จอมพล สมเด็จฯ เจา้ ฟ้ าจักรพงษภ์ ูวนาถ
กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
กับวังปารุสกวัน
พมิ พค์ ร้ังแรก กนั ยายน ๒๕๖๓
สงวนลิขสทิ ธเ์ิ น้ือหาและภาพประกอบตามพระราชบญั ญตั ลิ ขิ สทิ ธ์ิ
ห้ามคัดลอก ตพี ิมพ์ ทา� ซา�้ ตอ้ งได้รับอนุญาตเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร
จากส�านกั ขา่ วกรองแหง่ ชาติ
ค�ำน�ำ
ในวาระวันคล้ายวันทิวงคตครบ ๑๐๐ ปี จอมพล สมเด็จพระเจ้า
บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ สา� นกั ขา่ วกรองแหง่ ชาติ
จงึ จดั ทา� หนงั สอื "จอมพล สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
กบั วงั ปารสุ กวนั " เพอ่ื เทดิ ทนู และรา� ลกึ ถงึ พระอจั ฉรยิ ภาพของพระองคท์ า่ น และประวตั ขิ อง
วังปารุสกวัน เฉพาะอย่างยิ่งพระต�าหนักปารุสกวัน อันเป็นท่ีประทับของพระองค์ท่าน
ตลอดพระชนมช์ พี ซงึ่ ปจั จบุ นั เปน็ ทที่ า� งานของสา� นกั ขา่ วกรองแหง่ ชาติ
ทง้ั น ้ี สา� นกั ขา่ วกรองแหง่ ชาตไิ ดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ จากพระบาทสมเดจ็
พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท ี่ ๑๐ พระราชทานโฉนดวงั ปารสุ กวนั เขตดสุ ติ กรงุ เทพมหานคร
เน้ือที่ ๙ ไร่ ๒๖.๕ ตารางวา ให้ส�านักข่าวกรองแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นสถานที่ท�างาน
เมอื่ วนั ท ี่ ๓๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ.๒๕๖๐ ซง่ึ ขา้ ราชการสา� นกั ขา่ วกรองแหง่ ชาตมิ คี วามปลาบปลมื้
และสา� นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ อยา่ งหาทส่ี ดุ มไิ ด้
ขอขอบคุณ นายอนุกูล เจิมมงคล ผู้อ�านวยการส�านักข่าวกรองแห่งชาต ิ
คณะกรรมการและคณะทา� งานจดั งานวนั คลา้ ยวนั ทวิ งคตครบ ๑๐๐ ป ี จอมพล สมเดจ็ พระเจา้
บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ ทที่ า� ใหห้ นงั สอื เลม่ นสี้ า� เรจ็
ลลุ ว่ งเปน็ อยา่ งดี
คณะผจู้ ดั ทา�
สารบัญ
หน้า
พระประวตั .ิ ....................................................................................๕
การศึกษาและชวี ิตในรัสเซยี ............................................................๑๐
ต้นราชสกุล “จักรพงษ์”..................................................................๒๐
พระจริยวัตร..................................................................................๒๖
การทิวงคต...................................................................................๒๙
การทรงงาน.................................................................................๓๔
พระกรณยี กิจ................................................................................๓๔
ประวัติวังปารุสกวัน.......................................................................๖๖
วังปารุสกวันหลังการเสด็จทิวงคต................................................๑๔๐
วังปารสุ กวนั หลังการเปลยี่ นแปลงการปกครองปี พ.ศ.๒๔๗๕........๑๕๐
วงั ปารุสกวันกับสา� นักข่าวกรองแห่งชาติ........................................๑๖๐
วงั ปารุสกวนั
¾ÃлÃÐÇѵÔ
จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ ทรงเปน็ พระราชโอรสลา� ดบั ท ี่ ๔๓
ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และเปน็ ลา� ดบั ท ี่ ๔ ในสมเดจ็ พระศรพี ชั รนิ ทรา
บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ประสูตเิ มือ่ วันเสารท์ ่ ี ๓ มนี าคม พ.ศ.๒๔๒๕
ในพระบรมมหาราชวัง ทรงมีพระนามล�าลอง
ว่า “ทูลกระหม่อมเล็ก” หรือ “เล็ก” ทรงมี
พระเชษฐภคินี พระเชษฐา และพระอนุชา
ร่วมพระราชมารดาเดียวกัน ๗ พระองค์
ตามล�าดบั ดังต่อไปน้ ี
5
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ จกั รพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
(ภาพวาดสีน�้ามัน : จากซ้าย) สมเด็จฯ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ, พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระบรม
โอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ, สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ,
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก และสมเด็จฯ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ ณ พระที่น่ังจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
๕. สมเด็จฯ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ ์
๖. สมเด็จฯ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ
กรมหลวงนครราชสีมา
๗. สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก
กรมขุนเพชรบูรณ์อินทราชัย
๘. พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยหู่ ัว
๑. สมเด็จฯ เจ้าฟ้าพาหุรัตมณีมัย (พระนามเดิม สมเด็จฯ เจ้าฟ้าประชาธิปก
กรมพระเทพนารีรัตน์ ศักดิเดชน ์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา)
๒. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว (พระนามเดิม คือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้า
มหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวารวดี)
๓. สมเด็จฯ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธ�ารง
๔. สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
6
วงั ปารสุ กวนั
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
7
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
8
วังปารสุ กวนั
9
จอมพล สมเด็จฯ เจา้ ฟา้ จกั รพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
¡ÒÃÈÖ¡ÉÒáÅЪÕÇÔµã¹ÃÑÊà«ÕÂ
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงได้รับ
การศึกษาข้ันต้นจากโรงเรียนราชกุมารใน
พระบรมมหาราชวังตามพระราชประเพณีและ
เสดจ็ ไปทรงศกึ ษาตา่ งประเทศตามพระราโชบาย
ของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว
ทท่ี รงเลง็ เหน็ การณไ์ กล โดยการสง่ พระราชโอรส
ไปศึกษาในต่างประเทศ เพ่ือน�าวิทยาการ
สมัยใหม่จากตะวันตกมาปรับปรุงและพัฒนา
ประเทศใหท้ นั สมยั เจรญิ ทดั เทยี มนานาประเทศ
รวมทงั้ พระราชวเิ ทโศบายในการรกั ษาเอกราช
จากจกั รวรรดินิยมตะวันตกในขณะนั้น
10
วังปารุสกวัน
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ และนายพุ่ม เม่ือเข้าประจ�าโรงเรียน
เสนาธกิ ารทหารรสั เซีย
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ และนายพุ่มเมื่อเข้าประจ�ากองทัพบกรัสเซีย
11
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
เมอ่ื ป ี พ.ศ.๒๔๓๙ ขณะพระชนมายุ
๑๔ พรรษา สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ได้เสด็จไป
ทรงศกึ ษาตอ่ ทอ่ี งั กฤษ ทรงศกึ ษาภาษาองั กฤษ
และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ของ
ชาวอังกฤษและชาวยุโรปชั้นสูง และเม่ือ
ปี พ.ศ.๒๔๔๑ ได้เสด็จไปทรงศึกษาทรี่ สั เซยี
เน่ืองจากสมเด็จพระจักรพรรดิ (ซาร์) นิโคลัส
ท ี่ ๒ ของรสั เซยี ทลู ขอพระราชโอรสพระองคห์ นง่ึ
ในพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อจะถวายการเล้ียงดูในฐานะพระราชโอรส
บุญธรรม และเข้ารับการศึกษาที่รัสเซีย โดย
12
วังปารสุ กวัน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระบรมราชโองการให้สมเด็จฯ เจ้าฟ้า
จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
ซง่ึ ทรงมีความเฉลียวฉลาดและเอาจริงเอาจัง
อีกท้ังขณะน้ันทรงศึกษาท่ีอังกฤษ เสด็จไป
รัสเซียตามค�าทูลเชิญของซาร์นิโคลัสท่ี ๒
พระองคจ์ งึ ทรงเปน็ เจา้ ฟา้ พระองคแ์ รกทไี่ ดร้ บั
การศกึ ษาจากรัสเซยี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ ัวและซาร์นโิ คลสั ที่ ๒ ในระหวา่ งเสดจ็ ฯ เยอื นรัสเซยี
13
จอมพล สมเด็จฯ เจา้ ฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพิษณโุ ลกประชานาถ
พระราชวงั ฤดูหนาว (Hermitage Palace)
ซาร์นิโคลัสที่ ๒ โปรดเกล้าฯ ให้ โรงเรียนนายรอ้ ยมหาดเลก็ หลวง (Corps des Pages)
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวง
พษิ ณโุ ลกประชานาถ เขา้ รบั การศกึ ษาทโี่ รงเรยี น
นายรอ้ ยมหาดเลก็ หลวง (Corps des Pages)
ซ่ึงเป็นโรงเรียนเตรียมทหารที่ดีที่สุดของ
รสั เซีย และใหป้ ระทับท่ีพระราชวังฤดหู นาวใน
เซนตป์ เี ตอรส์ เบริ ก์ โดยไมต่ อ้ งประทบั คา้ งแรม
ที่โรงเรยี นเช่นเดียวกับนกั เรียนคนอ่ืนๆ
14
วังปารสุ กวนั
ซาร์นโิ คลสั ท่ี ๒ และสมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ จักรพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
พระราชวังฤดหู นาว (Hermitage Palace) ฝ่ังริมแมน่ ้า� เนวา
15
จอมพล สมเด็จฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า
จลุ จกั รพงษ ์ พระโอรสในสมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ จกั รพงษ์
ภวู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ ทรงเลา่
เรอื่ งการศกึ ษาของพระบดิ าทรี่ สั เซยี ในหนงั สอื
“เกิดวังปารุสก์” ว่า พระองค์ทรงสอบได้เป็น
ล�าดับที่ ๑ ในการสอบไล่ปีสุดท้ายก่อนเป็น
นายทหารเมอื่ เมษายน พ.ศ.๒๔๔๕ ซง่ึ ถอื เปน็
สถติ ขิ องโรงเรยี นนายรอ้ ยมหาดเลก็ หลวง และ
เพ่ือเป็นการเฉลิมพระเกียรติ จึงมีการสลัก
พระนามของพระองค์บนแผ่นศิลาติดอยู่ที่
ก�าแพงห้องประชุมของโรงเรียน
เม่ือสา� เร็จการศกึ ษา สมเดจ็ ฯ เจ้าฟ้า
จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นนายทหาร
ประจ�ากรมทหารม้าฮุสซาร์ ในกองทัพรัสเซีย
ซึ่งซาร์นิโคลัสท่ี ๒ ทรงเคยเป็นนายทหาร
ประจ�าในสมัยที่ยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร
โดยทรงท�าหน้าท่ีนายทหารเฉกเช่นเดียวกับ
นายทหารประจ�ากรมคนอื่นๆ ทั้งยังเข้าร่วม
การพระราชพิธีและการสมาคมต่างๆ ใน
พระราชวังบ่อยครั้ง บางคราวในวันอาทิตย์
ซาร์นิโคลัสที่ ๒ และสมเด็จพระจักรพรรดินี
ท ร ง เ ชิ ญ ใ ห ้ ร ่ ว ม โ ต ๊ ะ เ ส ว ย ก ล า ง วั น ด ้ ว ย
16
วังปารุสกวนั
รูปหมู่นักเรียนนายรอ้ ยมหาดเล็กท่ีส�าเร็จการศกึ ษาเมื่อพฤษภาคม พ.ศ.๒๔๔๔
ในระหว่างออกฝกึ ภาคสนามที่คราสนอยเชโล
(น่ัง) คุณหญิงอุ๊น, สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวง
พิษณโุ ลกประชานาถ (ยืน) หลวงอภริ ักษฯ์ , นายพมุ่ , กัปตนั ครลู อ้ ฟ,
พระยามหิบาลบริรักษ์ เมื่อครั้งสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ ทรงศกึ ษาที่รสั เซยี
17
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวง
พิษณุโลกประชานาถ และนายพุ่มเมื่อแรกเข้า
โรงเรยี นนายรอ้ ย
ซาร์นิโคลัสท่ี ๒ และพระราชวงศ์ทรงให ้
ความสนิมสนมและเป็นกันเองกับพระองค ์
และเรียกพระนามล�าลองที่ใช้ในหมู่ผู้ใกล้ชิด
ว่า “เล็ก”
ต่อมาเม่ือปี พ.ศ.๒๔๔๖ สมเด็จฯ
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ ทรงเขา้ รบั การศกึ ษาตอ่ ในหลกั สตู ร
นายทหารเสนาธิการ วิทยาการทหารชั้นสูง
ทโ่ี รงเรยี นเสนาธกิ ารทหาร เซนตป์ เี ตอรส์ เบริ ก์
เป็นเวลา ๒ ป ี ทรงสา� เร็จการศกึ ษาเมอ่ื ป ี พ.ศ.
18
วังปารุสกวัน
๒๔๔๘ โดยซาร์นิโคลัสที่ ๒ ทรงพระกรุณา
โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานยศนายพนั เอกพเิ ศษ
แหง่ กองทพั บกรสั เซยี และเปน็ นายทหารพิเศษ
สงั กดั กรมทหารมา้ ฮสุ ซาร ์ รวมทงั้ พระราชทาน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์อันเดรย์ ช้ันสาย
สะพาย ซึ่งเป็นตราสูงสุดของรัสเซียสมัยนั้น
และตราเซนต์วลาดิเมียรอ์ ีกดว้ ย
นอกจากวิชาทหาร สมเด็จฯ เจ้าฟ้า
จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
ยงั ทรงศกึ ษาวชิ าอน่ื ควบคดู่ ว้ ยในหว้ งทปี่ ระทบั
อยู่ท่ีรัสเซีย เช่น กฎหมาย ประวัติศาสตร์
การเมือง เคมี คณิตศาสตร์ ตลอดจนภาษา
ต่างประเทศ เช่น รัสเซีย เยอรมัน ฝรั่งเศส
และละติน ซ่ึงวิชาการเหล่าน้ีมีอิทธิพลทาง
ความคิดต่อพระองค์อย่างมาก หลังจาก
เสด็จกลับไทย ท้ังการท�างานและการพัฒนา
ประเทศ นอกเหนือจากท่ีได้พบเห็นสภาพ
สังคมและวทิ ยาการสมัยใหม่
19
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟ้าจกั รพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
µŒ¹ÃҪʡØÅ “¨Ñ¡Ã¾§É”
20
วงั ปารุสกวัน
สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวง
พิษณุโลกประชานาถ ทรงเป็นต้นราชสกุล
“จักรพงษ์” ทรงเสกสมรสกับสตรีชาวรสั เซยี
(เชื้อสายยูเครน) ช่ือ “นางสาวเอกาเทรินา
อวิ าโนฟนาเดสนติ สกายา” หรอื ทเี่ รยี กอยา่ งยอ่
วา่ “คทั รนิ เดสนติ สก”ี เมอ่ื วนั ท ี่ ๑๒ กมุ ภาพนั ธ์
พ.ศ.๒๔๔๙ ท่ีนครอิสตันบูล (ในหนังสือ
เกิดวังปารุสก์เรียกว่า “คอนสแตนติโนเปิล”)
ทรงมพี ระโอรสเพยี งพระองคเ์ ดยี ว คอื พระเจา้
วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ต่อมา
ท ร ง ห ย ่ า ร ้ า ง กั บ ห ม ่ อ ม คั ท ริ น แ ล ะ ท ร ง มี
ชายาองคใ์ หม ่ คอื หมอ่ มเจา้ หญงิ ชวลติ โอภาศ
รพีพัฒน์ พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ, หม่อมคัทริน และพระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เมื่อถึงสถานีรถไฟเด่นไชย
21
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
22
วังปารสุ กวนั
23
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
24
วังปารสุ กวนั
25
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟ้าจกั รพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
¾ÃШÃÔÂÇµÑ Ã
26
วังปารสุ กวัน
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงเป็น
ผู้ที่มีวินัย เคร่งครัด เด็ดขาด มีความมุ่งมั่น
เอาจรงิ เอาจัง ตรงไปตรงมา ตรสั และท�าตาม
พระด�าริ พระองค์จึงทรงเป็นท่ียอมรับนับถือ
ในหมทู่ หารและคณะเสนาบดี
นอกจากนนั้ ยงั ทรงมพี ระปรชี าสามารถ
ทงั้ ดา้ นการศกึ ษาและการทรงงาน เหน็ ไดจ้ าก
การทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
ท ร ง เ ลื อ ก พ ร ะ อ ง ค ์ ใ ห ้ ไ ป ศึ ก ษ า ที่ รั ส เ ซี ย
เนื่องจากตระหนักถึงพระปรีชาสามารถของ
พระองค์ และการท่ีทรงได้คะแนนสอบไล่
เป็นล�าดับที่ ๑ ในชั้นปีสุดท้ายของการเรียน
ก็แสดงถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์
ท่ีเห็นได้ชัด ครั้นเมื่อทรงกลับมารับราชการ
ในไทย พระองค์ทรงมีแนวคิดท่ีน่าสนใจ
ท้ังด้านการทหารและการเมือง เช่น
การเสนอให้มีคณะรัฐมนตรีสภา ท�าหน้าที่
คล้ายสภานิติบัญญัติ หรือการเปิดโอกาส
ให้สามัญชนเข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อย
ทหารบก ซงึ่ ไมเ่ คยปรากฏมากอ่ น
27
จอมพล สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จฯ
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
ทรงฉายรว่ มกับคณะกรรมการกองบญั ชาการกองทพั สยาม
28
วงั ปารุสกวนั
¡Ò÷Ôǧ¤µ
พระโกศพระศพ ซึ่งประดิษฐาน ณ พระตา� หนักปารสุ กวนั
จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ เสดจ็ ทวิ งคตเมอื่ วนั ท ี่ ๑๓ มถิ นุ ายน
พ.ศ.๒๔๖๓ เวลา ๑๓ นาฬิกา ๕๐ นาที
สิริพระชนมายุ ๓๗ พรรษา ๓ เดอื น ๑๐ วัน
หลังจากท่ีพระองค์ทรงมีพระปรอท (มีไข้)
ประมาณ ๑๐ วัน ระหว่างเสด็จประพาส
สิงคโปร์ โดยเร่ิมประชวรตง้ั แตป่ ระทบั บนเรอื
29
จอมพล สมเด็จฯ เจา้ ฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๓ แต่
เนื่องจากบนเรือไม่มีแพทย์ พระอาการ
จึงหนักข้ึน จนกระท่ังเรือถึงสิงคโปร์เมื่อ
วนั ท ี่ ๘ มถิ นุ ายน พ.ศ.๒๔๖๓ ผลการตรวจ
ของแพทย์ปรากฏว่า พระปับผาสะ
เป็นพิษ (โรคปอดบวม) กระทั่งเสด็จ
ทิวงคตอีก ๕ วันต่อมา หลังจากนั้นได้
อัญเชิญพระศพกลับมาประดิษฐาน ณ
พระต�าหนักจิตรลดา วังปารุสกวัน และ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสดจ็ พระราชทานเพลงิ พระศพ ณ พระเมรุ
ท้องสนามหลวง เมอื่ วนั ท่ี ๒๘ กนั ยายน
พ.ศ.๒๔๖๓ พระองั คารของพระองคบ์ รรจุ
ไว้ท่ีอนุสรณ์สถานเสาวภาประดิษฐาน ณ
สุสานหลวงวดั ราชบพธิ สถติ มหาสมี าราม
30
วังปารสุ กวนั
31
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
32
วังปารสุ กวนั
33
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟ้าจกั รพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
¡Ò֍§Ò¹
หลงั จากเสดจ็ กลบั จากรสั เซยี
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
ท ร ง เ ร่ิ ม รั บ ร า ช ก า ร เ ป ็ น ผู ้ ช ่ ว ย
ผู ้ บั ญ ช า ก า ร ก ร ม ยุ ท ธ น า ธิ ก า ร
(กระทรวงกลาโหม) เม่ือเมษายน
พ.ศ.๒๔๔๙ และเมื่อธันวาคม
พ.ศ.๒๔๔๙ ทรงด�ารงต�าแหน่ง
ผู ้ บั ญ ช า ก า ร โ ร ง เ รี ย น ท ห า ร บ ก
(โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า)
อีกต�าแหน่งหน่ึง ต่อมาทรงด�ารง
ต�าแหน่งเสนาธิการทหารบกเม่ือ
ปี พ.ศ.๒๔๕๒ พร้อมกับท�าหน้าท่ี
เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกจนถึง
มิถนุ ายน พ.ศ.๒๔๕๖ และทรงเปน็
ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๑
มหาดเลก็ รกั ษาพระองคอ์ กี ตา� แหนง่
เม่ือปี พ.ศ.๒๔๕๓
34
วงั ปารสุ กวัน
¾ÃСóÕ¡Ԩ
35
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
ดา้ นการเมือง
แมพ้ ระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้า
เจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้สมเด็จฯ
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลก
ประชานาถ ทรงเรียนรู้ราชการแผ่นดิน เพ่ือ
เตรียมพระองค์ในการบริหารราชการแผ่นดิน
ในภายภาคหน้า แต่เน่ืองจากการเป็น
องค์รัชทายาทของพระองค์ไม่เป็นท่ียอมรับ
ของพระบรมวงศานวุ งศช์ นั้ ผใู้ หญห่ ลายพระองค์
เพราะทรงมหี มอ่ มเปน็ ชาวตา่ งชาต ิ ประกอบกบั
36
วังปารุสกวัน
นายร้อยโท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงฉายภาพ พร้อมด้วย
นายร้อยตรี สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนพิษณุโลกประชานาถ ท่ีเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๔ (ภาพต้นฉบับจากหอจดหมายเหตุแห่งชาต)ิ
สมเด็จฯ เจา้ ฟ้าจกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลก
ประชานาถ ก�าลังขับรถเยอรมันยี่ห้อวอนเดอเรอร์
(Wanderer) ชนิดสองตอนเปดิ ประทุน
37
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณุโลกประชานาถ
๑. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห่ วั
๒. นายพลเอก สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ
เจา้ ฟา้ จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
๓. นายพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจา้
บุรฉตั รไชยากร กรมพระกา� แพงเพชรอ์ คั รโยธนิ
๔. จอมพล พระเจา้ บรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า
จิรประวตั ิวรเดช กรมหลวงนครไชยศรสี ุรเดช
(ภาพจากซ้ายไปขวา)
ไมเ่ คยมแี บบแผนการแตง่ ตง้ั พระอนชุ าขนึ้ เปน็
องคร์ ชั ทายาท พระองคจ์ งึ ถกู จา� กดั บทบาททาง
การเมอื ง เชน่ มไิ ดร้ บั แตง่ ตง้ั เปน็ ผสู้ า� เรจ็ ราชการ
แทนพระองค ์ หรอื เปน็ เสนาบดวี า่ การกระทรวง
อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติพระองค์ทรงได้รับ
คา� สง่ั ใหเ้ ขา้ รว่ มการประชมุ เสนาบดที กุ ครง้ั และ
ยังทรงท�าหน้าท่ีเป็นองค์ประธานการประชุม
แทนพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อย่หู ัว
ในบางครงั้ ทง้ั น ี้ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้
เจ้าอยู่หัว มักโปรดให้พระองค์ถวายความเหน็
38
วงั ปารสุ กวัน
เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาอยเู่ สมอ นอกจากนี้ คณะเสนาบดีกระทรวงต่างๆ และท่ีปรึกษา
เสนาบดียังมักน�าร่างพระราชบัญญัติมาให้ ชาวต่างประเทศถ่ายภาพที่ระเบียงพระอุโบสถ
พระองค์พิจารณาก่อนเสมอ เนื่องจากทรงมี วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม ในคราวประชมุ เทศาภบิ าล
พระปรีชาสามารถและเป็นท่ีเคารพเชื่อถือ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๒ (จากหอจดหมายเหตุแหง่ ชาต)ิ
ในหมเู่ สนาบด ี ตวั อยา่ งการถวายความเหน็ ของ
พระองค ์ เชน่ การรอื้ ฟน้ื รฐั มนตรสี ภา การเสนอ
ให้ยกเลิกมณฑลชั้นนอก การปราบปรามกบฏ
ร.ศ.๑๓๐ และการเสนอให้ปรับปรุงเส้นทาง
คมนาคม
การร้ือฟื้นรัฐมนตรีสภา ซ่ึงเคยมี
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว เพ่ือท�าหน้าท่ีแทนกษัตริย์ในเร่ือง
ที่ได้รับมอบหมาย และท�าหน้าที่คล้าย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับเป็นประธานในการประชุมเสนาบดีสภา
ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ พระราชวังดุสิต (ภาพจากหนังสอื “ธริ าชเจา้ จอมสยาม”)
39
จอมพล สมเด็จฯ เจา้ ฟ้าจกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ
สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟา้ มหาวชิราวธุ
สยามมกฎุ ราชกุมาร
สภานติ บิ ญั ญตั ใิ นการพจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญตั ิ
ตรวจสอบการท�างานและมีสิทธิตั้งกระทู้ถาม
เสนาบดี ซ่ึงเป็นฝ่ายบริหาร เก่ียวกับงาน
ราชการตา่ งๆ เพอ่ื มิให้เสนาบดีมีอ�านาจมาก
เกนิ ควร โดยไมม่ อี า� นาจอนื่ ใดมาควบคมุ ทงั้ ยงั
เสนอให้ประชาชนมีโอกาสเข้าฟังการประชุม
ของเสนาบดีด้วย อยา่ งไรกต็ าม แมพ้ ระบาท
สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงเคย
เห็นชอบ แต่ก็ทรงเห็นว่า ยังไม่สมควรแก่
เวลาท่ีคนไทยจะใช้อ�านาจเลือกตั้งผู้แทนได้
40
วงั ปารสุ กวัน
จอมพล สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ และพระบาท
สมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั (ภาพตน้ ฉบบั
จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ)
พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยหู่ ัว ทรงฉายพระฉายาลกั ษณร์ ่วมกับราชองครกั ษ์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็น
องค์ประธานในการประชุมเทศาภิบาล กระทรวง
มหาดไทย ปี พ.ศ.๒๔๔๘ จ�านวน ๓๙ คน
41
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ จักรพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพิษณโุ ลกประชานาถ ราษฎรมณฑลชน้ั นอก
การเสนอให้ยกเลิกมณฑลชั้นนอก
ทรงมีพระประสงค์ให้ยกเลิกมณฑลช้ันนอก
เพราะการมีหัวเมืองช้ันนอกเปรียบเสมือน
การเป็นอาณานิคมตามแบบตะวันตกและ
ก า ร ตั ด สิ น ล ง โ ท ษ ร า ษ ฎ ร ท่ี ก ร ะ ท� า ผิ ด
ก็ควรน�าตัวข้ึนศาล ไม่ควรให้เจ้าหน้าที่
ป ก ค ร อ ง ท ้ อ ง ที่ มี อ� า น า จ ตั ด สิ น ล ง โ ท ษ
โดยพลการ นอกจากน้ี ทรงไม่เห็นด้วย
อย่างยิ่งกับกรณีท่ีข้าราชการซ่ึงยักยอก
พระราชทรัพย์ สามารถรับราชการต่อไปได้
เพื่อให้โอกาสน�าเงินส่งคืนครบเต็มจ�านวน
สมเด็จฯ เจ้าฟา้ จกั รพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ขณะทอดพระเนตร
การขดุ เคร่อื งปน้ั ดนิ เผาทเ่ี ตาทุเรียน ที่สวรรคโลก
42
วงั ปารุสกวัน
หญงิ ราษฎรชาวขอนแก่น ราษฎรชาวศรีษะเกษ
ราษฎรมณฑลอุดร
ราษฎรมณฑลอุดร (ภาพจากหอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ)
43
จอมพล สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณโุ ลกประชานาถ
ส่วนหนึ่งของกบฏ ร.ศ.๑๓๐ ถ่ายขณะอยใู่ นคกุ
ส่วนหน่งึ ของกบฏ ร.ศ.๑๓๐ ในคกุ ภาพถา่ ยราวปี พ.ศ.๒๔๖๑
ส่วนหนงึ่ ของกบฏ ร.ศ.๑๓๐ จอมพล เจ้าพระยาบดินทร์เดชานุชิต
( ม . ร . ว . อ รุ ณ ฉั ต ร กุ ล ณ อ ยุ ธ ย า )
ประธานคณะกรรมการไต่สวนกบฏ
ร . ศ . ๑ ๓ ๐ ห รื อ ค ณ ะ ป ร า บ ป ร า ม
ผู้กอ่ การกา� เริบ
44
การปราบปรามกบฏ ร.ศ.๑๓๐ ทรงทราบ วังปารุสกวนั
ถึงปัญหาและสาเหตุการก่อกบฏของทหาร
อันเนื่องมาจากความไม่พอใจในกิจการ สว่ นหนึง่ ของกบฏ ร.ศ.๑๓๐ ไดร้ บั นริ โทษกรรม
เสอื ปา่ ทรงมบี ทบาทตง้ั แตก่ ารวางแผนจบั กมุ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๕ และไดร้ ับยศคืน
การจบั กมุ และการตงั้ คณะกรรมการพเิ ศษขน้ึ
พิจารณาคดี โดยทรงพยายามกราบบังคมทูล
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ใหท้ รงทราบถงึ ความคดิ เหน็ และความตอ้ งการ
ของนายทหารทถ่ี กู จบั กมุ และนายทหารทวั่ ไป
รวมทงั้ ความคดิ เหน็ ของราษฎร ซง่ึ ยอมรบั เหตผุ ล
ของการกอ่ กบฏ นอกจากน ้ี ยงั กราบบงั คมทลู
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยู่หัวทรงซอ้ มรบเสอื ปา่ ณ คา่ ยหลวงบา้ นไร่ เมืองราชบรุ ี
(ภาพจากหอจดหมายเหตแุ ห่งชาต)ิ
45
จอมพล สมเด็จฯ เจา้ ฟา้ จักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
ใหป้ รบั ปรงุ หลกั การดา� เนนิ งานบางอย่าง เพอ่ื
รองรับการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงแก้ไข
ในกจิ การเสอื ปา่
ทหารเสือป่า
พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หัวทรงฉายร่วมกบั เหลา่ ทหารเสอื ป่า (ภาพจากหอจดหมายเหตุแหง่ ชาติ)
46
วังปารุสกวัน
การคา้ ขนสง่ สนิ ค้าโดยทางเกวยี นทน่ี ครราชสีมา
การเสนอใหป้ รบั ปรงุ เสน้ ทางคมนาคม
ห ลั ง จ า ก เ ส ด็ จ ต ร ว จ ร า ช ก า ร ใ น ม ณ ฑ ล
นครราชสมี า ทรงเหน็ วา่ ควรปรบั ปรงุ แมน่ า้� มลู
ให้เป็นเส้นทางคมนาคมและสร้างทางรถยนต์
47
จอมพล สมเดจ็ ฯ เจ้าฟ้าจกั รพงษภ์ ูวนาถ กรมหลวงพิษณโุ ลกประชานาถ
การคา้ ขายทางหวั เมือง
จากนครราชสมี าไปบุรีรัมย ์ สรุ ินทร ์ ศรสี ะเกษ
และอุบลราชธานี เพื่อใช้ประโยชน์ทาง
เศรษฐกิจกรณีข้าวยากหมากแพง และยัง
ใช้เป็นเส้นทางขนส่งข้าวให้แก่ราษฎรได้ทัน
หรือในกรณีเกิดศึกสงคราม นอกจากน ี้ กองเกวียนบรรทุกสินค้าไปสู่ตลาด (ถ่ายเม่ือปี พ.ศ.
พระองค์ยังมองการณ์ไกลให้รัฐบาลเป็น ๒๔๕๘)
ผู้รับซ้ือข้าวจากชาวนามาขายให้แก่ราษฎร
โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง
48