The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประจำปี2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by selflearningjor1, 2021-04-20 05:39:17

รายงานประจำปี2563

รายงานประจำปี2563

Keywords: รายงานประจำปี2563

คาพิ พากษาศาลฎกี าที่ 7388/2562

โจทก์ย่ืนคาร้องขอถอนฟอ้ งจาเลยท่ี 2 ก่อนอ่านคาพิ พากษาศาล
อุทธรณ์ภาค 1 จึงถือว่าคดีอยู่ในระหว่างพิ จารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ศาล
ช้ันต้นชอบที่มีคาส่ังให้ส่งคาร้องของโจทก์ดังกล่าวให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1
พิจารณาส่ังคาร้องดังกลา่ ว แต่ศาลชั้นต้นกลับมีคาสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟอ้ ง
เสียเอง จึงเป็นการดาเนินกระบวนพิ จารณาท่ีผิดระเบียบ อาศัยอานาจตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ ง มาตรา 27 วรรคหน่ึง ประกอบประมวล
กฎหมายวิธีพิ จารณาความอาญา มาตรา 15 จึงให้เพิ กถอนคาส่ังศาลช้ันต้นที่
อนญุ าตใหโ้ จทกถ์ อนฟอ้ งจาเลยท่ี 2

ความเป็นนิติบุคคลของบริษัทจาเลยท่ี 1 เป็นส่วนหน่ึงแยกต่างหาก
จากจาเลยที่ 3 ที่มีฐานะเป็นกรรมการ ประกอบกับความรับผิดในทางอาญาเป็น
เร่ืองเฉพาะตัวของผู้กระทาผิด โจทก์มิได้ร้องทุกข์ให้ดาเนินคดีแก่จาเลยท่ี 3
ดังน้ัน ข้อเท็จจริงจึงฟงั เป็นยุติไปตามคาพิ พากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ว่าโจทก์
มิได้ร้องทุกข์ให้ดาเนินคดแี กจ่ าเลยท่ี 3 การท่ีโจทกร์ ้องทุกขใ์ ห้ดาเนินคดแี ก่จาเลย
ที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากจาเลยท่ี 3 ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการรอ้ งทุกข์ให้
ดาเนนิ คดีแก่จาเลยท่ี 3 ด้วย

รายงานประจาปี ๒๕๖๓ หน้า | ๑๙๘

คาพิ พากษาศาลฎกี าที่ 7525/2562

ป ร ะ ก า ศ ข อ ง ค ณ ะ ป ฏิ วั ติ ฉ บั บ ท่ี 2 8 6 ข้ อ 3 0 บั ญ ญั ติ ว่ า
สาธารณูปโภคซ่ึงผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีเพ่ื อการจัดสรรท่ีดินตามแผนผังและ
โครงการที่ได้รับอนุญาต เช่น ถนน สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ให้ถือว่าตกอยู่
ในภาระจายอมเพื่ อประโยชน์แก่ท่ีดินจัดสรร และให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดิน
หรือผูร้ ับโอนกรรมสิทธ์คิ นต่อไปท่จี ะบารุงรกั ษากจิ การดังกลา่ วใหค้ งสภาพดังเช่น
ท่ีได้จัดทาข้ึนโดยตลอดไปและจะกระทาการใด ๆ อันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระ
จายอมลดลงไปหรือเสื่อมสะดวกมิได้ แม้ต่อมามีพระราชบัญญัติการจัดสรรทด่ี นิ
พ.ศ. 2543 มาตรา 3 ให้ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติฉบับน้ี แต่ในมาตรา 43
วรรคหนึ่ง ยังคงบัญญัตไิ ว้โดยมีเนื้อความเช่นเดิม จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่ตอ้ ง
รับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายเอง จะเรียกเก็บเอาจากผู้ซื้อที่ดินจัดสรรไม่ได้ แม้จะได้
ความว่าโจทก์กับผู้ซื้อที่ดินจัดสรรมีข้อตกลงให้โจทก์มีสิทธินาเงินค่าใช้จ่ายท่ีเกิด
จากการบารุงรักษาสาธารณูปโภคมาเรียกเก็บจากผู้ซื้อที่ดินจัดสรรได้ อันเป็น
ข้อตกลงที่คู่กรณีมีอิสระในการแสดงเจตนาต่อกัน แต่การแสดงเจตนาทา
ข้อตกลงต้องไม่เป็นการฝ่าฝืนหรือแตกต่างกับบทบัญญัติของกฎหมายอัน
เก่ียวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งข้อตกลงตาม
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ข้อ 9 ที่กาหนดให้ผู้ซ้ือที่ดินจัดสรรออกค่าใช้จ่ายในการ
บารุงรักษาสาธารณูปโภคเท่ากับเป็นการผลักภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของ
โจทก์ในการบารุงรักษาสาธารณูปโภคไปให้ ผู้ซ้ือโดยปริยาย ย่อมเป็นการฝ่าฝืน
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 286 ข้อ 30 วรรคหน่ึง ซ่ึงเป็นกฎหมายที่มี
วัตถุประสงค์เพ่ือคุ้มครองผู้ซ้อื ท่ีดินจัดสรร อันเป็นกฎหมายที่เก่ียวกับความสงบ
เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่มีผลใช้บังคับ
โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายท่ีเกิดจากการบารุงรักษาสาธารณูปโภคจาก
จาเลยได้

ในส่วนค่าบริการสาธารณะน้ัน เม่ือประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี
286 ไม่ไดบ้ ญั ญัติ ให้ผจู้ ดั สรรท่ีดนิ มหี นา้ ที่ให้ต้องรับผดิ ชอบค่าใชจ้ า่ ยในสว่ น

รายงานประจาปี ๒๕๖๓ หนา้ | ๑๙๙

คาพิ พากษาศาลฎีกาที่ 7525/2562 (ต่อ)

ของการใหบ้ ริการสาธารณะ สญั ญาข้อ 9 ทโี่ จทก์และจาเลยตกลงให้จาเลยผู้จะซื้อ
รับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าบริการสาธารณะ จึงไม่เป็นการขัดต่อประกาศของ
คณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวเมื่อคู่สัญญาตกลงหรือกาหนดในเรื่องดังกล่าวไว้ใน
สัญญาก็เป็นไปตามเจตนาของคู่สัญญา โจทก์และจาเลยจึงมีผลผูกพั นกันตาม
ข้อตกลงดังกล่าว ส่วนท่ีโจทก์ปรับขนึ้ ค่าบารุงรักษาสาธารณปู โภคและค่าใชจ้ ่ายที่
เกิดจากการให้บริการสาธารณะประจาเดือน เมื่อไม่มีข้อสัญญากาหนดล่วงหน้าให้
โจทก์มีสิทธิปรับข้ึนค่าใช้จ่ายดังกล่าวไดท้ ั้งข้อเท็จจริงได้ความตามทางนาสืบของ
โจทก์ว่าจาเลยชาระค่าบารุงรักษาสาธารณูปโภคและบ ริการเพี ยงถึงวันที่
31 มีนาคม 2543 ซ่ึงเป็นเวลาก่อนท่ีโจทก์จะปรับข้ึนค่าบารุงรักษาสาธารณูปโภค
และค่าบริการสาธารณะในวันที่ 1 เมษายน 2543 แสดงว่าจาเลยไม่เคยตกลงหรือ
ยืนยอมให้โจทก์ปรับข้ึนค่าบริการสาธารณะมาก่อน โจทก์จะปรับค่าบริการ
สาธารณะไมไ่ ด้

รายงานประจาปี ๒๕๖๓ หน้า | ๒๐๐

คาพิ พากษาศาลฎกี าที่ 7540/2562

ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 3 นาฬิ กา ส่ีแยกท่ีเกิดเหตุเป็นถนนโล่ง
ทางเดินรถฝ่ ังที่จาเลยที่ 3 ขับได้รับสัญญาณจราจรไฟสีเขียว และรถยนต์ซ่ึงขับ
อยู่ดา้ นหนา้ ของรถยนต์กระบะคันที่จาเลยที่ 3 ขับสามารถแล่นผา่ นสีแ่ ยกที่เกิดเหตุ
ไปได้อย่างปลอดภัย แต่จาเลยท่ี 3 ซ่ึงขับรถยนต์กระบะตามหลังมาเข้าสู่สี่แยกที่
เกิดเหตุ หา่ งจากรถยนต์คันหนา้ เพียง 7 วินาที กลับถกู รถจักรยานยนตท์ ่จี าเลยท่ี
1 ขับย้อนเส้นทางเดินรถมาด้วยความเร็วฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดงพุ่ งเข้า
ชนบริเวณด้านข้างซ้ายของรถยนต์กระบะอย่างแรง เหตุเฉ่ียวชนเกิดข้ึนอย่าง
กะทันหันสุดวิสัยท่ีจาเลยที่ 3 จะหักหลบรถจักรยานยนต์ได้ทัน การปะทะจาก
รถจักรยานยนต์ทข่ี บั มาด้วยความเร็วเป็นเหตุใหร้ ถยนตก์ ระบะทจี่ าเลยท่ี 3 ขับเสีย
หลักพุ่ งเข้าเฉี่ยวชนรถยนต์ท่ีจอดอยู่ข้างทางรวมถึงรถยนต์ท่ีโจทก์ครอบครอง
ได้รับความเสียหาย แม้โจทก์นาสืบว่าเม่ือคานวณหาความเร็วรถยนต์กระบะคันท่ี
จาเลยที่ 3 ขับจากภาพท่ีปรากฏในกล้องวงจรปิดตามสูตรคณิตศาสตร์จะได้
ความเร็ว 61.2 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง เกินกว่าอัตราความเรว็ ปกตติ ามกฎหมายของ
รถยนต์ที่ขับในเขตกรุงเทพมหานครซึ่งกาหนดไว้ไม่เกินชั่วโมงละ 60 กิโลเมตร
ก็ตาม แต่การคานวณดังกล่าวเป็นเพี ยงการประมาณและผลการคานวณก็เป็น
ความเร็วที่เกินกว่าอัตราที่กาหนดในกฎกระทรวงเพี ยงเล็กน้อย เม่ือพิ จารณา
พฤติการณข์ ณะเกดิ เหตุท่ีทางเดินรถฝ่ ังท่ีจาเลยท่ี 3 ขับมาได้รับสญั ญาณจราจร
ไฟสีเขียว และรถยนต์ท่ีขับมาด้านหน้ารถยนต์ท่ีจาเลยท่ี 3 ขับสามารถขับผ่านสี่
แยกดังกล่าวไปได้โดยปลอดภัยประกอบด้วยแล้ว การที่จาเลยที่ 3 ขับรถยนต์
กระบะตามหลังรถยนต์คันหน้าเข้าสู่ส่ีแยกขณะทางเดินรถฝ่ ังของตนได้รับ
สัญญาณจราจรไฟสีเขียวโดยใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราท่ีกฎหมายกาหนดเพี ยง
เล็กน้อยถือว่าจาเลยที่ 3 ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรท่ีบุคคลในภาวะเช่นนั้น
จกั ตอ้ งมีตามวิสัยและพฤติการณแ์ ล้ว

รายงานประจาปี ๒๕๖๓ หน้า | ๒๐๑

คาพิ พากษาศาลฎีกาที่ 7609/2562

หน้ีท่ีจาเลยค้างชาระตามหนังสือรับสภาพหน้ีมีจานวนมากกว่าเงินท่ี
จาเลยกู้ในปี 2558 ถึง 5,831,853 บาท จึงรับฟงั ได้ว่าจานวนหน้ี 5,831,853
บาท ทเ่ี กินมาเปน็ ดอกเบีย้ ของต้นเงนิ 12,448,647 บาท หากนบั ระยะเวลาทจ่ี าเลย
กู้เงินต้ังแต่กลางปีถึงวันทาหนังสือรับสภาพหนยี้ ่อมมีระยะเวลาประมาณ 6 เดือน
จานวนเงิน 5,831,853 บาท คิดเป็นดอกเบ้ียมากกว่าอัตราร้อยละ 5 ต่อเดือน
การท่โี จทก์ให้จาเลยก้ยู มื เงนิ และให้จาเลยนาเชค็ มาแลกเงนิ สดโดยคดิ ดอกเบ้ยี จาก
จาเลยในอัตราร้อยละ 5 ต่อเดือน อันเป็นการคิดดอกเบ้ียเกินกว่าอัตราร้อยละ 15
ต่อปี ตามทก่ี ฎหมายกาหนด ตกเป็นโมฆะ เงนิ ที่จาเลยชาระให้โจทกท์ ง้ั หมดจึงต้อง
นามาหักชาระหน้ีต้นเงิน เมื่อจาเลยชาระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ไปแล้วท้ังสิ้น
23,455,295 บาท เกินกว่าจานวนเงินท่ีจาเลยกู้เงินจากโจทก์ในปี 2558 จึงไม่มี
หนีเ้ งินกูท้ ีจ่ าเลยจะต้องชาระคืนแกโ่ จทก์

พิพากษากลบั ใหย้ กฟอ้ ง

รายงานประจาปี ๒๕๖๓ หนา้ | ๒๐๒

ท่ีปรึกษา อธบิ ดีผู้พิพากษาภาค ๑
เลขานกุ ารศาลยุติธรรมประจาภาค ๑
นายสนิท ตระกูลพรายงาม ผู้อานวยการสานักศาลยตุ ิธรรมประจาภาค ๑
นางมณฑนา วจิ ติ รทศั นา
นางนชุ นภา โพธิเนตร

คณะผูจ้ ัดทา หัวหนา้ ส่วนทรัพยากรบคุ คล
หัวหน้าส่วนแผนงานและงบประมาณ
นางเพ็ญใจ กรณุ ามงคล หวั หน้าสว่ นช่วยอานวยการ
นางสาวสรยิ า สุวรรณจฑู ะ หัวหนา้ ส่วนวิชาการและงานคดี
นางสนุ ีย์ เช่ียวชาญศิลป์ หวั หนา้ สว่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ
นางนภาดา อิสรวิภากษ์ หัวหนา้ ส่วนคลงั และอาคารสถานท่ี
นางสาวพรพรรษชล มาทัพ หวั หน้าส่วนเจา้ พนกั งานตารวจศาล
นางสาวพรทพิ ย์ เทพา
ว่าทพ่ี ั นตารวจโทกฤษณ์ ชลติ วรกุล

ผสู้ นับสนุนข้อมลู

ศาลในเขตอานาจอธิบดผี ้พู ิพากษาภาค ๑
สว่ นช่วยอานวยการ สานกั ศาลยุติธรรมประจาภาค ๑
สว่ นคลงั และอาคารสถานที่ สานกั ศาลยตุ ธิ รรมประจาภาค ๑
สว่ นวิชาการและงานคดี สานกั ศาลยุตธิ รรมประจาภาค ๑
ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ สานักศาลยุตธิ รรมประจาภาค ๑
ส่วนบริหารทรพั ยากรบุคคล สานักศาลยตุ ิธรรมประจาภาค ๑
สว่ นแผนงานและงบประมาณ สานักศาลยตุ ธิ รรมประจาภาค ๑
ส่วนเจา้ พนักงานตารวจศาล สานกั ศาลยตุ ธิ รรมประจาภาค ๑

รายงานประจาปี ๒๕๖๓ หน้า | ๒๐๓

สํานกังานอธบิดีผู้พิพากษาภาค๑

เลขที๑๐๑ถนนเลียบทางรถไฟสายใต้๑
แขวงฉมิพลีเขตตลงิชนั
กรงุเทพมหานคร
๑๐๑๗๐

https://jor1.coj.go.th

AnnualReport สแกนเพือดาวนโ์หลด

OfficeOfTheChiefJudgeOfRegion1


Click to View FlipBook Version