แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 19
รายวิชา ท23101 ช่ือวิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
แผนการจัดการเรยี นร้เู รื่อง ความหมายโดยตรงและโดยนยั
จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวน 3 คาบ/ชัว่ โมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชว่ั โมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
ม.ฐ.ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนนิ
ชวี ิต และมนี สิ ัยรกั การอ่าน
2.ตัวช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้
ม. 3/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้องและเหมาะสมกับเร่ืองทอ่ี ่าน
ม. 3/2 ระบุความแตกต่างของคำท่ีมีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนยั
ม. 3/10 มมี ารยาทในการอ่าน
3.สาระสำคญั
การอ่านออกเสียงวรรณกรรมประเภทร้อยแก้ว ผู้อ่านต้องอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง ชัดเจน และมีลีลา
การอ่านเหมาะสมกับประเภทของงานเขียน เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟังให้คล้อยตามไปกับเรื่องราวหรือ
บทประพันธท์ ี่อา่ น
4.จุดประสงคร์ ายวิชา K
อธิบายลักษณะของคำที่มีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย
5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน P
อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว
6.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ A
เหน็ ความสำคัญของการอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว
7.เน้ือหาสาระ
การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว
8.กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดงั นี้
• การอา่ นออกเสยี งข่าวหรอื บทความแตกตา่ งจากการอ่านนวนยิ ายอยา่ งไร
2. ครูนำนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับกลวิธีการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว ว่านักเรียนมีวิธีการอ่านอย่างไร
จึงจะใช้น้ำเสียงในการอ่านได้อย่างเหมาะสม แล้วนำสนทนาเกี่ยวกับคำและข้อความต่าง ๆ ที่มีความหมาย
โดยนัย ซักถามนกั เรยี นว่าจะทราบได้อยา่ งไรวา่ คำใดมีความหมายโดยตรงหรือความหมายโดยนยั
3. ให้นกั เรยี นศึกษาใบความรู้เร่ือง คำท่ีมคี วามหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ครูอธิบายเพิ่มเติม
และยกตวั อยา่ งเพื่อใหน้ ักเรียนเข้าใจได้อย่างชัดเจน
4. ครูนำบตั รคำจำนวน 10 บัตร มาใหน้ กั เรียนรว่ มกันวิเคราะหค์ วามหมายโดยตรงและความหมาย
โดยนยั
• นางฟา้
• ทางออก
• ดวงใจ
• หงส์
• เคม็
• ดาว
• เกา้ อี้
• นกขมนิ้
• เพชร
• ดอกหญา้
5. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ช่วยกันหาคำที่มีความหมายโดยนัยที่ปรากฏในพระบรมราโชวาท
อธบิ ายความหมายของคำ แล้วส่งตวั แทนนำเสนอหน้าชัน้ เรียน
6. ให้นักเรียนแต่งนิทานกลุ่มละ 1 เรื่อง โดยใช้คำที่มีความหมายโดยนัย จากนั้นให้นักเรียนทั้งกลุ่มนำ
นทิ านมาอา่ นออกเสียงหนา้ ชัน้ เรียน โดยใหน้ ักเรยี นและครรู ว่ มกนั ประเมนิ การอา่ นออกเสียง
7. ใหน้ ักเรียนและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้
• การอ่านออกเสียงวรรณกรรมประเภทร้อยแก้ว ผู้อ่านต้องอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง ชัดเจน และมี
ลีลาการอ่านเหมาะสมกับประเภทของงานเขียน เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟังให้คล้อยตามไปกับเรื่องราวหรือ
บทประพันธ์ทีอ่ า่ น
9.สอื่ และแหลง่ เรยี นรู้
1. ใบความรู้
2. บัตรคำ
10.การวัดผลประเมินผล ชิน้ งาน/ภาระ วธิ กี ารประเมนิ เครื่องมือ ผ้ปู ระเมิน เกณฑ์ประเมิน
จดุ ประสงค์ งาน
1. สังเกต การประเมนิ
1. นักเรยี นสามารถ - พฤติกรรมของ
อธบิ ายลักษณะของคำที่ นกั เรยี นในการ 1. แบบสังเกต ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย
มีความหมายโดยตรง เข้ารว่ มกจิ กรรม
และความหมายโดยนยั 2. สงั เกต พฤติกรรมการ ละ 80
ได้ พฤติกรรมของ
2. นักเรียนสามารถอ่าน นกั เรยี นในการ เขา้ ร่วมกิจกรรม
ออกเสียงบทร้อยแก้วได้ เข้ารว่ มกิจกรรม
กล่มุ 2. แบบสงั เกต
พฤติกรรมการ
เข้าร่วมกิจกรรม
กลมุ่
11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
-
11.2 งานทีม่ อบหมาย
-
ลงชอ่ื
(นางสาวชลธชิ า ศริ ิอมรพันธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู
บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ท่ี 19
รายวิชา ท23101 ชื่อวิชา ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
โรงเรยี นมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง ความหมายโดยตรงและโดยนยั
จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ชั่วโมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ช่ัวโมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจดั การเรียนรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอุปสรรค
3.ข้อเสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงชอ่ื
(นางสาวชลธชิ า ศิรอิ มรพันธุ์)
ตำแหน่ง ครู
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 20
รายวชิ า ท23101 ช่อื วชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
โรงเรียนมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
แผนการจดั การเรียนร้เู ร่ือง คัดไทย ตงั้ ใจเขียน
จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวน 3 คาบ/ชั่วโมง ตอ่ สัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ช่ัวโมง
1.มาตรฐานการเรยี นรู้
ม.ฐ.ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ
2.ตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้
ม. 3/1 คดั ลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั
ม.3/10 มมี ารยาทในการเขียน
3.สาระสำคญั
การคดั ลายมอื เปน็ ส่วนหน่งึ ของทกั ษะการเขียนทีส่ ำคัญมาก เพราะทำใหต้ วั หนงั สอื อ่านงา่ ย สบายตา
เป็นระเบียบเรียบร้อย ดังนั้นจึงมีความจำเปน็ ที่จะต้องมีการฝึกคัดลายมือเพื่อให้อ่านง่าย สะอาดและถูกต้อง
ตามแบบอยา่ งแทจ้ รงิ เพอ่ื ให้เกดิ สมั ฤทธผิ ลในดา้ นการสอื่ ความหมาย
4.จุดประสงค์รายวิชา K
อธิบายหลกั การคัดลายมือ
5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น P
คดั ลายมอื ตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด
6.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ A
เหน็ คุณคา่ ของลายมือทีส่ วยงามและมีมารยาทในการเขียน
7.เนื้อหาสาระ
การคดั ลายมือ
8.กจิ กรรมการเรียนรู้
(ชัว่ โมงที่ 1)
1. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดังน้ี
• คำกล่าวที่ว่า “ลายมอื นนั้ คือยศ” มีความหมายวา่ อย่างไร
2. ครูคัดเลือกสมุดของนักเรียนมา 2-3 เล่ม เปิดให้นักเรียนทุกคนดู จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันแสดง
ความคดิ เหน็ สงั เกตวิธีเขยี นและลกั ษณะตัวอักษรของแตล่ ะคน
(ชัว่ โมงที่ 2)
1. ใหน้ กั เรยี นศึกษาความรู้ เรื่อง การคัดลายมอื แล้วรว่ มกันสรปุ ความเขา้ ใจ
2. ให้นักเรียนทำเรื่อง การคัดลายมือ โดยค้นคว้าและเลือกคำประพันธ์ท่ีนักเรียนชื่นชอบ จากแหล่ง
การเรียนรู้ต่าง ๆ และนำคำประพันธ์นั้นมาคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด พร้อมทั้งอ้างอิงที่มาของข้อมูลด้วย
แล้วรวบรวมผลงานส่งให้ครตู รวจ
3. ใหน้ ักเรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
• การคัดลายมือเป็นส่วนหนึ่งของทักษะการเขียนที่สำคัญมาก เพราะทำให้ตัวหนังสือ
อ่านง่าย สบายตา เป็นระเบียบเรียบร้อย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการฝึกคัดลายมือเพื่อให้อ่านง่าย
สะอาดและถกู ต้องตามแบบอย่างแทจ้ ริง เพอื่ ให้เกิดสมั ฤทธิผลในด้านการสือ่ ความหมาย
9.สอื่ และแหลง่ เรยี นรู้
1. ใบความรู้
10.การวัดผลประเมินผล ชิน้ งาน/ภาระ วธิ ีการประเมนิ เครือ่ งมอื ผ้ปู ระเมนิ เกณฑป์ ระเมิน
จุดประสงค์ งาน
1. สงั เกต การประเมนิ
1. นกั เรียนสามารถ 1. ชิ้นงาน เรอื่ ง พฤติกรรมของ
อธบิ ายหลักการคัด การคดั ลายมือ นกั เรยี นในการ 1. แบบสังเกต ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย
ลายมือได้ เขา้ ร่วมกิจกรรม
2. นักเรียนสามารถคดั 2. ตรวจจาก พฤติกรรมการ ละ 80
ลายมอื ตวั บรรจงคร่งึ ช้ินงาน
บรรทดั ได้ เขา้ รว่ มกิจกรรม
11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย
11.1 กิจกรรมเสนอแนะ
ครูจัดประกวดคดั ลายมือระดับห้องและระดับชน้ั เรียนทุก ๆ เดอื น
11.2 งานทีม่ อบหมาย
ชน้ิ งาน เร่อื ง การคัดลายมอื
ลงช่ือ
(นางสาวชลธชิ า ศิรอิ มรพันธุ์)
ตำแหนง่ ครู
บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ท่ี 20
รายวิชา ท23101 ชื่อวชิ า ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
โรงเรียนมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
แผนการจดั การเรียนรเู้ รื่อง คัดไทย ตัง้ ใจเขียน
จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่วั โมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจัดการเรยี นรโู้ ดยภาพรวม
2. ปัญหาและอปุ สรรค
3.ข้อเสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงชอื่
(นางสาวชลธิชา ศิรอิ มรพันธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู
ชื่อ......................................................................................................ชั้น.......................เลขที่..................
ชิ้นงาน เรอื่ ง การคัดลายมือ
ให้นักเรยี นค้นคว้าและเลือกคำประพันธท์ ี่นกั เรียนชืน่ ชอบ จากแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ และนำคำประพันธ์นน้ั
มาคัดลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทัดพรอ้ มท้งั อา้ งอิงที่มาของขอ้ มลู ด้วย
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
ทม่ี า________________________________________________________________
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 21
รายวิชา ท23101 ชอื่ วิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
โรงเรยี นมธั ยมฐานบินกำแพงแสน ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณหี นีนางผเี สอื้ สมทุ ร
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ชวั่ โมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชั่วโมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
ม.ฐ.ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแกป้ ัญหาในการดำเนิน
ชวี ิต และมีนิสยั รักการอ่าน
2.ตัวช้ีวดั / ผลการเรียนรู้
ม. 3/3 ระบุใจความสำคัญและรายละเอยี ดของข้อมูลท่ีสนับสนนุ จากเรือ่ งท่อี ่าน
ม. 3/4 อา่ นเรื่องต่าง ๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคิด ผังความคดิ บนั ทึก ย่อความ และรายงาน
ม. 3/5 วิเคราะหว์ ิจารณ์และประเมินเรื่องที่อา่ นโดยใชก้ ลวิธีการเปรียบเทียบเพื่อให้ผู้อ่านเขา้ ใจได้ดขี ้ึน
ม. 3/6 ประเมินความถกู ต้องของข้อมูลทใี่ ช้สนับสนนุ ในเร่ืองท่ีอ่าน
ม. 3/7 วจิ ารณค์ วามสมเหตุสมผล การลำดบั ความ และความเป็นไปได้ของเร่ือง
ม. 3/8 วิเคราะห์เพ่ือแสดงความคดิ เหน็ โต้แยง้ เกยี่ วกบั เร่อื งท่ีอา่ น
ม.3/9 ตีความและประเมนิ คุณคา่ แนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลายเพอื่ นำไปใชแ้ ก้ปัญหาใน
ชีวติ
ม. 3/10 มมี ารยาทในการอ่าน
3.สาระสำคญั
การอ่านจับใจความ วิเคราะห์ และวิจารณ์ เป็นกระบวนการที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน เป็น
ทกั ษะสำคญั ท่ีจะทำให้การอ่านมีประสทิ ธิภาพ และเป็นการสร้างเสริมการอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณ
4.จุดประสงค์รายวิชา K
อธบิ ายเก่ยี วกบั การอ่านจับใจความจากเร่ืองท่ีอ่าน
5.สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน P
จับใจความจากเรื่องที่อา่ น
6.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ A
เห็นความสำคัญของการอ่านและมีมารยาทในการอ่าน
7.เนอื้ หาสาระ
การอา่ นจบั ใจความ
8.กิจกรรมการเรียนรู้
(ช่ัวโมงที่ 1)
1. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั น้ี
• นักเรียนคดิ วา่ การอ่านจบั ใจความเป็นประโยชน์ตอ่ การเรียนรูใ้ นระดับชั้นท่สี ูงขน้ึ อย่างไร
2. ใหน้ กั เรียนศึกษาบทนำเรื่องและท่ีมาของนิทานคำกลอน เรอื่ ง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนาง
ผีเส้อื สมุทร จากนน้ั ครูถามนักเรยี นเพือ่ สรปุ ความเขา้ ใจ ดงั น้ี
• ผแู้ ตง่ นทิ านคำกลอนเรื่อง พระอภัยมณี ตอน พระอภยั มณหี นนี างผีเสื้อสมุทร คือใคร มีบทบาทสำคัญ
ต่อแวดวงวรรณคดีไทยอย่างไร (สุนทรภู่ เป็นกวีเอกของไทย มีผลงานวรรณคดีหลายเรื่อง
ทีจ่ ัดเปน็ วรรณคดีมรดก มลี ลี ากลอนทโี่ ดดเดน่ ได้รบั การยกยอ่ งใหเ้ ปน็ กวเี อกของโลกจากองค์การยูเนสโก)
• นิทานคำกลอนเรื่อง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร เป็นผลงานวรรณคดีที่มี
ความโดดเดน่ อย่างไร (มีความไพเราะทง้ั เร่อื งเสยี งและความหมาย)
• นิทานคำกลอนเร่ือง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณหี นีนางผีเสอื้ สมุทร สะทอ้ นใหเ้ หน็ จินตนาการ
ของผู้แต่งอย่างไร (เป็นจินตนาการที่เกิดจากการเรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์ของผู้แต่ง นำมาผสมผสานให้มี
สสี นั มีตวั ละครทเ่ี ปน็ ทงั้ คน ยักษ์ เงือก ผเี สื้อสมุทร ชเี ปลือย มา้ นิลมังกร)
(ชั้วโมงที่ 2)
3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ครูกำหนดคำประพันธ์จากนิทานคำกลอนเรื่อง พระอภัยมณี ตอน
พระอภัยมณีหนนี างผีเสื้อสมุทร ใหก้ ลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ ถอดความและจับใจความสำคัญของคำประพันธ์
ทค่ี รูกำหนด สง่ ตวั แทนนำเสนอหนา้ ช้ันเรยี น ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
4. ให้นักเรียนแลกเปลี่ยนใจความสำคัญกับเนื้อหาคำประพันธ์ที่ถอดความแล้วของกลุ่มตนเองกับกลุ่มอ่ืน
แล้วนำเนื้อหาที่ได้รับมาแสดงบทบาทสมมุติ ให้นักเรียนและครูร่วมกันชมบทบาทสมมุติและวิจารณ์ว่ากลุ่มใด
แสดงไดด้ ีท่สี ดุ
5. ใหน้ กั เรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดงั นี้
• การอ่านจับใจความ วิเคราะห์ และวิจารณ์ เป็นกระบวนการที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน เป็น
ทกั ษะสำคัญท่ีจะทำใหก้ ารอ่านมีประสิทธิภาพ และเป็นการสร้างเสริมการอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณ
9.ส่อื และแหล่งเรียนรู้
1. หนงั สือวรรณคดีวจิ ักษ์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
10.การวดั ผลประเมนิ ผล ชนิ้ งาน/ภาระ วธิ กี ารประเมิน เครอ่ื งมอื ผ้ปู ระเมนิ เกณฑ์ประเมิน
จุดประสงค์ งาน
1. สงั เกต การประเมิน
1. นักเรยี นสามารถจับ - พฤติกรรมของ
ใจความจากเรื่องที่อ่าน นักเรียนในการ 1. แบบสังเกต ครู ผา่ นเกณฑร์ ้อย
ได้ เขา้ ร่วมกิจกรรม
2. สังเกต พฤติกรรมการ ละ 80
พฤติกรรมของ
นักเรียนในการ เข้ารว่ มกิจกรรม
เขา้ รว่ มกิจกรรม
กลมุ่ 2. สังเกต
พฤติกรรมของ
นักเรยี นในการ
เข้ารว่ มกิจกรรม
กล่มุ
11.กิจกรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
ให้นักเรียนค้นคว้าบทความขนาดสั้นจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาคนละ1 บทความ สรุปใจความสำคัญ
และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน แล้วนำมาแลกเปลี่ยนกันตรวจผลงานกับเพื่อนในห้อง เพ่ือ
ประเมินผลการจับใจความของตนเอง
11.2 งานทม่ี อบหมาย
-
ลงช่ือ
(นางสาวชลธชิ า ศริ ิอมรพนั ธุ์)
ตำแหน่ง ครู
บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ท่ี 21
รายวชิ า ท23101 ชอื่ วชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียน มัธยมฐานบินกำแพงแสน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรู้เรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนนี างผเี สื้อสมทุ ร
จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ชว่ั โมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ช่วั โมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจดั การเรยี นรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอุปสรรค
3.ข้อเสนอแนะและการแก้ไข
ลงชอื่
(นางสาวชลธชิ า ศริ อิ มรพนั ธุ์)
ตำแหนง่ ครู
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 22
รายวิชา ท23101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
แผนการจดั การเรียนร้เู รื่อง ประโยคซับซ้อน ไวยากรณ์น่า
จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ตอ่ สัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชัว่ โมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
ม.ฐ.ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลังของ
ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ
2.ตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้
ม. 3/2 วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซ้อน
3.สาระสำคญั
ประโยคซับซ้อน เกดิ จากประโยคและส่วนขยายมาเรยี บเรยี งเข้าดว้ ยกนั ถา้ ผู้อ่านหรือผู้ฟังสามารถวเิ คราะห์
โครงสร้างในประโยคได้ กจ็ ะเข้าใจใจความของประโยคซบั ซอ้ นอย่างชัดเจน
4.จดุ ประสงค์รายวิชา K
อธบิ ายลักษณะของประโยคซับซอ้ น
5.สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น P
วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งของประโยคซับซอ้ น
6.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ A
ตระหนักในคุณคา่ ของการใชภ้ าษาให้ถกู ต้อง
7.เนือ้ หาสาระ
ประโยคซับซ้อน
8.กิจกรรมการเรยี นรู้
(ช่วั โมงที่ 1)
1. ให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดังน้ี
• จากข้อความทีก่ ลา่ วว่า “คำและกลุ่มคำสามารถสอื่ ความหมายและกระตุน้ ความร้สู ึกได้ก็จรงิ
แต่คำจะแสดงความคดิ และอารมณ์ไดอ้ ยา่ งแจ่มชัดกต็ ่อเม่ือประกอบกนั เป็นประโยคทีด่ ีในการสื่อความ
คือถกู ไวยากรณ์ กะทัดรดั และชดั เจน” นักเรียนเหน็ ดว้ ยกบั ขอ้ ความนีห้ รอื ไม่ อย่างไร
2. ใหน้ กั เรยี นอา่ นประโยคต่อไปน้ี
• พอ่ ปลูกตน้ ไม้
• แมป่ ลกู ตน้ ไม้
• พด่ี ูโทรทัศน์
• ฉันดโู ทรทศั น์
ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่าหากประโยคเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันจะเรียบ
เรียงใหมใ่ หก้ ระชบั ไดอ้ ย่างไร
4. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง ประโยคซับซอ้ น จากน้ันครูถามนักเรยี นเพอื่ สรปุ ความเขา้ ใจ ดงั น้ี
• ประโยคความเดียวที่ซับซ้อนหมายถึงอะไร (ประโยคความเดียวที่มีกลุ่มคำมาขยาย
ประธานหรอื ภาคแสดง)
• ประโยคความเดยี วที่มีความซบั ซอ้ นในภาคประธาน มีลกั ษณะอยา่ งไร จงยกตัวอย่าง (มีคำ
และกลมุ่ คำขยายประธานหรือประธานขน้ึ ต้นด้วยคำวา่ “การ” หรือ “ความ” ตามด้วยสว่ นขยาย
เชน่ ความขยันหม่ันเพียรอย่างย่งิ ยวดเปน็ ผลให้ถึงจุดหมายปลายทาง)
• ประโยคความเดียวท่ีซับซ้อนในภาคแสดง มลี ักษณะอย่างไร จงยกตวั อย่าง (มคี ำกริยาหลาย
คำหรือมคี ำกรยิ าเป็นส่วนขยายอยู่หลายแห่ง เช่น คนปา่ กลุม่ นั้นตา่ งกระโดดโลดเตน้ รา่ ยรำและร้องเพลง
ไปตามจังหวะกลอง)
• ประโยคความรวมที่ซับซ้อน มีลักษณะอย่างไร จงยกตัวอย่าง (1. ประโยคความรวมที่มี
ส่วนย่อยเป็นประโยคความรวมด้วยกัน เช่น ลุงและป้าไปตลาดนัดแต่ลูกและหลานไปเที่ยว
หา้ งสรรพสินคา้ 2.ประโยคความรวมท่ีมสี ่วนย่อยเป็นประโยคความซ้อน เช่น น้องชอบใหแ้ ม่ร้องเพลง
กล่อมเด็กแต่พี่ชอบให้แม่ร้องเพลงลูกทุ่ง 3. ประโยคความรวมที่ซับซ้อนซึ่งมีส่วนย่อยเป็นประโยค
ซบั ซอ้ น เช่น ท่ีสวนสาธารณะมกี ารจัดงานแสดงพรรณไม้ในทุกวันเสาร์ ดังนนั้ เมือ่ คุณพอ่ มเี วลาว่างคุณ
พ่อมกั พาคณุ แม่ไปเลอื กซือ้ พรรณไม้)
• ประโยคความซอ้ นทซี่ ับซอ้ น มลี ักษณะอยา่ งไร จงยกตัวอย่าง (1. ประโยคความซ้อนท่ีมี
ประโยคหลักหรือประโยคย่อยที่มีคำหรอื กลุ่มคำมาขยาย เช่น ฉันชอบคบเพื่อนที่มีน้ำใจเอือ้ เฟื้อเผื่อแผ่แก่
ทุกคน 2. ประโยคความซ้อนที่มีส่วนย่อยเป็นประโยคความรวม เช่น ฉันเห็นน้องกำลังนอนและพี่กำลัง
เดินเล่น 3. ประโยคความซ้อนที่มีส่วนย่อยเป็นประโยคความซ้อน เช่น ฉันตั้งใจเรียนเพื่อให้ตนเองมี
งานท่ดี ีทำในอนาคต ซึง่ จะทำให้สามารถเลีย้ งดูครอบครัวได้)
(ชว่ั โมงที่ 2)
1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มเป็นกล่มุ ใหญ่ 3 กลมุ่ สรปุ ความรูเ้ รื่องประโยคซับซ้อน ตามหัวข้อที่จบั ฉลากได้
ดังน้ี
• ประโยคความเดียวที่ซบั ซอ้ น
• ประโยคความรวมทซี่ บั ซอ้ น
• ประโยคความซ้อนท่ีซับซ้อน
พร้อมทั้งยกตัวอย่างเพื่อแสดงการวิเคราะห์ลักษณะของประโยคซับซ้อนชนิดนั้นให้เห็นอย่างชัดเจน
ครตู รวจสอบความถูกต้องพร้อมท้ังอธบิ ายเพ่มิ เติม
2. ให้นักเรียนทำใบงาน เร่อื ง การวิเคราะหป์ ระโยคซับซ้อน แล้วรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ให้นักเรียนทำกิจกรรมขยายประสบการณ์การเรียนรู้ โดยเขียนเปรียบเทียบโครงสร้างประโยคใน
ภาษาไทยและภาษาองั กฤษตามหวั ข้อท่ีกำหนด และเขียนเปรียบเทียบไวยากรณข์ องภาษาไทยและไวยากรณ์
ของภาษาองั กฤษว่าเหมือนและแตกต่างกันในประเดน็ ใดบา้ ง
4. ให้นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี
• ประโยคซับซ้อน เกิดจากประโยคและส่วนขยายมาเรียบเรยี งเข้าด้วยกัน ถ้าผู้อ่านหรือผูฟ้ ัง
สามารถวิเคราะห์โครงสร้างในประโยคได้ ก็จะเข้าใจใจความของประโยคซับซอ้ นอยา่ งชัดเจน
9.สอ่ื และแหล่งเรียนรู้
1. แถบประโยค
2. ใบงาน
10.การวดั ผลประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ ช้นิ งาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมนิ เคร่ืองมือ ผ้ปู ระเมนิ เกณฑป์ ระเมิน
การประเมิน
1. นักเรียนสามารถอธบิ าย ใบงานเรื่อง 1. สังเกต 1. แบบสงั เกต ครู ผ่านเกณฑ์ร้อย
ลักษณะของประโยค การวเิ คราะห์ พฤตกิ รรมของ พฤติกรรมการ ละ 80
ซบั ซ้อน ได้ ประโยคซับซอ้ น นักเรยี นในการเข้า เขา้ รว่ มกจิ กรรม
2. นกั เรยี นสามารถ ร่วมกิจกรรม 2. สงั เกต
วเิ คราะห์โครงสรา้ งของ 2. สังเกต พฤติกรรมของ
ประโยคซับซ้อนได้ พฤติกรรมของ นักเรยี นในการ
นกั เรยี นในการเข้า เข้าร่วมกจิ กรรม
ร่วมกิจกรรม กล่มุ
กล่มุ
3. ตรวจจากใบงาน
11.กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
-
11.2 งานทีม่ อบหมาย
ใบงานเร่ือง การวเิ คราะหป์ ระโยคซบั ซ้อน
ลงช่อื
(นางสาวชลธชิ า ศริ ิอมรพนั ธุ์)
ตำแหนง่ ครู
บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ท่ี 22
รายวิชา ท23101 ชือ่ วชิ า ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
โรงเรยี นมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง ประโยคซับซ้อน ไวยากรณน์ า่
จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่วั โมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ช่ัวโมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจัดการเรียนรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอุปสรรค
3.ข้อเสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงชอ่ื
(นางสาวชลธิชา ศิรอิ มรพนั ธุ์)
ตำแหนง่ ครู
ชือ่ ......................................................................................................ชัน้ .......................เลขท่ี..................
ใบงาน เรอื่ ง การวเิ คราะห์ประโยคซับซ้อน
ให้นกั เรียนวเิ คราะหป์ ระโยคท่ีกำหนดว่าเป็นประโยคซับซ้อนชนดิ ใด
1. การออกกำลงั กายอยา่ งสม่ำเสมอเปน็ ผลดีต่อสขุ ภาพ
______________________________________________________________________
2. เขาไมม่ าตามนดั ฉันจึงไปหาเขาทบ่ี ้าน แต่เขาไม่อยู่ฉนั จึงตดั สนิ ใจกลับบา้ น
_______________________________________________________________________
3. สงิ่ ทีส่ ำคญั ท่ีสุดในการดำเนินชวี ติ คือปจั จยั ส่ี แตอ่ ีกหน่งึ ปัจจยั สำคัญกค็ ือ คุณธรรม
______________________________________________________________________
4. เธอบอกวา่ จะมาตามสัญญาแต่เธอก็ไม่ทำอย่างท่ีเคยพูดไว้
______________________________________________________________________
5. พวกเราจำเปน็ ต้องขยนั หมั่นเพยี รมากกว่านเ้ี พ่ือความสำเรจ็ ในอนาคตของพวกเรา
______________________________________________________________________
6. คนทีท่ ำเพอื่ ชาติบา้ นเมืองสมควรถกู ยกย่องใหเ้ ป็นวรี บุรษุ เพราะการเสียสละเพอื่ ส่วนรวมเป็น
คุณธรรมทคี่ วรยึดถอื เปน็ แบบอยา่ ง
______________________________________________________________________
7. การประกอบพธิ กี รรมทางศาสนาเนอ่ื งในวันสำคัญต่าง ๆ เปน็ ประเพณที ย่ี ึดถือปฏิบตั ิกันมาเป็น
ระยะเวลานาน
______________________________________________________________________
8. เมื่อพ่อและแม่มาถึงโรงเรยี น ฉันและน้องกร็ ีบไปหิ้วกระเปา๋ มาขน้ึ รถทันที
______________________________________________________________________
9. คนท่มี ีน้ำใจและคนท่ที ำประโยชนเ์ พื่อสว่ นรวมยอ่ มไดร้ ับคำชมเชยจากสงั คมรอบขา้ ง
______________________________________________________________________
10. เขาไมช่ อบเด็กทไ่ี มม่ ีสัมมาคารวะเพราะมีพฤตกิ รรมแข็งกระด้างจนตอ้ งตักเตือนอยเู่ สมอ
______________________________________________________________________
เฉลย....ใบงาน เรอื่ ง การวเิ คราะหป์ ระโยคซับซ้อน
ให้นักเรียนวเิ คราะห์ประโยคทีก่ ำหนดว่าเปน็ ประโยคซับซอ้ นชนดิ ใด
๑. การออกกำลงั กายอย่างสม่ำเสมอเปน็ ผลดตี ่อสุขภาพ
ประโยคความเดียวที่มคี วามซับซอ้ นในภาคประธาน
๒. เขาไม่มาตามนดั ฉันจึงไปหาเขาทบ่ี า้ น แต่เขาไม่อยฉู่ ันจงึ ตดั สินใจกลับบ้าน
ประโยคความรวมซึ่งมีสว่ นประกอบเปน็ ประโยคความรวมต้ังแต่ 2 ประโยคขนึ้ ไป
๓. สิง่ ที่สำคญั ทส่ี ดุ ในการดำเนินชีวิตคือปัจจัยส่ี แตอ่ ีกหนึ่งปจั จัยสำคญั กค็ ือ คุณธรรม
ประโยคความรวมซึ่งมีสว่ นประกอบเป็นประโยคความเดียวท่ีซับซอ้ นตัง้ แต่ 2 ประโยคขึน้ ไป
๔. เธอบอกวา่ จะมาตามสญั ญาแต่เธอกไ็ ม่ทำอยา่ งที่เคยพดู ไว้
ประโยคความรวมซึ่งมีสว่ นประกอบเป็นประโยคความซ้อนตงั้ แต่ 2 ประโยคข้นึ ไป
๕. พวกเราจำเป็นต้องขยันหมั่นเพยี รมากกวา่ นีเ้ พ่ือความสำเร็จในอนาคตของพวกเรา
ประโยคความเดียวท่ีมีความซับซ้อนในภาคแสดง
๖. คนท่ีทำเพ่อื ชาติบา้ นเมืองสมควรถกู ยกย่องใหเ้ ป็นวีรบรุ ุษ เพราะการเสียสละเพอ่ื ส่วนรวมเปน็ คณุ ธรรมที่
คปวรระยโยดึ คถคอื วเาปม็นซแ้อบนบทอ่ีปยร่าะงโยคหลกั หรือประโยคย่อยมีความซับซอ้ น เพราะประกอบดว้ ยคำหรือกลุ่มคำ
ทม่ี าขยายยดื ยาว
7. การประกอบพธิ ีกรรมทางศาสนาเน่ืองในวันสำคญั ตา่ ง ๆ เป็นประเพณที ่ยี ึดถอื ปฏบิ ตั ิกันมาเป็นระยะ
เปวรละาโนยาคนความซ้อนทปี่ ระโยคหลกั หรือประโยคย่อยมีความซับซอ้ น เพราะประกอบด้วยคำหรือ
กลมุ่ คำที่มาขยายยดื ยาว
8. เมื่อพ่อและแม่มาถึงโรงเรยี น ฉันและน้องกร็ ีบไปหวิ้ กระเปา๋ มาข้ึนรถทันที
ประโยคความรวมซ่ึงมสี ว่ นประกอบเปน็ ประโยคความรวมตั้งแต่ 2 ประโยคข้นึ ไป
9. คนทีม่ ีน้ำใจและคนทีท่ ำประโยชน์เพอื่ สว่ นรวมย่อมได้รบั คำชมเชยจากสงั คมรอบขา้ ง
ประโยคความซ้อนที่มสี ว่ นประกอบเปน็ ประโยคความรวม
10. เขาไม่ชอบเด็กทไี่ มม่ ีสัมมาคารวะเพราะมีพฤติกรรมแข็งกระดา้ งจนต้องตักเตือนอย่เู สมอ
ประโยคความซ้อนที่มสี ่วนประกอบเปน็ ประโยคความซ้อนอยู่อีกชั้นหนง่ึ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 23
รายวชิ า ท23101 ชือ่ วชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
โรงเรยี นมธั ยมฐานบินกำแพงแสน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
แผนการจดั การเรยี นร้เู ร่ือง ขยายประสบการณ์การเรียนรู้
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ชัว่ โมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ช่วั โมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
ม.ฐ.ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนิน
ชวี ิต และมนี สิ ยั รกั การอา่ น
ม.ฐ.ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ
นำมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง
2.ตวั ช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้
ม. 3/9 ตีความและประเมนิ คุณคา่ แนวคดิ ท่ีได้จากงานเขยี นอยา่ งหลากหลายเพือ่ นำไปใชแ้ ก้ปัญหาใน
ชีวติ
ม. 3/10 มีมารยาทในการอ่าน
ม. 3/1 สรุปเน้อื หาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถิน่ ในระดับทีย่ ากยง่ิ ขนึ้
ม. 3/2 วเิ คราะห์วิถีไทยและคณุ คา่ จากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น
ม.3/3 สรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจากการอา่ นเพอื่ นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ
3.สาระสำคัญ
การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลสารสนเทศทำให้ได้รับความรู้ที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งผู้สืบค้นต้องมี
วิจารณญาณในการเลือกใช้ขอ้ มูลทถี่ กู ต้องและเป็นประโยชน์
4.จุดประสงคร์ ายวชิ า K
สรปุ เนอื้ หาจากเร่ืองที่อ่าน
5.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน P
สบื ค้นขอ้ มลู จากแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ
6.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ A
เหน็ ความสำคัญของการแสวงหาความรู้และใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม
7.เนอ้ื หาสาระ
1. ประวตั ิความเปน็ มาของการละคร
2. บทละครพระราชนพิ นธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หวั
8.กิจกรรมการเรียนรู้
(ชั่วโมงท่ี 1)
1. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดังนี้
• การแลกเปล่ยี นวัฒนธรรมมีประโยชนอ์ ย่างไร
2. ให้นักเรียนรว่ มกันสนทนาเกีย่ วกับประเภทของละครและวิวัฒนาการของละครไทย ตามที่นักเรียนมี
ความรู้
3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการละครจากแหล่งข้อมูล
สารสนเทศ แล้วบันทึกชื่อเว็บไซต์และรายละเอียดลงในแบบบันทึกข้อมูล พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นถึง
อิทธพิ ลของการละครในต่างประเทศท่สี ง่ ผลต่อการละครของไทย
4. ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าบทละครพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเรื่องอื่น ๆ
จากนั้นเลือกบทละคร 1 เรื่องที่นักเรียนคิดว่าควรนำไปเผยแพร่กับกลุ่มประเทศในประชาคมอาเซียนแล้วมา
นำเสนอแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ ครูอาจให้นักเรียนทำกิจกรรมนเ้ี ปน็ กลมุ่ หรอื รายบคุ คลก็ได้
( ชวั่ โมงท่ี 2)
1. ให้นักเรยี นร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ความรู้ท่ีได้ศึกษาในหนว่ ยการเรียนรู้นี้ วา่ นกั เรยี นชอบความรู้เร่ือง
ใดมากทส่ี ดุ เพราะเหตุใด และนักเรียนคิดว่าความรเู้ รื่องใดมปี ระโยชนก์ ับนกั เรยี นมากท่สี ุด เพราะเหตุใด
2. ให้นักเรียนทำชิ้นงาน เรื่อง การเขียนบันทึกการเรียนรู้โดยเขียนความรู้ ความคิด และความรู้สึก
อย่างอิสระ จากการเรียนรู้ และฝึกฝนทักษะในหน่วยการเรียนรู้นี้ ครูขออาสาสมัครนักเรียนอ่านบันทึกการ
เรยี นร้หู นา้ ชน้ั เรียน แลว้ รวบรวมผลงานส่งให้ครตู รวจ
3. ให้นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังนี้
• การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลสารสนเทศทำให้ได้รับความรู้ที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ซ่ึงผู้สืบค้น
ต้องมวี ิจารณญาณในการเลือกใชข้ อ้ มูลท่ีถกู ต้องและเป็นประโยชน์
9.สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้
1. แถบประโยค
2. ใบงาน
10.การวดั ผลประเมนิ ผล ชน้ิ งาน/ภาระ วิธกี ารประเมนิ เครอ่ื งมือ ผปู้ ระเมิน เกณฑ์ประเมิน
จุดประสงค์ งาน
1. สงั เกต การประเมิน
1. นักเรียนสามารถสรุป 1. แบบบันทึก พฤติกรรมของ
เน้ือหาจากเรื่องท่ีอา่ นได้ ข้อมูล นักเรียนในการ 1. แบบสงั เกต ครู ผา่ นเกณฑร์ ้อย
2. ชนิ้ งานเรอ่ื ง เข้าร่วมกจิ กรรม
การเขยี นบันทึก 2. สังเกต พฤติกรรมการ ละ 80
การเรียนรู้ พฤติกรรมของ
นักเรยี นในการ เขา้ ร่วมกจิ กรรม
เข้าร่วมกจิ กรรม
กลุม่ 2. สังเกต
3. ตรวจจาก
ชิ้นงาน พฤติกรรมของ
นักเรยี นในการ
เข้าร่วมกิจกรรม
กล่มุ
11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
-
11.2 งานทีม่ อบหมาย
1. แบบบันทึกข้อมลู
2. ช้ินงานเรือ่ ง การเขยี นบนั ทึกการเรียนรู้
ลงชื่อ
(นางสาวชลธชิ า ศริ ิอมรพันธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู
บันทึกหลังการจดั การเรียนรทู้ ่ี 23
รายวิชา ท23101 ช่อื วชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
โรงเรยี นมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง ขยายประสบการณ์การเรียนรู้
จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ชั่วโมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชัว่ โมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจดั การเรียนรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอุปสรรค
3.ข้อเสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงช่ือ
(นางสาวชลธชิ า ศริ ิอมรพันธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู
ชอื่ ......................................................................................................ช้นั .......................เลขท.่ี .................
ช้ินงาน เร่อื ง การเขยี นบนั ทกึ การเรียนรู้
ใหน้ ักเรยี นเขยี นความรู้ ความคดิ และความรู้สึกอยา่ งอิสระ จากการเรียนรู้และฝกึ ฝนทักษะในหน่วย
การเรียนรู้นี้
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 24
รายวิชา ท23101 ช่ือวิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
โรงเรยี นมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง คำภาษาต่างประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย
จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ชัว่ โมง ตอ่ สัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ช่วั โมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
ม.ฐ.ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ
ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ
2.ตัวช้ีวดั / ผลการเรียนรู้
ม. 3/1 จำแนกและใชค้ ำภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย
3.สาระสำคญั
การนำคำภาษาตา่ งประเทศมาใช้ทำให้ภาษาไทยมีคำใชเ้ พ่ิมมากขึ้น แสดงถงึ การรับอิทธิพลทางภาษา
และวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ภาษาไทยในระดับทสี่ งู ขน้ึ ต่อไป
4.จดุ ประสงคร์ ายวชิ า K
บอกหลกั การจำแนกคำภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย
5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น P
1) จำแนกคำภาษาตา่ งประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย
2) ยกตัวอยา่ งคำภาษาตา่ งประเทศทใี่ ช้ในภาษาไทย
6.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ A
ตระหนกั ถึงความสำคญั ของภาษาไทย และอิทธิพลภาษาตา่ งประเทศทม่ี ีต่อภาษาไทย
7.เนื้อหาสาระ
คำภาษาต่างประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย
8.กจิ กรรมการเรยี นรู้
(ชวั่ โมงที่ 1)
1. ครูนำนกั เรียนสนทนาเกี่ยวกับอิทธิพลทางวฒั นธรรมที่ถ่ายทอดผ่านคำภาษาต่างประเทศทีภ่ าษาไทย
ยมื คำมาใชว้ า่ การรบั คำจากภาษาน้ัน ๆ เข้ามาใชผ้ า่ นทางใดบา้ ง และมีผลต่อวัฒนธรรมไทยอยา่ งไร
2. ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันบอกสาเหตทุ ี่มกี ารยืมคำจากภาษาต่างประเทศเข้ามาใชใ้ นภาษาไทย
3. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง คำภาษาบาลี-สันสกฤตที่ใช้ในภาษาไทย ครูอธิบายเพิ่มเติมและให้
นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างคำภาษาบาลี-สันสกฤตที่ใช้ในภาษาไทย โดยให้ระบุด้วยว่าเป็นคำภาษาบาลีหรือ
ภาษาสันสกฤต
4. ให้นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน ครแู สดงบตั รคำแล้วใหน้ ักเรยี นแข่งขันกันตอบคำถามว่า คำที่แสดง
เป็นภาษาบาลีหรือภาษาสันสกฤต เพราะเหตุใด กลุ่มใดตอบถูกต้องจะได้รับคะแนนคำละ 1 คะแนน กลุ่มใดมี
คะแนนมากท่สี ุดเปน็ ผชู้ นะ
5. ใหน้ ักเรียนศึกษาความรูเ้ รื่อง คำภาษาเขมรทีใ่ ช้ในภาษาไทย ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ แลว้ ให้นกั เรียน
ช่วยกันยกตวั อยา่ งคำภาษาเขมรทใี่ ช้ในภาษาไทย โดยใหบ้ อกความหมายของคำดว้ ย
(ชว่ั โมงท่ี 2)
1. ใหน้ ักเรียนสงั เกตลักษณะของคำภาษาเขมรทใ่ี ช้ในภาษาไทย แลว้ ชว่ ยกนั สรุปใหถ้ กู ตอ้ ง
2. ให้นักเรียนบอกประโยชน์ของการเรียนรู้เรื่อง คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ว่าสามารถ
นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งไร
3. ให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย แล้วรวบรวมผลงานส่งให้ครู
ตรวจสอบความถกู ต้อง
6. ให้นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้
• การนำคำภาษาตา่ งประเทศมาใชท้ ำให้ภาษาไทยมคี ำใชเ้ พม่ิ มากข้นึ แสดงถงึ การรับอิทธิพลทาง
ภาษาและวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยเป็นประโยชน์ต่อ
การศกึ ษาภาษาไทยในระดับทส่ี ูงขึ้นตอ่ ไป
7. . ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดังนี้
• คำในภาษาใดทีภ่ าษาไทยยืมมาใช้มากทสี่ ุด เพราะเหตุใด
9.ส่อื และแหล่งเรยี นรู้
1. บัตรคำ
2. ใบงาน
10.การวดั ผลประเมินผล
จดุ ประสงค์ ชิน้ งาน/ภาระ วธิ ีการประเมนิ เครอื่ งมอื ผปู้ ระเมิน เกณฑ์ประเมนิ
งาน 1. สังเกต การประเมนิ
พฤติกรรมของ
1. นกั เรยี นสามารถ 1. ใบงานเรื่อง นกั เรยี นในการ 1. แบบสังเกต ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย
เข้าร่วมกจิ กรรม
จำแนกคำภาษา คำภาษา 2. สังเกต พฤติกรรมการ ละ 80
พฤติกรรมของ
ต่างประเทศทีใ่ ชใ้ น ตา่ งประเทศทใ่ี ช้ นักเรยี นในการ เขา้ รว่ มกิจกรรม
เข้าร่วมกิจกรรม
ภาษาไทยได้ ในภาษาไทย กลมุ่ 2. สังเกต
3. ตรวจจากใบ
2. นักเรียนสามารถ งาน พฤติกรรมของ
ยกตัวอยา่ งคำ นกั เรียนในการ
ภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ น เข้าร่วมกิจกรรม
ภาษาไทยได้ กล่มุ
11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
ให้นกั เรยี นรวบรวมคำที่มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต เปรียบเทียบความเหมือน ความแตกตา่ ง
และอภปิ รายถึงอิทธิพลของทั้งสองภาษานี้ท่ีมีต่อสังคมไทย
11.2 งานทม่ี อบหมาย
1. ใบงานเรอ่ื ง คำภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย
ลงชอ่ื
(นางสาวชลธิชา ศริ ิอมรพันธุ์)
ตำแหนง่ ครู
บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ที่ 24
รายวิชา ท23101 ชอื่ วิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
โรงเรียนมธั ยมฐานบินกำแพงแสน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
แผนการจดั การเรยี นรู้เรื่อง คำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจัดการเรยี นรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอปุ สรรค
3.ขอ้ เสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงช่ือ
(นางสาวชลธิชา ศิริอมรพนั ธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู
ชื่อ......................................................................................................ชัน้ .......................เลขที่..................
ใบงาน เรอ่ื ง คำภาษาต่างประเทศทใี่ ช้ในภาษาไทย
ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งคำภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทยโดยบันทึกเป็นแผนภาพความคดิ
แบบใยแมงมุม
1.
ภาษาอังกฤษ
2.
ภาษาจนี
3.
ภาษาญ่ปี ่นุ
4.
ภาษาบาลี-
สนั สกฤต
5.
ภาษาเขมร
6.
ภาษาชวา-มลายู
เฉลย....ใบงาน เร่อื ง คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย
ให้นักเรียนยกตัวอย่างคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยโดยบนั ทึกเป็นแผนภาพความคิดแบบ
ใยแมงมุม
1.
พลาสติก โดนตั
คำตอบ) คำตอบ)
ภาษาอังกฤษ
เทนนสิ ดจิ ิทัล
คำตอบ) วคั ซนี คำตอบ)
2. คำตอบ)
ก๋วยเตี๋ยว เก้าอี้
คำตอบ) คำตอบ)
ภาษาจีน
ก๋ง แปะก๊วย
คำตอบ) เซยี มซี คำตอบ)
3. คำตอบ)
สุกยี ากี้ กโิ มโน
คำตอบ) คำตอบ)
ภาษาญปี่ นุ่
วาซิบิ ยโู ด คาราเต้
คำตอบ) คำตอบ) คำตอบ)
4. สิกขา
ขตั ติยะ
คำตอบ) คำตอบ)
ภาษาบาลี-
สนั สกฤต
ศาลา บษุ บา
คำตอบ) อคั คี คำตอบ)
5. คำตอบ)
กำเนิด อัญเชญิ
คำตอบ) คำตอบ)
ภาษาเขมร
บนั ดาล ดำริ โตนด
คำตอบ) คำตอบ) คำตอบ)
6.
ทุเรยี น รองเง็ง
คำตอบ) คำตอบ)
ภาษาชวา-มลายู
บูดู ปนั้ เหนง่ มสั ยิด
คำตอบ) คำตอบ) คำตอบ)
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 25
รายวิชา ท23101 ชือ่ วชิ า ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
โรงเรยี นมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
แผนการจดั การเรียนรู้เร่ือง คำภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย
จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่วั โมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชวั่ โมง
1.มาตรฐานการเรยี นรู้
ม.ฐ.ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ
ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
2.ตวั ช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้
ม. 3/1 จำแนกและใช้คำภาษาตา่ งประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย
3.สาระสำคัญ
การนำคำภาษาต่างประเทศมาใชท้ ำให้ภาษาไทยมีคำใช้เพิ่มมากข้ึน แสดงถึงการรับอิทธิพลทางภาษา
และวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ภาษาไทยในระดบั ทีส่ ูงขน้ึ ต่อไป
4.จุดประสงค์รายวชิ า K
บอกหลักการจำแนกคำภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย
5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน P
1) จำแนกคำภาษาตา่ งประเทศทใี่ ช้ในภาษาไทย
2) ยกตวั อย่างคำภาษาต่างประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย
6.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ A
ตระหนกั ถึงความสำคัญของภาษาไทย และอิทธิพลภาษาตา่ งประเทศทมี่ ตี ่อภาษาไทย
7.เนอ้ื หาสาระ
คำภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย
8.กิจกรรมการเรียนรู้
(ช่ัวโมงท่ี 1)
1. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี
• ในภาษาไทยมกี ารยืมคำจากภาษาตา่ งประเทศภาษาใดมาใช้มากท่สี ดุ เพราะเหตุใด
2. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย จากนั้นให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม
กลุ่มละ คน จับฉลากหัวข้อทกี่ ำหนด ดงั นี้
• ภาษาองั กฤษ
• ภาษาจีน
• ภาษาญป่ี นุ่
• ภาษาบาลี-สนั สกฤต
• ภาษาเขมร
• ภาษาชวา-มลายู
3. ให้นักเรียนยกตัวอย่างคำท่ีมาจากภาษาที่จับฉลากได้กลุ่มละ 10 คำ พร้อมกับอธิบายลักษณะของคำ
น้นั ๆ ใหช้ ัดเจน ส่งตวั แทนนำเสนอหนา้ ช้นั เรียน ให้นักเรียนและครรู ่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
4. ให้นักเรยี นทำใบกจิ กรรมเรอื่ ง จบั คู่คำศัพทภ์ าษาบาลี-สนั สกฤตกบั ความหมาย แลว้ รว่ มกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง
(ชว่ั โมงที่ 2)
1. ให้นกั เรยี นทำใบงาน เรื่อง การจำแนกคำภาษาต่างประเทศท่ปี รากฏในพระบรมราโชวาท
แล้วแลกเปล่ียนผลงานกันตรวจกบั เพื่อน
2. ให้นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดงั น้ี
• คำที่ใช้ในภาษาไทยมีทั้งคำไทยแท้และคำที่นำมาจากภาษาต่างประเทศเพื่อประโยชน์ทางการ
สอ่ื สาร การถ่ายทอดวัฒนธรรม และการศึกษาหาความรู้ การจำแนกคำไทยและคำยืมจากภาษาต่างประเทศได้
จะเป็นพื้นฐานให้เกิดความเข้าใจเรื่องอิทธิพลของภาษาต่างประเทศที่มีต่อภาษาไทย และเป็นประโยชน์ใน
การศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมใหเ้ ขา้ ถึงอรรถรสย่ิงข้ึน
9.ส่ือและแหล่งเรยี นรู้
1. ฉลาก
2. ใบกจิ กรรม
3. ใบงาน
10.การวดั ผลประเมนิ ผล ชิ้นงาน/ภาระ วิธีการประเมิน เครือ่ งมือ ผู้ประเมนิ เกณฑป์ ระเมิน
จดุ ประสงค์
งาน การประเมิน
1. นกั เรยี นสามารถ
จำแนกคำภาษา 1. ใบกจิ กรรม 1. สังเกต 1. แบบสงั เกต ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย
ต่างประเทศทีใ่ ชใ้ น
ภาษาไทยได้ เร่ือง จับคู่คำศัพท์ พฤติกรรมของ พฤติกรรมการ ละ 80
2. นักเรยี นสามารถ
ยกตัวอย่างคำ ภาษาบาลี- นกั เรียนในการ เข้ารว่ มกจิ กรรม
สันสกฤต เข้าร่วมกิจกรรม 2. สงั เกต
2. สังเกต พฤติกรรมของ
พฤติกรรมของ นกั เรยี นในการ
เขา้ ร่วมกจิ กรรม
ภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ น นักเรียนในการ กลุ่ม
ภาษาไทยได้ เข้ารว่ มกจิ กรรม
กลุ่ม
3. ตรวจจากใบ
งาน
11.กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
ใหน้ ักเรียนค้นคว้าคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยจากวรรณกรรมท่ีตนสนใจ จากน้นั จัดทำเปน็
รปู เล่มให้สวยงาม
11.2 งานทม่ี อบหมาย
1. ใบกิจกรรมเรื่อง จบั คคู่ ำศัพท์ภาษาบาลี-สนั สกฤต
ลงชอ่ื
(นางสาวชลธชิ า ศิริอมรพนั ธ์ุ)
ตำแหนง่ ครู
บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ที่ 25
รายวิชา ท23101 ชอื่ วิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
โรงเรียนมธั ยมฐานบินกำแพงแสน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
แผนการจดั การเรยี นรู้เรื่อง คำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจัดการเรยี นรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอปุ สรรค
3.ขอ้ เสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงช่ือ
(นางสาวชลธิชา ศิริอมรพนั ธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู
ช่อื ......................................................................................................ชัน้ .......................เลขท่.ี .................
ใบกิจกรรม เร่ือง จบั คู่คำศัพท์ภาษาบาลี-สันสกฤตกับความหมาย
ใหน้ กั เรยี นจับคู่คำศพั ทภ์ าษาบาลี-สันสกฤตและความหมายให้สัมพนั ธ์กัน โดยนำตวั อกั ษร
ทางขวามาเตมิ หน้าคำศัพท์ทางซา้ ย
คำศพั ท์ ความหมาย
1. กษาปณ์ ก. ภเู ขา
2. เกษียณ ข. ขา้ ศกึ
3. ชวิ หา ค. ไม่ปรกติ ไมใ่ ชธ่ รรมดา
4. ปกณิ กะ ง. ส้ินไป
5. ไอศวรรย์ จ. ไปจาก
6. บรรพต ฉ. เหรียญ
7. รโหฐาน ช. เบ็ดเตล็ด
8. วิสามญั ซ. ทเ่ี ฉพาะส่วนตวั
9. ดัสกร ฌ. ล้นิ
10. นริ าศ ญ. ความย่งิ ใหญ่
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 26
รายวิชา ท23101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย 5 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
โรงเรยี นมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
แผนการจดั การเรียนรเู้ ร่ือง คำภาษาตา่ งประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทย
จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ชว่ั โมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชว่ั โมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
ม.ฐ.ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของ
ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
2.ตัวช้ีวัด / ผลการเรยี นรู้
ม. 3/1 จำแนกและใช้คำภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย
3.สาระสำคญั
การนำคำภาษาต่างประเทศมาใช้ทำใหภ้ าษาไทยมีคำใช้เพม่ิ มากข้ึน แสดงถงึ การรับอิทธิพลทางภาษา
และวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ภาษาไทยในระดบั ทสี่ ูงข้นึ ต่อไป
4.จดุ ประสงค์รายวิชา K
บอกหลักการจำแนกคำภาษาตา่ งประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย
5.สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น P
1) จำแนกคำภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ในภาษาไทย
2) ยกตวั อยา่ งคำภาษาต่างประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย
6.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ A
ตระหนกั ถึงความสำคญั ของภาษาไทย และอทิ ธิพลภาษาต่างประเทศท่มี ตี ่อภาษาไทย
7.เนื้อหาสาระ
คำภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ในภาษาไทย
8.กิจกรรมการเรียนรู้
1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั นี้
• พระพุทธศาสนามีอทิ ธิพลต่อภาษาไทยอย่างไร
2. ให้นักเรียนชว่ ยกันยกตัวอยา่ งคำภาษาบาลี-สนั สกฤตที่ไดร้ ับอทิ ธพิ ลมาจากพระพุทธศาสนา
แลว้ ใหน้ กั เรยี นสังเกตวา่ แต่ละคำเปน็ คำภาษาบาลหี รือภาษาสันสกฤตเพราะเหตใุ ด
3. ใหน้ กั เรยี นทบทวนความรเู้ ร่ือง คำภาษาต่างประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย ครูซักถามความเขา้ ใจนักเรียน
เป็นรายบคุ คล
4. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ทำใบกิจกรรมเรื่อง ค้นหาคำที่มาจากภาษาบาลี -สันสกฤต
และมคี วามหมายตรงกับคำภาษาไทยที่กำหนด แล้วสง่ ตัวแทนนำเสนอหน้าช้ันเรยี น กลุ่มทค่ี ้นหาคำได้ถูกตอ้ งและมาก
ที่สดุ เป็นผูช้ นะ
5. ครูยกตัวอย่างคำภาษาเขมรท่ใี ช้ในภาษาไทย ใหน้ ักเรียนสงั เกตลักษณะของคำทีม่ าจากภาษาเขมร
แลว้ ช่วยกนั ยกตวั อยา่ งคำภาษาเขมรพร้อมกับบอกลักษณะของคำน้ัน ๆ ให้ถูกตอ้ ง
6. ให้นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี
• คำท่ใี ชใ้ นภาษาไทยมีทงั้ คำไทยแท้และคำทน่ี ำมาจากภาษาต่างประเทศเพอื่ ประโยชน์ทางการสื่อสาร
การถ่ายทอดวัฒนธรรม และการศึกษาหาความรู้ การจำแนกคำไทยและคำยมื จากภาษาต่างประเทศได้ จะเปน็ พนื้ ฐาน
ให้เกิดความเข้าใจเรื่องอทิ ธิพลของภาษาตา่ งประเทศทม่ี ตี ่อภาษาไทย และเปน็ ประโยชน์ในการศึกษาวรรณคดแี ละ
วรรณกรรมใหเ้ ข้าถงึ อรรถรสยิง่ ข้ึน
9.สอ่ื และแหล่งเรียนรู้
ใบกิจกรรม
10.การวัดผลประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ชน้ิ งาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมิน เคร่อื งมือ ผปู้ ระเมิน เกณฑป์ ระเมิน
การประเมนิ ผ่านเกณฑ์ร้อย
ละ 80
1. นกั เรยี นสามารถ 1. ใบกจิ กรรม 1. สังเกต 1. แบบสังเกต ครู
จำแนกคำภาษา เรอ่ื ง ค้นหาคำท่มี า พฤตกิ รรมของ พฤตกิ รรมการ
ตา่ งประเทศท่ใี ช้ใน จากภาษาบาลี- นักเรียนในการเขา้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม
ภาษาไทยได้
สนั สกฤต รว่ มกจิ กรรม 2. สังเกต
2. นักเรยี นสามารถ 2. ใบกิจกรรมเร่ือง 2. สังเกต พฤติกรรมของ
ยกตัวอย่างคำ คำที่มาจากภาษา พฤตกิ รรมของ นักเรยี นในการ
ภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ น เขมร นักเรียนในการเขา้ เขา้ ร่วมกิจกรรม
ภาษาไทยได้ รว่ มกิจกรรม กลมุ่
กล่มุ
3. ตรวจจากใบ
กิจกรรม
11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย
11.1 กิจกรรมเสนอแนะ
11.2 งานท่ีมอบหมาย
1. ใบกิจกรรมเรือ่ ง ค้นหาคำท่ีมาจากภาษาบาลี-สันสกฤต
2. ใบกิจกรรมเรอ่ื ง คำท่มี าจากภาษาเขมร
ลงชือ่
(นางสาวชลธิชา ศิริอมรพนั ธ์ุ)
ตำแหน่ง คร^
บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ที่ 26
รายวิชา ท23101 ชอื่ วิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
โรงเรียนมธั ยมฐานบินกำแพงแสน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
แผนการจดั การเรยี นรู้เรื่อง คำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจัดการเรยี นรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอปุ สรรค
3.ขอ้ เสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงช่ือ
(นางสาวชลธิชา ศิริอมรพนั ธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู
ชอื่ ......................................................................................................ชนั้ .......................เลขที่.................
ใบกิจกรรมเร่ือง คน้ หาคำท่ีมาจากภาษาบาลี-สนั สกฤต
ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มและแขง่ ขันคน้ หาคำทม่ี าจากภาษาบาลี-สนั สกฤตและมีความหมายตรงกบั
คำภาษาไทยที่กำหนด
พระเจา้ แผน่ ดนิ __________________________________________________________
__________________________________________________________
ดอกไม้ __________________________________________________________
__________________________________________________________
นำ้ __________________________________________________________
__________________________________________________________
เด็ก __________________________________________________________
__________________________________________________________
ตะวัน __________________________________________________________
__________________________________________________________
ชอ่ื ......................................................................................................ชั้น.......................เลขท่ี.................
ใบกิจกรรมเรอ่ื ง คำทมี่ าจากภาษาเขมร
คำต่อไปนี้มที ่ีมาจากภาษาเขมร ใหน้ ักเรียนเติมตัวอักษรที่หายไปเพื่อใหค้ ำสมบูรณ์และตรงกับ
ความหมาย
1. ร สขุ สบาย
2. ย ผู้ทถี่ กู ข้าศกึ จับตัวได้
3. ห ก เรอื นของเจ้านาย
4. บ ตั้งใจฟัง
5. บ พ ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ
6. จ ไป
7. จ เติบโต งอกงาม
8. ก ห หมายไว้
9. ร ประตู
10. . น แบบอยา่ ง แบบแผน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 27
รายวชิ า ท23101 ช่ือวชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
โรงเรยี นมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
แผนการจัดการเรียนรเู้ รื่อง คำภาษาต่างประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย
จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ชว่ั โมง ตอ่ สัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรยี น 60 คาบ/ชวั่ โมง
1.มาตรฐานการเรยี นรู้
ม.ฐ.ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ
ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ
2.ตวั ชี้วัด / ผลการเรยี นรู้
ม. 3/1 จำแนกและใชค้ ำภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ในภาษาไทย
3.สาระสำคัญ
การนำคำภาษาตา่ งประเทศมาใช้ทำใหภ้ าษาไทยมีคำใชเ้ พ่ิมมากขึ้น แสดงถงึ การรับอิทธิพลทางภาษา
และวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ภาษาไทยในระดบั ทสี่ ูงขึ้นตอ่ ไป
4.จดุ ประสงคร์ ายวิชา K
บอกหลกั การจำแนกคำภาษาต่างประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย
5.สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน P
1) จำแนกคำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย
2) ยกตัวอย่างคำภาษาต่างประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย
6.คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ A
ตระหนักถึงความสำคญั ของภาษาไทย และอทิ ธพิ ลภาษาตา่ งประเทศท่ีมตี ่อภาษาไทย
7.เนอื้ หาสาระ
คำภาษาตา่ งประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทย
8.กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดังน้ี
• เหตุใดจึงต้องศึกษาว่าคำแตล่ ะคำมีท่มี าจากภาษาใด
2. ให้นกั เรียนชว่ ยกันบอกคำที่มาจากภาษาจีน ญป่ี ุ่น และชวา-มลายู ให้สมั พนั ธก์ บั ภาพทีค่ รกู ำหนด
3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน แข่งขันกันเติมคำลงในตารางปริศนาอักษรไขว้ โดยค้นหาคำศัพท์
จากพระบรมราโชวาทที่มีความหมายตรงกับที่กำหนดไว้ในแนวนอนและแนวตั้ง กลุ่มใดเติมได้ถูกต้องและ
รวดเร็วทสี่ ุดเป็นผชู้ นะ
4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบกิจกรรมเรื่อง คำภาษาต่างประเทศในข่าว แล้วส่งตัวแทนนำเสนอ
หน้าชัน้ เรยี น ใหน้ ักเรยี นและครูรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
5. ใหน้ ักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดงั นี้
• คำที่ใช้ในภาษาไทยมีทั้งคำไทยแท้และคำที่นำมาจากภาษาต่างประเทศเพื่อประโยชน์ทางการ
ส่ือสาร การถา่ ยทอดวัฒนธรรม และการศกึ ษาหาความรู้ การจำแนกคำไทยและคำยืมจากภาษาต่างประเทศได้
จะเป็นพื้นฐานให้เกิดความเข้าใจเรื่องอิทธิพลของภาษาต่างประเทศที่มีต่อภาษาไทย และเป็นประโยชน์ใน
การศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมใหเ้ ขา้ ถงึ อรรถรสย่ิงข้ึน
9.สอื่ และแหลง่ เรียนรู้
1. ภาพสำหรับทายคำศัพท์
2. ตารางปริศนาอกั ษรไขว้
3. ใบกจิ กรรม
10.การวดั ผลประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ชน้ิ งาน/ภาระ วิธีการประเมิน เครอื่ งมอื ผปู้ ระเมิน เกณฑ์ประเมนิ
งาน การประเมนิ
1. นกั เรยี นสามารถ 1. ใบกิจกรรม 1. สงั เกต 1. แบบสงั เกต ครู ผา่ นเกณฑร์ ้อย
จำแนกคำภาษา เรอ่ื ง คำ พฤติกรรมของ พฤติกรรมการ ละ 80
ตา่ งประเทศทใ่ี ช้ใน ภาษาต่างประเทศ นักเรยี นในการ เขา้ ร่วมกจิ กรรม
ภาษาไทยได้ ในขา่ ว เข้ารว่ มกิจกรรม 2. สังเกต
2. นกั เรียนสามารถ 2. สงั เกต พฤติกรรมของ
ยกตวั อยา่ งคำ พฤติกรรมของ
ภาษาตา่ งประเทศที่ใชใ้ น นกั เรยี นในการ นกั เรยี นในการ
ภาษาไทยได้ เขา้ รว่ มกิจกรรม
เข้าร่วมกิจกรรม
กลมุ่
กลุ่ม
3. ตรวจจากใบ
กจิ กรรม
11.กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
11.2 งานทม่ี อบหมาย
1. ใบกิจกรรมเรื่อง คำภาษาต่างประเทศในข่าว
ลงชอ่ื
(นางสาวชลธิชา ศริ ิอมรพนั ธุ์)
ตำแหน่ง ครู
บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ที่ 26
รายวิชา ท23101 ชอื่ วิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
โรงเรียนมธั ยมฐานบินกำแพงแสน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
แผนการจดั การเรยี นรู้เรื่อง คำภาษาต่างประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต จำนวน 3 คาบ/ช่ัวโมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจัดการเรียนรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอปุ สรรค
3.ขอ้ เสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงช่ือ
(นางสาวชลธิชา ศิริอมรพนั ธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู
ชอ่ื ......................................................................................................ช้ัน.......................เลขท.่ี ................
ใบกิจกรรมเรอ่ื ง คำภาษาต่างประเทศในขา่ ว
ใหน้ ักเรียนค้นหาขา่ วส้นั จากหนงั สือพมิ พ์ 1 ขา่ ว ตดิ ลงในช่องว่าง จากนั้นวเิ คราะหว์ ่ามคี ำ
ภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทยคำใดบ้าง
ภาษา____________________ ไดแ้ ก_่ ______________________________________________
ภาษา____________________ ไดแ้ ก_่ ______________________________________________
ภาษา____________________ ไดแ้ ก_่ ______________________________________________
ภาษา____________________ ได้แก_่ ______________________________________________
ภาษา____________________ ได้แก_่ ____________________________________________
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 27
รายวชิ า ท23101 ชื่อวชิ า ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
โรงเรียนมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ รื่อง การกรอกแบบสมัครงาน
จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่วั โมง ต่อสัปดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
ม.ฐ.ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราวในรปู แบบ
ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
2.ตัวช้ีวัด / ผลการเรียนรู้
ม.3/8 กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ความรู้ และทักษะของตนเองที่เหมาะสม
กับงาน
ม..3/10 มมี ารยาทในการเขยี น
3.สาระสำคญั
การกรอกแบบสมัครงาน เป็นขั้นตอนแรกของการทดสอบความสามารถของผู้สมัครงาน ดังนั้น
ผู้สมคั รงานจะต้องเขียนด้วยความรอบคอบ ลายมอื สวยงาม สะอาด ชัดเจน
4.จุดประสงค์รายวิชา K
อธิบายข้อควรระวงั ในการกรอกแบบสมัครงาน
5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน P
กรอกแบบสมคั รงานรปู แบบต่าง ๆ
6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ A
เห็นประโยชนข์ องการกรอกแบบสมัครงานและมีมารยาทในการเขยี น
7.เนอ้ื หาสาระ
การกรอกแบบสมัครงาน
8.กจิ กรรมการเรยี นรู้
(ชว่ั โมงท่ี 1)
1. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี
• นักเรียนอยากสมัครงานใด และคิดว่าคุณสมบัติใดที่มีความสำคัญต่อการสมัครงานที่นักเรียน
ต้องการ
2. ครูนำนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับการกรอกแบบสมัครงาน ซักถามนักเรียนว่าเคยมีประสบการณ์กรอก
แบบสมัครงานมาก่อนหรือไม่ (นักเรียนอาจเคยมีประสบการณ์ทำงานชั่วคราวหรืองานพิเศษที่จ้างนักเรียน
นักศึกษาทำงาน) ใหน้ กั เรยี นทเี่ คยมปี ระสบการณอ์ ธิบายข้นั ตอนการกรอกแบบสมัครงานและบอกข้อควรระวัง
ใหเ้ พอ่ื นฟงั
3. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาความรู้เร่ือง การกรอกแบบสมัครงาน แล้วรว่ มกันสนทนา โดยใช้คำถาม ดังนี้
• ขั้นตอนแรกในการกรอกแบบสมัครงาน ควรทำอย่างไร (อ่านคำแนะนำในการกรอกแบบสมัคร
งาน คำสัง่ อื่น ๆ ใหล้ ะเอยี ดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครดั )
• การกรอกแบบสมัครงานท่ีดคี วรเขียนใหม้ ีลักษณะอย่างไร (เขียนใหส้ ะอาดเรยี บรอ้ ย ไม่มีรอย
ขดี ฆา่ สกปรก)
• เมอ่ื จำเปน็ ต้องมรี อยขีด ลบ ฆา่ ในแบบสมคั รงาน ควรปฏิบัตอิ ยา่ งไร (ควรเซ็นชื่อกำกบั ไว้
ตรงนัน้ ด้วยทุกครงั้ )
• ชอ่ งว่างใดทไี่ ม่มีการกรอกควรทำอย่างไร (ใส่เครอื่ งหมาย (- ) เพ่อื ใหแ้ บบสมัครงานสมบรู ณ์)
4. ครูนำแบบสมัครงานต่าง ๆ มาให้นักเรียนศึกษาและให้นักเรียนฝึกกรอกแบบสมัครงาน โดยคำนึงถึง
ขอ้ ระวงั ในการกรอกแบบสมคั รงานตามท่ีได้ศึกษามาแล้ว
(ชั่วโมงที่ 2)
1. ให้นักเรียนจับคู่ 2 คน แลกเปลี่ยนกันวิจารณ์และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับการกรอกแบบสมัครงาน
ของเพ่อื น
2. ครูคัดเลอื กแบบสมคั รงานของนกั เรียนทสี่ มบูรณ์ออกมานำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน พรอ้ มทง้ั อธบิ ายเพ่ิมเตมิ
3. ให้นักเรียนสืบค้นแบบฟอร์มสมัครงานจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ คนละ 2 ชุด เพื่อเตรียมตัวก่อนศึกษา
ช่ัวโมงถดั ไป
4. ใหน้ ักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดังน้ี
• การกรอกแบบสมัครงาน เป็นขั้นตอนแรกของการทดสอบความสามารถของผู้สมัครงาน ดังน้ัน
ผ้สู มคั รงานจะตอ้ งเขยี นดว้ ยความรอบคอบ ลายมอื สวยงาม สะอาด ชัดเจน
9.ส่ือและแหล่งเรยี นรู้
แบบสมัครงาน
10.การวัดผลประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ชิน้ งาน/ภาระ วธิ กี ารประเมิน เคร่อื งมอื ผปู้ ระเมนิ เกณฑป์ ระเมิน
งาน 1. สังเกต การประเมนิ
พฤติกรรมของ
1. นักเรยี นสามารถ - นกั เรยี นในการ 1. แบบสังเกต ครู ผ่านเกณฑร์ ้อย
เขา้ รว่ มกจิ กรรม
อธบิ ายขอ้ ควรระวังใน 2. สังเกต พฤติกรรมการ ละ 80
พฤติกรรมของ
การกรอกแบบสมคั รงาน นักเรยี นในการ เขา้ รว่ มกิจกรรม
เขา้ รว่ มกจิ กรรม
ได้ กล่มุ 2. สงั เกต
2. นกั เรยี นสามารถ พฤติกรรมของ
กรอกแบบสมคั รงาน นกั เรยี นในการ
รปู แบบตา่ ง ๆ ได้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม
กล่มุ
11.กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย
11.1 กจิ กรรมเสนอแนะ
-
11.2 งานทมี่ อบหมาย
1. ใบกิจกรรมเร่ือง คำภาษาต่างประเทศในข่าว
ลงชือ่
(นางสาวชลธิชา ศิริอมรพนั ธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู
บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ที่ 27
รายวิชา ท23101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
โรงเรยี นมัธยมฐานบนิ กำแพงแสน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง การกรอกแบบสมัครงาน
จำนวน 1.5 หน่วยกติ จำนวน 3 คาบ/ช่วั โมง ตอ่ สปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง
1.ผลการการประเมนิ บรรยากาศในการจดั การเรียนรโู้ ดยภาพรวม
2. ปญั หาและอุปสรรค
3.ขอ้ เสนอแนะและการแกไ้ ข
ลงชอ่ื
(นางสาวชลธิชา ศริ ิอมรพันธ์ุ)
ตำแหน่ง ครู
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 28
รายวชิ า ท23101 ช่ือวิชา ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
โรงเรยี นมธั ยมฐานบนิ กำแพงแสน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
แผนการจดั การเรียนร้เู ร่ือง การกรอกแบบสมัครงาน
จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวน 3 คาบ/ชวั่ โมง ต่อสปั ดาห์ รวมจำนวนตลอดภาคเรียน 60 คาบ/ชั่วโมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
ม.ฐ.ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราวในรูปแบบ
ตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
2.ตวั ชี้วดั / ผลการเรยี นรู้
ม.3/8 กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขียนบรรยายเกย่ี วกับความรู้ และทักษะของตนเองท่เี หมาะสม
กบั งาน
ม..3/10 มีมารยาทในการเขียน
3.สาระสำคญั
การกรอกแบบสมัครงาน เป็นขั้นตอนแรกของการทดสอบความสามารถของผู้สมัครงาน ดังนั้น
ผสู้ มัครงานจะต้องเขียนด้วยความรอบคอบ ลายมอื สวยงาม สะอาด ชดั เจน
4.จดุ ประสงคร์ ายวิชา K
อธบิ ายข้อควรระวงั ในการกรอกแบบสมัครงาน
5.สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน P
กรอกแบบสมัครงานรูปแบบต่าง ๆ
6.คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ A
เหน็ ประโยชน์ของการกรอกแบบสมคั รงานและมีมารยาทในการเขียน
7.เนือ้ หาสาระ
การกรอกแบบสมัครงาน
8.กจิ กรรมการเรยี นรู้
(ชว่ั โมงท่ี 1)
1. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดังนี้
• นักเรียนคิดวา่ การสมัครงานที่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจเกิดจากสาเหตใุ ดบ้าง
2. ครูและนักเรยี นสนทนากนั เพ่ือทบทวนความรู้เร่ือง การกรอกแบบสมัครงาน
3. ครนู ำตวั อย่างแบบสมัครงานทดี่ ีกับไมด่ ีมาใหน้ ักเรียนเปรียบเทยี บความแตกต่าง