The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suwich992010, 2021-11-05 07:30:47

แผนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ

แผนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ

1

แผนการสอน/การเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง/คุณลักษณะ 3 D

รหสั 30000 - 1207 วชิ า ภาษาองั กฤษธรุ กจิ
หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง

หลักสตู ร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชั้นสูง พทุ ธศักราช 2563

ภาคทฤษฎีและปฏบิ ตั ิ

จดั ทำโดย
นายสวุ ิช ฝุ่นเงนิ

แผนกวิชาสามญั สมั พนั ธ์ วิทยาลัยการอาชพี สว่างแดนดิน
สถาบนั การอาชวี ศึกษาภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 2

สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

2

แผนการสอน

รหัสวชิ า 30000 – 1207 วชิ า ภาษาองั กฤษธุรกิจ

จัดทำโดย

นายสุวชิ ฝ่นุ เงนิ
ศศ.บ. ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สารสากล
ศษ.ม. การบริหารการศกึ ษา

3

แบบคำขออนมุ ัตใิ ช้แผนการสอน

แผนการสอน/การเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง/คณุ ลกั ษณะ 3 D

รายวชิ า ภาษาอังกฤษธุรกิจ รหสั วชิ า 30000 - 1207

ลงชื่อ.....................................................

(นายสุวชิ ฝุ่นเงนิ )

ตำแหน่ง ครู

ผูจ้ ัดทำ

ความเห็นหวั หนา้ แผนกวิชาสามัญสัมพันธ์ ความเหน็ หัวหน้างานพฒั นาหลกั สูตรฯ

……………………………………………………………. ………………………………………………………

ลงช่ือ............................................... ลงชือ่ ...............................................

(นางมณีกานต์ โคตรโสภา) (นายคมุ ดวง พรมอินทร์)

หวั หน้าแผนกวชิ าสามัญสัมพนั ธ์ หวั หนา้ งานพัฒนาหลักสูตรฯ

ความเหน็ รองผู้อำนวยการฝา่ ยวชิ าการ

………………………………………………………

ลงชอื่ ……………………………………...

(นายทนิ กร พรหมอินทร์)

รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ

ความเห็นผอู้ ำนวยการวิทยาลยั เทคนคิ สวา่ งแดนดิน

..........................................................

อนมุ ตั ิ ไม่อนุมัติ

ลงชื่อ....................................................
(นางวรรณภา พว่ งกลุ )

ผอู้ ำนวยการวทิ ยาลัยเทคนคิ สวา่ งแดนดิน
…………/……………/……………

4

คำนำ

พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 ทไ่ี ดป้ ระกาศใชต้ งั้ แตเ่ ดอื นสงิ หาคม 2542 เป็นตน้ มา ไดเ้ น้นให้
ครู-อาจารย์และผู้เก่ยี วขอ้ งทงั้ หลายจดั การเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรยี นสาคญั ทส่ี ุด ซ่งึ กิจกรรมการเรยี นการสอนทจ่ี ดั
ควรมลี กั ษณะสาคญั ดงั น้ี

1. ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากการปฏบิ ตั จิ รงิ
2. ผเู้ รยี นมโี อกาสเลอื กเรยี นรใู้ นสงิ่ ทต่ี นถนดั และสนใจ
3. ผเู้ รยี นไดม้ โี อกาสแสวงหาความรแู้ ละสรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตวั เอง
4. ผเู้ รยี นไดม้ โี อกาสทจ่ี ะนาความรไู้ ปปฏบิ ตั ใิ ชจ้ รงิ ในชวี ติ ประจาวนั
5. ผเู้ รยี นมสี ่วนร่วมในการประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องตนเอง

5

สำรบญั

คานา
รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้
หลกั สตู รรายวชิ า
หน่วยการเรยี น
ความสอดคลอ้ งของหน่วยกบั สมรรถนะรายวชิ า
ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู รรายวชิ า
การวดั ผลและประเมนิ ผล
โครงการจดั การเรยี นรู้
แผนการจดั การเรยี นรทู้ บ่ี ูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 10
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 11
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 13
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 14
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 15
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 16
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 17
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 18

ภำคผนวก

ก ตวั อย่างแบบประเมนิ ดว้ ยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
ข ตวั อยา่ งแบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
ค ตวั อยา่ งแบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่

ง ตวั อยา่ งแบบประเมนิ การนาเสนอผลงานรายบุคคล
จ ตวั อยา่ งแบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ฉ ตวั อยา่ งแบบรวมคะแนนการประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม

และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ช ตวั อย่างแบบสรุปผลการประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ซ วธิ กี ารใชแ้ บบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

6

หลกั สูตรรายวิชา

ชือ่ วิชา ภาษาอังกฤษธุรกิจ (Business English) รหสั วิชา 30000-1207 (3-0-3)

หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สงู พุทธศักราช 2563 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

ประเภทวิชา ภาษาต่างประเทศ หมวดวิชา สมรรถนะแกนกลาง กล่มุ วิชา ภาษาอังกฤษ

จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพื่อให้
1. เขา้ ใจหลกั การใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธรุ กจิ
2. สามารถนาภาษาองั กฤษไปใชเ้ ป็นเคร่อื งมอื สอ่ื สารในงานอาชพี ทางธรุ กจิ
3. มเี จตคตแิ ละกจิ นสิ ยั ทด่ี ใี นการใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี และการศกึ ษาต่อ

สมรรถนะรำยวิชำ
1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธุรกจิ
2. พดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ ค้าและบรกิ าร
3. สนทนาในสถานการณ์ทางธุรกจิ ตามมารยาทสงั คมของเจ้าของภาษา
4. สรุปใจความสาคญั ของเร่อื งทอ่ี ่านทางธรุ กจิ จากสอ่ื สงิ่ พมิ พแ์ ละสอ่ื ออนไลน์
5. เขยี นบนั ทกึ และรายงานการปฏบิ ตั งิ านในงานอาชพี ทางธุรกจิ
6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธุรกิจ

คำอธิบำยรำยวิชำ
ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับการฟั ง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษในงานอาชีพทางธุรกิจ

คาศพั ท์เทคนิคทางธุรกจิ และพาณิชย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์(E-Commerce) การให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั สนิ ค้า หรอื
บริการ การสนทนาในสถานการณ์ทางธุรกิจ การสนทนาทางโทรศัพท์ การอ่านเอกสาร โฆษณา
ประกาศ ตาราง แผนภูมิ กราฟ กาหนดการ การสบื ค้นขอ้ มูลทางธุรกิจ การเขยี นบนั ทกึ รายงานการ
ปฏบิ ตั งิ าน ขอ้ ความทางโทรศพั ท์ ขอ้ ความบนส่อื สงั คมออนไลน์ และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื
พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธุรกจิ

7

หน่วยการเรียนรู้

ชื่อวิชา วิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ(Business English) ท.ป.น.3-0-3

รหสั วิชา 30000-1207 (3-0-3) จานวน 3 ชวั่ โมง/ สปั ดาห์ ระดบั ปวส.

หน่วย ช่ือหน่วย จำนวน ที่มำ
ที่
ชวั ่ โมง A B C D E F

1 What do you do? 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

2 Workplace 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

3 Goods and Services 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

4 Day- to- day jobs 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

5 Customer Service 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

6 Vacation & Business trip 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

7 Dealing with messages 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

8 Business Information 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

9 Business Correspondence 6 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

10 Looking back 3 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓

กำรวดั ผล/ ประเมินผล (กลำงภำค/ปลำยภำค) 6

รวม 54

หมำยเหตุ A = หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู พทุ ธศกั ราช 2563

B = กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้

C = แบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วย

D = ใบงานของแผนการสอน

E = เอกสารประกอบการสอน

F = หนงั สอื เรยี น วชิ าภาษาองั กฤษธรุ กจิ สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

8

ความสอดคลอ้ งของหน่วยกบั สมรรถนะรายวิชา

ชือ่ วิชา วิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ (Business English) ท.ป.น.3-0-3

รหสั วิชา 30000-1207 (3-0-3) จานวน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ระดบั ปวส.

ควำมสอดคลอ้ ง

หน่วย ชื่อหน่วย ชวั ่ โมง แสดงความรู้เก่ียวกับการใช้ภาษาอังกฤษในงาน
อาชีพทาง ุธรกิจ
พูดให้ข้อมูลเก่ียวกับสินค้าและบริการ
สนทนาในสถานการ ์ณทาง ุธรกิจตามมารยาท
สังคมของเจ้าของภาษา
สรุปใจความสาคัญของเร่ืองท่ีอ่านทาง ุธรกิจจากส่ือ
สิ่งพิมพ์และส่ือออนไล ์น
เขียนบันทึกและรายงานการปฏิบัติงานในงาน
อาชีพทาง ุธรกิจ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือพัฒนาทักษะ
ภาษาอังกฤษในงานอาชีพทาง ุธรกิจ

1 What do you do? 6     
2 Workplace 6     
3 Goods and Services 6     
4 Day- to- day jobs 3     
5 Customer Service 3     
6 Vacation & Business trip 3     
7 Dealing with messages 6     
8 Business Information 6     
9 Business Correspondence 6     
10 Looking back 3     

กำรวดั ผล/ ประเมินผล 6
รวม 54

9

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ชือ่ วิชา วิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ (Business English) ท.ป.น.3-0-3

รหสั วิชา 30000-1207 (3-0-3) จานวน 3 ชวั่ โมง/ สปั ดาห์ ระดบั ปวส.

1.กำรวดั ผล

-พทุ ธพิ สิ ยั 1) แบบฝึกหดั 20 %

2) ทดสอบหลงั เรยี น 10 %

3) วดั ผลสมั ฤทธิ์ 15 %

รวม 45 %

-ทกั ษะพสิ ยั 1) ใบงาน 10 %

2) วดั ผลสมั ฤทธิ์ 5%

รวม 15%

-จติ พสิ ยั รวม 10 %

รวมทงั้ หมด 70 %

(คะแนนทดสอบกอ่ นเรยี นไวส้ าหรบั เปรยี บเทยี บกบั คะแนนทดสอบหลงั เรยี น)

คะแนนระหวำ่ งภำค/ปลำยภำค 70 : 30

ระหว่างภาค 1) แบบฝึกหดั +ทดสอบหลงั เรยี น 30 %

2) สอบกลางภาค 20 %

3) ใบงาน 10 %
4) จติ พสิ ยั 10 %

รวม 70 %

สอบปลายภาค 30 %

รวม 100 %

2.กำรประเมินผล (อิงเกณฑ)์

80 – 100 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 4.0 หมายถงึ ผลการเรยี นอย่ใู นเกณฑด์ เี ยย่ี ม

75 – 79 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 3.5 หมายถงึ ผลการเรยี นอย่ใู นเกณฑด์ มี าก

70 – 74 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 3.0 หมายถงึ ผลการเรยี นอย่ใู นเกณฑด์ ี

65 – 69 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 2.5 หมายถงึ ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑด์ พี อใช้

60 – 64 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 2.0 หมายถงึ ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑพ์ อใช้

55 – 59 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 1.5 หมายถงึ ผลการเรยี นอย่ใู นเกณฑอ์ อ่ น

50 – 54 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 1.0 หมายถงึ ผลการเรยี นอย่ใู นเกณฑอ์ ่อนมาก

 50 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 0 หมายถงึ ผลการเรยี นต่ากว่าเกณฑข์ นั้ ต่า

ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตร 10

ชือ่ วิชา วิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ(Business English) ท.ป.น.3-0-3
รหสั วิชา 30000-1207 (3-0-3) จานวน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ระดบั ปวส.

พทุ ธิพิสยั (45%)
ควำม ้รู
พฤติกรรม ควำมเข้ำใจ
กำรนำไปใ ้ช
ช่ือหน่วย กำร ิวเครำะ ์ห
กำรสังเครำะ ์ห

รวม
ทักษะ ิพสัย (15%)
ิจต ิพสัย (10%)

รวม
ลำดับควำมสำคัญ
จำนวนชั ่วโมง

1. What do you do? 2 1 1 -- 4 - 1 5 6 6
2. Workplace 21-1-4 - 1 5 5 6
3. Goods and Services 11- - -2 3 1 6 2 6
4. Day- to- day jobs 211- -4 - 1 5 7 3
5. Customer Service 11- - -2 2 1 5 8 3
6. Vacation & Business trip 211- -4 - 1 5 9 3
7. Dealing with messages 211- -4 - 1 5 4 6
8. Business Information 11- - -2 2 1 5 3 6
9. Business Correspondence 11-1-3 3 1 7 1 6
10. Looking back - 1 - - - 1 - 1 2 10 3
5 5 4 1 - 15 5 - 20 - 3
สอบกลำงภำค 19 15 8 3 - 45 15 10 70 - 51
รวม
30 3
สอบปลำยภำค 100 54
รวมทงั้ หมด
123
ลำดบั ควำมสำคญั

หมำยเหตุ การสอบกลางภาคเรยี น/ ปลายภาคเรยี นนนั้ ขน้ึ อย่กู บั สถานศกึ ษา หรอื ครผู สู้ อน

11

โครงการจดั การเรียนรู้

ชือ่ วิชา วิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ (Business English) ท.ป.น.3-0-3
รหสั วิชา 30000-1207 (3-0-3) จานวน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ระดบั ปวส.

สปั ดำห์ หน่วย ชวั่ โมง ช่ือหน่วย/สำระกำรเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ทฤษฏี ปฏิบตั ิ
ที่ ท่ี

1 1 1-3 ปฐมนิเทศ 1. สามารถใชค้ าศพั ทใ์ นเร่อื งของอาชพี ไดอ้ ย่าง 3 0
ถูกตอ้ ง
1.จุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า 2. สามารถถาม-ตอบในเร่อื งอาชพี ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. สามารถตงั้ คาถามดว้ ย Wh-question ในเรอ่ื ง
และคาอธบิ ายรายวชิ า ทวั่ ไปได้
4. สามารถศกึ ษารายละเอยี ดของบคุ คลอ่น่ื ๆ ได้
2. แนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการ

เรยี นรู้

Unit 1: What do you do?(1)

1.คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั อาชพี

2.การสนทนาเกย่ี วกบั อาชพี

3.การตงั้ คาถามดว้ ย Wh-question

4.การศกึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วของบคุ คล

2 1 4-6 Unit 1: What do you do?(2) 5. อา่ นเพอ่ื ทาความเขา้ ใจเร่อื งราวเกย่ี วกบั งาน 3 0
0
5.เรอ่ื งราวทเ่ี กย่ี วกบั งานอาชพี อาชพี ได้

6.บทสมั ภาษณ์ผปู้ ระกอบอาชพี 6. จบั ใจความสาคญั บทสมั ภาษณ์ของผปู้ ระกอบ

7.คาเรยี กบคุ คลอน่ื อย่างไมเ่ ป็นทางการ อาชพี ได้

8.การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ 7. ใชค้ าเรยี กบุคคลอ่นื อยา่ งไม่เป็นทางการได้

ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ ถกู ตอ้ ง

9.การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้

อาเซยี น ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

ได้

3 2 7-9 Unit 2: Workplace(1) 1. ใชค้ าศพั ทท์ ใ่ี หร้ ายละเอยี ดของชวั่ โมงการทางาน 3

1.คาศพั ทท์ ใ่ี หร้ ายละเอยี ดของชวั่ โมงการ ได้

ทางาน 2. ถามตอบเกย่ี วกบั เวลาเปิด-ปิดของสถานประกอบ

2.บทสนทนาถามตอบเกย่ี วกบั เวลาเปิด- การได้

ปิดของสถานประกอบการ 3. อธบิ ายลกั ษณะทส่ี าคญั และรายละเอยี ดบน

3.ลกั ษณะทส่ี าคญั และรายละเอยี ดบน นามบตั รได้

นามบตั ร 4. บอกตาแหน่งทต่ี งั้ จากการอา่ นแผนทข่ี องสถาน

4.ตาแหน่งทต่ี งั้ จากการอ่านแผนทข่ี อง ประกอบการได้

สถานประกอบการ

12

4 2 10-12 Unit 2: Workplace(2) 5. อา่ นจบั ใจความสาคญั เรอ่ื งการเพม่ิ ขน้ึ ของ 3 0
0
5.อ่านบทความเร่อื งการเพม่ิ ขน้ึ ของ พนกั งานสุภาพสตรใี นตลาดแรงงานได้ 0
0
พนกั งานสภุ าพสตรใี นตลาดแรงงานได้ 6. บอกลกั ษณะเดน่ ของรา้ นสะดวกซอ้ื จากการอ่าน

6.อ่านบทสนทนาเหตุผลทค่ี นทวั่ ไปชอบใช้ บทสนทนาเหตุผลทค่ี นทวั่ ไปชอบใชบ้ รกิ ารจากรา้ น

บรกิ ารจากรา้ นสะดวกซอ้ื ได้ สะดวกซ้อื ได้

7.วฒั นธรรมการตรงตอ่ เวลาของเจา้ ของ 7. เขา้ ใจมารยาทในการตรงต่อเวลาของเจา้ ของ

ภาษา ภาษา

8.การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้

ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ 9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

อาเซยี น ได้

5 3 13-15 Unit 3: Goods and Services(1) 1. จาแนกความแตกต่างระหวา่ งสนิ คา้ และบรกิ ารได้ 3

1. ความแตกตา่ งระหวา่ งสนิ คา้ และบรกิ าร 2. บอกขอ้ มลู สนิ คา้ จากการฟังบทสนทนาสอบถาม

2. บทสนทนาสอบถามขอ้ มลู สนิ คา้ กอ่ น ขอ้ มลู สนิ คา้ ก่อนการตดั สนิ ใจซอ้ื ได้

การตดั สนิ ใจซอ้ื 3. บอกขอ้ มลู ทป่ี รากฏบนฉลากของบรรจภุ ณั ฑไ์ ด้

3. ขอ้ มลู ทป่ี รากฏบนฉลากของบรรจภุ ณั ฑ์ 4. บอกทม่ี าและความหมายของสโลแกน

4. ทม่ี าและความหมายของสโลแกน ภาษาองั กฤษของแบรนดร์ ะดบั โลกได้

ภาษาองั กฤษของแบรนดร์ ะดบั โลก

6 3 16-18 Unit 3: Goods and Services(2) 5. ตอบคาถามหลงั การอ่านอเี มลสอบถามขอ้ มลู 3

5. อ่านอเี มลสอบถามขอ้ มลู สนิ คา้ สนิ คา้ ได้

6. อ่านจบั ใจความสาคญั เหตุผลของการ 6. อ่านจบั ใจความสาคญั เหตผุ ลของการตดั สนิ ใจ

ตดั สนิ ใจเลอื กซอ้ื ตราผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ เลอื กซ้อื ตราผลติ ภณั ฑต์ ่างๆ ได้

7. วฒั นธรรมและมารยาทการตอ่ แถว 7. เขา้ ใจวฒั นธรรมและมารยาทการตอ่ แถวเขา้ ควิ

เขา้ ควิ 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้

8. การเทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ 9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ ได้

อาเซยี น

7 4 19-21 Unit 4 Day- to- days jobs 1. ใชค้ าศพั ทใ์ นชวี ติ ประจาวนั ของการปฏบิ ตั งิ านได้ 3

1. คาศพั ทใ์ นชวี ติ ประจาวนั ของการ 2. ฟังและตอบคาถามจากบทสนทนาเกย่ี วกบั การ

ปฏบิ ตั งิ าน ประชุมพนักงานได้

2. บทสนทนาเกย่ี วกบั การประชุมพนกั งาน 3. รแู้ ละเขา้ ใจช่อื แผนกต่างๆ ภายในองคก์ ร

3. ชอ่ื แผนกต่างๆ ภายในองคก์ ร 4. แตง่ ประโยคโดยใชส้ านวนรายงานตวั หรอื ขน้ึ ตรง

4. การใชส้ านวนรายงานตวั หรอื ขน้ึ ตรงตอ่ ตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

ผบู้ งั คบั บญั ชา 5. อา่ นบนั ทกึ การประชุมและตอบคาถามได้

5. อ่านบนั ทกึ การประชมุ และตอบคาถาม 6. จบั ใจความบทสนทนาแสดงรายละเอยี ดการ

6. บทสนทนาแสดงรายละเอยี ดการประชมุ ประชุมของบรษิ ทั และตอบคาถามได้

ของบรษิ ทั 7. เขยี นวนั ทภ่ี าษาองั กฤษดว้ ยรปู แบบองั กฤษและ

7. การเขยี นวนั ทภ่ี าษาองั กฤษดว้ ยรปู แบบ อเมรกิ นั ได้

องั กฤษและอเมรกิ นั 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้

8. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ 9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ ได้

อาเซยี น

13

8 5 22-24 Unit 5 Customer Service 1. ใชค้ าศพั ทท์ แ่ี สดงถงึ การบรกิ ารลกู คา้ ไดอ้ ยา่ ง 3 0

1. คาศพั ทท์ แ่ี สดงถงึ การบรกิ ารลูกคา้ ถกู ตอ้ ง

2. บทสนทนาเกย่ี วกบั การช่วยเหลอื ลกู คา้ 2. ฟังบทสนทนาเกย่ี วกบั การชว่ ยเหลอื ลูกคา้ ใน

ในซเู ปอรม์ ารเ์ กต็ ซูเปอรม์ ารเ์ กต็ ได้

3. บทสนทนาขอ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ คา้ ของ 3. ฟังขอ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ คา้ ของธนาคารได้

ธนาคาร 4. ฟังเพ่อื ทาความเขา้ ใจสถานการณ์เกย่ี วกบั การขอ

4. บทสนทนาสถานการณ์เกย่ี วกบั การขอ คนื สนิ คา้ ได้

คนื สนิ คา้ 5. อ่านจดหมายเรอ่ื งการรอ้ งขอใหแ้ กไ้ ขและ

5. จดหมายเรอ่ื งการรอ้ งขอใหแ้ กไ้ ขและ จดหมายแจง้ การแกไ้ ขและตอบคาถามได้

จดหมายแจง้ การแกไ้ ข 6. อ่านจดหมายรอ้ งเรยี นและตอบคาถามได้

6. จดหมายรอ้ งเรยี น 7. เขา้ ใจมารยาทและวธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นการใหท้ ปิ

7. มารยาทและวธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นการใหท้ ปิ 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้

8. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ 9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ ได้

อาเซยี น

9 - 25-27 สอบกลำงภำคเรียน 30

10 6 28-30 Unit 6 Vacation & Business trip 1. ใชค้ าศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั วนั หยุดพกั ผ่อนไดถ้ ูกตอ้ ง 3 0
1.คาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั วนั หยดุ พกั ผ่อน 2. ฟังบทสนทนาเกย่ี วกบั การเดนิ ทางไปทาธรุ กจิ 0

2.บทสนทนาเกย่ี วกบั การเดนิ ทางไปทา และตอบคาถามได้

ธรุ กจิ 3. อธบิ ายความหมายของป้ายสญั ลกั ษณ์ทพ่ี บเหน็

3.ความหมายของป้ายสญั ลกั ษณ์ทพ่ี บเหน็ ในสนามบนิ ได้

ในสนามบนิ 4. อธบิ ายคาศพั ทแ์ ละการแจง้ เตอื นเสยี งประกาศใน

4.คาศพั ทแ์ ละการแจง้ เตอื นเสยี งประกาศ สนามบนิ

ในสนามบนิ 5. อ่านเร่อื งราวการเลา่ ประสบการณ์การเดนิ ทาง

5.เร่อื งราวการเลา่ ประสบการณ์การ ภายในประเทศ และตอบคาถามได้

เดนิ ทางภายในประเทศ 6. อา่ นเร่อื งราวของสายการบนิ ราคาประหยดั และ

6.เรอ่ื งราวของสายการบนิ ราคาประหยดั ตอบคาถามได้

7.มารยาทและวธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นการทกั ทายของ 7. รจู้ กั มารยาทและวธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นการทกั ทายของคน

คนต่างชาติ ต่างชาติ

8.การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้

ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

9.การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ 9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

อาเซยี น ได้

11 7 31-33 Unit 7 Dealing with messages(1) 1. ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนเพ่อื รบั ฝากขอ้ ความไดอ้ ย่าง 3
ถกู ตอ้ ง
1. คาศพั ทแ์ ละสานวนเพอ่ื รบั ฝากขอ้ ความ 2. ฟังบทสนทนาทางโทรศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั การรบั ฝาก
2. บทสนทนาทางโทรศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั การ ขอ้ ความ และตอบคาถามได้
รบั ฝากขอ้ ความ และตอบคาถามได้ 3. ฟังบทสนทนาเกย่ี วกบั การโทรศพั ทต์ ดิ ต่อ และ
3. ฟังบทสนทนาเกย่ี วกบั การโทรศพั ท์ ตอบคาถามได้
ตดิ ต่อ และตอบคาถามได้ 4. สามารถจดบนั ทกึ ขอ้ ความในรายละเอยี ดทวั่ ไปได้
4. สามารถจดบนั ทกึ ขอ้ ความใน
รายละเอยี ดทวั่ ไปได้

สปั ดำห์ หน่วย ชวั่ โมง ชื่อหน่วย/สำระกำรเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ทฤษฏี 14ปฏิบตั ิ
ที่ ท่ี
5. สามารถอ่านขอ้ ความสนั้ ๆ ทเ่ี พอ่ื นเขยี นใหก้ นั ได้ 30
12 7 34-36 Unit 7 Dealing with messages(2) 6. อา่ นจบั ใจความสาคญั สถานการณ์การนัดหมาย
ทางโทรศพั ทไ์ ด้
5. การอ่านขอ้ ความสนั้ ๆ ทเ่ี พ่อื นเขยี นให้ 7. เขา้ ใจการแสดงความรสู้ กึ ผ่านน้าเสยี งของผู้
กนั ได้ สนทนา
6. การอา่ นจบั ใจความสาคญั สถานการณ์ 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้
การนดั หมายทางโทรศพั ทไ์ ด้ ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
7. การแสดงความรสู้ กึ ผา่ นน้าเสยี งของผู้ 9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น
สนทนา ได้
8. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ
ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ 1. รแู้ ละเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทท์ ค่ี วรทราบใน 3 0
9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ งานธรุ กจิ ทวั่ ไป 3 0
อาเซยี น 2. ฟังบทสนทนาทเ่ี กย่ี วกบั ศูนยก์ ารคา้ และตอบ
13 8 37-39 Unit 8 Business Information(1) คาถามได้ 3 0
3. ชมภาพยนตรโ์ ฆษณา และการนาเสนอสนิ คา้ ผ่าน
1. คาศพั ทท์ ค่ี วรทราบในงานธุรกจิ ทวั่ ไป ส่อื ต่างๆ และตอบคาถามได้
2. บทสนทนาทเ่ี กย่ี วกบั ศนู ยก์ ารคา้ 4. รแู้ ละเขา้ ใจวธิ กี ารพาดหวั ขา่ วในภาษาองั กฤษ
3. ภาพยนตรโ์ ฆษณาและการนาเสนอ
สนิ คา้ ผา่ นสอ่ื ต่างๆ 5. อา่ นสงิ่ พมิ พท์ ใ่ี ชใ้ นการเผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสาร
4. วธิ กี ารพาดหวั ขา่ วในภาษาองั กฤษ และตอบคาถามได้
6. บอกความหมายและสถานการณ์ของธรุ กจิ คา้ ปลกี
14 8 40-42 Unit 8 Business Information(2) ได้
7. รแู้ ละเขา้ ใจเรอ่ื งเคร่อื งแตง่ กายสาหรบั คนทางาน
5. การอ่านสงิ่ พมิ พท์ ใ่ี ชใ้ นการเผยแพร่ ในประเทศสหรฐั อเมรกิ า
ขอ้ มลู ขา่ วสาร 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้
6. อา่ นบทความสถานการณ์ของธุรกจิ คา้ ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
ปลกี 9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น
7. เคร่อื งแตง่ กายสาหรบั คนทางานใน ได้
ประเทศสหรฐั อเมรกิ า
8. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ 1.รแู้ ละเขา้ ใจคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การสอ่ื สารใน
ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ รปู แบบขอ้ ความและเอกสาร
9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ 2. จาแนกความแตกต่างระหว่างจดหมายทเ่ี ป็น
อาเซยี น ทางการและไม่เป็นทางการได้
15 9 43-45 Unit 9 Business Correspondence(1) 3. รแู้ ละเขา้ ใจภาษาทใ่ี ชใ้ นการส่อื สารทางอเี มลเพ่อื
แจง้ ใหท้ ราบ
1. คาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การสอ่ื สารใน 4. อธบิ ายคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั การสง่ แฟกซ์ได้
รปู แบบขอ้ ความและเอกสาร
2. จดหมายท่เี ป็นทางการและไมเ่ ป็น
ทางการ
3. ภาษาทใ่ี ชใ้ นการส่อื สารทางอเี มลเพ่อื
แจง้ ใหท้ ราบ
4. คาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั การส่งแฟกซ์

16 9 46-48 Unit 9 Business Correspondence(2) 5. อา่ นบตั รเชญิ รว่ มงานแต่งงานและอเี มลเชญิ 15

5. บตั รเชญิ รว่ มงานแตง่ งานและอเี มลเชญิ รว่ มงานปีใหม่ และตอบคาถามได้ 30

รว่ มงานปีใหม่ 6. รแู้ ละเขา้ ใจเทคนิคเขยี นจดหมายธุรกจิ 30

6. เทคนิคในการเขยี นจดหมายธรุ กจิ 7. รแู้ ละเขา้ ใจมารยาทในการเขยี นอเี มล

7. มารยาทในการเขยี นอเี มล 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้

8. การเทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และ ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

ฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ 9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ ได้

อาเซยี น

17 10 49-51 Unit 10 Looking back 1. บอกความหมายคาศพั ทจ์ ากแตล่ ะหน่วยการ

1. ทบทวนคาศพั ทจ์ ากแต่ละหน่วยการเรยี นท่ี เรยี นทผ่ี ่านมาได้
ผา่ นมา
2. บทสนทนาระหวา่ งเพอ่ื นร่วมงาน 2. ฟังบทสนทนาระหว่างเพ่อื นรว่ มงาน และตอบ
3. ตวั อย่างการใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั งานปัจจบุ นั คาถามได้
4. โฆษณาในรปู แบบต่างๆ ทอ่ี ย่ใู น 3. ศกึ ษาตวั อยา่ งการใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั งานปัจจุบนั
ชวี ติ ประจาวนั และตอบคาถามได้
5. ขา่ วธุรกจิ และเทคโนโลยี 4. อ่านโฆษณาในรปู แบบตา่ งๆ ทอ่ี ยใู่ น
6. การอา่ นจบั ใจความลกั ษณะทส่ี าคญั ของอาชพี ชวี ติ ประจาวนั
นักขาย 5. อ่านขา่ วธรุ กจิ และเทคโนโลยี และตอบคาถามได้
7. การอ่านขอ้ มลู ประเทศทม่ี รี ะบบจราจรซา้ ยมอื 6. อ่านจบั ใจความลกั ษณะทส่ี าคญั ของอาชพี นัก
และขวามอื ขาย และตอบคาถามได้

8. การเทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝน 7. อ่านขอ้ มลู ประเทศทม่ี รี ะบบจราจรซา้ ยมอื และ

การใชภ้ าษาองั กฤษ ขวามอื และตอบคาถามได้

9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ 8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใช้
อาเซยี น ภาษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้

9.ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

ได้

18 - 52-54 ทบทวน/ สอบปลำยภำคเรียน 30

รวม 54 0
รวมทงั้ สิ้น 54

1

แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการท่ี 1 หน่วยที่ 1

รหสั 30000 - 1207 ภาษาองั กฤษธรุ กิจ (3-0-3) สอนครง้ั ท่ี 1 (1-3)
ช่ือหน่วย/เรื่อง ปฐมนิเทศ/ What do you do?(1) จานวน 3 ชวั ่ โมง

สาระสาคญั

งานอาชพี ถอื เป็นหวั ขอ้ สาคญั ในการสอ่ื สารทางธุรกจิ และสงั คม เพราะอาชพี และการทางาน
เป็นขอ้ มลู สว่ นตวั พน้ื ฐานทม่ี กั จะถูกถามในระหวา่ งทม่ี กี ารทาความรจู้ กั กนั

สมรรถนะประจำหน่วย

1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธรุ กจิ
2. พดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ ค้าและบรกิ าร
3. สนทนาในสถานการณ์ทางธุรกจิ ตามมารยาทสงั คมของเจ้าของภาษา
4. สรุปใจความสาคญั ของเรอ่ื งทอ่ี ่านทางธรุ กจิ จากสอ่ื สง่ิ พมิ พแ์ ละสอ่ื ออนไลน์
5. เขยี นบนั ทกึ และรายงานการปฏบิ ตั งิ านในงานอาชพี ทางธุรกจิ
6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธุรกิจ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ปฐมนเิ ทศ
1. บอกจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ าตามหลกั สตู รฯ
ได้
2. บอกแนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรไู้ ด้

Unit 1: What do you do?(1)

1. สามารถใชค้ าศพั ทใ์ นเร่อื งของอาชพี ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2. สามารถถาม-ตอบในเร่อื งอาชพี ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. สามารถตงั้ คาถามดว้ ย Wh-question ในเรอ่ื งทวั่ ไปได้
4. สามารถศกึ ษารายละเอยี ดของบุคคลอ่่นื ๆ ได้

คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์

มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็
การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง

1. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์

2

2. ความมวี นิ ยั
3. ความรบั ผดิ ชอบ
4. ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
5. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
6. การประหยดั
7. ความสนใจใฝ่รู้
8. การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
9. ความรกั สามคั คี
10. ความกตญั ญกู ตเวที

สำระกำรเรียนรู้

ปฐมนเิ ทศ
1. บอกจุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ าตามหลกั สตู รฯ
ได้
2. บอกแนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรไู้ ด้

Unit 1: What do you do?(1)
1. คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั อาชพี
2. การสนทนาเกย่ี วกบั อาชพี
3. การตงั้ คาถามดว้ ย Wh-question
4. การศกึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วของบุคคล

กิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นำเข้ำสู่บทเรียน

1. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นเปิดหนงั สอื Activity 1.1 Starting up Occupation: Practice A และ
ใหผ้ เู้ รยี นดภู าพอาชพี ต่างๆ ว่ามอี าชพี อะไรบา้ ง พรอ้ มบอกความหมาย (ผสู้ อน
สามารถสุม่ ถามผเู้ รยี น โดยใหอ้ า่ นออกเสยี ง และบอกความหมายประกอบ)

3

ขนั้ สอน
2. ผสู้ อบเปิดคลปิ เสยี งอาชพี จาก Activity 1.1 Starting up Occupation: Practice A
หน้า 2 ใหผ้ เู้ รยี นฟัง และอ่านออกเสยี งตาม หลงั จากนนั้ สรุปความหมายอาชพี
ต่างๆ ดงั น้ี

• electrician---ช่างไฟฟ้า
• teacher---คร/ู อาจารย์
• chef---พอ่ ครวั
• lawyer---ทนาย
• business person---นกั ธุรกจิ
• nurse---พยาบาล
• doctor---หมอ/ แพทย์

4

• dentist---หมอฟัน/ ทนั ตแพทย์
• carpenter---ช่างไม้

• architect---สถาปนิก
• engineer---วศิ วกร

• pilot---นกั บนิ
• actor---นกั แสดง

• mechanic---ชา่ งซ่อมรถยนต์
• photographer---ช่างถา่ ยภาพ
3. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดตู วั อย่างการสนทนาเกย่ี วกบั อาชพี จากActivity1.2 Conversation
Asking about someone’s job: Practice A หน้า 4 และสรุปโครงสร้างของการ
สอบถามอาชพี ดงั น้ี
• What+ do/does+ Subject+ do?

What do you do?
Subject+ Verb to Be+ อาชีพ.
I’m a nurse.
• What (sort of) work+ do/does+ Subject+ do?
What (sort of) work do you do?
Subject+ work for+ ช่ือบริษทั + as+ อาชีพ.
I work for a car company as a manager.
• What+ do/does+ Subject+ do for a living?
What do you do for a living?
Subject+ work at/in+ สถานที่ทางาน.
I work at/in the supermarket.

5

• Where+ do/does+ Subject+ work?
Where do you work?
Subject+ work+ as+ อาชีพ at สถานท่ีทางาน.
I work as a cleaner at the hospital.

• Do/Does Subject+ work+ full-time or part-time?
Do you work full-time or part-time?
Subject+ work+ part-time from เวลาเร่ิมต้น until เวลาเลิกงาน.
I work part-time from 10 am until 2 pm.
Subject+ work+ full-time/ part-time.
I only work part-time at the moment.

6

4. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดตู วั อย่างการสนทนาเกย่ี วกบั อาชพี จากActivity1.2 Conversation
Asking about someone’s job: Practice C หน้า 5 และสรุปโครงสร้างของการ
งาน full-time/ part-time และดตู วั อยา่ งเพมิ่ เตมิ ดงั น้ี
Subject+ work+ full-time/ part-time+ สถานที่ทางาน.
I work part-time at a Japanese restaurant.
Subject+ have/has+ a full-time/ part-time+ จานวนชัว่ โมง/ระยะเวลาใน
การทางาน+ as+ อาชีพ.
I have a part-time job three hours every day.
I have a nine-to-five job.
I have a full-time job as an electrician.
Subject+ Verb to Be+ a full-time/ part-time+ อาชีพ.
I’m a part-time librarian.
Subject+ do/does+ full-time/ part-time work+ as+ อาชีพ.
I do part-time work as a hairdresser.

7

5. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นจบั ค่ฝู ึกสนทนาเกย่ี วกบั อาชพี จากActivity1.2 Conversation
Asking about someone’s job: Practice Aและ C หน้า 4-5 ซา้ อกี ครงั้ กอ่ นเรมิ่
บทเรยี นใหม่

6. ผู้ ส อ น ใ ห้ ผู้ เ รี ย น ดู Activity1 . 3 Giving information; Personal information
questions หน้า 6 และอธบิ าย Wh-questions ในการถาม-ตอบ มกี ารถามแตกต่าง
กนั เพอ่ื กาหนดวตั ถุประสงคใ์ นการตอบ โดยใช้ Wh-words ดงั น้ี
people(ถามเกย่ี วกบั บุคคล)
---Who was that guy with you last night?
things(ถามเก่ยี วกบั สง่ิ ของทงั้ จบั ตอ้ งไดแ้ ละไม่ได)้
---What subjects do you like most?
places(ถามเกย่ี วกบั สถานท)่ี
---Where were you born?
time(ถามเกย่ี วกบั วนั และเวลา)
---When was the last time you went to Chiang Mai?
duration (ถามเก่ยี วกบั ระยะเวลา)
---How long is the movie?
manner(ถามเกย่ี วกบั ความรสู้ กึ / อาการ)
--- How do you feel about quitting this job?

*ผเู้ รยี นสามารถดตู วั อยา่ งWh-wordsและความหมายเพมิ่ เตมิ จากActivity1.3Giving
informationPersonal information questions: Practice A หน้า 6
7. ผสู้ อนนาเสนอเรอ่ื งสุดทา้ ยประจาสปั ดาหน์ ้คี อื การอ่านขอ้ มลู เกย่ี วกบั บุคคล แลว้
ตอบคาถาม โดยใหผ้ เู้ รยี นดู Activity 1.4 Increase your comprehension; Two file
cards: Practice A หน้า 7 พรอ้ มทงั้ สรปุ หวั ขอ้ สาคญั และบอกความหมายในการ
นาเสนอขอ้ มลู มดี งั น้ี

8

• Name ชอ่ื - สกุล
• Age อายุ
• Education การศกึ ษา
• Experience ประสบการณ์
• Skills ทกั ษะ
• Personality/appearance บุคลกิ ภาพ/ ลกั ษณะนสิ ยั
Example 1

Example 2

9

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
8. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนคาศพั ทแ์ ละความหมายเกย่ี วกบั อาชพี โดยทา Activity 1.1
Starting up Occupation: Practice D-E หน้า 3 และเฉลยร่วมกนั หลงั ทาเสรจ็
9. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนการสนทนาเกย่ี วกบั อาชพี โดยทาActivity 1.2 Conversation
Asking about someone’s job: Practice D หน้า 5 และเฉลยร่วมกนั หลงั ทาเสรจ็
10. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนเกย่ี วกบั การตงั้ คาถามโดยใช้ Wh-words โดยทา Activity
1.3 Giving information; Personal information questions: Practice B หน้า 6 และ
เฉลยรว่ มกนั หลงั ทาเสรจ็
11. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนเกย่ี วกบั การอ่านขอ้ มลู บคุ คลโดยตอบคาถามทา้ ยการอ่าน
ใน Activity 1.4 Increase your comprehension; Two file cards: Practice A หน้า 7

ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้

1. หนงั สอื เรยี น วชิ า ภาษาองั กฤษธุรกจิ ของ สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
3. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส,์ PowerPoint และเคร่อื งคอมพวิ เตอร์

หลกั ฐาน
1. บนั ทกึ การสอนของผสู้ อน
2. ใบเชค็ รายชอ่ื
3. แผนจดั การเรยี นรู้
4. แบบฝึกหดั
5. แบบประเมนิ และแบบสงั เกตตา่ งๆ

การวดั ผลและการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม

10

3. ตรวจแบบฝึกหดั
4. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เครื่องมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบฝึกหดั
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครู

และผเู้ รยี นรว่ มกนั ประเมนิ

เกณฑก์ ำรประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่มระดบั ดี
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มระดบั ดี
4. แบบฝึกหดั มเี กณฑก์ ารผ่านรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ

ผสู้ อนมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นฝึกสนทนาเกย่ี วกบั อาชพี จาก Activity1.2 Conversation Asking
about someone’s job: Practice A, C หน้า 4-5 เพมิ่ เตมิ นอกเวลาเรยี น และเปลย่ี นเป็นอาชพี อ่นื ๆ
ทผ่ี เู้ รยี นสนใจ โดยพจิ ารณารว่ มกบั โครงสรา้ งประโยคทใ่ี ชใ้ นการสอ่ื สารตามทผ่ี สู้ อนไดอ้ ธบิ ายใน
บทเรยี น

11

บนั ทึกหลงั การสอน

ข้อสรปุ หลงั กำรสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

ปัญหำที่พบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

แนวทำงแก้ปัญหำ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการท่ี 2 12

รหสั 30000 - 1207 ภาษาองั กฤษธุรกจิ (3-0-3) หน่วยที่ 1
ชื่อหน่วย/เร่ือง What do you do?(2) สอนครง้ั ที่ 2 (4-6)

จานวน 3 ช.ม.

สาระสาคญั

งานอาชพี ถอื เป็นหวั ขอ้ สาคญั ในการสอ่ื สารทางธุรกจิ และสงั คม เพราะอาชพี และการทางาน
เป็นขอ้ มลู สว่ นตวั พน้ื ฐานทม่ี กั จะถกู ถามในระหว่างทม่ี กี ารทาความรจู้ กั กนั

สมรรถนะประจำหน่วย
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธรุ กจิ
2. พดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ ค้าและบรกิ าร
3. สนทนาในสถานการณ์ทางธุรกจิ ตามมารยาทสงั คมของเจ้าของภาษา
4. สรุปใจความสาคญั ของเร่อื งทอ่ี ่านทางธรุ กจิ จากสอ่ื สงิ่ พมิ พแ์ ละสอ่ื ออนไลน์
5. เขยี นบนั ทกึ และรายงานการปฏบิ ตั งิ านในงานอาชพี ทางธุรกจิ
6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธรุ กิจ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
Unit 1: What do you do?(2)
5. อ่านเพอ่ื ทาความเขา้ ใจเร่อื งราวเกย่ี วกบั งานอาชพี ได้
6. จบั ใจความสาคญั บทสมั ภาษณ์ของผูป้ ระกอบอาชพี ได้
7. ใชค้ าเรยี กบคุ คลอ่นื อย่างไม่เป็นทางการไดถ้ ูกตอ้ ง
8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี นได้

คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์
มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็

การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
1. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
2. ความมวี นิ ยั

13

3. ความรบั ผดิ ชอบ
4. ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
5. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
6. การประหยดั
7. ความสนใจใฝ่รู้
8. การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
9. ความรกั สามคั คี
10. ความกตญั ญกู ตเวที

สำระกำรเรียนรู้
Unit 1: What do you do?(2)
5. เรอ่ื งราวทเ่ี ก่ยี วกบั งานอาชพี
6. บทสมั ภาษณ์ผูป้ ระกอบอาชพี
7. คาเรยี กบคุ คลอน่ื อย่างไม่เป็นทางการ
8. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ
9. การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

กิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นำเข้ำสู่บทเรียน
1. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดู Activity 1.5; ReadingMy job: Practice A หน้า 8 แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นจบั
กล่มุ ๆ ละเท่าๆ กนั ระดมความคดิ จบั ประเดน็ จากเร่อื งทอ่ี า่ น วา่ เป็นเรอ่ื งเกย่ี วกบั อะไร โดย
ใหเ้ วลา 10 นาที
2. เมอ่ื ครบเวลาทก่ี าหนด ผสู้ อนใหต้ วั แทนกลมุ่ มานาเสนอการจบั ประเดน็ จากเร่อื งทอ่ี ่าน

หน้าชนั้ เรยี น

14

ขนั้ สอน

3. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นกลบั ไปดู Activity 1.5; Reading My job: Practice A หน้า 8 ซา้ อกี ครงั้
แลว้ อธบิ ายวธิ กี ารอ่านเพอ่ื จบั ใจความสาคญั (Reading comprehension) ตอ้ งเขา้ ใจ
องคป์ ระกอบของ Paragraph writing ผ่านสอ่ื Powerpoint ดงั น้ี

Parts of a Story Topic of a story

My job

Introduction Hello, my name is Amy Siriwan. I’m 26 years old. I work as a bank teller at a
commercial bank. When I was a little child, I dreamed of having a career in banking,
and now I’m working in the banking industry.

Body My day-to-day job is to receive and pay out money, help customers and process
checking, fixed-deposit and savings accounts. I deal with hundreds of customers
Conclusio who make deposits into their bank accounts and who make withdrawals from their
n bank accounts.

Although this job makes me feel tired almost every day, I love this job very much.
I have gained a lot of work experience, which helps me develop my customer
service skills, attentiveness and diplomacy in dealing with customers and co-
workers.

ผสู้ อนสรุปสาระสาคญั ของเร่อื งจากแต่ละองคป์ ระกอบ ดงั น้ี
Topic of a story : my job (a bank teller)
Introduction : Amy Siriwan is a bank teller.
Body: Amy describes about her job responsibilities.
Conclusion: Amy loves her job because she gained lot of work experience

from it.

15

4. ผสู้ อนอธบิ ายต่อว่า นอกจากการนาเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั อาชพี จะนาเสนอโดยการเขยี นแบบ
Paragraph writing แลว้ ยงั สามารถสอ่ื สารโดยการสนทนา ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดู Activity1.6
Business Talk; Interview with a hairstylist: Practice A หน้า 8-9 การสมั ภาษณ์อาชพี ช่าง
ทาผม พรอ้ มอภปิ รายร่วมกนั กบั ผเู้ รยี นเกย่ี วกบั การถาม-ตอบ เกย่ี วกบั อาชพี ดงั กล่าว เมอ่ื
เสรจ็ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามทา้ ยการอา่ นร่วมกนั

5. ในบทเรยี นน้ผี สู้ อนเสรมิ เกย่ี วกบั วฒั นธรรม โดยการเรยี กช่อื บุคคลทส่ี นิทสนมโดยใชค้ าว่า
man และ mate แตกตา่ งกนั อยา่ งไร โดยใหด้ ู Activity 1.7 Culture note; A friendly way to
address a friend หน้า 10 และทา Activity 1.7: Practice A และ B หน้า 10 เพอ่ื ทบทวน
ความเขา้ ใจ

6. ผสู้ อนเสรมิ ความรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมอาเซยี นโดยใหด้ ู Activity 1.9 Know the neighbors in
AEC; Five questions about AEC: Practice A-B หน้า 12 โดยผสู้ อนอภปิ รายความหมาย
ของ AEC ร่วมกนั จากคาถามในกจิ กรรม

สรปุ และการประยกุ ต์

7. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนเน้อื หา Unit 1 โดยทา Activity 1.10 : Check your progress หน้า
13 และเฉลยในชนั้ เรยี น

8. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนองคป์ ระกอบของ Reading comprehension จากการอา่ นเรอ่ื งท่ี
นาเสนอในรปู แบบ Paragraph writing จาก Activity 1.8; IT Search; A football agent หน้า
11 และสง่ เป็นการบา้ น

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สอื เรยี น วชิ า ภาษาองั กฤษธุรกจิ ของ สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
3. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส,์ PowerPoint และเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์

หลกั ฐาน
1. บนั ทกึ การสอนของผสู้ อน
2. ใบเชค็ รายช่อื
3. แผนจดั การเรยี นรู้

16

4. แบบประเมนิ และแบบสงั เกตตา่ งๆ
5. แบบฝึกหดั
6. แบบทดสอบหลงั เรยี น

การวดั ผลและการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. ตรวจแบบฝึกหดั
4. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น
5. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เคร่อื งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบฝึกหดั
5. แบบทดสอบหลงั เรยี น
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครู

และผเู้ รยี นรว่ มกนั ประเมนิ

เกณฑก์ ำรประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มระดบั ดี
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่มระดบั ดี
4. แบบฝึกหดั มเี กณฑก์ ารผ่านรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
5. แบบทดสอบหลงั เรยี นมเี กณฑก์ ารผ่านรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

17

กิจกรรมเสนอแนะ

ผสู้ อนมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นฝึกสบื คน้ ขอ้ มลู หวั ขอ้ เกย่ี วกบั วชิ าภาษาองั กฤษจาก web
search engine จากหวั ขอ้ ในบทเรยี น โดยใหผ้ ดู้ ู Activity 1.8: Practice A และC (ขน้ึ อย่กู บั ดุลย
พนิ จิ ของผสู้ อน ในการมอบหมายงานเพม่ิ เตมิ )

18

นทึกหลงั การสอน

ข้อสรปุ หลงั กำรสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

ปัญหำท่ีพบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

แนวทำงแก้ปัญหำ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

19

Quiz 1

Unit 1: What do you do? (วดั พทุ ธิพิสยั 2 คะแนน)
Directions: Look at the picture then answer the questions.

1. What does he do?
__________________________________________________________.

2. Where does he work?
__________________________________________________________.

20

แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการที่ 3 หน่วยที่ 2

รหสั 30000 - 1207 ภาษาองั กฤษธุรกิจ (3-0-3) สอนครงั้ ท่ี 3 (7-9)
ชื่อหน่วย/เรื่อง Workplace(1) จานวน 3 ช.ม.

สาระสาคญั

การใหข้ อ้ มลู เบอ้ื งต้นทางธรุ กจิ ทส่ี าคญั ประการหน่ึงคอื ขอ้ มูลของสถานประกอบการ ชวั่ โมง
การทางาน เวลาเปิด-ปิด ทต่ี งั้ เพราะนนั่ คอื สถานทแ่ี ละเวลาทก่ี ารตดิ ต่อทางธุรกจิ จะเกดิ ขน้ึ

สมรรถนะประจำหน่วย
1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธุรกจิ
2. พดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ ค้าและบรกิ าร
3. สนทนาในสถานการณ์ทางธุรกจิ ตามมารยาทสงั คมของเจ้าของภาษา
4. สรุปใจความสาคญั ของเรอ่ื งทอ่ี ่านทางธุรกจิ จากสอ่ื สงิ่ พมิ พแ์ ละสอ่ื ออนไลน์
5. เขยี นบนั ทกึ และรายงานการปฏบิ ตั งิ านในงานอาชพี ทางธุรกจิ
6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธรุ กิจ

จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
Unit 2 Workplace(1)
1. ใชค้ าศพั ทท์ ใ่ี หร้ ายละเอยี ดของชวั่ โมงการทางานได้
2. ถามตอบเกย่ี วกบั เวลาเปิด-ปิดของสถานประกอบการได้
3. อธบิ ายลกั ษณะทส่ี าคญั และรายละเอยี ดบนนามบตั รได้
4. บอกตาแหน่งทต่ี งั้ จากการอ่านแผนทข่ี องสถานประกอบการได้

คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์
มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็

การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
1. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
2. ความมวี นิ ยั

21

3. ความรบั ผดิ ชอบ
4. ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
5. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
6. การประหยดั
7. ความสนใจใฝ่รู้
8. การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั
9. ความรกั สามคั คี
10. ความกตญั ญกู ตเวที

สาระการเรียนรู้
Unit 2: Workplace(1)

1. คาศพั ทท์ ใ่ี หร้ ายละเอยี ดของชวั่ โมงการทางาน
2. บทสนทนาถามตอบเกย่ี วกบั เวลาเปิด-ปิดของสถานประกอบการ
3. ลกั ษณะทส่ี าคญั และรายละเอยี ดบนนามบตั ร
4. ตาแหน่งทต่ี งั้ จากการอ่านแผนทข่ี องสถานประกอบการ

กิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นำเข้ำสู่บทเรยี น

1. ผสู้ อนเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน หรอื นาเสนอผ่านสอ่ื Powerpoint ดงั น้ี
• business hours
• opening hours
• trading hours
• office hours

2. ผสู้ อนสมุ่ ถามถามผเู้ รยี นในชนั้ เรยี น เพอ่ื ดพู น้ื ความรเู้ ดมิ เกย่ี วกบั คาศพั ท์ ดงั กล่าว
ขา้ งตน้

ขนั้ สอน
3. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดู Activity 2.1 Starting up: Asking about business hours หน้า 15
เพอ่ื ทาความเขา้ ใจเก่ยี วกบั คาศพั ทแ์ สดงชวั่ โมงในการประกอบธรุ กจิ หรอื การทางาน

22

4. ผสู้ อนยกตวั อยา่ งการสนทนาเกย่ี วกบั เวลาทาการเปิด-ปิดสถานประกอบการ โดยให้
ผเู้ รยี นดู Activity 2.2 Conversation open/close: Practice A และD 16-17 ดงั น้ี
• What time does this café open?
It opens at nine thirty.
• Is this supermarket open on Sundays
Yes, it is. This supermarket is open every day.
• What time does this bookstore close?
This bookstore closes at seven.
• Is this museum closed on Sundays?
No, it isn’t. This museum is closed on Mondays.

5. เมอ่ื อธบิ ายโครงสรา้ งประโยคและความหมายแลว้ ผสู้ อนเปิดคลปิ เสยี งใหผ้ เู้ รยี นฝึก
สนทนาตามอกี ครงั้

6. ผสู้ อนอธบิ ายการแนะนาตนเองใหล้ กู คา้ รจู้ กั โดยใช้ business card (นามบตั ร) ถอื ว่ามี
ความสาคญั มาก หลงั จากนนั้ ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดู Activity 2.3 Giving information;
Business card: Practice D หน้า 18 เพอ่ื ดอู งคป์ ระกอบของนามบตั ร ดงั น้ี

Logo/ Name of
company

Contact address Full name
Job position
Name of company

23

7. นอกจากการแนะนาตนเองใหล้ ูกคา้ รจู้ กั แลว้ การบอกทต่ี งั้ ของสถานประกอบการถอื เป็น
สงิ่ สาคญั ทท่ี าใหผ้ ปู้ ระกอบการประสบความสาเรจ็ ในการปิดการขาย ดงั นนั้ จงึ
จาเป็นตอ้ งรจู้ กั สานวนการบอกทต่ี งั้ โดยอธบิ ายจากแผนท่ี ดงั น้ี

โครงสรา้ งประโยคของการบอกทต่ี งั้ สถานประกอบการ มดี งั น้ี
Verb to locate
Workplace+ Verb to Be+ located+ preposition of place+ Place.
Ex. Thaicom Satellite Station is located opposite Nontaburi Provincial Office.
Verb to Be
Workplace+ Verb to Be+ preposition of place+ Place.
Thaicom Satellite Station is near KAERAI Intersection Flyover.
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
8. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนคาศพั ทแ์ สดงชวั่ โมงในการประกอบธรุ กจิ หรอื การทางาน

โดยทาแบบฝึกหดั Activity 2.1 Starting up; Asking about business hours: Practice
A-C หน้า 15-16 เม่อื เสรจ็ แลว้ ผสู้ อนเฉลยร่วมกบั ผเู้ รยี น

24

9. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนการสนทนาเกย่ี วกบั เวลาเปิด-ปิดจาก Activity 2.2
Conversation open/close: Practice A-B และE-F 16-17

10. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนองคป์ ระกอบของ Business card โดยดู Activity 2.3
Giving information; Business card: Practice A-D หน้า 18

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สอื เรยี น วชิ า ภาษาองั กฤษธุรกจิ ของ สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
3. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ PowerPoint และเคร่อื งคอมพวิ เตอร์

หลกั ฐาน
1. บนั ทกึ การสอนของผสู้ อน
2. ใบเชค็ รายชอ่ื
3. แผนจดั การเรยี นรู้
4. แบบฝึกหดั
5. แบบประเมนิ และแบบสงั เกตตา่ งๆ

การวดั ผลและการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล
2. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. ตรวจแบบฝึกหดั
4. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เครอื่ งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ (โดยผเู้ รยี น)

25

4. แบบฝึกหดั
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครู

และผเู้ รยี นร่วมกนั ประเมนิ

เกณฑก์ ำรประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มระดบั ดี
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มระดบั ดี
4. แบบฝึกหดั มเี กณฑก์ ารผา่ นรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ
ผู้สอนให้ผู้เรียนทบทวนสานวน Giving directions และ prepositions of place จาก

https://agendaweb.org/vocabulary/directions.html โดยให้ผู้เรียนเลือกฝึกปฏิบัติตามหัวข้อ
กจิ กรรมทผ่ี สู้ อนมอบหมายนอกเวลาเรยี น เพอ่ื ทดสอบความเขา้ ใจเก่ยี วกบั โครงสรา้ ประโยคในการ
บอกท่ตี งั้ ของสถานท่ี และนามาปรบั ใชก้ บั การบอกท่ตี งั้ สถานประกอบการในบทเรยี นท่ี 2(หวั ขอ้
กจิ กรรมฝึกทกั ษะเพม่ิ เตมิ ขน้ึ อย่กู บั ดลุ ยพนิ ิจของผสู้ อน)

26

บนั ทึกหลงั การสอน

ขอ้ สรปุ หลงั กำรสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

ปัญหำที่พบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

แนวทำงแก้ปัญหำ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

27

แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการที่ 4 หน่วยท่ี 2

รหสั 30000 - 1207 ภาษาองั กฤษธุรกิจ (3-0-3) สอนครง้ั ท่ี 4 (10-12)
ชื่อหนว่ ย/เรือ่ ง Workplace(2) จานวน 3 ช.ม.

สาระสาคญั

การใหข้ อ้ มูลเบ้อื งต้นทางธรุ กจิ ทส่ี าคญั ประการหน่ึงคอื ข้อมูลของสถานประกอบการ ชวั่ โมง
การทางาน เวลาเปิด-ปิด ทต่ี งั้ เพราะนนั่ คอื สถานทแ่ี ละเวลาทก่ี ารตดิ ต่อทางธรุ กจิ จะเกดิ ขน้ึ

สมรรถนะประจำหน่วย
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธรุ กจิ
2. พดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ ค้าและบรกิ าร
3. สนทนาในสถานการณ์ทางธุรกจิ ตามมารยาทสงั คมของเจ้าของภาษา
4. สรุปใจความสาคญั ของเรอ่ื งทอ่ี ่านทางธรุ กจิ จากสอ่ื สง่ิ พมิ พแ์ ละสอ่ื ออนไลน์
5. เขยี นบนั ทกึ และรายงานการปฏบิ ตั งิ านในงานอาชพี ทางธุรกจิ
6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธรุ กิจ

จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้

Unit 2: Workplace(2)
5. อ่านจบั ใจความสาคญั เรอ่ื งการเพม่ิ ขน้ึ ของพนกั งานสุภาพสตรใี นตลาดแรงงานได้
6. บอกลกั ษณะเดน่ ของรา้ นสะดวกซอ้ื จากการอ่านบทสนทนาเหตุผลทค่ี นทวั่ ไปชอบใช้

บรกิ ารจากรา้ นสะดวกซอ้ื ได้
7. เขา้ ใจมารยาทในการตรงต่อเวลาของเจา้ ของภาษา
8. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษจากหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
9. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี นได้

28

คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็

การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
1. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
2. ความมวี นิ ยั
3. ความรบั ผดิ ชอบ
4. ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
5. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
6. การประหยดั
7. ความสนใจใฝ่รู้
8. การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
9. ความรกั สามคั คี
10. ความกตญั ญกู ตเวที

สำระกำรเรยี นรู้
Unit 2: Workplace(2)
5. อา่ นบทความเรอ่ื งการเพมิ่ ขน้ึ ของพนกั งานสุภาพสตรใี นตลาดแรงงานได้
6. อา่ นบทสนทนาเหตุผลทค่ี นทวั่ ไปชอบใชบ้ รกิ ารจากรา้ นสะดวกซอ้ื ได้
7. วฒั นธรรมการตรงต่อเวลาของเจา้ ของภาษา
8. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการใชภ้ าษาองั กฤษ
9. การเรียนรูเ้ ก่ียวกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น

กจิ กรรมการเรียนรู้

ขนั้ นำเข้ำสู่บทเรียน

1. ผสู้ อนเขยี นคาว่า “gender” ลงบนกระดาน หรอื นาเสนอผา่ นสอ่ื PowerPoint แลว้ ถาม
ผเู้ รยี นว่าแปลว่าอะไร ผสู้ อนสมุ่ ถามผเู้ รยี น 3-5 คน เพอ่ื ฟังความหมายว่าผเู้ รยี นแตล่ ะ
คนมคี วามคดิ เหน็ แตกตา่ งกนั หรอื ไม่อย่างไร

2. หลงั จากไดส้ ุม่ ถามผเู้ รยี นแลว้ ผสู้ อนใหค้ วามหมายคาว่า “gender” แปลวา่ “เพศภาวะ”

29

หรอื “เพศสภาพ”
ขนั้ สอน
3. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดู Activity 2.5 Reading; The rise of female employment: Practice A
หน้า 20 และใหผ้ เู้ รยี นจบั กลมุ่ ทากจิ กรรมหาคาศพั ทจ์ ากบทความทแ่ี สดง gender โดยผสู้ อน
ใหเ้ วลา 10 นาที ในการอ่านแบบ scaning เพอ่ื หาคาศพั ทด์ งั กล่าวทป่ี รากฏอยใู่ นบทความ
(แนวคาตอบมี ดงั น้)ี

Gender vocabulary

man- men (n.) woman- women (n.)

gentleman-gentlemen(n.) lady-ladies(n.)

male(adj.) female(adj.)

musculine(adj.) feminine(adj.)

*คาทป่ี รากฏในบทความ Activity 2.5: PracticeA หนา้ 20

ผสู้ อนสามารถเสนอใหต้ วั แทนกลุ่มออกมาเขยี นบนกระดานดา และเฉลยคาศพั ทท์ งั้ หมดอกี
ครงั้ หลงั จากเสรจ็ กจิ กรรม โดยผสู้ อนสามารถอธบิ ายเพมิ่ เตมิ การเปลย่ี นรปู ของคานามจากเอกพจน์
เป็นพหพู จน์ของกลุ่มคาแสดงเพศสภาวะทงั้ ชาย-หญงิ ประกอบดว้ ย

4. หลงั จากนนั้ ผสู้ อนและผเู้ รยี นสรปุ สาระสาคญั ของบทความรว่ มกนั และผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทา
Activity 2.5 Reading; The rise of female employment: Practice B หน้า 21 เพอ่ื ทดสอบความ
เขา้ ใจหลงั การอ่าน และเฉลยรว่ มกนั

5. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดู Activity 2.6 Business Talk; Big fans of convenience stores:
Practice A หน้า 21 โดยใหผ้ เู้ รยี นจบั กลุ่มและอภปิ รายบทสนทนาเกย่ี วกบั เหตผุ ลทค่ี นชอบใช้
บรกิ ารรา้ นสะดวกซอ้ื และใหส้ รปุ เป็นประเดน็ ทไ่ี ดจ้ ากการอา่ นบทสนทนา กลมุ่ ละ 1 ขอ้ และ
นาเสนอหน้าชนั้ เรยี น (ผสู้ อนอาจใหผ้ เู้ รยี นเขยี นประเดน็ ทไ่ี ดจ้ ากบทสนทนาเป็นประโยค
ภาษาองั กฤษสนั้ ๆ แตใ่ หผ้ เู้ รยี นอภปิ รายเป็นภาษาไทยร่วมกนั โดยเชอ่ื มโยงกบั ประสบการณ์การ
ใชบ้ รกิ ารรา้ นสะดวกวอ้ื ของผเู้ รยี นเอง และนาสาระของการอภปิ รายในกลุ่มนาเสนอหน้าชนั้ เรยี น
กล่มุ ละ 5 นาท)ี

6. หลงั จากเสรจ็ กจิ กรรมนาเสนอหน้าชนั้ เรยี น ใหผ้ เู้ รยี นทากจิ กรรมใน Activity 2.6:
Practice A-B หน้า 21

7. ผสู้ อนเขยี นคาวา่ Punctuality บนกระดานและถามผเู้ รยี นว่า วนั น้ีมใี ครมาเขา้ เรยี นสาย
บา้ งหรอื ไม่ ผสู้ อนบอกความหมายของคาว่า Punctuality แปลว่า ความตรงต่อเวลา แลว้ ใหผ้ เู้ รยี น
อ่านบทความสนั้ ๆจาก Activity 2.7 Culture note; Punctuality 22 ผสู้ อนบรรยายตอ่ วา่ ใน

30

วฒั นธรรมตะวนั ตก การตรงต่อเวลาถอื เป็นมารยาททางสงั คม และผสู้ อนเขยี นสานวนเกย่ี วกบั การ
ตรงต่อเวลาตามทศั นะตะวนั ตกจากบทความไว้ ดงั น้ี

Punctuality is the politeness of kings.
Time is money.

8. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ กบั สานวนทแ่ี สดงทศั นะเกย่ี วกบั เวลาในภาษาองั กฤษ
และถามผเู้ รยี นว่า ผเู้ รยี นสามารถยกตวั อย่างสานวนไทยทแ่ี สดงทศั นะเกย่ี วกบั เวลาได้
หรอื ไม่ มคี วามเหมอื นหรอื แตกต่างจากของชาวตะวนั ตกหรอื ไม่อยา่ งไร(ผสู้ อนสามารถ
อภปิ รายรว่ มกนั ในชนั้ เรยี น หรอื แบง่ เป็นกลุ่มย่อยใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ )

9. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นพฒั นาทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู ทางอนิ เตอรเ์ น็ตในบทเรยี นเรอ่ื ง
Workplace ในหวั ขอ้ Headquarters แปลว่า สานกั งานใหญ่ มคี วามหมายเหมอื นคาว่า
Head office โดยใหผ้ เู้ รยี นดู Activity 2.8 IT Search; Headquarters: Practice A หน้า
23 ผเู้ รยี นจะไดร้ วู้ ธิ กี ารบอกทต่ี งั้ ของสานกั งานใหญ่ เช่น

My company’s headquarters are in Singapore.
My company’s headquarter is in Bangkok.

10. ผสู้ อนนาเสนอบทเรยี นสดุ ทา้ ยของหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 โดยใหผ้ เู้ รยี น ดู Activity 2.9
Know the neighbors in AEC; Fact sheet about Singapore: Practice A หน้า 24 โดย
อา่ นขอ้ เทจ็ จรงิ เกย่ี วกบั ประเทศสงิ คโปร์ ประเทศในกลมุ่ ประชาคมอาเซยี น พรอ้ มถาม
ผเู้ รยี นวา่ ใครเคยเดนิ ทางไปประเทศสงิ คโปร์ (ถา้ มผี ทู้ เ่ี คยเดนิ ทางไป หรอื ผสู้ อน ใหเ้ ลา่
ประสบการณ์ของการเดนิ ทางไปเชอ่ื มโยงกบั เน้อื หาในบทเรยี น (เป็นการอภปิ รายและ
แสดงความคดิ เหน็ รว่ มกนั ในชนั้ เรยี น)

ข้นั สรุปและการประยุกต์
11. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนความเขา้ ใจเกย่ี วกบั Punctuality โดยทา Activity 2.7 Culture

note; Punctuality: Practice B หน้า 22

31

12. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นพฒั นาทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู ทางอนิ เตอรเ์ น็ตในบทเรยี นเร่อื ง หวั ขอ้
Headquarter โดยทา Activity 2.8 IT Search; Headquarters: Practice B หน้า 23
สบื คน้ ทต่ี งั้ ของบรทั ต่างๆ ว่าตงั้ อย่ใู นประเทศใด

13. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนเน้อื หา Unit 2 โดยทา Activity 2.10 : Check your progress
หน้า 25 เพอ่ื ทบทวนเน้อื หาทา้ ยบทเรยี น เป็นการบา้ น

14. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทบทวนเน้อื หาเกย่ี วกบั ประเทศสงิ คโปร์ ประเทศในกลุ่มประชาคม
อาเซยี น โดยทา Activity 2.9 Know the neighbors in AEC; Fact sheet about
Singapore: Practice B-C หน้า 24 เป็นการบา้ น

ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้

1. หนงั สอื เรยี น วชิ า ภาษาองั กฤษธุรกจิ ของ สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
3. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ PowerPoint และเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์

หลกั ฐาน
1. บนั ทกึ การสอนของผสู้ อน
2. ใบเชค็ รายชอ่ื
3. แผนจดั การเรยี นรู้
4. แบบประเมนิ และแบบสงั เกตต่างๆ
5. แบบฝึกหดั
6. แบบทดสอบหลงั เรยี น

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล
2. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. ตรวจแบบฝึกหดั
4. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น
5. สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

32

เครือ่ งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบฝึกหดั
5. แบบทดสอบหลงั เรยี น
6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครู

และผเู้ รยี นร่วมกนั ประเมนิ

เกณฑก์ ำรประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ ระดบั ดี
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มระดบั ดี
4. แบบฝึกหดั มเี กณฑก์ ารผ่านรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
5. แบบทดสอบหลงั เรยี นมเี กณฑก์ ารผ่านรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ
ผสู้ อนสามารถใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั ประเทศสงิ คโปร์ เพม่ิ เตมิ จากคลปิ วดิ โี อ ในหวั ขอ้ ตา่ งๆ ดงั น้ี
• AEC Business Class รทู้ นั เออซี ี : สงิ คโปร์ เมอื งใหม่สรา้ งได้ (3 พ.ค. 59)
สบื คน้ จาก https://www.youtube.com/watch?v=Geza7oMYan4
• AEC Business Class รทู้ นั เออซี ี : สงิ คโปร์ กอ่ รา่ งสรา้ งเมอื ง (2 พ.ค. 59)
สบื คน้ จาก https://www.youtube.com/watch?v=X-Dfjz6uO4o
• AEC Business Class รทู้ นั เออซี ี : สงิ คโปร์ เมอื งทา่ การคา้ (4 พ.ค. 59) สบื คน้
จาก https://www.youtube.com/watch?v=MEraL-fEOb8

33

บนั ทึกหลงั การสอน

ขอ้ สรปุ หลงั กำรสอน

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

ปัญหำที่พบ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

แนวทำงแก้ปัญหำ

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................

34

Quiz 2

Unit 2: Workplace (วดั พทุ ธิพิสยั 2 คะแนน)
Directions: Make sentences to describe the location of places from the map given.

1._______________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________

2._______________________________________________________________________________
_______________________________________________________________________________

35

แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการท่ี 5 หน่วยที่ 3

รหสั 30000 – 1207 ภาษาองั กฤษธุรกิจ (3-0-3) สอนครง้ั ที่ 5 (13-15)

ชื่อหน่วย/เรือ่ ง Goods and Services(1) จานวน 3 ช.ม.

สาระสาคญั
การสอ่ื สารทางธรุ กจิ ทส่ี าคญั อกี ประการหน่งึ คอื การสอบถามและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ คา้ และ

บรกิ าร เพราะมนั คอื เหตุผลท่ผ่ี ซู้ อ้้ื และผขู้ ายมาตดิ ต่อกนั

สมรรถนะประจำหน่วย
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การใชภ้ าษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธรุ กจิ
2. พดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สนิ ค้าและบรกิ าร
3. สนทนาในสถานการณ์ทางธุรกจิ ตามมารยาทสงั คมของเจ้าของภาษา
4. สรปุ ใจความสาคญั ของเร่อื งทอ่ี ่านทางธรุ กจิ จากสอ่ื สง่ิ พมิ พแ์ ละสอ่ื ออนไลน์
5. เขยี นบนั ทกึ และรายงานการปฏบิ ตั งิ านในงานอาชพี ทางธรุ กจิ
6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานอาชพี ทางธุรกิจ

จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
Unit 3 Goods and Services(1)
1. จาแนกความแตกต่างระหว่างสนิ คา้ และบรกิ ารได้
2. บอกขอ้ มลู สนิ คา้ จากการฟังบทสนทนาสอบถามขอ้ มลู สนิ คา้ ก่อนการตดั สนิ ใจซ้ือได้
3. บอกขอ้ มลู ทป่ี รากฏบนฉลากของบรรจุภณั ฑไ์ ด้
4. บอกทม่ี าและความหมายของสโลแกนภาษาองั กฤษของแบรนด์ระดบั โลกได้

คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็

การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
1. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
2. ความมวี นิ ยั
3. ความรบั ผดิ ชอบ


Click to View FlipBook Version