The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ป5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ดลพฤกษ์ ทันเจริญ, 2020-10-11 06:12:44

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ป5

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คอมพิวเตอร์ ชั้น ป5

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่อื ง การตรวจสอบข้อผดิ พลาดของ
โปรแกรม
2) ใบงานที่ 2.4.1 เร่ือง การตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม
3) เคร่ืองคอมพิวเตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพวิ เตอร์
2) อินเทอร์เนต็

ใบงานที่ 2.4.1

เร่อื ง การตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม

คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนอา่ นสถานการณ์และเงอ่ื นไขท่กี ำหนดให้อย่างละเอียด จากน้ันให้นกั เรยี น
เขียนโปรแกรม จากข้อมูลที่กำหนดให้ขา้ งต้นด้วยโปรแกรม Scratch

สถานการณ์ :
แมนต้องการเขียนโปรแกรมตรวจสอบการรบั ประทานอาหารเช้าของนักเรียนภายในหอ้ งเรียน
โดยมีเงอื่ นไข ดังน้ี
1. ถ้าตอบ “0” ให้แสดงคำวา่ “ไม่ได้ทานอาหารเช้า”
2. ถา้ ตอบ “1” ให้แสดงคำว่า “ทานอาหารเช้าแลว้ ”

จงเขียนโปรแกรมตามรายละเอียดข้างต้นด้วยโปรแกรม Scratch

ใบงานที่ 2.4.1 เฉลย
เร่อื ง การตรวจสอบข้อผดิ พลาดของโปรแกรม

คำชี้แจง : ให้นกั เรียนอา่ นสถานการณแ์ ละเง่ือนไขท่กี ำหนดให้อยา่ งละเอยี ด จากนั้นใหน้ ักเรยี น
เขยี นโปรแกรม จากข้อมูลที่กำหนดใหข้ ้างตน้ ด้วยโปรแกรม Scratch

สถานการณ์ :
แมนตอ้ งการเขยี นโปรแกรมตรวจสอบการรับประทานอาหารเช้าของนักเรยี นภายในห้องเรียน
โดยมีเงือ่ นไข ดงั นี้
1. ถ้าตอบ “0” ใหแ้ สดงคำว่า “ไม่ได้ทานอาหารเช้า”
2. ถา้ ตอบ “1” ใหแ้ สดงคำว่า “ทานอาหารเชา้ แล้ว”

จงเขียนโปรแกรมตามรายละเอียดขา้ งตน้ ด้วยโปรแกรม Scratch
เวอรช์ ัน่ ภาษาไทย

เวอรช์ ั่นภาษาอังกฤษ

ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ

คำชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ทก่ี ำหนดให้ และภาพการเขยี นโปแกรมโดยใช้ Scratch
วา่ สอดคล้องกนั หรือไม่ หากมขี ้อผิดพลาดใหน้ ักเรยี นหาจุดผดิ พลาดและทำการแก้ไขใหถ้ กู ต้อง

12

34

56

จากภาพสถานการณ์ด้านบนให้นกั เรยี นพิจารณาการเขียนโปรแกรมในการพาเจา้ แมวน้อยไปหาเปด็
โดยใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการเขยี นดว้ ยโปแรกรม Scratch และจากโปรแกรมทก่ี ำหนดใหม้ า มบี างส่วนทผ่ี ิด
ทำใหเ้ กิดขอ้ ผิดพลาดดงั นน้ั จงึ ใหน้ ักเรียนหาจดุ ที่ผดิ พลาดแล้วทำการแก้ไขให้ถูกต้อง

การเขียนโปรแกรมโดยใช้ Scratch การแก้ไขโปรแกรมคำส่งั
โปรแกรมคำสั่ง

ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมโดยใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาสถานการณ์ท่กี ำหนดให้ และภาพการเขยี นโปแกรมโดยใช้ Scratch
ว่าสอดคล้องกนั หรือไม่ หากมขี อ้ ผิดพลาดให้นกั เรยี นหาจดุ ผดิ พลาดและทำการแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง

12

34

56

จากภาพสถานการณด์ ้านบนใหน้ กั เรยี นพิจารณาการเขียนโปรแกรมในการพาเจ้าแมวน้อยไปหาเป็ด
โดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการเขยี นด้วยโปแรกรม Scratch และจากโปรแกรมท่กี ำหนดให้มา มีบางส่วนทผ่ี ิด

ทำใหเ้ กิดข้อผดิ พลาดดงั นนั้ จึงใหน้ ักเรยี นหาจุดทผี่ ดิ พลาดแล้วทำการแก้ไขให้ถูกต้อง

การเขียนโปรแกรมโดยใช้ Scratch การแกไ้ ขโปรแกรมคำส่งั
โปรแกรมคำสงั่

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ี
ตรงกับระดับคะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ตอ้ งของเนือ้ หา 
2 ความคิดสรา้ งสรรค์  
3 วิธีการนำเสนอผลงาน  
4 การนำไปใชป้ ระโยชน์  
5 การตรงต่อเวลา  


รวม

ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............/................./...................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางสว่ น

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล

คำช้แี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคดิ เหน็ 
2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน  
3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย  
4 ความมนี ้ำใจ  
5 การตรงต่อเวลา  


รวม

เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............/.................../................
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดมี าก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่

คำช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ี
ตรงกับระดับคะแนน

ลำดับที่ ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม
ของนกั เรียน ความคดิ เหน็ ฟงั คนอืน่ ตามที่ได้รบั สว่ นรว่ มใน 15
มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกลุ่ม

321321321321321

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............./.................../...............

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดมี าก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ี

ตรงกับระดบั คะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 32 1

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้

กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่

โรงเรียน

1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลักศาสนา

1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทีเ่ กีย่ วกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขึน้

2. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ีถูกตอ้ งและเป็นจรงิ

2.2 ปฏิบัตใิ นสง่ิ ทีถ่ กู ต้อง

3. มวี ินยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครัว

มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้

4.2 รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เช่อื ฟงั คำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง

4.4 ตั้งใจเรียน

5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและส่ิงของของโรงเรียนอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่

5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน

6. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย

6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสำเรจ็

7. รักความเปน็ ไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย

7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน

8.2 รู้จกั การดูแลรกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละสิ่งแวดลอ้ มของหอ้ งเรยี นและ

โรงเรียน

ลงช่อื ..................................................ผู้ประเมนิ
............/.................../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี
พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างคร้งั 30–40 พอใช้
ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมทม่ี ีการใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะอยา่ งง่าย ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข

รายการ เกณฑก์ ารประเมนิ (ระดับคุณภาพ) ระดับ
คณุ ภาพ
ประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
ดีมาก
1. การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ ออกแบบโปรแกรมด้วย ออกแบบโปรแกรมดว้ ย ออกแบบโปรแกรมดว้ ย ไม่สามารถออกแบบ
ดี
ภาษา Scratch โปรแกรม Scratch ไดด้ ี โปรแกรม Scratch ได้ดี โปรแกรม Scratch ได้ โปรแกรมดว้ ยโปรแกรม
พอใช้
มาก พอใช้ Scratch ได้

2. การตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ ไมส่ ามารถตรวจสอบ

ข้อผดิ พลาดของโปรแกรม ข้อผิดพลาดและแก้ไข ขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไข ขอ้ ผิดพลาดและแก้ไข ข้อผิดพลาดและแกไ้ ข

โปรแกรมไดด้ มี าก โปรแกรมไดด้ ี โปรแกรมได้พอใช้ โปรแกรมได้

3. ความสมบรู ณ์ของผลงาน ผลงานมคี วามครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถว้ น

สมบูรณด์ มี าก สมบูรณค์ อ่ นข้างดี สมบูรณ์ดเี ปน็ บางส่วน สมบรู ณน์ ้อย

4. ส่งงานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา สง่ ภาระงานชา้ กว่า สง่ ภาระงานชา้ กวา่ ส่งภาระงานช้ากวา่
กำหนด 2 วนั กำหนดเกนิ 3 วนั ข้นึ ไป ปรับปรงุ
ทีก่ ำหนด กำหนด 1 วัน

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

14 - 16 ดีมาก

10 - 13 ดี

7 - 9 พอใช้

1 - 6 ปรบั ปรงุ

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3

ข้อมูลสารสนเทศ

เวลา 12 ชั่วโมง
1. ผลการเรยี นรู้

1. เพ่อื ให้ผู้เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เพื่อให้ผเู้ รยี นมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปญั หาเปน็ ข้ันตอนและเป็นระบบ
3. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีทักษะในการตั้งคำถาม หรือกำหนดปัญหาเกยี่ วกบั สิ่งทจ่ี ะเรียนรตู้ ามที่กำหนดให้ หรอื ตาม
ความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานทส่ี อดคล้องกบั คำถาม
4. เพ่อื ให้ผู้เรยี นวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใชเ้ ครือ่ งมอื อปุ กรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเหมาะสมใน
การเก็บรวบรวมข้อมลู ทง้ั เชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ
5. เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นคน้ หาข้อมลู อย่างมีประสทิ ธิภาพและประเมินความนา่ เชอื่ ถือ ตดั สนิ ใจเลือกข้อมูล ใหเ้ หตุผลเชงิ
ตรรกะในการแก้ปัญหา
6. เพ่อื ให้ผเู้ รียนนำความรคู้ วามเขา้ ใจในวิชาวทิ ยาการคำนวณไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชวี ิต
7. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนพฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ญั หาและการจัดการทักษะใน
การสื่อสาร ความสามารถในการตัดสนิ ใจ
8. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นเป็นผู้มจี ิตวิทยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
อย่างสรา้ งสรรค์
2. สาระการเรียนรู้
2.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1) การคน้ หาข้อมูลในอนิ เทอรเ์ น็ต และการพจิ ารณาผลการคน้ หา
2) การประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล เช่น เปรยี บเทียบความสอดคล้อง สมบรู ณ์ของข้อมลู

จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของขอ้ มลู ผู้เขยี น วันที่เผยแพร่ข้อมูล
3) ข้อมลู ท่ีดตี อ้ งมรี ายละเอียดครบทกุ ดา้ น เช่น ขอ้ ดแี ละข้อเสีย ประโยชน์และโทษ
4) การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สร้างทางเลือกประเมินผลจะทำให้ได้สารสนเทศเพ่ือใชใ้ น

การแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธภิ าพ
5) การใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บริการบนอินเทอรเ์ นต็ ทห่ี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล

สรา้ งทางเลือก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะชว่ ยใหก้ ารแกป้ ญั หาทำได้อย่างรวดเร็ว ถกู ต้อง และ
แมน่ ยำ
6. ตวั อย่างปญั หา เช่น ถา่ ยภาพ และสำรวจแผนทใ่ี นท้องถนิ่ เพอ่ื นำเสนอแนวทางในการจดั การ
พื้นท่วี ่างให้เกิดประโยชน์ ทำแบบสำรวจความคิดเหน็ ออนไลน์ และวเิ คราะห์ข้อมูล นำเสนอข้อมูล
โดยใช้ blog หรือ web page

3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

ขอ้ มูล คือ ข้อเท็จจรงิ ท่เี ก่ียวข้องกบั สิง่ ต่าง ๆ สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ ข้อมูล

ตวั อักขระ ข้อมลู ภาพ ข้อมลู ตัวเลข ขอ้ มูลเสียง และข้อมลู อื่น ๆ การคน้ หาข้อมลู เพอื่ ทำการส่งิ ใดสิง่ หนึ่ง

ตอ้ งพิจารณาข้อมูลทดี่ ที ี่สุด ซึ่งข้อมูลท่ีอยู่รอบตวั เรามีจำนวนมาก ข้อมลู บางอย่างสามารถนำมาใชไ้ ด้ทันที

และข้อมลู บางอยา่ งจะต้องนำไปประมวลผลใหเ้ ป็นสารสนเทศก่อนนำมาใชง้ าน เพ่ือใหน้ ำขอ้ มูลไปใชไ้ ด้

อยา่ งสะดวกและเกิดประโยชนส์ งู สุด ปัจจุบนั ไดม้ ีการคน้ หาข้อมูลที่รวดเรว็ โดยใช้เว็บไซต์ทเี่ รยี กวา่ Search

Engine ในการสบื ค้นข้อมลู จากแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ จะต้องมีการประเมนิ ความถูกต้อง ความน่าเช่อื ถือของ

ข้อมูลเพื่อให้ได้ขอ้ มูลที่ตรงตามความต้องการ

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ

- ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้

- ทกั ษะการแลกเปล่ยี นข้อมูล 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

2. ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคดิ วิเคราะห์

- ทกั ษะการคิดอย่างสรา้ งสรรค์

- ทักษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

- ทักษะการสังเกต

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

- ทกั ษะการทำงานร่วมกัน

- ทักษะการสำรวจ

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

- ทกั ษะการสบื ค้นข้อมูล

- ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ข้อมลู สารสนเทศ

6. การวดั และการประเมนิ ผล

รายการวัด วธิ ีวดั เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

6.1 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ตรวจช้ินงาน/ภาระ - แบบประเมินชิน้ งาน ระดบั คุณภาพ 2

(รวบยอด) เร่อื ง ข้อมลู งาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
สารสนเทศ

รายการวัด วธิ วี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน
6.2 การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง
กอ่ นเรยี น
- แบบทดสอบก่อนเรียน - ใบงานที่ 3.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 - ตรวจใบงานที่ 3.1.1
เร่ือง ขอ้ มลู สารสนเทศ - ใบงานท่ี 3.2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
6.3 ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรม - ตรวจใบงานที่ 3.2.1 - ใบงานที่ 3.3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การเรียนรู้ - ตรวจใบงานท่ี 3.3.1 - ใบงานที่ 3.4.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1) ประเภทของข้อมลู - ตรวจใบงานท่ี 3.4.1 - ใบงานท่ี 3.5.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2) ลกั ษณะของขอ้ มลู ท่ีดี - ตรวจใบงานที่ 3.5.1 - ใบงานท่ี 3.6.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
3) แหล่งข้อมูล - ตรวจใบงานท่ี 3.6.1
4) การรวบรวมข้อมูล - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
5) การประมวลผลข้อมลู - ประเมินการนำเสนอ การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
6) การสบื ค้นข้อมลู ดว้ ย ผลงาน - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
อนิ เทอรเ์ นต็ - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
7) การนำเสนอผลงาน การทำงานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
- สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
8) พฤตกิ รรมการทำงาน การทำงานกลุ่ม - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
รายบคุ คล - สงั เกตความมวี ินยั คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
ความรับผิดชอบ อนั พงึ ประสงค์
9) พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ัน ประเมินตามสภาพจริง
ในการทำงาน - แบบทดสอบหลังเรยี น
10) คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรียน
6.4 การประเมินหลังเรียน
- แบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
เร่ือง ข้อมลู สารสนเทศ

7. กิจกรรมการเรียนรู้
นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ

เรอ่ื งท่ี 1 : รู้จกั ข้อมลู 2 ช่ัวโมง

วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบใชป้ ญั หาเป็นฐาน (Problem–basedLearning)

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้ันนำ

ครูถามคำถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรยี นวา่ “ข้อมูลที่อย่รู อบ ๆ ตัวนกั เรยี นมีอะไรบา้ ง”
และอธิบายกับนกั เรียนเพือ่ เช่ือมโยงเข้าสู่บทเรยี นว่า“นกั เรียนจะเปน็ ไดว้ ่าในการดำรงชีวิต
ประจำวนั ของมนุษยจ์ ะต้องเก่ียวขอ้ งกบั ข้อมลู ตลอดเวลาไม่ว่าจะเปน็ ชื่อ-นามสกุล นำ้ หนัก
สว่ นสงู ทีอ่ ยู่ ภาพถ่าย ภาพจากโทรทศั น์ ข่าวสารจากวิทยุ”

ข้นั สอน

ขั้นท่ี 1 กำหนดปัญหา
1. ครูถามคำถามประจำหวั ขอ้ ว่า“นกั เรยี นคิดว่าข้อมลู ที่ดีควรมีลกั ษณะอยา่ งไร”

ข้ันที่ 2 ทำความเขา้ ใจกับปัญหา
2. ครใู หน้ ักเรยี นสบื ค้นความหมายของขอ้ มูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ของตนเอง
3. ครอู ธบิ ายข้อสรุปกับนักเรียนเกยี่ วกับความหมายของข้อมูลจากหนังสือเรียน

ขน้ั ที่ 3 ดำเนินการศึกษาคน้ ควา้
4. นักเรยี นสังเกตและศึกษาการจดบันทกึ เร่ืองราวการไปท่องเทย่ี วจากตัวอย่างในหนังสอื เรียน
5. ครูถามนักเรียนวา่ “จากการศึกษาตัวอย่างสถานการณน์ ักเรียนพบข้อมูลใดบา้ ง”
6. นักเรยี นทำกจิ กรรมฝึกทักษะในหนงั สือเรยี น โดยใหน้ กั เรียนสำรวจตนเองและบันทึกข้อมูล
ส่วนตวั ลงในสมุด แลว้ นำข้อมูลไปจดั ทำประวัติสว่ นตัว พรอ้ มตกแต่งใหส้ วยงามโดยใช้
โปรแกรมไมโครซอฟต์เวริ ์ด และใหน้ กั เรยี นออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรียน
7. นักเรียนศกึ ษาเน้อื หา เรือ่ ง ประเภทของขอ้ มูลจากหนงั สอื เรียนหรือสบื คน้ จากอนิ เทอร์เนต็

ข้นั ที่ 4 สังเคราะหค์ วามรู้
8. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน โดยใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั เขยี นข้อมลู ที่พบภายใน
โรงเรยี นใหม้ ากทสี่ ดุ และใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมาเติมคำตอบบนกระดาน
หนา้ ช้นั เรียน โดยแต่ละกล่มุ จะต้องตอบไม่ซ้ำกนั
9. ครใู ช้ปากกาสตี า่ ง ๆ วาดรูปวงกลมบนกระดานหนา้ ช้ันเรยี นจำนวน 5 รูป จากนัน้ ให้นักเรียน
ภายในชนั้ เรียนรว่ มกันแยกข้อมลู บนกระดานและนำไปใสใ่ นวงกลมตา่ ง ๆ ตามประเภทของ
ข้อมูลในหนังสอื เรียน

10. นกั เรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ โดยใหน้ กั เรยี นพิจารณาภาพ และสามารถบอกไดว้ ่างส่ิงนั้น
จดั เป็นข้อมลู ประเภทใด พรอ้ มลงมอื ทำใบงานที่ 3.1.1 เรอื่ ง ประเภทของข้อมลู

ข้นั ที่ 5 สรุปและประเมนิ ค่าของคำตอบ
11. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสัย และครใู ห้ความรเู้ พิ่มเติมในส่วนนัน้ หรอื อาจจะให้

นักเรยี นศึกษาเพิ่มเตมิ จากอนิ เทอร์เน็ต จากนั้นครถู ามคำถามประจำหวั ข้อกบั นักเรยี นวา่
“นักเรยี นคดิ ว่าข้อมูลทดี่ ีควรมีลกั ษณะอย่างไร”
ขน้ั ที่ 6 นำเสนอและประเมินผลงาน
12. ครูประเมนิ ผลนกั เรยี น จากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตัว
ของนักเรียน
13. ครูตรวจสอบความถูกต้อง ของผลงานการทำใบงานท่ี 3.1.1 และกิจกรรมฝกึ ทักษะ

ขั้นสรุป

นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรุปเก่ียวกบั ข้อมูลทน่ี ิยมใช้ในชวี ิตประจำวนั ความหมายของขอ้ มูล
และประเภทของข้อมลู วา่ “ข้อมลู เกดิ จากการสังเกต การจดบันทึกการสัมภาษณ์ การสอบถาม
และข้อมลู ท่ีอยูร่ อบ ๆ ตวั สามารถแบง่ ออกได้เป็น 5 ประเภท ไดแ้ ก่ ข้อมูลตัวอกั ขระ , ข้อมลู ภาพ
ขอ้ มูลตวั เลข , ข้อมลู เสยี ง และข้อมูลอ่นื ๆ”

เรื่องท่ี 2 : ลกั ษณะของขอ้ มลู ท่ดี ี 2 ชว่ั โมง

วธิ ีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ช่วั โมงท่ี 1

ขน้ั นำ

ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
ครูทบทวนความรเู้ ดิมของนกั เรยี นเกย่ี วกับความหมายและประเภทของข้อมลู พร้อมถามนักเรยี น
ว่า“นกั เรียนคดิ ว่าข้อมลู บนกระดานมีความสมบูรณ์หรือไม่ ถา้ ยงั ไม่สมบรู ณแ์ ละนำข้อมูลเหลา่ น้ี
ไปใชจ้ ะเกดิ ผลอย่างไร”

ข้นั สอน

ข้ันที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนศกึ ษาลักษณะของข้อมูลท่ดี จี ากหนังสือเรยี น หรอื สืบคน้ จากอนิ เทอร์เน็ต โดยครู
สมุ่ นกั เรียน 2-3 คน ออกมาอภิปรายหน้าชั้นเรียนเก่ยี วกับข้อมลู ที่ไดด้ ำเนินการศึกษา
หนา้ ชั้นเรียน

ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมกบั นักเรียนเกี่ยวกบั ลักษณะของข้อมลู ทีด่ ี
3. นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทกั ษะในหนงั สอื เรยี น และทำใบงานท่ี 3.2.1 เรื่อง ลักษณะของ
ข้อมูลที่ดี และเปิดโอกาสให้ศึกษาเน้ือหา เรือ่ ง ประโยชนข์ องข้อมลู จากหนังสอื เรยี น หรือ
สบื ค้นข้อมลู เพ่มิ เติมจากอนิ เทอร์เนต็
4. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน เพือ่ ทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะในหนงั สือเรยี น และให้
นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน

ขัน้ สรปุ

ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลนักเรยี น จากการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตัวของนักเรยี น
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ
3. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั ลกั ษณะของขอ้ มลู ทีด่ ีและขอ้ มลู ที่สามารถนำมาใช้
ประโยชน์ไดใ้ นดา้ นตา่ ง ๆ และในชีวิตประจำวันประโยชน์ของข้อมูล

เรอ่ื งที่ 3: แหล่งข้อมลู 2 ชว่ั โมง

วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชั่วโมงท่ี 1

ขั้นนำ

ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
ครูทบทวนความรเู้ ดิมของนกั เรียนเกยี่ วกบั ลักษณะของข้อมูลทีด่ ี และประโยชน์ของการนำ
ข้อมูลไปใช้ และถามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นว่า“ถา้ ต้องการข้อมูลตา่ ง ๆ
มาจัดทำรายงานจะสามารถสืบค้นข้อมลู จากทีใ่ ดไดบ้ า้ ง”

ขนั้ สอน

ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรียนแตล่ ะคนสืบค้นความหมายของแหลง่ ข้อมูลจากอินเทอร์เนต็ ที่เคร่อื งคอมพวิ เตอร์
ของตนเอง และศึกษาเน้ือหาเกยี่ วกับประเภทของแหลง่ ข้อมลู จากหนงั สอื เรียน และสงั เกต
สถานการณต์ วั อย่างการหาข้อมลู จากแหล่งข้อมูลปฐมภูมแิ ละแหล่งข้อมลู ทตุ ยิ ภมู ิ

ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
2. ครูสุม่ นักเรียน 2-3 คน ออกมาอภิปรายหนา้ ช้นั เรยี นเกี่ยวกับความแตกตา่ งของแหลง่ ข้อมูล
ปฐมภมู ิและแหลง่ ข้อมูลทตุ ิยภมู ิ
3. นกั เรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ โดยให้นักเรียนพิจารณาภาพทีก่ ำหนดให้ และบอกได้ว่าเปน็
แหลง่ ข้อมลู ประเภทใด จากน้ันบนั ทกึ ลงในสมุดประจำตวั และสมุ่ นกั เรียน 2-3 คน ออกมา
นำเสนอหนา้ ช้ันเรียน พร้อมกับอภิปรายรว่ มกนั ในห้องเรียน

ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
4. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 3.3.1 เรื่อง แหลง่ ข้อมูล เปน็ การบ้านและนำมาส่งในชวั่ โมงถดั ไป

ขนั้ สรุป

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลนักเรยี น จากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตัว
ของนักเรียน และตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 3.3.1 และกิจกรรมฝกึ ทักษะ
2. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ เก่ียวกบั ข้อมูลและแหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ท่ีพบได้ในชวี ติ ประจำวัน
ไมว่ า่ จะเป็นแหลง่ ข้อมูลปฐมภมู หิ รือแหลง่ ข้อมลู ทตุ ิยภมู ิ

เรอ่ื งท่ี 4 : การรวบรวมขอ้ มลู 2 ชว่ั โมง

วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชัว่ โมงท่ี 1

ข้นั นำ

ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
ครทู บทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับแหลง่ ข้อมูล พร้อมกบั ใหน้ ักเรียนยกตัวอย่างของแหล่งข้อมูล
แตล่ ะประเภท และถามนักเรียนว่า“ขอ้ มลู ทน่ี ักเรียนแตล่ ะคนมานำเสนอหน้าชน้ั เรียนนั้น
นกั เรยี นไดม้ าดว้ ยวิธใี ด” และ“ถา้ นกั เรยี นต้องการทำรายงานนักเรยี นจะมวี ิธีการรวบรวมข้อมูล
อย่างไร”

ขน้ั สอน

ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรียนสืบคน้ ความหมายของการรวบรวมขอ้ มูลจากอินเทอรเ์ น็ตและสุ่มนักเรยี น 2-3 คน
ออกมานำเสนอหนา้ ช้ันเรียน พรอ้ มกับอภิปรายรว่ มกันในห้องเรียน
2. นักเรยี นศึกษาการรวบรวมข้อมูลจากหนงั สอื เรียนหรือสืบค้นเพิ่มเติมเพ่ือขยายความ
เข้าใจจากทางอนิ เทอรเ์ น็ต

ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
3. ครอู ธิบายถงึ ขัน้ ตอนการรวบรวมข้อมลู และให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ เพ่ือรวบรวมข้อมลู ในประเด็น
ท่นี ักเรยี นสนใจ จากนั้นบันทึกลงในใบงานที่ 3.4.1 เร่อื ง การรวบรวมขอ้ มลู
4. ครอู ธบิ ายวธิ ีการรวบรวมข้อมูล และเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมกลมุ่ อย่างอสิ ระ และ
ให้แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานำเสนอหน้าช้นั เรียน และถามคำถามท้าทายการคดิ ขน้ั สงู ว่า
“ในการรวบรวมข้อมลู ถา้ ขาดข้ันตอนการวางแผนและพจิ ารณาเลอื กแหล่งข้อมลู จะส่งผล
อยา่ งไรบ้าง”

ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
5. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสอื เรียน และให้ ออกมานำเสนอ
แนวทางการรวบรวมข้อมลู เพื่อจดั ทำแบบสำรวจความคิดเหน็ หนา้ ชัน้ เรียน

ขั้นสรุป

ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลงานของนักเรยี น จากการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และ
สมุดประจำตวั

2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ
3. นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ เก่ียวกับขนั้ ตอนการรวบรวมข้อมลู

เรอ่ื งท่ี 5: การประมวลขอ้ มูล 2 ชั่วโมง

วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชวั่ โมงท่ี 1

ข้นั นำ

ขนั้ ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
นกั เรียนแต่ละกล่มุ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลการจดั ทำแบบสำรวจความคดิ เหน็ ของนักเรยี น
พรอ้ มถามคำถามกับนักเรียนว่า“นกั เรยี นมีวิธีการจดั การกับข้อมลู อยา่ งไร” และ“การเลือก
รับประทานอาหารกลางวันในโรงอาหาร นกั เรียนจะต้องมขี ้อมูลใดบา้ งเพื่อชว่ ยในการตัดสนิ ใจ”

ขน้ั สอน

ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรยี นแตล่ ะคนคน้ หาความหมายของการประมวลผลขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ต จากน้นั ครสู มุ่
นกั เรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอข้อมลู หน้าช้นั เรียน พรอ้ มกับอภิปรายร่วมกนั ในห้องเรียน

ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
2. นักเรียนศกึ ษาการประมวลผลขอ้ มลู จากสถานการณต์ วั อย่างในหนังสือเรียนรายวิชา
3. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเกีย่ วกบั การประมวลผลขอ้ มลู และให้นักเรยี นดูตวั อยา่ งแนวทางการสรา้ ง
ทางเลือกในการประมวลผลจากสถานการณ์ในหนังสือเรยี น

ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
4. นักเรียนจับคู่กบั เพ่ือนทีน่ ั่งขา้ ง ๆ เพื่อทำกจิ กรรมฝึกทักษะและให้นักเรียนแตล่ ะค่อู อกมา
นำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน และทำใบงานท่ี 3.5.1 เรอื่ ง การประมวลผลข้อมลู จากนนั้
นำมาสง่ ในช่วั โมงถดั ไป

ขั้นสรุป

ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลงานนักเรียนจากการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตัว
2. ครตู รวจสอบผลงาน จากการทำใบงานและกจิ กรรมฝึกทักษะ
3. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ เน้ือหาเก่ียวกับขัน้ ตอนการประมวลผลขอ้ มลู การพจิ ารณา และ
การเปรียบเทียบข้อมลู

เร่ืองที่ 6: การสืบค้นขอ้ มูลโดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ต 2 ช่วั โมง

วธิ กี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั นำ

ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
ครถู ามกระตุน้ ความสนใจของนกั เรยี นว่า“โดยปกติแล้วถ้านักเรยี นต้องการจดั ทำรายงาน หรือ
ต้องการสืบค้นข้อมลู นกั เรยี นสามารถหาข้อมลู ได้จากทใ่ี ดบ้าง” และอธิบายเพ่ือเชื่อมโยงเขา้ สู่
บทเรยี น

ขั้นสอน

ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. ครูให้นกั เรยี นแต่ละคนสืบค้นข้อมลู เกี่ยวกับ เรอื่ ง ที่มาของคอมพิวเตอร์ จากนัน้ สมุ่ ถาม
นักเรยี นเกีย่ วกบั คำท่ใี ช้คน้ หาในเว็บ Search Engine และเปดิ โอกาสให้นักเรียนศึกษา
เรอื่ ง การสืบค้นขอ้ มูลโดยใชอ้ ินเทอร์เนต็ จากหนังสอื เรยี น

ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
2. นักเรียนจบั คูก่ บั เพ่ือนท่นี ั่งขา้ ง ๆ เพอ่ื ทำใบงานท่ี 3.6.1 เร่อื ง การสืบค้นข้อมูลดว้ ยอนิ เทอร์เนต็
3. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะ และอธบิ ายเพม่ิ เติมเกี่ยวกับการสบื คน้
ขอ้ มูล และการประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของข้อมูลจากหนังสอื เรียน

ข้นั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
4. นักเรียนแต่ละคู่ทำกิจกรรมฝึกทักษะ และออกมานำเสนอขอ้ มลู ที่ไดส้ ืบคน้ หน้าช้นั เรยี น

ขน้ั สรุป

ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครนู ำนกั เรยี นเล่นเกมแยกหมวดหมู่ของข้อมลู และให้นักเรียนประเมนิ ผลตนเองหลังเรียนจบหน่วย
2. ครูประเมินผลนักเรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตวั
3. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกจิ กรรมฝกึ ทักษะ
4. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรุปเกี่ยวกับการสบื ค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เนต็ และการประเมนิ
ความนา่ เชอื่ ถือของข้อมลู และทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนที่ 3 เร่ือง
ข้อมลู สารสนเทศ จากน้ันทำกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรจู้ ากหนงั สือเรยี น และทำชิน้ งาน/
ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง ข้อมลู สารสนเทศ

8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ข้อมลู สารสนเทศ
2) ใบงานท่ี 3.1.1 เรือ่ ง ประเภทของข้อมูล
3) ใบงานท่ี 3.2.1 เรื่อง ลักษณะของข้อมลู ที่ดี
4) ใบงานที่ 3.3.1 เร่อื ง แหล่งข้อมูล
5) ใบงานที่ 3.4.1 เรือ่ ง การรวบรวมขอ้ มูล
6) ใบงานท่ี 3.5.1 เรอ่ื ง การประมวลผลข้อมลู
7) ใบงานที่ 3.6.1 เรอ่ื ง การสบื ค้นข้อมูลด้วยอนิ เทอร์เน็ต
8) เคร่อื งคอมพวิ เตอร์
9) ปากกาสีตา่ ง ๆ

8.2 แหลง่ การเรียนรู้

1) อินเทอร์เน็ต

2) หอ้ งคอมพวิ เตอร์

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3

คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อมูล (Data) หมายถึงข้อใด

ก. ข้อควรรู้เกีย่ วกับข้อมูลตา่ ง ๆ

ข. ข้อสรุปแหง่ องค์ความรู้

ค. ขอ้ สนั นษิ ฐานในการสบื คน้ ขอ้ มูล 6. จากภาพ เดก็ ผหู้ ญิงดา้ นซ้ายมือจะได้รับขอ้ มูล

ง. ขอ้ เท็จจรงิ ทีเ่ กีย่ วข้องกับส่ิงต่าง ๆ ที่เกดิ ข้ึน ชนดิ ใด

จากการสังเกต จดบันทึก หรอื การสมั ภาษณ์ ก. ขอ้ มูลภาพ

2. ข้อใดต่อไปน้ีถือวา่ เป็นข้อมูลอักขระ ข. ข้อมูลตัวเลข

ก. จำนวนเงิน ค. ขอ้ มลู เสยี ง

ข. ทะเบยี นรถ ง. ข้อมูลตัวอักษร

ค. ราคาสนิ คา้ 7. ข้อใดต่อไปน้ีคอื ลักษณะข้อมลู ทด่ี ี

ง. กล่ินดอกไม้ ก. ขอ้ มลู ที่ทันสมัยแต่ไมเ่ ป็นความจริง

3. ขอ้ ใดคือข้อมูลตัวเลข ข. ขอ้ มูลที่มีความถกู ต้องเช่อื ถอื ได้

ก. คะแนนสอบวชิ าต่าง ๆ ค. ข้อมลู ท่ีสมบูรณ์แต่ไม่มีแหลง่ อา้ งอิง

ข. ปา้ ยทะเบียนรถ ง. ขอ้ มลู จากการสัมภาษณ์ผู้ทีร่ ู้ไมจ่ ริง

ค. เลขท่บี ัตรประชาชน 8. การรวบรวมคา่ แรงพนักงาน จัดอยใู่ นการประมวลผล

ง. บ้านเลขท่ี ตามขอ้ ใด

4. ข้อใดไมใ่ ช่คุณสมบัติของข้อมลู สารสนเทศทีด่ ี ก. การคำนวณ

ก. มีความนา่ เชอ่ื ถือ ข. การหาค่าของผลงาน

ข. มคี วามชดั เจน ค. การประมวลผล

ค. มคี วามทันสมัย ง. การประเมินผล

ง. มภี าษาทไี่ พเราะ 9. การสืบค้นขอ้ มูลผ่านอินเทอรเ์ น็ตโดยใช้เว็บไซต์

5. ข้อใดเปน็ ประโยชน์ท่ีได้จากขอ้ มลู www.google.com สามารถคน้ หาไดห้ ลายวธิ ี

ก. ทำให้เกง่ ข้นึ ยกเวน้ ข้อใด

ข. ทำให้ทราบข้อมลู ที่แทจ้ ริง ก. การคน้ หาข้อมลู โดยใชค้ ยี ์เวิร์ด

ค. ทำใหต้ ดั สินใจผดิ พลาด ข. การค้นหาข้อมูลตามหมวดหมู่

ง. เกิดความสนกุ และผ่อนคลาย ค. การคน้ หาข้อมูลจากแหล่งอ้างอิง

ง. การคน้ หาข้อมูลจากสารบัญ

10. ขอ้ ใดคือการตรวจสอบความน่าเช่อื ถอื ของ
แหล่งข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ น็ต
ก. ไมม่ ีการระบุชอ่ื ผเู้ ขยี นบทความหรือผูใ้ ห้
ข้อมลู บนเว็บไซต์
ข. มกี ารอ้างองิ หรือระบุแหลง่ ท่ีมาของข้อมลู
ของเน้อื หาท่ีปรากฏบนเว็บไซต์
ค. ไมส่ ามารถเชื่อมโยง (Link) ไปเว็บไซต์อ่นื
ท่ีอ้างถึงได้
ง. เน้ือหาบนเวบ็ ไซต์ขดั ตอ่ กฎหมาย ศีลธรรม
และจริยธรรม

เฉลย 1. ง 2. ข 3. ก 4. ง 5. ข 6. ค 7. ข 8. ก 9. ง 10. ข

แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3

คำชี้แจง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. สิง่ ทีเ่ รานำมาใช้ในการคำนวณหมายถงึ ข้อใด 6. ข้อใดคือลักษณะของข้อมูลทีไ่ มด่ ี

ก. ข้อมูล ก. ข้อมลู มีความถูกต้องและทันสมัย

ข. ขอ้ มลู ตวั เลข ข. ขอ้ มูลที่ไม่มีแหลง่ อ้างองิ ทเี่ ชอื่ ถอื ได้

ค. ข้อมลู ภาพ ค. ข้อมูลตรงกบั ความต้องการของผใู้ ช้

ง. ข้อมลู เสยี ง ง. ขอ้ มูลมีความเรยี บรอ้ ยสมบูรณ์

2. ข้อใดไม่ใช่ขอ้ มูลตวั อักษร 7. ข้อใดคือคุณสมบัติของข้อมลู ภาพ

ก. ช่ือ - นามสกุล ก. เป็นข้อมลู ทเี่ ปน็ ภาพในลักษณะรปู แบบต่างๆ

ข. ประวัตโิ รงเรยี น ท่ีเรามองเห็น อาจจะเปน็ ภาพนิ่ง หรอื

ค. บา้ นเลขที่ ภาพเคล่ือนไหวก็ได้

ง. คะแนนสอบวชิ าต่าง ๆ ข. เป็นขอ้ มลู ท่เี กิดจากการไดย้ นิ

3. ข้อมลู จากอินเทอรเ์ นต็ หนังสอื วทิ ยุ และ ค. เปน็ ข้อมูลท่ปี ระกอบไปด้วยตัวอกั ษรภาษาไทย

โทรทศั น์ จัดเป็นแหลง่ ขอ้ มูลประเภทใด หรือภาษาต่างประเทศ

ก. แหล่งข้อมูลปฐมบท ง. เป็นข้อมูลที่เราสามารถนำมาใชค้ ำนวณได้

ข. แหลง่ ข้อมลู ปฐมภูมิ หรอื นำมาประมวลผลได้

ค. แหลง่ ขอ้ มูลทตุ ยิ ภูมิ 8. เวบ็ ไซตท์ ีใ่ ช้สำหรบั ค้นหาข้อมูลเรียกว่าอะไร

ง. ข้อมูลทางตรง ก. Search Everything

4. ข้อใดไม่ใช่ขอ้ มลู ตวั เลข ข. Search Event

ก. คะแนนสอบวชิ าต่าง ๆ ค. Search Engine

ข. จำนวนเงิน ง. Search Angle

ค. ราคาสนิ คา้ 9. การค้นหาข้อมลู โดยใช้คยี เ์ วริ ์ด การค้นหาข้อมลู

ง. เลขทบ่ี ัตรประชาชน ตามหมวดหมู่ และการค้นหาขอ้ มลู จากแหล่ง

5. ขั้นตอนแรกของการรวบรวมข้อมูลคือขอ้ ใด อา้ งอิง เปน็ การคน้ หาข้อมลู โดยผา่ นอะไร

ก. วางแผนในการสบื ค้น ก. อินเทอร์เน็ต

ข. กำหนดวตั ถปุ ระสงค์และความต้องการ ข. หนังสือ

ค. พิจารณาแหลง่ ขอ้ มูล ค. สารานุกรม

ง. วิเคราะหค์ วามนา่ เช่อื ถอื ง. วารสาร

10. ขอ้ ใดไม่ใช่ความน่าเชอ่ื ถือของขอ้ มูลท่ีได้มา
จากอินเทอรเ์ น็ต
ก. บอกวตั ถปุ ระสงค์ในการสรา้ งหรือเผยแพร่
ข้อมลู ไวใ้ นเวบ็ ไซต์
ข. มชี อ่ งทางให้ผอู้ า่ นสามารถแสดงความ
คดิ เหน็ ได้
ค. ไมส่ ามารถเช่อื มโยง (Link) ไปเวบ็ ไซตอ์ ่นื
ท่อี ้างถึงได้
ง. มีการระบวุ นั เวลาในการเผยแพรข่ ้อมูล
บนเว็บไซต์

เฉลย 1. ก 2. ง 3. ค 4. ง 5. ข 6. ข 7. ก 8. ค 9. ก 10. ค

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1

รู้จักขอ้ มูล

เวลา 2 ชว่ั โมง
1. ผลการเรียนรู้

1. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. เพอื่ ให้ผเู้ รยี นมีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ
3. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีทกั ษะในการตัง้ คำถาม หรือกำหนดปัญหาเก่ียวกับส่งิ ท่ีจะเรยี นร้ตู ามท่ีกำหนดให้ หรอื ตามความ
สนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สรา้ งสมมติฐานทส่ี อดคล้องกบั คำถาม
4. เพือ่ ให้ผู้เรียนวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใช้เคร่ืองมอื อุปกรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศทเ่ี หมาะสมในการ
เกบ็ รวบรวมข้อมูลทัง้ เชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพ
5. เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนคน้ หาข้อมลู อย่างมปี ระสิทธภิ าพและประเมินความนา่ เชื่อถือ ตดั สนิ ใจเลือกข้อมูล ใหเ้ หตุผลเชิง
ตรรกะในการแกป้ ัญหา
6. เพื่อใหผ้ เู้ รียนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาการคำนวณไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต
7. เพ่อื ให้ผเู้ รียนพฒั นากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปญั หาและการจดั การทักษะในการ
สอื่ สาร ความสามารถในการตัดสินใจ
8. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนเปน็ ผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มในการใช้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ย่าง
สรา้ งสรรค์
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายความหมายของข้อมูลไดถ้ ูกตอ้ ง (K)
2. บอกประเภทของข้อมลู ได้ถกู ต้อง (K)
3. ยกตวั อย่างข้อมลู ท่ีอยู่รอบ ๆ ตัวได้ (K)
4. จำแนกข้อมูลตามประเภทของข้อมูลได้อย่างถูกต้อง (P)
5. เขยี นขอ้ มลู ต่าง ๆ ท่ีพบภายในโรงเรียนและในชวี ติ ประจำวันได้ (P)
6. เห็นความสำคญั ของข้อมูลทนี่ ำไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน (A)
3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- การประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถือของข้อมูล เช่น เปรยี บเทยี บความสอดคล้อง สมบูรณ์ของข้อมูลจากหลาย
แหล่ง แหลง่ ต้นตอของข้อมลู ผู้เขียน วนั ทเี่ ผยแพร่ข้อมูล
- ข้อมูลท่ดี ีต้องมรี ายละเอยี ดครบทกุ ดา้ น เช่น ข้อดี
และข้อเสีย ประโยชน์และโทษ

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ขอ้ มูล คือ ข้อเท็จจริงทีเ่ กี่ยวข้องกบั สงิ่ ต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นคน สตั ว์ สง่ิ ของ หรือเหตกุ ารณ์ โดยอาจจะ

เกดิ ขน้ึ จากการสังเกต การจดบันทกึ การสัมภาษณ์ การสอบถาม นอกจากนัน้ ขอ้ มลู ยังแบ่งออกเปน็ 5 ประเภท

คอื ข้อมูลตัวอักขระ ข้อมูลภาพ ขอ้ มลู ตัวเลข ขอ้ มลู เสยี ง และข้อมลู อนื่ ๆ

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินัย รบั ผิดชอบ

- ทักษะการส่ือสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้

- ทกั ษะการแลกเปลีย่ นข้อมูล 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

2. ความสามารถในการคดิ

- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์

- ทกั ษะการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

- ทักษะการส่ือสาร

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

- ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั

- ทักษะการสำรวจ

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

- ทักษะการสบื ค้นขอ้ มลู

- ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem–based Learning)

ชัว่ โมงท่ี 1

ขน้ั นำ

1. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง ข้อมลู สารสนเทศ เพื่อวดั ความรู้เดิม
ของนักเรยี น

2. ครถู ามคำถามกระต้นุ ความคิดของนักเรยี นวา่ “ข้อมลู ท่ีอย่รู อบ ๆ ตวั นักเรยี นมีอะไรบา้ ง”
(แนวตอบ : นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นตามความคดิ ของตนเอง โดยคำตอบขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพินจิ
ของครผู สู้ อน เช่น ชอ่ื -นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ภาพถา่ ย คะแนนสอบวิชาต่าง ๆ เป็นตน้ )

3. ครอู ธิบายกับนักเรียนเพือ่ เชอื่ มโยงเข้าสู่บทเรยี นวา่ “นักเรยี นจะเปน็ ไดว้ า่ ในการดำรงชวี ิต
ประจำวนั ของมนุษย์จะต้องเกี่ยวขอ้ งกบั ขอ้ มลู ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น ช่ือ-นามสกลุ นำ้ หนกั
ส่วนสงู ท่ีอยู่ ภาพถา่ ย ภาพจากโทรทัศน์ ข่าวสารจากวิทยุ”

ขน้ั สอน

ขน้ั ท่ี 1 กำหนดปัญหา
1. ครถู ามคำถามประจำหัวขอ้ วา่ “นกั เรยี นคิดวา่ ข้อมลู ทดี่ ีควรมีลักษณะอย่างไร”

ข้ันท่ี 2 ทำความเข้าใจกบั ปัญหา
2. ครูให้นักเรยี นสืบคน้ ความหมายของขอ้ มูลจากอนิ เทอรเ์ น็ตท่ีเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง
3. ครูอธิบายข้อสรุปกบั นักเรียนเก่ยี วกับความหมายของข้อมูลจากหนงั สือเรียน (วิทยาการคำนวณ) ป.5
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง ข้อมูลสารสนเทศ วา่ “ขอ้ มูลคอื ข้อเท็จจรงิ ท่เี กี่ยวข้องกับสง่ิ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะ
เปน็ คน สัตว์ ส่งิ ของ หรอื เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ โดยอาจจะเกิดขึน้ จากการสังเกต การจดบนั ทึก
การสมั ภาษณ์ การสอบถาม และมกี ารรวบรวมไว้”

ขน้ั ที่ 3 ดำเนนิ การศกึ ษาค้นควา้
4. นกั เรียนสังเกตและศึกษาการจดบันทึกเรื่องราวการไปท่องเทีย่ วจากตัวอยา่ งในหนังสอื เรียน
5. ครถู ามนักเรยี นว่า“จากการศึกษาตวั อย่างสถานการณน์ ักเรียนพบข้อมูลใดบา้ ง”
(แนวตอบ : ข้อมูลวนั ท่ี สถานท่ที ่องเทย่ี ว เปน็ ต้น)
6. นกั เรียนทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนงั สือเรยี น โดยใหน้ กั เรยี นสำรวจตนเองและบนั ทึกข้อมูล
สว่ นตวั ลงในสมุด แลว้ นำข้อมูลไปจดั ทำประวตั ิส่วนตัว พรอ้ มตกแต่งให้สวยงามโดยใช้
โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ด

ชัว่ โมงที่ 2

ขัน้ สอน

ขน้ั ที่ 3 ดำเนนิ การศกึ ษาคน้ คว้า
7. ครทู บทวนเน้ือหาการเรยี นเมอื่ ชัว่ โมงทแี่ ล้วเกย่ี วกบั ความหมายของขอ้ มลู
8. ครสู ุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอประวัตสิ ว่ นตวั ท่จี ัดทำเสร็จเรยี บร้อยแล้ว
9. นกั เรยี นศกึ ษาเน้ือหา เรื่อง ประเภทของข้อมลู จากหนงั สอื เรยี นหรือสืบค้นจากอนิ เทอรเ์ นต็

ขน้ั ที่ 4 สังเคราะห์ความรู้
10. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน โดยให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั เขยี นข้อมูลท่ีพบภายใน

โรงเรียนใหม้ ากทส่ี ดุ และใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาเติมคำตอบบนกระดาน
หน้าช้นั เรยี น โดยแต่ละกลุม่ จะตอ้ งตอบไม่ซ้ำกัน
11. ครูใช้ปากกาสีต่าง ๆ วาดรูปวงกลมบนกระดานหน้าชั้นเรียนจำนวน 5 รูป
12. จากน้ันใหน้ ักเรียนภายในช้นั เรียนร่วมกันแยกขอ้ มูลบนกระดานและนำไปใสใ่ นวงกลมตา่ ง ๆ
ตามประเภทของข้อมลู ในหนังสอื เรียน
13. ครอู ธบิ ายกับนักเรยี นว่า“ข้อมูลทอ่ี ยู่รอบตัวเราสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 5 ประเภท ไดแ้ ก่

1. ข้อมูลตวั อักขระ
2. ขอ้ มลู ภาพ
3. ขอ้ มูลตวั เลข
4. ข้อมลู เสียง
5. ข้อมูลอื่น ๆ
แต่ขอ้ มลู บางอยา่ งไมค่ วรเผยแพร่ให้บคุ คลอน่ื รบั รู้ เพราะอาจมผี ู้ทไี่ ม่หวังดีนำไปใช้ และ
สรา้ งความเสยี หายใหแ้ กเ่ รา เช่น เลขบตั รประจำตัวประชาชน เบอรโ์ ทรศพั ท์ รหสั บตั ร ATM
เปน็ ตน้ ”
14. นกั เรียนทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะ โดยใหน้ กั เรยี นพิจารณาภาพ และสามารถบอกไดว้ า่ งสง่ิ นน้ั
จดั เปน็ ขอ้ มลู ประเภทใด พรอ้ มลงมือทำใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง ประเภทของข้อมูล
ขัน้ ท่ี 5 สรุปและประเมินค่าของคำตอบ
15. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั และครูให้ความร้เู พิ่มเตมิ ในส่วนนัน้ หรอื อาจจะให้
นักเรยี นศกึ ษาเพ่มิ เตมิ จากอนิ เทอรเ์ นต็
16. จากนน้ั ครูถามคำถามประจำหัวข้อกบั นักเรยี นวา่ “นกั เรียนคดิ ว่าขอ้ มลู ทีด่ ีควรมลี ักษณะ
อยา่ งไร”
(แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคำตอบขึน้ อย่กู บั ดุลยพินจิ ของ
ครผู ู้สอน เชน่ ข้อมลู มีความถูกต้อง ข้อมูลสามารถเช่ือถือได้ ข้อมลู มีความทนั สมัย เปน็ ต้น)
ข้ันที่ 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน
17. ครูประเมินผลนักเรียน จากการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตัว
ของนักเรยี น
18. ครตู รวจสอบความถูกต้อง ของผลงานการทำใบงานที่ 3.1.1 และกจิ กรรมฝกึ ทักษะ

Note
วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมเพอ่ื ให้นกั เรียน
- มีทักษะการสบื ค้นข้อมูล โดยให้นกั เรยี นสืบคน้ ข้อมลู จากทางอินเทอร์เน็ต

เพอื่ สืบเสาะหาความรู้เพ่มิ เตมิ ภายใตห้ ัวข้อที่ไดร้ ับมอบหมาย
- มที ักษะการสังเกต โดยใหน้ ักเรียนสังเกตและศึกษาตวั อย่างสถานการณ์จากหนังสือ

เรียน เพอื่ เป็นแนวทางในการทำความเข้าใจ
- มที กั ษะการสำรวจ โดยให้นักเรียนสำรวจข้อมลู ส่วนตวั ของตนเอง และบันทึกพร้อม

นำมาจดั ทำประวตั สิ ว่ นตวั พรอ้ มตกแต่งให้สวยงามผา่ นโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ด โดยใช้
ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยแี ละทักษะกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์

- มที ักษะการทำงานร่วมกัน โดยให้นกั เรยี นใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทำงาน เพื่อให้
นักเรียนแลกเปลี่ยนข้อมูลและสอ่ื สารรว่ มกนั ผา่ นการคดิ วิเคราะห์และบนั ทึกข้อมลู ที่พบ
ภายในโรงเรียน รวมถึงการแยกขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ตามประเภทได้อย่างเหมาะสม

ข้นั สรุป

นักเรียนและครูร่วมกนั สรุปเก่ียวกับข้อมลู ทนี่ ิยมใช้ในชวี ิตประจำวนั ความหมายของขอ้ มูล

และประเภทของข้อมลู ว่า“ข้อมูลเกดิ จากการสังเกต การจดบนั ทึกการสัมภาษณ์ การสอบถาม

และข้อมูลที่อยรู่ อบ ๆ ตัวสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 5 ประเภท ได้แก่ ข้อมลู ตัวอกั ขระ , ข้อมูลภาพ

ขอ้ มูลตัวเลข , ขอ้ มลู เสียง และข้อมลู อน่ื ๆ”

7. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วธิ ีวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง

- แบบทดสอบก่อนเรียน กอ่ นเรยี น

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3

เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศ

7.2 ประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรม - ตรวจใบงานท่ี 3.1.1 - ใบงานท่ี 3.1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

การเรยี นรู้

1) ประเภทของข้อมลู

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2

ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์

3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

4) พฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
ผา่ นเกณฑ์

5) คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
คณุ ลกั ษณะ
ความรบั ผิดชอบ ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมน่ั อันพงึ ประสงค์

ในการทำงาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้

1) หนังสอื เรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง ข้อมูลสารสนเทศ

2) ใบงานที่ 3.1.1 เร่ือง ประเภทของข้อมลู

3) เคร่ืองคอมพิวเตอร์

4) ปากกาสีตา่ ง ๆ

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้

1) หอ้ งคอมพิวเตอร์

2) อินเทอรเ์ น็ต

ใบงานท่ี 3.1.1
เรอ่ื ง ประเภทของข้อมลู

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาภาพท่ีกำหนดให้ จากนนั้ นำหมายเลขประจำภาพมาเติมใหต้ รงกับประเภทของขอ้ มูล

1. 2. 3.

หอมจงั

4. 5. 6.

7. 8. 9.

10.

ขอ้ มูลภาพ
ขอ้ มูลตัวอักขระ

ขอ้ มลู เสยี ง
ขอ้ มลู ตวั เลข
ขอ้ มูลอื่น ๆ

ช่ือ-นามสกุล.................................................................................. ชนั้ ป.5 เลขท.่ี ...................

ใบงานท่ี 3.1.1 เฉลย
เรื่อง ประเภทของข้อมลู

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาภาพท่ีกำหนดให้ จากน้นั นำหมายเลขประจำภาพมาเติมให้ตรงกับประเภทของขอ้ มูล

1. 2. 3.

หอมจัง

4. 5. 6.

7. 8. 9.

10.

ขอ้ มูลภาพ หมายเลข 7 , หมายเลข 9
ข้อมลู ตัวอกั ขระ หมายเลข 4 , หมายเลข 10
หมายเลข 2 , หมายเลข 6
ข้อมลู เสยี ง หมายเลข 5 , หมายเลข 8
ข้อมลู ตวั เลข หมายเลข 1 , หมายเลข 3
ขอ้ มูลอื่น ๆ

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2

ลักษณะของข้อมลู ท่ีดี

เวลา 2 ชั่วโมง
1. ผลการเรยี นรู้

1. เพ่อื ให้ผู้เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. เพื่อให้ผเู้ รียนมีทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปญั หาเปน็ ขน้ั ตอนและเป็นระบบ
3. เพ่ือให้ผเู้ รียนมีทกั ษะในการต้ังคำถาม หรอื กำหนดปัญหาเกยี่ วกบั สง่ิ ที่จะเรียนรูต้ ามท่ีกำหนดให้ หรอื
ตามความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมตฐิ านท่สี อดคล้องกับคำถาม
4. เพอื่ ให้ผู้เรียนวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใชเ้ ครื่องมือ อปุ กรณ์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศที่
เหมาะสมในการเก็บรวบรวมขอ้ มูลท้ังเชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ
5. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนคน้ หาข้อมลู อยา่ งมีประสิทธิภาพและประเมินความน่าเชื่อถือ ตัดสนิ ใจเลือกข้อมูล ให้
เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา
6. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นนำความร้คู วามเข้าใจในวิชาวทิ ยาการคำนวณไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อสังคมและการ
ดำรงชีวิต
7. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนพฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ญั หาและการจดั การ
ทกั ษะในการสอ่ื สาร ความสามารถในการตัดสนิ ใจ
8. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นเป็นผูม้ ีจติ วิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มในการใชว้ ิทยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. บอกลกั ษณะของข้อมลู ที่ดีไดถ้ ูกตอ้ ง (K)
2. อธบิ ายประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากการนำข้อมูลมาใช้งานได้ (K)
3. สืบค้นขอ้ มลู เกย่ี วกับลกั ษณะของขอ้ มลู ทด่ี ีและประโยชนท์ ่ีได้จากการนำข้อมลู มาใช้งาน (P)
4. เห็นประโยชน์ของการนำข้อมลู ทดี่ ีมาใชง้ านในชีวติ ประจำวัน (A)
3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- การคน้ หาข้อมลู ในอนิ เทอร์เนต็ และการพิจารณาผลการค้นหา
- การประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มลู เชน่ เปรยี บเทียบความสอดคลอ้ ง สมบูรณข์ องข้อมลู จากหลาย
แหล่ง แหลง่ ต้นตอของขอ้ มูล ผเู้ ขียน วนั ทีเ่ ผยแพร่ข้อมลู
- ขอ้ มลู ท่ดี ีต้องมีรายละเอียดครบทุกด้าน เช่น ข้อดีและข้อเสีย ประโยชนแ์ ละโทษ

4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

การคน้ หาข้อมลู เพอื่ ทำการสงิ่ ใดส่ิงหน่ึงจะต้องพิจารณาข้อมูลทดี่ ีทีส่ ดุ ซ่งึ ข้อมูลท่ีดีควรมีความ

ถกู ต้องเช่ือถือได้ มคี วามสมบูรณค์ รบถ้วน สามารถนำไปใช้งานได้ ตรงตามความต้องการของผใู้ ช้ มคี วาม

ทนั สมัย และ มีความสอดคล้องกนั ของขอ้ มลู นอกจากนัน้ ข้อมูลต่าง ๆ ยงั สามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ได้

อย่างหลากหลาย

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี ินัย รับผดิ ชอบ

- ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รยี นรู้

- ทกั ษะการแลกเปล่ียนข้อมลู 3. มุง่ มั่นในการทำงาน

2. ความสามารถในการคดิ

- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์

3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

- ทักษะการทำงานรว่ มกนั

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- ทักษะการสืบค้นข้อมูล

6. กิจกรรมการเรียนรู้
 วิธีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ช่ัวโมงที่ 1

ขนั้ นำ

ข้นั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครทู บทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเกยี่ วกับความหมายและประเภทของข้อมลู พร้อมให้
นักเรียนยกตัวอย่างข้อมลู ท่ีอยู่บริเวณบ้านของตนเอง
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน หรอื ตามความเหมาะสม จากนัน้ ครเู ขยี นประเภทของข้อมูล
บนกระดานแบง่ เป็นคอลัมน์ของแต่ละประเภท และให้นกั เรียนท่ีเปน็ ตวั แทนของแต่ละกลมุ่
ออกมาเขยี นส่งิ อยู่บริเวณบ้านของตนเองบนกระดานหน้าชั้นเรยี น
3. นักเรยี นและครรู ่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของขอ้ มูลบนกระดานหนา้ ชั้นเรยี น

4. ครถู ามนักเรียนวา่ “นักเรยี นคิดว่าข้อมูลบนกระดานมีความสมบูรณ์หรือไม่ ถ้ายงั ไมส่ มบรู ณ์
และนำข้อมลู เหลา่ นไ้ี ปใช้จะเกดิ ผลอย่างไร”
(แนวตอบ : นกั เรยี นตอบตามความคดิ เหน็ ของตนเอง โดยคำตอบขนึ้ อยู่กบั ดุลยพินจิ
ของครูผู้สอน เช่น ขอ้ มลู เกดิ ความผดิ พลาด ข้อมลู ขาดความน่าเชื่อถือ เปน็ ตน้ )

ขัน้ สอน

ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นศึกษาลกั ษณะของข้อมลู ทด่ี ีจากหนังสอื เรียน(วิทยาการคำนวณ) ป.5
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง ข้อมูลสารสนเทศ หรอื สืบคน้ จากอินเทอรเ์ น็ต
2. ครูสุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมาอภิปรายหน้าชั้นเรียนเกย่ี วกับขอ้ มูลท่ีได้ดำเนินการศกึ ษา
หน้าชัน้ เรียน

ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
3. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมกับนกั เรยี นเกี่ยวกบั ลักษณะของข้อมลู ทดี่ ีวา่ “นอกเหนือจากลักษณะของ
ข้อมูลที่ดจี ะต้องมี
1. มคี วามถกู ต้องเช่ือถือได้
2. มีความสมบรู ณ์ครบถว้ น สามารถนำไปใชง้ านได้
3. ตรงตามความต้องการของผ้ใู ช้
4. มีความทันสมัย
5. มคี วามสอดคล้องกันของข้อมลู
ขอ้ มูลที่ดีจะต้องมีความกระชับ เข้าใจงา่ ย และส่ือความหมายได้ชัดเจน”
4. นักเรียนทำกจิ กรรมฝึกทักษะในหนังสอื เรียน โดยใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาข้อมูลท่ีสามารถนำมา
ใช้งานได้ และขอ้ มูลท่ไี มส่ ามารถนำมาใช้งานได้
5. นักเรียนทำใบงานท่ี 3.2.1 เรอ่ื ง ลกั ษณะของขอ้ มลู ทีด่ ี โดยใหพ้ จิ ารณาขอ้ ความท่ีกำหนดให้
และทำเครือ่ งหมายถูกหนา้ ข้อทีส่ ามารถนำมาใช้งานได้ จากน้ันครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 ออกมา
นำเสนอ พร้อมอภิปรายรว่ มกันภายในห้องเรียน

ชว่ั โมงท่ี 2

ขน้ั สอน

ข้ันท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
6. ครทู บทวนเนอ้ื หาการเรียนเม่ือชว่ั โมงทแี่ ลว้
7. นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรอื่ ง ประโยชน์ของข้อมูลจากหนงั สือเรียน หรือสบื ค้นข้อมูลเพ่ิมเติม
จากอนิ เทอร์เนต็ ในเครื่องคอมพวิ เตอร์ของตนเอง จากนนั้ สุม่ นกั เรียนออกมาอภิปรายเนื้อหา
หนา้ ชน้ั เรยี นโดยครคู อยใหค้ ำแนะนำเพ่ิมเติม

8. ครอู ธิบายกับนักเรยี นเกีย่ วกบั ประโยชนข์ องข้อมูลท่สี ามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายดา้ น
ดงั น้ี
“1. ดา้ นการตดั สินใจหรือแก้ไขปัญหา เช่น การเลือกซ้ือผกั การเลอื กเสน้ ทางการเดนิ ทาง
ท่เี รว็ ทสี่ ดุ เปน็ ต้น
2. ดา้ นการตดิ ต่อสอื่ สาร เช่น การพูดคุย การแลกเปลี่ยนข้อมลู ซง่ึ กนั และกนั
การดกู ารต์ ูน (เป็นการรับข้อมูลอยา่ งเดยี ว) การเลน่ เกม (เป็นการรบั และส่งขอ้ มลู )
เป็นต้น
3. ด้านการเรียนหรือการทำงาน เช่น การหาข้อมูลผา่ นอนิ เทอร์เนต็ เพอ่ื นำมาพฒั นา
ความรูข้ องตนเอง เปน็ ต้น
4. ด้านการพฒั นาชุมชนและสังคม เชน่ จำนวนนกั เรยี นในหอ้ งเรยี นท่ีชอบเลน่ เกม
ซงึ่ ขอ้ มลู เหล่านจี้ ะนำไปใช้สำหรับการแกป้ ญั หา นกั เรียนชอบเลน่ เกมตอ่ ไปได้ เป็นต้น”

ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
9. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน เพ่อื ทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะในหนังสอื เรียน โดยให้นกั เรยี น
พจิ ารณาและส่ือสาร แลกเปลย่ี นความคิดเห็นร่วมกนั เกยี่ วกับขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากภาพ และครใู ห้
นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอหนา้ ช้นั เรียน

Note
วตั ถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพอ่ื ให้นกั เรยี น
- มที ักษะการทำงานรว่ มกนั โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการทำงาน ทำกจิ กรรม

ภายในห้องเรียน และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้ส่ือสารและและเปล่ยี นความคิดเห็นรว่ มกัน
อยา่ งเหมาะสม

- มีทักษะการคิดวเิ คราะห์ โดยให้นักเรียนพจิ ารณาเกี่ยวกบั ขอ้ มูลตา่ ง ๆ วา่ ข้อใดเป็น
ขอ้ มลู ท่สี ามารถนำมาใชง้ านได้ และข้อมลู ใดไมส่ ามารถนำมาใชง้ านได้

- มีทกั ษะการสืบคน้ ข้อมลู โดยใหน้ กั เรียนสบื คน้ ข้อมลู จากอินเทอรเ์ น็ตในเครื่อง
คอมพวิ เตอร์ของตนเองตามหัวขอ้ ท่ีนกั เรียนไดร้ ับมอบหมายเพื่อพฒั นาองค์ความรู้ของตนเอง

ขน้ั สรปุ

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมนิ ผลนกั เรยี น จากการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตวั ของนกั เรียน
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกิจกรรมฝกึ ทักษะ
3. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรุปเก่ียวกับลักษณะของขอ้ มลู ท่ีดีและข้อมูลทส่ี ามารถนำมาใช้
ประโยชนไ์ ด้ในด้านตา่ ง ๆ และในชีวิตประจำวันประโยชนข์ องข้อมูล

7. การวดั และประเมินผล วิธีวดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
รายการวัด - ตรวจใบงานท่ี 3.2.1 - ใบงานที่ 3.2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจดั - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
กิจกรรมการเรียนรู้ ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
1) ลักษณะของขอ้ มลู ที่ดี - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
2) การนำเสนอผลงาน การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2
3) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
รายบคุ คล การทำงานกลุ่ม การทำงานกลมุ่
ระดบั คุณภาพ 2
4) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์
กลุ่ม ความรบั ผิดชอบ คณุ ลักษณะ
ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมัน่ อันพึงประสงค์
5) คณุ ลักษณะอันพงึ ในการทำงาน
ประสงค์

8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนังสือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง ข้อมลู สารสนเทศ
2) ใบงานท่ี 3.2.1 เรอื่ ง ลักษณะของขอ้ มลู ท่ีดี
3) เครือ่ งคอมพิวเตอร์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอรเ์ นต็

ใบงานท่ี 3.2.1
เรื่อง ลักษณะของข้อมลู ทีด่ ี

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนพิจารณาข้อความท่กี ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ และทำเครื่องหมาย ✓ ดา้ นหน้าขอ้ ความ
ที่นำข้อมูลทด่ี ีมาใช้งาน และทำเครื่องหมาย  ด้านหน้าขอ้ ความทีน่ ำข้อมลู ทไี่ มด่ ีมาใช้งาน

1. มาริสาเหน็ เพ่อื นในห้องโพสต์ขอ้ ความในส่อื สงั คมออนไลนว์ า่
............................... “พร่งุ น้ีโรงเรียนหยุด” จงึ โพสตข์ ้อมลู น้ตี อ่ ให้เพ่ือน ๆ ภายในห้องเรียน

2. ลกั ษณาต้องทำการบา้ นเร่ืองข้อมูลที่ดี จึงไปหาข้อมลู เพ่ิมเติมทีห่ ้องสมดุ
............................... ภายในโรงเรียน เพอื่ ทำการบ้านและสง่ ใหค้ รูตามเวลาที่กำหนด

. 3. ธีรศักด์ิตอ้ งการเดนิ ทางไปจังหวัดบรุ รี ัมยด์ ้วยเคร่ืองบนิ จงึ ค้นหาข้อมูล
.............................. จากเว็บไซตส์ ายการบนิ เพื่อนำข้อมลู ราคาคา่ โดยสารมาเปรยี บเทยี บ
กอ่ นตดั สินใจเดนิ ทาง

4. หน่อยอยากมผี ิวพรรณดี ขาวใส จงึ คน้ หาขอ้ มูลเก่ียวกบั อาหารเสริมตา่ ง ๆ
............................... จากอนิ เทอรเ์ น็ตเพ่ือประกอบการตดั สินใจในการเลือกซ้ือ

5. เอกและกิตต้องทำรายงานวิชาภาษาอังกฤษสง่ ครู ดงั นน้ั จงึ หาข้อมูล
............................... จากอินเทอร์เน็ตและหนังสอื หลาย ๆ เล่ม และจดั ทำเปน็ รายงานสง่ คุณครู

ใบงานที่ 3.2.1 เฉลย
เร่ือง ลักษณะของข้อมลู ทดี่ ี

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาขอ้ ความที่กำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ และทำเครื่องหมาย ✓ ด้านหนา้ ข้อความ
ท่นี ำขอ้ มูลท่ีดีมาใช้งาน และทำเครือ่ งหมาย  ด้านหนา้ ขอ้ ความท่นี ำข้อมูลท่ีไม่ดีมาใช้งาน

1. มาริสาเห็นเพื่อนในห้องโพสต์ข้อความในสื่อสงั คมออนไลน์วา่
............ ............ “พรุง่ น้ีโรงเรยี นหยดุ ” จึงโพสตข์ ้อมลู นีต้ ่อให้เพื่อน ๆ ภายในห้องเรียน

2. ภูริต้องทำการบา้ นเร่อื งขอ้ มูลทดี่ ี จงึ ไปหาข้อมูลเพิ่มเตมิ ท่หี ้องสมดุ
............ ............ ภายในโรงเรยี น เพ่อื ทำการบ้านและส่งให้ครูตามเวลาที่กำหนด

3. ธีรศกั ดิ์ต้องการเดินทางไปจังหวดั บรุ รี มั ยด์ ว้ ยเคร่อื งบนิ จงึ คน้ หาข้อมูล

............ ✓............ จากเว็บไซต์สายการบนิ เพื่อนำข้อมลู ราคาคา่ โดยสารมาเปรียบเทยี บ
ก่อนตดั สินใจเดินทาง

4. หน่อยอยากมผี ิวพรรณดี ขาวใส จึงคน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั อาหารเสริมต่าง ๆ
............ ✓............ จากอนิ เทอรเ์ น็ตเพื่อประกอบการตดั สินใจในการเลือกซ้ือ

5. เอกและกิตต้องทำรายงานวชิ าภาษาองั กฤษสง่ ครู ดงั นน้ั จงึ หาขอ้ มูล
............ ............ จากอนิ เทอร์เน็ตและหนังสือหลาย ๆ เล่ม และจดั ทำเปน็ รายงานส่งคณุ ครู

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน
 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..............................................ผู้บนั ทึก
(นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ )
ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3

แหลง่ ข้อมูล

เวลา 2 ช่วั โมง
1. ผลการเรียนรู้

1. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แกป้ ญั หาเปน็ ข้นั ตอนและเป็นระบบ
3. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีทกั ษะในการตงั้ คำถาม หรอื กำหนดปัญหาเก่ยี วกบั ส่ิงท่ีจะเรียนรู้ตามที่กำหนดให้ หรือตาม
ความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สรา้ งสมมติฐานทสี่ อดคล้องกบั คำถาม
4. เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นวางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใช้เครอ่ื งมือ อปุ กรณ์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศทเี่ หมาะสม
ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลทั้งเชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ
5. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นคน้ หาข้อมูลอยา่ งมีประสิทธิภาพและประเมินความนา่ เชอื่ ถือ ตัดสนิ ใจเลือกข้อมูล ใหเ้ หตุผล
เชิงตรรกะในการแก้ปัญหา
6. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนนำความรคู้ วามเขา้ ใจในวิชาวทิ ยาการคำนวณไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อสังคมและการ
ดำรงชวี ิต
7. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นพัฒนากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ญั หาและการจัดการทกั ษะ
ในการสือ่ สาร ความสามารถในการตดั สินใจ
8. เพอื่ ให้ผู้เรยี นเปน็ ผู้มจี ิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมในการใช้วทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายประเภทของแหล่งข้อมลู ได้ถกู ต้อง (K)
2. จำแนกขอ้ มูลตามแหลง่ ข้อมลู ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (K)
3. สืบคน้ ข้อมูลเกี่ยวกบั แหลง่ ข้อมูลจากทางอินเทอร์เน็ตได้ (P)
4. เห็นความสำคญั ของแหลง่ ขอ้ มูลและการนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน (A)
3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การคน้ หาข้อมลู ในอินเทอรเ์ นต็ และการพจิ ารณาผลการค้นหา
- การประเมินความน่าเช่อื ถือของขอ้ มลู เชน่ เปรยี บเทยี บความสอดคล้อง สมบรู ณข์ องข้อมลู
จากหลายแหล่ง แหลง่ ต้นตอของข้อมลู ผู้เขยี น วนั ท่เี ผยแพร่ข้อมลู
- ข้อมูลทด่ี ตี ้องมีรายละเอียดครบทกุ ดา้ น เชน่ ข้อดีและข้อเสยี ประโยชน์และโทษ

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

แหลง่ ข้อมลู ถือวา่ เป็นต้นกำเนิดของข้อมลู ตา่ ง ๆ ไมว่ า่ จะเป็นหนังสอื อนิ เทอร์เน็ต บุคคล และ

สถานที่ต่าง ๆ ที่สามารถให้ข้อมลู ได้ไม่วา่ จะเปน็ พิพธิ ภัณฑ์หรือแหลง่ ท่องเทยี่ ว โดยแหลง่ ขอ้ มูลสามารถ

แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คือ แหลง่ ข้อมลู ปฐมภูมิและแหลง่ ข้อมูลทุตยิ ภูมิ

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการคดิ 1. มีวินัย รับผดิ ชอบ

- ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ 2. ใฝเ่ รียนรู้

2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

- ทักษะการสงั เกต

3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

- ทกั ษะการสบื คน้ ข้อมลู

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ช่วั โมงท่ี 1-2

ขั้นนำ

ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนักเรียนเก่ยี วกบั ลกั ษณะของข้อมูลที่ดี และประโยชน์ของการนำ
ขอ้ มูลไปใช้
2. ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นว่า“ถ้าต้องการข้อมลู ต่าง ๆ มาจดั ทำรายงาน
จะสามารถสบื คน้ ข้อมูลจากที่ใดได้บา้ ง”
(แนวตอบ : นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ ตามประสบการณข์ องตนเอง โดยคำตอบขนึ้ อยูก่ ับ
ดลุ ยพนิ ิจของครผู ู้สอน เช่น หนงั สอื อินเทอรเ์ นต็ ห้องสมดุ เปน็ ตน้ )

ข้นั สอน

ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรียนแต่ละคนสบื ค้นความหมายของแหลง่ ข้อมูลจากอินเทอรเ์ นต็ ทเี่ ครือ่ งคอมพวิ เตอร์
ของตนเอง
2. ครูสุ่มนักเรยี น 2-3 คน มานำเสนอหน้าช้นั เรียน พรอ้ มกบั อภิปรายรว่ มกนั ในหอ้ งเรยี น

3. นักเรียนศึกษาเน้ือหาเกี่ยวกับประเภทของแหล่งข้อมลู จากหนงั สือเรียน (วิทยาการคำนวณ)
ป.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง ข้อมูลสารสนเทศ และสังเกตสถานการณต์ วั อยา่ งการหาข้อมลู
จากแหลง่ ขอ้ มูลปฐมภูมิและแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ

ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
4. ครูสมุ่ นักเรียน 2-3 คน ออกมาอภปิ รายหนา้ ชัน้ เรยี นเกยี่ วกับความแตกต่างของแหล่งข้อมลู
ปฐมภูมแิ ละแหล่งข้อมูลทตุ ยิ ภูมิ
5. ครูอธิบายเกยี่ วกับประเภทของแหลง่ ข้อมลู แบง่ เปน็ 2 ประเภทเพ่อื ให้นกั เรยี นเข้าใจมากยิ่งขนึ้
ว่า“แหลง่ ขอ้ มลู สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทซง่ึ มีความแตกตา่ งกัน ดงั นี้
1. แหล่งขอ้ มลู ปฐมภูมิ เป็นแหล่งขอ้ มูลทใ่ี ห้ข้อมลู โดยตรงกับผู้รับข้อมลู ซง่ึ พบได้
จากการได้ยิน การเห็น การได้กลิ่น เปน็ ตน้
2. แหลง่ ขอ้ มูลทุติยภมู ิ เปน็ แหล่งข้อมลู ที่ไดจ้ ากการนำข้อมูลท่ีผู้อื่นรวบรวมไว้มาใช้
เชน่ จำนวนนกั เรียนแต่ละห้อง อณุ หภมู แิ ตล่ ะวนั เปน็ ต้น
แต่การหาข้อมลู จากแหลง่ ข้อมลู ทุตยภมู ิ ทำใหส้ ะดวกสบายและประหยดั ค่าใชจ้ ่ายสำหรับ
การเดนิ ทางไปหาข้อมลู แต่มีข้อระวัง คือ ข้อมูลบางสว่ นอาจคลาดเคลอ่ื นหรือเปน็ ข้อมูล
ทลี่ า้ สมัย ขาดความครบถ้วนสมบรู ณ์และความนา่ เชอื่ ถือ”
6. ครูช้แี จงกบั นกั เรยี นวา่ “คำที่มักจะมีคนอ่านผดิ อยูเ่ สมอ ได้แกค่ ำว่า ปฐมภูมิ ดงั น้นั การอา่ น
ท่ีถกู ต้อง จะต้องอ่านวา่ ปะ-ถม-มะ-พูม”
7. นกั เรียนทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ โดยให้นักเรียนพิจารณาภาพทีก่ ำหนดให้ และบอกไดว้ ่าเปน็
แหลง่ ข้อมูลประเภทใด จากนั้นบันทึกลงในสมุดประจำตวั
8. ครสู มุ่ นักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหนา้ ช้นั เรยี น พรอ้ มกบั อภปิ รายรว่ มกนั ในหอ้ งเรียน

ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
9. นกั เรยี นทำใบงานที่ 3.3.1 เรื่อง แหล่งข้อมูล เปน็ การบา้ นและนำมาสง่ ในช่ัวโมงถดั ไป

Note
วัตถุประสงคข์ องกิจกรรมเพ่อื ให้นักเรียน
- มีทักษะการสบื คน้ ข้อมลู โดยให้นกั เรยี นสบื คน้ ข้อมลู จากทางอนิ เทอร์เนต็

เพ่ือสบื เสาะหาความร้เู พ่ิมเตมิ ภายใต้หวั ขอ้ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
- มที กั ษะการสงั เกต โดยให้นักเรยี นสงั เกตสถานการณ์ตวั อย่างการหาข้อมูลจาก

แหล่งขอ้ มลู ปฐมภมู แิ ละแหล่งขอ้ มลู ทุติยภมู ิในหนงั สือเรียน
- มีทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ โดยให้นักเรยี นพิจารณาภาพทีก่ ำหนดให้และบอกได้วา่

ข้อมลู นนั้ เป็นแหลง่ ข้อมลู ประเภทใด

ข้ันสรุป

ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลนกั เรียน จากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตวั
ของนักเรยี น
2. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานที่ 3.3.1 และกิจกรรมฝึกทักษะ
3. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรุปเก่ียวกับข้อมูลและแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ ที่พบไดใ้ นชีวิตประจำวัน
ไมว่ ่าจะเป็นแหล่งข้อมูลปฐมภมู หิ รอื แหล่งข้อมูลทุตยิ ภมู ิ

7. การวัดและประเมนิ ผล

รายการวัด วธิ วี ัด เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรม - ตรวจใบงานที่ 3.3.1 - ใบงานท่ี 3.3.1
การเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
1) แหล่งขอ้ มูล ระดับคุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2
3) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล

4) พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม

5) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ

ความรับผิดชอบ คุณลักษณะ

ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั่ อันพงึ ประสงค์

ในการทำงาน

8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี น (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง ข้อมลู สารสนเทศ
2) ใบงานที่ 3.3.1 เร่อื ง แหล่งข้อมูล
3) เครือ่ งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
2) อินเทอรเ์ นต็

ใบงานที่ 3.3.1
เร่ือง แหล่งขอ้ มูล

คำชแี้ จง : ใหน้ ำขอ้ มูลทก่ี ำหนดให้ไปไว้ที่กอ้ นเมฆปฐมภูมิและก้อนเมฆทตุ ิยภูมิ โดยมีเง่ือนไขดังนี้
1) ถ้าขอ้ มลู ใดเป็นแหล่งขอ้ มลู ปฐมภมู ใิ ห้ใช้ปากกาสีนำ้ เงนิ ลากไปไว้ที่ก้อนเมฆปฐมภมู ิ
2) ถ้าขอ้ มูลใดเป็นแหลง่ ขอ้ มูลทุติยภมู ิให้ใช้ปากกาสีแดงลากไปไวท้ ีก่ ้อนเมฆทุตยิ ภูมิ

ก้อนเมฆปฐมภมู ิ กอ้ นเมฆทุตยิ ภมู ิ


Click to View FlipBook Version