The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kob.oops, 2020-05-07 23:51:36

Download ระเบียบ อห.6

Download ระเบียบ อห.6

ลาํ ดบั ข้อความ หลกั ฐาน

3 การใช้คําว่า “ผลติ ภณั ฑเ์ กษตรอินทรยี ์” ,
“ผลติ ภัณฑอ์ ินทรีย์” , “ออรก์ านกิ ” ,
“ออรแ์ กนิค” หรอื “organic”

4 ประโยชน/์ คุณคา่ / คณุ ประโยชน์ 1. สตู รส่วนประกอบที่ได้ร
สว่ นประกอบ 100%

2. รายงานผลการตรวจวิเ
100 กรมั ท้งั ฉบับ

นประกอบ เงื่อนไข

ผู้ผลิต หรอื ผจู้ าํ หนา่ ย หรอื ผนู้ าํ เขา้ ผลติ ภณั ฑ์เกษตร

อินทรียน์ ัน้ จะตอ้ งไดร้ บั การรับรองตามหลักเกณฑท์ ี่

กาํ หนดไว้จากหน่วยงานของรัฐท่ีมอี ํานาจหนา้ ที่ หรือ

หน่วยรับรองท่ีหน่วยงานของรัฐทีม่ ีอํานาจหนา้ ทใี่ หก้ าร

ยอมรบั หรอื ได้รับการรบั รองตามเกณฑ์มาตรฐานเกษตร

อนิ ทรีย์ของ IFOAM (The International Federation

of Organic Agriculture Movements) หรือตาม

คาํ แนะนําของกรรมาธิการมาตรฐานอาหารระหว่าง

ประเทศ (Codex) หรอื ตามมาตรฐานเกษตรอินทรยี ข์ อง

ตา่ งประเทศ (ในกรณที ีต่ า่ งประเทศน้ัน มีการประกาศใช้

กฎระเบียบเก่ียวกบั การผลติ ผลิตภณั ฑเ์ กษตรอนิ ทรยี ์) 356

โดยหน่วยตรวจสอบรับรองท่ีได้รบั การรบั รองระบบงาน - 9-

ตามเกณฑ์ของ IFOAM หรอื ไดร้ บั การขนึ้ ทะเบียนจาก

หนว่ ยงานในประเทศทีม่ กี ฎระเบียบเร่อื ง เกษตรอินทรีย์

รับการอนญุ าต/ สูตร 1. ให้กลา่ วอา้ งว่าอาหารมีประโยชน์/ คุณค่า/

คุณประโยชน์ กับกลุ่มอาหารบางประเภทท่ีมี
เคราะห์ข้อมูลโภชนาการ/ ส่วนประกอบองคร์ วมของอาหารที่มปี ระโยชน์ เชน่

นม เป็นตน้

2. ในกรณใี ชก้ ล่าวอา้ งกับกลมุ่ อาหารบางประเภท เชน่

ขนมขบเคี้ยว ลกู อม หมากฝร่งั ชา กาแฟ เคร่ืองดมื่

ผสมกาเฟอนี วนุ้ สําเรจ็ รูปและขนมเยลล่ี นํ้ามนั พชื

น้ํามนั สตั ว์ อาหารก่งึ สําเรจ็ รูป เปน็ ต้น ให้แสดง

ประโยชน์/ คุณค่า/ คุณประโยชน์ตามด้วยสารอาหาร

ตามรายงานผลการตรวจวเิ คราะห์

ลาํ ดบั ขอ้ ความ หลกั ฐาน
5 ดูแลตวั เอง/ ใสใ่ จตัวเอง -

6 สดช่ืน/ ช่ืนใจ สูตรส่วนประกอบทไี่ ดร้ บั ก
7 มีชวี ติ ชวี า สตู รสว่ นประกอบ 100%
8 แท้
สูตรส่วนประกอบที่ได้รับก
9 ถูกสขุ อนามัย/ ถูกสขุ ลักษณะ สูตรส่วนประกอบ 100%
10 มรี ะบบควบคุมความปลอดภัย
1. สูตรส่วนประกอบทีไ่ ดร้
สตู รสว่ นประกอบ 10

2. คณุ ภาพมาตรฐานวตั ถ
ลกั ษณะเฉพาะของวตั ถ

ใบรับรองระบบ GMP จาก
หน่วยงานท่ีได้รับการรับร
หรือจากหนว่ ยงานรบั รอง
ใบรบั รองระบบ GMP จาก
หนว่ ยงานที่ได้รับการรับร
หรือจากหนว่ ยงานรบั รอง

นประกอบ เง่ือนไข 357
ไมใ่ หส้ ื่อว่ารบั ประทานอาหารน้นั เพียงอยา่ งเดียว
การอนุญาต/ ก็สามารถดูแลตวั เองได้ ตวั อยา่ งเชน่ “กนิ อาหาร - 10 -
%/ วธิ ีการบริโภค หลากหลายครบ 5 หมู่ และเสรมิ ดว้ ย……………...
(ระบุผลติ ภณั ฑ)์
การอนุญาต/ ใหใ้ ชก้ ับผลิตภณั ฑอ์ าหารท่บี ริโภคในลกั ษณะเป็น
%/ วธิ ีการบรโิ ภค ของเหลว หรอื ผลติ ภณั ฑท์ ่แี ชเ่ ย็นกอ่ นรบั ประทาน หรอื
ลกู อมบางชนดิ หรือไอศกรีม
รับการอนุญาต/ ให้ใชก้ บั ผลติ ภณั ฑ์อาหารที่บรโิ ภคในลกั ษณะเป็น
00% หรือ ของเหลว ยกเว้นผลิตภัณฑ์ทม่ี สี ว่ นประกอบทใ่ี หก้ าเฟอีน
ถดุ บิ ทส่ี ามารถชบี้ ่ง หรือเตมิ กาเฟอนี
ถดุ บิ น้นั ๑. เป็นไปตามเงอ่ื นไขในประกาศเฉพาะ เช่น นํ้าปลาแท้
กหนว่ ยงานของรัฐ หรอื
รองจากหนว่ ยงานของรัฐ กาแฟแท้ เปน็ ต้น
งสากล ๒. มกี ารใช้วตั ถดุ บิ น้ันๆ เป็นสว่ นประกอบจรงิ
กหน่วยงานของรัฐ หรือ
รองจากหน่วยงานของรฐั ให้ใช้ไดเ้ มอ่ื มกี ารแสดงภาพหรือขอ้ ความที่เก่ยี วข้องกบั
งสากล กรรมวิธีการผลิต หรือสถานทีผ่ ลติ

1. ไมใ่ หใ้ ชค้ ําวา่ อาหารปลอดภัย
2. ให้ใช้ไดเ้ ม่ือมกี ารแสดงภาพหรือขอ้ ความที่เกยี่ วขอ้ ง

กับกรรมวิธีการผลิต หรือสถานท่ีผลิต

ลาํ ดบั ข้อความ หลกั ฐาน

11 ไร/้ ปราศจาก/ไมม่ ี รายงานผลการตรวจวิเคร

- ผงชรู ส ใช.้ ...............(ความทเ่ี ว้นไวใ้ ห้ระบุ

วตั ถทุ ่ใี ส่แทนถา้ มกี ารใช)้ เช่น ปราศจาก

ผงชูรส

- สี

- วตั ถุกันเสีย

12 ผ่านการตรวจ................ (ความทีเ่ วน้ ไว้ระบุ ชนดิ 1. รายงานผลการตรวจวิเ

ของจลุ นิ ทรียห์ รือจลุ ินทรยี ์ทที่ าํ ให้เกดิ โรค ชนิด 2. หนงั สอื รบั รองระบบ G

ของโลหะหนกั ชนดิ ของสารพิษตกคา้ ง เป็นต้น) หน่วยงานของรฐั หรอื

รับรองจากหน่วยงานข

รบั รองสากล

13 สะอาด -

14 คุณภาพ -

15 .........กวา่ / .........ข้นึ / อปั เกรด/ Advance 1. เอกสารรบั รองการเปร
(เช่น พฒั นาข้นึ สารอาหารมากขน้ึ ) เชน่ เปรยี บเทยี บระหว
และ
2. รายงานผลการตรวจวเิ
16 สถานทผ่ี ลติ / โรงงานผลติ / ผผู้ ลติ / ............ 1. หนังสอื รบั รอง GMP ก
(ระบชุ ่ือผู้ผลิต) ผ่านมาตรฐาน/ ได้รับการรบั รอง 2. หนังสือรบั รอง GMP ส
มาตรฐาน…….… (ระบุมาตรฐานท่ไี ด้รบั การรับรอง) 3. หนังสอื รบั รอง HACCP
4. หนงั สือรับรองอ่ืนๆ
ทย่ี ังไมห่ มดอายุ
17 สุขภาพ/ Health/ Healthy 1. รายงานผลการตรวจวิเ
100 กรมั ทัง้ ฉบับ และ
2. ฉลากอาหารทแี่ สดงตา

นประกอบ เงอื่ นไข
ราะห์
-

เคราะห์ตามท่ไี ดก้ ล่าวอ้าง รายงานผลการตรวจวเิ คราะห์มคี ุณภาพหรือมาตรฐาน
GMP หรือ HACCP จาก เป็นไปตามประกาศทเ่ี กีย่ วขอ้ ง
อหนว่ ยงานทีไ่ ดร้ บั การ
ของรฐั หรอื จากหน่วยงาน

- 358

- - 11 -
รียบเทยี บผลติ ภัณฑ์ตัวเอง ไม่อนุญาตให้เปรียบเทยี บกับสนิ คา้ ของผูอ้ ื่นหรอื คูแ่ ขง่
ว่างสตู รเกา่ และสูตรใหม่ หรอื เปรยี บเทยี บในลกั ษณะทบั ถมผอู้ ื่น

เคราะห์ แสดงขอ้ มลู ใหส้ อดคล้องกับมาตรฐานทไี่ ด้รบั การรบั รอง
กฎหมาย หรอื
สากล หรือ
P หรือ

เคราะห์ข้อมลู โภชนาการ/ รายงานผลการตรวจวเิ คราะห์ เปน็ ไปตามหลักเกณฑก์ าร
ะ กลา่ วอา้ งทางโภชนาการ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสขุ
ารางข้อมูลโภชนาการ (ฉบบั ท่ี 182) พ.ศ.2541 เรอ่ื ง ฉลากโภชนาการ

ลําดบั ข้อความ หลกั ฐาน
18 แข็งแรง 1. รายงานผลการตรวจวเิ

100 กรมั ทงั้ ฉบบั และ
2. ฉลากอาหารทแ่ี สดงตา

19 มนั่ ใจ (สินค้า) -
20 เคลด็ ลบั -
21 อนามยั ใบรบั รองจากกรมปศสุ ตั ว
ให้การรบั รอง หรือหนว่ ยง
เทยี บเท่าหน่วยงานภาครฐั
22 ปรารถนาดี/ ห่วงใย/ ดแู ล -
23 Gold/ Special/ Extra/ Supreme/ Selected หนงั สือชี้แจงเกณฑค์ ณุ ภา
24 นวตั กรรม หนังสอื รบั รองการเป็นนว

25 สิทธิบัตร/ อนุสิทธิบัตร หนงั สอื รบั รองสิทธิบตั ร ห
26 ชอ่ื หน่วยงานราชการ รฐั วสิ าหกจิ และ หมดอายุ
หนังสอื ยนิ ยอมจากหนว่ ย
สถาบันการศกึ ษา/ ผแู้ สดงแบบท่ีสงั กัดจาก หรือใหเ้ ป็นผู้แสดงแบบ
หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกจิ และ
สถาบันการศึกษา หนงั สอื รบั รองการใชเ้ ครอ่ื
27 ขอ้ ความเกีย่ วกบั การได้รบั การรบั รอง สตู รสว่ นประกอบทไ่ี ดร้ ับก
เครือ่ งหมายทางเลอื กสุขภาพ สูตรส่วนประกอบ 100%
28 พลสั ตรวจวิเคราะห์ (ถา้ มี)

นประกอบ เง่ือนไข
เคราะห์ขอ้ มูลโภชนาการ/ 1. ไม่ใหส้ ่ือเฉพาะเจาะจงว่ารับประทานอาหารใดอาหาร
ะ หนึ่งแลว้ แขง็ แรง และ
ารางข้อมูลโภชนาการ 2. ใหใ้ ช้กับอาหารประเภทนมโค นมปรงุ แต่ง ผลิตภัณฑ์
ของนม นมเปร้ียว นมถว่ั เหลอื ง และเครอ่ื งดืม่ ท่มี ีนม
เป็นส่วนประกอบหลัก และมสี ารอาหารดังตอ่ ไปน้ี
ตัง้ แต่ 10% ThaiRDI : วิตามินเอ วิตามินบี 1
วิตามินบี 2 แคลเซยี ม เหลก็ และโปรตีน
ไมใ่ ห้โฆษณาในลักษณะมั่นใจในสรรพคณุ คุณประโยชน์
พิจารณาตามบริบทของการโฆษณา
ว์ หรือหน่วยงานภาครัฐที่ ให้ใชไ้ ด้กับการโฆษณาอาหารประเภททีไ่ ดร้ ับการรับรอง
งานที่ได้รับการรบั รอง

พิจารณาตามบรบิ ทของการโฆษณา 359
าพของบริษทั ผผู้ ลติ -
- 12 -

วตั กรรม ระบุรายละเอยี ดนวตั กรรมและหน่วยงานท่ีใหก้ ารรับรอง
และปี พ.ศ. ทีไ่ ดร้ บั การรับรอง
หรืออนสุ ิทธบิ ตั รทยี่ ังไม่ ระบุรายละเอียดสิทธิบัตร หรอื อนุสทิ ธิบตั รที่ไดร้ บั

ยงานให้ใชช้ ือ่ หน่วยงาน -

องหมายทางเลือกสุขภาพ เป็นไปตามประกาศทีเ่ กีย่ วข้อง

การอนุญาต/ การกลา่ วอ้างเกยี่ วกบั การเพิ่มชนิดของส่วนประกอบ
% หรือรายงานผลการ หรอื สารอาหาร

บญั ชหี มา
แนบทา้ ยประกาศสาํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและ
---------------------------------------------------------------

การแสดงข้อความ/ ค

อาหาร ข้อความ/ คําเตือนบ
1. ผลติ ภัณฑ์เสรมิ อาหารทุกชนิด
“ไม่มผี ลในการปอ้ งกนั หรือรกั ษาโ
“เดก็ และสตรมี คี รรภไ์ ม่ควรรบั ปร

2. ผลติ ภัณฑเ์ สรมิ อาหารบางชนดิ ต้องแสดง “ไม่เหมาะสาํ หรบั ผปู้ ว่ ยโรคหวั ใจแล
ข้อความคําเตอื นเพ่มิ เตมิ ดงั นี้
2.1 กระดกู ออ่ นปลาฉลาม “ผทู้ แ่ี พ้ละอองเกสรดอกไม้ ไมค่ วร
2.2 เกสรดอกไม้
2.3 ไคโตซาน - “เด็ก สตรมี ีครรภ์ และสตรที ่ใี ห้น
- “สาํ หรบั ผู้ทใ่ี ชผ้ ลติ ภัณฑเ์ สรมิ อ
2.4 นํ้ามนั ปลา
เป็นสว่ นประกอบหลัก ควรรบั ป
2.5 นาํ้ มันอฟิ นงิ พริมโรส ผลติ ภัณฑ์น้อี ยา่ งน้อย 2 ช่ัวโมง
- “ควรระวงั ในผทู้ ่ีแพอ้ าหารทะเล
เกณฑม์ าตรฐาน”

- “หา้ มใช้ในผู้ทแ่ี พป้ ลาทะเลหรือ
- “ควรระวังในผทู้ ี่เลอื ดแขง็ ตวั ชา้

การแขง็ ตวั ของเลอื ด หรอื แอสไ

- “หา้ มใชใ้ นผูท้ มี่ ีประวัตเิ ปน็ โรคล
- “ควรระวังในผทู้ ี่ไดร้ บั ยารกั ษาโ

ายเลข 4
ะยา เรอ่ื ง หลกั เกณฑก์ ารโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2561
---------------------------------------------------------------
คําเตอื นในสื่อโฆษณา

บนฉลากอาหาร ข้อความ/ คําเตือนในสอื่ โฆษณา

โรค” และ - “เด็กและสตรมี ีครรภ์ไมค่ วรรับประทาน”
ระทาน” - “ไม่มผี ลในการป้องกันหรือรกั ษาโรค”
- “อา่ นคําเตอื นในฉลากก่อนบรโิ ภค”
- “ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสดั สว่ นท่ี

เหมาะสมเปน็ ประจาํ ”

และผทู้ ่ีพกั ฟน้ื จากการผา่ ตดั ” 360
รรบั ประทาน”
นมบุตร ไมค่ วรรับประทาน” - 13 -
อาหารอืน่ ๆทมี่ ไี ขมนั
ประทานกอ่ นหรือหลงั
ง”
ลและผทู้ ่มี ีน้าํ หนักตัวตํ่ากว่า

อน้ํามันปลา”
า หรือผูท้ ใี่ ชย้ าตา้ น
ไพริน”
ลมชกั ”
โรคลมชัก”

อาหาร ข้อความ/ คําเตอื นบ
2.6 ใยอาหาร “เพื่อปอ้ งกนั ภาวะอดุ ตันของลําไส
ผลิตภัณฑ์ใยอาหารชนิดแหง้ ควรรับ
2.7 รอยลั เยลลแี ละผลิตภณั ฑ์รอยลั เยลลี 1-2 แกว้ ”
“ผู้ท่ีเป็นโรคหอบหดื หรือโรคภูมิแพ
2.9 สารสกดั จากใบแปะก๊วยและผลิตภณั ฑ์ อาจเกิดอาการแพ้อยา่ งรุนแรง”
ท่มี ใี บแปะ๊ กว๊ ย “อาจมีผลใหเ้ ลือดแขง็ ตวั ช้า” และ
“เดก็ และสตรมี ีครรภ์ไม่ควรรับปร
2.10 ขงิ หรือสารสกดั จากขงิ “ผ้ทู เ่ี ป็นโรคนวิ่ ไม่ควรรบั ประทาน
2.11 ผลติ ภณั ฑเ์ สรมิ อาหารที่ใช้วัตถุให้
“ไมใ่ ช่อาหารสาํ หรับควบคุมนา้ํ หน
ความหวานแทนน้าํ ตาล “ไม่ใชอ่ าหารสาํ หรับควบคมุ นาํ้ หน
- นํ้าตาลแอลกอฮอล์ “ผทู้ ม่ี สี ภาวะฟินิลคโี ตนเู รยี ผลติ ภ
- อะซซี ลั เฟม เค ไม่ใชอ่ าหารสําหรับควบคมุ นํา้ หนกั
- แอสปาแตม
"เดก็ ควรบรโิ ภคแตน่ อ้ ย"
3. ผลิตภณั ฑ์อาหารที่ใช้แอสปาแตม "เดก็ ควรบริโภคแตน่ อ้ ย"
4. วุ้นสาํ เร็จรูป
5. ว้นุ สําเรจ็ รูปและขนมเยลลท่ี ม่ี สี ว่ นผสมของ เปน็ ไปตามฉลากทีไ่ ด้รับอนญุ าต

กลโู คแมนแนน หรือแป้งจากหัวบกุ
6. อาหารทางการแพทย์ (Medical Food)

7. อาหารกง่ึ สาํ เร็จรูป ท่ีมภี าพผลติ ภัณฑท์ ีพ่ รอ้ ม
รบั ประทาน และมีการเติมเน้อื สัตว์ ไข่ ผกั
หรืออื่นๆ

บนฉลากอาหาร ข้อความ/ คาํ เตอื นในสอื่ โฆษณา
ส้ที่อาจเกิดจากการบรโิ ภค
บประทานพรอ้ มนา้ํ

พ้ ไมค่ วรรับประทานเพราะ


ระทาน”
น”

นกั ” 361

นกั ” - 14 -
ภัณฑน์ ้ีมฟี ินิลอลานีน
ก”

“อา่ นคาํ เตือนในฉลากกอ่ นบรโิ ภค”
“เดก็ ควรบริโภคแตน่ อ้ ย”
“เดก็ ไมค่ วรกนิ ระวังการสําลัก”

“อาหารทางการแพทย”์ และ
“ใช้ตามคาํ แนะนาํ ของแพทย์”
“เพ่ือคุณคา่ ทางโภชนาการ ควรเติม.........(ระบชุ นดิ
อาหารที่เตมิ )”

อาหาร ข้อความ/ คําเตอื นบ
8. อาหารขบเคยี้ ว ช็อกโกแลตและผลติ ภัณฑใ์ น “บรโิ ภคแต่น้อย และออกกาํ ลงั กา

ทํานองเดยี วกัน และผลติ ภัณฑ์ขนมอบ “ห้ามดืม่ เกินวนั ละ 2 ขวด เพราะ
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ เด็กและสตรีมคี รรภไ์ มค่ วรด่มื ผปู้ ว่
374) พ.ศ. 2559 “เด็กไมค่ วรรบั ประทาน” “ไม่ใช่อ
9. อาหารท่ีนาํ เขา้ แล้วนาํ มาแบง่ บรรจุ “หยดุ บริโภคเมอ่ื มอี าการผิดปกติ”
ภายในประเทศและประสงคจ์ ะแสดงว่า “อาจมีผลให้เลอื ดแขง็ ตวั ชา้ ” และ
อาหารน้ันผลิตมาจากท่ีใด “เดก็ และสตรมี คี รรภไ์ ม่ควรรบั ปร
10. อาหารทีต่ อ้ งจํากดั ปรมิ าณในการบรโิ ภค

น้อยกว่า 3 หนว่ ยบริโภคต่อวนั
11. เครอ่ื งด่ืมทีผ่ สมกาเฟอนี

12. อาหารที่มสี ่วนผสมของวา่ นหางจระเข้

13. อาหารทมี่ ใี บแป๊ะก๊วยและสารสกดั จาก
ใบแปะ๊ ก๊วย

14. อาหารอืน่ ๆ ทมี่ กี ารกําหนดคําเตือนเป็น
การเฉพาะ

บนฉลากอาหาร ข้อความ/ คําเตือนในส่ือโฆษณา
ายเพื่อสขุ ภาพ” “บริโภคแตน่ อ้ ย และออกกาํ ลังกายเพือ่ สุขภาพ”

“แบง่ บรรจุในประเทศไทย”

“อา่ นฉลากกอ่ นบรโิ ภค”

ะหัวใจจะสั่น นอนไมห่ ลบั “ห้ามดม่ื เกินวันละ ๒ ขวด เด็กและสตรมี ีครรภ์ไม่ควรดม่ื ” 362
วยปรกึ ษาแพทยก์ ่อน”
“อา่ นคําเตือนในฉลากกอ่ นบรโิ ภค” - 15 -
อาหารทางการแพทย”์ และ
” “อ่านคําเตอื นในฉลากกอ่ นบรโิ ภค”

ะ “อ่านคําเตือนในฉลากกอ่ นบรโิ ภค” หรือ
ระทาน” ขอ้ ความตามทผี่ อู้ นญุ าตเห็นสมควร

363

หน้า ๑๒ ๒๒ ตลุ าคม ๒๕๖๑
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๖๔ ง ราชกจิ จานุเบกษา

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ฉบับท่ี ๓๙๔ (พ.ศ. ๒๕๖๑)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิอาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒
เรอ่ื ง อาหารทีต่ อ้ งแสดงฉลากโภชนาการ และคา่ พลังงาน น้าตาล ไขมนั และโซเดยี ม แบบจดี เี อ

โดยท่ีเป็นการสมควรให้มีการแสดงฉลากโภชนาการ และค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม
แบบจีดีเอ (Guideline Daily Amounts; GDAs) บนฉลากอาหารบางชนิดเพิ่มเติม เพ่ือประโยชน์
ของผู้บริโภค และสนบั สนนุ มาตรการปอ้ งกนั ปญั หาด้านโภชนาการ

อาศัยอ้านาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๖ (๑๐) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร
พ.ศ. ๒๕๒๒ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ ออกประกาศไว้ ดงั ตอ่ ไปนี

ขอ้ 1 ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 374) พ.ศ. 2559 เร่ือง อาหาร
ที่ต้องแสดงฉลากโภชนาการ และค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจดี ีเอ ลงวันที่ 24 มีนาคม
พ.ศ. 2559

ขอ้ ๒ ประกาศนี
“ขวดแก้วแบบคืนขวด (Returnable Glass Bottle)” หมายถึง ขวดแก้วท่ีใช้บรรจุอาหาร
ท่ีมีลักษณะเหลวซึ่งอยู่ในสภาพท่ีพร้อมบริโภค และน้ากลับมาท้าความสะอาด หมุนเวียนเพ่ือบรรจุ
อาหารดังกล่าวซ้าได้อกี
“การแสดงค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม แบบจีดีเอ (Guideline Daily Amounts;
GDAs)” หมายถึง การแสดงปรมิ าณและปรมิ าณสูงสุดเป็นรอ้ ยละของพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม
ท่ีบริโภคไดต้ ่อวนั ตามรูปแบบและเงอื่ นไขท่กี ้าหนดไว้ตามบญั ชีแนบทา้ ยประกาศนี
ขอ้ 3 ให้อาหารทอ่ี ยใู่ นภาชนะพร้อมจา้ หนา่ ยตอ่ ผู้บรโิ ภคดงั ตอ่ ไปนี เป็นอาหารทต่ี อ้ งแสดง
ฉลากโภชนาการ และคา่ พลังงาน นา้ ตาล ไขมนั และโซเดยี ม แบบจีดีเอ
(1) อาหารขบเคียว ได้แก่

(1.1) มนั ฝรัง่ ทอด หรอื อบกรอบ
(1.2) ขา้ วโพด คั่ว ทอด หรอื อบกรอบ
(1.3) ข้าวเกรียบ ทอด หรอื อบกรอบ หรอื อาหารขบเคียวชนิดอบพอง
(1.4) ถว่ั หรือนตั หรือเมล็ดพืชอน่ื ทอด หรืออบกรอบ หรืออบเกลือ หรอื เคลือบปรงุ รส
(1.5) สาหร่าย ทอด หรืออบกรอบ หรอื ปรงุ รส
(1.6) เนอื สตั ว์ที่ท้าเป็นเส้น แผน่ ทอด หรอื อบกรอบ หรอื ปรงุ รส
(1.7) อาหารขบเคยี วตาม (1.1) - (1.6) ผสมกนั มากกวา่ 1 ชนดิ

364

หน้า ๑๓ ๒๒ ตลุ าคม ๒๕๖๑
เล่ม ๑๓๕ ตอนพเิ ศษ ๒๖๔ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

(2) ชอ็ กโกแลต และขนมหวานรสช็อกโกแลต
(3) ผลติ ภณั ฑ์ขนมอบ ได้แก่

(3.1) ขนมปังกรอบ หรือแครกเกอร์ หรอื บิสกิต
(3.2) เวเฟอรส์ อดไส้
(3.3) คุกกี
(3.4) เค้ก
(3.5) พาย เพสตรี ทงั ชนิดทมี่ ีและไม่มไี ส้
(4) อาหารกง่ึ ส้าเร็จรปู ได้แก่
(4.1) กว๋ ยเตย๋ี ว ก๋วยจ๊ับ บะหมี่ เสน้ หมี่ และว้นุ เส้น ไม่ว่าจะมีการปรงุ แต่งหรือไม่ก็ตาม
พร้อมซองเคร่ืองปรงุ
(4.2) ข้าวตม้ ทป่ี รุงแตง่ และโจก๊ ทป่ี รุงแตง่
(5) อาหารมือหลักที่เป็นอาหารจานเดียว ซึ่งต้องเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นหรือตู้แช่แข็งตลอด
ระยะเวลาจา้ หน่าย

(6) เครอ่ื งดืม่ ในภาชนะบรรจทุ ปี่ ิดสนทิ ไดแ้ ก่
(6.1) เคร่ืองด่ืมที่มีหรือท้าจากผลไม้ พืชหรือผัก ไม่ว่าจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

หรือออกซเิ จนผสมอยดู่ ว้ ยหรอื ไม่กต็ าม ยกเวน้ เครือ่ งดื่มจากพืชทท่ี ้าให้แหง้ ในลกั ษณะของชาชง
(6.2) เคร่ื องด่ื มที่ มี หรื อท้ าจากส่ วนผสมที่ ไม่ ใช่ ผลไม้ พื ชหรื อผั ก ไม่ ว่ าจะมี

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือออกซิเจน ผสมอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม ที่น้ามาปรุงแต่งรสในลักษณะ
พรอ้ มบริโภค

(6.3) เครอ่ื งด่มื ตาม (6.1) หรือ (6.2) ชนิดแห้ง
(7) ชาปรงุ สา้ เรจ็ ทังชนิดเหลวและชนดิ แห้ง
(8) กาแฟปรงุ สา้ เรจ็ ทงั ชนดิ เหลวและชนิดแห้ง
(9) นมปรงุ แตง่
(10) นมเปรยี ว
(11) ผลติ ภัณฑ์ของนม

(12) น้านมถวั่ เหลอื ง
(13) ไอศกรมี ที่อยูใ่ นลกั ษณะพรอ้ มบริโภค
ทังนี อาหารตาม (6) (7) (8) และ (12) ที่บรรจุในขวดแก้วชนิดคืนขวด (Returnable
Glass Bottle) และอาหารตาม (6) (9) (10) (11) และ (12) ที่เป็นของเหลวในลักษณะพร้อมบริโภค
ที่มีพืนท่ีฉลากด้านหน้าน้อยกว่า 65 ตารางเซนติเมตรท่ีไม่สามารถจ้าหน่ายพร้อมหีบห่อ และไม่อาจ
แสดงฉลากโภชนาการ และค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอไว้ที่ภาชนะบรรจุได้

365

หน้า ๑๔ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๑
เล่ม ๑๓๕ ตอนพเิ ศษ ๒๖๔ ง ราชกิจจานเุ บกษา

ให้แสดงผ่านโปรแกรมประยุกต์ของโทรศัพท์เคล่ือนท่ี (Nutrition detective mobile application)
ร่วมกับการแสดงไว้บริเวณท่ีจ้าหน่ายสินค้าหรือบริเวณร้านอาหารที่จ้าหน่ายอาหารนัน ๆ แต่หาก
ประสงค์จะแสดงฉลากโภชนาการ และค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอไว้ที่ภาชนะ
บรรจุ ตอ้ งปฏิบตั ติ ามประกาศนี

ข้อ 4 การแสดงฉลากของอาหารตามข้อ 3 ต้องปฏิบตั ิตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ว่าด้วยเร่ือง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ และต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ฉบบั นดี ้วย

ขอ้ 5 การแสดงฉลากของอาหารตามขอ้ 3 ต้องปฏิบัติ ดงั นี

(1) แสดงฉลากโภชนาการ อยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง ดังนี
(1.1) แสดงกรอบข้อมูลโภชนาการแบบเต็ม ตามรูปแบบของข้อ 1.1 ของบัญชี

หมายเลข 1 ทา้ ยประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ว่าดว้ ยเรอ่ื ง ฉลากโภชนาการ หรอื
(1.2) แสดงกรอบข้อมูลโภชนาการแบบย่อ ตามรูปแบบของข้อ 1.2 ของบัญชี

หมายเลข 1 ท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสขุ วา่ ดว้ ยเรอื่ ง ฉลากโภชนาการ ส้าหรับข้อมลู โภชนาการ
ให้แสดงเฉพาะพลังงานทังหมด ไขมันทังหมด โปรตีน คาร์โบไฮเดรตทังหมด น้าตาล โซเดียม
และแสดงปริมาณโคเลสเตอรอลเพิ่มเติม หากอาหารดังกล่าวมีปริมาณโคเลสเตอรอลต่อปริมาณ
หนงึ่ หนว่ ยบรโิ ภคตงั แต่ 2 มลิ ลิกรมั ขนึ ไป

ในกรณที ่ีฉลากของอาหาร แสดงขอ้ ความการกลา่ วอา้ งทางโภชนาการ มีการใช้คณุ ค่าในการ
ส่งเสริมการขาย หรือระบุกลุ่มผู้บริโภคในการส่งเสริมการขาย ต้องแสดงกรอบข้อมูลโภชนาการแบบ
เต็มตามข้อ 1.1 ของบัญชีหมายเลข 1 ท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วย เร่ือง ฉลาก
โภชนาการ

(2) แสดงค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอ ของอาหารตามข้อ 3
ให้เป็นไปตามรปู แบบและเง่ือนไขตามบัญชีแนบท้ายประกาศนี

(3) แสดงขอ้ ความวา่ “บริโภคแตน่ ้อยและออกกา้ ลังกายเพอื่ สุขภาพ” ดว้ ยตวั อกั ษรหนาทึบ
เห็นได้ชัดเจน สีของตัวอักษรตัดกับสีพืนของกรอบ และสีของกรอบตัดกับสีพืนฉลาก ส้าหรับอาหาร
ตามข้อ 3 (1) - (3)

ทังนี อาหารตามข้อ 3 ท่ีบรรจุในภาชนะบรรจุย่อย ซึ่งมีเนือท่ีฉลากด้านหน้าน้อยกว่า
65 ตารางเซนติเมตรและจัดรวมในหบี หอ่ พรอ้ มจ้าหน่าย และไมอ่ าจแสดงฉลากโภชนาการ และคา่ พลงั งาน
น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอ ไว้ท่ีฉลากของภาชนะบรรจุย่อยได้ ให้แสดงฉลากไว้ท่ีหีบห่อ
พรอ้ มจ้าหน่าย โดยให้ค้านวณการแสดงฉลากโภชนาการและค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม
แบบจีดีเอของภาชนะบรรจุย่อย แต่หากประสงค์จะแสดงฉลากโภชนาการ และค่าพลังงาน น้าตาล
ไขมนั และโซเดยี มแบบจดี ีเอไว้ท่ฉี ลากของภาชนะบรรจยุ อ่ ย ตอ้ งปฏิบัติตามประกาศนี

366

หน้า ๑๕ ๒๒ ตลุ าคม ๒๕๖๑
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๖๔ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

ขอ้ 6 ในกรณีทผ่ี ูผ้ ลติ หรือผ้นู า้ เข้าอาหารอ่ืนนอกเหนือจากอาหารตามขอ้ 3 มีความประสงค์
จะแสดงค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอในฉลากของอาหาร การแสดงฉลากดงั กลา่ ว
ต้องเปน็ ไปตามประกาศนี

ข้อ 7 ให้ฉลากอาหารตามข้อ 3 (1) (1.4) (1.6) (1.7) และอาหารตามข้อ 3 (6)
(7) (8) (9) (10) (11) (12) และ (13) ทไ่ี ม่เป็นไปตามที่ประกาศฉบับนีใช้บงั คับยังคงจา้ หน่ายไดต้ อ่ ไป
ทังนี ตอ้ งไม่เกินสองปีนบั แต่วันท่ีประกาศฉบับนใี ช้บังคบั

ขอ้ 8 อาหารตามข้อ 3 ท่ีมีการแสดงค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบ
จดี ีเอไวก้ ่อนวนั ทปี่ ระกาศฉบบั นใี ช้บังคับ และมกี ารแสดงปรมิ าณโซเดยี มไมส่ อดคล้องกบั ปรมิ าณโซเดียม

ท่ีแนะน้าต่อวันตามประกาศฉบับนี ยังคงจ้าหน่ายได้ต่อไป ทังนี ต้องไม่เกินสองปีนับแต่วันท่ีประกาศ
ฉบับนใี ช้บงั คบั

ข้อ 9 ให้ฉลากอาหารตามข้อ 6 ที่ไม่เป็นไปตามประกาศนี ยังคงจ้าหน่ายได้ต่อไป ทังนี
ต้องไม่เกินสองปี นบั แตว่ ันทป่ี ระกาศฉบับนใี ชบ้ งั คับ

ข้อ 10 ประกาศฉบบั นไี ม่ใชบ้ ังคบั กับ
(1) อาหารตามข้อ 3 ซง่ึ ผปู้ รงุ เปน็ ผูจ้ า้ หน่ายโดยตรงให้กับผบู้ ริโภค
(2) อาหารตามขอ้ 3 ซึ่งได้มปี ระกาศกระทรวงสาธารณสุขก้าหนดในส่วนท่เี กย่ี วกับการแสดง
สารอาหารบนฉลากไวแ้ ลว้ โดยเฉพาะ
ข้อ 11 ประกาศฉบับนี ให้ใช้บังคับเม่ือพ้นก้าหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศใน
ราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๖ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖๑
ปิยะสกล สกลสตั ยาทร

รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ

367

บญั ชีแนบทา้ ยประกาศกระทรวงสาธารณสขุ
ฉบับท่ี ๓๙๔ (พ.ศ. ๒๕๖๑)

ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
เร่ือง อาหารที่ตอ้ งแสดงฉลากโภชนาการ และคา่ พลังงาน น้าตาล ไขมนั และโซเดียมแบบจีดีเอ

---------------------------------------------------
การแสดงค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอ ของอาหารให้เป็นไปตามรูปแบบ
และเง่ือนไข ดังนี
1. รปู แบบตามจดี ีเอ (Guideline Daily Amounts; GDAs) ให้เปน็ ดงั นี

1.1 รูปทรงกระบอกหัวท้ายมนแนวตังเรียงติดกันจ้านวน ๔ แท่ง เพื่อแสดงค่าพลังงาน
น้าตาล ไขมัน และโซเดยี ม ตามลา้ ดบั

1.2 สีขอบของทรงกระบอกให้แสดงสีใดสีหนึ่ง ดังต่อไปนี คือ สีด้า หรือสีน้าเงินเข้ม หรือ
สขี าว แลว้ แตก่ รณีและตอ้ งตัดกับสีพนื ของฉลาก

1.3 สีพืนภายในรปู ทรงกระบอกต้องเปน็ สีขาว เท่านนั
1.4 เส้นขีดภายในรูปทรงกระบอกทุกเส้นให้เป็นเส้นสีดา้ หรือสีน้าเงินเข้ม และต้องเป็น
สีเดยี วกบั สีตัวอกั ษรท่ีแสดงภายในรูปทรงกระบอก
1.5 ใหแ้ สดงไวท้ ่ีส่วนหนา้ ของฉลาก ทีเ่ หน็ ได้งา่ ยและอ่านได้ชัดเจน

สว่ นที่ 1

สว่ นที่ 2

ส่วนท่ี 3

2. เงื่อนไขการแสดงฉลากให้แสดงค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม ด้วยรูปแบบและ
ขนาดตัวอกั ษรท่ีเหน็ ได้งา่ ยและอ่านไดช้ ดั เจน ไวใ้ นรปู ทรงกระบอกเรยี งตามลา้ ดับ ดังนี

2.1 สว่ นท่ี 1 แสดงข้อความ “พลังงาน” “นา้ ตาล” “ไขมัน” และ “โซเดยี ม” ดว้ ยสีเดยี วกัน
กับเส้นขีดภายในรปู ทรงกระบอก

2.2 ส่วนที่ 2 แสดงค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม เป็นค่าต่อหนึ่งหน่วยบรรจุภณั ฑ์
ท่คี า้ นวณได้จากปรมิ าณหน่งึ หน่วยบริโภคคณู จา้ นวนหน่วยบรโิ ภค ดว้ ยสีเดียวกับเส้นขดี ภายในรูปทรงกระบอก

หนว่ ยของพลงั งานเปน็ กโิ ลแคลอรี
หน่วยของน้าตาลเปน็ กรัม หรือ ก.
หน่วยของไขมันเปน็ กรมั หรอื ก.
หนว่ ยของโซเดียมเป็น มิลลิกรัม หรอื มก.
2.3 สว่ นที่ 3 แสดงค่าพลงั งาน นา้ ตาล ไขมนั และโซเดยี มเป็นร้อยละ ดังนี
ค่าพลงั งานเปน็ รอ้ ยละของพลังงาน 2,000 กโิ ลแคลอรี
คา่ นา้ ตาลคิดเป็นรอ้ ยละของนา้ ตาล 65 กรัม
ค่าไขมันคดิ เปน็ รอ้ ยละของไขมนั ๖๕ กรัม
ค่าโซเดียมคิดเป็น 2,000 มิลลกิ รมั

368

-2-

3. แสดงขอ้ ความดว้ ยขนาดตวั อกั ษรท่เี หน็ ได้ง่ายและอ่านได้ชัดเจน ดงั นี
3.1 “คุณค่าทางโภชนาการต่อ...” (ความท่ีเว้นไว้ให้แสดงปริมาณที่เข้าใจได้ง่ายของหน่ึง

หน่วยบรรจุภณั ฑ์ เชน่ ต่อ 1 ถว้ ย ตอ่ 1 ซอง ตอ่ 1 กล่อง ตอ่ 1 ถงุ ) โดยแสดงไวเ้ หนือรปู ทรงกระบอก
3.2 “ควรแบ่งกิน…ครัง” (ความที่เว้นไว้ให้แสดงจ้านวนครังท่ีแนะน้าให้กิน ส้าหรับใน

กรณีท่ีหน่ึงหน่วยบรรจุภัณฑ์มีปริมาณมากกว่าหน่ึงหน่วยบริโภค) โดยแสดงไว้ใต้ข้อความ “คุณค่าทาง
โภชนาการตอ่ ...”

3.3 “*คิดเป็นร้อยละของปริมาณสงู สดุ ทบ่ี รโิ ภคไดต้ อ่ วัน” ไวใ้ ต้รปู ทรงกระบอก

369

(สาเนา)

ประกาศสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
เรอ่ื ง คาชแ้ี จงประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบบั ท่ี 394 (พ.ศ. 2561)

ออกตามความในพระราชบัญญัตอิ าหาร พ.ศ. 2522
เรอื่ ง อาหารท่ีตอ๎ งแสดงฉลากโภชนาการ และคาํ พลังงาน นา้ ตาล ไขมัน และโซเดยี มแบบจดี ีเอ

-----------------------------------------

ปัจจบุ ันปญั หาสขุ ภาพของประชาชนจากภาวะโภชนาการเกินและโรคไมํติดตํอ โดยเฉพาะโรคอ๎วน
โรคเบาหวาน และความดนั โลหิตสูง เป็นปัญหาระดับประเทศและระดับโลก ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได๎
มีนโยบายลดการบริโภคอาหารท่ีมีรสหวาน มัน เค็ม เพ่ือชํวยป้องกันปัญหาภาวะโภชนาการเกินและโรคไมํ
ติดตํอเร้ือรัง โดยให๎แสดงคําพลังงาน ไขมัน น้าตาล และโซเดียมแบบจีดีเอ (Guideline Daily Amounts,
GDAs) ตอํ หนง่ึ หนํวยบรรจุภัณฑ๑ บนฉลากด๎านหน๎าของผลิตภัณฑ๑อาหาร เพ่ือให๎ผ๎ูบริโภคสามารถใช๎เป็นข๎อมูล
ในการตัดสินใจเลือกซ้ือและบริโภคอาหารได๎อยํางเหมาะสม ในการนี้ ได๎ขยายขอบขํายอาหารที่บังคับให๎ต๎อง
แสดงฉลากโภชนาการ และคําพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม แบบจีดีเอเพิ่มเติม โดยได๎ออกประกาศ
กระทรวงสาธารณสุข (ฉบับท่ี 394) พ.ศ.2561 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เร่ือง
อาหารท่ตี อ๎ งแสดงฉลากโภชนาการ และคําพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม แบบจีดีเอ ซึ่งมีสาระสาคัญ
โดยสรปุ ดงั น้ี

1. ให๎อาหารที่อยูํในภาชนะบรรจุพร๎อมจาหนํายตํอผ๎ูบริโภคดังตํอไปนี้ เป็นอาหารที่ต๎องแสดงฉลาก
โภชนาการ และคําพลงั งาน น้าตาล ไขมนั และโซเดียมแบบจีดเี อ

(1) อาหารขบเค้ียว ไดแ๎ กํ
(1.1) มนั ฝรั่งทอดหรืออบกรอบ เชนํ มนั ฝรัง่ แผนํ ทอดกรอบ มันฝรั่งอบกรอบ มันฝรั่งแผํน

ทอดกรอบหรืออบกรอบปรงุ รสและกล่นิ ตาํ งๆ เชํน รสกะเพรากรอบ รสชีสและหวั หอม เปน็ ต๎น
(1.2) ขา๎ วโพดค่ัว ทอดหรืออบกรอบ เชํน ข๎าวโพดอบกรอบ ข๎าวโพดอบกรอบเคลือบเนย

คาราเมล ข๎าวโพดอบกรอบกลิ่นรสตํางๆ ข๎าวโพดคั่วเคลือบน้าตาลและเนย ข๎าวโพดค่ัวเคลือบช็อกโกแลต
ข๎าวโพดควั่ เคลือบเนยคาราเมล เปน็ ต๎น

(1.3) ข๎าวเกรียบทอดหรืออบกรอบ หรืออาหารขบเคี้ยวชนิดอบพอง เชํน ข๎าวเกรียบกุ๎ง
ข๎าวเกรียบสมุนไพร ข๎าวเกรียบเผือก แป้งถั่วเหลืองอบกรอบ ขนมอบกรอบเคลือบเนยคาราเมล ขนมอบ
กรอบกล่ินรสตํางๆ เชํน รสชอ็ กโกแลต รสตรอเบอร๑รี ขนมข๎าวเหนียวอบกรอบพันสาหรําย ขนมข๎าวอบกรอบ
กล่ินรสตํางๆ เชํน รสคอร๑นชสี กล่นิ คสั ตาร๑ดพดุ ดงิ้ เปน็ ต๎น

(1.4) ถวั่ หรอื นัตหรือเมล็ดพืชอ่ืนทอดหรืออบกรอบ หรืออบเกลือ หรือเคลือบปรุงรส เชํน
ถัว่ ลสิ งทอดหรอื อบกรอบปรุงรส ถ่ัวปากอ๎าเคลือบรสกุ๎ง ถั่วลันเตาเคลือบรสปลาหมึก อัลมอนด๑อบเกลือ เกาลัด
อบแกะเปลือก แมคคาเดเมียอบกรอบ เมล็ดมะมํวงหิมพานต๑อบเกลือ ถ่ัวลิสงผสมเมล็ดมะมํวงหิมพานต๑อบเกลือ
เมล็ดทานตะวนั เมลด็ แตงโม เมล็ดฟักทอง ขา๎ วกรอบรสต๎มยา เป็นต๎น

(1.5) สาหราํ ยทอด สาหรํายทอดอบกรอบ สาหราํ ยทอดเคลอื บปรุงรส
(1.6) เนื้อสัตว๑ที่ทาเป็นเส๎นหรือแผํน ทอดหรืออบกรอบ หรือปรุงรส เชํน ปลาเส๎น
ปลาหมึกแผนํ อบกรอบ หมูแผํนอบกรอบรสบาร๑บีควิ เปน็ ต๎น

370

-2-

(1.7) อาหารขบเคี้ยวตาม (1.1) - (1.6) ผสมกันมากกวํา 1 ชนิด เชํน เมล็ดพืชผสมถ่ัว
และสาหราํ ย ขนมอบพองผสมถ่ัวเคลอื บปรงุ รส เปน็ ตน๎

(2) ช็อกโกแลต และขนมหวานรสช็อกโกแลต เชํน ช็อกโกแลตนม ช็อกโกแลตชนิดไมํหวาน
ช็อกโกแลตนมคูเวอร๑เจอร๑ ดาร๑กช็อกโกแลตสอดไส๎อัลมอนด๑ ขนมหวานรสช็อกโกแลตผสมอัลมอนด๑ ขนม
หวานรสช็อกโกแลตสอดไส๎ครีม ผลิตภัณฑ๑ที่ทาจากช็อกโกแลต หรือขนมหวานที่มีลักษณะคล๎ายช็อกโกแลต
ซ่ึงเปน็ อาหารสาเรจ็ รปู ทพ่ี รอ๎ มบริโภคทันที

(3) ผลิตภณั ฑ๑ขนมอบ ได๎แกํ
(3.1) ขนมปังกรอบ หรือแครกเกอร๑ หรือบิสกิต เชํน ขนมปังกรอบเคลือบช็อกโกแลต

ขนมปงั กรอบสอดไสค๎ รีมช็อกโกแลต ขนมปังกรอบหรอื บสิ กิตรสตํางๆ เชํน รสชีส รสมินท๑ รสส๎ม ครีมแครกเกอร๑
แซนวิชแครกเกอร๑สอดไสค๎ รีมกล่นิ รสตาํ งๆ เชนํ กล่นิ บลเู บอรร๑ ี กลนิ่ เลมอนเชอร๑เบท ขนมขาไกํ เป็นต๎น

(3.2) เวเฟอรส๑ อดไส๎ เชํน เวเฟอร๑ไส๎ครมี กล่ินชาเขียว เวเฟอร๑ไส๎ครีมกล่ินบลูเบอร๑รี เวเฟอร๑
สอดไส๎ครีมชอ็ กโกแลต เวเฟอร๑รสนมสอดไส๎ครีมกลิน่ วานลิ ลา เวเฟอรเ๑ คลือบโกโก๎ครมี เปน็ ตน๎

(3.3) คุกก้ี
(3.4) เค๎ก เชํน เค๎กโรล คัพเค๎ก เค๎กเนยสด ชีสเค๎ก ชิฟฟอนเค๎ก เค๎กกล๎วยหอม บราวนี
มฟั ฟิน วาฟเฟลิ ชอ็ กบอล ขนมไหว้พระจนั ทร์ (Moon cake) เปน็ ตน๎
(3.5) พาย เพสทรี ทง้ั ชนิดที่มแี ละไมํมไี ส๎ เชนํ เอแคลร๑ ครัวซองท๑ พายไสต๎ าํ งๆ เป็นตน๎
(4) อาหารกึ่งสาเร็จรูป ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับท่ี 210) พ.ศ.2543 เรื่อง
อาหารก่ึงสาเรจ็ รปู ไดแ๎ กํ
(4.1) ก๐วยเต๋ียว ก๐วยจั๊บ บะหมี่ เส๎นหม่ี และวุ๎นเส๎นไมํวําจะมีการปรุงแตํงหรือไมํก็ตาม
พรอ๎ มซองเคร่อื งปรงุ
(4.2) ขา๎ วตม๎ ทปี่ รงุ แตงํ และโจก๏ ท่ปี รงุ แตํง
(5) อาหารม้ือหลักท่ีเป็นอาหารจานเดียว ซ่ึงต๎องเก็บรักษาไว๎ในต๎ูเย็นหรือต๎ูแชํแข็งตลอด
ระยะเวลาจาหนําย ได๎แกํ อาหารที่รับประทานเป็นม้ือหลักในแตํละวัน เช๎า กลางวัน เย็น มิใชํอาหารท่ี
รับประทานระหวํางม้ือ อาจรับประทานในลักษณะที่เป็นอาหารจานเดียว โดยท่ัวไปอาหารกลุํมนี้จัดอยํูใน
ประเภทอาหารสาเร็จรูปที่พร๎อมบริโภคทันที อยูํในภาชนะที่พร๎อมนาไปรับประทานได๎โดยต๎องนาไปผํานเตา
ไมโครเวฟกํอนการบริโภค เชํน ข๎าวผัดตํางๆ ข๎าวผัดกระเพรา ข๎าวไขํเจียว ข๎าวต๎ม โจ๏ก ข๎าวผัดอเมริกัน ข๎าวหมู
กรอบ ข๎าวหน๎าเป็ด ข๎าวหมกไกํ ข๎าวพร๎อมกับข๎าวชนิดตํางๆ (เชํน แกงกะหรี่ แกงเขียวหวาน แกงมัสมั่น แกง
พะแนง แกงเผ็ดเปด็ ยําง แกงส๎ม ต๎มยา ไกํต๐ุนยาจีน แกงจืด ต๎มขําไกํ ยาตํางๆ หมูทอดกระเทียม) บะหมี่น้าหมู
แดง บะหมี่แห๎งเป็ด เก๊ียวก๎งุ กว๐ ยเต๋ียวราดหนา๎ ผดั ว๎ุนเสน๎ ผดั ซีอวี๊ ขนมจีนนา้ ยา ผัดไทย เปน็ ตน๎
ทั้งน้ี ไมํรวมถึงอาหารม้ือหลักซ่ึงเก็บรักษาไว๎ในภาชนะบรรจุท่ีปิดสนิทท่ีเป็นโลหะหรือวัตถุอื่น
ที่คงรูปที่สามารถปอ้ งกันมิให๎อากาศภายนอกเขา๎ ไปในภาชนะบรรจุได๎ และเก็บรกั ษาไวไ๎ ดใ๎ นอณุ หภูมปิ กติ
(6) เครอ่ื งดม่ื ในภาชนะบรรจทุ ปี่ ดิ สนิท ได๎แกํ
(6.1) เครื่องดื่มท่ีมีหรือทาจากผลไม๎ พืชหรือผัก ไมํวําจะมีก๏าซคาร๑บอนไดออกไซด๑หรือ
ออกซิเจนผสมอยํดู ๎วยหรอื ไมํก็ตาม ทอ่ี ยใํู นลักษณะพร๎อมบริโภค เชํน น้าผักผลไม๎รวม น้าส๎ม 100% น้ารสส๎ม
25% นา้ มะตมู ทั้งนี้ ยกเว๎นเครอ่ื งดมื่ จากพืชทที่ าให๎แห๎งในลักษณะของชาชง
(6.2) เครื่องด่ืมที่มีหรือทาจากสํวนผสมที่ไมํใชํผลไม๎ พืชหรือผัก ไมํวําจะมีก๏าซ
คาร๑บอนไดออกไซด๑หรือออกซิเจน ผสมอยูํด๎วยหรือไมํก็ตาม ท่ีนามาปรุงแตํงรสในลักษณะพร๎อมบริโภค เชํน
เครอ่ื งด่มื แตํงกล่ินรสตาํ งๆ เครื่องด่ืมอดั ลม เปน็ ตน๎

371

-3-

(6.3) เคร่อื งดม่ื ตาม (6.1) หรือ (6.2) ชนิดแห๎ง เชํน เคร่ืองดื่มมอลต๑รสช็อกโกแลตปรุง
สาเรจ็ ชนดิ ผง

(7) ชาปรุงสาเร็จ ทง้ั ชนดิ เหลวและชนดิ แห๎ง หมายถึง ชาหรือชาผงสาเร็จรูปที่นามาปรุงแตํงรส
ในลกั ษณะพรอ๎ มบรโิ ภคและบรรจใุ นภาชนะบรรจทุ ่ปี ิดสนิท ไมวํ าํ ผลติ ภัณฑด๑ ังกลาํ วจะเปน็ ชนดิ เหลวหรือแห๎ง

(8) กาแฟปรุงสาเร็จ ทั้งชนิดเหลวและชนิดแห๎ง หมายถึง กาแฟแท๎ กาแฟผสม กาแฟที่สกัด
กาเฟอีนออก กาแฟสาเร็จรูป ที่นามาปรุงแตํงรสในลักษณะพร๎อมบริโภค และบรรจุในภาชนะบรรจุท่ีปิดสนิท
ไมวํ ําผลิตภัณฑด๑ ังกลําวจะเปน็ ชนดิ เหลวหรือแหง๎

(9) นมปรุงแตํง
(10) นมเปร้ียว
(11) ผลติ ภณั ฑ๑ของนม
(12) นา้ นมถ่วั เหลือง
(13) ไอศกรมี ที่อยูใํ นลกั ษณะพร๎อมบรโิ ภค
ท้งั น้ี เครือ่ งดมื่ ในภาชนะบรรจทุ ป่ี ดิ สนิท ชาปรุงสาเรจ็ กาแฟปรงุ สาเร็จ และน้านมถ่ัวเหลืองท่ี
บรรจุในขวดแก๎วชนิดคืนขวด (Returnable Glass Bottle) และเครื่องด่ืมในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท นมปรุง
แตํง นมเปรี้ยว ผลิตภัณฑ๑ของนม และน้านมถ่ัวเหลืองที่เป็นของเหลวในลักษณะพร๎อมบริโภคที่มีพ้ืนที่ฉลาก
ด๎านหน๎าน๎อยกวํา 65 ตารางเซนติเมตร ที่ไมํสามารถจาหนํายพร๎อมหีบหํอ และไมํอาจแสดงฉลากโภชนาการ
และคําพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอไว๎ที่ภาชนะบรรจุได๎ ให๎แสดงผํานโปรแกรมประยุกต๑ของ
โทรศัพท๑เคลื่อนที่ (Nutrition detective mobile application) รํวมกับการแสดงไว๎บริเวณที่จาหนํายสินค๎า
หรือบริเวณร๎านอาหารท่ีจาหนํายอาหารนั้นๆ เชํน การพัฒนา QR Code ที่สามารถจัดเก็บข๎อมูลโภชนาการ
ฉลากโภชนาการ และฉลากจีดเี อของผลติ ภณั ฑ๑อาหาร และแสดงผลบนโทรศัพท๑มือถือได๎ โดยแสดง QR Code
นั้น ณ จุดจาหนํายหรือร๎านอาหาร เป็นตน๎
อยํางไรก็ตาม หากประสงค๑จะแสดงฉลากโภชนาการ และคําพลังงาน น้าตาล ไขมัน และ
โซเดยี มแบบจีดีเอไว๎ทภ่ี าชนะบรรจุ ต๎องปฏบิ ตั ิตามประกาศน้ี
2. การแสดงฉลากอาหารตามข๎อ 3 ของประกาศฉบับน้ี ให๎ปฏบิ ัตดิ ังน้ี
(1) ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขวําด๎วยเร่ือง การแสดงฉลากของอาหารใน
ภาชนะบรรจุ และประกาศกระทรวงสาธารณสุขวําด๎วยเร่ืองฉลากของอาหารนั้นๆ ที่ได๎มีการกาหนดการแสดง
ฉลากไวเ๎ ป็นการเฉพาะ และจะตอ๎ งแสดงฉลากโภชนาการอยาํ งใดอยาํ งหนงึ่ ดังตํอไปน้ีด๎วย

(1.1) แสดงกรอบข๎อมูลโภชนาการแบบเต็ม ตามข๎อ 1.1 ของบัญชีหมายเลข 1 ท๎าย
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับท่ี 182) พ.ศ.2541 เรื่อง ฉลากโภชนาการ ลงวันท่ี 20 มีนาคม พ.ศ.2541
หรอื

(1.2) แสดงกรอบข๎อมูลโภชนาการแบบยํอ ตามข๎อ 1.2 ของบัญชีหมายเลข 1 ท๎าย
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 182) พ.ศ.2541 เรื่อง ฉลากโภชนาการ ลงวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2541
โดยให๎แสดงข๎อมูลคุณคําทางโภชนาการเฉพาะพลังงานท้ังหมด ไขมันท้ังหมด โปรตีน คาร๑โบไฮเดรตทั้งหมด
น้าตาล โซเดียม แตํหากมีโคเลสเตอรอลตํอหน่ึงหนํวยบริโภคตั้งแตํ 2 มิลลิกรัมขึ้นไป จะต๎องแสดงปริมาณ
โคเลสเตอรอลด๎วย

การตรวจวเิ คราะห๑คุณคําทางโภชนาการเพ่ือแสดงฉลากโภชนาการแบบยํอ อาจวิเคราะห๑
เฉพาะพลังงานทงั้ หมด ไขมันทงั้ หมด โปรตีน คารโ๑ บไฮเดรตท้งั หมด น้าตาล โซเดยี ม และโคเลสเตอรอลได๎

กรณีอาหารตามข๎อ 3 ของประกาศฉบับนี้ มีการแสดงข๎อความกลําวอ๎างทาง
โภชนาการดว๎ ย เชํน “มีแคลเซียม” “อุดมด๎วยโปรตีน” หรือสารอาหารชนิดอ่ืนท่ีอยํูในบัญชีหมายเลข 3 แนบ

372

-4-

ท๎ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 182) พ.ศ.2541 เพื่อใช๎คุณคําในการสํงเสริมการขาย หรือระบุ
กลุํมผู๎บริโภคเฉพาะในการสํงเสริมการขาย ต๎องแสดงกรอบข๎อมูลโภชนาการแบบเต็มตามข๎อ 1.1 ของบัญชี
หมายเลข 1 ท๎ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับท่ี 182) พ.ศ. 2541 เรื่อง ฉลากโภชนาการ ท้ังน้ี ให๎
เลือกแสดงกรอบข๎อมูลโภชนาการแบบยํอได๎เม่ือสารอาหารที่กาหนดในกรอบข๎อมูลโภชนาการแบบเต็มสํวนที่
2 จานวนตั้งแตํ 8 รายการขึ้นไป จาก 15 รายการ มีปริมาณที่น๎อยมากไมํมีความสาคัญจนถือวําเป็นศูนย๑ตาม
หลกั เกณฑ๑การปัดตวั เลขของการแสดงคาํ ปรมิ าณสารอาหารบนฉลากโภชนาการในข๎อ 2.5 ของบัญชีหมายเลข
1 ทา๎ ยประกาศกระทรวงสาธารณสขุ (ฉบบั ที่ 182) พ.ศ. 2541 เรอื่ ง ฉลากโภชนาการ

(2) การแสดงคําพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอของอาหารตามข๎อ 3 ของ
ประกาศฉบับน้ี ให๎แสดงตามรูปแบบและเงือ่ นไขที่กาหนดไวต๎ ามบญั ชแี นบทา๎ ยประกาศ ดงั น้ี

คณุ คา่ ทางโภชนาการต่อ......
ควรแบ่งกนิ ......ครง้ั

* คดิ เป็นร้อยละของปริมาณสงู สดุ ท่ีบรโิ ภคไดต้ อ่ วนั
(3) แสดงข๎อความวํา “บริโภคแตํน๎อยและออกกาลังกายเพื่อสุขภาพ” ด๎วยตัวอักษรหนาทึบ
เห็นได๎ชัดเจน สีของตัวอักษรตัดกับสีพ้ืนของกรอบ และสีของกรอบตัดกับสีพ้ืนฉลาก สาหรับอาหารขบเค้ียว
ช็อกโกแลตและขนมหวานรสชอ็ กโกแลต และผลติ ภัณฑข๑ นมอบ
ตัวอยาํ งการแสดงฉลากจดี ีเอของอาหารที่กาหนดไว๎ตามข๎อ 3 ของประกาศฉบบั นี้ มีดงั น้ี
กรณีท่ี 1 อาหารที่หน่ึงหนํวยบรรจุภัณฑ๑มีปริมาณน้อยกว่าหรือเท่ากับหนึ่งหน่วยบริโภค
หรือกินได๎หมดภายใน 1 ครั้ง ให๎แสดงข๎อความ “คุณคําทางโภชนาการตํอ ” (ความท่ีเว๎นไว๎ให๎แสดง
ปรมิ าณทเี่ ข๎าใจไดง๎ าํ ยของหนึ่งหนวํ ยบรรจภุ ัณฑ๑นัน้ เชนํ ๑ แทํง ๑ ซอง ๑ ถงุ หรอื 1 กลอํ ง) ตวั อยาํ งเชนํ

คณุ ค่าทางโภชนาการต่อ 1 ซอง

คิดเปน็ รอ้ ยละของปริมาณสงู สุดทบ่ี รโิ ภคไดต้ อ่ วนั
กรณีที่ 2 อาหารท่ีหนึ่งหนํวยบรรจุภัณฑ๑มีปริมาณมากกว่าหนึ่งหน่วยบริโภค หรือกินได๎
มากกวํา 1 ครั้ง ให๎แสดง “คุณคําทางโภชนาการตํอ ” (ความท่ีเว๎นไว๎ให๎แสดงปริมาณท่ีเข๎าใจได๎งํายของ
หนึ่งหนํวยบรรจุภัณฑ๑ เชํน ๑ แทํง ๑ ซอง ๑ ถุง 1 กลํอง 1 กระป๋อง) และข๎อความ “ควรแบํงกิน คร้ัง”
(ความท่ีเว๎นไว๎ให๎แสดงจานวนครั้งท่ีแนะนาให๎กิน โดยคานวณได๎จากปริมาณหนึ่งหนํวยบรรจุภัณฑ๑หารด๎วย
ปรมิ าณหนึง่ หนวํ ยบริโภค) ไว๎ใตข๎ อ๎ ความ “คณุ คําทางโภชนาการตอํ ” ดว๎ ย ตวั อยํางเชํน

373

-5-
คณุ ค่าทางโภชนาการตอ่ 1 ซอง

ควรแบ่งกนิ 7 ครงั้

* คดิ เป็นรอ้ ยละของปรมิ าณสงู สดุ ทีบ่ รโิ ภคได้ตอ่ วัน
กรณีท่ี 3 กรณีอาหารที่บรรจุในภาชนะบรรจุยํอย ซ่ึงมีเน้ือที่ฉลากด๎านหน๎าน๎อยกวํา 65
ตารางเซนติเมตร และจดั รวมในหีบหอํ พรอ๎ มจาหนําย และไมํอาจแสดงกรอบข๎อมูลโภชนาการ และคําพลังงาน
น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอ ไว๎ที่ฉลากของภาชนะบรรจุยํอยได๎ ให๎แสดงฉลากไว๎ที่หีบหํอพร๎อม
จาหนาํ ย แลว๎ แตกํ รณี ดังนี้

3.1 กรณีภาชนะบรรจุย่อยรับประทานได้มากกว่า 1 คร้ัง (มากกว่า 1 หน่วยบริโภค)
ให๎แสดง “คุณคําทางโภชนาการตํอ....” (ความท่ีเว๎นไว๎ให๎แสดงปริมาณหนึ่งหนํวยภาชนะบรรจุยํอย) และ
ข๎อความ “ควรแบํงกิน....คร้ัง” (ความท่ีเว๎นไว๎ให๎แสดงจานวนครั้งท่ีแนะนาให๎กิน โดยคานวณได๎จากปริมาณ
หนง่ึ หนวํ ยภาชนะบรรจยุ ํอยหารด๎วยปรมิ าณหนงึ่ หนวํ ยบริโภค) ตัวอยํางเชนํ

คุณคา่ ทางโภชนาการตอ่ 1 ซอง
ควรแบ่งกนิ 2 ครั้ง

* คดิ เป็นร้อยละของปริมาณสงู สุดที่บรโิ ภคได้ต่อวนั
3.2 กรณีภาชนะบรรจุย่อยรับประทานได้หมดใน 1 ครั้ง (1 หน่วยบริโภค) ให๎แสดง
ข๎อความ “คุณคําทางโภชนาการตํอ....” (ความท่ีเว๎นไว๎ให๎แสดงปริมาณของหนึ่งหนํวยภาชนะบรรจุยํอย)
ตัวอยํางเชนํ

คณุ คา่ ทางโภชนาการตอ่ 1 ซอง

* คิดเปน็ ร้อยละของปรมิ าณสูงสุดทบี่ รโิ ภคไดต้ อ่ วนั
3.3 กรณีแสดงค่าพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอ ต่อหนึ่งหน่วยบรรจุ
ภัณฑ์ (แสดงข้อมูลท้ังหีบห่อพร้อมจ้าหน่าย) ให๎แสดง “คุณคําทางโภชนาการตํอ....” (ความที่เว๎นไว๎ให๎แสดง
ปริมาณหน่งึ หนํวยบรรจุภัณฑ๑) และข๎อความ “ควรแบํงกิน....ครั้ง” (ความที่เว๎นไว๎ให๎แสดงจานวนครั้งที่แนะนา
ให๎กนิ โดยคานวณไดจ๎ ากปริมาณหนงึ่ หนํวยบรรจุภณั ฑ๑หารด๎วยปรมิ าณหนึ่งหนํวยบรโิ ภค) ตวั อยํางเชํน

374

-6-

คุณคา่ ทางโภชนาการตอ่ 1 หอ่
ควรแบง่ กิน 7 ครั้ง

* คดิ เป็นรอ้ ยละของปรมิ าณสูงสดุ ทบ่ี รโิ ภคไดต้ ่อวนั
กรณที ่ี 4 กรณอี าหารท่ีบรรจใุ นภาชนะบรรจุยํอย และจัดรวมในหีบหํอพร๎อมจาหนําย และมี
การแสดงฉลากโภชนาการ และคําพลังงาน น้าตาล ไขมันและโซเดียมไว๎ท่ีฉลากของภาชนะบรรจุยํอยแล๎ว การ
แสดงคาํ พลังงาน น้าตาล ไขมันและโซเดียมทห่ี ีบหอํ พรอ๎ มจาหนาํ ย อาจแสดงได๎แล๎วแตกํ รณี ดังนี้
4.1 แสดงต่อหนง่ึ หนว่ ยบรรจุภัณฑ์ (หีบหอ่ พรอ้ มจ้าหน่าย) ตวั อยาํ งเชนํ

คณุ ค่าทางโภชนาการต่อ 1 หอ่
ควรแบ่งกิน 7 คร้ัง

* คิดเป็นร้อยละของปรมิ าณสงู สดุ ทบ่ี รโิ ภคได้ตอ่ วนั
4.2 แสดงต่อภาชนะบรรจุยอ่ ย ตัวอยํางเชนํ

คณุ ค่าทางโภชนาการตอ่ 1 ซอง

* คิดเป็นร้อยละของปรมิ าณสูงสุดที่บรโิ ภคได้ต่อวัน
ท้ังน้ี ตัวเลขท่ีแสดงคําพลังงาน น้าตาล ไขมันและโซเดียม ในรูปทรงกระบอกหัวท๎ายมนนั้น
ให๎ใช๎ตามหลักเกณฑ๑การปัดตัวเลขของการแสดงคําปริมาณสารอาหารบนฉลากโภชนาการ ตามข๎อ 2.5 ของ
บัญชหี มายเลข 1 ทา๎ ยประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบบั ท่ี 182) พ.ศ.2541 เรือ่ ง ฉลากโภชนาการ
3. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับท่ี 394) พ.ศ.2561 เรื่อง อาหารที่ต๎องแสดงฉลาก
โภชนาการ และคาํ พลงั งาน นา้ ตาล ไขมนั และโซเดยี มแบบจีดเี อ ประกาศ ณ วันท่ี 26 กันยายน พ.ศ. 2561
และมีผลบงั คบั ใช๎ต้งั แตวํ ันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2562 เป็นต๎นไป
4. อาหารตามข๎อ 3 ของประกาศฉบับนี้ ไมํใช๎บังคับกับอาหารท่ีผู๎ปรุงเป็นผู๎จาหนํายโดยตรง
ให๎แกํผู๎บรโิ ภค และอาหารท่ีมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว๎ในสวํ นที่เกี่ยวขอ๎ งกับการแสดงสารอาหาร
บนฉลากไว๎แลว๎ โดยเฉพาะ เชนํ อาหารมวี ัตถุประสงค๑พิเศษ เป็นต๎น

375

-7-

๕. ผ๎ูผลิต ผู๎นาเข๎าหรือผ๎ูจาหนํายอาหารตามข๎อ 3 ของประกาศฉบับน้ี ดังตํอไปนี้ กํอนวันท่ี
ประกาศฉบับน้ีใชบ๎ ังคับ ต๎องปฏิบัติให๎เป็นไปตามประกาศฉบับนี้ และยังคงจาหนํายผลิตภัณฑ๑ตํอไปได๎ แตํต๎อง
ไมํเกนิ วนั ท่ี 20 เมษายน พ.ศ.2564

5.1 เมล็ดพชื อื่นทอด หรืออบกรอบ หรอื อบเกลือ หรือเคลือบปรุงรส
5.2 เนื้อสัตว๑ท่ีทาเป็นเส๎นหรือแผํน ทอด หรืออบกรอบ หรือปรุงรส นอกเหนือจากปลาเส๎น
ทอด หรอื อบกรอบหรือปรุงรส
5.3 อาหารขบเคยี้ วตามขอ๎ 3 (1) ทผี่ สมกันมากกวาํ 1 ชนิด
5.4 เคร่ืองด่ืมในภาชนะบรรจทุ ่ปี ิดสนทิ
5.5 ชาปรงุ สาเร็จ ทง้ั ชนดิ เหลวและชนิดแหง๎
5.6 กาแฟปรุงสาเรจ็ ทั้งชนิดเหลวและชนิดแห๎ง
5.7 นมปรุงแตํง
5.8 นมเปรยี้ ว
5.9 ผลติ ภณั ฑ๑ของนม
5.10 นา้ นมถ่วั เหลอื ง
5.11 ไอศกรีมทอี่ ยใํู นลกั ษณะพรอ๎ มบรโิ ภค
6. ผ๎ูผลิต ผ๎ูนาเข๎า หรือผู๎จาหนํายอาหารท่ีนอกเหนือจากอาหารตามข๎อ 3 ของประกาศฉบับน้ี
และแสดงคาํ พลงั งาน นา้ ตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอบนฉลากของอาหาร อยํูกํอนวันท่ีประกาศฉบับนี้ใช๎
บังคับ ต๎องปฏิบัติให๎เป็นไปตามประกาศฉบับน้ี โดยยังคงจาหนํายผลิตภัณฑ๑ตํอไปได๎ แตํต๎องไมํเกินวันท่ี 20
เมษายน พ.ศ.2564
7. ผผ๎ู ลิต ผ๎ูนาเข๎า หรือผู๎จาหนํายท่ีมีการแสดงปริมาณโซเดียม และร๎อยละของปริมาณท่ีแนะนา
ตํอวันของผลิตภัณฑ๑ โดยคานวณจากปริมาณที่แนะนาตํอวัน (Thai RDI) ของโซเดียม 2,400 มิลลิกรัม อยูํ
กํอนวันท่ีประกาศฉบับน้ีใช๎บังคับ ซึ่งไมํสอดคล๎องกับปริมาณโซเดียมที่แนะนาตํอวัน 2,000 มิลลิกรัม ตาม
ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ฉบับที่ 392 (พ.ศ.2561) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522
เรื่อง ฉลากโภชนาการ (ฉบับที่ 3) ต๎องปฏิบัติให๎เป็นไปตามประกาศฉบับนี้ และฉบับท่ี 392 (พ.ศ.2561)
ท้งั น้ี ยงั คงจาหนาํ ยผลติ ภณั ฑ๑ตอํ ไปได๎ แตตํ ๎องไมเํ กินวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564
8. ผู๎ผลิต ผ๎ูนาเข๎า หรือผ๎ูจาหนํายที่ไมํปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับน้ี จัดวําเป็น
การฝ่าฝืนประกาศ ซ่ึงออกตามมาตรา ๖(๑๐) แหํงพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.๒๕๒๒ มีโทษปรับไมํเกิน
๓๐,๐๐๐ บาท

สานักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงขอประกาศให๎ทราบโดยท่ัวกัน และขอให๎ผ๎ูประกอบการ
ที่เก่ียวข๎องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกลําวโดยเครํงครัด หากมีข๎อสงสัยประการใด โปรด
ตดิ ตอํ สอบถามได๎ที่ สานักอาหาร สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท๑ 02-
590-717๙ และ 02-590-7185 ในเวลาราชการ

ประกาศ ณ วันท่ี 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ธเรศ กรษั นยั รววิ งค๑
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา

รบั รองสาเนาถูกต๎อง
จริ ารัตน๑ เทศะศิลป์
นกั วชิ าการอาหารและยาชานาญการพิเศษ

376

-8-

บญั ชีแนบทา๎ ยประกาศสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
เรื่อง คาชี้แจงประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 394 (พ.ศ.2561)

ออกตามความในพระราชบัญญตั อิ าหาร พ.ศ.2522
เร่ือง อาหารทตี่ อ๎ งแสดงฉลากโภชนาการ และคําพลังงาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอ

---------------------------------------------------------------

ตัวอยา่ งการแสดงฉลากโภชนาการแบบย่อรปู แบบมาตรฐาน

1) กรณที ่ีผลติ ภณั ฑ๑มปี ริมาณโคเลสเตอรอล น๎อยกวํา 2 มก. ตํอหน่งึ หนวํ ยบรโิ ภค ตามท่ีระบุบนฉลาก

ขอ้ มูลโภชนาการ

หน่ึงหนํวยบริโภค :……………..(………...)
จานวนหนวํ ยบริโภคตํอ ……… : ……...

คุณค่าทางโภชนาการต่อหน่ึงหน่วยบรโิ ภค
พลงั งานทัง้ หมด …… กิโลแคลอรี

ไขมนั ท้ังหมด ….. ก. ร๎อยละของปรมิ าณทีแ่ นะนาตํอวัน *
..........%

โปรตีน ..... ก. ..........%
คารโ์ บไฮเดรตทัง้ หมด ….. ก.

น้าตาล ….. ก. ..........%
โซเดียม ….. มก.

* รอ้ ยละของปรมิ าณสารอาหารทแ่ี นะนาให้บรโิ ภคตอ่ วนั สาหรบั คนไทยอายตุ ้ังแต่ 6 ปีข้ึนไป
(Thai RDI) โดยคิดจากความต้องการพลังงานวนั ละ 2,000 กิโลแคลอรี

2) กรณีท่ีผลติ ภัณฑ๑มีปรมิ าณโคเลสเตอรอล ต้ังแตํ 2 มิลลกิ รัมขนึ้ ไป ตอํ หน่งึ หนวํ ยบริโภคตามทร่ี ะบบุ นฉลาก

ข้อมูลโภชนาการ

หนง่ึ หนํวยบริโภค :……………..(………...)
จานวนหนํวยบรโิ ภคตอํ ……… : ……...

คณุ คา่ ทางโภชนาการตอ่ หนึ่งหน่วยบริโภค รอ๎ ยละของปรมิ าณทแ่ี นะนาตอํ วัน *
พลงั งานทง้ั หมด …… กโิ ลแคลอรี ..........%
..........%
ไขมนั ทัง้ หมด ….. ก.
โคเลสเตอรอล….. มก. ..........%
โปรตนี ..... ก.
คาร์โบไฮเดรตท้ังหมด ….. ก. ..........%

นา้ ตาล ….. ก.
โซเดียม ….. มก.

* ร้อยละของปรมิ าณสารอาหารทแ่ี นะนาใหบ้ รโิ ภคตอ่ วนั สาหรบั คนไทยอายุตงั้ แต่ 6 ปขี ้ึนไป
(Thai RDI) โดยคดิ จากความต้องการพลงั งานวนั ละ 2,000 กโิ ลแคลอรี

377

-9-

ตัวอย่างการคา้ นวณและการแสดงฉลากโภชนาการ และค่าพลงั งาน น้าตาล ไขมัน และโซเดยี มแบบจดี เี อ

อ ลโภชนาการ

หนึงหนว่ บริโภค: 1/7 ซอง (30 กรมั )

านวนหน่ว บรโิ ภคต่อซอง : 7

คุณค่าทางโภชนาการตอ่ หนึงหน่ว บรโิ ภค

พลังงานทง้ั ห 160 กโิ ลแคลอรี (พลงั งานจากไขมัน 80 กิโลแคลอรี)
รอ้ ยละของปริมาณทแี่ นะนาตอ่ วนั *
นั ท้ังห 9 ก. 14 %
ไขมนั อมิ่ ตวั 2 ก. 10 %
โค ล ตอรอล 0 มก. 0%
โปรตีน 2 ก.
คารโบ รตทั้งห 18 ก. 6%
ใยอาหาร 1 ก. 4%
นา้ ตาล 2 ก.
โซ ี 140 มก. 7%

วิตา ิน อ ร้อยละของปรมิ าณทีแ่ นะนาต่อวนั * 2% 49
วติ า นิ บี 2 0 % วติ า ินบี 1 0%
หลก 0 % แคล ซี
2%

*รอ้ ยละของปริมาณสารอาหารท่แี นะนาให้บริโภคต่อวนั สาหรับคนไทยอายตุ ั้งแต่
6 ปีขึ้นไป (Thai RDI) โดยคิดจากความต้องการพลงั งานวันละ2,000 กโิ ลแคลอรี
ความต้องการพลงั งานของแตล่ ะบุคคลแตกต่างกนั ผทู้ ีต่ อ้ งการพลงั งานวันละ
2,000 กิโลแคลอรี ควรไดร้ ับสารอาหารตา่ ง ดังนี้
ไขมนั ทง้ั หมด นอ้ ยกว่า 65 ก.
ไขมันอม่ิ ตัว น้อยกว่า 20 ก.
โคเลสเตอรอล นอ้ ยกว่า 300 มก.
คารโ์ บไ เดรตท้ังหมด 300 ก.
ใยอาหาร 25 ก.
โซเดียม น้อยกวา่ 2,000 มก.
พลังงาน (กโิ ลแคลอร)ี ต่อกรมั : ไขมนั = 9; โปรตีน = 4 ; คารโ์ บไ เดรต = 4

วธิ กี ารคานวณคา่ พลงั งาน น้าตาล ไขมัน และโซเดียม

1. พลงั งาน

- ค่าพลงั งาน 1,120 กโิ ลแคลอรี ไดม้ าจาก

คา่ พลังงานหนึ่งหนว่ ยบริโภคในฉลากโภชนาการคูณกบั จานวนหน่วยบรโิ ภค = 061 × 7

= 1,120 กิโลแคลอรี

- ปริมาณรอ้ ยละของพลังงาน 56% เปน็ คา่ เทียบกับปริมาณสูงสดุ ท่ีบรโิ ภคไดต้ ่อวัน

คา่ พลังงานท่บี ริโภคไดส้ ูงสุดต่อวันเทา่ กับ 00111กโิ ลแคลอรี คิดเปน็ 011%

ถ้าค่าพลังงานเท่ากบั 1,120 กโิ ลแคลอรี คดิ เปน็ 1,120 × 100 = 66 %

2,000

2. น้าตาล

- ค่านา้ ตาล 14 กรัม ไดจ้ าก

คา่ น้าตาลหนงึ่ หน่วยบริโภคในฉลากโภชนาการคณู กบั จานวนหน่วยบริโภค = 2 × 7 = 14 กรมั

- ปริมาณร้อยละของนา้ ตาล 22% เป็นค่าเทียบกับปรมิ าณสูงสดุ ทีบ่ ริโภคไดต้ ่อวัน

ค่านา้ ตาลที่บริโภคได้สูงสุดตอ่ วนั เทา่ กบั 66กรมั คดิ เป็น 011%

ถา้ คา่ นา้ ตาลเท่ากับ 14 กรมั คดิ เป็น 14 × 100 = 22 %

65

หมายเหตุ: กรณีผลิตภณั ฑ์อาหารมีน้าตาล “น้อยกว่า 1” ต้องใช้ค่าที่ได้จากการวเิ คราะห์จริงในการคานวณ

และใช้หลกั เกณฑ์การปดั ตัวเลขของการแสดงคา่ ปรมิ าณสารอาหารบนฉลากโภชนาการ

378

-10-

3. ัน

- ค่าไขมัน 63 กรัม ไดจ้ าก

คา่ ไขมนั ท้งั หมดหน่ึงหน่วยบริโภคในฉลากโภชนาการคูณกับจานวนหน่วยบรโิ ภค = 9 × 7 = 63 กรัม

- ปริมาณร้อยละของไขมัน 97% เป็นคา่ เทยี บกบั ปริมาณสงู สดุ ทบี่ รโิ ภคไดต้ ่อวัน

คา่ ไขมนั ท่บี รโิ ภคได้สงู สุดต่อวันเท่ากบั 66กรัม คิดเป็น 011%

ถา้ คา่ ไขมนั เทา่ กับ 63 กรัม คิดเป็น 63 × 100 = 97 %

65

4. โซ ี

- คา่ โซเดียม 980 กรัม ไดจ้ าก

ค่าโซเดียมหนึง่ หนว่ ยบริโภคในฉลากโภชนาการคูณกับจานวนหน่วยบรโิ ภค = 140 × 7 = 980 กรมั

- ปรมิ าณรอ้ ยละของโซเดียม 49% เป็นคา่ เทยี บกบั ปริมาณสูงสดุ ทบ่ี รโิ ภคได้ต่อวัน

ค่าโซเดียมทบ่ี รโิ ภคไดส้ ูงสดุ ต่อวันเท่ากบั 2,000 มลิ ลกิ รมั คดิ เปน็ 011%

ถ้าคา่ โซเดยี มเท่ากับ 980 มิลลิกรัม คิดเปน็ 980 × 100 = 49 %

2,000

379

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สปำรนะกั กงำำนศคกณระะกทรรรวมงกสำำรธกำฤรษณฎสีกขุ ำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(ฉบับที่ ๑๘๒) พ.ศ. ๒๕๔๑

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษเรฎ่อื ีกงำฉลำกโภชนำสกำำนรกั ๑งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

โดยทเ่ี ป็นกำรสมควรกำหนดให้มีกำรแสดงฉลำกโภชนำกำร เพื่อให้ข้อมูลและควำมรู้
ด้ำนคุณค่ำทำงสโำภนชกั งนำำนกคำณระขกอรงรอมำกหำรำกรฤแษกฎ่ปีกรำะชำชน อันเปส็นำนกกั ำงรำคนุ้มคคณระอกงรผรมู้บกรำิโรภกคฤทษำฎงีกดำ้ำนอำหำรและ

สำนกั งำนโภคชณนะำกกรรำมรกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนอกั ำงศำนัยคอณำนะกำรจรตมำกมำครกวฤำษมฎในีกมำ ำตรำ ๕ และสมำนำกัตงรำำนค๖ณ(ะ๑ก๐รร)มแกหำ่งรพกฤรษะรฎำีกชำบัญญัติอำหำร
พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขออกประกำศไว้ ดงั ต่อไปน้ี

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ขอ้ ๑ ใหอ้ ำหำรดังต่อไปน้ี เป็นอำหำรท่ตี อ้ งแสดงฉลำกโภชนำกำร

สำน๑กั ง.๑ำนอคำณหะำกรรทรมีม่ กีกำำรรกกฤลษำ่ ฎวีกอำำ้ งทำงโภชนำสกำำนรกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๑.๒ อำหำรทีม่ กี ำรใชค้ ณุ คำ่ ในกำรสง่ เสริมกำรขำย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษ๑ฎ.๓ีกำอำหำรที่ระบสกุ ำลน่มุ กั ผงู้บำนรคโิ ภณคะกในรรกมำกรำสรง่ กเสฤษรมิฎกีกำำรขำย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๑.๔ อำหำรอื่นตำมที่สำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำประกำศกำหนด โดย
ควำมเห็นชอบสขำอนงกั คงณำนะคกณระรกมรกรำมรกอำำรหกำฤรษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษขฎอ้ ีก๒ำ ในประกำศสนำนี้ กั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำน“กั องำำนหคำณระทก่ีมรรีกมำกรำกรกลฤ่ำษวฎอีก้ำำงทำงโภชนำสกำำนรกั ”งำนหคมณำะยกถรึงรมอกำำรหกำฤรษทฎ่ีแีกสำ ดงข้อมูลทำง

โภชนำกำรบนฉลำกเก่ียวกับชนิดหรือปริมำณสำรอำหำร ปริมำณสำรอำหำรโดยเปรียบเทียบ หรือ

สำนกั งำนหคนณ้ำะทก่ีขรอรมงสกำำรรกอฤำษหฎำีกรำแต่ท้ังนี้ไม่รวสมำนถกัึงองำำนหคำณระทก่ีมรีกรมำกรำกรลก่ำฤวษอฎ้ำีกงำทำงโภชนำกำสรำเนพกั ่ืองำปนฏคิบณัตะิใกหรร้เปม็กนำไรปกฤษฎีกำ

ตำมประกำศกระทรวงสำธำรณสขุ ว่ำดว้ ยเร่อื งนัน้ ๆ

สำน“กั องำำนหคำณรทะก่ีมรีกรำมรกใำชร้คกฤุณษคฎ่ำีกใำนกำรส่งเสริมสกำำนรกั ขงำำยนค”ณหะมกำรรยมถกึงำรอกำฤหษำฎรีกทำี่มีกำรนำข้อมูล

เก่ียวกับคณุ ประโยชน์หรอื หนำ้ ที่ของตัวผลติ ภัณฑ์ ส่วนประกอบหรือสำรอำหำรอย่ำงหน่ึงอย่ำงใดของ
สำนกั งำนผคลณิตภะกัณรฑรม์ทกี่มำีตรกอ่ ฤรษำ่ งฎกีกำำยหรือสุขภำพสำมนำกั ใงชำ้เนพคอ่ื ณปะรกะรโรยมชกนำร์ในกฤกษำรฎสีกง่ำเสริมกำรขำยสำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

“อำหำรที่ระบุกลุ่มผู้บริโภคในกำรส่งเสริมกำรขำย” หมำยถึง อำหำรที่มุ่งจะใช้กับ
กลุ่มผู้บริโภคเสฉำพนกัำงะำกนลคุ่มณะเกชร่นรมกกลำุ่มรกวฤัยษเรฎียีกนำ กลุ่มผู้บริหสำำรนกกั งลำุ่มนผคู้สณูงะอกำรรยมุ เกปำร็นกตฤ้นษฎแีกตำ่ท้ังน้ีไม่รวมถึง

สำนกั งำนอคำหณำะรกทร่มีรมีกกำำรรรกะฤบษุกฎลีกุม่ ำผู้บรโิ ภคเพื่อปสฏำนิบกั ตั งิใำหน้เคปณน็ ะไกปรตรำมมกปำรระกกฤษำศฎกีกรำะทรวงสำธำรณสำสนุขกั วง่ำำนดค้วยณเะรก่ือรงรนม้ันกำๆรกฤษฎีกำ
“สำรอำหำร” หมำยถึง สำรอำหำรที่กำหนดไว้ในบัญชีหมำยเลข ๓ แนบท้ำย

ประกำศฉบบั นสี้ ำแนลกั ะงใำหน้หคณมำะยกรครวมำกมำรรวกมฤถษึงฎพีกลำงั งำนท่ไี ด้จำกสสำนำรกั องำำนหคำณรดะก้วรยรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษขฎ้อีกำ๓ กำรแสดสงำฉนลกั ำงำกนอคำณหะำกรรรตมำกมำรขก้อฤษ๑ฎีกตำ้องปฏิบัติตำสมำนปกั รงะำนกคำณศะกกรระรมทกรำวรงกฤษฎีกำ

สำธำรณสขุ ว่ำดว้ ยเรือ่ งฉลำก และตอ้ งแสดงฉลำกโภชนำกำร โดยปฏิบัติตำมประกำศฉบบั นดี้ ้วย

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๑ รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๕/ตอนท่ี ๔๗ ง/หน้ำ ๒๓/๑๑ มถิ ุนำยน ๒๕๔๑

380

- ๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ข้อ ๔ กำรแสดงฉลำกโภชนำกำรจะต้องแสดงข้อควำมเป็นภำษำไทย แต่จะมี

สำนกั ภงำำนษคำณต่ำะกงปรรรมะกเทำรศกดฤ้วษยฎกีก็ไำด้ โดยจะต้องสเำปน็นกั ไงปำนตคำณมหะกลรักรเมกกณำรฑก์แฤลษะฎเีกงำ่ือนไขตำมบัญสชำีแนนกั บงำทน้ำคยณปะรกะรกรมำศกำรกฤษฎีกำ

ฉบับน้ี ดังน้ี

ส๔ำ.น๑กั งบำญันคชณหี ะมกำรยรเมลกขำร๑กฤ:ษรฎปู ีกแำบบและเง่อื นไสขำขนอกั งงำกนำครแณสะดกรงรกมรกอำบรขก้อฤษมฎูลีกโภำชนำกำร

๔.๒ บัญชีหมำยเลข ๒ : วิธีกำรกำหนดปริมำณอำหำรหน่ึงหน่วยบริโภคกับจำนวน
สำนกั หงนำน่วคยณบะรกิโภรรคมตก่อำภรกำฤชษนฎะีกบำรรจุ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ตงั้ แต่หกปขี ้ึนไป ส๔ำ.น๓กั งบำัญนคชณีหะมกำรยรเมลกขำร๓กฤ:ษสฎำีกรำอำหำรทแ่ี นะสนำำนใกหั ง้บำรนิโคภณคะปกรระรมจกำวำรันกสฤำษหฎรีกับำคนไทยอำยุ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรก๔ฤ.๔ษฎบีกญั ำ ชีหมำยเลข ส๔ำน: กัหงลำนกั คเกณณะกฑรใ์ รนมกกำำรรกกลฤำ่ษวฎอีกำ้ ำงทำงโภชนำกสำำรนบกั นงฉำนลคำณกอะกำรหรำมรกำรกฤษฎีกำ

สขำ้อนกั ๕งำนปครณะะกกำรศรฉมบกบัำรนกไี้ ฤมษ่ใชฎี้บกำงั คบั กบั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๕.๑ นมดัดแปลงสำหรับทำรกและนมดัดแปลงสูตรตอ่ เนือ่ งสำหรับทำรกและเด็กเล็ก

สำนกั องำำหนคำรณทะำกรรรกมแกลำะรอกฤำหษฎำรีกสำูตรต่อเนื่องสสำำหนรกั ับงำทนำครณกะแกลระรเมดก็กำเรลก็กฤษอฎำีกหำำรเสริมสำหรสับำทนำกั รงำกนแคลณะะเดกร็กรเมลก็กำรกฤษฎีกำ

และอำหำรอื่น ซึ่งได้มีประกำศกระทรวงสำธำรณสุขกำหนดในส่วนท่ีเก่ียวกับกำรแสดงสำรอำหำรบน
ฉลำกไวแ้ ลว้ โดยเฉสำพนำกั ะงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๕.๒ อำหำรทม่ี ไิ ด้จำหนำ่ ยโดยตรงต่อผู้บรโิ ภคหรืออำหำรท่ีมิได้ผลติ หรือนำสัง่ เข้ำมำ
สำนกั เงพำื่อนจคำณหะนกำ่รยรมในกปำรรกะฤเษทฎศีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ส๕ำน.๓กั งอำนำหคณำระทก่ีรบรรมรกจำุใรนกภฤษำฎชีกนำะบรรจุย่อย ซสำึ่งนมกัุ่งงหำมนำคยณจะะกจรรำมหกนำ่ำรกยฤรษวมฎีกกำันในภำชนะ
บรรจใุ หญ่

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ขอ้ ๖ ประกำศฉบบั นี้

ส๖ำน.๑กั งใำหน้ใคชณ้บะังกครับรมเมก่ือำรพก้นฤษกฎำหีกำนดหนึ่งร้อยแสปำดนกสั งิบำวนันคนณับะกแรตร่วมันกำปรรกะฤกษำฎศีกใำนรำชกิจจำ

นุเบกษำเปน็ ต้นไป

สำนกั งำนคณะกรรมกำรก๖ฤ.๒ษฎใีกหำ้ผู้ผลิต ผู้นำเสขำ้นำกั ซงึ่ำงนอคำณหะำกรรทรี่ไมดก้รำัรบกใฤบษสฎำีกคำัญกำรขึ้นทะสเบำนียกั นงำตนำครณับะอกำรหรมำกรำรกฤษฎีกำ

อำหำรที่ได้รับอนุญำตให้ใช้ฉลำกอำหำร อำหำรที่ได้รับแจ้งรำยละเอียด หรืออำหำรท่ีจะต้องแสดง
ฉลำกโภชนำกำรสตำำนมกั ปงำรนะคกณำะศกกรรระมทกำรรวกงฤสษำฎธีกำำรณสุขฉบับนส้ี ำยน่ืนกั คงำำนขคอณแกะก้ไรขรเมปกลำ่ียรนกฤแษปฎลีกงำ หรือยื่นขอ

อนุญำตใช้ฉลำกอำหำรตำมประกำศฉบับน้ี แล้วแต่กรณี ให้ถูกต้องภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่
สำนกั วงนั ำนทค่ปี ณระะกกรำรศมฉกบำรบั กนฤ้ีใษชฎบ้ ีกังำคบั และเม่ือไสดำ้ยนนื่ กั คงำำนขคอณดังะกกรลร่ำมวกแำลร้วกใฤหษค้ ฎงีกใำช้ฉลำกน้ันไปพสลำนำงกั กงำอ่ นนคไณด้ะจกนรรกมวก่ำำรกฤษฎีกำ

จะไดร้ บั อนญุ ำต สหำรนอื กั ถงึงำวนนั คทณผี่ ะ้อูกนรรุญมำกตำรไกดฤ้แษจฎง้ ใีกหำท้ รำบถงึ กำรไสมำน่อกนั งุญำนำตคณใหะใ้กชร้ฉรลมำกกำรนก้นั ฤตษอ่ ฎไีกปำ
ในกำรอนุญำตให้ใช้ฉลำกใหม่ตำมวรรคหนึ่ง ถ้ำปรำกฏว่ำฉลำกเดิมท่ีได้จัดทำไว้ใช้

สำนกั กง่อำนนควณันะทก่ีปรรรมะกกำำรศกฉฤบษับฎนีกำ้ีใช้บังคับเหลือสอำนยกัู่ แงำลนะคไณม่ถะกูกรตร้อมงกตำำรกมฤปษรฎะีกกำำศกระทรวงสสำำธนำกั รงณำนสคุขณฉะบกับรรนมี้ กผำู้ รกฤษฎีกำ

อนุญำตจะอนุญำตให้ใช้ฉลำกเดิมไปพลำงก่อนจนกว่ำจะหมดก็ได้แต่ต้องไม่เกินหนึ่งปี นับแต่วันท่ี

ประกำศฉบบั นใี้ ชส้บำังนคกั บั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ประกำศ ณ วันท่ี ๒๐ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๔๑
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ รักเกสียำรนตกั ิ งสำนุขคธนณะะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนรคฐั มณนะกตรรรวี ม่ำกกำำรรกกฤรษะฎทีกรำวงสำธำรณสขุ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

381

- ๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกี ำ

[เอกสำรแนบทำ้ ย]

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๑. บัญชีหมำยเลข ๑ แนบท้ำยประกำศกระทรวงสำธำรณสุข (ฉบับที่ ๑๘๒) พ.ศ.

๒๕๔๑ (แกไ้ ขเพม่ิ สเำตนมิ กั งขำ้อนค๑ณะ๑ก.๓รร)ม๒กำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๒. บัญชีหมำยเลข ๒ แนบท้ำยประกำศกระทรวงสำธำรณสุข (ฉบับที่ ๑๘๒) พ.ศ.
สำนกั ๒ง๕ำน๔ค๑ณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๓. บัญชีหมำยเลข ๓ แนบท้ำยประกำศกระทรวงสำธำรณสุข (ฉบับที่ ๑๘๒) พ.ศ.
๒๕๔๑ (แก้ไขเพม่ิ สเำตนิมกั งลำำนดคับณทะก่ี ๒รร๘ม)ก๓ำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรก๔ฤ.ษบฎัญีกำชีหมำยเลข ๔สำแนนกั บงำทน้ำคยณปะรกะรกรมำกศำกรรกะฤทษรฎวีกงำสำธำรณสุข (สฉำบนกัับงทำนี่ ๑ค๘ณ๒ะก)รพรม.ศก.ำรกฤษฎีกำ
๒๕๔๑

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(ดูขอ้ มูลจำกภำพกฎหมำย)

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ส๒ำปนรกั ะงกำนำศคกณระะกทรรรวมงสกำำธรำกรฤณษสฎุขีก(ำฉบบั ที่ ๒๑๙) พส.ำศน.กั ๒ง๕ำน๔ค๔ณเระอ่ืกงรรฉมลกำกำรโภกฤชนษำฎกีกำำร (ฉบบั ท่ี ๒)
๓ ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข ฉบับท่ี ๓๙๒ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติ
สำนกั องำำหนำครณพะ.กศร. ร๒ม๕ก๒ำ๒รกเฤรษ่อื งฎีกฉลำำกโภชนำกำรส(ฉำนบกัับงทำ่ี น๓ค) ณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

382

- ๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั ปงรำนะคกณำศะกกรรระมทกรำวรงกสฤำษธฎำีกรณำ สุข (ฉบับที่ส๒ำ๑นกั๙ง)ำนพค.ศณ.ะ๒ก๕รร๔ม๔กำเรรก่ือฤงษฉฎลีกำำกโภชนำกำรส(ำฉนบกั ับงทำนี่ ๒คณ)๔ะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สขำ้อนกั ๒งำนปคณระะกกรำรศมนกี้ใำหรก้ใฤชษ้บฎังีกคำับตั้งแต่วันถัสดำจนำกั กงวำนันคปณระะกกรรำมศกใำนรรกำฤชษกฎิจีกำจำนุเบกษำ

เป็นต้นไป สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข ฉบับท่ี ๓๙๒ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติอำหำร
พ.ศ. ๒๕๒๒ เรื่องสำฉนลกั ำงกำนโภคชณนะำกกรรำมรก(ำฉรบกับฤษทฎ่ี ๓ีก)ำ๕ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อ ๒ อำหำรที่มีกำรแสดงฉลำกโภชนำกำรไว้ก่อนวันท่ีประกำศฉบับน้ีใช้บังคับ

และมีกำรแสดงปสรำิมนำกั ณงำนโซคเณดะียกมรไรมม่สกอำรดกคฤลษ้อฎงีกกำับปริมำณโซสเดำนียกัมงทำี่นแคนณะนะกำรตร่อมวกันำรตกำฤมษปฎรีกะำกำศฉบับนี้

ยังคงจำหนำ่ ยต่อไปได้ ทัง้ นี้ ตอ้ งไม่เกินสองปนี บั แตว่ นั ที่ประกำศฉบับน้ีใชบ้ ังคับ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ข้อ ๓ ประกำศฉบับนี้ ให้ใช้บังคับเม่ือพ้นกำหนดหน่ึงร้อยแปดสิบวันนับแต่วัน
ประกำศในรำชกจิ สจำนำนกั งุเบำนกคษณำะเปกรน็ รตม้นกไำปรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๔ รำชกจิ จำนุเบกษำ เลม่ ๑๑๘/ตอนพิเศษท่ี ๗๐ง/หนำ้ ๓/๒๖ กรกฎำคม ๒๕๔๔
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก๕ฤรษำชฎกีกิจำจำนเุ บกษำ เล่มสำ๑น๓กั ๕งำ/นตคอนณพะเิกศรษรม๒ก๖ำ๔รกงฤ/ษหนฎำ้ีกำ๙/๒๒ ตลุ ำคม ๒สำ๕น๖กั ๑งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

383

(สาํ เนา)
ประกาศสาํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา
เรอ่ื ง การแสดงขอความกลา วอางเกยี่ วกับหนา ทีข่ องสารอาหาร

-------------------------------------

เพื่อใหการแสดงขอความกลาวอางเกี่ยวกับหนาที่ของสารอาหารเปนไปตามประกาศ
กระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 182) พ.ศ.2541 เรื่อง ฉลากโภชนาการ ลงวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2541
ในบัญชีหมายเลข 4 ขอ 1.3 ที่กําหนดใหขอความกลาวอางเก่ียวกับหนาท่ีของสารอาหาร ตองไดรับ
ความเห็นชอบจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
จึงออกประกาศไว ดงั ตอ ไปน้ี

ขอ 1 การแสดงขอความกลาวอางหนาท่ีของสารอาหารท่ีเปนไปตามเงื่อนไขดังตอไปน้ี
ถอื วา ไดรับความเหน็ ชอบจากสาํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา

1.1 สารอาหารท่กี ลา วอา งตองเปน ไปตามขอ 1.3 ในบญั ชหี มายเลข 4 แนบทา ยประกาศ
กระทรวงสาธารณสุข (ฉบบั ที่ 182) พ.ศ.2541 เรอ่ื ง ฉลากโภชนาการ ลงวนั ท่ี 20 มนี าคม พ.ศ.2541

1.2 ขอความท่ีกลาวอางตองเปนไปตามท่ีกาํ หนดในบัญชีแนบทายประกาศนี้
โดยใหแ สดงช่อื สารอาหารท่ีกลา วอางกํากับขอ ความทก่ี ลาวอา งน้ันดวย

กรณีขอความกลาวอางสารอาหารมีหลายขอความ อาจเลือกแสดงขอความใด
ขอ ความหน่งึ หรอื หลายขอความก็ได ท้ังนก้ี ารแสดงขอ ความดังกลาวจะตองตอ เน่อื งกัน

1.3 แสดงขอความ “ควรกินอาหารหลากหลาย ครบ 5 หมู ในสัดสวนท่ีเหมาะสม
เปน ประจํา” กาํ กับการกลาวอา งหนา ทีข่ องสารอาหารดว ยตวั อักษรทชี่ ดั เจน

ขอ 2 ฉลากของอาหารท่ไี ดร ับความเหน็ ชอบไวแลวกอ นวันที่ประกาศนใ้ี ชบงั คบั ใหค งใชฉ ลากเดมิ
ท่ีเหลอื อยูต อ ไป จนกวาจะหมด แตต องไมเ กนิ หนึ่งปน บั ตั้งแตว ันทีป่ ระกาศนใี้ ชบ ังคบั และเมอ่ื พนกําหนดเวลา
ดังกลาว การแสดงขอความกลาวอางเก่ียวกับหนาท่ีของสารอาหาร และขอความกํากับการกลาวอาง
เก่ยี วกบั หนา ทข่ี องสารอาหารตองเปนไปตามประกาศน้ี หรือไดรับความเห็นชอบจากสํานักงานคณะกรรมการ
อาหารและยา แลว แตกรณี

ขอ 3 ประกาศนีใ้ หใ ชบงั คบั ตง้ั แตว นั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปนตนไป

ประกาศ ณ วนั ที่ 27 มิถนุ ายน พ.ศ.2551

มานิตย อรุณากูร
(นายมานติ ย อรณุ ากรู )
รองเลขาธิการ ปฏบิ ัตริ าชการแทน
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา

(คัดจากราชกจิ จานเุ บกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป เลม 125 ตอนพิเศษ 136 ง ลงวนั ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2551)

รับรองสําเนาถกู ตอง

(นางสาววารณุ ี เสนสุภา)

นักวชิ าการอาหารและยา 8 ว.

384

บญั ชแี สดงขอ ความกลา วอางเก่ียวกับหนา ทข่ี องสารอาหารแนบทายประกาศสาํ นกั คณะกรรมการอาหารและยา
เรื่อง การแสดงขอความกลาวอางเก่ียวกบั หนา ที่ของสารอาหาร

อันดบั สารอาหาร ขอความ

1 โปรตนี 1.1 จําเปน ตอ การเจรญิ เติบโตและชว ยซอ มแซมสว นทส่ี กึ หรอของรา งกาย

1.2 ใหก รดอะมโิ นทีจ่ าํ เปนตอ การสรา งโปรตนี ชนิดตา ง ๆ ในรา งกาย

2 ใยอาหาร 2.1 เพิม่ กากในระบบทางเดินอาหาร ชว ยกระตนุ การขบั ถาย

3 วติ ามนิ เอ 3.1 มสี วนชว ยในการเจริญเตบิ โตของรางกาย

3.2 ชวยในการมองเหน็

3.3 ชว ยเสริมสรางเยอื่ บุตา ง ๆ ของรา งกาย

หมายเหตุ : เบตา -เคโรทีน ใหร ะบไุ ดเ พียงวา “เบตา-เคโรทนี เปนสารตั้งตน ของ

วติ ามนิ เอ” เทา นน้ั

4 วติ ามนิ บ1ี 4.1 ชวยใหร างกายไดพลงั งานจากคารโ บไฮเดรต

4.2 มสี วนชว ยในการทาํ งานของระบบประสาทและกลา มเนอ้ื

5 วติ ามนิ บ2ี 5.1 วิตามนิ บ2ี ชว ยใหร า งกายไดพ ลังงานจากคารโบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน

6 ไนอะซนิ 6.1 ชว ยใหเ ยอ่ื บทุ างเดินอาหารและผิวหนงั อยใู นสภาพปกติ

6.2 ชวยใหรา งกายไดพลังงานจากคารโบไฮเดรต โปรตนี และไขมนั

7 วิตามนิ บ6ี 7.1 มีสว นชว ยในการสรางเม็ดเลือดแดงใหสมบูรณ

7.2 มีสว นชว ยสรา งสารทจ่ี าํ เปนในการทาํ งานของระบบประสาท

8 กรดโฟลคิ / โฟเลต 8.1 มสี ว นสาํ คญั ในการสรา งเม็ดเลือดแดง

9 ไบโอติน 9.1 เปนองคป ระกอบสําคญั เกยี่ วกบั การใชประโยชน (เมตาบอลิซึม) ของไขมัน

และคารโบไฮเดรต

9.2 เปนองคป ระกอบสาํ คญั เกยี่ วกับการใชประโยชนข องไขมันและคารโ บไฮเดรต

9.3 เปน องคป ระกอบสําคญั เกี่ยวกบั เมตาบอลิซึมของไขมันและคารโ บไฮเดรต

10 กรดแพนโทธนิ ิค 10.1 ชว ยในการใชประโยชน (เมตาบอลซิ ึม) ของไขมัน และคารโ บไฮเดรต

10.2 ชวยในการใชป ระโยชนของไขมันและคารโ บไฮเดรต

10.3 ชวยในการเมตาบอลซิ มึ ของไขมันและคารโบไฮเดรต

11 วติ ามนิ บ1ี 2 11.1 มีสวนชว ยสรา งสารทจ่ี ําเปน ในการสรา งเซลลเมด็ เลือดแดง

11.2 มีสว นชว ยในการทาํ งานของระบบประสาทและสมอง

12 วติ ามนิ ซี 12.1 ชว ยใหห ลอดเลือดแขง็ แรง

12.2 มสี ว นชว ยในกระบวนการตอตา นอนุมลู อิสระ

12.3 มสี ว นชว ยในการสรา งเนื้อเยอ่ื คอลลาเจน และเนอ้ื เย่ือของเอ็นกระดกู ออน

13 วิตามนิ ดี 13.1 ชวยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรสั

385

-2-

อันดับ สารอาหาร ขอความ

14 วติ ามนิ อี 14.1 มีสวนชว ยในกระบวนการตอ ตานอนมุ ูลอิสระ

15 วติ ามนิ เค 15.1 ชวยสรา งสารทที่ ําใหเ กดิ การแข็งตวั ของเลอื ด

15.2 ชวยลดการสลายแคลเซยี ม ทําใหก ระดูกแข็งแรง

16 แคลเซียม 16.1 เปนสว นประกอบสาํ คญั ของกระดูกและฟน

16.2 มีสว นชว ยในการแขง็ ตวั ของเลอื ด

16.3 มีสว นชว ยในกระบวนการสรางกระดูกและฟน ทแี่ ขง็ แรง

17 ฟอสฟอรัส 17.1 เปน สว นประกอบสาํ คญั ของกระดกู และฟน

17.2 มสี วนชว ยในกระบวนการสรางกระดกู และฟน ที่แข็งแรง

18 เหล็ก 18.1 เปน สว นประกอบสาํ คัญของฮโี มโกลบินในเม็ดเลอื ดแดง

19 ไอโอดีน 19.1 เปน สว นประกอบทส่ี าํ คญั ของฮอรโมนไทรอยด ซง่ึ มหี นา ที่ควบคุม

การเจรญิ เตบิ โตและการพฒั นาของรางกายและสมอง

20 แมกนีเซยี ม 20.1 เปนสว นประกอบของกระดกู และฟน

20.2 ชว ยในการทาํ งานของระบบประสาทและกลามเนอ้ื

21 สงั กะสี 21.1 ชวยในการเจรญิ เตบิ โตของรา งกาย

22 ทองแดง 22.1 มสี ว นชว ยในการสรา งฮีโมโกลบนิ

23 โพแทสเซยี ม 23.1 ทาํ งานรว มกบั โซเดียมในการรกั ษาสมดลุ ของ กรด ดาง และอเี ลค็ โตรไลท

ของรา งกาย

คําเตอื น : ถา รา งกายไดร ับโพแทสเซยี มมาก อาจทาํ ใหห ัวใจเตน ผดิ ปกติได

24 แมงกานีส 24.1 มสี วนรว มในการทาํ งานของเอนไซมหลายกลุมในรางกาย

25 ซลี ีเนยี ม 25.1 มีสว นชว ยในกระบวนการตอ ตา นอนมุ ูลอิสระ

26 ฟลอู อไรด 26.1 มสี วนชว ยเสริมสรา งความแขง็ แรงใหก ระดูก และฟน

27 โมลบิ ดีนัม 27.1 ชวยในการทาํ งานของเอนไซมบางชนดิ ในรางกาย

28 โครเมยี ม 28.1 รว มกบั อนิ ซูลนิ ในการนํากลโู คสเขา เซลล

29 คลอไรด 29.1 รว มกับสารอน่ื ในการรักษาสมดลุ ของกรด - ดางในรางกาย

386

ขอ ความกลา วอางหนาที่สารอาหารรูปแบบภาษาองั กฤษ (เพ่มิ เติม)

สารอาหาร ขอ ความภาษาไทย ขอ ความภาษาอังกฤษ
1.โปรตนี
(Protein) 1.1 จําเปนตอการเจรญิ เติบโตและชวยซอมแซม 1.1 Protein contributes to a growth and help repair body
สว นท่สี ึกหรอของรางกาย tissue.
2.ใยอาหาร 1.2 ใหก รดอะมโิ นทจ่ี ําเปน ตอ การสรางโปรตีน 1.2 Protein contributes to a source of indispensible
(Dietary fiber) ชนิดตา ง ๆ ในรา งกาย amino acids for body protein synthesis.
3.วิตามนิ เอ 2.1 เพิ่มกากในระบบทางเดนิ อาหาร ชวยกระตุน 2.1 Dietary fiber contributes to an increases in fecal mass
(Vitamin A) การขบั ถา ย and stimulate the bowel movement
3.1 มีสว นชว ยในการเจริญเติบโตของรา งกาย 3.1 Vitamin A has a role in body growth.
4.วติ ามนิ บี 1 3.2 ชวยในการมองเห็น 3.2 Vitamin A contributes to the maintenance of normal
(Vitamin B1) vision.
3.3 ชวยเสรมิ สรา งเยือ่ บตุ างๆ ของรา งกาย 3.3 Vitamin A contributes to the maintenance of normal
5.วิตามนิ บี 2 mucous membrane.
(Vitamin B2) หมายเหต:ุ เบตา -แคโรทนี ใหร ะบุไดเพยี งวา Remark: Beta-carotene can only specify as “Beta-
6.ไนอะซนิ "เบตา -แคโรทนี เปนสารต้ังตนของ วติ ามนิ เอ" carotene is precursor of Vitamin A”.
(Niacin) เทา น้นั
4.1 ชว ยใหรางกายไดพ ลงั งานจากคารโ บไฮเดรต 4.1 Thiamine contributes to normal-energy yielding
7.วติ ามนิ บี 6 metabolism from carbohydrate.
(Vitamin B6) 4.2 มสี วนชว ยในการทาํ งานของระบบประสาท 4.2 Thiamine contributes to normal functioning of
และกลา มเนอื้ muscle and nervous system.
8.กรดโฟลคิ /โฟเลต 5.1 ชวยใหรางกายไดพ ลังงานจากคารโ บไฮเดรต 5.1 Riboflavin contributes to normal-energy yielding
(Folic acid/Folate) โปรตีน และไขมนั metabolism from carbohydrate, protein and fat.
9.ไบโอติน 6.1 ชว ยใหเยอื่ บทุ างเดินอาหารและผวิ หนงั อยใู น 6.1 Niacin contributes to maintenance of normal
(Biotin) สภาพปกติ mucous membrane of GI tract and normal skin.
6.2 ชว ยใหร างกายไดพ ลงั งานจากคารโบไฮเดรต 6.2 Niacin contributes to normal-energy yielding
10.กรดแพนโทธินคิ โปรตีน และไขมัน metabolism from carbohydrate, protein and fat.
(Pantothenic acid) 7.1 มสี ว นชว ยในการสรางเมด็ เลอื ดแดงให 7.1 Vitamin B6 contributes to normal red blood cell
สมบูรณ formation.
7.2 มีสว นชว ยสรา งสารทีจ่ ําเปน ในการทํางาน 7.2 Vitamin B6 contributes to normal function of the
ของระบบประสาท nervous system.
8.1 มีสว นสําคญั ในการสรางเมด็ เลอื ดแดง 8.1 Folic acid/Folate contributes to normal red blood
cell formation.
9.1 เปนองคประกอบสําคัญเก่ียวกับการใช 9.1 Biotin contributes to the use (metabolism) of fat and
ประโยชน (เมตาบอลซิ มึ ) ของไขมนั และ carbohydrate.
คารโ บไฮเดรต
9.2 เปน องคประกอบสาํ คัญเก่ยี วกับการใช 9.2 Biotin contributes to the use of fat and carbohydrate.
ประโยชนข องไขมนั และคารโบไฮเดรต
9.3 เปนองคป ระกอบสาํ คัญเกยี่ วกับเมตาบอลซิ มึ 9.3 Biotin contributes to normal metabolism of fat and
ของไขมนั และคารโบไฮเดรต carbohydrate.
10.1 ชว ยในการใชประโยชน (เมตาบอลิซมึ ) ของ 10.1 Pantothenic acid contributes to the use
ไขมนั และคารโบไฮเดรต (metabolism) of fat and carbohydrate.
10.2 ชวยในการใชป ระโยชนข องไขมันและ 10.2 Pantothenic acid contributes to the use of fat and
คารโ บไฮเดรต carbohydrate.
10.3 ชวยในการเมตาบอลซิ มึ ของไขมันและ 10.3 Pantothenic acid contributes to normal metabolism
คารโบไฮเดรต of fat and carbohydrate.

387

สารอาหาร ขอความภาษาไทย ขอ ความภาษาอังกฤษ
11.วิตามนิ บี 12
(Vitamin B12) 11.1 มสี วนชว ยสรา งสารท่จี ําเปนในการสราง 11.1 Vitamin B12 contributes to synthesis of essential
เซลลเมด็ เลอื ดแดง substance for normal red blood cell formation or aids in
12.วิตามินซี red blood cell formation.
(Vitamin C) 11.2 มสี วนชว ยในการทํางานของระบบประสาท 11.2 Vitamin B12 contributes to normal functioning of
และสมอง the nervous and brain system.
13.วติ ามนิ ดี 12.1 ชว ยใหหลอดเลอื ดแข็งแรง 12.1 Vitamin C contributes to strengthen blood vessel.
(Vitamin D) 12.2 มสี วนชว ยในกระบวนการตอตานอนมุ ูล 12.2 Vitamin C contributes to protection of cells from
14.วิตามินอี อสิ ระ free radicals.
(Vitamin E) 12.3 มสี วนชว ยในการสรางเน้ือเยือ่ คอลลาเจน 12.3 Vitamin C contributes to normal collagen formation
15.วติ ามนิ เค และเนื้อเย่ือของเอ็นกระดกู ออ น for the normal function of cartilage.
(Vitamin K) 13.1 ชวยดดู ซึมแคลเซยี ม และฟอสฟอรัส 13.1 Vitamin D contributes to normal absorption of
calcium and phosphorous.
16.แคลเซยี ม 14.1 มสี ว นชวยในกระบวนการตอตานอนมุ ูล 14.1 Vitamin E contributes to protection of cells from
(Calcium) อิสระ free radicals.
15.1 ชว ยสรางสารท่ีทําใหเกิดการแขง็ ตวั ของ 15.1 Vitamin K contributes to normal blood clotting
17.ฟอสฟอรสั เลอื ด
(Phosphorus) 15.2 ชวยลดการสลายแคลเซียม ทําใหกระดกู 15.2 Vitamin K contributes to calcium demineralization
แขง็ แรง to maintenance of normal bones
18.เหลก็ 16.1 เปนสว นประกอบสาํ คัญของกระดูกและฟน 16.1 Calcium contributes to the essential component of
(Iron) bones and teeth.
19.ไอโอดนี 16.2 มีสวนชว ยในการแข็งตวั ของเลอื ด 16.2 Calcium contributes to normal blood clotting.
(Iodine) 16.3 มสี วนชวยในกระบวนการสรา งกระดูกและ 16.3 Calcium contributes to the synthesis of strong
ฟนทแ่ี ข็งแรง bones and teeth.
20.แมกนเี ซยี ม 17.1 เปน สว นประกอบสําคัญของกระดกู และฟน 17.1 Phosphorus contributes to the essential
(Magnesium) component of bones and teeth.
17.2 มสี วนชว ยในกระบวนการสรางกระดกู และ 17.2 Phosphorus contributes to the synthesis of strong
21.สังกะสี (Zinc) ฟนทแ่ี ขง็ แรง bones and teeth.
22.ทองแดง 18.1 เปนสว นประกอบสําคัญของฮโี มโกลบินใน 18.1 Iron is the essential component of hemoglobin in
(Copper) เม็ดเลอื ดแดง red blood cells.
23.โพแทสเซยี ม 19.1 เปน สว นประกอบทส่ี ําคญั ของฮอรโ มน 19.1 Iodine contributes to the essential nutrient of
(Potassium) ไทรอยด ซึ่งมีหนา ทีค่ วบคุมการเจรญิ เติบโตและ thyroid hormones which control growth and
การพฒั นาของรางกายและสมอง development of body and brain.
24.แมงกานีส 20.1 เปนสว นประกอบของกระดกู และฟน 20.1 Magnesium contributes to the essential component
(Manganese) of bones and teeth.
20.2 ชว ยในการทาํ งานของระบบประสาทและ 20.2 Magnesium contributes to normal functioning of
กลา มเนื้อ the nervous and muscle system.
21.1 ชว ยในการเจริญเตบิ โตของรางกาย 21.1 Zinc contributes to a body growth.
22.1 มสี วนชว ยในการสรางฮโี มโกลบนิ 22.1 Copper contributes to a hemoglobin synthesis.

23.1 ทาํ งานรว มกับโซเดยี มในการรักษาสมดลุ 23.1 Potassium with sodium contributes to maintaining a
ของกรด ดา ง และอเี ลค็ โตรไลทของรา งกาย balance of acid-base and electrolytes in the body.
คาํ เตือน: ถา รางกายไดรับโพแทสเซยี มมาก อาจ Warning: Excess potassium may affect abnormal heart
ทาํ ใหหวั ใจเตน ผดิ ปกตไิ ด rate.

24.1 มีสว นรว มในการทํางานของเอนไซมหลาย 24.1 Manganese contributes to many enzymes function
กลมุ ในรา งกาย in the body.

388

สารอาหาร ขอ ความภาษาไทย ขอ ความภาษาองั กฤษ

25.ซลิ ีเนยี ม 25.1 มีสวนชว ยในกระบวนการตอตานอนมุ ลู 25.1 Selenium contributes to protection of cells from
(Selenium)
26.ฟลอู อไรด อิสระ free radicals.
(Fluoride)
27.โมลิบดมี ัม 26.1 มสี วนชว ยเสรมิ สรางความแขง็ แรงใหกระดกู 26.1 Fluoride contributes to strengthening strong bone
(Molybdenum)
28.โครเมยี ม และฟน and teeth.
(Chromium)
29.คลอไรด 27.1 ชวยในการทาํ งานของเอนไซมบ างชนดิ ใน 27.1 Molybdenum contributes to normal function of
(Chloride)
รางกาย some enzymes in the body.

28.1 รว มกบั อินซูลนิ ในการนํากลโู คสเขาเซลล 28.1 Chromium with insulin contributes to bring glucose

into cells.

29.1 รวมกบั สารอ่นื ในการรักษาสมดุลของกรด- 29.1 Chloride with other substance contributes to

ดา งในรางกาย maintaining a balance of acid-base in the body

389

เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๔๗ ง หนา้ ๕ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๙
ราชกจิ จานุเบกษา

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

(ฉบับที่ ๓๗๓) พ.ศ. ๒๕๕๙
เรอื่ ง การแสดงสัญลกั ษณโ์ ภชนาการบนฉลากอาหาร

เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ข้อมูลโภชนาการในรูปแบบสัญลักษณ์โภชนาการต่อผู้บริโภค
ในการเลือกซื้ออาหาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสําคัญต่อการป้องกันปัญหาภาวะโภชนาการเกินและโรค
ไมต่ ิดตอ่ เรือ้ รัง (Non-communicable diseases, NCDs)

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๖ (๑๐) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒
รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปนี้

ข้อ ๑ ในประกาศฉบบั นี้
“สัญลักษณ์โภชนาการ” หมายความว่า เครื่องหมายแสดงทางเลือกสุขภาพที่ช่วยให้ผู้บริโภค
สามารถตัดสนิ ใจเลือกซื้ออาหาร เพอื่ เป็นสว่ นหนงึ่ ของการมีภาวะโภชนาการทเ่ี หมาะสม
ขอ้ ๒ ผู้ผลิตเพ่ือจําหน่าย นําเข้าเพ่ือจําหน่าย หรือจําหน่ายซึ่งอาหาร ผู้ใดประสงค์
จะแสดงสัญลักษณ์โภชนาการบนฉลากอาหาร ต้องนําอาหารน้ันไปขอรับการตรวจสอบและรับรองจาก
มูลนิธิส่งเสริมโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือหน่วยงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
จากคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพ่ือสร้างความเชื่อมโยงด้านอาหารและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตท่ีดี
ภายใต้คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ก่อน เมื่อได้รับการตรวจสอบและรับรองแล้วจึงจะสามารถแสดง
สญั ลกั ษณ์โภชนาการบนฉลากได้
ขอ้ ๓ สัญลักษณ์โภชนาการท่ีแสดงบนฉลากอาหารให้เป็นไปตามรูปแบบที่คณะอนุกรรมการ
พัฒนาและส่งเสริมการใช้สัญลักษณ์โภชนาการอย่างง่ายกําหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ขับเคล่ือนยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความเช่ือมโยงด้านอาหารและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตท่ีดี ภายใต้
คณะกรรมการอาหารแหง่ ชาติ
ข้อ ๔ เกณฑ์สารอาหารหรือคุณค่าทางโภชนาการที่ใช้ประกอบการพิจารณารับรอง
การแสดงสัญลักษณ์โภชนาการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางวิชาการท่ีคณะอนุกรรมการพัฒนาและส่งเสริม
การใช้สัญลักษณ์โภชนาการอย่างง่ายกําหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์
เพื่อสรา้ งความเชอ่ื มโยงดา้ นอาหารและโภชนาการส่คู ณุ ภาพชีวติ ท่ดี ี ภายใต้คณะกรรมการอาหารแหง่ ชาติ

390

เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๔๗ ง หน้า ๖ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
ราชกิจจานุเบกษา

ข้อ ๕ การแสดงสัญลักษณ์โภชนาการตามประกาศฉบับนี้ นอกจากจะต้องปฏิบัติตาม
ประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเร่ือง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ และประกาศ
กระทรวงสาธารณสุขท่ีได้กําหนดการแสดงฉลากของอาหารชนิดนั้น ๆ ไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ต้องปฏิบัติ
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขวา่ ดว้ ยเรอ่ื ง ฉลากโภชนาการ ด้วย

ข้อ ๖ ประกาศนี้มผี ลใช้บงั คบั ต้งั แตว่ ันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙
ปิยะสกล สกลสัตยาทร

รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ

391

(สําเนา)

ประกาศสํานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา
เรอื่ ง คําชแ้ี จงประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๗๓) พ.ศ.255๙

เร่อื ง การแสดงสญั ลกั ษณโภชนาการบนฉลากอาหาร
----------------------------------

ดวยปจจุบันสถานการณภาวะโภชนาการเกินและโรคไมติดตอเรื้อรัง (Non-communicable
diseases, NCDs) มแี นวโนม เพิม่ สูงขึ้น สว นหนง่ึ มาจากพฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารทไ่ี มเ หมาะสมตอสขุ ภาพ

คณะกรรมการขบั เคลือ่ นยุทธศาสตรเ พอื่ สรา งความเชอื่ มโยงดานอาหารและโภชนาการสคู ณุ ภาพ
ชีวิตท่ดี ี ภายใตค ณะกรรมการอาหารแหงชาติ จึงไดมีขอเสนอแนะใหสงเสริมการใชขอมูลโภชนาการในรูปแบบ
สัญลักษณโภชนาการเปนเคร่ืองมือสําหรับผูบริโภคในการเลือกซ้ือและบริโภคอาหารที่มีคุณคาทางโภชนาการ
เหมาะสมตอสขุ ภาพ อกี ทั้งเพอื่ สง เสริมใหผผู ลติ อาหารพัฒนาสตู รผลติ ภณั ฑอาหารใหมคี ณุ คา ทางโภชนาการทด่ี ตี อ
สขุ ภาพยง่ิ ข้นึ โดยมอบหมายใหม ลู นิธสิ งเสริมโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปนหนวยงาน
รบั รองการแสดงสัญลกั ษณโภชนาการ

กระทรวงสาธารณสุข โดยสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงไดออกประกาศกระทรวง
สาธารณสขุ วา ดวยเรอ่ื ง การแสดงสัญลกั ษณโ ภชนาการบนฉลากอาหาร โดยมีสาระสําคญั ดงั นี้

1. กําหนดนิยามของ สัญลกั ษณโภชนาการอยา งงาย
“ สัญลักษณโภชนาการ” หมายความวา เครื่องหมายแสดงทางเลือกสุขภาพท่ีชวยให

ผูบริโภคสามารถตดั สินใจเลอื กซอ้ื อาหาร เพอ่ื เปนสว นหนึ่งของการมีภาวะโภชนาการทเ่ี หมาะสม
2. กาํ หนดเงื่อนไขสาํ หรบั อาหารที่จะแสดงสัญลกั ษณโภชนาการ ดงั น้ี
(1) ตองผานการตรวจสอบและไดรับการรับรองจากมูลนิธิสงเสริมโภชนาการ สถาบัน

โภชนาการ มหาวทิ ยาลยั มหิดล หรือหนว ยงานอืน่ ทไ่ี ดรบั มอบหมายจากคณะกรรมการขับเคล่ือนยุทธศาสตรเพื่อ
สรางความเชื่อมโยงดานอาหารและโภชนาการสูค ณุ ภาพชวี ติ ที่ดี ภายใตคณะกรรมการอาหารแหงชาติ

ทัง้ น้ี หลกั เกณฑ เงือ่ นไข และวิธกี ารในการย่ืนขอรับการรับรองใหเปนไปตามท่ีมูลนิธิ
สง เสรมิ โภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลยั มหดิ ล หรอื หนว ยงานอื่นทีไ่ ดรบั มอบหมายกาํ หนด

(2) สัญลักษณโภชนาการทแี่ สดงบนฉลากอาหาร
(2.1) รูปแบบใหเปนไปตามที่คณะอนุกรรมการพัฒนาและสงเสริมการใชสัญลักษณ

โภชนาการอยา งงา ยกําหนด โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการขบั เคลื่อนยุทธศาสตรเพ่ือสรางความเช่ือมโยง
ดา นอาหารและโภชนาการสคู ณุ ภาพชีวติ ทดี่ ี ภายใตคณะกรรมการอาหารแหงชาติ ดังน้ี

กลมุ อาหาร

392

-2-

(2.2) สีสัญลกั ษณโ ภชนาการ สามารถแสดงไดใ น 2 ลักษณะ ดังนี้
(ก) แสดงโดยใชสีตามท่กี ําหนด คือ รปู วงกลมขอบสีฟา ตรงกลางวงกลมเปนภาพ

ใบไมส เี ขยี วสองใบทบั กัน เหนือใบไมม ีวงกลมทึบสีเขียวขนาดเล็กอยูกึ่งกลาง เหนือวงกลมทึบสีเขียวมีเสนโคงสี
สม มขี อ ความดานลาง “ทางเลอื กสุขภาพ” เปน สฟี า และขอความดานบนระบกุ ลุม อาหาร หรอื

(ข) แสดงเปน สเี ดยี ว โดยเสนขอบอาจเปนสดี าํ หรือสนี ํา้ เงินเขม หรือสขี าว แลว แตกรณี
ท้ังน้ี การแสดงสีของพ้ืนฉลากและสีของสัญลักษณตองใชสีที่ตัดกันที่ทําใหเห็น

สัญลักษณไ ดชัดเจน
(2.3) แสดงสัญลักษณโ ภชนาการไวทส่ี ว นหนาของฉลากทเ่ี หน็ ไดงายและอา นไดช ดั เจน

3. เกณฑสารอาหารหรือคุณคาทางโภชนาการที่ใชประกอบการพิจารณารับรองการแสดง
สัญลักษณโภชนาการใหก ับอาหารแตละกลุม ใหเ ปน ไปตามหลกั เกณฑทางวชิ าการทีค่ ณะอนุกรรมการพัฒนาและ

สงเสริมการใชส ญั ลกั ษณโ ภชนาการอยางงายกาํ หนด โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร
เพ่อื สรางความเชอ่ื มโยงดานอาหารและโภชนาการสคู ุณภาพชีวติ ท่ีดี ภายใตค ณะกรรมการอาหารแหง ชาติ

ท้งั นี้ กลมุ อาหารทผ่ี านความเห็นชอบแลวมดี งั น้ี

กลมุ อาหาร* ฐาน หลักเกณฑ เง่อื นไข และการพิจารณาใหสญั ลักษณโภชนาการ
อาหารมื้อหลัก
100 กโิ ล ระบบการใหค ะแนน (Scoring system)
แคลอรี
สารอาหาร หนว ย 0 คะแนน 5
1234 2.51-5.00
1.65-1.97
โปรตนี กรมั <0.50, >5.00 0.50-1.00 1.01-1.50 1.51-2.00 2.01-2.50 0-0.20
>1.25
ไขมันท้งั หมด กรัม <1.65, >3.25 2.94-3.25 2.62-2.93 2.30-2.61 1.98-2.29 <0.25
41-150
กรดไขมนั อ่ิมตวั กรัม >1.00 0.81-1.00 0.61-0.80 0.41-0.60 0.21-0.40 0.71-2.25

ใยอาหาร กรัม <0.25 0.25-0.50 0.51-0.75 0.76-1.00 1.01-1.25 25-49
25-43
นาํ้ ตาลท้งั หมด กรัม >1.25 1.01-1.25 0.76-1.00 0.51-0.75 0.25-0.50 25-39

แคลเซยี ม มิลลกิ รัม <8, >150 8-16 17-24 25-32 33-40

เหลก็ มลิ ลิกรัม <0.14, >2.25 0.14-0.28 0.29-0.42 0.43-0.56 0.57-0.70

โซเดียม

ระยะท่ี 1 มลิ ลกิ รัม <25, >150 125-150 100-124 75-99 50-74

ระยะท่ี 2 มลิ ลิกรัม <25, >120 101-120 82-100 63-81 44-62

ระยะที่ 3 มลิ ลิกรัม <25, >100 85-100 70-84 55-69 40-54

เครอื่ งดื่ม 100 เงอื่ นไขการใหสัญลักษณโภชนาการ
เครอ่ื งปรุงรส มลิ ลิลิตร
1. พลังงานของผลิตภณั ฑอาหารในกลุมน้ี ตอ งอยใู นชว ง 250-500 กิโลแคลอรี
100
มิลลลิ ติ ร 2. คะแนนสารอาหารของไขมันทั้งหมด กรดไขมนั อิ่มตัว น้ําตาลและโซเดียม ตองไมเ ปน 0

3. คะแนนรวมของสารอาหารท้งั 8 ชนิดรวมกัน ตองมากกวา หรอื เทากับ 20 คะแนน จากคะแนนรวม

ท้ังหมด 40 คะแนน

น้ําผกั และนํา้ ผลไม น้าํ อัดลมและนา้ํ หวานกลนิ่ รสตางๆ นํา้ นมถั่วเหลอื ง และน้ําธญั พืช:
นา้ํ ตาลทัง้ หมด ≤ 6 กรมั ตอ 100 มิลลลิ ติ ร สาํ หรบั บรรจุภณั ฑท ีร่ ะบุจํานวนหนวยบริโภค = 1
โดยมขี นาดบรรจไุ มเกนิ 150% ของหน่ึงหนวยบริโภคอางองิ
ยกเวน หากหน่ึงหนว ยบรโิ ภคมปี ริมาณมากกวา 150% ของหน่ึงหนวยบริโภคอา งองิ ตองมี
ปรมิ าณนาํ้ ตาลทงั้ หมดไมเกนิ 18 กรมั ตอ หนวยบรรจุ
น้าํ ปลา:
โซเดียม ≤ 6000 มิลลิกรัม ตอ 100 มิลลิลิตร
ซอสปรุงรส ซอี วิ๊ :
โซเดยี ม ≤ 5000 มิลลิกรมั ตอ 100 มลิ ลิลิตร

* ขอบเขตของกลมุ อาหารแตล ะกลุมมไิ ดจ าํ กัดเฉพาะประเภทหรือชนิดอาหารตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข แต
พจิ ารณาจากลักษณะและรปู แบบการบรโิ ภคท่ีมีความคลา ยคลงึ กัน

393

-3-

หากมีการกําหนดเกณฑสารอาหารหรอื คุณคาทางโภชนาการในกลุมอาหารอื่นเพิ่มเติม
หรือมีการปรับเปลี่ยนเกณฑ สามารถติดตามขอมูลไดจากมูลนิธิสงเสริมโภชนาการ สถาบันโภชนาการ
มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ http://healthierlogo.com หรือ www.ทางเลือกสุขภาพ.com หรือหนวยงานรบั รองท่ี
ไดร บั มอบหมาย

4. การแสดงฉลากอาหารท่ีแสดงสัญลักษณโภชนาการ ตองปฏิบตั ิตามประกาศกระทรวง
สาธารณสุข ดังตอ ไปนี้

4.1 ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ (ฉบับที่ 367) พ.ศ.2557 เร่ือง การแสดงฉลากของ
อาหารในภาชนะบรรจุ

4.2 ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ทไ่ี ดกําหนดการแสดงฉลากของอาหารชนิดน้ันๆ เชน
ชาปรุงสําเรจ็ ชนดิ เหลว ตอ งปฏิบตั ติ ามประกาศกระทรวงสาธารณสุขวาดวยเรื่อง ชา เปนตน

4.3 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับท่ี 182) พ.ศ. 2541 เรื่อง ฉลากโภชนาการ
เน่อื งจากอาหารทีแ่ สดงสัญลกั ษณโภชนาการอยา งงายถอื เปนอาหารทมี่ กี ารใชคณุ คา ในการสงเสริมการขาย

อยา งไรก็ตาม เมอื่ ปรากฏวา ผลิตภณั ฑท ี่แสดงสัญลกั ษณโภชนาการดังกลาวบนฉลากอาหาร
ไมผานตามเกณฑที่กําหนด หรือไดถูกยกเลิกการรับรอง หรือขาดตออายุการรับรอง การแสดงสัญลักษณ
โภชนาการบนฉลากอาหารน้ันตองยุติทันที ท้ังน้ี หากผลิตภัณฑอาหารยังคงแสดงสัญลักษณโภชนาการนั้นอยู
จัดวาเปนอาหารปลอมตามมาตรา 25 (2) โดยจะเขาลกั ษณะอาหารปลอมตามมาตรา 27 (4) ผฝู าฝน มีความผิด
ตามมาตรา 59 ตองระวางโทษจําคุกต้ังแตหกเดือนถึงสิบป และปรับต้ังแตหา พันบาทถึงหน่ึงแสนบาท และให
รวมถงึ ผลิตภัณฑอ าหารทม่ี ีการแสดงสัญลักษณโภชนาการโดยไมผานการรบั รองดวย

5. วนั บงั คับใช ประกาศฯ มผี ลใชบ งั คบั ตั้งแตวนั ท่ี 25 กมุ ภาพันธ พ.ศ. 2559 เปน ตน ไป
สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงขอประกาศใหทราบโดยทั่วกัน หากมีขอสงสัย
ประการใด ติดตอสอบถามไดที่สํานักอาหาร สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
โทรศัพท 02-590-7173 และ 02-590-7185 และมูลนิธิสงเสริมโภชนาการ สถาบันโภชนาการ
มหาวทิ ยาลยั มหิดล โทรศัพท 02-800-2380 ในวนั และเวลาราชการ หรอื [email protected]

ประกาศ ณ วนั ที่ 18 มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๙

นายบุญชยั สมบรู ณสุข
เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหารและยา

รบั รองสําเนาถกู ตอ ง
นางสาวมยรุ ี ดษิ ยเ มธาโรจน
นักวชิ าการอาหารและยาชาํ นาญการ


Click to View FlipBook Version