The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนภาคเรียนที่1ปีการศึกษา2560

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chatreewr chatreewr, 2019-11-15 18:06:30

แผนการสอนภาคเรียนที่1ปีการศึกษา2560

แผนการสอนภาคเรียนที่1ปีการศึกษา2560

3-5-5

9.14 ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายเพ่อื สรุปการแก้ไขปัญหาโจทยอ์ ยา่ งเป็นขน้ั ตอน นักเรียนบนั ทึก
ขอ้ มลู ลงในสมุดบันทึก

9.15 นักเรียนทา่ แบบฝึกทักษะเพิ่มเตมิ ตามหลักการทไ่ี ด้จากการสรุปรว่ มกนั ระหว่างครูและนกั เรียน
ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
9.16 ครูใชค้ า่ ถามนา่ เพ่ือใหน้ ักเรยี นน่าหลกั การท่ีสรปุ ได้มาประยกุ ตใ์ ช้งานในสถานการณ์โจทยท์ ่ีมีความ
ซับซอ้ นมากขึ้น และเปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามและแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ในเรอื่ งทีเ่ รียน
9.17 นักเรียนทดลองทา่ แบบฝึกหดั ท่ีหลากหลาย โดยนา่ ข้อสอบโอเน็ต ข้อสอบ PAT2 ขอ้ สอบคัดเลือก
เข้ามหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ข้อสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น มาให้นักเรยี นฝกึ ท่าโดยครูจัดเตรียมไวใ้ น
เพาเวอร์พอยต์ประกอบการสอนในเว็บไซต์การสอนฟสิ ิกส์
9.18 นักเรยี นทา่ แบบฝกึ ทักษะเพิ่มเตมิ โดยมีครคู อยให้ค่าแนะน่า
9.19 นักเรียนตรวจค่าตอบและศกึ ษาเพ่ิมเติมจากเว็บไซต์การสอนฟิสกิ ส์
9.20 ครสู ่ังแบบฝึกหัดให้นกั เรียนกลบั ไปฝึกทา่ เป็นการบ้าน
ข้ันประเมิน (Evaluation)
9.21 นกั เรียนเขยี น Concept mapping ของเรื่องท่ีเรียนลงในสมดุ แลว้ ถา่ ยรูปส่งใน line หอ้ งเรียน
ฟิสกิ ส์และครปู ระเมินความเข้าใจเน้ือหาของนักเรียนจาก Concept mapping ท่นี ักเรยี นส่งมา
9.22 ครูต้งั ค่าถามเพื่อใหน้ ักเรียนตอบเพื่อตรวจสอบความเข้าใจในเน้ือหาทีเ่ รยี นอกี คร้งั
9.23 นกั เรียนท่าข้อสอบออนไลนผ์ ่านโทรศัพทม์ อื ถอื จา่ นวน 10 ข้อ โดยใช้เวลาในการท่าข้อสอบ
10 นาที
9.24 ครแู จ้งผลการสอบทันที โดยสง่ คะแนนใหน้ ักเรยี นทาง line หอ้ งเรียนฟสิ ิกส์
9.25 นักเรยี นทมี่ ีคะแนนไมถ่ ึงรอ้ ยละ 50 ครใู ห้นักเรยี นกลับไปทบทวนเน้ือหาเพาเวอร์พอยต์อีกครง้ั
และนดั หมายให้สอบออนไลนใ์ หมอ่ ีกคร้งั ในการเรียนคาบต่อไป ในสว่ นของนักเรียนทม่ี ีคะแนนเกินร้อยละ 50
และต้องการศกึ ษาทบทวนเพิ่มขึน้ ครูแนะน่าให้ศึกษาซ้่าในเพาเวอร์พอยต์และแนะนา่ เว็บไซต์เพ่อื ศกึ ษาด้วย
ตนเองเพ่ิมเติม
ขั้นการบูรณาการ (Integration)
9.26 ครูนา่ เสนอขอ้ มูลเกยี่ วกับความรนุ แรง ภัย อุบตั ิเหตุ ปญั หาทางเพศ อบายมขุ โรคเอดส์ และ
อบุ ัตภิ ัยที่อาจเกิดขนึ้ ได้ในชวี ิตประจ่าวนั จากข้อมูลในเว็บไซต์ http://www.youtube.com โดยอา้ งองิ เพ่ิมเตมิ
จากเว็บไซตห์ ้องเรียนสขี าวโรงเรยี นวชั รวิทยา http://www.wr.ac.th/wr/index.php/2015-01-22-16-19-35
9.27 ครูสอบถามนกั เรยี นเกีย่ วกับสภาพการใช้ชีวิตประจา่ วันทเี่ กย่ี วข้องกบั ความรุนแรง ภยั อบุ ัติเหตุ
ปญั หาทางเพศ อบายมขุ โรคเอดส์ และอบุ ัตภิ ัย ในแงข่ องการปรบั ตวั ทอี่ าจเกิดขนึ้ กบั ตวั นกั เรียน นกั เรยี น
รว่ มกันอภปิ รายและแลกเปล่ียนเรยี นร้รู ว่ มกัน
9.28 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั ความรุนแรง ภยั อุบตั ิเหตุ ปญั หาทางเพศ อบายมขุ โรค
เอดส์ และอบุ ตั ภิ ัยท่ีอาจเกดิ ข้ึนได้ในชีวิตประจ่าวัน ในแง่ของการใชว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาปรบั ใช้

3-5-6

10. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ จานวน ลาดบั ขัน้ ตอนการใช้สื่อ

รายการสื่อ 1 เวบ็ ไซต์ ทกุ ขน้ั ตอน
10.1 เว็บไซตก์ ารสอนฟิสิกส์
ท่ผี ลติ โดยนายชาตรี ศรีมว่ งวงค์ 1 ไฟล์ ทุกขัน้ ตอน
10.2 เพาเวอร์พอยต์การสอนฟิสกิ ส์ 1 กลมุ่ ทุกขั้นตอน
10.3 กลุม่ line การสอนฟสิ ิกส์ 1 ชุด ทุกขั้นตอน
10.4 ใบความรทู้ ี่ 5 1 ชุด ขั้นขยายความรู้ / ขั้นลงขอ้ สรุป
10.5 แบบฝึกหดั ท่ี 5 1 ชุด ขั้นสร้างความสนใจ
10.6 แบบทดสอบก่อนเรียนออนไลน์ 1 ชุด ข้นั ประเมิน
10.7 แบบทดสอบหลงั เรยี นออนไลน์

11. กิจกรรมเสนอแนะ

รายการ วิธีการ
11.1 ปรบั ปรุง-แก้ไขข้อบกพร่องของผเู้ รียน
นกั เรยี นที่มีคะแนนไม่ถึงรอ้ ยละ 50 ครใู หน้ ักเรยี นกลับไป
11.2 สง่ เสรมิ ความรู้ความสามารถของผูเ้ รยี น ทบทวนเนื้อหาเพาเวอร์พอยต์อกี คร้ังและนัดหมายให้
สอบออนไลนใ์ หมอ่ ีกคร้งั ในการเรยี นคาบต่อไป

นักเรยี นท่ีมีคะแนนเกนิ ร้อยละ 50 และต้องการศึกษา
ทบทวนเพิ่มขึ้น ครแู นะนา่ ให้ศกึ ษาซา่้ ในเพาเวอร์พอยต์
และแนะนา่ เวบ็ ไซต์เพื่อศึกษาดว้ ยตนเองเพ่ิมเตมิ

3-5-7

12.บนั ทกึ ผลหลังการสอน
12.1 ความกา้ วหน้าในการเรยี นการสอน

จา่ นวน คะแนน คะแนนเฉลย่ี คะแนนเฉลย่ี คะแนนเฉลย่ี E1/E2 ความก้าวหนา้
นกั เรยี น เต็ม กอ่ นเรียน ระหวา่ งเรยี น ในการเรยี น
หลงั เรียน
145 10 2.12 8.12 63.50
8.47 81.20/84.70

สูตร ร้อยละความกา้ วหนา้ ในการเรียน = คะแนนหลงั เรยี น – คะแนนก่อนเรยี น x 100
คะแนนเตม็

สตู ร หาประสิทธภิ าพของส่อื = E1/ E2 (ตามเกณฑ์ 80/80)
E1 = ประสทิ ธภิ าพของกระบวนการ (ท่าแบบฝึก)
E2 = ประสิทธิภาพของผลลพั ธ์ (สอบหลงั เรยี น)
ประสทิ ธภิ าพของกระบวนการ = คะแนนเฉลย่ี ระหวา่ งเรยี น x 100
คะแนนเต็ม

ประสิทธภิ าพของผลลัพธ์ = คะแนนเฉลยี่ หลงั เรยี น x 100
คะแนนเตม็

12.2 กระบวนการจดั การเรยี นการสอน
1.ขั้นสรา้ งความสนใจ นกั เรียนรอ้ ยละ 90 ให้ความสนใจคลปิ เก่ยี วกบั การสาธิตตวั อย่างของ

ครูเกี่ยวกับสมดุล และใหค้ วามสนใจคลิปท่ีครเู ปิดใหด้ ู โดยมีนกั เรยี นบางสว่ นสนใจซักถามเพิ่มเตมิ และร่วมกนั
กาหนดประเด็นของเรือ่ งทีต่ ้องการศึกษาเกย่ี วกับการเคลื่อนท่ีดว้ ยความเร่ง

2.ข้นั สารวจและคน้ หา นักเรียนร้อยละ 90 รว่ มกันศกึ ษาเก่ียวกบั เน้ือหาของการเคล่ือนท่ีด้วย
ความเรง่ โดยมกี ารซักถามและร่วมกันหาคาตอบ เข้าใจในประเด็นท่ีสนใจจะศึกษา รว่ มกนั วางแผนกาหนดแนว
ทางการสารวจตรวจสอบ ตง้ั สมมตฐิ าน กาหนดวิธีการทดลองและทาการศกึ ษาเน้อื หาจากหนังสือเรยี นและใบ
งาน มีการสบื คน้ ข้อมลู จากเว็บไซต์ต่างๆ เพ่ือลงข้อสรุปเกย่ี วกบั การเคลื่อนท่ีด้วยความเร่ง

3.ข้ันอธิบายและลงข้อสรปุ นกั เรยี นรอ้ ยละ 50 รว่ มกนั อภปิ รายเกีย่ วกบั เรอ่ื งทีเ่ รียนและ
รว่ มกันสรปุ เก่ยี วกบั การเคลือ่ นท่ีดว้ ยความเร่ง

4.ขัน้ ขยายความรู้ นักเรียนร้อยละ 50 ร่วมกันอธิบายสถานการณใ์ นชีวิตประจาวนั โดยใช้
ข้อสรปุ เก่ียวกับการเคลอ่ื นที่ด้วยความเร่ง

5.ข้ันประเมนิ นักเรยี นร้อยละ 75 สามารถนาหลักการและความรูท้ เี่ รียนตอบคาถามและ
สถานการณ์ทค่ี รูตัง้ ข้ึนได้

3-5-8

บรรยากาศการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนการเคล่อื นที่ด้วยความเรง่

12.3 ผลการสอน
( / ) สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้
( ) สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอื่ งจาก...............................................................

12.4 ปัญหาและอปุ สรรค
1. นกั เรยี นร้อยละ 30 วิเคราะห์โจทยฟ์ ิสกิ ส์ไมค่ ่อยได้
2. นักเรียนรอ้ ยละ 50 ยงั แกส้ มการคณติ ศาสตร์ในโจทย์ไม่ได้
3. นักเรียนร้อยละ 20 คิดเลขไมถ่ ูกต้อง
4. นกั เรยี นทาใบงานไมเ่ สรจ็ ตามเวลา

12.5 แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
1. ให้นักเรียนศึกษาตัวอยา่ งจากหนงั สือคมู่ อื เพิ่มเติม
2. นักเรยี นฝกึ แกส้ มการคณิตศาสตร์
3. นักเรยี นฝกึ คดิ เลขโดยให้ทดลองเล่นเกม 180 ไอควิ
4. ปรับปรุงใบงาน

ลงชอื่ ..............................................ผ้สู อน
(นายชาตรี ศรีม่วงวงค์)

3-5-9

ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
.................................................................... ..........................................................................................
...................................................................................................................... ........................................
............................................................................................................................. .................................

ลงช่อื ........................................................
(นางตวงรตั น์ อ้นอิน)

ต่าแหนง่ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............

ข้อเสนอแนะของรองผู้อ่านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................. .............................................................
............................................................................................................................. .................................

ลงช่อื ........................................................
(นายวเิ ชยี ร ยอดนิล)

ต่าแหนง่ รองผูอ้ ่านวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
วันที่..........เดือน..........................พ.ศ............

ข้อเสนอแนะของผู้อ่านวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................................................. .
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................

ลงช่ือ ........................................................
(นายไพชยนต์ ศรีมว่ ง)

ตา่ แหนง่ ผู้อา่ นวยการโรงเรยี นวชั รวทิ ยา
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............

3-5-10

ภาคผนวก
ประกอบแผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 5

3-5-11

สื่อการสอน

เวบ็ ไซตก์ ารสอนฟิสิกส์ ทสี่ รา้ งขนึ้ โดยนายชาตรี ศรมี ว่ งวงค์
ทอี่ ย่ขู องเวบ็ ไซต์ http://gg.gg/ct3110

3-5-12

ใบความรูท้ ่ี 5
เรื่อง การเคล่ือนทีด่ ว้ ยความเร่ง

การเคลือ่ นท่ดี ้วยความเร่งคงตัว

ในทีน่ ้ีเราจะกลา่ วถึงเฉพาะการเคลอ่ื นทใ่ี นแนวตรง ความเร็ว

เม่ือวัตถุมีการเคลือ่ นท่ดี ว้ ยความเรง่ ผลจะท่าให้วัตถุนน้ั จะ v
เคล่ือนท่เี ร็วข้นึ หรือช้าลง ( ความเรว็ เปลย่ี นแปลง ) ดงั นัน้ ถ้า
v-u
เร็วขน้ึ อยา่ งสมา่ เสมอหรือชา้ ลงอยา่ งสม่าเสมอในกรณีน้แี สดงว่า u
วัตถนุ ั้นมกี ารเคลอ่ื นท่ีดว้ ยความเร่งคงตวั เมื่อนา่ ความสัมพันธ์
t-0
ระหว่างความเร็วกบั เวลาเปน็ เขียนกราฟ จะได้กราฟเส้นตรง

ความชนั ของเส้นตรง คือ ความเรง่ นนั่ เอง ดังรปู 1. และ t เวลา
สามารถหาสมการความเร็วได้ดงั นี้
รูป 1 กราฟความเร็วกบั เวลา
y2 - y1 จากสตู รทว่ั ไป m=

x2 - x1
เมอ่ื แกน y คอื ความเรว็ ( v ) , แกน x คอื เวลา ( t ) แทนในสตู ร จะได้
v2 - v1
m= t2 - t1

ดังนน้ั m คือ การเปลย่ี นแปลงความเร็วในชว่ งเวลาที่เปลีย่ นไป ความหมายนก้ี ็คือ ความเร่ง ( a )
v2 - v1
จะได้ a = t2 - t1

a = v-u
t-0
v-u
a = t

at = v – u

v = u + at (1)

เม่ือ v คือ ความเร็วสุดท้ายที่เวลา t มหี นว่ ยเปน็ เมตรตอ่ วนิ าที ( m/s )

u คือ ความเร็วเริม่ ต้น ณ เวลาใด ๆ มหี นว่ ยเปน็ เมตรต่อวนิ าที ( m/s )
มีหนว่ ยเป็น เมตรตอ่ (วนิ าที)2 ( m/s2 )
a คอื ความเร่งคงตวั ค่าหนึ่ง

t คือ เวลาท่สี ังเกต มหี น่วยเปน็ วินาที ( s )

จากกราฟ รปู 2 เราสามารหาสมการของระยะทางของการเคล่อื นด้วยความเร่งคงตัว ได้จากพ้ืนทใ่ี ต้

กราฟน้ี

3-5-13

ความเร็ว
v

u v-0
u-0

t-0 t เวลา

เน่อื งจากพ้ืนที่ใตก้ ราฟ รูป 2 กราฟความเร็วกบั เวลา
ระหวา่ งความเร็วกับเวลาคือ
ระยะทางที่วัตถุเคล่ือนทไี่ ด้

พืน้ ที่ใต้กราฟ = พื้นท่ีสี่เหลีย่ มคางหมู
พ้นื ทใี่ ต้กราฟ 1
= 2 x ( ผลบวกของดา้ นคู่ขนาน )xสงู
S
= 1 x ( ( u – 0 ) + (v – 0 ) )x ( t – 0 )
S 2
1
= 2 x ( u + v )x t

S = (uv)t (2)
2

เมื่อ S คอื ระยะทางทเ่ี คลอื่ นที่ได้ มีหน่วยเป็น เมตร ( m )

v คอื ความเรว็ สดุ ท้ายที่เวลา t มหี นว่ ยเป็น เมตรตอ่ วินาที ( m/s )

u คือ ความเรว็ เร่ิมต้น ณ เวลาใด ๆ มีหนว่ ยเป็น เมตรต่อวินาที ( m/s )

t คือ เวลาท่ีสังเกต มีหนว่ ยเป็น วนิ าที ( s )

เมื่อน่าสมการ 1 แทนในสมการ 2 จะได้ สมการหาระยะทางทีไ่ ม่เกีย่ วของกับความเรว็ สุดท้าย ( v )

ดงั น้ี ( u ( u at)) t
2
S =

S = ( 2u  at ) t
2
( 2ut  at2 )
S = 2

S = 2ut + at2 3-5-14
2 2
(3)
S = ut + 1 at2
2 (4)

จากสมการ ( 1 ) v = u + at
v-u
จะได้ t = a

เมอื่ น่าคา่ t ไปแทนค่าใน ( 2 ) จาก S= (uv)t
2
( u  v ) ( v- u )
จะได้ S = 2 . a

S = v2 - u2
2a
2aS = v2 - u2
u2 + 2aS = v2

v2 = u2 + 2aS

จากสมการท้ัง 4 เราสามารถน่าไปใชก้ ับการเคล่ือนท่ีในกรณีทม่ี ีค่าความเร่งคงตัวได้ดงั ตัวอย่างตอ่ ไปนี้

ตัวอยา่ ง 1 วัตถุหนง่ึ ถูกดว้ ยขนาด 3 เมตรต่อวนิ าทียกก่าลังสอง จากขณะทมี่ ีความเร็ว 5 เมตรต่อวนิ าที จงหา

ความเรว็ และการกระจัดของวตั ถุเม่ือเวลาผ่านไป 6 วินาที

วิธที า จาก v = u + at
v = ( 5 m/s )+ ( 3 m/s2 ) ( 6 s )

v = 23 m/s

ตอบ ความเร็วของวัตถุเม่ือเวลาผ่านไป 6 วนิ าทีเท่ากบั 23 เมตรตอ่ วินาที
(uv)t
จาก S = 2

S = ( 5 m/s  23 m/s )( 6 )
2
S = 84 m

ตอบ การกระจัดของวตั ถเุ มื่อเวลาผ่านไป 6 วนิ าทีเทา่ กบั 84 เมตร

ตัวอย่าง 2 นกั กรีฑาวิง่ ออกจากจุดสตารท์ ดว้ ยความเรว็ 6 เมตรตอ่ วนิ าที และสามารถเร่งความเร็วได้ 4 เมตร
ตอ่ (วนิ าที)2 จงหาวา่ เมื่อเวลาผา่ นไป 5 วินาที จะวิ่งไดร้ ะยะทางเท่าใด

3-5-15

วิธที า จาก S = ut + 1 at2
ตอบ 2
1
S = (6 m/s )( 5 s ) + 2 (4 m/s2 )( 5 s )2

S = 80 m

นักกรีฑาจะวิ่งได้ระยะทางเท่ากับ 80 เมตร

การตกของวตั ถอุ ยา่ งอสิ ระ จะเป็นการเคลอื่ นที่ในกรณที ่คี วามเร่งมีค่าคงตัว จะใช้สัญลักษณ์แทน

ความเรง่ ของการตกของวตั ถอุ ย่างอสิ ระ คือ g ซ่งึ ความเร่งนีเ้ ปน็ ผลจากแรงดึงดดู ของโลกเนอื่ งจากสนามโนม้ ถว่ ง
( gravity ) คา่ ความเร่งเนอื่ งจากแรงดึงดูดของโลก ( g ) ค่ามาตรฐานคือ 9.8065 m/s2 เพื่อความสะดวกใน
การค่านวณจะใช้ 10 m/s2 ดังน้นั จากตัวอย่างขา้ งบน ค่า a จะเปล่ียนเปน็ ค่า g ในกรณีทก่ี ารเคลอ่ื นท่ีนน้ั

เป็นผลเน่ืองจากแรงดึงดดู ของโลก ดงั น้ี

v = u + at เป็น v = u + gt
v2 = u2 + 2aS เป็น v2 = u2 + 2gS
1 1
S = ut + 2 at2 เป็น S = ut + 2 gt2

ตวั อยา่ ง 3 โยนถุงทรายขน้ึ ด้วยความเร็วตน้ 6.0 เมตรตอ่ วนิ าที มีความเรง่ เน่ืองจากแรงดึงดูดของโลกลงมา

10 เมตรต่อวนิ าทียกกา่ ลังสอง จงหา

1. ถงุ ทรายจะถึงจุดสงู สุดนานเท่าใดต้งั แตเ่ ร่ิมโยน

2. ใชเ้ วลานานเทา่ ใดต้งั แต่เรม่ิ โยนถุงทรายจนกลบั ถึงจุดโยน

3. จุดสงู สดุ ของถงุ ทรายหา่ งจากจดุ โยนเทา่ ใด

4. ความเร็วเฉลย่ี ของถงุ ทรายช่วงขาขึ้นเปน็ เทา่ ใด
วธิ ที า 1. จากสมการ v = u + gt , g = -10 m/s2 ( มที ิศตรงข้ามกบั

ความเรว็ ) t = v-u
จะได้ g

แทนคา่ t = 0 - 6 m/s
-10 m/s2
t = 0.6 s

ตอบ ถงุ ทรายจะถึงจุดสงู สุดใชเ้ วลานาน 0.6 วินาที

2. ( เวลาขาขนึ้ จะเท่ากับเวลาขาลง เพราะ การเคลื่อนที่ท่ีมีระยะทางเท่ากนั ความเร่งเท่ากันเวลา
จะเท่ากนั )
ใช้เวลาต้ังแตเ่ ริ่มโยนถุงทรายจนกลับถงึ จดุ โยน = t (ขาข้ึน ) + t ( ขาลง )
= 0.6 s + 0.6 s

3-5-16

= 1.2 s
ตอบ ใช้เวลาตง้ั แตเ่ ริม่ โยนถุงทรายจนกลบั ถงึ จุดโยนเท่ากบั 1.2 วนิ าที

3. จากสมการ S = (uv)t
2
( 6 m/s  0 )( 0.6s )
S = 2

S = 1.8 m

ตอบ จดุ สงู สุดของถุงทรายห่างจากจุดโยนเทา่ กับ 1.8 เมตร

4. v = S
t
1.8 m
v = 0.6 s = 3 m/s

ตอบ ความเร็วเฉล่ียของถงุ ทรายช่วงขาข้นึ เทา่ กับ 3 เมตรต่อวนิ าที

3-5-17

แบบฝกึ ทักษะที่ 5
เรื่อง การเคลื่อนที่ดว้ ยความเร่ง

ชอ่ื ..........................................................………………….. ชั้น ม. 4 /......…. ……….เลขท่ี............….

คาชี้แจง จงเตมิ ค่าตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. รถยนต์คนั หน่ึงเคลือ่ นทีจ่ ากสภาพหยดุ นิ่งดว้ ยความเรง่ 2 เมตรต่อ(วนิ าที)2 จนมคี วามเรว็ เปน็ 10 เมตรต่อ

วนิ าที ได้ในเวลากีว่ นิ าที และได้ระยะทางกเ่ี มตร ( 5 s , 25

m)

2. วัตถหุ นงึ่ ขณะสงั เกตมีความเรว็ 5 เมตรต่อวินาที และมีความเรง่ 2 เมตรตอ่ (วินาที)2 ใชเ้ วลานานเทา่ ใดจึง

จะมคี วามเร็วเปน็ 54 กโิ ลเมตรตอ่ ช่วั โมง และเคลือ่ นท่ไี ด้ระยะทางเท่าไร ( 5 s , 50

m)

3. รถยนตค์ นั หนึ่งมคี วามเรว็ 15 เมตรต่อวินาที จากนนั้ เบรกด้วยความหน่วง 2 เมตรต่อวินาที2 จงหาเวลาท่ีรถ

คนั น้เี คล่ือนทไี่ ปได้ 56 เมตร (7 s

)

3-5-18

4. ชายคนหนงึ่ ยนื อยูบ่ นหน้าผาสงู ยื่นมือออกไปโยนก้อนหินขึ้นไปตรงๆ ในแนวด่ิงด้วยความเร็วต้น 20 เมตรต่อ
วินาที จงหา เวลาท่ีก้อนหินข้ึนไปถึงจุดสูงสุด ระยะสูงสุดจากจุดโยน ก้อนหินจะอยู่สูงจากจุดโยน 15 เมตร ณ
เวลาใด และขณะท่ีก้อนหินอยู่สูงจากจุดโยน 15 เมตร จะมีความเร็วเท่าไร หลังจากโยนไปแล้ว 3 วินาที
กอ้ นหินอยู่ท่ีใด และขนาดความเรว็ เท่าใด ( 20 s ) ( 20 m ) ( 1 s และ 3 s ) ( 10 และ –10 m/s) (
15 m , 10 m/s )

5. ชายคนหน่งึ ยืนอยู่บนหนา้ ผาสงู 40 เมตร ยนื่ มอื ออกมาโยนก้อนหนิ ขึ้นไปตรงๆ ด้วยความเรว็ ตน้ 10 เมตร

ตอ่ วนิ าที ก้อนหินจะตกถงึ เชิงผาในเวลาเท่าไร ด้วยความเรว็ เทา่ ไร ( 4 s , 30

m/s )

6. บอลลนู ลกู หนึ่งก่าลังลอยข้ึนด้วยความเร็ว 10 เมตรต่อวินาที ในแนวด่ิง ชายคนหน่ึงอยู่บนบอลลูน ปล่อยถุง
ทรายถึงพ้ืนในเวลา 4 วินาที จงหา ความสูงของบอลลูนขณะปล่อยถุงทราย ต่าแหน่งสูงสุดของถุงทรายจาก
พน้ื ความเรว็ และความสูงจากพืน้ ของถงุ ทรายหลงั จากปลอ่ ยไปแลว้ 2 วนิ าที

( 40 m , 45 m , 10 m/s , 40
m)

3-5-19

1. ให้นกั เรียนเลือกเขยี นแสดงความคดิ เห็นว่า ถา้ เราต้องการใหเ้ พ่ือนทา่ งานไมเ่ หมือนเดมิ เราจะตอ้ งบอก
อยา่ งไร ผลจะเป็นอยา่ งไรได้บา้ ง

…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
2. ความคิดเหน็ ของกลุ่มเหน็ ว่า ถา้ เราตอ้ งการใหเ้ พื่อนท่างานไม่เหมือนเดิม เราจะต้องบอกอย่างไร ผลจะเป็น

อย่างไรไดบ้ า้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….

3. ความคิดเห็นท่นี ักเรยี นและครูร่วมกันอภปิ รายสรปุ เห็นว่า ถ้าเราต้องการให้เพ่ือนทา่ งานไมเ่ หมือนเดมิ เรา
จะตอ้ งบอกอย่างไร ผลจะเป็นอย่างไรไดบ้ า้ ง

…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….

3-5-20

ให้นกั เรยี นสรุปสาระสาคญั ท่ีได้จากการสบื คน้ ข้อมูล แล้วบันทกึ ลงในสมุดจดบันทึก

1. การเคล่ือนท่ีด้วยความเร่งคงตวั

2. สมการที่เกีย่ วขอ้ งกับการเคล่ือนทีด่ ว้ ยความเร่งคงตวั

จงตอบคา่ ตอบใหถ้ กู ตอ้ ง

1. นายส่งเสริมและนายเพ่ิมศักด์ิ ไปเท่ียวต่างจังหวัดด้วยกัน นายส่งเสริมขับรถยนต์ไปรับนายเพิ่มศักด์ิท่ีบ้าน

โดยขับรถออกจากที่จอด ไป 5 วินาทีจนมีความเร็วเป็น 10 เมตรต่อวินาที แล้วขับด้วยความเร็วน้ีไปอีก 15

วนิ าที จึงลดความเรว็ ลงและไปจอดที่หน้าบ้านนายเพิ่มศักด์ิพอดี ในเวลา 5 วินาที แล้วนายส่งเสริมรับนาย

เพ่มิ ศกั ดไิ์ ปเที่ยวโดยขบั รถออกจากบ้านนายเพ่มิ ศกั ด์ไิ ปได้10 วนิ าทีจนมคี วามเร็วเป็น 15 เมตรต่อวินาที จง

หา

1.1 อตั ราเร็วเฉลี่ยทนี่ ายสง่ เสรมิ ขับรถยนต์ไปถึงบ้านนายเพิ่มศักด์ิ

1.2 ความเรว็ เฉล่ยี ของรถยนต์นายส่งเสรมิ ขับไปบ้านนายเพิ่มศักด์แิ ล้วขบั ออกจากบา้ นนายเพ่ิมศักดจ์ิ น

มคี วามเรว็ เปน็ 15 เมตรต่อวินาที S

วธิ ีทา 1.1 จาก v= t ………. ***
=
ช่วง 5 วินาทแี รก , จะได้ S1 = (uv)t = เมตร
2
ช่วง 15 วนิ าทตี อ่ มา , จะได้ S2 = vt = = เมตร
ชว่ ง 5 วนิ าทีต่อมา , จะได้ S3 = (uv)t = เมตร
2 =

S = S1 + S2 + S3 = = เมตร

t = 5 + 15 + 5 = วินาที
S เมตรต่อวนิ าที
แทนคา่ v = t = ตอบ

3-5-21

1.2 จาก v = S
t
(uv)t
ช่วง 10 วนิ าทีตอ่ มา, จะได้ S4 = 2 = = เมตร

คา่ ตอบท่เี ปน็ ไปไดม้ ี 2 เง่ือนไข

1.2.1S ทีเ่ ที่ยวไปทางเดยี วกับทางไปบา้ นนายเพิม่ ศกั ด์ิ = เมตร
= S1 + S2 + S3 + S4 =
t = 5 + 15 + 5 + 10 = วนิ าที
S =
แทนคา่ v = t = m/s ตอบ

1.2.2S ท่เี ทยี่ วตอ้ งย้อนกลับมาผา่ นบา้ นนายสง่ เสริม = เมตร
= S1 + S2 + S3 + S4 = วนิ าที m/s ตอบ
t = 5 + 15 + 5 + 10 =
S =
แทนค่า v = t =

2. ปลอ่ ยก้อนหินจากทส่ี งู แห่งหน่งึ ใหต้ กลงสู่พื้น เมอื่ เวลาผา่ นไป 2 วินาที จะมีความเร็วเทา่ ใด และเคลื่อนท่ีได้
ระยะเท่าใด ( g = 10 m/s2 )

วิธีทา จาก v = u + gt

แทนคา่ v = 1 = m/s ตอบ
2
และจาก S = ut + gt2

แทนค่า S = = m ตอบ

3. วตั ถหุ น่งึ เคล่ือนท่จี ากสภาพอยนู่ ง่ิ ดว้ ยความเร่ง 4 เมตรตอ่ (วนิ าที)2 จงหาระยะระหวา่ งวินาทที ่ี 5
1
วธิ ีทา จาก S = ut + 2 at2

S4 = ( 0 )( 4 ) + 1 ( 4 ) ( 4 )2 = …….. ( 1 )
2
S5 = = …….. ( 2 )

ระยะระหวา่ งวนิ าทีท่ี 5 คือ S5 – S4 = = เมตร ตอบ

3-5-22

1. จากกราฟ v - t ที่ก่าหนดให้ จงหา40 v ( m/s )
1.1 ความเร่งของแต่ละช่วง 30
20 t (s)
1.2 ระยะทางทัง้ หมด 2 4 6 8 10 12
1.3 อัตราเรว็ เฉลย่ี ของการเคลือ่ นท่ี 10

2. จากกราฟ v - t ทกี่ า่ หนดให้ จงหา v ( m/s )
2 4 6 8 10 12
2.1 ความเรง่ ในช่วง 4 วนิ าทีแรก 15 t (s)
2.2 เม่อื สิน้ เวลา 10 วนิ าที วตั ถุอยู่ 10
หา่ งจากจดุ เร่มิ ต้นเทา่ ใด 5

-5

3-5-23

3. จากกราฟ v - t ที่ก่าหนดให้ จงหา

v ( m/s ) 3.1 ความเร่งของแต่ละช่วง
3.2 ระยะทางท่วี ัตถุเคลื่อนที่ไดเ้ ม่ือสิ้นเวลา 10 วนิ าที

30 3.3 อัตราเรว็ เฉลย่ี ของการเคลือ่ นท่ี
20
10 t ( s )

2 4 6 8 10 12

4. วัตถหุ นึ่งเคลื่อนที่ในแนวเสน้ ตรง เขยี นกราฟ v - t ได้ดงั รูป จงหา

v ( m/s ) 4.1 ความเรง่ ชว่ ง 2 วินาทีแรก
40 4.2 ความเรง่ ตรงวนิ าทีที่ 4
30 4.3 ความเร่งตรงวินาทีท่ี 7
20 4.4 ความเร่งตรงวินาทีที่ 11
10 t ( s ) 4.5 ระยะทางทว่ี ัตถุเคลื่อนทไ่ี ด้ทั้งหมด

2 4 6 8 10 12

3-5-24

แผนผังมโนทัศนท์ ี่ 5
องคค์ วามรเู้ รอ่ื ง การเคลื่อนทีด่ ว้ ยความเร่ง

เจา้ ของผลงาน ช่อื ……………………………………………………ช้นั ……………..เลขท…ี่ …….

3-5-25

แบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรยี นที่ 5
เร่อื ง การเคลอ่ื นท่ดี ้วยความเร่งคงท่ี

ชอื่ …………………………….……………………นามสกลุ ……………………….…………………………ชนั้ ……………..เลขท…่ี …….
คาชแี้ จง จงตอบค่าถามใหถ้ ูกต้อง โดยใช้เวลาในการทา่ ข้อสอบ 10 นาที

1. แดงวิง่ ดว้ ยความเร็ว 10 เมตรตอ่ วนิ าที ไปทางทิศใต้ อกี 1 วนิ าทตี ่อมา วัดความเร็วได้ 4 เมตรต่อวินาทีใน

ทิศทางเดิม จงหาความเร่งของแดง ในขณะทีล่ ดความเร็วลง
ก. 6 เมตรตอ่ (วนิ าที)2 ไปทางทศิ ใต้ ข. 6 เมตรต่อ(วนิ าที)2 ไปทางทศิ เหนือ
ค. 14 เมตรต่อ(วินาที)2 ไปทางทิศใต้ ง. 14 เมตรต่อ(วนิ าที)2 ไปทางทิศเหนือ

2. ชานนท์ขับรถด้วยความเร็ว 28 เมตรต่อวินาที เห็นฝูงวัวเดินข้ามถนนอยู่ข้างหน้าจึงเหยียบเบรคท่าให้

ความเร็วลดลงเหลอื 4 เมตรต่อวินาทีในเวลา 2 วนิ าที จงหาระยะทางในช่วงทีเ่ บรค 2.5 วนิ าที

ก. 15 เมตร ข. 20 เมตร

ค. 35 เมตร ง. 40 เมตร

3. วัตถุหน่งึ เคลอ่ื นท่ใี นแนวตรงด้วยความเร็ว 12 เมตรต่อวินาที แลว้ มีความเร็วเพม่ิ ข้ึนอย่างสมา่ เสมอวนิ าทีละ
3 เมตรตอ่ วนิ าที จงหาความเรว็ ของวตั ถนุ เ้ี ปน็ กเ่ี มตรต่อวินาที เมอื่ เวลาผา่ นไป 4 วนิ าที

ก. 19 ข. 24
ค. 36 ง. 48

4. รถยนต์ A และ รถยนต์ B ออกจากสญั ญาณไฟเดียวกัน ด้วยความเร่ง 3 และ 1.8 เมตรตอ่ (วนิ าที)2

ตามล่าดบั จงหาวา่ อีก 6 วินาที รถยนต์ A จะอยหู่ น้ารถยนต์ B กีเ่ มตร

ก. 21.6 เมตร ข. 32.6

ค. 54.0 ง. 86.6

5. รถยนต์ A และ รถยนต์ B เคลื่อนที่จากหยุดน่ิงด้วยความเร่ง โดยรถยนต์ A มีความเร่งเป็น 3 เท่าของ

ความเร่งรถยนต์ B หลังจากรถทั้งสองเดินทางได้เวลาเท่ากัน ความเร็วของรถยนต์ A และความเร็วของ

รถยนต์ B มคี วามเรว็ สมั พันธ์กนั อยา่ งไร

ก. vA = 3 vB ข. vA = 3 vB
ค. vB = 3 vA ง. vB = 3 vA

6. วัตถุหนงึ่ เคล่ือนที่ในแนวเสน้ ตรงด้วยความเร่งคงทพี่ บวา่ ในวินาทีท่ี 6 และในวนิ าทีที่ 10 เคลื่อนท่ีไดท้ าง 23
เมตร และ 31 เมตร ตามลา่ ดับ วตั ถนุ ้ี มคี วามเรง่ ก่เี มตรตอ่ (วินาท)ี 2

ก. 4 ข. 3
ค. 2 ง. 1

3-5-26

7. มะม่วงลกู หนง่ึ ตกจากตน้ ทีอ่ ยู่สงู จากพ้ืน 4.9 เมตร อยากทราบว่า ลูกมะมว่ งอยใู่ นอากาศนานกว่ี นิ าที
(ก่าหนด g = 9.8 m/s2)

ก. 2.0 ข. 1.5

ค. 1.0 ง. 0.5

8. ชายคนหนงึ่ โยนวัตถุขน้ึ ตรงๆ ในแนวดง่ิ ด้วยความเรว็ 15 เมตรตอ่ วินาที ( กา่ หนดให้ g = 10 m/s2 ) เมือ่

เวลาผา่ นไปกว่ี ินาที วตั ถจุ งึ ตกกลบั มาถึงต่าแหน่งที่โยน

ก. 3.0 ข. 2.0

ค. 1.5 ง. 1.0

9. ยงิ วตั ถหุ นึ่งขน้ึ ตรงๆ ในแนวดง่ิ จากหนา้ ผาแหง่ หน่ึง ดว้ ยความเรว็ 40 เมตรต่อวนิ าที ปรากฏวา่ วัตถนุ ้นั ตกถึง
ตีนหนา้ ผา เมอ่ื เวลาผ่านไป 12 วนิ าที ( กา่ หนดให้ g = 10 m/s2 )
ก. 240 ข. 480
ค. 720 ง. 1,200

10. ขณะที่บอลลูนกา่ ลังลอยข้ึนด้วยอตั ราเรว็ 10 เมตรต่อวินาที คนในบอลลูนกป็ ล่อยวตั ถุลงมา ใหห้ าวา่ เม่อื
เวลาผา่ นไป 3 วินาที วตั ถจุ ะอยู่ตา่ กว่าบอลลูนอยู่เทา่ ใด
ก. 15 ข. 30
ค. 45 ง. 60

3-5-27

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรยี นท่ี 5
เรอ่ื ง การเคลอื่ นท่ดี ้วยความเรง่ คงท่ี

เฉลยแบบทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียน
ข้อ คาตอบ
1ง
2ง
3ข
4ก
5ข
6ค
7ค
8ก
9ก
10 ค

3-6-1

แผนจัดการเรยี นร้ทู ี่ 6

3-6-2

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว30201 วิชา ฟิสิกส์ 1

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การเคล่ือนที่แนวตรง
เรอื่ งที่ 6 การเคลื่อนที่แนวดิ่ง เวลา 6 ชั่วโมง
ผ้สู อน นายชาตรี ศรมี ่วงวงค์ โรงเรยี นวชั รวทิ ยา

1. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
เม่อื ปล่อยให้วัตถุตกอยา่ งเสรี วัตถุจะมคี วามเรว็ เพิ่มข้ึนอย่างสม่าเสมอ น่ันคือ วัตถเุ คล่อื นทดี่ ้วย

ความเรว็ คงตวั เรียกความเรง่ เนอ่ื งจากการตกของวตั ถุว่า ความเร่งเนอื่ งจากแรงโน้มถ่วงของโลก (gravitational
acceleration) ใช้สัญลกั ษณ์ g มคี า่ เท่ากับ 9.8 m/s2 ในกรณที ว่ี ัตถุเคล่ือนที่ขึน้ ในแนวด่ิง ความเร็วของวัตถุ
จะลดลงอย่างสมา่ เสมอ แสดงวา่ เคล่อื นทขี่ ้นึ ไปด้วยความเร่งทีม่ ที ิศตรงขา้ มกับความเร็วเนื่องจากการเคลื่อนท่ีใน
แนวดิ่ง ก็คือ การเคล่ือนที่ในแนวเสน้ ตรงแบบหนงึ่ ดังน้ันสตู รทใี่ ชใ้ นการค่านวณ จึงเหมอื นกับสูตรท่ใี ชค้ ่านวณ
ในการเคล่ือนท่ตี ามแนวราบ เพียงแต่เปล่ยี นค่า a เป็น g เท่าน้เี อง

2. สาระการเรียนรู้ฟิสิกส์
สาระฟสิ กิ ส์ ข้อ 1เขา้ ใจธรรมชาติทางฟสิ ิกส์ ปริมาณ และกระบวนการวัด การเคลื่อนทีแ่ นวตรง แรงและกฎ

การเคลอื่ นทข่ี องนิวตัน กฎความโนม้ ถ่วงสากล แรงเสยี ดทาน สมดุลกลของวตั ถุ งานและกฎการอนรุ ักษ์พลังงาน
กล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโคง้ รวมทงั้ น่าความรู้ไปใช้ประโยชน์

3. ผลการเรยี นรู้
3. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ตา่ แหน่ง การกระจัดความเร็ว และความเรง่ ของการเคล่ือนท่ี

ของวตั ถุในแนวตรงท่ีมีความเรง่ คงตวั จากกราฟและสมการ รวมทงั้ ทดลองหาคา่ ความเรง่ โน้มถว่ งของโลกและ
คา่ นวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

3-6-3

4.สาระการเรียนรู้
4.1 สาระฟสิ กิ ส์เพมิ่ เติม
การเคลอ่ื นที่แนวตรงเปน็ การเคล่อื นท่ีในแนวใดแนวหนึ่ง เช่น แนวราบหรอื แนวด่งิ ท่ีมกี ารกระจัด

ความเร็ว ความเร่งอยู่ในแนวเสน้ ตรงเดยี วกนั โดยความเร่งของวัตถหุ าได้จากความเร็วที่เปล่ยี นไปใน
หนงึ่ หนว่ ยเวลา

4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ
-

4.3 สาระการเรยี นรู้เกยี่ วกบั อาเซยี น
-

4.4 สาระการเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง
-

5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นและจดุ เนน้ ทีต่ อ้ งการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน
5.1 สมรรถนะ ความสามารถในการส่ือสาร
5.2 สมรรถนะ ความสามารถในการคดิ
5.3 สมรรถนะ ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5.4 สมรรถนะ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5.5 สมรรถนะ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.6 จุดเน้น แสวงหาความรู้เพือ่ การแก้ปญั หา
5.7 จดุ เน้น การใชภ้ าษาตา่ งประเทศ
5.8 จุดเน้น การคดิ วเิ คราะหข์ ั้นสงู
5.9 จดุ เน้น การใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื การเรียนรู้
5.10 จดุ เน้น ทักษะชีวติ
5.11 จดุ เน้น ทกั ษะการส่อื สารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย

6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
6.1 ใฝเ่ รยี นรู้
6.2 อยู่อย่างพอเพียง
6.3 มงุ่ มนั่ ในการท่างาน
6.4 รักความเป็นไทย
6.5 มจี ิตสาธารณะ

3-6-4

7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด/ระหว่างเรยี น)
7.1 แบบฝกึ ทักษะ (ระหว่างเรยี น)
7.2 แผนผงั มโนทัศน์ Concept mapping (รวบยอด)
7.3 แบบทดสอบหลังเรยี น (รวบยอด)

8.การวดั และประเมินผล

สง่ิ ท่ีวดั ช่วงการวดั วิธกี ารประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์
8.1 ความรู้ความเขา้ ใจ ระหวา่ งสอน ความถกู ตอ้ งของ Concept
Concept mapping ตอบถูกตอ้ ง
ในเน้อื หา mapping
คา่ ถาม
8.2 ความรคู้ วามเขา้ ใจ ระหวา่ งสอน การตอบคา่ ถาม
ในเน้อื หา ระหวา่ งสอน
ระหว่างสอน การตอบคา่ ถาม ค่าถาม ตอบถกู ต้อง
8.3 ทักษะและ
กระบวนการ การตอบคา่ ถาม ค่าถาม วิเคราะหต์ าม
สภาพคา่ ตอบ
8.4 เจตคติ

8.5 ผลการเรียนรู้ ระหวา่ งสอน การท่าแบบฝกึ ทกั ษะ แบบฝกึ ทักษะ ทา่ ถกู ร้อยละ 70 ขึ้นไป
8.6 ผลสัมฤทธ์ิ ส้นิ สดุ การสอน
คะแนนสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน ได้คะแนน

ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป

9. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
9.1 ครูเปดิ เพาเวอร์พอยตจ์ ากเวบ็ ไซต์สอนฟสิ กิ ส์ ทีเ่ วบ็ ไซต์ http://gg.gg/ct3110 เพอื่ เปดิ วีดทิ ศั นใ์ ห้

นกั เรียนศกึ ษา เร่อื ง การเคลื่อนท่ีแนวด่ิง
9.2 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั และเปลี่ยนเรยี นรจู้ ากเน้ือหาในวดี ิทศั นท์ ่ีไดด้ ูร่วมกนั
9.3 ครตู ้งั คา่ ถามนักเรยี นเกี่ยวกบั การเคลื่อนที่แนวด่งิ
9.4 นกั เรยี นตอบคา่ ถามของครูอยา่ งอิสระ และรว่ มแลกเปลี่ยนเรยี นรซู้ ึง่ กันและกัน พร้อมสอดแทรก

หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั รชั การที่ 9 เก่ยี วกับเรื่อง ความพอประมาณ
กบั การเคล่อื นท่ี

9.5 นกั เรียนทา่ แบบทดสอบก่อนเรยี นออนไลน์จากเวบ็ ไซต์การสอนฟสิ กิ ส์ จ่านวน 10 ข้อ
ข้ันสารวจและค้นหา (Exploration)
9.6 ครแู จง้ ใหน้ ักเรยี นทราบถึงเน้ือหาทจ่ี ะเรยี น จดุ ประสงค์ กระบวนการเรียนทจี่ ะดา่ เนินการโดยยอ่
9.7 ครใู หน้ ักเรียนศึกษาเน้ือหาความรู้จากเพาเวอร์พอยต์จากเวบ็ ไซต์สอนฟสิ ิกส์ โดยให้นักเรยี นสบื ค้น
ขอ้ มลู และศึกษาข้อมลู เบ้อื งต้น
9.8 ครูสาธติ วธิ กี ารแกป้ ญั หาโจทยใ์ ห้กับนักเรียน ตามโจทย์ตวั อยา่ งในเพาเวอร์พอยต์ จา่ นวน 3 ขอ้
9.9 นักเรยี นฝกึ ทักษะการท่าแบบฝึกหัดจากแบบฝึกหัดตามทีค่ รรู ะบใุ หจ้ า่ นวน 5 ข้อ
9.10 ครเู ฉลยแบบฝึกหัดอย่างละเอยี ดพร้อมแลกเปลี่ยนเรยี นร้กู บั นกั เรียนอย่างเป็นกันเอง โดยกระตุ้น
ดว้ ยค่าถามเพ่อื ให้นักเรยี นคดิ อยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน

3-6-5

ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
9.11 นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สรุปหลักการในการแกโ้ จทยใ์ นแบบฝกึ หดั
9.12 นกั เรียนแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ ันภายในกลุม่ และระหว่างกลุ่ม
9.13 นกั เรยี นแตล่ ะคนสรปุ หลักการในการแกโ้ จทย์ของตนเอง
9.14 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพือ่ สรปุ การแก้ไขปัญหาโจทยอ์ ยา่ งเป็นข้ันตอน นกั เรยี นบันทึก
ขอ้ มูลลงในสมุดบนั ทึก
9.15 นักเรียนทา่ แบบฝกึ ทักษะเพ่ิมเติมตามหลักการท่ไี ด้จากการสรปุ ร่วมกนั ระหวา่ งครูและนกั เรียน
ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
9.16 ครูใชค้ า่ ถามนา่ เพือ่ ให้นักเรยี นนา่ หลกั การทสี่ รปุ ได้มาประยกุ ต์ใชง้ านในสถานการณ์โจทย์ท่มี คี วาม
ซับซอ้ นมากขึน้ และเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามและแลกเปล่ียนเรยี นร้ใู นเรอ่ื งทเ่ี รยี น
9.17 นกั เรียนทดลองท่าแบบฝกึ หัดทีห่ ลากหลาย โดยน่าข้อสอบโอเนต็ ข้อสอบ PAT2 ข้อสอบคดั เลือก
เข้ามหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ขอ้ สอบคัดเลือกเข้ามหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ มาใหน้ ักเรยี นฝึกทา่ โดยครจู ัดเตรยี มไวใ้ น
เพาเวอร์พอยตป์ ระกอบการสอนในเว็บไซตก์ ารสอนฟิสิกส์
9.18 นักเรียนทา่ แบบฝึกทักษะเพ่ิมเติมโดยมีครูคอยใหค้ ่าแนะน่า
9.19 นกั เรียนตรวจคา่ ตอบและศกึ ษาเพิ่มเตมิ จากเว็บไซต์การสอนฟิสกิ ส์
9.20 ครสู งั่ แบบฝกึ หดั ให้นักเรียนกลบั ไปฝกึ ท่าเปน็ การบ้าน
ขน้ั ประเมิน (Evaluation)
9.21 นักเรียนเขียน Concept mapping ของเร่ืองทเี่ รียนลงในสมดุ แล้วถ่ายรปู ส่งใน line ห้องเรียน
ฟิสกิ ส์และครูประเมนิ ความเข้าใจเนอื้ หาของนักเรียนจาก Concept mapping ทน่ี ักเรียนส่งมา
9.22 ครูตั้งค่าถามเพื่อให้นกั เรียนตอบเพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจในเน้ือหาท่เี รยี นอกี ครงั้
9.23 นักเรยี นทา่ ข้อสอบออนไลนผ์ ่านโทรศัพท์มือถือ จา่ นวน 10 ข้อ โดยใช้เวลาในการท่าข้อสอบ
10 นาที
9.24 ครแู จ้งผลการสอบทนั ที โดยสง่ คะแนนให้นักเรียนทาง line หอ้ งเรยี นฟสิ ิกส์
9.25 นักเรียนทมี่ ีคะแนนไม่ถึงรอ้ ยละ 50 ครูให้นกั เรยี นกลับไปทบทวนเน้ือหาเพาเวอร์พอยต์อีกครั้ง
และนดั หมายใหส้ อบออนไลนใ์ หม่อีกครงั้ ในการเรียนคาบต่อไป ในส่วนของนักเรยี นท่ีมีคะแนนเกินร้อยละ 50
และตอ้ งการศกึ ษาทบทวนเพ่ิมขนึ้ ครูแนะน่าให้ศึกษาซ่้าในเพาเวอร์พอยต์และแนะน่าเว็บไซต์เพ่อื ศึกษาด้วย
ตนเองเพิ่มเติม

3-6-6

10. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ จานวน ลาดบั ขัน้ ตอนการใช้สื่อ

รายการสื่อ 1 เวบ็ ไซต์ ทกุ ขน้ั ตอน
10.1 เว็บไซตก์ ารสอนฟิสิกส์
ท่ผี ลติ โดยนายชาตรี ศรีมว่ งวงค์ 1 ไฟล์ ทุกขัน้ ตอน
10.2 เพาเวอร์พอยต์การสอนฟิสกิ ส์ 1 กลมุ่ ทุกขั้นตอน
10.3 กลุม่ line การสอนฟสิ ิกส์ 1 ชุด ทุกขั้นตอน
10.4 ใบความรทู้ ี่ 6 1 ชุด ขั้นขยายความรู้ / ขั้นลงขอ้ สรุป
10.5 แบบฝึกหดั ท่ี 6 1 ชุด ขั้นสร้างความสนใจ
10.6 แบบทดสอบก่อนเรียนออนไลน์ 1 ชุด ข้นั ประเมิน
10.7 แบบทดสอบหลงั เรยี นออนไลน์

11. กิจกรรมเสนอแนะ

รายการ วิธีการ
11.1 ปรบั ปรุง-แก้ไขข้อบกพร่องของผเู้ รียน
นกั เรยี นที่มีคะแนนไม่ถึงรอ้ ยละ 50 ครใู หน้ ักเรยี นกลับไป
11.2 สง่ เสรมิ ความรู้ความสามารถของผูเ้ รยี น ทบทวนเนื้อหาเพาเวอร์พอยต์อกี คร้ังและนัดหมายให้
สอบออนไลนใ์ หมอ่ ีกคร้งั ในการเรยี นคาบต่อไป

นักเรยี นท่ีมีคะแนนเกนิ ร้อยละ 50 และต้องการศึกษา
ทบทวนเพิ่มขึ้น ครแู นะนา่ ให้ศกึ ษาซา่้ ในเพาเวอร์พอยต์
และแนะนา่ เวบ็ ไซต์เพื่อศึกษาดว้ ยตนเองเพ่ิมเตมิ

3-6-7

12.บนั ทึกผลหลังการสอน
12.1 ความกา้ วหนา้ ในการเรยี นการสอน

จา่ นวน คะแนน คะแนนเฉลยี่ คะแนนเฉลย่ี คะแนนเฉลยี่ E1/E2 ความก้าวหน้า
นกั เรียน เต็ม ก่อนเรยี น ระหว่างเรยี น ในการเรียน
หลงั เรียน
145 10 2.12 8.12 63.50
8.47 81.20/84.70

สตู ร รอ้ ยละความกา้ วหน้าในการเรียน = คะแนนหลงั เรียน – คะแนนกอ่ นเรยี น x 100
คะแนนเตม็

สตู ร หาประสิทธภิ าพของสือ่ = E1/ E2 (ตามเกณฑ์ 80/80)
E1 = ประสิทธภิ าพของกระบวนการ (ท่าแบบฝึก)
E2 = ประสิทธภิ าพของผลลัพธ์ (สอบหลังเรียน)
ประสิทธภิ าพของกระบวนการ = คะแนนเฉลย่ี ระหว่างเรียน x 100
คะแนนเต็ม

ประสิทธภิ าพของผลลพั ธ์ = คะแนนเฉลีย่ หลงั เรยี น x 100
คะแนนเต็ม

12.2 กระบวนการจดั การเรียนการสอน
1.ขน้ั สร้างความสนใจ นักเรียนรอ้ ยละ 90 ให้ความสนใจคลปิ เกี่ยวกบั การสาธติ ตวั อย่างของ

ครูเกี่ยวกับสมดุล และให้ความสนใจคลิปที่ครูเปิดให้ดู โดยมีนกั เรยี นบางสว่ นสนใจซักถามเพิ่มเตมิ และร่วมกัน
กาหนดประเด็นของเร่อื งทต่ี ้องการศึกษาเกีย่ วกบั การเคล่ือนท่ีแนวด่งิ

2.ขั้นสารวจและค้นหา นกั เรียนร้อยละ 90 ร่วมกนั ศึกษาเก่ยี วกับเนอื้ หาของสภาพสมดุล โดย
มกี ารซักถามและรว่ มกนั หาคาตอบ เขา้ ใจในประเด็นทสี่ นใจจะศึกษา รว่ มกนั วางแผนกาหนดแนวทางการสารวจ
ตรวจสอบ ตง้ั สมมติฐาน กาหนดวิธกี ารทดลองและทาการศึกษาเน้ือหาจากหนงั สือเรยี นและใบงาน มีการสืบค้น
ข้อมลู จากเว็บไซต์ตา่ งๆ เพือ่ ลงข้อสรุปเกยี่ วกับการเคลือ่ นท่ีแนวดงิ่

3.ข้นั อธิบายและลงข้อสรุป นกั เรยี นร้อยละ 50 รว่ มกนั อภปิ รายเก่ียวกบั เรอื่ งท่ีเรียนและ
รว่ มกนั สรุปเกีย่ วกบั การเคล่ือนที่แนวด่ิง

4.ข้ันขยายความรู้ นักเรียนร้อยละ 50 ร่วมกันอธบิ ายสถานการณใ์ นชีวิตประจาวันโดยใช้
ข้อสรปุ เก่ียวกับการเคลอ่ื นท่ีแนวดง่ิ

5.ขนั้ ประเมนิ นักเรยี นร้อยละ 75 สามารถนาหลักการและความรทู้ ี่เรียนตอบคาถามและ
สถานการณ์ที่ครูต้ังข้ึนได้

3-6-8

บรรยากาศการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนการเคลื่อนที่แนวดิง่

12.3 ผลการสอน
( / ) สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้
( ) สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก...............................................................

12.4 ปญั หาและอุปสรรค
1. นกั เรียนร้อยละ 30 วเิ คราะหโ์ จทย์ฟสิ กิ ส์ไมค่ ่อยได้
2. นกั เรียนร้อยละ 50 ยงั แกส้ มการคณติ ศาสตร์ในโจทยไ์ ม่ได้
3. นกั เรียนรอ้ ยละ 20 คิดเลขไมถ่ ูกต้อง
4. นักเรียนทาใบงานไม่เสร็จตามเวลา

12.5 แนวทางการแก้ไขปญั หา
1. ใหน้ ักเรียนศึกษาตัวอย่างจากหนังสือค่มู อื เพ่ิมเตมิ
2. นักเรยี นฝกึ แก้สมการคณิตศาสตร์
3. นักเรยี นฝึกคิดเลขโดยให้ทดลองเล่นเกม 180 ไอควิ
4. ปรบั ปรงุ ใบงาน

ลงชอื่ ..............................................ผ้สู อน
(นายชาตรี ศรีม่วงวงค์)

3-6-9

ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
.................................................................... ..........................................................................................
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................

ลงช่อื ........................................................
(นางตวงรตั น์ อ้นอิน)

ตา่ แหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
วันท่ี..........เดอื น..........................พ.ศ............

ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อา่ นวยการกลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................. .............................................................
............................................................................................................................. .................................

ลงชอ่ื ........................................................
(นายวิเชยี ร ยอดนิล)

ต่าแหน่ง รองผ้อู ่านวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ
วันที่..........เดือน..........................พ.ศ............

ข้อเสนอแนะของผอู้ ่านวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................................................. .
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................

ลงชื่อ ........................................................
(นายไพชยนต์ ศรีม่วง)

ตา่ แหน่ง ผู้อ่านวยการโรงเรียนวชั รวิทยา
วันที่..........เดอื น..........................พ.ศ............

3-6-10

ภาคผนวก
ประกอบแผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 6

3-6-11

สื่อการสอน

เวบ็ ไซตก์ ารสอนฟิสิกส์ ทสี่ รา้ งขนึ้ โดยนายชาตรี ศรมี ว่ งวงค์
ทอี่ ย่ขู องเวบ็ ไซต์ http://gg.gg/ct3110

3-6-12

ใบความรทู้ ่ี 6
เร่ือง การเคล่ือนท่แี นวดง่ิ

การเคลอ่ื นท่ดี ้วยความเร่งคงตัว

ในท่ีน้เี ราจะกลา่ วถงึ เฉพาะการเคลอื่ นทีใ่ นแนวตรง ความเร็ว

เมอื่ วัตถุมีการเคล่ือนทีด่ ว้ ยความเร่ง ผลจะทา่ ใหว้ ัตถุนน้ั จะ v
เคล่ือนท่ีเรว็ ขึ้นหรือช้าลง ( ความเรว็ เปลย่ี นแปลง ) ดังนนั้ ถา้
v-u
เรว็ ขึ้นอยา่ งสม่าเสมอหรือชา้ ลงอย่างสม่าเสมอในกรณนี ีแ้ สดงว่า u
วัตถนุ ัน้ มกี ารเคลอ่ื นทด่ี ้วยความเร่งคงตวั เมื่อน่าความสัมพนั ธ์
t-0
ระหวา่ งความเร็วกบั เวลาเปน็ เขียนกราฟ จะได้กราฟเสน้ ตรง

ความชนั ของเสน้ ตรง คือ ความเรง่ นั่นเอง ดังรูป 1. และ t เวลา
สามารถหาสมการความเร็วได้ดงั นี้
รูป 1 กราฟความเร็วกบั เวลา
จากสูตรทัว่ ไป m=
y2 - y1

x2 -x1
เม่ือ แกน y คือ ความเร็ว ( v ) , แกน x คอื เวลา ( t ) แทนในสูตร จะได้
v2 - v1
m= t2 - t1

ดังนน้ั m คอื การเปลย่ี นแปลงความเร็วในชว่ งเวลาที่เปลีย่ นไป ความหมายน้กี ็คือ ความเรง่ ( a )
v2 - v1
จะได้ a = t2 - t1

a = v-u
t-0
v-u
a = t

at = v – u

v = u + at (1)

เมอื่ v คือ ความเรว็ สุดท้ายท่ีเวลา t มีหนว่ ยเปน็ เมตรต่อวนิ าที ( m/s )

u คอื ความเร็วเรม่ิ ตน้ ณ เวลาใด ๆ มหี นว่ ยเปน็ เมตรตอ่ วินาที ( m/s )
มหี นว่ ยเปน็ เมตรตอ่ (วินาที)2 ( m/s2 )
a คือ ความเร่งคงตัวค่าหน่ึง

t คอื เวลาทีส่ งั เกต มีหน่วยเปน็ วนิ าที ( s )

จากกราฟ รปู 2 เราสามารหาสมการของระยะทางของการเคล่อื นด้วยความเร่งคงตวั ไดจ้ ากพื้นทใ่ี ต้

กราฟน้ี

3-6-13

ความเร็ว
v

u v-0
u-0

t-0 t เวลา

เน่อื งจากพ้ืนท่ีใต้กราฟ รูป 2 กราฟความเร็วกบั เวลา
ระหวา่ งความเรว็ กับเวลาคือ
ระยะทางท่วี ตั ถุเคล่ือนท่ไี ด้

พ้นื ท่ใี ต้กราฟ = พืน้ ทีส่ ่เี หลย่ี มคางหมู
พน้ื ทใ่ี ต้กราฟ 1
= 2 x ( ผลบวกของด้านคู่ขนาน )xสงู
S
= 1 x ( ( u – 0 ) + (v – 0 ) )x ( t – 0 )
S 2
1
= 2 x ( u + v )x t

S = (uv)t (2)
2

เมอ่ื S คอื ระยะทางท่เี คลอ่ื นที่ได้ มีหน่วยเปน็ เมตร ( m )

v คอื ความเรว็ สุดท้ายท่ีเวลา t มหี นว่ ยเปน็ เมตรตอ่ วินาที ( m/s )

u คือ ความเร็วเริม่ ต้น ณ เวลาใด ๆ มีหนว่ ยเปน็ เมตรตอ่ วินาที ( m/s )

t คือ เวลาท่ีสังเกต มีหนว่ ยเปน็ วนิ าที ( s )

เมือ่ น่าสมการ 1 แทนในสมการ 2 จะได้ สมการหาระยะทางที่ไมเ่ กยี่ วของกับความเร็วสุดทา้ ย ( v )

ดงั นี้ ( u ( u at )) t
2
S =

S = ( 2u  at ) t
2
( 2ut  at2 )
S = 2

S = 2ut + at2 3-6-14
2 2
(3)
S = ut + 1 at2
2 (4)

จากสมการ ( 1 ) v = u + at
v-u
จะได้ t = a

เมอื่ น่าคา่ t ไปแทนค่าใน ( 2 ) จาก S= (uv)t
2
( u  v ) ( v- u )
จะได้ S = 2 . a

S = v2 - u2
2a
2aS = v2 - u2
u2 + 2aS = v2

v2 = u2 + 2aS

จากสมการท้ัง 4 เราสามารถน่าไปใชก้ ับการเคล่ือนทใ่ี นกรณีท่มี คี ่าความเรง่ คงตวั ได้ดังตัวอย่างตอ่ ไปนี้

ตัวอยา่ ง 1 วัตถุหนง่ึ ถูกดว้ ยขนาด 3 เมตรต่อวนิ าทียกก่าลังสอง จากขณะท่ีมีความเร็ว 5 เมตรตอ่ วนิ าที จงหา

ความเรว็ และการกระจัดของวตั ถุเม่ือเวลาผ่านไป 6 วินาที

วิธที า จาก v = u + at
v = ( 5 m/s )+ ( 3 m/s2 ) ( 6 s )

v = 23 m/s

ตอบ ความเร็วของวัตถุเม่ือเวลาผ่านไป 6 วินาทเี ท่ากบั 23 เมตรต่อวินาที
(uv)t
จาก S = 2

S = ( 5 m/s  23 m/s ) ( 6 )
2
S = 84 m

ตอบ การกระจัดของวตั ถเุ มื่อเวลาผ่านไป 6 วนิ าทีเทา่ กับ 84 เมตร

ตัวอย่าง 2 นกั กรีฑาวิง่ ออกจากจุดสตารท์ ดว้ ยความเรว็ 6 เมตรตอ่ วินาที และสามารถเรง่ ความเร็วได้ 4 เมตร
ตอ่ (วนิ าที)2 จงหาวา่ เมื่อเวลาผา่ นไป 5 วินาที จะวิ่งไดร้ ะยะทางเท่าใด

3-6-15

วิธที า จาก S = ut + 1 at2
ตอบ 2
1
S = (6 m/s )( 5 s ) + 2 (4 m/s2 )( 5 s )2

S = 80 m

นักกรีฑาจะวิ่งได้ระยะทางเท่ากับ 80 เมตร

การตกของวตั ถอุ ย่างอสิ ระ จะเป็นการเคลอื่ นทใ่ี นกรณที ี่ความเร่งมีค่าคงตัว จะใช้สัญลักษณ์แทน

ความเรง่ ของการตกของวตั ถุอย่างอสิ ระ คือ g ซง่ึ ความเร่งนีเ้ ปน็ ผลจากแรงดึงดูดของโลกเน่อื งจากสนามโนม้ ถว่ ง
( gravity ) คา่ ความเร่งเน่อื งจากแรงดึงดูดของโลก ( g ) คา่ มาตรฐานคือ 9.8065 m/s2 เพื่อความสะดวกใน
การค่านวณจะใช้ 10 m/s2 ดังน้นั จากตัวอย่างขา้ งบน ค่า a จะเปล่ยี นเปน็ คา่ g ในกรณที ก่ี ารเคลอ่ื นท่ีนน้ั

เป็นผลเน่ืองจากแรงดงึ ดดู ของโลก ดงั น้ี

v = u + at เป็น v = u + gt
v2 = u2 + 2aS เป็น v2 = u2 + 2gS
1 1
S = ut + 2 at2 เป็น S = ut + 2 gt2

ตวั อยา่ ง 3 โยนถุงทรายข้นึ ดว้ ยความเร็วตน้ 6.0 เมตรตอ่ วินาที มีความเรง่ เนื่องจากแรงดงึ ดูดของโลกลงมา

10 เมตรต่อวนิ าทียกก่าลังสอง จงหา

1. ถงุ ทรายจะถงึ จุดสงู สุดนานเท่าใดต้งั แตเ่ ริ่มโยน

2. ใชเ้ วลานานเทา่ ใดต้งั แต่เรม่ิ โยนถุงทรายจนกลับถึงจุดโยน

3. จุดสงู สดุ ของถงุ ทรายหา่ งจากจดุ โยนเทา่ ใด

4. ความเร็วเฉลีย่ ของถงุ ทรายช่วงขาขึ้นเปน็ เทา่ ใด
วธิ ที า 1. จากสมการ v = u + gt , g = -10 m/s2 ( มีทิศตรงข้ามกบั

ความเรว็ ) t= v-u
จะได้
g
0 - 6 m/s
แทนคา่ t = -10 m/s2

t = 0.6 s

ตอบ ถงุ ทรายจะถงึ จุดสงู สุดใชเ้ วลานาน 0.6 วินาที

2. ( เวลาขาขนึ้ จะเท่ากับเวลาขาลง เพราะ การเคลื่อนท่ีท่ีมีระยะทางเท่ากนั ความเร่งเท่ากันเวลา
จะเท่ากนั )
ใช้เวลาตั้งแตเ่ ริ่มโยนถุงทรายจนกลับถงึ จุดโยน = t (ขาขึน้ ) + t ( ขาลง )
= 0.6 s + 0.6 s

3-6-16

= 1.2 s
ตอบ ใช้เวลาตง้ั แตเ่ ริม่ โยนถุงทรายจนกลบั ถงึ จดุ โยนเทา่ กบั 1.2 วนิ าที

3. จากสมการ S = (uv)t
2
( 6 m/s  0 )( 0.6s )
S = 2

S = 1.8 m

ตอบ จดุ สงู สุดของถุงทรายห่างจากจุดโยนเทา่ กับ 1.8 เมตร

4. v = S
t
1.8 m
v = 0.6 s = 3 m/s

ตอบ ความเร็วเฉล่ียของถงุ ทรายช่วงขาข้นึ เทา่ กับ 3 เมตรต่อวนิ าที

3-6-17

แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 6
เร่ือง การเคลื่อนท่แี นวด่ิง

ชือ่ ..........................................................………………….. ช้นั ม. 4 /......…. ……….เลขที่............….

คาช้ีแจง จงเติมคา่ ตอบลงในช่องว่างให้ถกู ต้อง
1. รถยนตค์ ันหนึ่งเคลื่อนทจ่ี ากสภาพหยดุ นงิ่ ด้วยความเรง่ 2 เมตรต่อ(วนิ าที)2 จนมีความเร็วเปน็ 10 เมตรต่อ

วนิ าที ได้ในเวลาก่วี ินาที และไดร้ ะยะทางกี่เมตร ( 5 s , 25

m)

2. วัตถหุ นง่ึ ขณะสังเกตมีความเรว็ 5 เมตรตอ่ วินาที และมีความเร่ง 2 เมตรต่อ(วินาที)2 ใชเ้ วลานานเท่าใดจึง

จะมคี วามเร็วเป็น 54 กโิ ลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนท่ไี ด้ระยะทางเท่าไร ( 5 s , 50

m)

3. รถยนตค์ นั หนึง่ มีความเร็ว 15 เมตรต่อวินาที จากนน้ั เบรกด้วยความหน่วง 2 เมตรต่อวินาที2 จงหาเวลาท่ีรถ

คนั นเ้ี คลอ่ื นท่ีไปได้ 56 เมตร (7 s

)

3-6-18

4. ชายคนหนง่ึ ยืนอยูบ่ นหน้าผาสงู ยื่นมือออกไปโยนก้อนหินขึ้นไปตรงๆ ในแนวด่ิงด้วยความเร็วต้น 20 เมตรต่อ
วนิ าที จงหา เวลาที่ก้อนหินข้ึนไปถึงจุดสูงสุด ระยะสูงสุดจากจุดโยน ก้อนหินจะอยู่สูงจากจุดโยน 15 เมตร ณ
เวลาใด และขณะท่ีก้อนหินอยู่สูงจากจุดโยน 15 เมตร จะมีความเร็วเท่าไร หลังจากโยนไปแล้ว 3 วินาที
กอ้ นหนิ อยู่ท่ีใด และขนาดความเรว็ เทา่ ใด ( 20 s ) ( 20 m ) ( 1 s และ 3 s ) ( 10 และ –10 m/s) (
15 m , 10 m/s )

5. ชายคนหนึง่ ยนื อยู่บนหนา้ ผาสงู 40 เมตร ยนื่ มอื ออกมาโยนก้อนหนิ ขึ้นไปตรงๆ ด้วยความเร็วต้น 10 เมตร

ตอ่ วนิ าที ก้อนหินจะตกถงึ เชิงผาในเวลาเท่าไร ด้วยความเรว็ เทา่ ไร ( 4 s , 30

m/s )

6. บอลลนู ลูกหนึ่งก่าลังลอยข้ึนด้วยความเร็ว 10 เมตรต่อวินาที ในแนวด่ิง ชายคนหน่ึงอยู่บนบอลลูน ปล่อยถุง
ทรายถึงพื้นในเวลา 4 วินาที จงหา ความสูงของบอลลูนขณะปล่อยถุงทราย ต่าแหน่งสูงสุดของถุงทรายจาก
พ้ืน ความเร็วและความสูงจากพืน้ ของถงุ ทรายหลงั จากปลอ่ ยไปแลว้ 2 วนิ าที

( 40 m , 45 m , 10 m/s , 40
m)

3-6-19

1. ให้นกั เรียนเลอื กเขยี นแสดงความคดิ เห็นวา่ ถา้ เราต้องการใหเ้ พ่ือนทา่ งานไมเ่ หมือนเดมิ เราจะต้องบอก
อย่างไร ผลจะเป็นอย่างไรได้บ้าง

…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
2. ความคิดเห็นของกลมุ่ เหน็ วา่ ถ้าเราตอ้ งการใหเ้ พื่อนทา่ งานไมเ่ หมือนเดิม เราจะต้องบอกอยา่ งไร ผลจะเป็น

อยา่ งไรไดบ้ า้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….

3. ความคิดเหน็ ทีน่ ักเรียนและครูรว่ มกนั อภิปรายสรุป เหน็ ว่า ถา้ เราตอ้ งการให้เพ่ือนท่างานไมเ่ หมือนเดมิ เรา
จะต้องบอกอยา่ งไร ผลจะเป็นอย่างไรได้บา้ ง

…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….

3-6-20

ให้นกั เรียนสรุปสาระสาคญั ท่ีได้จากการสบื คน้ ข้อมูล แล้วบันทกึ ลงในสมุดจดบันทึก

1. การเคล่ือนท่ีด้วยความเร่งคงตวั

2. สมการที่เกีย่ วขอ้ งกับการเคล่ือนทีด่ ว้ ยความเร่งคงตวั

จงตอบคา่ ตอบใหถ้ กู ตอ้ ง

1. นายส่งเสริมและนายเพ่ิมศักด์ิ ไปเท่ียวต่างจังหวัดด้วยกัน นายส่งเสริมขับรถยนต์ไปรับนายเพิ่มศักด์ิท่ีบ้าน

โดยขับรถออกจากที่จอด ไป 5 วินาทีจนมีความเร็วเป็น 10 เมตรต่อวินาที แล้วขับด้วยความเร็วน้ีไปอีก 15

วนิ าที จึงลดความเรว็ ลงและไปจอดที่หน้าบ้านนายเพิ่มศักดิ์พอดี ในเวลา 5 วินาที แล้วนายส่งเสริมรับนาย

เพ่มิ ศกั ดไิ์ ปเที่ยวโดยขบั รถออกจากบ้านนายเพ่มิ ศักด์ิไปได้10 วนิ าทีจนมคี วามเร็วเป็น 15 เมตรต่อวินาที จง

หา

1.1 อตั ราเร็วเฉลี่ยทนี่ ายสง่ เสรมิ ขับรถยนต์ไปถึงบ้านนายเพิม่ ศักด์ิ

1.2 ความเรว็ เฉล่ยี ของรถยนต์นายส่งเสรมิ ขับไปบ้านนายเพ่ิมศักด์แิ ล้วขบั ออกจากบา้ นนายเพ่ิมศักดจ์ิ น

มคี วามเรว็ เปน็ 15 เมตรต่อวินาที S

วธิ ีทา 1.1 จาก v= t ………. ***
=
ช่วง 5 วินาทแี รก , จะได้ S1 = (uv)t = เมตร
2
ช่วง 15 วนิ าทตี อ่ มา , จะได้ S2 = vt = = เมตร
ชว่ ง 5 วนิ าทีต่อมา , จะได้ S3 = (uv)t = เมตร
2 =

S = S1 + S2 + S3 = = เมตร

t = 5 + 15 + 5 = วินาที
S เมตรต่อวนิ าที
แทนคา่ v = t = ตอบ

3-6-21

1.2 จาก v = S
t
(uv)t
ช่วง 10 วนิ าทีตอ่ มา, จะได้ S4 = 2 = = เมตร

คา่ ตอบท่เี ปน็ ไปไดม้ ี 2 เง่ือนไข

1.2.1S ทีเ่ ที่ยวไปทางเดยี วกับทางไปบ้านนายเพิม่ ศกั ดิ์ = เมตร
= S1 + S2 + S3 + S4 =
t = 5 + 15 + 5 + 10 = วนิ าที
S =
แทนคา่ v = t = m/s ตอบ

1.2.2S ท่เี ทยี่ วตอ้ งย้อนกลับมาผา่ นบา้ นนายสง่ เสริม = เมตร
= S1 + S2 + S3 + S4 =
t = 5 + 15 + 5 + 10 = วนิ าที
S =
แทนค่า v = t = m/s ตอบ

2. ปลอ่ ยก้อนหินจากทส่ี งู แห่งหน่งึ ใหต้ กลงสู่พื้น เมอ่ื เวลาผ่านไป 2 วินาที จะมีความเร็วเทา่ ใด และเคลื่อนท่ีได้
ระยะเท่าใด ( g = 10 m/s2 )

วิธีทา จาก v = u + gt

แทนคา่ v = 1 = m/s ตอบ
2
และจาก S = ut + gt2

แทนค่า S = = m ตอบ

3. วตั ถหุ น่งึ เคล่ือนท่จี ากสภาพอยนู่ ง่ิ ดว้ ยความเร่ง 4 เมตรตอ่ (วนิ าที)2 จงหาระยะระหวา่ งวินาทที ่ี 5
1
วธิ ีทา จาก S = ut + 2 at2

S4 = ( 0 )( 4 ) + 1 ( 4 ) ( 4 )2 = …….. ( 1 )
2
S5 = = …….. ( 2 )

ระยะระหวา่ งวนิ าทีท่ี 5 คือ S5 – S4 = = เมตร ตอบ

3-6-22

1. จากกราฟ v - t ที่ก่าหนดให้ จงหา40 v ( m/s )
1.1 ความเร่งของแต่ละช่วง 30
20 t (s)
1.2 ระยะทางทัง้ หมด 2 4 6 8 10 12
1.3 อัตราเรว็ เฉลย่ี ของการเคลือ่ นท่ี 10

2. จากกราฟ v - t ทกี่ า่ หนดให้ จงหา v ( m/s )
2 4 6 8 10 12
2.1 ความเรง่ ในช่วง 4 วนิ าทีแรก 15 t (s)
2.2 เม่อื สิน้ เวลา 10 วนิ าที วตั ถุอยู่ 10
หา่ งจากจดุ เร่มิ ต้นเทา่ ใด 5

-5

3-6-23

3. จากกราฟ v - t ที่ก่าหนดให้ จงหา

v ( m/s ) 3.1 ความเร่งของแต่ละช่วง
3.2 ระยะทางท่วี ัตถุเคลื่อนที่ไดเ้ ม่ือสิ้นเวลา 10 วนิ าที

30 3.3 อัตราเรว็ เฉลย่ี ของการเคลือ่ นท่ี
20
10 t ( s )

2 4 6 8 10 12

4. วัตถหุ นึ่งเคลื่อนที่ในแนวเสน้ ตรง เขยี นกราฟ v - t ได้ดงั รูป จงหา

v ( m/s ) 4.1 ความเรง่ ชว่ ง 2 วินาทีแรก
40 4.2 ความเรง่ ตรงวนิ าทีที่ 4
30 4.3 ความเร่งตรงวินาทีท่ี 7
20 4.4 ความเร่งตรงวินาทีที่ 11
10 t ( s ) 4.5 ระยะทางทว่ี ัตถุเคลื่อนทไ่ี ด้ทั้งหมด

2 4 6 8 10 12

3-6-24

แผนผังมโนทัศนท์ ี่ 6
องค์ความรเู้ รือ่ ง การเคล่อื นทีแ่ นวดิง่

เจ้าของผลงาน ชื่อ……………………………………………………ช้ัน……………..เลขท…่ี …….

3-6-25

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรยี นท่ี 6
เรือ่ ง การเคลอื่ นทีแ่ นวด่ิง

ช่อื …………………………….……………………นามสกุล……………………….…………………………ชนั้ ……………..เลขท…ี่ …….
คาช้ีแจง จงตอบค่าถามให้ถูกต้อง โดยใชเ้ วลาในการทา่ ข้อสอบ 10 นาที

1. แดงวงิ่ ดว้ ยความเร็ว 10 เมตรตอ่ วนิ าที ไปทางทิศใต้ อีก 1 วินาทีต่อมา วัดความเรว็ ได้ 4 เมตรต่อวนิ าทีใน

ทศิ ทางเดิม จงหาความเร่งของแดง ในขณะทล่ี ดความเร็วลง
ก. 6 เมตรต่อ(วนิ าที)2 ไปทางทิศใต้ ข. 6 เมตรต่อ(วินาที)2 ไปทางทิศเหนือ
ค. 14 เมตรตอ่ (วินาที)2 ไปทางทิศใต้ ง. 14 เมตรตอ่ (วนิ าที)2 ไปทางทศิ เหนือ

2. ชานนท์ขับรถด้วยความเร็ว 28 เมตรต่อวินาที เห็นฝูงวัวเดินข้ามถนนอยู่ข้างหน้าจึงเหยียบเบรคท่าให้

ความเรว็ ลดลงเหลือ 4 เมตรตอ่ วนิ าทใี นเวลา 2 วนิ าที จงหาระยะทางในช่วงที่เบรค 2.5 วนิ าที

ก. 15 เมตร ข. 20 เมตร

ค. 35 เมตร ง. 40 เมตร

3. วตั ถหุ นงึ่ เคล่อื นทใ่ี นแนวตรงดว้ ยความเรว็ 12 เมตรตอ่ วินาที แลว้ มีความเรว็ เพ่ิมข้ึนอย่างสม่าเสมอวนิ าทีละ

3 เมตรตอ่ วนิ าที จงหาความเร็วของวตั ถนุ เ้ี ป็นกีเ่ มตรต่อวินาที เม่ือเวลาผา่ นไป 4 วินาที

ก. 19 ข. 24

ค. 36 ง. 48

4. รถยนต์ A และ รถยนต์ B ออกจากสัญญาณไฟเดยี วกัน ด้วยความเรง่ 3 และ 1.8 เมตรต่อ(วินาที)2

ตามลา่ ดบั จงหาวา่ อกี 6 วินาที รถยนต์ A จะอยหู่ น้ารถยนต์ B ก่เี มตร

ก. 21.6 เมตร ข. 32.6

ค. 54.0 ง. 86.6

5. รถยนต์ A และ รถยนต์ B เคลื่อนท่ีจากหยุดน่ิงด้วยความเร่ง โดยรถยนต์ A มีความเร่งเป็น 3 เท่าของ

ความเร่งรถยนต์ B หลังจากรถทั้งสองเดินทางได้เวลาเท่ากัน ความเร็วของรถยนต์ A และความเร็วของ

รถยนต์ B มีความเรว็ สมั พนั ธก์ ันอยา่ งไร

ก. vA = 3 vB ข. vA = 3 vB
ค. vB = 3 vA ง. vB = 3 vA

6. วัตถุหนึ่งเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงดว้ ยความเร่งคงท่พี บว่าในวนิ าทที ่ี 6 และในวินาทีที่ 10 เคลอื่ นท่ีได้ทาง 23
เมตร และ 31 เมตร ตามลา่ ดับ วตั ถุน้ี มคี วามเร่งกี่เมตรตอ่ (วนิ าที)2

ก. 4 ข. 3
ค. 2 ง. 1

3-6-26

7. มะม่วงลูกหนึง่ ตกจากต้น ทอ่ี ยสู่ ูงจากพนื้ 4.9 เมตร อยากทราบวา่ ลูกมะม่วงอยใู่ นอากาศนานกีว่ นิ าที
(ก่าหนด g = 9.8 m/s2 )
ก. 2.0 ข. 1.5
ค. 1.0 ง. 0.5

8. ชายคนหนง่ึ โยนวตั ถขุ ้นึ ตรงๆ ในแนวดงิ่ ดว้ ยความเรว็ 15 เมตรต่อวนิ าที ( ก่าหนดให้ g = 10 m/s2 ) เมือ่
เวลาผ่านไปกีว่ นิ าที วตั ถุจงึ ตกกลบั มาถึงต่าแหน่งทโี่ ยน
ก. 3.0 ข. 2.0
ค. 1.5 ง. 1.0

9. ยิงวตั ถหุ นง่ึ ข้ึนตรงๆ ในแนวด่ิงจากหนา้ ผาแหง่ หนึ่ง ด้วยความเร็ว 40 เมตรต่อวนิ าที ปรากฏวา่ วตั ถนุ ัน้ ตกถึง
ตีนหน้าผา เมือ่ เวลาผ่านไป 12 วินาที ( กา่ หนดให้ g = 10 m/s2 )
ก. 240 ข. 480
ค. 720 ง. 1,200

10. ขณะท่ีบอลลูนกา่ ลังลอยขึ้นด้วยอัตราเรว็ 10 เมตรต่อวนิ าที คนในบอลลนู ก็ปลอ่ ยวตั ถุลงมา ใหห้ าวา่ เม่อื
เวลาผ่านไป 3 วินาที วัตถุจะอย่ตู ่ากวา่ บอลลูนอยู่เท่าใด
ก. 15 ข. 30
ค. 45 ง. 60

3-6-27

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรยี นท่ี 6
เร่ือง การเคล่ือนทีแ่ นวดิง่

เฉลยแบบทดสอบ
กอ่ นเรยี นและหลงั เรียน
ขอ้ คาตอบ
1ง
2ง
3ข
4ก
5ข
6ค
7ค
8ก
9ก
10 ค


Click to View FlipBook Version