ใบงานที่ 3.3.1 เฉลย
เรอ่ื ง แหล่งขอ้ มลู
คำชีแ้ จง : ใหน้ ำขอ้ มูลทก่ี ำหนดให้ไปไวท้ ่ีกอ้ นเมฆปฐมภูมิและกอ้ นเมฆทตุ ิยภูมิ โดยมีเง่อื นไขดงั นี้
1) ถา้ ข้อมลู ใดเปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ปฐมภูมิให้ใช้ปากกาสีน้ำเงินลากไปไว้ทีก่ ้อนเมฆปฐมภมู ิ
2) ถา้ ข้อมลู ใดเปน็ แหล่งขอ้ มลู ทุติยภมู ใิ ห้ใช้ปากกาสแี ดงลากไปไว้ที่ก้อนเมฆทตุ ิยภูมิ
ก้อนเมฆปฐมภูมิ ก้อนเมฆทตุ ิยภมู ิ
9. ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงชอ่ื .................................
( ................................ )
ตำแหน่ง .......
10. บันทึกผลหลังการสอน
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ลงชอ่ื ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทันเจรญิ )
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4
การรวบรวมข้อมูล
เวลา 2 ช่ัวโมง
1. ผลการเรยี นรู้
1. เพื่อให้ผู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แกป้ ญั หาเปน็ ขน้ั ตอนและเป็นระบบ
3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีทักษะในการตั้งคำถาม หรือกำหนดปญั หาเกยี่ วกบั สง่ิ ท่ีจะเรยี นรูต้ ามท่ีกำหนดให้ หรอื ตาม
ความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สรา้ งสมมตฐิ านที่สอดคล้องกับคำถาม
4. เพอ่ื ให้ผู้เรียนวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใชเ้ คร่ืองมือ อปุ กรณ์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศที่เหมาะสม
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งเชงิ ปริมาณและคณุ ภาพ
5. เพือ่ ให้ผเู้ รยี นคน้ หาขอ้ มลู อย่างมีประสิทธิภาพและประเมินความน่าเชือ่ ถือ ตดั สินใจเลือกข้อมูล ใหเ้ หตผุ ล
เชิงตรรกะในการแกป้ ัญหา
6. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นนำความรคู้ วามเขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาการคำนวณไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ สังคมและการ
ดำรงชวี ิต
7. เพื่อให้ผเู้ รียนพัฒนากระบวนการคดิ และจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปญั หาและการจดั การทักษะ
ในการสื่อสาร ความสามารถในการตดั สนิ ใจ
8. เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นเปน็ ผมู้ ีจติ วิทยาศาสตร์ มคี ุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มในการใช้วทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายข้นั ตอนการรวบรวมขอ้ มูลได้ถูกต้อง (K)
2. บอกวิธกี ารรวบรวมขอ้ มลู ได้ (K)
3. เขยี นการวางแผนรวบรวมข้อมลู ตามข้ันตอนต่าง ๆ ได้ (P)
4. เหน็ ความสำคัญของการรวบรวมขอ้ มลู และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การประเมนิ ความน่าเชือ่ ถือของขอ้ มลู เช่น การเปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบูรณข์ องข้อมลู
จากหลายแหลง่ แหลง่ ต้นตอของข้อมลู ผ้เู ขยี น วันทีเ่ ผยแพร่ข้อมูล
- การรวบรวมข้อมลู ประมวลผล สร้างทางเลือกประเมินผล จะทำให้ไดส้ ารสนเทศเพอ่ื ใช้ในการ
แกป้ ญั หาหรือการตัดสนิ ใจได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
- การใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลอื ก
ประเมนิ ผล นำเสนอ จะชว่ ยใหก้ ารแกป้ ัญหาทำได้อยา่ งรวดเร็ว ถกู ตอ้ ง และแม่นยำ
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การรวบรวมขอ้ มลู เปน็ การดำเนนิ การด้วยวธิ ตี า่ ง ๆ เพอ่ื ใหไ้ ดข้ ้อมลู ซ่ึงขั้นตอนในการรวบรวม
ขอ้ มูลนั้นจะประกอบดว้ ย 5 ข้นั ตอน คือ กำหนดวตั ถปุ ระสงคแ์ ละความต้องการของสิ่งท่ีสนใจ วางแผน
และพิจารณาเลอื กแหล่งข้อมูล กำหนดวธิ ีการรวบรวมข้อมูล คน้ หาและรวบรวมข้อมูล และสรุปผลขอ้ มลู
สว่ นวิธีการในการรวบรวมขอ้ มูล แบง่ เปน็ 4 วธิ ี คอื การสังเกต สำรวจและจดบันทึก การสอบถาม หรือ
การสัมภาษณ์ การสำรวจโดยใช้แบบสอบถามและการรวบรวมขอ้ มลู จากเอกสาร
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
- ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้
- ทักษะการแลกเปล่ียนข้อมูล 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
2. ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการสบื ค้นข้อมลู
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่ัวโมงท่ี 1-2
ขัน้ นำ
ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครทู บทวนความรูเ้ ดิมเก่ยี วกับแหล่งข้อมลู พร้อมกับใหน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งของแหล่งข้อมูล
แต่ละประเภท
2. นกั เรียนออกมาเขยี นแหล่งข้อมลู บนกระดานคนละ 1 ตวั อย่าง ระหวา่ งแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ
และแหล่งข้อมูลทุตยิ ภมู ิ พร้อมอภปิ รายกับเพื่อนรว่ มชัน้ ท่ีหน้าช้ันเรยี น
3. ครถู ามนักเรยี นว่า“ข้อมูลที่นักเรียนแตล่ ะคนมานำเสนอหน้าชัน้ เรียนนน้ั นกั เรยี นได้มา
ด้วยวิธีใด”
(แนวตอบ : นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยู่กับดลุ ยพนิ จิ
ของครูผูส้ อน เช่น การสงั เกตจากการมองเหน็ การไดย้ นิ การจดบนั ทึก เปน็ ตน้ )
4. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อกับนักเรียนว่า“ถา้ นักเรียนตอ้ งการทำรายงานนักเรียนจะมวี ธิ กี าร
รวบรวมขอ้ มลู อย่างไร”
(แนวตอบ : นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขน้ึ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ
ของครูผ้สู อน เชน่ การสบื ค้นจากอนิ เทอรเ์ น็ต การสอบถามผรู้ ู้ การสงั เกต การสำรวจ
และการจดบนั ทึก เป็นต้น)
ข้นั สอน
ข้นั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรยี นสืบค้นความหมายของการรวบรวมขอ้ มูลจากอินเทอรเ์ นต็ ที่เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
ของตนเอง
2. ครสู ่มุ นักเรียน 2-3 คน มานำเสนอหน้าช้นั เรยี น พรอ้ มกบั อภปิ รายรว่ มกนั ในห้องเรียน
3. นักเรียนศกึ ษาการรวบรวมข้อมลู จากหนังสือเรียน(วิทยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 3 เรื่อง ขอ้ มลู สารสนเทศ หรือสบื คน้ เพ่ิมเติมเพื่อขยายความเขา้ ใจจากทางอนิ เทอร์เน็ต
ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
4. ครูอธบิ ายถึงขนั้ ตอนการรวบรวมขอ้ มูลวา่ ประกอบดว้ ย 5 ข้ันตอน ดังน้ี
1) กำหนดวตั ถุประสงค์และความต้องการของส่งิ ทสี่ นใจ
2) วางแผนและพิจารณาเลือกแหล่งขอ้ มูล
3) กำหนดวิธีการรวบรวมข้อมูล
4) ค้นหาและรวบรวมข้อมูล
5) สรุปผลขอ้ มูล
5. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คนหรอื ตามความเหมาะสม เพ่อื รวบรวมข้อมลู ในประเดน็
ท่นี ักเรยี นสนใจตามขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลทงั้ 5 ข้ันตอน และบนั ทกึ ลงในใบงานที่ 3.4.1
เรื่อง การรวบรวมข้อมลู
6. ครอู ธิบายวิธกี ารรวบรวมข้อมูลซงึ่ มีทง้ั หมด 4 วิธี ดงั นี้
1) การสงั เกต สำรวจ และจดบันทึก
2) การสอบถาม หรือสัมภาษณผ์ ูท้ ่ีเก่ยี วข้อง
3) การสำรวจ โดยการใช้แบบสอบถาม แบบทดสอบ
4) การรวบรวมข้อมลู จากเอกสาร หรือขอ้ มลู ทีผ่ ู้อน่ื รวบรวมไว้แลว้
7. ครูอธิบายเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลเพ่ิมเติมวา่ “วิธีการรวบรวมขอ้ มลู จดั เป็นขน้ั ตอนหนึ่ง
ของการดำเนนิ งานท่เี ก่ยี วกับการศึกษาสิ่งใดส่ิงหน่ึง เพื่อให้บรรลวุ ตั ถุประสงคท์ ่ีต้ังไว้ ดังน้นั
กอ่ นการรวบรวมขอ้ มลู ผทู้ ท่ี ำการรวบรวมข้อมลู จงึ ต้องทราบถึงวตั ถุประสงคข์ องการนำข้อมลู
ไปใช้ เพื่อให้ได้ข้อมลู ที่ถูกต้อง ชดั เจน ตรงประเดน็ และใชเ้ วลาได้นอ้ ยลง”
8. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมกลมุ่ อย่างอิสระ และใหแ้ ต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอ
หนา้ ชั้นเรยี น
9. ครถู ามคำถามท้าทายการคดิ ขั้นสูงว่า“ในการรวบรวมข้อมูล ถา้ ขาดขั้นตอนการวางแผน
และพจิ ารณาเลือกแหล่งข้อมูลจะส่งผลอยา่ งไรบ้าง”
(แนวตอบ : นกั เรยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพนิ จิ
ของครผู ู้สอน เช่น จะสง่ ผลใหแ้ หล่งข้อมลู ทไ่ี ด้มาน้นั ขาดความน่าเช่ือถือ เปน็ ตน้ )
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
10. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันทำกิจกรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสอื เรียน
11. ให้นักเรยี นแต่ละออกมานำเสนอแนวทางการรวบรวมข้อมูลเพ่อื จดั ทำแบบสำรวจ
ความคิดเหน็ หน้าชนั้ เรยี น เพื่อสำรวจความคิดเหน็ ของนักเรียนภายในโรงเรยี นเกีย่ วกบั กีฬา
ทช่ี ่นื ชอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ กลบั ไปทำเป็นการบ้านและนำมาส่งในชั่วโมงถดั ไป
Note
วัตถุประสงคข์ องกจิ กรรมเพ่ือใหน้ กั เรยี น
- มีทักษะการสบื ค้นข้อมลู โดยใหน้ ักเรียนสบื ค้นข้อมูลจากทางอินเทอรเ์ นต็
เพอื่ สบื เสาะหาความรู้เพม่ิ เตมิ ภายใตห้ วั ขอ้ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
- มีทกั ษะการทำงานร่วมกนั โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการทำงาน เพื่อเปิดโอกาส
ให้นกั เรยี นได้สื่อสาร และแลกเปลีย่ นข้อมูลรว่ มกันขณะทำงานกลุม่
- มีทักษะการคดิ วิเคราะห์ ในการรวบรวมขอ้ มลู ตามขัน้ ตอนการเลือกใชข้ ้อมลู
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ขั้นสรปุ
ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลงานของนกั เรียน จากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตัว
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ
3. นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปเกี่ยวกับขน้ั ตอนการรวบรวมข้อมูล
7. การวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
- ตรวจใบงานท่ี 3.4.1 - ใบงานท่ี 3.4.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
รายการวัด
7.1 ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรม
การเรียนรู้
1) การรวบรวมข้อมลู
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน ผลงาน การนำเสนอผลงาน
รายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
4) พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
5) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
- สังเกตความมีวินัย - แบบประเมิน
คณุ ลักษณะ
ความรับผิดชอบ
ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ ม่นั อันพึงประสงค์
ในการทำงาน
8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียน (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง ข้อมูลสารสนเทศ
2) ใบงานที่ 3.4.1 เรือ่ ง การรวบรวมขอ้ มลู
3) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องคอมพวิ เตอร์
2) อินเทอร์เนต็
ใบงานท่ี 3.4.1
เรอื่ ง การรวบรวมขอ้ มลู
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนรวบรวมข้อมูลตามขนั้ ตอนการรวบรวมทัง้ 5 ขนั้ ตอน เพ่อื สำรวจในประเด็น
ท่นี ักเรียนสนใจมาคนละ 1 ประเด็น จากน้นั บันทึกผลอย่างละเอียด
1. ใหน้ กั เรียนวางแผนรวบรวมข้อมลู ตามขนั้ ตอนต่างๆ
ชือ่ หัวข้อเรื่องทีน่ กั เรียนสนใจ ..............................................................................................................
ขนั้ ตอน รายละเอยี ด
ขั้นตอนท่ี 1 กำหนดวัตถปุ ระสงค์ .................................................................................................
ขน้ั ตอนท่ี 2 เลอื กแหลง่ ขอ้ มลู .................................................................................................
ขั้นตอนที่ 3 กำหนดวธิ ีการรวบรวมข้อมลู .................................................................................................
ข้ันตอนที่ 4 ดำเนินการรวบรวมข้อมลู .................................................................................................
ขั้นตอนท่ี 5 สรุปผลข้อมูล .................................................................................................
.................................................................................................
.................................................................................................
.................................................................................................
.................................................................................................
.................................................................................................
2. ใหน้ กั เรียนออกแบบสอบถามเพื่อรวบรวมข้อมูลตามประเด็นท่ีนักเรียนกำหนด
ใบงานท่ี 3.4.1 เฉลย
เร่ือง การรวบรวมขอ้ มลู
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนรวบรวมข้อมลู ตามข้ันตอนการรวบรวมทงั้ 5 ขัน้ ตอน เพือ่ สำรวจในประเด็น
ที่นกั เรยี นสนใจมาคนละ 1 ประเดน็ จากน้ันบนั ทึกผลอย่างละเอยี ด
1. ใหน้ กั เรียนวางแผนรวบรวมข้อมลู ตามขัน้ ตอนตา่ งๆ
ช่อื หัวข้อเร่ืองท่ีนักเรียนสนใจ การสำรวจรสชาติไอศกรีมที่ชน่ื ชอบของเพ่อื นในห้องเรียนจำนวน 10 คน
ข้ันตอน รายละเอียด
ขน้ั ตอนที่ 1 กำหนดวตั ถุประสงค์ รสชาตไิ อศกรีมท่ีชืน่ ชอบ..........................................................
.................................................................................................
ข้ันตอนท่ี 2 เลอื กแหล่งข้อมลู เพื่อนในหอ้ งเรยี นจำนวน 10 คน.............................................
.................................................................................................
ขน้ั ตอนท่ี 3 กำหนดวธิ ีการรวบรวมขอ้ มลู แบบบันทกึ ,แบบสอบถาม,แบบสัมภาษณ์................................
.................................................................................................
ขน้ั ตอนท่ี 4 ดำเนินการรวบรวมข้อมูล ใชแ้ บบบนั ทึก,แบบสอบถาม,แบบสมั ภาษณ์เป็นรายบุคคล......
.................................................................................................
ขนั้ ตอนท่ี 5 สรุปผลขอ้ มลู สรุปข้อมลู รสชาตไิ อศกรมี ทีเ่ พ่อื นช่ืนชอบ................................
.................................................................................................
2. ให้นักเรยี นออกแบบสอบถามเพือ่ รวบรวมข้อมูลตามประเด็นที่นักเรยี นกำหนด
ลำดับ ขอ้ คำถาม ระดบั ความชอบ ไมช่ อบ
ชอบ เฉยๆ
1 ไอศกรมี รสวนิลา
2 ไอศกรีมรสช็อกโกเลต
3 ไอศกรีมรสสตอเบอร่ี
ข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5
การประมวลผลขอ้ มูล
เวลา 2 ชัว่ โมง
1. ผลการเรียนรู้
1. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นมีความรคู้ วามเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปัญหาเป็นขน้ั ตอนและเป็นระบบ
3. เพ่อื ใหผ้ ้เู รียนมีทักษะในการตงั้ คำถาม หรอื กำหนดปญั หาเกยี่ วกับสงิ่ ทีจ่ ะเรียนรตู้ ามที่กำหนดให้ หรือ
ตามความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สรา้ งสมมตฐิ านทส่ี อดคล้องกบั คำถาม
4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อปุ กรณ์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศที่
เหมาะสมในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ท้ังเชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ
5. เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นคน้ หาขอ้ มลู อย่างมีประสทิ ธิภาพและประเมินความน่าเชอ่ื ถือ ตดั สินใจเลือกข้อมลู ให้
เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแกป้ ัญหา
6. เพื่อให้ผู้เรยี นนำความร้คู วามเขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาการคำนวณไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนต์ ่อสังคมและการ
ดำรงชวี ติ
7. เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนพัฒนากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปญั หาและการจัดการ
ทกั ษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสนิ ใจ
8. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นเปน็ ผู้มีจติ วทิ ยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายของการประมวลผลข้อมลู ได้ (K)
2. บอกวธิ ีการประมวลผลขอ้ มลู ไดอ้ ย่างถูกต้อง (K)
3. สร้างทางเลอื กในการประมวลผลขอ้ มลู ได้ (P)
4. เลง็ เห็นความสำคญั ของการประมวลผลข้อมูลและการนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
การรวบรวมข้อมลู ประมวลผล สรา้ งทางเลือกประเมนิ ผล จะทำให้ไดส้ ารสนเทศเพื่อใช้ในการแก้ปัญหา
หรือการตดั สนิ ใจได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ขอ้ มลู ท่ีอยู่รอบตวั เรามจี ำนวนมาก ๆ มีข้อมลู บางอยา่ งทส่ี ามารถนำมาใช้ได้ทันที และมีขอ้ มลู
บางอยา่ งทจี่ ะต้องนำไปประมวลผลทำให้เป็นข้อมลู สารสนเทศก่อนนำมาใช้งาน เพ่ือให้สามารถนำข้อมูล
ไปใช้ได้อย่างสะดวกและเกิดประโยชน์อย่างสงู สุด สำหรบั การประมวลผลขอ้ มลู นั้นสามารถเลือกทำได้
หลากหลายวธิ ี ไมว่ ่าจะเป็นการเปรียบเทยี บข้อมลู การจดั กลมุ่ ขอ้ มลู การแยกแยะข้อมูล และ
การเรียงลำดบั ข้อมลู
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ
- ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทักษะการแลกเปลย่ี นข้อมูล 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทกั ษะการสบื คน้ ข้อมลู
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชั่วโมงที่ 1-2
ข้ันนำ
ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. เปดิ โอกาสให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลการจัดทำแบบสำรวจความคดิ
เหน็ ของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม
2. ครูซกั ถามเพื่อกระตนุ้ ความคิดของนักเรยี นว่า“นักเรียนมีวิธกี ารจดั การกับขอ้ มลู อย่างไร”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขนึ้ อย่กู ับดุลยพนิ ิจของ
ครูผสู้ อน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การจัดกลมุ่ ข้อมลู การคำนวณข้อมลู การแยกแยะข้อมูล
และการประเมินผลข้อมูล เป็นตน้ )
3. ครใู ช้คำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นว่า“การเลือกรับประทานอาหารกลางวัน
ในโรงอาหาร นกั เรียนจะตอ้ งมีข้อมูลใดบ้างเพ่ือช่วยในการตัดสินใจ”
(แนวตอบ : นกั เรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขน้ึ อยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของ
ครผู ูส้ อน เช่น รายการอาหาร รสชาติอาหาร ราคาอาหาร เปน็ ต้น)
4. ครูอธบิ ายเพ่ือเชอื่ มโยงเข้าสูบ่ ทเรยี นว่า“จากคำตอบของนกั เรยี นจะเลอื กบอกได้ว่ากอ่ นที่
นกั เรยี นจะซ้ืออาหารรับประทานน้ัน สมองของนักเรยี นต้องประมวลผลก่อนว่าต้องการ
เลือกทานอะไร รา้ นใด เพราะเหตุผลอะไร ถา้ เปน็ เช่นน้ันแสดงวา่ การประมวลผลหรือ
การประมวลข้อมูลนน้ั มีความสำคญั กบั เราตลอดเวลา ดงั นั้นจึงต้องมีการประมวลผลข้อมลู
อย่เู สมอเพื่อให้ไดข้ ้อมูลท่ีถูกต้องอย่เู สมอ”
ข้นั สอน
ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นแต่ละคนค้นหาความหมายของการประมวลผลขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ นต็ ที่
เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง จากน้นั ครูสมุ่ นักเรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอข้อมูล
หนา้ ชนั้ เรยี น พร้อมกับอภปิ รายรว่ มกันในหอ้ งเรียน
ข้ันท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. นักเรยี นศึกษาการประมวลผลขอ้ มลู จากสถานการณต์ วั อย่างการประมวลผลขอ้ มลู โดย
การวเิ คราะห์ขอ้ มูลน้ำหนักและส่วนสูงของนักเรียนในหนังสือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ป.5
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง ข้อมูลสารสนเทศ โดยเปรียบเทียบข้อมลู กับเกณฑ์มาตรฐานวา่
นกั เรยี นคนใดมีน้ำหนักสว่ นสูงท่ีสงู กว่า หรอื ตำ่ กวา่ เกณฑ์มาตรฐานจากตารางแสดงเกณฑ์
มาตรฐานของนำ้ หนักและสว่ นสูงตามอายุ
3. ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมเกี่ยวกบั การประมวลผลขอ้ มลู วา่ “การประมวลผลข้อมูลเป็นการเปล่ยี นแปลง
หรอื การจดั ระเบียบข้อมลู ให้อยใู่ นรูปแบบท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ ผ้ใู ช้งาน ขอ้ มูลโดยทัว่ ไปเกิดขน้ึ
อย่างไม่เป็นระเบยี บจากกระบวนการนับหรือการวดั โดยไม่สามารถสอื่ ความหมายใหเ้ ข้าใจหรือ
นำมาใช้ประโยชนไ์ ด้ ดังนั้น การประมวลผลจงึ เปน็ วิธีการนำข้อมูลให้เปน็ สารสนเทศท่ีมี
ประสิทธภิ าพและนำไปใช้ประโยชนต์ ่อไปได้อยา่ งเหมาะสม”
4. ครูอธิบายกับนักเรยี นว่า“ในการดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั ของนักเรยี น บางครง้ั นักเรยี นอาจจะพบ
ปัญหาทตี่ อ้ งเลอื กสิ่งใดสง่ิ หน่ึง อย่างใดอย่างหน่งึ ดงั นั้นเพื่อการเลอื กทถ่ี ูกต้อง นักเรยี นจะต้อง
มีการประมวลผลจากทางเลือกทมี่ ีอยา่ งละเอียด”
5. นักเรียนดตู ัวอย่างแนวทางการสร้างทางเลอื กในการประมวลผลจากสถานการณ์ทโ่ี ป้กำลัง
พจิ ารณาเลือกซ้ือสนิ คา้ ทีซ่ ูเปอร์มาร์เก็ตในหนังสือเรยี น
ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
6. นักเรยี นจบั คกู่ ับเพื่อนทน่ี ่งั ขา้ ง ๆ เพอื่ ทำกจิ กรรมฝึกทักษะการสำรวจรา้ นคา้ ในโรงเรียนแล้ว
พิจารณาเลือกซ้ืออาหารใหต้ รงกับความต้องการของนกั เรียน จากนน้ั บันทึกลงในสมุดประจำตัว
และให้นกั เรียนแตล่ ะคอู่ อกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น
7. นักเรียนแตล่ ะคนทำใบงานท่ี 3.5.1 เรือ่ ง การประมวลผลข้อมูล โดยให้นกั เรียนแต่ละคน
พิจารณาตารางข้อมลู คะแนนสอบกลางภาคทั้ง 4 รายวิชา และตอบคำถามให้ถกู ต้องผ่าน
การประมวลผลข้อมูล จากนั้นนำมาสง่ ในชั่วโมงถดั ไป
Note
วตั ถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพ่อื ใหน้ ักเรยี น
- มีทกั ษะการสืบค้นข้อมูล โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนสืบคน้ ข้อมลู จากทางอนิ เทอร์เนต็
เพ่ือสบื เสาะหาความรู้เพิม่ เติมภายใตห้ วั ขอ้ ที่ไดร้ ับมอบหมาย
- มีทักษะการคิดวเิ คราะห์ โดยใหน้ กั เรียนคดิ วิเคราะหข์ ้อมูลจากสถานการณ์ตัวอยา่ ง
การประมวลผลข้อมูลท่ีนักเรียนพจิ ารณาข้อมลู เพ่ือเปรยี บเทียบขอ้ มลู กบั เกณฑม์ าตรฐาน
ท่กี ำหนดไวไ้ ด้อย่างถูกตอ้ ง
- มที กั ษะการทำงานรว่ มกนั โดยให้นักเรียนจบั คู่กบั เพ่ือนที่น่งั ขา้ ง ๆ และส่ือสาร
หรอื แลกเปลี่ยนข้อมลู รว่ มกนั ในการทำกิจกรรมฝกึ ทักษะการสำรวจร้านคา้ ในโรงเรียน
แล้วพจิ ารณาเลอื กซ้ืออาหารให้ตรงกบั ความต้องการของนักเรยี น
ขน้ั สรุป
ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลงานนักเรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตัว
ของนักเรียน
2. ครูตรวจสอบผลงาน จากการทำใบงานและกิจกรรมฝกึ ทักษะ
3. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรุปเน้ือหาเกี่ยวกับข้นั ตอนการประมวลผลข้อมลู การพิจารณา และ
การเปรยี บเทยี บขอ้ มูล
7. การวัดและประเมินผล
รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
7.1 ประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรม - ตรวจใบงานท่ี 3.5.1 - ใบงานท่ี 3.5.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การเรียนรู้
1) การประมวลผลขอ้ มลู
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน ผลงาน การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2
รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
4) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
- สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
รายการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ
5) คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ระดบั คุณภาพ 2
ความรับผดิ ชอบ - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่นั คุณลกั ษณะ
ในการทำงาน อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง ข้อมูลสารสนเทศ
2) ใบงานที่ 3.5.1 เรอื่ ง การประมวลผลข้อมูล
3) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อินเทอร์เน็ต
ใบงานท่ี 3.5.1
เรอื่ ง การประมวลผลขอ้ มูล
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนพิจารณาตารางข้อมลู คะแนนสอบกลางภาคท้งั 4 รายวิชา และตอบคำถามใหถ้ ูกตอ้ ง
ตารางขอ้ มูลคะแนนสอบกลางภาคท้งั 4 รายวชิ า
เลขท่ี รายชื่อ รายวิชา รายวชิ า รายวิชา รายวชิ า คะแนนรวม
วทิ ยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์
1 สมศรี 4 3 2 1
3 6
2 สมบตั ิ 1 5 2 2
6 8
3 สมทรง 5 2 2 4
2 5
4 สมจติ ร 1 3 2 5
1 5
5 สมพร 9 1 1 4
4 2
6 สมสมร 2 8
7 สมใจ 3 1
8 สมชาย 4 4
9 สมศกั ดิ์ 1 5
10 สมปอง 2 2
จากตารางข้อมูลคะแนนสอบกลางภาคท้ัง 4 รายวิชา ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ีให้ถูกตอ้ ง
โดยใช้วธิ กี ารประมวลผลขอ้ มูลเพือ่ เปรยี บเทยี บข้อมูล
1. รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ นักเรยี นคนใดได้คะแนนสูงทสี่ ดุ
2. รายวิชาคอมพิวเตอร์ นกั เรียนคนใดได้คะแนนทต่ี ่ำสุด
3. รายวชิ าภาษาไทย นักเรียนคนใดได้คะแนนสงู ท่สี ุด
4. รายวชิ าคณติ ศาสตร์ นักเรียนคนใดได้คะแนนสงู ทส่ี ุดเป็นลำดับท่ี 2
5. นกั เรียนคนใดได้มคี ะแนนรวมทกุ วชิ าเป็นลำดบั ท่ี 1
6. นักเรยี นคนใดไดม้ คี ะแนนรวมทุกวชิ าเปน็ ลำดับสุดท้าย
ใบงานท่ี 3.5.1 เฉลย
เรอื่ ง การประมวลผลข้อมลู
คำชี้แจง : ให้นักเรยี นพิจารณาตารางข้อมูลคะแนนสอบกลางภาคทั้ง 4 รายวชิ า และตอบคำถามให้ถูกต้อง
ตารางข้อมูลคะแนนสอบกลางภาคท้ัง 4 รายวชิ า
เลขที่ รายชือ่ รายวชิ า รายวิชา รายวชิ า รายวชิ า คะแนนรวม
วทิ ยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์
10
1 สมศรี 4 3 2 1 15
3 6 11
2 สมบัติ 1 5 2 2 18
6 8 16
3 สมทรง 5 2 2 4 17
2 5 11
4 สมจิตร 1 3 2 5 14
1 5 11
5 สมพร 9 1 1 4 10
4 2
6 สมสมร 2 8
7 สมใจ 3 1
8 สมชาย 4 4
9 สมศักด์ิ 1 5
10 สมปอง 2 2
จากตารางข้อมูลคะแนนสอบกลางภาคท้ัง 4 รายวิชา ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ีให้ถูกตอ้ ง
โดยใชว้ ธิ ีการประมวลผลขอ้ มูลเพ่ือเปรียบเทียบข้อมูล
1. รายวิชาวิทยาศาสตร์ นักเรียนคนใดได้คะแนนสูงท่สี ุด สมพร
2. รายวชิ าคอมพวิ เตอร์ นักเรียนคนใดได้คะแนนทต่ี ่ำสดุ สมใจ สมพร
3. รายวิชาภาษาไทย นกั เรียนคนใดได้คะแนนสูงทีส่ ุด สมจติ ร
4. รายวิชาคณิตศาสตร์ นักเรียนคนใดได้คะแนนสงู ทส่ี ดุ เป็นลำดับท่ี 2 สมบัติ
5. นักเรียนคนใดไดม้ คี ะแนนรวมทกุ วิชาเปน็ ลำดบั ท่ี 1 สมจติ ร
6. นักเรยี นคนใดไดม้ ีคะแนนรวมทุกวชิ าเปน็ ลำดับสุดทา้ ย สมศรี สมปอง
9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6
การสืบค้นขอ้ มูลโดยใช้อินเทอร์เนต็
เวลา 2 ชั่วโมง
1. ผลการเรียนรู้
1. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความร้คู วามเข้าใจในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แกป้ ญั หาเปน็ ขนั้ ตอนและเป็นระบบ
3. เพอื่ ให้ผู้เรยี นมีทกั ษะในการต้ังคำถาม หรอื กำหนดปัญหาเก่ยี วกบั สงิ่ ท่จี ะเรยี นรู้ตามที่กำหนดให้ หรอื
ตามความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สรา้ งสมมติฐานท่ีสอดคล้องกับคำถาม
4. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมอื อปุ กรณ์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศที่
เหมาะสมในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลท้ังเชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ
5. เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนคน้ หาขอ้ มูลอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและประเมินความนา่ เชือ่ ถือ ตัดสนิ ใจเลือกข้อมลู ให้
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา
6. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนนำความรู้ความเข้าใจในวชิ าวิทยาการคำนวณไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ตอ่ สังคมและการ
ดำรงชวี ิต
7. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการ
ทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตดั สนิ ใจ
8. เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นเปน็ ผู้มีจิตวทิ ยาศาสตร์ มคี ุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายวิธกี ารสบื คน้ ขอ้ มลู โดยใชอ้ ินเทอร์เนต็ ได้ (K)
2. บอกหลกั ในการประเมินความนา่ เชอื่ ถือของข้อมูลจากการสืบคน้ ได้ (K)
3. สบื คน้ ขอ้ มูลโดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ตตามวธิ ีการตา่ ง ๆ ได้ (P)
4. ตรวจสอบความนา่ เชือ่ ถือของข้อมูลจากอนิ เทอร์เนต็ ได้ (P)
5. เหน็ ความสำคัญของการสืบคน้ ขอ้ มูลโดยใช้อินเทอร์เนต็ และการนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั (A)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การคน้ หาข้อมูลในอินเทอรเ์ นต็ และการพจิ ารณาผลการค้นหา
- การประเมินความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู เชน่ เปรียบเทยี บความสอดคลอ้ ง สมบรู ณข์ องข้อมลู จากหลาย
แหล่ง แหลง่ ตน้ ตอของขอ้ มลู ผ้เู ขยี น วันท่ีเผยแพรข่ ้อมลู
- ข้อมูลทด่ี ตี ้องมรี ายละเอยี ดครบทกุ ด้าน เช่น ข้อดีและข้อเสีย ประโยชน์และโทษ
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตโดยใชเ้ ว็บไซต์ท่ีเรยี กว่า Search Engine สามารถคน้ หาได้หลายวธิ ี
ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมลู โดยใชค้ ีย์เวิร์ด การคน้ หาข้อมูลตามหมวดหมู่ หรอื การค้นหาขอ้ มลู จากหลาย
แหลง่ และในการสืบคน้ ข้อมลู จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จะตอ้ งมกี ารประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู เพ่อื
ให้ไดข้ ้อมูลท่ีถกู ต้องและตรงตามความต้องการของผ้ใู ช้งาน
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั รับผิดชอบ
- ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้
- ทกั ษะการแลกเปลย่ี นข้อมลู 3. มุ่งม่ันในการทำงาน
2. ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคดิ วิเคราะห์
- ทกั ษะการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
- ทักษะการทำงานร่วมกัน
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการสบื คน้ ข้อมลู
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วิธกี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่วั โมงที่ 1
ขั้นนำ
ขั้นที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนว่า“โดยปกติแลว้ ถา้ นักเรยี นต้องการจดั ทำรายงาน หรอื
ต้องการสืบคน้ ข้อมูล นักเรยี นสามารถหาข้อมูลได้จากทใี่ ดบ้าง”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามความคดิ เหน็ ของตนเอง โดยคำตอบข้นึ อยกู่ บั ดุลยพินิจของ
ครูผู้สอน เชน่ หนงั สือเรียน ห้องสมดุ อินเทอร์เน็ต เปน็ ตน้ )
2. ครูอธบิ ายเพ่ือเช่อื มโยงเข้าสูบ่ ทเรยี นว่า“ปจั จุบนั วธิ กี ารทน่ี ิยมใชส้ ำหรับการคน้ หาขอ้ มลู คือ
การคน้ หาข้อมลู ผา่ นอินเทอร์เน็ต โดยใช้เวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ ในการสืบคน้ ข้อมลู หรอื ท่ีเรยี กว่า
Search Engine เช่น www.google.com”
ขนั้ สอน
ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนสบื ค้นขอ้ มลู เกีย่ วกับ เรอ่ื ง ที่มาของคอมพวิ เตอร์ โดยเปดิ โอกาส
ใหน้ กั เรียนสืบคน้ จากเครื่องคอมพิวเตอรข์ องตนเอง
2. จากน้นั ครูสมุ่ ถามนกั เรียน 5-6 คน เก่ยี วกับคำที่ใชค้ ้นหาในเว็บ Search Engine
(แนวตอบ : ประวัตขิ องคอมพิวเตอร์ ท่ีมาของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอรเ์ กดิ ข้นึ ได้อย่างไร
ผู้ก่อตั้งคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ เปน็ ต้น)
3. นักเรยี นศกึ ษาเน้ือหา เรอื่ ง การสืบค้นขอ้ มลู โดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ตจากหนังสือเรียน (วทิ ยาการ
คำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศ
โดยครูอธิบายกบั นักเรยี นว่า“การคน้ หาข้อมลู จากเว็บไซต์ Search Engine ว่ามหี ลายวิธี
ได้แก่ 1. การคน้ หาข้อมลู โดยใช้คียเ์ วริ ์ด
2. การค้นหาข้อมลู ตามหมวดหมู่
3. การค้นหาข้อมูลจากหลายแหล่ง”
ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. ครูชแี้ จงกบั นักเรยี นว่า“เวบ็ ไซต์ Search Engine ท่ีได้รับความนยิ มในปัจจุบนั ได้แก่
www.google.com , www.sanook.com , www.yahoo.com เปน็ ตน้ ”
5. นกั เรียนจบั คกู่ บั เพ่ือนทนี่ ง่ั ขา้ ง ๆ และทำใบงานที่ 3.6.1 เรอื่ ง การสบื ค้นข้อมลู
ด้วยอินเทอรเ์ นต็ และให้แตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยครแู นะนำ
กบั นักเรยี นวา่ “การค้นหาขอ้ มูลบนอนิ เทอรเ์ นต็ ผใู้ ชจ้ ะต้องสบื คน้ และนำขอ้ มลู มาเปรยี บเทยี บ
กันเพื่อคัดเลือกเน้ือหาท่ีมีความถกู ต้องและมีความนา่ เช่ือถอื และมารยาทในการนำข้อมูลมา
ใช้งาน คือผใู้ ช้จะตอ้ งมกี ารอ้างองิ ถึงแหลง่ ทมี่ าของข้อมูล เพอ่ื เป็นการยืนยันวา่ ข้อมลู
มแี หลง่ ทีม่ าชดั เจน นา่ เชือ่ ถือ เป็นต้น”
6. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นแต่ละคนทำกจิ กรรมฝึกทักษะโดยค้นหาข้อมลู บนอินเทอรเ์ นต็ เกย่ี วกบั
สถานท่ที ่องเทีย่ วในประเทศไทยและนำมาส่งในชั่วโมงถดั ไป
ชั่วโมงที่ 2
ขน้ั สอน
ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
7. ครทู บทวนเนือ้ หาการเรยี นเม่ือชั่วโมงท่แี ล้วเกย่ี วกบั การสืบคน้ ข้อมูลโดยใช้อนิ เทอรเ์ นต็
8. ครทู ำการสมุ่ นักเรยี น 2-3 คนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนเก่ียวกบั ข้อมลู ท่ีไดส้ บื ค้นจากการ
ทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ
9. ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมเก่ียวกับการสบื ค้นข้อมลู ว่า“ในการสืบค้นข้อมลู ใด ๆ มาใชง้ านนั้น ผทู้ ่ีค้นหา
ข้อมลู จะตอ้ งมกี ารอา้ งองิ ถึงแหล่งทม่ี าของข้อมูล เพ่อื ยืนยันวา่ ขอ้ มูลนัน้ มีแหล่งท่มี าชดั เจน
นา่ เชื่อถือ แบะเพ่ือเป็นการให้เกียรตแิ ก่เจ้าของข้อมูล”
10. นักเรียนศกึ ษาเนื้อหาเก่ยี วกับการประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของข้อมูลจากหนังสือเรียน และ
อภิปรายร่วมกันภายในชน้ั เรียน
11. ครอู ธบิ ายกบั นักเรียนถงึ ขอ้ ควรพจิ ารณาในการประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถือของข้อมูลวา่ ควร
พิจารณาดังน้ี
1) มกี ารบอกวัตถุประสงค์ในการจัดทำข้อมูล
2) มกี ารระบชุ ื่อผู้เขียนหรือผู้ใหข้ อ้ มูล
3) มกี ารระบวุ ันท่ีพิมพ์ และครั้งทป่ี รบั ปรงุ
4) มีการอ้างองิ แหล่งท่มี า
5) พจิ ารณาข้อมลู จากแหล่งข้อมลู ทเี่ ชื่อถอื ได้
ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
12. นกั เรียนจับคู่กับเพ่ือนทนี่ งั่ ข้าง ๆ (ค่เู ดิม) และทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะการสบื ค้นข้อมลู จากเวบ็ ไซต์
จากนน้ั ทำการรวบรวมขอ้ มลู และจดั ทำรายงาน สุดท้ายให้นักเรยี นวเิ คราะหว์ า่ ข้อมลู ทไ่ี ด้มา
มีความน่าเชือ่ ถือหรือไม่อยา่ งไร
13. นักเรยี นแตล่ ะคู่ออกมานำเสนอข้อมลู ท่ีได้สบื ค้นหนา้ ชั้นเรียน โดยครคู อยให้คำแนะนำเพิ่มเตมิ
ตามความเหมาะสม
Note
วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพ่อื ให้นกั เรยี น
- มที ักษะการทำงานรว่ มกัน โดยให้นกั เรียนจับคู่กันเพ่ือทำกจิ กรรมภายในช้ันเรยี น
เพอ่ื เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นส่อื สารและแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นรว่ มกนั
- มที ักษะการสืบค้นข้อมูล โดยใหน้ ักเรียนสืบคน้ ข้อมลู ตา่ ง ๆ จากอนิ เทอร์เน็ต
ตามหวั ข้อทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
- มที ักษะการคดิ วิเคราะห์ และการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณในการพจิ ารณาข้อมูลท่ีได้
ทำการสืบคน้ โดยการเปรยี บเทยี บเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความนา่ เชื่อถือของข้อมลู
ขัน้ สรปุ
ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูนำนักเรียนเล่นเกมแยกหมวดหมขู่ องขอ้ มลู โดยใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มและรว่ มกัน
แยกประเภทของข้อมูลต่าง ๆ ตามทีไ่ ด้กำหนด จากนั้นให้นักเรยี นประเมนิ ผลตนเอง
หลงั เรียนจบหนว่ ยใหต้ รงกบั ระดบั ความสามารถของตนเอง
2. ครูประเมนิ ผลนกั เรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตวั
3. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกจิ กรรมฝกึ ทักษะ
4. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั การสืบค้นข้อมลู จากอินเทอรเ์ นต็ และการประเมิน
ความน่าเชอื่ ถือของข้อมลู
5. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนท่ี 3 เร่อื ง ขอ้ มูลสารสนเทศ
6. นักเรียนทำกจิ กรรมเสรมิ สรา้ งการเรียนรู้จากหนงั สือเรียน และทำช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรือ่ ง ข้อมลู สารสนเทศ และนำมาส่งในชวั่ โมงถัดไป
7. การวัดและประเมินผล
รายการวดั วธิ วี ดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
7.1 ประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรม - ตรวจใบงานที่ 3.6.1 - ใบงานท่ี 3.6.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การเรยี นรู้
1) การสบื ค้นขอ้ มลู
ดว้ ยอินเทอรเ์ น็ต
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
4) พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
ผา่ นเกณฑ์
5) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
คณุ ลักษณะ
ความรับผิดชอบ ผ่านเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่น อันพึงประสงค์
ในการทำงาน
7.2 การประเมนิ หลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง
1) แบบทดสอบหลงั เรยี น หลังเรียน
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3
เรือ่ ง ข้อมูลสารสนเทศ
2) การประเมินช้นิ งาน - ตรวจช้นิ งาน/ภาระ - แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ 2
/ภาระงาน (รวบยอด) งาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
เร่ือง ข้อมลู สารสนเทศ
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3
เร่ือง ข้อมูลสารสนเทศ
2) ใบงานที่ 3.6.1 เร่ือง การสืบคน้ ข้อมูลดว้ ยอินเทอร์เน็ต
3) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพวิ เตอร์
2) อนิ เทอรเ์ น็ต
ใบงานท่ี 3.6.1
เรอื่ ง การสืบค้นข้อมูลดว้ ยอนิ เทอรเ์ นต็
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนค้นหาขอ้ มูลเก่ียวกับ “ต้นรวงผง้ึ ” ซง่ึ เป็นต้นไม้ประจำพระองค์ในรัชกาลท่ี 10
จากนัน้ ให้ตอบคำถามให้ถกู ต้อง
1. ความสำคญั ของตน้ รวงผ้ึง
2. ประวัตคิ วามเปน็ มาของต้นรวงผึ้ง
3. ลกั ษณะของตน้ รวงผึ้ง
4. วิธกี ารปลกู และวิธีการดแู ลรักษา
5. ประโยชน์ของตน้ รวงผึ้ง
แหลง่ ท่ีมาของข้อมลู :
1.
2.
3.
4.
5.
ใบงานท่ี 3.6.1 เฉลย
เรอื่ ง การสบื คน้ ข้อมูลด้วยอนิ เทอรเ์ นต็
คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นค้นหาข้อมลู เกี่ยวกับ “ตน้ รวงผง้ึ ” ซ่ึงเปน็ ต้นไมป้ ระจำพระองค์ในรัชกาลที่ 10
จากน้ันใหต้ อบคำถามให้ถูกต้อง
1. ความสำคัญของตน้ รวงผ้ึง
ต้นรวงผ้งึ เปน็ พรรณไมท้ ีถ่ ูกยกใหเ้ ปน็ พรรณไม้ประจำพระองค์ในรัชกาลที่ 10
2. ประวัติความเป็นมาของต้นรวงผ้งึ
โดยท่ัวไปจะเรียกตน้ ไม้ชนิดน้ีวา่ "ต้นรวงผ้งึ " แตถ่ า้ หากไดย้ ินคนเรียก ตน้ น้ำผ้ึง ต้นสายน้ำผ้ึง หรอื
ดอกน้ำผึง้ เพราะช่ือเหลา่ นเ้ี ป็นชื่อเรยี กของคนทอ้ งถน่ิ ท่ีมักได้ยนิ กนั บ่อยในแถบกรงุ เทพฯ และภาคเหนือ
ต้นรวงผ้ึง มีช่ือภาษาอังกฤษว่า Yellow star เป็นพรรณไม้ท่มี ีถ่ินกำเนิดในประเทศไทย พบมากในปา่
ทางภาคเหนอื ความสูงจากระดบั นำ้ ทะเล 1,000-1,100 เมตร
3. ลักษณะของต้นรวงผึ้ง
ตน้ รวงผงึ้ จัดเป็นไม้ยนื ตน้ ขนาดเล็ก ความสูงประมาณ 5 เมตร ทนแดด และชอบขนึ้ ในที่แลง้ หรือ
คอ่ นข้างแล้ง ลำตน้ แตกกิง่ ตำ่ ลกั ษณะลำตน้ เป็นทรงพมุ่ มน สง่ กล่นิ หอมตลอดทั้งวัน และมีสีเหลืองอร่าม
ออกดอกเปน็ ชอ่ สนั้ ตามซอกใบ ดอกจะบานได้นาน 7-10 วัน โดยจะผลดิ อกในเดือนกรกฎาคม-สงิ หาคม
4. วิธกี ารปลูกและวิธกี ารดูแลรักษา
ตน้ รวงผึ้งนิยมขยายพนั ธดุ์ ว้ ยการตอนกิ่ง ดว้ ยการควนั่ กงิ่ และลอกเปลือกออก จากน้นั นำดินเหนยี วและ
กาบมะพรา้ วชบุ นำ้ มาหุ้มแผลเอาไว้ หอ่ ดว้ ยแผน่ พลาสติกและมดั เชือกปดิ มดิ ดูแลรดน้ำตามปกติ รอ
รากงอกออกมาภายใน 2-3 วัน จึงคอ่ ยตัดไปปลูกลงในหลุมดินร่วน เพือ่ ให้ไดผ้ ลดีแนะนำให้ปลูกในที่
กลางแจง้ เน่ืองจากเปน็ พชื ทช่ี อบแดดและทนแลง้ ได้ดี
5. ประโยชน์ของต้นรวงผ้ึง
มีรปู ลักษณ์และสีสันสวยงาม มีกลน่ิ หอมอ่อน ๆ เพื่อปรบั บรรยากาศให้สดช่ืน นอกจากน้ียงั เปน็ ไม้มงคล
ทเ่ี หมาะจะนำมาปลูกประดับสวนภายในบา้ นและตามสถานทต่ี า่ ง ๆ โดยเฉพาะบา้ นท่มี ีคนธาตุไฟ
ตน้ รวงผ้งึ ก็จะช่วยเสรมิ ความเป็นสิริมงคลให้มากยง่ิ ขน้ึ
แหล่งที่มาของข้อมูล :
1. https://home.kapook.com/view162236.html
2.
3.
4.
5.
ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เร่ือง ข้อมูลสารสนเทศ
คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกต้อง
1. ประเภทของข้อมูลแบง่ ออกเปน็ กีป่ ระเภทอะไรบา้ ง จงอธิบายตามทน่ี กั เรยี นเขา้ ใจ
2. ลกั ษณะของข้อมูลทดี่ คี วรมลี กั ษณะอย่างไร
3. ใหน้ ักเรยี นวิเคราะหข์ ้อความที่กำหนดให้และเติมเคร่ืองหมาย ✓ ไว้หน้าข้อทน่ี ักเรยี นคิดวา่ ถูกตอ้ ง
และเติมเครือ่ งหมาย ไว้หน้าขอ้ ทน่ี ักเรยี นคิดว่าผิด
1. เจเจ ตอ้ งการทีจ่ ะร้ขู ้อมลู เบอร์โทรศพั ท์ของเพอื่ นๆ ในห้องเรยี น เพ่ือนำไปเปน็ ประโยชน์
ด้านพัฒนาชุมชนและสงั คมในจงั หวัดสมุทรปราการ
2. ถา้ ต้องการทราบขอ้ มลู เพื่อตดั สนิ ใจเลอื กซ้ือปากกาใหถ้ ามขอ้ มูลกับเพอ่ื น ๆ จะได้ข้อมูล
ทถ่ี กู ต้องและเหมาะสมทีส่ ุด
3. ณัชชาต้องการให้คุณพอ่ ไปสง่ ทบ่ี ้านของลัดดาแต่ไม่ทราบเส้นทาง ถา้ ณัชชาต้องการทราบ
แผนทเ่ี พ่ือเดนิ ทางไปบ้านลัดดา ณชั ชาตอ้ งค้นหาข้อมูลเสน้ ทางการเดนิ ทางที่เว็บไซต์ค้นหา
แผนที่
4. ประโยชน์ของข้อมูลดา้ นการเรียนการสอนคือ เพ่อื ใช้ในการติดต่อส่อื สารกบั ผู้อ่นื
5. เลขประจำตัวนักเรียน ห้องเรยี น ครปู ระจำชน้ั คะแนนสอบ เป็นข้อมูลหรือข้อเท็จจริง
4. ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหค์ ำทกี่ ำนหให้ และเรยี งลำดบั ข้ันตอนการรวบรวมข้อมูลใหถ้ กู ตอ้ ง
กำหนดวิธีการรวบรวมขอ้ มลู ค้นหาและรวบรวมขอ้ มลู สรุปผลข้อมูล
วางแผนและพิจารณาเลือกแหลง่ ข้อมลู กำหนดวัตถปุ ระสงคแ์ ละความต้องการ
ของสงิ่ ทสี่ นใจ
ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เร่อื ง ข้อมูลสารสนเทศ
คำช้ีแจง : ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถูกตอ้ ง
1. ประเภทของข้อมลู แบง่ ออกเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง จงอธิบายตามทน่ี กั เรียนเข้าใจ
5 ประเภท ได้แก่ ข้อมลู อกั ขระ ข้อมูลภาพ ข้อมูลตัวเลข ข้อมูลเสยี ง และข้อมูลอน่ื ๆ
2. ลักษณะของข้อมูลท่ดี ีควรมลี กั ษณะอยา่ งไร
มีความถูกตอ้ งนา่ เชอื่ ถือ มีความครบถ้วนสมบรู ณส์ ามารถนำไปใช้งานได้ ตรงตามความต้องการของ
ผู้ใชง้ าน มีความทนั สมัย และมีความสอดคลอ้ งกนั ของข้อมูล
3. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ ้อความที่กำหนดให้และเติมเครื่องหมาย ✓ ไว้หนา้ ข้อทนี่ กั เรียนคิดว่าถกู ตอ้ ง
และเตมิ เคร่อื งหมาย ไวห้ นา้ ข้อทน่ี ักเรยี นคิดว่าผดิ
1. เจเจ ตอ้ งการที่จะรู้ข้อมูลเบอรโ์ ทรศพั ท์ของเพอ่ื นๆ ในห้องเรยี น เพ่ือนำไปเป็นประโยชน์
ด้านพัฒนาชมุ ชนและสงั คมในจังหวดั สมทุ รปราการ
2. ถ้าต้องการทราบขอ้ มลู เพื่อตดั สินใจเลือกซื้อปากกาใหถ้ ามขอ้ มลู กบั เพอื่ น ๆ จะได้ขอ้ มูล
ทถ่ี ูกต้องและเหมาะสมทีส่ ุด
3. ณชั ชาตอ้ งการให้คณุ พอ่ ไปสง่ ท่บี ้านของลดั ดาแต่ไม่ทราบเสน้ ทาง ถ้าณชั ชาต้องการทราบ
✓ แผนที่เพ่ือเดนิ ทางไปบ้านลัดดา ณชั ชาต้องค้นหาข้อมูลเส้นทางการเดินทางท่ีเว็บไซต์ค้นหา
แผนที่
4. ประโยชน์ของข้อมูลด้านการเรยี นการสอนคือ เพ่อื ใช้ในการตดิ ต่อส่ือสารกับผู้อื่น
✓ 5. เลขประจำตวั นกั เรียน หอ้ งเรยี น ครูประจำช้ัน คะแนนสอบ เป็นข้อมูลหรอื ข้อเท็จจริง
4. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหค์ ำที่กำนหให้ และเรียงลำดบั ข้นั ตอนการรวบรวมข้อมูลให้ถกู ตอ้ ง
กำหนดวธิ กี ารรวบรวมขอ้ มูล คน้ หาและรวบรวมข้อมูล สรุปผลข้อมลู
วางแผนและพจิ ารณาเลือกแหลง่ ข้อมลู กำหนดวตั ถุประสงคแ์ ละความตอ้ งการ
ของส่งิ ทส่ี นใจ
กำหนดวตั ถปุ ระสงคแ์ ละความตอ้ งการของสงิ่ ทส่ี นใจ
วางแผนและพจิ ารณาเลือกแหลง่ ข้อมลู
กำหนดวิธีการรวบรวมขอ้ มลู
คน้ หาและรวบรวมข้อมูล
สรุปผลข้อมูล
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเนือ้ หา
2 ความคิดสรา้ งสรรค์
3 วิธีการนำเสนอผลงาน
4 การนำไปใช้ประโยชน์
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............/................./...................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื
3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
4 ความมีนำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน
การมี
ลำดับที่ ช่ือ–สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม
ของนักเรียน ความ ฟังคนอน่ื ตามทไ่ี ดร้ ับ น้ำใจ การ 15
คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน
ปรับปรุง
ผลงานกล่มุ
321321321321321
ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน
............./.................../...............
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกบั ระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ า้ น 32 1
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
กษัตรยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ รา้ งความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่
โรงเรยี น
1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี กย่ี วกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามทีโ่ รงเรียนจัดข้ึน
2. ซ่อื สัตย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถี่ กู ตอ้ งและเปน็ จรงิ
2.2 ปฏบิ ตั ิในสงิ่ ทถี่ ูกตอ้ ง
3. มีวนิ ยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว
มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวนั
4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 ร้จู ักใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
4.2 รูจ้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เชื่อฟังคำสัง่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง
4.4 ตัง้ ใจเรียน
5. อยู่อย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรูค้ ณุ คา่
5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ
6. มงุ่ มั่นในการทำงาน 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย
7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 รู้จกั การดแู ลรกั ษาทรพั ย์สมบัติและสิ่งแวดลอ้ มของหอ้ งเรียนและ
โรงเรียน
ลงชอ่ื ..................................................ผปู้ ระเมนิ
............/.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก
พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี
พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างครั้ง 30–40 พอใช้
ต่ำกวา่ 30 ปรบั ปรงุ
แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ใช้อนิ เทอร์เน็ตคน้ หาขอ้ มูล ตดิ ตอ่ ส่ือสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของขอ้ มูล
รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอนิ เทอรเ์ น็ตท่ี
หลากหลาย เพอ่ื แกป้ ญั หาในชีวิตประจำวนั
รายการ เกณฑก์ ารประเมนิ (ระดบั คุณภาพ) ระดับ
ประเมนิ คณุ ภาพ
ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
1. ร้จู ักขอ้ มูล ดมี าก
บอกประเภทของขอ้ มลู บอกประเภทของขอ้ มลู บอกประเภทของข้อมูล ไมส่ ามารถบอกประเภท
ไดด้ มี าก ได้ดี ไดพ้ อใช้ ของขอ้ มูลได้
2. ลักษณะของข้อมลู อธบิ ายลกั ษณะของ อธิบายลกั ษณะของ อธิบายลักษณะของ ไมส่ ามารถอธบิ าย ดี
ที่ดี ข้อมลู ที่ดีไดด้ มี าก ขอ้ มูลที่ดีไดด้ ี ข้อมลู ท่ดี ีไดพ้ อใช้ ลักษณะของข้อมูลทดี่ ี พอใช้
ได้ ปรบั ปรงุ
3. ข้ันตอนในการรวบรวม บอกข้นั ตอนในการ บอกขัน้ ตอนในการ บอกขัน้ ตอนในการ ไม่สามารถบอกข้ันตอน
ขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มลู ได้ รวบรวมขอ้ มลู ได้ รวบรวมข้อมลู ได้ ในการรวบรวมข้อมลู ได้
ครบถ้วนดมี าก ครบถว้ นดี ครบถ้วนพอใช้ ครบถว้ น
4. ความสมบรู ณข์ องผลงาน ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน
สมบรู ณด์ มี าก สมบรู ณค์ ่อนขา้ งดี สมบูรณ์ดเี ป็นบางสว่ น สมบรู ณ์นอ้ ย
5. ส่งงานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานช้ากว่า สง่ ภาระงานช้ากว่า ส่งภาระงานช้ากวา่
กำหนด 2 วนั กำหนดเกิน 3 วนั ขึน้ ไป
ท่กี ำหนด กำหนด 1 วัน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
16 - 20 ดมี าก
12 - 15 ดี
6 - 11 พอใช้
1 - 5 ปรับปรุง
9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1
การติดตอ่ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็
เวลา 4 ชั่วโมง
1. ผลการเรียนรู้
1. เพ่อื ให้ผเู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. เพือ่ ให้ผู้เรยี นมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แกป้ ัญหาเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ
3. เพ่ือให้ผเู้ รียนมีทกั ษะในการตงั้ คำถาม หรือกำหนดปญั หาเกีย่ วกับสงิ่ ท่จี ะเรยี นรู้ตามที่กำหนดให้ หรือ
ตามความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สรา้ งสมมตฐิ านทส่ี อดคล้องกบั คำถาม
4. เพื่อใหผ้ ้เู รียนวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใชเ้ ครอ่ื งมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศที่
เหมาะสมในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ท้ังเชงิ ปริมาณและคุณภาพ
5. เพอื่ ให้ผู้เรยี นค้นหาขอ้ มูลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและประเมินความนา่ เช่ือถือ ตดั สินใจเลือกข้อมลู ให้
เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา
6. เพื่อให้ผู้เรยี นนำความร้คู วามเขา้ ใจในวิชาวิทยาการคำนวณไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนต์ อ่ สังคมและการ
ดำรงชวี ิต
7. เพื่อให้ผเู้ รยี นพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการ
ทักษะในการสือ่ สาร ความสามารถในการตัดสินใจ
8. เพื่อให้ผเู้ รียนเป็นผูม้ จี ติ วทิ ยาศาสตร์ มคี ุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มในการใช้วทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายเกีย่ วกบั การติดตอ่ สื่อสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ตได้ถูกตอ้ ง (K)
2. เขยี นอเี มลเบ้ืองตน้ ได้อย่างถูกต้อง (P)
3. สบื คน้ ข้อมูลเกยี่ วกบั โปรแกรมสนทนาและบล็อกได้ (P)
4. เลง็ เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการติดตอ่ ส่ือสารผ่านอนิ เทอร์เน็ต (A)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- การคน้ หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และการพจิ ารณาผลการค้นหา
- การติดตอ่ ส่ือสารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต เช่น อีเมล บลอ็ ก โปรแกรมสนทนา
- การเขียนจดหมาย (บูรณาการกบั วิชาภาษาไทย)
- การใช้อนิ เทอร์เน็ตในการติดตอ่ ส่ือสารและทำงานร่วมกัน เช่น ใช้นดั หมายในการประชุมกลุ่ม
ประชาสมั พนั ธ์กจิ กรรมในห้องเรียน การแลกเปลยี่ นความรู้ ความคดิ เหน็ ในการเรยี น ภายใตก้ าร
ดูแลของครู
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ในปจั จุบันการติดต่อส่อื สารผ่านอินเทอร์เนต็ ถือว่าเป็นบริการทชี่ ่วยตอบสนองความต้องการ
ในการสอื่ สาร ของมนุษยใ์ หม้ ีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการติดต่อส่ือสารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็
ในปัจจุบนั สามารถทำไดห้ ลากหลายรปู แบบ ไมว่ ่าจะเปน็ การส่ือสารผ่านไปรษณีย์อิเล็กทรอนกิ ส์ หรอื
อีเมล โปรแกรมสนทนา และบลอ็ ก
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินยั รับผิดชอบ
- ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้
- ทกั ษะการแลกเปล่ียนข้อมลู 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทกั ษะการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทักษะการสืบค้นขอ้ มูล
- ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ ีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชัว่ โมงท่ี 1-2
ขัน้ นำ
ข้นั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การใช้อินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั
เพอื่ วัดความรเู้ ดมิ ของนักเรียนกอ่ นเขา้ สู่กจิ กรรม
2. ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “ปจั จุบนั นักเรียนไดใ้ ช้อนิ เทอรเ์ นต็
ทำสงิ่ ใดบา้ ง”
(แนวตอบ : เล่นเกม ดคู ลปิ วดิ ีโอ สอื่ สารกบั เพื่อน ๆ สบื คน้ ข้อมลู เป็นต้น)
3. จากนั้นครูถามคำถามประจำหนว่ ยการเรียนรู้กบั นกั เรยี นว่า“นกั เรียนมีวิธีการใช้งาน
อินเทอร์เนต็ อย่างไรให้ปลอดภัย”
(แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขึน้ อยู่กบั ดลุ ยพินิจ
ของครผู สู้ อน เช่น ป้องกนั ขอ้ มูลสว่ นตวั ของตนเอง ตรวจสอบทุกคร้งั ก่อนนำขอ้ ความ
หรือรูปภาพลงบนอนิ เทอร์เน็ต เปน็ ต้น)
4. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อกับนกั เรยี นว่า“นักเรียนคิดวา่ การนำอนิ เทอรเ์ น็ตเข้ามาใช้
ในการตดิ ต่อสอื่ สารมีประโยชนอ์ ย่างไร”
(แนวตอบ : การตดิ ต่อสอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ บรกิ ารท่ชี ว่ ยตอบสนองความตอ้ งการ
ในการสอื่ สารของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายยิง่ ขนึ้ เป็นต้น)
ข้นั สอน
ข้นั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. ครซู ักถามนกั เรยี นว่า“นักเรยี นรู้จักการตดิ ต่อสือ่ สารผา่ นอินเทอรเ์ น็ตแบบใดบา้ ง”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของนกั เรยี น โดยคำตอบขนึ้ อยู่กบั ดลุ ยพินิจ
ของครูผู้สอน เชน่ ไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนิกส์ Facebook Line Messenger เปน็ ตน้ )
2. นักเรยี นศกึ ษา เร่อื ง การตดิ ต่อสอื่ สารผ่านอินเทอรเ์ น็ตในปัจจบุ นั จากหนังสือเรียน (วทิ ยาการ
คำนวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง การใชอ้ ินเทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภัย หรอื สบื คน้ จาก
อินเทอร์เน็ต
3. ครูเปดิ เวบ็ ไซต์ www.gmail.com เพอ่ื เขา้ ใชง้ านไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์หรืออีเมล จากน้นั
ให้นกั เรยี นเขา้ สู่เว็บไซต์ตามในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง โดยครอู ธบิ ายความหมายของ
ไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนิกส์วา่ “ไปรษณยี อ์ เิ ล็กทรอนิกสเ์ ปน็ บริการรบั -ส่งจดหมายผ่านเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตจากบุคคลหน่ึงไปยงั บุคคลอืน่ ๆ ซึ่งสามารถสง่ ได้ท้ังข้อความ เสียง รปู ภาพ และ
วดิ โี อ เปน็ ต้น”
4. นกั เรยี นสำรวจตนเองว่ามีบัญชผี ู้ใช้ของเว็บไซต์ www.gmail.com หรอื ไม่ หากไมม่ ีให้นักเรียน
สรา้ งบญั ชผี ้ใู ช้ตามขนั้ ตอนในหนงั สือเรยี น ดังนี้
1. เขา้ สเู่ วบ็ ไซต์ท่ใี ห้บริการอีเมล คือ www.gmail.com
2. คลกิ เลอื กสร้างบัญชีเพ่ือสร้างบญั ชใี หม่
3. กรอกขอ้ มลู ผ้ใู ชง้ าน เชน่ ชือ่ นามสกลุ ชอื่ ผู้ใช้ รหัสผ่าน เปน็ ต้น
4. คลกิ เลอื ก ถัดไป
5. กรอกขอ้ มลู ผใู้ ช้งานเพ่มิ เติม
6. คลิกเลือก ถัดไป
5. ครูชแี้ จงกับนกั เรียนวา่ “หากนักเรยี นมบี ญั ชีผใู้ ชแ้ ลว้ นักเรียนสามารถเข้าใช้งานอีเมล
โดยการกรอกชื่อผูใ้ ช้และรหัสผา่ นทหี่ นา้ ลงชื่อเข้าใชง้ าน เพื่อใชง้ านไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์
หรอื อเี มลของตนเอง”
ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
6. นกั เรยี นศกึ ษาข้ันตอนการเขียนอเี มลเบ้ืองต้นจากหนังสือเรียน จากนนั้ ครสู มุ่ นักเรียนออกมา
เขียนสรุปขั้นตอนการเขยี นอเี มลบนกระดานหน้าชน้ั เรยี น โดยครูคอยตรวจสอบความถูกตอ้ ง
และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมแกน่ ักเรียน
7. ครอู ธิบายเพิ่มเติมกับนกั เรียนเก่ียวกบั หลักการเขียนชือ่ เร่ืองวา่ “การเขยี นช่ือเร่ืองที่ใช้ใน
การส่งอเี มล ควรเลือกใช้ข้อความทกี่ ระชับได้ใจความเข้าใจงา่ ย และใช้ถ้อยคำท่ีสุภาพ”
8. นักเรียนศกึ ษาตวั อย่างการเขียนอเี มลจากสถานการณ์ในหนังสอื เรียน
9. ครูซกั ถามเพ่อื กระตุ้นความคิดของนักเรียนวา่ “การเขียนอเี มลต้องพิมพ์ในสว่ นใดบ้าง”
(แนวตอบ : พิมพ์ที่อยูอ่ เี มลของผู้รับ พมิ พช์ ือ่ เร่ือง และพมิ พ์รายละเอียดเน้ือหา)
10. ครมู อบหมายให้นกั เรียนเขยี นอเี มลภายใตช้ ือ่ เรื่องการแนะนำตนเอง และสง่ มายังท่ีอยู่อเี มล
ของครู
ชว่ั โมงท่ี 3-4
ข้นั สอน
ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
11. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพ่อื สบื คน้ และศึกษาเก่ยี วกบั โปรแกรมสนทนา และตัวอยา่ ง
การใช้โปรแกรมสนทนาจากสถานการณ์ในหนงั สอื เรียนหรืออนิ เทอร์เนต็ พร้อมเปิดโอกาส
ให้นักเรยี นไดส้ ื่อสารและแลกเปล่ียนขอ้ มลู ร่วมกนั
12. ครูอธิบายกบั นักเรียนเก่ยี วกับโปรแกรมสนทนาว่า“โปรแกรมสนทนาเปน็ โปรแกรมการสนทนา
ออนไลน์ท่ีส่อื สารผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ ซ่งึ ในปจั จบุ ันมีการสื่อสารที่ผู้ใชง้ านสามารถเหน็
ใบหน้ากนั ได้ เช่น Line Facebook Messenger Skype เปน็ ตน้ ”
13. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาข้อมลู เกีย่ วกับบล็อก (Blog) โดยอธิบายวา่ “บล็อก
คอื เวบ็ ไซต์รูปแบบหน่งึ ท่เี ป็นการเขยี นเวบ็ ไซต์ท่เี นน้ การนำเสนอข้อมลู ในด้านทีต่ นเองสนใจ
เช่น บล็อกการท่องเทย่ี ว บลอ็ กขายสินคา้ บลอ็ กทำอาหาร เปน็ ต้น ซงึ่ ผู้ทีส่ นใจสามารถทำได้
โดยไม่เสียค่าใชจ้ ่าย”
14. นักเรยี นแต่ละกล่มุ สืบคน้ และคดั เลือกบล็อกท่สี นใจ พร้อมออกมาอภิปรายหน้าชน้ั เรียน
15. ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจวา่ “ผู้ทมี่ ีความชำนาญในการเขยี นบลอ็ กหรือผู้ท่เี ขยี นบล็อก
เป็นอาชพี เรามกั จะเรียกคนเหลา่ น้วี า่ บล็อกเกอร์ (Blogger)”
16. นกั เรยี นศึกษาตวั อย่างการใช้บล็อกจากสถานการณ์ที่กำหนดไว้ในหนังสอื เรียน พรอ้ มถาม
คำถามทา้ ทายการคิดขนั้ สงู กับนกั เรยี นวา่ “นอกจากการสร้างสอ่ื การเรยี นการสอนแล้ว
นกั เรยี นคดิ วา่ บลอ็ กสามารถนำมาใชป้ ระโยชนใ์ นด้านการเรียนการสอนไดอ้ ย่างไรบา้ ง”
(แนวตอบ : ใชบ้ ลอ็ กในการขยายความเข้าใจในเนอื้ หาต่าง ๆ เพ่ือเผยแพร่เนื้อหาท่นี ่าสนใจ
ใหน้ ักเรยี นได้มคี วามเข้าใจมากยง่ิ ขน้ึ หรือสรา้ งเป็นช่องทางในการส่ือสาร เพือ่ ให้ผู้ทส่ี นใจ
ในเรื่องเดียวกนั ได้แลกเปล่ียนความรู้รว่ มกนั )
ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
17. นักเรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสอื เรยี นและทำใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง โปรแกรมสนทนา
ออนไลน์ เป็นการบ้านและนำมาส่งในชัว่ โมงถัดไป
Note
วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพอ่ื ใหน้ กั เรยี น
- มที ักษะการสบื คน้ ข้อมูลโดยใชก้ ระบวนการทางเทคโนโลยสี บื ค้นขอ้ มลู เก่ียวกบั
การติดต่อส่ือสารผา่ นอินเทอร์เน็ต
- มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ในการสรา้ งบญั ชผี ้ใู ชใ้ นเว็บไซตเ์ พอื่ การเรียนรู้
และการพฒั นาตนเองในการเรียนรู้ การส่ือสาร และการทำงาน
- มที กั ษะการทำงานรว่ มกนั โดยใชท้ ักษะกระบวนการกลุ่มในการทำกิจกรรมเพื่อให้
นกั เรยี นได้ศึกษา สอื่ สาร และแลกเปลีย่ นขอ้ มูลร่วมกนั ผ่านการคดิ วิเคราะห์เก่ยี วกับโปรแกรม
สนทนาออนไลนแ์ ละบลอ็ ก
- มีทักษะการแก้ปัญหาในการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ได้อยา่ งเหมาะสม
ขณะเขียนจดหมายจากไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนิกส์
ขัน้ สรุป
ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลนักเรียน จากการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องจากผลงานการทำใบงานท่ี 4.1.1 และกิจกรรมฝึกทักษะของนักเรียน
3. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกับการติดต่อสอ่ื สารผ่านอินเทอร์เน็ตว่า“ปัจจุบนั คนนิยม
ส่ือสารผา่ นเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ เปน็ จำนวนมาก เพราะถอื วา่ เป็นบรกิ ารทีช่ ว่ ยตอบสนอง
ความตอ้ งการในด้านการสื่อสาร เพราะเป็นการส่ือสารที่สะดวก รวดเร็ว และสามารถทำได้
หลากหลายรปู แบบ”
7. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วธิ ีวัด เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมนิ
- แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ
- ใบงานที่ 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบทดสอบก่อนเรยี น ก่อนเรยี น
- แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
- แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
เรอ่ื ง การใชอ้ ินเทอร์เน็ต การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
อย่างปลอดภัย การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
- แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
7.2 การประเมินระหวา่ ง - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
อันพึงประสงค์
การจดั กิจกรรม
1) โปรแกรมสนทนา
ออนไลน์
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ
ผลงาน
3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล
4) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม
กลุม่ การทำงานกลุ่ม
5) คุณ ลักษ ณ ะอัน พึ ง - สงั เกตความมีวินยั
ประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ
ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่น
ในการทำงาน
8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4
เรอื่ ง การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย
2) ใบงานท่ี 4.1.1 เรอื่ ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์
3) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) อนิ เทอรเ์ นต็
2) หอ้ งคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 4.1.1
เรอ่ื ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์
คำช้แี จง : ให้นกั เรียนบอกโปรแกรมสนทนาออนไลน์ที่นักเรียนใช้เป็นประจำ พร้อมวาดภาพสญั ลักษณ์
ของโปรแกรมท่นี ักเรียนใช้งาน พรอ้ มอธิบายวา่ โปรแกรมสนทนาออนไลนน์ ี้คืออะไร และ
มปี ระโยชน์กับนักเรียนอยา่ งไรบา้ ง
โปรแกรมสนทนาออนไลนท์ นี่ กั เรยี นใช้ คือ
............................................................................................................................................
สญั ลกั ษณ์
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานท่ี 4.1.1 เฉลย
เรื่อง โปรแกรมสนทนาออนไลน์
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นบอกโปรแกรมสนทนาออนไลนท์ ่นี ักเรียนใชเ้ ป็นประจำ พร้อมวาดภาพสญั ลกั ษณ์
ของโปรแกรมที่นักเรยี นใช้งาน พร้อมอธิบายว่าโปรแกรมสนทนาออนไลนน์ ค้ี อื อะไร และ
มีประโยชน์กับนักเรียนอย่างไรบ้าง
โปรแกรมสนทนาออนไลน์ที่นักเรียนใช้ คอื
...................................................................L...i.n...e...................................................................
สัญลักษณ์
L…IN……E…ค…อื ……แ…อ…พ…พ…ล…ิเค…ช…่นั……ท…ีร่ …วม…บ……ริก…า…ร…ร…ะ…ห…ว…า่ …ง…M…e…s…s…a…g…in…g…แ…ล…ะ……V…o…ic…e……O…v…e…r…IP……………
จ…ึง…ท…ำ…ให…้เ…ก…ดิ …เ…ป…น็ …แ…อ…พ…พ…ล…ิเ…ค…ช…ั่น…ท…ส่ี …า…ม…า…รถ…แ…ช…ท……ส…ร…้า…งก…ล…่มุ……ส…่ง…ข…้อ…ค…ว…า…ม…ส…ง่ …ร…ูป…ต…่า…งๆ……………
…โท…ร…ค…ุย…แ…บ…บ…ใ…ช…เ้ …ส…ีย…ง…แ…ล…ะ…โท……รค…ยุ…แ…บ…บ……เห…็น…ห…น……้าไ…ด…้ …ซ…ื่งท…ำ…ใ…ห…้ม…ปี …ร…ะ…โ…ย…ช…น…ต์ …อ่ …ก…า…รส…อื่…ส…า…ร……
…เป…น็ …อ…ย…า่…ง…ม…า…ก…แ…ม…ว้…่า…อ…ย…ไู่ …ก…ล…ก…นั …แ…ค…ไ่ ห……น…ก…ท็ …ำ…ให…้ใ…ก…ล…ก้ …นั …ม…า…ก…ย…่งิ …ข…ึน้ ………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชอื่ .................................
( ................................ )
ตำแหนง่ .......
10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3
มารยาทในการตดิ ตอ่ สอื่ สารผา่ นอินเทอร์เน็ต
เวลา 2 ชวั่ โมง
1. ผลการเรียนรู้
1. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เพอื่ ให้ผู้เรียนมีทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปญั หาเปน็ ข้นั ตอนและเป็นระบบ
3. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีทักษะในการตง้ั คำถาม หรือกำหนดปัญหาเก่ยี วกับสิง่ ท่จี ะเรยี นรตู้ ามที่กำหนดให้ หรอื
ตามความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมตฐิ านท่ีสอดคล้องกบั คำถาม
4. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใช้เครือ่ งมอื อปุ กรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศท่ี
เหมาะสมในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ท้ังเชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ
5. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นค้นหาข้อมลู อยา่ งมีประสิทธภิ าพและประเมินความน่าเช่ือถือ ตดั สินใจเลือกข้อมูล ให้
เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา
6. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นนำความรคู้ วามเข้าใจในวชิ าวิทยาการคำนวณไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ต่อสังคมและการ
ดำรงชีวติ
7. เพื่อให้ผู้เรยี นพฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจดั การ
ทกั ษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสนิ ใจ
8. เพอื่ ใหผ้ ้เู รยี นเป็นผ้มู ีจิตวทิ ยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มในการใช้วทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. บอกมารยาทในการติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอร์เน็ตได้ (K)
2. สบื คน้ ขอ้ มูลจากแหล่งสารสนเทศเก่ยี วกับมารยาทในการตดิ ตอ่ ส่อื สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P)
3. เลง็ เหน็ ถึงความสำคญั ของมารยาทในการตดิ ต่อสอ่ื สารผ่านอินเทอรเ์ นต็ (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- การคน้ หาข้อมลู ในอนิ เทอร์เนต็ และการพิจารณาผลการค้นหา
- การประเมนิ ความน่าเชือ่ ถือของขอ้ มลู เช่น เปรียบเทยี บความสอดคล้อง สมบูรณข์ องข้อมลู
จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของข้อมูล ผ้เู ขยี น วนั ท่ีเผยแพร่ข้อมูล
- มารยาทในการติดตอ่ สื่อสารผ่านอินเทอรเ์ น็ต(บรู ณาการกับวชิ าทเ่ี กยี่ วข้อง)
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ปจั จุบนั การตดิ ต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตไดร้ ับความนยิ มเป็นอย่างมาก เพราะสามารถติดต่อสอ่ื สาร
กันได้อย่างทวั่ ถึงและทว่ั โลก แต่การติดต่อสอื่ สารทีด่ ีน้ันจะตอ้ งสือ่ สารอยา่ งมีมารยาท ไม่ว่าจะเป็นการใช้
ภาษาท่สี ุภาพ การตรวจสอบข้อมูลให้ถกู ต้องก่อนส่งต่อให้ผ้อู ่นื และไมเ่ ผยแพรข่ ้อความหรอื ภาพ
ทีผ่ ดิ กฎหมาย
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี ินัย รับผดิ ชอบ
- ทักษะการแลกเปล่ยี นข้อมลู 2. ใฝเ่ รยี นรู้
- ทักษะการสื่อสาร 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทกั ษะการสงั เกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
- ทักษะการทำงานรว่ มกนั
- ทกั ษะการสำรวจ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทักษะการสืบค้นข้อมลู
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่ัวโมงที่ 1-2
ขัน้ นำ
ขั้นที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “ปัจจบุ ันนี้เราตดิ ต่อสื่อสารกันผ่านทาง
ช่องทางใดไดบ้ ้าง”
(แนวตอบ : โทรศัพท์มอื ถือ สังคมออนไลนต์ ่าง ๆ เช่น Facebook Line Twitter เป็นต้น)
2. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อวา่ “การตดิ ต่อสือ่ สารท่ีดผี ่านอินเทอรเ์ นต็ ควรทำอย่างไร”
(แนวตอบ : ใชภ้ าษาสภุ าพและถูกตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ หลกี เลยี่ งการใช้ภาษาที่ดถู ูก
เหยียดหยามผูอ้ ืน่ ไมเ่ ผยแพร่ข้อความหรือภาพที่ผดิ กฎหมายหรือขัดกบั ศีลธรรมอันดีงาม
ของสงั คมไทย)