246
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
1 เนื้อหาละเอยี ดชัดเจน
2 ความถูกตอ้ งของเนือ้ หา
3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ข้าใจงา่ ย
4 ประโยชน์ที่ได้จากการนำเสนอ
5 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
รวม
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกว่า 10 พอใช้
ปรับปรุง
247
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทีต่ รงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี ช่ือ-สกุล ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟงั การตัง้ ใจ การแกไ้ ข
ของผู้รับการ กันทำ ความคิดเห็น ความคดิ เห็น ทำงาน ปญั หา/หรือ รวม
กจิ กรรม ปรับปรุง 20
ประเมิน ผลงานกลุ่ม คะแนน
43214321432143214321
ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง
เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13
ตำ่ กวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง
248
แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกับ
ระดบั คะแนน
คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงคด์ ้าน 4321
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่ือไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมาย
กษตั รยิ ์ ของเพลงชาติ
2. ซือ่ สัตย์ สจุ รติ 1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผูอ้ ื่นปฏิบตั ติ ามสทิ ธแิ ละหนา้ ทขี่ องพลเมือง
3. มวี ินยั รับผิดชอบ 1.3 ใหค้ วามร่วมมอื รว่ มใจ ในการทำกจิ กรรมกับสมาชิกในโรงเรยี น ชมุ ชน
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง และสังคม
1.4 เป็นผนู้ ำหรือเปน็ แบบอยา่ งในการจดั กิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี
ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม ช่นื ชม ปกปอ้ ง
ความเป็นชาตไิ ทย
1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏบิ ตั ิตนตามหลักของศาสนา
และเป็นตัวอย่างท่ีดีของศาสนิกชน
1.6 เขา้ รว่ มกิจกรรมและมสี ่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทเ่ี กีย่ วข้องกบั สถาบัน
พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่โี รงเรียนและชมุ ชนจดั ขน้ึ ชืน่ ชมในพระราชกรณยี กจิ
พระปรชี าสามารถของพระมหากษัตรยิ ์และพระราชวงศ์
2.1 ให้ขอ้ มลู ท่ีถูกตอ้ ง และเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งท่ีถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทีจ่ ะกระทำความผิด ทำตาม
สญั ญาทตี่ นให้ไวก้ ับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เปน็ แบบอย่าง
ทดี่ ีด้านความซือ่ สตั ย์
2.3 ปฏบิ ัตติ นตอ่ ผู้อนื่ ด้วยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางท่ไี ม่ถกู ตอ้ ง
และเป็นแบบอยา่ งท่ดี แี กเ่ พอ่ื นดา้ นความซอ่ื สัตย์
3.1 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว
โรงเรยี น และสังคม ไม่ละเมิดสทิ ธขิ องผอู้ ื่น ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน ปฏบิ ตั ิ
เปน็ ปกตวิ ิสยั และเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี
4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
4.2 มีการจดบนั ทึกความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ
4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล
5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สิ่งของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั
ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั ค้มุ ค่า และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี
5.3 ปฏิบตั ติ นและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไมเ่ อาเปรียบผอู้ น่ื และไม่ทำใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผ้อู นื่
กระทำผดิ พลาด
249
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทีต่ รงกับ
ระดับคะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321
5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชวี ิตประจำวันบนพ้ืนฐาน
ของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร
5.6 รูเ้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรับตัว อย่รู ว่ มกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
6. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 6.1 เอาใจใสต่ ่อการปฏิบัตหิ นา้ ท่ที ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 ตง้ั ใจและรับผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.3 ปรบั ปรงุ และพัฒนาการทำงานอยา่ งรอบคอบ
6.4 ท่มุ เท ทำงาน อดทน ไมท่ อ้ ตอ่ ปัญหาและอปุ สรรค
6.5 พยายามแก้ปญั หาและอุปสรรคในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.6 ชื่นชมผลงานความสำเรจ็ ด้วยความภาคภมู ิใจ
7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ แบง่ ปนั ส่งิ ของ ทรัพย์สนิ และอืน่ ๆ
พร้อมชว่ ยแก้ปญั หา
8.3 ดแู ล รักษาทรัพยส์ ินของหอ้ งเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ชุมชน
เพอื่ แก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิง่ ท่ดี งี ามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง
250
บันทึกหลังแผนการสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ข้อเสนอแนะ ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
ลงช่ือ )
(
ตำแหนง่
บนั ทกึ หลังหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน 251
ตอนท่ี 1 นักเรยี นมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั ของหนว่ ยการเรยี นรู้ )
ต่อไปน้ี ท 3.1 (ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3)
)
ด้านความรู้
(จำนวน คน คิดเปน็ ร้อยละ
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )
สรปุ ผลจากการประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจำหน่วยการเรยี นรู้
ระดบั คุณภาพดีมาก จำนวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ
ระดบั คุณภาพดี จำนวน คน คิดเปน็ ร้อยละ
ระดับคุณภาพพอใช้ จำนวน คน คิดเปน็ ร้อยละ
ระดับคุณภาพปรับปรงุ จำนวน คน คิดเปน็ ร้อยละ
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
ลงชอื่
(
ตำแหน่ง
252
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6
ระดับภาษาและอิทธพิ ลของการใชภ้ าษา
253
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 ระดับภาษาและอทิ ธิพลของการใชภ้ าษา
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั
ท 4.1 ม.4-6/3 ใช้ภาษาเหมาะสมแกโ่ อกาส กาลเทศะ และบคุ คล รวมทงั้ คำราชาศัพท์อยา่ งเหมาะสม
ม.4-6/5 วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ภาษาไทยเปน็ เคร่ืองมือในการสอ่ื สารของคนไทย ผูใ้ ช้ภาษาจึงควรเลือกใชร้ ะดบั ภาษาใหเ้ หมาะสมตามสัมพนั ธภาพระหวา่ ง
บุคคล และต้องเขา้ ใจลักษณะคำยมื ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย และวเิ คราะห์อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศ
ในภาษาไทย
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1) ระดบั ของภาษา
2) คำราชาศพั ท์
3) อิทธพิ ลของภาษาต่างประเทศและภาษาถ่ิน
4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการวเิ คราะห์
2) ทักษะการประยกุ ต์ใชค้ วามรู้
3) ทกั ษะการทำใหก้ ระจ่าง
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน
6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
รายงาน เร่ือง ระดบั ภาษาและอิทธิพลภาษาตา่ งประเทศและภาษาถิ่นในภาษาไทย
254
7. การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินกอ่ นเรียน
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรือ่ ง ระดบั ภาษาและอทิ ธพิ ลของการใชภ้ าษา
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง วเิ คราะห์ระดับภาษา
2) ตรวจใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง ระดับภาษาในสงั คมไทย
3) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง ภาษาถิ่น
4) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน
5) ประเมินการนำเสนอผลงาน
6) สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
7) สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
8) สงั เกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 8 เร่อื ง ระดบั ภาษาและอิทธิพลของการใช้ภาษา
7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจรายงาน เร่อื ง ระดบั ภาษาและอิทธิพลภาษาตา่ งประเทศและภาษาถ่ินในภาษาไทย
255
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1
วชิ า ท 33101 ภาษาไทย5 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี 1
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 6 ระดับภาษาและอิทธิพลของการใชภ้ าษา เวลา 1 ชั่วโมง
เรื่อง ระดบั ภาษาและคำราชาศัพท์ ผู้สอน นางสาวจิลนั ดา รักไร่
..............................................................................................................................................................................................
1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การใชภ้ าษาในการส่อื สารจะต้องอธบิ ายและใชร้ ะดับภาษาทีถ่ ูกต้อง และเหมาะสมกบั สัมพันธภาพของบุคคลและกาลเทศะ
2. ตวั ช้ีวัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
2.1 ตัวชว้ี ดั
ท 4.1 ม.4-6/3 ใชภ้ าษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบคุ คล รวมทัง้ คำราชาศพั ท์อย่างเหมาะสม
2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธิบายระดับภาษาและการใชภ้ าษาทถี่ ูกต้องและเหมาะสมได้
2) ใช้ภาษาได้เหมาะสมกบั สัมพนั ธภาพของบุคคลและกาลเทศะ
3) ใช้คำราชาศพั ท์ได้อยา่ งเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1) ระดบั ของภาษา
2) คำราชาศพั ท์
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการวิเคราะห์
2) ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้
3) ทักษะการทำให้กระจา่ ง
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
256
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เรอ่ื ง ระดับภาษาและอทิ ธิพลของการใชภ้ าษา
ข้ันท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ
1. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• นักเรียนคดิ ว่า การพูดคุยกบั เพ่อื นกบั การพดู คยุ กับครู มีวิธีและลกั ษณะการพดู ท่ีเหมือนกันหรอื แตกต่างกัน
อย่างไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของครผู สู้ อน)
2. ครูยกตัวอยา่ งสถานการณต์ ่างๆ เก่ยี วกับการคุยผ่านชอ่ งทางการติดต่อส่ือสารต่างๆ เช่น การคุยผ่านเอ็มเอสเอน็
เฟซบุ๊ก หรือบบี ี จากน้ันครูสมุ่ เรยี กนกั เรียน 3-5 คน ออกมาแสดงความคิดเห็น
ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา : เทคนิคการต่อเรอ่ื งราว (Jigsaw)
1. ครแู บ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนข้าง
ออ่ น และอ่อน
2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มกำหนดหมายเลขประจำตัวใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ เป็นหมายเลข 1-4 ตามลำดบั เรยี ก
กลมุ่ น้ีว่า กลมุ่ บา้ น แล้วให้นกั เรียนทมี่ ีหมายเลขเดียวกนั ไปรวมกนั เป็น กลมุ่ ใหม่ เรียกว่า กลมุ่ ผเู้ ชยี่ วชาญ
3. นกั เรียนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญร่วมกันศึกษาความรูท้ ี่กำหนดให้ ดังนี้
- กลุม่ หมายเลข 1 เร่ือง การแบ่งระดบั ภาษา และปัจจยั ทีม่ ีอิทธพิ ลต่อการเลือกใช้ระดบั ภาษา
- กลมุ่ หมายเลข 2 เร่ือง ลกั ษณะของภาษาในระดบั ต่างๆ
- กลมุ่ หมายเลข 3 เรื่อง ความหมายและความสำคญั และของคำราชาศพั ท์
- กลมุ่ หมายเลข 4 เรื่อง ทม่ี าของคำราชาศัพท์
โดยใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ศึกษาความรจู้ ากหนังสือเรียน
4. นกั เรยี นกลุ่มผู้เชย่ี วชาญร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั เรอื่ งท่ีศึกษา โดยผลัดกนั ซักถามหากมีขอ้ สงสัย และผลัดกนั
อธิบายหรือแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นจนสมาชกิ ในกลุ่มมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน แล้วบนั ทกึ ความรู้ท่ไี ดล้ งในแบบ
บนั ทกึ การอา่ น
5. นักเรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• นกั เรยี นคิดวา่ การใช้ภาษาของคนไทยมลี ักษณะอย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน)
ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้
1. นกั เรยี นกลมุ่ ผ้เู ชี่ยวชาญแยกย้ายกนั กลับเขา้ สูก่ ลุ่มบ้าน แลว้ นำความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศึกษามาอธบิ ายใหเ้ พ่ือนในกลมุ่ ฟัง
โดยผลัดกันซักถามหากมีขอ้ สงสัยและผลัดกนั อธบิ ายหรอื แลกเปล่ียนความคิดเห็นจนสมาชิกในกลุ่มมีความเขา้ ใจชัดเจน
ตรงกนั
2. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ นำความรู้ทีไ่ ด้ศึกษามาเป็นพ้นื ฐานในการทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง วเิ คราะห์ระดบั ภาษา
3. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
คำถามกระต้นุ ความคดิ
• ในชีวติ ประจำวันนักเรยี นใชภ้ าษาระดับใดบา้ ง เพราะเหตุใด(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ใน
ดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)
257
ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
1. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด
คำถามกระตุน้ ความคิด
• การเขยี นตอบข้อสอบแบบอัตนยั นักเรยี นควรใชภ้ าษาแบบใด (ภาษาแบบแผน)
• ปจั จัยใดที่มผี ลตอ่ การใช้ระดับภาษา (โอกาสและสถานท่ี สมั พนั ธภาพระหว่างบคุ คล ลกั ษณะของเนอื้ หา
และส่อื ท่ีใช้)
2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มคน้ คว้าตัวอย่างการใช้ภาษาระดับตา่ งๆ ไดแ้ กภ่ าษาแบบแผน ภาษากึ่งแบบแผน และภาษาไมเ่ ป็นแบบ
แผน อยา่ งละ 3 ตวั อยา่ ง โดยค้นคว้าจากหนังสือคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ หอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ แลว้ นำขอ้ มลู มา
ชว่ ยกนั ทำใบงานที่ 1.2 เรื่อง ระดบั ภาษาในสังคมไทย
ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล
1. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการทำใบงานท่ี 1.1-1.2 โดยครแู ละเพื่อนกลุ่มอืน่ รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด
คำถามกระตุ้นความคดิ
• การใชร้ ะดบั ภาษาให้ถกู ตอ้ งและเหมาะสมมีประโยชนต์ ่อนกั เรียนอยา่ งไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน
โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของครผู ู้สอน)
7. การวดั และประเมินผล
วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 8 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 (ประเมนิ ตามสภาพจริง)
ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.2 ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั ในการ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ทำงาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ม.6
2) หนังสือค้นคว้าเพมิ่ เติม
3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง วิเคราะหร์ ะดบั ภาษา
4) ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ระดบั ภาษาในสงั คมไทย
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
258
ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง วิเคราะห์ระดับภาษา
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นวเิ คราะหร์ ะดบั ภาษาทีเ่ หมาะสมกับสถานการณ์ทก่ี ำหนดให้
สถานการณ์ท่ี 1 นักเรยี นต้องการตดิ ต่อหนว่ ยงานทง้ั ภาครัฐและเอกชน เพอ่ื ขอข้อมลู สำหรับการทำรายงาน
นักเรียนจะมีวธิ กี ารขอขอ้ มูลอยา่ งไร เพ่อื ใหไ้ ดข้ ้อมูลนน้ั มา
สถานการณ์ที่ 2 นักเรียนมาหาอาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์เพื่อปรึกษาเรื่องการบ้านแต่ไม่พบ นักเรียนจะเขียนจดหมายส้ัน
(โนต้ ) ถงึ อาจารยอ์ ย่างไร
สถานการณ์ที่ 3 นกั เรยี นกับเพอ่ื นสนทิ มคี วามคดิ เห็นที่ไมต่ รงกนั ซ่งึ ความคดิ เห็นของนักเรียนถูกตอ้ ง นักเรียนจะมี
วิธกี ารพูดกับเพ่อื นอย่างไร
สถานการณท์ ี่ 4 หากนกั เรียนเปน็ คณะกรรมการนกั เรียน แลว้ นักเรยี นไดร้ ับมอบหมายให้จดั กจิ กรรมของโรงเรยี น
เพ่อื เข้าร่วมงานของจงั หวัด นกั เรยี นจะมวี ิธกี ารพูดอยา่ งไร ให้เพ่อื นทัง้ โรงเรยี นร่วมกนั ทำกิจกรรมน้ัน
เฉลย 259
ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง วิเคราะห์ระดับภาษา
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นวิเคราะหร์ ะดบั ภาษาทเี่ หมาะสมกบั สถานการณ์ทีก่ ำหนดให้
สถานการณท์ ี่ 1 นักเรียนต้องการตดิ ต่อหน่วยงานทัง้ ภาครฐั และเอกชน เพื่อขอขอ้ มลู สำหรบั การทำรายงาน
นกั เรยี นจะมวี ธิ กี ารขอข้อมูลอย่างไร เพ่ือให้ไดข้ อ้ มูลนัน้ มา
สถานการณท์ ่ี 2 นักเรียนมาหาอาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์เพื่อปรึกษาเรื่องการบ้านแต่ไม่พบ นักเรียนจะเขียนจดหมายส้ัน
(โน้ต) ถงึ อาจารยอ์ ย่างไร
สถานการณท์ ่ี 3 นกั เรียนกับเพือ่ นสนิทมคี วามคิดเห็นทไ่ี ม่ตรงกนั ซงึ่ ความคิดเหน็ ของนกั เรียนถกู ต้อง นักเรียนจะมี
วิธกี ารพดู กับเพื่อนอยา่ งไร
สถานการณ์ที่ 4 หากนกั เรยี นเปน็ คณะกรรมการนักเรียน แลว้ นกั เรียนไดร้ บั มอบหมายใหจ้ ัดกิจกรรมของโรงเรียน
เพอ่ื เข้ารว่ มงานของจงั หวัด นักเรยี นจะมีวธิ ีการพูดอย่างไร ให้เพือ่ นท้งั โรงเรียนรว่ มกนั ทำกจิ กรรมนน้ั
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
260
ใบงานที่ 1.2 เร่อื ง ระดับภาษาในสงั คมไทย
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นยกตวั อย่างการใช้ภาษาระดบั ตา่ งๆ
➢ ภาษาแบบแผน
➢ ภาษากึง่ แบบแผน
➢ ภาษาไม่เป็นแบบแผน
เฉลย 261
ใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง ระดับภาษาในสังคมไทย
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งการใช้ภาษาระดบั ต่างๆ
(ตัวอยา่ ง)
➢ ภาษาแบบแผน
กรุงเทพมหานครได้จดั ทำ “โครงการชวี ติ พอเพียง ตามแนวพระราชดำร”ิ เพ่ือเชญิ ชวนประชาชนผูอ้ ยู่อาศัยหรือ
ประกอบอาชีพในกรงุ เทพมหานครจำนวน 1 ลา้ นคน รว่ มกนั แสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสกั การะพระบาทสมเดจ็ พระ
เจา้ อยูห่ ัว เน่อื งในโอกาสทรงครองสริ ริ าชสมบัติครบ 60 ปี ด้วยการตัง้ ปณิธานว่า จะทำบัญชีรายรบั -รายจ่ายของตนเองหรือ
ครอบครวั เพ่ือใหร้ ู้จักการใช้จา่ ยเงนิ อยา่ งถกู ต้อง คุ้มค่า และเหลือเก็บออม อันเป็นการนอ้ มนำแนวพระราชดำริ “เศรษฐกจิ
พอเพียง” มาเปน็ แนวทางในการดำเนนิ ชีวติ (ทม่ี า : “สาส์นจากผวู้ ่าราชการกรุงเทพนมหานคร” ในชีวิตพอเพียงตามแนว
พระราชดำร)ิ
➢ ภาษาก่ึงแบบแผน
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรอื AEC ที่จะเกิดขน้ึ ในปี 2015 ไม่ใชเ่ ร่ืองใหม่ แต่เป็นการสานต่อกระบวนการ
รวมกลุม่ ของอาเซยี นท่ีเริม่ จากการเปดิ เสรีการค้ามากกว่า 20 ปี เป้าหมายตาม AEC Blueprint จงึ เปน็ การเรง่ กระบวนการ
เปิดเสรดี า้ น สนิ ค้า บรกิ ารและการลงทนุ ท่ีมีอยู่แล้ว โดยเสรมิ ด้วยการเคลอ่ื นยา้ ยปจั จัยการผลิต คือ แรงงานฝมี อื และ
เงนิ ทนุ โดยหวงั ว่าจะชว่ ยเสรมิ สรา้ งประสิทธิภาพในการผลิตจากการแบง่ งานกันทำ ไดร้ ับประโยชน์จากขนาดท่ใี หญข่ ึ้น เพม่ิ
อำนาจต่อรองในเวทโี ลก เนอ่ื งจากหากมอง AEC เปน็ กลุม่ เดียวกจ็ ะมีประชาการเป็นอนั ดบั ท่ี 3 มีรายได้เปน็ อันดบั ท่ี 6 และมี
มูลคา่ การส่งออกเป็นอนั ดบั ที่ 5 เม่ือเปรียบเทียบกบั ประเทศต่างๆ ในโลก (ที่มา : “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกบั การเปิด
เสรีภาคการเงิน” จลุ สารของกรมเจรจาการคา้ ระหวา่ งประเทศ ปีที่ 1 ฉบับท่ี 5 ประจำปักษ์แรก กันยายน 2554)
➢ ภาษาไม่เปน็ แบบแผน
รองเท้าผ้าใบเก่าเป่ือย เหยียบลงบนใบไม้แหง้ บังเกิดเสียงดงั กรอบแกรบ ย่ำกา้ วไปข้างหน้าอยา่ งชา้ ๆ ระมดั ระวัง หลิม
และเลศิ สะพายปืนยาวอยหู่ น้าโรงนา ซึ่งเป็นทเ่ี กบ็ ยาบ้า ชะงกั เมือ่ ไดย้ นิ เสียบใบไม้ “เฮ้ย เสยี งอะไรวะ” เลศิ เงย่ี หฟู งั “เสียง
เหมอื นมีคนเดินอยูโ่ รงนาวะ่ ไปดูซิ” สองคนย่องไปดู เงาดำผ่านวูบไป “เฮ้ย นน่ั ใครวะ ตามไปเรว็ ” หลมิ กับเลิศวงิ่ ตามเงาดำ
ออกไป ทวนกับเมินค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจากมุมหลบ มองตามไปด้วยความสงสัย (ทม่ี า : “เพลงรักบ้านนา” เดลินวิ ส์
ฉบบั ที่ 22,664 วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2554 หน้า 22)
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)
262
แบบบันทึกการอ่าน
ชือ่ หนงั สือ ชื่อผู้แตง่ นามปากกา
สำนกั พมิ พ์ ปีทพี่ มิ พ์
จำนวนหน้า สถานท่พี ิมพ์
พ.ศ. เวลา
ราคา บาท อ่านวันท่ี เดือน
1. สาระสำคัญของเร่ือง
2. วิเคราะห์ข้อคดิ /ประโยชน์ทีไ่ ดจ้ ากเรื่องท่ีอ่าน
3. ส่งิ ท่ีสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั
4. ข้อเสนอแนะของครู
ลงชื่อ นักเรยี น ลงช่อื ผ้ปู กครอง
)
( )(
ลงชื่อ ครผู ู้สอน
()
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานมคี วามสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานมีข้อบกพร่องเพียงเล็กนอ้ ย ให้ 2 คะแนน
ผลงานมขี ้อบกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานมขี ้อบกพร่องมาก
263
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชี้แจง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
1 เนอ้ื หาละเอยี ดชดั เจน
2 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา
3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ข้าใจง่าย
4 ประโยชน์ทีไ่ ด้จากการนำเสนอ
5 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
รวม
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ตำ่ กวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง
264
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชีแ้ จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกับ
ระดับคะแนน
ลำดบั ท่ี ชื่อ-สกุล ความมีวินัย ความมีนำ้ ใจ การรบั ฟงั การแสดง การตรงตอ่ รวม
ของผ้รู ับการ เอือ้ เฟือ้ ความคิดเหน็ ความคดิ เห็น เวลา 20
เสยี สละ คะแนน
ประเมนิ
43214321432143214321
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............../.................../................
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง
265
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี ชื่อ-สกุล ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟงั การตง้ั ใจ การแก้ไข
ของผู้รับการ กันทำ ความคิดเห็น ความคดิ เห็น ทำงาน ปญั หา/หรือ รวม
กจิ กรรม ปรับปรุง 20
ประเมนิ ผลงานกลุ่ม คะแนน
43214321432143214321
เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............../.................../................
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 4 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง
266
แบบประเมิน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกบั
ระดับคะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมาย
กษตั ริย์ ของเพลงชาติ
2. ซ่ือสตั ย์ สุจรติ 1.2 ปฏบิ ัติตนและชักชวนผู้อืน่ ปฏบิ ตั ติ ามสทิ ธแิ ละหนา้ ท่ีของพลเมือง
3. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ 1.3 ให้ความรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทำกิจกรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น ชุมชน
4. ใฝเ่ รียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพยี ง และสงั คม
1.4 เป็นผนู้ ำหรอื เป็นแบบอยา่ งในการจดั กจิ กรรมท่ีสร้างความสามัคคี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม ชืน่ ชม ปกปอ้ ง
ความเป็นชาตไิ ทย
1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ของศาสนา
และเป็นตัวอย่างท่ดี ีของศาสนกิ ชน
1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กิจกรรมทเี่ ก่ียวข้องกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรียนและชุมชนจดั ขนึ้ ชืน่ ชมในพระราชกรณยี กจิ
พระปรชี าสามารถของพระมหากษัตรยิ ์และพระราชวงศ์
2.1 ใหข้ อ้ มูลทถ่ี กู ต้อง และเปน็ จรงิ
2.2 ปฏิบตั ใิ นสิง่ ทถี่ ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวท่ีจะกระทำความผดิ ทำตาม
สญั ญาท่ตี นให้ไว้กบั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผ้ปู กครอง และครู เป็นแบบอย่าง
ที่ดดี ้านความซอ่ื สตั ย์
2.3 ปฏบิ ตั ิตนต่อผ้อู ื่นด้วยความซ่อื ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไมถ่ กู ตอ้ ง
และเป็นแบบอยา่ งทด่ี ีแก่เพ่ือนดา้ นความซอื่ สัตย์
3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั
โรงเรียน และสงั คม ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ นื่ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน ปฏิบตั ิ
เปน็ ปกติวสิ ัยและเป็นแบบอยา่ งทดี่ ี
4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ
4.2 มีการจดบันทกึ ความรูอ้ ย่างเป็นระบบ
4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล
5.1 ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั
คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม
5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด ค้มุ ค่า และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี
5.3 ปฏบิ ัตติ นและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตผุ ล
5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ นื่ และไมท่ ำใหผ้ ู้อน่ื เดือดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภัยเมอ่ื ผู้อื่น
กระทำผดิ พลาด
267
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทีต่ รงกับ
ระดับคะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321
5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชวี ิตประจำวันบนพ้ืนฐาน
ของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร
5.6 รูเ้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรับตัว อย่รู ว่ มกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
6. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 6.1 เอาใจใสต่ ่อการปฏิบัตหิ นา้ ท่ที ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 ตง้ั ใจและรับผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.3 ปรบั ปรงุ และพัฒนาการทำงานอยา่ งรอบคอบ
6.4 ท่มุ เท ทำงาน อดทน ไมท่ อ้ ตอ่ ปัญหาและอปุ สรรค
6.5 พยายามแก้ปญั หาและอุปสรรคในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.6 ชื่นชมผลงานความสำเรจ็ ด้วยความภาคภมู ิใจ
7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ แบง่ ปนั ส่งิ ของ ทรัพย์สนิ และอืน่ ๆ
พร้อมชว่ ยแก้ปญั หา
8.3 ดแู ล รักษาทรัพยส์ ินของหอ้ งเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ชุมชน
เพอื่ แก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิง่ ท่ดี งี ามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง
บนั ทึกหลังแผนการสอน 268
ดา้ นความรู้ )
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ข้อเสนอแนะ ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
ลงชื่อ
(
ตำแหนง่
269
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2
วชิ า ท 33101 ภาษาไทย5 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาคเรยี นที่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 ระดบั ภาษาและอทิ ธิพลของการใช้ภาษา เวลา 1 ช่ัวโมง
เรือ่ ง อิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ผู้สอน นางสาวจิลนั ดา รกั ไร่
..............................................................................................................................................................................................
1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
คำยมื ภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทยมีหลากหลาย และมีลักษณะทางภาษาท่ีแตกต่างกัน จึงจะตอ้ งอธบิ ายลกั ษณะ คำยมื
ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แล้ววิเคราะหอ์ ทิ ธิพลภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย
2. ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
2.1 ตัวชวี้ ดั
ท 4.1 ม.4-6/5 วเิ คราะห์อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศและภาษาถนิ่
2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายลกั ษณะคำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทยได้
2) วเิ คราะห์อิทธพิ ลภาษาต่างประเทศในภาษาไทยได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- อิทธิพลของภาษาต่างประเทศ
4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการวิเคราะห์
2) ทักษะการประยกุ ต์ใชค้ วามรู้
3) ทักษะการทำให้กระจา่ ง
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
270
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วธิ ีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model)
ขน้ั ท่ี 1 ทบทวนความรเู้ ดิม
1. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกี่ยวกับคำภาษาต่างประเทศและให้นกั เรยี นแตล่ ะคนยกตัวอยา่ งคำภาษาตา่ งประเทศท่ีนักเรียน
รจู้ กั คนละ 1 คำ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์วา่ ภาษาตา่ งประเทศทมี่ ีอยู่ในภาษาไทยท่ีนกั เรียนยกตัวอย่างนนั้ เป็น
ภาษาใดบ้าง เพ่ือเปน็ การทบทวนความร้เู ดมิ ของนักเรียน
2. ครอู ธิบายการยืมคำภาษาตา่ งประเทศทม่ี ีอยู่ในภาษาไทยวา่ มลี ักษณะอย่างไร โดยเปิดโอกาสให้นกั เรยี นได้แสดงความ
คิดเหน็ ได้อยา่ งกว้างขวาง
3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด
คำถามกระตุ้นความคดิ
• เหตุใดจงึ มีการยืมคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย(เน่อื งจากมีการติดตอ่ ส่ือสารหรอื คา้ ขายจงึ มีการรบั
วัฒนธรรมของชาติอ่ืนเพื่อใชต้ ิดต่อส่อื สารและใช้เรียกสง่ิ ต่างๆ)
ขั้นท่ี 2 แสวงหาความรูใ้ หม่
1. นักเรยี นรวมกล่มุ เดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1) แลว้ ให้ แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง อิทธิพลของ
ภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ตามหวั ข้อท่ีกำหนดให้ ดังน้ี
- หมายเลข 1 เรือ่ ง ภาษาบาลีและสนั สกฤตในภาษาไทย
- หมายเลข 2 เรื่อง อิทธพิ ลของภาษาเขมรในภาษาไทย
- หมายเลข 3 เรื่อง ภาษาชวา-มลายใู นภาษาไทย
- หมายเลข 4 เรื่อง ภาษาองั กฤษในภาษาไทย
โดยใหน้ ักเรียนศกึ ษาความรู้จากหนงั สือเรยี น หนังสือค้นคว้าเพ่ิมเติมห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบนั ทึก
ความร้ทู ไ่ี ด้จากการศึกษาลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน
ข้นั ท่ี 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรูใ้ หม่ และเช่ือมโยงความรใู้ หม่กบั ความรู้เดิม
1. นักเรียนแต่ละกลุม่ ผลดั กนั อธบิ ายความรทู้ ีต่ นไดศ้ ึกษามาให้เพ่ือนในกลุ่มฟงั เรียงตามลำดับหมายเลข 1-4 แลว้ ผลัดกัน
ซักถามหากมีข้อสงสัยและอธิบายความรู้จนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจน
2. นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
คำถามกระตุน้ ความคดิ
• นักเรยี นคดิ วา่ ภาษาต่างประเทศภาษาใดทม่ี ีอทิ ธิพลในภาษาไทยเป็นภาษาแรก
(ภาษาบาลีสนั สฤตและภาษาเขมร)
• นักเรยี นคิดวา่ ภาษาตา่ งประเทศภาษาใดท่ีมีอทิ ธพิ ลในภาษาไทยมากทส่ี ุด เพราะเหตุใด
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
3. นกั เรยี นแต่ละคนรวบรวมคำศัพท์ท่นี ักเรียนใช้ฟงั พดู อ่านและเขียน พร้อมท้งั บอกความหมายทีเ่ ปน็ คำยืม
ภาษาตา่ งประเทศ ภาษาละ 10 คำ ดงั นี้
1) ภาษาบาลแี ละสนั สกฤต 2) ภาษาเขมร
3) ภาษาชวา-มลายู 4) ภาษาองั กฤษ
โดยสืบคน้ ขอ้ มลู จากหนังสอื เรียน หนงั สอื คน้ ควา้ เพิม่ เติม ห้องสมุด และแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ แล้วลงในสมุด
271
ขั้นที่ 4 แลกเปลย่ี นความรูค้ วามเข้าใจกบั กลุม่
นกั เรียนแต่ละคนในกลุ่มนำคำศัพท์ทร่ี วบรวมมาสนทนาแลกเปล่ียนเรียนรู้ภายในกลุม่ แล้วช่วยกันสรุปเป็นผลงานของ
กลมุ่
ข้ันที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้
นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันสรุปความรูเ้ ร่ือง อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย
ขั้นที่ 6 ปฏิบตั แิ ละ/หรอื แสดงผลงาน
1. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลงานทีห่ น้าชน้ั เรยี น ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
2. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• นกั เรียนคดิ วา่ อิทธพิ ลภาษาต่างประเทศในภาษาไทยมีอิทธพิ ลตอ่ ชวี ติ ประจำวัน ของนกั เรยี นหรือไร
อย่างไร (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของครูผู้สอน)
ขน้ั ท่ี 7 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
1. ครูให้นักเรียนนำความรเู้ กยี่ วกบั ระดับภาษาและอทิ ธิพลของการใชภ้ าษาไปประยุกต์ใช้ในการวเิ คราะห์อทิ ธิพลของ
ภาษา ต่างประเทศในภาษาไทย
2. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• ปัจจุบันอิทธพิ ลภาษาต่างประเทศในภาษาไทยยังมีอยู่หรือไม่ อย่างไร (ยงั มีอยู่ เพราะอิทธิพลภาษาตา่ งประเทศ
ในภาษาไทยเป็นคำทใี่ ชเ้ ฉพาะ เชน่ คำศพั ทว์ ิชาการ ศัพทเ์ ฉพาะด้าน หรอื คำทใ่ี ชใ้ นกลุ่มวัยรุ่น ซ่ึงจะอยู่ในรูปทับ
ศพั ท์ ปัจจบุ ันคำยืมท่ีมีอยู่ในภาษาไทยมีหลายภาษา เชน่ ภาษาญ่ปี ่นุ ภาษาเกาหลี ภาษาฝร่งั เศส)
7. การวดั และประเมินผล
วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมัน่ ในการ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ทำงาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ม.6
2) หนงั สือค้นควา้ เพิ่มเติม
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ
272
แบบบันทึกการอ่าน
ชือ่ หนงั สือ ชื่อผู้แตง่ นามปากกา
สำนกั พมิ พ์ ปีทพี่ มิ พ์
จำนวนหน้า สถานท่พี ิมพ์
พ.ศ. เวลา
ราคา บาท อ่านวันท่ี เดือน
1. สาระสำคัญของเร่ือง
2. วิเคราะห์ข้อคดิ /ประโยชน์ทีไ่ ดจ้ ากเรื่องท่ีอ่าน
3. ส่งิ ท่ีสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั
4. ข้อเสนอแนะของครู
ลงชื่อ นักเรยี น ลงช่อื ผ้ปู กครอง
)
( )(
ลงชื่อ ครผู ู้สอน
()
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานมคี วามสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานมีข้อบกพร่องเพียงเล็กนอ้ ย ให้ 2 คะแนน
ผลงานมขี ้อบกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานมขี ้อบกพร่องมาก
273
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดับ
คะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321
1 เน้ือหาละเอยี ดชัดเจน
2 ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา
3 ภาษาทใี่ ช้เขา้ ใจง่าย
4 ประโยชน์ท่ไี ด้จากการนำเสนอ
5 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
รวม
ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง
274
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี ชื่อ-สกุล ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟงั การตง้ั ใจ การแก้ไข
ของผู้รับการ กันทำ ความคิดเห็น ความคดิ เห็น ทำงาน ปญั หา/หรือ รวม
กจิ กรรม ปรับปรุง 20
ประเมนิ ผลงานกลุ่ม คะแนน
43214321432143214321
ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง
275
แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกับ
ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ด้าน 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่ือไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมาย
กษัตรยิ ์ ของเพลงชาติ
2. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ 1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผูอ้ ื่นปฏิบตั ติ ามสทิ ธแิ ละหนา้ ทขี่ องพลเมือง
3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.3 ใหค้ วามร่วมมอื รว่ มใจ ในการทำกจิ กรรมกับสมาชิกในโรงเรยี น ชมุ ชน
4. ใฝเ่ รียนรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพียง และสังคม
1.4 เป็นผนู้ ำหรือเปน็ แบบอยา่ งในการจดั กิจกรรมทีส่ รา้ งความสามัคคี
ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม ช่นื ชม ปกปอ้ ง
ความเป็นชาตไิ ทย
1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏบิ ัติตนตามหลักของศาสนา
และเป็นตัวอย่างท่ีดีของศาสนิกชน
1.6 เขา้ รว่ มกิจกรรมและมสี ่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทเ่ี กีย่ วข้องกบั สถาบัน
พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่โี รงเรียนและชุมชนจดั ข้ึน ช่นื ชมในพระราชกรณยี กจิ
พระปรชี าสามารถของพระมหากษัตรยิ ์และพระราชวงศ์
2.1 ให้ขอ้ มลู ท่ีถูกตอ้ ง และเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งท่ีถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ท่ีจะกระทำความผิด ทำตาม
สญั ญาทตี่ นให้ไวก้ ับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็นแบบอย่าง
ทดี่ ีด้านความซือ่ สตั ย์
2.3 ปฏบิ ัตติ นตอ่ ผู้อนื่ ด้วยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางท่ไี ม่ถกู ตอ้ ง
และเป็นแบบอยา่ งท่ดี แี กเ่ พอ่ื นดา้ นความซอ่ื สัตย์
3.1 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว
โรงเรยี น และสังคม ไม่ละเมิดสทิ ธขิ องผ้อู ื่น ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน ปฏบิ ตั ิ
เปน็ ปกตวิ ิสยั และเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี
4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ
4.2 มีการจดบนั ทึกความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ
4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล
5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สิ่งของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั
ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั ค้มุ คา่ และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี
5.3 ปฏิบตั ติ นและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไมเ่ อาเปรียบผอู้ น่ื และไม่ทำใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผ้อู ืน่
กระทำผดิ พลาด
276
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ต่อ)
คำชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทีต่ รงกับ
ระดับคะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321
5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชวี ิตประจำวันบนพ้ืนฐาน
ของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร
5.6 รูเ้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรับตัว อย่รู ว่ มกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
6. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 6.1 เอาใจใสต่ ่อการปฏิบัตหิ นา้ ท่ที ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 ตง้ั ใจและรับผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.3 ปรบั ปรงุ และพัฒนาการทำงานอยา่ งรอบคอบ
6.4 ท่มุ เท ทำงาน อดทน ไมท่ อ้ ตอ่ ปัญหาและอปุ สรรค
6.5 พยายามแก้ปญั หาและอุปสรรคในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.6 ชื่นชมผลงานความสำเรจ็ ด้วยความภาคภมู ิใจ
7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ แบง่ ปนั ส่งิ ของ ทรัพย์สนิ และอืน่ ๆ
พร้อมชว่ ยแก้ปญั หา
8.3 ดแู ล รักษาทรัพยส์ ินของหอ้ งเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ชุมชน
เพอื่ แก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิง่ ท่ดี งี ามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง
บนั ทึกหลังแผนการสอน 277
ดา้ นความรู้ )
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ข้อเสนอแนะ ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
ลงชื่อ
(
ตำแหนง่
278
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
วชิ า ท 33101 ภาษาไทย5 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี 1
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ระดับภาษาและอทิ ธิพลของการใช้ภาษา เวลา 1 ชั่วโมง
เรอ่ื ง ภาษาถิ่น ผู้สอน นางสาวจิลนั ดา รักไร่
..............................................................................................................................................................................................
1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ในภาษาไทยมีทั้งภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาไทยถนิ่ ผูเ้ รียนต้องวเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของภาษาถนิ่ ที่มีตอ่ ภาษาไทยมาตรฐาน
2. ตวั ช้วี ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2.1 ตวั ช้ีวดั
ท 4.1 ม.4-6/5 วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถน่ิ
2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
- วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของภาษาถ่นิ ได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- อทิ ธพิ ลของภาษาถ่นิ
3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่
- ภาษาถ่นิ ในภูมิภาคทโี่ รงเรียนต้ังอยู่
4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการวเิ คราะห์
2) ทกั ษะการทำให้กระจา่ ง
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
279
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วธิ ีสอนโดยการจัดการเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิคการตอ่ เรอื่ งราว (Jigsaw)
ข้นั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครสู นทนากับนักเรยี นเร่ือง ภาษาถนิ่ แล้วให้นักเรียนท่สี ามารถพูดภาษาถิ่นต่าง ๆ ได้ ออกมาพดู ภาษาถ่นิ ทีห่ น้าชั้น
เรียน
2. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายถงึ ความแตกต่างของภาษาถ่ิน
3. นักเรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ
คำถามกระต้นุ ความคิด
• ภาษาถ่ินใดที่มีความคลา้ ยคลึงกัน (ภาษาถ่นิ เหนือและภาษาถิ่นอสี าน)
ขน้ั สอน
1. นกั เรียนรวมกล่มุ เดิม (จากแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1) แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มกำหนดหมายเลขประจำตวั ให้สมาชกิ แต่
ละคน เปน็ หมายเลข 1-4 เรียกวา่ กลุม่ บา้ น
2. นกั เรียนท่ีมีหมายเลขเดยี วกนั มารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลมุ่ ผู้เชี่ยวชาญ แล้วให้แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เร่ือง
ภาษาถิน่ จากหนงั สือเรยี น หนงั สือคน้ คว้าเพิ่มเติม และ
หอ้ งสมุด ดังน้ี
- กลมุ่ หมายเลข 1 ศึกษาเร่ือง ภาษาไทยถิ่นเหนือ
- กลุ่มหมายเลข 2 ศกึ ษาเร่ือง ภาษาไทยถน่ิ อสี าน
- กลุม่ หมายเลข 3 ศกึ ษาเรื่อง ภาษาไทยถน่ิ กลาง
- กลุ่มหมายเลข 4 ศึกษาเร่ือง ภาษาไทยถน่ิ ใต้
3. เมอ่ื นักเรียนกลุ่มผู้เชย่ี วชาญศึกษาความรู้ จนมีความรู้ความเข้าใจชดั เจน ผลดั เปลี่ยนกันซักถามและอธบิ ายจนมีความ
เขา้ ใจ จากน้นั แยกย้ายกันกลับไปยังกลมุ่ บา้ น
3. สมาชกิ แต่ละคนผลดั กันอธิบายความรู้ตามท่ีตนได้ศึกษามาใหส้ มาชิกในกลุม่ บา้ นฟังเรยี งตามลำดบั หมายเลข 1-4
จนครบ
4. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ
คำถามกระต้นุ ความคดิ
• นกั เรียนคิดวา่ การพูดภาษาถ่ินเป็นเร่ืองท่ีควรส่งเสริมหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน)
• การศกึ ษาภาษาถิ่นเป็นความเจริญหรอื ความลา้ หลังทางภาษา เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคำตอบของ
นักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
5. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง ภาษาถ่ิน เสร็จแล้วนำสง่ ครคู รูนำผลงานของกลมุ่ ที่มีคุณภาพตามเกณฑต์ ดิ ปา้ ยนเิ ทศเพ่อื
เป็นกำลังใจ
ขัน้ สรปุ
ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปความรูเ้ รอื่ ง ภาษาถ่นิ
280
ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มจัดทำรายงาน เรอ่ื ง ระดับภาษาและอิทธิพลภาษาต่างประเทศและภาษาถิน่
ในภาษาไทย โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด ดงั นี้
5) การใช้ภาษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบุคคล
6) การวเิ คราะห์อทิ ธิพลของภาษาต่างประเทศ และภาษาถน่ิ
7) การจดั แบง่ และลำดับเนื้อหา
8) การใชภ้ าษา
นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 เรอื่ ง ระดับภาษาและอทิ ธพิ ลของการใชภ้ าษา
7. การวดั และประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์
ใบงานที่ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วิธกี าร แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 3.1 แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่นในการ แบบประเมนิ รายงาน เร่ือง ระดับภาษาและ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ทำงาน อิทธิพลภาษาตา่ งประเทศและภาษาถนิ่ ใน
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 8 ภาษาไทย
รายงาน เรือ่ ง ระดบั ภาษาและอิทธิพล
ภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่นในภาษาไทย
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.6
2) หนังสอื คน้ ควา้ เพิม่ เติม
3) ใบงานที่ 3.1 เรอื่ ง ภาษาถนิ่
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
- ห้องสมุด
281
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินรายงาน เรอ่ื ง ระดบั ภาษาและอิทธิพลภาษาต่างประเทศ
และภาษาถนิ่ ในภาษาไทย
ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 การใช้ภาษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ
และบุคคล
2 การวเิ คราะห์อทิ ธิพลของภาษาตา่ งประเทศ
3 และภาษาถ่นิ
4 การจัดแบง่ และลำดับเนื้อหา
การใช้ภาษา
รวม
ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4
ดมี าก = 3
ดี = 2
พอใช้ = 1
ปรบั ปรงุ =
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14 - 16 ดีมาก
11 - 13 ดี
8 - 10 พอใช้
ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรุง
282
ใบงานท่ี 3.1 เร่อื ง ภาษาถ่นิ
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ภาษาไทยมาตรฐานตา่ งจากภาษาไทยถน่ิ อยา่ งไร
2. การศกึ ษาภาษาไทยถิ่น มีประโยชน์อยา่ งไร
3. ให้นกั เรียนวิเคราะหค์ ำต่อไปนี้ วา่ เป็นคำทม่ี าจากภาษาถ่นิ ใดรวมกับภาษาถิ่นใด
1) ทองคำ
2) คอยทา่
3) เสอ่ื สาด
4) กา้ วยา่ ง
4. เหตุใดภาษาไทยมาตรฐานจึงมอี ิทธิพลเหนือภาษาไทยถน่ิ
5. ภาษาทใ่ี ชใ้ นท้องถนิ่ ของนกั เรียนเป็นภาษาไทยถน่ิ ใด ใหย้ กตวั อย่างคำศัพท์ท่ใี ชใ้ นชีวติ ประจำวนั พรอ้ มทั้งความหมายของ
คำศัพท์ เป็นภาษาไทยมาตรฐาน มา 20 คำ
เฉลย 283
ใบงานที่ 3.1 เรอื่ ง ภาษาถิน่
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ภาษาไทยมาตรฐานตา่ งจากภาษาไทยถิ่นอยา่ งไร
ภาษาไทยถนิ่ เป็นภาษาของกลมุ่ คนท่อี าศัยอยูใ่ นภมู ภิ าคตา่ งๆ ของประเทศไทย แต่ภาษาไทยมาตรฐานเปน็ ภาษาไทย
กรุงเทพฯ เปน็ ภาษากลางใชใ้ นการตดิ ต่อกบั ทางราชการและใช้ในการเรยี นการสอนในระบบการศึกษาของประเทศ
2. การศึกษาภาษาไทยถ่ิน มปี ระโยชน์อยา่ งไร
การศึกษาภาษาไทยถน่ิ ทำให้ผู้ศกึ ษาสามารถทำความเข้าใจบริบททางสงั คมและวฒั นธรรมของแต่ละถ่นิ รวมทั้งทำให้
สามารถสอื่ สารกบั คนในแตล่ ะท้องถิ่นไดถ้ ูกต้อง ตรงตามความหมายที่ต้องการส่ือ
3. ให้นักเรียนวเิ คราะห์คำต่อไปน้ี ว่าเป็นคำทมี่ าจากภาษาถ่นิ ใดรวมกับภาษาถ่นิ ใด
1) ทองคำ = ทอง ภาษาไทยมาตรฐาน คำ ภาษาไทยถิ่นเหนือ
2) คอยท่า = คอย ภาษาไทยมาตรฐาน ทา่ ภาษาถิ่นใต้
3) เสอื่ สาด = เสอื่ ภาษาไทยมาตรฐาน สาด ภาษาไทยถ่ินใต้
4) กา้ วย่าง = กา้ ว ภาษาไทยมาตรฐาน ยา่ ง ภาษาไทยถนิ่ เหนอื ภาษาไทยถ่ินอีสาน
4. เหตุใดภาษาไทยมาตรฐานจึงมีอิทธิพลเหนือภาษาไทยถ่ิน
เพราะทางราชการกำหนดให้ภาษาไทยมาตรฐานเป็นภาษากลางท่ใี ชใ้ นการศึกษาและใช้ในทางราชการ อีกท้งั สื่อมวลชนต่างๆ
กใ็ ช้ภาษาไทยมาตรฐาน คนไทยในถิน่ ตา่ งๆ จำเปน็ ต้องเรยี นรเู้ พอ่ื ใชใ้ นการส่อื สารกบั ทางราชการ ทางการศึกษา และเพ่อื รบั
ข่าวสารจากสอื่ ตา่ งๆ
5. ภาษาท่ใี ช้ในท้องถนิ่ ของนักเรียนเปน็ ภาษาไทยถิน่ ใด ใหย้ กตัวอยา่ งคำศพั ทท์ ่ใี ชใ้ นชีวติ ประจำวนั พรอ้ มทงั้
ความหมายของคำศัพท์ เปน็ ภาษาไทยมาตรฐาน มา 20 คำ
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครผู ้สู อน)
284
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
1 เนื้อหาละเอยี ดชัดเจน
2 ความถูกตอ้ งของเนือ้ หา
3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ข้าใจงา่ ย
4 ประโยชน์ที่ได้จากการนำเสนอ
5 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
รวม
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ำกว่า 10 พอใช้
ปรับปรุง
285
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทีต่ รงกบั
ระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี ช่ือ-สกุล ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟงั การตัง้ ใจ การแกไ้ ข
ของผู้รับการ กันทำ ความคิดเห็น ความคดิ เห็น ทำงาน ปญั หา/หรือ รวม
กจิ กรรม ปรับปรุง 20
ประเมิน ผลงานกลุ่ม คะแนน
43214321432143214321
ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง
เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13
ตำ่ กวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง
286
แบบประเมิน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องท่ีตรงกบั
ระดบั คะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 4321
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธิบายความหมาย
กษัตริย์ ของเพลงชาติ
2. ซอื่ สตั ย์ สจุ ริต 1.2 ปฏิบัตติ นและชักชวนผู้อนื่ ปฏิบตั ิตามสทิ ธิและหน้าทีข่ องพลเมอื ง
3. มีวินยั รับผดิ ชอบ 1.3 ใหค้ วามร่วมมอื รว่ มใจ ในการทำกิจกรรมกบั สมาชิกในโรงเรียน ชุมชน
4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง และสังคม
1.4 เปน็ ผู้นำหรือเป็นแบบอย่างในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามัคคี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ช่นื ชม ปกป้อง
ความเป็นชาตไิ ทย
1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตนตามหลกั ของศาสนา
และเปน็ ตวั อย่างทด่ี ีของศาสนกิ ชน
1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรยี นและชมุ ชนจดั ข้นึ ชน่ื ชมในพระราชกรณียกจิ
พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตรยิ ์และพระราชวงศ์
2.1 ให้ขอ้ มลู ท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งท่ถี ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทีจ่ ะกระทำความผิด ทำตาม
สัญญาทต่ี นใหไ้ วก้ ับเพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผูป้ กครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง
ท่ีดีดา้ นความซ่อื สตั ย์
2.3 ปฏิบัตติ นตอ่ ผู้อ่นื ด้วยความซือ่ ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางท่ีไมถ่ กู ต้อง
และเปน็ แบบอย่างทด่ี ีแกเ่ พ่ือนด้านความซ่ือสัตย์
3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครวั
โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธขิ องผอู้ ่ืน ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจำวัน และรับผดิ ชอบในการทำงาน ปฏบิ ตั ิ
เปน็ ปกตวิ สิ ัยและเป็นแบบอย่างทด่ี ี
4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนร้ตู ่างๆ
4.2 มกี ารจดบันทึกความรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ
4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล
5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั
ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม
5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรักษาดแู ลอยา่ งดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไมเ่ อาเปรียบผูอ้ ่ืน และไมท่ ำใหผ้ ู้อน่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภัยเม่ือผอู้ น่ื
กระทำผดิ พลาด
287
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ตอ่ )
คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ
ระดับคะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใชช้ ีวิตประจำวันบนพนื้ ฐาน
ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร
5.6 รูเ้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรับตัว อยู่รว่ มกับผูอ้ ื่นไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
6. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 6.1 เอาใจใส่ต่อการปฏิบตั หิ นา้ ทที่ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็
6.3 ปรบั ปรุงและพฒั นาการทำงานอยา่ งรอบคอบ
6.4 ท่มุ เท ทำงาน อดทน ไมท่ อ้ ต่อปญั หาและอุปสรรค
6.5 พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้สำเร็จ
6.6 ชื่นชมผลงานความสำเร็จด้วยความภาคภมู ใิ จ
7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ชว่ ยทำ แบง่ ปนั สงิ่ ของ ทรัพย์สิน และอื่นๆ
พร้อมชว่ ยแก้ปัญหา
8.3 ดแู ล รักษาทรัพย์สนิ ของหอ้ งเรียน โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น ชมุ ชน
เพอื่ แกป้ ัญหาหรอื ร่วมสร้างสงิ่ ท่ดี งี ามตามสถานการณ์ท่เี กิดขึ้น
ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง
บนั ทึกหลังแผนการสอน 288
ดา้ นความรู้ )
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ข้อเสนอแนะ ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
ลงชื่อ
(
ตำแหนง่
บนั ทกึ หลังหน่วยการเรยี นร้อู ิงมาตรฐาน 289
ตอนท่ี 1 นกั เรียนมคี วามรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดของหน่วยการเรียนรู้ )
ตอ่ ไปน้ี ท 4.1 (ม.4-6/3, ม.4-6/5)
)
ดา้ นความรู้
(จำนวน คน คิดเปน็ ร้อยละ
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมที่มปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )
สรปุ ผลจากการประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจำหน่วยการเรยี นรู้
ระดบั คุณภาพดีมาก จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดับคุณภาพดี จำนวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
ระดบั คุณภาพพอใช้ จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภาพปรับปรุง จำนวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ขอ้ เสนอแนะ ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
ลงชอื่
(
ตำแหน่ง
290
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7
การแต่งคำประพนั ธป์ ระเภทฉันท์
291
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 การแต่งคำประพันธป์ ระเภทฉันท์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
ม.4-6/4 แต่งบทร้อยกรอง
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การแตง่ คำประพันธ์ประเภทฉันท์จะต้องทราบถงึ ลักษณะการบงั คบั ทางฉันทลกั ษณข์ องฉันท์แตล่ ะประเภท
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- กาพย์ โคลง ร่าย และฉนั ท์
4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการเขียน
2) ทกั ษะกระบวนการคิดสรา้ งสรรค์
3) ทกั ษะการประเมิน
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งม่ันในการทำงาน
4. รักความเป็นไทย
6. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
การแตง่ คำประพนั ธ์ประเภทฉันท์
7. การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 9 เรื่อง การแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์
292
7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1) ตรวจใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง ลักษณะของฉันท์
2) ตรวจใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง แต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์
3) ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
4) สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
5) สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
6) สังเกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
7.3 การประเมินหลงั เรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง การแตง่ คำประพันธ์ประเภทฉนั ท์
7.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจการแตง่ คำประพันธป์ ระเภทฉนั ท์
293
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1
วิชา ท 33101 ภาษาไทย5 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคเรยี นท่ี 1
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 การแตง่ คำประพันธป์ ระเภทฉนั ท์ เวลา 1 ช่ัวโมง
เรือ่ ง เรียนรเู้ รอ่ื งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ ผสู้ อน นางสาวจิลันดา รกั ไร่
....................................................................................................................................................................................
1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
คำประพันธป์ ระเภทฉนั ท์มีลกั ษณะบังคบั คณะ ครุ ลหุ และสัมผสั ท่ตี า่ งกนั ตามลกั ษณะของฉนั ท์แตล่ ะประเภท
2. ตัวช้ีวดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2.1 ตัวชว้ี ัด
ท 4.1 ม.4-6/4 แตง่ บทร้อยกรอง
2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1) อธบิ ายวิธีการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉนั ท์ได้
2) แตง่ คำประพันธ์ประเภทฉนั ท์ได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.3 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- กาพย์ โคลง รา่ ย และฉนั ท์
4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
1) ทักษะการเขียน
2) ทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์
3) ทักษะการประเมิน
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน
4. รกั ความเป็นไทย
294
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธสี อนแบบบรรยาย
นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เรือ่ ง การแตง่ คำประพนั ธป์ ระเภทฉันท์
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น
4. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
คำถามกระตนุ้ ความคดิ
• นักเรยี นรจู้ ักวรรณคดีเร่ืองใดบ้างทแี่ ตง่ ด้วยคำประพนั ธป์ ระเภทฉันท์
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)
5. ครนู ำตัวอย่างคำประพนั ธป์ ระเภทฉันท์ ซึง่ ได้แก่ สทั ทุลวกิ กีฬติ ฉนั ท์ 19 โตฎกฉันท์ 12 อีทสิ งั ฉนั ท์ 20 แลว้ ช่วยกนั
เปรยี บเทียบความเหมือนหรือความแตกตา่ งของฉันท์ทั้ง 3 ประเภท และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับอารมณ์ ความรสู้ ึก
ทรรศนะ จากเนอ้ื หาของบทประพนั ธด์ ังกล่าว
ขัน้ สอน
9. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ ง
ออ่ น และอ่อน แล้วรว่ มกนั ศึกษาความรู้เร่ือง ความสำคญั ของการแตง่ คำประพนั ธ์ และการแต่งคำประพันธ์ประเภท
ฉนั ท์ จากหนังสือเรียน หนังสอื ค้นคว้าเพม่ิ เติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ
10. สมาชกิ แตล่ ะกล่มุ จับคู่กันเปน็ 2 คู่ ใหแ้ ตล่ ะคชู่ ่วยกันทำใบงานที่ 1.1 เร่ือง ลกั ษณะของฉันท์
11. สมาชกิ แต่ละคู่ชว่ ยกันเฉลยคำตอบในใบงานท่ี 1.1
12. ครสู ุม่ ตัวแทนกลุ่ม 2-3 กลมุ่ ออกมานำเสนอผลการทำใบงานที่ 1.1 โดยใหก้ ลมุ่ ที่มีความคิดเห็นแตกตา่ งเสนอแนะ
เพ่ิมเติม ครตู รวจสอบความถูกต้อง
13. ครถู ามนักเรยี นว่า การแตง่ ฉันทค์ วรมีความรู้เรื่องใดบ้างนอกจากลักษณะบังคบั ทางฉนั ทลกั ษณ์ เพอื่ เป็นการตรวจสอบ
ความเขา้ ใจ
14. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละคนเขียนตัวอย่างพยางคห์ รือคำที่เป็นครุ ลหุ อย่างละ 10 คำ ลงในสมุด จากน้ันใหน้ ักเรียนจับคูก่ ับ
เพื่อนเพื่อตรวจสอบความถูกตอ้ ง
15. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
คำถามกระตนุ้ ความคิด
• คำประพันธ์ประเภทฉันทต์ ่างจากคำ ประพนั ธ์ชนิดอ่ืนอยา่ งไร
(คำประพนั ธ์ประเภทฉนั ท์มีลักษณะบังคบั ฉันทลักษณเ์ สียงหนกั เสียงเบา และการส่งสมั ผัสซึง่ ต่างจากคำประพันธช์ นิดอนื่ )
• ฉันทแ์ ตล่ ะชนิดมีลีลาเหมือนหรอื ต่างกันอยา่ งไร(ฉันท์แตล่ ะชนิดมลี ลี าต่างกัน ข้ึนอยกู่ บั ลักษณะของฉันทแ์ ต่ละ
ชนิด เชน่
- สัททลุ วกิ กีฬิตฉนั ท์ 19 มีเสียงหนกั เบาที่นยิ มแตง่ บทไหว้ครู หรือบทอาเศยี รวาท
- โตฎกฉันท์ 12 ใช้กับเน้ือความทีแ่ สดงความโกรธ รอ้ นรน หรือสนุกสนาน
- อที ิสงั ฉนั ท์ 20 ใช้กบั เร่ืองทแ่ี สดงความเกร้ียวกราด อารมณ์โกรธหรืออารมณ์ต่ืนเตน้ )
295
ขน้ั สรปุ
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้เรอ่ื ง ความสำคัญของการแตง่ คำประพันธ์ และการแต่งคำประพันธป์ ระเภทฉันท์
นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
คำถามกระตนุ้ ความคดิ
• นกั เรียนคดิ วา่ ฉันท์มลี กั ษณะโดดเดน่ กวา่ คำประพันธ์ประเภทอ่ืนหรือไม่ อย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครูผู้สอน)
7. การวัดและประเมินผล
วธิ กี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการ แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 9 (ประเมินตามสภาพจริง)
เรยี นรู้ที่ 9
ใบงานท่ี 1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1.1 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
สังเกตความมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ มนั่ ในการ
ทำงาน
และรักความเป็นไทย
8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.6
2) หนงั สือค้นควา้ เพิ่มเติม
3) ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ลกั ษณะของฉนั ท์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) แหล่งการเรยี นรู้