The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนPAรณชัย

แผนPAรณชัย

Keywords: แผน วPA

๑๐๐

สาระสาคญั

การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด เป็นการอา่ นท่ีตอ้ งใชค้ วามคิดเพอ่ื พิจารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเก่ียวกบั ขอ้ มูล หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอ่านเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพือ่ นาไปสู่การวเิ คราะห์ สังเคราะห์ สรุปท่ีสมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เรื่องที่อ่าน

จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. อธิบายความหมายและหลกั การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)

๒. อ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดจากเรื่องที่กาหนด เพ่ือนาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)

๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอา่ น (A)

สาระการเรียนรู้

๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๒. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๑๐๑

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

๑. ซ่ือสตั ย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุง่ มน่ั ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ

การจดั กระบวนการเรียนรู้

ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูทกั ทาย และสนทนาซกั ถามนกั เรียนถึงปัญหา และอุปสรรค จากการทากิจกรรม

ดว้ ยชุดฝึกทกั ษะท่ี ๔ การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก) โรค
ออนไลน์ จากการเรียนคาบท่ีผา่ นมา

๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ยกตวั อยา่ งส่ือจากโลกออนไลน์ ท่ีกาลงั ไดร้ ับความนิยมและมี
บทบาทต่อการดาเนินชีวติ ในยคุ ปัจจุบนั นกั เรียนและครูร่วมกนั แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกนั
ในช้นั เรียน

๓. ช่ืนชม และใหก้ าลงั ใจนกั เรียนท่ีใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรมเป็นอยา่ งดี
ข้ันจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

๔. แบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง
และออ่ น ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั (ยงั คงเป็ นกล่มุ เดิมจากการทากจิ กรรมในคาบทผ่ี ่านมา)

๕. ใหต้ วั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมารับชุดฝึกทกั ษะท่ี ๔ การอ่านตีความและประเมิน
คุณคา่ แนวคิด จากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์

๖. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็น และระดมความคิด
ร่วมกนั ทากิจกรรมในชุดฝึกทกั ษะท่ี ๔ การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากบทความ เรื่องวยั รุ่น
กบั (โลก) โรคออนไลน์

กจิ กรรมท่ี ๔ การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ (Analysis) วยั รุ่นท่ีมีภมู ิคุม้ กนั
ห่างไกลจาก “โรคออนไลน์” มีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร ตอบคาถามลงในกล่องขอ้ ความที่กาหนดให้

กจิ กรรมที่ ๕ การอ่านในระดบั การสังเคราะห์ (Synthesis) “โลกออนไลน์” มี

๑๐๒

ความสัมพนั ธ์กบั “โรคออนไลน์” อยา่ งไร
ในขณะทากิจกรรมนกั เรียนสามารถศึกษากรอบความรู้ภายในชุดฝึกทกั ษะเพ่ิมเติมประกอบการทากิจกรรม

๗. ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพ่มิ เติม เปิ ดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย
หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ

๘. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน
และใหน้ กั เรียนกลุ่มอ่ืนไดน้ าเสนอ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในส่วนท่ีแตกต่างกนั ออกไป เพ่อื แลกเปลี่ยน
ทศั นะซ่ึงกนั และกนั พร้อมกบั เสนอประเด็นอ่ืน ๆ เพ่มิ เติมเพอ่ื ความสมบูรณ์ของเน้ือหา
(ตัวแทนทอ่ี อกมานาเสนอไม่ซ้ากบั คนทน่ี าเสนอในคาบท่ีผ่านมา)

๙. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาแนวการตอบจากเฉลยทา้ ยเล่มอีกคร้ัง แลว้ ร่วมกนั
อภิปราย แสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม จากน้นั ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มช่วยกนั ปรับปรุง แกไ้ ขผลงานให้
ถูกตอ้ งและสมบรู ณ์อีกคร้ังก่อนส่งครูผสู้ อน

ข้นั สรุปบทเรียน
๑๐. ครูขออาสาสมคั รหรือตวั แทนนกั เรียน ๒-๓ คน ออกมาสรุปองคค์ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการ

อา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์ ใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง
นกั เรียนในช้นั เรียนร่วมกนั อภิปราย และแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เติม

๑๑. ชมเชยนกั เรียนท่ีร่วมทากิจกรรม และเนน้ ย้าใหน้ กั เรียนตระหนกั ถึงความสาคญั ของ
ทกั ษะการอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เพ่ือนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั

๑๒. ครูสรุปบทเรียนเพิม่ เติมในประเด็นที่ขาดหาย เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมี
ประเด็นท่ีสงสัย หรือไม่เขา้ ใจ และมอบหมายงานใหน้ กั เรียนกลบั ไปทบทวนชุดฝึกทกั ษะที่ ๔ การอา่ น
ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์ เพ่ือใชเ้ ป็นความรู้
พ้นื ฐานในการทากิจกรรมการเรียนรู้คร้ังต่อไป

๑๐๓

สื่อการเรียนรู้

๑. ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๔ การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก)
โรคออนไลน์

๒. กรอบความรู้ เรื่อง ความหมายและความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๓. กรอบความรู้ เร่ือง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เร่ือง บทความ
๕. บทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก) ออนไลน์

ชิ้นงาน / ภาระงาน

ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลงานการทาชุดฝึกทกั ษะหนา้ ช้นั เรียน

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล

ด้านความรู้ (K)

- ตรวจการทากิจกรรมชุดฝึกทกั ษะท่ี ๔ - ชุดฝึกทกั ษะที่ ๔ การอา่ น - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

แนวคิด จากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก)

(โลก) โรคออนไลน์ โรคออนไลน์

ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)

- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

- สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - แบบสังเกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

๑๐๔

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๖

๑๐๕

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๖

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕

หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คณุ ค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ชั่วโมง

ชุดฝึ กทกั ษะที่ ๔ จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์ จานวน ๑ ชั่วโมง

วนั ท.ี่ ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................

สาระท่ี ๑ การอา่ น

มาตรฐานการเรียนรู้

ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น

ตวั ชี้วดั

ม.๓/๔ อ่านเร่ืองต่าง ๆ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา

ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอา่ น

๑๐๖

สาระสาคญั

การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด เป็นการอา่ นท่ีตอ้ งใชค้ วามคิดเพื่อพิจารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเก่ียวกบั ขอ้ มูล หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอ่านเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพือ่ นาไปสู่การวเิ คราะห์ สังเคราะห์ สรุปท่ีสมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เรื่องที่อ่าน

จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. อธิบายความหมายและหลกั การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)

๒. อ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดจากเรื่องที่กาหนด เพ่ือนาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)

๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอา่ น (A)

สาระการเรียนรู้

๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๒. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๑๐๗

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

๑. ซื่อสัตย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุ่งมนั่ ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ

การจดั กระบวนการเรียนรู้

ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูขออาสาสมคั รนกั เรียน ๒-๓ คน ออกมาเล่าถึงประสบการณ์ของตนเอง หรือคน

ใกลต้ วั ที่เคยมีอาการหรือปัญหาที่เกิดจากการใชโ้ ลกออนไลน์ นกั เรียนและครูร่วมกนั แลกเปลี่ยน
ประสบการณ์และร่วมกนั แสดงความคิดเห็น

๒. ช่ืนชม ใหก้ าลงั ใจนกั เรียนที่กลา้ แสดงออกอยา่ งสร้างสรรค์ และใหค้ วามร่วมมือใน
การทากิจกรรมเป็นอยา่ งดี

ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๓. แบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง

และอ่อน ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั (ยงั คงเป็ นกล่มุ เดมิ จากการทากจิ กรรมในคาบทผ่ี ่านมา)
๔. ใหต้ วั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมารับชุดฝึกทกั ษะที่ ๔ การอา่ นตีความและประเมิน

คุณค่าแนวคิด จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์
๕. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็น และระดมความคิด

ร่วมกนั ทากิจกรรมในชุดฝึกทกั ษะท่ี ๔ การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากบทความ เรื่องวยั รุ่น
กบั (โลก) โรคออนไลน์ ดงั ต่อไปน้ี

กจิ กรรมที่ ๖ การอา่ นในระดบั การประเมินคา่ (Evaluation) ในอนาคตหาก
พฤติกรรมของวยั รุ่นที่มีต่อ “โลกออนไลน์” ไม่เปล่ียนแปลง จะส่งผลอยา่ งไร
ในขณะทากิจกรรมนกั เรียนสามารถศึกษากรอบความรู้ภายในชุดฝึกทกั ษะเพม่ิ เติมประกอบการทากิจกรรม

๖. ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพมิ่ เติม เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสยั
หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ

๑๐๘

๗. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน
และใหน้ กั เรียนกลุ่มอ่ืนไดน้ าเสนอ แสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติมในส่วนที่แตกต่างกนั ออกไป เพอ่ื แลกเปล่ียน
ทศั นะซ่ึงกนั และกนั พร้อมกบั เสนอประเดน็ อื่น ๆ เพ่ิมเติมเพอ่ื ความสมบูรณ์ของเน้ือหา
(ตัวแทนทอ่ี อกมานาเสนอไม่ซ้ากบั คนทนี่ าเสนอในคาบทผี่ ่านมา)

๘. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาแนวการตอบจากเฉลยทา้ ยเล่มอีกคร้ัง แลว้ ร่วมกนั
อภิปราย แสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม จากน้นั ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มช่วยกนั ปรับปรุง แกไ้ ขผลงานให้
ถูกตอ้ งและสมบูรณ์อีกคร้ังก่อนส่งครูผสู้ อน

ข้นั สรุปบทเรียน
๙. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้และขอ้ คิดที่ไดจ้ ากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก)

โรคออนไลน์ ซ่ึงเป็นขอ้ คิดที่แฝงอยหู่ ลกั จากท่ีนกั เรียนไดใ้ ชท้ กั ษะการอ่านตีความและประเมินคุณค่า
แนวคิด เพอ่ื จะไดน้ าความรู้และขอ้ คิดไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน

๑๐. ครูอธิบายเพ่ิมเติม และเนน้ ย้าใหน้ กั เรียนทราบถึงความสาคญั ของการอ่านตีความและ
ประเมินคุณค่าแนวคิด เป็นการอา่ นเพื่อทาความเขา้ ใจความหมาย และความรู้สึกจากขอ้ ความท่ีผเู้ ขียน
ตอ้ งการสื่อถึงผอู้ ่าน โดยอาศยั พ้ืนความรู้เดิม ความสนใจ ประสบการณ์ ระดบั สติปัญญา การอา่ นตีความ
และประเมินคุณคา่ แนวคิดจึงตอ้ งอาศยั กระบวนการคิด เพื่อนามาวเิ คราะห์ คิดไตร่ตรองหาเหตุผล
ประกอบการตดั สินใจ ซ่ึงจะช่วยใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจไดอ้ ยา่ งลึกซ้ึง เห็นคุณค่า และประเมินคุณคา่ แนวคิดเน้ือหา
ของเรื่องน้นั ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง

๑๑. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดฝึกทกั ษะที่ ๔ การอ่านตีความและประเมิน
คุณค่าแนวคิด จากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์ เพื่อใชป้ ระกอบการวดั และการประเมินผล
การเรียนตอ่ ไป

๑๒. มอบหมายงานใหน้ กั เรียนกลบั ไปทบทวนชุดฝึกทกั ษะท่ี ๔ การอ่านตีความและ
ประเมินคุณคา่ แนวคิด จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก) โรคออนไลน์ เพอ่ื ใชเ้ ป็นความรู้พ้นื ฐานในการ
ทากิจกรรมการเรียนรู้คร้ังต่อไป

ส่ือการเรียนรู้

๑. ชุดฝึกทกั ษะที่ ๔ การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก)
โรคออนไลน์

๑๐๙

๒. กรอบความรู้ เรื่อง ความหมายและความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๓. กรอบความรู้ เร่ือง การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เรื่อง บทความ
๕. บทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก) ออนไลน์

ชิ้นงาน / ภาระงาน

นกั เรียนทาแผน่ พบั สรุปขอ้ ดีขอ้ เสียงของส่ือออนไลน์

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล

ด้านความรู้ (K)

- ตรวจการทากิจกรรมชุดฝึกทกั ษะที่ ๔ - ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๔ การอ่าน - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

การอา่ นตีความและประเมินคุณค่า ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

แนวคิด จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก)

(โลก) โรคออนไลน์ โรคออนไลน์

- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ชุดฝึกทกั ษะที่ ๔ การอ่านตีความและ ชุดฝึกทกั ษะที่ ๔ การอ่านตีความ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

ประเมินคุณค่าแนวคิด และประเมินคุณคา่ แนวคิด

จากบทความ เร่ืองวยั รุ่นกบั (โลก) โรค จากบทความ เรื่องวยั รุ่นกบั (โลก)

ออนไลน์ โรคออนไลน์

ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)

- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

- สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - แบบสงั เกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

๑๑๐

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๗

๑๑๑

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๗

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕

หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คณุ ค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ช่ัวโมง

ชุดฝึ กทกั ษะท่ี ๕ สารคดี เรื่อง “วดั ถา้ ยะลา” มหศั จรรย์ชายแดนใต้ จานวน ๑ ช่ัวโมง

วนั ท.่ี ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................

สาระท่ี ๑ การอ่าน

มาตรฐานการเรียนรู้

ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น

ตวั ชี้วดั

ม.๓/๓ ระบุใจความสาคญั และรายละเอียดของขอ้ มูลที่สนบั สนุนจากเรื่องที่อา่ น
ม.๓/๔ อ่านเรื่องต่าง ๆ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอา่ น

๑๑๒

สาระสาคญั

การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เป็นการอา่ นท่ีตอ้ งใชค้ วามคิดเพอื่ พจิ ารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเก่ียวกบั ขอ้ มูล หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอา่ นเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพอื่ นาไปสู่การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ สรุปท่ีสมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เร่ืองท่ีอา่ น

จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. อธิบายความหมายและหลกั การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)

๒. อา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดจากเร่ืองท่ีกาหนด เพือ่ นาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)

๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอ่าน (A)

สาระการเรียนรู้

๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๒. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากสารคดี

เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๑๑๓

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

๑. ซ่ือสตั ย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุง่ มน่ั ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ

การจดั กระบวนการเรียนรู้

ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูทกั ทายนกั เรียนเพ่อื เป็ นการเตรียมความพร้อม
๒. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ความหมาย และประเภทของสารคดี
๓. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการเรียน ดว้ ยชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอ่านตีความและ

ประเมินคุณค่าแนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ ใหน้ กั เรียบทราบเพอ่ื ท่ีจะ
สามารถเรียนรู้ไดต้ รงตามจุดประสงค์

ข้ันจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๔. แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง

และอ่อน ให้อยกู่ ลุ่มเดียวกนั (โดยสมาชิกภายในกลุ่มไม่ซ้ากบั กลุ่มเดิม)
๕. ใหต้ วั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมารับชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอา่ นตีความและประเมิน

คุณค่าแนวคิด จากสารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้
๖. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเร่ิมทากิจกรรม ดว้ ยชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ การอ่านตีความและประเมิน

คุณคา่ แนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ โดยเริ่มจากการศึกษาข้นั ตอนการเรียน
อ่านคาแนะนาสาหรับนกั เรียน ศึกษาและทาความเขา้ ใจมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั สาระสาคญั สาระ
การเรียนรู้ และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพิ่มเติม เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียน
ซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ

๗. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาและทาความเขา้ ใจกรอบความรู้ เร่ือง
- ความหมายและความสาคญั ของการอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
- สารคดี

๑๑๔

เพ่อื เป็ นความรู้พ้ืนฐานใชป้ ระกอบการทากิจกรรมในชุดฝึ กทกั ษะตอ่ ไป
ข้นั สรุปบทเรียน
๘. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาซกั ถามเก่ียวกบั ความรู้ที่ไดจ้ ากการทากิจกรรมใน

ประเด็นตอ่ ไปน้ี
- นกั เรียนสามารถพฒั นาทกั ษะการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดได้
อยา่ งไร
- นกั เรียนสามารถนาหลกั การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดตามทฤษฎี
ลาดบั ข้นั การเรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ไปพฒั นาองคค์ วามรู้จากการอา่ น
ไดอ้ ยา่ งไร
- สารคดี มีความหมายวา่ อยา่ งไร มีกี่ประเภท

๙. ครูอธิบายเพิม่ เติมในประเดน็ ที่ขาดหาย
๑๐. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสยั หรือไม่เขา้ ใจในส่ิงท่ีเรียน
๑๑. ชื่นชมนกั เรียนที่ใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรมเป็นอยา่ งดี

สื่อการเรียนรู้

๑. ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา”
มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

๒. กรอบความรู้ เรื่อง ความหมายและความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๓. กรอบความรู้ เรื่อง การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เรื่อง สารคดี
๕. สารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

ชิ้นงาน / ภาระงาน

นกั เรียนจดบนั ทึกการเรียนรู้ลงในสมุด

๑๑๕

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

วธิ ีการวดั และประเมินผล เครื่องมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K) - แบบทดสอบก่อนเรียน - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอา่ นตีความ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอา่ นตีความและ และประเมินคุณค่าแนวคิด
ประเมินคุณคา่ แนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา”
จากสารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้
มหศั จรรยช์ ายแดนใต้
ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P) - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ
นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - แบบสังเกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

๑๑๖

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๘

๑๑๗

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๘

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕

หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คณุ ค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ช่ัวโมง

ชุดฝึ กทกั ษะท่ี ๕ สารคดี เร่ือง “วดั ถา้ ยะลา” มหศั จรรย์ชายแดนใต้ จานวน ๑ ชั่วโมง

วนั ท.ี่ ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................

สาระที่ ๑ การอ่าน

มาตรฐานการเรียนรู้

ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น

ตัวชี้วดั

ม.๓/๔ อา่ นเร่ืองตา่ ง ๆ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน
ม.๓/๕ วเิ คราะห์วจิ ารณ์และประเมินเรื่องที่อา่ นโดย ใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทียบ เพื่อใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจ

ไดด้ ีข้ึน
ม.๓/๘ วเิ คราะห์เพ่ือแสดงความคิดเห็นโตแ้ ยง้ เกี่ยวกบั เร่ืองที่อา่ น
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดท่ีไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพื่อนาไปใชแ้ กป้ ัญหา

ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอา่ น

๑๑๘

สาระสาคญั

การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เป็นการอา่ นท่ีตอ้ งใชค้ วามคิดเพื่อพจิ ารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเก่ียวกบั ขอ้ มูล หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอา่ นเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพอื่ นาไปสู่การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ สรุปท่ีสมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เร่ืองท่ีอา่ น

จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. อธิบายความหมายและหลกั การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)

๒. อา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดจากเร่ืองท่ีกาหนด เพือ่ นาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)

๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอ่าน (A)

สาระการเรียนรู้

๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๒. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากสารคดี

เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๑๑๙

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

๑. ซ่ือสัตย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุ่งมน่ั ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ

การจัดกระบวนการเรียนรู้

ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียนถึงประสบการณ์การอา่ นสารคดีประเภทตา่ ง ๆ และให้

นกั เรียนที่มีประสบการณ์ออกมาเล่าใหเ้ พ่อื นฟังหนา้ ช้นั เรียน เพื่อขยายองคค์ วามรู้ แสดงความคิดเห็น และ
แลกเปล่ียนประสบการณ์ร่วมกนั ช่ืนชมนกั เรียนที่ใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรม

ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๒. แบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง

และออ่ น ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั (ยงั คงเป็ นกล่มุ เดิมจากการทากจิ กรรมในคาบทผ่ี ่านมา)
๓. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อา่ นสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

หลกั จากน้นั ใหร้ ่วมกนั ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็น และระดมความคิดทากิจกรรมในชุดฝึกทกั ษะ
ดงั ต่อไปน้ี

กจิ กรรมที่ ๑ การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา (Knowledge) ใหน้ กั เรียนบอก
จุดเด่นของวดั คูหาภิมุข (พุทธไสยานุสรณ์)

กจิ กรรมท่ี ๒ การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ (Comprehension) พระพุทธไสยาสน์
หรือพอ่ ทา่ นบรรทม มีประวตั ิความเป็นมาอยา่ งไร

กจิ กรรมที่ ๓ การอา่ นในระดบั การนาไปใช้ (Application) ใหน้ กั เรียนนาเสนอ
วธิ ีการฟ้ื นฟูสถานที่ทอ่ งเท่ียวในจงั หวดั ยะลา ใหเ้ ป็นที่รู้จกั แก่คนไทยท้งั ประเทศในรูปแบบผงั ความคิด
(Mind map)
ในขณะทากิจกรรมนกั เรียนสามารถศึกษากรอบความรู้ภายในชุดฝึกทกั ษะเพม่ิ เติมประกอบการทากิจกรรม

๔. ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพ่มิ เติม เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย

๑๒๐

หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ
๕. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน

และใหน้ กั เรียนกลุ่มอื่นไดน้ าเสนอ และแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เติมในส่วนที่แตกตา่ งกนั ออกไป เพื่อ
แลกเปล่ียนทศั นะซ่ึงกนั และกนั พร้อมกบั เสนอประเด็นอ่ืน ๆ เพิ่มเติมเพื่อความสมบรู ณ์ของเน้ือหา

๖. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาแนวการตอบจากเฉลยทา้ ยเล่มอีกคร้ัง แลว้ ร่วมกนั
อภิปราย และแสดงความคิดเห็น จากน้นั ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มช่วยกนั ปรับปรุง แกไ้ ขผลงานใหถ้ ูกตอ้ ง
และสมบูรณ์อีกคร้ังก่อนส่งครูผสู้ อน

ข้ันสรุปบทเรียน
๗. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั กาหนดแนวทางปฏิบตั ิ และขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการทากิจกรรมการอ่าน

ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากสารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ สู่การประยกุ ตใ์ ช้
ในชีวติ จริง

๘. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการทากิจกรรมการเรียนรู้ และร่วมกนั
สรุปความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด

๙. ครูช่ืนชมนกั เรียนที่ใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรม และอธิบายเพิม่ เติมในประเด็น
ที่ขาดหาย หรือขอ้ บกพร่อง เพือ่ เป็ นแนวทางในการทากิจกรรมของนกั เรียนคร้ังต่อไป

๑๐. ครูเนน้ ย้า และอบรมสั่งสอนนกั เรียนเก่ียวกบั ความประพฤติ ความซ่ือสตั ย์ สุจริต
ความมีวนิ ยั การใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน และมีจิตสาธารณะ เป็นการปลูกฝังคุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงคใ์ หเ้ กิดข้ึนแก่ผเู้ รียน

ส่ือการเรียนรู้

๑. ชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา”
มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

๒. กรอบความรู้ เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๓. กรอบความรู้ เร่ือง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เรื่อง สารคดี
๕. สารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

ชิ้นงาน / ภาระงาน นกั เรียนเขียนเล่าประสบการณ์เก่ียวกบั ตานานทอ้ งถ่ินลงในกระดาษรายงาน

๑๒๑

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

วธิ ีการวดั และประเมินผล เครื่องมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K)

- ตรวจการทากิจกรรมชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ - ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอา่ น - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

การอ่านตีความและประเมินคุณค่า ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

แนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา” จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา”

มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)

- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

- สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - แบบสังเกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

๑๒๒

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๙

๑๒๓

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๙

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕

หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ช่ัวโมง

ชุดฝึ กทกั ษะที่ ๕ สารคดี เรื่อง “วดั ถา้ ยะลา” มหศั จรรย์ชายแดนใต้ จานวน ๑ ช่ัวโมง

วนั ท.ี่ ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................

สาระท่ี ๑ การอ่าน

มาตรฐานการเรียนรู้

ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น

ตัวชี้วดั

ม.๓/๘ วเิ คราะห์เพือ่ แสดงความคิดเห็นโตแ้ ยง้ เกี่ยวกบั เรื่องท่ีอา่ น
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดท่ีไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหา

ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอา่ น

๑๒๔

สาระสาคญั

การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด เป็นการอา่ นท่ีตอ้ งใชค้ วามคิดเพื่อพจิ ารณาไตร่ตรอง
อยา่ งรอบคอบเก่ียวกบั ขอ้ มลู หลกั ความจริง เหตุผล ประสบการณ์ของผอู้ ่าน ท่ีมีต่อบทอา่ นเป็ น
ส่วนประกอบในการพิจารณา เพ่อื นาไปสู่การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ สรุปท่ีสมเหตุสมผลและการประเมินคา่
เร่ืองท่ีอา่ น

จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. อธิบายความหมายและหลกั การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การ
เรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ได้ (K)

๒. อา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดจากเร่ืองท่ีกาหนด เพือ่ นาไปใชใ้ นการตดั สินใจและ
แกป้ ัญหาต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (P)

๓. ใชท้ กั ษะทางภาษาเป็นเครื่องมือในการสร้างองคค์ วามรู้ และทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด และมีมารยาทในการอ่าน (A)

สาระการเรียนรู้

๑. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด
๒. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๓. การอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากสารคดี

เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๑๒๕

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

๑. ซ่ือสตั ย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุ่งมนั่ ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ

การจัดกระบวนการเรียนรู้

ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูทกั ทาย และสนทนาซกั ถามนกั เรียนถึงปัญหา และอุปสรรค จากการทากิจกรรม

ดว้ ยชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากสารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรย์
ชายแดนใต้ จากการเรียนคาบที่ผา่ นมา

๒. ใหน้ กั เรียนที่มีประสบการณ์เคยไปยงั “วดั ถ้ายะลา” หรือนกั เรียนที่อาศยั อยใู่ นพ้นื ที่
ออกมาเล่าและแลกเปล่ียนประสบการณ์ รวมถึงความประทบั ใจในสถานที่ดงั กล่าวใหเ้ พื่อน ๆ ฟังหนา้ ช้นั
เรียน นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปราย และแสดงความคิดเห็น

๓. ช่ืนชม และใหก้ าลงั ใจนกั เรียนที่ใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรมเป็นอยา่ งดี
ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้

๔. แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน โดยคละเพศและความสามารถท้งั เก่ง ปานกลาง
และออ่ น ใหอ้ ยกู่ ลุ่มเดียวกนั (ยงั คงเป็ นกลุ่มเดิมจากการทากจิ กรรมในคาบทผี่ ่านมา)

๕. ใหต้ วั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมารับชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ การอ่านตีความและประเมิน
คุณคา่ แนวคิด จากสารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

๖. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตอบคาถาม แสดงความคิดเห็น และระดมความคิด
ร่วมกนั ทากิจกรรมในชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากสารคดี
เรื่อง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ ดงั ต่อไปน้ี

กจิ กรรมที่ ๔ การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ (Analysis) เพราะเหตุการณ์ใดท่ีทา
ใหม้ ีการสร้างพระพระพทุ ธไสยาสนข์ ้ึนท่ี ตาบลหนา้ ถ้า จงั หวดั ยะลา

กจิ กรรมที่ ๕ การอา่ นในระดบั การสังเคราะห์ (Synthesis) พระบรมธาตุไชยา

๑๒๖

จงั หวดั ชุมพร พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช จงั หวดั นครศรีธรรมราช และพระพทุ ธไสยาสน์ จงั หวดั
ยะลา เกี่ยวขอ้ งกนั อยา่ งไร

กจิ กรรมท่ี ๖ การอ่านในระดบั การประเมินคา่ (Evaluation) หากวดั คูหาภิมุข
(พุทธไสยานุสรณ์) เป็นที่รู้จกั แก่คนทว่ั ไป นกั เรียนคิดวา่ จะส่งผลตอ่ จงั หวดั ยะลาอยา่ งไร
ในขณะทากิจกรรมนกั เรียนสามารถศึกษากรอบความรู้ภายในชุดฝึกทกั ษะเพ่มิ เติมประกอบการทากิจกรรม

๗. ครูคอยใหค้ าแนะนาและช้ีแนะเพ่ิมเติม เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสัย
หรือมีปัญหาในการทากิจกรรมดว้ ยชุดฝึกทกั ษะ

๘. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน
และใหน้ กั เรียนกลุ่มอื่นไดน้ าเสนอ แสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติมในส่วนท่ีแตกตา่ งกนั ออกไป เพ่อื แลกเปล่ียน
ทศั นะซ่ึงกนั และกนั พร้อมกบั เสนอประเดน็ อ่ืน ๆ เพม่ิ เติมเพื่อความสมบูรณ์ของเน้ือหา
(ตัวแทนทอ่ี อกมานาเสนอไม่ซ้ากบั คนทน่ี าเสนอในคาบท่ผี ่านมา)

๙. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาแนวการตอบจากเฉลยทา้ ยเล่มอีกคร้ัง แลว้ ร่วมกนั
อภิปราย แสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม จากน้นั ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มช่วยกนั ปรับปรุง แกไ้ ขผลงานให้
ถูกตอ้ งและสมบูรณ์อีกคร้ังก่อนส่งครูผสู้ อน

ข้นั สรุปบทเรียน
๑๐. ครูขออาสาสมคั รหรือตวั แทนนกั เรียน ๒-๓ คน ออกมาสรุปองคค์ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการ

อ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้
ใหเ้ พือ่ น ๆ ฟัง นกั เรียนในช้นั เรียนร่วมกนั อภิปราย และแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติม

๑๑. ชมเชยนกั เรียนท่ีร่วมทากิจกรรม และเนน้ ย้าใหน้ กั เรียนตระหนกั ถึงความสาคญั ของ
ทกั ษะการอา่ นตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เพื่อนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั

๑๒. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอา่ นตีความและประเมิน
คุณค่าแนวคิด จากสารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ เพ่ือใชป้ ระกอบการวดั และการ
ประเมินผลการเรียนตอ่ ไป

๑๓. มอบหมายงานใหน้ กั เรียนกลบั ไปทบทวนชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอา่ นตีความและ
ประเมินคุณคา่ แนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ เพื่อบททวนความรู้ พร้อมกบั
แจง้ ใหน้ กั เรียนทราบวา่ จะมีการทดสอบหลงั เรียน เพื่อวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง การอ่านตีความ
และประเมินคุณคา่ แนวคิด ในคาบถดั ไป

๑๒๗

ส่ือการเรียนรู้

๑. ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา”
มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

๒. กรอบความรู้ เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของการอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด
๓. กรอบความรู้ เร่ือง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้

ของ Bloom’ Taxonomy
๔. กรอบความรู้ เร่ือง สารคดี
๕. สารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

ชิ้นงาน/ภาระงาน นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ทาหนงั สือเล่มเล็ก เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

วธิ ีการวดั และประเมินผล เครื่องมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล

ด้านความรู้ (K)

- ตรวจการทากิจกรรมชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ - ชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ การอา่ น - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

การอ่านตีความและประเมินคุณค่า ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

แนวคิด จากสารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา”

มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ชุดฝึกทกั ษะที่ ๕ การอา่ นตีความและ ชุดฝึกทกั ษะท่ี ๕ การอา่ นตีความ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

ประเมินคุณค่าแนวคิด และประเมินคุณคา่ แนวคิด

จากสารคดี เร่ือง “วดั ถ้ายะลา” จากสารคดี เรื่อง “วดั ถ้ายะลา”
มหศั จรรยช์ ายแดนใต้ มหศั จรรยช์ ายแดนใต้

ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)

- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

- สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - แบบสงั เกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

๑๒๘

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒๐

๑๒๙

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒๐

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ า ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕

หน่วยการเรียนรู้ การอ่านตคี วามและประเมนิ คณุ ค่าแนวคดิ จานวน ๒๐ ช่ัวโมง

ทดสอบหลงั เรียน จานวน ๑ ช่ัวโมง

วนั ท.่ี ........................................................เดอื น....................................................................พ.ศ. .............................................

สาระท่ี ๑ การอา่ น

มาตรฐานการเรียนรู้

ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน
ชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น

ตวั ชี้วดั

ม.๓/๓ ระบุใจความสาคญั และรายละเอียดของขอ้ มูลท่ีสนบั สนุนจากเรื่องที่อา่ น
ม.๓/๕ วเิ คราะห์วจิ ารณ์และประเมินเร่ืองที่อ่านโดย ใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทียบ เพือ่ ใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจ

ไดด้ ีข้ึน
ม.๓/๗ วจิ ารณ์ความสมเหตุสมผล การลาดบั ความ และความเป็นไปไดข้ องเร่ือง
ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดท่ีไดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลาย เพือ่ นาไปใชแ้ กป้ ัญหา

ในชีวติ
ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอ่าน

๑๓๐

สาระสาคญั

การทดสอบหลงั เรียน เร่ือง การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด เป็นการวดั ความกา้ วหนา้
ทางการเรียนของนกั เรียน หลงั จากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ที่กาหนดข้ึน
เพ่ือตรวจสอบการพฒั นาศกั ยภาพของนกั เรียน และนาขอ้ คน้ พบท่ีไดม้ าพฒั นาเชื่อมโยงความรู้
ในศาสตร์อื่น ๆ ต่อไป

จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. อา่ นและตอบคาถามจากแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง การอา่ นตีความและ
ประเมินคุณคา่ แนวคิดไดถ้ ูกตอ้ ง

๒. เพือ่ ตรวจสอบความรู้ พ้ืนฐานของนกั เรียนในการเรียน เร่ือง การอ่านตีความและประเมิน
คุณคา่ แนวคิด หลงั จากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรียนรู้

สาระการเรียนรู้

การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

๑. ซ่ือสัตย์ สุจริต
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุง่ มน่ั ในการทางาน
๕. มีจิตสาธารณะ

๑๓๑

การจัดกระบวนการเรียนรู้

ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูทกั ทายนกั เรียนเพ่อื เป็ นการเตรียมความพร้อม
๒. ครูช้ีแจงเก่ียวกบั การทาแบบทดสอบหลงั เรียน พร้อมเนน้ ย้าใหน้ กั เรียน

ทาแบบทดสอบดว้ ยความต้งั ใจ ซื่อสตั ย์ สุจริตในการสอบ
ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
๓. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามหากมีขอ้ สงสยั เกี่ยวกบั คาช้ีแจงในการทาแบบทดสอบ

หลงั เรียน
๔. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน เพ่ือวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง การอา่ น

ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิด แบบปรนยั ๔ ตวั เลือก จานวน ๔๐ ขอ้ ๔๐ คะแนน ใชเ้ วลาในการทา
๕๐ นาที

ข้ันสรุปบทเรียน
๔. ช่ืนชมนกั เรียนท่ีใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรม และอบรมความประพฤติในการ

เป็นผเู้ รียนท่ีดี และการทางานร่วมกนั ผอู้ ื่น ตลอดจนใหน้ กั เรียนนาความรู้ท่ีไดไ้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ให้
ไดม้ ากที่สุด

สื่อการเรียนรู้

แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิหลงั เรียน เร่ือง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด แบบปรนยั
๔ ตวั เลือก จานวน ๔๐ ขอ้

ชิ้นงาน / ภาระงาน

นกั เรียนทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิหลงั เรียน เร่ือง การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด

๑๓๒

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K)

- ตรวจแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ - แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

หลงั เรียน เรื่อง การอา่ นตีความและ หลงั เรียน เร่ือง การอา่ นตีความ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

ประเมินคุณคา่ แนวคิด และประเมินคุณค่าแนวคิด

ด้านทกั ษะ / กระบวนการ (P)

- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

นกั เรียน ของนกั เรียน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

- สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - แบบสังเกตคุณลกั ษะอนั พึง - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ประสงค์ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

บนั ทกึ ความคดิ เห็น / ข้อเสนอแนะของผู้อานวยการสถานศึกษา

..........................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................................
(นายนพปฎล มุณีรัตน์)

ผอู้ านวยการโรงเรียนคณะราษฎรบารุง จงั หวดั ยะลา

๑๓๓

บันทกึ ผลหลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ด้านความรู้ / ความเข้าใจ
นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ และทกั ษะการอา่ นส่งผลใหส้ ามารถนาองคค์ วามรู้ที่ไดจ้ ากการอา่ นมา

ประยกุ ตใ์ ห้ และเป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต

๒. ด้านทกั ษะ / กระบวนการ
นกั เรียนมีทกั ษะทางภาษา การทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นไดต้ ามเวลาท่ีกาหนด

๓. ด้านพฤตกิ รรมการเรียนรู้ / คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
นกั เรียนมีเจตคติต่อวชิ าภาษาไทย มีความสนุกสนานในการทากิจกรรม มีนิสยั รักการอา่ นมาก

ยง่ิ ข้ึน
๔. ปัญหา / อุปสรรค

นกั เรียนขาดการวางแผนในการทากิจกรรม กิจกรรมกลุ่มมีนกั เรียนบางคนไมค่ อ่ ยใหค้ วามร่วมมือ
และเห็นความสาคญั ทาใหง้ านออกมาไม่มีประสิทธิภาพ
๕. ข้อเสนอแนะ / แนวทางการแก้ไข

ครูควรใหเ้ วลานกั เรียนไดแ้ กไ้ ขผลงาน โดยใหน้ กั เรียนดูแนวทางการตอบจากชุดฝึก ฝึกให้
นกั เรียนไดม้ ีการวางแผนในการทางานกลุ่ม และเห็นความสาคญั ในการทากิจกรรมทุกคร้ัง

ลงชื่อ.............รณชยั .....................
(นายรณชยั จนั ทร์แกว้ )

ตาแหน่ง ครูวทิ ยฐานะชานาญการพเิ ศษ

๑๓๔

แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ก่อน-หลงั เรียน
เรื่อง การอ่านตีความและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ

ตามทฤษฎลี าดบั ข้นั การเรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy
สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จงั หวดั ยะลา

รณชัย จันทร์แก้ว

คาชี้แจง : แบบทดสอบน้ีสร้างข้ึนเพอื่ ใชว้ ดั ความสามารถในการอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิด

ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ตามทฤษฎีลาดบั ข้นั การเรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy ท้งั ๖ ดา้ น ดงั น้ี
๑. การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา (Knowledge)
๒. การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ (Comprehension)
๓. การอ่านในระดบั การนาไปใช้ (Application)
๔. การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ (Analysis)
๕. การอา่ นในระดบั การสังเคราะห์ (Synthesis)
๖. การอา่ นในระดบั การประเมินคา่ (Evaluation)

ประกอบการอ่านจากบทอา่ นท่ีกาหนด ไดแ้ ก่ ข่าว เพลงพระราชนิพนธ์ ตานาน บทความ และ สารคดี
ขอ้ สอบเป็ นแบบปรนยั ๔ ตวั เลือก จานวน ๔๐ ขอ้ ๔๐ คะแนน ใชเ้ วลาในการทา ๖๐ นาที

คาสั่ง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพยี งขอ้ เดียว โดยทาเคร่ืองหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ

๑๓๕

๑. ขอ้ ใดกล่าว ไม่ถูกต้อง (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดเป็ นทกั ษะท่ีตอ้ งทาคู่กนั
ข. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดเป็ นการอ่านเฉพาะอกั ษรท่ีปรากฏ
ค. การอ่านตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดเป็ นการอา่ นที่ตอ้ งเขา้ ใจขอ้ ความที่ปรากฏ
ง. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดเป็ นการทาความเขา้ ใจความคิดของผเู้ ขียน

๒. การอา่ นตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดมีความสาคญั อยา่ งไร
(การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)

ก. ทาใหผ้ อู้ ่านสามารถอา่ นหนงั สือไดเ้ ร็วยง่ิ ข้ึน
ข. ทาใหผ้ อู้ ่านไดร้ ับความรู้จากการอา่ นมากยง่ิ ข้ึน
ค. ทาใหผ้ อู้ า่ นมีความสามารถทางดา้ นภาษามากยงิ่ ข้ึน
ง. ทาใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจความหมายท่ีแทจ้ ริงที่ปรากฏในขอ้ ความมากยงิ่ ข้ึน
๓. นกั เรียนคิดวา่ การอ่านตีความและประเมินคุณคา่ แนวคิดมีความสาคญั หรือไม่ อยา่ งไร
(การอา่ นในระดบั การประเมินค่า Evaluation)
ก. มีความสาคญั เพราะจะทาใหเ้ ราไมถ่ ูกหลอกไดโ้ ดยง่าย
ข. มีความสาคญั เพราะทาใหเ้ ราเห็นเจตนาท่ีแทจ้ ริงของสารน้นั
ค. ไมม่ ีความสาคญั เพราะเป็นวธิ ีการอา่ นแบบหน่ึงเหมาะสาหรับผใู้ หญ่
ง. ไมม่ ีความสาคญั เพราะเป็ นทกั ษะการอา่ นที่ซบั ซ่อนยงุ่ ยากในการเรียนรู้
๔. ขอ้ ใดหมายถึงข่าว (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. ปรากฏการณ์ทางสังคม
ข. ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกิดข้ึนในสงั คม
ค. ผลกระทบของคนในสังคม
ง. เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนแลว้ คนในสงั คมสนใจ
๕. ขอ้ ใด ไม่ใช่ สารที่ปรากฏในเพลงพระราชนิพนธ์ (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. ธรรมชาติ
ค. ขวญั และกาลงั ใจ
ข. เหตุการณ์บา้ นเมือง
ง. ความผดิ หวงั และการพลดั พราก

๑๓๖

๖. ตานานเกิดข้ึนเพราะสาเหตุใด (การอา่ นในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)

ก. มนุษยต์ อ้ งการสร้างภาพอดีตเพ่ือใหเ้ ป็นที่จดจา

ข. มนุษยต์ อ้ งการความบนั เทิง และความสนุกสนาน

ค. มนุษยต์ อ้ งการรู้ และคาอธิบายเก่ียวกบั สิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั

ง. มนุษยย์ งั ติดอยกู่ บั ความเช่ือ และส่ิงที่ไม่สามารถพสิ ูจน์ได้

๗. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะการเล่าของตานาน (การอา่ นในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)

ก. การเล่าเพือ่ ถ่ายทอดประสบการณ์

ข. การเล่าที่ตอ้ งใชร้ ะยะเวลายาวนาน

ค. การเล่าสืบทอดกนั ดว้ ยปาก (มุขปาฐะ)

ง. การเล่าตามลาดบั เหตุการณ์ ใชภ้ าษาเขา้ ใจง่าย

๘. บทความเป็นงานเขียนท่ีมีคุณคา่ ในแง่ใด (การอ่านในระดบั การวิเคราะห์ Analysis)

ก. ใหค้ วามบนั เทิง และเพลิดเพลินแก่ผอู้ ่าน

ข. ใหค้ วามรู้ ขอ้ คิด มุมมองท่ีแปลกใหม่แก่ผอู้ ่าน

ค. ใหข้ อ้ มลู การเดินทาง และสถานที่ทอ่ งเท่ียวแก่ผอู้ ่าน

ง. ใหข้ อ้ เทจ็ จริง เกี่ยวกบั เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนประจาวนั แก่ผอู้ า่ น

๙. จุดมุง่ หมายสาคญั ของสารคดี คือ (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)

ก. ใหค้ วามรู้ ข. ใหข้ อ้ เทจ็ จริง

ค. ใหค้ วามเพลิดเพลิน ง. ใหค้ าอธิบายสิ่งตา่ ง ๆ ท่ีอยรู่ อบตวั

๑๐. ขอ้ ใดกล่าว ไม่ถูกต้อง (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)

ก. สารคดีทอ่ งเที่ยว เป็นสารคดีที่เล่าเร่ืองราวการเดินทางไปในสถานท่ีตา่ ง ๆ

ข. สารคดีอตั ชีวประวตั ิ เป็ นสารคดีท่ีเล่าประวตั ิและเหตุการณ์ของบุคคลอื่น

ค. สารคดีแนะนา สารคดีท่ีมีเน้ือหาหลากหลายครอบคลุมการดาเนินชีวติ ของมนุษย์

ง. สารคดีชีวประวตั ิ เป็ นสารคดีที่มีผเู้ ขียนถึงผอู้ ่ืน อาจเป็นชีวประวตั ิรวมหลาย ๆ ชีวติ ในเล่มเดียว

๑๓๗

อ่านข่าวทกี่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๑๑ – ๑๖

สุรา

เมื่อวนั ที่ ๒๐ พ.ย. ดร.นพ.บณั ฑิต ศรไพศาล ผอ.สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริม
สุขภาพ (สสส.) เปิ ดเผยขอ้ มูลจากองคก์ ารอนามยั โลก ระบุวา่ เคร่ืองดื่มแอลกอฮอลเ์ ป็ นสาเหตุการเจบ็ ป่ วย
ดว้ ยโรคตา่ ง ๆ มากกวา่ ๒๐๐ ชนิด เป็นตน้ เหตุการเสียชีวิตของประชากรทวั่ โลกมากถึง ๓.๓ ลา้ นคนต่อปี
หรือทุก ๑๐ วนิ าที จะมีคนตาย ๑ คน เมื่อพจิ ารณาขอ้ มลู ในประเทศไทย โดยสานกั งานสถิติแห่งชาติพบวา่
ในปี ๕๙ นกั เรียนชายร้อยละ ๑๙.๓ และนกั เรียนหญิงร้อยละ ๑๖.๒ ดื่มเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์

สถานการณ์การด่ืมที่น่าเป็นห่วง ยงั อยใู่ นกลุ่มเยาวชนแต่ละปี เกิดนกั ดื่มหนา้ ใหม่เพมิ่ ข้ึนอยา่ ง
ตอ่ เน่ือง ซ่ึงนอกจากปัญหาสุขภาพยงั เกิดปัญหาสงั คม เช่น ปัญหาพฤติกรรมกา้ วร้าวรุนแรง การทะเลาะ
ววิ าท ปัญหาการเรียน การมีเพศสมั พนั ธ์ก่อนวยั อนั ควร การต้งั ครรภท์ ี่ไม่พงึ ประสงค์ อุบตั ิเหตุและการ
บาดเจบ็ การตายก่อนวยั อนั ควร รวมท้งั มีผลตอ่ ชีวติ เด็กและเยาวชนต่อไปในอนาคตโดยเพม่ิ โอกาสในการ
เป็นโรคติดสุรา และการทางานของสมองเสื่อมถอยเม่ือเขา้ สู่วยั ผใู้ หญ่

ดา้ น ดร.ศรีรัช ลอยสมุทร อ.ภาควชิ าสื่อสารการตลาด ม.รังสิต กล่าววา่ จากการวจิ ยั เรื่อง “เม่ือ
ร้านเหลา้ และธุรกิจเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลส์ ื่อสารกบั กลุ่มเป้ าหมายโดยตรง” สื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็น
ช่องทางสาคญั ท่ีธุรกิจเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลใ์ ชใ้ นการสื่อสารกบั กลุ่มเป้ าหมายอยา่ งเยาวชนซ่ึงไดผ้ ลตอบรับ
รวดเร็ว และแพร่กระจายในวงกวา้ งโดยที่กฎหมายยงั ไม่สามารถควบคุมได้ ถือเป็นส่ือท่ีมีประสิทธิภาพกวา่
ส่ือโฆษณาแบบเก่าอยา่ งมาก

ดงั น้นั ภาครัฐและหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งจาเป็ นตอ้ งรู้เทา่ ทนั เพือ่ ใชม้ าตรการที่เหมาะสมและมี
ประสิทธิภาพในการป้ องกนั เยาวชนไมใ่ หต้ กเป็นเหยอื่ จึงจาเป็นตอ้ งมีนโยบายสนบั สนุนการไม่ดื่มสุราใน
โอกาสต่าง ๆ และการสร้างค่านิยมหรือบรรทดั ฐานทางสงั คมตอ่ การไม่ดื่มสุราโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในเด็กและ
เยาวชน

เดลนิ ิวส์
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙

๑๑. จากข่าวใครเป็นผใู้ หข้ อ้ มูล (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. องคก์ ารอนามยั โลก
ข. สานกั งานสถิติแห่งชาติ

๑๓๘

ค. ภาครัฐและหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง
ง. ผอ.สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส)
๑๒. ใจความสาคญั ของข่าวคือขอ้ ใด (การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)
ก. การดื่มสุรา
ข. ผลกระทบของการด่ืมสุรา
ค. การเสียชีวติ จากการด่ืมสุรา
ง. สุราเป็นเหตุแห่งการทะเลาะววิ าท
๑๓. ทางออกท่ีดี ทสี่ ุด ในการแกป้ ัญหาที่เกิดข้ึนจากขา่ วคือขอ้ ใด
(การอา่ นในระดบั การนาไปใช้ Application)
ก. สร้างความตระหนกั ต่อการไม่ด่ืมสุราแก่เยาวชน
ข. ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ผลเสียของการดื่มสุราแก่เยาวชน
ค. ควรเพม่ิ บทลงโทษแก่ผกู้ ระทาผดิ จากการดื่มสุรา
ง. รัฐควรมีนโยบายสนบั สนุนการไม่ด่ืมสุราในโอกาสตา่ ง ๆ
๑๔. “ดงั น้ันภาครัฐและหน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้องจาเป็ นต้องรู้เท่าทนั เพอื่ ใช้มาตรการทเ่ี หมาะสมและมี
ประสิทธิภาพในการป้ องกนั เยาวชนไม่ให้ ตกเป็ นเหยอื่ ” คาท่ีขีดเส้นใตห้ มายถึงอะไร
(การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)
ก. การขยายตวั ของสื่อโซเชียลมีเดียที่ส่งผลตอ่ เยาวชน
ข. ธุรกิจเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลส์ ่ือสารกบั เยาวชนโดยตรง
ค. เจา้ หนา้ ท่ีของรัฐขาดประสิทธิภาพในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีต่อเยาวชน
ง. การจดั คอนเสิร์ตและปาร์ต้ีเปิ ดโอกาสใหเ้ ยาวชนดื่มแอลกอฮอลม์ ากยงิ่ ข้ึน
๑๕. ขา่ วน้ีมีการนาเสนอขอ้ มลู อยา่ งไร (การอ่านในระดบั การสงั เคราะห์ Synthesis)
ก. เสนอแนวทางแกไ้ ขเพียงอยา่ งเดียว
ข. แสดงใหเ้ ห็นขอ้ เท็จจริงเพียงอยา่ งเดียว
ค. เสนอแนวทางแกไ้ ข ไมแ่ สดงใหเ้ ห็นขอ้ เทจ็ จริง
ง. แสดงใหเ้ ห็นขอ้ เทจ็ จริง และเสนอแนวทางการแกไ้ ข

๑๓๙

๑๖. นกั เรียนคิดวา่ ปัญหาการด่ืมสุรา หากไมไ่ ดร้ ับการแกไ้ ขจะส่งผลต่ออนาคตหรือไม่ อยา่ งไร
(การอ่านในระดบั การประเมินคา่ Evaluation)

ก. เยาวชนติดสุราลดลง เพราะแอลกอฮอลม์ ีราคาสูงข้ึน
ข. ยงั หาขอ้ สรุปไม่ได้ เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
ค. เยาวชนติดสุราเทา่ เดิม เพราะจานวนประชากรในประเทศเทา่ เดิม
ง. เยาวชนมีโอกาสติดสุราเพ่ิมข้ึน เพราะความสะดวกและรวดเร็วของสื่อโฆษณา
อ่านบทเพลงทก่ี าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๑๗ – ๒๒

เนือ้ เพลง : ปักษ์ใต้บ้านเรา

ศิลปิ น : แฮมเมอร์

(*สร้อย) โอ่โอปักษใ์ ตบ้ า้ นเรา โอ่โอปักษใ์ ตบ้ า้ นเรา แมน่ ้าภูเขาทะเลกวา้ งไกล

อยา่ ไปไหนกลบั ใตบ้ า้ นเรา อยา่ ไปไหนกลบั ใตบ้ า้ นเรา

โอต้ น้ ยางยงั ยนื คงทน เหมือนดงั่ คนปักษใ์ ตไ้ ม่ทอ้ ชีวา

โอแ้ ม่น้าตาปี ยงั ไหลหลากมา เหมือนน้าตาชาวใตท้ ่ีไหลร่วงริน (*สร้อย)

ค่าคืนน้ียนิ เสียงกลองโนราห์ เสียงหนงั ลุงแวว่ มาขา่ ววา่ ไม่พอจะกิน

กรีดยางปาดตาลทางานอยเู่ ป็ นอาจิณ แต่วา่ ไมพ่ อกินหน้ีสิน อีรุง ตุงนงั

โอห้ นุ่มสาวพวกเจา้ ไปอยทู่ ่ีไหน รู้ไหมเมืองใตข้ าดคนจะคอยดูแล

เมืองใตว้ นั น้ียงั มีแต่พอ่ แหละแม่ กลบั มาช่วยดูแลปักษใ์ ตบ้ า้ นเรา (*สร้อย)

๑๗. เน้ือหาในบทเพลง ไม่ได้ กล่าวถึงเรื่องใด (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)

ก. ศิลปวฒั นธรรม ข. การประกอบอาชีพ

ค. ความอุดมสมบรู ณ์ของธรรมชาติ ง. การเมืองและการปกครอง

๑๘. เพลง “ปักษ์ใต้บ้านเรา” มีวตั ถุประสงคใ์ นการแต่งอยา่ งไร

(การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)

ก. เรียกร้องใหว้ ยั รุ่นกลบั มาดูแลปักษใ์ ตบ้ า้ นเกิด

ข. เพอื่ เป็ นการประชาสมั พนั ธ์การทอ่ งเที่ยวปักษใ์ ต้

ค. บอกเล่าถึงวถิ ีชีวติ และการดาเนินชีวติ ของคนปักษใ์ ต้

ง. แสดงใหเ้ ห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติในปักษใ์ ต้

๑๔๐

๑๙. “โอ้หนุ่มสาวพวกเจ้าไปอย่ทู ่ีไหน รู้ไหมเมืองใต้ขาดคนจะคอยดูแล

เมืองใต้วนั นีย้ งั มีแต่พ่อแหละแม่ กลบั มาช่วยดูแลปักษ์ใต้บ้านเรา”

นกั เรียนมีวธิ ีแกป้ ัญหาดงั กล่าว อยา่ งไร (การอ่านในระดบั การนาไปใช้ Application)

ก. สร้างความตระหนกั และสานึกรักบา้ นเกิดใหแ้ ก่เยาวชน

ข. ออกกฎหมายไม่อนุญาตใหเ้ ยาวชนออกไปทางานนอกบา้ น

ค. ลดคา่ ครองชีพใหแ้ ก่เยาวชนเพือ่ สร้างแรงจงู ใจใหก้ ลบั มา

ง. สร้างงานสร้างรายไดใ้ หก้ บั เยาวชนเพ่ือไม่ตอ้ งออกไปทางานไกลบา้ น

๒๐. ปัญหาท่ีเกิดข้ึนในบทเพลงคือขอ้ ใด (การอา่ นในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)

ก. ราคายางพาราตกต่า

ข. การกเู้ งินนอกระบบ

ค. ขาดคนรุ่นใหมม่ าดูแลบา้ นเกิด

ง. ศิลปะพ้ืนบา้ นไดร้ ับความนิยมนอ้ ยลง

๒๑. เพลง “ปักษ์ใต้บ้านเรา” แสดงใหเ้ ห็นถึงลกั ษณะนิสัยของคนปักษใ์ ตอ้ ยา่ งไร

(การอ่านในระดบั การสงั เคราะห์ Synthesis)

ก. มีจิตใจอ่อนโยน ข. อดทนไม่ทอ้ ต่อชีวติ

ค. มีความจริงใจต่อกนั ง. รักความสนุกสนาน

๒๒. “โอ้ หนุ่มสาว พวกเจ้าไปอย่ทู ไ่ี หน” คาที่ขีดเส้นใตม้ ีความสาคญั ต่อปักษใ์ ตอ้ ยา่ งไร

(การอ่านในระดบั การประเมินค่า Evaluation)

ก. เป็นคนมีความรู้ความสามารถ

ข. เป็นทายาทในการสืบทอดมรดก

ค. เป็นคนรุ่นใหม่ท่ีคนรุ่นเก่าไวว้ างใจ

ง. เป็นกาลงั สาคญั ในการพฒั นาบา้ นเกิดต่อไป

๑๔๑

อ่านตานานทกี่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๒๓ – ๒๘

นางตานี

“ต้นกล้วยตานี” เป็นท่ีสิงสถิตของพรายนางตานีเป็นท่ีรู้จกั กนั ดีในหม่คู นรุ่นเก่า พรายนางตานีน้ีวา่
กนั วา่ มีหนา้ ตาสวย มีกล่ินตวั หอม ไวผ้ มยาว ฝ่ ามือฝ่ าเทา้ แดงอ่อนดุจตีนนกพริ าบ ริมฝีปากมีสีเหมือน
ตาลึงสุก ถา้ กลว้ ยตานีมีลาตน้ อวบพรายนางตานีกม็ ีรูปทรงทว้ ม ถา้ มีลาตน้ โปร่งเปลาพรายนางตานีก็มี
รูปทรงฉลวย

ดว้ ยเหตุที่พรายนางตานีเป็นผี ชาวบา้ นจึงไมก่ ลา้ ปลูกกลว้ ยตานีไวใ้ กลเ้ รือน แมจ้ ะปลูกไวใ้ กล้
เรือนถา้ จะตดั เอาใบตองไปใชก้ ห็ า้ มไม่ใหต้ ดั เอาไปท้งั ใบ ตอ้ งเจียนเอามาแต่ใบตองเท่าน้นั หรือไมก่ ต็ อ้ ง
หกั กา้ นเสียก่อน เพราะถา้ ตดั เอาเขา้ มาในเรือนท้งั ใบถือเป็ นลางร้ายวา่ จะมีใครในบา้ นน้นั ตายลงในไม่ชา้
ท้งั น้ีเห็นจะเน่ืองจากคติเดิมที่ใชใ้ บตองกลว้ ยตานีสามใบรองกน้ โลงศพ

สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๑๓

๒๓. ขอ้ ใดกล่าวถึงลกั ษณะพรายนางตานี ไม่ถูกต้อง (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)

ก. มีกล่ินกายหอม

ข. รูปร่างหนา้ ตาสวยงาม

ค. ริมฝีปากมีสีเหมือนตาลึงสุก

ง. ฝ่ ามือและฝ่ าเทา้ แขง็ แรงดุจนกพริ าบ

๒๔. “ริมฝี ปากมสี ีเหมอื น ตาลงึ สุก” คาท่ีขีดเส้นใตห้ มายความวา่ อยา่ งไร

(การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)

ก. สีส้ม ข. สีเขียวออ่ น

ค. สีแดงสด ง. สีน้าตาลเขม้

๒๕. ควรปลูก “กล้วยตานี” ไวท้ ี่ใด (การอา่ นในระดบั การนาไปใช้ Application)

ก. ปลูกไวห้ ลงั บา้ น

ข. ปลูกไวเ้ ป็นไมป้ ระดบั หนา้ บา้ น

ค. ปลูกไวท้ ่ีใดก็ไดแ้ ต่ควรไกลบา้ น

ง. ปลูกไวท้ ี่ใดกไ็ ดต้ ามความสะดวก

๑๔๒

๒๖. ชาวบา้ น ไม่นิยม ปลูกตน้ กลว้ ยตานีไวบ้ ริเวณบา้ น เพราะเหตุใด

(การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)

ก. มีชื่อที่ไม่เป็นสิริมงคล

ข. เป็นพืชที่ปลูกแลว้ ไม่มีประโยชนต์ อ่ หนา้ ดิน

ค. ปลูกยากเจริญเติบโตชา้ ตอ้ งไดร้ ับการดูแลเป็ นพิเศษ

ง. ใบตองกลว้ ยตานีใชใ้ นการรองกน้ โลงศพเป็นความเช่ือโบราณ

๒๗. ขอ้ ใดเป็ นผลี กั ษณะเดียวกบั “พรายนางตานี” (การอา่ นในระดบั การสังเคราะห์ Synthesis)

ก. นางตะเคียน ข. ผกี ระสือ

ค. ผปี อบ ง. ผตี าโขน

๒๘. “ด้วยเหตุทพี่ รายนางตานีเป็ นผี ชาวบ้านจึงไม่กล้าปลกู กล้วยตานีไว้ใกล้เรือน” นกั เรียนคิดวา่

สมเหตุสมผลหรือไม่ อยา่ งไร (การอา่ นในระดบั การประเมินคา่ Evaluation)

ก. ไม่แน่ใจ เพราะ สิ่งเหล่าน้ีข้ึนอยกู่ บั ความเช่ือส่วนบุคคล

ข. สมเหตุสมผล เพราะ สังคมไทยยงั ติดอยกู่ บั ความเชื่อเดิม ๆ

ค. สมเหตุสมผล เพราะ พรายนางตานีเป็ นผที ี่มีอยจู่ ริง สามารถพิสูจน์ได้

ง. ไมส่ มเหตุสมผล เพราะ ผเี ป็นเร่ืองที่ไม่สามารถอธิบายดว้ ยหลกั วทิ ยาศาสตร์

๑๔๓

อ่านบทความทกี่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๒๙ – ๓๔

ความรักจะติดตามเราไปทุกที่

“ในดา้ นธุรกิจผมประสบความสาเร็จสูง เรียกไดว้ า่ ชีวติ ผมเป็นแบบอยา่ งเด่นชดั ของความสาเร็จแต่
นอกจากการทางานแลว้ ผมไม่มีความสุขเทา่ ไรนกั เพราะที่สุดความร่ารวยกลายเป็นสิ่งเดียวท่ีผมมี

เมื่อผมนอนป่ วยอยบู่ นเตียงและพยายามราลึกถึงชีวติ ของผมที่ผา่ นมา ในความมืดผมมองเห็นเพยี ง
แสงสีเขียวและเสียงเคร่ืองช่วยหายใจ ซ่ึงทาใหผ้ มรู้วา่ ความตายใกลเ้ ขา้ มาแลว้ ตอนน้ีผมตระหนกั วา่ เมื่อเรา
มีเงินพอแลว้ เราควรหนั ไปใส่ใจเรื่องอื่นบา้ งซ่ึงอาจเป็นสิ่งท่ีสาคญั เช่น งานศิลปะท่ีเราเคยใฝ่ ฝันตอนเด็ก ๆ
การไมย่ อมหยดุ สร้างความร่ารวยทาใหต้ อ้ งมีชีวติ เหมือนที่ผมเป็ นอยู่

พระเจา้ ทรงมอบความรักไวใ้ นหวั ใจของมนุษยท์ ุกคนซ่ึงไมส่ ามารถหาซ้ือไดด้ ว้ ยเงิน เมื่อผมตาย
ผมเอาความร่ารวยไปดว้ ยไม่ได้ ส่ิงที่ผมจะนาติดตวั ไปคือความทรงจาและความรักเท่าน้นั ซ่ึงเป็นความ
ร่ารวยท่ีแทจ้ ริง และจะเป็นแสงนาทางใหเ้ ราต่อไปความรักจะติดตามเราไปทุกท่ี เพราะอยใู่ นหวั ใจและใน
มือของเราเอง

เตียงท่ีแพงที่สุดในโลกคือเตียงผปู้ ่ วย คุณสามารถจา้ งคนมาขบั รถ จา้ งคนใหม้ าทางานหาเงินให้
แต่ไมม่ ีใครมาป่ วยแทนคุณได้ สิ่งของที่หายไปเราอาจหาพบได้ แต่เราเอาชีวติ ท่ีเสียไปแลว้ กลบั คืนมาไมไ่ ด้
เม่ือเราอยใู่ นหอ้ งผา่ ตดั เราจะตระหนกั วา่ เราใส่ใจสุขภาพของตวั เองนอ้ ยเกินไป แต่เรามกั รู้ตวั เมื่อสาย
เกินไปเสมอ

จงใหค้ วามรักกบั ครอบครัว กบั คนรัก และเพอื่ น ๆ หมนั่ ดูแลสุขภาพของตวั เอง และใส่ใจคน
รอบขา้ งใหม้ าก ๆ”

สตีฟ จอบส์
Steve Jobs

๒๙. ขอ้ ใดกล่าว ไม่ถูกต้อง (การอ่านในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. ผเู้ ขียน : มีฐานะร่ารวย
ข. ผเู้ ขียน : มีความสุขในการใชช้ ีวติ
ค. ผเู้ ขียน : กาลงั ประสบปัญหาเร่ืองสุขภาพ
ง. ผเู้ ขียน : ประสบความสาเร็จในหนา้ ที่การงาน

๑๔๔

๓๐. ในทรรศนะของผเู้ ขียน “ความร่ารวยทแี่ ท้จริง” คือขอ้ ใด

(การอา่ นในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)

ก. การทางาน ข. ทรัพยส์ ินเงินทอง

ค. ความสาเร็จในชีวติ ง. ความทรงจาและความรัก

๓๑. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ขอ้ คิดท่ีผเู้ ขียนเสนอใหผ้ อู้ ่านนาไปใช้ (การอา่ นในระดบั การนาไปใช้ Application)

ก. การดูแลสุขภาพ

ข. การใส่ใจตอ่ คนรอบขา้ ง

ค. การเคารพสิทธิของผอู้ ื่น

ง. การมอบความรักใหก้ บั คนในครอบครัว

๓๒. เพราะเหตุใดทาใหผ้ เู้ ขียนคิดวา่ “ความตายเข้าใกล้มาแล้ว” (การอ่านในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)

ก. การรู้ตวั เมื่อสายเกินไป

ข. การนอนป่ วยอยบู่ นเตียง

ค. การที่ไมส่ ามารถจา้ งใครมาป่ วยแทนได้

ง. การรู้วา่ เตียงที่แพงท่ีสุดในโลกคือเตียงผปู้ ่ วย

๓๓. “การไม่ยอมหยุดสร้างความร่ารวย ทาให้ต้องมีชีวติ เหมือนทเี่ ป็ นอย่”ู คาท่ีขีดเส้นใตส้ รุปความได้

อยา่ งไร (การอ่านในระดบั การสังเคราะห์ Synthesis)

ก. ผเู้ ขียนพอใจกบั ส่ิงที่เป็นอยู่ ข. ผเู้ ขียนไม่พอใจกบั ส่ิงที่เป็ นอยู่

ค. ผเู้ ขียนยอมรับกบั ส่ิงที่เป็ นอยู่ ง. ผเู้ ขียนไมย่ อมรับกบั สิ่งท่ีเป็นอยู่

๓๔. จากบทความ “ความรักจะติดตามเราไปทุกท”ี่ แสดงใหเ้ ห็นวา่ ผเู้ ขียนรู้สึกอยา่ งไร

(การอา่ นในระดบั การประเมินค่า Evaluation)

ก. เขา้ ใจชีวติ ข. สับสน

ค. เป็นทุกข์ ง. มองโลกในแง่ดี

๑๔๕

อ่านสารคดีทกี่ าหนดให้ แล้วตอบคาถามข้อ ๓๕ – ๔๐

สวนขวญั เมอื ง (พรุบาโกย) จังหวดั ยะลา

สวนขวญั เมือง มีช่ือเดิมวา่ พรุบาโกย เป็นที่รู้จกั กนั ของคนในชุมชนสะเตงต้งั แต่อดีตของรุ่นป่ ยู า่
ตายายจนถึงปัจจุบนั ในอดีตพรุบาโกยเป็นสถานท่ีที่มีแต่คูน้าและเป็นป่ าท่ีเตม็ ไปดว้ ยหญา้ และตน้ กกข้ึนรก
รุงรัง ชาวบา้ นในอดีตจึงใชส้ ถานที่ทาเป็นการเกษตร เป็นทุง่ สาหรับเล้ียงสตั ว์ แต่น่าเสียดายท่ีไม่มีทอ่
ระบายน้า จึงมีลุ่มน้าทว่ มขงั ปี ละคร้ัง ทาการเกษตรก็ไมไ่ ดไ้ มส่ ะดวก ทาที่อยอู่ าศยั ก็ยาก ไมส่ ามารถใช้
ประโยชน์ไดเ้ ลย เทศบาลจึงพฒั นาทาทอ่ ระบายน้า เพือ่ แกป้ ัญหาดงั กล่าว จนกระทง่ั พฒั นามาเป็น
สวนสาธารณะ

สวนขวญั เมือง (พรุบาโกย) ปัจจุบนั มีการปรับปรุงสถานที่โดยรอบ ไม่วา่ จะเป็ นการจดั ใหม้ ีการ
ประกอบดว้ ยสวนสนที่มีความสวยงาม มีการคา้ ขายจดั ระเบียบเรียบร้อย สะดวก รวมท้งั โขดหินวางไว้
อยา่ งเหมาะสมเลียบไปตามชายหาด โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตยต์ กดินมีทิวทศั นส์ วยงามมากทีเดียว จดั
ใหม้ ีการพายเรือเพ่ือสุขภาพ และจกั รยานน้า ในบริเวณเดียวกนั น้ียงั จดั ใหม้ ีสนามแข่งขนั นกเขาชวาเสียง
อาเซียนเป็นประจาทุกปี ซ่ึงไดช้ ื่อวา่ เป็ นสนามแข่งขนั นกเขาชวาท่ีใหญท่ ่ีสุดในโลก สนามเดก็ เล่น
โรงยมิ อเนกประสงค์ สวนสุขภาพและพนั ธุ์ไมน้ านาพนั ธุ์

สวนขวญั เมืองนบั วา่ เป็นสถานที่ท่ีมีประชาชนมาท่องเท่ียวมากท่ีสุดในเขตเทศบาลนครยะลา และ
เป็นเขตที่เหมาะแก่การทาธุรกิจคา้ ขาย ปลูกบา้ น สังเกตไดว้ า่ ตอนน้ีมีการคา้ ขายมากข้ึน มีการปลูกบา้ น
เพ่มิ ข้ึนมากมายเป็นแถว และที่สาคญั ทาใหส้ วนขวญั เมืองแห่งน้ีน่าอยมู่ ากข้ึน เชา้ ๆ มีผคู้ นมากมายปั่น
จกั รยานรอบ ๆ สวนขวญั เมือง (พรุบาโกย) สูดลมหายใจท่ีบริสุทธ์ิ กบั บรรยากาศ ทิวทศั นอ์ นั สวยงาม จน
ปัจจุบนั ใคร ๆ ก็อยากมาเที่ยวสวนสาธารณะแห่งน้ี

เทศบาลนครยะลา

๓๕. ขอ้ ใดใหข้ อ้ มูล ไม่ถูกต้อง (การอา่ นในระดบั ความรู้ ความจา Knowledge)
ก. สวนขวญั เมืองมีชื่อเดิมวา่ พรุบาโกย
ข. สวนขวญั เมืองเป็ นสถานท่ีแขง่ ขนั นกกรงหวั จุก
ค. สวนขวญั เมืองเป็ นสถานท่ีทอ่ งเที่ยวของคนยะลา
ง. สวนขวญั เมืองอดีตเป็นพ้ืนที่ทาการเกษตร และเล้ียงสตั ว์

๑๔๖

๓๖. จุดเร่ิมตน้ การพฒั นาพรุบาโกย ใหก้ ลายมาเป็นสวนสาธารณะ คือขอ้ ใด

(การอ่านในระดบั ความเขา้ ใจ Comprehension)

ก. การจดั ระเบียบการคา้ ขาย

ข. การปรับปรุงสถานที่โดยรอบ

ค. การจดั ใหม้ ีสวนสนท่ีสวยงาม

ง. การทาท่อระบายน้าของเทศบาลนครยะลา

๓๗. นกั เรียนคิดวา่ ธุรกิจใดเหมาะท่ีจะทาในบริเวณสวนขวญั เมือง มากทส่ี ุด

(การอ่านในระดบั การนาไปใช้ Application)

ก. ผสมพนั ธุ์นกเขาชวาขาย

ข. เปิ ดร้านคา้ ขายอาหาร และเครื่องดื่ม

ค. จดั ทวั ร์ทอ่ งเที่ยวเชิงอนุรักษธ์ รรมชาติ

ง. ประกอบธุรกิจโรงแรมใหบ้ ริการแก่นกั ท่องเที่ยว

๓๘. ขอ้ ดีของการพฒั นาพรุบาโกยใหเ้ ป็นสวนสาธารณะ คือขอ้ ใด

(การอา่ นในระดบั การวเิ คราะห์ Analysis)

ก. เป็นท่ีขยายพนั ธุ์ของนกเขาชวา

ข. เป็นศูนยก์ ลางของประชาคมอาเซียน

ค. เป็นโครงการที่แกป้ ัญหาน้าท่วมของจงั หวดั ยะลา

ง. เป็นสถานที่ทอ่ งเที่ยว และแหล่งธุรกิจของจงั หวดั ยะลา

๓๙. สวนขวญั เมือง เปรียบไดก้ บั อวยั วะส่วนใดของคนในจงั หวดั ยะลา

(การอ่านในระดบั การสังเคราะห์ Synthesis)

ก. ปอด ข. สมอง

ค. จมูก ง. หวั ใจ

๔๐. การแข่งขนั นกเขาชวาในบริเวณสวนขวญั เมือง นกั เรียนคิดวา่ เหมาะสมหรือไม่ อยา่ งไร

(การอ่านในระดบั การประเมินค่า Evaluation)

ก. เหมาะสม เพราะ สวนขวญั เมืองเป็นสวนสาธารณะใครจะทาอะไรกไ็ ด้

ข. เหมาะสม เพราะ สวนขวญั เมืองเป็นแหล่งทอ่ งเท่ียว ถือเป็นการกระตุน้ เศรษฐกิจ

ค. ไมเ่ หมาะสม เพราะ เป็นการทาใหพ้ ้ืนที่ภายในสวนขวญั เมืองเสียหาย เกิดความสกปรก

ง. ไม่เหมาะสม เพราะ กิจกรรมดงั กล่าวถือเป็นการทารุณสตั ว์ และคนบางกลุ่มไดผ้ ลประโยชน์

๑๔๗

เฉลยแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน

เรื่อง การอ่านตคี วามและประเมินคุณค่าแนวคิด ตามทฤษฎลี าดบั ข้นั การเรียนรู้ของ Bloom’ Taxonomy
สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา
---------------------------------------------------------

ขอ้ ๑ ข ขอ้ ๒๑ ข
ขอ้ ๒ ง ขอ้ ๒๒ ง
ขอ้ ๓ ข ขอ้ ๒๓ ง
ขอ้ ๔ ง ขอ้ ๒๔ ค
ขอ้ ๕ ง ขอ้ ๒๕ ค
ขอ้ ๖ ค ขอ้ ๒๖ ง
ขอ้ ๗ ง ขอ้ ๒๗ ก
ขอ้ ๘ ข ขอ้ ๒๘ ก
ขอ้ ๙ ก ขอ้ ๒๙ ข
ขอ้ ๑๐ ข ขอ้ ๓๐ ง
ขอ้ ๑๑ ง ขอ้ ๓๑ ค
ขอ้ ๑๒ ข ขอ้ ๓๒ ข
ขอ้ ๑๓ ก ขอ้ ๓๓ ข
ขอ้ ๑๔ ก ขอ้ ๓๔ ก
ขอ้ ๑๕ ง ขอ้ ๓๕ ข
ขอ้ ๑๖ ง ขอ้ ๓๖ ง
ขอ้ ๑๗ ง ขอ้ ๓๗ ข
ขอ้ ๑๘ ก ขอ้ ๓๘ ง
ขอ้ ๑๙ ก ขอ้ ๓๙ ก
ขอ้ ๒๐ ค ขอ้ ๔๐ ข

๑๔๘

แบบบนั ทกึ คะแนนการทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน
เรื่อง การอ่านตีความและประเมนิ คุณค่าแนวคดิ

เลข ชื่อ-สกุล คะแนนการทาแบบทดสอบ สรุปการประเมิน
ท่ี ก่อนเรียน หลงั เรียน ผ่าน ไม่ผ่าน
๔๐ คะแนน ๔๐ คะแนน









๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑
๒๒
๒๓
๒๔
๒๕

๑๔๙

๒๖
๒๗
๒๘
๒๙
๓๐

เกณฑ์การตดั สิน
ผ้ผู ่านเกณฑ์การประเมนิ ตอ้ งไดค้ ะแนนร้อยละ ๘๐ คือ ๓๒ คะแนนข้ึนไปจึงจะถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

ลงชื่อ...........................................ผปู้ ระเมิน
(นายรณชยั จนั ทร์แกว้ )

ตาแหน่ง ครูวทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ


Click to View FlipBook Version