เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
8-9 ดี
5-7
พอใช้
น้อยกวา่ 5 ปรับปรุง
11.5 แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ ง
ท่ตี รงกับระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 32 1
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติและรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่สี รา้ งความสามัคคีปรองดองและเปน็ ประโยชน์
ตอ่ โรงเรียน
1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมท่ีเก่ียวกับสถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามทโ่ี รงเรียนจัดขนึ้
2. ซือ่ สตั ย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มลู ที่ถกู ตอ้ งและเป็นจรงิ
2.2 ปฏิบัติในสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง
3. มีวนิ ยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครวั
มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวัน
4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัตไิ ด้
4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เชอื่ ฟงั คำสัง่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แย้ง
4.4 ต้ังใจเรียน
5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและสิ่งของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอย่างประหยัดและรคู้ ุณคา่
5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน
6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน
8.2 รู้จกั การดแู ลรักษาทรัพย์สมบตั ิและส่ิงแวดลอ้ มของห้องเรียน
และโรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผูป้ ระเมิน
............/.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดีมาก
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี
พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติบางครัง้ 30-40 พอใช้
ปรับปรุง
ตำ่ กว่า 30
11.6 แบบประเมินชน้ิ งาน/ภาระงานรวบยอด
รายการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ (ระดับคุณภาพ) ระดับคุณภาพ
321 .... ดี
....พอใช้
1. ความครบถว้ น คน้ หาข้อมลู เกี่ยวกบั คน้ หาขอ้ มูลเก่ียวกบั ค้นหาขอ้ มูลเก่ียวกับ .... ปรับปรงุ
ของข้อมลู สาเหตุ แนวทางแก้ไข สาเหตุ แนวทางแก้ไข สาเหตุ แนวทางแก้ไข
และขา่ วเกี่ยวกบั และขา่ วเกย่ี วกบั และขา่ วเกย่ี วกับ
ปญั หาทีเ่ ลอื กได้อย่าง ปัญหาทีเ่ ลือกได้ 50% ปญั หาทเี่ ลอื กได้น้อย
ครบถ้วนทกุ ประเดน็ ข้ึนไป กวา่ 50%
2.ความเหมาะสม ใช้คำคน้ หาหรือ ใช้คำค้นหาหรือ ใชค้ ำค้นหาหรอื
ของวิธกี ารคน้ หา วิธกี ารค้นหาข้อมลู ได้ วิธกี ารค้นหาข้อมูลได้ วธิ กี ารคน้ หาขอ้ มลู ได้
ขอ้ มูล อยา่ งถูกต้อง และ อยา่ งถูกต้อง และ แต่ไมเ่ หมาะสมกับส่งิ
เหมาะสมกับสงิ่ ท่ี เหมาะสมกับส่งิ ที่ ที่ตอ้ งการค้นหา
ต้องการคน้ หาท้งั หมด ต้องการค้นหาเพียง
บางขอ้
3.การประเมนิ ประเมินความ ประเมินความ ประเมินความ
ความน่าเชอ่ื ถือของ นา่ เช่อื ถอื ของข้อมูล น่าเชอ่ื ถือของข้อมูล น่าเช่ือถอื ของข้อมูล
ขอ้ มูล ได้ พร้อมทงั้ ใหเ้ หตผุ ล ได้ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ล ได้ แตไ่ ม่ให้เหตผุ ล
ประกอบอย่าง ประกอบ แต่ไม่ ประกอบ
สมเหตุสมผลทัง้ หมด สมเหตุสมผลท้งั หมด
ใบงานท่ี 3.3.1
เรอ่ื ง เชื่อถอื ได้หรอื ไม่
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนจบั กล่มุ แลว้ สำรวจข้อมูลทีละฐาน โดยใหเ้ วลาสำรวจข้อมูลฐานละ 5 นาที
จากนั้นประเมินความนา่ เช่ือถอื ของเว็บไซต์แต่ละฐานลงในใบงาน
ฐานที่ 1
ช่ือเวบ็ ไซต์ .......................................................................................................................................
หัวข้อเว็บไซต์ ...................................................................................................................................
สำรวจเว็บไซต์
ประเภทของเวบ็ ไซตม์ คี วามน่าเชื่อถอื ระบชุ ่ือผเู้ ขียนหรือผู้ใหข้ อ้ มลู
ระบวุ ันที่เผยแพร่และคร้ังทีป่ รบั ปรงุ อ้างอิงแหลง่ ทมี่ า
บอกวัตถุประสงคใ์ นการจัดทำ
สรปุ ผลการสำรวจ: เว็บไซตน์ ม้ี ีความนา่ เช่อื ถือหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ฐานที่ 2
ชอ่ื เวบ็ ไซต์ .......................................................................................................................................
หัวขอ้ เวบ็ ไซต์ ...................................................................................................................................
สำรวจเวบ็ ไซต์
ประเภทของเวบ็ ไซตม์ คี วามนา่ เช่ือถอื ระบุชือ่ ผเู้ ขยี นหรือผใู้ ห้
ข้อมูล
ระบุวนั ทีเ่ ผยแพร่และคร้ังทีป่ รับปรุง อา้ งองิ แหล่งทม่ี า
บอกวตั ถุประสงค์ในการจัดทำ
สรปุ ผลการสำรวจ: เว็บไซตน์ ้มี ีความนา่ เช่อื ถอื หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ฐานท่ี 3
ชอ่ื เวบ็ ไซต์ .......................................................................................................................................
หวั ข้อเว็บไซต์ ...................................................................................................................................
สำรวจเวบ็ ไซต์
ประเภทของเวบ็ ไซต์มคี วามน่าเชื่อถอื ระบุช่อื ผเู้ ขยี นหรือผู้ให้ข้อมูล
ระบุวนั ท่เี ผยแพร่และคร้ังที่ปรับปรุง อา้ งองิ แหลง่ ทีม่ า
บอกวตั ถปุ ระสงคใ์ นการจัดทำ
สรปุ ผลการสำรวจ: เวบ็ ไซตน์ ้มี ีความนา่ เชอ่ื ถอื หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ฐานท่ี 4
ชื่อเว็บไซต์ .......................................................................................................................................
หวั ขอ้ เว็บไซต์ ...................................................................................................................................
สำรวจเวบ็ ไซต์
ประเภทของเวบ็ ไซต์มคี วามน่าเช่ือถอื ระบุชื่อผเู้ ขยี นหรือผู้ใหข้ ้อมลู
ระบวุ นั ท่เี ผยแพร่และคร้ังท่ีปรับปรงุ อ้างองิ แหลง่ ท่ีมา
บอกวัตถปุ ระสงค์ในการจดั ทำ
สรุปผลการสำรวจ: เวบ็ ไซต์น้ีมคี วามน่าเชือ่ ถอื หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ใบงานท่ี 3.3.1 เฉลย
เรอื่ ง เชื่อถอื ไดห้ รอื ไม่
คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนจบั กลุ่มแล้วสำรวจขอ้ มูลทลี ะฐาน โดยให้เวลาสำรวจข้อมลู ฐานละ 5 นาที
จากนนั้ ประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของเว็บไซต์แต่ละฐานลงในใบงาน
ฐานที่ 1
ช่ือเว็บไซต์ .......h...t.t.p...:./../.w...w....w....c..l.e..o...t.h...a..i.l.a..n..d....c..o..m..../..h..e..a...l.t.h.../.p...m....-.2..5...h...t.m....l.....................................
หวั ขอ้ เว็บไซต์ ..P...M.....2...5...ต...อ้ ..ง..ห...น..้า..ก..า..ก....N...9..5....แ..ล..ว้..ล...่ะ...........................................................................
สำรวจเวบ็ ไซต์
ประเภทของเวบ็ ไซต์มคี วามน่าเชื่อถอื ระบุช่ือผู้เขียนหรือผู้ให้ขอ้ มูล
ระบุวนั ท่เี ผยแพรแ่ ละครงั้ ที่ปรบั ปรุง อ้างอิงแหล่งที่มา
บอกวตั ถปุ ระสงคใ์ นการจดั ทำ
สรุปผลการสำรวจ: เวบ็ ไซตน์ ีม้ ีความนา่ เช่อื ถอื หรือไม่ เพราะเหตุใด
.ไ.ม...น่ ..า่..เ.ช...อ่ื ..ถ..อื....เ.พ...ร..า..ะ..ส...ว่ ..น..ท...า้..ย..ข...อ..ง..ช..ือ่...เ.ว..็บ..ไ..ซ..ต...ไ์ .ม...ไ่ .ด...้เ.ป...็น..ข...อ..ง..ห..น...ว่..ย..ง..า..น...ห..ร..อื...อ..ง..ค..์ก...ร..ใ.ด..อ...ง..ค..์ก..ร..ห...น...งึ่ ..ม..ีก..า..ร..ระบุ
.ช..อ่ื..ผ...ูเ้ .ข..ีย...น..ข...้อ..ม..ูล....แ..ต...ช่ ..่ือ...ผ..้เู.ข..ี.ย..น..เ..ป..็น...เ.พ...ีย..ง..น...า..ม..ส..ม...ม..ต...ิ .ไ..ม..่ส..า..ม...า..ร..ถ..ต...ร..ว.จ...ส..อ..บ...ไ..ด..ว้..า่..ผ..้เู..ข..ีย..น...ม..คี...ว..า..ม..น...่า..เ.ช..อื่...ถือ
.เ.พ...ยี ..ง..ใ.ด................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ฐานท่ี 2
ช่อื เว็บไซต์ ...h..t..t.p...s.:./../..w...w...w....t..h..a..i.h..e...a..l.t.h....o..r...t.h.../.C...o..n...t.e..n...t./..4..7..5...3..-.แ...น..ะ..ว...ธิ ..ปี ..้อ...ง.ก...นั ..ไ..ฟ...ป..่า...h...t.m....l..........
หวั ขอ้ เวบ็ ไซต์ ...แ...น..ะ..ว..ิธ..ีป...้อ...ง.ก...ัน..ไ..ฟ...ป..่า..................................................................................................
สำรวจเว็บไซต์
ประเภทของเวบ็ ไซต์มคี วามน่าเช่ือถอื ระบชุ ื่อผเู้ ขียนหรือผูใ้ ห้
ข้อมลู
ระบุวันทีเ่ ผยแพรแ่ ละครง้ั ทีป่ รบั ปรุง อา้ งองิ แหล่งท่ีมา
บอกวัตถปุ ระสงค์ในการจดั ทำ
สรุปผลการสำรวจ: เวบ็ ไซตน์ มี้ ีความน่าเชอ่ื ถือหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
น...า่..เ.ช..ือ่...ถ..ือ....เ.พ...ร..า..ะ..ส..่ว..น...ท...้า..ย..ข..อ...ง..ช..ือ่ ..เ.ว...บ็ ..ไ..ซ..ต...เ์ .ป..น็...ข..อ...ง..อ..ง..ค..์ก...ร..ท..่ไี..ม..่ห...ว..งั..ผ..ล..ก...ำ..ไ.ร....ม..กี..า..ร..ร..ะ...บ..ชุ...ือ่ ..ผ..เู้.ข...ยี ..น....แ..ล...ะ.
บ...อ..ก...แ..ห...ล..ง่..ท...ม่ี ..า..ข..อ...ง..ข..้อ..ม...ูล..ว..่า..ม...า.จ...า..ก..ก..ร..ม...ป...อ้ ..ง..ก..ัน...แ..ล..ะ...บ..ร..ร..เ..ท..า..ส..า..ธ..า..ร..ณ....ะ..ภ...ยั ..ซ..่งึ..ม..คี...ว..า..ม..น...่า..เ.ช..่อื...ถ..อื............
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ฐานที่ 3
ช่ือเวบ็ ไซต์ .......h..t..t.p...:././..t..h..e..s..i.s..2..5..5..0....b..l.o...g..s..p..o..t...c..o..m..../..2..0..1...6../.0...1../..5...h..t..m............................................
หัวข้อเว็บไซต์ ..lด...่ว..น..!.!...ก..ร..ม..อ...ตุ ..ุไ..ม..่เ.ค...ย..พ...ย..า..ก...ร..ณ...์แ..บ...บ..น...ใี้..น..ร..อ...บ..5..ป...ี........................................................
สำรวจเวบ็ ไซต์
ประเภทของเวบ็ ไซต์มคี วามนา่ เชื่อถอื ระบชุ ื่อผูเ้ ขียนหรอื ผู้ใหข้ อ้ มลู
ระบุวันทเี่ ผยแพร่และครั้งทปี่ รบั ปรุง อ้างองิ แหล่งทีม่ า
บอกวตั ถปุ ระสงคใ์ นการจัดทำ
สรุปผลการสำรวจ: เว็บไซต์น้ีมคี วามนา่ เชือ่ ถือหรือไม่ เพราะเหตุใด
.ไ..ม..น่...่า..เ.ช..อ่ื...ถ..อื....เ.พ...ร..า..ะ..ส..่ว..น...ท..้า..ย...ข..อ..ง..ช...่ือ..เ.ว..บ็...ไ.ซ...ต..ไ์..ม..่ไ..ด..้เ..ป..น็...ข..อ..ง..ห...น..่ว...ย..ง..า..น..ห...ร..อื ..อ...ง.ค...ก์..ร..ใ..ด..อ..ง..ค...ก์ ..ร..ห...น..่ึง..........
.ม...กี ..า..ร..ร..ะ..บ...ุช..่ือ..ผ...เู้ .ข..ยี...น..ข...อ้ ..ม..ลู....แ...ต..่ช..่อื...ผ..ู้เ.ข...ีย..น...เ.ป..็น...เ.พ...ยี..ง..น...า..ม..ส...ม..ม...ต..ิ.ไ..ม..ส่...า..ม..า..ร..ถ..ต...ร..ว..จ..ส..อ...บ..ไ..ด..ว้..่า..ผ...ู้เ.ข..ยี..น.........
.ม...คี ..ว..า..ม..น...่า..เ.ช...่ือ..ถ..ือ...เ.พ...ยี ..ง..ใ.ด.....................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ฐานที่ 4
ชื่อเวบ็ ไซต์ ....h..t..t.p...s..:././..w...w...w....p...r.d....g..o...t.h.../..e..w...t._...n..e..w....s..p...h..p...?.n...i.d..=...1..5..1..1...5..4..&...f.i.l.e..n...a..m...e...=..p...r.d.............
หัวข้อเว็บไซต์ ...ท...ฤ..ษ...ฎ...ี .แ..ก...ล..ง้..ด..นิ....อ...นั ..เ.น...่ือ..ง..ม...า..จ..า..ก..พ...ร..ะ..ร..า..ช..ด...ำ..ร..ิ .........................................................
สำรวจเวบ็ ไซต์
ประเภทของเว็บไซตม์ คี วามน่าเชื่อถือ ระบชุ ่อื ผู้เขียนหรือผู้ใหข้ อ้ มลู
ระบวุ นั ทีเ่ ผยแพร่และครงั้ ทป่ี รับปรงุ อ้างอิงแหลง่ ท่ีมา
บอกวตั ถปุ ระสงคใ์ นการจดั ทำ
สรุปผลการสำรวจ: เวบ็ ไซตน์ ้มี ีความนา่ เชอ่ื ถอื หรอื ไม่ เพราะเหตุใด
น...า่..เ.ช..ื่อ...ถ..ือ....เ.พ...ร..า..ะ..ส..ว่..น...ท...้า..ย..ข..อ...ง..ช..ือ่..เ..ว..บ็ ..ไ..ซ..ต...์เ.ป..็น...ข..อ...ง..ห..น...ว่ ..ย..ง..า..น..ร..ั.ฐ...ไ.ม...ม่..ีก...า..ร..ร..ะ..บ...ุช..ื่อ..ผ...ู้เ.ข..ีย..น....แ...ต..ม่...ีก..า..ร..อ..้า..ง.อิง
แ...ห..ล...่ง.ท...่มี...า..จ..า..ก..ส...ำ.น...กั..ง..า..น...ค..ณ....ะ..ก..ร..ร..ม...ก..า..ร..พ...ิเ.ศ..ษ...เ.พ...ื่อ..ป...ร..ะ..ส...า..น..ง..า..น...โ.ค..ร..ง..ก...า..ร..อ..ัน...เ.น..อื่...ง..ม..า..จ..า..ก...พ..ร..ะ...ร..า..ช..ด..ำ..ร. ิ
ซ...ง่ึ ..เ.ป..็น...อ..กี...ห..น...่ว..ย..ง..า..น...ร..ัฐ..ท..่มี...ีค..ว..า..ม...น...า่ .เ..ช..่ือ..ถ...ือ...........................................................................................
..........................................................................................................................................................
ชิ้นงาน ภาระงาน (รวบยอด)
เรอื่ ง การใช้งานอินเทอร์เนต็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
1. ให้นักเรียนเลือกประเด็นปัญหาทางธรรมชาติท่ีกำหนดให้ จากทำการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุและ
แนวทางแก้ไขปญั หา และตอบคำถามตอ่ ไปน้ใี หถ้ ูกตอ้ ง
ปัญหาดนิ เปร้ียว ปญั หานำ้ เนา่ เสยี
ปญั หามลพิษทางอากาศ ปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแลง้
ปญั หาทน่ี กั เรยี นเลอื กคือ ............................................................................................................................
สาเหตขุ องปญั หา นกั เรียนใชค้ ำคน้ หาใดในการหาสาเหตุ
ของปัญหา
ชื่อเว็บไซต์
เว็บไซต์มคี วามน่าเชอื่ ถอื หรือไม่ เพราะเหตใุ ด
แนวทางแก้ไขปญั หา นักเรยี นใชค้ ำคน้ หาใดในการหาแนว
ทางแก้ไขปญั หา
ช่ือเว็บไซต์
เว็บไซตม์ ีความนา่ เชอ่ื ถือหรือไม่ เพราะเหตุใด
2. ให้นกั เรียนค้นหาข่าวเกย่ี วกบั ปญั หาทน่ี กั เรยี นเลือก โดยค้นหาทางอินเทอร์เนต็ และต้องเป็น
ขา่ วที่เกดิ ข้นึ ในปัจจุบนั หรอื มอี ายขุ า่ วไม่เกนิ 2 ปี
นักเรียนเลือกค้นหาข่าวเกี่ยวกบั ปญั หา ...........................................................................
หวั ข้อขา่ ว:
วันที่เผยแพร่ขา่ ว:
(ติดภาพขา่ ว)
สรปุ สาระสำคญั ของข่าว
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เวบ็ ไซตท์ มี่ า:
นกั เรยี นมวี ธิ กี ารหาข่าวในระยะเวลาไมเ่ กิน 2 ปี อยา่ งไร
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
เว็บไซตท์ ่ีนกั เรียนหาข่าวมา มีความน่าเชื่อถือหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ชน้ิ งาน ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เรื่อง การใช้งานอนิ เทอร์เนต็ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
1. ให้นักเรียนเลือกประเด็นปัญหาทางธรรมชาติท่ีกำหนดให้ จากทำการค้นหาข้อมูลเก่ียวกับสาเหตุและ
แนวทางแก้ไขปญั หา และตอบคำถามต่อไปนี้ใหถ้ กู ตอ้ ง
ปัญหาดนิ เปร้ยี ว ปญั หาน้ำเนา่ เสีย
ปัญหามลพิษทางอากาศ ปญั หาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
ปญั หาทนี่ กั เรยี นเลอื กคือ ...................................ป...ัญ....ห..า..น...ำ้..เ..น..่า..เ..ส..ีย...............................................................
สาเหตขุ องปัญหา นักเรียนใชค้ ำคน้ หาใดในการหาสาเหตุ
ของปัญหา
1. แหลง่ น้ำเสยี ทีเ่ กิดจากชุมชน ไดแ้ ก่การทิง้ ขยะ
ลงแม่น้ำลำคลองอยู่เป็นประจำ และการปล่อยน้ำ สาเหตขุ องปญั หานำ้ เนา่ เสีย
เสียจากอาคารบา้ นเรือน
2. แหลง่ น้ำเสียทเี่ กดิ จากอุตสาหกรรม ไดแ้ ก่ การ ชอื่ เวบ็ ไซต์
ปล่อยนำ้ ทงิ้ จากโรงงานอตุ สาหกรรม ซ่งึ ปนเปือ้ น
สารเคมีตา่ ง ๆ เชน่ กากน้ำตาล สารยอ้ มผ้า http://www.nsm.or.th/other-
3. แหล่งน้ำเสียท่เี กดิ จากเกษตรกรรม ไดแ้ ก่ การ service/1757-online-science/knowless-
ระบายน้ำจากสวนไร่นาที่มกี ารปนเป้ือนสารเคมี inventory/sci-article/science-article-
จากการเกษตร เชน่ ยาฆา่ แมลง ยากาจดั
ศตั รูพชื เวบ็ ไซต์มคี วามนnา่ sเชm่อื /ถ38ือ4ห4รือไม่ เพราะเหตใุ ด
นา่ เชอื่ ถอื เพราะเป็นเวบ็ ไซต์ทล่ี งท้ายด้วย
.or.th ซึ่งเป็นเวบ็ ไซต์ขององค์การพพิ ิธภัณฑ์
วิทยาศาสตร์แหง่ ชาติ มีชื่อผู้เขยี นและอา้ งอิง
แหล่งทีม่ า ระบวุ ันทค่ี ้นหาข้อมูลอยา่ งชัดเจน
แนวทางแกไ้ ขปญั หา นักเรียนใช้คำคน้ หาใดในการหาแนว
ทางแกไ้ ขปัญหา
แนวทางการแก้ไขปัญหานำ้ เน่าเสยี มี
หลายวธิ ี เชน่ แนวทางการแกป้ ญั หาน้ำเสยี
1. การใช้กังหนั น้ำชัยพฒั นา
2. สระเตมิ อากาศชวี ภาพบำบัด ช่ือเว็บไซต์
3. เครอ่ื งกรองน้ำธรรมชาติ
4. วิธีใช้น้ำดีไล่นำ้ เสยี https://www.hii.or.th/wiki84/index.php/
การแก้ไขปญั หาน้ำเสีย-เทคโนโลยี
เว็บไซต์มีความน่าเชือ่ ถือหรือไม่ เพราะเหตุใด
เช่อื ถือได้เพราะเป็นเว็บไซต์ที่ลงทา้ ย
ด้วย .or.th ซงึ่ เป็นเว็บไซต์ขององค์กรที่
ไม่แสดงผลกำไร และมีการอา้ งองิ
แหลง่ ท่ีมาท่เี ขอื่ ถือได้
2. ใหน้ ักเรียนคน้ หาข่าวเก่ยี วกับปญั หาท่นี ักเรยี นเลอื ก โดยค้นหาทางอนิ เทอรเ์ น็ตและตอ้ งเป็น
ข่าวท่ีเกดิ ขน้ึ ในปจั จุบนั หรอื มีอายขุ า่ วไมเ่ กนิ 2 ปี
นักเรียนเลอื กค้นหาข่าวเกย่ี วกบั ปญั หา ..........................ป...ัญ...ห..า..น..้ำ..เ.น...่า..เ.ส..ีย..........................
หัวขอ้ ข่าว: ผลตรวจ "โรงงาน" ปลอ่ ยน้ำเสยี เกนิ มาตรฐาน 68 แหง่
วันที่เผยแพรข่ ่าว: 5 มิถนุ ายน 2560
(ตดิ ภาพข่าว)
สรปุ สาระสำคญั ของข่าว
…น…า…ย…สม…ช…า…ย…ห…า…ญ…ห…ิร…ญั ……ป…ล…ัด…ก…ระ…ท…ร…ว…งอ…ุต…ส…า…ห…ก…ร…รม……ได…้ม…อ…บ…ห…ม…า…ย…ให…ก้ …ร…ม…โร…ง…ง…าน…อ…ตุ …ส…า…ห…ก…รร…ม………
…ต…ร…วจ…ส…อ…บ…ค…ุณ…ภ…า…พ…น…้ำ…ใน…แ…ม…น่ …้ำ…ส…า…ยห…ล…กั…ท…ว่ั …ป…ร…ะ…เท…ศ……โด…ย…เฉ…พ…า…ะ…ร…ิม…แม…่น…้ำ…ส…า…ย…ห…ล…ัก…7…ส…า…ย…ซ…ึ่ง…ม…ี ……
…โ…รง…ง…าน…จ…ำ…น…ว…น…1…,4…0…0……โร…ง…ไ…ด…ม้ กี…า…ร…ต…ร…วจ…ส…อ…บ…เส…ร…จ็ …แ…ล…้ว…1…,0…4…4…โ…ร…ง…ค…ิด…เป…น็ …ร…้อ…ย…ล…ะ…7…5…พ…บ…ว…่า………
คณุ ภาพนำ้ จากปลายทอ่ น้ำทงิ้ โรงงาน มีคา่ เปน็ ไปตามเกณฑ์ทกี่ ฎหมายกำหนดเปน็ ส่วนใหญ่ แต่
…ม…ีโร…ง…ง…าน…ท…่ีม…ผี …ล…ก…า…รต…ร…ว…จ…ว…ัดเ…ก…นิ …ก…ว…า่ เ…ก…ณ…ฑ…์ …มีจ…ำ…น…ว…น…6…8……โร…ง…ซ…งึ่ …ได…ม้ …คี …ำ…ส…ั่งใ…ห…้แ…ก…ไ้ ข…ป…ร…ับ…ป…ร…งุ ต…า…ม……
…พ….ร….…บ….โร…ง…ง…าน……ป…ี 2…5…3…5…ม…า…ต…ร…า…3…7…แ…ล…้ว…………………………………………………………………………………………
เวบ็ ไซต์ทม่ี า: https://news.thaipbs.or.th/content/263122
นกั เรียนมีวิธีการหาขา่ วในระยะเวลาไม่เกนิ 2 ปี อย่างไร
...ใ..ช..้ค...ำ..ค..น้...ห..า..ว..่า....ข..่า..ว..น..้.ำ.เ..น..่า..เ.ส...ยี ...จ...า..ก..น...ั้น..เ..ข..้า..ส..่กู...า..ร..ค..น้...ห..า..ข..ั้น...ส..ูง....แ..ล..ว้..ร..ะ...บ..รุ..ะ..ย...ะ..ข..อ...ง.ป...ี.พ.....ศ......ท..ี่ต...อ้ ..ง..ก..า..ร...
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
เว็บไซตท์ ี่นกั เรยี นหาข่าวมา มีความน่าเชื่อถอื หรือไม่ เพราะเหตใุ ด
.น...่า..เ.ช..ื่อ...ถ..ือ..เ..พ..ร..า..ะ..เ..ป..็น...เ.ว..บ็...ไ.ซ...ต..ท์...ีล่ ..ง..ท...้า..ย..ด..ว้..ย......o...r...t.h....ซ...งึ่ .เ..ป..็น...เ.ว..บ็...ไ.ซ...ต..ข์..อ...ง..อ..ง..ค..์ก...ร..ท..่ไี..ม..ห่...ว..ัง..ผ..ล..ก...ำ..ไ.ร............
.น...น่ั ..ค...ือ..อ..ง..ค...ก์ ..า..ร..ก..ร..ะ...จ..า..ย..เ.ส...ยี ..ง..แ..ล...ะ..แ..พ...ร..ภ่ ..า..พ...ส..า..ธ..า..ร..ณ....ะ..แ..ห...่ง..ป..ร..ะ...เ.ท..ศ...ไ.ท...ย....ซ..่ึง..เ.ป...น็ ..อ...ง..ค..์ก..ร..ท...่ีเ.ช...ือ่ ..ถ..ือ...ไ.ด...้ .....
.แ..ล...ะ..ม..ีก...า..ร..ร..ะ..บ...ุว..นั ..ท...เ่ี .ผ..ย...แ..พ...ร..่อ..ย...า่ .ง..ช...ดั ..เ.จ...น.............................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงช่อื
(
ตำแหนง่
13. บนั ทึกผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4
ความปลอดภัยในการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ
เวลา 6 ชั่วโมง
1. ผลการเรยี นรู้
1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรูค้ วามเข้าใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. เพ่ือให้ผูเ้ รียนมีทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ
3. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีทกั ษะในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ รักษาขอ้ มูลส่วนตัว และการสือ่ สารเบื้องต้น
ในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชวี ติ จริงได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
4. เพอื่ ให้ผู้เรียนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหม่ทเี่ กิดข้ึนไปใช้ให้เกิด
ประโยชน์ตอ่ สงั คม และการดำรงชีวติ
5. เพ่ือให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ
จัดการทกั ษะในการสือ่ สาร และความสามารถในการตดั สนิ ใจ
6. เพ่ือให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์
2. สาระการเรียนรู้
2.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1) อนั ตรายจากกรใชง้ านและอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต แนวทางในการป้องกนั
2) วิธีกำหนดรหสั ผา่ น
3) การกำหนดสทิ ธิใ์ นการใช้งาน (สทิ ธ์ิในการเข้าถงึ )
4) แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมัลแวร์
5) อันตรายจากการตดิ ตั้งซอฟต์แวรท์ ี่อยู่บนอินเทอรเ์ นต็
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
อนั ตรายจากการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศทเี่ ชอื่ มต่อกบั อินเตอร์เนต็ ในรปู แบบตา่ ง ๆ และ
แนวทางในการปอ้ งกนั อนั ตรายจากการใช้งานอนิ เตอร์เน็ต ซง่ึ รวมถึงการกำหนดรหัสผ่าน และการกำหนด
สทิ ธใิ์ นการใช้งาน รวมท้ังอันตรายจากการติดตั้งซอฟแวร์ และแนวทางในการตรวจสอบและปอ้ งกนั มลั แวร์
ซ่งึ เป็นสาเหตใุ หเ้ กิดความเสยี หายตอ่ ข้อมลู ซอฟตแ์ วร์และอปุ กรณ์เทคโนโลยีได้
การติดตง้ั ซอฟแวรจ์ ากอินเตอร์เนต็ อาจทำให้มัลแวร์ ซึ่งเป็นซอฟแวรท์ ่ีตงั้ ใจออกแบบมาเพอ่ื ทำ
อันตรายกับคอมพวิ เตอร์ ดงั น้นั ผใู้ ช้งานตอ้ งรู้แนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกนั มลั แวรเ์ พือ่ ป้องกนั การ
อนั ตรายในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ ขโมยขอ้ มูล, การลบขอ้ มูล, การทำลายระบบ เปน็ ต้น
4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี นิ ยั
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง ความปลอดภัยในการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ
6. การวัดและการประเมินผล
รายการวัด วธิ ีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
6.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
- แบบทดสอบก่อนเรยี น ก่อนเรยี น กอ่ นเรยี น
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4
เรือ่ ง ความปลอดภัย
ในการใชง้ านเทคโนโลยี
สารสนเทศ
6.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
กจิ กรรม การวิเคราะห์ การนำเสนอ ผา่ นเกณฑ์
1) การใชง้ านอินเทอร์เน็ต แบบสอบถาม เร่อื ง - ใบงานท่ี 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
อนั ตรายจากการ เรื่อง การกำหนด
ใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ รหสั ผ่านและการ
และแนวทางป้องกนั กำหนดสทิ ธิเ์ ขา้ ใช้งาน
- ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 - อีเมลของครู
เรอ่ื ง การกำหนด - แบบประเมิน
รหัสผา่ นและการกำหนด กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ
สิทธ์เิ ขา้ ใชง้ าน ท่ี 1 เรือ่ ง เหตเุ กิด ณ
- ตรวจงานในอเี มล ห้องคอมพวิ เตอร์
- ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ
ที่ 1 เร่อื ง เหตเุ กิด ณ
ห้องคอมพวิ เตอร์
2) การปอ้ งกนั มลั แวร์ - ตรวจผังความคดิ เรื่อง - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
อนั ตรายจากการตดิ ตั้ง ผงั ความคดิ เรอ่ื ง ผา่ นเกณฑ์
รายการวดั วธิ ีวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ
3) คุณลกั ษณะ ซอฟต์แวร์ อนั ตรายจากการติดตั้ง รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
อันพึงประสงค์
- ตรวจใบงานที่ 1 เรอื่ ง ซอฟต์แวร์
6.3 การประเมินหลังเรียน
1) แบบทดสอบหลังเรียน ตรวจสอบมลั แวร์ - ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4
เร่ือง ความปลอดภัย - ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ ตรวจสอบมลั แวร์
ในการใช้งานเทคโนโลยี
สารสนเทศ แบบฝึกหดั หนว่ ย - แบบประเมนิ
2) การประเมินชน้ิ งาน/
ภาระงาน (รวบยอด) เรียนรทู้ ่ี 4 เร่อื ง กจิ กรรมฝึกทกั ษะ
เรือ่ ง ความปลอดภยั
ในการใชง้ านเทคโนโลยี แนวทางการตรวจสอบ เร่ือง แนวทางการ
สารสนเทศ
และปอ้ งกนั มัลแวร์ ตรวจสอบและ
ป้องกนั มลั แวร์
- สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมน่ั คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์
- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หลงั เรยี น หลงั เรียน
- ตรวจช้ินงาน/ - แบบประเมนิ ช้นิ งาน/ - ระดับคุณภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรือ่ ง ความปลอดภยั ในการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ
เร่อื งที่ 1 : การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 4 ช่ัวโมง
วิธีการสอนโดยใชบ้ ทบาทสมมติ (Role Playing)
เทคนคิ การอภปิ รายกลุ่มย่อย (Small Group Discussion)
เทคนิคตามแนวคดิ เชงิ คำนวณ
ขนั้ นำ (20 นาท)ี
1. นกั เรียนทำกิจกรรมลองทำดู ในแบบฝกึ หัด (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 หน้า 62
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมก่อนเข้าสบู่ ทเรียน
2. ครนู ำนกั เรียนสนทนา ความรู้เรื่อง อันตรายจากการใช้งานอินเตอรเ์ น็ต โดยเปดิ วีดทิ ศั น์ ”เจ๊ดาตลาด
แตก” https://youtu.be/ZtY0aU8JKB0 หรือส่ืออืน่ ทนี่ ำเสนอปัญหา อนั ตรายจากการใช้งาน
อนิ เตอร์เน็ต ใหน้ กั เรยี นดูและต้ังคำถามเพื่อให้เด็กร่วมกนั แสดงความเห็นและบันทกึ ลงสมดุ ตาม
หวั ขอ้ ดังนี้
1) ปัญหา อันตรายจากการใชง้ านอินเตอร์เน็ตจากวดี ิทัศนค์ ืออะไร
2) สาเหตุของปัญหา อันตรายจากการใชง้ านอนิ เตอร์เน็ตจากวีดทิ ัศนค์ ืออะไร
3. จากวีดทิ ศั นท์ น่ี ักเรยี นได้ดู ครูชช้ี วนใหน้ กั เรียนตระหนกั ถงึ อันตรายจากการใช้งานอินเทอร์เนต็ และ
เหน็ ความสำคัญในการป้องกันอันตรายจากการใช้งานอนิ เตอร์เน็ต
4. ครูบอกนักเรยี นวา่ นอกจากตัวอย่างอนั ตรายจากการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ตามตวั อยา่ งท่ีครูเปดิ ให้
นักเรียนดแู ล้ว นักเรยี นรหู้ รือไม่ว่ายงั มีอันตรายจากการใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตอีกหลายรปู แบบ วันนีเ้ รา
จะมาเรยี นรู้เรื่องนี้กนั
ขน้ั สอน (40 นาที)
1. ครูให้นักเรยี นศึกษาเนือ้ หาในหนังสือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป. 6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง
อนั ตรายจากการใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ หน้า 83-86 และเร่อื งแนวทางในการปอ้ งกนั อนั ตรายจากการใช้
งานอนิ เทอรเ์ น็ต หนา้ 88-89
2. ครแู จกแบบสอบถามให้นกั เรียน เพอื่ สำรวจอนั ตรายจากการใช้อินเตอรเ์ น็ตของนกั เรยี น โดยให้
นักเรยี นตอบแบบสอบถาม เร่ือง อันตรายจากการใช้อินเตอร์เน็ต และเก็บแบบสอบถามไว้กบั ตนเอง
กอ่ น (ครสู ามารถใหน้ กั เรียนทำแบบสอบถามผา่ น Google from ก็ได)้
3. ครมู อบหมายงานให้นักเรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะ Com Sci ในหนงั สือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป. 6
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 หน้า 87 และหนา้ 90 เพื่อทำเป็นการบ้าน
ชว่ั โมงที่ 2
ขั้นสอน (60 นาที)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมในชวั่ โมงที่แลว้ เรอ่ื งอันตรายจากการใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตและเรอื่ งแนวทางใน
การป้องกันอันตรายจากการใช้งานอนิ เทอร์เนต็
2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มใหญ่ ๆ 3-4 กล่มุ จากนน้ั ให้แต่ละกลุ่ม รวบรวมและประมวลผลแบบสอบถาม
ของกลุ่ม
3. ครแู จกกระดาษฟลปิ ชาร์ท และแจกปากกาสีตา่ ง ๆ เพื่อให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มวเิ คราะห์ปัญหา
เชื่อมโยงสาเหตแุ ละผลกระทบ รวมท้งั จัดกลุ่มรูปแบบ ปัญหาหรอื อันตรายการใช้งานอินเตอรเ์ นต็
จากแบบสอบถามของกลมุ่ โดยครูให้นักเรยี นเลือก 3 ปญั หาท่ีคดิ วา่ มีความสำคัญหรืออันตรายมาก
ทสี่ ุด วิเคราะหส์ าเหตขุ องปญั หานน้ั ๆ พร้อมทัง้ หาแนวทางการป้องกันหรือแก้ไข โดยครูใหเ้ วลา
นกั เรยี นจัดทำกลุ่มละ 20 นาที
4. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอปัญหา สาเหตุ และแนวทางป้องกันหรือแก้ไข เก่ยี วกบั เร่อื ง
การใช้งานอนิ เทอร์เน็ต โดยใหเ้ วลาในการนำเสนอกลุ่มละ 7-10 นาที
5. ครูใหน้ ักเรียนศึกษา กิจกรรมเสรมิ สร้างการเรยี นรู้ ในหนงั สือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป. 6 หน่วย
การเรยี นรทู้ ่ี 4 หน้า 106 และร่วมอภปิ รายในชัน้ เรยี นวา่ หากนักเรยี นไดร้ ับอีเมล นกั เรียนควรทำ
อย่างไร เพราะเหตุผล พรอ้ มบอกวธิ กี ารสงั เกตและป้องกันอันตรายจากการใช้งานอีเมล และบนั ทึก
คำตอบลงสมุด
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรทู้ ่ไี ด้จากการเรยี นในช่ัวโมงน้ี
ช่วั โมงท่ี 3
ขน้ั สอน (60 นาท)ี
1. ครถู ามนักเรียนว่า รูห้ รือไม่วา่ การปอ้ งกันอนั ตรายจากการใชง้ านอินเทอร์เน็ตท่งี า่ ยและเป็นพืน้ ฐานท่ี
สำคัญ คือการกำหนดรหสั ผา่ น และการกำหนดสิทธกิ์ ารเข้าใชง้ าน ซ่ึงเราทุกคนสามารถทำได้งา่ ย ๆ
ดว้ ยตนเอง
2. ครใู ห้นักเรียนศึกษาศกึ ษาเนื้อหาในหนงั สอื เรยี น (วทิ ยาการคำนวณ) ป. 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
เรอ่ื งการกำหนดรหัสผา่ น หน้า 91 และเร่ืองการกำหนดสิทธใ์ิ นการเขา้ ใชง้ าน หนา้ 93-94
3. ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ นักเรียนสามารถสรา้ งวธิ กี ารในการกำหนดรหัสผา่ นทม่ี คี วามปลอดภยั และ
ผใู้ ชง้ านจดจำได้งา่ ยได้หลากหลายรูปแบบ รวมทงั้ ควรศึกษาการกำหนดสทิ ธใิ์ นการเขา้ ใชง้ านในสื่อ
หรือบรกิ ารออนไลนต์ ่าง ๆ นอกเหนือจากทศี่ ึกษาในหนงั สือเรยี นมาแล้ว เชน่ การกำหนดสทิ ธ์ใิ นการ
แชรไ์ ฟล์จาก Google Drive จากน้ันครูแจกใบความรู้ เร่ืองการกำหนดรหัสผา่ นและการกำหนด
สทิ ธเ์ิ ข้าใช้งาน เพ่ือให้นกั เรยี นศึกษาเพิ่มเตมิ
4. ครูแจกใบงานที่ 4.1.1 เรือ่ ง การกำหนดรหสั ผา่ นและการกำหนดสทิ ธ์เิ ข้าใช้งาน โดยมีประเดน็ ดังน้ี
1) นักเรียนมีบัญชี Gmail หรือไม่
2) หากนักเรียนไมม่ บี ัญชี Gmail ใหน้ ักเรยี นสมคั ร โดยดขู ้ันตอนจากใบความร้เู รื่องการ
กำหนดรหสั ผ่านและการกำหนดสทิ ธ์ิเขา้ ใช้งาน
3) นักเรยี นคิดว่ารหัสผ่านทน่ี กั เรียนใช้ มีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด
4) ให้นักเรียนเปดิ โปรแกรม Microsoft word แลว้ พิมพช์ ่ือ นามสกุล ชัน้ เรยี น และเลขท่ี
ของตนเอง ลงในโปรแกรม จากน้นั บนั ทึกเป็นไฟล์ .doc แล้วอัปโหลดไฟล์ลงใน Google
Drive และแชร์ใหค้ ุณครูทาง .............(ชอื่ อเี มลของคุณครู)............ โดยกำหนดสทิ ธิ์ให้
คุณครสู ามารถดูไฟล์ข้อมูลได้เพียงอย่างเดยี ว ไม่มีสทิ ธใ์ิ นการแก้ไขหรอื ปรบั ปรุง
5. ครูนำนักเรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง การกำหนดรหสั ผา่ นและการ
กำหนดสิทธใ์ิ นการเข้าใช้งาน รวมทง้ั ใหน้ ักเรยี นบอกแนวทางในการนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ของ
นักเรียน
6. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ Com Sci เร่อื งการกำหนดรหสั ผ่าน หน้า 92 และกจิ กรรม
เสริมสร้างการเรยี นรู้ ข้อ 2 หน้า 107 ทา้ ยคาบเรยี น และมอบหมายงานให้นกั เรยี นทำกิจกรรมฝกึ
ทกั ษะ Com Sci เรื่องการกำหนดสิทธิก์ ารเขา้ ใช้งาน หนา้ 95 ในหนังสือเรยี น (วิทยาการคำนวณ)
ป. 6 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 เปน็ การบ้าน
ช่ัวโมงที่ 4
ขนั้ สอน (50 นาที)
1. ครนู ำนักเรียนสนทนา เร่ือง “ การกลน่ั แกล้งบนโลกออนไลน์”
โดยครสู รปุ นยิ าม การกล่ันแกลง้ บนโลกออนไลน์ คือ การใชอ้ ปุ กรณ์ เครื่องมอื สื่อสารผา่ นสอื่ ดจิ ิทลั
หรอื สือ่ ออนไลน์ เช่น คอมพิวเตอร์ แทบ็ เลต็ โทรศัพท์มอื ถือ ในการกลน่ั แกลง้ รงั แก คุกคามโดย
เจตนา และมักจะมีการทำซ้ำๆ เช่น นำขอ้ มลู สว่ นตวั หรือความลบั ของเพื่อนไปเผยแพร่ในสอื่ สังคม
ออนไลน์ สรา้ งบญั ชสี ่อื ออนไลนเ์ พ่ือต่อตา้ นหรือลอ้ เลียนเพอ่ื น
2. ครนู ำนักเรยี นร่วมอภิปรายในประเดน็ ต่อไปน้ี
1) การกลัน่ แกล้งบนโลกออนไลนท์ ่ีเดก็ เคยพบเจอในโรงเรียน
แนวคำตอบ: ครใู หน้ ักเรยี นอภิปรายตามประสบการณข์ องนักเรยี น
2) สาเหตุทมี่ ีการกลั่นแกลง้ บนโลกออนไลนท์ เี่ ดก็ เคยพบเจอในโรงเรียน
แนวคำตอบ: ครใู ห้แนวคำตอบสาเหตขุ องการกลน่ั แกล้งบนโลกออนไลน์ หลงั นักเรียน
อภปิ ราย
1.ผ้กู ระทำสามารถปกปิด ปลอมแปลง ไม่แสดงตวั ตนเอง
2.สื่อสังคมออนไลน์ถูกใชเ้ ป็นช่องทางระบายอารมณ์
3.ความง่ายและสะดวกในการรังแก
4.บางสว่ นมีสาเหตมุ าจากในชีวิตจรงิ เช่น ความไม่พอใจต่อคนบางคนท่รี ู้จกั และ
ปฏสิ ัมพันธ์ในชวี ิตจริง
3) แนวทางในแกป้ ญั หาการโดนกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์
แนวคำตอบ: ครูให้แนวทางในการแก้ปัญหา หลังนกั เรียนอภปิ ราย
1) STOP ไม่ตอบสนองต่อผ้กู ลั่นแกลง้ และเก็บหลักฐานการกล่นั แกล้ง เช่นรูปภาพ
ขอ้ ความทีผ่ กู้ ล่นั แกล้งโพสหรือส่ง
2) BLOCK บลอ็ กการสื่อสารของผูก้ ลั่นแกลง้
3) REPORT รายงานให้ครู ผปู้ กครองหรอื ผูใ้ หญ่ทีไ่ ว้วางใจได้ทราบ และ/หรือ
รายงานไปทีผ่ ู้ให้บริการสอื่ สังคมออนไลน์ทโ่ี ดนกลัน่ แกล้ง
(ทั้งน้คี รูต้องชใ้ี ห้นักเรียนเหน็ ว่าปัญหาแต่ละเหตุการณ์อาจต้องใช้วิธกี ารแตกต่างกันไป
ตามบริบทปญั หา)
3. ครบู อกนักเรยี นวา่ วนั น้คี รูมสี ถานการณ์ใหน้ ักเรยี นลองสมมตบิ ทบาทเปน็ บุคคลในสถานการณ์ และ
ลองนกึ ดวู า่ ถา้ หากสถานการณ์นี้เกดิ กบั เรา เราจะรู้สึกอย่างไร
4. ครใู ห้แบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 6 คน แล้วใหน้ กั เรยี นรว่ มกันทำกิจกรรมฝึกทกั ษะท่ี 1 เรื่อง เหตุเกดิ ณ หอ้ ง
คอมพวิ เตอร์ โดยครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคนในกลุ่มสมมตบิ ทบาทเป็นตวั ละครตามสถานการณ์
สถานการณ์ตามเวลาตา่ ง ๆ
เวลา สถานการณ์
13.00 น. ฝนปวดหวั มาก ครจู ึงใหแ้ ฟงพาฝนไปทห่ี อ้ งพยาบาล
13.05 น. ปมุ้ เห็นกายกำลงั พยายามเข้าสบู่ ญั ชสี ื่อออนไลนใ์ นคอมพิวเตอรท์ ฝี่ นใช้งานอยูห่ ลายครง้ั และเข้าใช้
งานได้โดยใชร้ หสั ประจำตัวนักเรยี นของฝน แตป่ ้มุ ไมไ่ ดส้ นใจอะไร
13.20 น. เจนเลน่ คอมพวิ เตอร์และบังเอญิ ไปเหน็ โพสในสื่อออนไลน์ของฝน โดยในโพสเปน็ รปู ภาพฮิปโปแตม่ ี
การตัดต่อนำรูปหนา้ ของแฟงมาแปะแทนหัวของฮปิ โป เจนรสู้ ึกตลกกับภาพจึงแชรโ์ พสให้กบั เพื่อน
ๆ
13.21 น. แบมเป็นเพอ่ื นต่างหอ้ งเรยี น เหน็ โพสแล้วไมเ่ หน็ ด้วยกบั ฝน และเข้าใจว่าฝนนสิ ยั ไมด่ ี แตไ่ มไ่ ด้แชร์
โพส
13.25 น. ปลาเหน็ โพสแล้วรู้สกึ แปลกใจ เพราะฝนกับแฟงเปน็ เพื่อนสนิทกนั และท้งั คกู่ ็อยทู่ ห่ี อ้ งพยาบาล ซงึ่
ไม่มคี อมพิวเตอร์ จงึ นำรปู ภาพใหค้ ุณครดู ู
13.30 น. ฝนและแฟงกลบั มาที่ห้องเรยี น และถกู เพอ่ื น ๆ มองด้วยสายตาท่ีแปลก ๆ
13.31 น. ครถู ามเพ่ือนในหอ้ งว่าใครเปน็ คนกลัน่ แกล้งฝนและแฟง ซงึ่ ไมม่ ใี ครกลา้ ยอมรบั ผิด
5. ครใู หน้ กั เรียนอภิปรายกันในกลมุ่ ถึงความรู้สึก ความคดิ เห็นจากมุมมองของตัวละครตามบทบาทที่
ตวั เองไดร้ ับ จากน้นั เขยี นสรปุ และตอบคำถามลงในกจิ กรรมฝึกทักษะท่ี 1 เร่ือง เหตุเกิด ณ ห้อง
คอมพวิ เตอร์
ขั้นสรุป (10 นาท)ี
6. ครูนำนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายสรปุ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการจัดกิจกรรม การเหน็ ความสำคัญของอันตราย
และการป้องกันอันตรายจากการใช้งานอนิ เตอร์เน็ต รวมทั้งแนวทางในการนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
ของนักเรยี น โดยครูช้ีให้นักเรียนใหเ้ หน็ ประเด็นสำคัญ คือ
1) โทษของการใช้เทคโนโลยใี นการรงั แก ใสร่ ้ายผู้อื่น จากการกระทำของกาย ซง่ึ ทำใหเ้ พอ่ื นได้รบั
ความเสียใจและอบั อาย รวมท้งั จะทำใหถ้ ูกลงโทษจากทางโรงเรียน และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.
คอมพวิ เตอร์
2) การจดั การต่อสถานการณ์ของผู้ที่ถกู กล่ันแกล้งทางออนไลน์ คอื ฝนและแฟง โดยแก้ปัญหา
อย่างมสี ติและรจู้ ักควบคุมอารมณ์ และใช้กระบวนการ Stop – Block – Report
3) บทบาทของผู้ท่มี สี ว่ นรว่ มในเหตกุ ารณ์ ซึ่งนักเรียนเลอื กได้ว่าควรจะเลือกปฏบิ ตั ติ ่อเหตุการณ์
ตามตัวละครใด เพราะอะไร โดยกำหนดใหก้ ายเป็นผรู้ ังแก แฟงเป็นผถู้ ูกรงั แก ปมุ้ และแบม ที่เหน็
การกระทำผดิ ของกาย แต่ไมไ่ ดท้ ำอะไร เปน็ ผู้อยใู่ นเหตุการณ์ เจนท่ีเหน็ โพสของกายและแชร์
โพสตอ่ เปน็ ผสู้ นบั สนุนการรงั แก และปลาซ่ึงเหน็ โพสและพยายามชว่ ยผทู้ ถี่ ูกรงั แก เป็นผ้ปู กปอ้ ง/
ชว่ ยเหลอื ผูถ้ กู รงั แก
นอกจากน้ีครูควรกระตุ้นใหน้ ักเรยี นเสนอแนวทางสร้างสรรค์ของตนเองต่อเหตกุ ารณ์ท่ีเกิดขน้ึ
7. ครูมอบหมายงานให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั (วทิ ยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ืองการใชง้ าน
เทคโนโลยสี ารสนเทศ หนา้ 63-66 เป็นการบา้ น
เรอื่ งที่ 2 : การติดตั้งซอฟตแ์ วร์จากอนิ เทอรเ์ นต็ เวลา 2 ช่วั โมง
วิธกี ารสอนโดยใชเ้ กม
เทคนคิ ตามแนวคิดเชิงคำนวณ
ขัน้ นำ
1. ครูถามนักเรียนวา่ นักเรยี นคนใดเคยเปน็ หวัดบา้ ง รู้หรือไม่วา่ หวัดเกดิ จากอะไร
2. ครูและนกั เรยี นร่วมกันถาม-ตอบ จนได้ข้อสรปุ วา่ หวดั เกิดจากการตดิ เชื้อไวรสั ทำใหร้ ่างกายของเรา
เกดิ อาการจาม คดั จมูก มอี าการอ่อนเพลยี มไี ข้เล็กน้อย เป็นตน้
3. ครูถามนักเรียนว่า นอกจากเชื้อไวรัสทอี่ ยู่ในร่างกายคนแล้ว นักเรยี นรู้หรอื ไมว่ ่าคอมพิวเตอรท์ ี่เราใช้
ทำงานหรือค้นหาข้อมลู ต่าง ๆ ก็สามารถติดไวรัสไดเ้ หมือนกัน นักเรียนรจู้ กั ไวรสั คอมพิวเตอรห์ รือไม่
คอื อะไร มคี วามเหมือนหรือแตกต่างจากไวรัสทท่ี ำใหเ้ ราเป็นหวัดหรือไม่
ขนั้ สอน
4. ครูอธิบายเพิ่มเติมหลงั จากที่นักเรยี นแสดงความเหน็ ร่วมกนั ว่า ไวรสั คอมพิวเตอร์ คือโปรแกรมชนิด
หน่ึงทถ่ี กู เขยี นขึน้ เพื่อใหจ้ ัดการตัวเองได้ โดยมีลักษณะเลยี นแบบไวรัส เติบโต ขยายและแพร่กระจาย
ได้ และสามารถอยู่รอดไดด้ ้วยการอำพรางตน เหมือนเชือ้ ไวรัส ไวรัสคอมพวิ เตอรเ์ ปน็ ประเภทหนง่ึ
ของโปรแกรมทเ่ี ปน็ เคร่อื งมอื ในการก่อปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เตอร์เน็ตที่แฝงมากบั ซอฟแวรท์ ี่
ตดิ ตั้ง โดยไวรสั เป็นหน่งึ ในประเภทของมัลแวร์ (Malware)
5. ครูถามนักเรียนวา่ นักเรียนร้จู ักมลั แวร์หรือไม่ จากน้นั ใหน้ ักเรยี นศึกษาความหมายและประเภท
ของมัลแวร์ในหนังสือเรยี นรายวิชา (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 หนา้ 96-98
6. ครสู แกน QR Code ในหนงั สือเรียนหน้า 98 เพอ่ื ใหน้ ักเรียนศึกษาวดี ิทัศนเ์ พ่มิ เติมในเร่ืองไวรสั
คอมพวิ เตอร์ (ครอู าจให้นักเรียนทมี่ ีโทรศัพทส์ แกน QR Code ด้วยตนเอง)
7. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมเลน่ เกมกับ Com Sci เกมมัลแวร์อะไรเอย่ ตามหนังสือเรียน (วทิ ยาการ
คำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 หนา้ 104 โดยใหน้ กั เรยี นยืนขึ้นและจบั คู่กบั เพ่ือน หนั หนา้ เข้าหา
กัน จากน้ันให้คุณครูพูดว่า “มัลแวร์อะไรเอย่ ? ท่มี ีลักษณะ ..........” โดยใหค้ รบู อกลักษณะ
ของมลั แวรใ์ ดก็ได้ นกั เรียนแต่ละคู่จะต้องแข่งกันทายชือ่ มลั แวรจ์ ากลกั ษณะท่ีครกู ำหนดให้ หาก
นักเรยี นคนใดตอบชา้ หรือตอบผดิ ให้ตกรอบ และไปต่อหลังคนทช่ี นะ แลว้ ให้คนที่ชนะหาคูใ่ หม่ เล่น
จนกวา่ จะเหลือผชู้ นะเพยี งคนเดียว จึงสน้ิ สุดเกม
8. ครบู อกนักเรียนวา่ ตอนนีน้ ักเรยี นทุกคนกไ็ ดร้ ้จู ักมัลแวร์ประเภทต่าง ๆ ไปแลว้ แลว้ เราจะทราบได้
อย่างไรว่าคอมพิวเตอรข์ องเราถกู ติดตั้งมลั แวรไ์ ปแล้ว
9. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาแนวทางในการตรวจสอบและป้องกนั มัลแวร์จากหนังสือเรียนในหนา้ 100-102
10. ครถู ามนักเรียนว่านักเรยี นเวลานกั เรยี นใช้งานคอมพิวเตอร์ของตนเองทบี่ า้ นหรือท่ีโรงเรยี น นักเรยี น
เคยพบเห็นความผดิ ปกติของคอมพวิ เตอร์หรือไม่
11. ครแู จกใบงานท่ี 1 เร่ืองตรวจสอบมลั แวร์ ใหน้ ักเรยี น โดยใหน้ ักเรยี นกลบั ไปสำรวจคอมพิวเตอรข์ อง
ตนเองทบี่ ้านวา่ มอี าการผดิ ปกตหิ รอื ไม่ หากนักเรียนคนใดไมม่ ีคอมพวิ เตอร์ ให้สำรวจคอมพิวเตอร์ที่
โรงเรียน โดยใบงานน้ีให้สง่ ในชัว่ โมงถดั ไป
ประเดน็ ในการสำรวจคอมพิวเตอร์
1) คอมพิวเตอร์ทำงานชา้ ลงหรอื มอี าการค้างบ่อยข้ึนหรือไม่
2) ไมส่ ามารถเชือ่ มต่ออินเทอร์เนต็ ได้ หรือเชอื่ มต่อได้ชา้
3) ไฟลข์ ้อมลู หายโดยไมท่ ราบสาเหตุ
4) มีโฆษณา หรือข้อความแปลก ๆ ขึ้นมาระหว่างใช้งาน
12. ครูมอบหมายงานใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ Com Sci ในหนังสือเรยี นหน้า 99 และ 103 เป็น
การบ้าน
ชว่ั โมงท่ี 2
ขั้นส1อ. น
1. ครูและนักเรยี นร่วมกันทบทวนความรเู้ ดิมทีเ่ รยี นในชวั่ โมงท่แี ล้ว เรื่องประเภทและความหมาย
ของมลั แวร์ แนวทางในการตรวจสอบและปอ้ งกนั มัลแวร์
2. ครูถามนักเรียนถึงแบบสำรวจท่ใี หน้ กั เรียนนำไปทำเป็นการบ้านว่า คอมพวิ เตอร์ของใคร ท่มี ี
อาการหรือมีความน่าจะเปน็ ว่าจะติดมัลแวรบ์ ้าง
3. ครูให้นกั เรียนทำกจิ กรรมฝึกทักษะที่ 2 เรื่อง แนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกนั มัลแวร์ ใน
หนงั สือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรยี นร้ั 4 หน้า 72 โดยให้นกั เรียนบันทึก
พฤติกรรมเสย่ี งของตนเองที่อาจทำให้เกดิ ความไม่ปลอดภัยจากมลั แวร์ อธบิ ายวธิ แี กไ้ ขหากเกดิ
ปญั หา และวิธปี ้องกนั
4. ครูแจกกระดาษ A4 ออกแบบและจดั ทำผงั ความคิด (Mind Map) เรือ่ งอนั ตรายจากการติดตง้ั
ซอฟตแ์ วร์เพ่ือให้นกั เรียนสรปุ ความรู้ทีไ่ ด้เรียนท้งั หมด โดยบอกประเภทและความหมาย
ของมัลแวร์ แนวทางในการตรวจสอบและป้องกันมัลแวร์ หากทำไม่ทันใหน้ ำกลับไปทำเป็น
การบา้ นและสง่ ครใู นช่ัวโมงถัดไป
ขัน้ สรุป
1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการจดั กจิ กรรม การเห็นความสำคัญ อันตรายจากการ
ติดต้งั ซอฟแวร์ และแนวทางการตรวจสอบและป้องกนั มลั แวร์ รวมทั้งแนวทางในการนำไปใช้ใน
ชวี ิตประจำวันของนักเรียน
2. ครูใหน้ กั เรียนตรวจสอบตนเองหลังจากจบบทเรยี นแลว้ ในหนงั สือเรยี นหน้า 104
3. ครใู หน้ กั เรียนดูผังสรปุ สาระสำคญั ในหนงั สอื เรยี น (วทิ ยาการคำนวณ) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4
หนา้ 105 เพ่ือเปน็ การสรปุ ความรทู้ ่เี รยี นมาท้งั หมด
4. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน เร่อื ง ความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อประเมนิ
ความรู้หลังเรียน
5. ครูมอบหมายงานใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัด ในหนังสือแบบฝึกหัด (วทิ ยาการคำนวณ) หนว่ ยการ
เรยี นรทู้ ี่ 4 หนา้ 67-69 เปน็ การบ้าน เพือ่ ฝึกฝนความรู้
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรื่อง ความปลอดภัยในการใช้งาน
เทคโนโลยีสารสนเทศ
2) แบบฝกึ หดั (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในการใชง้ าน
เทคโนโลยสี ารสนเทศ
3) ใบงานท่ี 4.1.1 เรอื่ ง การกำหนดรหัสผ่านและการกำหนดสทิ ธเ์ิ ข้าใชง้ าน
4) ใบงานที่ 4.2.1 เรอื่ ง ตรวจสอบมัลแวร์
5) ใบความรู้ เร่อื ง การกำหนดรหสั ผ่านและการกำหนดสิทธิ์เขา้ ใช้งาน
6) แบบสอบถาม เรอ่ื ง อันตรายจากการใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตของนกั เรียน
7) วดี ทิ ศั น์ “เจด๊ าตลาดแตก” https://youtu.be/ZtY0aU8JKB0
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อินเทอร์เนต็
แบบทดสอบก่อนเรียน
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4
คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ปลาสแกนหนังสือการต์ นู ที่ซอ้ื มา แล้วสง่ ให้เพ่ือนทางสอ่ื 5. ขอ้ ใดเป็นการต้ังรหสั ผ่านทม่ี คี วามปลอดภยั ต่ำ
สงั คมออนไลน์ แสดงว่าปลาเขา้ ขา่ ยกอ่ อันตรายจากการ ก. NA2540
ใชง้ านอินเทอร์เนต็ ข้อใด ข. 7UfPe_3891
ก. การล่อลวงเยาวชน ค. Tww00@74060
ง. M1Ab!8750
ข. การเผยแพรข่ ้อมลู ทไี่ มเ่ หมาะสม
ค. การหลอกลวงแบบฟชิ ช่ิง (Phising) 6. ข้อใดไม่ใช่ขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ นการใชง้ านรหัสผา่ น
ง. การก่ออาชญากรรมทางอินเตอรเ์ น็ต ก. เปลีย่ นรหสั ผา่ นทุก ๆ 2-3 เดือน
2. ข้อใดไม่เขา้ ข่ายการหลอกลวงแบบฟชิ ชิ่ง (Phising) ข. ไมเ่ ปดิ เผยรหสั ผา่ นให้ผู้อ่ืนรับทราบ
ก. แอม้ ไดร้ ับอเี มลจากคนทไ่ี มร่ จู้ กั โดยแจ้งให้คลิก ค. ตง้ั รหสั ผ่านทแ่ี ตกตา่ งกันในแตล่ ะบัญชผี ูใ้ ช้
ง. บนั ทกึ รหัสผ่านแบบอตั โนมตั ลิ งบนเบราว์เซอร์
ลงิ ก์เพือ่ รับเงินรางวลั
ข. ปอ้ นพบว่ามขี อ้ ความโฆษณาขึ้นทห่ี น้าจอ 7. ขอ้ ใดนิยามรปู แบบการกำหนดสิทธ์ใิ นการใช้งานถูกตอ้ ง
ก. Write คือ การให้สิทธใิ์ นการแกไ้ ขไฟล์ขอ้ มลู
บอ่ ย ๆ หลงั เขา้ ใชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ ในคอมพวิ เตอร์ และลบไฟล์
ค. อีเมลจากสอื่ สังคมออนไลน์แจง้ ปาล์มมาวา่ มี ข. Read คือ การใหส้ ิทธใ์ิ นการอ่านไฟลข์ อ้ มลู และ
ลบไฟล์
คนพยายามเข้าใชบ้ ัญชี และใหป้ าลม์ กรอก ค. Modify คอื การให้สิทธใ์ิ นการปรบั ปรงุ
รหสั ผ่านเพ่อื เปลย่ี นรหัสผ่านใหม่ ไฟลข์ อ้ มลู
ง. กฟิ ไดร้ ับอีเมลแจ้งใหเ้ ข้าไปล็อคอนิ เพ่ือรับคู ง. Full Control การใหส้ ิทธใ์ิ นการทำงานทกุ
ปองเงนิ สดจากเวบ็ ไซต์ทเี่ ขา้ ใชง้ านเป็นประจำ อย่าง ยกเวน้ เปลีย่ นชื่อไฟล์
แต่พบวา่ ชอื่ เวบ็ ไซตแ์ ตกต่างจากทเ่ี คยเขา้ ใช้
งาน 8. ขอ้ ใดคือนยิ ามทถ่ี กู ตอ้ งของมลั แวร์
3. ขอ้ ใดไม่เขา้ ข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. คอมพวิ เตอร์ ก. สปายแวร์ เป็นโปรแกรมทแ่ี อบขโมยข้อมลู
ก. เผยแพรเ่ น้อื หาท่ไี ม่เหมาะสม ระหว่างใชง้ านคอมพวิ เตอร์เพือ่ นำไปใช้แสวงหา
ข. เผยแพรภ่ าพตดั ตอ่ ของตัวเอง ผลประโยชนต์ ่างๆ
ค. เผยแพร่วธิ ีการเขา้ ถึงระบบคอมพวิ เตอร์ของ ข. เวิรม์ เปน็ โปรแกรมที่แฝงมากบั โปรแกรมทวั่ ไป
ผู้อ่นื ทำหนา้ ที่แสดงโฆษณาอยา่ งต่อเนอื่ ง
ง. เข้าถึงขอ้ มูลของผู้อน่ื โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต ค. มา้ โทรจนั เปน็ โปรแกรมท่ขี ดั ขวางการเขา้ ถึง
4. ข้อใดไมใ่ ช่แนวทางในการปอ้ งกนั อนั ตรายจากการใช้งาน ข้อมูลจนกว่าผใู้ ชจ้ ะจา่ ยเงนิ ใหผ้ เู้ รยี กค่าไถ่
อนิ เทอรเ์ นต็ ง. ถูกทุกขอ้
ก. ไม่เปดิ เผยข้อมลู ส่วนตวั
ข. ตงั้ รหสั ผา่ นในการเขา้ สรู่ ะบบ
ค. ไม่บอกรหสั ผา่ นในการเข้าสู่ระบบกับผูอ้ น่ื
ง. ปรกึ ษาปญั หาส่วนตวั กับผเู้ ชย่ี วชาญท่ีพบผ่าน
สอ่ื สงั คมออนไลน์
9. ข้อใดเป็นอาการของคอมพิวเตอรท์ ไี่ มไ่ ดเ้ กิดจากปญั หา 10. ข้อใดเป็นแนวทางในการปอ้ งกันมัลแวร์
มัลแวร์ ก. เรยี กใช้งานโปรแกรมตรวจจับมลั แวรใ์ น
ก. หนา้ จอกระพริบ และสั่น คอมพวิ เตอร์
ข. เปิดเครื่องคอมพวิ เตอรไ์ ม่ได้ ข. สังเกตความเรว็ ในการทำงานของ
ค. คอมพวิ เตอร์ทำงานชา้ และมขี ้อความ/ คอมพวิ เตอร์
โฆษณาแปลกๆ ค. ลบไฟล์งานท่ีไมใ่ ช้งานอยา่ งสม่ำเสมอ
ง. ขอ้ ก และ ข ถกู ต้อง ง. ขอ้ ก และ ข ถูกตอ้ ง
เฉลย
1. ง 2. ค 3. ข 4. ง 5. ก 6. ง 7. ค 8. ก 9. ก 10. ง
แบบทดสอบหลงั เรียน
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ขอ้ ใด ไม่ใช่ อนั ตรายท่ีอาจเกดิ จากการใช้งาน 4. ขอ้ ใดเปน็ แนวทางในการปอ้ งกนั อันตรายจากการใช้งาน
อินเทอร์เนต็ โดยตรง อนิ เทอรเ์ น็ต
ก. มีคนนำภาพตดั ตอ่ เจนไปโพสล้อเลียนในส่อื ก. นกต้งั รหัสผ่านโดยใชว้ นั เดอื นปีเกดิ เพื่อให้จำได้
สงั คมออนไลน์ ง่าย ไมใ่ ส่รหสั ผิดพลาด
ข. ฝนเลน่ แอพพลิเคชนั สอ่ื สงั คมออนไลน์ขณะเดนิ ข. เอกได้รบั อีเมลแจ้งวา่ เครือ่ งตดิ ไวรสั จงึ กรอก
ขา้ มถนน ชอื่ และรหสั ผา่ นตามลงิ กใ์ นอีเมล
ค. ปลาสแกนหนงั สอื การต์ นู ทซี่ อ้ื มาสง่ ให้เพ่อื น ๆ ค. ปุม้ แจ้งให้เพื่อนสนิททราบ ก่อนนดั พบเอกที่
ทางอีเมล รจู้ ักกนั คร้ังแรกทางสงั คมออนไลนไ์ ปดู
ง. เพื่อนที่รู้จักครั้งแรกผ่านส่ือสังคมออนไลน์ ชวน ภาพยนตร์
แบมไปเทย่ี วและขโมยเงิน ง. ปอมอา่ นข่าวออนไลนเ์ รอ่ื ง “นำ้ มะนาวรกั ษา
2. ข้อใดคือความหมายของการหลอกลวงแบบฟชิ ชิง 5. การต้งั รหสั ผ่านแบบใดมคี วามปลอดภัยสูง
(Phising) ก. ใช้วันเดือนปเี กดิ เช่น 10122550
ก. การชกั ชวนให้ซ้อื สนิ คา้ ปลอมผ่านสอื่ ออนไลน์ ข. ใช้ตัวเลขซ้ำ ๆ เพ่ือให้จำงา่ ย เชน่ 181818
ข. การใช้บัญชสี ื่อออนไลน์ของผอู้ ื่นเพ่อื หลอกให้ ค. เรยี งตัวเลขจากมากไปหาน้อย เชน่ 654321
โอนเงิน ง. ใช้อักษรพมิ พ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ตวั เลข สญั ลกั ษณ์
ค. การโพสขอ้ ความหลอกลวง ใสร่ า้ ย ผอู้ ืน่ ทางส่ือ เช่น Mtf6wU_1969
ออนไลน์
ง. การใชจ้ ิตวทิ ยาเพอ่ื ขอขอ้ มลู สำคญั ส่วนตวั ผ่าน 6. ข้อควรปฏิบตั ิในการเข้าใชง้ านโดยใช้รหัสผ่านในคอมพวิ เตอร์
สื่อออนไลน์ ก. เปลี่ยนรหัสผา่ นบ่อย ๆ ทกุ 2-3 เดือน
ข. บอกรหัสผา่ นเฉพาะเพอื่ นสนิทเทา่ นนั้
3. ข้อใด ไมถ่ ือว่าเป็นการกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ. ค. บันทกึ รหัสผา่ นแบบอัตโนมัตเิ พอื่ ปอ้ งกนั การพิมพ์
คอมพวิ เตอร์ รหสั ผ่านผดิ พลาด
ก. อ้อมสง่ อเี มลเพือ่ ขอยมื เงนิ จากฝน ง. จดรหสั ผ่านใส่กระดาษหรือในอปุ กรณ์เทคโนโลยี
ข. หมูเขา้ ไปลบไฟลก์ ารบา้ นในคอมพวิ เตอรข์ อง เพอ่ื ปอ้ งกันการลมื รหสั ผา่ น
ผ้งึ
ค. ไผน่ ำรหัสผา่ นอเี มลของเต่าไปโพสในสอ่ื สงั คม 7. รปู แบบการกำหนดสทิ ธใ์ิ นการเข้าใช้งาน ข้อใดไมถ่ กู ตอ้ ง
ออนไลน์ ก. Write คอื ให้สิทธิ์ในการแกไ้ ขไฟล์ขอ้ มูล
ง. ตน้ ตดั ตอ่ ภาพแอนกับภาพชุดว่ายน้ำ โพสในสื่อ ข. Modify คอื สิทธใิ์ นการปรบั ปรุงไฟลข์ อ้ มลู
สังคมออนไลน์ ค. Full Control คอื ให้สิทธ์ใิ นการทำงานทกุ อย่าง
ง. Read คอื ใหส้ ิทธใ์ิ นการอ่านและลบไฟล์ข้อมลู
8. ขอ้ ตอ่ ไปนีไ้ มใ่ ช่ลักษณะของมลั แวร์ 10. ข้อใดไมใ่ ช่แนวทางการปอ้ งกันมัลแวร์
ก. ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมทหี่ ลอกลวงให้ผ้ใู ช้ ก. ลกู กวาดสำรองไฟลข์ ้อมูลคอมพิวเตอรไ์ วใ้ น
ติดตงั้ และเรยี กใช้งาน แฟลชไดรฟ์ทุกอาทติ ย์
ข. ไวรัสคอมพวิ เตอร์ เป็นโปรแกรมทีเ่ ขียนข้ึน ข. ปันปนั สแกนไวรสั ในคอมพวิ เตอรท์ ุกคร้ังท่ี
เพ่ือ ขัดขวางการทำงานของคอมพิวเตอร์ ต้องใชแ้ ฟลชไดรฟ์ของเพ่ือน
ค. สปายแวร์ เปน็ โปรแกรมท่หี าจดุ ออ่ นของ ค. ต้นน้ำ ไดอ้ เี มลจากคนทีไ่ มร่ ู้จักแจง้ ว่าถกู
ระบบปลอดภัยแล้วแพร่กระจายสู่ ลอตเตอรี แต่ไม่ยอมเปดิ ไฟลแ์ นบและลบเมล
คอมพวิ เตอรอ์ ่นื ๆ ง. เพลิน จัดไฟล์งานในคอมพิวเตอรใ์ หห้ มวดหมู่
ง. โปรแกรมแอ็ดแวร์ เปน็ โปรแกรมทแี่ ฝงมากับ และลบไฟลภ์ าพ เอกสารทไี่ มไ่ ดใ้ ชง้ าน
โปรแกรมท่ัวไป ทำหนา้ ที่แสดงโฆษณาอยา่ ง สม่ำเสมอ
ตอ่ เน่อื ง
9. ขอ้ ใดคือปญั หาท่ีเกิดจากมลั แวร์
ก. มโี ฆษณาหรอื ข้อความแปลกๆ ขน้ึ มา
ข. คอมพิวเตอร์ทำงานชา้ ลง หรือคา้ งบ่อยๆ
ค. คอมพวิ เตอรไ์ มส่ ามารถเช่ือมต่ออนิ เทอรเ์ นต็
หรือเช่อื มตอ่ ไดช้ า้
ง. ถกู ทุกข้อ
เฉลย
1. ข 2. ง 3. ก 4. ง 5. ง 6. ก 7. ง 8. ค 9. ง 10. ง
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 ความปลอดภยั ในการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 6 ช่ัวโมง
เรอ่ื ง การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 4 ชัว่ โมง
รายวิชา คอมพิวเตอร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6
1. ผลการเรยี นรู้
1. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมีความรคู้ วามเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เพอื่ ให้ผู้เรียนมที ักษะการคิดเชงิ คำนวณ การคดิ วิเคราะห์ แกป้ ญั หาเป็นขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ
3. เพ่ือให้ผู้เรียนมีทกั ษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาขอ้ มลู ส่วนตัว และการส่อื สารเบื้องต้น
ในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
4. เพ่อื ให้ผเู้ รียนนำความรูค้ วามเขา้ ใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหม่ท่เี กิดข้ึนไปใช้ใหเ้ กิด
ประโยชนต์ ่อสังคม และการดำรงชีวิต
5. เพ่ือให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ
จัดการทักษะในการสอ่ื สาร และความสามารถในการตัดสินใจ
6. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ท่ีมีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ประเมนิ และรู้เท่าทันการใช้งานอินเตอรเ์ น็ต (K)
2. ใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ ได้อย่างรู้เทา่ ทนั และรับผดิ ชอบ (P,A)
3. สาระสำคัญ
อันตรายจากการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศทเ่ี ชื่อมต่อกับอินเตอรเ์ น็ต ในรูปแบบตา่ ง ๆ และ
แนวทางในการปอ้ งกนั อนั ตรายจากการใช้งานอนิ เตอรเ์ นต็ ซึ่งรวมถงึ การกำหนดรหสั ผ่าน และการกำหนดสิทธ์ิ
ในการใช้งาน รวมทง้ั อันตรายจากการตดิ ตั้งซอฟแวร์ และแนวทางในการตรวจสอบและป้องกนั มัลแวร์ ซ่งึ เปน็
สาเหตุให้เกิดความเสียหายตอ่ ข้อมลู ซอฟต์แวรแ์ ละอุปกรณ์เทคโนโลยีได้
4. สาระการเรียนรู้
1. อนั ตรายจากการใชง้ านอนิ เตอรเ์ นต็
2. แนวทางในการปอ้ งกนั อันตรายจากการใช้งานอนิ เตอรเ์ นต็
3. การกำหนดรหัสผา่ น
4. การกำหนดสิทธิใ์ นการเข้าใชง้ าน
5. รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน
1. วิธกี ารสอนโดยใช้บทบาทสมมติ (Role Playing)
2. เทคนิคการอภปิ รายกล่มุ ย่อย (Small Group Discussion)
3. เทคนิคตามแนวคิดเชงิ คำนวณ
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ซอื่ สัตย์ สจุ ริต
ความสามารถในการสอ่ื สาร ใฝ่เรยี นรู้
ความสามารถในการคดิ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
ความสามารถในการแก้ปัญหา มจี ติ สาธารณะ
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. ทักษะ 4 Cs
ทักษะการคดิ วิจารณญาณ (Critical Thinking)
ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั (Collaboration Skill)
ทักษะการสื่อสาร (Communication Skill)
ทักษะความคดิ สรา้ งสรรค์ (Creative Thinking)
8. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
มีวินยั
อย่อู ยา่ งพอเพียง
รักความเป็นไทย
9. การจัดกระบวนการเรยี นรู้
ชว่ั โมงท่ี 1
1. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่ือง ความปลอดภยั ในการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเป็น
การวดั พ้นื ฐานความรู้ก่อนเรยี น
ข้ันนำ (20 นาที)
2. นกั เรียนทำกิจกรรมลองทำดู ในแบบฝึกหดั (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 หนา้ 62
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เพ่ือเปน็ การทบทวนความรู้เดมิ ก่อนเข้าสู่บทเรียน
3. ครูนำนักเรียนสนทนา ความรู้เรือ่ ง อนั ตรายจากการใช้งานอินเตอรเ์ น็ต โดยเปิดวีดทิ ศั น์ ”เจด๊ าตลาด
แตก” https://youtu.be/ZtY0aU8JKB0 หรือสื่ออื่นทนี่ ำเสนอปัญหา อนั ตรายจากการใชง้ าน
อินเตอร์เน็ต ให้นกั เรยี นดแู ละตง้ั คำถามเพ่ือให้เด็กรว่ มกนั แสดงความเห็นและบนั ทกึ ลงสมดุ ตาม
หัวขอ้ ดังน้ี
1) ปญั หา อันตรายจากการใชง้ านอินเตอรเ์ น็ตจากวีดทิ ัศน์คืออะไร
2) สาเหตขุ องปัญหา อนั ตรายจากการใช้งานอินเตอรเ์ นต็ จากวีดิทัศน์คืออะไร
4. จากวีดทิ ศั น์ท่ีนักเรยี นไดด้ ู ครูชช้ี วนให้นกั เรยี นตระหนกั ถึงอันตรายจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต และ
เห็นความสำคัญในการป้องกันอนั ตรายจากการใชง้ านอนิ เตอรเ์ นต็
5. ครบู อกนักเรยี นว่า นอกจากตัวอยา่ งอนั ตรายจากการใช้งานอนิ เทอร์เนต็ ตามตวั อยา่ งท่ีครูเปิดให้
นกั เรยี นดูแล้ว นกั เรียนรูห้ รือไมว่ ่ายงั มอี ันตรายจากการใช้งานอนิ เทอร์เนต็ อีกหลายรูปแบบ วันนเี้ รา
จะมาเรียนรูเ้ รื่องน้ีกนั
ขั้นสอน (40 นาท)ี
6. ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาเนอ้ื หาในหนงั สือเรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป. 6 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง
อนั ตรายจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต หนา้ 83-86 และเร่ืองแนวทางในการป้องกันอันตรายจากการใช้
งานอินเทอร์เน็ต หน้า 88-89
7. ครแู จกแบบสอบถามใหน้ กั เรียน เพอ่ื สำรวจอนั ตรายจากการใชอ้ ินเตอร์เน็ตของนกั เรยี น โดยให้
นักเรียนตอบแบบสอบถาม เร่ือง อันตรายจากการใช้อินเตอรเ์ นต็ และเกบ็ แบบสอบถามไวก้ บั ตนเอง
ก่อน (ครูสามารถให้นักเรยี นทำแบบสอบถามผา่ น Google from ก็ได)้
8. ครมู อบหมายงานให้นักเรยี นทำกจิ กรรมฝึกทักษะ Com Sci ในหนงั สือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป. 6
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 หนา้ 87 และหนา้ 90 เพอ่ื ทำเป็นการบ้าน
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั สอน (60 นาท)ี
1. ครทู บทวนความร้เู ดิมในชัว่ โมงทีแ่ ลว้ เรอื่ งอนั ตรายจากการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตและเรือ่ งแนวทางใน
การปอ้ งกนั อนั ตรายจากการใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ต
2. ครใู หน้ ักเรียนแบ่งกลุ่มใหญ่ ๆ 3-4 กลมุ่ จากนนั้ ใหแ้ ต่ละกลุ่ม รวบรวมและประมวลผลแบบสอบถาม
ของกลมุ่
3. ครแู จกกระดาษฟลปิ ชาร์ท และแจกปากกาสตี า่ ง ๆ เพื่อให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มวเิ คราะห์ปัญหา
เชื่อมโยงสาเหตุและผลกระทบ รวมทั้งจดั กลุ่มรปู แบบ ปัญหาหรอื อันตรายการใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต
จากแบบสอบถามของกล่มุ โดยครูใหน้ ักเรียนเลือก 3 ปญั หาทีค่ ดิ ว่ามีความสำคญั หรืออนั ตรายมาก
ท่สี ุด วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาน้ัน ๆ พรอ้ มท้ังหาแนวทางการป้องกันหรอื แก้ไข โดยครูใหเ้ วลา
นกั เรยี นจัดทำกลุ่มละ 20 นาที
4. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอปญั หา สาเหตุ และแนวทางป้องกันหรอื แก้ไข เกี่ยวกบั เรื่อง
การใช้งานอินเทอรเ์ น็ต โดยใหเ้ วลาในการนำเสนอกลมุ่ ละ 7-10 นาที
5. ครใู ห้นกั เรียนศึกษา กจิ กรรมเสริมสรา้ งการเรียนรู้ ในหนังสือเรียน (วทิ ยาการคำนวณ) ป. 6 หนว่ ย
การเรยี นร้ทู ่ี 4 หนา้ 106 และรว่ มอภิปรายในชั้นเรียนว่าหากนักเรียนได้รับอเี มล นักเรยี นควรทำ
อย่างไร เพราะเหตผุ ล พรอ้ มบอกวิธกี ารสงั เกตและป้องกนั อันตรายจากการใช้งานอเี มล และบันทึก
คำตอบลงสมุด
6. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความรูท้ ่ไี ด้จากการเรยี นในชวั่ โมงนี้
ช่วั โมงท่ี 3
ขัน้ สอน (60 นาท)ี
1. ครูถามนักเรยี นว่า รู้หรอื ไม่ว่าการป้องกนั อันตรายจากการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ท่งี ่ายและเปน็ พนื้ ฐานที่
สำคญั คอื การกำหนดรหัสผา่ น และการกำหนดสทิ ธ์กิ ารเข้าใช้งาน ซ่ึงเราทุกคนสามารถทำได้งา่ ย ๆ
ดว้ ยตนเอง
2. ครใู หน้ กั เรียนศึกษาศกึ ษาเน้ือหาในหนังสอื เรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป. 6 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรือ่ ง
การกำหนดรหสั ผา่ น หน้า 91 และเร่อื งการกำหนดสิทธใ์ิ นการเขา้ ใชง้ าน หน้า 93-94
3. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา่ นักเรียนสามารถสร้างวิธกี ารในการกำหนดรหัสผา่ นทม่ี คี วามปลอดภัย และ
ผใู้ ชง้ านจดจำได้ง่ายไดห้ ลากหลายรปู แบบ รวมทง้ั ควรศึกษาการกำหนดสิทธิใ์ นการเข้าใชง้ านในสอื่
หรือบริการออนไลนต์ า่ ง ๆ นอกเหนือจากท่ศี กึ ษาในหนังสือเรียนมาแลว้ เช่น การกำหนดสทิ ธ์ิในการ
แชร์ไฟลจ์ าก Google Drive จากนัน้ ครแู จกใบความรู้ เรื่องการกำหนดรหสั ผ่านและการกำหนด
สิทธ์เิ ขา้ ใชง้ าน เพ่ือให้นกั เรยี นศึกษาเพ่มิ เติม
4. ครแู จกใบงานท่ี 4.1.1 เรื่อง การกำหนดรหสั ผา่ นและการกำหนดสทิ ธเิ์ ขา้ ใช้งาน โดยมีประเด็นดงั น้ี
1) นักเรยี นมบี ัญชี Gmail หรอื ไม่
2) หากนักเรยี นไม่มีบัญชี Gmail ให้นกั เรยี นสมคั ร โดยดขู ัน้ ตอนจากใบความรูเ้ ร่ืองการ
กำหนดรหสั ผา่ นและการกำหนดสทิ ธ์เิ ขา้ ใช้งาน
3) นกั เรยี นคิดว่ารหัสผา่ นทนี่ ักเรียนใช้ มีความปลอดภยั มากน้อยเพียงใด
4) ให้นักเรยี นเปดิ โปรแกรม Microsoft word แล้วพิมพ์ช่อื นามสกุล ช้นั เรยี น และเลขท่ี
ของตนเอง ลงในโปรแกรม จากน้นั บันทกึ เป็นไฟล์ .doc แลว้ อปั โหลดไฟล์ลงใน Google
Drive และแชร์ให้คณุ ครูทาง .............(ชื่ออีเมลของคุณคร)ู ............ โดยกำหนดสิทธใ์ิ ห้
คุณครสู ามารถดูไฟล์ข้อมูลได้เพยี งอย่างเดยี ว ไม่มีสทิ ธ์ใิ นการแก้ไขหรอื ปรบั ปรุง
5. ครูนำนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายสรปุ ความร้ทู ไี่ ด้จากใบงานท่ี 4.1.1 เร่ือง การกำหนดรหัสผา่ นและการ
กำหนดสิทธิ์ในการเขา้ ใชง้ าน รวมท้ังให้นักเรียนบอกแนวทางในการนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ของ
นักเรียน
6. ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรมฝึกทักษะ Com Sci เรือ่ งการกำหนดรหสั ผา่ น หน้า 92 และกิจกรรม
เสริมสร้างการเรียนรู้ ข้อ 2 หน้า 107 ท้ายคาบเรยี น และมอบหมายงานใหน้ กั เรยี นทำกจิ กรรมฝกึ
ทกั ษะ Com Sci เรอ่ื งการกำหนดสทิ ธ์ิการเข้าใช้งาน หนา้ 95 ในหนงั สอื เรยี น (วิทยาการคำนวณ)
ป. 6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เป็นการบา้ น
ชั่วโมงท่ี 4
ข้นั สอน (50 นาที)
1. ครนู ำนกั เรียนสนทนา เร่ือง “ การกลนั่ แกล้งบนโลกออนไลน์”
โดยครสู รุปนยิ าม การกลน่ั แกล้งบนโลกออนไลน์ คือ การใช้อปุ กรณ์ เครื่องมอื สื่อสารผา่ นสื่อดิจทิ ัล
หรอื สอ่ื ออนไลน์ เชน่ คอมพวิ เตอร์ แทบ็ เลต็ โทรศัพท์มือถือ ในการกลั่นแกล้ง รงั แก คุกคามโดย
เจตนา และมักจะมีการทำซ้ำๆ เช่น นำขอ้ มลู สว่ นตัวหรือความลับของเพ่ือนไปเผยแพร่ในสื่อสงั คม
ออนไลน์ สร้างบญั ชีสอ่ื ออนไลน์เพอ่ื ต่อต้านหรือลอ้ เลียนเพอื่ น
2. ครูนำนักเรยี นรว่ มอภปิ รายในประเด็นต่อไปน้ี
1) การกล่ันแกล้งบนโลกออนไลนท์ ่ีเด็กเคยพบเจอในโรงเรียน
แนวคำตอบ: ครูใหน้ ักเรยี นอภปิ รายตามประสบการณ์ของนกั เรยี น
2) สาเหตุทม่ี กี ารกลั่นแกลง้ บนโลกออนไลนท์ เ่ี ด็กเคยพบเจอในโรงเรียน
แนวคำตอบ: ครใู ห้แนวคำตอบสาเหตุของการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ หลังนักเรยี น
อภิปราย
1.ผ้กู ระทำสามารถปกปดิ ปลอมแปลง ไม่แสดงตวั ตนเอง
2.ส่ือสงั คมออนไลน์ถูกใชเ้ ปน็ ช่องทางระบายอารมณ์
3.ความงา่ ยและสะดวกในการรังแก
4.บางส่วนมีสาเหตุมาจากในชวี ิตจรงิ เชน่ ความไม่พอใจตอ่ คนบางคนทรี่ ้จู ักและ
ปฏสิ มั พนั ธ์ในชีวติ จริง
3) แนวทางในแกป้ ัญหาการโดนกล่นั แกล้งบนโลกออนไลน์
แนวคำตอบ: ครใู ห้แนวทางในการแก้ปัญหา หลังนกั เรียนอภิปราย
1) STOP ไมต่ อบสนองต่อผู้กล่ันแกลง้ และเกบ็ หลกั ฐานการกล่ันแกลง้ เช่นรูปภาพ
ข้อความทีผ่ ู้กลน่ั แกล้งโพสหรือสง่
2) BLOCK บล็อกการสื่อสารของผูก้ ลน่ั แกล้ง
3) REPORT รายงานใหค้ รู ผปู้ กครองหรอื ผูใ้ หญ่ทไ่ี วว้ างใจไดท้ ราบ และ/หรือ
รายงานไปทผี่ ใู้ ห้บริการสอื่ สงั คมออนไลน์ที่โดนกลนั่ แกลง้
(ท้งั นค้ี รูต้องชีใ้ ห้นักเรียนเห็นวา่ ปญั หาแต่ละเหตุการณ์อาจต้องใช้วธิ ีการแตกตา่ งกนั ไป
ตามบริบทปญั หา)
3. ครบู อกนักเรียนวา่ วันนี้ครูมีสถานการณ์ใหน้ กั เรียนลองสมมตบิ ทบาทเป็นบุคคลในสถานการณ์ และ
ลองนกึ ดวู า่ ถ้าหากสถานการณ์น้ีเกดิ กบั เรา เราจะรสู้ ึกอย่างไร
4. ครใู ห้แบง่ กล่มุ กลุ่มละ 6 คน แล้วให้นักเรียนร่วมกนั ทำกจิ กรรมฝึกทักษะที่ 1 เรอ่ื ง เหตุเกิด ณ หอ้ ง
คอมพิวเตอร์ โดยครูให้นักเรยี นแตล่ ะคนในกลุ่มสมมตบิ ทบาทเป็นตวั ละครตามสถานการณ์
สถานการณ์ตามเวลาตา่ ง ๆ
เวลา สถานการณ์
13.00 น. ฝนปวดหวั มาก ครจู ึงให้แฟงพาฝนไปท่ีห้องพยาบาล
13.05 น. ปมุ้ เหน็ กายกำลังพยายามเข้าสู่บญั ชสี อื่ ออนไลน์ในคอมพิวเตอร์ทฝ่ี นใชง้ านอยู่หลายครั้ง และเขา้ ใช้
งานไดโ้ ดยใช้รหสั ประจำตัวนกั เรยี นของฝน แต่ปมุ้ ไมไ่ ดส้ นใจอะไร
13.20 น. เจนเล่นคอมพวิ เตอร์และบงั เอญิ ไปเหน็ โพสในสอ่ื ออนไลน์ของฝน โดยในโพสเป็นรูปภาพฮปิ โปแตม่ ี
การตดั ตอ่ นำรปู หน้าของแฟงมาแปะแทนหวั ของฮปิ โป เจนรสู้ ึกตลกกบั ภาพจึงแชร์โพสใหก้ ับเพอื่ น
ๆ
13.21 น. แบมเปน็ เพือ่ นต่างห้องเรยี น เหน็ โพสแล้วไมเ่ หน็ ดว้ ยกับฝน และเขา้ ใจว่าฝนนสิ ัยไมด่ ี แตไ่ มไ่ ดแ้ ชร์
โพส
13.25 น. ปลาเหน็ โพสแลว้ รูส้ กึ แปลกใจ เพราะฝนกับแฟงเป็นเพื่อนสนิทกัน และทั้งคู่ก็อยู่ท่ีห้องพยาบาล ซ่งึ
ไมม่ คี อมพวิ เตอร์ จึงนำรปู ภาพใหค้ ณุ ครดู ู
13.30 น. ฝนและแฟงกลับมาทีห่ ้องเรยี น และถกู เพือ่ น ๆ มองดว้ ยสายตาทีแ่ ปลก ๆ
13.31 น. ครูถามเพ่ือนในหอ้ งวา่ ใครเปน็ คนกลั่นแกลง้ ฝนและแฟง ซึ่งไมม่ ใี ครกลา้ ยอมรบั ผดิ
5. ครูให้นักเรียนอภปิ รายกันในกลุ่มถงึ ความรสู้ ึก ความคดิ เหน็ จากมมุ มองของตวั ละครตามบทบาทที่
ตัวเองไดร้ ับ จากนน้ั เขียนสรุปและตอบคำถามลงในกิจกรรมฝึกทักษะที่ 1 เร่ือง เหตเุ กิด ณ หอ้ ง
คอมพิวเตอร์
ขัน้ สรปุ (10 นาที)
6. ครนู ำนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการจัดกิจกรรม การเห็นความสำคญั ของอันตราย
และการป้องกันอนั ตรายจากการใชง้ านอนิ เตอรเ์ นต็ รวมท้ังแนวทางในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ของนักเรยี น โดยครูชี้ใหน้ ักเรียนให้เห็นประเดน็ สำคัญ คอื
1) โทษของการใชเ้ ทคโนโลยีในการรังแก ใส่รา้ ยผู้อื่น จากการกระทำของกาย ซง่ึ ทำใหเ้ พอื่ นไดร้ ับ
ความเสียใจและอบั อาย รวมทัง้ จะทำให้ถูกลงโทษจากทางโรงเรยี น และเปน็ ความผิดตาม พ.ร.บ.
คอมพวิ เตอร์
2) การจัดการต่อสถานการณข์ องผู้ทีถ่ กู กล่นั แกล้งทางออนไลน์ คือ ฝนและแฟง โดยแก้ปัญหา
อย่างมีสติและรู้จักควบคุมอารมณ์ และใช้กระบวนการ Stop – Block – Report
3) บทบาทของผู้ที่มีส่วนรว่ มในเหตกุ ารณ์ ซ่งึ นักเรยี นเลือกได้ว่าควรจะเลอื กปฏิบตั ติ ่อเหตุการณ์
ตามตัวละครใด เพราะอะไร โดยกำหนดให้กายเป็นผ้รู ังแก แฟงเปน็ ผู้ถูกรังแก ปุ้มและแบม ท่ีเหน็
การกระทำผิดของกาย แต่ไม่ไดท้ ำอะไร เปน็ ผู้อยใู่ นเหตุการณ์ เจนทเ่ี ห็นโพสของกายและแชร์
โพสต่อเปน็ ผู้สนบั สนุนการรงั แก และปลาซง่ึ เหน็ โพสและพยายามชว่ ยผ้ทู ี่ถูกรังแก เป็นผู้ปกป้อง/
ชว่ ยเหลือผ้ถู กู รงั แก
นอกจากนคี้ รคู วรกระตนุ้ ให้นักเรยี นเสนอแนวทางสร้างสรรคข์ องตนเองตอ่ เหตุการณ์ทีเ่ กิดข้นึ
7. ครูมอบหมายงานใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัด (วทิ ยาการคำนวณ) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรื่องการใชง้ าน
เทคโนโลยสี ารสนเทศ หนา้ 63-66 เปน็ การบ้าน
10. สื่อแหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6
2. แบบฝกึ หดั (วิทยาการคำนวณ) ป.6
3. วดี ทิ ัศน์”เจด๊ าตลาดแตก” https://youtu.be/ZtY0aU8JKB0
4. แบบสอบถาม เร่ือง อันตรายจากการใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ ของนักเรียน
5. ใบความรู้ เรื่อง การกำหนดรหัสผ่านและการกำหนดสิทธิ์เขา้ ใช้งาน
6. ใบงานท่ี 4.1.1 เรือ่ ง การกำหนดรหัสผา่ นและการกำหนดสิทธิ์เขา้ ใช้งาน
11. การวัดและการประเมนิ ผล
11.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรม
จุดประสงค์ วิธกี ารประเมนิ เครื่องมือการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
1.ประเมินและรู้เท่าทนั ประเมนิ การนำเสนอ การ แบบประเมนิ การนำเสนอ นักเรยี นนำเสนอ การ
การใชง้ านอนิ เทอร์เน็ต วเิ คราะห์แบบสอบถาม ประเมนิ อันตรายและ
(K) เร่ืองอนั ตรายจากการใช้ แนวทางในการปอ้ งกัน
งานอนิ เทอร์เนต็ และ จากการใช้งาน
แนวทางปอ้ งกัน อนิ เตอร์เน็ต ในระดับ
พอใช้ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น
2. ใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตได้ ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 เรื่อง ใบงานที่ 4.1.1 เร่ือง นักเรยี นตอบคำถามในใบ
อยา่ งรู้เทา่ ทนั และ การกำหนดรหัสผ่านและ การกำหนดรหสั ผา่ นและ งานไดถ้ ูกต้อง 60 % ขึ้น
รบั ผิดชอบ (P,A) การกำหนดสิทธ์ิเขา้ ใช้งาน การกำหนดสิทธิเ์ ขา้ ใช้งาน ไปถือว่าผ่าน
ตรวจงานในอีเมล อีเมลของครู นักเรยี นส่งงานเขา้ ถึงอีเมล
ของครู โดยมกี ารกำหนด
ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ แบบประเมินกิจกรรมฝึก สทิ ธ์ิการเขา้ ถึงใหค้ รู
สามารถดูไฟลง์ านได้เพียง
ท่ี 1 เร่อื ง เหตเุ กิด ณ ห้อง ทักษะท่ี 1 เร่ือง เหตุเกดิ อย่างเดียว
นักเรยี นอธิบาย
คอมพวิ เตอร์ ณ หอ้ งคอมพวิ เตอร์ ความสำคัญ อันตราย และ
การปอ้ งกนั อันตรายจาก
การใช้งานอินเตอร์เน็ตใน
การสอ่ื สาร อยา่ งร้เู ทา่ ทนั
และรบั ผิดชอบต่อสังคม
ในระดับคุณภาพ พอใชข้ ้นึ
ไป ถอื ว่าผ่าน
11.2 การประเมนิ การทำงานกลมุ่
ลำดบั ท่ี รายการประเมิน คุณภาพผลงาน
4321
1 วเิ คราะหป์ ัญหา อนั ตรายจากการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตได้
2 บอกแนวทางการแก้ไข/ป้องกันปญั หา ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม
5 การรบั ฟังความคิดเหน็ ของสมาชิกกลมุ่ อ่ืน
รวม
เกณฑ์การให้คะแนน
ดีมาก = 4
ดี = 3
พอใช้ = 2
ปรับปรุง = 1
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคะแนน
18 – 20 ดมี าก
14 – 17 ดี
10 – 13 พอใช้
น้อยกว่า 10 ปรับปรุง
11.3 การประเมินกจิ กรรมฝึกทกั ษะที่ 1 เรอื่ ง เหตุเกิด ณ ห้องคอมพวิ เตอร์
ประเด็นในการประเมนิ 3 เกณฑ์การให้คะแนน 1
2
1.นักเรยี นประเมิน ประเมินปญั หา/อันตราย ประเมินปัญหา/อันตราย ประเมินปัญหา/อันตราย
ปัญหา/อนั ตราย และ และแนวทางป้องกัน และแนวทางป้องกัน และแนวทางป้องกนั
แนวทางป้องกันอนั ตราย อันตรายจากอนิ เตอร์เน็ต อันตรายจากอินเตอรเ์ น็ต อนั ตรายจากอนิ เตอร์เน็ต
จากอนิ เตอร์เน็ตจาก จากสถานการณไ์ ด้ จากสถานการณไ์ ด้ จากสถานการณ์ได้
สถานการณ์ได้ถูกต้อง ถกู ต้อง เหมาะสม ถกู ต้อง เหมาะสม เปน็ ถกู ต้อง เหมาะสมเป็น
เหมาะสม โดยรวมมากกว่า 80% สว่ นใหญ่ (มากกว่า 50%) สว่ นน้อย (นอ้ ยกวา่
50%)
2.นกั เรียนมีการอธิบาย อธิบายความเหน็ อธิบายความเหน็ อธบิ ายความเห็น
ความรู้สึกเชิงบวก และ ความรสู้ กึ เชงิ บวก และ
ความเห็นความรสู้ กึ เชิง ความรู้สึกเชงิ บวก และ เชงิ รกุ ต่อผู้เก่ียวข้องใน เชิงรุก ต่อผเู้ ก่ียวข้องใน
สถานการณ์ เป็นสว่ น สถานการณ์ เป็นสว่ น
บวก และเชงิ รกุ ต่อ เชิงรุก ต่อผเู้ กี่ยวข้องใน ใหญ่ (มากกวา่ 50%) น้อย (น้อยกว่า 50%)
นักเรียนสามารถ นกั เรียนสามารถ
ผเู้ กี่ยวข้องในสถานการณ์ สถานการณโ์ ดยรวม วิพากษ์วจิ ารณ์และ วพิ ากษว์ จิ ารณ์และ
ตดั สินใจ ถงึ แนวทาง ตดั สนิ ใจ ถึงแนวทาง
มากกวา่ 80% ป้องกนั อนั ตรายจาก ปอ้ งกันอันตรายจาก
อนิ เตอร์เน็ตได้ ถูกต้อง อนิ เตอร์เน็ตได้ ถูกต้อง
3.นกั เรยี นสามารถ นักเรียนสามารถ และครบถว้ น เป็นส่วน และครบถว้ น เป็นส่วน
ใหญ่ (มากกวา่ 50%) น้อย (น้อยกวา่ 50%)
วพิ ากษ์วิจารณ์และ วพิ ากษว์ จิ ารณ์และ นกั เรียนมีการอธิบาย นักเรยี นมีการอธิบาย
วธิ กี ารแก้ปญั หาอยา่ ง วธิ ีการแกป้ ัญหาอย่าง
ตดั สนิ ใจ ถึงแนวทาง ตัดสนิ ใจ ถึงแนวทาง สรา้ งสรรค์ และเชิงรุก สร้างสรรค์ และเชงิ รุก
เปน็ สว่ นใหญ่ (มากกวา่ เป็นสว่ นน้อย (นอ้ ยกวา่
ป้องกนั อนั ตรายจาก ปอ้ งกนั อันตรายจาก 50%) 50%)
อินเตอร์เน็ตได้ถกู ต้อง อินเตอรเ์ น็ตได้ ถูกต้อง
เหมาะสม และครบถ้วน และครบถ้วนมากกว่า
80%
4.นักเรยี นมีการอธิบาย นกั เรียนมกี ารอธิบาย
วธิ ีการแก้ปัญหาอย่าง วิธกี ารแก้ปัญหาอย่าง
สร้างสรรค์ และเชิงรุก สร้างสรรค์ และเชิงรกุ
มากกวา่ 80%
เกณฑ์การตัดสนิ /ระดบั คณุ ภาพ
คะแนน 10 – 12 หมายถงึ ดี
พอใช้
คะแนน 6 – 9 หมายถงึ ปรบั ปรุง
น้อยกวา่ 6 หมายถงึ
แบบสอบถาม
เร่ือง อันตรายจากการใช้งานอินเตอรเ์ น็ต
1 ขอ้ มลู พน้ื ฐาน
1.1 เพศ 2) หญงิ
1) ชาย
2 พฤติกรรมการใช้งานอนิ เตอร์เนต็
2.1 จำนวนช่ัวโมงในการใช้สอ่ื ออนไลน์เฉลยี่ ต่อวัน
1) 0-1 ช่ัวโมง 2) 2-3 ชัว่ โมง 3) 4-5 ชั่งโมง 6 ชว่ั โมงขึน้ ไป
2.2 ประเภทกจิ กรรมทใ่ี ชส้ ่ือออนไลน์ (ตอบไดม้ ากกว่า 1 คำตอบ)
1) ค้นหาและรบั ชมวิดีโอคลปิ /การ์ตูน/ภาพยนตร/์ เพลง
2) คน้ หาข้อมลู ในการทำการบา้ น
3) ใช้สอ่ื สงั คมออนไลน์
4) เล่นเกม
5) ค้นหาข้อมลู เกีย่ วกับงานอดิเรกหรือสิ่งที่สนใจ
6) อนื่ ๆ (ระบ)ุ ………………………………………………………………………………………….
4) ปญั หา/อนั ตรายทเี่ คยพบดว้ ยตนเอง หรอื รับร้จู ากคนใกล้ชดิ ในการใช้สือ่ ออนไลน์
1) การเผยแพร่ขอ้ มลู ท่ีไม่เหมาะสม เชน่ การลอ้ เลียนเพ่อื นผ่านส่ือสงั คมออนไลน์
2) การลอ่ ลวงเดก็ และเยาวชน เชน่ คนที่รจู้ กั ทางอนิ เตอร์เน็ต ล่อลวงเด็กเพ่ือลว่ งละเมิด
ทางเพศ หรือลักพาตัวเพอ่ื เรยี กคา่ ไถ่
3) การหลอกลวงเพอื่ ขอข้อมูลสำคัญ เชน่ อีเมล/เวบ็ ไซต์ท่ลี ่อลวงท่ีให้กรอกข้อมลู ส่วนตัว
4)การก่ออาชญากรรมทางอินเตอร์เนต็ เชน่ อเี มล/เวบ็ ไซตท์ ีห่ ลอกใหโ้ อนเงนิ
5) อน่ื ๆ ระบ.ุ ...................................................................................................................
….…………………………………………………………………………………………………………………..
ใบความรู้
เรือ่ ง การกำหนดรหสั ผา่ นและการกำหนดสิทธิใ์ นการเข้าใช้งาน
1 การกำหนดรหัสผ่าน
การกำหนดรหัสผา่ นเป็นวธิ ีพื้นฐานที่สำคญั ในการปอ้ งกันการเข้าถงึ ขอ้ มลู ส่วนตวั นกั เรียน
สามารถสรา้ งสรรคว์ ธิ กี ารของตนเอง ในการกำหนดรหสั ผ่านท่มี ีความปลอดภัยสงู นกั เรียนจดจำได้งา่ ยแต่
ผู้อ่ืนคาดเดาไดย้ าก หรอื ใชแ้ นวคิดหรอื วธิ กี ารกำหนดรหสั ผา่ นโดยใชแ้ นวคิดหรอื วิธกี าร ดังต่อไปนี้
1 เลอื กประโยค วลี ภาษาองั กฤษ ท่ีคดิ ขึ้นเอง หรือจากหนังสอื เพลง ทชี่ อบ
2 เลอื กอกั ษรตวั แรกหรือสองตวั แรกของแตล่ ะคำในประโยค วลี ทเ่ี ลือกมาเรียงกัน
3 เปล่ยี นบางตวั อกั ษรเป็น สญั ลกั ษณ์ หรือตัวเลข เช่น เปลยี่ น ตัว L(แอล)
เป็นเลข 1(หนง่ึ ) เปลีย่ นตัว O (โอ) เป็น เลข 0 (เลขศูนย์)
4 เปลีย่ นบางตวั อักษรเป็น ตวั พิมพใ์ หญ่ บางตวั เป็นตวั พมิ พ์เลก็
5 เตมิ ชุดตัวเลข ทีน่ กั เรยี นจำได้ หรอื มีความหมายกบั นกั เรียนตอ่ ทา้ ย
2 การกำหนดสทิ ธ์ใิ นการเขา้ ใช้งาน
กำหนดสิทธ์ิการเขา้ ถึงการเข้าใชง้ าน เปน็ การกำหนดสิทธใ์ิ นการเขา้ ถงึ ข้อมลู เพอื่ เพิม่ ความ
ปลอดภัยให้กบั ข้อมูล ในกรณีของการใช้งาน google Dive นักเรียนสามารถศึกษาข้ันตอน วธิ กี ารกำหนด
สทิ ธ์ในการเขา้ ใชง้ าน ในการแชร์ข้อมลู ไฟล์จาก Google Drive ไดจ้ าก เมนู ความชว่ ยเหลือของ Google
ไดรฟ์ หรอื ลงิ ก์
https://support.google.com/drive/answer/2494822?co=GENIE.Platform%3DDesktop&hl=th
ใบงานท่ี 4.1.1
เร่ือง การกำหนดรหสั ผา่ นและการกำหนดสิทธิ์เขา้ ใชง้ าน
คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี
1. นักเรยี นมบี ัญชี Gmail หรอื ไม่
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
(หากนักเรียนไม่มบี ัญชี Gmail ใหน้ กั เรียนสมคั ร โดยดขู ้นั ตอนจากหนังสือเรยี นและใบความรู้เรื่องการกำหนด
รหัสผา่ นและการกำหนดสิทธ์ิเขา้ ใช้งาน)
2. นกั เรยี นคิดว่ารหสั ผ่านทน่ี กั เรยี นใช้ มคี วามปลอดภัยมากนอ้ ยเพียงใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….....
3. ให้นกั เรียนเปิดโปรแกรม Microsoft word แลว้ พิมพช์ ื่อ นามสกุล ชั้นเรียน และเลขที่ ของตนเอง
ลงในโปรแกรม จากน้ันบันทึกเปน็ ไฟล์ .doc แลว้ อปั โหลดไฟลล์ งใน Google Drive และแชรใ์ ห้คุณครู
ทางอีเมล โดยกำหนดสทิ ธ์ิให้คุณครูสามารถดูไฟล์ข้อมลู ได้เพยี งอย่างเดยี ว ไม่มีสิทธิ์ในการแก้ไขหรือ
ปรบั ปรุง
ใบงานที่ 4.1.1 เฉลย
เรื่อง การกำหนดรหสั ผา่ นและการกำหนดสิทธเ์ิ ขา้ ใชง้ าน
คำชี้แจง : ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1. นกั เรยี นมีบัญชี Gmail หรอื ไม่
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
(หากนักเรียนไม่มบี ัญชี Gmail ให้นกั เรียนสมัคร โดยดขู ้ันตอนจากหนังสือเรยี นและใบความรเู้ รอ่ื งการกำหนด
รหสั ผ่านและการกำหนดสทิ ธ์ิเข้าใช้งาน)
2. นักเรยี นคิดว่ารหสั ผา่ นที่นักเรียนใช้ มคี วามปลอดภัยมากน้อยเพยี งใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….....
3. ใหน้ กั เรยี นเปิดโปรแกรม Microsoft word แล้วพิมพ์ชื่อ นามสกุล ช้นั เรยี น และเลขที่ ของตนเอง
ลงในโปรแกรม จากน้นั บันทึกเป็นไฟล์ .doc แล้วอัปโหลดไฟลล์ งใน Google Drive และแชรใ์ ห้คุณครู
ทางอเี มล โดยกำหนดสิทธ์ิให้คุณครูสามารถดูไฟล์ข้อมูลได้เพียงอย่างเดียว ไมม่ สี ิทธิใ์ นการแก้ไขหรือ
ปรบั ปรุง
12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงช่อื
(
ตำแหนง่
13. บนั ทึกผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ความปลอดภัยในการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 6 ชั่วโมง
เรือ่ ง การตดิ ตง้ั ซอฟตแ์ วร์จากอนิ เทอรเ์ นต็ เวลา 2 ชั่วโมง
รายวิชา คอมพิวเตอร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6
1. ผลการเรียนรู้
1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีความรูค้ วามเข้าใจในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นมที กั ษะการคดิ เชงิ คำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปญั หาเป็นขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ
3. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการส่อื สารเบ้ืองต้น
ในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ จรงิ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
4. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวทิ ยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหม่ทเ่ี กดิ ข้ึนไปใช้ให้เกิด
ประโยชนต์ อ่ สังคม และการดำรงชีวติ
5. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการ
จัดการทกั ษะในการสอื่ สาร และความสามารถในการตัดสนิ ใจ
6. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายประเภทของมลั แวร์และแนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกนั มลั แวร์ได้ (K)
2. ตรวจสอบและป้องกันมลั แวรไ์ ด้ (P)
3. เหน็ ความสำคัญของอันตรายจากการตดิ ต้ังซอฟแวรจ์ ากอินเตอรเ์ น็ต การตรวจสอบและป้องกันมลั แวร์
(A)
3. สาระสำคัญ
การติดตั้งซอฟแวรจ์ ากอินเตอร์เนต็ อาจทำให้มลั แวร์ ซง่ึ เป็นซอฟแวรท์ ่ีตั้งใจออกแบบมาเพอื่ ทำ
อนั ตรายกับคอมพิวเตอร์ ดงั นนั้ ผใู้ ช้งานตอ้ งรู้แนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกนั มลั แวร์เพื่อป้องกนั การ
อนั ตรายในรูปแบบต่างๆ เชน่ ขโมยข้อมลู , การลบข้อมูล, การทำลายระบบ เปน็ ต้น
4. สาระการเรยี นรู้
1. อนั ตรายจากการตดิ ตั้งซอฟแวรท์ ี่อยบู่ นอนิ เตอรเ์ นต็
2. แนวทางการตรวจสอบและป้องกนั มลั แวร์
5. รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน
1. วธิ กี ารสอนโดยใช้เกม
2. เทคนคิ ตามแนวคดิ เชงิ คำนวณ
6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ซอื่ สตั ย์ สุจริต
ความสามารถในการส่อื สาร ใฝ่เรยี นรู้
ความสามารถในการคดิ มุ่งมน่ั ในการทำงาน
ความสามารถในการแกป้ ัญหา มีจติ สาธารณะ
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. ทักษะ 4 Cs
ทกั ษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)
ทักษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill)
ทกั ษะการสื่อสาร (Communication Skill)
ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
8. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
มีวินยั
อยู่อย่างพอเพยี ง
รักความเปน็ ไทย
9. การจัดกระบวนการเรียนรู้
ช่วั โมงท่ี 1
ขั้นนำ
1. ครูถามนักเรียนว่า นักเรยี นคนใดเคยเปน็ หวัดบา้ ง รูห้ รือไม่วา่ หวัดเกดิ จากอะไร
2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันถาม-ตอบ จนไดข้ ้อสรปุ วา่ หวัดเกิดจากการตดิ เชื้อไวรสั ทำให้ร่างกายของเรา
เกิดอาการจาม คดั จมูก มอี าการออ่ นเพลยี มีไข้เล็กน้อย เป็นตน้
3. ครูถามนักเรยี นว่า นอกจากเชื้อไวรัสทอ่ี ยู่ในร่างกายคนแล้ว นักเรยี นรูห้ รือไมว่ ่าคอมพิวเตอร์ที่เราใช้
ทำงานหรือคน้ หาข้อมูลตา่ ง ๆ ก็สามารถติดไวรัสได้เหมือนกัน นักเรียนร้จู กั ไวรสั คอมพวิ เตอร์หรอื ไม่
คอื อะไร มคี วามเหมือนหรือแตกตา่ งจากไวรสั ที่ทำใหเ้ ราเป็นหวดั หรอื ไม่
ข้นั สอน
4. ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ หลงั จากทีน่ ักเรยี นแสดงความเห็นรว่ มกนั ว่า ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือโปรแกรมชนดิ
หนึง่ ท่ถี กู เขียนขนึ้ เพ่ือให้จดั การตวั เองได้ โดยมลี กั ษณะเลียนแบบไวรสั เติบโต ขยายและแพร่กระจาย
ได้ และสามารถอยู่รอดได้ดว้ ยการอำพรางตน เหมือนเชือ้ ไวรัส ไวรัสคอมพวิ เตอรเ์ ป็นประเภทหนงึ่
ของโปรแกรมที่เปน็ เครอ่ื งมอื ในการก่อปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เตอร์เน็ตทแี่ ฝงมากบั ซอฟแวร์ที่
ตดิ ตั้ง โดยไวรัสเป็นหน่ึงในประเภทของมลั แวร์ (Malware)
5. ครูถามนักเรยี นว่า นักเรยี นรจู้ ักมลั แวร์หรอื ไม่ จากนนั้ ให้นักเรยี นศกึ ษาความหมายและประเภท
ของมัลแวร์ในหนังสอื เรียน (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 หน้า 96-98
6. ครูสแกน QR Code ในหนงั สือเรยี นหน้า 98 เพ่ือใหน้ ักเรยี นศกึ ษาวดี ิทัศน์เพิ่มเติมในเรื่องไวรัส
คอมพวิ เตอร์ (ครูอาจให้นักเรียนที่มีโทรศัพทส์ แกน QR Code ดว้ ยตนเอง)
7. ครูให้นักเรียนทำกจิ กรรมเล่นเกมกับ Com Sci เกมมัลแวร์อะไรเอย่ ตามหนงั สือเรยี น (วทิ ยาการ
คำนวณ) ป.6 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 หน้า 104 โดยใหน้ กั เรยี นยนื ขนึ้ และจับคู่กับเพ่อื น หันหน้าเข้าหา
กัน จากน้ันให้คุณครูพูดวา่ “มลั แวรอ์ ะไรเอ่ย ? ที่มีลักษณะ ..........” โดยใหค้ รูบอกลักษณะ
ของมัลแวรใ์ ดก็ได้ นักเรียนแต่ละคู่จะต้องแข่งกันทายช่อื มลั แวร์จากลกั ษณะท่ีครกู ำหนดให้ หาก
นักเรยี นคนใดตอบชา้ หรือตอบผดิ ใหต้ กรอบ และไปต่อหลังคนทชี่ นะ แล้วใหค้ นท่ชี นะหาคู่ใหม่ เล่น
จนกวา่ จะเหลือผชู้ นะเพียงคนเดียว จึงส้ินสดุ เกม
8. ครบู อกนักเรยี นว่า ตอนนน้ี ักเรียนทกุ คนก็ไดร้ ู้จักมัลแวร์ประเภทตา่ ง ๆ ไปแล้ว แล้วเราจะทราบได้
อย่างไรวา่ คอมพวิ เตอร์ของเราถกู ตดิ ตั้งมัลแวร์ไปแล้ว
9. ครูใหน้ ักเรียนศึกษาแนวทางในการตรวจสอบและป้องกนั มัลแวรจ์ ากหนงั สือเรียนในหนา้ 100-102
10. ครถู ามนักเรยี นว่านักเรยี นเวลานักเรยี นใช้งานคอมพิวเตอร์ของตนเองทีบ่ า้ นหรือท่โี รงเรียน นักเรียน
เคยพบเห็นความผิดปกติของคอมพิวเตอร์หรือไม่
11. ครแู จกใบงานท่ี 4.2.1 เรอ่ื ง ตรวจสอบมัลแวร์ ใหน้ ักเรียน โดยใหน้ ักเรียนกลับไปสำรวจคอมพวิ เตอร์
ของตนเองท่บี า้ นวา่ มีอาการผิดปกติหรอื ไม่ หากนกั เรียนคนใดไม่มีคอมพวิ เตอร์ ให้สำรวจ
คอมพิวเตอร์ท่ีโรงเรยี น โดยใบงานนใ้ี หส้ ง่ ในชัว่ โมงถดั ไป
ประเดน็ ในการสำรวจคอมพิวเตอร์
1) คอมพวิ เตอร์ทำงานช้าลงหรือมอี าการค้างบ่อยขึ้นหรือไม่
2) ไม่สามารถเช่อื มต่ออนิ เทอรเ์ น็ตได้ หรือเช่ือมต่อได้ช้า
3) ไฟล์ข้อมูลหายโดยไม่ทราบสาเหตุ
4) มโี ฆษณา หรือข้อความแปลก ๆ ข้นึ มาระหวา่ งใชง้ าน
12. ครูมอบหมายงานให้นักเรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ Com Sci ในหนงั สอื เรียนหนา้ 99 และ 103 เปน็
การบา้ น
ช่ัวโมงที่ 2
ข้ันสอน (ต่อ)
1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนความร้เู ดมิ ที่เรยี นในชั่วโมงท่แี ล้ว เรอื่ งประเภทและความหมาย
ของมัลแวร์ แนวทางในการตรวจสอบและป้องกนั มัลแวร์
2. ครถู ามนักเรยี นถึงแบบสำรวจทใี่ ห้นกั เรียนนำไปทำเปน็ การบา้ นว่า คอมพิวเตอร์ของใคร ท่ีมีอาการ
หรือมีความนา่ จะเปน็ วา่ จะตดิ มลั แวร์บ้าง
3. ครใู หน้ ักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะท่ี 2 เร่อื ง แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมลั แวร์ ในหนังสอื
เรยี น (วิทยาการคำนวณ) ป.6 หนว่ ยการเรียนร้ั 4 หนา้ 72 โดยให้นักเรยี นบนั ทกึ พฤติกรรมเสีย่ งของ
ตนเองท่ีอาจทำใหเ้ กิดความไม่ปลอดภยั จากมัลแวร์ อธบิ ายวธิ แี กไ้ ขหากเกดิ ปัญหา และวธิ ปี อ้ งกัน
4. ครแู จกกระดาษ A4 ออกแบบและจดั ทำผังความคดิ (Mind Map) เร่ืองอันตรายจากการติดตั้ง
ซอฟต์แวร์เพื่อให้นกั เรียนสรปุ ความร้ทู ี่ได้เรียนทงั้ หมด โดยบอกประเภทและความหมายของมลั แวร์
แนวทางในการตรวจสอบและปอ้ งกันมัลแวร์ หากทำไม่ทันใหน้ ำกลบั ไปทำเปน็ การบา้ นและสง่ ครูใน
ชัว่ โมงถัดไป
ขัน้ สรปุ
5. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปความรูท้ ไี่ ด้จากการจดั กิจกรรม การเห็นความสำคญั อนั ตรายจากการ
ตดิ ต้งั ซอฟแวร์ และแนวทางการตรวจสอบและป้องกนั มลั แวร์ รวมทง้ั แนวทางในการนำไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวันของนักเรียน
6. ครใู ห้นกั เรียนตรวจสอบตนเองหลังจากจบบทเรยี นแลว้ ในหนงั สอื เรยี นหนา้ 104
7. ครูใหน้ ักเรียนดูผงั สรปุ สาระสำคญั ในหนังสอื เรยี น (วิทยาการคำนวณ) หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 หนา้
105 เพื่อเปน็ การสรุปความรู้ท่เี รยี นมาทัง้ หมด
8. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อประเมนิ
ความรูห้ ลังเรียน
9. ครมู อบหมายงานใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัด ในหนังสือแบบฝึกหดั รายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 หนา้ 67-69 เปน็ การบา้ น เพอ่ื ฝึกฝนความรู้
10. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น (วทิ ยาการคำนวณ) ป.6
2. แบบฝึกหัด (วิทยาการคำนวณ) ป.6
3. ใบงานท่ี 4.2.1 เรอ่ื ง ตรวจสอบมัลแวร์
11. การวดั และการประเมินผล
11.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรม
จดุ ประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เครอื่ งมอื การประเมิน เกณฑ์การประเมิน
แบบประเมินผงั ความคิด นกั เรียนอธบิ ายอนั ตรายจาก
1. อธิบายประเภท ตรวจผงั ความคดิ เร่ือง เรือ่ งอันตรายจากการ การตดิ ต้ังมลั แวร์และแนว
ติดตัง้ ซอฟตแ์ วร์ ทางการตรวจสอบและ
ของมลั แวรแ์ ละแนว อนั ตรายจากการตดิ ตั้ง ป้องกันมลั แวร์ ในระดบั
พอใช้ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน
ทางการตรวจสอบและ ซอฟต์แวร์ ตอบคำถามในใบงานได้
ถกู ต้อง 60% ขึ้นไปถือวา่
ป้องกนั มลั แวรไ์ ด้ (K) ผ่าน
อธบิ ายพฤตกิ รรมเสี่ยงและ
2. ตรวจสอบและ ตรวจใบงานที่ 4.2.1 ใบงานที่ 4.2.1 เร่ือง วธิ ีแกไ้ ขได้ ในระดับคณุ ภาพ
พอใช้ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน
ป้องกนั มลั แวร์ได้ (P) เรื่อง ตรวจสอบมัลแวร์ ตรวจสอบมัลแวร์
3. เหน็ ความสำคญั ของ ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ แบบประเมนิ กจิ กรรมฝกึ
อันตรายจากการตดิ ตั้ง แบบฝึกหดั หน่วยเรียนรู้ ทักษะ เร่ืองแนวทางการ
ซอฟแวร์จากอินเตอร์เน็ต ที่ 4 เร่อื งแนวทางการ ตรวจสอบและ
การตรวจสอบและ ตรวจสอบและ ปอ้ งกนั มัลแวร์
ปอ้ งกนั มัลแวร์ (A) ป้องกนั มัลแวร์
11.2 การประเมนิ ผงั ความคิด เรอ่ื ง อนั ตรายจากการติดตง้ั ซอฟต์แวร์
ประเดน็ ในการประเมิน 3 เกณฑ์การให้คะแนน 1
2
1.นักเรียนสามารถ อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย อธิบายความหมาย
อธบิ ายความหมาย ประเภท และโทษ ประเภท และโทษ ประเภท และโทษ
ประเภท และโทษ ของมลั แวร์ ได้ถูกตอ้ ง ของมัลแวร์ ไดถ้ ูกตอ้ ง ของมลั แวร์ ได้ถูกต้อง
ของมลั แวร์ ครบถ้วนทั้งหมด ครบถว้ น 50% ข้ึนไป ครบถ้วน นอ้ ยกวา่ 50%
2.นักเรยี นออกแบบ ออกแบบแผนผงั ความคิด ออกแบบแผนผงั ความคิด ออกแบบแผนผงั ความคิด
แผนผังความคิด ท่ีเข้าใจ ท่ีเป็นระบบ ชัดเจน ที่ เขา้ ใจงา่ ย มากกว่า ที่ เขา้ ใจง่าย น้อยกว่า
ง่าย เข้าใจงา่ ยทั้งหมด 50% 50%
3 นักรียนออกแบบ ออกแบบแผนผงั ท่ีมี ออกแบบแผนผังท่ีมี ออกแบบแผนผงั ท่ีมี
แผนผังความคิดที่ ภาพประกอบ/ ภาพประกอบ / ภาพประกอบ /
สวยงาม ภาพกราฟกิ และข้อความ ภาพกราฟกิ และข้อความ ภาพกราฟกิ และข้อความ
สวยงาม สวยงามพอใช้ สวยงามนอ้ ย
เกณฑ์การตดั สิน /ระดับคุณภาพ
คะแนน 8 – 9 หมายถงึ ดี
พอใช้
คะแนน 5 – 7 หมายถึง ปรบั ปรงุ
น้อยกวา่ 5 หมายถงึ
11.3 การประเมนิ กิจกรรมฝึกทกั ษะ เร่อื ง แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมัลแวร์
ประเด็นในการประเมนิ 3 เกณฑ์การให้คะแนน 1
2
1 นักเรยี นสามารถ ระบพุ ฤตกิ รรมเสี่ยงได้ ระบุพฤติกรรมเสยี่ งได้ ระบพุ ฤตกิ รรมเสีย่ งได้
อธบิ ายพฤติกรรมเส่ยี ง ถูกต้องและชัดเจน ถกู ต้องและชดั เจน เป็น ถกู ต้องและชดั เจน เปน็
ของตนเองที่อาจทำให้ ท้ังหมด ส่วนใหญ่ สว่ นน้อย
เกดิ ความไม่ปลอดภยั
จากมลั แวร์
2 อธิบายวธิ แี ก้ไขหาก อธบิ ายวิธีแกไ้ ขหากเกิด อธบิ ายวิธีแก้ไขหากเกิด อธบิ ายวธิ ีแก้ไขหากเกดิ
เกิดปญั หา และวธิ ี ปญั หา และวิธปี อ้ งกัน ปญั หา และวิธีปอ้ งกนั ปญั หา และวธิ ีปอ้ งกนั
ปอ้ งกนั ความไม่ปลอดภัย ความไม่ปลอดภยั ความไม่ปลอดภัย ความไมป่ ลอดภยั
จากมลั แวร์ จากมลั แวร์ ถกู ต้อง จากมัลแวร์ ถูกต้อง จากมัลแวร์ ถกู ต้องน้อย
ครบถ้วน มากกวา่ 50% กว่า 50%
เกณฑ์การตดั สนิ /ระดบั คณุ ภาพ
คะแนน 5 – 6 หมายถงึ ดี
พอใช้
คะแนน 3 - 4 หมายถึง ปรับปรุง
น้อยกวา่ 3 หมายถึง
11.4 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในช่อง
ที่ตรงกบั ระดับคะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงคด์ า้ น 32 1
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติได้
กษัตรยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคีปรองดองและเปน็ ประโยชน์
ตอ่ โรงเรียน
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏบิ ตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมที่เก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ตามท่โี รงเรยี นจัดข้ึน
2. ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถี่ กู ต้องและเปน็ จริง
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งท่ถี ูกตอ้ ง
3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั
มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน
4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนแ์ ละนำไปปฏิบัตไิ ด้
4.2 รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เช่ือฟังคำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ตง้ั ใจเรยี น
5. อยอู่ ย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั
5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คุณคา่
5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
6. มุง่ มัน่ ในการทำงาน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสำเรจ็
7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน
8.2 รจู้ ักการดแู ลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น
และโรงเรยี น
ลงชอ่ื ..................................................ผู้ประเมนิ
............/.................../................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดมี าก
พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางคร้ัง 30-40 พอใช้
ปรับปรงุ
ตำ่ กวา่ 30
11.5 แบบประเมินช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด
รายการ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ(ระดบั คุณภาพ)
ประเมนิ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
1. รูปแบบช้ินงานโปสเตอร์ ส่อื สารไดเ้ ข้าใจง่าย ส่ือสารได้เข้าใจงา่ ยแต่ไม่ สอื่ สารเข้าใจได้ยาก
นา่ สนใจ น่าสนใจ และไม่น่าสนใจ
2. ความถกู ต้องในการอธบิ าย บอกอนั ตรายและแนว บอกอนั ตรายและแนว บอกอนั ตรายและแนว
เกี่ยวกบั อนั ตรายและแนวทางการ ทางการป้องกนั ทางการป้องกนั อันตราย ทางการป้องกนั
ป้องกนั อันตรายจากอินเทอร์เนต็ อนั ตรายจาก จากอินเทอรเ์ นต็ ได้ อนั ตรายจาก
อนิ เทอร์เนต็ ได้ถูกต้อง ถูกต้องมากกวา่ 50% อนิ เทอร์เนต็ ได้ถกู ต้อง
มากกว่า 80% น้อยกวา่ 50%
3. ความถกู ต้องในการอธิบาย บอกแนวทางในการ บอกแนวทางในการ บอกแนวทางในการ
เกย่ี วกบั แนวทางในการตรวจสอบ ตรวจสอบและ ตรวจสอบและ ตรวจสอบและ
และป้องกนั มัลแวร์ ป้องกันมลั แวร์ได้ ปอ้ งกันมัลแวรไ์ ดถ้ ูกต้อง ปอ้ งกนั มัลแวรไ์ ด้
ถูกต้องมากกวา่ 80% มากกวา่ 50% ถูกต้องนอ้ ยกวา่ 50%
เกณฑ์การการตัดสิน ระดับคุณภาพ
คะแนน 7-9 หมายถงึ ดี
คะแนน 4-6 หมายถงึ พอใช้
ต่ำกวา่ 4 หมายถงึ ปรับปรงุ