185
ระหว่างครูและผู้ปกครอง เหมาะสมตามสภาพบริบท 2) ประเมินให้เชื่อมโยงรูปแบบการเรียนรู้ทั้ง 4 แบบ (1)
การเรียน On Hand ครูจัดส่งใบงาน/ใบกิจกรรม (2) การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม หรือครูตู้ (On-Air)
ออกอากาศผ่าน DLTV (3) การเรียนผ่านออนไลน์ (Online) (4) การเรียนรูปแบบผสมผสาน 3) ผู้ปกครองและ
ครู อาจตกลงกันในการเก็บรวบรวมข้อมลู หลักฐานการประเมินตามความจำเปน็ และเหมาะสมตามสภาพบริบท
4) ไม่สร้างความเครียดในการประเมินให้กับเด็ก 5) ผู้ปกครองร่วมประเมิน โดยใช้เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล
ง่าย ๆ สำหรับเดก็ เช่น แบบบันทึกความดี อย่างไรก็ตามมีผูป้ กครองบางส่วนอยากให้บุตรหลานอ่านออก เขียน
ได้ตั้งแต่วัยอนุบาลด้วยความวิตกกังวลว่า บุตรหลานจะเรียนรู้ช้า ผู้บริหารต้องทำความเข้าใจการการจัด
ประสบการณต์ ่าง ๆ เพ่ือส่งเสรมิ พัฒนาการของผเู้ รียนตามธรรมชาติของวยั และความแตกต่างระหว่างบุคคล วาง
พน้ื ฐานชวี ิตการเรียนรทู้ ดี่ ี ไมเ่ ร่งเรียน สรา้ งแรงจูงในในการเรยี นรู้ อยากรอู้ ยากเรยี นเพื่อใหน้ กั เรียนมีคณุ ลักษณะ
นิสัยรักการเรียนรู้ ซึ่งส่งผลดีในอนาคต นอกจากนี้ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้มีหนังสือท่ี
ทปอ.64/0396 ลงวันท่ี 16 สิงหาคม 2564 เรื่อง แจ้งการไม่ใช้ผลคะแนนการสอบรายวชิ า O-NET ในระบบการ
คัดเลือกกลางบคุ คลเขา้ ศึกษาในสถาบันอุดมศกึ ษา ต้ังแตป่ กี ารศึกษา 2565 เปน็ ตน้ ไป ไมน่ ำผล O-NET มากรอก
ในระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) การทดสอบความสามารถด้านการอ่าน (RT) ชั้น ป.1 และการทดสอบ
ความสามารถพ้นื ฐานด้านภาษาไทยและคณิตศาสตร์ (NT) ช้นั ป.3 ปกี ารศกึ ษา 2564 ใหเ้ ป็นไปตามความสมัคร
ใจของผู้เรียน (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2564) ซึ่ง Wichai Wonghai & Marut
Phatphon, (2020) กล่าวถึงการจัดการเรยี นรู้ยุค New Normal ว่าการประเมินไม่ใช่ประเมนิ การเรียน แต่เป็น
ประเมินผลการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้รับซึ่งมีนักวิชาการหลายท่านกล่าวได้ เช่น Wichai Woonghai and Marut
Phatphon กลา่ วว่า พนื้ ท่กี ารเรียนรู้ หมายถึง โอกาสทผี่ ้เู รยี นได้รับจากผสู้ อน ในการกำหนดเป้าหมายของการ
เรียนรู้ ออกแบบ และใชว้ ธิ กี ารเรยี นรขู้ องตนเอง ประเมินเพื่อปรับปรุงและพัฒนาตนเอง ตลอดจนโอกาสท่ีจะนำ
สง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรไู้ ปทำประโยชนต์ ่อสว่ นรวมและสะท้อนคิดกลบั มายังตนเอง (Self-reflection) อีกครง้ั ว่าสิ่งที่ตนเอง
จะเรยี นรู้ตอ่ ไป
5. การมอบหมายงานการเรยี นรู้
ผู้บริหารโรงเรียนกลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ ต้องการให้ครูลดปริมาณงาน มอบหมายงานให้
ตรงตามตัวชว้ี ัดทีต่ ้องรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง ปรบั รปู แบบของภาระงาน ใหเ้ หมาะสมกับบรบิ ทของรายวิชาและ
บรบิ ทนักเรยี น อาจเปน็ การมอบหมายชน้ิ งานบูรณาการการเรยี นรใู้ นแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อลดภาระงาน
ให้กับนักเรียน และให้ช่วงเวลานักเรียนในการสืบค้นหาความรู้ได้ด้วยตนเอง รวมไปถึงการใช้ทักษะชีวิตในด้าน
ต่างๆ ด้วย สอดคล้องกับ แนวปฏิบัติการจัดการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผล ระดับการศึกษาข้ัน
พ้นื ฐาน ตามสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน (2564) ได้ให้ไว้ ดงั นี้ งด/ลดการบ้าน ให้เท่าท่ีจำเป็น
และบูรณาการภาระงาน/การบ้าน มอบหมายภาระงาน/การบ้าน เฉพาะที่สำคัญจำเป็นต่อการพัฒนาเครื่องมือ
การเรียนรู้ทักษะ หรือเนื้อหาสำคัญของระดับชั้น มอบหมายในปริมาณที่เหมาะสม อาจบูรณาการประเด็นใน
รายวิชาเดียวกันหรือข้ามรายวิชา ให้เป็นภาระงาน/การบ้านเพียงชิ้นเดียว อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ปกครองมีความ
ต้องการให้คุณครูสอนอย่างเข้มข้นเพื่อให้นักเรียนมีความรู้ไปสอบเข้าศึกษาต่อ หรือกังวลว่าบุตรหลานจะมี
ความรู้ไม่เพียงพอ แม้ได้อธิบายว่า ปัจจุบันนักเรียนมีเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้าเรียนรู้ ถ้าเรียนรู้อย่างมี
186
ความสุข ไม่มากเกินไปบุตรหลานจะมีความสนใจในการเรียนรู้อยากสืบค้นพัฒนาตนเอง หากเร่งรัด การเรี ยน
เนอื้ หาทีม่ ากเกินไปส่งผลตอ่ การไม่อยากเรียนรซู้ ึง่ มผี ลกระทบในระยะยาวในการพัฒนาศักยภาพของนักเรยี น
6. การสนบั สนนุ สอื่ เทคโนโลยี อปุ กรณท์ ่ีนกั เรียนเขา้ ถึงการเรียนรไู้ ดส้ ะดวก
ผู้บริหาร ครู ผู้ปกครองและนักเรียน กลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ ต้องการให้ สพฐ.จัดสรร
งบประมาณ หรือสนับสนุนอุปกรณ์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เพื่อให้นักเรียนได้ยืมเรียน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการใช้
อินเตอร์เนต ที่มีความแรงเพียงพอในการเรียนให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่าง
สะดวก ทั่วถึง และจัดทำสื่อ On Hand ในรูปชุดสื่อการเรียนรู้ ให้สำหรับเด็กที่บ้านไม่สามารถเข้าถึงสื่อ
เทคโนโลยีได้ด้วย ซึ่ง จักรกฤษณ์ โพดาพล, (2563) ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการเรียนการสอนแบบออนไลน์
(Online learning) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน เนื่องจากไม่ได้จำกัดอยู่ในสถานที่เดียวเท่านั้น
เกิดเครอื ขา่ ยความรู้ โยงใยออกไปไกล เน้นการเรยี นแบบผ้เู รยี นเป็นศนู ย์กลาง ช่วยลดช่องวา่ งระหวา่ งการเรียนรู้
ในเมอื งกับท้องถิ่น จงึ มคี วามจำเป็นท่รี ัฐควรพิจารณาจัดสรรงบประมาณสนับสนุนด้านส่ือ อุปกรณ์ อินเทอร์เน็ต
ตอ่ นกั เรยี น หรือทางโรงเรยี นเพือ่ ให้เออื้ ต่อการเรียนรู้ใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพประสิทธผิ ล เนอื่ งจากทรพั ยากรเวลาใน
แต่ละวันของชีวิตแต่ละคนมีคุณค่าและไม่สามารถหวนย้อนกลบั มาได้ การปล่อยให้เวลาผ่านไปด้วยการไม่ได้รับ
การแก้ไขปัญหาเดิมจึงเป็นการสูญเสียโอกาสการเรียนรู้ของทรัพยากรมนุษย์ หมายถึง เด็ก เยาวชน อนาคตของ
ชาติ
7. การสนับสนุนของผปู้ กครองท่ชี ่วยเสริมคุณภาพการจดั การเรียนการสอนและโอกาส
ในการเรยี นรทู้ ่ีมคี ณุ ภาพ
ครู กลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ ต้องการสร้างความรว่ มมือกบั ผู้ปกครองให้เหน็ ความสำคัญในการ
เรียนรู้ในรูปแบบตามที่โรงเรียนกำหนด คอยติดต่อสอบถามถึงปัญหาต่างๆ ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ตามช่องทาง
การตดิ ตอ่ สือ่ สารที่ไดต้ กลงรว่ มกัน เสรมิ สร้างเจตคตติ ่อการเรียนรแู้ บบพง่ึ พาตนเองใหแ้ กน่ ักเรยี นและ ผปู้ กครอง
ควรมีการสร้างขวัญและกำลังใจให้นักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้ ควรมีการจัดทำคู่มือหลักสูตรฉบับย่อ
สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจบทบาทใหม่ และสามารถติดตามการเรียนรู้ของนักเรียนได้ สอดคล้อง
กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2564) ได้ระบุบทบาทของ ผู้ปกครอง ดังนี้ มีบทบาทในการ
ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกับครู ทั้งในการเรียนรู้ และการวัดประเมินผล ให้คำปรึกษาแนะนำ ประสานงาน และ
ปรึกษาหารอื กับครู เพื่อให้ผู้เรียนมีพัฒนาการและมีความก้าวหน้าในการเรยี นรู้อย่างตอ่ เน่ือง จัดสภาพแวดล้อม
ใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ รียนรตู้ ามความจำเป็นและเหมาะสม
187
ข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ของผู้บริหาร ครู ผู้ปกครองและนักเรียน
กลมุ่ โรงเรียนเมอื งสมุทรปราการ สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1
ข้อค้นพบเชิงคุณภาพจากการสนทนากลุ่มผู้บริหารและครู ประเด็นสำคัญที่ผู้วิจัยจะอภิปรายผลจาก
ผลการวจิ ัย ดังนี้
1. การส่อื สารนโยบาย
กระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานต้นสังกัด ควรให้ความสำคัญกับการวางแผนอย่างรอบคอบ จาก
ข้อมูลรอบดา้ น เพอ่ื การวางนโยบายท่มี วี สิ ยั ทัศนช์ ัดเจน รองรับสถานการณท์ เี่ ปลยี่ นแปลงรอบด้าน มีแผนรองรับ
ระบุปฏิทินการปฏิบัตงิ านที่ชัดเจน แทนการคิดไปสั่งไปตามสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นแล้วแก้ไข ให้ผู้ปฏิบัติ
ลงมือทำและแก้ปัญหาแบบเร่งด่วนรายวันเป็นกิจวัตรซึ่งส่งผลกับการสื่อสารถึงผู้มีผลกระทบ เช่น ผู้ปกครอง
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาไม่ค่อยได้ปฏิบัติงานตามแผนพัฒนาคุณภาพอย่าง
ต่อเนื่อง โดยการวางงานที่ควรดำเนินการที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนหรือการให้เวลาในการดูแลเอาใจ
ใส่ในการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่องวางมือมาดำเนนิ การงานเรง่ ด่วนท่ีสามารถวางแผนรองรับได้แต่ไม่ได้
คำนึง จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการมองเหตุการณ์ไม่ออกหรือวิสัยทัศน์ที่ไม่สามารถคาดการณ์อนาคตอย่าง
รอบคอบรอบด้าน หรือการบริหารบนฐานข้อมูลจากวัฒนธรรมให้มีการรายงานข้อมูลที่ควรจะเป็นแทนการให้
หน่วยปฏิบัตริ ายงานที่ข้อมลู ตามสภาพจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อระดับนโยบายจะได้นำขอ้ มูลไปวางแผนอย่าง
เหมาะสมอยา่ งมวี ิสัยทัศนใ์ นการป้องกันปัญหา หรือ การทำงานเชงิ รุก เชงิ กลยทุ ธ์ หรอื ผู้บริหารระดับสูงลงพื้นท่ี
หน่วยปฏิบัติตามสภาพจรงิ แบบไม่นัดหมาย แทนการลงมาพืน้ ที่ที่มีการประดับตกแตง่ ตอ้ นรับดว้ ยงบประมาณที่
สูงในชว่ งระยะเวลาอันส้ันที่ไม่มีเวลาแม้การฟงั การนำเสนอข้อมูลของผู้ดำเนินการ การบริหารระดับสูงจึงไม่ค่อย
มีฐานข้อมูลที่สอดคล้องกับสภาพจริง หรือข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้การวางแผนไม่รองรับกับสภาพ
ปัจจบุ ันปัญหาท่ีแทจ้ รงิ ไม่เกิดขึน้ จงึ นำไปส่กู ารบริหารแบบแกป้ ญั หาไปตามสถานการณ์ทเี่ กิดขึ้นแบบรายวันหรือ
แกป้ ัญหาตลอดเวลาแบบวัวหายล้อมคอก การพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาควรมีฐานข้อมลู ท่ีเปน็ จริง อยู่กับความจริง
วางแผนแก้ปญั หาทีส่ าเหตุ ตรงกบั สภาพนักเรียนนกั เรียน ครอบครัว บุคคลทต่ี ้องได้รับการดแู ลช่วยเหลือส่งเสริม
พัฒนาตามสภาพบริบททุกกลุ่ม แทนการดูแลช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุนบุคคลที่เข้าถึงบุคคลที่มีตำแหน่งสูง
มากกว่า การส่งนโยบายใหม่ๆ แบบคิดปัจจุบันทันด่วนแบบไม่รอบคอบแล้วประชาสัมพันธ์โดยไม่คำนึงถึง
ผลกระทบต่อผู้ปฏิบัติแล้วสร้างปัญหาให้กับผู้จัดการศึกษาฝ่ายปฏิบัติกับผูป้ กครองทั้งประเทศที่เข้าใจไม่ถูกต้อง
จากการสอ่ื สารประชาสัมพันธ์ที่ไมช่ ัดเจน การสือ่ สารนโยบายจึงควรวางแผน และการปฏิบัตติ ามแผน มีระเบียบ
รองรับที่ชัดเจน หรือปรับให้ระเบียบทันกับความก้าวหน้าหรือการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เช่น การมอบเงิน
เยยี วยา 2,000 บาท ควรปรบั ระเบียบการโอน เพอื่ ส่งมอบเงนิ ให้ทนั กับการเปลีย่ นแปลง ทันเวลา แทนการทำไป
แก้ปญั หาไปแบบไมต่ ้องรับผดิ ชอบจากคำสัง่ หรือนโยบายทไี่ มร่ อบคอบนน้ั ๆ บ่อยคร้ัง
188
2. ประเด็นของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และปัญหาการจดั การเรียนรู้ชวี ิตวถิ ีใหม่ รูปแบบตา่ งๆ ได้
ดังนี้ คือ โรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการส่วนใหญ่ จัดการเรียนรู้แบบผสมผสานระหว่าง รูปแบบ
On-Hand รูปแบบ On-Air รูปแบบ On-Demand และรูปแบบ On-Line และ สภาพและปัญหาจัดการเรียนรู้
ในแต่ละรูปแบบ ซึ่งพบว่า รูปแบบ On-Hand เรียนรู้ด้วยตัวเองไม่เข้าใจในวิชาหรือเนื้อหาที่ยาก ผู้ปกครองไม่
สามารถอธิบายได้ นักเรียนไม่มีผลงาน หรือมีแต่ผู้ปกครองทำให้ รูปแบบ On-Air ปัญหาที่พบคือ เรื่องเครื่องรับ
สัญญาณดิจิตอลมีไม่ครบทุกครอบครัว รูปแบบ On-Demand รูปแบบ On-Line ความขาดแคลนเครื่องมือ
สื่อสาร โทรศัพท์มือถือ แท็ปเลต คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค และอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการเปิดดูสื่อคลิปวิดีโอและ
แอพพลิเคชั่นต่างๆ ปัญหานักเรียนบางส่วน ตื่นสาย ไม่มีผู้ปกครองกวดขันให้เข้าเรียนเนื่องจากต้องไปทำงาน
จำนวนนักเรยี นท่เี ข้าเรยี นในแต่ละวิชาค่อนขา้ งน้อย
3. สภาพปญั หาการจดั การเรียนรู้วิถีใหม่ ในดา้ นต่างๆ ไดด้ งั นี้
การปรับหลักสูตร ปรับโครงสร้างเวลาเรียน จัดการเรียนรู้ 5 กลุ่มสาระหลัก คือวิชา ภาษาไทย
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม และอังกฤษ มีการปรับแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาและ
รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ On-Hand On-Air On-Line และ On-Demand โดยเน้นตัวชี้วัดที่ต้องรู้ และ
ตัวชี้วัดที่ควรรู้ ปัญหาที่พบ คือนักเรียนบางส่วนมีเวลาเรียนไม่ครบร้อยละ 80 ผู้วิจัยอภิปรายในมุมมองของ
ผู้ปกครองและนักเรียน โรงเรียน และนโยบายที่ไม่สอดคล้องกันหรือไม่สอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ของ
นกั เรียนซงึ่ สง่ ผลต่อปัญหาต่าง เช่น ในมุมมองหรือค่านิยมของผู้ปกครองท่มี ุ่งผลสัมฤทธิ์ให้บตุ รหลานไปศึกษาต่อ
ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง มีความต้องการให้บุตรหลานได้เรียนอย่างเข้มข้นทุกวิชา มีข้อตำหนิโรงเรียนว่าเรียนไม่
ครบทุกวิชา เรียนไม่เต็มที่ นักเรียนจะนำความรู้ที่ไหนไปสอบเข้าเรียนต่อ ปัญหาด้านนักเรียน คือ เรียนมาก
เกินไป มีความเครยี ด วติ กกังวล ไม่อยากเรียน สว่ นปัญหากายภาพที่สง่ ผลต่อการดำรงชวี ิตต่อไปในอนาคต เช่น
มีปัญหาการมองเห็น มีปัญหาสมาธิสั้น หรือ ผู้ปกครองยอมรับว่าไม่เคยฝึกระเบียบวินัย ความรับผิดชอบต่อ
หนา้ ท่ี วินยั ในตนเองใหก้ ับลูก ลูกไมไ่ ดฝ้ กึ การเรียนรู้ด้วยตนเอง มพี ฤตกิ รรมไม่รบั รู้ ไมร่ บั ผดิ ชอบเป็นนิสัย ยากท่ี
จะสอนเองทบ่ี ้าน
สำหรับด้านการปรับหลักสูตร สามารถอภิปรายผล ดังนี้ สำหรับประเทศไทยจัดโครงสร้างหลักสูตร มี
ชั่วโมงเรียนทีม่ ากโดยยึดเนื้อหาเป็นสำคัญ แตกต่างกับประเทศที่พัฒนาแลว้ เช่น ประเทศทางทวีปยุโรป ที่เรียน
น้อยรายวิชา ไม่เน้นการเรียนรู้เนื้อหา แต่เน้นกระบวนการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ การวัดผลตามสภาพจริง
ผู้เรียนเลือกเรียนตามความถนัดความสนใจเรียนอนุบาลจากการเล่น ไม่เรียนวิชาการ เรียนประถมเพียง 4 ปี
คน้ พบความถนดั ของตนจากความร่วมมือของครู พอ่ แม่ สง่ ผลใหน้ กั เรยี นเรยี นรู้อยา่ งมคี วามสุข ได้ศึกษาค้นคว้า
เชิงลึก มีผลงานการสร้างนวัตกรรมจากการเรียนที่ไม่ถูกบังคับให้เรียนมาก นักเรียนมีการจัดสรรแบ่งเวลาทำ
189
กิจกรรมร่วมกับครอบครัว มีทักษะการทำงาน มีความรักความผูกพันในครอบครัว ฝึกระเบียบวินัย เคารพ
กฎหมายบ้านเมอื ง กฎ กตกิ า มารยาทสงั คม พัฒนาทักษะความสามารถดา้ นตา่ ง ๆ อยา่ งหลากหลาย มีสุนทรีใน
การดำเนินชีวิตอย่างสมดุล แทนการดำรงชีวิตทุ่มเทด้านการเรียนด้านเดียวเกือบ 20 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้การ
พัฒนาทักษะการคิด พัฒนาทักษะชีวิต ทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้ การปรับตัวการดำรงชีวิตในปัจจุบันอย่าง
รู้เท่าทัน มีวินัย รู้หน้าที่ รับผิดชอบตนเองและส่วนรวมจากจิตสำนึก รู้เหตุ รู้ผล มีวิจารณญาณไม่ให้ใครชี้นำ
ในทางท่ไี ม่ถูกต้องสง่ เสริม การเรียนตามพัฒนาการของวยั การเรยี นพอประมาณ การเรยี นในสงิ่ ทจี่ ำเป็นนำไปใช้
ได้จริงอย่างจริงจัง การได้เลือกเรียนในสิ่งที่ชอบเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านความรู้ วิชาการ คุณธรรม
ฝึกวนิ ัยซึ่งเปน็ คณุ ลักษณะทีจ่ ำเปน็ ในการพัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม ประเทศชาติ
ในการจัดการศึกษาของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มีนโยบายให้นักเรียนที่สอดคล้องกับ
พัฒนาการของเด็กในทุกช่วงวัย ไม่เร่งเรียน ชาวเยอรมันไม่บังคับเด็กปฐมวัยให้พัฒนาสติปัญญาแต่เนิ่น ๆ แต่
เจตนาให้เด็ก ๆ อิ่มเอิบกับความสนุกสนานและความอิสรเสรีในวัยเด็ก เพื่อให้เด็กมีมันสมองแห่งการรังสรรค์
ประดิษฐ์ในอนาคต ที่ประเทศเยอรมนี โรงเรียนอนุบาลทั่วไปจะไม่แบ่งชั้นเรียนตามอายุ เด็กเยอรมันตั้งแต่ 3
ขวบถึง 6 ขวบ ล้วนจัดให้กินนอนและเที่ยวเล่นอยู่ด้วยกัน ซึ่งข้อนี้แตกต่างกันกับโรงเรียนอนุบาลของประเทศ
ส่วนใหญ่ ส่วนโรงเรียนประถมของเยอรมนีให้นักเรียนเรียนหนังสือเพียงครึ่งวันเท่านั้น โดยเปิดชั่วโมงเรียน
เฉพาะช่วงเชา้ และให้เด็ก ๆ ร่วมกิจกรรมทัง้ ช่วงบ่าย นักเรียนเยอรมนั ต้องโตถึง ป.3 ถึงให้เรยี นภาษาองั กฤษได้
และสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาตอน ป.4 ครูในโรงเรียนประถมจะให้ข้อเสนอแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับ
การศึกษาขั้นต่อไปของเด็กแต่ละคนว่า เหมาะสมกับการศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาเพื่อสอบเข้า
สถาบันอุดมศึกษาหรือไม่ หรือส่งเข้าโรงเรียนอาชีวศึกษาดกี ว่า ดังนั้นสัดส่วนนักเรียนที่จะสอบเขา้ มหาวิทยาลัย
ของนักเรียนจบมัธยมศึกษาของเยอรมนี จึงต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชียด้วย เช่น ที่โรงเรียนอนุบาล ที่เรียกวา่
คินแดร์การ์เท็น (Kindergarten) เป็นภาษาเยอรมัน ซึ่งแปลตรงตัวว่า Kinder หมายถึง Children หรือเด็กๆ
Garten คือ Garden หรือ สวน ซึ่ง Kindergarten หมายถึง สวนสำหรับเด็ก จึงไม่นับเป็น School หรือเป็น
โรงเรียน รับเด็กอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปจนถึง 6 ปี การเรียนในระดับนี้ไม่ใช่ภาคบังคับ เด็กเข้าเรียนหรือไม่ก็ได้
การศึกษาระดับประถม เป็นการศึกษาภาคบังคับ เด็กที่อายุครบ 6 ปี จะต้องเข้าเรียนในชั้นประถมในเยอรมนี
เด็กจะต้องเข้าโรงเรียนในเขตที่ตัวเองพำนักอยู่ โรงเรียนประถมเรียกว่า กรุนชูเล (Grundschule) ในขณะท่ี
รัฐธรรมนูญเยอรมนีห้ามพัฒนาสติปัญญาของเด็กที่ยังไม่โตพอ ชาวเยอรมันให้ความสำคัญระดับสูงต่อ
ความสามารถด้านการสร้างจินตนาการของสมองเด็ก รัฐธรรมนูญเยอรมนีจึงระบุอย่างชัดเจนว่า ห้ามพัฒนา
สติปัญญาของเด็กปฐมวัยที่ยังโตไม่พอ เป็นการคุ้มครองสมองของเด็กปฐมวัย สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับเด็ก ๆ
ในวัยก่อนเข้าโรงเรียนประถมก็คือ เติบโตขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแห่งความร่าเริงและความสนุกสนาน
กระทรวงศึกษาธิการเยอรมนั มีคำสัง่ กับโรงเรียนประถม ไม่ให้เปิดสอนวิชาที่มุง่ เพิ่มทกั ษะใด ๆ ทั้งสิ้นนอกเหนอื
ชั่วโมงเรียนธรรมดา ชาวยุโรปมีความเห็นทั่วไปว่า การเติบโตของเด็ก ๆ ต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติใน
การเตบิ โต ในชว่ งวยั ทแ่ี ตกต่างกัน ส่ิงทเี่ ด็กควรทำกจ็ ะไม่เหมือนกัน พจิ ารณาในระดับผิวเผิน การศึกษาก่อนเข้า
โรงเรียนและการศึกษาขั้นรากฐานที่เด็กจีนได้รับนั้น ดูดีกว่าของเด็กยุโรป แต่ความสามารถในการคิดและการ
190
สรา้ งจิตนาการของเดก็ จีนล้วนได้รับการทำลายจากการศึกษาท่ีไม่เคารพต่อกฎเกณฑ์การเตบิ โตทางธรรมชาติ ทำ
ให้เดก็ เหล่านีเ้ คยชินกบั การรับความรู้ที่ครสู อนให้ แตไ่ ม่ถนัดในการคดิ และพจิ ารณาด้วยตนเอง การฝึกฝน ความ
อดทนและความกล้าหาญของเดก็ ปฐมวยั (วรรณชนก รอดหยู่. 2561)
สอดคล้องกับ Hans-Ulrich Holtkemper. (2560: สัมภาษณ)์ ที่กล่าวว่า ประเทศเยอรมัน นางอังเกลา
แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งประเทศเยอรมนีและรัฐบาล มีนโยบายการศึกษาของประเทศให้นักเรียนศึกษา
ต่อในระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษาฟรี สหพันธสาธารณรัฐเยอรมนีที่ให้นักเรียนได้เรียนฟรีไม่มี
ค่าใช้จ่ายจริงที่โรงเรียนใกล้บ้านจริง ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัยโดยไม่ต้อง
สอบแขง่ ขนั จากการท่รี ฐั มีนโยบายให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัยตา่ งๆ มีคณุ ภาพมาตรฐานใกล้เคียงกัน นักเรียน
เลือกเรียนในสาขาที่ถนัด สนใจ แมก้ ารศึกษาระดบั มหาวิทยาลยั ก็ไม่ต้องสอบแข่งขัน การจดั กระบวนการเรียนรู้
จึงไม่เน้นการเรียนรู้ท่องจำเนื้อหา แต่เน้นกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมพัฒนาการคิด นักเรียนจึงไม่จำเป็นต้อง
ท่องตำราเพ่ือสอบแข่งขนั เขา้ ศึกษาตอ่ (วรรณชนก รอดหยู่. 2561)
การปรับวิธีการจัดการเรียนรู้ชีวติ วถิ ีใหม่ ส่วนใหญ่ครกู ลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ ใช้รูปแบบ On-
hand ควบคู่กบั วิธกี ารจัดการเรยี นรู้ On-Line On-demand ตามบริบท ความพร้อมของผู้เรยี น ปัญหา คอื การ
ไม่สามารถเข้าเรียนตามวิธีการที่ครูกำหนด ซึ่งในการบริหารจัดการศึกษาในสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้บริหารได้
สอื่ สารแนวทางในการจัดการเรียนรทู้ ่เี หมาะสมกับสภาพของผูเ้ รียน มกี ารยืดหยุ่น ตามความเหมาะสม และความ
พร้อมของนักเรียนและผู้ปกครอง เปิดโอกาสทางการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ปกครองกับครูให้มากขึ้น โดย
ผ้บู รหิ ารส่งเสริมให้ครูพฒั นานวัตกรรมการจัดการเรียนรตู้ ามศักยภาพของครู เชน่ นวัตกรรม “การพัฒนาระบบ
ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินภาระงาน เพื่อเสริมสร้างวินัยและความซื่อสัตย์ในการเรียนออนไลน์” ที่
พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในจัดการเรียนรู้ในช่วงสภาวะแพร่ระบาด ของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของนาย
จักรกฤษณ์ เชื้อหาญ ได้ดําเนินการอย่างต่อเนื่องในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 สามารถแก้ปัญหาการ
ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินภาระงานของนักเรียนได้เป็นอย่างดี เป็นที่พึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครอง
นักเรียนมีวินัยและความซื่อสัตย์ในการเรียนออนไลน์ และการส่งเสริมสนับสนุนวิธีการเรียนรู้ของนักเรียน
โรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ มีการส่งเสริมสนับสนุนวิธีการเรียนรู้ของนักเรียนการสร้างกลุ่มไลน์
การอดั คลิปการสอน อธิบายเพ่มิ เติมในเนอ้ื หาวิชาทีย่ าก หาสอื่ แหล่งเรียนรูต้ า่ งๆ เพ่อื ให้นกั เรยี นได้เข้าใจมากขึ้น
และยืดหยุ่นในการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนมีเวลาในการค้นคว้าหาความรู้ ได้เรียนรู้เต็มที่ และมีความสุขในการ
เรียนรู้ช่วงสถานการณ์ COVID -19 การวัดประเมินผล แบบยืดหยุน่ วัดระหว่างเรยี น ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
ท้ังการถามตอบระหว่างเรียน การส่งงานท่ีได้รับมอบหมาย การอดั คลปิ วิดีโออธิบายความรู้ ในระดับชั้นปฐมวัยดู
พัฒนาการนักเรียน ผ่านการถ่ายคลิปวีดีโอส่งผ่านทาง LINE สัมภาษณ์ สอบถามผู้ปกครองตามประเด็นการ
ประเมนิ พัฒนาการของนักเรยี น และมกี ารสอบปลายภาคเรยี นดว้ ย Google form สอดคลอ้ งกบั ยืน ภู่วรวรรณ
191
(2564) ได้กล่าวว่า รูปแบบการเรียนรู้วิถีใหม่เป็นพื้นฐานการสร้างความสามารถ สมรรถนะ การกำหนดทักษะ
ความสามารถที่จะได้รับจากกิจกรรมการเรียน แล้วประเมินและวัดผลระดบั ความสามารถที่ผู้เรียนได้รับ เพื่อมา
ชว่ ยวางแผนการเรียนการสอนให้บรรลเุ ป้าหมาย การเรียนจึงต้องเน้นให้เกิดการแสดงออก เชน่ ใช้แบบอภิปราย
ครจู ะเป็นผู้กระตนุ้ การเรียนแบบอภิปรายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขน้ึ เทคโนโลยีมีส่วนชว่ ยในเรื่องเหล่านี้ได้ รูปแบบ
การเรียนรวู้ ิถีใหม่ จงึ ควรเนน้ รูปแบบการสรา้ งประสบการณ์ (Learning Experience) การลงมอื ทำ หรือการพบ
ปัญหาด้วยตนเอง วิธีเรียนด้วยประสบการณ์เช่นนี้ จะช่วยต่อยอดการเรียนรู้มากขึ้น การทำกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือ
เสริมทักษะความร่วมมือ การแก้ปัญหาโดยแสวงหาความร่วมมือกับคนอื่น พร้อมกับเคารพในคิด ความต่างของ
มุมมองที่ไม่เหมือนกัน การศึกษาจึงต้องประสานทั้งโลกกายภาพและไซเบอร์ ซึ่งผู้บริหารสร้างความรู้ความ
เข้าใจกับคณะครูในการนำแนวทางการวัดและประเมินผลของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(2564) ที่มีแนวทางในการนับเวลาเรียนให้สอดคล้อง และเชื่อมโยงกับรูปแบบการเรียนรู้สามารถ กำหนด
แนวทางการนับเวลาเรียนที่เกิดจากการจัดการเรียนการสอนในทุกรูปแบบ ทั้งจำนวนชั่วโมงที่สอนโดยครูผู้สอน
และจำนวนช่วั โมงทผี่ ู้เรียนไดเ้ รียนรู้ และฝกึ ปฏิบตั ิผ่านกจิ กรรมในวิถีชีวติ ประจำวัน หรือเรียนรู้ด้วยตนเองตามท่ี
ครูมอบหมาย การนับเวลาเรียน ตามเกณฑ์การตัดสินผลการเรียนระดับประถมศึกษา กำหนดให้ผู้เรียนต้องมี
เวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนตลอดปีการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ตัดสินผลการเรียนเป็น
รายวิชา มีเวลาเรียนตลอดภาคเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้น ๆ กรณีมีความ
จำเป็น สำหรับนักเรียนบางคนที่มีผลการประเมินการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด แต่มีเวลาเรียนหรือมีจำนวน
ชั่วโมงเรียนไม่เพียงพอ อนุโลมให้นักเรียนมีสิทธิ์สอบและเลื่อนชั้นได้ (ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการประชุมครั้งที่ 8/2564 วันที่ 13 สิงหาคม 2564) นอกจากนี้ แนวทางการวัดและ
ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดว้ ยวิธีการทห่ี ลากหลาย สามารถกำหนดแนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ได้ตาม
ความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์และรูปแบบการสอน ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งใชค้ ะแนนจากการสอบโดยข้อสอบ
เท่านั้น คำนึงถึงคุณภาพของผู้เรียนเปน็ สำคัญ คะแนนกลางภาค การประเมินกิจกรรมการเรียนที่ครูจัดขึ้น และ
ไมเ่ นน้ การทดสอบโดยใช้ข้อสอบเพียงอยา่ งเดียว เป็นความร่วมมือในการประเมนิ ระหว่างครูและผู้ปกครอง ตาม
ความจำเป็นและเหมาะสม การตรวจสอบภาระงานที่มอบหมายให้ผู้เรียนปฏิบัติ การสังเกตพฤติกรรมระหว่าง
การเรยี น Online เชน่ การถาม - ตอบ การนำเสนอผลงาน เปน็ ตน้ การใหข้ อ้ มูลย้อนกลบั (Feedback) คะแนน
ปลายภาค/ ปลายปี ประกอบด้วย การทดสอบ การประเมนิ จากแฟ้มสะสมผลงาน การประเมนิ ภาคปฏบิ ัติ การ
นำเสนอผลงานปลายภาค/ปลายปี การสอบปากเปล่าออนไลน์ หรือรูปแบบอื่นใดที่เหมาะสมกับบริบทของ
สถานศึกษา
192
ซึ่งในปีน้ีการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ป.6 รัฐมีนโยบายการสอบ
เป็นไปตามความสมัครใจของผู้เรียนแต่ละคน ชั้น ม.3 เป็นไปตามความสมัครใจของผู้เรียนแต่ละคน ชั้น ม.6 ที่
ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้มีหนังสือที่ ทปอ.64/0396 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เรื่อง แจ้ง
การไม่ใช้ผลคะแนนการสอบรายวิชา O-NET ในระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา
ตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป ไม่นำผล O-NET มากรอกในระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) ส่วนการ
ทดสอบความสามารถด้านการอ่าน (RT) ชั้น ป.1 และการทดสอบ ความสามารถพื้นฐานด้านภาษาไทยและ
คณิตศาสตร์ (NT) ชั้น ป.3 ปีการศึกษา 2564 ให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้เรียน สำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐานให้บริการต้นฉบับแบบทดสอบ RTและ NT (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน,
2564) จากนโยบายดงั กลา่ ว ส่งผลใหผ้ ู้บริหาร ครู ผ้ปู กครอง และนกั เรยี นมีความวิตกกังวลน้อยลงและทำให้การ
วัดผลประเมินผลไม่เร่งหรือกดดันท่ามกลางข้อจำกัดต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม มีผู้ปกครองที่มีความมุ่งม่ัน
ตั้งใจในการดูแลส่งเสริมสนับสนนุ ให้บุตรหลานไดเ้ ข้าศกึ ษาต่อในโรงเรยี นที่มชี ่ือเสียง มคี วามต้องการให้โรงเรียน
จัดการศึกษาอย่างครบถ้วนในทุกรายวิชา มุ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านเนื้อหา ทางโรงเรียนต้องสื่อสารสร้าง
ความเข้าใจในนโยบายการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์ COVID-19 ธรรมชาติ จิตวิทยาการเรียนรู้ของผู้เรียน
การส่งเสริมทั้งความรู้ คุณธรรม ระเบียบวินัยให้กับนักเรียน กระบวนการศึกษาค้นคว้าเรียนรู้พัฒนาตามความ
ถนัดความสนใจ แตกต่างจากเดิมที่นักเรียนมีเงื่อนไขจะเรียนก่อต่อเมื่อนั่งในห้องเรียน รอคุณครูสอน หรือรอ
คำสั่งให้ทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่คิดอยากเรียนรู้ หรือศึกษาค้นคว้าเอง นอกจากนี้ การเรียนที่บ้านยังเป็นโอกาส
ในการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับครอบครัว เป็นช่วงเวลาทองในการสร้างความรัก ความผูกพันในครอบครัว
สำหรับนักรียนที่เคยมีปัญหาพฤติกรรมต่างๆ เช่น นักเรียนขยายโอกาส การออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนโดยไม่
กลับบ้าน ก็ไม่เกิดขึ้น หรือมีปัญหาน้อยลง นักเรียนอยู่ที่บ้าน อยู่กับครอบครัว ปัญหาด้านอื่นๆ ลดลง อย่างไรก็
ตามความวิตกกังวลของผู้ปกครองในการดูแลให้นักเรียนศึกษาต่อในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงยังมีความวิตกกังวลสูง
ท้งั น้ี อาจเนอ่ื งมาจากคุณภาพการศึกษาของโรงเรยี นต่าง ๆ ในประเทศไทย มีความพร้อมไม่เท่ากัน ผู้ปกครองจึง
ยังมีค่านิยมในการให้บุตรหลานเข้ารับการศึกษาต่อในโรงเรียนที่มีความพร้อมซึ่งหมายถึงการมีโอกาส มีอนาคต
ในการศกึ ษาต่อและการเขา้ ทำงานทด่ี ีกว่าของบุตรหลาน
สอดคล้องกับ ยืน ภู่วรวรรณ. (2564) ได้กล่าวไว้ว่า ในยุคที่ ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ มีมากมาย อยู่บน
คลาวด์ บนอินเทอร์เน็ต ที่เรียกเข้าถึงได้ การเรียนรู้ได้ดว้ ยตนเอง (Self Directed Learner) มีความสำคัญ
อย่างมาก นักเรียนควรได้รับการสร้างประสบการณ์ และทักษะให้เรียนรู้ด้วยตนเองได้ เพราะในอนาคต จะต้อง
เรยี นได้ตลอดชวี ติ ความสำเรจ็ ของการศึกษา จงึ ต้องสร้างนกั เรยี นให้เปน็ ผู้เรียนได้ดว้ ยตนเอง ซึ่งการเรียนรู้ด้วย
ตนเองมีความจำเป็น หากนักเรียนขาดอุปกรณ์ในการเรียน เป็นการตัดโอกาสการฝึกฝน เรียนรู้ด้วยตนเอง ขาด
ความเสมอภาค
193
ในรปู แบบ On-Demand ปญั หาทีพ่ บคือ ถึงแม้วา่ ครจู ะไดจ้ ัดทำคลิปวดิ โี อเนอ้ื หาการเรียนรู้ แตน่ ักเรียน
บางสว่ นไม่เข้าไปเรียนรู้ รบั ชมวิดโี อในเนอื้ หานั้น ๆ ทงั้ น้ี อาจเน่อื งมาจาก เนื้อหาในวีดโิ อไม่น่าสนใจ หรอื รูปแบบ
เทคนิคในวีดิโอไม่สอดคล้องกับวัย หรือไม่มีอุปกรณ์ หรืออินเทอร์เน็ต ในการดู เนื้อหาไม่ตรงกับความสนใจของ
ผู้เรียน เป็นต้น นำไปสู่การพัฒนาการจัดทำวีดิโอ หรือการจัดหาสนับสนุนอุปกรณ์ให้กับนักเรียนขาดแคลนเป็น
ลำดับต่อไป การเรียนการสอนออนไลน์เหมือนกับการเรียนการสอนในชั้นเรียนตรงที่ครูผู้สอนจะต้องจัดเตรียม
กิจกรรมและประสบการณ์เรียนให้กับผู้เรียน ซึ่งการเรียนการสอนที่ดีนั้น ผู้เรียนและผู้สอนควรต้องปฏิสัมพันธ์
ระหว่างกัน ดังนั้นการเรียนการสอนออนไลน์จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างบทเรียนบนเว็บ เพื่อให้ผู้เรียนเข้ามา
ศึกษาเนื้อหาบทเรียนเท่านั้นหากแต่ยังต้องมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยคำนึงถึ งผู้เรียนเป็นสำคัญ
สอดคล้องกับ Worathan Technology (n.d.) ได้อธิบายไว้ว่า การเรียนการสอนออนไลน์ (Online Learning)
จัดเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีเรียนในรูปแบบเดิม ๆ ให้เป็นการ
เรียนใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำการสอน นอกจากนี้ความหมายอีกในหนึ่งยังหมายถึง การเรียนทางไกล
การเรยี นผ่านเว็บไซตอ์ ีกดว้ ย สอดคล้องกบั Calder & McCollum (1988) กลา่ วว่า คำจำกัดความโดยท่ัวไปของ
การเรยี นรู้แบบเปิด คือการเรียนรู้ตามเวลา ตามความต้องการและสถานท่ีของตนเอง
การจัดการเรียนการสอนในรปู แบบ On Line นักเรียนบางส่วนไม่เข้าเรียน ไม่รายงานในแต่ละวิชาที่ครู
ได้นัดหมาย ผู้ปกครองไม่มีเวลากำกับติดตามดูแลนักเรียน เนื่องจากต้องออกไปทำงาน หรือนักเรียน อยู่กับ
ผู้ปกครองสูงอายุ ทำให้ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือด้านการเรียนได้ ซึ่ง หลักการการเรียนเรียนรู้ออนไลน์
Taylor (2014) ได้กล่าวไว้ว่า ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ตและเทคโนโลยีดจิ ติ อลส่งผล
ให้เว็บไซต์ ถอื เปน็ เครอ่ื งมือทีม่ ีพลังและมปี ระสิทธิภาพดว้ ยเปน็ เครือ่ งมือท่ีมคี วามยดื หยนุ่ แพรห่ ลายไปทวั่ โลก มี
ความคล่องตัวในการจัดการเรียนรู้ โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนทางไกล สอดคล้องกับ ยืน ภู่วรวรรณ.
(2564) การศกึ ษาวิถใี หม่ (New Normal Education) การเรยี นออนไลน์ จะเปน็ เร่ืองปกติของผู้เรียนที่มีทักษะ
การเรียนการเข้าถึงบทเรียนแบบดจิ ิทลั ได้ตั้งแต่ระดับประถม สามารถเรียนรู้ไดท้ ั้งแบบมีปฏสิ มั พันธ์ ที่ประสาน
เวลา (Synchronous Learning) และแบบไม่ประสานเวลา (Asynchronous Learning) การส่งชิ้นงานที่ได้รับ
มอบหมายผา่ นระบบเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ มีทักษะการใชส้ ารสนเทศ การจดั การเรยี นรใู้ นลักษณะ Learn from
Home โดยการใช้ปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่างผู้สอนกับผูเ้ รียนจงึ ขึ้นอยู่กับระบบออนไลนเ์ ป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามการ
จดั การเรยี นการสอนในลักษณะออนไลน์ดังกล่าว ต้องคำนึงถึงบรรยากาศในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน
ซึ่งสามารถออกแบบเพื่อสร้างกิจกรรม หรือการทำงานร่วมกัน ผ่านทางเครือข่ายสื่อสารเพื่อทดแทน การศึกษา
วิถีใหม่ (New normal education) การเรียนออนไลน์ จะเปน็ เรอ่ื งปกตขิ องผูเ้ รียนที่มที กั ษะการเรยี น การเขา้ ถึง
บทเรียนแบบดิจิทลั ไดต้ ัง้ แตร่ ะดบั ประถม สามารถเรยี นรู้ไดท้ ้ังแบบมีปฏสิ มั พันธ์ ท่ปี ระสานเวลา (Synchronous
Learning) และแบบไม่ประสานเวลา (Asynchronous learning) การส่งชิ้นงานที่ได้รับมอบหมายผ่านระบบ
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีทักษะการใช้สารสนเทศ การจัดการเรียนรู้ในลักษณะ Learn from Home โดยการใช้
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนจึงขึ้นอยู่กับระบบออนไลน์เป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามการจัดการเรียนการ
194
สอนในลักษณะออนไลน์ดังกล่าว ต้องคำนึงถึงบรรยากาศในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ซึ่งสามารถ
ออกแบบเพอ่ื สร้างกิจกรรม หรือการทำงานรว่ มกนั ผา่ นทางเครอื ข่ายสอ่ื สารเพ่ือทดแทน (ยนื ภ่วู รวรรณ, 2564)
นอกจากนี้ ยืน ภู่วรวรรณ (2564) ได้กล่าวว่า รูปแบบการเรียนรู้วิถีใหม่เป็นพื้นฐานการสร้าง
ความสามารถ สมรรถนะ การกำหนดทักษะความสามารถที่จะได้รับจากกิจกรรมการเรียน แล้วประเมินและ
วดั ผลระดับความสามารถที่ผเู้ รยี นไดร้ ับ เพอื่ มาชว่ ยวางแผนการเรียนการสอนใหบ้ รรลเุ ป้าหมาย การเรยี นจึงต้อง
เน้นให้เกิดการแสดงออก เช่นใช้แบบอภิปราย ครูจะเป็นผู้กระตุน้ การเรียนแบบอภิปรายให้มปี ระสทิ ธิภาพยิง่ ข้นึ
เทคโนโลยีมีส่วนช่วยในเรื่องเหล่านี้ได้ รูปแบบการเรียนรู้วิถีใหม่ จึงควรเน้นรูปแบบการสร้างประสบการณ์
(Learning Experience) การลงมอื ทำ หรือการพบปัญหาดว้ ยตนเอง วธิ ีเรียนด้วยประสบการณ์เช่นน้ี จะช่วยต่อ
ยอดการเรียนรู้มากขึ้น การทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมทักษะความร่วมมือ การแก้ปัญหาโดยแสวงหาความ
ร่วมมือกับคนอื่น พร้อมกับเคารพในคิด ความต่างของมุมมองที่ไม่เหมือนกัน การศึกษาจึงต้องประสานทั้งโลก
กายภาพและไซเบอร์
การให้คำปรึกษาแนะนำ การให้คำปรึกษาผู้ปกครอง นักเรียนในเรื่องการเรียน เช่นการเข้าเรียนไม่ได้
ให้ติดต่อผ่านครูประจำช้ัน ผบู้ ริหารให้คำแนะนำ เป็นท่ีปรกึ ษา ให้กำลงั ใจผู้ปกครอง ประโยชนข์ องการเรียนการ
สอนแบบออนไลน์ (Online learning) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน เนื่องจากไม่ได้จำกัดอยู่ใน
สถานที่เดียวเท่านั้น เกิดเครือข่ายความรู้ โยงใยออกไปไกล เน้นการเรียนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ช่วยลด
ช่องว่างระหว่างการเรียนรู้ในเมืองกับท้องถิ่น (จักรกฤษณ์ โพดาพล, 2563) ซึ่ง ทฤษฎีการเรียนรู้ของกาเย่ ทั้งน้ี
เพราะ นักการศึกษาส่วนใหญ่จึงยึดตามการจัดการเรียนการสอนตามกระบวนการ 9 ขั้นตอนของกาเย่ (Robert
Gagne) ในการออกแบบและพฒั นาบทเรียนบนเว็บ มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 กระตุ้นหรือเร้าให้ผู้เรียนเกิดความสนใจกับบทเรียนและเนื้อหาที่จะเรียน (Motivate the
Learner) การเร้าความสนใจผู้เรียนนี้อาจทำได้โดย การจัดสภาพแวดล้อมให้ดึงดูดความสนใจ เช่น การใช้
ภาพกราฟิก ภาพเคลอื่ นไหว และ/หรือการใช้เสยี งประกอบบทเรียนในส่วน บทนำ
ขั้นตอนที่ 2 บอกให้ผู้เรียนทราบถึงจุดประสงค์ของบทเรียน (Inform Learners of Learning
Objectives) การบอกใหผ้ ้เู รยี นทราบถงึ จุดประสงคข์ องบทเรยี นนม้ี ีความสำคัญเปน็ อย่างย่งิ โดยเฉพาะการเรียน
การสอนบนเวบ็ ท่ีผูเ้ รียนสามารถควบคุมการเรียนของตนเองได้ โดยการเลือกศึกษาเนื้อหาท่ีต้องการศกึ ษาได้เอง
ดังนั้นการที่ผู้เรียนได้ทราบถึงจุดประสงค์ของบทเรียนล่วงหน้าทำให้ผู้เรียน สามารถมุ่งความสนใจไปที่เนื้อหา
บทเรียนที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังสามารถเลือกศึกษาเนื้อหาเฉพาะที่ตนยังขาดความเข้าใจที่จะช่วยทำให้ผู้เรียนมี
ความร้คู วามสามารถตรงตามจุดประสงคข์ องบทเรียนที่ได้กำหนดไว้
ขั้นตอนที่ 3 ทบทวนความรู้เดิมที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบทเรียน (Recall Previous Knowledge) การ
ทบทวนความรู้เดิมช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้เนื้อหาใหม่ได้รวด เร็วยิ่งขึ้น รูปแบบการทบทวนความรู้
195
เดิมในบทเรียนบนเว็บทำได้หลายวิธี เช่น กิจกรรมการถาม-ตอบคำถามหรือการแบ่งกลุ่มให้ผู้เรียนอภปิ รายหรือ
สรุปเน้อื หาทไ่ี ด้เคยเรียนมาแลว้ เปน็ ตน้
ขั้นตอนที่ 4 นำเสนอบทเรียน (Present the Material to be Learned) การนำเสนอบทเรียนบนเว็บ
สามารถทำได้หลายรูปแบบด้วยกันคอื การนำเสนอด้วยข้อความ รูปภาพ เสียง หรือแม้กระทั่งวิดิทศั น์ อย่างไรก็
ตามสิ่งสำคัญทผ่ี ูส้ อนควรให้ความสำคญั กค็ ือผูเ้ รียน ผ้สู อนควรพิจารณาลกั ษณะของผู้เรยี นเปน็ สำคัญ เพื่อให้การ
นำเสนอบทเรียนเหมาะสมกับผู้เรียนมากที่สุด
ขั้นตอนที่ 5 ชี้แนวทางการเรียนรู้ (Provide Guidance for Learning) การชี้แนวทางการเรียนรู้
หมายถึง การชแ้ี นะใหผ้ ู้เรยี นสามารถนำความรู้ท่ไี ด้ เรยี นใหม่ผสมผสานกบั ความรเู้ ก่าที่เคยไดเ้ รยี นไปแลว้ เพ่ือให้
ผู้เรยี นเกิดการเรียนรูท้ ี่รวดเรว็ และมีความแม่นยำมากยิง่ ขึ้น
ขั้นตอนที่ 6 ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียน (Active Involvement) นักการศึกษาต่างทราบดีว่าการ
เรียนรู้เกิดขึ้นจากการที่ผู้เรียนได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนการสอนโดยตรง ดังนั้น ในการจัดการ
เรียนการสอนบนเว็บ จึงควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียน ซึ่งอาจทำได้โดยการจัด
กิจกรรมการสนทนาออนไลน์รูปแบบ Synchronous หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านเว็บบอร์ดในรูปแบบ
Asynchronous เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 7 ให้ผลย้อนกลับ (Provide Feedback) ลักษณะเด่นประการหนึ่งของการเรียนการสอนบน
เว็บก็คือ การที่ผู้สอนสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้เรียนได้โดยตรงอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบทบาทของผู้สอนน้ัน
เปลี่ยนจากการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้แต่เพียงผู้เดียว มาเป็นผู้ให้คำแนะนำ และช่วยกำกับการเรียนของผู้เรียน
รายบุคคล และดว้ ยความสามารถของอินเทอร์เน็ตท่ีทำใหผ้ ู้เรียนและผสู้ อนสามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา ทำให้
ผู้สอนสามารถตดิ ตามกา้ วหน้าและสามารถใหผ้ ลยอ้ นกลบั แก่ผู้เรยี นแต่ละคน ได้ด้วยความสะดวก
ขั้นตอนที่ 8 ทดสอบความรู้ (Testing) การทดสอบความรู้ความสามารถผู้เรียนเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีก
ขัน้ ตอนหนง่ึ เพราะทำให้ทงั้ ผู้เรียนและผู้สอนได้ทราบถึงระดับความรู้ความเข้าใจท่ผี เู้ รียนมีต่อเนื้อหาในบทเรียน
นั้น ๆ การทดสอบความรู้ในบทเรียนบนเว็บสามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบแบบปรนัยหรือ
อัตนัย การจัดทำกิจกรรมการอภิปรายกลุ่มใหญ่หรือกลุ่มย่อย เป็นต้น ซึ่งการทดสอบนี้ ผู้เรียนสามารถทำ การ
ทดสอบบนเว็บผา่ นระบบเครือขา่ ยได้
ขั้นตอนที่ 9 การจำและการนำไปใช้ (Providing Enrichment or Remediation) สามารถทำได้โดย
การกำหนดตัวเชื่อม (Links) ที่อนุญาตให้ผู้เรียนเลือกเข้าไปศึกษาเนื้อหาเพิ่มเติมในสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ใน
การนำองค์ความรู้ทไ่ี ด้รบั มาไปใช้ (จักรกฤษณ์ โพดาพล, 2563)
196
ข้อเสนอแนะ
1. ขอ้ เสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
จากการวิจัย การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ในสถานการณ์
COVID - 19 กลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สมุทรปราการ เขต 1
สามารถเสนอแนะในการนำผลการวจิ ยั ไปใช้ ดงั นี้
1.1 ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย
1.1.1 ระดับชาติ ควรนำเสนอผลการวิจยั การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในการจดั การเรียนรู้ชวี ิตวิถี
ใหม่ในสถานการณ์ COVID - 19 กลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สมุทรปราการ เขต 1 ต่อผู้มีบทบาทหน้าที่ปกครองประเทศและการบริหารจัดการศึกษาของชาติทุกระดับ เพ่ือ
สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักถึงการพัฒนา เด็ก เยาวชน ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์
ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้อย่างมีวิสัยทัศน์ ดำเนินการส่งเสริมพัฒนา แก้ปัญหาต่างๆ จากการนำผลการวิจัยไป
ใช้ในประกอบการพิจารณาวางแผน เพื่อดำเนินการอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงถึงธรรมชาติ
พัฒนาการการเรียนรูต้ ามวัยของผเู้ รียนเป็นสำคญั
1.1.2 กระทรวงศึกษาธิการควรมีวิสัยทัศน์กว้าง ไกล คาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ ล่วงหน้าจาก
การศกึ ษาขอ้ มูลรอบด้าน ทั้งสภานการณ์ในตา่ งประเทศ ในประเทศทุกระดับทุกภาคส่วน โดยเก็บข้อมูลด้วย
เครื่องมือเชิงบูรณาการ นำไปสู่การกำหนดนโยบายต่าง ๆ ที่ต่อเนื่อง แม้เปลี่ยนผู้บริหาร กำหนดล่วงหน้า
ยืดหยนุ่ ควรคำนึงถึงบริบทของสถานศึกษา เพอ่ื ใหส้ ามารถนำไปปฏิบตั ิได้อย่างแท้จรงิ หน่วยงานต้นสังกัดควรมี
บทบาทในการเข้ามานิเทศกำกับติดตามแบบกัลยาณมิตร ลงพื้นที่เพื่อทราบสภาพปัญหาแทนการรับรายงาน
ข้อมลู เชิงปริมาณ ซึ่งอาจไม่ตรงกบั สภาพจริง รวมถงึ ควรบูรณาการเคร่ืองมือจากระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องในการ
ออกแบบเครื่องมือ เพื่อให้ได้ข้อมูลครอบคลุม นำไปใช้ได้ในภาพรวมเชิงลึก ข้อมูลลดการรายงานเอกสารต่าง ๆ
ควรสนับสนุนหาแนวทางในการจดั การเรยี นใหด้ ที ส่ี ดุ ให้เวลาครไู ด้ดำเนินการในการจดั การเรียนการสอนให้ดี
1.1.3 กระทรวงศึกษาธิการควรพิจารณาทบทวนปรับโครงสรา้ งหลักสูตร ที่นกั เรยี นเรียนจำนวนหลาย
วิชา และใช้เวลาเรียนจำนวนมาก เพื่อการนำความรู้ไปวัดผลในระดับต่างๆ ต่อเนื่องไปถึงการสอบเข้าศึกษาต่อ
หรือการประกอบอาชีพ แต่ขาดทักษะ สมรรถนะต่างๆ ที่จำเป็นในการเรียนรู้ การดำรงชีวิตในสถานการณ์การ
เปลี่ยนแปลงต่าง ๆ จึงควรสร้างความรู้ความเข้าใจ ค่านิยมใหม่ในสังคมไทย ลดการมุ่งการเรียนเนื้อหาหลาย
รายวิชา ใช้เวลาเรียนจำนวนมากในแต่ละวันทั้งในห้องเรียนและทำการบ้านที่บ้านหรือการติวต่อหลังเลิกเรียน
หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ในการทำการบ้าน การเตรียมความพร้อมสอบแข่งขัน การมอบภาระงานเป็นการบ้าน
เกือบทุกวิชาท่เี รียน โดยครมู ่งุ สอนเนื้อหาให้จบในห้องเรียนโดยไม่วัดผลการเรียนรู้แต่มอบภาระงานที่หนักให้กับ
นักเรียนในการดำเนินการต่อหลักจากเรียนอย่างหนักต่อเนื่องในแต่ละวัน (ตามความคาดหวังการบ้านของ
ผู้ปกครอง) โดยไม่ได้จัดสรรเวลาไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น การออกกำลังกาย การ
ทำงานอดิเรก การร่วมทำกิจกรรมกับครอบครัว เช่น ทำอาหาร หรือการช่วยเหลืองานบ้าน งานอาชีพของ
ครอบครัว ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นควรปลูกฝังในวัยเรียน เพราะทรัพยากรเวลาของแต่ละคนไม่สามารถย้อนกลับ
มาได้ ควรฝึกให้สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริง มีการนิเทศกำกับติดตามอย่างจริงจัง และควรพัฒนาต่อเนื่องใน
197
สถานการณ์ปกติ เพราะกระบวนการการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผลในปัจจบุ ัน ไม่ส่งผลใหเ้ กดิ คุณลักษณะของ
เดก็ ไทยในศตวรรษที่ 21 ทสี่ ามารถพฒั นาตนเองใหเ้ ป็นทรัพยากรมนษุ ยท์ ่ีมีคุณภาพเปน็ กำลงั สำคัญในการพัฒนา
ประเทศให้กา้ วทนั ความเปลี่ยนแปลง จากการมุ่งเรียนเน้อื หาหรือการวัดผลรูปแบบให้ความสำคัญกับความสำเร็จ
จากคะแนนเฉล่ยี ควรใหค้ วามสำคญั กับกระบวนการเรยี นร้ลู งมือปฏบิ ัติ สรา้ งสรรค์ผลงาน นวัตกรรม ตามลำดับ
ไม่ควรให้ความสำคัญกับการสอบแข่งขันเปรียบเทียบคะแนนเพราะธรรมชาติของมนุษยม์ ีความถนัด ความสนใจ
แตกตา่ งกัน
1.1.4 รัฐควรปฏริ ูป ระบบ นโยบายการจัดการศึกษา กระบวนการเรยี นรู้ การวัดผลประเมนิ ผล การมี
โรงเรียนรองรับความถนัด ความสนใจ ที่หลากหลายอย่างเพียงพอโดยไม่ต้องสอบแข่งขัน ให้นักเรียนได้เลือก
เรียนในสาขาทช่ี อบ แทนการเรียนตามความคาดหวังของพ่อแม่ มีอาชพี รองรบั ที่หลากหลาย เพยี งพอ
1.1.5 ควรประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและหน่วยงานอื่น ๆ ในการช่วย
ส่งเสริมในด้านทรัพยากร เช่น การสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน สัญญาณ
อนิ เทอรเ์ น็ต ส่อื การเรยี นรู้และการพัฒนาครูผสู้ อน รวมถึงในด้านสาธารณสุข ควรมใี หก้ ารตรวจสุขภาพครูอย่าง
สม่ำเสมอ มีการส่งต่อเพื่อการรักษาโรคเมื่อพบเชื้อ และให้ความช่วยเหลือสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการ
ป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด-19 กับผ้สู ัมผสั ใกล้ชดิ ทเี่ ปน็ กล่มุ เส่ียงด้วย
1.1.6 ควรพัฒนาโรงเรียนต่างๆ ให้มีความพร้อมเท่าเทียมกัน โดยการสนับสนุนงบประมาณตามความ
พรอ้ ม โรงเรยี นที่มีความพร้อมด้านตา่ ง ๆ นอ้ ย สนบั สนุนงบประมาณในการจัดซื้อจัดหาให้เพียงพอ โรงเรียนท่ีมี
ความพร้อม สามารถเก็บค่าเล่าเรียนจากผู้ปกครองได้ จัดสรรงบประมาณอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้โรงเรียนทกุ
โรงเรียนมศี ักยภาพเทา่ เทยี มกัน เป็นการรณรงค์สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นไดเ้ ลือกเรยี นทเ่ี รียนโรงเรียนใกล้บา้ น
1.1.7 ควรประกาศยกย่องขอบคุณความเสียสละของผู้ปกครองในการร่วมจัดการศึกษาให้กับบุตรหลาน
เพื่อร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมด้วยความหวังแม้ไม่มีความสะดวกในด้านปัจจัยในการเรียนรู้ที่บ้านสำหรับ
ครอบครัวที่ไม่มีความพร้อมมีระดับความต้องการ และข้อเสนอแนะมากที่สุดคือ การสนับสนุนอินเทอร์เน็ต
ความเร็วสูงที่เหมาะกับการจัดการเรียนรู้สู่การพัฒนาผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ การเลือกศึกษาค้นคว้า
ตามความถนัด ความสนใจ พัฒนาเป็นนิสัยจะได้ค้นพบศักยภาพของตน นำไปสู่การมีนิสัยรักการเรียน รัก
การศึกษาค้นคว้า เชิงลึก เป็นก้าวแรกของการรู้จักตนเอง พัฒนาตนเอง ขณะเรียนรู้อยู่กับครอบครัวที่บ้าน
พฒั นาคณุ ลักษณะของเด็กไทยในศตวรรษท่ี 21 หรือการส่งเสริมการเรยี นรู้อยา่ งมคี วามสขุ
1.1.8 ควรจัดสรรงบประมาณในการจัดหาเครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ แท็ปเลต คอมพิวเตอร์
โน๊ตบุ๊ค ซึ่งเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ที่บ้านในสถานการณ์วิกฤตต่างๆ ซึ่งผู้ปกครองได้ดูแลช่วยเหลือในก ารจัด
การศึกษาด้วยภาระที่หนักแทนการทำหน้าที่ของโรงเรียนมาอย่างตอ่ เนื่องยาวนานส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ ชีวติ
ความเป็นอยู่ คุณภาพการจัดการศึกษา คุณภาพของคนรุ่นนี้ที่เจริญเติบโตจากการได้ใช้เครื่องมือสื่อสารในการ
เรียนรู้อย่างเกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุดซ่ึงแตกต่างกับก่อนสถานการณ์ COVID-19 ที่ใช้เครื่องมือสื่อสาร โทรทัศน์
อินเทอร์เน็ต เพื่อความบันเทิงและอื่น ๆ มากกว่าใช้เพื่อการศึกษาเรียนรู้ จึงควรส่งเสริมพัฒนาอย่างต่อเนื่องแม้
198
ในสถานการณ์ปกติ ในด้านการใช้เครื่องมือในการศึกษาค้นคว้าเรียนรู้ที่เกิดประโยชน์สูงสุดในทางการพัฒนา
อยา่ งคุ้มคา่ ตามท่ีผูผ้ ลิตเคร่อื งมอื สื่อสารได้ออกแบบหน้าทตี่ ่าง ๆ มากมายให้เลือกใช้ ทง้ั นีต้ ้องรณรงคส์ รา้ งความรู้
ความเขา้ ใจในการใชอ้ ยา่ งพอประมาณทไ่ี มส่ ่งผลเสียต่อสขุ ภาพ เช่น ส่งผลตอ่ การมองเหน็ ในระยะยาวของอวัยวะ
ตา สุขภาพจิต เช่น เพิม่ ความเครยี ด
1.1.9 รัฐควรส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าวิจัยการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ทันต่อวิวัฒนาการของ
เชอ้ื โรค ครอบคลมุ ทกุ วยั ตัง้ แตแ่ รกเกิด โดยเฉพะนักเรียนในวยั เรยี น เพือ่ สร้างความเช่ือม่ัน การสรา้ งโอกาสการ
กลบั มามวี ถิ ชี วี ิตปกติท่ีอยู่ร่วมกับโรคติดเชอื้ ได้ ใหน้ ักเรียนไดร้ บั การฉีดวัคซีนอย่างท่วั ถึงทกุ คนฟรี
1.1.10 รัฐควรเรง่ รดั การสนับสนนุ งบประมาณหรือ วสั ดุอุปกรณ์ สำหรับปอ้ งกันการติดเชอ้ื ให้แก่ เชน่
หน้ากากอนามยั หรือหน้ากากผา้ สบลู่ ้างมือ เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเช้ือ เคร่ืองตรวจวดั อณุ หภูมิ
1.1.11 กระทรวงศึกษาธิการควรสรา้ งความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติการเรยี นรู้ของวัยนักเรียนในแต่ละ
วัย การปรับหลักสูตรไม่มุ่งเน้นเนื้อหาจำนวนหลายวิชา ไม่ใช้เวลาเรียนมากเกินไปเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึก
ทกั ษะกระบวนการคิด ทกั ษะทีจ่ ำเป็นในการเรยี นรู้ การดำรงชีวติ ในศตวรรษท่ี 21 ที่มีการเปลีย่ นแปลงอย่างคาด
ไม่ถึง หลายอย่าง แทนการเรียนเพื่อท่องจำ เข้าใจเนื้อหาในการสอบแข่งขัน เปรียบเทียบระหว่างบุคคล หรือ
สอบเข้าศึกษาตอ่ โรงเรียนทม่ี ชี ่ือเสียง
1.1.12 การสือ่ สารนโยบาย กระทรวงศึกษาธกิ ารหรือหนว่ ยงานต้นสังกดั ควรมีการสื่อสารนโยบาย และ
แนวทางการปฏิบัติในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจน มีมาตรการรองรับ ประกาศนโยบาย การจัดการ
เรียนรู้ให้ทันต่อสถานการณ์ ด้วยวิธีการสื่อสารตามช่องทางต่าง ๆ ที่หลากหลาย เพื่อสร้างความเข้าใจ ในการ
ปฏิบตั ไิ ปในทศิ ทางเดียวกัน
1.1.13 การนำนโยบายไปปฏบิ ัติ กระทรวงศึกษาธกิ ารควรมีการนเิ ทศกำกับติดตาม หรือการลงพ้ืนท่ีจริง
ในสภาพจริง แทนการออกแบบต้อนรับซึ่งทำให้ไม่เห็นสภาพความเป็นจริง หรือการมีนโยบายผ่านผู้บริหาร
ระดับสูงให้รายงานข้อมูลควรจะเป็นมายังสถานศึกษาแทนการมีนโยบายใหส้ ถานศึกษารายงานข้อมูลที่เป็นจรงิ
ในระดบั ปฏิบตั ิ
1.1.14 ควรมีการคำนวณค่าใช้จ่ายรายหัวของนักเรียน และค่าใช้จ่าย เพิ่มเติมของผู้ปกครองและ
นักเรียน ซึ่งจำเป็นต้องมีการเรียนรู้โดยการใช้ On Hand On Air On Demand และ On Line ชุดตรวจ ATK
เป็นต้น เพื่อจะสามารถจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอและสอดคล้องกับความต้องการแท้จริง ควรจัดสรร
งบประมาณตามสภาพความเป็นอยู่ เช่น ครอบครัวด้อยโอกาส มากกว่านักเรียนที่มาจากครอบครัวที่มีความ
พรอ้ ม หรือสำรวจครอบครวั อาสาท่ีไม่รับเงินอุดหนุนรายหัวสำหรับครอบครวั ท่ีมฐี านะทางเศรษฐกิจสูง ฝึกความ
เสียสละใหก้ ับนกั เรยี นเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีของความเสียสละของคนในสังคม
1.1.15 รัฐควรสนับสนุนงบประมาณในการเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนรูปแบบ On Site ส่วน
ของวัสดุที่เป็นเครื่องป้องกนั การติดเชื้อ ได้แก่ เครื่องวัดอณุ หภูมิที่มีประสิทธิภาพ เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ
199
สบู่ล้างมือ และชุดตรวจ ATK ที่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนและความถี่ในความจำเป็นต้องตรวจ ซึ่งสถานศึกษา
ต้องใช้เงินรายหัวของนักเรียนมาจัดซื้อ รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนวัสดุเหล่านี้ หรือขอรับการ
สนบั สนนุ จากหน่วยงานอืน่ ๆ เกีย่ วขอ้ งมีสว่ นรว่ ม
1.1.16 หน่วยงานต้นสังกัดควรลดการ รายงานเอกสารต่าง ๆ ควรสนับสนุนหาแนวทางในการ
จดั การเรยี นใหด้ ที สี่ ุด ให้เวลาครูไดด้ ำเนนิ การในการจัดการเรียนการสอนให้ดี
1.1.17 การสร้างความพร้อมและการสนับสนุนของหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ควรจัดสรรงบประมาณและสนับสนุนทรัพยากรการจัดการเรียนรู้ ให้เพียงพอเหมาะสมกับบริบท ความต้องการ
จำเป็นของสถานศึกษาให้ครอบคลุมถึงกลุ่มที่มีความต้องการเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มเด็กพิเศษ หรือกลุ่มเด็กด้อย
โอกาส เพื่อลดความเหล่อื มล้ำในการเข้าถงึ การศกึ ษา
1.1.18 การสร้างความร่วมมือของผู้ปกครอง ควรชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองในการจัดการ
เรียนรใู้ นสถานการณ์ COVID-19 และจัดทำคู่มอื การเรยี นและการปฏิบตั ิตนสำหรบั นักเรยี น และผปู้ กครอง เพ่ือ
เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ซึ่งผู้ปกครองมีส่วนร่วมและมีบทบาทอย่างมากในการที่จะช่วยส่งเสริมในการจัดการ
เรียนรู้ ชว่ ยให้การเรยี นที่บ้านมปี ระสทิ ธิภาพมากยิ่งข้ึน หน่วยงานภาครฐั ควรสนบั สนุนส่ิงอำนวยความสะดวกใน
การจัดการเรียนรู้ที่บ้าน หรือทุนปัจจัยพื้นฐานการครองชีพให้กับผู้ปกครองเพื่อช่วยเหลืออีกทางหนึ่งเพราะ
ผปู้ กครองต้องเหนอ่ื ยเพมิ่ ขน้ึ มคี า่ ใช้จ่ายเพิม่ ขึน้ ในการหาสือ่ อำนวยความสะดวกในการเรียนรูข้ องบุตรหลาน
1.1.19 ผู้บริหารและครูกลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการขอกำลังใจให้กับครูอยากขอให้สำนักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐานกระทรวงศกึ ษาธกิ ารปกป้องอาชีพครู
1.2 ข้อเสนอแนะเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร
1.2.1 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาปรับตัว พัฒนา ยอมรับและเรียนรู้ การเปลี่ยนแปลงที่
เกดิ ขึน้ โดยไม่ลมื วถิ ชี วี ติ รากเหง้า วัฒนธรรมไทย ควรจัดการศึกษาให้นกั เรียนคดิ ดี คดิ เป็น ประพฤติตนเสียสละ
เพื่อประโยชน์ของสังคมสว่ นรวม เห็นคุณค่าของความเป็นไทยท่ีบรรพบุรุษไดส้ ร้าง มีจุดแข็งดา้ นต่างๆ มีสถาบนั
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นที่ยดึ เหนี่ยวจิตใจ มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภาคภูมิใจในความเปน็
ไทย คิดดี คิดเปน็ แก้ปัญหาด้วยสตปิ ญั ญา ดำรงชวี ิตตามหลกั ศาสนา ดว้ ยความพอเพียง มคี วามสขุ
1.2.2 ควรส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ของครูที่
หลากหลาย ท้าทาย น่าสนใจ โดยสร้างความเข้าใจ ความตระหนักให้กับครูและผู้ปกครองร่วมมือกันในการ
ส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน สร้างเจตคติทางบวกต่อการเรียน มีวินัยในการเรียนรู้ ฝึกความ
รบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ี พง่ึ พาตนเอง ให้นกั เรยี นรจู้ กั แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
1.2.3 การพัฒนาหลักสูตร ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ ควรพัฒนาหลักสูตรยืดหยุ่นในการกำหนด
ชั่วโมงเรียน ปรับหลักสูตรเพื่อรองรับสถานการณ์ COVID-19 โดยเฉพาะ พัฒนาคู่มือหลักสูตร เพื่อจะช่วยสร้าง
ความมั่นใจให้แก่ครูออกแบบการเรียนรู้ และกระทรวงศึกษาธิการควรเปิดให้เอกชน ภาคประชาสังคม ที่มีความ
เชี่ยวชาญด้านระบบการเรียนรู้และสื่อการเรียนรู้ เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนา แลกเปลี่ยนเครื่องมือและเทคนิค
200
ใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายและเหมาะสมกับนักเรียนแต่ละช่วงวัย ตอบสนองความแตกต่าง
ระหว่างบุคคลมากขน้ึ
1.2.4 การพฒั นารูปแบบการจัดการเรียนร้แู ละการวดั ประเมินผลทสี่ ง่ เสริมการเรยี นรู้ชวี ติ วิถีใหม่ ควรมี
การจัดอบรมส่งเสริมสมรรถนะให้ครู สามารถจัดรูปแบบการจัดการเรียนรู้การสร้างสื่อการสอนที่ตอบสนองกับ
สภาพการจัดการเรยี นการสอนในปัจจุบัน และการวดั และประเมนิ ผลท่ีมีความสอดคล้องกบั สถานการณ์ยืดหยุ่น
ตามสภาพบริบทของนักเรยี นและของโรงเรียน
1.2.5 การส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครูและผู้ปกครองต้องร่วมมือกันในการส่งเสริม
พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน สร้างเจตคติทางบวกต่อการเรียน มีวินัยในการเรียนรู้ ฝึกความรับผิดชอบต่อ
หน้าที่ พึ่งพาตนเอง ให้นักเรียนรู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสค่อย ๆ ส่งเสริมพัฒนา
คณุ ลักษณะของเด็กไทยในศตวรรษที่ 21
1.3 ขอ้ เสนอแนะเชิงวชิ าการ
1.3.1 การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยโดยอาศัยวิธีการเชิงผสมผสานระหว่างวิธีการเชงิ
คุณภาพและวิธีการเชิงปริมาณในการทราบสภาพปัจจุบัน ปัญหา การจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ในสถานการณ์
COVID - 19 กล่มุ โรงเรยี นเมืองสมุทรปราการ สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา สมทุ รปราการ เขต 1
ซงึ่ ในการพฒั นาการบรหิ ารจัดการศกึ ษา การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล การจดั การศกึ ษา ควร
ใช้การวิจัยและพัฒนาในการส่งเสริมพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถทราบสาเหตุ นำไปสู่การนำ
ผลการวจิ ยั มาวางแผน ดำเนินการพฒั นา หรอื แกไ้ ขปญั หาต่างๆได้อยา่ งเหมาะสม ทนั เวลา บรรลุเป้าหมายอย่าง
มปี ระสทิ ธิภาพประสิทธิผล
1.3.2 ควรมีการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และจัดอบรมพัฒนาทักษะ
วิธีการสอน การออกแบบส่ือเทคโนโลยีท่ีกระต้นุ ความสนใจของผู้เรยี นโดยการใช้แอปพลเิ คชัน แพลตฟอร์มต่างๆ
รวมถงึ เทคนคิ การเสริมแรงเชิงบวกให้กับนกั เรยี น
1.3.3 โรงเรียนควรอำนวยความสะดวกด้านอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต กล้อง
อุปกรณ์จำเป็นในการจัดการเรียนการสอนออนไลนอ์ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อัดวีดิโอให้นักเรยี นไดท้ บทวนการเรยี น
หลายครงั้ ให้เขา้ ใจบทเรยี นชดั เจน ลงมือปฏิบัติ มีผลงานจากการเรยี น
2. ข้อเสนอแนะเพือ่ การวจิ ยั ครง้ั ต่อไป
2.1 ควรวิจัยและพัฒนารูปแบบการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะแห่ง
ศตวรรษท่ี 21 ส่งเสริมพัฒนาพหุปญั ญานักเรยี นตามความถนัดความสนใจอยา่ งเต็มศักยภาพ
2.2 ควรศึกษาวิจัยระบบการจัดการศึกษาเปรียบเทียบประเทศพัฒนาแล้วทวีปเอเชีย ยุโรป
อเมริกา เพื่อทราบแนวทางการพัฒนาศักยภาพของการจัดการศึกษาของประเทศไทยให้ก้าวทันรองรับการ
เปลยี่ นแปลงของสถานการณ์โลก
2.3 ควรวิจัยและพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในการพัฒนานวัตกรรมการ
จัดการเรยี นรูใ้ ห้กับนักเรียนในยุคไทยแลนด์ 4.0 รองรบั การเปล่ียนแปลงของสถานการณ์โลก
201
บรรณานกุ รม
กมลทรัพย์ ศรีป้อศักด.์ิ (2564, 15 ตุลาคม). สมั ภาษณโ์ ดย กนกฉตั ร โกมลมณี
และณจุ รี ผงประเสริฐสกุล. Online Google Meet
กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). สพฐ.แจงเลอื กวธิ ีเรียนได้หลายแบบหากไม่พรอ้ มเรยี นออนไลน์. สบื ค้น
จาก https://www.obec.go.th/archives/377135
เก็จกนก เออ้ื วงศ์ และคณะ. (2563). รูปแบบการจัดการเรียนรสู้ ำหรับนักเรียนระดบั การศึกษาขั้น
พน้ื ฐานทไี่ ด้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 กรุงเทพมหานคร: สำนักมาตรฐาน
การศกึ ษาและพัฒนาการเรียนร.ู้
เกจ็ กนก เอื้อวงศ์ และคณะ. (2564). รายงานการศึกษา รปู แบบการจดั การเรียนรู้ สำหรับ
นกั เรยี นระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทีไ่ ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19. กรุงเทพมหานคร:
สำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรยี นรู.้
จกั รกฤษณ์ โพดาพล. (2563). การจดั การเรียนรู้ออนไลน์: วีถที เี่ ปน็ ไปทางการศึกษา Online
Learning Management: New Normal of Education. สืบค้นจาก
shorturl.asia/3Ags0.
เจรญิ ภวู จิ ิตร์. (2564). การจัดการเรียนรู้ทางออนไลน์อย่างมปี ระสิทธภิ าพในยุคดจิ ทิ ลั Efficiency in
Online Learning Management of Digital Age. สืบค้นจาก
http://www.nidtep.go.th/2017/publish/doc/20210827.pdf.
ชญาพร หาญศรี. (2564, 15 ตลุ าคม). สัมภาษณ์โดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรัลรัตน์ มานะมุติ.
Online Google Meet.
ชนติ า ชัยศภุ วัฒน.์ (2564, 15 ตลุ าคม). สัมภาษณโ์ ดย กนกฉัตร โกมลมณี
และณุจรี ผงประเสริฐสกุล. Online Google Meet
ญาณิศา ปลอดโปร่ง. (2564, 15 ตุลาคม). สมั ภาษณ์โดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรลั รัตน์ มานะมุต.ิ
Online Google Meet.
ณัฐพล นุชอดุ ม. (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณโ์ ดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรลั รตั น์ มานะมุติ.
Online Google Meet.
ณัธมล จำปาปนั . (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณ์โดย กนกฉัตร โกมลมณี
และณจุ รี ผงประเสริฐสกลุ . Online Google Meet
202
บรรณานกุ รม (ตอ่ )
ดศิ พร เรืองบำรุง. (2564, 15 ตลุ าคม). สัมภาษณโ์ ดย กนกฉัตร โกมลมณี
และณจุ รี ผงประเสริฐสกลุ . Online Google Meet
ทินวัตร อาทติ ย.์ (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณโ์ ดย กนกฉัตร โกมลมณี
และณุจรี ผงประเสรฐิ สกุล. Online Google Meet
เทยี นทอง บญุ เทียม. (2564, 15 ตุลาคม). สัมภาษณโ์ ดย กนกฉัตร โกมลมณี
และณุจรี ผงประเสริฐสกุล. Online Google Meet
ธวชั เก้าอุดม. (2564, 15 ตุลาคม). สัมภาษณ์โดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรลั รัตน์ มานะมตุ .ิ
Online Google Meet.
ธณั ย์สิตา จอมจิรโรจน์. (2564, 15 ตุลาคม). สมั ภาษณ์โดย กนกฉัตร โกมลมณี
และณุจรี ผงประเสรฐิ สกลุ . Online Google Meet
นภาพร สรุ เนตร. (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณโ์ ดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรลั รัตน์ มานะมุติ.
Online Google Meet.
นภาพรรณ ช่อช้ัน. (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณ์โดย กนกฉตั ร โกมลมณี
และณุจรี ผงประเสรฐิ สกุล. Online Google Meet
นรติ ษา ด้วงมหาสอน. (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณ์โดย วรรณชนก รอดหยู่
และสรัลรตั น์ มานะมตุ ิ. Online Google Meet.
บัลลังก์ โรหิตเสถียร. (2564). ศธ.เล่ือนวันเปดิ ภาคเรียนออกไปอกี เปน็ 14 ม.ิ ย.บทความออนไลน์.
สบื คน้ จาก https://moe360.blog/2021/05/18/semester-opening.
ปาริชาติ ประจงศิลป.์ (2564, 15 ตุลาคม). สัมภาษณ์โดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรลั รัตน์ มานะมุติ.
Online Google Meet.
พชร สวา่ งวงษ์. (2564, 15 ตุลาคม). สัมภาษณโ์ ดย กนกฉัตร โกมลมณี
และณจุ รี ผงประเสริฐสกลุ . Online Google Meet.
พรรษกร กันทะลือ. (2564, 15 ตลุ าคม). สัมภาษณ์โดย กนกฉตั ร โกมลมณี
และณจุ รี ผงประเสรฐิ สกุล. Online Google Meet.
203
บรรณานุกรม (ต่อ)
พัทธนันท์ มีถาวร. (2564, 15 ตุลาคม). สมั ภาษณโ์ ดย กนกฉัตร โกมลมณี
และณุจรี ผงประเสริฐสกลุ . Online Google Meet.
ภาวินี ครฑุ ปักษี และ เมทนิ ี พาทยโกศล . (2564, 15 ตุลาคม). สมั ภาษณ์โดย วรรณชนก รอดหยู่
และสรลั รัตน์ มานะมตุ .ิ Online Google Meet.
เมทนิ ี พาทยโกศล . (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณ์โดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรัลรตั น์ มานะมตุ .ิ
Online Google Meet.
ยืน ภวู่ รวรรณ. (2564). การเรยี นรู้บนฐานสมรรถนะวถิ ีใหม่. สืบคน้ จาก https://learningdq-
dc.ku.ac.th/course/?c=3&l=5
โรงเรยี นคลองมหาวงก.์ (2564). แผนปฏิบัตกิ ารโรงเรียนคลองมหาวงก์ ประจำปีการศกึ ษา 2564 (หนา้ 11,14).
สมทุ รปราการ: โรงเรยี นคลองมหาวงก.์
โรงเรยี นนิลรัตนอ์ นสุ รณ์. (2564). แผนปฏบิ ตั ิการโรงเรยี นนลิ รัตน์อนสุ รณ์ ประจำปีการศกึ ษา 2564
(หน้า 1,3-4). สมุทรปราการ: โรงเรยี นนิลรตั นอ์ นสุ รณ์.
โรงเรยี นพรา้ นีลวชั ระ. (2564). แผนปฏิบตั ิการโรงเรยี นพร้านีลวัชระ ประจำปกี ารศึกษา 2564
(หนา้ 7-11 ,18-19). สมุทรปราการ: โรงเรียนพร้านลี วัชระ.
โรงเรยี นวดั ไตรสามัคค.ี (2564). แผนปฏิบตั ิการโรงเรยี นวัดไตรสามัคคี ประจำปีการศึกษา 2564
(หนา้ 2-7 , 42-46). สมุทรปราการ: โรงเรยี นวดั ไตรสามคั ค.ี
โรงเรียนวัดบางดว้ น. (2564). แผนปฏิบัตกิ ารโรงเรียนวดั บางดว้ น ประจำปกี ารศกึ ษา 2564 (หน้า 1-5).
สมทุ รปราการ: โรงเรียนวัดบางด้วน.
โรงเรียนวดั บางนางเกรง. (2564). แผนปฏิบัตกิ ารโรงเรยี นวดั บางนางเกรง ประจำปีการศึกษา 2564.
สมุทรปราการ: โรงเรยี นวัดบางนางเกรง.
โรงเรียนวัดบางโปรง. (2564). แผนปฏิบตั ิการโรงเรยี นวดั บางโปรง ประจำปกี ารศกึ ษา 2564 (หน้า 1-5).
สมุทรปราการ: โรงเรียนวัดบางโปรง.
โรงเรยี นวัดสขุ กร. (2564). แผนปฏิบตั ิการโรงเรยี นโรงเรียนวดั สขุ กร ประจำปีการศึกษา 2564 (หนา้ 1–6).
สมทุ รปราการ: โรงเรยี นวดั สุขกร.
204
บรรณานกุ รม (ต่อ)
โรงเรยี นอนบุ าลวัดพชิ ัยสงคราม. (2564). แผนปฏบิ ตั ิการโรงเรยี นอนบุ าลวดั พิชยั สงคราม ประจำปี
การศกึ ษา 2564 (หนา้ 1-5). สมทุ รปราการ: โรงเรยี นอนบุ าลวดั พชิ ยั สงคราม.
วรรณชนก รอดหยู่. (2561). รูปแบบการพัฒนาสู่โรงเรียนสอนคิด (Development of A Thinking School
Model) วทิ ยานพิ นธป์ ริญญาการศกึ ษาดษุ ฎีบณั ฑิต. (สาขาการบรหิ ารการศกึ ษา).
กรงุ เทพฯ: บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ.
วชั รยี ์ จันทรา. (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณโ์ ดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรลั รัตน์ มานะมตุ ิ.
Online Google Meet.
วทิ ยา วาโย, อภิรดี เจริญนุกลู , ฉัตรสดุ า กานกายนั ต์และจรรยา. (2563). การเรียนการสอนแบบ
ออนไลน์ภายใตส้ ถานการณแ์ พรร่ ะบาดของ ไวรัส COVID-19 : แนวคิดและการประยุกต์ใช้
จัดการเรียนการสอน. วารสารศูนยอ์ นามยั ท่ี 9 ส่งเสรมิ สุขภาพและอนามยั สง่ิ แวดล้อม,
14 (34), บทคัดย่อ.
วทิ ศั น์ ฝกั เจรญิ ผล และคณะ.(2563) .ความพร้อมในการจัดการเรยี นการสอนออนไลน์ภายใต้
สถานการณ์ระบาดไวรสั Covid-19.กรุงเทพมหานคร.คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์
ศจมี าศ อินทโสภา. (2564, 15 ตุลาคม). สมั ภาษณโ์ ดย กนกฉตั ร โกมลมณี
และณุจรี ผงประเสรฐิ สกุล. Online Google Meet
ศจีมาศ อินทโสภา. (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณโ์ ดย วรรณชนก รอดหยู่ และสรลั รัตน์ มานะมตุ ิ.
Online Google Meet
สรัลรัตน์ มานะมุติ. (2564, 15 ตุลาคม). สมั ภาษณ์โดย วรรณชนก รอดหย่.ู Online Google Meet
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน. (2564). สพฐ. ชแี้ จงแนวทางการจัดการเรียนการสอน
และการจา่ ยเงินเยียวยานักเรียน,บทความออนไลน์. สบื คน้ จาก
https://www.obec.go.th/archives/482880.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). รายงานเรยี นออนไลนย์ คุ โควิด-19: วกิ ฤตหิ รือโอกาส
การศกึ ษาไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักมาตรฐานการศึกษาและพฒั นาการเรยี นรู.้
สิริพร อินทสนธ.ิ (2563). โควดิ - 19 : กบั การเรยี นการสอนออนไลน์ กรณีศกึ ษา รายวิชาการเขยี น
โปรแกรมเว็บ (COVID - 19 and Online Teaching case study: Web Programming
Course), วารสารวทิ ยาการจดั การปรทิ ศั น์, 22 (2), 203.
205
บรรณานกุ รม (ตอ่ )
สิรยิ า สุดสเี ลีย้ ง. (2564, 15 ตุลาคม). สัมภาษณโ์ ดย กนกฉตั ร โกมลมณี
และณจุ รี ผงประเสรฐิ สกุล. Online Google Meet
สุนัน โมลาส.ี (2564, 15 ตลุ าคม). สมั ภาษณ์โดย กนกฉตั ร โกมลมณี
และณจุ รี ผงประเสรฐิ สกุล. Online Google Meet
อำไพ ลคั นาอนุสรณ.์ (2564, 15 ตุลาคม). สัมภาษณ์โดย กนกฉตั ร โกมลมณี
และณจุ รี ผงประเสริฐสกุล. Online Google Meet
Lorico DS. Lapitan, Jr., Cristina E. Tiangco, Divine Angela G. Sumalinog, Noel S.
Sabarillo, & Joey Mark Diaz. (2021). An effective blended online teaching and
learning strategy during the COVID-19 pandemic. Education for Chemica
Engineers. Retrieved from https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/
PMC7847201.
Lubna Salamat, Gulzar Ahmad , Mohammad Iftikhar Bakht, & Imran Latif Saifi. (2018).
EFFECTS OF E–LEARNING ON STUDENTS’ ACADEMIC LEARNING AT UNIVERSITY
LEVEL. Asian Innovative Journal of Social Sciences & Humanities (AIJSSH).
Retrieved from https://www.researchgate.net/publication/326293305.
206
ภาคผนวก
207
ภาคผนวก 1
เคร่ืองมือการวจิ ยั
ภาคผนวก 2
การประชุมการสนทนากล่มุ (FOCUS GROUP DISCUSSION)
การวิจัย การพฒั นาขอ้ เสนอเชิงนโยบายในการจดั การเรียนรู้ชวี ิตวถิ ีใหม่
ในสถานการณ์ COVID-19 ผบู้ ริหารและครู กลมุ่ โรงเรียนเมืองสมุทรปราการ
ผ่านสือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (ออนไลน์) โปรแกรม Google Meet
ภาคผนวก 3
รายชอื่ นักวิจัย และผ้ใู หข้ อ้ มลู การสนทนากลมุ่
ภาคผนวก 4
คำสัง่ คณะกรรมการ การวิจัย การพัฒนาขอ้ เสนอเชิงนโยบายในการจดั การ
เรียนรชู้ ีวติ วิถีใหม่ในสถานการณ์ COVID-19
208
ภาคผนวก 1
เครอื่ งมอื การวิจัย
1. แบบสำรวจสภาพการจัดการเรียนรายวันภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด COVID-19 รปู แบบ
Google form
2. แบบสำรวจการจัดการเรียนรรู้ ายสัปดาห์ รูปแบบ Infographic
3. แบบสอบถาม (Questionnaires) สำหรับผปู้ กครองและนกั เรยี น
4. ประเด็นคำถามการสนทนากลุม่ (FOCUS GROUP) การวจิ ัย เรอ่ื ง การพฒั นาขอ้ เสนอเชิง
นโยบายในการจดั การเรียนรูช้ วี ติ วถิ ีใหม่ สำหรบั ผบู้ ริหารและครู กลุม่ โรงเรียนเมอื งสมุทรปราการ
สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสมทุ รปราการ เขต 1
209
แบบสำรวจสภาพการจดั การเรยี นรายวันภายใต้สถานการณก์ ารแพร่ระบาด
COVID-19 รูปแบบ Google form
210
211
แบบสอบถามการวจิ ัย
เรื่อง การพัฒนาข้อเสนอเชงิ นโยบายในการจดั การเรยี นรชู้ ีวติ วิถีใหม่
ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
กลมุ่ โรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสมุทรปราการ เขต 1
สำหรับผู้บริหาร ครู ผู้ปกครองและนกั เรยี น
..............................
คำชแ้ี จง
แบบสอบถามเพื่อการวิจัย เรื่อง การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ กลุ่ม
โรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 นี้ จัดทำขึ้นเพื่อ
ศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) เพ่ือศึกษาความต้องการและข้อเสนอแนะในการสนบั สนุนการจัดการเรยี นรชู้ ีวติ วิถีใหม่ และ
เพื่อเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ ของกลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 มี 3 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว ตอนที่ 2
สภาพปัญหาและความตอ้ งการและข้อเสนอแนะในการจดั การเรียนรูว้ ิถีใหม่ ตอนที่ 3 ขอ้ เสนอเชิงนโยบายในการ
จัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ ของกลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สมุทรปราการ เขต 1 ซึ่งผู้วิจัยจะไดน้ ำผลการศึกษาไปจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่
และวางแผนพัฒนาการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ให้กับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ผู้บริหาร ของโรงเรียนต่างๆ ใน
กลมุ่ โรงเรยี นเมืองสมทุ รปราการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ตอนที่ 1 ขอ้ มูลสว่ นตัว
คำชี้แจง โปรดเลอื กคำตอบทีต่ รงกับขอ้ มูลส่วนตวั ของทา่ น
1. เพศ
ชาย
หญงิ
2. อายุ
20-25 ปี 40-45 ปี
25-30 ปี 45-50 ปี
30-35 ปี 51-55 ปี
35-40 ปี 56-60 ปี
212
3. สถานภาพ
ผอู้ ำนวยการ
รองผอู้ ำนวยการ
ครู
ผปู้ กครองนักเรยี น
4. สงั กดั กลมุ่ โรงเรยี นเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสมุทรปราการ
เขต 1
โรงเรียนครูโรงเรยี นอนุบาลวดั พิชัยสงคราม
โรงเรยี นพรา้ นีลวัชระ
โรงเรยี นวัดบางนางเกรง
โรงเรยี นวัดบางดว้ น
โรงเรียนวัดไตรสามคั คี
โรงเรยี นวัดบางโปรง
โรงเรยี นนิลรตั น์อนุสรณ์
โรงเรยี นคลองมหาวงก์
โรงเรียนวดั สขุ กร
ตอนท่ี 2 สภาพปญั หา ความตอ้ งการ และขอ้ เสนอแนะในการจัดการเรยี นรูว้ ถิ ใี หมใ่ นสถานการณ์
โควิด – 19 (ตอบวตั ถปุ ระสงค์การวจิ ยั ข้อ 1)
คำชแี้ จง โปรดพจิ ารณาข้อคำถามสภาพปัญหาในการจัดการเรยี นร้วู ถิ ีใหม่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่ละรายการแลว้ เลือกตอบตามความคิดเห็นหรอื
ความรู้สึกท่เี ปน็ จรงิ ของทา่ น ดังน้ี
ระดับความตอ้ งการ 5 มปี ัญหา / ความตอ้ งการระดบั มากที่สุด
ระดับความต้องการ 4 มีปัญหา / ความตอ้ งการระดับมาก
ระดบั ความต้องการ 3 มีปญั หา / ความต้องการบ้าง
ระดบั ความต้องการ 2 มีปัญหา / ความตอ้ งการน้อย
ระดับความตอ้ งการ 1 ไมม่ ปี ญั หา / ไมม่ ีความตอ้ งการ
213
1. ทา่ นมสี ภาพปญั หา เกย่ี วกับการจัดการเรยี นรชู้ วี ิตวิถีใหมใ่ นรายการตา่ งๆ อย่างไร
ท่ี รายการ ระดับสภาพปัญหา ขอ้ เสนอแนะ
54321
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรวู้ ิถีใหม่ในสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
1.1 การพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับชีวติ วิถีใหม่
1.2 การพฒั นาแผนการจัดการจดั การเรยี นรู้สง่ เสริมวถิ ใี หม่ที่
สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของผเู้ รียน
1.3 การพัฒนาวิธีการการจัดการเรยี นรู้ รูปแบบ On-Air
(เรียนผา่ นมูลนิธกิ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ หรือ DLTV) ส่งเสรมิ ชีวิตวถิ ใี หมท่ ่ี
สอดคล้องกบั บริบทของผู้เรยี น
1.4 การพฒั นาวธิ ีการการจัดการเรียนรู้ รปู แบบ On-Demand
(เรียนผา่ นแอปพลิเคช่ันตา่ ง ๆ) สง่ เสริมชวี ติ วถิ ใี หม่ ที่
สอดคล้องกับบรบิ ทของผเู้ รยี น
1.5 การพฒั นาวิธีการการจัดการเรียนรู้ รูปแบบ On-Line
(เรียนผา่ นอนิ เทอร์เนต็ ) ส่งเสริมชวี ติ วิถีใหมท่ ี่สอดคล้องกับ
บรบิ ทของผู้เรยี น
1.6 การพัฒนารปู แบบการจดั การเรียนรู้ รปู แบบ On-Hand
(เรยี นทีบ่ า้ นดว้ ยเอกสาร เชน่ หนงั สอื แบบฝกึ หดั ใบงาน
ในรปู แบบผสมผสาน) ส่งเสรมิ ชีวิตวิถีใหม่ทส่ี อดคล้องกบั
บริบทของผเู้ รียน
214
1.7 การสนับสนนุ ส่ือ เทคโนโลยี อุปกรณ์ท่จี ำเปน็ ในการจัดการ
เรียนการสอน
1.8 การพัฒนาแหลง่ เรยี นร้ทู ี่ช่วยสง่ เสรมิ การจดั การเรียนรู้ในชีวติ
วิถีใหม่
1.9 การมอบหมายงานของครูผ้สู อน ที่เหมาะสมกับบรบิ ทของ
รายวิชา และผเู้ รียน
1.10 การกำกับตดิ ตามการส่งงาน และตรวจผลงานนักเรียนของ
ครผู ูส้ อน
1.11 การกำหนดเกณฑ์การวัดผล ประเมินผล ท่เี หมาะสมกับบริบท
ของรายวิชา และผเู้ รยี น
1.12 การนเิ ทศภายในที่มีรูปแบบเหมาะสมและชว่ ยสง่ เสรมิ การ
จดั การเรียนรู้ชวี ติ วถิ ใี หม่
1.13 การพัฒนางานวิจัย และนวตั กรรมทส่ี ่งเสริมการจัดการเรยี นรู้
ในชวี ติ วิถใี หม่
1.14 การดำเนนิ งานระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรียน ในด้านการ
เรียนรู้ในชีวติ วิถใี หม่
1.15 การดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นด้านการปรับตวั การเรยี นรู้ และ
ความเป็นอยู่ในชีวติ วิถีใหม่
1.16 การประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองในการจัดการเรยี นรู้
ใหก้ ับนักเรียน
1.17 การสนบั สนนุ ของผปู้ กครองที่ชว่ ยส่งเสริมคุณภาพ
การจัดการเรยี นรู้ที่มคี ุณภาพ
215
1.18 การพัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศสง่ เสริมการ
จัดการเรยี นรชู้ ีวติ วถิ ใี หม่
1.19 การส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็งทางวชิ าการส่งเสริมการ
จัดการเรียนรชู้ วี ติ วถิ ีใหม่
1.20 การรายงานผลการสง่ เสริมพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนสง่ เสรมิ
การเรียนรู้ชวี ิตวิถีใหม่
2. ท่านมีความต้องการและข้อเสนอแนะในการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้วิถีใหม่ ในสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของ โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ในรายการต่างๆ อยา่ งไร
ท่ี รายการ
ระดับความตอ้ งการ ข้อเสนอแนะ
5432 1
2. ความต้องการและข้อเสนอแนะ
ในการสนับสนุนการจดั การเรียนรู้ชวี ิตวถิ ีใหม่ในสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของ โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
2.1 สถานศึกษาพัฒนาหลักสตู ร รปู แบบ เทคนคิ สื่อ การ ภาพรวมๆดี
จดั การเรยี นรู้ เชน่ ชดุ การเรียนการสอน ส่อื การสอน ข้อคำถามละ
ออนไลน์เพ่ือสง่ เสรมิ การใช้ Classroom online ประเด็นจะ
ว ิ เ ค ร า ะ ห์
ค ำ ต อ บ ไ ด้
ชดั เจน
2.2 สถานศกึ ษาประสานความร่วมมือระหวา่ งครู และ 216
ผปู้ กครองในการเสริมสร้างนิสัยใฝเ่ รยี นรู้ดว้ ยตนเองของ
นกั เรียน ในการจัดการเรียนรู้ชวี ติ วิถใี หม่อยา่ งตอ่ เน่ือง น่าจะตัดคำ
ว่า ควรออก
2.3 สถานศึกษาสรา้ งความตระหนัก เตรียมความพร้อม เพ่ิม เพราะมีช่อง
ช่องทางและวิธกี ารเรยี นรู้ ทช่ี ว่ ยให้นักเรียนเรียนรไู้ ด้ดีการ ขอ้ เสนอแนะ
วดั ผลทีห่ ลากหลายสอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ปัจจุบัน
2.4 สถานศกึ ษาใหก้ ารสนับสนนุ ส่ือ อปุ กรณ์ และเทคโนโลยที ่ี
จำเป็นในระหวา่ งการจดั การเรยี นร้สู ำหรบั ครแู ละนักเรยี นที่
ไมม่ ีความพร้อม
2.5 สถานศกึ ษาสรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือกบั ชมุ ชนหรอื
หนว่ ยงานในพื้นท่ี เพื่อขอรบั สนับสนนุ การจัดการเรียนรู้
และการปฏบิ ตั งิ านของทั้งด้านงบประมาณ สื่อ วสั ดุ
อปุ กรณ์ รวมทัง้ การกระจายสัญญาณอนิ เทอรเ์ น็ต
2.6 สถานศึกษามแี ผน/แนวทางการบรหิ ารสถานศกึ ษาใน
สถานการณ์อยา่ งชดั เจน มีขอ้ มูลพน้ื ฐานของผ้เู รียนเพ่ือใช้
ในการจัดการเรยี นรู้และการติดตามผูเ้ รยี น
2.7 สถานศึกษาอำนวยความสะดวกในการติดต่อ ประสานงาน
และการเข้ารับการบริการต่าง ๆ ติดตามการเรียนของ
นักเรยี นในระหว่างการจัดการเรียนรู้
2.8 สถานศึกษาสนับสนุนสวัสดิการต่าง ๆ ให้กับครูในการ
ปฏิบัติงาน
2.9 สถานศึกษาจัดทำคู่มือนักเรียนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการ
เรียนรู้ และการปฏิบัติตนให้เหมาะสมและปลอดภัย และ
217
จัดอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อมภายในสถานศึกษาให้
เหมาะสม
รัฐ/หน่วยงานต้นสังกัดให้ความสำคัญและติดตั้งเครือข่าย
2.10 อินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทั่วถึง จัดทีวีเพื่อการศึกษาเป็น
Free TV จดั ใหม้ ี Free wifi
รัฐ/หน่วยงานต้นสังกัดควรสนับสนุนงบประมาณ และส่ือ
2.11 วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์
วิกฤต
2.12 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการถอดบทเรียนจาก
สถานศึกษาทีป่ ระสบความสำเร็จในการจดั การเรยี นรู้ใน
สถานการณ์ COVID-19 เพื่อพฒั นาเปน็ รูปแบบการจัดการ
เรียนรูใ้ นการจัดการเรยี นรชู้ ีวิตวถิ ีใหม่
2.13 หนว่ ยงานตน้ สงั กัดมีนโยบายและมกี ารสอ่ื สารสรา้ งความ
เข้าใจเก่ยี วกับ
การจัดการเรยี นรูท้ ช่ี ัดเจนตรงกนั ทันต่อสถานการณ์
COVID-19
2.14 หน่วยงานตน้ สงั กดั มีการนเิ ทศ ตดิ ตามและใหค้ วาม
ช่วยเหลือการจัดการเรยี นรู้ของครใู นการจดั การเรียนรู้
ชวี ิตวิถใี หม่
2.15 ควรมีการพฒั นาครูให้สามารถใช้เทคโนโลยใี นการจดั การ
เรียนรู้ชวี ติ วิถใี หม่
2.16 ครคู วรเสรมิ สร้างเจตคติต่อการเรียนรูแ้ บบพึ่งพาตนเอง
ใหแ้ กน่ กั เรียนและ
ผู้ปกครองและเรียนร้เู พ่มิ เติมเกี่ยวกบั วธิ กี ารการจดั การ 218
เรยี นร้ชู ีวติ วิถีใหม่
หลาย
2.17 ครใู ห้การเสรมิ แรงนักเรยี นระหวา่ งการจดั การเรียนรู้ ควร ป ร ะ เ ด็ น
ติดตามใหน้ ักเรียนได้รับการเรียนรอู้ ยา่ งเหมาะสม และให้ แยกข้อได้
คำปรกึ ษาแนะนำการเรียนและการปฏิบัติตนให้เหมาะสม
2.18 นักเรยี นปฏบิ ตั ิตนตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการจัดการเรียนรู้
ชีวิตวิถีใหม่อย่างเครง่ ครดั มีความกระตอื รือรน้ และ
รบั ผิดชอบต่อการเรยี นร้ปู ฏบิ ัติตนเพื่อดูแลสขุ ภาพ
ตดิ ตามขา่ วสารและศึกษาคน้ คว้าด้วยตวั เองมากข้นึ
2.19 ผ้ปู กครองใหค้ วามรว่ มมือ เอาใจใส่ ดแู ลนกั เรียน สนบั สนุน
การจดั การเรียนรู้ชวี ติ วถิ ีใหม่อยา่ งต่อเน่ือง
2.20 ครู ประสานงานกบั ผูป้ กครอง ในการร่วมจัดการเรยี นรู้
ชีวติ วิถใี หม่ของนกั เรียน โดยมีความเขา้ ใจสถานศึกษาและ
มีความสัมพนั ธอ์ ันดีกบั สถานศกึ ษามากข้นึ
219
ตอนท่ี 3 ข้อเสนอเชงิ นโยบายในการจัดการเรียนร้ชู วี ติ วิถีใหม่ กลุ่มโรงเรียน
เมืองสมทุ รปราการ สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1
3. ทา่ นมคี วามคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม หรือขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายในการส่งเสริมพฒั นาผบู้ รหิ าร
ครู ผปู้ กครอง เพ่ือร่วมพัฒนาคุณภาพการจัดการเรยี นร้ชู วี ิตวถิ ใี หม่ ของนักเรียน อย่างไรบ้าง
3.1 ท่านมคี วามต้องการ/ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบายในการพัฒนาคณุ ภาพผ้บู ริหารท่ีสง่ เสริมการจดั การเรยี นรู้
ชีวติ วถิ ีใหม่ เพือ่ พฒั นาคุณภาพการเรยี นรนู้ ักเรียนกลมุ่ โรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศกึ ษาสมทุ รปราการ เขต 1 อย่างไรบ้าง
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............
3.2 ทา่ นมีความต้องการ/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาคุณภาพครทู ่ีสง่ เสรมิ การจัดการเรียนรู้ชีวติ วิถี
ใหม่ เพื่อพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรนู้ ักเรียนกลุ่มโรงเรยี นเมืองสมทุ รปราการ สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศกึ ษาสมุทรปราการ เขต 1 อย่างไรบ้าง
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............
3.3 ท่านมคี วามต้องการ/ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบายในการพัฒนาความร่วมมือของผูป้ กครองที่ส่งเสรมิ คณุ ภาพ
การจดั การเรยี นรชู้ ีวติ วถิ ใี หม่ กลมุ่ โรงเรียนเมอื งสมุทรปราการ สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษา
สมทุ รปราการ เขต 1 อย่างไรบ้าง
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............
3.4 ความตอ้ งการ/ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………
220
ประเดน็ คำถามการสนทนากล่มุ ผบู้ ริหารและครู
โครงการวจิ ยั
"การพัฒนาข้อเสนอเชงิ นโยบายในการจัดการเรียนร้ชู วี ิตวิถใี หม่
กลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1
ประเดน็ คำถามในการสนทนากลมุ่ ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา
1. สถานศกึ ษาของทา่ นมีสภาพปัญหาการจัดการเรยี นรชู้ ีวติ วิถใี หม่ รูปแบบตา่ งๆ ต่อไปนี้อย่างไร
1.1 สถานศึกษาของท่านใชร้ ปู แบบการจัดการเรยี นรแู้ บบใดบ้าง แตล่ ะรูปแบบมสี ภาพปญั หาอย่างไร
1) รูปแบบ On-Site
2) รูปแบบ On-Air
3) รปู แบบ On-Demand
4) รูปแบบ On-Line
5) รปู แบบ On-Hand
6) รูปแบบ Blended Learning
1.2 สถานศกึ ษาของทา่ นมีสภาพปญั หาการจดั การเรยี นรวู้ ิถใี หม่ อยา่ งไร
1) การปรบั หลักสูตร
2) การปรับวิธีการจัดการเรยี นรูว้ ถิ ใี หม่
3) การส่งเสรมิ สนบั สนุนวิธีการเรียนรู้ของนักเรียน
4) การตรวจผลงานและการรายงานผลการเรียนรู้
5) การวดั ประเมนิ ผล
6) การมอบหมายงานการเรยี นรู้
7) การสนับสนนุ สอื่ เทคโนโลยี อปุ กรณ์ทีน่ กั เรียนเขา้ ถงึ การเรียนรูไ้ ดส้ ะดวก
8) การให้คำปรกึ ษาแนะนำ
9) การดแู ลรักษาสุขภาพ
10) วนิ ยั ในตนเอง ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม
11) การปฏิบตั ติ นท่ีถูกต้องเหมาะสมในสถานการณ์ COVID-19 การเรียนรู้ชีวติ วถิ ีใหม่
12) การสนับสนุนของผปู้ กครองทชี่ ่วยเสรมิ คณุ ภาพการจัดการเรียนการสอน
และโอกาสในการเรยี นรู้ทีม่ คี ณุ ภาพ
221
2. ความต้องการในการจดั การเรยี นรู้วิถีใหม่ ด้านต่อไปนี้อย่างไร
1) การปรับหลกั สตู ร
2) การปรับวิธกี ารจัดการเรียนรู้วถิ ีใหม่
3) การสง่ เสริมสนับสนุนวิธีการเรยี นรขู้ องนักเรยี น
4) การตรวจผลงานและการรายงานผลการเรยี นรู้
5) การวัดประเมนิ ผล
6) การมอบหมายงานการเรยี นรู้
7) การสนบั สนนุ สอื่ เทคโนโลยี อุปกรณ์ทีน่ กั เรยี นเขา้ ถงึ การเรียนรู้ได้สะดวก
8) การให้คำปรึกษาแนะนำ
9) การดแู ลรักษาสขุ ภาพ
10) วินยั ในตนเอง ความรับผิดชอบต่อสงั คม
11) การปฏิบัตติ นทถ่ี ูกตอ้ งเหมาะสมในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
12) การสนบั สนุนของผู้ปกครองที่ชว่ ยเสริมคณุ ภาพการจัดการเรียนการสอน
และโอกาสในการเรยี นรู้ท่ีมคี ุณภาพ
3. ท่านมขี ้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ในการจดั การเรยี นรู้วิถชี วี ิตใหม่ด้านต่อไปนอ้ี ยา่ งไรบา้ ง
1) การส่ือสารนโยบาย
2) การนำนโยบายไปปฏิบตั ิ การนิเทศกำกับติดตาม
3) การพัฒนาหลกั สูตร ทส่ี ่งเสริมการเรียนรู้วถิ ีใหม่
4) การพฒั นารูปแบบการจัดการเรียนการรู้ และการวดั ผลประเมนิ ผลทสี่ ่งเสรมิ การเรียนรู้วิถใี หม่
5) การสร้างความพร้อมและการสนบั สนุนของหนว่ ยงานตน้ สงั กัดหนว่ ยงานอน่ื ที่เกี่ยวข้อง
6) การสรา้ งความร่วมมือของผ้ปู กครอง
7) การส่งเสริมพฤติกรรมการเรยี นรูข้ องผู้เรียน
8) การส่งเสริมความรว่ มมือของหน่วยงานภาครฐั และหนว่ ยงานอ่นื ๆ ที่เกยี่ วข้อง
222
แบบสอบถามการวจิ ัย
เรื่อง การพฒั นาข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรียนรชู้ ีวติ วิถีใหม่ในสถานการณ์ COVID-19
กลุ่มโรงเรยี นเมืองสมทุ รปราการ สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1
สำหรับนกั เรียนและผปู้ กครอง
..............................
คำชีแ้ จง
แบบสอบถามเพื่อการวิจัย เรื่อง การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ใน
สถานการณ์ COVID-19 กลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สมุทรปราการ เขต 1 นี้ จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ภายใต้สถานการณ์
COVID-19 เพื่อศึกษาความต้องการและข้อเสนอแนะในการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ และเพื่อ
เสนอข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่ ของกลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 มี 3 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว ตอนที่ 2
สภาพปัญหาและความต้องการและข้อเสนอแนะในการจัดการเรียนรู้วิถีใหม่ ซึ่งผู้วิจัยจะได้นำผลการศึกษาไป
จดั ทำขอ้ เสนอเชิงนโยบายในการจัดการเรยี นรูช้ ีวติ วิถีใหม่ และวางแผนพัฒนาการจดั การเรียนรู้ชวี ิตวิถีใหม่ให้กับ
นักเรียน ของโรงเรียนต่างๆ ใน กลุ่มโรงเรียนเมืองสมุทรปราการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ตอนที่ 1 ข้อมลู สว่ นตัว
คำชี้แจง โปรดเลือกคำตอบท่ีตรงกับข้อมูลสว่ นตัวของนักเรยี น (ผู้ปกครองร่วมตอบคำถามกับนักเรยี น)
1. เพศ
ชาย นอ้ ยกว่า 7 ปี
หญงิ
2. อายุ
7 ปี
8 ปี
9 ปี
10 ปี
11 ปี
12 ปี
มากกว่า 12 ปี
223
3. ระดบั ชนั้
อนุบาล 1
อนบุ าล 2
อนบุ าล 3
ป.1
ป.2
ป.3
ป.4
ป.5
ป.6
ม.1
ม.2
ม.3
4. สังกัด กลุม่ โรงเรยี นเมอื งสมุทรปราการ สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรปราการ
เขต 1
โรงเรียนครโู รงเรยี นอนุบาลวดั พชิ ัยสงคราม
โรงเรยี นพร้านีลวชั ระ
โรงเรียนวัดบางนางเกรง
โรงเรียนวดั บางด้วน
โรงเรียนวัดไตรสามคั คี
โรงเรียนวดั บางโปรง
โรงเรยี นนิลรตั น์อนุสรณ์
โรงเรียนคลองมหาวงก์
โรงเรียนวดั สุขกร
ตอนท่ี 2 สภาพปญั หา ความตอ้ งการ และข้อเสนอแนะในการจดั การเรียนรู้ชีวติ วิถีใหมใ่ นสถานการณ์
COVID – 19
คำช้แี จง โปรดพิจารณาข้อคำถามสภาพปญั หาในการจดั การเรียนรู้ชวี ิตวิถีใหม่
แต่ละรายการแล้วเลือกตอบตามความคดิ เห็นหรอื ความรสู้ ึกทเ่ี ปน็ จรงิ ของท่าน ดังนี้
224
ระดบั 5 มปี ญั หา / ความตอ้ งการระดับมากที่สดุ
ระดบั 4 มีปญั หา / ความตอ้ งการระดับมาก
ระดับ 3 มปี ญั หา / ความต้องการบา้ ง
ระดับ 2 มีปญั หา / ความต้องการน้อย
ระดบั 1 ไม่มปี ญั หา / ไมม่ ีความตอ้ งการ
1. ท่านมสี ภาพปญั หาการจัดการเรยี นรู้ชีวิตวถิ ใี หม่ในสถานการณ์ COVID – 19 ในรายการต่างๆ อย่างไร
ท่ี รายการ ระดับสภาพปัญหา
5 4 3 2 1 ข้อเสนอแนะ
1. สภาพปัญหาการจดั การเรียนรชู้ ีวติ วถิ ใี หม่ ในสถานการณ์
COVID – 19
1.1 การจดั เนือ้ หาวชิ าเรยี นมีความเหมาะสมกับการจัดการ
เรยี นรู้ชวี ิตวถิ ีใหม่
1.2 การกำหนดจำนวนช่วั โมงเรียนมคี วามเหมาะสมกบั การ
จัดการเรียนการจดั การเรยี นรู้ชีวติ วถิ ใี หม่
1.3 ครูผู้สอนสามารถจดั การเรยี นรชู้ วี ิตวถิ ใี หม่ใหน้ กั เรยี น
เขา้ ใจในเนื้อหาวชิ าได้
1.4 กระบวนการการจดั การเรียนรู้ชวี ติ วถิ ใี หม่ของครูผูส้ อน
ชว่ ยให้นักเรยี นเกิดความสนใจในเนอ้ื หาวชิ า
1.5 นกั เรียนสามารถทำแบบฝึกหัด หรือทำกิจกรรมที่ครู
มอบหมายได้ดว้ ยตนเอง
1.6 การมอบหมายงานหรือแบบฝึกหัด ของครูผูส้ อนมีเนือ้ หา
และปรมิ าณที่เหมาะสม
225
1.7 ครูผสู้ อนมีการใช้สอื่ เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ ทท่ี ำ
ใหผ้ ้เู รยี นเข้าถึงการเรยี นรอู้ ย่างสะดวกและรวดเรว็
1.8 ครผู สู้ อนชี้แจงเกณฑ์การวดั ประเมนิ ผล และมีการกำกบั
ติดตามการเรียนรู้อยเู่ สมอ
1.9 ครผู สู้ อนใหค้ วามช่วยเหลอื ใหก้ ำลงั ใจ และให้คำแนะนำ
เมอ่ื นักเรยี นเมอ่ื พบปญั หาในการเรียนรู้
1.10 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน มคี วาม
รับผิดชอบในการเข้าเรียน และสง่ งานตามเวลาที่กำหนด
1.11 นกั เรียนคอยทบทวนบทเรียน คน้ คว้าความรู้เพม่ิ เติมอยู่
เสมอ
1.12 นกั เรยี นมี ส่ือ วัสดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยีท่ีมีความพร้อม
ในการเรยี นรู้
1.13 ผู้ปกครองคอยสนับสนนุ การเรียนรขู้ องนักเรียนท้งั เร่ือง
วสั ดุอปุ กรณ์ และการคอยแนะนำให้ความร้เู พิ่มเติม
1.14 นักเรียนและผู้ปกครองตอ้ งเสียค่าใชจ้ า่ ยในการเรยี น
เพมิ่ ขนึ้ จนสง่ ผลกระทบต่อค่าใชจ้ ่ายของครอบครัว
1.15 นกั เรียนมคี วามวิตกกังวลต่อการเรยี น และการใช้
ชีวติ ประจำวนั ในช่วงสถานการณ์ COVID-19
1.16 โรงเรยี นมีการประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลขา่ วสาร กำหนดการ
กิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เชน่ เฟสบุ๊ค เวป็ ไซด์
ของโรงเรยี น
1.17 โรงเรยี นมชี ่องทางการติดต่อสื่อสารทคี่ อยใหค้ ำปรึกษา
ปญั หา รบั เรือ่ งรอ้ งเรียน ท่ีเกิดขน้ึ ในช่วงสถานการณ์
COVID-19
226
1.18 โรงเรียนคอยสนับสนนุ การจดั การเรยี นการสอน เชน่
การจดั สง่ เอกสารใบงานผา่ นไปรษณีย์ การสนับสนุน ส่ือ
เทคโนโลยี คา่ อินเทอร์เนต็ เป็นต้น
1.19 ชมุ ชน คอยใหก้ ารชว่ ยเหลือสนับสนนุ วสั ดุ อปุ กรณ์ และ
เทคโนโลยีท่ีจำเป็นในการจดั การเรยี นการสอน
1.20 สภาพแวดลอ้ มที่บ้าน และชุมชนทีอ่ ย่อู าศยั มคี วาม
เหมาะสม ช่วยส่งเสรมิ การเรียนรูข้ องนักเรยี นได้
2. นักเรียนมคี วามต้องการและขอ้ เสนอแนะในการสนับสนุนการจดั การเรียนรู้วถิ ใี หม่ ในสถานการณ์
COVID – 19 ในรายการตา่ งๆ อยา่ งไร
ที่ รายการ ระดบั ความต้องการ
5 4 3 2 1 ขอ้ เสนอแนะ
2. นักเรียนมคี วามต้องการและข้อเสนอแนะในการสนบั สนุนการ
จัดการเรียนรู้วิถีใหม่ ในสถานการณ์ COVID – 19 ในรายการ
ตา่ งๆ อยา่ งไร
2.1 การปรับเนือ้ หาวชิ าเรยี นใหม้ ีความเหมาะสมกับการจัดการ
เรยี นรชู้ ีวติ วถิ ีใหม่
2.2 การปรบั ลดจำนวนชวั่ โมงเรยี นให้มีความเหมาะสมกบั การ
จดั การเรียนรู้ชีวิตวิถีใหม่
2.3 การปรับลดปริมาณแบบฝึกหัด ใบงาน ใหม้ คี วามเหมาะสม
2.4 การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใหค้ ะแนน การวัดประเมินผล
ให้สอดคล้องกับการจดั การเรยี นรูช้ ีวิตวิถีใหม่
2.5 การช้แี จงเกณฑ์การประเมินผล ท่มี คี วามชัดเจนก่อนการ
เรียน และการมอบหมายงาน
227
2.6 การความช่วยเหลอื ให้กำลังใจ จากครผู สู้ อน
2.7 การจดั กจิ กรรมการจัดการเรียนรูช้ ีวิตวถิ ีใหม่ มี
ความนา่ สนใจ
2.8 การให้คำแนะนำเมือ่ นักเรยี นพบปญั หาในการเรยี นรู้ชีวติ
วถิ ใี หม่ ของครผู ูส้ อน
2.9 การใช้ส่อื เทคโนโลยี ในการจัดการเรยี นการสอน ให้เหมาะ
กับบริบทของนักเรยี น
2.10 การจัดทำสอื่ การเรียนรู้ออนไลนท์ ่นี กั เรียนสามารถเข้าไป
ศกึ ษาไดท้ ุกเวลา ทกุ สถานที่
2.11 การสนับสนนุ สือ่ วัสดอุ ปุ กรณ์ และเทคโนโลยีทม่ี ีความ
พรอ้ มในการเรียนรู้
2.12 การสนับสนุน อนิ เทอร์เนต็ ความเร็วสงู ทเี่ หมาะกับการ
จดั การเรยี นรู้
2.13 การใหค้ วามร้ใู นการใช้สอ่ื เทคโนโลยเี พ่ือเข้าถึงแหลง่
เรยี นรอู้ อนไลน์
2.14 การให้ความรู้เกย่ี วกับการปอ้ งกันตนเอง ใหป้ ลอดภัยใน
สถานการณ์ COVID – 19
2.15 การให้ความช่วยเหลือ ตดิ ตามการเรยี นรแู้ ละให้กำลังใจ
นกั เรยี นที่ไดร้ ับผลกระทบจาก สถานการณ์
COVID – 19
2.16 การสนับสนุนจากผ้ปู กครองในดา้ นวสั ดุอปุ กรณ์ และการ
ช่วยสอนให้คำแนะนำในการเรียนเพิ่มเติม
2.17 การจัดสภาพแวดล้อมที่บ้าน ใหเ้ หมาะกับการเรียนรู้
228
2.18 โรงเรียนมกี ารเตรียมความพร้อมให้นักเรียนในชว่ งก่อนการ
เรียน เช่น แจ้งนกั เรียน ผู้ปกครอง เตรียมอุปกรณ์ ส่ือและ
ใบงานตา่ งๆ
2.19 โรงเรียนมีการชี้แจงแนวทางในการจัดการเรียนรใู้ ห้กับ
นักเรยี นและผู้ปกครอง
2.20 โรงเรียนจัดชอ่ งทางให้นักเรียน ผปู้ กครองและครูไดส้ ือ่ สาร
ร่วมกนั
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
............................................................................................................................. ....................................................
.................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
229
ภาคผนวก 2
การประชุมการสนทนากลุ่ม (FOCUS GROUP) ผบู้ รหิ ารและครู
กล่มุ โรงเรยี นเมืองสมุทรปราการ
การพฒั นาขอ้ เสนอเชงิ นโยบายในการจดั การเรียนร้ชู ีวิตวิถีใหมใ่ นสถานการณ์ COVID-19
นักวิจัย : ผบู้ รหิ ารและครู กลุ่มโรงเรียนเมอื งสมทุ รปราการ
ผา่ นสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) โปรแกรม Google Meet วนั ท่ี 15 ตลุ าคม 2564
2.1 การนำเสนอสรุปการวิจยั
2.2 ภาพบรรยากาศการประชมุ สนทนากลมุ่ ผู้บรหิ าร
2.3 ภาพบรรยากาศการประชุมสนทนากลมุ่ ครู
230
2.1 การนำเสนอสรปุ การวจิ ยั
คนไทยจาํนวนไมํนอํยยงํขาดทศํนคตทํพํงํประสงคํการบรกํารทางสงํคมทมํคํณํภาพยงํไมํ
สามารถกระจายครอบคลมํทวํถงํจงํตดํกบํดกํ
ทกํษะระดบํตาํและรายไดตําํในขณะทภํมํทํศํนดําํนเศรษฐกจํและสงํคมเปลยํนแปลงไปมาก
และรวดเรวํ
ผํคนยงํขาดการปรบํวฒํนธรรมในดาํนตําง ๆ ของการดาํเนํนชํวตํใหสํอดคลอํงกบํความ
เปลยํนแปลงทางโครงสราํงเศรษฐกจํและสงํคม สงํคมไทยจงํมํความลกํลนํระหวาํง
ความกาํวหนาํทางเศรษฐกจํและเทคโนโลยกํบํความกาํวหนาํทางคณํ ภาพของสงํคม
การเลอํนไหลและผสมผสานทางสงํคมและวฒํนธรรมขาดการกลนํกรองและภมํํคมํกนํทํ
เหมาะสม
จงํตอํงเรงํปรบํเปลยํนวฒํนธรรมในทกํดาํนโดยเฉพาะอยํางยงํวฒํนธรรมการเรยํนรํการทาํงาน
รวํมกนํ การมวํนํยํการมํจตํสาธารณะและรบํผํดชอบตอํสงํคม การคดํวเํคราะหแํละสราํงสรรคํ
ความกระตอํรอํรนํและขยนํ และความเปํนคนไทยสากล เปํนตนํ ((ราํง) ยทํธศาสตรชําตํระยะ
ปํ(พ.ศ. – 2579) . จาก www.thaigov.go.th /)
231
Screen Shot 2564-10-15 at 16.41.15
232
233
234
หลกํสํตรแกนกลางการศํกษาขนํพนํฐาน พทํธศกํราช มํจดํมํงหมาย ขอํ ในขอํทํ ใหํ
นกํเรยํนมํความรํอนํเปํนสากลและมํความสามารถในการสอํสาร การคดํ การแกปํญํหา การใชํ
เทคโนโลยํและมทํกํษะชํวตํ โดยมํสมรรถนะสาํคญํในขอํทํ คอํใหมํํความสามารถในการคดํ
ซํงเปํนความสามารถในการคดํวเํคราะหํการคดํสงํเคราะหํการคดํอยํางสราํงสรรคํการคดํอยํางมํ
วจํารณญาณ และการคดํเปํนระบบ เพอํนําไปสํการสราํง องคคํวามรํหรอํสารสนเทศเพอํการ
ตดํสนํใจเกยํวกบํตนเองและสงํคมไดอํยํางเหมาะสม (กระทรวงศํกษาธกําร. 2551 : 6,11. )