The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1.1.1หนังสือ กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริห

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kobfad, 2023-02-22 23:16:59

1.1.1หนังสือ กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริห

1.1.1หนังสือ กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริห

กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 200 3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ การเข้าใจความจริงของชีวิตน าไปสู่การดับความเศร้าโศก ทั้งมวล อันยังให้เกิดความสงบและความเบิกบาน 4. มรรค คือ หนทางน าไปสู่ความดับทุกข์ อันได้แก่ อริยมรรค 8 ซึ่งได้รับการหล่อเลี้ยง ด้วยการด ารงชีวิตอย่างมีสติ ความมีสติน าไปสู่สมาธิและปัญญา ซึ่งจะปลดปล่อยให้พ้นจากความ ทุกข์และความโศกเศร้าทั้งมวล อันจะน าไปสู่ความศานติและความเบิกบาน พระพุทธองค์ได้ทรง เมตตาน าทางพวกเราไปตามหนทางแห่งความรู้แจ้งนี้ ภาพที่ 23 กลยุทธ์สถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง ด าเนินการโดยคณะผู้บริหาร ครู อาจารย์ นักเรียน/นักศึกษาแกนน า ผู้ปกครอง และชุมชน มีหน้าที่รับผิดชอบในการขับเคลื่อนโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงที่ยั่งยืน ดังนี้ 1) ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะผู้บริหาร มีภาระหน้าที่ในการน านโยบายการขับเคลื่อน โครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดประชุมชี้แจง และแต่งตั้งคณะท างานผู้รับผิดชอบ มอบนโยบาย จัดท าแผนปฏิบัติงาน จัดกิจกรรมการประกวด ติดตาม ประเมินผล สรุปรายงานเสนอตามล าดับ พร้อมทั้งเสนอแนะปัญหาและอุปสรรค เพื่อน าไปสู่ การพัฒนาโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงให้มีความเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน 2) คณะครู อาจารย์ที่ปรึกษา มีบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนกิจกรรมให้ความรู้ แก่ นักเรียน นักศึกษา และให้ค าปรึกษา แนะน าในการด าเนินงานโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจ ไม่ฟุ่มเฟือย พอมี พออยู่ พอกิน พอใช้ พอเพียง พึ่งตนเอง กลยุทธ์ 6 พ.(พอ) ไม่สุดโต่ง ไม่ตามกระแส ไม่ฟุ้งเฟ้อ กลยุทธ์ 4 ม. (4 ไม่) กลยุทธ์ 1 อ. (อริยสัจ 4) กลยุทธ์สถานศึกษาพอเพียง


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 201 พอเพียง ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ รับทราบปัญหา/ข้อเสนอแนะ และรายงานให้ผู้บริหาร สถานศึกษาทราบ เพื่อน าไปสู่การพัฒนาสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงที่ยั่งยืนให้มีความเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน 3) นักเรียน/นักศึกษาแกนน า มีบทบาทหน้าที่ในการจัดตั้งคณะท างานห้องเรียนเศรษฐกิจ พอเพียง/แผนกวิชาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อด าเนินงานตามโครงสร้าง และจัดกิจกรรมตามที่ได้รับ มอบหมาย พัฒนาองค์ความรู้จากการอบรมนักเรียนทุกคนในห้องเรียนเศรษฐกิจพอเพียง/แผนก วิชาเศรษฐกิจพอเพียง และให้ความร่วมมือเพื่อน าไปสู่การพัฒนาเป็นสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง ที่เข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน 4. การขบัเคลื่อนโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง การด าเนินงานโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงของสถานศึกษาทั่วประเทศ ก าหนดให้มีกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินงาน ดังนี้ 1. ผู้บริหารสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการอ านวยการโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจ พอเพียงประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษาเป็นประธาน คณะกรรมการสถานศึกษา และคณะกรรมการ บริหารองค์กรเป็นกรรมการ 2. ผู้บริหารสถานศึกษาประชุมคณะกรรมการอ านวยการชี้แจงวัตถุประสงค์ นโยบาย การด าเนินงานโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อน าไปสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา อย่าง เป็นรูปธรรม 3. ผู้บริหารสถานศึกษา ส่งเสริมสนับสนุนการด าเนินงานโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจ พอเพียง ตามมาตรฐานสถานศึกษาขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง 5 ด้าน คือ มาตรฐานด้านแผนงาน เศรษฐกิจพอเพียง มาตรฐานด้านความรู้เศรษฐกิจพอเพียง มาตรฐานด้านห้องเรียนเศรษฐกิจ พอเพียง/แผนกวิชาเศรษฐกิจพอเพียง มาตรฐานด้านสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง และมาตรฐาน ด้านชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง 4. ผู้บริหารสถานศึกษาแต่งตั้งคณะท างานศึกษารวบรวมข้อมูลจัดท าองค์ความรู้ กระบวนการด าเนินงาน น าข้อมูลมาคัดกรอง วิเคราะห์ สังเคราะห์ปัญหา เพื่อจัดท าแผนปฏิบัติการ/ โครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงให้มีความเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน 5. จัดท าปฏิทินและตารางการปฏิบัติงานตามโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดปีการศึกษา และด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ/โครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นการ มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 202 6. ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริม สนับสนุน อ านวยการ ก ากับ ติดตาม และประเมินผล การปฏิบัติงานโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงให้มีความเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน 7. สถานศึกษาด าเนินการประเมินตนเอง และรายงานผลการประเมินส่งต้นสังกัด เพื่อขอรับ การประเมินโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงจากต้นสังกัดตามระยะเวลาที่กระทรวงศึกษาธิการ ก าหนด 8. หน่วยงานต้นสังกัด (ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา/หน่วยงานต้นสังกัดระดับจังหวัด) แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อประเมินผลการด าเนินงานโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง โดยด าเนินการการประเมินตามหลักเกณฑ์การประเมินโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง และน าเสนอผลการประเมินต่อศูนย์ขับเคลื่อนสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง กระทรวงศึกษาธิการ 9. ศูนย์ขับเคลื่อนสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง กระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้ง คณะกรรมการพิจารณาตัดสินผลงานโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง ระดับดีเด่น โดยท า การตรวจสอบรายชื่อสถานศึกษา จัดล าดับผลงาน ให้ความเห็นชอบผลงาน และจัดท าประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ 10. ศูนย์ขับเคลื่อนสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง กระทรวงศึกษาธิการ มอบโล่ เกียรติบัตร เพื่อประกาศเกียรติคุณให้เป็นสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงระดับดีเด่นประจ าปีการศึกษา


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 203 ภาพที่ 24 แนวทางการด าเนินงานการขับเคลื่อนโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความส าคญัของหลกัปรชัญาเศรษฐกิจพอเพียง กระทรวงศึกษาธิการ. (2555) ได้ให้ความส าคัญของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ 1. เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่มีความส าคัญยิ่งส าหรับการขจัดความยากจน และการ ลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ 2. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นพื้นฐานของการสร้างพลังอ านาจของชุมชนและ การพัฒนาศักยภาพชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อเป็นฐานรากของการพัฒนาประเทศ 3. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงช่วยยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ขององค์กรต่างๆ ด้วยการสร้างข้อปฏิบัติในการด าเนินงานบนรากฐานของความพอเพียง ส่งเสริม สนับสนุน อ านวยการ ก ากับ ติดตาม และประเมินผล สถานศึกษาแต่งตงั้คณะกรรมการ ประชุมคณะกรรมการ ส่งเสริมสนับสนุนการด าเนินงาน แต่งตั้งคณะท างานศึกษารวบรวม จัดท าปฏิทินและตารางการปฏิบัติงาน ข้อมูล ด าเนินการประเมินตนเอง และรายงานผลการประเมินส่งต้นสังกัด ศูนย์ขับเคลื่อนสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง ประกาศเกียรติคุณให้เป็นสถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 204 4. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะมีความส าคัญยิ่งต่อการปรับปรุงมาตรฐานของธรรมา ภิบาลในการบริหารงานภาครัฐ 5. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสามารถเป็นแนวทางในการก าหนดนโยบายของชาติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อสถานการณ์ที่เข้ามากระทบโดยฉับพลัน และเพื่อปรับปรุงนโยบายต่างๆ ให้เหมาะสม 6. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงช่วยการพัฒนาคนให้พออยู่พอกิน และอยู่ดีมีสุขพึ่งตนเอง ได้ระดับหนึ่ง มีศักยภาพ มีทางเลือก ทั้งด้านสุขภาพ ความรู้ ทักษะ อาชีพ เสรีภาพ 7. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงช่วยให้มนุษย์อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างสันติสุข ไม่เบียดเบียน ไม่เอารัดเอาเปรียบ แบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตเมตตา และจิตสาธารณะ จากความส าคัญของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่กล่าวข้างต้น สรุปได้ว่า ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักแนวคิด และหลักปฏิบัติในการด าเนินชีวิตให้อยู่รอดในสภาวการณ์ของ โลกยุคโลกาภิวัตน์ และสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีหลักคุณธรรมเป็นที่ยึดเหนี่ยว ควบคู่กับการด าเนินชีวิต ตลอดจนใช้เป็นแนวคิดในการก าหนดนโยบายเพื่อการบริหารตั้งแต่ระดับ บุคคล ชุมชน หน่วยงานองค์การสถาบันต่าง ๆ จนถึงระดับรัฐบาลที่มีหน้าที่บริหารประเทศ 2. การน าปรชัญาเศรษฐกิจพอเพียงส่สูถานศึกษา ดังที่กล่าวไว้ในตอนต้นแล้วว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวคิดที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชด ารัสชี้แนะแก่พสกนิกรชาวไทยมานานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะการให้ ความส าคัญกับการให้การศึกษาเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาดังพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่ คณะครูและนักเรียนที่ได้รับพระราชทานรางวัลฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 ความ ตอนหนึ่งว่า “การศึกษาเป็นปัจจัยส าคัญในการสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติดี และคุณธรรมของบุคคล สังคมและบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วน พอเหมาะกับทุกๆ ด้านสังคมและบ้านเมืองนั้นก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถช ารงรักษา ความเจริญมั่นคง ของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้โดยตลอด” (ปรียานุช พิบูลย์ สราวุธ, 2549) กระทั่งประเทศไทย ได้ประสบกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ เมื่อในปี พ.ศ. 2540 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีกระแสพระราชด ารัส เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 ที่เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจแบบพอเพียง ความตอนหนึ่งว่า “การจะเป็นเสือนั้นไม่ส าคัญ ส าคัญ อยู่ที่เราพออยู่พอกินและมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่อย่างพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินหมายความว่าอุ้มชู


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 205 ตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตนเอง” จากกระแสพระราชด ารัสดังกล่าวจะเห็นได้ว่า พระองค์ทรงแนะแนวทาง ส าหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจในสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ทรงคุณค่ายิ่ง (กระทรวงศึกษาธิการ, 2550) ด้วยความส าคัญแห่งกระแสพระราชด ารัสดังกล่าวน าไปสู่การก าหนดเป็นหลักการและด้วย ความส าคัญแห่งกระแสพระราชด ารัสดังกล่าวน าไปสู่การก าหนดเป็นหลักการนโยบายเกี่ยวกับ การพัฒนาประเทศของรัฐดังปรากฏอยู่ในเอกสารส าคัญ เช่น รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 78 รัฐต้องด าเนินการตามแนวนโยบายด้านการบริหารราชการแผ่นดิน (1) บริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปเพื่อพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศอย่าง ยั่งยืน โดยต้องส่งเสริมการด าเนินการตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และค านึงถึงผลประโยชน์ของ ประเทศชาติในภาพรวมเป็นส าคัญ และมาตรา 83 รัฐต้องส่งเสริม และสนับสนุนให้มีการด าเนินการ ตามแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรม และวัฒนธรรมในการด ารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้อย่างมี ความสุข ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) ที่ยังคงน า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวปฏิบัติควบคู่กับการพัฒนาแบบบูรณาการ เป็นองค์รวมที่มีคน เป็นศูนย์กลางการพัฒนาอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศที่สมดุล เป็นธรรมและยั่งยืน ดังจะเห็นได้ชัดเจนจากพันธกิจของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ที่ระบุสิ่ง ที่ต้องด าเนินการไว้ว่า เพื่อให้การพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนฯ ฉบับที่ 10 มุ่งสู่ “สังคมอยู่เย็น เป็นสุขร่วมกัน” ภายใต้แนวปฏิบัติของ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เห็นควรก าหนดพันธกิจ ของการพัฒนาประเทศ ดังนี้ 1. พัฒนาคนให้มีคุณภาพ คุณธรรม น าความรอบรู้อย่างเท่าทัน 2. เสริมสร้างเศรษฐกิจให้มีคุณภาพ เสถียรภาพ และเป็นธรรม 3. ด ารงความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ และคุณภาพสิ่งแวดล้อม 4. พัฒนาระบบบริหารจัดการประเทศให้เกิดธรรมาภิบาล ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คณะท างานสังเคราะห์ถอดบทเรียนองค์ความรู้แนวทางการ บริหารสถานศึกษาพอเพียง (ส านักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และกระทรวงศึกษาธิการ, 2551 : 2-5) กระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานหลักในการพัฒนาคนและสร้างเยาวชนให้มี คุณภาพ ของประเทศ ได้ตระหนักถึงความส าคัญของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงดังที่ปรากฏในนโยบาย ของรัฐดังกล่าว โดยเฉพาะการให้ความส าคัญกับการพัฒนาคนซึ่งเป็นศูนย์กลางของการ พัฒนาตาม


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 206 แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 มุ่งเน้นน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาประเทศ จึงจัดท า ยุทธศาสตร์เพื่อด าเนินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อปลูกฝังให้เด็ก และ เยาวชนรู้จักการใช้ชีวิตที่พอเพียง เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆ ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน มีจิตส านึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม ค่านิยม และ เอกลักษณ์ของความเป็นไทย โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการร่วมกันรับผิดชอบ เพื่อให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืนสู่วิถีชีวิตของประชาชน สามารถพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้ตาม แนวพระราชด ารัสและนโยบายรัฐบาล รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันให้ประเทศชาติโดยร่วม พัฒนาต่อไปอย่างเต็มศักยภาพ โดยใช้รูปแบบการจัดการศึกษาบนพื้นฐานปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง (กระทรวงศึกษาธิการ, 2550 : ค าน า) ซึ่งในการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น จะใช้คุณธรรมเป็นพื้นฐาน ของกระบวนการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา สถาบันครอบครัว ชุมชน สถาบันทางศาสนา ให้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ทักษะ และเจตคติ สามารถน าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันได้อย่างสมดุลและยั่งยืน กระทรวงศึกษาธิการ, 2550 : 2) ซึ่งมีรายละเอียด ในการด าเนินการขับเคลื่อน ดังที่ปรียานุช พิบูลสราวุธ (2549 : 4-5) ได้กล่าวถึง การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ดังนี้ ภาพที่ 25 นโยบายการจัดการศึกษาด้วยเศรษฐกิจพอเพียง


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 207 รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ และคณะ (2564). การบริหารโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากแผนงานวิจัยการเสริมสร้างสังคมฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้โดยมีโครงการ ย่อย 3 โครงการ ที่ผู้เขียนได้ศึกษาเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไว้ดังนี้ ..การศึกษากลายเป็นตัวฉุดรั้งขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ปัจจุบันไทย อยู่อันดับที่ 55 จาก 60 ในอันดับความสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจ โดยองค์ประกอบด้านคุณภาพ ก าลังคนเป็นตัวฉุดรั้งสูงสุด (MID 2560) ปัญหาการศึกษาไทยสั่งสมมากว่า 20 ปี ทั้งเรื่องการมี คุณภาพต ่า และความเหลื่อมล ้าสูง เด็กไทยร้อยละ 60 ออกจากระบบการศึกษาด้วยวุฒิเพียง ม.6 ม.3 หรือต ่ากว่า และมีเด็กร้อยละ 10 ไม่จบแม้แต่ ม.3 อันเป็นการศึกษาภาคบังคับนักเรียนระดับ ม. 3 ของไทยกว่าร้อยละ 70 มีคะแนนการอ่าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ต ่ากว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ในกลุ่ม OECD (จากผลการสอบ PISA 2015) OECD วิจัยพบว่า ประเทศที่จะปฏิรูปการศึกษา ส าเร็จ รัฐบาลจะต้องมีการด าเนินการอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 6-10 ปี แต่กรณีไทย กลไกระดับชาติกลับขาดความต่อเนื่องไทยใช้งบประมาณเพื่อการศึกษาสูงเป็นที่สองของโลก แต่ไร้ ประสิทธิภาพ งบประมาณส่วนใหญ่เป็นงานประจ าและเงินเดือน และแม้ว่าพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ.2542 มีหลักการของการกระจายอ านาจทางการศึกษาผ่าน 15 ปี ยังไม่มีการด าเนินการให้ เป็นจริง การปฏิรูปที่ผ่านมามีแต่การปรับโครงสร้างองค์กร ที่ไม่ได้ท าให้เกิดประสิทธิภาพหรือผลดีกับ ผู้เรียนแต่อย่างใด กองบริหารงานวิจัยและประกันคุณภาพการศึกษา (2560 )Thailand 4.0 โมเดลขับเคลื่อน ประเทศไทยสู่ความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืนการปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจและสังคมให้พร้อมรองรับ ประเทศไทยยุค 4.0 ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ประเทศไทยได้มีการจัดท า ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี(พ.ศ. 2560-2579) เพื่อให้การพัฒนาประเทศมีความต่อเนื่องและ มีแนวทางที่ชัดเจน โดยก าหนดวิสัยทัศน์ “ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนา แล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเข้าสู่ การเป็นประเทศที่มีรายสูงภายในปี 2579 (กระทรวงศึกษาธิการ. 2560 : 8) ผลการพัฒนาการศึกษา ในช่วงปี 2552-2559 พบว่า ไทยประสบความส าเร็จในหลายด้าน และมีอีกหลายด้านยังเป็นปัญหาที่ ต้องได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วนในระยะต่อไปหนึ่งในสภาพปัญหาก็คือ ด้านคุณภาพการศึกษาผล การพฒันายงัไม่เป็นท่นี่าพงึพอใจ เน่ืองจากผลสมัฤทธทิ์างการเรยีนระดบัการศกึษาขนั้พ้นืฐานมี คะแนนต ่ากว่าค่าเฉลี่ยมาก และต ่ากว่าหลายประเทศในแถบเอเชีย ส่วนประเด็นคุณธรรม จริยธรรม ของเด็กและเยาวชนยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นการจัดการศึกษาในปัจจุบันจึงต้องปรับเปลี่ยนให้


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 208 ตอบสนองกับทิศทางการผลิตและการพัฒนาก าลังคนดังกล่าว โดยมุ่งเน้น การจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้ได้ทั้งความรู้และทักษะที่จ าเป็น ต้องใช้ในการ ด ารงชีวิต การประกอบอาชีพ และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศท่ามกลางกระแสแห่ง การเปลี่ยนแปลงทักษะส าคัญจ าเป็นในโลกศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วยทักษะที่เรียกตามค าย่อว่า 3Rs + 8Cs 3Rs ประกอบด้วยอ่านออก (Reading) เขียนได้ (Writing) คิดเลขเป็น (Arithmetics) ประกอบด้วย ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross – cultural Understanding)ทักษะ ด้านความร่วมมือ การท างานเป็นทีม และภาวะผู้น า (Collaboration Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) ความมีเมตตา กรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม (Compassion) โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา 4 ประการ คือ 1) เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษา ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ 2) เพื่อพัฒนาคน ไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ 3) เพื่อพัฒนา สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และร่วมมือผนึกก าลังมุ่ง สู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ 4) เพื่อน าประเทศไทย ก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล ้าภายในประเทศลดลงยุทธศาสตร์ที่ 3 : การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้มีเป้าหมาย ข้อ 3.2 คนทุก ช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ความสามารถ สมรรถนะตามมาตรฐานการศึกษาและมาตรฐานวิชาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตได้ตามศักยภาพข้อ 3.6-3.7 ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทาง การศึกษาได้มาตรฐานระดับสากล ยุทธศาสตร์ที่ 5 : การจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อมมีเป้าหมาย ดังนี้ 5.1 คนทุกช่วงวัย มีจิตส านึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และน าแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ สภาพการจัดการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่ประชาชนก าลังประสบปัญหา และต้องอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางสังคมที่วิกฤติและอันตรายนานาประการไม่ได้รับโอกาส ทางการศึกษาอย่างทั่วถึงขาดโอกาสการเข้ารับบริการทางการศึกษาในระบบจ านวนมาก และผลสมัฤทธ ิ์ ของผู้เรียนโดยรวมอยู่ในระดับต ่ากว่าคะแนนเฉลี่ยระดับชาติมากนั้นรัฐบาลได้มีนโยบายที่ต้องการ


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 209 ให้พื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น “เขตพัฒนาพื้นที่พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่จ าเป็นต้องได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะด้านการศึกษาที่ต้องจัดให้สอดคล้องกับสภาพ เศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมให้เกิดสันติสุขทั้งนี้เพื่อส่งผลต่อการพัฒนาคนและสังคมของประเทศ ให้มีคุณภาพ รุ่งชชัดาพร เวหะชาต,ิด ารงคศ์กัดิ์แก้วเพง็, อรพนิทพิยเ์ดช (2564) การเสริมสร้างสังคม ฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนเขต พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 เห็นชอบแผนการพัฒนาการศึกษาในเขต พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ศ. 2552-2555) โดยมุ่งจัดการศึกษาในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาชาติ สร้างโอกาสใน การประกอบอาชีพ และพัฒนาพื้นที่ เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน องค์กรศาสนา เพื่อสร้างสันติสุข และเสริมสร้างความมั่นคง ในพื้นที่ภายใต้ความหลากหลายทางวัฒนธรรม สอดคล้องกับวิถีชีวิตโดย มีการเชื่อมโยงสู่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกภายในปี2555 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ยึด ยุทธศาสตร์การพัฒนาของแผนพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดน ภาคใต้ (พ.ศ. 2552-2555) เป็นกรอบในการด าเนินงานตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เป็นต้นไป การ จัดท าแผนปฏิบัติราชการการพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจ าปีงบประมาณ 2553 ได้ยึดหลักการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการ พัฒนาและแก้ไข ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่น าแนวทางพระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และยุทธศาสตร์ การพัฒนาตามแผนพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ศ. 2552-2555) ทั้ง 6 ด้าน คือ ยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพการศึกษา ยุทธศาสตร์ส่งเสริมศาสนศึกษา ยุทธศาสตร์เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ยุทธศาสตร์ส่งเสริมการศึกษา เพื่ออาชีพและการมีงานท า ยุทธศาสตร์พัฒนาการบริหารจัดการการศึกษา และยุทธศาสต ร์จัด การศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง เป็นกรอบแนวทางในการจัดท าแผนปฏิบัติราชการการพัฒนา การศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจ าปีงบประมาณ 2553 ดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการ ด้วยความร่วมมือจากทุกส่วนราชการในสังกัดได้ระดมความคิด ร่วมกันจัดท า แผนปฏิบัติราชการการพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจ าปีงบประมาณ 2553 ทั้งในส่วนที่ได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบประมาณที่ได้รับจัดสรรตามพระราชก าหนดให้กระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ภายใต้โครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และโครงการที่


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 210 จ าเป็นเร่งด่วนแต่ยังไม่มีงบประมาณรองรับ ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติงานในปีงบประมาณ 2553 รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการก ากับติดตามผลการด าเนินงาน และหน่วยงานในระดับพื้นที่ น าไปใช้ประโยชน์ในการบูรณาการและประสานการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานต่อไป สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี2547 เป็นต้นมา ส่งผล ให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ก่อให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างประชาชนต่อรัฐ รวมทั้ง ความหวาดระแวงระหว่างประชาชนต่อประชาชน เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อการด ารงชีวิตของประชาชนทั่วไป และมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบ เศรษฐกิจของพื้นที่โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ท าให้เกิดภาวการณ์ผลิตหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ผู้ประกอบการต้องเลิกหรือหยุดด าเนินกิจการเพราะขาดความมั่นใจในความปลอดภัย เกิดปัญหา การว่างงานสูง ซึ่งซ ้าเติมปัญหาความยากจนของประชาชนในพื้นที่ และท าให้ประชาชนลดความ เชื่อมั่นในอ านาจรัฐ ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงเป็นปัญหาที่มีความละเอียดอ่อน ซับซ้อน และ เชื่อมโยงหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา วัฒนธรรม และความมั่นคง การแก้ไขปัญหาจึง จะต้องด าเนินการให้ครอบคลุมสาเหตุปัญหาในทุกมิติอย่างประสานสอดคล้อง เกื้อหนุน และเป็นไป ในทิศทางเดียวกัน ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษเศรษฐกิจจังหวัดชายแดน ภาคใต้ (กพต.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และศอ.บต. เป็นฝ่ ายเลขานุการ ท าหน้าที่ในการ ก าหนดนโยบายเร่งรัดการพัฒนา และติดตามผลการพัฒนาในพื้นที่ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และ 4 อ าเภอของจังหวัดสงขลา คือ จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย จากการประชุมเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาของเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจภาคใต้ในการวิจัย ครั้งนี้ คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยทักษิณได้ด าเนินการศึกษาปัญหาเบื้องต้นในเขตพื้นที่บริการ 4 อ าเภอ ของเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ได้แก่อ าเภอจะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา ซึ่งสรุป สาเหตุของปัญหาเบื้องต้น ได้ดังนี้ (1) ชุมชนไม่เข้มแข็งในการบริหารจัดการและช่วยเหลือเกิดความ ไม่เสมอภาคของสังคม และการเข้าถึงการบริการของภาครัฐการอุดหนุนทางการศึกษา โรงเรียน สอนศาสนา คุณภาพชีวิต (2) การอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของคนในชุมชน ส่งผลต่อภูมิปัญญา ชาวบ้าน วิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น การดูแลสุขภาพ อาหาร การออกก าลังกาย การใช้สมุนไพร และ อาชีพในท้องถิ่น ซึ่งภาพสะท้อนมิติด้านสังคมวัฒนธรรมดังกล่าวยังไม่ถูกน ามาจัดระบบ (3) การ ขาดจิตส านึก ไม่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ความเห็นแก่ตัว การมีค่านิยมที่ไม่สมเหตุสมผลในการประกอบ อาชีพ เยาวชนขาดจิตส านึกการรักษ์บ้านเกิด (4) ความยากจน การไม่มีงานท า ความไม่พอเพียง เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือน


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 211 การวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงสาเหตุแห่งปัญหาดังกล่าว พบว่า ล้วนแล้วแต่เกิดจากมนุษย์ ที่ขาดจิตส านึก และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จนส่งผลกระทบต่อวิถีของชุมชนที่ต้องบริหารจัดการ แบบมีส่วนร่วมตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต และปลูกฝัง เยาวชนในชุมชน และการที่ทีมวิจัยมองเห็นการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนโดยการน าลงไปบริหาร จัดการในโรงเรียนเพื่อให้ได้กระบวนการเรียนรู้เพื่อสะท้อนความต้องการจ าเป็นของพื้นที่ที่มีความ ซับซ้อนแตกต่างกันไป เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพชีวิตสอดคล้องความต้องการจ าเป็นของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละ ชุมชน จึงมีการประชุมร่วมกันระหว่างนักวิจัยในกลุ่มการศึกษา ประกอบด้วย นักวิจัยมหาวิทยาลัย ได้แก่ อาจารย์ นิสิต นักวิจัยชุมชน ผู้บริหารและครูในสถานศึกษา นักเรียน(เยาวชน) และภาค ประชาชน จึงเป็นที่มาของโครงการวิจัยย่อยทั้ง 3 โครงการ ตามพื้นที่เป้าหมายในชุมชนโดยใช้ โรงเรียนเป็นฐาน ได้แก่ ผู้บริหาร ครู นักเรียน (เยาวชน) ตัวแทนชุมชน ตัวแทนหน่วยงาน องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีนักวิจัยซึ่งเป็นอาจารย์ นิสิต และนักวิจัยชุมชนเป็นพลังหนุนเสริม ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการวิจัย เป็นกระบวนการพัฒนาคนไปพร้อมกับการแสวงหาวิธีการแก้ปัญหาของ ชุมชน ภายใต้ความเชื่อที่ว่า จุดเปลี่ยนประเทศไทยหัวใจอยู่ที่ชุมชน ซึ่งจากข้อวิเคราะห์โจทย์ปัญหา ความต้องการของพื้นที่ คณะนักวิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ คณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ร่วมกันท าการพัฒนาโจทย์วิจัยโดยการจัดเสวนา "ถอดบทเรียนชุมชนโดย ใช้โรงเรียนเป็นฐาน" จ านวน 2 เวทีด้วยกัน ประกอบด้วย ผู้อ านวยการโรงเรียน คณะครูและนักเรียน นายก อบต.ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการสถานศึกษา จากการประชุมเปิดโจทย์วิจัยเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาของเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ภาคใต้คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยทักษิณได้ด าเนินการศึกษาปัญหาเบื้องต้นในเขตพื้นที่บริการ 4 อ าเภอ ของเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ได้แก่ อ าเภอจะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา ซึ่งสรุป สาเหตุของปัญหาเบื้องต้น ได้ดังนี้ 1. ชุมชนไม่เข้มแข็งในการบริหารจัดการ และช่วยเหลือเกิดความไม่เสมอภาคของสังคม และการเข้าถึงการบริการของภาครัฐการอุดหนุนทางการศึกษา การไม่รู้หนังสือ คุณภาพในการจัด การศึกษา คุณภาพชีวิต 2. ชุมชนมีต้นทุนวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หลากหลาย เช่น ภูมิปัญญาทางด้าน ยาสมุนไพร อาชีพ อาหาร การดูแลสุขภาพฯลฯ แต่ยังขาดการจัดการความรู้ที่เป็นระบบ อีกทั้ง ไม่สามารถน าภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นภาพสะท้อนมิติด้านสังคมวัฒนธรรมที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้กับ วิถีชีวิตชุมชน


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 212 3. ผู้คนในชุมชนขาดจิตส านึกรักษ์บ้านเกิด เช่น มีการย้ายถิ่นฐาน มีค่านิยมการแต่งงาน ข้ามชาติพันธุ์ ขาดการหวงแหนทรัพยากรของชุมชนที่มีอยู่อย่างจ ากัด ผู้คนมีค่านิยมในการ ด ารงชีวิตในลักษณะที่เป็นวัตถุนิยม 4. ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน อันเนื่องมากจากสภาวะการไม่มีงานท า การใช้จ่าย เกินตัว ขาดความรู้ในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงสาเหตุแห่งปัญหาดังกล่าว พบว่า ล้วนแล้วแต่เกิดจากมนุษย์ที่ ขาดจิตส านึก เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของชุมชนที่มีวิถีชีวิตแบบ ไม่พอเพียง จากสภาพปัญหาของชุมชนดังกล่าวข้างต้น คณะผู้วิจัยเล็งเห็นความส าคัญจ าเป็น ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการเสริมสร้าง สังคมฐานความรู้ การสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอาหารสู่การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ด้านนวัตกรรมการออกก าลังกาย เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างจิตส านึกรักษ์บ้านเกิด ด้านการพัฒนาอาชีพของชุมชนโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็น ฐาน และด้านการบริหารสถานศึกษาแบบองค์รวม เพื่อพัฒนาชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) โดยการน าองค์ความรู้มาจัดระบบเพื่อเสริมสร้างสังคมฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ และเพื่อให้ การพัฒนาดังกล่าวสอดคล้องกับความต้องการจ าเป็นของเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย ในแต่ละชุมชนจึง เป็นที่มาของโครงการวิจัยตามพื้นที่ในการพัฒนาเยาวชนในชุมชนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน โดยใช้ กระบวนการวิจัยเป็นกระบวนการพัฒนาคนไปพร้อมกับการแสวงหาวิธีการแก้ปัญหาของชุมชน ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “จุดเปลี่ยนประเทศไทย หัวใจอยู่ที่ชุมชน” จึงก าหนดวัตถุประสงค์ที่ศึกษาดังนี้1) เพื่อภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการเสริมสร้างสังคม ฐานความรู้ ตามแนวทาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนใต้2) เพื่อการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอาหารเพื่อสร้าง เสริมสุขภาพสู่การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนา คุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ 3) เพื่อการ พัฒนาการบริหารสถานศึกษาแบบองค์รวม เพื่อพัฒนาชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ( PLC) ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนา คุณภาพชีวิต เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ชายแดนภาคใต้โครงการวิจัยเรื่อง การเสริมสร้างสังคมฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ในส่วน ของแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่น ามาใช้เป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 213 1) สังคมฐานความรู้ (ภูมิปัญญาท้องถิ่น) 2) ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ความพอประมาณ ความมี เหตุผล และการมีภูมิคุ้มกัน) และ 3) คุณภาพชีวิต (ร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา สังคมและสิ่งแวดล้อม และศิลปวัฒนธรรม) สังคมฐานความรู้(Knowledge-based Society) จากการกีดกันการเข้าถึงความรู้ไปสู่ การเรียนรู้ด้วยตนเอง ความเกี่ยวเนื่องของสังคมยุคโบราณกับความรู้(การเรียนรู้ได้รับการสงวนไว้ ส าหรับชนชั้นระดับสูง) ได้เปลี่ยนแปลงไปในยุค Renaissance ของยุโรป ในยุคปัจจุบันมีลักษณะ ของข่าวสารที่มากมายจนเกินไป ผลคือ การขาดความรู้และความไม่สามารถประมวลข้อมูลที่ส าคัญ ได้วัตถุประสงค์จึงมุ่งให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้โดยการสอนให้ปัจเจกบุคคลเรียนรู้ด้วยตนเองซึ่ง เป็นก้าวส าคัญที่จะน าไปสู่สังคมฐานความรู้ค าจ ากัดความของสังคมฐานความรู้สังคมฐานความรู้ เป็นสังคมแห่งการสร้างสรรค์และการเรียนรู้ตลอดชีวิตซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ, นักวิจัย, วิศวกร , ผู้ปฏิบัติการ, เครือข่ายวิจัย, และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและเป็นผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้น สูงและให้บริการ สังคมฐานความรู้ก่อให้เกิดระบบของการผลิตสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ของชาติซึ่งถูก รวมเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียวกับเครือข่ายของการผลิตการเผยแพร่ การใช้และการคุ้มครองความรู้ ระหว่างประเทศ เครื่องมือทางเทคโนโลยีด้านข้อมูล และการสื่อสารของสังคมจะท าให้การเข้าถึง ความรู้ของมนุษย์เป็นไปอย่างง่ายดาย และเป็นไปในวงกว้างความรู้จะถูกน ามาใช้เพื่อเพิ่มอ านาจ และท าให้ประชาชนสุขสมบรณ์ทั้งทางจิตใจและร่างกาย เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนขึ้นมาความ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสังคมฐานความรู้1) ความรู้ทุกรูปแบบ (วิทยาศาสตร์, โดยนัย, ภาษา; ทางทฤษฎีหรือปฏิบัติ, ความรู้สึก หรือ บริบท, โครงสร้างเครือข่าย) จะได้รับการเผยแพร่ออกไป ในรูปแบบใหม่ 2) เนื่องจากการใช้ความรู้อย่างถูกต้องและผิดๆ มีผลกระทบมากมายกว่าที่เคย เป็นมาก่อนการเข้าถึงความรู้ของประชาชนอย่างเท่าเทียมกันจึงมีความส าคัญอย่างยิ่งยวด 3) การ เข้าถึงข้อมูลไม่ควรจะเป็นรูปแบบใหม่ของสังคมที่ไม่เท่าเทียมกัน 4) การปัดช่องว่างที่ขยายกว้างขึ้น ระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศที่ก าลังพัฒนาจะต้องได้รับการพิจารณาในล าดับสูงสุด ในทางการเมือง จะไม่มีผู้ใดถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง 5) หากปราศจากวัฒนธรรม เราจะไม่สามารถ เข้าใจความรู้ได้จึงต้องมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่นและความรู้ทาง วิทยาศาสตร์6) การเข้าถึงความรู้เป็นสิทธิอย่างหนึ่งและต้องได้รับการปกป้องจากการจ ากัดการ เข้าถึงโดยอุตสาหกรรม 7) จ าต้องมีการหารือและท าความเข้าใจกันอย่างต่อเนื่องระหว่างสังคม และ วิทยาศาสตร์ซึ่งจะท าให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของวิทยาศาสตร์รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของ วิทยาศาสตร์ในการให้ข้อชี้แนะ และการศึกษา 8) วิทยาศาสตร์ควรช่วยให้ยุติอคติทางเพศและ


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 214 อุปสรรคต่างๆ ที่กีดกันผู้หญิงออกจากอาชีพที่ต้องการประกอบทางด้านวิทยาศาสตร์และส่งเสริม การด ารงต าแหน่งที่สูงขึ้นไป 9) ความสนใจในวิทยาศาสตร์และภารกิจในการน าความรู้มาพัฒนา ประเทศชาติในอนาคตของเยาวชนรุ่นใหม่ควรได้รับการกระตุ้น ด้วยการเรียนการสอนที่สร้างสรรค์ และด้วยการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของนักวิทยาศาสตร์โดยความช่วยเหลือของสื่อมวลชน และที่ ปรึกษา ที่เกี่ยวข้องมุมมองด้านจริยธรรม 1) ความรู้และสังคมเป็นหุ้นส่วนซึ่งกันและกัน กล่าวคือ ต้องมีการประสานความร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ของสังคม วิทยาศาสตร์และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะต้องคงความเป็น “มนุษย์” เมื่อเกี่ยวข้องกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงต้องมีความรับผิดชอบ ทางศีลธรรมและรักษาวัฒนธรรม มรดกทางภาษา ตลอดจนการสร้างสรรค์ที่แตกต่างออกไป 2) ต้อง มีจริยธรรมของโลก โดยส่วนรวมร่วมอยู่ในพหุสังคมเพื่อให้ปัจเจกบุคคลด ารงค์อยู่ได้ในชุมชนระดับ ท้องถิ่น ภูมิภาค และชาติ รวมถึงสามารถใช้ภาษาท้องถิ่น ภาษาประจ าชาติและภาษานานาชาติ ด้วย 3) การวิจัยในมุมมองของจริยธรรมจะต้องค านึงถึงสิทธิและภาระที่จ าต้องมีต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนพื้นผิวโลก โลกยุคปัจจุบัน แข่งขันกันด้วยการสร้างนวัตกรรม (Innovation) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักส าหรับ น ามาใช้ขับเคลื่อนความอยู่ดีกินดีและความสุขของคนในสังคมและการแข่งขัน การร่วมมือกับสังคม อื่น ประเทศอื่น ไม่ใช่แข่งขันกันด้วยการสั่งสมปัจจัย (Factors Accumulation) เช่นทรัพยากรธรรมชาติทุน หรือแรงงานเป็นปัจจัยหลักเหมือนสมัยก่อน การสร้างนวัตกรรมต้องอาศัยความรู้และกิจกรรมสร้าง ความมั่งคั่งจากความรู้ยิ่งด าเนินการมากเท่าใดตัวปัจจัยหลักนวัตกรรมและความรู้จะยิ่งงอกงาม มากขึ้นเท่านั้น อยู่ในสภาพ “ยิ่งใช้ยิ่งงอกงาม” แต่การสร้างความมั่งคั่งจากทรัพยากรธรรมชาติทุน และแรงงาน ยิ่งด าเนินการตัวปัจจัยหลักจะยิ่งร่อยหรอลงไปอยู่ในสภาพ “ใช้แล้วหมด” การพัฒนา ประเทศในแนวทางแรกจึงเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ในขณะที่แนวทางหลังก่อให้เกิดการพัฒนาที่ไม่ ยั่งยืนอย่างที่เห็นๆกันอยู่ สรุปได้ว่าโลกยุคปัจจุบัน เป็นโลกยุคสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-based Society and Economy) ทุกสังคมจะต้องมีความสามารถในการน าความรู้มา สร้างนวัตกรรมส าหรับใช้เป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาสังคม ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างขึ้นนั้น จะต้องก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อสังคมส่วนต่างๆ ที่มีความแตกต่างหลากหลาย อย่างทั่วถึง และ ขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจเพื่อการแข่งขัน และเศรษฐกิจพอเพียงอย่างสมดุลพลวัตของการพัฒนา เศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นได้โดยมีความก้าวหน้าทางด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นกลไกในการ ขับเคลื่อนให้มีการเปลี่ยนแปลงดังที่เห็นได้จากวิวัฒนาการจากยุคเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (Industrial


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 215 Economy) ที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมหนักอย่างรวดเร็วมาสู่ยุคเศรษฐกิจข้อมูล ข่าวสาร (Information Economy) ซึ่งเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทส าคัญในการสร้างความ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและปัจจุบันโลกก าลังวิวัฒนาการเข้าสู่เศรษฐกิจยุคโมเลกุล (Molecular Economy) ซึ่งเทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยีและวัสดุศาสตร์ได้เข้ามามีบทบาทส าคัญต่อการ พัฒนานับตั้งแต่เศรษฐกิจยุคข้อมูลข่าวสารเป็นต้นมา โลกอยู่ในภาวะของการเปลี่ยนแปลงอย่าง รวดเร็วโดยเฉพาะในบริบทของวิวัฒนาการด้านความรู้เพื่อก้าวไปสู่การสร้างองค์ความรู้และน ามาใช้ ประโยชน์ในการพัฒนา (Knowledge for Development) ความรู้และการใช้ความรู้อย่างมี ประสิทธิภาพและชาญฉลาดจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่ส าคัญในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Knowledge-driven Growth) และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศทั้ง ทางด้านการค้าและการลงทุน ดังนั้นรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันจะไม่เพียงแต่อาศัย ความได้เปรียบจากการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient Resource Utilization) เท่านั้น แต่จะต้องมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ และมีความสามารถในการใช้องค์ความรู้จากวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาหรือที่เรียกว่า “การพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยฐานความรู้” การเปลี่ยนแปลงของกระแสการพัฒนาสู่ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ได้ส่งผลกระทบ ต่อหลายประเทศในโลก โดยเฉพาะต่อประเทศก าลังพัฒนา ซึ่งขณะนี้ได้ใช้ความพยายามอย่างหนัก ในการปรับตัวเพื่อลดช่องว่างด้านรายได้และความมั่งคั่ง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังนั้นประเทศที่ก าลังพัฒนาจึงได้ให้ความส าคัญในการปรับตัวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-Based Economy: KE) โดยเร่งสร้างนวัตกรรมจากองค์ความรู้ใหม่ๆ (Innovation and Knowledge Creation) รวมถึงการน าเอาความรู้และเทคโนโลยีจากภายนอกมาปรับใช้ (Technological Adaptation/Adoption) ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตนส าหรับ ประเทศไทยซึ่งมีระบบเศรษฐกิจแบบเปิด (Open Economy) ที่ผนวกเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับเศรษฐกิจ โลกย่อมได้รับผลกระทบจากการที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานความรู้ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆในโลก ดังนั้นประเทศไทย จ าเป็นต้องมีการปรับตัวให้สามารถพร้อมทั้งรับ และรุกเข้าสู่การพัฒนาที่เน้นการแข่งขันบนฐานความรู้และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีโดยมีเป้าหมายให้ประเทศมีความสามารถและภูมิคุ้มกันเพื่อการอยู่รอดได้อย่างมีความ สมดุลและยั่งยืน


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 216 แนวคิดหลกัของทฤษฎีสงัคมฐานความรู้แนวคิดหลักของทฤษฎีการสานสร้างความรู้ จากสังคม (Luksaneeyanawin, 2007) แนวคิดหลักของทฤษฎีการสานสร้างความรู้จากสังคมได้ให้ ความส าคัญกับสภาพแวดล้อมในการเรียน และกระบวนการในการเรียนรู้ที่ต้องอาศัยการฟูมฟักจาก สังคมเป็นอย่างมาก การศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่กล่าวกันมากในสังคมการศึกษาของไทย ในปัจจุบันนั้น ต้องเกิดจากความเข้าใจสภาพของผู้เรียนรวมทั้งสภาพแวดล้อมของผู้เรียน เพื่อสร้าง กิจกรรมการเรียนที่เหมาะสมกับระดับและศักยภาพของผู้เรียน รวมทั้งระดับและศักยภาพของ องค์ประกอบอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการเรียน เช่น ผู้สอน เพื่อนร่วมชั้น สื่อในการเรียน รวมทั้งสภาพ สังคมนอก ห้องเรียนทั้งที่โรงเรียน และนอกโรงเรียน การจัดกระบวนการในการเรียนที่เน้นผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง หากขาดความเข้าใจดังกล่าวข้างต้น อาจกลายเป็นการจัดการเรียนที่เน้นความคิด ความเข้าใจของผู้สอน จนผู้เรียนไม่สามารถพัฒนา ตามศักยภาพของตนได้ การศึกษาส าหรับ ประชาคมในสังคมฐานความรู้ ในที่นี้ผู้เขียนขอเสนอแนวคิดทางการศึกษาที่น่าจะเป็นแนวทางใน การสร้างคนให้พร้อมรับสังคมสารสนเทศ อันจะเป็นการน าให้สังคมของเราเป็นสังคมฐานความรู้ที่ แท้จริง กล่าวคือ สมาชิกของสังคมเป็นผู้รู้ตื่น รู้คิด รู้ปฏิบัติ รู้ชอบ และรู้เรียนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่า สมาชิกผู้นั้นจะอยู่ในระบบโรงเรียน หรือพ้นจากระบบโรงเรียนไปแล้วก็ตาม แนวคิดที่จะน ามาเสนอ นี้ คือ ทฤษฎีการสานสร้างความรู้จากสังคม (Social Constructivism) ทฤษฎีนี้น าเสนอโดย เลฟวิ กอตสกี้ (1896-1934) นักจิตวิทยาชาวรัสเซีย (Vygotsky 1978, Newman & Holzman 1993, Kafai & Resnick 1996) แนวคิดหลักๆ คือการเรียนรู้ ต้องผ่านกระบวนการคิดซึ่งต้องอาศัยภาษาใน กระบวนการดังกล่าว (language, thought, and learning) การสื่อสารด้วยการใช้ภาษาทั้งที่เป็นการ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคน (inter communication) และการสื่อสารภายในตนเอง (intra communication) การคิดได้ลึกซึ้งต้องมีการแลกเปลี่ยนสาระในกลุ่มคนที่มีความแตกต่างหลากหลายในแง่ต่างๆ (dialectic) และข้อส าคัญข้อสุดท้ายในการเรียนรู้ คือ การรู้ศักยภาพของผู้เรียนเพื่อพัฒนาจากระดับ ที่เป็นอยู่ (actual stage) ไปสู่ระดับที่มีศักยภาพสูงสุดที่เป็นไปได้ ระยะห่างระหว่างระดับที่เป็นอยู่ ไปยังระดับสูงสุดเป็นช่วงเวลาของการเรียนรู้ที่ต้องอาศัยการสานสร้างจากสังคม อาจกล่าวได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานพอสมควร ลักษณะทาง ภูมิศาสตร์ท าให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสังคมเกษตรกรรมเป็นหลัก แม้ประเทศจะมีการพัฒนาสู่ สังคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กลายมาเป็นอุตสาหกรรมส าคัญของ ประเทศ โดยมีการพัฒนาภาคธุรกิจการบริการที่เหมาะสมกับคนไทยมีลักษณะด้านวัฒนธรรมที่เอื้อ


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 217 ต่ออุตสาหกรรมประเภทนี้ในปัจจุบันประเทศไทยก็ได้ก้าวเข้าสู่สังคมสารสนเทศแล้ว ประเทศไทย เป็นประเทศขนาดกลาง มีจ านวนประชากรสูงเป็นล าดับที่ 19 ของโลก แม้ประเทศจะมีรายได้ มวลรวม สูงเป็นล าดับที่ 21 ของโลก แต่รายได้ต่อหัวกลับเป็นล าดับที่ 69 ของโลก คล้ายคลึงกับประเทศจีน ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประเทศไทยมีภาคการเกษตรเป็นฐานส าคัญทาง เศรษฐกิจ แม้สินค้าทางการเกษตรนั้นใช้เลี้ยงดูประชากร ได้อย่างสมบูรณ์แต่ไม่อาจสร้างรายได้ ให้กับประเทศได้สูงเท่ากับสินค้าประเภทอื่นๆ การพัฒนาสินค้าทางการเกษตรให้เป็นอุตสาหกรรม การเกษตร หรือสินค้าที่แปรรูปเป็นอุตสาหกรรมอาหารส าเร็จรูป จึงเป็นการพัฒนาที่ส าคัญยิ่ง ส าหรับประเทศไทย การพัฒนาประเทศของไทยจึงจ าเป็นที่จะต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับ ลักษณะประเทศของเราเองอย่างถ่องแท้ จึงจะท าให้เกิดการพัฒนาที่สมบูรณ์ทุกด้าน ทั้งด้านคน สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อให้เป็นประเทศที่ประชาชนอยู่ดีมีสุข ในทุกภาคส่วนของประเทศ ในสังคม โลกปัจจุบันที่กล่าวกันว่าเป็นสังคมยุคสารสนเทศ ที่มีการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัย เทคโนโลยีสารสนเทศ 3G หรือเทคโนโลยีไร้สาย หากประเทศไทยจะพัฒนาเข้าสู่สังคมสารสนเทศ โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่พัฒนาเข้าสู่สังคมสารสนเทศอย่างเต็มรูปแบบ อาจท าได้อย่าง รวดเร็ว ดังตารางข้างล่างนี้ ซึ่งเปรียบเทียบโครงสร้างพื้นฐานด้านการสี่อสาร โทรคมนาคมที่มีอยู่ใน ปัจจุบันในประเทศส าคัญๆ ในเอเซียเทียบกับประเทศไทยสารสนเทศในโลกปัจจุบันมีมวลมหาศาล ส่วนใหญ่สารสนเทศเป็นภาษาสากล คือ ภาษาอังกฤษ สารสนเทศนั้นแขวนอยู่บนระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ระหว่างประเทศ ที่สามารถเข้าถึงได้ 24 ชั่วโมง มีทั้งสารสนเทศที่เป็นความรู้ซึ่งเป็น ประโยชน์ในการสร้างภูมิปัญญา และมีสารสนเทศ ที่เป็นโทษจ านวนไม่ใช่น้อยเช่นกัน การพัฒนา ประชากรไทยจ านวนกว่า 64 ล้านคนให้เป็นประชากรที่มีความพร้อมรับสังคมสารสนเทศนับเป็น เรื่องที่ท าได้ไม่ง่ายนัก ประชากรในสังคมภูมิปัญญาจะต้องมีคุณลักษณะส าคัญ คือ เป็นผู้มีจิตวิจัย (สุดาพร ลักษณ์ยนาวิน 2542, 2543, 2549) กล่าวคือ เป็นผู้ที่มีจิตที่เต็มไปด้วยค าถาม ไม่เชื่อง่าย เพราะถ้าเชื่อง่ายคงจะสับสนเพราะมีข้อมูลข่าวสารมากมายทั้งที่เป็นข้อเท็จ และข้อจริง จิตวิจัย คือ จิตที่พยายามแสวงหาค าตอบด้วยกระบวนการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีการสานสร้างความรู้ จากสังคม มีหลากหลายวิธี และมีชื่อเรียกต่างๆกัน หลักใหญ่ๆ ของการศึกษาในแนวนี้ คือ ความรู้ อาจเรียนทันกันหมด คือหลักสูตรเป็นตัวก าหนดสิ่งที่ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้การเรียนรู้ของผู้เรียนอยู่ ภายใต้การก ากับดูแล และฟูมฟักจากโรงเรียน ผู้สอน และกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้เรียนและผู้สอนอาจเป็น ผู้ช่วยกันคิดให้เหมาะสมกับสภาพทางสังคมขององค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ผู้สอนโดยเฉพาะใน


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 218 ระดับอุดมศึกษาอาจมีความรู้ในเรื่องบางเรื่องพอๆ กับผู้เรียน หรืออน้อยกว่าผู้เรียนก็ได้หากไม่ แสวงหาความรู้ใหม่ๆ และไม่รู้ตื่นรู้เรียนตลอดเวลา การปรับกระบวนทัศน์ในการเรียนต้องอาศัยการ ท าความเข้าใจกับผู้เรียนเกี่ยวกับวิธีการในการเรียน รวมทั้งแสดงเป้าหมายของการเรียนแก่ผู้เรียนให้ ชัดเจน วิธีการเรียนการสอน ข้อมลูด้านความต้องการของพื้นที่หรือการน าไปใช้ประโยชน์เชิงสงัคม 1. ชุมชนไม่เข้มแข็งในการบริหารจัดการและช่วยเหลือเกิดความไม่เสมอภาคของสังคม การเข้าถึงการบริการของภาครัฐการอุดหนุนทางการศึกษา การไม่รู้หนังสือ คุณภาพในการจัด การศึกษา คุณภาพชีวิต 2. ชุมชนมีต้นทุนวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หลากหลาย เช่น ภูมิปัญญาทางด้านยา สมุนไพร อาชีพ อาหาร การดูแลสุขภาพฯลฯ แต่ยังขาดการจัดการความรู้ที่เป็นระบบ อีกทั้ง ไม่สามารถน าภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นภาพสะท้อนมิติด้านสังคมวัฒนธรรมที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้กับ วิถีชีวิตชุมชน 3. ผู้คนในชุมชนขาดจิตส านึกรักษ์บ้านเกิด เช่น มีการย้ายถิ่นฐาน มีค่านิยมการแต่งงาน ข้ามชาติพันธุ์ ขาดการหวงแหนทรัพยากรของชุมชนที่มีอยู่อย่างจ ากัด ผู้คนมีค่านิยมในการ ด ารงชีวิตในลักษณะที่เป็นวัตถุนิยม 4. ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน อันเนื่องมากจากสภาวะการไม่มีงานท า การใช้จ่าย เกินตัว ขาดความรู้ในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การใช้แนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่ สังคมไทยอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและ สิ่งแวดล้อม อีกทั้งกระบวนการของความเปลี่ยนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายในเชิง สาเหตุและผลลัพธ์ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดต่างเป็นปัจจัยเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ส าหรับผลของการพัฒนาในด้านบวกนั้น ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอัตราการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ ความเจริญทางวัตถุ และสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบสื่อสารที่ทันสมัย หรือการขยาย ปริมาณ และกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงมากขึ้น แต่ผลด้านบวกเหล่านี้ส่วนใหญ่กระจายไปถึงคน ในชนบท หรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมน้อยแต่ว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้เกิดผลลบ ติดตามมาด้วย เช่น การขยายตัวของรัฐเข้าไปในชนบท ได้ส่งผลให้ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายด้าน ทั้งการต้องพึ่งพิงตลาดและพ่อค้าคนกลางในการสั่งสินค้าทุน ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 219 ระบบความสัมพันธ์แบบเครือญาติและการรวมกลุ่มกันตามประเพณีเพื่อการจัดการทรัพยากรที่เคย มีอยู่แต่เดิมแตก สลายลง ภูมิความรู้ที่เคยใช้แก้ปัญหาและสั่งสมปรับเปลี่ยนกันมาถูกลืมเลือนและ เริ่มสูญหายไป สิ่งส าคัญ คือ ความพอเพียงในการด ารงชีวิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ท าให้คนไทยสามารถ พ่งึตนเอง และด าเนินชวีติไปได้อย่างมศีกัดศิ์รภีายใต้อ านาจและความมอีสิระในการก าหนดชะตา ชีวิตของตนเอง ความสามารถในการควบคุม และจัดการเพื่อให้ตนเองได้รับการสนองตอบต่อความ ต้องการต่างๆ รวมทั้งความสามารถในการจัดการปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็น ศักยภาพพื้นฐานที่คนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่เดิมต้องถูกกระทบกระเทือน ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจ จากปัญหาฟองสบู่ และปัญหาความอ่อนแอของชนบท รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นข้อ พิสูจน์และยืนยันปรากฎการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วยคุณสมบัติ ดังนี้ 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่ เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไป อย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนค านึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจาก การกระท านั้นๆ อย่างรอบคอบ 3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยค านึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมี เงื่อนไข ของการตัดสินใจและด าเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียง 2 ประการ ดังนี้ 1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะน าความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและ ความระมัดระวังในการปฏิบัติ 2. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ ซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการด าเนินชีวิต การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคการศึกษานั้น จะต้องมุ่งพัฒนาที่ตัวครู ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะครูถือว่าเป็นทรัพยากรที่ส าคัญในการถ่ายทอดความรู้ และปลูกฝังสิ่ง


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 220 ต่างๆ ให้แก่เด็ก ดังนั้นจึงควรส่งเสริมครูให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง อย่างถ่องแท้ก่อน เพราะเมื่อครูเข้าใจ ครูก็จะได้เป็นแบบอย่างทีดีให้แก่เด็กได้ ครูจะสอนให้เด็กรู้จัก พอ ครูจะต้องรู้จักพอก่อน โดยอยู่อย่างพอเพียงและเรียนรู้ไปพร้อมๆกับเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมีสติในการเลือกรับข้อมูลต่างๆ ที่เข้ามารู้จักเลือกรับ และรู้จักต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ หมั่น ศึกษา เพิ่มพูนความรู้ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ก้าวกระโดด ในการเลือกรับข้อมูลนั้น ต้องรู้จัก พิจารณารับอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รู้จักแก้ไขปัญหา อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ประเมินความรู้และ สถานการณ์อยู่ตลอดเวลาจะได้รู้จัก และเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสภาพ และผลจากการ เปลี่ยนแปลงในมติต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและระมัดระวัง เป้าหมายส าคัญของการขับเคลื่อน คือ การท าให้เด็กรู้จักความพอเพียง ปลูกฝัง อบรม บ่มเพาะให้เด็กมีความสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยสอดแทรกแนวคิด ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร สาระเรียนรู้ต่างๆ เพื่อสอนให้เด็ก รู้จักการใช้ชีวิตได้อย่างสมดุลตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆ รู้จัก อยู่ร่วมกับผู้อื่น รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน มีจิตส านึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และเห็นคุณค่าของ วัฒนธรรมค่านิยม ความเป็นไทย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงต่างๆ รู้ว่าตนเองเป็นองค์ประกอบหนึ่งใน สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมของโลก การกระท าของตนย่อมมีผลและเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมใน โลกที่ตนเอง เป็นสมาชิกอยู่ด้วย ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น ส าคัญคือครูจะต้องรู้จัก บูรณาการการเรียนการสอนให้เด็กและเยาวชนเห็นถึงความเชื่อมโยงในมิติต่างๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งความเป็นองค์รวมนี้จะเกิดขึ้นได้ ครูต้องโดยใช้ความรู้และ คุณธรรมเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ ในการส่งเสริมให้น าหลักปรัชญาฯ ไปใช้ในสถานศึกษาต่างๆนั้น อาจจะใช้วิธี “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ตามหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ส าคัญที่สุดครูต้อง เข้าใจเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงก่อน โดยเข้าใจว่าแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้น เป็นแนวคิดที่สามารถ เริ่มต้น และปลูกฝังได้ผ่านการท ากิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียน เช่น กิจกรรม การรักษาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนการก าจัดขยะในโรงเรียนการส ารวจทรัพยากรของชุมชนฯลฯ ก่อนอื่น ครูต้องเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ท าตัวเป็นแบบอย่างที่ดี โดยกลับมาพิจารณา และวิเคราะห์ดูว่า ในตัวครูนั้นมีความไม่พอเพียงในด้านใดบ้าง เพราะการวิเคราะห์ปัญหาจะท าให้รู้ และเข้าใจปัญหาที่เกิดจากความไม่พอเพียง รวมทั้งควรให้เด็กมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ปัญหาด้วย


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 221 โดยการวิเคราะห์นี้ต้องด าเนินไปบนพื้นฐานของความรู้และคุณธรรม โดยเฉพาะคุณธรรมนั้นเป็นสิ่ง ที่ควรปลูกฝังให้เกิดขึ้นในใจเด็กให้ได้ก่อน ผ่านกิจกรรมที่ครูเป็นผู้คิดขึ้นมา โดยครูในแต่ละโรงเรียน จะต้องมานั่งพิจารณาก่อนว่า จะเริ่มต้นปลูกฝัง แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากจุดไหน ทุกคนควรมาร่วมกันคิดร่วมกันท า สามัคคีกันในกระบวนการหารือ หลังจากที่ครูได้ค้นหากิจกรรมที่จะปลูกฝังแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ครู ควรจะต้องตั้งเป้าหมายการสอนก่อนว่าครูจะสอนเด็กให้รู้จักพัฒนาตนเองได้อย่างไรโดยอาจเริ่มต้น สอนจากกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถเริ่มต้นจากตัวเด็กแต่ละคนให้ได้ก่อน เช่น การเก็บขยะ การ ประหยัดพลังงาน ฯลฯ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างปัจจัย ที่ตนเองมีต่อสิ่งแวดล้อม ภายนอกในด้านต่างๆ 4 มิติ ในส่วนของการเข้าถึงนั้น เมื่อครูเข้าใจแล้ว ครูต้องคิดหาวิธีที่จะเข้าถึงเด็ก พิจารณาดูก่อน ว่าจะสอดแทรกกิจกรรมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เข้าไปในวิธีคิดและในวิชาการต่างๆ ได้ อย่างไร ทั้งนี้ อาจจัดกิจกรรมกลุ่มให้นักเรียนได้ร่วมกันคิด ร่วมกันท า รู้จักแบ่งหน้าที่กันตาม ความสามารถของเด็กในแต่ละช่วงชั้น เช่น ในกิจกรรมการเก็บขยะเพื่อรักษาความสะอาดของ โรงเรียนนั้น ครูอาจจัดกิจกรรมส าหรับเด็กในแต่ละช่วงชั้น คือ ช่วงชั้นที่ 1 สร้างกิจกรรมที่สนับสนุน ให้เด็กช่วยกันเก็บขยะ (ให้เด็กรู้หน้าที่ของตน ในระดับบุคคล)/ ช่วงชั้นที่ 2 สร้างกิจกรรมที่สนับสนุน ให้เด็กช่วยกันเก็บขยะและนับขยะ (ให้รู้จักการวิเคราะห์และรู้ถึงความเชื่อมโยงของตนเองกับ สมาชิกคนอื่นๆ ในโรงเรียน) / ช่วงชั้นที่ 3 สร้างกิจกรรมที่สอนให้เด็กรู้จักเชื่อมโยงกับชุมชน ภายนอกรอบๆ โรงเรียน เช่น สร้างกิจกรรมที่สอนให้เด็กรู้จักแบ่งแยกขยะ ร่วมมือกับชุมชนในการ รักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่โรงเรียนและชุมชนของเขาตั้งอยู่ด้วย กิจกรรมทั้งหมดนี้ส าคัญคือ ต้องเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ าย โดยสถานศึกษา ควรตั้งเป้าให้เกิดการจัดการศึกษาตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง สอดแทรกเข้าไปในกระบวนการ เรียนรู้ สอนให้เด็กพึ่งตนเองให้ได้ก่อนจนสามารถเป็นที่พึ่งของคนอื่นๆ ในสังคมได้ต่อไป การจดัการศึกษาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง การจัดการศึกษาตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถด าเนินการได้ใน 2 ส่วน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานศึกษา และส่วนที่เป็นการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งส่วนที่ 2 นี้ ประกอบด้วย การสอดแทรกสาระเศรษฐกิจพอเพียง ในหลักสูตรและสาระเรียนรู้ในห้องเรียนและ ประยุกต์หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 222 การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษาในระยะแรก ได้เริ่มจากการไปค้นหา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่มีคุณลักษณะ และการจัดการที่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ พอประมาณกับศักยภาพของนักเรียน พอประมาณกับภูมิสังคมของโรงเรียนและชุมชนที่ตั้ง เช่น เด็กช่วงชั้นที่ 2 ท าสหกรณ์ได้ เด็กช่วงชั้นที่ 4 ดูแลสิ่งแวดล้อม มีการส่งเสริมให้ใช้ความรู้อย่าง รอบคอบระมัดระวัง ฝึกให้เด็กคิดเป็นท าเป็นอย่างมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันส่งเสริมให้เด็กท างาน ร่วมกับผู้อื่น มีความซื่อสัตย์ สุจริต รับผิดชอบ ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มีวินัย มีสัมมาคารวะ ปลูกฝังจิตส านึกรักษ์สิ่งแวดล้อม สืบสานวัฒนธรรมไทย กล่าวคือ สอนให้ผู้เรียน ยึดมั่นในหลัก ศีลธรรม พัฒนาคนให้เขารู้จักท าประโยชน์ให้กับสังคมและช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และตัว กิจกรรมเองก็ต้องยั่งยืน โดยมีภูมิคุ้มกันในด้านต่างๆ ถึงจะเปลี่ยนผู้อ านวยการแต่กิจกรรมก็ยัง ด าเนินอยู่อย่างนี้เรียกว่ามีภูมิคุ้มกัน การค้นหาตัวอย่างกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ก็เพื่อให้มีตัวอย่างรูปธรรม ในการสร้างความ เข้าใจภายในวงการศึกษาว่าหลักเศรษฐกิจพอเพียงหมายความว่าอย่างไร และสามารถน าไปใช้ใน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนได้อย่างไรบ้าง หลังจากนั้น ก็ส่งเสริมให้บูรณาการการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม เหล่านี้ เข้าไปในการเรียนรู้สาระต่างๆ บูรณาการเข้ากับทุกสาระเรียนรู้ เช่น วิทยาศาสตร์ เพื่อท าให้ เกิดสมดุลทางสิ่งแวดล้อม บูรณาการเข้ากับวิชาคณิตศาสตร์ ในการสอนการค านวณที่มีความหมาย ในการด ารงชีวิตอย่างพอเพียง หรือบูรณาการเข้ากับสาระภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สุขศึกษา พลศึกษา การงานอาชีพ เทคโนโลยีต่างๆ ได้หมด นอกเหนือจากการสอนในสาระหลักคือในกลุ่ม สาระสังคมศึกษาศาสนาวัฒนธรรมเท่านั้น ส าหรับมาตรฐานการเรียนรู้ มีวัตถุประสงค์ให้ทุกช่วงชั้นเข้าใจหลักเศรษฐกิจพอเพียง และ สามารถประยุกต์ใช้ได้ แต่ถ้ามาตรฐานเรียนรู้ของทุกช่วงชั้นเหมือนกันหมดก็จะมีปัญหาทางปฏิบัติ จึงต้องก าหนดขอบเขตที่ชัดเจนในการเรียนการสอนของแต่ละช่วงชั้นและแต่ละชั้นปีดังนี้ ช่วงชั้นที่ 1 เน้นให้เด็กพึ่งตนเองได้ หรือใช้ชีวิตพอเพียงระดับบุคคลและครอบครัว เช่น ประถม 1 ช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ล้างจานชาม เก็บขยะไปทิ้ง กวาดบ้าน จัดหนังสือไปเรียนเอง แบ่งปันสิ่งของให้เพื่อน กินอาหารให้หมดจาน ประถม 2 วิเคราะห์รายจ่ายของครอบครัว จะมีเป็น ตารางกรอกค่าใช้จ่ายต่างๆ ของครอบครัว คุณแม่ซื้ออะไรบ้าง คุณพ่อซื้ออะไรบ้าง เด็กจะได้รู้พ่อแม่ หาเงินมายากแค่ไหน เช่น ยาสีฟันหลอดละ 46 บาท จะต้องไม่เอามาบีบเล่น จะต้องสอนให้เด็กเห็น คุณค่าของสิ่งของ ให้เด็กตระหนักถึงคุณค่าของเงินทอง จะได้ฝึกนิสัยประหยัด ครอบครัวมีรายได้


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 223 และรายจ่ายเท่าไร เด็กจะได้ฝึกจิตส านึก และนิสัยพอเพียง มีหลายโรงเรียนท าแล้ว ประถม 3 สอน ให้รู้จักช่วยเหลือครอบครัวอย่างพอเพียง และรู้จักแบ่งปันช่วยเหลือผู้อื่นมีส่วนร่วมสร้างครอบครัว พอเพียง ช่วงชั้นที่ 2 ฝึกให้เด็กรู้จักประยุกต์ใช้หลักความพอเพียงในโรงเรียน สามารถวิเคราะห์ วางแผน และจัดท าบันทึกรายรับ-รายจ่ายของตนเองและครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วม ในการสร้างความพอเพียงระดับโรงเรียน และชุมชนใกล้ตัว โดยเริ่มจากการส ารวจทรัพยากรต่างๆ ในโรงเรียนและชุมชน มีส่วนร่วมในการดูแลบ ารุงรักษาทรัพยากรต่างๆ ทั้งด้านวัตถุ สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และรวบรวมองค์ความรู้ต่างๆ มาเป็นข้อมูลในการเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน และเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ช่วงชั้นที่ 3 ประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงกับชุมชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของ ชุมชน สามารถส ารวจและวิเคราะห์ความพอเพียงในระดับต่างๆ และในมิติต่างๆ ทั้งทางวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมในชุมชนใกล้ตัว เห็นคุณค่าของการใช้หลักพอเพียงในการจัดการชุมชน และในที่สุดแล้วสามารถน าหลักการพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันของแต่ละคน จนน าไปสู่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่ความพอเพียงได้ในที่สุด ช่วงชั้นที่ 4 เตรียมคนให้เป็นคนที่ดีต่อประเทศชาติสามารถท าประโยชน์ให้กับสังคมได้ ต้องเริ่มเข้าใจความพอเพียงระดับประเทศ และการพัฒนาประเทศภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ เช่น การวิเคราะห์สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ หรือการศึกษาสถานการณ์สิ่งแวดล้อมสภาพปัญหา ด้านสังคมเป็นอย่างไรแตกแยกหรือสามัคคีเป็นต้น ขณะนี้คณะท างานขับเคลื่อนด้านการศึกษาและเยาวชน ท างานร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ และอีกหลายหน่วยงาน วิสัยทัศน์ของการขับเคลื่อน คือ สานเครือข่าย ขยายความรู้ ควบคู่ ประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญาฯ และให้บุคลากรด้านการศึกษา สามารถน าหลักคิดหลักปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง มาบูรณาการสู่การเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้ของทุกระดับ ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และเป็นรูปธรรม ตลอดจนผู้บริหารสามารถน าหลัก ปรัชญาฯ ไปใช้ในการบริหารสถานศึกษาเพื่อให้เกิดประโยชน์และมีความสุข


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 224 ตลาดนัดภูมิปัญญาเศรษฐกิจพอเพียง ยุวชนชาวนา โรบัสต้าสะบ้าย้อย ภาพที่ 26โครงการสังคมฐานความรู้โดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนพื้นที่พิเศษ 4 อ าเภอจังหวัดสงขลา


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 225 สรุปท้ายบท การบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การประสานความสัมพันธ์กับชุมชนให้มี ส่วนร่วมในการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอยู่อย่างพอเพียงยังขาดการประชาสัมพันธ์กิจกรรม / โครงการ ต่างๆ ของโรงเรียนให้กับชุมชนได้ทราบและขาดการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมต่างๆ นับตั้งแต่การแสดงความคิดเห็นการวางแผนการด าเนินการแก้ไขปัญหา ตลอดจนการควบคุม ก ากับติดตาม และประเมินผล ด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนครูยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษา วิเคราะห์และการวิจัยด้านหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนที่ถูกต้อง เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ ของผู้เรียน และครูในโรงเรียนขนาดเล็กที่ภาระงานที่มากท าให้ไม่มีเวลาในการศึกษาวิเคราะห์และไม่มีเวที ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้านการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอยู่ในระดับน้อยปัญหาที่เจอการให้ผู้เรียนมีส่วน ร่วมในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาสถานศึกษา ชุมชน สังคม ด้านเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม อาจเป็น เพราะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในสถานศึกษา ส่งเสริมด้านการเรียนการสอน เป็นส่วนใหญ่เน้นไปทางชุมรมนักวิทยาศาสตร์ ชุมรมคณิตศาสตร์ เลยท าให้นักเรียนขาดการมีส่วนร่วมใน การแก้ปัญหาหรือพัฒนาสถานศึกษา ชุมชน ขาดการบูรณาการกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกับกิจกรรม พัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นรูปธรรม ด้านพัฒนาบุคลากรอยู่ในระดับปานกลางอาจเกิดจากการขยายผลและการ เผยแพร่ผลการด าเนินชีวิตและการปฏิบัติภาระกิจหน้าที่ของบุคลากร ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สถานศึกษาไม่ได้ด าเนินอย่างเป็นระบบแบบแผนเกี่ยวกับการปฏิบัติภาระกิจหน้าที่ของบุคลากรตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและไม่มีเวทีในการแสดงผลงานที่ท าขึ้น สถานศึกษายังขาดการขยายผลการ เผยแพร่ผลงาน /กิจกรรม/โครงการทั้งของครูและนักเรียนที่ท าขึ้นในสถานศึกษาเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง ขาดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และไม่มีการจัดตั้งเครือข่ายเพื่อขยายผลกิจกรรม ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการด าเนินชีวิตและวิถีปฏิบัติที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมีพระราชด ารัสชี้แนะแก่พสกนิกรชาวไทยมาตลอดนานกว่า 30 ปี และได้ทรงเน้นย ้าแนวทาง พัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัว ที่ดี ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐานในการด ารงชีวิต การป้องกันให้รอดพ้นจากวิกฤต และ สามารถด ารงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ “เศรษฐกิจ พอเพียง”เป็นปรัชญาที่การด ารงชีวิตทุกระดับตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน จนระดับรัฐ การด าเนินชีวิตด้วยความ อดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 226 เอกสารอ้างอิง กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). แนวทางการพัฒนาการวัดและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ส านักวิชาการ และมาตรฐานการศึกษา ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. _______. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: กระทรง ศึกษาธิการ. _______. (2555). ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องนโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา. จาก http://bsq.vec.go.th/innovation/policy2_1.html _______. (2560). แนวทางการด าเนินงานโครงการสถานศึกษาน้อมนาศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: ส านักส่งเสริมกิจการศึกษา. “การจัดการความรู้”. [ออนไลน์]. (2548)แหล่งข้อมูล http://student.nu.ac.th/learn/lesson%201- 1.htm. “ข้อเสนอยุทธศาสตร์และมาตรการในการน าประเทศไทยเข้าส่สูังคม-เศรษฐกิจ ฐานความรู้”. [ออนไลน์] . (2551). แหล่งข้อมูล http://www.measwatch.org/autopage/show_page.php?t...s...8. tlc webboard. คณะกรรมการประเมินสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตาม หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. (2555). การประเมินสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (สถานศึกษา พอเพียง). กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ. คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าริ, ส านักงาน. (ม.ป.ป.). หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (ม.ป.ท.) ปรียานุช พิบูลสราวุธ. (2550). การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา. [Online]. Available: http://www.sufficiencyeconomy.org ______. (2549). เศรษฐกิจพอเพียงและการประยุกต์ใช้ด้านการศึกษา. กรุงเทพฯ : โครงการวิจัย เศรษฐกิจพอเพียง ส านักงานทรัพยสินสวนพระมหากษัตริย์.


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 227 รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ และคณะ (2564). การบริหารโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจาก แผนงานวิจัยการเสริมสร้างสังคมฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ โดยมี โครงการย่อย 3 โครงการ รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ, ด ารงค์ศักดิ์แก้วเพ็ง, อรพิน ทิพย์เดช (2564) การเสริมสร้างสังคม ฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ สุดาพร ลักษณียนาวิน. 2550. แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนการสอนในสังคมฐานความรู้. ในไพฑูรย์ สินลารัตน์(บรรณาธิการ). 2550. อาจารย์มืออาชีพ แนวคิด เครื่องมือ และการพัฒนา. เครือข่ายการพัฒนาวิชาชีพอาจารย์และองค์กรอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ส านักงาน คณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. อภิชัย พันธเสน. (2549) โครงการสังเคราะห์งานวิจัย ข้อเขียน และบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจ พอเพียง. สถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์:กรุงเทพฯ.


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 228 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2548). การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ. (ชุดการเรียนรู้ด้วย ตนเอง ชุดที่ 8 โครงการหนึ่งอ าเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน) _______. (2550). หลักสูตรพัฒนาผู้น าการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับการกระจายอ านาจ ส าหรับ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา. นครปฐม: สถาบันพัฒนาครูคณาจารย์และ บุคลากรทางการศึกษา. _______. (2551). แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน : ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. _______. (2551). แนวทางการพัฒนาการวัดและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ส านักวิชาการและมาตรฐาน การศึกษา ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. _______. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: กระทรงศึกษาธิการ. _______. (2555). ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องนโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา. จาก http://bsq.vec.go.th/innovation/policy2_1.html _______. (2558). แนวทางการจัดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่เน้นสมรรถนะทาง สาขาวิชาชีพ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมชุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. _______. (2560). ปัญหาและความท้าทายของระบบการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2564, จากhttp://www.lampang.go.th/public60/EducationPlan2.pdf _______. (2560). แผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้20 ปี. ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้:กระทรวงศึกษาธิการ _______. (2560). แนวทางการด าเนินงานโครงการสถานศึกษาน้อมนาศาสตร์พระราชาสู่กาพัฒนา อย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: ส านักส่งเสริมกิจการศึกษา.


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 229 _______. (2565). คู่มือเกณฑ์การคัดกรองโรงเรียนที่ตั้งในพื้นที่ลักษณะพิเศษ (โรงเรียนพื้นที่เกาะ). ส านักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ :ส านักนโยบายและแผนการศึกษา ขั้นพื้นฐาน กระทรวงมหาดไทยกรมส่งเสริมองค์กรปกครองท้องถิ่น. (2553). คู่มือการจัดท าแผนพัฒนาของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร. “การจัดการความรู้”. [ออนไลน์]. (2548)แหล่งข้อมูล http://student.nu.ac.th/learn/lesson%201-1.htm. การศึกษาคุณค่าและกระบวนการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน กรณีศึกษา จิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัว อ าเภอเมือง จังหวัดราชบุรี. สืบค้นจาก : https://tdc.thailis.or.th/tdc/browse.php?option การบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ ห้องเรียนธรรมชาติ เกษตรอินทรีย์สวนเกษตรดาดฟ้า ส านักงาน เขตหลักสี่กรุงเทพมหานคร สืบค้นจาก : https://grad.dpu.ac.th/upload/content/files/. “ข้อเสนอยุทธศาสตร์และมาตรการในการน าประเทศไทยเข้าส่สูังคม-เศรษฐกิจ ฐานความรู้”. [ออนไลน์] . (2551). แหล่งข้อมูล http://www.measwatch.org/autopage/show_page.php?t...s...8. tlc webboard. คณะกรรมการประเมินสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตาม หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. (2555). การประเมินสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (สถานศึกษา พอเพียง). กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ. คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าริ, ส านักงาน. (ม.ป.ป.). หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (ม.ป.ท.) คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา. (2562). เสนอเรื่อง “พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา” ไว้ใน (ร่าง) แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาและส่งมอบนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562. (27 มีนาคม 2562). สืบค้น 19 กันยายน 2564 จาก https://www.edusandbox.com/ คณะกรรมการอิสระเพื่อการศึกษา. คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ส านักงาน. (2546). การพัฒนาที่ยั ่งยืนในบริบ ไทย. กรุงเทพฯ: สหมิตรพริ้นติ้ง จ ากัด. ความเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี กับ 6 ยุทธศาสตร์แผนพัฒนาการศึกษาของ กระทรวง ศึกษาธิการ ฉบับที่12 (พ.ศ. 2560-2564) (ออนไลน์). ม.ป.พ. (2560). สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2564, จาก http://www.bps.moe.go.th 54


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 230 เครือศรีวิเศษสุวรรณภูมิ. (2552). “ภาวะผู้น าทรงพลัง : มิติใหม่ในการสร้างพลังการเปลี่ยนแปลง” เอกสารประกอบการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ พลังการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคุณภาพ การศึกษา. ปัตตานี : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. จิณณวัตร ปะโคทัง. (2561). ภาวะผู้น ายุคดิจิทัลส าหรับผู้บริหารสถานศึกษามืออาชีพ. มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุบลราชธานี. ชนะ กสิภาร์. (2550). การอาชีวศึกษาเพื่ออนาคต. เอกสารประกอบการบรรยายพิเศษ ภาควิชา บริหารเทคนิค ศึกษา. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม : สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ. ต้องลักษณ์ บุญธรรม. (2559). การเป็นผู้น ายุคเศรษฐกิจดิจิทัลกับการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร ทางการศึกษา. วารสารวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรม พระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 7(1), 7-20. ทินกร บัวชู และทิพภาพร บัวชู. (2562). ภาวะผู้น าดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา. ครุศาสตร์สาร.13 (2), 285-294. ธีระ รุญเจริญ. (2550). ความเป็นมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษายุคปฏิรูปการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : ข้าวฟ่าง. ______. (2559). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรสีฤษดวิ์งศ์,. นโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานที่เกี่ยวข้องกับจุดเน้นนโยบายรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ (ออนไลน์ ). ม.ป.พ. สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2564, จาก https://www.nsw2.go.th/web/attachments/article/912/ ธนะศกัดิ์ปฏมิาประกร. (2557). การบริหารจัดการความมั่นคงชายแดนของกองทัพไทยภายใต้ กระบวนทัศน์ความมั่นคงใหม่ ในบริบทประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน. คณะรัฐ ประศาสนศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา. บัลลังก์ โรหิตเสถียร. (2565). นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566. ประเทือง ทรัพย์เกิด. (2549). การศึกษาคุณภาพและความต้องการพัฒนาสถานศึกษาบนพื้นที่สูง ตามแนวชายแดนไทย – พม่า (รายงานผลการวิจัย). ราชบุรี. ส านักผู้ตรวจราชการประจ าเขต ตรวจราชการที่ 6-7. ปรียานุช พิบูลสราวุธ. (2550). การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา. [Online]. Available: http://www.sufficiencyeconomy.org


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 231 ______. (2549). เศรษฐกิจพอเพียงและการประยุกต์ใช้ด้านการศึกษา. กรุงเทพฯ : โครงการวิจัย เศรษฐกิจพอเพียง ส านักงานทรัพยสินสวนพระมหากษัตริย์. ผู้ตรวจราชการประจ าเขตการศึกษาที่ 2. (2549). ยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาเพื่อความมั ่นคงตาม แนวชายแดน. พิษณุโลก: ส านักผู้ตรวจราชการประจ าเขตการศึกษาที่ 2. แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. ม.ป.พ. (2560). (ออนไลน์) สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2564, จากhttps://www.planning. kmutnb.ac.th/upload/froala/doc/ แผนการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 ส านักงานเลขาธิการสภาการศึกษา พระมหาสุทิตย์ อาภาโร. (2548). นวัตกรรมการเรียนรู้:คนชุมชนการพัฒนา.กรุงเทพฯ: พิสิษฐ์ไทย ออฟเซต. พัชราภรณ์ ทิพย์มณี และรุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2561). “การบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงของสถานศึกษาพอเพียงที่มีผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ เขตภาคใต้ตอนล่าง” เอกสารการประชุมวิชาการระดับชาติ.(2561). มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 28ประจ าปี 2561 ภายใต้ หัวข้อ : งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสังคมที่มั ่นคง มั ่งคั ่ง และยั ่งยืน (Research and Innovation for Social Stability, Prosperity and Sustainability) ระหว่างวันที่ 8-9 พฤษภาคม 2561 ณ โรงแรมบีพี สมิหลาบีช อ าเภอเมือง จังหวัดสงขลา. หน้า 1364-1370, 2561. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 . ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ส านักนายกรัฐมนตรี. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ. ส านักงานเลขาสภาการศึกษา (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579. กรุงเทพฯ : บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จ ากัด. ภูมินทร์ วิมลศิลป์ . “สังคมแห่งข้อมูลข่าวสาร”. [ออนไลน์]. (2550).แหล่งข้อมูล http://gotoknow.org/blog/sakeaw/111926. ภคพร เลิกนอก. (2563). การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล ส าหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬา ขอนแก่น, 7(2), 151-166. มารุต พัฒผล. (2563). การประเมินการเรียนรู้ใน New normal. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ยุทธศาสตร์ชาติ20 ปี. (2562). (ออนไลน์)สืบค้นเมื่อ22 กันยายน 2564, จาก http://www.reo2.moe.go.th/ home/images/pdf/July-Full-V2-1725.pdf


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 232 โยฮัน ปะดอ, รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ, อมลวรรณ วีระธรรมโม และศิลป์ ชัย สุวรรณมณี. (2565) รูปแบบการจัด การศึกษาแบบองค์รวมในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้. การศึกษาดุษฎีบัณฑิต. สาขาการบริหารการศึกษา. คณะศึกษาศาสตร์ : มหาวิทยาลัยทักษิณ. รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ และคณะ (2564). การบริหารโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจาก แผนงานวิจัยการเสริมสร้างสังคมฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ โดยมี โครงการย่อย 3 โครงการ. รุ่งชัชดาพร เวหะชาติและคณะ (2564) การเสริมสร้างสังคมฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ชายแดนภาคใต้. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ งบประมาณรายได้ ปี 2562 มหาวิทยาลัย ทักษิณ. รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ, ด ารงค์ศักดิ์แก้วเพ็ง, อรพิน ทิพย์เดช (2564) การเสริมสร้างสังคม ฐานความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ, พัศรเบศวร์ เวชวิริยะสกุล,วีนัส ศรีศักดา,อรพิน ทิพย์เดช, และสมเกียรติ ยังจีน. (2564). การพัฒนาสมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21 โดยใช้ Project 14 เพื่อลดความ เหลื่อมล ้า ของเยาวชนให้มีวิถีชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พื้นที่เกาะ จังหวัดสตูล. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2565). การพัฒนาองค์ความรู้เชิงระบบสนับสนุนการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล ้าและสร้างความเสมอภาคของสังคมอย่างยั ่งยืน ในเขตพิเศษเฉพาะกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้. รายงานการวิจัย โครงการวิจัย ทุน สกสว. ปีงบประมาณ 2564. รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ และวีนัส ศรีศักดา. (2565). การพัฒนาองค์ความรู้เชิงระบบสนับสนุนการจัด การศึกษาเชิงพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล ้าและสร้างความเสมอภาคของสังคมอย่างยั ่งยืน ในเขตพิเศษเฉพาะกิจ3 จังหวัดชายแดนภาคใต้. รายงานการวิจัย โครงการวิจัย ทุน สกสว. ปีงบประมาณ 2564.


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 233 รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ และคณะ (2565) ศึกษาการบริหารจัดการหลักสูตรฐานสมรรถนะอาชีพสู่ สถานประกอบการศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนพื้นที่เกาะ จังหวัดสตูล. งบประมาณจากสถาบันส่งเสริมกการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2566). “การพัฒนาองค์ความรู้หลักสูตรฐานสมรรถนะด้านภาษา : กรณีศึกษาท่าน ้าโมเดล” วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. ปีที่ 34 ฉบับที่ 1 (มกราคม-มีนาคม 2566) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. (2560, 6 เมษายน ). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 134 (60 ก). หน้า 14 รูปแบบการบริหารจัดการของศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของประชาชน ในจังหวัดพะเยาสืบค้นจาก : file:///C:/Users/DELL/Downloads/197674. ราชกิจจานุเบกษา. (2562). พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562, 30 เมษายน 2562 เล่ม 136 ตอนที่56 ก หน้า 120. ราชกิจจานุเบกษา. (2561)ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580. เล่ม 135ตอนที่ 82ก ราชกิจจานุเบกษา13ตุลาคม 2561. วิชัย วงศ์ใหญ่. (2563). New normal ทางการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรโรฒ. วชิราพร สุวรรณศรวล, มานิตย์ ไชยกิจ, ปราโมทย์มากชูและวิเชียร ธ ารงโสตถิสกุล. (2556). รูปแบบการจัด การศึกษาทางเลือกส าหรับเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาในเขตพื้นที่สูงภาคเหนือตอนบนของประเทศ ไทย. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร, 15(พิเศษ), 182-191. วิโรจน์ สารรัตนะ. (2556).กระบวนทัศน์ใหม่ทางการศึกษา : กรณีทัศนะต่อการศึกษาศตวรรษที่ 21. กรงุเทพฯ: ทพิยวสิุทธ,ิ์ ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง. (2557). การประเมินศูนย์การเรียนรู้ตาม หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา.[Online]. Available from:http:// www.semscholarship.com/about.html. สุดาพร ลักษณียนาวิน. 2550. แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนการสอนในสังคมฐานความรู้. ในไพฑูรย์ สินลารัตน์(บรรณาธิการ). 2550. อาจารย์มืออาชีพ แนวคิด เครื่องมือ และการพัฒนา. เครือข่ายการพัฒนาวิชาชีพอาจารย์และองค์กรอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ส านักงาน คณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม. (2546). การเข้าถึงความหมายขององค์กร. กรุงเทพฯ. อัดส าเนา.


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 234 ส านักส่งเสริมกิจการการศึกษา, ส านักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (มปป). รายงานผลการด าเนินงาน การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา. [Online]. Available from:http://www.skp.moe.go.th สุนิสา สก๊อต, สฤษดพิ์งษ์ลมิปิษเฐยีร และ พชัรีผลโยธนิ. (2560). การพัฒนารูปแบบการบริหารการจัด การศึกษาปฐมวัยแบบองค์รวมส าหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนต าบล ในเขต พัฒนาอุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลตะวันออก. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, ปีที่ 12 (ฉบับที่ 1), 179-191. สุภาภรณ์ พรหมบุตร. (2563). New normal กับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง. สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2564. จาก https://dsp.dip.go.th/th/category/2017-11-27-08-04-02/2020-06-29-14- 39-49. สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์. (2553) รูปแบบการพัฒนาความสามารถในการจัดการความรู้ของผู้ประกอบการ ที่มีนวัตกรรมในประเทศไทย. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย/กรุงเทพฯ. สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์และคณะ. (2553). นวัตกรรม: ความหมาย ประเภท และความส าคัญต่อการ เป็ นผู้ ประกอบการ.วารสารบริหารธุ รกิจคณะพาณิ ชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 33(128), 49-65. สมพงษ์ จิตระดับ และคณะ. (2562). Sandbox สตูล นวัตกรรมปฏิรูปการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สมพงษ์ จิตระดับ และคณะ. (2564). โครงการวิจัยการพัฒนารูปแบบกลไก และแนวโน้มผลกระทบ ของนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาในจังหวัดสตูล. 2563. ส านักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.). กรุงเทพฯ. ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2563). นโยบายส านักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 . [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 22กันยายน 2564, จาก https://www.obec.go.th. ส านักงานนวัตกรรมแห่งชาติ. (2549). สุดยอดนวัตกรรมไทย. กรุงเทพฯ : ส านักงานนวัตกรรม แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. ส านักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน). ความเหลื่อมล ้าดิจิทัลในเมืองมหานครกับความ ท้าทายในการสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้. (2563). สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2564, จาก https://www.nia.or.th/InnovationinProcurement.


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 235 ส านักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้. (2551). การพัฒนา การศึกษา ขั้นพื้นฐานเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้. กรุงเทพฯ : พี.พี.เอส กิจเจริญ. ส านักงานศึกษาธิการภาค 1. (2561) รายงานผลการประเมินสถานศึกษาเป็นศูนย์การเรียนรู้ตาม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่รับผิดชอบ. ส านักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. แสงโสม หาญทะเล, รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2565). “การบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อความเป็น สถานศึกษาพอเพียงของสถานศึกษาบนพื้นที่เกาะ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสตูล”. การประชุมสัมมนาทางวิชาการ การน าเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ/ระดับ นานาชาติและงานบริหารการศึกษาสัมพันธ์ประจ าปี 2565. วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2565 ณ โรงแรม ศรีล าดวน อ าเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ, หน้า 304-305 อภิชัย พันธเสน. (2549) โครงการสังเคราะห์งานวิจัย ข้อเขียน และบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจ พอเพียง. สถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์:กรุงเทพฯ. เอกชัย กี่สุขพันธ์. (2559). หลักมนุษยสัมพันธ์กับการบริหาร. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: ส านักพิมพ์ ไทยวัฒนาพานิช. ไอศูรย์. “การสังคมแห่งการเรียนรู้”. [ออนไลน์]. (2009).แหล่งข้อมูล http://www.gotoknow.org/blog/buildchumphon/163800. Afaf Shukri Haddad, Auality of life of Jordanian College Student. Dissertdtion Abstracts International,1986. Andersen, Ida G.; A., Simon C. (2017). “Student-Centered Instruction and Academic Achievement: Linking Mechanisms of Educational Inequality to Schools Instructional Strategy.” British Journal of Sociology of Education, v38 n4 p533- 550 2017. Beh, LS., and Rose, R.C. (2007). Linking QWL and jobformance implication for organization. Performance Improvement. Codiroli M. , Natasha; C. , Rose. (2019) . “The Contribution of Intersectionality to Quantitative Research into Educational Inequalities” Review of Education, v7 n2 p.271-292Jun 2019


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 236 Fahriye Altınay, Gokmen Dagli and Zehra Altınay. (2017) . “Digital Transformation in School Management and Culture”, Virtual Learning. 37-48. Ishumi, A. G. M. (1982). Community centers in Tanzania: Their development and scope UNESCO institute for education. USA: UNESCO. S. Gejendhiran and other (2020). Disruptive Technologies A promising key for Sustainable Future Education, Procedia Computer Science, 172 (843 - 847) Thomas, Hughes. (1987). The Social Construction of Technological Systems: New Directions in the sociology and History of Technology. Cambridge : M.I.T.Press. United Nations (2020). World Population Ageing 2020. Department Economic and Social Affairs. Watts, J. (1990). Community education in the western world. London: Education Development Center.


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 237 ดัชนีค าค้น A Active Citizen · 17 Active Learning Skills · 9 Adopting a Multidimensional View · 110 C Characteristics of Digital Era · 148 Climate Disruption · 8 Competency · 108 D Disruption · 8 E Empathy · 9 Evaluating Significance · 110 F Focus on learning · 109 H Holistic ideology · 101 I Innovation System · 115 Innovative Co-Creator · 17 K Knowledge ·9 Knowledge-based Society · 115 Knowledge-driven Growth · 118 L Leading Wholes · 109 Learner Person · 16 Life-Long Learning · 9 M Molecular Economy · 117 Mutuality · 109


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 238 R Reskill · 8 S School of the Future · 9 Self -awareness · 108 T Thinking Skills · 109 Transdisciplinary · 109 U Upskill · 8 W Work from Home · 7 ก กรณีศึกษา พื้นที่นวัตกรรมจังหวัดสตูล · 46 การขบัเคลื่อนโครงการสถานศึกษาเศรษฐกิจ พอเพียง· 195, 203 การจัดการทางการศึกษา· 149 การจดัการศึกษาในยคุดิจิทลั · 157 การจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา· 35 การบริการแบบมีส่วนร่วม· 102 การบริหารโรงเรียนพื้นที่เกาะ· 49 การบริหารการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา· 155 การบริหารการศึกษา· 145 การบริหารการศึกษาในยคุดิจิทลั · 144 การบริหารตามปรชัญาของเศรษฐกิจ พอเพียง·178 การบริหารแบบมีส่วนร่วม· 69 การบริหารพื้นที่นวตักรรมการศึกษา· 36 การบริหารศนูยก์ารเรียนรู้· 124 การบริหารสถานศึกษาโดยใช้เทคโนโลยี ดิจิทลั · 143 การบริหารสถานศึกษาบนพื้นที่พิเศษ· 48 การบริหารสถานศึกษาแบบองคร์วม (Holistic) · 101 การปฏิรปูการศึกษา· 29 การปฏิวตัิดิจิทลั · 7 การปฏิวตัิอตุสาหกรรม· 7 การประเมินผลการดา เนินงานและการบริหาร จัดการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา· 37 การประเมินผลการเรียน” ไปสู่“การประเมินผล เพื่อการเรียนรู้· 8 การประยุกต์ใช้ศูนย์การเรียนรู้· 124 การพัฒนาการศึกษากับขีดความสามารถ ในการแข่งขนัของประเทศ · 11 การพัฒนาที่ยั ่งยืน· 7, 101


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 239 การมีส่วนร่วมของชุมชน· 134 การวิจยัและพฒันา· 134 การศึกษาแบบองค์รวม· 103 การสรรคส์ร้างสิ่งประดิษฐใ์หม่· 8 ค คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรม การศึกษา· 36 คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรปูการศึกษา· 29 ความคิดเชิงระบบ· 101 ความปกติใหม่· 8 ความมั ่งคั ่ง· 63 ความมั ่นคง· 63 ความยั ่งยืน· 64 ความเหลื่อมล ้าทางการศึกษาของโรงเรียน พื้นที่เกาะ· 53 คุณภาพของการศึกษา· 10 ท ทักษะ 3Rs+8Cs · 7 ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21· 16 เทคโนโลยีดิจิทลักบัการบริหารสถานศึกษา· 150 น นโยบายและจดุเน้นกระทรวงศึกษาธิการ ปี งบประมาณ 2563· 20 นวัตกรรมการศึกษา· 35 นวตักรรมที่น ามาใช้ในการบริหาร· 102 แนวคิดแบบองคร์วม· 101 แนวคิดหลกัของทฤษฎีสงัคมฐานความรู้· 217 แนวทางการจัดการเรียนรู้แบบองค์รวม · 104 แนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้เทคโนโลยี ดิจิทลั · 154 แนวทางแก้ไขในการบริหารสถานศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทลั · 160 บ บทบาทของเทคโนโลยี· 146 บริบทของการจดัการศึกษา· 9 บูรณาการ· 101 ป ประเภทของหลกัสตูรที่ใช้ในสถานศึกษาน าร่อง ในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา· 38 ประโยชน์ของพระราชบญัญตัิพื้นที่นวตักรรม การศึกษา พ.ศ. 2562· 38 ประสิทธิภาพการบริหารจดัการศึกษา· 10 เป้าหมายการบริหารสถานศึกษา


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 240 ในยคุดิจิทลั · 153 เป้าหมายของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา· 32 ผ ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษา· 16 ผลสมัฤทธ์ิทางการศึกษา· 35 ผบู้ริหารสถานศึกษายคุดิจิทลั · 152 แผนการศึกษาแห่งชาติการศึกษา4.0· 13 แผนพัฒนา ฉบับที่ 12 พ.ศ.2560-2564· 13, 14 พ พระราชบญัญตัิการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 · 187 พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา· 29 พื้นที่นวตักรรมการศึกษาน าร่อง· 32 ภ ภาวะผู้น า· 162 ภาวะผู้น าดิจิทลั · 165 ม มาตรฐานการศึกษาของชาติพ.ศ.2561· 16 ย ยคุดิจิทลั · 146 ยทุธศาสตรช์าติ20 ปี· 12 ร ระบบเศรษฐกิจแบบเปิด · 118 โรงเรียนพื้นที่เกาะ· 59 ล ลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กับหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง· 188 ศ ศาสตร์พระราชา· 181 ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน· 126 เศรษฐกิจฐานความรู้· 115 เศรษฐกิจพอเพียง· 69 เศรษฐกิจพอเพียงส่ยูทุธศาสตรป์ระเทศ · 182 ส สถานศึกษาชั้นพื้นฐาน· 35 สถานศึกษาน าร่อง· 35 สถานศึกษาพอเพียงที่มีผลการปฏิบตัิ


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 241 ที่เป็ นเลิศ · 194 สถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง· 181 สมรรถนะด้านการศึกษา· 12 สงัคมเศรษฐกิจฐานความรู้· 117 ห หลักการจัดศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา· 133 หลกัปรชัญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้าน การศึกษา· 191 อ โอกาสทางการศึกษา· 10


กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา 242 ประวตัิผู้เขียน รองศาสาตราจารย์ ดร. รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ Assoc.Prof.Dr. Rungchatchadaporn Vehachart ตา แหน่งปัจจบุนั สังกัดสาขาวิชา การบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ประธานสาขาวิชาการบริหารการศึกษา ประธานผู้รับผิดชอบหลักสูตร การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.) การศึกษาดุษฎีบัณฑิต (กศ.ด.) e-mail: [email protected] , [email protected] ประวตัิการศึกษา ระดบัปริญญา วฒุิสาขาวิชา สถาบันการศึกษา ปริญญาเอก กศ.ด. (การบริหารการศึกษา) มหาวิทยาลัยบูรพา ปริญญาโท กศ.ม. (การบริหารการศึกษา) มหาวิทยาลัยบูรพา ปริญญาตรี กศ.บ. (การประถมศึกษา) มหาวิทยาลัยบูรพา ปริญญาตรี ค.บ. (นาฏศิลป์ ) วิทยาลัยครูฉะเชิงเทรา ประวตัิการทา งาน พ.ศ. 2536 อาจารย์ 1 ระดับ 3 โรงเรียนบ้านหนองเม็ก อ าเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. 2539 ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนวัดสุวรรณารัญญิกาวาส อ าเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2543 ศึกษานิเทศก์ 5 ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 พ.ศ. 2547-ปัจจุบัน อาจารย์ประจ าสาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ สาขาช านาญการหรือเชี่ยวชาญ/ความสนใจ Specialization/ Research Interests การบริหารการศึกษา การนิเทศการศึกษา การบริหารหลักสูตรการเรียนสอน ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ การพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษา การพัฒนาวิทยฐานะข้าราชการครูและผู้บริหาร


Click to View FlipBook Version