The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Surin Palichan, 2019-04-03 05:29:58

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

Keywords: พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

บรมพรระารชาชาพภธิิเษี ก

พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
บรมนาถบพิตร

วนั ท่ี ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓

2

พระราชพิธบี รมราชาภิเษก

3

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอย่หู วั

วันที่ ๒๕ กุมภาพนั ธ์ พุทธศกั ราช ๒๔๖๘

4

พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก

5

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่หวั

วันท่ี ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศกั ราช ๒๔๕๓

พระราชพธิ บี รมราชาภิเษกสมโภช

วนั ท่ี ๒ ธนั วาคม พุทธศกั ราช ๒๔๕๔

6

พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก

7

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั

ครั้งแรก วันที่ ๑๒ พฤศจกิ ายน พทุ ธศักราช ๒๔๑๑

8

พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก

9

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก

พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั

ครั้งหลัง วนั ที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๖

10

พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก

11

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก

พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั

วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พทุ ธศักราช ๒๓๙๔

12

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

13

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก



ค�าปรารภ

พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี
เพอ่ื จัดพิมพ์หนังสือพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก

พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐

ประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาจวบทุกวันน้ี เกิดจากความเข้มแข็ง
ของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจ
ของคนไทยทั้งชาติ และถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นชาติไทย ประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรไทย
ต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติมาตลอด พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์
ทรงมีบทบาทส�าคัญในการพัฒนาชาติไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ อย่างมั่นคง ท้ังด้านการป้องกัน
และรักษาเอกราชของชาติ ด้านการสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทย ด้านวัฒนธรรมการด�าเนินชีวิต และด้านศิลปกรรม
ทรงเป็นผู้น�าที่ปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ เพ่ือบ�าบัดทุกข์
บ�ารุงสุข สร้างความอยู่ดี กินดี และมีคุณภาพชีวิตท่ีดีให้แก่ปวงอาณาประชาราษฎร์ สร้างความร่มเย็นเป็นสุข
ให้เกิดแก่ชาติบ้านเมือง และทรงน�าพาให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการรุกรานของชนชาติอ่ืน ท�าให้สามารถ
รักษาเอกราชอธิปไตยไว้ได้ตราบจนทุกวันน้ี ประชาชนคนไทยโชคดีที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมีที่มี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นหลักชัย และตามโบราณราชประเพณีก�าหนดให้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ในการสบื ราชสนั ตตวิ งศ ์ เพ่ือเสดจ็ ขน้ึ ทรงราชย์เปน็ พระมหากษตั ริยโ์ ดยสมบรู ณ์
หนังสือ “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” เป็นการจดจารึกมรดกทางวัฒนธรรมตามโบราณ
ราชประเพณีอันเนื่องด้วยพระมหากษัตริย์ แม้ว่าพระราชอ�านาจบางอย่างอาจเปล่ียนแปลงไปตามบริบท
ของสังคม แต่วัฒนธรรมประเพณีอันเน่ืองด้วยพระราชพิธีส�าคัญยังคงสืบสานต่อมาตราบเท่าทุกวันน ้ี
นับเป็นเครื่องบ่งบอกเอกลักษณ์ของชาติได้เป็นอย่างดี คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจ และควรมีความรู ้
ความเข้าใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างถ่องแท้ เพ่ือร่วมสืบสานวัฒนธรรมตามประเพณี
ของไทยให้อยคู่ ชู่ าตไิ ทยตลอดไป

พลเอก
(ประยุทธ ์ จันทร์โอชา)
นายกรัฐมนตรี

15

พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก

สาร

รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงวฒั นธรรม

กระทรวงวัฒนธรรม มภี ารกจิ หน้าทใ่ี นการธ�ารงรกั ษา สง่ เสรมิ และสบื ทอดขนบธรรมเนียมประเพณี
อนั เนอ่ื งด้วยสถาบนั ชาต ิ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้เป็นทปี่ ระจักษ์และคงอยเู่ ปน็ เครื่องหล่อเล้ียงบา� รุงสังคม
ไทยให้ผาสุกร่มเย็น มีระเบียบแบบแผนเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ มีคติความเช่ือและ
แนวปฏิบัติหลายประการที่แสดงให้เห็นถึงความสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์แห่งสถาบันอันเป็นเคร่ืองยึดเหนี่ยวรวมชาติ
ไทยใหเ้ ปน็ ปึกแผน่ ม่ันคงเสมอมา
ตามโบราณราชประเพณี การเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์จะทรงรับการบรมราชาภิเษก
เฉลิมพระนามาภิไธยเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นพระราชพิธีศักด์ิสิทธ์ิส�าคัญยิ่ง แสดงให้เห็นถึง
วัฒนธรรมอันงดงาม และเป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ทรงพระเกียรติยศอันสูงสุด สมกับท่ีทรงเป็น
พระมิ่งขวญั ของปวงชนชาวไทยไปตลอดกาล
หนงั สือพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก ท่ีกระทรวงวฒั นธรรมจดั พิมพ์น ้ี เป็นการด�าเนนิ การตามนโยบาย
รฐั บาล พลเอก ประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรัฐมนตร ี ในการสง่ เสริมการเรยี นรู้ประวตั ศิ าสตร์ของชาต ิ และการเสริม
สร้างความรู้อันเนื่องด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ การสืบทอดวัฒนธรรมซ่ึงเป็นโบราณราชประเพณีอันส�าคัญ
เพอื่ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ และความรว่ มมอื รว่ มใจกนั ปกปอ้ ง เทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ข์ องไทยใหด้ า� รงอยู่
อยา่ งมัน่ คง เพื่อใหป้ ระชาชนชาวไทยประสบความร่มเย็นเปน็ สขุ ภายใตพ้ ระบรมโพธสิ มภารสืบไป

(นายวรี ะ โรจน์พจนรัตน)์
รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงวฒั นธรรม

16

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

ค�านา�

ปลดั กระทรวงวัฒนธรรม

สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าของไทยทุกพระองค์ ทรงปฏิบัติบ�าเพ็ญพระราชกรณียกิจ
ทงั้ ปวงเพอ่ื ความผาสกุ ของอาณาประชาราษฎร ์ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ จงึ เปน็ สถาบนั หลกั ทปี่ ระชาชนชาวไทยตา่ ง
เคารพเทิดทนู และส�านกึ ในพระมหากรณุ าธิคุณอยา่ งหาท่ีสุดมิไดเ้ สมอมา
กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีโดยตรงในการขับเคลื่อนภารกิจภาครัฐในการอนุรักษ์
สบื ทอด สง่ เสรมิ และเผยแพรศ่ ลิ ปวฒั นธรรมของชาต ิ เพอื่ สรา้ งจติ สา� นกึ ความเปน็ ไทย ผา่ นกระบวนทศั นก์ ารดา� เนนิ
งานดา้ นวัฒนธรรมให้มคี วามร่วมสมยั สอดคลอ้ งกบั สภาพสงั คมปจั จุบนั ด้วยความร่วมมอื รว่ มใจของทุกภาคสว่ น
ในสังคมไทย เพ่อื ธา� รงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
การจัดพิมพห์ นงั สือ “พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก” เลม่ น ้ี เพอื่ ใหป้ ระชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียว
กบั โบราณราชประเพณ ี ซง่ึ เปน็ พระราชพธิ ที ป่ี ฏบิ ตั เิ พอ่ื ความเปน็ พระมหากษตั รยิ โ์ ดยสมบรู ณ ์ กลา่ วคอื การเสดจ็ ขนึ้
ครองราชย์จะสมบูรณ์เมื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว เนื้อหาของหนังสือประกอบด้วย ความเป็นมา
ของพระราชพิธ ี ล�าดับข้ันตอนพระราชพธิ โี ดยสังเขปทั้งการเตรียมการพระราชพธิ ี พระราชพิธีเบอื้ งตน้ พระราชพิธี
เบ้ืองปลาย ตลอดจนข้อมูลความรู้ที่เก่ียวเน่ืองกับพระราชพิธี อาทิ พระปฐมบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์
ในสมัยรัตนโกสินทร์ เครื่องราชกกุธภัณฑ์ สถานท่ีประกอบพระราชพิธี พระมหาเจดีย์ สถานที่ตั้งพิธีเสกน�้า
พระพทุ ธมนต ์รวมถงึ แหลง่ นา�้ ศกั ดส์ิ ทิ ธข์ิ องแตล่ ะจงั หวดั ทต่ี อ้ งพลกี รรมตกั นา�้ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ นา้� สรงพระมรุ ธาภเิ ษก เปน็ ตน้
จึงหวังเปน็ อยา่ งย่งิ ว่า หนงั สือเล่มนี้จะอ�านวยประโยชนแ์ กป่ ระชาชนผ้สู นใจศกึ ษาเร่ืองราวเก่ียวกับ
พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษกและเกดิ ความเขา้ ใจในความส�าคัญของพระราชพิธโี ดยทั่วกัน

(นายกฤษศญพงษ์ ศริ )ิ
ปลดั กระทรวงวัฒนธรรม

17

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

สารบัญ หน้า

คา� ปรารภนายกรัฐมนตรี ๑๕
สารรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงวัฒนธรรม ๑๖
คา� นา� ปลัดกระทรวงวฒั นธรรม ๑๗
พระราชพิธบี รมราชาภิเษก ๒๑
๒๕
ความเปน็ มาของพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ๒๘
ลา� ดับพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ๒๘
๓๒
การเตรียมน�้าอภเิ ษก และนา�้ สรงพระมุรธาภเิ ษก ๓๘
การจารกึ พระสุพรรณบฏั และแกะพระราชลัญจกรประจ�ารัชกาล ๔๕
การจดั เตรียมสถานท่ี ๕๕
พระราชพธิ ีเบือ้ งต้น ๖๐
พิธสี รงพระมรุ ธาภเิ ษก ๖๕
พธิ ีถวายน�า้ อภิเษก ๗๙
พิธีถวายสิรริ าชสมบัติ และถวายเครือ่ งราชกกธุ ภณั ฑ์ ๑๑๙
พระราชพิธีเบือ้ งปลาย ๑๒๑
ภาคผนวก
พระปฐมบรมราชโองการ รัชกาลที่ ๑ – รัชกาลที่ ๙ ๑๔๑
กา� หนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเดจ็ ๑๔๕
พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธิราช ๑๔๖
และพระราชพธิ เี ฉลมิ พระราชมนเทยี ร
เครอื่ งราชกกุธภณั ฑ์
พระมหาเศวตฉัตรหรือนพปฎลมหาเศวตฉัตร

พระมหาพิชยั มงกุฎ หนา้
พระแสงขรรคช์ ยั ศรี
ธารพระกร ๑๔๗
วาลวชิ นี (พดั และแส)้ ๑๔๘
ฉลองพระบาทเชิงงอน ๑๔๙
พระราชลัญจกรประจ�าแผ่นดิน ๑๕๐
พระสพุ รรณบฏั ๑๕๑
พระทน่ี ง่ั พุดตานกาญจนสงิ หาสน์ ๑๕๒
พระทน่ี ง่ั ภทั รบิฐ ๑๕๖
พระทนี่ ั่งอัฐทิศอทุ ุมพรราชอาสน์ ๑๕๗
หมูพ่ ระมหามณเฑียร ๑๕๘
พระทน่ี ั่งจกั รพรรดพิ มิ าน ๑๕๙
พระที่นงั่ ไพศาลทกั ษิณ ๑๖๑
พระทน่ี ั่งอมรินทรวินจิ ฉัยมไหสูรยพมิ าน ๑๖๓
พระที่นง่ั ดุสิตมหาปราสาท ๑๖๕
วดั พระศรีรัตนศาสดาราม ๑๖๗
พระมหาเจดยี สถาน สถานทตี่ ้ังพธิ ีเสกนา้� พระพุทธมนต์ ๗ แห่ง ๑๖๙
พธิ เี สกน้�า ๑๐ มณฑลในสมยั รชั กาลท่ี ๗ ๑๗๑
ปูชนยี สถานและส่งิ สา� คัญ ๑๓ แห่ง ๑๗๒
บรรณานกุ รม ๑๗๖
คณะท�างาน ๑๘๐
๑๘๒
๑๘๔



บรพมรระารชาาชภพิเิธษี ก

22

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นโบราณราชประเพณีท่ีต้องท�าเพื่อความเป็นพระมหากษัตริย์อย่างสมบูรณ์
ดงั ความใน “จดหมายเหตุพระราชพิธบี รมราชาภิเษก สมเดจ็ พระรามาธบิ ดี ศรีสนิ ทรมหาวชริ าวธุ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอย่หู วั ” วา่

“...ตามราชประเพณีในสยามประเทศน้ี ถือเปนต�ารามาแต่โบราณว่าพระมหา
กระษตั รยิ ซ์ ง่ึ เสดจ็ ผา่ นพภิ พ ตอ้ งทา� พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกกอ่ น จงึ จะเปนพระราชาธบิ ดโี ดย
สมบูรณ์ ถ้ายังมิได้ท�าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอยู่ตราบใด ถึงจะได้ทรงรับรัชทายาท
เมอื่ เสดจ็ เขา้ ไปประทบั อยใู่ นพระราชวงั หลวง กเ็ สดจ็ อยเู่ พยี ง ณ ทพี่ กั แหง่ หนงึ่ พระนามทข่ี าน
กค็ งใช้พระนามเดิม เปนแต่เพมิ่ คา� ว่า “ซงึ่ ทรงส�าเร็จราชการแผ่นดิน” เขา้ ขา้ งทา้ ยพระนาม
แลค�ารับสั่งก็ยังไม่ใช้พระราชโองการ จนกว่าจะได้สรงมุรธาภิเษก ทรงรับพระสุพรรณบัฏ
จารึกพระบรมราชนามาภิธัยกับทั้งเคร่ืองราชกกุธภัณฑ์จากพระมหาราชครูพราหมณ์ผู้ท�า
พิธีราชาภเิ ษกแล้ว จงึ เสดจ็ ข้นึ เฉลมิ พระราชมณเฑยี ร ครอบครองสิรริ าชสมบัติสมบรู ณ์ด้วย
พระเกยี รตยิ ศแหง่ พระราชามหากระษตั ริย์แตน่ น้ั ไป...”

จิตรกรรมฝาผนงั พระอุโบสถวัดอมั พวนั เจตยิ าราม จังหวัดสมทุ รสงคราม
พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลัย

23

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

24

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

ความเป็นมาของพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก

พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก เปน็ ราชประเพณคี ูส่ งั คมไทยมายาวนานโดยไดร้ บั อทิ ธิพลจากคติอินเดยี แตล่ กั ษณะ
การพระราชพิธีแต่เดมิ มีแบบแผนรายละเอียดเป็นอยา่ งไรไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชดั แมแ้ ตก่ ารเรยี กช่อื พิธีกแ็ ตกตา่ งกันออกไป
ในแตล่ ะสมยั เชน่ ในสมยั อยธุ ยา สมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ เรียกว่า

“พระราชพธิ รี าชาภิเษก” หรือ “พิธีราชาภิเษก” สว่ นในปจั จุบนั เรยี กวา่ “พระราช
พิธบี รมราชาภิเษก”
สมัยสุโขทัยปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกหลักท่ี ๒ หรือจารึกวัดศรีชุม ซ่ึงเป็นเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนเมื่อราว
พุทธศตวรรษท ่ี ๑๘ กลา่ วถึงการขึน้ เปน็ ผู้นา� ของพอ่ ขุนบางกลางหาว ไว้ว่า “...พอ่ ขุนผาเมืองจึงอภิเษกพอ่ ขุนบางกลางหาวให้
เมืองสุโขทัย ให้ท้ังช่ือตนแก่พระสหายเรียกชื่อศรีอินทรบดินทราทิตย์...” ส่วนในศิลาจารึกวัดป่ามะม่วงภาษาไทย และภาษา
เขมรกล่าวถงึ เคร่อื งราชกกุธภณั ฑ์ในพธิ ีบรมราชาภเิ ษกพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (ลไิ ทย) วา่ ม ี มกฎุ พระขรรคช์ ัยศร ี และเศวตฉัตร
สมัยอยุธยาปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในค�าให้การของชาวกรุงเก่า ข้อความตอนหนึ่ง
กลา่ วถงึ ข้นั ตอนของพระราชพธิ นี ้ีวา่
“...พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาจึงโปรดให้เอาไม้มะเด่ือน้ัน มาท�าต่ังส�าหรับประทับสรง
พระกระยาสนานในการมงคล เชน่ พระราชพธิ รี าชาภเิ ษก เปน็ ตน้ พระองคย์ อ่ มประทบั เหนอื
พระที่น่ังตั่งไม้มะเด่ือ สรงพระกระยาสนานก่อนแล้ว (จึงเสด็จไปประทับพระท่ีน่ังภัทรบิฐ)
มขุ อา� มาตยถ์ วายเครอื่ งเบญจราชกกธุ ภณั ฑ ์ คอื มหามงกฎุ ๑ พระแสงขรรค ์ ๑ พดั วาลวชิ น ี ๑
ธารพระกร ๑ ฉลองพระบาทค่ ู ๑...”

จติ รกรรมฝาผนัง พระอโุ บสถวัดอมั พวันเจติยาราม จังหวดั สมุทรสงคราม
พราหมณ์ทูลเกล้าฯ ถวายพระมหาพชิ ัยมงกุฎ ในพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั

25

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

จิตรกรรมฝาผนัง พระท่นี ่งั ทรงผนวช
วัดเบญจมบพติ รดุสิตวนาราม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั
เสดจ็ เลยี บพระนครทางสถลมารค
ในการพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก

26

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี ไม่ปรากฏหลักฐานการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สันนิษฐานว่าท�าตามแบบ
อย่างเม่ือครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยา แต่ท�าอย่างสังเขป เพราะบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ยังอยู่
ในภาวะสงคราม ครนั้ ถึงสมัยรัตนโกสนิ ทร ์ เม่อื พ.ศ. ๒๓๒๕ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชไดป้ ระดษิ ฐาน
พระบรมราชจักรีวงศ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีปราบดาภิเษกแต่โดยสังเขป ยังไม่พร้อมมูลเต็ม
ต�ารา ครั้น พ.ศ. ๒๓๒๖ โปรดให้ข้าราชการผู้รู้คร้ังกรุงเก่า มีเจ้าพระยาเพชรพิชัยเป็นประธาน ประชุมปรึกษาหารือกับสมเด็จ
พระสังฆราชและพระราชาคณะผู้ใหญ่ท�าการสอบสวนร่วมกันตรวจสอบต�าราว่าด้วยการราชาภิเษกในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้า
อทุ มุ พร หรอื ขนุ หลวงวดั ประด ู่ แล้วแต่งเรยี บเรยี งขึน้ ไว้เป็นต�ารา เรยี กว่า “ตา� ราราชาภิเษกครงั้ กรงุ ศรีอยธุ ยาสา� หรับหอหลวง”
เป็นต�าราเกี่ยวกับการราชาภิเษกที่เก่าแก่ที่สุดเท่าท่ีพบหลักฐานในประเทศไทย เมื่อได้แบบแผนการราชาภิเษกท่ีสมบูรณ์แล้ว
อีกทั้งพระราชมณเฑียรสถานท่ีสร้างข้ึนใหม่แล้วเสร็จ ใน พ.ศ. ๒๓๒๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธี
บรมราชาภิเษกให้สมบูรณ์ตามแบบแผนอันได้เคยมีมาแต่เก่าก่อนอีกครั้งหน่ึง และแบบแผนการราชาภิเษกดังกล่าวได้รับการ
ยดึ ถอื ปฏบิ ตั เิ ปน็ แบบอยา่ งสบื มาเพอ่ื ความเปน็ พระมหากษตั รยิ โ์ ดยสมบรู ณ ์ บางพระองคท์ รงประกอบพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
๒ ครัง้ คอื พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยูห่ วั
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ครั้งแรก เมื่อวนั ที ่ ๑๒ พฤศจกิ ายน พุทธศักราช ๒๔๑๑ เม่อื ทรงข้ึนครองราชสมบตั ิสบื ต่อจากสมเดจ็ พระบรมชนกนาถ ขณะมี
พระชนมพรรษาเพียง ๑๕ พรรษา ในระยะเวลาห้าปแี รกของรัชกาล สมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาศรสี ุริยวงศ์ (ช่วง บนุ นาค) เป็น
ผู้ส�าเร็จราชการแผ่นดิน จนกระทั่งเมื่อทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๒๐ พรรษาจึงทรงพระผนวช หลังจากทรงลาสิกขาแล้ว
ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ประกอบพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก คร้งั ท่ ี ๒ เมื่อวนั ท ี่ ๑๖ พฤศจิกายน พทุ ธศักราช ๒๔๑๖ หลงั
จากนนั้ ทรงรบั พระราชภาระและมพี ระราชอา� นาจในการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ โดยสมบรู ณ ์ สว่ นพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้
เจา้ อยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกอบพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก ๒ ครั้ง คอื พระราชพิธบี รมราชาภิเษกเฉลิมพระราช
มณเฑยี ร เมอื่ วนั ท ี่ ๑๑ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๓ เนอ่ื งจากยงั อยใู่ นชว่ งกา� ลงั ไวท้ กุ ขง์ านพระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระ
จลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั จงึ โปรดใหง้ ดการเสดจ็ เลยี บพระนครและการรน่ื เรงิ ตอ่ มาเมอื่ ถวายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็
พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั แลว้ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกอบพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมโภช เมอ่ื วนั ท ่ี ๒ ธนั วาคม
พุทธศักราช ๒๔๕๔ เพอ่ื ให้เป็นสว่ นร่ืนเรงิ สา� หรับประเทศ อกี ท้งั ให้นานาประเทศทเี่ ปน็ สมั พนั ธมติ รไมตรมี โี อกาสมาร่วมงาน

27

พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก

ลา� ดับพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก

การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีหลักฐานปรากฏข้ันตอนล�าดับการพระราชพิธีชัดเจนในสมัยรัตนโกสินทร ์
แบง่ เปน็ ๔ ข้ันตอน ไดแ้ ก่ การเตรยี มพระราชพธิ ี พระราชพิธเี บ้ืองต้น พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก และพระราชพธิ เี บือ้ งปลาย
โดยขั้นตอนและรายละเอียดของการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามกาลสมัยมาจนถึงปัจจุบัน
ซ่ึงมีรายละเอยี ดโดยสังเขป ดังนี้

การเตรยี มพระราชพธิ ี

มกี ารทา� พธิ ตี กั นา�้ และทต่ี งั้ สา� หรบั ถวายเปน็ นา�้ อภเิ ษกและนา้� สรงพระมรุ ธาภเิ ษก จารกึ พระสพุ รรณบฏั ดวงพระบรม
ราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกร เตรียมตง้ั เครื่องบรมราชาภิเษก และเตรียมสถานท่จี ัดพระราชพธิ ี

การเตรียมน้�าอภเิ ษกและน�้าสรงพระมุรธาภเิ ษก

ขั้นตอนการเตรียมพิธีจะต้องมีการตักน้�าจากแหล่งส�าคัญ ๆ เพ่ือน�ามาเป็นน้�าสรงพระมุรธาภิเษก และเพ่ือท�า
น�้าอภิเษกก่อนที่จะน�าไปประกอบในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามต�าราโบราณของพราหมณ์ น้�าอภิเษกจะต้องเป็นน้�าจาก
“ปญั จมหานท”ี คอื แมน่ า�้ ใหญท่ งั้ ๕ สายในชมพทู วปี หรอื ในประเทศอนิ เดยี ไดแ้ ก ่ แมน่ า�้ คงคา แมน่ า้� มห ิ แมน่ า�้ ยมนา แมน่ า้� อจริ วด ี
และแมน่ ้า� สรภ ู ในศาสนาพราหมณ ์ - ฮินด ู เช่ือวา่ แม่น�้าทั้ง ๕ สายน ี้ ไหลมาจากเขาไกรลาส ซง่ึ เป็นท่ีสถติ ของพระอศิ วร จงึ ถอื ว่า
เป็นน้า� ศักดิ์สทิ ธิ์ นา� มาใชใ้ นการพระราชพธิ ีตา่ งๆ เช่น น�้าสรงพระมรุ ธาภเิ ษก น้า� อภิเษก และนา้� พระพุทธมนต ์ ในสมัยสโุ ขทยั -

แม่น�้าบางปะกง แมน่ ้�าปา่ สัก

28

พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก

แมน่ �้าเจา้ พระยา แมน่ า�้ ราชบุรี แมน่ ้�าเพชรบรุ ี

อยุธยาไม่ปรากฏหลักฐานว่า มีการน�าน้�าปัญจมหานทีมาใช้ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่ปรากฏหลักฐานว่า น้�าสรง
พระมรุ ธาภเิ ษกในสมยั อยธุ ยาใชน้ า้� จากสระเกษ สระแกว้ สระคงคา สระยมนา แขวงเมอื งสพุ รรณบรุ ีนอกจากน ้ีในสมยั รตั นโกสนิ ทร ์
ในรชั กาลท ่ี ๑ - รัชกาลท่ี ๔ ยงั ใชน้ ้า� ในแม่น�้าสา� คญั ของประเทศเพิ่มเตมิ อกี ๕ สาย เรียกวา่ “เบญจสุทธคงคา” โดยอนโุ ลมตาม
ปัญจมหานทีในชมพูทวีป คือ แม่น�้าบางปะกง ตักที่บึงพระอาจารย์ แขวงเมืองนครนายก แม่น�้าป่าสัก ตักท่ีต�าบลท่าราบ
แขวงเมอื งสระบรุ ี แมน่ า�้ เจา้ พระยา ตกั ทตี่ า� บลบางแกว้ แขวงเมอื งอา่ งทอง แมน่ า�้ ราชบรุ ี ตกั ทตี่ า� บลดาวดงึ ส ์ แขวงเมอื งสมทุ รสงคราม
และแม่น้�าเพชรบุรี ตักท่ีต�าบลท่าไชย แขวงเมืองเพชรบุรี เมื่อตักแล้วจะต้ังพิธีเสก ณ เจดียสถานส�าคัญแห่งแขวงน้ันๆ
แล้วจึงจัดส่งเข้ามาท�าพิธีท่ีกรุงเทพมหานคร ในรัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯ ให้น�าพิธีทางพระพุทธศาสนามาเพิ่มเติมด้วย โดยให้
พระสงฆ์ซ่ึงเป็นพระครูพระปริตรไทย ๔ รูป สวดท�าน้�าพระพุทธมนต์ในพิธีสรงพระมุรธาภิเษก จึงมีน้�าพระพุทธมนต์เพิ่มขึ้นอีก
อย่างหน่ึง

ต่อมาในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว น�้าสรงพระมุรธาภิเษกในการ
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกคร้ังแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๑ ได้ใช้น�้าเบญจสุทธคงคาและน้�าจากสระ ๔ สระ แขวงเมืองสุพรรณบุร ี
เชน่ เดยี วกบั รชั กาลกอ่ นๆ จนกระทง่ั พ.ศ. ๒๔๑๕ ไดเ้ สดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปประเทศอนิ เดยี ทรงนา� นา้� จากปญั จมหานทตี ามตา� รา
พราหมณก์ ลบั มาดว้ ย ดงั นน้ั นา�้ สรงพระมรุ ธาภเิ ษกในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ครง้ั ท ี่ ๒ พ.ศ. ๒๔๑๖ จงึ มนี า้� ปญั จมหานทเี จอื
ลงในน�้าเบญจสุทธคงคาและน้�าจากสระ ๔ สระ แขวงเมืองสพุ รรณบรุ ีด้วย
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เฉลิมพระราชมณเฑียร
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ ใชน้ ้�าเช่นเดียวกบั คร้ังสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั คร้ังท่ี ๒ ครน้ั ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ
ใหต้ ง้ั การพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมโภช เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๕๔ โปรดใหพ้ ลกี รรมตกั นา�้ จากแมน่ า�้ และแหลง่ นา�้ ตา่ งๆ ทถี่ อื วา่ สา� คญั
และเป็นสริ ิมงคลมาตั้งพิธเี สกท�านา้� พระพุทธมนต ์ ณ พระมหาเจดียสถานท่ีเป็นหลักของมหานครโบราณ ๗ แห่ง และมณฑล
ตา่ งๆ ๑๐ มณฑล *

* ภาคผนวก

29

พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก

พระธาตุซ่อแฮ จงั หวดั แพร่
หนึ่งในสถานที่ศกั ด์ิสทิ ธ์ิในการตง้ั พิธเี สกนา�้
ในรชั กาลที่ ๗

30

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

พระธาตุแชแ่ ห้ง จังหวัดนา่ น รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
หนึ่งในสถานทศี่ กั ดสิ์ ิทธิ์ในการตั้งพิธีเสกนา�้ รัชกาลที่ ๗ น้�าสรงพระมุรธาภิเษกในการพระราชพิธีบรม
ในรัชกาลที่ ๙ ราชาภเิ ษก เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๘ ได้ต้ังพิธีท�านา้� อภิเษกทหี่ วั เมือง
มณฑลต่างๆ ๑๘ แห่ง ซึ่งสถานท่ีต้ังท�าน้�าอภิเษกในรัชกาลนี้
ใช้สถานท่ีเดียวกับในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว เพียงแต่เปล่ียนจากวัดมหาธาตุ เมืองเพชรบูรณ ์
มาต้ังที่วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ และเพิ่มอีกหน่ึงแห่งท่ี
วดั บงึ พระลานชัย จังหวัดรอ้ ยเอ็ด
ต่อมารัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการพลีกรรมตักน�้า
ณ สถานทศี่ กั ดสิ์ ทิ ธใ์ิ นพระราชอาณาจกั ร แลว้ นา� มาตง้ั ประกอบ
พธิ เี ปน็ นา้� สรงพระมรุ ธาภเิ ษกในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
เม่ือ พ.ศ. ๒๔๙๓ ท�าพิธีเสกน�้า ณ มหาเจดียสถาน และ
พระอารามต่างๆ ในราชอาณาจักรจ�านวน ๑๘ แห่ง เท่ากับ
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่เปลี่ยน
สถานท่จี ากเดมิ ๑ แห่ง คือ จากวดั พระธาตชุ อ่ แฮ จังหวดั แพร ่
เป็นวัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่านแทน ส่วนน�้าจากสระสอง
หอ้ ง เมืองพิษณุโลก ซึ่งเคยน�ามาเป็นน�้าสรงพระมุรธาภิเษก
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่ได้ใช้
ในคร้งั น้ี เน่อื งจากแหลง่ นา้� ดังกล่าวตนื้ เขินจนไม่มีนา�้

31

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

การจารึกพระสุพรรณบฏั และแกะพระราชลัญจกรประจ�ารัชกาล

พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏและแกะพระราชลัญจกรประจ�ารัชกาลเป็นข้ันตอนส�าคัญขั้นตอนหน่ึงในการเตรียม
ประกอบพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก โดยจะตอ้ งถวายพระสุพรรณบฏั เฉลมิ พระปรมาภิไธย กอ่ นที่จะถวายเครือ่ งราชกกธุ ภณั ฑ์
อนื่ ๆ และตอ้ งเชญิ แผน่ ดวงพระบรมราชสมภพและพระราชลญั จกรประจา� รชั กาลขน้ึ ประดษิ ฐานบนพระแทน่ มณฑลในพระราช
พิธบี รมราชาภิเษกดว้ ย
การจารึกพระสุพรรณบัฏเฉลิมพระปรมาภิไธย และดวงพระบรมราชสมภพของพระมหากษัตริย์ ในสมัย
รตั นโกสนิ ทร ์ จดั ขน้ึ ในพระอโุ บสถวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม โหรหลวงเปน็ ผกู้ า� หนดพระฤกษพ์ ธิ จี ารกึ พระสพุ รรณบฏั เมอื่ กา� หนด
พระฤกษ์ไดว้ ันจารึกพระสพุ รรณบัฏแลว้ ตอนเยน็ ก่อนถึงวนั พระฤกษ์ พระสงฆจ์ ะเจรญิ พระพทุ ธมนต ์ ส่วนโหรหลวงจะสวดบชู า
เทวดา เช้าวันรุ่งข้ึนก่อนเวลาพระฤกษ์ พระราชวงศ์ท่ีทรงเป็นประธานในพิธีจะทรงถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ เมื่อพระสงฆ์
รับพระราชทานฉันแล้ว ประธานในพิธีจุดธูปเทียนเคร่ืองนมัสการและทรงศีล จากน้ันจึงเริ่มพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏและแกะ
พระราชลัญจกรประจา� รชั กาล
การจารึกพระสุพรรณบัฏในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร เม่ือวันท่ี ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ เวลา ๙.๒๖ – ๑๐.๒๘ น. ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงพระ
กรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระวรวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าธานีนวิ ัต เป็นประธานในพธิ ี มหี ลวงบรรเจดิ อกั ษรการ (ทบั สาตราภัย) หัวหน้า
กองปกาศิต ในหน้าทอี่ าลกั ษณ ์ จารึกอกั ษรพระปรมาภิไธยลงในพระสุพรรณบัฏ พระยาโหราธิบด ี (แหยม วชั รโชต)ิ โหรจารึก
ดวงพระบรมราชสมภพลงในแผ่นทอง และหม่อมเจา้ สมัยเฉลมิ กฤดากร ศลิ ปินในหนา้ ทนี่ ายช่าง แกะพระราชลญั จกร
ในพระอุโบสถตั้งโต๊ะเครื่องบายศรีตอง ๓ ช้ัน ซ้าย ขวา มีกล้วยน�้าว้า หัวหมูส�าหรับบูชาพระฤกษ์ อาลักษณ ์
ผจู้ ารกึ พระสพุ รรณบฏั แตง่ กายดว้ ยเครอ่ื งขาวและรบั ศลี เมอ่ื ใกลเ้ วลาพระฤกษ ์ ประธานพธิ ี พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ ธานนี วิ ตั
จดุ เทยี นเงนิ เทยี นทองทกุ โตะ๊ จารกึ แลว้ อาลกั ษณน์ มสั การพระพทุ ธมหามณรี ตั นปฏมิ ากร จากนน้ั ถวายบงั คมสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
(พระราชอาสน์) คล้องสายสิญจน์ และหันหน้าไปสู่ทิศมงคล ได้เวลาพระฤกษ์ โหรล่ันฆ้องชัย อาลักษณ์และโหรลงมือจารึก
พระสุพรรณบัฏเฉลิมพระปรมาภิไธยและดวงพระบรมราชสมภพ ส่วนนายช่างท�าหน้าที่แกะพระราชลัญจกรประจ�ารัชกาลไป
พรอ้ มกนั ในระหวา่ งน้ันพระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา พราหมณเ์ ป่าสังข์ เจ้าพนกั งานประโคมแตร สังข์ และพิณพาทย์

32

พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก

ดวงพระบรมราชสมภพ

พระบรมราชสมภพ วนั จันทร์ที่ ๕ ธนั วาคม พทุ ธศาสนายุกาล ๒๔๗๐ ตรงกับ ณ วนั ๒ ๑ฯ๒ ๑ ค�า่ ปีเถาะ
นพศก จุลศักราช ๑๒๘๙ เวลา ๘ นาฬกิ า ๔๕ นาที (๒ โมงเช้า ๔๕ นาที เวลาทีก่ รุงเทพฯ) พระลคั นาสถติ ราศธี นู

ตติยนวางค ๗ ปฐมตรยี างค ๖ เชฐฤกษ์ ๑๘ ประกอบดว้ ยสมณแห่งฤกษ์

พระสุพรรณบัฏ เฉลมิ พระปรมาภไิ ธย
พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหติ ลาธเิ บศรรามาธิบดี จักรนี ฤบดินทร

สยามินทราธริ าช บรมนาถบพติ ร

33

พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก

พระอโุ บสถ วัดพระศรีรตั นศาสดาราม

34

พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก

พระพุทธมหามณรี ัตนปฏมิ ากร (พระแกว้ มรกต)

35

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

36

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

อน่ึง เจ้าพนักงานน�าพระสุพรรณบัฏ และพระราชลัญจกรท่ีแล้วเสร็จมาประดิษฐานบนธรรมาสน์ศิลา
ในพระอโุ บสถวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม เพอื่ เชญิ มาพระทนี่ ง่ั ไพศาลทกั ษณิ และวนั ท ี่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓โปรดใหม้ พี ระราช
พิธีราชาภิเษกสมรสและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิ กิติยากร เป็นสมเด็จพระราชินี
สริ ิกติ ิ์ ทรงดา� รงตา� แหนง่ พระอิสรยิ ยศฐานนั ดรศักดิ์แหง่ พระราชวงศ์ ครัน้ วันท่ ี ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ในการพระราชพิธี
บรมราชาภิเษก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสิริกิต์ิ ข้ึนเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินี

37

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

การจดั เตรียมสถานท่ี

สถานท่ีประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในสมัย
รัตนโกสินทร์มีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละรัชกาลตามความเหมาะสม
เชน่ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ประกอบพระราช
พธิ ี ณ พระทนี่ งั่ อมรนิ ทราภเิ ษกปราสาท พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้
นภาลัย ประกอบพระราชพิธี ณ พระท่ีนั่งในหมู่พระมหามณเฑียร
ประกอบด้วย พระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน พระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ และ
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เนื่องด้วยพระที่น่ังดุสิตมหาปราสาทซ่ึงสร้าง
ข้ึนแทนท่ีพระท่ีนั่งอมรินทราภิเษกปราสาทเป็นท่ีประดิษฐานพระบรม
ศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จ
พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั จงึ โปรดใหป้ ระกอบพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
ณ พระทนี่ ง่ั ในหมพู่ ระมหามณเฑยี ร ซง่ึ ไดใ้ ชเ้ ปน็ สถานทปี่ ระกอบพระราช
พิธบี รมราชาภิเษกในรชั กาลที่ ๓ รัชกาลท่ี ๔ รัชกาลท ่ี ๕
ตอ่ มาพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงประกอบ
พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกครงั้ แรกเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๕๓ ณ พระทนี่ งั่ หมพู่ ระมหา
มณเฑยี ร ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๔๕๔ ไดท้ รงกระทา� พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมโภช
ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า
เจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพติ ร ประกอบพระราชพธิ ี ณ พระทน่ี ง่ั ในหมพู่ ระมหามณเฑยี ร

หมู่พระมหามณเฑยี ร ในพระบรมมหาราชวัง

38

พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก

39

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระทน่ี งั่ ดุสติ มหาปราสาท ปลายสมยั รัชกาลท่ี ๕

40

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

พระท่นี งั่ ดสุ ิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวงั ปจั จบุ ัน

41

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

ภายในพระท่นี ่ังไพศาลทักษิณ

42

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

ภายในทอ้ งพระโรงดา้ นที่ตอ่ กับพระที่นงั่ จักรพรรดิพมิ าน ภายในทอ้ งพระโรงด้านท่ตี อ่ กบั พระที่น่งั ไพศาลทกั ษณิ

43

พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก

44

พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก

พระราชพิธีเบื้องตน้

45

พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก

พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร และสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชนิ นี าถ
เสดจ็ พระราชด�าเนินทางประตเู ทเวศร์รกั ษา ไปยงั พระทน่ี ั่งอมรนิ ทรวินิจฉยั ในพธิ ีจดุ เทยี นชยั วนั ท่ี ๔ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๙๓

46

พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก


Click to View FlipBook Version