46
7. บ่าวผ้หู ญิงว่ิงไปอย่งู กงัน เห็นนายน้นั แกผ้ า้ กางขาอยู่
ต่างคนทรดุ นัง่ บังประตู ตกตะลึงแลดไู ม่เขา้ มา
ขนุ ชา้ งเห็นข้าไมม่ าใกล้ ขัดใจลกุ ขนึ้ ทัง้ แกผ้ า้
แหงนเถ่อเป้อปังยืนจังกา ย่างเท้าก้าวมาไมร่ ู้ตวั
8. อีวันทองตวั มันเหมือนรากแก้ว ถา้ ตดั โคนขาดแล้วกใ็ บเห่ยี ว
ใครจะควรส่สู มอยู่กลมเกลียว ใหเ้ ด็ดเดย่ี วรู้กนั แต่วันนี้
9. พผ่ี ดิ พี่กม็ าลแุ ก่โทษ จะคมุ โกรธคุมแคน้ ไปถึงไหน
ความรกั พ่ยี ังรักระงมใจ อย่าตดั ไมตรตี รงึ ให้ตรอมตาย
10. นิจจาใจเจา้ จะให้พเ่ี จ็บจติ ดงั เอากรชิ แกระกรดี ในอกผัว
เกรงผิดคดิ บาปจึงหลาบกลวั พี่นช้ี ั่วเพราะหม่นิ ประมาทความ
47
ตอนที่ 2
คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นพิจารณาบทประพันธท์ ก่ี ำหนดวา่ ปรากฏรสวรรณคดีไทยข้อใดบ้าง
1. ครนั้ เวลาดกึ กำดัดสงดั เงียบ ใบไมแ้ ห้งแกร่งเกรียบระรุบรอ่ น
พระพายโชยเสาวรสขจายขจร พระจนั ทร์แจ่มแจง้ กระจา่ งดวง
ดุเหว่าเรา้ เสียงสำเนยี งกอ้ ง ระฆงั ฆ้องขานแขง่ ในวังหลวง
วนั ทองน้องนอนสนทิ ทรวง จติ ง่วงระงบั สู่ภวังค์
2. รูปงามนามเพราะน้อยไปหรือ ใจไม่ซ่ือถือศักดเ์ิ ทา่ เสน้ ผม
แตใ่ จสัตวม์ นั ยังมที นี่ ยิ ม สมาคมก็แตถ่ ึงฤดมู ัน
มงึ นี้ถ่อยย่งิ กวา่ ถ่อยอีทา้ ยเมอื ง จะเอาเรื่องไม่ไดส้ ักสิ่งสรรพ์
ละโมบมากตัณหาตาเปน็ มนั สักร้อยพันใหม้ ึงไม่ถึงใจ
วา่ หญงิ ชว่ั ผัวยังคราวละคนเดยี ว หาตามตอมกนั เกรียวเหมอื นมงึ ไม่
หนักแผน่ ดินกจู ะอยู่ไย อา้ ยไวยมงึ อย่านบั ว่ามารดา
3. พี่ผดิ พี่ก็มาลุแกโ่ ทษ จะคมุ โกรธคุมแคน้ ไปถึงไหน
ความรกั พ่ยี งั รักระงมใจ อยา่ ตดั ไมตรตี รงึ ให้ตรอมตาย
ว่าพลางทางแอบเข้าแนบอก ประคองยกของสำคญั ม่นั หมาย
เจา้ เน้ือทิพย์หยบิ ชื่นอารมณช์ าย ขอสบายสกั หน่อยอย่าโกรธา
4. โอ้แมเ่ จ้าประคุณของลูกเอย๋ ไมค่ วรเลยจะพรากจากคุณพ่อ
เวรกรรมนำไปไม่รง้ั รอ มพิ อทจี่ ะต้องพรากกจ็ ากมา
5. ว่าพลางคลงึ เคลา้ เข้าแนบขา้ ง จบู พลางทางปลอบประโลมขวัญ
กา่ ยกอดสอดเก่ยี วพลั วัน วนั ทองก้นั กีดไว้ไมต่ ามใจ
พลกิ ผลกั ชกั ชวนให้ชน่ื ชิด เบือนบดิ แบง่ รักหาร่วมไม่
สยดสยองพองเสียวแสยงใจ พระพายพัดมาลยั ตลบลอย
เฉลย 48
ใบงานที่ 3.1 เร่ือง ศลิ ปแ์ ละรสแห่งภาษา ตอนขุนช้างถวายฎกี า
ตอนท่ี 1
คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาบทประพันธใ์ นแตล่ ะข้อต่อไปนว้ี ่า มคี วามงามทางวรรณศิลปโ์ ดดเดน่ ในดา้ นใด
1. ท้งั ชายหญงิ ง่วงงมลม้ หลบั นอนทับคว่ำหงายก่ายกนั เปรอะ
จป่ี ลาคาไฟมนั ไหลเลอะ โงกเงอะงยุ งมไมส่ มประดี
ด้านการใช้คำทีส่ ่อื ใหเ้ ห็นภาพชดั เจน
2. มาอยู่ไยกับอ้ายหนิ ชาติ แสนอบุ าทว์ใจจติ ริษยา
ดงั ทองคำทำเล่ยี มปากกะลา หน้าตาดำเหมือนมินหม้อมอม
เหมอื นแมลงวันวอ่ นเคลา้ ทเ่ี น่าชวั่ มาเกลือกกลวั้ ปทุมมาลยท์ ีห่ วานหอม
ดอกมะเด่ือฤๅจะเจือดอกพะยอม วา่ นกั แมจ่ ะตรอมระกำใจ
ดา้ นการใชอ้ ปุ มา
3. อาลยั เจา้ เท่ากบั ดวงชวี ติ พี่ คดิ จะหนีไปตามเอาเจา้ กลบั
เกรงจะพากนั ผดิ เขา้ ติดทบั แตข่ ยับอยจู่ นได้ไปเชยี งอนิ ทร์
ดา้ นการใชอ้ ติพจน์
4. พลางเรียกหาข้าไทอย่วู า้ วุน่ อีอุ่นออี ิ่มอีฉิมอสี อน
อมี ีอีมาอสี าคร นง่ิ นอนไยหวามาหากู
ด้านการซ้ำคำ
5. ครานั้นพระองค์ผู้ทรงภพ ฟังจบแค้นคงั่ ดังเพลิงไหม้
เหมือนดินประสวิ ปลิวตดิ กับเปลวไฟ ดดู เู๋ ปน็ ได้อวี นั ทอง
ด้านการใช้อปุ มา
6. เจา้ พลายงามตามรบั เอากลบั มา ทีน้หี นา้ จะดำเป็นน้ำหมกึ
กำเรบิ ใจด้วยเจ้าไวยกำลังฮึก จะพาแมต่ กลึกใหจ้ ำตาย
ดา้ นการใช้อุปลกั ษณ์
49
7. บ่าวผู้หญงิ วิ่งไปอยู่งกงนั เหน็ นายนนั้ แก้ผ้ากางขาอยู่
ต่างคนทรดุ นง่ั บังประตู ตกตะลึงแลดูไม่เข้ามา
ขุนช้างเหน็ ขา้ ไม่มาใกล้ ขดั ใจลุกขึน้ ท้ังแกผ้ า้
แหงนเถ่อเปอ้ ปังยืนจังกา ย่างเทา้ กา้ วมาไม่รู้ตัว
ดา้ นการใชค้ ำทส่ี ื่อให้เหน็ ภาพชัดเจน
8. อีวนั ทองตวั มันเหมือนรากแก้ว ถา้ ตดั โคนขาดแลว้ ก็ใบเหย่ี ว
ใครจะควรสู่สมอยูก่ ลมเกลียว ให้เด็ดเด่ยี วรกู้ นั แตว่ นั น้ี
ดา้ นการใชอ้ ุปมา
9. พผ่ี ดิ พ่ีกม็ าลแุ กโ่ ทษ จะคุมโกรธคุมแค้นไปถึงไหน
ความรกั พ่ยี ังรักระงมใจ อยา่ ตัดไมตรีตรงึ ให้ตรอมตาย
ด้านการใช้คำถามท่ีไม่ต้องการคำตอบ
10. นิจจาใจเจา้ จะให้พี่เจ็บจิต ดังเอากรชิ แกระกรดี ในอกผัว
เกรงผิดคดิ บาปจึงหลาบกลัว พ่ีนชี้ ั่วเพราะหม่นิ ประมาทความ
ดา้ นการใชอ้ ปุ มา
50
ตอนที่ 2
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาบทประพันธท์ ่กี ำหนดว่า ปรากฏรสวรรณคดีไทยข้อใดบ้าง
1. คร้นั เวลาดกึ กำดัดสงดั เงยี บ ใบไม้แห้งแกร่งเกรียบระรบุ รอ่ น
พระพายโชยเสาวรสขจายขจร พระจันทรแจม่ แจ้งกระจ่างดวง
ดเุ หว่าเร้าเสยี งสำเนยี งกอ้ ง ระฆงั ฆ้องขานแข่งในวงั หลวง
วันทองน้องนอนสนิททรวง จติ ง่วงระงบั สภู่ วงั ค์
เสาวรจนี
2. รปู งามนามเพราะน้อยไปหรือ ใจไมซ่ ื่อถือศักดิ์เทา่ เสน้ ผม
แตใ่ จสตั ว์มันยังมีท่ีนิยม สมาคมก็แตถ่ ึงฤดูมัน
มึงนีถ้ ่อยยิ่งกวา่ ถ่อยอีท้ายเมอื ง จะเอาเรื่องไม่ไดส้ กั สง่ิ สรรพ์
ละโมบมากตัณหาตาเปน็ มัน สักรอ้ ยพนั ใหม้ งึ ไม่ถึงใจ
ว่าหญิงชัว่ ผัวยังคราวละคนเดียว หาตามตอมกนั เกรยี วเหมือนมึงไม่
หนกั แผน่ ดนิ กจู ะอยู่ไย อ้ายไวยมึงอยา่ นับว่ามารดา
พโิ รธวาทัง
3. พผี่ ดิ พี่ก็มาลแุ กโ่ ทษ จะคุมโกรธคุมแค้นไปถึงไหน
ความรกั พย่ี งั รกั ระงมใจ อยา่ ตดั ไมตรตี รงึ ให้ตรอมตาย
ว่าพลางทางแอบเข้าแนบอก ประคองยกของสำคัญมัน่ หมาย
เจา้ เน้อื ทิพยห์ ยิบชน่ื อารมณช์ าย ขอสบายสกั หน่อยอย่าโกรธา
นารีปราโมทย์
4. โอ้แม่เจ้าประคุณของลูกเอ๋ย ไมค่ วรเลยจะพรากจากคุณพ่อ
เวรกรรมนำไปไม่รง้ั รอ มิพอทจ่ี ะต้องพรากกจ็ ากมา
สลั ลาปงั คพไิ สย
5. ว่าพลางคลึงเคลา้ เข้าแนบขา้ ง จบู พลางทางปลอบประโลมขวัญ
ก่ายกอดสอดเก่ียวพัลวนั วันทองก้ันกีดไว้ไม่ตามใจ
พลิกผลักชักชวนให้ชน่ื ชิด เบอื นบดิ แบ่งรักหาร่วมไม่
สยดสยองพองเสียวแสยงใจ พระพายพัดมาลัยตลบลอย
นารีปราโมทย์
51
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกับ
ระดบั คะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321
1 นำเสนอเน้อื หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง
2 การลำดบั ขนั้ ตอนของเน้ือเรื่อง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ตำ่ กว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
52
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
ช่อื ชัน้
คำช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผู้อื่น
3 การทำงานตามหน้าท่ีที่ได้รบั มอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้งั
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง
53
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รงกับ
ระดับคะแนน
ลำดับท่ี ชือ่ -สกุล ความรว่ มมือ การแสดง การรบั ฟัง การต้งั ใจ การแก้ไข
ของผรู้ ับการ กนั ทำ ความคดิ เหน็ ความคดิ เหน็ ทำงาน
กิจกรรม ปญั หา/หรือ รวม
ประเมนิ ปรับปรงุ 20
ผลงานกลมุ่ คะแนน
43214321432143214321
ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
54
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับ
ระดับคะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พึงประสงค์ดา้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมาย
กษัตรยิ ์ ของเพลงชาติ
1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผ้อู นื่ ปฏบิ ตั ิตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื ง
1.3 ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกบั สมาชิกในโรงเรยี น ชมุ ชน
และสงั คม
1.4 เป็นผู้นำหรอื เป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี
ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ชื่นชม ปกปอ้ ง
ความเป็นชาตไิ ทย
1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตนตามหลกั ของศาสนา
และเป็นตัวอย่างทด่ี ขี องศาสนิกชน
1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมทเ่ี กย่ี วข้องกบั สถาบนั
พระมหากษตั ริยต์ ามทีโ่ รงเรียนและชุมชนจดั ขน้ึ ชน่ื ชมในพระราชกรณยี กจิ
พระปรชี าสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์
2. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มูลท่ถี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง
2.2 ปฏิบัติในส่ิงทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะกระทำความผิด ทำตาม
สัญญาทตี่ นให้ไวก้ ับเพอ่ื น พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง
ทด่ี ีด้านความซือ่ สตั ย์
2.3 ปฏบิ ตั ติ นต่อผูอ้ น่ื ดว้ ยความซอื่ ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ไมถ่ กู ต้อง
และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีแกเ่ พอื่ นดา้ นความซือ่ สัตย์
3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว
โรงเรียน และสังคม ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ืน่ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน ปฏบิ ตั ิ
เปน็ ปกตวิ สิ ัยและเปน็ แบบอย่างทดี่ ี
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรตู้ ่างๆ
4.2 มีการจดบันทึกความร้อู ย่างเปน็ ระบบ
4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล
5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั
ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม
5.2 ใช้ทรพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คุ้มคา่ และเกบ็ รักษาดแู ลอย่างดี
5.3 ปฏิบตั ติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อืน่ และไมท่ ำใหผ้ ู้อน่ื เดอื ดรอ้ น พร้อมใหอ้ ภยั เม่อื ผ้อู ่ืน
กระทำผดิ พลาด
55
แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับ
ระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ ้าน 4321
5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ วี ิตประจำวนั บนพ้ืนฐาน
ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
5.6 ร้เู ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั
และปรับตวั อยรู่ ่วมกบั ผ้อู ่นื ได้อยา่ งมคี วามสขุ
6. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 6.1 เอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
6.2 ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานให้สำเรจ็
6.3 ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานอยา่ งรอบคอบ
6.4 ทุ่มเท ทำงาน อดทน ไมท่ อ้ ตอ่ ปญั หาและอุปสรรค
6.5 พยายามแกป้ ัญหาและอปุ สรรคในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.6 ชื่นชมผลงานความสำเรจ็ ดว้ ยความภาคภมู ใิ จ
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ แบ่งปันสง่ิ ของ ทรัพยส์ นิ และอ่ืนๆ
พรอ้ มช่วยแก้ปญั หา
8.3 ดแู ล รักษาทรพั ยส์ นิ ของห้องเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น ชมุ ชน
เพอ่ื แกป้ ญั หาหรือร่วมสรา้ งสิง่ ที่ดงี ามตามสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึน
ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง
บนั ทึกหลังแผนการสอน 56
ด้านความรู้ )
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นอ่ืนๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทีม่ ปี ัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
ข้อเสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
ลงช่ือ
(
57
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4
วชิ า ท 33101 ภาษาไทย5 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6
กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ภาคเรียนที่ 1
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เสภาเรอื่ ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา เวลา 1-2 ชว่ั โมง
เรอื่ ง คณุ คา่ และขอ้ คดิ ผูส้ อน นางสาวจิลันดา รักไร่
....................................................................................................................................................................................
1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา สะท้อนภาพสังคมและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น
และยังให้ข้อคิดที่มคี ุณคา่ เพื่อนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง
2. ตวั ชี้วัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 ตัวชว้ี ัด
ท 5.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณ์เบ้ืองตน้
ม.4-6/2 วิเคราะห์ลกั ษณะเด่นของวรรณคดเี ช่อื มโยงกับการเรียนรูท้ างประวตั ิศาสตร์และวถิ ีชวี ติ ของสังคม
ในอดตี
ม.4-6/3 วิเคราะห์และประเมินคณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะทีเ่ ปน็ มรดกทาง
วัฒนธรรม
ของชาติ
ม.4-6/4 สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม เพอ่ื นำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ
2.5 จุดประสงค์การเรียนรู้
6) อธิบายคณุ คา่ ด้านสังคมจากเสภาเร่ือง ขุนช้างขนุ แผน ตอนขุนชา้ งถวายฎีกา ได้
7) สงั เคราะหค์ วามรเู้ ชงิ สังคมและวัฒนธรรมจากเสภาเรอื่ ง ขุนช้างขุนแผน ตอนขุนชา้ งถวายฎกี า มาเทยี บเคยี งกบั
สังคมยุคปจั จบุ ันได้
8) สงั เคราะหข์ ้อคิดจากเสภาเรอื่ ง ขุนชา้ งขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎกี า เพื่อนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ ได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.4 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1) หลกั การวเิ คราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมเบื้องต้น
- การวเิ คราะห์และการวจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรม
2) การวิเคราะห์ลักษณะเดน่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมเกย่ี วกบั เหตกุ ารณป์ ระวัติศาสตร์และวิถีชวี ิตของสงั คม
ในอดีต
3) การวิเคราะห์และประเมนิ คุณค่าวรรณคดแี ละวรรณกรรม
- ด้านสงั คมและวัฒนธรรม
4) การสงั เคราะห์วรรณคดแี ละวรรณกรรม
58
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 2) ทกั ษะการสังเคราะห์
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4) ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการวิเคราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้
3) ทกั ษะการประเมิน 4. รกั ความเปน็ ไทย
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั
3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วธิ สี อนโดยการจัดการเรียนร้แู บบรว่ มมือ : เทคนคิ คู่คิด
ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรียน
10. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั เสภาเรือ่ ง ขนุ ชา้ งขุนแผน ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า เพอ่ื ทบทวนความรเู้ ดิมของ
นักเรียน
11. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ ในประเด็นต่อไปนี้
- นักเรียนประทบั ใจตัวละครตวั ใดในเสภาเรอื่ ง ขุนช้างขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา
- นกั เรียนคดิ วา่ การกระทำของตัวละครใดในเสภาเรื่อง ขนุ ช้างขุนแผน สามารถนำไปเปน็ แบบอยา่ งในการดำเนนิ ชีวติ ได้
เพราะเหตุใดโดยครคู อยกระตุ้นใหน้ ักเรียนทุกคนมสี ว่ นรว่ มในการตอบคำถาม
12. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-2
คำถามกระตนุ้ ความคดิ
• การศกึ ษาสภาพสงั คมและวฒั นธรรม ในวรรณคดมี คี วามสำคญั อย่างไร (มีความสำคัญในแงท่ ่ีช่วยใหผ้ ูศ้ ึกษา
ตระหนกั ในคณุ คา่ ของวรรณคดีมากยิ่งข้ึนว่า วรรณคดีไมเ่ พียงแต่มคี ุณค่าด้านวรรณศลิ ปเ์ ท่านน้ั แต่ยงั มี
คุณค่าด้านสังคมและวฒั นธรรมอกี ด้วย นอกจากน้ีการศึกษาดังกล่าวยงั ช่วยให้ผ้ศู กึ ษาได้รบั ความรู้เกยี่ วกับ
สภาพสังคมวฒั นธรรมในสมัยอดตี ดว้ ย ซง่ึ รายละเอยี ดบางอย่างอาจไม่มีบันทึกไว้ในเอกสารประวตั ศิ าสตร์
อย่างชัดเจนแต่กวีได้สะท้อนและบนั ทกึ ไวใ้ นวรรณคดี)
• การวเิ คราะห์และสงั เคราะหข์ ้อคิดจากวรรณคดี สามารถศึกษาได้อยา่ งไร (ศกึ ษาไดจ้ ากการพิจารณา
พฤติกรรมและบทบาทของตัวละครวา่ ใหข้ ้อคิดหรือใหค้ ติสอนใจเรอ่ื งอะไรแก่ผู้อ่าน ตวั ละครน้นั เป็น
แบบอย่างหรือให้อุทาหรณเ์ รื่องใดแก่ผูอ้ ่าน และศึกษาไดจ้ ากการวิเคราะห์สาระสำคญั ของเรื่องว่า กวี
ตอ้ งการสื่อความคิดหรอื คตสิ ำคญั ข้อใดแกผ่ ู้อา่ น)
ข้นั สอน
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มจบั คู่กนั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ตล่ ะคู่รว่ มกนั ศึกษาความรเู้ รอื่ ง คณุ ค่าและข้อคิดจากเสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน
ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า จากหนังสือเรยี น หนังสือคน้ คว้าเพิ่มเติม
2. นักเรยี นแตล่ ะคนทำใบงานท่ี 4.1 เรอื่ ง วถิ ไี ทย ตอนขุนช้างถวายฎีกา เสรจ็ แลว้ ร่วมกนั อภปิ รายคำตอบในใบงาน ผลัด
กนั ซกั ถามข้อสงสัย และผลดั กนั อธบิ ายจนมีความเขา้ ใจชดั เจน
3. นักเรยี นแต่ละครู่ วมกลมุ่ เดิมผลัดกันอภปิ รายคำตอบในใบงานที่ 4.1 ให้เพื่อนอีกคู่หน่ึงฟงั ผลัดกันซกั ถามข้อสงสัยแล้ว
สรุปเป็นคำตอบของกล่มุ
59
4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 4.1 ท่หี น้าช้นั เรียน โดยครูและเพอ่ื นกลุ่มอ่นื ร่วมกนั
ตรวจสอบความถูกต้องและให้ขอ้ เสนอแนะ
5. ครูให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ช่วยกันทำใบงานที่ 4.2 แงง่ ามความคิดตอนขุนชา้ งถวายฎีกา เม่ือทำเสร็จช่วยกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ นำสง่ ครผู ู้สอน
6. นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด ข้อ 1-2
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• วรรณคดีเร่อื งเสภาขนุ ชา้ งขนุ แผนสะทอ้ นสภาพสงั คมวฒั นธรรมไทยยคุ สมยั ใด
(ชว่ งอยุธยาถึงรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น)
• พฤติกรรมและบทบาทของตัวละครต่างๆ ในเสภาเรื่อง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา ใหข้ ้อคิดนักเรียน
เรอ่ื งใดบา้ ง (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน เชน่ ตัวละคร จม่นื ไวย
(พลายงาม) เป็นตวั ละครท่ใี จร้อน ตัดสนิ ใจลกั พาตวั นางวันทองผเู้ ปน็ มารดาโดยใชอ้ ารมณ์มากกว่าใชเ้ หตุผล
พจิ ารณา ทำใหเ้ กดิ ความเดือดรอ้ นแก่ตนเองและนางวนั ทองภายหลงั พฤติกรรมของตัวละครนสี้ อนใจผู้อา่ นวา่
อย่าตดั สนิ ใจทำสิ่งใดด้วยอารมณเ์ พยี งอยา่ งเดยี ว แต่ต้องพิจารณาด้วยสติอยา่ งรอบคอบเสยี ก่อน เพราะการ
ตัดสนิ ใจด้วยอารมณ์อาจทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและคนใกลช้ ดิ ได้)
ข้นั สรปุ
6. นกั เรยี นร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง คณุ คา่ และข้อคดิ จากเสภาเร่ืองขนุ ชา้ งขุนแผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า
2. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ข้อ 1-2
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• นกั เรยี นคดิ วา่ สภาพสังคมวฒั นธรรมไทยดา้ นตา่ งๆ ท่สี ะทอ้ นอยู่ในเรือ่ งขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขุนชา้ งถวายฎกี า มี
ความเหมอื นหรือต่างจากสภาพสงั คมไทยในปจั จบุ นั อย่างไรบา้ ง
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพินิจของครผู สู้ อน)
• นกั เรยี นเห็นด้วยหรือไม่ที่มีผู้กลา่ วว่า สาเหตหุ น่งึ ท่คี นไทยประทบั ใจและนิยมฟังเสภาเรื่องขุนชา้ งขนุ แผน เปน็
เพราะเนื้อหาวรรณคดเี รื่องนี้มคี วามสนกุ สนาน หลากรส สะเทือนอารมณ์ และเปน็ เร่อื งทม่ี ไิ ด้เป็นดงั ใจหวังเสยี
ท้งั หมด(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผสู้ อน)
ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มเขียนบท และแสดงบทบาทสมมติ เรือ่ ง ขุนชา้ งขนุ แผน ตอนขุนช้างถวายฎกี า
1) การวเิ คราะห์และวิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น
2) การวเิ คราะหล์ ักษณะเด่นของวรรณคดีเช่ือมโยงกับการเรียนรทู้ างประวัตศิ าสตร์และวถิ ชี ีวิตของสงั คมในอดตี
3) การวเิ คราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมในฐานะทีเ่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
4) การสงั เคราะหข์ ้อคดิ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเมอื่ นำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริงการแสดงบทบาทสมมติ
นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง เสภาเรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า
60
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 4.1 ใบงานที่ 4.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 4.2 ใบงานท่ี 4.2 ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
และรกั ความเปน็ ไทย
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
8. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.6
2) หนงั สือค้นควา้ เพ่ิมเตมิ
3) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง วถิ ีไทย ตอนขุนชา้ งถวายฎีกา
4) ใบงานท่ี 4.2 เรอ่ื ง แงง่ ามความคดิ ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
61
ใบงานท่ี 4.1 เรอื่ ง วถิ ีไทย ตอนขุนช้างถวายฎีกา
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนพิจารณาบทประพันธ์ทกี่ ำหนด แล้ววเิ คราะห์วา่ สะท้อนสงั คมและวฒั นธรรมไทยสมัยอยธุ ยา
และรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ ในด้านใดบา้ ง จากตวั เลือกที่กำหนดให้
ก. สะท้อนสภาพบ้านเรอื นของคนสมัยก่อน
ข. สะท้อนความเชอื่ เรื่องไสยศาสตร์ของคนในสงั คม
ค. สะท้อนความเช่อื เร่ืองความฝันของคนในสังคม
ง. สะท้อนความเชอ่ื เร่ืองกรรมของคนในสังคม
จ. สะท้อนคา่ นิยมเร่อื งผู้หญิงต้องมีสามีคนเดียว
ฉ. สะท้อนคา่ นยิ มความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
ช. สะท้อนประเพณีทก่ี ษัตริย์เสด็จประพาสทอ้ งทุง่ ในฤดูน้ำหลาก
ซ. สะทอ้ นภาพวธิ ีการถวายฎีกาเพอ่ื ร้องทกุ ข์
ญ. สะท้อนความเชอื่ เรือ่ งลางบอกเหตรุ า้ ย
1. ฟา้ ขาวดาวเด่นดวงสว่าง จนั ทรก์ ระจ่างทรงกลดหมดเมฆสิน้
จงึ เซน่ เหล้าข้าวปลาให้พรายกิน เสกขมน้ิ ว่านยาเขา้ ทาตัว
ลงยันต์ราชะเอาปะอก หยิบยกมงคลขน้ึ ใสห่ ัว
เปา่ มนตรเ์ บ้ืองบนชอ่มุ มวั พรายย่วั ยวนใจให้ไคลคลา
2. ชอบผดิ พ่อจงคิดคะนงึ ตรอง อันตวั น้องมลทินหาสน้ิ ไม่
ประหนึง่ ว่าวนั ทองน้สี องใจ พบไหนก็เป็นแตเ่ ช่นนน้ั
3. ข้าไทนอนหลับลงทับกนั สะเดาะกลอนถอนลั่นถึงช้นั สาม
กระจกฉากหลากสลับวับแวววาม อร่ามแสงโคมแก้วแววจับตา
ม่านมลู่ มี่ ฉี ากประจำกนั อัฒจนั ทรเ์ ครื่องแก้วกห็ นกั หนา
ชมพลางย่างเยื้องชำเลอื งมา เปิดม้งุ เหน็ หนา้ แม่วันทอง
4. วันน้ันพอพระปิน่ นรนิ ทร์ราช เสดจ็ ประพาสบวั ยังหากลบั ไม่
ขนุ ชา้ งมาถงึ ซ่ึงวงั ใน ก็คอยจ้องท่ีใต้ตำหนักน้ำ
62
5. ใช่ท่ใี ชท่ างวางเข้ามา ฤๅอ้ายชา้ งเปน็ บ้ากระมังน่ี
เฮย้ ใครรบั ฟ้องของมันที ตเี สยี สามสบิ จงึ ปลอ่ ยไป
มหาดเลก็ ก็รับเอาฟอ้ งมา ตำรวจคว้าขนุ ชา้ งหาวางไม่
ลงพระราชอาญาตามวา่ ไว้ พระจึงให้ตงั้ กฤษฎีกา
6. ใตเ้ ตยี งเสยี งหนกู ็กุกกก แมลงมุมทุ่มอกทรี่ ิมฝา
ยงิ่ หวาดหว่ันพรัน่ กลวั มรณา ดังวิญญานางจะพรากไปจากกาย
7 ทุกวนั นใี้ ชแ่ ม่จะผาสกุ มแี ต่ทุกขใ์ จเจบ็ ดังเหนบ็ หนาม
ต้องจำจนทนกรรมทต่ี ิดตาม จะขืนความคดิ ไปก็ใช่ที
8. พรุ่งนพ้ี ่จี ะแกเ้ สนยี ดฝัน แล้วทำมิ่งสิ่งขวัญใหเ้ ป็นสุข
มใิ ห้เกดิ ราคกี ลยี คุ อย่าเป็นทุกขเ์ ลยเจา้ จงเบาใจ
9. ครนั้ อย่มู าขนุ แผนต้องจำจอง กระหม่อมฉันมีท้องน้ันเตบิ ใหญ่
อยทู่ เ่ี คหาหน้าวัดตะไกร ขุนชา้ งไปบอกวา่ พระโองการ
มรี ับสงั่ โปรดปรานประทานให้ กระหม่อมฉนั ไม่ไปก็หักหาญ
ยื้อยดุ ฉดุ คร่าทำสามานย์ เพือ่ นบ้านจะช่วยก็สดุ คิด
ด้วยขนุ ชา้ งอ้างวา่ รบั สัง่ ให้ ใครจะขดั ขืนไวก้ ็กลวั ผิด
จนใจจะมิไปก็สุดฤทธ์ิ ชวี ติ อยใู่ ต้พระบาทา
10. สขี ้ผี ึ้งสปี ากกนิ หมากเวทย์ ซง่ึ วิเศษสารพัดแก้ขดั สน
น้ำมนั พรายนำ้ มันจนั ทนส์ รรเสกปน เคยคมุ้ ขังบังตนแต่ไรมา
เฉลย 63
ใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง วถิ ีไทย ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า
คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นพิจารณาบทประพันธ์ทก่ี ำหนด แล้ววเิ คราะห์ว่า สะท้อนสังคมและวฒั นธรรมไทยสมัยอยธุ ยา
และรตั นโกสินทรต์ อนต้นในด้านใดบ้าง จากตวั เลือกท่ีกำหนดให้
ก. สะท้อนสภาพบา้ นเรือนของคนสมัยกอ่ น
ข. สะท้อนความเชือ่ เรอ่ื งไสยศาสตร์ของคนในสังคม
ค. สะท้อนความเชื่อเรื่องความฝนั ของคนในสงั คม
ง. สะท้อนความเชอื่ เรื่องกรรมของคนในสงั คม
จ. สะท้อนค่านยิ มเรอื่ งผู้หญิงต้องมีสามีคนเดยี ว
ฉ. สะท้อนคา่ นิยมความจงรักภักดีต่อพระมหากษตั ริย์
ช. สะท้อนประเพณีที่กษตั ริย์เสดจ็ ประพาสท้องทุ่งในฤดูนำ้ หลาก
ซ. สะท้อนภาพวธิ ีการถวายฎีกาเพ่อื ร้องทุกข์
ญ. สะท้อนความเช่ือเร่อื งลางบอกเหตรุ ้าย
1. ฟา้ ข่าวดาวเด่นดวงสว่าง จันทร์กระจา่ งทรงกลดหมดเมฆสิ้น
จงึ เซ่นเหลา้ ขา้ วปลาให้พรายกิน เสกขมน้ิ ว่านยาเข้าทาตวั
ลงยนั ต์ราชะเอาปะอก หยบิ ยกมงคลขนึ้ ใสห่ วั
เป่ามนตร์เบือ้ งบนชอมุ่ มวั พรายย่ัวยวนใจให้ไคลคลา
ข. สะท้อนความเชื่อเรื่องไสยศาสตรข์ องคนในสงั คม
2. ชอบผดิ พ่อจงคดิ คะนึงตรอง อันตวั น้องมลทนิ หาสิ้นไม่
ประหนง่ึ วา่ วนั ทองนี้สองใจ พบไหนกเ็ ป็นแตเ่ ชน่ นั้น
จ. สะทอ้ นคา่ นยิ มเรื่องผู้หญงิ ต้องมสี ามคี นเดียว
3. ขา้ ไทนอนหลบั ลงทับกัน สะเดาะกลอนถอนลั่นถึงชัน้ สาม
กระจกฉากหลากสลบั วับแวววาม อร่ามแสงโคมแก้วแววจบั ตา
มา่ นมู่ล่มี ีฉากประจำกนั อฒั จันทรเ์ คร่ืองแกว้ ก็หนกั หนา
ชมพลางย่างเย้ืองชำเลืองมา เปดิ มงุ้ เหน็ หนา้ แม่วันทอง
ก. สะท้อนสภาพบ้านเรอื นของคนสมยั ก่อน
4. วันนั้นพอพระปิ่นนรินทร์ราช เสด็จประพาสบัวยังหากลบั ไม่
ขุนช้างมาถึงซ่งึ วังใน กค็ อยจ้องทใี่ ต้ตำหนักน้ำ
ช. สะท้อนประเพณที ี่กษัตรยิ เ์ สดจ็ ประพาสท้องทงุ่ ในฤดูน้ำหลาก
64
5. ใชท่ ี่ใช่ทางวางเข้ามา ฤๅอ้ายชา้ งเปน็ บ้ากระมงั น่ี
เฮ้ยใครรับฟอ้ งของมันที ตเี สียสามสบิ จงึ ปล่อยไป
มหาดเล็กกร็ ับเอาฟอ้ งมา ตำรวจคว้าขุนช้างหาวางไม่
ลงพระราชอาญาตามวา่ ไว้ พระจงึ ใหต้ ง้ั กฤษฎกี า
ซ. สะท้อนภาพวธิ ีการถวายฎีกาเพื่อร้องทกุ ข์
6. ใตเ้ ตยี งเสียงหนูก็กกุ กก แมลงมุมทุ่มอกท่ีริมฝา
ย่ิงหวาดหวั่นพรั่นกลัวมรณา ดังวิญญานางจะพรากไปจากกาย
ญ. สะท้อนความเชือ่ เร่ืองลางบอกเหตรุ า้ ย
7 ทกุ วันนใ้ี ชแ่ มจ่ ะผาสุก มแี ต่ทุกขใ์ จเจบ็ ดังเหน็บหนาม
ต้องจำจนทนกรรมท่ีติดตาม จะขนื ความคิดไปก็ใช่ที
ง. สะท้อนความเชอ่ื เรอื่ งกรรมของคนในสังคม
8. พรงุ่ นพี้ จี่ ะแกเ้ สนียดฝนั แลว้ ทำม่งิ สงิ่ ขวญั ให้เป็นสุข
มใิ ห้เกิดราคกี ลยี ุค อย่าเป็นทุกข์เลยเจา้ จงเบาใจ
ค. สะท้อนความเช่ือเร่ืองความฝนั ของคนในสังคม
9. ครน้ั อยู่มาขนุ แผนต้องจำจอง กระหม่อมฉนั มีท้องนั้นเติบใหญ่
อยทู่ ี่เคหาหน้าวัดตะไกร ขนุ ช้างไปบอกวา่ พระโองการ
มรี บั สั่งโปรดปรานประทานให้ กระหม่อมฉันไม่ไปกห็ ักหาญ
ย้อื ยดุ ฉดุ ครา่ ทำสามานย์ เพอื่ นบา้ นจะช่วยกส็ ดุ คิด
ด้วยขุนช้างอ้างว่ารบั ส่งั ให้ ใครจะขดั ขืนไวก้ ็กลัวผดิ
จนใจจะมิไปก็สุดฤทธ์ิ ชีวติ อยใู่ ตพ้ ระบาทา
ฉ. สะท้อนค่านยิ มความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
10. สขี ผี้ ึ้งสปี ากกินหมากเวทย์ ซ่งึ วิเศษสารพัดแก้ขดั สน
นำ้ มนั พรายน้ำมนั จนั ทนส์ รรเสกปน เคยคุ้มขังบังตนแตไ่ รมา
ข. สะทอ้ นความเชอื่ เรื่องไสยศาสตร์ของคนในสงั คม
65
ใบงานที่ 4.2 เร่ือง แง่งามความคดิ ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนพิจารณาบทประพันธท์ ี่กำหนดว่า ตัวละครใดเป็นคนพูด และคำพูดดงั กลา่ วสะท้อนคณุ ธรรมขอ้ ใด
ของตวั ละคร โดยพิจารณาจากตวั เลือกทีก่ ำหนดให้
ก. ความกตัญญตู อ่ บดิ ามารดา ข. ความมีสตริ อบคอบ
ค. ความจงรกั ภกั ดตี อ่ พระมหากษัตริย์ ง. ความรักลกู
1. จึงปลอบว่าพลายงามพ่อทรามรกั อยา่ งฮกึ ฮักว่าวนุ่ ทำหนุ หัน
จงครวญใคร่ให้เหน็ ขอ้ สำคญั แมน่ ีพ้ ร่นั กลวั แต่จะเกดิ ความ
ดว้ ยเปน็ ขา้ ลกั ไปไทลักมา เห็นเบอ้ื งหน้าจะองึ แม่จงึ หา้ ม
ถา้ เจา้ เห็นเปน็ สุขไม่ลกุ ลาม ก็ตามเถดิ มารดาจะคลาไคล
ผู้พูด คอื
สะท้อนคุณธรรม ข้อ
2. ใชจ่ ะอม่ิ เอิบอาบด้วยเงนิ ทอง มิใช่ของตัวทำมาแต่ไหน
ทั้งผคู้ นชา้ งมา้ แลข้าไท ไม่รกั ใครเ่ หมือนกบั พ่อพลายงาม
ทุกวันน้ีใชแ่ มจ่ ะผาสกุ มีแต่ทุกข์ใจเจบ็ ดังเหน็บหนาม
ตอ้ งจำจนทนกรรมท่ีติดตาม จะขืนความคดิ ไปกใ็ ชท่ ี
ผู้พูด คอื
สะทอ้ นคุณธรรม ข้อ
3. ขอเดชะละอองธุลบี าท องคห์ รริ ักษ์ราชรงั สรรค์
เมื่อกระหม่อมฉันมาแต่อารัญ ครัง้ นั้นโปรดประทานขนุ แผนไป
คร้ันอยู่มาขนุ แผนต้องจำจอง หมอ่ มฉันมที ้องนน้ั เติบใหญ่
อยูท่ ี่เคหาหน้าวัดตะไกร ขุนช้างไปบอกวา่ พระโองการ
มรี บั สัง่ โปรดปรานประทานให้ กระหม่อมฉนั ไม่ไปกห็ ักหาญ
ยื้อยุดฉดุ คร่าทำสามานย์ เพ่อื นบา้ นจะช่วยก็สดุ คิด
ด้วยขนุ ช้างอ้างว่ารับส่ังให้ ใครจะขดั ขนื ไวก้ ็กลวั ผิด
จนใจจะมิไปกส็ ุดฤทธ์ิ ชวี ิตอยใู่ ต้พระบาทา
ผพู้ ูด คอื
สะทอ้ นคุณธรรม ข้อ
66
4. ทุกวนั น้ลี ูกชายสบายยศ พร้อมหมดเมยี มง่ิ ก็มีสอง
มบี า่ วไพร่ใช้สอยท้งั เงนิ ทอง พน่ี ้องขา้ งพอ่ ก็บริบรู ณ์
ยงั ขาดแต่แม่คุณไมแ่ ลเห็น เป็นอยู่ก็เหมอื นตายไปหายสูญ
ขอ้ น้ที ่ีทกุ ข์ยังเพิ่มพูน ถ้าพร้อมมูลแม่ดว้ ยจะสำราญ
ผู้พดู คือ เขาจะรุกรานพาลขม่ เหง
สะท้อนคณุ ธรรม ข้อ ฉวยสบเพลงพลาดพลำ้ มเิ ปน็ การ
พอ่ จงเลา่ แก่แมแ่ ลว้ กลับบ้าน
5. ขนุ ช้างตืน่ ข้ึนมเิ ปน็ การ อยา่ หาญเหมือนพ่อนักคะนองใจ
จะเกดิ ผิดแมค่ ดิ คะนึงเกรง
มีธุระส่ิงไรในใจเจา้ เคราะห์ประจวบจากแมห่ าเห็นไม่
มคิ วรทำเจ้าอย่าทำให้รำคาญ ฤๅหาไม่ใจแม่ไม่คดิ เลย
แมท่ ูนเกล้าไปเรือนอยา่ เชือนเฉย
ผู้พูด คอื เหมอื นเมื่อครงั้ แม่เคยเลย้ี งลูกมา
สะทอ้ นคณุ ธรรม ข้อ
6. แมเ่ ลย้ี งลกู มาถึงเจด็ ขวบ
จะคดิ ถึงลูกบา้ งฤๅอย่างไร
ถา้ คดิ เห็นเอน็ ดวู า่ ลกู เต้า
ให้ลูกคลายอารมณ์ไดช้ มเชย
ผู้พูด คอื
สะท้อนคณุ ธรรม ข้อ
เฉลย 67
ใบงานท่ี 4.2 เรือ่ ง แง่งามความคดิ ตอนขุนชา้ งถวายฎีกา
คำชี้แจง ให้นกั เรียนพิจารณาบทประพันธท์ ีก่ ำหนดวา่ ตัวละครใดเป็นคนพูด และคำพดู ดงั กล่าวสะท้อนคุณธรรมขอ้ ใด
ของตวั ละคร โดยพจิ ารณาจากตัวเลอื กท่ีกำหนดให้
ก. ความกตัญญตู ่อบิดามารดา ข. ความมีสตริ อบคอบ
ค. ความจงรักภักดตี อ่ พระมหากษัตริย์ ง. ความรกั ลูก
1. จงึ ปลอบวา่ พลายงามพ่อทรามรกั อย่างฮกึ ฮกั ว่าวุ่นทำหนุ หัน
จงครวญใครใ่ ห้เห็นข้อสำคญั แมน่ ี้พรนั่ กลวั แตจ่ ะเกิดความ
ด้วยเป็นขา้ ลกั ไปไทลักมา เหน็ เบ้อื งหน้าจะอึงแม่จงึ ห้าม
ถา้ เจ้าเห็นเปน็ สขุ ไม่ลกุ ลาม กต็ ามเถดิ มารดาจะคลาไคล
ผู้พดู คือ นางวนั ทอง
สะทอ้ นคุณธรรม ข้อ ข. ความมสี ติรอบคอบ
2. ใชจ่ ะอม่ิ เอบิ อาบดว้ ยเงินทอง มใิ ช่ของตัวทำมาแต่ไหน
ทัง้ ผู้คนช้างมา้ แลขา้ ไท ไมร่ กั ใครเ่ หมือนกบั พ่อพลายงาม
ทุกวันนี้ใช่แมจ่ ะผาสุก มีแตท่ ุกข์ใจเจบ็ ดังเหน็บหนาม
ต้องจำจนทนกรรมที่ติดตาม จะขนื ความคดิ ไปกใ็ ช่ที
ผู้พดู คือ นางวันทอง
สะท้อนคณุ ธรรม ข้อ ง. ความรกั ลกู
3. ขอเดชะละอองธุลบี าท องคห์ รริ กั ษ์ราชรังสรรค์
เมื่อกระหม่อมฉันมาแต่อารญั คร้งั นน้ั โปรดประทานขนุ แผนไป
ครน้ั อยมู่ าขุนแผนต้องจำจอง หม่อมฉันมีท้องนัน้ เตบิ ใหญ่
อย่ทู ี่เคหาหน้าวัดตะไกร ขนุ ช้างไปบอกว่าพระโองการ
มรี บั สั่งโปรดปรานประทานให้ กระหม่อมฉันไม่ไปก็หักหาญ
ยื้อยุดฉดุ คร่าทำสามานย์ เพ่ือนบ้านจะชว่ ยก็สดุ คดิ
ดว้ ยขนุ ช้างอา้ งวา่ รับสั่งให้ ใครจะขัดขนื ไวก้ ็กลัวผิด
จนใจจะมิไปกส็ ดุ ฤทธิ์ ชวี ิตอย่ใู ต้พระบาทา
ผู้พดู คอื นางวนั ทอง
สะท้อนคณุ ธรรม ข้อ ค. ความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
68
4. ทุกวันนลี้ กู ชายสบายยศ พรอ้ มหมดเมยี มิง่ ก็มีสอง
มีบ่าวไพร่ใช้สอยท้ังเงินทอง พนี่ ้องข้างพอ่ ก็บริบรู ณ์
ยังขาดแต่แม่คุณไม่แลเหน็ เป็นอยู่ก็เหมอื นตายไปหายสูญ
ขอ้ นี้ท่ีทกุ ขย์ ังเพิ่มพนู ถ้าพร้อมมลู แมด่ ้วยจะสำราญ
ผู้พดู คือ จม่ืนไวยวรนาถ
สะท้อนคุณธรรม ข้อ ก. ความกตัญญูต่อบิดามารดา
5. ขุนช้างต่ืนขึ้นมเิ ป็นการ เขาจะรุกรานพาลข่มเหง
จะเกิดผิดแม่คิดคะนึงเกรง ฉวยสบเพลงพลาดพลำ้ มิเปน็ การ
มีธรุ ะสงิ่ ไรในใจเจ้า พอ่ จงเล่าแกแ่ ม่แล้วกลบั บ้าน
มิควรทำเจ้าอยา่ ทำใหร้ ำคาญ อยา่ หาญเหมือนพ่อนักคะนองใจ
ผู้พูด คอื นางวันทอง
สะทอ้ นคุณธรรม ข้อ ง. ความรักลกู
6. แม่เลี้ยงลูกมาถึงเจ็ดขวบ เคราะห์ประจวบจากแมห่ าเห็นไม่
จะคดิ ถึงลูกบ้างฤๅอย่างไร ฤๅหาไม่ใจแม่ไม่คิดเลย
ถ้าคิดเหน็ เอน็ ดูวา่ ลกู เตา้ แมท่ นู เกลา้ ไปเรือนอยา่ เชือนเฉย
ใหล้ กู คลายอารมณ์ไดช้ มเชย เหมอื นเมื่อครัง้ แม่เคยเล้ียงลกู มา
ผ้พู ูด คอื จมน่ื ไวยวรนาถ
สะท้อนคุณธรรม ข้อ ก. ความกตญั ญูต่อบิดามารดา
69
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั
คะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 นำเสนอเนื้อหาในผลงานได้ถูกต้อง
2 การลำดบั ขน้ั ตอนของเน้ือเรื่อง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ตำ่ กวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
70
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
ชือ่ ชั้น
คำชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่องทีต่ รงกับระดับ
คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321
1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่
3 การทำงานตามหนา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย
4 ความมีน้ำใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ตำ่ กวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ
71
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รงกับ
ระดับคะแนน
ลำดับท่ี ชือ่ -สกุล ความรว่ มมือ การแสดง การรบั ฟัง การต้งั ใจ การแก้ไข
ของผรู้ ับการ กนั ทำ ความคดิ เหน็ ความคดิ เหน็ ทำงาน
กิจกรรม ปญั หา/หรือ รวม
ประเมนิ ปรับปรงุ 20
ผลงานกลมุ่ คะแนน
43214321432143214321
ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
72
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับ
ระดับคะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พึงประสงค์ดา้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมาย
กษัตรยิ ์ ของเพลงชาติ
1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผ้อู นื่ ปฏบิ ตั ิตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื ง
1.3 ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกบั สมาชิกในโรงเรียน ชุมชน
และสงั คม
1.4 เป็นผู้นำหรอื เป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมทีส่ ร้างความสามคั คี
ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ช่ืนชม ปกป้อง
ความเป็นชาตไิ ทย
1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตนตามหลกั ของศาสนา
และเป็นตัวอย่างทด่ี ขี องศาสนิกชน
1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมทเ่ี กย่ี วข้องกับสถาบนั
พระมหากษตั ริยต์ ามทีโ่ รงเรียนและชุมชนจดั ขน้ึ ชื่นชมในพระราชกรณยี กจิ
พระปรชี าสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์
2. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มูลท่ถี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง
2.2 ปฏิบัติในส่ิงทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะกระทำความผดิ ทำตาม
สัญญาทตี่ นให้ไวก้ ับเพอ่ื น พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เปน็ แบบอยา่ ง
ทด่ี ีด้านความซือ่ สตั ย์
2.3 ปฏบิ ตั ติ นต่อผูอ้ น่ื ดว้ ยความซอื่ ตรง ไม่หาประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถูกต้อง
และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีแกเ่ พอื่ นดา้ นความซือ่ สัตย์
3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว
โรงเรียน และสังคม ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ืน่ ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิ
กจิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน ปฏิบตั ิ
เปน็ ปกตวิ สิ ัยและเปน็ แบบอย่างทดี่ ี
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรตู้ ่างๆ
4.2 มีการจดบันทึกความร้อู ย่างเปน็ ระบบ
4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล
5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั
ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม
5.2 ใช้ทรพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คุ้มคา่ และเกบ็ รกั ษาดูแลอย่างดี
5.3 ปฏิบตั ติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อืน่ และไมท่ ำใหผ้ ู้อน่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภัยเมือ่ ผอู้ ื่น
กระทำผดิ พลาด
73
แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับ
ระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ ้าน 4321
5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ วี ิตประจำวนั บนพ้ืนฐาน
ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
5.6 ร้เู ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั
และปรับตวั อยรู่ ่วมกบั ผ้อู ่นื ได้อยา่ งมคี วามสขุ
6. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 6.1 เอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
6.2 ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานให้สำเรจ็
6.3 ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานอยา่ งรอบคอบ
6.4 ทุ่มเท ทำงาน อดทน ไมท่ อ้ ตอ่ ปญั หาและอุปสรรค
6.5 พยายามแกป้ ัญหาและอปุ สรรคในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.6 ชื่นชมผลงานความสำเรจ็ ดว้ ยความภาคภมู ใิ จ
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ แบ่งปันสง่ิ ของ ทรัพยส์ นิ และอ่ืนๆ
พรอ้ มช่วยแก้ปญั หา
8.3 ดแู ล รักษาทรพั ยส์ นิ ของห้องเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น ชมุ ชน
เพอ่ื แกป้ ญั หาหรือร่วมสรา้ งสิง่ ที่ดงี ามตามสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึน
ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง
บนั ทึกหลังแผนการสอน 74
ด้านความรู้ )
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นอ่ืนๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทีม่ ปี ัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
ข้อเสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
ลงช่ือ
(
บนั ทึกหลังหนว่ ยการเรียนรูอ้ ิงมาตรฐาน 75
ตอนท่ี 1 นกั เรยี นมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ัดของหน่วยการเรยี นรู้ )
ต่อไปนี้ ท 1.1 (ม.4-6/1) ท 5.1 (ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6)
)
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (จำนวน คน คดิ เป็นร้อยละ
ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
สรุปผลจากการประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจำหน่วยการเรียนรู้
ระดับคุณภาพดีมาก จำนวน
ระดบั คุณภาพดี จำนวน คน คดิ เป็นร้อยละ
ระดับคุณภาพพอใช้ จำนวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ
ระดบั คุณภาพปรับปรงุ จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
คน คดิ เป็นร้อยละ
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ขอ้ เสนอแนะ ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
ลงชือ่
(
ตำแหน่ง
76
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2
สามก๊ก
ตอน กวนอูไปรบั ราชการกบั โจโฉ
77
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 สามก๊ก ตอน กวนอไู ปรับราชการกับโจโฉ
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั
ท 1.1 ม.4-6/1 อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้อยา่ งถกู ต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เร่ืองท่ีอา่ น
ท 5.1 ม.4-6/1 วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์เบ้ืองต้น
ม.4-6/2 วิเคราะหล์ ักษณะเด่นของวรรณคดีเช่อื มโยงกับการเรยี นรู้ทางประวตั ศิ าสตร์และวถิ ีชวี ิตของสงั คมในอดตี
ม.4-6/3 วิเคราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าด้านวรรณศิลปข์ องวรรณคดแี ละวรรณกรรมในฐานะทีเ่ ป็นมรดกทาง
วัฒนธรรมของชาติ
ม.4-6/4 สงั เคราะหข์ ้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การอ่านออกเสียงเรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ จะต้องอ่านอย่างถูกต้อง เหมาะสม วิเคราะห์วิจารณ์ตาม
หลักการวิจารณ์เบื้องต้น และลักษณะเดน่ โดยเชอ่ื มโยงกบั การเรียนรู้ทางประวตั ิศาสตร์และวิถชี วี ิตของสังคมจีนในอดีต คุณค่าด้าน
วรรณศิลป์และสังเคราะหข์ ้อคิด เพื่อนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1) การอา่ นออกเสียง ประกอบด้วย
- บทร้อยแก้วประเภทต่างๆ เช่น บทความ นวนยิ าย และความเรยี ง
2) หลักการวเิ คราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมเบ้ืองตน้
- จุดมุ่งหมายการแตง่ วรรณคดีและวรรณกรรม
- การพิจารณารปู แบบของวรรณคดแี ละวรรณกรรม
- การพิจารณาเนื้อหาและกลวิธีในวรรณคดแี ละวรรณกรรม
- การวเิ คราะห์และการวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม
3) การวิเคราะหล์ ักษณะเดน่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมเกี่ยวกับเหตุการณป์ ระวตั ิศาสตร์และวิถีชวี ติ ของสังคม
ในอดีต
4) การวเิ คราะห์และประเมินคุณคา่ วรรณคดีและวรรณกรรม
- ดา้ นวรรณศิลป์ - ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม
5) การสงั เคราะห์วรรณคดแี ละวรรณกรรม
3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่
- ความเปน็ มาและประวัตผิ ู้แตง่ เรือ่ ง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ
- เนื้อหา คำศัพท์ และสำนวนจากเร่ือง สามกก๊ ตอนกวนอไู ปรับราชการกบั โจโฉ
78
4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการเปรียบเทียบ 2) ทกั ษะการตีความ 3) ทกั ษะการวเิ คราะห์
6) ทกั ษะการสรา้ งความรู้
4) ทกั ษะการเชื่อมโยง 5) ทักษะการสังเคราะห์ 9) ทกั ษะกระบวนการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ
7) ทกั ษะการประเมิน 8) ทักษะประยุกตใ์ ชค้ วามรู้
4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
1. มวี นิ ยั 4. รกั ความเปน็ ไทย
3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
หนังสือเลม่ เล็ก เรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ
7. การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่ือง สามกก๊ ตอนกวนอไู ปรับราชการกบั โจโฉ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1) ตรวจใบงานท่ี 1.1 เรื่อง รจู้ ักสามก๊ก
2) ตรวจใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง อ่านความตามเร่ือง ตอนกวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ
3) ตรวจใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง รคู้ ำ-สำนวน ตอนกวนอูไปรบั ราชการกบั โจโฉ
4) ตรวจใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง ศลิ ป์แหง่ โวหาร ตอนกวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ
5) ตรวจใบงานที่ 4.1 เรื่อง แงง่ ามความรู้และวัฒนธรรม ตอนกวนอูไปรับราชการกบั โจโฉ
6) ตรวจใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง พินิจสารอา่ นชีวติ ตอนกวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ
7) ประเมนิ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว 8) ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น
9) ประเมินการนำเสนอผลงาน 10) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
11) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 12) สงั เกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์
7.3 การประเมินหลงั เรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกับโจโฉ
7.4 การประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจหนังสือเล่มเล็ก เรอื่ ง สามกก๊ ตอนกวนอไู ปรับราชการกบั โจโฉ
79
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1
วชิ า ท 33101 ภาษาไทย5 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ภาคเรยี นที่ 1
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 สามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ เวลา 1-2 ชวั่ โมง
เรอ่ื ง ความเปน็ มา ผสู้ อน นางสาวจิลนั ดา รกั ไร่
..............................................................................................................................................................................................
1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การอ่านออกเสยี งเรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกบั โจโฉ ต้องอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง และเหมาะสม สามารถวเิ คราะห์
วิจารณ์ตามหลักการเบ้อื งต้น นอกจากน้ันยังต้องรู้ความเป็นมาของเรอ่ื งและประวตั ิผู้แตง่ อกี ด้วย
2. ตัวชี้วดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2.1 ตวั ช้วี ดั
ท 1.1 ม.4-6/1 อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถกู ต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกับเร่ืองทอี่ ่าน
ท 5.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และวิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลกั การวิจารณเ์ บอื้ งตน้
2.6 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
9) อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วไดถ้ ูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เรอ่ื งทอี่ ่าน
10) อธบิ ายประวัติความเปน็ มาของเร่อื ง สามกก๊ ตอนกวนอูไปรับราชการกบั โจโฉได้
11) บอกประวตั ผิ ้แู ต่งเร่ือง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกบั โจโฉได้
12) วิเคราะหล์ ักษณะคำประพันธ์ของเร่ืองสามกก๊ ได้
3. สาระการเรียนรู้
3.5 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1) การอา่ นออกเสียง ประกอบด้วย
- บทร้อยแกว้ ประเภทต่างๆ เชน่ บทความ นวนิยาย และความเรยี ง
2) หลักการวเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมเบ้ืองตน้
- จดุ มงุ่ หมายการแตง่ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
- การพจิ ารณารปู แบบของวรรณคดีและวรรณกรรม
3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่นิ
- ความเปน็ มาและประวัติผ้แู ต่งเรือ่ ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกับโจโฉ
4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการเปรียบเทยี บ 2) ทกั ษะการตคี วาม 3) ทักษะการวเิ คราะห์
4) ทกั ษะการสรา้ งความรู้ 5) ทกั ษะกระบวนการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 4. รกั ความเป็นไทย
80
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธสี อนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนคิ เลา่ เรอ่ื งรอบวง
นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกับโจโฉ
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น
13. ครใู ห้นักเรียนดภู าพยนตร์เรอ่ื ง สามกก๊ (ครูเลอื กเฉพาะตอนที่เก่ยี วข้องกบั เน้ือหาทเ่ี รยี น) แล้วใหน้ ักเรียนตอบคำถาม
ต่อไปนี้
- ตวั ละครทป่ี รากฏในเรื่องคือใคร และมีความสำคัญอยา่ งไร
- ตวั ละครทอ่ี ย่ฝู า่ ยเดียวกนั แบ่งออกเป็นกี่ฝา่ ย ประกอบด้วยใครบ้าง
โดยครูคอยกระตุน้ ให้นักเรยี นทกุ คนมสี ว่ นรว่ มในการตอบคำถาม
ข้นั สอน
7. นกั เรยี นเป็นกลุม่ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และ
ออ่ น
8. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั อภิปรายความรเู้ ก่ยี วกับหลักในการอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว ตามที่เคยได้เรยี นมา แลว้ ฝึกอ่าน
ออกเสยี งเรอ่ื ง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ ตามหลักทนี่ ักเรยี นเคยเรยี น โดยครูคอยแนะนำและให้
ข้อเสนอแนะ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นปฏิบัตไิ ดอ้ ย่างถกู ต้อง
9. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ชว่ ยกันฝกึ ทักษะการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ อยา่ งสม่ำเสมอ แลว้ มาทดสอบกบั ครูเปน็
รายบุคคลนอกเวลาเรียน
4. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ กำหนดหมายเลขประจำตวั 1-4 ตามลำดบั แลว้ ให้นกั เรยี นศึกษาความรู้เร่ือง สามก๊ก ตอนกวนอู
ไปรับราชการกับโจโฉ จากหนังสือเรียน หนงั สอื ค้นคว้าเพิ่มเตมิ ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นท่ี
กำหนดให้ ดงั นี้
- หมายเลข 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ความเป็นมา
- หมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรื่อง ประวัติผ้แู ตง่
- หมายเลข 3 ศึกษาความรู้เรื่อง ลักษณะคำประพนั ธ์
- หมายเลข 4 ศกึ ษาความรู้เร่ือง เรอ่ื งย่อ
แลว้ บนั ทึกความร้ทู ่ีไดจ้ ากการศกึ ษาลงในแบบบันทึกการอ่าน
6. นกั เรยี นแต่ละคนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเล่าให้เพ่ือนใน กลุ่มฟังแบบเล่าเร่ืองรอบวง เรยี งตามลำดบั หมายเลข 1-4
ผลัดกนั ซักถามข้อสงสยั และช่วยกันอธบิ ายจนทกุ คนมีความเขา้ ใจ ชดั เจนตรงกนั
7. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการศกึ ษาความรูท้ ี่หน้าชั้นเรยี น โดยครูและเพ่ือนกล่มุ อ่ืนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
และเสนอแนะเพมิ่ เติม
8. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันทำใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง รู้จกั สามก๊กช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง และเติมเตม็ คำตอบใหส้ มบูรณ์
9. ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 2-3 กลุม่ ออกมาเฉลยคำตอบในใบงานท่ี 1.1 แลว้ ใหน้ กั เรยี นกลุ่มที่มีความเหน็ แตกต่างกนั ไปไดน้ ำเสนอ
เพิม่ เติม
ขัน้ สรปุ
7. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปความรูเ้ ร่ือง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้
- ความเป็นมา - ลกั ษณะคำประพันธ์
- ประวตั ผิ ้แู ตง่ - เร่อื งยอ่
81
7. การวดั และประเมินผล
วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 (ประเมินตามสภาพจริง)
ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว แบบประเมินการอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบบันทกึ การอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
และรกั ความเปน็ ไทย
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.6
2) หนงั สือคน้ ควา้ เพ่ิมเตมิ
3) ภาพยนตรเ์ รือ่ ง สามก๊ก
4) ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง รจู้ กั สามก๊ก
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องสมดุ
2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
82
ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง รูจ้ กั สามก๊ก
ตอนที่ 1
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. จีนเรยี กเรื่องสามกก๊ วา่ อะไร
2. จีนนยิ มนำเรือ่ งสามก๊กไปเลน่ ในการแสดงประเภทใด
3. ในสงั คมไทยนิยมนำเร่ืองสามก๊กไปเล่นในการแสดงประเภทใด
4. ในเมอื งจีนใครเป็นผนู้ ำเร่ืองสามก๊กทเ่ี ลา่ กนั เป็นนิทานและปรากฏในพงศาวดารมาแตง่ เปน็ วรรณคดี
5. ไทยนำเรื่องสามก๊กของจีนมาแปลเป็นไทยในสมัยใด
6. ใครเป็นผอู้ ำนวยการแปลสามกก๊ เป็นภาษาไทย
7. เร่ืองสามก๊กของไทยแต่งด้วยคำประพนั ธป์ ระเภทใด
8. เนอ้ื หาในเร่ืองสามกก๊ เป็นเรื่องราวสมยั ใดของจีน
9. วรรณคดสี โมสรยกยอ่ งให้เรือ่ งสามก๊กเปน็ ยอดของวรรณคดปี ระเภทใด
10. คำวา่ “สามก๊ก” หมายถึงก๊กใดบ้าง
83
ตอนท่ี 2
คำชี้แจง ให้นกั เรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตามที่กำหนดให้
1. สรปุ ความรเู้ กี่ยวกบั ประวตั ผิ ู้อำนวยการแปลเร่อื งสามก๊กเป็นภาษาไทย
2. สรุปความร้เู กีย่ วกับกก๊ ทั้งสามจากเรื่องสามก๊ก
3. ยกตัวอยา่ งผลงานประพนั ธ์เร่ืองอื่นๆ ของผู้อำนวยแปลเรื่องสามก๊ก
เฉลย 84
ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง รู้จกั สามกก๊
ตอนที่ 1
คำช้ีแจง ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้
1. จนี เรยี กเรื่องสามก๊กวา่ อะไร
สามก๊กจี่
2. จนี นยิ มนำเร่อื งสามก๊กไปเลน่ ในการแสดงประเภทใด
งวิ้
3. ในสังคมไทยนิยมนำเร่ืองสามก๊กไปเล่นในการแสดงประเภทใด
ละครพนั ทาง
4. ในเมืองจนี ใครเป็นผูน้ ำเร่ืองสามก๊กท่เี ลา่ กันเปน็ นิทานและปรากฏในพงศาวดารมาแตง่ เปน็ วรรณคดี
ลอ่ กวนตง
5. ไทยนำเรื่องสามกก๊ ของจีนมาแปลเปน็ ไทยในสมัยใด
รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช
6. ใครเป็นผู้อำนวยการแปลสามก๊กเป็นภาษาไทย
เจ้าพระยาพระคลงั (หน)
7. เร่อื งสามก๊กของไทยแตง่ ด้วยคำประพนั ธป์ ระเภทใด
ความเรยี งรอ้ ยแก้ว
8. เน้ือหาในเรื่องสามก๊กเปน็ เรื่องราวสมยั ใดของจนี
ปลายราชวงศ์ฮั่น
9. วรรณคดสี โมสรยกยอ่ งให้เรอื่ งสามก๊กเปน็ ยอดของวรรณคดีประเภทใด
ยอดของความเรยี งนิทาน
10. คำวา่ “สามก๊ก” หมายถงึ ก๊กใดบา้ ง
วยุ กก๊ จ๊กก๊ก งอ่ ก๊ก
85
ตอนที่ 2
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมตามทีก่ ำหนดให้
1. สรุปความรู้เกย่ี วกับประวัติผอู้ ำนวยการแปลเรอื่ งสามก๊กเป็นภาษาไทย
- พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช รชั กาลที่ 1 โปรดเกลา้ ฯ ให้ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เปน็
ผูอ้ ำนวยการแปล เร่อื ง สามก๊กเป็นภาษาไทย
- เจา้ พระยาพระคลัง (หน) เดิมมีบรรดาศกั ด์เิ ปน็ หลวงสรวิชติ ต่อมาเลื่อนเป็นพระยาโกษาพิพฒั น์ และเจ้าพระยา
พระคลังตามลำดับ
- เจา้ พระยาพระคลงั (หน) รับราชการมาตง้ั แต่สมยั กรงุ ธนบรุ ี จนกระทัง่ ถงึ สมยั รัชกาลท่ี 1
- เจา้ พระยาพระคลัง (หน) เปน็ ท้ังนกั รบและนักปราชญ์ผู้มีความร้คู วามสามารถทางภาษาไทยอยา่ งดยี ิ่ง ไดแ้ ตง่
วรรณคดที ี่ไพเราะงดงามทัง้ ร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง
2. สรุปความรูเ้ ก่ยี วกบั กก๊ ทั้งสามจากเรอื่ งสามก๊ก
จุดเร่มิ ต้นของการแบ่งเป็น 3 ก๊กในแผน่ ดนิ จีน เกดิ ขึน้ ในรชั สมยั พระเจ้าเห้ียนเต้ กษตั ริย์ราชวงศ์ฮั่น ในยุคสมัย
ดังกลา่ ว บา้ นเมืองอ่อนแอ เกิดความแตกแยกระสำ่ ระสาย มสี งครามรบพุ่งชงิ อำนาจกนั จนในทีส่ ุดแตกออกเป็น 3 ก๊ก
ไดแ้ ก่ วุยก๊ก มีโจโฉเป็นผูน้ ำ จก๊ กก๊ มเี ล่าป่ีเป็นผนู้ ำ และง่อก๊ก มซี นุ กวนเป็นผู้นำ วุยก๊ก ครอบครองพ้ืนท่ที างตอนเหนือของ
จนี จก๊ ก๊ก ครอบครองพน้ื ทีท่ างภาคตะวันตกของจีน สว่ นงอ่ ก๊ก ครอบครองพ้นื ที่ทางตะวันออกของจีน บริเวณตอนใตข้ อง
แมน่ ้ำฉางเจียงท้งั 3 ก๊กต่างทำสงครามขับเคี่ยวชงิ อำนาจกันเป็นเวลานาน จนกระทงั่ เร่ิมเสือ่ มอำนาจลง ตอ่ มามีสมุ าเอี๋ยนได้
สถาปนาราชวงศจ์ ้นิ ขึ้นและรวบรวมกก๊ ต่างๆ ของจีนรวมเขา้ มาเปน็ อาณาจกั รเดยี วกนั อีกครั้ง
3. ยกตัวอย่างผลงานประพนั ธ์เร่ืองอื่นๆ ของผู้อำนวยแปลเรื่องสามก๊ก
ลลิ ิตเพชรมงกฎุ อิเหนาคำฉันท์ ราชาธริ าช กากีคำกลอน ลิลติ ศรวี ิชัยชาดก ร่ายยาวมหาเวสสนั ดรชาดก
(กณั ฑก์ ุมาร และกณั ฑ์มัทรี) สมบตั ิอมรินทร์คำกลอน ฯลฯ
86
แบบประเมนิ การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว
คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ ชอื่ -สกุล ถูกต้องตาม การแบง่ ออกเสียง การใช้ รวม
ของผรู้ ับการ อักขรวธิ ี วรรคตอน ชัดเจน นำ้ เสียง 16 คะแนน
ประเมิน 4321 43214321 4321
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกต้อง ............../.................../................
ปฏบิ ตั ิมีขอ้ บกพร่องเล็กนอ้ ย
ปฏบิ ตั ิมขี อ้ บกพร่องปานกลาง ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ัตมิ ขี ้อบกพร่องมาก ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
14 - 16 ดีมาก
11 - 13 ดี
8 - 10
ตำ่ กว่า 8 พอใช้
ปรับปรุง
87
แบบบนั ทึกการอา่ น
ชื่อหนงั สือ ชอื่ ผแู้ ตง่ นามปากกา
สำนักพมิ พ์ สถานที่พิมพ์ ปีทพี่ มิ พ์
จำนวนหนา้ ราคา บาท อา่ นวันที่ เดือน พ.ศ. เวลา
1. สาระสำคญั ของเร่ือง
2. วเิ คราะห์ข้อคิด/ประโยชนท์ ี่ได้จากเรื่องท่ีอ่าน
3. ส่ิงทส่ี ามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั
4. ขอ้ เสนอแนะของครู ลงช่ือ ผ้ปู กครอง
( )
ลงชอ่ื นกั เรียน
() ครูผ้สู อน
)
ลงช่ือ
( ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 2 คะแนน
ผลงานมีความสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 1 คะแนน
ผลงานมีขอ้ บกพร่องเพียงเล็กนอ้ ย
ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่
ผลงานมขี ้อบกพร่องมาก
88
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั
คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 นำเสนอเนื้อหาในผลงานได้ถูกต้อง
2 การลำดบั ขน้ั ตอนของเน้ือเรื่อง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ตำ่ กวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
89
แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม
คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดับ
คะแนน
ลำดับที่ ชอ่ื -สกุล ความร่วมมือ การแสดง การรบั ฟัง การต้ังใจ การแกไ้ ข
ของผ้รู ับการ กันทำ ความคิดเห็น ความคิดเหน็ ทำงาน
กจิ กรรม ปัญหา/หรือ รวม
ประเมิน ปรับปรุง 20
ผลงานกลมุ่ คะแนน
43214321432143214321
ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกว่า 10 พอใช้
ปรับปรุง
90
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
คำช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดับคะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ได้ยินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธิบายความหมาย
กษตั รยิ ์ ของเพลงชาติ
2. ซื่อสัตย์ สจุ รติ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นและชักชวนผ้อู ่ืนปฏิบตั ติ ามสิทธิและหน้าทีข่ องพลเมอื ง
3. มวี นิ ัย รบั ผดิ ชอบ 1.3 ให้ความรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทำกิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน ชุมชน
4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อย่อู ย่างพอเพยี ง และสงั คม
1.4 เป็นผู้นำหรือเป็นแบบอย่างในการจดั กจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ชืน่ ชม ปกปอ้ ง
ความเปน็ ชาตไิ ทย
1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา
และเป็นตวั อย่างทดี่ ีของศาสนิกชน
1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรมทเี่ ก่ยี วข้องกบั สถาบัน
พระมหากษตั ริยต์ ามทโ่ี รงเรียนและชมุ ชนจดั ขึน้ ชื่นชมในพระราชกรณยี กจิ
พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตรยิ แ์ ละพระราชวงศ์
2.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏบิ ัตใิ นส่งิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะกระทำความผิด ทำตาม
สญั ญาท่ตี นใหไ้ วก้ บั เพอื่ น พอ่ แม่ หรือผ้ปู กครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง
ท่ีดดี า้ นความซือ่ สัตย์
2.3 ปฏิบัติตนต่อผ้อู ่ืนด้วยความซื่อตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางท่ีไมถ่ กู ต้อง
และเป็นแบบอยา่ งทีด่ แี ก่เพื่อนด้านความซอื่ สัตย์
3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครวั
โรงเรยี น และสังคม ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผู้อ่ืน ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจำวนั และรับผิดชอบในการทำงาน ปฏบิ ตั ิ
เป็นปกติวสิ ัยและเป็นแบบอยา่ งทดี่ ี
4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ
4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ
4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล
5.1 ใชท้ รัพย์สนิ ของตนเอง เช่น ส่ิงของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั
คุม้ คา่ และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี
5.3 ปฏิบตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไมเ่ อาเปรียบผู้อนื่ และไม่ทำใหผ้ อู้ นื่ เดือดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เม่ือผู้อนื่
กระทำผดิ พลาด
91
แบบประเมิน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (ตอ่ )
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ
ระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวติ ประจำวันบนพนื้ ฐาน
ของความรู้ ข้อมลู ขา่ วสาร
5.6 รู้เท่าทันการเปล่ยี นแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ
และปรับตวั อยรู่ ว่ มกบั ผู้อ่นื ได้อย่างมีความสุข
6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 6.1 เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
6.2 ต้ังใจและรับผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.3 ปรบั ปรงุ และพฒั นาการทำงานอยา่ งรอบคอบ
6.4 ทุ่มเท ทำงาน อดทน ไม่ทอ้ ต่อปัญหาและอปุ สรรค
6.5 พยายามแก้ปญั หาและอุปสรรคในการทำงานใหส้ ำเร็จ
6.6 ชน่ื ชมผลงานความสำเร็จดว้ ยความภาคภมู ิใจ
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จกั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทำ แบง่ ปันสงิ่ ของ ทรพั ย์สนิ และอื่นๆ
พรอ้ มชว่ ยแกป้ ัญหา
8.3 ดแู ล รักษาทรัพย์สนิ ของห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น ชุมชน
เพอื่ แกป้ ัญหาหรอื ร่วมสรา้ งสง่ิ ทีด่ งี ามตามสถานการณท์ ี่เกิดขึ้น
ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้
บนั ทึกหลังแผนการสอน 92
ด้านความรู้ )
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ดา้ นอ่ืนๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
ลงชื่อ
(
ตำแหนง่
93
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2
วชิ า ท 33101 ภาษาไทย5 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ภาคเรียนที่ 1
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 สามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ เวลา 1-2 ชวั่ โมง
เร่ือง เนอ้ื หาและศัพท์สำนวน ผู้สอน นางสาวจิลนั ดา รักไร่
....................................................................................................................................................................................
1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
สามกก๊ ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ เป็นบทประพันธ์ที่มคี ณุ คา่ ทง้ั ด้านเน้ือหา ด้านวรรณศิลป์ และดา้ นสังคม ซง่ึ การท่จี ะ
เข้าใจเนือ้ หาของเร่อื งไดน้ ั้น จำเป็นตอ้ งรู้คำศัพท์ และสำนวนตา่ งๆ ท่ปี รากฏอยู่ในเรื่อง เพือ่ จะไดเ้ ขา้ ใจเน้ือหาของเรื่องไดอ้ ย่าง
ถกู ต้อง
2. ตัวช้ีวดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้
2.1 ตวั ชี้วดั
ท 5.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณเ์ บื้องตน้
2.7 จดุ ประสงค์การเรียนรู้
13) สรปุ เนือ้ หาเรอ่ื ง สามกก๊ ตอนกวนอไู ปรับราชการกับโจโฉได้
14) อธบิ ายความหมายของคำศพั ท์และสำนวนต่างๆ ในเร่ือง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉได้
15) วิเคราะหค์ ุณค่าดา้ นเนื้อหาของเร่ือง สามกก๊ ตอนกวนอูไปรับราชการกบั โจโฉได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.6 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
หลกั การวเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมเบ้ืองต้น
- การพิจารณาเนอ้ื หาและกลวธิ ีในวรรณคดแี ละวรรณกรรม
3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่
- เน้ือหา คำศัพท์ และสำนวนจากเรือ่ ง สามกก๊ ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกับโจโฉ
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการตีความ 2) ทักษะการวเิ คราะห์ 3) ทักษะกระบวนการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 4. รกั ความเปน็ ไทย
94
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
ชว่ั โมงท่ี 1
ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ
14. ครแู จกบัตรคำช่ือตวั ละครในเรอ่ื ง สามก๊ก ให้นักเรยี นกลุ่มละ 1-2 ใบ แลว้ ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั พิจารณาบตั รคำท่ี
ไดว้ ่า ตัวละครดังกล่าวอย่ใู นก๊กใด แลว้ นำมาตดิ บนกระดานให้ถกู ต้อง
15. ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของการจัดก๊กตัวละครหากผิดให้ช่วยกนั แก้ไขให้ถกู ตอ้ ง
16. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
คำถามกระตุน้ ความคิด
• นกั เรียนคิดวา่ อะไรเปน็ มูลเหตุของการแบ่งเป็นก๊กต่างๆ
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของครูผ้สู อน
ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา
10. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละคนศึกษาความรู้เรอ่ื ง สามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกบั โจโฉ จากหนงั สอื เรยี น พร้อมหา
ความหมายของคำศัพท์ และสำนวนต่างๆ ท่ีปรากฏในเร่ือง จากหนังสือค้นคว้าเพิ่มเตมิ หอ้ งสมุด และแหล่งข้อมลู
สารสนเทศ
11. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
คำถามกระตนุ้ ความคดิ
• เรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการโฉ กล่าวถึงอะไรเปน็ สำคัญ
(มีเน้อื หากลา่ วถงึ เหตุการณท์ ่เี ลา่ ปเี่ สียเมอื งใหแ้ ก่โจโฉ เช่นเดยี วกับกวนอทู ีถ่ ูกโจโฉยึดเมอื งไวไ้ ด้
และโจโจ สามารถเกลี้ยกลอ่ มให้กวนอูเข้ามารับราชการกับตนเอง แต่ไม่อาจชนะใจกวนอูผู้มคี วามซ่ือสตั ย์
กตัญญูตอ่ เลา่ ปี่ได้)
ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้
1. นักเรยี นแต่ละคนกลบั มารวมกล่มุ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1) ผลัดกนั อธบิ ายความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษาให้เพอ่ื น
ในกลุ่มฟังแล้วซักถามข้อสงสัย และอธิบายจนทุกคนในกลุ่มมีความเข้าใจชดั เจนตรงกัน
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลการศกึ ษา พร้อมทัง้ ความหมายของคำศพั ท์ และสำนวนท่ีปรากฏในเรอ่ื งทห่ี น้าช้นั
เรยี น โดยใหน้ ักเรียนกลุม่ อ่นื ๆ เปน็ ผตู้ รวจสอบความถูกต้อง และจดบันทึกความหมายของคำศพั ท์ และสำนวนตา่ งๆ
เพอ่ื ไว้ทบทวนความรู้
3. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• นักเรียนคิดว่า ใครคอื ตวั ละครเอกของเร่ืองสามกก๊ ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกบั โจโฉ เพราะเหตใุ ด
(ตัวละครเอกของตอนน้ี คือ กวนอู เนื่องจากเนื้อหาตอนนี้เน้นใหเ้ ห็นคณุ สมบตั ิและบทบาทของกวนอูอย่าง
โดดเด่น ทง้ั ในฐานะนกั รบท่เี กง่ กล้า และข้าราชการที่มีอดุ มการณ์ มีความซื่อสตั ยแ์ ละกตัญญู)
95
ช่ัวโมงที่ 2
ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ
1. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันทำใบงานที่ 2.1 เร่ือง อา่ นความตามเรอ่ื ง ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ และใบงานที่ 2.2
เรอื่ งรคู้ ำ-สำนวน ตอนกวนอูไปรบั ราชการกบั โจโฉ
2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด
คำถามกระตุ้นความคดิ
• มีคำศัพท์หรือสำนวนใดบา้ งจากเรอ่ื งสามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกับโจโฉท่ใี ช้ ในความหมาย
แตกต่างจากปัจจุบันให้นักเรียนลองยกตัวอย่างจากที่ได้ศกึ ษา (มีหลายคำ เช่น คำวา่ “ทหารเลว” ใน
เรือ่ งสามก๊ก หมายถึง พลทหารทว่ั ไป แตป่ ัจจบุ ันถา้ จะกลา่ วถึงทหารทว่ั ไป ก็มักใชว้ า่ “ทหาร” หรือ
“พลทหาร” สว่ นคำว่า “ทหารเลว” ใชใ้ นความหมายวา่ ทหารท่ไี มด่ ีหรือประพฤตชิ ว่ั
หรือคำว่า “กินโต๊ะ” ในเร่ืองสามกก๊ หมายถึง การกนิ เลีย้ งโดยการนง่ั ลอ้ มวงกันท่ีโตะ๊ แต่ปจั จุบันมี
ความหมายโดยปริยายว่า รุมทำรา้ ย เปน็ ตน้ หรอื นักเรยี นอาจตอบเป็นอย่างอื่น โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ ิจ
ของครูผู้สอน)
ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล
1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 2.1 - 2.2 หน้าช้ันเรียน โดยครแู ละเพ่อื นนักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งและให้ข้อเสนอแนะ
2. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ เนื้อหา คำศัพท์ และสำนวนจากเร่ืองสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ
3. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด ขอ้ 1-2
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• จากการท่นี ักเรียนได้อ่านเน้ือหาตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ นักเรยี นประทับใจเหตุการณ์ใด
ในตอนนม้ี ากทส่ี ุด เพราะเหตุใด (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพินิจของครผู สู้ อน
• นกั เรยี นคดิ วา่ การใช้ถอ้ ยคำสำนวนในเร่อื งสามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชกับโจโฉมลี ักษณะอย่างไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน เชน่ ใชส้ ำนวนภาษาเรียบง่าย
เข้าใจชัดเจน ไม่เยนิ่ เย้อ และไมพ่ บการใช้คำศัพท์สำนวนท่ยี ากจนเกนิ ไป เป็นต้น
7. การวัดและประเมินผล
วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานที่ 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานที่ 2.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ มนั่ ในการ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ทำงาน และรักความเปน็ ไทย