The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.3 ภาษาไทย 5 1/65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by neptunenujoon, 2022-09-06 00:31:47

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.3 ภาษาไทย 5

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.3 ภาษาไทย 5 1/65

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้

ฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝอ ท23101
ภาษาไทย 5

1
2565

นาวสาวชลธ์ธุ ิชา ศิรอิ มรพนั ธ์ุ
ครู

บนั ทกึ ข้อความ

สว่ นราชการ โรงเรยี นมธั ยมฐานบนิ กาแพงแสน

ท.่ี ............................................................... วนั ท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เร่อื ง ขออนุญาตดำเนนิ การใช้แผนการจัดการเรียนรู้

เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน

ข้าพเจ้า นางสาวชลธิชา ศิริอมรพันธุ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ได้ดำเนินการจัดทำแผนการจัด
การเรยี นรู้ รหัสวชิ า/ชอ่ื วชิ า ท 23101 ภาษาไทย5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เปน็ ที่เรียบรอ้ ยแล้ว และขอ
อนญุ าตดำเนินการใช้แผนการจัดการเรียนรู้

จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพจิ ารณา

ลงชอ่ื ........................................................
(นางสาวชลธชิ า ศริ ิอมรพันธุ์ )
ครผู สู้ อน

ความเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
❑ เหน็ สมควรอนุญาตใหด้ าเนินการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
❑ ไม่สมควรอนุญาตใหด้ าเนนิ การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก

...........................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ........................................................
(นางสาวโฉมฉาย ใจเอือ้ ย)

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
ความเหน็ ของรองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ

❑ เหน็ สมควรอนุญาตใหด้ าเนนิ การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
❑ ไม่สมควรอนุญาตใหด้ าเนินการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก
......................................................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................................
(นางธารกมล สทิ ธบิ นุ่ )

รองผอู้ านวยการโรงเรยี นมธั ยมฐานบนิ กาแพงแสน
❑ อนุญาตใหด้ าเนินการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
❑ ไมอ่ นุญาตใหด้ าเนินการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก
.....................................................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................................
(นายสนทิ รนี ับถอิ )

ผอู้ านวยการโรงเรยี นมธั ยมฐานบนิ กาแพงแสน

บันทกึ การวางแผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
โรงเรยี นมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน

ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
รายวิชา ภาษาไทย 5 รหัสวิชา ท23101 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3
จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวน 3 คาบ/ชั่วโมง ตอ่ สัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ช่ัวโมง

ความเห็นของรองผอู้ ำนวยการ กลุ่มบรหิ ารวิชาการ
 ทราบ
 เหน็ ชอบตามเสนอและใหใ้ ช้เป็นแผนการจัดการเรยี นร้ไู ด้

....................................................
(นางธารกมล สิทธบิ ่นุ )

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนมัธยมฐานบินกำแพงแสน

ความเหน็ ของผู้อำนวยการ
 ทราบ
 เหน็ ชอบตามเสนอและให้ใช้เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ได้

....................................................
(นายสนิท รีนบั ถอื )

ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมฐานบินกำแพงแสน

ความเหน็ ของผู้บงั คับบญั ชา/ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวชลธชิ า ศิรอิ มรพนั ธ์ุ แล้วมคี วามคดิ เหน็ ดังน้ี
1. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้

 ครบถว้ นและถูกต้อง
 ยงั ไมค่ รบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
2. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรยี นรกู้ ับหลักสตู รสถานศกึ ษา
 สอดคลอ้ ง
 ยงั ไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3. รปู แบบของการจัดการเรียนรู้
 เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ
 ยงั เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป
4. สอ่ื การเรียนรู้
 เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้
 ยงั ไม่เหมาะ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
5. การประเมินผลการเรยี นรู้
 ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้
 ยังไม่ครอบคลมุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป
6. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

ลงชอื่ ................................................................
(นางสาววาทนิ ี ชคู ันหอม)

ตำแหนง่ หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนรายวิชา
ภาษาไทย 5 รหัสวิชา ท23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ที่เน้นนักเรียนเป็น
สำคัญ มีการจัดกิจกรรมและการวัดผลประเมินผลทีห่ ลากหลายสอดคล้องกับสาระการเรียนรูแ้ ละตัวชี้วัดตาม
หลกั สูตรแกนกลาง พทุ ธศักราช 2551 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

อนึ่งหวังว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ คงจะมีประโยชน์ต่อครูในกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
บ้างไม่มากก็น้อย ในการใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนและการจัดทำแผนการเรียน นอกจากน้ี
อาจจะทำใหก้ ารศึกษาของชาตมิ ีการพัฒนามากขน้ึ

ขอขอบพระคณุ ผูท้ ี่เกย่ี วขอ้ งทุกทา่ นท่มี ีสว่ นทำให้แผนการจัดการเรียนรู้น้ีสำเรจ็ ลงดว้ ยดี

นางสาวชลธิชา ศิริอมรพันธ์ุ
ครผู ้สู อน

โครงการสอน

รายวิชา ท23101 รหัสวชิ า ภาษาไทย 5 มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3

จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวน 3 คาบ /ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาค 60 คาบ

สัปดาห์ หน่วยการเรียนรู้/สาระ คาบ หมายเหตุ

สปั ดาหท์ ี่ 1-3 โครงงานภาษาไทย 9

มฐ.ท 2.1

ท 3/9 เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และโครงงาน

สปั ดาห์ท่ี 4 บทละครพูด เรอื่ ง เห็นแก่ลกู 3

มฐ.ท 1.1

ม. 3/2 ระบคุ วามแตกตา่ งของคำทีม่ ีความหมายโดยตรงและ

ความหมายโดยนยั

ม.3/10 มมี ารยาทในการอา่ น

สปั ดาห์ท่ี 5 การอ่านจบั ใจความสำคญั 3

มฐ.ท 1.1

ม. 3/3 ระบใุ จความสำคัญและรายละเอยี ดของขอ้ มลู ทส่ี นบั สนนุ

จากเรื่องทอ่ี า่ น

ม. 3/4 อา่ นเรื่องตา่ ง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อ

ความ และรายงาน

ม. 3/5 วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมนิ เรื่องทอี่ า่ นโดยใชก้ ลวิธกี าร

เปรียบเทียบ เพือ่ ให้ผอู้ า่ นเขา้ ใจไดด้ ขี ึน้

ม. 3/6 ประเมนิ ความถูกต้องของขอ้ มูลที่ใช้สนบั สนุนในเร่ืองทอ่ี า่ น

ม. 3/7 วิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล การลำดับความ และความ

เปน็ ไปไดข้ องเร่อื ง

ม. 3/8 วิเคราะหเ์ พ่อื แสดงความคดิ เห็นโตแ้ ย้งเกี่ยวกบั เรอ่ื งท่อี ่าน

ม. 3/9 ตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคิดทไ่ี ดจ้ ากงานเขยี นอยา่ ง

หลากหลาย เพ่อื นำไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวิต

ม. 3/10 มมี ารยาทในการอ่าน

สัปดาหท์ ่ี 6 การเขียนยอ่ ความ 1

ม.ฐ.ท 1.1

ม. 3/4 อ่านเร่ืองตา่ ง ๆ แล้วเขยี นกรอบแนวคิด

ผงั ความคดิ บนั ทึก ย่อความ และรายงาน

ม.ฐ.ท 2.1

ม. 3/4 เขยี นย่อความ

ม. 3/10 มมี ารยาทในการเขียน

สัปดาห์ หนว่ ยการเรยี นร/ู้ สาระ คาบ หมายเหตุ
4
สัปดาห์ท่ี 6-7 อิศรญาณภาษิต 2

ม.ฐ.ท 1.1 1
1
ม. 3/2 ระบุความแตกตา่ งของคำท่ีมคี วามหมายโดยตรงและ 2

ความหมายโดยนัย 3

สัปดาห์ท่ี 8 เขยี นแสดงความคิดเห็นและ

มฐ.ท 2.1 โต้แย้งอย่างสร้างสรรค์

ม. 3/7 เขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้

ความคิดเหน็ หรือโตแ้ ย้งในเรื่องต่าง ๆ

ม. 3/10 มีมารยาทในการเขยี น

สปั ดาหท์ ี่ 8 ระดับภาษา

มฐ.ท 4.1

ม.3/3 วเิ คราะหร์ ะดบั ภาษา

สัปดาห์ที่ 9 คำทบั ศัพท์และศัพทบ์ ัญญัติ

ม.ฐ.ท 4.1

ม.3/4 ใช้คำทับศัพท์และศพั ท์บัญญัติ

สัปดาหท์ ่ี 9 การแตง่ คำประพนั ธ์ประเภท

ม.ฐ.ท 1.1 โคลงสี่สภุ าพ

ม. 3/1 อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้

ถูกต้องและเหมาะสมกบั เรื่องที่อ่าน

ม. 3/2 ระบุความแตกตา่ งของคำที่มีความหมายโดยตรง

และความหมายโดยนยั

ม. 3/3 ระบใุ จความสำคญั และรายละเอียดของข้อมลู ที่

สนบั สนนุ จากเรอ่ื งที่อา่ น

ม. 3/10 มีมารยาทในการอ่าน

สปั ดาห์ที่ 10 คดั ไทย ตั้งใจเขียน

ม.ฐ.ท 2.1

ม. 3/1 คัดลายมือตวั บรรจงครงึ่ บรรทัด

ม.3/10 มมี ารยาทในการเขยี น

สอบกลางภาค

สัปดาห์ หน่วยการเรยี นรู้/สาระ คาบ หมายเหตุ

สัปดาหท์ ่ี 11 - 12 พระอภัยมณี ตอน พระอภยั 4

ม.ฐ.ท 1.1 มณีหนีนางผเี สือ้ สมุทร

ม. 3/3 ระบใุ จความสำคัญและรายละเอยี ดของข้อมูลท่ี

สนบั สนนุ จากเรอื่ งท่ีอา่ น

ม. 3/4 อา่ นเร่ืองต่าง ๆ แลว้ เขียนกรอบแนวคิด ผังความคดิ

บนั ทึก ย่อความ และรายงาน

ม. 3/5 วเิ คราะหว์ ิจารณ์และประเมินเร่ืองท่ีอ่านโดยใชก้ ลวิธี

การเปรยี บเทยี บเพ่ือให้ผ้อู า่ นเข้าใจได้ดขี น้ึ

ม. 3/6 ประเมนิ ความถูกต้องของขอ้ มูลทีใ่ ชส้ นบั สนุนใน

เรือ่ งท่ีอา่ น

ม. 3/6 ประเมนิ ความถกู ต้องของข้อมลู ที่ใช้สนบั สนุนใน

เร่ืองที่อา่ น

ม. 3/7 วจิ ารณ์ความสมเหตุสมผล การลำดับความ และ

ความเป็นไปได้ของเร่ือง

ม. 3/8 วิเคราะหเ์ พื่อแสดงความคิดเหน็ โตแ้ ยง้ เก่ยี วกับเร่อื ง

ท่ีอ่าน

ม.3/9 ตคี วามและประเมินคณุ ค่าแนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขียน

อย่างหลากหลายเพ่อื นำไปใช้แก้ปญั หาในชีวติ

ม. 3/10 มีมารยาทในการอา่ น

สปั ดาห์ท่ี 12 ประโยคซับซ้อน ไวยากรณ์นา่ 2

ม.ฐ.ท 4.1

ม. 3/2 วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อน

สปั ดาห์ที่ 13 ขยายประสบการณ์การเรยี นรู้ 2

ม.ฐ.ท 1.1

ม. 3/9 ตีความและประเมนิ คุณคา่ แนวคดิ ท่ีไดจ้ ากงานเขยี น

อย่างหลากหลายเพ่อื นำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต

ม. 3/10 มมี ารยาทในการอ่าน

ม.ฐ.ท 5.1

ม. 3/1 สรุปเนอื้ หาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรม

ท้องถ่ินในระดับทีย่ ากยงิ่ ขนึ้

ม. 3/2 วเิ คราะหว์ ถิ ีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและ

วรรณกรรมที่อา่ น

สปั ดาห์ หนว่ ยการเรยี นร้/ู สาระ คาบ หมายเหตุ

สปั ดาหท์ ี่ 13 ขยายประสบการณก์ ารเรียนรู้ 2

ม.ฐ.ท 1.1

ม. 3/9 ตีความและประเมินคุณค่าแนวคดิ ท่ไี ดจ้ ากงานเขียน

อยา่ งหลากหลายเพอื่ นำไปใช้แก้ปัญหาในชวี ติ

ม. 3/10 มีมารยาทในการอา่ น

ม.ฐ.ท 5.1

ม. 3/1 สรปุ เนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรม

ทอ้ งถ่นิ ในระดับทีย่ ากย่ิงขึ้น

ม. 3/2 วิเคราะหว์ ิถไี ทยและคณุ คา่ จากวรรณคดีและ

วรรณกรรมท่ีอ่าน

ม.3/3 สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพอ่ื นำไป

ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง

สปั ดาหท์ ี่ 14 -15 คำยมื จากภาษาต่างประเทศ 6

มฐ.ท 4.1

ม.3/1จำแนกและใช้คำภาษาต่างประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย

สปั ดาห์ท่ี 16 - 17 การกรอกแบบสมัครงาน 4

ม.ฐ.ท 2.1

ม.3/8 กรอกแบบสมัครงานพรอ้ มเขยี นบรรยายเกยี่ วกับ

ความรู้ และทักษะของตนเองทเี่ หมาะสม กบั งาน

ม..3/10 มมี ารยาทในการเขยี น

สัปดาหท์ ี่ 18 จดหมายกิจธุระ 1

มฐ.ท 2.1

ม.3/5 เขียนจดหมายกิจธุระ

ม.3/10 มีมารยาทในการเขยี น

สปั ดาห์ท่ี 18 เขียนคำขวัญ 1

ม.ฐ.ท 2.1

ม.3/2 เขยี นข้อความโดยใช้ข้อความได้ถูกต้องตามระดับ

ภาษา

ม.3/10 มีมารยาทในการเขียน

สปั ดาห์ หนว่ ยการเรยี นร้/ู สาระ คาบ หมายเหตุ
2
สัปดาหท์ ี่ 19 คำอวยพร
3
ม.ฐ.ท 2.1

ม.3/2 เขยี นข้อความโดยใช้ขอ้ ความได้ถูกต้องตามระดบั

ภาษา

ม.3/10 มีมารยาทในการเขียน

สปั ดาห์ที่ 19-20 รายงานวิชาการ

ม.ฐ.ท 2.1

ม.3/9 เขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้ และโครงงาน

ม.3/10 มมี ารยาทในการเขยี น

สอบปลายภาค

โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน
ประมวลรายวชิ า

ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551
โรงเรยี นมาตรฐานสากล (world – Class Standard School)

********************

ภาคเรยี นที่ปีการศึกษา 2565

รายวิชา ท23101 รหัสวชิ า ภาษาไทย 5 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3

จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชัว่ โมง

ครูผูส้ อน นางสาวชลธิชา ศริ อิ มรพนั ธุ์ , นายบัณฑติ หวังสขุ

1. คำอธบิ ายรายวิชา

ฝึกทกั ษะการอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ เขา้ ใจความหมายโดยตรง
และความหมายโดยนัย จับใจความสำคัญและรายละเอียดสิ่งที่อ่านจากแหล่งสืบค้นต่าง ๆ สื่อเทคโนโลยี
เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความ และรายงานจากเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์ วิจารณ์ และ
ประเมินเรื่องที่อ่าน เขียนสื่อสารด้วยลายมือที่อ่านง่ายชัดเจน เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคำตามระดับภาษาได้
ถูกต้อง เขียนคำอวยพร เขียนคำขวัญ คำคม โฆษณา คติพจน์ สุนทรพจน์ ชีวประวัติ อัตชีวประวัติและ
ประสบการณ์ต่าง ๆ เขียนย่อความ เขียนจดหมายกิจธุระ พูดแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์และ
ประเมินเรื่องจากการฟัง การดู และการพูด นำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต พูดรายงานหรือ
ประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูสื่อต่าง ๆ รวมทั้งสื่อเทคโนโลยีและการสนทนา จำแนกและใช้
ภาษาต่างประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อนและระดับภาษา สรุปเนื้อหาวรรณคดี
และวรรณกรรมท้องถิ่นในระดบั ที่ยากยง่ิ ขนึ้ เชน่ ศาสนา ประเพณี พธิ ีกรรม สุภาษติ คำสอน เหตุการณ์ใน
ประวัตศิ าสตร์ บนั เทงิ คดี สรุปความรู้และข้อคิดจากการอา่ นไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ

โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการคดิ อยา่ งมเี หตุผล
กระบวนการฝึกทักษะทางภาษา กระบวนการฝึกปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความคิด
รวบยอดกระบวนการสร้างองค์ความรู้ โดยเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั

เพื่อให้เกิดคุณลักษณะของการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีความรักชาติ
ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสตั ย์สุจริต มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง มุง่ ม่นั ในการทำงาน รักความเป็นไทยและ
มจี ติ สาธารณะ

2. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้

ท 1.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4 ,ม.3/5 ,ม.3/6
ท 2.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4 ,ม.3/5 ,ม.3/6

ท 3.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3
ท 4.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 ,ม.3/4
ท 5.1 ม.3/1 ,ม.3/2
รวม 21 ตัวช้ีวดั

การวดั ผลประเมินผลการเรียนรู้
4.1 คะแนนเต็ม 100 คะแนน
อัตราสว่ นคะแนนระหว่างภาคตอ่ ปลายภาค 70 : 30

- คะแนนก่อนกลางภาค 20 คะแนน
- คะแนนสอบกลางภาค 20 คะแนน
- คะแนนหลังกลางภาค 30 คะแนน
- คะแนนสอบปลายภาค 30 คะแนน
100 คะแนน
รวมคะแนน

4.2 ขอบขา่ ยสาระการเรียนรู้ในการประเมนิ ผล กอ่ นกลางภาค 20 คะแนน

สาระการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/ผลการ ภาระงาน/ชน้ิ งาน/กจิ กรรม คะแนน กำหนดเวลาส่งงาน/ หมายเหตุ
เรยี นรู้ เต็ม ได้ ประเมิน

ม.3/9 เขียนรายงานการศึกษา 1. โครงงาน 10 - กอ่ นสอบกลางภาค
5 - ก่อนสอบกลางภาค
คน้ คว้า และโครงงาน

ม.3/2 ระบุความแตกต่างของคำ 2. แบบทดสอบ o-net

ท่มี คี วามหมายโดยตรงและ ยอ้ นหลัง

ความหมายโดยนัย -การอา่ นจับใจความสำคญั
ม.3/3 ระบใุ จความสำคญั และ -การเขียนแสดงความคิดเหน็

รายละเอยี ดของข้อมลู ท่ี และโตแ้ ยง้

สนบั สนนุ จากเรอ่ื งท่ีอ่าน -ระดับภาษา

ม.3/6 เขียนอธบิ าย ชีแ้ จง แสดง -คำทบั ศัพท์และศัพท์บญั ญัติ

ความคิดเหน็ และโต้แย้งอย่างมี -โครงสี่สุภาพ

เหตผุ ล - คำความหมายโดยตรงและ

ม.3/3วเิ คราะห์ระดบั ภาษา ความหมายโดยนัย

ม.3/4 ใชค้ ำทบั ศพั ทแ์ ละศัพท์ - บทละครพูดเรอื่ งเหน็ แกล่ ูก

บัญญตั ิ - บทพากยเ์ อราวัณ

ม.3/6 แตง่ บทร้อยกรอง

4.3 ขอบข่ายสาระการเรยี นรู้ในการประเมนิ ผล กลางภาค 20 คะแนน

สาระการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ดั /ผลการ ภาระงาน/ช้นิ งาน/กจิ กรรม คะแนน กำหนดเวลาส่ง หมาย
เรยี นรู้ เต็ม ได้ งาน/ประเมนิ เหตุ

ม.3/2 ระบุความแตกต่างของคำ -การอ่านจบั ใจความสำคัญ 20 < หรอื =30 ขอ้ ตามกำหนดของ
(60ข้อ) ผา่ น โรงเรยี น
ทมี่ ีความหมายโดยตรงและ -การเขียนแสดงความ

ความหมายโดยนัย คิดเห็นและโต้แย้ง

ม.3/3 ระบใุ จความสำคญั และ -ระดับภาษา

รายละเอียดของข้อมลู ท่ี -คำทบั ศัพท์และศัพท์

สนับสนนุ จากเรื่องที่อา่ น บญั ญัติ

ม.3/6 เขียนอธบิ าย ชี้แจง แสดง -โครงสสี่ ภุ าพ

ความคิดเห็นและโตแ้ ยง้ อยา่ งมี - คำความหมายโดยตรง

เหตุผล และความหมายโดยนัย

ม.3/3วิเคราะห์ระดับภาษา -โครงงาน

ม.3/4 ใชค้ ำทับศัพท์และศัพท์ - บทละครพูดเร่อื งเหน็

บัญญัติ แก่ลูก

ม.3/6 แต่งบทร้อยกรอง -บทพากย์เอราวณั

ม.3/1 สรุปเนื้อหาวรรณคดี

วรรณกรรมและวรรณกรรมทอ้ งถ่ิน

ในระดบั ที่ยากยิ่งขนึ้

ม.3/2 วิเคราะห์วถิ ีไทยและคณุ ค่า

จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ี

อ่าน

ม.3/3 สรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจาก

การอ่านเพอ่ื นำไปประยกุ ต์ใช้ใน

ชวี ติ จริง

ม.3/9 เขยี นรายงานการศึกษา

ค้นคว้า และโครงงาน

4.4 ขอบข่ายสาระการเรียนรูใ้ นการประเมินผล หลงั กลางภาค 30 คะแนน

สาระการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ดั /ผล ภาระงาน/ช้ินงาน/กจิ กรรม คะแนน กำหนดเวลาสง่ งาน/ หมายเหตุ
การเรยี นรู้
เต็ม ได้ ประเมิน

ท 1.1 /3 ระบุใจความสำคัญ 1. แบบทดสอบ o-net 5
10
และรายละเอยี ดของขอ้ มูลที่ ย้อนหลัง (ปี 60 – 62)

สนบั สนนุ จากเร่ืองที่อ่าน 2. แบบฝกึ หัดเสริมทักษะ
ท 1.1 /5 วเิ คราะห์ วิจารณ์ - คำยืมจากภาษาต่างประเทศ
และประเมนิ เร่อื ง ท่ีอา่ นโดยใช้
(บาลี , สนั สกฤต , จีน , เขมร)
กลวิธกี ารเปรยี บเทยี บเพอ่ื ให้
- คำสมาส -คำสนธิ
ผอู้ ่านเข้าใจได้ดีขน้ึ - ประโยค

ท 3.1/3 พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ (ความเดียว , ความรวม ,
ตรงตามวัตถปุ ระสงค์
ท 3.1/5 พดู โน้มนา้ วโดย ความซ้อน . ประโยคซับซ้อน)
นำเสนอหลักฐานตามลำดับ - การพูดในโอกาสต่าง ๆ
เน้อื หาอยา่ งมเี หตุผลและ
นา่ เชอ่ื ถอื (การพูดโตว้ าที , การอภิปราย)
ท 4.1/1จำแนกและใช้คำ - การพดู โนม้ นา้ วใจ
- กาพย์ยานี 11
ภาษาตา่ งประเทศท่ใี ช้ใน - พระอภยั มณี

ภาษาไทย ตอนพระอภยั มณหี นีนางผเี ส้ือ
สมุทร
ท 4.1/2 วเิ คราะห์โครงสร้าง

ประโยคซับซอ้ น

ท 5.1/1สรุปเน้ือหาวรรณคดี 3. เปเปอรม์ าเชร์ : พระอภยั มณี 10 - กอ่ นสอบปลายภาค
วรรณกรรมและวรรณกรรม ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ 5
ท้องถิ่นในระดบั ที่ยากยิง่ ขน้ึ สมุทร

ท 5.1/2 วเิ คราะห์วิถไี ทยและ - อาขยานพระอภยั มณี
คุณค่าจากวรรณคดีและ ตอนพระอภัยมณีหนนี างผีเสื้อ
วรรณกรรมทีอ่ ่าน สมุทร
ท 5.1/3 สรุปความรู้และข้อคดิ
จากการอ่าน เพ่อื นำไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ
ท 5.1/4 ทอ่ งจำและบอกคุณคา่
บทอาขยานตามทก่ี ำหนด และ
บทรอ้ ยกรองที่มีคณุ คา่ ตาม
ความสนใจและนำไปใชอ้ ้างอิง

4.5 ขอบข่ายสาระการเรียนรูใ้ นการประเมินผล ปลายภาค 30 คะแนน

สาระการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/ผลการ ภาระงาน/ชน้ิ งาน/กจิ กรรม คะแนน กำหนดเวลาสง่ หมาย
เรียนรู้ เต็ม ได้ งาน/ประเมนิ เหตุ

ท 1.1 /3 ระบุใจความสำคัญและ - คำยมื จาก 20 < หรือ=20 ขอ้ ตามกำหนดของ
(60ข้อ) ผา่ น โรงเรียน
รายละเอยี ดของข้อมลู ทีส่ นบั สนนุ ภาษาตา่ งประเทศ

จากเร่อื งท่ีอ่าน (บาลี , สันสกฤต , จนี ,

ท 1.1 /5 วิเคราะห์ วิจารณ์ เขมร)

และประเมินเร่ือง ที่อา่ นโดยใช้ - คำสมาส -คำสนธิ
กลวิธีการเปรยี บเทียบเพอ่ื ให้ผ้อู ่าน - ประโยค

เข้าใจได้ดีข้นึ (ความเดยี ว , ความรวม ,

ท 3.1/3 พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ ความซอ้ น . ประโยคซับซอ้ น)

ตรงตามวตั ถุประสงค์ - การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ

ท 3.1/5 พูดโนม้ นา้ วโดยนำเสนอ (การพดู โต้วาที , การอภปิ ราย)
หลกั ฐานตามลำดบั เนื้อหาอย่างมี - การพดู โนม้ น้าวใจ
เหตุผลและนา่ เชอื่ ถือ
ท 4.1/1จำแนกและใช้คำ - กาพยย์ านี 11
- พระอภยั มณี
ภาษาตา่ งประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทย
ท 4.1/2 วเิ คราะห์โครงสร้าง ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ
สมทุ ร
ประโยคซบั ซอ้ น

ท 5.1/1สรปุ เนื้อหาวรรณคดี
วรรณกรรมและวรรณกรรมทอ้ งถ่นิ
ในระดบั ท่ยี ากยงิ่ ขน้ึ

ท 5.1/2 วิเคราะห์วถิ ีไทยและ
คุณค่าจากวรรณคดีและ
วรรณกรรมท่อี า่ น

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1

รายวิชา ท23101 ช่อื วิชา ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

แผนการจดั การเรยี นรเู้ ร่ือง โครงงานภาษาไทย

จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชว่ั โมง

1.มาตรฐานการเรียนรู้
มฐ.ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราวในรปู แบบ

ตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

2.ตัวช้ีวัด / ผลการเรยี นรู้
ท 3/9 เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้า และโครงงาน

3.สาระสำคญั
โครงงาน เป็นสงิ่ ท่ชี ่วยเสรมิ สรา้ งประสบการณใ์ หผ้ ้เู รียนได้ลงมือปฏบิ ตั จิ รงิ สง่ ผลทำให้เกิดความรเิ ริม่

สรา้ งสรรค์ในการทำโครงงานใหม่ๆท่จี ะนำไปสู่โลกของงานอาชีพและการศกึ ษา อีกทง้ั โครงงานทต่ี นเองสนใจ
ยงั ก่อให้เกดิ องค์ความรูท้ ี่กว้างขวาง เปน็ การประสานงานทางวชิ าการระหว่างกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ต่าง ๆ
4.จุดประสงคร์ ายวชิ า K)

อธิบายลกั ษณะของการทำโครงงานได้
5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น P

จดั ทำโครงงานภาษาไทยโดยใชก้ ระบวนการกลุ่มได้
6.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ A

เหน็ ประโยชน์ของการทำโครงงานและมีมารยาทในการเขียน
7.เน้ือหาสาระ

1. ท่มี าและปัญหาของโครงงาน
2.วัตถปุ ระสงค์
3. ประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ ับ

8.กิจกรรมการเรียนรู้
(ชว่ั โมงที่ 1)

1. นกั เรยี นจบั กลุม่ กล่มุ ละ 5 คน โดยใหแ้ ต่ละกลุม่ ประกอบไปดว้ ยเด็กเก่ง กลาง และอ่อน
2. นักเรยี นรบั แบบฟอร์มการเขยี นโครงานท่คี รเู ตรยี มไว้ให้ กลุ่มละ 1 ชดุ

3. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ เลือกปัญหา เร่ืองทส่ี นใจ หรือเรือ่ งท่ีนักเรียนต้องการหาคำตอบ
มากลมุ่ ละ 1 เร่ือง

4. นกั เรียนและครูสนทนากนั ถงึ สาเหตขุ องการเลือกหวั เร่ืองทแ่ี ตล่ ะกลุ่มเลอื กมา
5. ครูอธบิ ายวิธกี ารเขียนหลกั การและเหตผุ ลของโครงงาน
6. นักเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั เขยี นหลักการและเหตผุ ลให้สอดคล้องกบั หัวข้อท่ีแต่ละกลุม่ เลือกลงใน
แบบฟอรม์ ท่ีครูแจกให้
7. นกั เรียนนำหลักการและเหตผุ ลทีแ่ ต่ละกลุ่มเขียนเสร็จแล้วส่งครู
8. นกั เรยี นนำขอ้ แนะนำทคี่ รูแนะนำให้ไปปรบั ปรุงแกไ้ ข แล้วนำสง่ ครูอีกคร้ัง
(ช่วั โมงที่ 2)
1. นกั เรยี นเขา้ กลุ่มเดมิ จากครง้ั ท่ีแล้ว
2. ครูและนกั เรียนพดู คยุ ถงึ การเขยี นหลักการและเหตผุ ลท่ีไดร้ บั มอบหมายไปในชั่วโมงก่อน
3. ครูอธบิ ายการตง้ั ตัง้ วตั ถุประสงค์ เขยี นประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รับ และสมมตฐิ านของการทำ
โครงงาน
4. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกันตง้ั วัตถุประสงค์ เขยี นประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะได้รับ และสมมตฐิ านของ
การทำโครงงาน โดยใหส้ อดคล้องกับหัวข้อที่แตล่ ะกลุ่มเลือกลงในแบบฟอร์มทคี่ รูแจกให้
7. นกั เรยี นนำวัตถุประสงค์ เขียนประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รับ และสมมติฐานของ การทำโครงงานท่ี
แตล่ ะกลมุ่ เขียนเสรจ็ แลว้ สง่ ครู
8. นักเรยี นนำข้อแนะนำทีค่ รูแนะนำให้ไปปรับปรุงแกไ้ ข แลว้ นำส่งครูอีกครั้ง (นักเรยี นท่ีผา่ นแลว้
อนญุ าตให้นักเรยี นจดั พิมพ์ได้)

9.สื่อและแหลง่ เรยี นรู้
แบบฟอรม์ การเขยี นโครงงาน

10.การวัดผลประเมินผล

จุดประสงค์ ชิน้ งาน/ภาระ วิธีการประเมิน เคร่ืองมอื ผูป้ ระเมนิ เกณฑ์ประเมนิ
การประเมิน
งาน ตรวจจาก แบบฟอรม์ การ ครู ผา่ นเกณฑร์ ้อย
การนำเสนองาน เขียนโครงงาน ละ 80
1. นกั เรียนสามารถเลอื ก 1. เลอื กหวั ขอ้ ใน ตามหวั ขอ้ ท่ี
กำหนด
หัวข้อที่นักเรียนสนใจใน การทำโครงงาน

การทำโครงงานได้ 2. อธิบายสาเหตุ

2. นักเรยี นสามารถ ของการเลือก

อธบิ ายวิธเี ขยี นหลกั การ หวั ขอ้ ในการทำ

และเหตผุ ลของโครงงาน โครงงาน

ได้

3. นกั เรยี นสามารถเขยี น 3. เขียนหลกั การ ตรวจจาก แบบฟอรม์ การ ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย
หลักการและเหตผุ ล ต้ัง และเหตผุ ล ตัง้ การนำเสนองาน เขยี นโครงงาน ละ 80
วตั ถุประสงค์ เขียน วตั ถปุ ระสงค์ ตามหวั ข้อท่ี
ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะ เขียนประโยชน์ท่ี กำหนด
ไดร้ ับ และสมมติฐาน คาดวา่ จะไดร้ บั
ของการทำโครงงานได้ และสมมตฐิ าน

ของ การทำ
โครงงาน

11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
นักเรียนสืบคน้ ตัวอยา่ งการทำโครงงานภาษาไทยจากเว็บไซต์ต่าง ๆ เพิ่มเตมิ
11.2 งานทม่ี อบหมาย
นกั เรยี นกลุ่มที่ตรวจงานผา่ นแลว้ จัดพิมพ์ช้ินงาน (ยงั ไมต่ ้องปรน้ิ ท)์

ลงช่อื
(นางสาวชลธิชา ศิริอมรพนั ธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู

บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1

รายวิชา ท23101 ช่อื วิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนมธั ยมฐานบินกำแพงแสน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรู้เร่ือง โครงงานภาษาไทย

จำจำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง

1.ผลการการประเมินบรรยากาศในการจัดการเรียนรโู้ ดยภาพรวม

2. ปญั หาและอปุ สรรค

3.ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไข

ลงชอื่

(นางสาวชลธิชา ศิรอิ มรพนั ธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2

รายวิชา ท23101 ชื่อวชิ า ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

โรงเรยี นมัธยมฐานบินกำแพงแสน ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรียนรู้เร่ือง โครงงานภาษาไทย

จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง

1.มาตรฐานการเรยี นรู้

มฐ.ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

2.ตวั ชี้วัด / ผลการเรยี นรู้
ท 3/9 เขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ และโครงงาน

3.สาระสำคญั
โครงงาน เปน็ สงิ่ ทชี่ ว่ ยเสรมิ สร้างประสบการณใ์ หผ้ เู้ รียนได้ลงมือปฏบิ ัตจิ รงิ ส่งผลทำใหเ้ กดิ ความริเร่ิม

สร้างสรรค์ในการทำโครงงานใหม่ๆที่จะนำไปส่โู ลกของงานอาชีพและการศกึ ษา อีกทัง้ โครงงานที่ตนเองสนใจ
ยงั ก่อใหเ้ กดิ องค์ความรูท้ ่ีกว้างขวาง เป็นการประสานงานทางวชิ าการระหวา่ งกลมุ่ สาระการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ
4.จุดประสงคร์ ายวชิ า K)

อธิบายลกั ษณะของการทำโครงงานได้
5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น P

จดั ทำโครงงานภาษาไทยโดยใชก้ ระบวนการกลุ่มได้
6.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ A

เห็นประโยชนข์ องการทำโครงงานและมีมารยาทในการเขยี น
7.เนือ้ หาสาระ

1. เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการพฒั นาโครงงาน
2. แผนการดำเนินงาน

8.กจิ กรรมการเรียนรู้
(ชั่วโมงท่ี 1)

1. นกั เรียนเข้ากลุ่มเดิมจากครั้งทีแ่ ลว้
2. ครแู ละนักเรยี นพูดคยุ ถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานท่ีได้รับมอบหมายไปในชว่ั โมงกอ่ น
3. ครอู ธบิ ายลกั ษณะ และยกตวั อยา่ งเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการพัฒนาโครงงาน
4. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มช่วยกันสรา้ งเคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาโครงงาน โดยคำนึงถงึ ความสอดคล้องกับ
โครงงานที่นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ได้เลอื กไวล้ งในแบบฟอร์มท่ีครูแจกให้

7. นักเรยี นนำเครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการพฒั นาโครงงานที่แต่ละกล่มุ สรา้ งเสรจ็ แล้วสง่ ครู
8. นกั เรียนนำข้อแนะนำทีค่ รูแนะนำให้ไปปรบั ปรงุ แกไ้ ข แล้วนำสง่ ครอู กี คร้ัง
(ชั่วโมงท่ี 2)
1. นกั เรยี นเขา้ กลุม่ เดมิ จากคร้งั ทแ่ี ลว้
2. ครูและนักเรยี นพดู คยุ ถงึ ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานท่ไี ด้รบั มอบหมายไปในชัว่ โมงกอ่ น
3. ครูอธิบายการเขียนแผนการดำเนนิ งาน และยกตัวอยา่ งประกอบเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขน้ึ
4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั สร้างเครื่องมือทีใ่ ช้ในการพัฒนาโครงงาน เขียนแผนการดำเนนิ งาน ลงใน
แบบฟอร์มท่ีครูแจกให้
7. นักเรียนนำแผนการดำเนนิ งาน ทีแ่ ตล่ ะกลมุ่ สร้างเสร็จแลว้ ส่งครู
8. นักเรียนนำขอ้ แนะนำทค่ี รูแนะนำให้ไปปรบั ปรุงแก้ไข แลว้ นำส่งครอู กี ครั้ง

9.สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้

1. แบบฟอร์มการเขียนโครงงาน

2. ตวั อย่างเครือ่ งมือท่ีใชใ้ นการพัฒนาโครงงาน

3. ตวั อย่างแผนการดำเนนิ งาน

10.การวัดผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ ช้ินงาน/ภาระ วิธีการประเมนิ เครอ่ื งมอื ผปู้ ระเมิน เกณฑป์ ระเมนิ

งาน การประเมิน

1. นักเรียนสามารถสรา้ ง 1. เคร่ืองมือที่ใช้ ตรวจจาก แบบฟอรม์ การ ครู ผา่ นเกณฑร์ ้อย

เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการ ในการพัฒนา การเครื่องมือท่ใี ช้ เขยี นโครงงาน ละ 80

พฒั นาโครงงานได้ โครงงาน ในการพัฒนา

โครงงาน

2. นักเรียนสามารถเขียน 2. แผนการ ตรวจจาก แบบฟอร์มการ ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย

แผนการดำเนินงานได้ ดำเนนิ งาน การเขยี นแผน เขียนโครงงาน ละ 80

การดำเนินงาน

11.กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย

11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ

นกั เรยี นสบื คน้ ตวั อย่างการทำโครงงานภาษาไทยจากเวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ เพม่ิ เตมิ

11.2 งานท่ีมอบหมาย

นักเรยี นกลุม่ ท่ีตรวจงานผา่ นแล้วจัดพิมพช์ ิน้ งาน (ยังไม่ต้องปร้ินท์)

ลงชอ่ื
(นางสาวชลธิชา ศริ ิอมรพันธุ์)
ตำแหนง่ ครู

บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2

รายวิชา ท23101 ช่อื วิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรเู้ รื่อง โครงงานภาษาไทย

จำจำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง

1.ผลการการประเมินบรรยากาศในการจัดการเรียนรโู้ ดยภาพรวม

2. ปัญหาและอุปสรรค

3.ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไข

ลงชอื่

(นางสาวชลธิชา ศิรอิ มรพนั ธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3

รายวิชา ท23101 ชือ่ วชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย

โรงเรยี นมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรียนรเู้ ร่ือง โครงงานภาษาไทย

จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ชว่ั โมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ช่วั โมง

1.มาตรฐานการเรยี นรู้

มฐ.ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธภิ าพ

2.ตัวช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้
ท 3/9 เขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ และโครงงาน

3.สาระสำคัญ
โครงงาน เปน็ สง่ิ ท่ีชว่ ยเสริมสรา้ งประสบการณใ์ ห้ผูเ้ รยี นได้ลงมอื ปฏบิ ัติจริง สง่ ผลทำใหเ้ กดิ ความรเิ ร่ิม

สร้างสรรคใ์ นการทำโครงงานใหม่ๆท่ีจะนำไปสโู่ ลกของงานอาชพี และการศกึ ษา อีกทง้ั โครงงานที่ตนเองสนใจ
ยังกอ่ ให้เกดิ องค์ความรทู้ ่ีกว้างขวาง เป็นการประสานงานทางวิชาการระหวา่ งกล่มุ สาระการเรยี นรตู้ ่าง ๆ
4.จุดประสงค์รายวชิ า K)

อธิบายลักษณะของการทำโครงงานได้
5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น P

จดั ทำโครงงานภาษาไทยโดยใช้กระบวนการกลุ่มได้
6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ A

เหน็ ประโยชนข์ องการทำโครงงานและมีมารยาทในการเขียน
7.เนอ้ื หาสาระ

เอกสารอ้างอิงที่เกย่ี วข้องกบั โครงงาน

8.กจิ กรรมการเรยี นรู้
(ช่ัวโมงท่ี 1)

1. นักเรียนเขา้ กลมุ่ เดมิ จากคร้งั ท่ีแลว้
2. ครแู ละนักเรียนพูดคุยถึงปัญหาและอปุ สรรคในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมายไปในชว่ั โมงกอ่ น
3. ครูอธิบายลกั ษณะของเอกสารที่เดี่ยวข้อง วิธกี ารสบื ค้นข้อมลู
4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั เขยี นโครงรา่ งหวั ข้อขอ้ มลู ทนี่ กั เรยี นจะทำการหาข้อมลู ลงในแบบฟอรม์ ที่
ครูแจกให้
7. นกั เรยี นนำโครงรา่ งหวั ข้อข้อมลู ท่ีนักเรียนจะทำการหาขอ้ มูลท่ีเขยี นเสร็จแลว้ สง่ ครู

8. นกั เรยี นนำขอ้ แนะนำทีค่ รูแนะนำให้ไปปรบั ปรงุ แก้ไข แล้วนำสง่ ครูอกี คร้ัง แล้วจงึ ไปสืบค้นขอ้ มลู

ตามโครงร่างท่ีกำหนดไว้

(ชว่ั โมงท่ี 2)

1. นกั เรยี นเข้ากลุม่ เดมิ จากครั้งท่แี ล้ว

2. ครูและนกั เรียนพูดคยุ ถึงปัญหาและอปุ สรรคในการทำงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายไปในช่ัวโมงก่อน

3. ครมู อบหมายให้นักเรยี นสงั เคราะห์ข้อมูลที่สืบค้นมาได้ตามโครงร่าง เขียนเปน็ หวั ข้อลงในแบบฟอรม์

ทค่ี รูแจกให้

4. นกั เรยี นนำขอ้ มูลที่สังเคราะห์ข้อมูลแลว้ และจดั เรียงหัวขอ้ เสร็จแลว้ สง่ ครู

5. นักเรียนนำข้อแนะนำทคี่ รูแนะนำให้ไปปรบั ปรงุ แก้ไข แล้วนำส่งครูอกี คร้ัง นักเรียนที่ผา่ นแลว้

อนญุ าตใหน้ ักเรียนจดั พิมพ์ได้)

9.สอื่ และแหลง่ เรียนรู้

1. แบบฟอร์มการเขยี นโครงงาน

10.การวดั ผลประเมนิ ผล

จุดประสงค์ ชิ้นงาน/ภาระ วธิ กี ารประเมิน เครื่องมอื ผู้ประเมนิ เกณฑป์ ระเมนิ

งาน การประเมิน

1. นักเรยี นสามารถเขยี น 1. โครงรา่ งขอ้ มูล ตรวจจาก แบบฟอร์มการ ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย

โครงร่างขอ้ มลู การสืบค้น การสบื คน้ การเขยี นโครงรา่ ง เขียนโครงงาน ละ 80

ได้ ขอ้ มูลการสบื ค้น

2. นักเรียนสามารถ 2. เอกสารท่ี ตรวจจาก แบบฟอรม์ การ ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย

สบื คน้ ข้อมลู และ เก่ยี วข้อง เอกสารการ เขยี นโครงงาน ละ 80

สงั เคราะหข์ ้อมลู เอกสาร สงั เคราะหข์ ้อมูล

ทเ่ี กี่ยวข้องได้ เอกสารที่

เกี่ยวข้อง

11.กิจกรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย

11.1 กิจกรรมเสนอแนะ

นกั เรยี นสืบค้นตวั อยา่ งการทำโครงงานภาษาไทยจากเวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ เพ่ิมเติม

11.2 งานทีม่ อบหมาย

นักเรยี นกล่มุ ท่ีตรวจงานผ่านแล้วจัดพมิ พ์ชน้ิ งาน (ยงั ไม่ต้องปรน้ิ ท)์

ลงชือ่
(นางสาวชลธชิ า ศริ ิอมรพันธุ์)
ตำแหนง่ ครู

บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3

รายวิชา ท23101 ช่อื วิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรเู้ รื่อง โครงงานภาษาไทย

จำจำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง

1.ผลการการประเมินบรรยากาศในการจัดการเรียนรโู้ ดยภาพรวม

2. ปัญหาและอุปสรรค

3.ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไข

ลงชอื่

(นางสาวชลธิชา ศิรอิ มรพนั ธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 4

รายวชิ า ท23101 ช่อื วชิ า ภาษาไทย 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียน มัธยมฐานบินกำแพงแสน ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

แผนการจดั การเรยี นรเู้ ร่ือง โครงงานภาษาไทย

จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ชวั่ โมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ช่วั โมง

1.มาตรฐานการเรยี นรู้

มฐ.ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมีประสทิ ธภิ าพ

2.ตวั ช้ีวดั / ผลการเรียนรู้
ท 3/9 เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า และโครงงาน

3.สาระสำคัญ
โครงงาน เปน็ ส่งิ ทชี่ ว่ ยเสรมิ สรา้ งประสบการณ์ใหผ้ ู้เรียนได้ลงมอื ปฏิบตั ิจรงิ ส่งผลทำให้เกิดความรเิ ร่ิม

สรา้ งสรรค์ในการทำโครงงานใหมๆ่ ทจี่ ะนำไปสูโ่ ลกของงานอาชีพและการศกึ ษา อีกทง้ั โครงงานทต่ี นเองสนใจ
ยงั กอ่ ใหเ้ กิดองค์ความรทู้ ่ีกว้างขวาง เป็นการประสานงานทางวิชาการระหวา่ งกลุ่มสาระการเรยี นร้ตู ่าง ๆ
4.จดุ ประสงคร์ ายวชิ า K)

อธิบายลักษณะของการทำโครงงานได้
5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน P

จัดทำโครงงานภาษาไทยโดยใชก้ ระบวนการกลุ่มได้
6.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ A

เหน็ ประโยชน์ของการทำโครงงานและมีมารยาทในการเขยี น
7.เนือ้ หาสาระ

1. การสรุปผลการศกึ ษา
2. อภิปรายผลการศึกษา

8.กิจกรรมการเรยี นรู้
(ชั่วโมงท่ี 1)

1. นกั เรยี นเข้ากล่มุ เดมิ จากคร้ังทแ่ี ล้ว
2. ครแู ละนักเรยี นพดู คยุ ถึงปัญหาและอปุ สรรคในการทำงานท่ไี ด้รบั มอบหมายไปในชัว่ โมงก่อน
3. ครูอธบิ ายลักษณะการสรปุ ผลการการศึกษาและการเขยี นรายงานผลการศึกษา
4. นักเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั เขยี นรายงานผลการศึกษาตามขอ้ มลู ทน่ี ักเรียนไดท้ ำการศึกษาลงใน
แบบฟอรม์ ท่ีครูแจกให้

7. นักเรียนนำการสรปุ ผลการศกึ ษาท่นี ักเรยี นเขยี นเสรจ็ แล้วสง่ ครู

8. นักเรยี นนำข้อแนะนำทค่ี รูแนะนำให้ไปปรบั ปรงุ แก้ไข แล้วนำสง่ ครูอีกครั้ง

(ชัว่ โมงที่ 2)

1. นักเรียนเข้ากลุ่มเดมิ จากครั้งทแี่ ล้ว

2. ครูและนักเรยี นพดู คุยถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายไปในชวั่ โมงกอ่ น

3. ครอู ธิบายลักษณะการอภิปรายผลการการศึกษาและการเขียนรายงานอภปิ รายผลการศกึ ษา

4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั เขียนอภปิ รายผลการการศกึ ษาตามข้อมลู ท่ีนักเรยี นได้ทำการศกึ ษาลงใน

แบบฟอร์มที่ครูแจกให้

7. นักเรยี นนำการอภปิ รายผลการการศึกษาท่นี กั เรียนเขียนเสร็จแลว้ ส่งครู

8. นกั เรียนนำขอ้ แนะนำท่ีครูแนะนำให้ไปปรับปรุงแก้ไข แลว้ นำส่งครูอกี ครั้ง (นกั เรียนท่ผี ่านแลว้

อนุญาตให้นักเรียนจัดพิมพ์ได้)

9.สือ่ และแหลง่ เรียนรู้

1. แบบฟอร์มการเขยี นโครงงาน

10.การวัดผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ ชิน้ งาน/ภาระ วธิ ีการประเมิน เครือ่ งมอื ผปู้ ระเมิน เกณฑ์ประเมิน

งาน การประเมิน

1. นกั เรยี นสามารถเขียน 1. สรุปผล ตรวจจาก แบบฟอรม์ การ ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย

สรปุ ผลการศกึ ษาได้ การศึกษา การสรุปผล เขียนโครงงาน ละ 80

การศึกษา

2. นักเรียนสามารถเขียน 2. อภปิ รายผล ตรวจจาก แบบฟอรม์ การ ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย

อภปิ รายผลการศึกษาได้ การศกึ ษา การเขียน เขียนโครงงาน ละ 80

อภิปรายผล

การศกึ ษา

11.กิจกรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย

11.1 กิจกรรมเสนอแนะ

นกั เรียนสบื ค้นตัวอย่างการทำโครงงานภาษาไทยจากเวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ เพ่ิมเติม

11.2 งานท่ีมอบหมาย

นกั เรียนกลุ่มท่ีตรวจงานผ่านแล้วจัดพิมพ์ชิน้ งาน (ยงั ไมต่ ้องปรนิ้ ท)์

ลงชอื่
(นางสาวชลธชิ า ศริ อิ มรพนั ธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู

บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4

รายวิชา ท23101 ช่อื วิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรเู้ รื่อง โครงงานภาษาไทย

จำจำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง

1.ผลการการประเมินบรรยากาศในการจัดการเรียนรโู้ ดยภาพรวม

2. ปัญหาและอุปสรรค

3.ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไข

ลงชอื่

(นางสาวชลธิชา ศิรอิ มรพนั ธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5

รายวชิ า ท23101 ช่อื วิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรเู้ ร่ือง โครงงานภาษาไทย

จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ช่วั โมง

1.มาตรฐานการเรยี นรู้

มฐ.ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

2.ตัวชี้วัด / ผลการเรยี นรู้
ท 3/9 เขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ และโครงงาน

3.สาระสำคญั
โครงงาน เป็นส่ิงที่ชว่ ยเสรมิ สรา้ งประสบการณ์ให้ผูเ้ รยี นได้ลงมือปฏบิ ตั จิ ริง ส่งผลทำให้เกิดความริเริ่ม

สรา้ งสรรค์ในการทำโครงงานใหมๆ่ ทีจ่ ะนำไปส่โู ลกของงานอาชีพและการศึกษา อีกท้ังโครงงานทต่ี นเองสนใจ
ยังก่อใหเ้ กดิ องค์ความรู้ที่กว้างขวาง เปน็ การประสานงานทางวิชาการระหวา่ งกลุ่มสาระการเรยี นรูต้ ่าง ๆ
4.จดุ ประสงคร์ ายวชิ า K)

อธบิ ายลกั ษณะของการทำโครงงานได้
5.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน P

จัดทำโครงงานภาษาไทยโดยใช้กระบวนการกลุ่มได้
6.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ A

เหน็ ประโยชน์ของการทำโครงงานและมีมารยาทในการเขยี น
7.เนือ้ หาสาระ

การจัดทำรปู เล่มโครงงาน

8.กิจกรรมการเรียนรู้
1. นกั เรยี นเข้ากลมุ่ เดมิ จากคร้งั ท่แี ลว้
2. ครแู ละนักเรียนพดู คุยถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมายไปในชัว่ โมงกอ่ น
3. ครอู ธิบายสว่ นประกอบของการจดั รปู เล่มโครงงานว่าประกอบดว้ ยอะไรบ้าง จัดเรยี งอะไรก่อนหลงั
4. นักเรียนซกั ถามในส่วนที่สงสยั หรือมีปัญหา
5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกันจัดเรยี งเอกสาร และเข้ารปู เล่มใหส้ วยงามแลว้ สง่ ครู

9.สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้
1. แบบฟอร์มการเขียนโครงงาน

10.การวดั ผลประเมนิ ผล ชิ้นงาน/ภาระ วธิ กี ารประเมิน เครอื่ งมือ ผูป้ ระเมนิ เกณฑ์ประเมิน
จดุ ประสงค์ งาน
การประเมนิ ครู ผา่ นเกณฑร์ ้อย
1. นักเรียนสามารถ 1. เล่มโครงงาน ละ 80
จดั ทำโครงงานตาม ตรวจจาก แบบประเมิน
รูปแบบการทำโครงการ
ได้ ความถกู ตอ้ งและ ชิ้นงานกล่มุ

รายละเอยี ดขออง

โครงงาน

11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย
11.1 กิจกรรมเสนอแนะ
-
11.2 งานทีม่ อบหมาย
สง่ รปู เลม่ โครงงานตามเวลาท่ีกำหนด

ลงชอ่ื
(นางสาวชลธิชา ศริ อิ มรพนั ธุ์)
ตำแหนง่ ครู

บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5

รายวิชา ท23101 ช่อื วิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรเู้ รื่อง โครงงานภาษาไทย

จำจำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง

1.ผลการการประเมินบรรยากาศในการจัดการเรียนรโู้ ดยภาพรวม

2. ปัญหาและอุปสรรค

3.ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไข

ลงชอื่
(นางสาวชลธิชา ศิรอิ มรพนั ธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู

ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 6

รายวิชา ท23101 ชอื่ วชิ า ภาษาไทย 5 กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

โรงเรยี นมัธยมฐานบินกำแพงแสน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง บทละครพูดเรอ่ื ง เห็นแก่ลูก

จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่วั โมง ตอ่ สัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชัว่ โมง

1.มาตรฐานการเรียนรู้
มฐ.ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพ่ือนำไปใชต้ ดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนิน

ชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน

2.ตวั ชี้วัด / ผลการเรียนรู้
ม. 3/2 ระบุความแตกตา่ งของคำทมี่ ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย
ม.3/10 มมี ารยาทในการอ่าน

3.สาระสำคญั
การเข้าใจความหมายของคำศัพท์จะทำให้อ่านออกเสียงได้ถูกตอ้ งและยงั สามารถเขา้ ใจเร่ืองท่ีอา่ น

4.จดุ ประสงค์รายวชิ า K)
อธิบายความหมายของคำศัพท์ในบทละครพูดเร่อื ง เห็นแก่ลกู

5.สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น P
คน้ หาคำศัพทต์ ามท่ีกำหนด

6.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ A
เหน็ ความสำคัญของการเขา้ ใจความหมายของคำศัพทเ์ พ่อื นำไปใชใ้ นการอา่ นวรรณกรรม

7.เน้อื หาสาระ
คำศัพท์ในบทละครพูดเร่ือง เหน็ แก่ลกู

8.กิจกรรมการเรียนรู้
(ชวั่ โมงที่ 1)

1. ให้นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถามทา้ ทาย ดังนี้
• นกั เรยี นชอบบทละครโทรทัศนข์ องไทยในปัจจบุ ันเรอ่ื งใดมากที่สดุ เพราะเหตุใด

2. ใหน้ กั เรียนอ่านบทนำเรอื่ งและทีม่ าของบทละครพูดเรอ่ื ง เห็นแก่ลกู จากน้ันครถู ามนกั เรียน
เพ่อื สรุปความเข้าใจ ดังน้ี

• บทละครพูดเรือ่ ง เห็นแก่ลูก เป็นพระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยูห่ วั
ซึ่งทรงใชพ้ ระนามแฝงวา่ อะไร (พระขรรค์เพชร)

• บทละครพูดเรื่อง เห็นแก่ลกู ไดร้ บั การแปลเปน็ ภาษาต่างประเทศก่ีภาษา อะไรบา้ ง

(13 ภาษา ไดแ้ ก่ ภาษาญ่ีปุ่น จนี นอร์เวย์ สเปน รัสเซีย อังกฤษ อนิ โดนีเซีย อาหรับ ฮนิ ดี สงิ หล
มาเลย์ ฝรัง่ เศส เกาหลี)

• บทละครพูดเร่อื ง เหน็ แกล่ ูก มลี ักษณะการประพันธ์อย่างไร (เป็นบทละครพดู รอ้ ยแกว้
มีความยาว 1 องก์ เนื้อเรื่องมีขนาดสั้น ปมเรื่องไม่ซับซ้อน เป็นการสนทนาโต้ตอบของตัวละครที่
เหมือน
ชวี ิตจริง มวี ิธบี อกใหร้ ้วู า่ ตวั ละครจะตอ้ งแสดงอยา่ งไรจากข้อความในวงเล็บ)

3. ครูอธิบายเพิ่มเติม จากนั้นให้นักเรียนสรุปสาระสำคัญจากบทนำเร่ืองและที่มาของบทละครพูดเรื่อง
เหน็ แก่ลกู

4. ให้นักเรียนอ่านบทละครพูดเรื่อง เห็นแก่ลูก แล้วขีดเส้นใต้คำศัพท์ที่นักเรียนไม่เข้าใจความหมาย
จากนน้ั ให้นกั เรยี นหาความหมายของคำศัพท์จากพจนานุกรม

5. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เล่นเกม “ปริศนาอักษรไขว้” โดยให้นักเรียนเติมคำศัพท์ลงใน
ปริศนาอักษรไขว้ให้สอดคล้องกับความหมายที่กำหนดทั้งแนวนอนและแนวตั้ง แล้วร่วมกันตรวจสอบความ
ถูกตอ้ ง
(ชัว่ โมงที่ 2)

1. ให้นักเรยี นจบั คู่เขียนคำศัพทท์ ีส่ ะกดคำแตกต่างจากปัจจบุ นั พรอ้ มทั้งอธบิ ายความหมายและบอก
ว่าคำศัพทน์ ้ัน ๆ ในปจั จุบันเขียนอย่างไร นำเสนอหน้าช้ันเรียนเพอื่ ใหเ้ พ่ือนไดร้ ว่ มศึกษาและทำความเข้าใจ

2. ให้นักเรยี นแข่งขันเขยี นคำทับศัพทภ์ าษาอังกฤษท่ีปรากฏในบทละครพดู เร่ือง เหน็ แกล่ ูก
บนกระดาน พร้อมทัง้ อธบิ ายความหมาย

3.. ให้นักเรยี นทำใบกจิ กรรมเรอ่ื ง วิวัฒนาการของคำศัพท์ แลว้ รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
4. ใหน้ กั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี

• การเข้าใจความหมายของคำศัพท์จะทำให้อา่ นออกเสยี งไดถ้ ูกตอ้ งและยังสามารถเขา้ ใจ
เร่อื งที่อา่ น

9.สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้

1. หนังสอื เรียนวรรณคดีวจิ กั ษ์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3

2. ตารางปริศนาอกั ษรไขว้
3. ใบกจิ กรรม

10.การวัดผลประเมินผล

จุดประสงค์ ช้ินงาน/ภาระ วธิ กี ารประเมิน เครอื่ งมอื ผปู้ ระเมนิ เกณฑป์ ระเมนิ
งาน
1. นกั เรยี นสามารถ 1.สงั เกต การประเมิน
อธบิ ายความหมายของ 1. ตารางปรศิ นา พฤติกรรมของ
อักษรไขว้ 1.แบบสงั เกต ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย
2. ใบกิจกรรม
พฤติกรรมการ ละ 80

เขา้ รว่ มกจิ กรรม

คำศัพท์ในบทละครพูด นักเรียนในการ 2.แบบสังเกต
เร่ือง เหน็ แก่ลูกได้ เขา้ ร่วมกิจกรรม พฤติกรรมการ
2. นักเรยี นสามารถ 2.สงั เกต เข้ารว่ มกิจกรรม
ค้นหาคำศัพทต์ ามที่ พฤติกรรมของ กลมุ่
กำหนดได้ นกั เรียนในการ
เขา้ รว่ มกิจกรรม
กลุ่ม

11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย
11.1 กิจกรรมเสนอแนะ
ให้นกั เรยี นค้นคว้าคำศัพท์ท่นี ่าสนใจจากบทละครพูดเรอ่ื งอื่น ๆ และจดั ทำเป็นพจนานกุ รม

เลม่ เลก็ ไวใ้ นมุมหนังสือของห้องเรยี น
11.2 งานที่มอบหมาย
1. ตารางปริศนาอักษรไขว้
2. ใบกิจกรรม

ลงช่อื
(นางสาวชลธชิ า ศิรอิ มรพนั ธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู

บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ท่ี 6

รายวิชา ท23101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นมัธยมฐานบินกำแพงแสน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรเู้ ร่ือง บทละครพูด เรอื่ ง เห็นแก่ลกู

จำจำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ชว่ั โมง ตอ่ สัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง

1.ผลการการประเมินบรรยากาศในการจดั การเรยี นรโู้ ดยภาพรวม

2. ปญั หาและอปุ สรรค

3.ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไข

ลงชอื่

(นางสาวชลธชิ า ศริ อิ มรพันธุ์)
ตำแหน่ง ครู

ชือ่ ......................................................................................................ชั้น.......................เลขที.่ .................
ตารางปรศิ นาอักษรไขว้

ให้นักเรียนเตมิ คำศพั ท์ลงในปรศิ นาอกั ษรไขว้ให้สอดคล้องกบั ความหมายท่ีกำหนดท้ังแนวนอนและแนวต้ัง

แนวนอน แนวต้ัง
๑. ถา่ ยภาพ 11. คนซึง่ เปน็ ที่รงั เกียจของคนอ่ืน
๒. พนักงานบัญชี 12. คำสรรพนามบุรุษที่ 1 ใช้แทนผพู้ ดู ที่เปน็
๓. และ
๔. กระหาย ชาย ใชเ้ ม่อื พูดกับผใู้ หญ่
๕. ซอมซ่อ มลี กั ษณะประหนึง่ ว่า อตั คัด 13. เพื่อน
ขัดสน 14. สำนกั งาน ท่ีทำการ
๖. ต่างจังหวดั 15. มาตราเงินในสมัยโบราณ
๗. ไมพ่ ูด หรอื ไม่ให้พูด 16. ตอนหน่งึ ๆ ในบทละคร
๘. โทษของแผน่ ดิน ถูกลงโทษตาม 17. ตกนรก
กฎหมาย 18. นำ้ หวานสีเขียวผสมโซดา
๙. เอาใจใส่ เอาใจชว่ ย ดแู ล 19. มคี รอบครัว แตง่ งานแล้ว
๑๐. คำสรรพนามบุรุษที่ 2 ใชแ้ ทนผู้ทีเ่ รา

เฉลย...ตารางปรศิ นาอักษรไขว้

ชื่อ......................................................................................................ชน้ั .......................เลขท.่ี .................

ใบกิจกรรมเรือ่ ง วิวฒั นาการของคำศัพท์

ให้นกั เรียนเขยี นคำศัพทท์ ่สี ะกดคำแตกตา่ งจากปัจจบุ ัน พรอ้ มท้ังอธบิ ายความหมาย และบอกวา่
คำศพั ท์นนั้ ๆ ในปัจจุบนั เขยี นวา่ อยา่ งไร

………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7

รายวชิ า ท23101 ช่อื วชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

โรงเรียนมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจดั การเรยี นรู้เร่ือง บทละครพูด เรอ่ื ง เหน็ แกล่ ูก

จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ชวั่ โมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ช่วั โมง

1.มาตรฐานการเรียนรู้
มฐ.ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่ือนำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนนิ

ชวี ิต และมนี สิ ัยรกั การอ่าน

2.ตวั ชี้วดั / ผลการเรยี นรู้
ม. 3/2 ระบคุ วามแตกต่างของคำท่มี ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย
ม.3/10 มมี ารยาทในการอา่ น

3.สาระสำคัญ
การอ่านออกเสยี งวรรณกรรมประเภทร้อยแก้ว ผู้อ่านต้องอา่ นออกเสียงใหถ้ ูกต้อง ชดั เจน และมีลลี า

การอ่านเหมาะสมกบั ประเภทของงานเขียน เพอื่ ถา่ ยทอดอารมณไ์ ปสูผ่ ู้ฟงั ใหค้ ล้อยตามไปกบั เร่อื งราวหรือบท
ประพันธท์ ี่อ่าน
4.จุดประสงค์รายวิชา K)

อธิบายวิธกี ารอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้
5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน P

อา่ นออกเสียงบทละครพดู เรื่อง เหน็ แก่ลูก
6.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ A

เหน็ ความสำคญั ของการอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว และมมี ารยาทในการอา่ น
7.เนอื้ หาสาระ

การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว
8.กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดงั น้ี
• นักเรียนมีวิธีการสง่ เสรมิ ใหเ้ พ่ือน ๆ มีนิสยั รักการอา่ นได้อย่างไร

2. ครูนำนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว ซักถามถึงประสบการณ์การอ่านออก
เสียงบทร้อยแก้ว วิธีการเตรียมตัวก่อนอ่าน ปัญหาและอุปสรรคที่พบในการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว วิธีการ
แกป้ ัญหา และเทคนิคเฉพาะในการอ่านออกเสยี งของแต่ละคน

3. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว ครูอธิบายเพิ่มเติมแล ะยกตัวอย่าง
ประกอบเพ่อื ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจได้อย่างชดั เจน

4. ใหน้ ักเรยี นทำใบกิจกรรมเร่ือง การเวน้ วรรคตอนของการอ่าน แลว้ รว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง
5. ใหน้ ักเรียนฝึกอา่ นบทความทนี่ กั เรียนสนใจ และใหเ้ พอ่ื นประเมนิ ผลการอ่านของนักเรยี น
6. ให้นักเรียนจบั ค่กู ับเพื่อน อ่านออกเสยี งบทละครพูดเรอื่ ง เห็นแกล่ กู โดยเลอื กตัวละครทน่ี กั เรียน
สนใจและให้เพอ่ื นอา่ นบทของตัวละครทเี่ หลอื โดยคำนงึ ถงึ ความถูกต้อง ตลอดจนพยายามถ่ายทอดอารมณ์
ของตวั ละคร และเลือกใช้น้ำเสยี งให้สอดคล้องกับสถานการณต์ ามเน้ือเรอื่ ง ให้นกั เรยี นแต่ละคอู่ ่านออกเสียง
หน้าชน้ั เรียน หากเวลาในชวั่ โมงเรยี นไม่พอให้ครนู ดั เวลานอกชว่ั โมงเรยี น
7. ใหน้ ักเรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี

• การอา่ นออกเสียงวรรณกรรมประเภทร้อยแกว้ ผอู้ า่ นต้องอ่านออกเสยี งให้ถกู ตอ้ ง ชัดเจน และ

มีลีลาการอา่ นเหมาะสมกับประเภทของงานเขียน เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปส่ผู ้ฟู ังใหค้ ล้อยตามไปกับเร่ืองราว
หรือบทประพนั ธท์ ี่อา่ น
9.สื่อและแหล่งเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียนวรรณคดวี จิ กั ษ์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

2. ใบกิจกรรม

3. บทความ

10.การวดั ผลประเมินผล ช้ินงาน/ภาระ วิธีการประเมิน เครือ่ งมือ ผูป้ ระเมนิ เกณฑ์ประเมนิ
จุดประสงค์ งาน
1. สงั เกต การประเมิน
1. นักเรยี นสามารถอ่าน 1. ใบกิจกรรม พฤติกรรมของ
ออกเสยี งบทละครพูด 2. บทความ นักเรยี นในการ 1.แบบสังเกต ครู ผา่ นเกณฑร์ ้อย
เรอ่ื ง เหน็ แกล่ ูกได้ เข้าร่วมกจิ กรรม
2. ตรวจผลงาน พฤติกรรมการ ละ 80
ของนักเรยี น
เขา้ ร่วมกิจกรรม

11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูจัดการประกวดการอา่ นออกเสียงรอ้ ยแก้ววรรณกรรมสำหรบั เยาวชน ระดบั ห้องเรียนและ

ระดับชั้น
11.2 งานท่มี อบหมาย
1. ใบกิจกรรม
2. บทความ
ลงช่อื
(นางสาวชลธชิ า ศิริอมรพันธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู

บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ท่ี 7

รายวิชา ท23101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นมัธยมฐานบินกำแพงแสน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรเู้ ร่ือง บทละครพูด เรอื่ ง เห็นแก่ลกู

จำจำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ชว่ั โมง ตอ่ สัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง

1.ผลการการประเมินบรรยากาศในการจดั การเรยี นรโู้ ดยภาพรวม

2. ปญั หาและอปุ สรรค

3.ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไข

ลงชอื่
(นางสาวชลธชิ า ศริ อิ มรพันธุ์)
ตำแหน่ง ครู

ชอ่ื ......................................................................................................ช้นั .......................เลขที.่ .................

ใบกจิ กรรมเรือ่ ง การเวน้ วรรคตอนของการอ่าน

ใหน้ ักเรยี นขดี เครอ่ื งหมาย / เพอ่ื แสดงการเวน้ วรรคตอนของการอ่าน และฝกึ อ่านออกเสียงจากบทความ
ตอ่ ไปนี้

อา่ นเสียบา้ งซ่ี

เนาวรตั น์ พงษ์ไพบูลย์

มีคำของผู้รู้กล่าวไว้ว่า “การสนทนาทำให้คนฉลาดการอ่านหนังสือทำให้เป็นคนเต็มคน” ล้นเกล้าฯ
รัชกาลท่ี 6 ทรงพระราชนพิ นธค์ ำโคลงไวว้ ่า “ใครเกลยี ดอักษรคือคนป่า”

หนังสอื เปน็ ท่รี วมความคิดของคนเป็นทบ่ี ันทึกเรอ่ื งราวหลายหลากในโลกไวเ้ ม่ือใดที่คนมาอ่านหนังสือ
เมื่อนั้นก็เป็นโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับความคิดที่มีอยู่ในหนังสือและความคิดของตัวเขาเองจึงกล่าวว่าคนจะมี
ความคิดกว้างขวางขนึ้ ได้ดว้ ยการอา่ นหนังสอื นีป้ ระการหนงึ่

คนไม่อ่านหนงั สือนัน้ มักตามความคดิ ใหม่ ๆ ของคนอน่ื ไมท่ ันเมอื่ ตามไม่ทันก็พูดกนั ไมร่ เู้ ร่ืองเขา้ ใจกนั
ไมไ่ ดค้ นไม่อ่านหนังสือจึงเปน็ คนคับแคบทางปัญญาความคิดตดิ ตันอยแู่ ค่ตวั เองคนชนดิ นี้ยิ่งเป็นใหญม่ ยี ศ
มีตำแหน่งก็ย่งิ หลงตัวบา้ อำนาจคนประเภทน้ีมักมหี ายนะเปน็ ทีห่ มายได้

เป็นท่ีนา่ สงั เกตว่ายงั มีอีกหลายคนทีไ่ ม่ชอบอา่ นหนังสอื อา้ งวา่ ไมม่ ีเวลาอา้ งว่าเสยี เวลาเพราะเวลา
เปน็ เงนิ เป็นทองโดยหาร้ไู มว่ ่าในหนงั สือน้นั มีขุมทรัพย์ทางปัญญาทล่ี ้ำคา่ กวา่ เงินทองชนดิ เทียบกนั ไมไ่ ด้เลย

มีหนังสือให้เราอา่ นมากมายจนมีคำกล่าวว่าบางเล่มเพียงแต่อา่ นอย่างชิมลางก็พอแต่บางเล่มต้องอ่าน
ชนิดย่อยใหล้ ะเอียดหนังสอื จำเปน็ ที่เราตอ้ งอ่านเป็นประจำก็มจี ำพวกหนังสือพิมพ์รายวนั ซึ่งถ้าเป็นไปไดก้ ็ควร
อ่านทุกฉบับการได้อ่านหนังสือพิมพ์รายวันหลาย ๆ ฉบับนั้นมีผลดีตรงท่ีเราได้เปรยี บเทียบว่าวันนีม้ ีเร่ืองอะไร
เกิดขึ้นเรื่องสำคัญในที่นี้มิได้หมายถึงเรื่องสำคัญตามที่หนังสือพิมพ์ยกขึ้นพาดหัวใหญ่เสมอไปเมื่อใดที่
หนงั สือพมิ พ์ให้ความสำคญั ของขา่ วไมเ่ ทา่ กันเราได้รู้ข่าวน้นั อาจไมส่ ำคัญจรงิ การท่ีไดร้ ู้อย่างนจ้ี ะทำให้เรา
ไมเ่ ปน็ คนประเภทท่ีเขาเรียกว่าตนื่ ขา่ ว

คนทไ่ี มอ่ า่ นหนังสือไม่สนใจขา่ วสารบ้านเมอื งมาก่อนในชว่ งน้กี อ็ าจรูส้ กึ สบั สนวุ่นวายและตกใจได้
ที่อยู่ ๆ เหตุการณ์บ้านเมืองเราเปลี่ยนไปมากจนชักไม่แน่ใจว่าจะเอาอย่างไรกันแน่และเราจะทำอย่างไรดีผิด
กบั คนที่ตดิ ตามเร่ืองราวมาโดยตลอดกน็ ึกยมิ้ อยู่ในใจวา่ นั่นไงเหน็ ไหมล่ะมนั จะตอ้ งเป็นอยา่ งน้ี ๆ

คนที่ติดตามเหตุการณ์ทันโลกและไม่ตื่นข่าวนั้นเป็นคนที่ยืนอยู่อย่างมั่นคงเปน็ หลักที่พึ่งของคนอื่นได้
หนทางทจี่ ะใหไ้ ดม้ าซึง่ คุณสมบัตเิ หล่าน้ีก็คืออ่านหนังสอื

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 8

รายวิชา ท23101 ชื่อวิชา ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนมธั ยมฐานบินกำแพงแสน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรู้เรื่อง การอ่านเพ่ือจับใจความสำคัญ

จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชว่ั โมง

1.มาตรฐานการเรียนรู้
มฐ.ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดำเนนิ

ชวี ิต และมนี สิ ัยรักการอ่าน

2.ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้
ม. 3/3 ระบุใจความสำคญั และรายละเอยี ดของข้อมลู ท่ีสนบั สนนุ จากเร่ืองทอี่ า่ น
ม. 3/4 อา่ นเรื่องต่าง ๆ แลว้ เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความ และรายงาน
ม. 3/5 วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินเร่ืองทอี่ ่านโดยใช้กลวิธีการเปรยี บเทียบ เพ่ือใหผ้ ้อู ่านเขา้ ใจ

ไดด้ ีขนึ้
ม. 3/6 ประเมนิ ความถูกตอ้ งของขอ้ มูลท่ใี ชส้ นับสนุนในเรื่องท่ีอา่ น
ม. 3/7 วิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล การลำดับความ และความเปน็ ไปไดข้ องเร่ือง
ม. 3/8 วเิ คราะหเ์ พ่ือแสดงความคิดเห็นโต้แย้งเกีย่ วกับเร่ืองที่อ่าน
ม. 3/9 ตคี วามและประเมินคุณค่าแนวคิดที่ได้จากงานเขียนอย่างหลากหลาย เพอื่ นำไปใช้แกป้ ญั หา

ในชีวติ
ม. 3/10 มมี ารยาทในการอ่าน

3.สาระสำคญั
การอ่านออกเสยี งวรรณกรรมประเภทรอ้ ยแก้ว ผอู้ ่านต้องอา่ นออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ ง ชัดเจน และมีลีลา

การอา่ นเหมาะสมกับประเภทของงานเขยี น เพือ่ ถ่ายทอดอารมณ์ไปสูผ่ ู้ฟังใหค้ ล้อยตามไปกับเรอื่ งราวหรือบท
ประพันธ์ที่อา่ น

4.จุดประสงค์รายวชิ า K)
การอ่านเพ่ือจับใจความสำคัญ เป็นพื้นฐานท่จี ำเปน็ ในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝกึ ฝนใหเ้ กิด

ความชำนาญจนสามารถจบั ใจความสำคัญในงานเขียนทุกประเภท

5.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น P
จับใจความจากเรื่องท่ีอา่ น

6.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ A
เหน็ ความสำคญั ของการอ่านจบั ใจความและมีมารยาทในการอ่าน

7.เนื้อหาสาระ

การอ่านจับใจความ
8.กจิ กรรมการเรยี นรู้

(ชวั่ โมงท่ี 1)

1. ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ ำถามทา้ ทาย ดังนี้
• นักเรียนคิดว่าการจับใจความจากการฟังกับการจับใจความจากการอ่าน มีความยากง่ายแตกต่าง

กันอย่างไร
2. ครนู ำนกั เรยี นสนทนาเกี่ยวกับการอ่านจบั ใจความ ซกั ถามนักเรียนว่ามวี ิธีการอ่านอย่างไรจึงจะเข้าใจ

สาระสำคญั ของเรื่องได้ และถามวา่ การเขา้ ใจสาระสำคัญของเรอ่ื งท่ีอา่ นน้ันสำคัญอย่างไร
3. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความรู้เร่ือง การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ จากนั้นครูทดสอบความเข้าใจโดยให้

นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคำถาม ดงั นี้
• การอ่านจับใจความมีลักษณะอย่างไร (การอ่านเพื่อค้นหาความคิดหลัก หรือสาระสำคัญ

ของเร่อื งทอ่ี ่าน)
• ทักษะสำคัญท่คี วรปฏบิ ัติควบคูไ่ ปกับการอา่ นจับใจความ คือทักษะใด (การอ่านตีความ)
• ใจความสำคญั ของเร่อื งทอ่ี า่ นสามารถอยู่ในส่วนใดของย่อหนา้ ไดบ้ า้ ง (1. ตำแหน่งต้นของ

ย่อหน้าและมีรายละเอียดวางอยู่ในตำแหน่งถัดไป 2. ตำแหน่งท้ายของย่อหน้า 3. ตำแหน่งต้นและท้าย
ยอ่ หน้า มีรายละเอยี ดอยตู่ รงกลาง 4. ตำแหน่งกลางย่อหน้า มีรายละเอยี ดอย่ตู อนตน้ กบั ตอนทา้ ย)

. ให้นักเรียนอ่านแถบข้อความที่ 1 - 2 พร้อม ๆ กันแล้วช่วยกันตอบคำถามว่าใจความสำคัญของ
ข้อความคอื อะไร

แถบขอ้ ความที่ 1

ความสมบรู ณ์ของชวี ิตมาจากความเข้าใจชวี ิตพ้ืนฐาน คือเข้าใจธรรมชาติ
เขา้ ใจความเป็นมนษุ ย์ และความสมั พันธท์ ่เี ก้ือกูลกนั ระหว่างมนุษย์กบั มนุษย์และ
มนษุ ยก์ ับธรรมชาติ มีความรักความเมตตาต่อเพ่ือนมนุษย์และธรรมชาติ
อยา่ งจรงิ ใจ

จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ
• ใจความสำคัญของข้อความคืออะไร (ความสมบูรณ์ของชีวิตมาจากความเข้าใจชีวิต
เป็นพ้นื ฐาน)
แถบขอ้ ความที่ 2

ความเครยี ดทำใหเ้ พมิ่ ฮอรโ์ มนอะดรนี าลีนในเลอื ด ทำใหห้ ัวใจเต้นเรว็
เสน้ เลอื ดบบี ตัว กล้ามเนือ้ เขมง็ ดงึ ระบบย่อยอาหารผดิ ปกติ เกดิ อาการปวดหวั
ปวดท้อง ใจส่ัน แข้งขาอ่อนแรง ความเครียดจึงเป็นตวั การให้แก่เรว็

บาหยัน อ่มิ สำราญ

• ใจความสำคญั ของขอ้ ความคืออะไร (ความเครียดทำใหแ้ ก่เร็ว)

5. ครเู ฉลยคำตอบพรอ้ มท้ังอธบิ ายเพิ่มเตมิ
(ชวั่ โมงที่ 2)

1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ทำใบงาน เรื่อง การวิเคราะห์องค์ประกอบของบทละครพูดเรือ่ ง
เหน็ แก่ลูก โดยนกั เรียนจะต้องศึกษาบทละครพดู เรอื่ ง เห็นแกล่ กู แล้ววิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของเรื่อง

2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน เมื่อครบทุกกลุ่มแล้วจึงเฉลยคำตอบ และให้
นกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง

3. ให้นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังนี้
• การอ่านเพื่อจับใจความสำคัญ เป็นพื้นฐานที่จำเปน็ ในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝึกฝนให้เกิด

ความชำนาญจนสามารถจับใจความสำคัญในงานเขียนทกุ ประเภท
9.สื่อและแหลง่ เรียนรู้

1. แถบขอ้ ความ
2. ใบงาน

10.การวดั ผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ ชนิ้ งาน/ภาระ วิธีการประเมิน เครื่องมือ ผปู้ ระเมิน เกณฑ์ประเมิน
งาน
1. นักเรียน 1. สังเกต การประเมิน
สามารถอ่านจับใจความ 1. ใบงาน พฤติกรรมของ
ไดถ้ ูกต้อง นกั เรยี นในการ 1. แบบสงั เกต ครู ผา่ นเกณฑร์ ้อย
เขา้ รว่ มกิจกรรม
2. สงั เกต พฤติกรรมการ ละ 80
พฤติกรรมของ
นักเรยี นในการ เข้ารว่ มกจิ กรรม
เข้าร่วมกจิ กรรม
กลมุ่ 2. แบบสังเกต
3.ตรวจใบงาน
พฤติกรรมการ

เข้ารว่ มกจิ กรรม

กลมุ่

11.กิจกรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย
11.1 กิจกรรมเสนอแนะ
11.2 งานที่มอบหมาย
1. ใบงาน เรือ่ ง การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบของบทละครพูดเรื่อง เห็นแก่ลูก

ลงชือ่
(นางสาวชลธิชา ศิรอิ มรพันธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู

บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ท่ี 8

รายวิชา ท23101 ชือ่ วชิ า ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นมัธยมฐานบินกำแพงแสน ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรู้เร่ือง การอา่ นเพื่อจบั ใจความสำคัญ

จำจำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ชวั่ โมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง

1.ผลการการประเมินบรรยากาศในการจัดการเรยี นรโู้ ดยภาพรวม

2. ปญั หาและอปุ สรรค

3.ขอ้ เสนอแนะและการแก้ไข

ลงช่อื
(นางสาวชลธชิ า ศริ อิ มรพันธุ์)
ตำแหน่ง ครู

ช่อื ......................................................................................................ชนั้ .......................เลขที่..................

ใบงาน เรอ่ื ง การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบของบทละครพูดเรอ่ื ง เหน็ แกล่ ูก

ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาบทละครพูดเร่ือง เห็นแก่ลกู แล้ววิเคราะห์องคป์ ระกอบของเร่อื งดังต่อไปน้ี

1.1 โครงเร่อื ง
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
1.2 ตัวละคร (บอกลักษณะนิสัยของตวั ละคร ยกตวั อยา่ งบทสนทนามาสนบั สนนุ คำตอบ)

- นายลำ้
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

- พระยาภักดนี ฤนาถ
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

- แมล่ ออ

1.3 ฉาก (เวลาและสถานที่)
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

1.4 แก่นเรอ่ื ง
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
1.5 กลวธิ ใี นการแตง่ (ยกตัวอยา่ งข้อความมาสนับสนุน)

- การเปดิ เรอื่ ง
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

- การดำเนินเร่อื ง
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

- การเล่าเรื่อง
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

- การปดิ เรื่อง
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

เฉลย...ใบงาน เรื่อง การวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบของบทละครพดู เรอ่ื ง เหน็ แก่ลูก

ใหน้ กั เรยี นศึกษาบทละครพูดเร่ือง เหน็ แกล่ กู แล้ววิเคราะห์องคป์ ระกอบของเรอ่ื งดงั ต่อไปน้ี

1.1 โครงเรอ่ื ง
นายลำ้ ผู้เคยทจุ ริตต่อหน้าทจี่ นไปติดคุก กลับมาหาพระยาภักดีนฤนาถเพื่อทวงสิทธ์คิ วามเปน็ บิดา
ของแมล่ ออ ซึ่งปจั จุบนั พระยาภกั ดีนฤนาถไดช้ ุบเลี้ยงเหมือนลกู สาวและกำลงั จะแต่งงาน พระยา-
ภักดีนฤนาถเกรงว่าแม่ลออจะเส่ือมเสียท่ีมีบิดาเป็นนายล้ำจึงพยายามกีดกัน เม่ือนายล้ำได้พบ
แม่ลออ ความดแี ละภาพของบดิ าท่ีแสนดใี นใจของแม่ลออทำให้นายล้ำสำนกึ ได้ และยอมจากไป
โดยไม่เปดิ เผยตวั ตน

1.2 ตวั ละคร (บอกลกั ษณะนสิ ยั ของตวั ละคร ยกตวั อยา่ งบทสนทนามาสนับสนนุ คำตอบ)
- นายลำ้
นายล้ำเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี หน้าตาเหี่ยวย่น ผมหงอก ดูเป็นคนด่ืมเหล้าจัด มีอุปนิสัย
เห็นแก่ตัว รักความสบาย มักประพฤติตัวไปในทางทุจริต ดังจะเห็นได้จากบทสนทนาที่นายล้ำ
กล่าวกับพระยาภักดี “เจา้ คุณ! ผมจะต้องพูดตามตรง ผมน่ะมันหมดทางหากินแลว้ ไม่แลเห็นทางอ่นื
นอกจากท่ีจะอาศัยลูกสาวให้เขาเล้ียง” บทสนทนาน้ีแสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของนายล้ำ
แต่ถึงอย่างไร ในตอนท้ายนายล้ำก็ยังรัก และยอมเสียสละเพื่อลูก โดยไม่เปิดเผยเรื่องที่ตนเอง
เป็นบิดาของแม่ลออ

- พระยาภกั ดีนฤนาถ
พระยาภกั ดนี ฤนาถเปน็ ชายอายรุ ุน่ เดียวกบั นายลำ้ หรืออายมุ ากกวา่ เล็กนอ้ ย แต่งกายภูมฐิ านเปน็
ผู้มีอำนาจราชศักดิ์ และคณุ ธรรม ดังจะเห็นไดจ้ ากบทสนทนาทกี่ ลา่ วกบั นายลำ้ “...ฉันก็ไดต้ ้ังใจ
ทะนุถนอมแม่ลออเหมือนลูกในอกฉัน ฉันได้กระทำหนา้ ที่พ่อตลอดมาโดยความเต็มใจจริง ๆ…”
แมล่ ออเปน็ หญงิ สาวอายุ 17 ปี ได้รับการอบรมเลีย้ งดูที่ดี จึงงดงามทัง้ รูปกาย กิรยิ ามารยาทและ
แสดงให้เหน็ ถึงคุณธรรมของพระยาภกั ดีท่รี ัก ดูแล และคอยหว่ งใยอนาคตของแมล่ ออประหนึง่
ลูกในไส้

- แม่ลออ
จติ ใจ เปน็ คนมองโลกในแงด่ ี ดังจะเหน็ ได้จากบทสนทนาของแมล่ ออท่ีกลา่ วถงึ บิดาว่า “…ดิฉัน
ชอบหน้าเสียจริง ๆ หน้าตาเป็นคนซ่ือ ใจคอกว้างขวาง, ถ้าใครบอกดิฉันว่าเป็นคนไม่ดี ดิฉัน
ไมย่ อมเชื่อเปน็ อันขาดเทยี ว..” คำพูดนีเ้ องที่ทำให้นายล้ำพ่ายแพ้ต่อความรักและความดีของลกู

1.3 ฉาก (เวลาและสถานที่)
ฉากเปน็ เหตุการณ์ตามเนื้อเร่ืองท่อี ยู่ช่วงยุคสมยั รัชกาลท่ี 6 ยศถาบรรดาศักดข์ิ องขา้ ราชการจงึ ยงั
คงเรยี กขานตามยคุ สมยั นัน้ หญิงในตระกลู ทีม่ ฐี านะดไี มจ่ ำเป็นต้องทำงานนอกบา้ นและแต่งงาน
เมือ่ อายยุ งั น้อย ส่วนฉากท่ีเป็นสถานท่ี คือ ห้องหนงั สือ ภายในบา้ นของพระยาภักดีนฤนาถ

1.4 แก่นเรือ่ ง
1.5 กแลกว่นิธเใี รนอ่ื กงารคแอื ตส่งำ(นยึกขตอวั องคยว่าางมข้อเปค็นวพามอ่ มแาลสะนคบัวาสมนเนุส)ยี สละของพอ่ ทีม่ ตี ่อลูก

- การเปดิ เรอ่ื ง
เปิดเรื่องด้วยการบรรยายฉาก ซ่ึงทำให้ง่ายต่อการแสดงและการกำกับการแสดงบทละครพูด
ด- งั ข้อความ “ฉากห้องหนังสือ ในบ้านพระยาภักดีนฤนาถ มีประตูข้างซ้ายเข้าไปในห้องนอน
ขา้ งขวาออกไปเฉลยี งทางขน้ึ ลง หลงั มีหน้าต่าง เคร่ืองประดับประดาไม่เป็นของมีราคา แต่ใช้ไดด้ ี ๆ”

การดำเนนิ เรอ่ื ง
ดำเนนิ เร่อื งตามลำดับปฏิทนิ คือ ตามลำดับเวลากอ่ นหลัง

- การเล่าเรอ่ื ง

ใช้บทสนทนาเลา่ เร่ือง ซึ่งเป็นวิธีการทใ่ี ช้ในบทละครพูด
- การปดิ เรอ่ื ง

ปดิ เร่ืองด้วยการบรรยายอากปั กิรยิ าของตัวละครและฉาก ดงั ข้อความ “พระยาภกั ดยี นื มองไปทางประตู
ครู่หน่งึ แล้วกเ็ ดินออกไปที่หน้าต่างทางด้านหลงั ยนื พิงกรอบหน้าต่าง ตามองออกไปนอกหนา้ ตา่ งน่ิงอยู่

จนปิดม่าน”


Click to View FlipBook Version