรมกำรทหำรรำบ เพ่อเป็นหน่วยปกครอง และท�ำกำรฝึก
ึ
�
ส่งกาลังทางอากาศ ข้นใน พ.ศ.๒๕๐๐ นักเรียนหลักสูตรทหำรร่มและกำรรบพิเศษ และมีหมวดพับและซ่อมบ�ำรุงอยู่ในอัตรำด้วย เพื่อท�ำกำรพับร่มและซ่อมบ�ำรุงร่มที่มีใช้อยู่
ึ
ข้นตรงต่อกองทัพบก โดยฝำกกำรบังคับ ในขณะนั้น ต่อมำกิจกำรทหำรพลร่มและหน่วยใช้ร่มมีมำกขึ้นจึงจ�ำเป็นต้องขยำยอัตรำและตั้งหน่วยขึ้นมำรองรับ ในปี พ.ศ.๒๕๐๐
บัญชำไว้กับกรมพลำธิกำรทหำรบก ใช้อัตรำ พ.ศ.๒๕๐๑ กองพันทหำรพลร่ม กองทัพบก จึงได้อนุมัติให้จัดตั้ง กองร้อยพลำธิกำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ ชื่อย่อ “ร้อย.พธ.สกอ.ทบ.” ขึ้นเป็นครั้งแรกเป็นหน่วยขึ้นตรงต่อ
ึ
ั
ั
ี
ั
ั
้
่
ั
กำรจัดและยุทโธปกรณ์ ๑๐ – ๔๐๗ มีชื่อว่ำ กองพลที่ ๑ ได้เปลี่ยนสำยกำรบังคับบัญชำ กองทพบก แตฝำกกำรบงคบบญชำไวกบ กรมพลำธิกำรทหำรบก ต่อมำในปี พ.ศ.๒๕๐๙ ได้เปล่ยนมำข้นกำรบังคับบัญชำกับศูนย์สงครำม
ื
ั
�
กองร้อยพลาธิการส่งกาลังทางอากาศ ไปขึ้นตรงต่อกองทัพบก เรียกชื่อว่ำ กองพัน พิเศษ ตำมแผนกำรพัฒนำและจัดต้งหน่วยรบพิเศษของกองทัพบก เน่องจำกขอบเขตควำมรับผิดชอบและปริมำณงำนด้ำนกำรส่งก�ำลังทำง
ื
การฝึกลงพ้นในอดีต (ร้อย.พธ.สกอ.ทบ.) ตำมอัตรำกำรจัดและ ทหำรพลร่ม กองทัพบก (พัน.พร.ทบ.) และ อำกำศของกองทัพบกได้ขยำยตัวมำกข้น กองทัพบกจึงได้ส่งกำรให้ขยำยอัตรำ กองร้อยพลำธิกำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ เป็น “กองพลำธิกำรส่ง
ั
ึ
ั
ี
ี
ั
ยุทโธปกรณ์ดังกล่ำวได้ก�ำหนดให้นำยทหำร กองทัพบกได้ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับ ก�ำลังทำงอำกำศ” ตำมค�ำส่ง ทบ.(เฉพำะ)ลับท่ ๑๖๗/๑๔ ลง ๑๖ พ.ย.๑๔ มีท่ต้งปกติถำวรอยู่ ต�ำบลเขำสำมยอด อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุร ี
และนำยสิบ ที่บรรจุในหน่วยนี้ ต้องเป็น กองทัพภำคท่ ๑ ต่อมำจึงย้ำยเข้ำท่ต้งท ่ ี
ั
ี
ี
ึ
ต่อมำ เมื่อ กรกฎำคม พ.ศ.๒๔๙๙ เหล่ำพลำธิกำร โดยเฉพำะ ซ่งในห้วงน ี ้ บ้ำนป่ำหวำย ต�ำบลป่ำตำล อ�ำเภอเมือง
กองพันทหำรพลร่ม ได้ถูกมอบกำรบังคับ กองพันทหำรพลร่ม และ ร้อย.พธ.สกอ. จังหวัดลพบุรี จึงเป็นที่รู้จักกันดีในนำมของ
ิ
ึ
บัญชำให้กับกองพลที่ ๑ เรียกชื่อว่ำ กองพัน ทบ.เร่มมีกำรฝึกกระโดดร่มแบบกระตุกเอง “พลร่มป่าหวาย” ซ่งเป็นท่ต้งของค่ำย
ั
ี
ิ
ั
ี
ทหำรพลร่ม กองพลที่ ๑ (พัน.พร.พล.๑) (ร่ม T-1/A) หรือท่ทรำบกันโดยท่วไปว่ำ ด่งพสุธำ วชิรำลงกรณ์ ในปัจจุบัน
พ.ศ. ๒๔๙๙ พ.ศ. ๒๕๐๐ พ.ศ. ๒๕๐๑ พ.ศ. ๒๕๐๒-๒๕๐๓
๑๖ ก.ย.๒๕๐๐ จอมพลสฤษด์ ธนะรัชต์ ควำมล้มเหลวในกำรรวมกองทัพปะเทศ
ิ
ก่อรัฐประหำร ยึดอ�ำนำจจอมพล ลำวเข้ำกับกองทัพรำชอำณำจักรลำว ท�ำให้
ป.พิบูลสงครำม สืบเนื่องจำกควำมแตกแยก ลำวถูกเวียดนำมเหนือโจมตี และมีกำรสู้รบ
กันระหว่ำงกลุ่มทหำร ที่น�ำโดย พล.อ.สฤษดิ์ กับเวียดนำมเหนือตำมแนวชำยแดนใน
ธนะรัชต์ ผู้บัญชำกำรทหำรบก กับ พ.ศ. ๒๕๐๒ ท�ำให้สหรัฐอเมริกำเข้ำมำช่วย
ี
พล.ต.อ.เผ่ำ ศรียำนนท์ อธิบดีกรมต�ำรวจ เหลือลำว จนวันท่ ๙ สิงหำคม ๒๕๐๓
ท่ค้ำอ�ำนำจของรัฐบำล จอมพล ป. จอมพล ป. ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ร้อยเอกกองแล ในฐำนะฝ่ำยลำว ได้ก่อ
ี
�
พิบูลสงครำม และมีสำเหตุเกี่ยวข้องกับกำร รัฐประหำรในเวียงจันทน์ และสถำนกำรณ์
ิ
ึ
ั
เลือกต้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร ในลำวย่งเลวร้ำยข้น คณะกรรมกำรคณะ
เมื่อวันที่ ๒๖ ก.พ. ๒๕๐๐ ซึ่งถูกกล่ำว ที่ปรึกษำทำงทหำร ประเทศไทย จึงมีควำม
ขำนว่ำ เป็นกำรเลือกตั้งที่ไม่สุจริต และเมื่อ วิตกกังวลต่อควำมมั่นคงของประเทศ ที่ต้อง
จอมพลสฤษด์ เห็นว่ำ รัฐบำล จอมพล เผชิญกับภัยคุกคำมของคอมมิวนิสต์ จึงมีมติ
ิ
ป. ขำดควำมชอบธรรมในกำรปกครองบ้ำน ให้จัดตั้ง “คณะที่ปรึกษาทางทหารในราช
เมืองแล้ว จอมพลสฤษดิ์ จึงประกำศลำออก อาณาจักร” และตั้งกองบังคับกำรเรียกว่ำ
จำกต�ำแหน่ง รมว.กลำโหม ในรัฐบำลของ “บก.คท.” อยู่ที่เวียงจันทน์ เพื่อเข้ำช่วย
จอมพล ป. คงเหลือแต่ต�ำแหน่ง ผู้บัญชำกำร เหลือลำวฝ่ำยโลกเสรี และลดอิทธิพลฝ่ำย
ั
ทหำรบก คอมมิวนิสต์ รวมท้งต้องระวังไม่ให้เกิด
ปัญหำทำงกำรเมืองระหว่ำงประเทศด้วย
จอมพล สฤษด์ ธนะรัชต์
ิ
44 45
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
�
พ.ศ.๒๕๐๐ เมื่อมีหน่วยรบพิเศษและ
หน่วยใช้ร่มเพิ่มมำกขึ้น จึงมีควำมจ�ำเป็นต้อง กองร้อยพลาธิการส่งกาลังทางอากาศ
มีหน่วยสนับสนุน และรับผิดชอบในกำร
ส่งก�ำลังทำงอำกำศข้นโดยเฉพำะ ดังน้น
ั
ึ
ื
ื
ั
กองทัพบกจึงได้อนุมัติจัดต้ง หน่วยปฏิบัติการ เม่อ พ.ศ.๒๔๙๖ กองทัพบกได้จัดต้งโรงเรียนกำรรบพิเศษ กองนักเรียน กรมกำรทหำรรำบ เพ่อเป็นหน่วยปกครอง และท�ำกำรฝึก
ั
ึ
�
ส่งกาลังทางอากาศ ข้นใน พ.ศ.๒๕๐๐ นักเรียนหลักสูตรทหำรร่มและกำรรบพิเศษ และมีหมวดพับและซ่อมบ�ำรุงอยู่ในอัตรำด้วย เพื่อท�ำกำรพับร่มและซ่อมบ�ำรุงร่มที่มีใช้อยู่
ึ
ข้นตรงต่อกองทัพบก โดยฝำกกำรบังคับ ในขณะนั้น ต่อมำกิจกำรทหำรพลร่มและหน่วยใช้ร่มมีมำกขึ้นจึงจ�ำเป็นต้องขยำยอัตรำและตั้งหน่วยขึ้นมำรองรับ ในปี พ.ศ.๒๕๐๐
บัญชำไว้กับกรมพลำธิกำรทหำรบก ใช้อัตรำ พ.ศ.๒๕๐๑ กองพันทหำรพลร่ม กองทัพบก จึงได้อนุมัติให้จัดตั้ง กองร้อยพลำธิกำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ ชื่อย่อ “ร้อย.พธ.สกอ.ทบ.” ขึ้นเป็นครั้งแรกเป็นหน่วยขึ้นตรงต่อ
ั
ั
ั
ึ
้
ี
ั
่
ั
กำรจัดและยุทโธปกรณ์ ๑๐ – ๔๐๗ มีชื่อว่ำ กองพลที่ ๑ ได้เปลี่ยนสำยกำรบังคับบัญชำ กองทพบก แตฝำกกำรบงคบบญชำไวกบ กรมพลำธิกำรทหำรบก ต่อมำในปี พ.ศ.๒๕๐๙ ได้เปล่ยนมำข้นกำรบังคับบัญชำกับศูนย์สงครำม
ื
ั
�
กองร้อยพลาธิการส่งกาลังทางอากาศ ไปขึ้นตรงต่อกองทัพบก เรียกชื่อว่ำ กองพัน พิเศษ ตำมแผนกำรพัฒนำและจัดต้งหน่วยรบพิเศษของกองทัพบก เน่องจำกขอบเขตควำมรับผิดชอบและปริมำณงำนด้ำนกำรส่งก�ำลังทำง
ื
การฝึกลงพ้นในอดีต (ร้อย.พธ.สกอ.ทบ.) ตำมอัตรำกำรจัดและ ทหำรพลร่ม กองทัพบก (พัน.พร.ทบ.) และ อำกำศของกองทัพบกได้ขยำยตัวมำกข้น กองทัพบกจึงได้ส่งกำรให้ขยำยอัตรำ กองร้อยพลำธิกำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ เป็น “กองพลำธิกำรส่ง
ึ
ั
ี
ั
ี
ั
ยุทโธปกรณ์ดังกล่ำวได้ก�ำหนดให้นำยทหำร กองทัพบกได้ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับ ก�ำลังทำงอำกำศ” ตำมค�ำส่ง ทบ.(เฉพำะ)ลับท่ ๑๖๗/๑๔ ลง ๑๖ พ.ย.๑๔ มีท่ต้งปกติถำวรอยู่ ต�ำบลเขำสำมยอด อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุร ี
และนำยสิบ ที่บรรจุในหน่วยนี้ ต้องเป็น กองทัพภำคท่ ๑ ต่อมำจึงย้ำยเข้ำท่ต้งท ่ ี
ั
ี
ี
ึ
ต่อมำ เมื่อ กรกฎำคม พ.ศ.๒๔๙๙ เหล่ำพลำธิกำร โดยเฉพำะ ซ่งในห้วงน ี ้ บ้ำนป่ำหวำย ต�ำบลป่ำตำล อ�ำเภอเมือง
กองพันทหำรพลร่ม ได้ถูกมอบกำรบังคับ กองพันทหำรพลร่ม และ ร้อย.พธ.สกอ. จังหวัดลพบุรี จึงเป็นที่รู้จักกันดีในนำมของ
ิ
บัญชำให้กับกองพลที่ ๑ เรียกชื่อว่ำ กองพัน ทบ.เร่มมีกำรฝึกกระโดดร่มแบบกระตุกเอง “พลร่มป่าหวาย” ซ่งเป็นท่ต้งของค่ำย
ี
ึ
ั
ิ
ี
ั
ทหำรพลร่ม กองพลที่ ๑ (พัน.พร.พล.๑) (ร่ม T-1/A) หรือท่ทรำบกันโดยท่วไปว่ำ ด่งพสุธำ วชิรำลงกรณ์ ในปัจจุบัน
พ.ศ. ๒๔๙๙ พ.ศ. ๒๕๐๐ พ.ศ. ๒๕๐๑ พ.ศ. ๒๕๐๒-๒๕๐๓
๑๖ ก.ย.๒๕๐๐ จอมพลสฤษด์ ธนะรัชต์ ควำมล้มเหลวในกำรรวมกองทัพปะเทศ
ิ
ก่อรัฐประหำร ยึดอ�ำนำจจอมพล ลำวเข้ำกับกองทัพรำชอำณำจักรลำว ท�ำให้
ป.พิบูลสงครำม สืบเนื่องจำกควำมแตกแยก ลำวถูกเวียดนำมเหนือโจมตี และมีกำรสู้รบ
กันระหว่ำงกลุ่มทหำร ที่น�ำโดย พล.อ.สฤษดิ์ กับเวียดนำมเหนือตำมแนวชำยแดนใน
ธนะรัชต์ ผู้บัญชำกำรทหำรบก กับ พ.ศ. ๒๕๐๒ ท�ำให้สหรัฐอเมริกำเข้ำมำช่วย
พล.ต.อ.เผ่ำ ศรียำนนท์ อธิบดีกรมต�ำรวจ เหลือลำว จนวันท่ ๙ สิงหำคม ๒๕๐๓
ี
ท่ค้ำอ�ำนำจของรัฐบำล จอมพล ป. จอมพล ป. ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ร้อยเอกกองแล ในฐำนะฝ่ำยลำว ได้ก่อ
ี
�
พิบูลสงครำม และมีสำเหตุเกี่ยวข้องกับกำร รัฐประหำรในเวียงจันทน์ และสถำนกำรณ์
ิ
ั
เลือกต้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร ในลำวย่งเลวร้ำยข้น คณะกรรมกำรคณะ
ึ
เมื่อวันที่ ๒๖ ก.พ. ๒๕๐๐ ซึ่งถูกกล่ำว ที่ปรึกษำทำงทหำร ประเทศไทย จึงมีควำม
ขำนว่ำ เป็นกำรเลือกตั้งที่ไม่สุจริต และเมื่อ วิตกกังวลต่อควำมมั่นคงของประเทศ ที่ต้อง
จอมพลสฤษด์ เห็นว่ำ รัฐบำล จอมพล เผชิญกับภัยคุกคำมของคอมมิวนิสต์ จึงมีมติ
ิ
ป. ขำดควำมชอบธรรมในกำรปกครองบ้ำน ให้จัดตั้ง “คณะที่ปรึกษาทางทหารในราช
เมืองแล้ว จอมพลสฤษดิ์ จึงประกำศลำออก อาณาจักร” และตั้งกองบังคับกำรเรียกว่ำ
จำกต�ำแหน่ง รมว.กลำโหม ในรัฐบำลของ “บก.คท.” อยู่ที่เวียงจันทน์ เพื่อเข้ำช่วย
จอมพล ป. คงเหลือแต่ต�ำแหน่ง ผู้บัญชำกำร เหลือลำวฝ่ำยโลกเสรี และลดอิทธิพลฝ่ำย
ทหำรบก คอมมิวนิสต์ รวมท้งต้องระวังไม่ให้เกิด
ั
ปัญหำทำงกำรเมืองระหว่ำงประเทศด้วย
จอมพล สฤษด์ ธนะรัชต์
ิ
44 45
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองรบพิเศษ จอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ นำยกรัฐมนตรี ด�ำริ รบพิเศษ จำก “กองพันทหารพลร่ม” เป็น
พ.ศ. ๒๕๐๖ กองทัพบกขยำยหน่วย
๑๔ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๖ ฯพณฯ
(พลร่ม) ให้จัดตั้ง “กองพันพิเศษ” ขึ้น เพื่อเป็นที่ตั้ง “กองรบพิเศษ (พลร่ม)” ชื่อย่อว่ำ กรพ.
(พร.) เมื่อ ๑๖ กรกฎำคม ๒๕๐๖ มีที่ตั้ง ณ
ของหน่วยในสนำม ตำมโครงกำรร่วมมือทำง
พ.ศ.๒๕๐๔ ก่อตั้งมูลนิธิกำรศึกษำ ทหำรระหว่ำงสหรัฐฯ กับประเทศไทย บ้ำนป่ำหวำย ต�ำบลป่ำตำล อ�ำเภอเมือง
มิตรภำพในควำมอุปถัมภ์ของกองทัพบก กองพันทหำรพลร่มป่ำหวำย ได้จัดต้งข้นตำมค�ำส่งกระทรวงกลำโหมเฉพำะท ี ่ จังหวัดลพบุรี
ั
ั
ึ
ื
เพ่อจัดหำทุนก่อสร้ำงโรงเรียนในชนบท ๔๖/๑๒๖๘๒ มีชื่อเดิมว่ำ กองพันทหำรพลร่ม หน่วยได้มีกำรปรับเปลี่ยนมำตำมล�ำดับ
ด�ำเนินงำนโดยคณะกรรมกำรด�ำเนินงำน โดยเมื่อ ๔ มิถุนำยน ๒๔๙๗ ได้จัดตั้งเป็น กองพันทหำรพลร่ม ต่อมำในปีเดียวกันได้ปรับ
มิตรภำพ ซ่งเป็นกำรด�ำเนินกำรร่วมกัน กำรบังคับบัญชำไปสังกัดกองทัพที่ ๑ และเมื่อ ๑ กรกฎำคม ๒๔๙๙ ได้มอบกำรบังคับ กองพันพิเศษ ค่ายสฤษดิ์เสนา พ.ศ. ๒๕๐๖ เริ่มมีกำรกระโดดร่ม
ึ
ั
ระหว่ำงทหำรไทยและทหำรอเมริกัน บัญชำให้ไปสังกัดกองพลที่ ๑ ต่อมำ พ.ศ. ๒๕๐๑ ปรับกำรบังคับบัญชำ ไปขึ้นตรงต่อ กระตุกเองทำงทหำรในประเทศไทยเป็นคร้ง
ื
จัดแสดงกระโดดร่มเป็นคร้งแรกเพ่อหำทุน กองทัพบก โดยฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับกองทัพภำคที่ ๑ จนกระทั่งเมื่อ ๑๖ กรกฎำคม แรกที่กองรบพิเศษ (พลร่ม) ป่ำหวำย โดย
ั
ิ
ี
ี
่
ู
ิ
สร้ำงโรงเรยนทบรเวณโรงงำนยำสบ ๒๕๐๖ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองรบพิเศษ (พลร่ม) ขึ้นตรงต่อกองทัพบก และเมื่อ ๒๖ ๑๔ กุมภำพันธ์ พุทธศักรำช ๒๕๐๖ ฯพณฯ จอมพลสฤษด์ ธนะรัชต์ พันเอกอเนก บุนยถี ผู้บังคับกองรบพิเศษ
จ.กรุงเทพฯ มีนักกระโดดร่มจำกกองพัน มกรำคม ๒๕๐๙ กองทัพบกได้จัดตั้งศูนย์สงครำมพิเศษขึ้น จึงปรับเปลี่ยนให้ไปขึ้นตรง นำยกรัฐมนตรีในขณะนั้น ด�ำริให้จัดตั้ง “กองพันพิเศษ” ขึ้น โดยสนธิก�ำลังจำกทหำร (พลร่ม) พิจำรณำให้ครูฝึกกระโดดร่มแบบ
ทหำรพลร่มและกองร้อยพลำธิกำรส่งก�ำลัง ต่อศูนย์สงครำมพิเศษ จนกระทั่ง ๗ กรกฎำคม ๒๕๑๒ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น พลร่ม ต�ำรวจพลร่ม และเจ้ำหน้ำที่พิเศษอื่นๆ เพื่อรับมอบภำรกิจ ในกำรยับยั้งลัทธิ กระตุกเองทำงกำรกีฬำของสโมสรเหิรเวหำ
ื
ี
ื
์
ิ
ิ
ทำงอำกำศเป็นหลัก ต่อมำได้รับกำร กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ และให้ไปขึ้นกำรบังคับบัญชำกับ กองพลรบพิเศษที่ ๑ เมื่อ คอมมวนสต ท่ก�ำลังแผ่ขยำยอิทธิพลในประเทศเพ่อนบ้ำน โดยอนุมัติให้ใช้ช่อค่ำย ซ่ง ึ ของกองรบพิเศษ (พลร่ม) ฝึกกระโดด
จดทะเบียนเป็นมูลนิธิกำรศึกษำมิตรภำพ ๒๘ กรกฎำคม ๒๕๒๕ ต่อมำได้แปรสภำพเป็น กรมรบพิเศษที่ ๑ เมื่อ ๒๗ มกรำคม เป็นที่ตั้งของกองพันพิเศษว่ำ “ค่ำยสฤษดิ์เสนำ” ทั้งนี้เนื่องจำกระหว่ำงปี พุทธศักรำช ประกอบอำวุธ เครื่องสนำมด้วยร่ม B-12
เมื่อ ๓ ก.ย.๒๕๐๔ เลขล�ำดับที่ ๓๒๘ มี ๒๕๒๖ ๒๕๐๖ จนถึงปีพุทธศักรำช ๒๕๑๘ ประเทศสหรัฐอเมริกำได้เข้ำมำมีบทบำทส�ำคัญ และ ดัดแปลง โดยใช้เครื่องบิน L-20 และ C-47
พล.ท.ประยูร หนุนภักดี เป็นประธำนมูลนิธิฯ มอบหมำยให้ กองพันพิเศษ ท�ำหน้ำที่เป็นทั้งครูฝึกและสหำยร่วมรบ แม้ว่ำผลลัพธ์ จำกควำมสูง ๘,๐๐๐ – ๑๒,๕๐๐ ฟุต ถ่วง
ท่ำนแรก ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๔ - พ.ศ.๒๕๒๖ สุดท้ำย กองพันพิเศษ และกองก�ำลังกู้ชำติไม่อำจยับยั้งอิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์ใน เวลำ ๓๕-๔๐ วินำที ซึ่งผู้กระโดดร่ม สำมำรถ
ื
สำมำรถหำทุนด�ำเนินกำรสร้ำงโรงเรียน ประเทศเพื่อนบ้ำนได้ แต่ถือเป็นเกียรติภูมิที่ควรค่ำแก่กำรสดุดีแห่งวีรกรรม ของเหล่ำ บังคับร่ม พร้อมน�ำอำวุธและเคร่องสนำม
มิตรภำพ ได้จ�ำนวน ๒๓๒ หลัง นักรบแห่งค่ำยสฤษดิ์เสนำ ติดตัว ลงสู่ที่หมำยได้เป็นกลุ่มก้อน
พ.ศ. ๒๕๐๔ พ.ศ. ๒๕๐๖
หลังกำรปฏิวัติของจอมพลสฤกด ิ ์ เมื่อ ๙ พ.ค.๒๕๐๔ จอมพล สฤษดิ์ กองทัพบกได้ปรับองค์กำรของกองพันทหำรพลร่ม พ.ศ.๒๕๐๖ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ได้พัฒนำกำรปฏิบัติกำร
ธนะรัชต์ รัฐบำลได้เริ่มควำมรุนแรงในกำร ธนะรัชต์ นำยกรัฐมนตรี จึงสั่งให้ย้ำยจัดตั้ง เป็น กองรบพิเศษ (พลร่ม) ซ่งเป็นกำรพัฒนำกำรจัดองค์กำร ฝึกลักษณะก่งปฏิบัติกำรในพ้นท่ตำมแนวชำยแดน หรือพ้นท ่ ี
ึ
ื
ี
ึ
ื
ี
ปรำบปรำม พคท. พ.ศ.๒๕๐๔ กำรปฏิวัติ “บก.คท.” กลับมำอยู่ท่เมืองหนองคำย เข้ำสู่รูปแบบของหน่วยรบพิเศษท่แท้จริง และรับผิดชอบภำรกิจ ภำยใน ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลม ตำมแนวเส้นทำงหลักของกำรรุก
ี
ี
ของ พคท. ที่ด�ำเนินกำรมำอย่ำงต่อเนื่อง ฝั่งไทยและอนุมัติให้เปล่ยนใหม่เป็น ด้ำนกำรสงครำมพิเศษของกองทัพบก รวมทั้งใช้เป็นฐำนในกำร ของฝ่ำยตรงข้ำม ท่จะมุ่งเข้ำสู่พ้นท่ยุทธศำสตร์ของประเทศ
ี
ื
ี
รัฐบำลจึงได้ตั้งหน่วยงำนขึ้น คือ กองอ�ำนวย “บก.๓๓๓” เมื่อ ๗ ธันวำคม ๒๕๐๕ จึงย้ำย ขยำยกำรจัดต้งหน่วยรบพิเศษอ่นๆ ในเวลำต่อมำ เป็นกำรฝึกเพ่อรวบรวมข้อมูลพ้นท่ปฏิบัติกำรและประชำชน
ื
ื
ื
ี
ั
กำรรักษำควำมปลอดภัยแห่งชำติ (กรป.) ที่ตั้งไปอยู่ที่ จ.อุดร เพื่อควำมปลอดภัยและ กองรบพิเศษ (พลร่ม) มีการจัดกาลังประกอบด้วย ส�ำหรับเตรียมท�ำสงครำมนอกแบบ เมื่อถูกข้ำศึกยึดครอง และ
�
ในสำยงำนกระทรวงกลำโหมและกอง สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ต่ำงๆ แนวควำมคิดนี้ ได้ด�ำเนินมำจนถึงปัจจุบันที่มีชื่อเรียกว่ำ “กำรฝึก
ั
ื
บัญชำกำรปรำบปรำมคอมมิวนิสต์ (บก.ปค.) ท่เปล่ยนแปลงไปในขณะน้น และเม่อ • กองบังคับกำร และกองร้อยกองบังคับกำร บำงระจัน” และผลจำกกำรที่ได้เข้ำไปสัมผัสประชำชนในพื้นที่
ี
ี
ร่วมระหว่ำงพลเรือน ต�ำรวจ และทหำร เพื่อ ๑ กรกฎำคม ๒๕๐๗ ได้แปรสภำพ เป็น • ๒ ส่วนแยกควบคุมกำรปฏิบัติกำร ห่ำงไกล ได้มีกำรให้ควำมช่วยเหลือทำงด้ำนกำรรักษำพยำบำล
ั
รับผิดชอบภำรกิจป้องกันและยับย้ง “บก.ผสม ๓๓๓” เป็นหน่วยปฏิบัติกำร (ระดับกองบังคับ กำรกองพัน) กำรจัดระบบหมู่บ้ำน กำรจัดและกำรฝึกประชำชน ให้รู้จักกำร
คอมมิวนิสต์โดยตรง แต่ไม่สำมำรถยับย้ง ั ในสนำม มีหน้ำที่และควำมรับผิดชอบช่วย ต่อสู้เพื่อป้องกันตนเอง เป็นผลให้กองทัพบกได้พัฒนำระบบกำร
ฝ่ำยคอมมิวนิสต์ได้ รักษำควำมมั่นคงแห่งประเทศไทย ในส่วนที่ • ๖ กองร้อยรบพิเศษ ปฏิบัติกำรทำงทหำรในเรื่อง กำรให้ควำมช่วยเหลือประชำชน
เกี่ยวข้องกับรำชอำณำจักรลำว กองรบพิเศษ (พลร่ม) มีภารกิจ ๓ ประการ คือ (Civic Action) กำรปฏิบัติจิตวิทยำ กำรฝึกจัดตั้งกองก�ำลัง
๑) ปฏิบัติสงครำมนอกแบบ ประชำชนสนับสนุนแผนกำรป้องกันและปรำมปรำบคอมมิวนิสต์
ในรูปแบบต่ำงๆ เช่น ไทยอำสำป้องกันชำติ (ทสบ.) , อำสำสมัคร
๒) สนับสนุนกำรต่อสู้เพ่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ พัฒนำป้องกันตนเอง (อสพบ.) รวมทั้งกำรพัฒนำมำสู่อำสำสมัคร
ื
๓) ปฏิบัติภำรกิจพิเศษตำมท่ได้รับมอบหมำย ทหำรพรำน (อส.ทพ.)
ี
จำกกองทัพบก
46 47
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองรบพิเศษ จอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ นำยกรัฐมนตรี ด�ำริ รบพิเศษ จำก “กองพันทหารพลร่ม” เป็น
พ.ศ. ๒๕๐๖ กองทัพบกขยำยหน่วย
๑๔ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๖ ฯพณฯ
(พลร่ม) ให้จัดตั้ง “กองพันพิเศษ” ขึ้น เพื่อเป็นที่ตั้ง “กองรบพิเศษ (พลร่ม)” ชื่อย่อว่ำ กรพ.
(พร.) เมื่อ ๑๖ กรกฎำคม ๒๕๐๖ มีที่ตั้ง ณ
ของหน่วยในสนำม ตำมโครงกำรร่วมมือทำง
พ.ศ.๒๕๐๔ ก่อตั้งมูลนิธิกำรศึกษำ ทหำรระหว่ำงสหรัฐฯ กับประเทศไทย บ้ำนป่ำหวำย ต�ำบลป่ำตำล อ�ำเภอเมือง
มิตรภำพในควำมอุปถัมภ์ของกองทัพบก กองพันทหำรพลร่มป่ำหวำย ได้จัดต้งข้นตำมค�ำส่งกระทรวงกลำโหมเฉพำะท ่ ี จังหวัดลพบุรี
ั
ึ
ั
ื
เพ่อจัดหำทุนก่อสร้ำงโรงเรียนในชนบท ๔๖/๑๒๖๘๒ มีชื่อเดิมว่ำ กองพันทหำรพลร่ม หน่วยได้มีกำรปรับเปลี่ยนมำตำมล�ำดับ
ด�ำเนินงำนโดยคณะกรรมกำรด�ำเนินงำน โดยเมื่อ ๔ มิถุนำยน ๒๔๙๗ ได้จัดตั้งเป็น กองพันทหำรพลร่ม ต่อมำในปีเดียวกันได้ปรับ
มิตรภำพ ซ่งเป็นกำรด�ำเนินกำรร่วมกัน กำรบังคับบัญชำไปสังกัดกองทัพที่ ๑ และเมื่อ ๑ กรกฎำคม ๒๔๙๙ ได้มอบกำรบังคับ กองพันพิเศษ ค่ายสฤษดิ์เสนา พ.ศ. ๒๕๐๖ เริ่มมีกำรกระโดดร่ม
ึ
ระหว่ำงทหำรไทยและทหำรอเมริกัน บัญชำให้ไปสังกัดกองพลที่ ๑ ต่อมำ พ.ศ. ๒๕๐๑ ปรับกำรบังคับบัญชำ ไปขึ้นตรงต่อ กระตุกเองทำงทหำรในประเทศไทยเป็นคร้ง ั
ื
จัดแสดงกระโดดร่มเป็นคร้งแรกเพ่อหำทุน กองทัพบก โดยฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับกองทัพภำคที่ ๑ จนกระทั่งเมื่อ ๑๖ กรกฎำคม แรกที่กองรบพิเศษ (พลร่ม) ป่ำหวำย โดย
ั
ิ
ี
ี
่
ู
ิ
สร้ำงโรงเรยนทบรเวณโรงงำนยำสบ ๒๕๐๖ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองรบพิเศษ (พลร่ม) ขึ้นตรงต่อกองทัพบก และเมื่อ ๒๖ ๑๔ กุมภำพันธ์ พุทธศักรำช ๒๕๐๖ ฯพณฯ จอมพลสฤษด์ ธนะรัชต์ พันเอกอเนก บุนยถี ผู้บังคับกองรบพิเศษ
จ.กรุงเทพฯ มีนักกระโดดร่มจำกกองพัน มกรำคม ๒๕๐๙ กองทัพบกได้จัดตั้งศูนย์สงครำมพิเศษขึ้น จึงปรับเปลี่ยนให้ไปขึ้นตรง นำยกรัฐมนตรีในขณะนั้น ด�ำริให้จัดตั้ง “กองพันพิเศษ” ขึ้น โดยสนธิก�ำลังจำกทหำร (พลร่ม) พิจำรณำให้ครูฝึกกระโดดร่มแบบ
ทหำรพลร่มและกองร้อยพลำธิกำรส่งก�ำลัง ต่อศูนย์สงครำมพิเศษ จนกระทั่ง ๗ กรกฎำคม ๒๕๑๒ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น พลร่ม ต�ำรวจพลร่ม และเจ้ำหน้ำที่พิเศษอื่นๆ เพื่อรับมอบภำรกิจ ในกำรยับยั้งลัทธิ กระตุกเองทำงกำรกีฬำของสโมสรเหิรเวหำ
ึ
ี
ื
์
ื
ิ
ิ
ทำงอำกำศเป็นหลัก ต่อมำได้รับกำร กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ และให้ไปขึ้นกำรบังคับบัญชำกับ กองพลรบพิเศษที่ ๑ เมื่อ คอมมวนสต ท่ก�ำลังแผ่ขยำยอิทธิพลในประเทศเพ่อนบ้ำน โดยอนุมัติให้ใช้ช่อค่ำย ซ่ง ของกองรบพิเศษ (พลร่ม) ฝึกกระโดด
จดทะเบียนเป็นมูลนิธิกำรศึกษำมิตรภำพ ๒๘ กรกฎำคม ๒๕๒๕ ต่อมำได้แปรสภำพเป็น กรมรบพิเศษที่ ๑ เมื่อ ๒๗ มกรำคม เป็นที่ตั้งของกองพันพิเศษว่ำ “ค่ำยสฤษดิ์เสนำ” ทั้งนี้เนื่องจำกระหว่ำงปี พุทธศักรำช ประกอบอำวุธ เครื่องสนำมด้วยร่ม B-12
เมื่อ ๓ ก.ย.๒๕๐๔ เลขล�ำดับที่ ๓๒๘ มี ๒๕๒๖ ๒๕๐๖ จนถึงปีพุทธศักรำช ๒๕๑๘ ประเทศสหรัฐอเมริกำได้เข้ำมำมีบทบำทส�ำคัญ และ ดัดแปลง โดยใช้เครื่องบิน L-20 และ C-47
พล.ท.ประยูร หนุนภักดี เป็นประธำนมูลนิธิฯ มอบหมำยให้ กองพันพิเศษ ท�ำหน้ำที่เป็นทั้งครูฝึกและสหำยร่วมรบ แม้ว่ำผลลัพธ์ จำกควำมสูง ๘,๐๐๐ – ๑๒,๕๐๐ ฟุต ถ่วง
ท่ำนแรก ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๔ - พ.ศ.๒๕๒๖ สุดท้ำย กองพันพิเศษ และกองก�ำลังกู้ชำติไม่อำจยับยั้งอิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์ใน เวลำ ๓๕-๔๐ วินำที ซึ่งผู้กระโดดร่ม สำมำรถ
ื
สำมำรถหำทุนด�ำเนินกำรสร้ำงโรงเรียน ประเทศเพื่อนบ้ำนได้ แต่ถือเป็นเกียรติภูมิที่ควรค่ำแก่กำรสดุดีแห่งวีรกรรม ของเหล่ำ บังคับร่ม พร้อมน�ำอำวุธและเคร่องสนำม
มิตรภำพ ได้จ�ำนวน ๒๓๒ หลัง นักรบแห่งค่ำยสฤษดิ์เสนำ ติดตัว ลงสู่ที่หมำยได้เป็นกลุ่มก้อน
พ.ศ. ๒๕๐๔ พ.ศ. ๒๕๐๖
หลังกำรปฏิวัติของจอมพลสฤกด ิ ์ เมื่อ ๙ พ.ค.๒๕๐๔ จอมพล สฤษดิ์ กองทัพบกได้ปรับองค์กำรของกองพันทหำรพลร่ม พ.ศ.๒๕๐๖ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ได้พัฒนำกำรปฏิบัติกำร
ธนะรัชต์ รัฐบำลได้เริ่มควำมรุนแรงในกำร ธนะรัชต์ นำยกรัฐมนตรี จึงสั่งให้ย้ำยจัดตั้ง เป็น กองรบพิเศษ (พลร่ม) ซ่งเป็นกำรพัฒนำกำรจัดองค์กำร ฝึกลักษณะก่งปฏิบัติกำรในพ้นท่ตำมแนวชำยแดน หรือพ้นท ่ ี
ื
ึ
ี
ึ
ื
ี
ปรำบปรำม พคท. พ.ศ.๒๕๐๔ กำรปฏิวัติ “บก.คท.” กลับมำอยู่ท่เมืองหนองคำย เข้ำสู่รูปแบบของหน่วยรบพิเศษท่แท้จริง และรับผิดชอบภำรกิจ ภำยใน ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลม ตำมแนวเส้นทำงหลักของกำรรุก
ี
ี
ของ พคท. ที่ด�ำเนินกำรมำอย่ำงต่อเนื่อง ฝั่งไทยและอนุมัติให้เปล่ยนใหม่เป็น ด้ำนกำรสงครำมพิเศษของกองทัพบก รวมทั้งใช้เป็นฐำนในกำร ของฝ่ำยตรงข้ำม ท่จะมุ่งเข้ำสู่พ้นท่ยุทธศำสตร์ของประเทศ
ี
ี
ื
รัฐบำลจึงได้ตั้งหน่วยงำนขึ้น คือ กองอ�ำนวย “บก.๓๓๓” เมื่อ ๗ ธันวำคม ๒๕๐๕ จึงย้ำย ขยำยกำรจัดต้งหน่วยรบพิเศษอ่นๆ ในเวลำต่อมำ เป็นกำรฝึกเพ่อรวบรวมข้อมูลพ้นท่ปฏิบัติกำรและประชำชน
ื
ื
ั
ี
ื
กำรรักษำควำมปลอดภัยแห่งชำติ (กรป.) ที่ตั้งไปอยู่ที่ จ.อุดร เพื่อควำมปลอดภัยและ กองรบพิเศษ (พลร่ม) มีการจัดกาลังประกอบด้วย ส�ำหรับเตรียมท�ำสงครำมนอกแบบ เมื่อถูกข้ำศึกยึดครอง และ
�
ในสำยงำนกระทรวงกลำโหมและกอง สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ต่ำงๆ แนวควำมคิดนี้ ได้ด�ำเนินมำจนถึงปัจจุบันที่มีชื่อเรียกว่ำ “กำรฝึก
ื
บัญชำกำรปรำบปรำมคอมมิวนิสต์ (บก.ปค.) ท่เปล่ยนแปลงไปในขณะน้น และเม่อ • กองบังคับกำร และกองร้อยกองบังคับกำร บำงระจัน” และผลจำกกำรที่ได้เข้ำไปสัมผัสประชำชนในพื้นที่
ั
ี
ี
ร่วมระหว่ำงพลเรือน ต�ำรวจ และทหำร เพื่อ ๑ กรกฎำคม ๒๕๐๗ ได้แปรสภำพ เป็น • ๒ ส่วนแยกควบคุมกำรปฏิบัติกำร ห่ำงไกล ได้มีกำรให้ควำมช่วยเหลือทำงด้ำนกำรรักษำพยำบำล
ั
รับผิดชอบภำรกิจป้องกันและยับย้ง “บก.ผสม ๓๓๓” เป็นหน่วยปฏิบัติกำร (ระดับกองบังคับ กำรกองพัน) กำรจัดระบบหมู่บ้ำน กำรจัดและกำรฝึกประชำชน ให้รู้จักกำร
คอมมิวนิสต์โดยตรง แต่ไม่สำมำรถยับย้ง ั ในสนำม มีหน้ำที่และควำมรับผิดชอบช่วย ต่อสู้เพื่อป้องกันตนเอง เป็นผลให้กองทัพบกได้พัฒนำระบบกำร
ฝ่ำยคอมมิวนิสต์ได้ รักษำควำมมั่นคงแห่งประเทศไทย ในส่วนที่ • ๖ กองร้อยรบพิเศษ ปฏิบัติกำรทำงทหำรในเรื่อง กำรให้ควำมช่วยเหลือประชำชน
เกี่ยวข้องกับรำชอำณำจักรลำว กองรบพิเศษ (พลร่ม) มีภารกิจ ๓ ประการ คือ (Civic Action) กำรปฏิบัติจิตวิทยำ กำรฝึกจัดตั้งกองก�ำลัง
๑) ปฏิบัติสงครำมนอกแบบ ประชำชนสนับสนุนแผนกำรป้องกันและปรำมปรำบคอมมิวนิสต์
ในรูปแบบต่ำงๆ เช่น ไทยอำสำป้องกันชำติ (ทสบ.) , อำสำสมัคร
๒) สนับสนุนกำรต่อสู้เพ่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ พัฒนำป้องกันตนเอง (อสพบ.) รวมทั้งกำรพัฒนำมำสู่อำสำสมัคร
ื
๓) ปฏิบัติภำรกิจพิเศษตำมท่ได้รับมอบหมำย ทหำรพรำน (อส.ทพ.)
ี
จำกกองทัพบก
46 47
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ค่ายสฤษดิ์เสนา
ิ
ั
ก่อต้งข้นเม่อ ๑๔ กุมภำพันธ์ ๒๕๐๖ โดยอนุมัติของ ฯพณฯ จอมพลสฤษด์ ธนะรัตน์ ต้งอยู่ริมทำงหลวงหมำยเลข ๑๒ พ.ศ. ๒๕๐๘ เร่มท�ำกำรฝึกพลร่มหญิง
ื
ึ
ั
ิ
(พิษณุโลก - หล่มสัก) ระหว่ำงหลัก กม.ที่ ๓๓ - ๓๔ เลขที่ ๔๙๑ หมู่ ๒ บ.วังนกแอ่น ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อจุดประสงค์ให้ รุ่นแรก โดย พันเอกอเนก บุนยถี ผู้บังคับกอง
ั
ึ
เป็นที่ตั้งของหน่วยในสนำม ตำมโครงกำรร่วมมือทำงทหำรระหว่ำงสหรัฐฯ กับประเทศไทย จัดตั้งเป็นค่ำยฝึกพิเศษ เพื่อสนับสนุนภำรกิจ รบพิเศษ (พลร่ม) ซ่งได้จัดต้ง “ สโมสรเหิร
ึ
สงครำมพิเศษให้แก่กองทัพบก เป็นหน่วยปฏิบัติกำรระดับ กองพันผสม ระหว่ำงทหำรพลร่มและต�ำรวจพลร่ม รวมทั้งเจ้ำหน้ำที่พิเศษอื่น ๆ พลร่มหญิง เวหำ ” ข้นภำยในกองรบพิเศษ (พลร่ม) มีนัก
ิ
ึ
ตำมควำมจ�ำเป็น เรียกว่ำ “กองพันพิเศษ” ประมำณ มิถุนำยน ๒๕๑๗ สหรัฐฯ ได้ยกเลิกกำรช่วยเหลือและถอนตัวออกไป กองทัพบก กระโดดร่มด่งพสุธำ ๓๔ คน ซ่งเป็นก�ำลังหลัก
ื
ิ
ได้อนุมัติให้ ศสพ. เข้ำใช้ค่ำยนี้เป็นค่ำยฝึกพิเศษของ ศสพ. ก�ำลังของต�ำรวจพลร่ม จึงถอนตัวกลับคืนหน่วยปกติ และบรรจุก�ำลังพลจำก ในกำรกระโดดร่มด่งพสุธำ เพ่อหำเงินรำยได้
ิ
ศสพ. เข้ำทดแทน โดยให้กองพันพิเศษ ที่ปรับก�ำลังใหม่นี้ขึ้นตรงต่อกองทัพบก สร้ำงโรงเรียนในถ่นทุรกันดำรตำมโครงกำร พ.ศ. ๒๕๐๘ กองทัพบกอนุมัติปรับปรุง
ื
พ.ศ.๒๕๐๗ “กองพันนักเรียนกำรรบ มูลนิธิกำรศึกษำมิตรภำพ เม่อมีกำรกระโดดร่ม กองรบพิเศษ (พลร่ม) ให้มีประสิทธิภำพใน
ั
ึ
ื
ิ
พิเศษ ” ศูนย์กำรทหำรรำบ ที่ค่ำยเอรำวัณ ตำมสถำนท่ต่ำงๆ บ่อยคร้ง ประชำชนท่วไป กำรปฏิบัติงำนย่งข้น โดยจัดต้งหน่วยเพ่อเป็น
ี
ั
ั
ี
ี
ได้แปรสภำพเป็น “กองพันส่งทำงอำกำศท่ ๑” โดยเฉพำะคนหนุ่มสำว ต้องกำรอยำกท่จะ ศูนย์ทำงวิทยำกำร และศูนย์ปฏิบัติงำนเก่ยว
ี
ศูนย์กำรทหำรรำบ ตำมค�ำสั่งของกองทัพบก เป็นนักกระโดดร่มเป็นจ�ำนวนมำก พันเอก กับกำรสงครำมพิเศษ มีหน้ำท่ค้นคว้ำ วิจัย
ี
(เฉพำะ) ที่ ๒๙ ลง ๒๓ เมษำยน ๒๕๐๗ มีที่ อเนก บุนยถี จึงส่งกำร ให้รับผู้หญิงเข้ำท�ำกำร พัฒนำ ฝึกอบรม และปฏิบัติงำนเก่ยวกับกำร
ั
ี
ตั้งอยู่ ณ ค่ำยเอรำวัณ ต�ำบลเขำสำมยอด ฝึกกำรกระโดดร่มด่งพสุธำ โดยรุ่นท่ ๑ มีผู้รับ สงครำมพิเศษ โดยก�ำหนดให้ใช้อัตรำเฉพำะ
ื
ิ
อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี กำรฝึก จ�ำนวน ๙ คน กิจหมำยเลข ๕๐๐๐
พ.ศ. ๒๕๐๗ พ.ศ. ๒๕๐๘
ประเทศไทยเข้าร่วมสงครามเวียดนามใน พ.ศ.๒๕๐๗ พ.ศ.๒๕๐๘ เมื่อเวียดนำมใต้ตกอยู่ในจุดล่อแหลมที่สุด
ตำมที่อนุสัญญำเจนีวำ พ.ศ.๒๔๙๗ แบ่งแยกประเทศเวียดนำมออก สหรัฐฯ เกรงว่ำจะน�ำไปสู่กำรสูญเสียเอเชียตะวันออกเฉียง
เป็น ๒ ส่วน คือ เวียดนำมเหนือ และเวียดนำมใต้ โดยยึดเส้นขนำนที่ ใต้ทั้งหมดตำมทฤษฏีโดมิโน ( Domino Theory ) จึงได้
๑๗ องศำเหนือ เป็นเส้นแบ่งเขต แต่เวียดนำมเหนือ ซึ่งมีกำรปกครอง ทุ่มเทควำมช่วยเหลือให้แก่เวียดนำมใต้ และตกลงใจส่ง
ระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ภำยใต้กำรน�ำของโฮจิมินห์ พยำยำมที่จะ ก�ำลังทหำรเข้ำไปปฏิบัติกำรในเวียดนำมใต้ พร้อมกับก�ำลัง
รวมเวียดนำมทั้งสองส่วนเข้ำด้วยกัน จึงส่งก�ำลังกองโจรเวียดกง ก่อกวน ของฝ่ำยโลกเสรี อีก ๖ ประเทศ คือ ออสเตรเลียนิวซีแลนด
และแทรกซึมเข้ำไปในเวียดนำมใต้อย่ำงต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๘ โดย สเปน ฟิลิปปินส์ สำธำรณรัฐจีน (ไต้หวัน) และไทย ท�ำกำร
แฝงเข้ำไปในลักษณะผู้ล้ภัยและผู้อพยพรัฐบำลสำธำรณรัฐเวียดนำม จัดรูปแบบของกำรรบเป็นแบบสงครำมจ�ำกัด มุ่งให้เป็นกำร
ี
(เวียดนำมใต้) ตระหนักดีว่ำ ไม่สำมำรถต่อสู้กับฝ่ำยเวียดนำมเหนือ ซึ่งมี รบของเวียดนำมทั้งสองฝ่ำยเท่ำนั้น
ประเทศจีนคอมมิวนิสต์ให้กำรสนับสนุนตำมล�ำพังได้ จึงขอควำมช่วย
เหลือทำงทหำร และทำงเศรษฐกิจจำกประเทศฝ่ำยโลกเสรี หลังจำกที่ ๗ สิงหำคม ๒๕๐๘ เป็นวันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง
รัฐบำลไทยได้รับหนังสือขอควำมช่วยเหลือด้ำนเศรษฐกิจและกำรทหำร ประเทศไทยใช้อำวุธโจมตีกองก�ำลังของรัฐบำลไทยเป็น
ั
จำกสำธำรณรัฐเวียดนำม คณะรัฐมนตรีได้ลงมติรับหลักกำร ให้ควำมช่วย คร้งแรก กองก�ำลังของพรรคได้เรียกตนเองว่ำ กองทัพ
เหลือแก่สำธำรณรัฐเวียดนำม เม่อวันที่ ๒๑ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๐๗ ปลดแอกประชำชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) เหตุเกิดท ี ่
ื
ื
โดยในระยะแรกให้ควำมช่วยเหลอเฉพำะด้ำนกำรฝึกนกบนไอพ่นแก่ บ้ำนนำบัว ต�ำบลเรณูนคร อ�ำเภอธำตุพนม จังหวัดนครพนม
ิ
ั
สำธำรณรัฐเวียดนำม โดยมอบให้กองทัพอำกำศจัดก�ำลังพลชุดแรกส่งไป ทั้งนี้ได้ประกำศยุทธศำสตร์ “ต่อสู้ด้วยก�ำลังอำวุธ ใช้ชนบท
เมื่อวันที่ ๒๙ กันยำยน พ.ศ.๒๕๐๗ ต่อมำจึงได้ส่งเจ้ำหน้ำที่นักบินและช่ำง ล้อมเมือง และยึดเมือง” จึงเรียกว่ำ เป็น“วันเสียงปืนแตก”
ไปช่วยเหลือปฏิบัติกำรในลักษณะหน่วยบินล�ำเลียง ชื่อว่ำ “หนวยบิน หลังจำกวันเสียงปืนแตก พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
่
ล�ำเลียงทหำรอำกำศไทยในสำธำรณรัฐเวียดนำม” หรือ “หน่วยบินวิคเตอร่” ก็ต่อสู้ด้วยอำวุธกับกองก�ำลังของรัฐบำลไทยมำตลอด
ี
(VICTORY)
48 49
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ค่ายสฤษดิ์เสนา
ิ
ั
ก่อต้งข้นเม่อ ๑๔ กุมภำพันธ์ ๒๕๐๖ โดยอนุมัติของ ฯพณฯ จอมพลสฤษด์ ธนะรัตน์ ต้งอยู่ริมทำงหลวงหมำยเลข ๑๒ พ.ศ. ๒๕๐๘ เร่มท�ำกำรฝึกพลร่มหญิง
ื
ึ
ั
ิ
(พิษณุโลก - หล่มสัก) ระหว่ำงหลัก กม.ที่ ๓๓ - ๓๔ เลขที่ ๔๙๑ หมู่ ๒ บ.วังนกแอ่น ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อจุดประสงค์ให้ รุ่นแรก โดย พันเอกอเนก บุนยถี ผู้บังคับกอง
ั
ึ
เป็นที่ตั้งของหน่วยในสนำม ตำมโครงกำรร่วมมือทำงทหำรระหว่ำงสหรัฐฯ กับประเทศไทย จัดตั้งเป็นค่ำยฝึกพิเศษ เพื่อสนับสนุนภำรกิจ รบพิเศษ (พลร่ม) ซ่งได้จัดต้ง “ สโมสรเหิร
ึ
สงครำมพิเศษให้แก่กองทัพบก เป็นหน่วยปฏิบัติกำรระดับ กองพันผสม ระหว่ำงทหำรพลร่มและต�ำรวจพลร่ม รวมทั้งเจ้ำหน้ำที่พิเศษอื่น ๆ พลร่มหญิง เวหำ ” ข้นภำยในกองรบพิเศษ (พลร่ม) มีนัก
ิ
ึ
ตำมควำมจ�ำเป็น เรียกว่ำ “กองพันพิเศษ” ประมำณ มิถุนำยน ๒๕๑๗ สหรัฐฯ ได้ยกเลิกกำรช่วยเหลือและถอนตัวออกไป กองทัพบก กระโดดร่มด่งพสุธำ ๓๔ คน ซ่งเป็นก�ำลังหลัก
ื
ิ
ได้อนุมัติให้ ศสพ. เข้ำใช้ค่ำยนี้เป็นค่ำยฝึกพิเศษของ ศสพ. ก�ำลังของต�ำรวจพลร่ม จึงถอนตัวกลับคืนหน่วยปกติ และบรรจุก�ำลังพลจำก ในกำรกระโดดร่มด่งพสุธำ เพ่อหำเงินรำยได้
ิ
ศสพ. เข้ำทดแทน โดยให้กองพันพิเศษ ที่ปรับก�ำลังใหม่นี้ขึ้นตรงต่อกองทัพบก สร้ำงโรงเรียนในถ่นทุรกันดำรตำมโครงกำร พ.ศ. ๒๕๐๘ กองทัพบกอนุมัติปรับปรุง
ื
พ.ศ.๒๕๐๗ “กองพันนักเรียนกำรรบ มูลนิธิกำรศึกษำมิตรภำพ เม่อมีกำรกระโดดร่ม กองรบพิเศษ (พลร่ม) ให้มีประสิทธิภำพใน
ั
ึ
ื
ิ
พิเศษ ” ศูนย์กำรทหำรรำบ ที่ค่ำยเอรำวัณ ตำมสถำนท่ต่ำงๆ บ่อยคร้ง ประชำชนท่วไป กำรปฏิบัติงำนย่งข้น โดยจัดต้งหน่วยเพ่อเป็น
ี
ั
ั
ี
ี
ได้แปรสภำพเป็น “กองพันส่งทำงอำกำศท่ ๑” โดยเฉพำะคนหนุ่มสำว ต้องกำรอยำกท่จะ ศูนย์ทำงวิทยำกำร และศูนย์ปฏิบัติงำนเก่ยว
ี
ศูนย์กำรทหำรรำบ ตำมค�ำสั่งของกองทัพบก เป็นนักกระโดดร่มเป็นจ�ำนวนมำก พันเอก กับกำรสงครำมพิเศษ มีหน้ำท่ค้นคว้ำ วิจัย
ี
(เฉพำะ) ที่ ๒๙ ลง ๒๓ เมษำยน ๒๕๐๗ มีที่ อเนก บุนยถี จึงส่งกำร ให้รับผู้หญิงเข้ำท�ำกำร พัฒนำ ฝึกอบรม และปฏิบัติงำนเก่ยวกับกำร
ั
ี
ตั้งอยู่ ณ ค่ำยเอรำวัณ ต�ำบลเขำสำมยอด ฝึกกำรกระโดดร่มด่งพสุธำ โดยรุ่นท่ ๑ มีผู้รับ สงครำมพิเศษ โดยก�ำหนดให้ใช้อัตรำเฉพำะ
ื
ิ
อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี กำรฝึก จ�ำนวน ๙ คน กิจหมำยเลข ๕๐๐๐
พ.ศ. ๒๕๐๗ พ.ศ. ๒๕๐๘
ประเทศไทยเข้าร่วมสงครามเวียดนามใน พ.ศ.๒๕๐๗ พ.ศ.๒๕๐๘ เมื่อเวียดนำมใต้ตกอยู่ในจุดล่อแหลมที่สุด
ตำมที่อนุสัญญำเจนีวำ พ.ศ.๒๔๙๗ แบ่งแยกประเทศเวียดนำมออก สหรัฐฯ เกรงว่ำจะน�ำไปสู่กำรสูญเสียเอเชียตะวันออกเฉียง
เป็น ๒ ส่วน คือ เวียดนำมเหนือ และเวียดนำมใต้ โดยยึดเส้นขนำนที่ ใต้ทั้งหมดตำมทฤษฏีโดมิโน ( Domino Theory ) จึงได้
๑๗ องศำเหนือ เป็นเส้นแบ่งเขต แต่เวียดนำมเหนือ ซึ่งมีกำรปกครอง ทุ่มเทควำมช่วยเหลือให้แก่เวียดนำมใต้ และตกลงใจส่ง
ระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ภำยใต้กำรน�ำของโฮจิมินห์ พยำยำมที่จะ ก�ำลังทหำรเข้ำไปปฏิบัติกำรในเวียดนำมใต้ พร้อมกับก�ำลัง
รวมเวียดนำมทั้งสองส่วนเข้ำด้วยกัน จึงส่งก�ำลังกองโจรเวียดกง ก่อกวน ของฝ่ำยโลกเสรี อีก ๖ ประเทศ คือ ออสเตรเลียนิวซีแลนด
และแทรกซึมเข้ำไปในเวียดนำมใต้อย่ำงต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๘ โดย สเปน ฟิลิปปินส์ สำธำรณรัฐจีน (ไต้หวัน) และไทย ท�ำกำร
แฝงเข้ำไปในลักษณะผู้ล้ภัยและผู้อพยพรัฐบำลสำธำรณรัฐเวียดนำม จัดรูปแบบของกำรรบเป็นแบบสงครำมจ�ำกัด มุ่งให้เป็นกำร
ี
(เวียดนำมใต้) ตระหนักดีว่ำ ไม่สำมำรถต่อสู้กับฝ่ำยเวียดนำมเหนือ ซึ่งมี รบของเวียดนำมทั้งสองฝ่ำยเท่ำนั้น
ประเทศจีนคอมมิวนิสต์ให้กำรสนับสนุนตำมล�ำพังได้ จึงขอควำมช่วย
เหลือทำงทหำร และทำงเศรษฐกิจจำกประเทศฝ่ำยโลกเสรี หลังจำกที่ ๗ สิงหำคม ๒๕๐๘ เป็นวันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง
รัฐบำลไทยได้รับหนังสือขอควำมช่วยเหลือด้ำนเศรษฐกิจและกำรทหำร ประเทศไทยใช้อำวุธโจมตีกองก�ำลังของรัฐบำลไทยเป็น
ั
จำกสำธำรณรัฐเวียดนำม คณะรัฐมนตรีได้ลงมติรับหลักกำร ให้ควำมช่วย คร้งแรก กองก�ำลังของพรรคได้เรียกตนเองว่ำ กองทัพ
เหลือแก่สำธำรณรัฐเวียดนำม เม่อวันที่ ๒๑ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๐๗ ปลดแอกประชำชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) เหตุเกิดท ี ่
ื
ื
โดยในระยะแรกให้ควำมช่วยเหลอเฉพำะด้ำนกำรฝึกนกบนไอพ่นแก่ บ้ำนนำบัว ต�ำบลเรณูนคร อ�ำเภอธำตุพนม จังหวัดนครพนม
ิ
ั
สำธำรณรัฐเวียดนำม โดยมอบให้กองทัพอำกำศจัดก�ำลังพลชุดแรกส่งไป ทั้งนี้ได้ประกำศยุทธศำสตร์ “ต่อสู้ด้วยก�ำลังอำวุธ ใช้ชนบท
เมื่อวันที่ ๒๙ กันยำยน พ.ศ.๒๕๐๗ ต่อมำจึงได้ส่งเจ้ำหน้ำที่นักบินและช่ำง ล้อมเมือง และยึดเมือง” จึงเรียกว่ำ เป็น“วันเสียงปืนแตก”
ไปช่วยเหลือปฏิบัติกำรในลักษณะหน่วยบินล�ำเลียง ชื่อว่ำ “หนวยบิน หลังจำกวันเสียงปืนแตก พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
่
ล�ำเลียงทหำรอำกำศไทยในสำธำรณรัฐเวียดนำม” หรือ “หน่วยบินวิคเตอร่” ก็ต่อสู้ด้วยอำวุธกับกองก�ำลังของรัฐบำลไทยมำตลอด
ี
(VICTORY)
48 49
ยุคศูนย์สงครามพิเศษ กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย ศูนย์สงครามพิเศษ
พ.ศ.๒๕๐๙ - พ.ศ.๒๕๒๕ ศูนย์สงครำมพิเศษ ได้รับกำรจัดตั้งตำมค�ำสั่ง กห.
(เฉพำะ)ที่ ๗/๙ ลง ๒๖ ม.ค.๐๙ เมื่อจัดตั้งครั้งแรกมีที่ตั้งอยู่ที่
กองรบพิเศษ (พลร่ม) บ้ำนป่ำหวำย ต�ำบลป่ำตำล อ�ำเภอเมือง
จังหวัดลพบุรี และมีกองบัญชำกำรส่วนหน้ำอยู่ที่กรมยุทธกำร
ทหำรบก ในศำลำว่ำกำรกระทรวงโหม สืบเนื่องมำจำกกองทัพ
๒๖ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๐๙ กระทรวงกลำโหมได้พิจำรณำเห็นว่ำ กระทรวงกลาโหม บก ได้ก�ำหนดนโยบำยในกำรปรับปรุงงำนสงครำมพิเศษโดย
งำนสงครำมพิเศษ เป็นกิจกำรส�ำคัญประกำรหนึ่งในด้ำนกำรทหำร รวมกำรควบคุมบังคับบัญชำหน่วยปฏิบัติงำนด้ำนสงครำม
ื
ื
และเพ่อให้กองทัพบกมีส่วนรำชกำร ท่รับผิดชอบกิจกำรสงครำมพิเศษ ภำยหลังกำรจัดตั้งศูนย์สงครำมพิเศษ แล้ว กองทัพบกได้สั่งใช้ พิเศษและหน่วยสนับสนุนงำนสงครำมพิเศษเข้ำไว้ด้วยกันเพ่อ
ี
ั
ั
อย่ำงเหมำะสม จึงได้ออกค�ำส่ง กระทรวงกลำโหม (เฉพำะ) ก�ำลังของหน่วยในศูนย์สงครำมพิเศษอย่ำงกว้ำงขวำง ท้งงำนตำม ประโยชน์ในกำรฝึกกำรวำงแผนใช้หน่วย ตลอดจนกำรค้นคว้ำ
ึ
ให้ใช้อัตรำกองทัพบก ๒๕๐๙ โดยก�ำหนดให้ใช้อัตรำเฉพำะกิจ ศูนย์สงครำมพิเศษ จึงเป็นส่วนรำชกำรข้นตรงกับกองทัพบก แผนกำรต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ งำนของกองอ�ำนวยกำรรักษำ พัฒนำและเผยแพร่วิทยำกำร จึงจัดตั้งศูนย์สงครำมพิเศษขึ้น
ั
หมำยเลข ๕๐๐๐ ศูนย์สงครำมพิเศษ เพื่อให้เป็นหน่วยรับผิดชอบกำร มีควำมรับผิดชอบท้งด้ำนปฏิบัติกำรรบและเป็นหน่วยรับผิดชอบทำง ควำมมั่นคงภำยในประเทศ และงำนตำมแผนป้องกันประเทศ ท�ำให้ เพื่อให้รับผิดชอบโดยตรงต่อกองทัพบกในด้ำนยุทธกำร กำร
ั
ปฏิบัติกำรสงครำมพิเศษท้งมวลของกองทัพบก และได้พิจำรณำ ด้ำนกำรฝึกศึกษำในฐำนะหัวหน้ำสำยวิทยำกำรด้ำนกำรสงครำมพิเศษ ก�ำลังที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับควำมต้องกำรของสถำนกำรณ์ จึงปรับปรุง ศึกษำค้นคว้ำ และกำรฝึกในเรื่องกำรสงครำมพิเศษโดยเฉพำะ
ี
ี
ึ
ก�ำหนด วันที่ ๒๖ มกรำคม เป็นวันสถำปนำหน่วย ศูนย์สงครำมพิเศษ ของกองทัพ และต่อมำกองทัพบกได้ก�ำหนดให้วันท่ ๒๔ กุมภำพันธ์ของ โครงสร้ำงกำรจัดของศูนย์สงครำมพิเศษ และหน่วยข้นตรงศูนย์ ศูนย์สงครำมพิเศษจึงท�ำหน้ำท่เป็นศูนย์ยุทธกำรเพื่อวำงแผน
ทุกปี เป็น “วันรบพิเศษของกองทัพบก” สงครำมพิเศษ เพ่อให้เกิดควำมเหมำะสมต่อกำรปฏิบัติภำรกิจของ และอ�ำนวยกำร ด้ำนสงครำมพิเศษตำมแผนและนโยบำย
ื
หน่วย โดยเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนำยน ๒๕๐๙ ได้รวมชุดปฏิบัติกำร ของกองทัพบก และท�ำหน้ำที่เป็นศูนย์ในส่วนกำรศึกษำด้ำน
ึ
ั
หน่วยข้นตรงของศูนย์สงครามพิเศษ คร้งแรก มี ๔ หน่วย คือ จิตวิทยำทั้ง ๙ ชุด จัดตั้งเป็นกองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ กำรสงครำมพิเศษ และวิทยำกำรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์สงครามพิเศษ มีภารกิจ ๓ ประการ คือ
ี
• กองรบพิเศษ ( พลร่ม ) ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับกองทัพภำคท่ ๑ ต่อมำเมื่อศูนย์กำรทหำรรำบ ได้ย้ำยที่ตั้งจำกค่ำยสมเด็จ
• กองร้อยพลำธิกำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับ ๑) วำงแผน อ�ำนวยกำร ก�ำกับกำร และด�ำเนินกำรฝึก และศึกษำ ต่อมำ ๓ พฤศจิกำยน ๒๕๐๙ กองทัพบกอนุมัติจัดต้ง ค่ำยฝึก ซีไอ พระนำรำยณ์มหำรำช ไปยังค่ำยธนะรัชต์ อ�ำเภอปรำณบุรี
ั
ี
กรมพลำธิกำรทหำรบก เก่ยวกับกำรสงครำมพิเศษ กำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ และกำร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ ศูนย์สงครำมพิเศษ จึง
ี
ึ
ยุทธส่งทำงอำกำศ ปำกช่อง ท่บ้ำนหนองตะกู อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำ เป็นหน่วยข้นตรง ได้ย้ำยท่ต้งเข้ำไปใช้อำคำรโรงเรือนเดิมของศูนย์กำรทหำรรำบ
ี
ั
• ชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ๙ ชุด ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับกรมกำร ของกรมยุทธกำรทหำรบก ฝำกกำรบังคับบัญชำ กับศูนย์สงครำมพิเศษ ในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์ทั้งหมด เป็นที่ตั้งปกติถำวร ต�ำบล
ทหำรส่อสำร ๒) ด�ำเนินกำรวิจัย พัฒนำ ก�ำหนดหลักนิยม และท�ำต�ำรำในทำง เพ่อท�ำกำรฝึกก�ำลังพลของหน่วยทหำรและก่งทหำรท่เข้ำท�ำกำรป้องกัน
ื
ื
ี
ึ
ี
ี
วิทยำกำรท่เก่ยวข้อง ทะเลชุบศร อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี และได้ย้ำยเข้ำที่ตั้งแห่ง
• กองพันส่งทำงอำกำศท่ ๑ ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับศูนย์กำร และปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ เม่อพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ใหม่เป็นอำคำรปัจจุบันตั้งแต่ ม.ค.๒๕๖๒ เป็นต้นมำ
ี
ื
ี
ทหำรรำบ ๓) ปกครองบังคับบัญชำ หน่วยทหำรท่กระทรวงกลำโหมก�ำหนด ประเทศไทย ได้ประกำศต่อสู้กับก�ำลังของฝ่ำยรัฐบำลไทยด้วยอำวุธ
พ.ศ. ๒๕๐๙
๒๖ สิงหำคม ๒๕๐๙ รัฐบำลสำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้)
ึ
ิ
ได้ขอรับควำมช่วยเหลือทำงทหำรจำกรัฐบำลไทยเพ่มเติม ซ่งรัฐบำล
ไทยในขณะน้น พิจำรณำเห็นว่ำ ประเทศไทยจ�ำเป็นต้องส่งทหำรร่วม
ั
กับฝ่ำยโลกเสรี เพ่อขัดขวำงกำรคุกคำมของเวียดนำมเหนือต่อ
ื
ื
สำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) เพ่อพิทักษ์เสรีภำพ และควำม
ั
ม่นคงแห่งภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซ่งจะมีผลโดยตรงต่อ
ึ
ประเทศไทย จึงเร่มส่งก�ำลังทำงเรือของกองทัพเรือ ไปช่วยในกำร
ิ
ื
ล�ำเลียง และเฝ้ำตรวจตำมชำยฝั่ง เพ่อป้องกันกำรแทรกซึมทำงทะเลให้
ั
แก่สำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) ต้งแต่ ๗ ธันวำคม ๒๕๐๙
ก�ำลังทำงเรือน้มีช่อว่ำ “หน่วยเรือซีฮอร์ส” (SEA HORSE)
ี
ื
50 51