ผดิ พลาด! ตัวเลขไม่สามารถถกู แสดงในรูปแบบที่ระบุ
๑
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑
๒
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕
หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ชั่วโมง
ปฐมนิเทศ และทดสอบก่อนเรียน จานวน ๑ ชั่วโมง
วนั ท.ี่ ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น
ตัวชี้วดั
ม.๓/๓ ระบุใจความสาคญั และรายละเอียดของขอ้ มูลที่สนบั สนุนจากเร่ืองท่ีอา่ น
ม.๓/๕ วเิ คราะห์วิจารณ์และประเมินเร่ืองท่ีอ่านโดย ใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทียบ เพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจ
ไดด้ ีข้ึน
ม.๓/๗ วจิ ารณ์ความสมเหตุสมผล การลาดบั ความ และความเป็นไปไดข้ องเร่ือง
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดท่ีไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา
ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอ่าน
๓
สาระสาคญั
การทดสอบก่อนเรียน เร่ือง การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เป็นการวดั ความรู้พ้นื ฐาน
ของนกั เรียน ทาใหท้ ราบวา่ นกั เรียนมีพ้ืนฐานความรู้เดิมเกี่ยวกบั การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
มากนอ้ ยเพยี งใด และสามารถนาผลการทดสอบก่อนเรียนมาวเิ คราะห์ความกา้ วหนา้ ของนกั เรียน ตลอดจน
การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนต่อไป
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อ่านและตอบคาถามจากแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง การอ่านตีความ
และประเมินคุณค่าแนวคิดไดถ้ ูกตอ้ ง
๒. เพือ่ ตรวจสอบความรู้พ้ืนฐานของนกั เรียน เร่ือง การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
สาระการเรียนรู้
การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ซื่อสตั ย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุง่ มนั่ ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ
๔
การจดั กระบวนการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูทกั ทายนกั เรียนเพ่ือเป็ นการเตรียมความพร้อม และสร้างความคุน้ เคยกบั นกั เรียน
๒. ครูแนะนาแนวทางการเรียนดว้ ยชุดฝึกทกั ษะการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy แจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้นั ตอน
และวธิ ีการเรียนในหน่วยการเรียนรู้
ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๓. ครูช้ีแจงเก่ียวกบั การทาแบบทดสอบก่อนเรียน พร้อมเนน้ ย้าใหน้ กั เรียน
ทาแบบทดสอบดว้ ยความต้งั ใจ ซื่อสตั ย์ สุจริตในการสอบ
๔. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสยั เก่ียวกบั คาช้ีแจงในการทาแบบทดสอบ
ก่อนเรียน
๕. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง การอา่ น
ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด แบบปรนยั ๔ ตวั เลือก จานวน ๔๐ ขอ้ ๔๐ คะแนน ใชเ้ วลาในการทา
๕๐ นาที
ข้ันสรุปบทเรียน
๔. ชื่นชมนกั เรียนท่ีใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรม พร้อมแจง้ ใหน้ กั เรียนไปศึกษา
บทเรียนมาล่วงหนา้ เรื่อง การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
สื่อการเรียนรู้
แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิก่อนเรียน เร่ือง การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด แบบปรนยั
๔ ตวั เลือก จานวน ๔๐ ขอ้
ชิ้นงาน / ภาระงาน
นกั เรียนทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิก่อนเรียน เร่ือง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๕
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
วธิ ีการวดั และประเมินผล เครื่องมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (K)
- ตรวจแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ - แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิก่อน - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
ก่อนเรียน เรื่อง การอา่ นตีความและ เรียน เร่ือง การอา่ นตีความและ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ประเมินคุณค่าแนวคิด ประเมินคุณคา่ แนวคิด
ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
นกั เรียน
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
- สังเกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- แบบสังเกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
๖
แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ก่อน-หลงั เรียน
เร่ือง การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ
ตามทฤษฎลี าดบั ข้นั การเรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy
สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา
รณชัย จันทร์แก้ว
คาชี้แจง : แบบทดสอบน้ีสร้างข้ึนเพือ่ ใชว้ ดั ความสามารถในการอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ท้งั ๖ ดา้ น ดงั น้ี
๑. การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา (Knowledge)
๒. การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ (Comprehension)
๓. การอา่ นในระดบั การนาไปใช้ (Application)
๔. การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ (Analysis)
๕. การอา่ นในระดบั การสงั เคราะห์ (Synthesis)
๖. การอ่านในระดบั การประเมินคา่ (Evaluation)
ประกอบการอ่านจากบทอา่ นท่ีกาหนด ไดแ้ ก่ ขา่ ว เพลงพระราชนิพนธ์ ตานาน บทความ และ สารคดี
ขอ้ สอบเป็ นแบบปรนยั ๔ ตวั เลือก จานวน ๔๐ ขอ้ ๔๐ คะแนน ใชเ้ วลาในการทา ๖๐ นาที
คาส่ัง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งที่สุดเพยี งขอ้ เดียว โดยทาเคร่ืองหมาย ลงในกระดาษคาตอบ
๗
๑. ขอ้ ใดกล่าว ไม่ถูกต้อง (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดเป็ นทกั ษะท่ีตอ้ งทาคูก่ นั
ข. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดเป็ นการอ่านเฉพาะอกั ษรท่ีปรากฏ
ค. การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดเป็ นการอ่านที่ตอ้ งเขา้ ใจขอ้ ความที่ปรากฏ
ง. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดเป็ นการทาความเขา้ ใจความคิดของผเู้ ขียน
๒. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดมีความสาคญั อยา่ งไร
(การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)
ก. ทาใหผ้ อู้ า่ นสามารถอ่านหนงั สือไดเ้ ร็วยงิ่ ข้ึน
ข. ทาใหผ้ อู้ ่านไดร้ ับความรู้จากการอา่ นมากยงิ่ ข้ึน
ค. ทาใหผ้ อู้ า่ นมีความสามารถทางดา้ นภาษามากยงิ่ ข้ึน
ง. ทาใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจความหมายท่ีแทจ้ ริงที่ปรากฏในขอ้ ความมากยง่ิ ข้ึน
๓. นกั เรียนคิดวา่ การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดมีความสาคญั หรือไม่ อยา่ งไร
(การอา่ นในระดบั การประเมินคา่ Evaluation)
ก. มีความสาคญั เพราะจะทาใหเ้ ราไม่ถูกหลอกไดโ้ ดยง่าย
ข. มีความสาคญั เพราะทาใหเ้ ราเห็นเจตนาท่ีแทจ้ ริงของสารน้นั
ค. ไมม่ ีความสาคญั เพราะเป็นวธิ ีการอ่านแบบหน่ึงเหมาะสาหรับผใู้ หญ่
ง. ไม่มีความสาคญั เพราะเป็ นทกั ษะการอ่านท่ีซบั ซ่อนยงุ่ ยากในการเรียนรู้
๔. ขอ้ ใดหมายถึงขา่ ว (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. ปรากฏการณ์ทางสังคม
ข. ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกิดข้ึนในสงั คม
ค. ผลกระทบของคนในสงั คม
ง. เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนแลว้ คนในสงั คมสนใจ
๕. ขอ้ ใด ไม่ใช่ สารที่ปรากฏในเพลงพระราชนิพนธ์ (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. ธรรมชาติ
ค. ขวญั และกาลงั ใจ
ข. เหตุการณ์บา้ นเมือง
ง. ความผดิ หวงั และการพลดั พราก
๘
๖. ตานานเกิดข้ึนเพราะสาเหตุใด (การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)
ก. มนุษยต์ อ้ งการสร้างภาพอดีตเพื่อใหเ้ ป็นที่จดจา
ข. มนุษยต์ อ้ งการความบนั เทิง และความสนุกสนาน
ค. มนุษยต์ อ้ งการรู้ และคาอธิบายเกี่ยวกบั สิ่งต่าง ๆ รอบตวั
ง. มนุษยย์ งั ติดอยกู่ บั ความเชื่อ และส่ิงท่ีไม่สามารถพิสูจน์ได้
๗. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะการเล่าของตานาน (การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)
ก. การเล่าเพอ่ื ถ่ายทอดประสบการณ์
ข. การเล่าที่ตอ้ งใชร้ ะยะเวลายาวนาน
ค. การเล่าสืบทอดกนั ดว้ ยปาก (มุขปาฐะ)
ง. การเล่าตามลาดบั เหตุการณ์ ใชภ้ าษาเขา้ ใจง่าย
๘. บทความเป็นงานเขียนท่ีมีคุณค่าในแง่ใด (การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)
ก. ใหค้ วามบนั เทิง และเพลิดเพลินแก่ผอู้ ่าน
ข. ใหค้ วามรู้ ขอ้ คิด มุมมองที่แปลกใหม่แก่ผอู้ า่ น
ค. ใหข้ อ้ มูลการเดินทาง และสถานที่ทอ่ งเท่ียวแก่ผอู้ ่าน
ง. ใหข้ อ้ เทจ็ จริง เก่ียวกบั เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนประจาวนั แก่ผอู้ ่าน
๙. จุดมุง่ หมายสาคญั ของสารคดี คือ (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. ใหค้ วามรู้ ข. ใหข้ อ้ เทจ็ จริง
ค. ใหค้ วามเพลิดเพลิน ง. ใหค้ าอธิบายสิ่งตา่ ง ๆ ท่ีอยรู่ อบตวั
๑๐. ขอ้ ใดกล่าว ไม่ถูกต้อง (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. สารคดีท่องเที่ยว เป็นสารคดีที่เล่าเร่ืองราวการเดินทางไปในสถานที่ตา่ ง ๆ
ข. สารคดีอตั ชีวประวตั ิ เป็ นสารคดีที่เล่าประวตั ิและเหตุการณ์ของบุคคลอ่ืน
ค. สารคดีแนะนา สารคดีท่ีมีเน้ือหาหลากหลายครอบคลุมการดาเนินชีวติ ของมนุษย์
ง. สารคดีชีวประวตั ิ เป็ นสารคดีท่ีมีผเู้ ขียนถึงผอู้ ื่น อาจเป็นชีวประวตั ิรวมหลาย ๆ ชีวติ ในเล่มเดียว
๙
อ่านข่าวทกี่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๑๑ – ๑๖
สุรา
เมื่อวนั ที่ ๒๐ พ.ย. ดร.นพ.บณั ฑิต ศรไพศาล ผอ.สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริม
สุขภาพ (สสส.) เปิ ดเผยขอ้ มูลจากองคก์ ารอนามยั โลก ระบุวา่ เครื่องด่ืมแอลกอฮอลเ์ ป็ นสาเหตุการเจบ็ ป่ วย
ดว้ ยโรคตา่ ง ๆ มากกวา่ ๒๐๐ ชนิด เป็นตน้ เหตุการเสียชีวิตของประชากรทว่ั โลกมากถึง ๓.๓ ลา้ นคนตอ่ ปี
หรือทุก ๑๐ วนิ าที จะมีคนตาย ๑ คน เมื่อพจิ ารณาขอ้ มลู ในประเทศไทย โดยสานกั งานสถิติแห่งชาติพบวา่
ในปี ๕๙ นกั เรียนชายร้อยละ ๑๙.๓ และนกั เรียนหญิงร้อยละ ๑๖.๒ ดื่มเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์
สถานการณ์การด่ืมท่ีน่าเป็นห่วง ยงั อยใู่ นกลุ่มเยาวชนแต่ละปี เกิดนกั ดื่มหนา้ ใหมเ่ พ่ิมข้ึนอยา่ ง
ตอ่ เน่ือง ซ่ึงนอกจากปัญหาสุขภาพยงั เกิดปัญหาสังคม เช่น ปัญหาพฤติกรรมกา้ วร้าวรุนแรง การทะเลาะ
ววิ าท ปัญหาการเรียน การมีเพศสัมพนั ธ์ก่อนวยั อนั ควร การต้งั ครรภท์ ่ีไม่พึงประสงค์ อุบตั ิเหตุและการ
บาดเจบ็ การตายก่อนวยั อนั ควร รวมท้งั มีผลต่อชีวติ เดก็ และเยาวชนต่อไปในอนาคตโดยเพิ่มโอกาสในการ
เป็นโรคติดสุรา และการทางานของสมองเส่ือมถอยเมื่อเขา้ สู่วยั ผใู้ หญ่
ดา้ น ดร.ศรีรัช ลอยสมุทร อ.ภาควชิ าสื่อสารการตลาด ม.รังสิต กล่าววา่ จากการวจิ ยั เร่ือง “เม่ือ
ร้านเหลา้ และธุรกิจเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลส์ ื่อสารกบั กลุ่มเป้ าหมายโดยตรง” สื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็น
ช่องทางสาคญั ท่ีธุรกิจเครื่องด่ืมแอลกอฮอลใ์ ชใ้ นการสื่อสารกบั กลุ่มเป้ าหมายอยา่ งเยาวชนซ่ึงไดผ้ ลตอบรับ
รวดเร็ว และแพร่กระจายในวงกวา้ งโดยท่ีกฎหมายยงั ไมส่ ามารถควบคุมได้ ถือเป็นส่ือท่ีมีประสิทธิภาพกวา่
ส่ือโฆษณาแบบเก่าอยา่ งมาก
ดงั น้นั ภาครัฐและหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งจาเป็ นตอ้ งรู้เท่าทนั เพอื่ ใชม้ าตรการที่เหมาะสมและมี
ประสิทธิภาพในการป้ องกนั เยาวชนไม่ใหต้ กเป็นเหยอื่ จึงจาเป็นตอ้ งมีนโยบายสนบั สนุนการไมด่ ื่มสุราใน
โอกาสต่าง ๆ และการสร้างค่านิยมหรือบรรทดั ฐานทางสงั คมตอ่ การไม่ด่ืมสุราโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในเด็กและ
เยาวชน
เดลนิ ิวส์
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
๑๑. จากข่าวใครเป็นผใู้ หข้ อ้ มูล (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. องคก์ ารอนามยั โลก
ข. สานกั งานสถิติแห่งชาติ
๑๐
ค. ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ ง
ง. ผอ.สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส)
๑๒. ใจความสาคญั ของขา่ วคือขอ้ ใด (การอา่ นในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)
ก. การดื่มสุรา
ข. ผลกระทบของการด่ืมสุรา
ค. การเสียชีวติ จากการดื่มสุรา
ง. สุราเป็นเหตุแห่งการทะเลาะววิ าท
๑๓. ทางออกที่ดี ทสี่ ุด ในการแกป้ ัญหาท่ีเกิดข้ึนจากข่าวคือขอ้ ใด
(การอา่ นในระดบั การนาไปใช้ Application)
ก. สร้างความตระหนกั ต่อการไม่ด่ืมสุราแก่เยาวชน
ข. ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ผลเสียของการดื่มสุราแก่เยาวชน
ค. ควรเพมิ่ บทลงโทษแก่ผกู้ ระทาผดิ จากการดื่มสุรา
ง. รัฐควรมีนโยบายสนบั สนุนการไม่ดื่มสุราในโอกาสต่าง ๆ
๑๔. “ดังน้ันภาครัฐและหน่วยงานทีเ่ กยี่ วข้องจาเป็ นต้องรู้เท่าทนั เพอ่ื ใช้มาตรการทเ่ี หมาะสมและมี
ประสิทธิภาพในการป้ องกนั เยาวชนไม่ให้ ตกเป็ นเหยอ่ื ” คาที่ขีดเส้นใตห้ มายถึงอะไร
(การอา่ นในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)
ก. การขยายตวั ของสื่อโซเชียลมีเดียท่ีส่งผลต่อเยาวชน
ข. ธุรกิจเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลส์ ่ือสารกบั เยาวชนโดยตรง
ค. เจา้ หนา้ ท่ีของรัฐขาดประสิทธิภาพในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีต่อเยาวชน
ง. การจดั คอนเสิร์ตและปาร์ต้ีเปิ ดโอกาสใหเ้ ยาวชนดื่มแอลกอฮอลม์ ากยงิ่ ข้ึน
๑๕. ขา่ วน้ีมีการนาเสนอขอ้ มลู อยา่ งไร (การอ่านในระดบั การสังเคราะห์ Synthesis)
ก. เสนอแนวทางแกไ้ ขเพียงอยา่ งเดียว
ข. แสดงใหเ้ ห็นขอ้ เทจ็ จริงเพยี งอยา่ งเดียว
ค. เสนอแนวทางแกไ้ ข ไม่แสดงใหเ้ ห็นขอ้ เทจ็ จริง
ง. แสดงใหเ้ ห็นขอ้ เทจ็ จริง และเสนอแนวทางการแกไ้ ข
๑๑
๑๖. นกั เรียนคิดวา่ ปัญหาการดื่มสุรา หากไม่ไดร้ ับการแกไ้ ขจะส่งผลต่ออนาคตหรือไม่ อยา่ งไร
(การอ่านในระดบั การประเมินคา่ Evaluation)
ก. เยาวชนติดสุราลดลง เพราะแอลกอฮอลม์ ีราคาสูงข้ึน
ข. ยงั หาขอ้ สรุปไม่ได้ เพราะอนาคตเป็นส่ิงที่ไมแ่ น่นอน
ค. เยาวชนติดสุราเทา่ เดิม เพราะจานวนประชากรในประเทศเทา่ เดิม
ง. เยาวชนมีโอกาสติดสุราเพ่ิมข้ึน เพราะความสะดวกและรวดเร็วของสื่อโฆษณา
อ่านบทเพลงทกี่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๑๗ – ๒๒
เนือ้ เพลง : ปักษ์ใต้บ้านเรา
ศิลปิ น : แฮมเมอร์
(*สร้อย) โอ่โอปักษใ์ ตบ้ า้ นเรา โอโ่ อปักษใ์ ตบ้ า้ นเรา แม่น้าภูเขาทะเลกวา้ งไกล
อยา่ ไปไหนกลบั ใตบ้ า้ นเรา อยา่ ไปไหนกลบั ใตบ้ า้ นเรา
โอต้ น้ ยางยงั ยนื คงทน เหมือนดง่ั คนปักษใ์ ตไ้ มท่ อ้ ชีวา
โอแ้ ม่น้าตาปี ยงั ไหลหลากมา เหมือนน้าตาชาวใตท้ ี่ไหลร่วงริน (*สร้อย)
ค่าคืนน้ียนิ เสียงกลองโนราห์ เสียงหนงั ลุงแวว่ มาข่าววา่ ไม่พอจะกิน
กรีดยางปาดตาลทางานอยเู่ ป็ นอาจิณ แต่วา่ ไมพ่ อกินหน้ีสิน อีรุง ตุงนงั
โอห้ นุ่มสาวพวกเจา้ ไปอยทู่ ่ีไหน รู้ไหมเมืองใตข้ าดคนจะคอยดูแล
เมืองใตว้ นั น้ียงั มีแต่พอ่ แหละแม่ กลบั มาช่วยดูแลปักษใ์ ตบ้ า้ นเรา (*สร้อย)
๑๗. เน้ือหาในบทเพลง ไม่ได้ กล่าวถึงเรื่องใด (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. ศิลปวฒั นธรรม ข. การประกอบอาชีพ
ค. ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ง. การเมืองและการปกครอง
๑๘. เพลง “ปักษ์ใต้บ้านเรา” มีวตั ถุประสงคใ์ นการแต่งอยา่ งไร
(การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)
ก. เรียกร้องใหว้ ยั รุ่นกลบั มาดูแลปักษใ์ ตบ้ า้ นเกิด
ข. เพื่อเป็ นการประชาสมั พนั ธ์การทอ่ งเท่ียวปักษใ์ ต้
ค. บอกเล่าถึงวถิ ีชีวติ และการดาเนินชีวิตของคนปักษใ์ ต้
ง. แสดงใหเ้ ห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติในปักษใ์ ต้
๑๒
๑๙. “โอ้หนุ่มสาวพวกเจ้าไปอย่ทู ี่ไหน รู้ไหมเมืองใต้ขาดคนจะคอยดูแล
เมอื งใต้วนั นีย้ งั มีแต่พ่อแหละแม่ กลบั มาช่วยดูแลปักษ์ใต้บ้านเรา”
นกั เรียนมีวธิ ีแกป้ ัญหาดงั กล่าว อยา่ งไร (การอ่านในระดบั การนาไปใช้ Application)
ก. สร้างความตระหนกั และสานึกรักบา้ นเกิดใหแ้ ก่เยาวชน
ข. ออกกฎหมายไม่อนุญาตใหเ้ ยาวชนออกไปทางานนอกบา้ น
ค. ลดคา่ ครองชีพใหแ้ ก่เยาวชนเพือ่ สร้างแรงจงู ใจใหก้ ลบั มา
ง. สร้างงานสร้างรายไดใ้ หก้ บั เยาวชนเพือ่ ไม่ตอ้ งออกไปทางานไกลบา้ น
๒๐. ปัญหาที่เกิดข้ึนในบทเพลงคือขอ้ ใด (การอา่ นในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)
ก. ราคายางพาราตกต่า
ข. การกเู้ งินนอกระบบ
ค. ขาดคนรุ่นใหม่มาดูแลบา้ นเกิด
ง. ศิลปะพ้นื บา้ นไดร้ ับความนิยมนอ้ ยลง
๒๑. เพลง “ปักษ์ใต้บ้านเรา” แสดงใหเ้ ห็นถึงลกั ษณะนิสยั ของคนปักษใ์ ตอ้ ยา่ งไร
(การอา่ นในระดบั การสังเคราะห์ Synthesis)
ก. มีจิตใจอ่อนโยน ข. อดทนไม่ทอ้ ต่อชีวติ
ค. มีความจริงใจตอ่ กนั ง. รักความสนุกสนาน
๒๒. “โอ้ หนุ่มสาว พวกเจ้าไปอย่ทู ไี่ หน” คาท่ีขีดเส้นใตม้ ีความสาคญั ต่อปักษใ์ ตอ้ ยา่ งไร
(การอ่านในระดบั การประเมินค่า Evaluation)
ก. เป็นคนมีความรู้ความสามารถ
ข. เป็นทายาทในการสืบทอดมรดก
ค. เป็นคนรุ่นใหมท่ ี่คนรุ่นเก่าไวว้ างใจ
ง. เป็นกาลงั สาคญั ในการพฒั นาบา้ นเกิดต่อไป
๑๓
อ่านตานานทก่ี าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๒๓ – ๒๘
นางตานี
“ต้นกล้วยตานี” เป็นท่ีสิงสถิตของพรายนางตานีเป็นท่ีรู้จกั กนั ดีในหม่คู นรุ่นเก่า พรายนางตานีน้ีวา่
กนั วา่ มีหนา้ ตาสวย มีกลิ่นตวั หอม ไวผ้ มยาว ฝ่ ามือฝ่ าเทา้ แดงอ่อนดุจตีนนกพิราบ ริมฝีปากมีสีเหมือน
ตาลึงสุก ถา้ กลว้ ยตานีมีลาตน้ อวบพรายนางตานีกม็ ีรูปทรงทว้ ม ถา้ มีลาตน้ โปร่งเปลาพรายนางตานีก็มี
รูปทรงฉลวย
ดว้ ยเหตุท่ีพรายนางตานีเป็นผี ชาวบา้ นจึงไม่กลา้ ปลูกกลว้ ยตานีไวใ้ กลเ้ รือน แมจ้ ะปลูกไวใ้ กล้
เรือนถา้ จะตดั เอาใบตองไปใชก้ ห็ า้ มไมใ่ หต้ ดั เอาไปท้งั ใบ ตอ้ งเจียนเอามาแต่ใบตองเท่าน้นั หรือไมก่ ็ตอ้ ง
หกั กา้ นเสียก่อน เพราะถา้ ตดั เอาเขา้ มาในเรือนท้งั ใบถือเป็ นลางร้ายวา่ จะมีใครในบา้ นน้นั ตายลงในไมช่ า้
ท้งั น้ีเห็นจะเน่ืองจากคติเดิมท่ีใชใ้ บตองกลว้ ยตานีสามใบรองกน้ โลงศพ
สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๑๓
๒๓. ขอ้ ใดกล่าวถึงลกั ษณะพรายนางตานี ไม่ถูกต้อง (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. มีกล่ินกายหอม
ข. รูปร่างหนา้ ตาสวยงาม
ค. ริมฝีปากมีสีเหมือนตาลึงสุก
ง. ฝ่ ามือและฝ่ าเทา้ แขง็ แรงดุจนกพิราบ
๒๔. “ริมฝี ปากมีสีเหมอื น ตาลึงสุก” คาท่ีขีดเส้นใตห้ มายความวา่ อยา่ งไร
(การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)
ก. สีส้ม ข. สีเขียวอ่อน
ค. สีแดงสด ง. สีน้าตาลเขม้
๒๕. ควรปลูก “กล้วยตานี” ไวท้ ี่ใด (การอ่านในระดบั การนาไปใช้ Application)
ก. ปลูกไวห้ ลงั บา้ น
ข. ปลูกไวเ้ ป็นไมป้ ระดบั หนา้ บา้ น
ค. ปลูกไวท้ ี่ใดก็ไดแ้ ตค่ วรไกลบา้ น
ง. ปลูกไวท้ ี่ใดกไ็ ดต้ ามความสะดวก
๑๔
๒๖. ชาวบา้ น ไม่นิยม ปลูกตน้ กลว้ ยตานีไวบ้ ริเวณบา้ น เพราะเหตุใด
(การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)
ก. มีชื่อที่ไม่เป็นสิริมงคล
ข. เป็นพืชท่ีปลูกแลว้ ไม่มีประโยชนต์ ่อหนา้ ดิน
ค. ปลูกยากเจริญเติบโตชา้ ตอ้ งไดร้ ับการดูแลเป็ นพิเศษ
ง. ใบตองกลว้ ยตานีใชใ้ นการรองกน้ โลงศพเป็นความเชื่อโบราณ
๒๗. ขอ้ ใดเป็ นผลี กั ษณะเดียวกบั “พรายนางตานี” (การอา่ นในระดบั การสงั เคราะห์ Synthesis)
ก. นางตะเคียน ข. ผกี ระสือ
ค. ผปี อบ ง. ผตี าโขน
๒๘. “ด้วยเหตุทพี่ รายนางตานีเป็ นผี ชาวบ้านจึงไม่กล้าปลกู กล้วยตานีไว้ใกล้เรือน” นกั เรียนคิดวา่
สมเหตุสมผลหรือไม่ อยา่ งไร (การอ่านในระดบั การประเมินคา่ Evaluation)
ก. ไมแ่ น่ใจ เพราะ ส่ิงเหล่าน้ีข้ึนอยกู่ บั ความเช่ือส่วนบุคคล
ข. สมเหตุสมผล เพราะ สงั คมไทยยงั ติดอยกู่ บั ความเช่ือเดิม ๆ
ค. สมเหตุสมผล เพราะ พรายนางตานีเป็ นผที ี่มีอยจู่ ริง สามารถพิสูจนไ์ ด้
ง. ไมส่ มเหตุสมผล เพราะ ผเี ป็นเร่ืองที่ไมส่ ามารถอธิบายดว้ ยหลกั วทิ ยาศาสตร์
๑๕
อ่านบทความทกี่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๒๙ – ๓๔
ความรักจะติดตามเราไปทุกที่
“ในดา้ นธุรกิจผมประสบความสาเร็จสูง เรียกไดว้ า่ ชีวติ ผมเป็นแบบอยา่ งเด่นชดั ของความสาเร็จแต่
นอกจากการทางานแลว้ ผมไม่มีความสุขเท่าไรนกั เพราะท่ีสุดความร่ารวยกลายเป็นส่ิงเดียวท่ีผมมี
เมื่อผมนอนป่ วยอยบู่ นเตียงและพยายามราลึกถึงชีวติ ของผมที่ผา่ นมา ในความมืดผมมองเห็นเพียง
แสงสีเขียวและเสียงเครื่องช่วยหายใจ ซ่ึงทาใหผ้ มรู้วา่ ความตายใกลเ้ ขา้ มาแลว้ ตอนน้ีผมตระหนกั วา่ เมื่อเรา
มีเงินพอแลว้ เราควรหนั ไปใส่ใจเรื่องอ่ืนบา้ งซ่ึงอาจเป็นส่ิงท่ีสาคญั เช่น งานศิลปะท่ีเราเคยใฝ่ ฝันตอนเด็ก ๆ
การไมย่ อมหยดุ สร้างความร่ารวยทาใหต้ อ้ งมีชีวติ เหมือนท่ีผมเป็นอยู่
พระเจา้ ทรงมอบความรักไวใ้ นหวั ใจของมนุษยท์ ุกคนซ่ึงไม่สามารถหาซ้ือไดด้ ว้ ยเงิน เมื่อผมตาย
ผมเอาความร่ารวยไปดว้ ยไมไ่ ด้ สิ่งท่ีผมจะนาติดตวั ไปคือความทรงจาและความรักเท่าน้นั ซ่ึงเป็นความ
ร่ารวยที่แทจ้ ริง และจะเป็นแสงนาทางใหเ้ ราต่อไปความรักจะติดตามเราไปทุกท่ี เพราะอยใู่ นหวั ใจและใน
มือของเราเอง
เตียงท่ีแพงท่ีสุดในโลกคือเตียงผปู้ ่ วย คุณสามารถจา้ งคนมาขบั รถ จา้ งคนใหม้ าทางานหาเงินให้
แต่ไมม่ ีใครมาป่ วยแทนคุณได้ สิ่งของท่ีหายไปเราอาจหาพบได้ แตเ่ ราเอาชีวติ ที่เสียไปแลว้ กลบั คืนมาไมไ่ ด้
เม่ือเราอยใู่ นหอ้ งผา่ ตดั เราจะตระหนกั วา่ เราใส่ใจสุขภาพของตวั เองนอ้ ยเกินไป แต่เรามกั รู้ตวั เม่ือสาย
เกินไปเสมอ
จงใหค้ วามรักกบั ครอบครัว กบั คนรัก และเพือ่ น ๆ หมนั่ ดูแลสุขภาพของตวั เอง และใส่ใจคน
รอบขา้ งใหม้ าก ๆ”
สตฟี จอบส์
Steve Jobs
๒๙. ขอ้ ใดกล่าว ไม่ถูกต้อง (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. ผเู้ ขียน : มีฐานะร่ารวย
ข. ผเู้ ขียน : มีความสุขในการใชช้ ีวติ
ค. ผเู้ ขียน : กาลงั ประสบปัญหาเรื่องสุขภาพ
ง. ผเู้ ขียน : ประสบความสาเร็จในหนา้ ที่การงาน
๑๖
๓๐. ในทรรศนะของผเู้ ขียน “ความร่ารวยทแ่ี ท้จริง” คือขอ้ ใด
(การอา่ นในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)
ก. การทางาน ข. ทรัพยส์ ินเงินทอง
ค. ความสาเร็จในชีวติ ง. ความทรงจาและความรัก
๓๑. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ขอ้ คิดที่ผเู้ ขียนเสนอใหผ้ อู้ ่านนาไปใช้ (การอ่านในระดบั การนาไปใช้ Application)
ก. การดูแลสุขภาพ
ข. การใส่ใจต่อคนรอบขา้ ง
ค. การเคารพสิทธิของผอู้ ่ืน
ง. การมอบความรักใหก้ บั คนในครอบครัว
๓๒. เพราะเหตุใดทาใหผ้ เู้ ขียนคิดวา่ “ความตายเข้าใกล้มาแล้ว” (การอา่ นในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)
ก. การรู้ตวั เมื่อสายเกินไป
ข. การนอนป่ วยอยบู่ นเตียง
ค. การที่ไม่สามารถจา้ งใครมาป่ วยแทนได้
ง. การรู้วา่ เตียงท่ีแพงท่ีสุดในโลกคือเตียงผปู้ ่ วย
๓๓. “การไม่ยอมหยุดสร้างความร่ารวย ทาให้ต้องมีชีวติ เหมอื นทเี่ ป็ นอย่”ู คาที่ขีดเส้นใตส้ รุปความได้
อยา่ งไร (การอ่านในระดบั การสังเคราะห์ Synthesis)
ก. ผเู้ ขียนพอใจกบั ส่ิงที่เป็นอยู่ ข. ผเู้ ขียนไม่พอใจกบั ส่ิงท่ีเป็ นอยู่
ค. ผเู้ ขียนยอมรับกบั ส่ิงที่เป็ นอยู่ ง. ผเู้ ขียนไม่ยอมรับกบั ส่ิงท่ีเป็นอยู่
๓๔. จากบทความ “ความรักจะตดิ ตามเราไปทกุ ท”ี่ แสดงใหเ้ ห็นวา่ ผเู้ ขียนรู้สึกอยา่ งไร
(การอ่านในระดบั การประเมินคา่ Evaluation)
ก. เขา้ ใจชีวติ ข. สบั สน
ค. เป็นทุกข์ ง. มองโลกในแง่ดี
๑๗
อ่านสารคดีทกี่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๓๕ – ๔๐
สวนขวญั เมอื ง (พรุบาโกย) จงั หวดั ยะลา
สวนขวญั เมือง มีช่ือเดิมวา่ พรุบาโกย เป็นที่รู้จกั กนั ของคนในชุมชนสะเตงต้งั แต่อดีตของรุ่นป่ ยู า่
ตายายจนถึงปัจจุบนั ในอดีตพรุบาโกยเป็นสถานที่ที่มีแต่คูน้าและเป็นป่ าที่เตม็ ไปดว้ ยหญา้ และตน้ กกข้ึนรก
รุงรัง ชาวบา้ นในอดีตจึงใชส้ ถานที่ทาเป็นการเกษตร เป็นทุง่ สาหรับเล้ียงสตั ว์ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีท่อ
ระบายน้า จึงมีลุ่มน้าทว่ มขงั ปี ละคร้ัง ทาการเกษตรก็ไมไ่ ดไ้ ม่สะดวก ทาท่ีอยอู่ าศยั ก็ยาก ไม่สามารถใช้
ประโยชนไ์ ดเ้ ลย เทศบาลจึงพฒั นาทาทอ่ ระบายน้า เพื่อแกป้ ัญหาดงั กล่าว จนกระทง่ั พฒั นามาเป็น
สวนสาธารณะ
สวนขวญั เมือง (พรุบาโกย) ปัจจุบนั มีการปรับปรุงสถานท่ีโดยรอบ ไม่วา่ จะเป็ นการจดั ใหม้ ีการ
ประกอบดว้ ยสวนสนท่ีมีความสวยงาม มีการคา้ ขายจดั ระเบียบเรียบร้อย สะดวก รวมท้งั โขดหินวางไว้
อยา่ งเหมาะสมเลียบไปตามชายหาด โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตยต์ กดินมีทิวทศั นส์ วยงามมากทีเดียว จดั
ใหม้ ีการพายเรือเพื่อสุขภาพ และจกั รยานน้า ในบริเวณเดียวกนั น้ียงั จดั ใหม้ ีสนามแขง่ ขนั นกเขาชวาเสียง
อาเซียนเป็นประจาทุกปี ซ่ึงไดช้ ื่อวา่ เป็ นสนามแขง่ ขนั นกเขาชวาที่ใหญท่ ่ีสุดในโลก สนามเดก็ เล่น
โรงยมิ อเนกประสงค์ สวนสุขภาพและพนั ธุ์ไมน้ านาพนั ธุ์
สวนขวญั เมืองนบั วา่ เป็นสถานท่ีท่ีมีประชาชนมาท่องเท่ียวมากท่ีสุดในเขตเทศบาลนครยะลา และ
เป็นเขตท่ีเหมาะแก่การทาธุรกิจคา้ ขาย ปลูกบา้ น สังเกตไดว้ า่ ตอนน้ีมีการคา้ ขายมากข้ึน มีการปลูกบา้ น
เพม่ิ ข้ึนมากมายเป็นแถว และที่สาคญั ทาใหส้ วนขวญั เมืองแห่งน้ีน่าอยมู่ ากข้ึน เชา้ ๆ มีผคู้ นมากมายป่ัน
จกั รยานรอบ ๆ สวนขวญั เมือง (พรุบาโกย) สูดลมหายใจท่ีบริสุทธ์ิ กบั บรรยากาศ ทิวทศั นอ์ นั สวยงาม จน
ปัจจุบนั ใคร ๆ ก็อยากมาเที่ยวสวนสาธารณะแห่งน้ี
เทศบาลนครยะลา
๓๕. ขอ้ ใดใหข้ อ้ มูล ไม่ถูกต้อง (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. สวนขวญั เมืองมีช่ือเดิมวา่ พรุบาโกย
ข. สวนขวญั เมืองเป็ นสถานท่ีแข่งขนั นกกรงหวั จุก
ค. สวนขวญั เมืองเป็ นสถานท่ีทอ่ งเที่ยวของคนยะลา
ง. สวนขวญั เมืองอดีตเป็นพ้ืนท่ีทาการเกษตร และเล้ียงสัตว์
๑๘
๓๖. จุดเริ่มตน้ การพฒั นาพรุบาโกย ใหก้ ลายมาเป็นสวนสาธารณะ คือขอ้ ใด
(การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)
ก. การจดั ระเบียบการคา้ ขาย
ข. การปรับปรุงสถานที่โดยรอบ
ค. การจดั ใหม้ ีสวนสนที่สวยงาม
ง. การทาท่อระบายน้าของเทศบาลนครยะลา
๓๗. นกั เรียนคิดวา่ ธุรกิจใดเหมาะท่ีจะทาในบริเวณสวนขวญั เมือง มากทส่ี ุด
(การอ่านในระดบั การนาไปใช้ Application)
ก. ผสมพนั ธุ์นกเขาชวาขาย
ข. เปิ ดร้านคา้ ขายอาหาร และเคร่ืองดื่ม
ค. จดั ทวั ร์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษธ์ รรมชาติ
ง. ประกอบธุรกิจโรงแรมใหบ้ ริการแก่นกั ท่องเที่ยว
๓๘. ขอ้ ดีของการพฒั นาพรุบาโกยใหเ้ ป็นสวนสาธารณะ คือขอ้ ใด
(การอา่ นในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)
ก. เป็นที่ขยายพนั ธุ์ของนกเขาชวา
ข. เป็นศูนยก์ ลางของประชาคมอาเซียน
ค. เป็นโครงการที่แกป้ ัญหาน้าท่วมของจงั หวดั ยะลา
ง. เป็นสถานที่ทอ่ งเท่ียว และแหล่งธุรกิจของจงั หวดั ยะลา
๓๙. สวนขวญั เมือง เปรียบไดก้ บั อวยั วะส่วนใดของคนในจงั หวดั ยะลา
(การอ่านในระดบั การสงั เคราะห์ Synthesis)
ก. ปอด ข. สมอง
ค. จมูก ง. หวั ใจ
๔๐. การแขง่ ขนั นกเขาชวาในบริเวณสวนขวญั เมือง นกั เรียนคิดวา่ เหมาะสมหรือไม่ อยา่ งไร
(การอา่ นในระดบั การประเมินค่า Evaluation)
ก. เหมาะสม เพราะ สวนขวญั เมืองเป็นสวนสาธารณะใครจะทาอะไรกไ็ ด้
ข. เหมาะสม เพราะ สวนขวญั เมืองเป็นแหล่งทอ่ งเท่ียว ถือเป็นการกระตุน้ เศรษฐกิจ
ค. ไม่เหมาะสม เพราะ เป็นการทาใหพ้ ้นื ท่ีภายในสวนขวญั เมืองเสียหาย เกิดความสกปรก
ง. ไมเ่ หมาะสม เพราะ กิจกรรมดงั กล่าวถือเป็นการทารุณสัตว์ และคนบางกลุ่มไดผ้ ลประโยชน์
๑๙
เฉลยแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
เร่ือง การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ ตามทฤษฎลี าดบั ข้นั การเรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy
สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา
---------------------------------------------------------
ขอ้ ๑ ข ขอ้ ๒๑ ข
ขอ้ ๒ ง ขอ้ ๒๒ ง
ขอ้ ๓ ข ขอ้ ๒๓ ง
ขอ้ ๔ ง ขอ้ ๒๔ ค
ขอ้ ๕ ง ขอ้ ๒๕ ค
ขอ้ ๖ ค ขอ้ ๒๖ ง
ขอ้ ๗ ง ขอ้ ๒๗ ก
ขอ้ ๘ ข ขอ้ ๒๘ ก
ขอ้ ๙ ก ขอ้ ๒๙ ข
ขอ้ ๑๐ ข ขอ้ ๓๐ ง
ขอ้ ๑๑ ง ขอ้ ๓๑ ค
ขอ้ ๑๒ ข ขอ้ ๓๒ ข
ขอ้ ๑๓ ก ขอ้ ๓๓ ข
ขอ้ ๑๔ ก ขอ้ ๓๔ ก
ขอ้ ๑๕ ง ขอ้ ๓๕ ข
ขอ้ ๑๖ ง ขอ้ ๓๖ ง
ขอ้ ๑๗ ง ขอ้ ๓๗ ข
ขอ้ ๑๘ ก ขอ้ ๓๘ ง
ขอ้ ๑๙ ก ขอ้ ๓๙ ก
ขอ้ ๒๐ ค ขอ้ ๔๐ ข
๒๐
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒
๒๑
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕
หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ชั่วโมง
ชุดฝึ กทกั ษะท่ี ๑ จากข่าว เรื่องโรงสีเพอ่ื ชาวนา จานวน ๑ ชั่วโมง
วนั ท.่ี ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................
สาระที่ ๑ การอา่ น
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น
ตวั ชี้วดั
ม.๓/๔ อ่านเรื่องต่าง ๆ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน
ม.๓/๘ วเิ คราะห์เพ่อื แสดงความคิดเห็นโตแ้ ยง้ เก่ียวกบั เรื่องท่ีอ่าน
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดท่ีไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพ่ือนาไปใชแ้ กป้ ัญหา
ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอา่ น
๒๒
สาระสาคญั
การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เป็นการอา่ นที่ตอ้ งใชค้ วามคิดเพอื่ พิจารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเกี่ยวกบั ขอ้ มลู หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ า่ น ท่ีมีต่อบทอา่ นเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพอ่ื นาไปสู่การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ สรุปที่สมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เรื่องท่ีอ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายความหมายและหลกั การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)
๒. อา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดจากเรื่องที่กาหนด เพอ่ื นาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)
๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอ่าน (A)
สาระการเรียนรู้
๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๒. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากข่าว เรื่องโรงสีเพ่ือชาวนา
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
๒๓
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ซื่อสัตย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุง่ มน่ั ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ
การจัดกระบวนการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูทกั ทายนกั เรียนเพือ่ เป็ นการเตรียมความพร้อม
๒. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ความหมาย และความสาคญั ของข่าว
๓. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการเรียน ดว้ ยชุดฝึกทกั ษะท่ี ๑ การอ่านตีความและ
ประเมินคุณค่าแนวคิด จากข่าว เร่ืองโรงสีเพอื่ ชาวนา ใหน้ กั เรียบทราบเพือ่ ท่ีจะสามารถเรียนรู้ไดต้ รงตาม
จุดประสงค์
ข้ันจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๔. แบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง
และออ่ น ให้อยกู่ ลุ่มเดียวกนั
๕. ใหต้ วั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมารับชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอา่ นตีความและประเมิน
คุณคา่ แนวคิด จากข่าว เรื่องโรงสีเพื่อชาวนา
๖. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเริ่มทากิจกรรม ดว้ ยชุดฝึกทกั ษะท่ี ๑ การอา่ นตีความและประเมิน
คุณค่าแนวคิด จากข่าว เร่ืองโรงสีเพ่ือชาวนา โดยเร่ิมจากการศึกษาข้นั ตอนการเรียน อา่ นคาแนะนา
สาหรับนกั เรียน ศึกษาและทาความเขา้ ใจมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั สาระสาคญั สาระการเรียนรู้ และ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพ่ิมเติม เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย
หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ
๒๔
๗. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาและทาความเขา้ ใจกรอบความรู้ เรื่อง
- ความหมายและความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
- การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
- ขา่ ว
เพ่อื เป็ นความรู้พ้ืนฐานใชป้ ระกอบการทากิจกรรมในชุดฝึ กทกั ษะต่อไป
ข้ันสรุปบทเรียน
๘. ครูสุ่มนกั เรียน ๒-๓ คน สรุปองคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษากรอบความรู้ในชุดฝึ ก
ทกั ษะใหเ้ พื่อนในช้นั เรียนฟัง
๙. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปและอธิบายเพม่ิ เติมในประเด็นท่ีขาดหาย
๑๐. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย หรือไม่เขา้ ใจในส่ิงที่เรียน
๑๑. ช่ืนชมนกั เรียนท่ีใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรมเป็นอยา่ งดี
ส่ือการเรียนรู้
๑. ชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากขา่ ว เร่ืองโรงสีเพ่ือชาวนา
๒. กรอบความรู้ เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๓. กรอบความรู้ เรื่อง การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เร่ือง ข่าว
๕. ขา่ ว เรื่องโรงสีเพื่อชาวนา
ชิ้นงาน / ภาระงาน
นกั เรียนสรุปองคค์ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการอ่านลงในสมุดจดบนั ทึก
๒๕
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (K)
- --
ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P) - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ
นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- สังเกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - แบบสังเกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
๒๖
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓
๒๗
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕
หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ช่ัวโมง
ชุดฝึ กทกั ษะท่ี ๑ จากข่าว เรื่องโรงสีเพอื่ ชาวนา จานวน ๑ ชั่วโมง
วนั ท.ี่ ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................
สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสัยรักการอ่าน
ตวั ชี้วดั
ม.๓/๓ ระบุใจความสาคญั และรายละเอียดของขอ้ มลู ท่ีสนบั สนุนจากเรื่องที่อา่ น
ม.๓/๕ วเิ คราะห์วจิ ารณ์และประเมินเร่ืองท่ีอา่ นโดย ใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทียบ เพ่อื ใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจ
ไดด้ ีข้ึน
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดท่ีไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพ่ือนาไปใชแ้ กป้ ัญหา
ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอา่ น
๒๘
สาระสาคญั
การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เป็นการอา่ นที่ตอ้ งใชค้ วามคิดเพอื่ พิจารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเกี่ยวกบั ขอ้ มลู หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอา่ นเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพ่ือนาไปสู่การวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปที่สมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เรื่องท่ีอ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายความหมายและหลกั การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)
๒. อา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดจากเรื่องที่กาหนด เพอ่ื นาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)
๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอ่าน (A)
สาระการเรียนรู้
๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๒. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากข่าว เรื่องโรงสีเพ่ือชาวนา
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
๒๙
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ซื่อสตั ย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุง่ มนั่ ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ
การจดั กระบวนการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียนจากการศึกษากรอบความรู้ในคาบท่ีผา่ นมา ในประเดน็
ตอ่ ไปน้ี
- การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดมีความหมาย และความสาคญั
อยา่ งไร
- ขา่ ว มีความหมาย และมีบทบาทสาคญั ตอ่ การดาเนินชีวติ ประจาวนั อยา่ งไร
เพ่ือเป็ นการทบทวนบทเรียน เตรียบความพร้อม และสารวจนกั เรียนวา่ มีความรู้พ้ืนฐานเพอ่ื ใชป้ ระกอบการ
ทากิจกรรมในชุดฝึกทกั ษะต่อไป หรือไม่อยา่ งไร
๒. ครูควรกระตุน้ ให้นกั เรียนทุกคนตอบคาถาม และร่วมกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็น
เพือ่ เชื่อมโยงเน้ือหา และนาเขา้ สู่บทเรียนในการทากิจกรรมอื่นต่อไป
ข้ันจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๓. แบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง
และอ่อน ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั (ยงั คงเป็ นกลุ่มเดิมจากการทากจิ กรรมในคาบทผี่ ่านมา)
๔. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อ่านข่าว เรื่องโรงสีเพื่อชาวนา หลงั จากน้นั ใหร้ ่วมกนั
ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็น และระดมความคิดทากิจกรรมในชุดฝึกทกั ษะ ดงั ตอ่ ไปน้ี
กจิ กรรมที่ ๑ การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา (Knowledge) ใหน้ กั เรียนทา
เคร่ืองหมาย หนา้ ขอ้ ความที่กล่าวถูกตอ้ ง และทาเคร่ืองหมาย หนา้ ขอ้ ความที่กล่าวไมถ่ ูกตอ้ ง
พร้อมแกไ้ ข ให้ถูกต้อง
๓๐
กจิ กรรมท่ี ๒ การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ (Comprehension) เพราะเหตุใดที่ทา
ใหช้ าวนาและชาวบา้ น “ยงั ตดิ กบั ดักข้าวเปลอื กถูก ข้าวสารแพงอยู่เช่นเดมิ ”
กจิ กรรมที่ ๓ การอ่านในระดบั การนาไปใช้ (Application) นกั เรียนคิดวา่ การ
รวมกลุ่มในรูปแบบสหกรณ์การเกษตร สามารถแกป้ ัญหาราคาสินคา้ เกษตรอื่น ๆ ไดห้ รือไม่ อยา่ งไร
ในขณะทากิจกรรมนกั เรียนสามารถศึกษากรอบความรู้ภายในชุดฝึกทกั ษะเพมิ่ เติมประกอบการทากิจกรรม
๕. ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพม่ิ เติม เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย
หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ
๖. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน
และใหน้ กั เรียนกลุ่มอื่นไดน้ าเสนอ และแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เติมในส่วนท่ีแตกตา่ งกนั ออกไป เพือ่
แลกเปล่ียนทศั นะซ่ึงกนั และกนั พร้อมกบั เสนอประเดน็ อ่ืน ๆ เพิ่มเติมเพ่ือความสมบูรณ์ของเน้ือหา
๗. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาแนวการตอบจากเฉลยทา้ ยเล่มอีกคร้ัง แลว้ ร่วมกนั
อภิปราย และแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม จากน้นั ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มช่วยกนั ปรับปรุง แกไ้ ขผลงาน
ใหถ้ ูกตอ้ งและสมบรู ณ์อีกคร้ังก่อนส่งครูผสู้ อน
ข้ันสรุปบทเรียน
๘. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั กาหนดแนวทางปฏิบตั ิ และขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการทากิจกรรมการอ่าน
ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากขา่ ว เร่ืองโรงสีเพ่อื ชาวนา สู่การประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
๙. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการทากิจกรรมการเรียนรู้ และร่วมกนั
สรุปความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๑๐. ครูช่ืนชมนกั เรียนท่ีใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรม และอธิบายเพมิ่ เติมในประเดน็
ท่ีขาดหาย หรือขอ้ บกพร่อง เพอ่ื เป็ นแนวทางในการทากิจกรรมของนกั เรียนคร้ังต่อไป
๑๑. ครูเนน้ ย้า และอบรมสงั่ สอนนกั เรียนเกี่ยวกบั ความประพฤติ ความซ่ือสัตย์ สุจริต
ความมีวนิ ยั การใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน และมีจิตสาธารณะ เป็นการปลูกฝังคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงคใ์ หเ้ กิดข้ึนแก่ผเู้ รียน
๓๑
สื่อการเรียนรู้
๑. ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๑ การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากขา่ ว เรื่องโรงสีเพ่ือชาวนา
๒. กรอบความรู้ เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๓. กรอบความรู้ เรื่อง การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เร่ือง ข่าว
๕. ขา่ ว เร่ืองโรงสีเพื่อชาวนา
ชิ้นงาน / ภาระงาน
นกั เรียนตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอผลงานการทาชุดฝึกทกั ษะหนา้ ช้นั เรียน
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (K)
- ตรวจการทากิจกรรมชุดฝึกทกั ษะท่ี ๑ - ชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอ่าน - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
แนวคิด จากขา่ ว เรื่องโรงสีเพ่ือชาวนา จากข่าว เร่ืองโรงสีเพ่ือชาวนา
ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- สังเกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - แบบสังเกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
๓๒
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔
๓๓
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕
หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ชั่วโมง
ชุดฝึ กทกั ษะท่ี ๑ จากข่าว เร่ืองโรงสีเพอ่ื ชาวนา จานวน ๑ ชั่วโมง
วนั ท.ี่ ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน
ตัวชี้วดั
ม.๓/๔ อา่ นเร่ืองตา่ ง ๆ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน
ม.๓/๕ วเิ คราะห์วจิ ารณ์และประเมินเรื่องที่อา่ นโดย ใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทียบ เพื่อใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจ
ไดด้ ีข้ึน
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา
ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอ่าน
๓๔
สาระสาคญั
การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เป็นการอา่ นที่ตอ้ งใชค้ วามคิดเพอื่ พิจารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเกี่ยวกบั ขอ้ มลู หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอา่ นเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพอ่ื นาไปสู่การวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปที่สมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เรื่องท่ีอ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายความหมายและหลกั การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)
๒. อา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดจากเรื่องที่กาหนด เพอ่ื นาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)
๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอ่าน (A)
สาระการเรียนรู้
๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๒. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากข่าว เรื่องโรงสีเพ่ือชาวนา
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
๓๕
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ซื่อสัตย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุ่งมนั่ ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ
การจดั กระบวนการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูทกั ทายนกั เรียนเพ่อื เป็ นการเตรียมความพร้อม จากน้นั ขออาสาสมคั รนกั เรียน ๒-๓
คน ออกมาเล่าประสบการณ์ร่วมท่ีมีต่อชาวนา เช่น เคยมีประสบการณ์การทานา หรือมีผปู้ กครอง คนที่
นกั เรียนรู้จกั ประกอบอาชีพทานา มาเล่าใหเ้ พือ่ นฟังหนา้ ช้นั เรียนเพ่อื แลกเปล่ียนประสบการณ์ และแสดง
ความคิดเห็นร่วมกนั
๒ นกั เรียนร่วมกนั แลกเปล่ียน และขยายประสบการณ์ แสดงความคิดเห็น ครูแจง้ ผลการ
ประเมินการทากิจกรรมในคาบท่ีผา่ นมาใหน้ กั เรียนทราบ
ข้ันจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๓. แบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง
และอ่อน ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั (ยงั คงเป็ นกลุ่มเดมิ จากการทากจิ กรรมในคาบทผ่ี ่านมา)
๔. ใหต้ วั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมารับชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอ่านตีความและประเมิน
คุณคา่ แนวคิด จากขา่ ว เรื่องโรงสีเพ่ือชาวนา
๕. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็นจากข่าว เรื่องโรงสีเพ่ือ
ชาวนา และระดมความคิดร่วมกนั ทากิจกรรมในชุดฝึกทกั ษะ ดงั ต่อไปน้ี
กจิ กรรมที่ ๔ การอา่ นในระดบั การวเิ คราะห์ (Analysis) ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบ
ขอ้ แตกต่างระหวา่ งการขายขา้ วผา่ นพอ่ คา้ คนกลาง กบั สหกรณ์การเกษตร
กจิ กรรมท่ี ๕ การอ่านในระดบั การสังเคราะห์ (Synthesis) ใหน้ กั เรียนวาง
แผนการพฒั นาตราสินคา้ (แบรนด์) ขา้ ว ลงในผงั ความคิด (Mind map) ที่กาหนดให้
กจิ กรรมท่ี ๖ การอ่านในระดบั การประเมินค่า (Evaluation) นอกจาก “โรงสีข้าว
๓๖
เพอื่ ชาวนา” แลว้ นกั เรียนคิดวา่ มีวธิ ีการอ่ืนท่ีสามารถแกป้ ัญหาใหแ้ ก่ชาวนาไดอ้ ีกหรือไม่ อยา่ งไร
ในขณะทากิจกรรมนกั เรียนสามารถศึกษากรอบความรู้ภายในชุดฝึกทกั ษะเพ่ิมเติมประกอบการทากิจกรรม
๖. ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพ่มิ เติม เปิ ดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย
หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ
๗. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน
และใหน้ กั เรียนกลุ่มอ่ืนไดน้ าเสนอ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในส่วนที่แตกตา่ งกนั ออกไป เพ่อื แลกเปลี่ยน
ทศั นะซ่ึงกนั และกนั พร้อมกบั เสนอประเดน็ อื่น ๆ เพ่ิมเติมเพอื่ ความสมบรู ณ์ของเน้ือหา
(ตัวแทนทอี่ อกมานาเสนอไม่ซ้ากบั คนทน่ี าเสนอในคาบท่ผี ่านมา)
๘. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาแนวการตอบจากเฉลยทา้ ยเล่มอีกคร้ัง แลว้ ร่วมกนั
อภิปราย แสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม จากน้นั ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มช่วยกนั ปรับปรุง แกไ้ ขผลงานให้
ถูกตอ้ งและสมบรู ณ์อีกคร้ังก่อนส่งครูผสู้ อน
ข้ันสรุปบทเรียน
๙. ครูขออาสาสมคั รหรือตวั แทนนกั เรียน ๒-๓ คน ออกมาสรุปองคค์ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการ
อ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากขา่ ว เรื่องโรงสีเพอ่ื ชาวนา ใหเ้ พ่อื น ๆ ฟัง นกั เรียนในช้นั เรียน
ร่วมกนั อภิปราย และแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
๑๐. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอา่ นตีความและประเมิน
คุณค่าแนวคิด จากขา่ ว เร่ืองโรงสีเพื่อชาวนา เพื่อใชป้ ระกอบการวดั และการประเมินผลการเรียนตอ่ ไป
๑๑. ชมเชยนกั เรียนที่ร่วมทากิจกรรม และเนน้ ย้าใหน้ กั เรียนตระหนกั ถึงความสาคญั ของ
ทกั ษะการอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เพ่ือนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั
๑๒. ครูสรุปบทเรียนเพิ่มเติมในประเด็นที่ขาดหาย เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมี
ประเด็นท่ีสงสยั หรือไมเ่ ขา้ ใจ และมอบหมายงานใหน้ กั เรียนกลบั ไปทบทวนชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอา่ น
ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากข่าว เรื่องโรงสีเพือ่ ชาวนา เพื่อใชเ้ ป็นความรู้พ้นื ฐานในการทา
กิจกรรมการเรียนรู้คร้ังต่อไป
๓๗
สื่อการเรียนรู้
๑. ชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากข่าว เร่ืองโรงสีเพ่ือชาวนา
๒. กรอบความรู้ เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๓. กรอบความรู้ เร่ือง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เรื่อง ขา่ ว
๕. ข่าว เร่ืองโรงสีเพ่ือชาวนา
ชิ้นงาน / ภาระงาน
นกั เรียนสรุปความรู้ที่ไดจ้ ากการเรียนเป็นผงั ความคิด (Mind Map)
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
วธิ ีการวดั และประเมินผล เครื่องมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล
ด้านความรู้ (K) - ชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอ่าน - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
- ตรวจการทากิจกรรมชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
การอ่านตีความและประเมินคุณค่า จากข่าว เรื่องโรงสีเพ่ือชาวนา
แนวคิด จากขา่ ว เรื่องโรงสีเพ่อื ชาวนา แบบทดสอบหลงั เรียน - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดฝึกทกั ษะที่ ๑ การอา่ นตีความ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๑ การอ่านตีความ และประเมินคุณค่าแนวคิด
และประเมินคุณค่าแนวคิด จากขา่ ว เร่ืองโรงสีเพ่ือชาวนา
จากข่าว เรื่องโรงสีเพื่อชาวนา
ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- สังเกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - แบบสงั เกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
๓๘
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕
๓๙
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๕
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕
หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คณุ ค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ชั่วโมง
ชุดฝึ กทกั ษะท่ี ๒ จากเพลงพระราชนพิ นธ์ แผ่นดนิ ของเรา จานวน ๑ ชั่วโมง
วนั ท.่ี ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................
สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน
ตวั ชี้วดั
ม.๓/๔ อ่านเร่ืองต่าง ๆ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน
ม.๓/๕ วเิ คราะห์วจิ ารณ์และประเมินเรื่องท่ีอ่านโดย ใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทียบ เพอื่ ใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจ
ไดด้ ีข้ึน
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพอื่ นาไปใชแ้ กป้ ัญหา
ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอ่าน
๔๐
สาระสาคญั
การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด เป็นการอา่ นท่ีตอ้ งใชค้ วามคิดเพือ่ พจิ ารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเกี่ยวกบั ขอ้ มลู หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอ่านเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพอื่ นาไปสู่การวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปท่ีสมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เรื่องท่ีอา่ น
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายความหมายและหลกั การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)
๒. อ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดจากเร่ืองที่กาหนด เพอ่ื นาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)
๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเครื่องมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอ่าน (A)
สาระการเรียนรู้
๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๒. การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์ เร่ืองแผน่ ดินของเรา
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
๔๑
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ซื่อสัตย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุง่ มนั่ ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ
การจัดกระบวนการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูทกั ทายนกั เรียนเพ่อื เป็ นการเตรียมความพร้อม
๒. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ประวตั ิ และความเป็นมาของเพลงพระราช-
นิพนธ์
๓. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการเรียน ดว้ ยชุดฝึกทกั ษะท่ี ๒ การอา่ นตีความและ
ประเมินคุณค่าแนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์ แผน่ ดินของเรา ใหน้ กั เรียบทราบเพ่ือที่จะสามารถเรียนรู้
ไดต้ รงตามจุดประสงค์
ข้ันจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๔. แบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง
และอ่อน ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั (โดยสมาชิกภายในกล่มุ ไม่ซ้ากบั กลุ่มเดมิ )
๕. ใหต้ วั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมารับชุดฝึกทกั ษะท่ี ๒ การอ่านตีความและประเมิน
คุณคา่ แนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์ แผน่ ดินของเรา
๖. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มเร่ิมทากิจกรรม ดว้ ยชุดฝึกทกั ษะท่ี ๒ การอา่ นตีความและประเมิน
คุณค่าแนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์ แผน่ ดินของเรา โดยเริ่มจากการศึกษาข้นั ตอนการเรียน อ่าน
คาแนะนาสาหรับนกั เรียน ศึกษาและทาความเขา้ ใจมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั สาระสาคญั สาระการ
เรียนรู้ และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพ่มิ เติม เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถาม
หากมีขอ้ สงสยั หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ
๔๒
๗. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษากรอบความรู้ เรื่อง
- ความหมายและความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
- การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
- เพลงพระราชนิพนธ์
เพือ่ เป็ นความรู้พ้ืนฐานใชป้ ระกอบการทากิจกรรมในชุดฝึ กทกั ษะตอ่ ไป
ข้ันสรุปบทเรียน
๘. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาซกั ถามเก่ียวกบั ความรู้ที่ไดจ้ ากการทากิจกรรมใน
ประเดน็ ต่อไปน้ี
- เพราะเหตุใดเราจึงตอ้ งอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
- หลกั การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy มีอะไรบา้ ง นกั เรียนไดแ้ นวคิดในการอา่ นเพ่ือ
นาไปใชศ้ ึกษาต่อเร่ืองอ่ืน ๆ ไดอ้ ยา่ งไร
- เพลงพระราชนิพนธ์ คืออะไร
๙. ครูอธิบายเพม่ิ เติมในประเดน็ ท่ีขาดหาย
๑๐. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสยั หรือไมเ่ ขา้ ใจในสิ่งที่เรียน
๑๑. ชื่นชมนกั เรียนท่ีใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรมเป็นอยา่ งดี
สื่อการเรียนรู้
๑. ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๒ การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์
แผน่ ดินของเรา
๒. กรอบความรู้ เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๓. กรอบความรู้ เร่ือง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เรื่อง เพลงพระราชนิพนธ์
๕. เพลงพระราชนิพนธ์ แผน่ ดินของเรา
ชิ้นงาน / ภาระงาน
นกั เรียนเลือกเพลงพระราชนิพนธ์ที่ชอบ จดบนั ทึกลงในกระดาษรายงาน พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ
๔๓
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (K)
- --
ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P) - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ
นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- สังเกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - แบบสังเกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
๔๔
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๖
๔๕
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕
หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คณุ ค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ชั่วโมง
ชุดฝึ กทกั ษะท่ี ๒ จากเพลงพระราชนิพนธ์ แผ่นดนิ ของเรา จานวน ๑ ชั่วโมง
วนั ท.่ี ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................
สาระที่ ๑ การอา่ น
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสัยรักการอ่าน
ตวั ชี้วดั
ม.๓/๔ อ่านเรื่องต่าง ๆ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน
ม.๓/๖ ประเมินความถูกตอ้ งของขอ้ มูลท่ีใช้ สนบั สนุนในเร่ืองที่อา่ น
ม.๓/๗ วจิ ารณ์ความสมเหตุสมผล การลาดบั ความ และความเป็นไปไดข้ องเร่ือง
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดท่ีไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา
ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอ่าน
๔๖
สาระสาคญั
การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด เป็นการอา่ นท่ีตอ้ งใชค้ วามคิดเพือ่ พจิ ารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเกี่ยวกบั ขอ้ มลู หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอ่านเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพอื่ นาไปสู่การวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปท่ีสมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เรื่องท่ีอา่ น
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายความหมายและหลกั การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)
๒. อ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดจากเร่ืองที่กาหนด เพอ่ื นาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)
๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเครื่องมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอ่าน (A)
สาระการเรียนรู้
๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๒. การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์ เร่ืองแผน่ ดินของเรา
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
๔๗
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ซื่อสตั ย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุ่งมน่ั ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ
การจดั กระบวนการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียนถึงประสบการณ์การฟังเพลงพระราชนิพนธ์ และใหน้ กั เรียน
ท่ีมีประสบการณ์ออกมาเล่าถึงความรู้สึก และความประทบั ใจตอ่ เพลงพระราชนิพนธ์ใหเ้ พือ่ น ๆ ฟัง หนา้
ช้นั เรียน เพอ่ื แสดงความคิดเห็นและแลกเปล่ียนความรู้ร่วมกนั ชื่นชมนกั เรียนท่ีใหค้ วามร่วมมือในการทา
กิจกรรม
ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๒. แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง
และอ่อน ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั (ยงั คงเป็ นกล่มุ เดิมจากการทากจิ กรรมในคาบทผี่ ่านมา)
๓. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อ่านเพลงพระราชนิพนธ์ แผน่ ดินของเรา หลงั จากน้นั ให้
ร่วมกนั ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็น และระดมความคิดทากิจกรรมในชุดฝึกทกั ษะ ดงั ตอ่ ไปน้ี
กจิ กรรมที่ ๑ การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา (Knowledge) ใหน้ กั เรียนตอบ
คาถามตอ่ ไปน้ี ให้ถูกต้อง
กจิ กรรมที่ ๒ การอา่ นในระดบั ความเขา้ ใจ (Comprehension) ใหน้ กั เรียนจบั คู่คา
กบั ความหมาย โดยนาตวั อกั ษรในตารางใส่ไวห้ นา้ ขอ้ ความ ให้ถูกต้อง และ สัมพนั ธ์กัน
กจิ กรรมท่ี ๓ การอ่านในระดบั การนาไปใช้ (Application) นกั เรียนมีวธิ ีการ
รักษา “ทรัพย์จากผนื ดนิ สินจากนที” ใหค้ งอยไู่ ดอ้ ยา่ งไร
ในขณะทากิจกรรมนกั เรียนสามารถศึกษากรอบความรู้ภายในชุดฝึกทกั ษะเพมิ่ เติมประกอบการทากิจกรรม
๔. ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพิ่มเติม เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสยั
หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ
๔๘
๕. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน
และใหน้ กั เรียนกลุ่มอื่นไดน้ าเสนอ และแสดงความคิดเห็นเพมิ่ เติมในส่วนที่แตกต่างกนั ออกไป เพ่ือ
แลกเปล่ียนทศั นะซ่ึงกนั และกนั พร้อมกบั เสนอประเด็นอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์ของเน้ือหา
๖. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาแนวการตอบจากเฉลยทา้ ยเล่มอีกคร้ัง แลว้ ร่วมกนั
อภิปราย และแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม จากน้นั ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มช่วยกนั ปรับปรุง แกไ้ ขผลงาน
ใหถ้ ูกตอ้ งและสมบูรณ์อีกคร้ังก่อนส่งครูผสู้ อน
ข้นั สรุปบทเรียน
๗. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั กาหนดแนวทางปฏิบตั ิ และขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการทากิจกรรมการอ่าน
ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์ แผน่ ดินของเรา สู่การประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
๘. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการทากิจกรรมการเรียนรู้ และร่วมกนั
สรุปความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๙. ครูชื่นชมนกั เรียนที่ใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรม และอธิบายเพ่มิ เติมในประเด็นที่
ขาดหาย หรือขอ้ บกพร่อง เพือ่ เป็นแนวทางในการทากิจกรรมของนกั เรียนคร้ังต่อไป
๑๐. ครูเนน้ ย้า และอบรมส่ังสอนนกั เรียนเก่ียวกบั ความประพฤติ ความซ่ือสตั ย์ สุจริต
ความมีวนิ ยั การใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน และมีจิตสาธารณะ เป็นการปลูกฝังคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงคใ์ หเ้ กิดข้ึนแก่ผเู้ รียน
ส่ือการเรียนรู้
๑. ชุดฝึกทกั ษะที่ ๒ การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์
แผน่ ดินของเรา
๒. กรอบความรู้ เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๓. กรอบความรู้ เรื่อง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้
ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เรื่อง เพลงพระราชนิพนธ์
๕. เพลงพระราชนิพนธ์ แผน่ ดินของเรา
ชิ้นงาน / ภาระงาน
นกั เรียนสรุปองคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการอา่ นลงในสมุดจดบนั ทึก
๔๙
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
วธิ ีการวดั และประเมินผล เครื่องมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (K)
- ตรวจการทากิจกรรมชุดฝึกทกั ษะท่ี ๒ - ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๒ การอา่ น - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
แนวคิด จากเพลงพระราชนิพนธ์ จากเพลงพระราชนิพนธ์
แผน่ ดินของเรา แผน่ ดินของเรา
ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) - แบบสงั เกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
- สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป