The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by swcom, 2022-01-26 23:01:36

ประวัติศาสตร์กาลานุกรม

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

โครงการบางระจัน




พ.ศ.๒๕๐๐ – ๒๕๒๔




สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ


กองทัพบกได้จัดต้งหน่วยรบพิเศษข้นเป็นคร้งแรก ในนำม จำกกำรฝึกบำงระจันที่ได้ผลดีมำตลอด จึงท�ำให้กองทัพภำคมี



กองพันทหำรพลร่ม เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ เพื่อใช้หน่วยรบพิเศษเข้ำปฏิบัติ ควำมต้องกำรก�ำลังพลในลักษณะของกองร้อยฝึกบำงระจัน กองทัพ
กำรโดยตรง ท้งในสถำนกำรณ์ภำยในประเทศ และนอกประเทศ บกจึงจัดก�ำลัง จำกศูนย์สงครำมพิเศษ ให้ประจ�ำกองทัพภำคที่ ๑, ๒,

ใน พ.ศ.๒๕๐๐ กองพันทหำรพลร่ม จึงเริ่มกำรปฏิบัติกำรฝึกของหน่วย ๔ กองทัพภำคละ ๑ กองร้อยรบพิเศษ เรียกว่ำ ส่วนควบคุมในกำร
เรียกว่ำ“กำรฝึกบำงระจัน” เพื่อเป็นเกียรติแก่ “ชำวบ้ำนบำงระจัน” ปฏิบัติกำรศูนย์สงครำมพิเศษ จนถึง พ.ศ.๒๕๒๔ จึงยุบเลิกเพรำะกำร
โดยเริ่มฝึกตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นประจ�ำทุกปี กำรด�ำเนินกำรฝึกใน ปฏิบัติกำรของผู้ก่อกำรร้ำยฯ จบสิ้นลง
ลักษณะปฏิบัติกำรจริง ในพื้นที่ตำมแนวชำยแดน หรือพื้นที่ภำยใน กำรฝึกบำงระจัน จึงเป็นกำรฝึกที่มีประโยชน์อย่ำงยิ่งแก่หน่วย
ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลม ตำมแนวเส้นทำงหลักของกำรรุกของฝ่ำยตรง รบพิเศษ สำมำรถจัดตั้งประชำชน กำรปฏิบัติงำนข่ำยงำนลับ ก�ำลังพล
ข้ำม ที่จะมุ่งเข้ำสู่พื้นที่ยุทธศำสตร์ของประเทศ รวมทั้งภูมิประเทศที่ ท่เข้ำปฏิบัติงำนในพ้นท่ได้รับควำมรู้และมีประสบกำรณ์ในกำรปฏิบัต ิ



ทุรกันดำรและอยู่ห่ำงไกล ซึ่งทำงรำชกำรหรือหน่วยทหำรอื่นเข้ำไป งำนสงครำมนอกแบบ ได้ฝึกปฏิบัติตำมหน้ำที่ของแต่ละคนจนช�ำนำญ
ไม่ถึง กองพันทหำรพลร่มจะเข้ำไปท�ำกำรฝึกโดยกำรกระโดดร่มลง รวมท้งควำมรู้ในหน้ำท่อ่น จนสำมำรถท�ำหน้ำท่ทดแทนกันได้ทุก




ซึ่งจุดมุ่งหมำยของกำรฝึก เพื่อรวบรวมข้อมูลของพื้นที่ปฏิบัติกำรและ หน้ำที่ นอกจำกนั้นยังเป็นกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์ที่ดีระหว่ำงประชำชน
ประชำชน ส�ำหรับเตรียมท�ำสงครำมนอกแบบในอนำคต หรือยำม และเจ้ำหน้ำที่รัฐบำล
สงครำม
การปฏิบัติ
กำรฝึกบำงระจันของกองพันทหำรพลร่ม ในระยะแรก
เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐ ถึง พ.ศ.๒๕๐๕ มี พันโทเทียนชัย สิริสัมพันธ์
เป็นผู้บังคับกองพัน ได้แบ่งพื้นที่กำรฝึกออกเป็น ๔ ส่วน และมอบให้
แต่ละกองร้อยทหำรพลร่ม ๔ กองร้อย รับผิดชอบ ต่อมำ พ.ศ.๒๕๐๖
กองพันทหำรพลร่ม แปรสภำพเป็น กองรบพิเศษ (พลร่ม) และเป็น
กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ ใน พ.ศ.๒๕๑๒ กำรฝึกบำงระจันก็ยังคง
ด�ำเนินกำรฝึกทุกปีอย่ำงต่อเนื่อง เนื่องจำกห้วงเวลำนี้ มีภัยคุกคำมของ
ผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ที่รุนแรงขึ้น กำรฝึกจึงเป็นกำรสนับสนุนกำร
ป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ ตำมแผนของกองอ�ำนวย
กำรรักษำควำมมั่นคงภำยใน


จนกระท่ง พ.ศ.๒๕๑๒ มีกำรก่อต้ง กองรบพิเศษ (พลร่ม)


ท่ ๒ และ ๓ ข้น กำรฝึกบำงระจันท่กองรบพิเศษ (พลร่ม) ท่ ๑ รับผิด




ชอบกำรฝึก อยู่เพียงหน่วยเดียว จึงแบ่งกำรฝึก ออกเป็น ๓ พ้นท่ คือ

กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ รับผิดชอบภำคเหนือ ภำคกลำง และภำค
ตะวันออก, กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒ รับผิดชอบภำคตะวันออก
เฉียงเหนือ และกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๓ รับผิดชอบภำคใต้ กำรปฏิบัติ
ในระยะหลังนี้ เป็นกำรปฏิบัติสนับสนุนกองทัพภำคต่ำง ๆ ในกำร
ปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์












100 101

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติยุทธการป้องกันประเทศ ยุทธการบ้านตาตุม





พ.ศ.๒๕๒๗ – พ.ศ.๒๕๒๘

ยุทธการช่องพระพะลัย ผลการปฏิบัติ




เน่องจำกฝ่ำยเรำมีก�ำลังน้อยกว่ำ จึงไม่อำจต้ำนทำนกำรเขำต

พ.ศ.๒๕๒๗ อย่ำงรุนแรงของฝ่ำยตรงข้ำม จึงต้องถอนตัวจำกท่ม่น เม่อวันท ี ี ่



๑๑ มีนำคม ๒๕๒๘ และเข้ำสู่พื้นที่ปลอดภัย ฝ่ำยกองก�ำลังเวียดนำม
การปฏิบัติ
และกัมพูชำ เฮง สัมริน จึงยึดที่หมำยดังกล่ำวได้
ห้วงวันที่ ๒๕ มีนำคม – ๖ เมษำยน ๒๕๒๗ กำรสูญเสียของฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๒๕ คน บำดเจ็บ ๑๐๓ นำย
เมื่อ ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๗ กองก�ำลังสุรนำรี เปิดยุทธกำรตำม (ร้อย.รบพิเศษ เสียชีวิต ๔ นำย, บำดเจ็บ ๕ นำย) , กรช.กลุ่ม
“แผนยุทธกำรปรำบศึก” โดยจัดก�ำลังจำกกองร้อย ร.จำก พัน ร.๒๓๒ เจ้ำสีหนุ เสียชีวิตประมำณ ๒๒๐ คน และ ฝ่ำย กกล.เวียดนำม และ
และกองก�ำลังรบร่วม ร.๖ มี ๒ หมวดปืนเล็กเป็นกองหนุนเคลื่อนที่เร็ว, กกล.กัมพูชำ เฮงสัมริน เสียชีวิตไม่น้อยกว่ำ ๑,๐๐๐ นำย และสูญเสีย
ร้อย ป.๖๐๑๑, ร้อย ป.๗๒๑๓, ร้อย ป.๗๑๓๑ เคลื่อนย้ำยเข้ำพื้นที่ อำวุธยุทโธปกรณ์เป็นจ�ำนวนมำก
รวมพลชั้นต้น บริเวณ บ้ำนส�ำโรงเกียรติ และแปรสภำพ กองก�ำลัง สถานการณ์
สุรนำรี เป็น ทก.พล.ร.๖, กกล.รบร่วม ร.๒๓ เป็น ทก.ร.๒๓ ขอรับ กองทัพบกได้ส่งก�ำลังเข้ำปฏิบัติกำรยับย้งและขับไล่กองก�ำลัง

กำรสนับสนุน ๒ กองพันผสม จำก ทภ.๒ และกองหนุน ๒ พัน ร. โดย ทหำรเวียดนำม และกัมพูชำ เฮง สัมริน ซึ่งรุกล�้ำอธิปไตย เข้ำมำในเขต
กองทัพอำกำศ ให้กำรสนับสนุนก�ำลังทำงอำกำศ ไทยบริเวณบ้ำนตำตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์

ต่อมำ กองทัพบกส่งกำรให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
จัดก�ำลังสนับสนุนกำรปฏิบัติของ กกล.สุรนำรี โดยกรมรบพิเศษที่ ๑ การปฏิบัติ
จัดก�ำลังชุดปฏิบัติกำรพิเศษ (นปพ.๘๓๘) เข้ำปฏิบัติกำรพิเศษ ท�ำกำร
สถานการณ์ ลำดตระเวน พิสูจน์ทรำบภำยหลังจำกกำรโจมตี และท�ำกำรซุ่มจู่โจม, ห้วงวันที่ ๔ – ๑๑ มีนำคม ๒๕๒๘


จำกท่ก�ำลังทหำรเวียดนำมบุกเข้ำกัมพูชำ ต้งแต่ ตีโฉบฉวย หน่วยรบพิเศษ โดยกรมรบพิเศษท่ ๑ จัดก�ำลัง ๑ กองร้อย


๒๕ ธันวำคม ๒๕๒๑ เพื่อล้มล้ำงระบอบเขมรแดง ก�ำลังทหำรกัมพูชำ เมื่อ ๒๙ มีนำคม ๒๕๒๗ พล.ร.๖ ใช้ก�ำลังในพื้นที่ และกำร รบพิเศษ (น.๑๗, ส.๘๖) สมทบด้วยชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ มีภำรกิจ


ส่วนใหญ่ได้อพยพมำอยู่ทำงด้ำนตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ สนับสนุน ด้วยก�ำลังทำงอำกำศ ด�ำเนินกลยุทธตอบโต้ผลักดันกอง สนับสนุนกองก�ำลังสุรนำรี ห้วงต้งแต่ ๑ พฤศจิกำยน ๒๕๒๗ ถง

ของประเทศท่ติดกับชำยแดนไทย เม่อก�ำลังเวียดนำม และ ก�ำลังของฝ่ำยเวียดนำมใน พ้นท่ช่องพระพะลัย และเนิน ๖๔๒ ๓๑ พฤษภำคม ๒๕๒๘ ตำมแผนไทยเสรีของหน่วยบัญชำกำรสงครำม









กมพชำ เฮง สมรนบกเขำมำ ก�ำลังกัมพูชำก็หลบหลีกเข้ำสู่ดินแดนไทย อ.ขุนหำญ จ. ศรีสะเกษ กำรรบด�ำเนินต่อเน่อง เร่อยมำจนถึงวันท ่ ี พเศษ ปฏิบัติงำนสงครำมนอกแบบในพ้นท่ระวังป้องกันกัมพูชำตอนบน





ซ่งเวียดนำมเห็นว่ำ ไทยยินยอมให้ชำวกัมพูชำท่เป็นฝ่ำยต่อต้ำน ใช้พนท ่ ี ๖ เมษำยน ๒๕๒๗ ตำมแผนป้องกันประเทศของกองทัพบก





หลบหนีและคุ้มกันจำกกำรโจมตี จนเดือนมีนำคม ๒๕๒๗ เกดกำร เมื่อวันที่ ๔ มีนำคม ๒๕๒๘ – ๑๑ มีนำคม ๒๕๒๘ กองก�ำลัง
สู้รบระหว่ำงฝ่ำยเวียดนำมและกัมพูชำเฮง สัมริน กับกอง ผลการปฏิบัติ ทหำรฝ่ำยเวียดนำมและกัมพูชำ เฮง สัมริน มีก�ำลังทหำร ประมำณ
ก�ำลังรักชำติเขมร ๓ ฝ่ำย กลุ่มพอลพต บริเวณพื้นที่เขำพระวิหำร ๔ กองพล ได้แก่ พล.ร.๒, พล.ร.๙, พล.ร.๒๘๖ และ พล.ร.๓๐๒ ได้





ใกล้ชำยแดนไทย-กัมพูชำ ด้ำน จ.ศรีสะเกษ ฝ่ำยเวียดนำมได้ใช้ก�ำลัง ฝ่ำยเรำ สำมำรถผลักดันกองก�ำลังของเวียดนำม และกัมพูชำ เขำตีต่อท่ต้งกลุ่มก�ำลังกองก�ำลังผู้รักชำติ กลุ่มเจ้ำสีหนุ และท่ต้ง




ขนำดใหญ่ เพิ่มเติมก�ำลังสนับสนุนด้วยอำวุธหนัก ปืนใหญ่ และรถถัง เฮง สมรน ท่รุกล้ำอธิปไตยให้พ้นชำยแดนไทยได้ส�ำเร็จ ในวันท ี ่ บก.ร้อย.รบพิเศษ (พิกัด ๔๘P UA ๗๘๐๙๐๘) ขณะปฏิบัติภำรกิจ
เข้ำโจมตี เพื่อกวำดล้ำงกองก�ำลังรักชำติเขมร ๓ ฝ่ำย บริเวณทำงด้ำน ๖ เมษำยน ๒๕๒๗ ยอดกำรสูญเสียจำกกำรสู้รบตลอดภำรกิจ ฝ่ำยเรำ ป้องกันกำรรุกล�้ำอธิปไตยของชำติ ตำมพื้นที่ชำยแดนไทย – กัมพูชำ




ทิศตะวันตกของช่องพระพะลัย อ.ขุนหำญ จ.ศรสะเกษ กำรรบ เสยชวต ๑๒ นำย บำดเจ็บ ๑๗ นำย บำดเจ็บสำหัส ๒ นำย กำรสู้รบเป็นไปอย่ำงรุนแรงทั้งฝ่ำยเรำและฝ่ำยตรงข้ำม




ทงสองฝำยทวีควำมรุนแรงมำกข้น ประชำชนกัมพูชำของเขมร ๓ ชุดปฏิบัติกำรพิเศษ (นปพ.๘๓๘) บำดเจ็บ ๒ นำย
ฝ่ำย ซึ่งอยู่บริเวณชำยแดนไทย – กัมพูชำ ประมำณ ๑๕,๐๐๐ คน จึง ฝ่ำยทหำรเวียดนำมและกัมพูชำเฮง สัมริน เสียชีวิต ๕๕ ศพ
อพยพออกจำกพื้นที่กำรสู้รบเข้ำสู่ประเทศไทย หน่วยเฉพำะกิจ ทหำร (พบศพ) และบำดเจ็บจ�ำนวนมำก จับทหำรเวียดนำม ได้ ๑๘ คน
พรำนที่ ๒๓ จึงก�ำหนดบริเวณ พิกัด วีเอ ๔๑๙๔ เป็นต�ำบลรวบรวม ยึดอำวุธยุทโธปกรณ์และของใช้ประจ�ำกำย รวมท้งท�ำลำยปืนใหญ่

ประชำชน ก�ำลังของฝ่ำยเวียดนำม และกัมพูชำ เฮง สัมริน ได้รุกไล่ ท่ต้ง คลัง สป. และท่รวมพลของฝ่ำยข้ำศึกได้อีกจ�ำนวนหน่ง ึ



ติดตำมก�ำลังของเขมร ๓ ฝ่ำย เข้ำมำในเขตแดนไทย จนถึง พิกัด วีเอ
๔๓๘๗ และได้ส่งก�ำลังทหำรรำบประมำณ ๑ กรม สนับสนุนด้วย
รถถัง อำวุธเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ เข้ำวำงก�ำลังในเขตแดน
ไทย บริเวณช่องพระพะลัย พิกัด วีเอ ๔๕๕๘๘๘ และเนิน ๖๔๒
พิกัด วีเอ ๔๗๘๘๘๘
102 103

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติยุทธการป้องกันประเทศ ยุทธการบ้านตาตุม





พ.ศ.๒๕๒๗ – พ.ศ.๒๕๒๘

ยุทธการช่องพระพะลัย ผลการปฏิบัติ




เน่องจำกฝ่ำยเรำมีก�ำลังน้อยกว่ำ จึงไม่อำจต้ำนทำนกำรเขำต

พ.ศ.๒๕๒๗ อย่ำงรุนแรงของฝ่ำยตรงข้ำม จึงต้องถอนตัวจำกท่ม่น เม่อวันท ี ี ่



๑๑ มีนำคม ๒๕๒๘ และเข้ำสู่พื้นที่ปลอดภัย ฝ่ำยกองก�ำลังเวียดนำม
การปฏิบัติ
และกัมพูชำ เฮง สัมริน จึงยึดที่หมำยดังกล่ำวได้
ห้วงวันที่ ๒๕ มีนำคม – ๖ เมษำยน ๒๕๒๗ กำรสูญเสียของฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๒๕ คน บำดเจ็บ ๑๐๓ นำย
เมื่อ ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๗ กองก�ำลังสุรนำรี เปิดยุทธกำรตำม (ร้อย.รบพิเศษ เสียชีวิต ๔ นำย, บำดเจ็บ ๕ นำย) , กรช.กลุ่ม
“แผนยุทธกำรปรำบศึก” โดยจัดก�ำลังจำกกองร้อย ร.จำก พัน ร.๒๓๒ เจ้ำสีหนุ เสียชีวิตประมำณ ๒๒๐ คน และ ฝ่ำย กกล.เวียดนำม และ
และกองก�ำลังรบร่วม ร.๖ มี ๒ หมวดปืนเล็กเป็นกองหนุนเคลื่อนที่เร็ว, กกล.กัมพูชำ เฮงสัมริน เสียชีวิตไม่น้อยกว่ำ ๑,๐๐๐ นำย และสูญเสีย
ร้อย ป.๖๐๑๑, ร้อย ป.๗๒๑๓, ร้อย ป.๗๑๓๑ เคลื่อนย้ำยเข้ำพื้นที่ อำวุธยุทโธปกรณ์เป็นจ�ำนวนมำก
รวมพลชั้นต้น บริเวณ บ้ำนส�ำโรงเกียรติ และแปรสภำพ กองก�ำลัง สถานการณ์
สุรนำรี เป็น ทก.พล.ร.๖, กกล.รบร่วม ร.๒๓ เป็น ทก.ร.๒๓ ขอรับ กองทัพบกได้ส่งก�ำลังเข้ำปฏิบัติกำรยับย้งและขับไล่กองก�ำลัง

กำรสนับสนุน ๒ กองพันผสม จำก ทภ.๒ และกองหนุน ๒ พัน ร. โดย ทหำรเวียดนำม และกัมพูชำ เฮง สัมริน ซึ่งรุกล�้ำอธิปไตย เข้ำมำในเขต
กองทัพอำกำศ ให้กำรสนับสนุนก�ำลังทำงอำกำศ ไทยบริเวณบ้ำนตำตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์

ต่อมำ กองทัพบกส่งกำรให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
จัดก�ำลังสนับสนุนกำรปฏิบัติของ กกล.สุรนำรี โดยกรมรบพิเศษที่ ๑ การปฏิบัติ
จัดก�ำลังชุดปฏิบัติกำรพิเศษ (นปพ.๘๓๘) เข้ำปฏิบัติกำรพิเศษ ท�ำกำร
สถานการณ์ ลำดตระเวน พิสูจน์ทรำบภำยหลังจำกกำรโจมตี และท�ำกำรซุ่มจู่โจม, ห้วงวันที่ ๔ – ๑๑ มีนำคม ๒๕๒๘


จำกท่ก�ำลังทหำรเวียดนำมบุกเข้ำกัมพูชำ ต้งแต่ ตีโฉบฉวย หน่วยรบพิเศษ โดยกรมรบพิเศษท่ ๑ จัดก�ำลัง ๑ กองร้อย


๒๕ ธันวำคม ๒๕๒๑ เพื่อล้มล้ำงระบอบเขมรแดง ก�ำลังทหำรกัมพูชำ เมื่อ ๒๙ มีนำคม ๒๕๒๗ พล.ร.๖ ใช้ก�ำลังในพื้นที่ และกำร รบพิเศษ (น.๑๗, ส.๘๖) สมทบด้วยชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ มีภำรกิจ


ส่วนใหญ่ได้อพยพมำอยู่ทำงด้ำนตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ สนับสนุน ด้วยก�ำลังทำงอำกำศ ด�ำเนินกลยุทธตอบโต้ผลักดันกอง สนับสนุนกองก�ำลังสุรนำรี ห้วงต้งแต่ ๑ พฤศจิกำยน ๒๕๒๗ ถง

ของประเทศท่ติดกับชำยแดนไทย เม่อก�ำลังเวียดนำม และ ก�ำลังของฝ่ำยเวียดนำมใน พ้นท่ช่องพระพะลัย และเนิน ๖๔๒ ๓๑ พฤษภำคม ๒๕๒๘ ตำมแผนไทยเสรีของหน่วยบัญชำกำรสงครำม









กมพชำ เฮง สมรนบกเขำมำ ก�ำลังกัมพูชำก็หลบหลีกเข้ำสู่ดินแดนไทย อ.ขุนหำญ จ. ศรีสะเกษ กำรรบด�ำเนินต่อเน่อง เร่อยมำจนถึงวันท ่ ี พเศษ ปฏิบัติงำนสงครำมนอกแบบในพ้นท่ระวังป้องกันกัมพูชำตอนบน





ซ่งเวียดนำมเห็นว่ำ ไทยยินยอมให้ชำวกัมพูชำท่เป็นฝ่ำยต่อต้ำน ใช้พนท ่ ี ๖ เมษำยน ๒๕๒๗ ตำมแผนป้องกันประเทศของกองทัพบก





หลบหนีและคุ้มกันจำกกำรโจมตี จนเดือนมีนำคม ๒๕๒๗ เกดกำร เมื่อวันที่ ๔ มีนำคม ๒๕๒๘ – ๑๑ มีนำคม ๒๕๒๘ กองก�ำลัง
สู้รบระหว่ำงฝ่ำยเวียดนำมและกัมพูชำเฮง สัมริน กับกอง ผลการปฏิบัติ ทหำรฝ่ำยเวียดนำมและกัมพูชำ เฮง สัมริน มีก�ำลังทหำร ประมำณ
ก�ำลังรักชำติเขมร ๓ ฝ่ำย กลุ่มพอลพต บริเวณพื้นที่เขำพระวิหำร ๔ กองพล ได้แก่ พล.ร.๒, พล.ร.๙, พล.ร.๒๘๖ และ พล.ร.๓๐๒ ได้





ใกล้ชำยแดนไทย-กัมพูชำ ด้ำน จ.ศรีสะเกษ ฝ่ำยเวียดนำมได้ใช้ก�ำลัง ฝ่ำยเรำ สำมำรถผลักดันกองก�ำลังของเวียดนำม และกัมพูชำ เขำตีต่อท่ต้งกลุ่มก�ำลังกองก�ำลังผู้รักชำติ กลุ่มเจ้ำสีหนุ และท่ต้ง




ขนำดใหญ่ เพิ่มเติมก�ำลังสนับสนุนด้วยอำวุธหนัก ปืนใหญ่ และรถถัง เฮง สมรน ท่รุกล้ำอธิปไตยให้พ้นชำยแดนไทยได้ส�ำเร็จ ในวันท ี ่ บก.ร้อย.รบพิเศษ (พิกัด ๔๘P UA ๗๘๐๙๐๘) ขณะปฏิบัติภำรกิจ
เข้ำโจมตี เพื่อกวำดล้ำงกองก�ำลังรักชำติเขมร ๓ ฝ่ำย บริเวณทำงด้ำน ๖ เมษำยน ๒๕๒๗ ยอดกำรสูญเสียจำกกำรสู้รบตลอดภำรกิจ ฝ่ำยเรำ ป้องกันกำรรุกล�้ำอธิปไตยของชำติ ตำมพื้นที่ชำยแดนไทย – กัมพูชำ



ทิศตะวันตกของช่องพระพะลัย อ.ขุนหำญ จ.ศรสะเกษ กำรรบ เสยชวต ๑๒ นำย บำดเจ็บ ๑๗ นำย บำดเจ็บสำหัส ๒ นำย กำรสู้รบเป็นไปอย่ำงรุนแรงทั้งฝ่ำยเรำและฝ่ำยตรงข้ำม





ทงสองฝำยทวีควำมรุนแรงมำกข้น ประชำชนกัมพูชำของเขมร ๓ ชุดปฏิบัติกำรพิเศษ (นปพ.๘๓๘) บำดเจ็บ ๒ นำย
ฝ่ำย ซึ่งอยู่บริเวณชำยแดนไทย – กัมพูชำ ประมำณ ๑๕,๐๐๐ คน จึง ฝ่ำยทหำรเวียดนำมและกัมพูชำเฮง สัมริน เสียชีวิต ๕๕ ศพ
อพยพออกจำกพื้นที่กำรสู้รบเข้ำสู่ประเทศไทย หน่วยเฉพำะกิจ ทหำร (พบศพ) และบำดเจ็บจ�ำนวนมำก จับทหำรเวียดนำม ได้ ๑๘ คน
พรำนที่ ๒๓ จึงก�ำหนดบริเวณ พิกัด วีเอ ๔๑๙๔ เป็นต�ำบลรวบรวม ยึดอำวุธยุทโธปกรณ์และของใช้ประจ�ำกำย รวมท้งท�ำลำยปืนใหญ่

ประชำชน ก�ำลังของฝ่ำยเวียดนำม และกัมพูชำ เฮง สัมริน ได้รุกไล่ ท่ต้ง คลัง สป. และท่รวมพลของฝ่ำยข้ำศึกได้อีกจ�ำนวนหน่ง ึ



ติดตำมก�ำลังของเขมร ๓ ฝ่ำย เข้ำมำในเขตแดนไทย จนถึง พิกัด วีเอ
๔๓๘๗ และได้ส่งก�ำลังทหำรรำบประมำณ ๑ กรม สนับสนุนด้วย
รถถัง อำวุธเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ เข้ำวำงก�ำลังในเขตแดน
ไทย บริเวณช่องพระพะลัย พิกัด วีเอ ๔๕๕๘๘๘ และเนิน ๖๔๒
พิกัด วีเอ ๔๗๘๘๘๘
102 103

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย


ยุทธการชาราก ยุทธการช่องโอบก




พ.ศ. ๒๕๔๖ – พ.ศ.๒๕๔๙ พ.ศ.๒๕๒๙




สถานการณ์ ๘ พฤษภำคม ๒๕๒๘ กจต.จึงปรับแผนและก�ำลังใหม่ โดยสั่ง
กำรให้กองหนุน ได้แก่ พัน.ร.๑ กรม ร.๑ นย. เคลื่อนย้ำยก�ำลังจำกที่
เมื่อ ๒๐ เมษำยน ๒๕๒๘ กองก�ำลังทหำรฝ่ำยเวียดนำม สังกัด
พล.ร.๓๓๙ จ�ำนวน ๒ กรม ร. ปฏิบัติกำรโจมตีกวำดล้ำง ก�ำลังทหำร ตั้งค่ำยแสมสำร เข้ำพื้นที่รวมพลบริเวณวัดคีรีวิหำร ใน ๙ พฤษภำคม
๒๕๒๘ และสนธิก�ำลังเป็น พัน.ร.๑ กจต. โดยมี น.ท. เทอดศักดิ์ พรหม
กัมพูชำประชำธิปไตย (เขมรแดง) ซึ่งมีฐำนที่มั่น ตำมแนวชำยแดน ศิริ เป็นผู้บังคับกองพันฯ ได้รับภำรกิจ ให้เข้ำตีที่หมำย ๓ บริเวณ
บริเวณเทือกเขำบรรทัด ตรงข้ำมบ้ำนช�ำรำก อ.เมือง จ.ตรำด ก�ำลัง พิกัด ทียู๕๐๔๕๑๓ เพื่อยึดพื้นที่กลับคืน เริ่มปฏิบัติกำรตั้งแต่ ๑๐
ทหำรกัมพูชำฯ ไม่สำมำรถต้ำนทำนกำรเข้ำตีของก�ำลังเวียดนำม ซึ่ง พฤษภำคม ถึง ๑๘ พฤษภำคม ๒๕๒๘ จึงสำมำรถเข้ำยึดที่หมำย ๓ ได้
มีก�ำลังรบและอำวุธสนับสนุนที่เหนือกว่ำ จึงแตกถอยร่นเข้ำมำในเขต ส�ำเร็จ โดยใช้กลยุทธฺกำรเข้ำตีสองทิศทำง และหลักกำรลวง
ประเทศไทย ก�ำลังเวียดนำมรุกไล่ติดตำมเข้ำมำ และยึดพื้นที่สันเขำ
ชำยแดนรุกล�้ำเข้ำเขตประเทศไทย สร้ำงที่มั่นแข็งแรง คูสนำมเพลำะ
พลเรือโท ประเสริฐ น้อยค�ำศิริ ผู้บัญชำกำรป้องกันชำยแดนจันทบุรี ผลการปฏิบัติ
และตรำด (ผบ.กจต.) จึงวำงแผนปฏิบัติกำรตีโต้ตอบ เพื่อผลักดันก�ำลัง ฝ่ำยเรำสำมำรถผลักดัน ขับไล่ทหำรเวียดนำมประมำณ ๓
เวียดนำมที่รุกล�้ำเข้ำมำให้ออกนอกเขตแดนไทย กองพัน ที่รุกเข้ำมำยึดพื้นที่ให้ถอยกลับออกไปจำกเขตประเทศไทย สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ
เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภำคม ๒๕๒๘ เวลำ ๑๑๐๕ และได้วำงก�ำลังยึด
กองก�ำลังทหำรเวียดนำม และกองก�ำลังทหำรกัมพูชำ เฮง สัม
กรมรบพิเศษท่ ๑ ด�ำเนินปฏิบัติภำรกิจในกำรรำยงำนท

การปฏิบัติ รักษำพื้นที่บริเวณนั้น เพื่อป้องกันมิให้ทหำรเวียดนำมรุกล�้ำเขตแดน ริน ได้เพิ่มเติมก�ำลังและอำวุธ ตำมช่องทำงส�ำคัญตลอดแนวชำยแดน ต้ง กำรวำงก�ำลัง คลัง สป. และกำรเคล่อนย้ำยก�ำลังของฝ่ำย ่ ี


เข้ำมำอีก


ห้วงวันที่ ๒๘ เมษำยน - ๑๘ พฤษภำคม ๒๕๒๘ ไทย – กัมพูชำ โดยส่งกองพันที่ ๗ กรม ๗ กองพล ๒๘๖ มำตั้งฐำน ตรงข้ำม รวมท้งปรับกำรยิงปืนใหญ่ให้กับฝ่ำยเรำ ซ่งได้รับกำร
กำรสูญเสียของฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๘ นำย, บำดเจ็บ ๖๘ นำย และ ปฏิบัติกำรในเขตไทย บริเวณพื้นที่ช่องโอบก บ้ำนกรวด อ.โนนดินแดง สนับสนุนจำกกองบังคับกำรควบคุมเหนือ และกองก�ำลังผู้รักชำต ิ
๒๘ เมษำยน ๒๕๒๘ จำกกำรประชุมวำงแผนตีโต้ตอบ พัน.ร.๓


กจต. เป็นหน่วยปฏิบัติหลัก มีกองทัพอำกำศสนับสนุนก�ำลังทำงอำกำศ ป่วยจำกมำลำเรีย ๕๘๔ นำย กำรสูญเสียฝ่ำยทหำรเวียดนำม เสียชีวิต จ.บุรีรัมย์ พิกัด ทีเอ ๙๖๑๘๒๐ ห่ำงจำกท่ต้งฝ่ำยเรำ ๔๐๐ เมตร กลุ่มเจ้ำสีหนุเป็นอย่ำงด ี
๑๕ ศพ (พบศพ) และ บำดเจ็บ จ�ำนวนมำก ท�ำลำยอำวุธ, เครื่องยินลูก
โดยทุกหน่วยเคลื่อนย้ำยเข้ำที่รวมพลและที่ตั้งยิง ใน ๓ พฤษภำคม ระเบิดขนำด ๑๒๐ มม. ๑ กระบอก และคลัง สป.๕ ๑ แห่ง ยึดอำวุธ มีก�ำลังทหำรประมำณ ๑ กองร้อย โดยบริเวณรอบฐำน ได้วำงทุ่นและ จำกผลกำรปฏิบัติของฝ่ำยเรำ ท�ำให้กองก�ำลังทหำร


๒๕๒๘ เริ่มปฏิบัติกำรตำมแผนตีโต้ตอบเมื่อ ๔ พฤษภำคม ๒๕๒๘ ปืนและกระสุน รวมทั้งลูกระเบิดขว้ำง และทุ่นระเบิดได้จ�ำนวนมำก กับระเบิดไว้อย่ำงแน่นหนำ ภำยในฐำนมีกำรดัดแปลงท่ม่นแข็งแรง เวียดนำม และ กัมพูชำ เฮง สัมริน ต้องสลำยตัว ถอนก�ำลังออก


และสำมำรถเข้ำยึดที่หมำย ๑ และเนิน ๓๐๐ พิกัดทียู ๕๐๔๕ ได้ส�ำเร็จ และใช้ส�ำหรับตรวจกำรณ์กำรเคล่อนไหวของฝ่ำยเรำ และท่พิกัด จำกพื้นที่ และสูญเสียอำวุธยุทโธปกรณ์จ�ำนวนมำก ก�ำลังทหำรฝ่ำย




ใน ๕ พฤษภำคม ๒๕๒๘ จำกนั้น ผบ.พัน.ร.๓ ฯ สั่งกำรให้เข้ำยึดที่ ทีเค ๙๗๘๘๑๗ มีก�ำลังทหำรประมำณ ๒ กองร้อย ต้งฐำนท่ม่น เวยดนำม และ กัมพูชำ เฮง สัมริน เสียชีวิต จ�ำนวน ๒๐ นำย ฝ่ำย

หมำย ๒ และ ๓ ต่อไป แต่กำรเคลื่อนที่เข้ำหำที่หมำย ๒ เป็นไปด้วย ล้ำเข้ำมำในเขตไทย ๑๐๐ เมตร มีคันดินและคูสนำมล้อมรอบ เรำ เรำ เสียชีวิต ๕๗ นำย, ร้อย.รบพิเศษ บำดเจ็บ ๑ นำย
ควำมยำกล�ำบำก เนื่องจำกถูกต้ำนทำนด้วยอำวุธของฝ่ำยเวียดนำม ฐำนมีกำรดัดแปลงที่มั่นแข็งแรง พร้อมด้วยอำวุธจ�ำนวนหนึ่ง
อย่ำงหนัก ตลอดเส้นทำงกำรเคลื่อนที่ เต็มไปด้วยกับระเบิดหนำแน่น
แม้จะใช้ ป.สนำม และ บ.ทอ.ยิงท�ำลำยข้ำศึก บริเวณที่หมำย แต่ก็ไม่ การปฏิบัติ
สำมำรถท�ำลำยข้ำศึกซึ่งวำงตัวในที่มั่นดัดแปลงแข็งแรงได้ ห้วงวันที่ ๒๐ กันยำยน ๒๕๒๙– ๑๕ ตุลำคม ๒๕๒๙


กองก�ำลังสุรนำรี (ฉก.ร.๘) ได้เปิดแผนยุทธกำร “พิฆำตไพรี”เพอ
ผลักดันขับไล่กองก�ำลังทหำรเวียดนำม และกัมพูชำ เฮง สัมริน ที่รุกล�้ำ
อธิปไตยเข้ำมำยึดพ้นท่บริเวณช่องโอบก จ.บุรีรัมย์ ให้พ้นออกนอก


เขตไทย


กองทัพบกได้ส่งกำรให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ จด
ก�ำลังสนับสนุนกำรปฏิบัติของกองก�ำลังสุรนำรี โดยกรมรบพิเศษท่ ๑

จัดก�ำลัง จ�ำนวน ๒ ชุดปฏิบัติรบพิเศษ เข้ำปฏิบัติกำรหลังแนวข้ำศึก


ในพ้นท่ระวังป้องกันกัมพูชำตอนบน ตำมแผนป้องกันประเทศ
ของกองทัพบก






104 105

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย


ยุทธการชาราก ยุทธการช่องโอบก




พ.ศ. ๒๕๔๖ – พ.ศ.๒๕๔๙ พ.ศ.๒๕๒๙




สถานการณ์ ๘ พฤษภำคม ๒๕๒๘ กจต.จึงปรับแผนและก�ำลังใหม่ โดยสั่ง
กำรให้กองหนุน ได้แก่ พัน.ร.๑ กรม ร.๑ นย. เคลื่อนย้ำยก�ำลังจำกที่
เมื่อ ๒๐ เมษำยน ๒๕๒๘ กองก�ำลังทหำรฝ่ำยเวียดนำม สังกัด
พล.ร.๓๓๙ จ�ำนวน ๒ กรม ร. ปฏิบัติกำรโจมตีกวำดล้ำง ก�ำลังทหำร ตั้งค่ำยแสมสำร เข้ำพื้นที่รวมพลบริเวณวัดคีรีวิหำร ใน ๙ พฤษภำคม
๒๕๒๘ และสนธิก�ำลังเป็น พัน.ร.๑ กจต. โดยมี น.ท. เทอดศักดิ์ พรหม
กัมพูชำประชำธิปไตย (เขมรแดง) ซึ่งมีฐำนที่มั่น ตำมแนวชำยแดน ศิริ เป็นผู้บังคับกองพันฯ ได้รับภำรกิจ ให้เข้ำตีที่หมำย ๓ บริเวณ
บริเวณเทือกเขำบรรทัด ตรงข้ำมบ้ำนช�ำรำก อ.เมือง จ.ตรำด ก�ำลัง พิกัด ทียู๕๐๔๕๑๓ เพื่อยึดพื้นที่กลับคืน เริ่มปฏิบัติกำรตั้งแต่ ๑๐
ทหำรกัมพูชำฯ ไม่สำมำรถต้ำนทำนกำรเข้ำตีของก�ำลังเวียดนำม ซึ่ง พฤษภำคม ถึง ๑๘ พฤษภำคม ๒๕๒๘ จึงสำมำรถเข้ำยึดที่หมำย ๓ ได้
มีก�ำลังรบและอำวุธสนับสนุนที่เหนือกว่ำ จึงแตกถอยร่นเข้ำมำในเขต ส�ำเร็จ โดยใช้กลยุทธฺกำรเข้ำตีสองทิศทำง และหลักกำรลวง
ประเทศไทย ก�ำลังเวียดนำมรุกไล่ติดตำมเข้ำมำ และยึดพื้นที่สันเขำ
ชำยแดนรุกล�้ำเข้ำเขตประเทศไทย สร้ำงที่มั่นแข็งแรง คูสนำมเพลำะ
พลเรือโท ประเสริฐ น้อยค�ำศิริ ผู้บัญชำกำรป้องกันชำยแดนจันทบุรี ผลการปฏิบัติ
และตรำด (ผบ.กจต.) จึงวำงแผนปฏิบัติกำรตีโต้ตอบ เพื่อผลักดันก�ำลัง ฝ่ำยเรำสำมำรถผลักดัน ขับไล่ทหำรเวียดนำมประมำณ ๓
เวียดนำมที่รุกล�้ำเข้ำมำให้ออกนอกเขตแดนไทย กองพัน ที่รุกเข้ำมำยึดพื้นที่ให้ถอยกลับออกไปจำกเขตประเทศไทย สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ
เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภำคม ๒๕๒๘ เวลำ ๑๑๐๕ และได้วำงก�ำลังยึด
กองก�ำลังทหำรเวียดนำม และกองก�ำลังทหำรกัมพูชำ เฮง สัม
กรมรบพิเศษท่ ๑ ด�ำเนินปฏิบัติภำรกิจในกำรรำยงำนท

การปฏิบัติ รักษำพื้นที่บริเวณนั้น เพื่อป้องกันมิให้ทหำรเวียดนำมรุกล�้ำเขตแดน ริน ได้เพิ่มเติมก�ำลังและอำวุธ ตำมช่องทำงส�ำคัญตลอดแนวชำยแดน ต้ง กำรวำงก�ำลัง คลัง สป. และกำรเคล่อนย้ำยก�ำลังของฝ่ำย ่ ี


เข้ำมำอีก


ห้วงวันที่ ๒๘ เมษำยน - ๑๘ พฤษภำคม ๒๕๒๘ ไทย – กัมพูชำ โดยส่งกองพันที่ ๗ กรม ๗ กองพล ๒๘๖ มำตั้งฐำน ตรงข้ำม รวมท้งปรับกำรยิงปืนใหญ่ให้กับฝ่ำยเรำ ซ่งได้รับกำร
กำรสูญเสียของฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๘ นำย, บำดเจ็บ ๖๘ นำย และ ปฏิบัติกำรในเขตไทย บริเวณพื้นที่ช่องโอบก บ้ำนกรวด อ.โนนดินแดง สนับสนุนจำกกองบังคับกำรควบคุมเหนือ และกองก�ำลังผู้รักชำต ิ
๒๘ เมษำยน ๒๕๒๘ จำกกำรประชุมวำงแผนตีโต้ตอบ พัน.ร.๓


กจต. เป็นหน่วยปฏิบัติหลัก มีกองทัพอำกำศสนับสนุนก�ำลังทำงอำกำศ ป่วยจำกมำลำเรีย ๕๘๔ นำย กำรสูญเสียฝ่ำยทหำรเวียดนำม เสียชีวิต จ.บุรีรัมย์ พิกัด ทีเอ ๙๖๑๘๒๐ ห่ำงจำกท่ต้งฝ่ำยเรำ ๔๐๐ เมตร กลุ่มเจ้ำสีหนุเป็นอย่ำงด ี
๑๕ ศพ (พบศพ) และ บำดเจ็บ จ�ำนวนมำก ท�ำลำยอำวุธ, เครื่องยินลูก
โดยทุกหน่วยเคลื่อนย้ำยเข้ำที่รวมพลและที่ตั้งยิง ใน ๓ พฤษภำคม ระเบิดขนำด ๑๒๐ มม. ๑ กระบอก และคลัง สป.๕ ๑ แห่ง ยึดอำวุธ มีก�ำลังทหำรประมำณ ๑ กองร้อย โดยบริเวณรอบฐำน ได้วำงทุ่นและ จำกผลกำรปฏิบัติของฝ่ำยเรำ ท�ำให้กองก�ำลังทหำร


๒๕๒๘ เริ่มปฏิบัติกำรตำมแผนตีโต้ตอบเมื่อ ๔ พฤษภำคม ๒๕๒๘ ปืนและกระสุน รวมทั้งลูกระเบิดขว้ำง และทุ่นระเบิดได้จ�ำนวนมำก กับระเบิดไว้อย่ำงแน่นหนำ ภำยในฐำนมีกำรดัดแปลงท่ม่นแข็งแรง เวียดนำม และ กัมพูชำ เฮง สัมริน ต้องสลำยตัว ถอนก�ำลังออก


และสำมำรถเข้ำยึดที่หมำย ๑ และเนิน ๓๐๐ พิกัดทียู ๕๐๔๕ ได้ส�ำเร็จ และใช้ส�ำหรับตรวจกำรณ์กำรเคล่อนไหวของฝ่ำยเรำ และท่พิกัด จำกพื้นที่ และสูญเสียอำวุธยุทโธปกรณ์จ�ำนวนมำก ก�ำลังทหำรฝ่ำย




ใน ๕ พฤษภำคม ๒๕๒๘ จำกนั้น ผบ.พัน.ร.๓ ฯ สั่งกำรให้เข้ำยึดที่ ทีเค ๙๗๘๘๑๗ มีก�ำลังทหำรประมำณ ๒ กองร้อย ต้งฐำนท่ม่น เวยดนำม และ กัมพูชำ เฮง สัมริน เสียชีวิต จ�ำนวน ๒๐ นำย ฝ่ำย

หมำย ๒ และ ๓ ต่อไป แต่กำรเคลื่อนที่เข้ำหำที่หมำย ๒ เป็นไปด้วย ล้ำเข้ำมำในเขตไทย ๑๐๐ เมตร มีคันดินและคูสนำมล้อมรอบ เรำ เรำ เสียชีวิต ๕๗ นำย, ร้อย.รบพิเศษ บำดเจ็บ ๑ นำย
ควำมยำกล�ำบำก เนื่องจำกถูกต้ำนทำนด้วยอำวุธของฝ่ำยเวียดนำม ฐำนมีกำรดัดแปลงที่มั่นแข็งแรง พร้อมด้วยอำวุธจ�ำนวนหนึ่ง
อย่ำงหนัก ตลอดเส้นทำงกำรเคลื่อนที่ เต็มไปด้วยกับระเบิดหนำแน่น
แม้จะใช้ ป.สนำม และ บ.ทอ.ยิงท�ำลำยข้ำศึก บริเวณที่หมำย แต่ก็ไม่ การปฏิบัติ
สำมำรถท�ำลำยข้ำศึกซึ่งวำงตัวในที่มั่นดัดแปลงแข็งแรงได้ ห้วงวันที่ ๒๐ กันยำยน ๒๕๒๙– ๑๕ ตุลำคม ๒๕๒๙


กองก�ำลังสุรนำรี (ฉก.ร.๘) ได้เปิดแผนยุทธกำร “พิฆำตไพรี”เพอ
ผลักดันขับไล่กองก�ำลังทหำรเวียดนำม และกัมพูชำ เฮง สัมริน ที่รุกล�้ำ
อธิปไตยเข้ำมำยึดพ้นท่บริเวณช่องโอบก จ.บุรีรัมย์ ให้พ้นออกนอก


เขตไทย


กองทัพบกได้ส่งกำรให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ จด
ก�ำลังสนับสนุนกำรปฏิบัติของกองก�ำลังสุรนำรี โดยกรมรบพิเศษท่ ๑

จัดก�ำลัง จ�ำนวน ๒ ชุดปฏิบัติรบพิเศษ เข้ำปฏิบัติกำรหลังแนวข้ำศึก


ในพ้นท่ระวังป้องกันกัมพูชำตอนบน ตำมแผนป้องกันประเทศ
ของกองทัพบก






104 105

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ยุทธการช่องบก ยุทธการบ้านร่มเกล้า





พ.ศ.๒๕๒๙ พ.ศ.๒๕๒๙




สถานการณ์ ห้วงเดือนพฤษภำคม – มิถุนำยน ๒๕๓๐ ฝ่ำยไทย จึงปรับ สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ


ยุทธวิธี ในกำรเข้ำสู่ท่หมำย ด้วยกำรใช้หน่วยรบพิเศษเข้ำปฏิบัติกำร รวม
กลุ่มกองก�ำลังรักชำติ (กรช.) ประกอบด้วย กองก�ำลังทหำร กำรที่ฝ่ำยลำวอ้ำงสิทธิเหนือดินแดนภูสอยดำวและบ้ำนร่มเกล้ำ จำกกำรแทรกซึมเข้ำพ้นท่อิทธิพลของข้ำศึก เพ่อลำดตระเวน



เขมรแดง เขมรเสรี และชำวกัมพูชำ ซึ่งเป็นกองก�ำลังต่อต้ำนกองก�ำลัง กับทหำรพรำนจู่โจม จัดก�ำลังเป็นชุดปฏิบัติกำรขนำดเล็ก แทรกซึม ต.บ่อภำค อ.ชำติตระกำร จ.พิษณุโลก จำกข้อผิดพลำดของแผนที่และ ค้นหำ และพิสูจน์ทรำบที่ตั้งยิง ที่ตั้งกำรวำงก�ำลัง เส้นทำงลับ ตลอด
เข้ำสู่แนวหลังข้ำศึก ฝั่งกัมพูชำ และลำว เพื่อค้นหำฐำนยิงสนับสนุน

กัมพูชำ เฮง สัมริน ได้หลบหนีเข้ำมำอยู่ตำมแนวชำยแดนไทย ในพื้นที่ ของฝ่ำยเวียดนำม และท�ำลำยระบบกำรส่งก�ำลังบ�ำรุง รวมทั้งท�ำกำร เส้นแบ่งเขตแดน จึงเกิดเป็นกรณีพิพำทปัญหำพรมแดนระหวำงไทย จนคลังเสบียง ส่งอุปกรณ์ของฝ่ำยข้ำศึก และแจ้งให้ปืนใหญ่



บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลรำชธำนี ซ่งเป็นอำณำเขตติดต่อกัน ลำดตระเวน ซุ่มโจมตี เข้ำตีต่อที่หมำยเนินต่ำง ๆ ในลักษณะกำรยุทธ กับลำว ซึ่งสถำนกำรณ์ควำมขัดแย้ง เริ่มขึ้นเมื่อ ๓๑ พฤษภำคม ๒๕๓๐ ฝ่ำยไทย ยิงท�ำลำยท่หมำยได้อย่ำงแม่นย�ำ ร่วมกับใช้ยุทธวิธีกำร

๓ ประเทศ คือ ไทย, ลำว และกัมพูชำ โดยกลุ่มเขมรแดง ได้มำตั้งกอง แบบป้อมค่ำย เจำะเส้นทำงเข้ำหำฐำนที่มั่น กดดันกองทัพเวียดนำม โดยฝ่ำยลำวส่งทหำรเข้ำมำสร้ำงสถำนกำรณ์ในเขตไทย และเข้ำโจมตีที่ รบแบบกองโจร เพื่อตัดรอน ขัดขวำง ท�ำลำย เส้นทำงส่งก�ำลังบ�ำรุง
บัญชำกำรฯ และที่อยู่อำศัยของประชำชนที่อพยพติดตำมมำ สร้ำงเส้น อย่ำงต่อเน่อง เพ่อให้ถอนก�ำลังออกจำกท่หมำยเนินต่ำงๆ ในเขต ตั้งทหำรพรำนที่บ้ำนร่มเกล้ำ ตลอดจนอำวุธยุทโธปกรณ์ ของฝ่ำยตรงข้ำมที่จะส่งจำกพื้นที่เขตหลัง





ทำงส่งก�ำลังบ�ำรุง เชื่อมต่อระหว่ำงเขตไทยและกัมพูชำ คลังเก็บอำวุธ ประเทศไทย เมื่อ ๘ สิงหำคม ๒๕๓๐ ต่อมำ กองทัพภำคที่ ๓ พิสูจน์ทรำบ มำยังพ้นท่กำรรบในเขตหน้ำ ท�ำให้ทหำรลำวเกิดกำรสูญเสียอย่ำงมำก

ยุทโธปกรณ์ และฐำนปฏิบัติกำรเพ่อส่งกองก�ำลังเข้ำปฏิบัติกำรรบ ว่ำ ฝ่ำยลำวรุกล�้ำเขตแดนไทยเข้ำมำ ระยะทำง ๒ กม. โดยตั้งฐำน ท้งด้ำนก�ำลังพล ยุทโธปกรณ์ ตลอดจนขวัญก�ำลังใจในกำรต่อสู้




แบบกองโจรต่อทหำรเวียดนำมในพื้นที่กัมพูชำ กองก�ำลังของเวียดนำม ปฏบตกำรดัดแปลงเป็นท่ม่นถำวร ตำมแนวสันเนิน ๑๔๒๘, ๑๓๗๐ ถึงแม้กำรเคล่อนท่เข้ำไปในดินแดนข้ำศึกน้น กระท�ำได้ยำกล�ำบำก





และกัมพูชำ เฮง สัมริน จึงโจมตีจนเขมรแดงแตก และถอยร่นลึก ผลการปฏิบัติ และเนน ๑๑๘๒ และใช้อำวุธระดมยิงฝ่ำยไทย เหตุกำรณ์ได้ทว ี มำก เพรำะภูมิประเทศสูงชันและเป็นป่ำรกทึบ ซ�้ำยังขำดแหล่งน�้ำ จน



เข้ำมำในเขตแดนไทย ก�ำลังของเวียดนำมจึงรุกไล่ตำมมำบริเวณช่องบก กองก�ำลังของไทย โจมตี ยึดและท�ำลำยฐำนที่มั่นฝ่ำยเวียดนำม ควำมรนแรงเพมขน กองทัพบกจึงใช้ก�ำลังทหำรเข้ำยึดพ้นท่คืน แต่ บำงคร้งต้องด่มน้ำปัสสำวะของตนเองประทังชีวิต แต่ผลท่ได้รับ









ประมำณ ๕ กม. เข้ำยึดเนินส�ำคัญต่ำง ๆ ของเทือกเขำพนมดงรัก ที่กั้น ได้หลำยแห่ง จนในที่สุดฝ่ำยเวียดนำมจึงถอนก�ำลังออกจำกที่หมำย ไม่ส�ำเร็จ ท�ำให้กำรรบยืดเย้อจนถึงปลำยเดือนมกรำคม ๒๕๓๑ ก็คุ้มค่ำเป็นอย่ำงยิ่งต่อกำรรักษำอธิปไตยของชำติ ในที่สุด ฝ่ำยลำว



เขตแดนไทยกัมพูชำไว้ โดยตั้งเป็นฐำนที่มั่นถำวร มีระบบเครื่องปั่นไฟ เนินต่ำงๆ ในเขตประเทศไทย และกลับเข้ำไปในเขตกัมพูชำจนหมด กองทพบกจงหำหนทำงปฏบตทเป็นกำรออมกำลงรบตำมแบบ ยินยอมเจรจำหยุดยิง และยุติปฏิบัติกำรทำงทหำรท้ง ๒ ฝ่ำย เม่อ









ปืนและจรวดต่อสู้อำกำศยำน รำยล้อมด้วยฐำนปืนใหญ่จ�ำนวนมำก สิ้น ในเดือนธันวำคม ๒๕๓๐ หลังจำกนั้น ทำงไทยได้เข้ำมำยึดและ โดยกำรใช้ก�ำลังรบนอกแบบ สนับสนุนให้ก�ำลังรบตำมแบบประสบ ๑๙ กุมภำพันธ์ ๒๕๓๑



กองรักษำด่ำนรบของกองพันทหำรรำบเฉพำะกิจ จึงรำยงำนให้ ตงแนวป้องกัน เนินต่ำง ๆ อย่ำงแน่นหนำ เป็นอันส้นสุดกำรสู้รบท ี ่ ชยชนะ และสูญเสียน้อยท่สุด เพ่อตีโต้ตอบ และผลักดันกองก�ำลัง หลังจำกด�ำเนินกำรรบมำประมำณ ๖ เดือน ฝ่ำยเรำเสียชีวิต



กองก�ำลังสุรนำรีทรำบถึงกำรรุกล�้ำอธิปไตย ซึ่งทำงกองทัพไทยจ�ำเป็น ช่องบก ซึ่งฝ่ำยเรำ สูญเสีย ก�ำลังพล ๑๐๙ นำย บำดเจ็บ ๖๔๔ นำย ของกองทัพประชำชนลำว ให้ออกไปจำกเขตแดนอธิปไตยของไทย ๑๕๓ นำย บำดเจ็บ ๖๕๓ นำย (หน่วยรบพิเศษ เสียชีวิต ๑ นำย,
ต้องผลักดันกองทัพของเวียดนำม ให้ออกจำกเขตแดนของประเทศ พบศพทหำรเวียดนำม ๔๕ ศพ จับเชลยได้ ๑๒ นำย และยึดอำวุธ บำดเจ็บ ๓ นำย, บำดเจ็บสำหัส ๑ นำย) ฝ่ำยตรงข้ำม เสียชีวิตและ
ยุทโธปกรณ์จำกฝ่ำยเวียดนำมได้จ�ำนวนมำก การปฏิบัติ บำดเจ็บจ�ำนวนหนึ่ง
การปฏิบัติ
ห้วงวันที่ ๓๑ พฤษภำคม ๒๕๓๐ – ๑๙ กุมภำพันธ์ ๒๕๓๑
ห้วงตั้งแต่ เดือนธันวำคม ๒๕๒๙ – มิถุนำยน ๒๕๓๐
กองทัพบก ได้มอบภำรกิจให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำม
พ.ศ.๒๕๒๙ กองก�ำลังสุรนำรี ได้ใช้ก�ำลังเข้ำผลักดันและ ปฏิบัติภำรกิจโดยตรงในพ้นท่ระวังป้องกัน สนับสนุนกำรปฏบตตำม





ขับไล่กองก�ำลังต่ำงชำติ ตำมแผนยุทธกำร ดี-๘ ซึ่งฝ่ำยไทยสำมำรถ แผนป้องกันประเทศของกองทัพภำคที่ ๓ และกองทัพภำคที่ ๒ ในกรณี

ผลักดันฝ่ำยเวียดนำม ให้ถอนตัวออกจำกท่ม่นบนเนินดังกล่ำว คุกคำมด้วยก�ำลังของทหำรลำวต่อพ้นท่บริเวณชำยแดน อ.น้ำปำด




แต่ฝ่ำยเวียดนำมยังคงควบคุม และยึดพื้นที่บริเวณเนิน ๕๐๐, ๔๐๘, จ.อุตรดิตถ์- อ.ชำติตระกำร จ.พิษณุโลก – อ.ด่ำนซ้ำย จ.เลย ต้งแต่

๓๘๒ และ ๓๙๖ อยู่ ในเดือนธันวำคม ๒๕๒๙ กองก�ำลังสุรนำรี จง ึ วัน ว. เวลำ น. จนกว่ำจะส�ำเร็จภำรกิจ
ก�ำหนดแผนยุทธกำร ดี-๙ ในกำรเข้ำตี ผลักดัน และท�ำลำยฝ่ำยทหำร

เวียดนำมที่ยึดพื้นที่เนินต่ำงๆ ดังกล่ำว โดยใช้ก�ำลังจำกกรมทหำรรำบ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ โดย กรมรบพิเศษท่ ๑


ท่ ๑๖ (กองพันทหำรรำบท่ ๑๖๒) ยึดท่หมำย เนิน ๓๙๖ ได้ส�ำเร็จ เป็นหน่วยรับผิดชอบจัดต้งกองบัญชำกำรควบคุมกำรปฏิบัต ิ





จึงจัดก�ำลังเพิ่มเติมจำกกองพันทหำรรำบที่ ๖๐๓ กรมทหำรรำบที่ ๖ ท่กรมรบพิเศษท่ ๔ ค่ำยสฤษด์เสนำ จ.พิษณุโลก โดยเรียกกอง
และกองก�ำลังทหำรพรำนเข้ำตีต่อที่หมำย เนิน ๔๐๘ และเนิน ๓๘๒ บัญชำกำรควบคุมนี้ว่ำ “กองพลรบพิเศษที่ ๑ ส่วนหน้ำ” ควบคุม






รวมทั้งใช้ชุดปฏิบัติกำรขนำดเล็ก ร้อยลำดตระเวนระยะไกล เข้ำโจมตี กำลงเขำปฏบตภำรกิจโดยตรงของหน่วยรบพิเศษ สนธิก�ำลังระหว่ำง
ที่หมำย หลังเนิน ๔๐๘ ได้ส�ำเร็จ แต่ไม่สำมำรถรักษำที่หมำยได้ จึงต้อง กองพลรบพิเศษที่ ๑ และ กองพลรบพิเศษที่ ๒ โดยมีอำสำสมัคร
ถอนตัวออกจำกที่หมำยเมื่อ ๑ เมษำยน ๒๕๓๐ และประชำชนในพื้นที่ปฏิบัติกำรเข้ำร่วมปฏิบัติด้วย และผู้ตรวจกำรณ์
หน้ำจำกกองพันทหำรปืนใหญ่ท่ ๔ เข้ำสนับสนุน โดยสมทบไปกับ

กองทัพภำคที่ ๒ จึงได้ออกแผนยุทธกำรเผด็จศึก โดยสั่งใช้ก�ำลัง ชดรบผสม ๔ ชุด จ�ำนวน ๑๖๖ นำยเรียกช่อตำมประมวลลับว่ำ


ส่วนต่ำง ๆ จำกกองทัพภำคที่ ๒ เข้ำตีที่หมำย เนิน ๕๖๕, ๔๐๘, ๕๐๐, “หน่วยเฉพำะกิจสีหรำชเดโช”(ฉก.สีหรำชเดโช)
๓๘๒ และ ๓๗๖ โดยพร้อมกัน แต่ฝ่ำยเวียดนำมได้ตีโต้ตอบ ระดมยิง

ด้วยอำวุธต่ำงๆ และใช้ก�ำลังเข้ำตีเป็นระลอกอย่ำงต่อเน่อง ฝ่ำยไทย
ไม่สำมำรถต้ำนทำนได้ จึงถอนก�ำลังออกจำกที่หมำยเนินต่ำง ๆ
106 107

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ยุทธการช่องบก ยุทธการบ้านร่มเกล้า





พ.ศ.๒๕๒๙ พ.ศ.๒๕๒๙




สถานการณ์ ห้วงเดือนพฤษภำคม – มิถุนำยน ๒๕๓๐ ฝ่ำยไทย จึงปรับ สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ
ยุทธวิธี ในกำรเข้ำสู่ท่หมำย ด้วยกำรใช้หน่วยรบพิเศษเข้ำปฏิบัติกำร รวม


กลุ่มกองก�ำลังรักชำติ (กรช.) ประกอบด้วย กองก�ำลังทหำร กำรที่ฝ่ำยลำวอ้ำงสิทธิเหนือดินแดนภูสอยดำวและบ้ำนร่มเกล้ำ จำกกำรแทรกซึมเข้ำพ้นท่อิทธิพลของข้ำศึก เพ่อลำดตระเวน



เขมรแดง เขมรเสรี และชำวกัมพูชำ ซึ่งเป็นกองก�ำลังต่อต้ำนกองก�ำลัง กับทหำรพรำนจู่โจม จัดก�ำลังเป็นชุดปฏิบัติกำรขนำดเล็ก แทรกซึม ต.บ่อภำค อ.ชำติตระกำร จ.พิษณุโลก จำกข้อผิดพลำดของแผนที่และ ค้นหำ และพิสูจน์ทรำบที่ตั้งยิง ที่ตั้งกำรวำงก�ำลัง เส้นทำงลับ ตลอด
เข้ำสู่แนวหลังข้ำศึก ฝั่งกัมพูชำ และลำว เพื่อค้นหำฐำนยิงสนับสนุน


กัมพูชำ เฮง สัมริน ได้หลบหนีเข้ำมำอยู่ตำมแนวชำยแดนไทย ในพื้นที่ ของฝ่ำยเวียดนำม และท�ำลำยระบบกำรส่งก�ำลังบ�ำรุง รวมทั้งท�ำกำร เส้นแบ่งเขตแดน จึงเกิดเป็นกรณีพิพำทปัญหำพรมแดนระหวำงไทย จนคลังเสบียง ส่งอุปกรณ์ของฝ่ำยข้ำศึก และแจ้งให้ปืนใหญ่



บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลรำชธำนี ซ่งเป็นอำณำเขตติดต่อกัน ลำดตระเวน ซุ่มโจมตี เข้ำตีต่อที่หมำยเนินต่ำง ๆ ในลักษณะกำรยุทธ กับลำว ซึ่งสถำนกำรณ์ควำมขัดแย้ง เริ่มขึ้นเมื่อ ๓๑ พฤษภำคม ๒๕๓๐ ฝ่ำยไทย ยิงท�ำลำยท่หมำยได้อย่ำงแม่นย�ำ ร่วมกับใช้ยุทธวิธีกำร
๓ ประเทศ คือ ไทย, ลำว และกัมพูชำ โดยกลุ่มเขมรแดง ได้มำตั้งกอง แบบป้อมค่ำย เจำะเส้นทำงเข้ำหำฐำนที่มั่น กดดันกองทัพเวียดนำม โดยฝ่ำยลำวส่งทหำรเข้ำมำสร้ำงสถำนกำรณ์ในเขตไทย และเข้ำโจมตีที่ รบแบบกองโจร เพื่อตัดรอน ขัดขวำง ท�ำลำย เส้นทำงส่งก�ำลังบ�ำรุง
บัญชำกำรฯ และที่อยู่อำศัยของประชำชนที่อพยพติดตำมมำ สร้ำงเส้น อย่ำงต่อเน่อง เพ่อให้ถอนก�ำลังออกจำกท่หมำยเนินต่ำงๆ ในเขต ตั้งทหำรพรำนที่บ้ำนร่มเกล้ำ ตลอดจนอำวุธยุทโธปกรณ์ ของฝ่ำยตรงข้ำมที่จะส่งจำกพื้นที่เขตหลัง





ทำงส่งก�ำลังบ�ำรุง เชื่อมต่อระหว่ำงเขตไทยและกัมพูชำ คลังเก็บอำวุธ ประเทศไทย เมื่อ ๘ สิงหำคม ๒๕๓๐ ต่อมำ กองทัพภำคที่ ๓ พิสูจน์ทรำบ มำยังพ้นท่กำรรบในเขตหน้ำ ท�ำให้ทหำรลำวเกิดกำรสูญเสียอย่ำงมำก
ยุทโธปกรณ์ และฐำนปฏิบัติกำรเพ่อส่งกองก�ำลังเข้ำปฏิบัติกำรรบ ว่ำ ฝ่ำยลำวรุกล�้ำเขตแดนไทยเข้ำมำ ระยะทำง ๒ กม. โดยตั้งฐำน ท้งด้ำนก�ำลังพล ยุทโธปกรณ์ ตลอดจนขวัญก�ำลังใจในกำรต่อสู้




แบบกองโจรต่อทหำรเวียดนำมในพื้นที่กัมพูชำ กองก�ำลังของเวียดนำม ปฏบตกำรดัดแปลงเป็นท่ม่นถำวร ตำมแนวสันเนิน ๑๔๒๘, ๑๓๗๐ ถึงแม้กำรเคล่อนท่เข้ำไปในดินแดนข้ำศึกน้น กระท�ำได้ยำกล�ำบำก






และกัมพูชำ เฮง สัมริน จึงโจมตีจนเขมรแดงแตก และถอยร่นลึก ผลการปฏิบัติ และเนน ๑๑๘๒ และใช้อำวุธระดมยิงฝ่ำยไทย เหตุกำรณ์ได้ทว ี มำก เพรำะภูมิประเทศสูงชันและเป็นป่ำรกทึบ ซ�้ำยังขำดแหล่งน�้ำ จน




เข้ำมำในเขตแดนไทย ก�ำลังของเวียดนำมจึงรุกไล่ตำมมำบริเวณช่องบก กองก�ำลังของไทย โจมตี ยึดและท�ำลำยฐำนที่มั่นฝ่ำยเวียดนำม ควำมรนแรงเพมขน กองทัพบกจึงใช้ก�ำลังทหำรเข้ำยึดพ้นท่คืน แต่ บำงคร้งต้องด่มน้ำปัสสำวะของตนเองประทังชีวิต แต่ผลท่ได้รับ








ประมำณ ๕ กม. เข้ำยึดเนินส�ำคัญต่ำง ๆ ของเทือกเขำพนมดงรัก ที่กั้น ได้หลำยแห่ง จนในที่สุดฝ่ำยเวียดนำมจึงถอนก�ำลังออกจำกที่หมำย ไม่ส�ำเร็จ ท�ำให้กำรรบยืดเย้อจนถึงปลำยเดือนมกรำคม ๒๕๓๑ ก็คุ้มค่ำเป็นอย่ำงยิ่งต่อกำรรักษำอธิปไตยของชำติ ในที่สุด ฝ่ำยลำว

เขตแดนไทยกัมพูชำไว้ โดยตั้งเป็นฐำนที่มั่นถำวร มีระบบเครื่องปั่นไฟ เนินต่ำงๆ ในเขตประเทศไทย และกลับเข้ำไปในเขตกัมพูชำจนหมด กองทพบกจงหำหนทำงปฏบตทเป็นกำรออมกำลงรบตำมแบบ ยินยอมเจรจำหยุดยิง และยุติปฏิบัติกำรทำงทหำรท้ง ๒ ฝ่ำย เม่อ











ปืนและจรวดต่อสู้อำกำศยำน รำยล้อมด้วยฐำนปืนใหญ่จ�ำนวนมำก สิ้น ในเดือนธันวำคม ๒๕๓๐ หลังจำกนั้น ทำงไทยได้เข้ำมำยึดและ โดยกำรใช้ก�ำลังรบนอกแบบ สนับสนุนให้ก�ำลังรบตำมแบบประสบ ๑๙ กุมภำพันธ์ ๒๕๓๑

กองรักษำด่ำนรบของกองพันทหำรรำบเฉพำะกิจ จึงรำยงำนให้ ตงแนวป้องกัน เนินต่ำง ๆ อย่ำงแน่นหนำ เป็นอันส้นสุดกำรสู้รบท ี ่ ชยชนะ และสูญเสียน้อยท่สุด เพ่อตีโต้ตอบ และผลักดันกองก�ำลัง หลังจำกด�ำเนินกำรรบมำประมำณ ๖ เดือน ฝ่ำยเรำเสียชีวิต





กองก�ำลังสุรนำรีทรำบถึงกำรรุกล�้ำอธิปไตย ซึ่งทำงกองทัพไทยจ�ำเป็น ช่องบก ซึ่งฝ่ำยเรำ สูญเสีย ก�ำลังพล ๑๐๙ นำย บำดเจ็บ ๖๔๔ นำย ของกองทัพประชำชนลำว ให้ออกไปจำกเขตแดนอธิปไตยของไทย ๑๕๓ นำย บำดเจ็บ ๖๕๓ นำย (หน่วยรบพิเศษ เสียชีวิต ๑ นำย,
ต้องผลักดันกองทัพของเวียดนำม ให้ออกจำกเขตแดนของประเทศ พบศพทหำรเวียดนำม ๔๕ ศพ จับเชลยได้ ๑๒ นำย และยึดอำวุธ บำดเจ็บ ๓ นำย, บำดเจ็บสำหัส ๑ นำย) ฝ่ำยตรงข้ำม เสียชีวิตและ
ยุทโธปกรณ์จำกฝ่ำยเวียดนำมได้จ�ำนวนมำก การปฏิบัติ บำดเจ็บจ�ำนวนหนึ่ง
การปฏิบัติ
ห้วงวันที่ ๓๑ พฤษภำคม ๒๕๓๐ – ๑๙ กุมภำพันธ์ ๒๕๓๑
ห้วงตั้งแต่ เดือนธันวำคม ๒๕๒๙ – มิถุนำยน ๒๕๓๐
กองทัพบก ได้มอบภำรกิจให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำม
พ.ศ.๒๕๒๙ กองก�ำลังสุรนำรี ได้ใช้ก�ำลังเข้ำผลักดันและ ปฏิบัติภำรกิจโดยตรงในพ้นท่ระวังป้องกัน สนับสนุนกำรปฏบตตำม





ขับไล่กองก�ำลังต่ำงชำติ ตำมแผนยุทธกำร ดี-๘ ซึ่งฝ่ำยไทยสำมำรถ แผนป้องกันประเทศของกองทัพภำคที่ ๓ และกองทัพภำคที่ ๒ ในกรณี
ผลักดันฝ่ำยเวียดนำม ให้ถอนตัวออกจำกท่ม่นบนเนินดังกล่ำว คุกคำมด้วยก�ำลังของทหำรลำวต่อพ้นท่บริเวณชำยแดน อ.น้ำปำด





แต่ฝ่ำยเวียดนำมยังคงควบคุม และยึดพื้นที่บริเวณเนิน ๕๐๐, ๔๐๘, จ.อุตรดิตถ์- อ.ชำติตระกำร จ.พิษณุโลก – อ.ด่ำนซ้ำย จ.เลย ต้งแต่

๓๘๒ และ ๓๙๖ อยู่ ในเดือนธันวำคม ๒๕๒๙ กองก�ำลังสุรนำรี จง ึ วัน ว. เวลำ น. จนกว่ำจะส�ำเร็จภำรกิจ
ก�ำหนดแผนยุทธกำร ดี-๙ ในกำรเข้ำตี ผลักดัน และท�ำลำยฝ่ำยทหำร

เวียดนำมที่ยึดพื้นที่เนินต่ำงๆ ดังกล่ำว โดยใช้ก�ำลังจำกกรมทหำรรำบ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ โดย กรมรบพิเศษท่ ๑

ท่ ๑๖ (กองพันทหำรรำบท่ ๑๖๒) ยึดท่หมำย เนิน ๓๙๖ ได้ส�ำเร็จ เป็นหน่วยรับผิดชอบจัดต้งกองบัญชำกำรควบคุมกำรปฏิบัต ิ






จึงจัดก�ำลังเพิ่มเติมจำกกองพันทหำรรำบที่ ๖๐๓ กรมทหำรรำบที่ ๖ ท่กรมรบพิเศษท่ ๔ ค่ำยสฤษด์เสนำ จ.พิษณุโลก โดยเรียกกอง
และกองก�ำลังทหำรพรำนเข้ำตีต่อที่หมำย เนิน ๔๐๘ และเนิน ๓๘๒ บัญชำกำรควบคุมนี้ว่ำ “กองพลรบพิเศษที่ ๑ ส่วนหน้ำ” ควบคุม






รวมทั้งใช้ชุดปฏิบัติกำรขนำดเล็ก ร้อยลำดตระเวนระยะไกล เข้ำโจมตี กำลงเขำปฏบตภำรกิจโดยตรงของหน่วยรบพิเศษ สนธิก�ำลังระหว่ำง
ที่หมำย หลังเนิน ๔๐๘ ได้ส�ำเร็จ แต่ไม่สำมำรถรักษำที่หมำยได้ จึงต้อง กองพลรบพิเศษที่ ๑ และ กองพลรบพิเศษที่ ๒ โดยมีอำสำสมัคร
ถอนตัวออกจำกที่หมำยเมื่อ ๑ เมษำยน ๒๕๓๐ และประชำชนในพื้นที่ปฏิบัติกำรเข้ำร่วมปฏิบัติด้วย และผู้ตรวจกำรณ์
หน้ำจำกกองพันทหำรปืนใหญ่ท่ ๔ เข้ำสนับสนุน โดยสมทบไปกับ

กองทัพภำคที่ ๒ จึงได้ออกแผนยุทธกำรเผด็จศึก โดยสั่งใช้ก�ำลัง ชดรบผสม ๔ ชุด จ�ำนวน ๑๖๖ นำยเรียกช่อตำมประมวลลับว่ำ


ส่วนต่ำง ๆ จำกกองทัพภำคที่ ๒ เข้ำตีที่หมำย เนิน ๕๖๕, ๔๐๘, ๕๐๐, “หน่วยเฉพำะกิจสีหรำชเดโช”(ฉก.สีหรำชเดโช)
๓๘๒ และ ๓๗๖ โดยพร้อมกัน แต่ฝ่ำยเวียดนำมได้ตีโต้ตอบ ระดมยิง
ด้วยอำวุธต่ำงๆ และใช้ก�ำลังเข้ำตีเป็นระลอกอย่ำงต่อเน่อง ฝ่ำยไทย

ไม่สำมำรถต้ำนทำนได้ จึงถอนก�ำลังออกจำกที่หมำยเนินต่ำง ๆ
106 107

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

การปฏิบัติการเข้าตีฐานกูเต็งนาโยง หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ





พ.ศ.๒๕๔๔ ในการสู้รบชายแดนไทย – กัมพูชา




สถานการณ์ การปฏิบัติในพื้นท่ปราสาทพระวิหาร, การปฏิบัติการในพ้นท่ปราสาทตาเมือน – ปราสาทตาควาย



เมื่อวันที่ ๙ ก.พ.๔๔ ทพม.จำก พัน.ร. เบำที่ ๓๓๑ ได้ใช้ก�ำลัง
เข้ำมำโอบยึดฐำนปฏิบัติกำรบ้ำนปำงหนุน อ.แม่ฟ้ำหลวง จ.เชียงรำย พ.ศ. ๒๕๕๔

ของ ร้อย.ทพ.ท่ ๙๖๓ และล้อมจับทหำรไทย จ�ำนวน ๑๙ นำย
ไว้เป็นตัวประกัน เพื่อใช้พื้นที่เป็นทำงผ่ำนในกำรกลวำดล้ำง กกล.SSA สถานการณ์ การปฏิบัติการในพื้นที่ปราสาทตาเมือน– ปราสาทตาควาย
โดย ทพม. อยู่ที่ฐำนปฏิบัติกำรกูเต็งนำโย่ง เป็นที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง

ตั้งอยู่บริเวณยอดเนินพิกัด ๔๗ QNC ๙๐๘๖๐๐ เขตพื้นที่ อ.แม่สำย จำกกรณี กองก�ำลังสุรนำรี สั่งให้ชุดทหำรช่ำงปรับปรุงเส้นทำง เม่อ ๒๒ เมษำยน ๒๕๕๔ เวลำ ๐๖๓๐ กองก�ำลังสุรนำร ี
จ.เชยงรำย โดยบริเวณพิกัดดังกล่ำว เป็นพ้นท่สูงข่ม และสำมำรถ ทำงยุทธวิธีในพื้นที่ของฝ่ำยไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภำพในกำรส่งก�ำลัง ( ฉก.ทพ.๒๖ ) ได้จัดก�ำลังเข้ำพบปะกับทหำรกัมพูชำบริเวณด้ำนทิศ




ตรวจกำรณ์ได้โดยท่วไปท้งในด้ำนเขตไทยและเขตพม่ำ บ�ำรุง สร้ำงควำมไม่พอใจต่อฝ่ำยกัมพูชำ จึงได้ลอบเข้ำมำโจมต ี ตะวันตกปรำสำทตำควำย เน่องจำกทหำรกัมพูชำได้เข้ำมำดัดแปลง




ชุดทหำรช่ำง และควบคุมตัวชุดทหำรติดตำมฝ่ำยไทยไว้ ๕ คน จำกนั้น ท่ม่นบริเวณทิศตะวันตกปรำสำทตำควำย และพยำยำมพกพำอำวุธ


การปฏิบัติ กำรปะทะได้ขยำยตัวไปในพ้นท่ใกล้เคียง สร้ำงควำมเสียหำยให้กับ เข้ำมำยังบริเวณปรำสำทฯ ขณะก�ำลังฝ่ำยเรำเข้ำพบปะ ทหำรกัมพูชำ
ฝ่ำยไทยเป็นอย่ำงมำก ได้ยิงด้วยปืนเล็กต่อก�ำลังพลของฝ่ำยเรำ จึงเกิดกำรปะทะกันขึ้น และ
ห้วงวันที่ ๙– ๑๑ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๔ ขยำยแนวไปยังพื้นที่ช่องกร่ำง และปรำสำทตำเมือน โดยใช้อำวุธยิง


จำกเหตุกำรณ์น้ ผบ.ทบ.ได้ส่งกำร ให้ กองพันจู่โจม จัด การปฏิบัติ ทุกชนิด รวมถึงเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ต่อฝ่ำยเรำ ฝ่ำยเรำจึง


ก�ำลัง ๑ กองร้อยจู่โจม เพ่อปฏิบัติกำรล้อมจับก�ำลังทหำรพม่ำ ศูนย์ปฏิบัติกำร กองทัพบก ส่งให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ตอบโต้ด้วยอำวุธจนกระท่งเวลำ ๑๐๐๐ ฝ่ำยกัมพูชำได้ประสำนขอ



เพ่อเป็นตัวประกัน ตอบโต้ และน�ำมำใช้เป็นเคร่องต่อรองให้ฝ่ำย จัดก�ำลังขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรกับกองก�ำลังสุรนำรี เพื่อปฏิบัติภำรกิจ หยุดยิง ฝ่ำยเรำหยุดยิง แต่ฝ่ำยกัมพูชำไม่หยุดยิงตำมท่ตกลงไว้

ทหำรพม่ำ ปล่อยตัวทหำรไทยที่ถูกจับทั้ง ๑๙ นำย โดยเตรียมพร้อม ป้องกันชำยแดน โดยจัดก�ำลัง ๑ ฉก.ปพ.สย. (อัตรำ ๒๖๒ นำย) ฝ่ำยเรำจึงได้ระดมยิงตอบโต้ต่อไป กำรสู้รบจึงเริ่มตั้งแต่ ๒๓ เมษำยน
ก�ำลัง ณ ที่ตั้งปกติ จ.ลพบุรี ในวันที่ ๙ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๔ และเคลื่อน เป็นก�ำลังจำกกรมรบพิเศษท่ ๑ จ�ำนวน ๑๐๗ นำย, กรมรบพิเศษท่ ๓ ถึง ๓ พฤษภำคม ๒๕๔๔


ย้ำยก�ำลังทำงอำกำศด้วยอำกำศยำน บล.๘ จ.ลพบุรี ไปยังสนำมบิน จ�ำนวน ๑๕๕ นำย (พัน.ปพ., พัน.จจ.) เข้ำปฏิบัติภำรกิจในพ้นท ่ ี

นำนำชำติ จ.เชียงรำย ในวันที่ ๑๐ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๔ จำกนั้นเคลื่อน ภูมะเขือ, ช่องโดนเอำว์, ถ�้ำพระ, พลำญยำว, ห้วยตำมำเรีย, ช่อตำเฒ่ำ ผลการปฏิบัติ
ย้ำยก�ำลังเข้ำรวมพลข้นสุดท้ำย บริเวณบ้ำนห้วยน้ำริน อ.แม่สำย และประสำทพระวิหำร ในภำรกิจ เป็นกองหนุนเคลื่อนที่เร็ว สนับสนุน ฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๑ นำย บำดเจ็บ ๑๘ นำย ฝ่ำยทหำรกัมพูชำ


จ.เชียงรำย จนวันที่ ๑๑ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๔ เวลำ ๐๓๐๐ เริ่มเคลื่อนที่ งำนด้ำนกำรข่ำวในพ้นท่ระวังป้องกัน เสริมแนวต้ำนทำนให้กับหน่วย เสียชีวิต จำกกำรชุดซุ่มยิง ๑๒ นำย และจำกตัวแทนแหล่งข่ำวจำก


เข้ำสู่ที่หมำย และได้ปะทะกับก�ำลังทหำรพม่ำ จึงโจมตี และซุ่มยิงฝ่ำย ตั้งรับในพื้นที่ล่อแหลม, เตรียมกำรกวำดล้ำง ท�ำลำย ฝ่ำยตรงข้ำม กัมพูชำแจ้งว่ำ ทหำรกัมพูชำเสียชีวิต ๘๒ นำย บำดเจ็บ ๘๗ นำย

ตรงข้ำมบริเวณท่หมำย จนกระท่งเวลำ ๑๓๐๐ ได้ถอนก�ำลังออกจำก อำวุธยุทโธปกรณ์เสียหำยเป็นจ�ำนวนมำ

ที่หมำย และเดินทำงกลับที่ตั้งปกติ จ.ลพบุรี
ผลการปฏิบัติ
ผลการปฏิบัติ ผลกำรปฏิบัติในพื้นที่ปรำสำทพระวิหำร ห้วงวันที่ ๔ – ๑๖
กุมภำพันธ์ ๒๕๕๔ ฝ่ำยไทยบำดเจ็บ ๑ นำย ฝ่ำยทหำรกัมพูชำเสียชีวิต
จำกกำรปะทะกับก�ำลังทหำรพม่ำ ฝ่ำยข้ำศึกเสียชีวิตได้รับ ๒๐ คน บำดเจ็บ ๑๐ นำย ท�ำลำยอำวุธยิงสนับสนุนได้ ๑๐ กระบอก
บำดเจ็บจำกกำรเข้ำตีของ กองร้อยจู่โจม. และกำรโจมตีด้วยอำวุธของ
หน่วยเฉพำะกิจ กรมทหำรม้ำท่ ๓ เป็นจ�ำนวนมำก ฝ่ำยเรำ ได้รับ

บำดเจ็บ จ�ำนวน ๑๑ นำย, บำดเจ็บสำหัส และถูกจับกุม จ�ำนวน
๑ นำย















108 109

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

การปฏิบัติการเข้าตีฐานกูเต็งนาโยง หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ





พ.ศ.๒๕๔๔ ในการสู้รบชายแดนไทย – กัมพูชา




สถานการณ์ การปฏิบัติในพื้นท่ปราสาทพระวิหาร, การปฏิบัติการในพ้นท่ปราสาทตาเมือน – ปราสาทตาควาย



เมื่อวันที่ ๙ ก.พ.๔๔ ทพม.จำก พัน.ร. เบำที่ ๓๓๑ ได้ใช้ก�ำลัง
เข้ำมำโอบยึดฐำนปฏิบัติกำรบ้ำนปำงหนุน อ.แม่ฟ้ำหลวง จ.เชียงรำย พ.ศ. ๒๕๕๔

ของ ร้อย.ทพ.ท่ ๙๖๓ และล้อมจับทหำรไทย จ�ำนวน ๑๙ นำย
ไว้เป็นตัวประกัน เพื่อใช้พื้นที่เป็นทำงผ่ำนในกำรกลวำดล้ำง กกล.SSA สถานการณ์ การปฏิบัติการในพื้นที่ปราสาทตาเมือน– ปราสาทตาควาย
โดย ทพม. อยู่ที่ฐำนปฏิบัติกำรกูเต็งนำโย่ง เป็นที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง

ตั้งอยู่บริเวณยอดเนินพิกัด ๔๗ QNC ๙๐๘๖๐๐ เขตพื้นที่ อ.แม่สำย จำกกรณี กองก�ำลังสุรนำรี สั่งให้ชุดทหำรช่ำงปรับปรุงเส้นทำง เม่อ ๒๒ เมษำยน ๒๕๕๔ เวลำ ๐๖๓๐ กองก�ำลังสุรนำร ี
จ.เชยงรำย โดยบริเวณพิกัดดังกล่ำว เป็นพ้นท่สูงข่ม และสำมำรถ ทำงยุทธวิธีในพื้นที่ของฝ่ำยไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภำพในกำรส่งก�ำลัง ( ฉก.ทพ.๒๖ ) ได้จัดก�ำลังเข้ำพบปะกับทหำรกัมพูชำบริเวณด้ำนทิศ




ตรวจกำรณ์ได้โดยท่วไปท้งในด้ำนเขตไทยและเขตพม่ำ บ�ำรุง สร้ำงควำมไม่พอใจต่อฝ่ำยกัมพูชำ จึงได้ลอบเข้ำมำโจมต ี ตะวันตกปรำสำทตำควำย เน่องจำกทหำรกัมพูชำได้เข้ำมำดัดแปลง




ชุดทหำรช่ำง และควบคุมตัวชุดทหำรติดตำมฝ่ำยไทยไว้ ๕ คน จำกนั้น ท่ม่นบริเวณทิศตะวันตกปรำสำทตำควำย และพยำยำมพกพำอำวุธ


การปฏิบัติ กำรปะทะได้ขยำยตัวไปในพ้นท่ใกล้เคียง สร้ำงควำมเสียหำยให้กับ เข้ำมำยังบริเวณปรำสำทฯ ขณะก�ำลังฝ่ำยเรำเข้ำพบปะ ทหำรกัมพูชำ
ฝ่ำยไทยเป็นอย่ำงมำก ได้ยิงด้วยปืนเล็กต่อก�ำลังพลของฝ่ำยเรำ จึงเกิดกำรปะทะกันขึ้น และ
ห้วงวันที่ ๙– ๑๑ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๔ ขยำยแนวไปยังพื้นที่ช่องกร่ำง และปรำสำทตำเมือน โดยใช้อำวุธยิง


จำกเหตุกำรณ์น้ ผบ.ทบ.ได้ส่งกำร ให้ กองพันจู่โจม จัด การปฏิบัติ ทุกชนิด รวมถึงเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ต่อฝ่ำยเรำ ฝ่ำยเรำจึง


ก�ำลัง ๑ กองร้อยจู่โจม เพ่อปฏิบัติกำรล้อมจับก�ำลังทหำรพม่ำ ศูนย์ปฏิบัติกำร กองทัพบก ส่งให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ตอบโต้ด้วยอำวุธจนกระท่งเวลำ ๑๐๐๐ ฝ่ำยกัมพูชำได้ประสำนขอ



เพ่อเป็นตัวประกัน ตอบโต้ และน�ำมำใช้เป็นเคร่องต่อรองให้ฝ่ำย จัดก�ำลังขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรกับกองก�ำลังสุรนำรี เพื่อปฏิบัติภำรกิจ หยุดยิง ฝ่ำยเรำหยุดยิง แต่ฝ่ำยกัมพูชำไม่หยุดยิงตำมท่ตกลงไว้

ทหำรพม่ำ ปล่อยตัวทหำรไทยที่ถูกจับทั้ง ๑๙ นำย โดยเตรียมพร้อม ป้องกันชำยแดน โดยจัดก�ำลัง ๑ ฉก.ปพ.สย. (อัตรำ ๒๖๒ นำย) ฝ่ำยเรำจึงได้ระดมยิงตอบโต้ต่อไป กำรสู้รบจึงเริ่มตั้งแต่ ๒๓ เมษำยน
ก�ำลัง ณ ที่ตั้งปกติ จ.ลพบุรี ในวันที่ ๙ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๔ และเคลื่อน เป็นก�ำลังจำกกรมรบพิเศษท่ ๑ จ�ำนวน ๑๐๗ นำย, กรมรบพิเศษท่ ๓ ถึง ๓ พฤษภำคม ๒๕๔๔


ย้ำยก�ำลังทำงอำกำศด้วยอำกำศยำน บล.๘ จ.ลพบุรี ไปยังสนำมบิน จ�ำนวน ๑๕๕ นำย (พัน.ปพ., พัน.จจ.) เข้ำปฏิบัติภำรกิจในพ้นท ่ ี

นำนำชำติ จ.เชียงรำย ในวันที่ ๑๐ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๔ จำกนั้นเคลื่อน ภูมะเขือ, ช่องโดนเอำว์, ถ�้ำพระ, พลำญยำว, ห้วยตำมำเรีย, ช่อตำเฒ่ำ ผลการปฏิบัติ
ย้ำยก�ำลังเข้ำรวมพลข้นสุดท้ำย บริเวณบ้ำนห้วยน้ำริน อ.แม่สำย และประสำทพระวิหำร ในภำรกิจ เป็นกองหนุนเคลื่อนที่เร็ว สนับสนุน ฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๑ นำย บำดเจ็บ ๑๘ นำย ฝ่ำยทหำรกัมพูชำ


จ.เชียงรำย จนวันที่ ๑๑ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๔ เวลำ ๐๓๐๐ เริ่มเคลื่อนที่ งำนด้ำนกำรข่ำวในพ้นท่ระวังป้องกัน เสริมแนวต้ำนทำนให้กับหน่วย เสียชีวิต จำกกำรชุดซุ่มยิง ๑๒ นำย และจำกตัวแทนแหล่งข่ำวจำก


เข้ำสู่ที่หมำย และได้ปะทะกับก�ำลังทหำรพม่ำ จึงโจมตี และซุ่มยิงฝ่ำย ตั้งรับในพื้นที่ล่อแหลม, เตรียมกำรกวำดล้ำง ท�ำลำย ฝ่ำยตรงข้ำม กัมพูชำแจ้งว่ำ ทหำรกัมพูชำเสียชีวิต ๘๒ นำย บำดเจ็บ ๘๗ นำย

ตรงข้ำมบริเวณท่หมำย จนกระท่งเวลำ ๑๓๐๐ ได้ถอนก�ำลังออกจำก อำวุธยุทโธปกรณ์เสียหำยเป็นจ�ำนวนมำ

ที่หมำย และเดินทำงกลับที่ตั้งปกติ จ.ลพบุรี
ผลการปฏิบัติ
ผลการปฏิบัติ ผลกำรปฏิบัติในพื้นที่ปรำสำทพระวิหำร ห้วงวันที่ ๔ – ๑๖
กุมภำพันธ์ ๒๕๕๔ ฝ่ำยไทยบำดเจ็บ ๑ นำย ฝ่ำยทหำรกัมพูชำเสียชีวิต
จำกกำรปะทะกับก�ำลังทหำรพม่ำ ฝ่ำยข้ำศึกเสียชีวิตได้รับ ๒๐ คน บำดเจ็บ ๑๐ นำย ท�ำลำยอำวุธยิงสนับสนุนได้ ๑๐ กระบอก
บำดเจ็บจำกกำรเข้ำตีของ กองร้อยจู่โจม. และกำรโจมตีด้วยอำวุธของ
หน่วยเฉพำะกิจ กรมทหำรม้ำท่ ๓ เป็นจ�ำนวนมำก ฝ่ำยเรำ ได้รับ

บำดเจ็บ จ�ำนวน ๑๑ นำย, บำดเจ็บสำหัส และถูกจับกุม จ�ำนวน
๑ นำย















108 109

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ ไทย-ติมอร์ทั้ง ๘ ผลัด ได้แก่ ที่ ๕ ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๑ ก.พ. – ๓๑ ก.ค.๔๕ โดยมี
๕. พ.ต.สมชัย มำลีนันท์ ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัด
รำยนำมผู้บังคับชุดควบคุมกำรปฏิบัติกำรพิเศษ(ชค.กพศ.)

๑. พ.ต.ณัฐวุฒิ นำคะนคร ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๑

ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๙ พัน.๓
ปฏิบัติภำรกิจในกองก�ำลัง INTERFET ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๔๒ – ๓๑ ม.ค.๔๓ พ.ท.จรินทร์ จ้อยสองสี ปฏิบัติหน้ำท่เป็นผบ.กองก�ำลังฯ

กองกาลัง ๙๗๒ ไทย–ติมอร์ตะวันออก และภำรกิจในกองก�ำลัง UNTAET ตั้งแต่ ๑ ก.พ. – ๓๑ ก.ค. ๔๓ โดยมี ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๑ ส.ค.๔๕ – ๒๔ ก.พ.๔๖ โดยมี
๖. พ.ต.องอำจ อิ่มศิริ ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๖
พ.อ.นภดล เจริญพร ปฏิบัติหน้ำท่เป็นผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลัก

พ.ศ.๒๕๔๒ – ๒๕๔๗ จัดจำก ร.๓๑ พัน.๓ รอ. พ.ท.กำจบดินทร์ ยิ่งดอน ปฏิบัติหน้ำที่เป็นผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลัก
๒. พ.ต.จตุรงค์ จันทรำนนท์ ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๒ จัดจำก ร.3
ปฏิบัติภำรกิจ ตั้งแต่ ๑ ส.ค.๔๓ – ๓๑ มี.ค.๔๔ โดยมี พ.อ.พิเชษฐ์ วิสัย ๗. พ.ต.เดชำ ศรีมงคล ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๗ ปฏิบัติ

หลังจำกกำรลงประชำมติเพ่อปกครองตนเองของติมอร์ตะวันออก หน่วยรบพิเศษปฏิบัติงำนในติมอร์ตะวันออกใช้นำมหน่วยว่ำ จรปฏิบัติหน้ำที่เป็นผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๖ พัน.๑



เม่อ พ.ศ.๒๕๔๒องค์กรสหประชำชำติโดยมติคณะมนตรีควำมม่นคง “ชุดควบคุมกำรปฏิบัติกำรพิเศษ” มีค�ำย่อคือ ชค.กพศ. โดยมีภำรกิจ คอ ๓. พ.ต.เสกสรร สุขสังข์ ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๓ ภำรกิจตั้งแต่ ๒๑ ก.พ. – ๑๕ ส.ค.๔๖ โดยมี พ.ท.ชวลิต จำรุกลัส
ปฏิบัติหน้ำที่เป็น ผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๕



ท่ ๑๒๖๔ (ค.ศ.๑๙๙๙) เม่อ ๑๕ ก.ย.๔๒ จึงให้จัดต้งกองก�ำลัง ปฏิบัติกำรพิเศษสนับสนุน กกล.972 ไทย/ติมอร์ ตอ. ในกำรปฏิบัติกำร ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๑ ก.พ. – ๓๑ ก.ค.๔๔ โดยมี พ.อ.ปรีชำ พลำยอยู่
นำนำชำติในติมอร์ตะวันออก หรือ INTERFET (INTERNATIONA ทำงทหำร ภำยในพื้นที่ อ.เบำเกำ (Baucau) และอ.วีเคเค (Viqueque) วงษ์ ปฏิบัติหน้ำที่เป็น ผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๑๕ พัน.๒ ๘. พ.ต.วสันต์ เสือยำง ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์
FORCES IN EAST TIMOR) เพื่อที่จะควบคุมสถำนกำรณ์ควำม ติมอร์ตะวันออก เพื่อด�ำรงรักษำสภำพแวดล้อมที่ปลอดภัย ให้กำร ผลัดที่ ๘ ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๒๕ ก.ค. ๔๖ – ๙ ธ.ค.๔๖ โดยมี

ไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่ำงรุนแรง ประเทศไทยได้รับร้องขอจำกองค์กำร สนับสนุนและป้องกันกำรปฏิบัติงำนขององค์ประกอบหลัก ๔. พ.ต.นิโรธ ฉำยำกุล ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัด พ.ท.อ�ำนำจ ศรีมำก ปฏิบัติหน้ำท่เป็น ผบ.กองก�ำลังฯ
สหประชำชำติและประเทศอินโดนีเซีย ให้จัดก�ำลังทหำรเข้ำร่วม ของ UNTAET ได้แก่ ส่วนกำรปกครองและบริหำรสำธำรณะ ที่ ๔ ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๑ ส.ค.๔๔ – ๓๑ ม.ค.๔๕ โดยมี ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๔ พัน.๒ นับเป็นก�ำลังทหำรไทยผลัดสุดท้ำยใน
ปฏิบัติภำรกิจดังกล่ำว รัฐบำลไทยจึงได้อนุมัติให้ส่งก�ำลังเข้ำร่วมปฏิบัติ (GPA) ส่วนควำมช่วยเหลือด้ำนมนุษยธรรม และฟื้นฟูเร่งด่วน HAER) พ.อ.ทะนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปฏิบัติหน้ำที่เป็น ผบ.กองก�ำลังฯก�ำลัง ภำรกิจรักษำสันติภำพในประเทศติมอร์ตะวันออก

ภำรกิจกองก�ำลังนำนำชำติ ร่วมกับอีก 24 ประเทศ ภำยใต้กำรน�ำ เพื่อที่จะสถำปนำควำมเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในภูมิภำค อันจะส่งผลต่อกำร หลักจัดจำก ร.๑๗ พน.๒
ของประเทศออสเตรเลีย โดยมี บก.ทหำรสูงสุด เป็นหน่วยรับผิด พัฒนำเสริมสร้ำงติมอร์ตะวันออกต่อไป
ชอบในกำรด�ำเนินกำรจัดก�ำลังจำกเหล่ำทัพ เข้ำปฏิบัติภำรกิจร่วมกับ
กองก�ำลังนำนำชำติในติมอร์ตะวันออก โดยได้ก�ำหนดนำมหน่วยว่ำ บทบำทและภำรกิจของหน่วยรบพิเศษท่ปฏิบัติกำรในติมอร์

“กองก�ำลังเฉพำะกิจร่วม ไทย/ติมอร์ ตะวันออก” โดยกองทัพบกได้จัด ตะวันออกตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 โดย ชค.กพศ.ผลัดที่ 1 (INTERFET )/
ก�ำลังเข้ำร่วมปฏิบัติกำรในนำม “กกล.ทบ.ไทย/ติมอร์” ปฏิบัติภำรกิจ (UNTAET) จนถึง ผลัดที่ 8 (UNMISET) มีกำรเปลี่ยนแปลงไปตำม
ตั้งแต่ ๑ต.ค.๒๕๔๒ ถึง ๓๑ ม.ค.๒๕๔๓ ในห้วงกำรปฏิบัติภำรกิจ กรอบและกฎบัติสหประชำชำติที่ก�ำหนดในแต่ละห้วงเวลำ กำรปฏิบัติ
กองก�ำลังนำนำชำติ (INTERFET) กองก�ำลังทหำรบกไทย/ติมอร ์ ภำรกิจของหน่วยรบพิเศษในติมอร์ตะวันออกสำมำรถสนับสนุนให้
ตะวันออก มีกำรจัดประกอบด้วย กองบัญชำกำร และหน่วยขึ้นตรง ภำรกิจส่วนรวมของกองก�ำลัง 972 ไทยติมอร์ตะวันออกประสบควำม
อีก ๔ หน่วยคือ กองพันทหำรรำบไทย ชุดปฏิบัติกำรบิน, ชุดควบคุม ส�ำเร็จตำมวัตถุประสงค์ของสหประชำชำติในกำรสร้ำงสันติภำพและ

กำรปฏบตกำรพิเศษ (๒๕ นำย(น.๖, ส.๑๙) และส่วนสนับสนุนก�ำลังท้งส้น ควำมสงบสขในตมอร์ตะวนออกและยังเป็นกำรสร้ำงชอเสยงให้กบ













๑,๑๙๙ นำย รับผิดชอบพ้นท่ อ.เบำเกำ และ อ.วิเคเค ต่อมำได้แปร ประเทศไทยได้เป็นอย่ำงมำก ประเทศติมอร์ตะวันออกได้จัดให้ม ี
สภำพและปรับก�ำลังเป็น “กองก�ำลังรักษำสันติภำพ ๙๗๒ ไทย/ กำรเลือกต้งและจัดต้งเป็นประเทศอย่ำงเป็นทำงกำรเป็นท่เรียบร้อย




ตมอรตะวันออก”ปฏิบัติงำนภำยใต้กองก�ำลัง UNTAET โดยส่งทหำร เมื่อวันที่ 20 พฤษภำคม พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) เมื่อประเทศติมอร์


หมุนเวียนไปปฏิบัติงำนท้งส้น ๘ ผลัด ตะวันออกเข้ำร่วมองค์กำรสหประชำชำตในปีเดยวกันได้ตงชอประเทศ







อย่ำงเป็นทำงกำรว่ำ “ติมอร์-เลสเต”









110 111

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ ไทย-ติมอร์ทั้ง ๘ ผลัด ได้แก่ ที่ ๕ ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๑ ก.พ. – ๓๑ ก.ค.๔๕ โดยมี
๕. พ.ต.สมชัย มำลีนันท์ ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัด
รำยนำมผู้บังคับชุดควบคุมกำรปฏิบัติกำรพิเศษ(ชค.กพศ.)

๑. พ.ต.ณัฐวุฒิ นำคะนคร ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๑

ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๙ พัน.๓
ปฏิบัติภำรกิจในกองก�ำลัง INTERFET ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๔๒ – ๓๑ ม.ค.๔๓ พ.ท.จรินทร์ จ้อยสองสี ปฏิบัติหน้ำท่เป็นผบ.กองก�ำลังฯ

กองกาลัง ๙๗๒ ไทย–ติมอร์ตะวันออก และภำรกิจในกองก�ำลัง UNTAET ตั้งแต่ ๑ ก.พ. – ๓๑ ก.ค. ๔๓ โดยมี ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๑ ส.ค.๔๕ – ๒๔ ก.พ.๔๖ โดยมี
๖. พ.ต.องอำจ อิ่มศิริ ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๖
พ.อ.นภดล เจริญพร ปฏิบัติหน้ำท่เป็นผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลัก

พ.ศ.๒๕๔๒ – ๒๕๔๗ จัดจำก ร.๓๑ พัน.๓ รอ. พ.ท.กำจบดินทร์ ยิ่งดอน ปฏิบัติหน้ำที่เป็นผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลัก
๒. พ.ต.จตุรงค์ จันทรำนนท์ ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๒ จัดจำก ร.3
ปฏิบัติภำรกิจ ตั้งแต่ ๑ ส.ค.๔๓ – ๓๑ มี.ค.๔๔ โดยมี พ.อ.พิเชษฐ์ วิสัย ๗. พ.ต.เดชำ ศรีมงคล ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๗ ปฏิบัติ

หลังจำกกำรลงประชำมติเพ่อปกครองตนเองของติมอร์ตะวันออก หน่วยรบพิเศษปฏิบัติงำนในติมอร์ตะวันออกใช้นำมหน่วยว่ำ จรปฏิบัติหน้ำที่เป็นผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๖ พัน.๑



เม่อ พ.ศ.๒๕๔๒องค์กรสหประชำชำติโดยมติคณะมนตรีควำมม่นคง “ชุดควบคุมกำรปฏิบัติกำรพิเศษ” มีค�ำย่อคือ ชค.กพศ. โดยมีภำรกิจ คอ ๓. พ.ต.เสกสรร สุขสังข์ ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัดที่ ๓ ภำรกิจตั้งแต่ ๒๑ ก.พ. – ๑๕ ส.ค.๔๖ โดยมี พ.ท.ชวลิต จำรุกลัส
ปฏิบัติหน้ำที่เป็น ผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๕



ท่ ๑๒๖๔ (ค.ศ.๑๙๙๙) เม่อ ๑๕ ก.ย.๔๒ จึงให้จัดต้งกองก�ำลัง ปฏิบัติกำรพิเศษสนับสนุน กกล.972 ไทย/ติมอร์ ตอ. ในกำรปฏิบัติกำร ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๑ ก.พ. – ๓๑ ก.ค.๔๔ โดยมี พ.อ.ปรีชำ พลำยอยู่
นำนำชำติในติมอร์ตะวันออก หรือ INTERFET (INTERNATIONA ทำงทหำร ภำยในพื้นที่ อ.เบำเกำ (Baucau) และอ.วีเคเค (Viqueque) วงษ์ ปฏิบัติหน้ำที่เป็น ผบ.กองก�ำลังฯ ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๑๕ พัน.๒ ๘. พ.ต.วสันต์ เสือยำง ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์
FORCES IN EAST TIMOR) เพื่อที่จะควบคุมสถำนกำรณ์ควำม ติมอร์ตะวันออก เพื่อด�ำรงรักษำสภำพแวดล้อมที่ปลอดภัย ให้กำร ผลัดที่ ๘ ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๒๕ ก.ค. ๔๖ – ๙ ธ.ค.๔๖ โดยมี

ไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่ำงรุนแรง ประเทศไทยได้รับร้องขอจำกองค์กำร สนับสนุนและป้องกันกำรปฏิบัติงำนขององค์ประกอบหลัก ๔. พ.ต.นิโรธ ฉำยำกุล ผบ.ชค.กพศ.ไทย/ติมอร์ ผลัด พ.ท.อ�ำนำจ ศรีมำก ปฏิบัติหน้ำท่เป็น ผบ.กองก�ำลังฯ
สหประชำชำติและประเทศอินโดนีเซีย ให้จัดก�ำลังทหำรเข้ำร่วม ของ UNTAET ได้แก่ ส่วนกำรปกครองและบริหำรสำธำรณะ ที่ ๔ ปฏิบัติภำรกิจตั้งแต่ ๑ ส.ค.๔๔ – ๓๑ ม.ค.๔๕ โดยมี ก�ำลังหลักจัดจำก ร.๔ พัน.๒ นับเป็นก�ำลังทหำรไทยผลัดสุดท้ำยใน
ปฏิบัติภำรกิจดังกล่ำว รัฐบำลไทยจึงได้อนุมัติให้ส่งก�ำลังเข้ำร่วมปฏิบัติ (GPA) ส่วนควำมช่วยเหลือด้ำนมนุษยธรรม และฟื้นฟูเร่งด่วน HAER) พ.อ.ทะนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปฏิบัติหน้ำที่เป็น ผบ.กองก�ำลังฯก�ำลัง ภำรกิจรักษำสันติภำพในประเทศติมอร์ตะวันออก

ภำรกิจกองก�ำลังนำนำชำติ ร่วมกับอีก 24 ประเทศ ภำยใต้กำรน�ำ เพื่อที่จะสถำปนำควำมเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในภูมิภำค อันจะส่งผลต่อกำร หลักจัดจำก ร.๑๗ พน.๒
ของประเทศออสเตรเลีย โดยมี บก.ทหำรสูงสุด เป็นหน่วยรับผิด พัฒนำเสริมสร้ำงติมอร์ตะวันออกต่อไป
ชอบในกำรด�ำเนินกำรจัดก�ำลังจำกเหล่ำทัพ เข้ำปฏิบัติภำรกิจร่วมกับ
กองก�ำลังนำนำชำติในติมอร์ตะวันออก โดยได้ก�ำหนดนำมหน่วยว่ำ บทบำทและภำรกิจของหน่วยรบพิเศษท่ปฏิบัติกำรในติมอร์

“กองก�ำลังเฉพำะกิจร่วม ไทย/ติมอร์ ตะวันออก” โดยกองทัพบกได้จัด ตะวันออกตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 โดย ชค.กพศ.ผลัดที่ 1 (INTERFET )/
ก�ำลังเข้ำร่วมปฏิบัติกำรในนำม “กกล.ทบ.ไทย/ติมอร์” ปฏิบัติภำรกิจ (UNTAET) จนถึง ผลัดที่ 8 (UNMISET) มีกำรเปลี่ยนแปลงไปตำม
ตั้งแต่ ๑ต.ค.๒๕๔๒ ถึง ๓๑ ม.ค.๒๕๔๓ ในห้วงกำรปฏิบัติภำรกิจ กรอบและกฎบัติสหประชำชำติที่ก�ำหนดในแต่ละห้วงเวลำ กำรปฏิบัติ
กองก�ำลังนำนำชำติ (INTERFET) กองก�ำลังทหำรบกไทย/ติมอร ์ ภำรกิจของหน่วยรบพิเศษในติมอร์ตะวันออกสำมำรถสนับสนุนให้
ตะวันออก มีกำรจัดประกอบด้วย กองบัญชำกำร และหน่วยขึ้นตรง ภำรกิจส่วนรวมของกองก�ำลัง 972 ไทยติมอร์ตะวันออกประสบควำม
อีก ๔ หน่วยคือ กองพันทหำรรำบไทย ชุดปฏิบัติกำรบิน, ชุดควบคุม ส�ำเร็จตำมวัตถุประสงค์ของสหประชำชำติในกำรสร้ำงสันติภำพและ

กำรปฏบตกำรพิเศษ (๒๕ นำย(น.๖, ส.๑๙) และส่วนสนับสนุนก�ำลังท้งส้น ควำมสงบสขในตมอร์ตะวนออกและยังเป็นกำรสร้ำงชอเสยงให้กบ













๑,๑๙๙ นำย รับผิดชอบพ้นท่ อ.เบำเกำ และ อ.วิเคเค ต่อมำได้แปร ประเทศไทยได้เป็นอย่ำงมำก ประเทศติมอร์ตะวันออกได้จัดให้ม ี
สภำพและปรับก�ำลังเป็น “กองก�ำลังรักษำสันติภำพ ๙๗๒ ไทย/ กำรเลือกต้งและจัดต้งเป็นประเทศอย่ำงเป็นทำงกำรเป็นท่เรียบร้อย





ตมอรตะวันออก”ปฏิบัติงำนภำยใต้กองก�ำลัง UNTAET โดยส่งทหำร เมื่อวันที่ 20 พฤษภำคม พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) เมื่อประเทศติมอร์

หมุนเวียนไปปฏิบัติงำนท้งส้น ๘ ผลัด ตะวันออกเข้ำร่วมองค์กำรสหประชำชำตในปีเดยวกันได้ตงชอประเทศ







อย่ำงเป็นทำงกำรว่ำ “ติมอร์-เลสเต”









110 111

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย









ร้อย.ช.ฉก. ๙๗๕ ไทย-อัฟกานิสถาน



พ.ศ.๒๕๔๖




ภำยหลังกำรปฏิบัติกำรขับไล่ กลุ่มตำลีบันของกลุ่ม กำรปฏิบัติที่ส�ำคัญ ได้แก่ ปฏิบัติกำรเป็นหน่วยระวังป้องกัน




COALLITION FORCES จำกหลำยประเทศ ภำยใต้กำรน�ำของ ในกำรรักษำควำมปลอดภยตำมลำพง หรอร่วมกบกำลังเจ้ำหน้ำท ี ่







สหรัฐอเมริกำ ผลจำกกำรโจมตีทำงอำกำศ และภำคพื้นดิน ร่วมกับ หนวยงำนอ่น ปฏิบัติกำรลำดตระเวน และหำข่ำวในพ้นท่รบผดชอบ

กลุ่มต่อต้ำนชำวอัฟกำนิสถำน ท�ำให้กลุ่มตำลีบันถูกขับไล่ไป และควำม ปฏิบัติกำรอำรักขำ และรักษำควำมปลอดภัยบุคคลส�ำคัญ ให้ค�ำแนะน�ำ

เสยหำยจำกผลกำรโจมตีดังกล่ำว ได้มีกำรจัดกำรประชุมนำนำชำต ิ ในเรื่องเกี่ยวกับกำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ส�ำหรับใช้เป็นมำตรกำรเสริม
ในกำรปฏิบัติภำรกิจบูรณะฟื้นฟูประเทศอัฟกำนิสถำน จนกระทั่งเมื่อ ในกำรปฏิบัติภำรกิจ และให้ค�ำแนะน�ำ หรือท�ำกำรฝึกในเรื่องพื้นฐำน
๒๘ มี.ค.๔๕ สหประชำชำติได้มีมติให้กำรช่วยเหลือในอัฟกำนิสถำน กำรปฏิบัติกำรพิเศษให้กับ ร้อย.ช.ฉก.๙๗๕ เพื่อใช้เป็นมำตรกำรเสริม



ตำมมติของสหประชำชำติท่ ๑๔๐๑ ในเร่องกำรช่วยเหลอดำน ประสิทธิภำพกำรท�ำงำน และสร้ำงระเบียบวินัยให้กับก�ำลังพล

มนุษยธรรม และกำรฟื้นฟูฯ
จำกมติดังกล่ำว กองทัพไทยได้ส่ง “กองร้อยทหำรช่ำง
เฉพำะกิจ ๙๗๕ ไทย-อัฟกำนิสถำน” ก�ำลังพล ๑๓๐ นำย
เข้ำปฏิบัติภำรกิจด้ำนกำรช่ำง กำรแพทย์และภำรกิจพิเศษ
ตำมที่ได้รับมอบหมำย ในพื้นที่เมืองบำกรำมและซำริกำ จังหวัด
ปรำวำนทำงเหนือของกรุงคำร์บูล ตั้งแต่เดือน เมษำยน – กันยำยน
๒๕๔๖ ซึ่งหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ โดย กรมรบพิเศษที่ ๓

รบผดชอบในกำรจัดก�ำลังตอนระวังป้องกันฯ ซ่งเป็นก�ำลังพลจำก


ร้อย.ปพ.รพศ.๓ จ�ำนวน ๑๔ นำย สมทบด้วยก�ำลังพลจำก พัน.จจ.,
รร.สพศ.ศสพ. และ พัน.ปจว. จ�ำนวน ๔ นำย รวมทั้งสิ้น จ�ำนวน
๑๘ นำย โดยตอนระวังป้องกัน ร้อย.ช.ฉก. ๙๗๕ ไทย/อัฟกำนิสถำน
มีโครงสร้ำงกำรจัดประกอบด้วย บก.ตอน และ ๒ ชุดระวังป้องกัน
งำนของกองก�ำลังนำนำชำติ เพื่อช่วยเหลือด้ำนมนุษยธรรมและฟื้นฟู
ภำยใต้อำณัติขององค์กำรสหประชำชำติ


































112 113

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย









ร้อย.ช.ฉก. ๙๗๕ ไทย-อัฟกานิสถาน



พ.ศ.๒๕๔๖




ภำยหลังกำรปฏิบัติกำรขับไล่ กลุ่มตำลีบันของกลุ่ม กำรปฏิบัติที่ส�ำคัญ ได้แก่ ปฏิบัติกำรเป็นหน่วยระวังป้องกัน




COALLITION FORCES จำกหลำยประเทศ ภำยใต้กำรน�ำของ ในกำรรักษำควำมปลอดภยตำมลำพง หรอร่วมกบกำลังเจ้ำหน้ำท ่ ี







สหรัฐอเมริกำ ผลจำกกำรโจมตีทำงอำกำศ และภำคพื้นดิน ร่วมกับ หนวยงำนอ่น ปฏิบัติกำรลำดตระเวน และหำข่ำวในพ้นท่รบผดชอบ

กลุ่มต่อต้ำนชำวอัฟกำนิสถำน ท�ำให้กลุ่มตำลีบันถูกขับไล่ไป และควำม ปฏิบัติกำรอำรักขำ และรักษำควำมปลอดภัยบุคคลส�ำคัญ ให้ค�ำแนะน�ำ

เสยหำยจำกผลกำรโจมตีดังกล่ำว ได้มีกำรจัดกำรประชุมนำนำชำต ิ ในเรื่องเกี่ยวกับกำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ส�ำหรับใช้เป็นมำตรกำรเสริม
ในกำรปฏิบัติภำรกิจบูรณะฟื้นฟูประเทศอัฟกำนิสถำน จนกระทั่งเมื่อ ในกำรปฏิบัติภำรกิจ และให้ค�ำแนะน�ำ หรือท�ำกำรฝึกในเรื่องพื้นฐำน
๒๘ มี.ค.๔๕ สหประชำชำติได้มีมติให้กำรช่วยเหลือในอัฟกำนิสถำน กำรปฏิบัติกำรพิเศษให้กับ ร้อย.ช.ฉก.๙๗๕ เพื่อใช้เป็นมำตรกำรเสริม



ตำมมติของสหประชำชำติท่ ๑๔๐๑ ในเร่องกำรช่วยเหลอดำน ประสิทธิภำพกำรท�ำงำน และสร้ำงระเบียบวินัยให้กับก�ำลังพล

มนุษยธรรม และกำรฟื้นฟูฯ
จำกมติดังกล่ำว กองทัพไทยได้ส่ง “กองร้อยทหำรช่ำง
เฉพำะกิจ ๙๗๕ ไทย-อัฟกำนิสถำน” ก�ำลังพล ๑๓๐ นำย
เข้ำปฏิบัติภำรกิจด้ำนกำรช่ำง กำรแพทย์และภำรกิจพิเศษ
ตำมที่ได้รับมอบหมำย ในพื้นที่เมืองบำกรำมและซำริกำ จังหวัด
ปรำวำนทำงเหนือของกรุงคำร์บูล ตั้งแต่เดือน เมษำยน – กันยำยน
๒๕๔๖ ซึ่งหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ โดย กรมรบพิเศษที่ ๓

รบผดชอบในกำรจัดก�ำลังตอนระวังป้องกันฯ ซ่งเป็นก�ำลังพลจำก


ร้อย.ปพ.รพศ.๓ จ�ำนวน ๑๔ นำย สมทบด้วยก�ำลังพลจำก พัน.จจ.,
รร.สพศ.ศสพ. และ พัน.ปจว. จ�ำนวน ๔ นำย รวมทั้งสิ้น จ�ำนวน
๑๘ นำย โดยตอนระวังป้องกัน ร้อย.ช.ฉก. ๙๗๕ ไทย/อัฟกำนิสถำน
มีโครงสร้ำงกำรจัดประกอบด้วย บก.ตอน และ ๒ ชุดระวังป้องกัน
งำนของกองก�ำลังนำนำชำติ เพื่อช่วยเหลือด้ำนมนุษยธรรมและฟื้นฟู
ภำยใต้อำณัติขององค์กำรสหประชำชำติ


































112 113

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย






กองกาลัง ๙๗๖ ไทย-อิรัก กองกาลัง ๙๘๐ ไทย-ดาร์ฟูร์

พ.ศ.๒๕๔๖ พ.ศ.๒๕๕๓ – ๒๕๕๔



หลังจำกเหตุกำรณ์ ก่อกำรร้ำยที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกำเมื่อ ไทย/อิรัก มีโครงสร้ำงกำรจัดประกอบด้วย บก.มว.รวป. และ ๓ หลังจำกท่ประเทศซูดำนได้รับเอกรำชจำกประเทศอังกฤษ ประเทศไทยได้รับเกียรติ ให้จัดก�ำลัง พัน.ร.ผสม ปฏิบัติภำรกิจ

๑๑ กันยำยน ๒๕๔๔ สหรัฐฯได้ใช้กำรปฏิบัติกำรทำงทหำรต่อกลุ่ม หมู่ รวป. จัดก�ำลังจ�ำนวน ๒ ผลัด โดย เมื่อ ๑ มกรำคม ๒๔๙๙ ก็เกิดสถำนกำรณ์ควำมไม่สงบในซูดำนขึ้น รักษำสันติภำพในพื้นที่เขตภำคใต้ของแคว้นดำร์ฟูร์ สำธำรณรัฐซูดำน
องค์กรก่อกำรร้ำย และโคนล้มรัฐบำลตำลีบันในอัฟกำนิสถำน - ผลัดท่ ๑ ตั้งแต่ ก.ย. ๔๖ -มี.ค.๔๙ มี พ.ต.วินัย พิมำย ซึ่งแบ่งออกเป็น ๓ พื้นที่ คือ ในพื้นที่ภำคตะวันออก ภำคใต้ และ เป็นก�ำลังผสมจำกนอกทวีปแอฟริกำ และตำมมติ ครม. เมื่อ ๙ ตุลำคม


รวมท้งขยำยขอบเขตกำรปรำบปรำมกำรก่อกำรร้ำย และขจดกำร รอง ผบ.พัน.จจ.รพศ.๓ เป็น ผบ.มว.รวป. และ ภำคตะวันตก โดยใน พ.ศ.๒๕๑๕ เขตภำคใต้ของซูดำนเกิดกำร ๒๕๕๐ ใหกองทพบกจัด พัน.ร.ผสม ในภำรกิจ UNAMID มีช่อ








ลับลอบกำรเสริมสร้ำงกำรพัฒนำอำวุธอำนุภำพท�ำลำยล้ำงสูง โดย สรบกัน เน่องจำกประชำชนต้องกำรแยกตัวเป็นอิสระ และเกด เรียกว่ำ “กองก�ำลังเฉพำะกิจ ๙๘๐ไทย/ดำร์ฟูร์” โดยให้ ร.๑๓ พัน.๑




ในต้นปี ๒๕๔๕ สหรัฐฯ มีท่ำทีแข็งกร้ำวต่ออิรัก และประกำศท่ำที - ผลัดท่ ๒ ต้งแต่ เม.ย.-พ.ย.๔๙ มี พ.ต.วิจักขฐ์ เกสุดำ สงครำมกลำงเมองระหว่ำงรฐบำลซดำนกบกล่มกบฏทำงตอนใต้ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ในกำรเตรียมกำรวำงแผนกำรปฏิบัติภำรกิจ



ชัดเจนท่ต้องกำรก�ำจัดประธำนำธิบดีซัดดัม ฮุสเซน โดยเมอ ผช.ฝขว.พล.รพศ.๑ เป็น ผบ.มว.รวป. ใน พ.ศ.๒๕๒๖ มีผู้เสียชีวิตมำกกว่ำ ๒๐๐,๐๐๐ คน สหประชำชำติ รักษำสันติภำพร่วมกับสหประชำชำติ ณ ประเทศซูดำน โดยกำรจัด



๒๐ มีนำคม ๒๕๔๖ กกล.ผสมสหรัฐฯ-อังกฤษ (ออสเตรเลีย กำรปฏิบัติที่ส�ำคัญ ได้แก่ ระวังป้องกันและรักษำควำมปลอดภัย จึงให้กำรช่วยเหลือทั้ง ๒ ฝ่ำย และจัดตั้งภำรกิจรักษำสันติภำพของ ก�ำลังใช้ชื่อหน่วย กกล.ฉก.๙๘๐ ไทย/ดำร์ฟูร์ ผลัดที่ ๑ และบรรจุ




และโปแลนด) ได้เร่มโจมตีอิรักทำงอำกำศ และส่งกำลงทำงบก ให้แก่ กกล.ก.๙๗๖ฯ ทั้งในที่ตั้งค่ำยลิม่ำ และเมื่อออกปฏิบัติภำรกิจ สหประชำชำติในซูดำน (United Nation Mission in Sudan : ก�ำลงพลตำมโครงสร้ำงกำรจัดที่กองทัพบกอนุมัติ มีก�ำลังพลทั้งสิ้น






จำกคเวตรกเข้ำส่อรก จนสำมำรถประกำศชัยชนะเหนืออิรัก เมอ นอกทตง ให้กำรสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนด้ำนกำรข่ำว และกำร UNMIS) ต่อมำ พ.ศ.๒๕๔๖ พื้นที่ดำร์ฟูร์ เขตตะวันตกของซูดำน ๘๑๒ นำย ในส่วนของหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ได้รับมอบให้จัด





๑ พฤษภำคม ๒๕๕๖ ท�ำให้อิรักต้องตกอยู่ภำยใต้กำรจัดกำรปกครอง ปฏิบัติกำรจิตวิทยำแก่ กกล.ฉก.๙๗๖ ไทย/อิรัก ซงหมวดระวง ั เกิดสงครำมควำมขัดแย้งด้ำนเชื้อชำติและชนเผ่ำ ซึ่งมีควำมขัดแย้ง ก�ำลังหมวดระวังป้องกัน (มว.รวป.) จ�ำนวน ๒๗ นำย โดยจัดก�ำลังจำก



และบรหำรรำชกำรโดยทหำร (Military Governorate Administration) ป้องกันฯ สำมำรถปฏิบัติภำรกิจรักษำควำมปลอดภัยให้แก่ ทำงศำสนำมำก่อน คือ ภำคเหนือนับถือศำสนำอิสลำม และ หน่วยขึ้นตรง กองพลรบพิเศษที่ ๑ ประกอบด้วย บก.มว.รวป./๗ นำย,
โดยมี กองก�ำลังพันธมิตรรับผิดชอบภำยใต้กำรควบคุมของ JCTF – 7 กกล. ฉก.๙๗๖ ไทย/อิรัก ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ภำคใต้นับถือศำสนำคริสต์ จนถึงจุดวิกฤติใน พ.ศ.๒๕๔๗ เกิด ชุด รวป./๑๒ นำย และจำก ชุด ปจว./๘ นำย








จำกเหตุกำรณ์ดังกล่ำว เม่อวันท่ ๒๕ พฤศจิกำยน ๒๕๔๖ กำรส้รบครงใหญ่ระหว่ำงกองทพ/กล่มเคลอนไหวปลดปล่อยซดำน


ประเทศไทย ได้จัดส่งก�ำลังพลปฏิบัติหน้ำที่ในประเทศอิรักและได้ และกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อควำมเท่ำเทียมและยุติธรรม รัฐบำลซูดำนได้ มว.รวป. ได้ศึกษำข้อมูลและปรับรูปแบบชุดลำดตระเวน


จดต้งกองก�ำลังเฉพำะกิจไทย/อิรัก ซ่งมี พ.อ.บุญชู เกิดโชค เป็น ส่งก�ำลังทหำรเข้ำไปปรำบปรำม และขับไล่ประชำชน ซึ่งไม่ใช่ชำว เนนจำกใกล้ไปไกล ท�ำกำรลำดตระเวนร่วมกับกองร้อยรวนดำ











ผบ.กองก�ำลังฯ มีก�ำลังพล รวม ๔๔๓ นำย มีหน่วยรองหลักประกอบ อำหรบมสลิม ท�ำให้มีผู้เสียชีวิตกว่ำ ๓๐๐,๐๐๐ คน และมผผลดถน เพื่อศึกษำข้อมูลประเทศ และรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ปฏิบัติกำร




ด้วย ส่วนบังคับบัญชำ, กองพันทหำรช่ำงเฉพำะกิจ ( ๕๐ นำย ), ชดแพทย์ จำกสงครำมมำกกว่ำ ๒.๕ ล้ำนคน กำหนดรปแบบกำรจดกำลังในกำรรักษำควำมปลอดภัยบุคคลส�ำคัญ

( ๘๐ นำย ), หมวดระวังป้องกัน และส่วนสนับสนุน โดย สนำมบิน และกำรลำดตระเวนในภำรกิจกำรลำดตระเวนปกต ิ


หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ได้รับมอบภำรกิจจำกกองทัพบกให้ พ.ศ.๒๕๔๗ สหภำพแอฟริกัน ได้เจรจำไกล่เกล่ยกลุ่มตำง ๆ กำรลำดตระเวนระยะใกล้ และกำรลำดตระเวนระยะไกล โดยใช ้




จดก�ำลังหมวดระวังป้องกันจ�ำนวน ๕๐ นำย และมอบหมำยให้ ใหลงนำมในขอตกลงเพ่อมนุษยธรรม และข้อตกลงสันติภำพถำวร รูปแบบให้เหมำะสมกับลักษณะภูมิประเทศจริง เพื่อลดกำรเกิดเหตุ




กองพลรบพเศษท ๑ รบผิดชอบในกำรจัดก�ำลังหมวดระวัง แตสถำนกำรณ์ควำมรุนแรงเลวร้ำยลงอีกในปลำย พ.ศ.๒๕๔๙ ปะทะ อุบัติเหตุต่ำงๆ ซึ่งท�ำให้กำรปฏิบัติมีประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น

ป้องกันฯ ซึ่งเป็นก�ำลังพลหลักจำกกรมรบพิเศษที่ ๓ สมทบด้วยก�ำลัง จำกข้อจ�ำกัดด้ำนก�ำลังพล และงบประมำณของสหภำพแอฟริกัน
พลจำกหน่วยอ่นภำยใน หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ จำนวน ในที่สุดคณะมนตรีควำมมั่นคงแห่งสหประชำชำติ จึงมีมติให้จัดตั้ง


๕๐ นำย คือ มว.รวป.กกล.ฉก.๙๗๖ ปฏิบัติกำรผสมสหประชำชำติ-สหภำพแอฟริกันในดำร์ฟูร์
(AU/UN Hybird Operation in Darfu : UNAMID)
เมื่อ ๓๑ มกรำคม ๒๕๕๐ ซึ่งรับกำรโอนถ่ำยภำรกิจรักษำสันติภำพ
จำกสหภำพแอฟริกัน และมีควำมต้องกำรก�ำลัง พัน.ร. เพ่มเตม


๘ กองพัน จำก พัน.ร. ที่มีปฏิบัติกำรอยู่เดิมแล้ว ๑๐ กองพัน
114 115

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย






กองกาลัง ๙๗๖ ไทย-อิรัก กองกาลัง ๙๘๐ ไทย-ดาร์ฟูร์

พ.ศ.๒๕๔๖ พ.ศ.๒๕๕๓ – ๒๕๕๔



หลังจำกเหตุกำรณ์ ก่อกำรร้ำยที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกำเมื่อ ไทย/อิรัก มีโครงสร้ำงกำรจัดประกอบด้วย บก.มว.รวป. และ ๓ หลังจำกท่ประเทศซูดำนได้รับเอกรำชจำกประเทศอังกฤษ ประเทศไทยได้รับเกียรติ ให้จัดก�ำลัง พัน.ร.ผสม ปฏิบัติภำรกิจ

๑๑ กันยำยน ๒๕๔๔ สหรัฐฯได้ใช้กำรปฏิบัติกำรทำงทหำรต่อกลุ่ม หมู่ รวป. จัดก�ำลังจ�ำนวน ๒ ผลัด โดย เมื่อ ๑ มกรำคม ๒๔๙๙ ก็เกิดสถำนกำรณ์ควำมไม่สงบในซูดำนขึ้น รักษำสันติภำพในพื้นที่เขตภำคใต้ของแคว้นดำร์ฟูร์ สำธำรณรัฐซูดำน
องค์กรก่อกำรร้ำย และโคนล้มรัฐบำลตำลีบันในอัฟกำนิสถำน - ผลัดท่ ๑ ตั้งแต่ ก.ย. ๔๖ -มี.ค.๔๙ มี พ.ต.วินัย พิมำย ซึ่งแบ่งออกเป็น ๓ พื้นที่ คือ ในพื้นที่ภำคตะวันออก ภำคใต้ และ เป็นก�ำลังผสมจำกนอกทวีปแอฟริกำ และตำมมติ ครม. เมื่อ ๙ ตุลำคม


รวมท้งขยำยขอบเขตกำรปรำบปรำมกำรก่อกำรร้ำย และขจดกำร รอง ผบ.พัน.จจ.รพศ.๓ เป็น ผบ.มว.รวป. และ ภำคตะวันตก โดยใน พ.ศ.๒๕๑๕ เขตภำคใต้ของซูดำนเกิดกำร ๒๕๕๐ ใหกองทพบกจัด พัน.ร.ผสม ในภำรกิจ UNAMID มีช่อ








ลับลอบกำรเสริมสร้ำงกำรพัฒนำอำวุธอำนุภำพท�ำลำยล้ำงสูง โดย สรบกัน เน่องจำกประชำชนต้องกำรแยกตัวเป็นอิสระ และเกด เรียกว่ำ “กองก�ำลังเฉพำะกิจ ๙๘๐ไทย/ดำร์ฟูร์” โดยให้ ร.๑๓ พัน.๑




ในต้นปี ๒๕๔๕ สหรัฐฯ มีท่ำทีแข็งกร้ำวต่ออิรัก และประกำศท่ำที - ผลัดท่ ๒ ต้งแต่ เม.ย.-พ.ย.๔๙ มี พ.ต.วิจักขฐ์ เกสุดำ สงครำมกลำงเมองระหว่ำงรฐบำลซดำนกบกล่มกบฏทำงตอนใต้ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ในกำรเตรียมกำรวำงแผนกำรปฏิบัติภำรกิจ



ชัดเจนท่ต้องกำรก�ำจัดประธำนำธิบดีซัดดัม ฮุสเซน โดยเมอ ผช.ฝขว.พล.รพศ.๑ เป็น ผบ.มว.รวป. ใน พ.ศ.๒๕๒๖ มีผู้เสียชีวิตมำกกว่ำ ๒๐๐,๐๐๐ คน สหประชำชำติ รักษำสันติภำพร่วมกับสหประชำชำติ ณ ประเทศซูดำน โดยกำรจัด



๒๐ มีนำคม ๒๕๔๖ กกล.ผสมสหรัฐฯ-อังกฤษ (ออสเตรเลีย กำรปฏิบัติที่ส�ำคัญ ได้แก่ ระวังป้องกันและรักษำควำมปลอดภัย จึงให้กำรช่วยเหลือทั้ง ๒ ฝ่ำย และจัดตั้งภำรกิจรักษำสันติภำพของ ก�ำลังใช้ชื่อหน่วย กกล.ฉก.๙๘๐ ไทย/ดำร์ฟูร์ ผลัดที่ ๑ และบรรจุ




และโปแลนด) ได้เร่มโจมตีอิรักทำงอำกำศ และส่งกำลงทำงบก ให้แก่ กกล.ก.๙๗๖ฯ ทั้งในที่ตั้งค่ำยลิม่ำ และเมื่อออกปฏิบัติภำรกิจ สหประชำชำติในซูดำน (United Nation Mission in Sudan : ก�ำลงพลตำมโครงสร้ำงกำรจัดที่กองทัพบกอนุมัติ มีก�ำลังพลทั้งสิ้น






จำกคเวตรกเข้ำส่อรก จนสำมำรถประกำศชัยชนะเหนืออิรัก เมอ นอกทตง ให้กำรสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนด้ำนกำรข่ำว และกำร UNMIS) ต่อมำ พ.ศ.๒๕๔๖ พื้นที่ดำร์ฟูร์ เขตตะวันตกของซูดำน ๘๑๒ นำย ในส่วนของหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ได้รับมอบให้จัด





๑ พฤษภำคม ๒๕๕๖ ท�ำให้อิรักต้องตกอยู่ภำยใต้กำรจัดกำรปกครอง ปฏิบัติกำรจิตวิทยำแก่ กกล.ฉก.๙๗๖ ไทย/อิรัก ซงหมวดระวง ั เกิดสงครำมควำมขัดแย้งด้ำนเชื้อชำติและชนเผ่ำ ซึ่งมีควำมขัดแย้ง ก�ำลังหมวดระวังป้องกัน (มว.รวป.) จ�ำนวน ๒๗ นำย โดยจัดก�ำลังจำก



และบรหำรรำชกำรโดยทหำร (Military Governorate Administration) ป้องกันฯ สำมำรถปฏิบัติภำรกิจรักษำควำมปลอดภัยให้แก่ ทำงศำสนำมำก่อน คือ ภำคเหนือนับถือศำสนำอิสลำม และ หน่วยขึ้นตรง กองพลรบพิเศษที่ ๑ ประกอบด้วย บก.มว.รวป./๗ นำย,
โดยมี กองก�ำลังพันธมิตรรับผิดชอบภำยใต้กำรควบคุมของ JCTF – 7 กกล. ฉก.๙๗๖ ไทย/อิรัก ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ภำคใต้นับถือศำสนำคริสต์ จนถึงจุดวิกฤติใน พ.ศ.๒๕๔๗ เกิด ชุด รวป./๑๒ นำย และจำก ชุด ปจว./๘ นำย








จำกเหตุกำรณ์ดังกล่ำว เม่อวันท่ ๒๕ พฤศจิกำยน ๒๕๔๖ กำรส้รบครงใหญ่ระหว่ำงกองทพ/กล่มเคลอนไหวปลดปล่อยซดำน


ประเทศไทย ได้จัดส่งก�ำลังพลปฏิบัติหน้ำที่ในประเทศอิรักและได้ และกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อควำมเท่ำเทียมและยุติธรรม รัฐบำลซูดำนได้ มว.รวป. ได้ศึกษำข้อมูลและปรับรูปแบบชุดลำดตระเวน


จดต้งกองก�ำลังเฉพำะกิจไทย/อิรัก ซ่งมี พ.อ.บุญชู เกิดโชค เป็น ส่งก�ำลังทหำรเข้ำไปปรำบปรำม และขับไล่ประชำชน ซึ่งไม่ใช่ชำว เนนจำกใกล้ไปไกล ท�ำกำรลำดตระเวนร่วมกับกองร้อยรวนดำ











ผบ.กองก�ำลังฯ มีก�ำลังพล รวม ๔๔๓ นำย มีหน่วยรองหลักประกอบ อำหรบมสลิม ท�ำให้มีผู้เสียชีวิตกว่ำ ๓๐๐,๐๐๐ คน และมผผลดถน เพื่อศึกษำข้อมูลประเทศ และรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ปฏิบัติกำร




ด้วย ส่วนบังคับบัญชำ, กองพันทหำรช่ำงเฉพำะกิจ ( ๕๐ นำย ), ชดแพทย์ จำกสงครำมมำกกว่ำ ๒.๕ ล้ำนคน กำหนดรปแบบกำรจดกำลังในกำรรักษำควำมปลอดภัยบุคคลส�ำคัญ

( ๘๐ นำย ), หมวดระวังป้องกัน และส่วนสนับสนุน โดย สนำมบิน และกำรลำดตระเวนในภำรกิจกำรลำดตระเวนปกต ิ


หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ได้รับมอบภำรกิจจำกกองทัพบกให้ พ.ศ.๒๕๔๗ สหภำพแอฟริกัน ได้เจรจำไกล่เกล่ยกลุ่มตำง ๆ กำรลำดตระเวนระยะใกล้ และกำรลำดตระเวนระยะไกล โดยใช ้




จดก�ำลังหมวดระวังป้องกันจ�ำนวน ๕๐ นำย และมอบหมำยให้ ใหลงนำมในขอตกลงเพ่อมนุษยธรรม และข้อตกลงสันติภำพถำวร รูปแบบให้เหมำะสมกับลักษณะภูมิประเทศจริง เพื่อลดกำรเกิดเหตุ




กองพลรบพเศษท ๑ รบผิดชอบในกำรจัดก�ำลังหมวดระวัง แตสถำนกำรณ์ควำมรุนแรงเลวร้ำยลงอีกในปลำย พ.ศ.๒๕๔๙ ปะทะ อุบัติเหตุต่ำงๆ ซึ่งท�ำให้กำรปฏิบัติมีประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น

ป้องกันฯ ซึ่งเป็นก�ำลังพลหลักจำกกรมรบพิเศษที่ ๓ สมทบด้วยก�ำลัง จำกข้อจ�ำกัดด้ำนก�ำลังพล และงบประมำณของสหภำพแอฟริกัน
พลจำกหน่วยอ่นภำยใน หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ จำนวน ในที่สุดคณะมนตรีควำมมั่นคงแห่งสหประชำชำติ จึงมีมติให้จัดตั้ง


๕๐ นำย คือ มว.รวป.กกล.ฉก.๙๗๖ ปฏิบัติกำรผสมสหประชำชำติ-สหภำพแอฟริกันในดำร์ฟูร์
(AU/UN Hybird Operation in Darfu : UNAMID)
เมื่อ ๓๑ มกรำคม ๒๕๕๐ ซึ่งรับกำรโอนถ่ำยภำรกิจรักษำสันติภำพ
จำกสหภำพแอฟริกัน และมีควำมต้องกำรก�ำลัง พัน.ร. เพ่มเตม


๘ กองพัน จำก พัน.ร. ที่มีปฏิบัติกำรอยู่เดิมแล้ว ๑๐ กองพัน
114 115

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย



การสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพท่เซียร์ราลีโอน การปฏิบัติหน้าที่ของผู้สังเกตการณ์ทางทหาร (MILITARY
OBSERVERS : MILOBS)






พ.ศ. ๒๕๔๔ – พ.ศ.๒๕๔๖ ภำรกิจ คือ กำรสังเกตกำรณ์ในพ้นท่ท่มีเง่อนไขควำมขัดแยง
กำรรวบรวมข้อมูลพ้นท่ปฏิบัติกำร รำยงำนและสอบสวนกำรละเมิด


สทธมนษยชน กำรหยุดยิง ควบคุม ก�ำกับดูแล กำรปลดอำวธ




ประจ�ำกองยุทธกำร หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ปฏิบัติหน้ำที่ใน กำรสลำยกองก�ำลังและท�ำลำยอำวุธสงครำม กำรฟื้นฟูสภำพอดีต
ผลัดที่ ๓ ตั้งแต่ ๒๗ ต.ค.๒๕๔๔ ถึง ๒๗ ต.ค.๒๕๔๕ และ พ.ต.เสกสรร กองกำลังติดอำวุธก่อนกลับสู่สังคม กำรสังเกตกำรณ์กำรเลอก


สุขสังข์ ต�ำแหน่ง รอง ผบ.รพศ.๒ พัน.๒ ปฏิบัติหน้ำที่ในผลัดที่ ๔ ตั้งทั่วไป ปฏิบัติหน้ำที่และประสำนงำน ในลักษณะนำยทหำรติดต่อ
ตั้งแต่ ๒๔ ต.ค. ๒๕๔๕ ถึง ๒๖ ต.ค.๒๕๔๖


ระหว่ำงหน่วยงำนของสหประชำชำติ และองค์กรท่ปฏิบัติหน้ำท่ร่วม
กับสหประชำชำติ ทั้งนี้ ผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรจะไม่ติดอำวุธ แต่ใน
การวางก�าลังของกองก�าลัง และผู้สังเกตการณ์ทางทหาร สถำนกำรณ์วิกฤติ จ�ำเป็นต้องใช้กองก�ำลังเข้ำควบคุมพ้นท่ก่อนกำร


ในเซียร์ราลีโอน เจรจำเพื่อเป็นกำรแสดงก�ำลังและป้องปรำม มิให้เกิดควำมรุนแรง
กองก�ำลังนำนำชำติ ประกอบด้วย ปำกีสถำน เนปำล บังคลำ
เทศ ไนจีเรีย เคนยำ กำนำ กินี แซมเบีย และหน่วยบินทหำรอำกำศ บทเรียนท่ได้รับจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรฯ


ของรัสเซีย, หน่วยทหำรขนส่งจำกยูเครน, ร.พ.ระดับ ๓ ของ จอร์แดน ร่วมกับกองก�ำลังนำนำชำติ และประชำชนพ้นเมืองซ่งมีหลำยชนเผ่ำน้น



ซึ่งจะเข้ำควบคุมพื้นที่ใน ๓ เซกเตอร์ คือ ทำงใต้ (WEST) ตอนกลำง ควรศึกษำและมีควำมรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม
(CENTER) และทำงตะวันออก (EAST) ในส่วนกำรจัดก�ำลังของผู้ ภำษำ ตลอดจนลักษณะนิสัยที่มีควำมแตกต่ำงกันของผู้ร่วมงำน และ
สังเกตกำรณ์ฯ จัดเป็น ๑๑ ชุดๆ ละประมำณ ๒๐-๒๗ นำย ประจ�ำอยู่ ประชำชน โดยใช้หลักกำรแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่ำง จึงท�ำให้กำร
ตำมเมืองส�ำคัญต่ำงๆ ของประเทศ ปฏิบัติงำนเป็นไปอย่ำงรำบรื่น ในกำรเจรจำต่อรองกับประชำชนซึ่งมี
ควำมอ่อนไหวต่อสถำนกำรณ์ จ�ำเป็นต้องใช้ทักษะและควำมสำมำรถ

เซียร์รำ ลีโอน เป็นประเทศเล็กๆ ในแอฟริกำตะวันตก มีขนำด อย่ำงสูงในกำรไกล่เกล่ยและระงับข้อพิพำท กำรลำดตระเวนร่วม
พื้นที่ ๗๑,๗๔๐ ตร.กม. ถูกค้นพบโดยชำว โปรตุเกส เมื่อ พ.ศ.๒๐๐๕ กับกองก�ำลังทหำรนำนำชำติ และทหำร-ต�ำรวจฝ่ำยรัฐบำล ท�ำให้ได้
หลังจำกนั้น พ.ศ.๒๑๐๕ ชำวอังกฤษได้เริ่มเข้ำมำค้ำขำยทำส และน�ำ แลกเปลี่ยนวิธีกำร ขั้นตอนกำรปฏิบัติ และประสบกำรณ์ต่ำงๆ โดย



ทำสจำกประเทศตน และผู้อพยพจำกประเทศอ่นมำอยู่ร่วมกันกับ ทหำรไทยทุกนำยล้วนแสดงถึงศักยภำพในกำรท�ำงำน เพ่อสร้ำงช่อ


ชำวเผ่ำด้งเดิมด้วย ต่อมำ พ.ศ.๒๔๙๓ เซียร์รำ ลีโอน จึงตก เสียงให้แก่ประเทศชำติ และเป็นท่ยอมรับจำกนำนำประเทศ และ

เป็นอำณำนิคมของอังกฤษโดยสมบูรณ์และได้รับเอกรำชเม่อ ชำวอำฟริกัน อันจะส่งผลดีต่อกำรเสริมสร้ำงควำมสัมพันธ์ระหว่ำง
๒๗ เมษำยน ๒๕๐๔ จำกควำมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติใน ประเทศในด้ำนต่ำงๆ ต่อไปในอนำคต
ประเทศ ได้น�ำไปสู่กำรสู้รบเพ่อแย่งชิงผลประโยชน์ระหว่ำงฝ่ำย


รัฐบำลและกลุ่มต่อต้ำน ท่ได้รับกำรสนับสนุนจำกประเทศเพ่อน

บ้ำน เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต ๗๐,๐๐๐ คน , พิกำร ๒๐,๐๐๐ คน, เป็น
ผู้อพยพและผู้พลัดถิ่น ๒,๕๐๐,๐๐๐ คน, ใช้เด็กเป็นทหำร ๒๗,๐๐๐ คน


รวมท้งมีกำรละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่ำงรุนแรง ดังน้น พ.ศ.๒๕๔๑
สหประชำชำติจึงได้เข้ำมำให้ควำมช่วยเหลือ โดยส่งกองก�ำลังรักษำ
สันติภำพและผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรเข้ำไปยุติสงครำม และช่วยฟื้นฟู
บูรณะประเทศ ในภำรกิจ UNAMSIL (UNITED NATIONS MISSION
IN SIERRA LEONE)
พ.ศ.๒๕๔๒ ประเทศไทยได้จัดส่งผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรของ
ไทยผลัด ๑ จ�ำนวน ๕ นำย เพื่อร่วมปฏิบัติภำรกิจกำรรักษำสันติภำพ

ของสหประชำชำติในเซียร์รำ ลีโอน โดยในส่วนกองก�ำลังน้น
ประเทศไทยไม่จัดส่งไป โดยคณะผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำร ผลัดที่ ๑
เริ่มปฏิบัติหน้ำที่ เมื่อ ๒๙ ตุลำคม ๒๕๔๒ และเมื่อปฏิบัติหน้ำที่ครบ
๑ ปี จะจัดก�ำลังพลไปผลัดเปลี่ยน ซึ่งก�ำลังพลของหน่วยบัญชำกำร
สงครำมพิเศษได้รับคัดเลือกจำกกองทัพบก และกองบัญชำกำรทหำร
สูงสุด เพื่อเดินทำงไปปฏิบัติหน้ำที่เป็นผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรร่วมกับ
นำยทหำรจำกหน่วยอื่นๆ ของกองทัพไทย และกองก�ำลังนำนำชำติที่
เซียร์รำ ลีโอน จ�ำนวน ๒ นำย คือ พ.ต.ทนงศักดิ์ ตันนำรัตน์ ต�ำแหน่ง



116 117

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย



การสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพท่เซียร์ราลีโอน การปฏิบัติหน้าที่ของผู้สังเกตการณ์ทางทหาร (MILITARY
OBSERVERS : MILOBS)






พ.ศ. ๒๕๔๔ – พ.ศ.๒๕๔๖ ภำรกิจ คือ กำรสังเกตกำรณ์ในพ้นท่ท่มีเง่อนไขควำมขัดแยง
กำรรวบรวมข้อมูลพ้นท่ปฏิบัติกำร รำยงำนและสอบสวนกำรละเมิด


สทธมนษยชน กำรหยุดยิง ควบคุม ก�ำกับดูแล กำรปลดอำวธ




ประจ�ำกองยุทธกำร หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ปฏิบัติหน้ำที่ใน กำรสลำยกองก�ำลังและท�ำลำยอำวุธสงครำม กำรฟื้นฟูสภำพอดีต
ผลัดที่ ๓ ตั้งแต่ ๒๗ ต.ค.๒๕๔๔ ถึง ๒๗ ต.ค.๒๕๔๕ และ พ.ต.เสกสรร กองกำลังติดอำวุธก่อนกลับสู่สังคม กำรสังเกตกำรณ์กำรเลอก


สุขสังข์ ต�ำแหน่ง รอง ผบ.รพศ.๒ พัน.๒ ปฏิบัติหน้ำที่ในผลัดที่ ๔ ตั้งทั่วไป ปฏิบัติหน้ำที่และประสำนงำน ในลักษณะนำยทหำรติดต่อ
ตั้งแต่ ๒๔ ต.ค. ๒๕๔๕ ถึง ๒๖ ต.ค.๒๕๔๖


ระหว่ำงหน่วยงำนของสหประชำชำติ และองค์กรท่ปฏิบัติหน้ำท่ร่วม
กับสหประชำชำติ ทั้งนี้ ผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรจะไม่ติดอำวุธ แต่ใน
การวางก�าลังของกองก�าลัง และผู้สังเกตการณ์ทางทหาร สถำนกำรณ์วิกฤติ จ�ำเป็นต้องใช้กองก�ำลังเข้ำควบคุมพ้นท่ก่อนกำร


ในเซียร์ราลีโอน เจรจำเพื่อเป็นกำรแสดงก�ำลังและป้องปรำม มิให้เกิดควำมรุนแรง
กองก�ำลังนำนำชำติ ประกอบด้วย ปำกีสถำน เนปำล บังคลำ
เทศ ไนจีเรีย เคนยำ กำนำ กินี แซมเบีย และหน่วยบินทหำรอำกำศ บทเรียนท่ได้รับจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรฯ


ของรัสเซีย, หน่วยทหำรขนส่งจำกยูเครน, ร.พ.ระดับ ๓ ของ จอร์แดน ร่วมกับกองก�ำลังนำนำชำติ และประชำชนพ้นเมืองซ่งมีหลำยชนเผ่ำน้น



ซึ่งจะเข้ำควบคุมพื้นที่ใน ๓ เซกเตอร์ คือ ทำงใต้ (WEST) ตอนกลำง ควรศึกษำและมีควำมรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม
(CENTER) และทำงตะวันออก (EAST) ในส่วนกำรจัดก�ำลังของผู้ ภำษำ ตลอดจนลักษณะนิสัยที่มีควำมแตกต่ำงกันของผู้ร่วมงำน และ
สังเกตกำรณ์ฯ จัดเป็น ๑๑ ชุดๆ ละประมำณ ๒๐-๒๗ นำย ประจ�ำอยู่ ประชำชน โดยใช้หลักกำรแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่ำง จึงท�ำให้กำร
ตำมเมืองส�ำคัญต่ำงๆ ของประเทศ ปฏิบัติงำนเป็นไปอย่ำงรำบรื่น ในกำรเจรจำต่อรองกับประชำชนซึ่งมี
ควำมอ่อนไหวต่อสถำนกำรณ์ จ�ำเป็นต้องใช้ทักษะและควำมสำมำรถ

เซียร์รำ ลีโอน เป็นประเทศเล็กๆ ในแอฟริกำตะวันตก มีขนำด อย่ำงสูงในกำรไกล่เกล่ยและระงับข้อพิพำท กำรลำดตระเวนร่วม
พื้นที่ ๗๑,๗๔๐ ตร.กม. ถูกค้นพบโดยชำว โปรตุเกส เมื่อ พ.ศ.๒๐๐๕ กับกองก�ำลังทหำรนำนำชำติ และทหำร-ต�ำรวจฝ่ำยรัฐบำล ท�ำให้ได้
หลังจำกนั้น พ.ศ.๒๑๐๕ ชำวอังกฤษได้เริ่มเข้ำมำค้ำขำยทำส และน�ำ แลกเปลี่ยนวิธีกำร ขั้นตอนกำรปฏิบัติ และประสบกำรณ์ต่ำงๆ โดย


ทำสจำกประเทศตน และผู้อพยพจำกประเทศอ่นมำอยู่ร่วมกันกับ ทหำรไทยทุกนำยล้วนแสดงถึงศักยภำพในกำรท�ำงำน เพ่อสร้ำงช่อ



ชำวเผ่ำด้งเดิมด้วย ต่อมำ พ.ศ.๒๔๙๓ เซียร์รำ ลีโอน จึงตก เสียงให้แก่ประเทศชำติ และเป็นท่ยอมรับจำกนำนำประเทศ และ

เป็นอำณำนิคมของอังกฤษโดยสมบูรณ์และได้รับเอกรำชเม่อ ชำวอำฟริกัน อันจะส่งผลดีต่อกำรเสริมสร้ำงควำมสัมพันธ์ระหว่ำง
๒๗ เมษำยน ๒๕๐๔ จำกควำมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติใน ประเทศในด้ำนต่ำงๆ ต่อไปในอนำคต
ประเทศ ได้น�ำไปสู่กำรสู้รบเพ่อแย่งชิงผลประโยชน์ระหว่ำงฝ่ำย


รัฐบำลและกลุ่มต่อต้ำน ท่ได้รับกำรสนับสนุนจำกประเทศเพ่อน

บ้ำน เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต ๗๐,๐๐๐ คน , พิกำร ๒๐,๐๐๐ คน, เป็น
ผู้อพยพและผู้พลัดถิ่น ๒,๕๐๐,๐๐๐ คน, ใช้เด็กเป็นทหำร ๒๗,๐๐๐ คน

รวมท้งมีกำรละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่ำงรุนแรง ดังน้น พ.ศ.๒๕๔๑

สหประชำชำติจึงได้เข้ำมำให้ควำมช่วยเหลือ โดยส่งกองก�ำลังรักษำ
สันติภำพและผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรเข้ำไปยุติสงครำม และช่วยฟื้นฟู
บูรณะประเทศ ในภำรกิจ UNAMSIL (UNITED NATIONS MISSION
IN SIERRA LEONE)
พ.ศ.๒๕๔๒ ประเทศไทยได้จัดส่งผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรของ
ไทยผลัด ๑ จ�ำนวน ๕ นำย เพื่อร่วมปฏิบัติภำรกิจกำรรักษำสันติภำพ

ของสหประชำชำติในเซียร์รำ ลีโอน โดยในส่วนกองก�ำลังน้น
ประเทศไทยไม่จัดส่งไป โดยคณะผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำร ผลัดที่ ๑
เริ่มปฏิบัติหน้ำที่ เมื่อ ๒๙ ตุลำคม ๒๕๔๒ และเมื่อปฏิบัติหน้ำที่ครบ
๑ ปี จะจัดก�ำลังพลไปผลัดเปลี่ยน ซึ่งก�ำลังพลของหน่วยบัญชำกำร
สงครำมพิเศษได้รับคัดเลือกจำกกองทัพบก และกองบัญชำกำรทหำร
สูงสุด เพื่อเดินทำงไปปฏิบัติหน้ำที่เป็นผู้สังเกตกำรณ์ทำงทหำรร่วมกับ
นำยทหำรจำกหน่วยอื่นๆ ของกองทัพไทย และกองก�ำลังนำนำชำติที่
เซียร์รำ ลีโอน จ�ำนวน ๒ นำย คือ พ.ต.ทนงศักดิ์ ตันนำรัตน์ ต�ำแหน่ง



116 117

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการต่อสู้การก่อการร้ายฯ









การปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันทโรงพยาบาล การปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันจากเหตุการณ์


ราชบุรี (ก๊อดส์อาร์มี่) จับตัวประกันเรือนจาสมุทรสาคร





พ.ศ.๒๕๔๓ พ.ศ.๒๕๔๓



สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ สถานการณ์ เนื่องจำกข้อจ�ำกัดด้วยสภำพพื้นที่ จนเมื่อกลุ่มนักโทษเริ่มออกจำกตัว

พ.ศ.๒๕๔๓ กองก�ำลังทหำรพม่ำพยำยำมจะกวำดล้ำงชนก สำมำรถช่วยเหลือตัวประกันจ�ำนวน ๑๓๙ คน ได้อย่ำงปลอดภัย ๒๒ พฤศจิกำยน ๒๕๔๓ เรือนจ�ำสมุทรสำครจัดอบรม รถกระบะ จ�ำนวน ๓ คน เพื่อเตรียมเปลี่ยนยำงรถ ชุดซุ่มยิงได้เริ่มกำร

ลุ่มน้อยให้หมดส้นไป และเม่อชนกลุ่มน้อยเสียเปรียบจึงร่นถอยเข้ำ ทุกคน ฝ่ำยเรำ ไม่มีกำรสูญเสีย มีบำดเจ็บจ�ำนวน ๘ คน และ ฝ่ำยผู้ ศีลธรรมส�ำหรับนักโทษประจ�ำเรือนจ�ำ ในขณะน้นได้มีกลุ่มนักโทษ ยิงขึ้น ชุดปฏิบัติกำรพิเศษ และเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจ จึงเริ่มปฏิบัติกำรชิง



มำในประเทศไทย ตำมแนวชำยแดนไทย-พม่ำ จึงมีศูนย์อพยพท่จะ ก่อกำรร้ำย เสียชีวิตทั้งหมด ชำวพม่ำจ�ำนวน ๑๐ คน พร้อมด้วยปืนและระเบิด ได้ก่อควำม ตัวประกันทันที โดยใช้เวลำในกำรปฏิบัติกำร ๓ นำที
รับผู้หลบหนีจำกภัยสงครำม โดยมีกำรช่วยเหลือปัจจัย เพ่อด�ำรง ไม่สงบจ้จับอนุศำสนำจำรย์ และนำยสมวงศ์ ศิริเวช ผู้บัญชำกำร





ชีพตำมท่องค์กำรสหประชำชำติให้ควำมช่วยเหลือ ต่อมำ กองก�ำลัง เรือนจ�ำ เป็นตัวประกัน โดยย่นเง่อนไขขอเฮลิคอปเตอร์ เพ่อใช้ ผลการปฏิบัติ

กะเหร่ยง กลุ่ม God Army จ�ำนวน ๑๐ คน พร้อมอำวุธสงครำม ในกำรหลบหนี แต่ทำงเจ้ำหน้ำท่ไม่ยินยอม กลุ่มนักโทษจึงสังหำร สำมำรถช่วยเหลือตัวประกันได้ โดยบำดเจ็บ ๒ คน และเสีย


หลบหนีกำรไล่ล่ำจำกทหำรพม่ำเข้ำมำทำงบ้ำนตะโกล่ำง อ.สวนผ้ง อนุศำสนำจำรย์เสียชีวิต และขอรถยนต์ท่มีกระบะปิดท้ำย น�ำตัว ชีวิต ๑ คน คนร้ำยเสียชีวิต จ�ำนวน ๙ คน บำดเจ็บ ๑ คน




จ.รำชบุรี จ้รถยนต์โดยสำรไปโรงพยำบำลศูนย์รำชบุรี อ.เมือง ประกันข้นรถยนต์ไปด้วยจ�ำนวน ๗ คน

จ.รำชบุรี และบุกยึดโรงพยำบำลศูนย์รำชบุรีจับเจ้ำหน้ำท่แพทย์

พยำบำล คนป่วยพระสงฆ์ จ�ำนวน ๑๐๐ คน เป็นตัวประกัน เม่อ การปฏิบัติ
๒๔ มกรำคม ๒๕๔๓ เวลำ ๐๕๓๐ น.
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๓
การปฏิบัติ พลเอก สุรยุทธ์ จุลำนนท์ ผู้บัญชำกำรทหำรบก เป็นผู้บัญชำกำร


เหตุกำรณ์ ส่งกำรให้จัดต้งกองบัญชำกำรควบคุมเหตุกำรณ์ขึ้น
ห้วง ๒๔ –๒๕ มกราคม ๒๕๔๓
ณ ค่ำยภำณุรังษีฯ จ.รำชบุรี และสั่งกำรให้ หน่วยบัญชำกำร
นำยชวน หลีกภัย นำยกรัฐมนตรี /รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวง สงครำมพิเศษ จัดก�ำลังชุดปฏิบัติกำรพิเศษ ของกองร้อยปฏิบัติกำร
กลำโหมของไทย ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมประชุม พิเศษ กรมรบพิเศษที่ ๓ เข้ำควบคุมเหตุกำรณ์ โดยแบ่งก�ำลังออกเป็น

เพอวำงแผนแก้ไขปัญหำ และได้แต่งต้ง พลเอกสุรยุทธ์ จุลำนนท์ ๒ ส่วน


ผู้บัญชำกำรทหำรบก ให้เป็นผู้บัญชำกำรเหตุกำรณ์ และผู้บัญชำกำร ก�ำลังส่วนที่ ๑ ปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันด้ำน อ.ท่ำม่วง
ต�ำรวจแห่งชำติ เป็นรองผู้บัญชำกำรเหตุกำรณ์ ซ่งได้ส่งกำรแก้ไข อ.ไทรโยค และ อ.ทองผำภูมิ จ.กำญจนบุรี


เหตุกำรณ์ควำมไม่สงบในครั้งนี้ ด้วยควำมละเอียดรอบคอบและรัดกุม
ก�ำลังส่วนที่ ๒ ปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันด้ำน อ.สังขละบุรี
กำรปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันและกำรเจรจำกับ จ.กำญจนบุรี
กองก�ำลังกะเหรี่ยง เพื่อให้ยอมวำงอำวุธ และมอบตัว จึงเริ่มขึ้นใน
เวลำ ๑๒๐๐ น. ของวันที่ ๒๔ มกรำคม ๒๕๔๓ แต่กำรเจรจำล้มเหลว จนกระทั่งในเวลำรุ่งเช้ำ ของ ๒๓ พฤศจิกำยน ๒๕๔๓






จงมีค�ำส่งให้ชุดปฏิบัติกำรพิเศษ (ชปพ.) กองร้อยปฏิบัติกำรพิเศษ, ชุดปฏิบัติกำรพิเศษส่วนหน่งได้เคล่อนก�ำลังไปเข้ำท่วำงตัวในพ้นท ่ ี
หน่วยนเรศวร ๒๖๑ หน่วยอรินทรำช ๒๖ และหน่วยคอมมำนโดจำก อ.ไทรโยค และอีกส่วนหนึ่งเคลื่อนที่ติดตำมนักโทษไป ร่วมกับ
กองปรำบฯ เตรียมปฏิบัติกำร ชี้แจงเหตุกำรณ์ตลอดจนหนทำงปฏิบัติ เจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจ จนกระทั่งถึงบ้ำนเขำสำมชั้น บริเวณป้อมยำมน�้ำตก


และวำงแผนกำรปฏิบัติข้นสุดท้ำย ซ่งกำรปฏิบัติกำรพิเศษในกำร ไทรโยกน้อย/ใกล้สำมแยกทับศิลำ รถกระบะของนักโทษเกิดยำงรั่ว
ช่วยเหลือตัวประกันเร่มข้นเวลำ ๐๕๓๐ น. ของ วันท่ ๒๕ มกรำคม ๒๕๔๓ ทั้ง ๔ เส้น และมีกำรเจรจำต่อรอง ผู้บัญชำกำรหน่วยบัญชำกำร



ใช้เวลำปฏิบัติกำรประมำณ ๔๐ นำที สงครำมพิเศษ
จึงสั่งกำรให้ชุดซุ่มยิงเข้ำร่วมปฏิบัติกำร โดยเตรียมชุดซุ่มยิงเพื่อ
เข้ำปฏิบัติกำรจ�ำนวน ๒ ชุด แต่เข้ำวำงก�ำลังปฏิบัติได้เพียง ๑ ชุด

เอกสารท่พบจากกลุ่มคนร้าย
118 119

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการต่อสู้การก่อการร้ายฯ









การปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันทโรงพยาบาล การปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันจากเหตุการณ์


ราชบุรี (ก๊อดส์อาร์มี่) จับตัวประกันเรือนจาสมุทรสาคร





พ.ศ.๒๕๔๓ พ.ศ.๒๕๔๓



สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ สถานการณ์ เนื่องจำกข้อจ�ำกัดด้วยสภำพพื้นที่ จนเมื่อกลุ่มนักโทษเริ่มออกจำกตัว

พ.ศ.๒๕๔๓ กองก�ำลังทหำรพม่ำพยำยำมจะกวำดล้ำงชนก สำมำรถช่วยเหลือตัวประกันจ�ำนวน ๑๓๙ คน ได้อย่ำงปลอดภัย ๒๒ พฤศจิกำยน ๒๕๔๓ เรือนจ�ำสมุทรสำครจัดอบรม รถกระบะ จ�ำนวน ๓ คน เพื่อเตรียมเปลี่ยนยำงรถ ชุดซุ่มยิงได้เริ่มกำร

ลุ่มน้อยให้หมดส้นไป และเม่อชนกลุ่มน้อยเสียเปรียบจึงร่นถอยเข้ำ ทุกคน ฝ่ำยเรำ ไม่มีกำรสูญเสีย มีบำดเจ็บจ�ำนวน ๘ คน และ ฝ่ำยผู้ ศีลธรรมส�ำหรับนักโทษประจ�ำเรือนจ�ำ ในขณะน้นได้มีกลุ่มนักโทษ ยิงขึ้น ชุดปฏิบัติกำรพิเศษ และเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจ จึงเริ่มปฏิบัติกำรชิง



มำในประเทศไทย ตำมแนวชำยแดนไทย-พม่ำ จึงมีศูนย์อพยพท่จะ ก่อกำรร้ำย เสียชีวิตทั้งหมด ชำวพม่ำจ�ำนวน ๑๐ คน พร้อมด้วยปืนและระเบิด ได้ก่อควำม ตัวประกันทันที โดยใช้เวลำในกำรปฏิบัติกำร ๓ นำที
รับผู้หลบหนีจำกภัยสงครำม โดยมีกำรช่วยเหลือปัจจัย เพ่อด�ำรง ไม่สงบจ้จับอนุศำสนำจำรย์ และนำยสมวงศ์ ศิริเวช ผู้บัญชำกำร





ชีพตำมท่องค์กำรสหประชำชำติให้ควำมช่วยเหลือ ต่อมำ กองก�ำลัง เรือนจ�ำ เป็นตัวประกัน โดยย่นเง่อนไขขอเฮลิคอปเตอร์ เพ่อใช้ ผลการปฏิบัติ

กะเหร่ยง กลุ่ม God Army จ�ำนวน ๑๐ คน พร้อมอำวุธสงครำม ในกำรหลบหนี แต่ทำงเจ้ำหน้ำท่ไม่ยินยอม กลุ่มนักโทษจึงสังหำร สำมำรถช่วยเหลือตัวประกันได้ โดยบำดเจ็บ ๒ คน และเสีย


หลบหนีกำรไล่ล่ำจำกทหำรพม่ำเข้ำมำทำงบ้ำนตะโกล่ำง อ.สวนผ้ง อนุศำสนำจำรย์เสียชีวิต และขอรถยนต์ท่มีกระบะปิดท้ำย น�ำตัว ชีวิต ๑ คน คนร้ำยเสียชีวิต จ�ำนวน ๙ คน บำดเจ็บ ๑ คน




จ.รำชบุรี จ้รถยนต์โดยสำรไปโรงพยำบำลศูนย์รำชบุรี อ.เมือง ประกันข้นรถยนต์ไปด้วยจ�ำนวน ๗ คน

จ.รำชบุรี และบุกยึดโรงพยำบำลศูนย์รำชบุรีจับเจ้ำหน้ำท่แพทย์

พยำบำล คนป่วยพระสงฆ์ จ�ำนวน ๑๐๐ คน เป็นตัวประกัน เม่อ การปฏิบัติ
๒๔ มกรำคม ๒๕๔๓ เวลำ ๐๕๓๐ น.
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๓
การปฏิบัติ พลเอก สุรยุทธ์ จุลำนนท์ ผู้บัญชำกำรทหำรบก เป็นผู้บัญชำกำร

เหตุกำรณ์ ส่งกำรให้จัดต้งกองบัญชำกำรควบคุมเหตุกำรณ์ขึ้น

ห้วง ๒๔ –๒๕ มกราคม ๒๕๔๓
ณ ค่ำยภำณุรังษีฯ จ.รำชบุรี และสั่งกำรให้ หน่วยบัญชำกำร
นำยชวน หลีกภัย นำยกรัฐมนตรี /รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวง สงครำมพิเศษ จัดก�ำลังชุดปฏิบัติกำรพิเศษ ของกองร้อยปฏิบัติกำร
กลำโหมของไทย ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมประชุม พิเศษ กรมรบพิเศษที่ ๓ เข้ำควบคุมเหตุกำรณ์ โดยแบ่งก�ำลังออกเป็น

เพอวำงแผนแก้ไขปัญหำ และได้แต่งต้ง พลเอกสุรยุทธ์ จุลำนนท์ ๒ ส่วน


ผู้บัญชำกำรทหำรบก ให้เป็นผู้บัญชำกำรเหตุกำรณ์ และผู้บัญชำกำร ก�ำลังส่วนที่ ๑ ปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันด้ำน อ.ท่ำม่วง
ต�ำรวจแห่งชำติ เป็นรองผู้บัญชำกำรเหตุกำรณ์ ซ่งได้ส่งกำรแก้ไข อ.ไทรโยค และ อ.ทองผำภูมิ จ.กำญจนบุรี


เหตุกำรณ์ควำมไม่สงบในครั้งนี้ ด้วยควำมละเอียดรอบคอบและรัดกุม
ก�ำลังส่วนที่ ๒ ปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันด้ำน อ.สังขละบุรี
กำรปฏิบัติกำรช่วยเหลือตัวประกันและกำรเจรจำกับ จ.กำญจนบุรี
กองก�ำลังกะเหรี่ยง เพื่อให้ยอมวำงอำวุธ และมอบตัว จึงเริ่มขึ้นใน
เวลำ ๑๒๐๐ น. ของวันที่ ๒๔ มกรำคม ๒๕๔๓ แต่กำรเจรจำล้มเหลว จนกระทั่งในเวลำรุ่งเช้ำ ของ ๒๓ พฤศจิกำยน ๒๕๔๓






จงมีค�ำส่งให้ชุดปฏิบัติกำรพิเศษ (ชปพ.) กองร้อยปฏิบัติกำรพิเศษ, ชุดปฏิบัติกำรพิเศษส่วนหน่งได้เคล่อนก�ำลังไปเข้ำท่วำงตัวในพ้นท ่ ี
หน่วยนเรศวร ๒๖๑ หน่วยอรินทรำช ๒๖ และหน่วยคอมมำนโดจำก อ.ไทรโยค และอีกส่วนหนึ่งเคลื่อนที่ติดตำมนักโทษไป ร่วมกับ
กองปรำบฯ เตรียมปฏิบัติกำร ชี้แจงเหตุกำรณ์ตลอดจนหนทำงปฏิบัติ เจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจ จนกระทั่งถึงบ้ำนเขำสำมชั้น บริเวณป้อมยำมน�้ำตก


และวำงแผนกำรปฏิบัติข้นสุดท้ำย ซ่งกำรปฏิบัติกำรพิเศษในกำร ไทรโยกน้อย/ใกล้สำมแยกทับศิลำ รถกระบะของนักโทษเกิดยำงรั่ว
ช่วยเหลือตัวประกันเร่มข้นเวลำ ๐๕๓๐ น. ของ วันท่ ๒๕ มกรำคม ๒๕๔๓ ทั้ง ๔ เส้น และมีกำรเจรจำต่อรอง ผู้บัญชำกำรหน่วยบัญชำกำร



ใช้เวลำปฏิบัติกำรประมำณ ๔๐ นำที สงครำมพิเศษ
จึงสั่งกำรให้ชุดซุ่มยิงเข้ำร่วมปฏิบัติกำร โดยเตรียมชุดซุ่มยิงเพื่อ
เข้ำปฏิบัติกำรจ�ำนวน ๒ ชุด แต่เข้ำวำงก�ำลังปฏิบัติได้เพียง ๑ ชุด

เอกสารท่พบจากกลุ่มคนร้าย
118 119

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติภารกิจปราบปรามยาเสพติด









การปฏิบัติภารกิจปราบปรามและสกัดก้นยาเสพติด การปฏิบัติภารกิจเพื่อสกัดกั้น ท�าลายขบวนการ



ในพื้นท่ตามแนวชายแดน และแหล่งผลิตยาเสพติดของชุดควบคุมที่ ๔๓๒

ของชุดควบคุมและประสานงานโครงการ ๕๑๔ (ชค.๕๑๔)



พ.ศ.๒๕๒๔ – พ.ศ.๒๕๒๙ พ.ศ. ๒๕๔๓ – พ.ศ.๒๕๔๕




สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ การปฏิบัติ

พ.ศ.๒๕๒๔ ประเทศไทยประสบปัญหำกำรแพร่ระบำดอย่ำง กำรปฏิบัติภำรกิจปรำบปรำมและสกัดก้นกำรผลิตยำเสพ ตั้งแต่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๓ – ๓๐ กันยายน ๒๕๔๕

หนักของยำเสพติดประเภทเฮโรอีน ในพื้นที่ตำมแนวชำยแดนทำงภำค ติดประเภทเฮโรอีน ตำมแนวชำยแดนไทย-พม่ำ ของ ชค. ๕๑๔ ผู้บัญชำกำรทหำรบก มีค�ำสั่งให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
เหนือของประเทศไทย ที่เป็นแหล่งผลิตยำเสพติดออก อย่ำงจริงจังและต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๔ – พ.ศ.๒๕๒๙ มีกำรปฏิบัติ โดยกรมรบพิเศษที่ ๔ จัดตั้งชุดควบคุมที่ ๔๓๒ ประกอบไปด้วยก�ำลัง
ตำมแผนยุทธกำรท้งหมด ๓๔ ยุทธกำร ซ่งบรรลุผลส�ำเร็จตำมแผน


สู่ตลำดเป็นจ�ำนวนมำก นอกจำกยำเสพติดจะระบำดใน พลจำกกรมรบพิเศษที่ ๔, กรมรบพิเศษที่ ๕, กองพันจู่โจม โดยมีพัน

ประเทศไทยแล้ว ไทยยังเป็นเส้นทำงล�ำเลียงส่งออกยำเสพติด ไปยัง ทุกคร้ง โดยเป็นกำรโจมตีท�ำลำยแหล่งผลิตยำเสพติด ๓๒ ยุทธกำร เอกส�ำเร็จ ศรีหร่ำย ซึ่งด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้บังคับกำรกรมรบพิเศษที่ ๕




ประเทศต่ำงๆ ทั่วโลก ท�ำให้หลำยประเทศ โดยเฉพำะสหรัฐอเมริกำ และโจมตีท�ำลำยฐำนท่ม่นของผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ ๒ ยุทธกำร ในขณะน้น เป็นผู้บังคับชุดควบคุมท่ ๔๓๒ ปฏิบัติภำรกิจสกัดก้น






เพ่งเล็งมำท่ประเทศไทย ถึงเร่องผลประโยชน์แอบแฝงอ่นๆ ดังน้น ซ่งท�ำให้กำรแพร่ระบำดของยำเสพติดในประเทศไทยลดลงอย่ำง ท�ำลำยขบวนกำร และแหล่งผลิตยำเสพติดแอมเฟตำมีน (ยำบ้ำ)
รัฐบำลไทยจึงต้องมีนโยบำยก�ำจัดแหล่งผลิตยำเสพติดเฮโรอีน ชัดเจน รวมทั้งสถำนกำรณ์ควำมมั่นคงภำยในประเทศจำกกำรก่อกำร สถานการณ์ ในเขตพ้นท่ระวังป้องกันและตำมแนวชำยแดนทำงทิศเหนือ และทิศ


อย่ำงเร่งด่วน ซึ่งผู้ผลิตฯ รำยใหญ่ คือ “ขุนส่ำ” หรือ นำยจำง ซีฟู ร้ำยคอมมิวนิสต์ได้ลดควำมรุนแรงลงด้วย ตลอดห้วงระยะเวลำในกำร ตะวันตกของประเทศไทย

ตั้งโรงงำนผลิตเฮโรอีนในเขตของพม่ำ ห่ำงจำกเขตแดนไทยประมำณ ปฏิบัติภำรกิจของ ชค.๕๑๔ มีก�ำลังพลที่สูญเสียชีวิต จ�ำนวน ๒๓ นำย จำกกำรท่ประเทศไทยได้เผชิญกับภัยคุกคำมจำกปัญหำยำเสพติด
สิบกว่ำกิโลเมตร และน�ำเฮโรอีนเข้ำมำเก็บไว้ที่บ้ำนหินแตก อ.แม่จัน และบำดเจ็บในระหว่ำงกำรสู้รบ จ�ำนวน ๘๒ นำย ที่บ่อนท�ำลำยควำมมั่นคงของประเทศไทยอย่ำงรุนแรง และสร้ำงควำม ผลการปฏิบัติ

จ.เชียงรำย มีกองก�ำลังติดอำวุธหลำยพันคน เพื่อคุ้มกันโรงงำนและ ส่นคลอนแก่เสถียรภำพของประเทศไทยเป็นอย่ำงมำก จำกกำรแพร่ ชุดควบคุมท่ ๔๓๒ ปฏิบัติภำรกิจตำมแผนยุทธกำรส�ำคัญๆ


พ้นท่ล�ำเลียงยำเสพติด พลเอกเปรม ติณสูลำนนท์ นำยกรัฐมนตร ี ผู้ได้รับเครื่องราชราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ระบำดยำเสพติดที่นับวันทวีควำมรุนแรงยิ่งขึ้น จนถือเป็นภัยคุกคำมที่ รวม ๔๐ คร้ง สำมำรถท�ำลำยแหล่งผลิตยำเสพติด รวมถึงขบวน



จึงให้กองทัพบกจัดตั้งหน่วยงำนลับ ๑. พลตรี พอพล มณีรินทร์ รัฐบำลให้ควำมสนใจและทุ่มเทงบประมำณในกำรแก้ไขปัญหำน้อย่ำง ล�ำเลียงยำเสพติด และยึดยำเสพติดท่ส�ำคัญประกอบด้วย ยำบ้ำ

เพ่อเข้ำโจมตี ท�ำลำยล้ำงโรงงำนผลิตเฮโรอีนของขุนส่ำ รำชำ ๒. พลโท ส�ำเร็จ ศรีหร่ำย จริงจังมำโดยต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้ผลเป็นรูปธรรม จนใน พ.ศ. ๒๕๔๑ จ�ำนวน ๒๖,๗๓๑,๓๘๘ เม็ด และเฮโรอีนจ�ำนวน ๓๖.๘ กิโลกรัม


ยำเสพติดโลก และปรำบปรำมยำเสพติดท่ก�ำลังระบำดอย่ำงหนักใน ๓. พลเอก อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์ รัฐบำลได้ประกำศท�ำสงครำมกับยำเสพติดขั้นเด็ดขำด และมอบหมำย อุปกรณ์กำรผลิตยำเสพติด รวมทั้งอำวุธยุทโธปกรณ์ของขบวนกำรค้ำ
ให้กองทัพบกจัดตั้งหน่วยเฉพำะกิจ ปฏิบัติกำรพิเศษ โจมตีแหล่งผลิต
ประเทศไทย โดยได้รับงบประมำณจำกหน่วยปรำบปรำมยำเสพติด และสกัดก้นกำรล�ำเลียงยำเสพติดจำกประเทศเพ่อนบ้ำนท่เข้ำสู่ ยำเสพติดหลำยรำยกำร มีกำรสูญเสียชีวิต ก�ำลังพลฝ่ำยเรำ จ�ำนวน ๒ นำย



ของประเทศสหรัฐอเมริกำ และบำดเจ็บสำหัส จ�ำนวน ๑ นำย
ชำยแดนประเทศไทย
การปฏิบัติ
ตั้งแต่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๒๔ – พฤษภาคม ๒๕๒๙

กองทัพบกได้จัดต้งหน่วยเฉพำะกิจ ชุดควบคุมและประสำน
พลตรี พอพล มณีรินทร์ พลโท ส�าเร็จ ศรีหร่าย พลเอก อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์
งำนโครงกำร ๕๑๔ (ชค.๕๑๔) ในเดือนสิงหำคม ๒๕๒๔ มีก�ำลังพล

ท้งส้น ๗๒ นำย คัดเลือกมำจำกหน่วยรบพิเศษ หน่วยทหำรพรำน

ของกองทัพบก และอำสำสมัครทหำรพรำนจู่โจม ในกำรปฏิบัติภำรกิจ
จัดก�ำลังออกเป็น ๒ ชุดๆ ละ ๓๖ นำย ชุดที่หนึ่ง มีร้อยเอกชวน
ประเสริฐศรี เป็นหัวหน้ำ และชุดท่สอง มีร้อยเอกส�ำเร็จ ศรีหร่ำย

เป็นหัวหน้ำปฏิบัติภำรกิจโจมตี ท�ำลำยกองก�ำลังติดอำวุธ ฐำนท่ม่น




แหล่งผลิต/โรงงำนผลิตยำเสพติดในพ้นท่ตำมแนวชำยแดนพม่ำ
ตลอดทั้งเส้นทำงล�ำเลียงยำเสพติดในพื้นที่อิทธิพล
120 121

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติภารกิจปราบปรามยาเสพติด









การปฏิบัติภารกิจปราบปรามและสกัดก้นยาเสพติด การปฏิบัติภารกิจเพื่อสกัดกั้น ท�าลายขบวนการ



ในพื้นท่ตามแนวชายแดน และแหล่งผลิตยาเสพติดของชุดควบคุมที่ ๔๓๒

ของชุดควบคุมและประสานงานโครงการ ๕๑๔ (ชค.๕๑๔)



พ.ศ.๒๕๒๔ – พ.ศ.๒๕๒๙ พ.ศ. ๒๕๔๓ – พ.ศ.๒๕๔๕




สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ การปฏิบัติ

พ.ศ.๒๕๒๔ ประเทศไทยประสบปัญหำกำรแพร่ระบำดอย่ำง กำรปฏิบัติภำรกิจปรำบปรำมและสกัดก้นกำรผลิตยำเสพ ตั้งแต่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๓ – ๓๐ กันยายน ๒๕๔๕

หนักของยำเสพติดประเภทเฮโรอีน ในพื้นที่ตำมแนวชำยแดนทำงภำค ติดประเภทเฮโรอีน ตำมแนวชำยแดนไทย-พม่ำ ของ ชค. ๕๑๔ ผู้บัญชำกำรทหำรบก มีค�ำสั่งให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
เหนือของประเทศไทย ที่เป็นแหล่งผลิตยำเสพติดออก อย่ำงจริงจังและต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๔ – พ.ศ.๒๕๒๙ มีกำรปฏิบัติ โดยกรมรบพิเศษที่ ๔ จัดตั้งชุดควบคุมที่ ๔๓๒ ประกอบไปด้วยก�ำลัง
ตำมแผนยุทธกำรท้งหมด ๓๔ ยุทธกำร ซ่งบรรลุผลส�ำเร็จตำมแผน


สู่ตลำดเป็นจ�ำนวนมำก นอกจำกยำเสพติดจะระบำดใน พลจำกกรมรบพิเศษที่ ๔, กรมรบพิเศษที่ ๕, กองพันจู่โจม โดยมีพัน

ประเทศไทยแล้ว ไทยยังเป็นเส้นทำงล�ำเลียงส่งออกยำเสพติด ไปยัง ทุกคร้ง โดยเป็นกำรโจมตีท�ำลำยแหล่งผลิตยำเสพติด ๓๒ ยุทธกำร เอกส�ำเร็จ ศรีหร่ำย ซึ่งด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้บังคับกำรกรมรบพิเศษที่ ๕




ประเทศต่ำงๆ ทั่วโลก ท�ำให้หลำยประเทศ โดยเฉพำะสหรัฐอเมริกำ และโจมตีท�ำลำยฐำนท่ม่นของผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ ๒ ยุทธกำร ในขณะน้น เป็นผู้บังคับชุดควบคุมท่ ๔๓๒ ปฏิบัติภำรกิจสกัดก้น






เพ่งเล็งมำท่ประเทศไทย ถึงเร่องผลประโยชน์แอบแฝงอ่นๆ ดังน้น ซ่งท�ำให้กำรแพร่ระบำดของยำเสพติดในประเทศไทยลดลงอย่ำง ท�ำลำยขบวนกำร และแหล่งผลิตยำเสพติดแอมเฟตำมีน (ยำบ้ำ)
รัฐบำลไทยจึงต้องมีนโยบำยก�ำจัดแหล่งผลิตยำเสพติดเฮโรอีน ชัดเจน รวมทั้งสถำนกำรณ์ควำมมั่นคงภำยในประเทศจำกกำรก่อกำร สถานการณ์ ในเขตพ้นท่ระวังป้องกันและตำมแนวชำยแดนทำงทิศเหนือ และทิศ


อย่ำงเร่งด่วน ซึ่งผู้ผลิตฯ รำยใหญ่ คือ “ขุนส่ำ” หรือ นำยจำง ซีฟู ร้ำยคอมมิวนิสต์ได้ลดควำมรุนแรงลงด้วย ตลอดห้วงระยะเวลำในกำร ตะวันตกของประเทศไทย

ตั้งโรงงำนผลิตเฮโรอีนในเขตของพม่ำ ห่ำงจำกเขตแดนไทยประมำณ ปฏิบัติภำรกิจของ ชค.๕๑๔ มีก�ำลังพลที่สูญเสียชีวิต จ�ำนวน ๒๓ นำย จำกกำรท่ประเทศไทยได้เผชิญกับภัยคุกคำมจำกปัญหำยำเสพติด
สิบกว่ำกิโลเมตร และน�ำเฮโรอีนเข้ำมำเก็บไว้ที่บ้ำนหินแตก อ.แม่จัน และบำดเจ็บในระหว่ำงกำรสู้รบ จ�ำนวน ๘๒ นำย ที่บ่อนท�ำลำยควำมมั่นคงของประเทศไทยอย่ำงรุนแรง และสร้ำงควำม ผลการปฏิบัติ

จ.เชียงรำย มีกองก�ำลังติดอำวุธหลำยพันคน เพื่อคุ้มกันโรงงำนและ ส่นคลอนแก่เสถียรภำพของประเทศไทยเป็นอย่ำงมำก จำกกำรแพร่ ชุดควบคุมท่ ๔๓๒ ปฏิบัติภำรกิจตำมแผนยุทธกำรส�ำคัญๆ


พ้นท่ล�ำเลียงยำเสพติด พลเอกเปรม ติณสูลำนนท์ นำยกรัฐมนตร ี ผู้ได้รับเครื่องราชราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ระบำดยำเสพติดที่นับวันทวีควำมรุนแรงยิ่งขึ้น จนถือเป็นภัยคุกคำมที่ รวม ๔๐ คร้ง สำมำรถท�ำลำยแหล่งผลิตยำเสพติด รวมถึงขบวน



จึงให้กองทัพบกจัดตั้งหน่วยงำนลับ ๑. พลตรี พอพล มณีรินทร์ รัฐบำลให้ควำมสนใจและทุ่มเทงบประมำณในกำรแก้ไขปัญหำน้อย่ำง ล�ำเลียงยำเสพติด และยึดยำเสพติดท่ส�ำคัญประกอบด้วย ยำบ้ำ

เพ่อเข้ำโจมตี ท�ำลำยล้ำงโรงงำนผลิตเฮโรอีนของขุนส่ำ รำชำ ๒. พลโท ส�ำเร็จ ศรีหร่ำย จริงจังมำโดยต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้ผลเป็นรูปธรรม จนใน พ.ศ. ๒๕๔๑ จ�ำนวน ๒๖,๗๓๑,๓๘๘ เม็ด และเฮโรอีนจ�ำนวน ๓๖.๘ กิโลกรัม


ยำเสพติดโลก และปรำบปรำมยำเสพติดท่ก�ำลังระบำดอย่ำงหนักใน ๓. พลเอก อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์ รัฐบำลได้ประกำศท�ำสงครำมกับยำเสพติดขั้นเด็ดขำด และมอบหมำย อุปกรณ์กำรผลิตยำเสพติด รวมทั้งอำวุธยุทโธปกรณ์ของขบวนกำรค้ำ
ให้กองทัพบกจัดตั้งหน่วยเฉพำะกิจ ปฏิบัติกำรพิเศษ โจมตีแหล่งผลิต
ประเทศไทย โดยได้รับงบประมำณจำกหน่วยปรำบปรำมยำเสพติด และสกัดก้นกำรล�ำเลียงยำเสพติดจำกประเทศเพ่อนบ้ำนท่เข้ำสู่ ยำเสพติดหลำยรำยกำร มีกำรสูญเสียชีวิต ก�ำลังพลฝ่ำยเรำ จ�ำนวน ๒ นำย



ของประเทศสหรัฐอเมริกำ และบำดเจ็บสำหัส จ�ำนวน ๑ นำย
ชำยแดนประเทศไทย
การปฏิบัติ
ตั้งแต่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๒๔ – พฤษภาคม ๒๕๒๙

กองทัพบกได้จัดต้งหน่วยเฉพำะกิจ ชุดควบคุมและประสำน
พลตรี พอพล มณีรินทร์ พลโท ส�าเร็จ ศรีหร่าย พลเอก อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์
งำนโครงกำร ๕๑๔ (ชค.๕๑๔) ในเดือนสิงหำคม ๒๕๒๔ มีก�ำลังพล

ท้งส้น ๗๒ นำย คัดเลือกมำจำกหน่วยรบพิเศษ หน่วยทหำรพรำน

ของกองทัพบก และอำสำสมัครทหำรพรำนจู่โจม ในกำรปฏิบัติภำรกิจ
จัดก�ำลังออกเป็น ๒ ชุดๆ ละ ๓๖ นำย ชุดที่หนึ่ง มีร้อยเอกชวน
ประเสริฐศรี เป็นหัวหน้ำ และชุดท่สอง มีร้อยเอกส�ำเร็จ ศรีหร่ำย

เป็นหัวหน้ำปฏิบัติภำรกิจโจมตี ท�ำลำยกองก�ำลังติดอำวุธ ฐำนท่ม่น




แหล่งผลิต/โรงงำนผลิตยำเสพติดในพ้นท่ตำมแนวชำยแดนพม่ำ
ตลอดทั้งเส้นทำงล�ำเลียงยำเสพติดในพื้นที่อิทธิพล
120 121

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย


การปราบปรามยาเสพติด กองร้อยรบพิเศษ ๕๑









กองร้อยรบพิเศษ ๕๑ จัดตั้งขึ้นตำมแนวทำงพระรำชทำนของ การปฏิบัติ
พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวฯ รัชกำลที่ ๙ ในกำรเสริมสร้ำงควำม แบ่งเป็น ๗ ขั้นตอน ได้แก่
มั่นคงตำมแนวชำยแดนในเขตพื้นที่ กองทัพภำคที่ ๓
๑. ขั้นกำรสืบสภำพ

ภารกิจ ๒. ขั้นกำรคัดแยกตัวรำษฎร




เพ่อสกัดก้นกำรแพร่กระจำยของยำเสพติด ในพ้นท่หมู่บ้ำน ๓. ขั้นกำรฟื้นฟูบ�ำบัด
ชำยแดนไทย-พม่ำ ในเขต ทภ.๓ ในห้วง พ.ศ.๒๕๔๓ – ๒๕๔๘ และ ๔. ขั้นกำรจัดตั้งมวลชนต่อต้ำนยำเสพติด
พ.ศ.๒๕๕๒ – ๒๕๕๕ โดยกำรปฏิบัติจะขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรกับ
ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพภำคที่ ๓ กำรจัดก�ำลัง รวมก�ำลังพลทั้งสิ้น ๕. ขั้นกำรท�ำลำยขบวนกำรยำเสพติด
๑๐๙ นำย ๖. ขั้นกำรพัฒนำ

ประกอบด้วย ๗. ขั้นกำรส่งมอบพื้นที่

• กองบังคับกำรกองร้อยก�ำลังพล ๒๕ นำย
จัดจำก กรมรบพิเศษที่ ๕ ผลการปฏิบัติ

• ๖ ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ ก�ำลังพล ๗๒ นำย สำมำรถลดจ�ำนวนผู้ค้ำยำและผู้เสพยำ ท�ำให้ปริมำณยำ



จัดจำกกรมรบพิเศษ และ ศูนย์สงครำมพิเศษ เสพติดท่เข้ำมำตำมเส้นทำงในพ้นท่ดังกล่ำว มีจ�ำนวนลดลง
• ๒ ชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ก�ำลังพล ๑๒ นำย
จัดจำก กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
เป้าหมายการด�าเนินการ แบ่งเป็น

๑. เป้ำหมำยเป็นพื้นที่ :

• ในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รับผิดชอบหมู่บ้ำนเป้ำหมำย
ในพื้นที่ อ.ฝำง และ อ.เชียงดำว
• ในเขตพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน รับผิดชอบหมู่บ้ำนเป้ำหมำย
ในพื้นที่ อ.ปำย, อ.ปำงมะผ้ำ และ อ.เมือง

๒. เป้ำหมำยเป็นบุคคล : รำษฎรในหมู่บ้ำนเป้ำหมำยทุกระดับ
และทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยำเสพติด กลุ่มที่วำงตัวเป็นกลำง
และกลุ่มที่ให้ควำมร่วมมือกับเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ



























122 123

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย


การปราบปรามยาเสพติด กองร้อยรบพิเศษ ๕๑









กองร้อยรบพิเศษ ๕๑ จัดตั้งขึ้นตำมแนวทำงพระรำชทำนของ การปฏิบัติ
พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวฯ รัชกำลที่ ๙ ในกำรเสริมสร้ำงควำม แบ่งเป็น ๗ ขั้นตอน ได้แก่
มั่นคงตำมแนวชำยแดนในเขตพื้นที่ กองทัพภำคที่ ๓
๑. ขั้นกำรสืบสภำพ

ภารกิจ ๒. ขั้นกำรคัดแยกตัวรำษฎร




เพ่อสกัดก้นกำรแพร่กระจำยของยำเสพติด ในพ้นท่หมู่บ้ำน ๓. ขั้นกำรฟื้นฟูบ�ำบัด
ชำยแดนไทย-พม่ำ ในเขต ทภ.๓ ในห้วง พ.ศ.๒๕๔๓ – ๒๕๔๘ และ ๔. ขั้นกำรจัดตั้งมวลชนต่อต้ำนยำเสพติด
พ.ศ.๒๕๕๒ – ๒๕๕๕ โดยกำรปฏิบัติจะขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรกับ
ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพภำคที่ ๓ กำรจัดก�ำลัง รวมก�ำลังพลทั้งสิ้น ๕. ขั้นกำรท�ำลำยขบวนกำรยำเสพติด
๑๐๙ นำย ๖. ขั้นกำรพัฒนำ

ประกอบด้วย ๗. ขั้นกำรส่งมอบพื้นที่

• กองบังคับกำรกองร้อยก�ำลังพล ๒๕ นำย
จัดจำก กรมรบพิเศษที่ ๕ ผลการปฏิบัติ

• ๖ ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ ก�ำลังพล ๗๒ นำย สำมำรถลดจ�ำนวนผู้ค้ำยำและผู้เสพยำ ท�ำให้ปริมำณยำ



จัดจำกกรมรบพิเศษ และ ศูนย์สงครำมพิเศษ เสพติดท่เข้ำมำตำมเส้นทำงในพ้นท่ดังกล่ำว มีจ�ำนวนลดลง
• ๒ ชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ก�ำลังพล ๑๒ นำย
จัดจำก กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
เป้าหมายการด�าเนินการ แบ่งเป็น

๑. เป้ำหมำยเป็นพื้นที่ :

• ในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รับผิดชอบหมู่บ้ำนเป้ำหมำย
ในพื้นที่ อ.ฝำง และ อ.เชียงดำว
• ในเขตพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน รับผิดชอบหมู่บ้ำนเป้ำหมำย
ในพื้นที่ อ.ปำย, อ.ปำงมะผ้ำ และ อ.เมือง

๒. เป้ำหมำยเป็นบุคคล : รำษฎรในหมู่บ้ำนเป้ำหมำยทุกระดับ
และทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยำเสพติด กลุ่มที่วำงตัวเป็นกลำง
และกลุ่มที่ให้ควำมร่วมมือกับเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ



























122 123

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการแก้ปัญหาความไม่สงบ วำงแผนอ�ำนวยกำรและก�ำกับดูแลกำรใช้ก�ำลังหน่วย รพศ. ปฏิบัติงำน ตุลำคม ๒๕๕๘ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ จัดก�ำลังหน่วยเฉพำะ
ภารกิจสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายใน ตั้งแต่ ๑
ฉก.สันติสุข (ห้วง พ.ศ.๒๕๕๒ – ๒๕๕๓) มีภำรกิจ


จังหวัดชายแดนใต้ สนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำควำมมั่นคงในพื้นที่ จชต. ส่งมอบก�ำลัง ๔ กิจสันติสุข (ฉก.สันติสุข) ประกอบด้วย ชุดควบคุมที่ ๙๕๑, ชุดควบคุมที่
๙๕๒, ชุดควบคุมที่ ๙๕๓, ชุดควบคุมที่ ๙๕๔, ชุดควบคุมที่ ๙๔๓ (จจ.)
ชค.รพศ. ขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรกับหน่วยเฉพำะกิจประจ�ำพื้นที่ และ
และ ชุดควบคุมทักษิณสัมพันธ์ (ปจว.) สนับสนุนให้กับกองอ�ำนวยกำร
ปฏิบัติงำน ปจว./ปชส. ช่วยเหลือประชำชนสนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำ
พ.ศ.๒๕๔๗ – ปัจจุบัน ควำมมั่นคงในพื้นที่เป็นส่วนรวม รักษำควำมมั่นคงภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ โดยได้รับมอบภำรกิจใน

ศูนย์สันติสุข (ห้วง ๒๕๕๔ – ๒๕๕๕) เมื่อ ๑ ต.ค.๕๔ กำรด�ำเนินงำน เสริมสร้ำงควำมเข้ำใจในสถำนศึกษำเป้ำหมำย ๖๐
ได้เปลี่ยนนำมหน่วยจำก ฉก.สันติสุข เป็นศูนย์สันติสุข (โดยกำรยุบ แห่ง พิสูจน์ทรำบ และสลำยกำรจัดตั้งของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยใช้
รวม ศูนย์สันติสุข กับ ฉก.สันติสุข เป็นศูนย์สันติสุข) มีเป้ำหมำยทำง นโยบำยสำนใจสู่สันติเป็นตัวขับเคลื่อนในกำรแก้ไขปัญหำ เสริมสร้ำง
สถานการณ์ กองบังคับการควบคุมที่ ๙ (บก.ควบคุม๙) จัดตั้งขึ้นใน ยุทธศำสตร์ ประกอบด้วย ๑) องค์กรน�ำ (DPP) ๒) จุดศูนย์ดุลโครงสร้ำง ควำมเข้มแข็งให้กับอ�ำนำจรัฐ ในระดับหมู่บ้ำน/ต�ำบล เสริมสร้ำงก�ำลัง
พ.ศ.๒๕๔๗ โดยกำรจัดตั้งครั้งแรก มีหน้ำที่เป็นชุดติดต่อกับกองทัพ ประชำชน ให้มีควำมเข้มแข็ง ด�ำเนินกำรรุกทำงกำรเมืองด้วยกำรช่วย
ตั้งแต่เหตุกำรณ์กำรปล้นปืนของกองพันพัฒนำที่ ๔ จ.สงขลำ กำรจัดตั้งอ�ำนำจรัฐซ้อน ๓) แนวร่วม ๔) แหล่งบ่มเพำะควำมคิดควำม
เมื่อ ๔ ม.ค.๔๗ กลุ่มผู้ก่อควำมไม่สงบ ได้ก่อควำมไม่สงบ ในพื้นที่ ภำคที่ ๔ ส่วนหน้ำ และได้ขยำยอัตรำและขอบเขตของอ�ำนำจหน้ำที่ เชื่อ และ ๕) ประชำชน มีภำรกิจ สร้ำงควำมเข้ำใจ ควำมเชื่อมั่นต่อ เหลือประชำชน ตำมขีดควำมสำมำรถร่วมกับหน่วยเฉพำะกิจจังหวัด/
จังหวัดชำยแดนใต้อย่ำงต่อเนื่อง โดยใช้เงื่อนไข ควำมแตกต่ำงทำงด้ำน จนเป็นหน่วยควบคุมบังคับบัญชำหน่วยรบพิเศษทั้งปวง ที่ส่งไป แนวนโยบำยของรัฐ เกี่ยวกับกำรแก้ปัญหำกำรก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ หน่วยเฉพำะกิจนำวิกโยธินกองทัพเรือ ปฏิบัติกำรพิเศษต่อเป้ำหมำย
ศำสนำ, เชื้อชำติ และควำมแตกต่ำงทำงด้ำนสังคมจิตวิทยำ รวมทั้ง สนับสนุนภำรกิจกำรแก้ไขปัญหำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ โดยมีภำรกิจ จังหวัดชำยแดนภำคใต้ ด้วยกำรให้ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ กับประชำชน หรือพื้นที่จ�ำกัด กำรรักษำควำมปลอดภัยบุคคลส�ำคัญ กำรปฏิบัติกำร
อ้ำงกำรแบ่งแยกดินแดน เป็นเป้ำหมำยของกลุ่ม ด้วยวิธีกำรชักชวน และกำรจัด ดังนี้ และฝึกอบรมเจ้ำหน้ำท่รัฐให้มีควำมเข้ำใจในกำรปฏบัติงำนท่ถูกต้อง จิตวิทยำกำรประชำสัมพันธ์ และปฏิบัติกำรข่ำวสำรต่อกลุ่มเป้ำหมำย



กลุ่มเยำวชนและประชำชนที่รู้เท่ำไม่ถึงกำรณ์ เข้ำเป็นแนวร่วม โดยมี • พ.ศ. ๒๕๔๗ – ๒๕๕๐ บก.ควบคุม ๙ ขึ้นควบคุมทำงยุทธกำร ตำมแนวทำงยุทธศำสตร์พระรำชทำน “เข้ำใจ เข้ำถึง พัฒนำ” อย่ำงต่อเนื่อง ท�ำกำรฝึกอบรมเจ้ำหน้ำที่ ซึ่งปฏิบัติงำนในพื้นที่จังหวัด
ครูสอนศำสนำบำงกลุ่ม บิดเบือนค�ำสอนของศำสนำอิสลำม หลอกให้ กับ ทภ.๔ สน. ปฏิบัติภำรกิจป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อ ฉก.สันติสุข (พ.ศ.๒๕๕๗) เมื่อ ๑ ต.ค.๕๖ ได้เปลี่ยนนำม ชำยแดนภำคใต้ ให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจด้ำนกำรปฏิบัติกำรพิเศษ กำร
เยำวชนและประชำชนเกลียดชังเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ และเข้ำร่วมเป็นกอง ควำมไม่สงบในพื้นที่ ๖ อ�ำเภอ บริเวณรอบเทือกเขำบูโด เพื่อ หน่วยจำก ศูนย์สันติสุข กลับมำเป็น ฉก.สันติสุข อีกครั้ง มีภำรกิจสกัด ปฏิบัติกำรจิตวิทยำกำรประชำสัมพันธ์ และกำรปฏิบัติกำรข่ำวสำร
ก�ำลัง ฝึกกำรใช้ควำมรุนแรงปฏิบัติกำรต่อฝ่ำยเรำ ด้วยกำรลอบท�ำร้ำย ติดตำมกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่ได้ปล้นอำวุธปืนกองพันพัฒนำที่ ๔ กั้นกำรบ่มเพำะในโรงเรียนเอกชนสอนศำสนำ และสถำบันกำรศึกษำ เพื่อสนับสนุนกองอ�ำนวยกำรรักษำควำมมั่นคงภำยในภำค ๔ ส่วน
เจ้ำหน้ำที่ของรัฐบำล ท�ำลำยสถำนที่รำชกำรและสำธำรณประโยชน์ • พ.ศ.๒๕๕๑ – ๒๕๕๔ บก.ควบคุม ๙ ปฏิบัติภำรกิจป้องกัน ปอเนำะ จ�ำนวน ๔๘ โรงเรียน ในพื้นที่จังหวัดชำยแดนใต้ ด้วยกำร หน้ำ ในกำรป้องกันและแก้ไขกำรก่อเหตุรุนแรง เพื่อน�ำสันติสุขกลับสู่
ปล้นอำวุธของทำงรำชกำร และข่มขู่ประชำชนให้เกิดควำมหวำดกลัว และปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบในพื้นที่ บริเวณรอบเทือก ค้นหำแยกแยะกลุ่มเป้ำหมำย สร้ำงภูมิคุ้มกันให้กับเยำวชนที่ตกเป็น พื้นที่จังหวัดชำยแดนใต้อย่ำงยั่งยืน
ไม่กล้ำที่จะให้ควำมร่วมมือกับฝ่ำยเรำ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อควำมไม่สงบมีกำร เขำบูโด เทือกเขำตะเว และเทือกเขำเมำะแต เพื่อติดตำมกลุ่ม เป้ำหมำยในกำรบ่มเพำะของขบวนกำร ตลอดจนสลำย และท�ำลำย
จัดตั้งเป็นองค์กร ประกอบด้วย พรรค / แกนน�ำ, กองก�ำลัง และแนว ก่อเหตุรุนแรงที่ปล้นอำวุธปืนกองพันพัฒนำที่ ๔ รวมทั้งจัดตั้ง/ ขบวนกำรจัดตั้งในสถำนศึกษำให้หมดประสิทธิภำพ และปฏิบัติกำร
ร่วม โดยองค์กรจะได้รับกำรสนับสนุนทำงด้ำนกำรฝึกอบรมและกำร เสริมสร้ำงก�ำลังประชำชนในพื้นที่หมู่บ้ำน/ต�ำบล เพื่อปฏิบัติ พิเศษอื่น ๆ
เงิน รวมทั้งให้แหล่งหลบซ่อนจำกภำยนอกประเทศ
กำรรุกทำงกำรเมือง แย่งชิงมวลชนครั้งที่ ๒ ปฏิบัติภำรกิจ



หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ได้รับมอบภำรกิจจำกกองทัพบก ป้องกนและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบในพ้นท่บริเวณรอบ


ให้สนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำกำรก่อควำมไม่สงบในพ้นท่สำมจังหวัด เทือกเขำตะเว
ชำยแดนภำคใต้ ในกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ กกล.สันติสุข (ห้วง พ.ศ.๒๕๔๘ – ๒๕๕๑) มีภำรกิจ
(ปปส.) ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุกำรณ์ใน พ.ศ.๒๕๔๗ ถึงปัจจุบัน ซึ่งมีกำร ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบในพ้นท่รับผิด


พัฒนำปรับปรุงแนวทำงและจัดต้งองค์กร รวมท้งหน่วยงำนเข้ำไป ชอบ โดยกำรจัดตั้ง กำรเสริมสร้ำง และพัฒนำก�ำลังประชำชนให้


รับผิดชอบและด�ำเนินกำรในกำรแก้ปัญหำมำตำมล�ำดับ ดังนี้
สำมำรถต้ำนภัยกำรก่อควำมไม่สงบในพื้นที่ จชต. และปฏิบัติกำร
ชค.๙๕๔ เป็นกำรจัดก�ำลังเริ่มแรก โดยจัดก�ำลังหนึ่งกองร้อย พิเศษ สนับสนุน กอ.สสส.จชต. เพื่อรักษำควำมมั่นคงภำยในและยุติ
รบพิเศษ สนับสนุนกองทัพภำคที่ ๔ มี พ.อ.วินัย ฉ้งทับ เป็น ผบ.ชค. สถำนกำรณ์กำรก่อควำมไม่สงบในพื้นที่ที่เกิดขึ้น โดยใช้แนวควำมคิด
๙๕๔ (ห้วง ม.ค.๔๗ – มี.ค.๔๗) เพื่อติดตำมและค้นหำอำวุธปืนที่ถูก บูรณำกำรกำรใช้ก�ำลังของหน่วยรบพิเศษ ให้ประสำนสอดคล้อง ทั้งใน
ปล้นไปจำกกองพันพัฒนำที่ ๔ ปฏิบัติภำรกิจ กำรป้องกันและปรำบ ภำพเปิด และปิดลับ โดยกำรใช้กำร ปจว. และงำนข่ำวน�ำ แล้วใช้งำน
ปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ (ปปส.) ในพื้นที่รอบเทือกเขำบูโด โดยวำง จัดตั้งเสริมสร้ำงพลังประชำชนเป็นงำนหลัก เน้นให้ประชำชนเข้ำมำมี
ก�ำลังเป็นชุดปฏิบัติกำร ตำมหมู่บ้ำนเป้ำหมำย โดยก�ำหนดแนวทำง ส่วนร่วม ตั้งเป้ำหมำยเพื่อสลำยควำมเชื่อที่ผิดและสร้ำงควำมคิดที่ถูก
กำรใช้ก�ำลัง เพื่อปฏิบัติตำมมำตรกำรหลักของกำรป้องกันและปรำบ ต้อง เพื่อให้เกิดควำมสันติสุขแบบยั่งยืน
ปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ ได้แก่ มำตรกำรพิทักษ์และประชำชนและ
ทรัพยำกร กำรปรำบปรำมกองก�ำลังติดอำวุธ จะใช้หมวดจู่โจม เป็น
หลัก ซึ่งเป็นก�ำลังพลจำก กองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ ๓ ส่วนใน
มำตรกำรปรับปรุงสภำพแวดล้อม และกำรปฏิบัติงำนด้ำนข่ำว จะ
ใช้ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ เป็นหลัก โดยมี ชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
สนับสนุนกำรปฏิบัติ ด้ำนกิจกำรพลเรือน และกำรประชำสัมพันธ์







124 125

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการแก้ปัญหาความไม่สงบ วำงแผนอ�ำนวยกำรและก�ำกับดูแลกำรใช้ก�ำลังหน่วย รพศ. ปฏิบัติงำน ตุลำคม ๒๕๕๘ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ จัดก�ำลังหน่วยเฉพำะ
ภารกิจสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายใน ตั้งแต่ ๑
ฉก.สันติสุข (ห้วง พ.ศ.๒๕๕๒ – ๒๕๕๓) มีภำรกิจ


จังหวัดชายแดนใต้ สนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำควำมมั่นคงในพื้นที่ จชต. ส่งมอบก�ำลัง ๔ กิจสันติสุข (ฉก.สันติสุข) ประกอบด้วย ชุดควบคุมที่ ๙๕๑, ชุดควบคุมที่
๙๕๒, ชุดควบคุมที่ ๙๕๓, ชุดควบคุมที่ ๙๕๔, ชุดควบคุมที่ ๙๔๓ (จจ.)
ชค.รพศ. ขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรกับหน่วยเฉพำะกิจประจ�ำพื้นที่ และ
และ ชุดควบคุมทักษิณสัมพันธ์ (ปจว.) สนับสนุนให้กับกองอ�ำนวยกำร
ปฏิบัติงำน ปจว./ปชส. ช่วยเหลือประชำชนสนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำ
พ.ศ.๒๕๔๗ – ปัจจุบัน ควำมมั่นคงในพื้นที่เป็นส่วนรวม รักษำควำมมั่นคงภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ โดยได้รับมอบภำรกิจใน

ศูนย์สันติสุข (ห้วง ๒๕๕๔ – ๒๕๕๕) เมื่อ ๑ ต.ค.๕๔ กำรด�ำเนินงำน เสริมสร้ำงควำมเข้ำใจในสถำนศึกษำเป้ำหมำย ๖๐
ได้เปลี่ยนนำมหน่วยจำก ฉก.สันติสุข เป็นศูนย์สันติสุข (โดยกำรยุบ แห่ง พิสูจน์ทรำบ และสลำยกำรจัดตั้งของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยใช้
รวม ศูนย์สันติสุข กับ ฉก.สันติสุข เป็นศูนย์สันติสุข) มีเป้ำหมำยทำง นโยบำยสำนใจสู่สันติเป็นตัวขับเคลื่อนในกำรแก้ไขปัญหำ เสริมสร้ำง
สถานการณ์ กองบังคับการควบคุมที่ ๙ (บก.ควบคุม๙) จัดตั้งขึ้นใน ยุทธศำสตร์ ประกอบด้วย ๑) องค์กรน�ำ (DPP) ๒) จุดศูนย์ดุลโครงสร้ำง ควำมเข้มแข็งให้กับอ�ำนำจรัฐ ในระดับหมู่บ้ำน/ต�ำบล เสริมสร้ำงก�ำลัง
พ.ศ.๒๕๔๗ โดยกำรจัดตั้งครั้งแรก มีหน้ำที่เป็นชุดติดต่อกับกองทัพ ประชำชน ให้มีควำมเข้มแข็ง ด�ำเนินกำรรุกทำงกำรเมืองด้วยกำรช่วย
ตั้งแต่เหตุกำรณ์กำรปล้นปืนของกองพันพัฒนำที่ ๔ จ.สงขลำ กำรจัดตั้งอ�ำนำจรัฐซ้อน ๓) แนวร่วม ๔) แหล่งบ่มเพำะควำมคิดควำม
เมื่อ ๔ ม.ค.๔๗ กลุ่มผู้ก่อควำมไม่สงบ ได้ก่อควำมไม่สงบ ในพื้นที่ ภำคที่ ๔ ส่วนหน้ำ และได้ขยำยอัตรำและขอบเขตของอ�ำนำจหน้ำที่ เชื่อ และ ๕) ประชำชน มีภำรกิจ สร้ำงควำมเข้ำใจ ควำมเชื่อมั่นต่อ เหลือประชำชน ตำมขีดควำมสำมำรถร่วมกับหน่วยเฉพำะกิจจังหวัด/
จังหวัดชำยแดนใต้อย่ำงต่อเนื่อง โดยใช้เงื่อนไข ควำมแตกต่ำงทำงด้ำน จนเป็นหน่วยควบคุมบังคับบัญชำหน่วยรบพิเศษทั้งปวง ที่ส่งไป แนวนโยบำยของรัฐ เกี่ยวกับกำรแก้ปัญหำกำรก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ หน่วยเฉพำะกิจนำวิกโยธินกองทัพเรือ ปฏิบัติกำรพิเศษต่อเป้ำหมำย
ศำสนำ, เชื้อชำติ และควำมแตกต่ำงทำงด้ำนสังคมจิตวิทยำ รวมทั้ง สนับสนุนภำรกิจกำรแก้ไขปัญหำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ โดยมีภำรกิจ จังหวัดชำยแดนภำคใต้ ด้วยกำรให้ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ กับประชำชน หรือพื้นที่จ�ำกัด กำรรักษำควำมปลอดภัยบุคคลส�ำคัญ กำรปฏิบัติกำร
อ้ำงกำรแบ่งแยกดินแดน เป็นเป้ำหมำยของกลุ่ม ด้วยวิธีกำรชักชวน และกำรจัด ดังนี้ และฝึกอบรมเจ้ำหน้ำท่รัฐให้มีควำมเข้ำใจในกำรปฏบัติงำนท่ถูกต้อง จิตวิทยำกำรประชำสัมพันธ์ และปฏิบัติกำรข่ำวสำรต่อกลุ่มเป้ำหมำย



กลุ่มเยำวชนและประชำชนที่รู้เท่ำไม่ถึงกำรณ์ เข้ำเป็นแนวร่วม โดยมี • พ.ศ. ๒๕๔๗ – ๒๕๕๐ บก.ควบคุม ๙ ขึ้นควบคุมทำงยุทธกำร ตำมแนวทำงยุทธศำสตร์พระรำชทำน “เข้ำใจ เข้ำถึง พัฒนำ” อย่ำงต่อเนื่อง ท�ำกำรฝึกอบรมเจ้ำหน้ำที่ ซึ่งปฏิบัติงำนในพื้นที่จังหวัด
ครูสอนศำสนำบำงกลุ่ม บิดเบือนค�ำสอนของศำสนำอิสลำม หลอกให้ กับ ทภ.๔ สน. ปฏิบัติภำรกิจป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อ ฉก.สันติสุข (พ.ศ.๒๕๕๗) เมื่อ ๑ ต.ค.๕๖ ได้เปลี่ยนนำม ชำยแดนภำคใต้ ให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจด้ำนกำรปฏิบัติกำรพิเศษ กำร
เยำวชนและประชำชนเกลียดชังเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ และเข้ำร่วมเป็นกอง ควำมไม่สงบในพื้นที่ ๖ อ�ำเภอ บริเวณรอบเทือกเขำบูโด เพื่อ หน่วยจำก ศูนย์สันติสุข กลับมำเป็น ฉก.สันติสุข อีกครั้ง มีภำรกิจสกัด ปฏิบัติกำรจิตวิทยำกำรประชำสัมพันธ์ และกำรปฏิบัติกำรข่ำวสำร
ก�ำลัง ฝึกกำรใช้ควำมรุนแรงปฏิบัติกำรต่อฝ่ำยเรำ ด้วยกำรลอบท�ำร้ำย ติดตำมกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่ได้ปล้นอำวุธปืนกองพันพัฒนำที่ ๔ กั้นกำรบ่มเพำะในโรงเรียนเอกชนสอนศำสนำ และสถำบันกำรศึกษำ เพื่อสนับสนุนกองอ�ำนวยกำรรักษำควำมมั่นคงภำยในภำค ๔ ส่วน
เจ้ำหน้ำที่ของรัฐบำล ท�ำลำยสถำนที่รำชกำรและสำธำรณประโยชน์ • พ.ศ.๒๕๕๑ – ๒๕๕๔ บก.ควบคุม ๙ ปฏิบัติภำรกิจป้องกัน ปอเนำะ จ�ำนวน ๔๘ โรงเรียน ในพื้นที่จังหวัดชำยแดนใต้ ด้วยกำร หน้ำ ในกำรป้องกันและแก้ไขกำรก่อเหตุรุนแรง เพื่อน�ำสันติสุขกลับสู่
ปล้นอำวุธของทำงรำชกำร และข่มขู่ประชำชนให้เกิดควำมหวำดกลัว และปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบในพื้นที่ บริเวณรอบเทือก ค้นหำแยกแยะกลุ่มเป้ำหมำย สร้ำงภูมิคุ้มกันให้กับเยำวชนที่ตกเป็น พื้นที่จังหวัดชำยแดนใต้อย่ำงยั่งยืน
ไม่กล้ำที่จะให้ควำมร่วมมือกับฝ่ำยเรำ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อควำมไม่สงบมีกำร เขำบูโด เทือกเขำตะเว และเทือกเขำเมำะแต เพื่อติดตำมกลุ่ม เป้ำหมำยในกำรบ่มเพำะของขบวนกำร ตลอดจนสลำย และท�ำลำย
จัดตั้งเป็นองค์กร ประกอบด้วย พรรค / แกนน�ำ, กองก�ำลัง และแนว ก่อเหตุรุนแรงที่ปล้นอำวุธปืนกองพันพัฒนำที่ ๔ รวมทั้งจัดตั้ง/ ขบวนกำรจัดตั้งในสถำนศึกษำให้หมดประสิทธิภำพ และปฏิบัติกำร
ร่วม โดยองค์กรจะได้รับกำรสนับสนุนทำงด้ำนกำรฝึกอบรมและกำร เสริมสร้ำงก�ำลังประชำชนในพื้นที่หมู่บ้ำน/ต�ำบล เพื่อปฏิบัติ พิเศษอื่น ๆ
เงิน รวมทั้งให้แหล่งหลบซ่อนจำกภำยนอกประเทศ
กำรรุกทำงกำรเมือง แย่งชิงมวลชนครั้งที่ ๒ ปฏิบัติภำรกิจ



หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ได้รับมอบภำรกิจจำกกองทัพบก ป้องกนและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบในพ้นท่บริเวณรอบ


ให้สนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำกำรก่อควำมไม่สงบในพ้นท่สำมจังหวัด เทือกเขำตะเว
ชำยแดนภำคใต้ ในกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ กกล.สันติสุข (ห้วง พ.ศ.๒๕๔๘ – ๒๕๕๑) มีภำรกิจ
(ปปส.) ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุกำรณ์ใน พ.ศ.๒๕๔๗ ถึงปัจจุบัน ซึ่งมีกำร ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบในพ้นท่รับผิด


พัฒนำปรับปรุงแนวทำงและจัดต้งองค์กร รวมท้งหน่วยงำนเข้ำไป ชอบ โดยกำรจัดตั้ง กำรเสริมสร้ำง และพัฒนำก�ำลังประชำชนให้


รับผิดชอบและด�ำเนินกำรในกำรแก้ปัญหำมำตำมล�ำดับ ดังนี้
สำมำรถต้ำนภัยกำรก่อควำมไม่สงบในพื้นที่ จชต. และปฏิบัติกำร
ชค.๙๕๔ เป็นกำรจัดก�ำลังเริ่มแรก โดยจัดก�ำลังหนึ่งกองร้อย พิเศษ สนับสนุน กอ.สสส.จชต. เพื่อรักษำควำมมั่นคงภำยในและยุติ
รบพิเศษ สนับสนุนกองทัพภำคที่ ๔ มี พ.อ.วินัย ฉ้งทับ เป็น ผบ.ชค. สถำนกำรณ์กำรก่อควำมไม่สงบในพื้นที่ที่เกิดขึ้น โดยใช้แนวควำมคิด
๙๕๔ (ห้วง ม.ค.๔๗ – มี.ค.๔๗) เพื่อติดตำมและค้นหำอำวุธปืนที่ถูก บูรณำกำรกำรใช้ก�ำลังของหน่วยรบพิเศษ ให้ประสำนสอดคล้อง ทั้งใน
ปล้นไปจำกกองพันพัฒนำที่ ๔ ปฏิบัติภำรกิจ กำรป้องกันและปรำบ ภำพเปิด และปิดลับ โดยกำรใช้กำร ปจว. และงำนข่ำวน�ำ แล้วใช้งำน
ปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ (ปปส.) ในพื้นที่รอบเทือกเขำบูโด โดยวำง จัดตั้งเสริมสร้ำงพลังประชำชนเป็นงำนหลัก เน้นให้ประชำชนเข้ำมำมี
ก�ำลังเป็นชุดปฏิบัติกำร ตำมหมู่บ้ำนเป้ำหมำย โดยก�ำหนดแนวทำง ส่วนร่วม ตั้งเป้ำหมำยเพื่อสลำยควำมเชื่อที่ผิดและสร้ำงควำมคิดที่ถูก
กำรใช้ก�ำลัง เพื่อปฏิบัติตำมมำตรกำรหลักของกำรป้องกันและปรำบ ต้อง เพื่อให้เกิดควำมสันติสุขแบบยั่งยืน
ปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ ได้แก่ มำตรกำรพิทักษ์และประชำชนและ
ทรัพยำกร กำรปรำบปรำมกองก�ำลังติดอำวุธ จะใช้หมวดจู่โจม เป็น
หลัก ซึ่งเป็นก�ำลังพลจำก กองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ ๓ ส่วนใน
มำตรกำรปรับปรุงสภำพแวดล้อม และกำรปฏิบัติงำนด้ำนข่ำว จะ
ใช้ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ เป็นหลัก โดยมี ชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
สนับสนุนกำรปฏิบัติ ด้ำนกิจกำรพลเรือน และกำรประชำสัมพันธ์







124 125

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ส�านักสารสนเทศ กอ.รมน.ภาค ๔ สน. การปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาสินติภาพ




และเพื่อมนุษยธรรม
(สสท.กอ.รมน.ภาค ๔ สน.)



สปส.กอ.รมน.ภำค ๔ สน. จัดต้งเป็น กองปฏิบัติกำร การด�าเนินงาน


ข่ำวสำร กองอ�ำนวยกำรรักษำควำมม่นคงภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ สร้ำงควำมตระหนักรู้เสริมสร้ำงภำพลักษณ์เชิงบวก

(ปส.กอ.รมน.ภำค ๔ สน.) เม่อ ๑ ต.ค. ๕๑ โดย มี พ.อ.อัคร ทิพย์ ลดควำมชอบธรรมฝ่ำยตรงข้ำม และตอบโต้กำรโฆษณำชวนเช่อ หน่วยควบคุมผู้หลบหนีคนเข้าเมืองจากกัมพูชา (นคก.๘๘)



โรจน์ เป็น ผอ.ปส./หน.ศปชส. มีท่ต้งใน ค่ำยสิรินธร ต.เขำตูม ฝ่ำยตรงข้ำม โดยจัดท�ำแผน IOWG เพ่อก�ำหนดแนวทำงขับ

อ.ยะรัง จ.ปัตตำนี ต่อมำในปี ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔ แบ่งมอบควำม เคล่อนให้หน่วยเก่ยวข้องใช้เคร่องมือ/วิธีกำร เพ่อสร้ำงควำม พ.ศ.๒๕๓๑ – พ.ศ.๒๕๓๖




รับผิดชอบให้ นสศ.รับผิดชอบในกำรจัดก�ำลัง โดย มี พ.อ.ยุทธ ตระหนักรู้ ไปสู่เป้ำหมำยในและนอกพื้นที่ จชต. รวมถึงเป้ำหมำย
พรหมพงษ์ เป็น ผอ.ปส.ฯ ปีงบประมำณ ๒๕๕๖ จัดต้งเป็น ประชำคมโลก

สำนกปฏบตกำรข่ำวสำร กองอ�ำนวยกำรรักษำควำมม่นคงภำยใน สถานการณ์ การปฏิบัติ






ภำค ๔ ส่วนหน้ำ (สปส.กอ.รมน.ภำค ๔ สน.) ใน ปีงบประมำณ เมื่อ ๑๗ เมษำยน ๒๕๑๘ กลุ่มเขมรแดงสำมำรถโค่นล้มรัฐบำล กองบญชำกำรทหำรสูงสุด ได้จัดต้งหน่วยควบคุมผู้หลบหน ี





๒๕๕๘ จดตงเป็น ส�ำนักปฏิบัติกำรข่ำวสำรและประชำสัมพันธ์ ผลการปฏิบัติ กัมพูชำ น�ำโดยนำยพล ลอน นอล ลงได้ รวมทั้งสำมำรถเข้ำยึดครอง คนเข้ำเมืองจำกกัมพูชำ (นคก.๘๘) โดยใช้ก�ำลังพลส่วนใหญ่จำกกอง



กองอ�ำนวยกำรรักษำควำมมั่นคงภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ (สปสช. ประชำชนท่อำศัยอยู่ในพ้นท่จังหวัดชำยแดนใต้ร้อยละ ๗๕ พื้นที่ประเทศกัมพูชำได้ทั้งหมด หลังจำกนั้น รัฐบำลระบอบเขมรแดง บัญชำกำรทหำรสูงสุดในกำรปฏิบัติงำนชื่อว่ำ “หน่วยเฉพำะกิจ ๘๐”
กอ.รมน.ภำค ๔ สน.) โดยให้ สปชส. ข้นกำรบังคับบัญชำโดยตรง มีควำมเข้ำใจ และมีทัศนคติท่ดี ให้กำรสนับสนุนและช่วยเหลือ ได้ใช้ยุทธศำสตร์กำรปกครองประเทศ โดยเน้นกำรสร้ำงประเทศด้วย ต่อมำ เมื่อเดือนมิถุนำยน ๒๕๓๑ จึงปรับโอนให้มำอยู่ในควำมรับผิด


และในปลำยปี ๒๕๕๙ ปรับกำรจัดแยก สปชส. ออกไปและจัดต้ง กำรปฏิบัติงำนของเจ้ำหน้ำท่รัฐเป็นอย่ำงดี ส�ำหรับประชำชน ระบบสังคมนิยมแบบเข้มข้น ส่งผลให้ประชำชนชำวกัมพชำจำนวน ชอบของหนวยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ โดยจัดก�ำลังจำกหน่วยรบ







เป็น ส�ำนักปฏิบัติกำรข่ำวสำร กองอ�ำนวยกำรรักษำควำมม่นคง ท่มีควำมขัดแย้ง ร้อยละ ๒๕ ปฏิเสธแนวทำงกำรปฏิบัติของ มำกต้องล้มตำย หลำยคนหำยสำบสูญ และหลำยกลุ่มได้ทยอยหลบหนี พิเศษและอำสำสมัคร ประมำณ ๗๘๐ นำย มีนำยทหำรจำกหน่วย
ภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ (สปส.กอ.รมน.ภำค ๔ สน.) ถึงปัจจุบัน กลุ่มขบวนกำร หันมำให้ควำมร่วมมือกับรัฐบำล ด้วยกำรเข้ำ เข้ำหำพื้นที่ปลอดภัยในประเทศไทย ควำมเดือดร้อนของประชำชนชำว บัญชำกำรสงครำมพิเศษท�ำหน้ำที่เป็น หน.นคก.๘๘ มีภำรกิจในกำร

โดยบรรจุก�ำลังพลเชิงบูรณำกำร ประกอบด้วย ข้ำรำชกำร ร่วมโครงกำรต่ำงๆ และประชำชนนอกพ้นท่ จังหวัดชำยแดนใต้ กมพชำมไปทุกหย่อมหญ้ำ จนกระท่งมีกลุ่มสมำชิกในรฐบำลระบอบ ดูแลพื้นที่ รับอพยพตำม










พลเรือน ต�ำรวจ ทหำร ท่มีควำมรู้ควำมสำมำรถ มีควำมเสียสละ ร้อยละ ๘๐ รับรู้ข้อเท็จจริงท่เกิดข้นในพ้นท่จังหวัดชำยแดนใต้ เขมรแดงจ�ำนวนหนึ่งเกิดควำมไม่พอใจ และปฏิเสธที่จะร่วมกระบวน



อดทน และมีควำมต้งใจท่จะเข้ำมำร่วมแก้ไขปัญหำควำมม่นคง สนบสนุนและพร้อมให้กำรช่วยเหลือฝ่ำยรัฐ นอกจำกน้นฝ่ำย กำรสร้ำงประเทศ โดยกำรกดขี่ข่มเหงประชำชนได้ จึงหลบหนีออก แนวชำยแดนไทย-กัมพูชำ ตั้งแต่จังหวัดศรีสะเกษจนถึงจังหวัด



ภำยใน จชต. อย่ำงแท้จริง ต่ำงประเทศ เห็นด้วยและสนับสนุนแนวทำงกำรแก้ไขปัญหำ นอกประเทศ และน�ำก�ำลังทหำรจำกกองทัพเวียดนำม เข้ำมำขับไล่ ตรำด รวม ๗ พื้นที่อพยพ รวมทั้งประสำนกำรปฏิบัติกับหน่วยรำชกำร
จังหวัดชำยแดนใต้ของรัฐบำลไทย ในแนวทำงสันติวิธี และไม่มี รัฐบำลระบอบเขมรแดงได้ส�ำเร็จ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒ ผลจำกกำรสู้รบของ ไทย องค์กรระหว่ำงประเทศ องค์กรอำสำสมัคร เพื่อให้ควำมช่วยเหลือ




ภารกิจ กำรแทรกแซงกำรปฏิบัต ิ เหตุกำรณ์ดังกล่ำว ส่งผลให้มีชำวกัมพูชำ และชำวเวียดนำมที่อำศัยอยู่ แกผอพยพ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กองบัญชำกำรทหำรสูงสุด จัดต้ง

ปฏิบัติกำรข่ำวสำรสนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำจังหวัดชำยแดน ในประเทศกัมพูชำจ�ำนวนไม่น้อยกว่ำ ๓๖๑,๔๕๖ คน หรือประมำณ ศูนย์ประสำนงำนกำรส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูมิ ท่ อ.อรัญประเทศ
จ.ปรำจีนบุรี เมื่อ ๑๒ กุมภำพันธ์ ๒๕๓๔
ภำคใต้ เพ่อสร้ำงสภำพแวดล้อมท่เก้อกูลกับกำรปฏิบัติของฝ่ำยเรำ ๘๓,๒๐๐ ครอบครัว ทะลักหลบหนีเข้ำมำขอพึ่งควำมช่วยเหลือจำก



ลดเง่อนไขควำมขัดแย้ง และกำรใช้ควำมรุนแรงทุกรูปแบบ สนบสนน รฐบำลไทยตลอดแนวชำยแดนต้งแต่ อ.บุญฑริก จ.อุบลรำชธำน- ี ผลการปฏิบัติ





ส่งเสริมกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติ ในลักษณะพหุวัฒนธรรม เพ่อ จ.บุรีรัมย์-จ.สระแก้ว ถึง อ.หำดเล็ก จ.ตรำด ท�ำให้ประเทศไทยต้องรับ

สร้ำงสันติสุขในพ้นท่จังหวัดชำยแดนใต้ โดยมีพ้นท่เป้ำหมำย คือ ภำระผู้อพยพจ�ำนวนมำก หน่วยควบคุมผู้หลบหนีคนเข้ำเมืองจำกกัมพูชำ ปฏิบัติหน้ำที่













พ้นท่จังหวัดชำยแดนใต้, พ้นท่ประเทศไทยท่เหลือ และพ้นท่ต่ำง ควบคมดแลชำวกมพชำและเวียดนำมท่อยู่ในค่ำยอพยพ รวมท้งรับ





ประเทศ โดยกำรใช้แขนงงำนต่ำงๆ ท่สำมำรถเข้ำถึงเป้ำหมำยได้ ผู้หลบหนีเข้ำเมืองจำกประเทศกัมพูชำ ให้มีควำมเป็นอยู่ที่ปลอดภัย

อย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยประสำนงำนร่วมกับเจ้ำหน้ำท่จำกองค์กำรสหประชำชำต ิ
ศนยประสำนงำนกำรส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูมิ ส�ำนักงำน


ข้ำหลวงใหญ่ผู้ล้ภัยแห่งสหประชำชำติ (UNCHR)

และสภำสูงสุดแห่งชำตกมพชำ (SNC) เพอช่วย





ด�ำเนินกำร ส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูม ิ
โดยสวัสดิภำพ
ใบประกาศเกียรติคุณ จากอยู่
UN แด่ผู้เข้าร่วมปฏิบัติการคร้งน ี ้

126 127

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ส�านักสารสนเทศ กอ.รมน.ภาค ๔ สน. การปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาสินติภาพ




และเพื่อมนุษยธรรม
(สสท.กอ.รมน.ภาค ๔ สน.)



สปส.กอ.รมน.ภำค ๔ สน. จัดต้งเป็น กองปฏิบัติกำร การด�าเนินงาน


ข่ำวสำร กองอ�ำนวยกำรรักษำควำมม่นคงภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ สร้ำงควำมตระหนักรู้เสริมสร้ำงภำพลักษณ์เชิงบวก

(ปส.กอ.รมน.ภำค ๔ สน.) เม่อ ๑ ต.ค. ๕๑ โดย มี พ.อ.อัคร ทิพย์ ลดควำมชอบธรรมฝ่ำยตรงข้ำม และตอบโต้กำรโฆษณำชวนเช่อ หน่วยควบคุมผู้หลบหนีคนเข้าเมืองจากกัมพูชา (นคก.๘๘)



โรจน์ เป็น ผอ.ปส./หน.ศปชส. มีท่ต้งใน ค่ำยสิรินธร ต.เขำตูม ฝ่ำยตรงข้ำม โดยจัดท�ำแผน IOWG เพ่อก�ำหนดแนวทำงขับ

อ.ยะรัง จ.ปัตตำนี ต่อมำในปี ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔ แบ่งมอบควำม เคล่อนให้หน่วยเก่ยวข้องใช้เคร่องมือ/วิธีกำร เพ่อสร้ำงควำม พ.ศ.๒๕๓๑ – พ.ศ.๒๕๓๖




รับผิดชอบให้ นสศ.รับผิดชอบในกำรจัดก�ำลัง โดย มี พ.อ.ยุทธ ตระหนักรู้ ไปสู่เป้ำหมำยในและนอกพื้นที่ จชต. รวมถึงเป้ำหมำย
พรหมพงษ์ เป็น ผอ.ปส.ฯ ปีงบประมำณ ๒๕๕๖ จัดต้งเป็น ประชำคมโลก







สำนกปฏบตกำรข่ำวสำร กองอ�ำนวยกำรรักษำควำมม่นคงภำยใน สถานการณ์ การปฏิบัติ
ภำค ๔ ส่วนหน้ำ (สปส.กอ.รมน.ภำค ๔ สน.) ใน ปีงบประมำณ เมื่อ ๑๗ เมษำยน ๒๕๑๘ กลุ่มเขมรแดงสำมำรถโค่นล้มรัฐบำล กองบญชำกำรทหำรสูงสุด ได้จัดต้งหน่วยควบคุมผู้หลบหน ี





๒๕๕๘ จดตงเป็น ส�ำนักปฏิบัติกำรข่ำวสำรและประชำสัมพันธ์ ผลการปฏิบัติ กัมพูชำ น�ำโดยนำยพล ลอน นอล ลงได้ รวมทั้งสำมำรถเข้ำยึดครอง คนเข้ำเมืองจำกกัมพูชำ (นคก.๘๘) โดยใช้ก�ำลังพลส่วนใหญ่จำกกอง



กองอ�ำนวยกำรรักษำควำมมั่นคงภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ (สปสช. ประชำชนท่อำศัยอยู่ในพ้นท่จังหวัดชำยแดนใต้ร้อยละ ๗๕ พื้นที่ประเทศกัมพูชำได้ทั้งหมด หลังจำกนั้น รัฐบำลระบอบเขมรแดง บัญชำกำรทหำรสูงสุดในกำรปฏิบัติงำนชื่อว่ำ “หน่วยเฉพำะกิจ ๘๐”

กอ.รมน.ภำค ๔ สน.) โดยให้ สปชส. ข้นกำรบังคับบัญชำโดยตรง มีควำมเข้ำใจ และมีทัศนคติท่ดี ให้กำรสนับสนุนและช่วยเหลือ ได้ใช้ยุทธศำสตร์กำรปกครองประเทศ โดยเน้นกำรสร้ำงประเทศด้วย ต่อมำ เมื่อเดือนมิถุนำยน ๒๕๓๑ จึงปรับโอนให้มำอยู่ในควำมรับผิด

และในปลำยปี ๒๕๕๙ ปรับกำรจัดแยก สปชส. ออกไปและจัดต้ง ั กำรปฏิบัติงำนของเจ้ำหน้ำท่รัฐเป็นอย่ำงดี ส�ำหรับประชำชน ระบบสังคมนิยมแบบเข้มข้น ส่งผลให้ประชำชนชำวกัมพชำจำนวน ชอบของหนวยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ โดยจัดก�ำลังจำกหน่วยรบ






เป็น ส�ำนักปฏิบัติกำรข่ำวสำร กองอ�ำนวยกำรรักษำควำมม่นคง ท่มีควำมขัดแย้ง ร้อยละ ๒๕ ปฏิเสธแนวทำงกำรปฏิบัติของ มำกต้องล้มตำย หลำยคนหำยสำบสูญ และหลำยกลุ่มได้ทยอยหลบหนี พิเศษและอำสำสมัคร ประมำณ ๗๘๐ นำย มีนำยทหำรจำกหน่วย
ภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ (สปส.กอ.รมน.ภำค ๔ สน.) ถึงปัจจุบัน กลุ่มขบวนกำร หันมำให้ควำมร่วมมือกับรัฐบำล ด้วยกำรเข้ำ เข้ำหำพื้นที่ปลอดภัยในประเทศไทย ควำมเดือดร้อนของประชำชนชำว บัญชำกำรสงครำมพิเศษท�ำหน้ำที่เป็น หน.นคก.๘๘ มีภำรกิจในกำร

โดยบรรจุก�ำลังพลเชิงบูรณำกำร ประกอบด้วย ข้ำรำชกำร ร่วมโครงกำรต่ำงๆ และประชำชนนอกพ้นท่ จังหวัดชำยแดนใต้ กมพชำมไปทุกหย่อมหญ้ำ จนกระท่งมีกลุ่มสมำชิกในรฐบำลระบอบ ดูแลพื้นที่ รับอพยพตำม










พลเรือน ต�ำรวจ ทหำร ท่มีควำมรู้ควำมสำมำรถ มีควำมเสียสละ ร้อยละ ๘๐ รับรู้ข้อเท็จจริงท่เกิดข้นในพ้นท่จังหวัดชำยแดนใต้ เขมรแดงจ�ำนวนหนึ่งเกิดควำมไม่พอใจ และปฏิเสธที่จะร่วมกระบวน



อดทน และมีควำมต้งใจท่จะเข้ำมำร่วมแก้ไขปัญหำควำมม่นคง สนบสนุนและพร้อมให้กำรช่วยเหลือฝ่ำยรัฐ นอกจำกน้นฝ่ำย กำรสร้ำงประเทศ โดยกำรกดขี่ข่มเหงประชำชนได้ จึงหลบหนีออก แนวชำยแดนไทย-กัมพูชำ ตั้งแต่จังหวัดศรีสะเกษจนถึงจังหวัด



ภำยใน จชต. อย่ำงแท้จริง ต่ำงประเทศ เห็นด้วยและสนับสนุนแนวทำงกำรแก้ไขปัญหำ นอกประเทศ และน�ำก�ำลังทหำรจำกกองทัพเวียดนำม เข้ำมำขับไล่ ตรำด รวม ๗ พื้นที่อพยพ รวมทั้งประสำนกำรปฏิบัติกับหน่วยรำชกำร
จังหวัดชำยแดนใต้ของรัฐบำลไทย ในแนวทำงสันติวิธี และไม่มี รัฐบำลระบอบเขมรแดงได้ส�ำเร็จ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒ ผลจำกกำรสู้รบของ ไทย องค์กรระหว่ำงประเทศ องค์กรอำสำสมัคร เพื่อให้ควำมช่วยเหลือ




ภารกิจ กำรแทรกแซงกำรปฏิบัต ิ เหตุกำรณ์ดังกล่ำว ส่งผลให้มีชำวกัมพูชำ และชำวเวียดนำมที่อำศัยอยู่ แกผอพยพ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กองบัญชำกำรทหำรสูงสุด จัดต้ง

ปฏิบัติกำรข่ำวสำรสนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำจังหวัดชำยแดน ในประเทศกัมพูชำจ�ำนวนไม่น้อยกว่ำ ๓๖๑,๔๕๖ คน หรือประมำณ ศูนย์ประสำนงำนกำรส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูมิ ท่ อ.อรัญประเทศ
จ.ปรำจีนบุรี เมื่อ ๑๒ กุมภำพันธ์ ๒๕๓๔
ภำคใต้ เพ่อสร้ำงสภำพแวดล้อมท่เก้อกูลกับกำรปฏิบัติของฝ่ำยเรำ ๘๓,๒๐๐ ครอบครัว ทะลักหลบหนีเข้ำมำขอพึ่งควำมช่วยเหลือจำก








ลดเง่อนไขควำมขัดแย้ง และกำรใช้ควำมรุนแรงทุกรูปแบบ สนบสนน รฐบำลไทยตลอดแนวชำยแดนต้งแต่ อ.บุญฑริก จ.อุบลรำชธำน- ี ผลการปฏิบัติ

ส่งเสริมกำรอยู่ร่วมกันอย่ำงสันติ ในลักษณะพหุวัฒนธรรม เพ่อ จ.บุรีรัมย์-จ.สระแก้ว ถึง อ.หำดเล็ก จ.ตรำด ท�ำให้ประเทศไทยต้องรับ




สร้ำงสันติสุขในพ้นท่จังหวัดชำยแดนใต้ โดยมีพ้นท่เป้ำหมำย คือ ภำระผู้อพยพจ�ำนวนมำก หน่วยควบคุมผู้หลบหนีคนเข้ำเมืองจำกกัมพูชำ ปฏิบัติหน้ำที่






พ้นท่จังหวัดชำยแดนใต้, พ้นท่ประเทศไทยท่เหลือ และพ้นท่ต่ำง ควบคมดแลชำวกมพชำและเวียดนำมท่อยู่ในค่ำยอพยพ รวมท้งรับ








ประเทศ โดยกำรใช้แขนงงำนต่ำงๆ ท่สำมำรถเข้ำถึงเป้ำหมำยได้ ผู้หลบหนีเข้ำเมืองจำกประเทศกัมพูชำ ให้มีควำมเป็นอยู่ที่ปลอดภัย

อย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยประสำนงำนร่วมกับเจ้ำหน้ำท่จำกองค์กำรสหประชำชำต ิ


ศนยประสำนงำนกำรส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูมิ ส�ำนักงำน
ข้ำหลวงใหญ่ผู้ล้ภัยแห่งสหประชำชำติ (UNCHR)




และสภำสูงสุดแห่งชำตกมพชำ (SNC) เพอช่วย


ด�ำเนินกำร ส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูม ิ
โดยสวัสดิภำพ
ใบประกาศเกียรติคุณ จากอยู่
UN แด่ผู้เข้าร่วมปฏิบัติการคร้งน ้ ี

126 127

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ศูนย์ประสานการส่งชาวกัมพูชากลับมาตุภูมิ การจัดตั้ง ฉก.พตท.พระพุทธบาท




(ศปสก.ศอร.บก.สส.)
เพื่อแก้ไขปัญหาชาวม้ง ในพื้นที่ที่พักสงฆ์ถ�้ากระบอก


สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ

กำรลงนำมในข้อตกลงสันติภำพขององค์กำรสหประชำชำติท ี ่ ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชำวกัมพูชำ ในพื้นที่อพยพโอตรำว, พื้นที่ พ.ศ. ๒๕๔๖ – พ.ศ.๒๕๔๙
กรุงปำรีส เมื่อ ๒๓ ต.ค. ๓๔ โดยผู้แทน ๑๙ ประเทศ และเขมร ๔ ฝ่ำย อพยพ บี , พื้นที่อพยพ ๒, พื้นที่อพยพเขำอีด่ำง, พื้นที่อพยพ ๘ พื้นที่

ซ่งข้อตกลงสันติภำพได้กล่ำวถึงผู้อพยพและผู้พลัดถ่นชำวกัมพูชำไว้ อพยพสุขสันต์ และพื้นที่อพยพ เค จ�ำนวนทั้งสิ้น ๓๖๑,๔๕๖ คน สถานการณ์

ในมำตรำที่ ๑๙ และ ๒๐ ที่ระบุให้ผู้อพยพและผู้พลัดถิ่นชำวกัมพูชำ ๘๓,๒๐๐ ครอบครัว ได้ถูกส่งกลับไปยังศูนย์รับกลับในประเทศ

ท่อยู่นอกประเทศมีสิทธ์โดยสมบูรณ์ท่จะเดินทำงกลับประเทศกัมพูชำ กัมพูชำ ๓ แห่งได้แก่ ศูนย์รับกลับศรีโสภณ (พนมกองวำ) ๑ แห่งศูนย์ ที่พักสงฆ์ถ�้ำกระบอก อ.พระพุทธบำท จ.สระบุรี เป็นสถำนที่


ได้อย่ำงปลอดภัย มั่นคง และมีศักดิ์ศรี โดยปรำศจำกกำรขู่เข็ญ หรือ รับกลับโพธิสัตย์ ๑ แห่ง และศูนย์รับกลับพนมเปญ ๑ แห่ง เพื่อส่งไป บ�ำบัดผู้ติดยำเสพติด ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ โดยแม่ชีเมี้ยน ซึ่งเคย
กำรบีบบังคับในทุกรูปแบบ พร้อมทั้งได้ระบุสำระส�ำคัญ เกี่ยวกับกำร ยังภูมิล�ำเนำปลำยทำงต่อไป กำรปฏิบัติเริ่มตั้งแต่วันที่ ๓๐ มีนำคม ธุดงค์ไปทำงภำคเหนือและเป็นที่ศรัทธำของชำวม้ง เนื่องจำกได้ช่วย






ส่งกลับผู้อพยพและผู้พลัดถ่นชำวกัมพูชำกลับถ่นฐำนเดิมไว้ใน ๒๕๓๕ จนถึง ๗ พฤษภำคม ๒๕๓๖ เหลอรักษำผู้ติดยำ เม่อก่อต้งที่พักสงฆ์ถ้ำกระบอกข้น จึงมีชำวม้ง

ภำคผนวก ๔ ของข้อตกลงสันติภำพฉบับนี้ และต่อมำได้มีกำรจัดท�ำ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษได้จัดก�ำลังส่วนหน่งเข้ำร่วม ติดตำมมำรักษำ และพำกันอพยพเข้ำมำพักอำศัยเพิ่มมำกขึ้นเรื่อยๆ






บันทึกควำมเข้ำใจไตรภำคี (MOU) ระหว่ำงรัฐบำลไทย SNC และ ปฏิบัติกำรใน ศปสก. โดยเป็นก�ำลังพลจำก พล.รพศ.๑ น�ำโดย จนทำให้ท่พักสงฆ์ถำกระบอกกลำยเป็นศูนย์กลำงของชำวม้งท้งจำก


UNHCR เกี่ยวกับกำรส่งผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชำวกัมพูชำกลับถิ่นฐำน พ.อ.กริชเพชร ค�ำดี รอง ผบ.รพศ.๒ เป็นหัวหน้ำทีม ท�ำให้หน่วย ชำยแดนและต่ำงประเทศ ซ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หลบหนีเข้ำเมองโดย
เดิมจำกประเทศไทย พร้อมทั้งมีกำรลงนำมในบันทึกควำมเข้ำใจฉบับนี้ รบพิเศษได้สร้ำงและประสำนควำมสัมพันธ์กับองค์กรกัมพูชำ ผิดกฎหมำย นับเป็นปัญหำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อควำมมั่นคงของ
ที่กรุงพนมเปญเมื่อ ๒๑ พ.ย. ๓๔ ประเทศมำเป็นเวลำนำน ทั้งในเรื่องยำเสพติด แรงงำนเถื่อน และที่
ฝ่ำยต่ำงๆ และผู้มีอิทธิพลในพ้นท่ในกำรพัฒนำเก่ยวกับโครงสร้ำง ส�ำคัญคือปัญหำขบวนกำรต่อต้ำนรัฐบำลสำธำรณรัฐประชำธิปไตย



ภารกิจและความรับผิดชอบของศูนย์ประสานการส่งชาว พ้นฐำนและส่งอ�ำนวยควำมสะดวกต่ำงๆ และกำรพัฒนำคุณภำพ ประชำชนลำว


กัมพูชากลับมาตุภูมิ (ศปสก.ฝยก.ศอร.บก.สส.) ชีวิตของคนในท้องถ่นท�ำให้เกิดผลดีแก่เจ้ำหน้ำท่หน่วยรบพิเศษท่ ี


ได้ปฏิบัติงำน ในกำรด�ำเนินกำรส�ำรวจพ้นท่และเตรียมพ้นท่ปฏิบัติกำร




รัฐบำลไทยได้จัดต้ง“ศูนย์ประสำนกำรส่งชำวกัมพูชำกลับ การปฏิบัติ




มำตุภูมิ” (ศปสก.) เป็นหน่วยงำนหลักรับผิดชอบกำรส่งชำวกัมพูชำ ซ่งสำมำรถตอบสนองต่อแผนงำนในกำรปฏิบัติกำรพิเศษในพ้นท่ระวัง กองทัพบก ได้มอบหมำยให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ เป็น

กลับมำตุภูมิ โดยต้งข้นท่ อ.อรัญประเทศ จว.ปรำจีนบุรี และได้ ป้องกันซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจ ๔ ประกำร ของกองทัพบกได้อย่ำงมี หน่วยรับผิดชอบหลักในกำรจัดก�ำลังพลหน่วยเฉพำะกิจผสม พลเรือน


เปิดส�ำนักงำนเพื่อปฏิบัติงำนตั้งแต่ ๑๒ ก.พ.๓๕ โดยมีหน้ำที่ควำม ประสิทธิภำพอีกด้วย ต�ำรวจ ทหำร ภำยใต้ชื่อ “ฉก.พตท.พระพุทธบำท ” ด�ำเนินกำรควบคุม
รับผิดชอบที่ส�ำคัญ คือ วำงแผน อ�ำนวยกำร ประสำนงำนก�ำกับดูแล และจัดระเบียบชำวม้ง ณ ที่พักสงฆ์ถ�้ำกระบอก รวมทั้งสนับสนุนและ
และด�ำเนินกำรเกี่ยวกับกำรส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูมิ ศึกษำ และ ช่วยเหลือในกำรเคลื่อนย้ำยไปสู่พื้นที่รองรับหรือประเทศที่ ๓ เพื่อรอ
พิจำรณำควำมเหมำะสมตลอดจนติดตำมแก้ไขปัญหำต่ำง ๆ ในเรื่อง กำรส่งกลับ หรือส่งมอบให้กับหน่วยที่รับผิดชอบ โดยเริ่มด�ำเนินกำร


ท่เก่ยวข้องกับกำรด�ำเนินกำรส่งชำวกัมพูชำ โดยมีหน่วยผู้ควบคุม ตั้งแต่ ๑ เม.ย.๒๕๔๖ เป็นต้นมำ


ผ้หลบหนีเข้ำเมืองจำกกัมพูชำข้นควบคุมทำงยุทธกำรในส่วนท ่ ี
เกี่ยวข้องกับกำรส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูมิ
ผลการปฏิบัติ
ฉก.พตท.พระพุทธบำท สำมำรถปฏิบัติกำรและ แก้ไขปัญหำที่
ยืดเยื้อของชำวม้ง ณ ที่พักสงฆ์ถ�้ำกระบอก ให้ส�ำเร็จลุล่วงด้วยดี จนวัน
ที่ ๒๖ พฤษภำคม ๒๕๔๘ จึงท�ำพิธีปิดชุมชนชำวม้งถ�้ำกระบอก และ
เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์ด�ำเนินกระบวนกำรน�ำชำวม้งไปตั้งถิ่นฐำน และ
เมื่อเสร็จสิ้นภำรกิจ จึงได้ยุบหน่วย ฉก.พตท.พระพุทธบำทลง ในวันที่
๓๑ มีนำคม ๒๕๔๙





128 129

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ศูนย์ประสานการส่งชาวกัมพูชากลับมาตุภูมิ การจัดตั้ง ฉก.พตท.พระพุทธบาท




(ศปสก.ศอร.บก.สส.)
เพื่อแก้ไขปัญหาชาวม้ง ในพื้นที่ที่พักสงฆ์ถ�้ากระบอก


สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ

กำรลงนำมในข้อตกลงสันติภำพขององค์กำรสหประชำชำติท ี ่ ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชำวกัมพูชำ ในพื้นที่อพยพโอตรำว, พื้นที่ พ.ศ. ๒๕๔๖ – พ.ศ.๒๕๔๙
กรุงปำรีส เมื่อ ๒๓ ต.ค. ๓๔ โดยผู้แทน ๑๙ ประเทศ และเขมร ๔ ฝ่ำย อพยพ บี , พื้นที่อพยพ ๒, พื้นที่อพยพเขำอีด่ำง, พื้นที่อพยพ ๘ พื้นที่

ซ่งข้อตกลงสันติภำพได้กล่ำวถึงผู้อพยพและผู้พลัดถ่นชำวกัมพูชำไว้ อพยพสุขสันต์ และพื้นที่อพยพ เค จ�ำนวนทั้งสิ้น ๓๖๑,๔๕๖ คน สถานการณ์

ในมำตรำที่ ๑๙ และ ๒๐ ที่ระบุให้ผู้อพยพและผู้พลัดถิ่นชำวกัมพูชำ ๘๓,๒๐๐ ครอบครัว ได้ถูกส่งกลับไปยังศูนย์รับกลับในประเทศ

ท่อยู่นอกประเทศมีสิทธ์โดยสมบูรณ์ท่จะเดินทำงกลับประเทศกัมพูชำ กัมพูชำ ๓ แห่งได้แก่ ศูนย์รับกลับศรีโสภณ (พนมกองวำ) ๑ แห่งศูนย์ ที่พักสงฆ์ถ�้ำกระบอก อ.พระพุทธบำท จ.สระบุรี เป็นสถำนที่


ได้อย่ำงปลอดภัย มั่นคง และมีศักดิ์ศรี โดยปรำศจำกกำรขู่เข็ญ หรือ รับกลับโพธิสัตย์ ๑ แห่ง และศูนย์รับกลับพนมเปญ ๑ แห่ง เพื่อส่งไป บ�ำบัดผู้ติดยำเสพติด ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ โดยแม่ชีเมี้ยน ซึ่งเคย
กำรบีบบังคับในทุกรูปแบบ พร้อมทั้งได้ระบุสำระส�ำคัญ เกี่ยวกับกำร ยังภูมิล�ำเนำปลำยทำงต่อไป กำรปฏิบัติเริ่มตั้งแต่วันที่ ๓๐ มีนำคม ธุดงค์ไปทำงภำคเหนือและเป็นที่ศรัทธำของชำวม้ง เนื่องจำกได้ช่วย






ส่งกลับผู้อพยพและผู้พลัดถ่นชำวกัมพูชำกลับถ่นฐำนเดิมไว้ใน ๒๕๓๕ จนถึง ๗ พฤษภำคม ๒๕๓๖ เหลอรักษำผู้ติดยำ เม่อก่อต้งที่พักสงฆ์ถ้ำกระบอกข้น จึงมีชำวม้ง

ภำคผนวก ๔ ของข้อตกลงสันติภำพฉบับนี้ และต่อมำได้มีกำรจัดท�ำ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษได้จัดก�ำลังส่วนหน่งเข้ำร่วม ติดตำมมำรักษำ และพำกันอพยพเข้ำมำพักอำศัยเพิ่มมำกขึ้นเรื่อยๆ






บันทึกควำมเข้ำใจไตรภำคี (MOU) ระหว่ำงรัฐบำลไทย SNC และ ปฏิบัติกำรใน ศปสก. โดยเป็นก�ำลังพลจำก พล.รพศ.๑ น�ำโดย จนทำให้ท่พักสงฆ์ถำกระบอกกลำยเป็นศูนย์กลำงของชำวม้งท้งจำก


UNHCR เกี่ยวกับกำรส่งผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชำวกัมพูชำกลับถิ่นฐำน พ.อ.กริชเพชร ค�ำดี รอง ผบ.รพศ.๒ เป็นหัวหน้ำทีม ท�ำให้หน่วย ชำยแดนและต่ำงประเทศ ซ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หลบหนีเข้ำเมองโดย
เดิมจำกประเทศไทย พร้อมทั้งมีกำรลงนำมในบันทึกควำมเข้ำใจฉบับนี้ รบพิเศษได้สร้ำงและประสำนควำมสัมพันธ์กับองค์กรกัมพูชำ ผิดกฎหมำย นับเป็นปัญหำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อควำมมั่นคงของ
ที่กรุงพนมเปญเมื่อ ๒๑ พ.ย. ๓๔ ประเทศมำเป็นเวลำนำน ทั้งในเรื่องยำเสพติด แรงงำนเถื่อน และที่
ฝ่ำยต่ำงๆ และผู้มีอิทธิพลในพ้นท่ในกำรพัฒนำเก่ยวกับโครงสร้ำง ส�ำคัญคือปัญหำขบวนกำรต่อต้ำนรัฐบำลสำธำรณรัฐประชำธิปไตย



ภารกิจและความรับผิดชอบของศูนย์ประสานการส่งชาว พ้นฐำนและส่งอ�ำนวยควำมสะดวกต่ำงๆ และกำรพัฒนำคุณภำพ ประชำชนลำว


กัมพูชากลับมาตุภูมิ (ศปสก.ฝยก.ศอร.บก.สส.) ชีวิตของคนในท้องถ่นท�ำให้เกิดผลดีแก่เจ้ำหน้ำท่หน่วยรบพิเศษท่ ี


ได้ปฏิบัติงำน ในกำรด�ำเนินกำรส�ำรวจพ้นท่และเตรียมพ้นท่ปฏิบัติกำร




รัฐบำลไทยได้จัดต้ง“ศูนย์ประสำนกำรส่งชำวกัมพูชำกลับ การปฏิบัติ




มำตุภูมิ” (ศปสก.) เป็นหน่วยงำนหลักรับผิดชอบกำรส่งชำวกัมพูชำ ซ่งสำมำรถตอบสนองต่อแผนงำนในกำรปฏิบัติกำรพิเศษในพ้นท่ระวัง กองทัพบก ได้มอบหมำยให้ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ เป็น

กลับมำตุภูมิ โดยต้งข้นท่ อ.อรัญประเทศ จว.ปรำจีนบุรี และได้ ป้องกันซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจ ๔ ประกำร ของกองทัพบกได้อย่ำงมี หน่วยรับผิดชอบหลักในกำรจัดก�ำลังพลหน่วยเฉพำะกิจผสม พลเรือน


เปิดส�ำนักงำนเพื่อปฏิบัติงำนตั้งแต่ ๑๒ ก.พ.๓๕ โดยมีหน้ำที่ควำม ประสิทธิภำพอีกด้วย ต�ำรวจ ทหำร ภำยใต้ชื่อ “ฉก.พตท.พระพุทธบำท ” ด�ำเนินกำรควบคุม
รับผิดชอบที่ส�ำคัญ คือ วำงแผน อ�ำนวยกำร ประสำนงำนก�ำกับดูแล และจัดระเบียบชำวม้ง ณ ที่พักสงฆ์ถ�้ำกระบอก รวมทั้งสนับสนุนและ
และด�ำเนินกำรเกี่ยวกับกำรส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูมิ ศึกษำ และ ช่วยเหลือในกำรเคลื่อนย้ำยไปสู่พื้นที่รองรับหรือประเทศที่ ๓ เพื่อรอ
พิจำรณำควำมเหมำะสมตลอดจนติดตำมแก้ไขปัญหำต่ำง ๆ ในเรื่อง กำรส่งกลับ หรือส่งมอบให้กับหน่วยที่รับผิดชอบ โดยเริ่มด�ำเนินกำร


ท่เก่ยวข้องกับกำรด�ำเนินกำรส่งชำวกัมพูชำ โดยมีหน่วยผู้ควบคุม ตั้งแต่ ๑ เม.ย.๒๕๔๖ เป็นต้นมำ


ผ้หลบหนีเข้ำเมืองจำกกัมพูชำข้นควบคุมทำงยุทธกำรในส่วนท ่ ี
เกี่ยวข้องกับกำรส่งชำวกัมพูชำกลับมำตุภูมิ
ผลการปฏิบัติ
ฉก.พตท.พระพุทธบำท สำมำรถปฏิบัติกำรและ แก้ไขปัญหำที่
ยืดเยื้อของชำวม้ง ณ ที่พักสงฆ์ถ�้ำกระบอก ให้ส�ำเร็จลุล่วงด้วยดี จนวัน
ที่ ๒๖ พฤษภำคม ๒๕๔๘ จึงท�ำพิธีปิดชุมชนชำวม้งถ�้ำกระบอก และ
เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์ด�ำเนินกระบวนกำรน�ำชำวม้งไปตั้งถิ่นฐำน และ
เมื่อเสร็จสิ้นภำรกิจ จึงได้ยุบหน่วย ฉก.พตท.พระพุทธบำทลง ในวันที่
๓๑ มีนำคม ๒๕๔๙





128 129

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติตามแผนไทยเสร กองบังคับการควบคุม (บก.ควบคุม)





(ป้องกันชายแดน)





กองบังคับกำรควบคุม เป็นหน่วยเฉพำะกิจตำมแผนป้องกัน

ชำยแดนประจ�ำปีของกองทัพบก เป็นหน่วยข้นกำรควบคุมบังคับบัญชำ • กองบังคับการควบคุมท่ ๕ (บก.ควบคุม ๕) พ.ศ. ๒๕๒๗ –


มีนำคม ๒๕๓๗ ใช้นำมหน่วย “ฐำนปฏิบัติกำรหน้ำท่ ๓ (ฐปน.๓)”
ฐานปฏิบัติการหน้า (ฐปน.) โดยตรง ของศูนย์ปฏิบัติกำรหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ (ศปก.นสศ.) มีภำรกิจในกำรปฏิบัติกำรพิเศษในพื้นที่ระวังป้องกัน และพื้นที่

ซ่งได้จัดต้งข้น เพ่อปฏิบัติงำนตำมแผนยุทธกำรท่ ๑ (ไทยเสรี) ต้งแต่



กำรรบด้ำนทิศตะวันตก ต้งแต่ อ.แม่สำย จ.เชียงรำย ถึง อุ้มผำง




พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยมีประวัติและภำรกิจ ดังน ้ ี จ.ตำก เพ่อสถำปนำควำมม่นคงตำมแนวชำยแดน สนับสนุน

กำรปฏิบัติตำมแผนเผชิญเหตุและแผนป้องกันประเทศโดยด�ำรง

• กองบังคับการควบคุมท่ ๔ (บก.ควบคุม ๔) เดิม ช่อ ฐำนปฏิบัต ิ


พ.ศ.๒๕๑๓ ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพบก ๓๑๕ (ศปก.ทบ.๓๑๕) ต่อเป้ำหมำย ในพ้นท่ระวังป้องกันตำมแผนยุทธกำรท่ ๑/๑ กำรหน้ำท่ ๕ (ฐปน.๕) จัดต้งข้นตำมอนุมัติ ผบ.ทบ. ท้ำยบันทึก กำรติดต่อประสำนกำรปฏิบัติกับกองก�ำลังป้องกันชำยแดนใน







ปฏิบัติงำนตำมโครงกำร ๕๐๖ ตอบสนองแนวนโยบำยของกองทัพบก (ไทยเสรี) เพื่อสนับสนุนแผนป้องกันประเทศของกองทัพบกใน ข้อควำม ยก.ทบ.ลับท่สุด ท่กห ๐๔๐๓/๒๑๙ ลง ๒๙ ส.ค. ๒๗ พ้นท่รับผิดชอบ




ได้แก่ กำรสถำปนำแนวกำรข่ำวระยะใกล้และระยะไกล ในทิศทำงด้ำน ทิศทำงตะวันออก ซ่งกำรปฏิบัติงำนของหน่วยเฉพำะกิจ ๙๙๒ น้น เร่อง ขออนุมัติแผนสงครำมนอกแบบ ของหน่วยบัญชำกำร ๑ มีนำคม ๒๕๓๗ – ๓๑ มีนำคม ๒๕๔๓ เปล่ยนนำมหน่วย



ประเทศกัมพูชำ ซ่งได้ผลดีย่ง แต่หลังจำกเขมรแดงเข้ำยึดกรุงพนมเปญ จะปฏิบัติงำนทำงด้ำนยุทธกำรเป็นหลัก เสริมด้วยงำนด้ำนกำร สงครำมพิเศษ และได้เคล่อนย้ำยก�ำลังพลจำกท่ต้งปกต ิ เป็น “หน่วยเฉพำะกิจท่ ๙๕๓ (ฉก.๙๕๓)” ข้นกำรควบคุมกับ









เม่อ ๑๗ เมษำยน ๒๕๑๘ “ตัวแทนหลังแนว” หรือ STAY – BEHIND ข่ำวในพ้นท่ระวังป้องกัน โดยมีชุดปฏิบัติกำร จ�ำนวน ๑๒ ชุด กรมรบพิเศษท่ ๔ (รพศ.๔) ค่ำยสฤษด์เสนำ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ส่วนโครงกำร ๓๑๑ ศปก.ทบ.



AGENT ได้ถูกท�ำลำยลงหมดส้น ชุดปฏิบัติกำรข่ำวต้องถอนตัวกลับเข้ำส ู่ อยู่ในบริเวณแนวชำยแดนไทย – กัมพูชำ ต้งแต่ จ.อุบลรำชธำน ี เข้ำปฏิบัติภำรกิจในพ้นท่จังหวัดชำยแดนภำคใต้ และพ้นท่ระวัง ๑ เมษำยน ๒๕๔๓ เปล่ยนนำมหน่วยเป็น “กองบังคับกำร






แนวชำยแดนไทยและเกิดปัญหำท่ส�ำคัญตำมมำ ๒ ประกำร คือ ปัญหำ ถึง จ.ตรำด เป็นเคร่องมือในกำรปฏิบัติงำนตำมภำรกิจท่ได้รับมอบ ป้องกัน ต้งแต่ ๑ ธ.ค.๒๗ โดยใช้พ้นท่ภำยในบริเวณ ค่ำยสิรินธร ควบคุมท่ ๕ (บก.ควบคุม ๕)” จนถึงปัจจุบัน มีภำรกิจปฏิบัติกำร







ขบวนกำรต่อต้ำนกำรปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ของเขมรแดง และ งานตามโครงการ ๕๑๓ : เป็นกำรปฏิบัติงำนเก่ยวกับกำรจัดต้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตำนี เป็นท่ต้ง บก.ฐปน. ต่อมำได้เคล่อนย้ำย พิเศษ ในพื้นที่ระวังป้องกันและพื้นที่กำรรบด้ำนทิศตะวันตก





ปัญหำผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์(ผกค.) ซึ่งได้รับกำรสนับสนุนจำกเขมร และกำรพัฒนำก�ำลังรบนอกแบบเพ่อใช้ปฏิบัติกำรในลักษณะจรยุทธ เข้ำท่ต้ง บ.น้ำด�ำ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตำนี และต้งแต่ ต้งแต่ อ.แม่สำย จ.เชียงรำย ถึง อุ้มผำง จ.ตำก จนกระท่ง







แดงเข้ำปฏิบัติกำรต่อเป้ำหมำยในเขตไทย แล้วถอนตัวกลับเข้ำกัมพูชำ ปรำบจรยุทธ ในพื้นที่ยำกล�ำบำก และเป็นที่มำของหน่วยทหำรพรำน ๑๗ พฤศจิกำยน ๒๕๓๐ - พ.ศ. ๒๕๔๓ -ได้ย้ำยท่ต้ง บก.ฐปน. เม่อ ๑ ตุลำคม ๒๕๕๑ กองทัพบกมอบหมำยให้ บก.ควบคุม ๕



ท่เรียกว่ำ “องค์กำรเซียม” ดังน้น ศปก.ทบ. ๓๑๕ จึงได้รับมอบหมำย โดยมีหน่วยงำนรับผิดชอบต่องำนในโครงกำรนี้ คือ ชุดควบคุมและ มำประจ�ำกำรท่ ค่ำยเสนำณรงค์ ต.คอหงส์ อ.หำดใหญ่ จ.สงขลำ รับผิดชอบพ้นท่เพ่มเติม ต้งแต่ ต้งแต่ อ.สังขละบุรี จ.กำญจนบุร ี









จำกผู้บังคับบัญชำให้เข้ำควบคุมอ�ำนวยกำร และช้น�ำกำรปฏิบัต ิ ประสำนงำน ๕๑๓ และเปล่ยนช่อมำเป็น กองบังคับกำรควบคุมท่ ๔ จนถึงปัจจุบัน – อ.เมือง จ.ระนอง ซ่งเดิมเป็นพ้นท่รับผิดชอบของ บก.ควบคุม ๔








ของขบวนกำรกลุ่มต่อต้ำนกัมพูชำ ต้งแต่ต้น พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยมีช่อว่ำ (รพศ.๔) โดย บก.ควบคุม ๔ ได้รับมอบภำรกิจ ให้รับผิดชอบพ้นท ี ่

“โครงกำรอัลฟ่ำ ๗๗” ต่อมำ กำรคุกคำมของ ผกค. ต่อพ้นท่ชำยแดนม ี พ.ศ. ๒๕๒๒ กองก�ำลังเวียดนำมได้โค่นระบอบ พอล พต/ ระวังป้องกันด้ำนประเทศมำเลเซีย เน่องจำกสถำนกำรณ์ควำม







ควำมรุนแรงมำกข้น ผู้บังคับบัญชำจึงส่งกำรให้จัดต้งหน่วยทหำรพรำน ฝ่ำยเขมรแดง ท�ำให้ฝ่ำยเขมรแดงต้องร่นถอยและเร่มปฏิบัติกำร รุนแรงในพ้นท่ ๓ จังหวัดชำยแดนใต้ ทวีควำมรุนแรงมำกข้น



เมื่อเดือนมิถุนำยน ๒๕๒๑ เพื่อเป็นหน่วยปฏิบัติกำรในลักษณะจรยุทธ สงครำมกองโจร ตลอดบริเวณชำยแดนไทย- กัมพูชำ โดยฝ่ำยเรำมี บก.
เรียกช่อรหัสว่ำ “โครงกำร ๕๑๓” แต่สถำนกำรณ์กลับมีควำมวิกฤต ิ ๕๐๖/ศปก.๓๑๕ รับผิดชอบโครงกำรพิเศษต่ำง ๆ เช่น โครงกำร ๘๓๘,


ย่งข้นอีก ท�ำให้งำนของ ศปก.ทบ.๓๑๕ ต้องขยำยขอบเขตออกไปอีก โครงกำรอัลฟ่ำ ๗๗ เพ่อให้ครอบคลุมงำนด้ำนยุทธกำรและด้ำนกำร




จึงเปล่ยนช่อเป็น ส่วนโครงกำร ๓๑๕ เป็นหน่วยข้นตรงของฝ่ำย ขำวทั่วกัมพูชำ ต่อมำจึงได้จัดตั้ง สง.๓๒๘ รับผิดชอบงำนด้ำนกัมพูชำ


ปฏิบัติกำรพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพบก ปฏิบัติงำนในฐำนะฝ่ำย โดยมีกำรใช้ก�ำลังของ บก.๘๒๔ และ นปพ.๘๓๘ เป็นต้น จำกนั้น



อ�ำนวยกำรของผู้บังคับบัญชำ ในเร่องกำรข่ำวด้ำนกัมพูชำ ด�ำเนินกำรตอบ ปลำยปี ๒๕๒๘ จึงมีกำรจัดต้งศูนย์ปฏิบัติกำรข้นอย่ำงเป็นทำงกำร


สนองนโยบำยของกองทัพบก ในด้ำนกำรปฏิบัติกำรลับ เพ่อรวบรวม เรียกวำ “กองบัญชำกำรยุทธบริเวณด้ำนกัมพูชำ (บก.ยว.บูรพำ)” เพื่อ

ข่ำวสำรและปฏิบัติกำรพิเศษ ประกอบด้วย งำนตำมโครงกำรหลัก ควบคมกำรปฏิบัติทำงด้ำนกัมพูชำและประสำนงำนกับหน่วยงำนท ี ่


๒ โครงกำร คือ งำนตำมโครงกำร ๕๐๖ และ งำนตำมโครงกำร ๕๑๓ เก่ยวข้อง รวมท้งมิตรประเทศ

งานตามโครงการ ๕๐๖ : เป็นกำรปฏิบัติงำนด้ำนกำรข่ำว และ หน่วยรบพิเศษ ได้เข้ำมีส่วนเก่ยวข้องกับกำรปฏิบัติงำน ตำม


กำรปฏิบัติกำรลับต่ำง ๆ ในทิศทำงกัมพูชำ มีหน่วยรองที่รับผิดชอบ นโยบำยด้ำนควำมม่นคงในทิศทำงด้ำนกัมพูชำ ท่ได้มีกำรพัฒนำปรับปรุง

ปฏิบัติงำนตำมโครงกำร จ�ำนวน ๒ หน่วย ได้แก่ กองบังคับกำร ๗๙๓ และเปล่ยนแปลงควำมรับผิดชอบตำมสถำนกำรณ์ ภัยคุกคำม และ

และ หน่วยเฉพำะกิจ ๙๙๒ ซ่งแต่ละหน่วยมีกำรปฏิบัติงำนดังน ้ ี นโยบำยของรัฐบำลในแต่ละห้วงเวลำมำโดยล�ำดับ ท้งในลักษณะ

เป็นหน่วยปฏิบัติกำร (บก.๙๐๘, บก.๘๒๔, นปพ.๘๓๘) กำรจัดต้ง

• กองบังคับการ ๗๙๓ : มีภำรกิจ รวบรวมข่ำวสำรด้วยกำรปฏิบัต ิ คำยฝึก (บก.๒๕๖) และกำรสนับสนุนก�ำลังพลไปช่วยงำนในส่วนต่ำงๆ

กำรลับ กำรปฏิบัติกำรพิเศษในกัมพูชำและพ้นท่บริเวณชำยแดน ท่เก่ยวข้องกับกัมพูชำ เกือบทุกโครงกำร รวมท้งกำรได้เข้ำไปมีบทบำท





ไทย – กัมพูชำ มีชุดปฏิบัติกำรข่ำว จ�ำนวน ๑๑ ชุด
หรือมีส่วนร่วมอย่ำงส�ำคัญกับกำรปฏิบัติกำรต่ำง ๆ ทำงด้ำนกัมพูชำ

• หน่วยเฉพาะกิจ ๙๙๒ มีภำรกิจ ควบคุม อ�ำนวยกำร จัดท�ำ อย่ำงต่อเน่อง
แผน และโครงกำรปฏิบัติกำรสงครำมพิเศษ ในทิศทำงกัมพูชำ
มีฐำนะเป็นฐำนปฏิบัติกำรหน้ำที่ ๑ ปฏิบัติงำนสงครำมพิเศษ
130 131

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติตามแผนไทยเสร กองบังคับการควบคุม (บก.ควบคุม)





(ป้องกันชายแดน)





กองบังคับกำรควบคุม เป็นหน่วยเฉพำะกิจตำมแผนป้องกัน

ชำยแดนประจ�ำปีของกองทัพบก เป็นหน่วยข้นกำรควบคุมบังคับบัญชำ • กองบังคับการควบคุมท่ ๕ (บก.ควบคุม ๕) พ.ศ. ๒๕๒๗ –


มีนำคม ๒๕๓๗ ใช้นำมหน่วย “ฐำนปฏิบัติกำรหน้ำท่ ๓ (ฐปน.๓)”
ฐานปฏิบัติการหน้า (ฐปน.) โดยตรง ของศูนย์ปฏิบัติกำรหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ (ศปก.นสศ.) มีภำรกิจในกำรปฏิบัติกำรพิเศษในพื้นที่ระวังป้องกัน และพื้นที่

ซ่งได้จัดต้งข้น เพ่อปฏิบัติงำนตำมแผนยุทธกำรท่ ๑ (ไทยเสรี) ต้งแต่



กำรรบด้ำนทิศตะวันตก ต้งแต่ อ.แม่สำย จ.เชียงรำย ถึง อุ้มผำง




พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยมีประวัติและภำรกิจ ดังน ้ ี จ.ตำก เพ่อสถำปนำควำมม่นคงตำมแนวชำยแดน สนับสนุน

กำรปฏิบัติตำมแผนเผชิญเหตุและแผนป้องกันประเทศโดยด�ำรง

• กองบังคับการควบคุมท่ ๔ (บก.ควบคุม ๔) เดิม ช่อ ฐำนปฏิบัต ิ


พ.ศ.๒๕๑๓ ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพบก ๓๑๕ (ศปก.ทบ.๓๑๕) ต่อเป้ำหมำย ในพ้นท่ระวังป้องกันตำมแผนยุทธกำรท่ ๑/๑ กำรหน้ำท่ ๕ (ฐปน.๕) จัดต้งข้นตำมอนุมัติ ผบ.ทบ. ท้ำยบันทึก กำรติดต่อประสำนกำรปฏิบัติกับกองก�ำลังป้องกันชำยแดนใน







ปฏิบัติงำนตำมโครงกำร ๕๐๖ ตอบสนองแนวนโยบำยของกองทัพบก (ไทยเสรี) เพื่อสนับสนุนแผนป้องกันประเทศของกองทัพบกใน ข้อควำม ยก.ทบ.ลับท่สุด ท่กห ๐๔๐๓/๒๑๙ ลง ๒๙ ส.ค. ๒๗ พ้นท่รับผิดชอบ




ได้แก่ กำรสถำปนำแนวกำรข่ำวระยะใกล้และระยะไกล ในทิศทำงด้ำน ทิศทำงตะวันออก ซ่งกำรปฏิบัติงำนของหน่วยเฉพำะกิจ ๙๙๒ น้น เร่อง ขออนุมัติแผนสงครำมนอกแบบ ของหน่วยบัญชำกำร ๑ มีนำคม ๒๕๓๗ – ๓๑ มีนำคม ๒๕๔๓ เปล่ยนนำมหน่วย



ประเทศกัมพูชำ ซ่งได้ผลดีย่ง แต่หลังจำกเขมรแดงเข้ำยึดกรุงพนมเปญ จะปฏิบัติงำนทำงด้ำนยุทธกำรเป็นหลัก เสริมด้วยงำนด้ำนกำร สงครำมพิเศษ และได้เคล่อนย้ำยก�ำลังพลจำกท่ต้งปกต ิ เป็น “หน่วยเฉพำะกิจท่ ๙๕๓ (ฉก.๙๕๓)” ข้นกำรควบคุมกับ









เม่อ ๑๗ เมษำยน ๒๕๑๘ “ตัวแทนหลังแนว” หรือ STAY – BEHIND ข่ำวในพ้นท่ระวังป้องกัน โดยมีชุดปฏิบัติกำร จ�ำนวน ๑๒ ชุด กรมรบพิเศษท่ ๔ (รพศ.๔) ค่ำยสฤษด์เสนำ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ส่วนโครงกำร ๓๑๑ ศปก.ทบ.



AGENT ได้ถูกท�ำลำยลงหมดส้น ชุดปฏิบัติกำรข่ำวต้องถอนตัวกลับเข้ำส ู่ อยู่ในบริเวณแนวชำยแดนไทย – กัมพูชำ ต้งแต่ จ.อุบลรำชธำน ี เข้ำปฏิบัติภำรกิจในพ้นท่จังหวัดชำยแดนภำคใต้ และพ้นท่ระวัง ๑ เมษำยน ๒๕๔๓ เปล่ยนนำมหน่วยเป็น “กองบังคับกำร






แนวชำยแดนไทยและเกิดปัญหำท่ส�ำคัญตำมมำ ๒ ประกำร คือ ปัญหำ ถึง จ.ตรำด เป็นเคร่องมือในกำรปฏิบัติงำนตำมภำรกิจท่ได้รับมอบ ป้องกัน ต้งแต่ ๑ ธ.ค.๒๗ โดยใช้พ้นท่ภำยในบริเวณ ค่ำยสิรินธร ควบคุมท่ ๕ (บก.ควบคุม ๕)” จนถึงปัจจุบัน มีภำรกิจปฏิบัติกำร







ขบวนกำรต่อต้ำนกำรปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ของเขมรแดง และ งานตามโครงการ ๕๑๓ : เป็นกำรปฏิบัติงำนเก่ยวกับกำรจัดต้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตำนี เป็นท่ต้ง บก.ฐปน. ต่อมำได้เคล่อนย้ำย พิเศษ ในพื้นที่ระวังป้องกันและพื้นที่กำรรบด้ำนทิศตะวันตก





ปัญหำผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์(ผกค.) ซึ่งได้รับกำรสนับสนุนจำกเขมร และกำรพัฒนำก�ำลังรบนอกแบบเพ่อใช้ปฏิบัติกำรในลักษณะจรยุทธ เข้ำท่ต้ง บ.น้ำด�ำ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตำนี และต้งแต่ ต้งแต่ อ.แม่สำย จ.เชียงรำย ถึง อุ้มผำง จ.ตำก จนกระท่ง







แดงเข้ำปฏิบัติกำรต่อเป้ำหมำยในเขตไทย แล้วถอนตัวกลับเข้ำกัมพูชำ ปรำบจรยุทธ ในพื้นที่ยำกล�ำบำก และเป็นที่มำของหน่วยทหำรพรำน ๑๗ พฤศจิกำยน ๒๕๓๐ - พ.ศ. ๒๕๔๓ -ได้ย้ำยท่ต้ง บก.ฐปน. เม่อ ๑ ตุลำคม ๒๕๕๑ กองทัพบกมอบหมำยให้ บก.ควบคุม ๕



ท่เรียกว่ำ “องค์กำรเซียม” ดังน้น ศปก.ทบ. ๓๑๕ จึงได้รับมอบหมำย โดยมีหน่วยงำนรับผิดชอบต่องำนในโครงกำรนี้ คือ ชุดควบคุมและ มำประจ�ำกำรท่ ค่ำยเสนำณรงค์ ต.คอหงส์ อ.หำดใหญ่ จ.สงขลำ รับผิดชอบพ้นท่เพ่มเติม ต้งแต่ ต้งแต่ อ.สังขละบุรี จ.กำญจนบุร ี









จำกผู้บังคับบัญชำให้เข้ำควบคุมอ�ำนวยกำร และช้น�ำกำรปฏิบัต ิ ประสำนงำน ๕๑๓ และเปล่ยนช่อมำเป็น กองบังคับกำรควบคุมท่ ๔ จนถึงปัจจุบัน – อ.เมือง จ.ระนอง ซ่งเดิมเป็นพ้นท่รับผิดชอบของ บก.ควบคุม ๔








ของขบวนกำรกลุ่มต่อต้ำนกัมพูชำ ต้งแต่ต้น พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยมีช่อว่ำ (รพศ.๔) โดย บก.ควบคุม ๔ ได้รับมอบภำรกิจ ให้รับผิดชอบพ้นท ี ่



“โครงกำรอัลฟ่ำ ๗๗” ต่อมำ กำรคุกคำมของ ผกค. ต่อพ้นท่ชำยแดนม ี พ.ศ. ๒๕๒๒ กองก�ำลังเวียดนำมได้โค่นระบอบ พอล พต/ ระวังป้องกันด้ำนประเทศมำเลเซีย เน่องจำกสถำนกำรณ์ควำม



ควำมรุนแรงมำกข้น ผู้บังคับบัญชำจึงส่งกำรให้จัดต้งหน่วยทหำรพรำน ฝ่ำยเขมรแดง ท�ำให้ฝ่ำยเขมรแดงต้องร่นถอยและเร่มปฏิบัติกำร รุนแรงในพ้นท่ ๓ จังหวัดชำยแดนใต้ ทวีควำมรุนแรงมำกข้น





เมื่อเดือนมิถุนำยน ๒๕๒๑ เพื่อเป็นหน่วยปฏิบัติกำรในลักษณะจรยุทธ สงครำมกองโจร ตลอดบริเวณชำยแดนไทย- กัมพูชำ โดยฝ่ำยเรำมี บก.
เรียกช่อรหัสว่ำ “โครงกำร ๕๑๓” แต่สถำนกำรณ์กลับมีควำมวิกฤต ิ ๕๐๖/ศปก.๓๑๕ รับผิดชอบโครงกำรพิเศษต่ำง ๆ เช่น โครงกำร ๘๓๘,


ย่งข้นอีก ท�ำให้งำนของ ศปก.ทบ.๓๑๕ ต้องขยำยขอบเขตออกไปอีก โครงกำรอัลฟ่ำ ๗๗ เพ่อให้ครอบคลุมงำนด้ำนยุทธกำรและด้ำนกำร





จึงเปล่ยนช่อเป็น ส่วนโครงกำร ๓๑๕ เป็นหน่วยข้นตรงของฝ่ำย ขำวทั่วกัมพูชำ ต่อมำจึงได้จัดตั้ง สง.๓๒๘ รับผิดชอบงำนด้ำนกัมพูชำ

ปฏิบัติกำรพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพบก ปฏิบัติงำนในฐำนะฝ่ำย โดยมีกำรใช้ก�ำลังของ บก.๘๒๔ และ นปพ.๘๓๘ เป็นต้น จำกนั้น


อ�ำนวยกำรของผู้บังคับบัญชำ ในเร่องกำรข่ำวด้ำนกัมพูชำ ด�ำเนินกำรตอบ ปลำยปี ๒๕๒๘ จึงมีกำรจัดต้งศูนย์ปฏิบัติกำรข้นอย่ำงเป็นทำงกำร


สนองนโยบำยของกองทัพบก ในด้ำนกำรปฏิบัติกำรลับ เพ่อรวบรวม เรียกวำ “กองบัญชำกำรยุทธบริเวณด้ำนกัมพูชำ (บก.ยว.บูรพำ)” เพื่อ


ข่ำวสำรและปฏิบัติกำรพิเศษ ประกอบด้วย งำนตำมโครงกำรหลัก ควบคมกำรปฏิบัติทำงด้ำนกัมพูชำและประสำนงำนกับหน่วยงำนท ่ ี


๒ โครงกำร คือ งำนตำมโครงกำร ๕๐๖ และ งำนตำมโครงกำร ๕๑๓ เก่ยวข้อง รวมท้งมิตรประเทศ

งานตามโครงการ ๕๐๖ : เป็นกำรปฏิบัติงำนด้ำนกำรข่ำว และ หน่วยรบพิเศษ ได้เข้ำมีส่วนเก่ยวข้องกับกำรปฏิบัติงำน ตำม


กำรปฏิบัติกำรลับต่ำง ๆ ในทิศทำงกัมพูชำ มีหน่วยรองที่รับผิดชอบ นโยบำยด้ำนควำมม่นคงในทิศทำงด้ำนกัมพูชำ ท่ได้มีกำรพัฒนำปรับปรุง

ปฏิบัติงำนตำมโครงกำร จ�ำนวน ๒ หน่วย ได้แก่ กองบังคับกำร ๗๙๓ และเปล่ยนแปลงควำมรับผิดชอบตำมสถำนกำรณ์ ภัยคุกคำม และ

และ หน่วยเฉพำะกิจ ๙๙๒ ซ่งแต่ละหน่วยมีกำรปฏิบัติงำนดังน ี ้ นโยบำยของรัฐบำลในแต่ละห้วงเวลำมำโดยล�ำดับ ท้งในลักษณะ

เป็นหน่วยปฏิบัติกำร (บก.๙๐๘, บก.๘๒๔, นปพ.๘๓๘) กำรจัดต้ง

• กองบังคับการ ๗๙๓ : มีภำรกิจ รวบรวมข่ำวสำรด้วยกำรปฏิบัต ิ คำยฝึก (บก.๒๕๖) และกำรสนับสนุนก�ำลังพลไปช่วยงำนในส่วนต่ำงๆ

กำรลับ กำรปฏิบัติกำรพิเศษในกัมพูชำและพ้นท่บริเวณชำยแดน ท่เก่ยวข้องกับกัมพูชำ เกือบทุกโครงกำร รวมท้งกำรได้เข้ำไปมีบทบำท





ไทย – กัมพูชำ มีชุดปฏิบัติกำรข่ำว จ�ำนวน ๑๑ ชุด
หรือมีส่วนร่วมอย่ำงส�ำคัญกับกำรปฏิบัติกำรต่ำง ๆ ทำงด้ำนกัมพูชำ

• หน่วยเฉพาะกิจ ๙๙๒ มีภำรกิจ ควบคุม อ�ำนวยกำร จัดท�ำ อย่ำงต่อเน่อง
แผน และโครงกำรปฏิบัติกำรสงครำมพิเศษ ในทิศทำงกัมพูชำ
มีฐำนะเป็นฐำนปฏิบัติกำรหน้ำที่ ๑ ปฏิบัติงำนสงครำมพิเศษ
130 131

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ต่อมำ พ.ศ.๒๕๓๔ พล.ต.ประสงค์ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.รพศ.๑
ศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธี (TOC) ศปก.พล.รพศ.๑ ได้ขออนุมัติจัดต้ง ศปก.นสศ. โดยมี ผบ.นสศ. เป็น ผบ.ศปก.นสศ.


ดังน้น ศปก.พล.รพศ.๑ จึงปรับกำรควบคุมกำรรำยงำนจำกหน่วย
มำข้นตรงกับ ศปก.นสศ. (จัดต้งตำมโครงกำรใหม่ของ ศปก.ทบ.)


แต่ ศปก.พล.รพศ.๑ ยังคงด�ำรงไว้ แต่ย้ำยที่ตั้งมำอยู่กับ บก.พล.รพศ.๑
พ.ศ. ๒๕๒๖ พล.ต. วิมล วงศ์วำนิช ผบ.พล.รพศ.๑ ได้มีด�ำริ ๒.๑ แผนก ๑๑ ควบคุมด้ำน กพช. (ฐปน.๑) มี กรมรบ และแปรสภำพเป็น ส่วนสงครำมพิเศษ ในเวลำต่อมำ ในส่วนพื้นที่ถ�้ำ
ให้ใช้พื้นที่ถ�้ำเอรำวัณ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในบริเวณค่ำยเอรำวัณ โรงเรียน พิเศษที่ ๑ เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่ระวังป้องกันด้ำน เอรำวัณ ที่เคยเป็น ศปก.พล.รพศ.๑ ยังคงสภำพไว้ในช่วงแรก โดยจัด
สงครำมพิเศษ จ.ลพบุรี โดยก่อสร้ำงและปรับปรุงพื้นที่ภำยในถ�้ำให้ กัมพูชำตั้งแต่ อ.กัณฑะลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ – เกำะกง เจ้ำหน้ำที่รักษำกำรณ์จำกกรมรบพิเศษ ดูแลพื้นที่ และเอกสำรส�ำคัญ





เป็นพ้นท่ปฏิบัติงำนถำวร ส�ำหรับเป็นกองบัญชำกำรกำรปฏบตกำร ๒.๒ แผนก ๑๒ ควบคุมด้ำน สปป.ลำว (ฐปน.๒) มี กรมรบ รวมถึงเอกสำรลับต่ำงๆ จนกระทั่งถ�้ำเอรำวัณ (TOC) เริ่มช�ำรุดทรุด
ลับของหน่วยรบพิเศษ มีชื่อว่ำ “ศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธี กองพล พิเศษที่ ๒ เป็นหน่วยผู้รับผิดชอบพื้นที่ระวังป้องกัน โทรม และมีน�้ำรั่วซึม ท่วมขังภำยในถ�้ำ ประกอบกับขำดงบประมำณ
รบพิเศษที่ ๑ (ศปก.พล.รพศ.๑)” ชื่อภำษำอังกฤษ คือ Tactical ด้ำนสปป.ลำว ต้งแต่ อ.เชียงของ จ.เชียงรำย - อ.นำจรวย ในกำรซ่อมบ�ำรุง ใน พ.ศ. ๒๕๔๐ พล.รพศ.๑ จึงยกเลิกกำรใช้งำน

Operations Center (TOC) โดยได้รับงบประมำณกำรก่อสร้ำงจำก จ.อุบลรำชธำนี และมอบโอนอำคำร TOC ให้กับ โรงเรียนสงครำมพิเศษ เพ่อใช้

กองทัพบก ด�ำเนินกำรเสร็จเรียบร้อยเมื่อต้น พ.ศ. ๒๕๒๘ ประโยชน์ต่อไป
๒.๓ แผนก ๑๓ควบคุมงำนด้ำนเวียดนำมและมำเลเซีย
“ศปก.พล.รพศ.๑” หรือ “TOC” มีภำรกิจควบคุม อ�ำนวยกำร (ฐปน.๓) โดย กรมรบพิเศษที่ ๓ เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่
กำรปฏิบัติภำรกิจของกรมรบพิเศษที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ และเป็นพื้นที่ ทะเลอันดำมันตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไป- ประเทศมำเลเซีย
เตรียมพร้อม ก่อนออกปฏิบัติรำชกำรสนำม ส่วนงำนกำรปฏิบัติแบ่ง
เป็น ๓ ส่วนหลัก คือ ๒.๔ แผนก ๑๔ ควบคุมงำนด้ำนพม่ำ (ฐปน.๔) โดย



กรมรบพิเศษท่ ๔ เป็นผู้รับผิดชอบพ้นท่ต้งแต่

๑. ส่วนบังคับบัญชำ : ผบ.พล.รพศ.๑, รอง ผบ.พล.รพศ.๑, อ.เชียงแสน จ.เชียงรำย - จ.ประจวบคีรีขันธ์
เสธ.พล.รพศ.๑ และ ฝสธ.พล.รพศ.๑
๓. ศูนย์สื่อสำร และสนับสนุน แบ่งเป็น ๒ ส่วน
๒. ส่วนศูนย์ยุทธกำร : ควบคุมกำรปฏิบัติด้ำนยุทธกำร (ไทยเสรี)
กัมพูชำ, เวียดนำม, สปป.ลำว และมำเลเซีย มีกำรจัดแผนก ๓.๑ ส่วนกำรติดต่อสื่อสำร ส�ำหรับรับและส่งข่ำวประจ�ำวัน
ควบคุมตำมพื้นที่ ๔ ส่วน ได้แก่ ด้วยระบบสัญญำณกำรเคำะรหัสมอส หรือ CW เข้ำรหัส
One-O-nine 2 ชั้น โดยแบ่ง จนท.สื่อสำร แยกตำม
ฐปน.

๓.๒ ส่วนสนับสนุน ด�ำเนินกำรด้ำนกำรด้ำนธุรกำร และกำร
ส่งก�ำลังบ�ำรุง ให้กับ ฐปน. ต่ำง ๆ











































132 133

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ต่อมำ พ.ศ.๒๕๓๔ พล.ต.ประสงค์ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.รพศ.๑
ศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธี (TOC) ศปก.พล.รพศ.๑ ได้ขออนุมัติจัดต้ง ศปก.นสศ. โดยมี ผบ.นสศ. เป็น ผบ.ศปก.นสศ.


ดังน้น ศปก.พล.รพศ.๑ จึงปรับกำรควบคุมกำรรำยงำนจำกหน่วย
มำข้นตรงกับ ศปก.นสศ. (จัดต้งตำมโครงกำรใหม่ของ ศปก.ทบ.)


แต่ ศปก.พล.รพศ.๑ ยังคงด�ำรงไว้ แต่ย้ำยที่ตั้งมำอยู่กับ บก.พล.รพศ.๑
พ.ศ. ๒๕๒๖ พล.ต. วิมล วงศ์วำนิช ผบ.พล.รพศ.๑ ได้มีด�ำริ ๒.๑ แผนก ๑๑ ควบคุมด้ำน กพช. (ฐปน.๑) มี กรมรบ และแปรสภำพเป็น ส่วนสงครำมพิเศษ ในเวลำต่อมำ ในส่วนพื้นที่ถ�้ำ
ให้ใช้พื้นที่ถ�้ำเอรำวัณ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในบริเวณค่ำยเอรำวัณ โรงเรียน พิเศษที่ ๑ เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่ระวังป้องกันด้ำน เอรำวัณ ที่เคยเป็น ศปก.พล.รพศ.๑ ยังคงสภำพไว้ในช่วงแรก โดยจัด
สงครำมพิเศษ จ.ลพบุรี โดยก่อสร้ำงและปรับปรุงพื้นที่ภำยในถ�้ำให้ กัมพูชำตั้งแต่ อ.กัณฑะลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ – เกำะกง เจ้ำหน้ำที่รักษำกำรณ์จำกกรมรบพิเศษ ดูแลพื้นที่ และเอกสำรส�ำคัญ





เป็นพ้นท่ปฏิบัติงำนถำวร ส�ำหรับเป็นกองบัญชำกำรกำรปฏบตกำร ๒.๒ แผนก ๑๒ ควบคุมด้ำน สปป.ลำว (ฐปน.๒) มี กรมรบ รวมถึงเอกสำรลับต่ำงๆ จนกระทั่งถ�้ำเอรำวัณ (TOC) เริ่มช�ำรุดทรุด
ลับของหน่วยรบพิเศษ มีชื่อว่ำ “ศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธี กองพล พิเศษที่ ๒ เป็นหน่วยผู้รับผิดชอบพื้นที่ระวังป้องกัน โทรม และมีน�้ำรั่วซึม ท่วมขังภำยในถ�้ำ ประกอบกับขำดงบประมำณ
รบพิเศษที่ ๑ (ศปก.พล.รพศ.๑)” ชื่อภำษำอังกฤษ คือ Tactical ด้ำนสปป.ลำว ต้งแต่ อ.เชียงของ จ.เชียงรำย - อ.นำจรวย ในกำรซ่อมบ�ำรุง ใน พ.ศ. ๒๕๔๐ พล.รพศ.๑ จึงยกเลิกกำรใช้งำน

Operations Center (TOC) โดยได้รับงบประมำณกำรก่อสร้ำงจำก จ.อุบลรำชธำนี และมอบโอนอำคำร TOC ให้กับ โรงเรียนสงครำมพิเศษ เพ่อใช้

กองทัพบก ด�ำเนินกำรเสร็จเรียบร้อยเมื่อต้น พ.ศ. ๒๕๒๘ ประโยชน์ต่อไป
๒.๓ แผนก ๑๓ควบคุมงำนด้ำนเวียดนำมและมำเลเซีย
“ศปก.พล.รพศ.๑” หรือ “TOC” มีภำรกิจควบคุม อ�ำนวยกำร (ฐปน.๓) โดย กรมรบพิเศษที่ ๓ เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่
กำรปฏิบัติภำรกิจของกรมรบพิเศษที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ และเป็นพื้นที่ ทะเลอันดำมันตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไป- ประเทศมำเลเซีย
เตรียมพร้อม ก่อนออกปฏิบัติรำชกำรสนำม ส่วนงำนกำรปฏิบัติแบ่ง
เป็น ๓ ส่วนหลัก คือ ๒.๔ แผนก ๑๔ ควบคุมงำนด้ำนพม่ำ (ฐปน.๔) โดย



กรมรบพิเศษท่ ๔ เป็นผู้รับผิดชอบพ้นท่ต้งแต่

๑. ส่วนบังคับบัญชำ : ผบ.พล.รพศ.๑, รอง ผบ.พล.รพศ.๑, อ.เชียงแสน จ.เชียงรำย - จ.ประจวบคีรีขันธ์
เสธ.พล.รพศ.๑ และ ฝสธ.พล.รพศ.๑
๓. ศูนย์สื่อสำร และสนับสนุน แบ่งเป็น ๒ ส่วน
๒. ส่วนศูนย์ยุทธกำร : ควบคุมกำรปฏิบัติด้ำนยุทธกำร (ไทยเสรี)
กัมพูชำ, เวียดนำม, สปป.ลำว และมำเลเซีย มีกำรจัดแผนก ๓.๑ ส่วนกำรติดต่อสื่อสำร ส�ำหรับรับและส่งข่ำวประจ�ำวัน
ควบคุมตำมพื้นที่ ๔ ส่วน ได้แก่ ด้วยระบบสัญญำณกำรเคำะรหัสมอส หรือ CW เข้ำรหัส
One-O-nine 2 ชั้น โดยแบ่ง จนท.สื่อสำร แยกตำม
ฐปน.

๓.๒ ส่วนสนับสนุน ด�ำเนินกำรด้ำนกำรด้ำนธุรกำร และกำร
ส่งก�ำลังบ�ำรุง ให้กับ ฐปน. ต่ำง ๆ











































132 133

การปฏิบัติการจิตวิทยาสนับสนุนการ กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย ึ ี คร้งแรก และพัฒนำมำเป็นกองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำในปัจจุบัน




จำกอดตนับต้งแต่มีกำรจัดตงชดปฏบัติกำรจิตวทยำขนเป็น
กำรปฏิบัติงำนในพ้นท่ชำยแดนเป็นอีกภำรกิจหน่ง ท่กองพัน








ปฏิบัติกำรจิตวิทยำยังได้จัดก�ำลังพล ปฏิบัติงำนสนับสนุนงำนกำร

แก้ไขปัญหาส�าคัญของชาต ิ รักษำควำมสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชำยแดนภำคใต้ ตำมแผนงำน หน่วยได้ทุ่มเททั้งแรงกำย แรงใจ มุ่งมั่นปฏิบัติงำน ด้วยควำม อดทน ี ่
เสียสละ ทั้งหยำดเหงื่อ เลือดเนื้อ และชีวิต ตอบสนองภำรกิจของ
ของกองอ�ำนวยกำรรักษำควำมมั่นคงภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ และศูนย์
อ�ำนวยกำรบริหำรจังหวัดชำยแดนภำคใต้ ในกำรปฏิบัติกำรข่ำวสำร


กองทัพบก เพ่อให้ได้รับชัยชนะ โดยใช้กำรต่อสู้ท่ไม่ได้มุ่งหวังท
และกำรประชำสัมพันธ์ โครงกำรและกิจกรรมต่อกลุ่มเป้ำหมำยต่ำงๆ
เพื่อสร้ำงภำพลักษณ์ที่ดีต่อหน่วยงำนรัฐ สร้ำงควำมชอบธรรม และ จะเอำชนะกันด้วยอำวุธ แต่เป็นกำรเอำชนะทำงควำมคิด สร้ำงให้เกิด
ควำมได้เปรียบเหนือฝ่ำยตรงข้ำม น�ำไปสู่กำรสร้ำงควำมสงบเรียบร้อย


พ.ศ.๒๕๓๑ – พ.ศ.๒๕๓๖ ควำมร่วมมือในกำรสนับสนุนกำรปฏิบัติของเจ้ำหน้ำท่รัฐ ลดควำม ให้เกิดข้นภำยในประเทศ ประชำชนอยู่ดีมีสุข มีควำมรู้รักสำมัคค ี

และประเทศชำติมีควำมมั่นคงสืบต่อไป
น่ำเช่อถือของผู้ก่อควำมไม่สงบในประเด็นต่ำงๆ โดยมีองค์ประกอบ
และหน้ำที่ของแต่ละส่วนงำนประกอบด้วย ชุดทักษิณสัมพันธ์ (ปจว.),
กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำเป็นหน่วยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ มีกำรใช้สื่อและกิจกรรมสนับสนุน ชุดสถำนีวิทยุฯ, ชุดผลิตและพัฒนำสื่อ และชุดครูฝึกเยำวชน โดยใช้

เพียงหน่วยเดียวของกองทัพบก ซึ่งรับผิดชอบปฏิบัติงำนในพื้นที่ตำม กำรปฏิบัติงำนของกองทัพบก ในส่วนของงำนในพ้นท่ตำมแนว เทคนิคกำรปฏิบัติ และสื่อปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ที่มุ่งประเด็นในกำรน�ำ





แนวชำยแดนรอบประเทศไทยสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนให้กับกองทัพ ชำยแดนมีพ้นท่รับผิดชอบ ๒๔ จังหวัด เข้ำปฏิบัติงำนในพ้นท ี ่ เสนอต่อกลุ่มเป้ำหมำย ซ่งมีวัตถุประสงค์เฉพำะตำมประเด็นกำรน�ำ

ภำคทั้ง ๔ กองทัพของกองทัพบก มีภำรกิจส�ำคัญในกำรรณรงค์ด้วย ระดับหมู่บ้ำน และต�ำบลท่มีอำณำเขตติดแนวชำยแดน โดยจัดชุด เสนอในแต่ละห้วงเวลำ โดยรวมจะมุ่งเน้นในกำรสร้ำงควำมเข้ำใจ


ส่อโฆษณำในกำรเสริมสร้ำงควำมรักควำมสำมัคคีของชนในชำต ิ ปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ปฏิบัติงำนด้วยกำรใช้ส่อบุคคล ส่อส่งพิมพ์ ควำมเสียสละ และควำมจริงใจในกำรแก้ไขปัญหำกำรก่อควำมไม่สงบ


เพ่อสนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำด้ำนควำมม่นคงต่ำงๆ ในมิติของ หอกระจำยข่ำว เสียงตำมสำย สื่อสังคมออนไลน์ และสื่อกิจกรรมดังที่



กำรสร้ำงกำรรับรู้ข่ำวสำร ควำมตระหนักถึงผลเสียท่จะเกิดข้น กล่ำวแล้วเข้ำด�ำเนินกำรต่อกลุ่มเป้ำหมำยสนับสนุนกำรปฏิบัติโดยตรง

และกำรรณรงค์ให้ผู้ท่เก่ยวข้องร่วมมือกับส่วนรำชกำรตำม ให้กับกองก�ำลังป้องกันชำยแดน โดย กกล.ป้องกันชำยแดนก�ำหนด


บทบำทของตนเองในกำรร่วมกันแก้ปัญหำ อำทิ ปัญหำยำเสพติด พ้นท่เป้ำหมำยตำมควำมเร่งด่วน ปฏิบัติงำนด้วยกำรใช้กิจกรรมทำง


กำรท�ำลำยทรัพยำกรธรรมชำติ กำรหลั่งไหลของแรงงำนต่ำงด้ำวซึ่ง ปจว. สนับสนุนหน่วยในพื้นที่ รวมทั้งแสวงโอกำสในกำรจัดตั้งมวลชน
สร้ำงปัญหำหลำยด้ำนในพื้นที่ เป็นต้น ในบำงห้วงเวลำยังสำมำรถ เพื่อกำร ปจว. และด้ำนกำรข่ำวเพื่อกำรรำยงำนข่ำวสำรตำมประเด็น
ปฏิบัติงำนในพ้นท่เขตเมืองเพ่อรณรงค์ด้ำนกำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำ หลักและติดตำมด�ำรงกำรประสำนงำนหลังกำรปฏิบัติ ตลอดจนใช้เป็น



และ ประชำสัมพันธ์ในประเด็นต่ำงๆ เมื่อกองทัพบกสั่งกำร นอกจำก เครื่องมือรวบรวมข่ำวสำรที่ส�ำคัญในห้วงเวลำ
น้ยังมีภำรกิจในกำรสนับสนุนกำรรักษำควำมสงบเรียบร้อยใน นอกจำกน้กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ได้ใช้ส่อสถำนีวิทย ุ



สำมจังหวัดชำยแดนภำคใต้อีกด้วย กระจำยเสียงผ่ำนรูปแบบรำยกำรทั้งด้ำนควำมมั่นคง กำรขยำยผลด้วย
จำกภำรกิจโดยรวมต่ำงๆ ข้ำงต้น นอกเหนือจำกกำรใช้สื่อเพื่อ กำรสร้ำงกำรรับรู้ข่ำวสำรจำกกองทัพบก และข่ำวสำรท้องถิ่น รวม

กำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำและประชำสัมพันธ์ทุกประเภท เช่น สื่อบุคคล ท้งด�ำเนินกำรผลิตส่อโฆษณำสนับสนุนให้กับชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ


สื่อสิ่งพิมพ์ สถำนีวิทยุกระจำยเสียง สื่อดนตรีและกำรแสดง และ และศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพภำคในพ้นท่รับผิดชอบตำมแนวโฆษณำ



สื่อโซเชียลมีเดียต่ำงๆ เผยแพร่ไปสู่กลุ่มเป้ำหมำยแล้ว หน่วยยังได้จัด นอกจำกน้ยังด�ำเนินกำรรณรงค์ด้วยกำรใช้ดนตรีและกำรแสดงเป็นส่อ
ท�ำโครงกำรที่เกี่ยวข้อง อำทิ โครงกำรเพื่อเยำวชนห่ำงไกลยำเสพ สนับสนุนโดยตรงให้กับศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพภำค
ติด, โครงกำรสร้ำงควำมรักควำมสำมัคคี, โครงกำรสร้ำงจิตส�ำนึกรักษ์
สิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยมุ่งกำรบูรณำกำรด้วยกำรปฏิบัติร่วมกับหน่วย
ก�ำลังในพื้นที่ ส่วนรำชกำร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เกิดควำม
ส�ำนึกรับผิดชอบร่วมกัน










134 135

การปฏิบัติการจิตวิทยาสนับสนุนการ กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย ึ ี คร้งแรก และพัฒนำมำเป็นกองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำในปัจจุบัน




จำกอดตนับต้งแต่มีกำรจัดตงชดปฏบัติกำรจิตวทยำขนเป็น
กำรปฏิบัติงำนในพ้นท่ชำยแดนเป็นอีกภำรกิจหน่ง ท่กองพัน








ปฏิบัติกำรจิตวิทยำยังได้จัดก�ำลังพล ปฏิบัติงำนสนับสนุนงำนกำร

แก้ไขปัญหาส�าคัญของชาต ิ รักษำควำมสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชำยแดนภำคใต้ ตำมแผนงำน หน่วยได้ทุ่มเททั้งแรงกำย แรงใจ มุ่งมั่นปฏิบัติงำน ด้วยควำม อดทน ี ่
เสียสละ ทั้งหยำดเหงื่อ เลือดเนื้อ และชีวิต ตอบสนองภำรกิจของ
ของกองอ�ำนวยกำรรักษำควำมมั่นคงภำยในภำค ๔ ส่วนหน้ำ และศูนย์
อ�ำนวยกำรบริหำรจังหวัดชำยแดนภำคใต้ ในกำรปฏิบัติกำรข่ำวสำร


กองทัพบก เพ่อให้ได้รับชัยชนะ โดยใช้กำรต่อสู้ท่ไม่ได้มุ่งหวังท
และกำรประชำสัมพันธ์ โครงกำรและกิจกรรมต่อกลุ่มเป้ำหมำยต่ำงๆ
เพื่อสร้ำงภำพลักษณ์ที่ดีต่อหน่วยงำนรัฐ สร้ำงควำมชอบธรรม และ จะเอำชนะกันด้วยอำวุธ แต่เป็นกำรเอำชนะทำงควำมคิด สร้ำงให้เกิด
ควำมได้เปรียบเหนือฝ่ำยตรงข้ำม น�ำไปสู่กำรสร้ำงควำมสงบเรียบร้อย


พ.ศ.๒๕๓๑ – พ.ศ.๒๕๓๖ ควำมร่วมมือในกำรสนับสนุนกำรปฏิบัติของเจ้ำหน้ำท่รัฐ ลดควำม ให้เกิดข้นภำยในประเทศ ประชำชนอยู่ดีมีสุข มีควำมรู้รักสำมัคค ี

และประเทศชำติมีควำมมั่นคงสืบต่อไป
น่ำเช่อถือของผู้ก่อควำมไม่สงบในประเด็นต่ำงๆ โดยมีองค์ประกอบ
และหน้ำที่ของแต่ละส่วนงำนประกอบด้วย ชุดทักษิณสัมพันธ์ (ปจว.),
กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำเป็นหน่วยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ มีกำรใช้สื่อและกิจกรรมสนับสนุน ชุดสถำนีวิทยุฯ, ชุดผลิตและพัฒนำสื่อ และชุดครูฝึกเยำวชน โดยใช้

เพียงหน่วยเดียวของกองทัพบก ซึ่งรับผิดชอบปฏิบัติงำนในพื้นที่ตำม กำรปฏิบัติงำนของกองทัพบก ในส่วนของงำนในพ้นท่ตำมแนว เทคนิคกำรปฏิบัติ และสื่อปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ที่มุ่งประเด็นในกำรน�ำ





แนวชำยแดนรอบประเทศไทยสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนให้กับกองทัพ ชำยแดนมีพ้นท่รับผิดชอบ ๒๔ จังหวัด เข้ำปฏิบัติงำนในพ้นท ี ่ เสนอต่อกลุ่มเป้ำหมำย ซ่งมีวัตถุประสงค์เฉพำะตำมประเด็นกำรน�ำ

ภำคทั้ง ๔ กองทัพของกองทัพบก มีภำรกิจส�ำคัญในกำรรณรงค์ด้วย ระดับหมู่บ้ำน และต�ำบลท่มีอำณำเขตติดแนวชำยแดน โดยจัดชุด เสนอในแต่ละห้วงเวลำ โดยรวมจะมุ่งเน้นในกำรสร้ำงควำมเข้ำใจ


ส่อโฆษณำในกำรเสริมสร้ำงควำมรักควำมสำมัคคีของชนในชำต ิ ปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ปฏิบัติงำนด้วยกำรใช้ส่อบุคคล ส่อส่งพิมพ์ ควำมเสียสละ และควำมจริงใจในกำรแก้ไขปัญหำกำรก่อควำมไม่สงบ


เพ่อสนับสนุนกำรแก้ไขปัญหำด้ำนควำมม่นคงต่ำงๆ ในมิติของ หอกระจำยข่ำว เสียงตำมสำย สื่อสังคมออนไลน์ และสื่อกิจกรรมดังที่



กำรสร้ำงกำรรับรู้ข่ำวสำร ควำมตระหนักถึงผลเสียท่จะเกิดข้น กล่ำวแล้วเข้ำด�ำเนินกำรต่อกลุ่มเป้ำหมำยสนับสนุนกำรปฏิบัติโดยตรง

และกำรรณรงค์ให้ผู้ท่เก่ยวข้องร่วมมือกับส่วนรำชกำรตำม ให้กับกองก�ำลังป้องกันชำยแดน โดย กกล.ป้องกันชำยแดนก�ำหนด


บทบำทของตนเองในกำรร่วมกันแก้ปัญหำ อำทิ ปัญหำยำเสพติด พ้นท่เป้ำหมำยตำมควำมเร่งด่วน ปฏิบัติงำนด้วยกำรใช้กิจกรรมทำง


กำรท�ำลำยทรัพยำกรธรรมชำติ กำรหลั่งไหลของแรงงำนต่ำงด้ำวซึ่ง ปจว. สนับสนุนหน่วยในพื้นที่ รวมทั้งแสวงโอกำสในกำรจัดตั้งมวลชน
สร้ำงปัญหำหลำยด้ำนในพื้นที่ เป็นต้น ในบำงห้วงเวลำยังสำมำรถ เพื่อกำร ปจว. และด้ำนกำรข่ำวเพื่อกำรรำยงำนข่ำวสำรตำมประเด็น
ปฏิบัติงำนในพ้นท่เขตเมืองเพ่อรณรงค์ด้ำนกำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำ หลักและติดตำมด�ำรงกำรประสำนงำนหลังกำรปฏิบัติ ตลอดจนใช้เป็น



และ ประชำสัมพันธ์ในประเด็นต่ำงๆ เมื่อกองทัพบกสั่งกำร นอกจำก เครื่องมือรวบรวมข่ำวสำรที่ส�ำคัญในห้วงเวลำ
น้ยังมีภำรกิจในกำรสนับสนุนกำรรักษำควำมสงบเรียบร้อยใน นอกจำกน้กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ได้ใช้ส่อสถำนีวิทย ุ



สำมจังหวัดชำยแดนภำคใต้อีกด้วย กระจำยเสียงผ่ำนรูปแบบรำยกำรทั้งด้ำนควำมมั่นคง กำรขยำยผลด้วย
จำกภำรกิจโดยรวมต่ำงๆ ข้ำงต้น นอกเหนือจำกกำรใช้สื่อเพื่อ กำรสร้ำงกำรรับรู้ข่ำวสำรจำกกองทัพบก และข่ำวสำรท้องถิ่น รวม

กำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำและประชำสัมพันธ์ทุกประเภท เช่น สื่อบุคคล ท้งด�ำเนินกำรผลิตส่อโฆษณำสนับสนุนให้กับชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ


สื่อสิ่งพิมพ์ สถำนีวิทยุกระจำยเสียง สื่อดนตรีและกำรแสดง และ และศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพภำคในพ้นท่รับผิดชอบตำมแนวโฆษณำ



สื่อโซเชียลมีเดียต่ำงๆ เผยแพร่ไปสู่กลุ่มเป้ำหมำยแล้ว หน่วยยังได้จัด นอกจำกน้ยังด�ำเนินกำรรณรงค์ด้วยกำรใช้ดนตรีและกำรแสดงเป็นส่อ
ท�ำโครงกำรที่เกี่ยวข้อง อำทิ โครงกำรเพื่อเยำวชนห่ำงไกลยำเสพ สนับสนุนโดยตรงให้กับศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพภำค
ติด, โครงกำรสร้ำงควำมรักควำมสำมัคคี, โครงกำรสร้ำงจิตส�ำนึกรักษ์
สิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยมุ่งกำรบูรณำกำรด้วยกำรปฏิบัติร่วมกับหน่วย
ก�ำลังในพื้นที่ ส่วนรำชกำร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เกิดควำม
ส�ำนึกรับผิดชอบร่วมกัน










134 135

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

เกร็ดประวัติรบพิเศษ












หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย


















































































136 137

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

เกร็ดประวัติรบพิเศษ












หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย


















































































136 137

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
หมวกเบเร่ต์แดง สายยงยศทหารรบพิเศษ










สำยยงยศไหมสีแดง สำยยงยศไหมสีแดง (ส�ำหรับนักโดดร่มประจ�ำกองของ ทบ.)


เร่มต้งแต่มีทหำรพลร่มเป็นต้นมำ ทหำรพลร่มใช้หมวกเบเร่ต์ (ทรงหม้อตำล ก�ำหนดไว้ใน กฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๔๒) ออกตำมควำมใน



อ่อนไม่กระบัง) สีเขียวข้ม้ำตำมสีของทหำรบก ต่อมำได้เปล่ยนมำใช้เป็นหมวกเบ พระรำชบัญญัติเคร่องแบบทหำร พุทธศักรำช ๒๔๗๗ ว่ำด้วย



เร่ต์สีแดงเลือดหมู เม่อประมำณกลำง พ.ศ. ๒๔๙๘ (ฤดูฝน) ผู้บันทึกจ�ำได้แม่นย�ำ เคร่องแบบทหำรบก ฉบับท่ ๘๐


ก็เพรำะ เม่อเร่มเปลี่ยนสีหมวกใหม่นั้น ผู้บันทึกได้พยำยำมย้อมหมวกสีเขียวให้ “ข้อ ๖๐ ทหำรซ่งเป็นนักโดดร่มประจ�ำกอง ใช้สำยยงยศ

เป็นสีแดงเลือดหมูและก็ได้ผลเหมือนกันหน่วยก็อนุโลมให้ใช้ได้ จนกว่ำจะได้ ไหมสีแดง เป็นสำยถัก ๑ เส้น ประกอบตุ่มโลหะสีทอง ๑ ตุ้ม
หมวกใบใหม่ แต่เวลำ ฝนตก ถ้ำเปียกฝน เม่อถอดหมวกออกนึกข�ำไม่หำยหน้ำ และสำยเกล้ยง ๒ เส้น ท�ำเป็นบ่วงคล้องใต้แขนขวำ ปลำยสำย




ผำกแดงเร่อ ๆ เป็นสีชมพูเชียว จึงขอบันทึกไว้ว่ำ “หมวกเบเร่ต์สีแดงเลือดหมู” สำยเกล้ยง รวมติดท่ดุมอินทรธนูข้ำงขวำ ให้ตุ่มโลหะสีทองอยู่ท่อกเส้อ




ทหำรพลร่มกองทัพบกไทยเร่มใช้เม่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นต้นมำ ประกอบกับเคร่องแบบ (ทหำรนักโดดร่มประจ�ำกอง) เว้นแต่





Royal Thai Army Red Beret Paratroopers Special Forces Beret เม่อแต่งเคร่องแบบฝึกหรือเคร่องแบบสนำมไม่ใช้สำยยงยศ

story.When Thai Army Parachute Battalion was formed in 1954. They (วรรคสอง) นำยทหำรสัญญำบัตรซ่งใช้สำยยงยศเสนำธิกำร

began to unofficially wear a berets of green colour while training. หรือสำยยงยศนำยทหำรคนสนิท ไม่ใช้สำยยงยศตำมข้อน้ ”
The color red became a symbol of Headgear Thai SF Army on May, ตุ่มโลหะสีทอง กำรประดับสำยยงยศไหมสีแดง
1955.
ต้องรวมปลำยสำยติดไว้ท่ดุมอินทรธนูข้ำงขวำ ตำมท่กฎกระทรวง


Thai Army Special Forces, known as the Red Berets due to their ภาพ เป็นรูปแบบสายยงยศไหม ก�ำหนดแบบอย่ำงท่ถูกต้องในกำรประดับสำยยงยศไหมสีแดงกับ

distinctive service headgear, are a special operations force tasked สีแดง ท่ได้ปรับสายเกล้ยง ๒ เส้น เครื่องแบบทหำรบก ๓ ชนิด


with eight primary missions. ให้ตดขนาบข้างกับสายถกเพอ • เครื่องแบบปกติกำกีแกมเขียวคอแบะ




**Cr. พ.ต.อ.ไวทยวัฒน์ บุญชูวิทย์ ( บุตร พันโทเสรี บุญชูวิทย์ ) รวบรวม ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและ • เครื่องแบบปกติขำว
จากบันทึกของพ่อ ความสวยงาม
• เครื่องแบบปกติกำกีแกมเขียวคอพับ (แขนยำว)

นายทหารสัญญาบัตร นายทหารช้นนายพล
ช้นจอมพลและนายพล

















นายทหารช้นสัญญาบัตร นายทหารช้นประทวน








138 139

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
หมวกเบเร่ต์แดง สายยงยศทหารรบพิเศษ










สำยยงยศไหมสีแดง สำยยงยศไหมสีแดง (ส�ำหรับนักโดดร่มประจ�ำกองของ ทบ.)


เร่มต้งแต่มีทหำรพลร่มเป็นต้นมำ ทหำรพลร่มใช้หมวกเบเร่ต์ (ทรงหม้อตำล ก�ำหนดไว้ใน กฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๔๒) ออกตำมควำมใน



อ่อนไม่กระบัง) สีเขียวข้ม้ำตำมสีของทหำรบก ต่อมำได้เปล่ยนมำใช้เป็นหมวกเบ พระรำชบัญญัติเคร่องแบบทหำร พุทธศักรำช ๒๔๗๗ ว่ำด้วย



เร่ต์สีแดงเลือดหมู เม่อประมำณกลำง พ.ศ. ๒๔๙๘ (ฤดูฝน) ผู้บันทึกจ�ำได้แม่นย�ำ เคร่องแบบทหำรบก ฉบับท่ ๘๐


ก็เพรำะ เม่อเร่มเปลี่ยนสีหมวกใหม่นั้น ผู้บันทึกได้พยำยำมย้อมหมวกสีเขียวให้ “ข้อ ๖๐ ทหำรซ่งเป็นนักโดดร่มประจ�ำกอง ใช้สำยยงยศ

เป็นสีแดงเลือดหมูและก็ได้ผลเหมือนกันหน่วยก็อนุโลมให้ใช้ได้ จนกว่ำจะได้ ไหมสีแดง เป็นสำยถัก ๑ เส้น ประกอบตุ่มโลหะสีทอง ๑ ตุ้ม
หมวกใบใหม่ แต่เวลำ ฝนตก ถ้ำเปียกฝน เม่อถอดหมวกออกนึกข�ำไม่หำยหน้ำ และสำยเกล้ยง ๒ เส้น ท�ำเป็นบ่วงคล้องใต้แขนขวำ ปลำยสำย




ผำกแดงเร่อ ๆ เป็นสีชมพูเชียว จึงขอบันทึกไว้ว่ำ “หมวกเบเร่ต์สีแดงเลือดหมู” สำยเกล้ยง รวมติดท่ดุมอินทรธนูข้ำงขวำ ให้ตุ่มโลหะสีทองอยู่ท่อกเส้อ




ทหำรพลร่มกองทัพบกไทยเร่มใช้เม่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นต้นมำ ประกอบกับเคร่องแบบ (ทหำรนักโดดร่มประจ�ำกอง) เว้นแต่





Royal Thai Army Red Beret Paratroopers Special Forces Beret เม่อแต่งเคร่องแบบฝึกหรือเคร่องแบบสนำมไม่ใช้สำยยงยศ

story.When Thai Army Parachute Battalion was formed in 1954. They (วรรคสอง) นำยทหำรสัญญำบัตรซ่งใช้สำยยงยศเสนำธิกำร

began to unofficially wear a berets of green colour while training. หรือสำยยงยศนำยทหำรคนสนิท ไม่ใช้สำยยงยศตำมข้อน้ ”
The color red became a symbol of Headgear Thai SF Army on May, ตุ่มโลหะสีทอง กำรประดับสำยยงยศไหมสีแดง
1955.
ต้องรวมปลำยสำยติดไว้ท่ดุมอินทรธนูข้ำงขวำ ตำมท่กฎกระทรวง


Thai Army Special Forces, known as the Red Berets due to their ภาพ เป็นรูปแบบสายยงยศไหม ก�ำหนดแบบอย่ำงท่ถูกต้องในกำรประดับสำยยงยศไหมสีแดงกับ

distinctive service headgear, are a special operations force tasked สีแดง ท่ได้ปรับสายเกล้ยง ๒ เส้น เครื่องแบบทหำรบก ๓ ชนิด


with eight primary missions. ให้ตดขนาบข้างกับสายถกเพอ • เครื่องแบบปกติกำกีแกมเขียวคอแบะ




**Cr. พ.ต.อ.ไวทยวัฒน์ บุญชูวิทย์ ( บุตร พันโทเสรี บุญชูวิทย์ ) รวบรวม ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและ • เครื่องแบบปกติขำว
จากบันทึกของพ่อ ความสวยงาม
• เครื่องแบบปกติกำกีแกมเขียวคอพับ (แขนยำว)

นายทหารสัญญาบัตร นายทหารช้นนายพล
ช้นจอมพลและนายพล

















นายทหารช้นสัญญาบัตร นายทหารช้นประทวน








138 139

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
เพลงมาร์ชทหารพลร่ม ( โดย ครูนารถ ถาวรบุตร ) (โดย ส.ท.ศิรวัฒน์ พิมพ์วงศ์ )
เนื้อเพลงมาร์ชทหารพลร่ม
เนื้อเพลงมาร์ชทหารพลร่ม



เหล่าพลร่ม สืบเน่องมาจากทหารพราน เหล่าพลร่ม สืบเน่องมาจากทหารพราน



จากฟ้าทะยาน ลงสู่ท่หมาย หวังเข้าโจมต จากฟ้าทะยาน ลงสู่ท่หมาย พิฆาตไพร ี





อันความตายมิได้เคยไหวหว่น อันความตายมิได้เคยไหวหว่น ดวงชีวันน้นเรายอมพร้อมกับพล ี

เนอเพลงและคำร้องของเพลงมำร์ชทหำรพลร่มประมำณ




ดวงชีวันน้นเรายอมพร้อมกันพลี เหมือนดังพญาปักษ เหมือนดังพญาปักษ ี
แปดสิบห้ำเปอร์เซ็นต์ เกิดจำกจินตนำกำรของ พันตรี เสรี บุญชูวิทย์




ล้วนแรงฤทธ์ ฝีมืออันเกรียง (ซา)* ล้วนแรงฤทธี ฝีมืออันเกรียงไกร (ซา)

อดีตทหำรพลร่มป่ำหวำย พลร่มรุ่นท่ ๔ และประพันธ์ท�ำนอง

โดย ครูนำรถ ถำวรบุตร แห่ง กรมประชำสัมพันธ์ ใน พ.ศ. ๒๔๙๘









นาใจดารงคงม่น หากมีศัตรูรุกราน ทุกคนไม่พร่น รักม่นชาต ิ นาใจดารงคงม่น จะขอร่วมฟ้าสาบาน ฤทัยไม่หว่น




ไทย ชาติเกียรติวินัย ใจยึดม่นตลอดกาล รักม่นชาติไทย ชาติเกียรติวินัย
เพลงมำร์ชทหำรพลร่ม เพลงนี้ ครูนำรถ ถำวรบุตร เป็นผู้แต่ง
ตราบชีวาแหลกลาญพร้อมหน้า ทหารพลร่มฝ่า องอาจกล้าหาญ ตราบชีวาแหลกลาญพร้อมหน้า
ท�ำนอง ครูถกล เรืองสุข เป็นผู้ให้เนื้อร้อง และผู้ที่ไปอัดเสียงและต่อ
ไปทุกแห่งหนหมายผจญศัตร ู ทหารพลร่มฟันฝ่าไปทุกแห่งหนหมายผจญศัตร ู
เพลงจำกครูนำรถ มี ๓ คน คือ ส.ท.จินดำ จินเลิศ ส.ท.ศิรวัฒน์ พิมพ์วงศ์ และ


ทุกคนกล้าหาญชาญชัย ท่วดงป่าเขาลาเนาไพร แม้ในกลางดงพันไพร เปรียบเหมือนดังแดนศิวิไล
ส.ต.ยนต์ กล่อมบำง ซึ่งเป็นนักดนตรีของวงดนตรีฉัตรฟ้ำ เดินทำงไป

หัวใจกล้าแกร่งด้วยแรงศรัทธา ฤทัยไม่หน่ายคล้ายอยู่พารา ท่วแดนพนา
พบครูถกล เรืองสุข อยู่สองครั้ง โดยครั้งแรกไปพบท่ำนที่โรงงำนยำสูบ


ไม่ว่าแห่งใด เราบุกเข้าไปด้วยดวงใจท่แรงแข็งกล้า เราฝ่าฟันไปด้วยดวงใจด่งพรานหาญกล้า คอยพิทักษ์ท่วหล้า


ท่ซอยนำนำ ท่ำนก็เล่นเปียโนให้ฟังและต่อเพลงให้จนจ�ำเพลงได ้
ท่วทุกทิศหย่อมหญ้า โดดลงจากฟ้าป้องประชาชาวไทย ตราบดินส้นฟ้า ปวงประชาชาวไทย


แต่มีปัญหำเล็กน้อย คือ เนื้อเพลงไม่เข้มข้นและไม่เน้นกำรเป็นพลร่ม



เอกราชยืนยง ช่วฟ้าดินดารง ชาติไทยครอง เอกราชยืนยง ช่วฟ้าดินดารง ชาติไทยครอง

ให้ชัดเจน ประกอบกับมีค�ำร้องที่เป็นภำษำฝรั่งปะปนอยู่ด้วย ดังนั้น




ปีกทองอันสามารถ (ซา) เหล่าทหารช่นชม (ซา) ปีกทองอันสามารถ (ซา) แห่งทหารพลร่ม (ซา)





พ.ต.เทียนชัย ศิริสัมพันธ์ ผบ.พัน.พร. จึงสั่งกำรให้ ส.ท.ศิรวัฒน์ฯ

เหินลมลงสู่สมรภูมิ พร้อมพรักสมัครม่น เหินลมลงสู่สมรภูมิ พร้อมพรักสมัครม่น

ไปด�ำเนินกำรช่วยแก้ไขเนื้อเพลงส่วนหนึ่ง ซึ่งจะขอน�ำเนื้อเพลงเก่ำที่
พลีแล้วด้วยใจจงกระโดดลงร่มกัน พลีแล้วด้วยใจจง กระโดดลงร่วมกัน
ครูนำรถแต่งไว้มำแสดงให้เห็น แล้วจะน�ำเนื้อเพลงที่ ส.ท.ศิรวัฒน์
เข้าประจันปัจจามิตรไป ทุกทิศจนโลหิตทาบทา เข้าประจันปัจจามิตรไป ทุกทิศจนโลหิตทาบทา
พิมพ์วงศ์ แก้ไข มำแสดงต่อไป เพื่อเปรียบเทียบเนื้อเก่ำและใหม่ ให้
อธิปไตยคง สายยงยศเด่นภราดร ดังพ่น้องร่วมอุทร อธิปไตยคง สายยงยศเด่นภราดร ดังพ่น้องร่วมอุทร


เห็นกันชัด ๆ ดังนี้



เราพร้อมสละพลีวัน เราน้จะต่อกรจนมรณา สีของมาลา เข้มแดงย่งกว่าเลือดน้น
ดีเดย์ สีหมวกบาเรต์ เข้มแดงสุดเท่ห์ในฝัน ดังเป็นสัญลักษณ์อัน เก่งกล้าหาญชาญชัย
ด่งจะเป็นสัญลักษณ์อัน เก่งกล้าหาญชาญชย


หลังจำกที่ได้แก้ไขเนื้อร้องแล้ว จึงส่งให้ ครูนำรถ แก้ไข และ

ท้งหมดเป็นเพลงท่ครูนำรถแต่งไว้ แต่มีบำงค�ำบำงประโยค ปรับปรุงท�ำนองอีกเล็กน้อย แล้วครูนำรถได้เล่นเปียโนอัดเสียงให้

บำงตอน ไม่เหมำะสมกับลักษณะหน่วยพลร่ม ประกอบกับมีค�ำภำษำ เสร็จแล้วจึงได้อัดเป็นแผ่นเสียงประมำณ ๑๐ แผ่น ซึ่งต่อมำ แผ่นเสียง
ฝรั่งปะปน คือค�ำว่ำ ดีเดย์ บำเรต์ เท่ห์ ท่ำน ผบ.พัน.พร.จึงให้ เหล่ำน้นได้ช�ำรุดเสียหำยไปหมด ดังน้น เพลงมำร์ชทหำรพลร่ม


เปลี่ยนแปลงใหม่บำงตอน ดังนี้ ที่บรรเลงอยู่ในปัจจุบัน จึงมีท�ำนองที่ผิดแผกไปจำกเดิม
140 141

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
เพลงมาร์ชทหารพลร่ม ( โดย ครูนารถ ถาวรบุตร ) (โดย ส.ท.ศิรวัฒน์ พิมพ์วงศ์ )
เนื้อเพลงมาร์ชทหารพลร่ม
เนื้อเพลงมาร์ชทหารพลร่ม



เหล่าพลร่ม สืบเน่องมาจากทหารพราน เหล่าพลร่ม สืบเน่องมาจากทหารพราน



จากฟ้าทะยาน ลงสู่ท่หมาย หวังเข้าโจมต จากฟ้าทะยาน ลงสู่ท่หมาย พิฆาตไพร ี





อันความตายมิได้เคยไหวหว่น อันความตายมิได้เคยไหวหว่น ดวงชีวันน้นเรายอมพร้อมกับพล ี

เนอเพลงและคำร้องของเพลงมำร์ชทหำรพลร่มประมำณ




ดวงชีวันน้นเรายอมพร้อมกันพลี เหมือนดังพญาปักษ เหมือนดังพญาปักษ ี
แปดสิบห้ำเปอร์เซ็นต์ เกิดจำกจินตนำกำรของ พันตรี เสรี บุญชูวิทย์


ล้วนแรงฤทธ์ ฝีมืออันเกรียง (ซา)* ล้วนแรงฤทธี ฝีมืออันเกรียงไกร (ซา)




อดีตทหำรพลร่มป่ำหวำย พลร่มรุ่นท่ ๔ และประพันธ์ท�ำนอง
โดย ครูนำรถ ถำวรบุตร แห่ง กรมประชำสัมพันธ์ ใน พ.ศ. ๒๔๙๘






นาใจดารงคงม่น หากมีศัตรูรุกราน ทุกคนไม่พร่น รักม่นชาต ิ นาใจดารงคงม่น จะขอร่วมฟ้าสาบาน ฤทัยไม่หว่น







ไทย ชาติเกียรติวินัย ใจยึดม่นตลอดกาล รักม่นชาติไทย ชาติเกียรติวินัย
เพลงมำร์ชทหำรพลร่ม เพลงนี้ ครูนำรถ ถำวรบุตร เป็นผู้แต่ง
ตราบชีวาแหลกลาญพร้อมหน้า ทหารพลร่มฝ่า องอาจกล้าหาญ ตราบชีวาแหลกลาญพร้อมหน้า
ท�ำนอง ครูถกล เรืองสุข เป็นผู้ให้เนื้อร้อง และผู้ที่ไปอัดเสียงและต่อ
ไปทุกแห่งหนหมายผจญศัตร ู ทหารพลร่มฟันฝ่าไปทุกแห่งหนหมายผจญศัตร ู
เพลงจำกครูนำรถ มี ๓ คน คือ ส.ท.จินดำ จินเลิศ ส.ท.ศิรวัฒน์ พิมพ์วงศ์ และ
ทุกคนกล้าหาญชาญชัย ท่วดงป่าเขาลาเนาไพร แม้ในกลางดงพันไพร เปรียบเหมือนดังแดนศิวิไล


ส.ต.ยนต์ กล่อมบำง ซึ่งเป็นนักดนตรีของวงดนตรีฉัตรฟ้ำ เดินทำงไป

หัวใจกล้าแกร่งด้วยแรงศรัทธา ฤทัยไม่หน่ายคล้ายอยู่พารา ท่วแดนพนา
พบครูถกล เรืองสุข อยู่สองครั้ง โดยครั้งแรกไปพบท่ำนที่โรงงำนยำสูบ



ไม่ว่าแห่งใด เราบุกเข้าไปด้วยดวงใจท่แรงแข็งกล้า เราฝ่าฟันไปด้วยดวงใจด่งพรานหาญกล้า คอยพิทักษ์ท่วหล้า
ท่ซอยนำนำ ท่ำนก็เล่นเปียโนให้ฟังและต่อเพลงให้จนจ�ำเพลงได ้


ท่วทุกทิศหย่อมหญ้า โดดลงจากฟ้าป้องประชาชาวไทย ตราบดินส้นฟ้า ปวงประชาชาวไทย

แต่มีปัญหำเล็กน้อย คือ เนื้อเพลงไม่เข้มข้นและไม่เน้นกำรเป็นพลร่ม



เอกราชยืนยง ช่วฟ้าดินดารง ชาติไทยครอง เอกราชยืนยง ช่วฟ้าดินดารง ชาติไทยครอง

ให้ชัดเจน ประกอบกับมีค�ำร้องที่เป็นภำษำฝรั่งปะปนอยู่ด้วย ดังนั้น




ปีกทองอันสามารถ (ซา) เหล่าทหารช่นชม (ซา) ปีกทองอันสามารถ (ซา) แห่งทหารพลร่ม (ซา)





พ.ต.เทียนชัย ศิริสัมพันธ์ ผบ.พัน.พร. จึงสั่งกำรให้ ส.ท.ศิรวัฒน์ฯ

เหินลมลงสู่สมรภูมิ พร้อมพรักสมัครม่น เหินลมลงสู่สมรภูมิ พร้อมพรักสมัครม่น

ไปด�ำเนินกำรช่วยแก้ไขเนื้อเพลงส่วนหนึ่ง ซึ่งจะขอน�ำเนื้อเพลงเก่ำที่
พลีแล้วด้วยใจจงกระโดดลงร่มกัน พลีแล้วด้วยใจจง กระโดดลงร่วมกัน
ครูนำรถแต่งไว้มำแสดงให้เห็น แล้วจะน�ำเนื้อเพลงที่ ส.ท.ศิรวัฒน์
เข้าประจันปัจจามิตรไป ทุกทิศจนโลหิตทาบทา เข้าประจันปัจจามิตรไป ทุกทิศจนโลหิตทาบทา
พิมพ์วงศ์ แก้ไข มำแสดงต่อไป เพื่อเปรียบเทียบเนื้อเก่ำและใหม่ ให้
อธิปไตยคง สายยงยศเด่นภราดร ดังพ่น้องร่วมอุทร อธิปไตยคง สายยงยศเด่นภราดร ดังพ่น้องร่วมอุทร


เห็นกันชัด ๆ ดังนี้



เราพร้อมสละพลีวัน เราน้จะต่อกรจนมรณา สีของมาลา เข้มแดงย่งกว่าเลือดน้น
ดีเดย์ สีหมวกบาเรต์ เข้มแดงสุดเท่ห์ในฝัน ดังเป็นสัญลักษณ์อัน เก่งกล้าหาญชาญชัย
ด่งจะเป็นสัญลักษณ์อัน เก่งกล้าหาญชาญชย


หลังจำกที่ได้แก้ไขเนื้อร้องแล้ว จึงส่งให้ ครูนำรถ แก้ไข และ

ท้งหมดเป็นเพลงท่ครูนำรถแต่งไว้ แต่มีบำงค�ำบำงประโยค ปรับปรุงท�ำนองอีกเล็กน้อย แล้วครูนำรถได้เล่นเปียโนอัดเสียงให้

บำงตอน ไม่เหมำะสมกับลักษณะหน่วยพลร่ม ประกอบกับมีค�ำภำษำ เสร็จแล้วจึงได้อัดเป็นแผ่นเสียงประมำณ ๑๐ แผ่น ซึ่งต่อมำ แผ่นเสียง
ฝรั่งปะปน คือค�ำว่ำ ดีเดย์ บำเรต์ เท่ห์ ท่ำน ผบ.พัน.พร.จึงให้ เหล่ำน้นได้ช�ำรุดเสียหำยไปหมด ดังน้น เพลงมำร์ชทหำรพลร่ม


เปลี่ยนแปลงใหม่บำงตอน ดังนี้ ที่บรรเลงอยู่ในปัจจุบัน จึงมีท�ำนองที่ผิดแผกไปจำกเดิม
140 141

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
อนุสาวรีย์ทหารพลร่ม รายละเอียดรูปแบบของอนุสาวรีย์






องค์อนุสำวรีย์เป็นรูปหล่อทองสัมฤทธ์รมด�ำ รูปทหำรพลร่ม
เต็มตัว ควำมสูง ๑ เมตร ๗๐ เซนติเมตร แต่งเคร่องแบบสนำม

พร้อมมือขวำถืออำวุธ ปสบ.๘๗ มือซ้ำยช้ไปข้ำงหน้ำในลักษณะ

อนุสำวรีย์ทหำรพลร่ม ตั้งอยู่ ณ วงเวียนหน้ำค่ำยวชิรำลงกรณ์ พ.อ.สุรยุทธ์ จุลำนนท์ ผู้บังคับกำรกรมรบพิเศษที่ ๑ ได้วำงแผน สั่งกำรให้ทุกคนรุกไปข้ำงหน้ำ เพื่อต่อสู้กับอริรำชศัตรูผู้รุกรำน
บ้ำนเลขที่ ๕๐๐ หมู่ ๖ ต�ำบลป่ำตำล อ�ำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ด�ำเนินกำรก่อสร้ำงฐำนรองรับอนุสำวรีย์ และปรับปรุงพื้นที่บริเวณวง ตัวฐำนอนุสำวรีย์ตั้งอยู่บนฐำนรองรับรูป ๖ เหลี่ยม มีทั้งหมด

พ.ศ. ๒๕๑๒ พ.อ.รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ ผู้บังคับกองรบพิเศษที่ ๑ ใน เวียนโดยประสำนกับส�ำนักงำนชลประทำนท่ ๘ กรมชลประทำน ๔ ช้น สูง ๒ เมตร ๗๐ เซนติเมตร รอบฐำนช้นท่ ๔ ท้ง ๖ ด้ำน





ขณะนั้นมีด�ำริให้ท�ำกำรก่อสร้ำงอนุสำวรีย์แห่งนี้ขึ้น โดยประสำนกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กำรสนับสนุนเคร่องมือก่อสร้ำง เป็นที่ส�ำหรับติดแผ่นทองเหลือง ซึ่งจำรึก ยศ – นำม ของเหล่ำวีรชน


กรมศิลปำกรออกแบบจัดสร้ำง เม่อกรมศิลปำกรหล่อรูปเสร็จ ก�ำลังคน ตลอดจนยำนพำหนะซ่งใช้ในกำรก่อสร้ำงจนแล้วเสร็จ ผู้เสียชีวิตเป็นชำติพลี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีจ�ำนวน ๑๙๗ นำย
เรียบร้อย จึงได้น�ำมำติดต้งประดิษฐำนอยู่บริเวณหน้ำกองรบพิเศษ พื้นด้ำนบนปูด้วยหินอ่อน พื้นด้ำนล่ำงเป็นหินขัดโดยรอบ

(พลร่ม) ที่ ๑ และกระท�ำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๔ มิ.ย. ๒๕๑๓ ๓ เมษำยน ๒๕๒๙ พล.ต.วัฒนา สรรพานิช ผู้บัญชำกำร


กองพลรบพิเศษท่ ๑ ในขณะน้นได้เป็นประธำนในกำรกระท�ำ ควำมส�ำคัญของอนุสำวรีย์ เพ่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกถึง




ต่อมำ พ.ศ. ๒๕๒๖ พล.ต.วิมล วงศ์วานิช ผู้บัญชำกำรกองพล พิธีถอนอนุสำวรีย์ เพ่อเตรียมย้ำยไป ณ ท่ต้งใหม่ ภำยในวงเวียน วีรกรรมของวีรชน ถือเอำเป็นแบบอย่ำงและมีสถำนที่พึงเคำรพ
รบพิเศษที่ ๑ ในขณะนั้น ได้ด�ำริว่ำ สมควรมีกำรปรับปรุงให้อนุสำวรีย์ หน้ำค่ำยวชิรำลงกรณ์ สักกำระถึงวิญญำณของวีรชน “ ทหำรพลร่ม ” ในค่ำยวชิรำลงกรณ์

แห่งน้มีท่ต้งท่เหมำะสม มีควำมสง่ำงำม สมเกียรติภูมิของบรรดำ แหงนจำกอดีตกำลจนถึงปัจจุบัน ซ่งบรรดำวีรชนเหล่ำน้ ได้เคยไป








เหล่ำทหำรพลร่ม และเป็นที่เคำรพสักกำระของบุคคลทั่วไป โดยให้น�ำ ๖ เมษำยน ๒๕๒๙ พล.ท.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชำกำรหน่วย ปฏิบัติรำชกำรสนองคุณประเทศชำติ ด้วยควำมกล้ำหำญ เสียสละ

อนุสำวรีย์ไปประดิษฐำนไว้ ณ วงเวียนหน้ำค่ำยวชิรำลงกรณ์ จึงได้สั่ง บัญชำกำรสงครำมพิเศษ ในขณะน้นได้เป็นประธำนในพิธีอัญเชิญ อย่ำงสูง ยำกที่จะหำสิ่งใดมำเปรียบเทียบ


กำรให้ พ.อ.สุรยุทธ์ จุลำนนท์ ผู้บังคับกำรกรมรบพิเศษที่ ๑ ด�ำเนิน ดวงวิญญำณของเหล่ำทหำรพลร่ม วีรชนผู้ท่เสียชีวิตข้นสิงสถิต
กำร วำงแผนปรับปรุงบริเวณพื้นที่ดังกล่ำวและท�ำกำรก่อสร้ำง ทั้งนี้ ณ อนุสำวรีย์แห่งนี้
พล.ต.วิมล วงศ์วำนิช กรุณำมอบเงินไว้เป็นทุนในกำรด�ำเนินงำนข้นต้น ๔ มิถุนำยน ๒๕๒๙ พล.ท.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

จ�ำนวน ๑๐,๐๐๐ บำท สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดาเนินทรงเป็นองค์ประธานใน

พิธีเปิดอนุสาวรีย์ทหารพลร่ม ประดิษฐำนเป็นที่เคำรพบูชำของเหล่ำ
ทหำรพลร่ม และประชำชนทั่วไป



































142 143

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
อนุสาวรีย์ทหารพลร่ม รายละเอียดรูปแบบของอนุสาวรีย์






องค์อนุสำวรีย์เป็นรูปหล่อทองสัมฤทธ์รมด�ำ รูปทหำรพลร่ม
เต็มตัว ควำมสูง ๑ เมตร ๗๐ เซนติเมตร แต่งเคร่องแบบสนำม

พร้อมมือขวำถืออำวุธ ปสบ.๘๗ มือซ้ำยช้ไปข้ำงหน้ำในลักษณะ

อนุสำวรีย์ทหำรพลร่ม ตั้งอยู่ ณ วงเวียนหน้ำค่ำยวชิรำลงกรณ์ พ.อ.สุรยุทธ์ จุลำนนท์ ผู้บังคับกำรกรมรบพิเศษที่ ๑ ได้วำงแผน สั่งกำรให้ทุกคนรุกไปข้ำงหน้ำ เพื่อต่อสู้กับอริรำชศัตรูผู้รุกรำน
บ้ำนเลขที่ ๕๐๐ หมู่ ๖ ต�ำบลป่ำตำล อ�ำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ด�ำเนินกำรก่อสร้ำงฐำนรองรับอนุสำวรีย์ และปรับปรุงพื้นที่บริเวณวง ตัวฐำนอนุสำวรีย์ตั้งอยู่บนฐำนรองรับรูป ๖ เหลี่ยม มีทั้งหมด

พ.ศ. ๒๕๑๒ พ.อ.รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ ผู้บังคับกองรบพิเศษที่ ๑ ใน เวียนโดยประสำนกับส�ำนักงำนชลประทำนท่ ๘ กรมชลประทำน ๔ ช้น สูง ๒ เมตร ๗๐ เซนติเมตร รอบฐำนช้นท่ ๔ ท้ง ๖ ด้ำน





ขณะนั้นมีด�ำริให้ท�ำกำรก่อสร้ำงอนุสำวรีย์แห่งนี้ขึ้น โดยประสำนกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กำรสนับสนุนเคร่องมือก่อสร้ำง เป็นที่ส�ำหรับติดแผ่นทองเหลือง ซึ่งจำรึก ยศ – นำม ของเหล่ำวีรชน


กรมศิลปำกรออกแบบจัดสร้ำง เม่อกรมศิลปำกรหล่อรูปเสร็จ ก�ำลังคน ตลอดจนยำนพำหนะซ่งใช้ในกำรก่อสร้ำงจนแล้วเสร็จ ผู้เสียชีวิตเป็นชำติพลี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีจ�ำนวน ๑๙๗ นำย
เรียบร้อย จึงได้น�ำมำติดต้งประดิษฐำนอยู่บริเวณหน้ำกองรบพิเศษ พื้นด้ำนบนปูด้วยหินอ่อน พื้นด้ำนล่ำงเป็นหินขัดโดยรอบ

(พลร่ม) ที่ ๑ และกระท�ำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๔ มิ.ย. ๒๕๑๓ ๓ เมษำยน ๒๕๒๙ พล.ต.วัฒนา สรรพานิช ผู้บัญชำกำร


กองพลรบพิเศษท่ ๑ ในขณะน้นได้เป็นประธำนในกำรกระท�ำ ควำมส�ำคัญของอนุสำวรีย์ เพ่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกถึง




ต่อมำ พ.ศ. ๒๕๒๖ พล.ต.วิมล วงศ์วานิช ผู้บัญชำกำรกองพล พิธีถอนอนุสำวรีย์ เพ่อเตรียมย้ำยไป ณ ท่ต้งใหม่ ภำยในวงเวียน วีรกรรมของวีรชน ถือเอำเป็นแบบอย่ำงและมีสถำนที่พึงเคำรพ
รบพิเศษที่ ๑ ในขณะนั้น ได้ด�ำริว่ำ สมควรมีกำรปรับปรุงให้อนุสำวรีย์ หน้ำค่ำยวชิรำลงกรณ์ สักกำระถึงวิญญำณของวีรชน “ ทหำรพลร่ม ” ในค่ำยวชิรำลงกรณ์

แห่งน้มีท่ต้งท่เหมำะสม มีควำมสง่ำงำม สมเกียรติภูมิของบรรดำ แหงนจำกอดีตกำลจนถึงปัจจุบัน ซ่งบรรดำวีรชนเหล่ำน้ ได้เคยไป








เหล่ำทหำรพลร่ม และเป็นที่เคำรพสักกำระของบุคคลทั่วไป โดยให้น�ำ ๖ เมษำยน ๒๕๒๙ พล.ท.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชำกำรหน่วย ปฏิบัติรำชกำรสนองคุณประเทศชำติ ด้วยควำมกล้ำหำญ เสียสละ

อนุสำวรีย์ไปประดิษฐำนไว้ ณ วงเวียนหน้ำค่ำยวชิรำลงกรณ์ จึงได้สั่ง บัญชำกำรสงครำมพิเศษ ในขณะน้นได้เป็นประธำนในพิธีอัญเชิญ อย่ำงสูง ยำกที่จะหำสิ่งใดมำเปรียบเทียบ


กำรให้ พ.อ.สุรยุทธ์ จุลำนนท์ ผู้บังคับกำรกรมรบพิเศษที่ ๑ ด�ำเนิน ดวงวิญญำณของเหล่ำทหำรพลร่ม วีรชนผู้ท่เสียชีวิตข้นสิงสถิต
กำร วำงแผนปรับปรุงบริเวณพื้นที่ดังกล่ำวและท�ำกำรก่อสร้ำง ทั้งนี้ ณ อนุสำวรีย์แห่งนี้
พล.ต.วิมล วงศ์วำนิช กรุณำมอบเงินไว้เป็นทุนในกำรด�ำเนินงำนข้นต้น ๔ มิถุนำยน ๒๕๒๙ พล.ท.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

จ�ำนวน ๑๐,๐๐๐ บำท สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดาเนินทรงเป็นองค์ประธานใน

พิธีเปิดอนุสาวรีย์ทหารพลร่ม ประดิษฐำนเป็นที่เคำรพบูชำของเหล่ำ
ทหำรพลร่ม และประชำชนทั่วไป



































142 143

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ











ประวัติความเป็นมา





จุดก�ำเนิดพิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษสืบเน่องมำจำกกำรปฏิบัติงำน ได้ใช้อำคำรภำยในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช เป็นสถำนที่ กำรจัดแสดงวัตถุอุปกรณ์มีท้งกำรจัดแสดงภำยนอกอำคำรและ
ตำมภำรกิจของก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ ตั้งแต่กองพันทหำรพลร่ม, รวบรวมสิ่งวัตถุอุปกรณ์ที่เคยใช้ในอดีต จัดในลักษณะของ “พิพิธภัณฑ์ ภำยในอำคำร
กองรบพิเศษ (พลร่ม), กองรบพิเศษพลร่มที่ ๑ ตำมพื้นที่ต่ำงๆในทุก ทหำรพลร่ม” อำคำรเดียวกันนี้จัดเป็นห้องสมุด “สิริสัมพันธ์” อีกด้วย • กำรจัดแสดงภำยนอกอำคำรจัดแสดงรถถังโบรำณท่เคยใช้ใน

ภำคของประเทศและต่ำงประเทศ ได้มีกำรยึดอำวุธเครื่องมือเครื่อง พ.ศ.๒๕๓๖ โดย พล.ท.สุรยุทธ์ จุลำนนท์ ผบ.นสศ.เล็งเห็นว่ำหน่วย สมัยสงครำมต่ำงๆ จ�ำนวน ๗ คัน, ฮท.๑, บ.ต.๑๙/L-๑๙,
ใช้ได้จำกฝ่ำยตรงข้ำมเป็นจ�ำนวนมำก และได้น�ำไปเก็บไว้ในคลังอำวุธ รบพิเศษควรจะมี พิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป ปตอ.แบบ๗๗ และ ปบร.๘๐

ถือว่ำเป็นอำวุธพิเศษนอกอัตรำ จัดตั้งตำมค�ำสั่ง ทบ.ที่ ๓๑๐/๒๓๖๔๙ ภำยภำคหน้ำ ทัดเทียมอำรยประเทศอ่นๆ สำมำรถเชิดช ู

ลง ๑๑ พ.ย.๒๕๐๐ งำนพิพิธภัณฑ์ทำงกำรสงครำมพิเศษ ส่งก�ำลังทำง เกียรติประวัติทหำรพลร่มไทยได้ จึงขออนุมัติ พล.อ.วิมล วงศ์วำนิช • กำรจัดแสดงภำยในอำคำร แบ่งออกเป็น ๕ ห้องจัดแสดงหลัก
อำกำศ กำรยุทธทำงอำกำศ งำนในวิทยำกำรที่เกี่ยวข้อง เดิมพิพิธภัณฑ์ ซ่งด�ำรงต�ำแหน่ง ผบ.ทบ.ในสมัยน้น และเคยรับรำชกำรเป็น และ ๓ ห้อง จัดแสดงย่อย ในแต่ละห้องรูปแบบกำรน�ำเสนอ







อยู่รวมกับแผนกห้องสมุด แผนกประวัติศำสตร์ทำงสงครำมพิเศษ ใน ผบ.นสศ. มำก่อน จึงขอจัดสร้ำงพิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษเป็น เร่องรำวใช้เทคโนโลยีส่อมัลติมีเดียส่อผสมท่ทันสมัยเพ่อให้ผู้
ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช ในลักษณะเก็บรวบรวม วัตถุ อำคำรถำวรขึ้น ณ รพศ.๑ ค่ำยวชิรำลงกรณ์ ได้วำงศิลำฤกษ์อำคำร เยี่ยมชมเกิดจินตภำพ เกิดควำมรู้สึกร่วมตำมเนื้อหำที่จัด
อุปกรณ์(ไม่มีกำรจัดตั้งแสดง) จะจัดนิทรรศกำรแต่ละครั้ง โดยน�ำวัตถุ พิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษ แสดง
อุปกรณ์เหล่ำนี้เข้ำร่วมจัดแสดงด้วย แล้วเสร็จจะเก็บในลักษณะหีบห่อ
เมื่อ ๒๔ ก.พ. ๒๕๓๗ ในวงเงินทั้งสิ้น ๒๘,๐๗๖,๙๐๐ บำท (ยี่สิบ
พ.ศ.๒๕๑๑ พ.อ.รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ ขณะด�ำรงต�ำแหน่งเป็นผู้ แปดล้ำนเจ็ดหมื่นหกพันเก้ำร้อยบำทถ้วน) เริ่มก่อสร้ำงเมื่อ ๑๖ ต.ค.
บังคับกองรบพิเศษที่ ๑ พิจำรณำเห็นว่ำอำวุธยุทโธปกรณ์มีจ�ำนวน ๒๕๓๗ โดย บ.ส.เจริญพร แล้วเสร็จเมื่อ ๑๐ ก.ย.๒๕๓๘ ผบ.ทบ.
มำกขึ้นตำมล�ำดับ สมควรจะเก็บรวบรวมไว้ในที่แห่งเดียว โดยจัดเก็บ (พล.อ.วิมล วงศ์วำนิช) เป็นประธำนเปิดอำคำรพิพิธภัณฑ์ทหำรรบ
ในลักษณะเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อกำรศึกษำ จึงให้ก่อสร้ำงอำคำรขึ้นเพื่อ พิเศษ เมื่อวันที่ ๒๗ ก.ย. ๒๕๓๘
เก็บอำวุธยุทโธปกรณ์ดังกล่ำว สร้ำงแล้วเสร็จและท�ำพิธีเปิดอำคำรดัง

กล่ำวเมื่อ ๒๓ เม.ย.๒๕๑๒ เพื่อเป็นเกียรติและอนุสรณ์แด่ชื่อสกุลของ
ร.ท.บุญเชำว์ เล็กชอุ่ม (จปร.รุ่น ๙) ซึ่งเสียชีวิตในกำรปรำบปรำมผู้ก่อ
กำรร้ำยฯ บริเวณบ้ำนห้วยหมำกเบี้ย บ้ำนนำสีนวล ต.โคกสี
อ.สว่ำงแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อ ๒๙ มี.ค.๒๕๑๑ ได้รับพระรำชทำน
ยศเป็นพันตรี และเหรียญกล้ำหำญเมื่อ ๘ มี.ค. ๒๕๑๒ พ.อ.รวมศักดิ์
ไชยโกมินทร์ จึงให้แต่งตั้งชื่ออำคำรแห่งนี้ว่ำ “พิพิธภัณฑ์ทหำรเล็กชะ
อุ่ม” จึงถือเป็นจุดก�ำเนิดของพิพิธภัณฑ์

พ.ศ.๒๕๒๙ พล.ต.วรวิทย์ พิบูลศิลป์ ด�ำรงต�ำแหน่งเป็น ผบ.ศสพ.




























144 145

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ











ประวัติความเป็นมา





จุดก�ำเนิดพิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษสืบเน่องมำจำกกำรปฏิบัติงำน ได้ใช้อำคำรภำยในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช เป็นสถำนที่ กำรจัดแสดงวัตถุอุปกรณ์มีท้งกำรจัดแสดงภำยนอกอำคำรและ
ตำมภำรกิจของก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ ตั้งแต่กองพันทหำรพลร่ม, รวบรวมสิ่งวัตถุอุปกรณ์ที่เคยใช้ในอดีต จัดในลักษณะของ “พิพิธภัณฑ์ ภำยในอำคำร
กองรบพิเศษ (พลร่ม), กองรบพิเศษพลร่มที่ ๑ ตำมพื้นที่ต่ำงๆในทุก ทหำรพลร่ม” อำคำรเดียวกันนี้จัดเป็นห้องสมุด “สิริสัมพันธ์” อีกด้วย • กำรจัดแสดงภำยนอกอำคำรจัดแสดงรถถังโบรำณท่เคยใช้ใน

ภำคของประเทศและต่ำงประเทศ ได้มีกำรยึดอำวุธเครื่องมือเครื่อง พ.ศ.๒๕๓๖ โดย พล.ท.สุรยุทธ์ จุลำนนท์ ผบ.นสศ.เล็งเห็นว่ำหน่วย สมัยสงครำมต่ำงๆ จ�ำนวน ๗ คัน, ฮท.๑, บ.ต.๑๙/L-๑๙,
ใช้ได้จำกฝ่ำยตรงข้ำมเป็นจ�ำนวนมำก และได้น�ำไปเก็บไว้ในคลังอำวุธ รบพิเศษควรจะมี พิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป ปตอ.แบบ๗๗ และ ปบร.๘๐

ถือว่ำเป็นอำวุธพิเศษนอกอัตรำ จัดตั้งตำมค�ำสั่ง ทบ.ที่ ๓๑๐/๒๓๖๔๙ ภำยภำคหน้ำ ทัดเทียมอำรยประเทศอ่นๆ สำมำรถเชิดช ู

ลง ๑๑ พ.ย.๒๕๐๐ งำนพิพิธภัณฑ์ทำงกำรสงครำมพิเศษ ส่งก�ำลังทำง เกียรติประวัติทหำรพลร่มไทยได้ จึงขออนุมัติ พล.อ.วิมล วงศ์วำนิช • กำรจัดแสดงภำยในอำคำร แบ่งออกเป็น ๕ ห้องจัดแสดงหลัก
อำกำศ กำรยุทธทำงอำกำศ งำนในวิทยำกำรที่เกี่ยวข้อง เดิมพิพิธภัณฑ์ ซ่งด�ำรงต�ำแหน่ง ผบ.ทบ.ในสมัยน้น และเคยรับรำชกำรเป็น และ ๓ ห้อง จัดแสดงย่อย ในแต่ละห้องรูปแบบกำรน�ำเสนอ







อยู่รวมกับแผนกห้องสมุด แผนกประวัติศำสตร์ทำงสงครำมพิเศษ ใน ผบ.นสศ. มำก่อน จึงขอจัดสร้ำงพิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษเป็น เร่องรำวใช้เทคโนโลยีส่อมัลติมีเดียส่อผสมท่ทันสมัยเพ่อให้ผู้
ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช ในลักษณะเก็บรวบรวม วัตถุ อำคำรถำวรขึ้น ณ รพศ.๑ ค่ำยวชิรำลงกรณ์ ได้วำงศิลำฤกษ์อำคำร เยี่ยมชมเกิดจินตภำพ เกิดควำมรู้สึกร่วมตำมเนื้อหำที่จัด
อุปกรณ์(ไม่มีกำรจัดตั้งแสดง) จะจัดนิทรรศกำรแต่ละครั้ง โดยน�ำวัตถุ พิพิธภัณฑ์ทหำรรบพิเศษ แสดง
อุปกรณ์เหล่ำนี้เข้ำร่วมจัดแสดงด้วย แล้วเสร็จจะเก็บในลักษณะหีบห่อ
เมื่อ ๒๔ ก.พ. ๒๕๓๗ ในวงเงินทั้งสิ้น ๒๘,๐๗๖,๙๐๐ บำท (ยี่สิบ
พ.ศ.๒๕๑๑ พ.อ.รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ ขณะด�ำรงต�ำแหน่งเป็นผู้ แปดล้ำนเจ็ดหมื่นหกพันเก้ำร้อยบำทถ้วน) เริ่มก่อสร้ำงเมื่อ ๑๖ ต.ค.
บังคับกองรบพิเศษที่ ๑ พิจำรณำเห็นว่ำอำวุธยุทโธปกรณ์มีจ�ำนวน ๒๕๓๗ โดย บ.ส.เจริญพร แล้วเสร็จเมื่อ ๑๐ ก.ย.๒๕๓๘ ผบ.ทบ.
มำกขึ้นตำมล�ำดับ สมควรจะเก็บรวบรวมไว้ในที่แห่งเดียว โดยจัดเก็บ (พล.อ.วิมล วงศ์วำนิช) เป็นประธำนเปิดอำคำรพิพิธภัณฑ์ทหำรรบ
ในลักษณะเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อกำรศึกษำ จึงให้ก่อสร้ำงอำคำรขึ้นเพื่อ พิเศษ เมื่อวันที่ ๒๗ ก.ย. ๒๕๓๘
เก็บอำวุธยุทโธปกรณ์ดังกล่ำว สร้ำงแล้วเสร็จและท�ำพิธีเปิดอำคำรดัง

กล่ำวเมื่อ ๒๓ เม.ย.๒๕๑๒ เพื่อเป็นเกียรติและอนุสรณ์แด่ชื่อสกุลของ
ร.ท.บุญเชำว์ เล็กชอุ่ม (จปร.รุ่น ๙) ซึ่งเสียชีวิตในกำรปรำบปรำมผู้ก่อ
กำรร้ำยฯ บริเวณบ้ำนห้วยหมำกเบี้ย บ้ำนนำสีนวล ต.โคกสี
อ.สว่ำงแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อ ๒๙ มี.ค.๒๕๑๑ ได้รับพระรำชทำน
ยศเป็นพันตรี และเหรียญกล้ำหำญเมื่อ ๘ มี.ค. ๒๕๑๒ พ.อ.รวมศักดิ์
ไชยโกมินทร์ จึงให้แต่งตั้งชื่ออำคำรแห่งนี้ว่ำ “พิพิธภัณฑ์ทหำรเล็กชะ
อุ่ม” จึงถือเป็นจุดก�ำเนิดของพิพิธภัณฑ์

พ.ศ.๒๕๒๙ พล.ต.วรวิทย์ พิบูลศิลป์ ด�ำรงต�ำแหน่งเป็น ผบ.ศสพ.




























144 145

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ห้องโถง ห้องปฏิบัติการใต้นา ห้องจัดแสดงท่ ๒



เป็นห้องจัดแสดงจ�ำลองภำพเหตุกำรณ์
เป็นห้องจัดแสดง ที่น�ำเสนอให้เห็นถึงวิวัฒนำกำรประวัติควำมเป็นมำตลอดจน จัดแสดงเกี่ยวกับหลักสูตรกำรฝึกศึกษำของ โรงเรียนสงครำมพิเศษ



วิวัฒนำกำรของทหำรรบพิเศษ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ให้เห็นถึงขีดควำมสำมำรถในกำรปฏิบัต ิ ห้องปฏบติการใต้ดน
กำรพิเศษใต้น้ำของหน่วยรบพิเศษไทย ศูนย์สงครำมพิเศษ และมีหุ่นจ�ำลองกำรกระโดดร่มด้วยวิธีสำยดึงประจ�ำที่ เป็นห้องจัดแสดงจ�ำลองภำพเหตุกำรณ์ และ


ยุคต้น ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๗-๒๕๐๙ เริ่มกำรจัดตั้งกองพันทหำรพลร่ม ด้วยกำรซุ่มโจมตีโดยวิธีกำรวำงตัวใต้ผิวน้ำ และวิธีกระตุกเอง จ�ำลองกำรแทรกซึมออก/ลักพำตัวบุคคลส�ำคัญด้วยวิธีเบ็ด กำรวำงแผนกำรปฏิบัติในห้องใต้ดิน จำกกำร

ณ ค่ำยวชิรำลงกรณ์ บ้ำนป่ำหวำย ต.ป่ำตำล อ.เมือง จ.ลพบุรี ซ่งผู้ปฏิบัติต้องได้รับกำรฝึกเป็นพิเศษ เวหำ (Sky hook) จ�ำลองกำรฝึกศึกษำหลักสูตรกำรรบแบบจู่โจม (Ranger) ท่ก�ำลังพลได้ตระหนักถึงอันตรำยรอบด้ำนท ่ ี

ให้มีขีดควำมสำมำรถสูง มีควำมเข้มแข็ง หลักสูตรกำรต่อต้ำนกำรก่อกำรร้ำยสำกลทั้งในป่ำและในเมือง หลักสูตรกำร ซ่อนเร้น แฝงตัวในรูปแบบต่ำงๆ ท่อำจจะ

ยุคกลาง ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๙-๒๕๒๕ เป็นผลสืบเนื่องจำกควำมส�ำเร็จของ อดทนท้งด้ำนร่ำงกำยและจิตใจ และม ี ปฏิบัติกำรจิตวิทยำ และกำรปฏิบัติกำรพิเศษในรูปแบบต่ำงๆ ของหน่วยรบ




กำรปฏิบัติภำรกิจ จึงท�ำให้ได้รับกำรอนุมัติจำกกองทัพบกให้ขยำยหน่วยเป็นศูนย์ ควำมเสียสละเป็นอย่ำงสูง พิเศษ เกิดข้น ท้งจำกควำมริเร่มของฝ่ำยตรงข้ำม
สงครำมพิเศษ เพื่อเป็นกองบัญชำกำรกลำงในกำรควบคุมทหำรรบพิเศษ โดยมีที่ตั้ง ณ หรือฝ่ำยเรำก็ตำม
ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำชปัจจุบัน
ยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๕- ปัจจุบัน เป็นยุคที่ได้รับกำรขยำยหน่วย
เป็นหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ เริ่มกำรฝึกแลกเปลี่ยนกับมิตรประเทศ พัฒนำกำร
ฝึกขึ้นตำมล�ำดับ กำรส่งก�ำลังพลเข้ำร่วมแก้ไขสถำนกำรณ์ ปัญหำต่ำงๆในระดับนำนำ

ประเทศ

บริเวณจุดกึ่งกลำงห้องโถง มีประติมำกรรมรูปปั้นช้ำงสำมเศียร ภำยในเศียร
บรรจุวัตถุมงคล และดินจำก ๒๔ สมรภูมิรบของหน่วยรบพิเศษในอดีต














ห้องจัดแสดงท่ ๑




จัดแสดงประวัติควำมเป็นมำ วิวัฒนำกำรของหน่วยรบพิเศษ มุมเกียรติยศ ประวัติ ห้องจัดแสดงท่ ๓







และรำยชอนำยทหำรรบพเศษท่มวีรกรรมจนได้รับพระรำชทำนเครองรำชอิสริยำภรณ์อนม ี ห้องจัดแสดงท่ ๔


ศักดิ์รำมำธิบดี และเหรียญกล้ำหำญ รำยนำมวีรบุรุษนักรบพิเศษที่สละชีพเพื่อปกป้อง จัดแสดงประวัติกำรรบในยุทธกำรต่ำงๆ ในอดีต
เอกรำชของชำติ และที่ส�ำคัญที่สุดคือ กำรจัดแสดงธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหำรรบพิเศษ จัดแสดงเร่องรำวของควำมส�ำคัญของ ที่มีลักษณะเป็นกำรปฏิบัติกำรรบพิเศษของไทย และ

ที่ปิดบรรจุหน่วยไปแล้วน�ำมำจัดแสดงไว้ด้วย นอกจำกนี้ยังมีรำยละเอียดอดีตผู้บังคับ จังหวัดลพบุรี และกิจกรรมที่หน่วยรบพิเศษได้มี เป็นกำรจ�ำลองภำพเหตุกำรณ์ท่ทหำรหน่วยรบพิเศษได้

บัญชำของหน่วยรบพิเศษ รวมทั้งของที่ระลึก เครื่องหมำย หมวกเบเร่ต์ของนักรบพิเศษทั้ง ส่วนร่วมด�ำเนินกำร พระรำชกรณียกิจของพระ ร่วมสู้รบในยุทธกำร และกำรปฏิบัติภำรกิจต่ำงๆ ทั้งภำยใน
ของไทยและต่ำงประเทศ พร้อมดินจำกสมรภูมิ ๒๔ สมรภูมิที่นักรบพิเศษไทยไปเหยียบย�่ำ มหำกษัตริย์และพระบรมวงศำนุวงศ์กับหน่วย และภำยนอกประเทศ เพื่อให้ทหำรและอนุชนรุ่นหลังได้ใช้
มำ บริเวณใจกลำงของห้องจะเป็นห้องฉำยภำพยนตร์ที่ทันสมัย โดยจะฉำยภำพยนตร์เกี่ยว รบพิเศษ และพระมหำกรุณำธิคุณต่อจังหวัด ประโยชน์จำกบทเรียนในกำรรบ และระลึกถึงแบบอย่ำงควำมกล้ำ
กับภำรกิจหน้ำที่ ประสบกำรณ์และจิตวิญญำณของนักรบพิเศษ ลพบุรี รวมถึงโครงกำรในพระรำชด�ำริ ได้แก่ หำญ และควำมเสียสละของวีรชนทหำรรบพิเศษ
กำรสร้ำงเขื่อนป่ำสักชลสิทธิ์ เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ
จำกน�้ำท่วมในพื้นที่ภำคกลำงหลำยจังหวัด รวม ห้องปฏิบัติการรบในป่า/การรบในยุคปัจจุบัน เป็นห้องจัด


ท้งสำมำรถปล่อยน้ำให้เหมำะสมกับกำรเพำะ แสดงจ�ำลองภำพเหตุกำรณ์กำรปฏิบัติกำรรบในพื้นท่ห่ำงไกล ทุรกันดำร ท่ต้อง


ปลูก ซึ่งเป็นผลดีกับกำรประมงและกำรท่อง ฟันฝ่ำอุปสรรคนำนัปกำร เช่น กับระเบิด กับระเบิดแสวงเคร่อง หลุมขวำก และ

เที่ยวด้วย โครงกำรอนุรักษ์แหล่งน�้ำและผืนป่ำ ควำมเป็นอยู่ท่ยำกล�ำบำกในป่ำจนกว่ำจะปฏิบัติภำรกิจตำมท่ได้รับมอบหมำยได้


ซับลังกำ เป็นต้น ส�ำเร็จ เพ่อเป็นข้อเตือนใจให้ก�ำลังพลได้ระลึกถึงควำมเสียสละ ควำมกล้ำหำญ

ของทหำรรบพิเศษ ที่ได้รับชัยชนะและต้องประสบกับกำรสูญเสีย
146 147

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย

ห้องโถง ห้องปฏิบัติการใต้นา ห้องจัดแสดงท่ ๒



เป็นห้องจัดแสดงจ�ำลองภำพเหตุกำรณ์
เป็นห้องจัดแสดง ที่น�ำเสนอให้เห็นถึงวิวัฒนำกำรประวัติควำมเป็นมำตลอดจน จัดแสดงเกี่ยวกับหลักสูตรกำรฝึกศึกษำของ โรงเรียนสงครำมพิเศษ



วิวัฒนำกำรของทหำรรบพิเศษ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ให้เห็นถึงขีดควำมสำมำรถในกำรปฏิบัต ิ ห้องปฏบติการใต้ดน
กำรพิเศษใต้น้ำของหน่วยรบพิเศษไทย ศูนย์สงครำมพิเศษ และมีหุ่นจ�ำลองกำรกระโดดร่มด้วยวิธีสำยดึงประจ�ำที่ เป็นห้องจัดแสดงจ�ำลองภำพเหตุกำรณ์ และ


ยุคต้น ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๗-๒๕๐๙ เริ่มกำรจัดตั้งกองพันทหำรพลร่ม ด้วยกำรซุ่มโจมตีโดยวิธีกำรวำงตัวใต้ผิวน้ำ และวิธีกระตุกเอง จ�ำลองกำรแทรกซึมออก/ลักพำตัวบุคคลส�ำคัญด้วยวิธีเบ็ด กำรวำงแผนกำรปฏิบัติในห้องใต้ดิน จำกกำร

ณ ค่ำยวชิรำลงกรณ์ บ้ำนป่ำหวำย ต.ป่ำตำล อ.เมือง จ.ลพบุรี ซ่งผู้ปฏิบัติต้องได้รับกำรฝึกเป็นพิเศษ เวหำ (Sky hook) จ�ำลองกำรฝึกศึกษำหลักสูตรกำรรบแบบจู่โจม (Ranger) ท่ก�ำลังพลได้ตระหนักถึงอันตรำยรอบด้ำนท ่ ี

ให้มีขีดควำมสำมำรถสูง มีควำมเข้มแข็ง หลักสูตรกำรต่อต้ำนกำรก่อกำรร้ำยสำกลทั้งในป่ำและในเมือง หลักสูตรกำร ซ่อนเร้น แฝงตัวในรูปแบบต่ำงๆ ท่อำจจะ

ยุคกลาง ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๙-๒๕๒๕ เป็นผลสืบเนื่องจำกควำมส�ำเร็จของ อดทนท้งด้ำนร่ำงกำยและจิตใจ และม ี ปฏิบัติกำรจิตวิทยำ และกำรปฏิบัติกำรพิเศษในรูปแบบต่ำงๆ ของหน่วยรบ




กำรปฏิบัติภำรกิจ จึงท�ำให้ได้รับกำรอนุมัติจำกกองทัพบกให้ขยำยหน่วยเป็นศูนย์ ควำมเสียสละเป็นอย่ำงสูง พิเศษ เกิดข้น ท้งจำกควำมริเร่มของฝ่ำยตรงข้ำม
สงครำมพิเศษ เพื่อเป็นกองบัญชำกำรกลำงในกำรควบคุมทหำรรบพิเศษ โดยมีที่ตั้ง ณ หรือฝ่ำยเรำก็ตำม
ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำชปัจจุบัน
ยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๕- ปัจจุบัน เป็นยุคที่ได้รับกำรขยำยหน่วย
เป็นหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ เริ่มกำรฝึกแลกเปลี่ยนกับมิตรประเทศ พัฒนำกำร
ฝึกขึ้นตำมล�ำดับ กำรส่งก�ำลังพลเข้ำร่วมแก้ไขสถำนกำรณ์ ปัญหำต่ำงๆในระดับนำนำ

ประเทศ

บริเวณจุดกึ่งกลำงห้องโถง มีประติมำกรรมรูปปั้นช้ำงสำมเศียร ภำยในเศียร
บรรจุวัตถุมงคล และดินจำก ๒๔ สมรภูมิรบของหน่วยรบพิเศษในอดีต














ห้องจัดแสดงท่ ๑




จัดแสดงประวัติควำมเป็นมำ วิวัฒนำกำรของหน่วยรบพิเศษ มุมเกียรติยศ ประวัติ ห้องจัดแสดงท่ ๓







และรำยชอนำยทหำรรบพเศษท่มวีรกรรมจนได้รับพระรำชทำนเครองรำชอิสริยำภรณ์อนม ี ห้องจัดแสดงท่ ๔


ศักดิ์รำมำธิบดี และเหรียญกล้ำหำญ รำยนำมวีรบุรุษนักรบพิเศษที่สละชีพเพื่อปกป้อง จัดแสดงประวัติกำรรบในยุทธกำรต่ำงๆ ในอดีต
เอกรำชของชำติ และที่ส�ำคัญที่สุดคือ กำรจัดแสดงธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหำรรบพิเศษ จัดแสดงเร่องรำวของควำมส�ำคัญของ ที่มีลักษณะเป็นกำรปฏิบัติกำรรบพิเศษของไทย และ

ที่ปิดบรรจุหน่วยไปแล้วน�ำมำจัดแสดงไว้ด้วย นอกจำกนี้ยังมีรำยละเอียดอดีตผู้บังคับ จังหวัดลพบุรี และกิจกรรมที่หน่วยรบพิเศษได้มี เป็นกำรจ�ำลองภำพเหตุกำรณ์ท่ทหำรหน่วยรบพิเศษได้

บัญชำของหน่วยรบพิเศษ รวมทั้งของที่ระลึก เครื่องหมำย หมวกเบเร่ต์ของนักรบพิเศษทั้ง ส่วนร่วมด�ำเนินกำร พระรำชกรณียกิจของพระ ร่วมสู้รบในยุทธกำร และกำรปฏิบัติภำรกิจต่ำงๆ ทั้งภำยใน
ของไทยและต่ำงประเทศ พร้อมดินจำกสมรภูมิ ๒๔ สมรภูมิที่นักรบพิเศษไทยไปเหยียบย�่ำ มหำกษัตริย์และพระบรมวงศำนุวงศ์กับหน่วย และภำยนอกประเทศ เพื่อให้ทหำรและอนุชนรุ่นหลังได้ใช้
มำ บริเวณใจกลำงของห้องจะเป็นห้องฉำยภำพยนตร์ที่ทันสมัย โดยจะฉำยภำพยนตร์เกี่ยว รบพิเศษ และพระมหำกรุณำธิคุณต่อจังหวัด ประโยชน์จำกบทเรียนในกำรรบ และระลึกถึงแบบอย่ำงควำมกล้ำ
กับภำรกิจหน้ำที่ ประสบกำรณ์และจิตวิญญำณของนักรบพิเศษ ลพบุรี รวมถึงโครงกำรในพระรำชด�ำริ ได้แก่ หำญ และควำมเสียสละของวีรชนทหำรรบพิเศษ
กำรสร้ำงเขื่อนป่ำสักชลสิทธิ์ เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ
จำกน�้ำท่วมในพื้นที่ภำคกลำงหลำยจังหวัด รวม ห้องปฏิบัติการรบในป่า/การรบในยุคปัจจุบัน เป็นห้องจัด


ท้งสำมำรถปล่อยน้ำให้เหมำะสมกับกำรเพำะ แสดงจ�ำลองภำพเหตุกำรณ์กำรปฏิบัติกำรรบในพื้นท่ห่ำงไกล ทุรกันดำร ท่ต้อง


ปลูก ซึ่งเป็นผลดีกับกำรประมงและกำรท่อง ฟันฝ่ำอุปสรรคนำนัปกำร เช่น กับระเบิด กับระเบิดแสวงเคร่อง หลุมขวำก และ

เที่ยวด้วย โครงกำรอนุรักษ์แหล่งน�้ำและผืนป่ำ ควำมเป็นอยู่ท่ยำกล�ำบำกในป่ำจนกว่ำจะปฏิบัติภำรกิจตำมท่ได้รับมอบหมำยได้


ซับลังกำ เป็นต้น ส�ำเร็จ เพ่อเป็นข้อเตือนใจให้ก�ำลังพลได้ระลึกถึงควำมเสียสละ ควำมกล้ำหำญ

ของทหำรรบพิเศษ ที่ได้รับชัยชนะและต้องประสบกับกำรสูญเสีย
146 147

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย




ท่ต้งหน่วยและสถานท่ส�าคัญ

ศาลาเทพประทาน



ศาลากลางนานได้รบพระราชทานพระราชานญาตจากสมเดจ ี




ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ให้อัญเชิญพระนามาภิไธย่อ “สธ” ประดิษฐานท่หน้าจ่ว และได้รบ กองบัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ ั

กนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมาร




พระราชทานชอศาลากลางนาศนยสงครามพเศษวา“ศาลาเทพประทาน”







อาคารกองบัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ ปัจจุบันต้งอยู่บริเวณ
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๓
ด้านหลัง อนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทาพิธีเปิด เม่อ

วันท่ ๑๔ ก.ย.๖๑ � ื




ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชในอดีต คือท่ต้งของ “กรมจเรทหารราบ” ต่อมาเม่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ เม่อ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
มีนโยบายพัฒนาเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร จึงย้ายจังหวัดทหารบกลพบุรีเข้าไปตั้งในพื้นที่ของค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ควบคู่กับกรมจเรทหารราบ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ กรมการทหารราบแปรสภาพเป็น “ศูนย์การทหารราบ” ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๙
ศูนย์การทหารราบ ได้เปลี่ยนย้ายที่ตั้งหน่วยเข้าที่ตั้งใหม่ ณ ค่ายธนะรัชต์ จึงเปลี่ยนค่ายเป็นที่ตั้งของ “หน่วยบัญชาการสงคราม
พิเศษ, ศูนย์สงครามพิเศษ, กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา,กองพันทหารสื่อสารที่ ๓๕ หน่วบัญชาการสงครามพิเศษ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช


สระว่ายน�้านายเทียน สร้างข้นประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๔ โดยดาริของ พล.ต. ทิพย์ ธีระธาดา
ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ และมี พ.อ.สวัสดิ์ เผ่าบุญเสริม
รองผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบในขณะนั้น ให้จัดสร้างขึ้นตาม
ชื่อค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
กองบัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้รับการสถาปนาขึ้น เมื่อ ๒๕ มีนาคม
๒๕๒๖ เพื่อเป็นหน่วยควบคุมบังคับบัญชา หน่วยรบพิเศษทั้งมวลของ
กองทัพบก เดิมมีที่ตั้งอยู่ที่ตึกเอราวัณ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๑ การ เขตบ้านพักราชการ
ก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จจึงได้ย้ายเข้ามายังที่ตั้งแห่งนี้ มาจนกระทั่งถึง
ศาลาสีหราชเดโช
ในปี ๒๕๑๘ พล.ต.เทียนชัย สิริสัมพันธ์ ผบ.ศสพ. ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ในขณะน้นดาริสร้างศาลาโดยใช้งบประมาณจากการ ตั้งอยู่ภายในกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา วางศิลาฤกษ์ เมื่อวัน



บริจาคของข้าราชครอบครัวแต่เดิมใช้ช่อว่า อังคารที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๓๙ ภายในประดิษฐานพระบรมรูป
“ศาลารวมใจ” ต่อมาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธร สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุ่นพระราชวังจันทน์เสาร์ห้า

เทพรัตนสุดา ประทานชื่อศาลาแห่งนี้ว่า “สีหราชเดโช”
เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีที่ก่อประโยชน์แก่ส่วนรวม


แหล่งสมาคมหน่วยบัญาการสงครามพิเศษ กองบังคับการกองพันทหารสื่อสารที่ ๓๕
แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หรือ อาคารฝึกอบรมพิเศษเพื่อใช้เป็น หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
แหล่งสโมสร อนุมัติโดย ผบ.ทบ. เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ ๒๕ พ.ค. ๕๓ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ในอดีตเป็นท่ต้งของกองบังคับการกรมรบพิเศษท่ ๒ และได้



๒๖ ส.ค. ๕๕ โดย หจก.พุ่มพฤกษ์ก่อสร้าง งบประมาณ ๒๕,๗๘๙,๘๓๗.-บาท ปัจจุบันใช้เป็น ทาการย้ายสับเปล่ยนหน่วยเม่อเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒



แหล่งสมาคมในการจัดงานพิธีการส�าคัญต่างๆ

ปัจจุบันเป็นหน่วยข้นตรงของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
กองวิทยาการ ศูนย์สงครามพิเศษ รูปหล่อองค์หนุมานสี่กร





ต้งอยู่ท่อาคารสโมสรนายทหารของศูนย์การทหารราบเดิม เร่มก่อสร้างข้น โดยช่างจากกรมศิลปากร เม่อวันศุกร์ท่ ๕ ธันวาคม

ซงก่อนหน้าน้นกองทัพบกอนุมัติให้ใช้เป็นท่ต้งของกอง พุทธศักราช ๒๕๔๐ ท�าด้วยทองสัมฤทธิ์รมด�า สร้างขึ้นเพื่อให้ กองบังคับการ กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา













บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๕๐๙ โดย ข้าราชการและครอบครัว ตลอดจนบุคคลท่วไป ได้เคารพสักการบชา กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ได้รับการอนุมัติให้จัดต้งข้นเม่อวันท่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๓ โดยได้เร่มวางศิลาฤกษ์เพ่อก่อสร้าง

กองวิทยาการ ได้ย้ายเข้ามาแทนศูนย์สงครามพิเศษที่ย้าย อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลพบุรี อาคารกองพัน ในวันสถาปนาหน่วยปีเดียวกัน โดยมี พ.ท. จารูญ ทุนเจริญ ผู้บังคับกองพันท่านแรกเป็นประธาน และได้ใช้



ไปเข้าที่ตั้งแห่งใหม่ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๒ เป็นอาคารท่ต้งหน่วยมาจนกระท่งถึงปัจจุบัน
148 149

กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย




ท่ต้งหน่วยและสถานท่ส�าคัญ

ศาลาเทพประทาน



ศาลากลางนานได้รบพระราชทานพระราชานญาตจากสมเดจ ี




ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ให้อัญเชิญพระนามาภิไธย่อ “สธ” ประดิษฐานท่หน้าจ่ว และได้รบ กองบัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ ั

กนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมาร




พระราชทานชอศาลากลางนาศนยสงครามพเศษวา“ศาลาเทพประทาน”







อาคารกองบัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ ปัจจุบันต้งอยู่บริเวณ
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๓
ด้านหลัง อนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทาพิธีเปิด เม่อ

วันท่ ๑๔ ก.ย.๖๑ � ื




ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชในอดีต คือท่ต้งของ “กรมจเรทหารราบ” ต่อมาเม่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ เม่อ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
มีนโยบายพัฒนาเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร จึงย้ายจังหวัดทหารบกลพบุรีเข้าไปตั้งในพื้นที่ของค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ควบคู่กับกรมจเรทหารราบ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ กรมการทหารราบแปรสภาพเป็น “ศูนย์การทหารราบ” ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๙
ศูนย์การทหารราบ ได้เปลี่ยนย้ายที่ตั้งหน่วยเข้าที่ตั้งใหม่ ณ ค่ายธนะรัชต์ จึงเปลี่ยนค่ายเป็นที่ตั้งของ “หน่วยบัญชาการสงคราม
พิเศษ, ศูนย์สงครามพิเศษ, กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา,กองพันทหารสื่อสารที่ ๓๕ หน่วบัญชาการสงครามพิเศษ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช


สระว่ายน�้านายเทียน สร้างข้นประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๔ โดยดาริของ พล.ต. ทิพย์ ธีระธาดา
ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ และมี พ.อ.สวัสดิ์ เผ่าบุญเสริม
รองผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบในขณะนั้น ให้จัดสร้างขึ้นตาม
ชื่อค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
กองบัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้รับการสถาปนาขึ้น เมื่อ ๒๕ มีนาคม
๒๕๒๖ เพื่อเป็นหน่วยควบคุมบังคับบัญชา หน่วยรบพิเศษทั้งมวลของ
กองทัพบก เดิมมีที่ตั้งอยู่ที่ตึกเอราวัณ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๑ การ เขตบ้านพักราชการ
ก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จจึงได้ย้ายเข้ามายังที่ตั้งแห่งนี้ มาจนกระทั่งถึง
ศาลาสีหราชเดโช
ในปี ๒๕๑๘ พล.ต.เทียนชัย สิริสัมพันธ์ ผบ.ศสพ. ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในขณะน้นดาริสร้างศาลาโดยใช้งบประมาณจากการ ตั้งอยู่ภายในกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา วางศิลาฤกษ์ เมื่อวัน


บริจาคของข้าราชครอบครัวแต่เดิมใช้ช่อว่า อังคารที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๓๙ ภายในประดิษฐานพระบรมรูป

“ศาลารวมใจ” ต่อมาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธร สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุ่นพระราชวังจันทน์เสาร์ห้า
เทพรัตนสุดา ประทานชื่อศาลาแห่งนี้ว่า “สีหราชเดโช”
เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีที่ก่อประโยชน์แก่ส่วนรวม


แหล่งสมาคมหน่วยบัญาการสงครามพิเศษ กองบังคับการกองพันทหารสื่อสารที่ ๓๕
แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หรือ อาคารฝึกอบรมพิเศษเพื่อใช้เป็น หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
แหล่งสโมสร อนุมัติโดย ผบ.ทบ. เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ ๒๕ พ.ค. ๕๓ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ในอดีตเป็นท่ต้งของกองบังคับการกรมรบพิเศษท่ ๒ และได้



๒๖ ส.ค. ๕๕ โดย หจก.พุ่มพฤกษ์ก่อสร้าง งบประมาณ ๒๕,๗๘๙,๘๓๗.-บาท ปัจจุบันใช้เป็น ทาการย้ายสับเปล่ยนหน่วยเม่อเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒



แหล่งสมาคมในการจัดงานพิธีการส�าคัญต่างๆ

ปัจจุบันเป็นหน่วยข้นตรงของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
กองวิทยาการ ศูนย์สงครามพิเศษ รูปหล่อองค์หนุมานสี่กร





ต้งอยู่ท่อาคารสโมสรนายทหารของศูนย์การทหารราบเดิม เร่มก่อสร้างข้น โดยช่างจากกรมศิลปากร เม่อวันศุกร์ท่ ๕ ธันวาคม

ซงก่อนหน้าน้นกองทัพบกอนุมัติให้ใช้เป็นท่ต้งของกอง พุทธศักราช ๒๕๔๐ ท�าด้วยทองสัมฤทธิ์รมด�า สร้างขึ้นเพื่อให้ กองบังคับการ กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา













บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๕๐๙ โดย ข้าราชการและครอบครัว ตลอดจนบุคคลท่วไป ได้เคารพสักการบชา กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ได้รับการอนุมัติให้จัดต้งข้นเม่อวันท่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๓ โดยได้เร่มวางศิลาฤกษ์เพ่อก่อสร้าง

กองวิทยาการ ได้ย้ายเข้ามาแทนศูนย์สงครามพิเศษที่ย้าย อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลพบุรี อาคารกองพัน ในวันสถาปนาหน่วยปีเดียวกัน โดยมี พ.ท. จารูญ ทุนเจริญ ผู้บังคับกองพันท่านแรกเป็นประธาน และได้ใช้



ไปเข้าที่ตั้งแห่งใหม่ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๒ เป็นอาคารท่ต้งหน่วยมาจนกระท่งถึงปัจจุบัน
148 149

ค่ายวชิราลงกรณ์ กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย









ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๖ ต.ป่ำตำล อ.เมือง จ.ลพบุรี ในอดีตเป็นที่ตั้งของ “กองพันทหำรพลร่ม” จึงถือได้ว่ำ ค่ำยวชิรำลงกรณ์แห่งนี้ เป็นจุดก�ำเนิดของ กองบังคับการกองพันรบพิเศษที่ ๑ กรมรบพิเศษที่ ๑
“ทหำรพลร่ม” แห่งกองทัพบกไทย และ ได้รับพระรำชทำนนำมค่ำยว่ำ “ ค่ำยวชิรำลงกรณ์ ” เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวำคม ๒๕๑๑ ปัจจุบัน เป็นที่ตั้งของ กรมรบพิเศษที่ ๑ ด�าเนินการก่องสร้างอาคารที่บังคับการแบบ
กรมรบพิเศษที่ ๑ ถาวร ของกองพันรบพิเศษที่ ๑ และได้กระท�าพิธีเปิดที่บังคับการ

กองพันรบพิเศษที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๙

สนามบิน
เขตบ้านพักราชการ เป็นลานอเนกประสงค์ในการด�าเนินกิจกรรมภายในหน่วย ทั้งใน

การรองรับอากาศยาน การฝึกทางยุทธวิธี การตรวจสภาพความ
พร้อมรบ การฝึกทหารใหม่ และเป็นสถานที่วิ่งออกก�าลังกาย
พบปะสังสรรค์กิจกรรมต่างๆ ภายในหน่วย


สโมสรค่ายวชิราลงกรณ์ กองบังคับการกรมรบพิเศษที่ ๑
สโมสรหมายเลข ๑ เป็นศูนย์รวมสมาคมของ ค่ายวชิราลงกรณ์ จัดตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๗

หน่วย ท้งในงานบรรยายสาธิต และกิจกรรม มีชื่อเดิมว่า กองพันทหารพลร่ม และได้แปรสภาพเป็นกรมรบ
สันทนาการต่างๆ ในการพบปะพัฒนาสัมพันธ์ พิเศษที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒

ของกาลังพลภายในหน่วย





สนามทุ่นระเบิดภัคดีเสนา

เป็นศูนย์รวมตักศิลาวิชาการระเบิดทาลายท้ง ั
แบบแสวงเคร่อง และแบบระเบดตามแบบ



รวบรวมองค์ความรู้ต้งแต่ในอดีตจนถึง

ปัจจุบัน เป็นสถานท่ฝึกอบรมกาลังพลให้ม ี

ขีดความสามารถในด้านการระเบิดทาลาย



จนมขดความชานาญการเฉพาะด้านโดยตรง

พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ โดย พล.ท.สุรยุทธ จุลานนท์ ผบ.นสศ. เล็งเห็นว่าหน่วย
รบพิเศษควรจะมีพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไปภาย
ภาคหน้า ทัดเทียมอารยประเทศอื่นๆ สามารถเชิดชูเกียรติประวัติทหาร
พลร่มไทยได้ จึงขออนุมัติ พล.อ.วิมล วงศ์วานิช ซึ่งด�ารงต�าแหน่ง ผบ.ทบ.
ในสมัยนั้น จึงขอจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ เป็นอาคารถาวรขึ้น ณ
รพศ.๑ ค่ายวชิราลงกรณ์
เขตบ้านพักราชการ

หลวงพ่อโต
เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีขนาดหน้าตัก

กวาง ๒๗ นิ้ว สูง ๓๕ นิ้ว สร้างด้วยหินสีเขียว





พอกดวยรักสดา ประดษฐานอยภายในศาลาทรงไทย

อนุสาวรีย์ทหารพลร่ม
เป็นที่เคารพบูชาของเหล่าทหารพลร่ม และประชาชนทั่วไป บริเวณทิศใต้ของค่าย จากการตรวจสอบของกรม






สร้างในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ปัจจบนตงอยู่ท่ วงเวียนหนาคายวชราลงกรณ์ กองบังคับการกองพันรบพิเศษที่ ๒ กรมรบพิเศษที่ ๑ ศิลปากร และค�าบอกเล่าของประชาชนที่อาศัย



และได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ ตอมาเมอวนท ๔ ม.ย. ๒๕๒๙ อนุสาวรีย์ไทย-สหรัฐ อยู่บริเวณนี้มานาน สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธ






พล.ท.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จุดเริ่มต้นของหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึง รูปที่สร้างขึ้น ในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ค้นพบ



เสด็จพระราชด�าเนินทรงเป็นองค์ประธาน ในพิธีเปิดอนุสาวรีย์ สายสัมพันธ์ฉันท์พ่น้องอันแข็งแกร่งท่เกิดข้นระหว่างหน่วยรบพิเศษ โดยชาวลาวพวนที่อพยพมาจากเมือง
ทหารพลร่มแห่งนี้ กองทัพบกไทย และกองทัพบกสหรัฐ ในอดีด ปัจจุบัน รวมถึงอนาคต เวียงจันทน์ ในสมัยรัชกาลที่ ๓
150 151


Click to View FlipBook Version