ยุคศูนย์สงครามพิเศษ กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย ศูนย์สงครามพิเศษ
พ.ศ.๒๕๐๙ - พ.ศ.๒๕๒๕ ศูนย์สงครำมพิเศษ ได้รับกำรจัดตั้งตำมค�ำสั่ง กห.
(เฉพำะ)ที่ ๗/๙ ลง ๒๖ ม.ค.๐๙ เมื่อจัดตั้งครั้งแรกมีที่ตั้งอยู่ที่
กองรบพิเศษ (พลร่ม) บ้ำนป่ำหวำย ต�ำบลป่ำตำล อ�ำเภอเมือง
จังหวัดลพบุรี และมีกองบัญชำกำรส่วนหน้ำอยู่ที่กรมยุทธกำร
ทหำรบก ในศำลำว่ำกำรกระทรวงโหม สืบเนื่องมำจำกกองทัพ
๒๖ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๐๙ กระทรวงกลำโหมได้พิจำรณำเห็นว่ำ กระทรวงกลาโหม บก ได้ก�ำหนดนโยบำยในกำรปรับปรุงงำนสงครำมพิเศษโดย
งำนสงครำมพิเศษ เป็นกิจกำรส�ำคัญประกำรหนึ่งในด้ำนกำรทหำร รวมกำรควบคุมบังคับบัญชำหน่วยปฏิบัติงำนด้ำนสงครำม
ื
ื
และเพ่อให้กองทัพบกมีส่วนรำชกำร ท่รับผิดชอบกิจกำรสงครำมพิเศษ ภำยหลังกำรจัดตั้งศูนย์สงครำมพิเศษ แล้ว กองทัพบกได้สั่งใช้ พิเศษและหน่วยสนับสนุนงำนสงครำมพิเศษเข้ำไว้ด้วยกันเพ่อ
ี
ั
ั
อย่ำงเหมำะสม จึงได้ออกค�ำส่ง กระทรวงกลำโหม (เฉพำะ) ก�ำลังของหน่วยในศูนย์สงครำมพิเศษอย่ำงกว้ำงขวำง ท้งงำนตำม ประโยชน์ในกำรฝึกกำรวำงแผนใช้หน่วย ตลอดจนกำรค้นคว้ำ
ึ
ให้ใช้อัตรำกองทัพบก ๒๕๐๙ โดยก�ำหนดให้ใช้อัตรำเฉพำะกิจ ศูนย์สงครำมพิเศษ จึงเป็นส่วนรำชกำรข้นตรงกับกองทัพบก แผนกำรต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ งำนของกองอ�ำนวยกำรรักษำ พัฒนำและเผยแพร่วิทยำกำร จึงจัดตั้งศูนย์สงครำมพิเศษขึ้น
ั
หมำยเลข ๕๐๐๐ ศูนย์สงครำมพิเศษ เพื่อให้เป็นหน่วยรับผิดชอบกำร มีควำมรับผิดชอบท้งด้ำนปฏิบัติกำรรบและเป็นหน่วยรับผิดชอบทำง ควำมมั่นคงภำยในประเทศ และงำนตำมแผนป้องกันประเทศ ท�ำให้ เพื่อให้รับผิดชอบโดยตรงต่อกองทัพบกในด้ำนยุทธกำร กำร
ั
ปฏิบัติกำรสงครำมพิเศษท้งมวลของกองทัพบก และได้พิจำรณำ ด้ำนกำรฝึกศึกษำในฐำนะหัวหน้ำสำยวิทยำกำรด้ำนกำรสงครำมพิเศษ ก�ำลังที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับควำมต้องกำรของสถำนกำรณ์ จึงปรับปรุง ศึกษำค้นคว้ำ และกำรฝึกในเรื่องกำรสงครำมพิเศษโดยเฉพำะ
ี
ี
ึ
ก�ำหนด วันที่ ๒๖ มกรำคม เป็นวันสถำปนำหน่วย ศูนย์สงครำมพิเศษ ของกองทัพ และต่อมำกองทัพบกได้ก�ำหนดให้วันท่ ๒๔ กุมภำพันธ์ของ โครงสร้ำงกำรจัดของศูนย์สงครำมพิเศษ และหน่วยข้นตรงศูนย์ ศูนย์สงครำมพิเศษจึงท�ำหน้ำท่เป็นศูนย์ยุทธกำรเพื่อวำงแผน
ทุกปี เป็น “วันรบพิเศษของกองทัพบก” สงครำมพิเศษ เพ่อให้เกิดควำมเหมำะสมต่อกำรปฏิบัติภำรกิจของ และอ�ำนวยกำร ด้ำนสงครำมพิเศษตำมแผนและนโยบำย
ื
หน่วย โดยเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนำยน ๒๕๐๙ ได้รวมชุดปฏิบัติกำร ของกองทัพบก และท�ำหน้ำที่เป็นศูนย์ในส่วนกำรศึกษำด้ำน
ึ
ั
หน่วยข้นตรงของศูนย์สงครามพิเศษ คร้งแรก มี ๔ หน่วย คือ จิตวิทยำทั้ง ๙ ชุด จัดตั้งเป็นกองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ กำรสงครำมพิเศษ และวิทยำกำรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์สงครามพิเศษ มีภารกิจ ๓ ประการ คือ
ี
• กองรบพิเศษ ( พลร่ม ) ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับกองทัพภำคท่ ๑ ต่อมำเมื่อศูนย์กำรทหำรรำบ ได้ย้ำยที่ตั้งจำกค่ำยสมเด็จ
• กองร้อยพลำธิกำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับ ๑) วำงแผน อ�ำนวยกำร ก�ำกับกำร และด�ำเนินกำรฝึก และศึกษำ ต่อมำ ๓ พฤศจิกำยน ๒๕๐๙ กองทัพบกอนุมัติจัดต้ง ค่ำยฝึก ซีไอ พระนำรำยณ์มหำรำช ไปยังค่ำยธนะรัชต์ อ�ำเภอปรำณบุรี
ั
ี
กรมพลำธิกำรทหำรบก เก่ยวกับกำรสงครำมพิเศษ กำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ และกำร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ ศูนย์สงครำมพิเศษ จึง
ี
ึ
ยุทธส่งทำงอำกำศ ปำกช่อง ท่บ้ำนหนองตะกู อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำ เป็นหน่วยข้นตรง ได้ย้ำยท่ต้งเข้ำไปใช้อำคำรโรงเรือนเดิมของศูนย์กำรทหำรรำบ
ี
ั
• ชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ ๙ ชุด ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับกรมกำร ของกรมยุทธกำรทหำรบก ฝำกกำรบังคับบัญชำ กับศูนย์สงครำมพิเศษ ในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์ทั้งหมด เป็นที่ตั้งปกติถำวร ต�ำบล
ทหำรส่อสำร ๒) ด�ำเนินกำรวิจัย พัฒนำ ก�ำหนดหลักนิยม และท�ำต�ำรำในทำง เพ่อท�ำกำรฝึกก�ำลังพลของหน่วยทหำรและก่งทหำรท่เข้ำท�ำกำรป้องกัน
ื
ื
ี
ึ
ี
ี
วิทยำกำรท่เก่ยวข้อง ทะเลชุบศร อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี และได้ย้ำยเข้ำที่ตั้งแห่ง
• กองพันส่งทำงอำกำศท่ ๑ ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับศูนย์กำร และปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ เม่อพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ใหม่เป็นอำคำรปัจจุบันตั้งแต่ ม.ค.๒๕๖๒ เป็นต้นมำ
ี
ื
ี
ทหำรรำบ ๓) ปกครองบังคับบัญชำ หน่วยทหำรท่กระทรวงกลำโหมก�ำหนด ประเทศไทย ได้ประกำศต่อสู้กับก�ำลังของฝ่ำยรัฐบำลไทยด้วยอำวุธ
พ.ศ. ๒๕๐๙
๒๖ สิงหำคม ๒๕๐๙ รัฐบำลสำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้)
ึ
ิ
ได้ขอรับควำมช่วยเหลือทำงทหำรจำกรัฐบำลไทยเพ่มเติม ซ่งรัฐบำล
ไทยในขณะน้น พิจำรณำเห็นว่ำ ประเทศไทยจ�ำเป็นต้องส่งทหำรร่วม
ั
กับฝ่ำยโลกเสรี เพ่อขัดขวำงกำรคุกคำมของเวียดนำมเหนือต่อ
ื
ื
สำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) เพ่อพิทักษ์เสรีภำพ และควำม
ั
ม่นคงแห่งภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซ่งจะมีผลโดยตรงต่อ
ึ
ประเทศไทย จึงเร่มส่งก�ำลังทำงเรือของกองทัพเรือ ไปช่วยในกำร
ิ
ื
ล�ำเลียง และเฝ้ำตรวจตำมชำยฝั่ง เพ่อป้องกันกำรแทรกซึมทำงทะเลให้
ั
แก่สำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) ต้งแต่ ๗ ธันวำคม ๒๕๐๙
ก�ำลังทำงเรือน้มีช่อว่ำ “หน่วยเรือซีฮอร์ส” (SEA HORSE)
ี
ื
50 51
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
โรงเรียนสงครามพิเศษ กองรบพิเศษที่ ๒
ศูนย์สงครามพิเศษ (พลร่ม)
ั
ื
้
ิ
ี
จดตงเพ่อเป็นหน่วยรับผิดชอบต่อศูนย์สงครำมพเศษ กองทัพบก เห็นควำมส�ำคัญท่ต้องใช้ก�ำลังหน่วยรบพิเศษ ในกำรต่อสู้กับภัยคุกคำม
ั
ในกำรฝึกศึกษำและค้นคว้ำด้ำนกำรสงครำมพเศษ ตำมคำสง จำกลัทธิคอมมิวนิสต์จำกภำยในและภำยนอกประเทศ จึงจัดต้ง กองรบพิเศษ (พลร่ม)
่
ั
ั
ิ
�
ทบ.(เฉพำะ) ที่ ๑๗๑/๑๐ ลง ๙ ต.ค.๒๕๑๐ ซึ่งในปีเดียวกัน ที่ ๒ ขึ้น โดยเริ่มต้นด้วยกำรจัดก�ำลังพล จำกกองร้อยรบพิเศษที่ ๗ และกองร้อย
ี
ั
ศูนย์กำรทหำรรำบได้ย้ำยไปเข้ำท่ต้งใหม่ ณ ค่ำยธนะรัชต์ รบพิเศษที่ ๘ ของ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ ค่ำยวชิรำลงกรณ์ เป็นโครงสร้ำงหลัก
อ.ปรำณบุรี จ.ประจวบคิรีขันธ์ และได้โอนโรงเรียนกำรรบพิเศษ โดยก�ำหนดท่ต้งหน่วยให้อยู่ในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช และเม่อวันพุธท ี ่
ั
ี
ื
ี
ั
ให้เป็นท่ต้งของ โรงเรียนสงครำมพิเศษ ศูนย์สงครำมพิเศษ ๑๐ มกรำคม ๒๕๒๒ หน่วยได้รับพระรำชทำนธงไชยเฉลิมพลประจ�ำหน่วย ซึ่งขณะนั้นมี
แทนที่ภำยในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช ต่อมำได้ย้ำยเข้ำ พ.อ.อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์ เป็น ผู้บังคับกำรกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒
ื
ั
ท่ต้งแห่งใหม่ ณ ค่ำยเอรำวัณ อ.เมือง จว.ลพบุรี เม่อวันท ่ ี เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๕ กองทัพบก ได้จัดตั้ง กองพลรบพิเศษที่ ๑ ขึ้น และปรับสำยกำร
ี
๑๐ มกรำคม ๒๕๓๒ เป็นที่ตั้งถำวรมำจนถึงทุกวันนี้ บังคับบัญชำให้ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ท่ ๑ และ ๒ เป็นหน่วยข้นตรง กองพลรบพิเศษท่ ๑ ๗ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๒ กองรบพิเศษ
ึ
ี
ี
ี
ื
ต่อมำเมื่อ ๒๗ มกรำคม ๒๕๒๖ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒ ได้แปรสภำพ เป็น (พลร่ม) ได้เปล่ยนช่อเป็น “กองรบพิเศษ
กรมรบพิเศษที่ ๒ (พลร่ม) ท่ ๑ ” ช่อย่อ กรพ.๑ (พร.)
ื
ี
ก�ำหนดภำรกิจให้กรมรบพิเศษที่ ๒ ไว้ ๓ ประกำร คือ
๑. กำรปฏิบัติกำรพิเศษ
โรงเรียนสงครามพิเศษ ๒. สนับสนุนกำรต่อสู้เพื่อควำมมั่นคงภำยในประเทศตำมที่ได้รับมอบ
๓. ปฏิบัติภำรกิจพิเศษตำมที่ได้รับมอบ
ั
ื
๙ ตุลำคม ๒๕๑๐ จัดต้ง “โรงเรียนสงครามพิเศษ” ช่อย่อ
“รร.สพศ.ศสพ.” ณ ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช มีภำรกิจในกำร ๑๔ มกรำคม ๒๕๑๒ กองทัพบกเห็น
วำงแผน อ�ำนวยกำร ด�ำเนินกำรฝึกและศึกษำเก่ยวกับสงครำมพิเศษ ควำมจ�ำเป็นท่ต้องใช้หน่วยรบพิเศษมำกข้น
ี
ี
ึ
ี
และต่อมำได้ย้ำย รร.สพศ.ศสพ.ไปต้งท่เขำเอรำวัณ ค่ำยเอรำวัณ จึงจัดต้ง กองรบพิเศษ ( พลร่ม ) ท่ ๒ ขึ้น ณ
ั
ี
ั
ต.เขำสำมยอด อ.เมือง จ.ลพบุร ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช
ี
พ.ศ. ๒๕๑๐ พ.ศ. ๒๕๑๑ พ.ศ. ๒๕๑๒
๒๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๐ คณะรัฐมนตรี ได้ลงมติอนุมัติหลักกำร พ.ศ.๒๕๑๑ ประเทศไทยจัดส่งหน่วยทหำรไปเวียดนำมใต้เพ่มเติมในรูปของ ๑ มกรำคม ๒๕๑๒ พรรคคอมมิวนิสต์
ิ
ให้กระทรวงกลำโหม จัดก�ำลังรบทำงพื้นดินเป็นหน่วยเฉพำะกิจไป “กองพลทหำรอำสำสมัคร” หรือ “กองพลเสือด�ำ” เข้ำท�ำกำรรบ ท้งส้นจ�ำนวน ๓ ผลัด ๆ ละ ๑ ปี แห่งประเทศไทย (พคท.) ได้ประกำศกำรจัดต้ง
ิ
ั
ั
ช่วยเหลือสำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) โดยจัดส่ง “กรมทหำร ก�ำลังของทหำรไทยท้งส้นท่ไปปฏิบัติกำรในสำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) อยู่ภำยใต้ กองทัพปลดแอกประชำชนแห่งประเทศไทยข้น
ั
ึ
ี
ิ
อำสำสมัคร” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ “หน่วยจงอำงศึก” ก�ำลังพล กำรควบคมบงคบบญชำของกองบญชำกำรกองกำลงทหำรไทยในสำธำรณรฐ เพ่อด�ำเนินกำรต่อสู้ด้วยอำวุธอย่ำงเปิดเผยกับ
ื
ั
ั
ั
ุ
ั
�
ั
ั
ประมำณ ๒,๐๐๐ คน เวียดนำม(เวียดนำมใต้) ซึ่งมีหน่วยขึ้นตรง ๓ หน่วยคือ กองพลทหำรอำสำสมัคร หน่วยเรือ รัฐบำล ซ่ง พคท. ได้ขยำยตัวไปในพ้นท่หลำย
ี
ื
ึ
ซีฮอร์สและหน่วยบินวิคตอรี่ ในกำรปฏิบัติกำรแต่ละผลัด ทหำรไทยได้สร้ำงวีรกรรมที่สมควร จังหวัดของประเทศไทยอย่ำงต่อเน่อง
ื
แก่กำรยกย่อง และบันทึกไว้เป็นบทเรียนแก่อนุชนรุ่นหลังหลำยครั้ง ได้แก่ วีรกรรมที่ฟุกโถ
(Phuoc Tho), บินห์สัน (Binh Son), เฟือกกำง (Phuoc Cang), และล็อคแอน (Loc An) ฯลฯ
52 53
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
โรงเรียนสงครามพิเศษ กองรบพิเศษที่ ๒
ศูนย์สงครามพิเศษ (พลร่ม)
ั
ื
้
ิ
ี
จดตงเพ่อเป็นหน่วยรับผิดชอบต่อศูนย์สงครำมพเศษ กองทัพบก เห็นควำมส�ำคัญท่ต้องใช้ก�ำลังหน่วยรบพิเศษ ในกำรต่อสู้กับภัยคุกคำม
ั
ในกำรฝึกศึกษำและค้นคว้ำด้ำนกำรสงครำมพเศษ ตำมคำสง จำกลัทธิคอมมิวนิสต์จำกภำยในและภำยนอกประเทศ จึงจัดต้ง กองรบพิเศษ (พลร่ม)
่
ั
ั
ิ
�
ทบ.(เฉพำะ) ที่ ๑๗๑/๑๐ ลง ๙ ต.ค.๒๕๑๐ ซึ่งในปีเดียวกัน ที่ ๒ ขึ้น โดยเริ่มต้นด้วยกำรจัดก�ำลังพล จำกกองร้อยรบพิเศษที่ ๗ และกองร้อย
ี
ั
ศูนย์กำรทหำรรำบได้ย้ำยไปเข้ำท่ต้งใหม่ ณ ค่ำยธนะรัชต์ รบพิเศษที่ ๘ ของ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ ค่ำยวชิรำลงกรณ์ เป็นโครงสร้ำงหลัก
อ.ปรำณบุรี จ.ประจวบคิรีขันธ์ และได้โอนโรงเรียนกำรรบพิเศษ โดยก�ำหนดท่ต้งหน่วยให้อยู่ในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช และเม่อวันพุธท ี ่
ั
ี
ื
ี
ั
ให้เป็นท่ต้งของ โรงเรียนสงครำมพิเศษ ศูนย์สงครำมพิเศษ ๑๐ มกรำคม ๒๕๒๒ หน่วยได้รับพระรำชทำนธงไชยเฉลิมพลประจ�ำหน่วย ซึ่งขณะนั้นมี
แทนที่ภำยในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช ต่อมำได้ย้ำยเข้ำ พ.อ.อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์ เป็น ผู้บังคับกำรกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒
ื
ั
ท่ต้งแห่งใหม่ ณ ค่ำยเอรำวัณ อ.เมือง จว.ลพบุรี เม่อวันท ่ ี เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๕ กองทัพบก ได้จัดตั้ง กองพลรบพิเศษที่ ๑ ขึ้น และปรับสำยกำร
ี
๑๐ มกรำคม ๒๕๓๒ เป็นที่ตั้งถำวรมำจนถึงทุกวันนี้ บังคับบัญชำให้ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ท่ ๑ และ ๒ เป็นหน่วยข้นตรง กองพลรบพิเศษท่ ๑ ๗ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๒ กองรบพิเศษ
ึ
ี
ี
ี
ต่อมำเมื่อ ๒๗ มกรำคม ๒๕๒๖ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒ ได้แปรสภำพ เป็น (พลร่ม) ได้เปล่ยนช่อเป็น “กองรบพิเศษ
ื
ื
ี
กรมรบพิเศษที่ ๒ (พลร่ม) ท่ ๑ ” ช่อย่อ กรพ.๑ (พร.)
ก�ำหนดภำรกิจให้กรมรบพิเศษที่ ๒ ไว้ ๓ ประกำร คือ
๑. กำรปฏิบัติกำรพิเศษ
โรงเรียนสงครามพิเศษ ๒. สนับสนุนกำรต่อสู้เพื่อควำมมั่นคงภำยในประเทศตำมที่ได้รับมอบ
๓. ปฏิบัติภำรกิจพิเศษตำมที่ได้รับมอบ
ั
ื
๙ ตุลำคม ๒๕๑๐ จัดต้ง “โรงเรียนสงครามพิเศษ” ช่อย่อ
“รร.สพศ.ศสพ.” ณ ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช มีภำรกิจในกำร ๑๔ มกรำคม ๒๕๑๒ กองทัพบกเห็น
วำงแผน อ�ำนวยกำร ด�ำเนินกำรฝึกและศึกษำเก่ยวกับสงครำมพิเศษ ควำมจ�ำเป็นท่ต้องใช้หน่วยรบพิเศษมำกข้น
ี
ี
ึ
ี
ั
และต่อมำได้ย้ำย รร.สพศ.ศสพ.ไปต้งท่เขำเอรำวัณ ค่ำยเอรำวัณ จึงจัดต้ง กองรบพิเศษ ( พลร่ม ) ท่ ๒ ขึ้น ณ
ี
ั
ี
ต.เขำสำมยอด อ.เมือง จ.ลพบุร ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช
พ.ศ. ๒๕๑๐ พ.ศ. ๒๕๑๑ พ.ศ. ๒๕๑๒
๒๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๐ คณะรัฐมนตรี ได้ลงมติอนุมัติหลักกำร พ.ศ.๒๕๑๑ ประเทศไทยจัดส่งหน่วยทหำรไปเวียดนำมใต้เพ่มเติมในรูปของ ๑ มกรำคม ๒๕๑๒ พรรคคอมมิวนิสต์
ิ
ให้กระทรวงกลำโหม จัดก�ำลังรบทำงพื้นดินเป็นหน่วยเฉพำะกิจไป “กองพลทหำรอำสำสมัคร” หรือ “กองพลเสือด�ำ” เข้ำท�ำกำรรบ ท้งส้นจ�ำนวน ๓ ผลัด ๆ ละ ๑ ปี แห่งประเทศไทย (พคท.) ได้ประกำศกำรจัดต้ง
ั
ิ
ั
ช่วยเหลือสำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) โดยจัดส่ง “กรมทหำร ก�ำลังของทหำรไทยท้งส้นท่ไปปฏิบัติกำรในสำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) อยู่ภำยใต้ กองทัพปลดแอกประชำชนแห่งประเทศไทยข้น
ิ
ั
ี
ึ
อำสำสมัคร” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ “หน่วยจงอำงศึก” ก�ำลังพล กำรควบคมบงคบบญชำของกองบญชำกำรกองกำลงทหำรไทยในสำธำรณรฐ เพ่อด�ำเนินกำรต่อสู้ด้วยอำวุธอย่ำงเปิดเผยกับ
ื
ั
ั
ั
ุ
ั
�
ั
ั
ประมำณ ๒,๐๐๐ คน เวียดนำม(เวียดนำมใต้) ซึ่งมีหน่วยขึ้นตรง ๓ หน่วยคือ กองพลทหำรอำสำสมัคร หน่วยเรือ รัฐบำล ซ่ง พคท. ได้ขยำยตัวไปในพ้นท่หลำย
ี
ื
ึ
ซีฮอร์สและหน่วยบินวิคตอรี่ ในกำรปฏิบัติกำรแต่ละผลัด ทหำรไทยได้สร้ำงวีรกรรมที่สมควร จังหวัดของประเทศไทยอย่ำงต่อเน่อง
ื
แก่กำรยกย่อง และบันทึกไว้เป็นบทเรียนแก่อนุชนรุ่นหลังหลำยครั้ง ได้แก่ วีรกรรมที่ฟุกโถ
(Phuoc Tho), บินห์สัน (Binh Son), เฟือกกำง (Phuoc Cang), และล็อคแอน (Loc An) ฯลฯ
52 53
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา กองรบพิเศษที่ ๓
ั
ึ
ั
กองทัพบก ออกค�ำส่งให้จัดต้ง กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ซ่งประกอบด้วย (พลร่ม)
หน่วยข้นตรง คือ กองบังคับกำรและกองร้อยกองบังคับกำร, กองร้อยปฏิบัติกำร กองทัพบก อนุมัติให้จัดตั้ง กองรบพิเศษ(พลร่ม) ที่ ๓ ขึ้น ทั้งนี้
ึ
ื
ี
ิ
ิ
ั
จิตวิทยำกองทัพบก และกองร้อยผลิตส่งโฆษณำ โดยมีกำรก่อเร่มในกำรจัดต้ง สืบเน่องมำจำกระหว่ำงปี พ.ศ.๒๕๑๔ - พ.ศ.๒๕๑๕ มแนวควำมคด
ิ
ื
ั
ึ
หน่วยมำจำก กำรจัดต้ง ๙ ชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำข้นเป็นคร้งแรก เม่อวันท ี ่ ปรับปรุงหน่วยอำสำสมัครให้เป็นก�ำลังพลที่เข้มแข็งในกำรป้องกัน และ
ั
ื
๑๑ กรกฎำคม ๒๕๐๖ และขยำยหน่วยเป็นกองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ เม่อ ปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ภำยใน ประเทศ กองทัพบกโดย
๒๗ มิถุนำยน ๒๕๐๙ ซึ่งต่อมำได้ขยำยขีดควำมสำมำรถให้มีควำมสอดคล้องกับงำนกำร ศูนย์สงครำมพิเศษ ได้ใช้ก�ำลังของกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑, ๒ เข้ำไป
เอำชนะจิตใจของประชำชน ด้วยกำรเพ่มหน่วยปฏิบัติด้ำนจิตวิทยำข้นอีก ๕ กองรอย สนับสนุนกำรต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ เตรียมกำรสงครำมนอกแบบ
้
ึ
ิ
่
ู
�
ั
ึ
เมื่อ ๒ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๒ ประกอบด้วย ๑ กองร้อยรณรงค์ด้ำนกำรปฏิบัติกำร และท�ำกำรฝึกอบรมหน่วยรบตำมแบบ และกำลงกงทหำรในกำรส้รบ
ุ
ี
ั
่
ทำงจิตวิทยำ และ ๔ กองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำกองทัพภำคที่ ๑-๔ โดยมีที่ตั้งอยู่ใน กับผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์เป็นหลัก ท�ำให้ไมสำมำรถหมนเวยนผลด
ั
ื
ึ
้
่
ี
พนท ขนสมทบกับกองบัญชำกำรกองทัพภำคท่ ๑-๔ ต่อมำในปี ๒๕๔๓ กองทพบก เปลี่ยนก�ำลังพลได้ ประกอบกับ มีควำมจ�ำเป็นที่จะต้องใช้ก�ำลังหน่วย
ี
้
ึ
ั
ั
๗ พฤษภำคม ๒๕๑๓ กองร้อยปฏิบัติกำร มีค�ำส่งให้กองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำท่ ๑-๔ ข้นกำรบังคับบัญชำโดยตรงกบ ๑๖ พฤศจิกำยน รบพิเศษ ดังน้นกองทัพบกจึงอนุมัติให้จัดต้งหน่วยข้น และจำกผล
ึ
ั
ั
ี
จิตวิทยำ ได้ขยำยอัตรำเป็น “กองพันปฏิบัติ กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ และในปี ๒๕๖๑ กองทัพบก อนุมัติปรับอัตรำผู้บังคับ ๒๕๑๔ กองร้อยพลำธิกำร กำรปฏิบัติงำนท�ำให้ได้รับพระรำชทำนธงชัยเฉลิมพลจำก
ี
ื
การจิตวิทยา” ประกอบด้วย กองร้อยกอง กองพันจำก พันโท เป็น พันเอก ส่งก�ำลังทำงอำกำศ ขยำย พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกำลท่ ๙ เม่อ ๔ ธันวำคม ๒๕๑๕
บังคับกำร, กองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ และ อัตรำเป็นกองพลาธิการ ๑๐ มกรำคม ๒๕๒๒ โดยมี พ.อ.ชิน สิทธิวรรณ ผู้บังคับกองรบพิเศษ จัดตั้ง“กองรบพิเศษ
�
ึ
ิ
กองร้อยผลิตส่งโฆษณำ ให้ข้นกำรบังคับ ส่งกาลังทางอากาศ ชื่อย่อ (พลร่ม) ที่ ๓ ขณะนั้น เป็นผู้รับพระรำชทำน ( พลร่ม ) ที่ ๓” ในค่ำย
บัญชำกับศูนย์สงครำมพิเศษ กอง พธ. สกอ. เอรำวัณ จังหวัดลพบุรี
พ.ศ. ๒๕๑๓ พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๕
พ.ศ.๒๕๑๔ - ๒๕๑๕ สหรัฐอเมริกำประสบปัญหำภำยในประเทศ
ี
ประชำชนอเมริกนท่วประเทศเดนขบวนเรยกร้องให้รัฐบำล
ั
ั
ิ
ถอนทหำรออกจำกเวียดนำม และยุติกำรช่วยเหลือแก่สำธำรณรัฐเวียดนำม
ี
(เวียดนำมใต้) ในท่สุด รัฐสภำอเมริกันจึงลงมติให้รัฐบำลถอนทหำรออกจำก
เวียดนำม และตัดควำมช่วยเหลือแก่สำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) ทั้งสิ้น
โดยมอบอำวุธยุทโธปกรณ์หลักไว้ให้เท่ำน้น ประเทศต่ำง ๆ ท่ส่งทหำรไป
ี
ั
ั
ร่วมรบ จึงจ�ำเป็นต้องถอนทหำรกลับ ส�ำหรับประเทศไทยก�ำลังรบผลด
สุดท้ำย ได้เดินทำงออกจำกเวียดนำม เมื่อ ๑๕ พฤษภำคม ๒๕๑๕ หลังจำกที่
ประเทศฝ่ำยโลกเสรีถอนทหำรออกจำกเวียดนำมทำให้สำธำรณรฐ
ั
�
เ วียดน ำ ม(เ วียดน ำ มใต้)ขวัญเสียและหมดก�ำลังใ จใน
กำรต่อสู้ ประกอบกับปัญหำกำรฉ้อรำษฎร์ในคณะรัฐบำล บวกกับควำม
ล้มเหลวทำงกำรทูต และกำรโฆษณำชวนเชื่อของเวียดกง จึงท�ำให้สำธำรณรัฐ
เวียดนำม (เวียดนำมใต้) ต้องพ่ำยแพ้ต่อฝ่ำยคอมมิวนิสต์เวียดนำมเหนือใน
พ.ศ.๒๕๑๘
54 55
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา กองรบพิเศษที่ ๓
กองทัพบก ออกค�ำส่งให้จัดต้ง กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ซ่งประกอบด้วย (พลร่ม)
ั
ึ
ั
หน่วยข้นตรง คือ กองบังคับกำรและกองร้อยกองบังคับกำร, กองร้อยปฏิบัติกำร กองทัพบก อนุมัติให้จัดตั้ง กองรบพิเศษ(พลร่ม) ที่ ๓ ขึ้น ทั้งนี้
ึ
ิ
ี
ื
ิ
ิ
ั
จิตวิทยำกองทัพบก และกองร้อยผลิตส่งโฆษณำ โดยมีกำรก่อเร่มในกำรจัดต้ง สืบเน่องมำจำกระหว่ำงปี พ.ศ.๒๕๑๔ - พ.ศ.๒๕๑๕ มแนวควำมคด
ั
ื
ั
ึ
หน่วยมำจำก กำรจัดต้ง ๙ ชุดปฏิบัติกำรจิตวิทยำข้นเป็นคร้งแรก เม่อวันท ี ่ ปรับปรุงหน่วยอำสำสมัครให้เป็นก�ำลังพลที่เข้มแข็งในกำรป้องกัน และ
ื
๑๑ กรกฎำคม ๒๕๐๖ และขยำยหน่วยเป็นกองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ เม่อ ปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ภำยใน ประเทศ กองทัพบกโดย
๒๗ มิถุนำยน ๒๕๐๙ ซึ่งต่อมำได้ขยำยขีดควำมสำมำรถให้มีควำมสอดคล้องกับงำนกำร ศูนย์สงครำมพิเศษ ได้ใช้ก�ำลังของกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑, ๒ เข้ำไป
ึ
ิ
เอำชนะจิตใจของประชำชน ด้วยกำรเพ่มหน่วยปฏิบัติด้ำนจิตวิทยำข้นอีก ๕ กองรอย สนับสนุนกำรต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ เตรียมกำรสงครำมนอกแบบ
้
�
ู
ึ
ั
่
เมื่อ ๒ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๒ ประกอบด้วย ๑ กองร้อยรณรงค์ด้ำนกำรปฏิบัติกำร และท�ำกำรฝึกอบรมหน่วยรบตำมแบบ และกำลงกงทหำรในกำรส้รบ
ั
่
ุ
ี
ทำงจิตวิทยำ และ ๔ กองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำกองทัพภำคที่ ๑-๔ โดยมีที่ตั้งอยู่ใน กับผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์เป็นหลัก ท�ำให้ไมสำมำรถหมนเวยนผลด
พนท ขนสมทบกับกองบัญชำกำรกองทัพภำคท่ ๑-๔ ต่อมำในปี ๒๕๔๓ กองทพบก เปลี่ยนก�ำลังพลได้ ประกอบกับ มีควำมจ�ำเป็นที่จะต้องใช้ก�ำลังหน่วย
ั
ี
้
่
้
ื
ี
ึ
ั
ึ
ั
๗ พฤษภำคม ๒๕๑๓ กองร้อยปฏิบัติกำร มีค�ำส่งให้กองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำท่ ๑-๔ ข้นกำรบังคับบัญชำโดยตรงกบ ๑๖ พฤศจิกำยน รบพิเศษ ดังน้นกองทัพบกจึงอนุมัติให้จัดต้งหน่วยข้น และจำกผล
ึ
ั
ั
ี
จิตวิทยำ ได้ขยำยอัตรำเป็น “กองพันปฏิบัติ กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ และในปี ๒๕๖๑ กองทัพบก อนุมัติปรับอัตรำผู้บังคับ ๒๕๑๔ กองร้อยพลำธิกำร กำรปฏิบัติงำนท�ำให้ได้รับพระรำชทำนธงชัยเฉลิมพลจำก
ื
ี
การจิตวิทยา” ประกอบด้วย กองร้อยกอง กองพันจำก พันโท เป็น พันเอก ส่งก�ำลังทำงอำกำศ ขยำย พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกำลท่ ๙ เม่อ ๔ ธันวำคม ๒๕๑๕
บังคับกำร, กองร้อยปฏิบัติกำรจิตวิทยำ และ อัตรำเป็นกองพลาธิการ ๑๐ มกรำคม ๒๕๒๒ โดยมี พ.อ.ชิน สิทธิวรรณ ผู้บังคับกองรบพิเศษ จัดตั้ง“กองรบพิเศษ
�
ิ
กองร้อยผลิตส่งโฆษณำ ให้ข้นกำรบังคับ ส่งกาลังทางอากาศ ชื่อย่อ (พลร่ม) ที่ ๓ ขณะนั้น เป็นผู้รับพระรำชทำน ( พลร่ม ) ที่ ๓” ในค่ำย
ึ
บัญชำกับศูนย์สงครำมพิเศษ กอง พธ. สกอ. เอรำวัณ จังหวัดลพบุรี
พ.ศ. ๒๕๑๓ พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๕
พ.ศ.๒๕๑๔ - ๒๕๑๕ สหรัฐอเมริกำประสบปัญหำภำยในประเทศ
ประชำชนอเมริกนท่วประเทศเดนขบวนเรยกร้องให้รัฐบำล
ี
ั
ิ
ั
ถอนทหำรออกจำกเวียดนำม และยุติกำรช่วยเหลือแก่สำธำรณรัฐเวียดนำม
(เวียดนำมใต้) ในท่สุด รัฐสภำอเมริกันจึงลงมติให้รัฐบำลถอนทหำรออกจำก
ี
เวียดนำม และตัดควำมช่วยเหลือแก่สำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) ทั้งสิ้น
ั
โดยมอบอำวุธยุทโธปกรณ์หลักไว้ให้เท่ำน้น ประเทศต่ำง ๆ ท่ส่งทหำรไป
ี
ร่วมรบ จึงจ�ำเป็นต้องถอนทหำรกลับ ส�ำหรับประเทศไทยก�ำลังรบผลด
ั
สุดท้ำย ได้เดินทำงออกจำกเวียดนำม เมื่อ ๑๕ พฤษภำคม ๒๕๑๕ หลังจำกที่
ประเทศฝ่ำยโลกเสรีถอนทหำรออกจำกเวียดนำมทำให้สำธำรณรฐ
ั
�
เ วียดน ำ ม(เ วียดน ำ มใต้)ขวัญเสียและหมดก�ำลังใ จใน
กำรต่อสู้ ประกอบกับปัญหำกำรฉ้อรำษฎร์ในคณะรัฐบำล บวกกับควำม
ล้มเหลวทำงกำรทูต และกำรโฆษณำชวนเชื่อของเวียดกง จึงท�ำให้สำธำรณรัฐ
เวียดนำม (เวียดนำมใต้) ต้องพ่ำยแพ้ต่อฝ่ำยคอมมิวนิสต์เวียดนำมเหนือใน
พ.ศ.๒๕๑๘
54 55
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล
ศูนย์สงครามพิเศษ
กองทัพบก อนุมัติให้จัดตั้ง กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล
ศูนย์สงครามพิเศษ ขึ้น ตำมค�ำสั่ง ทบ.(เฉพำะ) ที่ ๑๕๔/๑๕ โดยมี
ภำรกิจ ท�ำกำรลำดตระเวนระยะไกลเพื่อค้นหำข้ำศึก ณ พื้นที่ที่คำดว่ำ
ข้ำศึกจะหลบซ่อน หรือเป็นเส้นทำงผ่ำนแล้วเข้ำท�ำลำย หรือเกำะข้ำศึกไว้
ิ
เพ่อรอก�ำลังส่วนใหญ่เข้ำปฏิบัติกำรหรือกำรยงทำลำยจำกภำค
ื
�
ั
ั
่
ื
้
ั
ี
ิ
พ้นดิน หรือกำรโจมตีทำงอำกำศ คร้งแรกใช้ท่ตงชวครำวบรเวณ
ื
กองเคร่องช่วยฝึก โรงเรียนสงครำมพิเศษ ภำยในค่ำยสมเด็จ
ื
พระนำรำยณ์มหำรำช ต่อมำปี ๒๕๑๘ เม่อกำรก่อสร้ำงอำคำรถำวรเสร็จ
จึงย้ำยเข้ำที่ตั้งใหม่ ที่ ค่ำยเอรำวัณ ต.เขำสำมยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี ๑๒ มิ.ย. ๒๕๑๗
ี
ื
กระทั่งถึง ธันวำคม ๒๕๔๗ เปล่ยนช่อค่ำยฝึกซีไอ ๑๑ ธันวำคม ๒๕๑๘ ๘ ธันวำคม ๒๕๒๑ โอน กองพันส่ง
ี
ี
ปำกช่อง ท่บ้ำนหนองตะกู กองทัพบกได้รับอนุมัติให้ ทำงอำกำศท่ ๑ จำก ศูนย์สงครำมพิเศษ ไป
๔ ธ.ค.๑๕ จัดต้ง กอง อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำ ปรับค่ำยฝึกกำรรบพิเศษ เป็นหน่วยข้นตรง ของกรมทหำรรำบท่ ๓๑
ั
ึ
ี
ร้อยลาดตระเวนระยะไกล เป็น “ค่ายฝึกการรบพิเศษ อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำ กองพลท่ ๑ รักษำพระองค์ แล้วเปล่ยนช่อ
ี
ื
ี
ศูนย์สงครำมพิเศษ ตำมค�ำส่ง ปากช่อง” ช่อย่อ “คฝพ. เป็น “กองฝึกรบพิเศษท่ ๙” เป็น กองพันทหารราบท่ ๓ กรมผสมท่ ๓๑
ั
ื
ี
ี
ี
ี
ทบ.(เฉพำะ) ท่ ๑๕๔/๑๕ ปำกช่อง” ช่อย่อ “กฝพ.๙” รักษาพระองค์
ื
พ.ศ. ๒๕๑๕ พ.ศ. ๒๕๑๗ พ.ศ. ๒๕๑๘ พ.ศ. ๒๕๒๑
พ.ศ. ๒๕๑๔ -๒๕๑๗ นักรบนิรนำม “ก�ำเนิดทหำรพรำน นักรบประชำชน” ห้วง พ.ศ.๒๕๒๐ - ๒๕๒๑ สถำนกำรณ์ตำม พ.ศ.๒๕๒๑ รัฐบำลได้ประกำศ
๓๓๓ หรือช่อเป็นทำงกำรว่ำ“หน่วย แนวชำยแดนไทย-กัมพูชำ โดยเฉพำะด้ำนอีสำนใต้ได้ทวีควำมรุนแรงขึ้น จำกกำรที่พรรค จังหวัดท่เป็นเขตแทรกซึมของพรรค
ื
ี
บัญชาการผสม ๓๓๓” ซึ่งแปรสภำพจำก คอมมิวนิสต์ไทย ซึ่งได้รับกำรสนับสนุนจำกนอกประเทศ ตลอดทั้งสถำนกำรณ์ก่อกำรร้ำย คอมมิวนิสต์จ�ำนวน ๓๘ จังหวัด นับเป็น
กองบัญชำกำรผสม ๓๓๓ (บก.ผสม ๓๓๓) ภำยในประเทศ ได้ขยำยตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อควำมมั่นคงของประเทศ ตลอด สถำนกำรณ์ที่ พคท. ประกอบด้วยพรรค-
ตั้งแต่ ๑ กรกฎำคม ๒๕๐๗ เป็นกองก�ำลัง จนขวัญของรำษฎรตำมแนวชำยแดน ประกอบกับกองทัพบก ประสบปัญหำขำดแคลนก�ำลัง แนวร่วม-กองก�ำลัง และเขตฐำนท่มน
ี
ั
่
ผสมต่ำงชำติของทหำรและพลเมือง ในนำม รบ ในกำรปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ และต่อสู้กับภัยคุกคำมอื่นๆ จึงได้จัดตั้งกอง เรียกว่ำ สถำนกำรณ์สงครำมปฏิวัติของ
ทหำรเสือพรำน มีภำรกิจเฝ้ำระวังพนท ี ่ ก�ำลังกึ่งทหำร ในลักษณะเป็นหน่วยอำสำสมัครพิเศษ (ทหำรพรำน) ขึ้นมำเพื่อทดแทนก�ำลัง พคท. และเป็นกำรตั้งรัฐซ้อนรัฐขึ้น ฝ่ำย
้
ื
บริเวณทำงตะวันออกของประเทศไทย รบหลักที่ขำดแคลน กองทัพบกจึงจัดตั้งหน่วยรบนอกแบบ บริเวณชำยแดนไทย-กัมพูชำขึ้น รฐบำลโดยกองทัพ ได้ทุ่มเทสรรพก�ำลง
ั
ั
ึ
ซ่งติดกับประเทศลำว เรียกกันว่ำ ยุทธศำสตร์ จึงมีกำรจัดตั้ง “โครงกำรชุดปฏิบัติกำรพิเศษทหำรพรำนชำยแดนไทย-กัมพูชำ” มีชื่อรหัสว่ำ ทงก�ำลังทหำร ต�ำรวจ พลเรือน และ
้
ั
กำรป้องกันในเขตหน้ำ เพ่อสกัดก้นและ “โครงกำร ๕๑๓” และคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ด�ำเนินกำร เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎำคม ๒๕๒๑ ทรัพยำกรอย่ำงมหำศำล เพ่อเข้ำปรำบ
ั
ื
ื
ั
ป้องกนไม่ให้กำลงคอมมิวนิสต์เป็นภัยต่อ จึงได้ยึดถือวันที่ ๑๘ กรกฎำคม เป็นวันก่อตั้งทหำรพรำน โดย “โครงกำร ๕๑๓” อยู่ในควำม ปรำม ผกค. ในประเทศไทย
ั
�
ประเทศไทย หรือตั้งฐำนส่งควำมช่วยเหลือ ดูแลของ “ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพบก ๓๑๕” ซึ่งมี พลตรี ชวลิต ยงใจยุทธ ด�ำรงต�ำแหน่ง
ี
ผกค.หรือ พคท.ท่ปฏิบัติกำรอยู่ในประเทศไทย หัวหน้ำศูนย์ อยู่ในขณะนั้น และมอบหมำยให้ชุดควบคุมและประสำนงำนโครงกำร ๕๑๓
ผ่ำนทำงรำชอำณำจักรลำวได้ (ชค.๕๑๓) มีที่ตั้งที่ ค่ำยปักธงชัย อ�ำเภอปักธงชัย จังหวัดนครรำชสีมำ ซึ่งเป็นหน่วยรองใน
สนำม ควบคุมบังคับบัญชำ ตั้งแต่วันที่ ๗ กันยำยน ๒๕๒๑ เป็นต้นมำ ทหำรพรำน ชค.๕๑๓
นั้น เป็นหน่วยทหำรพรำนจู่โจม ปฏิบัติภำรกิจต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ ภำยใต้ค�ำขวัญ
“กูผู้ชนะ” และใช้ผ้ำพันคอสีด�ำขลิบแดง เป็นสัญลักษณ์
56 57
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล
ศูนย์สงครามพิเศษ
กองทัพบก อนุมัติให้จัดตั้ง กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล
ศูนย์สงครามพิเศษ ขึ้น ตำมค�ำสั่ง ทบ.(เฉพำะ) ที่ ๑๕๔/๑๕ โดยมี
ภำรกิจ ท�ำกำรลำดตระเวนระยะไกลเพื่อค้นหำข้ำศึก ณ พื้นที่ที่คำดว่ำ
ข้ำศึกจะหลบซ่อน หรือเป็นเส้นทำงผ่ำนแล้วเข้ำท�ำลำย หรือเกำะข้ำศึกไว้
ิ
เพ่อรอก�ำลังส่วนใหญ่เข้ำปฏิบัติกำรหรือกำรยงทำลำยจำกภำค
ื
�
้
ั
่
ื
ั
ั
ี
ิ
พ้นดิน หรือกำรโจมตีทำงอำกำศ คร้งแรกใช้ท่ตงชวครำวบรเวณ
ื
กองเคร่องช่วยฝึก โรงเรียนสงครำมพิเศษ ภำยในค่ำยสมเด็จ
ื
พระนำรำยณ์มหำรำช ต่อมำปี ๒๕๑๘ เม่อกำรก่อสร้ำงอำคำรถำวรเสร็จ
จึงย้ำยเข้ำที่ตั้งใหม่ ที่ ค่ำยเอรำวัณ ต.เขำสำมยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี ๑๒ มิ.ย. ๒๕๑๗
ี
ื
กระทั่งถึง ธันวำคม ๒๕๔๗ เปล่ยนช่อค่ำยฝึกซีไอ ๑๑ ธันวำคม ๒๕๑๘ ๘ ธันวำคม ๒๕๒๑ โอน กองพันส่ง
ี
ี
ปำกช่อง ท่บ้ำนหนองตะกู กองทัพบกได้รับอนุมัติให้ ทำงอำกำศท่ ๑ จำก ศูนย์สงครำมพิเศษ ไป
๔ ธ.ค.๑๕ จัดต้ง กอง อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำ ปรับค่ำยฝึกกำรรบพิเศษ เป็นหน่วยข้นตรง ของกรมทหำรรำบท่ ๓๑
ั
ี
ึ
ร้อยลาดตระเวนระยะไกล เป็น “ค่ายฝึกการรบพิเศษ อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำ กองพลท่ ๑ รักษำพระองค์ แล้วเปล่ยนช่อ
ื
ี
ี
ศูนย์สงครำมพิเศษ ตำมค�ำส่ง ปากช่อง” ช่อย่อ “คฝพ. เป็น “กองฝึกรบพิเศษท่ ๙” เป็น กองพันทหารราบท่ ๓ กรมผสมท่ ๓๑
ั
ื
ี
ี
ี
ทบ.(เฉพำะ) ท่ ๑๕๔/๑๕ ปำกช่อง” ช่อย่อ “กฝพ.๙” รักษาพระองค์
ี
ื
พ.ศ. ๒๕๑๕ พ.ศ. ๒๕๑๗ พ.ศ. ๒๕๑๘ พ.ศ. ๒๕๒๑
พ.ศ. ๒๕๑๔ -๒๕๑๗ นักรบนิรนำม “ก�ำเนิดทหำรพรำน นักรบประชำชน” ห้วง พ.ศ.๒๕๒๐ - ๒๕๒๑ สถำนกำรณ์ตำม พ.ศ.๒๕๒๑ รัฐบำลได้ประกำศ
๓๓๓ หรือช่อเป็นทำงกำรว่ำ“หน่วย แนวชำยแดนไทย-กัมพูชำ โดยเฉพำะด้ำนอีสำนใต้ได้ทวีควำมรุนแรงขึ้น จำกกำรที่พรรค จังหวัดท่เป็นเขตแทรกซึมของพรรค
ื
ี
บัญชาการผสม ๓๓๓” ซึ่งแปรสภำพจำก คอมมิวนิสต์ไทย ซึ่งได้รับกำรสนับสนุนจำกนอกประเทศ ตลอดทั้งสถำนกำรณ์ก่อกำรร้ำย คอมมิวนิสต์จ�ำนวน ๓๘ จังหวัด นับเป็น
กองบัญชำกำรผสม ๓๓๓ (บก.ผสม ๓๓๓) ภำยในประเทศ ได้ขยำยตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อควำมมั่นคงของประเทศ ตลอด สถำนกำรณ์ที่ พคท. ประกอบด้วยพรรค-
ตั้งแต่ ๑ กรกฎำคม ๒๕๐๗ เป็นกองก�ำลัง จนขวัญของรำษฎรตำมแนวชำยแดน ประกอบกับกองทัพบก ประสบปัญหำขำดแคลนก�ำลัง แนวร่วม-กองก�ำลัง และเขตฐำนท่มน
ี
่
ั
ผสมต่ำงชำติของทหำรและพลเมือง ในนำม รบ ในกำรปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ และต่อสู้กับภัยคุกคำมอื่นๆ จึงได้จัดตั้งกอง เรียกว่ำ สถำนกำรณ์สงครำมปฏิวัติของ
้
ื
ทหำรเสือพรำน มีภำรกิจเฝ้ำระวังพนท ี ่ ก�ำลังกึ่งทหำร ในลักษณะเป็นหน่วยอำสำสมัครพิเศษ (ทหำรพรำน) ขึ้นมำเพื่อทดแทนก�ำลัง พคท. และเป็นกำรตั้งรัฐซ้อนรัฐขึ้น ฝ่ำย
บริเวณทำงตะวันออกของประเทศไทย รบหลักที่ขำดแคลน กองทัพบกจึงจัดตั้งหน่วยรบนอกแบบ บริเวณชำยแดนไทย-กัมพูชำขึ้น รฐบำลโดยกองทัพ ได้ทุ่มเทสรรพก�ำลง
ั
ั
ึ
ซ่งติดกับประเทศลำว เรียกกันว่ำ ยุทธศำสตร์ จึงมีกำรจัดตั้ง “โครงกำรชุดปฏิบัติกำรพิเศษทหำรพรำนชำยแดนไทย-กัมพูชำ” มีชื่อรหัสว่ำ ทงก�ำลังทหำร ต�ำรวจ พลเรือน และ
้
ั
กำรป้องกันในเขตหน้ำ เพ่อสกัดก้นและ “โครงกำร ๕๑๓” และคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ด�ำเนินกำร เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎำคม ๒๕๒๑ ทรัพยำกรอย่ำงมหำศำล เพ่อเข้ำปรำบ
ั
ื
ื
ั
ป้องกนไม่ให้กำลงคอมมิวนิสต์เป็นภัยต่อ จึงได้ยึดถือวันที่ ๑๘ กรกฎำคม เป็นวันก่อตั้งทหำรพรำน โดย “โครงกำร ๕๑๓” อยู่ในควำม ปรำม ผกค. ในประเทศไทย
ั
�
ประเทศไทย หรือตั้งฐำนส่งควำมช่วยเหลือ ดูแลของ “ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพบก ๓๑๕” ซึ่งมี พลตรี ชวลิต ยงใจยุทธ ด�ำรงต�ำแหน่ง
ี
ผกค.หรือ พคท.ท่ปฏิบัติกำรอยู่ในประเทศไทย หัวหน้ำศูนย์ อยู่ในขณะนั้น และมอบหมำยให้ชุดควบคุมและประสำนงำนโครงกำร ๕๑๓
ผ่ำนทำงรำชอำณำจักรลำวได้ (ชค.๕๑๓) มีที่ตั้งที่ ค่ำยปักธงชัย อ�ำเภอปักธงชัย จังหวัดนครรำชสีมำ ซึ่งเป็นหน่วยรองใน
สนำม ควบคุมบังคับบัญชำ ตั้งแต่วันที่ ๗ กันยำยน ๒๕๒๑ เป็นต้นมำ ทหำรพรำน ชค.๕๑๓
นั้น เป็นหน่วยทหำรพรำนจู่โจม ปฏิบัติภำรกิจต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ ภำยใต้ค�ำขวัญ
“กูผู้ชนะ” และใช้ผ้ำพันคอสีด�ำขลิบแดง เป็นสัญลักษณ์
56 57
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองรบพิเศษที่ ๔
(พลร่ม)
๔ กันยำยน ๒๕๒๓ กองทัพบก ได้จัดตั้ง กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๔ ขึ้นโดยให้เป็น หน่วยขึ้นตรงของ ศสพ.มีที่ตั้งชั่วครำวที่
ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช อ.เมือง จ.ลพบุรี ต่อมำเมื่อ ๒๑ มิถุนำยน ๒๕๒๔ จึงได้ย้ำยเข้ำที่ตั้งปกติถำวร ค่ำยสฤษดิ์เสนำ อ.วังทอง
จ.พิษณุโลก และเมื่อ ๖ ธันวำคม ๒๕๒๕ กองทัพบก มีค�ำสั่งให้ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๔ ปรับไปขึ้นกำรบังคับบัญชำ กับ กองพลรบพิเศษ
ที่ ๑ จนกระทั่ง ๒๗ มกรำคม ๒๕๒๖ กองทัพบก ออกค�ำสั่งแปรสภำพ กองรบพิเศษ (พลร่ม)ที่ ๑,๒,๓ และ ๔ เป็น กรมรบพิเศษที่ ๑, ๒,
๓ และ ๔ ตำมล�ำดับ ภำยหลังจำกที่กองทัพบกได้อนุมัติให้จัดตั้ง กองพลรบพิเศษที่ ๒ ขึ้น เมื่อ ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๖ จึงได้มีค�ำสั่งให้
กรมรบพิเศษที่ ๔ ปรับโอนกำรบังคับบัญชำ ไปขึ้นกับ กองพลรบพิเศษที่ ๒ ตั้งแต่ ๑ ตุลำคม ๒๕๒๖ โดยได้กระท�ำพิธีส่งมอบอย่ำงเป็น
ทำงกำร เมื่อ ๒๙ พฤศจิกำยน ๒๕๒๖ เมื่อมีนโยบำยปรับลดก�ำลังของกองทัพบก จึงมีค�ำสั่งให้ กรมรบพิเศษที่ ๔ ปรับไปขึ้นกำรบังคับ
บัญชำกับ กองพลรบพิเศษที่ ๑ ตั้งแต่ ๑ เมษำยน ๒๕๔๔ จนถึงปัจจุบัน
๔ กันยำยน ๒๕๒๓ กองทัพบกจัดต้ง
ั
ี
“กองรบพิเศษ ( พลร่ม ) ท่ ๔ ” โดยให้เป็น
ั
ั
ี
ี
หน่วยข้นตรงของ ศสพ. มีท่ต้งช่วครำวท่ค่ำย
ึ
สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช อ.เมือง จ.ลพบุร ี
ื
และเม่อ ๒๑ มิถุนำยน ๒๕๒๔ กองรบพิเศษ
ั
ี
( พลร่ม ) ท่ ๔ ย้ำยเข้ำท่ต้งปกติถำวร
ี
ค่ำยสฤษด์เสนำ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และ
ิ
กองทัพบก มีค�ำส่งยุบกองพันพิเศษ พร้อม
ั
โอนก�ำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้ กองรบพิเศษ
ื
ี
(พลร่ม) ท่ ๔ เม่อ ๒๔ มิถุนำยน ๒๕๒๔
พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๒๓
พ.ศ.๒๕๒๑ – ๒๕๒๒ หลังจำกเวียดนำมเหนือเข้ำยึดนคร ต้นเดือน มิถุนำยน ๒๕๒๒ ด้วยสถำนกำรณ์ที่คับขัน นโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะ
ไซ่ง่อน เมืองหลวงเวียดนำมใต้ได้ส�ำเร็จแล้ว จึงส่งทหำรเข้ำยึด ประเทศไทยจึงเปิด “สภำสงครำม”เพื่อพิจำรณำหนทำงปฏิบัติ ซึ่ง คอมมิวนิสต์ ๒๓ เมษำยน พ.ศ.๒๕๒๓ พล
กรุงพนมเปญของเขมร และสถำปนำระบบกำรปกครองเฮงสัมริน จำกกำรประเมินยุทธศำสตร์ของสภำสงครำม ได้ข้อสรุปว่ำ จีนจะ เอกเปรม ติณสูลำนนท์ นำยกรัฐมนตรี
ขึ้น มีกำรขับไล่รัฐบำลเขมรแดงของพอลพต และเขียวสัมพันธ์ออก สำมำรถหยุดกำรรุกรำนของเวียดนำมสู่ไทยได้ จึงคัดเลือก คนที่ ๑๖ ของประเทศไทย ออกค�ำสั่งส�ำนัก
จำกเขมร เวียดนำมด�ำเนินยุทธศำสตร์ขั้นรุกกับไทย โดยวำงก�ำลัง นำยทหำรของกองทัพไทย จ�ำนวน ๓ นำย ได้แก่ พลโทผิน เกสร นำยกรัฐมนตรีที่ ๖๖/๒๕๒๓ เรื่อง นโยบำย
ทหำร ๕ กองพลประชิดชำยแดนไทย เพื่อหวังจะยึดภำคอีสำนของ เจ้ำกรมยุทธกำรทหำร, พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้ำ กำรต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ โดยใช้
ไทย และประกำศเป็นรัฐใหม่ขึ้น ในขณะที่ พคท. และกองทัพ กองยุทธกำร กรมยุทธกำรทหำรบก และ พันเอกพัฒน์ อัคนิบุตร บทบำทด้ำนกำรเมืองน�ำกำรทหำร ท�ำให้
ปลดแอกประชำชน ได้ตั้งฐำนที่มันและขยำยผลสู้รบในประเทศไทย หัวหน้ำฝ่ำยข่ำว ศูนย์อ�ำนวยกำรร่วม กองบัญชำกำรทหำรสูงสุด สมำชิกพรรคคอมมิวนิสต์ท่จับอำวุธต่อสู้กับ
ี
จ�ำนวนถึง ๔๐ จังหวัด เพื่อไปปฏิบัติภำรกิจลับ เจรจำขอให้จีนยุติกำรสนับสนุน พคท. กับ รัฐบำล ทยอยวำงอำวุธ และออกมำมอบตัว
นำยเติ้ง เสี่ยว ผิง ซึ่งผลจำกกำรเจรจำ จีนได้ท�ำสงครำมสั่งสอนกับ ในฐำนะผู้ร่วมพัฒนำชำติไทย ประเทศไทย
เวียดนำม ท�ำให้เวียดนำมต้องถอนทหำรออกจำกเขมร และน�ำก�ำลัง จึงรอดพ้นจำกกำรยึดครองของลัทธ ิ
ทั้งหมดไปตรึงยังชำยแดนเวียดนำมทำงภำคเหนือ ไทยจึงยับยั้งกำร คอมมิวนิสต์ และยุติทฤษฎีโดมิโนลงอย่ำง
รุกของเวียดนำมได้ และ พคท. เริ่มวำงอำวุธ สิ้นเชิง
58 59
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองรบพิเศษที่ ๔
(พลร่ม)
๔ กันยำยน ๒๕๒๓ กองทัพบก ได้จัดตั้ง กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๔ ขึ้นโดยให้เป็น หน่วยขึ้นตรงของ ศสพ.มีที่ตั้งชั่วครำวที่
ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช อ.เมือง จ.ลพบุรี ต่อมำเมื่อ ๒๑ มิถุนำยน ๒๕๒๔ จึงได้ย้ำยเข้ำที่ตั้งปกติถำวร ค่ำยสฤษดิ์เสนำ อ.วังทอง
จ.พิษณุโลก และเมื่อ ๖ ธันวำคม ๒๕๒๕ กองทัพบก มีค�ำสั่งให้ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๔ ปรับไปขึ้นกำรบังคับบัญชำ กับ กองพลรบพิเศษ
ที่ ๑ จนกระทั่ง ๒๗ มกรำคม ๒๕๒๖ กองทัพบก ออกค�ำสั่งแปรสภำพ กองรบพิเศษ (พลร่ม)ที่ ๑,๒,๓ และ ๔ เป็น กรมรบพิเศษที่ ๑, ๒,
๓ และ ๔ ตำมล�ำดับ ภำยหลังจำกที่กองทัพบกได้อนุมัติให้จัดตั้ง กองพลรบพิเศษที่ ๒ ขึ้น เมื่อ ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๖ จึงได้มีค�ำสั่งให้
กรมรบพิเศษที่ ๔ ปรับโอนกำรบังคับบัญชำ ไปขึ้นกับ กองพลรบพิเศษที่ ๒ ตั้งแต่ ๑ ตุลำคม ๒๕๒๖ โดยได้กระท�ำพิธีส่งมอบอย่ำงเป็น
ทำงกำร เมื่อ ๒๙ พฤศจิกำยน ๒๕๒๖ เมื่อมีนโยบำยปรับลดก�ำลังของกองทัพบก จึงมีค�ำสั่งให้ กรมรบพิเศษที่ ๔ ปรับไปขึ้นกำรบังคับ
บัญชำกับ กองพลรบพิเศษที่ ๑ ตั้งแต่ ๑ เมษำยน ๒๕๔๔ จนถึงปัจจุบัน
๔ กันยำยน ๒๕๒๓ กองทัพบกจัดต้ง
ั
ี
“กองรบพิเศษ ( พลร่ม ) ท่ ๔ ” โดยให้เป็น
ั
ั
ี
ี
หน่วยข้นตรงของ ศสพ. มีท่ต้งช่วครำวท่ค่ำย
ึ
สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช อ.เมือง จ.ลพบุร ี
ื
และเม่อ ๒๑ มิถุนำยน ๒๕๒๔ กองรบพิเศษ
ั
ี
( พลร่ม ) ท่ ๔ ย้ำยเข้ำท่ต้งปกติถำวร
ี
ค่ำยสฤษด์เสนำ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และ
ิ
กองทัพบก มีค�ำส่งยุบกองพันพิเศษ พร้อม
ั
โอนก�ำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้ กองรบพิเศษ
ื
ี
(พลร่ม) ท่ ๔ เม่อ ๒๔ มิถุนำยน ๒๕๒๔
พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๒๓
พ.ศ.๒๕๒๑ – ๒๕๒๒ หลังจำกเวียดนำมเหนือเข้ำยึดนคร ต้นเดือน มิถุนำยน ๒๕๒๒ ด้วยสถำนกำรณ์ที่คับขัน นโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะ
ไซ่ง่อน เมืองหลวงเวียดนำมใต้ได้ส�ำเร็จแล้ว จึงส่งทหำรเข้ำยึด ประเทศไทยจึงเปิด “สภำสงครำม”เพื่อพิจำรณำหนทำงปฏิบัติ ซึ่ง คอมมิวนิสต์ ๒๓ เมษำยน พ.ศ.๒๕๒๓ พล
กรุงพนมเปญของเขมร และสถำปนำระบบกำรปกครองเฮงสัมริน จำกกำรประเมินยุทธศำสตร์ของสภำสงครำม ได้ข้อสรุปว่ำ จีนจะ เอกเปรม ติณสูลำนนท์ นำยกรัฐมนตรี
ขึ้น มีกำรขับไล่รัฐบำลเขมรแดงของพอลพต และเขียวสัมพันธ์ออก สำมำรถหยุดกำรรุกรำนของเวียดนำมสู่ไทยได้ จึงคัดเลือก คนที่ ๑๖ ของประเทศไทย ออกค�ำสั่งส�ำนัก
จำกเขมร เวียดนำมด�ำเนินยุทธศำสตร์ขั้นรุกกับไทย โดยวำงก�ำลัง นำยทหำรของกองทัพไทย จ�ำนวน ๓ นำย ได้แก่ พลโทผิน เกสร นำยกรัฐมนตรีที่ ๖๖/๒๕๒๓ เรื่อง นโยบำย
ทหำร ๕ กองพลประชิดชำยแดนไทย เพื่อหวังจะยึดภำคอีสำนของ เจ้ำกรมยุทธกำรทหำร, พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้ำ กำรต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ โดยใช้
ไทย และประกำศเป็นรัฐใหม่ขึ้น ในขณะที่ พคท. และกองทัพ กองยุทธกำร กรมยุทธกำรทหำรบก และ พันเอกพัฒน์ อัคนิบุตร บทบำทด้ำนกำรเมืองน�ำกำรทหำร ท�ำให้
ปลดแอกประชำชน ได้ตั้งฐำนที่มันและขยำยผลสู้รบในประเทศไทย หัวหน้ำฝ่ำยข่ำว ศูนย์อ�ำนวยกำรร่วม กองบัญชำกำรทหำรสูงสุด สมำชิกพรรคคอมมิวนิสต์ท่จับอำวุธต่อสู้กับ
ี
จ�ำนวนถึง ๔๐ จังหวัด เพื่อไปปฏิบัติภำรกิจลับ เจรจำขอให้จีนยุติกำรสนับสนุน พคท. กับ รัฐบำล ทยอยวำงอำวุธ และออกมำมอบตัว
นำยเติ้ง เสี่ยว ผิง ซึ่งผลจำกกำรเจรจำ จีนได้ท�ำสงครำมสั่งสอนกับ ในฐำนะผู้ร่วมพัฒนำชำติไทย ประเทศไทย
เวียดนำม ท�ำให้เวียดนำมต้องถอนทหำรออกจำกเขมร และน�ำก�ำลัง จึงรอดพ้นจำกกำรยึดครองของลัทธ ิ
ทั้งหมดไปตรึงยังชำยแดนเวียดนำมทำงภำคเหนือ ไทยจึงยับยั้งกำร คอมมิวนิสต์ และยุติทฤษฎีโดมิโนลงอย่ำง
รุกของเวียดนำมได้ และ พคท. เริ่มวำงอำวุธ สิ้นเชิง
58 59
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
หน่วยปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจ ๙๐ กองพลรบพิเศษที่ ๑
(ฉก. ๙๐)
ในปี ๒๕๒๔ กองทัพบก ได้มีแนวควำมคิดในกำรพัฒนำหน่วยรบพิเศษ และปรับ
ก่อตั้ง ในปี พ.ศ.๒๕๒๔ โดย กองพลที่ ๑ รักษำพระองค์ เป็นหน่วยที่จัดตั้งโดยใช้ ระบบกำรต่อสู้เบ็ดเสร็จ แนวควำมคิดนี้ได้พัฒนำมำเป็นล�ำดับ และเพื่อให้กำรด�ำเนิน
พื้นที่ของ พล.๑ รอ. เป็นที่ตั้งชั่วครำวเพื่อเตรียมพร้อม ใช้ชื่อว่ำ “ชุด AT๘๑” โดยกำร กำรด้ำนสงครำมพิเศษ เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น กองทัพบกจึงได้อนุมัติให้จัด
ใช้ก�ำลังพลจำก นขต. ของ พล.๑ รอ. เข้ำมำรับกำรฝึกกำรปรำบปรำมกำรก่อกำรร้ำย ตั้ง กองพลรบพิเศษที่ ๑ ขึ้น ตำมค�ำสั่งกองทัพบก (เฉพำะ) ที่ ๑๗๕/๒๕ ลง
สำกล (หลักสูตรกำรรบในเมือง) เป็นเวลำ ๑๐ สัปดำห์ จ�ำนวน ๓ รุ่น ๒๘ กรกฎำคม ๒๕๒๕ โดยมี พลตรี วิมล วงศ์วำนิช เป็นผู้บัญชำกำรกองพลรบพิเศษที่
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ ได้ปรับสำยกำรบังคับบัญชำจำก พล.๑ รอ.มำขึ้นกำรบังคับ ๑ คนแรก ฝำกกำรบังคับบัญชำขั้นต้นไว้กับศูนย์สงครำมพิเศษ ในฐำนะเป็นหน่วย ๒๘ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๒๕ กองทัพ
บัญชำกับ กองทัพบก ตำม ค�ำสั่ง ทบ. (เฉพำะ) ลับมำก ๓๓๓/๒๗ ลง ๓๑ ธ.ค.๒๗ โดย เจ้ำของโครงกำรจัดตั้ง และให้ศูนย์สงครำมพิเศษ มอบอ�ำนำจกำรบังคับบัญชำกองรบ บกได้ด�ำเนินกำรปรับปรุง และจัดต้งหน่วยรบ
ั
มีนำมหน่วยว่ำ “หน่วยปฏิบัติกำรพิเศษเฉพำะกิจ ๙๐” ใช้รหัสย่อว่ำ “ฉก.๙๐” เป็น พิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ ให้แก่กองพลรบพิเศษที่ ๑ ตั้งแต่ ๒ ธันวำคม ๒๕๒๕ พิเศษข้นใหม่ คือ “ กองพลรบพิเศษท่ ๑ ”
ี
ึ
หน่วยขึ้นตรงต่อกองทัพบก มี ผบ.ทบ. เป็นผู้สั่งกำรโดยตรง โดยมีที่ตั้งชั่วครำวอยู่ที่ โดยมีที่ตั้งครั้งแรก ณ ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช ต�ำบลทะเลชุบศร อ�ำเภอเมือง ช่อย่อ พล.รพศ.๑ มีท่ต้งช่วครำวอยู่ในค่ำย
ี
ื
ั
ั
ึ
ั
ี
ร้อย.ลว.ไกล.ที่ ๑ พล.๑ รอ. ต่อมำเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ กองทัพบกได้บรรจุมอบเป็น พ.ศ. ๒๕๒๔ กองทัพบกจัดต้ง “หน่วย จงหวัดลพบุรี ซ่งต่อมำได้มีกำรปรับเปล่ยนพัฒนำหน่วยตำมสถำนกำรณ์ ปัจจุบัน สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช จังหวัดลพบุร ี
ั
หน่วยขึ้นกำรบังคับบัญชำโดยตรงกับ นสศ. ใช้นำมหน่วยตำม อจย.ว่ำ “กองร้อยปฏิบัติ ปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจ ๙๐ ” ช่อย่อ กองพลรบพิเศษที่ ๑ มีหน่วยขึ้นตรงได้แก่ กรมรบพิเศษที่ ๑, ๓, ๔ และ ๕ และมีที่ตั้ง ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับศนย์สงครำม
ู
ื
กำรพิเศษ” และเมื่อ ๑ ต.ค.๓๕ นสศ. ได้บรรจุมอบให้เป็นหน่วยขึ้นกำรบังคับบัญชำ “ฉก.๙๐” หน่วยน้ ได้รับกำรฝึกจำกหน่วยรบ หน่วยอยู่ที่ ค่ำยเอรำวัณ ต�ำบลเขำสำมยอด อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี พิเศษ และได้ปรับโอนก�ำลังรบหลักท้ง ๔
ั
ี
โดยตรงของกองพันจู่โจม เข้ำที่ตั้งปกติถำวร บริเวณบ้ำนน�้ำจั้น ต.เขำสำมยอด อ.เมือง พิเศษสหรัฐฯ เพ่อเป็นก�ำลังเตรียมพร้อม กองรบพิเศษ (พลร่ม) ท่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ จำก
ี
ื
จ.ลพบุรี เมื่อ ๑๔ ต.ค.๓๗ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๓ ตำมค�ำสั่ง ทบ.(เฉพำะ) ลับ ที่ ๑๒๔/๔๓ ของกองทัพบกโดยใช้ช่อว่ำ “ชุด AT81” โดย ศูนย์สงครำมพิเศษ ไปข้นกำรบังคับบัญชำกับ
ึ
ื
ลง ๑ พ.ย.๔๓ ให้ปรับกำรบังคับบัญชำหน่วย จำก นขต.พัน.จจ. เป็น นขต.รพศ.๓ โดย ฝึกในเร่องกำรช่วยเหลือตัวประกัน และ กองพลรบพิเศษท่ ๑ เม่อ ๒ ธันวำคม ๒๕๒๕
ื
ี
ื
ใช้นำมย่อว่ำ “ร้อย.ปพ.” กำรรบประชิด ซ่งในขณะน้น กองทัพบก โดย
ั
ึ
ในปี พ.ศ.๒๕๕๐ ตำมค�ำสั่ง ทบ.(เฉพำะ) ลับ ที่ ๑๖/๕๐ ลง ๗ มี.ค.๕๐ ให้ใช้ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ได้เลือก พล.๑ รอ.
อัตรำกำรจัดและยุทโธปกรณ์ หมำยเลข ๓๓-๓๐๗ (๒๕ ส.ค.๔๙) โดยใช้นำมหน่วยว่ำ เป็นหน่วยเข้ำรับกำรฝึก ภำรกิจห้วงแรก ๖ กันยำยน ๒๕๒๕ กองฝึกรบพิเศษ
ี
กองปฏิบัติกำรพิเศษ นำมหน่วยโดยย่อว่ำ “กอง ปพ.” และเครื่องหมำยสังกัด “ปพ.” เป็นกำรรักษำควำมปลอดภัยบุคคลส�ำคัญ ท่ ๙ ได้แปรสภำพเป็น กองพันฝึกรบพิเศษท ่ ี
ื
ปรับกำรบังคับบัญชำ กอง ปพ.จำก นขต.ทบ. เป็น นขต.รพศ.๓ (VIP) ๙ ช่อย่อ “พัน.ฝรพ.๙”
พ.ศ. ๒๕๒๔ พ.ศ. ๒๕๒๕
การจัดตั้งหน่วยจู่โจมเฉพาะกิจ ๕๑๔ เมื่อ ๒๔ มิถุนำยน ๒๕๒๕ ผู้
บัญชำกำรทหำรบกได้สั่งกำร ให้ปรับสภำพ
ต้นเดือนสิงหำคม ๒๕๒๔ กองทัพบกจัดตั้ง “ หน่วยจู่โจมเฉพำะกิจ”
ขึ้นเป็นครั้งแรก ประกอบด้วยก�ำลังพลที่มีประสบกำรณ์ในกำรรบและมีควำม หน่วยเฉพำะกิจ ๕๑๔ เป็น “ชุดควบคุม
กล้ำหำญทรหดอดทนในหน่วยรบพิเศษ และหน่วยทหำรพรำนของกองทัพบก และประสานงานโครงการ ๕๑๔ (ชค.
รวม ๖๒ นำย และ ได้มอบหมำยให้ พลตรี ชวลิต ยงใจยุทธ เจ้ำกรมยุทธกำร ๕๑๔) ” จำกนั้น ได้ย้ำย ชค.๕๑๔ จำกที่ตั้ง
ทหำรบก ในขณะนั้น เป็นนำยทหำรโครงกำรรับผิดชอบกำรปฏิบัติกำรทั้งปวง ชั่วครำวที่ ค่ำยฝึกกำรรบพิเศษปำกช่อง
และแต่งตั้งให้ พันเอก อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์ ผู้บังคับกำรกองรบพิเศษ ที่ ๒ จังหวัดนครรำชสีมำ เข้ำที่ตั้งถำวรบริเวณ
(พลร่ม) เป็นผู้บังคับหน่วย เข้ำปฏิบัติกำรรบคร้งแรก ตำมแผนยุทธกำร ค่ำยฝึกกำรรบพิเศษประตูผำ อ�ำเภอเมือง
ั
ื
ี
“ยงยุทธ” ในพ้นท่ยำกล�ำบำกชำยแดนไทยพม่ำด้ำนจังหวัดเชียงรำย และ จังหวัดล�ำปำง และได้มีกำรยุบเลิกหน่วย
เมื่อ ๑๖ ธันวำคม ๒๕๒๔ กองทัพบกอนุมัติให้จัดตั้งหน่วยจู่โจมปฏิบัติกำร ชค.๕๑๔ ในปลำยปี ๒๕๒๙
พิเศษ เป็นหน่วยประจ�ำ และเรียกนำมหน่วยว่ำ “ก�ำลังเฉพำะกิจ ๕๑๔” โดยมี
ที่ตั้งชั่วครำว ณ ค่ำยปักธงชัย จังหวัดนครรำชสีมำ
60 61
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
หน่วยปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจ ๙๐ กองพลรบพิเศษที่ ๑
(ฉก. ๙๐)
ในปี ๒๕๒๔ กองทัพบก ได้มีแนวควำมคิดในกำรพัฒนำหน่วยรบพิเศษ และปรับ
ก่อตั้ง ในปี พ.ศ.๒๕๒๔ โดย กองพลที่ ๑ รักษำพระองค์ เป็นหน่วยที่จัดตั้งโดยใช้ ระบบกำรต่อสู้เบ็ดเสร็จ แนวควำมคิดนี้ได้พัฒนำมำเป็นล�ำดับ และเพื่อให้กำรด�ำเนิน
พื้นที่ของ พล.๑ รอ. เป็นที่ตั้งชั่วครำวเพื่อเตรียมพร้อม ใช้ชื่อว่ำ “ชุด AT๘๑” โดยกำร กำรด้ำนสงครำมพิเศษ เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น กองทัพบกจึงได้อนุมัติให้จัด
ใช้ก�ำลังพลจำก นขต. ของ พล.๑ รอ. เข้ำมำรับกำรฝึกกำรปรำบปรำมกำรก่อกำรร้ำย ตั้ง กองพลรบพิเศษที่ ๑ ขึ้น ตำมค�ำสั่งกองทัพบก (เฉพำะ) ที่ ๑๗๕/๒๕ ลง
สำกล (หลักสูตรกำรรบในเมือง) เป็นเวลำ ๑๐ สัปดำห์ จ�ำนวน ๓ รุ่น ๒๘ กรกฎำคม ๒๕๒๕ โดยมี พลตรี วิมล วงศ์วำนิช เป็นผู้บัญชำกำรกองพลรบพิเศษที่
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ ได้ปรับสำยกำรบังคับบัญชำจำก พล.๑ รอ.มำขึ้นกำรบังคับ ๑ คนแรก ฝำกกำรบังคับบัญชำขั้นต้นไว้กับศูนย์สงครำมพิเศษ ในฐำนะเป็นหน่วย ๒๘ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๒๕ กองทัพ
บัญชำกับ กองทัพบก ตำม ค�ำสั่ง ทบ. (เฉพำะ) ลับมำก ๓๓๓/๒๗ ลง ๓๑ ธ.ค.๒๗ โดย เจ้ำของโครงกำรจัดตั้ง และให้ศูนย์สงครำมพิเศษ มอบอ�ำนำจกำรบังคับบัญชำกองรบ บกได้ด�ำเนินกำรปรับปรุง และจัดต้งหน่วยรบ
ั
มีนำมหน่วยว่ำ “หน่วยปฏิบัติกำรพิเศษเฉพำะกิจ ๙๐” ใช้รหัสย่อว่ำ “ฉก.๙๐” เป็น พิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ ให้แก่กองพลรบพิเศษที่ ๑ ตั้งแต่ ๒ ธันวำคม ๒๕๒๕ พิเศษข้นใหม่ คือ “ กองพลรบพิเศษท่ ๑ ”
ี
ึ
หน่วยขึ้นตรงต่อกองทัพบก มี ผบ.ทบ. เป็นผู้สั่งกำรโดยตรง โดยมีที่ตั้งชั่วครำวอยู่ที่ โดยมีที่ตั้งครั้งแรก ณ ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช ต�ำบลทะเลชุบศร อ�ำเภอเมือง ช่อย่อ พล.รพศ.๑ มีท่ต้งช่วครำวอยู่ในค่ำย
ี
ื
ั
ั
ึ
ั
ี
ร้อย.ลว.ไกล.ที่ ๑ พล.๑ รอ. ต่อมำเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ กองทัพบกได้บรรจุมอบเป็น พ.ศ. ๒๕๒๔ กองทัพบกจัดต้ง “หน่วย จงหวัดลพบุรี ซ่งต่อมำได้มีกำรปรับเปล่ยนพัฒนำหน่วยตำมสถำนกำรณ์ ปัจจุบัน สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช จังหวัดลพบุร ี
ั
หน่วยขึ้นกำรบังคับบัญชำโดยตรงกับ นสศ. ใช้นำมหน่วยตำม อจย.ว่ำ “กองร้อยปฏิบัติ ปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจ ๙๐ ” ช่อย่อ กองพลรบพิเศษที่ ๑ มีหน่วยขึ้นตรงได้แก่ กรมรบพิเศษที่ ๑, ๓, ๔ และ ๕ และมีที่ตั้ง ฝำกกำรบังคับบัญชำไว้กับศนย์สงครำม
ู
ื
กำรพิเศษ” และเมื่อ ๑ ต.ค.๓๕ นสศ. ได้บรรจุมอบให้เป็นหน่วยขึ้นกำรบังคับบัญชำ “ฉก.๙๐” หน่วยน้ ได้รับกำรฝึกจำกหน่วยรบ หน่วยอยู่ที่ ค่ำยเอรำวัณ ต�ำบลเขำสำมยอด อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี พิเศษ และได้ปรับโอนก�ำลังรบหลักท้ง ๔
ั
ี
โดยตรงของกองพันจู่โจม เข้ำที่ตั้งปกติถำวร บริเวณบ้ำนน�้ำจั้น ต.เขำสำมยอด อ.เมือง พิเศษสหรัฐฯ เพ่อเป็นก�ำลังเตรียมพร้อม กองรบพิเศษ (พลร่ม) ท่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ จำก
ี
ื
จ.ลพบุรี เมื่อ ๑๔ ต.ค.๓๗ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๓ ตำมค�ำสั่ง ทบ.(เฉพำะ) ลับ ที่ ๑๒๔/๔๓ ของกองทัพบกโดยใช้ช่อว่ำ “ชุด AT81” โดย ศูนย์สงครำมพิเศษ ไปข้นกำรบังคับบัญชำกับ
ึ
ื
ลง ๑ พ.ย.๔๓ ให้ปรับกำรบังคับบัญชำหน่วย จำก นขต.พัน.จจ. เป็น นขต.รพศ.๓ โดย ฝึกในเร่องกำรช่วยเหลือตัวประกัน และ กองพลรบพิเศษท่ ๑ เม่อ ๒ ธันวำคม ๒๕๒๕
ื
ี
ื
ใช้นำมย่อว่ำ “ร้อย.ปพ.” กำรรบประชิด ซ่งในขณะน้น กองทัพบก โดย
ั
ึ
ในปี พ.ศ.๒๕๕๐ ตำมค�ำสั่ง ทบ.(เฉพำะ) ลับ ที่ ๑๖/๕๐ ลง ๗ มี.ค.๕๐ ให้ใช้ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ได้เลือก พล.๑ รอ.
อัตรำกำรจัดและยุทโธปกรณ์ หมำยเลข ๓๓-๓๐๗ (๒๕ ส.ค.๔๙) โดยใช้นำมหน่วยว่ำ เป็นหน่วยเข้ำรับกำรฝึก ภำรกิจห้วงแรก ๖ กันยำยน ๒๕๒๕ กองฝึกรบพิเศษ
ี
กองปฏิบัติกำรพิเศษ นำมหน่วยโดยย่อว่ำ “กอง ปพ.” และเครื่องหมำยสังกัด “ปพ.” เป็นกำรรักษำควำมปลอดภัยบุคคลส�ำคัญ ท่ ๙ ได้แปรสภำพเป็น กองพันฝึกรบพิเศษท ่ ี
ื
ปรับกำรบังคับบัญชำ กอง ปพ.จำก นขต.ทบ. เป็น นขต.รพศ.๓ (VIP) ๙ ช่อย่อ “พัน.ฝรพ.๙”
พ.ศ. ๒๕๒๔ พ.ศ. ๒๕๒๕
การจัดตั้งหน่วยจู่โจมเฉพาะกิจ ๕๑๔ เมื่อ ๒๔ มิถุนำยน ๒๕๒๕ ผู้
บัญชำกำรทหำรบกได้สั่งกำร ให้ปรับสภำพ
ต้นเดือนสิงหำคม ๒๕๒๔ กองทัพบกจัดตั้ง “ หน่วยจู่โจมเฉพำะกิจ”
ขึ้นเป็นครั้งแรก ประกอบด้วยก�ำลังพลที่มีประสบกำรณ์ในกำรรบและมีควำม หน่วยเฉพำะกิจ ๕๑๔ เป็น “ชุดควบคุม
กล้ำหำญทรหดอดทนในหน่วยรบพิเศษ และหน่วยทหำรพรำนของกองทัพบก และประสานงานโครงการ ๕๑๔ (ชค.
รวม ๖๒ นำย และ ได้มอบหมำยให้ พลตรี ชวลิต ยงใจยุทธ เจ้ำกรมยุทธกำร ๕๑๔) ” จำกนั้น ได้ย้ำย ชค.๕๑๔ จำกที่ตั้ง
ทหำรบก ในขณะนั้น เป็นนำยทหำรโครงกำรรับผิดชอบกำรปฏิบัติกำรทั้งปวง ชั่วครำวที่ ค่ำยฝึกกำรรบพิเศษปำกช่อง
และแต่งตั้งให้ พันเอก อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์ ผู้บังคับกำรกองรบพิเศษ ที่ ๒ จังหวัดนครรำชสีมำ เข้ำที่ตั้งถำวรบริเวณ
(พลร่ม) เป็นผู้บังคับหน่วย เข้ำปฏิบัติกำรรบคร้งแรก ตำมแผนยุทธกำร ค่ำยฝึกกำรรบพิเศษประตูผำ อ�ำเภอเมือง
ั
ื
ี
“ยงยุทธ” ในพ้นท่ยำกล�ำบำกชำยแดนไทยพม่ำด้ำนจังหวัดเชียงรำย และ จังหวัดล�ำปำง และได้มีกำรยุบเลิกหน่วย
เมื่อ ๑๖ ธันวำคม ๒๕๒๔ กองทัพบกอนุมัติให้จัดตั้งหน่วยจู่โจมปฏิบัติกำร ชค.๕๑๔ ในปลำยปี ๒๕๒๙
พิเศษ เป็นหน่วยประจ�ำ และเรียกนำมหน่วยว่ำ “ก�ำลังเฉพำะกิจ ๕๑๔” โดยมี
ที่ตั้งชั่วครำว ณ ค่ำยปักธงชัย จังหวัดนครรำชสีมำ
60 61
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุคหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
พ.ศ.๒๕๒๖ - ปัจจุบัน ลง ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๖ มีท่ต้งข้นแรกท่ “ตึกเอรำวัณ” เป็นตึกเก่ำท่ท่สร้ำงข้นในสมัย
ี
ึ
ั
ื
จัดต้งข้นเม่อวันท่ ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๖ ตำมค�ำส่งกองทัพบก (เฉพำะ) ท่ ๗๗/๒๖
ั
ี
ี
ี
ึ
ี
ี
ั
ั
กองพลรบพิเศษที่ ๒ จอมพล แปลก พิบูลสงครำม เป็นนำยกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกลำโหม
ต่อมำได้ย้ำยเข้ำท่ต้งปกติถำวรภำยในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช เม่อ พ.ศ.๒๕๓๑
ื
ั
ี
ผู้บัญชำกำรหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษท่ำนแรกคือ พลโท เอนก บุนยถี หน่วยน้เป็น
ี
ึ
่
หนวยบัญชำกำรสูงสุดของหน่วยรบพิเศษ ซ่งรับผิดชอบกำรปฏิบัติ “สงครำมพิเศษ”
ั
จัดต้งตำมค�ำส่ง ทบ.(เฉพำะ)ลับท่ ๗๗/๒๖ ลง ๒๕ มี.ค.๒๖ พร้อมกับกำรจัดต้งหน่วย
ั
ี
ั
ั
๒๗ มกรำคม ๒๕๒๖ กองทัพบก บัญชำกำรสงครำมพิเศษ ใช้อัตรำกำรจัดยุทโธปกรณ์ของกองพลทหำรรำบ เช่นเดียวกับ ท้งมวลของกองทัพบก
ออกค�ำสั่งแปรสภำพ กองรบพิเศษ (พลร่ม) กองพลรบพิเศษท่ ๑ มีก�ำลังรบหลัก คือ
ี
ที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ เป็น กรมรบพิเศษที่ ๑, ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๖ กองทัพบกได้จัด
ี
ิ
ื
๒, ๓ และ ๔ ช่อย่อ คือ รพศ.๑, ๒, ๓ และ ๔ • กรมรบพิเศษท่ ๔ (รพศ.๔) ค่ำยสฤษด์เสนำ อ�ำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ต้ง “หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ” เป็น
ั
ตำมค�ำสั่ง ทบ. (เฉพำะ) ลับที่ ๒๙/๒๖ ลง • กรมรบพิเศษท่ ๕ (รพศ.๕) อ�ำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยท่รับผิดชอบกำรปฏิบัติกำรสงครำม
ี
ี
๒๗ ม.ค.๒๖) และจัดตั้งกองพลรบพิเศษที่ ๒ • โดยมีแผนจัดต้ง กรมรบพิเศษท่ ๖ ท่จังหวัดกำญจนบุร ี พิเศษท้งมวลของกองทัพบก และเม่อ ๑๔
ั
ื
ี
ั
ี
( พล.รพศ.๒ ) โดยใช้อัตรำกำรจัดยุทโธปกรณ์ กุมภำพันธ์ ๒๕๓๗ กองทัพบกได้สงกำร ให้
ั
่
ี
ื
ี
ี
ั
ี
ี
ของกองพลทหำรรำบ เช่นเดียวกับกองพล • ตำมแผนเดิมท่ให้ กองพลรบพิเศษท่ ๒ มีท่ต้งปกติถำวรท่จังหวัดกำญจนบุรี ในพ้นท่เดียว บรรจมอบและปรบกำรบงคบบญชำใหม่
ั
ั
ั
ุ
ั
ี
ั
ี
ื
ี
ั
ี
รบพิเศษท่ ๑ มีท่ต้งช่วครำวอยู่ท่อำคำร กับกรมรบพิเศษท่ ๖ แต่เน่องจำกกองทัพบกให้ชะลอกำรจัดต้ง กรมรบพิเศษท่ ๖ ไว้ก่อน ทงหมด โดยให้ ศูนย์สงครำมพิเศษ กองพล
ี
ั
้
ั
่
้
้
กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒ ในค่ำยสมเด็จ จึงไดมีกำรพิจำรณำที่ตั้งใหมและดวยเหตุผลว่ำที่ตั้งของกองพลรบพิเศษที่ ๒ ควรจะมี รบพิเศษท่ ๑ และ ๒ ข้นกำรบังคับบัญชำกับ
ึ
ี
ื
ี
่
ื
พระนำรำยณ์มหำรำช ต่อมำได้ย้ำยเข้ำที่ตั้ง หนวยรองในระดับกรมรบพิเศษอยู่ในพ้นท่เดียวกัน เพ่อผลทำงด้ำนยุทธกำรและกำร หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
ี
ี
ี
ั
ถำวร ที่ ต.แม่สำ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สนับสนุนต่ำง ๆ จึงได้มีกำรปรับแผนใหม่ให้ กองพลรบพิเศษท่ ๒ เปล่ยนท่ต้งปกติถำวร
ี
ื
จำกจังหวัดกำญจนบุรี ไปอยู่ท่อ�ำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในพ้นท่เดียวกันกับ กรมรบ
ี
พิเศษท่ ๕ ซ่งเป็นหน่วยรองหน่วยหน่ง และเคล่อนย้ำยเข้ำท่ต้งปกติถำวร เม่อ ๒๓ มี.ค.๓๑
ึ
ี
ั
ื
ี
ึ
ื
พ.ศ. ๒๕๒๖
พ.ศ.๒๕๒๖ กองทัพบกได้ใช้ยุทธศำสตร์เกลือจิ้มเกลือ โดยใช้ก�ำลังอำสำ
ึ
ิ
สมัครทหำร ซ่งจัดจำกก�ำลังประชำชนในท้องถ่น จัดเป็นก�ำลังกองร้อยทหำรพรำน
ุ
ั
ู
ิ
ิ
เข้ำปรำบปรำมผ้ก่อกำรร้ำยคอมมวนสต์ในลกษณะของจรยุทธ์ปรำบจรยทธ์
โดยหน่วยรบพิเศษ ได้รับมอบหมำยให้เป็นหน่วยหลัก ในกำรจัดก�ำลังเป็นเจ้ำ
หน้ำที่โครงในกองร้อยทหำรพรำน (เช่น ผบ.ร้อย.ฯลฯ) รวมทั้งรับผิดชอบ
ด�ำเนินกำรฝึกที่ ค่ำยฝึกปักธงชัย จ.นครรำชสีมำ กำรที่ต้องดึงก�ำลังของหน่วย
รบพิเศษส่วนนี้ ไปปฏิบัติงำน ท�ำให้กระทบต่อแผนงำนหลักของหน่วยรบพิเศษ
ที่จะปฏิบัติงำนทำงด้ำนยุทธศำสตร์ตำมแผนป้องกันประเทศ ซึ่งต่อมำกองทัพ
บกได้จัดตั้ง กองพลทหำรพรำน ขึ้นมำ เพื่อควบคุมและอ�ำนวยกำรปฏิบัติ
ของกองร้อยทหำรพรำนแทน
62 63
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุคหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
พ.ศ.๒๕๒๖ - ปัจจุบัน ลง ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๖ มีท่ต้งข้นแรกท่ “ตึกเอรำวัณ” เป็นตึกเก่ำท่ท่สร้ำงข้นในสมัย
ี
ึ
ั
ื
จัดต้งข้นเม่อวันท่ ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๖ ตำมค�ำส่งกองทัพบก (เฉพำะ) ท่ ๗๗/๒๖
ั
ี
ี
ี
ึ
ี
ี
ั
ั
กองพลรบพิเศษที่ ๒ จอมพล แปลก พิบูลสงครำม เป็นนำยกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกลำโหม
ต่อมำได้ย้ำยเข้ำท่ต้งปกติถำวรภำยในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช เม่อ พ.ศ.๒๕๓๑
ื
ั
ี
ผู้บัญชำกำรหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษท่ำนแรกคือ พลโท เอนก บุนยถี หน่วยน้เป็น
ี
ึ
่
หนวยบัญชำกำรสูงสุดของหน่วยรบพิเศษ ซ่งรับผิดชอบกำรปฏิบัติ “สงครำมพิเศษ”
ั
จัดต้งตำมค�ำส่ง ทบ.(เฉพำะ)ลับท่ ๗๗/๒๖ ลง ๒๕ มี.ค.๒๖ พร้อมกับกำรจัดต้งหน่วย
ั
ี
ั
ั
๒๗ มกรำคม ๒๕๒๖ กองทัพบก บัญชำกำรสงครำมพิเศษ ใช้อัตรำกำรจัดยุทโธปกรณ์ของกองพลทหำรรำบ เช่นเดียวกับ ท้งมวลของกองทัพบก
ออกค�ำสั่งแปรสภำพ กองรบพิเศษ (พลร่ม) กองพลรบพิเศษท่ ๑ มีก�ำลังรบหลัก คือ
ี
ที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ เป็น กรมรบพิเศษที่ ๑, ๒๕ มีนำคม ๒๕๒๖ กองทัพบกได้จัด
ี
ิ
ื
๒, ๓ และ ๔ ช่อย่อ คือ รพศ.๑, ๒, ๓ และ ๔ • กรมรบพิเศษท่ ๔ (รพศ.๔) ค่ำยสฤษด์เสนำ อ�ำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ต้ง “หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ” เป็น
ั
ตำมค�ำสั่ง ทบ. (เฉพำะ) ลับที่ ๒๙/๒๖ ลง • กรมรบพิเศษท่ ๕ (รพศ.๕) อ�ำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยท่รับผิดชอบกำรปฏิบัติกำรสงครำม
ี
ี
๒๗ ม.ค.๒๖) และจัดตั้งกองพลรบพิเศษที่ ๒ • โดยมีแผนจัดต้ง กรมรบพิเศษท่ ๖ ท่จังหวัดกำญจนบุร ี พิเศษท้งมวลของกองทัพบก และเม่อ ๑๔
ั
ื
ี
ี
ั
( พล.รพศ.๒ ) โดยใช้อัตรำกำรจัดยุทโธปกรณ์ กุมภำพันธ์ ๒๕๓๗ กองทัพบกได้สงกำร ให้
ั
่
ี
ื
ี
ี
ั
ี
ี
ของกองพลทหำรรำบ เช่นเดียวกับกองพล • ตำมแผนเดิมท่ให้ กองพลรบพิเศษท่ ๒ มีท่ต้งปกติถำวรท่จังหวัดกำญจนบุรี ในพ้นท่เดียว บรรจมอบและปรบกำรบงคบบญชำใหม่
ั
ั
ั
ุ
ั
ี
ั
ี
ื
ี
ั
ี
รบพิเศษท่ ๑ มีท่ต้งช่วครำวอยู่ท่อำคำร กับกรมรบพิเศษท่ ๖ แต่เน่องจำกกองทัพบกให้ชะลอกำรจัดต้ง กรมรบพิเศษท่ ๖ ไว้ก่อน ทงหมด โดยให้ ศูนย์สงครำมพิเศษ กองพล
ี
ั
้
ั
่
้
้
กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒ ในค่ำยสมเด็จ จึงไดมีกำรพิจำรณำที่ตั้งใหมและดวยเหตุผลว่ำที่ตั้งของกองพลรบพิเศษที่ ๒ ควรจะมี รบพิเศษท่ ๑ และ ๒ ข้นกำรบังคับบัญชำกับ
ึ
ี
ื
ี
่
ื
พระนำรำยณ์มหำรำช ต่อมำได้ย้ำยเข้ำที่ตั้ง หนวยรองในระดับกรมรบพิเศษอยู่ในพ้นท่เดียวกัน เพ่อผลทำงด้ำนยุทธกำรและกำร หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
ี
ี
ี
ั
ถำวร ที่ ต.แม่สำ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สนับสนุนต่ำง ๆ จึงได้มีกำรปรับแผนใหม่ให้ กองพลรบพิเศษท่ ๒ เปล่ยนท่ต้งปกติถำวร
ี
ื
จำกจังหวัดกำญจนบุรี ไปอยู่ท่อ�ำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในพ้นท่เดียวกันกับ กรมรบ
ี
พิเศษท่ ๕ ซ่งเป็นหน่วยรองหน่วยหน่ง และเคล่อนย้ำยเข้ำท่ต้งปกติถำวร เม่อ ๒๓ มี.ค.๓๑
ึ
ี
ั
ื
ี
ึ
ื
พ.ศ. ๒๕๒๖
พ.ศ.๒๕๒๖ กองทัพบกได้ใช้ยุทธศำสตร์เกลือจิ้มเกลือ โดยใช้ก�ำลังอำสำ
ึ
ิ
สมัครทหำร ซ่งจัดจำกก�ำลังประชำชนในท้องถ่น จัดเป็นก�ำลังกองร้อยทหำรพรำน
ุ
ั
ู
ิ
ิ
เข้ำปรำบปรำมผ้ก่อกำรร้ำยคอมมวนสต์ในลกษณะของจรยุทธ์ปรำบจรยทธ์
โดยหน่วยรบพิเศษ ได้รับมอบหมำยให้เป็นหน่วยหลัก ในกำรจัดก�ำลังเป็นเจ้ำ
หน้ำที่โครงในกองร้อยทหำรพรำน (เช่น ผบ.ร้อย.ฯลฯ) รวมทั้งรับผิดชอบ
ด�ำเนินกำรฝึกที่ ค่ำยฝึกปักธงชัย จ.นครรำชสีมำ กำรที่ต้องดึงก�ำลังของหน่วย
รบพิเศษส่วนนี้ ไปปฏิบัติงำน ท�ำให้กระทบต่อแผนงำนหลักของหน่วยรบพิเศษ
ที่จะปฏิบัติงำนทำงด้ำนยุทธศำสตร์ตำมแผนป้องกันประเทศ ซึ่งต่อมำกองทัพ
บกได้จัดตั้ง กองพลทหำรพรำน ขึ้นมำ เพื่อควบคุมและอ�ำนวยกำรปฏิบัติ
ของกองร้อยทหำรพรำนแทน
62 63
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองรบพิเศษที่ ๕ กองพันจู่โจม
(พลร่ม)
เนื่องด้วยกองทัพบกไม่มีหน่วยที่ได้รับมอบภำรกิจให้ปฏิบัติโดยตรงเป็นหลัก โดยเฉพำะในพื้นที่นอกประเทศในลักษณะที่มีควำม
คล่องตัว รวดเร็ว และจู่โจม หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษซ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบงำนกำรสงครำมพิเศษ โดยมีกองพลรบพิเศษ ๒ กองพล
ึ
ี
กองทัพบกได้อนุมัติให้จัดต้ง กรมรบพิเศษท่ ๕ โดยเป็นหน่วยข้นตรงของ เป็นหน่วยปฏิบัติ ดังน้นเพ่อให้หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษมีหน่วยก�ำลังรบท่ใช้ในกำรปฏิบัติภำรกิจโดยตรงนอกประเทศ และเป็นหน่วย
ึ
ั
ี
ั
ื
กองพลรบพิเศษที่ ๒ มีที่ตั้งชั่วครำวครั้งแรกอยู่ที่ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช พร้อมรบท่สำมำรปฏิบัติกำรได้ รวดเร็ว จู่โจม อันจะท�ำให้กองทัพบกสำมำรถควบคุมสถำนกำรณ์กำรรบหรือเปล่ยนแปลงสถำนกำรณ์กำรรบ
ี
ี
อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ต่อมำเมื่อ ๒๒ ธันวำคม ๒๕๒๖ พล.รพศ.๒ และ รพศ.๕ ให้ฝ่ำยเรำมีควำมได้เปรียบเหนือฝ่ำยตรงข้ำม เช่น สถำนกำรณ์บริเวณช่องบก หรือบ้ำนร่มเกล้ำ กองทัพบกจึงอนุมัติให้จัดต้ง “กองพันจู่โจม”
ั
ได้เคลื่อนย้ำยหน่วยเข้ำที่ตั้ง ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยก�ำลังพลบำงส่วนได้กระโดดร่มลง ขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๑ ตำมค�ำสั่ง ทบ.(เฉพำะ)ลับที่ ๑๒๑/๓๑ ลง ๓๑ มิ.ย.๓๑ ใช้อัตรำกำรจัดของกองพันรบพิเศษ
ณ บริเวณสนำมม้ำหนองฮ่อ หรือสนำมกีฬำ มทบ.๓๓ ในปัจจุบัน หลังจำกนั้นได้เดิน
ทำงด้วยเท้ำเข้ำที่ตั้งหน่วยถำวร ณ หมู่ ๒ ต�ำบลแม่สำ อ�ำแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อจัดตั้งครั้งแรก มีที่ตั้งชั่วครำวอยู่ที่อำคำรของกองรบพิเศษ(พลร่ม)ที่ ๒ ในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช และได้ย้ำยมำเข้ำ
ื
ิ
ั
�
ั
่
ทตงปกตถำวรในปัจจุบัน เม่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ บ้ำนน้ำจ้น ต�ำบลเขำสำมยอด อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุร ี
้
ี
ต่อมำกองทัพบกมีแผนปรับโครงสร้ำงกองทัพใหม่ จึงมีค�ำสั่งให้ รพศ.๕ และ
หน่วยขึ้นตรง ขึ้นกำรควบคุมบังคับบัญชำกับ พล.รพศ.๑ ตั้งแต่วันที่ ๕ เม.ย. ๔๔ และมี
ค�ำสั่งให้ปิดหน่วย พล.รพศ.๒ ตั้งแต่วันที่ ๑ ต.ค. ๔๔ เป็นต้นไป รวมทั้งได้สั่งกำรให้ย้ำย
ั
ี
ท่ต้ง บก.รพศ.๕ และ ร้อย.นขต. เข้ำท่ต้ง ณ อำคำร บก.พล.รพศ.๒ และให้ รพศ.๕ พัน.๑
ั
ี
ย้ำยเข้ำที่ตั้ง ณ อำคำรของ บก.รพศ.๕ เดิมเช่นเดียวกัน ๑๔ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๗ กองทัพบกได้ จำกผลส�ำเร็จในกำรปฏิบัติภำรกิจ
ั
๗ กรกฎำคม ๒๕๒๖ ได้จัดต้ง “กรมรบ และเมื่อวันที่ ๒๙ พ.ย. ๔๘ พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช ส่งกำรและปรับกำรบังคับบัญชำหน่วยรบ โดยตรง (Direct Missions) ของหน่วยรบ
ั
ั
ี
ั
ั
�
พิเศษท่ ๕” ช่อย่อ “รพศ.๕ ” ตำมคำสงกองทพ บรมนำถบพิตร รัชกำลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำ ฯ พระรำชทำนนำม พิเศษใหม่ท้งหมด โดยให้ ศูนย์สงครำมพิเศษ พิเศษและก�ำลังรบนอกแบบ ในสมรภูมิบ้ำน
ื
่
ี
ี
ั
ึ
บก (เฉพำะ) ลับท่ ๑๔๔/๒๖ มีท่ต้งอยู่ท ่ ี “ค่ำยขุนเณร” กองพลรบพิเศษท่ ๑ และ ๒ ข้นกำรบังคับ ร่มเกล้ำกองทัพบกจึงเห็นควำมส�ำคัญ
ี
ี
อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และเป็นหน่วยข้นตรง บัญชำกับหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ และ และควำมจ�ำเป็นของก�ำลังท่มีควำมคล่องตัว
ึ
ื
ั
ึ
ั
ของกองพลรบพิเศษท่ ๒ ซ่งต่อมำกองทัพบกได้มีค�ำส่งให้จัดต้ง พล.ร.๗ เพ่อควบคุมบังคับบัญชำหน่วยทหำร ได้กระท�ำพิธีโอนมอบกำรบังคับบัญชำ ในกำรปฏิบัติกำรสูง จึงพิจำรณำอนุมัติให้
ี
ี
ในพ้นท่ภำคเหนือตอนบน ณ ท่ต้ง บก.พล.รพศ.๒ เดิม โดยเม่อวันท่ ๒๙ เม.ย. ๕๔ จงได ้ เม่อ ๑๒ มีนำคม ๒๕๒๗ มีภำรกิจในกำร จัดต้ง “กองพันจู่โจม” ช่อย่อ “ พัน.จจ.”
ื
ึ
ี
ี
ื
ั
ั
ื
ื
เคลื่อนย้ำย บก.รพศ.๕ และ นขต. กลับที่ตั้งเดิม หมู่ ๒ ต�ำบลแม่สำ อ�ำเภอแม่ริม วำงแผน อ�ำนวยกำร ประสำนงำน ก�ำกับดูแล (Ranger Battalion) จ�ำนวน ๑ กองพัน เม่อ
ื
จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ ๒๙ เม.ย.๕๔ เป็นต้นมำ และปฏิบัติกำร รวมท้งด�ำเนินกำรวิจัย พัฒนำ ๒๑ มิถุนำยน ๒๕๓๑ และให้ข้นกำรบังคับ
ั
ึ
ื
จำกนั้น เม่อ ๑ ตุลำคม ๒๕๒๖ กองพล ก�ำหนดหลักนิยมเก่ยวกับกำรสงครำมพิเศษ พ.ศ. ๒๕๒๙ เม่อมีกำรจัดต้ง หน่วย บัญชำกับหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
ั
ื
ี
รบพิเศษท่ ๑ ได้โอนกำรบังคับบัญชำกรมรบ ท�ำให้หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ มีท้ง ั บัญชำกำรสงครำมพิเศษแล้ว กองทัพบกจึงได้ มีภำรกิจท่ส�ำคัญ คือ ปฏิบัติกำรรบแบบจู่โจม
ี
ี
พิเศษท่ ๔ ให้กับกองพลรบพิเศษท่ ๒ ด้วย ภำรกิจท่เป็นหน่วยก�ำลังรบหลัก คือ พล.รพศ. มอบ “หน่วยต่อต้ำนกำรก่อกำรร้ำยสำกล” ซ่งสำมำรถปฏิบัติกำรได้รวดเร็ว รุนแรง
ี
ี
ึ
ี
ื
ควำมมุ่งหมำยในข้นต้น เพ่อจัดก�ำลังเป็นโครง ๑ [หน่วยข้นตรง คือ รพศ.๑, รพศ.๒, รพศ.๓] เรียกว่ำ “หน่วยเฉพำะกิจ ๙๐” (ฉก.๙๐) ให้ เฉียบขำด ท้งในทำงยุทธวิธี และกำรรบ
ั
ึ
ั
ส�ำหรับกองร้อยทหำรพรำน และ/หรือก�ำลัง และ พล.รพศ.๒ [หน่วยข้นตรง คือ รพศ.๔ มำข้นกำรบังคับบัญชำกับ หน่วยบัญชำกำร นอกแบบ กองพันจู่โจม มีท่ต้งถำวรท่ บ้ำนน้ำ �
ึ
ั
ี
ี
ึ
ึ
ก่งทหำรในรูปแบบอ่นท่จะจัดต้งข้น
ื
ี
ั
ึ
ี
และ รพศ.๕] และหน่วยฝึกศึกษำ คือ ศสพ. สงครำมพิเศษ จ้น ต.เขำสำมยอด อ.เมือง จ.ลพบุร
ั
พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๒๙ พ.ศ. ๒๕๓๑
พ.ศ.๒๕๓๑ จำกเหตุกำรณ์กำรปะทะกันระหว่ำงก�ำลังทหำรของไทยและก�ำลังทหำรของ
ุ
่
ั
ื
ิ
ลำวท่บ้ำนร่มเกล้ำ อ.ชำติตระกำร จ.พษณโลก อนเนองมำจำกปัญหำเส้นเขตแดนท่อ้ำงสนธ ิ
ี
ี
ึ
ื
สัญญำคนละฉบับ บริเวณพ้นท่ชำยแดนไทย –ลำว ซ่งในสมรภูมิน้ กองทัพบกได้ใช้ก�ำลังของหน่วย
ี
ี
ั
ึ
ี
ึ
ึ
รบพิเศษส่วนหน่งเข้ำปฏิบัติกำร และในก่งหน่งของภำรกิจท่ด�ำเนินกำรน้น คือ กำรใช้หน่วยรบ
ี
่
ิ
่
พิเศษและกำลงรบนอกแบบทหนวยรบพเศษพฒนำขน เพ่อปฏิบัติภำรกิจพิเศษ (Special Missions)
�
ั
ึ
ื
ั
้
ื
หรือภำรกิจโดยตรง (Direct Missions) เข้ำปฏิบัติกำรในพ้นท่ส่วนหลังของข้ำศึก เพ่อท�ำลำยระบบ
ี
ื
กำรบังคับบัญชำ รูปแบบกำรรบของฝ่ำยตรงข้ำม สนับสนุนก�ำลังรบตำมแบบของฝ่ำยเรำ ให้
สำมำรถปฏิบัติกำรได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ
64 65
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองรบพิเศษที่ ๕ กองพันจู่โจม
(พลร่ม)
เนื่องด้วยกองทัพบกไม่มีหน่วยที่ได้รับมอบภำรกิจให้ปฏิบัติโดยตรงเป็นหลัก โดยเฉพำะในพื้นที่นอกประเทศในลักษณะที่มีควำม
คล่องตัว รวดเร็ว และจู่โจม หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษซ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบงำนกำรสงครำมพิเศษ โดยมีกองพลรบพิเศษ ๒ กองพล
ึ
ี
กองทัพบกได้อนุมัติให้จัดต้ง กรมรบพิเศษท่ ๕ โดยเป็นหน่วยข้นตรงของ เป็นหน่วยปฏิบัติ ดังน้นเพ่อให้หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษมีหน่วยก�ำลังรบท่ใช้ในกำรปฏิบัติภำรกิจโดยตรงนอกประเทศ และเป็นหน่วย
ึ
ั
ี
ั
ื
กองพลรบพิเศษที่ ๒ มีที่ตั้งชั่วครำวครั้งแรกอยู่ที่ค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช พร้อมรบท่สำมำรปฏิบัติกำรได้ รวดเร็ว จู่โจม อันจะท�ำให้กองทัพบกสำมำรถควบคุมสถำนกำรณ์กำรรบหรือเปล่ยนแปลงสถำนกำรณ์กำรรบ
ี
ี
อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ต่อมำเมื่อ ๒๒ ธันวำคม ๒๕๒๖ พล.รพศ.๒ และ รพศ.๕ ให้ฝ่ำยเรำมีควำมได้เปรียบเหนือฝ่ำยตรงข้ำม เช่น สถำนกำรณ์บริเวณช่องบก หรือบ้ำนร่มเกล้ำ กองทัพบกจึงอนุมัติให้จัดต้ง “กองพันจู่โจม”
ั
ได้เคลื่อนย้ำยหน่วยเข้ำที่ตั้ง ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยก�ำลังพลบำงส่วนได้กระโดดร่มลง ขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๑ ตำมค�ำสั่ง ทบ.(เฉพำะ)ลับที่ ๑๒๑/๓๑ ลง ๓๑ มิ.ย.๓๑ ใช้อัตรำกำรจัดของกองพันรบพิเศษ
ณ บริเวณสนำมม้ำหนองฮ่อ หรือสนำมกีฬำ มทบ.๓๓ ในปัจจุบัน หลังจำกนั้นได้เดิน
ทำงด้วยเท้ำเข้ำที่ตั้งหน่วยถำวร ณ หมู่ ๒ ต�ำบลแม่สำ อ�ำแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อจัดตั้งครั้งแรก มีที่ตั้งชั่วครำวอยู่ที่อำคำรของกองรบพิเศษ(พลร่ม)ที่ ๒ ในค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช และได้ย้ำยมำเข้ำ
ื
ิ
ั
�
ั
ี
ทตงปกตถำวรในปัจจุบัน เม่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ บ้ำนน้ำจ้น ต�ำบลเขำสำมยอด อ�ำเภอเมือง จังหวัดลพบุร ี
้
่
ต่อมำกองทัพบกมีแผนปรับโครงสร้ำงกองทัพใหม่ จึงมีค�ำสั่งให้ รพศ.๕ และ
หน่วยขึ้นตรง ขึ้นกำรควบคุมบังคับบัญชำกับ พล.รพศ.๑ ตั้งแต่วันที่ ๕ เม.ย. ๔๔ และมี
ค�ำสั่งให้ปิดหน่วย พล.รพศ.๒ ตั้งแต่วันที่ ๑ ต.ค. ๔๔ เป็นต้นไป รวมทั้งได้สั่งกำรให้ย้ำย
ั
ี
ท่ต้ง บก.รพศ.๕ และ ร้อย.นขต. เข้ำท่ต้ง ณ อำคำร บก.พล.รพศ.๒ และให้ รพศ.๕ พัน.๑
ั
ี
ย้ำยเข้ำที่ตั้ง ณ อำคำรของ บก.รพศ.๕ เดิมเช่นเดียวกัน ๑๔ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๗ กองทัพบกได้ จำกผลส�ำเร็จในกำรปฏิบัติภำรกิจ
ั
๗ กรกฎำคม ๒๕๒๖ ได้จัดต้ง “กรมรบ และเมื่อวันที่ ๒๙ พ.ย. ๔๘ พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช ส่งกำรและปรับกำรบังคับบัญชำหน่วยรบ โดยตรง (Direct Missions) ของหน่วยรบ
ั
ั
ี
ั
ั
�
พิเศษท่ ๕” ช่อย่อ “รพศ.๕ ” ตำมคำสงกองทพ บรมนำถบพิตร รัชกำลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำ ฯ พระรำชทำนนำม พิเศษใหม่ท้งหมด โดยให้ ศูนย์สงครำมพิเศษ พิเศษและก�ำลังรบนอกแบบ ในสมรภูมิบ้ำน
ื
่
ี
ี
ั
ึ
บก (เฉพำะ) ลับท่ ๑๔๔/๒๖ มีท่ต้งอยู่ท ่ ี “ค่ำยขุนเณร” กองพลรบพิเศษท่ ๑ และ ๒ ข้นกำรบังคับ ร่มเกล้ำกองทัพบกจึงเห็นควำมส�ำคัญ
ี
ี
อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และเป็นหน่วยข้นตรง บัญชำกับหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ และ และควำมจ�ำเป็นของก�ำลังท่มีควำมคล่องตัว
ึ
ื
ั
ั
ึ
ของกองพลรบพิเศษท่ ๒ ซ่งต่อมำกองทัพบกได้มีค�ำส่งให้จัดต้ง พล.ร.๗ เพ่อควบคุมบังคับบัญชำหน่วยทหำร ได้กระท�ำพิธีโอนมอบกำรบังคับบัญชำ ในกำรปฏิบัติกำรสูง จึงพิจำรณำอนุมัติให้
ี
ื
ในพ้นท่ภำคเหนือตอนบน ณ ท่ต้ง บก.พล.รพศ.๒ เดิม โดยเม่อวันท่ ๒๙ เม.ย. ๕๔ จงได ้ เม่อ ๑๒ มีนำคม ๒๕๒๗ มีภำรกิจในกำร จัดต้ง “กองพันจู่โจม” ช่อย่อ “ พัน.จจ.”
ี
ึ
ื
ี
ั
ี
ั
ื
ื
เคลื่อนย้ำย บก.รพศ.๕ และ นขต. กลับที่ตั้งเดิม หมู่ ๒ ต�ำบลแม่สำ อ�ำเภอแม่ริม วำงแผน อ�ำนวยกำร ประสำนงำน ก�ำกับดูแล (Ranger Battalion) จ�ำนวน ๑ กองพัน เม่อ
ื
จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ ๒๙ เม.ย.๕๔ เป็นต้นมำ และปฏิบัติกำร รวมท้งด�ำเนินกำรวิจัย พัฒนำ ๒๑ มิถุนำยน ๒๕๓๑ และให้ข้นกำรบังคับ
ั
ึ
จำกนั้น เม่อ ๑ ตุลำคม ๒๕๒๖ กองพล ก�ำหนดหลักนิยมเก่ยวกับกำรสงครำมพิเศษ พ.ศ. ๒๕๒๙ เม่อมีกำรจัดต้ง หน่วย บัญชำกับหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
ื
ื
ั
ี
ี
รบพิเศษท่ ๑ ได้โอนกำรบังคับบัญชำกรมรบ ท�ำให้หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ มีท้ง ั บัญชำกำรสงครำมพิเศษแล้ว กองทัพบกจึงได้ มีภำรกิจท่ส�ำคัญ คือ ปฏิบัติกำรรบแบบจู่โจม
ี
พิเศษท่ ๔ ให้กับกองพลรบพิเศษท่ ๒ ด้วย ภำรกิจท่เป็นหน่วยก�ำลังรบหลัก คือ พล.รพศ. มอบ “หน่วยต่อต้ำนกำรก่อกำรร้ำยสำกล” ซ่งสำมำรถปฏิบัติกำรได้รวดเร็ว รุนแรง
ี
ี
ึ
ี
ั
ื
ควำมมุ่งหมำยในข้นต้น เพ่อจัดก�ำลังเป็นโครง ๑ [หน่วยข้นตรง คือ รพศ.๑, รพศ.๒, รพศ.๓] เรียกว่ำ “หน่วยเฉพำะกิจ ๙๐” (ฉก.๙๐) ให้ เฉียบขำด ท้งในทำงยุทธวิธี และกำรรบ
ั
ึ
ส�ำหรับกองร้อยทหำรพรำน และ/หรือก�ำลัง และ พล.รพศ.๒ [หน่วยข้นตรง คือ รพศ.๔ มำข้นกำรบังคับบัญชำกับ หน่วยบัญชำกำร นอกแบบ กองพันจู่โจม มีท่ต้งถำวรท่ บ้ำนน้ำ �
ึ
ึ
ั
ี
ี
ื
ึ
ี
ก่งทหำรในรูปแบบอ่นท่จะจัดต้งข้น
ึ
ั
และ รพศ.๕] และหน่วยฝึกศึกษำ คือ ศสพ. สงครำมพิเศษ จ้น ต.เขำสำมยอด อ.เมือง จ.ลพบุร
ี
ั
พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๒๙ พ.ศ. ๒๕๓๑
พ.ศ.๒๕๓๑ จำกเหตุกำรณ์กำรปะทะกันระหว่ำงก�ำลังทหำรของไทยและก�ำลังทหำรของ
ุ
่
ั
ื
ี
ลำวท่บ้ำนร่มเกล้ำ อ.ชำติตระกำร จ.พษณโลก อนเนองมำจำกปัญหำเส้นเขตแดนท่อ้ำงสนธ ิ
ี
ิ
ึ
ื
สัญญำคนละฉบับ บริเวณพ้นท่ชำยแดนไทย –ลำว ซ่งในสมรภูมิน้ กองทัพบกได้ใช้ก�ำลังของหน่วย
ี
ี
ั
ึ
ี
ึ
ึ
รบพิเศษส่วนหน่งเข้ำปฏิบัติกำร และในก่งหน่งของภำรกิจท่ด�ำเนินกำรน้น คือ กำรใช้หน่วยรบ
ี
่
ิ
่
พิเศษและกำลงรบนอกแบบทหนวยรบพเศษพฒนำขน เพ่อปฏิบัติภำรกิจพิเศษ (Special Missions)
�
ั
ึ
ื
ั
้
ื
หรือภำรกิจโดยตรง (Direct Missions) เข้ำปฏิบัติกำรในพ้นท่ส่วนหลังของข้ำศึก เพ่อท�ำลำยระบบ
ี
ื
กำรบังคับบัญชำ รูปแบบกำรรบของฝ่ำยตรงข้ำม สนับสนุนก�ำลังรบตำมแบบของฝ่ำยเรำ ให้
สำมำรถปฏิบัติกำรได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ
64 65
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองพันทหารสื่อสารท่ ๓๕
ี
ื
เม่อ พ.ศ.๒๕๓๔ ทบ. มีค�ำส่งให้จัดต้งหน่วยกองพันทหำรส่อสำร หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ โดยให้เป็นเลข ๓๕ ควำมหมำย เลข
ั
ั
ื
๓ เป็นหน่วยรบพิเศษ ส่วนเลข ๕ เปรียบเสมือนเป็นหน่วยกองทัพภำคท่ ๕ โดยมีท่ต้งหน่วยช่วครำวท่ อำคำรโรงนอน ร้อย.บก.นสศ.
ั
ั
ี
ี
ี
(ปัจจุบัน) กำรบรรจุก�ำลังพลมำจำก หน่วย รพศ. ท่เป็นเหล่ำทหำรส่อสำรท่บรรจุใน มว.ส่อสำร กรมรบพิเศษ ตำมอัตรำท่เปิดบรรจุ โดยมี พัน
ี
ื
ี
ื
ี
ั
ี
ื
ี
ื
ี
โท วรวิทย์ รูโปบล เป็นผู้บังคับกองพันทหำรส่อสำรท่ ๓๕ ท่ำนแรก เม่อ ก.ค.๓๙ หน่วยได้ท�ำกำรเคล่อนย้ำย เข้ำท่ต้งถำวร ณ พ้นท่ค่ำย
ื
ื
เอรำวัณ ภำยใน พล.รพศ.๑ ตลอดระยะเวลำนับต้งแต่ก่อต้ง หน่วยได้ได้มีกำรพัฒนำท้งด้ำนยุทโธปกรณ์ และขีดควำมสำมำรถมำโดยล�ำดับ
ั
ั
ั
ี
ื
ปฏิบัติภำรกิจอย่ำงเต็มขีดควำมสำมำรถ มีผลงำนเป็นท่ประจักษ์ จึงได้รับพระรำชทำนธงชัยเฉลิมพลประจ�ำหน่วยเม่อ ๘ พ.ย.๔๙ โดยม ี
ั
ี
ั
ี
ื
พ.ท.พรเทพ ยังรักษำ เป็นผู้บังคับกองพันทหำรส่อสำรท่ ๓๕ ในขณะน้นเป็นผู้รับพระรำชทำน ปัจจุบันหน่วยย้ำยเข้ำท่ต้งถำวรภำยในค่ำย
ั
สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช อ.เมือง จ.ลพบุรี ต้งแต่ ม.ค.๖๓ เป็นต้นมำ
้
่
ื
พ.ศ. ๒๕๓๔ เนองจำก หนวยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ เป็นหน่วยท่รับผิดชอบในพนทระวง ั
ี
่
่
ี
ื
ั
ั
ึ
ป้องกัน ท้งภำยในประเทศและนอกประเทศ ซ่งในกำรปฏิบัติจ�ำเป็นจะต้องมีกำรควบคุม ส่งกำร เม่อ ๒๔ ตุลำคม ๒๕๓๘ ปรับ “กอง
ื
ั
อ�ำนวยกำร ประสำนงำน ตลอดท้งก�ำกับดูแลระหว่ำงหน่วยเหนือ หน่วยรองและหน่วยข้ำงเคียง ร้อยลำดตระเวนระยะไกล ศูนย์สงครำม
ื
ั
กองทัพบกจึงอนุมัติให้จัดต้ง กองพันทหำรส่อสำร โดยใช้นำมหน่วยว่ำ “กองพันทหำรส่อสำรท ี ่ พ.ศ. ๒๕๓๕ หน่วยบัญชำกำรสงครำม ๑๗ มิถุนำยน ๒๕๓๖ ศูนย์สงครำมพิเศษ ๒๑ กรกฎำคม ๒๕๓๗ กองพันฝึกรบ พเศษ” ช่อย่อ “ ร้อย.ลว.ไกล ศสพ.” ซ่งได้
ื
ึ
ิ
ื
๓๕” เปนหนวยขนตรงกบหนวยบญชำกำรสงครำมพิเศษ เพ่อสนับสนุนภำรกิจในด้ำนกำรติดต่อ พิเศษได้มอบโอนกำรบังคับบัญชำ กองร้อย โอนกำรบังคับบัญชำ กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ พิเศษท่ ๙ ได้แปรสภำพเป็นกองพันรบพิเศษ จัดต้งข้นเม่อ พ.ศ.๒๕๑๕ เป็น กองร้อยท่ ๓
ึ
้
ั
่
ื
ั
็
่
ี
ึ
ื
ั
ี
ส่อสำรและสำรสนเทศให้กับหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ และกองบัญชำกำรกองพลรบพิเศษ ปฏิบัติกำรพิเศษ (ฉก.๙๐) ให้กับกองพันจู่โจม ให้กับหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ศูนย์สงครำมพิเศษ ช่อย่อ “พัน.รพศ.ศสพ.” กองพันรบพิเศษ ศูนย์สงครำมพิเศษ
ื
ื
พ.ศ. ๒๕๓๔ พ.ศ. ๒๕๓๕ พ.ศ. ๒๕๓๖ พ.ศ. ๒๕๓๗ พ.ศ. ๒๕๓๘
66 67
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองพันทหารสื่อสารท่ ๓๕
ี
ื
เม่อ พ.ศ.๒๕๓๔ ทบ. มีค�ำส่งให้จัดต้งหน่วยกองพันทหำรส่อสำร หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ โดยให้เป็นเลข ๓๕ ควำมหมำย เลข
ั
ั
ื
๓ เป็นหน่วยรบพิเศษ ส่วนเลข ๕ เปรียบเสมือนเป็นหน่วยกองทัพภำคท่ ๕ โดยมีท่ต้งหน่วยช่วครำวท่ อำคำรโรงนอน ร้อย.บก.นสศ.
ั
ั
ี
ี
ี
(ปัจจุบัน) กำรบรรจุก�ำลังพลมำจำก หน่วย รพศ. ท่เป็นเหล่ำทหำรส่อสำรท่บรรจุใน มว.ส่อสำร กรมรบพิเศษ ตำมอัตรำท่เปิดบรรจุ โดยมี พัน
ี
ื
ี
ื
ี
ั
ี
ื
ี
ื
ี
โท วรวิทย์ รูโปบล เป็นผู้บังคับกองพันทหำรส่อสำรท่ ๓๕ ท่ำนแรก เม่อ ก.ค.๓๙ หน่วยได้ท�ำกำรเคล่อนย้ำย เข้ำท่ต้งถำวร ณ พ้นท่ค่ำย
ื
ื
เอรำวัณ ภำยใน พล.รพศ.๑ ตลอดระยะเวลำนับต้งแต่ก่อต้ง หน่วยได้ได้มีกำรพัฒนำท้งด้ำนยุทโธปกรณ์ และขีดควำมสำมำรถมำโดยล�ำดับ
ั
ั
ั
ี
ื
ปฏิบัติภำรกิจอย่ำงเต็มขีดควำมสำมำรถ มีผลงำนเป็นท่ประจักษ์ จึงได้รับพระรำชทำนธงชัยเฉลิมพลประจ�ำหน่วยเม่อ ๘ พ.ย.๔๙ โดยม ี
ั
ี
ั
ี
ื
พ.ท.พรเทพ ยังรักษำ เป็นผู้บังคับกองพันทหำรส่อสำรท่ ๓๕ ในขณะน้นเป็นผู้รับพระรำชทำน ปัจจุบันหน่วยย้ำยเข้ำท่ต้งถำวรภำยในค่ำย
ั
สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช อ.เมือง จ.ลพบุรี ต้งแต่ ม.ค.๖๓ เป็นต้นมำ
้
่
ื
พ.ศ. ๒๕๓๔ เนองจำก หนวยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ เป็นหน่วยท่รับผิดชอบในพนทระวง ั
่
ี
่
ี
ื
ั
ั
ึ
ป้องกัน ท้งภำยในประเทศและนอกประเทศ ซ่งในกำรปฏิบัติจ�ำเป็นจะต้องมีกำรควบคุม ส่งกำร เม่อ ๒๔ ตุลำคม ๒๕๓๘ ปรับ “กอง
ื
ั
อ�ำนวยกำร ประสำนงำน ตลอดท้งก�ำกับดูแลระหว่ำงหน่วยเหนือ หน่วยรองและหน่วยข้ำงเคียง ร้อยลำดตระเวนระยะไกล ศูนย์สงครำม
ั
ื
กองทัพบกจึงอนุมัติให้จัดต้ง กองพันทหำรส่อสำร โดยใช้นำมหน่วยว่ำ “กองพันทหำรส่อสำรท ี ่ พ.ศ. ๒๕๓๕ หน่วยบัญชำกำรสงครำม ๑๗ มิถุนำยน ๒๕๓๖ ศูนย์สงครำมพิเศษ ๒๑ กรกฎำคม ๒๕๓๗ กองพันฝึกรบ พเศษ” ช่อย่อ “ ร้อย.ลว.ไกล ศสพ.” ซ่งได้
ื
ิ
ื
ึ
๓๕” เปนหนวยขนตรงกบหนวยบญชำกำรสงครำมพิเศษ เพ่อสนับสนุนภำรกิจในด้ำนกำรติดต่อ พิเศษได้มอบโอนกำรบังคับบัญชำ กองร้อย โอนกำรบังคับบัญชำ กองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ พิเศษท่ ๙ ได้แปรสภำพเป็นกองพันรบพิเศษ จัดต้งข้นเม่อ พ.ศ.๒๕๑๕ เป็น กองร้อยท่ ๓
ึ
้
ั
่
ื
ั
็
่
ี
ึ
ื
ั
ี
ส่อสำรและสำรสนเทศให้กับหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ และกองบัญชำกำรกองพลรบพิเศษ ปฏิบัติกำรพิเศษ (ฉก.๙๐) ให้กับกองพันจู่โจม ให้กับหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ศูนย์สงครำมพิเศษ ช่อย่อ “พัน.รพศ.ศสพ.” กองพันรบพิเศษ ศูนย์สงครำมพิเศษ
ื
ื
พ.ศ. ๒๕๓๔ พ.ศ. ๒๕๓๕ พ.ศ. ๒๕๓๖ พ.ศ. ๒๕๓๗ พ.ศ. ๒๕๓๘
66 67
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
๖ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๔๔ หน่วย
บัญชำกำรสงครำมพิเศษ มอบกำรบังคับบัญชำ
กองพันจู่โจมและกองร้อยปฏิบัติกำรพิเศษ
(ฉก.๙๐) ให้เป็นหน่วยข้นตรง กรมรบพิเศษท่ ๓
ึ
ี
๑ เมษำยน ๒๕๔๔ ปรับกำรบังคับ
บัญชำ กองพันรบพิเศษท่ ๒ จำกหน่วยข้นตรง
ี
ึ
ึ
ี
กรมรบพิเศษท่ ๒ เป็นหน่วยข้นตรงของหน่วย
บัญชำกำรสงครำมพิเศษ
ั
พ.ศ.๒๕๔๓ กองทัพบก ออกค�ำส่ง ลับ พ.ศ. ๒๕๔๔ กองทัพบกได้ออกค�ำส่ง ั
ี
(เฉพำะ) ท่ ๑๒๔/๔๓ ลง ๑ พฤศจิกำยน ให้ชะลอ กำรปิดบรรจุก�ำลังพล กองบังคับกำร
พ.ศ.๒๕๔๓ เร่องปิดกำรบรรจุและปรับกำร และกองร้อยกองบังคับกำร และกองร้อย พ.ศ. ๒๕๕๐ กองทัพบก ปรับแก้อัตรำ
ื
บังคับบัญชำหน่วยรบพิเศษ ประจ�ำ สนับสนุนกำรช่วยรบ กรมรบพิเศษท่ ๒ พร้อม กำรยุทโธปกรณ์ คร้งท่ ๒ ปรับ “กองร้อย
ี
ั
ี
ปีงบประมำณ ๒๕๔๔ ตำมแผนกำรปรับปรุง กับปรับสำยกำรบังคับบัญชำ กรมรบพิเศษท่ ๒ ปฏิบัติกำรพิเศษ (ฉก.๙๐)” เป็น “กองปฏิบัต ิ
ี
โครงสร้ำง ทบ. ปี ๒๕๔๓ - ๒๕๕๐ ดังน ี ้
ึ
เป็นหน่วยข้นตรงหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ กำรพิเศษ” (กอง ปพ.)” และ ปรับปรุงอัตรำ
• ปิดกำรบรรจุก�ำลังพล รพศ.๓ พัน.๒ และให้กองพันรบพิเศษท่ ๒ (กองพันปฏิบัต ิ กำรจัดและยุทโธปกรณ์ของกรมรบพิเศษท่ ๒ พ.ศ. ๒๕๕๖ กองทัพบก ปรับกำรบังคับ
ี
ี
ื
ั
• ปรบกำรบงคบบญชำกองพนจ่โจม กำรข่ำว ) กับกองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ เป็น โดยใช้ อจย.หมำยเลข ๓๓ -๑๐๑ พ. เม่อ บัญชำ กองพันรบพิเศษท่ ๑ กรมรบพิเศษท่ ๓
ู
ั
ั
ั
ั
ี
ี
ึ
ี
ึ
จำกหน่วยข้นตรงหน่วยบัญชำกำร หน่วยข้นตรงของกรมรบพิเศษท่ ๒ ๑๓ กันยำยน ๒๕๕๐ ให้เป็น หน่วยข้นตรงกรมรบพิเศษท่ ๒
ึ
ี
ึ
สงครำมพิเศษ มำเป็นหน่วยข้นตรง เม่อ ๑๖ กันยำยน ๒๕๕๖ ปรับ
ื
กรมรบพิเศษท่ ๓ โครงสร้ำงหน่วยให้กรมรบพิเศษท่ ๒ ข้นกำร
ี
ึ
ี
• ปรับกำรบังคับบัญชำ กองร้อยปฏิบัติกำร พ.ศ. ๒๕๔๔ กองทัพบกออกค�ำส่งปิด ๑ สิงหำคม พ.ศ.๒๕๕๐ ศูนย์สงครำมพิเศษ พ.ศ.๒๕๕๑ ปรับโครงสร้ำงหน่วย บังคับบัญชำกับกองพลรบพิเศษท่ ๑ ตำมเดิม
ี
ั
พิเศษ (ฉก.๙๐) เดิมเป็นหน่วยข้นตรง กำรบรรจุ กองพลรบพิเศษท่ ๒ และโอนกำร ได้แก้ไขอัตรำเฉพำะกิจ หมำยเลข ๕๐๐๐ กรมรบพิเศษท่ ๒ เป็นกรมท่มีภำรกิจใน มีหน่วยในบังคับบัญชำประกอบด้วย รพศ.๒
ึ
ี
ี
ี
ึ
กองพันจู่โจม เป็นหน่วยข้นตรงกรมรบ บังคับบัญชำ กรมรบพิเศษท่ ๔ และกรมรบ ใหม่ โดยรวมกองยุทธกำร กองข่ำวและ กำรปฏิบัติกำรข่ำวลับ ปฏิบัติกำรจิตวิทยำ พัน.๑ (รพศ.๓ พัน.๑ เดิม) และ รพศ.๒ พัน.๒
ี
ี
พิเศษท่ ๓ มีนำมหน่วยว่ำ “กองร้อย พิเศษท่ ๕ ให้กลับมำข้นกำรบังคับบัญชำกับ กองกิจกำร พลเรือน เข้ำด้วยกัน เรียกว่ำ และปฏิบัติกำรข่ำวสำร เป็นหน่วยข้นตรงกับ ปรับกองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
ึ
ี
ึ
ปฏิบัติพิเศษ ” (ร้อย.ปพ.) กองพลรบพิเศษท่ ๑ ส่งผลให้หน่วยบัญชำกำร กองยุทธกำรและกำรข่ำว ปรับกองพยำบำล หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ มีหน่วยใน พ.ศ. ๒๕๕๓ กองทัพบก อนุมัติให้เปิด (พัน.ปจว.) เป็นหน่วยข้นตรงของหน่วย
ี
ึ
ิ
ี
้
ั
ั
• ปดบรรจกองบงคบกำรและกองรอยกอง สงครำมพิเศษ ประกอบด้วย กองบัญชำกำร เป็นหน่วยตรวจโรค ปรับกองส่อสำร เป็น บังคับบัญชำ ประกอบด้วย กองพันรบพิเศษท่ ๒ กำรบรรจุอัตรำก�ำลังพล พัน.จจ. ร้อย.๓ บัญชำกำรสงครำมพิเศษ
ุ
ื
ี
บังคับกำร กรมรบพิเศษท่ ๒ และ และกองร้อยกองบัญชำกำร มีกองพลรบ แผนกส่อสำร กองบริกำรศูนย์สงครำมพิเศษ กรมรบพิเศษท่ ๒ และกองพันปฏิบัติกำร จ�ำนวน ๑๕ นำย และให้ผู้บังคับหน่วยด�ำรง
ี
ื
ี
ี
กองพันรบพิเศษท่ ๑ พิเศษท่ ๑เป็นส่วนก�ำลังรบ และเพ่มแผนกกรรมวิธีข้อมูลข้น จิตวิทยำ ต�ำแหน่ง ผู้บังคับกำรกรมรบพิเศษท่ ๓
ิ
ี
ึ
พ.ศ. ๒๕๔๓ พ.ศ. ๒๕๔๔ พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. ๒๕๕๓ พ.ศ. ๒๕๕๖
68 69
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
๖ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๔๔ หน่วย
บัญชำกำรสงครำมพิเศษ มอบกำรบังคับบัญชำ
กองพันจู่โจมและกองร้อยปฏิบัติกำรพิเศษ
(ฉก.๙๐) ให้เป็นหน่วยข้นตรง กรมรบพิเศษท่ ๓
ึ
ี
๑ เมษำยน ๒๕๔๔ ปรับกำรบังคับ
บัญชำ กองพันรบพิเศษท่ ๒ จำกหน่วยข้นตรง
ี
ึ
ึ
ี
กรมรบพิเศษท่ ๒ เป็นหน่วยข้นตรงของหน่วย
บัญชำกำรสงครำมพิเศษ
พ.ศ.๒๕๔๓ กองทัพบก ออกค�ำส่ง ลับ พ.ศ. ๒๕๔๔ กองทัพบกได้ออกค�ำส่ง ั
ั
ี
(เฉพำะ) ท่ ๑๒๔/๔๓ ลง ๑ พฤศจิกำยน ให้ชะลอ กำรปิดบรรจุก�ำลังพล กองบังคับกำร
ื
พ.ศ.๒๕๔๓ เร่องปิดกำรบรรจุและปรับกำร และกองร้อยกองบังคับกำร และกองร้อย พ.ศ. ๒๕๕๐ กองทัพบก ปรับแก้อัตรำ
บังคับบัญชำหน่วยรบพิเศษ ประจ�ำ สนับสนุนกำรช่วยรบ กรมรบพิเศษท่ ๒ พร้อม กำรยุทโธปกรณ์ คร้งท่ ๒ ปรับ “กองร้อย
ี
ี
ั
ปีงบประมำณ ๒๕๔๔ ตำมแผนกำรปรับปรุง กับปรับสำยกำรบังคับบัญชำ กรมรบพิเศษท่ ๒ ปฏิบัติกำรพิเศษ (ฉก.๙๐)” เป็น “กองปฏิบัต ิ
ี
โครงสร้ำง ทบ. ปี ๒๕๔๓ - ๒๕๕๐ ดังน ี ้
เป็นหน่วยข้นตรงหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ กำรพิเศษ” (กอง ปพ.)” และ ปรับปรุงอัตรำ
ึ
• ปิดกำรบรรจุก�ำลังพล รพศ.๓ พัน.๒ และให้กองพันรบพิเศษท่ ๒ (กองพันปฏิบัต ิ กำรจัดและยุทโธปกรณ์ของกรมรบพิเศษท่ ๒ พ.ศ. ๒๕๕๖ กองทัพบก ปรับกำรบังคับ
ี
ี
ื
• ปรบกำรบงคบบญชำกองพนจ่โจม กำรข่ำว ) กับกองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ เป็น โดยใช้ อจย.หมำยเลข ๓๓ -๑๐๑ พ. เม่อ บัญชำ กองพันรบพิเศษท่ ๑ กรมรบพิเศษท่ ๓
ั
ู
ั
ั
ั
ั
ี
ี
ึ
ี
ึ
จำกหน่วยข้นตรงหน่วยบัญชำกำร หน่วยข้นตรงของกรมรบพิเศษท่ ๒ ๑๓ กันยำยน ๒๕๕๐ ให้เป็น หน่วยข้นตรงกรมรบพิเศษท่ ๒
ึ
ี
ึ
สงครำมพิเศษ มำเป็นหน่วยข้นตรง เม่อ ๑๖ กันยำยน ๒๕๕๖ ปรับ
ื
กรมรบพิเศษท่ ๓ โครงสร้ำงหน่วยให้กรมรบพิเศษท่ ๒ ข้นกำร
ี
ึ
ี
• ปรับกำรบังคับบัญชำ กองร้อยปฏิบัติกำร พ.ศ. ๒๕๔๔ กองทัพบกออกค�ำส่งปิด ๑ สิงหำคม พ.ศ.๒๕๕๐ ศูนย์สงครำมพิเศษ พ.ศ.๒๕๕๑ ปรับโครงสร้ำงหน่วย บังคับบัญชำกับกองพลรบพิเศษท่ ๑ ตำมเดิม
ี
ั
พิเศษ (ฉก.๙๐) เดิมเป็นหน่วยข้นตรง กำรบรรจุ กองพลรบพิเศษท่ ๒ และโอนกำร ได้แก้ไขอัตรำเฉพำะกิจ หมำยเลข ๕๐๐๐ กรมรบพิเศษท่ ๒ เป็นกรมท่มีภำรกิจใน มีหน่วยในบังคับบัญชำประกอบด้วย รพศ.๒
ึ
ี
ี
ี
ึ
กองพันจู่โจม เป็นหน่วยข้นตรงกรมรบ บังคับบัญชำ กรมรบพิเศษท่ ๔ และกรมรบ ใหม่ โดยรวมกองยุทธกำร กองข่ำวและ กำรปฏิบัติกำรข่ำวลับ ปฏิบัติกำรจิตวิทยำ พัน.๑ (รพศ.๓ พัน.๑ เดิม) และ รพศ.๒ พัน.๒
ี
พิเศษท่ ๓ มีนำมหน่วยว่ำ “กองร้อย พิเศษท่ ๕ ให้กลับมำข้นกำรบังคับบัญชำกับ กองกิจกำร พลเรือน เข้ำด้วยกัน เรียกว่ำ และปฏิบัติกำรข่ำวสำร เป็นหน่วยข้นตรงกับ ปรับกองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
ี
ึ
ี
ึ
ปฏิบัติพิเศษ ” (ร้อย.ปพ.) กองพลรบพิเศษท่ ๑ ส่งผลให้หน่วยบัญชำกำร กองยุทธกำรและกำรข่ำว ปรับกองพยำบำล หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ มีหน่วยใน พ.ศ. ๒๕๕๓ กองทัพบก อนุมัติให้เปิด (พัน.ปจว.) เป็นหน่วยข้นตรงของหน่วย
ี
ึ
ี
ิ
ั
้
• ปดบรรจกองบงคบกำรและกองรอยกอง สงครำมพิเศษ ประกอบด้วย กองบัญชำกำร เป็นหน่วยตรวจโรค ปรับกองส่อสำร เป็น บังคับบัญชำ ประกอบด้วย กองพันรบพิเศษท่ ๒ กำรบรรจุอัตรำก�ำลังพล พัน.จจ. ร้อย.๓ บัญชำกำรสงครำมพิเศษ
ั
ุ
ื
ี
บังคับกำร กรมรบพิเศษท่ ๒ และ และกองร้อยกองบัญชำกำร มีกองพลรบ แผนกส่อสำร กองบริกำรศูนย์สงครำมพิเศษ กรมรบพิเศษท่ ๒ และกองพันปฏิบัติกำร จ�ำนวน ๑๕ นำย และให้ผู้บังคับหน่วยด�ำรง
ี
ื
ี
กองพันรบพิเศษท่ ๑ พิเศษท่ ๑เป็นส่วนก�ำลังรบ และเพ่มแผนกกรรมวิธีข้อมูลข้น จิตวิทยำ ต�ำแหน่ง ผู้บังคับกำรกรมรบพิเศษท่ ๓
ี
ึ
ิ
ี
พ.ศ. ๒๕๔๓ พ.ศ. ๒๕๔๔ พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. ๒๕๕๓ พ.ศ. ๒๕๕๖
68 69
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ื
๑๕ สิงหำคม ๒๕๖๒ กองทัพบกได้ออกค�ำส่ง (เฉพำะ) เร่อง
ั
ี
ั
ี
ี
ี
ั
ปรับเปล่ยนท่ต้งปกติถำวร โดยให้ ปรับเปล่ยนท่ต้ง บก.,ร้อย.บก.
รพศ.๒ และ รพศ.๒ พัน.๒ จำกเดิมค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช
ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ไปยังค่ำยเอรำวัณ ต.เขำสำมยอด
อ.เมือง จ.ลพบุรี เพ่อให้สำมำรถปฏิบัติงำนได้อย่ำงต่อเน่องและม ี
ื
ื
ประสิทธิภำพ สอดคล้องกับกำรปรับกำรบังคับบัญชำ กำรปรับกำร
จัดหน่วย และกำรปรับระดับควำมพร้อมรบของ นขต.นสศ.
๑๗ มกรำคม ๒๕๖๒ ก�ำลังพลของกรมรบพิเศษท่ ๓ (รพศ.๓)
ี
ี
กองพลรบพิเศษท่ ๑ ได้รับบรรจุในหน่วยเฉพำะกิจทหำรมหำดเล็ก
๙๐๔ (ฉก.ทม.๙๐๔ รพศ.๓ รอ.) และได้รับพระมหำกรุณำธิคุณ
พ.ศ. ๒๕๕๗ กองทัพบกอนุมัติให้แปรสภำพ โปรดเกล้ำให้เป็นหน่วยทหำรรักษำพระองค์ เม่อ ๒๔ เมษำยน
ื
“กองปฏิบัติกำรพิเศษ” เป็น “ กองพันปฏิบัต ิ พ.ศ.๒๕๖๒ กรมรบพิเศษท่ ๓ และหน่วยข้นตรง จึงแปรสภำพเป็น
ี
ึ
กำรพิเศษ ” ตำมค�ำส่งกองทัพบก (เฉพำะ) กรมรบพิเศษท่ ๓ รักษำพระองค์ (รพศ.๓ รอ.) มีหน่วยข้นตรง คือ
ั
ี
ึ
ลับท่ ๒๒/๕๗ ลง ๒๔ กรกฎำคม กองพันปฏิบัติกำรพิเศษ รักษำพระองค์ (พัน.ปพ.รอ.) และกองพัน
ี
พ.ศ. ๒๕๕๗ จู่โจมรักษำพระองค์ (พัน.จจ.รอ.)
พ.ศ. ๒๕๕๗ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๒
พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช พ.ศ.๒๕๖๐ หน่วยรบพิเศษ โดยกรมรบพิเศษท่ ๓ (รพศ.๓)
ี
มหิตลำธิเบศรรำมำธิบดี จักรีนฤบดินทร สยำมมินทรำธิรำช ได้จัดก�ำลังพลถวำยงำน พระบำทสมเด็จพระปรเมนทรรำมำธิบด ี
ี
ื
ี
บรมนำถบพิตร รัชกำลท่ ๙ แห่งรำชวงศ์จักรี เสด็จสวรรคต เม่อวัน ศรีสินทร มหำวชิรำลงกรณ พระวชิรเกล้ำเจ้ำอยู่หัว (รัชกำลท่ ๑๐)
ท่ ๑๓ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ โรงพยำบำลศิริรำช และพระบรมวงศำนุวงศ์ ทรงยิงปืนพก ณ สนำมยิงปืน กองพัน
ี
สิริพระชนมพรรษำปีท่ ๘๙ ทรงครองรำชย์สมบัติได้ ๗๐ ปี รัฐบำล ปฏิบัติกำรพิเศษ (พัน.ปพ.) รวมถึงกำรวำงก�ำลังในกำรรักษำควำม
ี
ื
ี
ี
ี
ประกำศให้สถำนท่รำชกำร รัฐวิสำหกิจ และสถำนศึกษำทุกแห่งลด ปลอดภัย ในวโรกำสท่ทรงเสด็จพ้นท่ จ.ลพบุรี ใน พ.ศ.๒๕๖๐ และ
ื
ึ
ั
ธงคร่งเสำ มีก�ำหนด ๓๐ วัน และให้ข้ำรำชกำรและพนักงำน เม่อ ๑ สิงหำคม ๒๕๖๐ ได้รับค�ำส่งจำกกองทัพบก ให้จัดก�ำลังพล
ิ
รัฐวิสำหกิจไว้ทุกข์ มีก�ำหนด ๑ ปี เร่มนับแต่วันท่ ๑๔ ตุลำคม นำยทหำรสัญญำบัตร ๘ นำย นำยทหำรช้นประทวน ๕๔ นำย
ั
ี
ี
พ.ศ. ๒๕๕๙ และพลทหำรกองประจ�ำกำร ๕๓ นำย จำกกรมรบพิเศษท่ ๓
(รพศ.๓) เข้ำรับกำรฝึกหลักสูตรทหำรรักษำพระองค์
70 71
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ื
๑๕ สิงหำคม ๒๕๖๒ กองทัพบกได้ออกค�ำส่ง (เฉพำะ) เร่อง
ั
ี
ั
ี
ี
ี
ั
ปรับเปล่ยนท่ต้งปกติถำวร โดยให้ ปรับเปล่ยนท่ต้ง บก.,ร้อย.บก.
รพศ.๒ และ รพศ.๒ พัน.๒ จำกเดิมค่ำยสมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช
ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ไปยังค่ำยเอรำวัณ ต.เขำสำมยอด
อ.เมือง จ.ลพบุรี เพ่อให้สำมำรถปฏิบัติงำนได้อย่ำงต่อเน่องและม ี
ื
ื
ประสิทธิภำพ สอดคล้องกับกำรปรับกำรบังคับบัญชำ กำรปรับกำร
จัดหน่วย และกำรปรับระดับควำมพร้อมรบของ นขต.นสศ.
๑๗ มกรำคม ๒๕๖๒ ก�ำลังพลของกรมรบพิเศษท่ ๓ (รพศ.๓)
ี
ี
กองพลรบพิเศษท่ ๑ ได้รับบรรจุในหน่วยเฉพำะกิจทหำรมหำดเล็ก
๙๐๔ (ฉก.ทม.๙๐๔ รพศ.๓ รอ.) และได้รับพระมหำกรุณำธิคุณ
พ.ศ. ๒๕๕๗ กองทัพบกอนุมัติให้แปรสภำพ โปรดเกล้ำให้เป็นหน่วยทหำรรักษำพระองค์ เม่อ ๒๔ เมษำยน
ื
“กองปฏิบัติกำรพิเศษ” เป็น “ กองพันปฏิบัต ิ พ.ศ.๒๕๖๒ กรมรบพิเศษท่ ๓ และหน่วยข้นตรง จึงแปรสภำพเป็น
ี
ึ
กำรพิเศษ ” ตำมค�ำส่งกองทัพบก (เฉพำะ) กรมรบพิเศษท่ ๓ รักษำพระองค์ (รพศ.๓ รอ.) มีหน่วยข้นตรง คือ
ั
ี
ึ
ลับท่ ๒๒/๕๗ ลง ๒๔ กรกฎำคม กองพันปฏิบัติกำรพิเศษ รักษำพระองค์ (พัน.ปพ.รอ.) และกองพัน
ี
พ.ศ. ๒๕๕๗ จู่โจมรักษำพระองค์ (พัน.จจ.รอ.)
พ.ศ. ๒๕๕๗ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๒
พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช พ.ศ.๒๕๖๐ หน่วยรบพิเศษ โดยกรมรบพิเศษท่ ๓ (รพศ.๓)
ี
มหิตลำธิเบศรรำมำธิบดี จักรีนฤบดินทร สยำมมินทรำธิรำช ได้จัดก�ำลังพลถวำยงำน พระบำทสมเด็จพระปรเมนทรรำมำธิบด ี
ี
ื
ี
บรมนำถบพิตร รัชกำลท่ ๙ แห่งรำชวงศ์จักรี เสด็จสวรรคต เม่อวัน ศรีสินทร มหำวชิรำลงกรณ พระวชิรเกล้ำเจ้ำอยู่หัว (รัชกำลท่ ๑๐)
ท่ ๑๓ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ โรงพยำบำลศิริรำช และพระบรมวงศำนุวงศ์ ทรงยิงปืนพก ณ สนำมยิงปืน กองพัน
ี
สิริพระชนมพรรษำปีท่ ๘๙ ทรงครองรำชย์สมบัติได้ ๗๐ ปี รัฐบำล ปฏิบัติกำรพิเศษ (พัน.ปพ.) รวมถึงกำรวำงก�ำลังในกำรรักษำควำม
ี
ื
ี
ี
ี
ประกำศให้สถำนท่รำชกำร รัฐวิสำหกิจ และสถำนศึกษำทุกแห่งลด ปลอดภัย ในวโรกำสท่ทรงเสด็จพ้นท่ จ.ลพบุรี ใน พ.ศ.๒๕๖๐ และ
ื
ึ
ั
ธงคร่งเสำ มีก�ำหนด ๓๐ วัน และให้ข้ำรำชกำรและพนักงำน เม่อ ๑ สิงหำคม ๒๕๖๐ ได้รับค�ำส่งจำกกองทัพบก ให้จัดก�ำลังพล
ิ
รัฐวิสำหกิจไว้ทุกข์ มีก�ำหนด ๑ ปี เร่มนับแต่วันท่ ๑๔ ตุลำคม นำยทหำรสัญญำบัตร ๘ นำย นำยทหำรช้นประทวน ๕๔ นำย
ั
ี
ี
พ.ศ. ๒๕๕๙ และพลทหำรกองประจ�ำกำร ๕๓ นำย จำกกรมรบพิเศษท่ ๓
(รพศ.๓) เข้ำรับกำรฝึกหลักสูตรทหำรรักษำพระองค์
70 71
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
สมรภูมิที่ส�าคัญ
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
72 73
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
สมรภูมิที่ส�าคัญ
หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
72 73
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ช่วงเวลาในการปฏิบัตการ ปราบปรามผู้มีอิทธิพล
ปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์
โครงการบางระจัน
ภาคตะวันออก
พ.ศ. ๒๔๙๘ – ๒๔๙๙ พ.ศ. ๒๕๐๐ – ๒๕๒๔ พ.ศ. ๒๕๐๑ – ๒๕๐๖
การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
การปฏิบัติการลับในกัมพูชา (แม้วแดง) ยุทธการชูชีพ (ภูข้เถ้า) การปฏิบัติการในสงครามเวียดนาม พ้นท่ภาคอีสาน การปฏิบัติการลับในลาว
ี
ื
ี
พ.ศ. ๒๕๑๓ – ๒๕๑๘ พ.ศ. ๒๕๑๑ – ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๑ พ.ศ. ๒๕๑๑ พ.ศ. ๒๕๐๘ – ๒๕๑๒ พ.ศ. ๒๕๐๓ – ๒๕๑๘
ยุทธการผาลาด ยุทธการภูขวาง ยุทธการสามชัย ยุทธการผาภูม ิ ยุทธการสองนา ยุทธการร่วมใจ ๑๐
พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๕ พ.ศ. ๒๕๑๗ พ.ศ. ๒๕๑๗ พ.ศ. ๒๕๑๙
ศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธ ี ยุทธการใต้ร่มเย็น ๙
ยุทธการช่องพระพลัย การปฏิบัติการในประเทศเมียนมา (TOC) ศปก.พล.รพศ.๑ (ช่องช้าง) โครงการ ๕๑๔ ยุทธการผาเมืองเผด็จศึก
พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๒๖ พ.ศ. ๒๕๒๕ พ.ศ. ๒๕๒๔ – ๒๕๒๙ พ.ศ. ๒๕๒๔ – ๒๕๒๕
ปฏิบัติการยุคแรก การปราบปรามยาเสพติด
การปฏิบัติการนอกประเทศ สนับสนุนการแก้ปัญหา ๓ จชต.
ื
การปราบปรามคอมมิวนิสต์ การปฏิบัติเพ่อมนุษยธรรม
�
ี
ยุทธการตาตูม ยุทธการชาราก ยุทธการช่องโอบก การปฏิบัติยุทธการป้องกันประเทศ การปฏิบัติการตามแผนไทยเสร สงครามดาเนินต่อ
�
ื
พ.ศ. ๒๕๒๘ พ.ศ. ๒๕๒๘ พ.ศ. ๒๕๒๙ การปฏิบัติการเพ่อสันติภาพ (ป้องกันชายแดน)
ั
การต่อสู้การก่อการร้าย การปฏิบัติการจิตวิทยาเสริมความม่นคง
74 75
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ช่วงเวลาในการปฏิบัตการ ปราบปรามผู้มีอิทธิพล
ปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์
โครงการบางระจัน
ภาคตะวันออก
พ.ศ. ๒๔๙๘ – ๒๔๙๙ พ.ศ. ๒๕๐๐ – ๒๕๒๔ พ.ศ. ๒๕๐๑ – ๒๕๐๖
การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
การปฏิบัติการลับในกัมพูชา (แม้วแดง) ยุทธการชูชีพ (ภูข้เถ้า) การปฏิบัติการในสงครามเวียดนาม พ้นท่ภาคอีสาน การปฏิบัติการลับในลาว
ี
ื
ี
พ.ศ. ๒๕๑๓ – ๒๕๑๘ พ.ศ. ๒๕๑๑ – ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๑ พ.ศ. ๒๕๑๑ พ.ศ. ๒๕๐๘ – ๒๕๑๒ พ.ศ. ๒๕๐๓ – ๒๕๑๘
ยุทธการผาลาด ยุทธการภูขวาง ยุทธการสามชัย ยุทธการผาภูม ิ ยุทธการสองนา ยุทธการร่วมใจ ๑๐
พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๕ พ.ศ. ๒๕๑๗ พ.ศ. ๒๕๑๗ พ.ศ. ๒๕๑๙
ศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธ ี ยุทธการใต้ร่มเย็น ๙
ยุทธการช่องพระพลัย การปฏิบัติการในประเทศเมียนมา (TOC) ศปก.พล.รพศ.๑ (ช่องช้าง) โครงการ ๕๑๔ ยุทธการผาเมืองเผด็จศึก
พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๒๗ พ.ศ. ๒๕๒๖ พ.ศ. ๒๕๒๕ พ.ศ. ๒๕๒๔ – ๒๕๒๙ พ.ศ. ๒๕๒๔ – ๒๕๒๕
ปฏิบัติการยุคแรก การปราบปรามยาเสพติด
การปฏิบัติการนอกประเทศ สนับสนุนการแก้ปัญหา ๓ จชต.
ื
การปราบปรามคอมมิวนิสต์ การปฏิบัติเพ่อมนุษยธรรม
�
ี
ยุทธการตาตูม ยุทธการชาราก ยุทธการช่องโอบก การปฏิบัติยุทธการป้องกันประเทศ การปฏิบัติการตามแผนไทยเสร สงครามดาเนินต่อ
�
ื
พ.ศ. ๒๕๒๘ พ.ศ. ๒๕๒๘ พ.ศ. ๒๕๒๙ การปฏิบัติการเพ่อสันติภาพ (ป้องกันชายแดน)
ั
การต่อสู้การก่อการร้าย การปฏิบัติการจิตวิทยาเสริมความม่นคง
74 75
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองกาลัง ๙๗๒
�
ยุทธการช่องบก ยุทธการร่มเกล้า นคก.๘๘ ศปสก. ไทย – ติมอร์ตะวันออก
พ.ศ. ๒๕๒๙ พ.ศ. ๒๕๓๑ พ.ศ. ๒๕๓๑ – ๒๕๓๖ พ.ศ. ๒๕๓๕ – ๒๕๓๖ พ.ศ. ๒๕๔๒ - ๒๕๔๗
่
การสนับสนุนภารกิจท การช่วยตัวประกัน เหตุการณ์บุกยึด
ี
เซียล่าเลโอน ยุทธการกูเต็งนาโยง ร้อยรบพิเศษ ๕๑ ชค.๔๓๒ เรือนจาสมุทรสาคร โรงพยาบาลศูนย์ราชบุร ี
�
พ.ศ. ๒๕๔๕ – ๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๔ พ.ศ. ๒๕๔๓ – ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๔๓ – ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๓ พ.ศ. ๒๕๔๓
�
ร้อย ช.ฉก.๙๗๕ กองกาลัง ๙๗๖
้
�
ไทย – อัฟกานิสถาน ไทย – อิรัก พตท. ถากระบอก บก.๙ กองกาลังสันติสุข ฉก.สันติสุข
�
พ.ศ. ๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๖ – ๒๕๔๙ พ.ศ. ๒๕๔๗ พ.ศ. ๒๕๔๘ – ๒๕๕๑ พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๗
�
ยุทธการปราสาทเขาพระวิหาร กองกาลัง ๙๘๐
การปฏิบัติการจิตวิทยา ศูนย์สันติสุข ปราสาทตาเมือน, ปราสาทตาควาย ไทย – ดาร์ฟ ู
พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔
ปฏิบัติการยุคแรก การปราบปรามยาเสพติด
การปฏิบัติการนอกประเทศ สนับสนุนการแก้ปัญหา ๓ จชต.
การปราบปรามคอมมิวนิสต์ การปฏิบัติเพ่อมนุษยธรรม
ื
ี
การปฏิบัติยุทธการป้องกันประเทศ การปฏิบัติการตามแผนไทยเสร
(ป้องกันชายแดน)
ื
การปฏิบัติการเพ่อสันติภาพ
การต่อสู้การก่อการร้าย การปฏิบัติการจิตวิทยาเสริมความม่นคง
ั
76 77
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
กองกาลัง ๙๗๒
�
ยุทธการช่องบก ยุทธการร่มเกล้า นคก.๘๘ ศปสก. ไทย – ติมอร์ตะวันออก
พ.ศ. ๒๕๒๙ พ.ศ. ๒๕๓๑ พ.ศ. ๒๕๓๑ – ๒๕๓๖ พ.ศ. ๒๕๓๕ – ๒๕๓๖ พ.ศ. ๒๕๔๒ - ๒๕๔๗
่
การสนับสนุนภารกิจท การช่วยตัวประกัน เหตุการณ์บุกยึด
ี
เซียล่าเลโอน ยุทธการกูเต็งนาโยง ร้อยรบพิเศษ ๕๑ ชค.๔๓๒ เรือนจาสมุทรสาคร โรงพยาบาลศูนย์ราชบุร ี
�
พ.ศ. ๒๕๔๕ – ๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๔ พ.ศ. ๒๕๔๓ – ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๔๓ – ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๓ พ.ศ. ๒๕๔๓
�
ร้อย ช.ฉก.๙๗๕ กองกาลัง ๙๗๖
้
�
ไทย – อัฟกานิสถาน ไทย – อิรัก พตท. ถากระบอก บก.๙ กองกาลังสันติสุข ฉก.สันติสุข
�
พ.ศ. ๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๖ – ๒๕๔๙ พ.ศ. ๒๕๔๗ พ.ศ. ๒๕๔๘ – ๒๕๕๑ พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๗
�
ยุทธการปราสาทเขาพระวิหาร กองกาลัง ๙๘๐
การปฏิบัติการจิตวิทยา ศูนย์สันติสุข ปราสาทตาเมือน, ปราสาทตาควาย ไทย – ดาร์ฟ ู
พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔
ปฏิบัติการยุคแรก การปราบปรามยาเสพติด
การปฏิบัติการนอกประเทศ สนับสนุนการแก้ปัญหา ๓ จชต.
การปราบปรามคอมมิวนิสต์ การปฏิบัติเพ่อมนุษยธรรม
ื
ี
การปฏิบัติยุทธการป้องกันประเทศ การปฏิบัติการตามแผนไทยเสร
(ป้องกันชายแดน)
ื
การปฏิบัติการเพ่อสันติภาพ
การต่อสู้การก่อการร้าย การปฏิบัติการจิตวิทยาเสริมความม่นคง
ั
76 77
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการยุคแรก
การปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายู (จคม.) การปราบปรามผู้มีอิทธิพลภาคตะวันออก
พ.ศ.๒๔๙๘ – พ.ศ.๒๔๙๙ พ.ศ.๒๕๐๑ - พ.ศ.๒๕๐๖
ี
กองร้อยผสม รุ่นท่ ๒ มี ร้อยโทถวิล กนิษฐดิษฐ์ เป็นผู้บังคับ สถานการณ์ จ. ชลบุรี และ จ.ระยอง โดยอ�ำพรำงว่ำเป็นกำรแสดงสมรรถภำพของ
กองรอย ร้อยโทจันทร์ ค�ำพันธ์ เป็นรอง ผู้บังคับกองร้อย มีก�ำลังพลทั้งสิ้น พ.ศ.๒๕๐๑ - พ.ศ.๒๕๐๖ เป็นห้วงเวลำของกำรปฏิวัติซึ่ง ทหำรพลร่มให้ประชำชนได้ชม โดยใช้ระยะเวลำ ๙ วัน ในกำรตรวจ
้
๑๑๐ นำย ไปผลัดเปลี่ยนกองร้อยผสมรุ่นที่ ๑ ตั้งแต่ ๒๓ กรกฎำคม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในฐำนะหัวหน้ำคณะรัฐประหำร ต้องกำร สอบภูมิประเทศ หำข่ำวสำรในพื้นที่ ประสำนงำนและวำงแผนกำร
๒๔๙๘ และเดินทำงกลับที่ตั้งปกติของหน่วย เมื่อ ๒๒ ตุลำคม ๒๔๙๘ ปฏิบัติ และเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหำคม ๒๕๐๒ ร้อยเอก รวมศักดิ์ ไชย
แกไขปญหำต่ำง ๆ ของชำติ โดยเฉพำะอย่ำงย่งอิทธิพลจำกกำร
ั
ิ
้
การจัดอาวุธยุทโธปกรณ์ คือ อำวุธประจ�ำกำยใช้ปืนสั้นบรรจุ ใชอำนำจในทำงมิชอบ หรือกำรปฏิบัติใดๆ ท่จะเป็นภัยคุกคำม โกมินทร์ ได้น�ำก�ำลังพลขึ้นเครื่องบินล�ำเลียงของกองทัพอำกำศ
ี
้
�
เอง ๘๗ (ปสบ.๘๗), ปืนเล็กยำวบรรจุเอง ๘๘ (ปลยบ.๘๘), อำวุธ ตอประชำชนและสังคมในประเทศ โดยกำรใช้มำตรกำรท่เฉียบ แบบ C-๔๗ จำกสนำมบินโคกกระเทียม จ.ลพบุรี มุ่งสู่ จ.ชลบุรี และ
่
ี
ประจ�ำหน่วยปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังขนำด ๕๗ มิลลิเมตร (ปรส.๕๗), ขำด รุนแรง ซึ่งในยุคที่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ บริหำรประเทศนั้น จ.ระยอง เพื่อกระโดดร่มลงยังจุดต่ำง ๆ ตำมแผนที่ก�ำหนดไว้ ทั้งหมด
้
�
ี
ั
เครื่องยิงลูกระเบิดขนำด ๖๐ มิลลิเมตร (ค.๖๐) รถยนต์บรรทุกขนำด เรียกกันว่ำเป็นยุคของ “อันธพำลผยอง” หรือ “ยุคมืด” โดยเฉพำะใน ๑๑ จุด และลำดตระเวนตรวจค้นเป้ำหมำยตำมท่กำหนดไวทนท ี
๒ ๑/๒ ตัน ๒ คัน, วิทยุติดต่อสื่อสำร AN/PRC ซึ่งใช้ได้ทั้งค�ำพูดและ กรุงเทพฯ ธนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เช่น ชลบุรี และระยอง มีหัวหน้ำ ซึ่งได้แก่ โรงงำน โรงเลื่อย ไร่อ้อย ไร่มันส�ำปะหลัง และบริเวณที่สงสัย
ี
พ้นท่การขยายตัวของคอมมิวนิสต์ ทั้งกลำงวันและกลำงคืน
ื
ประมวลลับ กลุ่มอิทธิพลเป็นนำยทุนและหลงจู้ในเขต จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ได้น�ำ
ตั้งแต่เริ่มกำรปฏิบัติจนจบภำรกิจ ระยะเวลำ ๕ เดือน ๗ วัน คนงำนจำกภำคตะวันออกเฉียงเหนือไปกักขัง ใช้แรงงำนประดุจทำสที่ ผลการปฏิบัติ
ไม่มีกำรปะทะเกิดขึ้น ทั้งนี้เพรำะกองก�ำลังโจรจีนฯ พยำยำมหลีกเลี่ยง เรียกว่ำ “ค่ำยนรก”
ไม่ให้ปะทะกับเจ้ำหน้ำที่ เหตุกำรณ์มีเพียงต�ำรวจตระเวนชำยแดนถูก กำรปฏิบัติกำรขั้นแรก ใช้ระยะเวลำ ๑ เดือนเศษ ชุดปฏิบัติกำร
กองก�ำลังโจรจีนฯ ยิงเสียชีวิต ๑ นำยเท่ำนั้น การปฏิบัติ ทั้ง ๑๐ ชุด ไม่สำมำรถค้นพบเป้ำหมำย หรือสิ่งผิดกฎหมำยใดๆ ตำม
สถานการณ์ แผนที่ก�ำหนดไว้ เนื่องจำกข่ำวที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นข่ำวสำรมำกกว่ำ
จอมพล สฤษด์ ธนะรัชต์ ได้ส่งกำรให้ใช้ก�ำลงทหำร
ั
ั
ิ
พ.ศ.๒๔๙๗ โจรจีนคอมมิวนิสต์ในมลำยูได้หนีกำรปรำบปรำม ผลการปฏิบัติ จำก “กองพันทหำรพลร่ม” เข้ำท�ำกำรตรวจสอบและแก้ปัญหำ โดย ข่ำวกรอง
ของรัฐบำลมลำยูข้ำมเขตแดนระหว่ำงประเทศไทยและสหรัฐมำลำย ู ประสบควำมส�ำเร็จเป็นอย่ำงดี เพรำะสำมำรถก�ำจัดกำรขยำย พันตรี เทียนชัย สิริสัมพันธ์ ผู้บังคับกองพันทหำรพลร่ม ได้สั่งใช้ก�ำลัง กำรปฏิบัติกำรขั้นที่สอง ระยะเวลำประมำณ ๑๕ วัน ผู้บังคับ
ี
เข้ำมำอยู่ในประเทศไทย ในเขตท้องท่ อ.สะเดำ อ.หำดใหญ่ อิทธิพลของกองก�ำลังโจรจีนคอมมิวนิสต์ได้ตำมเป้ำหมำย ประชำชน ๑ กองร้อยทหำรพลร่ม เข้ำปฏิบัติกำร โดยมอบหมำยให้ ร้อยเอก กองร้อยทหำรพลร่ม จึงเปลี่ยนแผนกำรปฏิบัติใหม่ โดยสั่งกำรให้ชุด
กิ่ง อ.นำทวี จ.สงขลำ และ อ.เบตง อ.บันนังสตำร์ จ.ยะลำ แล้ว มีควำมเชื่อมั่นศรัทธำในเจ้ำหน้ำที่ของรัฐบำล และสำมำรถด�ำเนินชีวิต รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ เป็นผู้บังคับกองร้อย จัดก�ำลัง ๑๐ ชุดปฏิบัติ ปฏิบัติกำรทั้ง ๑๐ ชุด เคลื่อนที่ไปปฏิบัติกำรแถบชำยทะเล เข้ำจับกุม
ั
พยำยำมใช้วิธีเกล้ยกล่อมเชิญบังคับให้ ประชำชนจ�ำยอมให้ควำม ได้เป็นปกติสุข กำร ชุดปฏิบัติกำรละ ๑๒ นำย ประกอบด้วยทหำรพลร่ม ๑๐ นำย หวหนำกลมอิทธิพล รวมท้งผู้ต้องสงสัยว่ำเป็นมือปืนรับจ้ำงไปกักขัง
ี
่
ั
้
ุ
ี
สนับสนุน อุปกำระในทำงกำรเงิน เสบียงอำหำร และกำรสื่อสำรแจ้ง นำยทหำรเรือ ๑ นำย นำยต�ำรวจจำกค่ำยนเรศวร หัวหิน ๑ นำย และ ไว้ท่สถำนีต�ำรวจในท้องท่และสถำนีทหำรเรือสัตหีบ เพ่อให้ต�ำรวจ
ี
ื
ี
ี
ี
ข่ำวควำมเคลื่อนไหวของเจ้ำหน้ำที่ฝ่ำยปรำบปรำม ซึ่งสร้ำงควำมเดือด ผู้ได้รับเครื่องราชราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชุดตรวจสอบข่ำวอีก ๒ ชุด โดยก่อนกำรปฏิบัติกำร ได้จัดชุดตรวจ สันติบำลและเจ้ำหน้ำท่ท่เก่ยวข้องท�ำกำรสอบสวน นอกจำกน้นยัง
ั
ร้อนให้แก่ประชำชนในจังหวัดทั้งสอง และเป็นภัยต่อควำมมั่นคงของ ๑. พลโท สำโรจน์ รบบ�ำรุง สอบข่ำว ๒ ชุด ซึ่งมี ร้อยเอก ถวิล กนิษฐดิษฐ์ และ ร้อยโทศิวชัย จับกุม ไม้เถื่อน กัญชำ ของผิดกฎหมำยอื่น ๆ ส่งสถำนีต�ำรวจได้เป็น
ประเทศ วรทรัพย์ เป็นผู้บังคับชุด น�ำก�ำลังชุดตรวจสอบข่ำว กระโดดร่มลงที่ จ�ำนวนมำก อีกทั้งยังสำมำรถจับกุม ผู้มีอิทธิพลและอันธพำลหลำยคน
รวมทั้งพวกลักเล็กขโมยน้อยอีกจ�ำนวนหนึ่ง รวมเวลำในกำรปฏิบัติ
การปฏิบัติ กำรทั้งสิ้น ๖๖ วัน ซึ่งกำรปฏิบัติกำรในครั้งนี้นับว่ำประสบผลส�ำเร็จ
เป็นกำรลดอิทธิพลและกำรใช้อ�ำนำจมืดในภำคตะวันออกลงได้ระดับ
เมื่อ ๒๐ เมษำยน ๒๔๙๘ กองทัพบกมีค�ำสั่งให้ “กองพันทหำร
พลร่ม กองทัพที่ ๑” จัดก�ำลังไปปรำบปรำมกองโจรดังกล่ำว โดย หนึ่ง และ ชุดปฏิบัติกำรทั้ง ๑๐ ชุด ได้เดินทำงกลับที่ตั้ง จ. ลพบุรี โดย
ทำงรถยนต์ เมื่อ ๒๒ ตุลำคม ๒๕๐๒
ร้อยเอก เทียนชัย สิริสัมพันธ์ รองผู้บังคับกองพัน ท�ำกำรแทนผู้บังคับ
กองพัน ได้สั่งให้จัดก�ำลัง นำยทหำร, นำยสิบ และพลทหำร จำกทุก
หน่วยในกองพันทหำรพลร่ม ไปปฏิบัติภำรกิจปรำบปรำมกองโจรจีนฯ พลโท สาโรจน์ รบบ�ารุง
เรียกชื่อว่ำ “กองร้อยผสม” จ�ำนวน ๒ กองร้อย โดยส่งไปปฏิบัติกำร
ครั้งละ ๑ กองร้อย ดังนี้
กองร้อยผสม รุ่นที่ ๑ มี ร้อยเอกเอนก บุนยถี เป็นผู้บังคับกอง
ร้อยผสม ร้อยเอก เฉลิม พันธ์ทอง เป็นรองผู้บังคับกองร้อย มีก�ำลัง
ทั้งสิ้น ๑๐๓ นำย ปฏิบัติกำรตั้งแต่ ๑๕ พฤษภำคม ๒๔๙๘ ถึง ๒๒
กรกฎำคม ๒๔๙๘
78 79
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการยุคแรก
การปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายู (จคม.) การปราบปรามผู้มีอิทธิพลภาคตะวันออก
พ.ศ.๒๔๙๘ – พ.ศ.๒๔๙๙ พ.ศ.๒๕๐๑ - พ.ศ.๒๕๐๖
ี
กองร้อยผสม รุ่นท่ ๒ มี ร้อยโทถวิล กนิษฐดิษฐ์ เป็นผู้บังคับ สถานการณ์ จ. ชลบุรี และ จ.ระยอง โดยอ�ำพรำงว่ำเป็นกำรแสดงสมรรถภำพของ
กองรอย ร้อยโทจันทร์ ค�ำพันธ์ เป็นรอง ผู้บังคับกองร้อย มีก�ำลังพลทั้งสิ้น พ.ศ.๒๕๐๑ - พ.ศ.๒๕๐๖ เป็นห้วงเวลำของกำรปฏิวัติซึ่ง ทหำรพลร่มให้ประชำชนได้ชม โดยใช้ระยะเวลำ ๙ วัน ในกำรตรวจ
้
๑๑๐ นำย ไปผลัดเปลี่ยนกองร้อยผสมรุ่นที่ ๑ ตั้งแต่ ๒๓ กรกฎำคม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในฐำนะหัวหน้ำคณะรัฐประหำร ต้องกำร สอบภูมิประเทศ หำข่ำวสำรในพื้นที่ ประสำนงำนและวำงแผนกำร
๒๔๙๘ และเดินทำงกลับที่ตั้งปกติของหน่วย เมื่อ ๒๒ ตุลำคม ๒๔๙๘ ปฏิบัติ และเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหำคม ๒๕๐๒ ร้อยเอก รวมศักดิ์ ไชย
แกไขปญหำต่ำง ๆ ของชำติ โดยเฉพำะอย่ำงย่งอิทธิพลจำกกำร
ั
ิ
้
การจัดอาวุธยุทโธปกรณ์ คือ อำวุธประจ�ำกำยใช้ปืนสั้นบรรจุ ใชอำนำจในทำงมิชอบ หรือกำรปฏิบัติใดๆ ท่จะเป็นภัยคุกคำม โกมินทร์ ได้น�ำก�ำลังพลขึ้นเครื่องบินล�ำเลียงของกองทัพอำกำศ
ี
้
�
เอง ๘๗ (ปสบ.๘๗), ปืนเล็กยำวบรรจุเอง ๘๘ (ปลยบ.๘๘), อำวุธ ตอประชำชนและสังคมในประเทศ โดยกำรใช้มำตรกำรท่เฉียบ แบบ C-๔๗ จำกสนำมบินโคกกระเทียม จ.ลพบุรี มุ่งสู่ จ.ชลบุรี และ
่
ี
ประจ�ำหน่วยปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังขนำด ๕๗ มิลลิเมตร (ปรส.๕๗), ขำด รุนแรง ซึ่งในยุคที่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ บริหำรประเทศนั้น จ.ระยอง เพื่อกระโดดร่มลงยังจุดต่ำง ๆ ตำมแผนที่ก�ำหนดไว้ ทั้งหมด
้
�
ี
ั
เครื่องยิงลูกระเบิดขนำด ๖๐ มิลลิเมตร (ค.๖๐) รถยนต์บรรทุกขนำด เรียกกันว่ำเป็นยุคของ “อันธพำลผยอง” หรือ “ยุคมืด” โดยเฉพำะใน ๑๑ จุด และลำดตระเวนตรวจค้นเป้ำหมำยตำมท่กำหนดไวทนท ี
๒ ๑/๒ ตัน ๒ คัน, วิทยุติดต่อสื่อสำร AN/PRC ซึ่งใช้ได้ทั้งค�ำพูดและ กรุงเทพฯ ธนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เช่น ชลบุรี และระยอง มีหัวหน้ำ ซึ่งได้แก่ โรงงำน โรงเลื่อย ไร่อ้อย ไร่มันส�ำปะหลัง และบริเวณที่สงสัย
ี
พ้นท่การขยายตัวของคอมมิวนิสต์ ทั้งกลำงวันและกลำงคืน
ื
ประมวลลับ กลุ่มอิทธิพลเป็นนำยทุนและหลงจู้ในเขต จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ได้น�ำ
ตั้งแต่เริ่มกำรปฏิบัติจนจบภำรกิจ ระยะเวลำ ๕ เดือน ๗ วัน คนงำนจำกภำคตะวันออกเฉียงเหนือไปกักขัง ใช้แรงงำนประดุจทำสที่ ผลการปฏิบัติ
ไม่มีกำรปะทะเกิดขึ้น ทั้งนี้เพรำะกองก�ำลังโจรจีนฯ พยำยำมหลีกเลี่ยง เรียกว่ำ “ค่ำยนรก”
ไม่ให้ปะทะกับเจ้ำหน้ำที่ เหตุกำรณ์มีเพียงต�ำรวจตระเวนชำยแดนถูก กำรปฏิบัติกำรขั้นแรก ใช้ระยะเวลำ ๑ เดือนเศษ ชุดปฏิบัติกำร
กองก�ำลังโจรจีนฯ ยิงเสียชีวิต ๑ นำยเท่ำนั้น การปฏิบัติ ทั้ง ๑๐ ชุด ไม่สำมำรถค้นพบเป้ำหมำย หรือสิ่งผิดกฎหมำยใดๆ ตำม
สถานการณ์ แผนที่ก�ำหนดไว้ เนื่องจำกข่ำวที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นข่ำวสำรมำกกว่ำ
จอมพล สฤษด์ ธนะรัชต์ ได้ส่งกำรให้ใช้ก�ำลงทหำร
ั
ั
ิ
พ.ศ.๒๔๙๗ โจรจีนคอมมิวนิสต์ในมลำยูได้หนีกำรปรำบปรำม ผลการปฏิบัติ จำก “กองพันทหำรพลร่ม” เข้ำท�ำกำรตรวจสอบและแก้ปัญหำ โดย ข่ำวกรอง
ของรัฐบำลมลำยูข้ำมเขตแดนระหว่ำงประเทศไทยและสหรัฐมำลำย ู ประสบควำมส�ำเร็จเป็นอย่ำงดี เพรำะสำมำรถก�ำจัดกำรขยำย พันตรี เทียนชัย สิริสัมพันธ์ ผู้บังคับกองพันทหำรพลร่ม ได้สั่งใช้ก�ำลัง กำรปฏิบัติกำรขั้นที่สอง ระยะเวลำประมำณ ๑๕ วัน ผู้บังคับ
ี
เข้ำมำอยู่ในประเทศไทย ในเขตท้องท่ อ.สะเดำ อ.หำดใหญ่ อิทธิพลของกองก�ำลังโจรจีนคอมมิวนิสต์ได้ตำมเป้ำหมำย ประชำชน ๑ กองร้อยทหำรพลร่ม เข้ำปฏิบัติกำร โดยมอบหมำยให้ ร้อยเอก กองร้อยทหำรพลร่ม จึงเปลี่ยนแผนกำรปฏิบัติใหม่ โดยสั่งกำรให้ชุด
กิ่ง อ.นำทวี จ.สงขลำ และ อ.เบตง อ.บันนังสตำร์ จ.ยะลำ แล้ว มีควำมเชื่อมั่นศรัทธำในเจ้ำหน้ำที่ของรัฐบำล และสำมำรถด�ำเนินชีวิต รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ เป็นผู้บังคับกองร้อย จัดก�ำลัง ๑๐ ชุดปฏิบัติ ปฏิบัติกำรทั้ง ๑๐ ชุด เคลื่อนที่ไปปฏิบัติกำรแถบชำยทะเล เข้ำจับกุม
ั
พยำยำมใช้วิธีเกล้ยกล่อมเชิญบังคับให้ ประชำชนจ�ำยอมให้ควำม ได้เป็นปกติสุข กำร ชุดปฏิบัติกำรละ ๑๒ นำย ประกอบด้วยทหำรพลร่ม ๑๐ นำย หวหนำกลมอิทธิพล รวมท้งผู้ต้องสงสัยว่ำเป็นมือปืนรับจ้ำงไปกักขัง
ี
่
ั
้
ุ
ี
สนับสนุน อุปกำระในทำงกำรเงิน เสบียงอำหำร และกำรสื่อสำรแจ้ง นำยทหำรเรือ ๑ นำย นำยต�ำรวจจำกค่ำยนเรศวร หัวหิน ๑ นำย และ ไว้ท่สถำนีต�ำรวจในท้องท่และสถำนีทหำรเรือสัตหีบ เพ่อให้ต�ำรวจ
ี
ื
ี
ี
ี
ข่ำวควำมเคลื่อนไหวของเจ้ำหน้ำที่ฝ่ำยปรำบปรำม ซึ่งสร้ำงควำมเดือด ผู้ได้รับเครื่องราชราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชุดตรวจสอบข่ำวอีก ๒ ชุด โดยก่อนกำรปฏิบัติกำร ได้จัดชุดตรวจ สันติบำลและเจ้ำหน้ำท่ท่เก่ยวข้องท�ำกำรสอบสวน นอกจำกน้นยัง
ั
ร้อนให้แก่ประชำชนในจังหวัดทั้งสอง และเป็นภัยต่อควำมมั่นคงของ ๑. พลโท สำโรจน์ รบบ�ำรุง สอบข่ำว ๒ ชุด ซึ่งมี ร้อยเอก ถวิล กนิษฐดิษฐ์ และ ร้อยโทศิวชัย จับกุม ไม้เถื่อน กัญชำ ของผิดกฎหมำยอื่น ๆ ส่งสถำนีต�ำรวจได้เป็น
ประเทศ วรทรัพย์ เป็นผู้บังคับชุด น�ำก�ำลังชุดตรวจสอบข่ำว กระโดดร่มลงที่ จ�ำนวนมำก อีกทั้งยังสำมำรถจับกุม ผู้มีอิทธิพลและอันธพำลหลำยคน
รวมทั้งพวกลักเล็กขโมยน้อยอีกจ�ำนวนหนึ่ง รวมเวลำในกำรปฏิบัติ
การปฏิบัติ กำรทั้งสิ้น ๖๖ วัน ซึ่งกำรปฏิบัติกำรในครั้งนี้นับว่ำประสบผลส�ำเร็จ
เป็นกำรลดอิทธิพลและกำรใช้อ�ำนำจมืดในภำคตะวันออกลงได้ระดับ
เมื่อ ๒๐ เมษำยน ๒๔๙๘ กองทัพบกมีค�ำสั่งให้ “กองพันทหำร
พลร่ม กองทัพที่ ๑” จัดก�ำลังไปปรำบปรำมกองโจรดังกล่ำว โดย หนึ่ง และ ชุดปฏิบัติกำรทั้ง ๑๐ ชุด ได้เดินทำงกลับที่ตั้ง จ. ลพบุรี โดย
ทำงรถยนต์ เมื่อ ๒๒ ตุลำคม ๒๕๐๒
ร้อยเอก เทียนชัย สิริสัมพันธ์ รองผู้บังคับกองพัน ท�ำกำรแทนผู้บังคับ
กองพัน ได้สั่งให้จัดก�ำลัง นำยทหำร, นำยสิบ และพลทหำร จำกทุก
หน่วยในกองพันทหำรพลร่ม ไปปฏิบัติภำรกิจปรำบปรำมกองโจรจีนฯ พลโท สาโรจน์ รบบ�ารุง
เรียกชื่อว่ำ “กองร้อยผสม” จ�ำนวน ๒ กองร้อย โดยส่งไปปฏิบัติกำร
ครั้งละ ๑ กองร้อย ดังนี้
กองร้อยผสม รุ่นที่ ๑ มี ร้อยเอกเอนก บุนยถี เป็นผู้บังคับกอง
ร้อยผสม ร้อยเอก เฉลิม พันธ์ทอง เป็นรองผู้บังคับกองร้อย มีก�ำลัง
ทั้งสิ้น ๑๐๓ นำย ปฏิบัติกำรตั้งแต่ ๑๕ พฤษภำคม ๒๔๙๘ ถึง ๒๒
กรกฎำคม ๒๔๙๘
78 79
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการนอกประเทศ ปรับโอนควำมรับผิดชอบงำนกำรปฏิบัติทำงทหำร คือ โครงกำร ๗๒๐
ให้แก่ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ เมื่อเดือน ต.ค. ๒๕๒๗ และ
หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษได้มอบโอนควำมรับผิดชอบงำน
กำรปฏิบัติทำงทหำร โครงกำร ๗๒๐ (ซึ่งต่อมำปรับเปลี่ยนชื่อเป็น
การปฏิบัติการพิเศษในลาว โครงกำร ๒๗๔) ให้แก่กองพลรบพิเศษที่ ๑ (กรมรบพิเศษที่ ๒) โดย
ในช่วงแรก ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๗–๒๕๒๙ รับผิดชอบเฉพำะพื้นที่ ตั้งแต่
พ.ศ.๒๕๐๓ - พ.ศ. ๒๕๔๓ จ.เชียงรำยถึง จ.หนองคำย และต่อมำ พ.ศ. ๒๕๓๐ รับผิดชอบเฉพำะ
พื้นที่ ตั้งแต่ จ.หนองคำย จนถึง จ.อุบลรำชธำนี
๒ เม.ย. ๒๕๓๓ กองทัพบกได้อนุมัติโครงกำรไทยเสรีในทิศทำง
ร้อยเอกกองแล รองผู้บัญชำกำร กองก�ำลังพลร่มที่ ๒ ในวันที่ ๙ สิงหำคม ลำว (ใหม่) เรื่องอนุมัติกำรด�ำเนินงำนสงครำมนอกแบบด้ำนลำว และ
๒๕๐๓ ในฐำนะฝ่ำยนิยมควำมเป็นกลำงจำกรัฐบำลฝ่ำยขวำของลำว ให้หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ปรับโครงกำรไทยเสรีในส่วนของ
ั
ได้ส�ำเร็จ จำกน้นเหตุกำรณ์ในลำวย่งทวีควำมรุนแรงข้นตำมล�ำดบ ฐำนปฏิบัติกำรหน้ำ (ฐปน.) และโครงกำรพิเศษ ๒๗๔ เข้ำด้วยกัน เป็น
ึ
ั
ิ
ในที่สุด กองทัพขบวนกำรประเทศลำวน�ำโดยเจ้ำสุภำนุวงศ์ ก็สำมำรถ โครงกำรไทยเสรีในทิศทำงลำว โดยให้ปฏิบัติงำน ๖ โครงกำร ได้แก่
เวียดนาม ยดอำนำจกำรบริหำรประเทศ และกำรปกครองได้อย่ำงสมบูรณ์
ึ
�
เหนือ เมื่อ ๒๓ ส.ค.๒๕๑๘ โครงกำรกำรจัดตั้งและพัฒนำตัวแทน (อพถ.), โครงกำรจัดเตรียมพื้นที่
กำรรบ, โครงกำรจัดตั้งข่ำยปฏิบัติกำรลับ, โครงกำรปฏิบัติกำรข่ำว,
โครงกำรปฏิบัติกำรลับทำงกำรเมือง และ โครงกำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
การปฏิบัติของฝ่ายไทย โดย ฐปน. มีภำรกิจเตรียมกำรและด�ำเนินกำรสงครำมนอกแบบใน
ลาว
่
ี
ื
ั
้
ั
้
ื
้
รัฐบำลไทย ได้ให้กำรสนับสนุนทั้งทำงด้ำนกำรทหำร เศรษฐกิจ พนทระวงปองกันในทิศทำงด้ำนลำว เพ่อสนับสนุนแผนปองกน
ื
ั
ิ
ั
และสงคมจตวิทยำแก่ลำวเป็นระยะ ๆ และสุดท้ำยได้ตกลงจด ประเทศและขีดควำมสำมำรถของพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศพ้นท ่ ี
ี
ส่งก�ำลังทหำรเข้ำไปสนับสนุนรัฐบำลลำว ในลักษณะปิดลับ ระวังป้องกัน/ประเทศเป้ำหมำย จนก่อให้เกิดควำมเปล่ยนแปลง
ทั้งก�ำลังรบตำมแบบและหน่วยรบพิเศษ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๓ เป็นต้นมำ ระบบกำรปกครองที่มีปรัชญำ ลัทธิ และอุดมกำรณ์ที่ไม่เป็นภัย
โดยเริ่มแรก รัฐบำลไทยจัดตั้งเป็นส�ำนักงำนควบคุมกำรปฏิบัติงำน ต่อประเทศไทย โดยในแต่ละห้วงปี จะมีกำรปรับเปลี่ยนแผนงำนให้
ไทย ของก�ำลังจำกประเทศไทยในรำชอำณำจักรลำว ณ กรุงเวียงจันทน์ เหมำะสมตำมสถำนกำรณ์ และสอดคล้องกับนโยบำยของกองทัพบก
หลังจำกสถำนกำรณ์ในรำชอำณำจักรลำวทวีควำมรุนแรงขึ้น จึงปรับ ต่อมำใน พ.ศ.๒๕๔๒ มีกำรปรับควำมรับผิดชอบงำนในพื้นที่ระวัง
ย้ำยที่ตั้งส�ำนักงำนฯ มำอยู่ที่ จ.หนองคำย และเปลี่ยนชื่อเป็น บก.๓๓๓ ป้องกันทั้ง ๔ ทิศทำง คือประเทศ กัมพูชำ, ลำว, พม่ำ และมำเลเซีย
กัมพูชา และย้ำยไปตั้งที่ จ.อุดรธำนี ตำมล�ำดับ และแปรสภำพ เป็น บก.ผสม มำอยในแผนงำนป้องกันชำยแดน จึงได้ปรับยุบโครงกำร ๒๗๔
่
ู
เวียดนาม ๓๓๓ ใน พ.ศ. ๒๕๐๗ เพื่อเป็นหน่วยปฏิบัติกำรในสนำม มีหน้ำที่และ เข้ำร่วมในแผนงำนป้องกันชำยแดน เรียกว่ำ “โครงกำรไทยเสรี”
ใต ควำมรับผิดชอบรักษำควำมมั่นคงแห่งประเทศไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
กับรำชอำณำจักรลำว
จนเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ พรรคปฏิวัติประชำชนลำว ได้ยึดอ�ำนำจ
รัฐเปล่ยนแปลงกำรปกครองเป็นระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์โดย
ี
สมบูรณ์ จึงมีประชำชนลำวอพยพหลบหนีเข้ำมำประเทศไทยจ�ำนวน
มำก ในส่วนโครงกำร ๓๐๙ ซึ่งรับผิดชอบภำรกิจกำรปฏิบัติกำร
ลับทิศทำงด้ำนประเทศลำว ได้แก่ โครงกำรข่ำวลับ และโครงกำร
ปฏิบัติทำงทหำรในนำมของรัฐบำลไทยมำ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๓ มีที่
ตั้งที่ จ.อุดรธำนี ยังคงปฏิบัติงำนทำงด้ำนข่ำวลับ และทำงทหำร
สถานการณ์ ด้วยกำรจัดตั้งเสริมสร้ำงก�ำลังกลุ่มต่อต้ำน โดยด้ำนก�ำลังพล ได้จัด
สถำนกำรณ์ควำมไม่ปกติในประเทศลำว ซึ่งเดิมมีกำรปกครอง มำจำกส่วนต่ำง ๆ ของกองบัญชำกำรทหำรสูงสุดและกองทัพบก
ในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์เป็นประมุข ได้ขยำยตัว รวมทั้งจำกมิตรประเทศ บำงประเทศ เช่น ไต้หวัน เข้ำด�ำเนินกำร
เกดเปนสงครำมระหว่ำงรัฐบำลประเทศลำว ในสมัยท่เจ้ำมหำ ตำมภำรกิจ จนกระทั่งใน พ.ศ.๒๕๒๙ เนื่องจำกควำมรับผิดชอบต่อ
็
ี
ิ
ชีวิตสว่ำงวัฒนำขึ้นครองรำชย์ โดยเกิดกำรต่อสู้ทำงกำรเมืองระหว่ำง สถำนกำรณ์กำรป้องกันประเทศในพื้นที่ตำมแนวชำยแดน และนอก
ฝ่ำยขวำ (รัฐบำลพระรำชอำณำจักรลำว) น�ำโดยเจ้ำบุญอุ้ม ณ จ�ำปำ แนวชำยแดนออกไปหรือ “พื้นที่ระวังป้องกัน” ยังไม่มีแนวโน้มที่จะ
ศักดิ์ กับฝ่ำยซ้ำยในนำมแนวร่วมรักชำติลำว (ขบวนกำรประเทศลำว) ลดลง ประกอบกับกองทัพบก ได้อนุมัติจัดตั้งหน่วยบัญชำกำรสงครำม
น�ำโดยเจ้ำสุภำนุวงศ์ และฝ่ำยนิยมควำมเป็นกลำง น�ำโดยเจ้ำสุวรรณ พิเศษ เมื่อ ๒๔ ก.พ. ๒๕๒๖ ซึ่งเป็นหน่วยที่มีขีดควำมสำมำรถด้ำน
ภูมำ รัตนวงศำ จนกระทั่งสำมำรถจัดตั้งรัฐบำลสำมพรรคได้ส�ำเร็จที่ กำรปฏิบัติกำรพิเศษ อันครอบคลุมงำนด้ำนกำรข่ำวลับ สงครำม
นครเวียงจันทน์ แต่ก็เกิดกำรรัฐประหำรและยึดเวียงจันทน์โดย นอกแบบ กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบขึ้น จึงมีกำร
80 81
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการนอกประเทศ ปรับโอนควำมรับผิดชอบงำนกำรปฏิบัติทำงทหำร คือ โครงกำร ๗๒๐
ให้แก่ หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ เมื่อเดือน ต.ค. ๒๕๒๗ และ
หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษได้มอบโอนควำมรับผิดชอบงำน
กำรปฏิบัติทำงทหำร โครงกำร ๗๒๐ (ซึ่งต่อมำปรับเปลี่ยนชื่อเป็น
การปฏิบัติการพิเศษในลาว โครงกำร ๒๗๔) ให้แก่กองพลรบพิเศษที่ ๑ (กรมรบพิเศษที่ ๒) โดย
ในช่วงแรก ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๗–๒๕๒๙ รับผิดชอบเฉพำะพื้นที่ ตั้งแต่
พ.ศ.๒๕๐๓ - พ.ศ. ๒๕๔๓ จ.เชียงรำยถึง จ.หนองคำย และต่อมำ พ.ศ. ๒๕๓๐ รับผิดชอบเฉพำะ
พื้นที่ ตั้งแต่ จ.หนองคำย จนถึง จ.อุบลรำชธำนี
๒ เม.ย. ๒๕๓๓ กองทัพบกได้อนุมัติโครงกำรไทยเสรีในทิศทำง
ร้อยเอกกองแล รองผู้บัญชำกำร กองก�ำลังพลร่มที่ ๒ ในวันที่ ๙ สิงหำคม ลำว (ใหม่) เรื่องอนุมัติกำรด�ำเนินงำนสงครำมนอกแบบด้ำนลำว และ
๒๕๐๓ ในฐำนะฝ่ำยนิยมควำมเป็นกลำงจำกรัฐบำลฝ่ำยขวำของลำว ให้หน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ ปรับโครงกำรไทยเสรีในส่วนของ
ั
ได้ส�ำเร็จ จำกน้นเหตุกำรณ์ในลำวย่งทวีควำมรุนแรงข้นตำมล�ำดบ ฐำนปฏิบัติกำรหน้ำ (ฐปน.) และโครงกำรพิเศษ ๒๗๔ เข้ำด้วยกัน เป็น
ึ
ั
ิ
ในที่สุด กองทัพขบวนกำรประเทศลำวน�ำโดยเจ้ำสุภำนุวงศ์ ก็สำมำรถ โครงกำรไทยเสรีในทิศทำงลำว โดยให้ปฏิบัติงำน ๖ โครงกำร ได้แก่
เวียดนาม ยดอำนำจกำรบริหำรประเทศ และกำรปกครองได้อย่ำงสมบูรณ์
ึ
�
เหนือ เมื่อ ๒๓ ส.ค.๒๕๑๘ โครงกำรกำรจัดตั้งและพัฒนำตัวแทน (อพถ.), โครงกำรจัดเตรียมพื้นที่
กำรรบ, โครงกำรจัดตั้งข่ำยปฏิบัติกำรลับ, โครงกำรปฏิบัติกำรข่ำว,
โครงกำรปฏิบัติกำรลับทำงกำรเมือง และ โครงกำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
การปฏิบัติของฝ่ายไทย โดย ฐปน. มีภำรกิจเตรียมกำรและด�ำเนินกำรสงครำมนอกแบบใน
ลาว
่
ี
ื
ั
้
ั
้
ื
้
รัฐบำลไทย ได้ให้กำรสนับสนุนทั้งทำงด้ำนกำรทหำร เศรษฐกิจ พนทระวงปองกันในทิศทำงด้ำนลำว เพ่อสนับสนุนแผนปองกน
ื
ั
ิ
ั
และสงคมจตวิทยำแก่ลำวเป็นระยะ ๆ และสุดท้ำยได้ตกลงจด ประเทศและขีดควำมสำมำรถของพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศพ้นท ่ ี
ี
ส่งก�ำลังทหำรเข้ำไปสนับสนุนรัฐบำลลำว ในลักษณะปิดลับ ระวังป้องกัน/ประเทศเป้ำหมำย จนก่อให้เกิดควำมเปล่ยนแปลง
ทั้งก�ำลังรบตำมแบบและหน่วยรบพิเศษ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๓ เป็นต้นมำ ระบบกำรปกครองที่มีปรัชญำ ลัทธิ และอุดมกำรณ์ที่ไม่เป็นภัย
โดยเริ่มแรก รัฐบำลไทยจัดตั้งเป็นส�ำนักงำนควบคุมกำรปฏิบัติงำน ต่อประเทศไทย โดยในแต่ละห้วงปี จะมีกำรปรับเปลี่ยนแผนงำนให้
ไทย ของก�ำลังจำกประเทศไทยในรำชอำณำจักรลำว ณ กรุงเวียงจันทน์ เหมำะสมตำมสถำนกำรณ์ และสอดคล้องกับนโยบำยของกองทัพบก
หลังจำกสถำนกำรณ์ในรำชอำณำจักรลำวทวีควำมรุนแรงขึ้น จึงปรับ ต่อมำใน พ.ศ.๒๕๔๒ มีกำรปรับควำมรับผิดชอบงำนในพื้นที่ระวัง
ย้ำยที่ตั้งส�ำนักงำนฯ มำอยู่ที่ จ.หนองคำย และเปลี่ยนชื่อเป็น บก.๓๓๓ ป้องกันทั้ง ๔ ทิศทำง คือประเทศ กัมพูชำ, ลำว, พม่ำ และมำเลเซีย
กัมพูชา และย้ำยไปตั้งที่ จ.อุดรธำนี ตำมล�ำดับ และแปรสภำพ เป็น บก.ผสม มำอยในแผนงำนป้องกันชำยแดน จึงได้ปรับยุบโครงกำร ๒๗๔
่
ู
เวียดนาม ๓๓๓ ใน พ.ศ. ๒๕๐๗ เพื่อเป็นหน่วยปฏิบัติกำรในสนำม มีหน้ำที่และ เข้ำร่วมในแผนงำนป้องกันชำยแดน เรียกว่ำ “โครงกำรไทยเสรี”
ใต ควำมรับผิดชอบรักษำควำมมั่นคงแห่งประเทศไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
กับรำชอำณำจักรลำว
จนเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ พรรคปฏิวัติประชำชนลำว ได้ยึดอ�ำนำจ
รัฐเปล่ยนแปลงกำรปกครองเป็นระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์โดย
ี
สมบูรณ์ จึงมีประชำชนลำวอพยพหลบหนีเข้ำมำประเทศไทยจ�ำนวน
มำก ในส่วนโครงกำร ๓๐๙ ซึ่งรับผิดชอบภำรกิจกำรปฏิบัติกำร
ลับทิศทำงด้ำนประเทศลำว ได้แก่ โครงกำรข่ำวลับ และโครงกำร
ปฏิบัติทำงทหำรในนำมของรัฐบำลไทยมำ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๓ มีที่
ตั้งที่ จ.อุดรธำนี ยังคงปฏิบัติงำนทำงด้ำนข่ำวลับ และทำงทหำร
สถานการณ์ ด้วยกำรจัดตั้งเสริมสร้ำงก�ำลังกลุ่มต่อต้ำน โดยด้ำนก�ำลังพล ได้จัด
สถำนกำรณ์ควำมไม่ปกติในประเทศลำว ซึ่งเดิมมีกำรปกครอง มำจำกส่วนต่ำง ๆ ของกองบัญชำกำรทหำรสูงสุดและกองทัพบก
ในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์เป็นประมุข ได้ขยำยตัว รวมทั้งจำกมิตรประเทศ บำงประเทศ เช่น ไต้หวัน เข้ำด�ำเนินกำร
เกดเปนสงครำมระหว่ำงรัฐบำลประเทศลำว ในสมัยท่เจ้ำมหำ ตำมภำรกิจ จนกระทั่งใน พ.ศ.๒๕๒๙ เนื่องจำกควำมรับผิดชอบต่อ
็
ี
ิ
ชีวิตสว่ำงวัฒนำขึ้นครองรำชย์ โดยเกิดกำรต่อสู้ทำงกำรเมืองระหว่ำง สถำนกำรณ์กำรป้องกันประเทศในพื้นที่ตำมแนวชำยแดน และนอก
ฝ่ำยขวำ (รัฐบำลพระรำชอำณำจักรลำว) น�ำโดยเจ้ำบุญอุ้ม ณ จ�ำปำ แนวชำยแดนออกไปหรือ “พื้นที่ระวังป้องกัน” ยังไม่มีแนวโน้มที่จะ
ศักดิ์ กับฝ่ำยซ้ำยในนำมแนวร่วมรักชำติลำว (ขบวนกำรประเทศลำว) ลดลง ประกอบกับกองทัพบก ได้อนุมัติจัดตั้งหน่วยบัญชำกำรสงครำม
น�ำโดยเจ้ำสุภำนุวงศ์ และฝ่ำยนิยมควำมเป็นกลำง น�ำโดยเจ้ำสุวรรณ พิเศษ เมื่อ ๒๔ ก.พ. ๒๕๒๖ ซึ่งเป็นหน่วยที่มีขีดควำมสำมำรถด้ำน
ภูมำ รัตนวงศำ จนกระทั่งสำมำรถจัดตั้งรัฐบำลสำมพรรคได้ส�ำเร็จที่ กำรปฏิบัติกำรพิเศษ อันครอบคลุมงำนด้ำนกำรข่ำวลับ สงครำม
นครเวียงจันทน์ แต่ก็เกิดกำรรัฐประหำรและยึดเวียงจันทน์โดย นอกแบบ กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบขึ้น จึงมีกำร
80 81
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการพิเศษในกัมพูชา การปฏิบัติของฝ่ายไทย ั วันที่ ๗ ม.ค.๒๕๒๒ ท�ำให้ปัญหำที่เผชิญอยู่เดิมได้ขยำยตัวเพิ่มขึ้น
กำรรุกเข้ำยึดครองกัมพูชำด้วยก�ำลังทหำรของเวียดนำมเม่อ
ื
เน่องด้วยสถำนกำรณ์ในสำธำรณรัฐเขมรท้งทำงทหำรและ
ื
ื
ึ
ิ
พ.ศ.๒๕๑๓ –๒๕๓๘ กำรเมืองผันแปรอย่ำงรวดเร็ว อันมีผลกระทบกระเทือนต่อควำมมั่ง เน่องจำกผู้อพยพจำกกัมพูชำหลบหนีเข้ำไทยเพ่มข้นนับเป็นจ�ำนวน
แสน เกิดขบวนกำรต่อต้ำนใหม่ของฝ่ำยเขมรแดง ท�ำกำรต่อสู้เพื่อขับ
คงของประเทศไทย เพื่อให้สำมำรถติดตำมคลี่คลำยสถำนกำรณ์ได้ ไล่ก�ำลังเวียดนำมออกจำกพื้นที่กัมพูชำ ท�ำให้งำนของ ศปก.ทบ.315
อย่ำงใกล้ชิดและต่อเน่องกองทัพบกจึงได้จัดต้งศูนย์ปฏิบัติกำรย่อย
ั
ื
ประชำธิปไตย” ประกอบด้วย ๑) กลุ่มมูลินำกำ (Moulinaka) หรือ ต้องขยำยขอบเขตออกไปกว้ำงขวำงมำกยิ่งขึ้น เพื่อควำมเหมำะสม
กลุ่มเจ้ำสีหนุ มีเจ้ำสีหนุเป็นประธำนำธิบดี ๒) กลุ่มเขมรเสรี มีนำย ขึ้นภำยใน ศปก.ทบ. ส�ำหรับรับสถำนกำรณ์ด้ำนเขมร ตำมค�ำสั่ง ทบ. และสอดคล้องกับสถำนกำรณ์ กำรด�ำเนินนโยบำยด้ำนควำมมั่นคง
เวียดนาม ซอนซำน เป็นนำยกรัฐมนตรี และ ๓) กลุ่มเขมรแดง มีนำยเขียว สัม (เฉพำะ) ลับ ที่ 41/13 เรื่อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติกำรย่อยรับสถำนกำรณ์ ในทิศทำงด้ำนกัมพูชำ ได้มีกำรจัดตั้งหน่วยงำนขึ้นมำรับผิดชอบโดย
เหนือ ด้ำนกัมพูชำ ลง 27 พ.ค. 13 ใช้ชื่อว่ำ “ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพบก
พัน เป็นรองนำยกรัฐมนตรี เพื่อต่อต้ำน รัฐบำลของนำยเฮง สัมริน ที่ เฉพำะ โดยแบ่งกำรบริหำรงำนเป็น ๓ ระดับ คือ ๑) ระดับนโยบำย
มีเวียดนำมหนุนหลังอยู่ และมีนำยฮุน เซน (สมเด็จฮุน เซน) เป็น 315”หรือ ศปก.ทบ.315 ๒) ระดับปฏิบัตินโยบำย และ ๓) ระดับคณะท�ำงำน ส�ำหรับองค์กร
ลาว นำยกรัฐมนตรี กำรสู้รบเพื่อขับไล่เวียดนำมให้ออกจำกกำรยึดครอง ศปก.ทบ.315 รับผิดชอบในกำรวำงแผนและเตรียมกำรในด้ำน ที่เป็นหน่วยปฏิบัติกำรทำงทหำร คือ” กองบัญชำกำรยุทธบริเวณ
กัมพูชำเกิดขึ้นอย่ำงต่อเนื่องเป็นเวลำประมำณ ๑๐ ปีเศษทั้งด้วย อื่นๆ นอกจำกงำนด้ำนกำรข่ำวและยุทธกำรตำมควำมรับผิดชอบ ด้ำนกัมพูชำ (บก.ยว.บูรพำ)” ซึ่งประกอบด้วย หน่วยปฏิบัติกำรลับ
ก�ำลังทหำรท�ำกำรรบแบบกองโจรและกำรต่อสู้ในเวทีสหประชำชำต ิ ของ ทบ. เพื่อสนองนโยบำยของรัฐบำล โดยปฏิบัติกำรในลักษณะ (นปพ.๘๓๘) และหน่วยสนับสนุน โดยปฏิบัติงำนคู่ขนำนไปกับคณะ
ี
จนในท่สุดสภำวะกำรณ์สงครำมเย็นได้ยุติลงสหภำพโซเวียตล่มสลำย ปฏิบัติภำรกิจลับนอกประเทศ จึงเป็นผลให้มีกำรจัดตั้งหน่วยงำน กรรมกำรระดับนโยบำย จนเมื่อ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๒๖ ศปก.ทบ.
ไทย เวียดนำมซ่งได้รับกำรสนับสนุนจำกโซเวียตจึงต้องยอมถอนทหำรออก ตำมโครงกำร 506 ขึ้นซึ่งได้จัดก�ำลัง ปฏิบัติงำนในโครงกำรย่อยต่ำง ๓๑๕ ได้โอนมอบโครงกำรปฏิบัติกำรลับทิศทำงกัมพูชำ ให้กับ นสศ.
ึ
ี
จำกกัมพูชำและมีกำรลงนำมในสนธิสัญญำท่กรุงปำรีสยุติกำรสู้รบใน ๆ นอกจำกนั้นฝ่ำยไทยได้จัดตั้งชุดวิทยุติดต่อประสำนงำนประจ�ำอยู่ (บก.๙๐๘ )รับผิดชอบต่อมำ
กัมพูชา
เวียดนาม กัมพูชำและจัดให้มีกำรเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ในเขมร ใน ๔ จังหวัดได้แก่ กรุงพนมเปญ , จว.เสียมรำฐ , จว.พระ
ใต หน่วยปฏิบัติกำรพิเศษ ๘๓๘ หรือนปพ.๘๓๘ ได้ปฏิบัติกำร
ตะบอง และ จว.กัมปงจำม(ต่อมำย้ำยมำจว.เกำะกง) กำรปฏิบัติงำน สงครำมนอกแบบอย่ำงเต็มรูปแบบสนับสนุนกำรท�ำสงครำมกองโจร
ของ บก.ควบคุม 506 ในยุคเริ่มแรกนั้นจึงเริ่มปฏิบัติงำนมำตั้งแต่ปี ในกัมพูชำ เพื่อบั่นทอน ยับยั้ง ท�ำลำยพลังอ�ำนำจก�ำลังรบของฝ่ำย
2514 จนถึง 17 เม.ย.2518 เมื่อเขมรแดงบุกเข้ำถึงกรุงพนมเปญ ตรงข้ำม ท�ำลำยควำมมุ่งหมำยของเวียดนำมที่จะเป็นภัยคุกคำมต่อ
และสำมำรถยึดอ�ำนำจกำรปกครองจำกรัฐบำล นำยพลลอน นอล ได้ ประเทศไทยให้หมดสิ้นลง โดยจัดก�ำลังหลักจำก กรมรบพิเศษที่ ๑
ส�ำเร็จ จึงต้องถอนก�ำลังกลับประเทศไทยโดยเร่งด่วน กำรปฏิบัติกำร และก�ำลังจำกหน่วยต่ำงๆในหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
สถานการณ์ ดังกล่ำวถือเป็นกำรปฏิบัติในลักษณะ“ตัวแทนหลังแนว” หรือ STAY
ั
ั
ี
ึ
– BEHIND AGENT ซึ่งหน่วยรบพิเศษได้จัดส่งก�ำลังพลเป็นบุคคลเข้ำ จนกระท่งมีกำรเปล่ยนแปลงสถำนกำรณ์คร้งใหญ่เกิดข้นใน
กัมพูชำเป็นดินแดนในอำรักขำของฝรั่งเศสตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๐๖ ร่วมกำรปฏิบัติด้วย โลกเม่อรัสเซียและประเทศบริวำรต้องล่มสลำยและถือเป็นกำรส้นสุด
ื
ิ
และต่อสู้จนได้รับเอกรำชอย่ำงสมบูรณ์ เมื่อวันที่ ๙ พ.ย. ๒๔๙๖ สงครำมเย็นในเวลำต่อมำ ท�ำให้กำรต่อสู้ในกัมพูชำยุติลง มีกำรเลือก
หลังจำกนั้น สถำนกำรณ์ในประเทศของกัมพูชำไม่มีเสถียรภำพ ต่อมำเกิดปัญหำที่ส�ำคัญ 2ประกำร คือ ปัญหำขบวนกำรต่อต้ำน ต้งท่วไปเกิดข้นในเวลำต่อมำจนกระท่งพัฒนำมำเป็นประเทศกัมพูชำ
ึ
ั
ั
ั
มำโดยตลอด นับตั้งแต่กำรปกครองโดยเจ้ำสีหนุ ซึ่งเป็นช่วงที่ลัทธิ กำรปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ของเขมรแดงและปัญหำ ผกค.ไทยซึ่ง ในปัจจุบัน ท�ำให้กองทัพบกต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและรูปแบบกำร
คอมมิวนิสต์ก�ำลังแพร่อิทธิพลเข้ำมำในอินโดจีน จนถูกยึดอ�ำนำจ ได้รับกำรสนับสนุนจำกเขมรแดงเข้ำปฏิบัติกำรต่อเป้ำหมำยในเขตไทย ปฏิบัติกำรพิเศษของหน่วยรบพิเศษให้สอดคล้องกับสถำนกำรณ์และ
โดยนำยพลลอน นอล ที่ได้รับกำรสนับสนุนจำกสหรัฐอเมริกำ ท�ำ แล้วถอนตัวกลับเข้ำกัมพูชำ ที่เรียกว่ำ องค์กำรเซียม ดังนั้น ศปก.ทบ. ภัยคุกคำมในขณะนั้นจนถึงปัจจุบัน
รัฐประหำรเปล่ยนกำรปกครองเป็นประชำธิปไตยแบบมีประธำนำธิบด ี 315 จึงเข้ำควบคุมอ�ำนวยกำรและชี้น�ำกำรปฏิบัติของขบวนกำรกลุ่ม
ี
ในเดือนมีนำคม พ.ศ.๒๕๑๓ แล้วก่อตั้งเป็น “สำธำรณรัฐกัมพูชำ” ต่อ ต่อต้ำนกัมพูชำ ตั้งแต่ต้นปี 2519 โดยมีชื่อโครงกำรปฏิบัติว่ำ “โครงกำ
มำ เมื่อวันที่ ๑๗ เมษำยน พ.ศ. ๒๕๑๘ กองก�ำลังฝ่ำยคอมมิวนิสต์ รอัลฟ่ำ 77” แต่กำรคุกคำมของผกค. ต่อพื้นที่ชำยแดนยังคงมีควำม
กัมพูชำหรือเขมรแดง น�ำโดยนำยพอล พต เข้ำยึดอ�ำนำจปกครอง รุนแรงมำกขึ้นกองทัพบกจึงสั่งกำรให้จัดตั้ง “ทหำรพรำน” ขึ้นเมื่อ
กัมพูชำได้ส�ำเร็จ และต้องกำรปรับปรุงระบบเศรษฐกิจของกัมพูชำเป็น เดือน มิถุนำยน 2521 เรียกชื่อรหัสว่ำ “โครงกำร513”
แบบสังคมนิยมพึ่งตนเอง เน้นกำรผลิตทำงเกษตรกรรม สร้ำงสังคม
ใหม่และปิดประเทศ ดังนั้น ระหว่ำง พ.ศ. ๒๕๑๘-๒๕๒๒ ซึ่งกัมพูชำ
ตกอยู่ในกำรปกครองของเขมรแดงเกิดควำมรุนแรงและมีประชำชน
เสียชีวิตจ�ำนวนมำก ที่เรียกว่ำ “ทุ่งสังหำร” จึงท�ำให้ชำวเขมรจ�ำนวน
มำกอพยพหนีควำมตำย และควำมอดอยำกเข้ำมำในเขตชำยแดนไทย
ตลอดแนวชำยแดน
๗ ม.ค. ๒๕๒๒ กองทัพเวียดนำมบุกเข้ำยึดครองกัมพูชำได้
ส�ำเร็จ มีกำรจัดตั้งรัฐบำลเฮง สัมริน ซึ่งเป็นหุ่นเชิดให้กับเวียดนำม
ท�ำให้นำยพอล พต ผู้น�ำเขมรแดงต้องน�ำกองก�ำลังเขมรแดงถอยร่น
กระจัดกระจำยมำประชิดตำมแนวชำยแดนกัมพูชำ-ไทย หลังจำก
นั้น พ.ศ. ๒๕๒๘ เกิดกำรรวมตัวของกลุ่มอ�ำนำจต่ำงๆ ทั้ง ๓ ฝ่ำย ใน
กัมพูชำ จัดตั้งรัฐบำลผสมเขมรสำมฝ่ำยขึ้น เรียกว่ำ “รัฐบำลกัมพูชำ
82 83
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการพิเศษในกัมพูชา การปฏิบัติของฝ่ายไทย ั วันที่ ๗ ม.ค.๒๕๒๒ ท�ำให้ปัญหำที่เผชิญอยู่เดิมได้ขยำยตัวเพิ่มขึ้น
กำรรุกเข้ำยึดครองกัมพูชำด้วยก�ำลังทหำรของเวียดนำมเม่อ
ื
เน่องด้วยสถำนกำรณ์ในสำธำรณรัฐเขมรท้งทำงทหำรและ
ื
ื
ึ
ิ
พ.ศ.๒๕๑๓ –๒๕๓๘ กำรเมืองผันแปรอย่ำงรวดเร็ว อันมีผลกระทบกระเทือนต่อควำมมั่ง เน่องจำกผู้อพยพจำกกัมพูชำหลบหนีเข้ำไทยเพ่มข้นนับเป็นจ�ำนวน
แสน เกิดขบวนกำรต่อต้ำนใหม่ของฝ่ำยเขมรแดง ท�ำกำรต่อสู้เพื่อขับ
คงของประเทศไทย เพื่อให้สำมำรถติดตำมคลี่คลำยสถำนกำรณ์ได้ ไล่ก�ำลังเวียดนำมออกจำกพื้นที่กัมพูชำ ท�ำให้งำนของ ศปก.ทบ.315
อย่ำงใกล้ชิดและต่อเน่องกองทัพบกจึงได้จัดต้งศูนย์ปฏิบัติกำรย่อย
ั
ื
ประชำธิปไตย” ประกอบด้วย ๑) กลุ่มมูลินำกำ (Moulinaka) หรือ ต้องขยำยขอบเขตออกไปกว้ำงขวำงมำกยิ่งขึ้น เพื่อควำมเหมำะสม
กลุ่มเจ้ำสีหนุ มีเจ้ำสีหนุเป็นประธำนำธิบดี ๒) กลุ่มเขมรเสรี มีนำย ขึ้นภำยใน ศปก.ทบ. ส�ำหรับรับสถำนกำรณ์ด้ำนเขมร ตำมค�ำสั่ง ทบ. และสอดคล้องกับสถำนกำรณ์ กำรด�ำเนินนโยบำยด้ำนควำมมั่นคง
เวียดนาม ซอนซำน เป็นนำยกรัฐมนตรี และ ๓) กลุ่มเขมรแดง มีนำยเขียว สัม (เฉพำะ) ลับ ที่ 41/13 เรื่อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติกำรย่อยรับสถำนกำรณ์ ในทิศทำงด้ำนกัมพูชำ ได้มีกำรจัดตั้งหน่วยงำนขึ้นมำรับผิดชอบโดย
เหนือ ด้ำนกัมพูชำ ลง 27 พ.ค. 13 ใช้ชื่อว่ำ “ศูนย์ปฏิบัติกำรกองทัพบก
พัน เป็นรองนำยกรัฐมนตรี เพื่อต่อต้ำน รัฐบำลของนำยเฮง สัมริน ที่ เฉพำะ โดยแบ่งกำรบริหำรงำนเป็น ๓ ระดับ คือ ๑) ระดับนโยบำย
มีเวียดนำมหนุนหลังอยู่ และมีนำยฮุน เซน (สมเด็จฮุน เซน) เป็น 315”หรือ ศปก.ทบ.315 ๒) ระดับปฏิบัตินโยบำย และ ๓) ระดับคณะท�ำงำน ส�ำหรับองค์กร
ลาว นำยกรัฐมนตรี กำรสู้รบเพื่อขับไล่เวียดนำมให้ออกจำกกำรยึดครอง ศปก.ทบ.315 รับผิดชอบในกำรวำงแผนและเตรียมกำรในด้ำน ที่เป็นหน่วยปฏิบัติกำรทำงทหำร คือ” กองบัญชำกำรยุทธบริเวณ
กัมพูชำเกิดขึ้นอย่ำงต่อเนื่องเป็นเวลำประมำณ ๑๐ ปีเศษทั้งด้วย อื่นๆ นอกจำกงำนด้ำนกำรข่ำวและยุทธกำรตำมควำมรับผิดชอบ ด้ำนกัมพูชำ (บก.ยว.บูรพำ)” ซึ่งประกอบด้วย หน่วยปฏิบัติกำรลับ
ก�ำลังทหำรท�ำกำรรบแบบกองโจรและกำรต่อสู้ในเวทีสหประชำชำต ิ ของ ทบ. เพื่อสนองนโยบำยของรัฐบำล โดยปฏิบัติกำรในลักษณะ (นปพ.๘๓๘) และหน่วยสนับสนุน โดยปฏิบัติงำนคู่ขนำนไปกับคณะ
ี
จนในท่สุดสภำวะกำรณ์สงครำมเย็นได้ยุติลงสหภำพโซเวียตล่มสลำย ปฏิบัติภำรกิจลับนอกประเทศ จึงเป็นผลให้มีกำรจัดตั้งหน่วยงำน กรรมกำรระดับนโยบำย จนเมื่อ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๒๖ ศปก.ทบ.
ไทย เวียดนำมซ่งได้รับกำรสนับสนุนจำกโซเวียตจึงต้องยอมถอนทหำรออก ตำมโครงกำร 506 ขึ้นซึ่งได้จัดก�ำลัง ปฏิบัติงำนในโครงกำรย่อยต่ำง ๓๑๕ ได้โอนมอบโครงกำรปฏิบัติกำรลับทิศทำงกัมพูชำ ให้กับ นสศ.
ึ
ี
จำกกัมพูชำและมีกำรลงนำมในสนธิสัญญำท่กรุงปำรีสยุติกำรสู้รบใน ๆ นอกจำกนั้นฝ่ำยไทยได้จัดตั้งชุดวิทยุติดต่อประสำนงำนประจ�ำอยู่ (บก.๙๐๘ )รับผิดชอบต่อมำ
กัมพูชา
เวียดนาม กัมพูชำและจัดให้มีกำรเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ในเขมร ใน ๔ จังหวัดได้แก่ กรุงพนมเปญ , จว.เสียมรำฐ , จว.พระ
ใต หน่วยปฏิบัติกำรพิเศษ ๘๓๘ หรือนปพ.๘๓๘ ได้ปฏิบัติกำร
ตะบอง และ จว.กัมปงจำม(ต่อมำย้ำยมำจว.เกำะกง) กำรปฏิบัติงำน สงครำมนอกแบบอย่ำงเต็มรูปแบบสนับสนุนกำรท�ำสงครำมกองโจร
ของ บก.ควบคุม 506 ในยุคเริ่มแรกนั้นจึงเริ่มปฏิบัติงำนมำตั้งแต่ปี ในกัมพูชำ เพื่อบั่นทอน ยับยั้ง ท�ำลำยพลังอ�ำนำจก�ำลังรบของฝ่ำย
2514 จนถึง 17 เม.ย.2518 เมื่อเขมรแดงบุกเข้ำถึงกรุงพนมเปญ ตรงข้ำม ท�ำลำยควำมมุ่งหมำยของเวียดนำมที่จะเป็นภัยคุกคำมต่อ
และสำมำรถยึดอ�ำนำจกำรปกครองจำกรัฐบำล นำยพลลอน นอล ได้ ประเทศไทยให้หมดสิ้นลง โดยจัดก�ำลังหลักจำก กรมรบพิเศษที่ ๑
ส�ำเร็จ จึงต้องถอนก�ำลังกลับประเทศไทยโดยเร่งด่วน กำรปฏิบัติกำร และก�ำลังจำกหน่วยต่ำงๆในหน่วยบัญชำกำรสงครำมพิเศษ
สถานการณ์ ดังกล่ำวถือเป็นกำรปฏิบัติในลักษณะ“ตัวแทนหลังแนว” หรือ STAY
ั
ี
ั
ึ
– BEHIND AGENT ซึ่งหน่วยรบพิเศษได้จัดส่งก�ำลังพลเป็นบุคคลเข้ำ จนกระท่งมีกำรเปล่ยนแปลงสถำนกำรณ์คร้งใหญ่เกิดข้นใน
กัมพูชำเป็นดินแดนในอำรักขำของฝรั่งเศสตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๐๖ ร่วมกำรปฏิบัติด้วย โลกเม่อรัสเซียและประเทศบริวำรต้องล่มสลำยและถือเป็นกำรส้นสุด
ื
ิ
และต่อสู้จนได้รับเอกรำชอย่ำงสมบูรณ์ เมื่อวันที่ ๙ พ.ย. ๒๔๙๖ สงครำมเย็นในเวลำต่อมำ ท�ำให้กำรต่อสู้ในกัมพูชำยุติลง มีกำรเลือก
หลังจำกนั้น สถำนกำรณ์ในประเทศของกัมพูชำไม่มีเสถียรภำพ ต่อมำเกิดปัญหำที่ส�ำคัญ 2ประกำร คือ ปัญหำขบวนกำรต่อต้ำน ต้งท่วไปเกิดข้นในเวลำต่อมำจนกระท่งพัฒนำมำเป็นประเทศกัมพูชำ
ึ
ั
ั
ั
มำโดยตลอด นับตั้งแต่กำรปกครองโดยเจ้ำสีหนุ ซึ่งเป็นช่วงที่ลัทธิ กำรปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ของเขมรแดงและปัญหำ ผกค.ไทยซึ่ง ในปัจจุบัน ท�ำให้กองทัพบกต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและรูปแบบกำร
คอมมิวนิสต์ก�ำลังแพร่อิทธิพลเข้ำมำในอินโดจีน จนถูกยึดอ�ำนำจ ได้รับกำรสนับสนุนจำกเขมรแดงเข้ำปฏิบัติกำรต่อเป้ำหมำยในเขตไทย ปฏิบัติกำรพิเศษของหน่วยรบพิเศษให้สอดคล้องกับสถำนกำรณ์และ
โดยนำยพลลอน นอล ที่ได้รับกำรสนับสนุนจำกสหรัฐอเมริกำ ท�ำ แล้วถอนตัวกลับเข้ำกัมพูชำ ที่เรียกว่ำ องค์กำรเซียม ดังนั้น ศปก.ทบ. ภัยคุกคำมในขณะนั้นจนถึงปัจจุบัน
รัฐประหำรเปล่ยนกำรปกครองเป็นประชำธิปไตยแบบมีประธำนำธิบด ี 315 จึงเข้ำควบคุมอ�ำนวยกำรและชี้น�ำกำรปฏิบัติของขบวนกำรกลุ่ม
ี
ในเดือนมีนำคม พ.ศ.๒๕๑๓ แล้วก่อตั้งเป็น “สำธำรณรัฐกัมพูชำ” ต่อ ต่อต้ำนกัมพูชำ ตั้งแต่ต้นปี 2519 โดยมีชื่อโครงกำรปฏิบัติว่ำ “โครงกำ
มำ เมื่อวันที่ ๑๗ เมษำยน พ.ศ. ๒๕๑๘ กองก�ำลังฝ่ำยคอมมิวนิสต์ รอัลฟ่ำ 77” แต่กำรคุกคำมของผกค. ต่อพื้นที่ชำยแดนยังคงมีควำม
กัมพูชำหรือเขมรแดง น�ำโดยนำยพอล พต เข้ำยึดอ�ำนำจปกครอง รุนแรงมำกขึ้นกองทัพบกจึงสั่งกำรให้จัดตั้ง “ทหำรพรำน” ขึ้นเมื่อ
กัมพูชำได้ส�ำเร็จ และต้องกำรปรับปรุงระบบเศรษฐกิจของกัมพูชำเป็น เดือน มิถุนำยน 2521 เรียกชื่อรหัสว่ำ “โครงกำร513”
แบบสังคมนิยมพึ่งตนเอง เน้นกำรผลิตทำงเกษตรกรรม สร้ำงสังคม
ใหม่และปิดประเทศ ดังนั้น ระหว่ำง พ.ศ. ๒๕๑๘-๒๕๒๒ ซึ่งกัมพูชำ
ตกอยู่ในกำรปกครองของเขมรแดงเกิดควำมรุนแรงและมีประชำชน
เสียชีวิตจ�ำนวนมำก ที่เรียกว่ำ “ทุ่งสังหำร” จึงท�ำให้ชำวเขมรจ�ำนวน
มำกอพยพหนีควำมตำย และควำมอดอยำกเข้ำมำในเขตชำยแดนไทย
ตลอดแนวชำยแดน
๗ ม.ค. ๒๕๒๒ กองทัพเวียดนำมบุกเข้ำยึดครองกัมพูชำได้
ส�ำเร็จ มีกำรจัดตั้งรัฐบำลเฮง สัมริน ซึ่งเป็นหุ่นเชิดให้กับเวียดนำม
ท�ำให้นำยพอล พต ผู้น�ำเขมรแดงต้องน�ำกองก�ำลังเขมรแดงถอยร่น
กระจัดกระจำยมำประชิดตำมแนวชำยแดนกัมพูชำ-ไทย หลังจำก
นั้น พ.ศ. ๒๕๒๘ เกิดกำรรวมตัวของกลุ่มอ�ำนำจต่ำงๆ ทั้ง ๓ ฝ่ำย ใน
กัมพูชำ จัดตั้งรัฐบำลผสมเขมรสำมฝ่ำยขึ้น เรียกว่ำ “รัฐบำลกัมพูชำ
82 83
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการในสงครามเวียดนาม เพื่อป้องกันกำรแทรกซึมทำงทะเลให้แก่สำธำรณรัฐเวียดนำม ก�ำลัง
ทำงเรือนี้มีชื่อว่ำ “หน่วยเรือซีฮอร์ส” (SEA HORSE) จนเมื่อ ๒๘
พ.ศ.๒๕๑๑ – ๒๕๑๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๐ คณะรัฐมนตรี ได้ลงมติอนุมัติหลักกำรให้ กระทรวง
ื
ื
กลำโหม จัดก�ำลังรบทำงพ้นดินเป็นหน่วยเฉพำะกิจไปช่วยเหลอ
สำธำรณรัฐเวียดนำม โดยจัด“กรมทหำรอำสำสมัคร” หรือ “หน่วย
สถานการณ์ ของสหรัฐฯบริเวณอ่ำวตังเกี๋ย เมื่อ ๒ สิงหำคม ๒๕๐๗ สหรัฐฯ จึงสั่ง จงอำงศึก” ซึ่งเป็นกองก�ำลังทหำรไทยหน่วยแรก ที่ปฏิบัติกำรรบใน
เวียดนำมตกเป็นอำณำนิคมของฝรั่งเศส ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๒๖ และ โจมตีทำงอำกำศอย่ำงจ�ำกัด เพื่อเป็นกำรตอบโต้เวียดนำมเหนือ และ เวียดนำม ต่อมำ พ.ศ.๒๕๑๑ กองทัพบกจึงจัดส่งหน่วยทหำรไปผลัด
เปลี่ยน คือ “กองพลทหำรอำสำสมัคร” หรือ “กองพลเสือด�ำ” อีก ๓
ได้รวมลำวกับกัมพูชำไว้ใต้กำรปกครอง ก่อตั้งเป็นอินโดจีนของฝรั่งเศส ส่งทหำรเข้ำร่วมปฏิบัติกำรเป็นจ�ำนวนถึง ๕๐๐,๐๐๐ คน ใน พ.ศ.๒๕๑๑ ผลัด ๆ ละ ๑ ปี ซึ่งทหำรไทยได้สร้ำงวีรกรรมและประสบชัยชนะใน
ใน พ.ศ. ๒๔๔๑ มีศูนย์กลำงกำรปกครองอยู่ที่กรุงไซง่อนเมื่อเกิด ซึ่งสหรัฐฯ ได้ทุ่มเททรัพยำกร ทั้งก�ำลังทหำร และใช้ยุทธวิธีต่ำง ๆ ใน หลำยสมรภูมิ
สงครำมโลกครั้งที่ ๒ ญี่ปุ่นได้เข้ำยึดครองอินโดจีน และมอบเอกรำช กำรสู้รบกับเวียดนำมเหนือและเวียดกง แต่ก็ไม่สำมำรถเอำชนะได้
ให้เวียดนำม ในเดือนมีนำคม พ.ศ. ๒๔๘๘ โดยเชิญพระจักรพรรดิ จึงต้องเจรจำยุติสงครำม เมื่อ ๒๗ มกรำคม ๒๕๑๖ หลังจำกสหรัฐฯ หน่วยรบพิเศษ ได้จัดส่งก�ำลังพลของกองรบพิเศษ (พลร่ม)
เบำได๋ (Bao Dai) ขึ้นเป็นประมุข เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครำม โฮจิมินห์ ถอนทหำรออกจำกเวียดนำมใต้แล้ว กำรสู้รบระหว่ำงเวียดนำมใต้ และหมวดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ จำกศูนย์สงครำมพิเศษ ร่วมปฏิบัติ
นักปฏิวัติชำวเวียดนำม จึงน�ำกองทัพเวียดมินห์ เข้ำยึดครองเวียดนำม กับเวียดนำมเหนือก็ยังคงด�ำเนินต่อไปจนถึง ๓๐ เมษำยน ๒๕๑๘ กำรกับ “หน่วยจงอำจศึก” ใน พ.ศ.๒๕๑๐ เดินทำงไปปฏิบัติหน้ำที่
และประกำศเอกรำช เมื่อ ๒ กันยำยน ๒๔๘๘ เปลี่ยนชื่อประเทศ เวียดนำมเหนือจึงมีชัยชนะต่อเวียดนำมใต้ และรวมประเทศเวียดนำม ที่ค่ำยแบร์แคต ของเวียดนำมใต้ ห่ำงจำกกรุงไซง่อนไปทำงทิศตะวัน
เวียดนำม เป็น “สำธำรณรัฐประชำธิปไตยเวียดนำม” เมื่อญี่ปุ่นได้ถอน ได้ส�ำเร็จ ออก ๓๐ กม. เมื่อปฏิบัติหน้ำที่ครบ ๑ ปี จึงเดินทำงกลับไทย และ
ทหำรออกไปจำกเวียดนำมแล้ว ฝรั่งเศสได้กลับเข้ำมำในเวียดนำมอีก ผลัดเปลี่ยนก�ำลังเป็น “กองพลเสือด�ำ” ใน พ.ศ.๒๕๑๑ โดยได้รับมอบ
จึงเกิดกำรสู้รบกับกองก�ำลังเวียดมินห์ และเวียดมินห์สำมำรถยึดป้อม การปฏิบัติของฝ่ายไทย ภำรกิจร่วมกับก�ำลังของกองทัพแห่งชำติสำธำรณรัฐเวียดนำม และ
เดียนเบียนฟู ซึ่งเป็นฐำนที่มั่นของฝรั่งเศสได้ส�ำเร็จ เมื่อ ๗ พฤษภำคม รัฐบำลสำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) ได้ขอควำมช่วย ชำติพันธมิตรต่ำงๆ ในพื้นที่เพ็งเล็งทำงยุทธวิธี ได้แก่ กำรช่วยเหลือ
๒๔๙๗ ฝรั่งเศสยอมเจรจำสงบศึกที่กรุงเจนีวำ (Jeneva) ส่งผลให้ เหลอทำงทหำร และทำงเศรษฐกิจจำกประเทศฝ่ำยโลกเสรี รัฐบำล ประชำชนเวียดนำมใต้ตำมโครงกำรสันติสุข ในเรื่องกำรรักษำพยำบำล
ื
เวียดนำมถูกแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ เวียดนำมเหนือ จัดกำรปกครอง ไทยและคณะรัฐมนตรีได้ลงมติรับหลักกำร ให้ควำมช่วยเหลอ กำรช่วยเหลือ พัฒนำ และกำรบริกำรชุมชนทั่วไป มีพื้นที่รับผิดชอบ
ื
แบบสังคมนิยม และเวียดนำมใต้จัดกำรปกครองแบบประชำธิปไตย แก่สำธำรณรัฐเวียดนำม เมื่อ ๒๑ กรกฎำคม ๒๕๐๗ โดยในระยะ จ�ำนวน ๒๔ หมู่บ้ำน ซึ่งก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ ได้ปฏิบัติหน้ำที่อย่ำง
โดยมีเส้นขนำนที่ ๑๗ เป็นเส้นแบ่งเขตแดน สหรัฐอเมริกำได้เข้ำมำ แรกให้ควำมช่วยเหลือเฉพำะด้ำนกำรฝึกนักบินไอพ่นแก่สำธำรณรัฐ
ั
้
ั
ั
ั
่
ี
เกยวของกบควำมขดแย้งในเวียดนำม ต้งแต่หลังสงครำมโลกคร้ง เวียดนำม จำกนั้นจึงส่งเจ้ำหน้ำที่นักบินและช่ำงไปช่วยเหลือปฏิบัติ
ที่ ๒ ตำมนโยบำยสกัดกั้นกำรขยำยตัวของคอมมิวนิสต์ในเอเชีย และ กำรในลกษณะหน่วยบินล�ำเลียง ช่อว่ำ “หน่วยบินล�ำเลียงทหำร
ั
ื
ได้ให้ควำมช่วยเหลือทำงเศรษฐกิจและกำรทหำรแก่เวียดนำมใต้ อำกำศไทยในสำธำรณรัฐเวียดนำม” หรือ “หน่วยบินวิคเตอร”
ี
่
เพื่อให้สำมำรถต้ำนทำนอิทธิพล และต่อสู้กับเวียดนำมเหนือ ซึ่งได้ (VICTORY) ต่อมำ พ.ศ.๒๕๐๙ รัฐบำลสำธำรณรัฐเวียดนำม ได้ขอรับ
รับควำมช่วยเหลือจำกสหภำพโซเวียต และจีน แต่จำกกำรบริหำร ควำมช่วยเหลือทำงทหำรจำกรัฐบำลไทยเพ่มเติม ซ่งรัฐบำลไทย
ิ
ึ
งำนที่ไม่มีประสิทธิภำพของรัฐบำลเวียดนำมใต้ น�ำโดยประธำนำธิบดี พจำรณำเห็นว่ำ ประเทศไทยจ�ำเป็นต้องส่งทหำรร่วมกับฝ่ำยโลก
ิ
โง ดินห์ เดียม ท�ำให้ประชำชนเกลียดชัง จัดตั้ง “แนวร่วมปลดแอก เสรี เพื่อพิทักษ์เสรีภำพ และควำมมั่นคงแห่งภูมิภำคเอเชียตะวัน
แห่งชำติ” หรือ “เวียดกง” เพ่อโค่นล้มรัฐบำล โดยใช้ยุทธวธกำร ออกเฉียงใต้ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อประเทศไทย จึงเริ่มส่งก�ำลังทำง
ื
ิ
ี
รบแบบสงครำมกองโจร กำรสู้รบระหว่ำงเวียดกงกับรัฐบำล ขยำย เรือของกองทัพเรือ ไปช่วยในกำรล�ำเลียง และเฝ้ำตรวจตำมชำยฝั่ง
ตัวอย่ำงกว้ำงขวำงในเวียดนำมใต้ จนกระทั่งเกิดเหตุกำรณ์โจมตีเรือรบ
ผู้ได้รับเหรีญกล้าหาญ
๑. พลเอก หำญ เพไทย
๒. พันโท ประยูร พุฒจรูญ
๓. พันตรี กัมปนำท เชื้อหน่วย
พลเอก หาญ เพไทย พันโท ประยูร พุฒจรูญ พันตรี กัมปนาท เชื้อหน่วย
84 85
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการในสงครามเวียดนาม เพื่อป้องกันกำรแทรกซึมทำงทะเลให้แก่สำธำรณรัฐเวียดนำม ก�ำลัง
ทำงเรือนี้มีชื่อว่ำ “หน่วยเรือซีฮอร์ส” (SEA HORSE) จนเมื่อ ๒๘
พ.ศ.๒๕๑๑ – ๒๕๑๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๐ คณะรัฐมนตรี ได้ลงมติอนุมัติหลักกำรให้ กระทรวง
ื
กลำโหม จัดก�ำลังรบทำงพ้นดินเป็นหน่วยเฉพำะกิจไปช่วยเหลอ
ื
สำธำรณรัฐเวียดนำม โดยจัด“กรมทหำรอำสำสมัคร” หรือ “หน่วย
สถานการณ์ ของสหรัฐฯบริเวณอ่ำวตังเกี๋ย เมื่อ ๒ สิงหำคม ๒๕๐๗ สหรัฐฯ จึงสั่ง จงอำงศึก” ซึ่งเป็นกองก�ำลังทหำรไทยหน่วยแรก ที่ปฏิบัติกำรรบใน
เวียดนำมตกเป็นอำณำนิคมของฝรั่งเศส ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๒๖ และ โจมตีทำงอำกำศอย่ำงจ�ำกัด เพื่อเป็นกำรตอบโต้เวียดนำมเหนือ และ เวียดนำม ต่อมำ พ.ศ.๒๕๑๑ กองทัพบกจึงจัดส่งหน่วยทหำรไปผลัด
เปลี่ยน คือ “กองพลทหำรอำสำสมัคร” หรือ “กองพลเสือด�ำ” อีก ๓
ได้รวมลำวกับกัมพูชำไว้ใต้กำรปกครอง ก่อตั้งเป็นอินโดจีนของฝรั่งเศส ส่งทหำรเข้ำร่วมปฏิบัติกำรเป็นจ�ำนวนถึง ๕๐๐,๐๐๐ คน ใน พ.ศ.๒๕๑๑ ผลัด ๆ ละ ๑ ปี ซึ่งทหำรไทยได้สร้ำงวีรกรรมและประสบชัยชนะใน
ใน พ.ศ. ๒๔๔๑ มีศูนย์กลำงกำรปกครองอยู่ที่กรุงไซง่อนเมื่อเกิด ซึ่งสหรัฐฯ ได้ทุ่มเททรัพยำกร ทั้งก�ำลังทหำร และใช้ยุทธวิธีต่ำง ๆ ใน หลำยสมรภูมิ
สงครำมโลกครั้งที่ ๒ ญี่ปุ่นได้เข้ำยึดครองอินโดจีน และมอบเอกรำช กำรสู้รบกับเวียดนำมเหนือและเวียดกง แต่ก็ไม่สำมำรถเอำชนะได้
ให้เวียดนำม ในเดือนมีนำคม พ.ศ. ๒๔๘๘ โดยเชิญพระจักรพรรดิ จึงต้องเจรจำยุติสงครำม เมื่อ ๒๗ มกรำคม ๒๕๑๖ หลังจำกสหรัฐฯ หน่วยรบพิเศษ ได้จัดส่งก�ำลังพลของกองรบพิเศษ (พลร่ม)
เบำได๋ (Bao Dai) ขึ้นเป็นประมุข เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครำม โฮจิมินห์ ถอนทหำรออกจำกเวียดนำมใต้แล้ว กำรสู้รบระหว่ำงเวียดนำมใต้ และหมวดปฏิบัติกำรจิตวิทยำ จำกศูนย์สงครำมพิเศษ ร่วมปฏิบัติ
นักปฏิวัติชำวเวียดนำม จึงน�ำกองทัพเวียดมินห์ เข้ำยึดครองเวียดนำม กับเวียดนำมเหนือก็ยังคงด�ำเนินต่อไปจนถึง ๓๐ เมษำยน ๒๕๑๘ กำรกับ “หน่วยจงอำจศึก” ใน พ.ศ.๒๕๑๐ เดินทำงไปปฏิบัติหน้ำที่
และประกำศเอกรำช เมื่อ ๒ กันยำยน ๒๔๘๘ เปลี่ยนชื่อประเทศ เวียดนำมเหนือจึงมีชัยชนะต่อเวียดนำมใต้ และรวมประเทศเวียดนำม ที่ค่ำยแบร์แคต ของเวียดนำมใต้ ห่ำงจำกกรุงไซง่อนไปทำงทิศตะวัน
เวียดนำม เป็น “สำธำรณรัฐประชำธิปไตยเวียดนำม” เมื่อญี่ปุ่นได้ถอน ได้ส�ำเร็จ ออก ๓๐ กม. เมื่อปฏิบัติหน้ำที่ครบ ๑ ปี จึงเดินทำงกลับไทย และ
ทหำรออกไปจำกเวียดนำมแล้ว ฝรั่งเศสได้กลับเข้ำมำในเวียดนำมอีก ผลัดเปลี่ยนก�ำลังเป็น “กองพลเสือด�ำ” ใน พ.ศ.๒๕๑๑ โดยได้รับมอบ
จึงเกิดกำรสู้รบกับกองก�ำลังเวียดมินห์ และเวียดมินห์สำมำรถยึดป้อม การปฏิบัติของฝ่ายไทย ภำรกิจร่วมกับก�ำลังของกองทัพแห่งชำติสำธำรณรัฐเวียดนำม และ
เดียนเบียนฟู ซึ่งเป็นฐำนที่มั่นของฝรั่งเศสได้ส�ำเร็จ เมื่อ ๗ พฤษภำคม รัฐบำลสำธำรณรัฐเวียดนำม (เวียดนำมใต้) ได้ขอควำมช่วย ชำติพันธมิตรต่ำงๆ ในพื้นที่เพ็งเล็งทำงยุทธวิธี ได้แก่ กำรช่วยเหลือ
๒๔๙๗ ฝรั่งเศสยอมเจรจำสงบศึกที่กรุงเจนีวำ (Jeneva) ส่งผลให้ เหลอทำงทหำร และทำงเศรษฐกิจจำกประเทศฝ่ำยโลกเสรี รัฐบำล ประชำชนเวียดนำมใต้ตำมโครงกำรสันติสุข ในเรื่องกำรรักษำพยำบำล
ื
เวียดนำมถูกแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ เวียดนำมเหนือ จัดกำรปกครอง ไทยและคณะรัฐมนตรีได้ลงมติรับหลักกำร ให้ควำมช่วยเหลอ กำรช่วยเหลือ พัฒนำ และกำรบริกำรชุมชนทั่วไป มีพื้นที่รับผิดชอบ
ื
แบบสังคมนิยม และเวียดนำมใต้จัดกำรปกครองแบบประชำธิปไตย แก่สำธำรณรัฐเวียดนำม เมื่อ ๒๑ กรกฎำคม ๒๕๐๗ โดยในระยะ จ�ำนวน ๒๔ หมู่บ้ำน ซึ่งก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ ได้ปฏิบัติหน้ำที่อย่ำง
โดยมีเส้นขนำนที่ ๑๗ เป็นเส้นแบ่งเขตแดน สหรัฐอเมริกำได้เข้ำมำ แรกให้ควำมช่วยเหลือเฉพำะด้ำนกำรฝึกนักบินไอพ่นแก่สำธำรณรัฐ
้
ั
ั
ั
เกยวของกบควำมขดแย้งในเวียดนำม ต้งแต่หลังสงครำมโลกคร้ง ั เวียดนำม จำกนั้นจึงส่งเจ้ำหน้ำที่นักบินและช่ำงไปช่วยเหลือปฏิบัติ
่
ี
ที่ ๒ ตำมนโยบำยสกัดกั้นกำรขยำยตัวของคอมมิวนิสต์ในเอเชีย และ กำรในลกษณะหน่วยบินล�ำเลียง ช่อว่ำ “หน่วยบินล�ำเลียงทหำร
ั
ื
ได้ให้ควำมช่วยเหลือทำงเศรษฐกิจและกำรทหำรแก่เวียดนำมใต้ อำกำศไทยในสำธำรณรัฐเวียดนำม” หรือ “หน่วยบินวิคเตอร”
ี
่
เพื่อให้สำมำรถต้ำนทำนอิทธิพล และต่อสู้กับเวียดนำมเหนือ ซึ่งได้ (VICTORY) ต่อมำ พ.ศ.๒๕๐๙ รัฐบำลสำธำรณรัฐเวียดนำม ได้ขอรับ
รับควำมช่วยเหลือจำกสหภำพโซเวียต และจีน แต่จำกกำรบริหำร ควำมช่วยเหลือทำงทหำรจำกรัฐบำลไทยเพ่มเติม ซ่งรัฐบำลไทย
ิ
ึ
งำนที่ไม่มีประสิทธิภำพของรัฐบำลเวียดนำมใต้ น�ำโดยประธำนำธิบดี พจำรณำเห็นว่ำ ประเทศไทยจ�ำเป็นต้องส่งทหำรร่วมกับฝ่ำยโลก
ิ
โง ดินห์ เดียม ท�ำให้ประชำชนเกลียดชัง จัดตั้ง “แนวร่วมปลดแอก เสรี เพื่อพิทักษ์เสรีภำพ และควำมมั่นคงแห่งภูมิภำคเอเชียตะวัน
แห่งชำติ” หรือ “เวียดกง” เพ่อโค่นล้มรัฐบำล โดยใช้ยุทธวธกำร ออกเฉียงใต้ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อประเทศไทย จึงเริ่มส่งก�ำลังทำง
ื
ี
ิ
รบแบบสงครำมกองโจร กำรสู้รบระหว่ำงเวียดกงกับรัฐบำล ขยำย เรือของกองทัพเรือ ไปช่วยในกำรล�ำเลียง และเฝ้ำตรวจตำมชำยฝั่ง
ตัวอย่ำงกว้ำงขวำงในเวียดนำมใต้ จนกระทั่งเกิดเหตุกำรณ์โจมตีเรือรบ
ผู้ได้รับเหรีญกล้าหาญ
๑. พลเอก หำญ เพไทย
๒. พันโท ประยูร พุฒจรูญ
๓. พันตรี กัมปนำท เชื้อหน่วย
พลเอก หาญ เพไทย พันโท ประยูร พุฒจรูญ พันตรี กัมปนาท เชื้อหน่วย
84 85
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการพิเศษในประเทศเมียนมา การปฏิบัติของฝ่ายไทย ี ึ
จำกสถำนกำรณ์ควำมไม่สงบท่เกิดข้นในประเทศเมียนมำ
พ.ศ.๒๕๒๗ ชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้ำนรัฐบำลเมียนมำ ส่วนใหญ่มีฐำนปฏิบัต ิ
กำรอยู่บริเวณแนวชำยแดน ไทย-เมียนมำ เมื่อเกิดกำรสู้รบก็จะเกิด
ผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นวงกว้ำง ไม่ว่ำจะเป็นกำรรุกล�้ำเข้ำมำ
สถานการณ์ ทั้งประกำศนโยบำยเป็นกลำง ไม่ติดต่อขอควำมช่วยเหลือจำกต่ำง ในเขตประเทศไทย กำรอพยพหนีภัยจำกกำรสู้รบของประชำชนจำก
ประเทศ อ�ำนำจกำรปกครองอยู่ที่สภำปฏิวัติ พม่ำจึงเปลี่ยนกำร
เมียนมำตกเป็นอำณำนิคมของอังกฤษอย่ำงสมบูรณ์ ประเทศเมียนมำ นอกจำกปัญหำผลกระทบจำกกำรสู้รบ ยังมีปัญหำ
ใน พ.ศ.๒๔๒๙ ซึ่งรัฐบำลอังกฤษเข้ำมำปกครองพม่ำโดยใช้นโยบำย ปกครองระบอบประชำธิปไตย เป็นระบบพรรคกำรเมืองเดียว คือ อื่นๆ อีก เช่น ปัญหำยำเสพติด ปัญหำค้ำอำวุธสงครำม และสินค้ำผิด
พรรคโครงกำรสังคมนิยมพม่ำ (Burma Socialist Program Party :
“แบ่งแยกและปกครอง” (divide and rule) โดยแบ่งแยกรัฐของ BSPP) จำกนั้น พ.ศ. ๒๕๓๑ ประชำชนพม่ำ ชุมนุมเดินขบวนเรียกร้อง กฎหมำยอื่นๆ
ชนกลุ่มน้อยออกจำกรัฐของชำวเมียนมำ และใช้ระบบกำรปกครอง ประชำธิปไตยจำกรัฐบำล โดยมีผู้น�ำคนส�ำคัญ คือ นำงอองซำน ซูจี กองทัพบก จึงได้จัดท�ำแผนป้องกันชำยแดน แผนยุทธกำรที่ ๑
ที่ต่ำงกันออกเป็น ๒ ส่วน คือ “เมียนมำแท้” (Burma proper) กับ จนมีผู้บำดเจ็บ ล้มตำย และถูกจับกุมเป็นจ�ำนวนมำก นักศึกษำหนีเข้ำ (ไทยเสรี) โดยจัดตั้ง กองบังคับกำรควบคุมที่ ๕ (บก.ควบคุม ๕) เป็น
“เขตชำยแดน” (Frontier Areas) หลังสงครำมโลกครั้งที่ ๒ อังกฤษ ป่ำไปอยู่กับชนกลุ่มน้อย ปัญหำควำมขัดแย้งทำงกำรเมืองกำรปกครอง หน่วยเฉพำะกิจตำมแผนป้องกันชำยแดนประจ�ำปีของกองทัพบก เป็น
ลงนำมคืนเอกรำชให้พม่ำในสนธิสัญญำ “แอตล่อองซำน” โดยม ี และกำรตอตำนรฐบำลจำกกองก�ำลังชนกลุ่มน้อยเผ่ำต่ำงๆ ตำมแนว หน่วยขึ้นกำรควบคุมบังคับบัญชำโดยตรง ของศูนย์ปฏิบัติกำรหน่วย
ี
ั
้
่
อองซำน เป็นนำยกรัฐมนตรีคนแรกของ “สหภำพเมียนมำ” และ ชำยแดน ยังคงด�ำเนินมำโดยตลอด ควำมพยำยำมที่จะปฏิรูปกำรเมือง บัญชำกำรสงครำมพิเศษ (ศปก.นสศ.) ซึ่งได้จัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติ
อองซำน ได้ลงนำมข้อตกลงในหนังสือสัญญำปำงหลวง ( ป๋ำงโหลง : จำกรูปแบบเผด็จกำรรัฐบำลทหำร มำเป็นรูปแบบประชำธิปไตย งำนตำมแผนยุทธกำรที่ ๑ (ไทยเสรี) ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๗ ซึ่งในช่วง
Panglong Agreement ) ซึ่ง ไม่ได้ระบุถึงสิทธิในกำรแยกตัวเป็น จึงประสบควำมส�ำเร็จใน ๗ พ.ย.๕๓ มีกำรเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ ๒๐ แรกใช้นำมหน่วยว่ำ “ฐำนปฏิบัติกำรหน้ำที่ ๓ (ฐปน.๓)” รับผิดชอบ
อิสระของสหพันธรัฐเทือกเขำ (United Hill People) แต่มีระบุไว้ ปี และ พ.ศ.๒๕๕๔ คณะรัฐบำลชุดแรกของเมียนมำ น�ำโดย อูเต็งเส่ง โดย กรมรบพิเศษที่ ๕ มีภำรกิจในกำรปฏิบัติกำรพิเศษ ในพื้นที่ระวัง
ในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศเมียนมำ ต่อมำ เดือนกรกฎำคม ประธำนำธิบดี ได้สำบำนตนเข้ำรับต�ำแหน่ง และปฏิรูปกำรเมืองเข้ำสู่ ป้องกัน และพื้นที่กำรรบด้ำนทิศตะวันตก ตั้งแต่ อ.แม่สำย จ.เชียงรำย
๒๔๙๐ อองซำนและคณะรัฐมนตรีถูกลอบสังหำร จำกนั้น ตะขิ่นนุ ควำมเป็นประชำธิปไตย โดยได้ด�ำเนินมำตรกำรต่ำงๆ หลำยเรื่อง และ ถง อ.อุ้มผำง จ.ตำก เพ่อสถำปนำควำมม่นคงตำมแนวชำยแดน
ึ
ื
ั
หรือ อูนุ ได้เป็นนำยกรัฐมนตรีแทน และประกำศใช้รัฐธรรมนูญ ๑๗ จัดตั้งศูนย์สันติภำพเมียนมำ (Myanmar Peace Center : MPC) สนับสนุนกำรปฏิบัติตำมแผนเผชิญเหตุ และแผนป้องกันประเทศ โดย
ตุลำคม ๒๔๙๐ โดยอังกฤษได้มอบเอกรำชให้แก่เมียนมำ แต่ยังรักษำ เพื่อเป็นตัวแทนในกำรเจรจำกับกลุ่มชำติพันธุ์ เพื่อสร้ำงสันติภำพใน ด�ำรงกำรติดต่อประสำนกำรปฏิบัติ กับกองก�ำลังป้องกันชำยแดนใน
สิทธิทำงกำรทหำรไว้ จนใน พ.ศ. ๒๕๐๐ อังกฤษได้มอบเอกรำชให้แก่ เมียนมำ จนเดือนตุลำคม ๒๕๕๘ ชนกลุ่มน้อย จ�ำนวน ๘ กลุ่ม พื้นที่รับผิดชอบ ต่อมำ เมื่อ ๑ มีนำคม ๒๕๓๗ – ๓๑ มีนำคม ๒๕๔๓
เมียนมำอย่ำงสมบูรณ์ แต่ อูนุได้ปฏิเสธที่จะให้ชนกลุ่มน้อยแยกตัวเป็น ยินยอมลงนำมยุติกำรสู้รบกับรัฐบำลเมียนมำ และเดือนกุมภำพันธ์ จึงได้เปลี่ยนนำมหน่วยเป็น “หน่วยเฉพำะกิจที่ ๙๕๓ (ฉก.๙๕๓)” ขึ้น
อิสระ ตำมข้อตกลงที่ท�ำไว้ จึงเกิดกบฏชนกลุ่มน้อยเผ่ำต่ำงๆ ตำมแนว ๒๕๖๑ กลุ่มพรรครัฐมอญใหม ่ กำรควบคุมกับส่วนโครงกำร ๓๑๑ ศปก.ทบ. และเปลี่ยนนำมหน่วย
ชำยแดน จำกควำมอ่อนแอและแตกแยกในพรรคกำรเมือง หลังจำก (NMSP) และกลุ่มสหภำพ เป็น “กองบังคับกำรควบคุมที่ ๕ (บก.ควบคุม ๕)” ตั้งแต่ ๑ เมษำยน
ที่ได้รับเอกรำชแล้ว เมียนมำจึงตกอยู่ในสภำพของสงครำมกำรเมือง ประชำธิปไตยลำหู่ (LDU) จึงลง ๒๕๔๓ จนถึงปัจจุบัน จนกระทั่ง เมื่อ ๑ ต.ค. ๒๕๕๑ กองทัพบก
จนเกิดกำรยึดอ�ำนำจโค่นล้มรัฐบำลอูนุ เมื่อ ๑ มีนำคม ๒๕๐๕ โดย นำมในข้อตกลงยุติกำรสู้รบกับ มอบหมำยให้ บก.ควบคุม ๕ รับผิดชอบพื้นที่เพิ่มเติมตั้งแต่ ตั้งแต่
พลเอกเนวิน ซึ่งเป็นสมัยรัฐบำลทหำร ปกครองแบบสังคมนิยม รวม อ.สังขละบุรี จ.กำญจนบุรี ถึง อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่
รัฐบำลเมียนมำ ด้วยเช่นกัน
รับผิดชอบของ บก.ควบคุม ๔ รับผิดชอบโดย กรมรบพิเศษที่ ๔
ื
ี
่
เนองจำก บก.ควบคุม ๔ ได้รับมอบหมำยให้รับผิดชอบพ้นท่ระวัง
ื
ป้องกันด้ำนประเทศมำเลเซีย เนื่องจำกสถำนกำรณ์ควำมรุนแรงใน
พื้นที่ ๓ จชต. ทวีควำมรุนแรงมำกขึ้น
86 87
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปฏิบัติการพิเศษในประเทศเมียนมา การปฏิบัติของฝ่ายไทย ี ึ
จำกสถำนกำรณ์ควำมไม่สงบท่เกิดข้นในประเทศเมียนมำ
พ.ศ.๒๕๒๗ ชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้ำนรัฐบำลเมียนมำ ส่วนใหญ่มีฐำนปฏิบัต ิ
กำรอยู่บริเวณแนวชำยแดน ไทย-เมียนมำ เมื่อเกิดกำรสู้รบก็จะเกิด
ผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นวงกว้ำง ไม่ว่ำจะเป็นกำรรุกล�้ำเข้ำมำ
สถานการณ์ ทั้งประกำศนโยบำยเป็นกลำง ไม่ติดต่อขอควำมช่วยเหลือจำกต่ำง ในเขตประเทศไทย กำรอพยพหนีภัยจำกกำรสู้รบของประชำชนจำก
ประเทศ อ�ำนำจกำรปกครองอยู่ที่สภำปฏิวัติ พม่ำจึงเปลี่ยนกำร
เมียนมำตกเป็นอำณำนิคมของอังกฤษอย่ำงสมบูรณ์ ประเทศเมียนมำ นอกจำกปัญหำผลกระทบจำกกำรสู้รบ ยังมีปัญหำ
ใน พ.ศ.๒๔๒๙ ซึ่งรัฐบำลอังกฤษเข้ำมำปกครองพม่ำโดยใช้นโยบำย ปกครองระบอบประชำธิปไตย เป็นระบบพรรคกำรเมืองเดียว คือ อื่นๆ อีก เช่น ปัญหำยำเสพติด ปัญหำค้ำอำวุธสงครำม และสินค้ำผิด
พรรคโครงกำรสังคมนิยมพม่ำ (Burma Socialist Program Party :
“แบ่งแยกและปกครอง” (divide and rule) โดยแบ่งแยกรัฐของ BSPP) จำกนั้น พ.ศ. ๒๕๓๑ ประชำชนพม่ำ ชุมนุมเดินขบวนเรียกร้อง กฎหมำยอื่นๆ
ชนกลุ่มน้อยออกจำกรัฐของชำวเมียนมำ และใช้ระบบกำรปกครอง ประชำธิปไตยจำกรัฐบำล โดยมีผู้น�ำคนส�ำคัญ คือ นำงอองซำน ซูจี กองทัพบก จึงได้จัดท�ำแผนป้องกันชำยแดน แผนยุทธกำรที่ ๑
ที่ต่ำงกันออกเป็น ๒ ส่วน คือ “เมียนมำแท้” (Burma proper) กับ จนมีผู้บำดเจ็บ ล้มตำย และถูกจับกุมเป็นจ�ำนวนมำก นักศึกษำหนีเข้ำ (ไทยเสรี) โดยจัดตั้ง กองบังคับกำรควบคุมที่ ๕ (บก.ควบคุม ๕) เป็น
“เขตชำยแดน” (Frontier Areas) หลังสงครำมโลกครั้งที่ ๒ อังกฤษ ป่ำไปอยู่กับชนกลุ่มน้อย ปัญหำควำมขัดแย้งทำงกำรเมืองกำรปกครอง หน่วยเฉพำะกิจตำมแผนป้องกันชำยแดนประจ�ำปีของกองทัพบก เป็น
ลงนำมคืนเอกรำชให้พม่ำในสนธิสัญญำ “แอตล่อองซำน” โดยม ี และกำรตอตำนรฐบำลจำกกองก�ำลังชนกลุ่มน้อยเผ่ำต่ำงๆ ตำมแนว หน่วยขึ้นกำรควบคุมบังคับบัญชำโดยตรง ของศูนย์ปฏิบัติกำรหน่วย
ี
ั
้
่
อองซำน เป็นนำยกรัฐมนตรีคนแรกของ “สหภำพเมียนมำ” และ ชำยแดน ยังคงด�ำเนินมำโดยตลอด ควำมพยำยำมที่จะปฏิรูปกำรเมือง บัญชำกำรสงครำมพิเศษ (ศปก.นสศ.) ซึ่งได้จัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติ
อองซำน ได้ลงนำมข้อตกลงในหนังสือสัญญำปำงหลวง ( ป๋ำงโหลง : จำกรูปแบบเผด็จกำรรัฐบำลทหำร มำเป็นรูปแบบประชำธิปไตย งำนตำมแผนยุทธกำรที่ ๑ (ไทยเสรี) ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๗ ซึ่งในช่วง
Panglong Agreement ) ซึ่ง ไม่ได้ระบุถึงสิทธิในกำรแยกตัวเป็น จึงประสบควำมส�ำเร็จใน ๗ พ.ย.๕๓ มีกำรเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ ๒๐ แรกใช้นำมหน่วยว่ำ “ฐำนปฏิบัติกำรหน้ำที่ ๓ (ฐปน.๓)” รับผิดชอบ
อิสระของสหพันธรัฐเทือกเขำ (United Hill People) แต่มีระบุไว้ ปี และ พ.ศ.๒๕๕๔ คณะรัฐบำลชุดแรกของเมียนมำ น�ำโดย อูเต็งเส่ง โดย กรมรบพิเศษที่ ๕ มีภำรกิจในกำรปฏิบัติกำรพิเศษ ในพื้นที่ระวัง
ในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศเมียนมำ ต่อมำ เดือนกรกฎำคม ประธำนำธิบดี ได้สำบำนตนเข้ำรับต�ำแหน่ง และปฏิรูปกำรเมืองเข้ำสู่ ป้องกัน และพื้นที่กำรรบด้ำนทิศตะวันตก ตั้งแต่ อ.แม่สำย จ.เชียงรำย
๒๔๙๐ อองซำนและคณะรัฐมนตรีถูกลอบสังหำร จำกนั้น ตะขิ่นนุ ควำมเป็นประชำธิปไตย โดยได้ด�ำเนินมำตรกำรต่ำงๆ หลำยเรื่อง และ ถง อ.อุ้มผำง จ.ตำก เพ่อสถำปนำควำมม่นคงตำมแนวชำยแดน
ึ
ื
ั
หรือ อูนุ ได้เป็นนำยกรัฐมนตรีแทน และประกำศใช้รัฐธรรมนูญ ๑๗ จัดตั้งศูนย์สันติภำพเมียนมำ (Myanmar Peace Center : MPC) สนับสนุนกำรปฏิบัติตำมแผนเผชิญเหตุ และแผนป้องกันประเทศ โดย
ตุลำคม ๒๔๙๐ โดยอังกฤษได้มอบเอกรำชให้แก่เมียนมำ แต่ยังรักษำ เพื่อเป็นตัวแทนในกำรเจรจำกับกลุ่มชำติพันธุ์ เพื่อสร้ำงสันติภำพใน ด�ำรงกำรติดต่อประสำนกำรปฏิบัติ กับกองก�ำลังป้องกันชำยแดนใน
สิทธิทำงกำรทหำรไว้ จนใน พ.ศ. ๒๕๐๐ อังกฤษได้มอบเอกรำชให้แก่ เมียนมำ จนเดือนตุลำคม ๒๕๕๘ ชนกลุ่มน้อย จ�ำนวน ๘ กลุ่ม พื้นที่รับผิดชอบ ต่อมำ เมื่อ ๑ มีนำคม ๒๕๓๗ – ๓๑ มีนำคม ๒๕๔๓
เมียนมำอย่ำงสมบูรณ์ แต่ อูนุได้ปฏิเสธที่จะให้ชนกลุ่มน้อยแยกตัวเป็น ยินยอมลงนำมยุติกำรสู้รบกับรัฐบำลเมียนมำ และเดือนกุมภำพันธ์ จึงได้เปลี่ยนนำมหน่วยเป็น “หน่วยเฉพำะกิจที่ ๙๕๓ (ฉก.๙๕๓)” ขึ้น
อิสระ ตำมข้อตกลงที่ท�ำไว้ จึงเกิดกบฏชนกลุ่มน้อยเผ่ำต่ำงๆ ตำมแนว ๒๕๖๑ กลุ่มพรรครัฐมอญใหม ่ กำรควบคุมกับส่วนโครงกำร ๓๑๑ ศปก.ทบ. และเปลี่ยนนำมหน่วย
ชำยแดน จำกควำมอ่อนแอและแตกแยกในพรรคกำรเมือง หลังจำก (NMSP) และกลุ่มสหภำพ เป็น “กองบังคับกำรควบคุมที่ ๕ (บก.ควบคุม ๕)” ตั้งแต่ ๑ เมษำยน
ที่ได้รับเอกรำชแล้ว เมียนมำจึงตกอยู่ในสภำพของสงครำมกำรเมือง ประชำธิปไตยลำหู่ (LDU) จึงลง ๒๕๔๓ จนถึงปัจจุบัน จนกระทั่ง เมื่อ ๑ ต.ค. ๒๕๕๑ กองทัพบก
จนเกิดกำรยึดอ�ำนำจโค่นล้มรัฐบำลอูนุ เมื่อ ๑ มีนำคม ๒๕๐๕ โดย นำมในข้อตกลงยุติกำรสู้รบกับ มอบหมำยให้ บก.ควบคุม ๕ รับผิดชอบพื้นที่เพิ่มเติมตั้งแต่ ตั้งแต่
พลเอกเนวิน ซึ่งเป็นสมัยรัฐบำลทหำร ปกครองแบบสังคมนิยม รวม อ.สังขละบุรี จ.กำญจนบุรี ถึง อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่
รัฐบำลเมียนมำ ด้วยเช่นกัน
รับผิดชอบของ บก.ควบคุม ๔ รับผิดชอบโดย กรมรบพิเศษที่ ๔
ื
ี
่
เนองจำก บก.ควบคุม ๔ ได้รับมอบหมำยให้รับผิดชอบพ้นท่ระวัง
ื
ป้องกันด้ำนประเทศมำเลเซีย เนื่องจำกสถำนกำรณ์ควำมรุนแรงใน
พื้นที่ ๓ จชต. ทวีควำมรุนแรงมำกขึ้น
86 87
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปราบปรามคอมมิวนิสต์ มี พันตรีบุญช่วย แช่มสุวรรณ เป็น ผู้บังคับหน่วยจู่โจมกองบัญชำกำร
ห้วง ๒๘ ตุลาคม ๒๕๐๙ – ๓๐ กันยายน ๒๕๑๐
พลเรือนต�ำรวจทหำรที่ ๑ (ผบ.นจ.พตท.๑) โดยในวันที่ ๑๑-๑๓
พฤศจิกำยน ๒๕๐๙ ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ จำก นจ.พตท.๑ จ�ำนวน
การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์พื้นท่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๔ ชุด (ชุดละ ๖ นำย) ร่วมกับทหำรรำบ ต�ำรวจภูธรและต�ำรวจตระเวน
ี
ชำยแดน รวมทั้งสิ้น ๒๘๐ นำย เข้ำโจมตี กวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ซึ่ง
พ.ศ.๒๕๐๘ – ๒๕๑๒ ตั้งฐำนอยู่กลำงป่ำระหว่ำง บ้ำนหนงบี้ กับ บ้ำนดงอีน�ำ และบ้ำนโพน
ตูม อ.นำแก จ.นครพนม
ผลการปฏิบัติ โจมตีและยึดฐำนของผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้เป็น
สถานการณ์ทั่วไป การปฏิบัติ
ผลส�ำเร็จ จับกุมผู้ก่อกำรร้ำยฯ ที่บำดเจ็บได้ ๔ คน ผู้ก่อกำรร้ำยเสีย
เมื่อ ๗ สิงหำคม ๒๕๐๘ ซึ่งเป็น “วันเสียงปืนแตกแห่ง หน่วยรบพิเศษ จัดก�ำลัง กองก�ำลังเฉพำะ ๑ กองร้อยรบพิเศษ ชีวิต ๗ ศพ ยึดปืนพกท�ำจำกรัสเซียได้ ๑ กระบอกพร้อมกระสุน ๓๐
ประเทศไทย” โดยกองก�ำลังติดอำวุธของพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง จำกกองรบพิเศษ (พลร่ม) เรียกว่ำ “หน่วยจู่โจม” ชื่อย่อ “นจ.พตท. นัด ยำรักษำโรค ข้ำวสำร และเสบียงอำหำร หน่วยรบพิเศษเสียชีวิต ๑
ประเทศไทย ได้โจมตีเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ ที่บ้ำนนำบัว ต.เรณูนคร ๑” มีก�ำลังพล ๘๗ นำย จัดเป็นชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ ชุดละ ๖ นำย ต�ำรวจภูธรเสียชีวิต ๑ นำย บำดเจ็บ ๔ นำย ทหำรรำบบำดเจ็บ
อ.ธำตุพนม จ.นครพนม ท�ำให้เจ้ำหน้ำที่บ้ำนเมืองเสียชีวิต ๑ นำย นำย จ�ำนวน ๑๒ ชุด และกองบังคับกำรกองร้อย ๑๕ นำย มี พันตรี ๘ นำย
และบำดเจ็บ ๒ นำย ซึ่งเป็นกำรเริ่มต้นกำรต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์ วิโรจน์ กิสรวงศ์ เป็นผู้บังคับกองร้อย หรือผู้บังคับหน่วยจู่โจม และ
ด้วยก�ำลังอำวุธ และขยำยกองก�ำลังติดอำวุธเพิ่มมำกขึ้นตำมล�ำดับ ทหำรพลร่มจำกค่ำยเอรำวัณอีก ๑ กองร้อยทหำรรำบส่งทำงอำกำศ ห้วง ๑ ตุลาคม ๒๕๑๐ – ๓๐ กันยายน ๒๕๑๑
โดยเฉพำะในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ๔ จังหวัด คือ นครพนม, เรียกว่ำ “กองร้อยทหำรรำบผสม” ชื่อย่อว่ำ “ร้อย.ร.ผสม.พตท.๑” มี ในห้วงนี้ หน่วยบัญชำกำรพลเรือนต�ำรวจทหำรที่ ๑ (พตท. ๑) ได้
สกลนคร, กำฬสินธุ์ และอุบลรำชธำนี รัฐบำลจึงประกำศนโยบำย ก�ำลัง ๒๑๕ นำย จัดเป็น ๓ หมวดปืนเล็ก ๑ หมวดอำวุธ และส่วน เปลี่ยนนำมหน่วยเป็น กองทัพภำคที่ ๒ ส่วนหน้ำ (ทภ.๒ สน.) หน่วย
กำรต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ โดยใช้ก�ำลังเข้ำปรำบปรำมอย่ำง สนับสนุนอื่น มี ร้อยเอกเจอ โพธิ์ศรีนำค เป็นผู้บังคับกองร้อย หรือ รบพิเศษจึงแปรสภำพตำมเป็นหน่วยจู่โจม กองทัพภำคที่ ๒ ส่วนหน้ำ
จริงจัง เพื่อท�ำลำยกองก�ำลังติดอำวุธ และฐำนที่มั่นของผู้ก่อกำรร้ำย ผบ.ร้อย.ร.ผสม. (นจ.ทภ.๒ สน.) ซึ่งกำรปฏิบัติกำรของหน่วยจู่โจมนี้ มี พันตรีชำญยุทธ
คอมมิวนิสต์ให้หมดสิ้นไป ดังนั้น หลังจำกเหตุกำรณ์บ้ำนนำบัวเกิดขึ้น พตท.๑ ได้แบ่งพื้นที่ปฏิบัติกำรให้หน่วยต่ำง ๆ รับผิดชอบ นุชนำรถ เป็น ผู้บังคับหน่วยจู่โจมกองทัพภำคที่ ๒ ส่วนหน้ำ (ผบ.
แล้ว ๔ เดือน รัฐบำลได้จัดตั้ง กองบัญชำกำรผสมพลเรือนต�ำรวจทหำร โดยก�ำหนดพ้นท่ปฏิบัติกำรเป็นท่หมำยตำมล�ำดับหมำยเลข โดยกอง นจ.ทภ.๒ สน.) ได้รับมอบภำรกิจจำก ทภ.๒ สน. ให้จัดก�ำลังชุดปฏิบัติ
ื
ี
ี
ที่ ๑ (พตท.๑) ขึ้นที่ อ.มุกดำหำร จ.นครพนม โดยมีก�ำลังพลเรือน รบพิเศษ (พลร่ม) รับผิดชอบ ที่ ๖ และ ๗ เป็นหลัก เพรำะเป็นพื้นที่ กำรรบพิเศษ เข้ำร่วมปฏิบัติกำรท�ำลำยฐำนปฏิบัติกำร และกวำดล้ำง
ต�ำรวจ ทหำร เป็นก�ำลังหลัก เพื่อปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำย ในพื้นที่ ๔ ที่ผู้ก่อกำรร้ำยฯ ปฏิบัติกำรรุนแรงกว่ำพื้นที่อื่น ๆ ที่หมำย ๖ รับ ผู้ก่อกำรร้ำยในบริเวณพ้นท่ บ้ำนโพนสูง จ.นครพนม, บ้ำนตำลเน้ง,
ิ
ี
ื
จังหวัดดังกล่ำวข้ำงต้น ตั้งแต่ ๒๗ ธันวำคม ๒๕๐๘ โดยมี ผิดชอบเขต อ.นำแก มีที่ตั้งหน่วยปรำบปรำมอยู่ที่ บ้ำนโพนตูม บ้ำนหนองพอกใหญ่, บ้ำนนำสีนวล จ.สกลนคร และบ้ำนเทำ
พลตรีบุญ รังคะรัตน์ เป็นผู้อ�ำนวยกำร พตท.๑ อ.นำแก ส่วนที่หมำย ๗ รับผิดชอบเขต อ.ค�ำชะอี มีที่ตั้งหน่วยที่ จ.หนองคำย
พันเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ เป็น รองผู้อ�ำนวยกำรฯ ฝ่ำยทหำร บ้ำนตูมหวำน อ.ค�ำชะอี ส่วนก�ำลังจำก กองพันส่งทำงอำกำศที่ ๑ ผลการปฏิบัติ ยึดและท�ำลำยฐำนปฏิบัติกำรของผู้ก่อกำร
หรือ ร้อย.ร.ผสม เป็นก�ำลังเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติกำรต่อเป้ำหมำยที่ ร้ำยฯ จ�ำนวน ๕ ฐำน โจมตีและกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ เสียชีวิต
พันต�ำรวจเอกเริงณรงค์ ทวีโภค เป็นรองผู้อ�ำนวยกำรฯ ฝ่ำยต�ำรวจ เกิดขึ้นตำมเหตุกำรณ์อำจเรียกว่ำ “กองหนุนเคลื่อนที่เร็ว” และใช้เป็น และบำดเจ็บจ�ำนวนมำก พบศพผู้ก่อกำรร้ำย ๑๒ ศพ จับกุมผู้ก่อ
นำยวิเชียร เวชสวรรค์ เป็นรองผู้อ�ำนวยกำรฯ ฝ่ำยพลเรือน หน่วยแก้ปัญหำให้แก่ก�ำลังตำมที่หมำยต่ำง ๆ เมื่อมีควำมจ�ำเป็น กำรร้ำยได้ ๙ คน ยึดอำวุธและอุปกรณ์ต่ำงๆ ได้แก่ ระเบิดขว้ำงท�ำ
จำกจีนแดง ๕ ลูก, ลูกระเบิดมือชนิดมีด้ำมท�ำจำกจีนแดง ๑ ลูกปืน
การปฏิบัติภารกิจที่ส�าคัญ ของหน่วยจู่โจม และ ร้อย.ร.ผสม เอ็ม.๓/๑ กระบอก, ปลย.๖๖/๑ กระบอก พร้อมซอง ๑ อัน, กระสุน
ห้วง ๑๖ มกราคม ๒๕๐๙ – ๓ มีนาคม ๒๕๐๙ ปลย.๖๖/๓๐ นัด วิทยุทรำนซิสเตอร์ ๑ เครื่อง, ขวำกเหล็ก ๒ แผง,
หน่วยจู่โจม และ ร้อย.ร.ผสม ท�ำกำรลำดตระเวนที่หมำย ๖ และ ๗ ขวำกไม้ ๒ มัด, ข้ำวสำร ๓ ถัง, ฝ่ำยเรำเสียชีวิต ๒ นำย บำดเจ็บ ๙ นำย
ตรวจสอบ ค้นหำฐำนปฏิบัติกำรและผู้ก่อกำรร้ำยฯ เพื่อท�ำลำยฐำน
ปิดล้อม จับกุม และกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ในบริเวณพื้นที่รับผิดชอบ
ผลการปฏิบัติ โจมตีและดักจับผู้ก่อกำรร้ำยฯ จ�ำนวน ๒
คน ซึ่งมำรับเสบียงอำหำรจำกรำษฎร ที่บ้ำนน้อยป่ำแคน ต. ดงหลวง
อ.ค�ำชะอี จ.นครพนม และยึดฐำนปฏิบัติกำรผู้ก่อกำรร้ำยฯ ที่หมำย ๖
บ้ำนโพนตูม และบ้ำนจอมศรี จ�ำนวน ๒ ฐำน จับกุมผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้
ทั้งหมด ๖ คน ผู้ก่อกำรร้ำยฯ เสียชีวิตจำกกำรยิงต่อสู้ ๕ คน ยึดสิ่งของ
ได้หลำยรำยกำร ได้แก่ ปืนกลรัสเซีย, ลูกระเบิดขว้ำงของจีนแดง ๓
ลูก, กระสุน ปสบ.๘๗/๒๐ นัด, ซองกระสุน ปสบ.๘๗/๒ ซอง, ย่ำมใส่
ซอง ๑ ใบ และเอกสำรเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์จ�ำนวนมำก ฝ่ำยเรำ
บำดเจ็บ ๑ นำย
88 89
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
การปราบปรามคอมมิวนิสต์ มี พันตรีบุญช่วย แช่มสุวรรณ เป็น ผู้บังคับหน่วยจู่โจมกองบัญชำกำร
ห้วง ๒๘ ตุลาคม ๒๕๐๙ – ๓๐ กันยายน ๒๕๑๐
พลเรือนต�ำรวจทหำรที่ ๑ (ผบ.นจ.พตท.๑) โดยในวันที่ ๑๑-๑๓
พฤศจิกำยน ๒๕๐๙ ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ จำก นจ.พตท.๑ จ�ำนวน
การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์พื้นท่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๔ ชุด (ชุดละ ๖ นำย) ร่วมกับทหำรรำบ ต�ำรวจภูธรและต�ำรวจตระเวน
ี
ชำยแดน รวมทั้งสิ้น ๒๘๐ นำย เข้ำโจมตี กวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ซึ่ง
พ.ศ.๒๕๐๘ – ๒๕๑๒ ตั้งฐำนอยู่กลำงป่ำระหว่ำง บ้ำนหนงบี้ กับ บ้ำนดงอีน�ำ และบ้ำนโพน
ตูม อ.นำแก จ.นครพนม
ผลการปฏิบัติ โจมตีและยึดฐำนของผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้เป็น
สถานการณ์ทั่วไป การปฏิบัติ
ผลส�ำเร็จ จับกุมผู้ก่อกำรร้ำยฯ ที่บำดเจ็บได้ ๔ คน ผู้ก่อกำรร้ำยเสีย
เมื่อ ๗ สิงหำคม ๒๕๐๘ ซึ่งเป็น “วันเสียงปืนแตกแห่ง หน่วยรบพิเศษ จัดก�ำลัง กองก�ำลังเฉพำะ ๑ กองร้อยรบพิเศษ ชีวิต ๗ ศพ ยึดปืนพกท�ำจำกรัสเซียได้ ๑ กระบอกพร้อมกระสุน ๓๐
ประเทศไทย” โดยกองก�ำลังติดอำวุธของพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง จำกกองรบพิเศษ (พลร่ม) เรียกว่ำ “หน่วยจู่โจม” ชื่อย่อ “นจ.พตท. นัด ยำรักษำโรค ข้ำวสำร และเสบียงอำหำร หน่วยรบพิเศษเสียชีวิต ๑
ประเทศไทย ได้โจมตีเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ ที่บ้ำนนำบัว ต.เรณูนคร ๑” มีก�ำลังพล ๘๗ นำย จัดเป็นชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ ชุดละ ๖ นำย ต�ำรวจภูธรเสียชีวิต ๑ นำย บำดเจ็บ ๔ นำย ทหำรรำบบำดเจ็บ
อ.ธำตุพนม จ.นครพนม ท�ำให้เจ้ำหน้ำที่บ้ำนเมืองเสียชีวิต ๑ นำย นำย จ�ำนวน ๑๒ ชุด และกองบังคับกำรกองร้อย ๑๕ นำย มี พันตรี ๘ นำย
และบำดเจ็บ ๒ นำย ซึ่งเป็นกำรเริ่มต้นกำรต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์ วิโรจน์ กิสรวงศ์ เป็นผู้บังคับกองร้อย หรือผู้บังคับหน่วยจู่โจม และ
ด้วยก�ำลังอำวุธ และขยำยกองก�ำลังติดอำวุธเพิ่มมำกขึ้นตำมล�ำดับ ทหำรพลร่มจำกค่ำยเอรำวัณอีก ๑ กองร้อยทหำรรำบส่งทำงอำกำศ ห้วง ๑ ตุลาคม ๒๕๑๐ – ๓๐ กันยายน ๒๕๑๑
โดยเฉพำะในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ๔ จังหวัด คือ นครพนม, เรียกว่ำ “กองร้อยทหำรรำบผสม” ชื่อย่อว่ำ “ร้อย.ร.ผสม.พตท.๑” มี ในห้วงนี้ หน่วยบัญชำกำรพลเรือนต�ำรวจทหำรที่ ๑ (พตท. ๑) ได้
สกลนคร, กำฬสินธุ์ และอุบลรำชธำนี รัฐบำลจึงประกำศนโยบำย ก�ำลัง ๒๑๕ นำย จัดเป็น ๓ หมวดปืนเล็ก ๑ หมวดอำวุธ และส่วน เปลี่ยนนำมหน่วยเป็น กองทัพภำคที่ ๒ ส่วนหน้ำ (ทภ.๒ สน.) หน่วย
กำรต่อสู้เพื่อเอำชนะคอมมิวนิสต์ โดยใช้ก�ำลังเข้ำปรำบปรำมอย่ำง สนับสนุนอื่น มี ร้อยเอกเจอ โพธิ์ศรีนำค เป็นผู้บังคับกองร้อย หรือ รบพิเศษจึงแปรสภำพตำมเป็นหน่วยจู่โจม กองทัพภำคที่ ๒ ส่วนหน้ำ
จริงจัง เพื่อท�ำลำยกองก�ำลังติดอำวุธ และฐำนที่มั่นของผู้ก่อกำรร้ำย ผบ.ร้อย.ร.ผสม. (นจ.ทภ.๒ สน.) ซึ่งกำรปฏิบัติกำรของหน่วยจู่โจมนี้ มี พันตรีชำญยุทธ
คอมมิวนิสต์ให้หมดสิ้นไป ดังนั้น หลังจำกเหตุกำรณ์บ้ำนนำบัวเกิดขึ้น พตท.๑ ได้แบ่งพื้นที่ปฏิบัติกำรให้หน่วยต่ำง ๆ รับผิดชอบ นุชนำรถ เป็น ผู้บังคับหน่วยจู่โจมกองทัพภำคที่ ๒ ส่วนหน้ำ (ผบ.
แล้ว ๔ เดือน รัฐบำลได้จัดตั้ง กองบัญชำกำรผสมพลเรือนต�ำรวจทหำร โดยก�ำหนดพ้นท่ปฏิบัติกำรเป็นท่หมำยตำมล�ำดับหมำยเลข โดยกอง นจ.ทภ.๒ สน.) ได้รับมอบภำรกิจจำก ทภ.๒ สน. ให้จัดก�ำลังชุดปฏิบัติ
ื
ี
ี
ที่ ๑ (พตท.๑) ขึ้นที่ อ.มุกดำหำร จ.นครพนม โดยมีก�ำลังพลเรือน รบพิเศษ (พลร่ม) รับผิดชอบ ที่ ๖ และ ๗ เป็นหลัก เพรำะเป็นพื้นที่ กำรรบพิเศษ เข้ำร่วมปฏิบัติกำรท�ำลำยฐำนปฏิบัติกำร และกวำดล้ำง
ต�ำรวจ ทหำร เป็นก�ำลังหลัก เพื่อปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำย ในพื้นที่ ๔ ที่ผู้ก่อกำรร้ำยฯ ปฏิบัติกำรรุนแรงกว่ำพื้นที่อื่น ๆ ที่หมำย ๖ รับ ผู้ก่อกำรร้ำยในบริเวณพ้นท่ บ้ำนโพนสูง จ.นครพนม, บ้ำนตำลเน้ง,
ิ
ี
ื
จังหวัดดังกล่ำวข้ำงต้น ตั้งแต่ ๒๗ ธันวำคม ๒๕๐๘ โดยมี ผิดชอบเขต อ.นำแก มีที่ตั้งหน่วยปรำบปรำมอยู่ที่ บ้ำนโพนตูม บ้ำนหนองพอกใหญ่, บ้ำนนำสีนวล จ.สกลนคร และบ้ำนเทำ
พลตรีบุญ รังคะรัตน์ เป็นผู้อ�ำนวยกำร พตท.๑ อ.นำแก ส่วนที่หมำย ๗ รับผิดชอบเขต อ.ค�ำชะอี มีที่ตั้งหน่วยที่ จ.หนองคำย
พันเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ เป็น รองผู้อ�ำนวยกำรฯ ฝ่ำยทหำร บ้ำนตูมหวำน อ.ค�ำชะอี ส่วนก�ำลังจำก กองพันส่งทำงอำกำศที่ ๑ ผลการปฏิบัติ ยึดและท�ำลำยฐำนปฏิบัติกำรของผู้ก่อกำร
หรือ ร้อย.ร.ผสม เป็นก�ำลังเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติกำรต่อเป้ำหมำยที่ ร้ำยฯ จ�ำนวน ๕ ฐำน โจมตีและกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ เสียชีวิต
พันต�ำรวจเอกเริงณรงค์ ทวีโภค เป็นรองผู้อ�ำนวยกำรฯ ฝ่ำยต�ำรวจ เกิดขึ้นตำมเหตุกำรณ์อำจเรียกว่ำ “กองหนุนเคลื่อนที่เร็ว” และใช้เป็น และบำดเจ็บจ�ำนวนมำก พบศพผู้ก่อกำรร้ำย ๑๒ ศพ จับกุมผู้ก่อ
นำยวิเชียร เวชสวรรค์ เป็นรองผู้อ�ำนวยกำรฯ ฝ่ำยพลเรือน หน่วยแก้ปัญหำให้แก่ก�ำลังตำมที่หมำยต่ำง ๆ เมื่อมีควำมจ�ำเป็น กำรร้ำยได้ ๙ คน ยึดอำวุธและอุปกรณ์ต่ำงๆ ได้แก่ ระเบิดขว้ำงท�ำ
จำกจีนแดง ๕ ลูก, ลูกระเบิดมือชนิดมีด้ำมท�ำจำกจีนแดง ๑ ลูกปืน
การปฏิบัติภารกิจที่ส�าคัญ ของหน่วยจู่โจม และ ร้อย.ร.ผสม เอ็ม.๓/๑ กระบอก, ปลย.๖๖/๑ กระบอก พร้อมซอง ๑ อัน, กระสุน
ห้วง ๑๖ มกราคม ๒๕๐๙ – ๓ มีนาคม ๒๕๐๙ ปลย.๖๖/๓๐ นัด วิทยุทรำนซิสเตอร์ ๑ เครื่อง, ขวำกเหล็ก ๒ แผง,
หน่วยจู่โจม และ ร้อย.ร.ผสม ท�ำกำรลำดตระเวนที่หมำย ๖ และ ๗ ขวำกไม้ ๒ มัด, ข้ำวสำร ๓ ถัง, ฝ่ำยเรำเสียชีวิต ๒ นำย บำดเจ็บ ๙ นำย
ตรวจสอบ ค้นหำฐำนปฏิบัติกำรและผู้ก่อกำรร้ำยฯ เพื่อท�ำลำยฐำน
ปิดล้อม จับกุม และกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ในบริเวณพื้นที่รับผิดชอบ
ผลการปฏิบัติ โจมตีและดักจับผู้ก่อกำรร้ำยฯ จ�ำนวน ๒
คน ซึ่งมำรับเสบียงอำหำรจำกรำษฎร ที่บ้ำนน้อยป่ำแคน ต. ดงหลวง
อ.ค�ำชะอี จ.นครพนม และยึดฐำนปฏิบัติกำรผู้ก่อกำรร้ำยฯ ที่หมำย ๖
บ้ำนโพนตูม และบ้ำนจอมศรี จ�ำนวน ๒ ฐำน จับกุมผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้
ทั้งหมด ๖ คน ผู้ก่อกำรร้ำยฯ เสียชีวิตจำกกำรยิงต่อสู้ ๕ คน ยึดสิ่งของ
ได้หลำยรำยกำร ได้แก่ ปืนกลรัสเซีย, ลูกระเบิดขว้ำงของจีนแดง ๓
ลูก, กระสุน ปสบ.๘๗/๒๐ นัด, ซองกระสุน ปสบ.๘๗/๒ ซอง, ย่ำมใส่
ซอง ๑ ใบ และเอกสำรเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์จ�ำนวนมำก ฝ่ำยเรำ
บำดเจ็บ ๑ นำย
88 89
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ี
การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (แม้วแดง) ยุทธการชูชีพ (ภูข้เถ้า)
พ.ศ.๒๕๑๑ – ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๑ – ๒๕๑๒
สถานการณ์ การปฏิบัติ สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ
พ.ศ.๒๕๑๑ ผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ กลุ่มม้งแดง (แม้วแดง) หน่วยจู่โจม มี พันตรีไชยยง โพธิ์อุไร เป็นผู้บังคับหน่วยจู่โจม หลังจำกที่ผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้วแดง ได้ปิดล้อมเจ้ำหน้ำที่สร้ำง ก�ำลังรบหน่วยเฉพำะกิจชูชีพ ทภ.๒ และก�ำลังรบเฉพำะกิจ
จำกบริเวณภูหินร่องกล้ำ (บ้ำนแม้วหินร่องกล้ำ) ภูขัด และ ภูเมียง กองทัพภำคที่ ๒ ส่วนหน้ำ จัดก�ำลังพลจำกศูนย์สงครำมพิเศษ และ ทำงฯ และเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจฯ บริเวณบ้ำนแม้วภูขี้เถ้ำ จ.เลย ตั้งแต่วัน ทภ.๓ บุกเข้ำยึดที่หมำยบ้ำนแม้วภูขี้เถ้ำ และช่วยเหลือผู้ถูกปิดล้อม
ที่ผู้ก่อกำรร้ำยฯ ใช้ยึดเป็นฐำนที่มั่น เริ่มมีกำรเคลื่อนไหวและปฏิบัติ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ปฏิบัติภำรกิจปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้ว ที่ ๔ ธ.ค.๒๕๑๑ ทภ.๒ สน. ได้พยำยำมช่วยเหลือและใช้เฮลิคอปเตอร์ ได้ส�ำเร็จ ขยำยขอบเขตกำรปฏิบัติเป็นแนวกว้ำงออกไปบริเวณเชิงเขำ
กำรรุนแรงขึ้น มีกำรซุ่มยิง ซุ่มโจมตี และเข้ำโจมตีที่ตั้งฐำนปฏิบัติ แดง บริเวณรอยต่อ ๓ จังหวัด คือ เลย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ซึ่ง ส่งก�ำลังบ�ำรุงให้กับเจ้ำหน้ำที่ฯ อีกครั้งในวันที่ ๗ ธันวำคม ๒๕๑๑ ใน ภูลมโล จนสำมำรถน�ำธงชำติไทยขึ้นไปปักไว้บนยอดเขำภูขี้เถ้ำ ในวันที่
กำรของเจ้ำหน้ำที่ฝ่ำยไทย โดยในเดือน มีนำคม ๒๕๑๑ พรรค ทภ.๒ สน. รับผิดชอบ จ. เลย, ทภ. ๓ รับผิดชอบ จ.พิษณุโลก และ ขณะน�ำเครื่องลงแตะพื้นดิน ได้ถูกผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้วแดงระดมยิงและ ๒๗ ธันวำคม ๒๕๑๑ จำกนั้น สำมำรถขยำยผลกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ
์
ิ
คอมมวนสตแห่งประเทศไทยได้ส่งผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ (ผกค.) เข้ำ จ.เพชรบูรณ์ และกองทัพภำคท้งสอง จะต้องปฏิบัติกำรร่วมกันท ี ่ ถูกถังน�้ำมันของเฮลิคอปเตอร์ จนไม่สำมำรถบินกลับได้ นักบินประจ�ำ แม้วแดง ที่หลงเหลืออยู่บริเวณบ้ำนแม้วป่ำยำบ บ้ำนน้ำขมิ้น บ้ำนแม้ว
ั
ิ
มำปฏิบัติงำนในพื้นที่ มีกำรปลุกระดมชำวม้งให้เกลียดชังเจ้ำหน้ำที่ บริเวณรอยต่อ ๓ จังหวัดดังกล่ำว ดังนั้น ทภ.๒ สน. เริ่มกำรปฏิบัติ เครื่อง คือ ร้อยเอกนฤนำรถ ไตรภูวนำรถ ได้เสียสละอยู่เฝ้ำเครื่อง และ ป่ำหวำย เข้ำยึดธงแดงของผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้ที่ยอดเขำภูลมโล และน�ำ
และให้หันมำร่วมมือกับฝ่ำย ผกค. ชี้น�ำให้รำษฎรจับอำวุธ ขึ้นต่อสู้กับ เพื่อแก้ไขและคลี่คลำยสถำนกำรณ์ โดยส่งก�ำลังของหน่วยจู่โจม ทภ.๒ ร่วมเป็นร่วมตำยกับเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจที่ถูกปิดล้อมไว้ กองทัพภำคที่ ๒ ธงชำติไทยขึ้นผูกไว้ได้ส�ำเร็จ ในวันที่ ๓๐ ธันวำคม ๒๕๑๑ จำกนั้น เข้ำ
เจ้ำหน้ำที่ เพื่อปลดแอกอ�ำนำจรัฐ กองทัพภำคที่ ๓ ได้ส่งเจ้ำหน้ำที่เข้ำไป สน. เข้ำช่วยเหลือต�ำรวจภูธรและต�ำรวจตระเวนชำยแดน ที่ถูกปิดล้อม ได้ส่งเครื่องบินของกองทัพอำกำศ เข้ำโจมตีที่มั่นผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้ว กวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ท่บ้ำนแม้วภูหินร่องกล้ำเหนือและใต้ได ้
ี
ื
จัดต้ง รำษฎรอำสำสมัครคุ้มครองหมู่บ้ำน ท่บ้ำนห้วยทรำยเหนอ โดยผู้ก่อกำรร้ำยแม้วแดง บริเวณภูขี้เถ้ำ จ.เลย ซึ่งอยู่ไปทำงทิศตะวัน แดง รอบๆ บริเวณฐำนที่มั่นที่ถูกล้อมต่อไป แต่สถำนกำรณ์ไม่ดีขึ้น รวมทั้งท�ำลำยฐำนที่มั่นและอุปกรณ์ต่ำงๆ ของ ผู้ก่อกำรร้ำยฯ จนหมด
ี
ั
ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้ำนเรือนอย่ำงหนำแน่นของหมู่บ้ำนชำวเขำเผ่ำม้ง จำกนั้น ออกเฉียงเหนือของภูหินร่องกล้ำ ประมำณ ๖ กม. ระหว่ำงวันที่ ๔ – ๗ จึงร้องขอก�ำลังสนับสนุนจำกกองทัพบกเพื่อเข้ำแก้ไขสถำนกำรณ์ โดย สิ้น จึงจบภำรกิจ เดินทำงกลับหน่วยในวันที่ ๑๖ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๒
ก็มีเหตุ ลอบยิงผู้ใหญ่บ้ำน บ้ำนแม้วนำงอุ้ง บุกโจมตีค่ำยฝึกอบรมชำว ธันวำคม ๒๕๑๑ ก�ำลังพลที่จัดเพิ่มเติม จัดจำกกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒ ศูนย์สงครำม ซึ่งเป็นกำรรบข้ำมปี ใช้เวลำท�ำกำรรบ ๖๙ วัน
เขำ บ้ำนห้วยทรำย โจมตีอำสำสมัครคุ้มครองหมู่บ้ำน ท�ำให้เจ้ำหน้ำที่ พิเศษ จ�ำนวน ๗๕ นำย มีพันตรีอภิศักดิ์ ศักดิ์ศิลปชัย เป็น ผบ.หน่วย ยอดกำรสูญเสียตำมแผนยุทธกำรชูชีพ ฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๑๘
บำดเจ็บเสียชีวิตหลำยนำย และผู้ก่อกำรร้ำยฯได้ยึดอำวุธยุทโธปกรณ์ ผลการปฏิบัติ และก�ำลังจำกหน่วยจู่โจม ทภ.๒ สน. จ.สกลนคร จ�ำนวน ๒๙ นำย มี นำย บำดเจ็บ ๓๒ นำย ก�ำลังพลของหน่วยเฉพำะกิจชูชีพ ก�ำลังพล
่
้
ั
ไปไดบำงส่วน และส่งก�ำลังเข้ำโจมตีฐำนปฏิบัติกำรของฝำยรฐบำล สถำนกำรณ์เข้ำสู่สภำวะคับขัน โดยผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้สู้รบและ พันตรีไชยยง โพธิ์อุไร เป็น ผบ.หน่วย รวมก�ำลังพลจำกหน่วยรบพิเศษ หน่วยรบพิเศษเสียชีวิต ๖ นำย และบำดเจ็บสำหัส ๔ นำย
้
ั
หลำยคร้ง ท�ำให้ประชำชนเกรงกลัวอิทธิพลของผู้ก่อกำรรำยฯ ยงตอบโต้ฝ่ำยเจ้ำหน้ำท่อย่ำงรุนแรง รวมท้งเสริมก�ำลังโอบล้อม จ�ำนวน ๑๐๔ นำย ทหำรจำกกองทัพภำคที่ ๒ จ�ำนวน ๑๓๐ นำย
ิ
ั
ี
ประกอบกำรโฆษณำชวนเชื่อ ท�ำให้ พคท. ขยำยตัว และสำมำรถ ไว้อย่ำงหนำแน่น ท�ำให้ไม่สำมำรถเข้ำช่วยเหลือและส่งก�ำลังบ�ำรุงทั้ง ต�ำรวจจำกกองก�ำกับกำรต�ำรวจภูธรเขต ๔ จ�ำนวน ๑๓๕ นำย รวม
จัดตั้ง กองก�ำลังทหำรบ้ำน ทหำรประจ�ำถิ่น และทหำรหลัก ได้อย่ำง ทำงพื้นดินและทำงอำกำศแก่เจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจได้ จนในที่สุดเจ้ำหน้ำที่ ก�ำลังพลทั้งสิ้น ๓๖๙ นำย รวมก�ำลังเป็น “หน่วยเฉพาะกิจชูชีพ” โดย ผู้ได้รับเหรีญกล้าหาญ
ครบถ้วน และสถำปนำ ภูหินร่องกล้ำ เป็นฐำนที่มั่นได้ แต่งตั้งให้ พันตรีไชยยง โพธิ์อุไร เป็นผู้บังคับหน่วย ๑. พลตรี สนั่น รำชมุณีสุข
ต�ำรวจได้เสียชีวิตจำกกำรปะทะ ๑ นำย และตกอยู่ในวงล้อมของ
จนวันที่ ๓ ธันวำคม ๒๕๑๑ ผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้วแดง ได้โจมตี ผู้ก่อกำรร้ำยฯ อีก ๕๓ นำย ทำงกองทัพภำคที่ ๒ จึงขอกำรสนับสนุน ๒. พันเอก (พิเศษ) ไชยยงค์ โพธิ์อุไร
ท่ต้งฐำนของกองร้อยต�ำรวจตระเวนชำยแดน ชุดคุ้มครองหมู่บ้ำน ก�ำลังทำงอำกำศ และกองก�ำลังภำคพื้นดินเพิ่มเติม เพื่อแก้ไข การปฏิบัติ ๓. พันตรี ประยุทธ มีสิน
ั
ี
บ.แม้วภูขี้เถ้ำ ได้เผำที่ตั้งฐำนโรงเรียน และรถยนต์ของ ตชด. และ สถำนกำรณ์ต่อไป ตั้งแต่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๑ – ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ ๔. พันตรี ทองชุบ แก้วมีศรี
วันที่ ๔ ธันวำคม ๒๕๑๑ ผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้ปิดล้อมเจ้ำหน้ำที่สร้ำง วันที่ ๑๐ ธันวำคม ก�ำลังพลจำกหน่วยต่ำงๆ ของ“ หน่วยเฉพำะ ๕. พันตรี บุญเหลือ ทองคัณฑำ
ั
ทำงตำมแผนพัฒนำชำวเขำ รวมท้งก�ำลังต�ำรวจภูธรและต�ำรวจ กิจชูชีพ ” เดินทำงเข้ำที่รวมพล ณ กองบัญชำกำรผสม ๓๙๔ ที่สนำม ๖. พันตรี สนิท เพ็งเจริญ
ตระเวนชำยแดนที่เข้ำไปคุ้มกัน บริเวณบ้ำนแม้วภูขี้เถ้ำ ต.กกสะท้อน บินหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ระยะเวลำในกำรวำงแผนและซักซ้อมกำร ๗. ร้อยโท สมศักดิ์ สิงห์ห่วง
อ.ด่ำนซ้ำย จ.เลย
ปฏิบัติ ๔ วัน
วันที่ ๑๔ – ๒๘ ธันวำคม หน่วยเฉพำะกิจชูชีพ ทั้งหมด ๓๙๖
นำย เคลื่อนย้ำยโดยเฮลิคอปเตอร์จำกสนำมบินหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
ส่งลง ณ บ้ำนแม้วป่ำหวำย จัดรูปขบวนและเคลื่อนที่เข้ำสู่บ้ำนแม้ว
ภูขี้เถ้ำ จ.เลย ในวันที่ ๑๔ ธันวำคม ๒๕๑๑ เพื่อปฏิบัติกำรตำมแผนใน
กำรช่วยเหลือผู้ถูกปิดล้อม และกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้วแดง
วันที่ ๒๙ ธันวำคม ๒๕๑๑ – ๑๗ กุมพันธ์ ๒๕๑๗ ก�ำลังรบ พลตรี สนั่น ราชมุณีสุข พันเอก (พิเศษ) ไชยยงค์ โพธิ์อุไร
ของหน่วยเฉพำะกิจชูชีพและก�ำลังรบเฉพำะกิจ ได้รับมอบภำรกิจ
ลำดตระเวนตรวจค้น และท�ำลำยฐำนที่มั่นของผู้ก่อกำรร้ำยฯ บริเวณ
เขำภูลมโล
พันตรี ประยุทธ มีสิน พันตรี ทองชุบ แก้วมีศรี พันตรี บุญเหลือ ทองคัณฑา
90 91
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ี
การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (แม้วแดง) ยุทธการชูชีพ (ภูข้เถ้า)
พ.ศ.๒๕๑๑ – ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๑ – ๒๕๑๒
สถานการณ์ การปฏิบัติ สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ
พ.ศ.๒๕๑๑ ผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ กลุ่มม้งแดง (แม้วแดง) หน่วยจู่โจม มี พันตรีไชยยง โพธิ์อุไร เป็นผู้บังคับหน่วยจู่โจม หลังจำกที่ผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้วแดง ได้ปิดล้อมเจ้ำหน้ำที่สร้ำง ก�ำลังรบหน่วยเฉพำะกิจชูชีพ ทภ.๒ และก�ำลังรบเฉพำะกิจ
จำกบริเวณภูหินร่องกล้ำ (บ้ำนแม้วหินร่องกล้ำ) ภูขัด และ ภูเมียง กองทัพภำคที่ ๒ ส่วนหน้ำ จัดก�ำลังพลจำกศูนย์สงครำมพิเศษ และ ทำงฯ และเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจฯ บริเวณบ้ำนแม้วภูขี้เถ้ำ จ.เลย ตั้งแต่วัน ทภ.๓ บุกเข้ำยึดที่หมำยบ้ำนแม้วภูขี้เถ้ำ และช่วยเหลือผู้ถูกปิดล้อม
ที่ผู้ก่อกำรร้ำยฯ ใช้ยึดเป็นฐำนที่มั่น เริ่มมีกำรเคลื่อนไหวและปฏิบัติ กองรบพิเศษ (พลร่ม) ปฏิบัติภำรกิจปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้ว ที่ ๔ ธ.ค.๒๕๑๑ ทภ.๒ สน. ได้พยำยำมช่วยเหลือและใช้เฮลิคอปเตอร์ ได้ส�ำเร็จ ขยำยขอบเขตกำรปฏิบัติเป็นแนวกว้ำงออกไปบริเวณเชิงเขำ
กำรรุนแรงขึ้น มีกำรซุ่มยิง ซุ่มโจมตี และเข้ำโจมตีที่ตั้งฐำนปฏิบัติ แดง บริเวณรอยต่อ ๓ จังหวัด คือ เลย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ซึ่ง ส่งก�ำลังบ�ำรุงให้กับเจ้ำหน้ำที่ฯ อีกครั้งในวันที่ ๗ ธันวำคม ๒๕๑๑ ใน ภูลมโล จนสำมำรถน�ำธงชำติไทยขึ้นไปปักไว้บนยอดเขำภูขี้เถ้ำ ในวันที่
กำรของเจ้ำหน้ำที่ฝ่ำยไทย โดยในเดือน มีนำคม ๒๕๑๑ พรรค ทภ.๒ สน. รับผิดชอบ จ. เลย, ทภ. ๓ รับผิดชอบ จ.พิษณุโลก และ ขณะน�ำเครื่องลงแตะพื้นดิน ได้ถูกผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้วแดงระดมยิงและ ๒๗ ธันวำคม ๒๕๑๑ จำกนั้น สำมำรถขยำยผลกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ
์
ิ
คอมมวนสตแห่งประเทศไทยได้ส่งผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ (ผกค.) เข้ำ จ.เพชรบูรณ์ และกองทัพภำคท้งสอง จะต้องปฏิบัติกำรร่วมกันท ี ่ ถูกถังน�้ำมันของเฮลิคอปเตอร์ จนไม่สำมำรถบินกลับได้ นักบินประจ�ำ แม้วแดง ที่หลงเหลืออยู่บริเวณบ้ำนแม้วป่ำยำบ บ้ำนน้ำขมิ้น บ้ำนแม้ว
ั
ิ
มำปฏิบัติงำนในพื้นที่ มีกำรปลุกระดมชำวม้งให้เกลียดชังเจ้ำหน้ำที่ บริเวณรอยต่อ ๓ จังหวัดดังกล่ำว ดังนั้น ทภ.๒ สน. เริ่มกำรปฏิบัติ เครื่อง คือ ร้อยเอกนฤนำรถ ไตรภูวนำรถ ได้เสียสละอยู่เฝ้ำเครื่อง และ ป่ำหวำย เข้ำยึดธงแดงของผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้ที่ยอดเขำภูลมโล และน�ำ
และให้หันมำร่วมมือกับฝ่ำย ผกค. ชี้น�ำให้รำษฎรจับอำวุธ ขึ้นต่อสู้กับ เพื่อแก้ไขและคลี่คลำยสถำนกำรณ์ โดยส่งก�ำลังของหน่วยจู่โจม ทภ.๒ ร่วมเป็นร่วมตำยกับเจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจที่ถูกปิดล้อมไว้ กองทัพภำคที่ ๒ ธงชำติไทยขึ้นผูกไว้ได้ส�ำเร็จ ในวันที่ ๓๐ ธันวำคม ๒๕๑๑ จำกนั้น เข้ำ
เจ้ำหน้ำที่ เพื่อปลดแอกอ�ำนำจรัฐ กองทัพภำคที่ ๓ ได้ส่งเจ้ำหน้ำที่เข้ำไป สน. เข้ำช่วยเหลือต�ำรวจภูธรและต�ำรวจตระเวนชำยแดน ที่ถูกปิดล้อม ได้ส่งเครื่องบินของกองทัพอำกำศ เข้ำโจมตีที่มั่นผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้ว กวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ท่บ้ำนแม้วภูหินร่องกล้ำเหนือและใต้ได ้
ี
ื
จัดต้ง รำษฎรอำสำสมัครคุ้มครองหมู่บ้ำน ท่บ้ำนห้วยทรำยเหนอ โดยผู้ก่อกำรร้ำยแม้วแดง บริเวณภูขี้เถ้ำ จ.เลย ซึ่งอยู่ไปทำงทิศตะวัน แดง รอบๆ บริเวณฐำนที่มั่นที่ถูกล้อมต่อไป แต่สถำนกำรณ์ไม่ดีขึ้น รวมทั้งท�ำลำยฐำนที่มั่นและอุปกรณ์ต่ำงๆ ของ ผู้ก่อกำรร้ำยฯ จนหมด
ี
ั
ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้ำนเรือนอย่ำงหนำแน่นของหมู่บ้ำนชำวเขำเผ่ำม้ง จำกนั้น ออกเฉียงเหนือของภูหินร่องกล้ำ ประมำณ ๖ กม. ระหว่ำงวันที่ ๔ – ๗ จึงร้องขอก�ำลังสนับสนุนจำกกองทัพบกเพื่อเข้ำแก้ไขสถำนกำรณ์ โดย สิ้น จึงจบภำรกิจ เดินทำงกลับหน่วยในวันที่ ๑๖ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๒
ก็มีเหตุ ลอบยิงผู้ใหญ่บ้ำน บ้ำนแม้วนำงอุ้ง บุกโจมตีค่ำยฝึกอบรมชำว ธันวำคม ๒๕๑๑ ก�ำลังพลที่จัดเพิ่มเติม จัดจำกกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒ ศูนย์สงครำม ซึ่งเป็นกำรรบข้ำมปี ใช้เวลำท�ำกำรรบ ๖๙ วัน
เขำ บ้ำนห้วยทรำย โจมตีอำสำสมัครคุ้มครองหมู่บ้ำน ท�ำให้เจ้ำหน้ำที่ พิเศษ จ�ำนวน ๗๕ นำย มีพันตรีอภิศักดิ์ ศักดิ์ศิลปชัย เป็น ผบ.หน่วย ยอดกำรสูญเสียตำมแผนยุทธกำรชูชีพ ฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๑๘
บำดเจ็บเสียชีวิตหลำยนำย และผู้ก่อกำรร้ำยฯได้ยึดอำวุธยุทโธปกรณ์ ผลการปฏิบัติ และก�ำลังจำกหน่วยจู่โจม ทภ.๒ สน. จ.สกลนคร จ�ำนวน ๒๙ นำย มี นำย บำดเจ็บ ๓๒ นำย ก�ำลังพลของหน่วยเฉพำะกิจชูชีพ ก�ำลังพล
่
้
ั
ไปไดบำงส่วน และส่งก�ำลังเข้ำโจมตีฐำนปฏิบัติกำรของฝำยรฐบำล สถำนกำรณ์เข้ำสู่สภำวะคับขัน โดยผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้สู้รบและ พันตรีไชยยง โพธิ์อุไร เป็น ผบ.หน่วย รวมก�ำลังพลจำกหน่วยรบพิเศษ หน่วยรบพิเศษเสียชีวิต ๖ นำย และบำดเจ็บสำหัส ๔ นำย
้
ั
หลำยคร้ง ท�ำให้ประชำชนเกรงกลัวอิทธิพลของผู้ก่อกำรรำยฯ ยงตอบโต้ฝ่ำยเจ้ำหน้ำท่อย่ำงรุนแรง รวมท้งเสริมก�ำลังโอบล้อม จ�ำนวน ๑๐๔ นำย ทหำรจำกกองทัพภำคที่ ๒ จ�ำนวน ๑๓๐ นำย
ิ
ั
ี
ประกอบกำรโฆษณำชวนเชื่อ ท�ำให้ พคท. ขยำยตัว และสำมำรถ ไว้อย่ำงหนำแน่น ท�ำให้ไม่สำมำรถเข้ำช่วยเหลือและส่งก�ำลังบ�ำรุงทั้ง ต�ำรวจจำกกองก�ำกับกำรต�ำรวจภูธรเขต ๔ จ�ำนวน ๑๓๕ นำย รวม
จัดตั้ง กองก�ำลังทหำรบ้ำน ทหำรประจ�ำถิ่น และทหำรหลัก ได้อย่ำง ทำงพื้นดินและทำงอำกำศแก่เจ้ำหน้ำที่ต�ำรวจได้ จนในที่สุดเจ้ำหน้ำที่ ก�ำลังพลทั้งสิ้น ๓๖๙ นำย รวมก�ำลังเป็น “หน่วยเฉพาะกิจชูชีพ” โดย ผู้ได้รับเหรีญกล้าหาญ
ครบถ้วน และสถำปนำ ภูหินร่องกล้ำ เป็นฐำนที่มั่นได้ แต่งตั้งให้ พันตรีไชยยง โพธิ์อุไร เป็นผู้บังคับหน่วย ๑. พลตรี สนั่น รำชมุณีสุข
ต�ำรวจได้เสียชีวิตจำกกำรปะทะ ๑ นำย และตกอยู่ในวงล้อมของ
จนวันที่ ๓ ธันวำคม ๒๕๑๑ ผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้วแดง ได้โจมตี ผู้ก่อกำรร้ำยฯ อีก ๕๓ นำย ทำงกองทัพภำคที่ ๒ จึงขอกำรสนับสนุน ๒. พันเอก (พิเศษ) ไชยยงค์ โพธิ์อุไร
ท่ต้งฐำนของกองร้อยต�ำรวจตระเวนชำยแดน ชุดคุ้มครองหมู่บ้ำน ก�ำลังทำงอำกำศ และกองก�ำลังภำคพื้นดินเพิ่มเติม เพื่อแก้ไข การปฏิบัติ ๓. พันตรี ประยุทธ มีสิน
ั
ี
บ.แม้วภูขี้เถ้ำ ได้เผำที่ตั้งฐำนโรงเรียน และรถยนต์ของ ตชด. และ สถำนกำรณ์ต่อไป ตั้งแต่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๑ – ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ ๔. พันตรี ทองชุบ แก้วมีศรี
วันที่ ๔ ธันวำคม ๒๕๑๑ ผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้ปิดล้อมเจ้ำหน้ำที่สร้ำง วันที่ ๑๐ ธันวำคม ก�ำลังพลจำกหน่วยต่ำงๆ ของ“ หน่วยเฉพำะ ๕. พันตรี บุญเหลือ ทองคัณฑำ
ั
ทำงตำมแผนพัฒนำชำวเขำ รวมท้งก�ำลังต�ำรวจภูธรและต�ำรวจ กิจชูชีพ ” เดินทำงเข้ำที่รวมพล ณ กองบัญชำกำรผสม ๓๙๔ ที่สนำม ๖. พันตรี สนิท เพ็งเจริญ
ตระเวนชำยแดนที่เข้ำไปคุ้มกัน บริเวณบ้ำนแม้วภูขี้เถ้ำ ต.กกสะท้อน บินหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ระยะเวลำในกำรวำงแผนและซักซ้อมกำร ๗. ร้อยโท สมศักดิ์ สิงห์ห่วง
อ.ด่ำนซ้ำย จ.เลย
ปฏิบัติ ๔ วัน
วันที่ ๑๔ – ๒๘ ธันวำคม หน่วยเฉพำะกิจชูชีพ ทั้งหมด ๓๙๖
นำย เคลื่อนย้ำยโดยเฮลิคอปเตอร์จำกสนำมบินหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
ส่งลง ณ บ้ำนแม้วป่ำหวำย จัดรูปขบวนและเคลื่อนที่เข้ำสู่บ้ำนแม้ว
ภูขี้เถ้ำ จ.เลย ในวันที่ ๑๔ ธันวำคม ๒๕๑๑ เพื่อปฏิบัติกำรตำมแผนใน
กำรช่วยเหลือผู้ถูกปิดล้อม และกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ แม้วแดง
วันที่ ๒๙ ธันวำคม ๒๕๑๑ – ๑๗ กุมพันธ์ ๒๕๑๗ ก�ำลังรบ พลตรี สนั่น ราชมุณีสุข พันเอก (พิเศษ) ไชยยงค์ โพธิ์อุไร
ของหน่วยเฉพำะกิจชูชีพและก�ำลังรบเฉพำะกิจ ได้รับมอบภำรกิจ
ลำดตระเวนตรวจค้น และท�ำลำยฐำนที่มั่นของผู้ก่อกำรร้ำยฯ บริเวณ
เขำภูลมโล
พันตรี ประยุทธ มีสิน พันตรี ทองชุบ แก้วมีศรี พันตรี บุญเหลือ ทองคัณฑา
90 91
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุทธการผาลาด ยุทธการภูขวาง
พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ.๒๕๑๕
ผลการปฏิบัติ ผลการปฏิบัติ
กองพันส่งทำงอำกำศที่ ๑ ได้ท�ำกำรฝึกทบทวน และปรับ ห้วง ๓ – ๑๒ มีนำคม ๒๕๑๕ หน่วยเฉพำะกิจเสือด�ำ
เตรียมควำมพร้อมของหน่วยระหว่ำง ๔–๓๐ มี.ค. ๒๕๑๔ เคลื่อน โดย พ.ท.ไชยยงฯ ผบ.ฉก.เสือด�ำ น�ำก�ำลังออกจำกแคมป์สน อ.หล่มสัก
ย้ำยโดยทำงรถไฟไปเข้ำที่รวมพลขั้นต้นที่ บ้ำนเชียงของ อ.เชียงค�ำ จ.เพชรบูรณ์ โดยทำงรถยนต์ ไปที่หมู่บ้ำนแม้วห้วยทรำยใต้ อ.นครไทย
แล้วเคลื่อนย้ำยทำงอำกำศเข้ำสู่พื้นที่ปฏิบัติกำรใน ๔ เม.ย. ๒๕๑๔ ใช้ จ.พิษณุโลก และลำดตระเวนด้วยเท้ำเข้ำพื้นที่ปฏิบัติกำร ซึ่งก�ำหนด
รหัสหน่วยในกำรปฏิบัติกำรว่ำ บีซี ๖๐๗ โดยใช้ก�ำลัง ๒ กองร้อยปืนเล็ก เป็น “ที่หมำย ๔” บริเวณบ้ำนแม้วซ้อโป อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
ส่งทำงอำกำศ ๔ ชุด และ ๑ ชุดสะโคป โดยเข้ำปฏิบัติกำรใน ๒ ทิศทำง ระหวำงกำรลำดตระเวน ได้ปะทะกับผู้ก่อกำรร้ำยฯ และสำมำรถ
่
ผลกำรปฏิบัติ ตั้งแต่ ๖ – ๒๓ เม.ย. ๒๕๑๔ ฝ่ำยเรำบรรลุภำรกิจ สังหำรกับผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้จ�ำนวนหนึ่ง บริเวณใกล้บ้ำนแม้วห้วยทรำย
ที่ได้รับมอบ โดยสำมำรถท�ำลำยที่มั่น แหล่งสะสมเสบียงอำหำร และ เหนือ บ้ำนแม้วตูบโกบ และบ้ำนแม้วซ้อโป ก่อนที่จะมุ่งเข้ำสู่พื้นที่
ยุทโธปกรณ์ของข้ำศึก ตลอดทั้งสกัดกั้นกำรปฏิบัติของผู้ก่อกำรร้ำยฯ สถานการณ์ ปลอดภัย ที่ฐำนบ้ำนเข็กน้อย
จำกนอกประเทศได้ระดับหนึ่ง
สถานการณ์ กำรฝึกร่วมปี ๒๕๑๕ ตำมแผนยุทธกำรภูขวำง มีจุดมุ่งหมำย กำรสูญเสียตำมแผนยุทธกำรภูขวำง ฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๑๑๗ นำย
ก�าลังพลฝ่ายเรา เสียชีวิต ๒๒ นำย บำดเจ็บ ๗๘ นำย บำดเจ็บ ๔๔๒ นำย ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ ๓ นำย บำดเจ็บ ๒นำย
พ.ศ. ๒๕๑๔ กองบัญชำกำรทหำรสูงสุด ให้เปลี่ยนกำรฝึก ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ เสียชีวิต ๒ นำย และบำดเจ็บ ๑๑ นำย หลักที่จะฝึกก�ำลังของกองพลที่ ๑ ที่เป็นหน่วยของ กองทัพบก ให้
่
ี
ื
รวมระหว่ำงเหล่ำทัพ ในพ้นท่อิทธิพลของผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต ์ มีควำมพร้อมรบ และพร้อมเข้ำปฏิบัติกำรได้ในทุกเขตของประเทศ
ึ
ตำมพื้นที่ชำยแดนภำคเหนือของประเทศไทย เริ่มที่จังหวัดเชียงรำย ซ่งเป็นกำรปฏิบัตินอกแผนงำนประจ�ำปี โดยใช้ก�ำลังขนำดใหญ ่
ึ
เป็นล�ำดับแรก เพื่อสนับสนุนกำรปฏิบัติกำรของ บก.๐๔ ให้บรรลุเป้ำ ของกองทัพบกต่อเป้ำหมำย และเป็นกำรฝึกก่งปฏิบัติกำรจริง โดยม ี
ี
หมำยในกำรเข้ำยึดครองผำหม่น มอบให้กองทัพบกเป็นหน่วยอ�ำนวย ควำมมุ่งหมำยท่จะสนับสนุนปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์
กำรฝึกใน พ.ศ. ๒๕๑๔ ก�ำหนดกำรปฏิบัติเป็น แผนยุทธกำรผำลำด ในพื้นที่เขตรอยต่อ ๓ จังหวัด คือ จ.เลย, จ. พิษณุโลก และจ.เพชรบูรณ์
ห้วงเวลำกำรปฏิบัติระหว่ำงวันที่ ๑-๓๐ เมษำยน ๒๕๑๔ และ เขต จ.เชียงรำย ตำมแผนปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยฯ ของปี ๒๕๑๖
และปี ๒๕๑๗ ต่อไป
การปฏิบัติ
การปฏิบัติ
ภำรกิจ คือ ท�ำลำย ตัดรอนก�ำลังติดอำวุธ และอิทธิพลของผู้ก่อ
กำรร้ำยฯ ในพื้นที่ให้ลดลงในระดับที่ไม่สำมำรถปฏิบัติกำร ด้วยก�ำลัง หน่วยบัญชำกำรทหำรสูงสุด โดยมอบให้กองทัพอำกำศเป็น
เป็นปึกแผ่นต่อไปได้ และผลักดันผู้ก่อกำรร้ำยฯ ให้ออกนอกประเทศ หน่วยอ�ำนวยกำรฝึก ก�ำหนดกำรปฏิบัติเป็นแผนยุทธกำรภูขวำง
่
ิ
มกำรจัดก�ำลังจำกกองทัพบกเข้ำร่วมกำรฝึก ในสวนหนวยรบพเศษ
่
ี
พ้นท่เป้ำหมำยเฉพำะ ฐำนปฏิบัติกำรของ ผกค. บริเวณ จัดหน่วยเฉพำะกิจศูนย์สงครำมพิเศษ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติกำร
ื
ี
ชำยแดนไทย/ลำว ดอยสันป่ำก่อ บ้ำนเล่ำอู บ้ำนห้วยสร้ำง บ้ำนน�้ำสำ รบพิเศษจำกกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑, กองรบพิเศษ (พลร่ม)
และบ้ำนแม้วหม้อ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ เขต อ.เชียงของ อ.เทิง จ.เชียงรำย ที่ ๒ และกองพันส่งอำกำศที่ ๑ ประกอบด้วย กองร้อยปืนเล็กส่งทำง
และ อ.เชียงค�ำ จ.พะเยำ ตลอดทั้งบริเวณใกล้เคียง
อำกำศที่ ๑ และกองร้อยปืนเล็กส่งทำงอำกำศที่ ๒ สนธิก�ำลังเรียกว่ำ
กำรจัดก�ำลังพลเข้ำปฏิบัติกำร รวม ๕,๔๑๕ นำย ก�ำลังหลัก “หน่วยเฉพำะกิจเสือด�ำ”
ได้แก่ กรมผสมที่ ๒๑ รักษำพระองค์ กรมผสมที่ ๓๑ ส่วนหน้ำ และ ห้วงเวลำปฏิบัติกำร ตั้งแต่ ๒๐ มกรำคม – ๓๐ เมษำยน ๒๕๑๕
ศูนย์สงครำมพิเศษ โดยกองพันส่งทำงอำกำศท่ ๑ จัดก�ำลังเข้ำ แบ่งกำรปฏิบัติ ออกเป็น ๓ ขั้น
ี
ปฏิบัติกำร ประกอบด้วย บก. และ ร้อย.บก., ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๑ และ
ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๒ รวมก�ำลังพล ๑๑๕ นำย สมทบด้วย ๔ ชุด น�ำทำง ภำรกิจ “หน่วยเฉพำะกิจเสือด�ำ” โดยมี พ.ท.ไชยยง โพธิ์อุไร
โดยมี พ.ต.เจริญ ทองนิ่ม ผบ.พัน.สอ.ที่ ๑, พ.ต.อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์ เป็น ผบ.ฉก.เสือด�ำ, พ.ท.บ�ำรุง ดิษฐ์บรรจง ผบ.พัน.สอ.ที่ ๑, ร.ท.เยี่ยม
รอง ผบ.พัน.สอ.ที่ ๑, ร.ท.สุทิน จันทร์กระจ่ำง ผบ.ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๑ บุญยสัมพันธ์ ผบ.ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๑ และ ร.ท.ประสงค์ เจริญใจ ผบ.ร้อย.
และ ร.ท.วิจำรณ์ ปำนเจริญ ผบ.ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๒ ปล.สอ.ที่ ๒ เข้ำพิสูจน์ทรำบก�ำลังผู้ก่อกำรร้ำย เหนือแนวถนนนครไทย
– ด้ำนซ้ำย ตำมแนวทำงแทรกซึมจำกเหนือมำใต้ จำกภูเมี่ยง เข้ำสู่
บ้ำนหินร่องกล้ำ ลักษณะกำรใช้ก�ำลังเป็นไปในรูปแบบกำรรบพิเศษ
ควำมมุ่งหมำย เพื่อสกัดกั้นกำรโยกย้ำยก�ำลังของฝ่ำยตรงข้ำม เข้ำและ
ออกจำกพื้นที่ปฏิบัติกำรของกองพลที่ ๑
92 93
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุทธการผาลาด ยุทธการภูขวาง
พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ.๒๕๑๕
ผลการปฏิบัติ ผลการปฏิบัติ
กองพันส่งทำงอำกำศที่ ๑ ได้ท�ำกำรฝึกทบทวน และปรับ ห้วง ๓ – ๑๒ มีนำคม ๒๕๑๕ หน่วยเฉพำะกิจเสือด�ำ
เตรียมควำมพร้อมของหน่วยระหว่ำง ๔–๓๐ มี.ค. ๒๕๑๔ เคลื่อน โดย พ.ท.ไชยยงฯ ผบ.ฉก.เสือด�ำ น�ำก�ำลังออกจำกแคมป์สน อ.หล่มสัก
ย้ำยโดยทำงรถไฟไปเข้ำที่รวมพลขั้นต้นที่ บ้ำนเชียงของ อ.เชียงค�ำ จ.เพชรบูรณ์ โดยทำงรถยนต์ ไปที่หมู่บ้ำนแม้วห้วยทรำยใต้ อ.นครไทย
แล้วเคลื่อนย้ำยทำงอำกำศเข้ำสู่พื้นที่ปฏิบัติกำรใน ๔ เม.ย. ๒๕๑๔ ใช้ จ.พิษณุโลก และลำดตระเวนด้วยเท้ำเข้ำพื้นที่ปฏิบัติกำร ซึ่งก�ำหนด
รหัสหน่วยในกำรปฏิบัติกำรว่ำ บีซี ๖๐๗ โดยใช้ก�ำลัง ๒ กองร้อยปืนเล็ก เป็น “ที่หมำย ๔” บริเวณบ้ำนแม้วซ้อโป อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
ส่งทำงอำกำศ ๔ ชุด และ ๑ ชุดสะโคป โดยเข้ำปฏิบัติกำรใน ๒ ทิศทำง ระหวำงกำรลำดตระเวน ได้ปะทะกับผู้ก่อกำรร้ำยฯ และสำมำรถ
่
ผลกำรปฏิบัติ ตั้งแต่ ๖ – ๒๓ เม.ย. ๒๕๑๔ ฝ่ำยเรำบรรลุภำรกิจ สังหำรกับผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้จ�ำนวนหนึ่ง บริเวณใกล้บ้ำนแม้วห้วยทรำย
ที่ได้รับมอบ โดยสำมำรถท�ำลำยที่มั่น แหล่งสะสมเสบียงอำหำร และ เหนือ บ้ำนแม้วตูบโกบ และบ้ำนแม้วซ้อโป ก่อนที่จะมุ่งเข้ำสู่พื้นที่
ยุทโธปกรณ์ของข้ำศึก ตลอดทั้งสกัดกั้นกำรปฏิบัติของผู้ก่อกำรร้ำยฯ สถานการณ์ ปลอดภัย ที่ฐำนบ้ำนเข็กน้อย
จำกนอกประเทศได้ระดับหนึ่ง
สถานการณ์ กำรฝึกร่วมปี ๒๕๑๕ ตำมแผนยุทธกำรภูขวำง มีจุดมุ่งหมำย กำรสูญเสียตำมแผนยุทธกำรภูขวำง ฝ่ำยเรำ เสียชีวิต ๑๑๗ นำย
ก�าลังพลฝ่ายเรา เสียชีวิต ๒๒ นำย บำดเจ็บ ๗๘ นำย บำดเจ็บ ๔๔๒ นำย ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ ๓ นำย บำดเจ็บ ๒นำย
พ.ศ. ๒๕๑๔ กองบัญชำกำรทหำรสูงสุด ให้เปลี่ยนกำรฝึก ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ เสียชีวิต ๒ นำย และบำดเจ็บ ๑๑ นำย หลักที่จะฝึกก�ำลังของกองพลที่ ๑ ที่เป็นหน่วยของ กองทัพบก ให้
่
ี
ื
รวมระหว่ำงเหล่ำทัพ ในพ้นท่อิทธิพลของผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต ์ มีควำมพร้อมรบ และพร้อมเข้ำปฏิบัติกำรได้ในทุกเขตของประเทศ
ึ
ตำมพื้นที่ชำยแดนภำคเหนือของประเทศไทย เริ่มที่จังหวัดเชียงรำย ซ่งเป็นกำรปฏิบัตินอกแผนงำนประจ�ำปี โดยใช้ก�ำลังขนำดใหญ ่
ึ
เป็นล�ำดับแรก เพื่อสนับสนุนกำรปฏิบัติกำรของ บก.๐๔ ให้บรรลุเป้ำ ของกองทัพบกต่อเป้ำหมำย และเป็นกำรฝึกก่งปฏิบัติกำรจริง โดยม ี
ี
หมำยในกำรเข้ำยึดครองผำหม่น มอบให้กองทัพบกเป็นหน่วยอ�ำนวย ควำมมุ่งหมำยท่จะสนับสนุนปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์
กำรฝึกใน พ.ศ. ๒๕๑๔ ก�ำหนดกำรปฏิบัติเป็น แผนยุทธกำรผำลำด ในพื้นที่เขตรอยต่อ ๓ จังหวัด คือ จ.เลย, จ. พิษณุโลก และจ.เพชรบูรณ์
ห้วงเวลำกำรปฏิบัติระหว่ำงวันที่ ๑-๓๐ เมษำยน ๒๕๑๔ และ เขต จ.เชียงรำย ตำมแผนปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยฯ ของปี ๒๕๑๖
และปี ๒๕๑๗ ต่อไป
การปฏิบัติ
การปฏิบัติ
ภำรกิจ คือ ท�ำลำย ตัดรอนก�ำลังติดอำวุธ และอิทธิพลของผู้ก่อ
กำรร้ำยฯ ในพื้นที่ให้ลดลงในระดับที่ไม่สำมำรถปฏิบัติกำร ด้วยก�ำลัง หน่วยบัญชำกำรทหำรสูงสุด โดยมอบให้กองทัพอำกำศเป็น
เป็นปึกแผ่นต่อไปได้ และผลักดันผู้ก่อกำรร้ำยฯ ให้ออกนอกประเทศ หน่วยอ�ำนวยกำรฝึก ก�ำหนดกำรปฏิบัติเป็นแผนยุทธกำรภูขวำง
่
ิ
มกำรจัดก�ำลังจำกกองทัพบกเข้ำร่วมกำรฝึก ในสวนหนวยรบพเศษ
่
ี
พ้นท่เป้ำหมำยเฉพำะ ฐำนปฏิบัติกำรของ ผกค. บริเวณ จัดหน่วยเฉพำะกิจศูนย์สงครำมพิเศษ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติกำร
ื
ี
ชำยแดนไทย/ลำว ดอยสันป่ำก่อ บ้ำนเล่ำอู บ้ำนห้วยสร้ำง บ้ำนน�้ำสำ รบพิเศษจำกกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑, กองรบพิเศษ (พลร่ม)
และบ้ำนแม้วหม้อ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ เขต อ.เชียงของ อ.เทิง จ.เชียงรำย ที่ ๒ และกองพันส่งอำกำศที่ ๑ ประกอบด้วย กองร้อยปืนเล็กส่งทำง
และ อ.เชียงค�ำ จ.พะเยำ ตลอดทั้งบริเวณใกล้เคียง
อำกำศที่ ๑ และกองร้อยปืนเล็กส่งทำงอำกำศที่ ๒ สนธิก�ำลังเรียกว่ำ
กำรจัดก�ำลังพลเข้ำปฏิบัติกำร รวม ๕,๔๑๕ นำย ก�ำลังหลัก “หน่วยเฉพำะกิจเสือด�ำ”
ได้แก่ กรมผสมที่ ๒๑ รักษำพระองค์ กรมผสมที่ ๓๑ ส่วนหน้ำ และ ห้วงเวลำปฏิบัติกำร ตั้งแต่ ๒๐ มกรำคม – ๓๐ เมษำยน ๒๕๑๕
ศูนย์สงครำมพิเศษ โดยกองพันส่งทำงอำกำศท่ ๑ จัดก�ำลังเข้ำ แบ่งกำรปฏิบัติ ออกเป็น ๓ ขั้น
ี
ปฏิบัติกำร ประกอบด้วย บก. และ ร้อย.บก., ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๑ และ
ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๒ รวมก�ำลังพล ๑๑๕ นำย สมทบด้วย ๔ ชุด น�ำทำง ภำรกิจ “หน่วยเฉพำะกิจเสือด�ำ” โดยมี พ.ท.ไชยยง โพธิ์อุไร
โดยมี พ.ต.เจริญ ทองนิ่ม ผบ.พัน.สอ.ที่ ๑, พ.ต.อรพันธ์ วัฒนวิบูลย์ เป็น ผบ.ฉก.เสือด�ำ, พ.ท.บ�ำรุง ดิษฐ์บรรจง ผบ.พัน.สอ.ที่ ๑, ร.ท.เยี่ยม
รอง ผบ.พัน.สอ.ที่ ๑, ร.ท.สุทิน จันทร์กระจ่ำง ผบ.ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๑ บุญยสัมพันธ์ ผบ.ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๑ และ ร.ท.ประสงค์ เจริญใจ ผบ.ร้อย.
และ ร.ท.วิจำรณ์ ปำนเจริญ ผบ.ร้อย.ปล.สอ.ที่ ๒ ปล.สอ.ที่ ๒ เข้ำพิสูจน์ทรำบก�ำลังผู้ก่อกำรร้ำย เหนือแนวถนนนครไทย
– ด้ำนซ้ำย ตำมแนวทำงแทรกซึมจำกเหนือมำใต้ จำกภูเมี่ยง เข้ำสู่
บ้ำนหินร่องกล้ำ ลักษณะกำรใช้ก�ำลังเป็นไปในรูปแบบกำรรบพิเศษ
ควำมมุ่งหมำย เพื่อสกัดกั้นกำรโยกย้ำยก�ำลังของฝ่ำยตรงข้ำม เข้ำและ
ออกจำกพื้นที่ปฏิบัติกำรของกองพลที่ ๑
92 93
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ิ
ยุทธการสามชัย แผนยุทธการผาภูม
พ.ศ.๒๕๑๕ – พ.ศ.๒๕๑๖ พ.ศ.๒๕๑๗
สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ
ี
จำกกำรท่ผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ ยังปฏิบัติกำรอยอยำง สำมำรถปฏิบัติภำรกิจบรรลุผลตำมที่ได้รับมอบ ด�ำเนินกำร
ู
่
่
ต่อเนื่อง ในภำคตะวันออกเฉียงเหนือและภำคเหนือตอนล่ำง โดย ปฏิบัติทำงยุทธวิธี เข้ำกวำดล้ำง และท�ำลำยก�ำลังติดอำวุธของผู้ก่อกำร
เฉพำะในพื้นที่รอยต่อ ๓ จังหวัด คือ จ.พิษณุโลก, จ. เลย และ จ.เพชรบูรณ์ ร้ำยฯ ฐำนปฏิบัติกำร แหล่งสะสมเสบียงและอำวุธ ตลอดจนพืชไร่ของ
และจำกกำรพิสูจน์ทรำบว่ำมีผู้ก่อกำรร้ำยฯ ประมำณ ๕๐๐-๖๐๐ คน ผู้ก่อกำรร้ำยฯ ในพื้นที่รอยต่อ จ.พิษณุโลก, จ.เลย และ จ.เพชรบูรณ์
เคลื่อนย้ำยก�ำลัง เพื่อก่อกวนฝ่ำยปรำบปรำม และหลอกล่อให้ออก กำรสูญเสีย ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ บำดเจ็บ จ�ำนวน ๙ นำย
นอกพื้นที่ปฏิบัติกำร เพื่อให้กองก�ำลังฝ่ำยเรำกระจำยออกหลำย เสียชีวิต จ�ำนวน ๓ นำย
ทิศทำง และใช้ยุทธวิธีเข้ำเกำะ ตัดชุมชนหมู่บ้ำนรอบๆ พื้นที่เป้ำหมำย
ื
่
ั
ิ
เพอลดอนตรำยจำกกำรระดมยิงด้วยปืนใหญ่ และกำรท้งระเบิดจำก
เครื่องบิน กองทัพบกตระหนักดีว่ำ สถำนกำรณ์ดังกล่ำวคุกคำมต่อ
ื
่
่
่
ควำมสงบสุขของประชำชน จึงด�ำรงกำรปรำบปรำมอยำงตอเนอง
ดังนั้น เมื่อแผนยุทธกำรภูขวำงสิ้นสุดลงแล้ว จึงก�ำหนดกำรฝึกร่วม สถานการณ์
ปี ๑๖ ตำมแผนยุทธกำรสำมชัยขึ้น ในห้วง ๒๓ ธันวำคม ๒๕๑๕ ถึง กองบัญชำกำรทหำรสูงสุด ได้มีค�ำสั่งให้มีกำรฝึกร่วมปี ๒๕๑๗
๒๙ มกรำคม ๒๕๑๖ ตำมแผนยุทธกำรผำภูมิ ซ่งเป็นกำรฝึกร่วมระหว่ำงสำมเหลำทพ
่
ั
ึ
่
รวมกับก�ำลังต�ำรวจ และพลเรือน บริเวณพ้นท่ส่วนเหนือของ
ี
ื
การปฏิบัติ ประเทศ ที่บริเวณดอยยำว เขต อ.เชียงของ และ อ.เทิง ดอยลังกำ อ.ปง
กองทัพบกได้มอบหมำยให้ศูนย์สงครำมพิเศษ จัดก�ำลังเข้ำร่วม ดอยผำจิ อ.เชียงม่วน อ.ปง จ.เชียงรำย และ อ.เมือง จ.น่ำน มีควำม
ื
ปฏิบัติกำรตำมแผนยุทธกำรสำมชัย โดยแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ มุ่งหมำย เพ่อทดสอบประสิทธิภำพกำรรบ และกำรประสำนงำน
กำรรบพิเศษ เพื่อปรำบปรำมสงครำมกองโจร กำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
ส่วนที่ ๑ ประกอบด้วย ส่วนแยกกองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ และกำรรบตำมแบบ กำรปฏิบัติกำรของหน่วยทหำรขนำดเล็ก ใน
ส่วนแยกกองพลำธิกำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ ชุดท�ำสนำมเฮลิคอปเตอร์ กำรปฏิบัติกำรปรำบปรำมกองโจร แสวงหำประสบกำรณ์ในกำร
(ชุดกู้ภัย) ขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรโดยกองก�ำลังเขตกองทัพภำคที่ ๒ ป้องกันและปรำมปรำมผู้ก่อกำรร้ำยฯ ตำมแนวทำง พลเรือน ต�ำรวจ
ภำรกิจ คือ เข้ำท�ำลำยระบบงำนของฝ่ำยตรงข้ำมรอบพื้นที่ภูพำนใน ทหำร ของกองอ�ำนวยกำรปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยฯ และเพื่อแก้ไข
เขต จ.ศรีสะเกษ, จ.นครพนม และ จ.กำฬสินธุ์ ยับยั้งกำร ข้อบกพร่อง รวมทั้งขยำยผลกำรปฏิบัติ จำกกำรฝึกร่วมปี ๒๕๑๖ ด้วย
ขยำยตัวด้ำนกำรเมือง พิสูจน์ทรำบ ท�ำลำยกองก�ำลังติด
อำวุธ และแหล่งสะสมเสบียงบนเทือกเขำภูพำน ด�ำเนิน การปฏิบัติ
กำรด้ำนจิตวิทยำ เพื่อรุกทำงด้ำนกำรเมือง
ศนยสงครำมพิเศษ ได้จัดก�ำลังร่วมปฏิบัติตำมแผนยทธกำร
์
ู
ุ
ส่วนที่ ๒ ประกอบด้วย กองพันส่งทำงอำกำศที่ ๑ จำก ผำภูมิ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ จ�ำนวน ๓ ชุดปฏิบัติกำร,
ศูนย์สงครำมพิเศษ (หย่อนก�ำลัง) กรมทหำรรำบที่ ๑๑ ชดปฏบตกำรจตวทยำและสถำนีวิทยุเคล่อนท่ จ�ำนวน ๑๒๗ นำย
ิ
ั
ิ
ี
ื
ิ
ิ
ุ
รักษำพระองค์ กองพลทหำรรำบที่ ๙ และ กรมนำวิก ข้นกำรปฏิบัติทำงยุทธกำรกับกองบัญชำกำรเขตกองทัพภำคท่ ๓
ึ
ี
โยธิน ขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรกับกองก�ำลังเขตกองทัพ ห้วงกำรปฏิบัติ ต่อเน่องจำก พ.ศ.๒๕๑๖ และ เสร็จส้นภำรกจ
ิ
ื
ิ
ภำคที่ ๓ ภำรกิจ คือ กำรค้นหำ ท�ำลำย และตัดรอนก�ำลัง เมื่อ ๒๑ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๑๗
ติดอำวุธ ฐำนปฏิบัติกำร แหล่งสะสมเสบียงและอำวธ
ุ
ในพื้นที่รอยต่อ จ.พิษณุโลก, จ.เลย และ จ.เพชรบูรณ์
ผลการปฏิบัติ
ห้วงกำรปฏิบัติ ตั้งแต่ วันที่ ๓ – ๓๐ ธันวำคม ๒๕๑๕
ั
กำรปฏบตบรรลุตำมเป้ำหมำยท่ก�ำหนดไว้ หน่วยรบพิเศษได ้
ิ
ิ
ี
รับบทเรียน และประสบกำรณ์ในกำรปฏิบัติกำรร่วมระหว่ำงเหล่ำทัพ
กำรใชหนวยทหำรขนำดเล็กปฏิบัติกำรเป็นอิสระ ในกำรปรำบปรำม
่
้
ผู้ก่อกำรร้ำยฯ รวมทั้งกำรปฏิบัติกำรร่วมกับก�ำลังพลเรือน ได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพ โดยไม่มีกำรสูญเสียก�ำลังพล
94 95
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ิ
ยุทธการสามชัย แผนยุทธการผาภูม
พ.ศ.๒๕๑๕ – พ.ศ.๒๕๑๖ พ.ศ.๒๕๑๗
สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ
ี
จำกกำรท่ผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ ยังปฏิบัติกำรอยอยำง สำมำรถปฏิบัติภำรกิจบรรลุผลตำมที่ได้รับมอบ ด�ำเนินกำร
ู
่
่
ต่อเนื่อง ในภำคตะวันออกเฉียงเหนือและภำคเหนือตอนล่ำง โดย ปฏิบัติทำงยุทธวิธี เข้ำกวำดล้ำง และท�ำลำยก�ำลังติดอำวุธของผู้ก่อกำร
เฉพำะในพื้นที่รอยต่อ ๓ จังหวัด คือ จ.พิษณุโลก, จ. เลย และ จ.เพชรบูรณ์ ร้ำยฯ ฐำนปฏิบัติกำร แหล่งสะสมเสบียงและอำวุธ ตลอดจนพืชไร่ของ
และจำกกำรพิสูจน์ทรำบว่ำมีผู้ก่อกำรร้ำยฯ ประมำณ ๕๐๐-๖๐๐ คน ผู้ก่อกำรร้ำยฯ ในพื้นที่รอยต่อ จ.พิษณุโลก, จ.เลย และ จ.เพชรบูรณ์
เคลื่อนย้ำยก�ำลัง เพื่อก่อกวนฝ่ำยปรำบปรำม และหลอกล่อให้ออก กำรสูญเสีย ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ บำดเจ็บ จ�ำนวน ๙ นำย
นอกพื้นที่ปฏิบัติกำร เพื่อให้กองก�ำลังฝ่ำยเรำกระจำยออกหลำย เสียชีวิต จ�ำนวน ๓ นำย
ทิศทำง และใช้ยุทธวิธีเข้ำเกำะ ตัดชุมชนหมู่บ้ำนรอบๆ พื้นที่เป้ำหมำย
ื
่
ั
ิ
เพอลดอนตรำยจำกกำรระดมยิงด้วยปืนใหญ่ และกำรท้งระเบิดจำก
เครื่องบิน กองทัพบกตระหนักดีว่ำ สถำนกำรณ์ดังกล่ำวคุกคำมต่อ
ื
่
่
่
ควำมสงบสุขของประชำชน จึงด�ำรงกำรปรำบปรำมอยำงตอเนอง
ดังนั้น เมื่อแผนยุทธกำรภูขวำงสิ้นสุดลงแล้ว จึงก�ำหนดกำรฝึกร่วม สถานการณ์
ปี ๑๖ ตำมแผนยุทธกำรสำมชัยขึ้น ในห้วง ๒๓ ธันวำคม ๒๕๑๕ ถึง กองบัญชำกำรทหำรสูงสุด ได้มีค�ำสั่งให้มีกำรฝึกร่วมปี ๒๕๑๗
๒๙ มกรำคม ๒๕๑๖ ตำมแผนยุทธกำรผำภูมิ ซ่งเป็นกำรฝึกร่วมระหว่ำงสำมเหลำทพ
่
ั
ึ
่
รวมกับก�ำลังต�ำรวจ และพลเรือน บริเวณพ้นท่ส่วนเหนือของ
ี
ื
การปฏิบัติ ประเทศ ที่บริเวณดอยยำว เขต อ.เชียงของ และ อ.เทิง ดอยลังกำ อ.ปง
กองทัพบกได้มอบหมำยให้ศูนย์สงครำมพิเศษ จัดก�ำลังเข้ำร่วม ดอยผำจิ อ.เชียงม่วน อ.ปง จ.เชียงรำย และ อ.เมือง จ.น่ำน มีควำม
ื
ปฏิบัติกำรตำมแผนยุทธกำรสำมชัย โดยแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ มุ่งหมำย เพ่อทดสอบประสิทธิภำพกำรรบ และกำรประสำนงำน
กำรรบพิเศษ เพื่อปรำบปรำมสงครำมกองโจร กำรปฏิบัติกำรจิตวิทยำ
ส่วนที่ ๑ ประกอบด้วย ส่วนแยกกองพันปฏิบัติกำรจิตวิทยำ และกำรรบตำมแบบ กำรปฏิบัติกำรของหน่วยทหำรขนำดเล็ก ใน
ส่วนแยกกองพลำธิกำรส่งก�ำลังทำงอำกำศ ชุดท�ำสนำมเฮลิคอปเตอร์ กำรปฏิบัติกำรปรำบปรำมกองโจร แสวงหำประสบกำรณ์ในกำร
(ชุดกู้ภัย) ขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรโดยกองก�ำลังเขตกองทัพภำคที่ ๒ ป้องกันและปรำมปรำมผู้ก่อกำรร้ำยฯ ตำมแนวทำง พลเรือน ต�ำรวจ
ภำรกิจ คือ เข้ำท�ำลำยระบบงำนของฝ่ำยตรงข้ำมรอบพื้นที่ภูพำนใน ทหำร ของกองอ�ำนวยกำรปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยฯ และเพื่อแก้ไข
เขต จ.ศรีสะเกษ, จ.นครพนม และ จ.กำฬสินธุ์ ยับยั้งกำร ข้อบกพร่อง รวมทั้งขยำยผลกำรปฏิบัติ จำกกำรฝึกร่วมปี ๒๕๑๖ ด้วย
ขยำยตัวด้ำนกำรเมือง พิสูจน์ทรำบ ท�ำลำยกองก�ำลังติด
อำวุธ และแหล่งสะสมเสบียงบนเทือกเขำภูพำน ด�ำเนิน การปฏิบัติ
กำรด้ำนจิตวิทยำ เพื่อรุกทำงด้ำนกำรเมือง
ศนยสงครำมพิเศษ ได้จัดก�ำลังร่วมปฏิบัติตำมแผนยทธกำร
์
ู
ุ
ส่วนที่ ๒ ประกอบด้วย กองพันส่งทำงอำกำศที่ ๑ จำก ผำภูมิ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติกำรรบพิเศษ จ�ำนวน ๓ ชุดปฏิบัติกำร,
ศูนย์สงครำมพิเศษ (หย่อนก�ำลัง) กรมทหำรรำบที่ ๑๑ ชดปฏบตกำรจตวทยำและสถำนีวิทยุเคล่อนท่ จ�ำนวน ๑๒๗ นำย
ิ
ั
ิ
ี
ื
ิ
ิ
ุ
รักษำพระองค์ กองพลทหำรรำบที่ ๙ และ กรมนำวิก ข้นกำรปฏิบัติทำงยุทธกำรกับกองบัญชำกำรเขตกองทัพภำคท่ ๓
ึ
ี
โยธิน ขึ้นควบคุมทำงยุทธกำรกับกองก�ำลังเขตกองทัพ ห้วงกำรปฏิบัติ ต่อเน่องจำก พ.ศ.๒๕๑๖ และ เสร็จส้นภำรกจ
ิ
ื
ิ
ภำคที่ ๓ ภำรกิจ คือ กำรค้นหำ ท�ำลำย และตัดรอนก�ำลัง เมื่อ ๒๑ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๑๗
ติดอำวุธ ฐำนปฏิบัติกำร แหล่งสะสมเสบียงและอำวธ
ุ
ในพื้นที่รอยต่อ จ.พิษณุโลก, จ.เลย และ จ.เพชรบูรณ์
ผลการปฏิบัติ
ห้วงกำรปฏิบัติ ตั้งแต่ วันที่ ๓ – ๓๐ ธันวำคม ๒๕๑๕
ั
กำรปฏบตบรรลุตำมเป้ำหมำยท่ก�ำหนดไว้ หน่วยรบพิเศษได ้
ิ
ิ
ี
รับบทเรียน และประสบกำรณ์ในกำรปฏิบัติกำรร่วมระหว่ำงเหล่ำทัพ
กำรใชหนวยทหำรขนำดเล็กปฏิบัติกำรเป็นอิสระ ในกำรปรำบปรำม
่
้
ผู้ก่อกำรร้ำยฯ รวมทั้งกำรปฏิบัติกำรร่วมกับก�ำลังพลเรือน ได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพ โดยไม่มีกำรสูญเสียก�ำลังพล
94 95
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุทธการสองนา ยุทธการร่วมใจ ๑๐
พ.ศ.๒๕๑๘ พ.ศ.๒๕๑๙
ผลการปฏิบัติ
ชุดซุ่มโจมตี ใช้ระยะเวลำกว่ำ ๑๕ ชั่วโมง ในกำรดักซุ่มโจมตี
โดยใช้ป่ำหินเป็นที่ก�ำบังซ่อนพรำง จนกระทั่งผู้ก่อกำรร้ำยฯ จ�ำนวน
ื
ี
๑๐๐ คน เคล่อนท่เข้ำมำในพ้นท่สังหำรตำมแผนท่ก�ำหนดไว้ จึงสำมำรถ
ี
ื
ี
สังหำรผู้ก่อกำรร้ำยฯ และท�ำลำยสัมภำระ ท่จุดซุ่มโจมตี จ�ำนวน
ี
๑๓ คน และทำงทิศเหนือของจุดซุ่มโจมตีอีก ๕ ศพ และบริเวณใกล้เคียง
อีก ๕ ศพ และผู้ก่อกำรร้ำยฯ ยังบำดเจ็บ อีกจ�ำนวนมำก ซึ่งผลกำร
ปฏิบัติที่ดีเยี่ยม มำจำกกำรข่ำวที่แม่นย�ำ กำรวำงแผนที่รัดกุม รวมทั้ง
ใช้ลักษณะภูมิประเทศให้เกิดประโยชน์ ประกอบกับก�ำลังพลทุกนำยมี ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ ๓๒ นำย มี ร้อยโทอนันต์ อิ่มสมบูรณ์
วินัยและควำมอดทนอย่ำงสูง นำยทหำรยุทธกำรและกำรฝึก ส่วนควบคุมกำรปฏิบัติกำร
สถานการณ์ การสูญเสีย ฝ่ำยเรำ ไม่มีกำรเสียชีวิต มีบำดเจ็บ ๑ นำย กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ น�ำหน่วยเคลื่อนย้ำยทำงอำกำศเข้ำสู่พื้นที่
ผู้ก่อกำรร้ำยฯ มีกำรปฏิบัติกำรและเคล่อนไหวอย่ำงมำก ฝ่ำยตรงข้ำม เสียชีวิต ๒๓ นำย ปฏิบัติกำร ในวันที่ ๑๘ มิถุนำยน ๒๕๑๙
ื
ั
ทำงทศตะวันออกของบ้ำนนำโพธ์และบ้ำนนำจำน ซ่งหมู่บ้ำนทง สถานการณ์ นอกจำกน้น พตท.๑๖๑๗ ยังมอบหมำยให้ “หน่วยสมเด็จ”
้
ั
ึ
ิ
ิ
ี
สอง ตั้งอยู่ทำงทิศตะวันออกของถนนบ้ำนแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เป็นก�ำลังพลจัดจำกกองร้อยปืนเล็กของกรมทหำรรำบท่ ๑๙
่
ี
ี
ประมำณ ๓ กม. และอยู่ทำงทิศตะวันตกของภูหินร่องกล้ำ กองก�ำลัง เมื่อวันที่ ๑๑ มิ.ย. ๒๕๑๙ หน่วยทหำรภำคพื้นดิน ลำดตระเวน กรมทหำรรำบท่ ๔ และ กรมทหำรรำบท่ ๗ รวมก�ำลังเป็นหนวย
ั
ี
ี
ื
พลเรือนต�ำรวจทหำรที่ ๑๖๑๗ จึงมอบภำรกิจให้ กองก�ำลังเฉพำะกิจ พบท่ม่นขนำดใหญ่ของ ผู้ก่อกำรร้ำยในพ้นท่ป่ำลึก บริเวณบ้ำนภูชัย ระดับกองพัน มี พันโทยืนยง วัฒนวิกร เป็นผู้บังคับกองพันเฉพำะกิจ
ศูนย์สงครำมพิเศษ ไปปฏิบัติภำรกิจตำมแผนยุทธกำร “สองนำ” เทือกเขำค้อ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จึงร้องขอก�ำลังทำงอำกำศเข้ำ เข้ำช่วยเหลือและแก้ไขสถำนกำรณ์ให้กับชุดขุนศึก โดยเดินทำงบรรจบ
ท�ำลำย โดยเรืออำกำศเอกชวลิต ขยันกิจ และเรืออำกำศโทพงษ์ กับชุดรบนเรศวร ในวันที่ ๓๐ มิถุนำยน ๒๕๑๙ และร่วมช่วยเหลือชุด
การปฏิบัติ ณรงค์ เกสรศุกร์ (บุตรชำยพลโทยุทธศิลป์ เกสรศุกร์) เป็นนักบิน ขุนศึกจำกกำรถูกปิดล้อมจำกผู้ก่อกำรร้ำยฯ
น�ำเครื่องบินเอฟ-๕เอ (F-5A) จ�ำนวน ๒ ล�ำ เข้ำทิ้งระเบิดต่อที่หมำย
ิ
กำรจัดก�ำลัง จัดเป็นกองก�ำลังเฉพำะกิจศูนย์สงครำมพเศษ และเครื่องบินของเรืออำกำศโทพงษ์ณรงค์ ฯ ได้ถูกยิงจำกภำคพื้นดิน ผลการปฏิบัติ
(ฉก.ศสพ.) โดยมี พ.อ. อเนก บุนยถี ผบ.ฉก.ศสพ., พ.ท. วิมล วงศ์วำนิช แล้วหำยไป หน่วยส่งเคร่องบินตรวจกำรณ์เข้ำค้นหำถ่ำยภำพทำงอำกำศ
ื
นำยทหำรยุทธกำรและกำรฝึก ฉก.ศสพ., พ.ท. วรวิทย์ พิบูลศิลป ์ พบว่ำ อำกำศยำนตกไฟไหม้ คำดว่ำนักบินสละเคร่องบินด้วยกำร ชุดรบนเรศวร ปฏิบัติกำรเข้ำช่วยเหลือ ชุดขุนศึก โดยใช้ยุทธวิธี
ื
เป็น นำยทหำรยุทธกำร ฉก.ศสพ., ร.อ.หอม โห้ล�ำยอง ผบ.ทก. กระโดดและยังมีชีวิตอยู่ จึงระดมก�ำลังขนำดใหญ่เข้ำค้นหำเพอ กำรเคลื่อนที่หักเห เปลี่ยนทิศทำงตลอดเวลำ ท�ำให้สำมำรถต่อต้ำน
่
ื
ยว., ร.อ.ประจักษ์ วิสุตกุล เป็น ผบ.ชป.นำรำยณ์ และ ร.ท.มำนพ ช่วยเหลือนักบินจำกทุกทิศทำง กำรเกำะติดของผู้ก่อกำรร้ำยฯ และสนธิก�ำลังกับหน่วยสมเด็จ จนเข้ำ
จันตะเภำ เป็น ผบ.กองหนุน มีภำรกิจ คือ ปฏิบัติกำรพิเศษต่อ ช่วยเหลือ ชุดขุนศึก ได้ส�ำเร็จ ทุกชุดจึงเคลื่อนย้ำยออกจำกฐำนปฏิบัติ
ี
ื
เป้ำหมำยท่เกิดข้นตำมเหตุกำรณ์เร่งด่วนและเป็นกองหนุนเคล่อนท ่ ี การปฏิบัติ กำรชั่วครำว เพื่อแทรกซึมออกจำกพื้นที่อันตรำย ในวันที่ ๓ กรกฎำคม
ึ
ื
ั
เร็วเพ่อใช้แก้ไขสถำนกำรณ์ตำมค�ำส่งของกองก�ำลังพลเรือนต�ำรวจ ๒๕๑๙ และเคลื่อนที่ถึงพื้นที่ปลอดภัยเมื่อวันที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๑๙
ี
ทหำรที่ ๑๖๑๗ ที่ได้รับมอบตลอด ๒๔ ชั่วโมง ห้วงกำรปฏิบัติ ตั้งแต่ กองบัญชำกำรผสมพลเรือนต�ำรวจทหำรท่ ๑๖๑๗ (พตท. การสูญเสีย ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ เสียชีวิต ๑๓ นำย
๒๔–๒๘ มิถุนำยน ๒๕๑๘ โดยกำรปฏิบัติที่ส�ำคัญ คือ ร.อ. หอมฯ ๑๖๑๗) จึงได้จัดก�ำลังเข้ำค้นหำนักบินและเครื่องบินที่ยิงตก โดยจัด บำดเจ็บ ๔ นำย
น�ำก�ำลังหน่วย ฉก.ศสพ. ๑๔ ชป. ปฏิบัติกำรกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ก�ำลัง “ชุดขุนศึก” โดยให้ ร้อยเอกทองใบ อิ่มจิตต์ เป็นผู้บังคับหน่วย ผู้ได้รับเครื่องราชราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
ิ
้
ดำนทศตะวันออกของหมู่บ้ำน จนถึงภูหินร่องกล้ำ ไม่ปรำกฏกำร มีจ�ำนวน ๑๐ ชุดปฏิบัติกำร รวมก�ำลังพล ๑๑๐ นำย เป็นก�ำลังพล
เคลื่อนไหวของผู้ก่อกำรร้ำยฯ แต่ได้รับทรำบข่ำวว่ำ จะมีผู้ก่อกำรร้ำยฯ หน่วยรบพิเศษ ๗๘ นำย เข้ำปฏิบัติกำร ตั้งแต่ ๑๔ มิถุนำยน ๒๕๑๙ ๑. พลเอก อนันต์ อิ่มสมบูรณ์
จ�ำนวนหนึ่งท�ำกำรเคลื่อนย้ำยก�ำลังและท�ำกำรส่งก�ำลังบ�ำรุง ตลอดจน จนถึง ๑ กรกฎำคม ๒๕๑๙ เป็นเวลำ ๑๘ วัน คงตั้งฐำนปฏิบัติกำร ๒. พลตรี วุฒิ ทองม่วง
อำวุธยุทโธปกรณ์ระหว่ำงภูขัด-ภูหินร่องกล้ำ ทุกๆ ๗ วัน จึงวำงแผน อยู่ ณ ที่แห่งเดียว ไม่สำมำรถเคลื่อนย้ำยก�ำลังเข้ำสู่ที่หมำยได้ เพรำะ ๓. พันตรี ประพิศ ปิยะสันต์
ร่วมกับนำยทหำรวำงแผนปฏิบัติกำรฯ โดยใช้ชุดปฏิบัติกำรนำรำยณ์ ถูกผู้ก่อกำรร้ำยฯ โจมตีและปิดล้อมไว้ทุกด้ำน ประกอบกับมีผู้เสียชีวิต
เป็นส่วนปฏิบัติกำร และใช้ก�ำลังจำกกองพันส่งทำงอำกำศเป็นกอง และผู้บำดเจ็บตลอดเวลำ จึงอยู่ในสภำพเสียขวัญ หมดก�ำลังใจในกำร
หนุน รวม ๑๔ นำย เข้ำซุ่มโจมตีผู้ก่อกำรร้ำยในเส้นทำงพื้นที่ดังกล่ำว ต่อสู้ คงรอกำรช่วยเหลืออยู่ภำยในฐำนปฏิบัติกำร
โดยกำรจัดก�ำลังไว้ ๓ ส่วน คือ ส่วนบังคับบัญชำ, ส่วนโจมตี และส่วน พตท.๑๖๑๗ จึงจัดก�ำลังเข้ำช่วยเหลือและแก้ไขสถำนกำรณ ์
ระวงป้องกัน โดยใช้รูปแบบกำรวำงก�ำลังแบบสลับฟนปลำตำมเสน โดยสนธิก�ำลังจำกหน่วยต่ำง ๆ เข้ำช่วยเหลือ จัดเป็นหน่วยระดับ
ั
ั
้
ทำงกำรเคลื่อนที่ของผู้ก่อกำรร้ำยฯ กองร้อย เรียกชื่อว่ำ “ชุดรบนเรศวร” มีก�ำลังทั้งสิ้น ๑๑๘ นำย เป็น
พลเอก อนันต์ อิ่มสมบูรณ์ พลตรี วุฒิ ทองม่วง พันตรี ประพิศ ปิยะสันต์
96 97
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุทธการสองนา ยุทธการร่วมใจ ๑๐
พ.ศ.๒๕๑๘ พ.ศ.๒๕๑๙
ผลการปฏิบัติ
ชุดซุ่มโจมตี ใช้ระยะเวลำกว่ำ ๑๕ ชั่วโมง ในกำรดักซุ่มโจมตี
โดยใช้ป่ำหินเป็นที่ก�ำบังซ่อนพรำง จนกระทั่งผู้ก่อกำรร้ำยฯ จ�ำนวน
๑๐๐ คน เคล่อนท่เข้ำมำในพ้นท่สังหำรตำมแผนท่ก�ำหนดไว้ จึงสำมำรถ
ี
ื
ี
ื
ี
ี
สังหำรผู้ก่อกำรร้ำยฯ และท�ำลำยสัมภำระ ท่จุดซุ่มโจมตี จ�ำนวน
๑๓ คน และทำงทิศเหนือของจุดซุ่มโจมตีอีก ๕ ศพ และบริเวณใกล้เคียง
อีก ๕ ศพ และผู้ก่อกำรร้ำยฯ ยังบำดเจ็บ อีกจ�ำนวนมำก ซึ่งผลกำร
ปฏิบัติที่ดีเยี่ยม มำจำกกำรข่ำวที่แม่นย�ำ กำรวำงแผนที่รัดกุม รวมทั้ง
ใช้ลักษณะภูมิประเทศให้เกิดประโยชน์ ประกอบกับก�ำลังพลทุกนำยมี ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ ๓๒ นำย มี ร้อยโทอนันต์ อิ่มสมบูรณ์
วินัยและควำมอดทนอย่ำงสูง นำยทหำรยุทธกำรและกำรฝึก ส่วนควบคุมกำรปฏิบัติกำร
สถานการณ์ การสูญเสีย ฝ่ำยเรำ ไม่มีกำรเสียชีวิต มีบำดเจ็บ ๑ นำย กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ น�ำหน่วยเคลื่อนย้ำยทำงอำกำศเข้ำสู่พื้นที่
ื
ผู้ก่อกำรร้ำยฯ มีกำรปฏิบัติกำรและเคล่อนไหวอย่ำงมำก ฝ่ำยตรงข้ำม เสียชีวิต ๒๓ นำย ปฏิบัติกำร ในวันที่ ๑๘ มิถุนำยน ๒๕๑๙
ั
ทำงทศตะวันออกของบ้ำนนำโพธ์และบ้ำนนำจำน ซ่งหมู่บ้ำนทง ้ ั สถานการณ์ นอกจำกน้น พตท.๑๖๑๗ ยังมอบหมำยให้ “หน่วยสมเด็จ”
ิ
ึ
ิ
ี
สอง ตั้งอยู่ทำงทิศตะวันออกของถนนบ้ำนแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เป็นก�ำลังพลจัดจำกกองร้อยปืนเล็กของกรมทหำรรำบท่ ๑๙
ี
่
ี
ประมำณ ๓ กม. และอยู่ทำงทิศตะวันตกของภูหินร่องกล้ำ กองก�ำลัง เมื่อวันที่ ๑๑ มิ.ย. ๒๕๑๙ หน่วยทหำรภำคพื้นดิน ลำดตระเวน กรมทหำรรำบท่ ๔ และ กรมทหำรรำบท่ ๗ รวมก�ำลังเป็นหนวย
ั
ื
ี
ี
พลเรือนต�ำรวจทหำรที่ ๑๖๑๗ จึงมอบภำรกิจให้ กองก�ำลังเฉพำะกิจ พบท่ม่นขนำดใหญ่ของ ผู้ก่อกำรร้ำยในพ้นท่ป่ำลึก บริเวณบ้ำนภูชัย ระดับกองพัน มี พันโทยืนยง วัฒนวิกร เป็นผู้บังคับกองพันเฉพำะกิจ
ศูนย์สงครำมพิเศษ ไปปฏิบัติภำรกิจตำมแผนยุทธกำร “สองนำ” เทือกเขำค้อ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จึงร้องขอก�ำลังทำงอำกำศเข้ำ เข้ำช่วยเหลือและแก้ไขสถำนกำรณ์ให้กับชุดขุนศึก โดยเดินทำงบรรจบ
ท�ำลำย โดยเรืออำกำศเอกชวลิต ขยันกิจ และเรืออำกำศโทพงษ์ กับชุดรบนเรศวร ในวันที่ ๓๐ มิถุนำยน ๒๕๑๙ และร่วมช่วยเหลือชุด
การปฏิบัติ ณรงค์ เกสรศุกร์ (บุตรชำยพลโทยุทธศิลป์ เกสรศุกร์) เป็นนักบิน ขุนศึกจำกกำรถูกปิดล้อมจำกผู้ก่อกำรร้ำยฯ
น�ำเครื่องบินเอฟ-๕เอ (F-5A) จ�ำนวน ๒ ล�ำ เข้ำทิ้งระเบิดต่อที่หมำย
ิ
กำรจัดก�ำลัง จัดเป็นกองก�ำลังเฉพำะกิจศูนย์สงครำมพเศษ และเครื่องบินของเรืออำกำศโทพงษ์ณรงค์ ฯ ได้ถูกยิงจำกภำคพื้นดิน ผลการปฏิบัติ
(ฉก.ศสพ.) โดยมี พ.อ. อเนก บุนยถี ผบ.ฉก.ศสพ., พ.ท. วิมล วงศ์วำนิช แล้วหำยไป หน่วยส่งเคร่องบินตรวจกำรณ์เข้ำค้นหำถ่ำยภำพทำงอำกำศ
ื
นำยทหำรยุทธกำรและกำรฝึก ฉก.ศสพ., พ.ท. วรวิทย์ พิบูลศิลป ์ พบว่ำ อำกำศยำนตกไฟไหม้ คำดว่ำนักบินสละเคร่องบินด้วยกำร ชุดรบนเรศวร ปฏิบัติกำรเข้ำช่วยเหลือ ชุดขุนศึก โดยใช้ยุทธวิธี
ื
เป็น นำยทหำรยุทธกำร ฉก.ศสพ., ร.อ.หอม โห้ล�ำยอง ผบ.ทก. กระโดดและยังมีชีวิตอยู่ จึงระดมก�ำลังขนำดใหญ่เข้ำค้นหำเพอ กำรเคลื่อนที่หักเห เปลี่ยนทิศทำงตลอดเวลำ ท�ำให้สำมำรถต่อต้ำน
่
ื
ยว., ร.อ.ประจักษ์ วิสุตกุล เป็น ผบ.ชป.นำรำยณ์ และ ร.ท.มำนพ ช่วยเหลือนักบินจำกทุกทิศทำง กำรเกำะติดของผู้ก่อกำรร้ำยฯ และสนธิก�ำลังกับหน่วยสมเด็จ จนเข้ำ
จันตะเภำ เป็น ผบ.กองหนุน มีภำรกิจ คือ ปฏิบัติกำรพิเศษต่อ ช่วยเหลือ ชุดขุนศึก ได้ส�ำเร็จ ทุกชุดจึงเคลื่อนย้ำยออกจำกฐำนปฏิบัติ
ี
ึ
เป้ำหมำยท่เกิดข้นตำมเหตุกำรณ์เร่งด่วนและเป็นกองหนุนเคล่อนท ่ ี การปฏิบัติ กำรชั่วครำว เพื่อแทรกซึมออกจำกพื้นที่อันตรำย ในวันที่ ๓ กรกฎำคม
ื
ั
ื
เร็วเพ่อใช้แก้ไขสถำนกำรณ์ตำมค�ำส่งของกองก�ำลังพลเรือนต�ำรวจ ๒๕๑๙ และเคลื่อนที่ถึงพื้นที่ปลอดภัยเมื่อวันที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๑๙
ี
ทหำรที่ ๑๖๑๗ ที่ได้รับมอบตลอด ๒๔ ชั่วโมง ห้วงกำรปฏิบัติ ตั้งแต่ กองบัญชำกำรผสมพลเรือนต�ำรวจทหำรท่ ๑๖๑๗ (พตท. การสูญเสีย ก�ำลังพลหน่วยรบพิเศษ เสียชีวิต ๑๓ นำย
๒๔–๒๘ มิถุนำยน ๒๕๑๘ โดยกำรปฏิบัติที่ส�ำคัญ คือ ร.อ. หอมฯ ๑๖๑๗) จึงได้จัดก�ำลังเข้ำค้นหำนักบินและเครื่องบินที่ยิงตก โดยจัด บำดเจ็บ ๔ นำย
น�ำก�ำลังหน่วย ฉก.ศสพ. ๑๔ ชป. ปฏิบัติกำรกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ก�ำลัง “ชุดขุนศึก” โดยให้ ร้อยเอกทองใบ อิ่มจิตต์ เป็นผู้บังคับหน่วย ผู้ได้รับเครื่องราชราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
ิ
ดำนทศตะวันออกของหมู่บ้ำน จนถึงภูหินร่องกล้ำ ไม่ปรำกฏกำร มีจ�ำนวน ๑๐ ชุดปฏิบัติกำร รวมก�ำลังพล ๑๑๐ นำย เป็นก�ำลังพล
้
เคลื่อนไหวของผู้ก่อกำรร้ำยฯ แต่ได้รับทรำบข่ำวว่ำ จะมีผู้ก่อกำรร้ำยฯ หน่วยรบพิเศษ ๗๘ นำย เข้ำปฏิบัติกำร ตั้งแต่ ๑๔ มิถุนำยน ๒๕๑๙ ๑. พลเอก อนันต์ อิ่มสมบูรณ์
จ�ำนวนหนึ่งท�ำกำรเคลื่อนย้ำยก�ำลังและท�ำกำรส่งก�ำลังบ�ำรุง ตลอดจน จนถึง ๑ กรกฎำคม ๒๕๑๙ เป็นเวลำ ๑๘ วัน คงตั้งฐำนปฏิบัติกำร ๒. พลตรี วุฒิ ทองม่วง
อำวุธยุทโธปกรณ์ระหว่ำงภูขัด-ภูหินร่องกล้ำ ทุกๆ ๗ วัน จึงวำงแผน อยู่ ณ ที่แห่งเดียว ไม่สำมำรถเคลื่อนย้ำยก�ำลังเข้ำสู่ที่หมำยได้ เพรำะ ๓. พันตรี ประพิศ ปิยะสันต์
ร่วมกับนำยทหำรวำงแผนปฏิบัติกำรฯ โดยใช้ชุดปฏิบัติกำรนำรำยณ์ ถูกผู้ก่อกำรร้ำยฯ โจมตีและปิดล้อมไว้ทุกด้ำน ประกอบกับมีผู้เสียชีวิต
เป็นส่วนปฏิบัติกำร และใช้ก�ำลังจำกกองพันส่งทำงอำกำศเป็นกอง และผู้บำดเจ็บตลอดเวลำ จึงอยู่ในสภำพเสียขวัญ หมดก�ำลังใจในกำร
หนุน รวม ๑๔ นำย เข้ำซุ่มโจมตีผู้ก่อกำรร้ำยในเส้นทำงพื้นที่ดังกล่ำว ต่อสู้ คงรอกำรช่วยเหลืออยู่ภำยในฐำนปฏิบัติกำร
โดยกำรจัดก�ำลังไว้ ๓ ส่วน คือ ส่วนบังคับบัญชำ, ส่วนโจมตี และส่วน พตท.๑๖๑๗ จึงจัดก�ำลังเข้ำช่วยเหลือและแก้ไขสถำนกำรณ ์
ั
ั
ระวงป้องกัน โดยใช้รูปแบบกำรวำงก�ำลังแบบสลับฟนปลำตำมเสน โดยสนธิก�ำลังจำกหน่วยต่ำง ๆ เข้ำช่วยเหลือ จัดเป็นหน่วยระดับ
้
ทำงกำรเคลื่อนที่ของผู้ก่อกำรร้ำยฯ กองร้อย เรียกชื่อว่ำ “ชุดรบนเรศวร” มีก�ำลังทั้งสิ้น ๑๑๘ นำย เป็น
พลเอก อนันต์ อิ่มสมบูรณ์ พลตรี วุฒิ ทองม่วง พันตรี ประพิศ ปิยะสันต์
96 97
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุทธการผาเมืองเผด็จศึก ยุทธการใต้ร่มเย็น (ช่องช้าง)
พ.ศ.๒๕๒๔ – ๒๕๒๕ พ.ศ.๒๕๒๕
สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ สถานการณ์ หลังจำกเปิดยุทธกำรใต้ร่มเย็น ๙ ได้เพียง ๒ วัน ก�ำลังส่วน
ต่ำง ๆ ได้เข้ำยึดที่หมำยได้เกือบหมดสิ้น ทั้งด้ำน อ.เมือง อ.กำญจนดิษฐ์
พื้นที่เขำค้อ, เขำย่ำ, ห้วยสะเดำะพง และบ้ำนหนองแม่นำ หน่วยรบพิเศษ สำมำรถปฏิบัติภำรกิจได้ส�ำเร็จ บรรลุวัตถุประสงค์ ยุทธกำรใต้ร่มเย็น หรือ “ยุทธกำรช่องช้ำง” ตั้งตำมชื่อภูเขำ
ี
่
ึ
จ.เพชรบูรณ์ เป็นที่ตั้ง บก.เขตใต้ หรือ บก.เขต ๑๕ ของผู้ก่อกำรร้ำยฯ ของผู้บังคับบัญชำระดับสูงที่ได้ก�ำหนดไว้ว่ำ “จะท�ำกำรรบบนเขำค้อ ชองช้ำง อันเป็นภูมิประเทศท่ส�ำคัญซ่งผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้อยู่อำศัย อ.นำสำร และ อ.เวียงสระ ยกเว้นค่ำยศูนย์กำรน�ำของพรรค
คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย สำขำภำคใต้ จ.สุรำษฎรธำนี ได้แก่ ค่ำย
ั
ั
ที่มีอิทธิพลทั่วบริเวณหมู่บ้ำนชำวเขำ ซึ่งเป็นฐำนที่มั่นที่อยู่ลึกเข้ำมำใน เป็นคร้งสุดท้ำย” ซ่งฝ่ำยเรำสำมำรถท�ำลำยฐำนท่ม่นของผู้ก่อกำร ซึ่งควำมสลับซับซ้อนของเทือกเขำและเส้นทำงที่ยำกล�ำบำก จึงจ�ำกัด กำรเมืองกำรทหำร ๑๘๐ ค่ำยเทคนิค ๗๙ และค่ำยผลิต ๑๘๐ ซึ่ง
ี
ึ
ตอนกลำงของประเทศไทยมำกที่สุด ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๑ โดยกองทัพ ร้ำยฯ ในพื้นที่บ้ำนหนองแม่นำ, เขำค้อ, บ้ำนสะเดำะพง และหมู่บ้ำน ต่อกำรสกัดกั้นกำรรุกของฝ่ำยเรำ และท�ำให้ก�ำลังฝ่ำยเรำต้องสูญเสีย หน่วยที่เข้ำปฏิบัติภำรกิจนี้ สำมำรถรุกคืบหน้ำไปได้ถึงบ้ำนช่องช้ำง
ภำคที่ ๓ ส่วนหน้ำ ได้เคยส่งก�ำลังเข้ำปฏิบัติกำรในพื้นที่นี้มำหลำยครั้ง ปลดปล่อยมวลชนบำงแห่ง ตลอดจนท�ำลำยก�ำลังติดอำวุธ ของผู้ก่อ เป็นจ�ำนวนมำกเมื่อเข้ำปรำบปรำม ดังนั้น รัฐบำลและกองทัพภำคที่ บำนเขำโคก และควนนำยร้อย ซ่งเป็นปำกทำงเข้ำค่ำยศูนยกำรนำ
์
�
ึ
้
แต่ก็ยังไม่สำมำรถกวำดล้ำงอิทธิพลของผู้ก่อกำรร้ำยฯ ให้หมดไปจำก กำรร้ำยฯ ประมำณ ๑๕ คน บำดเจ็บไม่ทรำบจ�ำนวนที่แน่ชัด มีมวลชน ๔ จึงก�ำหนดแผนนโยบำย “ใต้ร่มเย็น” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “นโยบำย ของผู้ก่อกำรร้ำยฯ และเกิดกำรปะทะ และรบติดพันอยู่ตลอดเวลำ
พื้นที่ได้ ใน พ.ศ.๒๕๑๙ ทำงรำชกำรได้ใช้มำตรกำรทำงกำรเมืองควบคู่ เข้ำมอบตัวประมำณ ๑๒๐ นำย ยึดและท�ำลำยสิ่งของได้จ�ำนวน ๖๖/๒๕๒๓” ในกำรต่อสู้เอำชนะคอมมิวนิสต์ “รุกทำงกำรเมือง” ดังนั้น กองทัพบกจึงได้สั่งกำรให้หน่วยปฏิบัติกำรพิเศษ ชุดควบคุม
กับกำรทหำร โดยก�ำหนดโครงกำรพัฒนำลุ่มน�้ำเข็ก เพื่อสร้ำงทำง หนึ่ง กำรสูญเสียในส่วนของก�ำลังพลที่หน่วยรบพิเศษรับผิดชอบ คือ เพื่อน�ำมำใช้ส�ำหรับแก้ปัญหำควำมไม่สงบ และปรำบปรำมกลุ่มที่เป็น ๕๑๔ (นปพ.ชค.๕๑๔) จำกค่ำยปักธงชัย จ.นครรำชสีมำ เข้ำปฏิบัติ
ั
ั
จำกบ้ำนทุ่งสมอและบ้ำนนำง่ว ผ่ำนทุ่งสะเดำะพง ไปยังบ้ำนหนองแม่นำ เสียชีวิต ๓๑ นำย บำดเจ็บสำหัส ๘๑ นำย ส่วนใหญ่เป็นก�ำลังพล ปฏิปักษ์กับอ�ำนำจรัฐและเป็นภัยคุกคำมต่อควำมม่นคงของประเทศ ภำรกิจต่อให้ส�ำเร็จ โดยมี ร้อยเอกส�ำเร็จ ศรีหร่ำย น�ำก�ำลังเข้ำปฏิบัติ
และให้รำษฎรอำสำสมัครเข้ำท�ำกินในพ้นท่สองข้ำงทำง สร้ำงเป็น จำกกองก�ำลังพิเศษ บก.๐๔ จ.เชียงรำย ก�ำลังพลของกองรบพิเศษ ได้แก่ กลุ่มผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ (ผกค.) ขบวนกำรโจรก่อกำรร้ำย กำรในคืนวันที่ ๒๐ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๕ แทรกซึมเข้ำด้วยกำรเดินเท้ำ
ี
ื
ั
ชุมชนขนำดใหญ่ในข้นสุดท้ำยของโครงกำร แต่กำรด�ำเนินกำรดัง (พลร่ม) ที่ ๑ ศูนย์สงครำมพิเศษ เสียชีวิต ๒ นำย และบำดเจ็บสำหัส (ขจก.) โจรคอมมิวนิสต์มำลำยำ (จคม.) และกลุ่มโจรต่ำงๆ ในเขตพื้นที่ ในทิศทำงด้ำนหลัง ร.ร.มหำรำช อ.เวียงสระฯ โดยใช้เวลำ ๗ วัน ซึ่ง
กล่ำวได้ถูกผู้ก่อกำรร้ำยฯ ขัดขวำงอย่ำงรุนแรง และหยุดชะงักลงใน ๖ นำย ภำคใต้ ช่วง พ.ศ. ๒๕๒๔–๒๕๒๗ และ แผนยุทธกำรใต้ร่มเย็น ๙ หรือ ระหว่ำงกำรแทรกซึมเข้ำ ได้รบปะทะกับผู้ก่อกำรร้ำยทุกวัน ร้อยเอก
พ.ศ.๒๕๒๒ ต่อมำเดือนมกรำคม ๒๕๒๔ ทำงรำชกำรจึงโอนกำรสร้ำง ที่เรียกกันว่ำ “ยุทธกำรช่องช้ำง” หรือ “แผนยุทธกำรค่ำย ๕๐๘” ส�ำเร็จฯ จึงใช้กลยุทธ์ วำงกับระเบิดและซุ่มยิงตลอดเวลำในระหว่ำง
ทำงมำให้กองทัพภำคที่ ๓ ด�ำเนินกำรต่อ เพื่อปฏิบัติกำรเชิงรุกต่อ จึงเป็นกำรปฏิบัติกำรทำงทหำร ตำมมำตรกำรรุก ด้วยกำรกดดน กำรเคลื่อนที่ จนในที่สุด จึงสำมำรถน�ำก�ำลังเข้ำยึดที่หมำยได้ทั้งหมด
ั
ทุกพ้นท่เป้ำหมำย กองอ�ำนวยกำรผสมพลเรือน ต�ำรวจ ทหำร ปรำบปรำม และท�ำลำยฐำนที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์สำขำภำคใต้
ี
ื
ที่ ๑๖๑๗ จึงก�ำหนด “แผนยุทธกำรผำเมืองเผด็จศึก” เพื่อกวำดล้ำง ในเขต ๕๐๘ หรือเขตงำนช่องช้ำง รอยต่อ อ.นำสำร และ อ.เวียงสระ
ผู้ก่อกำรร้ำยฯ และฐำนที่มั่นให้ส�ำเร็จ ตลอดทั้งยึดที่หมำยต่ำงๆ ให้ได้ จ.สุรำษฎร์ธำนี เพื่อสถำปนำควำมมั่นคง น�ำควำมสงบสุขร่มเย็นมำสู่ ผลการปฏิบัติ
ั
อย่ำงถำวร ประชำชนในพื้นที่ กำลงของหน่วยเฉพำะกิจฤทธี และหน่วยปฏิบัติกำรพเศษ
ิ
�
อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ ชุดควบคุม ๕๑๔ ปฏิบัติกำรจู่โจม เข้ำกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ในเขต
การปฏิบัติ การปฏิบัติ ฐำนที่มั่น ซึ่งทำงทหำรฝ่ำยรัฐบำล ไม่เคยรุกเข้ำถึงได้มำก่อน อีกทั้ง
ิ
ั
สำมำรถสกัดก้นกำรเพ่มเติมก�ำลังจำกค่ำยเขตงำนของคอมมิวนิสต์
แผนยุทธกำรผำเมืองเผด็จศึก แบ่งกำรปฏิบัติเป็น ๓ แผน คือ กองทัพภำคที่ ๔ จึงจัดตั้ง “หน่วยเฉพำะกิจฤทธี” เพื่อเข้ำ
่
ั
ี
ื
ี
แผนยุทธกำรผำเมืองเผด็จศึก เริ่มปฏิบัติกำรตั้งแต่ ๒๐ มกรำคม – ปฏิบัติกำรกวำดล้ำง มี พันโทสำโรจน์ รบบ�ำรุง เป็นผู้บังคับหน่วย โดย แตละแห่งได้เป็นผลส�ำเร็จ สำมำรถยึดท่หมำยได้ทุกพ้นท่ ท้งค่ำย
อำคำรบ้ำนพัก และโรงเรียนกำรเมือง อำวุธยุทโธปกรณ์กำรผลิตกับ
๓๐ พฤษภำคม พ.ศ.๒๕๒๔ ศูนย์สงครำมพิเศษ ได้เข้ำร่วมปฏิบัติใน หน่วยเฉพำะกิจนี้ ประกอบด้วย ก�ำลังจำกทหำร กองพันทหำรรำบ ระเบิดเอกสำรสิ่งพิมพ์ เสบียงอำหำรจ�ำนวนมำก ยังผลท�ำให้พรรค
ุ
แผนยทธกำรฯ โดยจัด บก.ฉก.ศสพ.ทภ.๓ สน. ซ่งมี พ.อ.ขจร รำมัญวงศ์ ของกองทัพภำคที่ ๔ กองพันทหำรปืนใหญ่ที่ ๔๒๒ ต�ำรวจตระเวน คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย สำขำภำคใต้ที่เข้มแข็งที่สุดได้สลลำยลง
ึ
เสธ.ศสพ. เป็นผู้บังคับหน่วย ประกอบด้วยก�ำลังพล และ ๘ ชุด พ.อ.ขจร รำมัญวงศ์ เสธ ศสพ. ชำยแดน ทหำรพรำน และอำสำสมัครรักษำดินแดน ในส่วนหน่วย อย่ำงสิ้นเชิง
ปฏิบัติกำรรบพิเศษ จำกกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ และกองรบพิเศษ รบพิเศษ คือ “ชุดควบคุมศูนย์สงครำมพิเศษ” ซึ่งเป็นก�ำลังพลที่จัด
(พลร่ม) ที่ ๔, กองร้อยทหำรพรำน ทภ.๓ และกองก�ำลังพิเศษ บก.๐๔ จำก กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๓ ค่ำยเอรำวัณ ศูนย์สงครำมพิเศษ มี การสูญเสีย ก�ำลังพลหน่วยเฉพำะกิจฤทธี เสียชีวิต ๙ นำย
จ.เชียงรำย เข้ำร่วมปฏิบัติกำรตั้งแต่ห้วง ๖ กุมภำพันธ์ ถึง ๑๘ มีนำคม ร้อยเอกไพโรจน์ ธีระภำพ เป็นผู้บังคับหน่วย ก�ำลังพลทั้งสิ้น ๙๑ นำย บำดเจ็บ ๑๑๗ นำย หน่วยรบพิเศษ เสียชีวิต ๓ นำย บำดเจ็บสำหัส
พ.ศ.๒๕๒๔ ระยะเวลำ ๓๑ วัน เป็นหน่วยน�ำก�ำลัง เข้ำตีต่อที่หมำยหลัก ตั้งแต่ ๑๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๕ ๒๑ นำย บำดเจ็บเล็กน้อย ๒ นำย
ถึง ๑๘ เมษำยน ๒๕๒๕ โดยแทรกซึมเข้ำพื้นที่ปฏิบัติกำรทั้งทำงพื้นดิน
และทำงอำกำศ
98 99
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
ยุทธการผาเมืองเผด็จศึก ยุทธการใต้ร่มเย็น (ช่องช้าง)
พ.ศ.๒๕๒๔ – ๒๕๒๕ พ.ศ.๒๕๒๕
สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ สถานการณ์ หลังจำกเปิดยุทธกำรใต้ร่มเย็น ๙ ได้เพียง ๒ วัน ก�ำลังส่วน
ต่ำง ๆ ได้เข้ำยึดที่หมำยได้เกือบหมดสิ้น ทั้งด้ำน อ.เมือง อ.กำญจนดิษฐ์
พื้นที่เขำค้อ, เขำย่ำ, ห้วยสะเดำะพง และบ้ำนหนองแม่นำ หน่วยรบพิเศษ สำมำรถปฏิบัติภำรกิจได้ส�ำเร็จ บรรลุวัตถุประสงค์ ยุทธกำรใต้ร่มเย็น หรือ “ยุทธกำรช่องช้ำง” ตั้งตำมชื่อภูเขำ
ี
่
ึ
จ.เพชรบูรณ์ เป็นที่ตั้ง บก.เขตใต้ หรือ บก.เขต ๑๕ ของผู้ก่อกำรร้ำยฯ ของผู้บังคับบัญชำระดับสูงที่ได้ก�ำหนดไว้ว่ำ “จะท�ำกำรรบบนเขำค้อ ชองช้ำง อันเป็นภูมิประเทศท่ส�ำคัญซ่งผู้ก่อกำรร้ำยฯ ได้อยู่อำศัย อ.นำสำร และ อ.เวียงสระ ยกเว้นค่ำยศูนย์กำรน�ำของพรรค
คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย สำขำภำคใต้ จ.สุรำษฎรธำนี ได้แก่ ค่ำย
ที่มีอิทธิพลทั่วบริเวณหมู่บ้ำนชำวเขำ ซึ่งเป็นฐำนที่มั่นที่อยู่ลึกเข้ำมำใน เป็นคร้งสุดท้ำย” ซ่งฝ่ำยเรำสำมำรถท�ำลำยฐำนท่ม่นของผู้ก่อกำร ซึ่งควำมสลับซับซ้อนของเทือกเขำและเส้นทำงที่ยำกล�ำบำก จึงจ�ำกัด กำรเมืองกำรทหำร ๑๘๐ ค่ำยเทคนิค ๗๙ และค่ำยผลิต ๑๘๐ ซึ่ง
ึ
ั
ั
ี
ตอนกลำงของประเทศไทยมำกที่สุด ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๑ โดยกองทัพ ร้ำยฯ ในพื้นที่บ้ำนหนองแม่นำ, เขำค้อ, บ้ำนสะเดำะพง และหมู่บ้ำน ต่อกำรสกัดกั้นกำรรุกของฝ่ำยเรำ และท�ำให้ก�ำลังฝ่ำยเรำต้องสูญเสีย หน่วยที่เข้ำปฏิบัติภำรกิจนี้ สำมำรถรุกคืบหน้ำไปได้ถึงบ้ำนช่องช้ำง
ภำคที่ ๓ ส่วนหน้ำ ได้เคยส่งก�ำลังเข้ำปฏิบัติกำรในพื้นที่นี้มำหลำยครั้ง ปลดปล่อยมวลชนบำงแห่ง ตลอดจนท�ำลำยก�ำลังติดอำวุธ ของผู้ก่อ เป็นจ�ำนวนมำกเมื่อเข้ำปรำบปรำม ดังนั้น รัฐบำลและกองทัพภำคที่ บำนเขำโคก และควนนำยร้อย ซ่งเป็นปำกทำงเข้ำค่ำยศูนยกำรนำ �
้
์
ึ
แต่ก็ยังไม่สำมำรถกวำดล้ำงอิทธิพลของผู้ก่อกำรร้ำยฯ ให้หมดไปจำก กำรร้ำยฯ ประมำณ ๑๕ คน บำดเจ็บไม่ทรำบจ�ำนวนที่แน่ชัด มีมวลชน ๔ จึงก�ำหนดแผนนโยบำย “ใต้ร่มเย็น” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “นโยบำย ของผู้ก่อกำรร้ำยฯ และเกิดกำรปะทะ และรบติดพันอยู่ตลอดเวลำ
พื้นที่ได้ ใน พ.ศ.๒๕๑๙ ทำงรำชกำรได้ใช้มำตรกำรทำงกำรเมืองควบคู่ เข้ำมอบตัวประมำณ ๑๒๐ นำย ยึดและท�ำลำยสิ่งของได้จ�ำนวน ๖๖/๒๕๒๓” ในกำรต่อสู้เอำชนะคอมมิวนิสต์ “รุกทำงกำรเมือง” ดังนั้น กองทัพบกจึงได้สั่งกำรให้หน่วยปฏิบัติกำรพิเศษ ชุดควบคุม
กับกำรทหำร โดยก�ำหนดโครงกำรพัฒนำลุ่มน�้ำเข็ก เพื่อสร้ำงทำง หนึ่ง กำรสูญเสียในส่วนของก�ำลังพลที่หน่วยรบพิเศษรับผิดชอบ คือ เพื่อน�ำมำใช้ส�ำหรับแก้ปัญหำควำมไม่สงบ และปรำบปรำมกลุ่มที่เป็น ๕๑๔ (นปพ.ชค.๕๑๔) จำกค่ำยปักธงชัย จ.นครรำชสีมำ เข้ำปฏิบัติ
ั
ั
จำกบ้ำนทุ่งสมอและบ้ำนนำง่ว ผ่ำนทุ่งสะเดำะพง ไปยังบ้ำนหนองแม่นำ เสียชีวิต ๓๑ นำย บำดเจ็บสำหัส ๘๑ นำย ส่วนใหญ่เป็นก�ำลังพล ปฏิปักษ์กับอ�ำนำจรัฐและเป็นภัยคุกคำมต่อควำมม่นคงของประเทศ ภำรกิจต่อให้ส�ำเร็จ โดยมี ร้อยเอกส�ำเร็จ ศรีหร่ำย น�ำก�ำลังเข้ำปฏิบัติ
ื
ี
และให้รำษฎรอำสำสมัครเข้ำท�ำกินในพ้นท่สองข้ำงทำง สร้ำงเป็น จำกกองก�ำลังพิเศษ บก.๐๔ จ.เชียงรำย ก�ำลังพลของกองรบพิเศษ ได้แก่ กลุ่มผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ (ผกค.) ขบวนกำรโจรก่อกำรร้ำย กำรในคืนวันที่ ๒๐ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๕ แทรกซึมเข้ำด้วยกำรเดินเท้ำ
ั
ชุมชนขนำดใหญ่ในข้นสุดท้ำยของโครงกำร แต่กำรด�ำเนินกำรดัง (พลร่ม) ที่ ๑ ศูนย์สงครำมพิเศษ เสียชีวิต ๒ นำย และบำดเจ็บสำหัส (ขจก.) โจรคอมมิวนิสต์มำลำยำ (จคม.) และกลุ่มโจรต่ำงๆ ในเขตพื้นที่ ในทิศทำงด้ำนหลัง ร.ร.มหำรำช อ.เวียงสระฯ โดยใช้เวลำ ๗ วัน ซึ่ง
กล่ำวได้ถูกผู้ก่อกำรร้ำยฯ ขัดขวำงอย่ำงรุนแรง และหยุดชะงักลงใน ๖ นำย ภำคใต้ ช่วง พ.ศ. ๒๕๒๔–๒๕๒๗ และ แผนยุทธกำรใต้ร่มเย็น ๙ หรือ ระหว่ำงกำรแทรกซึมเข้ำ ได้รบปะทะกับผู้ก่อกำรร้ำยทุกวัน ร้อยเอก
พ.ศ.๒๕๒๒ ต่อมำเดือนมกรำคม ๒๕๒๔ ทำงรำชกำรจึงโอนกำรสร้ำง ที่เรียกกันว่ำ “ยุทธกำรช่องช้ำง” หรือ “แผนยุทธกำรค่ำย ๕๐๘” ส�ำเร็จฯ จึงใช้กลยุทธ์ วำงกับระเบิดและซุ่มยิงตลอดเวลำในระหว่ำง
ั
ทำงมำให้กองทัพภำคที่ ๓ ด�ำเนินกำรต่อ เพื่อปฏิบัติกำรเชิงรุกต่อ จึงเป็นกำรปฏิบัติกำรทำงทหำร ตำมมำตรกำรรุก ด้วยกำรกดดน กำรเคลื่อนที่ จนในที่สุด จึงสำมำรถน�ำก�ำลังเข้ำยึดที่หมำยได้ทั้งหมด
ื
ทุกพ้นท่เป้ำหมำย กองอ�ำนวยกำรผสมพลเรือน ต�ำรวจ ทหำร ปรำบปรำม และท�ำลำยฐำนที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์สำขำภำคใต้
ี
ที่ ๑๖๑๗ จึงก�ำหนด “แผนยุทธกำรผำเมืองเผด็จศึก” เพื่อกวำดล้ำง ในเขต ๕๐๘ หรือเขตงำนช่องช้ำง รอยต่อ อ.นำสำร และ อ.เวียงสระ
ผู้ก่อกำรร้ำยฯ และฐำนที่มั่นให้ส�ำเร็จ ตลอดทั้งยึดที่หมำยต่ำงๆ ให้ได้ จ.สุรำษฎร์ธำนี เพื่อสถำปนำควำมมั่นคง น�ำควำมสงบสุขร่มเย็นมำสู่ ผลการปฏิบัติ
�
ั
อย่ำงถำวร ประชำชนในพื้นที่ กำลงของหน่วยเฉพำะกิจฤทธี และหน่วยปฏิบัติกำรพเศษ
ิ
อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ ชุดควบคุม ๕๑๔ ปฏิบัติกำรจู่โจม เข้ำกวำดล้ำงผู้ก่อกำรร้ำยฯ ในเขต
การปฏิบัติ การปฏิบัติ ฐำนที่มั่น ซึ่งทำงทหำรฝ่ำยรัฐบำล ไม่เคยรุกเข้ำถึงได้มำก่อน อีกทั้ง
สำมำรถสกัดก้นกำรเพ่มเติมก�ำลังจำกค่ำยเขตงำนของคอมมิวนิสต์
ั
ิ
แผนยุทธกำรผำเมืองเผด็จศึก แบ่งกำรปฏิบัติเป็น ๓ แผน คือ กองทัพภำคที่ ๔ จึงจัดตั้ง “หน่วยเฉพำะกิจฤทธี” เพื่อเข้ำ
่
ี
ั
ี
ื
แผนยุทธกำรผำเมืองเผด็จศึก เริ่มปฏิบัติกำรตั้งแต่ ๒๐ มกรำคม – ปฏิบัติกำรกวำดล้ำง มี พันโทสำโรจน์ รบบ�ำรุง เป็นผู้บังคับหน่วย โดย แตละแห่งได้เป็นผลส�ำเร็จ สำมำรถยึดท่หมำยได้ทุกพ้นท่ ท้งค่ำย
อำคำรบ้ำนพัก และโรงเรียนกำรเมือง อำวุธยุทโธปกรณ์กำรผลิตกับ
๓๐ พฤษภำคม พ.ศ.๒๕๒๔ ศูนย์สงครำมพิเศษ ได้เข้ำร่วมปฏิบัติใน หน่วยเฉพำะกิจนี้ ประกอบด้วย ก�ำลังจำกทหำร กองพันทหำรรำบ ระเบิดเอกสำรสิ่งพิมพ์ เสบียงอำหำรจ�ำนวนมำก ยังผลท�ำให้พรรค
ึ
ุ
แผนยทธกำรฯ โดยจัด บก.ฉก.ศสพ.ทภ.๓ สน. ซ่งมี พ.อ.ขจร รำมัญวงศ์ ของกองทัพภำคที่ ๔ กองพันทหำรปืนใหญ่ที่ ๔๒๒ ต�ำรวจตระเวน คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย สำขำภำคใต้ที่เข้มแข็งที่สุดได้สลลำยลง
เสธ.ศสพ. เป็นผู้บังคับหน่วย ประกอบด้วยก�ำลังพล และ ๘ ชุด พ.อ.ขจร รำมัญวงศ์ เสธ ศสพ. ชำยแดน ทหำรพรำน และอำสำสมัครรักษำดินแดน ในส่วนหน่วย อย่ำงสิ้นเชิง
ปฏิบัติกำรรบพิเศษ จำกกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ และกองรบพิเศษ รบพิเศษ คือ “ชุดควบคุมศูนย์สงครำมพิเศษ” ซึ่งเป็นก�ำลังพลที่จัด
(พลร่ม) ที่ ๔, กองร้อยทหำรพรำน ทภ.๓ และกองก�ำลังพิเศษ บก.๐๔ จำก กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๓ ค่ำยเอรำวัณ ศูนย์สงครำมพิเศษ มี การสูญเสีย ก�ำลังพลหน่วยเฉพำะกิจฤทธี เสียชีวิต ๙ นำย
จ.เชียงรำย เข้ำร่วมปฏิบัติกำรตั้งแต่ห้วง ๖ กุมภำพันธ์ ถึง ๑๘ มีนำคม ร้อยเอกไพโรจน์ ธีระภำพ เป็นผู้บังคับหน่วย ก�ำลังพลทั้งสิ้น ๙๑ นำย บำดเจ็บ ๑๑๗ นำย หน่วยรบพิเศษ เสียชีวิต ๓ นำย บำดเจ็บสำหัส
พ.ศ.๒๕๒๔ ระยะเวลำ ๓๑ วัน เป็นหน่วยน�ำก�ำลัง เข้ำตีต่อที่หมำยหลัก ตั้งแต่ ๑๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๕ ๒๑ นำย บำดเจ็บเล็กน้อย ๒ นำย
ถึง ๑๘ เมษำยน ๒๕๒๕ โดยแทรกซึมเข้ำพื้นที่ปฏิบัติกำรทั้งทำงพื้นดิน
และทำงอำกำศ
98 99
กาลานุกรมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย
โครงการบางระจัน
พ.ศ.๒๕๐๐ – ๒๕๒๔
สถานการณ์ ผลการปฏิบัติ
กองทัพบกได้จัดต้งหน่วยรบพิเศษข้นเป็นคร้งแรก ในนำม จำกกำรฝึกบำงระจันที่ได้ผลดีมำตลอด จึงท�ำให้กองทัพภำคมี
ั
ั
ึ
กองพันทหำรพลร่ม เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ เพื่อใช้หน่วยรบพิเศษเข้ำปฏิบัติ ควำมต้องกำรก�ำลังพลในลักษณะของกองร้อยฝึกบำงระจัน กองทัพ
กำรโดยตรง ท้งในสถำนกำรณ์ภำยในประเทศ และนอกประเทศ บกจึงจัดก�ำลัง จำกศูนย์สงครำมพิเศษ ให้ประจ�ำกองทัพภำคที่ ๑, ๒,
ั
ใน พ.ศ.๒๕๐๐ กองพันทหำรพลร่ม จึงเริ่มกำรปฏิบัติกำรฝึกของหน่วย ๔ กองทัพภำคละ ๑ กองร้อยรบพิเศษ เรียกว่ำ ส่วนควบคุมในกำร
เรียกว่ำ“กำรฝึกบำงระจัน” เพื่อเป็นเกียรติแก่ “ชำวบ้ำนบำงระจัน” ปฏิบัติกำรศูนย์สงครำมพิเศษ จนถึง พ.ศ.๒๕๒๔ จึงยุบเลิกเพรำะกำร
โดยเริ่มฝึกตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นประจ�ำทุกปี กำรด�ำเนินกำรฝึกใน ปฏิบัติกำรของผู้ก่อกำรร้ำยฯ จบสิ้นลง
ลักษณะปฏิบัติกำรจริง ในพื้นที่ตำมแนวชำยแดน หรือพื้นที่ภำยใน กำรฝึกบำงระจัน จึงเป็นกำรฝึกที่มีประโยชน์อย่ำงยิ่งแก่หน่วย
ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลม ตำมแนวเส้นทำงหลักของกำรรุกของฝ่ำยตรง รบพิเศษ สำมำรถจัดตั้งประชำชน กำรปฏิบัติงำนข่ำยงำนลับ ก�ำลังพล
ข้ำม ที่จะมุ่งเข้ำสู่พื้นที่ยุทธศำสตร์ของประเทศ รวมทั้งภูมิประเทศที่ ท่เข้ำปฏิบัติงำนในพ้นท่ได้รับควำมรู้และมีประสบกำรณ์ในกำรปฏิบัต ิ
ื
ี
ี
ทุรกันดำรและอยู่ห่ำงไกล ซึ่งทำงรำชกำรหรือหน่วยทหำรอื่นเข้ำไป งำนสงครำมนอกแบบ ได้ฝึกปฏิบัติตำมหน้ำที่ของแต่ละคนจนช�ำนำญ
ไม่ถึง กองพันทหำรพลร่มจะเข้ำไปท�ำกำรฝึกโดยกำรกระโดดร่มลง รวมท้งควำมรู้ในหน้ำท่อ่น จนสำมำรถท�ำหน้ำท่ทดแทนกันได้ทุก
ั
ี
ี
ื
ซึ่งจุดมุ่งหมำยของกำรฝึก เพื่อรวบรวมข้อมูลของพื้นที่ปฏิบัติกำรและ หน้ำที่ นอกจำกนั้นยังเป็นกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์ที่ดีระหว่ำงประชำชน
ประชำชน ส�ำหรับเตรียมท�ำสงครำมนอกแบบในอนำคต หรือยำม และเจ้ำหน้ำที่รัฐบำล
สงครำม
การปฏิบัติ
กำรฝึกบำงระจันของกองพันทหำรพลร่ม ในระยะแรก
เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐ ถึง พ.ศ.๒๕๐๕ มี พันโทเทียนชัย สิริสัมพันธ์
เป็นผู้บังคับกองพัน ได้แบ่งพื้นที่กำรฝึกออกเป็น ๔ ส่วน และมอบให้
แต่ละกองร้อยทหำรพลร่ม ๔ กองร้อย รับผิดชอบ ต่อมำ พ.ศ.๒๕๐๖
กองพันทหำรพลร่ม แปรสภำพเป็น กองรบพิเศษ (พลร่ม) และเป็น
กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ ใน พ.ศ.๒๕๑๒ กำรฝึกบำงระจันก็ยังคง
ด�ำเนินกำรฝึกทุกปีอย่ำงต่อเนื่อง เนื่องจำกห้วงเวลำนี้ มีภัยคุกคำมของ
ผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์ที่รุนแรงขึ้น กำรฝึกจึงเป็นกำรสนับสนุนกำร
ป้องกันและปรำบปรำมกำรก่อควำมไม่สงบ ตำมแผนของกองอ�ำนวย
กำรรักษำควำมมั่นคงภำยใน
ั
จนกระท่ง พ.ศ.๒๕๑๒ มีกำรก่อต้ง กองรบพิเศษ (พลร่ม)
ั
ี
ท่ ๒ และ ๓ ข้น กำรฝึกบำงระจันท่กองรบพิเศษ (พลร่ม) ท่ ๑ รับผิด
ี
ี
ึ
ี
ชอบกำรฝึก อยู่เพียงหน่วยเดียว จึงแบ่งกำรฝึก ออกเป็น ๓ พ้นท่ คือ
ื
กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๑ รับผิดชอบภำคเหนือ ภำคกลำง และภำค
ตะวันออก, กองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๒ รับผิดชอบภำคตะวันออก
เฉียงเหนือ และกองรบพิเศษ (พลร่ม) ที่ ๓ รับผิดชอบภำคใต้ กำรปฏิบัติ
ในระยะหลังนี้ เป็นกำรปฏิบัติสนับสนุนกองทัพภำคต่ำง ๆ ในกำร
ปรำบปรำมผู้ก่อกำรร้ำยคอมมิวนิสต์
100 101